Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง หน้ า
1 ความนํา 1
2 ฟิ ชชัน (Fission) 8
5 แบบโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 38
6 ความปลอดภัยของโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 46
บรรณานุกรม 60
ปั จจุบนั (พ.ศ. 2551) ผูท้ ี่ติดตามข่าวจะพบว่ามีข่าวเกี่ยวกับกิ จกรรมด้านพลังงานนิ วเคลียร์ อยู่เป็ น
ระยะๆ เช่น ข่าวการสร้างโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ (Nuclear Power Plant) และโรงงานเสริ มสมรรถนะยูเรเนี ยม
(Uranium Enrichment Plant) ของประเทศอิหร่ าน การทดลองระเบิดนิ วเคลียร์ ใต้ดินของประเทศเกาหลี
เหนือ การก่อสร้างโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์เพิ่มขึ้นของประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น และประเทศ
เทศอินเดีย ฯลฯ ตลอดจนประเทศเวียดนาม ตกลงจะสร้างโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ และสําหรับประเทศไทยได้มี
การบรรจุโครงการที่จะมีโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ในแผนการผลิตไฟฟ้ าของประเทศในอีก 15 ปี ข้างหน้า เป็ นต้น
ด้วยเหตุน้ ี ก่อนจะถึงเวลาที่ประเทศไทยจะเริ่ มมีโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ จริ งๆ ผูเ้ ขียนเห็นว่าพวกเราควร
รู ้เรื่ องโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ ไว้บา้ ง เพื่อว่าเมื่อคนพูดถึงโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ ให้เราฟัง เราจะได้พดู กับผูน้ ้ นั อย่าง
คนที่รู้เรื่ อง และอีกประการหนึ่งเราอาจเป็ นผูท้ ี่สามารถอธิบายเรื่ องโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ให้ผทู ้ ี่ยงั ไม่เข้าใจและ
ไม่รู้เรื่ องได้รับทราบด้วยก็ได้
เพื่อให้ไม่น่าเบื่อ ผูเ้ ขียนขอชวนผูอ้ ่านมาร่ วมวงคุยกันสนุกๆ ในเรื่ องที่ว่าถ้าสนใจจะสร้างโรงไฟฟ้ า
นิ วเคลียร์ เราต้องรู ้อะไรบ้าง โดยเริ่ มจากที่เราไม่รู้อะไรมาก่อนเลย ซึ่ งการนี้ จะต้องมีการคิดและทําความ
เข้าใจเป็ นขั้นตอนไปเรื่ อยๆ ขอให้ผอู ้ ่าน เมื่ออ่านไปก็ให้สร้างมโนภาพตามไปด้วย จะได้เข้าใจและสนุกกับ
การคิดร่ วมไปกับผูเ้ ขียน ตรงไหนไม่เข้าใจก็ขอให้อ่านทวนซํ้า อาจจะหลายเที่ยว จนกว่าจะเข้าใจ แล้วจึง
อ่านต่อไป ซึ่งเมื่ออ่านจนจบก็จะมีความรู ้สึกว่า “อ้อ โรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ เป็ นอย่างนี้ เองเหรอ ไม่เหมือนกับที่
เราคิดแต่แรกเลย”
คําว่า “โรงไฟฟ้ านิวเคลียร์” หรื อบางคนเรี ยก “โรงไฟฟ้ าพลังงานนิวเคลียร์” นี้ เป็ นคําสมัยใหม่ที่ใช้
กัน สําหรับคําเดิมที่มีใช้คือ “โรงไฟฟ้ าปรมาณู (Atomic Power Plant)” ซึ่งใครจะเลือกใช้คาํ ไหนก็ได้แล้วแต่
ใจชอบ สําหรับผูเ้ ขียนชอบใช้คาํ ว่าโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ เพราะดูจะตรงความเป็ นจริ งมากกว่า และก็อยากเป็ น
คนที่ทนั สมัยด้วย
คําถามที่ 1 : เริ่ มแรกชักงงๆ แล้วกับคําว่า “นิ วเคลียร์ ” และ “ปรมาณู” ทั้งสองคํานี้ เหมือนกันและ
ต่างกันอย่างไร
คําตอบที่ 1 : เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เรามาคิดกันเล่นๆ ซิ ว่า ถ้าเรามีทองบริ สุทธิ์ ร้อยเปอร์ เซ็นต์อยูก่ อ้ น
หนึ่ ง แล้วลองนึ กภาพว่าถ้าเราแบ่งทองก้อนนี้ให้เล็กลงไปเรื่ อยๆ มันจะไปสิ้ นสุ ดที่ตรงไหน ซึ่ งแน่นอนมัน
ต้องไปสิ้ นสุ ดที่ส่วนที่เล็กที่สุด ที่ยงั แสดงคุณสมบัติว่าเป็ นทองอยู่ ถ้าแบ่งต่อไปก็จะไม่มีคุณสมบัติของทอง
ให้เห็น หรื อไม่สามารถแบ่งต่อไปได้อีกโดยวิธีการทางเคมี สิ่ งที่เล็กที่สุดนี้ มีชื่อเรี ยกว่าอะตอม (atom) ซึ่ ง
สมัยก่อนแปลเป็ นไทยว่า “ปรมาณู” แต่ปัจจุบนั นิยมเรี ยกทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า “อะตอม” ดังนั้นธาตุต่างๆ
ก็จะมีอะตอมของตัวเอง เช่น อะตอมของทอง อะตอมของเงิน อะตอมของไฮโดรเจน อะตอมของยูเรเนี ยม
อะตอมของเหล็ก ฯลฯ
บทที่ 1 ความนํา 2
4
4 × 10 −8 = = 0.00000004
100000000
25
= 0.00025 ก็เขียนว่า 25 × 10−5 หรื อ 2.5 × 10−4
100000
เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ถ่ านหิน
- นํา้ มัน
- แก๊ ส
เชื้อเพลิงนิวเคลียร์
ยูเรเนียม
รู ปที่ 1.2 ผังเปรี ยบเทียบโรงไฟฟ้ าถ่านหิน, นํ้ามัน หรื อแก๊สธรรมชาติ กับโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์
ตอนนี้ มีคาํ ว่า “ไอโซโทป (isotope)” ขึ้นมาใหม่อีกคําหนึ่ งที่ตอ้ งทําความเข้าใจ ผูเ้ ขียนขอให้อ่าน
ตอนต่อไปอย่างช้าๆ และทําความเข้าใจ โดยนึกภาพให้เห็นตามที่อธิบายไปด้วย ไม่ยากหรอกที่จะเข้าใจ
ไอโซโทปเป็ นคําที่ใช้เรี ยกอะตอมที่แตกต่างกันของธาตุน้ นั ๆ นัน่ หมายความว่าธาตุแต่ละธาตุจะมี
อะตอมที่แตกต่างกันอยู่จาํ นวนหนึ่ ง โดยที่ภายในนิ วเคลียสของแต่ละไอโซโทปของธาตุน้ นั จะมีจาํ นวน
