Professional Documents
Culture Documents
WaterTest XXXX 05
WaterTest XXXX 05
1.การเก็บน้ําวิเคราะหโลหะตองเติม...HNO3...
2.วิเคราะไซยาไนดเติม...NaOH...
3.โรงงานหมายถึง....
4.กาชใดติดไฟได...NH4..
5.ขั้นตอนโคแอกคูเลชั่น...กวนเร็ว-กวนชา
6.กาชชนิดไดกําจัดเชื้อโรคไดดีที่สุดระหวาง..โอโซน กับ คลอรีน ขอนี้เปนที่ถกกันมากที่สุดนะครับ และออก 5
ครั้งติดแลวครับ
7.น้ําเสียตาม พรบ.35 คือ....
8.การใหลของน้ําในถังดักทรายที่เหมาะสมคือ..0.3 เมตร/วินาที
ปล.มีอีกเยอะครับนี่เปนเพียงตัวอยางบางขอใครมีเพิ่มเติมก็มาแชรกันไดนะครับ จะไดสอบผานกันทุกคน โอกาศ
หนาจะเอามาใหอีกนะครับ
-Cr มาจากน้ําทิ้งอุตสาหกรรมฟอกหนัง
- กาซติดไฟได CH4 (มีเทน)
- การเก็บตัวอยางน้ํา เพื่อดูคา F/M เก็บน้ําเขาดูคา BOD, น้ําบอเติมอากาศดูคา MLVSS
- เดี๋ยวคิดออกแลวมาบอกใหม
กอนอื่นแกขอ4.ครับ กาซติดไฟคือ CH4 ครับ ไมใชNH4 ผมพิมพผิดครับ ขอโทษดวย
9.โรงงานบางประเภทมีการอนุโลมใหคาบางคาเกินมาตรฐานได มีคาอะไรบาง..และอนุโลมใหไมเกินเทาไหร
10.วัชพืชที่นิยมเติมบ Facultative คือ....
11.การทําแหงสลัจดดวยวิธิอัดกรองลดความชื้นไดกี่ %
12.การกําจัดกลิ่นเหม็นในเสนทอใชสารไรครับ..Cl2 หรือเปลา.
13ทอทนแรงดันคือ...
14.กระดาษกรองที่เล็กที่สุดคือขนาดได..
15.การไทรเทรต BOD ใชสารไร..
19.เราจะแกไขปญหากลิ่นเหม็นในบอเหม็นไดอยางไรครับ
20.โรงงานยอมสีควรมีการบําบัดแบบไดจึงจะเหมาะสมครับ
21.คํานวณ Solids 1 ขอ..
22.คํานวณ F/M 1ขอ..
23.คํานวณ MLSS 1 ขอ.
24.การเติมเหล็ก ควรเติมในรูปใด
25.ปรอททําใหเกิดโรค..มินามาตะ.
26.แคดเมี่ยมทําใหเกิดโรค..อิไต อิไต..
27.คาใดบอกถึงปริมาณสารอินทรียในน้ําเสีย..VS...
28.เช็ควาลวทําหนาที่..
29.การออกแบบ Sump (สถานีสูบ) ควรคํานึงถึงอะไรมากที่สุด.
30.คา DO ในถังตกตะกอนควนเปนเทาใด.
31.ประสิทธิภาพของ Granular Activated Carbon ดูจากอะไร..
32.กระบวนการที่ใช Granular activated Carbon เรียกวาอะไร...
33.พารามิเตอรใดไมไดกําหนดไวในมาตรฐน้ําทิ้ง..
34.การกําจัดสาหรายใชสารเคมีใด..ใชคลอรีนหรือเปลาครับ
16.หาแรงมา 1 ขตอมอเตอร 3เฟส สลับกันปมทํางานครับ แตจะหมุนกลับดาน ตองสลับขั้วใหม
ไมแนใจนะคะวาจะไดหรือยังแนวขอสอบนี้
-หา svi
-ให อายุตะกอน ให BOD ใหหาอัตราการไหล
-หา Flow rate ของระบบ Tricking
-หา Qจากสูตรwire 90 H=15cm
-แบคทีเรียที่ชี้บงวา เอเอสมีประสิทธิภาพคือ..โรติเฟอร
ถาหาเจออีกเดี๋ยวมาบอกใหมนะคะ
สวนอันนี้เปนสรุปยอ
สรุปขอสอบที่เคยสอบผูควบคุมระบบบําบัดมลพิษน้ํา
รายวิชาที่สอบมีจํานวน 4 วิชา จํานวน 100 ขอ ดังนี้
1. กฎหมายดานสิ่งแวดลอมที่เกี่ยวของ และหนาที่ของผูควบคุมดูแลและผูปฏิบัติงานประจําฯ จํานวน 15 ขอ
2. ทฤษฎีการบําบัดมลพิษ – มีเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานการบําบัดมลพิษชนิดตางๆ จํานวน 35 ขอ
3. เทคนิคการควบคุมระบบบําบัดมลพิษ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแกไขปญหาและอุปสรรคตางๆ ที่จะพบในระหวาง
การเดินระบบบําบัดมลพิษ จํานวน 35 ขอ
