Professional Documents
Culture Documents
นิติเวชหญิงแห่งต้าถัง 401 - 439 + ตอนพิเศษ (จบ)
นิติเวชหญิงแห่งต้าถัง 401 - 439 + ตอนพิเศษ (จบ)
ออกจากห้องนําชา จากทางเดินคดเคียวตรงเข้าเรือน
ด้านข้าง
ไตร่ตรองถ้วนถี คล้ายสิงปลูกสร้างรอบด้านทุกหลังอย่าง
น้อยต้องถูกแดดส่องสามถึงสีชัวยาม แต่ทีนีอยูร่ ะหว่าง
2
จุดตัดของเงาทังสองด้านพอดี หนึงปี สฤดู
ี กาล ไม่มีแดด
ส่องถึงแม้สกั วัน และใต้ดินของทีนี ก็เป็ นห้องนําแข็งห้อง
หนึง
ประตูลนกุ
ั ญแจไว้ หมอยาหนึงในนันล้วงกุญแจออกมา
เปิ ดประตู หมอยาสองคนถือโคมไฟเข้าไปก่อน
3
ตามติดด้วยหรันเหยียน หลิวชิงซง และเหล่าหมอหลวง
เรียงลําดับเข้าทีละคนๆ
“นี…” หมอยาทีเฝ้าห้องลังเลอยูบ่ า้ ง
4
หลีซือหมินกล่าวเสียงเย็นชา “ไม่ได้ยินหรือ”
ทุกอย่างมีฮ่องเต้ควบคุม พวกเขาต้องกลัวอะไร
หลิวชิงซงก็เปิ ดผ้าขาวทีคลุมบนศพออก
5
ศพทีวางอยูม่ ีรอยชําสีเขียว ใบหน้าบวมขาวซีดออกเขียว
คลํา ผมหลุดลุย่ ไม่เป็ นธรรมชาติ ความยาวเล็บมือก็
ยาวกว่าบุรุษทัวไปควรมี
แม้หรันเหยียนผ่าศพ แต่นนคื
ั อกําลังช่วยพวกเขา ใจเธอ
เคารพผูต้ ายเต็มเปี ยม
6
“หลังคนตาย เนืองจากผิวหนังและกล้ามเนือหด เส้นผม
และเล็บจึงดูเหมือนงอกยาวออกมา” หรันเหยียนกล่า
วพลางสํารวจสภาพภายนอกของศพอีกครัง หลังมันใจ
ว่าไม่พลาดอะไรไป จึงเงยหน้ากล่าว “ฝ่ าบาท หม่อมฉัน
จะเริมผ่าศพ ระหว่างนันจะให้หลิวอีเฉิงช่วยอธิบาย ขอ
ฝ่ าบาทและเหล่าหมอหลวงได้โปรดเป็ นพยาน”
หรันเหยียนใช้กรรไกรตัดเสือผ้าบนศพออก เผยให้เห็น
ร่างกายเปล่าเปลือยร่างหนึง ทุกคนมองฝี มือทีคล่อง
แคล่ว รูส้ กึ ว่าเธอทํามาไม่ใช่แค่ครังสองครังแน่
7
เหล่าหมอหลวงคิดหาเหตุผล รักษาคนบาดเจ็บสาหัส
ล้วนต้องตัดเสือผ้าออก คงไม่อาจให้คนทีถูกธนูยกมือ
ถอดเสือกระมัง!
ขณะนีอารมณ์ของเหล่าหมอหลวงซับซ้อนยิง การมอง
เห็นทีตืนเต้นตกใจและน่ากลัวโจมตีสายตา ผสมกับ
ความกระตือรือร้นอยากดูวิชาผ่าศพ ทําให้พวกเขาไม่รู ้
8
ว่าจะถอยหลังหรือหลบเลียง พลันยืนตะลึงอยูต่ รงนัน
มีหมอหลวงใจกล้าสองคนเดินขึนหน้าไปหลายก้าว นัง
คุกเข่าลงข้างศพเหมือนหรันเหยียน หมอหลวงคนอืน
เห็นแล้วไม่ยินยอมล้าหลัง รีบมุงกันเข้าไป
โจวชูและจางซงเฮ่ออีลงทั
ิ งสองท่าน เพียงไม่นานก็ตงสติ
ั
เฝ้าดูได้
10
ละเอียด
หรันเหยียนนําเครืองมือทีทําความสะอาดแล้ววางไว้บน
โต๊ะทีหยิบใช้ง่าย ทุกคนถูกมีดผ่าตัดทีมีขนาดเล็กใหญ่
ไม่เท่ากันดึงดูดทันที
“ขอบังอาจถาม เครืองมือทีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน
เหล่านี มีอะไรพิเศษหรือ” อีเจิงหนุ่มคนหนึงถาม
12
พลิกศพหน่อย"
13
ศพถูกพลิกควําหน้า เผยให้เห็นส่วนสะโพก ทีปากทวาร
หนักมีหนอนขึนแล้ว แต่อาจเป็ นเพราะอุณหภูมิในห้อง
ค่อนข้างตํา หนอนล้วนไม่ขยับเขยือน เหล่าหมอหลวง
เริมหน้าซีดอีกครา แต่ไม่มีใครลืมว่าฝ่ าบาทให้เขาพวก
เขามาทีนีทําอะไร ทําได้เพียงทนขนหัวลุกมองบาดแผล
ทีสะโพกศพ
ยืนยันว่าคําพูดของหรันเหยียนไม่ผิด พากันพยักหน้า
เห็นด้วย ขันทีทีด้านข้างหยิบพูก่ นั บันทึกข้อมูล
หรันเหยียนใช้นาล้
ํ างหลังของศพ ก่อนเลือกมีดผ่าตัด
ขนาดยาวเริมผ่าศพ
ขณะนีสายตาของทุกคนทีมองหรันเหยียน เปลียนเป็ น
ตกใจและนับถือ ในฐานะหมอ รักษาจิตใจให้สงบได้
ตลอดเวลา นีเป็ นการบรรลุชนิดหนึง แม้วา่ การบรรลุของ
หรันเหยียนจะน่ากลัวอยูบ่ า้ งก็ตาม
หลีซือหมินจ้องดวงตาทีเผยอยูด่ า้ นนอกของหรันเหยี
ยนครูห่ นึง นอกจากความตังใจและเคร่งเครียด ไม่มี
ความรูส้ กึ อืน ขณะทีฉงนก็ชืนชมเธอจากใจจริง
15
ผ่าเปิ ดสะโพกศพ กล้ามเนือก้นทีเขียวชํารุนแรงเผยออก
มา นีไม่อยูน่ อกเหนือการคาดเดาของหรันเหยียนแม้แต่
นิด เธอกล่าวต่อ “กล้ามเนือก้นจากภายนอกถึงส่วนลึก
บอบชํารุนแรง”
“กล้ามเนือทีเอวเหมือนกับทีสะโพก บอบชําอย่างหนัก
เช่นกัน กระดูกสันหลังถูกของไม่มีคมกระแทก ปรากฏ
เป็ นรอยแตกเล็กน้อย” หรันเหยียนแสดงกระดูกสันหลังที
โผล่ออกมาให้ทกุ คนดู รอยแตกไม่ใหญ่ แต่จมอยูใ่ น
เลือดเสีย บนกระดูกสีขาวน่ากลัว ขับเน้นด้วยเลือดเนือ
เละเทะสองข้าง เห็นแล้วน่าหวาดหวันยิง
17
จึงต้องลงมือหนักถึงขนาดนี ไร้มนุษยธรรมจริงๆ
หลังหรันเหยียนจัดการบาดแผลสองแห่งนีเสร็จ ก็สงคน
ั
พลิกศพนอนในท่าธรรมดา ก่อนเริมผ่าช่องอก เป้าหมาย
สุดท้ายของเธอคือหาลิมเลือดทีทําให้ผเู้ คราะห์รา้ ยหัวใจ
วายเฉียบพลัน
18
คาดการณ์โดยอาศัยประสบการณ์ของเธอ ไม่อาจมันใจ
ได้เต็มร้อย เธอไม่มีความมันใจถึงขันนัน
20
ตอนที 402 นําตานอง
หลิวชิงซงกล่าว “จะเรียกแบบนันก็ได้”
ตอนนีแพทย์แผนจีนมีความรูเ้ กียวกับร่างกายมนุษย์
อย่างลึกซึงแล้ว แต่หมอเช่นพวกเขาเพียงเข้าใจจาก
ภาพร่างเส้นชีพจรทีตกทอดมาจากอดีต ไม่เคยเห็นเต็ม
ตาเช่นนี
1
จางซงเฮ่อจับจ้องเส้นเลือดเส้นลมปราณทีตัดกันตาไม่
กะพริบ นําสิงทีเมือก่อนเขาเพียงรูต้ าํ แหน่งอย่างหยาบๆ
เหล่านีประทับไว้ในห้วงสมอง ขณะเดียวกันเขาก็ตกใจ
ยิง หรันเหยียนคล้ายเข้าใจร่างกายมนุษย์ดงฝ่
ั ามือตน
เอง เมือลงมีด ตําแหน่งมิเอียงไม่พลาด ราวกับเฉือนเนือ
หนังออกมาได้อย่างสบาย หาเส้นลมปราณปอดพบได้
ง่ายดายยิง
2
ตามมาด้วยการผ่าเปิ ดช่องท้อง ในทีสุดมีคนทนไม่
ไหวจะอาเจียน ทังไม่อาจสนใจว่าฮ่องเต้ยงั อยู่ ปิ ดจมูก
ปากรีบร้อนพุง่ ออกไป เช่นนีแม้เสียมารยาท แต่การ
อาเจียนต่อหน้าฝ่ าบาทยิงเสียมารยาทกว่า
มีดผ่าตัดในมือหรันเหยียนเฉือนตัดกล้ามเนือผนังช่อง
ท้องไปตามชายโครง เผยให้เห็นช่องท้องอย่างสมบูรณ์
เธอสํารวจสภาพท้องอย่างละเอียดรอบหนึง
หลิวชิงซงเห็นพวกจางซงเฮ่อตังใจยิงจึงอธิบายว่า “สิงที
นางเพิงใช้นิวยกขึนมาคือเยือบุช่องท้อง ร่างกายมนุษย์
4
ไม่ใช่เมือผ่าอกหรือผ่าท้องออกมา ข้างในก็เป็ นอวัยวะ
ภายในแต่ละชิน วัตถุกงใสชนิ
ึ ดนีก็คือสิงห่อหุม้ รักษา
อวัญวะภายใน เช่น กระเพาะ ลําไส้อวัยวะภายในเหล่า
นีถูกห่อหุม้ ด้วยเยือบุชนิดนีทังหมด หมายเห็นอวัยวะ
ประเภทนีชัดเจน ก็จาํ เป็ นต้องกรีดเยือบุชนนี
ั ออกอย่าง
ระมัดระวัง”
5
หลิวชิงซงรีบปูผา้ ฝ้ายสีขาวผืนหนา ด้านบนวางกระดาน
แก้ว ไว้พกั อวัยวะภายใน
อารมณ์ของหลีซือหมินจากโกรธถึงทีสุดค่อยๆ ลดน้อย
ถอยลง ได้ยินคําพูดของหรันเหยียน อารมณ์แทบไม่หวัน
ไหว ทีเรียกว่าหมดกําลังใจ คงเป็ นความรูส้ กึ ตอนนีของ
หลีซือหมิน
6
เหม็นรุนแรงก็อบอวลไปทัวห้องในชัวพริบตา แม้ทกุ คน
สวมผ้าปิ ดปากก็ยงั ได้กลินชัดเจน กระทังหลีซือหมินที
หน้านิงมาตลอดยังขมวดคิว
7
เหล่าหมอหลวงก็ละพิธีรตี องสงบสติอารมณ์ แยกแยะครู ่
หนึง ก่อนรีบพยักหน้าคล้อยตาม “ถูกต้อง!”
หลิวชิงซงลอบครําครวญ นีไยมิใช่จงใจแกล้งให้เขาคลืน
ไส้ ในเมือเป็ นของทีย่อยไปแล้วครึงหนึง จะแยกแยะได้
หรือว่าเป็ นอะไร
8
ไม่”
"ข้าได้ยินว่าในตลาดตะวันตกมีรา้ นค้าของชาวหูมาก
มายทีใช้ของประเภทพริกไทย กระเทียมย่างเนือแพะ
กลินหอมยิง เหลาสุราสองสามร้านในตลาดตะวันออกก็
มีเช่นกัน" หลิวชิงซงกล่าว
9
ในกระเพาะอาหารของทุกคนมีกรด ในสถานการณ์เช่นนี
ใครก็นกึ ไม่ออกว่ากลินหอมเป็ นอย่างไร
“ลักษณะของอาหารในกระเพาะโดยทัวไปสมบูรณ์ มี
ปริมาณน้อยทีเข้าไปในลําไส้เล็กส่วนต้น วินิจฉัยว่าผูถ้ กู
ทําร้ายกินอาหารก่อนตายหนึงชัวยาม สสารข้างในมี
เพียงข้าวและเนือในปริมาณน้อย ผักปวยเล้ง สถานทีทีผู้
ถูกทําร้ายกินอาหารสมควรเป็ นสถานทีพิเศษมาก” หรัน
เหยียนจําคําพูดทีเซียวซ่งเคยกล่าว เรืองเกียวกับการ
คาดเดาฆาตกร ให้คนอืนไปทํา เพราะเหตุนีเพียงกล่าว
คร่าวๆ
ผักปวยเล้งก็คือผักโขม เพิงแพร่เข้ามาจากประเทศ
10
เนปาลไม่กีปี มานี ไม่ถือว่าปลูกอย่างกว้างขวาง เนือง
จากรสชาติและกลินสดใหม่กว่าฮัวไช่และผักกาดเขียว
กวางตุง้ แบบดังเดิม ถูกเหลาสุรามากมายผูกขาดการ
เพาะปลูก หลังทําเป็ นอาหารคาว ราคาก็ไม่ธรรมดา
หรันเหยียนมองใบหน้าทีอืดบวมของศพ พลันอดสงสาร
ไม่ได้ บาดเจ็บทัวกาย แม้มีอาหารเลิศรสราคาแพงอยู่
ตรงหน้า ก็ยงั ยากกลืนลง
ตรวจสอบช่องอกช่องท้องและอวัยวะภายในของศพ
เสร็จสมบูรณ์ หรันเหยียนทําความสะอาดอย่างตังใจครู ่
หนึง นําอวัยวะภายในเย็บกลับคืนทีเดิม ปากแผลทีอก
และท้องใหญ่มาก ผิวเนือค่อนข้างหนา ใช้เข็มเล่มเล็กๆ
ความจริงไม่อาจเย็บได้ แต่หรันเหยียนทุม่ สุดแรงทําให้
11
ภายนอกดูสะอาดเรียบร้อยงดงาม
12
จากความฝัน
13
หลังหรันเหยียนจากไป จางซงเฮ่อพลันนําตานอง “เราผู้
เฒ่าลุม่ หลงวิชาแพทย์มาทังชีวิต ยังคิดว่าตนเองค้นคว้า
ทดลองจนพอรูบ้ า้ งแล้ว คิดไม่ถงึ กลับเป็ นแค่กบก้นบ่อ
ใบไม้บงั ตาเท่านัน!”
ในคําพูดนี มีทงความโศกเศร้
ั า และมีความยินดี
14
ตอนที 403 เรียกสามหน่วยงานเข้าเฝ้ า
ตําหนักลีเจิงอันกว้างขวางและเงียบสงัดในวังไท่จีที
พํานักของฮองเฮา ไร้ชีวิตชีวาไม่เหมือนในวันเก่าแต่แรก
นางกํานัลล้วนรอปรนนิบตั ิอยูบ่ นระเบียงด้านนอก ใน
ตําหนักเพียงมีบรุ ุษสวมชุดผ้าไหมสีเหลืองแขนกว้างคน
เดียว เขานังอยูบ่ นขอบเตียงนุ่ม ผ้าแพรบางปูบนเบาะ
ผมและเคราเป็ นสีขาว นําหยาดหยดลงจากปลายผมลง
บนผ้าเป็ นระยะๆ กลายเป็ นบุปผาดอกเล็กๆ ดอกหนึง
1
เขามองลายบนนัน ไม่รูผ้ า่ นไปนานเท่าไร จึงยืนมือลูบไล้
มันเบาๆ คิดกล่าวอะไร ทว่ากลับคอหอยตีบ
ในเสียงหลีซือหมินไม่มีความโกรธขึงเท่าใด แต่เป็ น
ความเสียใจลึกซึง
3
นาฏกรรมเกิดขึนครังหนึงก็แล้วกันไป เขาไม่อยากเห็น
บุตรชายตนฆ่าฟั นกันเองเพือตําแหน่งนีอีก
เสียงสุดท้ายแหบพร่า บุปผานําตาทีหยดหยาดลงบนผ้า
แพรไหมสีเหลืองยิงมากขึน
5
“พ่ะย่ะค่ะ!” จงรุย่ รับคํา ก่อนหมุนกายร้องเรียก
“ปรนนิบตั ิฝ่าบาทเปลียนฉลองพระองค์!”
นางกํานัลยกเสือผ้า เครืองมือล้างหน้าบ้วนปากเรียง
แถวเข้ามา นางกํานัลชุดหรูฉวินสีสม้ สีนางขึนหน้ามา
สวมชุดลําลองให้เขา
“จงรุย่ หลังอาหารกลางวันเรียกสามหน่วยงานมาเข้า
เฝ้า” หลีซือหมินกล่าว
เรียกสามหน่วยงานเข้าเฝ้ามีขนุ นางสําคัญทังสินแปดคน
6
สํานักตรวจการ หัวหน้าสํานักตรวจการหนึงคน อวีสือจง
เฉิงสองคน ศาลต้าหลี หัวหน้าศาลต้าหลีหนึงคน เส้าชิง
ศาลต้าหลีสองคน กรมอาญา เจ้ากรมอาญาหนึงคนและ
ซือหลางแห่งกรมอาญาหนึงคน
เห็นชัดๆ ว่าจะสอบสวนคดีนีใหม่!
หลีซือหมินมักมานอนกลางวันทีตําหนักลีเจิงแทบทุกวัน
7
แต่ไม่เคยอยูก่ ินอาหารทีตําหนักลีเจิง ไม่ใช่อะไร เพียง
คิดถึงเรืองในอดีต กินอะไรก็ไร้รสชาติ
หลีซือหมินเดินออกจากตําหนักลีเจิง ขันทีและนางกํานัล
กลุม่ ใหญ่พากันถอยตามออกมา พริบตาเดียวตําหนัก
ใหญ่ก็ไร้ผคู้ น
แสงแดดยามเทียงในหน้าร้อนแยงตาคน รอบด้านเป็ น
ดังลังถึง ไอร้อนปะทุวบู วาบ
8
หรันเหยียนกลับถึงเรือนรีบใช้เพ่ยหลันและสมุนไพรอาบ
นํา เพิงออกมาก็ได้ยินหวันลวีบอกว่า “ฮูหยิน รีบไปดู
คุณหนูนอ้ ยเถิดเจ้าค่ะ ไม่ได้กินอะไรมาตังแต่เช้าแล้ว”
หรันเหยียนตกใจ รีบเดินเข้าห้องนอน
“นายท่านกลับมาแล้ว!” หวันลวีพูดอย่างตืนเต้น
9
เมือรัวรัวเห็นหรันเหยียน ก็นาตาคลอทั
ํ นที ยืนปากน้อยๆ
ทําท่าเหมือนจะร้องไห้ ปากเล็กๆ บ่นอุบอิบเหมือนแมว
“นมๆ...นมๆ...”
10
หรันเหยียนยืนมือรับรัวรัวมา ปลดเสือป้อนนมนาง หัน
ไปกําชับหวันลวี “รีบไปจัดสํารับอาหารเทียงเถิด”
หรันเหยียนขมวดคิว “คุณชายหลีมาอีกแล้วหรือ”
หรันเหยียนคิดว่าใช่ควรเตรียมงานแต่งงานให้เกอหลัน
11
หรือยัง ช่วงก่อนเห็นคนทีเกอหลันเคยเอ่ยถึง รูปร่างสูง
ใหญ่มาก คนดูแล้วสะอาดสะอ้าน แค่ไม่คอ่ ยมีความรู ้
แต่ถือว่ามีเหตุมีผล
หวันลวีไตร่ตรองดูแล้วก็ใช่ เกอหลันไม่เคยทําเรืองโง่ๆ
จึงรับคําคราหนึง ก่อนออกไป
“อีกสองคนเล่า” หรันเหยียนถาม
12
เซียวซ่งกระแอมคําหนึง กล่าว “ถูกข้าตีเข้าให้ ร้องไห้ อุม้
ไปกินนมแล้ว”
13
รัวรัวกินไปพักหนึง นึกไม่ถงึ ว่าหลับไปแล้ว หรันเหยี
ยนอุม้ ครูห่ นึง ก็วางไว้ในเปล
เซียวซ่งชะโงกหน้ายืนมือดึงขึนแทนเธอ
14
เซียวซ่งรับคําคราหนึง ยืนมือโอบกอดเธอ จุมพิตหน้า
ผากเธอหนึงครัง “เช่นนันข้าไปก่อนนะ”
“อือ” หรันเหยียนตอบ
ทังสองเดินออกจากห้องนอนด้วยกัน หรันเหยียนให้สงิ
เหนียงไปดูแลรัวรัว เธอก็เดินไปทีเรือนหน้า
ออกจากประตูชนใน
ั เดินไปบนระเบียงหลายสิบเมตรก็
ได้ยินเสียงละแวกห้องยามชัดเจน
สตรีในราชวงศ์ถงั ส่วนมากไม่เห็นพรหมจรรย์ของตนเอง
สําคัญกว่าชีวิต แต่นิสยั เกอหลันไม่เหมือนใคร คนทีนาง
แต่งงานด้วย กล่าวถึงฐานะก็ตาต้
ํ อยกว่านางมาก ไม่วา่
ภายนอกหรือภายใน ก็ไม่ได้เหมาะสมกับนางสักอย่าง
เดียว หากข้างนอกมีข่าวลือไม่ดีอะไรเกียวกับเกอหลัน
เขาต้องโดนคนดูถกู แน่
16
หรันเหยียนชะงักเท้า เรืองหลีเต๋อเจียนถอนหมัน เธอไม่
เคยได้ยิน นอกจากถอนหมันวันนี มิฉะนันเธอต้องได้ยิน
ข่าวแน่
17
“อย่าบังคับข้า พวกเราไม่ใช่คนเส้นทางเดียวกัน” นํา
เสียงเกอหลันอ่อนลงอยูบ่ า้ ง
เกอหลันเห็นหรันเหยียนก็ตะลึง ค้อมกายเล็กน้อยคารวะ
“ฮูหยิน”
“เจ้าเข้าไปก่อนเถิด” หรันเหยียนกล่าวเสียงเบา
หรันเหยียนประเมินเขาหนึงรอบ ผอมกว่าเมือก่อนมาก
นัก คิดว่าต้องลําบากเพราะเรืองถอนหมันไม่นอ้ ย
“เกอหลันไม่เคยคิดฝันว่าวันหนึงจะได้แต่งเข้าตระกูล
ใหญ่ วันนีการปรากฏของท่านตรงกันข้ามกับความเข้า
ใจของนาง คิดว่าต้องการเวลาบ้างจึงคิดตก” หรันเหยี
ยนกล่าว
19
“เมือท่านก่อเรืองเช่นนี นางยังจะแต่งงานสําเร็จหรือ เก
อหลันฉลาดเฉลียว หากท่านจริงใจ นางต้องรูส้ กึ ได้แน่”
หรันเหยียนเกลียกล่อมสองสามคํา จึงกล่าว “ท่านกลับ
ไปเถิด คิดว่าคงยังไม่จดั การเรืองหลังถอนหมันกระมัง”
20
หรันเหยียนกําลังจะกลับเข้าเรือนใน ห้องยามก็มีคนรับ
ใช้วิงมา “ฮูหยิน คนของทีว่าการนายท่านมาแจ้งว่า ยาม
เว่ยสามเค่อให้นายท่านเข้าเฝ้าทีตําหนักกานลูข่ อรับ”
เซียวซ่งกินข้าวเร็วมากยามกินคนเดียว หรันเหยียนกลับ
มาถึงในโถงข้าง เขาเพิงวางชามและตะเกียบ เห็นหรันเห
ยียนมาแล้ว จึงถาม “เรืองเป็ นอย่างไร”
“หลีเต๋อเจียนบอกว่าถอนหมันแล้ว คิดว่าเขาคงป่ าว
ประกาศข้างนอกว่าตนเองรักชอบเกอหลัน ดังนันจึงทํา
21
ให้นางโกรธ” หรันเหยียนคาดเดาจากคําพูดกะพร่อง
กะแพร่งทีได้ยินเมือครู ่
หลังเซียวซ่งบ้วนปากเสร็จ รับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปาก
ก่อนโยนผ้ากลับลงไปในถาด หัวเราะก่อนกล่าว “เขาทํา
ทุกวิถีทางจริงๆ กระทังวิธีแย่ๆ เช่นนีก็ใช้ดว้ ย”
23
ตอนที 404 โดนเปิ ดโปง
1
“ไม่เจ้าค่ะ” หวันลวีตอบทันที “แต่หอ้ งยามบอกว่า คนผู้
นันเหงือโชกเต็มหลัง สีหน้าร้อนใจ”
เมือได้ยินเซียวซ่งและหรันเหยียนก็ไม่นงรอในนี
ั อีก เดิน
ออกจากโถงข้างตรงไปห้องยามทันที
เจ้าหน้าทีชุดสีเขียวของกรมอาญาผูห้ นึงเดินพล่านอยู่
หลังประตู เห็นสองสามีภรรยา ก็รบี ก้าวยาวๆ เข้ามารับ
หน้า ทําการคารวะหนึงครัง ก่อนพูดอย่างรวดเร็ว “เซียว
ซือหลาง เซียนเหลียงฮูหยิน เมือครูม่ ีข่าวมาว่าอินชิงกวง
ลูต่ า้ ฟู จางเสวียนซูถ่ กู ดักสังหารในงานสังสรรค์ทีแม่นาํ
ฉวีเจียง ถูกฟั นสองดาบ เลือดไหลไม่หยุด โจวอีลงและอี
ิ
เจิงทังสามท่านกําลังเร่งรุดไป ฝ่ าบาททรงรับสังเชิญท่าน
2
ทังสองรีบไปแม่นาฉวี
ํ เจียง เซียวซือหลางยังไม่ตอ้ งไป
ตําหนักกานลูช่ วคราว”
ั
หรันเหยียนก็สงคนไปนํ
ั าหีบยาของเธอ ทังสองขีม้า
ตะบึงไปแม่นาฉวี
ํ เจียงโดยมีเจ้าหน้าทีผูน้ นนํ
ั าทาง
ระหว่างทางหรันเหยียนคิดทบทวนแล้วก็ไม่เข้าใจ หาก
ฆาตกรคือรัชทายาทจริง เช่นนันก็เหลือเชือเกินไป หรือ
เขาเป็ นบ้าไปแล้ว ถึงกับก่อคดีผิดกฎหมายกลางวัน
แสกๆ!
3
แต่นอกจากเขา ก็คิดไม่ออกว่าจะมีผอู้ ืนอีก หลีเค่อและ
หลีไท่ไม่มีทางทําเรืองป้ายสีทีโง่เขลาเช่นนี อีกอย่างเขาก็
มีเหตุผลโจมตีจางเสวียนซูเ่ ต็มเปี ยม
4
ความรูป้ ระดับรูปลักษณ์...
ยิงกว่านันหลิวชิงซงเคยบอกว่า ในบันทึกประวัติศาสตร์
มีตอนหนึงบันทึกเรืองนีไว้ ความจริงเป็ นอย่างไรกันแน่ ก็
5
ไม่อาจรูไ้ ด้
เร่งเฆียนม้าไปถึงสถานทีทีจางเซวียนซูถ่ กู ลอบโจมตี พบ
ว่ารอบด้านถูกทหารปิ ดกันไว้ ห้ามผูส้ ญ
ั จรเข้าไป เจ้า
หน้าทีนําทางเซียวซ่งและหรันเหยียนแสดงป้ายคําสัง
องครักษ์จงึ ปล่อยให้ผา่ นทางไป
หรันเหยียนประเมินรอบด้าน ทีนีคือหอน้อยสองชันหลัง
หนึง ประตูหน้าต่างและราวระเบียงโดยรอบถูกทําลาย
ไปไม่นอ้ ย เศษไม้ตกอยูเ่ ต็มพืน บนพืนเลอะเทอะมีรอย
เท้าอยูบ่ า้ ง บนพืนปั กไม้ปอ้ งกันไม่อนุญาตให้คนเข้าข้าง
ใน มีจิตรกรหลายคนกําลังวาดสภาพของทีเกิดเหตุ
6
“ศิษย์ขา้ !”
7
“ท่านไม่ได้บาดเจ็บกระมัง” หรันเหยียนถาม
8
"มิได้ ฝี มือแพทย์ของหมอเทวะสูงส่ง ทําให้พวกเรา
เลือมใสศรัทธา วันนีได้พบเป็ นโชคมหาศาลของพวกเรา"
คําพูดของจางซงเฮ่อนีเป็ นคําพูดเกรงอกเกรงใจตาม
ปกติ แต่เขากล่าวได้จริงใจเป็ นพิเศษ
9
"วิชาแพทย์ของสํานักข้าย่อมไม่มีสอง" อูซ๋ ิวเหอกล่าวอ
ย่างภาคภูมิใจ
10
“ในเมือวันนีมีวาสนาพบหน้า สมควรให้ขา้ เป็ นเจ้ามือ
ไปเหลาสุราละแวกนีดีหรือไม่ ฤดูนีปลากุง้ ตัวอวบอ้วนที
สุด แกล้มเหล้าได้พอดี” จางซงเฮ่อเสนอ
หมดกัน
ห้วงสมองของหรันเหยียนพลันมีสองคํานีผุดขึน เดิมที
เธอเป็ นคนทีพูดปดน้อยมาก ด้วยถูกบีบสินหนทาง
11
โกหกเรืองใหญ่เช่นนี ใจก็ไม่สงบ วันนีกลัวแต่ตอ้ งโดน
เปิ ดโปง!
เซียวซ่งไปตรวจสอบสถานทีทีจางเสวียนซูถ่ กู โจมตีแล้ว
จางซงเฮ่อไปถามเส้าชิงของศาลต้าหลีว่าจากไปได้หรือ
ไม่
12
แล้วไม่ใช่หรือ สํานักเราสืบทอดมาจากเทพกสิกรรม
ตังแต่ยคุ โบราณ จนถึงอาจารย์ก็เป็ นรุน่ ทีร้อยสามสิบ
แปด”
“แต่ตอนแรกท่านมิใช่บอกว่าปรมาจารย์คือฮัวโต๋หรือ”
หรันเหยียนขมวดคิว
13
อาจโกหกได้จริงๆ! เมือคําลวงจะถูกเปิ ดโปง เป็ น
ความทรมานจริงๆ
14
“เซียนเหลียงฮูหยินตามสบาย” จางซงเฮ่อบังเอิญได้พบ
อูซ๋ ิวเหอ ท่าทางดีใจยิง สีหน้าเคร่งขรึมในยามปกติก็
อ่อนโยนเป็ นพิเศษ
15
ตอนที 405 หายสาบสูญ
4
ไปทางใต้ เจอกับบัณฑิตกลุม่ หนึง พอได้ยินว่าข้าประสบ
ภัย ก็รบี ไปแจ้งเจ้าหน้าทีทางการ อาศัยคนจํานวนมาก
คิดว่าพวกนันคงไม่กล้าทําอะไร ผลีผลามเข้ามา พวกคน
ร้ายรูข้ ่าวก็หนีไปจริงๆ! แต่วา่ เวลานันสองคนทีดืมสุรา
อยูใ่ นหอบาดเจ็บสาหัส อันตรายถึงชีวิต ข้าจึงทําตาม
บัญชาสวรรค์ สุม่ ช่วยชีวิตคนทีถูกชะตา”
5
แต่ในคําพูดตอนหนึงทีไม่คอ่ ยสําคัญนักของอูซ๋ ิวเหอทํา
ให้ซนุ เจินแปลกใจมาก หรือว่าฮัวโต๋ก็ทาํ นายดวงชะตา
ได้ดว้ ย?
“เชิญหมอเทวดาตรวจสอบบันทึกว่าตรงตามข้อเท็จจริง
หรือไม่ หากตรงกัน เชิญท่านลงนามประทับนิว” ซุนเจิน
เอาบันทึกของเจ้าหน้าทีวางตรงหน้าอูซ๋ ิวเหอ
“รบกวนหมอเทวดาแล้ว” ซุนเจินประสานมือคํานับเอ่ย
6
“ข้าไปได้แล้วใช่หรือไม่” อูซ๋ ิวเหอถาม
“หมอเทวดาเชิญตามสบาย” ซุนเจินตอบ
หรันเหยียนควานหาถุงเงินในแขนเสือยัดใส่มือเขา “ท่าน
รับสิงนีไป ให้บา่ วในเหลาสุราช่วยซือเสือผ้ามาเปลียนให้
ท่าน”
7
“ได้” อูซ๋ ิวเหอก็ไม่เกรงใจ เก็บถุงเงินไว้ในแขนเสือ แล้ว
ไปหาพวกจางซงเฮ่ออย่างเบิกบานใจ
หรันเหยียนตอบยิมๆ “ขอบคุณซุนเส้าชิงมาก”
ซุนเจินจัดการงานเกือบเรียบร้อย รอเพียงเอาข้อมูลไป
8
รวมกับกรมอาญาและสํานักตรวจการ ครังนีผูส้ อบสวน
หลักคือศาลต้าหลี ผูส้ อบสวนในศาลมีเหอซือเจิงรับผิด
ชอบ โดยมีซือหลางกรมอาญา เส้าชิงศาลต้าหลี และอวี
สือจงเฉิงร่วมฟั งการสอบสวนด้วย
ทังคูต่ า่ งเชือเชิญกันให้นงลง
ั ซุนเจินสอบถามว่า “ได้ยิน
ว่าเซียนเหลียงฮูหยินรูจ้ กั กับหลิวเซ่อเหรินทีเพิงย้ายมา
9
รับตําแหน่งทีวังตะวันออก?”
10
ผินรังจะเจ้าเล่หเ์ พียงใด ก็นบั ว่าดีกบั เธอ หากหลักฐาน
ความผิดมากมายของเธอไปตกอยูใ่ นมือคนอืน ไม่แน่วา่
เธอจะมีชีวิตสุขสบายเช่นในยามนี
หลิวผินรังวางตัวในแวดวงขุนนางอย่างรืนไหลกลมกลืน
น่าจะเคยทําเรืองด้านมืดมาไม่นอ้ ย แต่เขามีชาติกาํ เนิด
ตําต้อย จึงทุม่ เทให้ราษฎรอย่างยากจะพบเห็น ดังนันแม้
รับรับตําแหน่งทีซูโจวไม่นาน ก็ได้รบั การสนับสนุนจาก
ราษฎร หรันเหยียนจึงไม่มีอคติตอ่ เขาเลย
เธออดถามต่อไม่ได้ “วังตะวันออกมีการขานชือทุกวันไม่
ใช่หรือ หรือไม่มีใครพบว่าเขาหายสาบสูญไป”
11
“ท่านไม่รูห้ รอกว่าองค์รชั ทายาทดืมกิน ชมการแสดงทัง
วัน เป็ นเวลาหนึงเดือนกว่าแล้วทีไม่ได้พบขุนนางในวัง
ดังนันวังตะวันออกจึงหละหลวมยิง วันๆ ขานชือบ้างไม่
ขานชือบ้าง กระทังจงซูจ่ ือของรัชทายาทเสียชีวิต วันนี
ตอนตรวจสอบทังหมดจึงพบว่าของใช้ในห้องเขาไม่โดน
แตะต้องมาอย่างน้อยสองสามวันแล้ว”
ตอนหลิวผินรังมา ก็ทงยิ
ั นดีทงกั
ั งวล
12
“ตังแต่หลิวเซ่อเหรินมารับตําแหน่งทีฉางอัน ข้าเคยพบ
เขาเพียงสองครัง ในเมือเป็ นคนของวังตะวันออก จึงไม่
เหมาะทีจะไปมาหาสูก่ นั มากเกินไป” หรันเหยียนเอ่ย
อย่างตรงไปตรงมา
การทีหลิวผินรังโยกย้ายมาฉางอันในครังนี มีการเตรียม
13
ใจในแง่รา้ ยทีสุดไว้ก่อน จึงให้ภรรยาและลูกๆ อยูท่ ีซูโจว
ตระเตรียมว่าเมือสถานการณ์คงทีแล้ว ค่อยรับพวกเขา
มาเมืองหลวง อีกทังทีดินในฉางอันแพงยิงนัก และเขา
เองก็ไม่ใช่ขนุ นางชัวทีขูดรีดเงินประชาชน เงินเล็กน้อยที
หาได้ในซูโจว ยังต้องเลียงดูคนทีบ้านทังเด็กและผูใ้ หญ่
ทีเหลือก็ไม่พอซือบ้านฝังตะวันออกสักหลัง สถานที
อาศัยอยูพ่ กั ชัวคราว จึงมีเพียงบ่าวสองคน
หรันเหยียนวิเคราะห์เรืองนีเองเงียบๆ ถ้าฆาตรกรคือองค์
รัชทายาทจริง หลิวผินรังเป็ นคนพูดและทําอะไรรืนไหล
ต่างกับจางเสวียนซูท่ ีตรงไปตรงมาอย่างลิบลับ เขาอยู่
ข้างกายองค์รชั ทายาท ย่อมทําตามความชอบของเจ้า
14
นาย ไม่น่าจะถูกทารุณสังหารกระมัง
15
ซุนเจินเข้าใจความหมายของเธอทันที “ท่านหมายความ
ว่าสถานทีซ่อนตัวของฆาตกรอยูใ่ นละแวกนี?”
“ขอรับ!” เจ้าหน้าทีคนหนึงประสานมือรอรับคําสัง
ซุนเจินเดินไปล้วงของสิงหนึงให้เขา กระซิบข้างหูไม่กี
16
ประโยค คนผูน้ นรั
ั บคําแล้วรีบจากไป
เวลาผ่านไปสองถ้วยชา เซียวซ่งจึงตรวจสอบบริเวณโดย
รอบเสร็จสิน เห็นหรันเหยียนกับซุนเจินอยูใ่ ต้รม่ ไม้ จึง
เดินมาหา
“เซียวซือหลางพบเจออะไรหรือไม่” ซุนเจินถาม
17
บอก
ซุนเจินพยักหน้า “ไม่เสียทีเซียวซือหลางกับฮูหยินเป็ น
สามีภรรยาทีมีใจตรงกัน คิดเหมือนกัน”
เซียวซ่งมองหรันเหยียน ทังสองสบตากันแล้วยิม
หรันเหยียนเอ่ย “ขันทีซงตายที
ึ ฉวีเจียงเมือฤดูรอ้ นปี ที
แล้ว...สภาพเป็ นเช่นไร”
ตอนนันหรันเหยียนเพียงยืนมองจากทีไกล พอเดาสภาพ
ได้คร่าวๆ
18
ซุนเจินเข้าใจหรันเหยียนในระดับหนึง ดังนันจึงไม่คิดว่า
เธอเป็ นสตรีมากเรืองทีถามเรืองนี อธิบายว่า “ยามนัน
หลิวอีเฉิงชันสูตรศพ บอกว่าอันซินถูกบีบคอตายแล้วทิง
ลงนํา ไม่พบดินทรายในหลอดลม ทังไม่มีสภาพดินรน
ตอนอยูใ่ นนํา ไม่มีรอ่ งรอยถูกทารุณกรรม และมีบาด
แผลหลังตายบนร่างกายไม่มาก”
“ข้าขอตัวก่อน” ซุนเจินเอ่ย
เซียวซ่งตอบ “เชิญตามสบาย”
19
หลังดูซนุ เจินจากไป หรันเหยียนหันมามองเซียวซ่งกล่าว
ว่า “ท่านพี หลิวเซ่อเหรินหายสาบสูญ”
เซียวซ่งกลับดูเยือกเย็น “ขณะนีถึงหลังคาวังตะวันออก
จะพังลงมาข้าก็ไม่ตกใจ วางใจเถิด หลิวผินรังไม่เหมือน
คนอืน เขามีพืนเพตําต้อย ระหว่างทางทีไต่เต้า ผ่านเรือง
ราวมามากกว่าพวกขุนนางตระกูลสูงมากมายนัก ยิงจะ
ต้องรูว้ า่ เอาตัวรอดอย่างไร มิเช่นนันยามนีพวกเราคงไม่
ใช่แค่รูข้ ่าวว่าเขาหายตัวไป”
20
“ข้าจะให้คนส่งท่านกลับไปก่อน หลิวผินรังรูจ้ กั คนทีฉาง
อันไม่มาก ถ้าเขาคิดหาวิธีสง่ ข่าวได้ น่าจะส่งไปทีบ้าน
ของพวกเรา ท่านกลับไปรอ กําชับองครักษ์ทีบ้านให้เพิม
การเฝ้าระวัง” เซียวซ่งกําชับ
21
ตอนที 406 ถูกซุ่มโจมตี
กลางวันแสกๆ กลับมีคนอุกอาจลอบสังหารขุนนางคน
สําคัญของราชสํานัก หรันเหยียนก็มีสว่ นเกียวข้องในคดี
นี แล้วจะรูไ้ ด้อย่างไรว่าคนร้ายจะไม่หาโอกาสตอบโต้
ดังนันเธอจึงไม่ปฏิเสธทีเซียวซ่งจัดคนให้จาํ นวนมากเช่น
นี
1
รอบบริเวณแม่นาฉวี
ํ เจียงทิวทัศน์งดงาม แต่หรันเหยี
ยนรูส้ กึ ว่าเป็ นสถานทีทีไม่ควรอยูน่ าน ดังนันจึงตะบึงม้า
ไปบนถนนใหญ่ ไม่แวะพักทีใดเลย
จากฉวีเจียงเข้าสูต่ วั เมืองต้องผ่านเขือนทรายขาวช่วง
หนึงซึงมีรม่ ไม้ปกคลุม สองข้างทางมีบรุ ุษสตรีสงู ศักดิ
จํานวนมากล้อมฉากกันนังเล่นรับลมเย็น ฉากกันสีสนั
ต่างๆ เปรียบเสมือนบุปผาบานสะพรังอยูใ่ นพุม่ ไม้เขียว
ขจี ดูสะดุดตาแบบชนบท
“เซียนเหลียงฮูหยิน”
“เซียนเหลียงฮูหยิน?”
3
หรันเหียนหยุดม้า เหล่าองครักษ์กาํ ลังมองหาคน แต่เห็น
ความเคลือนไหวจากพุม่ ไม้ดา้ นข้าง องครักษ์สบิ กว่า
นายจึงหันม้าขวางไว้ทีด้านหน้าเธอ
เพียงชัวประเดียว มีเงาดําร่างหนึงโผล่ออกมาจากหลัง
พุม่ ไม้ เขาเงยหน้ามองหรันเหยียน คุกเข่าลงต่อหน้า
ทันที กล่าวพลางรําไห้ “เป็ นเซียนเหลียงฮูหยินจริงๆ!
ผูน้ อ้ ยเป็ นบ่าวของหลิวเซ่อเหริน เมือครูไ่ ปหาท่านและ
ท่านโหวทีบ้าน ได้ยินว่าไม่อยู่ ยังคิดว่านายของผูน้ อ้ ย
ต้องตายแน่แล้ว”
“ไม่มีใครสะกดรอยตามมากระมัง” หรันเหยียนถาม
องครักษ์ขา้ งกาย
“ไม่มีขอรับ!” องครักษ์ตอบ
เมือมองเห็นอาคารบ้านเรือนริมถนน หรันเหยียนจึงถอน
ใจโล่งอก
6
จังหวะนีมีบรุ ุษแต่งกายแบบบัณฑิตกลุม่ หนึงผ่านมา
ด้านข้าง และขณะเดียวกัน บ่าวของหลิวผินรังพลันร้อง
ขึนอย่างตกใจ “เป็ นพวกทีตามฆ่าข้า!”
เหล่าองครักษ์ชะงักชัวครู ่ มองตรวจสอบไปทางบัณฑิตที
เดินผ่านมา คนกลุม่ นันก็หยุดชะงัก เห็นชัดว่าคนทังหมด
สับสนมาก มีคนตะโกนเสียงโกรธขึง “อย่าพูดล้อเล่นเช่น
นี! พวกข้าเป็ นลูกศิษย์ของสํานักศึกษาหลวง!”
หรันเหยียนใจเต้นแรง เงยหน้าขึนมองบนตึกด้านหน้า
เธอยังไม่ทนั เห็นเงาคนชัดนัก ก็เห็นลูกธนูสามดอกยิงมา
ทางด้านนี รีบร้องขึนเสียงดัง “อยูบ่ นตึกนัน!”
7
มีองครักษ์หลายคนก็เห็นคนเหล่านัน แต่ก็ถอยไม่ทนั
แล้ว จึงได้แต่ชกั กระบีออกมาต้านลูกธนู องครักษ์
สิบกว่าคนขวางด้านหน้าหรันเหยียน คุม้ กันเธอล่าถอย
“ฮูหยินนังให้มน!”
ั องครักษ์เห็นระยะห่างน่าจะปลอดภัย
จึงใช้แส้โบยม้าของหรันเหยียน
9
ม้าตัวนันพลันเร่งฝี เท้า ชัวพริบตาก็ทะยานไปหลายสิบ
จัง หรันเหยียนโงนเงนก่อนทรงตัวได้อย่างรวดเร็ว เธอรีบ
เหลียวหลังไปดู บ่าวไม่ได้รบั อันตรายใดๆ องครักษ์กาํ ลัง
คุม้ กันเขาล่าถอย แต่กลุม่ บัณฑิตยังคงล้มลุกคลุก
คลานอยูบ่ นพืน เหล่าม้าจึงเดินหน้าไม่ได้
เหล่าองครักษ์ตอบรับ รีบลงจากหลังม้าวิงหลบเข้าป่ า
ข้างทาง
หรันเหยียนกําลังจะหันหลังกลับก็เห็นลูกดอกยิงมาอีก
10
หลายดอกจากบนตึก ตําแหน่งของเธอน่าจะปลอดภัย
ไม่ตอ้ งกังวล เพียงแต่บา่ วคนนันคงพูดยาก
ในห้วงอันตรายนี หรันเหยียนก็ไม่อาจห่วงอะไรได้มาก
ได้แต่หว่ งตัวเอง! เธอใช้แส้โบยม้าทีหนึง “ไป!”
องครักษ์สบิ กว่าคนตามเธอติดๆ
ข้างบนตึกนันเหมือนว่าเพิมหน้าไม้อีกหลายคัน ห่า
ลูกดอกก็พงุ่ มาทางองครักษ์กบั บัณฑิตบนพืน แม้ทิศ
ทางของลูกดอกจะเล็งตรงมาทีองครักษ์กบั บ่าว แต่เมือ
ยิงกราดกินบริเวณกว้าง จึงพลาดทําคนอืนบาดเจ็บ หรัน
เหยียนได้ยินเสียงร้องครวญครางจากด้านหลังไม่ขาด
11
สาย เธอขมวดคิว ดึงบังเหียน ค่อยๆ หยุดตัวเอง
หรันเหยียนยกแส้ชีไปทางบัณฑิตทีบาดเจ็บบนพืน “หรือ
12
ว่าจะดูพวกเขาตาย”
13
หรันเหยียนเหลียวมองรอบข้าง ทีนีคือเส้นทางหลักทีไป
มาระหว่างฉวีเจียงกับในเมือง เพราะอากาศร้อนมาก
คนออกมาเทียวเล่นมีนอ้ ย ยามนีเป็ นเวลาหลังเทียงวัน
หนึงชัวยามกว่า เป็ นช่วงเวลาทีร้อนทีสุด ดังนันผูค้ นบน
ถนนมีไม่มาก มีบางคนวิงหนีตาย คาดว่าคงไปแจ้ง
ความ
ทีว่าการน่าจะส่งคนมาโดยเร็ว
14
หลีเฉิงเฉียน……บ้าไปแล้วจริงๆ หรือ
15
ตอนที 407 แผนร้ายต่อเนือง
หรันเหยียนละสายตามามองคนสองคนเดินโขยกเขยก
เข้ามาใกล้ พลันมีภาพหนึงแวบเข้ามาในความคิด---ใต้
เงาต้นไม้ ซุนเจินคุกเข่าบนทีนัง ถูนิวมือทีลายปั กบนเสือ
1
เบาๆ เขาเอ่ย:ได้ยินว่าเซียนเหลียงฮูหยินรูจ้ กั กับหลิวเซ่อ
เหรินทีเพิงย้ายมารับตําแหน่งทีวังตะวันออก?
……
ข้าเพิงได้ข่าววันนีว่า หลิวเซ่อเหรินหายสาบสูญไปหลาย
วันแล้ว
……
2
……
...
3
ซุนเจิน...เห็นชัดว่าเขาเป็ นขุนนางซือตรง! หลิวชิงซงก็ดู
สนิทสนมกับเขามาก แม้หลิวชิงซงไม่อยูก่ บั ร่องกับรอย
แต่ก็มองคนเป็ น ไยจึงมองไม่ออกว่าเขาเป็ นคนหน้าไหว้
หลังหลอก
มีเพียงคนเช่นนีทีจะปิ ดบังเซียวซ่งได้...
ความคิดเหล่านีแวบผ่านความคิดราวสายฟ้าแลบ หรัน
เหยียนชีไปทีบ่าวของหลิวผินรัง สังเสียงเย็นชา “ฆ่า
เขา!”
4
องครักษ์ทีคุม้ กันบ่าวไม่ทนั ตอบรับ ถึงกับตะลึงชัวขณะ
“รีบฆ่าเขาเร็ว!” หรันเหยียนร้องเสียงดัง
6
บุรุษคนนันลุกขึนจากพืน ไม่รูม้ ีกระบอกยิงลูกดอกเพิม
มาในมือตังแต่เมือไร ยกมือขึนกดกลไก ลูกดอก
สามดอกแหวกผ่านอากาศ เสียงเหมือนลมคํารามเร็วดัง
สายฟ้าเข้าประชิดตัวหรันเหยียน
ลูกดอกชนิดนีสันและเล็กยาวไม่เท่านิวมือ องครักษ์ไม่
มันใจจะใช้ดาบและกระบีสะบันได้ จึงกัดฟั นกระโดด
ลอยตัว คิดขวางลูกดอกแทนหรันเหยียน
ยามนีหรันเหยียนใจหายวาบ แม้แต่อาการลมแดดยัง
ทุเลาบางส่วน ในสมองแจ่มชัดอย่างยิง เมือเห็นองครักษ์
กระโดดเข้ามาก็เข้าใจความคิดของเขา จึงถือโอกาส
กระชากเขา สองคนตกจากหลังม้า ลูกดอกสามดอกจึง
เฉียดผ่านต้นขาหรันเหยียนไป
7
วิธีทีดีทีสุดในขณะนีคือฆ่ามือสังหารคนนัน องครักษ์อีก
คนไม่อาจสนใจอะไรมาก ควบม้าพุง่ ตรงไป
หรันเหยียนเห็นว่ากระบอกยิงลูกดอกในแขนเสือมือ
สังหารถูกทําให้รว่ ง จึงเร่งรีบเอ่ยกับองครักษ์ทีคุม้ ครอง
เธอ “รีบไป ไปหากองหนุนมา ท่านพีน่าจะมีอนั ตราย”
8
ย้ายไม่กีคน!” องครักษ์เอ่ย
องครักษ์ในบ้านกับองครักษ์ลบั ส่วนตัวไม่อาจโยกย้าย
ได้ ทีบ้านยังมีเด็กอีกสามคน พวกเขาอายุนอ้ ยเกินไป รับ
เหตุเปลียนแปลงอะไรไม่ได้...แต่เซียวซ่งก็ไม่อาจเกิด
เรืองได้!
ก่อนหน้านีดูจากท่าทางของซุนเจิน เขาสังคนเคลือนพล
ไปค้นหามือสังหาร แต่ไม่แน่วา่ เขาอาจจะฉวยโอกาส
สังหารเซียวซ่ง?
9
ไม่ แม้เขาต้องการก่อกบฏจริง ไยจึงลงมือกับเธอและ
เซียวซ่ง
10
“ขอรับ!” องครักษ์รบั คําสัง ตามองครักษ์สองคนมาคุม้
กันหรันเหยียน แล้วรีบโหนตัวขึนหลังม้า
หรันเหยียนหันไปสังองครักษ์อีกคน “เข้าเมืองไปสืบข่าว
ทหารรักษาการณ์มีการเคลือนไหวผิดปกติหรือไม่”
“ขอรับ!”
องครักษ์อีกคนรับคําสังจากไป
คนของทีว่าการเร่งรีบมาถึง เห็นเหตุการณ์ในทีเกิดเหตุ
ตกใจหน้าถอดสีไปชัวขณะ รีบเร่งสังการส่งเหล่าบัณฑิต
ทีบาดเจ็บเข้าเมืองไปรักษา
หรันเหยียนถอนใจโล่งอก ในเมือคนของทีว่าการยังมา
ช่วยได้ หมายความว่ายังไม่รุนแรงถึงขันใช้กาํ ลังก่อกบฏ
แต่...เซียวซ่งยังคงมีอนั ตราย ถ้าซุนเจินอาศัยช่วงชุลมุน
ลงมือกับเซียวซ่งระหว่างค้นหามือสังหาร ถึงเวลาก็ปัด
ความรับผิดชอบ แจ้งว่าถูกมือสังหารฆ่าตาย...
