Professional Documents
Culture Documents
ศูนย์ พฒ
ั นาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปะนาเระ
สั งกัดเทศบาลตำบลปะนาเระ
ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
คำนำ
การจัดการศึกษาตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช๒๕๔๒ ได้
กำหนดให้สถานศึกษาดาเนินการจัดทำหลักสู ตรระดับสถานศึกษาโดยมีควำมสอดคล้องกับหลักสู ตรแกนกลาง และ
สภาพตามบริ บททางวัฒนธรรม วิถีชีวติ ของสังคมชุ มชนและท้องถิ่นของผูเ้ รี ยน ซึ่ งมีลกั ษณะแตกต่างกันไป ทั้งนี้
เพื่อให้สถานศึกษาได้ใช้หลักสู ตรสถานศึกษาเป็ นแนวทางในการจัดการศึกษาให้มีประสิ ทธิภาพ และมีมาตรฐาน
ทัดเทียมกันประกอบกับกระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งที่ สพฐ. ๑๒๒๓/๒๕๖๐ ลงวันที่๓ สิ งหาคม๒๕๖๐ เรื่ อง
ให้ใช้หลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๖๐ แทนหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๔๖ ตั้งแต่ปี
การศึกษา๒๕๖๑ เป็ นต้นไป
ศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปะนาเระ
สังกัดเทศบาลตำบลปะนาเระ
สารบัญ
เรื่ อง หน้ า
ประกาศการใช้หลักสู ตรสถานศึกษา ๑
บทที่๓ ภารกิจการจัดการศึกษาปฐมวัย ๔
บทที่๔ เป้าหมายการจัดการศึกษาปฐมวัย ๔
บทที่๕ จุดมุ่งหมายการศึกษาปฐมวัย ๕
บทที่๑๐ การประเมินพัฒนาการ ๕๕
บทที่๑๒ การประเมินหลักสู ตร ๕๘
ภาคผนวก
ประกาศศูนย์ พฒ
ั นาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปะนาเระ
เรื่ องให้ ใช้ หลักสู ตรสถานศึกษาศูนย์ พฒ ั นาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปะนาเระ
พุทธศักราช ๒๕๖๑
ตามหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐
---------------------
การจัดการศึกษาตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช๒๕๔๒ ได้
กำหนดให้สถานศึกษาดาเนินการจัดทำหลักสู ตรระดับสถานศึกษา โดยมีความสอดคล้องกับหลักสู ตรแกนกลาง และ
สภาพตามบริ บททางวัฒนธรรมวิถีชีวติ ของสังคมชุ มชนและท้องถิ่นของผูเ้ รี ยน ซึ่ งมีลกั ษณะแตกต่างกันไป ทั้งนี้
เพื่อให้สถานศึกษาได้ใช้หลักสู ตรสถานศึกษาเป็ นแนวทางในการจัดการศึกษาให้มีประสิ ทธิภาพและมีมาตรฐาน
ทัดเทียมกัน ประกอบกับกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีคำสั่งที่ สพฐ. ๑๒๒๓/๒๕๖๐ ลงวันที่๓ สิ งหาคม๒๕๖๐ เรื่ อง
ให้ใช้หลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๖๐ แทนหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๔๖ ตั้งแต่ปี
การศึกษา๒๕๖๑ เป็ นต้นไป
ศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปะนาเระสังกัดเทศบาลตำบลปะนาเระ ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ
จังหวัดปั ตตานีได้ตระหนักถึงความสำคัญของภารกิจดังกล่าว จึงได้จดั ให้มีการสร้างหลักสู ตรสถานศึกษาการศึกษา
ปฐมวัย (สำหรับเด็กอายุ ๓ – ๖ ปี ) โดยกาหนดถึงความสอดคล้อง กบหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัย ั พุทธศักราช ๒๕๖๐
เพื่อให้ผบู ้ ริ หารศูนย์พฒั นาเด็กเล็กครู ผปู ้ กครองชุมชนและผูม้ ีส่วนเก่ียวข้องกบการพัฒนาเด็กปฐมวัย ั มี
ความรู ้ความเข้าใจที่ชดั เจนและสามารถนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมประสบการณ์อยางมีประสิ ทธิ ภาพ่ สมตาม
เจตนารมณ์ของหลักสู ตรสถานศึกษาที่กาหนดไว้ในฉบับนี้
ทั้งนี้หลักสู ตรสถานศึกษาศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระพุทธศักราช.......(ส าหรับเด็กอายุ
๓ – ๖ ปี ) ฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริ หารศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระในการ
ประชุมครั้งที่..../........เมื่อวันที่........เดือน....พ.ศ......จึงประกาศให้ใช้หลักสู ตรสถานศึกษาฉบับปรับปรุ งนี้ในศูนย์
พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปะนาเระสังกดเทศบาลตัาบลปะนาเระ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็ นต้นไป
ประกาศ วันที่.……..เดือน.……....พุทธศักราช...……...
ณ
(........................................................) (........................................................)
ประธานคณะกรรมการบริ หารศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก ผูบ้ ริ หารศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก
(๒)
หลักสู ตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย
ศูนย์ พฒ
ั นาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปะนาเระ
บทที๑่
ข้ อมูลทัว่ ไปของสถานศึกษา
ข้ อมูลทัว่ ไป
ศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระตั้งอยูหมู่ที่ 1 ตำบลปะนาเระอ าเภอปะนาเระจังหวัดปัตตานี
จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 สื บเนื่องจากกองการศึกษา เทศบาลตตำบลปะนาเระได้สำเร็ จความต้องการของชุมชนและ
ประชาชนในเขตเทศบาล ซึ่ งผลจากการสำรวจนั้น ประชาชนเห็นด้วยและต้องการให้เทศบาลจัดตั้งศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก
และได้มีการเปิ ดการเรี ยนการสอนเมื่อวันที่18พฤษภาคม 2554
เทศบาลตาบลปะนาเระมีพ้นื ที่ความรับผิดชอบประมาณ 13.952 ตารางกิโลเมตรหรื อประมาณ 8718.75
ไร่ ครอบคลุม5 หมู่บา้ น ดังนี้
หมู่ที่ 1 บ้านปะนาเระตะวันออก
หมู่ที่ 2 บ้านนาพร้าว
หมู่ที่ 3 บ้านปะนาเระ(ตอนกลาง)
หมู่ที่ 4 บ้านคลองต ่่า
หมู่ที่ 5 บ้านคาโต
อาณาเขต
ทิศเหนื อติดต่อกบอัา่ วไทย
ทิศใต้ติดต่อกบองค์การบริ หารสัว่ นตาบลท่าข้าม
ทิศตะวันออกติดต่อองค์การบริ หารส่ วนตาบลบ้านกลาง
ทิศตะวันตกติดต่อกบองค์การบริ หารสัว่ นตาบลตะโละกาโปร์ อาเภอยะหริ่ ง จังหวัดปั ตตานี
สภาพชุมชน
บริ เวณที่ต้ งั ของศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลตาบลปะนาเระ อ าเภอปะนาเระจังปั ตตานี อยูใกล้ก่บหาดปะ่ั
นาเระ ฐานะของครอบครัวอยูระดับปานกลาง่ นักเรี ยนส่ วนใหญ่มีสภาพครอบครัวที่อบอุ่น นับถือศาสนาอิสลาม
ประกอบอาชีพประมงขนาดเล็กรองลงมาคือการค้าขาย และรับจ้างมีรายได้ปานกลาง
(๓)
บทที่๒
ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย
ตามหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัย พทธศักราชุ ๒๕๖๐
--------------------------------
การศึกษาปฐมวัยเป็ นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึง6 ปี บริ บูรณ์อยางเป็ น่-องค์รวมบนพื้นฐาน
