Professional Documents
Culture Documents
อ่านเสริม - คู่มือปฏิบัติงาน
อ่านเสริม - คู่มือปฏิบัติงาน
กระทรวงยุติธรรม
คู่มือติดต่อราชการ
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง การบังคับคดีล้มละลาย
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การวางทรัพย์
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
สายด่วน กรมบังคับคดี
www.led.go.th
พิมพ์ครั้งที่ 5 : มิถุนายน 2565 จำ�นวน 26,500 เล่ม
คู่มือติดต่อราชการ
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง การบังคับคดีล้มละลาย
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การวางทรัพย์
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
สารบัญ หน้า
ประวัติความเป็นมากรมบังคับคดี 3
วิสัยทัศน์กรมบังคับคดี 7
พันธกิจกรมบังคับคดี 8
ค่านิยมร่วม 9
เป้าหมายการให้บริการ / ตัวชี้วัดค่าเป้าหมาย 10
โครงสร้างกรมบังคับคดี 11
การแบ่งส่วนราชการในกรมบังคับคดี 13
อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี 14
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี 25
การบังคับคดีแพ่ง 29
การยึดทรัพย์สิน 36
การอายัดทรัพย์สิน 46
การจำ�หน่ายทรัพย์สิน 52
การบังคับคดีล้มละลาย 65
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ 95
การวางทรัพย์ 105
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 - 7 113
สถานที่ติดต่อกองบังคับคดีล้มละลาย 115
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดีในส่วนภูมิภาค 117
2
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ประวัติความเป็นมา กรมบังคับคดี
ประวัติความเป็นมา
กรมบังคับคดี
กรมบังคับคดี จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ
ของคณะปฏิ วั ติ ฉบั บ ที่ 216 ลงวั น ที่ 29 กั น ยายน 2515 (ฉบั บ ที่ 5)
พ.ศ. 2517 พระราชบัญญัติฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยประกาศราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ
เล่ม 91 ตอนที่ 200 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2517 ดังนั้น กรมบังคับคดี
จึงถือเอาวันที่ 28 พฤศจิกายน 2517 เป็นวันสถาปนากรมบังคับคดี
งานของกรมบั ง คั บ คดี มี ที่ ม าจากหน่ ว ยงานราชการระดั บ กอง
ในสำ � นั ก ปลั ด กระทรวงยุ ติ ธ รรม 2 กอง คื อ กองบั ง คั บ คดี แ พ่ ง และ
กองบั ง คั บ คดี ล้ ม ละลาย จนกระทั่ ง ปี พ.ศ. 2517 สมั ย รั ฐ บาล
3
กรมบังคับคดี
ประวัติความเป็นมา กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
ฯ พ ณ ฯ ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ สั ญ ญ า ธ ร ร ม ศั ก ดิ์ เ ป็ น น า ย ก รั ฐ ม น ต รี
ท่ า นกิ ต ติ สี ห นนท์ เป็ น รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงยุ ติ ธ รรม ได้ เ ห็ น
ความสำ � คั ญ ของทั้ ง 2 กองดั ง กล่ า ว ประกอบกั บ งานบั ง คั บ คดี แ พ่ ง
และงานบั ง คั บ คดี ล้ม ละลาย มี จำ� นวนเพิ่ม ขึ้น มาก หน่ ว ยงานที่ จั ด ตั้ ง ไว้
แต่ เ ดิ ม ไม่ เ หมาะสมกั บ งานที่ นั บ วั น แต่ จ ะทวี ป ริ ม าณมากขึ้ น ทุ ก ๆ ปี
นอกจากนี้ ก ระทรวงยุ ติ ธ รรมยั ง ประสงค์ ที่ จ ะขยายขอบเขตงาน
ของกองบังคับคดีแพ่งออกไปยังส่วนภูมิภาค รวมทั้งต้องการให้งานบังคับคดี
ล้ ม ล ะ ล า ย แ ล ะ ง า น ชำ � ร ะ บั ญ ชี ห้ า ง หุ้ น ส่ ว น บ ริ ษั ท ห รื อ นิ ติ บุ ค ค ล
ตามคำ � สั่ ง ศาลได้ ดำ � เนิ น การโดยเจ้ า หน้ า ที่ ผู้ มี ค วามรู้ ความสามารถ
และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพดี ยิ่ ง ขึ้ น รั ฐ บาลจึ ง ได้ อ อกพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ข
เพิ่ ม เติ ม ประกาศของคณะปฏิ วั ติ ฉบั บ ที่ 216 ลงวั น ที่ 29 กั น ยายน
พ.ศ. 2515 (ฉบั บ ที่ 5) พ.ศ.2517 ให้ ย กฐานะกองบั ง คั บ คดี แ พ่ ง และ
กองบั ง คั บ คดี ล้ ม ละลาย รวมจั ด ตั้ ง ขึ้ น เป็ น กรมบั ง คั บ คดี อ ยู่ ใ นสั ง กั ด
4
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ประวัติความเป็นมา กรมบังคับคดี
5
กรมบังคับคดี
วิสัยทัศน์กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
6
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม วิสัยทัศน์กรมบังคับคดี
วิสัยทัศน์ :
“บังคับคดีด้วยความเป็นธรรม
มุ่งสู่องค์กรชั้นนำ�ในระดับสากล
บริการประชาชนอย่างมีคุณภาพ”
vision :
“Enforcing judgment on just and equitable grounds,
heading towards world’s leading organization,
upholding high service quality”
กรมบั ง คั บ คดี มุ่ ง มั่ น ในการพั ฒ นากระบวนการบั ง คั บ คดี ใ ห้ เ ป็ น ไป
ตามมาตรฐาน บนพื้นฐานแนวคิดองค์กรแห่งความเป็นเลิศมีความทันสมัย
ทั้งในด้านกระบวนการบังคับคดี ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านนวัตกรรม
การบริ ห ารจั ด การ รวมทั้ ง พั ฒ นาศั ก ยภาพบุ ค ลากรให้ มี ค วามเชี่ ย วชาญ
ในทุ ก สายงาน เพื่ อ ให้ ส อดคล้ อ ง รองรั บ และตามทั น กั บ กฎหมาย กฎ
ระเบียบ และสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลง โดยยึดหลักธรรมาภิบาล
ในการปฏิบัติงาน ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม เพื่อเป็น
การอำ�นวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนให้ได้รับบริการได้อย่างเสมอภาค
และเท่าเทียมกัน
7
กรมบังคับคดี
พั
วิสนัยธกิ
ทัศจน์กรมบั
กรมบังคังคับบคดี
คดี กระทรวงยุติธรรม
พันธกิจ
1. ให้บริการด้านการบังคับคดีแพ่ง คดีล้มละลาย การฟื้นฟูกิจการ
ของลูกหนี้ การชำ�ระบัญชี การวางทรัพย์และการไกล่เกลีย่ ภายหลังคำ�พิพากษา
อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เสมอภาค เป็นธรรมและตรวจสอบได้
2. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนางานบังคับคดีแพ่ง คดีล้มละลาย
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การชำ�ระบัญชี การวางทรัพย์และการไกล่เกลี่ย
ภายหลังคำ�พิพากษา ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งพัฒนาระบบงาน
สนับสนุนให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
3. พัฒนากฎหมาย ระเบียบ และคำ�สั่ง ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับคดี
ให้ทันสมัยและเป็นมาตรฐานสากล
4. ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานและองค์การ
ระหว่างประเทศ เพื่อนำ�แนวปฏิบัติที่ดีในด้านการบังคับคดีมาพัฒนาการดำ�เนิน
งานบังคับคดีให้มีประสิทธิภาพ
5. พัฒนาองค์กรและระบบการบริหารจัดการให้มปี ระสิทธิภาพ โดยนำ�
เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ในการดำ�เนินการ
6. พั ฒ นาบุ ค ลากรให้ มี ค วามรู้ ความสามารถและความเชี่ ย วชาญ
มีจิตสำ�นึกในการบริการอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และยึดหลักจรรยาบรรณ
วิชาชีพในการปฏิบัติงาน
7. พัฒนาเครือข่ายและบูรณาการความร่วมมือด้านการบังคับคดีกับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
8. เผยแพร่ความรูท้ างกฎหมายการบังคับคดี การวางทรัพย์ การไกล่เกลีย่
ภายหลังคำ�พิพากษา และกฎหมายทีเ่ กีย่ วข้อง แก่ประชาชนได้เข้าใจอย่างทัว่ ถึง
8
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ค่าวินิสยัยมร่
ทัศวน์มกรมบั
กรมบังคับคดี
ค่านิยมร่วม
“I AM LED”
I คือ Integrity มีความซื่อสัตย์
A คือ Accountability มีความรับผิดชอบ
M คือ Management การบริหารจัดการ
L คือ Learning การเรียนรู้ตลอดเวลา
E คือ Excellence มีความเป็นเลิศ
D คือ Digital การใช้เทคโนโลยี
9
กรมบังคับคดี
เป้
วิสาัยหมายการให้
ทัศน์กรมบังบคัริบกคดี
าร / ตัวชี้วัดค่าเป้าหมาย กระทรวงยุติธรรม
เป้าหมายการให้บริการ
“ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย
ได้รับบริการด้านการบังคับคดี
การไกล่เกลี่ย และการวางทรัพย์
อย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม”
ตัวชี้วัด / ค่าเป้าหมาย
ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ : มูลค่าทรัพย์สินที่ผลักดันออกจาก
กระบวนการบังคับคดี
ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ : ร้อยละความพึงพอใจ/ความเชื่อมั่น
ในการเข้ารับบริการของประชาชน
และผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อกระบวนการ
บังคับคดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
และการวางทรัพย์
10
กรมบังคับคดี
กลุมตรวจสอบภายใน กลุมพัฒนาระบบบริหาร
กระทรวงยุติธรรม
ศูนยไกลเกลี่ยขอพิพาท กลุมงานจริยธรรม
สถาบันพัฒนาการบังคับคดี
สำนักงานเลขานุการกรม กองติดตามและเฉลี่ยทรัพยสิน
ในคดีลมละลาย
11
ศูนยเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร
โครงสร้าง / ผัวิงสการแบ่
หนวยงานสนับสนุนขึ้นตรง
ัยทัศน์งกส่รมบั
หนวยงานจัดตั้งภายในขึ้นตรง
หนวยงานสนับสนุน
หนวยงานหลัก
งคับคดี
วนราชการ
หนวยงานจัดตั้งภายใน
กรมบังคับคดี
การแบ่งส่วนราชการในกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
12
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม อำ�การแบ่
นาจหน้งาส่ทีว่หนราชการในกรมบั
น่วยงานในกรมบังคับคดี
การแบ่งส่วนราชการ
ในกรมบังคับคดี
ส่วนกลาง
1. สำ�นักงานเลขานุการกรม
2. กองติดตามและเฉลี่ยทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
3. - 8. กองบังคับคดีล้มละลาย 1 - 6
9. กองบริหารการคลัง
10. กองบริหารทรัพยากรบุคคล
11. กองพัฒนาระบบการบังคับคดีและประเมินราคาทรัพย์
12.- 18. สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 - 7
19. กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
20. กลุ่มตรวจสอบภายใน
21. กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร
22. กลุ่มงานจริยธรรม
23. ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
24. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
25. สถาบันพัฒนาการบังคับคดี
26. กองนโยบายและแผน
27. สำ�นักงานบังคับทางปกครอง
ส่วนภูมิภาค
28. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัด
สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ 111 แห่ง
13
กรมบังคับคดี
อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
อำ�นาจหน้าที่หน่วยงาน
ในกรมบังคับคดี
ส่วนกลาง
1. สำ�นักงานเลขานุการกรม
มี อำ � นาจและหน้ า ที่ เ กี่ ย วกั บ การปฏิ บั ติ ร าชการทั่ ว ไปของกรม และ
ราชการอื่นที่มิได้แยกให้เป็นหน้าที่ของกองหรือส่วนราชการใดโดยเฉพาะ
หน้าที่และอำ�นาจดังกล่าวให้รวมถึง
ปฏิบัติงานสารบรรณของกรม
รั บ เรื่ิ อ งร้ อ งเรี ย นหรื อ เรื่ อ งราวร้ อ งทุ ก ข์ จ ากประชาชนและ
หน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับการขอความเป็นธรรม และการขอความช่วยเหลือ
จากกรมในเรื่องการปฏิบัติงานตามภารกิจของกรม
ดำ�เนินการเกี่ยวกับงานช่วยอำ�นวยการและงานเลขานุการของกรม
ประสานราชการ ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่กิจกรรม ความรู้
ความก้าวหน้า และผลงานของกรม
ดำ � เนิ น การเกี่ ย วกั บ การจั ด เก็ บ ข้ อ มู ล สภาพของทรั พ ย์ ที่ ถู ก ยึ ด
คำ�คู่ความ หนังสือ หรือประกาศ และการเก็บสำ�นวนในคดีแพ่ง คดีล้มละลาย
คดี ฟื้ น ฟู กิ จ การของลู ก หนี้ คดี ชำ � ระบั ญ ชี ตามคำ � สั่ ง ศาล และเอกสาร
ดำ�เนินงานทั่วไป รวมทั้งการรักษาทรัพย์
14
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี
2. กองติดตามและเฉลี่ยทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ติดตามและรวบรวมทรัพย์สิน รวมทั้งตรวจสอบข้อมูล เอกสาร
และหลักฐานทางการเงินต่างๆ ของลูกหนี้ในคดีล้มละลายตามกฎหมาย
ว่าด้วยล้มละลาย
15
กรมบังคับคดี
อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
คำ�นวณเงินตามคำ�สั่งและคำ�ร้องในสำ�นวนคดี
จัดการสะสางกิจการและติดตามทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย
จั ด ทำ � บั ญ ชี แ บ่ ง ทรั พ ย์ สิ น ในการบั ง คั บ คดี ล้ ม ละลายและการ
ชำ�ระบัญชีตามคำ�สั่งศาล
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
3. - 8. กองบังคับคดีล้มละลาย 1 - 6
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการบังคับคดีล้มละลายตามกฎหมายว่าด้วย
ล้มละลาย
16
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี
9. กองบริหารการคลัง
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี การงบประมาณ การพัสดุ
อาคารสถานที่ และยานพาหนะของกรม
จัดทำ�บัญชีเพื่อควบคุมเงินที่อยู่ระหว่างดำ�เนินการบังคับคดีและ
เงินอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
10. กองบริหารทรัพยากรบุคคล
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
บริหารงานทรัพยากรบุคคลและจัดระบบงานของกรม
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
11. กองพัฒนาระบบการบังคับคดีและประเมินราคาทรัพย์
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ศึ ก ษา พั ฒ นา และวิ จั ย ระบบและรู ป แบบการบั ง คั บ คดี แ พ่ ง
การบังคับคดีลม้ ละลาย การฟืน้ ฟูกจิ การของลูกหนี้ การวางทรัพย์ การติดตาม
17
กรมบังคับคดี
อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
18
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี
19. กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ดำ�เนินการฟืน้ ฟูกจิ การของลูกหนีต้ ามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
20. กลุ่มตรวจสอบภายใน
ทำ�หน้าทีห่ ลักในการตรวจสอบการดำ�เนินงานภายในกรม และสนับสนุน
การปฏิบัติงานของกรม รับผิดชอบงานขึ้นตรงต่ออธิบดี โดยมีอำ�นาจหน้าที่
ดังต่อไปนี้
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านการบริหาร การเงิน และ
การบัญชีของกรม
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
21. กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร
ทำ � หน้ า ที่ ห ลั ก ในการพั ฒ นาการบริ ห ารของกรมให้ เ กิ ด ผลสั ม ฤทธิ์
มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า รับผิดชอบงานขึ้นตรงต่ออธิบดี โดยมีอำ�นาจ
หน้าที่ ดังต่อไปนี้
เสนอแนะและให้ค�ำ ปรึกษาแก่อธิบดี เกีย่ วกับยุทธศาสตร์การพัฒนา
ระบบราชการภายในกรม
ติดตาม ประเมินผล และจัดทำ�รายงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบ
ราชการภายในกรม
19
กรมบังคับคดี
อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
ประสานและดำ�เนินการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการร่วมกับ
หน่วยงานกลางต่าง ๆ และหน่วยงานภายในกรม
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
22. กลุ่มงานจริยธรรม
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ดำ � เนิ น การเผยแพร่ ปลู ก ฝั ง ส่ ง เสริ ม ยกย่ อ งข้ า ราชการ
ที่เป็นแบบอย่างที่ดีและติดตามสอดส่องการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม
ข้าราชการพลเรือนอย่างสมํ่าเสมอ
สืบสวนข้อเท็จจริงการฝ่าฝืนจริยธรรมเพื่อรายงานผลให้อธิบดี
พิจารณา ทัง้ นี้ โดยอาจมีผรู้ อ้ งเรียน หรืออาจดำ�เนินการตามทีอ่ ธิบดีมอบหมาย
หรือตามที่เห็นสมควรก็ได้
ให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ และดู แ ลข้ า ราชการซึ่ ง ปฏิ บั ติ ต ามประมวล
จริยธรรมข้าราชการพลเรือนอย่างตรงไปตรงมา มิให้ถูกกลั่นแกล้งหรือถูก
ใช้อำ�นาจโดยไม่เป็นธรรม
ทำ � หน้ า ที่ ฝ่ า ยเลขานุ ก ารของคณะกรรมการจริ ย ธรรมประจำ �
ส่วนราชการ
ดำ � เนิ น การอื่ น ตามที่ กำ � หนดในประมวลจริ ย ธรรมข้ า ราชการ
20
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี
24. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำ�แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารของกรม
พัฒนา ออกแบบ และจัดวางระบบฐานข้อมูล ระบบการเชื่อมโยง
ข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน
เป็นศูนย์กลางบริหารจัดการฐานข้อมูลและประมวลผลข้อมูล
ในด้านต่าง ๆ ของกรม
วางแผนและพั ฒ นาระบบเทคโนโลยี ส ารสนเทศของกรม
เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการสารสนเทศและให้บริการแก่ประชาชน
กำ�กับ ดูแล และตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์และระบบฐาน
21
กรมบังคับคดี
อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
ข้อมูลสารสนเทศของกรมรวมทั้งกำ�หนดแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย
ของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรมให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ให้คำ�ปรึกษา แนะนำ� และสนับสนุนทางวิชาการเกี่ยวกับระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่หน่วยงานภายในกรม
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
25. สถาบันพัฒนาการบังคับคดี มีหน้าทีแ่ ละอำ�นาจ
ดังต่อไปนี้
เสนอแนะนโยบายการพั ฒ นาข้ า ราชการของกรมบั ง คั บ คดี
การวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร ตลอดจนสนับสนุนและประสาน
งานการจัดทำ�แผนปฏิบัติการ
การพัฒนาบุคลากร
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการจัดอบรม พัฒนาบุคลากรกรมบังคับคดี
ให้มีความพร้อมทั้งด้านความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงาน
ดำ�เนินการอบรมบุคคลภายนอกให้มีความรู้ความเข้าใจในภารกิจ
ของกรมบังคับคดี และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ศึ ก ษา วิ เ คราะห์ เพื่ อ พั ฒ นาหลั ก สู ต รการพั ฒ นาบุ ค ลากร
บริหารหลักสูตรให้เป็นไปตามแผนงาน/โครงการ และนโยบายของกรมบังคับคดี
รวมทั้งติดตามประเมินผล
การฝึกอบรมและพัฒนา
ผลิตและเก็บรักษาเอกสาร คำ�บรรยาย หนังสือที่ใช้ในการฝึกอบรม
และประชุมสัมมนา
ดำ�เนินการจัดทำ�คำ�ของบประมาณรายจ่ายประจำ�ปีงบประมาณ
ในด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของกรมบังคับคดี
