Professional Documents
Culture Documents
Comparative Study
Comparative Study
*
Associate Professor Doctor., full time lecturer of the graduate school of Human Resource Development, and
Assistant to the President for International Accreditation.
Volume 6 Number 2 July - December 2014 (2557)
6
ทีมาและความสํ าคัญของปัญหา
จากวิสัยทัศน์คณะพัฒนาทรั พยากรมนุ ษย์ สถาบันบัณฑิ ตพัฒนบริ หารศาสตร์ “เป็ นผูน้ าํ
วิชาการ การพัฒนาคนและองค์การไปสู่ ความยังยืนในระดับนานาชาติทีสรรค์สร้างสมดุลความรู ้กบั
การปฏิ บตั ิ” คณะฯ มีการส่ งเสริ มงานวิจยั เพือถอดองค์ความรู ้ ในกลุ่มประเทศอาเซี ยน เพือรองรั บ
การเปิ ดประชาคมอาเซี ย นในปี พ.ศ. 2558 หนึ งในงานวิจยั ของคณาจารย์และนักศึ ก ษาระดับ
ปริ ญญาโทของคณะฯ คือ การศึกษาแนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์ในประเทศอาเซี ยน โดยในปี พ.ศ.
2556 ผูว้ ิจยั ได้ร่วมกับนักศึกษาวิชาการค้นคว้าอิสระ จํานวน 9 คน (จันทราภา พิมพ์ชยั กุล, 2557;
จารุ ณี ศรี บาลแจ่ม, 2557; ชัยกร หงสประภาส, 2557; โชษิตา ประสาทเกษการณ์, 2557; ดวงหทัย
คชเสนี , 2557; รัตติกาล มาเรื อนกุล, 2557; สุ วารี สุ วิโรจน์กุล, 2557; วันเพ็ญ อโนมาศ, 2557;
อนันตา ส่ งแสงเติม, 2557) ทําการศึกษาแนวโน้มของทัง 9 ประเทศ โดยมีการทบทวนวรรณกรรม
และเก็บข้อมูลผ่าน Web-based เพือนําข้อมูลมาใช้ในการเปรี ยบเทียบผลการศึกษาแนวโน้มงาน
ทรัพยากรมนุ ษย์ในประเทศอาเซี ยนปี พ.ศ. 2557 – 2558 ทังนีข้อมูลประเทศเนการาบรู ไนดารุ สซา
ลามไม่ส ามารถทําการเก็ บข้อมูลได้เนื องจากองค์ก ารส่ วนใหญ่เป็ นของรั ฐบาล และเมื อมี บริ ษ ทั
ต่างชาติเข้ามาลงทุนมักจะต้องเข้าร่ วมทุนกับรัฐบาลบรู ไนทังสิ น ดังนันงานด้านทรัพยากรมนุ ษย์จึง
เป็ นไปตามกําหนดจากรัฐบาลกลาง ซึ งถือได้วา่ ไม่มีความแตกต่างทีน่าสนใจในการศึกษา ดังนันใน
การศึกษานีจึงเหลือเพียง 9 ประเทศในอาเซี ยนเท่านัน
การศึ ก ษาแนวโน้ม งานทรั พ ยากรมนุ ษ ย์นี มี ก ารศึ ก ษาในประเทศไทยเป็ นประจํา ทุ ก ปี
มาตังแต่ปี พ.ศ. 2552 การศึกษารอบนี เป็ นการศึกษารอบที 4 ในประเทศไทย ซึ งทีมวิจยั ได้ตกลงใน
กรอบการศึกษา โดยยึดกรอบการศึกษาเดิ มที มีการแบ่งตามโครงสร้ างงานด้านทรัพยากรมนุ ษย์ที
สําคัญ 9 สายงานหลัก คือ
1. การวางแผนกําลังคน (Workforce Planning)
2. การสรรหาและคัดเลือก (Recruitment and Selection)
3. พนักงานสัมพันธ์และแรงงานสัมพันธ์ (Employee Relations)
4. การจัดการค่าตอบแทนและสวัสดิการ (Compensation and Benefit)
5. การฝึ กอบรมและพัฒนา (Training and Development)
6. การบริ หารผลการปฏิบตั ิงาน (Performance Management)
7. การพัฒนาองค์การ (Organization Development)
วัตถุประสงค์ การศึกษา
1. เพือทําการเปรี ยบเทียบแนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์ปีพ.ศ. 2557-2558 ในกลุ่มประเทศ
อาเซี ยน
2. เพือนําเสนอมุมมองในการเตรี ยมความพร้อมงานด้านทรัพยากรมนุ ษย์ให้แก่ผปู ้ ฏิบตั ิงาน
นักวิชาการ และนักวิจยั ด้านทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทย
ประโยชน์ ทคาดว่
ี าจะได้ รับ
1. นักวิชาการด้านงานทรัพยากรมนุ ษย์สามารถใช้ผลการศึ กษานี เพือทําการศึ กษางาน
ทรัพยากรมนุษย์ในประเทศอาเซี ยนในอนาคต
2. ผูป้ ฏิบตั ิงานด้านทรัพยากรมนุษย์ได้เกิดความตระหนักถึงแนวโน้มทีเกิดขึนในงานด้านนี