การอบรมเลี้ยงดูและการส่ งเสริ มกระบวนการเรี ยนรู ้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามวัยของเด็กแต่ละคนให้เต็ม
ตามศักยภาพภายใต้บริ บทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยูดว้ ยความรัก่ ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน
เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ ความเป็ นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัวสังคมและ
ประเทศชาติ
วิสัยทัศน์ การศึกษาปฐมวัย
ตามหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพทธศักราชุ ๒๕๖๐
------------------------------------
หลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยมุ่งพัฒนาเด็กทุกคนให้ได้รับกาพัฒนาด้านร่ างกาย อารมณ์จิตใจสังคมและ
สติปัญญาอยางมีคุณภาพและต่่อเนื่อง ได้รับการจัดประสบการณ์การเรี ยนรู ้อยางมีความสุ ขและเหมาะสมตามวัย่ มี
ทักษะชีวติ และปฏิบตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็ นคนดีมีวินยั และส านึกความเป็ นไทยโดยความ
ร่ วมมือระหวางสถานศึกษา่่ พอแม่่ครอบครัวชุมชนและทุกฝ่ ายที่เก่ียวข้องกบการพัฒนาเด็ก
ปรัชญา
ศูนย์ พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระ
สั งกัดเทศบาลต าบลปะนาเระ
------------------------------------
จัดการศึกษาโดยเน้นคุณธรรมกีฬา พัฒนาคุณภาพชีวติ อนุ รักษ์วฒั นธรรมประเพณี บริ การที่ดีเป็ นเลิศ
วิสัยทัศน์
ศูนย์ พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระ
สั งกัดเทศบาลต าบลปะนาเระ
------------------------------------
“การศึกษาเด่น เน้นคุณธรรม นากีฬา พัฒนาคุณภาพชีวิตอนุรักษ์วฒั นธรรมประเพณี บริ การที่ดีเป็ นเลิศ”
ศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระมุ่งน้นพัฒนาผูเ้ รี ยนให้มีความพร้อมทั้ง ๔ ด้านมีสุขภาพกาย
สุ ขภาพจิตและสุ ขนิสัยที่ดีมีสุนทรี ยภาพตามศิลปะดนตรี และการเคลื่อนไหวมีความรับผิดชอบมีระเบียบวินยั ซื่อสัตย์
รักชาติศาสนา พระมหากษัตริ ยร์ ักความเป็ นไทยรักธรรมชาติสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการใช้ภาษาในการ
สื่ อสารคิดและแกปั ญหาได้เหมาะสมตามวัยและอยูร้ ่ วมกบผูอ้ ื่นในสังคมอยัางมีความสุ ข่
(๔ )
บทที่๓
ภารกิจการจัดการศึกษาปฐมวัย
ศูนย์ พฒ
ั นาเดกเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระ
สั งกัดเทศบาลต าบลปะนาเระ
บทที๔่
เป้ าหมายการจัดการศึกษาปฐมวัย
ศูนย์ พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระ
สั งกัดเทศบาลต าบลปะนาเระ
บทที๕ ่
จุดม่ งหมายการศึกษาปฐมวัยุ
ตามหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัย พทธศักราชุ ๒๕๖๐
(ส าหรับเด็กอายตุากว่ า่่ ๓ ปี )
------------------------------------
หลักสู ตรการศึกษาปฐมวัย สำหรับเด็กอำยุ ๓ – ๖ ปี เป็ นกำรจัดกำรศึกษำ
จุดหมาย
การพัฒนาเด็กอายุต่ากวา่่ ๓ ปี มุ่งส่ งเสริ มให้เด็กมีพฒั นาการด้านร่ างกาย อารมณ์จิตใจสังคมและ
สติปัญญาที่เหมาะสมกบวัย ั ความสามารถ ความสนใจ และความแตกต่างระหวางบุคคล่ ดังนี้
๑. ร่ างกายเจริ ญเติบโตตามวัย แข็งแรงและมีสุขภาพดี
๒. สุ ขภาพจิตดีและมีความสุ ข
๓. มีทกั ษะชีวิตและสร้างปฏิสัมพันธ์กบบุคคลรอบตัวและอยูรั ่ วมกบผูอ้ ื่นได้อยัางมีความสุ ข่
๔. มีทกั ษะการใช้ภาษาสื่ อสารแลสนใจเรี ยนรู ้สิ่งต่าง ๆ
(๖)
จุดม่ งหมายการจัดการศึกษาปฐมวัยุ
ศูนย์ พฒ
ั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระ
สั งกัดเทศบาลต าบลปะนาเระ
คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์
มำตรฐำน
......................................
หลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๖๐ กาหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์สาหรับเด็กอายุต่า
กวา่่ ๓ ปี ดังนี้
๑. พัฒนาการด้ านร่ างกาย
๑. ร่ างกายเจริ ญเติมโตตามวัยและมีสุขภาพดี
๒. ใช้อวัยวะของร่ างกายได้ประสานสัมพันธ์กนั
๒. พัฒนาการด้ านอารมณ์จิตใจ
๓. มีความสุ ขและแสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกบวัย ั
๓. พัฒนาการด้ านสั งคม
๔. รับรู ้และสร้างปฏิสัมพันธ์กบบุคคลและสิั่ งแวดล้อมรอบตัว
๕. ช่วยเหลือตนเองได้เหมาะสมกบวัย ั
๔. พัฒนาการด้ านสติปัญญา
๖. สื่ อความหมายและใช้ภาษาได้เหมาะสมกบวัย ั
๗. สนใจเรี ยนรู ้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว
พัฒนาการ คุณลักษณะ คุณลักษณะ สภาพที่พงึ่ ประสงค์ สาระการเรียนร้ ู่
ีท่พึงประสงค 2-3 ปี
สาระที่ควรร้ ู่ ประสบการณ์ ส าคัญ
- น ่า่ีหนักและส่วนสู งตามเกณ ่้
ด้ านร่ างกาย ๑. ร่ างกายเจริ ญเติบโต ๑.๑ มีน ่า่ีหนักส่ วนสู ง -นา่้หนักส่ วนสู งตามเกณฑ์ของ -การเคลื่อนไหวส่ วนต่างๆของ
ตามวัยและมีสุข และเส้นรอบศีรษะตาม - เส้นรอบศีรษะตามเกณฑ์ กรมอนามัย ร่ างกายตามจังหวะดนตรี
เกณฑ์อายุ
ด้ านอารมณ์ จิตใจ ๓.มีความสุ ขและ ๓.๑ ร่ าเริ งแจ่มใส - อารมณ์ดียมิ แย้ม้ หัวเราะแววตามี แสดงพฤติกรรมทางบวกมีอารมณ์ด การรับรู้้่ อารมณ์หรื อความร
แสดงทางอารมณ์ได้ ความสุ ข ยิมแย้มแจ้มใส่ สึ กของตนเองการแสดงอารมณ์
่ี
เหมาะสมกบวัย ั ท่เป็ นสุ ข
ด้ าน ๖.สื่ อความหมายและใช ๖.๑ รับรู้้่ และเข้าใจความหมายขอ - ร้องเพลงได้บางค ่าและร้อง -รับรู้่ภาษาและแสดงสี หน้าท่าทาง -การตอบค าถามจากการคิดการ
สติปัญญา ภาษาได้เหมาะสมกบวัย ั ภาษาได้ตามวัย เพลงคลอตามท ่านอง ตอบสนองต่อคาสั้งง่าย เชื่อมโยงจากประสบการณ์เดิม
- สนใจดูหนังสื อนิทานภาพ
๖.๒ แสดงออกและ/หรื อพูด -พูดเป็ นวลีส้ นั ๆ -พูดเพื่อสื่ อความหมายอยางถูกต้อง่ -การเรี ยงล าดับเหตุการณ์
เพื่อสื่ อความหมายได้ -มักจะถามค าถาม"อะไร"และ" ยืดหยุนความคิดตามวัย่
ท าไม"
๗.สนใจเรี ยนรู้่สิ่ ง ๗.๑ สนใจและเรี ยนรู้่สิ่ งต่างๆ -อยากเรี ยนรู้่สิ่ งต่างๆ ่ี -การฟังเสี ยงต่างๆรอบตัว การฟัง
-สนใจและเรี ยนรู้่สิ่งทอยู้่รอบตัว่
ต่างๆรอบตัว รอบตัว -ถามบ่อยถามซ้า นิทานหรื อเรื่ องราวสั้นๆ
-จดจ่อต่อสิ่ งใดสิ่ งหนึ่ งได้ยาวนานขึ้น
่ี
สัมผัส 2-3ชิ้น แกปั ญหาในเรื่ องท้ง่ ่ายๆด้วยตนเอง
-ชอบละเลงสี ดว้ ยมือ
(๙)
บทที่๖
โครงสร้ างหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัย
ศูนย์ พฒ
ั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระ
สั งกัดเทศบาลต าบลปะนาเระ
ก าหนดเวลาเรียน
----------------------------
บทที่๗
สาระการเรี ยนร้ ู่
.......................................
1. การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันตามวัย
2. การเล่นอยางอิสระ่่
3. การเล่นรวมกลุ่มกบผูอ้ ื่นั
4. การแบ่งปั นหรื อการให้
5. การอดทนรอคอยตามวัย
6. การใช้ภาษาบอกความต้องการ
7. การออกไปเล่นนอกบ้าน
8. การไปสวนสาธารณะ
9. การออกไปร่ วมกิจกรรมในศาสนาสถาน
(๑๔)
๑.๔ ประสบการณ์ส าคัญทีส่ ่ งเสริมพัฒนาการด้ านสติปัญญาเป็ นการสนับสนุนให้เด็ก
ได้รับรู ้และเรี ยนรู ้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวในชีวติ ประจาวันผานประสาทสัมผัสทั้ง่ ห้า และการเคลื่อนไหวได้พฒั นาการการ
ใช้ภาษาสื่ อสารความหมายและความคิดูจกั สังเกตคุณลักษณะต่าง ๆ ไม่วาจะเป็ นสี่ ขนาด รู ปร่ าง รู ปทรงผิวสัมผัส
จดจาชื่ อเรี ยกสิ่ งต่าง ๆ รอบตัว
๒. สาระทีค่ วรเรี ยนร้ ู่ สาระที่จะให้เด็กอายุต่ากวา่่ ๓ ปี เรี ยนรู ้ควรเป็ นเรื้ องที่เก่ียวกบตนเองเป็ นลัาดับแรก แล้วจึง
ขยายไปสู่ เรื่ องที่อยูใกล้ตวั เด็ก่ เพื่อน าไปใช้ในการด าเนินชีวติ ประจด็กคาวรได้รับการอบรมเลีัน้ยงดูและส่ งเสริ ม
พัฒนาการและการเรี ยนรู ้ให้เหมาะกบวัย ั ดังนี้
๒.๑ เรื่ องราวเกีย่ วกับตัวเด็กควรเรี ยนรู ้เก่ียวกบชื่อ ั และเพศของตนเอง การเรี ยกชื่อส่ วนต่าง ๆ ของใบหน้าและ
ร่ างกาย การดูแลตนเองเบื้องต้น โดยมีผใู ้ หญ่ให้การช่วยเหลือ การล้างมือการขับถ่าย การรับประทานอาหาร การ
ถอดและใส่ เสื้ อผ้า การรักษาความปลอดภัยและการนอนหลับพักผอน่
(๑๕)
ประสบการณ์
ด้ านร่ างกาย
- การเคลื่อนไหวกบที่และการเคลื่อนไหวั เคลื่อนที่
- การเคลื่อนไหวพร้อมอุปกรณ์
- การเล่นเครื่ องเล่นสนาม
- การเล่นเครื่ องเล่นสัมผัส
- การเขียนภาพและการเล่นกบสีั
- การปั้ นและการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ
- การปฏิบตั ิตามสุ ขภาพอนามัย
- การรักษาความปลอดภัยของตนเองและผูอ้ ื่น
ด้ านอารมณ์จิตใจ
- การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสี ยงดนตรี ง่ายๆ เช่น เครื่ องดนตรี ประเภทเคาะประเภทตีฯลฯ
- การร้องเพลง
- การชื่นชมและสร้างสรรค์ทีิ ่สวยงาม
- การแสดงออกอยางสนุกสนานก่บเรื่ องสนุก ั ตลกขบขันและเรื่ องราวหตุการณ์ที่สนุกต่าง ๆ
- การเล่นอิสระ
- การเล่นรายบุคคลและเป็ นกลุ่ม
- การเล่นในห้องเรี ยน และนอกห้องเรี ยน
ด้ านสั งคม
- การปฏิบตั ิกิจวัตรประจาวันของตนเอง
- การเล่นและการทางานร่ วมกบผูอ้ ื่นั
- การแกปั ญหาในการเล้น่ การปฏิบตั ิตามวัฒนธรรมตามท้องถิ่นที่อยูอาศัย่ อยูและความเป็ นไทย่
ด้ านสติปัญญา
- การรู ้จกั สิ่ งต่าง ๆ ด้วยการฟังการมอง การสัมผัสชิมรส ดมกลิ่น
- การเชื่อมโยงภาพภาพถ่าย และรู ปแบบต่าง ๆ กบสิั่ งของหรื อสถานที่จริ ง
- การรับรู ้และแสดงความรู ้สึกผานสื่ อ่ วัตถุของเล่นและผลงาน
- การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผานสื่ อ่ วัสดุ
- การพูดกบผูอ้ ื่นเกัียวกบประสบการณ์
่ ของตนเองหรื อเลัา่ เรื่ องเก่ียวกบตนเองั
- การอธิ บายเก่ียวกบสิั่ งของเหตุการณ์และความสัมพันธ์ของเรื่ องราวที่สนใจ
- การเพิมขึ้ ่ นหรื อลดลงของจานวนหรื อปริ มาณ
- การอธิ บายในเรื่ องตาแหน่งของสิ่ งของต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กนั
(๑๖)
- การเริ่ มต้นและการหยุดกระทาโดยสัญญาณ
- การสารวจและอธิ บายความเหมือนและความแตกต่าง
- การจับคู่ จ าแนก จัดกลุ่ม
- การเปรี ยบเทียบช่น สั้น / ยาว ขรุ ขระ/ เรี ยบ ฯลฯ
- การนับสิ่ งต่าง ๆ
- การจัดคู่ หนึ่งต่อหนึ่ง
- การฟังเรื่ องราวนิทานค าคล้องจองค ากลอน
- การเขียนในหลายรู ปแบบผานประสบการณ์่ ที่สื่อความหมายต่อเด็ก
- การอ่านในหลายรู ปแบบผานประสบการณ์่ ที่สื่อความหมายต่อเด็ก
สาระย่อย
1. ชื่อเล่น ชื่ อจริ งนามสกุล
2. ลักษณะรู ปร่ าง หน้าตาและเพศ
3. ชื่อรู ปร่ างหน้าที่และการ ดูแลรักษาส่ วนต่าง ๆ ของร่ างกาย
4. การดูแลรักษาความสะอาดอยางง่่าย ๆ
5. การแบ่งปั น
6. การรับประทานอาหารด้วยตนเอง
7. การเลือกรับประทานอาหาร่ มีประโยชน์ตี่อร่ างกาย
8. การยอมรับผูอ้ ื่น
9. การแสดงความรู ้สึกที่เหมาะสม
10. การเป็ นผูน้ าและผูต้ าม
(๑๗)
ประสบการณ์
ด้ านร่ างกาย
- การเคลื่อนไหวกบที่และการเคลื่อนไหวั เคลื่อนที่
- การเคลื่อนไหวพร้อมอุปกรณ์
- การเล่นเครื่ องเล่นสนาม
- การเล่นเครื่ องเล่นสัมผัส
- การเขียนภาพและการเล่นกบสีั
- การปั้ นและการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ
- การปฏิบตั ิตามสุ ขภาพอนามัย
- การรักษาความปลอดภัยของตนเองและผูอ้ ื่น
ด้ านอารมณ์จิตใจ
- การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสี ยงดนตรี ง่ายๆ เช่น เครื่ องดนตรี ประเภทเคาะประเภทตีฯลฯ
- การร้องเพลง
- การชื่นชมและสร้างสรรค์ทีิ ่สวยงาม
- การแสดงออกอยางสนุกสนานก่บเรื่ องสนุกตลกขบขันและเรื่ องราวั เหตุการณ์
ที่สนุกต่าง ๆ
- การเล่นอิสระ
- การเล่นรายบุคคลและเป็ นกลุ่ม
- การเล่นในห้องเรี ยน และนอกห้องเรี ยน
ด้ านสั งคม
- การปฏิบตั ิกิจวัตรประจาวันของตนเอง
- การเล่นและการทางานร่ วมกบผูอ้ ื่นั
- การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความเคารพความคิดเห็นของผูอ้ ื่น
- การแกปัญหาในการเล้น่
- การปฏิบตั ิตามวัฒนธรรมตามท้องถิ่นที่อยูอาศัย่ อยูและความเป็ นไทย่
ด้ านสติปัญญา
- การรู ้จกั สิ่ งต่าง ๆ ด้วยการฟังการมอง การสัมผัสชิมรส ดมกลิ่น
- การเชื่อมโยงภาพภาพถ่าย และรู ปแบบต่าง ๆ กบสิั่ งของหรื อสถานที่จริ ง
- การรับรู ้และแสดงความรู ้สึกผานสื่ อ่ วัตถุของเล่นและผลงาน
- การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผานสื่ อ่ วัสดุ
- การพูดกบผูอ้ ื่นเกัียวกบประสบการณ์
่ ของตนเองหรื อเลัา่ เรื่ องเก่ียวกบตนเองั
- การอธิ บายเก่ียวกบสิั่ งของเหตุการณ์และความสัมพันธ์ของเรื่ องราวที่สนใจ
- การเพิมขึ้ ่ นหรื อลดลงของจานวนหรื อปริ มาณ
(๑๘)