4. เทคนิคการวิเคราะหมลพิษ – มีเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการวิเคราะหมลพิษประเภทตางๆ จํานวน 15 ขอ
(หมายเหตุ ขอมูลรายวิชาที่สอบนี้มาจากการชี้แจงของกรอ. ใน web board ของ website
http://www.diw.go.th)
1.ขอสอบเกี่ยวกับกฎหมายสิ่งแวดลอม-น้ําและหนาที่ของผูควบคุมและผูปฏิบัติงานประจําระบบบําบัดมลพิษฯ
(15 ขอ)
1) ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดลอมแหงชาติ ฉบับ 8 พ.ศ. 2537 กําหนดมาตรฐานคุณภาพน้ําในแหลงน้ําผิว
ดินออกเปน 5 ประเภท
2) ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 “โรงงาน”หมายถึง อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใชเครื่องจักรมี
กําลังรวมตั้งแต 5 แรงมาหรือเทียบเทาขึ้นไป หรือมีคนงานตั้งแต 7 คนขึ้นไป
3) การแบงขนาดโรงงานตามประเภท ชนิด หรือขนาด แบงออกเปน 3 จําพวก ไดแก
ก.โรงงานจําพวกที่ 1 ไดแก โรงงานประเภท ชนิด ขนาดที่สามารถประกอบกิจการโรงงานไดทันทีโดยไมตองขอ
อนุญาต(โดยมากเปนโรงงานขนาดเล็กที่มีเครื่องจักรไมเกิน 20 แรงมา และคนงานไมเกิน 20 คน ยกเวนโรงงาน
ที่ไมมีผลกระทบสิ่งแวดลอมจะถูกจัดใหเปนโรงงานจําพวกที่1 ทุกขนาด)
ข.โรงงานจําพวกที่ 2 ไดแก โรงงานประเภท ชนิด ขนาดที่เมื่อจะประกอบกิจการตองแจงใหกรมโรงงาน
อุตสาหกรรมทราบกอน(โดยมากเปนโรงงานขนาดกลางที่มีเครื่องจักรไมเกิน 50 แรงมา และคนงานไมเกิน 50
คน )
ค.โรงงานจําพวกที่ 3 ไดแก โรงงานประเภท ชนิด ขนาดที่เมื่อจะประกอบกิจการตองไดรับใบอนุญาตจากกรม
โรงงานอุตสาหกรรมกอน(โดยมากเปนโรงงานขนาดใหญที่มีเครื่องจักรไมเกิน 50 แรงมา และคนงานเกิน 50
คนยกเวนโรงงานที่มีผลกระทบสิ่งแวดลอมสูงจะถูกจัดใหอยูในจําพวกที่3 ทุกขนาด )
4) คามาตรฐานกําหนดลักษณะน้ําทิ้งที่ระบายออกจากโรงงาน ตามประกาศหระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2
พ.ศ. 2539 กําหนดคาอุณหภูมิตองไมมากกวา 40 องศาเซลเซียส , โรงงานบางประเภทไดรับการอนุโลมใหมีคา
มาตรฐานน้ําทิ้งไดสูงกวาปกติ เชน
- น้ําเสียจากโรงฆาสัตว โรงงานทําแปง โรงงานทํากิจการเกี่ยวกับอาหารจากแปงเชน ขนมปง กวยเตี๋ยว, โรงงาน
สิ่งทอหรือเสนใย,โรงงานหมัก ฟอกหนังสัตว, โรงงานทําเยื่อหรือกระดาษ โรงงานเคมีภัณฑ,โรงงานยา, หองเย็น
อนุโลมใหใชคา BOD 60 มก./ล.
- โรงงานทําเครื่องปรุง,ผลิตอาหารสัตว, สิ่งทอหรือเสนใย, หมัก ฟอกหนังสัตว, เยื่อ กระดาษ อนุโลมใหใชคา
COD 400 มก./ล.
5) ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง “การกําหนดประเภท ชนิด และขนาด ของโรงงาน กําหนดวิธีการ
ควบคุมการปลอยของเสีย มลพิษหรือสิ่งใดๆที่มีผลกระทบตอสิ่งแวดลอม กําหนดคุณสมบัติและหลักเกณฑการ
ขึ้นทะเบียนผูควบคุมดูแลสําหรับระบบปองกันสิ่งแวดลอมเปนพิษ พ.ศ. 2545” กําหนดประเภทของบุคคลากร
ดานสิ่งแวดลอมประจําโรงงาน ไวเปน 3 ประเภท คือ
1. ผูควบคุมดูแลระบบปองกันสิ่งแวดลอมเปนพิษ ประกอบดวยผูจัดการสิ่งแวดลอม และผูควบคุมระบบบําบัด
มลพิษน้ํา,อากาศ,กาก
2. ผูปฏิบัติงานประจําระบบปองกันสิ่งแวดลอมเปนพิษ
3. บริษัทที่ปรึกษาที่ทําสัญญารับจางเปนผูควบคุมระบบบําบัดมลพิษ(มีหนาที่รับผิดชอบเชนเดียวกับผูควบคุม