นีทําให้หรันเหยียนอดคิดมากไม่ได้ ก็อย่างเหตุการณ์
12
วุน่ วายเมือครู ่ หากมีไส้ศกึ ยิงธนูใส่เธอสักดอก ใครจะ
บอกได้วา่ ทีแท้ถกู ทําร้ายตอนถูกดักซุม่ โจมตีหรือไม่
“มีองครักษ์เจ็บตายเท่าไร” หรันเหยียนถาม
หรันเหยียนทอดตามองไป แทบทุกคนมีบาดแผลบนร่าง
กาย ทีพวกเขาบอกว่าบาดเจ็บคงหมายถึงทีคนบาดเจ็บ
หนักจนไม่อาจเคลือนไหว
“เจ็ดคนทีบาดเจ็บให้ตามคนของทีว่าการกลับไปรักษา
13
แล้วช่วยเรืองการสืบสวน ทีเหลือตามข้ามา” หรันเหยี
ยนไม่อาจรอได้แม้เค่อเดียว เธอไม่กล้าคิด หากเซียวซ่ง
เกิดเรืองขึนจริง วันข้างหน้าของเธอจะเป็ นเช่นไร
หรันเหยียนสังคนสองคนอยูร่ อกองหนุนจากบ้านท่านพ่อ
ท่านแม่ ให้พวกเขาไปสมทบทีตึกซึงจางเสวียนซูถ่ กู ลอบ
ทําร้าย
14
คลัง! และอย่างเหอซือเจิง ท่าทางมีนาใจเที
ํ ยงธรรม
หันหลังก็แทงเธอได้ ยิงเป็ นอย่างซุนเจิน หรันเหยียนไม่
รูจ้ กั เขาดีนกั เคยเจอหน้ากันบ้าง แต่ไม่ใช่เพียงคนเดียว
ทีบอกว่าคนผูน้ ีเถรตรงเทียงธรรม ฝี มือปิ ดคดีไม่แพ้เซียว
ซ่ง แต่ตอนนีกลับเข้าไปยุง่ กับเรืองนี หมายปองชีวิตเธอ
หรันเหยียนเร่งรัดมาตลอดทางจนถึงทีจากมา ทีนันยังมี
คนเฝ้าอยูไ่ ม่นอ้ ย หรันเหยียนรีบลงจากหลังม้าเดินไป
คว้าได้คนหนึงจึงถามว่า “เห็นเซียวซือหลางหรือไม่”
คนผูน้ นมองหรั
ั นเหยียน จําได้วา่ เป็ นฮูหยินของเซียวซ่ง
15
จึงประสานมือคํานับเอ่ย “เซียวซือหลางกับซุนเส้าชิงไป
จับตัวผูต้ อ้ งสงสัยขอรับ”
16
ตอนที 408 ตายเรียบ
1
ในแสงแดดแผดเผายามเทียงวัน ริมฝังแม่นาฉวี
ํ เจียงระอุ
เหมือนหม้อนึง ไอร้อนผสมกลินดินกลินหญ้าคละคลุง้
ทําให้หายใจขัด หรันเหยียนจึงเวียนศีรษะเป็ นระยะๆ
หรันเหยียนเห็นทุกคนเหน็ดเหนือยชัดเจน จึงให้พวกเขา
หยุดทีเหลาสุราเล็กๆ เพือดืมนําเหยาะเกลือ พักผ่อนเป็ น
เวลาหนึงถ้วยชา
2
เมือเห็นว่าดวงอาทิตย์ใกล้ลบั ขอบฟ้า หัวหน้าองครักษ์
จึงกล่าวเตือน “ฮูหยิน ใกล้เย็นแล้ว ถ้าไม่กลับเข้าเมือง
ประตูเมืองก็จะปิ ดขอรับ”
หรันเหยียนขมวดคิว พวกเขาค้นหามาเกินสองชัวยาม
ได้เบาะแสจากคนผ่านทางครังหนึงยังคงเป็ นป่ าด้านนัน
เธอใคร่ครวญชัวครู ่ ก่อนถาม “คนของบ้านท่านพ่อท่าน
แม่มาหรือยัง”
3
องครักษ์ตอบ
เซียวซ่งมีความสามารถในการสังเกตทีเฉียบขาด ไม่วา่
เรืองคนหรือเรืองงาน ดังนันไม่ใช่เรืองง่ายนักทีจะลงมือ
กับเขา เพียงแต่องครักษ์เขาสีสิบคน แบ่งให้หรันเหยี
ยนสามสิบคน เหลือเพียงสิบคนอยูข่ า้ งตัว ถ้าซุนเจินคิด
จะลงมือสังหารจริง น่าจะมีโอกาสสําเร็จ
หรันเหยียนเชือว่าไม่ง่ายนักทีเซียวซ่งจะถูกใครกักตัวไว้
ได้ แต่หากข้างตัวเขามีกาํ ลังคนน้อย ต้องคอยคนมาช่วย
4
เหลือ แล้วเธอพลาดโอกาสนัน เธอจะไม่ให้อภัยตนเอง
ตลอดชีวิต!
หัวหน้าองครักษ์ประสานมือเอ่ย “ขอรับ!”
“รอคนของบ้านท่านพ่อท่านแม่มา ค่อยเข้าไปหาในป่ า
ด้วยกัน” หรันเหยียนลงจากหลังม้า หาหอนําชาแห่งหนึง
ถามหานําเย็นบรรเทาอาการลมแดดของตน
นังพักสักครู ่ องครักษ์ของบ้านท่านพ่อท่านแม่ก็มาถึง
หรันเหยียนสังคนยีสิบคนค้นหาโรงเตียมแต่ละแห่ง หาก
พบเห็นเหตุการณ์ ถ้าไม่ใช่อนั ตรายคับขัน อย่าได้ลงมือ
โดยพลการ รีบส่งคนมาแจ้งข่าวแก่พวกเขา
5
คนเกือบร้อยคนถือคบไฟเข้าไปในป่ า อาศัยจังหวะที
ท้องฟ้ายังพอมีแสงสว่าง ทุกคนก็หาร่องรอยบนพืนดิน
ก่อน พงหญ้าหนาทึบ หากมีคนจํานวนมากเดินผ่านไป
ต้องมีรอ่ งรอยให้เห็นแน่
หรันเหยียนข่มความเครียดในใจ แม้เธอจะพึงพาเซียวซ่ง
เสียส่วนใหญ่ แต่ใช่วา่ เมือไม่มีใครให้พงึ เธอจะทําอะไร
6
เองไม่ได้
“ฮูหยิน!พบร่องรอยแล้วขอรับ!” องครักษ์เอ่ย
หรันเหยียนกล่าว “พาคนจํานวนหนึงไปดูลาดเลาข้าง
หน้า พวกเราจะตามหลังไป”
เดินเงียบเชียบราวสองเค่อ คนลาดตระเวนข้างหน้ากลับ
มากะทันหัน กล่าวรายงานเสียงเบาว่า “ฮูหยิน หัวหน้า
องครักษ์ ด้านหน้ามีสงปลู
ิ กสร้าง เป็ นเหลาสุราหลาย
แห่ง แต่รอยเท้ายุง่ เหยิง มีรอยเท้าอยูท่ ีหลังเหลาสุรา
แทบทุกแห่งขอรับ”
8
“ข้าขอไปดูหน่อย” หรันเหยียนบังคับม้าไปข้างหน้า หัว
หน้าองครักษ์โบกมือให้องครักษ์ยีสิบถึงสามสิบคนตาม
ไป
เมือเข้าใกล้ หรันเหยียนจึงลงจากหลังม้าเดินเข้าใกล้อีก
ถึงอย่างไรม้าก็ไม่ใช่คน ถ้าเสียงลมหายใจม้าดังผิด
จังหวะ แล้วมีคนพบเห็นจะทําเช่นไร
9
ล้วนมีรอยเท้าเหยียบผ่านไป
หรันเหยียนนังย่อเข่าบนพืน อาศัยแสงจันทร์ตรวจสอบ
รอยเท้าบนพืนอย่างละเอียด อันทีจริงมีความแตกต่างที
ละเอียดอ่อน รอยเท้าทีทับซ้อนกัน หรันเหยียนแยกแยะ
ได้ชดั เจนรอยเท้าไหนเหยียบก่อน รอยเท้าไหนเหยียบที
หลัง อาศัยหลักการนี ตัดสินได้วา่ พวกเขาเข้าเหลาสุรา
แห่งไหนเป็ นแห่งสุดท้าย
เดินหน้าตรวจสอบหลายจัง แล้ววิเคราะห์บรรยากาศ
ของเหลาสุราทังสามแห่ง หรันเหยียนชีขาดว่าคนของ
สามหน่วยงาน สุดท้ายเข้าเหลาสุราทางขวามือ
10
“ระดมคน สังคนตามคนจากบ้านท่านพ่อท่านแม่ทีเหลือ
มาสมทบทีนี” หรันเหยียนกําชับ ชะงักชัวครูก่ ่อนหันไป
ทางหัวหน้าองครักษ์ “ช่วยหาชุดบุรุษให้ขา้ ที”
11
โอบ
หัวหน้าองครักษ์มองหาคน เห็นคนจากบ้านท่านพ่อท่าน
แม่ สวมชุดไม่คอ่ ยสะดุดตานัก จึงเลือกสองคนเข้าไป
12
ตรวจสอบ
13
เวลาผ่านไปสองถ้วยชา องครักษ์ก็สง่ เสียงแผ่วเบามา
จากชันบนของเหลาสุรา “หัวหน้าองครักษ์ ในเหลาสุรา
ไม่มีใครรอดชีวิตสักคน”
ไม่มีใครรอดชีวิตสักคน...ก็คือตายเรียบ?
หรันเหยียนใจเต้นระทึก ทีเธอพยายามรักษาความสงบ
นิงไว้พงั ทลายในพริบตา ตอนนีไม่อาจห่วงอะไรได้อีก
พุง่ กระโจนออกไป
14
องครักษ์ยีสิบคนเปิ ดทางข้างหน้าให้ หรันเหยียนก็เดิน
ตามเข้าไป ภายในมีกองเลือดอยูห่ ลายกอง แต่ไร้ศพ
เดินไปไม่กีก้าว เธอก็เดินช้าลง
15
ทุกคนไม่รูส้ าเหตุ แต่เห็นเธอสีหน้าเคร่งเครียด จึงกลัน
หายใจถอยกลับ
16
ตอนที 409 วันวานเหล่านันล้วนผ่านพ้น
1
เงียบลงชัวขณะ ชันบนมีศพอีกร่างหนึงถูกทิงลงมา
หรันเหยียนมองตรงไปทีวัตถุนนที
ั ตกลงมากลางอากาศ
งงงันไปชัวขณะ กระทังเห็นรูปร่างและเสือผ้าของศพร่าง
นันชัดเจน ถึงตังสติได้
หัวหน้าองครักษ์วิงไปข้างหน้าหลายก้าว ถูกหรันเหยี
ยนห้ามไว้ “ไม่ตอ้ งตาม เมือเขากล้าอุกอาจเช่นนี ต้องมี
ทีพึงพิง อย่าเพิงกระจายกําลังคนชัวคราว”
2
หรันเหยียนคาดการณ์วา่ เหลาสุราทังสามแห่งนีเป็ นของ
ฆาตรกร เธอเห็นว่าทังสามแห่งมีระยะห่างกันพอสมควร
อีกทังอาคารและทีตังไม่เหมาะทีจะล้อมโจมตี จึงกล้า
เข้ามาข้างใน
หรันเหยียนเดินเข้าหาศพนัน หัวหน้าองครักษ์เอ่ยห้าม
ปราม “ฮูหยินช้าก่อน” เขากวักมือ ออกคําสังองครักษ์
ข้างตัวให้เดินเข้าไปตรวจก่อน
องครักษ์มือถือดาบเดินเข้าใกล้อย่างช้าๆ ใช้เท้าเตะ
เบาๆ ‘ศพ’บนพืนก็ขยับเขยือนเล็กน้อย องครักษ์ยงั
ระแวงเรือง ‘บ่าว’ เมือตอนกลางวัน จึงสะบัดดาบขึนทัน
ที หรันเหยียนตะโกนว่า “ยังมือ!”
3
“คุณหนูสบิ เจ็ด...” เสียงคนบนพืนแผ่วเบา
“หลิวเซ่อเหริน!” หรันเหยียนกระโจนไปข้างหน้าหลาย
ก้าว ค่อยๆ พลิกตัวเขากลับมา
4
หรันเหยียนรีบยืนมือไปแตะชีพจรของเขา
“แคกๆ ต้องมีวิชาเทวดาแบบคืนชีพคนตาย...สร้างเนือ
หุม้ กระดูก...ถึงช่วยข้าได้กระมัง” หลิวผินรังไอครังหนึง
เลือดไหลออกมาราวสายนํา
ดวงตาหรันเหยียนพร่ามัว หยิบผ้าสีขาวออกมาจากแขน
เสือ เมือคลีออกแล้ว หยิบเข็มเงินข้างในออกมา ฝังเข็ม
ต่อชีวิตให้เขา
อวัยวะภายในของหลิวผินรังบาดเจ็บสาหัส ชีพจรตก
อย่างรุนแรง ถึงจะเป็ นโลกก่อนก็ไม่มีวิทยาการทีจะทํา
ให้ฟืนคืนชีพได้ หรันเหยียนได้แต่ใช้การฝังเข็มยือเวลา
5
ให้เขาสังเสีย
หลิวผินรังยังรักษาสติไว้ได้ช่วงหนึง เดาความหมายของ
หรันเหียนได้ จึงไม่ได้พดู อะไร หลับตาปล่อยให้เธอฝัง
เข็ม
เมือแก้เสือออก คนในทีนันต่างอดสะทกสะท้านไม่ได้
บาดแผลบนร่างนัน เป็ นผิวหนังทีไม่มีชินดี เนือหนัง
เหวอะหวะ มีบางแห่งเป็ นหนอง หลิวผินรังเหมือนเจ็บ
มากจนด้านชา สีหน้าก็ไม่ได้แสดงความเจ็บปวดมาก
เท่าไร
6
ลืมตา “ข้าได้เตรียมใจไว้แล้ว... ตําแหน่งองค์รชั ทายาท
ไม่มนคง
ั ก่อนมาฉางอัน ข้าได้คาดการณ์ไว้วา่ ต้องมีสกั
วันทีเดือดร้อนเพราะองค์รชั ทายาท...”
ฟู่ !
7
แม้คาดเดาไว้ก่อนหน้า แต่เมือได้ฟังข่าวนี หรันเหยียนก็
ยังตกใจอยูบ่ า้ ง “เป็ นฝี มือองค์รชั ทายาทจริงหรือ”
8
“ข้าเกรงจะพลอยเดือดร้อน จึงเขียนจดหมายสังคน...
แอบส่งให้เซียวซือหลาง ไม่แสวงตําแหน่ง แต่ขอถอนตัว
กลับอย่างปลอดภัย เพียงแต่ไม่รูว้ า่ จดหมายฉบับนันตก
อยูใ่ นมือขององค์รชั ทายาทได้อย่างไร เขาว่าข้าปาก
หวานก้นเปรียว หักหลังเขา ไม่ฟังคําอธิบายก็สงโบยตี
ั
อย่างทารุณ”
9
“ท่านพูดได้เต็มที ขอเพียงข้าทําได้ ต้องช่วยท่านจัดการ
ให้เรียบร้อยแน่” หรันเหยียนกล่าว
หรันเหยียนรูส้ กึ ว่าร่างกายเขาแข็งทือไปชัวขณะ
แล้วกลับอ่อนยวบลง เขาอ้าปากกว้าง สองตาเหลือก
ถลึง ดวงตาฉายฉานเหมือนเปลวเทียน เพียงชัวพริบตา
10
ก็มอดลง สีหน้าผนึกค้างในชัวพริบตานัน
เขาก้มหน้าก้มตาอ่านตําราจนสอบผ่าน บรรยากาศใน
เวลานัน ช่างเหมือนห้อม้าอย่างอิมใจในฤดูใบไม้ผลิ วัน
เดียวเทียวชมดอกไม้ทวฉางอั
ั น!ผ่านพ้นการรอตําแหน่ง
สีปี ทีมืดมน สุดท้ายก็มีวนั ทีได้บรรจุเป็ นขุนนาง แม้จะ
เป็ นแค่นายอําเภอในชนบทห่างไกล แต่เขามีแรงบันดาล
ใจเต็มเปี ยม เลือดพลุง่ พล่านทัวตัว
วันวานเหล่านัน...ล้วนผ่านพ้น
หรันเหยียนกวาดตามองรอบด้าน “ไปค้นหาทีเหลาสุรา
อีกสองแห่งก่อน ข้าสงสัยว่าทังสองแห่งก็เป็ นของ
ฆาตกร ต้องระวัง อย่ามองข้ามมุมใดๆ ให้สงั เกตว่ามี
กลไกประเภทประตูลบั หรือไม่”
13
เหลาสุราแก่เหล่าองครักษ์
การตายของหลิวผินรังกระทบกระเทือนจิตใจของหรันเห
ยียนอย่างรุนแรง เพิมความกังวลมากขึนจนไม่อาจรออยู่
ด้านนอกได้ เธอต้องการไปค้นหาเอง แต่ชดุ ดําของเธอ
14
เปื อนเลือดของหลิวผินรัง จึงได้แต่แฝงตัวเข้าไปข้างใน
กับองครักษ์
ดวงจันทร์ลอยขึนสูง ส่องต้องฉวีเจียงสว่างเหมือนกลาง
วัน สายลมกระทบเงาไม้พลิวไหวเหมือนระลอกคลืน
15
ตอนที 410-1 นายหญิง (1)
หรนัเหยียนรบีฉีกออกทนัที ดา้นในถงึกบัเขียนดว้ย
ภาษาองักฤษ! ตอ้งเป็ นเรอืงสาํคญ
ั มากแน่นอน ไมอ่ยา่ง
นนัเขาคงไมร่ะวงัเช่นนี ไมเ่พียงปิ ดผนกึดว้ยครงั ยงัใช้
ภาษาองักฤษอีกดว้ย
ครนัหรนัเหยียนกวาดตาอา่นไป แทบอยากตะโกนดา่
1
หยาบๆ ภาษาอังกฤษของหลิวชิงซงแย่มาก ไวยากรณ์
ผิดเพียบ และมีบางส่วนสือสารไม่รูเ้ รือง ทังประโยคนอก
จากคําช่วยง่ายๆ บางตัว แม้แต่ศพั ท์คาํ เดียวก็ยงั สะกด
ไม่ถกู ในเมือภาษาอังกฤษไม่ดี ทําไมไม่เขียนด้วยพินอิน
เล่า!
เนือหาคร่าวๆ ในจดหมายคือบอกว่าเซียวเซวียนจือไป
ขอพบรัชทายาท จากนันรัชทายาทก็ไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้
ทันที
2
เซียวเซวียนจือ? หรันเหยียนแปลกใจ เวลานีลูกชายของ
ตงหยางฮูหยินไปขอพบหลีเฉิงเฉียน? พิจารณาจากคํา
พูดของหลิวผินรัง หลีเฉิงเฉียนก่อมรสุมวุน่ วายภายนอก
เช่นนี ยามนีเขาเข้าวังไปเข้าเฝ้า...ทําอะไร?
หรันเหยียนอ่านจดหมายอีกเทียว ในนันไม่ได้เอ่ยถึง
เซียวซ่งสักคํา
"หลิวอีเฉิงยังบอกว่าลูกชายของซุนเส้าชิงหายตัวไป ให้
ท่านช่วยตามหา" องครักษ์นายนันกล่าวต่อ
3
ทําเรืองเช่นนี แสดงให้เห็นว่าเขายังไม่ถงึ ขันโหดเหียมไร้
นําใจ แต่ก็ได้ยินว่าหลายปี นีซุนเจินไม่ได้แต่งงานใหม่ มี
ลูกชายคนนีแค่คนเดียว ทังยังรักยิง ทีแท้ลกู ชายสําคัญ
หรือคุณธรรมส่วนรวมสําคัญ นําหนักในใจแต่ละคนไม่
เท่ากัน หรันเหยียนไม่กล้ามองแง่ดีเกินไป
"หาคนตามแผนการเดิม" หรันเหยียนบอก
"ยังไม่มีขอรับ" องครักษ์ตอบ
4
หรันเหยียนเชือไม่ลง คนมากขนาดนันจู่ๆ กลับหายไปไร้
ร่องรอย!
แสงจันทร์กระจ่างฟ้า ฉวีเจียงยามคําคืนมีความงาม
พร่างตากว่ายามกลางวันหลายส่วน บัณฑิตจํานวนมาก
ทังคืนไม่กลับบ้าน นอนค้างทีฉวีเจียง ด้วยเหตุนีการค้า
ของเหลาสุรายามคําคืนจึงคึกคัก
หรันเหยียนให้องครักษ์หลายคนขึนตึกหาพร้อมเธอก่อน
องครักษ์ก่อนหน้าบอกว่าไม่มีใครรอดชีวิตเลย หรือก็คือ
5
บอกว่ามีศพอยู่
องครักษ์สคนขึ
ี นไปสํารวจก่อน เมือยืนยันแน่แล้วว่าไม่มี
อันตราย หรันเหยียนจึงนําคนถือคบเพลิงขึนไป
6
ต้านได้ชวครู
ั ่
หรันเหยียนพยักหน้า อย่างน้อยทีสุดตอนนีเธอก็ยืนยัน
7
ได้วา่ เซียวซ่งเคยมาทีนีจริง
หรันเหยียนลุกขึน สํารวจรอยเท้าในห้องตามแสงจากคบ
เพลิง คนเหล่านีมาจากป่ าด้านหลัง บนเท้าเปื อนดินมาก
บ้างน้อยบ้าง เธอหวนนึกถึงบันไดเมือครู ่ เหมือนมีรอย
เท้าไม่มาก
เนืองจากตึกนีมีหน้าต่างสองด้าน ซึงหันไปทางลานทัง
หมด บันได ทางเดิน ระเบียงสองฟากก็อยูใ่ นลาน ไม่วา่
8
คนผูน้ นไปทางไหน
ั ก็ไม่น่ารอดสายตาพวกตนไปได้
"ขอรับ!"
ทังหมดรับคําสัง แล้วเริมสํารวจบนผนังและพืน
สายตาหรันเหยียนไปจับจ้องพรมใต้โต๊ะ “เอาคบไฟให้
ข้าอันหนึง”
หรันเหยียนรับคบไฟทีองครักษ์สง่ มา ก่อนเดินวนเลียบ
พรมช้าๆ รอบหนึง เธอพบบางสิงผิดแผกจริงดังคาด ที
แท้พรมบริเวณซึงติดกับขาโต๊ะมีรอยหักพับจางๆ
ทุกคนล้อมวงมาทันที
10
เนืองจากในตึกมีคนแค่คนเดียว หากทางลับซ่อนอยูใ่ ต้
พรม ตามหลักพรมไม่น่าจะเรียบขนาดนี ในห้องมีโต๊ะ ตู้
หลายแห่ง ทังหมดจึงไม่พงุ่ ความสงสัยมาทีพรมตรงนี
ทันที
หรันเหยียนส่งเสียงอือ ก่อนลุกถอยไปหลายก้าว
11
หัวหน้ากลุม่ ลองเคาะดู "ฮูหยิน ตรงนีมีทางเข้า แต่
เหมือนด้านในลงกลอนไว้"
แต่เหมือนพืนจะแข็งแรงมาก ทุบสิบกว่าครังจนโต๊ะเริม
แยกชิน พืนก็ยงั ไม่แตกออก
หรันเหยียนขมวดคิว หยิบค้อนและสิวออกจากหีบยา นี
12
เป็ นสิงทีให้ช่างเหล็กทํา เดิมเอาไว้ใช้ผา่ กะโหลกศีรษะ
"หลีก" หรันเหยียนสังเสียงเรียบ
องครักษ์ได้ยินก็ถอยออกมา หรันเหยียนหามีดผ่าตัด
ขนาดใหญ่สดุ เสียบเข้าบริเวณทีพรมกับพืนแนบติดกัน
แล้วขจัดพรมออกไปอย่างรวดเร็ว เผยพืนทีถูกทุบจมเป็ น
หลุม
13
ทังหมดตะลึงมองการกระทําต่อเนืองชุดนีของเธอ
แล้วอดมองหน้ากันเลิกลักไม่ได้ ไม่รูท้ าํ ไมต่างรูส้ กึ ชา
ศีรษะวาบ
หัวหน้ากลุม่ เริมแรกยังใช้สวไม่
ิ คอ่ ยเป็ น แต่ใช้ไปสองทีก็
เหมือนจะค้นพบเคล็ดลับ งัดคล่องมือขึนมาก
14
ผ่านไปประมาณเวลาหนึงถ้วยชา พืนกระดานทังแผ่นก็
ถูกงัดออก ปรากฏช่องทางเข้าดํามืด
15
ตอนที 410-2 นายหญิง (2)
สงิทีไมรู่ม้กัน่ากลวัทีสดุเสมอ
เดิมทีองครกัษเ์หลา่นีคิดวา่แคห่าคนละแวกฉางอนั น่า
จะไมม่ีอะไรมาก แตเ่มือครูเ่หน็สภาพการตายของพรรค
พวกหลายคนและหลวิผนิรงั ทาํใหเ้รมิ ระมดัระวงั เมือ
เผชิญกบัทางเขา้ดาํมืดไมเ่หน็อะไรเช่นนี จงึไมม่ีใครกลา้
บมุ่บา่มลงไปก่อน
หรนัเหยียนเองก็เหน็ความสาํคญ
ั ของชีวิตผอู้ืน จงึไม่
บงัคบั ควานหายาหลายขวดในหีบยายดัใสก่ระเป๋ าเสอื
แลว้หยิบคบไฟตงัทา่จะลงไปก่อน
1
"ฮูหยิน!" หัวหน้ากลุม่ ตกใจ รีบขวางไว้
การกระทําและคําพูดของหรันเหยียนพลันกระตุน้
ศักดิศรีของหลายคน พวกเขาเป็ นลูกผูช้ ายอกสามศอก
พบเจออันตรายเพียงกล้าหลบอยูห่ ลังผูห้ ญิง? น่าขัน
หากเรืองนีแพร่งพราย แม้ตายก็ไม่มีหน้าพบบรรพบุรุษ
2
เป็ นเงินถึงห้าร้อยพวง! หัวหน้ากองร้อยตายในสนามรบ
ยังได้เงินแค่รอ้ ยกว่าพวง จะหาเรืองดีเช่นนีได้ทีไหน
"ข้าเป็ นกองหน้าเอง!"
ฉับพลัน มีหลายคนกระเหียนกระหือรือ
3
"ขอบคุณฮูหยิน!"
4
เดินจนสุดทาง ทังหมดเห็นโครงสร้างทีเหมือนกันทีปลาย
อีกด้าน
หรันเหยียนทํามือบอกให้คนขึนไปฟั งว่ามีความเคลือน
ไหวใด
องครักษ์คนหนึงรับคําสังขึนไป แนบหูฟังเสียงทีปาก
ทางออกครูใ่ หญ่ แล้วส่ายหน้า
"เซียวเยวียจือตายหรือยัง" เสียงเข้มขึงขังถาม
5
คําตอบคือความเงียบ
คนผูน้ นเอ่
ั ยอย่างโกรธแค้น "นางนันระวังตัวนัก แผนการ
6
ทีละเอียดรอบคอบเช่นนี ถึงกับโดนนางเปิ ดโปง!"
ปั ง!
คล้ายซุนเจินจะกระแทกประตูออกไป
7
ทังหมดกลันหายใจ
"หัวหน้า!" มีคนรับคําเข้ามา
"ในเมืองมีข่าวไหม" หัวหน้าถาม
8
"มีขอรับ ฟั งว่ามีคณ
ุ ชายบ้านสกุลเซียวคนหนึงไปขอพบ
องค์รชั ทายาท จากนันพระองค์ก็เสด็จไปเข้าเฝ้า จาก
ข่าววงในบอกว่า คุณชายเซียวผูน้ นมอบสารลั
ั บฉบับ
หนึงแก่องค์รชั ทายาท ทีเหลือก็ไม่ทราบแล้วขอรับ"
หรันเหยียนตกใจ ก่อนตระหนักถึงเรืองราวมากมาย ที
แท้คนกลุม่ นีเป็ นลูกน้องของตงหยางฮูหยิน!
9
เงียบไปอึดใจ ผูม้ าจึงตอบว่า "คนส่งข่าวมาไม่ได้บอกขอ
รับ"
10
ผุ แต่เขาก็ทาํ ตัวนิงเหมือนรูปสลัก ไม่กล้าขยับ
ผ่านไปสักพัก ก็มีเสียงสนทนาดังมาจากด้านบนอีก
12
เงียบไปครูห่ นึง เอ้อร์หลางจึงกล่าวต่อ "แต่วา่ พีใหญ่
ตอนนายหญิงอยู่ พวกเราไม่เคยรับงานประเภทนี ลอบ
สังหารขุนนางราชสํานัก โทษถึงตายเชียวนะ!"
เอ้อร์หลางไม่แปลกใจนัก คล้ายไม่เห็นชีวิตตนสําคัญ
ตรงข้ามกลับถามว่า "แต่วา่ พีใหญ่ นันเป็ นพีน้องแท้ๆ
ของเขา หากเขากลับคําเล่า พวกเรามิตายเปล่าหรือ"
14
หัวหน้าพลันยิมหยัน "ติดตามนายหญิงมานานปานนี ไม่
มีสมองขึนเลย! มือของฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั สะอาดนัก
หรือ หลีเค่อกับหลีไท่แข็งแกร่งกว่ารัชทายาทมาก ต่างมี
กําลังทังในและนอกราชสํานัก ขอแค่ทาํ ให้แน่ใจว่า
รัชทายาทได้ขนครองราชย์
ึ มีหรือเขาจะไม่คิดวิธีกาํ จัด
คนเหล่านัน?"
เอ้อร์หลางกล่าวอย่างลังเล "เหตุใดไม่อาจไปยอมรับนาย
น้อย...ข้าคิดว่าบุตรชายของนายหญิงต้องไม่ดอ้ ยแน่…"
หรันเหยียนประหลาดใจเล็กน้อย ตงหยางฮูหยินถึงกับมี
ฝี มือเช่นนี สยบพวกเดนตายกลุม่ นีให้ยอมขายชีวิตเพือ
นาง กอปรกับแผนการของนาง จึงไม่แปลกทีสังหารฮูห
ยินซึงเซียวซ่งแต่งมาได้ครังแล้วครังเล่า สําหรับนางนัน
ไม่นบั เป็ นสิงใดกระมัง
16
"ไปเก็บศพทีเรือนด้านข้างเถิด อย่าให้พวกไม่มีตาคน
ไหนเผลอบุกเข้ามา บิดาต้องสังหารนางหรันก่อนแล้ว
ค่อยตาย!" หัวหน้าแผ่รศั มีเข่นฆ่ารอบทิศ
17
ตอนที่ 411 พลีชีพ(3)
ครันหรันเหยียนกับเซียวซ่งถึงทางเดินหน้าประตูชนในก็
ั
เห็นเกอหลัน
1
เกอหลันตอบว่า "คุณชายทังสองกินนมแล้วนอนไปแต่
แรก คุณหนูนอ้ ยไม่ยอมกินนมจากแม่นม กินไข่นงไป
ึ
เล็กน้อย ตอนนียังไม่นอนเจ้าค่ะ"
หรันเหยียนได้ฟัง ก็สงคนเตรี
ั ยมนําร้อนทันที แล้วรีบไป
อาบนําทีห้องนํา ก่อนกลับห้องนอน
รัวรัวกําลังนังก้มหน้าตังใจเล่นของเล่นบนเตียงเล็ก ดวง
หน้าน้อยๆ กลมยุย้ เหมือนซาลาเปา ยูป่ ากโดยไม่เจตนา
หวันลวีนังดูนางอยูห่ น้าเตียง
2
ยนก็เอ่ยอย่างยินดีวา่ "ในทีสุดท่านก็กลับมาเสียที!"
พอรัวรัวได้ยินหวันลวีเรียกฮูหยิน ก็เงยหน้าหาคนทันที
เมือเห็นหรันเหยียน ก็เบ้ปากเล็กๆ มองหรันเหยียนนําตา
คลอ ของในมือก็ไม่ตอ้ งการแล้ว รีบยืนแขนจะให้มารดา
อุม้
3
หาท่าน ไม่รอ้ งไม่งอแง แต่คณ
ุ ชายน้อยทังสองร้องไห้น่า
สงสารนัก ปลอบอย่างไรก็ไม่หยุด ทําเอาคนทังเรือนวุน่
กันยกใหญ่"
4
เซียวซ่งก็เพิงอาบนําเสร็จเข้ามา ผมดําขลับรวบหลวมๆ
อยูด่ า้ นหลัง
หวันลวียอบตัวเอ่ย "นายท่าน"
รัวรัวนอนในอ้อมกอดหรันเหยียน หรันเหยียนตบเบาๆ
ครูห่ นึง เมือแน่ใจว่านางหลับแล้ว ก็ให้หวันลวีอุม้ ไปใน
ห้องเด็ก
6
เซียวซ่งเห็นเธอเข้ามา จึงวางหนังสือในมือลง
หรันเหยียนนอนบนเตียงอย่างอ่อนแรง เซียวซ่งนอนลง
ข้างเธอ หรันเหยียนพลิกตัวไปกอดเขา "วันนีวันเดียว
ผ่านไปเหมือนสิบปี "
"รอตําแหน่งผูส้ ืบทอดบัลลังก์มนคงทุ
ั กอย่างก็จะสงบ"
เซียวซ่งกอดเธอ เอ่ยเสียงแผ่ว "รอดูไปก่อน หลังเข้าฤดู
ใบไม้รว่ ง ลูกๆ ก็ครบขวบแล้ว หากสถานการณ์ยงั ไม่
กระจ่าง ท่านก็พาลูกๆ ไปหลันหลิง"
"อือ" หรันเหยียนรับคํา
7
สองคนทีเหนือยล้าทังกายใจอิงแอบกันหลับไปอย่างรวด
เร็ว
นอนไปได้สองชัวยามเสียงกลองบอกเวลาก็ดงั เซียวซ่ง
ลุกจากเตียง กินอาหารเช้าลวกๆ ก่อนไปเข้าเฝ้าในท้อง
พระโรง
วันนีในท้องพระโรงบรรยากาศเคร่งเครียด ทุกคนเพ่ง
สมาธิกลันหายใจ ก้มหน้าตามองจมูก ใจจดใจจ่อ การ
เข่นฆ่าเลือดสาดทีริมแม่นาฉวี
ํ เจียงเมือเย็นวาน มีคน
ตายกว่าร้อยคน แม้แต่องครักษ์รกั ษาเมืองยังออกมา
ตังแต่เริมการปกครองสมัยเจินกวานเป็ นต้นมาเกิดเรือง
เช่นนีใกล้เขตวังหลวงน้อยยิง โทสะของหลีซือหมินนึกดู
8
ก็รูไ้ ด้
9
"พ่ะย่ะค่ะ! เดิมทีหนีไปสามคน แต่ถกู แม่ทพั เจิงล้อมจับ
ได้ โจรร้ายเห็นว่าไร้ทางถอย จึงฆ่าตัวตายพ่ะย่ะค่ะ" ซุน
เจินกราบทูล
10
ควรตัดสินโทษใด เรืองนีเกียวข้องกับกรมอาญาอย่าง
ยิงยวด จางเลียงเท้ากลับเหมือนมีรากงอก ยืนทืออยูต่ รง
นันราวรูปสลัก เงียบไปพักหนึง เซียวซ่งได้แต่เดินออกมา
จากแถว "โทษร้ายแรงยิง สมควรทําโทษศพประจานต่อ
สาธารณชน มิให้เอาเป็ นเยียงอย่าง"
ทังหมดค้อมกายตอบอย่างพร้อมเพรียง "พวกกระหม่อม
ไม่มีความเห็นเป็ นอืนพ่ะย่ะค่ะ"
11
"เช่นนันก็เอาตามนี" หลีซือหมินข้ามผ่านเรืองนีไปง่ายๆ
"ขุนนางทุกท่านมีเรืองจงถวายรายงาน ไม่มีเรืองก็แยก
ย้ายกันไปเถิด"
"พวกกระหม่อมไม่มีเรืองพ่ะย่ะค่ะ" ทุกคนตอบอย่าง
พร้อมเพรียงอีกครัง
เวลานีหลีซือหมินดูเหมือนบ่อนําเก่าไร้คลืน ความจริง
อาจบันดาลโทสะได้ทกุ เวลา ยามนีขอเพียงฟ้าไม่ถล่มลง
มา ทีเหลือล้วนไร้เรืองราว มิเช่นนันใครไม่ระวังลําเส้น
ต้องมีผลลงเอยทีไม่สวยแน่
12
ทังหมดถอยออกไปนอกตําหนักตามลําดับช้าๆ ก่อน
แยกย้ายไปยังทีทําการของแต่ละคน พวกเขาเดินกันช้า
ยิง หลักๆ คืออยากรูว้ า่ ฮ่องเต้จะเรียกใครไปหารือหรือไม่
แต่รูว้ า่ เงาร่างของขุนนางใหญ่ในเน่ยเก๋อหายไปจากสาย
ตากันหมดแล้ว ก็ไม่เห็นใครถูกเรียก
เซียวซ่งประสบเหตุการณ์ลอ้ มสังหารด้วยตนเองเมือคืน
ด้วยเหตุนีจึงเป็ นเป้าหมายทีทุกคนอยากสอบถาม เขา
ไม่รงรอ
ั สาวเท้ากลับกรมอาญา บริเวณทีผ่านยังได้ยิน
คําวิพากษ์วิจารณ์เป็ นระยะๆ
"เกิดอะไรขึน ฟั งว่าเมือคืนรัชทายาททรงบุกเข้าตําหนัก
กานลู่ เหตุใดจึงไม่มีอะไรต่อเล่า"
13
"วันนีรัชทายาทไม่ได้เสด็จมาทีท้องพระโรง…"
"อย่าถามเลย ตอนนีพวกเก๋อเหล่าทําท่าเหมือนเรืองไม่
เกียวกับตน พวกท่านยังจะเสนอหน้าเข้าไปอีก"
……
14
ในตําหนักกานลู่
15
ทิงช่วงไม่ถงึ หนึงเค่อ หลีเฉิงเฉียนก็รบี ร้อนรุดมา ชําเลือง
เห็นจงรุย่ ส่งสายตาให้ ก็รูว้ า่ หลีซือหมินอารมณ์ไม่ดี จึง
กล่าวอย่างระมัดระวังว่า "ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ"
หลีซือหมินโยนของในมือใส่รา่ งหลีเฉิงเฉียนอย่างดุดนั
16
หลีเฉิงเฉียนมองกระดาษทีกระจายอยูใ่ ต้เท้า พึมพําว่า
"ลูกไม่เข้าใจ"
"ไม่เข้าใจ!" หลีซือหมินคว้ากระถางเครืองหอมตรงหน้า
เขวียงไป แม้เขาจะโกรธจัด แต่ไม่ถกู โทสะครอบงําจนไร้
สติ การเขวียงครังนีเพียงเฉียดร่างหลีเฉิงเฉียนไป ไม่ได้
โดนตัวจริงๆ
กระถางเครืองหอมกระแทกโดนฉากบังลมแก้วดังเปรียะ
แม้แต่คนทีอยูน่ อกประตูยงั เงียบเสียงราวจักจันจําศีลใน
ฤดูหนาว
17
ไม่วา่ เมือไรเขาก็รกั ษาความคิดให้มีสติแจ่มชัดได้
สามารถควบคุมการกระทําของตนก็เท่านัน
18
โทสะตะคอกอีกอย่างสุดกลัน "สารรูปพวกเจ้าแต่ละคน
บิดาดูแล้วไม่ได้ดีกว่ากันสักนิด!"
21
เพียงพลังมือทุบตีพวกเขาด้วยโทสะ ไม่เคยทําร้ายคนถึง
ชีวิต"
"ไสหัวไป!" หลีซือหมินเอ่ยอย่างคังแค้น
22
ตอนที 413 ถูกจับ
หลีซือหมินโบกมือไล่ให้เขารีบไป หลีเฉิงเฉียนออกจาก
ห้องทรงอักษร ก็สงคนไปเรี
ั ยกหมอหลวง
1
ในสายตาหลีเฉิงเฉียนเห็นแต่หลีไท่ เขาไม่ได้รบั รูเ้ ลยว่าผู้
คุกคามตําแหน่งเขาทีสุดไม่ใช่หลีไท่ผมู้ ีสายเลือดของ
ภรรยาหลวงเช่นกัน ทังยังได้รบั ความโปรดปรานเหนือ
เหล่าอ๋องทังหลาย แต่เป็ นหลีเค่อผูไ้ ม่วา่ จะอยูใ่ นกองทัพ
หรือในหมูร่ าษฎรต่างมีชือเสียงดียง!
ิ
หลีซือหมินในฐานะบิดาทีไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์พี
น้องเข่นฆ่ากัน ได้แต่ใช้อาํ นาจรักษาสมดุลไว้
เขาถอนใจแรงเฮือกหนึง เขาดูแลจัดการงานแผ่นดินได้
เรียบร้อยเป็ นระเบียบ แต่ดแู ลจัดการลูกชายหลายคนไม่
ได้! เรืองนีจวบจนบัดนีเขาก็ยงั หาคําตอบไม่พบ
2
ทังห้องระเนระนาด
"ถ่ายทอดรับสังข้า ให้สามหน่วยงานยุติธรรมไปสืบคดีวงั
ตะวันออกอย่างเต็มที จํากัดเวลาไขคดีภายในหนึงเดือน
ไม่วา่ ผลเป็ นเช่นไร ไม่อนุญาตให้ปกปิ ดลําเอียงเล่น
พรรคเล่นพวก" หลีซือหมินหลับตา เสียงแหบทุม้
3
จงรุย่ ใจหายวาบ ชะงักก่อนรับคํา "พ่ะย่ะค่ะ"
เสียงจักจันดังระงม นอกจากเสียงนีทังพระราชวังไท่จี
เงียบจนชวนยะเยือก
หน่วยงานยุติธรรมทังสามเมือได้รบั พระราชโองการ ก็
เริมขยายการสอบสวนอย่างเอกเกริกทันที เรืองนีผูร้ า้ ย
ตัวจริงเป็ นใคร ในใจทุกคนมีคาํ ตอบสุดท้ายอยูแ่ ล้ว รูส้ กึ
ว่าแค่หาหลักฐานมาก็พอ
4
ด้วยเหตุนีหน่วยงานทังสามจึงแบ่งเป็ นสามกลุม่ เนือง
จากพยานโยงใยถึงเจ้าหน้าทีของกรมอาญา ดังนันเลย
ให้กรมอาญาไปวังตะวันออกรวบรวมเบาะแส ศาลต้าห
ลีไปบันทึกปากคําองครักษ์เรือนสกุลเซียวและตรวจสอบ
ว่าก่อนตายผูต้ ายเคยพบปะกับใครบ้าง สํานักตรวจการ
รับผิดชอบบันทึกปากคําของหรันเหยียน
แม้ผทู้ ีได้ยินบนสนทนาของนักฆ่าในอุโมงค์ใต้ดินจะเป็ น
องครักษ์เรือนสกุลเซียวทังสิน แต่คนมากปากคํามาก
ปิ ดเรืองตงหยางฮูหยินไม่อยู่ อีกอย่างตงหยางฮูหยินเสีย
ชีวิตไปแต่แรก เรืองนีไม่นบั เป็ นอุปสรรคต่อสกุลเซียวนัก
สําหรับคําสังเสียของหลิวผินรัง ก็ยงไม่
ิ ตอ้ งปิ ดบัง
5
ขอแค่สาํ นักตรวจการถามถึง ไม่วา่ เรืองเล็กหรือใหญ่
หรันเหยียนล้วนแจกแจงอย่างละเอียด รวมถึงเรืองนัก
ฆ่าพวกนันอยากแก้แค้นเธอเพราะเห็นตงหยางฮูหยินจะ
ตายแล้วไม่ช่วย รวมถึงเรืองทีหลิวผินรังชีตัวรัชทายาทว่า
ทําร้ายร่างกายเขา
"มีเรืองหนึงทีข้าแปลกใจมาตลอด" หรันเหยียนกล่าว
6
ตังใจล่อพวกเราไปยังทางลับ ไม่น่าใช่คนในกลุม่ นักฆ่า
อีกทังหลิวเซ่อเหรินก็บอกว่าถูกขังอยูห่ ลายวัน เพิงเคย
เห็นคนผูน้ นเป็
ั นครังแรก" หรันเหยียนเล่าเรืองนีให้เซียว
ซ่งฟั งแล้ว เขาคาดเดาถึงความเป็ นไปได้หลายอย่าง
หรันเหยียนล้วนคิดว่ามีเหตุผล แต่เวลานีเธอไม่อยากแส่
หาเรืองให้มาก
อวีสือจงเฉิงเห็นเจ้าหน้าทีจดบันทึกบันแล้ว จึงถามต่อว่า
"ไม่ทราบเซียนเหลียงฮูหยินยังพบเห็นประเด็นน่าสงสัย
อืนอีกหรือไม่"
หรันเหยียนนึกทบทวนอย่างละเอียดเทียวหนึง ในสมอง
พลันปรากฏคําพูดประโยคหนึงแวบผ่าน หัวหน้าคนนัน
เคยเอ่ยถึงโดยเฉพาะเจาะจงว่า ดอกจินซิวฉิวทีตงหยาง
7
ฮูหยินเลียงไว้ใช่สง่ กลับไปหลันหลิงแล้วหรือไม่ หรันเหยี
ยนเงียบไปชัวครู ่ ดินรนในใจ สุดท้ายยังคงเอ่ยว่า "นักฆ่า
เคยเอ่ยถึงดอกจินซิวฉิวทีตงหยางฮูหยินเลียงไว้"
"อ้อ? ขอฮูหยินโปรดเล่าบทสนทนาของนักฆ่าอย่าง
ละเอียดสักครา" อวีสือจงเฉิงกล่าวทันที
หรันเหยียนทวนคําพูดดังเดิมเทียวหนึง
สํานักตรวจการรูก้ นั ส่วนตัวนานแล้วว่าหรันเหยี
ยนชันสูตรศพได้ ด้วยเหตุนีจึงตังใจถามเรืองเกียวกับศพ
ของหลิวผินรังโดยเฉพาะ "ขอฮูหยินโปรดบอกเล่าสภาพ
ศพของหลิวเซ่อเหรินในยามนันสักครัง"
8
"บริเวณใบหน้าของหลิวเซ่อเหรินมีแผลฟกชํารุนแรง บน
ร่างเหมือนกับจงซูจ่ ือขององค์รชั ทายาทก่อนหน้าผูน้ นั
ร่างท่อนบนมีแผลจากแส้กระจุกอยูห่ นาแน่น แต่ทีต่าง
กันคือแผ่นอกของหลิวเซ่อเหรินไม่มีบริเวณทีเนือสม
บรูณเ์ ลย บาดแผลทีท้องลึกจนเห็นอวัยวะภายใน หลาย
แห่งเป็ นหนอง ข้าไม่ได้ดลู ะเอียด แต่โดยรวมดูออกว่าทัว
ร่างเขามีกระดูกหักหลายแห่ง" หรันเหยียนกล่าว
แผลประเภทนีเจ้าหน้าทีหลายคนของสํานักตรวจการฟั ง
แล้วทัวร่างหนาวยะเยือก ในใจทังกลัวทังโกรธ รีบหวน
นึกว่าตนเคยตรวจสอบร้องเรียนรัชทายาทหรือไม่
นําในแม่นาฉวี
ํ เจียง ใช่วา่ ทุกทีจะมีซงเฉ่
ิ า หรันเหยียนบ
อกข้อมูลนีให้พวกเขาสงสัยว่าก่อนหน้าหลิวผินรังไม่ได้
ถูกขังอยูใ่ นเหลาสุราแห่งนัน
10
หลายคนของสํานักตรวจการถามอีกหลายคําถาม กระ
ทังหรันเหยียนบอกเล่าจนไร้ขอ้ สงสัยอืนอีก จึงเลิกรา
อวีสือจงเฉิงทําความเคารพแล้วเอ่ยว่า "ขอบคุณเซียนเห
ลียงฮูหยินทีช่วยเหลือ!"
อวีสือจงเฉิงได้เบาะแสจํานวนมาก รีบร้อนอยากรายงาน
จึงส่งคนไปยืนยัน แล้วรีบบอกลา
หรันเหยียนลุกจากศาลารับลม ขณะเตรียมไปห้องเด็กดู
เจ้าตัวน้อยทังสาม กลับเห็นหลิวชิงซงและเฉิงหวายเลียง
11
รีบร้อนวิงมา
"ฮูหยินพีสะใภ้" เฉิงหวายเลียงคล้ายเพิงถูกงมขึนจากนํา
ตรงทียืนอยูพ่ กั เดียวก็มีนาหยดเต็
ํ มพืน
หลิวชิงซงหอบฮักขณะกล่าว "คุณชายเก้าไปสืบคดีหรือ"
"เหลวไหล" หรันเหยียนให้ทงคู
ั น่ งลง
ั แล้วสังหวันลวีไปยก
นําแกงดับร้อนมา
12
"หลีเต๋อเจียนถูกจับเพราะเหตุใด" หรันเหยียนนังลงตาม
เดิม
"ศาลต้าหลีบอกสืบพบว่าก่อนหน้านีเต๋อเจียนเคยกินข้าว
กับจงซูจ่ ือของรัชทายาทคนนันทีเหลาจินโหลว หลังจาก
นันก็ไม่พบร่องรอยของจงซูจ่ ือรัชทายาท พวกเขาสงสัย
ว่าเต๋อเจียนจะเกียวข้องกับคดีนี" เฉิงหวายเลียงเดิมก็
เสียงดังอยูแ่ ล้ว พอตืนเต้นโวยวายเสียงก็ยิงดังกว่าเก่า
13
"ท่านแม่ทพั ใหญ่เล่า เขามีทา่ ทีเช่นไร" หรันเหยียนถาม
หรันเหยียนกล่าว "เรืองนีกลัวว่าจะโยงใยใหญ่หลวง"
14
"ฮูหยินพีสะใภ้! เต๋อเจียนไม่มีทางฆ่าคนแน่!" เฉิงหวาย
เลียงแผดเสียง
เดิมทีหลีจิงก็มีความชอบมากพอคุกคามเจ้านาย หลาย
ปี นีเลยลาออกเก็บตัวอยูใ่ นบ้านปิ ดประตูไม่ตอ้ นรับแขก
ไม่เกียวข้องงานเมือง ขีดเส้นแยกจากราชสํานักชัดเจน
เช่นนีจึงรักษาความสงบสุขระหว่างฮ่องเต้กบั ขุนนางไว้
15
ได้ ครังนีหลีเต๋อเจียนถูกลากเข้าไปในเรืองของวังตะวัน
ออก หากใครมีใจคิดสร้างเรือง ไม่มีเรืองก็กลายเป็ นมี
เรืองได้
เฉิงหวายเลียงขาดไหวพริบไปสักหน่อย แต่บิดาของเขา
นันไม่ใช่ตะเกียงขาดนํามัน แต่เด็กค่อยๆ รับรูผ้ า่ นหูผา่ น
ตา ย่อมนึกเข้าใจผลดีผลร้ายในการนีได้ จึงอดพึมพําไม่
ได้วา่ "เต๋อเจียนก็เหลือเกิน ก่อนหน้านีตายไปแล้วสอง
คน ไม่มีอะไรแจ้นไปกินข้าวกับคนของวังตะวันออก
ทําไม!"
เฉิงหวายเลียงก็เริมเบนความสนใจ มองหรันเหยียนด้วย
สีหน้าคาดหวังเต็มที ครังก่อนหลังเขาเห็นรัวรัว ก็รูส้ กึ ว่า
เจ้าตัวน้อยช่างน่าสนใจนัก แต่ก็นกึ เกรงใจอยูบ่ า้ ง "นี
ออกจะกะทันหันไป พีชิงซง ท่านก็ไม่บอกก่อน ข้าไม่ได้
เตรียมมาแม้แต่ของขวัญ"
17
หันไปถาม "ตอนนีเด็กๆ ทําอะไรกันอยู"่
หรันเหยียนมองเกอหลันหลายแวบโดยไม่กระโตก
กระตาก เห็นนางไม่มีทา่ ทีผิดปกติ จึงกล่าว "ให้คนปู
เบาะทีศาลาริมนํา แล้วเรียกแม่นมอุม้ พวกเด็กๆ มา"
หลิวชิงซงมองเงาหลังนาง ก่อนหันมาถามหรันเหยี
ยนด้วยสีหน้าอยากซุบซิบว่า "เกอหลันไม่รูส้ กึ อะไรกับ
18
เต๋อเจียนสักนิดจริงหรือ เมือครูข่ า้ จับสังเกตนาง คล้าย
ไม่หวันไหวเลย"
"ไปเถิด" หรันเหยียนลุกขึน
ศาลาริมนําสร้างอยูร่ มิ สระบัวระหว่างเรือนด้านในกับ
เรือนด้านนอก แต่แบ่งเขตไม่ชดั เจนนัก หน้าร้อนมีบวั ขึน
เต็ม ต้นหลิวทอดเงาร่มรืน เรือนด้านนอกมองเห็น
บริเวณนีไม่ชดั จึงนับเป็ นเรือนด้านใน ฤดูหนาวซากบัว
ขาวโพลน ทางคดเคียวเชือมต่อกัน แบ่งเป็ นเรือนด้าน
นอกก็ได้เช่นกัน
21
"เด็กๆ อามาแล้ว!" หลิวชิงซงกางแขนวิงปราดเข้าไป
22
ตอนที 414 ไล่ตามข้ามาสิ
เจ้าตัวน้อยทังสามเห็นหลิวชิงซง ก็ตบมืออย่างดีใจทันที
ระดับความยินดีไม่นอ้ ยกว่ายามเห็นเซียวซ่ง หากให้เขา
เห็น คงเลียงความอิจฉาไม่ได้
"เหมียวเหมียว" รัวรัวยืนแขนกลมป้อมชีเฉิงหวายเลียง
ขณะทีมืออีกข้างไปสะกิดเซียวเหล่าเอ้อร์ทีอยูด่ า้ นข้าง
เซียวเหล่าเอ้อร์ทีเบนความสนใจจากหลิวชิงซง เมือเห็น
เฉิงหวายเลียงก็ตืนเต้นผิดปกติ หัวเราะเอิกอ๊าก "เหมียว
เหมียว"
1
"ฮ่า!" หลิวชิงซงยืนมือไปอุม้ รัวรัว พยายามถามด้วย
ภาษาทีเรียบง่าย "เหมียวเหมียวอะไรหรือ"
รัวรัวคงเห็นหนวดเต็มหน้าเฉิงหวายเลียงเลยบอกว่าเป็ น
แมว
2
"ฮ่าๆ!" เฉิงหวายเลียงหัวเราะลัน แล้วอดยืนมือไปแหย่รวั
รัวไม่ได้ "คุณหนูนอ้ ยช่างน่าสนใจจริงๆ!"
