Professional Documents
Culture Documents
ในคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมความปลอดภัย
มาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
- ร่าง -
มาตรฐานออกแบบ
และติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
วสท. XXXX-57
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
The Engineering Institute of Thailand under H.M. The King’s Patronage
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
มาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
I
คณะกรรมการอานวยการ
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ปี 2557-2559
1. ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก
2. รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อุปนายก คนที่ 1
3. ศ.ดร.เอกสิทธิ์ ลิ้มสุวรรณ อุปนายก คนที่ 2
4. รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อุปนายก คนที่ 3 และประธานกรรมการต่างประเทศ
5. รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ
6. ผศ.ศักดิ์ชัย สกานุพงษ์ เหรัญญิก
7. นางสาวบุษกร แสนสุข นายทะเบียน
8. ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประชาสัมพันธ์และโฆษก
9. รศ.ดร.อมร พิมานมาศ สาราณียกร
10. นายชัชวาล คุณค้้าชู กรรมการสิทธิและจรรยาบรรณ
11. รศ.ดร.ชวลิต รัตนธรรมสกุล ประธานกรรมการโครงการ
12. ศ.ดร.ปิติ สุคนธสุขกุล ปฏิคม
13. ผศ.ดร.คมสัน มาลีสี ประธานสมาชิกสัมพันธ์
14. นายไกร ตั้งสง่า ประธานกรรมการสวัสดิการ
15. ศ.ดร.ต่อกุล กาญจนาลัย กรรมการกลาง
16. รศ.ดร.สุขุม สุขพันธ์โพธาราม กรรมการกลาง
17. นายสืบศักดิ์ พรหมบุญ กรรมการกลาง
18. ดร.ชวลิต ทิสยากร กรรมการกลาง
19. นางจินตนา ศิริสันธนะ ประธานวิศวกรหญิง
20. นายประสิทธิ์ เหมวราพรชัย ประธานวิศวกรอาวุโส
21. ผศ.ดร.วิทิต ปานสุข ประธานยุววิศวกร
22. รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา
23. นายกิตติพงษ์ วีระโพธิ์ประสิทธิ์ ประธานสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
24. นายบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย ประธานสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
25. รศ.ดร.ตรีทศ เหล่าศิริหงษ์ทอง ประธานสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
26. นายสุรชัย พรจินดาโชติ ประธานสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่โลหะการและปิโตรเลียม
27. รศ.ดร.อัญชลีพร วาริทสวัสดิ์ หล่อทองค้า ประธานสาขาวิศวกรรมเคมี
28. ผศ.ยุทธนา มหัจฉริยวงศ์ ประธานสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
29. ดร.ก่อเกียรติ บุญชูกุศล ประธานสาขาวิศวกรรมยายนต์
30. นายพิศาล จอโภชาอุดม ประธานสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตรอ์
31. รศ.ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล (ผู้แทน) ประธานสาขาภาคเหนือ 1 (เชียงใหม่)
32. ดร.ก้าพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานสาขาภาคเหนือ 2 (พิษณุโลก)
33. นายชัยชาญ วรนิทัศน์ (ผู้แทน) ประธานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 (ขอนแก่น)
34. ศ.ดร.สุขสันติ์ หอพิบูลสุข ประธานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 (นครราชสีมา)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
II
คณะกรรมการสาขาวิศวกรรมความปลอดภัย
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ปี 2557-2559
1. นายเกชา ธีระโกเมน ที่ปรึกษา
2. นายจักรพันธ์ ภวังค์คะรัตน์ ที่ปรึกษา
3. พันต้ารวจเอกโชคชัย ยิ้มพงษ์ ที่ปรึกษา
4. พันต้ารวจเอกเทวานุวัฒน์ อนิรุทธเทวา ที่ปรึกษา
5. ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษา
6. นายลือชัย ทองนิล ที่ปรึกษา
7. นายสินิทธิ์ บุญสิทธิ์ ที่ปรึกษา
8. นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ที่ปรึกษา
9. นายสมบูรณ์ ธนาภรณ์ ที่ปรึกษา
10. นายวีระ ซื่อสุวรรณ ที่ปรึกษา
11. นางสาวบุษกร แสนสุข ประธานคณะกรรมการ
12. นายอุทัย ค้าเสนาะ รองประธานคณะอนุกรรมการ
13. นายกิตติ สุขุตมตันติ กรรมการ
14. นายศุภเชษฐ์ สมรูป กรรมการ
15. นายสมพงษ์ ไกรอุดม กรรมการ
16. นายสุกิตติ เจดีย์วุฒิ กรรมการ
17. นายบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย กรรมการ
18. ผศ.ดร.ณัฐศักดิ์ บุญมี กรรมการ
19. นายชาญณรงค์ ไวยพจน์ กรรมการ
20. รศ.ดร.ประกอบ สุรวัฒนาวรรณ กรรมการ
21. รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ กรรมการ
22. นายวิเชียร บุษยบัณฑูร กรรมการ
23. นายปิติ อนนตพันธ์ กรรมการและเลขานุการ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
III
คณะผู้จัดทา
มาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ปี 2557-2559
ที่ปรึกษา
1. ผศ.ถาวร อมตกิตติ์ กรรมการ
2. นายอารักษ์ บุญมา กรรมการ
3. นายพิชญะ จันทรนุวัฒน์ กรรมการ
คณะอนุกรรมการ
1. นายธวัช มีชัย ประธาน
2. นายสุพฒั น์ เพ็งมาก อนุกรรมการ
3. นายวินัย อนันต์ณัฏฐพงศ์ อนุกรรมการ
4. นายระวิ ดวงประเสริฐ อนุกรรมการ
5. นายพงศ์กฤษฎ์ ค้าราชา อนุกรรมการ
6. นายสุชาติ จงควินิต อนุกรรมการ
7. นายปานชนก เตมียเสน อนุกรรมการ
8. นายพรชัย บรรจงใหม่ อนุกรรมการ
9. ผศ.ดร.ส้าเริง ฮินท่าไม้ อนุกรรมการ
10. นายอภิวัฒน์ บัญชาจงรุรัตน์ อนุกรรมการ
11. นายวิทยา รักษ์พงษ์ อนุกรรมการ
12. ผศ.ชลชัย ธรรมวิวัฒนุกูร อนุกรรมการ
13. นายวิเชียร บุษยบัณฑูร อนุกรรมการ
14. นายธัมรัต พรหมเพ็ญรังษี อนุกรรมการและเลขานุการ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนดไฟฟ้า
IV
คานา
มาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า เป็นมาตรฐานที่ใช้เพื่อก้าหนดแนวทางการออกแบบและติดตั้ง
เครื่องก้าเนิดไฟฟ้า รวมทั้งระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เครื่องก้าเนิดไฟฟ้าสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าส้า รองได้
ตลอดเวลาขณะที่กระแสไฟฟ้าดับหรือขัดข้อง มาตรฐานเล่มนี้ก้าหนดตามเกณฑ์อย่างต่้าของความปลอดภัย ในกรณีที่
มีกฎหมายหรือข้อบังคับอื่นใดนอกเหนือจากมาตรฐานนี้ให้ท้าตามกฎหมายหรือข้อบังคับอื่นที่ก้าหนดไว้ นอกเหนือจาก
นั้นให้เป็นไปตามมาตรฐานออกแบบและติดตั้งนี้
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เห็นว่ามาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องก้าเนิดไฟฟ้ามี
ความส้าคัญเนื่องจากเครื่องก้าเนิดไฟฟ้ามีความเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยในชีวิตและความสะดวกสบายของมนุษย์
จึงได้จัดท้ามาตรฐานเล่มนี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการออกแบบและติดตั้งเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งประเทศเพื่อป้องกันความสับสน
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
V
สารบัญ
บทที่ 1. วัตถุประสงค์ ขอบเขต นิยาม และข้อกาหนดทั่วไป 1
บทที่ 2. ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ฐานแท่นเครื่องและความต้องการในการติดตั้ง 20
2.1 ห้องเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 20
2.2 ฐานแท่นเครื่อง 24
2.3 ต้าแหน่งติดตั้ง 25
บทที่ 3. มาตรฐานวัสดุและอุปกรณ์ติดตั้ง 26
3.1 เครื่องต้นก้าลัง 26
3.2 เครือ่ งก้าเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 34
3.3 ตู้ครอบเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า – Enclosures 38
บทที่ 4. มาตรฐานการติดตั้งทางเครื่องกล 40
4.1 แท่นรองรับความสั่นสะเทือน 40
4.2 ระบบท่อไอเสีย 42
4.3 ระบบระบายอากาศ (Ventilation system) ภายในห้องเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 44