โปรตอนเท่ากัน แต่จาํ นวนนิ วตรอนต่างกันและผูอ้ ่านต้องอย่าลืมว่าในสภาพปกติรอบนิ วเคลียสจะต้องมี
อิเล็กตรอนจํานวนเท่ากับโปรตอนโคจรอยู่ดว้ ย ตัวอย่างเช่ น ธาตุไฮโดรเจน มีอะตอมที่แตกต่างกันอยู่ 3
ชนิด หรื อ 3 ไอโซโทป นั้นคือ
ไอโซโทปแรกในนิ ว เคลี ย สมี แ ต่ โ ปรตอน 1 อนุ ภ าค ไม่ มี นิ ว ตรอนไอโซโทปนี้ มี ชื่ อ เรี ย กว่ า
ไฮโดรเจน ซึ่งก็คือไฮโดรเจนที่เรารู ้จกั กัน
ไอโซโทปที่สองในนิ วเคลียสมีโปรตอน 1 อนุ ภาคกับนิ วตรอน 1 อนุ ภาค ไอโซโทปนี้ มีชื่อเฉพาะ
เรี ยกว่าดิ วเทอเรี ยม (deuterium) ไอโซโทปตัวที่ สองนี้ ถา้ จับออกซิ เจนกลายเป็ นโมเลกุลของนํ้า เราเรี ยก
โมเลกุลนํ้านี้วา่ “นํ้ามวลหนัก (heavy water)”
ไอโซโทปที่สามในนิ วเคลียสมีโปรตอน 1 อนุภาค กับนิ วตรอน 2 อนุภาค ไอโซโทปนี้ มีชื่อเฉพาะ
เรี ยกว่า ทริ เทียม (tritium)
จะเห็ นว่าทุกไอโซโทปของธาตุไฮโดรเจนในนิ วเคลียสต่างมีโปรตอน 1 อนุ ภาคเท่ากัน แต่จะมี
จํานวนนิวตรอนในนิวเคลียสต่างกัน
ไอโซโทปของธาตุเดียวกันจะมีคุณสมบัติทางเคมีเหมือนกันแต่สมบัติทางฟิ สิ กส์และทางนิ วเคลียร์
ต่างกัน ซึ่งก็เกิดจากการมีจาํ นวนนิวตรอนในนิวเคลียสต่างกันนัน่ เอง
บทที่ 2 ฟิ ชชัน(Fission) 9
92 U235 การเขียนแบบนี้จะพบในตําราเก่าๆ
หรื อ 92 U การเขียนแบบนี้ จะพบในตําราสมัยใหม่
235
2. เขียนแบบสั้น
U-235 + n → X + Y + 2n + E
เมื่อ
Kr-90 = คริ ปทอน-90
Ba-144 = แบเรี ยม-144
ผลของฟิ ชชันได้นิวตรอนใหม่ 3 อนุภาค
U-235 + n → I-137 + Y-96 + 3n + E
บทที่ 2 ฟิ ชชัน(Fission) 11
ซึ่งถ้าเขียนเต็มรู ปแบบจะเป็ น
235
92U + 0 n1 →137
53 I + 39Y + 30 n + E
96 1
E = mc2
เมื่อ E = พลังงาน
M = มวล
C = ความเร็ วแสง
ผลผลิตการแบ่ งแยก
นิวเคลียส
ผลผลิตการแบ่ งแยก
ี
n + U-235 → X + Y + 2n + E
ตอนนี้เราก็จะได้ยเู รเนียม-235 เพิ่มเป็ น 2.8 เปอร์เซ็นต์ และเราเรี ยกยูเรเนี ยมกลุ่มนี้ ว่า ยูเรเนี ยมเสริ ม
สมรรถนะ 2.8 เปอร์เซ็นต์
บทที่ 2 ฟิ ชชัน(Fission) 18
ไม่ให้เม็ดเชื้อเพลิงกลิ้งไปมา จากนั้นก็เชื่อมท่อให้ปิดสนิทแล้วนําไปตรวจสอบความสมบูรณ์ของท่อว่าไม่มี
จุดบกพร่ องและรอยรั่ว
ท่อโลหะที่มีเม็ดเชื้ออยูภ่ ายในนี้ เราเรี ยกว่าแท่งเชื้อเพลิง (fuel rod; fuel pin) ความยาวของแท่ง
เชื้ อเพลิ งประมาณ 3-4 เมตร จํานวนเม็ดเชื้ อเพลิ งที่ บรรจุ ในแต่ละแท่งเชื้ อเพลิ งประมาณ 200-300 เม็ด
จากนั้นเขาก็จะเอาแท่งเชื้อเพลิงเหล่านี้มาประกอบเป็ นชุดเชื้อเพลิง (fuel assembly) โดยแต่ละแท่งจะวางห่าง
กันพอสมควร โดยมีแผ่นโลหะเจาะรู ให้สอดแท่งเชื้อเพลิงลงไปเป็ นตัวบังคับซึ่ งจะมีหลายแผ่นวางเป็ นระยะ
ตลอดชุดเชื้อเพลิง โดยด้านท้ายและบนของชุดเชื้อเพลิงจะมีแผ่นประกบให้แน่นหนา โดยเฉพาะด้านบนจะ
มีที่จบั ที่มีการสลักหมายเลขของชุดเชื้อเพลิงและเป็ นที่ยกชุดเชื้อเพลิงเพื่อการเคลื่อนย้ายด้วย
การจัดเรี ยงแท่งเชื้อเพลิงให้เป็ นชุดเชื้ อเพลิงนั้นเขาจะจัดเรี ยงเป็ นรู ปลูกบาศก์สี่เหลี่ยมจตุรัส โดย
จัด เรี ย งแบบ 18×18 หรื อ 17 ×17 หรื อ 16 ×16 หรื อ 15×15 หรื อ 14×14 หรื อ 10 ×10 หรื อ 8× 8 หรื อ
6× 6 แล้วแต่ความต้องการ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ช่องว่างตามการเรี ยงแบบต่างๆ จะสอดแท่งเชื้ อเพลิงจนครบ
ทุกช่อง แต่เขาจะเว้นช่องว่างไว้สาํ หรับสอดใส่ แท่งควบคุมและแท่งอุปกรณ์อื่นๆ ตัวอย่างเช่น ชุดเชื้อเพลิง
แบบ 15×15 จะมีแผ่นที่เจาะรู อยู่ 225 รู แต่เขาจะใช้ใส่ แท่งเชื้อเพลิงเพียง 204 ช่อง โดยจะใส่ รอบนอกครบ
แต่รูดา้ นในจะเหลือไว้ 21 ช่อง สําหรับใส่ แท่งควบคุมและอุปกรณ์อื่นๆ เป็ นต้น
มาถึงตรงนี้ เราก็รู้เรื่ องการได้มาซึ่งชุดเชื้อเพลิงและก็รู้ดว้ ยว่าในแต่ละแท่งเชื้อเพลิงที่รวมกันเป็ นชุด
เชื้อเพลิงนั้น ภายในมีท้ งั ยูเรเนี ยม-235 และยูเรเนี ยม-238 ผสมปนกันอยูแ่ ละแน่นอนก็รู้ดว้ ยว่ายูเรเนียม-235
ที่เป็ นตัวเกิดฟิ ชชันและยูเรเนี ยม-238 ที่ติดมาด้วยนั้นถูกกักเก็บอย่างสนิทมิดชิดในแท่งเชื้อเพลิงไม่สามารถ
เล็ดลอดหรื อแพร่ กระจายออกสู่ ภายนอกได้ นับเป็ นการทําให้เกิดความปลอดภัยแก่โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ ทาง
หนึ่ง
เมื่อเราทราบว่าแท่งเชื้อเพลิงหรื อชุดเชื้อเพลิงมีท้ งั ยูเรเนี ยม-235 และยูเรเนี ยม-238 รวมด้วยกันก็มี
ปั ญหาที่ ให้คิดต่อไปว่ายูเรเนี ยม-238 สามารถเกิ ดฟิ ชชันได้หรื อเปล่า ซึ่ งการที่ จะรู ้ คาํ ตอบเราต้องศึ กษา
คุณสมบัติของยูเรเนียม-235 และยูเรเนียม-238 ที่มีต่อนิวตรอนที่วิ่งมาชน
นิวตรอนเมื่อวิง่ ชนนิวเคลียสของยูเรเนียม-235 และยูเรเนียม-238 จะเกิดปฏิกิริยานิ วเคลียร์ สองแบบ
คือ เกิดปฏิกิริยาฟิ ชชันและเกิดการจับยึดนิวตรอน (neutron capture)โดยนิวเคลียสที่ถูกชน
ในวิชานิ วเคลียร์ มีหน่วยที่สาํ คัญอีกหน่วยหนึ่ งคือบาร์น (barn) เป็ นหน่วยพื้นที่ภาคตัดขวาง (cross
