Professional Documents
Culture Documents
ธุรกิจโรงแรม
พฤศจิกายน 2565
วิจัยกรุงศรี
ผู้เขียน
พุ ทธชาด ลุนคา
นักวิเคราะห์
puttachard.lunkam@krungsri.com
+662 296 2986
Subscribe Us
สมัครสมาชิกวิจัยกรุงศรี...
krungsri.research@krungsri.com
คำสงวนสิทธิ์
มุมมองวิจัยกรุงศรี
โรงแรมในจังหวัดศูนย์กลางความเจริญของภูมิภาคและแหล่ง
ท่องเที่ยวสาคัญ1/ : มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง เนื่องจากส่วนใหญ่เน้น
กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย จึงได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการ
ท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐ โดยอัตราเข้าพั กน่าจะอยู่ที่ 50%-52%
(เทียบกับ 66% ในปี 2562)
โรงแรมในจังหวัดทั่วไป : แนวโน้มภาวะธุรกิจโดยรวมอาจยังฟื้นตัวช้า
แม้จะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจาก
จังหวัด/พื้ นที่ส่วนใหญ่รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเพื่ อไปจังหวัด
ศูนย์กลางภูมิภาค/แหล่งท่องเที่ยวสาคัญ ทาให้รายได้และอัตราการเข้า
พั กมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ากว่า 2 พื้ นที่ดังกล่าวข้างต้น
1/ ได้ แก่ เชีย งใหม่ เชี ย งราย พิ ษณุโ ลก กาญจนบุ รี ระยอง ฉะเชิง เทรา นครราชสีม า ขอนแก่น อุ ด รธานี อุ บลราชธานี
เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา กระบี่ พั งงา และสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย)
วิจัยกรุงศรี 3
ข้อมูลพื้ นฐำน
ธุรกิจโรงแรม (รวมรีสอร์ทและเกสต์เฮ้าส์) เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
หมวดที่พักแรม (Accommodation) ช่วงปี 2560-2562 คิดเป็นสัดส่วน 2.5% ของ GDP รวมทั้งประเทศ ก่อนที่จะลดลง
เหลือสัดส่วน 1.0% ในปี 2563 และ 0.6% ในปี 2564 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ทาให้ GDP
หมวดที่พักแรมหดตัวอย่างรุนแรง (ภาพที่ 1) ทั้งนี้รายได้ของธุรกิจโรงแรมมาจากการขายห้องพั กเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน
65-70% ของรายได้ทั้งหมด รองลงมาคือ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (สัดส่วน 25%) โดยโรงแรมขนาดกลางขึ้นไปที่อยู่ในระดับ
4-5 ดาว มีสัดส่วนรายได้จากค่าอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าโรงแรมขนาดเล็ก ที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ (สัดส่วน 5-10%) เช่น
บริการซักรีด ค่าเช่าพื้ นที่ร้านค้า
600 28.1 40
17.9 18.0
17.3 13.4
500 9.1 20
1.9
400 0
300 -20
-42.4
200 -40
100 -60
0 -64.5 -80
2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021
Source: Office of The National Economic and Social Development Council (NESDC)
ประเทศไทยนับเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากการมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดความ
สนใจติดอันดับโลกกระจายอยู่ตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ พั ทยา และภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับ
ความนิยมสูงระดับโลก (World Class Destination) นอกจากนี้ ไทยยังมีความได้เปรียบด้านค่าครองชีพและราคาห้องพั กที่
