You are on page 1of 72

หน1ล้อ

I พร๙อาการวฅตาสูตร

เฉา,กาฬ

พิมพ่แจกในงานฌาปนกจศพ

คุณหญิงปีนคาปีกรรตน
294.313
(เจิม ศกุนตะลกษณ)
ห!44ชิ

ส.2
ณ เมรุว*ด์เทพศรนทราวาล'

วํนท ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔®๒


; 1-0,, ■/

หน'งสือ

พร๙อาการวฅฅาสูตร

เช้าภาพ

พิมพํแจก'ในงานฌาปนกจศพ

คุณหญิงปีนดาจกรรตน

(เจิม สกุนตะลํถษณ)

ณ เมรุว*ดเทพสิรินทราวาส
.2-

ว*นท ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕®๒


*

‘-: ".'ะ - .
* .•- - •••.1
•-

-' ะ .■■1- . - ; ' -

'.๗ * 1 Vะ'*-' *

2-ษ.2^
เตขหมู่

โ! ๆ,
เลซหะ;เชิยห 0า 7- !? 0 ^
V

ดานา

หนํงสีอพวะอาการวํตดาสูตรน ครงแรก คุณแม่อุบาสิกา


เผึอน พินิจยี่งเอง ท่านได้ยกย่องว่าเบนยอดแห่งพระธรรม ไม่ม
ธรรมใดจะยึงกว่า กำผ้'ใดทัง'ใจเคารพบูธาจริง จะต่องเห็น
เบนแน่แท้ แม้แต่โรคภัยไข้เจ็บก็เบาบางลงได้ทันท้ และ
สิริมงคลแก,ต่วผู้ทันทังภพนิตลอดถึงภพหน’าต่อไป

อนิง ณ ทัดนิมีหลายท่านที่ต่เองการแต่ไม่มีหน*งสึอจะ
ศร*ท่ธาให้ท่านทังหลายได้

ฉะทัน จัาพเจัาและอุบาสิกาหงษ์ ดวงทัดรา อุบาถน


คไเภิรานนท้ จึงมีจิตศรทธาจัดพิมพ์ขํ้นเมีนคร่งที่ เอ เพี่
บรรณาการแก่ญาติมิตรผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายจัวยทันคุกา ท่า

ธรรมโมหะเวร‘คคะตธรรมจาริง

เจิม จินดาจักรรตน์
*! 4
ชาตะ วํนเสใร็ท้ ๙
ต?)ากิม ๒๕๒ลิ่

มรณะ วํนจนทรท ๗ กรกฎาคม 153๕๑๒


ระลึกถึง

เมอ พ.ศ. ๒๔๕๔ คุณย่า (เจ้าจอมมารดาซุ่ม ร*ชกาล ที่ ๔)


ของขาพเจ้า, ได้นำข้าพเจ้าไปถวายต*'วก*'บสมเด็จพระพ*'นว’'สสๅอัยยิ
เจ้าสมเดจ ฯ จึงได้โปรดให้คุณหญิงจินดาจ้'กรร*'ตนํนื่ ชึ๋งต่อ'ไ
จะขอเรืยกว่า “แม่เจิม” ตามถน*'ดปากที่เคยเรึยก เบนผู้ดูแลข้าพ
ข้าพเจ้าจึงได้รัจ้กแม่เจิมเที่นคร*งแรก ชงเวลานื่นข้าพเจ*'เมีอายุ
๘ ขวบ ตามธรรมดาเด็กที่เคยอยู่ก*'บพ่อแม่และญาตินื่น จะอบย่
มีความสุขอย่างไรไม่ต’'องพูดถึง เพราะทุกคนทราบด็อยู่แล่'ว เมีอ
จากไปกว่าเหว่เบนธรรมดา ข้าพเจ้าก็มีความรู้สึกเช่นนน แต่กลบ
มีแม่เจิมมาเบนผู้ให้ความอบอุ่นเบนคนแรก คอยดูแลให้อาบนา
กินข้าว เกล่าจุก และย*'งให้สตางค์เมีออยากจะกินขนม อบรมล
ในการที่จะเข้าเผาร''บใช้สมเด็จ ฯ ชึ่งเบนผลในกาลต่อมา ทำ
สมเด็จ ฯ ทรงพระเมตตาข้าพเจาอย่างมากมาย ข้าพเจ้าเบนเ
ชุกชีน แม่เจิมจะตองเหห็ดเหนื่อยไม่ใช่น’'อยที่ชะต’'องคอยดู
ไม่ให้ชนนอกคอกเกินขอบเขต ข้าพเจ้าจึงมีความร''กแม่เจิมดุจญาต
อ*'นสนิท เมื่อข้าพเจ้าโตเบนสาวออกมาแต่งงาน แม่เจิมก็ย''งตามมา

เยี่ยมเยียนในคราวคติอดบุตรหรือบวยไข้เสมอ แม่เจิมเบนคนมี
นิส*'ยชึ่อตรง จะพูดอะไรก็ยกเยี่องไม่เบน ใจอย่างไรปากก็อย
โกรธง่ายหายเรว ไม่มีพยาบาท ไม่เบนคนเห็นแก่ต*'ว มีความ
กกัญณแรงกล*า สมเดจ ฯ จึงโปรดมาก1ให้เบนหัวหนำข่
ใกล้ชิด ทำงาน ต่าง พวะเนตว พระกรรณ ตลอด เวลา แต่คนเรา
นนก็หนีเวรกรรมไม่กัน เมี่อตนบ ๒๔๗๕ กรรมก็มา
คือหมดเวรกบสมเด็จ ๆ เมึ่อหมดเวรก้นไม่จากกันเบน ๅ ก็ต
จากกัน แม่เจิมก็ทูลลาจากสมเด็จร ชิงแม่เจิมกำกังสบายแล
ในกังสระประทุม ไปแต่งงานเที่นคณหญิงจินดาจักรกั
บำนช่องใหญ่โต แต่สุขชองแม่เจิม'ในการแต่งงานนีก็มีเพี
เพราะเกัาคุณจินดากักรกัตนได้กกกัยการเมืองขบถ พ.
จากแม่เจิมไป ๑0 บี1 แม่เจิมเรี่มลำบากดำยการวี่งเกั
เกัาคุณ การเงิน และสุขภาพจึงไม่สมบูรณ์ ถึง พ.ศ. ๒๔๔๔
กันโทษกกับมาแกัว จึงได้ไปปลูกบำนอยู่ใหม่ที่ถนนสุขุมวิท แม่เ
ค่อยมืความสุขสบายมากขน จนถึงเลือนเมษายน พ.ศ. ๒๕®®
เกัาคุณถึงแก่อนิจกรรม แม่เจิมกัาเหว่มาก กัา
มาอยู่กับขำพเจ้า โดยอำงว่าแม่เจิมเลืยงขำพเกัามาแ
ก็จะขอเลืยงตอบเมื่อแม่เจิมแก่ จึง'ได้ยอมมาอยู่กับข
เลือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕®® ต่งแต,มาอยู่กับขำพเกัาแลำ
ก็เบนสุขสบายดี ไปพงเทศนีที่กัดเทพสิรินทรทุกกันอุโบ
จะเจ็บไข้ ไปเยี่ยมเพื่อนฝูงบำง มืหลานชายชิอกฤษณ์
พี่สาว ชิงแม่เจิมไค้เลืยงมาแต่เด็กเบนผู้มาคอยติดตาม ตา
แม่เจิมเบนผู้ไม่ชอบที่จะบอกเล่าถึงอาการเจ็บไข้ของต
ไม่ดงขนาดปวดเจึบจนทนไม่ไหว บ้กจะขอบหายาข้บประทานเอง

โรคประจำลัวก็มื่กระดูกงอกข้างกระดูกลันหลัง ทำให
ข้าพเจ้าทราบเข้าก็เมื่อเดินไม่ค่อยจะไหว บ่นว่าปวดข้าพเข
ไปให้คุณหมอประเสริฐ นุตกูลข้กษา คุณหมอก็ร*กษาให้เบนอย่
จนหายปวด เดินคล่องแคล่วขน แม่เจิมเบ็๋นผู้ไม่ประมาท ได้เคย
พูดเคยลังไว้เสมอว่า ลัาตายให้ทำอย่างน1นอย่างน คลอดจนอยาก
จะตายด้วยเบนลมตายอย่างเข้าคุณ เพราะจะได้ไม่เบนการรบ
ใคร ๆ ที่จะต’องมาพยาบาลข้กษา ก็น'บว่าแม่เจิมเที่นคนมีบุญได้
คนหนง เพราะในที่สุดก็ได้สมหลัง ดือเบนลมตายนนเอง
ปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕©๒ ข้าพเข้าได้เดินทางไปอเมริกาใต้
จะกลับต่อลันเดือนสิงหาคมนํ้ แม่เจิมก็ยังเบนสุขสบ
รบอาสาจะเผาบ้านให้ ไม่ตองห่วงใย ลูก ๅ เล่าให้พงว่
ข้นที่ ๗ กรกฎาคมน คุณยายเจิมได้ออกไปจากบ้านในราวบ่าย ๒โมง
ไปกบหลานสาวลูกพระยาอินทรวิชิต (ร'ตน อาวุธ) เพอจะไปช่ว
แนะนำในการแจกการ์ดเชิญเผาศพคุณพ่อของหลาน กลั
บ่าย ๔โมง แลัวก็มาอาบนำ พอดีคุณหรรษา บ้ณ,ทิตมาหาเที่อเยี
เยียนตามที่ข้าพเข้าไปฝากไว้ เพราะคุณหรรษารกแม่
ว่าคุณนำ และเบนผู้ที่ไปมาหาสู่เสมอ แม่เจิมก็ดีใจที่มีหลานม
พอเขาลากลับอุดส่าห้เดินไปส่งที่รถ แลัวก็เดินต่อไ