section) ของอะตอม นิวเคลียส อิเล็กตรอน และอนุภาคอื่นๆ ที่แสดงโอกาสในการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์
ค่าหนึ่งบาร์นมีค่าเท่ากับ 10-24 ตารางเซนติเมตร ซึ่งเป็ นหน่วยที่เล็กมากๆ
ย้อนกลับมาดูนิวเคลียสของยูเรเนี ยม-235 และยูเรเนี ยม-238 ปรากฏว่านิ วเคลียสทั้งสองต่างมีพ้ืนที่
ภาคตัดขวางที่สามารถรับให้เกิดฟิ ชชัน และการจับยึดนิ วตรอนได้และโอกาสการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ ของ
ทั้งสองแบบนี้กข็ ้ ึนอยูก่ บั พลังงานของนิวตรอนที่วิ่งไปชนด้วย
ตารางที่ 2.1 ข้างล่างนี้ได้แสดงค่าพื้นที่ภาคตัดขวางมีหน่วยเป็ นบาร์นสําหรับการเกิดฟิ ชชันและการ
จับยึดนิวตรอนของยูเรเนียม-235 ยูเรเนียม-238 และพลูโทเนียม-239 ตามพลังงานของนิวตรอนที่วิ่งเข้าชน
บทที่ 2 ฟิ ชชัน(Fission) 23
จากตาราง 2.1 จะเห็นว่ายูเรเนี ยม-235 มีโอกาสเกิดฟิ ชชันได้มาก ถ้านิ วตรอนที่วิ่งชนเป็ นเทอร์ มลั
นิวตรอน รองลงมาก็เป็ นเรโซแนนซ์นิวตรอน ส่ วนนิวตรอนเร็ ว นั้นจะมีโอกาสเกิดฟิ ชชันน้อยมาก สําหรับ
ยูเรเนี ยม-238 มีโอกาสเกิดฟิ ชชันน้อยมากไม่ว่าจะถูกชนด้วยเทอร์ มลั นิ วตรอน เรโซแนนซ์นิวตรอนหรื อ
นิ วตรอนเร็ ว แต่มีโอกาสจับยึดนิ วตรอนได้ดี ถ้านิ วตรอนที่วิ่งชนเป็ นเรโซแนนซ์นิวตรอนและเกิดเล็กน้อย
ถ้าเป็ นเทอร์ มลั นิ วตรอนสําหรับพลูโทเนี ยม-239 มีโอกาสเกิดทั้งฟิ ชชันและการจับยึดนิ วตรอนกับเทอร์ มลั
นิวตรอนและเรโซแนนซ์นิวตรอน
ด้วยเหตุน้ ี จึงสรุ ปได้ว่า ยูเรเนี ยม-238 มีโอกาสเกิ ดฟิ ชชันได้เหมือนกันแต่โอกาสเกิ ดมีน้อย ส่ วน
ยูเรเนี ยม-235 จะเกิดฟิ ชชันได้มากถ้านิ วตรอนที่วิ่งชนนั้นเป็ นนิ วตรอนที่มีพลังงานตํ่าโดยเฉพาะเทอร์ มลั
นิวตรอนซึ่งมีพลังงานเพียง 0.025 อีวี
มาถึงตรงนี้ เราก็จะมีสิ่งให้คิดต่อไปอีก นัน่ คือตอนที่ผเู ้ ขียนบอกเรื่ องต้นกําเนิ ดนิ วตรอนที่เป็ นตัว
ให้นิวตรอนเริ่ มแรกนั้น ได้บอกว่านิวตรอนที่ออกจากต้นกําเนิดนิวตรอนนั้นเป็ นนิวตรอนเร็ วที่มีพลังงานสู ง
เป็ นเอ็มอีวี แต่จากที่สรุ ปเมื่อสักครู่ น้ ี ได้บอกว่ายูเรเนี ยม-235 จะเกิดฟิ ชชันได้มากเมื่อนิ วตรอนที่วิ่งชนเป็ น
เทอร์มลั นิวตรอน ซึ่งเป็ นพลังงานที่นอ้ ยมากเพียง 0.025 อีวี แล้วอย่างนี้มนั จะเกิดฟิ ชชันได้เพียงพอหรื อ
ผูอ้ ่ า นลองช่ ว ยคิ ด ซิ ว่า เราจะทํา อย่า งไรดี ถึง จะทําให้เ กิ ด ฟิ ชชัน มากๆ ได้ ผูเ้ ขี ย นจะยัง ไม่ บ อก
ในตอนนี้
ที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็ นการพูดถึงกลุ่มที่อยูท่ างซ้ายมือของสมการฟิ ชชัน ซึ่ งพอสรุ ปสิ่ งที่ทราบและที่
ต้องคํานึงถึงคือ
1. นิ วตรอนเริ่ มแรกหรื อนิ วตรอนที่จะเป็ นตัวจุดชนวนให้เกิดฟิ ชชันได้มาจากต้นกําเนิ ดนิ วตรอน
แต่นิวตรอนที่วา่ นี้เป็ นนิวตรอนเร็ วมีพลังงานสู งในระดับเอ็มอีวีหรื อล้านอีวี
2. เชื้ อเพลิงของโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ อยู่ในรู ปของยูเรเนี ยมไดออกไซด์ที่มียเู รเนี ยมเสริ มสมรรถนะ
1-5 เปอร์เซ็นต์ และถูกประจุอยูใ่ นแท่งเชื้อเพลิงรู ปทรงกระบอกที่ปิดสนิท การเกิดฟิ ชชันก็จะเกิดอยูใ่ นแท่ง
บทที่ 2 ฟิ ชชัน(Fission) 24
พลูโทเนี ยม-239 นี้ มีคุณสมบัติในการเกิ ดฟิ ชชันได้เช่ นเดี ยวกับยูเรเนี ยม-235 ขอให้ดูตวั เลขของ
พลูโทเนี ยม-239 ในตาราง 2.1 ด้วยเหตุน้ ี พลูโทเนี ยม-239 ที่เกิดขึ้นใหม่น้ ี ก็จะไปช่วยให้เกิดฟิ ชชันเพิ่มขึ้น
นอกเหนือจากที่เกิดกับยูเรเนียม-235
ยูเรเนี ยม-235 และพลูโทเนี ยม-239 แม้จะสามารถก่อให้เกิดฟิ ชชันได้เหมือนกัน แต่การได้มานั้น
ต่างกัน นัน่ คือ ยูเรเนียม-235 มีอยูใ่ นธรรมชาติ ส่ วนพลูโทเนียม-239 เราต้องผลิตขึ้นมา
ตอนนี้ พอสรุ ปขั้นสุ ดท้ายแล้วว่าภายในแท่งเชื้ อเพลิงที่เรานําไปใช้ก่อนการเกิ ดฟิ ชชันจะมีเพียง
ยูเรเนี ยม-235 กับยูเรเนี ยม-238 เท่านั้น แต่พอเกิดฟิ ชชันแล้วก็จะมียเู รเนี ยม-235 ยูเรเนี ยม-238 พวกผลผลิต
การแบ่งแยกนิวเคลียส พวกผลผลิตการจับยึดนิวตรอนและพลูโทเนียม-239 อยูภ่ ายในท่อที่ปิดสนิทไม่มีทาง
แพร่ กระจายออกมาได้ จะส่ งออกมาภายนอกท่อก็เพียงรังสี ที่แผ่ออกมาและความร้อนเท่านั้น ด้วยเหตุน้ ี เอง
จึงมีการกล่าวว่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ เป็ นเชื้อเพลิงที่สะอาดที่สุด ไม่มีฝุ่นละอองฟุ้ งกระจาย
ไม่มีการปล่อยแก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์ ไม่มีการปล่อยแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไม่มีควัน ฯลฯ ที่ไปก่อให้
สิ่ งแวดล้อมสกปรก
ที่กล่าวมานี้ เป็ นพวกแรกที่อยู่ในสมการฟิ ชชันทางด้านขวามือ สําหรับตัวต่อไปที่จะกล่าวถึงคือ
นิวตรอนที่เกิดจากฟิ ชชันหรื อที่มีชื่อเรี ยกเฉพาะว่าฟิ ชชันนิวตรอน (fission neutrons)
ฟิ ชชันนิวตรอนนี้ประกอบด้วยนิวตรอนที่มีพลังงานหลายพลังงานปนอยู่ โดยพบว่าจะมีมากที่สุดที่