ถูกกว่า ทาให้การท่องเที่ยวในไทยมีความคุ้มค่าเงิน (Value for money) ผนวกกับการคมนาคมที่สะดวกมากขึ้นจาก
โครงสร้างพื้ นฐานที่ทยอยพั ฒนาเป็นลาดับ และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสายการบินต้นทุนต่า (Low cost airlines)
หนุนให้การท่องเที่ยวไทยยังคงมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง จากรายงาน “Travel & Tourism
Development Index 2021” ของ World Economic Forum ฉบับล่าสุดเผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 พบว่าขีด
ความสามารถในการแข่งขันด้านท่องเที่ยวของไทยอยู่ในอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย และลาดับที่
36 จาก 117 ประเทศทั่วโลก (ภาพที่ 2) โดยไทยเป็นรองทั้งสิงคโปร์และอินโดนีเซียในด้าน Safety & Security ขณะที่ไทย
ได้เปรียบด้าน Price Competitiveness และ Tourist Service Infrastructure
4 วิจัยกรุงศรี
Figure 2: 2021 Travel & Tourism Development Index
(Overall Rankings of ASEAN Countries, Covering 117 Countries)
1
9 32 36 38 52 75 79 93
-
Singapore Indonesia Thailand Malaysia Vietnam Philippines Camobodia Lao PDR
Source: Travel & Tourism Development Index 2021 by World Economic Forum
Note: Index results represent the latest data available at the time of collection (end of 2021)
2019 2021
Foreigners Foreigners
65 % 15 %
วิจัยกรุงศรี 5
Figure 4: Share of Foreign Tourist Arrivals to Thailand
(by region)
% of total arrivals
2019 2021
70
60
50
40
30
20
10
0
East Asia ASEAN Europe The South Oceania Middle Africa
Americas
Americas Asia East
China
28% UK 9%
Malaysia 10%
USA 9%
Others India 5% Others
47% S.Korea 5% 58% Russia 7%
Lao PDR 5%
East Europe 6%
6 วิจัยกรุงศรี
Figure 6: Foreign Arrivals at Accommodations (2019)
Bangkok Pattaya
UK 3.9%
China Russia 12.2%
India 4.4% Others 29.0%
South Korea 4.3 % 41.3%
India 7.1%
Japan 7.8%
China Others South Korea 7.0%
38.3% 40.5%
Germany 4.2%
Persons, m
China (RH) Malaysia
12 India Russia
10
0
2007 2009 2011 2013 2015 2017 2019 2021
วิจัยกรุงศรี 7
อินเดีย: เป็นตลาดอันดับ 3 (สัดส่วน 5.0%) โดยมีอัตราการขยายตัวในระดับเลขสองหลักติดต่อกัน 5 ปี (ปี 2558-2562)
สร้างรายได้ 8.6 หมืน ่ ล้านบาทในปี 2562 ปัจจัยหนุนจาก (1) เศรษฐกิจอินเดียที่เติบโตต่อเนื่องและการเพิ่ มขึ้นของจานวน
่
ประชากรทีเป็นชนชั้นกลาง จากรายงานของสภาวิจัยเศรษฐกิจประยุกต์แห่งชาติ (National Council of Applied
Economic Research: NCAER) ของอินเดีย ระบุว่าในปี 2559 ชนชั้นกลางในอินเดียมีจานวนประมาณ 267 ล้านคน และจะ
เพิ่ มเป็น 2 เท่าหรือ 547 ล้านคน ในปี 2568-2569 (2) การเปิดเส้นทางใหม่ของสายการบินต้นทุนต่าจากอินเดียมายังไทยที่
มากขึ้น ทาให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว โดยเที่ยวบินจากเมืองสาคัญต่างๆ มาไทย อาทิ เดลี มุมไบ เชนไน บังกาลอร์ ใช้เวลา
เพี ยง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น และ (3) เศรษฐีชาวอินเดียนิยมจัดงานแต่งงานในไทยเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านที่พักและการจัดงานถูก
กว่าเมื่อเทียบกับการจัดงานแต่งงานในอินเดียหรือประเทศอื่นๆ