สามารถใช้ผลการศึกษาเป็ นข้อมูลในการเตรี ยมพร้อมทีจะพัฒนาตนเองในเรื องเหล่านี หากองค์การ
ทีปฏิบตั ิงานจะมีการไปลงทุนในประเทศกลุ่มอาเซี ยน
3. ผูบ้ ริ หารองค์การเห็นแนวโน้มในงานด้านทรัพยากรมนุ ษย์สามารถนํามาปรับใช้กบั การ
พัฒนาองค์การของตนเองในอนาคต หากต้องมีการไปลงทุนในประเทศกลุ่มอาเซี ยน
4. นักศึกษาทีศึกษางานด้านทรัพยากรมนุ ษย์สามารถใช้ผลการศึกษาเป็ นแนวทางในการ
จัดทํางานวิจยั เกียวกับการบริ หารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การในอนาคตได้
การทบทวนวรรณกรรม
บทความเรื องนี จัด ทํา ขึ นเป็ นผลมาจากการรวมกลุ่ ม กัน ระหว่ า งประเทศในภู มิ ภ าค
ตะวันออกเฉี ย งใต้ (Southeast Asia) ภายใต้ชือประชาคมเศรษฐกิ จอาเซี ยน (AEC: ASEAN
Economic Community) ซึ งจะส่ งผลให้เกิ ดการเคลื อนย้ายสิ นค้า บริ การ การลงทุ น เงิ นทุ น และ
แรงงานฝี มื อในปี พ.ศ. 2558 ดัง นันเพื อความเข้า ใจแนวโน้ม งานด้า นการบริ หารและพัฒนา
ทรัพยากรมนุ ษย์ ซึ งนําไปสู่ การอภิปรายผลทีมีประสิ ทธิ ภาพ ความเข้าใจพืนฐานทางด้านพลเมือง
ของประเทศในอาเซี ย นเป็ นเรื องจําเป็ นอย่างยิง ซึ งสามารถสรุ ป ข้อมู ลสํา คัญเชิ งเปรี ย บเที ยบได้
ดังตาราง
Hay Group Consultancy, Mercer Consulting Office, Stephen Miller, Towers Watsons (TWR)
และ Watson Wyatt Worldwide เป็ นต้น
ในกลุ่มประเทศอาเซี ยน การศึกษาแนวโน้มด้านทรัพยากรมนุ ษย์ส่วนใหญ่เป็ นการศึกษา
รายด้านผ่าน (1) บริ ษทั ทีปรึ กษาทีเป็ นบริ ษทั ข้ามชาติ (2) หน่วยงานภาครัฐทีดูแลเรื องประชากร
หรื อแรงงานบางกลุ่ม เช่นในประเทศกัมพูชา National Institute of Statistics, Ministry of Planning
และ Ministry of Labor and Vocational Training (MOLVT) ในประเทศสิ งคโปร์ Manpower
Research and Statistics Department, National Population and Talent Division (NPTD), The
Singapore Department of Statistics (DOS) และ Ministry of Manpower (3) องค์การกลางสากลที
ศึกษาข้อมูลเพือทําการเปรี ยบเทียบระหว่างประเทศ เช่น International Labour Organization (ILO),
United Nations Development Program (UNDP), World Economic Forum (WEF) เป็ นต้น
(4) งานวิจยั ทีได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ (5) สมาคมวิชาชีพ เช่น ในประเทศ
ฟิ ลิปปิ นส์ PMAP (People Management Association of the Philippines) และ (6) สําหรับบาง
ประเทศ เช่ น กัม พูช า อิ นโดนี เซี ย เมี ย นมาร์ และสปป.ลาว ซึ งที ม วิจยั ไม่ ส ามารถหาข้อมู ล เชิ ง
เอกสารได้ จึงใช้วิธีการสัมภาษณ์ผบู ้ ริ หารด้านทรัพยากรมนุ ษย์ทีกําลังปฏิ บตั ิงานในประเทศเหล่านี
เพือทําให้การศึกษาฉบับนีได้รับภาพของแนวโน้มงานทรัพยากรมนุษย์ทีสมบูรณ์ทีสุ ด
วิธีการศึกษา
การศึกษาแนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์เป็ นการศึกษาเชิ งสํารวจ (Survey Research) ซึ งเป็ น
วิธีการศึกษาโดยการรวบรวมข้อมูลเชิ งความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างรายบุคคล (Bartlett, 2005, 98)
การศึ ก ษาเชิ ง สํ า รวจนี เป็ นการศึ ก ษาวิ จยั ที นิ ย มมากที สุ ดในการศึ ก ษาองค์ก าร (Organization
Research) ทังนี เพื อศึ ก ษาปรากฏการณ์ (Phenomena) ที ไม่ ส ามารถใช้ ก ารสั ง เกต (Observable)
ได้โดยตรง ด้วยการค้นคว้าอิ สระของนักศึ กษาหลักสู ตรการพัฒนาทรั พยากรมนุ ษย์และองค์การ
