Professional Documents
Culture Documents
ึ ษาโดยครอบคร ัว
แบบฟอร์มการจ ัดทำแผนการจ ัดการศก
้ ฐานของครอบคร ัว
1. ข้อมูลพืน
บิดา นาย นิคม มานะ
วุฒกิ ารศึกษา ศิลปศาสตร์บณ ั ฑิตย์ (การท่องเทีย่ วและการโรงแรม)
อายุ 43 ปี
อาชีพ อิสระ
ทีอ่ ยู่ 72 หมู่ 12 ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา
มารดา นางสาว พัชราภรณ์ แยลูกู่
วุฒกิ ารศึกษา มัธยมศึกษาปีท่ี าปีท่ี 3
อายุ 28 ปี
อาชีพ อิสระ
ทีอ่ ยู่ 298 หมู่ 2 ต.ห้วยชมพู อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
2. ข้อมูลพืน้ ฐานของผู้เรียน
2.1 ระบุขอ้ มูลของผูเ้ รียน
ชือ่ -สกุล ด.ช.เมธาสทธ์ มานะ
วัน เดือน ปีเกิด 18 มีนาคม 2559 อายุ 7 ปี
ประวัตกิ ารศึกษา (กรณีเรียนในระบบโรงเรียนมาก่อน)
ประถมศึกษา ปีท่ี 1
2.2 พัฒนาการของผูเ้ รียน (ระบุการพัฒนาการของผูเ้ รียน/ความสามารถพิเศษ/ความ
ต้องการพิเศษ)
พัฒนาการตามวัย
พัฒนาการตามความสามารถพิเศษ
พัฒนาการตามความต้องการพิเศษ
3. ระดับที่จดั การศึกษา
ประถมศึกษา ปี ที่ 1-3
เหตุผลในการจัดการศึกษาของครอบครัว
1
เนื่องจากครอบครัวต้องการดูและส่งเสริมลูกอย่างใกล้ชดิ เพือ่ ให้ลกู ได้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ทัง้
ในด้านร่างกาย ความคิดและจิตใจ ประกอบกับเทคโนโลยีในปจจุ ั บนั ทีก่ า้ วหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การเข้า
ถึงความรูเ้ ป็ นไปได้โดยง่าย ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สือ่ ออนไลน์ ชัน้ เรียน การฝึกอบรมต่าง ๆ เด็กสามารถ
เรียนรูส้ งิ่ ต่าง ๆ ได้ดว้ ยตัวเองในหลากหลายเรือ่ ง ทางครอบครัวจึงให้ความสำคัญกับแรงบันดาลใจหรือ
ความสุขในการเรียนรูข้ องเด็กแต่ละคน ตลอดจนต้องการจัดกระบวนการเรียนรูใ้ ห้เหมาะสมกับ บุคลิก
ลักษณะนิสยั ของลูก จึงตัดสินใจจัดการศึกษาโดยครอบครัว
4. จุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษา
ครอบครัวใช้แนวทางการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ หมวด 4 มาตรา
23 มีหลักการและแนวทางในการพัฒนาคุณภาพของลูก โดยยึดตามจุดหมาย สมรรถนะ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางขัน้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑. มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ งึ ประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบตั ติ น
ตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาทีต่ นนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๒. มีความรู้ ความสามารถในการสือ่ สาร การคิด การแก้ปญั หา การใช้เทคโนโลยี และมีทกั ษะ
ชีวติ
๓. มีสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตทีด่ ี มีสขุ นิสยั และรักการออกกําลังกาย