รัสเซีย: เป็นตลาดยุโรปอันดับ 1 ที่มาท่องเที่ยวไทย (สัดส่วน 3.7%) สร้างรายได้ 1.0 แสนล้านบาท ในปี 2562 ปัจจัยหนุนการ
เติบโตเนื่องมาจาก (1) ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ชาวรัสเซียเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยวจากแหล่งท่องเที่ยวยอด
นิยม เช่น ตุรกีและอียิปต์ มาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับรองลงมาอย่างไทย สะท้อนจากช่วงปี 2553-2556 ซึ่งเกิดสงคราม
ซีเรีย นักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทยมีจานวนเพิ่ มขึ้นเฉลี่ย 46.1% ต่อปี เทียบกับ 22.5% ต่อปี ในช่วงปี 2549-2552 และ (2)
มาตรการสนับสนุนของรัฐบาลไทย อาทิ ข้อตกลงร่วมกันระหว่างไทย-รัสเซียในการยกเว้นการตรวจวีซ่าที่เป็นการเดินทางเพื่ อ
จุดประสงค์ของการท่องเที่ยวไม่เกิน 30 วัน (มีผลเดือนเมษายน 2550) และการจัดโร้ดโชว์ของ ททท. (3) การเพิ่ มจานวน
เที่ยวบินทั้งเที่ยวบินตรงและเช่าเหมาลา
180 300
150 250
200
120
150
90
100
60
50
30 0
0 -50
2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021 9M22
Source: MOTS
8 วิจัยกรุงศรี
Figure 9: Number of Rooms by Region
Room, k
Others 6 major tourism provinces
Chiang Mai Suratthani
1,000 Chonburi Phuket
Bangkok
800
36%
600
13%
400 5%
5%
8%
200 12%
21%
0
2016 2017 2018 2019 2020
3/ 11 จังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ กระบี่ พั งงา สงขลา เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และระยอง
วิจัยกรุงศรี 9
อัตราเข้าพั ก (Occupancy rate: OR) ปรับลดลงมากในปี 2563-2564 ปี 2550-2562 อัตราเข้าพั กเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่
ในช่วง 60-70%4/ ยกเว้นปีที่เกิดวิกฤตร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทาให้อัตราเข้าพั กต่ากว่าระดับ 50% เช่น ปี
2552-2553 เกิดวิกฤตการเมืองในประเทศส่งผลให้อัตราเข้าพั กทั่วประเทศเหลือเพี ยง 50% ปี 2557 เกิดรัฐประหาร อัตราเข้า
พั กอยู่ที่ 55% และล่าสุดวิกฤต COVID-19 ปี 2563 อัตราเข้าพั กของไทยปรับลดลงมากมาที่ 29.5% และลดลงต่อเนื่องอยู่ใน
ระดับต่าสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14.2% ในปี 2564 ตามจานวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่หดตัวอย่างรุนแรง (ภาพที่ 11)
% %
40 80
20 70
0 60
-20 50
-40 40
-60 30
% Growth of Foreign Tourists
-80 Occupancy rate (RHS) 20
-100 10
2005 2007 2009 2011 2013 2015 2017 2019 2021
10 วิจัยกรุงศรี
สถำนกำรณ์ที่ผ่ำนมำ
ปี 2564 ธุรกิจท่องเทีย่ วและโรงแรมทั่วโลกเผชิญกับภาวะวิกฤตจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ต่อเนื่องจากปี 2563
ทาให้รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกออกมาตรการปิดเมือง (Lockdown) เพื่ อควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศโดยเฉพาะจีน
(ยังคงห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563) ส่งผลให้จานวนนักท่องเที่ยวทัว ่ โลกต่อเนื่อง
ลดลง -72% เทียบกับปี 2563 ที่หดตัว -73% (ภาพที่ 12) โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟก ิ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก (-94%)
