You are on page 1of 5

1

สภาพการปลกสนประดิ
ู พัทธ์ ในลุ่มนํา ปากพนัง
พืน ทีปลกสนในลุ
ู ่ มนํา ปากพนัง
โครงการพัฒนาพืนทีลมุ่ นําปากพนัง
อันเนืองมาจากพระราชดําริ ครอบคลุมพืนที
ในจังหวัดนครศรี ธรรมราช 10 อําเภอได้ แก่
อําเภอเมือง จุฬาภรณ์ ปากพนัง หัวไทร
ชะอวด พระพรหม เชียรใหญ่ ร่ อนพิบลู ย์
ลานสกา และเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดพัทลุง
2 อําเภอ ได้ แก่ อําเภอควนขนุน และอําเภอ
ป่ าพะยอมและจังหวัดสงขลา 1 อําเภอ
ได้ แก่ อําเภอระโนด มีพืนทีรวมทังหมด
1,761,438 ไร่ โดยเป็ นพืนทีการเกษตร
1,243,487 ไร่ คิดเป็ นร้ อยละ 70.59 ของพืนทีทงหมด

การปลูกสนประดิพทั ธ์ในลุม่ นําปากพนัง เริ มประมาณปี พ.ศ. 2530 โดยผู้ทีมีพืนทีทําการเกษตรมาก
ได้ จดั การพืนทีบางส่วนใช้ ปลูกสนประดิพทั ธ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2543 มีผ้ สู นใจปลูกสนอย่างแพร่ หลายได้ ปรับเปลียน
พืนทีนาเป็ นร่ องสวนปลูกสนประดิพทั ธ์จนถึงปั จจุบนั มีจํานวนรวมทังสินประมาณ 5 ล้ านต้ น พืนทีปลูกประมาณ
10,000 ไร่ (อัตราปลูกประมาณ 500 ต้ นต่อไร่ ) คิดเป็ นร้ อยละ 0.8 ของพืนทีการเกษตรในลุม่ นําปากพนัง พืนที
ปลูกสนส่วนมากอยู่ในอําเภอปากพนัง เชียรใหญ่ และชะอวด
เกษตรกรทีปลกสนในลุ
ู ่ มนํา ปากพนัง
เกษตรกรทีปลูกสนประดิพทั ธ์ใน
ลุม่ นําปากพนัง ได้ แก่บคุ คลทัว ไปทีมีพืนที
ทําการเกษตร เกษตรกรทีเข้ าร่ วมโครงการ
พัฒนาอาชีพและส่งเสริ มรายได้ ซงึ เป็ น
ราษฎรทีมีพืนทีเลียงกุ้งในเขตนําจืด และ
เกษตรกรทีได้ ปรับเปลียนพืนทีนาเป็ นไร่นา
สวนผสม
เหตุผลทีเกษตรกรปลูกสนประดิพทั ธ์
เนืองจาก
1. มีอาชีพหลักอยู่แล้ วและไม่มีเวลาประกอบอาชีพอืน ๆ
2. การปลูก ดูแลรักษาไม่ย่งุ ยาก และใช้ แรงงานน้ อย
3. สภาพพืนทีไม่เหมาะสมสําหรับปลูกพืชอืน
4. การลงทุนตําและให้ ผลตอบแทนสูงเมือเปรี ยบเทียบกับพืชหลายชนิด
5. แนวโน้ มในอนาคตยังมีความต้ องการใช้ ไม้ มาก และไม่มีวสั ดุอืน ๆ ทดแทน
2
การเตรี ยมพืน ทีปลกูสน
พืนทีลมุ่ นําปากพนังส่วนใหญ่จะเป็
ทีนา นําท่วมขัง การเตรี ยมพืนทีปลูกสนจึ
ต้ องปรับเปลียนพืนทีนาเป็ นร่ องสวน โดย
การขุดคูยกร่ อง ขนาดคูและร่องสวนขึนอยู่
กับสภาพพืนทีและการใช้ ประโยชน์ เกษตรกร
ทีปลูกสนนิยมขุดคูกว้ างประมาณ 2.5 เมตร
ลึก 1.5 เมตร ขนาดร่ องสวน (โคก) กว้ าง 9
เมตร ปลูกสนได้ 5-6 แถวต่อร่ องสวน
การเตรี ยมพืนทีปลูกสนไม่ดี เช่น
ขุดดินก้ อนใหญ่โดยไม่ได้ กระจายดินจะมีผล
ทําให้ สนเจริ ญเติบโตไม่สมําเสมอ และการยกร่ องตํา ทาให้ํ ํนาท่วมขังจะทาให้ํ สนเจริ ญเติบโตช้ า