เสียงหัวเราะลันดุจกัมปนาท ทําเด็กสามคนตกใจชะงัก
นิง หลังรัวรัวตังสติได้ ก็กอดคอหลิวชิงซงร้องไห้กระซิก
อย่างหวาดกลัว เด็กชายตัวน้อยสองคนแหงนหน้าตา
ลอยมองเฉิงหวายเลียง เซียวเหล่าเอ้อร์เบะปาก หันหัว
ซุกขากลมป้อมของเซียวเหล่าต้า แล้วร้องไห้ลนั
เซียวเหล่าต้าก็ขอบตาแดงกํา ท่าทางเหมือนพายุฝน
กําลังจะมาอยูร่ อ่ มร่อ
แม่นมสองคนตกใจรีบเข้าไปปลอบ
3
หรันเหยียนยังไม่ทนั กล่าวอะไร หลิวชิงซงก็ชิงตําหนิ
อย่างไม่พอใจว่า "ดูทา่ นสิ ทําเด็กๆ ตกใจหมดแล้ว"
เฉิงหวายเลียงเกาศีรษะอย่างกระอักกระอ่วน ไม่รู ้
สมควรทําเช่นไรดี
"เด็กสามคนตังแต่งานเลียงครบเดือนครังนันก็ไม่เคยพบ
คนแปลกหน้า ออกจะขวัญอ่อนไปบ้าง ไม่เป็ นไร" หรันเห
ยียนยืนมือรับรัวรัวมาตบหลังปลอบเบาๆ
ปกติบรุ ุษทีเจ้าตัวน้อยทังสามเห็นก็มีแค่เซียวซ่งและหลิว
ชิงซง ส่วนหรันอวินเซิงมาบ้างนานๆ ครัง แต่เป็ นเพราะ
4
ชนชันแตกต่าง ทังเขายังยุง่ กับการค้า จึงมาไม่บอ่ ยนัก
แทบจะลืมไปไม่นบั ได้ แต่ทงสามนี
ั นับว่าสุภาพอบอุน่
เด็กๆ ไหนเลยเคยพบเสียงดุจสิงโตคํารามของเฉิงหวาย
เลียงเช่นนี
5
เห็นเด็กสามคนไม่รอ้ งไห้แล้ว จึงไม่ตอ่ ต้าน คอยหลบ
หลีกไม่หยุด ปากก็ตะโกนปาวๆ ว่า "พีชิงซง ท่านทําแค่
ท่าทางก็พอ ถึงกับลงมือดุเดือดจริงๆ! เด็กๆ ดูรูท้ ีไหน!"
รัวรัวเห็นพีชายสองคนดีใจ ก็ดีใจตาม
6
หลิวชิงซงกลัวโดนรัวรัว เลยวางนางบนทีนัง แล้วแสดง
การไล่ตี 'แมวใหญ่' ต่อ
เซียวซ่งทีรุดกลับมากินข้าวเทียง เพิงผ่านทางเดินประตู
ชันใน ก็เห็นสถานการณ์ทางนี อดเผยสีหน้าตืนตะลึงไม่
ได้
7
หลิวชิงซงบอกว่า "ข้าจะตีแมวใหญ่อย่างท่านให้แบน"
ซึงออกจะชวนให้คนเข้าใจผิด
"ปอปอ" รัวรัวเห็นเซียวซ่งดีใจก็ฉีกยิม
9
เจ้าหนูสองคนก็ตบมือเรียกตาม "ปอปอ ปอปอ"
เด็กไม่ไวกับศัพท์อย่างคําว่าท่านแม่ หรันเหยียนเลยใช้
คําเรียกของคนปั จจุบนั คําว่า 'แม่' นีเรียกง่ายกว่ามาก
และง่ายกว่าคําว่า 'พ่อ' เยอะ เด็กสองคนจึงเรียกได้ทนั ที
"แม่"
10
"ข้าจะให้กาํ เนิดลูกสาว!" หลิวชิงซงเอ่ยอย่างอิจฉา ชีวิต
นีของเขาชอบโลลินอ้ ยทีสุด ชีวิตอันสวยงามคือพาโลลิ
น้อยไปดูปลาทอง แค่ดปู ลาทองเฉยๆ ก็พอ
เฉิงหวายเลียงจ้องเจ้าตัวน้อยทังสามด้วยสีหน้าอัศจรรย์
ใจ เขาจําไม่ได้แล้วว่าลูกสองคนทีเกิดจากอนุภรรยาตน
เรียก 'ท่านพ่อ' ได้เมือไร ยามนีพลันเสียดายอยูบ่ า้ ง ไม่
ว่าจะเป็ นลูกเมียหลวงหรือเมียน้อย ทังหมดก็เป็ นลูกของ
เขา เขาถึงกับไม่เคยมีประสบการณ์ในพริบตาอันงดงาม
เช่นนี
11
"ซงซง" รัวรัวเรียกเสียงอ้อแอ้ นางออกเสียงไม่ชดั ฟั งแล้ว
คล้ายเรียกชือเขาก็ไม่ปาน (คําว่า อา ในภาษาจีนออก
เสียงว่า ซูซ)ู
12
เฉิงหวายเลียงอดถามไม่ได้ "คุณชายเก้า ทีแท้เต๋อเจียน
มีสว่ นร่วมในคดีหรือไม่"
13
เฉิงหวายเลียงถอนใจ "นียิงสางไม่ออกกว่าเก่า คุณชาย
เก้า ท่านฉลาดมาแต่เด็ก ต้องคิดหาวิธีดนู ะ"
นิวเรียวยาวของเซียวซ่งไล้ปากถ้วย ตอนนีเขาเอาตัว
เองออกมาได้ก็ไม่เลวแล้ว นิงตรองครูห่ นึง จึงเอ่ยช้าๆ
"วางใจเถิด ในเมือพวกท่านเชือว่าเต๋อเจียนไม่มีทางฆ่า
คน ขอเพียงความจริงเป็ นเช่นนี ข้าจะต้องคืนความ
บริสทุ ธิให้เขาได้แน่นอน แต่หากเขาก่อเวรก่อกรรมเอง...
ดวงตาหลายคูข่ องขุนนางบุน๋ บู๊ทงราชสํ
ั านักคอยจับจ้อง
คดีนีอยู่ ข้าไม่มีความสามารถยิงใหญ่ปกป้องเขา"
สักพักก็มีสาวใช้มาเชิญทังสามไปกินอาหารกลางวัน
15
ทําคดี เวลาก็พงุ่ เหมือนกระสวย ผ่านไปแล้วครึงเดือน
โดยไม่รูเ้ นือรูต้ วั
หรันเหยียนก็ปวดใจทีเขาทํางานเหนือยเช่นนี ทุกวันจึง
ช่วยเขาจัดการข้อมูลคดี บางครังก็วิเคราะห์รูปคดีดว้ ย
กัน
รูปคดีทงหมดค่
ั อยๆ ผุดเหนือผิวนํา
ทีมาของเรืองคือรัชทายาทไม่พอใจขุนนางในตําหนัก
เกลียกล่อมทัดทาน จึงค่อยๆ เริมทําร้ายร่างกายพวกเขา
และขุนนางพวกนันกล้าโกรธไม่กล้าพูด ได้แต่กลํากลืน
ฟั นทีหักลงท้อง
16
แต่เวลานานเข้า ก็เริมมีคนทนไม่ไหว จากทีสามหน่วย
งานเข้าใจจากปากคําญาติผเู้ สียหาย ก่อนผูเ้ คราะห์รา้ ย
ตายมีอารมณ์เคียดแค้น ทังยังกล่าวชัดเจนว่าจะเขียน
ฎีกาเปิ ดโปงเรืองนี ร้องเรียนพฤติกรรมไร้ศีลธรรมของ
รัชทายาท
17
ครังทีสองมีคนโดนทําร้ายสีคน จางเสวียนซู่ อินชิงกวงลู่
ต้าฟู (ยศขุนนางขันสาม) ควบจัวซูจ่ ือของรัชทายาทถูกจู่
โจมทีฉวีเจียง ถูกฟั นหลายดาบแทบจบชีวิต เจ้าหน้าที
อีกคนทีอยูก่ บั เขาตายอนาถโดยไม่รูอ้ ีโหน่อีเหน่ หลิว
ผินรัง จงเซ่อเหรินของรัชทายาทถูกทําร้ายร่างกายถึงแก่
ชีวิตทีฉวีเจียง จงซูจ่ ือของรัชทายาทคนหนึงโดนทารุณ
จนลิมเลือดอุดตันเสียชีวิตทีวังตะวันออก ทังศพยังถูก
ย้ายไปทีตําหนักข้าง
และตอนพบศพลอยนําทีฉวีเจียง หลีเต๋อเจียนกําลังท่อง
19
ทะเลสาบอยูท่ ีนัน เขามีเรือ ทังเรืองท่องทะเลสาบเขาก็
เป็ นผูเ้ สนอ เขาอาจแอบมาทีฉวีเจียงก่อน แล้วโยนศพลง
นํา จากนันค่อยออกจากบ้านมาพบกับทุกคนอย่าง
ผ่าเผย และอาจบรรทุกศพขึนเรือ ฉวยโอกาสทีคนไม่
สนใจโยนศพทิง
จากนันก็ได้พยานบุคคล
และตอนจงเซ่อเหรินหลิวผินรังเสียชีวิต หลีเต๋อเจียนมี
แค่บา่ วกับสาวใช้ในเรือนยืนยันว่าเขาหลับอยูใ่ นห้อง
ระดับของนําหนักนีชัดเจนว่าไม่เพียงพอ
20
เห็นข้อมูลพวกนีแล้ว แม้แต่หรันเหยียนยังไม่เชือว่าหลี
เต๋อเจียนไม่เกียวกับคดีนี อีกอย่างคนทีโยนหลิวผินรังลง
จากตึก ฐานะซับซ้อนมองไม่ออก หากคนนันคือหลีเต๋อ
เจียน ก็พออธิบายไปได้
“ท่านก็คิดว่าเต๋อเจียนยากสลัดเรืองนีพ้นกระมัง” เซียว
ซ่งเพิงอาบนํามา กอดเธอจากด้านหลัง
“ใช่แล้ว” หรันเหยียนถอนใจ
21
ยาผสมกับกลินไม้จนั ทน์ฉนุ มาก ข้าโตมากับเต๋อเจียน
ย่อมรูว้ า่ เขาไม่ชอบเครืองหอมกลินฉุน”
หรันเหยียนเอ่ยอย่างแปลกใจ “ความหมายของท่าน
คือ…”
22
ตอนที 415 พีชิงซงจะแต่งงานแล้ว
เดาไม่ยาก เรือท่องทะเลสาบมิอาจปล่อยลงลํานําฉวี
เจียงได้ในวันนันกะทันหัน เขาอาจใช้เรือนําศพออกไป
ทิงในแม่นาฉวี
ํ เจียงตังแต่วนั แรก แต่ถงึ อย่างไรศพก็ตอ้ ง
เน่าในระดับหนึง ย่อมทิงกลินไว้ การเปลียนเรือ
กะทันหันง่ายต่อการแสดงพิรุธ ด้วยเหตุนีจึงทําได้เพียง
ใช้กลินหอมฉุนอําพราง
“ท่านกล่าวมีเหตุผลยิง” เซียวซ่งเกยคางไว้บนหัวไหล่เธอ
หลับตากล่าว “ตอนนีทีจิตผิดปกติทีสุดคงเป็ นรัชทายาท
เคียดแค้นทีผูอ้ ืนทัดทานก็ช่างเถิด แต่ทบุ ตีคนจนเป็ นเช่น
นัน ไม่ใช่คาํ ว่าจิตผิดปกติจะบรรยายได้”
สําหรับหรันเหยียนภาพความทรงจําทีมีตอ่ หลีเฉิงเฉียน
3
เพียงหยุดอยูใ่ นชัวระยะเหลือบมองอย่างเร่งรีบนัน เพียง
รูส้ กึ ว่าดูแล้วไม่วา่ บุคคลิกหรือหน้าตาก็ไม่ถือว่าโดดเด่น
มาก
“ข้าอยากพบรัชทายาท” หรันเหยียนพลันกล่าว
4
“เฮ้อ!” เซียวซ่งถอนใจ ส่งเสียงดัง “เด็กๆ!”
“เจ้าค่ะ” หวันลวีถอยออกไปแล้ว
5
“อือ ออกไปเถิด” เซียวซ่งกล่าว
หลังหวันลวีออกไปอีกครัง ก็ปิดประตูให้สนิท
เซียวซ่งนังตัวตรง หมายพูดกับหรันเหยียนทุกเรืองให้แน่
ชัด เขายืนมือรินนํา เสียงทุม้ นุ่มของเซียวซ่งกล่าวท่าม
กลางเสียงรินนํา “ความจริงข้าทําความตกลงกับสกุล
จ่างซุนแล้ว หากตําแหน่งรัชทายาทมันคง ข้าจะวางตัว
เป็ นกลาง หากรัชทายาทไม่ไหวแล้วจริงๆ จะปกป้ององค์
ชายเก้าให้ได้สืบบัลลังก์”
เซียวซ่งส่งนําถ้วยหนึงให้หรันเหยียน “สกุลจ่างซุนปก
6
ป้องรัชทายาท ก็เพียงเพือให้ตระกูลได้รบั การคุม้ ครอง
ไม่ถงึ กับตกตํา รัชทายาทเป็ นบุตรคนโตของจ่างซุน
ฮองเฮา มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับตระกูลมารดา เมือ
ก่อนเห็นเขาเป็ นคนกตัญ ู แม้นิสยั เสียไปบ้าง แต่เขา
สืบบัลลังก์ มีผลดีตอ่ ตระกูลจ่างซุนมากอย่างแน่นอน ดัง
นันไม่วา่ อย่างไร พวกเขาต้องทุม่ เทกําลังทังหมดรักษา
ตําแหน่งรัชทายาทไว้ แต่ตอนนี ไม่วา่ คดีนีมีจดุ จบอย่าง
ไร รัชทายาททารุณขุนนาง ไร้คณ
ุ ธรรมไร้นาใจก็
ํ เป็ นเรือง
จริง ตระกูลจ่างซุนคงได้เวลาวางมือเสียที”
7
เซียวซ่งยิมน้อยๆ ก่อนกล่าว “แน่นอนว่าตอนนียังไม่ใช่
โอกาสดี ยังต้องดูผลคดี ตอนนีข้อมูลคดียงั ซับซ้อน ท่าน
รูด้ ี มือสังหารกลุม่ นันเป็ นลูกน้องของตงหยางฮูหยิน
ตอนแรกตงหยางฮูหยินร่วมมือกับหลีไท่ เป็ นไปได้หรือ
ไม่วา่ หลังจากตงหยางฮูหยินตาย คนกลุม่ นันยังร่วมมือ
กับหลีไท่ตอ่ ไป สร้างสถานการณ์วา่ เป็ นการล้างแค้นให้
ตงหยางฮูหยิน”
เซียวซ่งคาดเดาต่อไป “ท่านว่าคนบนตึกคล้ายจงใจล่อ
พวกท่านไปทางลับ ใช่ตอ้ งการให้พวกท่านได้ยินคํา
8
สนทนานัน เพือป้ายสีรชั ทายาทหรือไม่”
หรันเหยียนเงยหน้าอย่างรวดเร็ว จ้องเซียวซ่งด้วยดวงตา
ลึกลํา
9
แต่ไหนแต่ไรทังสองเลียงพูดคุยปั ญหาเรืองซูฝู แต่หรันเห
ยียนรูด้ ีวา่ เซียวซ่งเป็ นคนอย่างไร เขาทําใจตนเองให้เป็ น
กลางได้ ไม่สง่ ผลกระทบต่ออารมณ์ดว้ ยสาเหตุนี แต่ก็
เพราะเขารักเธอลึกซึง ดังนันในส่วนลึกของจิตใจเขา
เลียงไม่ได้ทีจะถือสาเรืองนี
ความจริงหรันเหยียนเชือและมันใจว่าคนผูน้ นไม่
ั ใช่ซฝู ู
แต่อยูต่ อ่ หน้าเซียวซ่ง เธอคงไม่แสดงว่าตนเองเข้าใจ
บุรุษอืนดีเพือล้างมลทินให้ซฝู ู เช่นนันรังแต่ทาํ ร้ายจิตใจ
10
เซียวซ่ง แม้เซียวซ่งต้องมีทา่ ทางไม่รูส้ กึ อะไรสักนิด แต่
เป็ นสามีภรรยากันมาระยะเวลาไม่นบั ว่าสัน เธอเข้าใจ
เขาดี
กระทังตอนนี เขาจึงโล่งใจ
11
เรืองราวมากมายทีเก็บซ่อนอยูใ่ นใจเธอ ขอเพียงถูกชัก
นําตอนละเมอ จะรูอ้ ย่างแจ่มแจ้ง
“ท่านรูต้ งแต่
ั เมือไร” หรันเหยียนหน้างอ
12
เซียวซ่งจิบชาอย่างใจเย็น "ตอนอยูอ่ าํ เภอจวีสุย่ เวลานัน
ท่านกําลังหมดสติ ยามข้าอุน่ เท้าให้ทา่ น ท่านก็คยุ กับข้า
ตอนนันข้ายังคิดว่าท่านฟื นแล้วเสียอีก"
ยังมีอีกครังทีเขาบุกรุกเข้าห้องเธอยามวิกาล ทว่านีไม่
พูดก็ได้...
หลังแต่งงานพวกเขานอนด้วยกันทุกคืน จํานวนครัง
ย่อมมากขึน
13
"เซียวเยวียจือ ท่าน ท่านฉวยโอกาสถามข้าตอนนอน
หลับบ่อยๆ หรือ" หรันเหยียนถลึงตามองเขา
เซียวซ่งรีบวางถ้วยชาลง ตามเธอขึนเตียงง้อขอให้เธอยก
โทษให้
14
เขาไม่พดู แน่วา่ ครังแรกทีเขาเริมลองถาม คือหลังแต่ง
งานไม่นาน เพราะในฝันเธอเรียกชือซูฝู
ดังนันแม้รูว้ า่ หรันเหยียนมีการสัมผัสลึกซึงเพือช่วยซาง
เฉิน แต่เซียวซ่งยังคงติดใจเรืองซูฝมู ากกว่า
กําลังเป็ นวันร้อนอบอ้าวในฤดูรอ้ น
15
หลิวชิงซงกลับเลือกแต่งงานท่ามกลางอากาศเช่นนี
ตอนนีหรันเหยียนเพิงเข้าใจ ทําไมราชวงศ์ถงั เสียเวลา
และกําลังทําผ้าบางทีเกือบโปร่งแสง
16
“พรุง่ นีท่านจะแต่งงานแล้ว วันนีวิงมาถึงนีทําอะไร” บน
ศาลาริมนํา หรันเหยียนขมวดคิวจ้องหลิวชิงซง “หรือ
เป็ นโรคหวาดกลัวก่อนแต่งงาน”
ท่ายกนําลูกหม่อนดืมของหรันเหยียนพลันชะงักกึก
“ก่อนแต่งงานก็แล้วไป หากหลังแต่งงานท่านทําผิดต่อ
อาอวิน ข้าจะเชือดท่าน”
“เฮอะ ความจริงบุรุษซือสัตย์มนคงเช่
ั นข้า เมือก่อนหาไม่
17
มีหลังจากนีก็สญ
ู พันธุ”์ หลิวชิงซงกล่าวโม้อย่างไม่อาย
ก่อนหน้านีหรันเหยียนไม่ถาม เพราะคิดว่าหลิวชิงซงคง
18
มีแผนของตนเอง แต่ตอนนีเขากําลังจะแต่งงานแล้ว ยัง
วิงมาคุยกับเธอถึงทีนี ยากรับประกันได้วา่ จะไม่เกิด
ปั ญหาทางใจ
หลังหลิวชิงซงถอนใจอย่างกลัดกลุม้ กล่าวตามใจต่อ
“ข้าตบแต่งอาอวิน ทีสําคัญคือถือทัศนคติวา่ มีผกั กาด
ขาวงามๆ อยูไ่ ม่กินก็เสียของ ไม่ใช่ คือผักกาดขาวงามๆ
จะให้หมูตวั อืนยํายีไม่ได้ ก็ไม่ใช่...”
19
ตอนที 416 โรคกลัวการแต่งงาน
1
เรียกนําตาจากทุกคน นีจึงเป็ นความหมายสุดท้ายแห่ง
การสละชีพของข้าใช่หรือไม่
ท่านก็รู ้ ข้ามีภาพลักษณ์แข็งแรงสดใสมองโลกแง่ดีมา
ตลอด ได้รบั ความชืนชอบอย่างกว้างขวางจากสาวน้อย
สาวใหญ่ และสาวแก่อย่างลึกซึง ตามขันตอนปกติ หาก
ข้าตาย สตรีเป็ นหมืนเป็ นพันต้องนําตาไหลพรากแน่ นัน
จะเป็ นผลทีน่าสะท้านสะเทือนเพียงไร คงไม่มีใครเพิก
เฉยใช่หรือไม่ ในจํานวนสตรีพนั ๆ หมืนๆ นีอาอวินไม่โดด
เด่นสักนิด ดังนันในฐานะทีนางเป็ นภรรยาคนเดียวของ
ข้าหลิวชิงซง จึงเป็ นโศกนาฏกรรมในโศกนาฏกรรมใช่
ไหม...”
คําพูดยืดยาวไร้สาระจับใจความไม่ได้ สาวใช้รอบด้าน
2
ฟั งจนมึนงง เพียงได้ยินเรืองตายไม่ตาย ล้วนมองเขา
อย่างแปลกใจ ก่อนงานมงคลกล่าวเรืองเหล่านี ไม่เป็ น
มงคลเลยจริงๆ!
หลิวชิงซงเห็นหรันเหยียนสีหน้าไร้ความรูส้ กึ จับผมถาม
ว่า “ท่านเข้าใจความรูส้ กึ ข้าใช่หรือไม่”
3
เป็ นดังแสงตะวันแห่งความหวังทีสาดส่องเข้ามาในชีวิต
ท่าน พีสะใภ้เก้า ท่านจะข้ามฟากแล้วทุบสะพานทิงเช่น
นีไม่ได้”
หลิวชิงซงอ่านหนังสือมากไป แยกความจริงกับ
จินตนาการไม่ออก โดยเฉพาะเมือถึงเวลาสําคัญ จะ
หลบหนีโดยอาศัยความคิดฟุง้ ซ่าน ตอนนีเห็นชัดว่าเป็ น
4
โรคกลัวการแต่งงาน
สําหรับปรากฏการณ์เช่นนี หรันเหยียนไตร่ตรองแล้ว ก็
ทําได้แค่ใช้คาํ พูดทีเธอคิดว่าไม่ได้เรืองทีสุดในชีวิตปลอบ
ใจเขา “ทุกคนเป็ นหนังสือเล่มหนึง มีเรืองราวทีสมบูรณ์
ข้ากับท่านเป็ นหนังสือชุด เกียวข้องกันเล็กน้อยเท่านัน
สุดท้ายต้องจบสวยงามสมบูรณ์แน่”
5
“จับเขาโยนออกไป” หรันเหยียนกล่าวเสียงเรียบ
6
ทว่ามีเรืองหนึงหรันเหยียนจําต้องยอมรับ ไม่วา่ หลิวชิง
ซงจะพึงพาไม่ได้เพียงไร การดํารงอยูข่ องเขา ก็เป็ นแรง
สนับสนุนทางใจให้เธอในระดับหนึง และเพราะเหตุนี นี
คือหนึงในสาเหตุทีแม้หลิวชิงซงล่วงเกินเธอหลายครัง
สุดท้ายเธอก็ยงั อภัยให้เขาได้
ลูกยังอายุไม่ครบปี หรันเหยียนยังไม่ตงใจสอนพวกเขา
ั
ให้ยืนให้เดิน เธอไม่ใช่มืออาชีพด้านการสอนเด็ก แต่หลิว
ชิงซงเคยบอกว่า เด็กๆ ยืนเดินเร็วเกินไป ความจริงไม่ใช่
เรืองดีนกั ด้วยความกระตือรือร้นทีเขามีให้เด็กๆ และ
การสังสอนทีถูกต้องหลายครัง หรันเหยียนย่อมเชือเขา
7
หรันเหยียนอุม้ รัวรัวขึนมา สอนนางเรียก ‘ท่านแม่’ สอง
คํา วันนันรัวรัวหลุดปากเรียก ‘พ่อพ่อ’ หรันเหยี
ยนตืนเต้นจนระงับอารมณ์ไม่ได้ สอนลูกให้เรียก ‘แม่แม่’
หลังเกิดเรืองเซียวซ่งก็ไม่ได้ถาม แต่หรันเหยียนก็ไม่
อยากแสดงท่าทีแปลกแยกเกินไป
“ฮูหยิน ของขวัญสําหรับหลิวอีเฉิงเตรียมเรียบร้อยแล้ว
เจ้าค่ะ” เกอหลันกล่าว ตอนนีนางแทบกลายเป็ นแม่บา้ น
เรือนสกุลเซียว พ่อบ้านชราคนเดิมตอนนีเพียงดูแลเรือง
8
การคบค้าสมาคมนอกเรือนเท่านัน
เทียบกับเรืองเกียวกับวิชาแพทย์ เกอหลันคล้ายสนใจ
จัดการเรืองเกียวกับความสัมพันธ์ระหว่างผูค้ น ซึงทําได้
คล่องแคล่วมากกว่า หรันเหยียนเข้าใจจุดด้อยของตน
เป็ นอย่างดี มีบางครังเธอรูส้ กึ ว่าตนเองคล้ายเป็ นหุน่
ยนต์ทาํ งานตัวหนึง มีแต่งานด้านนิติเวชจึงทําให้เธอ
แสดงฝี มือได้มากทีสุด นอกจากนัน ด้านอืนๆ ก็เป็ นดัง
คนพิการระดับเก้า
9
คม ก็อบรมสังสอนเกอหลันสุดกําลัง มักให้พอ่ บ้านชรา
พานางออกไปหาประสบการณ์ เพราะเหตุนีตอนนีเก
อหลันจึงสุขมุ และคล่องแคล่วกว่าครังอยูซ่ โู จว
หรันเหยียนกับเกอหลันหัวเราะเบาๆ เกอหลันยังมีธุระ
จึงถอยออกไป
10
ปกติมกั เลือกผลไม้ทีมีฤทธิและรสชาติออ่ นละมุนมาทํา
ผลไม้บด แต่วนั นีคล้ายเปรียวเล็กน้อย คุณชายใหญ่
เซียวเปรียวจนหดหัว หลังเปรียวเสร็จยังมองความ
เคลือนไหวของหวันลวีตาแป๋ ว รอให้นางป้อนต่อ
11
ไหวจริงๆ จึงคลานเข้าไปอ้าปากกิน
คุณชายรองเซียวเดาว่าทุกคนชอบกินไข่ไก่ เมือเห็นพี
ใหญ่กินอย่างเอร็ดอร่อยเช่นนี ร้อนใจทันที หวันลวีเพิง
ส่งช้อนทีสองมา เขาก็รบี อ้าปากกิน เมืออาหารเข้าปาก
ความเคลือนไหวก็ชะงัก เปรียวจนหลับตาปี เป็ นเส้น
เดียว จากนันเริมคายทิง
หรันเหยียนป้อนรัวรัว เห็นท่าทางของเด็กน้อยทังสอง
อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
12
“คุณหนูเจ้าคะ พรุง่ นีพาคุณชายน้อยกับคุณหนูนอ้ ยไป
ด้วยไหม” หวันลวีถาม
13
ครังก่อนเซียวซ่งมีอนั ตราย เขาเป็ นคนเจ้าแผนการเช่น
นัน หรันเหยียนยังไม่อาจรักษาความเยือกเย็นได้ ลูกทัง
สามไม่มีกาํ ลังปกป้องตนเองแม้แต่นิด หากเกิดเรืองไม่
คาดฝันใดขึน หรันเหยียนรูว้ า่ ตนเองคงรับไม่ได้แน่นอน
ดังนันยังคงระวังไว้ก่อนดีกว่า
เมือสังงานทุกอย่างเรียบร้อย ท้องฟ้าก็มืดสนิท
14
เช้าวันรุง่ ขึน
หรันเหยียนตืนนอนก็เห็นว่าเซียวซ่งยังไม่กลับ หลังอาบ
นําแต่งตัวจึงไปหาหรันอวินทีเรือนสกุลหรัน หลังเทียง
ค่อยกลับมาทีเรือนหลิวชิงซงเพือดูพิธี
เรือนของหลิวชิงซงอยูท่ ีตรอกเดียวกับเรือนหรันเหยียน
เพียงกันด้วยถนนสายเดียว ตอนเย็นกลับมาก็ไม่ตอ้ งรีบ
เพือป้องกันไม่ให้เรืองเช่นคราวทีแล้วเกิดขึน ครังนีหรัน
เหยียนพาผูค้ มุ้ กันยีสิบกว่าคนมาด้วย
15
เพราะหวันลวีและเกอหลันต่างก็มีธุระ หรันเหยียนจึงมา
กับสาวใช้สองคนทีสิงเหนียงอบรมขึน
แม้ในฉางอันหรันผิงอวีจะไม่ติดอันดับความรํารวย แต่ก็
ถือว่าเป็ นเศรษฐี ใหญ่ เห็นได้จากงานแต่งงานของหรัน
อวินครังนี ทัวทังเรือนและเกือบทุกห้องวางเข่งนําแข็งหก
เข่งหรือแปดเข่ง กระทังในเกียว บนทางเดินทุกทีเป็ นนํา
แข็ง เปลียนใหม่ทกุ หนึงชัวยาม ทุกแห่งทีผ่านไปเย็น
สบาย
16
ดังนันแต่งงานในฤดูรอ้ นไม่มีแรงกดดันใดๆ
หรันเหยียนไปถึงห้องของหรันอวินโดยมีสาวใช้นาํ ทาง
นางหลัวทีกําลังหวีผมให้หรันอวินรีบวางหวี ออกมารับ
“แม่หนูสบิ เจ็ดมาแล้ว รีบเข้ามา”
นางหลัวยิมตบมือหรันเหยียนเบาๆ ประเมินหรันเหยี
ยนแวบหนึงก่อนกล่าว “หลังแม่หนูสบิ เจ็ดเป็ นแม่คน จึง
เติบใหญ่แล้วจริงๆ”
18
อืนอย่างมีมารยาท แต่ยากเลียงความแข็งกระด้าง
กอปรกับการยุยงของหรันเหม่ยอวี นางหลัวจึงไม่ชอบ
เธอจากใจ แต่หรันเหยียนในตอนนี เทียบกับเมือก่อนดู
แล้วอ่อนโยนขึนมาก และเปลียนเป็ นรูจ้ กั พูดจา
“พีสิบเจ็ด!” หรันอวินยังสวมชุดหรูฉวินผ้าบางสีงาช้าง
ผมดําดุจนําตก เปี ยกสยายอยูก่ ลางหลัง เปลือยเท้าวิง
มา
19
เคยตัว”
“เจ้ายังจะปากดีอีก!” นางหลัวทําท่าจะตีนาง
21
ตอนที 417 ไม่พบกันนาน
1
นางหลัวย่อมเข้าใจบุตรี จึงถอนใจ ใช้นิวจิมศีรษะนาง
"เจ้าน่ะ ไม่เห็นแก่สามีสกั นิด รูจ้ กั แต่งอน หลังแต่งงาน
ไปพวกเจ้าสองคนจะทําอย่างไร"
หรันเหยียนดูนางหลัวช่วยหวีผมให้หรันอวิน พลันนึกถึง
ชือเสียงการชันสูตรศพของหลิวชิงซงทีทุกคนรูก้ นั หมด
อดกังวลไม่ได้วา่ ฆาตกรจะมาล้างแค้นเขาโดยไม่คาํ นึง
ถึงสิงใดหรือไม่
2
กังวลเกินไปก็เท่านัน เตรียมตัวรับมือให้รอบด้านต้องไม่
ผิดแน่ บ้านหลิวชิงซงใกล้พระราชวัง ทังยังเป็ นแหล่งรวม
ของขุนนาง สมควรไม่มีเรืองใดเกิดขึน แค่กลัวมีคนจับ
ตัวข่มขู่เหมือนครังก่อน ต้องเพิมการระวังป้องกันหรัน
อวินให้มากขึน
หรันเหยียนกําลังจะไปหาหรันอวินเซิง ก็มีสาวใช้เข้ามา
รายงานว่า "คุณชายมาแล้วเจ้าค่ะ"
นางหลัวกล่าวว่า "ได้"
3
หรันเหยียนเดินออกจากประตู เห็นหรันอวินเซิงสวมชุด
คอกลมสีแดงเข้ม บนใบหน้าหล่อเหลาน่าตระหนกไว้
หนวดเครา ปกปิ ดรูปโฉมไปหลายส่วน ยิงแลดูเป็ น
ผูใ้ หญ่สขุ มุ เยือกเย็น
4
หรันอวินเซิงยิมน้อยๆ กล่าวว่า "ดีทีเดียว ไปนังในสวน
ดอกไม้ดีหรือไม่"
หรันเหยียนรับคําดังอือ
ทังสองเดินตามทางระเบียงคดเคียวไปสวนดอกไม้ หญิง
รับใช้เดินตามมาด้านหลังอยูห่ า่ งๆ
หรันเหยียนเงยหน้ามองหรันอวินเซิงอย่างถ้วนถี มักรูส้ กึ
ว่าเขามีอะไรไม่คอ่ ยเหมือนเดิม
หรันอวินเซิงเห็นเธอมองอย่างตังใจ ดวงตาปรากฏรอย
5
ยิม "เพิงไม่เจอกันเดือนกว่า อาเหยียนจําพีสิบไม่ได้แล้ว
หรือ"
หรันเหยียนส่ายหน้า "เพียงแต่ไม่ได้มองท่านอย่าง
ละเอียดนานแล้ว"
6
แต่ตอนนี กลับเป็ นความเย็นจางๆ ระคนอยูใ่ นความ
อ่อนโยน แม้ได้พบเธอจะดีใจจริงๆ แต่ความดีใจก็ไม่อาจ
ชดเชยสิงทีขาดหายไปจากจิตวิญญาณนันได้
ในวันมหามงคลเช่นนี หรันเหยียนก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเรืองไม่
สบายใจเหล่านี เปลียนหัวข้อสนทนา “ชิงเอ๋อร์เป็ นอย่าง
ไรบ้าง ข้าอยากไปดูเขา”
7
หรันอวินเซิง หน้าตาดียงิ ตอนนีส่งเสียงอ้อๆ แอ้ๆ หัดพูด
น่ารักน่าเอ็นดูเป็ นพิเศษ
สําหรับคนจากบ้านเดิมหรันเหยียนไม่มีไมตรีจิตให้เอ่ย
ถึงได้สกั นิด “ไม่พบ พบแล้วรังแต่จะเพิมความกลัดกลุม้
ข้าเพียงถือทีนีเป็ นบ้านมารดาข้า สกุลหรันในซูโจวกับข้า
ไม่มีความสัมพันธ์ตอ่ กันอีก ข้าติดค้างบุญคุณให้กาํ เนิด
เลียงดู แต่พวกเขาก็ได้ผลประโยชน์มากมายจากการที
ข้าแต่งเข้าสกุลเซียวมิใช่หรือ”
นับจากหรันเหยียนแต่งเข้าสกุลเซียว สกุลหรันก็ได้อาศัย
ใบบุญของตระกูลใหญ่ อยูท่ ีใดผูอ้ ืนก็ตอ้ งให้เกียรติ
หลายส่วน กอปรกับหรันเหยียนเอาไหน หนึงท้องคลอด
9
สามคน สกุลเซียวทังตระกูลให้ความสําคัญเป็ นพิเศษ
เพือให้พืนเพของหรันเหยียนคูค่ วรกับฐานะมารดาของ
ทายาทภรรยาหลวง สกุลเซียวจึงดูแลสกุลหรันอย่างดี
คนในตระกูลทีเป็ นขุนนางเรียกได้วา่ ประสบความสําเร็จ
ได้เลือนขัน กลายเป็ นตระกูลทีรุง่ โรจน์ทีสุดในซูโจว ใน
แถบหวายหนานและเจียงหนานก็นบั เป็ นตระกูลใหญ่สงู
ศักดิได้
ยิงกว่านันตอนนีก็ไม่ใช่โอกาสเหมาะสําหรับการเข้ารับ
ราชการ เธอจึงยังไม่ถามเรืองนีชัวคราว
“คุณชาย เซียนเหลียงฮูหยิน”
หญิงรับใช้นางหนึงวิงมาจากทางน้อย
11
ทังสองชะงักเท้า หรันอวินเซิงถาม “เรืองอะไร”
12
หรันอวินเซิงกล่าวว่า "รีบเพียงนี เกรงว่ามีเรืองสําคัญ
เจ้าไปก่อนเถิด ไม่ตอ้ งไปบอกลาท่านแม่กบั อาอวิน
เดียวข้าจะบอกพวกนางเอง"
13
"ไม่ได้บอก ผูม้ าเพียงบอกว่าเตรียมเครืองมือให้ฮหู ยิน
พร้อมแล้ว เชิญฮูหยินติดตามเข้าวังก็พอ" บ่าวกล่าว
รถม้าเคลือนมาถึงหน้าประตูชนใน
ั หรันเหยียนบอกลา
หรันอวินเซิง เมือเข้าไปในรถพลันนึกถึงเรืองทีอยากพูด
ก่อนหน้านีได้ เลิกมูล่ ขึี นกล่าวว่า "พีสิบ ช่วงนีไม่คอ่ ย
สงบสุข จัดผูค้ มุ้ ครองขบวนส่งตัวอาอวินมากหน่อย คน
ในเรือนพอใช้หรือไม่"
"พอ" หรันอวินเซิงกล่าว
14
แต่คงมากกว่ากรอบทีกฎหมายถังอนุญาต
หรันเหยียนได้รบั คําตอบก็วางใจ
ขบวนเร่งเดินทางกลับเรือน เจ้าหน้าทีจากศาลต้าหลี
วิตกจนเหงือออกเต็มศีรษะ เห็นหรันเหยียนก็รบี กล่าวว่า
"เซียนเหลียงฮูหยินไม่ตอ้ งเปลียนชุดไก่ฟา้ ตรงไปศาล
ต้าหลีเลย ไม่ตอ้ งเข้าวังใน เมือครูใ่ นวังมีคนตายหนึงคน
บาดเจ็บสาหัสหนึงคน สามหน่วยงานสังผูน้ อ้ ยมาเชิญ
15
ฮูหยินไปตรวจสอบโดยเฉพาะ"
16
ครัวเขา หรันเหยียนระมัดระวังบ้างก็สมเหตุผล จึงรีบ
ล้วงป้ายมัจฉาออกมา
"เซียนเหลียงฮูหยินทําเช่นนีก็สมควรแล้ว" เจ้าหน้าที
กล่าว
17
หรันเหยียนกล่าว "ไปเถิด"
องครักษ์เรือนสกุลซ่งก็ตามไปด้วย ส่งหรันเหยียนถึง
ประตูวงั แล้วค่อยกลับไป
เจ้าหน้าทีอดปาดเหงือไม่ได้ ลอบคิดว่าควรระวังไม่ผิด
แต่เซียนเหลียงฮูหยินระมัดระวังเกินไปกระมัง เขาไปที
ประตูวงั ล้วงป้ายมัจฉาให้องครักษ์เฝ้ารักษาการณ์ ก่อน
ควักหนังสือผ่านทางทีออกโดยทางการฉบับหนึงจากใน
แขนเสือ เช่นนีแม้หรันเหยียนไม่สวมเครืองแบบฮูหยิน
18
แต่งตังก็เข้าวังได้
รถม้าเคลือนตัวเข้าประตูวงั ตรงไปยังศาลต้าหลีจากทาง
ลัด
เพราะโคลงเคลงมากเกินไป หรันเหยียนรีบทรงกายให้
มันคง แต่เคลือนไปครูห่ นึง เธอพลันรูส้ กึ ไม่ถกู ต้อง
ผิดปกติทีใด?
19
หรันเหยียนสงบใจไตร่ตรอง เสียงฝี เท้าม้าและเสียงล้อ
รถลอยเข้าหู เธอพลันสะดุง้ --- เสียงฝี เท้าม้าลดหายไป!
หรันเหยียนเลิกมูล่ เบาๆ
ี มองไปนอกหน้าต่าง ไม่เห็นผู้
คน จึงถือโอกาสชะโงกออกไปดูขา้ งหลัง
20
ขยายออก เธอหวาดหวันขนหัวลุก มองไปรอบด้าน ทีนี
เป็ นทางใต้รม่ เงาไม้ทีพืชพรรณแน่นขนัด รอบด้านไม่มี
องครักษ์ หน้าหลังก็ไม่มีใคร
21
เขาพลันหัวเราะ แววตาฉลาดหลักแหลมคุกคามผูค้ นที
คล้ายมีนาพุ
ํ ขงั อยูข่ า้ งใน เป็ นประกายแวววาวประหนึง
สายนํา
22
ตอนที 418 ร้อนรน
“ฮูหยินยังจําข้าได้” ทังดวงตาทังคิวของอันจินแฝงรอย
ยิมทีสดใสเพียงนัน ประหนึงยามแรกพบ ดังเทพยดาที
ตกลงมาสูโ่ ลกโลกีย ์
1
“จุดประสงค์ทีเจ้าขวางข้า” หรันเหยียนถามอย่างสงบนิง
อันจินปล่อยม่านรถลง หมุนกายหันหลังให้หรันเหยี
ยนตังใจบังคับรถม้า “ฮูหยินเป็ นคนฉลาด อย่าหมาย
ตะโกนขอความช่วยเหลือเด็ดขาด อย่าคิดทําร้ายข้าจาก
ด้านหลัง ฮูหยินมีลกู น่ารักสามคน ท่านคงไม่อยากให้
พวกเขาเกิดเรือง ใช่หรือไม่”
หรันเหยียนมองเงาหลังเขาอย่างเย็นชา
2
เต๋อเจียนชมชอบผูน้ นั ฮูหยินไว้ใจนางหรือไม่”
อันจินเอนพิงข้างประตูรถ มองหรันเหยียนผ่านทางซีมูลี
ไม้ไผ่ ยิมงามล่มเมือง “ฮูหยินยังคงสงสัย มิฉะนันคงลง
มือสังหารข้าทันที”
3
ทีหรันเหยียนไม่ลงมือ เพราะคิดว่าในเมืออันจินทําร้าย
เจ้าหน้าทีและคนรถล้มลงโดยไร้สมุ้ เสียงได้ ทังตอนนีก็
ไม่หวันเกรง วรยุทธ์เขาต้องไม่ตาต้
ํ อยแน่ อย่างน้อยฆ่า
เธอทันทีก็ไม่เป็ นปั ญหา
4
ความอ่อนโยนชนิดนีงดงามยิง คล้ายมาจากใจ สัน
คลอนใจผูค้ นได้โดยง่าย แต่ปรากฏขึนไม่ถกู เวลา มีแต่
ทําให้ผคู้ นสะท้านใจ
อันจินยังไม่ตอบ ก่อนรถม้าเข้าไปในซอยเปลียวแห่งหนึง
เขาหันกลับมากล่าวว่า “ฮูหยินไม่ตอ้ งร้อนใจ เชิญลง
จากรถก่อนเถิด”
หรันเหยียนมองข้างนอกแวบหนึง ตอนลุกขึนลงจากรถ
เธอโยนผ้าทีผูกแล้วไว้ใต้รถ
5
อีกสักครูอ่ นั จินต้องเคลือนย้ายรถม้าไปแน่ เขาคงไม่
ตังใจก้มศีรษะดูใต้ทอ้ งรถ หากเธอโชคร้ายโยนลงไปใน
ตําแหน่งไม่ดี เป็ นไปได้วา่ เพียงมองปราดเดียวก็เห็นแล้ว
แต่ตอนนีเธอไม่อาจหันกลับไปมองได้
“ฮูหยินเชิญ” อันจินกล่าว
ท่ามกลางแสงแดดขาวจ้า หรันเหยียนมองอันจินอย่าง
ใกล้ชิดเพียงนี อดรูส้ กึ แปลกใจอยูบ่ า้ งไม่ได้ คนผูน้ ีผิว
ขาวราวหยก ไม่มีตาํ หนิแม้แต่นิด ทว่าไม่เหมือนนัก
แสดงทีทาแป้ง ขนตายาวดังปี กสีดาํ ทอทาบเป็ นเงาใต้
ดวงตา บังแอ่งนําใสสองแอ่งนัน
6
หรันเหยียนเคยช่วยเขาหนึงครัง แต่เธอไม่กล้าไร้เดียงสา
ฝากความหวังไว้กบั บุญคุณครังเก่า ดังนันจึงลุกขึนลง
จากรถ
“บอกจุดประสงค์ของเจ้า มิฉะนันข้ายอมตายบนทาง
แยกนี ก็ไม่เข้าไปเด็ดขาด” หรันเหยียนชะงักเท้า
7
เข้าไปในสถานทีนัน ต้องเผชิญกับอะไร ถูกทารุณจน
บาดแผลทัวร่างเหมือนจงซูจ่ ือของรัชทายาทกับหลิว
ผินรังหรือ หรือเป็ นบททดสอบท้าทายทางจิตวิทยาฉาก
หนึงของเธอ
8
เธอรูม้ องมาทางนี ความจริงไม่อาจมองเห็นต้นหญ้าที
โดนเหยียบล้มไม่กีต้นนีได้ แต่มีผา้ เช็ดหน้าเธอชีนํา เชือ
ว่าเซียวซ่งต้องหาพบแน่
……
ในศาลต้าหลี เซียจิงเส้าชิงอีกคนของศาลต้าหลีและหลี
เซิงชาง รองหัวหน้าสํานักตรวจการเฝ้าอยูห่ น้าห้องเก็บ
ศพ หนึงคนนังคุกเข่าบนเบาะรองนังหลับตาคล้ายทํา
9
สมาธิ อีกคนมือไพล่หลังเดินพล่าน
เดิมทีคนของศาลต้าหลีทีรับผิดชอบคดีนีคือซุนเจิน แต่
เขามีสว่ นเกียวข้องกับคดีจงึ ถูกพักงานสอบสวน โดยให้
เซียจิงเส้าชิงอีกท่านเข้ามาแทนที หน้าทีรับผิดชอบหลัก
ของเซียจิงคือการปรึกษาหารือเรืองการลงโทษหนักหรือ
เบา มีสว่ นร่วมในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย
อาชญากรรมบางส่วนในกฎหมายถัง ด้านการปิ ดคดียงั
ห่างไกลจากซุนเจิน แต่ศาลต้าหลีไม่มีเส้าชิงคนทีสาม
10
“ข้าดืมไม่ลง นีเวลาอะไรแล้ว ทําไมยังไม่มา หรือต้อง
อาบนําแต่งองค์ทรงเครืองด้วย!” หลีเซิงชางหงุดหงิด
กล่าว
11
หลีเซิงชางได้ยินก็โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ ลอบด่าทอเกรียว
กราดในใจแต่แรก : ดืมๆๆ! รูจ้ กั แต่ดืม! ไม่รูจ้ ริงๆ ว่าศาล
ต้าหลีส่งเจ้ามาทําอะไร ตังแต่เช้าจนบัดนี เรียกให้ดืมชา
ไม่ใช่แค่สบิ ครังแล้ว อย่างอืนก็ไม่เห็นทําอะไร
“เซียวซือหลางทําคดีไม่เคยผิดพลาดเลย หลีจงเฉิง
สบายใจได้” เซียจิงกล่าวเนิบนาบ
12
หลีเซิงชางถอนใจอย่างอ่อนแรง เขากับเซียจิงคุยกันไม่
ถูกคอ เขาเอ่ยถึงเซียวซ่ง หลักๆ คือต้องการเตือนสติเซีย
จิง ในวันร้อนอบอ้าวเช่นนี ส่งผูอ้ ืนซึงเป็ นคนหนุ่มแข็ง
แรงออกไปตากแดดทีแม่นาฉวี
ํ เจียง พวกเขาสองผูเ้ ฒ่า
อยูท่ ีนีก็นบั ว่าสบายแล้ว หากทําเรืองอะไรไม่สาํ เร็จแม้
แต่นอ้ ย เรืองแพร่ออกไปจะน่าฟั งหรือ
13
ลุกพรวดขึน ก้าวเท้าเร็วๆ เข้าไปรับ “เกิดอะไรขึน!”
14
สถานทีทีจางจู่ปถู้ กู ทําร้ายผูน้ อ้ ยพบตัวอักษรทีเขาใช้
เลือดเขียน ผูน้ อ้ ยสังคนลอกมาแล้ว”
หลีเซิงชางยืนมือรับกระดาษแผ่นนัน เพียงเห็นบนนัน
เขียนตัวอักษรขนาดใหญ่วา่ –-- วังตะวันออก
ด้านหลังคล้ายยังหมายเขียนอะไร แต่มีเพียงจุดเดียว ก็
ไม่ได้เขียนต่ออีก
15
“เร็วเข้ารีบไปเชิญเจ้ากรมอาญาและหัวหน้าศาลต้าหลี
มา” เซียจิงก็นงไม่
ั ติด ระดับความเร็วในการพูดก็เร่งร้อน
ขึนบ้าง
พวกเขาไม่ได้สง่ องครักษ์ไปเพราะจากตรอกผิงคังถึงใน
วังมีระยะทางเพียงสันๆ อีกอย่างผูค้ นสัญจรไปมา
องครักษ์มากมายนับไม่ถว้ น หากเช่นนียังเกิดเรืองอีก
เช่นนันก็เป็ นเรืองใหญ่! ใครก็นกึ ไม่ถงึ ฆาตกรยังกําเริบ
เสิบสานกว่าทีพวกเขาคาดคิดไว้รอ้ ยเท่า ถึงกับกล้าลง
มือในวังหลวง
16
และคนผูน้ ีไม่มีทางเป็ นรัชทายาท
17
ทุกอย่างปะทุขนึ ล้วนกลายเป็ นความโกรธพลุง่ พล่าน
ไม่สบั คนผูน้ ีเป็ นหมืนชิน คงระบายความเคียดแค้นในใจ
ไม่ได้
18
แสงแดดร้อนแรงเร่งรุดไปห้องหนังสือทีตําหนักกานลู่
……
กลินดอกไม้หอมลอยล่อง ลมเย็นสบาย
และสองมือสองเท้าของเธอถูกมัดไว้ นอนตะแคงอยูบ่ น
ตังอ่อนนุ่มใต้เงาไม้
20
หรันเหยียนมองตามเสียงไป เห็นดอกใบสดใสของต้นเห
อฮวาน (ต้นจามจุร)ี ใบแน่นขนัดราวร่ม อันจินทีสวมชุด
ผ้าดิบคอป้ายแขนกว้างนอนตะแคงอยูบ่ นกิงไม้ยืนขวาง
มือเรียวยาวดังหยกถือม้วนหนังสือวางไว้บนเข่าทีชันขึน
ผมดําขลับเปี ยกชืนสยาย ขนตายาวทีเหมือนปี กสีดาํ บัง
ดวงตาแฝงรอยยิมทีกําลังมองเธออย่างเกียจคร้านสบาย
อกสบายใจไว้ครึงหนึง
21
ตอนที 419 เกิดขึนเพราะใคร
สายลมพัดเอือย ดอกเหอฮวานงดงามสันไหวประหนึง
เมฆงามเจิดจรัส อันจินทีอ่อนโยนเช่นนี ทําให้คนงุนงง
เกินไป แม้หรันเหยียนคุน้ เคยกับการใช้ความคิดอย่างมี
เหตุผลไตร่ตรองปั ญหา ตอนนีกลับจินตนาการไม่ออก
สักนิด บุรุษ...ตรงหน้าทีคล้ายไม่แปดเปื อนกลินอายใน
แดนมนุษย์ผนู้ ี ก่อกวนให้เกิดการฆ่าฟั นในนครฉางอัน
อย่างบ้าคลังดุจฮิสทีเรีย...เช่นนัน
หรันเหยียนพูดถ้อยคํางดงามไม่เป็ น ในห้วงสมองมีเพียง
คําทีเข้ากันแต่ดอ้ ยกว่าภาพงามในขณะนีเล็กน้อย นัน
คือ ‘งดงามสุดแสน’
1
อาจเพราะตอนช้าเกินไป บนกายของอันจินจึงยังมี
ลักษณะเฉพาะของบุรุษชัดเจนหลายอย่าง ไม่ได้มีทา่
ทางเป็ นผูห้ ญิงอย่างสมบูรณ์เช่นขันทีคนอืนๆ
“เซียวเซวียนจือบอกข้าว่าในมือท่านมีหลักฐานทีหลีไท่
คิดกบฏฉบับหนึง” อันจินกล่าว
มีสงร้
ิ องขอย่อมดีทีสุด หรันเหยียนเงยหน้ามองเขา “เจ้า
อยากได้สงนั
ิ นหรือ”
2
อันจินกําหมัด เท้าศีรษะไว้ แค่นเสียงดัง ‘เฮอะ’ทีไม่รู ้
ความหมายดังมาจากโพรงจมูก อีกมือหนึงเคาะม้วน
หนังสือบนเข่าเป็ นระยะๆ “สกุลเซียวพวกท่าน กลับมีคน
เก่งปรากฏไม่ขาด เซียนเหลียงฮูหยินต้องคิดไม่ถงึ แน่
เรืองทังหมดเกิดขึนเพราะเซียวเซวียนจือ”
ความเคลือนไหวในการเคาะม้วนหนังสือของเขาชะงัก
ครูห่ นึง “บุตรชายของตงหยางฮูหยินก็ไม่เลวเลยจริง
ฮ่า!”
