You are on page 1of 11

สัปดาห์ที่ หน้าที่

เนื้อหาการสอน 2 1
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลศาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
แรง (Force)

นิยามของคาว่าแรง
แรงเป็ นนามธรรม สิ่ งทาใหห้วตั ุเเคล่่อนที่หร่ อทาใหห้วตั ุเเกิดการเปลี่ยนแปลงรู ปร่ างไปจากเดิมแรงเป็ น
ปริ มาณเวกเตอร์ ค่อ มีท้ งั ขนาดและทิศทาง

1.ปริมาณเวกเตอร์ และสเกลาร์ (Vector and Scalar Quantities)


1.1 ปริมาณสเกลาร์ (Scalar Quantities) ค่อ ปริ มาณที่มีเพียงแต่ขนาดเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีทิศทาง
ได้แก่ มวล อเณหภูมิ เวลา ปริ มาตร เป็ นต้น โดยผลรวมปริ มาณสเกลาร์ จะเป็ นไปตามการบวกลบ
ทางพีชคณิ ต
1.2 ปริมาณเวกเตอร์ (Vector Quantities) ค่อ ปริ มาณที่บอกทั้งขนาดและทิศทาง เช่น ระยะที่เคล่่อนไป
(displacement) ความเร็ ว ความเร่ ง โมเมนต์ เป็ นต้น การบวกเวกเตอร์ เป็ นไปตามกฎเกณฑ์ของ
สี่ เหลี่ยมด้านขนาน
2. กฎของนิวตัน
กฎพ่้นฐานทางกลศาสตร์ ก็ ค่อ กฎการเคล่่อนที่ของนิวตัน โดยนิวตันกล่าวว่า
1. วัตุเจะคงสภาพหยเดนิ่งหร่ อสภาพการเคล่่อนที่ใหนแนวเส้นตรงด้วยความเร็ วสม่าเสมอต่อไปุ้า
ไม่มีแรงภายนอกมากระทา
2. ความเร่ งของวัตุเเป็ นปฏิภาคตรงกับแรงลัพธ์ที่กระทากับวัตุเและมีทิศทางเดียวกับแรงลัพธ์
นั้น
3. เม่่อมีแรงกระทาต่อวัตุเ จะมีแรงปฏิกิริยาเทากันแต่มีทิศทางตรงกันข้ามใหนแนวเส้นตรง
เดียวกัน กระทาตอบวัตุเเสมอ
สาหรับวิชาสุิตศาสตร์ น้ นั อาศัยกฎข้อ 1และกฎข้อ 3 เป็ นส่ วนใหหญ่
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 2
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลศาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
ชนิดของแรง
แรงทีก่ ระทาบนวัตถุแบ่ งออกเป็ น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ
1. แรงภายนอก (External Force)หมายุึง แรงที่กระทาจากภายนอกวัตุเ แบ่งย่อยออกเป็ น
-แรงกระทา (Action Force) หมายุึง แรงที่กระทากับวัตุเโดยตรง เช่น แรงดึงดูดของโลกที่มีต่อ วัตุเหร่ อ
น้ าหนักของวัตุเที่อยูบ่ นพ่้น
-แรงปฏิกิริยา(Reaction Force) หมายุึงแรงที่เกิดขึ้นภายใหนวัตุเหร่ อแรงระหว่างส่ วนต่างๆของโครงสร้าง
อันเป็ นผลเน่่ องมาจากรงภายนอกที่กระทาต่อวัตุเหร่ อโครงสร้างนั้น เช่น แรงดึงใหนสายเคเบิ้ลหร่ อแรงภายใหน
ชิ้นส่ วนต่างของโครงสร้าง
2. แรงภายใน ( Internal Force ) หมายุึง แรงที่เกิดขึ้นภายใหนวัตุเหร่ อแรงระหว่างส่ วนต่างๆ ของโครงสร้าง อัน
เป็ นผลเน่่ องมาจากแรงภายนอกที่กระทาต่อวัตุเหร่ อโครงสร้างนั้น เช่น แรงดึงใหนสายเคเบิล้ หร่ อแรงภายใหนชิ้นส่ วน
ต่างของโครงสร้าง
อย่างไรก็ตาม ชนิ ดของแรงอาจแบ่งตามลักษณะของการกระทาดังนี้
1. แรงแบบจุด (Point Load) เป็ นแรงที่เปรี ยบเสม่อนกระทาบนเน่้อที่ขนาดเล็กซึ่ งอาจุ่อได้เป็ นจเด เช่น แรงที่
ขาโต๊ะกระทาบนพ่้น หร่ อน้ าหนักรุยนต์ที่กดลงบนพ่้นุนนผ่านยางทั้งสี่ เป็ นต้น
2. แรงแบบกระจาย (Distributed Force) เป็ นแรงที่กระทาลงบนพ่้นที่ค่อนข้างใหหญ่บนวัตุเหร่ อโครงสร้าง
หากจะุ่อว่าแรงที่กระทาเป็ นจเดอาจจะผิดความจริ งไปมากจะต้องุ่อว่าแรงกระทาทัว่ เน่้อที่น้ นั ุ้าแรง
กระทาสม่าเสมอทัว่ เน่้ อที่น้ นั เรี ยกว่า “แรงกระจายสม่าเสมอ” (Uniformly Distributed Force) เช่นน้ าหนัก
ของคาน ุ้าแรงกระทาไม่เท่ากันทัว่ เน่้ อที่น้ นั เรี ยกว่า “แรงกระจายไม่สม่าเสมอ” (non-Uniformly
Distributed Force)เช่น แรงดันของน้ าที่มีต่อเข่่อน
3. โมเมนต์ หรื อแรงคู่ควบ (Moment or Couple) ได้แก่ ความพยายามที่ทาใหห้เกิดการหมเนต่อวัตุเ
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 3
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลศาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
การรวมแรง ( Composition of Forces )
แรงเป็ นปริ มาณทางเวกเตอร์ ซึ่ งสามารุบวกหร่ อลบได้ตามกฎเกณฑ์ของปริ มาณทางเวกเตอร์ น้ นั ค่อ จะต้อง
คานึงุึงขนาดและทิศทางของงปริ มาณเวกเตอร์ ดว้ ยแรงที่มีขนาด A และมีทิศทางดังรู ป โดยสามารุเขียนแทน
ด้วย”ลูกศร” โดยความยาวของลูกศรจะเป็ นสัดส่ วนขนาดของแรงและหัวลูกศรแสดงทิศทางของแรง