เนื่องจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนในสัดส่วนสูง(ภาพที่ 13) ส่งผลให้จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยรวมของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ลดลงรุนแรง เช่น มาเลเซีย (-96.9%) ญี่ปุ่น (-94.0%) สิงคโปร์ (-87.9%) เป็นต้น
นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจานวน 4.3 แสนคน หดตัว -93.6% ลดลงต่อเนือ ่ งจากปี 2563 ทีม่ ีจานวน 6.7 ล้านคน (-83.2%)
(ภาพที่ 14) ขณะที่รายได้อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท (-88.6%) โดยจานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเพิ่ มขึ้นในช่วงครึ่งปี
หลัง จากมาตรการผ่อนคลายการควบคุม COVID-19 (การปรับลดจานวนวันกักตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ
อนุญาตให้เดินทางต่อไปยังพื้ นที่ต่างๆ ตามที่กาหนด) ผ่านโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่ อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ให้กลับมาไทยอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรม อาทิ โครงการ Phuket Sandbox (เริ่ม 1
กรกฎาคม 2564) โครงการ Samui Plus Model (เริ่ม 15 กรกฎาคม 2564) และโครงการส่วนขยาย 7+7 กับ Phuket
Sandbox (เริ่ม 16 สิงหาคม 2564) ในขณะเดียวกันประเทศต้นทางหลายๆ ประเทศเริ่มอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทาง
ออกนอกประเทศได้มากขึ้น อานิสงส์จากอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสมากขึ้น โดยปี 2564 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน
เดินทางมาไทยมากที่สุดจานวน 4.6 หมื่นคน คิดเป็นสัดส่วน 11% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยทั้งหมด รองลงมา
ได้แก่ สหราชอาณาจักร (9%) USA (9%) รัสเซีย (7%) ตามลาดับ (ภาพที่ 15)
-63 -62
-68 -68
-73 -79 -77 -74 -73 -72
-84
-94
Asia and the Middle East Africa World Europe Americas
Pacific
วิจัยกรุงศรี 11
Figure 13: Mainland Chinese Tourists as Share of Total Tourists, 2019 (%)
Hong Kong 78
Macau 71
Cambodia 36
South Korea 34
Vietnam 32
Japan 30
Russia 28
Thailand 28
Taiwan 24
Laos 19
Singapore 19
Philippines 18
Australia 16
Indonesia 14
Malaysia 12
USA 4
Italy 3
France 2
อัตราการเข้าพั ก (Occupancy Rate: OCC) เฉลีย ่ ทั่วประเทศปรับลดลงตา่ สุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 14.2% จาก 29.5%
ในปี 2563 (ภาพที่ 11) โดยเฉพาะอัตราเข้าพั กในพื้ นที่ท่องเที่ย วสาคัญที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่า งชาติเป็นหลักปรับลดลง
เหลือไม่ถึง 10% อาทิ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ ขณะที่จังหวัดที่พ่ึ งพานักท่องเที่ยวไทยเป็นหลักส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ
สูงกว่า 20% เช่น เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี นครราชสีมา เป็นต้น (ตารางที่ 1)
12 วิจัยกรุงศรี
Figure 14: Foreign Tourists to Thailand
Persons, m % Growth
Number % Growth (RHS)
50 50
40
0
30
20
-50
10
- -100
2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021
Source: MOTS
2021