ต้ นพันธุ์หรื อกล้ าสน


ต้ นพันธุ์สนทีใช้ ปลูกในลุม่ นําปา
พนัง จะสัง ซือจากจังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์
โดยต้ นพันธุ์ทีเหมาะสมต่อการนําไปปลูกใน
แปลง ควรเป็ นต้ นพันธุ์ทีนําออกจากเรื อน
เพาะชําแล้ ววางในพืนทีกลางแจ้ งให้ ได้ รับ
แสงแดดอย่างน้ อย 45 วัน และระบบรากยัง
ไม่แทงทะลุออกจากถุงเพาะชํา

การปลกสน

ช่วงเวลาปลูกสน หลังจากเกษตรกรได้ เตรี ยมพืนทีแล้ ว ช่วงเวลาทีเหมาะสมสําหรับการปลูกสน ควรปลูก
ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนสิงหาคม จะทําให้ ต้นกล้ าเจริ ญเติบโตดี ตังตัวได้ รวดเร็ วโดยไม่ต้อง
ให้ นํา
วิธีการปลูกสน เกษตรกรจะใช้ วิธีการตัดไม้ ให้ มีขนาดเท่ากับถุงเพาะชํา เหลาปลายให้ แหลม ใช้ ปักลงใน
ดินให้ ลกึ เท่าความสูงของถุงเพาะชํากล้ าสน แกะถุงเพาะชําออก นํากล้ าสนปล่อยลงในหลุมพร้ อมกลบหลุมอัดดิน
ให้ แน่น
3
ระยะปลูกสนขึนอยู่กบั สภาพพืนที
และเป้าหมายความต้ องการใช้ ไม้ สน การปลูก
ระยะชิดจะได้ จํานวนต้ นสนมาก ไม้ สนจะมี
ขนาดโตสมําเสมอจากโคนถึงปลาย แต่จ
เจริ ญเติบโตช้ าและไม่สมําเสมอ โดยเฉพา
ต้ นสนทีอยู่แถวในเนืองจากได้ รับแสงน้ อย
การปลูกระยะห่าง จะได้ จํานวนต้ นสนน้ อย
เจริ ญเติบโตเร็ วสมําเสมอทัว ทังแปลง จะได
ไม้ สนขนาดใหญ่เหมาะสําหรับการทําไม้
แปรรู ป
การปลูกสนของเกษตรกรในลุม่ นําปากพนังเป็ นการปลูกแบบยกร่ อง ในช่วงแรกเกษตรกรนิยมปลูกระย
1.0 × 1.0 เมตร จะได้ ต้นสนประมาณ 1,300 ต้ นต่อไร่ แต่เกษตรกรเจอปั ญหาต้ นสนเจริ ญเติบโตไม่สมําเสม
ตลอดทังแถว เนืองจากต้ นสนมีความหนาแน่นเกินไป โดยเฉพาะแถวช่วงกลางๆ ทําไห้ ไม่ได้ รับแสงอย่างเต็มทีทํา
ให้ สนมีขนาดเล็ก โตไม่ทนั ต้ นทีอยู่รอบนอก เกษตรกรจึงหันมาปลูกในระยะ 1.2 × 1.2 เมตร จะได้ ต้นสน
ประมาณ 610 ต้ นต่อไร่ และระยะ 1.5 × 1.5 เมตร จะได้ ต้นสนประมาณ 420 ต้ นต่อไร่