ระบบบําบัดมลพิษ)
6) ชนิดและโรงงานที่ตองมีบุคลากรดานสิ่งแวดลอมประจําโรงงาน ไดแก
-โรงงานที่มีปริมาณน้ําเสียตั้งแต 500 ลบ.ม./วัน(ยกเวนน้ําหลอเย็น)หรือมีความสกปรกกอนเขาระบบบําบัด
ตั้งแต 100 กก./วัน ขึ้นไป
-โรงงานที่ใชสารโลหะหนักหรือสารพิษในกระบวนการผลิตที่มีปริมาณน้ําเสียตั้งแต 50 ลบ.ม./วันขึ้นไป
-โรงงานที่กอมลพิษสูง ไดแก
1) โรงไฟฟาพลังงานความรอนขนาดตั้งแต 10 เมกกะวัตตขึ้นไป
2) อุตสาหกรรมปโตรเคมีที่ใชวัตถุดิบซึ่งไดจากการกลั่นน้ํามันปโตรเลียมหรือจากการแยกกาซธรรมชาติขนาด
ตั้งแต 100 ตัน/วันขึ้นไป
3) อุตสาหกรรมกลั่นน้ํามันปโตรเลียมทุกขนาด
4) อุตสาหกรรมแยกหรือแปรสภาพกาซธรรมชาติทุกขนาด
5) อุตสาหกรรมผลิตสารออกฤทธิ์หรือยากําจัดศัตรูพืชหรือสัตวโดยกระบวนการทางเคมีทุกขนาด
6) อุตสาหกรรมผลิตปุยเคมีโดยกระบวนการทางเคมีทุกขนาด
7) โรงงานปรับคุณภาพของเสียรวมทุกขนาด(โรงงานลําดับที่ 101)
8) อุตสาหกรรมน้ําตาล – น้ําตาลทรายดิบ น้ําตาลทรายขาว น้ําตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ทุกขนาด
– กลูโคส เดกซโทรส ฟรักโทส ตั้งแต 20 ตัน/วันขึ้นไป
9) โรงงานจัดการกากของเสียและวัตถุอันตรายทุกขนาด(โรงงานลําดับที่ 105 และ 106)
10) โรงงานเหล็กและเหล็กกลา – มีเตาอบกําลังการผลิตตั้งแต 100 ตัน/วัน ขึ้นไป
– มีเตาหลอมเหล็กปริมาตรรวมตั้งแต 5 ตัน/ครั้ง ขึ้นไป
11) โรงงานคลอ-แอลคาไลนที่ใช NaCl เปนวัตถุดิบที่มีการผลิตตั้งแต 100 ตัน/วันขึ้นไป
12) โรงงานปูนซีเมนตทุกขนาด
13) โรงงานถลุงแรหรือหลอมโลหะซึ่งมิใชอุตสาหกรรมเหล็กหรือเหล็กกลาที่มีกําลังการผลิตตั้งแต 50 ตัน/วัน
ขึ้นไป
14) โรงงานเยื่อกระดาษที่มีกําลังการผลิตตั้งแต 50 ตัน/วันขึ้นไป
7)กรณีที่ผูควบคุมระบบบําบัดมลพิษน้ําถูกเพิกถอนใบทะเบียนผูประกอบกิจการโรงงานตองดําเนินการจัดหาผู
ควบคุมใหมมาแทนภายใน 90 วัน, ในกรณีที่ผูควบคุมระบบบําบัดมลพิษ ไมสามารถปฏิบัติหนาที่ตามที่กําหนด
ตองระบุปญหาและเหตุผลเปนลายลักษณอักษรรายงานใหกรมโรงงานอุตสาหกรรมทราบภายใน 15 วันทําการ,
ในกรณีที่ไมประสงคจะควบคุมระบบบําบัดมลพิษประจําโรงงานอีกตอไปตองแจงใหกรมโรงงานทราบเปนลาย
ลักษณอักษรไมนอยกวา 7 วัน ที่จะไมดําเนินการดังกลาว
8) ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กําหนดใหโรงงานที่ตองมีระบบบําบัดน้ําเสียตองติดตั้งเครื่องมือหรือ
เครื่องอุปกรณพิเศษและเครื่องมือหรือเครื่องอุปกรณเพิ่มเติม พ.ศ. 2547 โดยกําหนดให
1.1 โรงงานที่มีปริมาณน้ําทิ้งเกิน 10,000 ลบ.ม./วัน ขึ้นไป
1.2 โรงงานที่มีปริมาณน้ําทิ้งเกิน 3,000 ลบ.ม./วัน ขึ้นไป ถึง10,000 ลบ.ม./วัน หรือมีปริมาณ Influent
BOD Load ตั้งแต 4,000 กก./วัน ขึ้นไป
ประกาศเพิ่มเติม(ฉบับที2่ ) ในป 2548 เพิ่มขอ 1.3 และ1.4 (อาจจะออกขอสอบ เก็งวานาจะออกขอสอบเรื่อง
นี้)
1.3 โรงงานที่มีปริมาณน้ําทิ้งตั้งแต 1,000 ลบ.ม./วัน ขึ้นไป แตไมถึง 3,000 ลบ.ม./วัน (มีผลบังคับใช 14 ม.ค.
2549)
1.4 โรงงานที่มีปริมาณน้ําทิ้งตั้งแต 500 ลบ.ม./วัน ขึ้นไป แตไมถึง 1,000 ลบ.ม./วัน (มีผลบังคับใช 14 ก.ค.