คณะพัฒนาทรั พ ยากรมนุ ษย์ สถาบันบัณฑิ ตพัฒนบริ หารศาสตร์ (จันทราภา พิ ม พ์ชัย กุ ล , 2557;
จารุ ณี ศรี บาลแจ่ม, 2557; ชัยกร หงสประภาส, 2557; โชษิตา ประสาทเกษการณ์, 2557; ดวงหทัย
คชเสนี , 2557; รัตติกาล มาเรื อนกุล, 2557; สุ วารี สุ วิโรจน์กุล, 2557; วันเพ็ญ อโนมาศ, 2557;
อนันตา ส่ งแสงเติม, 2557) โดยทีมผูว้ จิ ยั ทัง 9 คนได้ทาํ การศึกษา 5 ขันตอนตามรู ปแบบทีกําหนดไว้
ใน Research in Organization: Foundations and Methods of Inquiry (Barlett, 2005 cited in
Swanson & Holton, 2005, 100-106)
Volume 6 Number 2 July - December 2014 (2557)
11
ตารางที 2 จํานวนกลุ่มตัวอย่างทีใช้ในการศึกษา
จํานวน สิ งคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์
แบบสอบถาม 31 30 108 8 6 15 14 19 16
สัมภาษณ์ - - - 2 - - 2 - 2
ฟิ ลิ ปปิ นส์ ในประเทศที เหลื อจึ งเป็ นการศึ กษาผ่านโปรแกรมออนไลน์ (On-line Survey) และ
ส่ งไปยัง E-mail address ตามรายชือผูท้ ีสามารถตอบแบบสอบถามโดยการแนะนําต่อกัน (Snowball)
5. เก็บข้อมูล ทําการวิเคราะห์ผล (Collecting Reducing and Analyzing Data) ใช้โปรแกรม
สําเร็ จรู ปทางสถิติเพือการวิจยั ทางสังคมศาสตร์ (Statistical Package for the Social Sciences หรื อ
SPSS) ในการวิเคราะห์สถิ ติเชิ งพรรณนา (Descriptive Statistics) เพือบรรยายลักษณะทัวไปของ
ข้อมู ล ได้แก่ ค่ า ความถี (Frequency) และอัตราส่ วนร้ อยละ (Percentage) โดยการนํา เสนอผล
เรี ยงลําดับตามการจัดอันดับประเทศของWEF หรื อ World Economic Forum ซึ งมีการทํารายงาน
ความสามารถในการแข่งขันของโลกปี พ.ศ. 2556-2557 (The Global Competitiveness Report 2013-
2014) จํานวน 148 ประเทศ โดยมีหลายเกณฑ์เกียวข้องโดยตรงกับระบบการศึกษาและการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ในประเทศนันๆ
ผลการศึกษา
ผลการสํารวจแนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์ในประเทศอาเซี ยนในภาพรวมพบว่า แนวโน้ม
งานทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ทีสู ง ขึ นอันดับ หนึ ง คื อ งานด้า นความรั บ ผิดชอบต่ อสั งคม (CSR)(83.40%)
โดยเป็ นแนวโน้มอันดับหนึ งใน 4 ประเทศ คือ สิ งคโปร์ มาเลเซี ย ไทย และฟิ ลิปปิ นส์ อันดับสอง
ในประเทศเวียดนาม และอันดับสามใน 3 ประเทศ คือ สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์
แนวโน้ม งานทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ที สู งขึ นเป็ นอันดับ สอง คื อ การบริ หารผลการปฏิ บตั ิ ง าน
(81.27%) โดยเป็ นแนวโน้มอันดับ หนึ งในประเทศกัม พูชา เป็ นอันดับสองใน 5 ประเทศ คื อ
สิ งคโปร์ มาเลเซี ยไทย อินโดนีเซี ย และสปป.ลาว เป็ นอันดับสาม และสี ใน 2 ประเทศ คือฟิ ลิปปิ นส์
และเวียดนาม ตามลําดับ
แนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์ในภาพรวม อันดับ 3: การพัฒนาองค์การ (73.78%) อันดับ
4: การพัฒนาสายอาชี พ (73.17%) อันดับ 5: การฝึ กอบรมและพัฒนา (72.41%) อันดับ 6: การจัดการ
ค่าตอบแทนและสวัสดิการ (71.46%) อันดับ 7: พนักงานสัมพันธ์และแรงงานสัมพันธ์ (68.15%)
อันดับ 8: การวางแผนกําลังคน (65.55%) และอันดับ 9: การสรรหาและคัดเลือก (50.98%) ดังตาราง
แนวโน้ มอันดับ 1: การดําเนินการด้ านความรั บผิดชอบต่ อสั งคม (CSR: Corporate Social
Responsibility)
ผลการสํารวจแนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์ดา้ นความรับผิดชอบต่อสังคมมีระดับแนวโน้ม
สู งมากในประเทศฟิ ลิ ปปิ นส์ (95.1%) ไทย (92.1%) อิ นโดนี เซี ย (91.7%) สิ งคโปร์ (90.5%)
เวียดนาม (86.67%) สปป.ลาว (86%) และมาเลเซี ย (83%) โดยเหตุผลการทํา CSR ใน 7 ประเทศเป็ น
เหตุผลเดียวกัน คือ เพือสร้างภาพลักษณ์ (Corporate Image) โดยมีบุคลากรภายในองค์การเข้าร่ วม
ด้วยกิ จกรรม CSR ทีมีแนวโน้มการทํามากทีสุ ด อันดับ 1 คือ การดูแลสิ งแวดล้อม อันดับ 2 คือ
การช่วยเหลือผูด้ อ้ ยโอกาส และอันดับ 3 คือ การกุศล ดังตาราง
สรุ ปและอภิปรายผลการศึกษา
ผลการศึ ก ษาแนวโน้ม งานทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ใ นภาพรวมเห็ นได้ชัดว่า แนวโน้ม งานด้า น
ทรัพยากรมนุ ษย์ใน 5 ประเทศ คือ สิ งคโปร์ มาเลเซี ย ไทย อินโดนี เซี ย และฟิ ลิ ปปิ นส์ ค่อนข้าง
มี แนวโน้ม หลายเรื องไปในทางเดี ย วกันมากกว่า กลุ่ ม ประเทศ CLMV คื อ กัม พูช า สปป.ลาว
เมี ยนมาร์ และเวียดนาม ซึ งเป็ นกลุ่ มประเทศที เข้าเป็ นสมาชิ ก AEC ล่ าสุ ดแม้ว่าประเทศกลุ่ มนี
จะมี ค วามคล้ า ยกัน ในหลายเรื อง หากแต่ มี ค วามแตกต่ า งกัน พอสมควรโดยเฉพาะในทาง
เศรษฐศาสตร์ ทีเวียดนามมี GDP ค่อนข้างจะสู งกว่าอีก 3 ประเทศ และมีการพัฒนาบุคลากรในระดับ
ที ดี กว่า หากแต่ป ระเทศกลุ่ มนี
ม นี มี การเติ บ โตอย่างรวดเร็ วมากเนื องจากการเปิ ดประเทศและการมี
ดประเทศ
ทรัพยากรธรรมชาติจาํ นวนมากทํทําให้ตอ้ งเผชิ ญกับปั ญหาที หา ท้าทายอย่างมาก คือ ความยากจน ความ
เหลือมลําระหว่างคนรวยกับคนจน และช่องว่างในเรื ในเรื องการเข้าถึงการพัฒนา (Sotharith, 2014)
การอภิปรายผลการศึกษาเป็ นไปตามแนวโน้มทีสู งสุ ดในภาพรวม 3 งาน และแนวโน้มที
ตําสุ ดในภาพรวม 3 งาน ดังนี
1. แนวโน้มทีสู งสุ ดในภาพรวม 3 งาน ได้แก่ งานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
งานด้านการบริ หารผลการปฏิบตั ิงาน (PM) และงานด้านการพัฒนาองค์การ (OD)
1.1 ประเด็นความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
เป็ นแนวโน้ ม อัน ดับ หนึ งในปี พ.ศ.
พ 2557-2558 และเหตุ ผ ลการทํา เรื องนี คื อ
เพือการสร้างภาพลักษณ์องค์การ ซึ งเหตุผลอาจมาจากการทีบริ ษทั ข้ามชาติทีเข้าไปลงทุนจํานวนมาก
Volume 6 Number 2 July - December 2014 (2557)
30
ในประเทศกลุ่ มนี ดังนันเพือจะได้รับการยอมรั บจากรั ฐบาล การทํา CSR จึ งเป็ นเรื องจําเป็ นผล
การศึกษานี สอดคล้องกับการศึกษาเรื อง CSR ในประเทศเวียดนาม (Giang, 2011) นอกจากนี การ
สร้างภาพลักษณ์องค์การยังมีผลต่อการสรรหาคัดเลือกบุคลากรอีกด้วย จากรายงานแนวโน้มช่องทาง
การสรรหาคัดเลือกบุคลากร การสร้างภาพลักษณ์ขององค์การเป็ นอันดับ 4 ของช่องทางการสรรหา
และคัดเลือกบุคลากรในการศึกษานี อีกด้วยซึ งผลการสอบถามผูเ้ ชี ยวชาญงาน HR ในสหรัฐอเมริ กา
ของ SHRM มีความเห็นว่าการสร้างภาพลักษณ์องค์การ เป็ นเรื องทีเป็ นแนวโน้มในการดึงดูดผูส้ มัคร
(SHRM, 2014)
ส่ วนกิจกรรม CSR อันดับหนึ งคือ การดูแลสิ งแวดล้อม อันเป็ นกิจกรรมทีบุคลากร
ในองค์การสามารถเข้ามามีส่วนร่ วมในกิ จกรรมเช่ นนี และยังเป็ นโอกาสในการสร้ างสัมพันธ์กบั
ชุ มชนในพืนที การศึ กษาของประเทศสิ งคโปร์ ในองค์การ SME พบว่า CSR ช่ วยให้องค์การ
มี ความสั มพันธ์ อนั ดี ก ับชุ ม ชน และสามารถส่ ง เสริ มให้มีค วามยืดหยุ่นในการทํางานได้มากกว่า