ร’ขมาสินีน'องของข้าพเข้า ชื่งอยู่ติดกบบ้านของข้าพเข้า น’
วา พอไปกงอึน่,งคุยเล่าเซึ่องจะจ่ดงานศพพระยๆอีนทร
อาวุธ) ส',กครู่อึบอกว่าเมื่อยหล'ง ขอให้คน}ภนวดให้หน่อย
การให้คนใช้มานวดให้ อึบอกว่าสบายแล้,วลุกขนน',ง พอประ
อึบอกว่าไม่สบายอีก มนวิว ๅ ขนมาจกคอ น่องอึคว่าพิมเสนให้
เอายาหอมให้ร*บประทานตามที่ขอ กล*บพูดบ่นว่าไม่เคยเบ
พอประเดี่ยวอึบอกว่ามนวิว ๆ ขนมาจุกคออีกแล้วอึหล้บ่ต
ข่าพเจ่าตกใจล่งให้ไปเชิญหมอท*,นที บ*งเอิญมื่หมอต์จ์จพ
เบนหลานของข่าพเจ*,าอยู่ใกล้ก'น เธออึรืบมาท*,นที มาตรวจคูจ
ชีพจร บมฟ้วิใจอึ'ไม่สำเร็จ หมอบอกว่าห*,วใจวายอย่าง
โรคนแม้แต่จะอยู่โรงพยาบาลอึแก้ไม่ทน แม่เจิมอึใด้ตายไป
ทีต*,องการ โดยมิได้เจ็บบวย น่องเล่าว่าหน่ายมมองคู
นอนหล*บ่อย่างเบนสุข ซึ่งข่าพเจ่าอึเซึ่อแน่ว่าเบนสุขจร
หมดเวร และด’,วยความดีของแม่เจิม ทีประพฤติตนปฏิบํติต
ต*,องตามคำส,งสอนของพระพุทธเจ่า จ็งต่องได้ร',บสุคติอย่า
บญหา
เมื่อแม่เจิมย่งมืชีวิตอยู่ได้เคยเล่าเรี่องผ้มืพระคุณต่
.ข่าพเจ่าพง ว่าทำไมจึงมาอยู่ก*,บสมเดีจ 1 ธงข่าพ
จึงขอขอบพระคุณ คุณหลวงอำนาจณรงคราญ (ไพฑรย์ เพญก
ซึ่งเบนหลานแม่เจิม ไว้ ณ ที่น ที่ให้ความสว่างในประว่ตที่
ด*,งต่อไปนึ
คุณเจิม ศกุนตะล'กษณ็, เมออายุ ๑๙
แม่เจิม สกุลเดิม “ ศกุนตะล''กษณ์ ” เกิดเมีอว''นเสารท
ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๙ บจอ บิดาชื่อขุนวิเศษภาษา ( คลาย ศกุน-
ตะล'’กษถ่เ) มารดาชื่อเตย มีที่ร่วมบิดามารดา ๒ คน ที่ชาย
จร ร'’บราชการเบนที่ .พระเสนานุชิต ถึงแก่กรรมแล้ว ที่ส
จ''นทรี ถึงแก่กรรมแล้ว
มารดาของแม่เจิม มีที่สาวชื่งเบนบาแท้ๆของแม่เจิม
เย์นหม่อม เจ้าพระยามหินทรศ'’กดิดำรงค์ มีลูกคนหนึ่งเบ
พระอภ*’ยพลรบ (พลอย เพ็ญกุล) และคุณพระนเอง คือบิดาของ
คุณทรัพย์และหลวงอำนาจ ร (ไพฑูรย์ เพ็ญกุล)
คุณทรัพย์เบนช'’าหลวงต'’นดำหน''กของสมเด็จ ๆ เมีอสม'ยน1น
สมเด็จ *1 โปรดมโหรี จึงมีคนของเจ้าพระยามหินทร ๆ ไปเบน
สอนพวกข่าหลวง คุณทรัพย์ เพ็ญกุล ชื่งเบนหลานรู่]ของเจ
ยา มหินทร ๆ กเลยได้ถวายต*'วเบนข่าของสมเด็จ า ตะงแต่เด็ก ส
เด็จ ฯ ทรงเรียกว่า เด็กทรัพย์ อยู่จนโตเบนสาว จึงเบนที่ใว
พระวาชหกุท'’ย มีตำแหน่งเบนหัวหน,’'เข่าหลวง คุณเตยมาร
เจิมผู้เบนย่าน'อ่ยของคุณทรัพย์ จึงได้นำแม่เจิม
ไปให้คุณทรัพย์ ชื่งมีศ'’กดเบนหลานอาแม่เจิม แต่คุณทรัพย์
อาหลายบ คุณทรัพย์ได้จดการให้มีดอกไม้ธูปเที่ยนนำถวายต*’
พากรมหลวงสงขลานครินทร สมเดขิพระราชบิดา ตงแต่ทรงพระ
เยาวิ แม่เจิมจึงได้ชอบพอก*’บคุณหวล หงพ็สกล พระที่เ
เบึนมารดาของคุณหรรษา บัณฑิตมาตง็แต'นน สมเดจ ร มพระปร
สา ด็ว่า เด็ก ๆ ที่ทรงเลยงอย่หลายคนควรจะ:เช่าโรงเรียน. จึงท
ส่งเช่าโรงเรียนเสาวภา ชงตง็อยู่ในบริเวณบำนเจำพระยามหินทร
แม่เจิมกึไคัไปเรียนในหมู่ช่าหลวง เรียนอยู่ 0 บ ก็โปรดเกลา
ใหัยายไปเช่าโรงเรียนคอนแวนทวด ก'ลหว่า แต่ตองมผู้ปกครอง
จึงโปรดเกลำ ๆ ให้คุณหลวงดำรงธรรมสารน่ (มี ธรรมาชี
และคุณทองดำ เบนบิดามารดา ฝากเขา และรับส่งไปกล
โรงเรียน ชีงแม่เจิมมีความรักนับดึอคุณหลวงดำรง ฯ และคุณ
ดุจบิดามารดา ทางผืายบุตรหลานในสกุลธรรมาชีวะ กม
น'’บดึอรักแม่เจิมเช่นเดียวก*’น แม่เจิมจึงได้อาศ'’ยใช้สรอย คุ
และคุณอาวุธ ชี๋งเบนหลานรู่)ของคุณหลวงดำรง ๆ มาตลอดจน
แก่กรรม แม้แต่หนังสึอทื่แจกในงานนั้ คุณทุน ธรรมาชี
ปีองโรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจแทนคุณรู่ ก็พิมพ์ช่วยโดยไม่คิด
แม่เจิมเบนผ้มีความกด*'ญณต่อผู้มีพระคุณอย่างมาก บนที่บูชาจ
มีพระรปของสมเด็จ ๆ และรูปผู้มีพระคุณไวับุชาคำย ดึงก*’บมี
คุณทรัพย์ เพ็ญกุล ชึ๋งเบนชีนหลานตงไว้บูชาในที่ลดหล’น
จึงได้นำรูปคุณทร'’พก็ เพ็ญกุล มาลงไว้ใน หนังสือนดำย
ก็น่าบูชา เพราะคุณทรัพย์ทำหนำที่อย่างไรถวายสมเด
ได้รับหนำที่น้,นแทนในเวลาต่อมา ส่วนหนังสือที่แจกน ข
เสือกมาพิมพ์ แม่เจิมชอบคำเทศนามาก จึงได้สงให้คุณทุนพิมพ์
*เ*0

3๗!*

ฒฟ้ฒ01
๒ หสิ่แ^'’ 1
คณทรพย์ เพ็ญกุล และ ด.ช. ไพฑูรย์ เพ็ญกล นองคณทรพย์

ผู้ซงคุณเจิมเคารพน'บถอยงนก
นำมาแจกเบนวิทยาทานอยู่แล้ว แต่ใม่ทนได้แจก มาถึจแก่กรร
เสียก่อน ขาพเจาเหนเหมาะจึงได้เอามาแจ่ฤ เบนของสนองคณผู้ที่
มาในงานฌาปนกิจศพนํ
เมื่อขำพเจ่าย'งเบนเด็ก กิมีความรักแม่เจิมอย่างชน
เบนผู้ที่คอยแก้ความทุกข์ของข่าพเจ่า คร่นข'าพเจ1,'นบนผู้ใหญ
กิคิดแต่เที่ยงที่จะคอยสนองตอบแทนบุญคุณที่แม่
มา ไม่เคยนึกคิดเลยว่าแม่เจิมจะมื่ความรัก ความไว้วางใจใน
เจ,กัดึงเที่ยงน แม่เจิมได้ทำที่น',ยกรรมให้ขาพเจ่าจ',ดกา
ตลอดจนศพกิยกให้ข',าพเจ',าจ*,ดการ มีย่านาจสิท®ขาดทุกอย่าง ทำ
ไห้ขำพเ.จ้า ทราบชง ในความ เมตตากรุณา ของแม่เจิมที่มี ต่อ ข*,า
จนไม่รู้จะหาคำใดมากล่าวได้ ขาพเจ่าไม่ทราบจะแสดงความขอบ
พระคุณให้แม่เจิมได้ทราบดำยวิธีใด นอกจากจะทำตามความ
สงค์ของแม่เจิม ที่ได้เคยพูดก',บขำพเจำไว้ทุกประการ ขำ
ฐานะที่เบนเจ่าภาพในงานศพน ขอกราบพระบาท กราบบาท
ขอบพระท*-ย ขอบพระคุณ ในการทได้ทวงพระเมตตากรุณา แล
เมตตา แก่แม่เจิมในคราวที่กิงแก่กรรมน

อปภฟิราภา เทากล
ไวอาลย

ข่าพเจ้าใต้พบก*บคุณอาเจิมเมอกลางเดีอนเมษายน พ.ศ. ๒๕®๒

นเบนคร่งสุดท่าย กเห็นท่านแข็งแรงและสุขสบายดี เมื่อมา

ว่า คุณอาเจิมถึงแก่กรรมโดยกระท*,นห่น ท่าให้ใจหายนธนไม่หลไ


ตลอดคืน หวลคิดไปถึงความเมื่อคร่งขำพเข่าย*,งเบนเด็ก

โตเบนนายทหารมีครอบครํว์แล'ว ว่าข่าพเข่าได้ร'บอุปการะเ

จากท่านอย่างไร ยี่งทำให้สะท่อนใจ ท่านไม่เพี

ข่าพเข่าแต่คนเดียว หากตลอดจนถึงครอบครำของข่าพเข่าด

เมื่อเด็กข่าทเข่าเคยเข่าไปอยู่ในพระบรมมหาราชว่ง์ ท

หนิกของสมเด็จพระพี,นวสสาอยยกาเข่า เพราะมี คุณพ


คุณอาเจิม ที่จะคอยเลยงคู ข่าพเข่าก็เลยกลายเบนคนที
และท่านก็คอยที่จะเลยงดูข่าพเข่าตลอดมา แม้แ
บ่าน แต่งงานกบเข่าคุณจินดาจ*,กรร'ตน์แล้ว ท่านก็มาตาม
ไปปลูกบ่านอยู่ข่างาท่าน ที่ถนนเพชรบุรี เมื่อเกิดผนผวนทางก
(.มอง พ.ศ. ๒๙๗๖ ข่าพเข่าถกปลดจากราชการ เข่าคุณจิน
\ ' '

ร*ตนถกจไ) คุณอาแสนลำบากก็ย้ง่ตามมาห่วงข่าพเข่า เพร


ลูกหลายคน เจียดเงินของท่านที่มีอยู่น*อยแล้ว มาช่วยเลยงล
เจ้าอกเดือนละ ๑๕ บาท ในสมไ)นินนไ)ว่ามากพอใช้
ห.ศ. ๒๔๙๐ ท่านเจ่าคุณได้ข้อที่ดินใหม่ ที่ถนนสุขุมวิทแถวอ

พระโขนง ส่วนขำพเจ่าก็แยกไปปลูกบ้านอลู่ที่ข้อยพร’,อมพงษ์

ได้ห่างกินไป แต่ท่านก็ใปมาหาลู่พบกินเสมอ หลังจากที่เจ


แล้,ว ท่านว้าเหว่มาก เคยปรารภกิ:มขำพเจ่าว่าเหนจ
ไหว จะไปปลูกบ้านอลู่วัด ต่อมาในระยะหลังท่านก็
จะบ้าย'ไปอยู่บ้บท่านหญิงแบ้ว่ ขำพเจ่าดีใจมา
ดีแล้วดีกว่าไปอลู่วัด เพราะคุณอามีอายุมากแล’,ว เวลาเจ็บไ
มีผู้ปฏิบํต เพราะคุณอาชอบเล่าเรึ่องเมีอศร,งอลู่ในวังให้พงเสม
ท่านได้วับมอบหมายให้เบนผู้ดูแลท่านหญิงอ,ปภสราภา ( ท่า
แก’,ว) ขณะเด็ก ๆ นนข้นมาก ต’,องท่าโทษถวายผางบ่อย ๆ
ท่านก็วักของท่าน และชนข้ม ตลอดเวลาการเล่าถึงเรอง
ของท่านหญิงในขณะเบนเด็ก
ขำพเจำเข่าใจว่า การที่คุณอาเจิมได้ช่วยเหลือและย
เกอหนุนขำพเจำท,งในยามปกติและข*,ดสน ก็เนี่องดำยท่าน

กต่ญฌูรู้คุณต่อพื่ทร่พ็ย์ เพ็ญกุล พี่สาวของขำพเจำ ชงได้เคย

ท่านมา ขำพเจำเองก็เการพน',บถอท่านมาก

กรรมใดที่เบนกรรมดีของท่าน ที่ได้ประพฤติปฏิบ้ติใ

ต่อญาติพี่น’,องและผู้ที่เคารพน*,บถอของท่าน จงติดตามไปสนองท่

ในสมปรายภพดำยเถิด
อนึ่ง บรรดาญาติและหลานของท่าน ขอขอบพระคุณ
พร ะทัยของท่านหญิงอัปภสราภา เทวกุล ( ท่านหญิงแก'ว)
พระกรุณาจ',ดการงานศพของคุณอาแต่ด*น ตลอดจนถึงการฌาป
ในครงนึ่ให้เบนโปโดยเรียบรอย สมความต1ง่ใจของคุณอ
หมายสี,งเสียใวัก*บท่านหญิงอไเภ*สราภา เทวกุล ในขณะที่ท
ชีวิตอยู่ด’วัยความสำนึกในพระคุณหาที่เปรียบมิได้

ทลวงอำนาปีณรงล่ราญ
แคคุผฬา
คุณหญิงปีนคาปีกรร่ตน (เจิม ศกุนตะลกษณ)

