You are on page 1of 28

หนา้ ๒๔

เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖

ข้อกำหนด
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๖๖

อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๓๐ แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ ำ ระหว่ำ งประเทศ และวิ ธี พิ จ ำรณำคดีท รัพ ย์ สิ น ทำงปัญ ญำและกำรค้ ำระหว่ำ งประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙ อธิบดีผู้พิพำกษำศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงโดยอนุมัติ
ประธำนศำลฎีกำ ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับกำรดำเนินกระบวนพิจำรณำและกำรรับฟังพยำนหลักฐำน
ใช้บังคับในศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและศำลอื่นที่มีอำนำจดำเนินกระบวน
พิจำรณำแทนศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อกำหนดนี้เรียกว่ำ “ข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๖๖”
ข้อ ๒ ข้อกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๐
ข้อ ๔ ในข้อกำหนดนี้ ถ้ำข้อควำมมิได้แสดงให้เห็นเป็นอย่ำงอื่น
“ศำล” หมำยควำมว่ำ ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือผู้พิพำกษำ
ที่มีอำนำจพิจำรณำพิพำกษำคดี
“อธิบดี” หมำยควำมว่ำ อธิบดีผู้พิพำกษำศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง
“บัน ทึกถ้อยคำ” หมำยควำมว่ำ บันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือควำมเห็นของพยำน
แทนกำรซักถำมต่อหน้ำศำล
“ข้อควำม” หมำยควำมว่ำ เรื่องรำว หรือข้อเท็จจริง ไม่ว่ำจะปรำกฏในรูปแบบของตัวอักษร
ตัวเลข เสียง ภำพ หรือรูปแบบอื่นใดที่สื่อควำมหมำยได้โดยสภำพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่ำนวิธีกำรใด ๆ
“อิเล็กทรอนิกส์” หมำยควำมว่ำ กำรประยุกต์ใช้วิธกี ำรทำงอิเล็กตรอน ไฟฟ้ำ แสง แม่เหล็ก
คลื่ น แม่ เ หล็ ก ไฟฟ้ ำ หรื อ วิ ธี ก ำรอื่ น ใดในลั ก ษณะที่ ค ล้ ำ ยคลึ ง กั น รวมถึ ง อุ ป กรณ์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ
กำรประยุกต์ใช้วิธีกำรต่ำง ๆ เช่นว่ำนั้น
“ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” หมำยควำมว่ำ ข้อควำมที่สร้ำง ส่ง รับ เก็บรักษำ หรือประมวลผล
ด้วยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์
“ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” หมำยควำมว่ำ อักษร อักขระ ตัวเลข เสียง หรือสัญลักษณ์อื่นใด
ที่ ส ร้ ำ งขึ้ น ให้ อ ยู่ ใ นรู ป แบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ซึ่ ง น ำมำใช้ ป ระกอบกั บ ข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ เ พื่ อ แสดง
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้ำของ
ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น และเพื่อแสดงว่ำบุคคลดังกล่ำวยอมรับ
ข้อควำมในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
หนา้ ๒๕
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
“เจ้ำของลำยมือชื่อ ” หมำยควำมว่ำ ผู้ซึ่งถือข้อมูลสำหรับใช้สร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
และสร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นในนำมของตนเองหรือแทนบุคคลอื่น
“สื่ อ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ” หมำยควำมว่ ำ สื่ อ บั น ทึ ก ข้ อ มู ล หรื อ สำรสนเทศใด ๆ ที่ ใ ช้ วิ ธี ก ำร
ทำงอิเล็กทรอนิกส์
“ระบบรั บส่ งอิ เล็ กทรอนิ กส์ ” หมำยควำมว่ำ ระบบงำนของศำลเพื่ อรองรั บกำรยื่ น ส่ง
และรับคำฟ้อง คำให้กำร คำคู่ควำมอื่น คำสั่งศำล หมำยเรียก หมำยอื่น ๆ รวมทั้งเอกสำรทำงคดี
ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
“สิ่งพิมพ์ออก” หมำยควำมว่ำ สิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีกำรนำเสนอหรือ
เก็บรักษำไว้ในระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์
“กำรนั่งพิจำรณำ” หมำยควำมว่ำ กำรที่ศำลออกนั่งเกี่ยวกับกำรพิจำรณำคดี เช่น ชี้สองสถำน
สืบพยำน ทำกำรไต่สวน ฟังคำขอต่ ำง ๆ และฟังคำแถลงกำรณ์ด้วยวำจำ รวมถึงดำเนินกระบวน
พิจำรณำใด ๆ ต่อคู่ควำมหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี
ลักษณะ ๑
ควำมแพ่ง

หมวด ๑
บททั่วไป

กำรแก้ไขกระบวนพิจำรณำที่ผิดระเบียบหรือผิดหลง
ข้อ ๕ เพื่ อ ให้ กำรดำเนิ น กระบวนพิ จำรณำเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และเที่ยงธรรม
ศำลอำจสั่งให้คู่ควำมที่ดำเนินกระบวนพิจำรณำผิดระเบียบหรือผิดหลงทำกำรแก้ไขให้ถูกต้องได้ภำยใน
ระยะเวลำและเงื่อนไขที่ศำลเห็ นสมควรกำหนด เว้นแต่ข้อที่ผิด ระเบียบหรือผิด หลงนั้นจะเกิดจำก
ควำมจงใจหรือละเลยเพิกเฉยของคู่ควำมฝ่ำยนั้น อันเป็นกำรเอำเปรียบคู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่ง
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำตำมที่คู่ควำมตกลงกัน
ข้อ ๖ ศำลอำจมีคำสั่งให้ ดำเนินกระบวนพิจำรณำไปตำมที่คู่ควำมตกลงกัน หรือตำมที่
ศำลเห็นสมควรโดยคู่ควำมไม่โต้แย้งคัดค้ำน เว้นแต่กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำนั้นเป็นกำรไม่ชอบ
ด้วยกฎหมำยอันเกี่ยวด้วยควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน
วิธีกำรติดต่อ กำรยื่น ส่ง และรับคำคู่ควำมและเอกสำรระหว่ำงศำล คู่ควำมและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๗ เว้ น แต่ จ ะมี บ ทบัญ ญัติ เป็ น อย่ ำ งอื่ น กำรติ ด ต่ อ ระหว่ำ งศำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศกับศำลอื่น หรือระหว่ำงศำลกับคู่ควำมหรือผู้เกี่ยวข้องในคดี อำจทำโดย
ทำงโทรศัพท์ โทรสำร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประเภทอื่น
หนา้ ๒๖
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
หรือวิธีกำรอื่น ใดในทำนองเดียวกัน แทนกำรติด ต่อโดยทำงไปรษณีย์ หรือทำงเจ้ำหน้ำที่ศำล หรือ
ใช้ประกอบกันก็ได้ โดยคำนึงถึงควำมจำเป็นเร่งด่วนและควำมเหมำะสมแก่ลักษณะเนื้อหำของเรื่อง
ที่ทำกำรติดต่อ รวมทั้งจำนวนและลักษณะของเอกสำร หรือวัตถุอื่นที่เกี่ยวข้อง
กำรติ ด ต่ อ ทำงโทรศั พ ท์ ใ ห้ ท ำได้ ใ นกรณี มี ค วำมจ ำเป็ น เร่ ง ด่ ว นและเป็ น กำรแจ้ ง วั น นั ด
ค ำสั่ ง ของศำล หรื อ ข้ อ ควำมอย่ ำ งอื่น ไปเพื่ อ ทรำบ โดยให้ เ จ้ ำ หน้ำ ที่ ศ ำลหรื อ คู่ค วำมผู้ด ำเนินกำร
แจ้งข้อควำมทำงโทรศัพท์จัดทำบันทึกแสดงเรื่องที่แจ้ง วันเวลำที่ดำเนินกำร รวมทั้งชื่อผู้รับแจ้งข้อควำม
และควำมเกี่ยวพันในคดีของผู้รับแจ้งข้อควำมนั้นให้ปรำกฏในรำยงำนเจ้ำหน้ำที่หรือบันทึกแจ้งข้อควำม
เสนอต่อศำลทรำบ
ข้อ ๘ เพื่อประโยชน์ ในกำรดำเนินกระบวนพิจำรณำให้คู่ควำม ผู้เกี่ยวข้องในคดี หรือ
บุ ค คลอื่ น ใดระบุ ส ถำนที่ ที่ ส ำมำรถติ ด ต่ อ ได้ โ ดยสะดวก หมำยเลขโทรศั พ ท์ หมำยเลขโทรสำร
ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่สำหรับติดต่อทำงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศ
ประเภทอื่ น หรื อ วิ ธี ก ำรอื่ น ใดในท ำนองเดีย วกั นของคู่ค วำม ผู้ เ กี่ ย วข้ อ งในคดี หรื อ บุ ค คลอื่ น ใด
ไว้ในคำคู่ควำมหรือเอกสำรทำงคดี
ข้อ ๙ ศำลอำจสั่งให้ส่งคำคู่ควำม เอกสำร หมำยแจ้งวันนัดหรือคำสั่งศำล หรือข้อควำม
อย่ำงอื่นอันเกี่ยวข้องกับกำรดำเนินกระบวนพิจำรณำไปยังคู่ควำม ผู้เกี่ยวข้องในคดี หรือบุคคลอื่นใด
โดยทำงไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อทำงเทคโนโลยี สำรสนเทศประเภทอื่น หรือ
วิธีกำรอื่นใดในทำนองเดียวกันแทนกำรส่งทำงไปรษณีย์หรือทำงเจ้ำหน้ำที่ศำลก็ได้ โดยจัดทำเอกสำร
หรือข้อควำมนั้ นในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งที่สำมำรถเข้ำถึงได้ผ่ำนทำงคิวอำร์โคดที่ระบุ
ในหมำยส่งไปยังที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรื อที่อยู่สำหรับติดต่อทำงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อ
ทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประเภทอื่น หรือวิธีกำรอื่นใดในทำนองเดียวกันของคู่ควำมดังกล่ำวที่ได้แจ้งไว้
ต่อศำล
กำรส่งหรือแจ้งตำมวรรคก่อนนั้นให้ถือว่ำคู่ควำม ผู้เกี่ยวข้องในคดี หรือบุคคลอื่นใดได้รับ
คำคู่ควำม เอกสำร หมำย หรือข้อควำมนับแต่เวลำที่คำคู่ควำม เอกสำร หมำย หรือข้อควำมเช่นว่ำนั้น
ส่งไปถึงคู่ควำม ผู้เกี่ยวข้องในคดี หรือบุคคลอื่นใดตำมที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่สำหรับ
ติดต่อทำงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประเภทอื่น หรื อวิธีกำรอื่นใดในทำนองเดียวกัน
ที่ได้แจ้งไว้ต่อศำล เว้นแต่ศำลเห็นสมควรกำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น
ข้อ ๑๐ ศำลอำจสั่งให้ส่งหมำยเรียกและสำเนำคำฟ้องแก่จำเลย ณ สถำนที่ที่จำเลยแจ้งไว้
ในเวลำติดต่อทำสัญญำพิพำทว่ำเป็นที่รับส่งเอกสำร หรือถิ่นที่อยู่ซึ่งคู่ควำมใช้ในกำรติดต่อสื่อสำรระหว่ำงกัน
เกี่ยวกับนิติสัมพันธ์ตำมคำฟ้อง หรือถิ่นที่อยู่หรือสถำนที่ใช้ประกอบกิจกำรที่ทรำบครั้งสุดท้ำยของจำเลย
หรือโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไปยังที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
หรื อ ที่ อ ยู่ ส ำหรั บ ติ ด ต่ อ ทำงสื่ อ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ หรื อ สื่ อ ทำงเทคโนโลยี ส ำรสนเทศประเภทอื่ น
ที่จำเลยใช้ในกำรประกอบกิจกำรของตน หรือใช้ในกำรติดต่อสื่อสำรกับคู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งเกี่ยวกับ
หนา้ ๒๗
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
นิติสัมพันธ์ตำมคำฟ้อง หรือที่ได้แจ้งไว้ต่อหน่วยงำนรำชกำร หำกโจทก์สำมำรถแสดงให้เป็นที่พอใจ
แก่ศำลได้ว่ำภูมิลำเนำหรือสำนักทำกำรงำนของจำเลยไม่ปรำกฏ
กำรส่งหมำยเรียกและสำเนำคำฟ้องโดยวิธีกำรตำมวรรคหนึ่งให้มีผลใช้ได้ตอ่ เมื่อพ้นกำหนดเวลำ
สิบห้ำวันนับแต่วันที่ได้มีกำรส่งโดยชอบด้วยกฎหมำย เว้นแต่ในกรณีส่งโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์
ให้ มี ผ ลใช้ ไ ด้ ต่ อ เมื่ อ พ้ น ก ำหนดเวลำสิ บ ห้ ำ วั น นั บ แต่ วั น ที่ ไ ด้ มี ก ำรส่ ง ไปถึ ง จ ำเลยตำมที่ อ ยู่ ไ ปรษณี ย์
อิเล็กทรอนิ กส์ หรือที่อยู่สำหรับติดต่อทำงสื่ออิ เล็กทรอนิ กส์ หรือสื่อทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประเภทอื่ น
ดังกล่ำว
ข้อ ๑๑ กำรส่งหมำยเรียกและสำเนำคำฟ้องแก่จำเลยที่ไม่มีภูมิลำเนำอยู่ในรำชอำณำจักร
โจทก์อำจยื่น คำร้องขอให้ ส่งแก่จำเลย ณ สถำนที่ใดในรำชอำณำจักรที่จำเลยแจ้งไว้ในเวลำติดต่อ
ทำสัญญำพิพำทว่ำเป็นที่รับส่งเอกสำร หรือถิ่นที่อยู่ หรือสถำนที่ใช้ประกอบกิจกำรที่ทรำบครั้งสุดท้ำย
ในรำชอำณำจักรของจำเลย หรือถิ่นที่อยู่ในรำชอำณำจักรซึ่งจำเลยใช้ในกำรติดต่อสื่อสำรเกี่ยวกับ
นิ ติสัมพัน ธ์ต ำมคำฟ้อง หรือโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง
ที่สำมำรถเข้ำถึงได้ผ่ำนทำงคิวอำร์โคดไปยังที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือที่อยู่สำหรับติดต่อทำง
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประเภทอื่นที่จำเลยใช้ในกำรประกอบกิจกำรของตน
หรื อ ใช้ ใ นกำรติ ด ต่อ สื่อ สำรกับ คู่ค วำมอี ก ฝ่ำ ยหนึ่ งเกี่ย วกั บนิ ติสั มพั น ธ์ต ำมฟ้ อ ง หรื อ ที่ ไ ด้แ จ้งไว้ต่อ
หน่วยงำนรำชกำร หำกโจทก์สำมำรถแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศำลได้ว่ำกำรส่งตำมมำตรำ ๘๓ จัตวำ ๘๓ ฉ
และ ๘๓ สัตต แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งไม่อำจกระทำได้เพรำะเหตุที่ภูมิลำเนำ
และสำนักทำกำรงำนของบุคคลดังกล่ำวไม่ปรำกฏ ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะดำเนินกำรตำมมำตรำ ๘๓ อัฏฐ
แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง
กำรส่งหมำยเรียกและสำเนำคำฟ้องโดยวิธีกำรตำมวรรคหนึ่งให้มีผลใช้ได้ตอ่ เมื่อพ้นกำหนดเวลำ
สำมสิบวันนับแต่วันที่ได้มีกำรส่งโดยชอบด้วยกฎหมำย เว้นแต่ในกรณีส่งโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์
ให้ มี ผ ลใช้ไ ด้ต่อ เมื่อ พ้ น กำหนดเวลำสำมสิบวันนับ แต่วันที่ได้มีก ำรส่ งไปถึง จำเลยตำมที่ อยู่ ไปรษณีย์
อิเล็กทรอนิ กส์ หรือที่อยู่สำหรับติดต่อทำงสื่ออิ เล็กทรอนิ กส์ หรือสื่อทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประเภทอื่ น
ดังกล่ำว
หมวด ๒
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำ

คำฟ้อง
ข้อ ๑๒ คำฟ้องที่แสดงให้พอเข้ำใจได้ถึงสภำพแห่งข้อหำ ข้ออ้ำงที่อำศัยเป็นหลักแห่งข้อหำ
และคำขอบังคับ ให้ถือว่ำเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมำย
หนา้ ๒๘
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ถ้ำจำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำไม่เข้ำใจคำฟ้องในส่วนใด ศำลอำจสั่งให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง
โดยอธิบำยรำยละเอียดในส่วนนั้นให้ชัดเจนขึ้นก็ได้ และจำเลยมีสิทธิแก้ไขเพิ่มเติมคำให้ก ำรในส่ว น
คำฟ้องที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นได้
ควำมในวรรคสองให้ใช้บังคับแก่กำรให้กำรแก้ฟ้องแย้งโดยอนุโลม
เอกสำรท้ำยคำฟ้องหรือคำให้กำร
ข้อ ๑๓ หำกคำฟ้องหรือคำให้กำรอ้ำงถึงเอกสำรใดที่คู่ควำมประสงค์จะนำมำเป็นพยำนหลักฐำน
ในประเด็นหลักแห่งคดี และเอกสำรนั้นอยู่ในควำมครอบครองของผู้อ้ำง ให้แนบสำเนำเอกสำรดังกล่ำว
และค ำแปลเป็ น ภำษำไทยทั้ ง ฉบั บ หรื อ แต่ บ ำงส่ ว นซึ่ ง เป็ น ประเด็ น หลั ก แห่ ง คดี ใ นกรณี ที่ เ อกสำร
เป็นภำษำต่ำงประเทศมำพร้อมกับคำฟ้องหรือคำให้กำรด้วย เว้นแต่ศำลจะอนุญำตให้ยื่นได้ภำยหลัง
เมื่อมีเหตุอันสมควรหรือศำลเห็นว่ำไม่สำมำรถยื่นได้เพรำะเหตุอื่น
สำเนำเอกสำรดังกล่ำวให้หมำยควำมรวมถึงวัตถุที่ใช้บันทึกข้อมูลหรือสื่อควำมหมำยโดยวิธีอื่น
นอกจำกกำรเขียนและพิมพ์ด้วย และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่บันทึกไว้ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง
ที่สำมำรถเข้ำถึงได้ผ่ำนทำงคิวอำร์โคด
กำรขอให้ส่งเอกสำรตำมวรรคหนึ่งและวรรคสองในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งสำมำรถ
เข้ำถึงได้ผ่ำนทำงคิว อำร์โ คดให้ แ ก่คู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งให้กระทำได้เมื่อระบุเหตุผลที่แสดงว่ำคู่ ค วำม
ฝ่ำยที่ต้องรับเอกสำรดังกล่ำวสำมำรถเข้ ำถึงเอกสำรในรูปแบบข้อมูล อิเล็ กทรอนิกส์ได้ มำในค ำร้ อ ง
แต่ถ้ำคู่ควำมฝ่ำยที่ต้องรับเอกสำรดังกล่ำวแจ้งต่อศำลก่อนหรือในวันนัดพิจำรณำ หรือศำลมีเหตุสงสัย
ว่ำคู่ควำมฝ่ำยนั้นไม่สำมำรถเข้ำถึงเอกสำรในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้ศำลมีคำสั่งให้ส่งเอกสำร
ดังกล่ำวให้คู่ควำมฝ่ำยนั้ นในรูปแบบกระดำษแทน โดยให้ คู่ควำมฝ่ำยที่อ้ำงเอกสำรดังกล่ำวมีหน้ำที่
จัดทำเอกสำร หรือชำระค่ำจัดทำเอกสำรดังกล่ำวและค่ำใช้จ่ำยในกำรส่ง
กำรยื่นคำคู่ควำมต่อศำลจังหวัด
ข้อ ๑๔ ในระหว่ ำงที่ ศำลทรั พย์ สิ นทำงปั ญญำและกำรค้ ำระหว่ ำงประเทศภำคยั งมิ ได้ เปิ ดท ำกำร
ในท้ อ งที่ ใ ด เมื่ อ โจทก์ ยื่ น ค ำฟ้ อ งต่ อ ศำลจั ง หวั ด ตำมมำตรำ ๔๗ แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ จั ด ตั้ ง
ศำลทรั พย์ สิ นทำงปั ญญำและกำรค้ ำระหว่ ำงประเทศ และวิ ธี พิ จำรณำคดี ทรั พย์ สิ นทำงปั ญญำและกำรค้ ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้โจทก์จัดทำสำเนำคำฟ้องสำหรับศำลจังหวัดด้วยหนึ่งชุด แล้วให้
ศำลจังหวัดส่งต้นฉบับมำยังศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงโดยเร็ว เพื่อมีคำสั่ง
และแจ้งคำสั่งดังกล่ำว พร้อมกับส่งหมำยเรียกจำเลยเพื่อแก้คดี ถ้ำหำกมี ไปยังศำลจังหวัดโดยเร็วเช่นกัน
ข้อ ๑๕ ให้ ศ ำลจั ง หวั ด แจ้ ง ค ำสั่ ง ที่ ไ ด้ รั บ จำกศำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ
ระหว่ ำ งประเทศกลำงให้ โ จทก์ ท รำบโดยเร็ ว และในกรณี ที่ ศ ำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ
ระหว่ำงประเทศกลำงมีคำสั่งรับคำฟ้อง ให้โจทก์ร้องขอต่อเจ้ำหน้ำที่ศำลจังหวัดภำยในเจ็ดวันนับแต่
วันทรำบคำสั่ง เพื่อให้ส่งหมำยเรียกและสำเนำคำฟ้องให้จำเลย
หนา้ ๒๙
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖

เมื่อได้ส่งหมำยเรียกและสำเนำคำฟ้องให้จำเลยแล้ว ให้จำเลยยื่นคำให้กำรต่อศำลจังหวัด
หรือต่อศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงก็ได้ ในกรณีที่จำเลยยื่นคำให้กำร
ต่อศำลจังหวัด ให้จำเลยจัดทำสำเนำสำหรับศำลจังหวัดด้วยหนึ่งชุด และให้ศำลจังหวัดส่งต้นฉบับคำให้กำร
พร้ อ มรำยงำนกำรส่ ง หมำยเรี ย กและส ำเนำค ำฟ้ อ งมำยั ง ศำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ
ระหว่ำงประเทศกลำงโดยเร็วเพื่อมีคำสั่ง หำกจำเลยมิได้ยื่นคำให้กำรก็ให้ศำลจังหวัดแจ้งให้ศำลทรัพย์สนิ
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงทรำบในทันทีที่ ระยะเวลำซึ่งกำหนดให้ยื่นคำให้กำรนั้น
ได้สิ้นสุดลง พร้อมกับส่งรำยงำนกำรส่งหมำยเรียกและสำเนำคำฟ้องและคำขอของโจทก์ที่ขอให้ศำล
มีคำพิพำกษำหรือคำสั่งให้ตนชนะคดีโดยขำดนัด ถ้ำหำกมีมำด้วย
เมื่ อ ศำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ ระหว่ ำ งประเทศกลำงมี ค ำสั่ ง รั บ ค ำฟ้ อ งแล้ ว
ให้รีบนำเสนออธิบดีเพื่อกำหนดวันเวลำและศำลที่จะนั่งพิจำรณำพิพำกษำคดีตำมควำมเหมำะสม และ
ให้ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงแจ้งศำลจังหวัดเพื่อให้แจ้งกำหนดวันเวลำ
และศำลที่จะนั่งพิจำรณำพิพำกษำคดีนั้นให้คู่ควำมทรำบโดยเร็ว
ข้อ ๑๖ ถ้ำจำเลยฟ้องแย้งรวมมำในคำให้กำรที่ยื่นต่อศำลจังหวัด ให้นำข้อ ๑๔ และข้อ ๑๕
มำใช้บังคับแก่กำรสั่งฟ้องแย้งและกำรให้กำรแก้ฟ้องแย้งโดยอนุโลม
คดีขอให้เพิกถอนหรืออุทธรณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของคณะกรรมกำร
ข้อ ๑๗ กำรฟ้ อ งคดี ข อให้ เ พิ ก ถอนหรื อ อุ ท ธรณ์ ค ำสั่ ง หรื อ ค ำวิ นิ จ ฉั ย ของคณะกรรมกำร
ตำมกฎหมำยที่อยู่ในอำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
เพื่อควำมสะดวกและรวดเร็วให้โจทก์ฟ้องเฉพำะส่วนรำชกำรโดยไม่ต้องฟ้องกรรมกำรเป็นรำยบุคคลก็ได้
ข้อ ๑๘ กำรพิ จ ำรณำพิ พ ำกษำคดี ข อให้ เ พิ ก ถอนหรื อ อุ ท ธรณ์ ค ำสั่ ง หรื อ ค ำวิ นิ จ ฉั ย
ของคณะกรรมกำรตำมกฎหมำย ให้ศำลมีอำนำจสั่งให้คู่ควำมส่งพยำนเอกสำรและพยำนหลักฐำนอื่น
โดยไม่ต้องสืบพยำนบุคคล
กำรส่งประธำนศำลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษวินิจฉัยอำนำจศำล
ข้อ ๑๙ กำรขอให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษวินิจฉัยปัญหำว่ำคดีอยู่ในอำนำจของ
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ตำมมำตรำ ๙ แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้ง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้คู่ควำมฝ่ำยที่ถูกฟ้องคดีมีคำขอต่อศำลภำยในกำหนดระยะเวลำ
ยื่นคำให้กำรตำมกฎหมำยหรือก่อนพ้นระยะเวลำที่ศำลอนุญำตให้ยื่นคำให้กำร
หนา้ ๓๐
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖

ในกรณี ที่ ศ ำลเห็ น ว่ ำ มี ปั ญ หำว่ ำ คดี อ ยู่ ใ นอ ำนำจของศำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ


ระหว่ำงประเทศหรือไม่ ให้เสนอปัญหำนั้นต่อประธำนศำลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษโดยเร็ว แต่ไม่ช้ำกว่ำวันสืบพยำน
กำรขอให้คุ้มครองชั่วครำวก่อนฟ้อง
ข้อ ๒๐ คำขอให้ศำลมีคำสั่งตำมมำตรำ ๖๕ มำตรำ ๖๕/๑ แห่งพระรำชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. ๒๕๓๗ หรือตำมมำตรำ ๗๗ ทวิ แห่งพระรำชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือตำมมำตรำ ๑๑๖
แห่งพระรำชบัญญัตเิ ครือ่ งหมำยกำรค้ำ พ.ศ. ๒๕๓๔ หรือตำมมำตรำ ๘ แห่งพระรำชบัญญัตคิ วำมลับ
ทำงกำรค้ำ พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำยว่ำด้วยทรัพย์สินทำงปัญญำอื่น ต้องบรรยำย
ถึงข้อเท็จจริงที่แสดงว่ำมีเหตุที่จะฟ้องบุคคลอื่นเป็นจำเลย และมีเหตุเพียงพอที่ จะทำให้เชื่อว่ำสมควร
ที่ศำลจะมีคำสั่งอนุญำตตำมคำขอนั้น รวมทั้งจะต้องมีบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงของผู้รู้เห็นเหตุ
แห่งกำรขอนั้นเพื่อสนับสนุนข้ออ้ำงดังกล่ำว
ข้อ ๒๑ ในกำรพิจำรณำคำขอตำมข้อ ๒๐ ให้ศำลมีคำสั่งอนุญำตตำมคำขอ หำกพิจำรณำ
แล้วเห็นว่ำ
(๑) คำขอที่ยื่นและในโอกำสที่ยื่นคำขอนั้นมีเหตุสมควร และมีเหตุเพียงพอที่ศำลจะมีคำสั่งอนุญำต
ตำมคำขอนั้นได้ และ
(๒) สภำพแห่งควำมเสียหำยของผู้ขอไม่สำมำรถที่จะได้รับชดใช้เป็นตัวเงินหรือทดแทนด้วย
สิ่งอื่น ใดได้ หรือผู้ที่จะถูกฟ้องเป็น จำเลยไม่อยู่ในฐำนะที่จะชดใช้ หรือทดแทนควำมเสียหำยแก่ผู้ขอ
หรือกรณีเป็นกำรยำกที่จะบังคับคดีเอำแก่ผู้ที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยนั้นได้ภำยหลัง
ทั้งนี้ โดยให้คำนึงถึงควำมเสียหำยว่ำจะเกิดขึ้นแก่ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งมำกกว่ำกันเพียงใดเป็นสำคัญ
ถ้ำศำลมีคำสั่งให้ยกคำขอนั้น คำสั่งเช่นว่ำนี้ให้เป็นที่สุด
ข้อ ๒๒ ในกรณี ที่ ศ ำลมี ค ำสั่ ง อนุ ญ ำตตำมข้ อ ๒๑ ให้ ศ ำลแจ้ ง ค ำสั่ ง นั้ น ให้ ผู้ ที่ จ ะถู ก ฟ้ อ ง
เป็นจำเลยทรำบโดยไม่ชักช้ำ
คำสั่งศำลตำมวรรคหนึ่งนั้น ให้มีผลบังคับแก่ผู้ที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยได้ทันที ถึงแม้ว่ำผู้ที่จะถูกฟ้อง
เป็นจำเลยจะยังมิได้รับแจ้งคำสั่งเช่นว่ำนั้นก็ตำม
ข้อ ๒๓ ในกรณีที่ศำลมีคำสั่งอนุญำตตำมข้อ ๒๑ ให้ศำลพิเครำะห์ถึงควำมเสียหำยที่อำจจะ
เกิ ด ขึ้ น แก่ ผู้ ที่ จ ะถู กฟ้ อ งเป็ น จ ำเลย แล้ ว สั่ ง ให้ ผู้ ข อวำงเงิน หรื อ หำประกั น มำให้ ต ำมจ ำนวนภำยใน
ระยะเวลำและกำหนดเงื่อนไขอย่ำงใดตำมที่ศำลเห็นสมควรสำหรับควำมเสียหำยที่อำจเกิดขึ้นดังกล่ำว
ข้อ ๒๔ ในกรณีที่ศำลมีคำสั่งอนุญำตตำมข้อ ๒๑ ผู้ที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยอำจยื่นค ำขอ
ให้ศำลยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่ำวได้ ถ้ำศำลมีคำสั่งยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมดังกล่ำว
คำสั่งเช่นว่ำนี้ให้เป็นที่สุด
ในกรณี ต ำมวรรคหนึ่ ง ผู้ ที่ จ ะถู ก ฟ้ อ งเป็ น จ ำเลยอำจมี ค ำขอรวมไปกั บ ค ำขอให้ ย กเลิ ก
หรื อ เปลี่ ย นแปลงค ำสั่ ง นั้ น หรื อ ยื่ น ค ำขอต่ อ ศำลภำยในสำมสิ บ วั น นั บ แต่ วั น ที่ ศ ำลมี ค ำสั่ ง ยกเลิ ก
หนา้ ๓๑
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
หรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมดังกล่ำว ขอให้ศำลมีคำสั่งให้ผู้ขอชดใช้ค่ำสินไหมทดแทนแก่ต นได้ และ
เมื่อศำลทำกำรไต่สวนแล้วเห็นว่ำคำสั่งเดิมที่ถูกยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นกำรสั่งโดยศำลมีควำมเห็น
หลงไปว่ำมีเหตุที่จะฟ้องผู้ที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยนั้น หรือมีเหตุเพียงพอที่จะสั่งอนุญำตโดยควำมผิด
หรือเลินเล่อของผู้ขอ ให้ศำลมีคำสั่งให้ผู้ขอชดใช้ค่ำ สินไหมทดแทนให้แก่ผู้ที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยได้
ตำมจำนวนที่ศำลเห็นสมควร และถ้ำผู้ขอไม่ปฏิบัติตำมคำสั่งศำล ศำลมีอำนำจบังคับผู้ขอเสมือนหนึ่งว่ำเป็น
ลูกหนี้ตำมคำพิพำกษำ
ข้อ ๒๕ ในกรณีที่ศำลมีคำสั่งอนุญำตตำมข้อ ๒๑ ถ้ำผู้ขอมิได้ฟ้องคดีเกี่ยวกับคำขอที่มีคำสั่ง
อนุญำตนั้นภำยในสิบห้ำวันนับแต่วันที่ศำลมีคำสั่งหรือภำยในระยะเวลำที่ศำลกำหนด ให้ถือว่ำคำสั่งนั้น
เป็นอันยกเลิกเมื่อครบกำหนดดังกล่ำว
ในกรณีตำมวรรคหนึ่ง ผู้ที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยอำจยื่นคำขอต่อศำลภำยในสำมสิบวันนับแต่
วันที่ถือว่ำคำสั่งนั้นเป็นอันยกเลิก ขอให้ศำลมี คำสั่งให้ผู้ขอชดใช้ค่ำสินไหมทดแทนแก่ตนได้ และให้
ศำลมีคำสั่งให้ผู้ขอชดใช้ค่ำสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ที่จะถูกฟ้องเป็นจำเลยได้ตำมจำนวนที่ศำลเห็นสมควร
และถ้ำผู้ขอไม่ปฏิบัติตำมคำสั่งศำล ศำลมีอำนำจบังคับผู้ขอเสมือนหนึ่งว่ำเป็นลูกหนี้ตำมคำพิพำกษำ
ข้อ ๒๖ ในกรณีที่ ศำลมีคำสั่งอนุญำตตำมข้อ ๒๑ ถ้ำผู้ขอฟ้องคดีเกี่ยวกับคำขอที่มีคำสั่ง
อนุญำตนั้นภำยในสิบห้ำวันนับแต่วันที่ศำลมีคำสั่งหรือภำยในระยะเวลำที่ศำลกำหนด ให้คำสั่งอนุญำตนั้น
หรือคำสั่งอนุญำตที่ศำลมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงตำมข้อ ๒๔ วรรคหนึ่งมีผลใช้บังคับต่อไป เว้นแต่ศ ำล
จะมี ค ำสั่ ง ตำมค ำขอของจ ำเลยให้ ย กเลิ ก หรื อ เปลี่ ย นแปลงเป็ น อย่ ำ งอื่ น และให้ น ำมำตรำ ๒๖๐
มำตรำ ๒๖๑ และมำตรำ ๒๖๓ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๒๗ ให้นำบทบัญญัติว่ำด้วยกำรพิจำรณำลับและกำรห้ำมโฆษณำตำมข้อ ๓๔ กำรบันทึก
คำเบิกควำมของพยำนตำมข้อ ๓๕ และข้อ ๓๖ กำรทบทวนควำมจำของพยำนตำมข้อ ๔๔ กำรเสนอ
บันทึกถ้อยคำในกำรสืบพยำนบุคคลตำมข้อ ๔๕ และข้อ ๔๖ บันทึกถ้อยคำแทนกำรสืบพยำนบุคคล
ของผู้ให้ ถ้อยคำซึ่งอยู่ต่ำงประเทศตำมข้อ ๔๗ กำรวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยำนหลักฐำนบันทึ กถ้อยคำ
ที่ผู้ให้ถ้อยคำมิได้มำศำลตำมข้อ ๔๘ กำรสืบพยำนบุคคลโดยระบบกำรประชุมทำงจอภำพตำมข้อ ๔๙
และกำรด ำเนิ น กระบวนพิ จ ำรณำด้ ว ยวิ ธี พิ จ ำรณำคดี ท ำงอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ต ำมข้ อ ๕๕ มำใช้ แ ก่
กำรพิจำรณำตำมข้อ ๒๑ และข้อ ๒๓ ถึงข้อ ๒๖ โดยอนุโลม
กำรขอให้สืบพยำนหลักฐำนไว้ก่อน
ข้อ ๒๘ ค ำร้ อ งขอหรื อ คำร้อ งให้ศ ำลมี คำสั่ งให้ สื บพยำนหลั กฐำนไว้ ก่อ นตำมมำตรำ ๒๘
แห่ งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ และวิธีพิจำรณำคดี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ ต้องบรรยำยข้อเท็จจริงที่แสดงว่ำมี ควำมจำเป็น
ที่ จ ะต้ อ งสื บพยำนหลั ก ฐำนไว้ก่ อน และในกรณี ที่ยั ง มิได้ ฟ้ องคดีต้อ งบรรยำยข้อ เท็ จ จริง ที่แสดงว่ำ
มีเหตุที่จะฟ้องหรือถูกฟ้องด้วย
หนา้ ๓๒
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินตำมมำตรำ ๒๙ แห่งพระรำชบัญญัติดังกล่ำว คำร้องต้องบรรยำยถึง
ข้อเท็จจริงที่แสดงว่ำมีเหตุฉุกเฉินซึ่งหำกแจ้งให้คู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งหรือบุคคลภำยนอกที่เกี่ยวข้องทรำบ
ก่อนแล้ว พยำนหลักฐำนดังกล่ำวจะถูกทำให้เสียหำย สูญหำย ทำลำย หรือมีเหตุอื่นใดที่จะทำให้
ยำกแก่กำรนำมำสืบในภำยหลังได้
ข้อ ๒๙ ในกรณีที่ศำลมีคำสั่งอนุญำตตำมคำร้องให้ยึดหรืออำยัดเอกสำรหรือวัตถุที่จะใช้เป็น
พยำนหลั ก ฐำนในกรณีที่ มี เหตุฉุก เฉิน ตำมข้ อ ๒๘ วรรคสอง ศำลอำจสั่ ง ให้ผู้ ข อวำงหลั กประกัน
ตำมจำนวนภำยในระยะเวลำและกำหนดเงื่อนไขอย่ำงใดตำมที่ศำลเห็นสมควรสำหรับควำมเสียหำย
ที่อำจเกิดขึ้นก็ได้
ข้อ ๓๐ ให้นำบทบัญญัติว่ำด้วยกำรพิจำรณำลับและกำรห้ำมโฆษณำตำมข้อ ๓๔ กำรบันทึก
คำเบิกควำมของพยำนตำมข้อ ๓๕ และข้อ ๓๖ กำรทบทวนควำมจำของพยำนตำมข้อ ๔๔ กำรเสนอ
บันทึกถ้อยคำในกำรสืบพยำนบุคคลตำมข้อ ๔๕ และข้อ ๔๖ บันทึกถ้อยคำแทนกำรสืบพยำนบุคคล
ของผู้ให้ ถ้อยคำซึ่งอยู่ต่ำงประเทศตำมข้อ ๔๗ กำรวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยำนหลักฐำนบั นทึกถ้อยคำ
ที่ผู้ให้ถ้อยคำมิได้มำศำลตำมข้อ ๔๘ กำรสืบพยำนบุคคลโดยระบบกำรประชุมทำงจอภำพตำมข้อ ๔๙
และกำรด ำเนิ น กระบวนพิ จ ำรณำด้ ว ยวิ ธี พิ จ ำรณำคดี ท ำงอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ต ำมข้ อ ๕๕ มำใช้ แ ก่
กำรพิจำรณำตำมข้อ ๒๘ และข้อ ๒๙ โดยอนุโลม
เอกสำรภำษำต่ำงประเทศ
ข้อ ๓๑ ถ้ำเอกสำรที่ส่งต่อศำลได้ทำขึ้นเป็นภำษำต่ำงประเทศและคู่ควำมตกลงกันว่ำไม่ต้องทำ
ค ำแปลทั้ ง ฉบั บ หรื อ แต่ บ ำงส่ ว น และศำลเห็ น ว่ ำ มิ ใ ช่ พ ยำนหลั ก ฐำนในประเด็ น หลั ก แห่ ง คดี
ศำลจะอนุญำตให้ส่งเอกสำรนั้นเป็นพยำนหลักฐำนต่อศำลโดยไม่ต้องทำคำแปลก็ได้
เมื่อศำลเห็นสมควรเพื่อประโยชน์ในกำรทำคำพิพำกษำหรือคำสั่งโดยจำเลยขำดนัดยื่นคำให้กำร
หรือคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ งขำดนัดพิจำรณำ เมื่อคู่ควำมฝ่ำยที่มำศำลร้องขอส่งเอกสำรที่ทำขึ้นเป็น
ภำษำต่ำงประเทศโดยไม่ต้องทำคำแปลทั้งฉบับหรือแต่บำงส่วน และศำลเห็นว่ำมิใช่พยำนหลักฐำน
ในประเด็ น หลั กแห่ ง คดี ศำลจะอนุ ญ ำตให้ส่ ง เอกสำรนั้ นเป็ นพยำนหลั ก ฐำนต่อ ศำลโดยไม่ต้ องทำ
คำแปลก็ได้
ข้อ ๓๒ เมื่ อ ศำลเห็ น สมควรเพื่ อ ประโยชน์ แ ห่ ง ควำมยุ ติ ธ รรม จ ำเป็ น ต้ อ งรั บ ฟั ง เอกสำร
ที่ทำขึ้นเป็นภำษำต่ำงประเทศอันเกี่ยวกับประเด็นในคดี ศำลจะพิจำรณำถึงเนื้อหำตำมกฎ ระเบียบ
หรื อ ประกำศเกี่ ย วกับทรัพ ย์ สิ น ทำงปัญ ญำหรื อกำรค้ ำระหว่ำงประเทศ หรื อ กำรอนุญำโตตุลำกำร
หรือแนวปฏิบัติทำงกำรค้ำระหว่ำงประเทศที่ทำขึ้นเป็นภำษำต่ำงประเทศแทนคำแปลที่คู่ควำมอ้ำงส่งก็ได้
ข้อ ๓๓ เมื่อศำลเห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม จำเป็นต้องรับฟังควำมตกลง
ระหว่ำงประเทศที่มีผลผูกพันกับประเทศไทยเพื่อวินิจฉัยข้อกฎหมำยสำคัญในคดี ศำลจะนำควำมตกลง
ระหว่ำงประเทศดังกล่ำวมำใช้ประกอบกำรตีควำม อธิบำยควำม หรือทำคำพิพำกษำหรือคำสั่งวินิจฉัย
หนา้ ๓๓
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ชี้ขำดคดีในประเด็นข้อใดแห่งคดีก็ได้ ไม่ว่ำคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทุกฝ่ำยจะอ้ำงส่งคำแปลต่อศำล
ทั้งฉบับหรือแต่บำงส่วนหรือไม่ก็ตำม
กำรพิจำรณำลับและกำรห้ำมโฆษณำ
ข้อ ๓๔ เพื่อควำมเหมำะสม หรือเพื่อคุ้มครองควำมลับทำงกำรค้ำ หรืออุตสำหกรรม หรือ
สิทธิในทรัพย์สินทำงปัญญำอื่น หรือเพื่อรักษำชื่อเสียงของคู่ควำมหรือบุคคลที่สำม หรือเพื่อมิให้เกิด
ควำมเสียหำยแก่ธุรกิจกำรค้ำของคู่ควำม คู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งอำจมีคำขอเพื่อให้ศำลมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
(๑) ห้ำมสำธำรณชนเข้ำฟังกำรพิจำรณำทั้งหมดหรือแต่บำงส่ว นแล้วดำเนินกำรพิจำรณำไป
โดยไม่เปิดเผย หรือ
(๒) ห้ำมโฆษณำข้อเท็จจริงหรือพฤติกำรณ์ต่ำง ๆ เกี่ยวกับคดี
ไม่ ว่ ำ ศำลจะได้ มี ค ำสั่ ง ดั ง กล่ ำ วหรื อ ไม่ ค ำสั่ ง หรื อ ค ำพิ พ ำกษำชี้ ข ำดคดี ข องศำลต้ อ งอ่ ำ น
ในศำลโดยเปิดเผย และมิให้ถือว่ำกำรโฆษณำทั้งหมดหรือแต่บำงส่วนแห่งคำสั่งหรื อคำพิพำกษำ หรือ
ย่อเรื่องแห่งคำสั่งหรือคำพิพำกษำโดยเป็นกลำงและถูกต้องเป็นกำรผิดกฎหมำย
กำรบันทึกคำเบิกควำมของพยำน
ข้อ ๓๕ ศำลอำจมอบให้เจ้ำหน้ำที่ศำลเป็นผู้บันทึกคำเบิกควำมพยำนและอ่ำนคำเบิกควำมนั้น
ให้พยำนฟังแทนก็ได้
ข้อ ๓๖ ศำลอำจกำหนดให้มีกำรบันทึกกำรเบิกควำมพยำน โดยใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือ
หรือวัสดุห รือโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิ กส์ หรือระบบในกำรบันทึกเสียงหรือภำพและเสียง หรือ
ระบบบันทึกภำพและเสียงในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่ำทั้งหมดหรือบำงส่วน โดยไม่ต้องบันทึก
ค ำเบิ ก ควำมพยำนแบบเก็ บใจควำมส ำคั ญอีก และให้ ถือว่ ำเสีย ง หรื อ ภำพและเสี ย งคำเบิกควำม
ของพยำนที่ บั นทึ กไว้ นั้ น เป็ นค ำเบิ กควำมของพยำนโดยไม่ ต้ องจั ดพิ มพ์ เป็ นเอกสำรเพื่ ออ่ ำนให้ พยำน
หรือคู่ควำมฟัง
ห้ ำ มมิ ใ ห้ คู่ ค วำมหรื อ บุ ค คลใดบั น ทึ ก เผยแพร่ หรื อ แพร่ เ สี ย งแพร่ ภ ำพ ภำพหรื อ เสี ย ง
คำเบิกควำมพยำนโดยไม่ได้รับอนุญำตจำกศำล
คู่ควำมหรือพยำนอำจร้องขอต่อศำลไม่ว่ำเวลำใดในระหว่ำงหรือภำยหลังกำรพิจำรณำเพื่อตรวจ
สื่ อ บั น ทึ ก ค ำเบิ ก ควำมพยำนตำมวรรคหนึ่ ง โดยให้ ก ระท ำในศำลและอยู่ ใ นควำมควบคุ ม ดู แ ล
ของเจ้ำหน้ำที่ศำล แต่ทั้งนี้ ห้ำมมิให้อนุญำตให้คู่ ควำมหรือพยำนตรวจสื่อบันทึกข้อมูลคำเบิกควำม
พยำนฝ่ำยตนจนกว่ำจะได้สืบพยำนฝ่ำยตนจนเสร็จแล้ว และห้ำมมิให้คู่ควำมหรือพยำนบันทึกภำพ
และเสียงหรือทำซ้ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
เมื่อศำลกำหนดให้ มีกำรบัน ทึกคำเบิกควำมของพยำนโดยใช้อุป กรณ์หรือเครื่องมือ ในกำร
บั น ทึ ก เสี ย ง หรื อ ภำพและเสี ย งในรู ป แบบข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ให้ ศ ำลแจ้ ง คู่ ค วำมและพยำน
ทรำบล่วงหน้ำก่อนวันสืบพยำนปำกนั้น เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นอันไม่อำจก้ำวล่วงได้ ให้เป็นหน้ำที่
ของเจ้ำหน้ำที่ศำลในกำรจัดเตรียมระบบและทดสอบให้พร้อมใช้งำนและควบคุมดูแลให้ระบบทำงำน
หนา้ ๓๔
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ด้ ว ยควำมเรี ย บร้ อ ย เมื่ อ บั น ทึ ก ค ำเบิ ก ควำมพยำนบุ ค คลปำกใดโดยวิ ธี ก ำรดั ง กล่ ำ วเสร็ จ สิ้ น แล้ ว
ให้ศำลจัดให้คู่ควำมและพยำนลงลำยมือชื่อรับรองว่ำตนเป็นผู้ให้ถ้อยคำตำมที่มีกำรบันทึกไว้โดยศำล
ไม่จำต้องจัดให้มีกำรถอดควำมบันทึกคำเบิกควำมของพยำนเป็นหนังสืออีก ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นหรือ
มีเหตุขัดข้องทำให้ไม่อำจดำเนินกำรสืบพยำนปำกนั้นด้วยวิธีกำรดังกล่ำวจนเสร็จสิ้น ศำลอำจสืบพยำน
ต่อไปโดยใช้วิธีกำรบันทึกถ้อยคำพยำนแบบเก็บใจควำมสำคัญแล้วให้คู่ควำมและพยำนลงลำยมือชื่อไว้
เป็นสำคัญ
ถ้ ำ ควำมปรำกฏภำยหลัง ว่ำ เสี ย ง หรื อ ภำพและเสี ย ง หรื อ ข้ อ มู ล อิเ ล็ กทรอนิ กส์ คำเบิก
ควำมพยำนที่บันทึกไว้ดังกล่ำวเกิดเสียหำยทั้งหมดหรือบำงส่วนอันเป็นอุปสรรคต่อกำรชี้ขำดตัดสินคดี
เมื่ อ ศำลเห็ น สมควรหรือคู่ควำมฝ่ำ ยใดฝ่ ำยหนึ่งร้อ งขอ ศำลอำจดำเนินกำรสื บพยำนโดยใช้วิธีกำร
ตำมวรรคหนึ่งอีกครั้งหนึ่ง หรือมีคำสั่งอย่ำงอื่นตำมที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม
เพื่อประโยชน์แก่กำรพิจำรณำคดี กำรทำคำพิพำกษำ และกำรอุทธรณ์หรือฎีกำ เมื่อศำล
เห็ น สมควร ศำลอำจสั่งให้ เจ้ ำหน้ ำที่ ศำลจัด ท ำสรุป คำเบิก ควำมแบบเก็บใจควำมสำคัญของพยำน
จำกเสียงหรือภำพและเสียงที่ได้บันทึกไว้ หรืออำจจะสรุปคำเบิกควำมดังกล่ำวทันทีในขณะที่พยำน
เบิกควำมแล้วให้เจ้ำหน้ำที่จัดพิมพ์ขึ้นโดยเร็วในภำยหลังก็ได้ โดยมิให้ถือว่ำสรุปคำเบิกควำมดังกล่ำว
เป็นบันทึกคำเบิกควำมของพยำนนั้น ทั้งนี้ คู่ควำมหรือพยำนอำจขอตรวจดูและคัดถ่ำยสรุปคำเบิกควำม
ของพยำนดั ง กล่ ำ วนั้ น ได้ ภ ำยใต้ บั ง คั บ บทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง กฎหมำยเกี่ ย วกั บ กำรตรวจเอกสำรและ
กำรคัดถ้อยคำพยำน แต่จะไม่จัดให้มีกำรถอดควำมเสียงคำเบิกควำมพยำนที่บันทึกไว้ดังกล่ำวอีก
หมวด ๓
พยำนหลักฐำน

