You are on page 1of 5

นายสถาพร ธัมมิกะกุล 650310039

คณะโบราณคดี สาขาประวัติศาสต องถิ่น ชั่น ที่1


0902182741
“เสื้อสีเหลืองที่ใ แ วหายตัวไ ”

หากจะ อนถึงเหตุการ ที่มีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสต การเมืองการปกครองสมัยให แ อาจ


จะเ นความสะเทือนใจและเ นรอยแผลที่ให ในประวัติศาสต ไทย ผมคิด าคงจะหนีไ นเหตุการ
ความรุนแรงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ 2519 หรือ “เหตุการ 6 ตุลา” นั่นเอง อ างที่เรา กันดี เหตุการ นี้
เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสต าพระจันท เ าห าที่ตำรวจหรือแ แ ชาว านในพื้นที่แ งนั่น
ไ ใ กำลังในการเ าปราบปามนักศึกษาอ างรุนแรงซึ่งเหตุการ นี้
ไ เผ แพ ใ สาธารณะชนทั่วโลกไ รับ อ างก างข างแ ถึงแ า
จะเ นเหตุการ ที่ย่ิงให มากในเวลานั้น แ กลับไ มีการจับกุมเ า
ห าที่ ที่สังหารประชาชนเลยแ แ คนเดียวแ กลับมีเพียงนักศึกษา
ที่ถูกจับกุมภายในวันนั้นอีก วย สะ อนใ เห็น าเ าห าที่ตำรวจที่
มีห าที่คอยปก องประชาชน แ กลับเ นเ าห าที่เองที่หัน
กระบอก นใ ประชาชนที่บริสุทธิ์ เพียงแ เพราะ ามี “อุดมการที่
แตก างกัน” “จุดยืนที่ไ เหมือนกัน” ซึ่งผิดหลักการของ
ประชาธิปไตยที่เคารพเสียง างมากยอมรับความเห็น าง แ
เหตุการ หกตุลาก็ทำใ เห็นแ ว า อำนาจสามารถที่จะ
เปลี่ยนแปลงความถูก องใ กลายเ นความผิดไ ชนวนเหตุ ที่
ทำใ เกิดความรุนแรง นั้นมีหลายสาเหตุ แ สาเหตุที่เหมือนเ นจุด ที่มา: https://doct6.com/archives/2469
เริ่ม นของการสังหารห ใจกลางกรุง นั่นคือการที่หนังสือพิม ดาว
สยาม ที่ไ ตีพิม าเห านักศึกษานั้นมีเจตนาที่จะดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอง รัชทายาทในเวลานั้น
และดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริ
งผลใ ในวันนั่นทำใ เราไ เห็นสิ่งที่เรียก า “คนไทย าคนไทย”จากคำบอกเ าของ ที่อ ใน
เหตุการ งชนที่เ ามา อจราจล บริเวณพื้นที่ชุมนุม พ อมกับตะโกน า “ไ พวกคอมมินิส ไ รัก
สถาบัน” พ อมกับยึดรถเม แ วขับ งชนประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสต พ อมกับการใ อาวุธ น ไ ยิง
นักศึกษา ทำ ายราวกับพวกเขาไ ใ คน หัวเราะเหมือนเ นเรื่องที่ตลกและเ นเรื่องที่ าภูมิใจที่ไ สังหาร
นักศึกษาไ วยไ สึกผิด เพราะทำเพื่อ “ปก องสถาบัน”

ด้
ด้
น้

น้
ช้
ต้
ป็
ป็
ห้
ต่
ย่
ส่
ณ์
ณ์
ปื
ด้
ร่
ด้
ฝุ่
ย้
ร้
ด้
ห้
ห้
ร้
ส่
ณ์
ป้
พ์
ม่
ว่
ข้
รู้
ข้
ต้
ล่
ห้
มู่
ญ่
ม่
ก่
ห้
ห้
ณ์
ด้
ข้
ล์
ป็
ล้
ล้
ม้
ด้
ต่
ม่
ว่
ย์
ร์
ต่
ด้