คุณน้าที่เคารพว้กอย่างยี่งของข้าพเจำได้จากไปแล์
อย่างไม่มีลันที่จะกลับมาอีก หลังจากท่านเจ้าคุกเจิมด
ได้ล่วงลับไปแลัว ตามปกติคุณนำท่านชอบออกจากบ*านไปเยี่
บวรดาญาติมิตรและลูกหลาน หรอ'ไม่ก็ไปลักษาศีลที่ลัดเท
และลัดอโศการาม ในระยะหลังคง็แต่เดือนพฤศจิกายน
ท่านได้ลัายไปอยู่ในความอุปการะชอง ม.จ. หญิง ลัปภ่ศราภา เทวกุ
ณ ลังวรติศ ถนนดำรงคลักษ์ ชิงขำพเจำก็ได้มีโอกาสสนองคุ
คุณนำท่านดำยการพาท่านไปตามจุดหมายปลายทาง สุดแต่อารม
ท่านจะปรารถนา เบนการคลายความเศรำโศกลงได้บำง น'บแต่นื
เบนลันไปขำพเลัาจะไม่ได้รบใชิคุณนำอีกแลัว ลัวยการจากไ
ไม่มีลันกลบของคุณนำ
สุดทำยน์ลัวยกวามเคารพและอาลัยยี่งของขำพเลัาผ้เ
ชีงมีต่อคุณนำ “ คุณหญิงจินดาลักรลัตน์ ” (เจิม ศกุนต
ขำพเลัเขออ'ญเชิญอานุภาพแห่งคุณพระศรีลัดนตลัย
แห่งกุศลผลบุญที่คุณนำได้สรำงสมไว้ตลอดเวลาที่ยำม
ร่วมลัวยอานิสงส์แห่งกุศลผลบุญที่หม่อมเลัาหญิงอำ]ภ*!สราภา
ทรงบำเที่ญอุทิศประทานเบนกุศลพลี ตลอดจนบรรดาญ
ทงหลาย'ได้ต*ง์จิดต1ง็ใจบำเพ็ญอุทิศ'ให้แด่คุณนำ จงนำดวงวิญญาณ
ผ่องใสของท่านไปสู่สุคติ ในสัมปรายภพลัวย เทอญ.

กฤษณ์ ศกุนตะลักษณ์
ไว้อาลํย

ดงแต่ข้าพเจ้าเกิดมา พอเวมรู้ความกได้รู้จกคุณหญ
เพราะคุณหญิงเจิมได้เบีนขำหลวงสมเด็จพวะพาเวสสา ว
ประท*'บอย่ที่สวนหงน์ ต่อมาสมเดจได้ทรงยายมาประทบวงส
คณหญิงเจิมก็ยังตามมาเบนขำหลวงธยู่อีก พอขาพเจาโตขนอายุ
๑๔ บี สมเด็จก็ร'บส4ง'ให้คุณหญิงเจิมเบีนผู้ดูแลปก
คุณหญิงเจิมเบีนคนดกจริง •.เด่แท้จริงแลวดุแด่ปากส่
มีความโอบอ่อมอารี เข่นขำพเขำขาดแคลนสี่งใดแลว คุณห
เบีนต่องจ''ตหาให้ไม่ว่าจะเบีนของใช้หรีลขลงรบประหานก็ต'
ด*'งน้นขำพเจ'าจิ?มีน้งความรักแลน'บอีอคุณหญิงเจิมมาก
เรียกว่า “คุณบีาเจิม”

ต่อมาคว่งหยังคุณบาเจิมก็ได้ออกจากว*'งสวะปทุมไปแต่ง
พระยาจินดาจ*'กวรัตน์ ขำพเรัาก็ย*'งมิได้ลึมคุณบีาเจิมเลย
สงกรานด็ขํ'าพเขำจะต''องไปรดน้าคุณบาเจิม แลไปติดต่
อยู่เสมอ ทุกควง์ที่ขำพเจ'' เไปหาคุณบีาเจิมจะดีใจมาก
ข*'แส้ติ จ''ดแจแลยงขำวปลาอาหาร แลทราบว่าขำพเขํ'าชอบร

ประทานข้าวแช่มาก คุณบีาเจิมจะต'องส่งว่า “หน*''1รัอน

ทำขำวแข่ไว้ให้รับประทาน’’แล'ริขำทเขำก็ได้ไปหาแลได้รบประทา
ขำวแช่ ต่อจากน้นก็'ได้น้งคุยนอนคุยก*!นประดุจม
ก่น แลมักจะคุยถึงเรืองขำพเจ’าเมือมังเดึก *1 อยู่ว่าชนอย

น แลเรองเก่า *1 แก่ ๆ ซึ่งคุณบาเจิมได้รู้ได้เห็นดี บางที่ข


ก็ได้พาคุณเพี่มแลคุณทองพูนไปหา พอคุณบาเจิมเห็นเข’าก็
ทใด้เหนเพือน1ในวงเก่าแก่มาคุยก*น แต่อนิจจาต่อไปนพวกเรา
ไม่ได้ยินเสียงคุณบาเจิมคุยอีกต่อไปแล้ว สงกรานต์บนขำพเจ’าก
ตงไจจะไปรดน่าตามเคย แต่,ได้ทราบข่าวว่าไปค่างอยู่ที่มัดอโ
เสียแล’ว์ก็เลยไม่ได้รดน่า จนกระทงคุณบาเจิมกล'บมาแลถึงแ
กรรมโดยบจจมันทนด่วน ซึ่งพวกเราว*งสระปทุมไม่เคยทราบความ
เจิชบ่1วยชองคุณบาเจิมมาก่อนเลย จนกระมังทุกมันนขาพเจ’าก็
ร้สีกว่าคุณบาเจิมมังกงอยู่ มังไม่ตายแต่มันก็เบนไปได
มีความเสียดายและอามัยมากในการจากยันคราวน เพราะเมอก่อน
คุณบาเจิมจะถึงแก่กรรม ข่าพเจ’าก็ไม่ได้พบตงนานแลว แลกํจะ
ไม่ได้พบอีกจนตลอดชีวิตขำพเมัา

ในที่สุดขอให้วิญญาณยันบวิสุท®ของคุณบาเจิม
บนเมืองแมนแดนสวรรค์ เทอญ.

ม.ร.1. มาลยท่นธ ชกรทนธํ

)
หน1เสือ

หร?!อาการวตตาสูตร

ทิมท

เบนธรรมทาน แด่ทกท่าน

๒ (? ๑๒
(พร^อาการวํตตาสูตร ที่ 0 วรรค)
กิติบิโส;!ะคะวา อระห้า

กิติบโสภะคะวา ส้มมาส้มพุทโธ

อิติบโสภะคะวา วิชชาจะระณะส้มบนโน

อิติบี่โสภะคะวาสุคะโต

อิติบโสภะคะวา โลกะวิทู

อิตินโสภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะห้มมะสาวกิ

ธิติบโสภะคะวา สัต[กเทวะมะนุสสานำ

ธิติบโสภะคะวา พุทโธ

อิติบโสภะคะวา ภะคะวาติ

(พร^อาการวตตาสูตร ที่ ๒ วรรค)


ติติบ โสภะคะวา อภินิหาระ ปานิสมบน'โน

ธิติบี่โสภะคะวา อุทกรัชฌาสะยะ ปานิ!ส้มบนโน

อิติบิ1โสภะคะวา ปณิธานะ ปานิสัมบนโน


/.

|ฐ3

อิติบโสภะคะวา มหากรุณา ปา:มิส',มบนโน


อิติบโสกะคะวา ญาณะ ปา:มิสัมบนโน
อิติบโสกะคะวา ปะโยคะ ปา:มิสัมบนโน
อิติบโสกะคะวา ยุติ ปา:มิสัมบนโน
อิติบโสกะคะวา ชุติ ปา:มิสัมบนโน
อิติบิ1โสภะคะวา ค'พกะโอกกันติ ปา:มิส้มบนโน
อิติบโสกะคะวา ดํพภะฐิติ ปา:มิส้มบนโน

อภินิหาระว*คโค ทดโย

(พร25 อาการวตตาสูตร ที่ ๓)

อิติบิ1โสกะคะวา คพกะวุฏฐานะ ปา:มิส้มบนโน

อิติบโสกะคะวา คัพภะมะละวิระหิตะ ปา:มิสมบนโน

อิติบโสกะคะวา ยุตตะมะชาติ ปา:มิส้มบนโน

อิติบโสกะกะวา คะติ ปา:มิส้มบน,โน

อติบโสกะคะวา อะภิรปะ ปา:มิส'มบนโน

อิติบีโสกะคะวา สุว*ณณะ ปา:มิส้มบนโน


1

อิสิบี่โสภะคะวา สิริ ปารมิสัมบนโน


อิสิบิโสภะคะวา อะโรหะ ปารมิล้มบนโน
อิสิบโลภะคะวา ปะริณามะ ‘ปารมิล้มบนโน
อิสิบโสภะคะวา สุนิฐ ปารมิล้มบนโน
คัพภะวุฏฐานะว*คโค ตะติโย

(พร๙อาคาร:วิดตาสูตร ที่ ๕)
อิสิบโสภะคะวา อภิสัมโพธิ ปารมิล้มบนโน
สีสะข*นธะ ปารมิล้มบนโน
สมาธิขนธะ ปารมิล้มบนโน
บญญาขํ,นธะ ปารมล้มบนโน
ทะว้ต์สิรสะมะหาปุริสะลัเาขะณะ ปารมิสัมบนโน
อภิสัมโพธิว'คโค จะตุถะโถ

(พร2?อาการว”ตตาสูตร ที่ &)


อิสิบโสภะคะวา มหาบญญา ปารมิสันบนโน
อิสิบีโสภะ คะวา ปุถุบญญา ปาวมิสมบนโน

อิติบโสกะคะวา หาสะบญญา ปารมิส้มบนโน


อิติบโสกะคะวา ชะวะนะบญญา ปาวมิสมบนโน
อิติบโสกะคะวา ติกขะบญญา ปาวมิสัมบนโน
อิติบโสกะคะวา บญจะจํกขุ ปารมิส*มบนโน
อิติบโสกะละวา อัฏฐาวะสะ พุทธะการะกะ ปาวมิอัมบนโน
มหาบญญา ว,คโค บญจะโม

(พระ อาการว0ตตาสูตร ที่ ๖)

อิติบีโสกะคะวา ทานะ ปารมิสไเบนโน

อิติบโสกะคะวา สีสะ ปารมิสํม์บนโน


อิติบโสกะคะวา เนกข่มมะ ปาวมิส'มบนโน
อติบี่โสภะคะวาบญญา ปาวมิสมบนโน
อิติบโสกะคะวา วิริยะ ปาวมิสมบน'โน

อติบิ1โสกะคะวา ข่น์ตี ปาวมิอัมบนโน


อิติบโสกะคะวา ส',จจะ ปาวมิส*มบนโน

อติบี่ โสกะคะวาอธิฏฐานะ ปาวมิอัมบนโน

\

อิติบโสภะคะวา เมตตา ปาวมิส้มบนโน


อตบีโสกะคะวา อุเบกขา ปาวมิส้มบนโน
อิติบโสกะคะวา ปาวมิว''ค'โค ส้ฏโฐ

(พร ๙อาการวํตตาสูตร ที่ ๙)

อติบี่โสกะคะวาทะสะ ปาวมิส้มบนโน
อิติบโสกะคะวา ทะสะอุปะ ปาวมิส้มบนโน
อิติบีโสกะคะวา ทะสะปะระม*'ตถะ ปาวมิสนบนโน
อิติบิ!โสกะคะวา สะมะติงสะ ปาวมิส้มบนโน

ด่าตำข้านะหะนา ปาวมิส้มบนโน

อิติบโสกะคะวา อภิญญานะ ปาวมิส้มบนโน


อิติบโสกะคะวา สติ ปาวมิส้มบนโน
อิติบโสกะคะวา สมาธิ ปาวมิส้มบนโน
อิติบิ1โสกะคะวา วิมุตติ ปาวมิส้มบนโน

อิติมโสภะคะวา วิมุตติญาณะ ปาวมิส้มบนโน

ทะสะปาวมิวิคโค ส้ตตะโม
(พร*!อาการวตตาสตร

ที่ ๘)
อิติบโสภะคะวา วิชาจะระณะวิบสสะนาวิชา ปาวมิอัมบนโ
อิติบโสภะคะวา มะโนมะยิทธิวิชชา ปาวมิอัมบนโน
อิติบโสภะคะวา อิทธิวิชชา ปาวมิอัมบนโน
อิติบโสภะคะวา ทิพพโสตะวิชชา ปารมิส'มบน'โน
อิติบโสภะคะวา ปะวะจิตตะวิชชา ปาวมิอัมบนโน