พลังงานประมาณ 0.7 เอ็มอีวี และมีค่าเฉลี่ยที่พลังงาน 2 เอ็มอีวี ซึ่ งถือว่าเป็ นพวกที่มีพลังงานสู ง ซึ่งยากที่จะ
ไปทําให้เกิดฟิ ชชันต่อไปเพราะเท่าที่เราทราบมาแล้ว นิ วตรอนที่จะไปทําให้เกิดฟิ ชชันได้มากที่สุดคือเทอร์
มัลนิ วตรอนและนิ วตรอนที่มีพลังงานตํ่าๆ ซึ่ งก็เป็ นปั ญหาเดียวกับที่กล่าวแล้วในเรื่ องนิ วตรอนที่ได้จากต้น
กําเนิดนิวตรอนที่จะใช้เป็ นตัวนิวตรอนเริ่ มแรกในการเกิดฟิ ชชัน
เราจะทําอย่างไรถึงจะแก้ปัญหานี้ ได้ ผูอ้ ่านคิดออกหรื อยัง เพราะเคยให้คิดเรื่ องนี้ แล้วตอนพูดถึง
นิวตรอนจากต้นกําเนิดนิวตรอน
พักเรื่ องปั ญหานี้ ไว้ก่อน เรามาดูกนั ต่อไปถึงตัวสุ ดท้ายของสมการฟิ ชชันด้านขวามือ คือพลังงานที่
ได้ออกมา ซึ่งคือตัว E ในสมการ
จากที่เคยกล่าวมาแล้วตอนพูดถึงสมการของไอน์สไตน์วา่ พลังงานที่ได้จากการเกิดฟิ ชชันต่อครั้งนั้น
ประมาณ 200 เอ็มอีวี พลังงานจํานวนนี้ คาํ นวณได้จากการที่มวลหายไปเมื่อมีปฏิกิริยาฟิ ชชันเกิดขึ้นผูเ้ ขียน
พบหนังสื อเล่มหนึ่งเขาได้แยกพลังงาน 200 เอ็มอีวีน้ ีวา่ เป็ นพวกไหนบ้าง ดังนี้
บทที่ 2 ฟิ ชชัน(Fission) 28
3.1 จากบทที่ 2 ถือว่าเรามีตน้ กําเนิ ดนิ วตรอนที่แผ่นิวตรอนพลังงานสู งหรื อนิ วตรอนเร็ วออกมาอยู่
ในครอบครองแล้ว
3.7 แท่งเชื้ อเพลิงเมื่อเกิ ดฟิ ชชันแล้วจะเป็ นต้นกําเนิ ดรั งสี ที่แรงมาก รังสี มาจากไหนล่ะ ก็มาจาก
ยูเรเนี ยม-235 ยูเรเนี ยม-238 ผลผลิตการแบ่งแยกนิ วเคลียส ผลผลิตจากการจับยึดนิ วตรอน นอกจากนี้ ก็จะมี
รังสี แผ่ออกจากโลหะที่จบั ยึดนิ วตรอนแล้วกลายเป็ นโลหะที่แผ่รังสี ดว้ ยโลหะพวกนี้ ได้แก่ กระบอกแท่ง
เชื้ อเพลิง โครงสร้ างจับยึดแท่งเชื้ อเพลิง แท่นยึดชุ ดเชื้ อเพลิง ตลอดจนอุปกรณ์ อื่นๆ ที่อยู่ในอาณาเขตที่
นิวตรอนสามารถวิ่งชนได้
สําหรับรังสี ที่แผ่ออกจากสิ่ งต่างๆ ที่กล่าวถึงข้างบนนี้ ถือว่าเป็ นรังสี ที่แผ่ออกจากนิวไคลด์รังสี หรื อ
ให้เจาะจงจริ งๆ คือ จากนิวเคลียสที่ไม่เสถียร ซึ่งมีรังสี ที่สาํ คัญที่มีการกล่าวถึงเสมออยู่ 3 ชนิด คือ
3.7.1 รังสี แอลฟา (alpha ray) เป็ นกระแสของอนุภาคแอลฟา (alpha particles) อนุภาค
แอลฟาประกอบด้วยโปรตอน 2 ตัว กับนิวตรอน 2 ตัว ซึ่งมีลกั ษณะเดียวกับนิวเคลียสของฮีเลียม-4 ดังนั้นจะ
เห็นว่านิวเคลียสที่ปล่อยอนุภาคแอลฟาออกไปแล้ว ตัวเองจะกลายเป็ นนิวเคลียสของธาตุใหม่ทนั ที เนื่องจาก
โปรตอนหายไป 2 ตัว และนิวตรอนก็หายไป 2 ตัวด้วย ตัวอย่าง
238
92U → 234
90Th + 4
2 He
(ยุเรี ยม-238) (ทอเรี ยม-234) (แอลฟา)
3.10 จากที่ ก ล่ า วมาแล้ว ตั้ง แต่ ข อ้ 3.1 ถึ ง 3.9 นั้น ถื อ ว่า เป็ นสิ่ ง ที่ ต ้อ งมี ใ นการที่ จ ะนํา พลัง งาน
นิวเคลียร์จากการเกิดฟิ ชชันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติดว้ ยความปลอดภัย ซึ่ งนักวิทยาศาสตร์ และ
วิศวกรก็ได้ใช้ความรู ้จากสิ่ งเหล่านี้ นาํ มาประกอบรวมเข้าด้วยกันเป็ นเครื่ องมือหรื ออุปกรณ์สําหรับทําให้
ฟิ ชชันเกิดขึ้นแล้วนําไปสู่ การเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ โดยสามารถควบคุมได้และมีความปลอดภัยต่อผูป้ ฏิบตั ิงาน
และประชาชนทัว่ ไป เราเรี ยกเครื่ องหรื ออุปกรณ์น้ ี ว่า “เครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (Nuclear Reactor)” หรื อบาง
คนเรี ยก “เครื่ องปฏิกรณ์ปรมาณู (Atomic Reactor)” และมีการเรี ยกสั้นๆว่า “เครื่ องปฏิกรณ์ (Reactor)”
สรุ ปเครื่ องปฏิกรณ์ นิวเคลียร์ หรื อเครื่ องปฏิกรณ์ปรมาณู หรื อเครื่ องปฏิกรณ์ จะมีส่วนประกอบที่
สําคัญคื อต้นกําเนิ ดนิ ว ตรอน แท่งเชื้ อเพลิ งหรื อชุ ดเชื้ อเพลิ ง ตัวหน่ วงความเร็ ว (นิ วตรอน) ตัวสะท้อน
(นิวตรอน) ตัวทําให้เย็น แท่งควบคุม ตัวป้ องกัน (ตัวกําบัง) ระบบควบคุม ระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์
โครงสร้างต่างๆ
ในการออกแบบเครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ นั จะต้องมีการคํานวณ ออกแบบ การจัดรู ปทรง การวาง
ตําแหน่งขององค์ประกอบต่างๆ และจะต้องมีการคํานวณหาปริ มาณของยูเรเนียมที่จะใช้ดว้ ยว่าจะใช้จาํ นวน
เท่าไรจึงจะสามารถเดินเครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้
ทําไมต้องคิดถึงเรื่ องนี้ดว้ ย
การที่ตอ้ งคิดถึงเรื่ องนี้กเ็ พราะว่าถ้าใช้จาํ นวนยูเรเนียมไม่มากพอ แม้จะเกิดฟิ ชชันได้แต่กไ็ ม่สามารถ
เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่แบบทวีคูณตลอดไปได้ ทั้งนี้เพราะนิวตรอนที่เกิดจากฟิ ชชันนั้นบางตัวจะถูกดูดกลืนโดย
วัตถุที่อยูร่ อบๆ และบางตัวจะวิ่งกระจัดกระจายออกนอกบริ เวณจนเหลือนิวตรอนน้อยกว่าพวกที่ก่อให้เกิด
ฟิ ชชันก่อนหน้านั้น
ในทางวิชาการมีค่าอยู่ค่าหนึ่ งเรี ยกว่าตัวประกอบพหุ คูณ (multiplication factor) ซึ่ งหมายถึง
อัตราส่ วนของจํานวนนิ วตรอนที่ เหลืออยู่ที่จะไปก่ อให้เกิ ดฟิ ชชันต่อไปได้ หลังจากที่นิวตรอนอื่ นๆถูก