ป็
ท้
ช่
ท่
พุ่
รู้
ป็
ห้
ย่
ค่
ย่
ต่
ต่
จ้
ญ่
ส่
ต่
ป้
ว่
ว่
ว้

น้
ด้
ล้
ร์
ว่
จ้
ม่
จ้
ว้
ต่
น้
ณ์
น้
ป็
ร้
ต่

ต่
ด้
ฆ่
พ์
ป็

ณ์
ร์
ม้
ร์
จ้
ว่
ว่
ร์
ม้

ว่
ต่
ป็
ย่
ร้
อ้
ค์
ร์
บ้
ท้
ล่
รู้
น่
ม่
ช้
พ้
ผู้
ต์
ปี
ม่
ห่
ยู่
ปื
ม่
ด้

ต่
ณ์
ณ์
ล่
สิ่งที่ผมอยากจะก าวในบทความนี้คือยังมีก มคนที่ใ สถาบันกษัตริ เ นโ ที่เหมือนเหตุการ
เมื่อ47 อนที่ ทำอะไรผิดก็ไ องรับผลที่จะตามมาไ าจะในรูปแบบใดก็ตามเหตุการ ในลักษณะนี้
ไ ใ แ เกิดขึ้นในอดีตแ เรายังสามารถพบเห็นใน จจุบันไ นั่นเอง ซึ่งผมจะขอยกตัวอ างที่เห็นไ ชัด
ออกเ น 3เหตุการ ดังนี้

1.นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงถูกก มคนเสื้อเหลืองบุก า
แนวกั้นตำรวจเ ามาทำ ายโดยก มคนที่บุกเ าเ นคณะ
ทำงานของนายกรัฐมนตรีทั้งที่ตำรวจยังอ ในสถานการ แ
กลับไ มีตำรวจคนไหนมาดำเนินคดีก มคนที่บุกเ าไปทำ าย
ก มนักศึกษาแ แ คนเดียว และเมื่อ 2565 นายทินกร
ปลอดภัย ที่เคยเ นหนึ่งในบุคคลเสื้อเหลืองที่ทำ ายนักศึกษา
ที่มา:https://www.newtv.co.th/news/67612
จากเหตุการ ความรุนแรงไ รับตำแห ง วยเลขาธิการ
กรุงเทพมหานคร
2.ก มคนเสื้อเหลืองปก องสถาบันกำลังรุมทำ าย
างกายชายคนหนึ่งจนไ รับบาดเจ็บซึ่งพบ าชายคนดั่ง
ก าวเ นแ วินมอเตอ ไซ รับ งที่มา งประชาชนเ า วม
ชุมนุมม็อบ14ตุลาเพียงแ นั้น ทีมงาน สื่อ าว อง3ไ
เ าไป ามการกระทำดั่งก าวกลับถูกลูกหลงจากเหตุการ
ดั่งก าวทำใ ไ รับบาดเจ็บ บทสรุปของเหตุการ ดั่งก าว
ใน จจุบัน ยังไ พบ าก มคนเสื้อเหลืองที่รุมทำ าย
ที่มา: https://www.prachachat.net/politics/ ประชาชนถูกดำเนินคดีแ แ คนเดียว

3.นายกวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข ชายห มที่มีประวัติ


ทางการเมืองอ างรุนแรงไ าจะเ นการทุบรถ Voice tv ที่
เ าตัว าง า “ทำเพราะความสะใจ” และการจิกหัว ชุมนุม
อ างรุนแรงเมื่อ พ.ศ2555และเมื่อ พ.ศ.2563 นายกวีไ ใ
มตี เ า วมการชุมนุมจนหักและยังโพส ลงโซเชี่ยวมิเดียของ
ตัวเองราวกับเ นเรื่องตลกทั้งที่ตัวเองพึ่งทำ าย
างกายคนอื่นมาจนถึงตอนนี้ก็ไ มีเ าห าที่ไป ที่มา: https://thestandard.co/democracy-protestors-
ดำเนินคดีกับนายกวีไกรเพียงอ างใด