อิติบโสภะคะวา ปุพเพนวาสานสสะติวิชชา ปาวมิสไเบนโน


อิติบโสภะคะวา ทิพพะวักขุวิชชา ปาวมิอัมบนโน
อิตึบโสภะคะวา จะระณะวิชชา ปาวมิอัมบนโน
อิติบโสภะคะวา จะระณะธัมมะวิชชา ปาวมิอัมบนโน
อิติบโสภะคะวา อนุปุพพะวิหาวะ ปาวมิอัมบนโน

(อิติบิ,โสภะคะวา) วิชชาวัคโค อัฏฐะโม

(พร*!อาการวํตตาสูตร ที่ #)
อิติบีโสภะคะวา ปริญญาตะ ปาวมิส*มบนโน

อิติบโฝืภะคะวา ปะหานะ ปาวมิสัมบนโน


0ว1

อิติบี่โสภะคะวา ฉัจฉิกิริยา ปาวมิส้มบนโน


อิตึบโสภะคะวา ภาวะนา ปาวมิสัมบนโน
อิติบโลภะคะวา ปะริญญาปะหานะ สัจฉิกิริยา ภาวะนา
ปาวมิสัมบนโน

อิติบโลภะคะวา จะตุธ'มิมะส้จจะ ปาวมิส่มิบนโน


อิติบโลภะคะวา ปฏิส้มิภิทาญาณะ ปาวมิส้มบนโน

ปริญญาณะว*คโค นะวะโม

(พร๙ อาการว*ตตาสูตร ที่ 00)


อิติบโลภะคะวา โพธิบกขิยะธมมะ ปาวมิสัมบนโน

อิติบโลภะคะวา สติบฏฐานะบญญา ปาวมิส้มบนโน


อิติบโสภะคะวา ส'มิมปปะธานะบญญา ปาวมิส้มบนโน
อิติบี่โสภะคะวาอิทธิปาทะบญญา ปาวมิส้มบนโน
อิติบโลภะคะวา อินทรียะบญญา ปาวมิส้มบนโน

อิติบิ1โลภะคะวา พะละบญญา ปารมีส้มบนโน

อหิบิ1โลภะคะวา โพชฌริคะบญญา ปารมีส้มบนโน


กิติบโสกะคะวา ส้ฎฐํงคิกะม'คคะส้มมะ ปารมิสมบน'โน


กิติบโสกะคะวา มะหาปุริสะกิริยา ปาวมิสมบนโน
อิติบโสกะคะวา ยะนาวะระณะวิโมกขะ ปา!มิส้มบนโน
อิติบโสกะคะวา อะระหตตะพะละวิมุตติ ปาวมิส้มบนโน
โพธิบกขิยะ วค'โค ทะสะโม

(พระอาการวตตาสูตร ที่ 00)


ยึติบโสกะคะวา ทะสะพะละญาณะ ปาวมิสมบนโน
อิติบโสกะคะวา ฐานาฐานะญาณะ ปาวมิส้มิบนโน
ยิติบโสกะคะวา ญาณะ ปาวมิส้มบนโน
ยึติบ โสกะคะวา ส้พ่พํตถะคามิปฏิปะทานะ ปาวมิส้มบนโน
ยติบโสกะคะวา นานาธาตุญาณะ ปาวมิส้มบนโน
ยิติบโสกะคะวา ส้ตตานัวนานาทิ มุติกะญาณะ ปาวม
ส้มบนโน

อิติบโสกะคะวา ปะโรปะริส้ตติ ปาวมิส้มบนโน

ยิติบโสกะคะวา นิโรธ1ตะถานะญาณะ ปาวมิส้มว่านโน


ลิ่

อิติบโสภะ คะวา จุตูปะปาติญาณะ ปา!มิล้มบนโน


อิติบโสภะคะวา ปุ่พเพนิวาสานสละติญาณะ ปาวมิสไเ-
บนโน
อิติบโสภะกะวา อาสะวกชะยะญาณะ ปา!มิล้มบนโน

ทะสะพะละญาณะว'คโค เอกาทะสะโม

(พรส์อาการว่ตตาสูตร ที่ ©1ย)

อิติบโลภะคะวา น้ตสี
โกฏิสะห'สสาน้า ปะกะติสะห',สลาน้า
น้ง พะละธะระ ปา!มิล้มบนโน

อิติบีโสภะคะวา ปุ!สะโกฏิทะสะห'สสาน้งหะละซะ!ะ ปา!มิ


ล้มบนโน

อิติบโลภะคะวา บญจะจ*กขุญาณะ ปา!มิสมบนโน

อิติบโลภะคะวา ยะม'กกะญาณะ ปา!มิสมบนโน

อิติบโลภะคะวา สีละคุณะ ปา!มิล้มบนโน

ยึติบโลภะคะวา คณะปา!มิสมาบตติล้มบนโน
กายะพะละว*คโค ทะวาทะสะโม
๑0

(ทร,3อาการวํเตตาสูตร
ฆ|
ที่ ©๓)
อิติบโสภะคะวา ถามะพะละ ปาวมิสมบน'โน
ป็ติบ โสภะคะวา ถามะพะละญาณะ ปาวมิสไเบนโน
อิติบโสภะคะวา พะละ ปาวมิสมบนโน
อิติบโสภะคะวา พะละญาณะปาวมิสมบนโน
อิตบโสภะคะวา ปริสะ ปาวมิส*มบนโม
อิติบโสภะคะวา ธะตุละยะ ปาวมิสมบนโน
ยึติบ โสภะคะวา ญาณะ ปาวมิส,นบนโน
อิติบโสภะคะวา อุสสาหะ ปาวมิสมบนโน
อิติบโสภะคะวา คะเวสิญาณะ ปาวมิสัมบนโน

ถามะพะละวํคโค เตาะสะโม

(พร?!อาการวํตตๆสูตร ที่ ©๔)


อิติบโสภะคะวา ขิะริยา ปาวมิสํมบนโน
อิติบโสภะคะวา จะริยาญาณะ ปาวมิสัมบนโน

อิติบีโฝืภะคะวา โลกัตถะจะริยา ปา!มิสมบนโน


©©

อิสิบโสภะคะวา โสกตถะจะ!ยาญาณะ ปา!มิสมบนโน


อิสิบโสกะคะวา ญาณัตกะจะวิยา ปา!มิส้มบนโน
อิสิบโสภะคะวา ญาต่ตถะจะ!ยา ปา!มิส้มบนโน
ธิติบีโสภะคะวา พุทธะจะวิยา ปา!มิส้มบน'โน
อิสิบิ1โสกะคะวา พทธะจะ!ยาญาณะ ปา!มิสมบนโน
อิสิบโสภะคะวา สิวิธะจะ!ยา ปา!มิส้มบนโน
อิสิบีโสกะคะวา ปา!มิอปะ ปา!มิปะ!ะม้ตถะ ปา!มิสน-

บนโน

จะ!ยาว'คโค จะตุ!ะสะโม

(ทระ}อาการวตตาสูตร' ที่ ©&)


อิสิบิ'โสกะคะวา บญจปาทานวิาข'นเธสุอนิจจะส*กจะก‘ะปาวิ

มิสมบนโน

อิสิบโสกะคะวา บญจปาทานกชนาธ สุทกจะ สก'!เะคIะปาวิ

มิสมบนโน
๑]^)

อิติบโสกะคะวา บญจปาทาน*กข่นเธสุอะนํติตะลกขะณะปาว

มิส้มบนโน

อิติบโสกะคะวา อายะคะเนสติล*กชะณะญาณะ ปาวนิสมบน-

โน

อิติบโสกะคะวา อ*,ฎฐาวะสะธาตูสติล*กขะณะญานะ ปาวนิ

ส'มบน'โน

อิติบโสกะคะวา วิปริณามะล*กจะณะ ปาวนิสมบนโน

ล*กขะณะว*คโค บณณะระมะ'โม

(ขร'๙อาการวํตตาสูตร ที่ ©๖)


อิติบโสกะคะวา คะต*ตถานะ ปาวนิสํมบนโน

อิติบโสกะคะวา คะต้ดถะถานะญาณะ ปาวนิสมบนโน

อติบโสกะคะวา วะสีตะ ปาวนิส'มบนโน

อิติบโสกะคะวา วะสีตะญาณะ ปาวนิส'มบนโน

อิติบโสภะคะวา สิกขา ปาวนิส'มบนโน


©๓

ธิติบโสกะคะวา สิกขาญาณะ ปาวมิสมบนโน

ธิติบโสกะคะวา ลังวะวะ ปาวมิสมบนโน

ธิติบโสกะคะวา ลังวะวะญาณะ ปาวมิลัมบนโน

คะต้ตถานะว*คโค โสระสะโม

(พร2? อาการวํตตาสูตร ที อ๙)

ธิติบโสกะคะวา พุทธะปะเวณี ปาวมิลัมบนโน

อิติบีโสกะคะวา พุทธะปะเวณญาณะ ปาวมิลัมบนโน

ธิติบโสกะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะ ปาวมิลัมบนโน

ธิติบโสกะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะญาณะ ปาวมิสมบนโน

ธิติบโสกะคะวา จะตุพรห-มะวิหาร ปาวมิลัมบนโน

ธิติบ โสกะคะวา อนาวะระณะ ปาวมิลัมบนโน

ธิติบโสกะคะวา ปะริลันตะญาณะ ปาวมิลัมบนโน


© (&.

อิติบโสภะคะวา สํพพํญฌุตะญาณะ ปารมิสไเบนโน

อิติบโสภะกะวา จะตุวีสะติโกฏิสะตะว้ซชีระ ปารมิส่มบนโน

ปะเวณวํคโค สิตตะระสะโม

รี!/

ผู้ทาน ผู้เขยนกิดลอก
นายอิน สมร่าง ปุญญศร
[ชลิ่ ^.กิ.

๑๘ ม.ค. 0๙
ต่อไปน จะแสดงอานิสงส์ในพระอาการวตตๅสูตรสืบไป

เอวมเมสุตง เอก่ง สะมะยิง ภะคะวา ราชะคะ

เหวิทะระติ คชฌะกุเฎ บพพะเตอะถะโข อาย,สมาสา

รปุตโต เยนะ ภะคะวา เตนุปะส่ง กะมิอุปะส่

กะมิตวา กะคะวํนตํง อกวาเทฅวา เอกะมนตํง์ มิสติ ฯ

ณ บดน จะแสดงความตามสมควรแก่ไวยากรณะบาลี
ที่มีม่าในอาการว่ตตาสูตร โดยสรุปยุติในเรึ๋องความว่า

ณ สม'ยคร่ง์หนึ่ง องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาค เส
ประทบระงไเพระอิริยาบถ ณ คิชฌะกูฏบรรพตคิรีว*,ล ใกล้
กนกบมหานครราชคฤหธานี เบนที่อาศ่ยโคจรบิณฑ

พุทธาจิณณะว*ฅร์อะถะโข อาย*สมาสาวิปุตโต คร*งนนพระ

สาริบตรพทธสาวกผ้มีอาย จึงเข่าไปสู่ทเผาสมเดจพระผู้มพระ

ภาคเจ้า ถวายอภิวาทโดยอาการทเคารพเบนอนดแลว กนงอยู

ที่ควรส่วนข่างหนึ่ง อ*นปราศจากน้สํชชะโทษ ๖ ประการ เอก

ม่นตํงมิสมิมิส*ชชะโขอายสมะโตส15บ่ตตส’สะ เมอพระ

สาริบตรผ้มอายุนีง์ในที่สมควใแล'า จงแสดชงสะหะธรร
สัตว์ เกิดความปริวิตกในใจ คืดถึวกาลต่อไปส่วนอนาคต