4.4 ระบบระบายความร้อนด้วยน้้าหรือของเหลวระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขับเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 47
4.5 ระบบความร้อนของเครื่องยนต์ขับเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าด้วยน้้าหรือของเหลวระบายความร้อนแบบต่าง ๆ 48
4.6 ระบบน้้ามันเชื้อเพลิง 55
4.7 ระบบป้องกันเสียง (Soundproof System) ห้องเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 59
บทที่ 5. มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า 61
5.1 รูปแบบการติดตั้งทั่วไปส้าหรับระบบแรงดันต่้า 61
5.2 การจัดระดับชั้นของระบบจ่ายไฟฟ้ส้ารอง 64
5.3 เกณฑ์ทั่วไปประกอบการพิจารณาเบื้องต้นในการก้าหนดประเภทการจ่ายระบบไฟฟ้าส้ารอง 67
5.4 การเชื่อมต่อทางไฟฟ้าและการเดินสายไฟฟ้า 72
5.5 การป้องกันทางไฟฟ้า 72
5.6 ระบบสายดิน 74
5.7 อุปกรณ์สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟ 77
5.8 การขนานแหล่งจ่ายไฟเข้าระบบ 82
บทที่ 6. การทดสอบเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้า 83
6.1 การทดสอบเพื่อส่งมอบงาน (On site acceptance test) 83
6.2 การทดสอบประจ้าสัปดาห์ 84
6.3 การทดสอบประจ้าเดือน 84
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนดไฟฟ้า
VI
6.4 การทดสอบประจ้าปี 84
6.5 ทุก ๆ 3 ปี หรือ 36 เดือน 85
บทที่ 7. มาตรฐานการซ่อมบารุงรักษาเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้า 86
ภาคผนวก
ก. การใช้งาน ก้าลังและคุณสมบัติของเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 92
ข. การค้านวณต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 98
ค. สิ่งแวดล้อม (Environmental) 110
ง. การจัดวางระบบไฟฟ้าส้ารองฉุกเฉินส้าหรับสถานพยาบาล 120
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
VII
สารบัญรูป
บทที่ 2 ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ฐานแท่นเครื่องและความต้องการในการติดตั้ง 20
รูปที่ 2.1 แสดงการติดตั้งเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ 20
รูปที่ 2.2 แสดงการติดตั้งเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า และต้าแหน่งของอากาศเข้า 21
รูปที่ 2.3 แสดงการติดตั้งจ้านวนมากกว่า 1 ชุดและต้าแหน่งของช่องอากาศเข้า 22
รูปที่ 2.4 แสดงต้าแหน่งช่องอากาศเข้า-ออกที่เหมาะสม และไม่เหมาะสม 22
รูปที่ 2.5 แสดงการติดตั้งเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าบนฐานแท่นเครื่อง 25
บทที่ 3 มาตรฐานวัสดุและอุปกรณ์ติดตั้ง 26
รูปที่ 3.1 วงจรของระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ขับเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าด้วยไฟฟ้า 27
รูปที่ 3.2 การกระตุ้นเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าแบบ Self – excited 36
รูปที่ 3.3 การกระตุ้นเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าแบบ Separately – excited (PMG) 36
รูปที่ 3.4 รูปแบบของแรงดันไฟฟ้าขณะจ่ายโหลดและปลดโหลด 37
รูปที่ 3.5 คุณลักษณะการสตาร์ทมอเตอร์โดยตรง 38
บทที่ 4 มาตรฐานการติดตั้งทางเครื่องกล 40
รูปที่ 4.1 แสดงการติดตั้งเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าบนแท่นรองรับความสั่นสะเทือน 41
รูปที่ 4.2 ระบบท่อไอเสีย 44
รูปที่ 4.3 แสดงต้าแหน่งที่เหมาะสมของอากาศเข้าและอากาศออกจากห้องเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 45
รูปที่ 4.4 แสดงระดับอุณหภูมิโดยรอบขณะเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าท้างาน 46
รูปที่ 4.5 ระบบระบายความร้อนชนิดรังผึ้งระบายความร้อนติดตั้งอยู่บนแท่นเดียวกับเครื่องยนต์ 48
รูปที่ 4.6 ระบบระบายความร้อนชนิดรังผึ้งระบายความร้อนแยก (Remote radiator cooling) 49