จั ด ทำ � ฐานข้ อ มู ล วิ ท ยากร ฐานข้ อ มู ล การพั ฒ นาบุ ค ลากรของ
กรมบังคับคดี รวมทั้งการสรุป ประเมินผล และรายงานผลการดำ�เนินงาน
ปฏิบัติงานร่วมกันหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่
เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
22
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม อำ�นาจหน้าที่หน่วยงานในกรมบังคับคดี
23
กรมบังคับคดี
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการจัดทำ�บัญชีแสดงรายการรับ-จ่าย และ
บัญชีส่วนเฉลี่ยเพื่อจ่ายให้ผู้มีส่วนได้เสียในคดี
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการรับ-จ่ายเงินในคดี การบังคับทางปกครอง
และจัดทำ�บัญชีเพื่อควบคุมการเงินที่อยู่ระหว่างดำ�เนินการบังคับคดีและ
เงินที่เกี่ยวข้องในคดี
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการบริหารทั่วไป งานธุรการ งานธุรการคดี
งานสารบรรณ งานรับส่งหนังสือ งานวิเคราะห์นโยบายและยุทธศาสตร์
แผนงานโครงการ งานบุคลากร งานพัสดุทั่วไป งานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
งานเดิ น หมายและประกาศ และจั ด ทำ � รายงานการติ ด ตามประเมิ น ผล
ตามตัวชี้วัดต่าง ๆ
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนภูมิภาค
28. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัด / สาขา
มีอำ�นาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการบังคับคดีแพ่งและการวางทรัพย์ในจังหวัด
ดำ�เนินการเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดี
ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น
ที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
24
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
การไกล่เกลี่ย
ข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
หมายถึง วิธีการระงับหรือยุติข้อพิพาท โดยมีบุคคลที่สาม เรียกว่า
“ผู้ไกล่เกลี่ย” ทำ�หน้าที่ในการช่วยเหลือเสนอแนะแนวทางและเป็นสื่อกลาง
เพื่อให้คู่กรณีหาทางออกของข้อพิพาทร่วมกัน โดยที่ผู้ไกล่เกลี่ยไม่มีอำ�นาจ
ในการกำ�หนดข้อตกลงให้แก่คู่กรณี การจะตกลงหรือไม่เป็นการตัดสินใจ
ของคู่กรณีเอง
ประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
1. รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก
2. ไม่เสียค่าใช้จ่าย
3. ผู้ไกล่เกลี่ยที่เป็นคนกลาง มีความรู้ความสามารถ
4. เป็นความยินยอมของคู่ความในการตกลงกัน เหมาะสมกับทุกฝ่าย
5. ทำ�ให้ไม่ต้องมีการบังคับคดี
6. มี ค วามยื ด หยุ่ น เนื่ อ งจากคู่ ก รณี ส ามารถเลื อ กใช้ ก ารไกล่ เ กลี่ ย
ข้อพิพาทในบางประเด็นหรือทั้งหมดก็ได้
7. รักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ หรือก่อให้เกิดความสัมพันธ์ในระยะยาว
25
กรมบังคับคดี
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี
ขั้นตอนที่ 1 คู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดียื่นคำ�ร้องขอไกล่เกลี่ย
ขั้นตอนที่ 2 เจ้าพนักงานผูร้ บั คำ�ร้องอธิบายขัน้ ตอนวิธกี ารไกล่เกลีย่ ให้ค�ำ แนะนำ�
เบื้องต้นให้กับผู้ร้อง
ขั้นตอนที่ 3 กำ�หนดวันนัดไกล่เกลี่ย
ขั้นตอนที่ 4 หนังสือแจ้งวันเวลานัดไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีทราบ
ขั้นตอนที่ 5 ทำ�การไกล่เกลี่ยตามกำ�หนดนัด
26
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
เอกสารประกอบการยื่นคำ�ร้องขอไกล่เกลี่ย
คำ�ร้องขอไกล่เกลี่ย
สำ�เนาบัตรประจำ�ตัวประชาชน
หนังสือมอบอำ�นาจ พร้อมสำ�เนาบัตรประชาชนของผูม้ อบอำ�นาจ
และผู้รับมอบอำ�นาจ (กรณียื่นแทนผู้อื่น)
สำ�เนาคำ�พิพากษา หรือหมายบังคับคดี
เอกสารประกอบอื่ น ๆ (หากมี ) เช่ น สำ � เนารายงานการยึ ด
หรืออายัดทรัพย์ ประกาศขับไล่ ประกาศขายทอดตลาด ฯลฯ
ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี
มี ห น้ า ที่ ใ นการดำ � เนิ น การไกล่ เ กลี่ ย ข้ อ พิ พ าทภายหลั ง จากที่ ศ าล
มีคำ�พิพากษาแล้วทั้งก่อนและระหว่างการบังคับคดี
ส่วนกลาง
มีที่ทำ�การ ณ ชั้น 2 อาคาร 25 ปี กรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์
แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2881 4816, 0 2887 5072
ส่วนภูมิภาค สามารถติดต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำ�สำ�นักงาน
บังคับคดีจังหวัดทั่วประเทศ
27
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
28
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
การบังคับคดีแพ่ง
หมายบังคับคดี
หมายบังคับคดี คือ คำ�สั่งของศาลที่ตั้งเจ้าพนักงานในสังกัดกรมบังคับคดี
หรื อ พนั ก งานอื่ น เป็ น เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี เ พื่ อ ดำ � เนิ น การบั ง คั บ คดี ใ ห้ เ ป็ น ไป
ตามคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่ง หมายบังคับคดีแตกต่างจากคำ�บังคับ คำ�บังคับเป็น
คำ � สั่ ง ศาลถึ ง ตั ว ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาให้ ป ฏิ บั ติ ต ามคำ � พิ พ ากษาหรื อ คำ � สั่ ง
ส่ ว นหมายบั ง คั บ คดี เ ป็ น คำ � สั่ ง ของศาลที่ มี ไ ปถึ ง เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี
ให้ดำ�เนินการบังคับคดีแก่ลูกหนี้ตามคำ�พิพากษา คำ�บังคับกับหมายบังคับคดี
เป็ น ขั้ น ตอนการบั ง คั บ คดี ที่ ก ฎหมายกำ � หนดไว้ เ ป็ น ลำ � ดั บ กล่ า วคื อ เมื่ อ ศาล
พิ พ ากษาแล้ ว ศาลก็ จ ะต้ อ งออกคำ � บั ง คั บ กำ � หนดระยะเวลาให้ ลู ก หนี้ ต าม
คำ�พิพากษา ปฏิบัติตามคำ�พิพากษา และเมื่อลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาไม่ปฏิบัติ
ตามคำ � บั ง คั บ ศาลจึ ง จะออกหมายบั ง คั บ คดี เ พื่ อ ดำ � เนิ น การบั ง คั บ คดี ต่ อ ไป
เว้ น แต่ เ ป็ น กรณี ที่ ศ าลมี คำ � พิ พ ากษาตามสั ญ ญาประนี ป ระนอมยอมความ
เมื่อลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาผิดนัดชำ�ระหนี้ ตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว
เจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาสามารถขอศาลออกหมายบั ง คั บ คดี ไ ด้ โดยไม่ จำ � ต้ อ ง
ขอออกคำ�บังคับก่อน
29
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
เหตุที่ต้องขอให้มีการบังคับคดี
เมือ่ ศาลมีค�ำ พิพากษาหรือคำ�สัง่ แล้ว ถ้าผูแ้ พ้คดีหรือลูกหนีต้ ามคำ�พิพากษา
ปฏิบัติตามคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่ง เช่น ชำ�ระหนี้ตามคำ�พิพากษา ออกไปจาก
ที่พิพาท กรณีมีการฟ้องขับไล่ งดเว้นการกระทำ�ตามคำ�พิพากษาก็ไม่จำ�ต้อง
มี ก ารบั ง คั บ คดี แต่ ถ้ า ผู้ แ พ้ ค ดี ห รื อ ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาไม่ ป ฏิ บั ติ ต าม
คำ � พิ พ ากษาหรื อ คำ � สั่ ง ไม่ ว่ า ทั้ ง หมดหรื อ บางส่ ว นจึ ง ต้ อ งมี ก ารบั ง คั บ คดี
ดั ง นั้ น การบั ง คั บ คดี ต ามคำ � พิ พ ากษาหรื อ คำ � สั่ ง จึ ง เป็ น วิ ธี ก ารเพื่ อ ให้ มี
การปฏิบัติตามคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งของศาล ในกรณีที่ผู้แพ้คดีหรือลูกหนี้
ตามคำ�พิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่ง ทั้งนี้ เพื่อให้คำ�พิพากษา
หรือคำ�สั่งของศาลเป็นผลให้ผู้ชนะคดีหรือเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาได้รับสิทธิ
ตามคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่ง ซึ่งการบังคับคดีจะกระทำ�นอกเหนือหรือผิดไป
จากคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งมิได้ หากมีการบังคับนอกเหนือไปจากคำ�พิพากษา
หรือคำ�สั่ง ศาลอาจมีคำ�สั่งให้เพิกถอนการบังคับคดีที่ได้ดำ�เนินการไปแล้วได้
การออกหมายบังคับคดี
เนื่ อ งจากหนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาเป็ น หนี้ ที่ ศ าลรั บ รองและรั บ จะบั ง คั บ ให้
แต่ ก ารดำ � เนิ น การบั ง คั บ คดี เ ป็ น สิ ท ธิ ข องเจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา ดั ง นั้ น
ตามประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณาความแพ่ ง มาตรา 275 จึ ง บั ญ ญั ติ ใ ห้ เ ป็ น
หน้าที่ของเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาที่ต้องขอให้ออกหมายบังคับคดี ซึ่งหากเจ้าหนี้
ตามคำ � พิ พ ากษาไม่ ข อศาลก็ จ ะไม่ อ อกหมายบั ง คั บ คดี ใ ห้ ร ะหว่ า งที่ ศ าลยั ง มิ ไ ด้
กำ�หนดวิธีการบังคับคดี ถ้ามีเหตุจำ�เป็นเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาจะยื่นคำ�ขอคุ้มครอง
ประโยชน์ของเจ้าหนี้และลูกหนี้อาจยื่นคำ�ขอต่อศาลให้ยกเลิกได้เช่นกัน
30
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
เจ้าพนักงานบังคับคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(14) “เจ้าพนักงาน
บังคับคดี” หมายถึง เจ้าพนักงานในสังกัดกรมบังคับคดีหรือพนักงานอื่น ผู้มีอำ�นาจ
ตามบทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง กฎหมายที่ ใช้ อ ยู่ ใ นอั น ที่ จ ะปฏิ บั ติ ต ามวิ ธี ก ารที่ บั ญ ญั ติ
ไว้ในภาค 4 แห่งประมวลกฎหมายนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความในระหว่าง
พิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำ�พิพากษา หรือคำ�สั่งและให้หมายความรวมถึง
บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ปฏิบัติการแทน
ในการบังคับคดีที่ต้องมีการดำ�เนินการโดยเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาล
ซึ่งออกหมายบังคับคดี ต้องตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดี หรือ
เจ้าพนักงานบังคับคดี สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดหรือสาขา แล้วแต่เขตอำ�นาจ
ของศาลที่ออกหมายบังคับคดี เพื่อจัดการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้
ตามคำ�พิพากษาหรือทำ�การอื่นใดโดยอำ�นาจและหน้าที่ตามกฎหมาย
1. ส่ ว นกลาง กรมบั ง คั บ คดี ไ ด้ มี ก ารจั ด ตั้ ง สำ � นั ก งานบั ง คั บ คดี แ พ่ ง
กรุงเทพมหานคร 1 ถึง 7 โดยมีการแบ่งเขตดำ�เนินการบังคับคดีตามเขตอำ�นาจ
ของศาล ดังนี้
1.1 สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 ดำ�เนินการบังคับคดี
ในเขตอำ�นาจของศาลแพ่ง, ศาลอาญา, ศาลแขวงพระนครเหนือ,
ศาลภาษีอากรกลาง
1.2 สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 2 ดำ�เนินการบังคับคดี
ในเขตอำ�นาจของศาลแพ่งกรุงเทพใต้, ศาลแขวงพระนครใต้,
ศาลแขวงปทุมวัน, ศาลแรงงานกลาง, ศาลอาญากรุงเทพใต้
31
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
บทบาทของเจ้าพนักงานบังคับคดี
1. บทบาทในฐานะผู้ แ ทนเจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา ในการรั บ ชำ � ระหนี้
หรือทรัพย์สินที่ลูกหนี้นำ�มาวางชำ�ระหนี้
2. บทบาทในฐานะเป็นเจ้าพนักงานศาล ในการดำ�เนินการบังคับคดีให้เป็น
ไปตามที่ศาลกำ�หนด
ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 278, 279
32
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
33
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
ประเภทของการบังคับคดี
ในการออกหมายบั ง คั บ คดี ป กติ ศ าลจะระบุ เ งื่ อ นไขแห่ ง การบั ง คั บ คดี
ตามทีร่ ะบุไว้ใน มาตรา 213 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และจะกำ�หนด
สภาพแห่ ง การบั ง คั บ คดี เ พี ย งเท่ า ที่ เ ปิ ด ช่ อ งให้ ก ระทำ � ทางศาล หรื อ โดยทาง
เจ้าพนักงานบังคับคดี เช่น
1. การยึดทรัพย์
2. การอายัดทรัพย์สิน
3. การขายทอดตลาด
4. การบังคับขับไล่, รื้อถอน
5. อื่นๆ เช่น การห้ามชั่วคราว
35
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
การยึดทรัพย์สิน
การยึ ด ทรั พ ย์ สิ น คื อ การเอาทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาไว้
ในความดู แ ลรั ก ษาของเจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี เ พื่ อ ดำ � เนิ น การตามกฎหมาย
ให้ บ รรลุ ผ ลตามคำ � พิ พ ากษาหรื อ คำ � สั่ ง ของศาลในการบั ง คั บ คดี ยึ ด ทรั พ ย์ ข อง
ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา เจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาต้ อ งเป็ น ผู้ นำ � ยึ ด ซึ่ ง ตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 298 บัญญัติว่าเจ้าพนักงาน
บังคับคดีจะยึดหรืออายัดหรือขายเฉพาะบรรดาทรัพย์สินที่เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา
อ้ า งว่ า เป็ น ของลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา การยึ ด ทรั พ ย์ สิ น เป็ น หน้ า ที่ ข อง
เจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาต้ อ งสื บ ให้ ท ราบว่ า ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษามี ท รั พ ย์ สิ น
อะไรบ้ า ง อยู่ ที่ ไ หน ผู้ ใ ดครอบครองทรั พ ย์ สิ น นั้ น ซึ่ ง หากทรั พ ย์ สิ น นั้ น
เป็นของลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาย่อมนำ�ยึดได้
ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี
1. เจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา คื อ คู่ ค วามที่ เ ป็ น ฝ่ า ยชนะคดี ซึ่ ง เป็ น
ผู้ที่มีสิทธิที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำ�พิพากษาของศาล
2. ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา คื อ คู่ ค วามที่ เ ป็ น ฝ่ า ยแพ้ ค ดี ซึ่ ง ถ้ า ลู ก หนี้
ตามคำ�พิพากษามิได้ปฏิบตั ติ ามคำ�พิพากษาของศาลทัง้ หมดหรือแต่บางส่วน กรณีนี้
เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีได้
3. เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ ผู้มีสิทธิขอให้บังคับ มี 3 ประเภท คือ
3.1 ผู้รับจำ�นอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702
3.2 ผูท้ รงบุรมิ สิทธิ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 251
36
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
คือ ผู้ทรงไว้ซึ่งสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในการที่จะได้รับชำ�ระหนี้อันค้างชำ�ระ
แก่ตนจากทรัพย์สินนั้นก่อนเจ้าหนี้อื่น
3.3 ผู้รับจำ�นำ� บุคคลดังกล่าวไม่ต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาก็ยื่น
คำ�ร้องต่อศาลที่ออกหมายบังคับคดี เพื่อขอรับชำ�ระหนี้ก่อนเจ้าหนี้สามัญได้
4. เจ้าของรวม (ผู้ร้องขอกันส่วน) ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิอ่ืนๆ ซึ่งอาจต้อง
ขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ตามกฎหมายในความหมายของมาตรา 322,
323 รวมทั้งทรัพย์สิทธิ บุริมสิทธิ์ สิทธิยึดหน่วงอื่น ๆ แห่ง ป.วิ.พ. ในการยึด
ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาที่มีบุคคลภายนอกเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
ในการยึ ด ทรั พ ย์ นั้ น ให้ ยึ ด เฉพาะส่ ว นของลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา แต่ ถ้ า
มี บุ ค คลอื่ น เป็ น เจ้ า ของรวมอยู่ ด้ ว ย และไม่ ป รากฏว่ า ส่ ว นใดเป็ น ของลู ก หนี้
ให้ยึดมาทั้งหมด หรือตามสภาพ หากไม่ยึดทั้งหมดจะทำ�ให้เสื่อมราคา เพราะ
แม้แต่ในระหว่างผู้เป็นเจ้าของรวมด้วยกัน หากไม่สามารถตกลงในการแบ่งแยก
ระหว่ า งกั น เองได้ ก็ จ ะต้ อ งขายทอดตลาดแล้ ว รั บ เป็ น เงิ น แทน เจ้ า ของรวม
จึ ง เป็ น ผู้ มี ส่ ว นได้ เ สี ย ในการบั ง คั บ คดี ช อบที่ จ ะร้ อ งขอเข้ า มาในคดี เพื่ อ ขอให้
เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ป ล่ อ ยทรั พ ย์ สิ น ในส่ ว นที่ ต นมี ก รรมสิ ท ธิ์ ห รื อ ขอให้
เจ้าพนักงานบังคับคดีกันเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดในส่วนของเจ้าของรวมได้
5. ผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ (ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 326)
ผู้มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ ได้แก่
5.1 เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาซึ่งไม่จำ�เป็นต้องรอให้คดีถึงที่สุด
5.2 เจ้าพนักงานผู้มีอำ�นาจตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร
5.3 กรมแรงงาน ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ข้อ 10
37
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
การขอเฉลี่ยทรัพย์เกิดขึ้นได้โดยมีเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษามากกว่าหนึ่งคดี
และเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาคดีใดคดีหนึ่งได้นำ�เจ้าพนักงานบังคับคดี ยึดหรือ
อายั ด สิ ท ธิ เรี ย กร้ อ งของลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาไว้ เจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาอื่ น
จะยึ ด ทรั พ ย์ ห รื อ อายั ด สิ ท ธิ เรี ย กร้ อ งของลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษานั้ น ซ้ำ � ไม่ ไ ด้
เพราะกฎหมายห้ า มยึ ด หรื อ อายั ด ซำ้ � อี ก แม้ ลู ก หนี้ต ามคำ � พิ พ ากษานั้ น จะยั ง มี
ทรั พ ย์ สิ น อื่ น ที่ ไ ม่ ไ ด้ ถู ก ยึ ด ถ้ า ท รั พ ย์ สิ น ที่ มี อ ยู่ ไ ม่ เ พี ย ง พ อ ชำ � ร ะ ห นี้
ตามคำ�พิพากษาของเจ้าหนี้ ตามคำ�พิพากษาอื่นแล้ว เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษานั้น
ก็มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ได้
กำ�หนดระยะเวลาในการขอเฉลี่ยให้ผู้ร้องยื่นคำ�ร้องต่อศาลที่ออกหมาย
บังคับคดีในกรณียึดทรัพย์ ให้ยื่นก่อนสิ้นระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่มีการขาย
ทอดตลาดหรือจำ�หน่ายโดยวิธีอื่นในครั้งนั้น ๆ (ทรัพย์ชิ้นใดขายได้วันใดก็ต้องยื่น
คำ�ขอเฉลีย่ ทรัพย์ภายใน 15 วัน นับแต่วนั ขายได้ของทรัพย์ชนิ้ นัน้ ๆ) ในกรณีอายัดทรัพย์
ให้ยนื่ คำ�ขอก่อนสิน้ ระยะเวลา 15 วัน นับแต่วนั ชำ�ระเงินหรือส่งทรัพย์สนิ ตามทีอ่ ายัด
ในกรณียึดเงินให้ยื่นคำ�ขอก่อนสิ้นระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันยึด
เมื่ อ ศาลส่ ง สำ � เนาคำ � ร้ อ งเฉลี่ ย ทรั พ ย์ ใ ห้ เ จ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี แ ล้ ว
ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดจ่ายเงินในคดีไว้ก่อนเพื่อรอฟังคำ�วินิจฉัยชี้ขาดจากศาล
6. เมื่อบุคคลใดกล่าวอ้างว่าลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน
ที่ เ จ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ไ ด้ ยึ ด ไว้ หรื อ ตนเป็ น เจ้ า ของรวมหรื อ อยู่ ใ นฐานะ
อันจะจดทะเบียนสิทธิได้อยู่ก่อนบุคคลนั้นก็สามารถยื่นคำ�ร้องต่อศาลที่ออกหมาย
บังคับคดีให้ปล่อยทรัพย์สินนั้นโดยต้องยื่นคำ�ร้องต่อศาลก่อนเจ้าพนักงานบังคับคดี
จะเอาทรั พ ย์ สิ น นั้ น ออกขายทอดตลาด เมื่ อ ศาลส่ ง สำ � เนาคำ � ร้ อ งของผู้ ร้ อ ง
ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องงดการบังคับคดีไว้
เพื่อรอคำ�วินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องดังกล่าวจากศาล
38
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
การงดการบังคับคดี
การบังคับคดีอาจชะงักลงได้หากเกิดกรณีต้องงดบังคับคดีไว้ก่อน โดยอาจ
เกิดขึ้นจากผลของกฎหมาย เช่น ลูกหนี้ยื่นคำ�ขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลสั่ง
ให้ ง ด หรื อ เจ้ า หนี้ ไ ม่ ว างค่ า ใช้ จ่ า ย และการงดการบั ง คั บ คดี อ าจเกิ ด ขึ้ น ได้
โดยการตกลงยินยอมระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ด้วย ถ้าเจ้าหนี้แจ้งเป็นหนังสือ
ไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยลูกหนี้ยินยอมให้งดการบังคับคดีเป็นหนังสือเช่นกัน
นอกจากนี้ยังต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียด้วย คือ
ผู้ขอรับชำ�ระหนี้บุริมสิทธิ์ ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ ผู้รับจำ�นอง ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ทั้งนี้
ตามมาตรา 289 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
วิธีการดำ�เนินการขับไล่
เจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาจะต้ อ งนำ � เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี เ พื่ อ ไปทำ � การ
ปิดประกาศ ถ้าไปถึงทรัพย์พิพาทปรากฏว่าไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ในทรัพย์พิพาท และไม่มี
ทรัพย์สินอื่นใดอยู่ในทรัพย์พิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจะส่งมอบทรัพย์พิพาท
ให้ เ จ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา แต่ ถ้ า ไม่ มี บุ ค คลใดอยู่ อ าศั ย แต่ ป รากฏว่ า มี
ทรั พ ย์ สิ น อื่ น อยู่ ใ นทรั พ ย์ พิ พ าท เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี จ ะจั ด ทำ � บั ญ ชี ร วบรวม
ทรั พ ย์ สิ น ไว้ แ ล้ ว แจ้ ง ให้ ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษามารั บ คื น ภายในกำ � หนดเวลา
ถ้ า ไม่ ม ารั บ คื น ภายในกำ � หนดเวลา เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี จ ะรายงานศาล
ขออนุ ญ าตขายทอดตลาดทรั พ ย์ สิ น ดั ง กล่ า ว เพื่ อ เก็ บ เงิ น ไว้ ใ ห้ ลู ก หนี้ ต าม
คำ�พิพากษาต่อไป (ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 352)
ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาและบริ ว ารไม่ อ อกไปจากทรั พ ย์ สิ น เจ้ า หนี้
ตามคำ � พิ พ ากษาจะต้ อ งนำ � เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี เพื่ อ ไปปิ ด ประกาศแจ้ ง ให้
40
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
ผู้ ที่ อ ยู่ อ าศั ย ในทรั พ ย์ พิ พ าท ซึ่ ง อ้ า งว่ า มิ ใช่ บ ริ ว ารของลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา
ยื่ น คำ � ร้ อ งแสดงอำ � นาจพิ เ ศษต่ อ ศาลภายในกำ � หนดเวลา 15 วั น นั บ แต่ วั น
ปิดประกาศ ถ้าไม่มีผู้ยื่นแสดงอำ�นาจพิเศษต่อศาลภายในกำ�หนดเวลาดังกล่าว
และเจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาแถลงต่ อ เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ว่ า ยั ง มี ลู ก หนี้
ตามคำ�พิพากษาหรือบริวาร (ต้องแถลงโดยระบุชื่อ และชื่อสกุล) อาศัยอยู่ใน
ทรั พ ย์ พิ พ าท ขอให้ เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ร ายงานขอให้ ศ าลออกหมายจั บ กุ ม
และกักขังลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาและบริวาร เจ้าพนักงานบังคับคดีจะรายงาน
ขอให้ ศ าลออกหมายจั บ กุ ม บุ ค คลดั ง กล่ า ว แล้ ว มาแถลงต่ อ เจ้ า พนั ก งาน
บั ง คั บ คดี เพื่ อ นำ � เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ไ ปส่ ง มอบการครอบครองทรั พ ย์ สิ น
พิ พ าทให้ เ จ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา แต่ ห ากมี ผู้ ยื่ น คำ � ร้ อ งแสดงอำ � นาจพิ เ ศษ
ในทรั พ ย์ พิ พ าทต่ อ ศาลภายในกำ � หนดเวลา 15 วั น นั บ แต่ วั น ปิ ด ประกาศ
เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี จะงดการบั ง คั บ คดี ไว้ ร อฟั ง คำ � สั่ ง ศาล หากต่ อ มาศาล
สั่งยกคำ�ร้องแสดงอำ�นาจพิเศษของบุคคลดังกล่าว และเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา
มาแถลงให้ เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ร ายงานศาลขอให้ ศ าลออกหมายจั บ บุ ค คล
ดังกล่าวเมื่อไม่มีผู้ใดอยู่ในทรัพย์พิพาทแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็จะส่งมอบ
การครอบครองให้เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา (ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 353)
กรณี ก ารเข้ า ครอบครองทรั พ ย์ ข องผู้ ซื้ อ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ไ ด้ จ าก
การขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี (ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 334)
บุ ค คลผู้ ซื้ อ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ไ ด้ จ ากการขายทอดตลาดของเจ้ า พนั ก งาน
บั ง คั บ คดี เมื่ อ เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี โ อนอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ที่ ข ายให้ แ ก่ ผู้ ซื้ อ
หากทรั พ ย์ สิ น ที่ โ อนนั้ น มี ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาอาศั ย อยู่ แ ละลู ก หนี้ ต าม
41
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
คำ � พิ พ ากษาหรื อ บริ ว ารไม่ ย อมออกไปจากอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ผู้ ซื้ อ จะต้ อ งยื่ น
คำ � ขอฝ่ า ยเดี ย วต่ อ ศาลที่ อ สั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ที่ ซื้ อ ได้ อ ยู่ ใ นเขตศาลนั้ น เพื่ อ ให้
ศาลออกหมายบั ง คั บ คดี เ พื่ อ ตั้ ง เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ไ ปดำ � เนิ น การส่ ง มอบ
การครอบครองเช่นเดียวกับกรณีของการฟ้องขับไล่เช่นกัน
42
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
ยึดอสังหาริมทรัพย์ ณ ที่ทำ�การ
ยึดที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ให้จัดเตรียมเอกสารดำ�เนินการ ดังนี้
1. ต้นฉบับโฉนดที่ดิน, สัญญาจำ�นอง (ถ้ามี)
- ถ้าเป็นสำ�เนาต้องเป็นสำ�เนาทีเ่ ป็นปัจจุบนั ซึง่ เจ้าพนักงานทีด่ นิ รับรอง
ไม่เกิน 1 เดือน นับถึงวันยึด
2. สำ � เนาทะเบี ย นบ้ า นของจำ � เลย, ผู้ ถื อ กรรมสิ ท ธิ์ , คู่ ส มรสของ
จำ � เลย, ทายาทของจำ � เลยผู้ ต าย ซึ่ ง นายทะเบี ย นรั บ รองไม่ เ กิ น 1 เดื อ น
นับถึงวันยึด
3. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ - สกุล (ถ้ามี) ของโจทก์และจำ�เลย
4. แผนที่การเดินทางไปที่ตั้งทรัพย์ที่จะยึด พร้อม สำ�เนา 1 ชุด
5. ภาพถ่ า ยปั จ จุ บั น ของทรัพย์ที่จะยึดและแผนผังของทรัพย์ที่จะยึด
โดยระบุขนาดกว้าง - ยาว
6. เขียนคำ�ขอยึดทรัพย์ ณ ที่ทำ�การ (ตามแบบที่กำ�หนด) และวางเงิน
ค่าใช้จ่ายสำ�นวนละ 2,500 บาท
43
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
ยึดอสังหาริมทรัพย์ ณ ที่ทำ�การ
ยึดห้องชุด
ให้จัดเตรียมเอกสารและดำ�เนินการ ดังนี้
1. ต้นฉบับหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด, สัญญาจำ�นอง (ถ้ามี)
- ถ้าเป็นสำ�เนาต้องเป็นสำ�เนาทีเ่ ป็นปัจจุบนั ซึง่ เจ้าพนักงานทีด่ นิ รับรอง
ไม่เกิน 1 เดือน นับถึงวันยึด
2. สำ�เนาทะเบียนบ้านของจำ�เลย, ผู้ถือกรรมสิทธิ์, คู่สมรสของจำ�เลย,
ทายาทของจำ � เลยผู้ ต าย ซึ่ ง นายทะเบี ย นรั บ รองไม่ เ กิ น 1 เดื อ น นั บ ถึ ง
วันยึด
3. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ - สกุล (ถ้ามี) ของโจทก์และจำ�เลย
4. แผนที่การเดินทางไปที่ตั้งทรัพย์ที่จะยึด พร้อม สำ�เนา 1 ชุด
5. ภาพถ่ า ยปั จ จุ บั น ของทรัพย์ที่จะยึดและแผนผังของทรัพย์ที่จะยึด
โดยระบุขนาดกว้าง - ยาว
6. หนังสือรับรองนิติบุคคลอาคารชุดที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดิน
รับรองไม่เกิน 1 เดือน นับถึงวันยึด
7. เขียนคำ�ขอยึดทรัพย์ ณ ที่ทำ�การ (ตามแบบที่กำ�หนด) และวางเงิน
ค่าใช้จ่ายสำ�นวนละ 2,500 บาท
44
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
ยึดสังหาริมทรัพย์
ยึดทรัพย์สิน
ให้จัดเตรียมเอกสารและดำ�เนินการ ดังนี้
1. สำ � เนาทะเบี ย นบ้ า นของจำ � เลย หรื อ คู่ ส มรสของจำ � เลย (กรณี
สินสมรส) ซึ่งนายทะเบียนรับรองไม่เกิน 1 เดือน นับถึงวันยึด
2. เขียนคำ�ขอยึดทรัพย์ตาม (แบบ 7) แจ้งสถานที่ที่จะไปยึดทรัพย์สิน
3. วางเงินค่าใช้จ่าย สำ�นวนละ 1,500 บาท
4. จัดหาหรือเตรียมยานพาหนะ สำ�หรับรับ - ส่ง เจ้าพนักงานบังคับคดี
5. ตระเตรี ย มยานพาหนะและคนเพื่ อ ขนย้ า ยทรั พ ย์ ที่ ยึ ด ไปเก็ บ รั ก ษา
ณ สถานรักษาทรัพย์ กรมบังคับคดี หรือสถานที่ของโจทก์
6. รายละเอียดเอกสารของทรัพย์ที่ยึด เช่น ใบหุ้น
ขับไล่และรื้อถอน
ให้จัดเตรียมเอกสารและดำ�เนินการ ดังนี้
1. เขียนคำ�ร้อง (แบบ 7) ขอให้ขับไล่ - รื้อถอน
2. วางเงินค่าใช้จ่าย สำ�นวนละ 1,500 บาท
3. จัดหาหรือเตรียมยานพาหนะ สำ�หรับรับ - ส่ง เจ้าพนักงานบังคับคดี
4. เตรี ย มคนงานในการรื้ อ ถอนและยานพาหนะสำ � หรั บ ขนย้ า ยทรั พ ย์
ที่รื้อถอนหรือรวบรวม
5. ในกรณียึดทรัพย์สินจำ�เลยด้วย ให้ส่งสำ�เนาทะเบียนบ้านของจำ�เลย
ซึ่ ง นายทะเบี ย นรั บ รองไม่ เ กิ น 1 เดื อ น นั บ ถึ ง วั น ที่ ยึ ด เพื่ อ แจ้ ง การยึ ด ทรั พ ย์
ให้จำ�เลยทราบ
45
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
การอายัดทรัพย์สิน
การอายัดทรัพย์สิน
เป็นวิธีการบังคับคดีรูปแบบหนึ่ง
ไม่ใช่การบังคับกับทรัพย์สินที่มีอยู่ในความครอบครองของลูกหนี้โดยตรง
เป็นการบังคับกับสิทธิเรียกร้องเป็นเงิน ของลูกหนี้ตามคำ�พิพากษา
เป็ น การสั่ ง บุ ค คลภายนอกมิ ใ ห้ ชำ� ระหนี้ แ ก่ ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา
แต่ให้ชำ�ระแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีแทน
วิธีการอายัดทรัพย์สิน
1. มีหนังสือ (คำ�สั่ง) แจ้งไปยังบุคคลภายนอก ไม่ให้ชำ�ระเงินแก่ลูกหนี้ ตาม
คำ�พิพากษาแต่ให้ชำ�ระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแทนภายในระยะเวลาที่กำ�หนดไว้
2. มีหนังสือ/หมาย (คำ�สั่ง) แจ้งการอายัดให้ ลูกหนี้ตามคำ�พิพากษา
ทราบ และให้ ง ดเว้ น การจำ � หน่ า ยสิ ท ธิ เรี ย กร้ อ งตั้ ง แต่ ข ณะที่ ไ ด้ ส่ ง คำ � สั่ ง นั้ น ให้
(ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 316 วรรคสอง)
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการอายัดทรัพย์สิน
เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา ลูกหนี้ตามคำ�พิพากษา
เจ้าพนักงานบังคับคดี บุคคล
ภายนอก
ผู้รับคำ�สั่ง
อายัด
46
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาที่อายัดได้
1. เงิ น เดื อ น ค่ า จ้ า ง หรื อ รายได้ อื่ น ที่ มี ลั ก ษณะจ่ า ยเพื่ อ ตอบแทน
การทำ�งานเป็นรายเดือน
อายัดได้แต่ต้องคงเหลือไม่น้อยกว่า 20,000 บาท
2. โบนัส
อายัดร้อยละ 50
3. เงินที่ตอบแทนกรณีออกจากงานเงินส่วนที่ไม่ได้อายัดต้องคงเหลือไว้
ไม่น้อยกว่า 300,000 บาท
4. เงินตอบแทนจากการทำ�งานเป็นชั่วคราว
อายัด ร้อยละ 30
5. เงินฝากในบัญชีสถาบันการเงิน
6. เงินปันผลหุ้น
7. ค่าเช่าทรัพย์สิน
8. ค่างวดงานตามสัญญาจ้างงาน
สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาที่อายัดไม่ได้
(ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 302)
1. เงินเดือน ค่าจ้าง บำ�นาญ บำ�เหน็จ เบี้ยหวัด หรือรายได้อื่นในลักษณะ
เดียวกันของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างในหน่วยงานราชการ
*ยกเว้น กรณีที่กฎหมายกำ�หนดไว้เป็นการเฉพาะ*
47
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
ระยะเวลาในการบังคับคดี
มาตรา 274 ถ้าคูค่ วามหรือบุคคลซึง่ เป็นฝ่ายแพ้คดี (ลูกหนีต้ ามคำ�พิพากษา)
มิได้ปฏิบัติตามคำ�พิพากษา หรือ คำ�สั่งของศาลทั้งหมดหรือบางส่วน คู่ความ หรือ
บุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะ (เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดี
ตามคำ � พิ พ ากษาหรื อ คำ � สั่ ง นั้ น ได้ ภายในสิ บ ปี นั บ แต่ วั น มี คำ � พิ พ ากษา หรื อ
คำ�สั่ง โดยอาศัยและตามคำ�บังคับที่ออกตามคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งนั้น
48
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
การไต่สวนลูกหนี้เกี่ยวกับทรัพย์สิน
มาตรา 277 ถ้ า เจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาเชื่ อ ว่ า ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา
มีทรัพย์สินที่จะต้องถูกบังคับคดีมากกว่าที่ตนทราบแล้ว เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา
อาจยื่ น คำ � ขอฝ่ า ยเดี ย วโดยทำ � เป็ น คำ � ร้ อ งต่ อ ศาลขอให้ ศ าลทำ � การไต่ ส วนและ
ออกหมายเรียกลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาหรือบุคคลอื่นที่เชื่อว่าอยู่ในฐานะที่จะให้
ถ้อยคำ�อันเป็นประโยชน์มาในการไต่สวนเช่นว่านั้น
เมื่ อ มี คำ � ขอเช่ น นี้ ให้ ศ าลทำ � การไต่ ส วนตามกำ � หนดและเงื่ อ นไขใด ๆ
ที่เห็นสมควร
เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา
ยื่นคำ�ขออายัดและส่งเอกสาร ดังนี้
1. สำ�เนาทะเบียนบ้านหรือสำ�เนาบัตรประจำ�ตัวประชาชน หรือสำ�เนา
หนังสือรับรองนิติบุคคลของเจ้าหนี้
2. หนังสือมอบอำ�นาจ (กรณีมอบให้ผู้อื่นดำ�เนินการแทน)
3. หลั ก ฐานแห่ ง สิ ท ธิ เรี ย กร้ อ งหรื อ สำ � เนาเอกสารที่ มี ข้ อ ความระบุ ถึ ง
ความมีอยู่ของเงินนั้น
4. สำ�เนาทะเบียนบ้านหรือสำ�เนาหนังสือรับรองนิติบุคคลของลูกหนี้ และ
บุคคลภายนอกผู้รับคำ�สั่งอายัด (นายทะเบียนรับรองไม่เกิน 1 เดือน)
5. สำ�เนาคำ�ฟ้องและสำ�เนาทะเบียนบ้านของจำ�เลยในชั้นฟ้อง
6. เอกสารอื่น ๆ ตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำ�หนด เช่น ให้เจ้าหนี้
ตามคำ�พิพากษาแถลงผลการชำ�ระหนี้ วัน เดือน ปี ที่ได้รับชำ�ระหนี้
ภายนอก
49
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
ลูกหนี้ตามคำ�พิพากษา
ขอลดการอายัดเงินเดือน ค่าจ้าง ต้องดำ�เนินการ
1. ยื่ น คำ � ร้ อ งขอลดอายั ด ระบุ ค วามจำ � เป็ น อั ต ราเงิ น เดื อ นและ
จำ�นวนเงินที่ขอลด
2. ส่งเอกสาร
หนังสือรับรองเงินเดือน
หลักฐานความจำ�เป็น
การสั่งลดอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี
1. ลดอายัดเงินเดือน, ค่าจ้าง
ลดได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำ�นวนที่อายัดไว้เดิม
2. หากลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ไม่เห็นชอบกับคำ�สั่งจะดำ�เนินการอย่างไร
ร้องขอต่อศาล เพื่อขอให้กำ�หนดจำ�นวนเงินที่อายัดใหม่
50
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
การดำ�เนินการของเจ้าพนักงานบังคับคดี
กรณีไม่ส่งเงินตามอายัด (ม.321)
แจ้งเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาทราบ
เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษายื่นคำ�ร้องต่อศาลเรียกบุคคลภายนอกไปไต่สวน
ศาลมีคำ�สั่งให้บุคคลภายนอก เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาขอให้ศาล
ปฏิบัติการชำ�ระหนี้ตามที่ ออกหมายบังคับคดีแก่บุคคลภายนอก
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำ�สั่ง เสมือนว่าเป็นลูกหนี้ตามคำ�พิพากษา
กรณีอายัดครบหนี้
ถอนการอายัด แจ้งบุคคลภายนอก
ถอนการบังคับคดี รายงานศาล
51
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
การจำ�หน่ายทรัพย์สิน
การจำ�หน่ายทรัพย์สิน เป็นขั้นตอนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำ�พิพากษา
หรื อ คำ � สั่ ง ของศาลอั น เป็ น วิ ธี ก ารปฏิ บั ติ ห รื อ ดำ � เนิ น การบั ง คั บ คดี เพื่ อ ให้ เ ป็ น ไป
ตามคำ � พิ พ ากษาหรื อ คำ � สั่ ง ของศาลเป็ น กระบวนพิ จ ารณา ซึ่ ง ดำ � เนิ น การ
ภายหลังศาลมีคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งชี้ขาดแล้ว การดำ�เนินกระบวนพิจารณา
เกี่ยวกับการบังคับคดีส่วนมากมิได้กระทำ�โดยศาล หากกระทำ�โดยเจ้าพนักงาน
บังคับคดี กรมบังคับคดี อันมีวิธีการเกี่ยวกับการปฏิบัติซึ่งบัญญัติไว้ในประมวล
กฎหมายวิ ธี พิ จ ารณาความแพ่ ง ภาค 4 วิ ธี ก ารบั ง คั บ คดี เ พื่ อ ดำ � เนิ น การให้
เป็ น ไปตามคำ � พิ พ ากษาหรื อ คำ � สั่ ง ของศาลไม่ ว่ า จะเป็ น คดี แ พ่ ง คดี อ าญา
คดีแรงงาน คดีเยาวชนและครอบครัว ได้แก่ การยึดทรัพย์สิน การอายัดทรัพย์สิน
การขายทอดตลาดทรัพย์ การขับไล่ รื้อถอน หรือการบังคับคดีตามกฎหมาย
อื่ น ๆ ตามคำ � สั่ ง เช่ น การกั ก เรื อ ตามพระราชบั ญ ญั ติ ก ารกั ก เรื อ การบั ง คั บ
ค่ า สิ น ไหมทดแทนในคดี ค วามผิ ด ตามพระราชบั ญ ญั ติ ป้ อ งกั น และปราบปราม
การค้ า มนุ ษ ย์ พ.ศ. 2551 หรื อ การบั ง คั บ คดี ช ดใช้ ค่ า ปรั บ ในคดี ย าเสพติ ด
ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 เป็นต้น