อี ก ทังมี ค วามเป็ นทางการน้อยกว่า (Singapore Compact, 2013)นอกจากนี กิ จกรรมการดู แล
สิ งแวดล้อมยัง คงเป็ นกิ จกรรมที สํา คัญในการช่ วยแก้ปั ญหาพื นฐานภายในของหลายๆ ประเทศ
ในอาเซี ยน ซึ งหน่วยงานทีส่ งเสริ มการลงทุนของประเทศไทยเองก็ให้คาํ แนะนําแก่องค์การทีเข้าไป
ลงทุนทําธุ รกิ จในประเทศกลุ่มนี เช่น กรมส่ งเสริ มการส่ งออกกระทรวงพาณิ ชย์ (2556) ได้กล่าวไว้
ในคู่มือการค้าการลงทุนราชอาณาจักรกัมพูชา และบริ ษทั ทีปรึ กษา The Enterprise & Development
Consultant Co., Ltd. (2010) ได้ให้คาํ แนะนําแก่บริ ษทั ทีเข้าไปลงทุนในประเทศ สปป.ลาว เรื องการ
จัดทํา CSR เพือการดูแลสิ งแวดล้อม
ดัง นันจะเห็ น ได้ว่ า บทบาทงานทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ใ นงานด้า นความรั บ ผิ ด ชอบ
ต่อสังคมเป็ นแนวโน้มเพิมสู งสุ ดในการศึกษาครังนี เป็ นผลสะท้อนว่าผูบ้ ริ หารงานด้านทรัพยากร
มนุ ษย์ได้เข้าไปร่ วมสนับสนุ นกลยุทธ์องค์การในการทําธุ รกิ จมากยิงขึน ผลของบทบาทนี นอกจาก
ส่ งผลต่อเป้ าหมายของการทําธุ รกิจทีต้องดูแลรักษาสิ งแวดล้อมแล้ว ยังมีผลต่องานด้านการสรรหา
และคัดเลือกบุคลากรอีกด้วย
1.2 การบริ หารผลการปฏิบตั ิงาน (PM)
เป็ นแนวโน้มทีสู งขึนอันดับสองในการศึกษานี โดยแนวโน้มนีการประเมินผลการ
ปฏิบตั ิงานเพือการพิจารณาเลือนขันเลือนตําแหน่ง วางแผนพัฒนาสายอาชี พให้กบั บุคลากร อันเป็ น
ส่ วนหนึ งในการดึงดูดบุคลากรทีมีศกั ยภาพและมีความสามารถหรื อ “คนเก่ง” (Talent) ให้คงอยูก่ บั
ตําแหน่งทีว่างลง
ประเด็ น การวางแผนเพื อทดแทนกํา ลัง คนเป็ นแนวโน้ม ที สู ง ขึ นเป็ นอัน ดับ 2
ซึ งประเทศทีให้ความสําคัญกับประเด็นนีสู งสุ ด คือ ประเทศเวียดนาม โดยมีบุคลากรทีต้องทดแทน
ในอนาคต 3 อันดับแรก คือ คนเก่ง ผูเ้ ชี ยวชาญ และบุคลากรระดับจัดการ / ผูบ้ ริ หาร สอดคล้องกับ
ผลการศึกษาของ Montague (2013) พบว่า กลุ่มบุคลากรทีต้องวางแผนเพือรองรับการขาดแคลน
ในอนาคต 3 อันดับแรก คือ คนเก่ง ผูเ้ ชี ยวชาญ และบุคลากรระดับจัดการ / ผูบ้ ริ หาร ซึ งมีสาเหตุ
มาจากประเทศเวียดนามมีอตั ราการเจริ ญเติบโตทางเศรษฐกิจอยูใ่ นเกณฑ์สูงและเติบโตอย่างต่อเนื อง
ดังนันจึงเป็ นสาเหตุทีผูบ้ ริ หารด้านทรัพยากรมนุ ษย์จะต้องมีการวางแผนด้านกําลังคนให้เหมาะสม
กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพือให้บรรลุผลสําเร็ จตามเป้ าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์การ
ประเด็ น การวางแผนรองรั บ การขาดแคลนบุ ค ลากรในอนาคตและการจ้า ง
ชาวต่างชาตินนั สปป.ลาว มีคะแนนแนวโน้มสู งสุ ดเป็ นกลุ่มผูเ้ ชียวชาญ ซึ งผลการศึกษานี สอดคล้อง
กับงานวิจยั ของบริ ษทั ทีปรึ กษา Deliotte (Bersin, 2013) ได้ทาํ นายอนาคตของโลกในงาน HR
ว่ามีแนวโน้มงานทีสําคัญและน่าสนใจ 10 ประเด็น ซึ งหนึงในประเด็นนี คือการให้ความสําคัญอย่าง
จริ งจังในเรื องของเคลือนย้ายคนเก่งและการพัฒนาสายอาชี พของคนกลุ่มนี (Take Talent Mobility
and Career Development Seriously) เพราะกลุ่มคนเก่งนันมีความสามารถในการย้ายงานใน
ตลาดโลกได้ง่ายยิงขึนในอนาคต โดยเฉพาะการย้ายงานของบุคลากรชาวต่างชาติทีเป็ นผูเ้ ชี ยวชาญ
จะเป็ นที ต้องการในประเทศที กําลังพัฒนามากขึน เนื องจากการขยายธุ รกิ จภายในประเทศเหล่านี
ผนวกกับความขาดแคลนผูเ้ ชี ยวชาญภายในประเทศ ซึ ง สปป.ลาว เป็ นหนึ งในประเทศทีมีการขยาย
ธุ รกิ จสู งมากในกลุ่มประเทศอาเซี ยน และการศึกษาภายในประเทศยังไม่สามารถสร้ างผูเ้ ชี ยวชาญ