รูปที่ 4.7 แสดงการติดตั้งรังผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกพร้อมด้วยเครื่องสูบและถังน้้า หรือของเหลวระบาย
ความร้อนช่วย (Remote radiator with auxiliary coolant pump and auxiliary tank) 50
รูปที่ 4.8 รังผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกพร้อมถัง (Hot well tank) และเครื่องสูบน้้า หรือของเหลวระบาย
ความร้อนช่วย (Auxiliary coolant pump) 51
รูปที่ 4.9 ระบบระบายความร้อนชนิดถังแลกเปลี่ยนความร้อนติดตั้งอยู่บนเครื่องยนต์ (Set-mounted heat
exchanger cooling) 54
รูปที่ 4.10 ระบบระบายความร้อนชนิดถังแลกเปลี่ยนความร้อนคู่ (Dual heat exchanger systemwith
secondary remote radiator) 55
รูปที่ 4.11 ระบบน้้ามันเชื้อเพลิงกรณีถังน้้ามันเชื้อเพลิงส้ารองอยู่สูงกว่าเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 58
รูปที่ 4.12 ระบบน้้ามันเชื้อเพลิงกรณีถังน้้ามันเชื้อเพลิงส้ารองอยู่ต่้ากว่าเครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 58
บทที่ 5 มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า 61
รูปที่ 5.1 เครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 1 ชุดติดตั้งเพื่อรองรับการจ่ายโหลดทั้งหมด 61
รูปที่ 5.2 เครื่องก้าเนิดไฟฟ้ามากกว่า 1 ชุดติดตั้งเพื่อรองรับการจ่ายโหลดทั้งหมด 62
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนดไฟฟ้า
VIII
รูปที่ 5.3 เครื่องก้าเนิดไฟฟ้า 1 ชนิดติดตั้งเพื่อส้ารองไว้ส้าหรับการจ่ายโหลดที่จัดไว้ 62
รูปที่ 5.4 เครื่องก้าเนิดไฟฟ้ามากกว่า 1 ชุดติดตั้งเพื่อส้ารองไว้ส้าหรับการจ่ายโหลดที่จัดไว้ 63
รูปที่ 5.5 ระบบ 3 เฟส 3 สาย อุปกรณ์สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟฟ้าอัตโนมัติชนิด 3 ขั้ว 74
รูปที่ 5.6 ระบบ 3 เฟส 4 สาย อุปกรณ์สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟอัตโนมัติชนิด 3 ขั้ว การต่อระบบสายดินจะต่อ
ที่เมนไฟฟ้าเข้าอาคารเพียงจุดเดียว 75
รูปที่ 5.7 ระบบ 3 เฟส 4 สาย อุปกรณ์สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟอัตโนมัติชนิด 4 ขั้ว การต่อระบบสายดินจะต่อที่
เมนไฟฟ้าเข้าอาคารที่เครื่องก้าเนิดไฟฟ้าส้ารอง 75
รูปที่ 5.8 การต่อลงดินของระบบจ่ายไฟแยกต่างหาก 76
รูปที่ 5.9 การต่อสายดินของเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าระบบ 1 เฟส 2 สาย 76
รูปที่ 5.10 ก. การต่อสายดินของเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าระบบ 1 เฟส 3 สาย 110 V/220 V 76
รูปที่ 5.10 ข. การต่อสายดินของเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าระบบ 1 เฟส 3 สาย 220 V 76
ภาคผนวก ก. การใช้งานกาลังและคุณสมบัติของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า 92
รูปที่ ก. 1 พิกัดก้าลังแบบต่อเนื่อง (Continuous power (COP) หรือ Base load power) 94
รูปที่ ก. 2 พิกัดก้าลังพร้อมใช้ (Prime power : PRP) 95
รูปที่ ก. 3 พิกัดก้าลังพร้อมใช้แบบจ้ากัดเวลา Limited-Time running Power (LTP) 96
รูปที่ ก. 4 พิกัดก้าลังส้ารองฉุกเฉิน (Emergency standby power : ESP) 96
ภาคผนวก ข. การคานวณต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบเครื่องกาเนิดไฟฟ้า 98
รูปที่ ข. 1 ตัวอย่างระบบท่อไอเสียส้าหรับการค้านวณ 105
รูปที่ ข. 2 กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความดันย้อนกลับของท่อเก็บเสียงไอเสียกับก๊าซไอเสีย (Typical
Muffler Exhaust Back Pressure vs. Gas Velocity) 106
รูปที่ ข. 3 กราฟแสดงค่าความดันย้อนกลับของท่อไอเสียขนาดต่าง ๆ (Exhaust Back Pressure in Nominal
Inch (mm) Pipe Diameters) 107
รูปที่ ข. 4 กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานและความยาวของสายแบตเตอรี่ (Resistance vs.
