You are on page 1of 44

โครงการทบทวนความรู.

ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม:
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

คณิตศาสตร)
สำหรับปูพื้นฐานวิชา แคลคูลัส 1
โดยพี่สุวพร หอมจันทร3ดี (พี่ฝ6าย)

โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม:


วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD วิทยาเขตบางเขน
วันที่ 15 – 16 มิถุนายน พ.ศ.2566
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม:
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

สารบัญ
บทที่ 1 ลิมิตและความต0อเนื่อง
1.1 การหาลิมิต 1
1.2 ลิมิตอนันต0 ลิมิต ณ อนันต0 และ เส6นกำกับแนวราบ-แนวดิ่ง 6
1.3 ความตAอเนื่องของฟEงก0ชัน 11
บทที่ 2 อนุพันธ;และการประยุกต;อนุพันธ;
2.1 บทนิยาม 14
2.2 การหาอนุพันธ0โดยใช6สูตร และอนุพันธ0อันดับสูง 16
2.3 การหาอนุพันธ0โดยใช6กฎลูกโซA 19
2.4 การหาอนุพันธ0ฟEงก0ชันโดยปริยาย 20
2.5 การหาอนุพันธ0ฟEงก0ชัน อิงตัวแปรเสริม 22
2.6 การหาอนุพันธ0โดยใช6 กฎโลบิตาล 23
2.7 การหาอนุกรมเทย0เลอร0และอนุกรมแมคลอริน 25
2.8 การประยุกต0คAาเชิงอนุพันธ0 28
บทที่ 3 ปริพันธ;ไม0จำกัดเขต
3.1 การหาปริพันธ0โดยใช6สูตร 32
3.2 การหาปริพันธ0โดยการแทนคAาตัวแปร 34
3.3 การหาปริพันธ0ทีละสAวน 39
4.4 การหาปริพันธ0ฟEงก0ชันตรีโกณมิติ ในบางรูปแบบ 40
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 1
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

สองผู6กAอให6เกิดแนวคิดเรื่อง “Calculus”

บทที่ 1 ลิมิตและความต:อเนื่อง
1.1 การหาลิมิต
คือศึกษาพฤติกรรมของฟEงก0ชัน 𝑓(𝑥) เมื่อ 𝑥 เข6าใกล6คAาๆ หนึ่ง แทนด6วย lim 𝑓(𝑥 ) = 𝐿
!→#
เชAนเมื่อเราพิจารณาฟEงก0ชัน
2 − 𝑥 $ เมื่อ 𝑥 < 1
𝑓(𝑥) = + 2 เมื่อ 𝑥 = 1
2𝑥 − 1 เมื่อ 𝑥 > 1

การหาคAาลิมิต มีด6วยกัน 3 วิธีคือ


(1) การแทนคAาโดยตรง (2) การพิจารณาจากกราฟ (3) การใช6ทฤษฎีบทลิมิต
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 2
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

ทฤษฎีบทเกี่ยวกับลิมิตของฟ6งก7ชัน
กำหนดให6 𝑎, 𝑘, 𝐿 และ 𝑀 เปjนจำนวนจริงใดๆ 𝑓 และ 𝑔 เปjนฟEงก0ชันที่มีโดเมนและเรนจ0เปjน
สับเซตของจำนวนจริงและกำหนดให6 !→#lim 𝑓(𝑥) = 𝐿 แบะ lim 𝑔(𝑥) = 𝑀 จะได6วAา
!→#
1. lim 𝑘 = 𝑘
!→#

2. lim 𝑥 = 𝑎
!→#

3. lim 𝑥 $ = 𝑎$
!→#

4. lim 𝑘𝑓(𝑥) = 𝑘lim 𝑓(𝑥) = 𝑘𝐿


!→# !→#

5. lim [𝑓(𝑥 ) ± 𝑔(𝑥)] = lim 𝑓(𝑥) ± lim 𝑔(𝑥) = 𝐿 ± 𝑀


!→# !→# !→#

6. lim [𝑓(𝑥 ) ∙ 𝑔(𝑥)] = lim 𝑓(𝑥) ∙ lim 𝑔(𝑥) = 𝐿 ∙ 𝑀


!→# !→# !→#

%(!) )*+ %(!) -


7. lim ((!) = !→#
)*+ ((!)
= . ; 𝑀 ≠ 0
!→# !→#

8. lim [𝑓(𝑥)]$ = [lim 𝑓 (𝑥 )]$ = 𝐿$ ; 𝑛 ∈ ℕ


!→# !→#

9. lim $9𝑓(𝑥) = $: lim 𝑓(𝑥) = $√𝐿 = ; 𝑛 ∈ ℕ (𝐿 > 0 เมื่อ 𝑛 เป)นเลขคู)/


!→# !→#

)*+ ((!)
10. lim [𝑓(𝑥)]((!) = [lim 𝑓(𝑥)]!→# = 𝐿. ; 𝐿 > 0
!→# !→#

แบบฝ<กหัด จงหาคBาลิมิตของฟ6งก7ชันตBอไปนี้
1. lim (10𝑥 $ − 𝑥 + 4)
!→%
วิธีทำ

! ! &%
2. lim
!→% !&%
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 3
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

