Professional Documents
Culture Documents
1.5 ความสัมพันธ์ระหว่างความเค้น (Stress) กับความเครียด (Strain)
1.5 ความสัมพันธ์ระหว่างความเค้น (Stress) กับความเครียด (Strain)
เนื้อหาการสอน 3 1
รหัสและชื่อวิชา : 3100 - 0107 ความแข็งแรงของวัสดุ วันที่ : เวลา :
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
1.5 ความสัมพันธ์ระหว่างความเค้น (Stress) กับความเครียด (Strain)
1.5.1 ความสัมพันธ์ระหว่างความเค้นกับความเครียดเป็นเส้นตรง
ที่กราฟเป็นเส้นตรง แสดงว่าความเค้นเป็นภาคโดยตรงกับความเครียด หรืออาจกล่าวอีกนัยว่า
แรงดึงเป็นภาคโดยตรงกับส่วนที่ยืดออก และวัสดุยังคงลักษณะตามกฎของฮุก
1.5.2 พิกัดความเป็นสัดส่วน (Proportional Limit)
หมายถึง ค่าความเค้นสูงสุดที่วัสดุรับไว้ได้ โดยที่ความเค้นยังเป็นสัดส่วนโดยตรงกับ
ความเครียด เป็นจุดสุดท้ายที่ความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นเส้นตรง หลังจากจุดนี้แล้ว ความเค้นจะไม่เป็นภาคโดยตรงกับ
ความเครียดอีกต่อไป
1.5.3 พิกัดความยืดหยุ่น (Elastic Limit)
หมายถึง พฤติกรรมของวัสดุที่ได้รับความเค้น ซึ่งอยู่ภายในช่วงของการคืนรูป ไม่เกิดการแปร
รูปอย่างถาวร คือเมื่อปล่อยแรงดึง วัสดุก็จะหดสู่สภาพเดิม ในการทดสอบบางครั้งการที่จะกาหนดพิกัดความ
ยืดหยุ่นในกราฟทาได้ยาก เพราะโลหะหรือวัสดุบางชนิดจะมีพิกัดความยืดหยุ่นเกือบจะเป็นจุดเดียวกันกับในกราฟ
แต่โดยส่วนมากแล้วพิกัดความยืดหยุ่นจะอยู่เหนือพิกัดความเป็นสัดส่วนเล็กน้อย หรือเป็นจุดสุดท้ายที่ความยาวของ
วัสดุ จะกลับมายาวเท่าเดิมได้ เมื่อปล่อยแรงจากจุดนี้ วัสดุเป็นแบบยืดหยุ่น
1.5.4 จุดคราก (Yield Point)
เมื่อวัสดุได้รับแรงกระทาเกินพิกัดความยืดหยุ่น ก็จะเกิดการแปรรูปอย่างถาวรจนถึงจุด ๆ หนึ่ง
ที่ทาให้วัสดุแปรรูปง่ายคือ อัตราการยืดตัวจะสูงกว่าตอนแรกเมื่อเป็นเช่นนี้วัสดุจะยืดออกทั้ง ๆ ที่ความเค้นคงที่ จึง
เรียกจุดนี้ว่า จุดครากบน (Upper Yield Point) สาหรับเหล็กกล้าแล้วในช่วงนี้จะมีอัตราการยืดตัวสูงมาก เร็วกว่า
แรงดึงขณะทดสอบจะเพิ่มขึ้นได้ทัน จึงเหมือนว่าใช้แรงดึงน้อยกว่าเดิม จึงมีจุดครากล่าง (Lower Yield Point)
เป็นจุดที่วัสดุยืดตัวออกโดยไม่ต้องเพิ่มแรง จุดนี้สังเกตได้ชัดเจน สาหรับเหล็กเหนียว ส่วนวัสดุอื่นจะไม่มีวัสดุนี้
1.5.5 ความเค้นคราก (Yield Stress)
หมายถึงความเค้นที่จุดคราก และความเค้นนี้จะทาให้วัสดุแปรรูปอย่างถาวรและดาเนินต่อไปด้วย
ความเค้นเกือบคงที่ สาหรับเหล็กกล้าจะมีทั้งความเค้นครากบน (Upper Yield Stress) และความเค้นครากล่าง
(Lower Yield Stress)
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 3 3
รหัสและชื่อวิชา : 3100 - 0107 ความแข็งแรงของวัสดุ วันที่ : เวลา :
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
1.6.1.2 สาหรับการเฉือน
ความเค้นเฉือน = โมดูลัสของความแกร่ง
ความเครียดเฉือน
= G (1.12)
12 kN 8 kN
40 kN 36 kN
วิธีทา
เมื่อท่อนเหล็กอยู่ในสภาวะสมดุลย ฉะนั้นทุกชิ้นส่วนของท่อนเหล็กจะต้องอยู่ในสภาวะสมดุลย
ท่อนที่ 1
PL
40 kN 40 kN ส่วนยืด
AE
40 1000 300
500 200 1000
0.12 mm.
300 mm
ท่อนที่ 2
PL
28 kN 28 kN ส่วนยืด
AE
28 1000 400
500 200 1000
0.112 mm.
400 mm
ท่อนที่ 3
PL
36 kN 36 kN ส่วนยืด
AE
36 1000 500
500 200 1000
0.18 mm.
500 mm
P = 6 kN P = 6 kN
600 50
วิธีทา
พิจารณาสมดุลยของ FBD ด้านซ้ายของระนาบ
V
P P
V = P sin
= 6 sin 300
= 3 kN Ans.
V
=
A
3 1000
=
57.735 20
= 2.598 N/mm2 Ans.
หมายเหตุ
A = 57.735 x 20
57.735 = 50/cos30
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 3 10
รหัสและชื่อวิชา : 3100 - 0107 ความแข็งแรงของวัสดุ วันที่ : เวลา :
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
ตัวอย่างที่ 1.4
The rubber block is subjected to on elongation of 0.03 in. along the x axis, and its vertical faces
are given a tilt so that = 89.30 . Determine the strains εx εy and xy . Take r = 0.5
3 in
x
4 in
Soln
L 0.03
1) Determine εx = = = 0.0075 Ans.
L 4
2) Determine εy
y lat
From = =
x long
εy = x = 0.5 x 0.0075
εy = 0.00375 Ans.
3) Determine xy