เฉพาะด้านได้ทนั กับความต้องการของประเทศ
2.3 งานด้านการพนักงานสัมพันธ์และแรงงานสัมพันธ์
เป็ นแนวโน้มในงานทรัพยากรมนุษย์ทีมีค่าคะแนนแนวโน้มตําทีสุ ดเป็ นอันดับสาม
ซึ งประเด็นแนวโน้มทีคะแนนสู งสุ ดในงานด้านนี คือ องค์การให้ความสําคัญกับเรื องความปลอดภัย
และสภาพแวดล้ อ มในการทํา งาน ซึ งถื อ ว่ า เป็ นเรื องพื นฐานที องค์ ก ารในทุ ก ประเทศยัง ให้
ความสําคัญ ส่ วนประเด็นทีเป็ นแนวโน้มรองลงมา คือ องค์การให้ความสําคัญกับเรื องการสร้ างสุ ข
ให้แก่บุคลากร ซึ งประเด็นนี มี ความเด่ นชัดมากใน สปป.ลาว สอดรับกับผลการศึกษาเชิ งคุ ณภาพ
เรื องมาตรฐานแรงงานและผลิ ตภาพในธุ รกิ จเสื อผ้าเพือการส่ งออกในประเทศ สปป.ลาว (Labor
Standard and Productivity in the Garment Export Sector) (Work Bank, 2012) ทีพบว่าแรงงาน
สัมพันธ์ใน สปป.ลาว เป็ นการปฏิบตั ิตามกฎหมายอย่างเข้มงวด การปฏิบตั ิต่อแรงงานต้องคํานึ งถึ ง
กฎหมายวัฒนธรรม และวัฒนธรรมท้องถิน รวมทังลักษณะทางวัฒนธรรมของชาว สปป.ลาว ทีเน้น
ความสุ ขในการทํางาน ไม่ชอบการดูหมิน การตําหนิ ประเด็นแรงงานสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้างาน
ผูจ้ ดั การ และพนักงาน เป็ นเหตุผลอันดับ 1 ทีทําให้คนลาออกจากงาน ด้วยพฤติกรรมทีแข็งกระด้าง
การดูถูกดูแคลนเมือพนักงานกระทําผิด ทําให้พนักงานรู ้ สึกว่าถูกปฏิ บตั ิดว้ ยความด้อยค่า องค์การ
หรื อนายจ้างควรจะเข้าใจวัฒนธรรมของชาว สปป.ลาว และของประเทศ ซึ งเน้นความสุ ขในการ
ทํางาน
เมื อพิ จารณาประเด็น แนวโน้ม เรื องการมุ่ ง เน้น เรื องความผูก พัน และแรงจู ง ใจ
(Redefine Engagement: Focus on Passion and the Holistic Work Environment) ซึ งบริ ษทั ทีปรึ กษา
Deloitte (2013) ได้นาํ เสนอผลการสํารวจ 1 ใน 10 แนวโน้มระดับโลกไว้ โดยการสํารวจความ
ผูกพันของบุคลากรในองค์การในกลุ่มประเทศอาเซี ยนครังนีกลับพบว่า แนวโน้มเรื องนีอยูใ่ นอันดับ
5 ของการศึกษาภายใต้หวั ข้อพนักงานสัมพันธ์และแรงงานสัมพันธ์
เมือพิจารณาด้านการจัดตังสหภาพแรงงานพบว่า องค์การส่ วนใหญ่ในประเทศกลุ่ม
อาเซี ยนมีแนวโน้มทีจะไม่มีสหภาพแรงงาน ยกเว้นผลการศึกษาแนวโน้มในประเทศเวียดนาม และ
กัมพูชา ซึ งผลการศึกษาสอดคล้องกับข้อมูลการศึกษาเชิงคุณภาพใน สปป.ลาว ทีพบว่า ไม่มีสหภาพ
แรงงานทีเกิ ดจากการจัดตังของกลุ่มลู กจ้างหรื อผูใ้ ช้แรงงานมีแต่กรรมบาลลาว ซึ งเป็ นหน่ วยงาน
ของแขวง ทําหน้าทีบริ หารจัดการมีบทบาทในการดูแลส่ งเสริ มผูใ้ ช้แรงงานขององค์การต่างๆ และ
ยัง สอดรั บ กับ รายงานการศึ ก ษาองค์ ก ารส่ ว นปกครองท้อ งถิ นของ สปป.ลาว ของสถาบัน
พระปกเกล้าในปี พ.ศ. 2556 พบว่า สหพันธ์กรรมบาลลาว (Lao Federation of Trade Unions)
เป็ นองค์การทีจัดตังขึนในปี ค.ศ. 1983 ซึ งเป็ นกลุ่มของผูใ้ ช้แรงงานและลูกจ้างในภาคการผลิตต่างๆ
แต่ผใู ้ ช้แรงงานทัวประเทศไม่ได้เป็ นสมาชิกสหพันธ์ทงหมด ั เนืองจากบางแห่งมีจาํ นวนแรงงานน้อย
และไม่มีการจัดตังองค์การทีดี
ส่ วนในประเทศเวียดนามมี แนวโน้มจํา นวนสมาชิ กสหภาพแรงงานในองค์การ
เพิ มขึ นอาจจะมี ส าเหตุ จ ากประเทศเวี ย ดนามเป็ นรั ฐ สั ง คมนิ ย มจากภายใต้ส ภาพแวดล้อ มทาง
การเมืองทีกําลังมีการเปลียนแปลงไปสู่ ความเจริ ญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ วและมีอตั ราเงิ น
เฟ้ อที สู ง กว่า สิ บ ปี ที ผ่า นมา ส่ ง ผลให้เกิ ดความขัดแย้ง ด้า นแรงงานและมี ก ารนัดหยุ ดงานสู ง ขึ น