4
สบายยิงกว่า
“เซียนเหลียงฮูหยินพบอันตรายไม่เคยเสียกระบวนเสมอ
จริงๆ ข้าชืนชอบยิง บอกความจริงให้ทา่ นรูก้ ็ได้” อันจินก
ล่าว “เซียวเซวียนจือพอดีจาํ เป็ นต้องใช้ประโยชน์จากข้า
และข้าก็พอดีจาํ เป็ นต้องใช้ประโยชน์จากเขา เช่นนีเท่า
นัน”
หรันเหยียนปะติดปะต่อเรืองจากหน้าไปหลัง ก็เข้าใจ
เรืองราวทังหมด
5
คุณชายเซียวสิบทําเช่นนีเข้าใจได้ง่ายยิง เขารูส้ กึ มา
ตลอดว่ามารดาตนเองเป็ นคนไร้นาใจ
ํ ทว่าในช่วงสุด
ท้ายของชีวิตนาง เขาจึงมีโอกาสเข้าใจ ทีแท้มารดาเพียง
ไม่รูจ้ ะอยูร่ ว่ มกับเขาอย่างไร
ย้อนคิดถึงตลอดชีวิตของตงหยางฮูหยิน นอกจากความ
เดียวดาย ก็คือความรันทด บุตรชาย คือสิงประโลมใจ
อย่างเดียวในชีวิตนาง นางจะไม่ใส่ใจจริงๆ ได้อย่างไร
6
ยากรับได้ในเวลาสันๆ
ตงหยางฮูหยินถูกหลีเค่อสังหาร ความเคียดแค้นนีย่อม
เพิมมากขึนจนไม่อาจต้านทานได้
“เป็ นเซียวเซวียนจือบอกเจ้าว่ามารดาของเขายังมีบริวาร
เก่ากลุม่ หนึงหรือ” หรันเหยียนถาม
7
“ถูกต้อง” อันจินกล่าว
8
สงบนิงเกินธรรมดามาตลอด ก็มีรอยร้าว
เขาคล้ายไม่อยากสังหารเธอ และไม่อยากได้อะไรจาก
ตัวเธอ เช่นนีเธอออกจะคลําทางไม่ถกู อดคิดตะล่อม
ถามไม่ได้ “อันจิน...”
“อย่าเรียกชือนี” อันจินตัดบทเธออย่างเย็นชา
9
สวนเงียบสงบลง เสียงจักจันร้องเป็ นระยะๆ ผ่านไปครู ่
หนึง อันจินจึงกล่าว “ต้วนอวินไจ้”
พริบตานัน หรันเหยียนคล้ายเห็นนําตาใสแจ๋วไหลลง
จากดวงตาสดใสเฉลียวฉลาดคูน่ นั
10
อันจินใช้ตาํ ราปิ ดหน้าไว้ เสียงเบาแหบพร่า “ไม่เอาไหน
เลยใช่หรือไม่”
ทุกอย่างเริมต้นทีงานเฉลิมฉลองครังนัน จบลงทีการเข้า
วังตะวันออก โลกของเขาล่มสลาย นับจากนันมีเพียง
ความมืดมิดไร้ขอบเขต ความหมดหวังไร้ทีสินสุด!
กระทังความโปรดปรานทีหลีเฉิงเฉียนมีตอ่ เขา ล้วนเป็ น
ฝันร้าย
เจ็ดปี ก่อน
12
ในงานเลียงฉลองในวัง หลีเต๋อเจียนบังเอิญเห็นต้วนอวิน
ไจ้ผมู้ ีฝีมือโดดเด่นเกินใคร
ตอนนันหลีเต๋อเจียนยังเป็ นคุณชายเสเพลเต็มขัน พบ
เห็นสาวงามบุรุษหล่อเหลามามากมาย แม้โฉมหน้าของ
ต้วนอวินไจ้จะผ่านการปกปิ ด ยังคงถูกเขามองออกใน
แวบเดียว
13
และความสามารถของเขา
เพราะเหตุนีจึงช่วยเหลือต้วนอวินไจ๋หลายครัง ตอนนัน
เขาซาบซึงใจยิง รูส้ กึ ว่าลูกหลานตระกูลใหญ่เช่นหลีเต๋อ
เจียน ไม่ถือเนือถือตัวปฏิบตั ิตอ่ เขาด้วยความเคารพใน
ระดับหนึง หาได้ยากยิงจริงๆ ดังนันคนสันโดษเช่นเขา ก็
ค่อยๆ พูดคุยกับหลีเต๋อเจียนมากยิงขึน
ต้วนอวินไจ้ลอบดีใจ รีบถามว่าโอกาสใด
14
หลีเต๋อเจียนบอกว่า ช่วงนีรัชทายาทชืนชอบการดนตรี
ขอเพียงได้รบั การชืนชมจากเขา เมือถึงเวลาข้าจะคอย
พูดสนับสนุน เมือเขาดีใจ การช่วยเจ้าหลุดพ้นจากชนชัน
ตํา ก็เป็ นแค่เรืองเพียงเอ่ยปาก
ด้วยการจัดการของหลีเต๋อเจียน ต้วนอวินไจ้ทีมีอายุสบิ
ห้าปี ก็ปรากฏตัวขึนเบืองหน้ารัชทายาทหลีเฉิงเฉียน
15
ตะวันออกทุกครัง บางครังมีอารมณ์สนุ ทรีย ์ ยังถาม
ปั ญหาเกียวกับเรืองดนตรีจากเขาไม่นอ้ ย ต่อมาหลังจาก
นัน มิเพียงถามเรืองดนตรี ยังถามว่าปกติตว้ นอวินไจ้ชืน
ชอบทําอะไร ชอบอ่านตําราอะไร เข้าใจกาพย์กลอนหรือ
ไม่...
ต้วนอวินไจ้แสดงออกอย่างพอเหมาะพอดี นอกจากการ
ดนตรีทีโดดเด่น ด้านอืนๆ ล้วนแสดงออกตามระดับ
มาตรฐานทัวไป หลีเฉิงเฉียนก็ให้ความสําคัญกับเขา
มากยิงขึนตามทีคาดการณ์ไว้
ทว่าขณะเดียวกัน ต้วนอวินไจ้ก็พบเรืองทีทําให้เขาหวาด
กลัว สายตาทีหลีเฉิงเฉียนมองเขาอ่อนโยน รักใคร่ ไม่ใช่
ความรูส้ กึ ทีบุรุษปกติมองบุรุษด้วยกัน
16
แต่ตว้ นอวินไจ้ไม่มนใจ
ั ทังยังเคยเอ่ยถึงเรืองนีเป็ นนัยกับ
หลีเต๋อเจียน แต่ไม่รูว้ า่ หลีเต๋อเจียนฟั งรูเ้ รืองหรือไม่รูเ้ รือง
เลยไม่เคยตอบ
หลังจากนันหนึงเดือน ต้วนอวินไจ้คิดว่าหลีเฉิงเฉียนคง
หันไปชอบอย่างอืน จึงค่อยๆ ผ่อนคลาย กลับมาใช้ชีวิต
อย่างเมือก่อน
17
สถานการณ์ปกติอยูร่ ะหว่างอายุสบิ สองถึงสิบหกปี หลัง
อายุสบิ หกปี แล้วนักดนตรีก็ตอ้ งเริมร่วมแสดง ก็หมาย
ความว่า ไม่มีเวลาให้พวกเขาฝึ กซ้อมยาวนานนัก
ดังนันในกองงานสังคีต สําหรับนักดนตรีทียังเรียนไม่
สําเร็จ เป็ นช่วงทีลําบากแห้งแล้งยิง แต่ฝีมือบรรเลงพิณ
ของต้วนอวินไจ้เกือบสูสีกบั ครูผสู้ อน ทังยังมีความรู ้
กว้างขวางความจําดี ดังนันเทียบกันแล้วจึงสบายกว่า
มาก คนส่วนมากทุกวันต้องท่องทํานองเพลงจนดึกดืน
แต่เขาไม่ตอ้ ง
18
กลางดึกเงียบสงัด ในห้องดนตรียงั สว่างด้วยแสงโคมไฟ
ต้วนอวินไจ๋ขมวดคิวจ้องมองทํานองเพลงทีเบืองหน้าตน
บนแก้มเขาแต้มจุดมากมาย แต่ยงั ยากปกปิ ดโฉมหน้า
งดงามได้
19
บนระเบียงทางเดินมีโคมไม้ไผ่ทรงกลมแขวนอยู่ ด้าน
นอกกรุกระดาษเกาลี สว่างดังแสงจันทร์
"อาจารย์" ต้วนอวินไจ้ยืนเรียกทีนอกประตู
20
เขาค้อมกายลงตํากว่าเดิม "อาจารย์"
หลีเฉิงเฉียนกําลังยิมมองเขาด้วยสีหน้าหยอกเย้า
หลีเฉิงเฉียนยืนมือพยุงเขา "ก็บอกแล้วไม่ให้มาก
มารยาทเพียงนี เงยหน้าขึนมาให้ขา้ ดูหน่อย"
21
ต้วนอวินไจ้ลงั เลอยูค่ รูห่ นึง ยังคงเงยหน้าขึนน้อยๆ ก่อน
ก้มลงอย่างรวดเร็วอีกครา
22
ตอนที 420 แอบรัก
นําเสียงหลีเฉิงเฉียนดังเหนือศีรษะ “หลายวันก่อนข้าได้
ยินว่าเจ้าป่ วย ร้อนใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทําอย่างไร
ได้ ตาแก่ในวังพวกนันคุมข้าอย่างเข้มงวด วันนีกว่าจะ
หนีออกมาได้ ยามนีเจ้าดีขนบ้
ึ างหรือไม่”
1
ต้วนอวินไจ้อดดีใจไม่ได้ เงยหน้ามองหลีเฉิงเฉียนอย่าง
รวดเร็วแวบหนึง เขาคิดว่าหากฉวยโอกาสหนีได้ ถึงชาติ
นีจะต้องร่อนเร่ไปทัวก็ยงั ดี! พอเปลียนความคิด จึงเอ่ย
ว่า “ขอบพระทัยองค์รชั ทายาท”
2
หลีเฉิงเฉียนไม่มีปฏิกิรยิ าต่อวาจาทีเขาพูดอยูน่ าน เขา
ใคร่ครวญครูห่ นึง เงยหน้าขึน กลับสบสายตายิมๆ ของ
หลีเฉิงเฉียน “หากเจ้าไม่ชอบให้ขา้ จับมือ ข้าก็จะไม่จบั
ไปเถิด ไปเถิด คําคืนแสนสุขช่างสันนัก!”
มิเสียแรงทีหลีเฉิงเฉียนลอบออกจากวังเกือบทุกวัน จึง
แทบพาเขาออกไปได้อย่างราบรืนไร้อปุ สรรค
3
ต้วนอวินไจ้แอบจดจําเส้นทางเหล่านีไว้ หากวันนีไม่มี
โอกาสหนี วันหน้าค่อยหาโอกาสใหม่
……
5
หลีเฉิงเฉียนเห็นเขานิงอึง ยิงยินดีปรีดา ลุกขึนลากเขา
เข้ามาในอ้อมกอด ประทับจูบทีริมฝี ปากเขาโดยไม่
ปล่อยให้เขาพูด
ก่อนหน้านีหลีเฉิงเฉียนไม่เคยจูบบุรุษ เริมแรกนอกจาก
หวันไหวอยูบ่ า้ ง ก็แฝงด้วยความรูส้ กึ แปลกใหม่ แต่พอ
จูบจริง ยิงรูส้ กึ ถอนตัวไม่ขนึ
หมัดนีชกเข้าทีแก้มหลีเฉิงเฉียน บวมไปครึงหน้าทันใด
6
……
ความยินดีทีได้ออกจากวัง ถูกครอบงําด้วยความหวาด
ผวาโดยพลัน
ตกใจกลัวก็มากพอแล้ว แต่ความหวาดกลัวก็ตามมาอีก
การแสดงตนทังหมดของหลีเฉิงเฉียน นอกจากทําให้เขา
ตัวสันงันงก ก็ไม่มีสงอื
ิ นใดอีก
……
แสงแดดแผดเผา สายลมพัดพาความอบอ้าวสายหนึง
8
มา
อย่างน้อยอารมณ์ของอันจินยังไม่ถือว่าดุเดือด เธอน่า
จะยังพอมีเวลาอยูบ่ า้ ง
9
หรันเหยียนครุน่ คิดพลางลุกขึนนังบนตัง กล่าวว่า “ข้าจะ
เป็ นเพือนเล่นฉากสุดท้ายกับเจ้าให้จบ”
“เซียนเหลียงฮูหยินมันใจเช่นนีเลยหรือว่าข้าจะไม่ฆา่
ท่าน” นําเสียงอันจินแหบพร่าเล็กน้อย
“เจ้าเคยพูดว่าข้ามีบญ
ุ คุณกับเจ้า เจ้าจะไม่เนรคุณข้า
แต่จะฆ่าหรือไม่ก็อยูท่ ีความคิดชัววูบของเจ้า” หรันเหยี
10
ยนเม้มปาก เธอเตรียมทางหนีทีไล่ไว้พร้อม
11
หรันเหยียนไม่มียาพิษบนร่างแล้ว เห็นชัดว่าถูกอันจิน
เอาไป แต่เธอยังซ่อนเข็มเงินไว้ในเรือนผม เธอรูส้ กึ ได้วา่
เข็มเงินยังอยู่ และเธอยังมีผา้ ชุบยาพิษผืนหนึงใน
กระเป๋ าแขนเสือข้างซ้าย
เงาตะวันเคลือนไปทางตะวันตก
ต่างระดมกําลังองครักษ์ทงพระราชวั
ั ง ค้นหาทุกที
12
โดยเฉพาะตรวจสอบศาลต้าหลีอย่างละเอียด ไม่เว้นแม้
แต่ตาํ หนักใหญ่นอ้ ยทังหมด
หรันเหยียนกําลังครุน่ คิดว่าจะดึงเข็มเงินจากเรือนผมมา
เก็บไว้ในกระเป๋ าแขนเสืออย่างไร กลับได้ยินเสียงกระพือ
ปี กพึบพับ ตามด้วยเสียงคู
13
เธอหันหน้าไปเห็นนกพิราบตัวหนึงบนมืออันจิน เขาหยิบ
กระบอกไม้ไผ่เล็กๆ จากเท้านกพิราบ ก่อนดึงกระดาษ
แผ่นเล็กๆ ออกมาจากด้านใน หลังจากอ่านจบ ยิมมุม
ปากเล็กน้อย แล้วส่งแผ่นกระดาษให้เธอ “เซียวซือหลา
งอ่านสถานการณ์ขาดจริงๆ”
14
จะสอบถามไปตรงๆ
15
ตอนที 421 สัมพันธ์พันลึก
จู่ๆ อันจินก็ยมกระจ่
ิ างทัวหน้า “แต่ฆา่ เขาจะสุขกว่า
ทําลายเขาได้อย่างไร มีเพียงทําลายเขาเท่านัน จึงจะลบ
ล้างความเคียดแค้นมหาศาลจากใจข้าได้”
หรันเหยียนเองก็ไม่ใช่คนปลงตกได้ง่าย เธอจึงเข้าใจจิต
ใจของอันจินในยามนีอยูบ่ า้ ง แต่มนุษย์ตา่ งเห็นแก่ตวั
เธอฆ่าเขาไม่ลง แต่หากชีวิตของตนตกอยูใ่ นอันตราย
เธอก็ไม่อาจนิงเฉยรอความตายได้ เธอไม่ใจแข็งพอ ส่วน
อันจินจะเป็ นเหมือนกันหรือ
2
ลงข้ามกําแพงสูงอย่างง่ายดาย ดูทา่ วิทยายุทธ์คงไม่เลว
3
แสงแดดแผดเผาในฤดูรอ้ น เกือบจะถึงเวลาเทียงวัน แม้
จะอยูใ่ ต้ตน้ ไม้ หรันเหยียนเพียงถูไปพักหนึง เหงือก็ไหล
ท่วมตัว ปวดเมือยไปทัวร่าง แต่เชือกเส้นนันเพียงถลอก
4
ขณะเธอถูอย่างจริงจัง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงแผ่วๆ จึงอดเงย
หน้ามองไม่ได้ พลันเห็นคนสวมชุดขุนนางสีเขียวเดินมา
ทางนี
ในแสงอาทิตย์ ผิวพรรณยิงขาวราวหิมะ
“ซูฝ”ู หรันเหยียนหยุดการเคลือนไหว
หรันเหยียนยังนึกว่าจะต้องเดิมพันชีวิตกับอันจิน ยามนี
หลุดพ้น อดรูส้ กึ ผ่อนคลายไม่ได้ อย่างน้อยก็ยงั ไม่ถงึ ขัน
สุดวิสยั เช่นนัน
“ขอบคุณ” หรันเหยียนเอ่ยอีกครัง
8
“ขอบคุณมาก” หรันเหยียนไม่มีองครักษ์ขา้ งกาย กลับ
ไปคนเดียวก็คงไม่ดี ทําได้เพียงรอเซียวซ่งอยูท่ ีศาลต้าห
ลี
9
ปลอดภัย!”ขุนนางทีสวมชุดสีเขียวคนนันเหงือตกราว
สายฝน ดูทา่ ทางคล้ายถูกช่วยขึนมาจากนํา
หรันเหยียนลังเลชัวครู ่ แล้วเดินตามไป
10
เซียจิงทีรุดมาเช่นกัน
เหล่าองครักษ์หาคนไม่พบ เซียวซ่งทําได้เพียงคิดว่าตน
เองอาจคาดการณ์ผิด เพราะไม่มีเวลาตรวจสอบสถานที
เกิดเหตุให้ละเอียดกว่านี หากเขารูว้ า่ องครักษ์เหล่านัน
ไปตามทิศทางทีเขาบอกซึงอยูห่ า่ งจากทีซ่อนตัวของหรัน
เหยียนโดยมีกาํ แพงคันกลางเพียงไม่กีชัน แต่ไม่พบข้อ
สงสัย คาดว่าคงไม่มีสีหน้าอย่างในยามนี
12
“งานสําคัญกว่า มีเรืองอะไรกลับไปค่อยคุยกันเถิด” หรัน
เหยียนเอ่ย
เซียวซ่งพยักหน้า กุมมือหรันเหยียนเดินเข้าไปในวัง
ตะวันออก
13
“ขอรับ!” หัวหน้ากลุม่ องครักษ์รบั คําสัง แล้วสังให้คน
หนึงนําทางเซียวซ่งไปยังเก๋งรับลม
เดินจากระเบียงคดเคียวไป หรันเหยียนเห็นแต่ไกลว่ามี
ต้นเหอฮวานหนาแน่นหลายต้นอยูข่ า้ งเก๋งรับลม ท่าม
กลางความเขียวชอุม่ เมฆเรืองรองแผ่กระจายไปทัว
บดบังแผ่นป้ายทีอยูใ่ ต้เงาไม้ คล้ายมองเห็นอักษรสอง
ตัว ‘ชิงเฉวียน’ (นําพุใส)
14
ตอนที 422 ใครคืนศพสมบูรณ์ให้ข้าได้
เสียงพิณแหลมใสดังมาจากด้านในดังติง
1
ราวกับฤดูหนาวเย็นเยียบผ่านพ้นไป สรรพสิงงอกงามใน
ฤดูใบไม้ผลิโดยพลัน ไม่วา่ ใครทีได้ยินก็สมั ผัสได้ถงึ
ความหวังในจิตใจผูบ้ รรเลงผ่านบทเพลงนี คล้ายกับเขา
ก้าวพ้นความสินหวัง มองเห็นแสงสว่างแห่งความหวัง
“อันจินนัน...เฮ้อ!” เซียจิงถอนใจเบาๆ
ฝี มือการบรรเลงของอันจินเป็ นหนึงไม่มีใครเทียบเท่า
เริมแรกตอนทีเขายังอยูใ่ นกองงานสังคีต อายุยงั น้อยแต่
ฝี มือโดดเด่นยิงนัก
2
ทังกล้าหาญและชาญฉลาด วรยุทธ์สงู ส่ง...สิงเหล่านี
สวรรค์ไม่ได้มอบให้เขาด้วยความเมตตา แต่เป็ นเขา
กระตุน้ ตนเองอย่างไม่หยุดหย่อนในยามตกทีนังลําบาก
พยายามอย่างไม่ลดละและไม่ยอ่ ท้อ
กร๊อบ!
เสียงพิณหยุดทันใด ตามมาด้วยเสียงดังสนันในเก๋งรับ
ลม
3
กลินหอมจากดอกเหอฮวานโชยมาเป็ นระยะๆ ภายใน
เก๋งรับลม หลีเฉิงเฉียนถูกมัดนอนตะแคงอยูบ่ นตังนุ่ม
มองเศษไม้แหลกละเอียด สายพิณขาดสะบันเกลือนพืน
ด้วยความตืนตะลึง
อันจินถือกระบีเดินไปทางตังนุ่ม ฟั นเชือกทีมัดหลี
เฉิงเฉียนขาดกระจุย ก่อนยัดกระบีใส่มือเขา “ข้าให้
โอกาสท่านสังหารข้า”
“ปล่อยมือของท่าน” อันจินมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
4
“สัมผัสของท่านทําให้ขา้ สะอิดสะเอียน!”
5
นําตาของเขาไหลไปจนหมดสินนานแล้ว
7
เขาเคยเพ้อฝันนับครังไม่ถว้ นทีจะมีสมั พันธ์ทางกายกับ
อันจิน แต่ทีผ่านมาไม่เคยบีบบังคับ ความรักของเขา
บริสทุ ธิจวบจนบัดนี ไม่เคยแปดเปื อนด้วยความ
ปรารถนาทางกาย
แต่นาทีนี ความหวังของหลีเฉิงเฉียนเปรียบเสมือนพิณ
ในมือของอันจิน แหลกสลายไม่เป็ นชินดีอยูบ่ นพืน
8
กระทังบัดนี หลีเฉิงเฉียนจึงเข้าใจว่าทีแท้ความอ่อนโยน
นัน รอยยิมนัน ล้วนแต่เป็ นภาพลวงตา อันจินเกลียดชัง
เขา และมีเพียงความเกลียดชังเท่านัน
คนทีรออยูด่ า้ นล่างคิดว่าเสียเวลามากกว่านีไม่ได้แล้ว
เหอซือเจิงจึงสังให้คนตะโกนบอก
อันจินกําลังยกไหเหล้าบนโต๊ะขึนเท พอได้ยินวาจานี
พลันหัวเราะร่า หัวเราะจนมือทีกําลังเทเหล้าสัน เหล้าจึง
กระเซ็นเต็มโต๊ะ
9
เสียงดังซูซ่ า่ เป็ นเสียงเหล้ากัดกร่อนไม้บนโต๊ะ
อันจินถือไหเหล้ามือหนึง อีกมือหนึงถือชามเหล้าเดินไป
ริมหน้าต่าง
10
พออันจินปรากฏตัวริมหน้าต่าง เป็ นโอกาสเหมาะยิงนัก
แต่มือธนูถกู วาจาของหลีเฉิงเฉียนสะกดไว้ จึงไม่กล้ายิง
โดยง่าย
แต่ขณะทีเขาพูด อันจินเงยหน้าดืมเหล้ารวดเดียวหมด
แล้วยกมือเทให้ตนเองอีกถ้วย
12
หลีเฉิงเฉียนพุง่ ไปอย่างไม่คิดชีวิต แต่อนั จินไวกว่าราว
เหยียวทีเหาะลงมาจากเก๋ง
อันจินร่วงลงมาในเสียววินาทีนนั หรันเหยียนเห็นเขายิม
มุมปากอย่างชัดเจน ดวงหน้าฉลาดเฉลียวทีสะกดผูค้ น
นันเปรียบเสมือนปี ศาจร้ายทันใด
13
เสียงดังซ่า เขาสาดเหล้าไปทีมือธนู แสงเย็นสว่างวาบ
ตรงหน้า พลันหยิบกระบียาวออกมาจากแขนเสือราว
มารร้ายพุง่ สังหารไปท่ามกลางมือธนู
ธนูจะมีพลังทําลายล้างสูงภายในขอบเขตจํากัด ถูกยอด
ฝี มืออย่างอันจินคุกคามใกล้ตวั คล้ายมีเพียงความสูญ
เสีย
14
“ธนู” เซียวซ่งเอ่ย
มีคนส่งคันธนูพร้อมธนูขนนกสามดอกมาทันที หรันเหยี
ยนเม้มปาก ไม่พดู สักประโยค แม้อนั จินน่าเวทนา แต่ก็
ไม่อาจปล่อยให้ผบู้ ริสทุ ธิตายอย่างอนาถด้วยนํามือเขา
ไปมากกว่านีได้
หลีเฉิงเฉียนทีเพิงวิงลงมาจากเก๋งรับลม พอมองเห็น
สภาพอันจิน ก็พงุ่ เข้าไปอย่างไม่สนใจธนูมากมายหรือ
อะไรทังสิน
16
ตอนที 423 ดอกเหอฮวาน
“อันจิน!” หลีเฉิงเฉียนใช้มือทีไม่บาดเจ็บประคองร่างอัน
1
จิน
อันจินดวงตาแดงฉาน ยามมองเขาเห็นชัดว่ารันทดยิง
นัก “อย่าแตะต้องตัวข้า!”
หลีเฉิงเฉียนปล่อยตามวาจาเขา ตะโกนอย่างรีบร้อน
“เด็กๆ! ตามหมอหลวง!”
ในทีนันไม่มีใครขยับสักคน
“ไปสิ!” หลีเฉิงเฉียนตะโกนไปทางเซียวซ่ง
2
เซียวซ่งโบกมือให้องครักษ์คนหนึงไปเชิญหมอหลวง
หลีเฉิงเฉียนไม่ได้คาดหวังว่าจะให้มือธนูเหล่านันวาง
อาวุธลง เขาไม่รูว้ า่ เมือครูค่ นทีจะเอาอันจินให้ถงึ ตายคือ
เซียวซ่ง แต่สถานการณ์ตรงหน้านี ไม่วา่ ใครก็เดาได้วา่
3
เป็ นเรืองอะไร ทุกคนประจักษ์ชดั ในวิธีการจัดการของ
เซียวซ่ง แม้เขาจะเป็ นองค์รชั ทายาทก็ไม่ได้รบั การ
ผ่อนผันเป็ นพิเศษ ยิงกว่านัน เขาเป็ นองค์รชั ทายาทที
จวนเจียนจะถูกปลดเต็มที
ขณะทีหลีเฉิงเฉียนอึงมองอันจินล้มลง หยาดนําตาผสม
เลือดก็ไหลออกทางหางตา
4
อันจินมองเงาต้นเหอฮวานอันเลือนราง ครุน่ คิดว่า :
สังหารคนมากมายเช่นนี ตายไปแล้วคงตกนรกขุมทีสิบ
แปด คง...ไม่ได้พบคนสกุลต้วนแล้ว...
5
รับไม่ได้ ใช่สิ รับไม่ได้! ถึงให้เขาสังหารศัตรูทงหมด
ั ก็ยงั
นําร่างกายทีสูญเสียไปกลับคืนมาไม่ได้ รวมถึงความ
หวังทีสลายกลายเป็ นเถ้าธุลีไปแต่แรก
6
กรรมทีอันจินประสบช่างน่าเศร้าน่าเห็นใจ แต่ไม่อาจเข้า
ใจแนวคิดเรืองตระกูลทีสลักลึกเข้ากระดูกของคนใน
ราชวงศ์ถงั และไม่อาจเข้าใจอย่างลึกซึงว่า ร่างกายทีไม่
ครบส่วนนี ทําให้อนั จินทุกข์ทรมานเพียงใด
เซียจิงเข้าไปยืนยันว่าอันจินตายแล้ว จึงให้มือธนูวาง
อาวุธ ปลอบโยนหลีเฉิงเฉียนด้วยเสียงแผ่วเบา “องค์
รัชทายาท ทําใจเสียเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
7
พออันจินตาย ทุกคนก็วางใจ
ตลอดเวลาหลีเฉิงเฉียนปล่อยให้พวกเขาทําแผลราวท่อน
ไม้ แม้ดงึ ธนูออก เขาก็ไม่ขยับแม้แต่นอ้ ย
หัวใจเจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกินจนด้านชาไปทัวร่าง
“พระชายารัชทายาทมาแล้ว!” เสียงแหลมดังทําลาย
ความเงียบโดยพลัน
8
หรันเหยียนตะลึงชัวขณะ หลีเฉิงเฉียนรักอันจินมาก
เหลือเกิน จนเธอลืมไปแล้วว่ายังมีชายารัชทายาทอยูอ่ ีก
คน
หรันเหยียนหันกลับไปเห็นสตรีรูปงามสวมชุดแพรลาย
หรูหราสีนาเงิ
ํ นเข้มเดินมาจากระเบียง นางก้าวเท้าอย่าง
เร่งรีบ แต่ยงั คงความสง่าผ่าเผย
ชายารัชทายาทเดินตรงไปหน้าหลีเฉิงเฉียน เรียกเสียง
เบา “องค์รชั ทายาท”
หลีเฉิงเฉียนคล้ายไม่ได้ยิน
9
“องค์รชั ทายาท” พระชายาเรียกเสียงเบาอีกครัง
หรันเหยียนสงสารสตรีนางนีอยูบ่ า้ ง การแต่งงานของ
นางและหลีเฉิงเฉียนเป็ นผลพวงมาจากอํานาจ ความ
ร่วมมือและการปะทะของแต่ละฝ่ าย อํานาจของตระกูล
ผูกสองคนไว้ดว้ ยกัน ชีวิตนีลิขิตไว้แล้วว่ามิอาจแยกจาก
กัน
10
รัน ใครก็หา้ มไม่อยู่
เซียวซ่งไม่มีเวลามองความสัมพันธ์ยงุ่ เหยิงของพวกเขา
สังคนเก็บกวาดทีนีให้สะอาด แล้วนําทุกคนถอยออกไป
ท้ายทีสุดหรันเหยียนมองสามคนใต้ตน้ เหอฮวานแวบ
หนึง แล้วหันกลับเดินตามเซียวซ่งจากไป
12
สตรีสามารถใฝ่ หาไหล่ทีแข็งแกร่งไว้พงพิ
ึ ง มีทีพักพิงอัน
สงบ แต่การพึงพิงไม่ใช่การเกาะติด
13
ขอเพียงเป็ นคดีฆาตกรรม ก็มกั เป็ นโศกนาฏกรรมเกือบ
ทุกคดี หรันเหยียนรับรูเ้ รืองเศร้ามากมาย เรืองของอัน
จินเพียงเป็ นเรืองหนึงในนัน แต่อาจเป็ นเพราะตัวเขาเอง
โดดเด่นเกินไป ดังนันความบกพร่องจึงทําให้รูส้ กึ น่า
เสียดายยิงกว่า
ยามนีสิงทีหรันเหยียนพะวงมากกว่าคือหลีเต๋อเจียนมี
ส่วนในคดีนีหรือไม่ ฟั งจากอันจิน เริมแรกตอนทีหลีเต๋อ
เจียนแนะนําเขาให้องค์รชั ทายาท องค์รชั ทายาทไม่มี
วีแววชอบบุรุษเพศ อาจเป็ นเพราะอยากช่วยเหลือเขา
จริงๆ แต่ก็เป็ นไปได้วา่ หลีเต๋อเจียนประจบองค์
รัชทายาทโดยใช้อนั จินเป็ นเครืองมือ คาดไม่ถงึ ว่าต่อมา
จะถูกอันจินควบคุม เขาจึงถูกบังคับให้ช่วยอันจินฆ่าคน
ทิงศพ
14
หากเป็ นอย่างหลัง เช่นนันเขาก็กลายเป็ นตัวตลกจริงๆ
15
ตอนที 424 จะสบายใจได้อย่างไร
คดีนีเกียวพันในวงกว้าง มรสุมครังแล้วครังเล่าในวัง
ตะวันออก เว่ยอ๋องก็ไม่อยูอ่ ย่างสงบ คล้ายวางแผนก่อ
กบฏ มีสว่ นร่วมในคดีนี ปลุกปั นจนยุง่ เหยิง หมายโค่น
ล้มหลีเฉิงเฉียน
1
เฉิงเฉียนเฆียนจนตายจริง
ส่วนหลีเต๋อเจียนทีอยูใ่ นคุกพอได้ข่าวว่าอันจินตายก็
สารภาพทุกอย่าง เนืองจากเขารูเ้ รืองหลีเฉิงเฉียนทารุณ
ขุนนาง จึงรูส้ กึ ผิดหวังหลีเฉิงเฉียนยิงนัก ครุน่ คิดว่าจะ
ตัดขาดกับวังตะวันออกหรือไม่
หนึงวันก่อนไปท่องแม่นาฉวี
ํ เจียง อันจินนัดพบกับหลี
เต๋อเจียน เขาคิดว่าพบหน้ากันก็ดี จะได้สืบข่าววังตะวัน
ออกในระยะนี ดังนันจึงนัดพบอันจินทีริมฝังนําลับตาคน
ตอนพลบคํา
2
หนึงขับมา หลีเต๋อเจียนจําได้วา่ นีคือรถม้าทีอันจินนัง
เป็ นประจํา คิดไม่ถงึ ว่าพอรถหยุด อันจินจะลากห่อของ
ห่อใหญ่ลงมา
“อันซิน” อันจินตอบเสียงเรียบ
3
เฉิงเฉียน หน้าตาละม้ายคล้ายอันจินห้าหกส่วน
ก่อนหน้านีแม้ฐานะของพวกเขาต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่
พอได้พบก็รูส้ กึ เหมือนเพือนเก่า แม้ไม่ถงึ ขันเป็ นสหาย
สนิทสุด แต่ก็นบั ว่าสนิทสนมยิง
4
ตอนนันหลีเต๋อเจียนคิดว่าหากเขาโดนตอนเสียเอง จะมี
สภาพจิตใจเช่นไร ต้องพินาศย่อยยับแน่ ขณะเดียวกันก็
ต้องให้ทกุ คนพินาศย่อยยับตาม
แต่ไม่กีเดือนต่อมาเมือได้พบต้วนอวินไจ้อีกครัง เขา
เปลียนชือเป็ นอันจิน สีหน้าเรียบเฉยราวบ่อนําแห้งผาก
ไม่ใช่คณ
ุ ชายสง่าผ่าเผยทีเมือนึกครึมใจก็ถอดถุงเท้า
สยายผมเปล่งเสียงร้องเพลงได้คนนัน
หลีเต๋อเจียนค้นหาคนทีหน้าตาคล้ายเขาส่งเข้าวังตะวัน
ออกอย่างสุดกําลัง เขารูส้ กึ ผิด ในเมืออันจินได้รบั ความ
กระทบกระเทือนใจเช่นนี ก็ไม่อาจปล่อยเขาทอดกายให้
บุรุษเชยชมได้ อย่างน้อยก็ยงั รักษาเกียรติอนั น้อยนิดไว้
5
ได้
6
อันจินทําสงครามเย็นกับหลีเฉิงเฉียนครึงปี กว่า กระทัง
หลีเต๋อเจียนหาขันทีทีหน้าตาคล้ายเขามา ท่าทีเขาจึง
โอนอ่อนลงบ้าง
หลีเฉิงเฉียนตังชือให้เขาว่า ‘อันซิน’ทุกคืนหลังจากดับไฟ
ก็สงให้
ั อนั ซินมาปรนนิบตั ิในห้องนอน เพียงนอนกอดเขา
ไม่เคยมีทา่ ทางเกินเลยกว่านัน
ชายาของหลีเฉิงเฉียนได้ยินว่าเขากอดขันทีนอน ไม่ยอม
สนใจนาง นําตาไหลพรากทุกคืนวัน
7
เฉิงเฉียนก็ยิงฉุนเฉียวมากขึน
แล้วอันจินก็บอกหลีเฉิงเฉียนตามตรงว่าเขาเป็ นคนฆ่า
อันซิน
สําหรับหลีเฉิงเฉียน อันซินเปรียบเสมือนของทีระลึกต่าง
หน้าคนรัก หากคนรักบอกว่าทําหายไปขณะทีกวาดห้อง
แม้เขาจะรูส้ กึ เสียดายทีขาดอะไรไป แต่ไม่มีทางตําหนิ
ติเตียน
8
ขณะเดียวกันเซียวเซวียนจืออาศัยความสัมพันธ์หามา
ถึงวังตะวันออก เขาไม่เพียงมีหลักฐานทีหลีไท่วางแผน
ก่อกบฏ ยังบอกองค์รชั ทายาทว่ามีกองกําลังนักฆ่ากลุม่
หนึงนอกวังทีสามารถเรียกใช้งาน
หลีเฉิงเฉียนไม่สะดวกพบหน้าพวกเขา จึงฝากเรืองนีไว้
กับอันจิน
ช่วงเวลานันเป็ นช่วงทีตําแหน่งวังตะวันออกสัน
9
คลอนอย่างทีสุด จึงมีคนขยันมาตักเตือนมากกว่าทีผ่าน
มา
10
จงซูจ่ ือรัชทายาททีตายไปก็เพราะตักเตือนครังแล้วครัง
เล่า ยิงแอบได้ข่าวว่าหลีเฉิงเฉียนมีพฤติกรรมทารุณขุน
นาง จึงยืนหนังสือตักเตือน ตักเตือนสีครังไร้ผล เขาจึง
ยืนหนังสือเป็ นครังทีห้า
11
ตายสองคน หลีเต๋อเจียนจึงนัดพบอันจิน ผลคืออันจิน
ปฏิเสธทีจะพบเขา เขาจึงไปหาจงซูจ่ ือรัชทายาทผูน้ ีพา
กันไปดืมสุราทีเหลาจินโหลว สอบถามเรืองราวในวัง
ตะวันออก...
หากเซียวเซวียนจือไม่เข้ามาแทรกแซง หลีไท่ก็จะไม่ถกู
ดึงเข้ามาในคดีนี
……
หรันเหยียนจัดการเรืองราวตังแต่ตน้ จนจบอย่างชัดแจ้ง
รูส้ กึ ว่าวันเวลาสุขสบายของหลีไท่ใกล้ถงึ กาลอวสาน
12
ดูจากทีหลีเค่อลงแรงไปมาก แต่ไม่ได้หลักฐานการก่อ
กบฏของหลีไท่ เขาเป็ นคนทํางานรอบคอบยิงนัก จะโทษ
ก็ตอ้ งโทษตนเองทีเริมแรกดูเบาตงหยางฮูหยิน จึงเหลือ
ร่องรอยมากมายทีเก็บกวาดอย่างไรก็ไม่หมดสิน
หรันเหยียนปรึกษากับเซียวซ่งว่าพอเด็กๆ ฉลองอายุครบ
หนึงขวบ จะพาพวกเขากลับหลันหลิง โดยเซียวซ่งลา
งานส่งพวกเธอแม่ลกู กลับไป
13
รายงาน
14
หนึงวันเต็มๆ อีก เด็กทังสามยังอยูใ่ นช่วงห่างแม่ไม่ได้
ทุกครังร้องไห้นาตาไหลพราก
ํ ครังนียิงไม่ยอมให้เธอออก
ห่างแม้เพียงก้าวเดียว
15
ตอนที 425 เนรเทศ
"อาอวินมาหรือ" หรันเหยียนเห็นเด็กสามคนหยุดร้องไห้
จึงลุกขึนสนทนากับหรันอวิน
หรันอวินมองทารกน้อยน่ารักราวหยกสลักสามคน เบิก
ตาวาวจ้องพวกเธอก็ชอบใจนัก หลังทักทายหรันเหยี
ยนแล้วก็ยอ่ ตัวลงแหย่ทงสามคน
ั
เซียวเหล่าเอ้อร์ทีผ่านมาอารมณ์ดีทีสุด พักหนึงก็ยืนมือ
กลมป้อมคว้านิวนาง รัวรัวขนตายังเปี ยกชุ่ม ตบมือ
หัวเราะคิกอยูด่ า้ นข้าง เซียวเหล่าต้าร้องไห้เหนือยแล้ว ก็
นอนแผ่หราบนเตียง
1
หรันเหยียนมองเจ้าตัวน้อยทังหลาย แล้วยิมจนใจก่อน
นังลงตรงขอบเตียง
"คุยกันทีนีสักพักก่อนเถิด รออีกเดียวหากพวกเขาไม่
นอน ค่อยอุม้ ไปทีห้องโถง" ขณะหรันเหยียนเอ่ยวาจา
ก้มหน้ามอง รัวรัวกําลังคลานซวนเซมา จึงอดยิมยืนมือ
อุม้ นางขึนมาไม่ได้
2
วันนันหลิวชิงซงก็ได้ยินเรืองนี ตอนนันจึงให้คนมาถามที
เรือนสกุลเซียว ประจวบพบเซียวซ่งกลับบ้านพอดี จึง
บอกคนทีมาว่าไม่มีอะไรมาก ให้หลิวชิงซงวางใจ
ผลคือหลิวชิงซงก็วางใจจริงๆ หลังกลับบ้านเจ้าสาว ก็
พาหรันอวินออกไปท่องเทียว
"แค่ตกใจไร้เรืองราว" หรันเหยียนกล่าว
3
อย่างสกุลเซียวคงนับถือพุทธกระมัง เช่นนันก็หาพระ
ตบะสูงเถิด"
4
"ไปหลันหลิง?" หรันอวินชะงัก ก่อนผงกศีรษะทันที "ก็ดี
ระยะนีฉางอันไม่คอ่ ยสงบนัก…"
หรันอวินเอ่ยพลางเห็นว่าเซียวเหล่าเอ้อร์ดงึ แขนเสือนาง
พลางพูดอ้อแอ้ หรันอวินมองใบหน้าน้อยๆ ทีจํามํา ก่อน
ก้มลงถูแก้มกับดวงหน้าน้อยๆ ของเขา
หรันอวินกับหรันเหยียนเห็นท่าแล้วอดหัวเราะไม่ได้ รัวรัว
5
เห็นมารดาหัวเราะก็อยากหัวเราะตาม เห็นพีรองร้องไห้ก็
อยากร้องไห้ตาม รูส้ กึ ขัดแย้งกะทันหัน หัวคิวน้อยๆ
ขมวดมุน่
เซียวเหล่าเอ้อร์ได้ยินเสียงหัวเราะก็ชะงัก นําตานองมอง
ไปทัว ด้วยคิดว่ามีเรืองสนุกใด
หรันเหยียนเห็นลูกสามคนยังสดชืนแจ่มใส เลยให้แม่นม
อุม้ ไปทีห้องโถง
6
"อาอวินชอบเด็กเช่นนี ไม่นานก็มีได้" หรันเหยียนกล่า
วยิมๆ
7
ทีหรันอวินกล่าวถึงมองการณ์ไกลหน่อย หมายถึงหน้า
ตาลูกทีจะเกิดในวันหน้า
8
หรันเหยียนกระแอมทีหนึง เธอเรียกร้องไม่ตาํ แต่มีระดับ
การยอมรับสูง ไม่วา่ จะงามหรืออัปลักษณ์แค่ไหน เธอก็
ไม่ตะลึงลาน หากคํานวณตามสรีระร่างกาย หลิวชิง
ซงต้องการส่วนใดก็มีสว่ นนัน ปกติยงิ สัดส่วนเครืองหน้า
ก็ปกติ เธอเลยพูดว่าหลิวชิงซงหน้าตาใช้ได้ โดยไม่มีแรง
กดดันสักนิด
9
ก็หอมฟอดคนละทีทนั ใด หรันเหยียนยืนมือบังหน้ารัวรัว
"หลิวชิงซง ห้ามท่านทําอันธพาลกับลูกสาวข้า"
รัวรัวฉีกยิมให้เขา จากนันหันหัวซุกหน้ากับอกหรันเหยี
ยน
"แม่หนูแล้งนําใจ" หลิวชิงซงสีหน้าเจ็บชํา
เซียวซ่งก็เดินออกมาจากห้อง กล่าวต่อบทสนทนาเมือ
ครู ่ "ชิงซง หูขา้ งไหนของเจ้าได้ยินพีสะใภ้ดเู บาเจ้า? เป็ น
ภรรยาเจ้าประเมินตํากว่าชัดๆ"
10
"ฮ่าๆ" หลิวชิงซงยิมก่อนกล่าว "เรืองนีท่านไม่เข้าใจ นาง
เป็ นคนคิดคํานวณถึงส่วนได้สว่ นเสียขนาดนัน เมือได้
ของดีมาไหนเลยยอมป่ าวประกาศสูภ่ ายนอก?"
หรันอวินกลอกตา คร้านจะสนใจเขา
หรันเหยียนมองเซียวซ่งแล้วเม้มปากยิม ความหมายคือ
ในทีสุดก็รูว้ า่ โรคหลงตัวเองของท่านมาจากไหน
เซียวซ่งเลิกคิวนิดหนึง ก่อนยืนมือรับเซียวเหล่าต้าและ
เซียวเหล่าเอ้อร์จากมือแม่นม อุม้ เข้าห้องไปก่อน เจ้าหนู
ทังสองส่งเสียงอ้อแอ้คยุ ภาษาทีใครก็ฟังไม่รูเ้ รืองกับหลิว
11
ชิงซง
หลิวชิงซงแหย่พวกเขา ขณะเดินเข้าไป
สถานทีทีมีเด็กก็มีเสียงหัวเราะครืนเครง เด็กสามคนหน้า
ตาดียงิ กอปรกับพฤติกรรมน่ารักๆ ทีไม่เจตนาในบาง
ครัง ทําให้ทกุ คนหัวเราะเสียงดังลันในเวลาไม่นาน
ก่อนอาหารเทียง ป้อนอาหารเสริมให้เด็กสามคนก่อน
พอถึงเวลาอาหารเทียงหลังป้อนนมก็ให้แม่นมพาไป
นอนกลางวัน
พวกเขาจึงเริมกินอาหารเทียงกัน
12
พ่อครัวของเรือนสกุลเซียวเป็ นหรันเหยียนใช้ให้สงิ เหนียง
ฝึ กด้วยตนเอง รสชาติยอ่ มไม่เหมือนอาหารต้าถังดังเดิม
หลิวชิงซงกินอย่างถูกปากยิง ส่วนหรันอวินตาเป็ น
ประกาย จ้องอาหาร คล้ายเห็นเงินไหลมาไม่ขาดสายก็
ไม่ปาน
14
สองคนหารือเสร็จก็กลับห้องโถง ได้ยินเซียวซ่งกับหลิว
ชิงซงกําลังคุยเรืองคดี
"ตัดสินหนักไปแล้ว!" หลิวชิงซงกล่าวอย่างไม่พอใจ
หรันเหยียนสะดุดใจชัวขณะ หลิวชิงซงไม่มีทางห่วง
รัชทายาทและอันจิน คงจะพูดถึงหลีเต๋อเจียน
15
เพราะรักชอบคนเพศเดียวกัน...ชักนําผูส้ ืบทอดบัลลังก์
ให้หลงผิด โทษนีไม่เบาเลย หากมิใช่เห็นแก่หน้าแม่ทพั
ใหญ่ เกรงว่าคงยากเลียงโทษตาย"
เซียวซ่งมองหลิวชิงซงกราดเกรียวด้วยสีหน้านิงเฉย รอ
เขาพูดจบค่อยเอ่ยว่า "โมโหเสร็จแล้ว?"
16
หลิวชิงซงสูดหายใจลึก "เสร็จแล้ว แต่เรืองของเต๋อเจียน
แก้ไขไม่ได้แล้วหรือ"
"เขาโดนตัดสินโทษใดหรือ" หรันเหยียนถามแทรก
"เช่นนันรัชทายาทกับเว่ยอ๋อง…" หรันเหยียนถาม
18
หลิวชิงซงยิมหยัน "ยังจะเป็ นอะไรได้ ปิ ดประตูสาํ นึกผิด
น่ะสิ" เขาตอบจบค่อยคิดตามทัน "เว่ยอ๋องก็มีสว่ นใน
เรืองนีด้วยหรือ"
หรันเหยียนและหลิวชิงซงเข้าใจความหมายของเขา จึง
ไม่ถามมากความอีก
19
"ฟั งว่าพีสะใภ้เก้าจะกลับหลันหลิง ทูลฝ่ าบาทหรือยัง"
หลิวชิงซงถาม
หรันเหยียนยังแบกความรับผิดชอบสําคัญรักษาพระ
อาการองค์หญิงน้อย นีเป็ นสิงทีฮ่องเต้รบั สังด้วย
พระองค์เอง เธอจะไป ก็ตอ้ งให้พระองค์ทรงอนุญาต
20
ตอนนีเสือหงุดหงิดกว่าเดิม ใครกล้าไปกระตุกหนวดเสือ
พวกเขาคุยกันพักหนึง หลิวชิงซงกับหรันอวินค่อยจากไป
ผ่านไปหกวัน คดีสนสุ
ิ ดโดยสมบูรณ์
เซียวซ่งให้หรันเหยียนเข้าวังไปขอเฝ้าฮ่องเต้ ขออนุญาต
ลากลับบ้านทีหลันหลิง เหตุผลคือพ่อแม่สามีอยูใ่ นช่วง
21
ไว้ทกุ ข์ ไม่สะดวกมาฉางอัน เธอจึงอยากพาลูกสามคนก
ลับไปให้พอ่ แม่สามีดู
22
ตอนที 426 คลัง
รถม้าเคลือนไปถึงหน้าประตูวงั ขณะหยุดให้องครักษ์
ตรวจสอบฐานะ หรันเหยียนก็ได้ยินเสียงหลิวชิงซง "พี
สะใภ้เก้า ข้าไปกับท่านด้วย"
1
หรันเหยียนเลิกม่านรถ เห็นหลิวชิงซงสวมชุดขุนนางสี
เขียวควบม้ามา
2
หลิวชิงซงหัวเราะแห้งๆ หลายครา "ช่างเถิด จู่ๆ คุณผู้
หญิงหรันอ่อนโยนด้วยเช่นนี ข้ายากจะรับได้จริงๆ"
"ท่านสมควรโดนดีแล้ว" หรันเหยียนปล่อยม่านลง
ยามนีผ่านการตรวจสอบทีประตูแล้ว รถม้าจึงเริมเคลือน
ไปช้าๆ
3
เจ้าหน้าทีนําทางโบกมือสังคนยกเสลียงสองตัวมา "ทัง
สองท่านเชิญ"
หรันเหยียนส่งหีบยาให้เน่ยซือด้านข้าง ก่อนขึนนังบน
เสลียง
จากวังชันในถึงวังตะวันออกมีระยะทางประมาณหนึง
แต่โดยมากเป็ นทางทีมีตน้ ไม้รม่ รืน หรันเหยียนพักตางีบ
แม้แต่หลิวชิงซงปากเปราะ อยูใ่ นวังหลวงก็นิงไม่สง่ เสียง
สักแอะ
4
เหวกแว่วๆ แม้ฟังไม่คอ่ ยชัด แต่รูส้ กึ ได้วา่ มีคนไม่นอ้ ย
หรันเหยียนจึงลืมตา
หลิวชิงซงกระซิบว่า "ถึงวังตะวันออกแล้ว"
องค์หญิงจินหยางมาเยียมหลีเฉิงเฉียน เสลียงย่อมแบก
ไปยังทีพักของเขา
คําพูดนีหากไปเข้าหูหลีซือหมินและขุนนางราชสํานัก ผล
ทีตามมานึกดูก็รูไ้ ด้
เสลียงหยุดทีหน้าประตูเรือน หรันเหยียนลุกขึนยืนจัด
กระโปรงเสือผ้า รอเน่ยซือไปรายงาน
6
ซ่กกลับมา "เชิญเซียนเหลียงฮูหยินและหลิวอีเฉิง"
7
หรันเหยียนมองหลีเฉิงเฉียน เขาดูมีชีวิตชีวากว่าวันทีอัน
จินเสียชีวิตมาก ไม่ถกู สิ น่าจะบอกว่าดูคกึ คักเกินเหตุ
คนปกติทวไปไม่
ั มีวนั เผยสีหน้าผิดปกติเช่นนี
เน่ยซือทังหมดก็รบี เข้าไปรุมแย่งเนือแพะทันที
กินเนือแพะเสร็จ หลีเฉิงเฉียนก็นอนบนเสือข้างกระโจม
บรรดาเน่ยซือเห็นท่า ก็รบี ทิงเนือแพะทันควัน โผไป
8
ร้องไห้ฟมู ฟาย "ท่านข่าน! ท่านข่าน!"
เสียงเน่ยซือแหลมเล็ก ร้องไห้อย่างสมจริงสมจังราวปอด
ฉีกใจสลาย
เน่ยซือเห็นหรันเหยียนชักช้าไม่เดินต่อ จึงยกแขนเสือเช็ด
เหงือข้างจอนผม กระซิบเตือนว่า "เซียนเหลียงฮูหยิน
องค์หญิงอยูท่ ีเรือนน้อยฟากตะวันออก"
ยามนันหรันเหยียนจึงละสายตา ตามเน่ยซือเข้าเรือน
น้อยฟากตะวันออก
องค์หญิงจินหยางสวมชุดกระโปรงหรูฉวินสีเหลืองอ่อน
9
เท้าคางพิงโต๊ะ ครันเห็นหรันเหยียนและหลิวชิงซงเข้ามา
ก็เอ่ยว่า "เชิญฮูหยินและหลิวอีเฉิงนัง"
"ขอบพระทัยองค์หญิง"
"ขอบพระทัยองค์หญิง"
ทังสองค้อมกายขอบคุณ นังลงตรงทีนัง
องค์หญิงจินหยางนําตารืน "ก่อนหน้านีตอนอันจินยังอยู่
เสด็จพีไม่เคยเป็ นเช่นนี ทรงเป็ นเช่นนี ข้ากลัวเหลือเกิน"
หรันเหยียนก็ออกจะสงสารเด็กน้อยทีโตเร็วกว่าวัยผูน้ ี
เลยยินดีพดู กับนางมากขึนหลายประโยค "องค์หญิงไม่
ทรงเห็นเสด็จพีเล่นสนุกมากหรือ ผ่านไปสักระยะก็ดีขนึ
เพคะ เรืองทําให้คนตายคืนชีพสร้างเนือหุม้ กระดูก
หม่อมฉันทําไม่เป็ น ฉายาหมอเทวดาก็ดีแต่ชือเท่านัน"
11
จัดการงานเมืองเหมือนเสด็จพีคนอืนแล้ว ซือจือไม่กลัว
อยูค่ นเดียว แต่ซือจือกลัววันหน้าพีเก้าจะกลายเป็ น
อย่างเสด็จพีรัชทายาท"
หลิวชิงซงกล่าวหลังยิมตาหยี "องค์หญิงเผลอหลุดโอษฐ์
แล้ว! ก่อนหน้านีใช่ทรงดือไม่เสวยยาหรือไม่"
13
หมอหลวงเมือก่อนขมมาก แต่ยาของหมอยาซูกินง่าย
มาก ยาตัวหนึงยังออกหวานๆ ด้วย"
"อือ" องค์หญิงจินหยางวางแขนนุ่มเล็กบนผ้าขาวทีม้วน
ขึน
หรันเหยียนตรวจชีพจรพักหนึง ก่อนสอบถามสภาพ
บางอย่างจากนางกํานัลอย่างละเอียด
15
"ช่วงนีองค์หญิงพระวรกายแข็งแรงดี แต่ตอ้ งเสวยยาตรง
ตามเวลา ปกติระวังหน่อย พระอาการจะไม่กาํ เริบอีก"
หรันเหยียนบอก
องค์หญิงจินหยางแหงนหน้ามองหรันเหยียนครูห่ นึง
แสงจากด้านข้างส่องเข้ามาในตําหนัก แสงแดดอบอุน่
ยามเช้าส่องต้องร่างหรันเหยียน ใบหน้าเธอแฝงรอยยิม
น้อยๆ บนตัวมีกลินหอมของนม...