2021 2020
2020 % Growth
12
South Korea -95.4%
260
13
China -99.0%
1,250
14
Israel -52.2%
29
17
Sweden -84.7%
112
23
France -90.1%
237
27
East Europe -87.5%
217
31
Russia -94.8%
587
38
USA -82.1%
211
39
UK -82.5%
221
46
Germany -80.1%
231
Source: MOTS
วิจัยกรุงศรี 13
่ ต่อคืน (Average Daily Rate: ADR) ทั่วประเทศลดลง -18.5% อยู่ที่ 914 บาท ส่งผลให้รายได้เฉลี่ย
ราคาห้องพั กเฉลีย
ต่อห้องพั ก (Revenue per Available Room: RevPAR) ทั่วประเทศปรับลดลง -60.9% อยู่ที่ 129 บาท จาก 311 บาท
ในปี 2563 (ภาพที่ 16)
THB %
ADR RevPAR OCC (RHS)
2,500 80
2,000
60
1,500
40
1,000
20
500
0 0
2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021
ผลการดาเนินงานของผู้ประกอบการโรงแรมซบเซาต่อเนื่อง จากตัวเลขของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จานวน
5 ราย (ภาพที่ 17) ปี 2564 อัตรากาไรสุทธิของผู้ประกอบการ 5 ราย ลดลง -54.1% ต่อเนื่องจากปี 2563 ที่ -40.7%
โดยผลกระทบของแต่ละรายแตกต่างกันขึ้นกับโครงสร้างรายได้จากการกระจายการดาเนินธุรกิจ (Diversified business)
โดยบางราย ได้แก่ Central Plaza Hotel (CENTEL) และ Minor International (MINT) มีรายได้จากธุรกิจอื่นเข้ามา
เสริม (เช่น บริการอาหาร จาหน่ายสินค้าแฟชั่น เป็นต้น) ทาให้ผลประกอบการได้รับผลกระทบน้อยกว่าภาพรวม
50
CENTEL
0
DUSIT
-50 MINT ERW
LRH
-100 CENTEL = Central Plaza Hotel Pcl.
ERW = The Erawan Group Pcl.
MINT = Minor International Pcl.
-150 DUSIT = Dusit Thani Pcl.
LRH = Laguna Resorts & Hotels Pcl.
-200
2017 2018 2019 2020 2021 1H21 1H22
14 วิจัยกรุงศรี
สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกปี 2565 ภำวะกำรท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมส่งสัญญำณฟื้นตัว รายละเอียด ดังนี้
จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่ มขึน้ ต่อเนื่องตั้งแต่ตน้ ปี (ภาพที่ 18) โดยอยู่ที่ 5.7 ล้านคน เทียบกับเพี ยง 85,845 คน
ปัจจัยหนุนจาก (1) การผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ในไทย อาทิ การยกเลิกมาตรการ Test & Go สาหรับผู้
เดินทางมาไทยที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ มีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 (2) การลดข้อจากัดด้านการท่องเที่ยวขาออก
ในประเทศต้นทาง (3) การทาข้อตกลง 'travel bubble' ระหว่างไทยและอินเดียเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ส่งผลให้จานวน
นักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยเพิ่ มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน (ภาพที่ 19) อย่างไรก็ตาม ผลจากการเปิดพรมแดนระหว่าง
ไทย-มาเลเซียเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาไทยมากที่สุดตั้งแต่เดือน
มิถุนายน (ภาพที่ 19) รวม 9 เดือนแรก นักท่องเที่ยวมาเลเซียมีจานวน 9.7 แสนคน คิดเป็นสัดส่วน 17% ของ
นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่มาไทย รองลงมา ได้แก่ อินเดีย และสิงคโปร์ ตามลาดับ (ภาพที่ 20)
Persons, k Trips, m
International tourist arrivals
1,200 12
900 9
600 6
300 3
0 0
Jan-21 Mar May Jul Sep Nov Jan-22 Mar May Jul Sep
Source: MOTS