2549)
ใหโรงงานที่กําหนดในขอ 1.1-1.4 ตองติดเครื่องมือหรืออุปกรณพิเศษเพิ่มเติมคือ
2.1 ติดตั้งเครื่องวัดอัตราการไหลของน้ําทิ้งออกจากโรงงานและติดตั้งมาตรวัดปริมาณการใชไฟฟาสําหรับระบบ
บําบัดน้ําเสียโดยสามารถใหสัญญาณไฟฟาอยางตอเนื่องเพื่อสงเขาสูระบบคอมพิวเตอรของโรงงานเพื่อบันทึก
ขอมูลและแสดงขอมูลยอนหลังไดอยางตอเนื่อง
ประกาศเพิ่มเติม(ฉบับที2่ ) ในป 2548 แกไขขอ2.2 เปนดังนี้
2.2 ติดตั้งเครื่องตรวจวัดคาบีโอดี หรือคาซีโอดีของน้ําทิ้งที่สามารถใหสัญญาณไฟฟาไดอยางตอเนื่องและสงเขา
สูระบบคอมพิวเตอรของโรงงานเพื่อบันทึกขอมูลและแสดงขอมูลยอนหลังไดอยางตอเนื่องโรงงานใดจะติดตั้ง
เครื่องดังกลาวตองไดรับความเห็นชอบจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม
เพื่อรายงานการระบายน้ําทิ้งออกจากโรงงานเขากับระบบเครือขายคอมพิวเตอรของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เวน
แตโรงงานที่ไมมีการระบายน้ําทิ้งออกจากโรงงานและโรงงานที่นําน้ําทิ้งไปบําบัดที่โรงงานปรับสภาพของเสีย
รวมไมตองติดตั้งเครื่องมือดังกลาว
9) ประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรม เรื่องหลักเกณฑการใหความเห็นชอบใหโรงงานที่ตองมีระบบบําบัดน้ําเสีย
ตองติดตั้งเครื่องมือหรือเครื่องอุปกรณพิเศษและเครื่องมือหรือเครื่องอุปกรณเพิ่มเติม พ.ศ. 2547 (ประกาศราช
กิจจานุเบกษา วันที่ 16 กุมภาพันธ 2548)
โรงงานที่ตองติดตั้งเครื่องวัดบีโอดีไดแก โรงงานลําดับที่ 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ,13, 15, 16, 17, 19,
20,และ 52 ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับ สัตวซึ่งมิใชสัตวน้ํา, น้ํานม, สัตวน้ํา, น้ํามันจากพืชหรือสัตว หรือไขมัน
จากสัตว, ผัก พืช ผลไม, เมล็ดพืชหรือหัวพืช, อาหารจากแปง, น้ําตาลซึ่งทําจากออย บีช หญาหวาน หรือพืชอื่นที่
ใหความหวาน, เครื่องปรุงเครื่องประกอบอาหาร, อาหารสัตว, ตมกลั่นหรือผสมสุรา, ผลิตเอทิลแอลกอฮอล,
มอลตหรือเบียร,น้ําดื่ม เครื่องดื่มที่ไมมีแอลกอฮอล น้ําอัดลม น้ําแร, ยาง ตามลําดับ
โรงงานที่ตองติดตั้งเครื่องวัดซีโอดีไดแก โรงงานลําดับที่ 22, 24, 29, 38, 40, 42, 44, และ49 ซึ่งประกอบ
กิจการเกี่ยวกับ สิ่งทอ,ถักผา หรือเครื่องนุงหม หรือฟอกยอมสี หรือแตงสําเร็จผา ,หมัก ชําแหละ อบ ปน บด ขัด
แตง เคลือบ สี หนังสัตว, ผลิตเยื่อหรือ กระดาษ, กิจการเกี่ยวกับ เยื่อ กระดาษ หรือกระดาษแข็ง, เคมีภัณฑ
สารเคมี วัสดุเคมีซึ่งมิใชปุย, ยางเรซินสังเคราะห เสนใยสังเคราะห ซึ่งมิใชใยแกว และกลั่นน้ํามันปโตรเลียม
ตามลําดับ
โรงงานที่ตองติดตั้งเครื่องวัดบีโอดีและซีโอดี ไดแก โรงงานลําดับที่ 101 ปรับคุณภาพของเสียรวม
10) มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการอนุรักษแหลงน้ําดิบเพื่อการประปา กําหนดพื้นที่ซึ่งไมอนุญาตใหมีการตั้งหรือ
ขยายกิจการโรงงานบางประเภท สรุปไดดังนี้ คือ โรงงานที่มีน้ําทิ้งประกอบดวยสารพิษประเภทโลหะหนัก
รวมทั้งวัตถุมีพิษที่ใชในการเกษตรและสารเคมีอื่นๆที่เปนพิษ,โรงงานที่มีความสกปรกในน้ําทิ้งมากกวา 1 กก.บี
โอดี/วัน เขตควบคุมคือ อ.บางไทร อ.บางปะอิน จ. อยุธยา, อ.สามโคก อ.เมือง อ.คลองหลวง จ. ปทุมธานี
2.ขอสอบเกี่ยวกับทฤษฎีการบําบัดมลพิษน้ํา(35 ขอ)
1) การเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอยางรวดเร็วของสาหรายเนื่องจากมีสารไนโตรเจนและฟอสเฟตสูงเรียกวา