ภายหนำ อเมโขสตตาฉินนะมูลาอะตตะสิกขา อ้นว่าส

หลายเหล่าน ที่หนาด้วยกิเลสาสะวะ แลอวิชชาสวะ

ไม่ล่วงพนช-:โอฆะท*ง ๔ คือ กามะโอฆะทิฎฐิโอฆะ อวิชชา

โอฆะ อันเบนโอฆะแอ่วแก่:ก*นดาน มีสนดานอัน

อัวยอกุศลคือ โลภะ โทษะ โมหะ ก็กระทำชี่วการอันเบน

อกุศลเบนอาจิณณะกรรม ก็ชึ๋อว่ากุศลมูลขาดเสียแล*'ว
สิกขาวินํยอนละเสียแล'วิ จะตุส อะปาเยสุ วิบจอ

ก็เที่ยวที่ว่าจะไปไหม้อยู่ในอบายภูมิที่ว ๔

ความสุข คือ นรก เปตะวิสํย อสูรกายกำเนิด ฅิ

ฉานกำเนิด ก็เที่อสัตว์ที่วหลายหนาไปอัวยอกุ

ตนให้ตกไปไหม้อยู่ในอบายน พุทธะกะระธ'ม่เมหิก

ต*พพํง ธรรมเครื่องกระทำเบนชื่วความเบนพระพทธเ

บารมี ๓๐ ท*ศ จะพึวมิสามารฤเพอจะห่ามอันเสี

จะตุราปายิ กะทุกข์ ที่วหลายนน จะพึงมีอยู่ เพราะด

บาระมิธรรม ขอว พระ•พุทธ!.จำ ที่วหลาย มีอยู่ เบน อันมาก จ


ด๓)

แต่เท่านกหามิได้ ธรรมทงหลายใดเบนไปเพื่อจะให้สำเ
โพธืญาณ กันสมเด็จพระผู้มิพระภาคตนัสแสดงไว้ในพระสูตร
และพระวินัย แลพระปะระนัตถ์ กันเบนธรรมลมกิร็ภาพ
ละเอียดนัก เบนองค์กันพระพุทธเนัาท่งหลายเสพแนั
นิยยานิกะธรรม จะนำสัตว์ให้นันจากว'ฏสงสารทกข์ได้ก

เมื่อพระธรรมเสนาบดีสาร็บุตรพุทธสาวก มิความปริวิ-
ตกในจิต นัวยความกรุณาแก่ประชิมชินที่เกิดมาณะภายห
จะ1ให้ปฎิบ้ตธรรมนน ๆ ให้ เบนที่ บองกันรกชาตนให้พน
ทุกข์นัยในอบายภมิอย่างน จึงยกกรกระพุมหตถ่อญชิลกร
ประณมแทบบงกชิบาทสมเด็จบรมโลกกะนากเจา แลวจึง
กราบทลพระกรุณาว่า เยเกจ ทุบญญา ปุคคลา ขาแต่

พระผ้มิพระภาคเนัา บุคคลทงหลายเหล่าใดเหล่าหนง ทเบน


ผู้มิบญญาหนาไปนัวยโมหะอริชิชิา พุทธะการะกะธมเม-

อชานิต์วา หารู้นักพุทธะการะธรรมคือบาลีแท่งทระพุทธ

นํนไม่ เพราะความที่แห่งตนเบนคนอน®ท'1ล จะพึงกระท


อนเบนบาปทงปวง นบ!ดพนแหงเกว]เบาเอนบ'ก บเงจาพวก
ด {^

ก็พึ่?าระทำชี่งมนษฆาตกรรม คือฆ่ามนุษย์เสียเบนดิน ฆ่าชง

กษ'ตริยชิงราชสมบิต แลฆ่าชี่งมหาอำมาตย์แลปุ

จารย์ฆ่าบงรพชิตคือ สมะณะอ'Vแบน มหา วํชชะ ก:รม และครุกรรม

เกจิโคณ'ง์วามหิส่งวา บางจำพวกฆ่าชึ๋งโคแลกระ

ส'ตว์เดียร'จฉาน มีฆ่าแพะฆ่าแกะ 'ค่าคชสารอ'ศดรกุญช

ตามสามารถที่ประสงค์ชี่?ม*?ษะแล?าอั?คาพยหหัอยใหญ่

กระทำชี่งปานาอังกล่าวมาฉะน อัวยโทษะความโกรธแลโมห
ความหลง ชนผู้เบนคฤหัสถ์บา?จำพวกผู้เบนพาล จงใจ

กระทำกรรมอันสาหัส คืออหันตริยะกรรมท่ง ๕ เบนต


ชี่?บิดามารดา สาสะนะโต ปาราชิก'งอาบชเชยยะ ก็จะพึ
ถึงชี่งความที่แห,?ตนเบนผู้พ่ายแพ้จากพระศาสนา แ

หัสถ์ ผู้ทำครุกรรมฆ่าบิดามารดาดังกล่าวมาน ชี่อว่า

ผายฆราวาส เนึ๋องว่าบรรพชิตท?1หลาย ผ้ดำร?ชี่?

วรริหัย ไมต,?อยู่1ในอธิสกชาล่วงพุทธอาชญาอันเบน

โทษ ตอ?ครกาม่ติและลหุกาปติโดยลำหับมา ฉินนะมูลลา

ถึงชี่?ปาราชิกกาปติ เบืนผู้ขาดจากมูลในพระพุทธวจนะอ
ดลิ่

ชิงบฏกท่ง ๓ คึอพระวิน์ย์ พระสูตร และพระปะระมตถะบฏ


อนเมึนสาสโนวาท เตปาปะกมมงกตวา ชนที่ได้สมมุติว่า

เบนบรรพชิตทงหลายน่นจะพึงกระทำเบนบาป โแบนเหตุจะย
ให้ถึงชิง นิรยะกะทุกข์ กาย'ส'สะเกทา เบองหน่าแต

เพราะแตกจากชีวิตอินทรี แอวจะพึงไปบงเกิดในอะเวจนิวิยา

บาย

ขาแต่พระผ้มีพระภาคเจา ธรรมอนใดอ*นหนงเหล่าใดจะ

เมึนธรรม อ*นลึกสขม ที่สามารถ อาจเพอ จะหามเสยได ชิง สตวทง


หลายน่น อ*,นจะตกไปในนรกใหญ่ คออเวจนน จะมอยูบาง

หรอพระพุทธเจ*าขำ 1

เมึ๋อกราบทลดงนแสว พระผูเบนเจาธรรมเสนาบด

กล่าวชิงคาถาที่งหลายตามบรรยายพระพุ1'1ชิยหัต
ชิงทกขอ*'นเบนผลวิบากแห่งครุเาาบดและล'1รุอาบต ยกปาราชิก

สกIIาจดเบนมลเนทขนแสดงเบองตนโดยกระแสลพุสบชิรา าา""

สะวสสะ สะหัสสานิ ติสะ สะหัสสะโก ฎิโย ป

ชิหัง สะมาบนโน บรรพชิตผู้ล่วงเสียชิงสิกชิา ถึงพร*'อมแล,ว

\
ไ®ง 0

ชิงปาราชิก เบนผ้มีมูลชาดจากพระศาสนา นิยามะค?ต ที่ชะ


ให้ไปอบ*คในภพเบองหนำ คึอจะไปดังเกิดในนรกใหญ่อยู่ใน
ไฟไม่รูด*บ กำหนดได้ถึง ๓๐๐๐ โกฏิกบหที่นบเบนที่สุด

พระอาการวตตาสูตรน ที่เนอความอันพิสดาร นำแม้

จะพรรณนาไป ชะเบนการอันเนี่นชำ จำจะได้นำส่วนอานิส

ที่บุคคลที่ได้สการะบูชิานบถึอแลได้ท่องบ่นสาธยายทรงจำไว้ได
ดังนิเบนดัน จะที่อานิสงสดันยื่งใหญ่
I

ในลํๅด่1เนนสมเด็จพระสมมาส*มพุทธเจา-จะ’ได้ตอัสแ

การอัตตาสูตรกำหนดดำยคาถา ๗ วรรค ที่ อะระหานิคุณะวรรค

เบนต้น จนถึง ปะเวณยะวรรค เบนคำรบ©๗ดำยประการด

พระองค์ที่งบรรยายชิงอานิดังสะคุณานภาพ

อัตตาสูตรแก,พระสารีบุตรต้อไปดังนิ ว่า

ย*,ญจะสารีปุตตะร'ตตง ดูกรสารีบุตร ก็ราตรีดันใด

พระตถาคตใด้ตอัสรู้ ชิงพระอนุตตระดัมมาสัมโพธิญ

วมุติเสวตรฉ้ตร์ ณะดงไม้ดัสสัตถะพแกษ์โพธิมณฑล

ราตรีนํนแหละ พระตถาคตก็ระลึกชิงพระอาการอัตตาส
เ20 6)

น อันมีคุณานุภาพ เพี่อจะเบนที่รกษา ต่อตำน ภ',ยอันตร

และเบนทซ่อนเรน เบนคดีทจะให้ไปเบองหน้าแห่รส*ต่ร์

อับที่งเทวโลก ที่ง็มารโลกและพรหมโลก และหมู่ส*'ตว์เบนไป

กบดายสมณะพราหมณ และสมมุตเทวดา แลมนุษย์ ที่,รสา.

มารถเพอจะหามเสยชงบาปกรรมที่งั้ปวง เพราะตถาดคมาระลึก

ตามอยู่ ชงธรรมที่ง็หลายอันเบนมรรคาแห่งส*ต่ว์ที
ถึงซี่งอันสั้น'ไปแห่งทุกข์ แลภ'ยที่ง์ปวงในสงสารอย่าง

เพียงไร แต่นิพพานธาตุชื่งอนุปาทิเสสะ มีก'มีม*ชรูป แลวิบ

ข*นธกรรมแลกิเลส เข่าถึอเอาไม่มีสนเชอสั้นเซ่ง เอตอันตะ

ในระหว่างแห่งการนน กายกรรมแห่งตถาคตพุทธเอัาที

ญาณะ!เพอังคะม'ง มีญาณเครึองรู้เบนประธานถึงก่อน

ว่าเบนอับตํวยญาณอันปราศจากโทษ คือ โทสะ แม้ถึงวจี-

กรรม มะโนกรรม แห่งพระตถาคตพุทธเจากเบนไปแลว

อัวยญาณเหมือนอย่างน1น อะตตงสะระอ!เบ่ะฎนะก'ง และ

กายกรรม วจีกรรม มโมกรรม แห่งพระตถาคตพุทธเจาทเบน

ส่วนอดีตกาลล่วงแล่,ว แลเบนส่วนบจจุบนอนาคตกาสกายห
เฐปิเช
อันย*’งไม่มาถึงก็เบนญาณทัศสะนะ เครืองที่เห็นด้
ปฏืหะอัง อันโทษอังหลายเบนด้นว่า อภิชฌาไม่

ใคร่ละแอัว เบนอัตตาสูตรน ชินที่ง์หลายเหล่าห

อยู่เบนอัดตราแอัว บาปธรรมอังปวงก็จะไม่ได้ชิอ

ลงไปในอันดาน แม้ถึงผู้อันกล่าวอยู่อักครืง์ห
ดรองอักษาผู้อัน อัตตาโรมาเส สํ้นกาลประมาณไปได

เดือนเบนกำหนด เบนที่อัมครองบองอันอัยอ
ยกไว้แด้อัยอันตรายที่อังเกิดแอัว แลตามผ

ธรรมเท่าอัน อนึ่ง บุคคลผู้ใดอุล่าห็อังจิตไม่คิ


สดับพงพระอาการอัตตาสูตรนึ่ก็ดี หรือได้เล่าเร

บอกกล่าวก็ดื หรือได้เขียนเองหรือให้ผู้อึนเขียนก็ดื หร

ได้จำทรงไว้ก็ดื หรือ'ได้สการะบูชาอับถือก็ดึ หรือได้ระล

เนือง ๆ โดยเคารพ พอัอมด้ว่ยไตรประนามก็ดื

ปรารถนาสี่ง'ใด'ใด ก็จะสำเร็จอับบุคคลผู้อันตามประสงค์

ทุกสี่งสรรพ ตงต,ส'มาทบงกะโรห เพราะเหตุการณ์อ


ปรีชา ประกอบอัวยศร*ทธาและความเลึอมใส จงกวะทำอาการ
1*3 ๓

วตตาสูตร อนจะเบนทม่อนพเาทึ่งอาศ,ฎใท1 วํคูคูะ กนดาน ประ


หน'3ว่าเกาะแลผงได้เบนทตงทอาศยแห่งชนทงหลาอ ผัสญจร

ไปในชลสาครสมุทรทะเลใหญ่ฉะนม อ'คูฐะวสะติยๅจะอวิชะ
หตง กพระอาการวตตาสูตรนล่นพระพุทธเจ่าที่งหลาย ๒๘ พา