กำรกำหนดแนวทำงกำรดำเนินคดี
ข้อ ๓๗ ภำยใต้บังคับบทบัญญัติมำตรำ ๑๘๓ และมำตรำ ๑๘๓ ทวิ แห่งประมวลกฎหมำย
วิธีพิจำรณำควำมแพ่ง ก่อนมีกำรสืบพยำนศำลอำจสั่งให้คู่ควำมทุกฝ่ำยมำศำลเพื่อกำหนดแนวทำง
กำรดำเนินคดี เช่น
(๑) ไกล่เกลี่ยเพื่อให้เกิดกำรประนีประนอมยอมควำมหรือนำวิธีกำรอนุญำโตตุลำกำรมำใช้
(๒) กำหนดระยะเวลำทั้งหมดในกำรดำเนินคดี
(๓) กำหนดวัน เวลำ วิธีกำร และขั้นตอนในกำรดำเนินคดีที่จำเป็น เช่น จำนวนและ
รำยละเอียดเกี่ยวกับพยำนที่จะนำมำเบิกควำม บันทึกถ้อยคำแทนกำรสืบพยำนบุคคล พยำนผู้เชี่ยวชำญ
พยำนเอกสำร และพยำนหลักฐำนที่ต้องกำรให้ศำลเรียกจำกคู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งหรือบุคคลภำยนอก
รวมทั้งกำรเดินเผชิญสืบและกำรสืบพยำนบุคคลโดยระบบกำรประชุมทำงจอภำพไปยังศำลอื่น หรือ
กำรนั่งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
หนา้ ๓๕
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
(๔) กำหนดรำยละเอียดและระยะเวลำเกี่ยวกับกำรทดลองทำงเทคนิค หรือวิทยำศำสตร์
เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดี
(๕) ก ำหนดตั ว ผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชำญตำมมำตรำ ๓๑ แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ จั ด ตั้ง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
กำรเปิดเผยพยำนหลักฐำน
ข้อ ๓๘ เมื่อศำลเห็นสมควร หรือเมื่อคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งร้องขอ ศำลอำจกำหนดให้ มี
วันเปิดเผยพยำนหลักฐำนในวันนัดชีส้ องสถำนหรือก่อนวันสืบพยำนก็ได้ โดยแจ้งให้คู่ควำมทรำบล่วงหน้ำ
ไม่น้อยกว่ำสิบห้ำวัน
ในวั น เปิ ด เผยพยำนหลั ก ฐำน ให้ คู่ ค วำมมำศำลและส่ ง พยำนเอกสำร พยำนวั ต ถุ และ
พยำนหลักฐำนซึ่งเป็น ข้อมูลอิเล็กทรอนิ กส์ ทั้งหมดที่อ ยู่ ในควำมครอบครองของตนต่อศำลเพื่ อ เป็ น
พยำนหลักฐำนและให้คู่ควำมอีกฝ่ำยตรวจสอบ เว้นแต่ศำลจะมีคำสั่งเป็นอย่ำงอื่นเนื่องจำกสภำพและ
ควำมจำเป็นแห่งพยำนหลักฐำนนั้นเอง และให้ศำลสอบถำมคู่ควำมเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่คู่ควำม
ยอมรับกัน ทั้งนี้ พยำนหลักฐำนที่คู่ ควำมส่งหรือปัญหำข้อเท็จจริงที่คู่ควำมยอมรับกัน อำจทำให้
ศำลวินิจฉัยประเด็นข้อพิพำทบำงส่วนหรือทั้งหมดได้โดยไม่ต้องสืบพยำนบุคคล หรือทำให้มีกำรสืบพยำนบุคคล
เฉพำะข้อเท็จจริงที่โ ต้แ ย้งกัน ในประเด็น ข้อพิพำท หรือทำให้คู่ควำมสำมำรถตกลงประนีประนอม
ยอมควำมกันในข้อที่พิพำท
ถ้ำพยำนเอกสำร พยำนวัตถุ หรือพยำนหลักฐำนซึ่งเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ใดอยู่ในควำม
ครอบครองของคู่ ควำมฝ่ำ ยอื่น หรือ ของบุ คคลภำยนอก ให้ คู่ ค วำมที่ ประสงค์จ ะอ้ำ งพยำนเอกสำร
พยำนวั ตถุ หรื อพยำนหลั กฐำนซึ่ งเป็ นข้ อมู ลอิ เล็ กทรอนิ กส์ นั้ นเป็ นพยำนหลั กฐำน ขอให้ ศำลมี ค ำสั่ งเรี ยก
พยำนหลั ก ฐำนดั ง กล่ ำ วมำจำกผู้ ค รอบครองโดยยื่ น ค ำร้ อ งต่ อ ศำลก่ อ นวั น เปิ ด เผยพยำนหลั ก ฐำน
ไม่น้อยกว่ำเจ็ดวัน ในกรณีที่คู่ควำมฝ่ำยใดขอยื่นบัญชีระบุพยำนเพิ่มเติมให้ยื่นคำร้องขอให้ศำลมีคำสั่ง
เรียกพยำนหลักฐำนพร้อมกับกำรยื่นคำแถลงหรือคำร้อ งตำมข้อ ๔๐ วรรคสองหรือวรรคสำม และให้
คู่ควำมฝ่ำยนั้นมีหน้ำที่ติดตำมเพื่อให้ได้พยำนเอกสำร พยำนวัตถุ หรือพยำนหลักฐำนซึ่งเป็นข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์มำก่อนวันนัดเปิดเผยพยำนหลักฐำนหรือภำยในเวลำที่ศำลกำหนด
ข้อ ๓๙ ห้ ำ มมิ ใ ห้ ศ ำลรั บฟั ง พยำนเอกสำร พยำนวั ต ถุ หรื อ พยำนหลั กฐำนซึ่ง เป็น ข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคู่ควำมฝ่ำยใดไม่ได้ส่งต่อศำลตำมข้อ ๓๘ วรรคสอง หรือไม่ได้ขอให้ศำลมีคำสั่งเรียก
ตำมข้อ ๓๘ วรรคสำม เว้นแต่ศำลเห็นว่ำเป็นกรณีเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม หรือกำรไม่ปฏิบัติ
ดั ง กล่ ำวมิ ไ ด้เป็น ไปโดยจงใจท ำให้ คู่ค วำมอี ก ฝ่ำ ยเสีย เปรีย บ ให้ ศ ำลมีอำนำจรับฟั งพยำนหลักฐำน
เช่นว่ำนั้นประกอบพยำนหลักฐำนอื่นได้
ถ้ ำ คู่ ค วำมทุ ก ฝ่ ำ ยไม่ ม ำศำลในวั น เปิ ด เผยพยำนหลั ก ฐำน ให้ ศ ำลมี ค ำสั่ ง จ ำหน่ ำ ยคดี นั้ น
เสียจำกสำรบบควำม
หนา้ ๓๖
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ในกรณีที่คู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งไม่มำศำลในวันเปิดเผยพยำนหลักฐำน ให้ศำลดำเนิน กระบวน
พิจำรณำต่อไปและถือว่ำข้อเท็จจริงแห่งข้ออ้ำงที่คู่ควำมฝ่ำยที่มำศำลจะต้องนำสืบโดยพยำนหลักฐำน
ที่ส่งต่อศำลนั้น คู่ควำมฝ่ำยที่ไม่มำศำลได้ยอมรับข้อเท็จจริงนั้นแล้ว
ข้อ ๔๐ ในกรณีที่ศำลกำหนดให้มีวันเปิดเผยพยำนหลักฐำน ให้คู่ควำมยื่นบัญชีระบุพยำน
ต่อศำลก่อนวันเปิดเผยพยำนหลักฐำนไม่นอ้ ยกว่ำเจ็ดวัน โดยให้นำมำตรำ ๘๘ วรรคหนึ่ง แห่งประมวล
กฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม
ถ้ำคู่ควำมฝ่ำยใดมีควำมจำนงจะยื่นบัญชีระบุพยำนเพิ่มเติม ให้ยื่นคำแถลงขอระบุพยำน
เพิ่มเติมต่อศำลพร้อมกับบัญชีระบุพยำนเพิ่มเติมและสำเนำบัญชีระบุพยำนเพิ่มเติมดังกล่ำวได้ก่อน
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำเปิดเผยพยำนหลักฐำนเสร็จสิ้น
เมื่อระยะเวลำที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยำนตำมวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้วแต่กรณีได้สิ้นสุด
ลงแล้ ว คู่ ค วำมอำจยื่ น ค ำร้ อ งขออนุ ญ ำตยื่ น บั ญ ชี ร ะบุ พ ยำนโดยให้ น ำมำตรำ ๘๘ วรรคสำม
แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๔๑ ให้ คู่ ค วำมฝ่ ำ ยที่ อ้ ำ งอิ ง เอกสำรหรื อ ข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ เ ป็ น พยำนหลั ก ฐำน
เพื่อสนับสนุนข้ออ้ำงหรือข้อเถียงของตนตำมข้อ ๔๐ วรรคหนึ่ง ยื่นต่อศำลและส่งให้คู่ควำมฝ่ำยอื่น
ซึ่ ง ส ำเนำเอกสำรหรื อ ส ำเนำสื่ อ ที่ บั น ทึ ก ข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ นั้ น ก่ อ นวั น เปิ ด เผยพยำนหลั ก ฐำน
ไม่น้อยกว่ำเจ็ดวัน
ในกรณีที่คู่ควำมฝ่ำยใดยื่นคำแถลงหรือคำร้องขออนุญำตอ้ำงอิงเอกสำรหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
เป็น พยำนหลักฐำนตำมข้อ ๔๐ วรรคสอง หรือวรรคสำม ให้ยื่นต่อศำลและส่งให้คู่ ควำมฝ่ำยอื่น
ซึ่งสำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น พร้อมกับกำรยื่นคำแถลงหรือคำร้อง
ดังกล่ำว เว้นแต่ศำลจะอนุญำตให้ยื่นสำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ภำยหลัง
เมื่อมีเหตุอันสมควร
กำรส่งสำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อที่ บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อศำลและคู่ควำมฝ่ำยอื่น
ตำมวรรคหนึ่ งและวรรคสองอำจจัดทำเป็นเอกสำรในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งสำมำรถเข้ำถึง
ได้ผ่ำนทำงคิวอำร์โคดแนบท้ำยคำแถลงหรือคำร้อง
ก่อนวันเปิดเผยพยำนหลักฐำน หำกคู่ควำมฝ่ำยใดแจ้งต่อศำลว่ำไม่สำมำรถเข้ำถึ งเอกสำร
หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และศำลมีคำสั่งให้ส่งสำเนำเอกสำรในรูปแบบ
กระดำษ หรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้คู่ควำมที่มีหน้ำที่ส่งสำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อ
ที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จัดทำสำเนำเอกสำรในรูปแบบกระดำษ หรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งให้แก่คู่ควำมอีกฝ่ำย
ในกรณีที่มีกำรจัดทำสิ่งพิมพ์ออกจำกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่ำสิ่งพิมพ์ดังกล่ำวเป็นต้นฉบับ
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
หนา้ ๓๗
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ให้ถือว่ำสำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ท้ำยคำฟ้องหรือคำให้กำร
เป็นกำรยื่นสำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อศำล และส่งสำเนำเอกสำรหรือ
สำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้คู่ควำมฝ่ำยอื่น และให้นำมำตรำ ๙๐ วรรคสำม และวรรคสี่
แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บั งคับโดยอนุโลม สำหรับกรณีที่คู่ควำมฝ่ำยที่อ้ำงอิง
พยำนหลักฐำนไม่ต้องยื่นสำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อศำล และไม่ต้องส่ง
สำเนำเอกสำรหรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้คู่ควำมฝ่ำยอื่น
ข้อ ๔๒ กรณี คู่ ค วำมไม่ ไ ด้แ สดงควำมจ ำนงที่ จ ะอ้ำ งอิ ง พยำนหลั ก ฐำนตำมข้ อ ๔๐ และ
ข้อ ๔๑ ให้นำมำตรำ ๘๗ (๒) แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม
กำรคืนพยำนหลักฐำน
ข้อ ๔๓ พยำนหลักฐำนที่ศำลได้มีคำสั่งเรียกหรือคู่ควำมได้ส่ง ถ้ำคู่ควำมผู้ส่งหรือผู้ครอบครอง
มีควำมจำเป็นต้องใช้ หรือมีควำมสำคัญในกำรเก็บรักษำ หรือถ้ำกำรเก็บรักษำไว้ที่ศำลจะเป็นกำร
ไม่สะดวก ศำลจะให้คู่ควำมผู้ส่งหรือผู้ครอบครองรับพยำนหลักฐำนคืนไปโดยให้คู่ควำมอีกฝ่ำยตรวจ
และให้ คู่ ค วำมผู้ ส่ ง หรื อ ผู้ ค รอบครองส่ ง ส ำเนำหรื อ ภำพถ่ ำ ยไว้ แ ทน หรื อ จะมี ค ำสั่ ง อย่ ำ งใดตำมที่
เห็นสมควรก็ได้
กำรทบทวนควำมจำของพยำน
ข้อ ๔๔ ภำยใต้บังคับบทบัญญัติมำตรำ ๑๑๓ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง
เมื่ อ พยำนเบิ ก ควำมถึ ง ข้ อ เท็ จ จริ ง ในรำยละเอี ย ดของข้ อ เท็ จ จริ ง ใดแห่ ง คดี ซึ่ ง พยำนไม่ ส ำมำรถ
จ ำข้ อ เท็ จ จริ ง อั น เป็ น รำยละเอี ย ดนั้ น ได้ ทั้ ง หมด พยำนอำจดู บั น ทึ ก ทบ ทวนควำมจ ำของพยำน
ประกอบกำรเบิกควำมโดยได้รับอนุญำตจำกศำล
คู่ ควำมอี กฝ่ ำยหนึ่ งอำจร้ องขอต่ อศำลเพื่ อตรวจดู บั นทึ กทบทวนควำมจ ำของพยำนดั งกล่ ำวได้
เมื่อพยำนเบิกควำมเสร็จ และหำกศำลเห็นสมควรอำจรวมบันทึกทบทวนควำมจำของพยำนนั้นไว้
ในสำนวนก็ได้
กำรเสนอบันทึกถ้อยคำในกำรสืบพยำนบุคคล
ข้อ ๔๕ เมื่อศำลเห็ น สมควร หรือเมื่อคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทุกฝ่ำยแถลงขอต่อศำล
ก่อนวันสืบพยำนบุคคลนั้น ศำลอำจมีคำสั่งให้คู่ควำมเสนอบันทึกถ้อยคำทั้งหมดหรือแต่บำงส่วนก็ได้
ให้ศำลพิจำรณำกำหนดระยะเวลำที่คู่ควำมจะต้องยื่นบันทึกถ้อยคำตำมวรรคหนึ่งต่อศำลและ
ส่งสำเนำบันทึกถ้อยคำนั้นให้คู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งด้วยวิธีกำรที่คู่ควำมตกลงกันโดยควำมเห็นชอบของศำล
เมื่อมีกำรยื่นบันทึกถ้อยคำต่อศำล ให้ถือว่ำบันทึกถ้อยคำดังกล่ำวเป็นพยำนหลักฐำนในคดีแล้ว คู่ควำมที่ยื่น
ไม่อำจขอถอนบันทึกถ้อยคำนั้น หรือยื่นบันทึกถ้อยคำเพิ่มเติมหรือซักถำมเพิ่มเติมสำหรับพยำนปำกนั้น
เว้นแต่จะได้รับอนุญำตจำกศำล ถ้ำคู่ควำมฝ่ำยใดได้รับอนุญำตให้ยื่นบันทึกถ้อยคำหรือซักถำมพยำน
เพิ่มเติม คู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งย่อมถำมค้ำนพยำนได้อีกในข้อที่เกี่ยวกับบันทึกถ้อยคำหรือคำซักถำมเพิ่มเติมนั้น
หนา้ ๓๘
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ให้ผู้ให้ถ้อยคำมำศำลเพื่อเบิกควำมตอบคำถำมค้ำนและคำถำมติงของคู่ควำม หำกผู้ให้ถ้อยคำ
ไม่ ม ำศำล ให้ ศ ำลปฏิ เ สธที่ จ ะรั บ ฟั ง บั น ทึ ก ถ้ อ ยค ำของผู้ นั้ น เป็ น พยำนหลั ก ฐำนในคดี แต่ ถ้ ำ ศำล
เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม จะรับฟังบันทึกถ้อยคำที่ผู้ให้ถ้อยคำมิได้มำศำลนั้นประกอบ
พยำนหลักฐำนอื่นก็ได้
ในกรณีที่คู่ควำมตกลงกันให้พยำนผู้ให้ถ้อยคำไม่ต้องมำศำล หรือคู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งไม่ติดใจ
ถำมค้ำนพยำน ให้ศำลรับฟังบันทึกถ้อยคำดังกล่ำวเป็นพยำนหลักฐำนในคดี