“แ งผมตี มหักเลย เสียดายนึก าเ น ามเหล็กเสือกเ นพลาสติก”


(จากโพส บาง วนของนายกวีไกรที่ไ มีการพูดถึงเหตุการ ในวันนั้น)
ร่
ร่
ร่
ข้
จ้
ม่
ลุ่
ล่
ย่
ปั
ช่
ล่
ผู้
ป็
ม่
ห้
ลุ่
อ้
ค่
ป็
ข้
ปี
ก่
ต์
ร่
ว่
ค่
ห้
ณ์
ส่
ม่
ป็
ย่
ด้
ม่
ข้
ม้
ปี
ป็
ต่
ณ์
ว่
ล่
ร่
ร์
ต่
ร้
ด้
ลุ่
ม้
ค่

ล่
ป้
ม่
ค์
ด้
ต่
ว่
ม่
ต้
ด้
ส่
ย่
ม่
ลุ่
ป็
จ้
ปี
ปี
ลุ่

ผู้
ส่
น่

น้
ลุ่
ผู้
ยู่
ต์
ข่
ช่
ว่
ว่
ร้
นุ่
ข้
ช่
ป็
ลุ่
ณ์
ร้
ร้
ป็
ณ์
ร้
ข้
ปั
ด้
ข้
ผู้
ด้
ม่
ร่
ล่
ว่
ณ์
ช้

ณ์
ร้
ด้
ด้
ต่
ฝ่
ช้
ป็
ย์
ป็
ล่

ย่
ณ์

ณ์
ด้
จากสถานการ ดั่งก าวเราจะสามารถสรุปไ ายังมีก มคนเสื้อเหลืองที่ไ ใ สถาบันพระมหากษัตริ
เ น อ างในการทำ าย างกายไ าจะเ นทั้งเยาวชน บุคคลทั่วไป หรือ สูงอายุที่ไ ไ มีอาวุธอะไร
เลยและยังริดรอนสิทธิมนุษยชน อื่นอีก วย บังคับใ บุคคลภายนอกไ มีสิทธิจะคิดแตก างจากตัวเอง
และเมื่อมีคนที่คิดแตก างกันก็มักจะไปทำ ายไ าจะเ น ทำ าย านจิตใจ หรือ ทำ ายทาง าน
างกาย โดยไ มีความผิดเพียงเพราะ า “ทำเพื่อปก องสถาบัน” และยังสามารถมองเ นเรื่องตลก หรือ
เรื่องดีที่ไ กระทำเหตุการ ดังก าว หรือมี วนรวมในเหตุการ ความรุนแรง างๆ

(ภาพเหตุการ ที่เกิดขึ้นที่ถึงแ จะเกิดใน วงเวลาที่แตก างกันแ าเราสังเกตุดีๆเราก็จะเห็นถึงบางสิ่งที่เหมือนกัน)

ที่มา https://themodernist.in.th/6oct-media/

และสิ่งที่เหมือนกันในสถานการ ที่ไ หยิบยกมา การที่ไ มีการดำเนินคดีที่ชัดเจน ถึงแ าจะมี


คลิปที่บันทึกเหตุการ ทั้งหมด มีภาพที่เห็นห าตา กระทำชัดเจน แ กลับไ มีการดำเนินการจากเ า
ห าที่ทางภาครัฐหรือทางตำรวจที่ชัดเจนและบางกรณีบุคคลเห านี้ยังไ รับตำแห งที่ าวห าอีก วย
เหตุการ เห านี้จึงมีความค ายคลึงที่เ นพื้นฐานมาจากเหตุการ “หกตุลา” อีก วย เพราะในกรณี
เหตุการ หกตุลา ก็ยังไ สามารถจับตัว กระทำผิดไ ถึงแ จะมีภาพที่ชัดเจนแ กลับไ มีการดำเนินการ
จากภาครัฐหรือห วยงานอะไรเลย เหลือทิ้งไ เพียงความเจ็บปวดทางกายและทางจิตใจที่บุคคลเห านั้น
ไ พึงกระทำไ สุด ายเราก็ องมานั่งหาคำตอบ าจริง ๆ แ วสังคมในทุกวันนี้เราสามารถที่จะทำ ายคน
ที่เห็น างไ ไ าจะเลือดตกยางออกเพียงไหน ก็สามารถทำไ องกลัว าจะมีความผิดเพรา มี “เสื้อ
เหลือ”ที่ อยปก ดความผิดใ กับตัวเองไ
ร่