(!)*)! &,
3. lim !
!→'
วิธีทำ

!&%
4. lim √!&%
!→%
วิธีทำ

.&√%/)!
5. lim !
!→'
วิธีทำ

%)!& %&!
6. lim √ √$!)%&%

!→'
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 4
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

การตรวจสอบวBาฟ6งก7ชัน มีคBา ลิมิต หรือไมB


ทฤษฎีบท:
ให6 𝑓: 𝐷 → ℝ เมื่อ 𝐷 ⊂ ℝ และ 𝑎 เปjนจุดลิมิตของ 𝐷 ∩ (−∞, 𝑎) และ 𝐷 ∩ (𝑎, ∞)
แล6ว
lim 𝑓(𝑥) = 𝐿 ก็ตAอเมื่อ lim" 𝑓(𝑥 ) = 𝐿 = lim# 𝑓 (𝑥 )
!→# !→# !→#

ในที่นี้คือ จะมีคAาลิมิต ก็ตAอเมื่อ “ลิมิตซ6าย = ลิมิตขวา = 𝑓(𝑎)”


แบบฝ<กหัด จงพิจารณาคBาลิมิตของฟ6งก7ชันตBอไปนี้วBามีลิมิตหรือไมB
2 − 𝑥 ! เมื่อ 𝑥 < 1
1. 𝑓(𝑥 ) = - 2 เมื่อ 𝑥 = 1
2𝑥 − 1 เมื่อ 𝑥 > 1
วิธีทำ

√!#$%&'
2. 𝑓(𝑥 ) = 3 # !$% เมื่อ 𝑥 >4
3𝑥 + 1 เมื่อ 𝑥 ≤ 4

วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 5
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

𝑥 เมื่อ 𝑥 > 0
3. 𝑓(𝑥) = |𝑥| = + 0 เมื่อ 𝑥 = 0
−𝑥 เมื่อ 𝑥 < 0

วิธีทำ

|𝑥|
4. lim
!→' 𝑥

วิธีทำ

0𝑥2 −𝑥−60
5. lim 𝑥+2
!→&$

วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 6
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

1.2 ลิมิตอนันต; ลิมิต ณ อนันต; เสJน กำกับแนวราบและเสJน กำกับแนวดิ่ง


ในเนื้อหานี้จะพิจารณาเมื่อ 𝑥 → ∞/−∞ ในฟEงก0ชันรูปแบบตAางๆ

Ref: https://home.kku.ac.th/wattou/service/calculus/calculus2554.pdf

จากตัวอยAางกราฟด6านบนจะเห็นวAา เมื่อ 𝑥 → ∞ แล6ว 𝑓(𝑥) → 0


และเมื่อ 𝑥 ลดลงอยAางไมAมีขีดจำกัด 𝑥 → −∞ แล6ว 𝑓(𝑥) → 0 เชAนกัน
ดังนั้น คAาลิมิตเข6าใกล6 ∞ จะสามารถหาได6เชAนเดียวกันกับการที่ 𝑥 → 𝑎 แต:เพียงแค:ต?องจัดรูปฟ(งก+ชัน
. 𝟎
, หรือ ∞ − ∞
ก.อน หากฟ(งก+ชันนั้นๆ อยู.ในรูปแบบไม.กำหนด เช.น
. 𝟎
แบบฝ<กหัด จงพิจารณาคBาลิมิตของฟ6งก7ชันตBอไปนี้ (โจทย7ที่มักเจอบBอยๆ คือฟ6งก7ชันพหุนาม)
3𝑥3 −4
1. lim Note:
!→1 2𝑥2 +𝑥3
1
lim =0
!→# 𝑥𝑛
วิธีทำ lim
1
=0
!→$# 𝑥𝑛

𝑥2 −4𝑥
2. lim
!→1 𝑥+𝑥3 +2

วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 7
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

𝑥5 −4𝑥2 +3𝑥3 +𝑥+3


3. lim 5
!→1 𝑥2 +𝑥+7𝑥 +1

วิธีทำ

3
𝑥2 −2√𝑥
4. lim 2
!→1 𝑥 √𝑥+1

วิธีทำ

4
𝑥3 −3√𝑥
5. lim
!→1 𝑥√𝑥+ 3√𝑥

วิธีทำ

2𝑥4 +𝑥2 +𝑥
6. lim 3𝑥2 −1
!→1

วิธีทำ

10𝑥+3
7. lim
!→&1 225𝑥2 −3

วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 8
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