เมื่อศำลเห็นว่ำคู่ควำมไม่ยื่นบันทึกถ้อยคำตำมกำหนดระยะเวลำตำมวรรคสองเพื่อประวิงคดี
ให้ชักช้ำ หรือเอำเปรียบคู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งซึ่งยื่นบันทึกถ้อยคำภำยในกำหนดระยะเวลำแล้ว ให้ศำล
มี อ ำนำจงดกำรสื บ พยำนบุ ค คลเช่ น ว่ ำ นั้ น ได้ แต่ ถ้ ำ ศำลเห็ น ว่ ำ ค ำเบิ ก ควำมของพยำนบุ ค คลนั้ น
เป็นข้อสำคั ญในกำรวินิ จฉัยชี้ขำดคดี หรือเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรมเป็นกำรจำเป็นที่จะต้องสืบพยำน
บุคคลเช่นว่ำนั้น ศำลจะรับบันทึกถ้อยคำที่ยื่นเกินกำหนดระยะเวลำดังกล่ำวและให้ผู้ให้ถ้อยคำตอบ
คำถำมค้ำนและถำมติงของคูค่ วำมต่อไป หรืออนุญำตให้ซกั ถำม ถำมค้ำน และถำมติงพยำนต่อหน้ำศำล
ต่อไปก็ได้
ข้อ ๔๖ บันทึกถ้อยคำตำมข้อ ๔๕ ให้มีรำยกำร ดังต่อไปนี้
(๑) ชื่อศำล และเลขคดี
(๒) วัน เดือน ปี และสถำนที่ที่ทำบันทึกถ้อยคำ
(๓) ชื่อและสกุลของคู่ควำม
(๔) ชื่อ สกุล อำยุ ที่อยู่ อำชีพ ของผู้ให้ถ้อยคำและควำมเกีย่ วพันกับคู่ควำมของผู้ให้ถ้อยคำ
(๕) รำยละเอียดแห่งข้อเท็จจริงและหรือควำมเห็นของผู้ให้ถ้อยคำ
(๖) ลำยมือชื่อของผู้ให้ถ้อยคำและคู่ควำมฝ่ำยผู้เสนอบันทึกถ้อยคำ
(๗) ลำยมือชื่อของล่ำมผู้แปลบันทึกถ้อยคำเป็นภำษำไทย (หำกมี)
ห้ำมมิให้แก้ไขเพิ่มเติมบันทึกถ้อยคำที่ได้ยื่นไว้แล้วต่อศำล เว้นแต่เป็นกำรแก้ไขข้อผิดพลำดหรือ
ผิดหลงเล็กน้อย
บันทึกถ้อยคำแทนกำรสืบพยำนบุคคลของผู้ให้ถ้อยคำซึ่งอยู่ต่ำงประเทศ
ข้อ ๔๗ เมื่อคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือ ทุกฝ่ำ ยมีค ำขอและศำลเห็น สมควรเพื่ อประโยชน์
แห่ ง ควำมยุ ติ ธ รรม ศำลอำจอนุ ญ ำตให้ เ สนอต่ อ ศำลซึ่ ง บั น ทึ ก ถ้ อ ยค ำของผู้ ใ ห้ ถ้ อ ยค ำซึ่ ง มี ถิ่ นที่ อยู่
ในต่ำงประเทศ โดยผู้ให้ถ้อยคำไม่ต้องมำเบิกควำมเป็นพยำนต่อหน้ำศำล ทั้งนี้ บันทึกถ้อยคำดังกล่ำว
ให้เป็นไปตำมที่ระบุในข้อ ๔๖ หรือตำมกฎหมำยของประเทศที่บันทึกถ้อยคำนั้นได้ทำขึ้น
กำรวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยำนหลักฐำนบันทึกถ้อยคำที่ผู้ให้ถ้อยคำมิได้มำศำล
ข้อ ๔๘ ในกำรวินิจฉัยว่ำบันทึกถ้อยคำที่ผู้ให้ถ้อยคำมิได้มำศำลมีน้ำหนักให้เชื่อฟังได้หรือไม่
และเพียงใดนั้น ศำลต้องกระทำด้วยควำมระมัดระวัง โดยคำนึงถึงสภำพ ลักษณะ และแหล่งที่มำ
ของบันทึกถ้อยคำนั้นด้วย
หนา้ ๓๙
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
กำรสืบพยำนบุคคลโดยระบบกำรประชุมทำงจอภำพ
ข้อ ๔๙ เมื่อศำลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทุกฝ่ำยมีคำขอ ศำลอำจมี
คำสั่งให้สืบพยำนบุคคลโดยระบบกำรประชุมทำงจอภำพ โดยให้คู่ควำมฝ่ำยที่อ้ำงพยำนหรือมีคำขอ
เป็นผู้ออกค่ำใช้จ่ำย หำกมี และไม่ให้ถือว่ำค่ำใช้จ่ำยนั้นเป็นค่ำฤชำธรรมเนียมในกำรดำเนินกระบวน
พิ จ ำรณำซึ่ง ศำลอำจพิพ ำกษำให้ คู่ค วำมฝ่ ำยอื่ นรับผิด ได้ต ำมมำตรำ ๑๖๑ แห่ งประมวลกฎหมำย
วิธีพิจำรณำควำมแพ่ง
ในกรณี ที่ ไ ม่ มี ห ลั ก เกณฑ์ แ ละวิ ธี ก ำรที่ ศ ำลก ำหนดเกี่ ย วกั บ กำรด ำเนิ น กระบวนพิ จ ำรณำ
ตำมวรรคหนึ่ง ให้นำหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่กำหนดไว้ในระเบียบรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม
ข้ อก ำหนดหรือข้อบั งคับของประธำนศำลฎีกำ และประกำศส ำนักงำนศำลยุ ติธรรมเกี่ยวกั บกำรพิ จำรณำคดี
โดยระบบกำรประชุมทำงจอภำพมำใช้บังคับโดยอนุโลม
เมื่อศำลเห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรมจำเป็นต้องออกนั่งพิจำรณำคดีในขั้นตอนใด
นอกเหนื อ จำกกำรสื บพยำนและกำรอ่ำ นค ำพิ พ ำกษำหรือ คำสั่ งให้ คู่ค วำมฟั ง โดยระบบกำรประชุม
ทำงจอภำพ ให้ดำเนินกำรได้ตำมควำมในข้อนี้โดยอนุโลม
กำรสืบพยำนตำมวรรคหนึ่งและกำรดำเนินกระบวนพิจำรณำตำมวรรคสำมให้ถือ เสมือนว่ำเป็น
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำในห้องพิจำรณำของศำล
พยำนหลักฐำนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๕๐ คู่ควำมที่ประสงค์จะอ้ำงอิงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยำนหลักฐำนจะต้องระบุข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ที่จะอ้ำงไว้ในบัญชีระบุพยำนตำมมำตรำ ๘๘ แห่งประมวลกฎหมำยวิธพี ิจำรณำควำมแพ่ง
พร้อมสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลนั้นในจำนวนที่เพียงพอเพื่อให้คู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่งมำรับไปจำกเจ้ำหน้ำทีศ่ ำล
เว้นแต่
(๑) สื่อที่บันทึกข้อมูลนั้นอยู่ในควำมครอบครองของคู่ควำมฝ่ำยอื่น หรือของบุคคลภำยนอก
ให้คู่ควำมฝ่ำยที่อ้ำงอิง ข้อมูลยื่นคำร้องต่อศำลขออนุญำตงดส่งสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูล และขอให้ศำล
มี ค ำสั่ ง เรี ย กสื่ อ ที่ บั น ทึ ก ข้ อ มู ล นั้ น มำจำกผู้ ค รอบครองโดยให้ คู่ ค วำมฝ่ ำ ยที่ อ้ ำ งนั้ น มี ห น้ ำ ที่ ติ ด ตำม
เพื่อให้ได้สื่อที่บันทึกข้อมูลนั้นมำส่งศำลก่อนวันสืบพยำน หรือในวันอื่นตำมที่ศำลเห็นสมควรกำหนด
(๒) ถ้ำกำรทำสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลนั้น จะทำให้กระบวนพิจำรณำล่ำช้ำหรือเป็นที่เสื่อมเสีย
แก่คู่ควำมซึ่งอ้ำงอิงข้อมูลนั้น หรือมีเหตุผลแสดงว่ำไม่อำจส่งสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลนั้นให้แล้วเสร็จ
ภำยในเวลำตำมที่กำหนดได้ ให้คู่ควำมฝ่ำยที่อ้ำงอิงข้อมูลยื่ นคำร้องต่อศำลขออนุญำตงดส่งสำเนำสื่อ
ที่บันทึกข้อมูลและขอนำสื่อที่บันทึกข้อมูลนั้นมำส่งศำลก่อนวันสืบพยำนตำมที่ศำลเห็นสมควรกำหนด
ถ้ำคู่ควำมฝ่ำยที่อ้ำงอิงไม่สำมำรถนำสื่อที่บันทึกข้อมูลนั้นมำส่งศำลได้ภำยในเวลำตำมวรรคหนึ่ง
ศำลจะกำหนดให้ทำกำรตรวจข้อมูลดังกล่ำว ณ สถำนที่ เวลำ และภำยในเงื่อนไขตำมที่ศำลเห็นสมควร
แล้วแต่สภำพแห่งข้อมูลนั้น ๆ ก็ได้
หนา้ ๔๐
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ถ้ำคู่ควำมที่ประสงค์จะอ้ำงอิงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตำมควำมในวรรคหนึ่ง
หรือวรรคสอง ห้ำมมิให้ศำลรับฟังข้อมูลนั้นเป็นพยำนหลักฐำน แต่ถ้ำศำลเห็นว่ำเพื่อประโยชน์แห่งควำม
ยุติธรรมจะรับฟังข้อมูลเช่นว่ำนั้นเป็นพยำนหลักฐำนประกอบพยำนหลักฐำนอื่นด้วยก็ได้
ข้อ ๕๑ คู่ควำมฝ่ำยที่ถูกอีกฝ่ำยหนึ่งอ้ำงอิงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มำเป็นพยำนหลักฐำนยันตน
อำจคั ด ค้ ำ นกำรอ้ ำ งข้ อ มู ล นั้ น ก่ อ นสื บ พยำนข้ อ มู ล ดั ง กล่ ำ วเสร็ จ โดยเหตุ ที่ ว่ ำ สื่ อที่ บั น ทึ ก ข้ อ มู ล
อิเล็กทรอนิกส์นั้นปลอม หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นปลอมหรือไม่ถูกต้องทั้งหมดหรือบำงส่วน หรือ
สำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่ถูกต้องทั้งหมดหรือบำงส่วน เว้นแต่จะแสดงให้เป็นที่พอใจ
แก่ศำลว่ำมีเหตุอันสมควรที่ไม่อำจทรำบเหตุแห่งกำรคัดค้ำนได้ก่อนเวลำดังกล่ำว คู่ควำมฝ่ำยนั้นอำจยื่น
คำร้องขออนุญำตคัดค้ำนกำรอ้ำงข้อมูล สื่อหรือสำเนำสื่อที่บันทึกข้อมูลเช่นว่ำนั้นต่อศำลไม่ว่ำเวลำใด ๆ
ก่อนพิพำกษำคดี และถ้ำศำลเห็นว่ำคู่ควำมฝ่ำยนั้นไม่อำจยกข้อคัดค้ำนได้ก่อนนั้นและคำร้องนั้นมีเหตุผล
ฟังได้ก็ให้ศำลอนุญำตตำมคำร้อง โดยให้นำมำตรำ ๑๒๖ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง
มำใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๕๒ กำรวิ นิ จ ฉั ย ชั่ ง น้ ำหนั ก พยำนหลั ก ฐำนว่ ำ ข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ นั้ น เชื่ อ ถื อ ได้ ห รื อ
ไม่เพียงใด ให้พิเครำะห์ถึงควำมน่ำเชื่อถือของลักษณะหรือวิธกี ำรที่ใช้สร้ำง เก็บรักษำ หรือสื่อสำรข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ ลักษณะหรือวิธีกำรเก็บรักษำ ควำมครบถ้วน และไม่มีกำรเปลี่ยนแปลงของข้อควำม
ลักษณะหรือวิธีกำรที่ใช้ในกำรระบุหรือแสดงตัวผู้ส่งข้อมูล รวมทั้งพฤติกำรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง
กำรตั้งผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญเพื่อทำควำมเห็นเป็นหนังสือ
ข้อ ๕๓ ในกรณี ที่ ศ ำลเห็ น ว่ ำ ควำมเห็ น ของผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชำญที่ มี ค วำมรู้
ควำมสำมำรถ ประสบกำรณ์ กำรฝึกอบรม หรือกำรศึกษำในสำขำวิทยำกำรหรือกำรใด ๆ ที่เกี่ยวกับ
ประเด็นแห่งคดี เช่น ในทำงวิทยำศำสตร์ วิศวกรรม เคมี ชีววิทยำ ฟิ สิกส์ แพทย์ เภสัชกรรม
เทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีชีว ภำพ เทคโนโลยีสำรสนเทศ คอมพิวเตอร์ กำรค้ำและกำรลงทุน
กำรเงิน และกำรบัญชี กำรขนส่ง อุต สำหกรรม เกษตรกรรม ศิลปะ วรรณกรรม หรือกฎหมำย
ต่ำงประเทศ อำจมีประโยชน์ในกำรพิจำรณำพิพำกษำคดี ไม่ว่ำกำรพิจำรณำคดีจะอยู่ในชั้นใด เมื่อศำล
เห็ น สมควรหรื อ เมื่ อ คู่ ค วำมฝ่ ำ ยใดมี ค ำขอ ให้ ศ ำลมี อ ำนำจตั้ ง ผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชำญ
ให้ทำควำมเห็นเป็นหนังสือในสำขำวิทยำกำรหรือกำรใด ๆ เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีตำมที่ศำลกำหนด
โดยไม่ต้องมำเบิกควำมประกอบหนังสือนั้น เว้นแต่ศำลจะมีคำสั่งเป็นอย่ำงอื่น
หำกศำลเห็นว่ำมีควำมจำเป็นหรือควำมเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญยังไม่เพียงพอ
ศำลอำจให้ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญทำควำมเห็นเป็นหนังสือตำมที่ศำลกำหนดเพิ่มเติมได้
ในกำรตั้งผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญ ศำลอำจแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือไปยังส่วนรำชกำร องค์กร
ควบคุมวิชำชีพ องค์กรหรือหน่วยงำน สถำบันวิจัย หรือสถำบันกำรศึกษำของรัฐหรือเอกชน ให้เป็น
ผู้มอบหมำยให้ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญของตนทำควำมเห็นเป็นหนังสือในสำขำวิทยำกำรหรือกำรใด ๆ
เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีตำมที่ศำลกำหนด
หนา้ ๔๑
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
กำรตั้ ง ผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชำญให้ เ ป็ น ดุ ล พิ นิ จ ของศำล แต่ ศ ำลอำจตั้ ง ผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ
หรือผู้เชี่ยวชำญตำมที่คู่ควำมตกลงกันก็ได้
เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิห รือผู้เชี่ยวชำญส่งควำมเห็นเป็นหนังสือตำมวรรคหนึ่ง หรือส่งควำมเห็น
เป็นหนังสือเพิ่มเติมตำมวรรคสองต่อศำลแล้ว ให้ศำลส่งสำเนำควำมเห็นเป็นหนังสือของผู้ทรงคุณวุฒหิ รือ
ผู้เชี่ยวชำญแก่คู่ควำม เมื่อคู่ควำมได้รับสำเนำหนังสือควำมเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญแล้ว
คู่ควำมอำจยื่นคำแถลงหรือส่งควำมเห็นเป็นหนังสือของผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญฝ่ำยต นต่อศำล
ภำยในสำมสิ บ วั น เพื่ อ โต้ แ ย้ ง ควำมเห็ น ของผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชำญที่ ศ ำลตั้ ง โดยไม่ ต้ อ ง
มำเบิกควำมประกอบหนังสือนั้น เว้นแต่ศำลจะมีคำสั่งเป็นอย่ำงอื่น
กำรสืบพยำนหลักฐำนเพิ่มเติมของศำล
ข้อ ๕๔ เมื่ อ ศำลเห็ น ว่ ำ เพื่ อ ประโยชน์ แ ห่ ง ควำมยุ ติ ธ รรมเป็ น กำรจ ำเป็ น ที่ จ ะต้ อ งน ำ
พยำนหลักฐำนอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดี รวมทั้งเอกสำรหรือวัตถุใดที่อยู่ในควำมครอบครองหรือ
กำรดูแลรักษำของคู่ควำมฝ่ำยใดมำสืบเพิ่มเติม ให้ศำลทำกำรสืบพยำนหลักฐำนต่อไป ซึ่งอำจรวมทั้ง
กำรที่จะเรียกพยำนที่สืบแล้วมำสืบใหม่ด้วย โดยไม่ต้องมีฝ่ำยใดร้องขอ
หมวด ๔
วิธีพิจำรณำคดีทำงอิเล็กทรอนิกส์

กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำด้วยวิธีพิจำรณำคดีทำงอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๕๕ กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำด้วยวิธีพิจำรณำคดีทำงอิเล็กทรอนิกส์ของศำลให้เป็นไป
ตำมหลักเกณฑ์ ขั้นตอน วิธีกำร และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้และประกำศหรือระเบียบ
ของศำล ในกรณีที่ไม่มีกำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้และประกำศหรือระเบียบดังกล่ำว ให้นำหลักเกณฑ์
ขั้นตอน วิธีกำร และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อกำหนด หรือข้อบังคับของประธำนศำลฎีกำ ระเบียบรำชกำร
ฝ่ ำ ยตุ ล ำกำรศำลยุ ติ ธ รรม และประกำศส ำนั ก งำนศำลยุ ติ ธ รรมที่ เ กี่ ย วกั บ กำรใช้ วิ ธี พิ จ ำรณำคดี
ทำงอิเล็กทรอนิกส์มำใช้บังคับโดยอนุโลม
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำตำมวรรคหนึ่ง ให้ถือเสมือนว่ำเป็นกำรดำเนินกระบวนพิจำรณำ
ในศำลหรือในห้องพิจำรณำของศำล
กำรยื่น ส่ง รับ คำคู่ควำม หรือเอกสำรทำงระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๕๖ คู่ควำมอำจยื่นคำฟ้องหรือคำร้อง คำให้กำร คำคู่ควำมอื่น ๆ หรือเอกสำรทำงคดีอื่นใด
ต่อศำลทำงระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ได้ตลอดเวลำที่ระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์เปิดใช้งำน
กำรลงทะเบียนเพื่ อใช้ระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ หลักเกณฑ์และวิธีกำรในกำรยื่น ส่ง รับ
หมำยเรียก คำคู่ควำม หรือเอกสำรใด ๆ กำรรับทรำบคำสั่งศำล กำรชำระเงินค่ำธรรมเนียมศำล
และค่ ำ ใช้ จ่ ำ ยในกำรด ำเนิ น คดี ผ่ ำ นระบบดั ง กล่ ำ ว และหลั ก เกณฑ์ อื่ น ใดที่ เ กี่ ย วกั บ ระบบรั บ ส่ ง
หนา้ ๔๒
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
อิเล็กทรอนิกส์ หำกไม่ได้กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้เป็นกำรเฉพำะ ให้บังคับตำมข้อกำหนดของประธำน
ศำลฎีกำ ประกำศสำนักงำนศำลยุติธรรม ประกำศและระเบียบของศำลที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี
กำรยื่นคำฟ้องหรือคำร้อง คำให้กำร คำคู่ควำม หรือเอกสำรทำงคดีตำมวรรคหนึ่ง ให้ถือว่ำ
เสร็จสมบูรณ์ต่อเมื่อได้กรอกข้อมูล แนบเอกสำรและปฏิบัติถูกต้องตำมขั้นตอน และชำระค่ำธรรมเนียมศำล
ถ้ำหำกมี หรือค่ำใช้จ่ำยในกำรดำเนินคดีครบถ้วนตำมขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์
หำกกระทำเสร็จสมบูรณ์นอกเวลำทำกำรปกติหรือนอกวันทำกำรปกติของศำล ให้ถือว่ำเป็ นกำรยื่น
ในเวลำแรกหรื อวั น ท ำกำรแรกที่ ศำลเปิด ทำกำรปกติถั ด ไป ทั้ ง นี้ ให้ ถื อ ตำมเวลำของระบบรับส่ง
อิเล็กทรอนิกส์
ให้คู่ควำมที่ยื่นคำฟ้องหรือคำร้อง คำให้กำร หรือคำร้องในคดีแพ่งซึ่งศำลอำจมีคำสั่งกำหนด
วัน นั ด ไต่สวนทำงระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ แจ้งควำมประสงค์และควำมพร้อมในกำรพิจำรณำคดี
โดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ตำมแบบแจ้งควำมประสงค์ขอพิจำรณำคดีโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์
ที่ ศ ำลประกำศก ำหนดมำพร้ อ มกัน ด้ว ย เพื่ อ เสนอต่ อ ศำลพิ จ ำรณำ หำกศำลเห็ น สมควรให้ มีกำร
นั่งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ตำมควำมในหมวดนี้ต่อไป
ข้อ ๕๗ กำรส่งหมำยนัด หรือเอกสำรทำงคดี หรือกำรแจ้งคำสั่งศำล หรือข้อควำมใดให้แก่
คู่ควำมในคดีแพ่ง หำกคู่ควำมเป็นผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้ระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์และได้ใช้ระบบแล้ว
อำจดำเนินกำรโดยทำงไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศ
ประเภทอื่น โดยให้ถือว่ำคู่ควำมนั้นได้ทรำบข้อควำมนับแต่เวลำที่เอกสำรหรือข้อควำมเช่นว่ำนั้นได้ส่งไป
ถึงคู่ควำมตำมที่อยู่ไ ปรษณีย์อิเล็กทรอนิ กส์ หรือที่อยู่สำหรับติด ต่อทำงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อ
ทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประเภทอื่นที่ได้ลงทะเบียนไว้
กำรนั่งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๕๘ เมื่อศำลเห็นสมควร หรือคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งร้องขอ ศำลอำจกำหนดให้มีกำร
นั่งพิจำรณำในคดีแพ่งทั้งหมดหรือบำงส่วน โดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์สำหรับคู่ควำมทุกฝ่ำยหรือ
ฝ่ำยที่ร้องขอ โดยคำนึงถึงควำมพร้อมของคู่ควำมในกำรเข้ำถึงเทคโนโลยีด้วย
ควำมในวรรคหนึ่ งไม่ ใ ช้ บัง คับแก่ก ำรพิ จ ำรณำลั บและกำรห้ำ มโฆษณำตำมข้อ ๓๔ และ
กำรพิจำรณำโดยไม่เปิดเผยตำมมำตรำ ๓๖ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง
ข้อ ๕๙ กำรร้องขอให้ มีกำรนั่ งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิก ส์ คู่ควำมอำจร้องขอ
ในเวลำที่ยื่นคำคู่ควำมหรือในระหว่ำงกำรพิจำรณำ โดยต้องระบุระบบอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์สื่อสำร
และสถำนที่ที่คู่ควำมหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีจะใช้ระบบมำด้วย
ข้อ ๖๐ กำรนั่ ง พิ จ ำรณำโดยวิ ธี ก ำรทำงอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ต ำมข้ อ ก ำหนดนี้ ให้ ด ำเนิ น กำร
ในห้องพิจำรณำโดยให้ถ่ำยทอดภำพและเสียงของคู่ควำมหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีที่ใช้ระบบอยู่นอกศำล
มำเผยแพร่ในห้องพิจำรณำอย่ำงเปิดเผยผ่ำนทำงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สำมำรถสื่อสำรภำพและเสียง
ได้อย่ำงชัดเจนและต่อเนื่องตำมที่ศำลกำหนด
หนา้ ๔๓
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ให้ ถื อ ว่ ำ บุค คลที่ ไ ด้ด ำเนิ น กระบวนพิ จ ำรณำผ่ ำ นระบบอิ เล็ ก ทรอนิ กส์ ต ำมวรรคหนึ่งได้มำ
ดำเนินกระบวนพิจำรณำที่ศำล
เมื่ อ ถึ ง วั น และเวลำนั ด พิ จ ำรณำหรื อ สื บ พยำน หำกคู่ ค วำมไม่ เ ข้ ำ ร่ วมในกำรพิ จ ำรณำคดี
โดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่มำดำเนินกระบวนพิจำรณำในห้องพิจำรณำของศำล โดยไม่แจ้ง
เหตุ ขั ดข้อง และศำลไม่มี คำสั่ งให้ เลื่อนคดี ให้ ถื อว่ ำคู่ควำมฝ่ ำยนั้นไม่มำศำล และให้ นำมำตรำ ๑๙๓ ทวิ
และมำตรำ ๒๐๐ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๖๑ กำรถ่ ำ ยทอดภำพและเสี ย งของคู่ ค วำมหรื อ บุ ค คลที่ เ กี่ ย วข้ อ งในคดี จ ำกสถำนที่
ที่ ใ ช้ ร ะบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ไ ปยั ง ห้ อ งพิ จ ำรณำต้ อ งมี สั ญ ญำณถ่ ำ ยทอดภำพและเสี ย งได้ อ ย่ ำ งชั ด เจน
และต่อเนื่องตลอดระยะเวลำที่นั่งพิจำรณำ
ในกรณีมีเหตุขัดข้องทำให้ไม่อำจนั่งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่ำงต่อเนื่อง
ศำลอำจกำหนดวิธีกำรเท่ำที่ไม่ขัดกับข้อกำหนดนี้เพื่อให้สำมำรถดำเนินกระบวนพิจำรณำได้จนเสร็จสิ้น
โดยบันทึกเหตุขัดข้องและวิธีกำรดังกล่ำวไว้ในรำยงำนกระบวนพิจำรณำ
ข้อ ๖๒ สถำนที่ที่คู่ควำมหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์นอกศำลต้องเป็น
สถำนที่ที่เหมำะสม ไม่มีเสียงรบกวน ไม่ใช่สถำนที่สำธำรณะและเป็นพื้นที่ปิ ดไม่มีบุคคลอื่นที่ไม่ได้รับอนุญำต
จำกศำลเข้ำออกในบริเวณดังกล่ำว
ระหว่ำงกำรนั่งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ หำกมีเหตุอันควรสงสัยว่ำคู่ควำมหรือ
พยำนที่ใช้ระบบไม่ได้รับควำมปลอดภัยจำกกำรใช้ระบบ หรือกำรดำเนินกระบวนพิจำรณำไม่เป็นไป
โดยสุ จ ริ ต ศำลอำจสั่ ง ให้ ท ำกำรตรวจสอบสภำพแวดล้ อ มของสถำนที่ ที่ คู่ ค วำมหรื อ พยำนใช้ ร ะบบ
หรือมีคำสั่งอื่นใดตำมที่เห็นสมควร
ข้อ ๖๓ ก่ อ นเริ่ ม กำรดำเนิ น กระบวนพิ จ ำรณำ หรื อ ก่ อ นที่ บุ คคลใดเข้ ำเบิ กควำมต่อศำล
ให้ ต รวจสอบบุคคลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่ำว โดยให้บุคคลดังกล่ำวพิสูจน์และยืน ยันตัวตน
ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่ศำลกำหนด และให้เจ้ำหน้ำที่ศำลบันทึกผลกำรพิสูจน์และยืนยันตัวตน
ของบุคคลดังกล่ำวเสนอต่อศำลเพื่อเป็นหลักฐำนรวมไว้ในสำนวน
กำรพิสูจน์และยืนยันตัวตนของบุคคลตำมวรรคหนึ่งให้รวมถึงกำรแสดงบัตรประจำตัวประชำชน
ให้ ปรำกฏทำงจอภำพของระบบ และให้เจ้ำหน้ำที่ศำลทำกำรบันทึกภำพใบหน้ำบุคคลนั้นพร้อมกับ
บัตรประจำตัวประชำชนที่ปรำกฏข้อมูลบนบัตรประจำตัวประชำชนอย่ำงชัดเจนเสนอต่อศำลเพื่อเป็น
หลักฐำนรวมไว้ในสำนวน หรือผ่ำนระบบกำรพิสูจน์และยืนยันตัวตนทำงดิจิทัลที่ศำลกำหนดก็ได้
ข้อ ๖๔ ระหว่ ำ งกำรพิ จ ำรณำโดยวิ ธี ก ำรทำงอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ตั ว ควำมอำจแจ้ ง ต่ อ ศำล
เพื่อขอปรึกษำทนำยควำมเป็นกำรเฉพำะตัวตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่ศำลกำหนด
ข้อ ๖๕ กำรน ำสื บ พยำนเอกสำร หรื อ พยำนวั ต ถุ ป ระกอบค ำเบิ ก ควำมของพยำนบุ ค คล
ระหว่ำงกำรไต่สวนหรือสืบพยำนในกำรนั่งพิจำรณำทำงระบบอิเ ล็กทรอนิกส์ ให้ดำเนินกำรในรูปแบบ
ข้ อ มู ล อิ เล็ กทรอนิ กส์ห รือวิธีก ำรอื่ น ใดที่ส ำมำรถแสดงให้ศำล พยำน และคู่ค วำมทุ กฝ่ ำยเห็นและ
หนา้ ๔๔
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ตรวจสอบควำมถูกต้องได้ทำงจอภำพของระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่ำวตำมที่ศำลกำหนด โดยคำนึงถึง
ควำมเหมำะสม ลักษณะ และจำนวนของเอกสำรหรือวัตถุที่เกี่ยวข้อง
ห้ำมมิให้ศำลรับฟังพยำนหลักฐำนที่นำสืบโดยฝ่ำฝืนวิธีกำรตำมวรรคหนึ่ง เว้นแต่ศำลเห็นว่ำ
กำรกระทำดังกล่ำวมิได้เกิดจำกกำรจงใจเอำเปรียบคู่ควำมอีกฝ่ำยหนึ่ง หรือเพื่อประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม
จำเป็น ต้องรับฟังพยำนหลักฐำนเช่นว่ำนั้น ให้ศำลมีอำนำจรับฟังพยำนหลักฐำนเช่นว่ำนั้นประกอบ
พยำนหลักฐำนอื่นได้
เพื่อประโยชน์ในกำรสืบพยำน ศำลอำจกำหนดให้มีกำรนั่งพิจำรณำทำงระบบอิเล็กทรอนิกส์
ก่อนวันนัดสืบพยำนเพื่อตรวจควำมพร้อมของเอกสำรและวัตถุที่คู่ควำมจะใช้ในกำรสืบพยำน
สิ่งพิมพ์ออก
ข้อ ๖๖ ในกรณีที่ต้องจัดทำสิ่งพิมพ์ออกของเอกสำรหรือภำพถ่ำยในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ที่คู่ควำมใช้สืบประกอบคำเบิกควำมของพยำนบุคคลในกำรนั่งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อจัดเก็บเป็นสำนวนควำม หรือที่คู่ควำมส่งเข้ำมำในระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสำเนำให้คู่ควำมอีกฝ่ำย
ตำมกฎหมำย ให้คู่ควำมที่อ้ำงหรือส่งเอกสำรดังกล่ำวเป็นผู้รับผิดชอบค่ำจัดทำเอกสำร
ในกรณี ที่ ก ฎหมำยก ำหนดให้ น ำเสนอหรื อ เก็ บ รั ก ษำข้ อ ควำมในสภำพที่ เ ป็ น มำแต่ เ ดิ ม
อย่ำงเอกสำรต้นฉบับ กำรนำเสนอหรือเก็บรักษำเอกสำรในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งใช้วิธีกำร
ที่เชื่อถือ ได้ในกำรรักษำควำมถูกต้องของข้อควำมตั้งแต่กำรสร้ำงข้อควำมเสร็จสมบูรณ์และสำมำรถ
แสดงข้อควำมนั้นในภำยหลัง ให้ถือว่ำมีกำรนำเสนอหรือเก็บรักษำเป็นเอกสำรต้นฉบับตำมกฎหมำยแล้ว
ให้ถือว่ำสิ่งพิมพ์ออกของเอกสำรหรือภำพถ่ำยตำมวรรคหนึ่งซึ่งมีข้อควำมรับรองว่ำเป็นสิ่งพิมพ์
ออกตำมวรรคหนึ่งจริงเป็นเอกสำรเทียบเท่ำฉบับเดิม
หำกจำเป็น ต้องใช้ต้น ฉบับของเอกสำรหรือภำพถ่ำย ศำลอำจกำหนดให้คู่ควำมที่อ้ำงหรือ
ส่งเอกสำรหรือภำพถ่ำยนั้น นำมำส่งต่อศำลภำยในเวลำที่ศำลเห็นสมควร
กำรลงลำยมือชื่อในรำยงำนกระบวนพิจำรณำและบันทึกคำเบิกควำม
ข้อ ๖๗ รำยงำนกระบวนพิจำรณำและบันทึกคำเบิกควำมที่ได้กระทำต่อหน้ำคู่ควำมหรื อ
พยำนที่ถือว่ำอยู่ในห้องพิจำรณำในกำรนั่งพิจำรณำโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อศำลได้อ่ำนรำยงำน
กระบวนพิจำรณำหรือบันทึกคำเบิกควำมให้คู่ควำมหรือพยำนได้รับฟังและให้บุคคลดังกล่ำวได้ตรวจดู
ทำงจอภำพแล้ว ให้ ถือว่ำบุคคลนั้ น ทรำบและรับรองข้อควำมตำมเอกสำรดังกล่ำวโดยไม่จำต้องให้
ลงลำยมือชื่ออีก
คำพิพำกษำ
ข้อ ๖๘ ผู้พิพำกษำอำจจัดทำคำพิพำกษำหรือคำสั่งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และลงลำยมือชื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ของผู้พิพำกษำตำมรูปแบบและวิธีกำรที่ศำลกำหนด และให้ถื อว่ำคำพิพำกษำหรือคำสั่ง
ได้ทำเป็นหนังสือและลงลำยมือชื่อตำมมำตรำ ๑๔๑ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งแล้ว
หนา้ ๔๕
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
กำรทำควำมเห็น แย้ง รวมทั้งกำรจดแจ้งเหตุกรณีที่ผู้พิพำกษำลงลำยมือชื่อในคำพิพำกษำ
หรือคำสั่งไม่ได้ ให้ใช้วิธีกำรตำมวรรคหนึ่งโดยอนุโลม
ข้อ ๖๙ ในคดีแพ่งศำลอำจกำหนดให้อ่ำนคำพิพำกษำหรือคำสั่งโดยใช้วิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ ได้
โดยให้ถือว่ำเป็นกำรอ่ำนคำพิพำกษำหรือคำสั่งตำมกฎหมำย ทั้งนี้ ให้นำข้อ ๖๐ และมำตรำ ๑๔๐ (๓)
แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำในชั้นอุทธรณ์และฎีกำ
ข้อ ๗๐ ควำมในหมวดนี้ให้ใช้บังคับแก่กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศในชั้นอุทธรณ์และฎีกำโดยอนุโลม
ลักษณะ ๒
ควำมอำญำ