Persons, k
Malaysia
350
Thousands
300
250
200
150 India
100
Singapore
50 China
Russia
0
Jan-22 Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep
Source: MOTS
วิจัยกรุงศรี 15
อัตราเข้าพั กทั่วประเทศทยอยเพิ่ มขึ้นต่อเนือ่ ง อยู่ที่ 42.0% ช่วง 9 เดือนแรกปี 2565 เทียบกับเพี ยง 9.9% ช่วงเดียวกัน
ปีก่อน (ภาพที่ 21) โดยเป็นการปรับเพิ่ มขึ้นในทุกจังหวัด ผลจากการทยอยฟื้ นตัวของผู้เข้าพั กทั้งไทยและต่างชาติ (ภาพที่
22) อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ามาก (ช่วง 9 เดือนแรกปี 2562
อัตราเข้าพั กทั่วประเทศอยู่ที่ระดับ 71.1%) โดยราคาห้องพั กเฉลี่ยต่อคืนเพิ่ มขึ้น 9.7% YoY หนุนให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพั ก
ได้ทยอยปรับเพิ่ มขึ้นมาอยู่ที่ 417 บาท เมื่อเทียบกับเพี ยง 90 บาท ช่วงเดียวกันปีก่อน
Malaysia 17%
India 10%
Others
58%
Singapore 6%
Vietnam 5%
UK 4%
Source: MOTS
80
60
2022
40
2020
20
2021
0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
19.3
13.8 15.5
9.4
3.9 5.1 4.2
16 วิจัยกรุงศรี
แนวโน้มธุรกิจ
ธุรกิจโรงแรมจะทยอยฟื้ นตัวเร่งขึ้นช่วงปี 2565-2567 หลังจากซบเซาอย่างหนัก และคาดว่าจานวนนักท่องเทีย ่ วต่างชาติจะ
ฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อน COVID-19 (38-40 ล้านคน) ได้ในปี 2568 ขณะที่จานวนนักท่องเที่ยวไทยจะ
ฟื้ นตัวได้เร็วกว่า จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่านักท่องเที่ยวไทยจะกลับมาอยู่ในระดับ
ปกติในปี 2567 ประมาณ 185 ล้านทริป ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ยังคงขยายการลงทุนต่อเนื่อง แต่อาจล่าช้ากว่า
แผน โดยคาดว่าอัตราเข้าพั กทั่วประเทศมีแนวโน้มยังอยู่ในระดับต่าเฉลี่ยที่ 45% ในปี 2565 ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 55% ในปี
2565 และ 65% ในปี 2567 ตามลาดับ
Persons, m % Growth
Number % Growth (RHS)
50 2,500
40 2,000
1,500
30
1,000
20
500
10 0
- -500
2019 2020 2021 2022F 2023F 2024F
France
Australia
Germany
Singapore
Thailand
Thailand
South Korea
Japan Repeat
0 20 40 60 80 100
Source: Dragon Trail Research, Chinese Traveler Sentiment Report, April 2022
Note: Between 9-14 March 2022, Dragon Trail Research surveyed 1,011 mainland Chinese travelers
about their travel preferences and behavior, including appraisals of outbound destinations
วิจัยกรุงศรี 17
4) ภาครัฐดาเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น การทา travel bubble ระหว่างไทยกับประเทศ
สาคัญ เช่น จีน และอินเดีย เป็นต้น รวมถึงการโรดโชว์ที่มีเป้าหมายเจาะตลาดใหม่ระดับไฮเอนด์ เช่น ซาอุดีอาระเบีย
Persons, m % Growth
Number % Growth (RHS)
200 150
100
150
50
100
0
50
-50
- -100
2019 2020 2021 2022F 2023F 2024F
18 วิจัยกรุงศรี
Figure 26: Construction Permits of New Hotels
3,500
3,000
2,500
-39.9%
2,000 -8.5%
1,500
0
2017 2018 2019 2020 2021 1H22
Year of
Hotel Name Location
Operation
Intercontinental Chiang Mai Mae Ping Hotel Chiang Mai 2022
Intercontinental Bangkok Sukhunvit 59 Bangkok 2022