๔. มีความรักชาติ มีจติ สํานึกในความเป็ นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมันในวิ ่ ถชี วี ติ และ
การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็ นประมุข
๕. มีจติ สํานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย การอนุ รกั ษ์และพัฒนาสิง่ แวดล้อม
มีจติ สาธารณะทีม่ งุ่ ทําประโยชน์และสร้างสิง่ ทีด่ งี ามในสังคม และอยูร่ ว่ มกันในสังคมอย่างมีความสุข
5. รูปแบบการจัดการศึกษา (โปรดระบุ)
จัดการศึกษาแบบครอบครัวเดี่ยวเป็ นหลัก โดยมีการนัดหมายทำกิจกรรมกับกลุ่มบ้านเรี ยน หรื อ
ครอบครัวอื่นร่ วมกันเป็ นประจำตามความสนใจร่ วมเป็ นครั้งคราว โดยในอนาคตอาจมีการจัดการศึกษาแบบ
มีขอ้ ตกลงร่ วมกับโรงเรี ยน โดยมีการเข้าไปใช้ทรัพยากรในโรงเรี ยนหรื อเข้าไปทำกิจกรรมร่ วมกัน หากเป็ น
ความต้องการของผูเ้ รี ยน
6. โครงสร้างเวลาเรียน
ครอบครัวจัดการเรียนรูเ้ ป็นรายปี โดยมีโครงสร้างดังนี้
2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 200 200 200
คณิตศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 200 200 200
วิทยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 200 200 200
สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 200 200 200
สุขศึกษาและพลศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 200 200 200
ศิลปะ
กลุ่มสาระการเรียนรูก้ าร 200 200 200
งานอาชีพและเทคโนโลยี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 200 200 200
ภาษาต่างประเทศ
กลุ่มประสบการณ์ดา้ น 200 200 200
ภาษา
กลุ่มประสบการณ์ดา้ น 200 200 200
สังคม วัฒนธรรมและสิง่
แวดล้อม
กลุ่มประสบการณ์ศลิ ปะ 200 200 200
กลุ่มประสบการณ์ดนตรี 200 200 200
กลุ่มประสบการณ์ 200 200 200
สุขศึกษาและพลศึกษา
กลุ่มประสบการณ์ 200 200 200
วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี
กลุ่มประสบการณ์คณิต 200 200 200
ศาตร์และการใช้เหตุผล
กลุ่มประสบการณ์เกษตร 200 200 200
และการพึง่ ตนเอง
กลุ่มประสบการณ์ศรษฐ 200 200 200
ศาสตร์และการเงิน
กลุ่มประสบการณ์อาหาร 200 200 200
และโภชนาการ
3
กลุ่มประสบการณ์อ่นื ๆ 200 200 200
(ครอบครัวสร้างขึน้ ตาม
ความต้องการ)
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน 120 120 120
รวมเวลาเรียน 1000 1000 1000
4
7. การจัดสาระการเรียนรู้
ในการจัดสาระการเรียนรูน้ นั ้ ทางครอบครัวให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพเด็กเป็ นรายบุคคล
และกระบวนทัศน์แบบ “องค์รวม” คือ ศาสตร์ต่าง ๆ มีความเชือ่ มโยงเกีย่ วข้องกัน การจัดกระบวนการเรียนรู้
จึงเริม่ ต้นจาก ความสนใจของเด็ก ทรัพยากร บุคลากรและสิง่ แวดล้อมทีอ่ ยูร่ อบตัว
โดยการจัดกลุ่มสาระการเรียนรูข้ องศูนย์การเรียนเด็กเรียนรูเ้ องแบ่งเป็ น 11 กลุ่มดังนี้
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นภาษา