- การอธิ บายในเรื่ องตาแหน่งของสิ่ งของต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กนั
- การเริ่ มต้นและการหยุดกระทาโดยสัญญาณ
- การสารวจและอธิ บายความเหมือนและความแตกต่าง
- การจับคู่ จ าแนก จัดกลุ่ม
- การเปรี ยบเทียบช่น สั้น / ยาว ขรุ ขระ/ เรี ยบ ฯลฯ
- การเปรี ยบเทียบจานวนมากกวา่่ น้อยกวา่่ เท่ากนั
- การนับสิ่ งต่าง ๆ
- การจัดคู่ หนึ่งต่อหนึ่ง
- การฟังเรื่ องราวนิทานค าคล้องจองค ากลอน
- การเขียนในหลายรู ปแบบผานประสบการณ์่ ที่สื่อความหมายต่อเด็ก
สาระย่อย
1. ลักษณะของบ้าน
2. ความส าคัญความหมายของครอบครัว
3. ชื่อบุคคลในครอบครัว
4. ชื่อรู ปร่ าง ลักษณะหน้าตาของบุคคลในครอบครัว
5. ชื่อของโรงเรี ยนที่ต้ งั
6. บุคคลในโรงเรี ยน
7. หน้าที่ของบุคคลที่อยูในโรงเรี ยน่
8. กฎระเบียบของโรงเรี ยน
9. อาชีพในชุมชน
- การเล่นรายบุคคลและเป็ นกลุ่ม
- การเล่นในห้องเรี ยน และนอกห้องเรี ยน
ด้ านสั งคม
- การปฏิบตั ิกิจวัตรประจาวันของตนเอง
- การเล่นและการทางานร่ วมกบผูอ้ ื่นั
- การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความเคารพความคิดเห็นของผูอ้ ื่น
- การแกปัญหาในการเล้น่
- การปฏิบตั ิตามวัฒนธรรมตามท้องถิ่นที่อยูอาศัย่ อยูและความเป็ นไทย่
ด้ านสติปัญญา
- การรู ้จกั สิ่ งต่าง ๆ ด้วยการฟังการมอง การสัมผัสชิมรส ดมกลิ่น
- การเชื่อมโยงภาพภาพถ่าย และรู ปแบบต่าง ๆ กบสิั่ งของหรื อสถานที่จริ ง
- การรับรู ้และแสดงความรู ้สึกผานสื่ อ่ วัตถุของเล่นและผลงาน
- การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผานสื่ อ่ วัสดุ
- การพูดกบผูอ้ ื่นเกัียวกบประสบการณ์
่ ของตนเองหรื อเลัา่ เรื่ องเก่ียวกบตนเองั
- การอธิ บายเก่ียวกบสิั่ งของเหตุการณ์และความสัมพันธ์ของเรื่ องราวที่สนใจ
- การเพิมขึ้ ่ นหรื อลดลงของจานวนหรื อปริ มาณ
- การอธิ บายในเรื่ องตาแหน่งของสิ่ งของต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กนั
- การเริ่ มต้นและการหยุดกระทาโดยสัญญาณ
- การสารวจและอธิ บายความเหมือนและความแตกต่าง
- การจับคู่ จ าแนก จัดกลุ่ม
(๒o)
- การเปรี ยบเทียบช่น สั้น / ยาว ขรุ ขระ/ เรี ยบ ฯลฯ
- การเปรี ยบเทียบจานวนมากกวา่่ น้อยกวา่่ เท่ากนั
- การนับสิ่ งต่าง ๆ
- การจัดคู่ หนึ่งต่อหนึ่ง
- การฟังเรื่ องราวนิทานค าคล้องจองค ากลอน
- การเขียนในหลายรู ปแบบผานประสบการณ์่ ที่สื่อความหมายต่อเด็ก
สาระย่อย
1. สิ่ งมีชีวติ - ชื่อ - รู ปร่ าง ลักษณะ
- ความเหมือนและความแตกต่าง
- ความเมตตา
- วิธีการใช้ประโยชน์
๒. การคมนาคม
- ประเภท
- ชื่ อของยานพาหนะแต่ละประเภท
- วิธีการเลือกใช้ยานพาหนะที่เหมาะสม
๓. การสื่ อสาร
- ชื่ อเครื่ องมือการสื่ อสาร
แต่ละท้องถิ่นพิจารณาตามความเหมาะสม
๒ วันส าคัญของชาติ ๑.วันเฉลิมพระชนมพรรษา
๒.วันปิ ยมหาราช
๓.วันรัฐธรรมนูญ
๓ วันส าคัญของท้องถิ่น ๑.วันลอยกระทง ๒.วันสงกรานต์
๓.วันสาคัญในแต่ละภาค เช่น
* ภาคใต้-วันงานประเพณี ชกั พระ
ฯลฯ
* ภาคเหนือ-วันงานประเพณี ยเี่ ป็ ง
ฯลฯ
* ภาคกลาง -วันงานประเพณี แข่ง-เรื อพาย/
แห่นางแมว ฯลฯ
* ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
-วันงานประเพณี บุญบั้งไฟ ฯลฯ
๔ วันส าคัญอื่นๆ ๑.วันเด็ก๒. วันครู ฯลฯ
(๒๔)
๒.๖ ท้องถิ่นของเรา
(๑) ประวัติความเป็ นมา
(๒) ศิลปะวัฒนธรรมประเพณี
(๓) แหล่งการท่องเที่ยว
(๔) บุคคลส าคัญ
(๕) การประกอบอาชีพ
(๖) สภาพภูมิประเทศ/ภูมิอากาศ
(๗) สภาพปัญหาในชุมชน/สังคม/ พิบตั ิภยั
(๘) สภาพเศรษฐกิจและสังคม
(๙) ทรัพยากรสิ่ งแวดล้อม
(๑๐) พระราชกรณี ยกิจในท้องถิ่น
(๑๑) ภูมิปัญญา/สิ นค้า/OTOP
๒.๗ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การจัดกิจกรรมตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสาหรับเด็กปฐมวัย
แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาที่ต้ งั อยูบนพื้ นฐานของทางสายกลาง
่ และความ
ไม่ประมาท โดยค านึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผลการสร้างภูมิคุม้ กนที่ดีในตัว ั ตลอดจนใช้ความรู ้ความ
รอบคอบ และคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสิ นใจและการกระท าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลัก
พิจารณาอยู๕ ่ ส่ วน ดังนี้
๑. กรอบแนวคิดเป็ นปรัชญาที่ช้ ีแนะแนวทางการดารงอยูแ่ ละปฏิบตั ิตนในทางที่ควรจะเป็ โดยมีน
พื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถน ามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวและเป็ า นการมองโลกเชิงระบบที่มี
การเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา่่ และเป็ นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา่่
มุ่งเน้นการรอดพ้นจาก
ภัยและวิกฤตเพื่อความมันคง่ และความยังยืนของการพัฒนา่่
๒. คุณลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กบการปฏิบตั ิตนได้ในทุกระดับ ั โดยเน้น
การปฏิบตั ิบนทางสายกลางและการพัฒนาอยางเป็ นขั้น่ ตอน
๓. ค านิยามความพอเพียงจะต้องประกอบด้ว๓ คุณลักษณะพร้อมๆ กนดังนี้ ั
(๑) ความพอประมาณ หมายถึงความพอดีที่ไม่นอ้ ยเกินไป และไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียน
ตนเอง และผูอ้ ื่นเชการผลิต และการบริ โภคที่อยูในระดับพอประมาณ่
(๒) ความมีเหตุผล หมายถึงการตัดสิ นใจเก่ียวกบระดับของความพอเพียงนั้ นั จะต้องเป็ นไป
อยางมีเหตุผล่ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เก่ียวข้องตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดวาจะเก่ิดขึ้นจากการกระทานั้น ๆ
อยาง่ รอบคอบ
(๓) การมีภูมิค้มกันทีด่ ีในตัวุ หมายถึงการเตรี ยมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง
ด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคานึงถึงความเป็ นไปได้ของสถานการณ์ต่ง ๆ ที่คาดวาจะเก่ิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และ ไกล
(๒) ประเทศสมาชิกอาเซียน ๑.