ป็
ด้
น้
ข้
ต่
อ้
ณ์
ณ์

ค่
ด้
ด้
ณ์
ล่
ว้
ม่
ม่
ว่
ปิ
น่
ณ์
ท้
ร้
ณ์
ต่
ม่
ล่
ร่
ม้
ณ์
ต้
ล้
ห้
ล่
ผู้
ม่
ช่
ว่
ว่
ณ์
ป็
ผู้
ด้
ป็
ด้
ร้
ส่

ด้
ว้
น้
ต่
ม่
ด้
ว่
ว่
ว่
ผู้
ห้
ด้
ป้
ต่
ถ้
ป็
ลุ่
ม้
ล้
ม่
ณ์
ร้
ม่
ล่
ต้
ณ์
ด้
ต่
ม่
ด้
ว่
ผู้
ม่
ต่
ด้
ต่
ช้
น่
ด้

ร้
ม่
ม่
ก้
ป็
ด้
ต่
น้
ด้
ม้
ว่

ร้
ล่
ด้
จ้
ย์
ทำไมการเมืองไทยนับตั่งแ พ.ศ 2475ถึงยังไ พัฒนา?

“คอรัปชั่น”เ นคำตอบที่หลายคนมักจะใ กับคำถามนี้เสมอ


เพราะในยุคสมัย จจุบันเราอาจจะพบเห็นหลักฐานที่ชัดเจน
ราวกับเ นเรื่องปกติบางหลักฐานก็สามารถพบเห็นไ ตาม องถนน
เ นเพราะนักการเมืองคอรัปชั่นเพียงอ างเดียวหรือจริงหรอที่
ทำใ การเมืองไทยถึงไ พัฒนามา า แ ความจริงแ วการ
คอรรัปชั่นเ นเพียงแ สาหตุที่ทำใ การเมืองไทยไ ที่มา: https://www.thaipbs.or.th/news/content/
พัฒนา หากจะก าวแบบนั่นก็คงจะไ ผิดซะทีเดียวแ ใน
ความจริงแ วมีอะไรที่ลึกไปก านั่นซึ่งสำหรับผมคิด ามีสาเหตุหลักเ น ญหาหลักทางโครงส างที่มา
ยาวนานและมันก็อ ในสังคมเราแทบจะทุกวันนี้เพียงแ ไ อยจะมีคนที่ออกมาทำอะไรกับสิ่งเห านี้มาก
หนักเพราะเกรงกลัวในอิทธิผลของ มีอำนาจและกลัวที่จะเกิดอันตราย อตัวเองและครอบครัวหรือคน
รอบ างไ เลยทำใ การเงียบเ นสิ่งที่ดีที่สุึดเลยทำใ เรา องแก งทำเ นหลับหูหลับตากับสิ่งที่เกิดขึ้น
นั่นเอง

“ ญหาความยากจน”
เราไ สามารถที่จะปฎิเสธิไ าเศรษฐกิจในประเทศไทยนั่นมีแนวโ มที่จะลดลงมาอ างยาวนานแ ว
างอิงจากอันดับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนที่ประเทศไทยไ ครองแชม เ นที่สุด
าย และในเมื่อเศรษฐกิจยากลำบาก เงินทองก็เ นสิ่งที่หาไ
ยากไ แ กัน บางครอบครัวมีภาระที่ องดูแลมีลูกมีหลาน และก็
มี าใ ายที่สูงขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปและบาง
ครอบครัว องทำงานหนักถึงมาก า8ชั่วโมง และไ าแรงที่ อย
แ ก็ องทำ คงไ มีใครที่อยากลำบากและเ นกันบางครอบครัว
องทำงานหนักมากก าเดิม วยเพื่อใ คน างหลังไ สุดสบาย
ที่มา:https://tdri.or.th/2018/01/state-
อีก วยและนักการเมืองบางคนก็ใ จุดนี้เ น องทางในการซื้อใจ
ประชาชน วยการแจกเงิน ไ าจะเ น “เงิน าน้ำมันรถ” เพื่อใ
ไ มาซึ่งคะแนนเสียงใ กับตัวเอง