Lenth for Various AWG Cable Sizes) 108
ภาคผนวก ค. สิ่งแวดล้อม (Environmental) 110
รูปที่ ค. 1 ผังบริเวณสถานที่เก็บรักษาน้้ามันลักษณะที่หนึ่ง 113
รูปที่ ค.2 ผนังบริเวณสถานที่เก็บน้้ามันลักษณะที่สอง 115
ภาคผนวก ง. การจัดวางระบบไฟฟ้าสารองฉุกเฉินสาหรับสถานพยาบาล 120
รูปที่ ง. 1 การจัดวางระบบไฟฟ้า (System Arrangement) อย่างน้อยที่สุดส้าหรับสถานพยาบาลที่ใช้ไฟฟ้า
ไม่เกิน 150 kVA 120
รูปที่ ง.2 การจัดวางระบบไฟฟ้า (System Arrangement) อย่างน้อยที่สุดส้าหรับสถานพยาบาลที่ใช้ไฟฟ้า
เกิน 150 kVA 120
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
IX
สารบัญตาราง
บทที่ 3 มาตรฐานวัสดุและอุปกรณ์ติดตั้ง 26
ตารางที่ 3.1 ระบบสตาร์ทด้วยไฟฟ้าใช้สวิทช์โซลีนอยด์สั่งให้ชุดมอเตอร์สตาร์ทท้าการสตาร์ทเครื่งยนต์ 27
ตารางที่ 3.2 แสดงรายการอุปกรณ์แจ้งเตือนเพื่อความปลอดภัย ส้าหรับอุปกรณ์หรือวงจรไฟฟ้าในระดับ 1 30
บทที่ 4 มาตรฐานการติดตั้งทางเครื่องกล 40
ตารางที่ 4.1 ขนาดของท่อน้้ามันเชื้อเพลิงจะขึ้นอยู่กับอันตราการไหลสูงสุดของน้้ามันเชื้อเพลิงภายในท่อ 57
บทที่ 5 มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า 61
ตารางที่ 5.1 ประเภทของระบบการจ่ายไฟฟ้าส้ารอง 65
ตารางที่ 5.2 ระดับชั้นของระบบการจ่ายไฟฟ้าส้ารองให้โหลดเป็นระยะเวลาต่้าสุดโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง 65
ตารางที่ 5.3 เกณฑ์ทั่วไปประกอบการพิจารณาเบื้องต้นในการก้าหนดประเภทการจ่ายระบบไฟฟ้าส้ารอง
(Condensed General Criteria for Preliminary) 67
บทที่ 7 มาตรฐานการซ่อมบารุงรักษาเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้า 86
ตารางที่ 7.1 ค้าแนะน้าวิธีการซ่อมบ้ารุงรักษาและความถี่ในการซ่อมบ้ารุง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการซ่อมบ้ารุง
รักษาคร่าว ๆ กรณีไม่มีคู่มือหรือค้าแนะน้าจากบริษัทผู้ผลิต 87
ภาคผนวก ก. การใช้งานกาลังและคุณสมบัติของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า 92
ตารางที่ ก. 1 แสดงค่าต่าง ๆ ของเครื่องก้าเนิดไฟฟ้าระดับสมรรถนะ G1, G2, G3 และG4 97
ภาคผนวก ข. การคานวณต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบเครื่องกาเนิดไฟฟ้า 98
ตารางที่ ข. 1 พื้นที่หน้าตัดของท่อเก็บเสียงที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางต่าง ๆ 98
ตารางที่ ข. 2 ความยาวเทียบเท่าของอุปกรณ์ข้อต่อระบบท่อหน่วยเป็นฟุต (เมตร) (Equivalent Lengths of Pipe
Fitting in Feet (Meters) 99
ตารางที่ ข. 3 ค่าความร้อนโดยประมาณที่แผ่จากระบบท่อเก็บเสียงไอเสียและท่อไอเสียซึ่งไม่ได้หุ้มฉนวนกันความ
ร้อน (Estimated Heat Emitted from Uninsulated Exhaust Piping and Mufflers) 101
ภาคผนวก ค. สิ่งแวดล้อม (Environmente) 110
ตารางที่ ค. 1 ชนิดน้้ามันเชื้อเพลิงและจุดวาบไฟ 111
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนดไฟฟ้า
1
มาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
(Design and Installation Standard of Generator Set)
บทที่ 1
วัตถุประสงค์ ขอบเขต นิยาม และข้อกาหนดทั่วไป
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
2
1.4 กระแสสตาร์ท (Starting Current) หมายถึง
เป็นค่ากระแสเริ่มต้นที่ถูกดึงโดยมอเตอร์เมื่อเริ่มสตาร์ทจากสภาพหยุดนิ่ง
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
3
Vfl = แรงดันไฟฟ้าขณะมีโหลดเต็มพิกัด (Full load voltage)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
4
1.15 การดูดซับการรบกวนของคลื่นวิทยุ (Radio Interference Suppression) หมายถึง
เป็นวิธีการที่ดาเนินการเพื่อลดการรบกวนด้วยคลื่นวิทยุให้มีผลกระทบน้อยที่สุด
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
5
1.24 การป้องกันสารอง (Backup Protection) หมายถึง
การทางานหน้าที่เป็นระบบการป้ องกันสารองของอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งจะทางานเมื่ออุปกรณ์ป้องกันหลักไม่
ทางานหรือทางานผิดพลาด
1.25 การพุ่งเกิน, ค่าพุ่งเกิน, พุ่งเกิน (Overshoot) หมายถึง
ค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าหรือความถี่ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ซึ่งมีค่าพุ่งสูงเกินเกณฑ์ปกติเมื่อปลดโหลดออกทันทีทันใด
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
6
1.33 กาลังไฟฟ้า (Power) หมายถึง
อัตราที่สามารถสร้างงานหรือพลังงานได้ โดยปกติ กาลังทางกลจะแสดงในรูปของ แรงม้า (hp) และกาลังไฟฟ้า
จะแสดงในรูปของ กิโลวัตต์ (kW) ( 1kW = 1.34 hp)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
7
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
8
1.48 ความผิดพร่องทางไฟฟ้า (Fault) หมายถึง
ความผิดพร่องคือการไหลของกระแสไฟฟ้าในระบบไฟฟ้านอกเส้นทางเดินทางไฟฟ้าที่กาหนดให้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
9
1.55 ฉนวน (Insulation) หมายถึง
วัสดุไม่นาไฟฟ้าซึ่งถูกนามาใช้เพื่อเคลือบขดลวดในเครื่องกาเนิดไฟฟ้า เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า
จากขดลวดตัวนา ฉนวนสาหรับการใช้งานในเครื่องกาเนิด ไฟฟ้ามีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะบ่งบอกอุณหภูมิ
สูงสุดที่ขดลวดจะทนได้ขณะใช้งานแบบต่อเนื่อง
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
10
1.63 เดซิเบล/เดซิเบล (เอ) (dB/dB(A) Scale)
เดซิเบล หมายถึง ระดับความเข้มหรือความดันของเสียงซึ่งจะถูกแสดงในรูปของ Logarithmic scale มี
หน่วยเป็นเดซิเบล
เดซิเบล (เอ) หมายถึง สเกลของเครื่องวัดเสียงที่สร้างเลียนแบบลักษณะการทางานของหูมนุษย์โดยจะกรอง
เอาความถี่ต่าและความถี่สูงของเสียงที่เกินกว่ามนุษย์จะได้ยินออกไป ในเครื่องวัด ระดับเสียง สัญญาณเสียงถูก
เปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้า โดยไมโครโฟนคุณภาพสูงแต่เนื่องจากสัญญาณมีค่าต่ามาก จึงต้องทาการขยายก่อนที่