ดูดกลืน วิ่งกระจัดกระจายหนี ออกจากระบบไปแล้วต่อจํานวนนิ วตรอนที่ก่อให้เกิ ดฟิ ชชันในรุ่ นก่อนหน้า
นั้น
บทที่ 3 เครื่ องปฎิกรณ์นิวเคลียร์(Nuclear Reactor) 34
เทอร์มลั (Thermal Reactor)” แต่ถา้ ใช้นิวตรอนเร็ วเป็ นตัวทําให้เกิดฟิ ชชัน ก็เรี ยกว่า “เครื่ องปฏิกรณ์เร็ ว (Fast
Reactor)”
มีการแบ่งอีกอย่างโดยยึดถือตัวทําให้เย็นเป็ นหลัก เช่น ถ้าใช้น้ าํ ธรรมดาก็เรี ยกว่า “เครื่ องปฏิกรณ์น้ าํ
ธรรมดา” หรื อ “เครื่ องปฏิกรณ์น้ าํ มวลเบา (Light Water Reactor)” แต่ถา้ ใช้น้ าํ มวลหนักก็เรี ยกว่า “เครื่ อง
ปฏิกรณ์น้ าํ มวลหนัก (Heavy Water Reactor)” และถ้าใช้แก๊สก็เรี ยกว่า “เครื่ องปฏิกรณ์ใช้แก๊สทําให้เย็น
(Gas Cooled Reactor)”
เครื่ องปฏิกรณ์ในแต่ละกลุ่มก็มีการแบ่งเรี ยกชื่อย่อยๆ ไปอีกตามลักษณะเฉพาะตามแบบของเครื่ อง
นั้นๆ เช่น เครื่ องปฏิกรณ์อุณหภูมิสูงใช้แก๊สทําให้เย็น (High Temperature Gas Cooled Reactor = HTGR)
เครื่ องปฏิกรณ์ใช้แก๊สทําให้เย็นแบบก้าวหน้า (Advanced Gas Cooled Reactor = AGR) เครื่ องปฏิกรณ์ใช้
โซเดียมเหลวทําให้เย็น (Sodium Cooled Reactor) เครื่ องปฏิกรณ์แบบนํ้าเดือด (Boiling Water Reactor =
BWR) เครื่ องปฏิกรณ์แบบนํ้าอัดความดัน (Pressurized Water Reactor = PWR) เครื่ องปฏิกรณ์ผลิตเชื้อเพลิง
(Breeder Reactor) เป็ นต้น
เครื่ องปฏิกรณ์เมื่อเดินเครื่ องไปนานๆ ยูเรเนี ยม-235 ในชุดเชื้อเพลิงก็จะถูกใช้ไปจนเหลือน้อยลง
เรื่ อยๆ จําเป็ นต้องมีการนําออกจากเครื่ องปฏิกรณ์แล้วใส่ ชุดใหม่เข้าไปแทนที่ อาจมีการสลับตําแหน่งของ
ชุดเชื้ อเพลิงที่ยงั ไม่ได้เอาออกด้วย การเปลี่ยนชุ ดเชื้ อเพลิงนี้ ทาํ ได้สองวิธีแล้วแต่การออกแบบของเครื่ อง
ปฏิกรณ์
ถ้าการเปลี่ยนชุดเชื้อเพลิงกระทําได้โดยไม่ตอ้ งดับเครื่ องปฏิกรณ์ เราเรี ยกเครื่ องปฏิกรณ์แบบนี้ ว่า
“เครื่ องปฏิกรณ์ออนโลด (On-load Reactor) แต่ถา้ การเปลี่ยนชุดเชื้อเพลิงต้องมีการดับเครื่ องแล้วปิ ดฝา
ตัวเครื่ องปฏิกรณ์ เราก็เรี ยกว่า “เครื่ องปฏิกรณ์ออฟโลด (Off-load Reactor)
ที่กล่าวมาในบทที่ 3 นี้หวังว่าผูอ้ ่านคงพอเข้าใจเรื่ องเครื่ องปฏิกรณ์โดยทัว่ ๆ ไปพอเป็ นสังเขป
จากบทที่ 1-3 เราได้รู้เ รื่ อ งโครงสร้ า งอะตอม รู ้ อ งค์ป ระกอบของโรงไฟฟ้ า รู ้ ร ายละเอี ย ดของ
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เรี ยกว่าฟิ ชชัน รู ้ถึงองค์ประกอบของเครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ซึ่งเป็ นอุปกรณ์ที่เราใช้เพื่อ
ควบคุมการเกิดฟิ ชชันและปฏิกิริยาลูกโซ่ให้เป็ นไปตามที่เราต้องการ และเกิดความปลอดภัยต่อผูป้ ฏิบตั ิงาน
และประชาชนทัว่ ไป รู ้เรื่ องการได้มาซึ่ งแท่งเชื้อเพลิงและชุดเชื้อเพลิงยูเรเนี ยมเสริ มสมรรถนะ ตลอดจนรู ้
ความหมายและรู ้จกั ศัพท์ทางนิวเคลียร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
สําหรับบทที่ 4 นี้ ผูเ้ ขียนจะคุยกับผูอ้ ่านถึงเครื่ องปฏิกรณ์ที่ใช้ในโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ ว่าเขาออกแบบ
กันอย่างไร โดยจะพูดเฉพาะเครื่ องปฏิกรณ์ที่ใช้น้ าํ ธรรมดาเป็ นตัวทําให้เย็นเป็ นหลัก
ก่อนจะคุยเรื่ องดังกล่าว ผูเ้ ขียนขอแนะนําศัพท์อีกหนึ่งคํา คือ แกนเครื่ องปฏิกรณ์ (reactor core) ซึ่ง
เป็ นคําใช้เรี ยกส่ วนที่มีชุดเชื้อเพลิงติดตั้งอยู่ ซึ่ งก็รวมถึงแท่งควบคุม ตัวสะท้อนนิ วตรอน อุปกรณ์วดั ต่างๆ
รวมกันอยูห่ รื อพูดง่ายๆ คือ ส่ วนที่มีการเกิดฟิ ชชันนัน่ เอง
สําหรั บโรงไฟฟ้ านิ วเคลี ยร์ ที่จะกล่าวถึงนี้ เครื่ องปฏิกรณ์ที่ใช้จะเป็ นแบบปิ ด นั่นคือ แกนเครื่ อง
ปฏิกรณ์จะถูกบรรจุ อยู่ในภาชนะรู ปทรงกระบอกกลม ทําด้วยเหล็กกล้าชนิ ดพิเศษ หนาประมาณ 20-30
เซนติเมตร เพื่อให้ทนความดัน การกัดกร่ อน และอุณหภูมิสูง มีเส้นผ่าศูนย์กลางภายในประมาณ 3-6 เมตร
ความสู งประมาณสิ บกว่าเมตร ภาชนะดังกล่าวนี้ มีชื่อเรี ยกว่า Reactor Pressure Vessel หรื อเรี ยกสั้นๆ ว่า
Reactor Vessel คํานี้ ยงั ไม่มีการแปลเป็ นภาษาไทยแบบทางการ ด้วยเหตุน้ ี ผเู ้ ขียนจึงขอใช้คาํ ว่า “ภาชนะ
บรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์” ไปก่อน
ภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์น้ ี จะมีฝาปิ ดด้านบน เพื่อว่าเมื่อต้องการเปลี่ยนชุดเชื้อเพลิงและการ
ซ่อมบํารุ ง เขาจะยกฝาที่ปิดนี้ ออก เมื่อดําเนิ นการเสร็ จก็จะยกกลับไปปิ ดสนิทดังเดิม นอกจากนี้ดา้ นข้างของ
ภาชนะดังกล่าวนี้จะมีท่อให้ตวั ทําให้เย็นไหลเข้าและท่อให้ตวั ทําให้เย็นไหลออก นอกจากนั้นจะมีช่องหรื อรู
อาจจะด้านบนฝาหรื อด้านก้นภาชนะ เพื่อสอดใส่ แกนยึด แท่งควบคุม และอุปกรณ์การวัดต่างๆ ด้วย ซึ่ ง
แน่นอน ช่องต่างๆ เหล่านี้รวมทั้งที่ฝาปิ ดจะต้องมีระบบปิ ดผนึ กที่ดีเลิศ ไม่ให้มีอะไรจากภายในรั่วซึมออกสู่
ภายนอกจากภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์ได้ จะมีท่อออกมาได้ก็ตรงท่อให้ตวั ทําให้เย็นไหลเข้าออกเพื่อ
ระบายความร้อนและท่อให้น้ าํ ไหลเข้ากรณี ฉุกเฉินเมื่อระบบปกติขดั ข้องแค่น้ นั
ภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์ น้ ี เองทําตัวเหมือนหม้อผลิตไอนํ้าของโรงไฟฟ้ าธรรมดาทัว่ ๆไป
นัน่ เอง นัน่ คือ เมื่อเกิดฟิ ชชันในแท่งเชื้อเพลิง ความร้อนที่เกิดขึ้นจะแผ่ออกทางผิวของท่อแท่งเชื้อเพลิง ซึ่ ง
จะถูกระบายออกโดยตัวทําให้เย็นที่ไหลเข้ามา ซึ่งตัวทําให้เย็นตอนไหลเข้าอุณหกภูมิจะไม่สูง แต่ตอนไหล
ออกจะเป็ นไอนํ้าร้อนที่มีอุณหภูมิและแรงดันสูงมาก ซึ่งสิ่ งนี้เองที่นาํ ไปทําให้เทอร์ไบน์หรื อกังหันหมุนแล้ว
แกนเครื่ องกําเนิดไฟฟ้ าก็หมุนตามผลิตกระแสไฟฟ้ าออกมา
สําหรับวิธีการนําไอนํ้าร้อนจากภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์ไปหมุนเทอร์ ไบน์และเครื่ องกําเนิด
ไฟฟ้ านั้นมีการออกแบบแตกต่างกันไปแล้วแต่บริ ษทั ผูผ้ ลิต ซึ่ งจะกล่าวถึงในบทที่ 5 มาถึงตรงนี้ ผูอ้ ่านจะ
บทที่ 4 เครื่ องปฎิกรณ์ในโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 37
โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ ประเภทนี้ ใช้น้ าํ ธรรมดาเป็ นตัวหน่ วงความเร็ วนิ วตรอนและตัวทําให้เย็น โดย
การออกแบบให้น้ าํ เดื อดและกลายเป็ นไอนํ้าร้อนในภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์แล้วส่ งออกไปหมุน
เทอร์ ไบน์หรื อกังหันโดยตรงเลย แล้วจากนั้นก็ให้ไหลผ่านเครื่ องควบแน่ นและถ่ายเทความร้อนให้ไอนํ้า
ร้อนกลับเป็ นนํ้าที่เย็นลง แล้วให้ไหลกลับเข้าสู่ ภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์เพื่อให้กลายเป็ นไอนํ้าร้อน
ส่ งไปหมุนเทอร์ ไบน์อีก ซึ่ งนํ้าพวกนี้ จะหมุนเวียนอย่างนี้ ไปเรื่ อยๆตลอดการเดินเครื่ อง ขอให้ผอู ้ ่านเข้าใจ
ด้วยว่าการไหลของนํ้าที่ผ่านแกนเครื่ องปฏิกรณ์และเทอร์ ไบน์จะอยู่ในระบบที่ปิดสนิ ทของตนเอง ไม่ได้
สัมผัสกับนํ้าที่ใช้ถ่ายเทความร้อนเลย หรื อพูดง่ายๆ นํ้าที่ไหลผ่านแกนเครื่ องปฏิกรณ์และเทอร์ ไบน์กบั นํ้าที่
ใช้สาํ หรับที่เครื่ องถ่ายเทความร้อนอยูค่ นละวงจรไม่ได้สัมผัสกันเพราะพวกหนึ่ งไหลอยูใ่ นท่ออีกพวกหนึ่ ง
ไหลอยูน่ อกท่อ
จากที่อธิบายข้างบนนั้น จะเห็นว่าการทําให้เทอร์ไบน์หมุนนั้นโรงไฟฟ้ าแบบนี้ใช้น้ าํ ไหลเวียนเพียง
วงจรเดียวหรื อพูดว่าเป็ นแบบหนึ่งระบบ
บทที่ 5 แบบโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 39
โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ ประเภทนี้ ใช้น้ าํ ธรรมดาเป็ นตัวหน่ วงความเร็ วนิ วตรอนและตัวทําให้เย็น โดย
การออกแบบไม่ให้ไอนํ้าร้อนจากภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์ไปหมุนเทอร์ ไบน์โดยตรงเหมือนแบบ
เครื่ องปฏิกรณ์น้ าํ เดือด แต่จะออกแบบให้มี 2 ระบบหรื อ 2 วงจร นัน่ คือวงจรแรกเป็ นวงจรของนํ้าที่ผา่ นแกน
เครื่ องปฏิกรณ์ ซึ่งจะร้อนมากภายใต้ความดันที่สูงแต่น้ าํ ไม่เดือด แล้วไหลผ่านท่อในเครื่ องกําเนิดไอนํ้าร้อน
แล้วไหลกลับเข้าสู่ ภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์หมุนเวียนกันแบบนี้ในวงจรปิ ดของตัวเอง ส่ วนอีกวงจร
บทที่ 5 แบบโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 40
อาคารปฏิกรณ์
อาคารกังหันไอนํา้
เครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แบบใหม่ชนิ ดนี้ ออกแบบให้มี 2 วง (loop) ของ PWR ที่ใช้กนั มากใน
ปั จจุบนั ขนาดกําลัง 1117 MWe ออกแบบใช้ระบบควบคุมความปลอดภัยแบบ Passive คือใช้ระบบระบาย
ความร้อนแบบธรรมชาติ (Natural Circulation) และ gravity โอกาสจะเกิดการผิดพลาดจากการปฏิบตั ิงาน
ของบุคคลหรื อเครื่ องมือลดลง เนื่ องจากการออกแบบใช้ระบบต่างๆ หลายชนิ ดแต่ละชนิ ดประกอบด้วย
อุปกรณ์หลายชุด (Redundancy) ลดจํานวนอุปกรณ์ ระบบท่อ ปั้ ม ประตูน้ าํ การเดินสายไฟฟ้ า มีระบบ
ควบคุมความปลอดภัยที่เรี ยกว่า PCCS (Passive Core Cooling System) คล้ายๆ กับระบบ ECCS
(Emergency Core Cooling System) ของเครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบ PWR
บทที่ 5 แบบโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 44
http://www.nrc.gov/reactors/new-licensing/design-cert/esbwr.html
6.3 ปรัชญาความปลอดภัย
ในการออกแบบการก่อสร้างและการเดินเครื่ องปฏิกรณ์มีหลักการความปลอดภัย 3 ประการที่ตอ้ ง
ปฏิบตั ิเพื่อให้สาธารณชนและสิ่ งแวดล้อมมีความเสี่ ยงน้อยที่สุด
• เครื่ องปฏิกรณ์ตอ้ งควบคุมพลังงานที่เกิดขึ้นได้ โดยการควบคุมความร้อนที่เกิดขึ้นได้
• เชื้อเพลิงนิ วเคลียร์ ตอ้ งหล่อเย็นเสมอ โดยมีการระบายความร้อนทั้งในการเดินเครื่ องปกติ
หรื อในกรณี ดบั เครื่ อง
• สารกัมมันตรังสี ที่เกิดขึ้นถูกเก็บไว้มิดชิดเพื่อป้ องกันสารรังสี มิให้รั่วสู่สิ่งแวดล้อม