อำ�นาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย
วิ ธี พิ จ ารณาความแพ่ ง จึ ง มี อำ � นาจในฐานะตั ว แทนเจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษา
ในอั น ที่ จ ะรั บ ชำ � ระหนี้ ห รื อ ทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ นำ � มาวางกั บ มี อำ � นาจที่ จ ะยึ ด
อายั ด และยึ ด ถื อ ทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาไว้ และมี อำ � นาจที่ จ ะ
เอาทรั พ ย์ สิ น เช่ น ว่ า นี้ อ อกขายทอดตลาด ทั้ ง มี อำ � นาจที่ จ ะจำ � หน่ า ยทรั พ ย์ สิ น
52
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
หรือเงินรายได้จากการนั้น การขายทอดตลาดทรัพย์จึงเป็นกระบวนการหนึ่ง
ที่ดำ�เนินการต่อเนื่องจากการยึดทรัพย์ เป็นการจัดการเกี่ยวกับทรัพย์ที่ยึด ซึ่งตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง อาจแบ่งการจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สิน
ที่ยึดได้เป็น 2 กรณี คือ
1. การเอารายได้จากทรัพย์สินแทนการขายทอดตลาด ตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 336 หมายถึง ถ้าลูกหนี้ตามคำ�พิพากษา
มีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ เช่น การนำ�อสังหาริมทรัพย์ออกให้เช่า รายได้
จากการประกอบอุ ต สาหกรรม พาณิ ช ยกรรม หรื อ กสิ ก รรม เพี ย งพอที่ จ ะ
ชำ �ระหนี้ ต ามคำ� พิ พ ากษา เมื่ อ ศาลเห็ น สมควร หรื อ ลู ก หนี้ ร้ อ งขอศาลอาจจะ
มีคำ�สั่งตั้งผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์หรือผู้จัดการกิจกรรมเหล่านั้นได้และบังคับให้
มอบเงิ นรายได้ ทั้ ง หมดหรื อ บางส่ ว นต่ อ เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ภ ายในเวลาและ
เงื่อนไขที่ศาลกำ�หนดแทนการขายทอดตลาด กรณีเช่นนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดี
ก็ไม่จำ�เป็นที่จะต้องขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาได้
2. การขายทอดตลาดและการประมูล
2.1 การประมูล กระทำ�โดยอาศัยอำ�นาจตามคำ�สั่งหรือคำ�พิพากษา
ของศาล คดีประเภทนีส้ ว่ นใหญ่จะเป็นคดีฟอ้ งแบ่งมรดก หรือการแบ่งกรรมสิทธิร์ วม
ของเจ้ า ของรวม หรื อ การแบ่ ง สิ น สมรสระหว่ า งสามี ภ รรยา เป็ น ต้ น โดยให้
ผู้ มี สิ ท ธิ เข้ า ประมู ล ราคากั น เองศาลจะกำ � หนดบุ ค คลผู้ มี สิ ท ธิ เข้ า ประมู ล ไว้ ใ น
คำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งของศาล และในคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งของศาลจะกำ�หนด
วิธีการบังคับไว้เป็น 2 นัย คือ ให้ประมูลราคากันเองระหว่างคู่ความ หากไม่
53
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
สามารถกระทำ�การได้หรือมีการคัดค้านก็ให้ดำ�เนินการขายทอดตลาด สำ�หรับ
วิ ธี ก ารประมู ล ระหว่ า งคู่ ค วาม เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ต้ อ งนั ด ผู้ มี สิ ท ธิ ป ระมู ล
ตรวจสอบกำ�หนดทรัพย์สนิ และฟังวันนัดประมูล ผูใ้ ดประมูลให้ราคาสูงสุด ผูน้ นั้ เป็น
ผูป้ ระมูลได้ ถ้าการประมูลไม่เป็นทีต่ กลงกันเจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำ�เนินการขาย
ทอดตลาด
2.2 การขายทอดตลาด ในการบังคับคดีเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็น
ผู้ ดำ � เนิ น การซึ่ ง ต่ า งกั บ การขายทรั พ ย์ โ ดยทั่ ว ไป เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี จ ะต้ อ ง
ดำ � เนิ น การภายใต้ บ ทบั ญ ญั ติ ข องกฎหมายทั้ ง ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
ความแพ่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระเบียบคำ�สั่งต่าง ๆ กล่าวคือ
2.2.1 การขายทอดตลาดเมื่ อ เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี แจ้ ง การ
ยึดทรัพย์สินให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ลูกหนี้ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้น ผู้ถือกรรมสิทธิ์
ร่ ว มกั บ ลู ก หนี้ ผู้ รั บ จำ � นอง รวมถึ ง นายทะเบี ย นกรณี ท รั พ ย์ นั้ น มี ท ะเบี ย นแล้ ว
เจ้าพนักงานบังคับคดีจะจัดทำ�ประกาศขายทอดตลาดและแจ้งกำ�หนดวัน สถานที่
ขายทอดตลาดแก่ บ รรดาบุ ค คลผู้ มี ส่ ว นได้ เ สี ย ในการบั ง คั บ คดี แ ก่ ท รั พ ย์ สิ น
ที่ขายทอดตลาดให้ทราบ
ประกาศขายทอดตลาดจะแสดงรายละเอี ย ดเกี่ ย วกั บ ทรั พ ย์ ที่ จ ะขาย
จะต้องมีการให้ปิดประกาศขายทอดตลาดไว้โดยเปิดเผย ณ สถานที่ขาย สถานที่
ทรัพย์นั้นตั้งอยู่ ที่ชุมชน หรือสถานที่ราชการอันสมควรจะปิดได้
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีมีสิทธิในการเข้าสู้ราคาเอง หรือหา
บุคคลอื่นเข้าสู้ราคา เพื่อให้ได้ราคาตามที่ตนต้องการ และเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดี
เคาะไม้ขายให้แก่ผู้ให้ราคาสุงสุดแล้ว ห้ามมิให้มีการร้องเพิกถอนการขายด้วยเหตุ
ราคาตํ่าเกินสมควรอีก
54
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
56
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
ส่ ว นที่ เ หลื อ ครบถ้ ว นแล้ ว เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี จ ะมี ห นั ง สื อ ถึ ง นายทะเบี ย น
เพื่อทำ�การจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสิทธิให้แก่ผู้ซื้อต่อไป สำ�หรับค่าธรรมเนียม
ค่าภาษีอากร ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มต่าง ๆ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะกำ�หนดหน้าที่
ผู้ ที่ ต้ อ งผู ก พั น รั บ ผิ ด ชอบไว้ ใ นรายละเอี ย ดในประกาศขายทอดตลาด ซึ่ ง ผู้ ซ้ื อ
จะต้องผูกพันเงื่อนไขต่าง ๆ ในประกาศขายทอดตลาดทั้งหมด
2.2.4 การเข้ า ครอบครองทรั พ ย์ ภ ายหลั ง การจดทะเบี ย น
ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาด เมื่อไปทำ�การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แล้ว
ไม่ ส ามารถเข้ า ครอบครองทรั พ ย์ นั้ น ได้ เ นื่ อ งจากมี ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาหรื อ
บริวารอยู่อาศัย หรือลูกหนี้หรือบริวารไม่ยอมออกจากทรัพย์สินนั้น ผู้ซื้อต้อง
ยื่ น คำ � ขอต่ อ ศาลที่ ท รั พ ย์ นั้ น ตั้ ง อยู่ ใ ห้ อ อกหมายบั ง คั บ คดี เพื่ อ ตั้ ง เจ้ า พนั ก งาน
บังคับคดีไปดำ�เนินการขับไล่ลูกหนี้หรือบริวารนั้นได้ โดยให้ถือว่าลูกหนี้หรือบริวาร
เป็นลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาที่ไม่จำ�เป็นต้องฟ้องลูกหนี้หรือบริวารเป็นคดีใหม่
เหตุที่เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการบังคับคดี
ในการขายทอดตลาดอาจมีเหตุตามกฎหมายที่เจ้าพนักงานบังคับคดี
ต้องงดการขายทอดตลาด ดังนี้
1. เมื่ อ มี ก ารถอนการยึ ด ทรั พ ย์ โดยเจ้ า หนี้ ผู้ เ ป็ น โจทก์ ข อถอน
การยึดทรัพย์ หรือลูกหนี้ได้วางเงินชำ�ระหนี้ตามคำ�พิพากษาและชำ�ระหนี้
ของผู้ ร้ อ งเฉลี่ ย ทรั พ ย์ ที่ ศ าลมี คำ � สั่ ง แล้ ว พร้ อ มทั้ ง ค่ า ธรรมเนี ย มและ
ค่าใช้จ่ายครบถ้วน
2. ศาลสั่งงดการบังคับคดี
57
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
3. เจ้าหนี้ของดการบังคับคดี โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจาก
ลูกหนี้และบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี
4. กรณีบุคคลภายนอกอ้างว่าทรัพย์ที่ขายไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของ
ลูกหนี้และได้ยื่นคำ�ร้องต่อศาลขอให้ปล่อยทรัพย์นั้น
5. เหตุอื่น ๆ เช่น ส่งประกาศขายให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียยังไม่ครบถ้วน
หากดำ�เนินการขายทอดตลาดอาจทำ�ให้การขายทอดตลาดนั้นไม่ชอบด้วย
กฎหมาย
สิทธิของผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี
ผู้ ที่ ถื อ ว่ า เป็ น ผู้ มี ส่ ว นได้ ส่ ว นเสี ย ในการบั ง คั บ คดี กั บ ทรั พ ย์ สิ น อั น ได้ แ ก่
เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา ลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์
ที่ ข ายทอดตลาด ผู้ ถื อ กรรมสิ ท ธิ์ ร่ ว มกั บ ลู ก หนี้ เจ้ า หนี้ บุ ริ ม สิ ท ธิ์ ห รื อ เจ้ า หนี้
ผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่ศาลมีคำ�สั่งอนุญาตแล้ว หรือคู่สมรสลูกหนี้ที่ศาลมีคำ�สั่ง
อนุ ญ าตให้ กัน ส่ ว นแล้ ว รวมถึ ง ผู้ซ้ือ ทรั พ ย์ ไ ด้ แ ล้ ว ไม่ ว างเงิ น ชำ � ระส่ ว นที่ เ หลื อ
ที่ เจ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี มี คำ � สั่ ง ให้ ริ บ เงิ น มั ด จำ � แล้ ว นํ า ทรั พ ย์ อ อกขายใหม่
ผู้ มี ส่ ว นได้ เ สี ย ทุ ก คนต้ อ งไปดู แ ลการขายทอดตลาดตามกำ � หนดนั ด ทุ ก ครั้ ง
หากผู้ มี ส่ ว นได้ เ สี ย ไม่ ส ามารถไปดู แ ลการขายทอดตลาดอาจมอบอำ � นาจให้
บุคคลอื่นไปดูแลการขายแทนก็ได้
58
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
ผู้สนใจซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด
1. การเตรียมตัวก่อนเข้าประมูลซื้อทรัพย์
ก่ อ นเข้ า สู้ ร าคาผู้ ซื้ อ มี ห น้ า ที่ ต รวจสอบรายละเอี ย ดเกี่ ย วกั บ ทรั พ ย์ ที่
จะซื้อตามสถานที่และแผนที่การไปที่ปรากฏในประกาศ และถือว่าผู้ซื้อได้ทราบถึง
สภาพทรัพย์นั้นโดยละเอียดครบถ้วนแล้ว และควรตรวจสอบวัน เวลาและสถานที่
ตลอดจนเงื่อนไขในการชำ�ระราคา การวางเงินหลักประกันให้ชัดเจนและเป็นที่
เข้าใจเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง หรือท่านสามารถตรวจสอบ
จากประกาศที่ เ จ้ า พนั ก งานบั ง คั บ คดี ไ ด้ ปิ ด ประกาศไว้ ณ กรมบั ง คั บ คดี
สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร สำ�นักงานบังคับคดีจงั หวัดและสาขา หรือ
ทางอินเตอร์เน็ต ที่ www.led.go.th
2. หลักฐานที่จะต้องนำ�มาในวันประมูล
2.1 กรณีบุคคลธรรมดาเป็นผู้ซื้อต้องนำ�บัตรประจำ�ตัวประชาชนหรือ
บัตรประจำ�ตัวข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรพนักงาน
รัฐวิสาหกิจ หรือหนังสือเดินทาง พร้อมรับรองสำ�เนาถูกต้อง
1 ฉบับ
2.2 กรณี นิ ติ บุ ค คลเป็ น ผู้ ซื้ อ ต้ อ งส่ ง หนั ง สื อ รั บ รองนิ ติ บุ ค คล
ที่นายทะเบียนรับรองไม่เกิน 1 เดือน
2.3 กรณีประสงค์ให้บุคคลอื่นเข้าประมูลแทนต้องมีใบมอบอำ�นาจ
ปิดอากรแสตมป์ 30 บาท และมีหลักฐานตามข้อ 2.1 ของผู้มอบ
และผู้รับมอบอำ�นาจ หากมิได้แสดงใบมอบอำ�นาจก่อนจะถือว่า
ผู้เข้าสู้ราคาผู้นั้นกระทำ�การในนามของตนเอง
59
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
60
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีแพ่ง
61
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีแพ่ง กระทรวงยุติธรรม
แล้วสามารถขอรับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อใช้เป็น
หลักฐานในการติดต่อขอจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กับเจ้าพนักงานที่ดินได้ทันที
และในกรณีทซี่ อื้ ทีด่ นิ ไม่มหี นังสือสำ�คัญทีด่ นิ ใบเสร็จรับเงินของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ย่อมเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้นั้นเป็นผู้ซื้อที่ดินได้จากการขายทอดตลาด
4.1.5 หากผู้ซื้อเป็นผู้รับจำ�นองซึ่งศาลมีคำ�สั่งชี้ขาดแล้ว หรือ
เป็ น ผู้ มี ชื่ อ ร่ ว มกั บ ลู ก หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาในที่ ดิ น ที่ ซื้ อ ได้ หรื อ เป็ น ผู้ มี ส่ ว นได้
จากกองมรดกตามคำ�พิพากษาในคดีที่เข้าประมูลซื้อทรัพย์ หรือคู่สมรสที่ศาล
มี คำ � สั่ ง อนุ ญ าตให้ กั น ส่ ว นแล้ ว ก็ มี สิ ท ธิ ข อหั ก ส่ ว นได้ ใช้ แ ทน โดยทำ � สั ญ ญา
ซื้อขายและวางเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของราคาเริ่มต้น (เงินตามหลักประกัน
การเข้าสู้ราคา) ได้โดยไม่ต้องชำ�ระราคาตามข้อ 4.1.1 หรือ 4.1.2 เมื่อเจ้าพนักงาน
บั ง คั บ คดี คิ ด หั ก ส่ ว นได้ ใช้ แ ล้ ว ยั ง มี ส่ ว นขาดอยู่ เ ท่ า ใด ผู้ ซื้ อ มี ห น้ า ที่ จ ะต้ อ ง
ชำ�ระราคาให้ครบแล้ว จึงจะดำ�เนินการตามข้อ 4.1.4 ได้
4.2 ทรัพย์ที่ประมูลซื้อได้เป็นสังหาริมทรัพย์ (สิ่งของต่างๆ)
4.2.1 ผู้ซื้อต้องชำ�ระราคาเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คเต็มจำ�นวน
ทันที พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี) เว้นแต่จะมีกำ�หนดเงื่อนไขในการชำ�ระราคาไว้
เป็นอย่างอื่น
4.2.2 นำ�ใบเสร็จรับเงินพร้อมหลักฐานบัตรประจำ�ตัวประชาชน
หรือบัตรข้าราชการ หรือบัตรเจ้าหน้าทีข่ องรัฐ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจมาแสดง
เพื่อขอรับมอบทรัพย์
4.2.3 หากทรัพย์ที่ซื้อได้นั้นจะต้องมีใบอนุญาตครอบครอง หรือ
ขนย้ายของเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เช่น อาวุธปืน สุรา เป็นต้น ผู้ซื้อจะต้องแสดง
ใบอนุญาตต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายในเวลาที่กำ�หนดจึงจะรับมอบทรัพย์นั้นได้
63
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
64
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
การบังคับคดี
ล้มละลาย
ความเป็นมา
การบังคับคดีล้มละลาย เป็นภารกิจหลักประการหนึ่งของกรมบังคับคดี
เป็นการดำ�เนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายในชั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ภายหลังศาลมีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว
กระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย ชั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เป็น
กระบวนการที่ จ ะดำ � เนิ น การรวบรวมและจำ � หน่ า ยทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้
แล้วนำ�มาจัดสรรแบ่งส่วนชำ�ระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย ซึ่งตามพระราชบัญญัติ
ล้มละลายพุทธศักราช 2483 บัญญัติไว้ดังนี้ “กระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย
หมายความว่า กระบวนพิจารณาซึ่งบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติน้ี ไม่ว่า
จะกระทำ � ต่ อ ศาลหรื อ ต่ อ เจ้ า พนั ก งานพิ ทัก ษ์ ท รั พ ย์ ตั้ ง แต่ เริ่ ม คดี จ นถึ ง
คดีสิ้นสุด”
65
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
การบังคับคดีล้มละลาย
แตกต่างจากการบังคับคดีแพ่ง กล่าวคือ
การบังคับคดีแพ่ง มีวัตถุประสงค์ เพื่อบังคับคดีกับลูกหนี้ตาม
คำ�พิพากษาเพือ่ ประโยชน์แก่เจ้าหนีต้ ามคำ�พิพากษาในคดีนน้ั แต่เพียงฝ่ายเดียว
การบังคับคดีล้มละลาย มีวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ เพื่อให้
เจ้ า หนี้ ทุ ก รายได้ รั บ ส่ ว นเฉลี่ ย อย่ า งเท่ า เที ย มกั น ทั้ ง เจ้ า หนี้ ผู้ เ ป็ น โจทก์
เจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา และเจ้าหนี้ที่ยังมิได้ฟ้องคดี
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ คือ เจ้าพนักงานตามกฎหมายล้มละลาย
ที่ มี อำ � นาจหน้ า ที่ ใ นการจั ด การรวบรวมทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ ห รื อ บุ ค คล
ล้มละลาย และดำ�เนินการแบ่งทรัพย์สินที่รวบรวมได้ให้กับบรรดาเจ้าหนี้
ทั้งหลายของลูกหนี้หรือผู้ล้มละลายและหมายความตลอดถึงบุคคลที่ได้รับ
มอบหมายจากเจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ด้ ว ย เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์
ต้องดำ�เนินการบังคับคดีล้มละลายให้เป็นไปตาม
พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ระเบียบกระทรวงยุติธรรม
คำ�สั่งกรมบังคับคดี
66
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
การฟ้องขอให้ล้มละลายและการสั่งพิทักษ์ทรัพย์
มูลเหตุการฟ้องคดีลม้ ละลาย (มาตรา 7) ประกอบด้วยเงือ่ นไข 2 ประการ คือ
1. ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว คือ ลูกหนี้มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน และ
2. กรณีใดกรณีหนึง่ ดังต่อไปนี้
2.1 ลูกหนี้มีภูมิลำ�เนาในราชอาณาจักร
2.2 ลูกหนี้ประกอบธุรกิจในราชอาณาจักร ไม่ว่าด้วยตนเองหรือ
ตัวแทนในขณะที่ยื่นคำ�ฟ้องหรือคำ�ร้องขอให้ล้มละลาย
2.3 ลูกหนี้เคยมีภูมิลำ�เนาในราชอาณาจักรภายในกำ�หนดเวลา
หนึ่งปีก่อนนั้น
2.4 ลูกหนี้เคยประกอบธุรกิจในราชอาณาจักรไม่ว่าด้วยตนเอง
หรือตัวแทน ภายในกำ�หนดเวลาหนึ่งปีก่อนนั้น
เจ้ า หนี้ ผู้ เ ป็ น โจทก์ ไ ด้ ฟ้ อ งมาว่ า ลู ก หนี้ มี ห นี้ สิ น ล้ น พ้ น ตั ว เป็ น หนี้ เจ้ า หนี้
ผู้เป็นโจทก์ไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท หรือ 2,000,000 บาท แล้วแต่กรณี
แล้วหนี้นั้นอาจกำ�หนดจำ�นวนได้โดยแน่นอน เข้าเงื่อนไขตามมาตรา 9 หรือ
มาตรา 10 และศาลพิจารณาแล้วว่าไม่มีเหตุที่ไม่สมควรให้ลูกหนี้ล้มละลาย
ศาลจะมีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด
ผลของคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
เมื่อศาลมีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ผลของคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์
เด็ดขาดนั้น จะมีผลทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
1. ผลต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (มาตรา 22)
เมื่อศาลมีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
มีอำ�นาจ ดังต่อไปนี้
1.1 จั ด การและจำ � หน่ า ยทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ หรื อ กระทำ � การ
ที่จำ�เป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป
1.2 เก็ บ รวบรวมและรั บ เงิ น หรื อ ทรั พ ย์ สิ น ซึ่ ง จะตกแก่ ลู ก หนี้
หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิได้รับจากบุคคลอื่น
1.3 ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใด ๆ
เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้
2. ผลต่อลูกหนี้ (มาตรา 24)
เมื่ อ ศาลมี คำ � สั่ ง พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ข องลู ก หนี้ แ ล้ ว ห้ า มมิ ใ ห้ ลู ก หนี้