ธงคทล่วงลบไปแล่วกด อ',นพระตถาคตเจ่าในกัดนก็ดี
สละระวางที่งกัางให้ห่างเลยกักองค์เดียว ได้ทรงตาม

ทุก ๅ พระองค์ อะนํนตะรง์ พระสูตรนมีคุถเานุภาพยง ไม่ม

พระสูตรอึ่นจะยี่งกว่าหามีใด้ ยะถาสะติยะถาพะ

ตพพง เพราะฉะน*าเท่านกัตตะบุรุษพุทธสาสนิกชน พึ
เล่าเรียนเขียนไว้ โดยสมควรแก่กำล่งอย่างไร อย่าให้

คราวเสียสม*ยที่ได้ประสบ สักชิต'งอะสักโกนโต ก็เมึ

อาจพึงศึกษาได้ กัวยความที่ตนเบนคนม*นทะบญญา ก็พึ

จารึกลงไว้ ในสมุดหรือใบลานไว้ให้เบนที่ดูที่นม'สการบูชา
เคารพ กาตงอะส่ก!กนเตนะ ก็เมีอไม่อาจจะทำได้กังก

แกัวน ก็พึงให้ที่ง์ใจพงโดยเคารพ ดำรงคสติให้ระลกตามทุกบท


ทุกบาท อย่าให้เบนสติวิปลาสปวาสจากสต เบนแตสกวานงพง
1ชิ)๔

อยู่อย่างนํน สะวะถใตุงอะสํกโกนเตนะ ก็เมื่3อาจจะ


กล่าวมาแล่วน พึงไปสู่สถานที่แห่งบุคคลที่ได้

พึงประคองซึ่งกระพุ่มห่ตก็ ทะสะนะ-ขะสะโมธานะ พงท


สาธยาย สุณตุงอะส*กโกนเตนะ ก็เมื่อไม่อาจพึงได้ด

พึง'ไปสู่สถานที่ท่านแสดงซึ่งพระอาการว*ตตาสูตรน ก็พึงอั

ที่ประกอบ'ไปแล่'ว์ด่วยศร*ทธาให้เกิดขน แล่วพึงพิจ

คลำด่ว์ยบญญาว่า เอว*ง์ฅุณะยุตโฅโสภะคะวา สมเด็จพ


ผู้มื่พระภาค พระองคประกอบด้วยพระคุถเอย่างน ๆ ให้พิ

นึกระลึกหามพระคุณที่กล่าวแสดงแล่'าน1น โสมน*สส

ให้เกิด'โสมนํสยินดีด'ว่ยบติในพระพุทธเจ้าเบนอารมถ่เด*ง่น

จ*กห่ามกนเสียได้ซึ่งอกศตบาปกรรม อันจะชกนำปฏิสนธิ

ไปเกิดในอบายภูมิท,ง ๔ คือนรก เปคะวสย อสูรกาย เดร*จ.

ฉาน กำเนิดดํง์นึ ยํงย่งบตเถติ บุคคลผู้นไเจะปร

พ*สดสื่งใด ๆ ความปรารถนาสี่งนึน ๆ ก็จะสำเร็จ

บุคคลผ้น้น ด,วยคุณานุภาพที่ใด้ดำรงจิต คิดคำนึงตามใ

พุทธคุณที่ใต้แสดงแล่ร่น1น สะเจปุนไเปุนํง์สะม
ไช)^

ถาหากว่า บุคคล ผูใด ม ศรทธา ได้ ระลก ตาม อาการ จิตตาสตร น

เนอง *1 ยตถะกตถะจกะเวชาโต บุคคลผันืน็เมึ่อละเสียซึ่ง

อ*,ตตะภาพร่างกายในบจจบนชาตินึ่ แล่วจะปฏิสนธ

เบองหนาภพใดภพหนึ่ง กจิกไม่ไปเกิดในเตร่จนาน เปตะวิล่

จิกไม่ไปเกิดในส*,ญชีพนรก ในอสนรก จิกไม่ไปเกิดในสาตะ


นรกแลในรุวะนรก แลในมหาโรรุวะนรก จิกไม่ไปเกิดใน

ตาปะนรก จิกไม่ไปเกิดในมหาตาปะนรก แลไม่ไปเกิดใน


อเวจีนรก เช่นนึ่ ด*,วยผลานิสงสีที่ตนได้เจริญซ

ว'ตตาสูตรอย่เนือง ๆ ด'งกล่าวมาฉะนึ่ อนึ่งในซรจุ

จะเบนที่หลีกหลบภ*ยอ*น่ตราย มิให้มาแผ่')ขาล ตงสะกะยาน

และภ*,ยคืออารมณ์ ที่บุคคลจะพึงกลวนน ๓๐ ประการ อะห


ภะย่งวา อนึ่งภ*ยอ*,นบ*,งเกิดแต่ที่สะชาติอ'นมพิษ กุกกุระกะ

ยิงวา ภ'ยอ*,นบ่งเกิดแต่สุน*ขบ่าน สุนขจงจอก ทดุรายจะ

ขบกด ๑ โคณะภะยํงวา ภไ)อ',นบ่งเกิดแก่โคถึก แลโคเถือน

มะนิสะกะย'งวา หรือภ'ยอ*นบงเกิดแต่กระบอเถอน แลกระ-

บือบ่านที่ดร่าย จะขวิดชนให้เบนอนตรวยถรแกชวด ®
1ช'๖

ภะยิงวา หรืถภยหือราชสีห์ เสึธโคร่ง เสือเหลือง เสือดาว

และเสือบองกมี หิตถอ่สสะราชะโจระกะบังวา หรือภัยเ

แก่คชสาร ภัยบันเกิดแก่บัคดรภาชีจตุรงคชาติ บั
พระราชาผู้จอมแห่งประชาชน ภ'ยอนบังเกิดแต่โจร เ

เพลิงนา ภัยบันเกิดแต่มนุษย์ ภัยบันเกิดแด,อมนุษย์ ภูตผีบส


เข้าสิงบีบบัน1ให้จลาจล ให้วิกลจริตผิดจากมนุษย์ ท*ณ

ยิงวา หรือภัยทัณฑะกระบองตองอาชญาทังหลาย มุตตะกะ


บักขะกุมภ*ณฑะอาร"กขะเทวะตากะบังวา หรือภัยเกิดแต

ยกษ*แลกุมภัณฑ์ จะมาบีบทันให้เบนบัา เสืยกิริยาแห่งม

แลบังเกิดแต่คนธรรพ อาร้กิขะเทวดา หือโกรธปองจะทำรา

หิงสาเบียดเบียน มะระภะยงวา หรือภัยเกิดมาแด,มารทัง

มาผจญให้เกิดการวิกลเบนไปต่าง ๆ วิชาธะระภะบังวา ภัยเ

แต่วิชาธร ข้นผู้ทรงไว้บัวยวิชา จะกระทำให้เบนบันต

อำนาจวิทยาคุณ สพพะโสธิปะฎิกะบังวา หรือว่าภั

บังเกิดแต่มะเหสรเทวราช ผู้เบนใหญ่ในเทวโลกทังปวง รวม

เบนภัยที่บุคคลที่จะสะดุ้งหวาดเสียวกบัว ๓0 ประการ
เชิว๗

กจะอันตรธานวินาศ ไม่อาจเบียดเบียนให้เบีนอันตร

จกขุโรคาทะโย ทง์โรคซึ๋งจะบังเกิดขนเบียดเบียนกาย
แทงอวัยวะน'อย1ใหญ่ ภายในแลภายนอกเบีนตน หรือเกิดโรค
ในอักษ ก็จะระอับคับเสื่อมส่างบางเบาลง ฉิคํจ์ฉาบปาส
ภะย่งวา หรือว่าภัยอันบังเกิดแต่ความกระหายอยาก เสื
บริโภคอาหาร หรือเสื่อจะดึ่มกินชิงนำ เสื่อกวาม
คัวยโรคภายใน จะวินาศเสื่อมหายคัวยคุณานุภาพ ที่ได้สาธ-
ยายท่องบ่น จำทรงไว้ชงอาการวติตาสูฒนึ่เนือง ๆ โดยน*,ย
กล่าวมาคัวยประการฉะนึ่

สะเจโวโกจิสาริปุตตะ คัาหากว่าบุคคลผู้ใดผู้หนึ่ง จะ

สื่งกระท่าชึ่งปาณาติบาต คอปลงชวิตเสยชืงแหงสต'าใหต
ล่วงไปเบนวัชชะกรรม ชกนำให้ไปปฏิสนธิในจตุราบา

ไอร้ อิม่งสุตฅ่งสุตะกาละโตบีฎฐายะ จำเดิมแต่ใด้สคับพง


ชึ่งพระอาการอัตตาสูตรนดวยศรทธาจิตประสาทเลองาใส ก

อาจบ่งห่ามอันไว้ชึ่งกรรมนน ๆ ไต้ ทุคคะตงโสนะฅจฉะ


บคคลผ้นน์จะไม,ไปสมคคติ โดยกาหนดกาลได ประมาถเ ๙0
ไ!ธ)๘

แสนก*ล!เฉะนั้ นี่เบนอานิสงส์ผล ทื่ได้ท่อพ่นทรงจ


กวะแสแห่งพงะอากา! วตตาสูตรให้เบนวาจุคะตา สะกะ
เคหํงส,พเพร'กเขหิริกขิตุง ธนึ๋งเคหะ สถานทงสิน แ
ผ้นไเจะมีผู้ริกบาแสัวด้วยเครีองริกษาท!บ่วง คือ เทพยดา
หลายใน!เกามาพจรสถานหงหกซ,นพานน ย่อม จะพิทํกษ์ริกษา
ให้นิราศภ*,ยอ*น์ตราย

เอว*ง์สาริปุตตะอิมํงสุตตํงมะหิทธิก,ง ดู
พระอาการวตตาสูตรน มีอิทธิฤทธใหญ่หลวง มหาเตชิ
มะหานุกาว'ง มีอานุภาพยี่งนํก์มีพละกำล่งมาก
สคุณด้นไพศาลด้วยประการ!เะนั้

สมเด็จพระบรมสากยะมณีสัมมาส*มพุทธเจ้า ตร*,สอธิบา

ซึ่งอิทธิเดซานุภาพแห่งอาการว'ตตาสูตรด้งนแสัว เทสะนาก

ค*ณหํนโต เมึ๋อพระองค์ถือเอายอดแห่งเทศนา จึงตริสซึ่ง

พระคาถาทง์หลายด้งนั้ว่า

ส'พพะเมกะหิท่งสุตต'งอะหิธไ]มะบฎิก*-ญเจวะ เบ

ตน อธิบายความในพระคาถาว่า อิท*ง์สุตต*งเอต*ง อาการ


วตตาสูตรน พระสมมาสมพทธเจ้า เบนผ้พระด้พพ,ญ0)ร้ จึ่ง
สงชตะธรรมทงปวงได้พิจารณาลูบคลำ ซึ่งพระอภิธรรมบ

ด้วย ซึ่งพระสูดรตไเตะบฎกแลพระวินํยบฎกด้วยประกาศไว้
แลว มหาเตชงอิทธิพะลง มีพระเดชามาก มีฤทธแลกำด้ง

ใหญ่หลวง ประด้บแด้วด้วยวรรค ๑๗ วรรค ด้งกล่าว แด้ว


ในหนหด้ง แต่ด้วนแสดงซึ่งพระพุทธคุณ คือพระบารมี

สมเด็จพระพุทธเจ1า พุทธะคุณะคะณาคนธา กลี่นหอมท1ง—

หลาย คือประชุมแห่ง หมู่พระพุทธคุณเบน กลิ่นด้นอุดมประ-

เสริฐ สง สูดกว่า กลี่น ด้นธชาติ ท,งหลาย ท มนุษย แลเทวดา

กำหนดว่าเบนกลี่นอนดี อาการะวตตาสุตงสุ[ตมหจะปะกา

ล'ตา ด้นธชาติแห่งหม่พระพทธเจาทงห่างเหต่านน เราผูตถาคต


ได้แสดงแด้ว ในพระอาการวตตาสูตรน สทธาหฅเถนะ-

วฌณนา วิญญช้นผ้มห่รช้าพงลูบดด้าเถิดดคอศรทธา
ความตงจิตไว้ชอบในกาลพุกเหอ พุทธะคุณาปุปผา คอหมู