Holiday Inn Express Bangkok Ratchada Bangkok 2022
Centara Grand Resort & Spa Jomtien Pattaya 2022
Crowne Plaza Bangkok Grand Sukhumvit Bangkok 2023
Hotel Indigo Phayathai Bangkok 2023
Holiday Inn Express Bangkok Phayathai Bangkok 2023
Sofitel So Samui Koh Samui 2023
Novotel Phuket Naiharn Phuket 2023
Sheraton Khao Lak Phang Nga 2023
Radisson Hotel Mai Khao Phuket 2023
COSI Central Phuket Phuket 2024
Kimpton Hua Hin Beach Front Hua Hin 2024
Source : Compiled by Krungsri Research, as of June 2022
วิจัยกรุงศรี 19
รูปแบบการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นการขยายจานวนโรงแรมระดับกลาง (3-4 ดาว) และโรงแรมราคาประหยัด (Budget
hotel) ของผู้ประกอบการรายใหญ่ในจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค แหล่งท่องเที่ยว และเมืองชายแดนซึ่งได้รับประโยชน์จาก
ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่ อนบ้าน อาทิ แบรนด์ Hop Inn (บมจ.เอราวัณ กรุ๊ป) แบรนด์ Fortune D
(บมจ. ซี.พี . แลนด์) และ แบรนด์ COSI (บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า) เป็นต้น ขณะที่เครือโรงแรมไทยและต่างชาติยังคง
มีการลงทุนต่อเนื่องตัง้ แต่โรงแรมราคาประหยัดจนถึงหรูหราในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก (ตารางที่ 2) เนื่องจากยังมีความ
เชือมั่นในศักยภาพของการท่องเที่ยวของไทยในระยะยาว โดยเฉพาะการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
่
จากทั่วโลก (อาทิ กรุงเทพฯ และภูเก็ต) ทั้งนี้ จากข้อมูลของ TOPHOTELPROJECTS construction database
(เผยแพร่มีนาคม 2565) ระบุว่าจะมีโรงแรม 120 แห่ง จานวน 29,861 ห้องเปิดบริการช่วงปี 2565-2569 แบ่งเป็น
โรงแรมระดับ First Class 64 โครงการ จานวน 17,666 ห้อง และระดับ Luxury 56 โครงการ จานวน 12,195 ห้อง
(ภาพที่ 27) และหากจาแนกเป็นพื้ นที่พบว่ากรุงเทพฯ มีจานวนโรงแรมมากที่สุด 47 โครงการ จานวน 12,089 ห้อง
ภูเก็ต 16 โครงการ จานวน 3,383 ห้อง และชลบุรี (พั ทยา) 15 โครงการ จานวน 4,896 ห้อง สาหรับปี 2565 จะมี
โรงแรมเปิดใหม่ 38 โครงการ และสูงสุดในปี 2568 จานวน 42 โครงการ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจาก COVID-19 ที่ยัง
มีอยู่ และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการเลื่อนแผนลงทุนออกไปจากกาหนดเดิม
First Class 38 42
(64 Projects) Projects
53%
22
120 18
Projects
Luxury 47%
(56 Projects)
อัตราการเข้าพั กปี 2565 จะยังอยู่ในระดับต่าที่ 45% และจะทยอยปรับขึ้นในช่วงปี 2566-2567 (ภาพที่ 28) โดย
ในพื้ นที่ท่องเที่ยวหลัก อัตราการเข้าพั กน่าจะยังต่ากว่าระดับปกติที่ 70-80% เนือ
่ งจากนักท่องเทีย
่ วต่างชาติยังไม่กลับมา
เต็มที่ จากข้อจากัดหลายด้าน อาทิ เงื่อนไขการอนุญาตนักท่องเที่ยวออกนอกประเทศของประเทศต้นทาง ธุรกิจการบิน
ทั่วโลกที่ยังฟื้ นตัวอย่างเปราะบาง อีกทั้งประเทศต่างๆ มีแนวโน้มจะสนับสนุนให้ประชากรของตนเองท่องเที่ยวภายใน
ประเทศเพื่ อกระตุ้นเศรษฐกิจ
80
60
40
20
0
2018 2019 2020 2021 2022F 2023F 2024F
20 วิจัยกรุงศรี
สาหรับปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะการท่องเที่ยว ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ได้แก่ ความขัดแย้งระหว่าง