กระทำ�การใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของลูกหนี้ เว้นแต่จะได้กระทำ�
ตามคำ�สัง่ หรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทกั ษ์ทรัพย์ ผูจ้ ดั การทรัพย์
หรื อ ที่ ป ระชุ ม เจ้ า หนี้ ตามที่ บั ญ ญั ติ ไ ว้ ใ นพระราชบั ญ ญั ติ ล้ ม ละลาย
พุทธศักราช 2483
69
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
3. ผลต่อเจ้าหนี้
เมื่อศาลมีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว
3.1 โจทก์ จ ะฟ้ อ งร้ อ งบั ง คั บ เป็ น คดี แ พ่ ง ได้ เ ฉพาะหนี้ ที่ ไ ม่ อ าจ
ยื่ น คำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ไ ด้ กฎหมายห้ า มเจ้ า หนี้ ฟ้ อ งลู ก หนี้
ผู้ล้มละลายเฉพาะหนี้เงินเท่านั้น ส่วนหนี้เกี่ยวด้วยการกระทำ�
งดเว้นการกระทำ�หรือส่งมอบทรัพย์สินอื่น ซึ่งเจ้าหนี้ไม่อาจ
ขอรั บ ชำ � ระหนี้ต่อ เจ้ า พนั ก งานพิ ทัก ษ์ ท รั พ ย์ ไ ด้ กฎหมาย
ล้มละลายไม่ได้ห้ามมิให้ฟ้อง
3.2 ส่ ว นหนี้ ที่ อ าจขอรั บ ชำ � ระหนี้ ไ ด้ เจ้ า หนี้ ผู้ เ ป็ น โจทก์ แ ละ
เจ้ า หนี้ อื่ น จะต้ อ งนำ � มายื่ น ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ต่ อ เจ้ า พนั ก งาน
พิทักษ์ทรัพย์ ภายในกำ�หนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณา
คำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
4. ผลต่อบุคคลภายนอก
ก่ อ นศาลมี คำ � สั่ ง พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ข องลู ก หนี้ ลู ก หนี้ อ าจจะมี
สิ ท ธิ เรี ย กร้ อ ง ต่ อ บุ ค คลภายนอก ซึ่ ง เมื่ อ ศาลมี คำ � สั่ ง พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ลู ก หนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะรวบรวมสิทธิเรียกร้องเหล่านี้เข้ากองทรัพย์สิน
โดยวิ ธี ก ารทวงหนี้ ต ามวิ ธี ก ารที่ กำ � หนดในพระราชบั ญ ญั ติ ล้ ม ละลายฯ
มาตรา 118 และมาตรา 119 แต่ถ้าหากลูกหนี้มีทั้งสิทธิเรียกร้อง และ
ขณะเดี ย วกั น ลู ก หนี้ มี ห น้ า ที่ ที่ จ ะต้ อ งปฏิ บั ติ ใ นลั ก ษณะต่ า งตอบแทน
เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ มี อำ � นาจที่ จ ะไม่ ย อมรั บ หรื อ ปฏิ เ สธสิ ท ธิ ต าม
สัญญานั้น ได้ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบเหตุ
70
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
71
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
72
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
การประชุมเจ้าหนี้
การประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก
เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ต้ อ งเรี ย กประชุ ม เจ้ า หนี้ โ ดยเร็ ว ที่ สุ ด
เพื่ อ ปรึ ก ษาว่ า ควรยอมรั บ คำ � ขอประนอมหนี้ ข องลู ก หนี้ หรื อ ควรขอให้
ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย และปรึกษาถึงวิธีที่จะจัดการทรัพย์สิน
ของลูกหนี้
การประชุมเจ้าหนี้ครั้งอื่น (มาตรา 32)
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจนัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งอื่น ในกรณีดังต่อไปนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมตามเวลาที่เห็นสมควร (กรณี
มีข้อหารือที่จะปรึกษาที่ประชุมเจ้าหนี้ เช่น ควรจะยอมรับทรัพย์จำ�นอง
ของเจ้ า หนี้ มี ป ระกั น ซึ่ ง ไม่ ไ ด้ ยื่ น ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ต ามมาตรา 96 เข้ า มา
ในกองทรัพย์สินหรือไม่)
เมื่อมีกฎหมายบัญญัติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องได้รับ
ความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้
ตามที่ ศ าลสั่ ง ให้ เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ เรี ย กประชุ ม เจ้ า หนี้
เช่น เพื่อพิจารณาข้อเสนอขอชำ�ระหนี้ของผู้มีส่วนได้เสียในการเข้าใช้หนี้แทน
เจ้าหนี้ซึ่งมีจำ�นวนหนี้รวมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำ�นวนหนี้
ที่ได้มีการยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ไว้ได้ทำ�หนังสือขอให้เรียกประชุม
73
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
การรายงานศาลขอให้พิจารณาคำ�ขอประนอมหนี้หรือพิพากษา
ให้ล้มละลาย
เมื่อที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติเป็นประการใด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
จะต้องรายงานศาลเพื่อพิจารณาแยกเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีลูกหนี้ยื่นคำ�ขอประนอมหนี้และที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติเห็นชอบ
เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ จ ะรายงานศาลขอให้ ไ ต่ ส วนลู ก หนี้ โ ดยเปิ ด เผย
และพิจารณาคำ�ขอประนอมหนี้ของลูกหนี้
กรณีลกู หนีไ้ ม่ยนื่ คำ�ขอประนอมหนีห้ รือทีป่ ระชุมเจ้าหนีไ้ ม่เห็นชอบ
กับคำ�ขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะรายงานศาลขอให้
พิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายและนัดไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผย หากเป็นกรณี
ลูกหนี้ไม่มาให้การสอบสวนกิจการและทรัพย์สินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะรายงานขอให้ศาลออกหมายจับลูกหนี้ ขอให้ศาล
พิพากษาให้ล้มละลาย และงดไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผย
การสอบสวนคำ�ขอรับชำ�ระหนี้และการพิจารณาทำ�ความเห็น
การสอบสวนคำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ข องเจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ นั้ น
เป็ น กระบวนการที่ ดำ � เนิ น การเช่ น เดี ย วกั บ การพิ จ ารณาคดี ข องศาล
ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องทำ�การสอบสวนพยานของเจ้าหนี้เกี่ยวกับ
มูลหนี้ที่ขอรับชำ�ระหนี้ พยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และสอบสวน
เจ้ า หนี้ ห รื อ ลู ก หนี้ ผู้ โ ต้ แ ย้ ง คำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ข องเจ้ า หนี้ แ ต่ ล ะราย ต้ อ ง
พิ จ ารณาให้ ไ ด้ ค วามจริ ง ว่ า หนี้ ที่ เจ้ า หนี้ ข อรั บ ชำ � ระหนี้ ม านั้ น เป็ น หนี้ ที่ มี
74
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
การสอบสวนและทำ�คำ�สั่ง หรือทำ�ความเห็นในสำ�นวนสาขาอื่นๆ
นอกจากสำ � นวนคำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ที่ เ จ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์
ต้องทำ�การสอบสวนและพิจารณาทำ�ความเห็นแล้ว ยังมีสำ�นวนสาขาอื่น
ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องทำ�การสอบสวนผู้ร้องอื่น ๆ เช่น
สำ�นวนเพิกถอนการโอน หรือสำ�นวนเพิกถอนการฉ้อฉล
สำ�นวนร้องขอกันส่วน
สำ�นวนขอหักกลบลบหนี้
สำ�นวนทวงหนี้
สำ�นวนขอปฏิบัติตามสัญญา
สำ�นวนคำ�ขอเจ้าหนี้ตามมาตรา 95
ในสำ � นวนสาขาเหล่ า นี้ เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ต้ อ งพิ จ ารณา
จากคำ�ให้การสอบสวนของลูกหนี้และคำ�ร้องของผู้ร้องว่ามีเหตุอันสมควร
ตั้ ง เป็ น สำ � นวนสาขาหรื อ ไม่ อยู่ ภ ายในระยะเวลาที่ ต้ อ งดำ � เนิ น การ
ตามกฎหมายหรือไม่ หมดอายุความเมื่อใด เป็นประโยชน์ต่อกองทรัพย์สิน
ของลู ก หนี้ ห รื อ ไม่ หากดำ � เนิ น การตั้ ง สำ � นวนสาขาดั ง กล่ า วขึ้ น แล้ ว
75
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ต้ อ งหมายเรี ย กผู้ ร้ อ ง ผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งลู ก หนี้
มาทำ�การสอบสวนในประเด็นต่าง ๆ และพิเคราะห์พยานหลักฐานที่นำ�ส่ง
ประกอบคำ�ให้การเพื่อพิจารณาทำ�ความเห็นหรือคำ�สั่งต่อไป
เมื่ อ ทำ � การสอบสวนครบถ้ ว นแล้ ว เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ต้ อ ง
พิจารณาทำ�ความเห็นหรือคำ�สั่งในสำ�นวนสาขานั้น ๆ ต่อไป
การรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้
การรวบรวมทรัพย์สินมีหลายกรณี ดังนี้
การดำ�เนินการในสำ�นวนคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้มีประกัน
ตามมาตรา 96 (3)
การอายัดเงินเดือน เงินในบัญชี หรือสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้
ที่มีต่อบุคคลภายนอกเพื่อนำ�เงินรวบรวมเข้ากองทรัพย์สิน
การยึ ด ทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ เ พื่ อ นำ � ออกขายทอดตลาด ซึ่ ง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องทำ�การตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์ของลูกหนี้หรือไม่
ทรัพย์ดังกล่าวสามารถบังคับคดีได้หรือไม่เพียงใดเมื่อทำ�การยึดแล้ว ต้องมี
76
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
77
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
การปลดจากการล้มละลาย
หลั ง จากศาลมี คำ � พิ พ ากษาให้ ลู ก หนี้ ล้ ม ละลายแล้ ว ลู ก หนี้ อ าจ
จะหลุ ด พ้ น จากการล้ ม ละลายได้ วิ ธี ห นึ่ ง คื อ โดยการปลดจากล้ ม ละลาย
อันเป็นกระบวนการในคดีล้มละลายที่กำ�หนดเฉพาะตัวลูกหนี้ให้หลุดพ้น
จากล้มละลายไป แต่บรรดาทรัพย์สินทั้งหลายของลูกหนี้ซึ่งเป็นทรัพย์สิน
อั น อาจแบ่ ง ได้ ใ นคดี ล้ ม ละลายนั้ น จะต้ อ งตกอยู่ ภ ายใต้ บั ง คั บ การจั ด การ
และจำ�หน่าย เพื่อนำ�มาชำ�ระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายต่อไป
การปลดล้มละลายตามกฎหมายล้มละลายของไทยในปัจจุบันนี้ มีอยู่
2 กรณี คือ
ศาลมีคำ�สั่งปลดล้มละลาย (มาตรา 71)
ปลดจากล้ ม ละลายโดยผลของกฎหมาย (มาตรา 81/1) คื อ
บุ ค คลธรรมดา ซึ่ ง ศาลพิ พ ากษาให้ ล้ ม ละลายแล้ ว ให้ ป ลดบุ ค คลนั้ น
จากล้มละลายทันที ที่พ้นกำ�หนดระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ศาลได้พิพากษา
ให้ล้มละลาย
และไม่มีกิจการใดที่ต้องปฏิบัติต่อไป เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะดำ�เนินการ
รายงานเพื่อขอให้ศาลสั่งปิดคดี
คำ�สัง่ ปิดคดีมผี ลเพียงให้ระงับการจัดการต่าง ๆ ไว้ ไม่ท�ำ ให้คดีลม้ ละลาย
สิ้นสุดลง
79
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
80
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้และลูกหนี้
ในคดีล้มละลาย
เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์มีสิทธิและหน้าที่ดังนี้
1. วางเงินประกันค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
1.1 ชั้นพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว 8,000 บาท
1.2 ชั้นพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด 10,000 บาท
1.3 หากวางเงิ น ประกั น ชั้ น พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ชั่ ว คราวแล้ ว ต่ อ มาเมื่ อ ศาล
มีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดต้องวางเงินประกันเพิ่มอีก 5,000 บาท
เว้นแต่กองทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้ล้มละลายมีเงินเพียงพอ
1.4 วางเงิ น ประกั น ค่ า ใช้ จ่ า ยเพิ่ ม เติ ม ตามจำ � นวนที่ เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์
เห็นว่าจำ�เป็นตามควร
2. ให้ ถ้ อ ยคำ � เกี่ ย วกั บ ทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ ห รื อ ผู้ ล้ ม ละลายที่ ถู ก ยึ ด หรื อ
อายั ด ไว้ ใ นคดี อื่ น และคดี แ พ่ ง อั น เกี่ ย วกั บ ทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ ห รื อ
ผู้ล้มละลายที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาล (ถ้าหากมี)
3. นำ�เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปยึดทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้ล้มละลาย
(ถ้าหากมี) โดยเร็ว
4. ดูแลระวังประโยชน์ของเจ้าหนี้ทั้งหลาย
5. ช่วยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการรวบรวมจำ�หน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้
หรือผู้ล้มละลาย
6. สิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าหนี้ทั้งหลาย
81
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
เจ้าหนีท
้ งั้ หลาย รวมทัง้ เจ้าหนีผ้ เู้ ป็นโจทก์มสี ท ิ ธิและหน้าที่ ดังนี้
1. แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินและที่อยู่ของลูกหนี้หรือผู้ล้มละลาย
2. ติ ด ตามสอดส่ อ งทรั พ ย์ สิ น ของลู ก หนี้ ห รื อ ผู้ ล้ ม ละลายแล้ ว
แจ้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำ�เนินการ
3. ช่วยเหลือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการรวบรวมจำ�หน่ายทรัพย์สิน
ของลูกหนี้หรือผู้ล้มละลาย
4. ยืน่ คำ�ขอรับชำ�ระหนีภ้ ายใน 2 เดือน นับแต่วนั โฆษณาคำ�สัง่ พิทกั ษ์ทรัพย์
เด็ดขาด หรือภายในระยะเวลาที่ศาลกำ�หนด (เฉพาะคดีล้มละลาย
ที่ยื่นฟ้องตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป)
5. ไปตรวจคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ตามวันเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำ�หนด
6. ไปประชุมเจ้าหนี้ทุกครั้งเมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
7. ไปศาลในวันนัดไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยตามวันเวลาที่ได้รับแจ้งจาก
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
8. แจ้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อย้ายที่อยู่ใหม่
9. รับเงินส่วนแบ่งทรัพย์สินที่รวบรวมได้ในคดีล้มละลาย
82
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
ลูกหนี้หรือผู้ล้มละลายมีสิทธิและหน้าที่ดังนี้
1. ต้องไปสาบานตัวและให้ถ้อยคำ�ชี้แจงเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สิน
พร้ อ มทำ � บั ญ ชี แ สดงกิ จ การและทรั พ ย์ สิ น (ตามแบบ ล.13 ก-ข)
ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
2. ต้องส่งมอบทรัพย์สนิ บัญชี ดวงตราห้างฯ หรือบริษทั และเอกสารต่าง ๆ
ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
3. ขอประนอมหนี้ภายในเวลากำ�หนดไม่ว่าก่อนหรือหลังล้มละลาย
4. ไปประชุมเจ้าหนี้ทุกครั้งเมื่อได้รับแจ้งกำ�หนดวันนัดจากเจ้าพนักงาน
พิทักษ์ทรัพย์
5. ไปให้ ศ าลไต่ ส วนลู ก หนี้ โ ดยเปิ ด เผยเมื่ อ ได้ รั บ แจ้ ง วั น กำ � หนดนั ด
จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
6. ทำ�บัญชีรับ-จ่าย ทุกระยะ 6 เดือน นับแต่ถูกพิทักษ์ทรัพย์ เสนอต่อ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
7. แจ้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทุกครั้งเมื่อย้ายที่อยู่ใหม่
8. เดินทางออกนอกราชอาณาจักรต้องขออนุญาตจากศาลหรือเจ้าพนักงาน
พิทักษ์ทรัพย์
9. ขอค่าเลีย้ งชีพจากเงินทีไ่ ด้มาในระหว่างถูกพิทกั ษ์ทรัพย์ตอ่ เจ้าพนักงาน
พิทักษ์ทรัพย์ตามความจำ�เป็นและสมควรแก่ฐานะ
10. อาจขอให้ปลดตนเองจากการล้มละลาย หรือยกเลิกการล้มละลาย
ตามวิธีการและเงื่อนไขที่กฎหมายกำ�หนด
83
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
ข้อจำ�กัดสิทธิของลูกหนี้หรือผู้ล้มละลาย
1. ห้ามกระทำ�การใดๆ เกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สิน เว้นแต่กระทำ�
ตามคำ�สั่งหรือความเห็นชอบของศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
หรือที่ประชุมเจ้าหนี้
2. ห้ามดำ�เนินคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สิน
3. เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรต้องได้รบั อนุญาตเป็นหนังสือจากศาล
หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
4. รับสินเชื่อจากบุคคล ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ต้องแจ้งให้ทราบว่าตน
ถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือตนเป็นบุคคลล้มละลาย
84
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
การขอรับชำ�ระหนี้
1. หนี้ที่มีสิทธิที่จะได้รับชำ�ระหนี้
1.1 มูลหนี้ต้องเกิดก่อนวันที่ศาลมีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์
1.2 ต้องมิใช่หนี้เกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมาย หรือศีลธรรมอันดี
ของประชาชนหรือหนี้ที่ฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
1.3 ต้องมิใช่หนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำ�ขึ้นโดยเจ้าหนี้รู้ว่าลูกหนี้
มีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่ไม่รวมถึงหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้กระทำ�ขึ้นเพื่อให้
กิจการของลูกหนี้ดำ�เนินต่อไปได้
2. ใครมีสิทธิขอรับชำ�ระหนี้
2.1 เจ้าหนี้ หรือ
2.2 ผู้รับมอบอำ�นาจหรือผู้แทนของเจ้าหนี้ โดยทำ�หนังสือมอบอำ�นาจ
ตามแบบทีก่ �ำ หนดไว้และปิดอากรแสตมป์กบั ขีดฆ่าให้ครบถ้วนถูกต้อง
3. วิธีการขอรับชำ�ระหนี้
3.1 ติ ด ต่ อ ขอรั บ แบบพิ ม พ์ คำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ไ ด้ ที่ ฝ่ า ยคำ � คู่ ค วาม
สำ�นักงานเลขานุการกรม (ในส่วนกลาง) หรือสำ�นักงานบังคับคดี
จังหวัดในส่วนภูมิภาค หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์กรมบังคับคดี
(www.led.go.th)
3.2 กรอกข้อความรายการในคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ให้ชัดเจนถูกต้อง และ
ครบถ้ ว น ทั้ ง นี้ ใ ห้ แ นบเอกสารที่ เ กี่ ย วกั บ หนี้ ที่ ยื่ น ขอรั บ ชำ � ระหนี้
มาด้วย มีปัญหาประการใดสอบถามได้จากเจ้าหน้าที่
3.3 หากเป็นนิติบุคคล ต้องแนบต้นฉบับหรือหนังสือรับรองนิติบุคคล
และชื่อผู้มีอำ�นาจ
85
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
3.4 ชำ�ระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ตามจำ�นวนหนี้สิน
ที่ขอรับชำ�ระหนี้ในอัตราดังนี้
หนี้ เ กิ น 50,000 บาท ขึ้ น ไป ค่ า ธรรมเนี ย ม 200 บาท
เว้ น แต่ เ ป็ น คำ � ขอของเจ้ า หนี้ ต ามคำ � พิ พ ากษาได้ รั บ การยกเว้ น
ค่าธรรมเนียม
3.5 สำ�เนาใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม ควรเก็บรักษาไว้เพื่อประโยชน์