การดําเนินการความปลอดภัย มีหลักเกณฑ์ตามแนวทางสากลที่ตอ้ งปฏิบตั ิ ดังนี้คือ
• การเลือกสถานที่ก่อสร้าง
• การออกแบบ
• การผลิตและการก่อสร้าง
• การเดินเครื่ องและการซ่อมบํารุ ง
• การกํากับดูแลความปลอดภัย
• ระบบความปลอดภัยทางวิศวกรรม
• ระบบเสริ มความปลอดภัย
รู ปที่ 6.1 สิ่ งปิ ดกั้น 5 ชั้น ของโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ชนิด PWR และ BWR
แท่ งเชื้อเพลิงบรรจุเม็ดเชื้อเพลิงมัดรวมกัน
เป็ นชุ ดเชื้อเพลิง( Fuel Assemblies)
6.8 ระบบความปลอดภัยทางวิศวกรรม
• การควบคุมพลังงานทางด้านวิศวกรรม
• ระบบควบคุมพลังงาน (Reactor Regulating System - RRS)
• เป็ นการควบคุมพลังงานของเครื่ องปฏิกรณ์ในภาวะปกติ
• การดับเครื่ อง (Shutdown System - SDS)
เป็ นการลดพลัง งานปริ ม าณมากลงอย่า งรวดเร็ ว (ในภาวะไม่ ป กติ ) เพื่ อ ทํา ให้เ ครื่ อ งปฏิ ก รณ์
กลายเป็ นสภาวะตํ่ากว่าจุดวิกฤตในทันที หรื อการดับเครื่ องในกรณี เกิดการไม่สมดุลอย่างรุ นแรงของการ
ผลิตความร้อน
บทที่ 6 ความปลอดภัยของโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 52
6.9 ระบบความปลอดภัย
ระบบระบายความร้อนฉุกเฉิน (Emergency Core Cooling System : ECCS)
เป็ นระบบที่รักษาหรื อสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดการหล่อเย็นของเม็ดเชื้อเพลิงและชุดเชื้อเพลิง ในกรณี
ที่เกิ ดอุบตั ิเหตุการสู ญเสี ยตัวทําให้เย็น (LOCA) เพื่อจํากัดการปลดปล่ อยผลผลิ ตการแบ่งแยกนิ วเคลี ยส
(Fission Products) ออกจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ หรื อป้ องกันชุดเชื้อเพลิงให้คงสภาพเดิม ระบบ ECCS จะถูก
กระตุน้ ให้ทาํ งานก็ต่อเมื่อ
1. ความดันของระบบการถ่ายเทความร้อนลดลงตํ่ากว่าค่าที่กาํ หนด
2. ความดันภายในอาคารมีคา่ สูงขึ้น
3. เกิดภาวะความดันตํ่าที่ช่องนํ้าออกจากเครื่ องปฏิกรณ์
การจัดการเชื้อเพลิงใช้แล้วจากโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์
โรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ ขนาดกําลัง 1000 เมกะวัตต์ (ไฟฟ้ า) ในหนึ่ งปี จะมีเชื้อเพลิงใช้แล้วเกิดขึ้น 27-30
ตัน ซึ่งมีระดับรังสี สูงมากและมีอายุยาวนาน ในแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว จะมีส่วนประกอบของธาตุต่างๆ ดังนี้
U-238 95%
U-235 1%
Pu-239 1%
บทที่ 6 ความปลอดภัยของโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 54
แท่ งเชื้อเพลิงใหม่
รู ปที่ 6.6 บ่อนํ้าที่เก็บเชื้อเพลิงใช้แล้ว รู ปที่ 6.7 ที่เก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใหม่
บทสรุป
โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ มีอนั ตรายหรื อไม่ คําตอบคื อ มี แต่สิ่งที่ จะก่ อให้เกิ ดอันตรายนั้นเราสามารถ
ควบคุมได้ให้อยูใ่ นสภาพที่มีความปลอดภัยต่อผูป้ ฏิบตั ิงานและประชาชนทัว่ ไปได้ รวมทั้งให้มีผลกระทบ
ต่อสิ่ งแวดล้อมน้อยที่สุด
รั บรองได้ไหมว่าจะปลอดภัยร้ อยเปอร์ เซ็ นต์ คําตอบคงจะรั บรองไม่ได้ว่ามี ความปลอดภัยร้ อย
เปอร์ เซ็นต์ โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ ก็เหมือนกิจการอื่นๆ ที่มีในโลกที่ไม่มีใครรับประกันว่าสิ่ งนั้นปลอดภัยร้อย
เปอร์ เซ็นต์ เพียงแต่กล่าวได้ว่าโอกาสที่โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ จะก่อให้เกิ ดอันตรายถึงชี วิตนั้นน้อยมากกว่า
มากๆ เมื่อเทียบกับการเสี ยชีวิตจากอุบตั ิเหตุทางรถยนต์
เมื่ อ มี ก ารพูด ถึ ง ความปลอดภัย ของโรงไฟฟ้ านิ ว เคลี ย ร์ จ ะมี ก ารอ้า งถึ ง อุ บ ัติ เ หตุ ข องโรงไฟฟ้ า
นิวเคลียร์เชอร์โนบิล ดังนั้นเพื่อให้ผอู ้ ่านได้ทราบถึงอุบตั ิเหตุที่เกิดขึ้นจึงขอเล่าพอสังเขป
อุบตั ิเหตุที่โรงไฟฟ้ าเชอร์ โนบิลนั้นไม่ได้เกิดจากการเดิ นเครื่ องตามปกติ แต่เกิดจากการที่มีกลุ่ม
นักวิทยาศาสตร์ ตอ้ งการทําการทดลอง ในกรณี ที่เกิ ดไฟฟ้ าดับในโรงไฟฟ้ ากังหันไฟฟ้ าจะสามารถผลิ ต
กระแสไฟฟ้ าด้วยแรงเฉื่ อยของตัวเองเพื่อจ่ายไฟฟ้ าให้ปั๊มระบายความร้อนฉุกเฉิ นในระยะสั้นๆ ได้เพียงพอ
หรื อไม่ การทดลองได้ตดั ระบบความปลอดภัยออกทั้งหมด ซึ่ งเป็ นการจงใจฝ่ าฝื นกฎระเบียบด้านความ
ปลอดภัยของการเดินเครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ประกอบกับโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์เชอร์โนบิลนี้มีขอ้ บกพร่ องใน
การออกแบบที่ไม่เป็ นมาตรฐานสากลและไม่เหมาะสมสําหรับการทดลองดังกล่าว ขณะการทดลองได้ดึง
แท่งควบคุมขึ้นเกือบทั้งหมด เครื่ องปฏิกรณ์อยู่ในสภาวะไม่คงตัวมีกาํ ลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว ไม่สามารถ
ควบคุมได้ความร้อนที่เกิดขึ้นอย่างสู งมากทําให้เชื้อเพลิงแตกออกทําปฏิกิริยากับนํ้าเกิดแรงดันไอนํ้าสู งมาก
จนภาชนะบรรจุแกนเครื่ องปฏิกรณ์ทนแรงดันไม่ได้จึงเกิดการระเบิดและเกิดไฟไหม้ในเวลาต่อมา การเกิด