ชื่อประเทศและธงชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน
๒. ดอกไม้/ ต้นไม้ประจ าชาติ
๓. สัญลักษณ์ตราแผนดิน่ ๔.
สัตว์ประจ าชาติ
๕. เพลงชาติประเทศสมาชิกอาเซียน
(๓) สังคมและวัฒนธรรม
๑. ศาสนาและวันส าคัญ
๒. ชุดแต่งกายประจาชาติ
๓. อาหารประจ าชาติ
๔. ภาษา ประเพณี และวัฒนธรรม
๕. การละเล่น การแสดงและนิทานประจ าชาติ
(๔) อาเซียนที่รัก
๑. ธงอาเซียน
๒. ตราสัญลักษณ์อาเซียน
๓. ค าขวัญอาเซียน
๔. เพลงอาเซียน
๕. ภาษาอาเซียน
๒.๙ สะเต็มศึกษา
การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่มีการเติบโตทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และสังคมมนุษย์ส่งผลต่อ
การดาเนินชีวิตและการเตรี ยมพัฒนาบุคลากรของมนุษย์ให้มีศกั ยภาพสอดคล้องสิ่ งที่เปลี่ยนแปลงไป ความรู ้เก่ียวกบสิั่ ง
ต่าง ๆ มีมากมายจากการศึกษาในรู ปแบบเดิมที่เด็กหรื อผูเ้ รี ยนมักจะเรี โ ครู ผสู ้ อนเป็ นผูท้ ี่ถ่ายทอดวิชาความรู ้ ต่าง ๆ เหล่านั้น
มาเป็ นการศึกษาที่เด็กหรื อผูเ้ รี ยนสามารถที่จะสื บค้นข้อมูลได้ดว้ ยตนเองจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย
ไม่วาจะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญเฉพาะทางในเรื่ องต่่าง ๆ ที่เด็กสนใจสื บค้นข้อมูลจากอินเทอร์ เนตเป็ นต้นดังนั้นสิ่ งที่ครู ผสู ้ อน
ควรจะส่ งเสริ มให้เด็กได้พฒั นาคือ ทักษะการเรี ยนรู ้ที่จะท าให้เด็กรู ้วธิ ี การสื บค้นหาข้อมูลได้ดว้ ยตนเองและมี
วิจารณญาณในการเลือกพิจารณาข้อมูลที่เป็ นความรู ้ที่มีประโยชน์การจัดการศึกษาแบบบูรณาการวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีวศิ วกรรมศาสตร์ และ คณิ ตศาสตร์หรื อSTEM เป็ นรู ปแบบการจัดการศึกษาที่บูรณาการกลุ่มสาระและ
ทักษะกระบวนการของทั้ง ๔ สาระอันได้แก่วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีวศิ วกรรมศาสตร์ และ คณิ ตศาสตร์ โดยน า
ลักษณะธรรมชาติของแต่ละสาระวิชาและกระบวนการจัดการเรี ยนรู ้ให้กบผูเ้ รี ยนมาผสมผสานกันเพื่อให้ผเู ้ รี ยนได้เกัดิ
การเรี ยนรู ้และพัฒนาทักษะที่สาคัญและจาเป็ นอีกทั้งยังตอบสนองต่อการดารงชีวิตอยูในยุคปั จจุบนั และโลกอนาคต่
อีกด้วยลักษณะของSTEM มีดงั ต่อไปนี้
ตัวอักษรตัวแรกของ STEM คือS มาจากคาวา่่ Science หรื อวิทยาศาสตร์ซ่ ึ งเป็ นสาระที่ศึกษาท าความ
เข้าใจเก่ียวกบั ธรรมชาติรอบตัวในการจัดการเรี ยนรู ้วทิ ยาศาสตร์ ให้กบผูเ้ รี ยนั จะเน้นให้ผเู ้ รี ยนได้เกิดการเรี ยนรู ้โดย
ผานกระบวนการที่เรี ยกว่า่่ กระบวนการสื บเสาะหาความรู ้(Inquiry Process) ที่จะประกอบด้วยขั้นตอน
๑. ขั้นการสร้ างความสนใจ
เป็ นขั้นของการนาเข้าสู่ บทเรี ยน ซึ่ งอาจจะเป็ นข้อสงสัยที่เกิดจากตัวผูเ้ รี ยน หรื ออาจจะเป็ น
ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในขณะอภิปรายหรื อทากิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง ซึ่ งครู ผสู ้ อนไม่ควรบังคับให้เด็กยอมรับประเด็น
ปั ญหาที่ครู สนใจซึ่ งตัวอยางจัดก่ิจกรรมที่ครู ผสู ้ อนสามารถจัดเพื่อกระตุน้ ให้ผเู ้ รี ยนเกิดความสนใจมากขึ้นได้แก่สาธิ ต
ทดลอง เล่าเรื่ อง ทัศนศึกษาเป็ นต้น
๒. ขั้นส ารวจและการค้ นหาเมื่อมีขอ้ คาถามแล้วก็มีการวางแผนการหาคาตอบ
- กาหนดแนวทางในการเก็บรวบรวมข้อมูล
- ลงมือเก็บข้อมูล ในการวางแผน
- ไม่ลก ั ขโมย
- ทาตัวเป็ นที่น่าเชื่ อถือ ท าตามสัญญา
- กล้าเปิ ดเผยความจริ ง
ั แยกแยะประโยชน์ส่วนตัว ส่ วนรวม
- รู ้จก
- รับผิดชอบส่ วนรวม
- ไม่เห็นแก่ตว ั
๓. ความเป็ นธรรมทางสั งคมคือการปฏิบตั ิต่อผูอ้ ื่นอยางเสมอภาคและเท่่าเทียมกนอยัางมีเหตุผล่
โดยไม่เลือกปฏิบตั ิต่อเพศ เชื้ อชาติชนชั้น สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม
คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์
- นึ กถึงใจเขาใจเรา
- ไม่เอาเปรี ยบผูอ
้ ื่น
- รับฟั งผูอ
้ ื่น
- เคารพและให้เกียรติผอ ู ้ ื่น
- กตัญญูอยางมีเหตุผล่
- ค านึ งถึงความยุติธรรมโดยตลอด
- มีระเบียบวินย ั
- เคารพกฎ กติกา
- รู ้จกั บังคับตัวเอง
- ไม่กลัวความยากลาบาก
- มีสติและเหตุผล
ตารางก าหนดกิจกรรมประสบการณ์ ส าหรับเด็กปฐมวัย(สั บเด็กอายตุากว่ าอาย่ ุ่๓ ปี )
กิจกรรมประสบการณ์
๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
๒. กิจกรรมเสริ มประสบการณ์ (กิจกรรมในวงกลม)
๓. กิจกรรมสร้างสรรค์
๔. กิจกรรมเสรี
๕. กิจกรรมกลางแจ้ง
๖. เกมการศึกษา
- การปฏิบต ั ิตนในการรับประทานอาหาร
สั ปดาห์ ท๕ ี่ ชื่ อของหนูกม็ ี
- ชื่ อเล่น / สัญลักษณ์ของเพื่อน
- ชื่ อสกุลของเพื่อน
- การช่วยเหลือตนเองในการรับประทานอาหาร
- หน้าที่และการดูแลรักษาหู
- หน้าที่และการดูแลรักษาจมูก
- หน้าที่และการดูแลรักษาปาก
- หน้าที่และการดูแลรักษามือ,เท้า
สั ปดาห์ ท๘ ี่ แสนสบายกินดีมีสุข
- อาหารดีมีประโยชน์
- การท าความสะอาดมือ
- สุ ขนิ สัยในการขับถ่าย
- การท าความสะอาดปาก/ ฟั น
- การทาความสะอาดร่ างกาย
- การปฏิบต ั ิตนในการออกกาลังกายและการพักผอน่
- การเล่นเครื่ องเล่นสนาม
- ประโยชน์ของการพักผอน่
- ประโยชน์ของการออกกาลังกาย
- ความปลอดภัยบนท้องถนน
- ความปลอดภัยในการใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ า
- ความปลอดภัยในการใช้ยา