8. lim ?𝑥2 + 2 − 𝑥
!→1

วิธีทำ

9. lim ?𝑥2 − 𝑥 + 𝑥
!→&1

วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 9
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

ลิมิต ณ อนันต; และ เสJนกำกับแนวราบ – เสJนกำกับแนวดิ่ง


น6องเส6นกำกับจะชAวยบอกขอบเขตของคAาลิมิต

จะเปjนกราฟของ 𝑓(𝑥) ที่มี ลิมิตที่คBาอนันต7 (กราฟหน6า 6 ก็เชAนกัน) ในที่นี้สามารถเขียนได6วAา


lim 𝑓(𝑥) = 𝐿 หรือ lim 𝑓(𝑥) = 𝐿
!→1 !→&1
และ จะได6วAา มี 𝒚 = 𝑳 เปPนเสQนกำกับแนวราบ (horizontal asymptote) ของกราฟ 𝑓(𝑥)

ในทำนองเดียวกัน หาก ลิมิตมีคBาเปPนอนันต7 (หรือ ลิมิตอนันต7)


lim 𝑓 (𝑥 ) = ∞ หรือ lim 𝑓(𝑥) = −∞
!→# !→#
แล#วจะได#ว)า มี 𝒙 = 𝒂 เปPนเสQนกำกับแนวดิ่ง (vertical asymptote) ของกราฟ 𝑓(𝑥)

% %
ตัวอย)างเช)น lim" ! = +∞ และ lim# ! = − ∞
!→' !→'
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 10
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

ตัวอยBาง1 กำหนดกราฟดังรูปดQานลBาง

จะได6วAา
(1) lim 𝑓(𝑥) = และ lim 𝑓 (𝑥) =
!→1 !→&1

(2) lim# 𝑓(𝑥) = และ lim" 𝑓(𝑥) =


!→&% !→&%

(3) lim# 𝑓(𝑥) = และ lim" 𝑓(𝑥) =


!→$ !→$

เส6นกำกับแนวราบ คือ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….


เส6นกำกับแนวดิ่ง คือ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตัวอยBาง2 จงหาเสQนกำกับแนวราบและแนวดิ่งของฟ6งก7ชัน
%
𝑦=
!&$
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 11
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

1.3 ความต0อเนื่องของฟMงก;ชัน
เราจะกลAาววAา 𝑓 ตAอเนื่อง (continue) ที่จุด 𝑥 = 𝑎 ก็ต:อเมื่อ
(1) 𝑓(𝑎) หาคAาได6 (2) lim 𝑓(𝑥) หาคAาได6 และ (2) lim 𝑓(𝑥 ) = 𝑓(𝑎)
!→# !→#

ตัวอยAางกราฟแสดงฟEงก0ชนั ตAอเนื่องและไมAตAอเนื่อง

แบบฝ<กหัดตรวจสอบวBาฟ6งก7ชันมีความตBอเนื่องหรือไมB
$
1. 𝑓(𝑥) = E 3𝑥 − 2𝑥 + 1 เมื่อ 𝑥 ≠ 1
𝑥 + 1 เมื่อ 𝑥 = 1

วิธีทำ

|𝑥| + 3 เมื่อ 𝑥 ≤ −1
2. 𝑓 (𝑥 ) = E
|𝑥| − 1 เมื่อ 𝑥 > −1

วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 12
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

&$
3. 𝑓 (𝑥 ) = E 5𝑥 เมื่อ 𝑥 ≠ 0
1 เมื่อ 𝑥 = 0

วิธีทำ

4. จงหาค:า 𝑏 ที่ทำให?ฟTงกUชันต:อไปนี้ต:อเนื่องที่ 𝑥 = 2
𝑥0 − 𝑥 − 2
𝑓 (𝑥 ) = > 𝑥 − 2 เมื่อ 𝑥 ≠ 2
𝑏𝑥 + 1 เมื่อ 𝑥 = 2

วิธีทำ

5. 𝑔(𝑥) เป\นฟTงกUชันต:อเนื่องที่ 𝑥 = 2 หรือไม:


4𝑥 + 1 เมื่อ 𝑥 < 2
4 เมื่อ 𝑥 = 2
𝑔(𝑥 ) = C 0
𝑥 −4
เมื่อ 𝑥 > 2
𝑥−2

วิธีทำ

Note.
ทฤษฎีบท ถ)า 𝑓 และ 𝑔 ต/อเนื่องที ่ 𝑥 = 𝑎 แล)ว
1. 𝑓 + 𝑔 2. 𝑓 − 𝑔
𝑓
3. 𝑓𝑔 4.
𝑔
5. 𝑐𝑓
ก็ต/อเนื่องที่ 𝑥 = 𝑎 เช/นกัน
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 13
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

YOU ALL CAN BE PRACTICE MORE BY USING THESE REFERENCES:


[1] https://www.scimath.org/lesson-mathematics/item/7324-2017-06-17-06-14-55
[2] https://home.kku.ac.th/wattou/service/calculus/calculus2554.pdf
[3] https://eledu.ssru.ac.th/thanatyod_ja/pluginfile.php/1761/block_html/content/2565เอกสาร
ประกอบการสอนวิชาแคลคูลัส1_ธนัชยศ.pdf
[4] https://cyusuf.files.wordpress.com/2013/10/2-1.pdf
[5] หนังสือ Calculus 1, ภาควิชาคณิตศาสตรU คณะวิทยาศาสตรU มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรU.
[6] https://math.sc.su.ac.th/web3/courses/59-2-511101/2017-03-30-3.5.pdf
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 14
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

บทที่ 2 อนุพันธDและการประยุกตDอนุพันธD
2.1. บทนิยามเชิงเรขาคณิต
การหาคAาอนุพันธ0คือการพยายามหาความชันของเส6นโค6งสัมผัส ที่สัมผัสกับกราฟของฟEงก0ชันที่จุดนั้นๆ
ซึ่งจุดที่วAาจะพิจารณาที่จุดที่เล็กจิ๋วมากๆ ด6วยเหตุนี้ อนุพันธ7 จึงเรียกได6วAาเปjน “อัตราการ
เปลี่ยนแปลงขณะใดขณะหนึ่ง” ของตัวแปรตาม 𝑓(𝑥) ตAอตัวแปรต6น 𝑥 หรือตัวแปรอิสระ

ความชันเส6นโค6งสัมผัส:
การเปลี่ยนแปลงไปของฟ1งก2ชัน "#$(&)
𝑚 =
การเปลี่ยนแปลงไปของค6า &
∆"
=
∆&
$(&)∆&)*$ (& )
= (&)∆& )*&

$ (&)∆& )*$(&)
=
∆&

หาความชัน เมื่อ ∆𝑥 → 0 โดยการใสAลิมิตทั้งสองข6าง

𝑓(𝑥 + ∆𝑥 ) − 𝑓(𝑥 )
lim 𝑚 = lim = 𝑓′(𝑥)
∆!→' ∆!→' ∆𝑥

ดังนั้น อัตราการเปลี่ยนแปลง/ความชันของกราฟ ก็คือ อนุพันธ0 (Differential) นั่นเอง


โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 15
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

แบบฝ<กหัด จงหาอนุพันธ7ของฟ6งก7ชันโดยตBอไปนีโ้ ดยใชQนิยามของอนุพันธ7


1. 𝑓(𝑥) = 2𝑥 *
วิธีทำ

2. 𝑓(𝑥) = √𝑥
วิธีทำ

%
3. 𝑓(𝑥) = !
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 16
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

2.2. การหาอนุพันธ;โดยใชJสูตร และอนุพันธ;อันดับสูง (เปTดสูตรใน PDF)

แบบฝ<กหัด จงหาอนุพันธ7ของฟ6งก7ชันโดยตBอไปนี้
4. 𝑓(𝑥) = 4𝑥 * − 7𝑥 $ + 2𝑥 − 2566
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 17
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

5. 𝑓(𝑥) = 4! + ln 𝑥
วิธีทำ

6. 𝑓(𝑥) = (2𝑥 + 1)*


วิธีทำ

7. 𝑓(𝑥) = 𝑥 sin 𝑥
วิธีทำ

!
8. 𝑓(𝑥) = 4!)$
วิธีทำ

567 !)! !
9. 𝑓(𝑥) = 4!)$
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 18
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

อนุพันธ7อันดับสูง (Higher Derivative)


ใหQ 𝑦 = 𝑓(𝑥) จะได6วAา
9:
อันพันธ7อันดับ 1 𝑓 8 (𝑥 ) = 𝑦 8 =
9!
9 9: 9!:
อันพันธ7อันดับ 2 𝑓 88 (𝑥 ) = 𝑦 88 = T U =
9! 9! 9! !
9 9!: 9$:
อันพันธ7อันดับ 3 𝑓 888 (𝑥) = 𝑦 888 = T U =
9! 9! ! 9! $
9 9 %#& : 9%:
อันพันธ7อันดับที่ n 𝑓 (;) (𝑥) = 𝑦 (;) = T U =
9! 9! %#& 9! %

แบบฝ<กหัด จงหาอนุพันธ7อันดับสองและสามของฟ6งก7ชันตBอไปนี้
1. 𝑓(𝑥 ) = 4𝑥 + − 7𝑥 , + 2𝑥 − 2566 จงหา 𝑓 88 (𝑥) และ 𝑓 888 (𝑥)
วิธีทำ

2. 𝑓(𝑥 ) = (2𝑥 + 1)3 + sin 𝑥 จงหา 𝑓 88 (𝑥)


วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 19
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