การระเบิดแบบนี้ เหมือนการเกิ ดระเบิดของหม้อนํ้าของโรงงานอุตสาหกรรมทัว่ ไปไม่ใช่ การระเบิดแบบ
ระเบิดนิ วเคลียร์ ผลจากอุบตั ิเหตุทาํ ให้สารกัมมันตรังสี ที่อยู่ในแท่งเชื้อเพลิงแพร่ กระจายสู่ บรรยากาศและ
ขยายขอบเขตไปยังนานาประเทศได้ เนื่ องจากเครื่ องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบเชอร์ โนบิลไม่มีหลังคาคอนกรี ต
ขั้นสองที่เก็บกักสารกัมมันตรังสี ไม่ให้รั่วออกไปได้ในกรณี เกิดอุบตั ิเหตุเหมือนมาตรฐานในโลกตะวันตก
และที่สหรัฐอเมริ กาที่เกิดอุบตั ิเหตุหลอมละลายของแท่งเชื้อเพลิงที่ทรี ไมล์ไอส์แลนด์ แต่เหตุการณ์ถูกจํากัด
อยู่ภ ายในโรงไฟฟ้ า มี การแพร่ กระจายของสารกัมมัน ตรั งสี ออกสู่ ภายนอกเล็ก น้อยไม่ มีผลกระทบต่ อ
สิ่ งแวดล้อมและไม่มีบุคคลใดได้รับอันตรายถึงชีวิต
ประเทศไทยควรมีโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ หรื อไม่คาํ ตอบนี้ ผเู ้ ขียนขอออกความเห็นส่ วนตัวนัน่ คือถ้าคิด
ว่าจําเป็ นก็มีได้ ประเทศต่างๆ 31 ประเทศ ทัว่ โลกมีโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ ที่กาํ ลังเดินเครื่ องใช้งานอยู่ 439 โรง
และกําลังก่อสร้างอยู่ 35 โรง ประเทศฝรั่งเศส มีโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 59 โรง ใช้ไฟฟ้ าจากโรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์
มากที่ สุด คือ ร้ อยละ 78 ของไฟฟ้ าทั้งหมดรองลงมาคือประเทศลิธัวเนี ย สโลวัค เบลเยียม สวีเดน ซึ่ งมี
สัดส่ วนการผลิตไฟฟ้ าจากโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ร้อยละ 72, 57, 54, 40 ตามลําดับ
บทที่ 6 ความปลอดภัยของโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ 60
สํา หรั บ ในทวี ป เอเชี ย ซึ่ งมี ก ารใช้ง านโรงไฟฟ้ านิ ว เคลี ย ร์ ได้แ ก่ ประเทศญี่ ปุ่ น 55 โรง (กําลัง
ก่อสร้าง 1 โรง) เกาหลีใต้ 20 โรง (กําลังก่อสร้าง 3 โรง) อินเดีย 17 (กําลังก่อสร้าง 6 โรง) จีน 11 โรง (กําลัง
ก่อสร้าง 5 โรง) และมีประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม ที่อยูใ่ นแผนการก่อสร้างที่จะผลิตกระแสไฟฟ้ าได้ในอีก
10 ปี ข้างหน้า ส่ วนประเทศไทยมีโครงการที่อยู่ในแผนที่จะใช้โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ ผลิตกระแสไฟฟ้ าในปี
2563 ขณะนี้ อยูใ่ นระหว่างการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานและการสํารวจสถานที่ก่อสร้างที่เหมาะสม เพื่อการ
อนุมตั ิให้ดาํ เนินการต่อไป
บรรณานุกรม
1. ศัพทานุกรมนิวเคลียร์ 2547 . สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ
2. Herman Cember, Introduction to Health Physics, Pergamon Press ,1988
3. P.D. Wilson, The Nuclear Fuel Cycle from Ore to Waste, Oxford University Press, 1996
4. Colin Zimmerman, Kelvin Hesketh and Yousry Abushzdy, The Nuclear Fuel Cycle and Proliferation
Pathways Reactor, 1995
5. สารานุกรมไทยสําหรับเยาวชน เล่มที่ 28
6. เอกสารเผยแพร่ Mitsubishi Nuclear Plant
วิทติ เกษคุปต์
ประวัติย่อ
นายวิทิต เกษคุปต์ เรี ยนจบปริ ญญาตรี (เกี ยรตินิยม)ด้าน
ฟิ สิ กส์ จากจุ ฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และปริ ญญาโทด้านHealth
Physics จากUniversity of Rochester ประเทศสหรัฐอเมริ กา อดีต
เคยรั บราชการที่ สํานัก งานพลังงานปรมาณู เ พื่อสัน ติ (ปั จ จุ บ นั
เปลี่ยนชื่ อสํานักงานปรมาณู เพื่อสันติ ) โดยตําแหน่ งสุ ดท้ายคือ
ผูอ้ าํ นวยการกองสุ ข ภาพจากนั้น ได้เ ดิ น ทางไปทํา งานที่ ท บวง
การพลังงานปรมาณู ระหว่างประเทศ (IAEA) ที่กรุ งเวียนนา
ประเทศออสเตรี ยในตําแหน่ งผูต้ รวจด้านพิทกั ษ์ความปลอดภัย
เชื้อเพลิงนิงเคลียร์ (Nuclear Safeguards Inspector) จนเกษียณอายุเมื่อปี พ.ศ. 2542
ปั จจุบนั ได้ช่วยงานด้านนิ วเคลียร์ ของประเทศไทยโดยเป็ นกรรมการในคณะอนุ กรรมการกําหนด
มาตรฐานการรับรองเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี เป็ นสมาชิ กสมาคมนิ วเคลียร์ แห่ งประเทศไทย เป็ น
ผูบ้ รรยายด้านพลังงานนิวเคลียร์บางโอกาส
อารีรัตน์ คอนดวงแก้ ว
ประวัติย่อ
นายอารี รั ต น์ คอนดวงแก้ว เรี ยนจบปริ ญญาตรี ด้า น
ฟิ สิ กส์ จากมหาวิทยาลัยเชี ยงใหม่และปริ ญญาโทด้านนิ วเคลียร์
เทคโนโลยีจ ากจุ ฬ าลงกรณ์ ม หาวิท ยาลัย อดี ต เคยรั บ ราชการที่
สํานักงานพลังงานปรมาณู เพื่อสันติ (ปั จจุบนั เปลี่ยนชื่ อเป็ น
สํา นัก งานปรมาณู เ พื่ อ สั น ติ ) ตํา แหน่ ง สุ ด ท้า ยคื อ นัก นิ ว เคลี ย ร์
ฟิ สิ กส์ 8วช.
ปั จ จุ บ ั น ดํา รงตํา แหน่ ง ผู ้จ ั ด การศู น ย์ ฉ ายรั ง สี อัญ มณี
สถาบัน เทคโนโลยีนิวเคลี ยร์ แห่ งชาติ ( องค์การมหาชน) และได้
ช่ วยงานสมาคมนิ วเคลียร์ ในตําแหน่ งเลขาธิ การสมาคมนิ วเคลียร์
แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543 ถึงปั จจุบนั