- ความปลอดภัยในการใช้ของแหลมคม
- การดมกลิ่น
- การได้ยน ิ
- การรับรู ้
- การสัมผัส
- การอาบน้า
- การแต่งตัว
- การรับประทานอาหาร
- การเก็บรักษาสิ่ งของต่าง ๆ
- การทาความเคารพผูใ้ หญ่
- มารยาทในการรับของ
- มารยาทในการแต่งกาย
- พื้นที่และบริ เวณรอบบ้าน
- ประเภทและส่ วนประกอบของบ้าน
- ห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน
- การรักษาความสะอาด
- หน้าที่ของบุคคลภายในครอบครัว
- การปฏิบต ั ิตนต่อสมาชิกในครอบครัว
- การมีส่วนร่ วมภายในครอบครัว
- ไม่สร้างความเดื อดร้อนให้เพื่อนบ้าน
- การช่วยเหลือซึ่ งกนและกัน ั
- การร่ วมกิจกรรมกบเพื่อนบ้านั
- การอยูร่วมกนอยัางมีความสุ ข่ สั ปดาห์ ท๑ ี่ ๗
เรียนร้ จังหวัดู (จังหวัดปัตตานี)
- ชื่ อลักษณะภูมิประเทศ–ภูมิอากาศจังหวัดของเรา
- ค าขวัญของจังหวัด(ปั ตตานี )
- การช่วยกนดูแลรักษา่ั
- การปฏิบต ั ิต่อชุมชน
- การมีส่วนร่ วมในชุ มชน
- หน้าที่และการแต่งกายของแต่ละอาชี พ
- สถานที่ของการปฏิบต ั ิง
- อุปกรณ์ในการประกอบอาชี พ
- ความรู ้สึกที่ดีต่ออาชี พ
- ฤดูร้อน(ประโยชน์/ โทษ)
- การปฏิบต ั ิตามฤดูกาล
- ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ
- ปรากฏการณ์เวลากลางคืน
- ปรากฏการณ์เวลากลางวัน
- การปฏิบต ั ิตนในเวลากลางคืน
- การปฏิบต ั ิตนในเวลากลางวัน
สั ปดาห์ ที่๒๔ นานาสั ตว์โลก
- สัตว์บก
- สัตว์นา้
- สัตว์เลี้ยง
- สัตว์ป่ า
- ที่อยูอาศัย่
- อาหาร
- การดูแล
- ประโยชน์และโทษ
- การปลูก
- การขยายพันธุ ์
- ประโยชน์และโทษ
- การขยายพันธุ ์
- ประโยชน์ของดอกไม้
- โทษของดอกไม้
- ที่อยูอาศัย่
- อาหาร
- วงจรชี วิต
- ประโยชน์และโทษ
- ที่อยูอาศัย่
- อาหาร
- วงจรชี วิต
- ประโยชน์และโทษ
- รู ปร่ างลักษณะ
- รสชาติของผักผลไม้
- วิธีการท าผักผลไม้ให้สะอาด
- ประโยชน์และโทษ
- การปลูกข้าว
- การประกอบอาหารจากข้าว
- การเก็บรักษา
- ประโยชน์ของข้าว
- การอนุ รักษ์สิ่งแวดล้อม
- ประโยชน์ของสิ่ งแวดล้อม
- โทษของสิ่ งแวดล้อม
- แม่สีและการผสมสี
- ประโยชน์และโทษของสี
- ประเภทของยานพาหนะ
- การปฏิบต ั ิตนในการใช้ยานพาหนะ
- ประโยชน์ของการคมนาคม
- วิธีการสื่ อสาร
- มารยาทในการสื่ อสาร
- ประโยชน์ของการสื่ อสาร
- ประโยชน์และโทษ
- ค่าของเงิน
- การนับเวลา
- การนับเพิม่ นับลด
- เสี ยง
- แม่เหล็ก
- แวนขยาย่
- การทดลอง
- สถานที่ต้ งั
- ส่ วนราชการต่างๆ
- บุคคลที่ควรรู ้ จก ั ในเทศบาล
- ความส าคัญของเทศบาล
สั ปดาห์ ท๔ี่ ๑ การปลกผักสวนครัวู
- ชนิ ดของผักสวนครัว
- ประโยชน์
- การดูแลรักษา
- สถานที่ภาชนะที่ใช้ปลูก
- รู ปร่ างลักษณะ
- ตัวละครหนังตะลุง
- ดนตรี หนังตะลุง
- การแสดงหนังตะลุง
- ประโยชน์ของหนังตะลุง
- การอนุ รักษ์แหล่งน้า
- แหล่งน้า
- วัสดุที่ใช้ประดิษฐ์กระทง
- กิจกรรมที่ปฏิบต ั ิในวันลอยกระทง
สั ปดาห์ ท๔ี่ ๔ อาเซียนที่รัก
- ชื่ อประเทศอาเซี ยน
- ธงประจ าชาติอาเซี ยน
- ค าทักทายประจ าชาติอาเซี ยน
- ชุ ดแต่งกายประจาชาติอาเซี ยน
- ดอกไม้ประจ าชาติอาเซี ยน
- เป็ นอยูอย่างพอเพียงการ่
- กระทาอยางรับผิดชอบ่
- ความเป็ นธรรมทางสังคม
- มีจิตสาธารณะ
- ชนิ ดของยาเสพติด
- ลักษณะของยาเสพติด
- โทษของยาเสพติด
- การป้ องกนั
- สิ งที่ใช้ในการชักพระ
-พาหนะที่ใช้ในประเพณี
- การลากเรื อพระ
- การวาเพลงเรื อ่
- ลักษณะของกะลาการประดิษฐ์ตุก ๊ ตาจากเปลือกไข่
- การประดิษฐ์ของเล่นจากกะลา
- การละเล่นพื้นบ้านเดิ นกะลา
- ประโยชน์ของกะลา
- การประเมินพัฒนาการ
- ทบทวนตัวอักษรA – Z
- การประเมินพัฒนาการ
จุดมุ่งหมาย
๑. ได้เคลื่อนไหวส่ วนต่าง ๆ ของร่ างกาย
๒. กล้าแสดงออกและมีวธิ ี คิดเริ่ มสร้างสรรค์
๓. เกิดความซาบซึ้ งและมีสุนทรี ยภาพในการเคลื่อนไหวตามจังหวะ
๔. รู ้จกั ปรับตัวเมื่อทากิจกรรมร่ วมกบเพื่อนั
๕.เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน
วัสดุอุปกรณ์
๑.เครื่ องประกอบจังหวะช่น ร ามะนา กลอง กรับ ฉิ่ ง ฯลฯ
๒.แถบบันทึกเสี ยงเพลงครื่ องเล่นเทป
๓.อุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหวช่น ห่ วงหาย แถบผ้า ถุงทรายฯลฯ
กิจกรรม
๑.ร้องเพลง ท่องคากลอน ค าคล้องจองและเคลื่อนไหวตามบทเพลงค ากลอน ค าคล้อง
จอง
๒.เคลื่อนไหวพื้นฐาน เช่น เดิน วิง่ กระโดด ฯลฯ ตามสัญญาณ-นัดหมายหรื อตาม
จังหวะเพลง
๓.เคลื่อนไหวอิสระตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์โยใช้ส่วนต่าง ๆ ของ
ร่ างกายให้มากที่สุด ขณะเดียวกนให้คาั นึงถึงการใช้พ้นื ที่ ระดับและจังหวะในขณะเคลื่อนไหวของร่ างกาย
๔.เล่นเครื่ องเล่นดนตรี ง่าย ๆ ประเภทเคาะ เช่น กรับ ร ามะนา กลอง ฯลฯ และ
เคลื่อนไหวประกอบ
๕.ให้เด็กเคลื่อนไหวตามความคิดสร้างสรรค์โดยใช้อุปกรณ์
ประกอบในการเคลื่อนไหวช่น ห่วง แถบผ้า ถุงทราย ฯลฯ
ข้อเสนอแนะ
๑.สร้างบรรยากาศให้เด็กเกิดความรู ้สึกเพลิดเพลิน สนุกสนาน และมีความเป็ นกนเองั
๒.ไม่บงั คับถ้าเด็กไม่ยอมเข้าร่ วมกิจกรรม ควรให้เวลา
และให้โอกาสจนกวาเด็กสนใจเข้า่่
ร่ วมกิจกรรม
๓.ควรให้เด็กได้แสดงออกอยางทัว่ ถึง่
กิจกรรมเสริ มประสบการณ์ (กิจกรรมในวงกลม)
จุดมุ่งหมาย
๑.เพื่อให้เด็กเข้าใจเนื้อหาและเรื่ องราวแผนการจัดประสบการณ์
๒.เพื่อให้เด็กมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกบครู ั และครู จะได้ดูแลพฤติกรรมของเด็กอยางใกล้ชิด่