แห่งพระพทธคณเบนบบผาช้าด2นอดมกวาบุบผาช้าต ทวาเทวดา

แลมนษย์ทงหลาฆมานิยมว่าห่าะเสรฐนน บุบผาช้าตคอหม
๓0

พระพุทธคุณฯงน*น เราผู้ตถาคตได้ประกาศแล*,วในพระอาก
ว*ต่ตาสูตรน ชะเนนะหิตะกาเมนะ ซินผู้ร*กษาใคร่ซึ่งประ¬

โยชน์เกอกลอุดหนุนแก่ตนในโลกเบอรหนำ พึงประด*บประดา
ท*,ดทรงไว้ด้ว์ยใจศร*,ทธาทุกเมียึเถิดด',งนึ่ ราโคจิตตงนะธ

ราคะคือควาง)กำหน',ตจะได้กำจ*,ด ซึ่งจิตแห่งบุคคลนํน หามิไค

ตะถาโทโสจะโมโหจะ อันโทษะแลโมหะ ก็ไม่กำจ*ดซึ่ง

จิตแห่งบุคคลผู้นํนให้ขุ่นช้องหมองม',วไปได้ ตะถาคะเตปะ

สาโทจะ บุคคลผู้นํนจะมีประสาทเลึ๋อมใสในพระตถาคตผู้

อะระห่งส'Vเมาส้มทุทธเจ",'I หรือจะมิการวะเคารพในพระตถาคต

เคารพในพระส*,ทธรรมแลพระสงฆ์ชินะบุตร สิทธาธิเวปุสสะ

คะโต จะถึงซึ่งความไพบูลย์ ด',วยคุณศร*,ทธาเมีน

ไปด',วยปรีชาปราโมทในพระพุทธคุณดังน์ สิ,พพะทุก

ย*สิสา'โย ร่างกายอันบุกคลอบรมอยู่แล',วอัวยพระพุทธคุณ

เบนเครืองหมดสั้นแห่งทุกข์ภ*,ย ไกลจากราคะกิ

อ*,คโคเชฎโฐอะนุตตะโร ก็เบนกายเลิศประเสรฐย์งควรจ

พึงบูชา ประหนึ่งว่าเรือนพระเจดีย์อันเมีนที่สการะบูชา
๓๑

ตะถาคะเตนะสทธง บุคคลที่มีจิตสันดานอบรมอย่แล*'ว
พุทธคุณนนเหมีธนได้ อยู ณะ ท เดียวก่น ก*,บ ด้วย ตถาคต พทธเจ้า

วตกกะเมอุปาฐเต ควนเมอวตถุสันจะพึงล่วงในสิกขาบทบั

ญ'ต จะเบนอณาดิกกะมะโทษจะมีปรากฏเฉพาะหน*'าก็ดี บุคคล

ผู้น,นก'จะตงไว้นึ่งหิริความละอาย แล,โอต*ปปะความสะดุ้

ต่อบาป และโทษประหนึ่งว่า ต่ง็อยู่ในที่มีหน*,าพรอมแห่

สัมมาส*'มพุทธเจ้าฉะนึ่น ถึไม่อาจล่วงเดินนึ่งสิกขาบ
ในครุกาบ*ต แลลหุกา!!ตน,น ๆ ได้ จ้อนึ่เาเบนคุณาสะเนย

ทฎฐานะธรรม ที่ได้หมนคำนึงถึงนึ่งอะตุละบารมี ที่กล


ในพระอาการว*ตตาสูตรนึ่ โยอุปาร*มกาทิ เหตุว่าบุคคลผู

ใจศร*ท์ธาประสาทะคณความเสอม,ใสย่อมสดบพง คำสงสอน
แห่งองค์สมเด็จพระธินวรวิสทธศาสดาจารย เหตุแห่งโทษ

เขาปรารภ คือประสบความสรรเสริญแลลาภยศเบนตม
อะการะภาจาส*ทตธํม บุคคลผู้นนาจะตง็อยู่ที่ไกลจากพระ

สิทธรรม ประหนงวาพินบถพ เบนของไกลกนกบอากาคนน

บคคลผ้น*นก็จะะเสอมขิากพระ;สทธรรม ประหนงวาปรมญร!ล
๓0

พระพุทธคุณ!นั้น,น เราผู้ตถาคตได้ประกาศแล้วในพระ
ว*ต์ตาสูตรน ชะเนนะหิตะกาเมนะ ชนผู้ร'กษาใคร่ซึ่งประ¬

โยชน์เกอกูลอุดหนุนแก่ตนในโลกเบอรหน่า พึงประดไเประด
อัดทรงไว้ตัวยใจศร่ทธาทกเมึ๋ธเถิดอังน้ ราโคจิตตงนะธ

ราคะ คือ ความ กำหน'ดจะได้ กำจด ซึ่ง จิต แห่ง บุคคล น่น หามิไค้

ตะถาโทโสจะโมโหจะ อันโทษะแลโมหะ ก็ไม่กำอัดซึ่ง

จิตแห่งบุคคลผู้นน์ให้ขุ่นข*,องหมองม',วไปได้ ตะถา
สาโทจะ บุคคลผู้น่น็ขิะมีประสาทเลึ๋อมใสในพระตถาคตผู

อะระห',งสไเมาล้มพุทธเอัา หรือจะมิคารวะเคารพในพระตถาคต

เคารพ'ในพระส*!ทธรรมแลพระสงรํเชินะบุตร สํทธาธิเวปุสสะ

คะโต จะถึงซึ่งความไพบูลย์ ตัวยคุณศร*ทธาเบนอั

ไปอัวยปรีชาปราโมทในพระพุทธคุณดังนํ้ ส*พพ

ย*สสาโย ร่างกายอันบุคคลอบรมอยู่แตัวตัวยพระพุทธคุ

เบนเครืองหมดสินแห่งทุกข์ภ*ย ไกลจากราคะกิเล

อัคโคเชฎโฐอะนุตตะโร ก็เบนกายเลศประเสรํฐถึงควรจะ

พึงบูชา ประหนงว่าเรือนพระเจดีย์อันเบน ที่สการะ บูชาฉะน


๓ด

ตะถาคะเตนะสทธง บุคคลที่มีจิตสันดานอบรมอยู่แส้ว
พุทธคุณนนเหมีอนได้อยู่ ณะ ที่เดียวก*น ก*บด*,วย ตถาคต พทธเจ่า

วตกกะเมอุปาฐเต คว*นเมีอว*ตถุสันจะพึงล่วงในสิกขาบทบ

ญํต จะเบนอณาดิกกะมะโทษจะมีปรากฏเฉพาะหน*าก็ดี บุคคล

ผู้น*นก็จะต*งไว้นึ่งหิริความละอาย แล'โอต*ปปะความสะดุ

ต่อบาป และโทษประหนึ่งว่า ต,งอยู่ในที่มีหนำพร*อมแ

สัมมาส้มพุทธเจ่าฉะน*น ก็ไม่อาจล่วงเกินซึ่งสิกขาบทบ*ญญ่ติ
ในครุกาบิต แลลหุกา!เตน1น ๆ ได้ ขํอนึ่ก็เบนคุณาส

ทิฎฐานะธรรม ที่ได้หม,นคำนึงถึงนึ่งอะตุละบารมี ที่กล่าว


ในพระอาการว*?เตาสูตรนึ่ โยอุปา:ไเกาท้ เหตุว่าบุกคลผู้มี

ใจศร*ทธาประสาทะคณความเลอมใสย่อมสดบพา คำสงสอน
แห่งองค์สมเด็จพระสินวรริสุทธิศาสดาจารย เหตุแห่งโทษ

เขาปรารภ คือประสบความสรรเสริญแลลากยศเนึ่นตน
อะการะกาจาส’ทตอม บุคคลผูนนกจะตงอยูทไกลจากหระ

สิทธรรม ประหนงวาพนบถพ เบนของไกลกนกบอากาคนน

บคคลผันนก็จะเสอมจากหระสห®รรน ประหนงวาปรมณๆาล
ตา 1^3

แห่งพระจ*นทร์อำนิหมดร*ศมี ในดิถีแห่งกาฬบกข์ฉะน1น โย
ตุฎเฐนะจิตเตนะ บุคคลผู้ใดมีจิตแล'ว์กัวยศร'ทธาปสาทะ

ย่อมสดไ)พงซึ่งคำส่งสอน แห่งสมเด็จพระสไเมาส'มพุทธเจ

ผจญเสียซึ่งข่าศึกเพี่อกิเลสแห่งหมู่มาร ดัวยจิตซึ่นบานภิ

ปราศจากราคะโทสะ มีอ้นปรารภคือแลเหนแก่ลาภยศ และ


ความสรรเสริญเบนกันกังกล่าวมาแล'วนื กิเลเสเ

บุคคลผู้นืนถีจะกังกิเลศ ท1งหลายให้หมดสั้นตัวย ต

หานะ และ น้กข่ไ)ภะนะปะหานะ โดยล่าดไ) ๆ ก'นไป

จนถึงละกิเลสได้ตัวยสมุจเฉทประหารหมดสั้นเชออุปาทา
นาสะโว เบนผู้ริสุทธิในสนดาน ไม่มีอาสะวะ เครึ๋องดอ

เนืองนอง แด่อน'นิตะชาติ ปรนพพาย ถีจะดับข่นธ์


ปรินิพพาน หมดสั้นกันดาน คือชาติชราพยาธิมรณะกันบรม

สุขดังนื ด*วยอานิสงส์คุณที่ได้สดับร'บปฎิปด
สทธรรม ที่สมมาสมพุทธเจ้าดร*สีส่ง์สอน'ไว้ ธไ)มะจาร

หนืง นรชน ทง็หลายเหล่า1ใดกอบตัวยคุณคือ ศร*ทธา และ


เบนกัน เคารพในส'ทธรรมและได้โดยเออเพี่อในพระสั
๓๓

อะสะจาโย เบนผู้ไม่กล่าวดี คือไม่อวดแสดงซึ๋งคุ

เบนเหตุจะใหัคนอื่นมีความพิศวง ชนที่งหลายน่

ปฏิบํติซี่อตวงตามมรรคาแห่งอมตะธรรม คือพระนิพพานความ

สุขสำราญกายสบายจิต ก็ขิะบ้งเกิดมีในภพนิแอภพหนำ

อื่ทสา ด้วยตนเคารพน้บถือพระสัทธรรม แลปฎิบํติตามด้งกล่


มาแล่วนนด้วยประการด้งนิ อาการะว'ตตานุภาเวนะส

โหนติ สุข,,!]บดตา ส่ตวท1งหลายจะถึงซึ่งความสุข นิระท


นิระภย ปราศจากล่นตรายทง์ปวง ด้วยอานุภาพแห่งอาการ

ว*'ตตาสูตวน เทวามะนุสสานะอุโภ เทวดาแลมนุษย์ท1งหลาย

ก็จะแลดซึ่งล่นและกนด้วยจิตเมตตา มิได้มีวิหิงสา อาธ

ที่จะเบึยดเบียน1ให้ความลำบากกายระทม'ใจด้งน ด้วยอานุ
พระอาการว*,ตตาสตรน อนตะรายาอะเนกะธา อนตรายทง-

มลายทจะเบนไปในภายไนแล'ลายนอก มมากใช อยางเตยว

วินํสล่นติอะเสสะโต ก็ย่อมวินาศเสยมสูญ พนาศฉิบหายคาย

อานภาพ พระอาการวตตาสตรน ราชะโจรกกนาบขิะ ภย

อนตรายที่งหลาย ธนจะเกิดขนแต่พระรา®'1 ผู้ปกครอ^รั


๓ (ข็,

บ*งคํบอภิบาลมณฑล หรือจะเกิดจากโจรกระทำฑ้ย แลเพลิ

ไหม้ หรือนาท่วมมากเกินประมาณ ต้นตรายเหล่านิ

วินาศฉิบหายมิไดัเหลือ ไม่อาจท่าให้เบนต้นตรายเบนต้
ลืหะและพยศมะ กิไม่อาจเบียดเบียนทำร่ายได้ สิงสา