“ระบบสืบทอดอำนาจใ ลูกหลาน”
เมื่อมีอำนาจไ อ ในกำมือมันก็เ นเรื่องปกติที่อยากจะครอบครองไ ตลอดแ อำนาจมันเ นสิ่งที่
คงอ ตลอดไปไ ไ เลยใ เ นทางจากลูกหลานหรือคนของตัวเองเพื่อใ มาสืบทอดอำนาจพื่อที่ตัวเอง
สามารถที่จะมีอำนาจทาง อมไ อีก วยซึ่งเ นหนึ่งใน จจัยหลักที่สำคัญที่ทำใ การเมืองไทยไ พัฒนา
เพราะไ ยอมใ อำนาจไปตกอ ในคนที่เหมาะสมกับอำนาจแ กลับไปยกอำนาจใ กับคนสนิท ลูกหลาน

อ้
ท้
ต้
ป็

ด้
ต่
ค่
ด้
ห้
ม่
ยู่

ข้
ต้
ปั
ม่
ช้
จ่

ม่
ป็
พ้
ด้
ต้
ล้
ด้
ป็
ห้
ม่
ม่
ล่
ปั
ป็
ด้
ยู่
ห้
ว้
ค่
ห้
ว่
ม่
ยู่
ห้
ช้
อ้

ด้
ส้
ว่
ด้
ม่
ว่
ยู่
ว่
ด้
ป็
ว่
ว่
ช้

ห้
ผู้
ด้

ม่
ป็
ต้
ห้
ต่
ย่
ป็
ป็
ข้
ช่
ป็
ช่
ห้
ค่
ป็
ด้
ม่
ล้
ค่
ว่
ด้
ด้
ต่
ปั
ห้
ต่
ต่
ม่
ท้
ค่
ต้
น้
ด้
ต่
ห้
น้
ล้
ป็
ต่
ห้
ปั
ป็
ว้
ม่
ห้
ด้
ห้
ย่
ต่

ป์
ร้
ป็
ม่
ล่
ป็
ล้

และเครือญาติของตัวเเองเลยทำใ ไ ผลประโยช กับเครื่อ ายของตัวเองง แ ไ เคยที่จะ งผลประโยช


อประชาชนลงมาเลย ซึ่งไ แตก างกับการขยายอำนาจในสมัยสุโขทัยที่ชนชั้นนำจะผูกขาดอำนาจใ ลูก
หลาน หรือคนใก ชิด เพียงอ างเดียวเลยแ แ อย

“การไ ยอมเ ดใจในตัวบุคคล นให ”


ใน วง10 ที่ านมานี้อายุของ ดำรงตำแห งทางการเมืองไ าจะในสภาหรือ
ห วยจากภาครัฐใน องถิ่นก็มักที่จะมีแนวโ มสูงขึ้นอ ตลอดแ ทำไมเราถึงไ เห็นคนที่มีความสามารถ
ในขณะที่อายุยัง อยเลย นั่นเ นเพราะ า คนที่มีความสามารถในการแ ไข ญหา างๆที่เกิดขึ้นขณะที่
อายุยัง อยมักจะถูกมอง าทำตัวอวดฉลาด ทำตัว ามห า ามตา ให ทำใ คน นให ที่มีความ
สามารถไ สามารถที่จะไ รับตำแห งที่จะสามารถแ ไข ญหาที่เกิดขึ้นไ อ างชัดเจนและถูก องไ