๓.เพื่อให้เด็กได้ฝึ กความมีระเบียบวินยั มารยาทในการฟัง พูดและลักษณะนิสัยที่ดี
บทบาทและหน้าที่ของครู
ก่อนจัดประสบการณ์ครู จะต้องศึกษาการท าแนวทางใ การจัดประสบการณ์น้ ี อยางละเอียดเพื่อได้่
แนวทางในการจัดเตรี ยมประสบการณ์ให้กบเด็ก ั และจัดเตรี ยมสื่ อการจัดประสบการณ์ที่ได้เสนอแนะไว้อยาง่
็ ครู อาจปรับปรุ งเปลี่ยนแปลง
ครบถ้วนเพื่อที่จะทาให้การสอนบรรลุจุดมุ่งหมายที่ได้ต้ งั ไว้อยางสมบูรณ์อย่างไรก่ตาม
ได้ตามความเหมาะสมของท้องถิ่น
การจัดประสบการณ์เนื้ อหาให้เด็กต้องจัดกิจกรรมให้เด็กสนใจ เช่น
๑. ทัศนศึกษาตามแหล่งเรี ยนรู ้
๒. การเล่าเรื่ องให้ผอู ้ ื่นเข้าใจ
๓. การเล่าประสบการณ์ตามเนื้อหาต่าง ๆ
๔. การอภิปราย ซักถาม
๕. การสนทนา ตอบค าถาม
๖. ทักษะกระบวนการกลุ่ม
๗. การทดลอง
๘. การอธิ บายสิ่ งต่าง ๆ
๙. ทักษะการฟังพูด อ่าน เขียน
๑๐. การแกปัญหาสถานการณ์จา้ ลอง
๑๑. การแสดงบทบาทสมมติ
๑๒. การลงมือปฏิบตั ิจริ ง
๑๓. การรับรู ้ดว้ ยประสาทสัมผัสทั้ง 5
๑๔. การทากิจกรรมร่ วมกบผูอ้ ื่นั
๑๕. การนับจ านวนเพิม่ ลด
๑๖. การเปรี ยบเทียบเวลา
๑๗. การจ าแนกเปรี ยบเทียบ
๑๘. การเล่านิทาน
๑๙. การร้องเพลงฯลฯ
กิจกรรมสร้างสรรค์และกิจกรรมเสรี
จุดมุ่งหมาย ศูนย์การเรี ยนกิจกรรมเสรี หรื อมุมประสบการณ์มีความมุ่งหมายที่สาคัญโดยเฉพาะ
ดังนี้
๑. เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงวยารประกอบกิจกรรมที่สอดคล้องกบธรรมชาติั
และสนองความต้องการของเด็กทางการเล่นที่แฝงไว้ซ่ ึ งการศึกษา
๒. เพื่อเปิ ดโอกาสให้เด็กได้ทดลองคิดค้นคว้าและสร้างสรรค์ดว้ ยความสนุกและ
เพลิดเพลินแสวงหาความรู ้ดว้ ยตนเองโไม่ตอ้ งวิตกกงวลั
๓. เพื่อฝึ กทักษะการเตรี ยมความพร้อมด้านประสาทสัมพันธ์ทางตาและมือเกิดพัฒนาการ
ทางการตัดสิ นใจการมีเหตุผลรู ้ขนาดจ านวนสี และรู ปลักษณะทั้งช่วยฝึ กเชาวน์ปัญญา อันเป็ นทางน าหรื อเตรี ยม
เด็กไปสู่ การอ่าน และการเขียนในโอกาสต่อไป
๔. เพื่อฝึ กเด็กให้ทางานเป็ นกลุ่ม เรี ยนรู ้สิทธิ และหน้ความรับผิดชอบของตนและเพื่อนที่
ภายในสังคมเล็กๆ และรับฟังความคิดเห็นของผูอ้ ื่น
๕. เพื่อฝึ กให้รู้จกั ประหยัดวัสดุการศึฝเก่ใ็ ห้รู้จกั การเลษา่่นเครื่ องเล่น การเก็บรักษา
อุปกรณ์เครื่ องเล่น ให้อยูในสภาพที่เรี ยบร้อยและครบถ้วน่
๖. เป็ นวิธีการที่เด็กๆได้รับความรักวามอบอุ่น การอบรมเลี้ยงดู และการปกป้ องให้เกิด
ความปลอดภัยที่จะอยูร่วมกนในสถานศึกษาได้อยัางมีความสุ ข่
๗. เป็ นวิธีการช่วยส่ งเสริ มเด็ก ๆ ได้รับพัฒนาการทางอารมณ์จิตใจและร่ างกาย สติปัญญา
และสังคม ครบถ้วนพร้อมในโอกาสเดียวกนั
๘. เป็ นวิธีการช่วยให้ครู ทราบปั ญหา ความคับข้องใจเด็กทาให้ครู สามารถหาวิธีช่วย
คลี่คลายปั ญหาแก่เด็กได้
๙. เป็ นวิธีการปูพ้ืนฐานประสบการณ์ และความรู ้ให้เด็กมีความพร้อมสามารถช่วยตนเอง
ได้ถูกต้องเหมาะสมกบวัยของเด็ก ั พร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๑ ได้อยางเป็ นสุ ข่
๑๐. เป็ นวิธีที่ช่วยให้ครู ทราบความสนใจเป็ นพิเศษของเด็ก และสามารถประเมินผล
พัฒนาการ และพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนได้พร้อมที่จะรายงานลงในสมุดรายงานประจาวันเด็กแต่ละคนได้อยางมี่
ประสิ ทธิภาพ
๑๑. เป็ นวิธีการช่วยให้ครู ตื่นตัวอยูเสมอ่ ในการที่จะค้นคว้าหาความรู ้เพิมเติม่ สารวจแหล่ง
วัสดุอุปกรณ์และคิดค้นสร้างสรรค์อุปกรณ์ใหม่ๆ ขึ้น เพื่อส่ งเสริ มความพร้อมให้แก่เด็กอยางมีประสิ ทธิ ภาพมาก่ ยิงขึ้ ่ น
กิจกรรมกลางแจ้ง
จุดมุ่งหมาย
๑. เพื่อให้เด็กได้ออกกาลังกายกลางแจ้งซึ่ งจะช่วยให้เด็กมีสุขภาพดีข้ ึน
๒. เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และฝึ กประสาทสัมพันธ์ระหวางมือก่บตา่ั มือ
กบเท้า่ั
๓. เพื่อเป็ นการพัฒนาทางร่ างกาย อารมณ์และจิตใจสังคม สติปัญญาและจินตนาการของ
เด็ก
ลักษณะการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง
๑. การละเล่นพื้นเมือง
๒. เกมต่าง ๆ
๓. การเล่นบ้านจาลอง
๔. การเล่นทราย
๕. การเล่นน้า
๖. การเล่นเครื่ องเล่นสนาม
๗. การเดินทรงตัวบนกระดาน
๘. การเดินตามแนว
๙. การเดินถอยหลัง
๑๐. การรับ– ส่ ง บอล
๑๑. การขว้างบอลไกล
๑๒. การเตะบอลเข้าประตู
๑๓. การกลิ้งบอลกระทบเป้ า
๑๔. การปาเป้า
๑๕. การโหนตัวฯลฯ
- จับคู่ที่เหมือนกนทุกประการั
- จับคู่ภาพกบเงาของสิั่ งเดียวกนั
- จับคู่ภาพกบโครงรั่างของสิ่ งเดียวกนั
- จับคู่ภาพที่ซ่อนอยูในภาพหลัก่
- จับคู่ภาพเต็มกบภาพที่แยกเป็ นสั่วน ๆ
* เกมการแยกประเภท จัดหมวดหมู่ (แผนภาพเกมการแยกประเภท จัดหมวดหมู่)
เล่น)
* เกมลอตโต (แผนภาพลอตโต่)
* เกมหาความสัมพันธ์ช่น เกมตารางสัมพันธ์(เมตริ กเกม) เกมอุปกมาอุปมัย,เกมหาความสัมพันธ์
ช่วงเช้า
เวลา ๐๗.๓๐ – ๐๘.๑๕ น. รับเด็กเป็ นรายบุคคล
๐๘.๑๕ – ๐๘.๓๐ น. เคารพธงชาติ กล่าวดุอา
๐๘.๓๐ – ๐๘.๔๐ น. ตรวจสุ ขภาพเด็ก
๐๘.๔๐ – ๐๙.๐๐ น. การเคลื่อนไหวและจังหวะ
๐๙.๐๐ – ๑๐.๓๐ น. กิจกรรมในวงกลม
๑๐.๓๐ – ๑๐.๕๐ น. กิจกรรมสร้างสรรค์
๑๐.๕๐ – ๑๑.๒๐ น. กิจกรรมเสรี
๑๑.๒๐ – ๑๑.๔๐ น. เล่นกลางแจ้ง
๑๑.๔๐ – ๑๒.๓๐ น. พักรับประทานอาหาร(แปรงฟัน)
ช่วงบ่าย
เวลา ๑๒.๓๐ – ๑๔.๐๐ น. นอนพักผอน่
๑๔.๐๐ – ๑๔.๒๐ น. เก็บที่นอนล้างหน้า
๑๔.๒๐ – ๑๔.๓๐ น. พัก (ดื่มนม,อาหารวาง่)