การดแลรั
ู กษาสน
ช่วง 6 เดือนแรกของการปลูกสน ควรดูแลรักษาอย่างดี จะทําให้ ต้นสนเจริ ญเติบโตเร็ วและมีขนาด
สมําเสมอทัว ทังแปลง โดยดําเนินการดังนี
 หลังจากปลูก 1 เดือน ปลูกซ่อมต้ นกล้ าทีตาย
 หลังจากปลูก 2 เดือน (หลังปลูกซ่อม1 เดือน) ใส่ปยครั ุ๋ งที 1 โดยใช้ สตู ร 15-15-15 หรื ออืน ๆ อัตรา
1 กระสอบ (50 กิโลกรัม) ต่อ 5 ไร่
 หลังจากปลูก 3 เดือน สํารวจต้ นสนทีเจริ ญเติบโตช้ า มีขนาดเล็กกว่าต้ นสนส่วนใหญ่ทีอยู่ในแปลง
ใส่ปยครั ุ๋ งที 2 เฉพาะต้ นเล็กโดยใช้ สตู ร 15-15-15 หรื ออืน ๆ เพือเร่ งให้ เจริ ญเติบโตทันกับต้ นอืน ๆ
หลังจากปลูกแล้ ว 6 เดือน การดูแลรักษาจะมีน้อย เฉพาะในเรื องทีจําเป็ นคือ
 กําจัดวัชชพืชโดยเฉพาะเถาวัลย์ทีเลือยขึนคลุมยอดจะมีผลทําให้ สนเจริ ญเติบโตช้ าและลําต้ นไม่ตรง
 ไฟ ทีอาจจะติดลุกลามเผาทําลายต้ นสน ควรกําจัดวัชพืชและทําแนวป้องกันไฟ
 การลิดกิงหรื อตัดแต่งกิงล่าง ไม่ควรทําเนืองจากทําให้ ต้นสนโยกคลอนจากลมพัด
การใช้ ประโยชน์ จากสน
การปลูกสนต้ องการไม้ สามารถใช้ ประโยชน์ได้ หลายอย่าง ได้ แก่
ใช้ ในงานก่อสร้ าง เช่น ไม้ คํายัน ไม้ นงั ร้ าน เสาเข็ม
ใช้ ทําไม้ แปรรู ป
ใช้ ทําเฟอร์ นิเจอร์ ปาเก้ พาเลซ
ใช้ ประโยชน์ด้านอืนๆ เช่น ทําไม้ ฟืน ถ่าน
4
การลงทุนและผลตอบแทนจากสน
การลงทุนปลูกสนต้ องใช้ ระยะเวลา
ยาว ประมาณ 5 - 7 ปี จึงจะตัดไม้ ขายได้
ในปั จจุบนั ได้ มีภาคเอกชนและองค์กรเกษตรกร
เข้ ามีสว่ นเกียวข้ องกับธุรกิจการปลูกสน
หลายด้ าน เช่น
การรับจ้ างปลูกสน โดยภาคเอกชน
จะบริ การทังต้ นกล้ าสนและการปลูก คิดค่า
บริ การ 2 บาทต่อต้ น และดูแลให้ ในระยะ
เวลา 2 เดือน
การรับซือไม้ สน ภาคเอกชนจะรับ
ซือไม้ สน โดยกําหนดราคาตามขนาดลําต้ น

ต้ นทุนและผลตอบแทนการปลูกสนในลุม่ นําปากพนังในพืนที 1 ไร่ ปลูกแบบยกร่ อง ระยะปลูก 1.2 ×