ในการติดต่อขอรับเงิน
4. การยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้
4.1 ในส่ ว นกลาง ยื่ น ได้ ที่ ฝ่ า ยคำ � คู่ ค วาม สำ � นั ก งานเลขานุ ก ารกรม
กรมบังคับคดี
4.2 ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นที่สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดใดก็ได้
5. ชั้นสอบสวนคำ�ขอรับชำ�ระหนี้
เมื่อเจ้าหนี้หรือผู้รับมอบอำ�นาจหรือผู้แทนเจ้าหนี้ได้รับมอบหมายนัด
ของเจ้าพนักงานพิทกั ษ์ทรัพย์ให้น�ำ พยานหลักฐานไปให้การสอบสวนประกอบ
คำ�ขอรับชำ�ระหนี้ที่ยื่นไว้ โดยปฏิบัติดังนี้
5.1 ไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ตรงตามกำ�หนดวัน เวลา ที่ระบุ
ในหมาย หากมีความจำ�เป็นอันไม่อาจก้าวล่วงได้ต้องแจ้งก่อนวัน
หรือเวลานัดเพื่อขอเลื่อนการสอบสวน
5.2 เจ้าหนี้ควรจะไปให้ถ้อยคำ�สอบสวนเกี่ยวกับมูลหนี้ด้วยตนเอง ทั้งนี้
เพื่อประโยชน์ต่อการพิสูจน์หนี้ของตน
5.3 ต้องนำ�พยานบุคคลตลอดจนพยานเอกสารที่สนับสนุนมูลหนี้นั้นไป
ให้การสอบสวน หรือส่งต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
86
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
87
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
การหยุดนับระยะเวลาปลดจากล้มละลาย
ในคดี ล้ ม ละลายที่ ลู ก หนี้ เ ป็ น บุ ค คลธรรมดาและศาลมี คำ � พิ พ ากษาให้
ล้มละลาย เมื่อพ้นกำ�หนดระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ศาลล้มละลายได้
พิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย กฎหมายกำ�หนดให้บุคคลล้มละลายนั้นได้รับการ
ปลดจากล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหน้าที่โฆษณาการปลด
จากล้ ม ละลายโดยผลของกฎหมายดั ง กล่ า วในราชกิ จ จานุ เ บกษาและ
หนั ง สื อ พิ ม พ์ ร ายวั น ไม่ น้ อ ยกว่ า 1 ฉบั บ ผลของการปลดจากล้ ม ละลาย
ดังกล่าว ทำ�ให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้สินทั้งปวงอันพึงขอรับชำ�ระได้ ยกเว้น
88
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
1. หนี้เกี่ยวกับภาษีอากร
2. หนี้ซึ่งได้เกิดขึ้นโดยความทุจริตฉ้อโกงของบุคคลล้มละลาย หรือหนี้
ซึ่งเจ้าหนี้ไม่ได้เรียกร้องเนื่องจากความทุจริตฉ้อโกงซึ่งบุคคลล้มละลายมีส่วน
เกี่ยวข้องสมรู้
ถึ ง แม้ ว่ า กฎหมายจะให้ ป ลดลู ก หนี้ จ ากบุ ค คลล้ ม ละลายทั น ที
ที่ พ้ น กำ � หนดระยะเวลา 3 ปี นั บ แต่ วั น ที่ ศ าลล้ ม ละลายได้ พิ พ ากษาให้
ลูกหนี้ล้มละลายก็ตาม แต่ตามมาตรา 81/2 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย
พุทธศักราช 2483 กำ�หนดไว้ว่าก่อนระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ศาลล้มละลาย
ได้ พิ พ ากษาให้ ลู ก หนี้ ล้ ม ละลายจะสิ้ น สุ ด ลง เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์
อาจยื่นคำ�ขอต่อศาลล้มละลาย เพื่อขอให้ศาลล้มละลายมีคำ�สั่งให้หยุดนับระยะ
เวลาดังกล่าวไว้ก่อนก็ได้ ซึ่งเหตุแห่งการขอให้หยุดนับระยะเวลาปลดจาก
ล้มละลายเป็นไปตามคำ�สั่งกรมบังคับคดีที่ 445/2549 เรื่องการปฏิบัติงาน
บังคับคดีล้มละลายในสำ�นวนกลาง ดังนี้
1. บุคคลล้มละลายได้รับหมายเรียกมาให้การสอบสวนเกี่ยวกับกิจการ
และทรัพย์สินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยชอบแล้ว แต่เพิกเฉย
ไม่มาดำ�เนินการภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำ�หนดไว้
โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบ
2. บุคคลล้มละลายจงใจกระทำ�หรืองดเว้นกระทำ�การใด ๆ เพื่อประวิง
กระบวนการพิจารณาคดีล้มละลาย
3. บุคคลล้มละลายได้โอน ยักย้าย ปกปิด หรือซุกซ่อนทรัพย์สินของตน
เพือ่ ป้องกัน หรือประวิงไม่ให้เจ้าหนีไ้ ด้รบั ชำ�ระหนี้ หรือกระทำ�การฉ้อฉล
เจ้าหนี้
89
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
90
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การบังคับคดีล้มละลาย
เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ยื่ น คำ � ขอ หรื อ วั น ที่ ศ าลมี คำ � สั่ ง จนถึ ง วั น ที่ ศ าล
กำ�หนดโดยจะกำ�หนดเงื่อนไขหรือไม่ก็ได้ แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าศาลล้มละลายกลาง
จะได้มีคำ�สั่งให้หยุดนับระยะเวลาตามคำ�ขอกี่ครั้งก็ตาม เมื่อรวมระยะเวลา
ทั้งหมดแล้วจะต้องไม่เกิน 2 ปี และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด ศาลจะมี
คำ�สั่งให้หยุดนับระยะเวลาเมื่อพ้นระยะเวลา 3 ปี ตามมาตรา 81/1 วรรคหนึ่ง
แล้ ว ไม่ ไ ด้ คำ � สั่ ง ศาลล้ ม ละลายกลางตามมาตรา 81/3 นี้ ใ ห้ เ ป็ น ที่ สุ ด
ไม่สามารถอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
จะขอหยุดนับระยะเวลาฯ ไว้ 2 ปี
91
กรมบังคับคดี
การบังคับคดีล้มละลาย กระทรวงยุติธรรม
92
โครงสร้างกองบังคับคดีล้มละลาย 1 – 6
กองบังคับคดี กองบังคับคดี กองบังคับคดี กองบังคับคดี กองบังคับคดี กองบังคับคดี
กรมบังคับคดี
93
ในคดีแพ่งและไม่ต้อง
ดำ�เนินการอื่น ๆ อีก
การบังคับคดีล้มละลาย
กรมบังคับคดี
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กระทรวงยุติธรรม
94
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
Business Reorganization
กองฟืน
้ ฟูกจิ การของลูกหนี้
กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ปัจจุบันตั้งอยู่ เลขที่ 120 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
80 พรรษา 5 ธั น วาคม 2550 อาคารราชบุ รี ดิ เรกฤทธิ์ (อาคารเอ)
ชั้ น 8 ถนนแจ้ ง วั ฒ นะ แขวงทุ่ ง สองห้ อ ง เขตหลั ก สี่ กรุ ง เทพมหานคร
10210 โทรศัพท์ 0 2142 5217, 0 2142 3701, 0 2142 3702
กระบวนการพิจารณาเกีย ่ วกับ
การฟืน
้ ฟูกจิ การของลูกหนี้
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เป็นกระบวนการทางศาล โดยผู้ร้องขอ
ต้องนำ�คดีขึ้นสู่ศาลล้มละลายกลาง ซึ่งได้บัญญัติเพิ่มเติมไว้ในหมวด 3/1
แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 อันเป็นการสร้างมาตรการ
ทางกฎหมายขึ้นมาเพื่อช่วยเอื้อต่อการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
95
กรมบังคับคดี
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กระทรวงยุติธรรม
กฎหมายดังกล่าวมีสาระสำ�คัญที่ควรรู้ ดังนี้
องค์ประกอบในการร้องขอฟื้นฟูกิจการ
ประกอบด้วย
1. ลูกหนี้ต้องเป็นบริษัทจำ�กัด บริษัทมหาชนจำ�กัด หรือนิติบุคคลอื่น
ตามที่กำ�หนดไว้ในกฎกระทรวง
2. ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
3. ลู ก หนี้ เ ป็ น หนี้ จำ � นวนแน่ น อนไม่ น้ อ ยกว่ า สิ บ ล้ า นบาท (เจ้ า หนี้
คนเดียวหรือหลายคนรวมกัน)
4. มีเหตุอันสมควรและมีช่องทางในการฟื้นฟูกิจการ
5. ลูกหนี้จะต้องไม่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว
6. ลู ก หนี้ ยั ง ไม่ ไ ด้ ถู ก ศาลหรื อ นายทะเบี ย นได้ มี คำ � สั่ ง ให้ เ ลิ ก หรื อ
เพิกถอนทะเบียนนิติบุคคล หรือมีการจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลนั้น หรือ
นิ ติ บุ ค คลที่ เ ป็ น ลู ก หนี้ ต้ อ งไม่ เ ลิ ก กั น ด้ ว ยเหตุ อื่ น ไม่ ว่ า การชำ � ระบั ญ ชี ข อง
นิติบุคคลดังกล่าวจะเสร็จหรือไม่ก็ตาม
บุคคลผู้มีสิทธิยื่นคำ�ร้องขอฟื้นฟูกิจการ
1. เจ้าหนี้ซึ่งอาจเป็นคนเดียว หรือหลายคนรวมกัน และมีจำ�นวนหนี้
แน่นอนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
2. ลูกหนีม้ หี นีส้ นิ ล้นพ้นตัว และเป็นหนีเ้ จ้าหนีค้ นเดียว หรือหลายคน
รวมกันเป็นจำ�นวนแน่นอนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
3. ธนาคารแห่งประเทศไทย เฉพาะลูกหนี้ที่เป็น
ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน
บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
96
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
4. สำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เฉพาะลูกหนี้ที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์
5. กรมการประกันภัยเฉพาะลูกหนี้ที่เป็น
บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต
6. หน่วยงานของรัฐที่มีอำ�นาจหน้าที่กำ�กับดูแลการประกอบกิจการ
ของลูกหนี้ตามที่กำ�หนดในกฎกระทรวง
7. เจ้าหนี้ของลูกหนี้ตาม ข้อ 3, 4, 5 หรือ 6 หรือลูกหนี้นั้นเอง
จะยื่ น คำ � ร้ อ งขอฟื้ น ฟู กิ จ การจะต้ อ งได้ รั บ ความยิ น ยอมเป็ น หนั ง สื อ จาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลั ก ทรั พ ย์ กรมการประกั น ภั ย หรื อ หน่ ว ยงานของรั ฐ ที่ มี ห น้ า ที่
ตามข้อ 6 แล้วแต่กรณีเสียก่อน
หลักเกณฑ์ในการยื่นคำ�ร้องขอฟื้นฟูกิจการ
คำ�ร้องขอฟื้นฟูกิจการ ผู้ร้องขอต้องแสดงโดยชัดแจ้งถึง
1. ความมีหนี้สินล้นพ้นตัวของลูกหนี้
2. รายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนที่ลูกหนี้
เป็นหนี้รวมกันเป็นจำ�นวนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
3. เหตุอันสมควรและช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการ
4. ชื่อและคุณสมบัติของผู้ทำ�แผน
5. หนังสือยินยอมของผู้ทำ�แผน
6. กรณีทเี่ จ้าหนีเ้ ป็นผูร้ อ้ งขอ นอกจากแสดงรายละเอียดข้างต้นแล้ว
จะต้องแนบรายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้อื่นเท่าที่ทราบมาพร้อมคำ�ร้องขอ
ส่วนลูกหนี้เป็นผู้ร้องขอจะต้องแนบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ทัง้ หมดทีม่ อี ยู่ รายชือ่ และทีอ่ ยูโ่ ดยชัดแจ้งของเจ้าหนีท้ งั้ หลายมาพร้อมคำ�ร้องขอ
97
กรมบังคับคดี
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กระทรวงยุติธรรม
ผู้ร้องขอต้องชำ�ระค่าขึ้นศาลหนึ่งพันบาทและต้องวางเงินประกัน
ค่าใช้จ่ายต่อศาลเป็นจำ�นวนห้าหมื่นบาทไปพร้อมกันขณะยื่นคำ�ร้องขอ
ผู้ร้องขอยื่นคำ�ร้องต่อศาล คือ ศาลล้มละลายกลางและในระหว่าง
ศาลล้มละลายภาคยังไม่เปิดทำ�การ ให้ยื่นต่อศาลจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งลูกหนี้
ประกอบธุรกิจในเขตอำ�นาจศาลดังกล่าวได้ด้วย
สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ
กรณีที่ศาลมีคำ�สั่งให้ฟื้นฟูกิจการ โดยมิได้มีคำ�สั่งตั้งผู้ทำ�แผน
เจ้าหนี้ที่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาเลือก
ผู้ทำ�แผน ต้องเป็นเจ้าหนี้ที่มูลหนี้เกิดขึ้นก่อนศาลมีคำ�สั่งให้ฟื้นฟูกิจการ
เจ้าหนี้ต้องยื่นแบบแสดงความประสงค์จะเข้าประชุมเจ้าหนี้
เพือ่ พิจารณาเลือกผูท้ �ำ แผนตามแบบพิมพ์ ฟ.19 หรือ ฟ.19/1 ของกรมบังคับคดี
พร้ อ มส่ ง หลั ก ฐานแห่ ง ความเป็ น เจ้ า หนี้ ต่ อ เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์
ก่อนวันประชุม หากมอบให้บคุ คลอืน่ ยืน่ แทนต้องทำ�ใบมอบอำ�นาจตามแบบพิมพ์
ฟ.12 หรือ ฟ.12/1 ของกรมบังคับคดี
หลักฐานแห่งความเป็นหนี้ หากเจ้าหนี้จะส่งสำ�เนาเอกสาร
ต้องรับรองสำ�เนาถูกต้องให้ครบถ้วน
เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะขอตรวจหลักฐานแห่งหนี้ของเจ้าหนี้รายอื่น
ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้
ในการประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าว เจ้าหนี้จะไปออกเสียงด้วยตนเอง
หรือมอบฉันทะเป็นหนังสือให้ผู้อื่นออกเสียงแทนได้ และต้องไปร่วมประชุม
ทุกครั้งเพื่อลงมติ
98
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
เจ้าหนี้มีสิทธิคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้รายอื่นได้
เจ้าหนี้มีสิทธิเสนอชื่อผู้ทำ�แผนต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ได้ โดยเสนอ
พร้อมหนังสือยินยอมของผู้ทำ�แผนนั้น
กรณีที่ศาลมีคำ�สั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำ�แผน
เจ้าหนี้ต้องยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการตามแบบพิมพ์
ฟ.20 หรือ ฟ.20/1 ของกรมบังคับคดี พร้อมสำ�เนา 1 ชุด ต่อเจ้าพนักงาน
พิทักษ์ทรัพย์ภายใน 1 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำ�สั่งตั้งผู้ทำ�แผน หากมอบให้
บุคคลอื่นยื่นแทนต้องทำ�ใบมอบอำ�นาจตามแบบพิมพ์ ฟ.12 หรือ ฟ.12/1
ของกรมบังคับคดี
คำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ใ นการฟื้ น ฟู กิ จ การต้ อ งประกอบด้ ว ยบั ญ ชี
แสดงรายละเอี ย ดแห่ ง ทรั พ ย์ สิ น และต้ น ฉบั บ หรื อ สำ � เนาฉบั บ รั บ รอง
สำ�เนาถูกต้อง ซึ่งเป็นหลักฐานแห่งหนี้ พร้อมสำ�เนา 1 ชุด
เจ้ า หนี้ มี สิ ท ธิ ข อตรวจและโต้ แ ย้ ง คำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ใ นการ
ฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ แต่ต้องโต้แย้งภายในกำ�หนด
14 วัน นับแต่วันที่พ้นกำ�หนดยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ
เจ้าหนี้ต้องไปให้การสอบสวนและส่งเอกสารตามที่เจ้าพนักงาน
พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ เรี ย กเพื่ อ ประกอบการพิ จ ารณาสั่ ง คำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ใ นการ
ฟื้นฟูกิจการ
เจ้าหนี้มีสิทธิยื่นคำ�ร้องคัดค้านคำ�สั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ที่ ใ ห้ ย กคำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ หรื อ อนุ ญ าตให้ ไ ด้ รั บ ชำ � ระหนี้ เ ต็ ม จำ � นวนหรื อ
บางส่ ว น ต่ อ ศาลได้ ภ ายในกำ � หนด 14 วั น นั บ แต่ วั น ที่ ท ราบคำ � สั่ ง ของ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
99
กรมบังคับคดี
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กระทรวงยุติธรรม
เจ้าหนี้มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำ�สั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เจ้าหนี้
ได้รับชำ�ระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาได้ภายในกำ�หนด
1 เดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งนั้น
เจ้าหนี้หรือผู้รับมอบอำ�นาจเจ้าหนี้ต้องไปร่วมประชุมเจ้าหนี้
เพื่อพิจารณาแผนทุกครั้งเพื่อลงมติว่าจะยอมรับแผนของผู้ทำ�แผนหรือไม่
หากเจ้าหนี้หรือผู้รับมอบอำ�นาจไม่ไปประชุมแต่ประสงค์จะลงมติพิจารณา
แผนล่วงหน้า ให้แจ้งความประสงค์ว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับแผนและ
แผนที่ มี ก ารแก้ ไข โดยทำ � เป็ น หนั ง สื อ ลงลายมื อ ชื่ อ ของเจ้ า หนี้ หรื อ ผู้ รั บ
มอบอำ�นาจส่งต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ทาง
ไปรษณีย์ก่อนวันประชุมเจ้าหนี้
เจ้าหนี้มีสิทธิคัดค้านการจัดกลุ่มเจ้าหนี้ตาม ม.90/42 ทวิ วรรคสอง
เจ้าหนี้มีสิทธิยื่นคำ�ขอแก้ไขแผนต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ล่วงหน้าก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 3 วัน
ในการพิจารณาแผนของศาล ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติพิเศษ
ตาม ม.90/46 ยอมรับแผนแล้ว เจ้าหนี้ที่ไม่ยอมรับแผนมีสิทธิยื่นคำ�ร้องขอ
คัดค้านแผนเสนอต่อศาลได้
กรณีที่การฟื้นฟูกิจการไม่สำ�เร็จตามแผนและศาลมีคำ�สั่งพิทักษ์ทรัพย์
ของลูกหนี้เด็ดขาด
เจ้ า หนี้ ซึ่ ง อาจมี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ ชำ � ระหนี้ ใ นการฟื้ น ฟู กิ จ การและ
เจ้าหนี้ในหนี้อื่นที่อาจขอรับชำ�ระหนี้ได้จากมูลหนี้ที่ได้เกิดขึ้น ตั้งแต่ศาล
ได้มีคำ�สั่งให้ฟื้นฟูกิจการต้องยื่นคำ�ขอชำ�ระหนี้ตามแบบพิมพ์ของกรมบังคับคดี
ต่ อ เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ภายใน 2 เดื อ น นั บ แต่ วั น โฆษณาคำ � สั่ ง
พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
100
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
หนี้จำ�นวนใดที่เจ้าหนี้ได้ยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ
และชำ�ระค่าธรรมเนียมแล้ว ไม่ต้องชำ�ระค่าธรรมเนียมคำ�ขอรับชำ�ระหนี้
ในคดีล้มละลายสำ�หรับหนี้จำ�นวนนั้นอีก
หนี้ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้ทำ�แผน ผู้บริหารแผนและ
ผูบ้ ริหารแผนชัว่ คราวก่อขึน้ เพือ่ ประโยชน์ในการฟืน้ ฟูกจิ การของลูกหนี้ รวมทัง้
หนี้ที่ลูกหนี้ก่อขึ้นโดยชอบตาม ม.90/12 (9) มิให้อยู่ภายใต้บังคับ ม.94 (2)
หนี้ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้ทำ�แผน ผู้บริหารแผน หรือ
ผู้ บ ริ ห ารแผนชั่ ว คราว ก่ อ ขึ้ น ตามแผนเพื่ อ ประโยชน์ ใ นการฟื้ น ฟู กิ จ การ
ของลูกหนี้ ให้จัดอยู่ในลำ�ดับเดียวกับค่าใช้จ่ายของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ในการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ตาม ม.130 (2)
อัตราค่าธรรมเนียมในการยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ
ค่ า ธรรมเนี ย มยื่ น คำ � ขอรั บ ชำ � ระหนี้ ใ นคดี ฟื้ น ฟู กิ จ การ 200 บาท
เว้นแต่เป็นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้ของเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษา หรือเจ้าหนี้ที่ขอรับ
ชำ�ระหนี้ไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการยื่นคำ�ขอรับชำ�ระหนี้
ผลเมื่อศาลสั่งรับคำ�ร้องขอ
1. ห้ า มฟ้ อ งหรื อ ร้ อ งขอให้ ศ าลพิ พ ากษาหรื อ สั่ ง ให้ เ ลิ ก นิ ติ บุ ค คล
ที่เป็นลูกหนี้ (ถ้ามีอยู่ก่อนต้องงดการพิจารณาคดีนั้นไว้)
2. ห้ามนายทะเบียนสั่งให้เลิกหรือจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลที่เป็น
ลูกหนี้ และห้ามมิให้นิติบุคคลนั้นเลิกกันโดยประการอื่น
3. ห้ า มธนาคารแห่ ง ประเทศไทย สำ � นั ก คณะกรรมการกำ � กั บ
หลั ก ทรั พ ย์ แ ละตลาดหลั ก ทรั พ ย์ กรมการประกั น ภั ย หรื อ
101
กรมบังคับคดี
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กระทรวงยุติธรรม
สถานที่ติดต่อ
ส่วนกลาง
ติดต่อที่กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
ชั้น 8 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ)
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
ส่วนภูมิภาค
ติดต่อที่สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัด
หรือสำ�นักงานบังคับคดีจังหวัด...สาขา...