จเดปลาย
จเดเริ่ มต้น
การบวกลบเวกเตอร์ แสดงด้วยรู ปดังต่อไปนี้

B
1.) A + B A R = แรงลัพธ์

B
2.) A + B A
R= แรงลัพธ์
B R=แรงลัพธ์ B
3.) A + A

R=แรงลัพธ์ B
4.) A + B A
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 4
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลสาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
ุ้ามีแรง 2 แรงกระทาที่ จเดเดี ยวกันจะเหม่ อนว่ามีแรงเพียงแรงเดี ยวกระทาต่อจเ ดนั้น เรี ยนกว่า แรงอันเดี ยวนั้นมี
ผลบวกหร่ อการรวม 2 แรงดังรู ป

B C

R F2

O F1 A
รู ปที่ 1 แสดงการรวมแรง F และ F จะได้ R

จากรู ปที่ 1 แรง F1 และ F2 กระทาที่จเด O พร้อมกันจะเหม่อนกับว่ามีแรง R เพียงแรงเดียวที่กระทาต่อจเด O


และเรี ยกแรง R นี้เป็ นผลบวกของแรง F1 และ F2 หร่ อ

R = F1+F2
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 5
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลสาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเรา
1. รู ปสี่ เหลี่ยมด้านขนานแทนแรง ( Law of parallelogram of force )
ุ้าแรง 2 แรงตัดกันที่จเดๆหนึ่ง สามารุแทนทั้งขนานและทิศทางด้วยด้านประชิดของรู ปสี่ เหลี่ยมด้านขนาน
ด้านทแยงที่ผา่ นจเดตัดกันของสี่ เหลี่ยมด้านขนานนั้นจะแทนทั้งขนานและทิศทางของแรงลัพธ์ หร่ อแรงรวม
(resultant ) ของแรงทั้งสอง ดังรู ป

A A แรงลัพธ์ R= A+B
θ B α B

A R=แรงลัพธ์ A
θ α θ
B

ขนาดของแรงลัพธ์
R = A2  B 2  2 AB cos 
ทิศทางของแรงลัพธ์ ทามเม α กับแรง B โดยที่
A sin 
tan α =
B  A cos 
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 6
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลสาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
2.รู ปสามเหลี่ยมแทนแรง ( Triangle rule )
หากเขียนรู ปแทนแรง A และ B ใหนลักษณะที่หวั ลูกศรต่อกันดังรู ป ด้านที่สามของ สามเหลี่ยมใหนทิศทางที่วน
สวนทางกับ A และ B จะแทนทั้งขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์ R

A R= แรงลัพธ์ R=แรงลัพธ์ b
a r A
B
B
( ก) สี่ เหลี่ยมด้านขนานแทนแรง (ข ) สามเหลี่ยมแทนแรง
(Parallelogram Method ) (Triangle Rule’ method)