"เสด็จแม่…" องค์หญิงจินหยางเอือมมือคว้าแขนเสือ
หรันเหยียน เรียกพึมพํา
16
องค์หญิงก็ทาํ ลายความฝันนาง "องค์หญิงทรงเสียกริยา
แล้ว นีคือเซียนเหลียงฮูหยินเพคะ"
หรันเหยียนเห็นนางขอบตาแดงเรือ จึงบอกอย่างอ่อน
โยนว่า"ตอนนีมารดาของซือจือต้องเป็ นนางฟ้าแล้วแน่
นอน"
17
จึงไม่กล้าเอ่ยปาก
"เช่นนันคืนนีข้าจะบอกท่านแม่ ขอให้เสด็จพีรัชทายาท
ฟื นตัวเข้มแข็งโดยไว" ดวงตาองค์หญิงจินหยางโค้งเป็ น
จันทร์เสียว ข้างแก้มปรากฏลักยิมรางๆ น่ารักเป็ นพิเศษ
18
องค์หญิงจินหยางฉลาดกว่าวัยมาก แต่นางถูกหลีซือหมิ
นปกป้องคุม้ ครองดียงิ ความคิดจิตใจจึงใสบริสทุ ธิ เข้า
ใจเรืองบ้านเมือง แต่ไม่เข้าใจหัวใจคน
หรันเหยียนห่วงเจ้าตัวน้อยสามคนทีบ้าน จึงขอตัวกลับ
ก่อน องค์หญิงจินหยางชอบความเป็ นเพศแม่ทีหรันเหยี
ยนเผลอแสดงออก แม้อาลัยไม่อยากให้หรันเหยียนจาก
ไป แต่เข้าใจเหตุผลว่าเจ้านายกับข้ารับใช้มีความแตก
ต่าง จึงไม่เอาแต่ใจฝื นรังไว้ ให้นางกํานัลคนสนิทส่งหรัน
เหยียนออกไปด้วยตัวเอง
19
เด็กทีรูจ้ กั ละเอียดอ่อนใส่ใจเช่นนี เดียวดายอยูห่ ลัง
กําแพงวังแห่งนี ช่างชวนให้คนปวดใจนัก
หรันเหยียนออกจากเรือนน้อยฟากตะวันออก ยามผ่าน
ลาน เสียงจอแจอึงมีเงียบไปแล้ว สภาพระเนระนาดทัว
ลานถูกกลีบดอกไม้โปรยปรายร่วงกลบครึงหนึง
สายลมโชยม้วนกลีบดอกไม้ ร่วงหล่นเงียบๆ
หรันเหยียนเผลอมองไปทางหอชิงเฉวียนแวบหนึง
หรันเหยียนกําลังจะหันหลังจากไป กลับได้ยินเสียงแตก
พร่าของหลีเฉิงเฉียนดังมา เธอเห็นหลีเฉิงเฉียนมองมา
21
ทางตน จึงแน่ใจว่าถ้าเขาไม่พดู กับเธอ ก็พมึ พํากับตัวเอง
22
"หยุดนะ!"
23
ตอนที 427 ไป
1
เดียว
หรันเหยียนไม่ยินดีอยูใ่ นสถานทีมากความเช่นนีนาน
เมือได้รบั อนุญาตเลยรีบจากไป
หรันเหยียนทีเดินออกไปไกลไม่กีจัง ได้ยินพระชายาเอ่ย
คําพูดประโยคนีด้วยนําเสียงเรียบเฉย
สีหน้านางไม่ตา่ งอะไรกับเมือครูเ่ ลย
4
สง่าไร้ตาํ หนิ เฝ้าดูผคู้ นและเรืองราวในวังอย่างเฉยชา
เขาตาย นางตาย เขาอยู่ นางก็อยู่
5
หรันเหยียนชะงัก เงยหน้าเผชิญกับดวงหน้าหล่อเหลา
แฝงรอยยิมน้อยๆ ของเซียวซ่ง
หรันเหยียนขึงตามองเขาทีหนึง ก่อนจูงมือเขาเข้าประตู
ท่ามกลางสายฝนเทกระหนํายากนักจะมีช่วงเวลาที
อบอุน่ และสงบสุข
7
ฝนตกซูๆ่ ใส่รม่ กระดาษเคลือบนํามันเสียงดังกระหึม
หรันเหยียนแว่วเสียงเด็กร้องไห้ ตอนแรกเธอยังคิดว่าหู
ฝาด แต่ยงเข้
ิ าใกล้เสียงร้องไห้ก็ยงดั
ิ ง เธออดไม่อยูย่ ก
เท้าเหยียบเซียวซ่งอย่างแรงทีหนึง "เซียวเยวียจือ! ลูก
ร้องไห้อยูจ่ ริงด้วย!"
8
"ฮูหยิน!" หวันลวีเห็นหรันเหยียน สีหน้าจึงเปี ยมแววยินดี
หรันเหยียนมองไปทางรัวรัวอย่างตืนเต้นดีใจ "ลูกจ๋า
9
เรียกท่านแม่อีกทีซิ"
เซียวเหล่าต้าก็ไม่ยอมน้อยหน้าเรียกบ้างว่า "ท่านแม่"
ท่าทางน้อยอกน้อยใจของเขาทําให้ทกุ คนในห้องชอบอก
ชอบใจ เซียวเหล่าเอ้อร์เห็นคนอืนยิมกัน เขาก็ยมตาม
ิ
ด้วยสีหน้าหลากใจ
หรันเหยียนหอมลูกชายสองคน แล้วหันไปสังแม่นมให้
ป้อนนําอุน่ แก่เด็กๆ ก่อน
หวันลวีป้องปากแอบยิม นางเองดูออกว่าหรันเหยี
ยนกําลังโมโหเซียวซ่ง จึงกระซิบว่า "ฮูหยิน อย่าได้โทษ
นายท่าน นายน้อยทังหลายไม่วา่ จะกล่อมอย่างไรก็
ร้องไห้ไม่หยุด นายท่านอยูท่ ีนีบ่าวกับแม่นมไม่กล้า
เขยือนเคลือนไหว พวกนายน้อยร้องไห้พกั หนึงเล่นพัก
หนึง คิดแล้วไม่น่าจะเสียสุขภาพเจ้าค่ะ"
12
นะ!
ในเมือปรักปรําผูอ้ ืน หรันเหยียนกล่อมลูกเสร็จจึงได้แต่
ไปกล่อมพ่อของลูกต่อ
หรันเหยียนไม่สนใจว่าเขาพูดอะไร ก้มหน้าจุมพิตริม
ฝี ปากเขาอย่างรวดเร็ว
เซียวซ่งพลันงงงวย ในหูได้ยินเสียงสูดหายใจรอบด้าน
ชัดเจน หน้าแดงแจ๋ถงึ ใบหู กะทันหันจนนิงปล่อยให้หรัน
13
เหยียนจุมพิตอย่างลึกซึง
หนึงจุมพิตจบลง จึงเห็นว่าสาวใช้ในห้องถอยออกไป
เงียบๆ แล้ว มีแต่รวรั
ั วทียังอยูใ่ นอ้อมอกเซียวซ่งลืมตา
แป๋ วมองสองคนอย่างสนใจใคร่รู ้
เซียวซ่งกระแอมสองทีอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนส่งรัวรัว
ให้หรันเหยียน
14
……
องครักษ์หลายร้อย คนรับใช้หลายสิบ...คนทังคณะเดิน
15
ออกไป ช่างเอิกเกริกใหญ่โต ทว่าจนใจทีลดไม่ได้
เมือเตรียมการทังหมดเรียบร้อยก็รอแค่ให้ฝนหยุดถนน
แห้ง
16
หรันเหยียนพยักหน้า เห็นเกอหลันกําลังจะถอยออกไป
จึงเอ่ยปากเรียก "เกอหลัน"
17
เกอหลันเงียบไปครูห่ นึงก่อนตอบว่า "บ่าวกําลังคิดขอ
ร้องฮูหยินเรืองหนึง"
"พูดเถิด" หรันเหยียนกล่าว
เกอหลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึง "คุณชายหลีถูกเนรเทศ
บ่าวอยากตามไปทีม่อเป่ ยเจ้าค่ะ"
หรันเหยียนเดาความคิดเกอหลันได้ ก่อนหน้านีฐานะ
ของพวกเขาห่างกันราวฟ้ากับดิน แม้มารดาของของหลี
18
เต๋อเจียนมีชาติกาํ เนิดตําต้อย แต่วนั นีไม่เหมือนวันวาน
หลีจิงกับนางแส้แดงเป็ นสามีภรรยาในช่วงกลียคุ ยาม
นันผูค้ นถูกราชสํานักขูดรีดข่มเหงอย่างหนัก รูว้ นั นีไม่รู ้
วันพรุง่ ไหนเลยมีเวลาว่างไปติฉินพวกเขา แต่ยามนีบ้าน
เมืองสงบสุขรุง่ เรือง ฐานะของเกอหลันจึงไม่สมกับหลี
เต๋อเจียน
หลีจิงเดิมทีก็มีอนั ตรายเพราะสร้างความชอบไว้มากจน
ทําให้เจ้านายหวาดระแวง การแต่งงานกับสกุลตูเ้ ป็ น
เรืองทีกําหนดไว้นานแล้ว ตอนนีในเมือถอนหมัน เป็ นไป
ได้มากว่าเขาคงทําตัวไม่ให้เป็ นจุดเด่นเหมือนเคย ไม่
เลือกคุณหนูตระกูลใหญ่มาเป็ นภรรยาของลูกชาย
หรันเหยียนคืนฐานะราษฎรทัวไปแก่เกอหลันแต่แรก
19
หากนางร่วมทุกข์กบั หลีเต๋อเจียน วันหน้ากว่าครึงสกุล
หลีน่าจะยอมรับนางเป็ นภรรยาหลวงอย่างถูกต้อง
หรันเหยียนไม่ได้มีประสบการณ์ความรักมากมายนัก แต่
ก็เห็นว่าเกอหลันช่างเก็บความรูส้ กึ เก่งเหลือเกิน จึงถอน
ใจก่อนกล่าวว่า “ได้ เจ้าไปเถิด ค่าเดินทางไปเบิกจาก
ห้องบัญชีเอา จะใช้เท่าไรก็เบิกไป เดินทางอยูภ่ ายนอก
เงินทองไม่อาจขาดแคลน”
20
อหลันโขกศีรษะเคารพหรันเหยียนเต็มพิธีการ
นับจากเกิดเรืองจนถึงตอนนี หรันเหยียนไม่เคยถามเก
อหลันว่าเคยหักหลังตนไหม เธอตัดสินได้เองจาก
เบาะแสต่างๆ เกอหลันคงทําเรืองบางอย่างลับหลังเธอ
แต่วา่ เรืองเหล่านันไม่ถงึ กับนับว่าทรยศหักหลัง เธอจึงไม่
จําเป็ นต้องเค้นถามให้มากความ
……
21
“หลันหลัน” รัวรัวตาโตจ้องเกอหลัน เรียกด้วยเสียงน่ารัก
แบบเด็กๆ
เกอหลันขอบตาแดงเรือ กุมมือน้อยของเด็กหญิงเบาๆ
“คุณหนูนอ้ ย วันหน้าบ่าวค่อยกลับมาเยียมท่านนะเจ้า
คะ”
22
เด็กสามคนมองนางอย่างแปลกใจ เซียวเหล่าเอ้อร์ตบ
มือจ้อย เอ่ยว่า “แมวใหญ่ แมวใหญ่”
ปกติเวลาพวกเขาร้องไห้ หวันลวีจะบอกว่าพวกเขาเป็ น
แมวลายตัวใหญ่ หวันลวีได้ยินเช่นนี ก็หวั เราะทังนําตา
เช็ดนําตาสะเปะสะปะ “คุณชายรองตัวเล็กแค่นีก็รูจ้ กั ล้อ
บ่าวแล้ว”
23
ตอนที 428 สุดยอดบ้านมารดา
ลมสารทพัดเกรียวอากาศหนาวเย็น ใบไม้แห้งทับถมเต็ม
พืน บนนันมีนาค้
ํ างแข็งสีเงินเกาะพราวอยูช่ นหนึ
ั ง ระยิบ
ระยับในแสงแดด
ส่วนเกอหลันก็มีความรูส้ กึ ขัดแย้งในใจต่อหรันเหยียน
จากใช้ประโยชน์ในตอนแรกจนค่อยๆ ยอมรับนับถือ
นางยอมตายเพือหรันเหยียนคนเก่า แต่ไม่แน่วา่ จะยอม
ตายเพือหรันเหยียนในตอนนี กอปรกับยากยอมรับว่ามี
คนยึดครองร่างเจ้านายเดิม จวบจนยามนีจึงกึงภักดีกงึ
รักษาระยะห่าง
เกอหลันทีหรันเหยียนได้ฟังจากคําบอกเล่าของหวันลวี
เป็ นสตรีทีคล่องแคล่ว เข้าสังคมเก่ง มีความคิดเป็ นของ
ตัวเองสูง แต่หลังถูกกักขังสองปี ความทุกข์ทีถูกกักกัน
เมือได้รูว้ า่ เจ้านายทีตนทุม่ เททุกสิงปกป้องได้ตายไปแล้ว
นิสยั นางก็เปลียนเป็ นเย็นชาขึนมาก และยิงโหดเหียม
2
รวมถึงการปฏิบตั ิตอ่ ตนเอง
หรันเหยียนให้หวันลวีและสิงเหนียงส่งเกอหลันออกจาก
เรือน เธอมองส่งเงาหลังพวกนางจากไป ค่อยให้แม่นม
อุม้ เด็กๆ เข้าห้อง
3
“รีบเชิญเขาไปทีห้องโถงเร็วเข้า” หรันเหยียนตะโกนเรียก
แม่นมกลับมา ก่อนพาเด็กๆ ไปทีโถงรับรอง
“เรียกอาหญิง” หรันอวินเซิงก้มหน้ายิมอ่อนโยน
“อาหญิง” เด็กน้อยออกเสียงชัดแจ๋ว
4
“ชิงเอ๋อร์ฉลาดจริงๆ” หรันเหยียนกุมมือป้อมเล็กจิวของ
เขา แล้วสังคนไปห้องครัวทําอาหารเสริมทารกทีเด็กๆ
ชอบกินมา จากนันเข้าไปในห้องพร้อมหรันอวินเซิง
เด็กน้อยสามคนข้างกายหรันเหยียนปกติกวนเก่งนัก
ยามนีกลับไม่สง่ เสียง แต่ละคนตาโตจ้องชิงเอ๋อร์
อย่างอยากรูอ้ ยากเห็น นีเป็ นครังแรกทีพวกเขาเห็นเด็ก
คนอืน
เซียวเหล่าเอ้อร์ตะโกนอืออาสะเปะสะปะมัว ใครก็ฟังไม่
5
รูเ้ รือง แต่ชิงเอ๋อร์ถงึ กับฉีกยิมร่า
มีคนบอกว่าโลกนีคนสามประเภทซึงน่ากลัวทีสุดคือเด็ก
ผูห้ ญิง และคนบ้า เพราะพวกเขาไม่ทาํ ตามตรรกะ หรัน
เหยียนกลับเห็นว่าเด็กมีตรรกะพิเศษเฉพาะของตน และ
เธอยินดีมากทีจะศึกษา
6
เขาไปกินทีโถงด้านข้าง
หรันอวินเซิงยังมองหรันเหยียนด้วยสายตาดุจเดิม ใน
ความอ่อนโยนแฝงแววรักใคร่ตามใจน้องสาวรางๆ “ได้”
หรันอวินเซิงมองหรันเหยียน ดวงตาขาวและดําชัดเจน
ของเธอ ยังออกลุม่ ลึกติดเย็นชาเล็กน้อย แต่รอยยิมไป
ถึงคิวและหางตา ไม่แข็งกระด้างเย็นชาเหมือนเมือก่อน
9
ช่วงนีในราชสํานักมีเหตุพลิกผันยากคาดเดา โหดร้ายยิง
ชวนให้คนจิตใจอ่อนล้าเหนือยหน่าย ด้วยเหตุนีเลยพัก
เรืองนีไว้ชวคราว
ั เรืองออกจากชนชันพ่อค้า ย่อมไม่มี
ปั ญหา หากอยากรับราชการ ก็น่าจะไม่มีปัญหาเช่นกัน
เพียงแต่ตาํ แหน่งคงจะตําสักหน่อย”
“อาสามไม่ควรหมดเงินกับทางซูโจว เลียงพวกเนรคุณ
กลุม่ นัน! ตอนนีอาสามยังให้เงินพวกนันอีกหรือไม่”
หรันเหยียนนึกโกรธ ตอนแรกหากสกุลหรันยอมทุม่ เทปก
10
ป้องสุดกําลัง ครอบครัวหรันผิงอวีจะตกตําสูช่ นชันพ่อค้า
ได้อย่างไร ถึงอย่างไรตระกูลใหญ่มากมายก็มีการค้าทัง
สิน แม้แต่สกุลเซียวก็มี มิเช่นนันทังเบืองบนเบืองล่าง
ของตระกูลกินลมหรือ!
11
แรก!”
12
น้อยมาก แทบนับได้วา่ ขีดเส้นแบ่งชัดเจนกับสกุลหรัน
ยอมกระทังให้สกุลหรันย้ายชือไปยังบ้านสายรองทีเสือม
ถอยแทบไร้คนในครอบครัว แม้จะยังไม่พน้ จากลําดับ
เครือญาติ แต่ก็แทบละเลยไม่นบั ได้ หลายปี นีทีผ่านมา
เขายอมกลํากลืนกับความโลภโมโทสันของสกุลหรัน ก็
เพือไม่ให้โดนขับจากตระกูล ตายไปจะได้ไม่กลายเป็ นผี
วิญญาณเร่รอ่ น
สําหรับตระกูลใหญ่ความสําคัญของผูม้ ีความสามารถไม่
14
ต้องบอกก็รูไ้ ด้ บางครังตระกูลหนึงมีขนุ นางระดับสูงคน
เดียว ก็สามารถนําพาคนทังตระกูลให้เจริญก้าวหน้า
อย่างตระกูลของฝางเสวียนหลิง เดิมทีเป็ นแค่ตระกูล
บัณฑิตทัวไป ให้กาํ เนิดเสนาฯ คนหนึงก็เบียดขึนเป็ น
ตระกูลชนชันสูงในฉางอันทันใด
15
“อาเหยียน เจ้าจะทําอะไร” หรันอวินเซิงเห็นเธอจู่ๆ สี
หน้าเย็นเยียบ จึงสะดุง้ ตกใจ “อย่าทําอะไรสุม่ สีสุม่ ห้า
ข้ากับท่านแม่กล่อมท่านพ่อให้ปล่อยวางแล้ว เจ้าอย่าได้
ทําเรืองโง่ๆ เชียว”
“พวกเขามิใช่ชอบข้ามแม่นารื
ํ อสะพานหรือ ก็ให้พวกเขา
รือสะพานอย่างข้านีด้วย รอข้าไปถึงหลันหลิงจะหา
โอกาสตัดสัมพันธ์กบั สกุลหรัน ถึงอย่างไรหลังข้าตายก็
ฝังในสุสานสกุลเซียวอยูแ่ ล้ว!” หรันเหยียนกล่าว
16
“สกุลหรันเราใช่เข้าตาสกุลเซียว!ระยะนีเกรงว่าสกุล
เซียวคงเห็นโฉมหน้าตําช้าไร้ยางอายของสกุลหรัน
ชัดเจนแล้ว เก็บเนือร้ายเช่นนีไว้อาจทําให้พวกเขาด่าง
พร้อยได้ทกุ เมือ สมควรตัดครังเดียวให้ขาด ขอแค่สกุล
เจิงยังยอมรับมารดาข้า ยอมรับข้า ข้าก็ไม่นบั ว่าไร้พืนเพ
เบืองหลัง” หรันเหยียนสุม่ ยกตัวอย่างหลายข้อ ต่างมี
เหตุผล ไม่จาํ เป็ นต้องไปแต่งเรืองราวอืนอีก
17
ผลประโยชน์ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลใหญ่พวั พันซับ
ซ้อน แม้การรับสกุลเจิงเป็ นญาติสนิทจะไม่ใช่วิธีทีดีนกั
แต่อย่างน้อยสกุลเจิงก็สาํ รวมตน ไม่ทาํ เรืองเสือมเสีย
ฐานะ
“สกุลเจิงก็หมายเกียวดองกับสกุลเซียว ในเมือพวกเขามี
ความต้องการ ข้าก็มีคณ
ุ สมบัติจะคุยเงือนไข เรืองยัด
เยียดคนใช่วา่ จะต้องเกิดแน่ สิงสําคัญยิงกว่าคือ เซียวเย
18
วียจือไม่ใช่เครืองประดับทีตังไว้เฉยๆ จะส่งคนมาข้าง
กายเขาก็ตอ้ งดูวา่ เขายินยอมไหม” หรันเหยียนเชือมัน
เซียวซ่ง คิดว่าอย่างเลวร้ายทีสุด หากเขาไม่ยินยอมแต่
จําใจถูกบังคับ ก็ใช้วิธีนนที
ั เธอเคยเอ่ยถึง หากเขา
ยินยอม เช่นนันก็จดั การง่ายยิงกว่า เธอก็แค่แอบพาลูกๆ
ไปใช้ชีวิตกันเอง
“ตรองดูให้ละเอียดรอบคอบอีกหน่อยเถิด” หรันอวินเซิง
คิดไม่ถงึ ว่าหรันเหยียนจะมีปฏิกิรยิ ารุนแรงขนาดนี เขา
เริมเสียใจทีพูดเรืองนีบ้างแล้ว
19
หรันอวินเซิงออกจะแปลกใจ แม้แต่เรืองเช่นนีก็กล้าบอก
เซียวซ่ง? แต่เห็นสีหน้าหรันเหยียนปกติยิง แสดงชัดว่า
ความสัมพันธ์สามีภรรยาของพวกเขาดียงนั
ิ ก หรันอวิน
เซิงจึงเบาใจไปมาก
หรันเหยียนดืมชาอึกหนึง ก่อนพลันนึกถึงเรืองหนึงขึนได้
“พีสิบเคยคิดอยากตบแต่งภรรยาหลวงอย่างถูกต้องหรือ
ไม่ หรืออาจให้เอ่อร์ตง...ถึงอย่างไรชิงเอ๋อร์ก็ถงึ วัยจดจํา
คนใกล้ชิดแล้ว”
หากมีแม่ใหญ่ ต้องใช้เวลาสร้างความผูกพันถึงได้
20
“ชาตินีข้าไม่มีความคิดเห็นเป็ นอืนอีก เอ่อร์ตงรู ้
กาลเทศะ เข้าใจเหตุผล จิตใจดีงาม ข้าได้เป็ นภรรยาก็
เป็ นโชควาสนา” หรันอวินเซิงตอบยิมๆ
21
ตอนที 429 ผู้แซ่เซียวแบบอย่างผู้หน้าเนือใจเสือ
หรันเหยียนยังนับว่าเข้าใจหรันอวินเซิง เขามีความรับผิด
ชอบสูง เปลือกนอกดูแล้วอย่างไรก็ได้ แต่ในใจเมือยึด
มันกับเรืองและคนใด ชัวชีวิตอาจไม่มีวนั เปลียนแปลง
อีก เอ่อร์ตงอาจได้รบั ความห่วงใยเอาใจใส่และความ
อ่อนโยนจากเขา แต่เกรงว่าคงไม่มีวนั ได้รบั ความรักจาก
เขาตลอดกาล
เซียวซ่งให้หรันอวินเซิงนังลง ครันหันไปเห็นหรันเหยี
ยนอารมณ์ผิดปกติ จึงอดถามไม่ได้ "ทําไม ใครยัวโมโห
2
ท่านหรือ"
หรันเหยียนตอบ "เรืองนีสายหน่อยข้าค่อยหารือกับท่าน
ท่านเป็ นเพือนคุยกับพีสิบก่อน ข้าจะไปดูเด็กๆ หน่อย
แล้วจะให้คนไปเชิญหลิวอีเฉิงกับอาอวินมากินข้าวเทียง
ด้วยกัน"
เรือนของหลิวชิงซงกับเรือนสกุลเซียวคันด้วยถนนสาย
เดียว โดยสารรถมานานทีสุดก็ใช้เวลาแค่สองถ้วยชา
"อือ" เซียวซ่งตอบ
ก่อนจะได้แต่งงานกับหรันเหยียน เซียวซ่งชอบไปบ้าน
3
สกุลหรัน ตอนนันส่วนใหญ่เป็ นหรันอวินเซิงต้อนรับ สอง
คนคนหนึงดุจปลาได้นาในวงการค้
ํ า คนหนึงกลอกกลิง
ในแวดวงขุนนาง ทังความรูแ้ ละวิสยั ทัศน์ตา่ งไม่ธรรมดา
นังด้วยกันย่อมไม่หว่ งว่าบรรยากาศจะกร่อยและอึดอัด
หรันเหยียนสังคนไปเชิญหลิวชิงซง จากนันก็ไปเล่นกับ
เด็กๆ ทีห้องด้านข้าง
บนพืนปูเบาะ เด็กสีคนเล่นของเล่นทีหลิวชิงซงทําให้อยู่
บนนันอย่างสนุกสนาน
ชิงเอ๋อร์นิสยั ไม่ยากตอแยเหมือนเจ้าตัวน้อยสองคนของ
หรันเหยียน เรียบร้อยเชือฟั งยิง ค่อนข้างเข้ากันได้ดีกบั
4
รัวรัว จึงต่อตัวต่อไม้ดว้ ยกันอย่างสามัคคีกลมเกลียว
เซียวเหล่าต้านอนเบือแผ่พงุ น้อยๆ อยูบ่ นเบาะพลางเล่น
ชายเสือของหวันลวี เซียวเหล่าเอ้อร์ก่อกวนไม่หยุด ชิง
เอ๋อร์กบั รัวรัวก่อตัวต่อไม้ได้นิดหนึง เขาก็เหมือนวัว 'พุง่ '
แทรกกลางมา เหลือไว้แต่ซากสิงของ
หรันเหยียนมองชิงเอ๋อร์ ก็เหมือนเห็นหรันอวินเซิงตอน
เด็ก นิสยั ดีเช่นกัน และยึดติดเหมือนกัน
5
"เด็กๆ อามาแล้ว!"
หรันเหยียนเงยหน้าเห็นหลิวชิงซงแบกห่อใหญ่หอ่ น้อย
เข้ามา จึงอดกล่าวไม่ได้ "พวกท่านมากันเร็วจริง"
หลิวชิงซงกระดีกระด๊าโผไปข้างรัวรัว ส่งห่อของใบน้อย
ให้เด็กๆ คนละห่อ เห็นชัดว่าเด็กพวกนีเติบโตมาโดยการ
ติดสินบนของหลิวชิงซง เมือรับห่อของ ก็รูจ้ กั เปิ ดออก
ทันที
6
หรันเหยียนเห็นรถม้าประณีตคันน้อย และสัตว์เล็กๆ จึง
อดถามไม่ได้ "ท่านไม่ใช่หมอหรือ ทุกวันไม่ตอ้ งทําการ
ทํางาน?"
หรันเหยียนยิมมุมปากเยาะเย้ย พอเห็นหรันอวินเข้ามา
ค่อยถอนใจโล่งอก ขณะจะอ้าปากเอ่ยคํา กลับถูกหรัน
อวินชิงพูดก่อนว่า "พีสิบเจ็ด ท่านว่าของทีสามีขา้ ทํา
เหล่านีเป็ นอย่างไรบ้าง เด็กๆ ชอบกันมากกระมัง ฮ่า ข้า
ว่าคืนนีจะสังคนไปทํา อีกสองวันจะซือหน้าร้านทีตลาด
7
ตะวันออกและตะวันตกสองแห่งมาขาย ต้องทํากําไรได้
มากแน่...มา ชิงเอ๋อร์ บอกอาซิวา่ ชอบไหม"
หรันอวินอุม้ ชิงเอ๋อร์ขนมาถาม
ึ
"ชอบ" ชิงเอ๋อร์เล่นรถม้าคันน้อยในมือไม่ยอมปล่อย
"ภรรยาท่านชอบทําการค้าหาเงินขนาดนี ไม่กลัวกระทบ
อนาคตราชการท่านหรือ" หรันเหยียนเห็นทางนีเล่นกัน
สนุกคึกคัก เลยหาเวลามาถามหลิวชิงซง
8
"ท่านคิดว่าข้าอยากเป็ นไท่อีเฉิงนีนักหรือ สํานักตรวจ
การรีบร้องเรียนข้าเลย! ร้องเรียนข้าเถิด!" หลิวชิงซงลูบ
จอนผม เลิกคิวกล่าว "ไม่ทาํ อะไรเลย เรืองกินดืมเฉยๆ ผู้
แซ่หลิวชอบทีสุด แต่จนปั ญญา ผูแ้ ซ่หลิวมีชือเสียงโด่ง
ดังเกินไป ถูกลิขิตว่าต้องทํางานหนักในตําแหน่งสูง ช่าง
เถิด สละข้าคนเดียว ส่งเสริมทุกคน"
9
พบเห็นแล้วหรือ ความจริงอาอวิน...นางทารุณกรรมข้า"
10
กล่าว "เหล่านันไม่ใช่สงที
ิ เดิมทีทา่ นสมควรทําหรือ"
ทีสตรีชาวถังดุรา้ ย นอกจากเพราะการแต่งงานของต้าถัง
ค่อนข้างอิสระเท่าเทียม สตรีชาวถังยังมีความเป็ นตัว
ของตัวเองสูง ไม่อยูโ่ ดยพึงพาอาศัยผูช้ ายเหมือนต้น
ฝอยทอง กล่าวอีกอย่างคือไม่มีผชู้ ายก็อยูไ่ ด้ไม่เลว
11
"การแต่งงานคือสุสาน เป็ นวลีเด็ดทีมีเหตุผลจริงดังคาด"
หลิวชิงซงถอนใจก่อนกล่าว
เซียวซ่งและหรันอวินเซิงได้ยินเสียงครืนเครงทางนี ก็พา
กันมา
13
"ท่านพ่อ ท่านพ่อ" รัวรัวเห็นเซียวซ่ง ก็รอ้ งเรียกอย่างยินดี
เซียวซ่งยิมก้มตัวลูบหน้ารัวรัว ทางเซียวเหล่าต้าและ
เซียวเหล่าเอ้อร์ฉวยโอกาสตอนแม่นมไม่ระวังตีกนั จน
ร้องไห้จา้
แม่นมสองคนรีบเข้าไปปลอบ
ไม่รูว้ า่ เสียงร้องไห้ของพวกเขาส่งอิทธิพลมากเกินไป
หรือเด็กๆ ชอบร้องไห้ดว้ ยกัน ชิงเอ๋อร์กบั รัวรัวจึงร้องไห้
ตาม
ตลอดบ่ายใช้เวลาอย่างรืนรมย์มีความสุข
จวบจนขอบฟ้าหมืนลีอาบแสงสายัณห์ตะวันรอน จึง
แยกย้ายกันไป
หลังหรันเหยียนอาบนําเสร็จ นังพิงบนเตียงถือใบ
รายการตรวจดูสงของที
ิ ต้องเอาไประหว่างเดินทางว่า
ครบถ้วนไหม
15
"วันนีฮูหยินอยากพูดสิงใดหรือ" ไม่รูเ้ ซียวซ่งอาบนําเสร็จ
เมือไร สวมเสือผ้าไหมแขนกว้างสีขาวนวล ผมดําขลับยัง
มีนาหยด
ํ
หรันเหยียนให้หวันลวีเอาผ้าแห้งสะอาดผืนหนึงเข้ามา
ช่วยเขาเช็ดผมพลางเล่าเรืองของหรันผิงอวี
เซียวซ่งกลับไม่ได้โกรธเคืองสักเท่าไร เรืองพรรค์นี
ระหว่างตระกูลใหญ่พบเห็นได้บอ่ ย ไม่ใช่เรืองแปลกใหม่
เพียงแต่จนถึงตอนนีสกุลหรันยังมองสถานการณ์ไม่
กระจ่าง แม้จะเพียงเกียวดองเป็ นญาติทางการแต่งงาน
สกุลเซียวไม่จาํ เป็ นต้องดูแลเป็ นพิเศษ ตระกูลใหญ่อืนๆ
ก็จะมองพวกเขาต่างออกไปด้วยเห็นแก่ความสัมพันธ์ชนั
16
นี แต่ละทิงสายป่ านเช่นหรันเหยียนนี ก็ช่างโง่เขลาเสีย
จริง
เซียวซ่งคิดเช่นนี แต่หรันเหยียนพูดว่าบ้านมารดาตนได้
เขากลับไม่สามารถ นีก็นบั เป็ นการไว้หน้าหรันเหยียน
หรันเหยียนไม่มีความผูกพันใดๆ กับบ้านและตระกูลนัน
แต่พยายามใช้คาํ อ้อมค้อมละมุนละม่อมกล่าวว่า "อือ
ท่านว่าอย่างไร ตระกูลเช่นนันอยูเ่ บืองหลังข้า ข้าใช่เพียง
ไม่รูส้ กึ มันใจ ยังต้องกังวลทุกเวลาว่าพวกเขาจะทําเรือง
17
เสือมเสียชือเสียง พวกเขาปฏิบตั ิกบั ข้าอย่างไร ท่านเอง
ก็เห็นจะแจ้ง สองปี นีทีสกุลเซียวดูแลพวกเขา ก็ถือได้วา่
ตอบแทนบุญคุณเลียงดูแล้วกระมัง"
18
"เช่นนีย่อมดียงิ แต่ขา้ ไม่อยาก…" ไม่อยากเกียวข้องกับ
ตระกูลเช่นนีเลยจริงๆ
19
หรันเหยียนถอนใจ "เทียบกับท่านแล้ว ข้ารูส้ กึ ว่าตัวเอง
ใจดีมีคณ
ุ ธรรมนัก"
"ข้าก็แค่เสนอความคิดเห็นเล็กน้อย รายละเอียดในการ
ปฏิบตั ิจริงยังต้องดูวา่ ฮูหยินคิดเห็นเช่นไร แต่การช่วยฮูห
ยินขจัดความกลัดกลุม้ เป็ นหน้าทีของผูเ้ ป็ นสามีอยูแ่ ล้ว"
เซียวซ่งโอบเอวเธอ ก่อนเปลียนเรืองว่า "ข้าว่าครังนีคง
จะไม่ได้ไปอีก"
20
"ทําไม ท่านได้ข่าวอะไรหรือ" หรันเหยียนถาม
21
ตอนที 430 งานเลียงในวัง (1)
หรันเหยียนเปิ ดจดหมายอ่านอย่างถ้วนถีรอบหนึง อด
กล่าวอย่างแปลกใจไม่ได้วา่ “มีคนคิดระรานสุสานของ
ท่านย่าหรือ เพราะอะไร”
“คงเพราะคลังทองคําของสกุลเซียวเรา” เซียวซ่งเห็นเธอ
เผยสีหน้าฉงน จึงอธิบายว่า “ตระกูลใหญ่ทวไปล้
ั วน
สํารองทรัพย์สมบัติไว้สว่ นหนึง หากตระกูลประสบความ
สูญเสียใหญ่หลวง ขอเพียงยังมีทายาท วันหน้าก็อาศัย
สมบัติจาํ นวนนียิงใหญ่ขนอี
ึ กครังได้ สถานทีซุกซ่อน
สมบัติของตระกูลเซียวเรา มีเพียงหัวหน้าตระกูลและ
ประมุขทายาทสายตรงแต่ละรุน่ ทีรู ้ ทว่าข้าก็พอรูอ้ ยูบ่ า้ ง”
1
เซียวซ่งเอนพิงเบาะนิมทีหัวเตียง กล่าว “ได้ยินว่ามี
แผนทีตกทอดกันมา แผนทีนีถูกแบ่งเป็ นส่วน ให้สะใภ้
ใหญ่ของตระกูลเก็บรักษา ทีข้ารูเ้ รืองเหล่านี เพราะครัง
ก่อนหลิงเซียงถูกฆ่า ฆาตกรมิเพียงหมายใส่รา้ ยท่านแม่
เกรงว่าจุดประสงค์ทีแท้จริงคือต้องการครอบครองแผนที
ในมือท่านย่า”
ยิงเป็ นตระกูลใหญ่ยงกลั
ิ ววันล่มสลาย ทรัพย์สมบัติที
เก็บไว้ตอ้ งไม่ใช่จาํ นวนน้อยๆ แน่
“แผนทีคงตกทอดลงมาถึงมือท่านแม่แล้ว เหตุใดยังต้อง
คิดไประรานสุสานอีก” หรันเหยียนไม่เข้าใจ
2
“ข้าเคยถามท่านแม่ ท่านบอกว่าเดิมทีในมือท่านมีอยู่
ส่วนหนึงจริง แต่สว่ นของท่านย่าไม่ได้มอบให้ทา่ น”
เซียวซ่งจับมือหรันเหยียนกล่าว “แต่นีก็ไม่เป็ นไร ฆาตกร
เพียงรูว้ า่ สกุลเซียวซุกซ่อนสมบัติไว้ แต่ไม่รูว้ า่ แผนทีแบ่ง
เป็ นหลายส่วนเช่นนัน ข้าเคยสํารวจปิ นอันนันของ
ท่านอย่างละเอียด เป็ นไปได้อย่างยิงว่าลวดลายบนปิ น
เป็ นส่วนหนึงของแผนที”
3
หรันเหยียนพลันเข้าใจ เหตุใดหลีไท่จงึ ร่วมมือกับชนชัน
สตรี แม้ดา้ นหนึงเป็ นเพราะตงหยางฮูหยินมีความ
สามารถจริงๆ อีกด้านหนึง เกรงว่าเป็ นเพราะนางเปิ ด
เผยว่าในมือมีแผนทีซุกซ่อนทองคําของสกุลเซียว หาก
หลีไท่หมายก่อกบฏ การลอบรวบรวมเงินทองโดยไม่ให้
ใครรู ้ ย่อมเป็ นเรืองสําคัญ
เซียวซ่งพยักหน้า “ในจดหมายไม่ได้บอกสถานการณ์
อย่างละเอียด ทว่าถึงอย่างไรสกุลเซียวข้าก็เป็ นต้นไม้
ใหญ่ตน้ หนึง หากให้หลีไท่ถอนรากถอนโคนง่ายดาย
4
เพียงนี ย่อมไม่ใช่สกุลเซียว ทีตระกูลบอกความเคลือน
ไหวนี ก็เพียงหมายเตือนพวกเรา เกรงว่าฉางอันจะไม่
สงบสุขเสียแล้ว”
“ตอนนีข้ากลับคิดว่า พวกเขาทีควรคิดกบฏก็คิดกบฏ ที
อยากชิงบัลลังก์ก็ชิงบัลลังก์ เหมือนธนูพาดบนสายเช่นนี
ง้างค้างอยูน่ าน ทําให้พวกเราทีอยูร่ อบข้างกังวลถูกลูก
หลง รุกก็ไม่ได้ถอยก็ไม่ได้ ยากทนรับได้จริงๆ” หรันเหยี
ยนถอนใจก่อนกล่าว
หรันเหยียนไม่กลัวเผชิญหน้ากับภัยสงคราม พวกเขาจะ
รัฐประหารหรือวางแผนปฏิวตั ิ ความจริงไม่เกียวกับเธอ
แต่ตอนนีมีคนปองร้ายพวกเธอทุกเวลา สถานการณ์ไม่ดี
จริงๆ ประวัติศาสตร์บนั ทึกว่าหลีเฉิงเฉียนกับหลีไท่ลม้
5
ล้างการปกครองยุคเจินกวานไม่ได้ แต่ไม่มีบนั ทึกปี เกิด
และตายของเซียวเยวียจือกับภรรยา ด้วยนิสยั ของเธอ
รูส้ กึ ว่ารีบจบความวุน่ วายนีโดยเร็วจะดีกว่า
ฝนหยุดสองวันแล้ว
เซียวซ่งยกเลิกการเดินทาง
เดิมทีไปหลันหลิงเพือหลบเลียงมรสุมการชิงตําแหน่ง
รัชทายาท แต่ตอนนีมีคนหมายปองทองคําทีซุกซ่อนไว้
ของสกุลเซียว หากพวกเขาบุม่ บ่ามเดินทาง ไม่แน่อาจ
ถูกลอบโจมตี ในเมืองฉางอัน แม้ไม่คอ่ ยสงบสุข แต่ถงึ
อย่างไรก็เป็ นเมืองหลวง ฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั ยังอยู่ นอก
จากคนบ้าเช่นอันจิน มิฉะนันไม่มีใครกล้าลงมือกับพวก
เขาอย่างเปิ ดเผยแน่
7
เพือไม่ให้สาํ นักตรวจการเอาผิดโทษฐานเท็จทูลเบืองสูง
เซียวซ่งทําได้เพียงถวายฎีกาให้ฝ่าบาท บอกว่าได้รบั ข่าว
จากทางบ้าน มีโจรผูร้ า้ ยปรากฏตัวละแวกหลันหลิง ตอน
นีแจ้งหน่วยราชการท้องถินให้จดั การ หากจัดการได้รวด
เร็ว พวกเขาค่อยออกเดินทาง ในเมือนําทารกทีอายุยงั
ไม่ถงึ หนึงขวบไปด้วย พบเหตุสดุ วิสยั เป็ นอันตรายยิง
จริงๆ
เหล่านางสนมในวังได้ยินแต่แรกว่าครอบครัวเซียวซือ
หลางหนึงท้องได้ลกู สามคน ล้วนอยากเห็นกับตา เพราะ
เรืองนีเหวยกุย้ เฟยจึงออกคําสังเป็ นพิเศษ อนุญาตให้ฮหู
ยินแต่งตังพาบุตรธิดาเข้าวังได้ ก่อนวันงานเลียงหนึงวัน
ยังจงใจสังคนไปบอกเรืองนีต่อหรันเหยียนด้วย
9
มีหรือหรันเหยียนจะไม่เข้าใจ แม้ใจไม่ยินยอม ก็ตอ้ ง
ปฏิบตั ิตาม
เวลาไม่เช้าแล้ว เซียวซ่งสวมชุดขุนนางสีแดงเอนกายบน
เบาะรองนัง หยอกเย้ากับบุตรชายสองคนทีแต่งตัว
เหมือนตุ๊กตานําโชค อมยิมมองเธอก่อนกล่าว “แค่งาน
เลียง พาลูกไปด้วย พวกเราก็มีขอ้ อ้างปลีกตัวออกมาเร็ว
หน่อยได้!”
10
ยังไม่กล้าก่อกบฏ เพราะเหตุนีจึงวางใจ
สถานทีรวมตัวของฮูหยินแต่งตังอยูค่ นละทีกับของข้า
ราชการ เซียวซ่งกล่าว “เพียงแต่ลาํ บากฮูหยินต้องดูแล
ลูกสามคน”
รัวรัวนังขัดสมาธิบนเบาะรองนังอย่างว่าง่าย ก้มหน้าเล่น
กระต่ายไม้แกะสลักตัวหนึง
11
แรกเริมพ่อและลูกชายสามคนทางด้านนันยังมองแม่ลกู
หวีผมพักหนึงอย่างอดทน เพียงครูเ่ ดียว ก็แยกย้ายกัน
เล่น เซียวซ่งให้สาวใช้สง่ หนังสือมาเล่มหนึงฆ่าเวลา เมือ
หรันเหยียนหวีผมเปลียนเสือผ้าให้รวรั
ั วจนเรียบร้อย
สามพ่อลูกก็นอนระเกะระกะแล้ว
12
ถึงหลับไปได้!” หรันเหยียนยืนมือดึงเซียวซ่ง
หรันเหยียนไม่สนใจเขา ปลุกเด็กน้อยสองคนอย่างอ่อน
โยน
ด้านนอกแสงอาทิตย์โพล้เพล้ หรันเหยียนและเซียวซ่ง
กินข้าวทีบ้าน ก่อนป้อนลูกๆ ทังสามจนอิม จึงขึนรถม้าที
ประตูดา้ นใน มุง่ หน้าเข้าวัง
13
นีเป็ นครังแรกทีหรันเหยียนได้เข้าร่วมงานเลียงในยุคถัง
ได้รบั อิทธิพลจากแม่ในชาติทีแล้ว เธอจึงสนใจ
วัฒนธรรมโบราณอยูบ่ า้ ง ได้พบเห็นกับตา หรันเหยียนก็
ดีใจ
เสียงรถม้าบดพืนถึงดังกุกกัก เด็กทังสามเบิกตาโตอย่าง
ตืนเต้น คุณชายรองเซียวทีปกติชอบเคลือนไหวอยูแ่ ล้ว
ตอนนียิงเหมือนเด็กสมาธิสนั ดีใจเก็บอาการไม่อยู่
14
มาทักทายเขา
คนทีกล่าววาจาเมือสักครู ่ คือหลีไท่
15
ตอนที 431 งานเลียงในวัง (2)
หรันเหยียนยอบกายน้อยๆ คารวะ
เซียวซ่งทักทายคนทังสองอย่างสนิทสนม แล้วหันมาพูด
กับหรันเหยียนหลายประโยค จากนันค่อยเดินเข้าไปข้าง
ในกับพวกจ่างซุนอูจ๋ ีทังสองอย่างเกรงอกเกรงใจ
เธอมองลุงกับหลานทีรูปร่างไม่ตา่ งกันสองคนทีเบือง
หน้า รูส้ กึ แปลกใจ จ่างซุนอูจ๋ ีไม่ชอบหลีไท่มิใช่หรือ เหตุ
1
ใดทังสองมาขลุกอยูด่ ว้ ยกัน
ความจริงหากคิดในมุมมองของหลีไท่ ตอนนีไม่วา่ ใน
นอกราชสํานัก ทางฝ่ าบาท หรือตระกูลมารดา ภาพ
ลักษณ์ของหลีเฉิงเฉียนก็ยาแย่
ํ แทบไม่มีชินดี เป็ นโอกาส
ดีทีเขาจะซือใจญาติตระกูลมารดาเข้าเป็ นพวก
2
เกรงว่ามีการสนับสนุนของจ่างซุนอูจ๋ ี สําหรับหลีไท่
ตําแหน่งรัชทายาทก็เหมือนสิงของในกระเป๋ า
3
ไม่แน่วา่ ผูอ้ ืนอาจพบกันโดยบังเอิญจริงๆ
งานเลียงของขุนนางจัดทีห้องโถงตําหนักหลินเต๋อ ส่วน
งานเลียงของนางสนมและฮูหยินแต่งตังจัดทีตําหนักข้าง
เปรียบเทียบกับงานเลียงของเหล่าบุรุษ จัดตามสบาย
กว่ามาก ไม่มีการแสดงฟ้อนรํามากเกินไป อย่าเห็นว่า
สตรีสงู ศักดิเหล่านีเข้าวังพร้อมศักดิฐานะ สูงส่งจนทําให้
คนไม่กล้าดูหมิน เมือใดทีเปิ ดฉากสนทนา ใครก็พดู เก่งสู้
พวกนางไม่ได้ ดังนันรักษาการร้องรําไว้สองสามรายการ
เป็ นเพียงทําตามธรรมเนียม
ตอนหรันเหยียนและลูกๆ ผิวขาวน่ารักทังสามปรากฏ
กายขึนทีหน้าตําหนัก เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าฮูหยิน
ทันที พากันเข้ามาทักทาย
ครังก่อนตอนรัวรัวเห็นคนมากมายเช่นนี ห่างจากตอนนี
นานแล้ว แต่สีหน้าท่าทางตกใจเหมือนตอนนันไม่มีผิด
นําตาคลอ จะไหลก็ไม่ไหล ดวงตากลมโตประหนึงแอ่ง
นําสองแอ่ง กระตุน้ สัญชาตญาณความเป็ นแม่ของกลุม่
สตรีให้ลน้ เอ่อ
คุณชายใหญ่เซียวนอนหลับสนิทอยูใ่ นอ้อมอกของแม่
6
นม คุณชายรองเซียวเห็นใครมาก็ออ้ น ฉีกยิมให้หมด
7
ทีนางตูด้ แู ลหรันเหยียนเพียงนี ก็เป็ นผลมาจากความตัง
ใจของหรันเหยียน แม้ก่อนหน้านีกล่าวว่าสกุลเจิงอนุ
ญาตให้หรันเหยียนแต่งออกจากสกุลเจิงได้ แต่หรันเหยี
ยนไม่อาจสลัดหิงทิงมาได้จริงๆ ทุกวันตรุษวันเทศกาล
เธอต้องกลับไปเยียมเยียนด้วยตนเองทุกครัง แม้เธอไม่
อยากได้หน้า แต่สกุลเซียวอยากได้!
ทว่าทุกครังทีเธอประสบเรืองใหญ่ ล้วนต้องรายงานไปที
เรือนสกุลเจิง กระทังเรืองสําคัญเช่นการตังครรภ์ คลอด
ลูกก็ตอ้ งส่งข่าวให้สกุลเจิงรูแ้ ต่เนินๆ ทังขอคําแนะนํา
จากนางตูด้ ว้ ย
และสกุลเจิงก็ให้ความสําคัญกับไมตรีระหว่างสกุลเซียว
โดยเฉพาะหลังหรันเหยียนให้กาํ เนิดแฝดสาม ยิงกระชับ
8
ความสัมพันธ์กบั หรันเหยียนแน่นแฟ้นขึน หลังเด็กๆ ถือ
กําเนิด นางตูก้ ็มาเยียมทีเรือนสกุลเซียวบ่อยๆ พวกเขา
เข้าใจกันโดยไม่ตอ้ งพูดอะไรมากความ
สนมทังหลายในวังยังมาไม่ถงึ บรรดาฮูหยินจึงจิบชาพูด
คุยกัน
9
รัวรัวเรียก “ท่านยาย” อย่างว่าง่าย
10
“กุย้ เฟยเสด็จ ซูเฟยเสด็จ เต๋อเฟยเสด็จ เสียนเฟย
เสด็จ!” เสียงแหลมพลันดังในตําหนักใหญ่
รอจนพวกนางนังที หลังคารวะทักทายพวกฮูหยินแต่งตัง
เหวยกุย้ เฟยจึงเริมกล่าวตามธรรมเนียม จากนันก็มีการ
11
แสดงฟ้อนรํา
นางตูค้ อ่ ยหาโอกาสคุยเรืองส่วนตัวสองต่อสองกับหรัน
เหยียนได้ เอียวกายน้อยๆ กล่าวเสียงเบา "สกุลหรัน
ปฏิบตั ิไม่ดีกบั มารดาเจ้า ตอนนียังไม่ไยดีเจ้าอีก?"
12
สูงศักดิ เรืองหลังบ้านของตระกูลใหญ่ นางจึงเข้าใจถ่อง
แท้ เมือนางได้ยินข่าวนี ใจคิดเรืองราวได้นบั สิบแบบ แต่
ไม่วา่ เป็ นแบบใด สุดท้ายเพียงสรุปได้อย่างเดียว –--
สกุลหรันโง่เขลา
หรันเหยียนไม่ถนัดเสแสร้ง ทว่าเธอรังเกียจพฤติกรรม
ของสกุลหรันจริงๆ เมือได้ยินนางตูถ้ ามถึง สีหน้าย่อม
เย็นชา “เรืองนีทําร้ายจิตใจข้ายิง แต่เพราะข้าเป็ นบุตรี
สกุลหรัน ไม่กล้าตําหนิวงศ์ตระกูลนัก กลัวชาวบ้านคิด
ว่าข้าอกตัญ ”ู
“เลือดครึงหนึงในกายเจ้าเป็ นของสกุลเจิงแห่งสิงหยาง”
นางตูก้ ล่าวเสียงเรียบประโยคหนึง แล้วไม่เอ่ยคําใดอีก
13
หรันเหยียนอดตรึกตรองไม่ได้ เข้าใจว่านางตูก้ าํ ลังเตือน
สติเธอ สกุลเจิงแห่งสิงหยางยินดีเป็ นทีพึงให้เธอ ความ
จริงนางตูก้ ็ไม่ควรถามเรืองนีในสถานทีเช่นนี แต่นางก็
ถาม...