ข้ อจํากัดในการศึกษา
การศึ กษาในครั งนี เนื องจากกลุ่ ม ตัวอย่า งการศึ ก ษามี ขนาดไม่ เท่า กัน อันเป็ นผลมาจาก
ความสามารถในการเข้าถึ งกลุ่มตัวอย่างในแต่ละประเทศ ดังนันผลการศึกษาสําหรั บบางประเทศ
ไม่สามารถสะท้อนภาพรวมของทังประเทศได้ หากแต่ผลการศึกษาสามารถนําไปใช้เป็ นฐานในการ
พูดคุ ย และอภิ ปรายผลร่ วมกันในกลุ่มผูท้ ี สนใจงานด้านทรั พยากรมนุ ษย์ในกลุ่มประเทศอาเซี ยน
เพือเกิดความตระหนักในการปฏิ บตั ิงานด้านทรัพยากรมนุ ษย์ทีมีความแตกต่างหลากหลายไปตาม
บริ บทของประเทศและองค์การ
ข้ อเสนอแนะ
ข้ อเสนอแนะในการวิจัย
จากการได้รับผลตอบกลับคืนมาน้อย ดังนันในการเก็บข้อมูลครังต่อไปอาจจําเป็ นต้องทํา
ความร่ วมมือกับองค์การวิชาชี พด้านการบริ หารและพัฒนาทรัพยากรมนุ ษย์ในแต่ละประเทศอย่าง
เป็ นทางการ เพือนําผลการศึกษาทีได้ไปใช้ร่วมกัน
ข้ อเสนอแนะในการนําไปปฏิบัติ
เนื องจากจํานวนผลตอบกลับของกลุ่มตัวอย่างมีจาํ นวนน้อยมากทําให้การนําผลไปใช้เป็ น
วิจารณญาณของผูอ้ ่านในการประยุกต์ใช้ผลการศึกษาครังนี ทังนี งานด้านทรัพยากรมนุ ษย์นนเป็ ั น
เรื องทีต้องทําแตกต่างกันไปตามบริ บทของประเทศและองค์การเป็ นสําคัญ หากผูบ้ ริ หารงานด้านนี
จะนํา ผลการศึ ก ษาไปใช้ใ นองค์ก ารของตนเองจึ ง จํา เป็ นต้องพิ จ ารณาบริ บ ทขององค์ก าร และ
วัฒนธรรมของประชาชนในแต่ละประเทศ
เอกสารอ้ างอิง
กรมส่ งเสริ มการส่ งออกกระทรวงพาณิ ชย์. (10 กุมภาพันธ์, 2556). คู่มือการค้าการลงทุน ราชอาณาจักรกัมพูชา.
หนังสื อพิมพ์ กรุ งเทพธุรกิจ.
จันทราภา พิมพ์ชัยกุล. (2557). การศึ กษาแนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษ ย์ ในประเทศสาธารณรั ฐ
สิ งคโปร์ พ.ศ. 2557-2558. การค้นคว้าอิสระปริ ญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์และองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์ .
จารุ ณี ศรี บาลแจ่ม. (2557). การศึ กษาแนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษย์ ในสหพันธรั ฐมาเลเซี ย พ.ศ.
2557-2558. การค้นคว้าอิ ส ระปริ ญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิ ต สาขาการพัฒนาทรั พยากร
มนุษย์และองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์.
จิ รประภา อัครบวร. (2553). แนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษ ย์ ในประเทศไทยปี พ.ศ. 2553-2554.
โครงการวิจยั คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์.
จิรประภา อัครบวร. (2556). การศึกษาแนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์ พ.ศ. 2555-2556 (HR Trends
2012-2013). วารสารการพัฒนาทรั พยากรมนุษย์ และองค์ การ (HROD Journal), 5(1), 4-29.
ชัยกร หงสประภาส. (2557). การศึ กษาแนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษย์ ในสาธารณรั ฐแห่ งสหภาพ
เมี ย นมาร์ พ.ศ. 2557-2558. การค้นคว้า อิ ส ระปริ ญญาวิท ยาศาสตรมหาบัณฑิ ต สาขาการ
พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์.
โชษิตา ประสาทเกษการณ์ . (2557). การศึ กษาแนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษย์ ในสาธารณรั ฐสั งคม
นิยมเวียดนาม พ.ศ. 2557-2558. การค้นคว้าอิสระปริ ญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการ
พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์.