103
กรมบังคับคดี
การวางทรัพย์ กระทรวงยุติธรรม
104
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การวางทรัพย์
การวางทรัพย์
การวางทรัพย์ คือ วิธีการชำ�ระหนี้ที่กฎหมายกำ�หนดขึ้น เมื่อการ
ชำ�ระหนี้มีอุปสรรคอันเกิดจากตัวเจ้าหนี้ โดยผู้วางทรัพย์ได้นำ�เงิน หรือทรัพย์
ที่เป็นวัตถุแห่งหนี้ไปวาง ณ สำ�นักงานวางทรัพย์ ซึ่งผลของการวางทรัพย์
ทำ � ให้ ลู ก หนี้ ห ลุ ด พ้ น จากหนี้ ไม่ ต กเป็ น ผู้ ผิ ด นั ด ผิ ด สั ญ ญา ไม่ ต้ อ งเสี ย
ดอกเบี้ ย ค่ า เสี ย หาย ค่ า สิ น ไหมทดแทน หรื อ เบี้ ย ปรั บ และเจ้ า หนี้
จะร้องต่อศาลให้สั่งบังคับชำ�ระหนี้ไม่ได้ การไถ่ถอนการขายฝากโดยการ
วางทรัพย์ทำ�ให้ได้กรรมสิทธิ์กลับคืนมาสู่ผู้วางทรัพย์
105
กรมบังคับคดี
การวางทรัพย์ กระทรวงยุติธรรม
เหตุที่จะขอวางทรัพย์
1. เจ้าหนี้บอกปัดหรือปฏิเสธไม่ยอมรับชำ�ระหนี้ โดยปราศจากมูลเหตุ
อั น อ้ า งตามกฎหมายได้ เช่ น ผู้ ใ ห้ เช่ า ได้ ทำ � สั ญ ญาเช่ า มี กำ � หนด 30 ปี
โดยได้ จ ดทะเบี ย นถู ก ต้ อ งตามกฎหมายที่ สำ � นั ก งานที่ ดิ น ซึ่ ง มี ผ ลผู ก พั น
คู่ สั ญ ญาตามระยะเวลาที่ กำ � หนดไว้ ใ นสั ญ ญา แต่ ต่ อ มาผู้ ใ ห้ เช่ า อยากจะ
เลิกสัญญาก่อนครบกำ�หนดที่ระบุไว้ในสัญญา จึงปฏิเสธไม่ยอมรับค่าเช่า
หรือจะขอขึ้นเงินค่าเช่าโดยไม่มีเหตุอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย เพื่อผู้ให้เช่า
จะถือเอาเป็นเหตุบอกเลิกสัญญาเช่า
2. เจ้าหนี้ไม่สามารถรับชำ�ระหนี้ได้ เช่น เจ้าหนี้ไปต่างจังหวัด หรือ
ต่างประเทศ หรือหาตัวเจ้าหนี้ไม่พบ หรือต้องขังอยู่ในเรือนจำ�
3. ลูกหนี้ไม่สามารถหยั่งรู้สิทธิของเจ้าหนี้ หรือรู้ตัวเจ้าหนี้ได้แน่นอน
เช่น ลูกหนี้ไปทำ�สัญญาเช่ากับ นาง ก. ต่อมา นาง ก. ตาย ทายาทของ นาง ก.
ต่างเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำ�ระค่าเช่าให้แก่ตน โดยอ้างว่าตนมีสิทธิในการรับเงิน
ค่าเช่า ลูกหนี้จึงไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าจะต้องชำ�ระหนี้กับใคร ระหว่างทายาท
✪ ตามบทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง พาณิ ช ย์ เช่ น
มาตรา 492 การไถ่ถอนการขายฝาก โดยนำ�เงินค่าไถ่ถอน
มาวางทรัพย์ และสละสิทธิถอนการวาง หรือมาตรา 232, 302
631, 679, 754 และ 947 เป็นต้น
✪ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น เช่น การวางเงินค่าทดแทน
ตามพระราชบั ญ ญั ติ ว่ า ด้ ว ยการเวนคื น และการได้ ม า
ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562
✪ ตามคำ�สั่งศาล เช่น การคุ้มครองชั่วคราวตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264
106
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การวางทรัพย์
ผู้มีสิทธิวางทรัพย์
1. ลูกหนี้
2. ผู้รับมอบอำ�นาจลูกหนี้
3. บุคคลภายนอกที่เต็มใจชำ�ระหนี้แทนลูกหนี้ เว้นแต่ สภาพแห่งหนี้
ไม่ เ ปิ ด ช่ อ งให้ บุ ค คลภายนอกชำ � ระแทนได้ หรื อ ขั ด กั บ เจตนา
ที่คู่กรณีแสดงไว้และจะต้องไม่เป็นการฝืนใจหรือขัดใจลูกหนี้
สำ�นักงานวางทรัพย์ (ที่รับวางทรัพย์)
ในส่วนกลาง สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 - 7
ในส่วนภูมิภาค สำ�นักงานบังคับคดีทั่วประเทศ
ทรัพย์อะไรที่วางได้
1. เงินสด
2. แคชเชียร์เช็คของธนาคารในส่วนกลาง (กรม) สั่งจ่าย สำ�นักงาน
บังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 - 7 ในกรณีวางทรัพย์ในส่วนภูมภิ าค
สั่งให้จ่ายในนามสำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนั้น ๆ
3. ทรัพย์ท่ีเป็นวัตถุแห่งหนี้และสามารถส่งมอบกันได้ตามกฎหมาย
เช่น รถยนต์ ตู้เย็น สร้อยทอง แหวนเพชร
107
กรมบังคับคดี
การวางทรัพย์ กระทรวงยุติธรรม
ทรัพย์ที่ไม่ควรวาง
1. สภาพทรัพย์ไม่ควรแก่การวาง หรือเป็นที่พึงวิตกว่าทรัพย์นั้นต่อไป
จะเสื่ อ มเสี ย หรื อ ทำ � ลายหรื อ บุ บ สลายได้ เช่ น นํ้ า แข็ ง ที่ ส ลั ก
เป็นรูปต่าง ๆ เพื่อความสวยงามในงานสมรส
2. มีค่ารักษาทรัพย์แพงเกินควร
3. ตึกแถว โรงแรม คอนโดมิเนียม เครื่ิองจักร หรือทรัพย์ที่ขนย้าย
ไม่สะดวก หรือนํ้ามัน วัตถุไวไฟ เป็นต้น
วิธิปฏิบัติและหน้าที่ของผู้วางทรัพย์
1. เขี ย นคำ � ร้ อ งขอวางทรั พ ย์ ตามแบบ ว.1 หากมอบอำ � นาจ
ให้บุคคลอื่นวางทรัพย์แทน ต้องทำ�ใบมอบอำ�นาจตามแบบ ว.4
2. แสดงบัตรประจำ�ตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นใดที่ทางราชการ
ออกให้ (ให้มีรูปถ่าย)
3. กรณีมอบอำ�นาจ ยื่นใบมอบอำ�นาจตามแบบ ว.4 ติดอากรแสตมป์
ให้ครบถ้วนพร้อมสำ�เนาบัตรประจำ�ตัวประชาชนหรือหลักฐานอื่น
ที่ทางราชการออกให้ (มีรูปถ่าย) ทั้งของผู้มอบอำ�นาจและผู้รับมอบ
อำ�นาจ
4. กรณีเป็นนิตบิ คุ คลให้น�ำ หนังสือรับรองการจดทะเบียน ซึง่ นายทะเบียน
รับรองไม่เกิน 1 เดือนมาแสดงด้วย
5. แนบแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร (ท.ร. 14/1) หรือหนังสือ
รับรองฐานะนิติบุคคลของเจ้าหนี้รับรองไม่เกิน 1 เดือน
108
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การวางทรัพย์
109
กรมบังคับคดี
การวางทรัพย์ กระทรวงยุติธรรม
วิธีปฏิบัติของเจ้าหนี้ผู้ประสงค์จะรับทรัพย์ที่วาง
1. เขียนคำ�ร้องขอรับทรัพย์หรือเงิน ตามแบบ ว.3
2. แสดงบัตรประจำ�ตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นใดที่ทางราชการ
ออกให้ (มีรูปถ่าย)
3. กรณีมอบอำ�นาจ ยื่นใบมอบอำ�นาจตามแบบ ว.4 ติดอากรแสตมป์
ให้ครบถ้วนพร้อมนำ�บัตรประชาชนหรือหลักฐานอื่นที่ทางราชการ
ออกให้ มีรูปถ่ายทั้งของผู้มอบอำ�นาจและผู้รับมอบอำ�นาจมาแสดง
ต่อเจ้าพนักงาน
4. กรณีเป็นนิตบิ คุ คล ให้น�ำ หนังสือรับรองการจดทะเบียน ซึง่ นายทะเบียน
รับรองไม่เกิน 1 เดือน มาแสดงด้วย
5. กรณีวางทรัพย์โดยมีเงือ่ นไข ให้เจ้าหนีแ้ สดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงาน
ว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขแล้ว
110
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม การวางทรัพย์
ผลของการวางทรัพย์
1. ทำ � ให้ ลู ก หนี้ ห ลุ ด พ้ น จากหนี้ ที่ ต้ อ งชำ � ระ ไม่ ต กเป็ น ผู้ ผิ ด นั ด และ
ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้หลังจากวันที่วางทรัพย์
2. เจ้ า หนี้ มี สิ ท ธิ ม ารั บ ทรั พ ย์ ที่ ว าง ภายใน 10 ปี นั บ แต่ ไ ด้ รั บ
คำ�บอกกล่าวการวางทรัพย์ หากเจ้าหนี้ไม่มารับ สิทธิของเจ้าหนี้
เหนือทรัพย์ที่วางเป็นอันระงับไป
การถอนหรือขอรับทรัพย์ที่วาง
ผู้วางทรัพย์อาจถอนหรือขอรับทรัพย์ที่วางคืนได้
เว้นแต่ กรณีดังต่อไปนี้
1. ผู้วางทรัพย์ได้แสดงเจตนาสละสิทธิ์ที่จะถอนไว้
2. เจ้าหนี้ได้แจ้งต่อสำ�นักงานวางทรัพย์ ว่าจะรับทรัพย์ที่วางนั้นแล้ว
3. การวางทรัพย์ตามคำ�สั่งศาล
4. ผู้วางทรัพย์อยู่ระหว่างถูกดำ�เนินคดีล้มละลาย
5. ห ากบุ ค คลใดวางทรั พ ย์ ชำ � ระหนี้ แ ทนลู ก หนี้ บุ ค คลนั้ น จะถอน
การวางทรัพย์ได้ต่อเมื่อลูกหนี้ยินยอม
111
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร 1 - 7 กระทรวงยุติธรรม
112
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร 1 - 7
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดีแพ่ง
กรุงเทพมหานคร 1 - 7
❂ สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1
รั บ ผิ ด ชอบคดี แ พ่ ง ที่ อ ยู่ ใ นเขตอำ � นาจของศาลแพ่ ง ศาลอาญา ศาลแขวง
พระนครเหนื อ ศาลแขวงดอนเมื อ ง ศาลภาษี อ ากรกลาง ศาลทรั พ ย์ สิ น
ทางปัญญา
อาคารประชานิเวศน์ 1 สแควร์ ชั้น 2 ถนนเทศบาลนิมิตรเหนือ
แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
โทร. 0 2012 4200, 0 2158 0140 ต่อ 501, 502
โทรสาร. 0 2012 4202
❂ สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 2
รั บ ผิ ด ชอบคดี แ พ่ ง ที่ อ ยู่ ใ นเขตอำ � นาจของศาลแพ่ ง กรุ ง เทพใต้ ศาลอาญา
กรุงเทพใต้ ศาลแขวงพระนครใต้ ศาลแขวงปทุมวัน ศาลแรงงานกลาง
สำ�นักงานตั้งอยู่ ณ เลขที่ 43 ชั้น 2 อาคารไทยซีซี ทาวเวอร์ ชั้น 2
ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
โทร. 0 2672 3193, 0 2672 3619
โทรสาร. 0 2672 3620
❂ สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 3
รับผิดชอบคดีแพ่งที่อยู่ในเขตอำ�นาจของศาลจังหวัดมีนบุรี
สำ�นักงานตั้งอยู่ ณ เลขที่ 10/1 (ศูนย์การค้าเสียงสมบูรณ์)
ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510
โทร. 0 2517 7987 - 8, 0 2517 7984 - 5
โทรสาร. 0 2517 7989
113
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร 1 - 7 กระทรวงยุติธรรม
❂ สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 4
รับผิดชอบคดีแพ่งที่อยู่ในเขตอำ�นาจของศาลจังหวัดตลิ่งชัน ศาลแขวงตลิ่งชัน
ศาลแขวงดุสิต และศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
สำ�นักงานตั้งอยู่ ณ กรมบังคับคดี เลขที่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์
แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
โทร. 0 2887 5055 - 56, 0 2881 4363, 0 2881 4884
โทรสาร. 0 2881 4885, 0 2887 5170
❂ สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 5
รับผิดชอบคดีแพ่งที่อยู่ในเขตอำ�นาจของ ศาลจังหวัดพระโขนง
ศาลแขวงพระโขนง
สำ�นักงานตั้งอยู่ ณ อาคารคันทรี่คอมเพล็ก ทาวเวอร์ เอ ชั้น 7
เลขที่ 223/6 - 12 ถนนสรรพาวุธ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
โทร. 0 2361 4215 - 9
โทรสาร. 0 2361 4214
❂ สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 6
รับผิดชอบคดีแพ่งที่อยู่ในเขตอำ�นาจของ ศาลแขวงธนบุรี ศาลแพ่งธนบุรี
และศาลอาญาธนบุรี
สำ�นักงานตั้งอยู่ ณ อาคารกรมบังคับคดีเลขที่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์
แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
โทร. 0 2881 4999 ต่อ 2565, 2566
0 2881 4362, 0 2881 4368, 0 2881 4942
โทรสาร. 0 2881 4888
❂ สำ�นักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 7
รับผิดชอบคดีแพ่งที่อยู่ในเขตอำ�นาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้า
ระหว่างประเทศกลาง และศาลแขวงดอนเมือง
สำ�นักงานตั้งอยู่ที่ ณ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A)
ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 8 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง
เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
โทร. 0 2142 4216, 0 2142 5251, 0 2142 5253-56
โทรสาร. 0 2143 7606
114
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม สถานที่ติดต่อสำกองบั
�นักงงานบั
คับคดีงคัลบ้มคดี
ละลาย
แพ่ง
❂ กองบังคับคดีล้มละลาย 1
ที่อยู่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
อาคารกรมบังคับคดี ชั้น 6
โทร. 0 2881 4899, 0 2881 4897, 0 2881 4896,
0 2881 4375
โทรสาร. 0 2881 4895
❂ กองบังคับคดีล้มละลาย 2
ที่อยู่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
อาคารกรมบังคับคดี ชั้น 7
โทร. 0 2887 5084, 0 2881 4377, 0 2887 5088,
0 2887 5119
โทรสาร. 0 2887 5088
❂ กองบังคับคดีล้มละลาย 3
ที่อยู่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
อาคารกรมบังคับคดี ชั้น 6
โทร. 0 2881 4380, 0 2881 4381, 0 2881 4914,
0 2881 4915
โทรสาร. 0 2881 4909
❂ กองบังคับคดีล้มละลาย 4
ที่อยู่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
อาคารกรมบังคับคดี ชั้น 8
โทร. 0 2881 4383, 0 2881 4921, 0 2881 4385
0 2881 4922
โทรสาร. 0 2881 4919
115
กรมบังคับคดี
สถานที่ติดต่อกองบั
สำ�นักงงานบั
คับคดีงคัลบ้มคดี
ละลาย
แพ่ง กระทรวงยุติธรรม
❂ กองบังคับคดีล้มละลาย 5
ที่อยู่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
อาคารกรมบังคับคดี ชั้น 8
โทร. 0 2881 4386, 0 288 4387, 0 2881 4925
0 2881 4853
โทรสาร. 0 2881 4923
❂ กองบังคับคดีล้มละลาย 6
ที่อยู่ 189/1 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
อาคารกรมบังคับคดี ชั้น 5
โทร. 0 2881 4967, 0 2887 5059, 0 2881 4865,
โทรสาร. 0 2881 4966, 0 2887 5053, 0 2434 1500,
0 2881 4880
❂ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
189/1 ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700
อาคาร 25 ปี ชั้น 2
โทร. 0 2887 5072, 0 2881 4840
❂ สำ�นักงานบังคับทางปกครอง
189/1 ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700
อาคารกรมบังคับคดี ชั้น 2
โทร. 0 2881 4953
116
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี
ในส่วนภูมิภาค
1. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดกระบี่
เลขที่ 18/1 ถนนกระบี่ - เขาทอง ตำ�บลปากนํ้า อำ�เภอเมือง
จังหวัดกระบี่ 81000
โทร. 0 7562 3419 - 21
โทรสาร. 0 7562 3092
2. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดกาญจนบุรี
เลขที่ 200/16 ถนนแม่นํ้าแม่กลอง ตำ�บลปากแพรก
อำ�เภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี 71000
โทร. 0 3456 4363, 0 3456 4357
โทรสาร. 0 3456 4358
3. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดกาญจนบุรี สาขาทองผาภูมิ
เลขที่ 203/78 - 79 หมู่ 1 ตำ�บลท่าขนุน อำ�เภอทองผาภูมิ
จังหวัดกาญจนบุรี 71180
โทร. 0 3459 9641
โทรสาร. 0 3459 9832
117
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
4. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดกาฬสินธุ์
เลขที่ 71 ถนนอภัย ตำ�บลกาฬสินธุ์ อำ�เภอเมือง
จังหวัดกาฬสินธุ์ 46000
โทร. 0 4381 1481, 0 4381 1567
โทรสาร. 0 4381 1669
5. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดกำ�แพงเพชร
เลขที่ 504/1 - 2 ถนนเจริญสุข ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง
จังหวัดกำ�แพงเพชร 62000
โทร. 0 5571 3140 - 1 ต่อการเงิน 13 / นิติกร 15 - 16 / นิติกรอายัด 17
โทรสาร. 0 5571 3142
6. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดขอนแก่น
เลขที่ 45/52 ถนนมิตรภาพ ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง
จังหวัดขอนแก่น 40000
โทร. 0 4323 6407
โทรสาร. 0 4324 3405
7. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดขอนแก่น สาขาพล
เลขที่ 214/12, 13, 14 ถนนมิตรภาพ ตำ�บลเมืองพล อำ�เภอพล
จังหวัดขอนแก่น 40120
โทร. 0 4341 5687, 0 4341 5867
โทรสาร. 0 4341 5755
8. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดขอนแก่น สาขาชุมแพ
เลขที่ 889/22-23 หมู่ 1 ถนนสาสนะสิทธิ์ ตำ�บลชุมแพ
อำ�เภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น 40130
โทร. 0 4331 3483 - 5, 0 4331 3482
โทรสาร. 0 4331 3486
118
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
9. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดจันทบุรี
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดจันทบุรี
เลขที่ 2 ถนนบ้านลุ่ม ตำ�บลวัดใหม่ อำ�เภอเมือง
จังหวัดจันทบุรี 22000
โทร. 0 3932 3163, 0 3932 3658
โทรสาร. 0 3932 3162
10. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดฉะเชิงเทรา
อาคารสำ�นักงานบังคับคดี บริเวณศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา
ถนนสุขเกษม ตำ�บลหน้าเมือง
อำ�เภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000
โทร. 0 3851 3250 - 1 นิติกร ต่อ 21 - 25, 44 / การเงิน ต่อ 32 - 33 /
ธุรการ ต่อ 41, 49
โทรสาร. 0 3851 3252
11. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดชลบุรี
เลขที่ 88/88 หมู่ 1 ตำ�บลห้วยกะปิ อำ�เภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000
โทร. 0 3845 5932 - 5
โทรสาร. 0 3845 5451, 0 3845 5452
119
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
13. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดชัยนาท
เลขที่ 299 ถนนชัยณรงค์ ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง
จังหวัดชัยนาท 17000
โทร. 0 5641 4358 - 9
โทรสาร. 0 5641 4357
14. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดชัยภูมิ
เลขที่ 346 หมู่ 7 ถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดสาย 1
ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ 36000
โทร. 0 4481 7225 - 6
โทรสาร. 0 4482 2318
15. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดชัยภูมิ สาขาภูเขียว
เลขที่ 999 หมู่ 8 ถนนภูเขียว - ชุมแพ ตำ�บลผักปัง
อำ�เภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ 36110
โทร. 0 4405 6530 - 3
โทรสาร. 0 4405 6530
16. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดชุมพร
เลขที่ 316 หมู่ 1 ศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร ถนนไตรรัตน์ ตำ�บลนาชะอัง
อำ�เภอเมือง จังหวัดชุมพร 86000
โทร. 0 7750 2410, 0 7750 2760, 0 7750 3121
โทรสาร. 0 7750 3853
18. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงราย
เลขที่ 834/10 ถนนพหลโยธิน ตำ�บลเวียง อำ�เภอเมือง
จังหวัดเชียงราย 57000
โทร. 0 5371 6080 - 1
โทรสาร. 0 5371 5508
20. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่
เลขที่ 1/1 ถนนสนามบินเก่า ตำ�บลสุเทพ อำ�เภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ 50200
โทร. 0 5328 4840 - 5
โทรสาร. 0 5327 3454, 0 5327 4566
23. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดตรัง
เลขที่ 290/1 - 4 ถนนกันตัง ตำ�บลทับเที่ยง อำ�เภอเมืองตรัง
จังหวัดตรัง 92000
โทร. 0 7521 1772 - 3
โทรสาร. 0 7521 1771
24. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดตราด
เลขที่ 999/1 หมู่ 1 ตำ�บลวังกระแจะ อำ�เภอเมือง
จังหวัดตราด 23000
โทร. 0 3952 3981 - 2 ต่อ 18
โทรสาร. 0 3952 3980
25. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดตาก
เลขที่ 99 หมู่ 9 ตำ�บลนํ้ารึม อำ�เภอเมือง จังหวัดตาก 63000