“การเชื่อมั่นในตัวเองที่มากเกินไป”
ใน อสุด ายนี้เ น อที่เราสามารถที่จะพบเห็นไ
ตาม ายหาเสียง างถนนหนทางสัญจรของประชาชน ในบาง
ครั่งการมีความมั่นใจเ นเรื่องทีดี แ หากเรามีแ เพียงความ
มั่นใจมากเกินไปมันก็ไ สามารถที่จะส างความเบลี่ยนแปลง
อะไรไ ยกตัวอ าง นายกรัฐมนตรี ที่ มีนโยบายในการปราบ
การทุจริต การติดสินบนหรือแ แ ปราบยาเสพติดใ หมดไป ที่มา: https://www.nationtv.tv/news/
จากสังคมไทยอ างแ นอน แ ทุกสิ่งที่ก าวมานั่นแทบจะเ น
สิ่งที่เกิดในสังคม านเมืองใน จจุบัน การคอรัปชั่นก็สามารถพบเห็นไ อ ตลอด และการติดสินบน
การทุจริต ที่มี สลิปการโอนเงินออกมาใ เห็นตลอด หรือแ แ ญหายาเสพติด ที่มีการตั่งเ าหมาย
อ างชัดเจนมาก าจะหมดไปแ ความเ นจริงแ ว มีกี่ชีวิตที่ องตกเ นเหยือจากความรุนแรนที่เกิดจาก
ยาเสพติด ถึงจะมี ญหาที่เกิดขึ้นเ น อ งชี้แ วแ นักการเมืองหรือก มคนที่มีอำนาจจะเชื่อ า เรา
สามารถที่จะแ ไข ญหาเห านี้ไ แ องรอเวลา เ านั่นเอง ซึ่งเ นการใ ความหวังกับประชาชนนั้นเอง

จากหัว อที่ผมไ ก าวมานั่นสำหรับตัวผม ผมคิด าเ น สาเหตุที่การเมืองไกลยังไ พัฒนาเพราะ


า ญหาเห านี้ที่ อยฉุดรั่งการเมืองไทยไ ใ พัฒนาไปในทางที่ถูกที่ควรหรือพัฒนาไปในทิศทางที่ดียิ่ง
ขึ้นก าเดิมหากเราสามารถที่จะแ ไข ญหาเห านี้ไ ใ เกิดขึ้นไ อีกครั่งมันจะ วยใ การเมืองไทยของ
เราสามารถที่จะพัมนาไปอ าง าวกระโดด และอาจจะไ องขาย นที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไ เกิดขึ้นใ
ประชาชนที่อ ในพื้นที่อ างแ นอนนั่นเองครับ
ต่
ว่
ย่
น่

ปั
ป้
ว่
ด้
ม่
น้
ม่
ล่
ปิ
ยู่
ข้
ก้
ข้
ย่
ย่
น้
บ้
ว่
ข้
ล้
ปั
ค่
ปั
ท้
ท้
น่
ป็
ม่
ด้
ช่
ย่
ด้
ว่
ย่
ป็
ล่
ม่
ล่
ปั
ย่
น่
ป็
ต่
ข้
ก้
ม้
รุ่
ปี
ต่
ด้
ก้
ต่
ห้
ต่
ป็
ผ่
น่
ต่
ต่
ด้
ม่

ปั
ต้
ข้
ร้
ป็

ว่
ห้
บ่
ล่
ม่
ม้
น้
ห้
ล้
ล่
ต่
ต่
ล้
น้
น์
ข้
ต่
ท่
ม่
ห้
ผู้
ก้

ห้
ยู่
น้
ม่
ปั
ว่
ต้
ม้
ข่
ข้
ป็
ด้
ต้
ป็
ต่
ปั
ต่
ด้
ป็
น่
ผู้
ฝั
ป็
ด้
ญ่
ลุ่
ก้
ยู่
ด้
ห้
ปั
ย่
ห้
ต่
ม่
ช่
ม่
รุ่
ม่
ต่
ว่
ห้
ม่
ส่
ม่
ม่
ป้
ว่
ต้

ด้
ห้

ห้
น์

You might also like