จะเห็นว่ารู ปสามเหลี่ยมแทนแรง ก็ค่อ ครึ่ งหนึ่งของรู ปสี่ เหลี่ยมด้านขนานแทนแรงนัน่ เองขนาดของ


แรงลัพธ์ R หาได้จากกฎของ Cosine
R = A2  B 2  2 AB cos r
R A B
หร่ อ = =
sin r sin a sin b
การหาค่ าแรงลัพธ์ หมายุึง การหาค่าแรงที่เกิดขึ้นจากการรวมแรงใหนแนวแกน X และ Y เข้าด้วยกัน
แต่เน่่ องจากว่าแรงใหนแนวแกน X และ Y กระทามเมต่อกันดังนั้นแรงลัพธ์จึงหาได้ดงั นี้

R= F12  F22

F2
θ= tan-1
F1
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 7
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลสาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
ตัวอย่างที่ 1 มีแรง 10 นิวตันและ 5 นิวตัน กระทาที่จเด O พร้อมๆกัน โดยมีแนวแรงทั้งสองกระทามเมกัน 90
องศา จงหาแรงลัพธ์ที่กระทา ณ จเด O

F2=10 N

F2F=1=55NN

วิธีทา
ใหช้กฎของ Cosine หาแรงลัพธ์ ( R )
R = F1  F2
2 2

วิธีทา =
ใหช้กฎของ Cosine หาแรงลัพธ์ ( R ) = 11.18 N
Rตอบ
= แรงลั พธ์Fเ2ท่2 ากับ 11.18 N
F12 
= 52  10 2
= 11.18 N
ตอบ แรงลัพธ์เท่ากับ 11.18 N
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 8
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลสาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเคนิคน่าน
ตัวอย่างที่ 2 มีแรงขนาด 50นิวตัน กระทาที่จเด O พร้อมๆกัน โดยที่แนวแรงทั้งสองทามเมกัน 60 องศา
จงหาแรงลัพธ์ที่กระทาต่อจเด O และหาทิศทางของแรงลัพธ์

R
F1= 30N
60 α
F2= 50N
วิธีทา 1. หาแรงลัพธ์
จากสู ตร R = A2  B 2  2 AB cos 
= 30 2  50 2  2  30  50  cos 60
= 70 N
2. หาทิศทางของแรงลัพธ์
A sin 
จากสู ตร tan α =
B  A cos 
30 sin 60
tan α = =0.39
50  30 cos 60
α = tan-1 0.339
α= 21.786 องศา

ตอบ แรงลัพธ์เท่ากับ 70 นิวตัน มีทิศทางทามเม 21.786 กับแรง F2


สัปดาห์ที่ หน้าที่
เนื้อหาการสอน 2 9
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลสาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
ตัวอย่างที่ 3 จงหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์( R)

F2=400 N
R
65 α 65
O F1=900 N
วิธีทา
จากโจทย์กาหนด F1= 900 N
F2= 400 N
θ = 65 องศา
โจทย์ตอ้ งการหา R และ
จากสู ตร R = A2  B 2  2 AB cos 
R = 400 2  900 2  2  400  900  cos 65
R = 1274285.14
R = 1128.84 N
หาทิศทางจากสมการ
A sin 
จากสู ตร tan α =
B  A cos 
400 sin 65
tan α =
900  400 cos 65
α = tan-1 0.339
= 18.73 องศา

ตอบ แรงลัพธ์เท่ากับ 1128.84 นิวตัน มีทิศทางทามเม 18.73 กับแรง F1


สัปดาห์ที่ หน้าที่
แบบฝึ กหัด 2 10
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลศาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
1. จงหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์(R)

F2= 600N R

55 α 55
O F1=200 N
สัปดาห์ที่ หน้าที่
เฉลยแบบฝึ กหัด 2 11
รหัสและชื่ อวิชา : 2106-2110 กลสาสตร์โครงสร้าง 1
แผนกวิชา : ช่างก่อสร้าง ชื่ อสถานศึกษา : วิทยาลัยเทคนิคน่าน
1.จงหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์(R)

F2= 600N R

55 α 55
O F1=200 N
วิธีทา จากโจทย์กาหนด
F1= 200 N
F2= 600 N
θ = 55 องศา
หาขนาด (R)
จากสู ตร R = A2  B 2  2 AB cos 
R = 600 2  200 2  2  600  200  cos 55
R = 537658 .3
R = 733.25 N
หาทิศทาง ( α )
A sin 
จากสู ตร tan α =
B  A cos 
600 sin 55
tan α =
200  600 cos 55
α = tan-1 0.9032
α = 42.08 องศา
ตอบ แรงลัพธ์ เท่ากับ 733.25 นิวตัน มีทิศทางทามเม 42.08 องศา กับแรง F1

You might also like