ปรากฎการณ Eutrophication
2) ไนโตรเจนที่พบในน้ําเสียมี 4 ชนิด คือ1. แอมโมเนียไนโตรเจน 2. สารอินทรียไนโตรเจน 3. ไนไตรต
(NO2-) และ 4.ไนเตรต(NO3-)
การกําจัดไนโตรเจน โดยวิธี ไนทริฟเคชั่น-ดีไนทริฟเคชั่น ขั้นตอนแรกคือ ปฏิกิริยา ไนทริฟเคชั่น (เปนปฏิกิริยา
ทางชีวภาพที่ทําใหแอมโมเนียไนโตรเจนและสารอินทรียไนโตรเจน ถูกออกซิไดซเปนไนไตรตและไนเตรต โดย
ออโทโทรฟกแบคทีเรีย Nitrosomonas และ Nitrobacter ตามลําดับ ;ใชออกซิเจน 4.6 กก./NH4+ 1
กก.) ปฏิกิริยา ดีไนทริฟเคชั่น เปนปฏิกิริยาทางชีวภาพที่ทําใหไนไตรตและไนเตรต ถูกเปลี่ยนเปนกาซไนโตรเจน
โดยแฟคัลเททีฟแบคทีเรีย(ในสภาพที่มีอากาศหายใจโดยใชออกซิเจน ในสภาพที่ไมมีอากาศหายใจโดยใช ไน
ไตรตหรือไนเตรต)
3) วิธีการกําจัดฟอสฟอรัสมีการพัฒนาเพื่อใชในการกําจัดพรอมกับไนโตรเจนและบีโอดีคือกระบวนการ
Modified Bardenpho Process, UTC Process, Modified UTC Process
4) วิธีการบําบัดน้ําเสียที่มีแคดเมียม คือ ตกตะกอนดวยไฮดรอกไซด ที่pH 10.5 หรือสูงกวา
5) วิธีการบําบัดน้ําเสียที่มีตะกั่ว คือ ตกตะกอนดวยไฮดรอกไซด ที่pH 9.5-10 ดวยการเติมปูนขาวหรือ
โซดาไฟเพื่อใหเกิดการตกตะกอนผลึกในรูปตะกั่ว(Precipitation) จากนั้นจึงกําจัดตะกั่วออกโดยกระบวนการ
โคแอกกูเลชั่นดวยสารสม
6) วิธีการบําบัดน้ําเสียที่มีอารเซนิก(สารหนู) คือ ดูดซับรวมกับการตกตะกอนโดยใชปูนขาว สารสมและเฟอรริก
คลอไรด
7) วิธีบําบัดน้ําเสียที่มีโครเมียมเฮกซาวาเลนซ คือ รีดิวสใหเปน Cr 3+โดยการเติมสารเคมีเชน ซัลเฟอรได
ออกไซด เฟอรัสซัลเฟต หรือ เกลือซัลไฟตแลวทําใหตกตะกอนผลึกดวยไฮดรอกไซด(โดยเติมปูนขาวหรือ
โซดาไฟ )
8) วิธีการบําบัดน้ําเสียที่มีไซยาไนด โดย ออกซิเดชั่นสองชั้นดวยไฮโปรคลอไรดเรียกวา Alkali
chlorination ใชสารเคมี 2 ชนิดคือโซดาไฟและคลอรีน มี 2 ขั้นตอน คือ 1. ในสภาวะที่เปนดาง คลอรีนจะ
ออกซิไดซไซยาไนดใหเปนไซยาเนต 2. ที่คาพีเอชประมาณ 7-8 ไซยาเนตจะถูกเปลี่ยนเปนไนโตรเจนโดยการ
เติมคลอรีนหรือไฮโปคลอไรด
9) การบําบัดน้ําเสียซึ่งมีสารประกอบอินทรียของปรอท(Organic Mercury)ใชวิธีออกซิเดชั่นใหสารอินทรีย
ของปรอทอยูในรูปคลอไรดโดยใชคลอรีน จากนั้นจึงตกตะกอนใหอยูในรูปสารประกอบซัลไฟด
3.ขอสอบเกี่ยวกับเทคนิคการควบคุมระบบบําบัดมลพิษน้ํา(35 ขอ)
1) การวัดอัตราการไหลของน้ําดวยเวียร
1. เวียร(Weir) ชนิดสี่เหลี่ยม
Q = 1.84 LH 1..5
Q = อัตราไหลของน้ําเสีย, ลบ.ม./วินาที
L = ความยาวของสันเวียร, เมตร
H = ความสูงของระดับน้ําเหนือสันเวียร, เมตร
ตัวอยางขอสอบ เวียรสี่เหลี่ยมที่มีความยาวสันเวียร 0.5 เมตร ความสูงน้ําเหนือสันเวียร 0.18 เมตร มีอัตราไหล
ของน้ํากี่ลบ.ม./ชม.
แทนคาตามสูตร
Q = 1.84 (0.5)(0.18) 1..5
= 0.070258 ลบ.ม./วินาที
= 0.070258 x 60 x 60 = 252.93 ลบ.ม./ชั่วโมง
2. เวียร(Weir) ชนิดสามเหลี่ยมใชวัดอัตราไหลของน้ําเสียที่มีปริมาณนอยมีแบบ 60o และ 90o
แบบ 60o Q = 0.85 H 2..5
แบบ 90o Q = 1.47 H 2..5
Q = อัตราไหลของน้ําเสีย, ลบ.ม./วินาที
H = ความสูงของระดับน้ําจากจุดยอดของสามเหลี่ยม, เมตร
2) ระบบโปรยกรอง(Tricking Filter) มีองคประกอบคือ 1.ระบบกระจายน้ําเขา(Distribution system)
2. ตัวกรอง(Filter media) 3. ระบบระบายน้ําทิ้ง(Underdrain system) หลักการทํางาน คือน้ําเสียจะถูก