รนโต เมีอผู้น1นยํงท่องเที่ยวเวียนวนอยู่ในว*ฎสงสาร

ราปะติยายุโต จะเบนผู้บีบญญาละเอียดสุขุมภาพ และจะม

ชนมายุยืนยงคงทน จนเท่าถึงอายุปริเฉทกาลอายุข
หนดจึงจะตาย ชะตายต้ว่ยอะกาลมรณะนินหามิได้

จะ บุคคลผู้นินจะเบนผู้ไม่มีโรคาพยาธิ ที่ชะเบียด
แทงให้ฟกชาระกำกาย อะนาสะวงจะนิพภะยํง์ กิสกานถึน

ประเทศใด ต้นสมเด็จพระพุทธเร่าทงหลายได้แสดงไว้แล่ว ว่
เบนที่ไม่มีอาสะวะกิเลศ และเบนที่เกษมสุขสนทุกข์ภ

ข่าศึกสึ่งใด ที่จะมาผจญให้ถึงธึ่งพ่ายแพ้ได้ นิพพาน

สินติสิงละเภยยะ อนาคะเต บุคคลผู้นนกิจะพึงได้สถาน

เทศน,น กล่าวคือพระนิพพาน อะตุละสินสิง ไม่มีธรรมคื

ที่จะเบนคู่เปรียบให้เท่าถึงได้ เบนธรรม สิน ระร่บ์ไ


๓{^

อนาคตเบองหนายงไม่มมาถงด้งบ เพราะอนิสิงสะผลที่ได้ระล
ตามเนอง ๆ ชิงพระพุทธคุณวิบูลย์บารมี ทิพพะจ*กขงอ

ทะย ผูนนกจะสำเรจชิงไตรริชิๅ และอภิญญา ๖ ประการ


กจะยงทิพจกขุญาณให้ บรสุทธึ๋ผ่องใส อาจเห็นในรปารมณ์

โดยประสงค์ ประดุจหนึ่งทิพอักขแห่งองค์พระมะเหสิ
ราชิน1น คํมภร*ง์ทิปุณํงธืมม่งโยจะสตต*งปะรัต'ตะยิ

บุคคลผู้ใดมีความเลึ๋อมใสโสมน*,สปรีดา ปสาทะศรัทธาเบน!ค
มูล ได้กระทำอ*ตรา พระอาการว*,ตตาสูตร อันเบนธรรม

ลึกชิงละเอียด อ'นเจือไปด้วยพระวน'ย และปะระมัตถะบ/เก


ให้ประพฤติเบนไป คือว่าได้จดจาฤกลงไว้ในสมุดหรือใบ

ลานก็คื เพอจะให้เบนหิตานุหิต ประโยชิน์แก่บ

โสมน่สเวน*!]ต่อไปณะเบองหนำ วะทสสะต ตสสะยะ

โสยสะ กล่าวคือจะมีผู้บูชิาแลน*บถึออักเจริญแก่ผู้

เบนนิรันดรมีได้ขาด พะหุตตพภกโขภะวะตวปปะม

โตสะก่งฆะราโยจะสิตตะสะณิยะติ บุคคลผู้ใดได้สดไ

พระสูตรอนินึ่ โดยส'กกไจะวิธีเบนเคารพ วิปปะมุตโตสะก่


0)1)

ฆะรา ถึงระมีก่งวลการด่วนรีบร่อนตองส'ญจรออก จาก บ่าน

เรือนแห่งตนน1นไปแล้ว จะได้ขดสนจนเสบียงอาหารท

บริโภคไปรายทางทุเรศก่นดารหามีได้ พะหุตตํพภํกโขกะ

บุคคลผู้บ่นจะมีเครีองบริโภคมาก ย่อมเบึ๋นที่อาลัยแก่

ปวง อะนิตตะบ่สสะหํนติ ลัดรูหมู่บี’จจามิตรบ่ง์หลา


อาจจะมาครอบงำย่าได้ นึ่เบีนทิฎฐะธรรมมีกกะอนิสงส ใ

บีจจุบ่นทินตา สมปะรายกานิสงส ที่จะเกอกูล1ในภพเบองหนำ

บ่นแสดงว่า โกฎฐาคารานิส่มมนโนนานาวิเธนะกสิโต

บุคคลผู้บ่นที่ใด้พงชี่งพระสตรน ดำยประสาทจิตผ่องใสโสมน
ปรีดา เมื่อสืบรันธะประว้ติในภพเบีองหนำ จะสมบู

โภคสมบ่ติหิร่ญรดนมณ์เหลือลันขนขํ้น รำบา ไว้ที่ เรือน

เบนต*,น. จะประกอบดวยเครีองอลังการรืภษิตพรรณด่าง ๆ

ใช่อย่างหนึ่งอย่างเดียวไม่ มะหพพะโลมะหาถาโม
กำลังมากแข็งขลันกลัาต่อยุทธนา ดำยขำศึกศ*ตรู หม่ไพรีไม่ย่อ

กาโยสุว*ณ์ณะว้ณโณ ท,งฉวีวรรณก็ม่องใสดุจทองธรร

บ่งลักบุประสาทก็รุ่งเรืองงามบมีได้วิปริต อา?ศทวิทิ

ซึ๋งสรรพรูปทงปวง กัตติงสะกัปเปเทวินโท ขิะได้เบ


พระอินทรบืนพิภพดาวคืงษ็ กำหนด ๓๖ กัป!!โดย!]ระมาณ

ฉตติงสะจ'กกะวตติโย จะได้สมกัด้กักรพัตราธิราชีผู้เ
อีศระในทวีปพัง ๔ มื่ทวีปน'อยสองพันเบนบริวาร กำหนด

นานถึง ๓๖ กัป!! สุว*ณณะปาสาทะส”มบนโน จะถึงพรอม

กัวยปราสาทกันวิมานแห่งทองควรจะปรีดา บริบูรณ์กัวยแกัว

๗ ประการ เบึนของเกิดสำหริปบุญ แห่งบรมจักรพัตราธิราชี


จะพังอย่ในสมบํรี!สุขโดยกำหนดกาล ตวิธะ สุกังอจฉนโต

อนึ่งเมื่อผ้พันึ่ชะปรารถนาชึ่งสุข ๓ ประการ คือสุขในม


สุขในสวรรค์ แลสุขในนิพพานนึ่ กจะได้สำเร็จโดยปรารถนา

มะติมะ กัดกิ ท'สสิมา เมี่อยังเวียนว่ายอยู่ในว'ฏสงสาร

อานิสงสดงอภบาลตามประคองไป ให้บญญาเฉยบแหลมว่อง

ไว จะเบนผัร้กัถธรรมกันละเอียดลึกชีงอาวรู้หวถึงดวอถึ'
บญญาปรีชา ตะโตนิพพานะสุกังจะ เมื่อกาลกันเบนอะวะสาน

ทสดชีาติ ฦจะได้บรรลแกพระอมตะมหานพพานเาานาารมสุ,!'

ตามอริยะโวหาร นิรีเยจาบเตจะ อนึ่งเมื่อบุคคลผู้นนองเวียน


๓^

ว่ายอยู่ไนวํฏสงสาร จะไม่ไปอุบ*ตในนรก ไม่ไปเกิดในอส


กๆย ไม่ไปเกิด'ในเดหัเฉาน จะไม่ไปเกิดในโลหะคุมภึ ไม

ไปเกิด1ในเวตระณ์ แลอเวจีมหานรกใหญ่ท*งหลาย นะวุ


กไ]ปะสะตะสะห*สสานิ กำหนดนไเถึง ๙๐ แสนกไ]!]เบน

ประมาณ จ'ณฑลยทาสกุจนิมหิโลก'นฅะนิริเยสุจะ
ผ้น่นจะไม่ไปเกิดในตระกูลแห่งหญิงจ*ณขาลเข็ญใจ แลแห

ทาษี หินะชาติ ๆ ตระกูล และจะไม่ไปเกิดในโลก*,นตะนรก

อนมใน'โลก มิจฉาหิฎฐิมะหิ จะไม่ไปเกิดในตระกูลมีจฉา

หิฎฐิ ด*วยอานิสงส ที่ใด้พงพระสูตรนึ่ และย่งไม่สุดส

สนองไป คือจะไม่ไปเกิดเบนหญิง และเบึนอภะโตเพียญชนกะ

มีเพศทไสองผาย แลมีได้ไปเกิดเบนบ*ณเขาะเบนกระเทยที่

เบนอาภัพพะบุคคล องคะบจจงคะสมบนโน บุคคลผู้นนจะ

เกิดในภพใด ๆ จะเบนผู้ถึงพร*อมด*กิยอ*งคาพะยพน'อยใหญ่

บริบูรณ์ ไม่วิกลกิการ สุรูปาหิฆายุโก จะเที่นผู้มีรปท

ส',ณฐานงามดีเบนที่เลื่อมใสแก่มหาชนผู้ใด้ท*,ศนาไม่

จะเบนผู้มีกึลมีส่จจศร*ทธาธิคุณ บริบูรณ์ไปในการบริจาคท
0ก6

ไม่เมื่อหน่าย ส*พพติโยวํชชํนตุ ที่งส!รพธ*นตราย

จ*ญไรภ่ยพิบํติ กึจะขจิตบำบํดไป ท*งสรรพอาพาธที่

เบียดเบียนกายกจะสังชระจิบดํบคลายลง ด*ว่ยคุณานิส่งส

ที่ตนได้สดับพ? ซึงพระสูตรพุทธเวยยากะระณะภาษิต ดันเบน

ธรรมโอสถวิเสส มะระณะกาเลอะสมมุฬโห ในมรณะดั


นะกาล ใกล้แก่มรณะก็จะเบนผู้ไม,หลง จะดำรงสติน

ให้เบนทางสุคะติ ที่จะดำเนินปฏิสนธิในภพเบองหนำ อุชุง


ฉะติสุคะติง เมื่อแตกแห่งกายทำลายเบญจดันธแตั

ตรงไปส่สุะคติ เสวยสุขสมบิตตามใจประสงค์ โยจะส'มมานุส


สะติสุตตะวินะยาภิธํ,มมํง์ นรชนผู้ใดเห็นตามโดยชอบ ซึง

สูตรดันเจือปนดัวยพระวิดัย พระปะระมัดถ มีนาม


ว่า พระอาการว'ตตาสูตร มีข*อความดังกล่าวมาแตัวน1น

สำเร็จดังกมลม่งมาตรปรารถนา โยจะบีสสะติสํทธมมํ

บุคคลผู้ใดได้เห็นพระดัทธรรม บุคคลผู้น,นจะ'ใต้ซึอว่า ได้เห็

เราผู้ตถาคตพุทธเจ่า อะบีสสะมาโนสํทธมมำบีสส

ผู้ใดเมื่อไม่เห็นพระดัทดัม ถึงจะได้เห็นได้ประสบเราผู้
\

๔๐

กเข้อว่าไม่ได้ประสมพบเราผู้ตถาคต เมนผู้ไกลจากเ
ดํงนี ธงคพระจธมมุนีผู้ทรงพระภาค ตร*,สประกาสช
นภาห และอานิสำสะผลแห่งพระอาการว้ตตาสูตร โดยเวย
กรณะบาลีดํงนี จบแล'ว ธรรมาภิสมํยผู้ตร*สร
เกดมีแก่หมู่ข้นท*งหลายที่ได้สด้บพงประมาณ, ๔๐ พ*น'โกฏ

ประการดํง์นี

อิทะมะโวจะภะคะวา สมเด็จพระมหากรุณาผู้ทรงพร
ภาค ตรํสแสดงพระอาการว*ตตาสูตรนีจบลงแล*ว พระสาริบุ
พุทธสาวก ก็ชึ๋นชมยนด็ต่อพุทธภาษิตแห่งองค์สมเด็จพร
พระภาคภะคะว'นตะบพิตรส*มมาส'มพุทธเจ่าดํว์ยประการดั

อาการว*ตตาสูตรว่ณณนา

นิคูฐิตา เอว'ง

ทระปุญญสิริ
นี^...'''
ผู้เขยนลอก
กิ.
พิมพ์ทีโรงพิมพ์บำรุงนุกูดกร ๗๙-๘๓ ถนนบำรุงเมือง พระนกร
โทร. ๒๐๓๗๔ นางบญช ธรรมาชีวะ ผุ้พิมพ์ผ้โฆษณา ๒๕©๒

You might also like