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นสังคม วัฒนธรรมและสิง่ แวดล้อม
กลุ่มประสบการณ์ศลิ ปะ
กลุ่มประสบการณ์ดนตรี
กลุ่มประสบการณ์สขุ ศึกษาและพลศึกษา
กลุ่มประสบการณ์วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กลุ่มประสบการณ์คณิตศาตร์และการใช้เหตุผล
กลุ่มประสบการณ์เกษตรและการพึง่ ตนเอง
กลุ่มประสบการณ์เศรษฐศาสตร์และการเงิน
กลุ่มประสบการณ์อาหารและโภชนาการ
กลุ่มประสบการณ์อ่นื ๆ (ครอบครัวสร้างขึน้ ตามความต้องการ)
โดยแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรูม้ รี ายละเอียดดังนี้
5
เรียนรูค้ วามสัมพันธ์ทเ่ี ชือ่ มโยงกันระหว่าง บุคคลต่าง ๆ ทีเ่ รียงร้อยเป็ นสังคม มีวฒ
ั นธรรม ความคิด
ความเชือ่ ทีแ่ ตกต่างกันไปตามบริบท ของประวัตศิ าสตร์ สิง่ แวดล้อม เชือ่ มสัมพันธกัน เพือ่ ช่วยให้ผเู้ รียน
เข้าใจและสามารถปรับตนเองกับบริบทสังคมทีแ่ ตกต่างกันได้ เป็ นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้
ทักษะ คุณธรรม
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นศิลปะ
เรียนรูเ้ พือ่ สร้างเสริมจินตนาการ ทักษะในกระบวนการคิด วางแผน การทำงาน การพัฒนาทักษะ
ต่าง ๆ ทัง้ ในด้านการใช้รา่ งกายและการใช้อุปกรณ์เครือ่ งมือ การเลือกสี วัสดุต่าง ๆ เพือ่ การถ่ายทอด ความ
คิด อารมณ์ ความรูส้ กึ ผ่านงานศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นกลุ่มดนตรี
เรียนรูด้ นตรีในฐานะภาษาเพือ่ สือ่ สาร ถ่ายทอดอารมณ์ ความรูส้ กึ ความคิดผ่านเสียง ผ่านร่างกาย
หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ฝึกฝนการเชือ่ มโยงสมองและร่างกาย สร้างเสริมจินตนาการ และสุทรียภาพ
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นสุขศึกษาและพลศึกษา
เรียนรูใ้ นการดูแลสุขภาพตนเอง ความเข้าใจในร่างกาย ความเจ็บปว่ ย เพือ่ สามารถดูแลร่างกายและ
จิตใจให้มสี ขุ ภาพทีด่ ี มีกจิ กรรมทีส่ ง่ เสริมความแข็งแรงของร่างกาย ผ่านการออกกําลังกาย การเล่นเกมและ
กีฬา เป็ นเครือ่ งมือในการพัฒนาโดยรวมทัง้ ด้านรางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปญั ญา เรียนรูก้ ารทำงาน
เป็ นทีม การอยูร่ ่วมกันกับผูอ้ ่นื เรียนรู้ เข้าใจอารมณ์ และจัดการอารมณ์ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เรียนรูแ้ ละทำความเข้าใจโลก ผ่านกระบวนสร้างความรู้ ตัง้ แต่การหาข้อมูลต่าง ๆ เรียนรูผ้ า่ นองค์ความรูเ้ ดิม
การสังเกต จัดบันทึก ทำความเข้าใจ ปรากฎการณ์ เหตุกาณณ์ต่าง ๆ การนำข้อมูลความรูม้ าวิเคราะห์
ประมวลผล ทดสอบ ตรวจทาน และต่อยอดความคิดใหม่ ๆ ทัง้ นี้กระบวนการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์เป็ นการ
เรียนรูโ้ ลก จึงสามารถเรียนรูไ้ ด้ในหลากหลาย หัวข้อ หรือสาระวิชา เช่น ชีววิทยา เคมี ฟิสกิ ส์ นิเวศวิทยา