ปลอยใหไหลผานชั้นตัวกรองโดยระบบกระจายน้ําเขามีหนาที่ทําใหพื้นที่ภาคตัดขวางของตัวกรองไดรับน้ําเสีย
เทากันทุกสวน ซึ่งจุลินทรียที่เกาะติดอยูบนตัวกรองจะทําการยอยสลายสารอินทรียในน้ําเสีย น้ําที่บําบัดแลวจะถูก
สงไปยังถังตกตะกอนเพื่อแยกสลัดจออกแลวจึงระบายน้ําสวนใสทิ้ง
3) ระบบแผนหมุนชีวภาพ( Rotating Biological Contactor, RBC)มีสวนประกอบ ดังนี้ 1. แผนหมุน
ชีวภาพ(Biodisk) 2. Reactor คือ จุลินทรียที่เกาะอยูบนผิวแผนหมุน การหมุนทําใหจุลินทรียสัมผัสน้ําเสีย
และเกิดการกําจัดอินทรียสารในน้ําเสีย 3. Sedimentation tank คือถังตกตะกอน หลักการทํางานคลายระบบ
โปรยกรอง ตางตรงที่มีการหมุนแผนชีวภาพที่มีจุลินทรียเกาะ อัตราการหมุนมีผลตอการบําบัดคือ เปนการเพิ่ม
จํานวนครั้งของการสัมผัสระหวางน้ําเสียกับจุลินทรีย ชวยเพิ่มอัตราการเติมอากาศ
4) ระบบบําบัดน้ําเสียแบบเอเอส(Activated Sludge) ประกอบดวยสวนสําคัญอยางนอย 2 สวนคือ ถังเติม
อากาศ และถังตกตะกอน หลักการทํางานของระบบเอเอสเปนวิธีที่เลียนแบบธรรมชาติ โดยใชปฏิกิริยาชีวเคมี
ขั้นตอนการทํางานของระบบเริ่มตั้งแตน้ําเสียถูกสงเขาสูถังเติมอากาศ ซึ่งมีสลัดจอยูเปนจํานวนมาก ภายในถังมี
ภาวะแวดลอมที่เหมาะตอการเจริญเติบโตของจุลินทรียแบบใชออกซิเจน มลสารที่อยูในน้ําเสียถูกใชเปนอาหาร
ของจุลินทรียและถูกยอยสลายใหอยูในรูป CO2และ H2O เมื่อจุลินทรียเจริญเติบโตและขยายพันธุตอไป จะ
รวมตัวเปนกอนใหญเรียกวาฟล็อกหรือสลัดจ จากนั้นจึงแยกสลัดจออกจากน้ําโดยการตกตะกอน สลัดจที่แยกตัว
อยูกนถังตกตะกอนสวนหนึ่งถูกสูบกลับไปยังถังเติมอากาศ อีกสวนหนึ่งเปนสลัดจสวนเกิน(Excess sludge)
ซึ่งตองทิ้งเพื่อรักษาปริมาณ จุลินทรียในระบบใหมีคาเหมาะสม
วิธีควบคุมการทํางานของระบบเอเอส
1) การควบคุมอัตราสวนอาหารตอจุลินทรียในระบบ (Food to Microorganism Ratio, F/M ratio)
ควบคุมโดยรักษาอัตราสวนของน้ําหนักบีโอดีที่สงเขามาบําบัดตอน้ําหนักจุลินทรียซึ่งวัดในรูปของแข็งแขวนลอย
(MLSS) เรียกคาควบคุมนี้วา อัตราสวนอาหารตอจุลินทรีย(Food to Microorganism Ratio, F/M
ratio) สามารเขียนเปนสมการไดดังนี้
F/M ratio = อัตราการไหลของน้ําเสีย(ลบ.ม./วัน) x บีโอดี (มก./ล.)
ปริมาตรของถังเติมอากาศ(ลบ.ม.) x MLSS(มก./ล.)
แบงรูปแบบการทํางานของกระบวนการเอเอสตามอัตราสวนอาหารตอจุลินทรียไดเปน 3 ประเภท คือ อัตราการ
บําบัดสูง
(High Rate), อัตราการบําบัดธรรมดา(Conventional Rate), และอัตราการบําบัดต่ํา (Low Rate or
Extended Aeration) โดยมีชวงการทํางานตามคา F/M ratio คือ 0.5-2.0, 0.2-0.5, และ 0.05-0.15
ตอวัน ตามลําดับ
อัตราสวนอาหารตอจุลินทรีย(F/M) คืออัตราสวนน้ําหนักสารอินทรียตอน้ําหนักจุลินทรีย โดยปกติคา F/M
ของระบบเอเอส ควรควบคุมเปน 0.20-0.40 กก.บีโอดี ตอ กก.MLVSS ตอวัน
หรือเรียกอีกอยางหนึ่งงวาการควบคุมคาอัตราสวนภาระอินทรียตอปริมาตรถังเติมอากาศ (Organic Loading
, OL)
OL = BOD (มก./ล) x Flow rate(ลบ.ม./วัน) กก.บีโอดี ตอ ลบ.ม ตอวัน
V (ลบ.ม.) x 1,000
7) การควบคุมดูแลถังตกตะกอน
ทําไดโดยกําหนดระดับความลึกของชั้นสลัดจสะสมในถังตกตะกอน เชน ไมเกิน 1 ใน 3 ของขนาดความจุของถัง
ตกตะกอนเปนตน
ปริมาตรสลัดจสะสม(ลบ.ม.) = น้ําหนักสลัดจที่เขาสูถังตกตะกอน(กก./วัน)
ความเขมขนของสลัดจสะสมในถังตกตะกอน(มก./ล.)