2.3. การหาอนุพันธ;โดยใชJกฎลูกโซ0 *ใชQเมื่อเจอฟ6งก7ชันติดตัวแปร ซQอนตัวแปร


𝑦 = 𝑓(𝑢) และ 𝑢 = 𝑔(𝑥 ) เปjนฟEงก0ชันทีม่ ีอนุพันธ0ที่ 𝑢 และ 𝑥 ตามลำดับ
𝑑𝑦 𝑑𝑦 𝑑𝑢
= ∙
𝑑𝑥 𝑑𝑢 𝑑𝑥

แบบฝ<กหัด จงหาอนุพันธ7ของฟ6งก7ชันตBอไปนี้
-"
1. ถ6า 𝑦 = 4𝑢$ − 2𝑢 − 2566 และ 𝑢 = 2𝑥 + 10 จงหา
-&
วิธีทำ

-"
2. ถ6า 𝑦 = (4𝑢$ − 2𝑢 − 2566)* และ 𝑢 = 𝑥 * จงหา
-&
วิธีทำ

$ -"
3. ถ6า 𝑦 = √𝑢$ − 9𝑢 และ 𝑢 = (𝑥 − 1)$ จงหา
-&
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 20
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

$ -"
4. ถ6า 𝑦 = (𝑢. − 1)$ ∙ √𝑢$ − 9𝑢 และ 𝑢 = 3𝑥 + 1 จงหา
-&
วิธีทำ

2.4. การหาอนุพันธ;ฟMงก;ชัโดยปริยาย หรือ ฟMงก;ชันแฝง


ฟEงก0ชันที่อยูAในรูป 𝑦 = 𝑥 , + 1 เรียกวAานิยามด6วยชัดแจ6ง แตAสมการที่อยูAในรูป
𝑦, + 𝑥, = 1
เรียกวAานิยามฟEงก0ชัน 𝑦 = 𝑓 (𝑥) โดยปริยาย aka: y ติด operation ไมAยืนหนึ่ง ไมAยืนคนเดียว
ขั้นตอนการแก6
-
1. Take ในสมการโจทย0ได6เลย
-&
2. Diff ปกติในพจน0ที่มีแคA x
3. สAวนพจน0ท่ตี ิด y จะต6องใช6กฎลูกโซA
-"
4. จัดรูปดึงพจน0รAวม แล6วย6ายพจน0อื่นไปอีกฝE•งให6หมด
-&
-"
5. แก6สมการได6 ตามโจทย0ต6องการ
-&
แบบฝ<กหัด จงหาอนุพันธ7ของฟ6งก7ชันตBอไปนี้
-"
1. จงหาคAาอนุพันธ0 ของ ฟEงก0ชัน 𝑦 , + 𝑥 , = 1
-&
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 21
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

-"
2. จงหาคAาอนุพันธ0 ของ ฟEงก0ชัน 𝑦 + + 𝑦 , − 7𝑦 − 𝑥 , = −5
-&
วิธีทำ

-"
3. จงหาคAาอนุพันธ0 ของ ฟEงก0ชัน sin(𝑦) = 𝑥 พร6อมทั้งหาอนุพันธ0ที่จุด (0,0)
-&
วิธีทำ

-"
4. จงหาคAาอนุพันธ0 ของ ฟEงก0ชัน 𝑦 + − 𝑥𝑦 + 𝑦 , = 7
-&
วิธีทำ

-"
5. จงหาคAาอนุพันธ0 ของ ฟEงก0ชัน 10𝑥𝑦 + cos 𝑥 = 2𝑦
-&
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 22
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

2.5. การหาอนุพันธ;ฟMงก;ชัน อิงตัวแปรเสริม *มักถูกเขียนในรูปตัวแปรอื่นๆ เช;น x = f(t) , y = g(t)


ทำได6สองวิธี คือ (1) การจำกัดตัวแปร และ (2) ใช6กฎลูกโซA
(1) โดยการกำจัด ตัวแปรเสริม ออกไป เพื่อให6อยูAในรูป y =f(x) แล6วคAอยดิฟฟฟ ตัวอยAางเชAน
-"
จงหาคAาอนุพันธ0 ของสมการอิงตัวแปรเสริมตAอไปนี้
-&
𝑥 = 𝑡 + 1 และ 𝑦 = 𝑡2 + 2𝑡 + 1
วิธีทำ

(2) ใชQกฎลูกโซB มาชAวยแก6


ถ6า 𝑥 = 𝑓 (𝑡) และ 𝑦 = 𝑔(𝑡).
-" -" -0 -&
จะได6 𝑦/ = = ∙ = เมื่อ ≠0
-& -0 -& -0
และสูตรการหาอนุพันธ0อันดับสอง จะได6
-!" -" & -0 -&
𝑦 // = = ∙ = เมื่อ ≠0
-& ! -0 -& -0