หมวด ๑
บททั่วไป

กำรนำบทบัญญัติลักษณะ ๑ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๗๑ นอกจำกที่บัญญัติไว้ในลักษณะนี้ ให้นำบทบัญญัติลักษณะ ๑ ควำมแพ่งว่ำด้วย
วิธีกำรติดต่อ กำรยื่น ส่ง และรับคำคู่ควำมและเอกสำรระหว่ำงศำล คู่ควำมและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ตำมข้อ ๗ ถึงข้อ ๙ กำรส่งประธำนศำลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษวินิจฉัยอำนำจศำลตำมข้อ ๑๙
กำรขอให้ คุ้มครองชั่ว ครำวก่อนฟ้องตำมข้อ ๒๐ ถึงข้อ ๒๗ กำรขอให้สืบพยำนหลักฐำนไว้ก่ อ น
ตำมข้อ ๒๘ ถึงข้อ ๓๐ เอกสำรภำษำต่ำงประเทศตำมข้อ ๓๑ วรรคหนึ่ง ข้อ ๓๒ และข้อ ๓๓
กำรพิจำรณำลับและกำรห้ำมโฆษณำตำมข้อ ๓๔ กำรบันทึกคำเบิกควำมของพยำนตำมข้อ ๓๕ และ
ข้อ ๓๖ กำรทบทวนควำมจำของพยำนตำมข้อ ๔๔ กำรวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยำนหลักฐำนบันทึกถ้อยคำ
ที่ผู้ให้ถ้อยคำมิได้มำศำลตำมข้อ ๔๘ กำรสืบพยำนบุคคลโดยระบบกำรประชุมทำงจอภำพตำมข้อ ๔๙
พยำนหลักฐำนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตำมข้อ ๕๐ ถึงข้อ ๕๒ กำรตั้งผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญเพื่อทำ
ควำมเห็นเป็นหนังสือตำมข้อ ๕๓ กำรสืบพยำนหลักฐำนเพิ่มเติมของศำลตำมข้อ ๕๔ กำรดำเนิน
กระบวนพิจำรณำด้วยวิธีพิจำรณำคดีทำงอิเล็กทรอนิกส์ตำมข้อ ๕๕ กำรยื่น ส่ง รับ คำคู่ควำมหรือ
เอกสำรทำงระบบรั บ ส่ ง อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ต ำมข้ อ ๕๖ และข้ อ ๕๗ กำรนั่ ง พิ จ ำรณำโดยวิ ธี ก ำร
ทำงอิเล็กทรอนิกส์ตำมข้อ ๕๘ ถึงข้อ ๖๕ สิ่งพิมพ์ออกตำมข้อ ๖๖ กำรลงลำยมือชื่อในรำยงำน
กระบวนพิจำรณำและบัน ทึกคำเบิกควำมตำมข้อ ๖๗ และคำพิพำกษำตำมข้อ ๖๘ มำใช้บังคับ
แก่ควำมอำญำโดยอนุโลม
หนา้ ๔๖
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
หมวด ๒
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำ

กำรยื่นคำร้องขอหมำยค้น ผัดฟ้องหรือฝำกขังต่อศำลจังหวัด
ข้อ ๗๒ ในระหว่ำงที่ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศภำคยังมิได้เปิดทำกำร
ในท้องที่ใด เมื่อพนักงำนสอบสวนหรือพนักงำนอัยกำรยื่นคำร้องขอหมำยค้น ผัดฟ้องหรือฝำกขังต่อ
ศำลจั งหวั ดตำมมำตรำ ๔๗ ประกอบมำตรำ ๒๖ แห่ งพระรำชบั ญญั ติ จั ดตั้ งศำลทรั พย์ สิ นทำงปั ญญำ
และกำรค้ ำ ระหว่ำ งประเทศ และวิ ธี พิ จ ำรณำคดีท รัพ ย์ สิ น ทำงปัญ ญำและกำรค้ ำระหว่ำ งประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้ศำลจังหวัดดำเนินกำรและมีคำสั่งต่อไปตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
พระรำชบั ญ ญั ติ จั ด ตั้ ง ศำลแขวงและวิ ธี พิ จ ำรณำควำมอำญำในศำลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ หรื อ
พระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแขวงและวิธีพิจำรณำควำมอำญำในศำลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ ซึ่งนำมำใช้บังคับ
โดยพระรำชบัญญัติให้นำวิธีพิจำรณำควำมอำญำในศำลแขวงมำใช้บังคับในศำลจังหวัด พ.ศ. ๒๕๒๐
แล้วแต่กรณี
กำรยื่นคำฟ้องต่อศำลจังหวัด
ข้อ ๗๓ ในกรณีที่ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศภำคยังมิได้เปิดทำกำร
ในท้องที่ใด เมื่อโจทก์ยื่นคำฟ้องต่อศำลจังหวัดตำมมำตรำ ๔๗ แห่งพระรำชบัญญัติจัดตัง้ ศำลทรัพย์สิน
ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ ระหว่ ำ งประเทศ และวิ ธี พิ จ ำรณำคดี ท รั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้ โจทก์จัดทำสำเนำสำหรั บศำลจั งหวัดด้วยหนึ่ งชุด และถ้ำคำฟ้องถูกต้ อง
ตำมกฎหมำยแล้ว ให้ศำลจังหวัดดำเนินกำร ดังต่อไปนี้
(๑) ในคดีรำษฎรเป็นโจทก์ ให้ศำลจังหวัดส่งต้นฉบับคำฟ้องมำยังศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงโดยเร็ว เพื่อให้อธิบดีกำหนดวันเวลำและศำลที่จะนั่งไต่สวนมูลฟ้อง
ตำมควำมเหมำะสม และให้ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงแจ้งศำลจังหวัด
เพื่อให้แจ้งกำหนดวันเวลำและศำลที่จะนั่งไต่สวนมูลฟ้องนั้นให้โจทก์ทรำบโดยเร็ว และสั่งให้โจทก์นำส่ง
หมำยนั ด และส ำเนำค ำฟ้ อ งให้ จ ำเลยต่ อ ไป แต่ ถ้ ำ คดี นั้ น พนั ก งำนอั ย กำรได้ ฟ้ อ งจ ำเลยโดยข้ อ หำ
อย่ำงเดียวกันแล้ว ให้จัดกำรตำม (๒)
(๒) ในคดีที่พนั กงำนอัยกำรเป็นโจทก์ ให้ศำลจังหวัด ส่งสำเนำคำฟ้องแก่จำเลยรำยตัวไป
อ่ ำ นและอธิบ ำยฟ้ อ งให้ จ ำเลยฟั ง สอบถำมค ำให้ กำรของจ ำเลย และส่ ง ต้ นฉบั บค ำฟ้ อ งพร้ อมกับ
คำให้กำรของจำเลย ถ้ำหำกมี มำยังศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงโดยเร็ว
เพื่อให้ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงมีคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องหรือประทับฟ้อง
แล้วเสนออธิบดีเพื่อกำหนดวันเวลำและศำลที่จะนั่งไต่สวนมูลฟ้อง หรือนั่งพิจ ำรณำและพิพำกษำคดี
ตำมควำมเหมำะสม และให้ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงแจ้งให้ศำลจังหวัดทรำบ
หนา้ ๔๗
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
และดำเนินกำรโดยเร็ว เพื่อแจ้งให้คู่ควำมทรำบกำหนดวันเวลำและศำลที่จะนั่งไต่สวนมูลฟ้อง หรือ
นั่งพิจำรณำและพิพำกษำคดีนั้น กับเพื่อให้ได้ตัวจำเลยมำศำลตำมกำหนดนัด
ในกรณีตำม (๒) หำกจำเลยให้กำรรับสำรภำพตำมฟ้องและเป็นคดีที่ศำลจะพิพำกษำโดยไม่สบื
พยำนหลักฐำนได้ ศำลจังหวัดและศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงพึงใช้วิธีกำร
ตำมข้อ ๗ ในกำรติดต่อระหว่ำงกันให้มำกที่สุด เพื่อให้กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำและพิพำกษำคดี
สำมำรถกระทำได้ในวันที่จำเลยให้กำรรับสำรภำพนั้นหรือในวันทำกำรปกติถัดไป ทั้งนี้ โดยไม่เป็นกำร
เสื่อมเสียสิทธิของจำเลยในกำรได้รับอนุญำตให้ปล่อยชั่วครำว
กำรเสนอบันทึกถ้อยคำในกำรซักถำมพยำนบุคคล
ข้อ ๗๔ เมื่ อ คู่ ค วำมฝ่ ำ ยใดมี ค ำขอและศำลเห็ น สมควรเพื่ อ ประโยชน์ แ ห่ ง ควำมยุ ติ ธ รรม
ศำลอำจอนุญำตให้เสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือควำมเห็นของผู้ให้ถ้อยคำต่อศำลแทนกำรนำ
พยำนบุคคลมำเบิกควำมต่อหน้ำศำลในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับกำรพิสูจน์ถึงกำรกระทำควำมผิดของจำเลย
โดยตรงก็ได้ และให้นำบทบัญญัติลักษณะ ๑ ควำมแพ่ง ว่ำ ด้วยกำรเสนอบันทึกถ้อยคำในกำรสืบ
พยำนบุ คคลตำมข้ อ ๔๕ และข้ อ ๔๖ และบั นทึ กถ้ อยค ำแทนกำรสื บพยำนบุ คคลของผู้ ให้ ถ้ อยค ำ
ซึ่งอยู่ต่ำงประเทศตำมข้อ ๔๗ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
กำรดำเนินกระบวนพิจำรณำด้วยวิธีพิจำรณำคดีทำงอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๗๕ กำรยื่นคำร้องขอหมำยค้น หมำยจับ ผัดฟ้องหรือฝำกขัง และกำรปล่อยชั่วครำว
ให้ดำเนินกำรผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ และให้นำบทบัญญัติลักษณะ ๑ ควำมแพ่ง ว่ำด้วยวิธีกำร
ติ ด ต่ อ กำรยื่ น ส่ ง และรั บ ค ำคู่ ค วำมและเอกสำรระหว่ ำ งศำล คู่ ค วำม และบุ ค คลที่ เ กี่ ย วข้ อ ง
ตำมข้อ ๗ มำใช้บังคับแก่กำรติดต่อระหว่ำงศำลกับพนักงำนฝ่ำยปกครองหรือตำรวจ หรือเจ้ำพนักงำนอื่น
ซึ่งเป็นผู้มีอำนำจหน้ำที่เกี่ยวข้องกับกำรสืบสวนหรือสอบสวนคดีที่ร้องขอออกหมำยนั้น พนักงำนอัยกำร
ทนำยควำม คู่ควำมในคดี และเจ้ำพนักงำนเรือนจำหรือเจ้ำหน้ำที่สถำนที่กักขังเท่ำที่พอจะใช้บังคับได้
ข้อ ๗๖ ถ้ำศำลเห็นสมควรให้ดำเนินกำรไต่สวนมูลฟ้องในคดีอำญำที่รำษฎรเป็นโจทก์โดยวิธี
ถ่ำยทอดภำพและเสียงผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้แจ้งโจทก์ทรำบและบอกกล่ำวไปยังจำเลยพร้อมแจ้ง
วันนัดไต่สวน จำเลยจะใช้สิทธิตำมกฎหมำยในชั้นนี้โดยดำเนินกำรผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ดั งกล่ำวก็ได้
โดยแจ้งให้ศำลทรำบก่อนวันนัด ทั้งนี้ ให้ศำลคำนึงถึงควำมสำมำรถในกำรเข้ำถึงเทคโนโลยีของโจทก์
และจำเลยด้วย เว้นแต่จำเลยแถลงคัดค้ำนก่อนวันนัดว่ำกำรดำเนินกำรดังกล่ำวทำให้จำเลยเสียสิทธิ
ในกำรต่อสู้คดีตำมที่กฎหมำยรับรองสิทธิของจำเลยในชั้นนี้ ให้ศำลดำเนินกำรแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่ำว
หรือพิจำรณำสั่งประกำรอื่นตำมที่เห็นสมควรโดยคำนึงถึงกำรคุ้มครองสิทธิในกำรดำเนินคดีของคู่ควำม
ทั้งสองฝ่ำย
ให้ น ำควำมในวรรคหนึ่ งมำใช้บังคับแก่กำรนั่งพิจำรณำในชั้นสืบพยำนหลักฐำนไว้ก่อนฟ้อง
และชั้น ไต่สวนมูลฟ้องโดยคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งร้องขอให้ดำเนินกำรโดยวิธีถ่ำยทอดภำพและเสียง
ผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ศำลกำหนดได้โดยอนุโลม
หนา้ ๔๘
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ข้อ ๗๗ เมื่อจำเลยทุกคนยินยอมให้ใช้วิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ และในกรณีที่จำเลยต้องกำร
และมีทนำยควำม ทนำยควำมนั้น สำมำรถทำหน้ำที่ว่ำควำมให้แก่จำเลยได้ ให้นำควำมในข้อ ๕๘
มำใช้บังคับแก่คดีอำญำได้โดยอนุโลมไม่ว่ำในขั้นตอนใด ทั้งหมดหรือบำงส่วนก็ได้ หำกศำลเห็นว่ำ
กำรดำเนินกำรเช่นนั้นไม่เป็นที่เสียหำยหรือก่อให้เกิดควำมไม่เป็นธรรมแก่จำเลย ศำลจะดำเนินกำร
โดยวิธีถ่ำยทอดภำพและเสียงผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
ในกรณีที่ศำลไม่อำจสอบถำมจำเลยได้เพรำะจำเลยหลบหนีหรือไม่มำศำล และไม่อำจติดต่อ
จ ำเลยได้ โ ดยวิ ธี ก ำรอื่ น รวมทั้ ง คดี ที่ ศ ำลอนุ ญ ำตให้ พิ จ ำรณำและสื บ พยำนลั บ หลั ง จ ำเลยตำม
มำตรำ ๑๗๒ ทวิ /๑ และมำตรำ ๑๗๒ ทวิ /๒ แห่ งประมวลกฎหมำยวิ ธี พิ จำรณำควำมอำญำ และ
กำรสืบพยำนเกี่ยวกับควำมรับผิดของบุคคลในทำงแพ่งในกำรฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอำญำ หรือ
กำรยื่ น ค ำร้ อ งขอให้ จ ำเลยชดใช้ ค่ ำ สิ น ไหมทดแทนอั น เนื่ อ งมำจำกกำรกระท ำควำมผิ ด คดี อ ำญำ
ตำมมำตรำ ๔๔/๑ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ ศำลจะดำเนินกำรโดยวิธีถ่ำยทอด
ภำพและเสี ย งผ่ ำ นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ที่ ศ ำลก ำหนดไปพลำงก่ อ นก็ ไ ด้ หำกจ ำเลยมำศำลและ
แถลงคัดค้ำนก่อนดำเนินกระบวนพิจำรณำนั้นเสร็จ ให้ศำลดำเนินกำรตำมที่เห็นสมควรต่อไปโดยคำนึงถึง
กำรคุ้มครองสิทธิในกำรดำเนินคดีของคู่ควำมทั้งสองฝ่ำย
ถ้ำกำรดำเนินกำรตำมวรรคหนึ่งเป็นขั้นตอนกำรสอบคำให้กำรจำเลย และกำรอ่ำนคำพิพำกษำ
หรื อ ค ำสั่ ง ของศำล จ ำเลยต้ อ งมำแสดงตนที่ ศ ำล ในกรณี ที่ ศ ำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ
ระหว่ำงประเทศกลำงเห็นสมควรอนุญำตให้ จำเลยแสดงตนที่ศำลจังหวัดซึ่งโจทก์ยื่นคำฟ้องไว้ตำมมำตรำ ๔๗
แห่ งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ และวิธีพิจำรณำคดี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือศำลจังหวัดอืน่ ใด ให้นำมำตรำ ๔๗
แห่ งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ และวิธีพิจำรณำคดี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๗๘ ควำมในข้อ ๗๖ และข้อ ๗๗ ไม่ใช้บังคับแก่กำรพิจำรณำลับและกำรห้ำมโฆษณำ
ตำมข้อ ๓๔ กำรพิจำรณำเป็นกำรลับตำมมำตรำ ๑๗๗ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
และกำรพิ จ ำรณำโดยไม่ เ ปิ ด เผยตำมมำตรำ ๓๖ แห่ ง ประมวลกฎหมำยวิ ธี พิ จ ำรณำควำมแพ่ ง
ประกอบมำตรำ ๑๕ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
ลักษณะ ๓
แบบพิมพ์

ข้อ ๗๙ กำรแต่งตั้งบุคคลเพื่อรับคำคู่ควำมหรือเอกสำรแทนตำมมำตรำ ๓๓ แห่งพระรำชบัญญัติ


จัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้ทำเป็นหนังสือตำมแบบพิมพ์ ศปก.๑ ท้ำยข้อกำหนดนี้
หนา้ ๔๙
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖
ข้อ ๘๐ หนังสือขอให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชำญที่ศำลขอให้ทำควำมเห็นเป็นหนังสือ
ตำมมำตรำ ๓๑ แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ จั ด ตั้ ง ศำลทรั พ ย์ สิ น ทำงปั ญ ญำและกำรค้ ำ ระหว่ ำ งประเทศ
และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ และตำมข้อ ๕๓
ให้ทำตำมแบบพิมพ์ ศปก.๒ ท้ำยข้อกำหนดนี้
ลักษณะ ๔
อื่น ๆ

ข้อ ๘๑ เพื่อประโยชน์ในกำรปฏิบัติตำมข้อกำหนดนี้ ให้อธิบดีมีอำนำจออกประกำศ ระเบียบ


คำสั่ง คำแนะนำ หรือแนวปฏิบัติเพื่อให้กำรปฏิบัติตำมข้อกำหนดนี้เป็นไปโดยเรียบร้อย และคำนึงถึง
ควำมสะดวก ประหยัด ปลอดภัย และควำมสำมำรถในกำรเข้ำถึงเทคโนโลยีของคู่ควำมด้วย
ข้อ ๘๒ ข้อกำหนดนี้ ไม่มีผลกระทบถึงกระบวนพิจำรณำที่ ได้กระท ำไปแล้วก่อนวันที่ข้อก ำหนดนี้
มีผลใช้บังคับ ส่วนกระบวนพิจำรณำที่ยังมิได้กระทำจนล่วงพ้นกำหนดเวลำที่ต้องกระทำตำมข้อกำหนด
ที่ ใ ช้ บั ง คับอยู่ก่ อนข้อ กำหนดนี้ แต่ ยั งอยู่ ใ นกำหนดเวลำที่ อำจกระทำได้ต ำมข้อกำหนดนี้ให้ ดำเนิ น
กระบวนพิจำรณำนั้นได้ภำยในกำหนดเวลำตำมข้อกำหนดนี้
ให้บรรดำระเบียบ ประกำศ คำสั่ง คำแนะนำ หรือแนวปฏิบัติของอธิบดีที่ออกตำมข้อกำหนด
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ข้อกำหนดนี้มีผลใช้บังคับ
ยังคงใช้บังคับต่อไปเท่ำ ที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งข้อกำหนดนี้จนกว่ำจะมีระเบียบ ประกำศ
คำสั่ง คำแนะนำ หรือแนวปฏิบัติของอธิบดีที่ออกตำมข้อกำหนดนี้ใช้บังคับ

ให้ไว้ ณ วันที่ 3 พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕66


ตุล เมฆยงค์
อธิบดีผู้พิพำกษำ
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง

You might also like