8) การเติมธาตุอาหาร
ในถังเติมอากาศ BOD:N:P:Fe ในน้ําเสียควรมีคา 100:5:1:0.5 น้ําเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมมักจะขาด
ธาตุอาหาร ซึ่งเปนสาเหตุใหเกิดการไมจมตัวของสลัดจ(Bulking Sludge) จึงตองตรวจสอบปริมาณธาตุ
อาหาร ถามีคาตัวใดตัวหนึ่งขาดไปก็จะตองมีการเติมสารเคมีใหเพียงพอ
วิธีการคํานวณหาธาตุอาหารที่จําเปน
(1) คํานวณปริมาณบีโอดี (BOD Loading)
(2) เปรียบเทียบลักษณะน้ําเสียกับลักษณะที่ตองการ
(3) คํานวณปริมาณธาตุอาหารที่ตองการเพิ่ม
(4) คํานวณปริมาณสารเคมีที่ตองเติม
ตัวอยาง อัตราน้ําเสียเขาระบบเอเอส 2,000 ลบ.ม./วัน น้ําเสียมีคา
BOD 400 มก./ล. สารเคมีทีใชเติม Urea 45% N
N 4 มก./ล. Trisodium Phosphate 18% P
P 2 มก./ล. Ferric Chloride 30% Fe
Fe 0.4 มก./ล.
วิธีทํา 1. คํานวณปริมาณบีโอดี BOD x อัตราการไหลของน้ําเสีย = 800 กก./วัน
2. เปรียบเทียบลักษณะน้ําเสียกับลักษณะที่ตองการ
น้ําเสีย BOD:N:P:Fe = 400 : 4 : 2 : 0.4 = 800 : 8 : 4 : 0.8
ตองการ BOD:N:P:Fe = 100 : 5 : 1 : 0.5 = 800 : 40 : 8 : 4
3. ปริมาณธาตุอาหารที่ตองการเพิ่ม
N = 40 - 8 = 32 กก./วัน
P = 8 - 4 = 4 กก./วัน
Fe = 4 - 0.8 = 3.2 กก./วัน
4. สารเคมีที่ตองเติม
เติม Urea 45% N = 32/0.45 = 71.1 กก./วัน
เติม Trisodium Phosphate18% P = 4/0.18 = 22.2 กก./วัน
เติม Ferric Chloride 30% Fe = 3.2/0.30 = 10.7 กก./วัน
4.ขอสอบเกี่ยวกับเทคนิคการวิเคราะหมลพิษน้ํา(15 ขอ)
1) การเก็บตัวอยางน้ําเพื่อวิเคราะหโลหะหนักตองเติม HNO3 ถึง pH < 2 (เพื่อละลายโลหะ ปองกันการตก
ผลึก)
อุปกรณเก็บตัวอยางน้ํา ประกอบดวย ขวดเก็บตัวอยาง มักเปนขวดโพลีเอทิลีน ขนาด 500-1000 มล. ยกเวนการ
วิเคราะหน้ํามันและไขมันตองใชขวดแกว สําหรับขวดเก็บแบคทีเรียตองเปนขวดแกวหรือขวดโพลิโพรพิลีน ที่
ผานการนึ่งฆาเชื้อแลวปดดวยกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล หามเปดขวดกอนเก็บตัวอยาง การเก็บตัวอยางพวกโลหะ
หนัก,น้ํามันและไขมันตองลางขวดเก็บตัวอยางดวย กรดไนตริก(HNO3) กอนใชงาน และถาเปนพวกยาฆา
แมลงตองลางขวดดวยตัวทําละลายอินทรียกอนใชงาน
ปริมาตรของตัวอยางน้ําที่ตองการ มีตั้งแต 100-1000 มล. ขึ้นอยูกับจํานวนและชนิดพารามิเตอรที่ตองการ
วิเคราะห เชน ตองการวิเคราะห คลอรีนตกคาง, ไซยาไนด, ทีดีเอส, น้ํามันและไขมัน, ไนโตรเจน, ยาฆาแมลง
ตองเก็บตัวอยางน้ําเสียอยางนอย 1000 มล. เปนตน
2) การรักษาตัวอยางน้ํา เพื่อปองกันการเปลี่ยนแปลงลักษณะของตัวอยางในชวงเวลาหลังการเก็บ กอนการตรวจ
วิเคราะห ทําไดโดยการเติมสารเคมี การแชเย็นที่ 4 oC ซึ่งขึ้นอยูกับชนิดพารามิเตอรที่ตองการตรวจ เชน
แคลเซียม คลอไรด ฟลูออไรด สามารถเก็บที่อุณหภูมิหองได สวนพารามิเตอรอื่นๆตองแชเย็นที่ 4 oC
พารามิเตอรที่ตองมีการเติมสารเคมีเพื่อรักษาตัวอยาง ไดแก - ซีโอดี, แอมโมเนีย, ทีเคเอ็น, ไนเตรต-ไนไตรต,
น้ํามันและไขมัน, ฟนอล, ทีโอซี ตองเติม กรดซัลฟูริก(H2SO4) ถึง pH<2
- ไซยาไนด เติม NaOH ถึง พีเอช > 12 และเก็บในที่มืดพรอมแชเย็นที่ 4 oC
- ความกระดาง, โลหะ,โลหะละลาย เติม กรดไนตริก(HNO3) ถึง pH<2 วิเคราะหภายใน 6 เดือน
บีโอดีตองวิเคราะหภายใน 6 ชม. พีเอช , ความขุน,ไซยาไนด ภายใน 24 ชม. อื่นๆ วิเคราะหภายใน 7 วัน
3)วิธีการเก็บตัวอยางน้ํา มี 2 แบบ คือ แบบจวง(grab)กับแบบผสมรวม(composite)
หลักการเก็บตัวอยางน้ําเสียแบบผสมรวม คือ
4) SVI คือ ดัชนีวัดปริมาตรสลัดจ หนวย มล./ก. หาไดจาก SV30 x 1000/ SS
SV30 คือ ปริมาตรสลัดจที่ตกตะกอนในเวลา 30 นาที หนวย มล./ล. SS คือคาที่วิเคราะหไดจากตัวอยางใน
Lab หนวย มก./ ล.