๑๔.๓๐ – ๑๔.๔๕ น. เกมการศึกษา
๑๔.๔๕ – ๑๕.๐๐น. สรุ ปกิจกรรมประจาวัน / เตรี ยมงานในวันรุ่ งขึ้น
หมายเหตุ อาจปรับได้ตามความเหมาะสม
บทที่๘
การสร้างบรรยากาศการเรี ยนรู ้
---------------------------
บทที่๑๐
การประเมินพัฒนาการ
------------------------
การประเมินพัฒนาการเป็ นกระบวนการต่อเนื่ องให้ครอบคลุมพัฒนาการเด็กทุดา้ น ได้แก่ดา้ น
ร่ างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญาเพื่อนาผลมาใช้วางแผนจัดกิจกรรมประสบการณ์ให้เด็กแต่ละคนได้
พัฒนาอยางเต็มศักยภาพ่
ศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระสังกดเทศบาลตัาบลปะนาเระ จัดให้มีการประเมินอยาง่
ต่อเนื่อง ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้านเป็ นการประเมินสถานการณ์ปกติขณะที่เด็กทากิจกรรมประสบการณ์ประจาวัน
และช่วงเวลาต่างๆ ได้แก่การสังเกตการสัมภาษณ์การสนทนา การบันทึกพฤติกรรมเด็กและวิเคราะห์ขอ้ มูล
ผลงานของเด็กที่เก็บอยางเป็ นระบบ่ แล้วน าข้อมูลจากการประเมินพัฒนากาสรุ ปมาเพื่อบันทึกผลพัฒนาการลงใน
สมุดบันทึกพัฒนาการประจาชั้นเรี ยนของเด็กและบันทึกในสมุดรายงานประจาตัวเด็กทุกภาคเรี ยน ตลอดจนรายงาน
ผูบ้ ริ หารศูนย์พฒั นาเด็กเล็กได้รับทราบและรายงานให้ผปู ้ กครองทราบอยางชัดเจน่ และต่อเนื่ องโดยดาเนินการต่อไปนี้
ก่อนเรี ยน จัดท าข้อมูลของเด็กเป็ นรายบุคคลโดยให้ผปู ้ กครองกรอกข้อมูลและสัมภาษณ์ผปู ้ กครองเช่นข้อมูล
ทัวไป่ ประวัติสุขภาพลักษณะนิสัย
ระหวางเรี ยน่ จัดทาเครื่ องประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริ งด้วยวิธีการที่หลากหลายเหมาะสมกบั
เด็ก รวมทั้งใช้แหล่งข้อมูลหลาย ๆ ด้านได้แก่ การสังเกต การบันทึกพฤติกรรมการสนทนา การสัมภาษณ์การ
วิเคราะห์ขอ้ มูลจกผลงานเด็กที่เก็บอยางมีระบบ่ บันทึกผลการเรี ยนบันทึกสุ ขภาพและบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว
นาข้อมูลที่ได้มาจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาเด็กให้สอดคล้องกบความสามารถหรื อพัฒนาการแตัล่ ะด้านของเด็ก
หลังเรี ยน มีการน าข้อมูลจากการประเมินพัฒนาการมารวบรวมสรุ ปและเขียนรายงานผลพัฒนาการลงทุนในสมุด
รายงานประจ าตัวทุกภาคเรี ยน
เกณฑ์การประเมินพัฒนาการ
คือ การน าผลประเมินมาสรุ ปและจัดระดับพัฒนาการง้ี
ระดับ ๓ คือ ดี หมายถึงสามารถแสดงพฤติกรรมหรื อปฏิบตั ิถูกต้องได้คล่องแคล่วชัดเจน และเชื่อมัน่
ระดับ ๒ คือ พอใช้ หมายถึงสามารถแสดงพฤติกรรมถูกต้องแต่ยงั ไม่คล่องแคล่ว ไม่มนั คง่
ระดับ ๑ คือ ควรส่ งเสริ ม หมายถึง ยังแสดงพฤติกรรมได้นอ้ ยหรื อไม่ได้เลย แสดงพฤติกรรมหรื อปฏิบตั ิ
ได้บา้ ง แต่ตอ้ งให้ความช่วยเหลือ
ระยะเวลาการประเมินพัฒนาการ
การประเมินพัฒนาการระดับปฐมวัยแบ่งออกเป็ น ๓ ระยะ ดังนี้คือ
๑. ประเมินพัฒนาการประจาแต่ละกิจกรรม
๒. ประเมินพัฒนาการประจ าวัน
๓. ประเมินพัฒนาการประจ าภาค/ปี
วิธีประเมินพัฒนาการ
๑. การสังเกต ครู สังเกตเด็กตลอดเวลาช่น ขณะเรี ยน เล่น และ-
ร่ วมกิจกรรมต่าง ๆ ของสถานศึกษาการเรี ยนกิจกรรมเสรี ท้ งั เป็ นกลุ่ม และรายบุคคลสม ่่าเสมอ
๒. การสัมภาษณ์คือ การสนทนากบเด็กเป็ นรายบุคคลั และเป็ นกลุ่ม อาจจะมีการ
บันทึกการสนทนาด้วยเพื่อหาวิธีการแกไข้ หรื อทาให้ทราบวาประสบผลส่ าเร็ จหรื อไม่
๓. ตรวจผลงานและวิเคราะห์ขอ้ มูล
บทที่๑๑
การบริ หารจัดการหลักสู ตรสถานศึกษา
การน ากรอบการจัดประสบการณ์ตามหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๖๐ ไปใช้และมี
การพัฒนาผูด้ ูแลเด็กให้มีความรู ้ความเข้าใจในหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช๒๕๖๐ สาหรับเด็กอายุต่ากวา่่
๓ ปี และด าเนิ นการจัดท าหลักสู ตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัยด ี ง้ี ๑.
การเตรี ยมความพร้อม
- สร้างความตระหนัก
- พัฒนาบุคลากร
- จัดระบบสารสนเทศ
- หน่วยประสบการณ์การเรี ยนรู ้
- แผนการจัดประสบการณ์
๓. การสนับสนุนคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา
- ระบบการประเมินพัฒนาการ
- การวิจยั เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
- การพัฒนาและเลือกใช้สื่อ
- การประกนคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
- งานธุ รการการเงินและพัสดุ
- งานบุคลากรและการบริ หารจัดการ
- งานอาคารสถานที่และสิ่ งแวดล้อม
- คณะกรรมการบริ หารงานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสู ตร
- รายงานหน่วยงานต้นสังกดั เพื่อขอรับการสนับสนุ น ๗.
การปรับปรุ งและการพัฒนา
- ปรับแผนปฏิบต ั ิงานปี ต่อไป
- ปรับปรุ งหลักสู ตร
- ปรับปรุ งแผนการจัดประสบการณ์
----------------------
ภาคผนวก
๑. บรรณานุกรมกระทรวงศึกษาธิการ,หลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๖๐
๒. ส าเนารายงานการประชุมคณะกรรมการบริ หารศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะนาเระสังกดั
เทศบาลต าบลปะนาเระ เมื่อวันที่.........เดือน.…….พ.ศ......
ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบในการใช้หลักสู ตรสถานศึกษาศูนย์พฒั นาเด็กเล็กเทศบาลต าบลปะ
นาเระ พุทธศักราช๒๕๖๑ ตามหลักสู ตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช๒๕๖๐ (สาหรับเด็กอายุต่ากวา่่ ๓ ปี )