ดวงหทัย คชเสนี (2557). การศึ กษาแนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษย์ ในสาธารณรั ฐฟิ ลิ ปปิ นส์ พ.ศ.
2557-2558. การค้นคว้าอิ สระปริ ญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิ ต สาขาการพัฒนาทรั พยากร
มนุษย์และองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์.
ดาวิษา ศรี ธญ ั รัตน์ (2551). แนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษย์ ในประเทศไทยปี พ.ศ. 2552-2553. การ
ค้นคว้าอิสระปริ ญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุ ษย์และองค์การ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์ .
E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0
%B8%A7_OK%2013-08-56.pdf.
สุ วารี สุ วิโรจน์กุล. (2557). การศึ กษาแนวโน้ มงานทรั พยากรมนุษย์ ในสาธารณรั ฐอิ นโดนี เซี ย พ.ศ.
2557-2558. การค้นคว้าอิสระปริ ญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิ ต สาขาการพัฒนาทรั พยากร
มนุษย์และองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์ .
อนันตา ส่ งแสงเต็ม. (2557). การศึกษาแนวโน้มงานทรัพยากรมนุ ษย์ในประเทศไทย พ.ศ. 2557-2558.
การค้นคว้า อิ ส ระปริ ญญาวิท ยาศาสตรมหาบัณฑิ ต สาขาการพัฒนาทรั พ ยากรมนุ ษ ย์และ
องค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริ หารศาสตร์ .
Bartlett, K. R. (2005). Survey Research in Organizations. Paper in Research in Organizations:
Foundations and Methods of Inquiry, Swanson, R. A. & Holton III, E F. (Eds.). San
Francisco: Berrett-Koehler Publishers, Inc.
Bersin, J. (2013). Predictions for 2013: Corporate Talent, Leadership and HR – Nexus of Global
Forces Drives New Models for Talent. Retrieved December 1, 2014, from
http://marketing.bersin.com/rs/bersin/images/SGP01092013.pdf.
Giang, T.Y. (2011). Corporate Social Responsibility (CSR): A Study on Factors Effecting CSR
Implementation and CSR Disclosure in Vietnam –Case and Evidence. Retrieved January 30,
2014, from http://dl.is.vnu.edu.vn/bitstream/123456789/188/1/GIANG%20THI%20YEN.pdf.
Hoang,T. G. et al. (2012). Cross-cultural Examination of Applicant Reactions to Selection
Methods: United States and Vietnam. Retrieved May 27, 2014, from
http://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/j.1468-2389.2012.00593.x/abstract.
International Institute of Development Management (IMD.). (2013). World Competitiveness Yearbook.
Retrieved March 10, 2014, from http://www.imd.org/news/World-Competitiveness-2013.cfm.
Lim Gwen. (July 6, 2012). 5challenges that HR professionals face today. Singapore Business
Review. Retrieved February 14, 2014 from http://sbr.com.sg/hr-education/commentary/5-
challenges-hr-professionals-face-today.
Montague, A. (2013). Vocational and skill shortages in Vietnamese manufacturing and service
sectors, and some plausible solutions. Retrieved November 1, 2013, from
http://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/j.1744-7941.2012.00060.x/abstract.
SHRM (Society for Human Resource Management). (2014). The top trends for 2014 according to
SHRM’s HR subject matter expert panels.
Singapore Compact. (2013). Is CSR for SMEs?. Retrieved February 14, 2014, from
http://www.csrsingapore.org/c/resources/faq/39-is-csr-for-smes.
Sotharith, C. (2014). Executive Summary: Development Strategy for CLMV in the Age of
Economic Integration. Retrieved December 5, 2015, from http://www.eria.org (Economic
Research Institute ASEAN and South Asia).
Stanton, P & Nankervis, A. (2011). Linking Strategic HRM, Performance Management and Organizational
Effectiveness: Perception of Managers in Singapore. Asia Pacific Business Review. 17(1), 74 - 76.
The Enterprise & Development Consultant Co., Ltd. (2010). CSR Survey 2010 on Corporate
Social Responsibility Practitioners in Lao PDR. Retrieved October 24, 2013, from
http://www.scripbd.com/doc/64353903/CSR-Report-Final.
Hoang,T. G. et al (2012). Cross-cultural Examination of Applicant Reactions to Selection
Methods: United States and Vietnam. Retrieved May 27, 2014, from
http://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/j.1468-2389.2012.00593.x/abstract.Tower
Watson and World at Work. (2013). Talent Management and Rewards Survey 2012 – 2013.
United Nation (UN.). (2013). World Population Prospects: The 2012 Revision, Volume II:
Demographic Profiles. Retrieved January 7, 2014, from
http://www.un.org/en/developmentdesa/population/pubicationf/trends/WPP2012_Wallchart.pdf.
World Economic Forum (WEF.). (2013). The global competitiveness report 2013-2014: Full data
edition. Retrieved February 19, 2014, from www.weforum.org/gcr.
World Bank. (2012). Lao PDR - Labor Standards and Productivity in the Garments Export
Sector: A Survey of Managers and Workers. Washington, D.C. Retrieved December 1,
2014, from https://openknowledge.worldbank.org/handle/10986/11915