โทร. 0 5551 3765, 0 5551 4350
โทรสาร. 0 5551 2968
27. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนครนายก
เลขที่ 1/26 - 29 หมู่ 3 ตำ�บลบ้านใหญ่ อำ�เภอเมืองนครนายก
จังหวัดนครนายก 26000
โทร. 0 3731 1167, 0 3731 2300, 0 3731 4346
โทรสาร. 0 3731 1852
122
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
28. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนครปฐม
เลขที่ 554/8 - 10 ถนนราชมรรคา ตำ�บลสนามจันทร์
อำ�เภอเมือง จังหวัดนครปฐม 73000
โทร. 0 3425 6437, 0 3424 1895, 0 3425 0897
โทรสาร. 0 3424 3905
29. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม
เลขที่ 19/39 ซอยสามัคคีสุขสันต์ ถนนนครพนม - ท่าอุเทน
ตำ�บลหนองแสง อำ�เภอเมือง จังหวัดนครพนม 48000
โทร. 0 4251 5461 ต่อ 11, 0 4251 5463
โทรสาร. 0 4251 5462
30. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนครราชสีมา
เลขที่ 260/1 - 2 ถนนมหาดไทย ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมืองนครราชสีมา
จังหวัดนครราชสีมา 30000
โทร. 0 4424 3161, 0 4424 2589, 0 4421 9091
โทรสาร. 0 4425 1702, 0 4421 9094
123
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
34. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนครศรีธรรมราช
เลขที่ 404 ถนนเทวบุรี ตำ�บลโพธิ์เสด็จ อำ�เภอเมือง
จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000
โทร. 0 7534 0374 - 5
โทรสาร. 0 7534 0373
37. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนครสวรรค์
เลขที่ 4/37 - 40 หมู่ 5 ตำ�บลนครสวรรค์ตก อำ�เภอเมืองนครสวรรค์
จังหวัดนครสวรรค์ 60000
โทร. 0 5688 2266 - 7
โทรสาร. 0 5688 2268
38. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนนทบุรี
เลขที่ 146 ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี
ตำ�บลท่าทราย อำ�เภอเมืองนนทบุรี
จังหวัดนนทบุรี 11000
โทร. 0 2526 7999, 0 2526 9000 ต่อ 101 - 115
โทรสาร. 0 2526 9950, 0 2526 9948
39. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดนราธิวาส
เลขที่ 153/2 - 3 ถนนสุริยะประดิษฐ์ ตำ�บลบางนาค อำ�เภอเมืองนราธิวาส
จังหวัดนราธิวาส 96000
โทร. 0 7353 2739 - 40
โทรสาร. 0 7353 2738
40. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดน่าน
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม ชั้น 1 เลขที่ 678 หมู่ 11
ตำ�บลไชนสถาน อำ�เภอเมือง
จังหวัดน่าน 55100
โทร. 0 5471 9609 - 10
โทรสาร. 0 5471 9611
125
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
41. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดบึงกาฬ
เลขที่ 106 หมู่ 7 ถนนชยางกูร ตำ�บลวิศิษฐ์
อำ�เภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ 38000
โทร. 0 4249 1293, 0 4249 1196
โทรสาร. 0 4249 1196
42. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์
หลังอาคารศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ถนนจิระ ตำ�บลในเมือง
อำ�เภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ 31000
โทร. 0 4461 4338 - 9 โทรสาร. 0 4461 4337
44. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดปทุมธานี
เลขที่ 41/79, 81, 83, 85 ถนนปทุมธานี - กรุงเทพฯ ตำ�บลบางปรอก
อำ�เภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 12000
โทร. 0 2581 5275 - 7
โทรสาร. 0 2581 5291
126
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
46. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เลขที่ 1000 หมู่ 2 ถนนเพชรเกษม - หนองเสือ ตำ�บลเกาะหลัก
อำ�เภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77000
โทร. 0 3260 2273 - 4
โทรสาร. 0 3260 2272
48. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดปราจีนบุรี
เลขที่ 222/2 ถนนราษฎร์พัฒนา ตำ�บลไม้เค็ด อำ�เภอเมือง
จังหวัดปราจีนบุรี 25230
โทร. 0 3745 4107 - 8 ต่อ 106
โทรสาร. 0 3745 4109
127
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
50. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดปัตตานี
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดปัตตานี เลขที่ 18 ซอย 5
ถนนเจริญประดิษฐ์ อำ�เภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี 94000
โทร. 0 7333 5162 - 3
โทรสาร. 0 7333 5161
51. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(หลังอาคารศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ถนนโรจนะ
ตำ�บลประตูชัย อำ�เภอพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
โทร. 0 3524 4319 - 20
โทรสาร. 0 3524 4321
52. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดพังงา
เลขที่ 45/37 หมู่ 3 ตำ�บลถํ้านํ้าผุด อำ�เภอเมือง
จังหวัดพังงา 82000
โทร. 0 7646 0616 - 7
โทรสาร. 0 7646 0618
128
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
54. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดพัทลุง
เลขที่ 54/2 ถนนช่วยทุกขราษฎร์ ตำ�บลคูหาสวรรค์ อำ�เภอเมือง
จังหวัดพัทลุง 93000
โทร. 0 7461 1677, 0 7461 2401
โทรสาร. 0 7461 1619
55. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดพิจิตร
เลขที่ 1/3 ถนนศรีมาลา ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง
จังหวัดพิจิตร 66000
โทร. 0 5661 3107 - 8
โทรสาร. 0 5661 3109
56. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดพิษณุโลก
เลขที่ 5 หมู่ 5 ตำ�บลหัวรอ อำ�เภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000
โทร. 0 5525 9005, 0 5525 9847, 0 5525 2930 - 1
โทรสาร. 0 5525 9537
57. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดเพชรบุรี
เลขที่ 118/1 - 6 หมู่ 1 ถนนเพชรเกษมสายเก่า ตำ�บลต้นมะม่วง
อำ�เภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี 76000
โทร. 0 3242 8002 - 3 ต่อ 11
โทรสาร. 0 3242 8001
129
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
58. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดเพชรบูรณ์
เลขที่ 123/1 หมู่ 10 ซอยสถานีวิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์ ตำ�บลสะเดียง
อำ�เภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ 67000
โทร. 0 5672 0639, 0 5672 0743, 0 5672 0747
โทรสาร. 0 5672 0751
61. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดแพร่ ชั้น 2
เลขที่ 242 หมู่ 10 ถนนช่อแฮ ตำ�บลเหมืองหม้อ อำ�เภอเมือง จังหวัดแพร่ 54000
โทร. 0 5452 2499, 0 5452 1047 - 8
โทรสาร. 0 5452 2024
62. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดพะเยา
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม ชั้น 3
เลขที่ 339 หมู่ 1 ต.บ้านตํ๊า อำ�เภอเมือง จังหวัดพะเยา 56000
โทร. 0 5448 4501 - 3
โทรสาร. 0 5448 4504
130
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
64. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต
เลขที่ 63/629 - 632 หมู่ 4 ถนนวิรัชหงส์หยก ตำ�บลวิชิต
อำ�เภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทร. 0 7652 2218 - 20, 0 7652 2228,
0 7652 2219, 0 7652 2220
โทรสาร. 0 7652 2219
65. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
เลขที่ 82/3 ถนนนครสวรรค์ ตำ�บลตลาด อำ�เภอเมือง
จังหวัดมหาสารคาม 44000
โทร. 0 4372 3724 ต่อ 11 - 26
โทรสาร. 0 4372 3672
66. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดแม่ฮ่องสอน
เลขที่ 6/5 - 7 ซอย 5 ถนนขุนลุมประพาส ตำ�บลจองคำ� อำ�เภอเมือง
จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000
โทร. 0 5361 3626, 0 5362 0086
โทรสาร. 0 5361 3628
131
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
68. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดมุกดาหาร
เลขที่ 198 ถนนเมืองใหม่ ตำ�บลมุกดาหาร อำ�เภอเมืองมุกดาหาร
จังหวัดมุกดาหาร 49000
โทร. 0 4252 0765 - 6
โทรสาร. 0 4262 0767
69. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดยะลา
เลขที่ 35 ถนนสิโรรส ตำ�บลสะเตง อำ�เภอเมือง
จังหวัดยะลา 95000
โทร. 0 7336 1256
โทรสาร. 0 7336 1257
71. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดยโสธร
เลขที่ 453/1 ถนนวิทยะธำ�รง ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง
จังหวัดยโสธร 35000
โทร. 0 4571 4065 - 6
โทรสาร. 0 4571 4067
72. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด
เลขที่ 323 หมู่ 7 ตำ�บลมะอึ อำ�เภอธวัชบุรี
จังหวัดร้อยเอ็ด 45000
โทร. 0 4351 4321 - 2, 0 4351 9161
โทรสาร. 0 4351 4320
132
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
73. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดระนอง
เลขที่ 55/10 หมู่ 3 ถนนเพชรเกษม ตำ�บลบางริ้น
อำ�เภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง 85000
โทร. 0 7786 2033 - 3 ต่อ 11, 12, 13, 15
โทรสาร. 0 7786 2101
74. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดระยอง
เลขที่ 36/13 - 14 ถนนจันทอุดม ตำ�บลเชิงเนิน อำ�เภอเมือง
จังหวัดระยอง 21000
โทร. 0 3862 0888, 0 3861 5317
โทรสาร. 0 3862 1850
75. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดราชบุรี
บริเวณศาลจังหวัดราชบุรี ถนนยุติธรรม ตำ�บลหน้าเมือง
อำ�เภอเมือง จังหวัดราชบุรี 70000
โทร. 0 3232 6011 - 2, 0 3231 0180
โทรสาร. 0 3232 1313
76. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดลพบุรี
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดลพบุรี เลขที่ 118
ถนนสีดา ตำ�บลทะเลชุบศร อำ�เภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000
โทร. 0 3678 2200 - 1 นิติกร ต่อ 201 - 206, การเงิน ต่อ 302,
ธุรการไกล่เกลี่ย ต่อ 501
โทรสาร. 0 3678 2202
78. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดลำ�ปาง
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดลำ�ปาง เลขที่ 401 หมู่ 4
ตำ�บลกล้วยแพะ อำ�เภอเมือง
จังหวัดลำ�ปาง 52100
โทร. 0 5422 6660, 0 5422 4920
โทรสาร. 0 5422 5217
79. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดลำ�พูน
เลขที่ 131 หมู่ 10 ตำ�บลบ้านกลาง อำ�เภอเมืองลำ�พูน
จังหวัดลำ�พูน 51000
โทร. 0 5352 5514, 0 5352 5516
โทรสาร. 0 5352 5515
80. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดเลย
เลขที่ 359 หมู่ที่ 5 ถนนเลย - นาด้วง ตำ�บลนาอาน อำ�เภอเมือง
จังหวัดเลย 42000
โทร. 0 4284 1912
โทรสาร. 0 4281 4913
81. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดศรีสะเกษ
เลขที่ 95/7 ถนนศรีวเิ ศษ ตำ�บลเมืองเหนือ อำ�เภอเมือง
จังหวัดศรีสะเกษ 33000
โทร. 0 4561 2185 - 6, 0 4561 3186
โทรสาร. 0 4561 2522
83. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสกลนคร
เลขที่ 1910 ถนนศูนย์ราชการ ตำ�บลธาตุเชิงชุม
อำ�เภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร 47000
โทร. 0 4271 6297 - 8 ต่อ 108
โทรสาร. 0 4271 2384
85. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา
เลขที่ 3 ถนนปละท่า ตำ�บลบ่อยาง อำ�เภอเมือง
จังหวัดสงขลา 90000
โทร. 0 7431 1292, 0 7431 4904
โทรสาร. 0 7432 4569
87. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสตูล
เลขที่ 86/111 ถนนสฤษดิ์ภูมินารถ ตำ�บลพิมาน อำ�เภอเมือง
จังหวัดสตูล 91000
โทร. 0 7472 3590 - 1
โทรสาร. 0 7472 3592
135
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
88. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ
เลขที่ 411 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ตำ�บลบางปูใหม่
อำ�เภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10270
โทร. 0 2387 1728 - 32
โทรสาร. 0 2387 1634, 0 2395 2863
89. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสมุทรสงคราม
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม เลขที่ 212 หมู่ 3
ตำ�บลลาดใหญ่ อำ�เภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม 75000
โทร. 0 3471 6256 ต่อ 206, 235
โทรสาร. 0 3471 6257
90. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสมุทรสาคร
เลขที่ 59/28 - 30 หมู่ 4 ถนนเอกชัย ตำ�บลโคกขาม
อำ�เภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
โทร. 0 3442 7018, 0 3483 6976
โทรสาร. 0 3442 7019
91. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสระแก้ว
เลขที่ 372 ถนนสุวรรณศร ตำ�บลสระแก้ว อำ�เภอเมือง
จังหวัดสระแก้ว 27000
โทร. 0 3724 2175, 0 3724 2178
โทรสาร. 0 3724 2192
136
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
92. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสระบุรี
เลขที่ 54 หมู่ 7 ตำ�บลสวนดอกไม้ อำ�เภอเสาไห้
จังหวัดสระบุรี 18160
โทร. 0 3621 2160, 0 3623 1251, 0 3623 1261
โทรสาร. 0 3621 2066
93. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสิงห์บุรี
ศูนย์ราชการจังหวัดสิงห์บุรี ถนนสิงห์บุรี - บางพาน
ตำ�บลบางมัญ อำ�เภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี 16000
โทร. 0 3650 7251 - 3 งานธุรการ ต่อ 0, งานการเงิน ต่อ 110,
งานบังคับคดี ต่อ 106, งานสำ�นวน ต่อ 107
โทรสาร. 0 3650 7252
94. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสุโขทัย
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดสุโขทัย เลขที่ 99 หมู่ 10
ตำ�บลบ้านกล้วย อำ�เภอเมือง จังหวัดสุโขทัย 64000
โทร. 0 5562 1790 - 1
โทรสาร. 0 5562 1792
96. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสุพรรณบุรี
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม เลขที่ 725/3 ถนนเณรแก้ว
ตำ�บลท่าระหัด อำ�เภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี 72000
โทร. 0 3552 3390 - 92
โทรสาร. 0 3552 5725
137
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
97. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เลขที่ 83/17 - 20 หมู่ 1 ถนนสุราษฎร์ - นาสาร
ตำ�บลขุนทะเล อำ�เภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84100
โทร. 0 7735 5381 - 2
โทรสาร. 0 7735 5380
138
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
101. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดสุรินทร์
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม เลขที่ 799 หมู่ 20
ตำ�บลนอกเมือง อำ�เภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 32000
โทร. 0 4451 1893, 0 4451 1895, 0 4451 1898 - 9
โทรสาร. 0 4451 - 1887
103. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดหนองคาย
เลขที่ 233/3 หมู่ 5 ตำ�บลหนองกอมเกาะ อำ�เภอเมือง
จังหวัดหนองคาย 43000
โทร. 0 4242 3201 ต่อ 12, 17
โทรสาร. 0 4242 3203
104. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดหนองบัวลำ�ภู
ศูนย์ราชการจังหวัด หลังสำ�นักงานที่ดิน
ตำ�บลลำ�ภู อำ�เภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำ�ภู 39000
โทร. 0 4231 1747, 0 4231 1695
โทรสาร. 0 4231 1752
139
กรมบังคับคดี
ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค กระทรวงยุติธรรม
105. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดอ่างทอง
เลขที่ 37 - 37/1 ถนนลำ�ท่าแดง ตำ�บลศาลาแดง
อำ�เภอเมือง จังหวัดอ่างทอง 14000
โทร. 0 3562 6171 ต่อ 13, 15, 17
โทรสาร. 0 3561 2058
106. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดอุดรธานี
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม เลขที่ 75 ชั้น 2
ตำ�บลหมากแข้ง อำ�เภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 41000
โทร. 0 4224 6017 - 18
โทรสาร. 0 4224 6019
107. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดอุตรดิตถ์
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม ชั้น 1 เลขที่ 8
ถนนศรอัศนีย์ ตำ�บลท่าอิฐ อำ�เภอเมืองอุตรดิตถ์
จังหวัดอุตรดิตถ์ 53000
โทร. 0 5544 0562 - 3, 0 5544 0565
โทรสาร. 0 5544 0564
108. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดอุทัยธานี
อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดอุทัยธานี ชั้น 2
เลขที่ 297/3 หมู่ 3 ตำ�บลนํ้าซึม อำ�เภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี 61000
โทร. 0 5651 3156, 0 5652 4559
โทรสาร. 0 5651 3165
140
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม ที่อยู่สำ�นักงานบังคับคดี ในส่วนภูมิภาค
109. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี
เลขที่ 202 หมู่ 15 ถนนแจ้งสนิท ตำ�บลขามใหญ่ อำ�เภอเมือง
จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทร. 0 4531 1418 - 20 งานขาย 0 4525 1936 งานอายัด 0 4525 1937
งานธุรการ 0 4525 1938
โทรสาร. 0 4531 1416
111. สำ�นักงานบังคับคดีจังหวัดอำ�นาจเจริญ
บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดอำ�นาจเจริญ 1
ตำ�บลโนนหนามแท่ง อำ�เภอเมือง จังหวัดอำ�นาจเจริญ 37000
โทร. 0 4552 3081 - 2, 0 4552 3084
โทรสาร. 0 4552 3083
141
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
142
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
143
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
144
กรมบังคับคดี
กระทรวงยุติธรรม
¡ÃÁºÑ§¤Ñº¤´Õ ¡ÃзÃǧÂصԸÃÃÁ @LED_MOJ
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
189/1 ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700
โทรศัพท์ 0 2881 4999 สายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79
www.led.go.th