โลก ดาราศาสตร์ อวกาศ และเทคโนโลยีต่าง ๆ เป็ นต้น
6
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นเกษตรและการพึง่ ตนเอง
เรียนรูก้ ารจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติ แรงงาน และทุน โดยอาศัยความรูแ้ ละประสบการณ์ เพือ่
ให้ได้มาซึง่ ผลผลิตจากทัง้ พืชและสัตว์ เสริมสร้างทักษะ การวางแผน การคำนวณทรัพยากร เรียนรูท้ ำความ
เข้าใจสภาพภูมอิ ากาศและฤดูกาล ฝึกฝนทักษะการปฎิบตั งิ านด้านกาารเกษตร
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นเศรษฐศาสตร์และการเงิน
เรียนรูก้ ารจัดการทรัพยากรอันมีจำกัด พิจารณาถึงรูปแบบทีพ่ ฤติกรรมมนุ ษย์ได้เลือกในการบริหาร
ทรัพยากรเหล่านี้ ฝึกวิเคราะห์และอธิบายวิถที บ่ี ุคคลหรือองค์กรทำการจัดสรรทรัพยากรอันจำกัดเพือ่ ตอบ
สนองความต้องการมากมายและไม่จำกัด เรียนรูเ้ กีย่ วกับการเงิน การบริหารจัดการเงิน และทรัพยากรของ
ตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่มประสบการณ์ดา้ นอาหารและโภชนาการ
เรียนรูเ้ กีย่ วกับการทักษะทำอาหารและขนมต่าง ๆ การเลือกและความเป็ นมาของวัตถุดบิ ทีส่ มั พันธ์
กับธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมในแต่ละท้องที่ เชือ่ มโยงถึงวัฒนธรรมและระบบนิเวศทีแ่ ตกต่างกันในพืน้ ทีต่ ่าง
ๆ รวมถึงการช่าง ตวงวัด คุณสมบัตทิ แ่ี ตกต่างกันของสสาร อุณหภูม ิ แรงดัน เรียนรูเ้ รือ่ งสารอาหาร ทีส่ ง่ ผล
ต่อสุขภาพและการเกิดโรค ตลอดจนกระบวนการของร่างกายในการรับประทาน ,ย่อย ,ดูดซึม ,ลำเลียง และ
ขับถ่าย สารอาหาร
กลุ่มประสบการณ์อ่นื ๆ
ครอบครัวสามารถสร้างกลุ่มประสบการณ์ต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ ตามทีส่ อดคล้องกับวิถชี วี ติ
7
ตารางสรุปกระบวนการเรียนรู้
8
8. จัดกิ จกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ได้แก่ การเข้าร่วมกิจกรรมทีจ่ ดั ขึน้ โดยองค์กรต่าง ๆ กิจกรรมจิตอาสา
กิจกรรมศึกษาธรรมชาติ การจัดอบรม การจัดการเรียนรูต้ ่าง ๆ ตามโอกาสและจังหวะเวลาทีเ่ หมาะสม
9. การจัดกระบวนการเรียนรู้
เป็ นการจัดตามวิถชี วี ติ ของครอบครัว การเข้าร่วมกิจกรรมและการฝึ กอบรม ผสมกับการเรียนรูใ้ นชัน้ เรียน
ต่าง ๆ
10.3 ระดับผลการเรียน
1) ในการตัดสินเพือ่ ให้ระดับผลการเรียนรายกลุ่มประสบการณ์ / สาระวิชา ครอบครัว เลือกใช้ระดับ
คุณภาพการให้ระดับผลการเรียน 4 ระดับ คือ ดีเยีย่ ม ดี ผ่าน และไม่ผา่ น
ผูเ้ รียนมีผลการประเมินร้อยละ 80 ขึน้ ไป ให้ได้รบั ผลการเรียน ระดับดีเยีย่ ม
ผูเ้ รียนมีผลการประเมินอยูร่ ะหว่างร้อยละ 65 - 79 ให้ได้รบั ผลการเรียน ระดับดี
ผูเ้ รียนมีผลการประเมินอยูร่ ะหว่างร้อยละ 50 - 64 ให้ได้รบั ผลการเรียน ระดับผ่าน
9
ผูเ้ รียนมีผลการประเมินต่ำกว่าร้อยละ 50 ให้ได้รบั ผลการเรียน ระดับปรับปรุง
10
11
12