1.2 เมตร จะได้ ต้นสนประมาณ 610 ต้ นต่อไร่ ในระยะเวลา 7 ปี มีต้นทุนการผลิตรวม 7,702 บาท รายได้ จากขาย
ไม้ สน 610 ต้ น ราคาต้ นละ 150 บาท มีรายได้ 91,500 บาท และมีกําไร 83,798 บาท
หน่วย : บาท
รายการ / ปี ที 1 2 3 4 5 6 7 รวม
ต้ นทุนการผลิต 7,102 200 200 200 0 0 0 7,702
ค่ าวัสดุ 892 0 0 0 0 0 0 892
ต้ นกล้ า 610 ต้ น 732 0 0 0 0 0 0 732
ปุ๋ ย 160 0 0 0 0 0 0 160
ค่ าแรงงาน 6,210 200 200 200 0 0 0 6,810
ปรับพืนที 5,500 0 0 0 0 0 0 5,500
ปลูก 610 0 0 0 0 0 0 610
กําจัดวัชพืช 100 200 200 200 0 0 0 700
รายได้ 0 0 0 0 0 91,500 91,500
ผลผลิต 420ต้ น 0 0 0 0 0 0 91,500 91,500
กําไร 83,798
5
ต้ นทุนและผลตอบแทนการปลูกสนในลุม่ นําปากพนัง ในพืนที 1 ไร่ ปลูกแบบยกร่ อง ระยะปลูก 1.5 ×
1.5 เมตร จะได้ ต้นสนประมาณ 420 ต้ นต่อไร่ ในระยะเวลา 6 ปี มีต้นทุนการผลิตรวม 7,284 บาท รายได้ จากขาย
ไม้ สน 420 ต้ น ราคาต้ นละ 200 บาท มีรายได้ 84,000 บาท และมีกําไร 76,716 บาท
หน่วย : บาท
รายการ / ปี ที 1 2 3 4 5 6 รวม
ต้ นทุนการผลิต 6,684 200 200 200 0 0 7,284
ค่ าวัสดุ 664 0 0 0 0 0 664
ต้ นกล้ า 420 ต้ น 504 0 0 0 0 0 504
ปุ๋ย 160 0 0 0 0 0 160
ค่ าแรงงาน 6,020 200 200 200 0 0 6,620
ปรับพืนที 5,500 0 0 0 0 0 5,500
ปลูก 420 0 0 0 0 0 420
กําจัดวัชพืช 100 200 200 200 0 0 700
รายได้ 0 0 0 0 84,000 84,000
ผลผลิต 420ต้ น 0 0 0 0 0 84,000 84,000
กําไร 76,716

เกษตรกรและเอกชนทีเกียวข้ องกับการปลกสนในลุ
ู ่ มนํา ปากพนัง
1. นายจรู ญ แดงขาว โทรศัพท์ 081 1135894 และ 075 477866
ผู้ใหญ่บ้านหมูท่ ี 6 ตําบลป่ าระกํา อําเภอปากพนัง
ผู้ปลูกริ เริ มปลูกสนประดิพทั ธ์ในพืนทีลมุ่ นําปากพนัง
2. นายอรรถพันธ์ สงเกือ โทรศัพท์ 081 7191909
เลขานุการกลุม่ ปลูกไม้ สนและแปรรู ปไม้ หมูท่ ี 10 ตําบลหัวไทร อําเภอหัวไทร
มีสมาชิก 40 รายทีปลูกสน
จําหน่ายกล้ าสนและรับซือไม้
3. สุเทพกล้ าสน โทรศัพท์ 01 2596546
จําหน่ายกล้ าสนและบริ การปลูกต้ นสน
4. ครู ใจไม้ สน โทรศัพท์ 089 646 9773
บริ การปลูกสนและรับซือไม้ สน

เรี ยบเรี ยงโดย


สํานักส่งเสริ มและพัฒนาการเกษตรเขตที 5 จังหวัดสงขลา

You might also like