แบบฝ<กหัด จงหาอนุพันธ7โดยใชQกฎลูกโซBของฟ6งก7ชันตBอไปนี้
-" -!"
1. จงหาคAาอนุพันธ0 และ ของสมการอิงตัวแปรเสริมตAอไปนี้
-& -&
𝑥 = 𝑡2 + 1 และ 𝑦 = 𝑡3 + 2𝑡 + 12
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 23
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

2. จงหาคAาความชัน ณ จุด t = -1 ของสมการอิงตัวแปรเสริมตAอไปนี้


5𝑡+7
𝑥 = 2𝑒 + 2𝑡 และ 𝑦 = cos 𝑡 + 2 sin 𝑡 + 𝑡
วิธีทำ

𝟎 1
2.6. การหาลิมิตโดยใชJ กฎโลปTตาล *ใชEเมื่อเจอรูปแบบไม.กำหนด คือ lim= 𝟎 , ± 1
กฎโลบิตาล
>(!) >(!) >' (!)
ให6 lim ?(!) เป\นรูปแบบไม:กำหนด จะได?ว:า lim ?(!) = lim ?'(!)
!→# !→# !→#

Note: ใช?ในกรณีลิมิตซ?าย ลิมิตขวา ก็ได?เหมือนกัน


แบบฝ<กหัด จงหาลิมิตตBอไปนี้
𝑥2 &$!&*
1. lim
!→* 𝑥−3
วิธีทำ

𝑥2023 &%
2. lim
!→% 𝑥2 −1
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 24
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

sin 𝑥
3. lim
!→' 𝑥
วิธีทำ

2−2 cos 𝑥
4. lim 6𝑥
!→'
วิธีทำ

ln 𝑥
5. lim
!→1 𝑥
วิธีทำ

ln 𝑥
6. lim(
&→A & )*
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 25
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

ถ6าเปjนรูปแบบไมAกำหนดอื่นๆ เชAน
1 𝟎 1
lim = ∞ − ∞/𝟎 ∙ /𝟎𝟎 จะต?องจัดรูปให?เป\นรูปแบบ , ± ใหEไดEก.อนโลบิตาล
𝟏( 𝟎 1
B+ C
7. lim(( − )
&→A & &
วิธีทำ

C &
8. lim ( 1 + )
!
&/0 .
(hint: 𝐴% = 𝑒&' (*+") และ ,→-
lim 𝑒 . = 𝑒 "→$ )
&→D &
วิธีทำ

2.7. การหาอนุกรมเทย;เลอร;และอนุกรมแมคลอริน
(Taylor and Maclaurin Series)
ทฤษฎีบท ฟEงก0ชันอนุกรมกำลังรอบจุด a
ถ6า𝑓(𝑥) เปjนฟEงก0ชันที่มีอนุกรมรอบจุด 𝑎 กลAาวคือ มีจำนวนจริงบวก ℝ ที่ทำให6
D

𝑓(𝑥) = O 𝑎E (𝑥 − 𝑎)E
E#A
$, (F)
สำหรับทุกๆ 𝑥 ที่ |𝑥 − 𝑎| < ℝ แล6วจะได6วAา 𝑎E =
E!
(E )
เมื่อ 𝑓 (𝑎) คือ อนุพันธ0อันดับที่ 𝑛 ที่ 𝑎
Note: อนุกรมกำลังจะอยูAในรูปของ ∑#&(' 𝑎& 𝑥 & = 𝑎' + 𝑎) 𝑥 + 𝑎* 𝑥 * + ⋯
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 26
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

เราจะเรียกอนุกรมนีว้ Bา อนุกรมเทย7เลอร7 ที่จุด a


1
𝑓 $ (𝑎)
𝑓 (𝑥 ) = F (𝑥 − 𝑎)$
𝑛!
$23
𝑓 44 (𝑎)(𝑥 − 𝑎)0 𝑓 44 (𝑎)(𝑥 − 𝑎)5
= 𝑓(𝑎 ) + 𝑓 4 (𝑎)(𝑥 − 𝑎) + + +⋯
2! 3!
ถQา a = 0 จะเรียกอนุกรมวBา อนุกรมแมคลอริน
1
𝑓 $ (0) $
𝑓 (𝑥 ) = F 𝑥
𝑛!
$23
𝑓′′ (0)𝑥2 𝑓′′′ (0)𝑥3
= 𝑓 (0) + 𝑓′ (0)(𝑥) + + +⋯
2! 3!