ประเทศ (Geopolitical conflict) ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในประเด็น
ไต้หวัน หากสถานการณ์ยืดเยือ ้ ยาวนานจะส่งผลกระทบต่อการฟื้ นตัวของเศรษฐกิจโลกและตลาดท่องเที่ยวต่างชาติ โดย
ราคาน้ามันที่อาจทรงตัวสูงจะเพิ่ มต้นทุนการเดินทาง ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวระยะไกล โดยเฉพาะตลาดยุโรปและสหรัฐฯ
รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยที่จะระมัดระวังค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางมากขึ้น
ด้านภาวะการแข่งขันในธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจาก
่ งจากผู้ประกอบการโรงแรมยังคงขยายการลงทุนในพื้ นที่ท่องเที่ยวหลักและเมือง
1) คู่แข่งในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน เนือ
ศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนเองและการรับบริหาร (ส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ที่มีเครือข่ายหรือเชน
โรงแรม)
2) การแข่งขันจากบริการทดแทน อาทิ อพาร์ตเมนต์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียม โดยยังมีการเปิดให้เช่าเป็น
รายวัน (ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547) และส่วนใหญ่มีราคาค่าเช่าเฉลี่ยต่ากว่าโรงแรม รวมถึง
สตาร์ทอัพอย่าง Airbnb ที่ทยอยเข้าสู่ตลาดที่พัก โดยปี 2564 จานวนคืนพั กของ Airbnb ในเอเชียแปซิฟก ิ โตถึง
20% (ภาพที่ 29) สร้างแรงกดดันต่อรายได้ของธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs เนื่องจากต้องใช้กลยุทธ์ด้าน
ราคาดึงดูดลูกค้า
2020 2021
356.8
251.1
144.8
110.4
97.3
77.4 54.0
45.3 42.0
27.0 5.7
4.1
6/ หากความเข้มข้นของการใช้พลังงานมีค่าน้อย สะท้อนถึงการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพสูง
วิจัยกรุงศรี 21
Figure 30: Global Energy Use Intensity by Property Type, 2019
kWh/M2
300
250
200
150
100
50
Industrial
manufacturing
warehouse
Industrial distribution
Office
Retail high street
Hotel resort
Retail warehouse
Multifamily
22 วิจัยกรุงศรี
วิจัยกรุงศรี
ทีมวิจัยเศรษฐกิจ ทีมวิจัยอุตสำหกรรม
สุจิต ชัยวิชญชาติ ดร.พิ มพ์ นารา หิรัญกสิ
ผู้บริหารทีมวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ผู้บริหารทีมวิจัยอุตสาหกรรม
เฑียร เทียมศักดิ์
ทีมพั ฒนำงำนวิจัย นักวิเคราะห์อาวุโส (Energy, Petrochemicals)
ดร.พิ มพ์ นารา หิรัญกสิ
พุ ทธชาด ลุนคา
รักษาการผู้บริหารทีมพั ฒนางานวิจัย
นักวิเคราะห์ (Hotels, Construction Contractors,
Construction Materials, Industrial Estate)
ณธัญอร รัตนาธรรมวัฒน์
นักวิเคราะห์อาวุโส พั ชรา กลิ่นชวนชื่น
นักวิเคราะห์ (Real Estate)
ชินกฤต อัมพรพรรณวัต
นักวิเคราะห์ ชัยวัช โซวเจริญสุข
นักวิเคราะห์ (Agriculture)
ปริญญา มิ่งสกุล
นักวิเคราะห์ วรรณา ยงพิ ศาลภพ
นักวิเคราะห์ (Automobile, Food & Beverages,
Electronics & Electrical Appliances)
ทีมบริหำรระบบข้อมูลวิจัย
ศุภกร กรบุญไตรทศ
ธมณ เสริญสุขสกุล
นักวิเคราะห์ (Agriculture)
เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
เชิดศักดิ์ ศรีชัยตัน
เจ้าหน้าที่ระบบข้อมูลวิจัย
วงศกร แก้วอุดทัง
เจ้าหน้าที่ระบบข้อมูลวิจัย