หรันเหยียนหันหน้ากลับมา เห็นรัวรัวกับคุณชายรอง
เซียวอึงมองการเต้นรํา กระทังคุณชายใหญ่เซียวก็ลืมตา
14
ดูดว้ ย
หรันเหยียนยิมมองลูกทังสามคน เหมือนยายหลิวเข้า
สวนเมียงมองจริงๆ (เปรียบเปรยถึงคนทีได้เปิ ดหูเปิ ดตา
ต่อโลกทีไม่เคยพบมาก่อน)
ทว่าท่าทางหลังดูไประยะหนึงของพวกเขาแตกต่างกัน
เห็นได้ชดั ว่าคุณชายใหญ่เซียวเลิกตืนเต้นแล้ว สะลึม
สะลืออยูใ่ นอ้อมอกแม่นมหลับไปอีกครัง รัวรัวยังมีสมาธิ
เช่นเคย คุณชายรองเซียวกลับขยับแขนขาเต้น แม่นมที
อุม้ เขาเหนือยจนเหงือโชก กล่อมอย่างไรก็ไม่หยุด
15
เขายินดีกระโดดโลดเต้นก็ปล่อยเขากระโดดโลดเต้น คิด
ดูแล้วคนอืนก็คงไม่ใส่ใจเท่าไร
คนทีมีสีหน้านิงเหมือนคนตายแม้เขาไท่ซนั ถล่มลงตรง
หน้าเช่นหรันเหยียน ยังทนไม่ได้อยูบ่ า้ ง ลอบถลึงตามอง
คุณชายรองเซียวแวบหนึง แต่เขาถือทีนีเป็ นสวนหลัง
บ้านตนเองไปแล้ว
16
สถานการณ์ทางด้านนี รอยยิมอ่อนโยนเฉิดฉันบนใบ
หน้างามสง่า ก่อนเบนสายตาไปดูการร่ายรําในตําหนัก
ต่อ
หรันเหยียนก็นงดู
ั พกั หนึง เห็นว่าคุณชายรองเซียวไม่สง่
เสียงแล้ว จึงหันไปมองแวบหนึง เห็นหญิงสาวอายุ
ประมาณสิบหกปี สองนางหมอบอยูบ่ นพืน กําลังใช้ผา้
เช็ดหน้าดึงดูดความสนใจของคุณชายรองเซียว หนึงใน
สตรีสาวพับผ้าในมือเป็ นรูปต่างๆ เดียวดอกไม้ เดียวนก
คุณชายรองเซียวมองอย่างใจจดใจจ่อ
หรันเหยียนอดประเมินพวกนางอย่างละเอียดไม่ได้ ทว่า
มองสตรีงดงามทีอยูด่ า้ นข้างเพียงแวบเดียว ก็ถกู สตรีผู้
พับผ้าเช็ดหน้าดึงดูดความสนใจไป
17
หญิงสาวงดงามยิง ไม่พอกแป้งแต้มชาด เพียงดูจากรูป
โฉม ก็ไม่สวยกว่าสตรีทีอยูด่ า้ นข้างเท่าใดนัก ทว่าในดวง
ตาดอกท้อทีเชิดขึนเล็กน้อยคล้ายมีดวงดาวทอประกาย
ทําให้ความงดงามอ่อนโยนของนางเพิมเสน่หส์ ดใสขึน
หลายส่วน
เด็กสาวทังสองเห็นหรันเหยียนมองมา ก็คารวะเธอ
หรันเหยียนเห็นพวกนางสวมอาภรณ์ในวัง ทว่าไม่ใช่ชดุ
ไก่ฟา้
18
ดึงสตรีนางน้อยทีพับผ้าเช็ดหน้าเมือครู ่
บูเช็กเทียนเอย! คิดว่าหลีซือหมินคงเคยเห็นนางนาน
แล้ว ได้ยินว่าเพราะหลีซือหมินเห็นนางมีดวงตามีเสน่ห ์
19
น่ารัก จึงประทานชือให้วา่ เม่ยเหนียง
หรันเหยียนเคยนึกถึงสถานการณ์ตอนพบบูเช็กเทียน
ทว่าคิดไม่ถงึ ว่า นางกลับหมอบอยูบ่ นพืนพับผ้าเช็ดหน้า
หยอกเย้าบุตรชายตนเอง
20
แม้นบั แล้วอูเ่ ม่ยเหนียงจะมีลาํ ดับขันตํากว่าหรันเหยี
ยนมาก แต่นางก็เป็ นสนม อีกอย่างราชวงศ์ถงั ก็ไม่มี
กฎเกณฑ์เคร่งครัด พูดคุยกันได้ตามใจ
21
อูเ่ ม่ยเหนียงกะพริบตาถีๆ มองหรันเหยียน พับผ้าเช็ด
หน้าเป็ นนกน้อยส่งให้คณ
ุ ชายรองเซียว ก่อนย่องออกไป
ทางด้านหลัง
"เช่นนันเจ้าก็กล่อม"
1
หญิงในอนาคตได้ราํ ไร
มีนางเริมต้น พระสนมอีกสามคนทีเหลือก็สงคนมอบ
ั
ของขวัญ
2
เสียนเฟยลุกขึนพร้อมรอยยิม ถือหยกทีสลักลายมงคลไว้
สามชิน สวมให้เด็กทังสามด้วยตนเอง “สกุลเซียวมี
วาสนาเช่นนี ช่างน่ายินดียงนั
ิ ก”
สนมของหลีซือหมินมีใครบ้างทีธรรมดาเล่า
3
หรันเหยียนอมยิม เอ่ยขอบคุณ อดมองซูเฟยแวบหนึงไม่
ได้ สตรีสงู สง่านางนี นังไร้ตวั ตนอย่างสินเชิงอยูท่ ีนัน
ยากจินตนาการได้วา่ นีคือบุตรีของฮ่องเต้สยุ หยางตี
มารดาแท้ๆ ของหลีเค่อ
4
หรันเหยียนมองรอบกาย ทุกคนสีหน้ายินดีปรีดา แต่เธอ
อยูใ่ กล้กบั นางตูท้ ีสุด มองออกว่ารอยยิมไม่ถงึ ก้นบึง
ของดวงตา
ทว่าสตรีตา้ ถังมักค้นพบความสนุกสนานในงานเลียงที
แห้งแล้งเสมอ เช่นพวกนางมีไมตรีตอ่ ท่าน ท่าทางคล้าย
5
ชืนชอบมาก แต่ไม่จาํ เป็ นต้องชอบจริงๆ และไม่จาํ เป็ น
ว่าต้องมีเจตนาร้ายใด ไม่แน่อาจได้ยินข่าวลือของท่าน
จากในตรอก วิงมาดูตวั เอกของข่าวลือ เลียบๆ เคียงๆ
ถามข้อมูลเรืองซุบซิบใหม่ๆ
เหล่าฮูหยินแต่งตังพากันลุกขึนเงียบๆ รอจนพวกเหวย
6
กุย้ เฟยเดินก่อน จึงออกไปตามลําดับ
เพราะการห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาล ยุคถังจึงมี
งานเลียงกลางคืนไม่มาก มีเพียงตอนเทศกาลพิเศษ
ประตูตรอกจะเลือนเวลาปิ ด พบงานเฉลิมฉลองใหญ่ ก็
เปิ ดทังคืนเป็ นบางคราว มองเห็นดวงจันทร์ดาราอ่อน
แสง โคมไฟเป็ นแถวๆ สว่างไสว ทุกคนสนุกสนานกัน
มาก หัวเราะพูดคุยตลอดเวลา ทังไม่ดาํ เนินตามขัน
ตอนอย่างเคร่งครัด
สตรีสวมชุดหรูฉวินสีแดงอ่อนเดินมาถึงข้างกายหรันเหยี
ยน หัวเราะก่อนกล่าว “ฮูหยินยังจําข้าได้หรือไม่”
7
สตรีนางนันท่าทางอายุสบิ เจ็ดสิบแปดปี กลับยังทําผม
ทรงสาวน้อย สดใสงดงาม
ตูก๋ หู ลันเยียนคล้ายไม่เห็นความเย็นชาของหรันเหยียน
กล่าวต่อ “บุตรธิดาของฮูหยินงดงามจริงๆ เมือครูใ่ นงาน
เลียงข้าเห็นท่าทางขยับแข้งข้าของคุณชายน้อย ชวนให้
เอ็นดูจริงๆ”
8
มารดาทุกคนชอบให้ผอู้ ืนกล่าวชมบุตรตนเอง ก็เหมือน
สตรีทกุ คนชมชอบให้ผอู้ ืนชมว่านางมีรสนิยมหรืองดงาม
แต่เห็นได้ชดั ว่าหรันเหยียนไม่หลงกล “จริงหรือ ขอบ
คุณ”
ก่อนหรันเหยียนเข้าไปเรียกขันทีมาคนหนึง มอบสิงของ
เป็ นรางวัล ขอให้เขานําความหลายประโยคไปบอกเซียว
ซ่งทีด้านของขุนนาง
11
“คุณชายน้อยทังสองกับคุณหนูเล็กน่ารักน่าชังจริงๆ”
พลันมีเสียงหัวเราะอย่างชืนชมของสตรีนางหนึงดังทีข้าง
กายหรันเหยียน
สตรีนางนีอายุประมาณสามสิบ แต่งตัวค่อนข้างโบราณ
แต่เครืองหน้าทังห้าซือสัตย์ คิวโค้ง ดูทา่ ทางใจดีและ
อ่อนโยนมาก
ขุนนางแซ่หลีทีหรันเหยียนรูจ้ กั มีเพียงหลีจิงทีอยูบ่ า้ น
12
ว่างๆ และหลีจีเจ้ากรมกลาโหม หรันเหยียนเห็นชุดไก่ฟา้
ของนางระดับขันไม่สงู นัก แต่กล่าววาจากับเธอโดยไม่
หวันเกรงสักนิด ครอบครัวหลีจิงไม่มีสะใภ้ทีอายุ
ประมาณนาง จึงเดาว่า “หรือว่าท่านคือคนในครอบครัว
ของท่านเจ้ากรมกลาโหม”
“นันคือพ่อสามีขา้ ” นางเซียกล่าว
นางเซียดูออกว่าหรันเหยียนคุยไม่เก่ง จึงหาหัวข้อ
สนทนาเอง ถือโอกาสเลียบเคียงถามเรืองสกุลหรันไร้
นําใจต่อบุตรีสกุลเจิง หรันเหยียนก็เปิ ดเผยความทุกข์
บางอย่างเป็ นการไว้หน้า
13
บรรดาสตรีสงู ศักดิทีอยูด่ า้ นข้างดูคล้ายต่างคนมีธุระ
ความจริงล้วนเงียหูฟังบทสนทนาทางด้านนี นีเป็ นข่าว
จากต้นตอ จะพลาดได้อย่างไร!
หรันเหยียนใจหายวาบ ไม่ใช่บอกว่าดูดอกไม้ไฟหรอก
หรือ เหตุใดพลันปรึกษาข้อราชการ สถานการณ์เช่นนี
เห็นชัดๆ ว่าเกิดเรืองใหญ่!
14
“เจ้าได้ข่าวอะไรบ้างหรือไม่ เหตุใดปรึกษาราชการกันใน
เวลานี” หรันเหยียนถาม
15
หรันเหยียนตรึกตรอง ก่อนถามเสียงเบา “รัชทายาท...
อยูใ่ นท้องพระโรงด้วยหรือไม่”
หรันเหยียนพิศวงงงงวยทันที หรือว่าประวัติศาสตร์
เปลียนไปแล้ว?
16
ตอนที 433 องครักษ์
หลีเค่อ? หรันเหยียนไม่ได้ยินว่าเขามีความเคลือนไหว
ใหม่นานแล้ว ก่อนหน้านีถูกปลดจากตําแหน่งเพราะล่า
สัตว์มากเกินไป อยูท่ ีฉางอันระยะหนึง ก็ไปทีเขต
1
ปกครองทีดินศักดินา หลีซือหมินยังคงชืนชมเขา ทว่าไม่
โปรดปรานเช่นหลีไท่ อ๋องทีโตเต็มวัยแล้ว ยังพํานักอยูใ่ น
ฉางอันก็มีเพียงหลีไท่คนเดียว
ดอกไม้ไฟบนท้องฟ้ายังส่งเสียงดังปั งๆ ไม่หยุด ใน
อุทยานกลับมีเพียงเสียงเสือผ้าเสียดสีกนั ทุกคนค้อม
กายรอฟั งราชโองการ
"ซีอวีส่งบรรณาการชุดใหม่มาเป็ นผลไม้ชนดี
ั ขอแบ่งปั น
กับเหล่าขุนนางและภรรยา" ขันทีกล่าวเสียงดัง
2
ทุกคนกล่าวพร้อมเพรียงกัน "ขอบพระทัยในพระกรุณา"
ขันทีปรบมือสังนางกํานัลยกผลไม้มา บรรยากาศใน
อุทยานจึงคึกคักขึน
ผลไม้ซีอวีในตลาดฉางอันส่วนใหญ่ปลูกในฉางอัน แม้รส
ชาติจะแตกต่างกันบ้าง แต่องุ่นปลูกให้เป็ นส้มไม่ได้
3
ก็ใช่วา่ ทุกคนจะเสพไหว
ความสนใจของหรันเหยียนกลับติดตามขันทีผปู้ ระกาศ
ราชโองการตลอด เมือไปถึงตําแหน่งประธาน ขันทีคอ้ ม
กายกระซิบกับเหวยกุย้ เฟยหลายประโยค สีหน้าเหวยกุย้
เฟยนิงงันอยูบ่ า้ ง
4
การแสดงฝี มือทางศิลปะนี สตรีทีอยูใ่ นหอห้องเล่นเพือ
ความสนุกสนาน ผูอ้ ืนยังจะชมเชยอีกว่าทังสวยทังเก่ง
แต่เป็ นภรรยาผูค้ น โดยเฉพาะเป็ นสตรีสงู ศักดิ
ต้องกระทําเรืองทีเหมาะสมกับฐานะ อยูบ่ า้ นจะทําอะไร
เป็ นอิสระก็ยอ่ มได้ แต่จะแสดงฝี มือไร้ระดับต่อหน้าผูอ้ ืน
ไม่ได้เด็ดขาด การเดินหมาก ต่อกลอนเป็ นครังคราวยัง
พอทําเนา
5
“ได้ข่าวว่าสตรีซโู จวส่วนมากทังงดงามทังมีฝีมือ เซียนเห
ลียงฮูหยินวิจารณ์ฝีมือบรรเลงพิณของคุณหนูฉินดีหรือ
ไม่” พลันมีคนกล่าว
หรันเหยียนมองตามเสียงไป คนทีกล่าววาจาเมือครูค่ ือ
สตรีอายุประมาณสีสิบ รูปร่างผอมแห้ง แป้งหนาปกปิ ด
ใบหน้าเหลืองอับเฉาได้ไม่มิด คิวงามละเอียดเชิดขึน ริม
ฝี ปากบางเฉียบ
6
คนส่วนมากอยากดูความครึกครืน สายตาทังหมดจับ
จ้องอยูท่ ีเธอ การแต่งงานของหรันเหยียน เป็ นทีจับตา
มองตังแต่แรก กระทังบ่อนพนันใต้ดินยังนําไปพนัน
เดิมพันว่าเธอจะมีชีวิตรอดกีวัน นอกจากญาติมิตรคน
ใกล้ชิด ไม่มีใครในฉางอันไม่ชะเง้อชะแง้เฝ้ารอผล ทว่า
เธอมิเพียงไม่ตาย ยังจัดการบุรุษผูโ้ ดดเด่นเช่นเซียวซ่ง
จนอยูห่ มัด หลังแต่งงานชีวิตมีความสุขสมบูรณ์ นีจะทํา
ให้คนเฝ้าดูความครึกครืนพอใจได้อย่างไร
“เซียนเหลียงฮูหยินอย่าได้ถ่อมตัวเด็ดขาด” นําเสียงสตรี
ผอมแห้งนางนันระคนเสียงหัวเราะทีแทบสังเกตไม่ออก
7
หรันเหยียนมองไปทางนางด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “มารดา
ข้าคือบุตรีสกุลเจิง รูม้ ารยาทประเพณีเป็ นอย่างดี เล่น
พิณ เดินหมาก เขียนหนังสือ วาดภาพ แต่งกลอน ร้อง
เพลง มิมีสงใดไม่
ิ ชาํ นาญ ทว่าหลังแต่งงานประสบ
เคราะห์ ตอนท่านจากไปข้ายังเด็ก แต่ยงั จํากลอนบท
หนึงทีท่านทิงไว้ก่อนตายได้ขนใจ
ึ ทังยังบอกแม่นมว่าไม่
จําเป็ นต้องเข้มงวดเรืองฝี มือด้านศิลปะของข้ามากไป
เพราะเหตุนี ตอนนีข้าจึงเป็ นเพียงคนธรรมดาทีไม่เข้าใจ
เรืองบทเพลงบทกวี”
8
ในชีวิตแต่งงาน ฝี มือด้านศิลปะใช้เพือสร้างความบันเทิง
แก่สามีได้ ยิงกว่านันยามเป็ นหญิงสาวหากมีชือเสียง ก็
หาคูค่ รองได้ง่าย มีมารดาคนไหนไม่คิดให้บตุ รีได้แต่ง
งานกับครอบครัวดีๆ
ในความทรงจําทีเหลือเพียงน้อยนิดของหรันเหยียน ก่อน
เจิงฮูหยินเสียชีวิตเคยถอดทอนใจด้วยเรืองนีจริงๆ ทว่า
ไม่เคยบอกสิงเหนียงว่าห้ามสอนวิชาศิลปะและมารยาท
ประเพณี มิฉะนันคงไม่ปรากฏหรันสิบเจ็ดผูจ้ มจ่อมอยู่
กับบทกลอนตัดพ้อในหอห้อง
หรันเหยียนไม่หมายขโมยใช้กลอนของผูอ้ ืน แต่เพือแก้
ปั ญหาตลอดไป เธอจึงไร้ยางอายสักครา หลีกเลียงไม่
ต้องรับมือกับปั ญหายุง่ ยากใจเช่นนีทุกครัง
10
เงียบงันกันไปหมด
ทุกคนคารวะตอบ มีคนตอบแค่ไม่กีคน
11
“กุย้ เฟยกล่าวถูกต้อง” เสียนเฟยเห็นด้วย
12
ทาง
หรันเหยียนฉวยโอกาสกวักมือเรียกขันทีคนเมือครู ่ ขอให้
เขานําความไปบอกเซียวซือหลางทีท้องพระโรงอีกครัง
จุดประสงค์ของเธอไม่ธรรมดาเพียงส่งข่าว แต่อยากรูว้ า่
ขุนนางยังปรึกษากันอยูห่ รือไม่
นางกํานัลนําหรันเหยียนไปถึงห้องนํา หรันเหยียนเพิง
เข้าไปไม่นาน ขันทีผนู้ นก็
ั รบี วิงกลับมา ทว่าไม่ได้มาหา
หรันเหยียน แต่รบี ก้มหน้าก้มตาเข้าไปในกระโจม มุง่
หน้าไปหาเหวยกุย้ เฟย
องครักษ์พบเห็น รีบกวัดแกว่งดาบขวางทางไปของเขา
13
ตวาดว่า “มาจากตําหนักไหน ไม่รูจ้ กั กฎเกณฑ์ถงึ เพียง
นี”
14
เหวยกุย้ เฟยบนทีนังประธานเห็นขันทีรอ้ นรนดังไฟเผา
ทว่าไม่ยอมพูด จึงโบกมือสังให้เน่ยซือข้างกายไปเป็ นคน
ถ่ายทอดคําพูด
เน่ยซือผูน้ นเดิ
ั นเข้าไปใกล้ ขันทีกระซิบบอกเขาหลาย
ประโยค หรันเหยียนเห็นสีหน้าเขาแปรเปลียน รีบเร่ง
ฝี เท้าเดินไปข้างกายเหวยกุย้ เฟย
15
ในแสงจันทร์กระจ่าง เห็นองครักษ์หลายร้อยนายเดิน
ผ่านไปชัดเจน
หรันเหยียนรอจนพวกเขาเดินไปช่วงหนึง จึงตามออกไป
16
ตอนที 434 เข่นฆ่าในชัวพริบตา (1)
หรันเหยียนหลบหลังต้นไม้ เห็นพวกเขาล้อมอุทยานไว้
อย่างรวดเร็ว
"เก็บอาวุธ พระสนมทุกพระองค์และเหล่าฮูหยินมีฐานะ
สูงส่ง ข้าไม่อยากพลังมือทําร้ายใคร" เสียงกล่าวเนิบๆ
1
ดังแว่วมา
2
เหยียนจําคําพูดดังเดิมไม่ได้ เนือหาโดยรวมคือ : ข้าหา
คนคํานวณแล้ว ตอนนีเป็ นโอกาสทีพระองค์จะครอง
บัลลังก์ ฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั ขึนเป็ นไท่ซงหวง
ั
นีชัดเจนว่าเป็ นการยุยงให้หลีเฉิงเฉียนก่อกบฏ
3
คนเหล่านีอยูห่ า่ งจากอวีหลินเว่ย (หนึงในกองกําลัง
รักษาพระองค์) ไม่ถงึ สองจัง แต่หากอวีหลินเว่ยบุกเข้า
ไป พวกเขามีเวลายิงธนูอย่างน้อยหนึงดอกแน่นอน มี
ใครรับประกันได้ ธนูเหล่านียิงเข้าไปจะไม่ทาํ ร้ายสนม
และฮูหยินทังหลาย? เพราะเหตุนีอวีหลินเว่ยไม่กล้า
บุม่ บ่าม แต่ไม่มีคาํ สังจากเบืองบน ใครก็ไม่กล้าวาง
อาวุธ
"อูอู ---"
4
ขณะหรันเหยียนกําลังคิดหาวิธีอย่างรวดเร็ว พลันได้ยิน
เสียงทึบมาจากด้านหลัง
เธอหันหน้าไปมองตามสัญชาตญาณ ผ่านใบไม้ทีแห้ง
เหียวหร็อมแหร็ม เพียงเห็นบุรุษชุดดําสองคนปิ ดปากวัย
รุน่ สองคนไว้ลากไปอีกด้าน ตอนนีหรันเหยียนกระทังลูก
ตนเองยังยากปกป้อง ความจริงไม่หมายยุง่ เรืองชาว
บ้าน ทว่าเมือกวาดตามองไป พอดีสบตากับดวงตาดอก
ท้อคูน่ นั
คืออูเ่ ม่ยเหนียง!
5
ตอนนีอูเ่ ม่ยเหนียงเป็ นเพียงไฉเหรินเล็กๆ ในวังหลวงทีมี
โฉมสะคราญรวมตัวกันดังเมฆา หน้าตาไม่จดั ว่างดงาม
ทีสุด ทังไม่มีพืนเพทียิงใหญ่และไม่มีความโปรดปราน
มากมาย สมควรไม่มีใครมุง่ ร้ายนาง ถูกจับ ต้องเพราะ
พลอยติดหลังแห หรันเหยียนครุน่ คิด ทีคนชุดดําหมาย
จัดการคือ...หลีจือ!
6
หรันเหยียนหมุนกาย เห็นฮูหยินทุกคนในฉากบังลมลุก
ขึนยืน พวกนางนําเด็กๆ และสตรีทีไม่มีแรงแม้ฆา่ ไก่ปก
ป้องไว้ตรงกลาง คนทียืนอยูร่ อบนอกมีบา้ งทีผมเผ้า
หงอกขาว แต่บนร่างคือความองอาจทีเกิดจากสายเลือด
ในกาย
คุมเชิงกันอยูน่ าน อวีหลินเว่ยจงหลางเจียงหลังเหงือเต็ม
หน้าผาก เขาชังใจอยูค่ รูห่ นึง คนเหล่านีก่อกบฏ ต้อง
หมายจับเหล่าสตรีเพือข่มขู่ขนุ นาง ในระยะเวลาสันๆ คง
ไม่เกิดอะไรขึน จึงกล่าว "วางอาวุธ"
เสียงไม้เท้าเคาะพืนอย่างแรง ทําให้ใจทุกคนตึงเครียด
8
ต้องทําคือ ไม่อาจเป็ นตัวถ่วงสามี ข้าจะร่วมเป็ นร่วมตาย
กับทุกท่าน!"
ไม่มีใครออกเสียงคล้อยตาม เพราะฮูหยินแต่งตังทุกคน
คิดเห็นเช่นเดียวกัน สตรีตา้ ถัง เป็ นสตรีเข้มแข็งมีเลือด
นักสู้
9
นางเดินขึนหน้า กล่าวเสียงเย็นชา "ในเมือเรืองผิด
คุณธรรมเช่นการก่อกบฏก็ทาํ แล้ว ก็ยิงข้าให้ตายเสียสิน
เรือง สังหารมารดาเฒ่าของเจ้าเสีย!"
สตรีนางนันเป็ นมารดาของตูเ้ หอ
10
ประกันให้ศตั รูคนหนึง ฮูหยินทีอยูท่ ีนีทังกล้าหาญและ
ชาญฉลาดทุกคน ต้องเยือกเย็น...
หรันเหยียนกลัวคนชุดดําทังสองจะลากอูเ่ ม่ยเหนียงและ
หลีจือเข้าไปในมุมละแวกนี เพราะเหตุนีจึงไม่กล้า
ติดตามกระชันชิดเกินไป เพียงพรางกายพร้อมสังเกต
11
ความเคลือนไหวรอบด้าน
โชคดีทีในวังเก็บกวาดใบไม้รว่ งทุกหลายชัวยามจึงไม่
เหยียบจนเกิดเสียง หรันเหยียนก้มหน้า เห็นทางศิลา
เบืองหน้าขาดตอน ทีเชือมกับทางเบืองหน้าคือสะพาน
ไม้ เธอลังเลอยูค่ รูห่ นึง ก่อนเดินตรงไปอย่างระมัดระวัง
12
อ๋องเรามีแต่หนทางตายสถานเดียว!”
13
หรันเหยียนขมวดคิว หยิบขวดกระเบืองเล็กๆ สีแดงขวด
หนึงออกจากแขนเสือ เตรียมไว้เผือยามฉุกเฉิน เธอย่าง
เท้า ข้ามแผ่นไม้สองแผ่น เกิดเสียงเบาๆ ขึน หรันเหยี
ยนรีบยกอีกเท้าข้ามไป
คนในห้องได้ยินเสียง จึงมองผ่านซอกหน้าต่างออกมา
กลับมองไม่เห็นใคร
14
ยนเดาว่า แม้เป็ นคนระดับยอดฝี มือ คงไม่อาจแยกแยะที
มาได้ หรันเหยียนหมอบอยูบ่ นระเบียงทางเดิน ทีนีคือ
มุมอับของห้อง ขอเพียงพวกเขาไม่เปิ ดประตู ก็ไม่อาจ
เห็นเธอ
หรันเหยียนหยิบขวดกระเบืองสีฟา้ อีกขวดออกจากแขน
เสือ เทของเหลวข้างในผ่านเข้าซอกประตูชา้ ๆ ก่อนตน
เองกินยาเม็ดหนึง
ยาสลบประเภทนีสัมผัสอากาศไม่ถงึ ระยะจิบชาหนึง
ถ้วยก็ออกฤทธิ ก่อนหน้านีเคยใช้หนึงครังยามต่อกรกับ
หรันเหม่ยอวี ให้ผลไม่เลว นีเป็ นตัวยาทีปรับปรุงในเวลา
ต่อมา ฤทธิยาสมควรแรงขึน แต่แม้จะแรงขึน ห้องกว้าง
เช่นนีก็ไม่แน่วา่ จะทําทังสองสลบได้
15
ตอนที 434 เข่นฆ่าในชัวพริบตา (2)
คนข้างในตกตะลึงกับเสียงทีเกิดขึนกะทันหันชะงักไป
สองอึดใจ ฝุ่ นฟุง้ กระจายรอบด้าน หรันเหยียนหันหลังให้
แสง แยกแยะเพศไม่ออกชัวคราว
ฉวยโอกาสช่วงชะงักงันนี หรันเหยียนยกมือดึงเข็มเงิน
ออกจากมวยผมคีบไว้ในมือ หรีตามองสถานการณ์ใน
ห้องจนชัดเจน หลีจือถูกมัดไว้แน่นหนา ปากถูกอุดไว้
สองมือของอูเ่ ม่ยเหนียงถูกมัดไพล่หลัง เท้าทังสองก็ถกู
มัดไว้ง่ายๆ กําลังหมอบบนร่างหลีจือ เตรียมขวางดาบ
ของคนชุดดําทีกําลังกรายมา
3
คนชุดดําทีกวัดแกว่งดาบตังสติได้ เงือดาบหมายฟั นลง
ชัวระยะเวลาเพียงสะเก็ดไฟกะพริบ หรันเหยียนก็โถม
กายพุง่ เข้าไป
4
แทงเข็มเงินลงไปทีม้ามตรงตําแหน่งบนซ้ายเหนือช่อง
ท้อง ใต้กระดูกซีโครง
“โอ๊ย!” คนชุดดําอุทานเสียงดัง
หรันเหยียนเล็งตําแหน่งได้แม่นยํา แต่เนืองจากมีความ
หนาของเสือผ้ากันกลาง ทังออกแรงไม่สะดวก เพียงแทง
เข้าไปนิดเดียว สัมผัสจากมือนัน เธอคิดว่าคงแทงทะลุ
แค่ผิวหนัง ดังนันจึงไม่คิดมาก ตีเข่าใส่เป้าเขาอย่างแรง
คนชุดดําเจ็บปวดยังไม่ทนั ร้องออกมา ก็ถกู หรันเหยียนก
ระชากคอเสือเหวียงใส่คมดาบของสหาย
คมดาบของคนชุดดําอีกคนเกือบถึงใบหน้าของหลีจือ
5
พลันเห็นสหายถูกเหวียงเข้ามา ตกใจ ขืนชักดาบกลับ
ครังนีเธอตัดหลอดเลือดใหญ่และหลอดลมของชายชุด
ดําจนขาด
6
คนชุดดําอีกคนตกใจสภาพตรงหน้า ทว่าไม่ได้ตกใจฝี มือ
ฆ่าคนของหรันเหยียน เพียงคิดไม่ถงึ ว่า สตรีออ่ นแอผู้
หนึงกลับฆ่าพีชายเขาทีวรยุทธ์ไม่ตาต้
ํ อยได้ภายในพริบ
ตาเดียว และขณะนี พละกําลังในกายเขาก็คอ่ ยๆ สลาย
ไปทีละนิดๆ
หรันเหยียนถือดาบลุกขึนหันหน้าเข้าหาคนชุดดํา ขณะ
ค่อยๆ ถอยไปข้างอูเ่ ม่ยเหนียงและหลีจือ
7
ตอนอยูน่ อกห้อง หรันเหยียนก็วางแผนคร่าวๆ ในใจไว้
แล้ว คือไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งคว้าโอกาสสังหารคนหนึงไป
ก่อน มิฉะนัน เกรงว่าทีนีคงเป็ นทีตายของเธอ ดังนัน
ตอนเข้าห้องเมือครู ่ สังเกตสภาพในห้องอย่างชัดเจน
ท่ามกลางฝุ่ นตลบ ก่อนตัดสินใจพุง่ เข้าใส่คนชุดดําที
กําลังกวัดแกว่งดาบทันที ทุกความเคลือนไหวทุม่ เทพละ
กําลังทังหมด ไม่ลงั เลแม้แต่นอ้ ย
8
อูเ่ ม่ยเหนียงตะลึงมองหรันเหยียน เมือครูน่ างหมอบอยู่
บนร่างหลีจือ จึงไม่เห็นขันตอนการโจมตีทงหมดของ
ั
หรันเหยียน แต่ดาบสุดท้ายนันนางเห็นชัดเจน นางสัน
เทิมไปทังร่าง ทว่าใจไม่รูส้ กึ กลัว กลับคล้ายของ
บางอย่างทีหลับใหลอยูใ่ นกายถูกปลุกให้ตืนขึน ทําให้
นางตืนเต้นอย่างประหลาด สภาพรางเลือนชนิดหนึงก่อ
เกิดขึนในใจส่วนลึกของนาง ขณะนีอูเ่ ม่ยเหนียงไม่ทนั ได้
รูส้ กึ ว่า สิงนีเรียกว่าใจทะเยอทะยาน ใจทะเยอยานทีกุม
อํานาจสังเป็ นสังตายไว้
9
รุนแรง
ความคิดผ่านไป คนชุดดําพลันก้าวขึนไปด้านหน้า ฟั น
ดาบในมือใส่ทอ้ งหรันเหยียนราวสายฟ้าแลบ
หรันเหยียนหลบไม่ทนั ยกดาบในมือขึนต้านโดย
สัญชาตญาณ
เคร้ง!
เสียงอาวุธปะทะกัน สันดาบของหรันเหยียนถูก
แรงกระแทกดันมาถึงท้อง รูส้ กึ คล้ายจมเข้าเนือ
10
หรันเหยียนตกใจมาก พละกําลังเช่นนี เธอไม่รูว้ า่ ตนเอง
จะต้านได้นานเท่าไร องครักษ์ทงหมดในตํ
ั าหนักหลิน
เต๋อก็รวมตัวกันอยูท่ ีท้องพระโรงและอุทยาน เป็ นไปไม่
ได้ทีจะมีคนมาช่วย
หากขุนนางถูกกักไว้ในท้องพระโรง กบฏถูกปราบ มิ
ฉะนันโอกาสทีเซียวซ่งจะออกมาได้มีไม่มาก
11
พละกําลังครังนีแรงกว่าครังก่อน หรันเหยียนเจ็บง่ามมือ
ยิง รูส้ กึ มีของเหลวร้อนๆ รินไหล ทว่าเธอไม่กล้าก้มมอง
ว่ากันว่าการป้องกันทีดีทีสุดคือการโจมตี นันหมายถึง
ตอนทีพละกําลังของทังสองฝ่ ายไม่ตา่ งกันมาก เฉกเช่น
กําลังทีแตกต่างของหรันเหยียนกับคนชุดดําเช่นนี หาก
หรันเหยียนไม่อาจหาโอกาสฆ่าอีกฝ่ ายในพริบตาเดียว
เช่นเมือครู ่ ยังโจมตีตรงๆ อย่างโง่เขลา ย่อมเผยจุดอ่อน
ทัวร่าง ไม่แน่คนทีถูกฆ่าในชัวพริบตาอาจเป็ นเธอ
ในสถานการณ์ตอนนี หรันเหยียนทําได้เพียงป้องกันตน
เองอย่างมิดชิด รอให้ยาออกฤทธิถึงจุดสูงสุด
12
แต่สถานการณ์ดเู หมือนไม่สดู้ ี พืนทีในห้องมีขนาดกว้าง
ดูออกยากว่าคนชุดดําสูดดมยาเข้าไปเท่าไร หากคนชุด
ดําสูดยาเข้าไปไม่มาก เขาอาจอาศัยเพียงความมุง่ มัน
ของตนเอง ยืนหยัดจนเธอเผยช่องโหว่ออกมา
ดูจากสภาพตอนนี ขันตอนนีไม่น่ายาวนัก
คนชุดดําไม่ให้โอกาสทังตัวเขาและหรันเหยียนหายใจ
ตามด้วยการจู่โจมอย่างรุนแรงราวพายุคลัง
13
หนึง บนร่างก็ถกู กรีดเป็ นรอยเลือดมากมาย เลือดสดๆ
ย้อมเสือผ้าสีขาวเกิดเป็ นดอกไม้สีแดงแบ่งบานอย่างรวด
เร็ว โชคดีทีเธอปกป้องจุดสําคัญไว้ได้
14
ส่วนหรันเหยียนหอบฮักๆ หนักหน่วง ทัวกายมีบาดแผล
ทังลึกทังตืนสิบกว่าแห่ง
15
ตอนที 435 ตกอยู่ในวงล้อม
หรันเหยียนมักพกผ้าเช็ดหน้าจุ่มยาพิษติดตัว ทังยังมียา
พิษร้ายแรงอีกขวด ล้วนเก็บไว้ในแขนเสือ แต่ตอนนีไม่มี
โอกาสทีจะหยิบออกมาใช้เลย ดาบของคูต่ อ่ สูฉ้ บั ไว หาก
เธอเสียสมาธิเพียงชัววูบ เผยให้เขาเห็นจุดอ่อนเพียงเล็ก
น้อย ต้องโดนสังหารในดาบเดียวแน่
ดังนันหรันเหยียนหยุดคิดชัวคราว ได้แต่แข็งใจตังสติ
ป้องกันตัว
แต่ก่อนซูฝเู คยสอนวิชาลมปราณแก่หรันเหยียนชุดหนึง
เธอฝึ กฝนทุกวัน ไม่เคยเกียจคร้าน ดังนันกําลังกายยังคง
1
ดีถงึ ตอนนี
บุรุษชุดดําหายใจเข้าลึก เงือดาบขึนช้าๆ
ไม่มีเวลาคิดมาก ลมดาบก็เข้าประชิด
ในแสงไฟริบหรี หรันเหยียนใช้สายตากะทิศทางทีมาของ
ดาบ กําดาบไว้ดา้ นหน้า อาวุธกระทบกัน เธอ
ถูกกระแทกถอยไปดือๆ หลายก้าว ร่างโงนเงนแทบทรุด
2
บุรุษชุดดําประหวันใจ ดาบทีเขาฟั นลงไปแม้ไม่เร็วทีสุด
แต่ก็ไม่เบา สตรีรา่ งอ้อนแอ้นตรงหน้ากลับต้านทานเขา
ได้อย่างแม่นยํา! หากเธอมีวรยุทธ์จริง แม้แรงของสตรีจะ
ด้อยกว่าบุรุษระดับหนึง แต่เธอก็น่าจะตอบโต้ได้
ใต้เงาดาบทะมึน หรันเหยียนมีบาดแผลบนร่างกายมาก
ขึนเรือยๆ เธอไม่มีกาํ ลังพอทีจะปกป้องตัวเองได้ทกุ จุด
ได้แต่เลือกป้องกันจุดสําคัญ คูต่ อ่ สูจ้ ่โู จมเร็วทีสุด แม้เธอ
จะเห็นชัด แต่ก็ไม่อาจหลบหลีกได้ทนั ได้แต่ฝืนทนรับ
ดือๆ ถูกจู่โจมมาถึงสีครัง หรันเหยียนแทบหมดแรง ง่าม
มือฉีก ความเจ็บค่อยๆ เปลียนเป็ นด้านชา เธอเองก็รูส้ กึ
3
ว่ายิงนานยิงไม่อาจควบคุมมือของตนเองได้
ยืนหยัด ขอเพียงยืนหยัดถึงจังหวะทีเขาต้องหอบแฮกๆ...
บุรุษชุดดํากําลังเตรียมจู่โจมอีกรอบ ฝี เท้ากลับซวนเซ
เขาจําเป็ นต้องใช้กระบีคํายันร่างไว้
หรันเหยียนเห็นโอกาสมาถึง รีบควักขวดยาพิษออกมา
4
ดึงจุกขวดขว้างไปทีขาเขา
ในจังหวะทีบุรุษชุดดําเตรียมถอยอีกครัง หรันเหยียนเริม
เงือดาบจู่โจมโดยไม่คาดฝัน
5
แต่เมือหลบหลีกได้หลายครัง บุรุษชุดดํายิงตะลึงทีเห็น
ว่า แม้เพลงดาบของหรันเหยียนไม่มีกระบวนท่าแต่อย่าง
ใด เห็นชัดว่าสะเปะสะปะ แต่ทกุ ครังก็พงุ่ มาทีจุดตาย
ผ่านไปชัวครู ่ บนตัวเขาก็ได้แผล มองไปเป็ นเพียงบาด
แผลทีผิวหนัง แต่อีกสักพักก็ไม่แน่
6
หรันเหยียนก็เคยอ่านเจอในนิยายกําลังภายใน ตอนนัน
ยังเคยคาดเดากับเพือนร่วมงานว่า ถ้ามีของสิงนีจริง
สามารถจําแนกเป็ นพวกสารกระตุน้ ชนิดเข้มข้น กระตุน้
ให้ฮกึ เหิม หากใช้ในปริมาณมาก อาจถึงตายได้
7
ดินทลายเช่นกัน
8
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าหลีกล่าวเนิบๆ “ไม่วา่ จับกุมหรือฆ่าพวกเรา
คนในบ้านพวกเจ้าต่างต้องเป็ นทาสรับใช้ทางการ พวก
เจ้าเป็ นชายชาตรี ต้องการให้ญาติพีน้องประสบเคราะห์
กรรมด้วยหรือ!”
โทษหนักอย่างการก่อกบฏในราชวงศ์ถงั ก็เพียงประหาร
ผูเ้ ข้าร่วมเท่านัน ไม่ได้มีโทษประหารเก้าชัวโคตร แต่ถา้
ทําให้ประเทศสันคลอน ต้องประหารสามชัวโคตรหรือไป
เป็ นทาสรับใช้ของทางการ นีถือว่าเป็ นการลงทัณฑ์ที
รุนแรงทีสุด
พวกทีเดิมทีมีจิตใจโลเล พอได้ฟังก็มีคนรีบทิงธนูและ
ดาบลง เมือมีคนนํา ทุกคนก็ทยอยวางอาวุธในมืออย่าง
ลังเล
9
องครักษ์ในวังจึงรีบบุกเข้าจับกุม
เคร้ง!
10
เพียงแต่การให้อภัยนีก็ใช่วา่ จะทําให้จา้ วฮูหยินมีเมตตา
ใจอ่อน ไม่วา่ ตระกูลตูห้ รือสามีนางต่างมีเกียรติคณ
ุ ดี
งาม จําเป็ นทีนางต้องยอมปลิดชีวิตลูกเพือคุณธรรมยิง
ใหญ่
11
ทุกอย่างดําเนินไปตามแผนทีวางไว้ เขาจึงไม่ได้ระวัง
มารดานัก แต่เขาคิดไม่ถงึ ว่า แท้ทีจริงการผ่อนปรนของ
มารดามีขีดจํากัด มารดาในความทรงจํานันหุนหัน
เกรียวกราดตลอดมา แต่ครังนีระหว่างรักษาตระกูลตูก้ บั
ชีวิตของเขา กลับคิดอย่างมีสติทาํ ให้เขารูส้ กึ เหมือนเป็ น
ครังแรกทีได้รูจ้ กั มารดาตน และเป็ นครังสุดท้าย
12
สายสัมพันธ์ก่อนชัวคราว นางอบรมลูกไม่ดีก็มีโทษ ฆ่า
ลูกตัวเองก็มีโทษ ตายแล้วไม่มีหน้าไปพบสามี และไม่มี
หน้าไปพบบรรพชนสกุลตูท้ งหลาย
ั
สํานึกรับผิดชอบและความร้าวรานใจรุมเร้านาง หากไม่
ใช่วา่ ยังมีสติสมั ปชัญญะอยูบ่ า้ ง เกรงว่าจะลาโลกตาม
ลูกไป
13
“เหวยกุย้ เฟย!ฝ่ าบาทและเหล่าขุนนางยังถูกกักตัวอยูใ่ น
ตําหนัก เป็ นองค์รชั ทายาท...” ขันทีเร่งรีบวิงมารายงาน
14
คามตําแหน่งองค์รชั ทายาทได้
“ส่งคนไปเอาป้ายอาญาสิทธิจากฝ่ าบาทเพือโยกย้าย
ทหารม้า แล้วสังคนไปสืบดูวา่ ใครสนับสนุนองค์
รัชทายาทก่อกบฏบ้าง” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าหลีกล่าวอย่างเป็ น
ขันตอน “รอจนได้ขอ้ มูล ค่อยส่งคนทีเชือใจได้เอาป้าย
อาญาสิทธิของฝ่ าบาทไปโยกย้ายกองหนุน”
แต่การสืบข่าวแล้วค่อยโยกย้ายกองหนุน ไม่ใช่การ
กระทําเกินความจําเป็ น ตอนนันทีหลีซือหมินโจมตีประตู
15
เสวียนอู่ ก็ใช้กองทหารองครักษ์โย่วอู่ ถือเป็ นหนึงในกอง
ทหารมหาดเล็กเป่ ยหยา หลีเฉิงเฉียนไม่ใช่คนโง่ ใครจะ
รับประกันได้วา่ เขาไม่มีทางโยกย้ายทหารมหาดเล็กมา
ได้
เหวยกุย้ เฟยรีบส่งคนข้างตัวลอบเข้าตําหนักกานลูค่ น้ หา
ป้ายอาญาสิทธิทีโยกย้ายทหารมหาดเล็กได้
“ข้าไปโยกย้ายทหารม้าแล้วกัน” ฮูหยินของเฉิงเหย่าจินบ
อก
16
ปี แต่รา่ งกายยังแข็งแรง ก็น่าให้ลองดู ทุกคนจึงเห็นด้วย
จิตใจหวันลวีเหมือนเพลิงเข้าสุม เฝ้ามองทางเดินเล็กๆ
ด้านนันไม่หยุด เสียดายทีไม่อาจวิงออกไปหาหรันเหยี
ยน เพราะก่อนทีหรันเหยียนจากไป กําชับพวกนางไว้วา่
ห้ามออกจากทีนีเด็ดขาด หวันลวีร้อนใจ ไม่นกึ ถึงฐานะ
ตัวเอง อุม้ รัวรัววิงไปด้านหน้าฮูหยินผูเ้ ฒ่าหลีและเหวย
กุย้ เฟย โค้งคํานับ ก่อนกล่าวอย่างร้อนใจว่า “เหวยกุย้
เฟย ฮูหยินผูเ้ ฒ่า ฮูหยินบ้านข้าเมือครูไ่ ปห้องนํา ถึงตอน
นียังไม่กลับมา บ่าวบังอาจขอท่านส่งคนไปค้นหาด้วย
เจ้าค่ะ”
18
องครักษ์ไปค้นหาหรันเหยียนทีบริเวณใกล้เคียงทันที
หวันลวีรีบขอบคุณ
20
ซ้าย หากร่วมก่อกบฏด้วยไม่แน่วา่ ทังพระราชวังจะตก
อยูใ่ นความควบคุมของทหารกบฏเสียแล้ว
21
ตอนที 436 แขวนอยู่บนเส้นด้าย
ยามนีหรันเหยียนและบุรุษชุดดําถึงขันใช้แรงเฮือกสุด
ท้ายแล้ว
1
มีจิตใจเข้มแข็งเช่นนี เขาสงสัยว่าหรันเหยียนเป็ นนักฆ่า
ทีผูส้ งู ศักดิคนใดซุกซ่อนไว้ในวัง
2
ไม่ และไม่รูว้ า่ ล้วนแต่เงียบพูดน้อยเหมือนเขาไหม เพียง
แต่นกึ ถึงข้อบ่งชีหลายข้อ เช่น นักฆ่าทังสองคนสามารถ
ล่วงลําผ่านองครักษ์ทีหนาแน่นเข้ามาในวังต้องห้าม
ฝี มือต้องอยูใ่ นระดับสูงทีเดียว แต่วา่ ทีประมือกับเธอมา
ก็แค่ทาํ ได้พืนๆ โดยเฉพาะรังสีอาํ มหิตนัน ไม่ได้
มาตรฐานพอจะเป็ นนักฆ่า
3
ถ้าเช่นนัน คนทีคิดฆ่าหลีจือเป็ นใครกันแน่ หลีไท่หรือหลี
เค่อ
ความคิดเหล่านีแวบผ่านสมองอย่างรวดเร็ว หรันเหยี
ยนหายใจลึกครังหนึง ทําเสียงให้สงบพูดตามทีอูเ่ ม่ย
เหนียงกล่าวเท็จไว้เมือครู ่ “ก่อนหน้าทีจะได้ของ หลีจือ
จะตายไม่ได้”
4
สถานการณ์ของหรันเหยียนยังแย่กว่าบุรุษชุดดํา ยาพิษ
ของเธอเข้าได้ทกุ ช่องทาง ไม่วา่ ผ่านทางลมหายใจหรือ
ระบบเลือดก็เกิดผลทังสิน ตอนนีตัวเธอมีบาดแผลมาก
มาย พิษเข้าตัวเธอเร็วขึนหลายเท่า และเนืองจากเสีย
เลือดไปมากทําให้เธอเริมขาดอากาศ รูส้ กึ มึนงงเป็ น
ระยะๆ เพียงชัวครูเ่ หงือบนหน้าผากรวมตัวเป็ นหยด ไหล
ลงมาทีข้างแก้ม
ทังสองคนพูดคุยกัน แท้ทีจริงเป้าหมายเกลียกล่อมอีก
ฝ่ ายยังเป็ นเรืองรอง ทีสําคัญคือต่างคิดหาโอกาสพัก
หายใจ
คําพูดทีโต้ตอบกันไร้ผล บุรุษชุดดําบุกจู่โจมขึนอย่างดุ
ดัน ดาบนีมุง่ ไปทีคอของหรันเหยียน เธอสะบัดดาบขวาง
5
ไว้ แต่เรียวแรงไม่พอ สันดาบของตัวเองคํามาทีคอ เธอ
ถูกกดดันให้ถอยไปหลายก้าว กระแทกเข้ากับผนังอย่าง
แรง
ชัวครูน่ นั ภาพมากมายแวบผ่านเข้ามาในสมองของหรัน
เหยียน สุดท้ายปลดปล่อยพลังทังหมด มือสองข้างตกลง
อย่างไร้เรียวแรง
6
แต่บรุ ุษชุดดําก็ไม่ชะล่าใจ มองทีต้นคอหรันเหยียนโดย
ละเอียด สันดาบของหรันเหยียนจมเข้าในผิวหนังมาก
เลือดไหลเลอะเทอะ
บุรุษชุดดําโยนดาบของเธอทิง ถอนพันธนาการเธอออก
มองเธอค่อยๆ ลืนลงตามผนัง เงือดาบเตรียมตัดคอทิง
เพือป้องกันเรืองไม่คาดคิดภายหลัง
7
ไม่ลกึ พอ แทงเข้าทางปากแผล แน่ใจได้ทีสุด!
ในช่วงทีปลายแหลมของดาบจวนเจียนสัมผัสผิวทีแผ่น
หลังด้านซ้ายของหรันเหยียน พลันได้ยินเสียงแหวกสาย
ลม ธนูขนนกทีเปี ยมพลังสลายทองแยกหินดอกหนึงก็พงุ่
ทะลุฝ่ามือเขา
8
พลังยิงแรงกว่าครังก่อน เปรียบดังเสียงพยัคฆ์รา้ ย
คํารามประชิดตัว เขาแค่รูส้ กึ ว่าขมับของตัวเองเย็นวาบ
เลือดท่วมหัวสมองฉับพลัน
เซียวซ่งถือดาบก้าวเท้ายาวเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิต ตวัด
ดาบตัดหัวคนผูน้ นอย่
ั างไม่ลงั เล ทิงดาบลงแล้วรับตัว
หรันเหยียนไว้
9
อูเ่ ม่ยเหนียงมีสติอยูต่ ลอด แต่นางอยูใ่ กล้กบั ตําแหน่งที
หรันเหยียนวางยาไว้ ผ่านการเคลือนไหวรุนแรงตอนฝน
เชือกให้ขาดเมือครู ่ ยาออกฤทธิถึงขีดสุด อ่อนแรงทัวร่าง
ตาพร่ามัว นางเห็นบุรุษชุดขุนนางสีแดงอุม้ หรันเหยียนอ
อกไป แล้วมีคนจํานวนมากวิงตามเข้ามา มีคนร้อง
ตะโกนว่า “องค์ชายเก้า” นางจึงสลบอย่างวางใจ
“ออกไปให้หมด” หลิวชิงซงกล่าว
นางกํานัลและขันทีในบริเวณนีแตกตืนวิงเตลิดหนีไป
หมด องครักษ์จาํ ต้องไปหาผ้าและนํามาเอง
ไม่มีนาร้
ํ อน ครูใ่ หญ่องครักษ์จงึ ยกนําสะอาดมาหลายถัง
แล้วหอบผ้าขาวมาหนึงพับ
เซียวซ่งหิวนําสองถังส่งเข้าไป แล้วยืนผ้าขาวทีฉีกไว้
กว้างราวสองนิวมือส่งเข้าไปด้วย
“นางน่าจะพกยาถอนพิษติดตัว” เซียวซ่งกล่าว
หลิวชิงซงพลิกดูแขนเสือทังสองข้าง ก็เจอห่อกระดาษ
เปื อนเลือด ยังดีทียาข้างในเคลือบเทียนไขไว้ ไม่ได้รบั ผล
กระทบ
13
ผ่านผ้าม่านโปร่งบาง
หลิวชิงซงใช้ผา้ จุ่มนําทําความสะอาดร่างกายของหรันเห
ยียนคร่าวๆ แล้วหยิบยาฆ่าเชือล้างแผลแต่ละแห่งจน
สะอาด เขาตรวจดูแผลทังหมด ในใจลิงโลด ตําแหน่ง
บาดแผลล้วนอยูต่ ามแขนขา หน้าอกมีแผลตืนๆ สามสี
แห่ง ไม่ได้รบั บาดเจ็บภายในแต่อย่างใด
หลิวชิงซงเริมตรวจดูบาดแผลทีคอของหรันเหยียน แล้ว
ตรวจดูตามจุดสําคัญ ทําการล้างแผล เย็บแผล ใส่ยา
และพันแผล
ขณะทีเขาพันแผลบริเวณต้นขา ก็ยกขาของหรันเหยี
14
ยนขึนเล็กน้อย กลับเห็นว่าบนเตียงเต็มไปด้วยคราบ
เลือด แต่ไม่ใช่ไหลออกมาจากต้นขาของเธอ!
หลิวชิงซงจุ่มยา จัดแจงทําความสะอาดอย่างคล่อง
15
แคล่ว
ในห้องเงียบจนน่าตกใจ มีแต่เสียงเสือผ้าสวบสาบของ
หลิวชิงซง และบางขณะก็มีเสียงขวดกระทบกันบ้าง
หลิวชิงซงทําการปั มหัวใจให้เธอ
นีถือเป็ นจูบเดียวทีเซียวซ่งจูบหรันเหยียนโดยไร้อารมณ์
ปรารถนา ทว่าแต่ละครัง ล้วนแต่จริงใจอย่างยิง
17
ทําซําๆ หลายครัง ไม่รูด้ าํ เนินไปนานเพียงใด จนหรันเหยี
ยนหายใจเองได้
ยามนีทิศตะวันออกเริมมีแดดอ่อนสีขาวอมชมพู
การก่อกบฏภายในวังถูกควบคุมไว้ได้ เสียงกลองบอก
เวลายังดังตามปกติ เหล่าขุนนาง อํามาตย์และภรรยา
อยูใ่ นวังหนึงคืน ต่างทยอยกลับบ้าน ลูกสามคนของหรัน
เหยียนไม่ได้พบหน้ามารดา ร้องไห้จนเหนือยอ่อน หลับ
กันไปแล้ว ถูกจัดให้อยูใ่ นตําหนักใกล้ๆ ชัวคราว มี
องครักษ์คอยดูแล
18
เมือหลีซือหมินรับรูเ้ รืองหรันเหยียนยอมเสียงตายช่วย
หลีจือ ถึงตอนนีเป็ นตายไม่รู ้ รีบรับสังรวมหมอหลวงที
เก่งทีสุดหลายคน นําพวกเขามาทีตําหนักข้างด้วยตน
เอง
ในตําหนักข้าง หลิวชิงซงเอ่ยช้าๆ
“ขอเพียงนางรอดชีวิต” เสียงเซียวซ่งกระท่อนกระแท่น
ราวอยากจะพูดอะไรอีก ริมฝี ปากขยับเล็กน้อย ทว่าครู ่
ใหญ่ยงั ไม่มีเสียงดังออกมา
20
ตอนที 437 หยาดนําตา
หลีซือหมินก้าวเท้ายาวเข้ามา เซียวซ่งโค้งตัวทีแข็งชา
“ถวายบังคมฝ่ าบาท”
1
วิกฤต ถึงฟื นขึนมา ร่างกายท่อนล่าง...อาจจะไร้ความ
รูส้ กึ ”
หลีซือหมินตะลึงชัวครู ่ แล้วหันกายไปคํานับหรันเหยี
ยนทีนอนอยูบ่ นเตียงอย่างให้เกียรติ
2
ก็เพือให้รกั ษาอาการของเซียนเหลียงฮูหยิน
“ยังพอจับชีพจรทีลําคอได้” หลิวชิงซงกล่าวช้าๆ
หลีซือหมินถอนใจคราหนึง ยืนมือไปตบไหล่เซียวซ่ง
“เจ้าวางใจ เราจะทุม่ กําลังทังหมดทีต้าถังมีช่วยรักษา
3
เซียนเหลียงฮูหยิน”
หลีซือหมินกล่าวปลอบโยนหลายประโยค แล้วทิงพวก
หมอหลวงไว้ ตนเองจากไป เขายังมีเรืองราวกองพะเนิน
ให้สะสาง บุตรของเขาก่อกบฏ ขุนนางทีเชือใจก็หกั หลัง
บุตรของตูห้ รูฮ่ยุ ตูเ้ หอมีสว่ นร่วมในเรืองนี หลีซือหมิ
นถอนใจใหญ่ เขาระแวดระวังทุกด้าน สุดท้ายก็เกิดเรือง
จนได้ เพียงแต่เขาคาดว่าหลีเค่อและหลีไท่อาจก่อกบฏ
แต่ผเู้ ดียวทีคาดไม่ถงึ คือรัชทายาท!นีเพราะอะไรกัน...