แบบฝ<กหัด จงหาอนุพันธ7โดยใชQวิธีการอนุกรมเทย7เลอร7และอนุกรมแมคลอริน
1. จงกระจาย 𝑓(𝑥) = cos(𝑥) ให6อยูAในรูปของอนุกรมแมคลอริน
วิธีทำ

2. จงกระจาย 𝑓(𝑥) = ln(𝑥) ให6อยูAในรูปของอนุกรมเทย0เลอร0 รอบจุด 𝑎 = 1


วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 27
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD
A
3. จงกระจายอนุกรมเทย0เลอร0ของ 𝑓(𝑥) = 𝑠𝑖𝑛(𝑥) รอบจุด 𝑎 = $
วิธีทำ

สามารถนำไปประยุกต4หาค7าประมาณได:ด:วยนะ!
4. จงหาพหุนามแมคลอรินดีกรี 4 ของ 𝑓(𝑥) = cos (𝑥) แล6วใช6ประมาณคAาของ cos (0.1)
(คAาจริง cos(0.1)=0.9950041653)
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 28
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

2.8 การประยุกต;ค0าเชิงอนุพันธ;
การหาคAาโดยประมาณ
ถ6าต6องการหาคAาประมาณของสAวนเปลี่ยนแปลงของฟEงก0ชัน 𝑦 = 𝑓(𝑥) มักจะใช6 𝑑𝑦
แทน ∆𝑦 เพราะ ∆𝑦 มีคAาเข6าใกล6 𝑑𝑦 เมื่อคAา 𝑑𝑥 มีคAาเข6าใกล6ศูนย0 จะได6วAา....

𝑓(𝑥 + ∆𝑥 ) ≈ 𝑓 (𝑥) + 𝑓 $ (𝑥 )∆𝑥 = 𝑦 + 𝑑𝑦

จงหา 𝑓(𝑥) และ คAาของ 𝑥 และ ∆𝑥 จากนั้นจงหาคAาประมาณที่ได6ในแตAละข6อตAอไปนี้


1. (3.001)+
วิธีทำ

2. (9.98)H
วิธีทำ

3. ln (9.8)
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 29
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

4. √16 + 3.02,
วิธีทำ

5. 𝑒 ,.C
วิธีทำ

6. ln (9.8)
วิธีทำ

7. 𝑒 J.K ln (9.8)√16 + 9.8,


วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 30
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

เมื่อเจอตรีโกณมิติด6วยลAะ! อาจารย0จะให6คAาประมาณมาให6เชAน
8. จงหาคAาประมาณของ sin29∘ (กำหนด 1∘ = 0.01745)
วิธีทำ

9. จงหาคAาประมาณของ sin61∘ (กำหนด sin60∘ = 0.86603) )


วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 31
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

FMN0FEA.J
10. จงหาคAาประมาณของ (ตอบในรูปของทศนิยม 2 ตำแหนAง)
A.J
วิธีทำ

YOU ALL CAN BE PRACTICE MORE BY USING THESE REFERENCES:


[1] https://theorendatutor.com/wp-content/uploads/2015/12/Basic-Calculus.pdf
[2] Ref http://elearning.psru.ac.th/courses/154/2.3.pdf
[3] Sakkara Slow Back, อนุกรมเทยUเลอรUและอนุกรมแมคลอริน (Taylor and Maclaurin Series)
[4] http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~ksujin/slide(103)08.pdf
[5] ที่มา file:///Users/suvapornhomjandee/Downloads/Scan%20by%20RICOH-naraka-26-10-
2561.pdf
[6] http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~ksujin/slide(103)12.pdf
โครงการทบทวนความรู. ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 32
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

บทที่ 3 ปริพันธDไม:จำกัดเขต
การหาปริพันธ0ไมAจำกัดเขตของ 𝑓 คือ
U 𝑓(𝑥 )𝑑𝑥 = 𝐹 (𝑥 ) + 𝐶
จะเรียก 𝐹 เปjนปฏิยานุพันธ0ของฟEงก0ชัน 𝑓 ก็ตAอเมื่อ 𝐹 / (𝑥) = 𝑓(𝑥) ทุกคAา 𝑥

สมบัติของปริพันธ0 ให6 u และ 𝑣 เปjนฟEงก0ชันของ 𝑥 และ k เปjนคAาคงที่ จะได6วAา


1. ∫(𝑢 ± 𝑣)𝑑𝑥 = ∫ 𝑢 𝑑𝑥 ± ∫ 𝑣𝑑𝑥
2. ∫ 𝑘𝑢 𝑑𝑥 = 𝑘 ∫ 𝑢 𝑑𝑥

3.1. การหาปริพันธ;โดยการใชJสูตร (PDF)


โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 33
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

แบบฝ<กหัด จงหาปฏิยานุพันธ7ของฟ6งก7ชันตBอไปนี้
1. ∫ 2𝑥 + sin 𝑥 + 5! 𝑑𝑥
วิธีทำ

2. ∫ 𝑥 * √𝑥𝑑𝑥
วิธีทำ

%&$B $
3. ∫ B)
𝑑𝑥
วิธีทำ

4. ∫ sec 𝑥(sec 𝑥 + 1) 𝑑𝑥
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 34
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

3.2. การหาปริพันธ;โดยการแทนค0าตัวแปร (การแทน u)