5) การวิเคราะหคาดีโอ และ บีโอดีสําหรับน้ําเสีย ควรทําการเจือจาง(Dilution) ใหเหมาะสม การทําการเจือจาง
ควรทําเปน Percent Mixture (เชนน้ําเสียสกปรกมาก ทําการเจือจาง 5% Mix หมายความวา ใชตัวอยางน้ํา
เสีย 5 ml ละลายในน้ําเจือจาง(Dilutor) 100 ml) แตละ Dilution ควรมีการใชออกซิเจนในน้ํา คือ DO0-
DO5 มากกวา 2 มก./ล. และมี DO5 อยางนอย 0.5 มก./ล
ถาเจือจางตัวอยางน้ําเสียมาก(%Mix ต่ํา เชน 0.5%Mix คือใชตัวอยางน้ําเสีย 5 ml ละลายในน้ําเจือจาง
(Dilutor) 1000 ml) อาจจะทําใหคาปริมาณออกซิเจนหมดไปตั้งแตวันที่2-3 แลว คา DO5 จึงเปน 0 มก./ล
จะทําใหไมสามารถคํานวณคาที่แทจริงได
ถาเจือจางตัวอยางน้ําเสียนอย( %Mix สูง เชน 50% Mix คือใชตัวอยางน้ําเสีย 500 ml ละลายในน้ําเจือจาง
(Dilutor) 1000 ml) อาจจะทําใหคาปริมาณออกซิเจนมีเหลือมาก แลว คา DO5 มีคาสูง มก./ล อาจจะทําให
คา BOD ต่ํากวาคาที่แทจริงได
ถามีสารที่ถูกออกซิไดซโดยออกซิเจนโมเลกุลได เชน Fe2+, SO32-,S2-, Aldehyde อาจทําใหคาดีโอใน
แหลงน้ําลดลงดวย
6) ในการวิเคราะหหาโลหะหนัก จําเปนตองมีการเตรียมตัวอยางกอนการวิเคราะห โดยการแยกเอาโหะที่ตองการ
วิเคราะหออกจากน้ําเสียเพื่อลดการรบกวนจากสารอินทรีย และกําจัดปจจัยอื่นที่มีผลรบกวนตอการวิเคราะห
เทคนิคการแยกที่นํามาใชไดแก
ก. การชะละลายสวนที่เปนโลหะ มี 2 แบบ
1. เติมกรด HNO3 หรือ HCl 5 มล. ลงในตัวอยาง 100 มล. ตมใหเดือดประมาณ 10 นาที ใชกับตัวอยางที่
แทบจะไมมีความขุน
2. การยอยดวยกรดโดยเติม HNO3 หรือ HCl 5 มล.ลงในตัวอยาง 100 มล.ใหความรอนจนปริมาตรเหลือ
ประมาณ 15 มล. ใชกับตัวอยางที่มีสารแขวนลอยอนินทรีย เชน ไฮดรอกไซด, ซัลไฟด, ฟอสเฟต ฯลฯ
ข. การยอยสลายสารอินทรีย จําเปนตองทําใหหมดไป หรือใหลดลงในระดับที่ไมเปนอุปสรรคตอการวิเคราะห มี
2 วิธี
1. ยอยดวยกรดโดยเติม HNO3 5-10 มล. ลงในน้ําตัวอยาง 100 มล. แลวใหความรอนบนเตาไฟฟา จน
ปริมาตรของเหลวเหลือประมาณ 10 มล. จึงเติม HNO3 5 มล. และ H2SO4 5 มล. ใหความรอนจนเกิดควัน
สีขาว ของ H2SO4 ทิ้งไวใหเย็นแลวกรองสวนที่ไมละลายออก ใชไดกับตัวอยางหลายชนิด แตไมเหมาะกับการ
วิเคราะหโดย Flame Atomic Absorption และ ICP เนื่องจากมีกรด H2SO4 เหลือตกคางอยู
3. ยอยดวยกรดโดยเติม HNO3 และ HClO4 ขั้นตอนเหมือน 1. แต เปลี่ยนจากการเติม H2SO4 5 มล.เปน
HClO4 10 มล. ใชในกรณีที่ตัวอยางประกอบดวยสารอินทรียที่ถูกออกซิไดซไดยาก แตตองระวังมากเพราะ
อาจเกิดระเบิดได
ค. การสกัดดวยตัวทําละลาย (sovent Extraction) อานเพิ่มเติม หนา 7-66 ในตําราระบบบําบัดมลพิษน้ําของ
กรมโรงงานอุตสาหกรรม
7) ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม บับที่ 2 พ.ศ. 2539 เรื่อง กําหนดคุณลักษณะของน้ําทิ้งที่ระบายออกจาก
โรงงานกําหนดใหใชวิธีการตรวจสอบโลหะหนักดังนี้
1. Zn, Cr, Cu, Cd, Ba, Pb, Ni, Mn ใหใชวิธี AAS ชนิด Direct Aspiration หรือ Plasma
Emission Spectroscopy ชนิด Inductively Coupled Plasma:ICP)
2. As, Se, ใหใชวิธี AAS ชนิด Hydride Generation หรือ Plasma Emission Spectroscopy
ชนิด Inductively Coupled Plasma:ICP
3. Hg ใหใชวิธี AAS Cold Vapor Technique
แลวพรุงนี้เจอกันคราบบบบบบบบ
แนวขอสอบ ผูควบคุมมลพิษน้ํา
กาซใดที่เกิดจากระบบการไมใชอากาศ แลวติด
30. CH4
ไฟ