4
เซียนเหลียงฮูหยินจะมาจากสํานักเดียวกัน วิชาการ
แพทย์สงู ส่งไม่ตอ้ งพูดถึง แต่พวกข้าก็นบั ถือความรู ้ คุณ
ธรรมของเซียนเหลียงฮูหยิน คิดอยากแสดงนําใจรักษา
ไม่ทราบว่า...”
เซียวซ่งรีบโค้งกายคํานับ “จางอีลงอย่
ิ าได้เกรงใจ ข้าผู้
แซ่เซียวยินดีอย่างยิง ผูแ้ ซ่เซียวขอขอบคุณทุกท่านแทน
ฮูหยินทีเมตตา”
ทุกคนรีบคํานับตอบ
เพราะไม่อาจจับชีพจรทีมือได้ จําต้องตรวจแบบสัมผัส
ใกล้ชิด หากบุกไปทีเตียง ถือเป็ นการละเมิดฮูหยินผูอ้ ืน
5
หลังถามความเห็นเซียวซ่ง พวกจางซงเฮ่อจึงรีบเข้าไป
ด้านใน
เซียวซ่งหันหน้ามามองเขาช้าๆ “ลําดับโดยทัวไป?”
6
เป็ นมนุษย์ผกั สักปี สองปี ตอ้ งฟื นคืนมาได้แน่นอน”
ตรรกะของคนทัวไปไม่อาจเข้าใจวิธีคิดของหลิวชิงซงได้
ยิงเป็ นคนตรรกะสูงอย่างเซียวซ่ง แม้เขาจะพยายามทํา
ความเข้าใจความหมายของวาจานี แต่ยามนีก็ไม่อาจตัง
สมาธิได้ เพียงเอ่ยช้าๆ “รุนแรงเช่นนีเชียวหรือ...”
“เป็ นครังแรกทีข้ารักษาบาดแผลภายนอกทีรุนแรงเช่นนี”
ถึงตอนนีหลิวชิงซงก็ยงั รูส้ กึ แขนขาชา
7
ไม่รูผ้ า่ นไปนานแคไหน พวกจางซงเฮ่อจึงพากันออกมา
เซียวซ่งขยับขาทีแข็งชา
8
“ยามนีอาการของเซียนเหลียงฮูหยินอันตรายมาก แต่
พวกข้าขอรับรองด้วยชือเสียงทางการแพทย์หลายสิบปี
จะไม่ยอมให้ฮหู ยินเป็ นอะไรแน่” โจวอีลงลู
ิ บเคราพลาง
ตอบเสียงตํา “สําหรับเรืองเป็ นอัมพาต...พวกเรายัง
วินิจฉัยไม่ได้แน่ชดั ไม่อาจสรุปได้ ข้าเสนอว่าให้เชิญ
หมอเทวดาอูม๋ าตรวจอีกที”
9
เซียวซ่งเข้าใจประเด็นนี รีบเตรียมส่งคนไปเชิญอูซ๋ ิวเห
อ จู่ๆ กลับนึกได้วา่ ทีนีเป็ นในวัง “อาการบาดเจ็บของฮูห
ยินข้าเคลือนย้ายได้หรือไม่”
โจวอีลงรี
ิ บเอ่ยว่า “เซียนเหลียงฮูหยินบาดเจ็บเพราะช่วย
องค์ชายเก้า รักษาตัวทีนีไม่ได้มีอะไรไม่เหมาะสม รออีก
ครึงเดือน บาดแผลสมานดี ค่อยใคร่ครวญเรืองนี”
10
ฐานชันใน และไม่ใช่สถานทีสําคัญทางทหาร
เซียวซ่งไม่กล้าชะล่าใจ ในเมือคนทีเห็นบาดแผลกลาง
หลังหรันเหยียนนันมีเพียงหลิวชิงซงคนเดียว ตอนนัน
เป็ นครังแรกในชีวิตทีเซียวซ่งกลัวทีจะเผชิญเรืองบาง
เรือง เขากลัวระงับอารมณ์ไม่ได้หากเห็นสภาพเลวร้าย
ของหรันเหยียน จึงไม่กล้าเข้าไปวุน่ วาย
11
ยามนีนึกขึนได้เซียวซ่งถึงกับกลัวตามหลัง ตอนนันร้อน
ใจเกินไป ลืมไปว่าหลิวชิงซงเป็ นพวกทีไม่คอ่ ยเข้าร่อง
เข้ารอย มอบหรันเหยียนให้เขา ช่างอันตรายจริงๆ
เมือจางซงเฮ่อเห็นเซียวซ่งคล้ายอารมณ์ยงั ไม่สงบดีนกั
จึงถอยออกไปเงียบๆ
ในห้อง เหลือเพียงเขากับหรันเหยียน
ผ้าม่านโปร่งบางสีครามพลิวไหวยามต้องลม มองเห็นใบ
หน้าขาวซีดของหรันเหยียนได้รางๆ
12
เซียวซ่งเดินไปทีเตียง นังลงข้างเธอ ค่อยๆ ฟุบลงข้างมือ
เธอ จู่ๆ นําตาก็ไหลพราก
เขารูส้ กึ กลัว
แรกเริมเซียวซ่งก็แค่ชอบหรันเหยียนเฉยๆ ชอบแบบที
บุรุษถูกสตรีดงึ ดูด แต่เมือได้ติดต่อกันลึกซึงขึน เขายิง
รูส้ กึ ไม่อาจถอนตัว หลังจากแต่งงานจวบจนบัดนี ความ
รักไม่แปรเปลียน แต่ความผูกพันด้านอืนเพิมพูนมากขึน
13
เคียงบ่าเคียงไหล่กบั เขา เป็ นตัวเองอีกคนทีไม่ตอ้ งคาด
เดาสงสัย
“ท่านพ่อ” เสียงออดอ้อนของรัวรัวดังมา
14
สีหน้าหวันลวีตืนตระหนกยิงทีเห็นหรันเหยียนถูกผ้าพัน
ไว้ทงตั
ั วอย่างแน่นหนาและเซียวซ่งทีไหล่สนกระตุ
ั ก
ฟุบอยูบ่ นเตียง
เซียวซ่งลุกขึนยืนเมือได้ยินเสียง หันหลังเช็ดนําตาจน
แห้งแล้วจึงหันกลับมาหาพวกนาง
15
รัวรัวจ้องมองดวงตาแดงกําของเซียวซ่ง เสียงอ้อแอ้ ไม่รู ้
ว่ากําลังพูดอะไรบ้าง
หวันลวีเห็นบนผ้าพันแผลมีเลือดซึมออกมา ดวงตาแดง
กํา “นายท่าน ฮูหยินไม่เป็ นอะไรจริงๆ หรือ”
16
เสียงดังอย่างดีใจเมือเห็นหรันเหยียน
เขาไม่รูว้ า่ มารดาของตนโต้ตอบไม่ได้
เด็กทังสามคนจ้องมองหรันเหยียนตาแป๋ ว ไม่เข้าใจว่าเห
ตุใดหรันเหยียนจึงไม่สนใจพวกเขา แต่ได้เห็นท่านพ่อ
เด็กทังสามก็ไม่รอ้ งไห้อีก ยอมให้แม่นมอุม้ ออกไปแต่
โดยดี
เซียวซ่งนังเฝ้าดูหรันเหยียนตลอดเช้า หลังกินอาหาร
กลางวันอย่างลวกๆ หลิวชิงซงกับอูซ๋ ิวเหอจึงมาถึง
18
“พระราชวังนีไม่ถกู โฉลกกับลูกศิษย์ขา้ มาหนึงครังก็เกิด
เรืองหนึงครัง ข้าว่าวันหน้าพวกเจ้ารีบออกห่างจาก
สถานทีนีเสีย”
19
“ท่านดูลกู ศิษย์คนปั จจุบนั ก่อนดีกว่า”
20
“ฮูหยินจะมีอนั ตรายถึงขันเป็ นอัมพาตหรือไม่” เซียวซ่ง
ถาม
21
นันเด็ดขาด” อูซ๋ ิวเหอตัดสินใจแล้ว
ในสีวันนี หมอหลวงมาติดตามดูอาการตามเวลาทุกเช้า
คํา อูซ๋ ิวเหอกับหลิวชิงซงก็หมุนเวียนมาดูแลและอยูเ่ ป็ น
เพือนเซียวซ่งทังวัน
22
หลายวันนี หลิวชิงซงไม่ได้เห็นเซียวซ่งสินหวังและหดหู่
เขายุง่ อยูก่ บั การดูแลหรันเหยียนและเด็กๆ แทบไม่มี
เวลามาเศร้าโศกเสียใจ ตอนกลางคืนเขาให้หลิวชิงซงมา
อยูด่ แู ลแทน เพือประกันว่าตัวเองจะได้มีเวลาพักผ่อน
สองชัวยาม เพราะเขาไม่รูว้ า่ หรันเหยียนจะสลบอีกนาน
แค่ไหน เขายังมีลกู สามคนทียังเดินไม่ได้ ยังมีเรืองมาก
มายให้แบกรับ ไม่อาจล้มลงได้
23
ตอนที 438 เซียงกง ข้าเพียงผ่านทางมา
1
“อาเหยียน อาเหยียน?”
“อาเหยียน”
หรันเหยียนได้ยินเสียงเรียกมาเรือยๆ พลันจมดิงลงใน
2
ความมืดมิด ดวงตาเธอสัมผัสถึงแสงสว่างเล็กน้อย จึง
อยากลืมตาขึน
ท่ามกลางสายตาพร่ามัว หรันเหยียนมองเห็นใบหน้า
หล่อเหลาทีคุน้ เคย แต่หนวดเครารกรุงรัง ดูแก่ไปหลายปี
3
ลูกๆ แล้วท่านล่ะ? คิดถึงข้าบ้างหรือไม่ หรันเหยียนอ
ยากถาม แต่ยากทีจะเปล่งเสียง มีอาการเวียนศีรษะ
รุนแรงพักหนึง หรันเหยียนขมวดคิว
4
อาการเวียนศีรษะหายไป หรันเหยียนหวนคิดโดย
ละเอียด หรือว่าก่อนทีเธอจะสลบ ศีรษะโดนกระแทก แต่
ต่อมาพอนึกถึงความคิดของหลิวชิงซง ไม่อาจใช้ตรรกะ
ปกติในการใคร่ครวญ ก็เลยไม่คิดทีจะสนใจเขา
ด้านร่างกาย...เจ็บปวดเสียจนเธอไม่อยากจะมีรา่ งกายนี
แล้ว จะไม่มีความรูส้ กึ ได้อย่างไร
“อย่าเอะอะ” เซียวซ่งกล่าวอย่างเย็นชา
5
เซียวซ่งมองไปทางหรันเหยียน ดูจากแววตาของเธอ เขา
มันใจว่าเธอไม่ได้สญ
ู เสียความทรงจํา เลยไม่สนใจหลิว
ชิงซง เอ่ยยิมๆ “กินนําแกงโสมสักหน่อยเถิด อีกสักครูข่ า้
จะให้คนยกข้าวต้มมา”
หรันเหยียนนอนอยู่ กลืนนําแกงโสมทีเซียวซ่งป้อนอย่าง
ยากลําบาก
6
ค่อยๆ วางใจ
หรันเหยียนทังร่างไม่อาจขยับเขยือน และไม่อาจเปล่ง
เสียงได้ แต่เซียวซ่งกลับสามารถคาดเดาความต้องการ
ของเธอจากสีหน้าเพียงเล็กน้อย ยามเบือหน่าย ก็จะเล่า
นิทานให้เธอฟั ง นิทานทีเซียวซ่งเล่าเป็ นประเภทเดียวกัน
หมด แต่ก็เข้ากับรสนิยมของเธอ
นอกจากนิทาน เซียวซ่งก็เล่าสถานการณ์ในราชสํานักให้
ฟั งบ้างบางครัง
ครึงเดือนต่อมา แผลขนาดเล็กบนร่างกายหรันเหยี
ยนเริมตกสะเก็ด บ้างก็หลุดลอก เซียวซ่งเจาะจงให้ช่าง
7
ไม้ทาํ แคร่ทีเอนนอนได้ สุดท้ายก็พากลับไปพักฟื นทีบ้าน
ช่วงนีเหล่าขุนนางอาวุโสก็ได้ตดั สินบทสรุปเรืององค์
รัชทายาทก่อกบฏ
เซียวซ่งหลบพ้นมรสุมนีพอดี เพราะหรันเหยียนบาดเจ็บ
สาหัส
.........
9
ในบ้านสกุลเซียว
ทีทําให้หรันเหยียนปวดหัวก็คือ ทุกครังทีเธอเข้าห้องนํา
ปลดทุกข์ เซียวซ่งต้องเช็ดล้างให้เธอตลอด เธอรูส้ กึ ซาบ
ซึงนําใจในยามยาก แต่ก็ยงั เขินอาย และเกรงว่าความ
สวยงามระหว่างบุรุษสตรีนนจะมลายไปในไม่
ั กีวัน เธอ
จึงมีอคติกบั การกินนําแกง
10
“ก็ได้ เว้นสักสองชัวยามแล้วค่อยกิน” เซียวซ่งวางชามลง
เช็ดคราบมันทีมือ เอ่ยว่า “ร่างกายท่อนล่างของท่านมี
ความรูส้ กึ จริงหรือ”
11
เป็ นก็ตอ่ เมือกระดูกสันหลังได้รบั บาดเจ็บขันรุนแรง ถึง
จะเป็ นอัมพาต ตอนนันข้าคํานวณไว้อย่างดี ยามข้าแทง
เข็มพิษไปทีตัวเขา คูต่ อ่ สูต้ อ้ งชะงักชัวครู ่ แรงส่งของดาบ
ทีฟั นลงมาก็จะลดทอนไปอย่างน้อยครึงหนึง ไม่มากพอ
ทีจะทําลายกระดูกสันหลังข้าได้ มิเช่นนันข้าจะยอมเผย
แผ่นหลังให้ศตั รูได้อย่างไร”
“เรืองอะไร” หรันเหยียนมองไปทางเขา
ผ่านสองเหตุการณ์มาเมือเร็วๆ นี เซียวซ่งคิดว่าองครักษ์
อะไรก็พงไม่
ึ ได้ ปกป้องเองจะดีกว่า แต่เขาเป็ นซือหลา
งกรมอาญา งานยุง่ ทุกวัน ไม่อาจดูแลสถานการณ์ภาย
ในบ้านได้ตลอดเวลา
14
หรันเหยียนเงียบไปชัวครู ่ เอ่ยว่า “ข้าอยากจะตอบตกลง
แต่ขา้ ก็เข้าใจตัวเองว่าไม่เหมาะกับชีวิตเรียบง่ายเช่นนัน
ถ้าชะตากําหนดให้ไม่อาจนอนหลับแล้วตายจากไป ข้า
ยอมถูกฟั นตาย ก็ไม่คิดจะอุดอูต้ าย ส่วนท่านถามใจตัว
เองดู แล้วบอกข้า ท่านยอมเป็ นคนธรรมดาจริงๆ หรือ”
15
สําหรับบุรุษทีแท้จริง การหาทรัพย์สนิ ชือเสียงเกียรติยศ
เข้าบ้าน ก็เป็ นแค่เครืองบ่งชีความสําเร็จอย่างหนึงของ
พวกเขา เป็ นมูลค่าเพิมทีพวกเขาได้จากความบากบันใน
การทํางาน พวกเขาชอบอํานาจ ก็เหมือนสตรีชอบแต่ง
ตัว บ่อยครังไม่ตอ้ งการเหตุผลอืนใด
16
เซียวซ่งมองเธอ จากยิมน้อยๆ กลายเป็ นหัวเราะเสียงดัง
ลัน “อาเหยียน เป็ นผูร้ ูใ้ จข้าจริงๆ!”
สายลมฤดูใบไม้รว่ งโชยพัดพาเอาความเย็นมาด้วย
พืนทีทีเพิงกวาดเสร็จ จะมีใบไม้แห้งร่วงลงมาอีกอย่าง
17
รวดเร็ว บุรุษหนุ่มก็รบี กลับไปกวาดใหม่อีกครัง
18
ธรรมะจากอาจารย์หวายจิง หวายจิงบอกว่าจิตใจเขา
ฟุง้ ซ่าน จึงส่งเขาไปกวาดใบไม้หน้าประตูวดั
19
ซางเฉินกวาดจนถึงบันไดขันสุดท้าย หันกลับไปมองก็
เห็นใบไม้รว่ งเต็มพืนอีก ตัดสินใจกลับไปกวาดอีกรอบ
ยามนีด้านบนมีสามเณรน้อยอ้วนพีสง่ เสียงดังมา
“อาจารย์อา กินข้าวได้แล้ว!”
ซางเฉินใช้ไม้กวาดเขียใบไม้ทีร่วงบนพืน ใคร่ครวญอยูว่ า่
กินข้าวเสร็จแล้วค่อยกวาด หรือกวาดเสร็จแล้วค่อยกิน
ข้าว
20
กําลังตกอยูใ่ นภวังค์ ก็มีเสียงดังตุบ้ ซางเฉินรูส้ กึ มีลมแรง
พัดผ่านด้านหน้าตน มีวตั ถุตกลงตรงหน้าเขาพอดี หล่น
อยูท่ ีบริเวณเท้าของเขา มีเสียงร้องออกมา “โอ๊ย” เป็ น
เสียงร้องเจ็บปวด
วัตถุทีงดงามคลําทีเอวแล้วค่อยลุกขึนมา ใช้แขนเสือ
บังหน้าไว้ ส่งเสียงมีเสน่หช์ วนฟั ง “เซียงกง (คําเรียก
เสนาบดีสมัยถัง แต่ในสมัยซ่งใช้เรียกชายหนุ่มลูกผูด้ ี)
ท่านนี ข้าเพียงผ่านทางมา ท่านไม่เห็นอะไรทังนันนะเจ้า
คะ”
21
พูดจบก็กา้ วเท้าอาดๆ มุง่ ไปในเมืองทีอาบแสงสายัณห์
ยามนีมีเพียงเสนาบดีเท่านันทีถูกเรียกว่าเซียงกง...หรือ
ว่าคุณหนูนางนีล้มจนเพียน
22
ตอนที 439 ยกสุราวอนลมบูรพา (1)
1
พอสตรีนางนันบิดตัว เผยให้เห็นใบหน้าครึงหนึง ยิม
น้อยๆ มาทางเขาดุจดอกบัว ไม่ชา้ ก็จากไปดังสายลม
เสียงกลองบอกเวลาปิ ดประตูเมืองดังมา
ซางเฉินยังยืนอยูท่ ีเดิมแหงนหน้ามองฟ้าพลางใคร่ครวญ
สตรีนางนันผ่านทางมาจากไหนกันแน่ เณรน้อยมาเรียก
หลายรอบก็ไม่ตอบกลับ
2
ต่างตอบรับอย่างสงบเยือกเย็น
หนึงชัวยามผ่านไป มีคนแต่งกายลาดตระเวนพาสตรี
นางหนึงมาถึงวัดฉือเอิน
คนผูน้ นอาศั
ั ยแสงจันทร์ จ้องมองคนทียืนทือบนทางขึน
บันได ทีแท้คือซางสุยหย่วนผูโ้ ด่งดัง จึงรีบประสานมือ
เอ่ย “อาจารย์ซาง”
ซางเฉินมองเขาอย่างงงงวย
พูดจบ ก็หมุนตัววิงจากไป
ในราชวงศ์ถงั โทษห้ามออกจากบ้านยามราตรีไม่ใช่โทษ
เบา โดยเฉพาะพวกทีแต่งกายแปลกๆ มีพฤติกรรม
4
แปลกๆ หากออกมาเตร็ดเตร่บนท้องถนนกลางดึกแล้ว
ถูกจับได้ และบังเอิญคนลาดตระเวนอารมณ์ไม่ดี ถูกฆ่า
ก็ตายเปล่า
5
เพราะเหตุใด ในสมองพลันผุดคําพูดคล้ายบทกลอน
ประโยคหนึง---ยกสุราวอนลมบูรพา จงอย่ารีบร้างลา
จากไกล
ซางเฉินตะลึงจนงงงัน
ท้องฟ้าและผืนดินกลับสูค่ วามเงียบสงัด
เดือนสิบในฉางอัน
หลีซือหมินจนแล้วจนรอดก็ไม่ใจโหดพอทีจะฆ่าเขา องค์
รัชทายาทก่อกบฏคืนเดียวก็โดนปราบราบคาบ เว้นแต่
เหล่าขุนนางและภรรยา ประชาชนไม่รูช้ ดั เจนว่าเสาหลัก
ทังหมดของต้าถังเกิดเหตุการณ์ทีน่ากลัวอย่างไร ในช่วง
ทีพวกเขารวมตัวฉลองวันไหว้พระจันทร์ทงครอบครั
ั ว หลี
ซือหมินควบคุมข่าวทีจะแพร่ออกไปไว้แต่แรก ดังนันคน
ทัวไปเพียงรูว้ า่ องค์รชั ทายาทวางแผนก่อกบฏ จึงถูก
ปลดออกจากตําแหน่ง
7
วันต่อมา มีพระบรมราชโองการตามติดถ่ายทอดลงมา
ให้เว่ยอ๋องหลีไท่ยา้ ยไปยังทีดินศักดินา ได้ยินว่าวันทีหลี
เฉิงเฉียนออกจากวัง ได้หนั มาแว้งกัดหลีไท่อย่างแรงต่อ
หน้าฝ่ าบาท
8
ดันองค์ชายเก้าหลีจือ
พระบรมราชโองการส่งตามมา ให้หลีเค่อกลับไปรับ
ตําแหน่งตูตขู องอันโจว สังให้เขาเดินทางไปรับตําแหน่ง
ในวันรุง่ ขึน
พระบรมราชโองการสามฉบับออกมาต่อเนือง ดูเหมือน
ได้แก้ไขรากเหง้าของความวุน่ วายทังปวงอย่างง่ายดาย
แต่ทกุ คนรูว้ า่ ได้ผา่ นเบืองหลังฟ้าถล่มดินทลายมาอย่าง
9
ไร
ภายในเรือนทีดูคอ่ นข้างอ้างว้าง
หลีเค่อบีบพระบรมราชโองการแน่น มองตามเจ้าหน้าทีที
มาส่งแล้วจากไป
เพราะเหตุใด
10
เหตุใดเขาใช้ทกุ กลเม็ด ท้ายทีสุดกลับพ่ายแพ้คนที
อ่อนแอขีขลาด ไม่มีความสําเร็จใดๆ อย่างหลีจือ
11
ผลลัพธ์เช่นนี ช่างเป็ นการถากถางเขานัก
เหตุใดหลีเฉิงเฉียนจึงรูเ้ รืองหลีไท่คิดก่อกบฏอย่างชัดเจน
ใครทําลายต้วนอวินไจ้ แล้วป้ายสีหลีไท่ ถ้าไม่ใช่เขา เหตุ
ใดหลีไท่จงึ รูว้ า่ หลีเฉิงเฉียนทําผิดศีลธรรมต่างๆ นานา
12
……
ทีน่าขําก็คือหลายวันก่อนเขาอดโกรธแค้นไม่ได้ทีลอบ
สังหารหลีจือไม่สาํ เร็จ
13
ต่อให้ลอบฆ่าสําเร็จ พระบิดาและขุนนางในราชสํานักทัง
บุน๋ ทังบู๊ก็ยงั ต้องคิดหาวิธีรกั ษาหลีไท่และหลีเฉิงเฉียนไว้
เว้นแต่ฆา่ ทิงทังสามคน แต่นนเป็
ั นไปได้หรือ ตอนนัน
เกรงว่าตัวเองก็คงจะถูกเปิ ดโปง...
14
.........
ทีบ้านตระกูลเซียว
หรันเหยียนนังเอนบนเก้าอีมองท้องฟ้า เซียวซ่งป้อน
แอปเปิ ลทีปอกแล้วถึงปากเธอ
“ทําการเสียงทายเลือกของอย่างง่ายๆ หลังจากนันก็
เชิญคนใกล้ชิดมากินข้าวสักมือ ก็ดีกว่าไม่จดั ถึงอย่างไร
ก็เป็ นวันสําคัญ” หรันเหยียนตอบ
เซียวซ่งพยักหน้า “ได้”
16
หลักฐานความผิดนันไม่ใช่หลักฐานทีมีนาหนั
ํ ก ทีผ่านมา
หลีเค่อทําการหมดจดยิงกว่าหลีเฉิงเฉียนและหลีไท่ แต่
อย่างเรืองวางแผนชิงอํานาจเช่นนี ไม่จาํ เป็ นต้องมีหลัก
ฐานแน่ชดั เมล็ดพันธุแ์ ห่งความสงสัยหนึงเมล็ดโยนลง
ในดินทีเต็มไปด้วยแผนการร้าย ต้องเจริญงอกงามแข็ง
แรงแน่นอน
“ข้าเรียบเรียงและส่งให้พระมาตุลาจ่างซุนแล้ว” เซียวซ่ง
กล่าวอย่างเนือยๆ “ข้าไม่ได้หวังอะไร จะต้องเปลืองแรง
ไปทําให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัยด้วยเหตุใด ก็มอบนําใจนี
แก่พระมาตุลาจ่างซุนไป ใช้ไม่ใช้ก็แล้วแต่เขา”
วันหิมะตกทีหลีเค่อจับตัวหรันเหยียนไปนัน เซียวซ่งก็
17
สาบานว่าจะแก้แค้น เขามีความอดทนเพียงพอทีจะรอ
ถึงจังหวะทีดีทีสุด
ก่อนทีหรันเหยียนจะพูดถึงหลักฐานความผิดนัน ทีจริง
เซียวซ่งได้เริมสืบหาหลักฐานเองก่อนแล้ว ช่วงก่อนค่อย
หาเวลาไปส่งมอบให้จ่างซุนอูจ๋ ี ยืมดาบฆ่าคน แม้
ดาบอย่างจ่างซุนอูจ๋ ีนีจะยืมไม่ง่ายนัก แต่ตอนนีเพือจะ
คําจุนหลีจือ เขาอดไม่ได้เพราะกําลังต้องการโจมตีหลี
เค่อ
หรันเหยียนหรีตาเอ่ย “ได้ยินว่าเยียนเสียนเฟยพัวพันการ
ก่อกบฏ ถูกปลดแล้ว?”
18
เซียวซ่งรูว้ า่ เธอเวียนศีรษะอีก จึงหยิบผ้ามาเช็ดมือ ช่วย
นวดขมับให้เธอ “นีไปฟั งทีหลิวชิงซงพูดอีกกระมัง เขายัง
กล้ามาอีก? ทางทีดีอย่าให้ขา้ เจอ มิเช่นนันข้าจะตอน
เขา”
เรืองทีหลิวชิงซงพูดเกินจริง เซียวซ่งยังจําไว้ในใจตลอด
“ท่านคงได้ยินแล้วว่าเสียนเฟยคนใหม่มาจากสกุลเจิง
เจิงเสียนเฟยเคยใกล้ชิดกับท่านแม่ยาย นางเพิงได้รบั
ตําแหน่ง จําเป็ นต้องรีบทําให้ตาํ แหน่งมันคง ขอแค่ทา่ น
19
แสดงนําใจเล็กน้อย ก็สามารถเชือมสัมพันธ์โดยง่าย”
เซียวซ่งพูดยิมๆ “ถึงเวลาทีต้องเริมถอยห่างจากสกุลหรัน
แล้ว”
20
ตอนที่ 439 ยกสุ ราวอนลมบูรพา (2)
อากาศในเดือนสองยังคงหนาวอยูบ่ า้ ง
“เซี่ยนเหลียงฮูหยิน”
แม่ลูกทั้งสองค้อมกายคานับ
“ไม่ตอ้ งมากพิธี รี บนัง่ เถิด หวัน่ ลวี่ น้ าชา” หรั่นเหยียนดีใจอย่างบอกไม่ถูก อันที่จริ งถือว่า
เธอกับแม่ลูกสกุลโจวก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันนัก
หรั่นเหยียนเอ่ยยิม้ ๆ “ท่านลองพูดมา”
.....................................................
จบ
ตอนพิเศษหนึ่ง บทซู ฝู (1)
ดาวนายพรานทิศประจิม ดาวปาริ ชาตทิศบูรพา มิอาจพานพบตลอดกาล --- บทนา
***
ปี เจินกวานที่สิบเก้า
เดือนสิ บในฉางอัน เป็ นเดือนที่บณ
ั ฑิตมารวมตัวกัน เพิ่งสอบเคอจวี่เสร็ จ เหล่า
บัณฑิตจะมารวมกลุ่มกันท่องเที่ยว
ละแวกวัดฉื อเอินทางทิศใต้ของเมืองมีผืนป่ าต้นเฟิ ง (เมเปิ ล) และต้นแปะก๊วยในฤดู
นี้ ทอดสายตามองไปไกลเทือกเขาแดงสดดัง่ เปลวไฟและเหลืองทองอร่ าม
ทัศนียภาพเช่นนี้ ทาให้คนจิตใจปลอดโปร่ ง ละแวกนี้จึงเป็ นแหล่งพักผ่อนที่เหล่า
บัณฑิตชื่นชอบที่สุดในช่วงเวลานี้
“อาจารย์ปราดเปรื่ องรอบรู ้ หากร่ วมสอบเคอจวี่ สอบเพียงครั้งเดียวต้องได้ที่หนึ่ง
แน่ อาจารย์แต่งกลอนอีกสักบทเถิด!”กลุ่มคนที่มีอายุต่างกันล้วนยกจอกสุ ราดื่ม
คารวะ
บัณฑิตอีกกลุ่มที่รวมตัวกันไม่ไกลนัก มีคนเอ่ยเหยียดหยาม “ท่านเป็ นใคร
ซางสุ ยหย่วน? เพียงเป็ นพวกมีทกั ษะ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าโอ้อวดเช่นนี้! พวกเราจะ
จัดการเช่นไร!”
คนเหล่านี้ศึกษาหาความรู ้มาเรื่ อยจนอายุมาก เป้ าหมายสู งสุ ดของพวกเขาคือสอบ
เป็ นบัณฑิต ลูกศิษย์สานักหมอหลวงกลุ่มหนึ่งกล้ามากล่าวว่าสอบเพียงครั้งเดียว
ต้องได้ที่หนึ่งต่อหน้าพวกเขา!
“อาจารย์ชิงซง พวกเขาดูถูกพวกเรา!” มีหนุ่มน้อยอายุราวสิ บสี่ สิบห้าปี เอ่ยอย่าง
โมโห
หลิวชิงซงลุกจากกองใบไม้แห้ง มองบัณฑิตฝั่งตรงข้ามที่พดู จายโสโอหัง “หากมี
ความกล้าก็บอกชื่อเสี ยงเรี ยงนามมา!”
“ผูน้ อ้ ยภาคภูมิใจในชื่อแซ่ แซ่เฉิ น ชื่อฮุย ชื่อรองหมิงเย่า!” คนผูน้ ้ นั ตอบ
หลิวชิงซงปรบมือหัวเราะ “ดีมาก เหล่าศิษย์สานักหมอหลวงมองคนผูน้ ้ ีให้ละเอียด
จดจาหน้าตารู ปร่ างและชื่อแซ่ให้ดี”
เฉิ นฮุยไม่มีอาการกลัวจนหัวหดแม้แต่นอ้ ย จ้องตาทุกคนอย่างไม่หวาดหวัน่
“จาได้หรื อยัง! ต่อไปภายภาคหน้าสานักหมอหลวงจะไม่รักษาคนผูน้ ้ ี เขาสบ
ประมาทหมอ พวกเราเป็ นหมอมีศกั ดิ์ศรี ไม่มีทางลดตัวลงต่า วันนี้ขา้ จะไป
ประกาศในฉางอัน ต่อไปโรงหมอแห่งใดกล้ารักษาคนผูน้ ้ ี จะไม่มีโอกาสเข้าร่ วม
การประชุมแลกเปลี่ยนเด็ดขาด!” หลิวชิงซงเท้าสะเอวแผดเสี ยง
พอเฉิ นฮุยได้ฟังก็หน้าเขียว นี่เป็ นการตัดหนทางเขานี่! ทุกคนนึ กกลัวในภายหลัง
ยังดีที่เมื่อครู่ ไม่ได้กล่าวอะไรเกินไป
ทัว่ เมืองฉางอันไม่วา่ ใครก็รู้จกั ‘การประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการแพทย์’ เซี่ ยนเหลี
ยงฮูหยินเป็ นคนเสนอให้มีการประชุมนี้ สานักหมอหลวงเป็ นฝ่ ายริ เริ่ มก่อตั้ง ทุกปี
จะเชิญหมอชื่อเสี ยงโด่งดังทัว่ ต้าถังมายังสานักหมอหลวงเพื่อแลกเปลี่ยนความรู ้
ทางการแพทย์
การประชุมที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ ทาลายค่านิ ยมที่หมอทั้งหลายในต้าถังชื่นชอบ
สะสมตารับยาและวิธีการรักษาลับเฉพาะ
หมอที่เข้าร่ วมการประชุมแลกเปลี่ยนจะต้องมอบตารับยา ทฤษฎีหรื อประสบการณ์
รักษาอันทรงคุณค่าชุดหนึ่ง เริ่ มแรกหมอเหล่านั้นที่ถูกเชื้อเชิญมามุ่งหวังการรักษา
ของสานักฮัวโต๋ จึงกัดฟันตัดใจมอบตารับยาลับเฉพาะที่สะสมไว้ สุ ดท้ายพอการ
ประชุมเสร็ จสิ้ น เห็นว่าตารับยาเหล่านั้นถูกรวบรวมเป็ นเล่มแจกจ่ายให้ทุกคน ไม่
เพียงพวกเขาจะได้ศึกษา ‘การรักษาของสานักฮัวโต๋ ’ แต่ยงั ได้รับตารับยามากขึ้น
ต่อมาสานักหมอหลวงก็ได้รวบรวมตารับยาทั้งหมด โดยมีเซี่ ยนเหลียงฮูหยินเรี ยบ
เรี ยงเป็ นเล่ม กาจัดส่ วนที่ไม่จาเป็ นออก เหลือเพียงทฤษฎี ประสบการณ์ และตารับ
ยาที่เป็ นประโยชน์จากหมอทั้งหลายที่มากประสบการณ์ ตาราเล่มนี้เก็บไว้ในสานัก
หมอหลวง ทุกครั้งที่ถึงช่วงเวลาการประชุม จะมีการพิมพ์เพิ่ม ขอเพียงถูกเชื้อเชิญ
มาเข้าร่ วมการประชุม ก็ยมื ไปอ่านได้ แต่ไม่อาจเอาออกไปหรื อคัดลอก
ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังเยีย่ มชมสาขานิติเวชที่ลึกลับของสานักหมอหลวงได้ดว้ ย
หมอทั้งหลายยังรู ้สึกอย่างชัดเจนว่าผูป้ ่ วยจะเชื่อถือหมอที่ผา่ นการประชุม
แลกเปลี่ยนยิง่ ขึ้น ในโรงหมอแต่ละแห่งผูป้ ่ วยไม่ได้นอ้ ยลงเพราะคนอื่นล่วงรู ้ตารับ
ยาของตน แต่ตรงกันข้ามกลับเจริ ญรุ่ งเรื องกว่าเดิม
ด้วยเหตุน้ ี การประชุมแลกเปลี่ยนเพิ่งจัดตั้งเพียงสามครั้ง ก็กลายเป็ นการประชุม
ใหญ่ทางการแพทย์ในต้าถัง เป้าหมายของหมอทุกคนคือได้เข้าร่ วมการประชุม จึง
พัฒนาวิธีการรักษา จรรยาแพทย์ของตนอย่างต่อเนื่องเพื่อปี หน้าจะได้ถูกเชื้อเชิญ
กฎระเบียบการประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการแพทย์น้ ีลว้ นเปิ ดเผยต่อสาธารณะ ไม่ใช่
ว่าถูกเชื้อเชิญครั้งหนึ่ งแล้ว ปี หน้าจะถูกเชื้อเชิญอีก หมอที่เพียบพร้อมทั้งวิชาการ
แพทย์ จรรยาแพทย์ และคุณธรรมจะได้เป็ นสมาชิก สานักหมอหลวงจะจดบันทึก
ผลงานและความชานาญก่อนหน้านี้ท้ งั หมดของสมาชิกไว้ ติดทัว่ ถนนหนทาง
ตรอกซอกซอย แจกจ่ายไปตามถนนและเมืองที่มีหมออยู่ ทาให้กลายเป็ นหมอ
ชื่อเสี ยงโด่งดังไปทัว่ หล้าอย่างแท้จริ ง
กระทัง่ บัดนี้ สานักหมอหลวงแจกจ่ายเอกสารของสมาชิกทั้งหมดแปดท่าน สอง
ท่านเป็ นอีลิ่งในสานักหมอหลวง อู๋ซิวเหอ หรั่นเหยียน หลิวชิงซง หมอในฉางอัน
ท่านหนึ่ง หมอในหวายหนานท่านหนึ่ง ทั้งยังมีเทพแห่งยาซุนซื อเหมี่ยว
ซุนซื อเหมี่ยวเป็ นผูว้ ิเศษที่รักสันโดษ ไม่เคยเข้าร่ วมการประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการ
แพทย์ แต่ชื่อเสี ยงหมอเทวดาของเขามีอยูท่ ุกหนแห่ง สานักหมอหลวง
ปรึ กษาหารื อกันว่าจะรักษาตาแหน่งเขาไว้ตลอดไป แล้วส่ งคนออกตามหาทุกที่ ส่ ง
จดหมายเชื้อเชิญ
“รังแกกันเกินไปแล้ว! ใช้อานาจข่มขู่ ข้าไม่ยอม! ข้าไม่เชื่อว่าในต้าถังนี้จะไม่มี
พื้นที่ให้ช้ ีแจงเหตุผล!” เฉิ นฮุยหน้าง้ า คนเราทั้งชีวิตมีที่ไหนกันจะไม่เจ็บป่ วยเลย
ต่อไปหากเขาป่ วยจะทาเช่นไร!
หลิวชิงซงยังไม่ทนั พูด ก็มีคนเอ่ยว่า “ถึงจะชี้แจงเหตุผล เหตุผลก็อยูฝ่ ั่งพวกเรา!
ใครให้ท่านพูดจาไม่ดีก่อนเล่า!”
“ท่านว่าเขาปราดเปรื่ อง หากร่ วมสอบเคอจวี่ สอบเพียงครั้งเดียวต้องได้ที่หนึ่งแน่
เอาพวกเราที่ศึกษาจนแก่เฒ่าไปไว้ที่ใด! หากวันนี้เขาสามารถเขียนบทความที่ทาให้
พวกเรายอมรับได้ วันนี้ขา้ เฉิ นหมิงเย่าจะโขกศีรษะขออภัย!”เฉิ นฮุยพูดเสี ยงเกรี้ ยว
หลิวชิงซงบอก “บทความยุคสมัยอะไรข้าไม่ชอบ สู ้ท่องกลอนสักบทไม่ได้ หาก
ท่านว่าแต่งกลอนไม่ถือเป็ นความสามารถ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด”
หากไม่ได้อ่านบทกวีมามาก ยากนักที่จะแต่งกลอนจนคนตะลึง ด้วยเหตุน้ ีความยาก
จึงไม่ดอ้ ยกว่าการเขียนบทความยุคสมัยเลย การเขียนบทความมักต้องใช้เวลาหลาย
ชัว่ ยาม ทุกคนถึงคิดว่าการแต่งกลอนก็ไม่เลว
เฉิ นฮุยกาหนดหัวข้อให้แต่งกลอนเกี่ยวกับผูค้ นโดยรอบหรื อทัศนียภาพ
หลิวชิงซงมองไปโดยรอบ ทบทวนในสมองว่ามีกลอนบทใดเกี่ยวกับต้นเฟิ งหรื อ
วัดวาอาราม แต่กลับมองเห็นเงาร่ างที่คุน้ เคยขี่มา้ ไปเบื้องหน้า
ทุกคนเห็นหลิวชิงซงจับจ้อง จึงมองตามสายตาเขา
ท่ามกลางถนนที่มีตน้ ไม้สองฟากฝั่ง ใบต้นแปะก๊วยร่ วงปลิวว่อน บุรุษร่ างสู งใหญ่
ผูห้ นึ่งขี่มา้ สี ดาอยูด่ า้ นหน้า ตามมาด้วยรถม้าที่ไม่มีคนขับ
จู่ๆ หลิวชิงซงก็ปลื้มปี ติ ท่องกลอนเสี ยงดังไปทางคนผูน้ ้ นั
…………………………
ตอนพิเศษหนึ่ง บทซู ฝู (2)
…………………………
ตอนพิเศษหนึ่ง บทซูฝู (3)
เอ่ยพลางจูงซูฝเู ข้าไปในบ้าน
พอเด็กที่สร้างความอลหม่านทั้งสามออกไป ในห้องก็พลันดูเงียบผิดปกติ
เขาฝื นใจจิบอึกหนึ่ง
ซูฝพู ยักหน้า
บทสนทนาของทั้งสองเงียบลงอีกครั้ง
ดวงตาคู่ลุ่มลึกของหรั่นเหยียนคล้ายมองทะลุคาโกหกของเขาได้ในพริ บตาเดียว
สถานที่ใจสงบก็คือบ้าน
……
……
พรุ่ งนี้คนั่ ด้วยขุนเขา เรื่ องของสองเราไม่เที่ยงแท้
…………………………
ตอนพิเศษสอง บทซางเฉิน (1)
เซียวซ่งพาลูกชายลูกสาวทังสามนังบนระเบียง ขมวดคิว
แผ่กลินอายหึงหวงรอบกาย
1
"ท่านพ่อ ท่านสวมหมวกเขียวแล้ว (สํานวนจีนหมายถึง
โดนสวมเขา) " ตาโตใสแจ๋วเปี ยมแววเห็นใจของเซียวเห
ล่าต้าจับจ้องเซียวซ่ง
เดิมทีเซียวซ่งโทสะจู่โจมจิตใจ พอได้ยินลูกชายอายุแค่
ห้าหกขวบกล่าววาจาพิเรนทร์สะท้านฟ้าธรณีกาํ สรดเช่น
นี ก็ชะงักครูห่ นึงก่อนข่มเพลิงโทสะทีอัดแน่นเต็มอก
ถามด้วยนําเสียงสงบลงเล็กน้อย "ใครบอกเจ้าเรืองสวม
หมวกเขียวนี"
2
ฐานแน่ชดั
เซียวซ่งพลันลุกขึน สวมรองเท้าก้าวปราดไปด้านนอกดุจ
ดาวตก
4
ทันใดนันหวันลวีก็ตงสติ
ั ได้ บ่นอย่างไม่พอใจว่า "หลิวอี
เฉิงก็เหลือเกินจริงๆ เด็กอายุช่วงนีช่างจดจําทีสุด ถึงกับ
สอนเรืองพวกนี…" นางถอนใจเฮือกหนึง นังบนระเบียง
แล้วหันไปกระซิบถามอย่างสนอกสนใจว่า "ฮูหยินกับ
คุณชายซูทาํ อะไรกันหรือเจ้าคะ"
"กอดกันแล้ว" รัวรัวตอบอย่างไร้เดียงสา
"กะ...กอดกันหรือ" หวันลวีสีหน้าตืนตระหนก
5
หวันลวีรีบกําชับเด็กสามคนว่า "เรืองนีไม่อาจพูดไปเด็ด
ขาด รูไ้ หมเจ้าคะ อย่าได้บอกกับท่านปู่ ทา่ นย่า มิเช่นนัน
พวกนายน้อยก็จะไม่ได้เห็นท่านแม่อีก"
รัวรัวพยักหน้าราวไก่จิกข้าวเปลือก นําตาปริมจะร้องไห้
6
หวันลวียังไม่ทนั ตอบ เซียวเหล่าต้าก็ชิงตอบว่า "ท่านพ่อ
ไปหาเรืองต่อยตีบรุ ุษรูปงามคนนันแล้ว"
พูดจบก็รบี ร้อนจากไป
เสียงหวันลวีตันคอหอย ก่อนรีบถามเซียวเหล่าต้าว่า
"นายท่านไปหาเรืองต่อยตีคณ
ุ ชายซูจริงหรือเจ้าคะ"
เซียวเหล่าต้ามองท่าทางตึงเครียดของหวันลวี แล้วส่าย
หน้าอย่างผูบ้ ริสทุ ธิ "อาชิงซงบอกว่า สวมหมวกเชียวก็
7
ต้องมีเรืองต่อยตี"
หวันลวีถอนใจใหญ่ ใจนึกครังนีหลิวอีเฉิงเคราะห์รา้ ย
จริงๆ แล้ว
หรันเหยียนถามยามว่าเซียวซ่งไปทางไหน จากนันพา
องครักษ์สองคนขีม้าตามไป
ตลอดทางเห็นเงาร่างของเซียวซ่งได้ราํ ไร แต่เพราะผูค้ น
ออกท่องเทียวช่วงฤดูใบไม้รว่ งกันเยอะ หรันเหยียนไม่
อยากสร้างเรืองซุบซิบประเภท 'เซียวซือหลางหนีไป
อย่างแล้งนําใจ เซียนเหลียงฮูหยินจึงขีม้าไล่ตามสามี'
8
จนถึงละแวกวัดฉือเอิน ถึงกับคลาดสายตา ขณะหรันเห
ยียนร้อนใจ ก็เห็นหลิวชิงซงขีม้าเอ้อระเหยมา "พีสะใภ้
เก้า? ท่านก็มาเทียวช่วงฤดูใบไม้รว่ งหรือ"
9
หรันเหยียนขมวดคิว "เขายังต้องอาศัยข้าวคนอืน ท่าน
ยังมาขอข้าวเขา?"
"ฮูหยินบ้านข้าสังสอนเข้มงวด ประหยัดได้ก็ประหยัด"
หลิวชิงซงตอบอย่างจนใจด้วยสีหน้าอมทุกข์
เมือเอ่ยถึงซางเฉิน หรันเหยียนกวาดตาหาร่องรอยของ
เซียวซ่งพลางถามว่า "เขายังไม่ยอมคุณหนูบา้ นตูอ้ ีก
หรือ"
หลิวชิงซงได้ยินคําของหรันเหยียน สีหน้าอมทุกข์ก็ถกู
สลัดทิงไปทันที หัวเราะฮ่าๆ ตอบว่า "พีสะใภ้เก้า คําว่า
'ยอม' ของท่านนีใช้ได้ดียงิ หลังสกุลหลีกับสกุลตูถ้ อน
10
หมัน คุณหนูสกุลตูก้ ็ออกจะสติไม่ดีนกั แต่ทา่ นรูส้ กึ ไหม
ว่าคุณหนูนางนันก็ทะลุมิติมาเหมือนกัน"
"บนโลกนีจะมีเรืองประหลาดพิสดารมากมายปานนัน
เชียวหรือ" หรันเหยียนไม่เชือ
11
องอาจเปิ ดกว้าง เช่นนันอะไรถึงนับว่าองอาจเปิ ดกว้าง?
หรันเหยียนส่ายหน้า
12
"ตรรกะของท่าน?" หรันเหยียนเหล่เขา ใช่วา่ หรันเหยี
ยนดูถกู แต่เป็ นเพราะเขาไม่เคยคิดเรืองราวด้วยตรรกะ
เลย
13
เต๋อเจียน ก็คือถือมีดไปฟั นเต๋อเจียน ดังนันข้าว่าหาก
นางถูกทําให้สะเทือนใจจนเสียสติได้ ชือเสียงเกียรติภมู ิ
ชัวชีวิตของข้าหลิวชิงซงจะเอาไปไว้ไหน ความจริงมี
เพียงหนึงเดียว---"
เสียงของหลิวชิงซงพลันชะงักค้าง มองไกลไปสามจัง
เซียวซ่งกําลังเอนกายพิงต้นไม้ ริมฝี ปากเผยรอยยิม
อันตราย
14
หรันเหยียนใจนึก ไม่ใช่ไปหาเรืองต่อยตีกบั ซูฝหู รือ ทําไม
ดูทา่ เหมือนกําลังหาเรืองคิดบัญชีกบั หลิวชิงซงเล่า
15
ทันทีวา่ "วันไหนข้าก็ไม่เคยสอนเรืองบ้าบอให้พวกเขา
เลย"
"อือ ข้าตัดสินใจไม่สงสอนเจ้
ั าแล้ว" จู่ๆ รอยยิมบนหน้า
เซียวซ่งก็ออ่ นโยนเป็ นมิตร
หลิวชิงซงเห็นแล้วขนลุกเกรียว ไม่มีความยินดีของการ
รอดตัวสักนิด
เซียวซ่งกล่าวต่อ "ข้าสนใจสังสอนลูกทีกําลังจะคลอด
ของเจ้ามากกว่า"
16
ตอนพิเศษสอง บทซางเฉิน (2)
1
อดกลันได้ถงึ ขันนี ก็ถือว่าหายากมากจริงๆ
"ข้ากลัวในใจท่านจะสัญญามอบชาติหน้าให้คนอืน"
เซียวซ่งมองมาทางเธอ
2
ใบไม้รว่ งโปรยปราย
หลิวชิงซงหน้าเฝื อนมองทังคู่
............
หนึงเค่อให้หลัง ในวัดฉือเอิน
หลิวชิงซงนําหูนาตาไหล
ํ "สงสารซงจือบ้านข้า ยังไม่ทนั
เกิดก็ถกู ลิขิตให้รบั กรรม คุณชายเก้าไร้มนุษยธรรม ทํา
อะไรไม่เคยเลือกวิธีการ โหดร้ายทารุณแม้กบั ทารก ข้า
ขอสาปแช่งเขา ให้หรันเหยียนหนีตามซูฝไู ปในไม่กีวันนี!"
3
ซางเฉินทีนังอยูต่ รงข้าม หน้ายุง่ รวบแขนเสือมองเขา
4
ซางเฉินเม้มปาก ลังเลครูห่ นึงก่อนบอกว่า "เมือครูผ่ นู้ อ้ ย
คิดว่า หากท่านจะสาปแช่ง เปลียนเป็ นให้คณ
ุ หนูหรันหนี
ตามไปกับผูน้ อ้ ยได้หรือไม่…"
หลิวชิงซงสูดจมูกทีคัดแน่น "ความคิดนีไม่แปลกใหม่สกั
นิด ข้าว่าท่านจะปกติหน่อยได้ไหม ช่วยสนใจลูกชายข้า
บ้าง ข้ากําลังระบายทุกข์กบั ท่านนะ!"
5
หลิวชิงซงชะงัก ก่อนชะโงกไปชิดอีกฝ่ ายทันใด "ความ
คิดนีของท่านเยียมนัก! แต่ซงจือไม่ใช่ชือ เป็ นคําย่อของ
'ลูกชายหลิวชิงซง' ท่านว่านอกจากซงสูย่ งั มีชืออืนทีน่า
สนใจอีกไหม"
ขณะหลิวชิงซงตังท่าจะซักไซ้ตอ่ ด้านนอกมีหลวงจีน
อ้วนรูปหนึงท่องนามพุทธองค์ "อาจารย์อา คุณหนูบา้ นตู้
มา"
6
"บอกว่าท่านไม่อยู?่ " หลิวชิงซงถาม
หลิวชิงซงยืนมือเก็บพระสูตรขึนวางบนโต๊ะ พอเงยหน้าก็
เห็นสตรีสวมชุดกระโปรงหรูฉวินคอปาดสีอาํ พันอ่อนยืน
ระหงทีหน้าประตู
7
พอนางเห็นเขา ก็รบี ถอยหลบไปด้านข้าง ถามเสียงเบา
ว่า "อาจารย์ซางอยูไ่ หม"
หลิวชิงซงตอบ "เขาเพิงไปเมือกีนีเอง"
เรืองพรรค์นีหลิวชิงซงชอบทําทีสุด จึงตกปากรับคําทันที
"สามารถรับใช้คณ
ุ หนูตู้ ผูน้ อ้ ยรูส้ กึ เป็ นเกียรติยิงนัก"
8
คุณหนูตสู้ อดจดหมายฉบับหนึงเข้ามาทางร่องประตู
10
"ซินแสอยากให้ขา้ ทําสิงใด" คุณหนูตถู้ าม
11
นางถอนใจ ก่อนเล่าความเป็ นมา
12
"ข้ามีเวลายาวนานช่วงหนึงทีไม่เชือ" หลิวชิงซงรูส้ กึ
ราวหาผูร้ ูใ้ จพบในทีสุด คนอืนเห็นการทะลุมิติเป็ นเรือง
ธรรมดา อันทีจริงมันก็เป็ นเรืองธรรมดาจริงๆ ทว่ามีแต่
เขาทีเหมือนจวงโจวฝันเห็นผีเสือ หลายปี แยกความ
ความจริงและภาพฝันไม่ชดั แจ้ง
นอกจากสมัยซ่ง หลิวชิงซงยังคิดไม่ออกชัวขณะว่าสมัย
ไหนยังมีตาํ แหน่งถีสงิ กวานอีก เขาอดถามไม่ได้ "เช่น
นัน...ท่านไม่สมควรรักษาพรหมจรรย์เพือสามีหรือ"
หลิวชิงซงบอกเรืองโน้นเรืองนีเทียวหนึง แล้วปล่อยให้
คุณหนูตคู้ ิดเอาเอง ส่วนตนก็สะบัดชายแขนเสือกลับ
บ้าน
14
แต่บรุ ุษสตรีสมัยซ่งระวังไม่ชิดใกล้กลับมีอยู่ ตามความ
คิดของหลิวชิงซง นิสยั ของคุณหนูตนู้ ีดูก็รูว้ า่ เป็ นพวกก๋า
กันขนบธรรมเนียมคุมไม่อยู.่ ..