เมื$อปริ พนั ธิอยูใ่ นรู ป ∫ 𝑓?𝑔(𝑥)A𝑔′(𝑥)𝑑𝑥
(1) ให้ u = 𝑔(𝑥) จะได้ 𝑑u = 𝑔′(𝑥)𝑑𝑥
(2) แทนค่า ให้ 𝑔(𝑥) และ 𝑔′(𝑥)𝑑𝑥 จะได้ ∫ 𝑓?𝑔(𝑥)A𝑔′(𝑥)𝑑𝑥 = ∫ 𝑓(𝑢)𝑑𝑢
(3) หาอินทิเกรตได้ปกติ พอหาเสร็ จอย่าลืมแทน u กลับเด้อ
แบบฝึ กหัด จงหาปริพนั ธ์ ต่อไปนี8
1. ∫ 𝑥 * (2𝑥 . + 5)C 𝑑𝑥
วิธีทำ

!)DE;$!
2. ∫ √!!&FGD$!)4 𝑑𝑥
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 35
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD
$
3. ∫ 𝑠𝑖𝑛2𝑥 √3 + 𝑐𝑜𝑠 $ 𝑥𝑑𝑥
วิธีทำ

H !*
4. ∫ H !*). 𝑑𝜃
วิธีทำ

*H $+
5. ∫ 2 𝑑𝑡
%/&H ,+
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 36
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

#IFDE;!
6. ∫ √%&! !
𝑑𝑥
วิธีทำ

เมื<อเราชํานาญเราไม่ จาํ เป็ นต้ องแทน 𝐮


7. ∫(2𝑥 + 1)(𝑥 $ + 𝑥 − 5)* 𝑑𝑥
วิธีทำ

8. ∫ 𝑒 &#!)J 𝑑𝑥
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 37
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

9. ∫(2𝑥 + 1)(𝑥 $ + 𝑥 − 5)* 𝑑𝑥


วิธีทำ

10. ∫ 𝑥𝑠𝑖𝑛(𝑎𝑥 $ + 𝑏)𝑑𝑥


วิธีทำ

%
11. ∫ #!)J 𝑑𝑥
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 38
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

บางครัBงเมื$อแทน 𝑢 แล้วแทน 𝑑𝑢 ก็แล้ว..... ยังเหลือ 𝑥 อยูก่ ท็ าํ การจัดรู ป 𝑥 ให้อยูใ่ นเทอม 𝑢


12. ∫ 𝑥√𝑥 − 1𝑑𝑥

0-
13. ∫ - 𝑑𝑥
√0 ! )H

บางครัBงก็ไม่สามารถแทน u ได้ทนั ที$ ต้องทําการจัดรู ปก่อน


+
14. ∫ 𝑑𝑥
B !+(*

*K
15. ∫ L𝑥 $ + 𝑥𝑑𝑥
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 39
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

3.3. การหาปริพันธ7ทีละสBวน
บางทีเจอปริพันธ0ไมAอยูAในรูปแบบมาตรฐานและไมAสามารถกำหนดตัวแปรได6แล6วดังนั้นเราจะ
กำหนดวAาโจทย0ตัวไหนควรเปjน 𝑢 และ 𝑑𝑣 จากนั้น ใช6สูตรด6านลAางนี้ชAวย
U 𝑢𝑑𝑣 = 𝑢𝑣 − U 𝑣𝑑𝑢

แบบฝึ กหัด จงหาปริพนั ธ์ ต่อไปนี8


1. ∫ 𝑥𝑒 ! 𝑑𝑥
วิธีทำ

2. ∫(3𝑥 + 1) sin 2𝑥 𝑑𝑥
วิธีทำ

3. ∫ 𝑥 * cos 𝑥 $ 𝑑𝑥
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 40
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

LM !
4. ∫ !!
𝑑𝑥
วิธีทำ

5. ∫ 𝑥 arctan 𝑥 𝑑𝑥
วิธีทำ

3.4. การหาปริพันธ7ฟ6งก7ชันตรีโกณมิติ ในบางรูปแบบ


ในการหาปริ พนั ธ์ฟังก์ชนั ตรี โกณมิติ บางครัBงสามารถใช้สูตรได้โดยตรง ต้องจัดรู ปโดยอาศัย
เอกลักษณ์ตรี โกณต่างๆ (มีในห้องสอบ)

แบบฝึ กหัด จงหาปริพนั ธ์ ต่อไปนี8


NPQ,&
1. ∫ ! 𝑑𝑥
QRE &
วิธีทำ
โครงการทบทวนความรู- ปรับพื้นฐาน นิสิตใหม: 41
วิทยาวิชาการ ป=ที่ 2 คณะวิทยาศาสตรD มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรD

2. ∫ 𝑠𝑒𝑐𝑥𝑠𝑖𝑛2𝑥𝑑𝑥
วิธีทำ

3. ∫ √1 + 𝑐𝑜𝑠2𝑡𝑑𝑡
วิธีทำ

C
4. ∫ 𝑑𝑥
C*QRE&
วิธีทำ

You might also like