15
ตอนพิเศษสอง บทซางเฉิน (3)
หลังอาหารเย็น ซางเฉินกลับเรือนไผ่หยิบเสือผ้าไปอาบ
นํา เขาอยูม่ มุ ร้างมุมหนึงด้านหลังวัดคนเดียว เจ้าอาวาส
แบ่งทีให้เขาผืนหนึงใช้ปลูกผักหลายอย่าง ปกติเขาจะ
ช่วยทางวัดคัดพระสูตร ไม่มีเงินตอบแทน แต่ให้อาหาร
กินสามมือ
1
นักศึกษาทังหมดในต้าถังเจ็บปวดรวดร้าวถึงทีสุด ซางสุ
ยหย่วนผูม้ ีความสามารถโดดเด่นเลิศลํากลับจมปลักอยู่
ท่ามกลางพระสูตรเช่นนี ไม่ตอบรับคําเชิญใดๆ ไม่เขียน
บทความ ไม่รา่ ยกลอน นานๆ ครังเพียงวาดภาพฆ่าเวลา
และบันทึกแผนการเดินหมากทีคิดได้ แต่ไม่เคยขายหรือ
มอบให้ใคร ในระยะเวลาสันๆ ภาพวาดอักษรและลาย
มือต้นฉบับของซางสุยหย่วนราคาพุง่ กระฉูด โดยเฉพาะ
จานฝนหมึกดินเผาลายดอกกล้วยไม้ทีเขาทํากับมือ ซึง
ด้านล่างสลักคํากลอนไว้มีคนให้ราคาเป็ นเงินเกือบหมืน
พวง กลายเป็ นของฟุ่ มเฟื อยทีสุดบนโต๊ะของชนชันสูง
แต่มีคนให้ราคากลับไม่มีของ ผูท้ ีได้ครอบครองสิงของ
เหล่านี ย่อมไม่นาํ ออกขาย
2
แต่สาํ หรับทุกอย่างนี ซางเฉินไม่รูเ้ รืองใดๆ ทังสิน เขาพอ
ใจกับชีวิตตอนนีมาก กินเจ สวดมนต์ ทังร่างปลอดโปร่ง
โล่งสบาย บางครังนึกถึงใบหน้าของหรันเหยียนบ้าง แต่
ไม่อาจสะเทือนอารมณ์เขาอีก บางคราวพบกัน เขาก็แค่
ท่องนามพุทธองค์ แล้วคารวะแบบพระ
แต่ซางเฉินไม่เชือว่าใจทีมีให้เธอจะกลับคืนสูค่ วามสงบ
ราบรืนแล้ว ด้วยเดิมทีเขาคิดว่ามันจะเป็ นความรูส้ กึ ทัง
ชาติ
3
ขณะเตรียมไปคลําหาเสือบนฉากบังลม พลันมีมือคูห่ นึง
เพิมมาบนเอว ตามติดด้วยร่างอ่อนนุ่มแนบแผ่นหลัง
"อาจารย์ซาง"
4
"ท่านปล่อยข้าก่อน" ในความมืด ซางเฉินหน้าแดงกํา
รูส้ กึ เหมือนร่างนุ่มทีแผ่นหลังราวเหล็กนาบ ลวกจนทัง
ร่างร้อนไปหมด
"อือ" ซางเฉินรับคํา
5
ซางเฉินคลําหาทีจุดไฟ แล้วจุดโคมไฟ
แสงสีเหลืองมัวส่องห้องเล็กแคบ เขาไม่กล้าหันกลับไป
นิงคิดพักหนึงก่อนเอ่ย "คุณหนูตู้ สายมากแล้ว เกรงว่า
ประตูตรอกน่าจะปิ ดแล้ว แต่หากท่านอยูท่ ีนี กลัวจะ
เสือมเสียชือเสียง ข้าเลยจะส่งท่านไปขอค้างทีอารามชิง
อินสักคืน"
“……”
6
ในแสงละมุน สตรีสวมชุดกระโปรงหรูฉวินคอปาดสี
อําพันยืนโดดเดียว คลุมหน้าด้วยผ้าโปร่ง เห็นใบหน้าไม่
ครบ แต่คล้ายแผ่ความเดียวดายออกมาจากแก่นกาย
ในความเดียวดายแฝงความละมุนละไม ราวหยกงาม
เร้นโลกชินหนึง
ซางเฉินกลับมาตังสติได้ กล่าวอย่างสํารวมเคร่งครัดว่า
"ไม่ไกลๆ ข้ามเขาสองลูกก็ถงึ "
ถึงตอนนันฟ้าก็คงสว่างแล้ว หลิวชิงซงสอนนางให้ใช้
กําลังขืนใจ ซางเฉินเป็ นคนมีความรับผิดชอบสูงยิง ไม่
7
ว่านางจะเป็ นฝ่ ายรุกก่อนหรือไม่ เขาก็คงรับผิดชอบอยูด่ ี
นับแต่แวบแรกทีนางเห็นซางเฉิน ก็ไม่อาจลบเงาร่างเขา
ออกจากใจ ในสีปี นีทีบ้านคุยเรืองแต่งงานให้นางหลาย
ครัง นางยอมแกล้งเสียสติแต่หวั เด็ดตีนขาดก็ไม่ยอม
แต่ง บัดนีอายุก็ขนาดนี ตอนแรกเลยคิดทําตามวิธีของ
หลิวชิงซงโดยไม่สนยางอายจริงๆ แต่พอเห็นดวงตาใส
บริสทุ ธิของเขา ก็ได้แต่ถอนใจ ย่อกายคารวะเล็กน้อย
"รบกวนอาจารย์ซางแล้ว"
ซางเฉินใบหน้าคลียิม หาเสือคลุมกันลมจากในห้องมา
"ดึกแล้วนําค้างแรง เหนียงจือ (คุณหนู) คลุมไว้ก่อนเถิด"
8
หัวใจนางพลันเต้นไม่เป็ นจังหวะ ทีบ้านเกิดนาง ความ
หมายของเหนียงจือก็คือฮูหยิน มาอยูต่ า้ ถังสีปี นางคุน้
เคยกับคําเรียก 'นายท่าน' 'คุณหนู' เช่นนีแล้ว บ่าวไพร่
ในบ้านก็เรียก 'คุณหนูๆ' กันหมด แต่พอได้ยินซางเฉิน
เรียกเช่นนี นางก็ยงั อดหน้าแดงใจสันไม่ได้
9
"เจียงหลี (โกฐหัวบัว) เจียงหลี (อีกชือของเสาเย่า) ตอน
แรกบิดาตังชือนีให้ขา้ ก็ดว้ ยเหตุนี แต่ภายหลังรูส้ กึ ว่าไม่
ดี" ตูเ้ จียงหลียิมก่อนกล่าว
10
ได้ ต้องถึงภายในครึงเดือนแน่"
……
ครึงชัวยามให้หลัง
พวกเขาหลงทางโดยสินเชิงจริงตามคาด
แต่ดีทีคนหนึงหวังให้หลงทาง คนหนึงมีประสบการณ์
11
หลงทางอย่างโชกโชน จึงไม่มีใครตกใจลนลาน
12
สัตว์รา้ ยประเภทเสือและหมาป่ าได้
เดินทางถึงกลางดึก ทังสองหารือกันว่าจะพักทีริมนําครู ่
หนึง
ซางเฉินถาม "คุณหนูหิวไหม"
13
ตูเ้ จียงหลีรบั หมันโถวมา ปลดผ้าคลุมหน้ากัดคําเล็กๆ
คําหนึง
"อมิตาภพุทธ" ซางเฉินพลันท่องนามพุทธองค์
14
ครันคิดได้ นางก็โปรยเศษหมันโถวลงในนํา
15
ตอนพิเศษสอง บทซางเฉิน (4)
1
ข้าก็เป็ นพุทธศาสนิกชน"
2
ต้าถังมีกฎเกณฑ์เช่นนี สตรีอายุสบิ แปดไม่แต่งงาน ก็ให้
ทางการเป็ นธุระจัดการแต่งงานให้
ครังนีหายตัวมากับซางเฉินครึงเดือน แม้ซางเฉินมีชือ
เสียงขาวสะอาดมาตลอด แต่ก็ไม่อาจรับประกันชือเสียง
นางได้
ตูม!
3
นํากระเซ็นรอบทิศ ร่างตูเ้ จียงหลีถกู นําเย็นเฉียบล้อม
รอบ นางกําลังหมายว่ายขึนไป ใจคิดว่านีเป็ นโอกาสดี
ยิง พอดีไม่ตอ้ งแกล้งขาพลิกเอวเคล็ด รีบแสร้งทําท่า
ดินรนร้องให้ช่วย
โชคดีทีซางเฉินเตรียมตัวตายแล้ว จึงไม่เหมือนคนจมนํา
ทัวไปทีเกาะขอนไม้แน่นไม่ปล่อย สิงทีนางแบกรับคือ
นําหนักเท่านัน
5
“อยูก่ ็ไม่สขุ ตายก็ไม่กลัว” ซางเฉินตอบ
6
เขาเป็ นคนสับสนเช่นนีมาตลอด ยินดีจงู มือกันไปตาย
ทว่าไม่ยินดีอยูย่ อมรับความคิดในใจ
เรืองเหล่านีมีหรือซางเฉินจะไม่รู ้ เขาเบือนหน้าไปอย่าง
ดือรัน ไม่มองนาง
7
เกินไป น่าลุม่ หลงเป็ นพิเศษ
8
ต้องทําถึงทีสุด...
นางแข็งใจจุมพิตลําคอเขาสะเปะสะปะ เห็นเขาไม่ผลัก
ไส จึงทุม่ สุดตัว จูบปากทีบางกําลังพอดีของเขาอย่างเร่า
ร้อน
9
อกุศลทางด้านนี เป็ นการยัวยวนถึงชีวิต
“อือ...” ซางเฉินอดครางไม่ได้
10
ตูเ้ จียงหลีหน้าแดงดังหยดเลือด เพราะเสียงร้องของซาง
เฉินนี และเพราะรูว้ า่ ของสิงนันคืออะไร
11
อย่างเคลิบเคลิม รูส้ กึ ว่าสัมผัสยอดเยียมกว่าที
จินตนาการไว้ ยิงอดลูบคลําอีกไม่ได้ ตรงกลางแห่ง
ความนุ่มนิมมีจดุ เล็กๆ นูนขึนมา นิวเรียวยาวของเขา
แตะเบาๆ
ทังสองทําตามสัญชาตญาณชักนํา สํารวจกันและกันอยู่
ครูห่ นึง เสือผ้ากระจายตกเต็มพืนแต่แรก จุมพิตก็คอ่ ยๆ
ล่วงลึก
12
ซางเฉินเพียงรูส้ กึ ว่ากายท่อนล่างแข็งตัวเจ็บสุดทานทน
ความสุขทังหมดในร่างกายล้วนรวมตัวกันอยูท่ ีนัน ยิงมา
ยิงปรารถนา ตอนทีตูเ้ จียงหลีลบู คลํามันอีกครา ถึงกับ
อดปล่อยมันออกมาไม่ได้
หลังจากนัน สมองของซางเฉินถือว่าตามความแจ่มใส
คืนมาได้ แต่เหตุการณ์เมือครู ่ โถมมาดังกระแสนํา
13
ตูเ้ จียงหลีก็ได้สติ ก้มหน้ามองการปล่อยตัวของตนเอง
อดร้องเสียงเบาไม่ได้ หมายหาเสือผ้า ทว่าเห็นซางเฉิน
อยูไ่ ม่ไกล จึงไม่กล้าขยับตามใจ ทําได้เพียงขดตัวกลม
14
“คุณหนู ผูน้ อ้ ย พรุง่ นีผูน้ อ้ ยจะไปวางสินสอดทีเรือนสกุล
ตู”้ ซางเฉินพูดละลําละลัก
15
ตอนพิเศษสอง บทซางเฉิน (5)
1
ล่าวจริงๆ เมือใดทีเกิดความใกล้ชิดทางกาย ซางเฉิน
ย่อมรับผิดชอบ แต่นางไม่ดีใจแม้สกั นิด
เมือใดทีซางเฉินเชือเรืองใดแล้ว ต่อให้ตายก็ไม่เปลียนใจ
เช่นเขาเชือว่าตนเองไม่มีความเกียวข้องกับสกุลชุย ไม่
ว่าสกุลชุยจะลดท่าทีลงเพียงไร เขาเชือเช่นนีมายีสิบปี
เช่นใจเขาเชือว่าตนเองจะชอบหรันเหยียนไปชัวชีวิต ดัง
นันไม่วา่ โลกเปลียนไปอย่างไร เขาก็ยืนหยัดเชือมันว่า
ตนเองจะชอบเธอไปตลอดกาล
2
“ข้าอาจผิดไปแล้ว” ตูเ้ จียงหลีบน่ พึมพํา นางไม่ควรขอ
มากเกินไป รอคอยเขาเช่นนีไปชัวชีวิต ก็ดีมากไม่ใช่หรือ
อย่างน้อยก็ดีกว่าเมือก่อน ชาติทีแล้วเผชิญกับการรอ
คอยไม่สนสุ
ิ ด แต่ชาตินียังได้เห็นเขาเป็ นครังคราว
นางละโมบเกินไป หมายอยากครอบครองมากยิงขึน
3
“ในฉางอันมีสตรีทีหากไม่ได้แต่งกับอาจารย์ก็ไม่ขอแต่ง
งานมากมาย เหตุใดอาจารย์จงึ ปล่อยตัวกับข้าเพียงผู้
เดียว” ตูเ้ จียงหลีถามยิมๆ
ใจซางเฉินหมายหลบหลีก กายกลับนิงไม่เคลือนไหวอยู่
ตรงนัน ปล่อยให้นางเช็ดตามใจ
แต่ตอนนีนางสํานึกเสียใจจริงๆ เรืองนีคล้ายบีบให้ซาง
เฉินพบทางตัน จนเขาอาจมีชีวิตอยูก่ บั ความเจ็บปวด
และโทษตัวเองไปชัวชีวิต
ซางเฉินตะลึงงัน
7
“ข้าเป็ นเพียงจิงจอกตัวหนึงบนเขา ท่านเคยได้ยินหรือไม่
จิงจอกอายุรอ้ ยปี แปลงร่างเป็ นมนุษย์ได้?” เดิมทีตเู้ จียง
หลีหมายบอกว่าเป็ นวิญญาณโดดเดียว แต่กลัวจะขู่
ขวัญเขาตกใจจนเป็ นลม ถึงอย่างไรจิงจอกก็ยงั เป็ นสิงมี
ชีวิต
“โกหก” ซางเฉินไม่เชือ
8
“เป็ นความจริง อีกอย่างไม่กีวันนีข้าก็จะไปแล้ว ข้าชอบ
ท่าน ดังนันจึงอยากให้ทา่ นส่งข้ากลับไป” ตูเ้ จียงหลีจบั
มือเขาก่อนกล่าว “ข้าเป็ นจิงจอกไม่ใช่คณ
ุ หนู ดังนันลูบ
คลําก็ไม่เป็ นเป็ นไร ครึงเดือนก่อน ข้ายังเห็นท่านลูบคลํา
กระต่ายเลย”
“แต่กระต่ายไม่ใช่คณ
ุ หนู” ซางเฉินขมวดคิว รับรูถ้ งึ ความ
อ่อนนุ่มของมือน้อยๆ ใจสับสนว่านีทีแท้นบั เป็ นการเอา
เปรียบนางหรือไม่
9
ด้วย”
กล่าวพลางกวาดตามองหน้าอกอวบอูมของนาง ก่อนรีบ
เบือนหน้า “ท่านแปลงกายเป็ นจิงจอกเถิด”
10
ซางเฉินเชือครึงไม่เชือครึง ใจคิดว่าตูเ้ จียงหลีไม่มีเหตุผล
ต้องโกหกเขา จึงก้มหน้า จุมพิตริมฝี ปากนางเบาๆ ราว
แมลงปอแตะผิวนํา เบิกตาโตมองนาง ผ่านไปครูห่ นึงจึง
กล่าว “เหตุใดถึงไม่...”
11
เอง ทว่าข้าไม่เสียใจ...ตอนแรก ข้ามักรูส้ กึ ว่าสวรรค์ไม่ดี
กับข้า แต่หลังจากคืนนี ข้ารูส้ กึ พอใจนัก”
13
ตอนปี นขึนถึงยอดเขา ลําแสงสายหนึงปรากฏขึนทีด้าน
ตะวันออกแล้ว
14
ตอนพิเศษสอง บทซางเฉิน (6)
หากไม่อยากกลับไปแต่งงานกับคนอืน บัดนีนางมี
ทางออกเพียงสามทาง กระโดดลงหน้าผาไปให้สนเรื
ิ อง
สินราว ไม่ก็ขา้ มภูเขาลูกนีไปโกนผมบวชชีทีอารามชิงอิน
หรือไปซ่อนตัวใช้ชีวิตทีเหลืออยูใ่ นป่ าลึก
2
หากสลักคนผูห้ นึงเข้าไปถึงกระดูก พอตายแล้วทุกอย่าง
คืนสูด่ ิน เหลือเพียงซากกระดูก...ยอมไม่ได้ทีจะให้เขา
เสียใจแม้เพียงน้อยนิด เดิมทีทีนางจากมาเพราะไม่
อยากให้ซางเฉินดินรนขัดแย้งในใจ มีชีวิตอยูท่ า่ มกลาง
ความเจ็บปวด หากเลือกจบชีวิต ก็สมควรให้ซางเฉินมา
สูข่ อดีกว่า
ไม่รูจ้ ะทําเช่นไรดี
3
ใจลอยคิดถึงวันเวลาหลายปี นีทีเปรียบเสมือนบ่อนําแห้ง
ผาก
นางในโลกก่อนของนาง ก่อนแต่งงานยังเอาแต่ใจตาม
บิดาออกจากบ้านได้ พอแต่งงานแล้ว ก็ตอ้ งเคารพ
จรรยาหญิงอย่างเคร่งครัด ไม่อาจออกจากบ้านได้สกั วัน
ทําได้เพียงเย็บปั กถักร้อยฆ่าเวลา มีเรืองหยุมหยิมกวน
ใจในหมูส่ ะใภ้ แม่สามี พีน้องสามี อัดอันตันใจบอกใคร
ไม่ได้ วันเวลาจืดชืดน่าเบือ สมควรออกบวชยังจะดีกว่า
น่าเสียดายทีทําอย่างไรก็หนีไม่พน้ ...
5
ท่ามกลางแสงขมุกขมัว คล้ายกับได้ยินเสียงฝนตกหนัก
6
ฉกรรจ์ บ่าวเกรงว่าหากลือออกไป จะกระทบต่อชือเสียง
ฮูหยิน จึงขอร้องให้เขาพามาทีนี หลบฝนในวัดร้างแห่งนี
เจ้าค่ะ”
7
ลวีฝูมองนางอย่างกังวล แต่ก็พยักหน้า
นีคือ...หน้าตาของนางเอง
บรรดาคนรับใช้พอเห็นพวกนันแต่งกายด้วยชุดกองทัพ
ต้าซ่ง จึงวางใจ ทยอยกันลุกขึนเดินไปคุม้ กันข้างกายตู้
เจียงหลี
9
พวกเขาไม่ได้ยดึ กองไฟทีว่างแล้ว เพียงนังเงียบๆ อยู่
ด้านข้าง บรรยากาศดูน่าเกรงขามเล็กน้อย
อาจารย์ซาง...
เรืองนีไม่ใช่ความลับ
12
เขาแก้ผา้ สีขาวบนใบหน้า เผยหน้าตาหล่อเหลา
13
อบอุน่ ตบหลังนางเบาๆ เผยความอ่อนโยนทีไม่คนุ้ เคย
ชัวพริบตาเสมือนตลอดกาล
ได้ยินเสียงติดจะเย็นชาของสตรีนางหนึง “ซางสุยหย่วน
เอาความกล้าหาญอย่างตอนทีขวางธนูออกมาสิ ยอม
รับคนผูห้ นึงยากนักหรือ!”
15
“ผูน้ อ้ ย...” นําเสียงซางเฉินขลาดกลัว
16
ตอนพิเศษสอง บทซางเฉิน (7)
นางมองตาไม่กะพริบ พลันร้อนใจอยากแหวกผ้าม่าน
ออกอย่างประหลาด
สองคนสบตากัน
ทีแท้เป็ นสตรีทีซางเฉินชืนชมนางนัน
3
เดิมทีตเู้ จียงหลีไม่สบายใจอยูบ่ า้ ง แต่พอมองหน้าตาท่า
ทางหรันเหยียน กลับหึงหวงไม่ลง
4
ตูเ้ จียงหลีพยายามจะลุกขึน แต่ถกู หรันเหยียนห้ามไว้
“ซางเฉินเล่าเรืองทุกอย่างแล้ว ในเมือยินยอมกันทังสอง
ฝ่ าย เขาควรไปสูข่ อท่านถึงจะถูก” แม้หรันเหยียนไม่ใช่
คนหัวโบราณ แต่สถานการณ์อย่างตูเ้ จียงหลีและซาง
เฉิน การแต่งงานคือทางออกทีดีทีสุด
5
ยากลําบาก
6
“ข้าทิงจดหมายไว้ให้นาง บอกว่าออกจากบ้านไปท่อง
เทียว หลังกลับบ้านข้าขอร้องนางให้ตามใจข้าเป็ นครัง
สุดท้าย แล้วบอกว่าหากท่านไม่เห็นด้วย วันข้างหน้าข้า
จะให้นางจับคูใ่ ห้ แต่หากไม่ให้โอกาสข้าในครังนี ข้าจะ
ไปโกนผมบวชชีทนั ที” ตูเ้ จียงหลีจาํ ต้องบีบบังคับจ้าวฮูห
ยินสักครัง
“ท่านแม่” เงาร่างน้อยสวมชุดสีเหลืองอ่อนวิงเข้ามา
กระโจนเข้าสูอ่ อ้ มกอดหรันเหยียน
8
หรันเหยียนขมวดคิว “เจ้ายุยงให้เขาไปจับกบอีกใช่หรือ
ไม่”
9
“ท่านป่ วยหรือ” รัวรัวปี นลงจากอ้อมกอดของหรันเหยียน
เดินไปด้านหน้าตูเ้ จียงหลี ก่อนทีจะมีใครทันตอบสนอง
พลันจับหน้านางแล้วหอมแก้มหนึงที “หายเจ็บแล้วนะ”
หรันเหยียนและตูเ้ จียงหลีตะลึงการกระทําของนาง
“อาจารย์กลับไปก่อนเถิด พอข้าดีขนแล้
ึ วจะกลับบ้าน” ตู้
เจียงหลีใจลอย เมือครู.่ ..คล้ายกับพูดถึงเรืองแต่งงานกับ
ซางเฉิน
13
รายงานว่าซางเฉินมาหา ค่อยลุกขึนสวมรองเท้าออกไป
ต้อนรับ “แขกทีหายาก! ในทีสุดนักบวชคุณธรรมสูงส่งก็
ออกจากภูเขา?”
ซางเฉินหน้าแดงคารวะ
14
ต่อท่านอย่างชัดแจ้ง ลูกสามคนวิงเล่นได้แล้ว ไม่แน่วา่
ในท้องอาจจะมีคนทีสี ห้า หกอีก ท่านจะต้องรักษา
ความบริสทุ ธิราวหยกเพือนางหรือ ท่านไม่เหนือยหรือ
ไร”
15
นีคือสาเหตุทีแท้จริง เมือเทียบกับบุรุษเหล่านันทียังไม่
ทันเปลียนใจ แต่รา่ งกายไม่อยูใ่ นร่องในรอยเสียแล้ว ซาง
เฉินกลับตรงกันข้าม เขาเพียงขอมีรกั เดียวไปชัวชีวิต แต่
สตรีทีหลงรักไปร่วมชีวิตกับคนอืน เขาตังเงือนไขอย่าง
เข้มงวดต่อตนเอง ให้ตายใจในเรืองความรักชายหญิง
แม้จะหวันไหว ก็ตงเงื
ั อนไขกับตนเองว่าจะไม่หกั หลัง
ความรักครังนันเด็ดขาด
“บางความรักราวกับดาวตกทีผ่านมาและผ่านไป บาง
ความรักคล้ายกับก่อปราสาททราย บางความรักพริบตา
เดียวคล้ายหมืนปี ...ใครจะล่วงรูว้ า่ ตนเองจะมีความรัก
เช่นไร ใครจะรับประกันได้วา่ จะมีรกั เดียวไปชัวชีวิต”
หลิวชิงซงแหงนหน้าในมุมสีสิบห้าองศา กล่าวช้าๆ อย่าง
16
เศร้าสร้อย จู่ๆ ทุบโต๊ะอย่างแรง ก่อนจุปากจุ๊ๆ “ท่านรูส้ กึ
หรือไม่วา่ ข้าช่างปราดเปรืองยิงนัก”
18
สิบเก้า เสียงกลองยํารุง่ เพิงผ่านไป
ท่ามกลางความมืดสลัว ก็เห็นบุรุษหนุ่มสวมชุดตัวหลวม
แขนกว้างสะพายย่ามใบใหญ่ไปเคาะประตูบา้ นสกุลตู้
พอประตูใหญ่เปิ ด บุรุษหนุ่มเหงือท่วมศีรษะกล่าว
“ผูน้ อ้ ยจะมาสูข่ อ”
คนเฝ้าประตูประหลาดใจ “อาจารย์อย่าพูดเหลวไหล
คุณหนูบา้ นข้าหมันหมายแล้ว วันแต่งงานก็กาํ หนดไว้
แล้วขอรับ”
ซางเฉินราวถูกสายฟ้าฟาด เสียงในศีรษะดังหึงๆ
19
คนเฝ้าประตูเห็นเขารูปร่างหน้าตาดี ทังมีทา่ ทางคล้าย
สะเทือนใจ จึงอดสงสารไม่ได้ “อาจารย์รบี ไปเถิด อย่ารอ
ให้ฟา้ สาง จะมีคนเห็นเข้าขอรับ”
20
ซางเฉินฟั งจนเวียนศีรษะ แต่ก็กล่าวขอบคุณ พึมพําว่า
“ซ้ายขวาซ้าย ซ้ายขวาซ้าย...”
21
“ท่านเอาอะไรมา” ตูเ้ จียงหลีเห็นย่ามใบใหญ่ดา้ นหลัง
เขา อดถามอย่างประหลาดใจไม่ได้
“ผูน้ อ้ ยทําจานฝนหมึกหลายสิบใบ...ยังมีเงินทีผูน้ อ้ ย
สะสมไว้ทงหมดในหลายปี
ั นี มาสูข่ อคุณหนู” ซางเฉิน
ตอบ
“ได้ยินว่าตอนนันท่านก็แบกจานฝนหมึกไปสูข่ อทีสกุล
หรัน จานฝนหมึกในย่ามท่านมีมากกว่าครังนันหรือไม่”
22
ตูเ้ จียงหลีถาม “ใต้จานฝนหมึกมีตวั อักษร?”
“คุณหนูจะเขียนอะไร” ซางเฉินถาม
“……”
23
“คุณหนู?”
“หือ?”
“สลักอะไร”
“……”
“คุณหนู”
“ไม่บอกท่านหรอก”
24
“ผูน้ อ้ ยไม่ได้จะถามเรืองนัน ผูน้ อ้ ยอยากถามว่า คุณหนู
เป็ นจิงจอกจริงหรือ”
“ท่านสิเป็ นจิงจอก!”
……
ดวงอาทิตย์ขนทางตะวั
ึ นออก แสงทองยามเช้าสาดส่อง
ทัวเมืองฉางอัน คนทังสองเดินไปทางแสงอรุณทางตะวัน
ออก เงาร่างทอดยาวอยูด่ า้ นหลัง
25
ตอนพิเศษสาม บทเซียวเก้ า
เซี ยวซ่งสารภาพความในใจ
…….
ข้า เป็ นบุตรภรรยาหลวงสกุลเซี ยว อยูล่ าดับที่เก้าของตระกูล
นับจากจาความได้ ข้าก็อยูก่ บั ท่านย่าผูช้ าญฉลาด เฝ้ามอง 'การแสดง' ในเรื อนที่
สนุกไร้ใดปานเหล่านั้นอย่างเฉยชา คนเหล่านั้นบ้างละโมบ บ้างเพื่อเอาตัวรอด
ตีแผ่ความอัปลักษณ์ในใจคนออกมาอย่างหมดเปลือก
เวลาส่ วนใหญ่ในวัยเด็กของข้า สิ่ งที่พบเห็นและได้ยนิ ก็คือความอัปลักษณ์
โสมมเช่นนี้ ข้าหมายดิ้นรนสลัดให้พน้ และหมายหลบหนี ดังนั้นช่วงวัยรุ่ นจึง
ต่อต้านถึงที่สุด
อาจเพราะเห็นด้านที่น่ากลัวของสตรี มามาก ส่ วนลึกในใจข้าจึงราราจะต่อต้าน
สัมผัสใกล้ชิดของสตรี
จาได้วา่ ครั้งหนึ่งข้าเห็นอนุคนหนึ่งของบิดามีท่าทีส่อนัยกับพ่อบ้าน หลิวชิงซง
ท้าพนันกับข้า เขาบอกว่าหากให้พ้นื ที่มิดชิดแก่สองคนนี้เพื่อใกล้ชิดกัน อนุนาง
นั้นต้องเสี ยตัวแน่ ข้าไม่เชื่อ ในเมื่อกฎของสกุลเซี ยวเราก็เข้มงวด อีกทั้งบิดาก็
เป็ นคนดุยงิ่ ต่อให้อนุเล็กๆ นางนั้นมีใจให้คนอื่นแค่ไหน ก็ไม่น่ากล้าคบชูส้ ู่ ชาย
ทว่าตอนข้าวางกับดักล่อ สองคนนั้นกลับกระโดดเข้าติดกับโดยไม่รู้ตวั ผลจึง
เป็ นอย่างที่หลิวชิงซงว่า ข้าได้เห็นฉากวังวสันต์ที่เคลื่อนไหวมีชีวิตชีวาเต็มตา
ต่อมาบิดารู ้เรื่ องนี้ โกรธจนผมตั้งฆ่าอนุนางนั้นด้วยยาพิษ แล้วลากข้าไปลงโทษ
ที่ศาลบรรพชน
ข้าเกลียดเขา เพื่อบ่าวต่าต้อยคนหนึ่งถึงกับลงไม้ลงมือกับลูกชายในไส้ของตน!
แต่ยงิ่ เจ็บ สมองข้าก็ยิ่งแจ่มชัด ข้าเลยยิม้ หยันเขา ตัวเองไม่มีปัญญากุมหัวใจ
ผูห้ ญิงของตน เป็ นลูกเต่าโดนสวมเขา เลยอับอายจนโกรธเอาข้ามาระบาย
อารมณ์? คิดว่าทาแบบนี้จะกูห้ น้าคืนได้หรื อ!
เขาโกรธแทบชัก ลงมือไร้ปรานีกว่าเก่า
เขาเถรตรงมาทั้งชีวิต แต่ในเรื่ องนี้ขา้ ดูถูกเขา
เพราะเรื่ องนี้ความสัมพันธ์พอ่ ลูกของพวกเราจึงตึงเครี ยดถึงขั้นยอมรับกันไม่ได้
ช่วงเวลานั้นข้าก็มีนิสัยอย่างวัยรุ่ น ทั้งคิดแค้นบิดาที่ลงมือกับข้าเพราะอนุคน
เดียว และดูถูกเขาที่ใช้วิธีเช่นนี้ปกปิ ดความเจ็บอายของตน ดังนั้นแม้จะนอนเจ็บ
บนเตียง ก็ยงั ทาให้เขาโกรธควันออกหูอยูบ่ ่อยๆ
สุ ดท้ายเขาบันดาลโทสะ ข้ายังไม่หายดี ก็ตะเพิดข้าไปเป็ นพลทหารยังสนามรบ
ข้ารู ้นิสัยเขาก็มุทะลุดุดนั เช่นนั้นเอง ทาเช่นนี้ส่วนใหญ่คงเพราะเลือดขึ้นหน้า
กะทันหัน แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่อาจอภัย และไม่อยากถูกคนพรรค์น้ ีบงการไป
ทั้งชีวิต เลยพยายามสุ ดชีวิตในค่ายทหาร
ใจข้านิ่งขึ้นทุกทีตามจานวนคนที่สังหารมากขึ้นในสนามรบ
ข้ารู ้วา่ ท่านย่ากับท่านแม่ต่างลอบส่ งคนมาดูแลข้า แต่ถึงอย่างไรขุนเขาสู งทางน้ า
ไกล ข้าในฐานะพลทหารคนหนึ่งยังคงทุกข์ยากลาบากไม่นอ้ ย ข้าไต่เต้าขึ้นไปที
ละขั้น จนเป็ นเจาอู่เซี่ ยวเว่ยขั้นหก อนาคตสดใส
เวลานั้นที่บา้ นบังคับข้าแต่งงาน โดยกาหนดงานแต่งไว้นานแล้ว
ข้ารังเกียจสตรี ที่หมกมุ่นกับการแย่งชิงในบ้านพวกนั้น แต่ชาติกาเนิดกาหนดให้
ข้าไม่อาจเลือกได้ตามใจ อีกอย่างถ่วงเวลาผูอ้ ื่นจนอายุสิบแปด ก็สมควร
รับผิดชอบ
คิดไม่ถึงกลับฉางอันครั้งนี้ ข้าจะไม่ได้กลับไปชายแดนอีก
แต่ที่คิดไม่ถึงยิง่ กว่าก็คือเจ้าสาวถึงกับตายระหว่างทางส่ งตัว! เรื่ องนี้สะเทือนถึง
ศาลต้าหลี่ แต่สืบอยูพ่ กั ใหญ่กไ็ ม่ได้ผลลัพธ์อะไร
ข้ากับคุณหนูตูไ้ ม่เคยพบหน้า และไม่เคยเข้าพิธี ยิง่ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงน้ าใจต่อกัน แต่
จะดีจะชัว่ ก็นบั เป็ นภรรยาข้าครึ่ งหนึ่ง ไยทนดูนางตายอย่างอยุติธรรมตาตาข้าได้
ข้าเลยรั้งอยูท่ ี่ฉางอัน ขอตาแหน่งที่กรมอาญา แม้ขา้ ไม่อยากอาศัยอานาจของ
ตระกูล แต่กเ็ ข้าใจดี ตั้งแต่วนั ที่ขา้ เกิด ก็ถูกตีตราบนร่ างแล้ว หนทางราชการถูก
ลิขิตว่าต้องราบรื่ นกว่าคนฐานะธรรมดาทัว่ ไปหลายเท่า จึงไม่คิดทาเรื่ องหลอก
ตัวเองหลอกผูอ้ ื่น
ด้านหนึ่งเพราะสาเหตุของตระกูล ด้านหนึ่งก็เพราะข้าสร้างผลงานรบนับไม่
ถ้วนที่ชายแดน จึงถูกคัดเลือกไปยังกรมอาญาอย่างราบรื่ น เริ่ มต้นก็เป็ น
เจ้าหน้าที่ข้ นั หก
คิดไม่ถึงข้าจะมีพรสวรรค์ในการไขคดีอยูบ่ า้ ง แต่ที่น่าเสี ยดายคือเริ่ มแรกมี
ประสบการณ์ไขคดีไม่พอ กอปรกับฆาตกรลงมือหมดจด ข้าใช้เวลาสองสามปี ก็
ยังหาร่ องรอยเบาะแสไม่พบ
แต่เพราะไขคดีได้ไม่นอ้ ย ตาแหน่งราชการของข้าจึงสู งขึ้นทุกที และด้วยเหตุน้ ี
จึงพบเห็นความโสมมในแวดวงขุนนางมากขึ้นเรื่ อยๆ
เวลานั้นข้าจึงเข้าใจ ที่แท้ขา้ ก็แค่กระโดดจากกองไฟกองหนึ่งไปยังขุมนรก ถอน
ตัวหรื อ ตั้งแต่ชวั่ พริ บตาที่ขา้ ย่างเข้าสู่ แวดวงขุนนาง ตัวก็แบกรับเกียรติภูมิของ
ตระกูล สกุลเซี ยวของพวกเรา ไม่เคยมีลูกชายไม่เอาไหน
ในสถานศึกษาของตระกูลที่หลันหลิงแขวนภาพเหมือนขุนนางชั้นสู งของสกุล
เซี ยวในแต่ละรุ่ น ไม่มีคนใดในพวกเขาที่ไร้อานาจคับฟ้า ข้ารู ้ หลังตายสามารถ
แขวนภาพเหมือนขึ้นในสกุลเซี ยว เป็ นความฝันสู งสุ ดของลูกหลานสกุลเซี ยวทุก
คน และเป็ นความฝันสู งสุ ดของข้าด้วย
แต่ขา้ ไม่อาจเที่ยงตรงเช่นบิดา หากมีเรื่ องหนึ่ง ทั้งที่ขา้ รู ้วา่ มีวิธีที่ดีกว่ามากมาย
เหตุใดต้องเอาชีวิตตนและคนในบ้านเข้าพุง่ ชนทุกเมื่อเชื่อวันด้วย
ในวงขุนนาง พ่อลูกไม่ยอมลงให้กนั ข้ากับเขายังคงเป็ นน้ ากับไฟ
วันหนึ่งข้าเห็นเขาทะเลาะชกต่อยกับเว่ยเจิงในท้องพระโรงเต็มตา เวลานั้นสิ่ งที่
เอ่อท้นในใจข้าไม่ใช่อารมณ์เย้ยหยัน ไม่ใช่การดูถูก แต่เป็ นอารมณ์สะเทือนใจ
และปวดใจ
บิดาถูกลดขั้นออกจากฉางอัน ข้าไปส่ งเขาด้วยตนเอง แต่ขา้ รู ้วา่ เขาเป็ นคนรัก
หน้ายิง่ ข้าไม่อยากให้เขารู ้สึกเสี ยหน้าต่อหน้าลูก เลยเพียงมองส่ งเขาบนป้อม
กาแพงเมือง
หลังจากครั้งนั้น เส้นทางราชการของข้าก็ราบรื่ นขึ้นอย่างประหลาด ไม่อาจ
ปฏิเสธว่าที่ขา้ อายุนอ้ ยๆ ได้นงั่ ในตาแหน่งซื่ อหลางกรมอาญา เกี่ยวพันอย่างมาก
กับการที่บิดาข้าถูกลดตาแหน่ง ฮ่องเต้ผสู ้ ู งศักดิ์พระองค์น้ นั รู ้สึกผิดกับบิดา และ
ยังคงนับถือให้เกียรติเขา
พระองค์เคยวิจารณ์เขาว่า ลมแรงแจ้งหญ้าแกร่ ง วิกฤตแจ้งขุนนางภักดิ์
เป็ นขุนนางเช่นนี้ บิดาประสบความสาเร็ จโดยไร้ขอ้ กังขา นี่เป็ นครั้งแรกนับแต่
เล็กจนโตที่ขา้ ยอมรับเขา
ด้วยเหตุน้ ีแม้ว่าต่อมาพวกเรายังคงมีความเห็นทางการเมืองไม่ลงรอยเอะอะก็
ทะเลาะต่อยตี แต่กว่าครึ่ งข้าจะไม่ปัดป้อง แค่หมัดเท้าขี้ปะติ๋วไม่กี่ที ข้าทนรับเอา
ก็ได้แล้ว
เพื่อปลอบขวัญสกุลตูท้ ี่เจ็บปวดเพราะสู ญเสี ยลูกสาว สองปี ที่ทางบ้านไม่ได้เอ่ย
ถึงเรื่ องแต่งงานของข้าอีก พอดีให้ขา้ สุ ขกายสบายใจ
เนื่องจากศาลต้าหลี่สืบหาเบาะแสไม่ได้ ทั้งมีข่าวลือว่านางตูร้ ่ างกายอ่อนแอแต่
เด็ก เลยได้แต่ลงความเห็นว่านางคงถึงอายุขยั แต่ขา้ ไม่เชื่อ ตอนอยูท่ ี่กรมอาญาก็
สื บเรื่ องนี้โดยไม่ยอ่ ท้อตลอด สองปี ให้หลัง ตอนทางบ้านทาบทามสู่ ขอให้ ข้า
ยังคงปฏิเสธ
ชาวฉางอันเพียงพูดกันว่าข้ารักงมงาย สกุลตูจ้ ึงประทับใจข้ามากด้วยเหตุน้ ี
มีแต่ไอ้บา้ หลิวชิงซงที่ถามข้าอย่างตัดพ้อครั้งหนึ่งว่าใช่หลงรักเขาเข้าให้แล้ว
หรื อไม่ เลยไม่ยอมแต่งภรรยา
ข้ายิม้ ตอบว่า ข้ายังไม่ตกอับถึงขั้นนั้น
เนื่องจากชื่อเสี ยงดียงิ่ ปี ที่สี่หลังนางตูเ้ สี ยชีวิต ทางบ้านก็กาหนดการแต่งงานที่ดู
แล้วไม่เลวให้ขา้ อีกฝ่ ายเป็ นบุตรี สายตรงของบ้านสกุลหลูแห่งฟ่ านหยาง อายุสิบ
หก
ข้าเป็ นบุรุษปกติ ซึ่ งอาจเบิกปั ญญาด้านชายหญิงค่อนข้างช้า แต่เวลานั้นข้าก็
อยากแต่งงานจริ งๆ เลยตกปากรับคาอย่างยินดี
กับการแต่งงานครั้งนี้ ข้ายังตั้งความหวังไว้ในระดับหนึ่ง
ข้าระวังป้องกัน รับตัวเจ้าสาวอย่างราบรื่ น หลังเข้าพิธีเสร็ จจะไปที่หอ้ งโถงจัด
เลี้ยง กลับได้ข่าวว่าเกิดคดีปล้นชิงใหญ่ที่ชานเมืองฉางอัน คนที่ถูกจับเป็ น
ครอบครัวของขุนนางขั้นสามในราชสานัก กรมอาญาไม่กล้าให้ผิดพลาด จนใจ
ที่ซื่อหลางอีกคนกลับบ้านเกิดไปทาศพบิดา ข้าได้แต่แทนที่ชวั่ คราว นางหลู
เข้าอกเข้าใจดียงิ่ บอกข้าว่าเรื่ องงานสาคัญกว่า
ใช้เวลาเพียงสามวันก็ปิดคดีได้ ฝ่ าบาทยังล้อข้าว่าใช่ใจร้อนกลับไปเข้าหอ
หรื อไม่
น่าเสี ยดาย ตอนที่ใจข้ามีแต่อารมณ์เบิกบานกลับถึงบ้าน หลังอาบน้ าบ้วนปาก
สาวใช้กลับลนลานวิ่งมาบอกข้าว่า นางหลูสิ้นลม!
ในห้องหอยังมีบรรยากาศของงานมงคล ทว่าสตรี บนเตียงใบหน้าซี ดคล้ าแต่แรก
ทรวงอกไม่กระเพื่อมอีก
ยังคงไร้เบาะแสดังเก่า นางหลูกเ็ หมือนกับนางตู ้ ตายไปอย่างประหลาดไร้สาเหตุ
เช่นนั้น
หลายปี หลังจากนั้น ข้าลอบสื บเรื่ องนี้ตลอด เบาะแสเล็กน้อยที่พบกลับชี้ไปที่ป้า
สะใภ้ใหญ่ แต่จนแล้วจนรอดข้าก็หาหลักฐานที่บ่งชี้วา่ นางสังหารคนไม่ได้
อาจเพราะเหตุน้ ี โทสะคับอกข้าไร้ที่ระบาย ฝี มือทาคดีจึงยิง่ เหี้ ยมเกรี ยมดุดนั ไม่
ไว้หน้าใคร
ข้าเพิ่งสนใจในสตรี แต่ราวเค่อนั้นที่เห็นสภาพการตายของนางหลูกลับดับสลาย
ข้าคิดว่าในเมื่อคุม้ ครองไม่ได้ ข้าก็ไม่คู่ควรจะครอบครองหัวใจและร่ างกายของ
พวกนาง
และในช่วงเวลานี้ ข้าก็เห็นโฉมหน้าแท้จริ งของเหล่าสตรี ในฉางอันแจ่มชัด พวก
นางเคยคล้ายชื่นชมข้ามาก แต่ที่แท้ไม่ได้ชื่นชมถึงขนาดไม่เห็นแก่ชีวิต ต่างกลัว
ถูกดวงข้ากิน
สาหรับสตรี เช่นนี้ ข้าก็รังเกียจจะแตะต้อง
แต่กม็ ีพวกไม่กลัวตายให้แม่สื่อมาทาบทาม เสี ยดายที่หากไม่ใช่แม่ม่ายก็เป็ น
ยักษ์ขมูขี ครั้งหนึ่งท่านแม่โกรธจัดอาละวาดจึงไม่มีใครกล้ายัดเยียดคนพวกนี้มา
ส่ งเดช แต่ตวั ข้าก็ไร้คนถามถึงอย่างสิ้ นเชิง
ในสี่ ปี มีคนพูดว่าภายในรัศมีหา้ จั้งรอบตัวข้าเกรงว่าแม้แต่ยงุ ตัวเมียสักตัวก็ไม่มี
แต่ขา้ ไม่ใส่ ใจเรื่ องนี้ นกั
จวบจนข้าตามจับซูจื่อฉี ถึงซูโจว จึงได้พบกับสตรี คนแรกที่ทาให้ขา้ สนใจได้
ตอนนั้นข้าแน่ใจว่าซูจื่อฉี อยูบ่ นรถม้าคันนั้น ข้าถึงขนาดคิดจะจับเขาโดยไม่
สนใจความเป็ นความตายของคนในรถ แต่สตรี ที่ถูกคุมตัวไว้นางนั้น น้ าเสี ยง
สงบนิ่งปานนั้น ไร้อารมณ์ใดๆ
ประจวบกับคนที่ขา้ พาไปจานวนมากบาดเจ็บด้วยคมกระบี่ของซูจื่อฉี ไม่มนั่ ใจ
ว่าจะจับเขาได้แน่ เมื่อชัง่ ใจครู่ หนึ่ง จึงตัดสิ นใจปล่อยโอกาสครั้งนี้ไป
ข้าเดาฐานะนางออก เลยตั้งใจไปเยีย่ มพบ ด้วยอยากรู ้วา่ ที่แท้นางถูกคุมตัวไว้
หรื อเป็ นพวกเดียวกับซูจื่อฉี
วันฝนตกวันนั้นที่ซูโจว นางเป็ นสตรี คนแรกที่เข้าใกล้ขา้ ในหลายปี นี้
ข้าไม่ปฏิเสธ รู ปโฉมของคุณหนูสิบเจ็ดดึงดูดข้ามาก แต่ยงิ่ ได้ทาความรู ้จกั ก็ยงิ่
รู ้สึกว่านิสัยนางน่าสนใจนัก
แม้ขา้ จะทาความรู ้จกั กับสตรี นอ้ ยมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าไม่รู้ ตรงข้ามข้า
เห็นชัดกว่าผูช้ ายส่ วนมากเสี ยอีก
นางเป็ นบุตรี ภรรยาหลวงของสกุลหรั่น ซึ่ งถือว่ามีชาติกาเนิดในตระกูลผูด้ ี แต่
บนร่ างไม่มีเค้าสนิมสร้อยอย่างสตรี ในตระกูลผูด้ ีสักนิ ด แววตาออกจะเย็นชา แต่
ข้ารู ้สึกได้ถึงความซื่ อสัตย์ของนาง
ข้ารู ้วา่ คุณชายหรั่นสิ บรู ้จกั ข้า ด้วยเหตุน้ ีจึงตั้งใจปรากฏตัวต่อหน้าเขา หมายดูวา่
เมื่อคุณหนูนางนี้รู้วา่ ข้าคือผีฉางอันเห็นยังกลัว จะตกใจจนหน้าถอดสี เหมือนคน
อื่นหรื อไม่
แต่เมื่อได้พบกันอีก สี หน้าแววตานางยังคงเย็นชา ข้ารู ้สึกว่าตัวนางที่เป็ นเช่นนั้น
คือความงามยากค้นหาในโลกโดยแท้
คล้ายทั้งหมดของข้าไม่อาจทาให้นางเกิดความรู ้สึกนัก แต่ทุกสิ่ งที่นางทากลับทา
ให้ขา้ สะท้านใจยิง่ ตอนข้าเห็นนางผ่าศพอย่างคล่องแคล่วชานาญ ก็ต้ งั ใจสื บหา
ความเป็ นมาของนาง
ยิง่ สื บมาก ความสนใจที่มีต่อตัวนางก็ยงิ่ เพิ่มพูนมากขึ้น
วันเวลาที่อยูซ่ ูโจว ข้าหาโอกาสได้กค็ ิดไปหานาง
แต่เวลาแห่งความสุ ขมักสั้นเสมอ ข้าจาเป็ นต้องกลับฉางอันไปรายงานตัว
เมื่อข้าได้ลิม้ รสความสุ ขสนุกสนานยามอยูก่ บั คุณหนูสิบเจ็ด ครั้นกลับไปสู่ ชีวิต
น่าเบื่อแห้งแล้งอีก ถึงกับยากปรับตัว คิดถึงนางแทบทุกวัน อดอยากรู ้ไม่ได้วา่
นางกาลังทาสิ่ งใด ด้วยเหตุน้ ีจึงใช้คนไปซูโจว ส่ งข่าวมาเป็ นระยะๆ
จะว่าไปก็แปลกนัก ทั้งที่พบหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่หลังจากกันทางข้ากลับ
พัฒนากลายเป็ นความรัก
ความรักนี้ ทาให้ขา้ ตัดสิ นใจไม่วา่ จะฐานะใด ลาบากหรื ออันตรายแค่ไหน ก็ตอ้ ง
แต่งนางมาให้ได้
ราวกับรอคอยนานสิ บปี สุ ดท้ายข้าก็หาโอกาสรุ ดไปที่ซูโจวด้วยตัวเองได้
ตอนถึงซูโจว ข้าข่มความตื่นเต้นเต็มอก ชะล้างคราบสกปรกบนร่ างกายออก
อย่างพิถีพิถนั เปลี่ยนเสื้ อผ้าหลายชุด ด้วยอยากให้นางเห็นข้าในสภาพที่ดีที่สุด
สตรี จานวนมากหลงใหลในรู ปโฉมข้า ข้าหวังว่าจะทาให้นางชอบข้าได้บา้ งสัก
นิด
แต่ตอนเดินไปได้ครึ่ งทาง ข้าก็คิดได้วา่ ความกระตือรื อร้นแรงกล้าที่จู่ๆ มาโดย
ไม่คาดฝันของตนจะทาให้นางยากยอมรับ เลยรี บกลับไปเปลี่ยนชุดขุนนางใหม่
คิดว่าเช่นนี้คงไม่ดูจงใจเกินไปจนเห็นชัด
ทว่าความจริ งมักโหดร้ายทารุ ณเช่นนั้นเสมอ
ต่อมาข้าพบว่า ซูจื่อฉี ถึงกับยืนอยูข่ า้ งนางก่อนข้าก้าวหนึ่ง
ชัว่ พริ บตานั้นอารมณ์นบั ไม่ถว้ นปั่ นป่ วนในใจข้า สมองคิดไปต่างๆ นานา ไม่วา่
จะด้วยหน้าที่หรื อความรู ้สึก ข้าก็สมควรจับซูฝู แต่พอเห็นสายตาวิงวอนของนาง
ข้าก็ได้แต่หนั หลังจากไป เพราะกลัวนางเสี ยใจ กลัวนางแค้นข้าด้วยเหตุน้ ี
ข้าไม่เคยเป็ นฝ่ ายแสดงไมตรี กบั สตรี คนใดก่อน เลยขอคาแนะนามากมายหลาย
วิธีจากหลิวชิงซง แต่รู้สึกจะล้มเหลวทุกครั้ง
คุณหนูสิบเจ็ดดูจะเก็บความรู ้สึกมาก ก็เหมือนที่ขา้ รู ้สึกได้ราไรว่านางมีใจให้ซูฝู
แต่ไม่เคยแสดงสี หน้าว่าชื่นชอบเขา ทว่าจากความเข้าใจไม่กี่ครั้งที่ได้พบปะ ข้า
คิดว่านางไม่ใช่คนกระมิดกระเมี้ยนเช่นนั้น
อาจมีสิ่งใดทาให้นางลังเล
นี่ให้ความหวังใหญ่หลวงแก่ขา้ ด้วยเหตุน้ ีจึงยิง่ พยายามหาโอกาสใช้เวลาร่ วมกับ
นางมากกว่าเดิม
ข้าข่มความเจ็บปวดริ ษยาในใจ มองจากมุมของคนนอก ความรู ้สึกที่ซูจื่อฉี มีให้
นาง เป็ นความรู ้สึกของสุ ภาพชน ผ่าเผยสง่างาม ซึ่ งเรื่ องนี้ขา้ เทียบเขาไม่ได้
เริ่ มแรกความรู ้สึกที่ขา้ มีให้คุณหนูสิบเจ็ด พอดีตรงข้ามกับซูจื่อฉี ความรู ้สึกของ
ข้าเป็ นความรู ้สึกของคนถ่อย ข้าชอบนางก็คิดลากนางร่ วมเป็ นร่ วมตายด้วย ไม่
ว่าอย่างไรก็ไม่มีวนั ปล่อยมือ
แต่ชวั่ เวลาที่นางรับปากแต่งงานเป็ นภรรยาข้า ข้ารู ้วา่ ตัวเองไม่คิดร่ วมเป็ นร่ วม
ตายกับนางอีก ข้าจะอยูเ่ พื่อนาง และสามารถตายเพื่อนาง
หลังแต่งงานมาหลายปี ข้าไม่พดู คาหวานชวนเลี่ยนมากเหมือนตอนที่ตามจีบ
นางอีก เพราะข้าได้หลอมรวมความรู ้สึกทั้งหมดเข้าสู่ สิ่งละอันพันละน้อยใน
ชีวิต ใช่ความรู ้สึกจืดจาง แต่เป็ นยิง่ ลึกล้ า
ข้าเชื่อว่าท่านฟังเข้าใจ อาเหยียน
…………………………
(จบบริบูรณ์ )