แสดงออกบนหน้าปัทม์ เครื่องวัด เมื่อได้รับการขยายครั้งแรกแล้วสัญญาณจะถูกป้อนผ่านวงจรถ่วงน้าหนัก (A,
B, C) หรือวงจรกรองความถี่นั่นเอง หลังจากนั้นก็จะทาการขยายสัญญาณอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้มีระดับสูงพอที่จะ
เบนเข็มเครื่องวัดได้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
11
1.70 ตัวประกอบความต้องการกาลังไฟฟ้า (Demand Factor) หมายถึง
อัตราส่วนระหว่างค่าความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของระบบ หรือส่วนของระบบ กับโหลดที่ต่ออยู่ทั้งหมดของระบบ
หรือส่วนของระบบที่พิจารณา
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
12
1.79 ประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง
สัดส่ ว นของพลั งงานที่ได้รับ ต่อพลั งงานที่ใส่ เข้าไป เช่น สั ดส่ วนระหว่างพลังงานทางกลที่ได้รับที่เพลาของ
มอเตอร์ต่อพลังงานไฟฟ้าที่ป้อนให้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
13
1.87 เฟสต่าง, ต่างเฟส (Out-of-Phase) หมายถึง
(1) คาขยายที่บ่งชี้ปริมาณคุณลักษณะการทางานของเซอร์กิตเบรกเกอร์ในภาวะเฟสต่าง
(2) ภาวะผิดปกติของวงจรเนื่องจากเกิดการสูญเสีย หรือไม่มีภาวะซิงโครไนซ์กันระหว่างส่วนต่าง ๆ ของระบบ
ไฟฟ้าในแต่ละด้านของเซอร์ กิตเบรกเกอร์ โดยที่เมื่อเซอร์กิตเบรกเกอร์ทางานนั้น มุมเฟสระหว่างเฟสเซ
อร์หมุนที่แทนแรงดันกาเนิดในแต่ละด้านของเซอร์กิตเบรกเกอร์ มีค่าสูงเกินค่าปกติ และอาจสูงถึง 180 องศา
(เฟสตรงข้าม)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
14
มอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้, ระบบสื่อสาร, ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง, ระบบลิฟต์ ฯลฯ เป็น
เวลา 2-3 ชั่วโมง หรือช่วงเวลาสั้น ๆ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือเพลิงไหม้ในด้านการปฏิบัติงาน การขัดข้อง
หรือชารุดเสียหายของระบบจ่ายกาลังไฟฟ้าอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายทางด้านธุรกิจ, การสูญเสีย
รายได้, การสะดุดของขบวนการผลิต หรือทาให้ประสิทธิภาพในการทางานของบุคลากรลดลงจึงจาเป็นต้องมี
ระบบจ่ายกาลังไฟฟ้าสารองติดตั้งอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ที่จาเป็น เช่น ศูนย์คอมพิวเตอร์, โรงพยาบาล, ฟาร์ม,
โรงงานอุตสาหกรรม และอาคารที่พักอาศัย เป็นต้น
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
15
1.100 แรงดันอย่างกะทันหันชั่วขณะ (Surge) หมายถึง
เป็นภาวะการเพิ่มขึ้นโดยทันทีของแรงดันไฟฟ้า ซึ่งมักจะเกิดเมื่อมีการปลดโหลด
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
16
1.109 สเตเตอร์ (Stator) หมายถึง
ชิ้นส่วนที่ไม่หมุนของมอเตอร์ หรือเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
17
(2) ค่าที่ใหญ่ที่สุดของโหลดชั่วขณะหรือช่วงสั้นที่คาดว่ามอเตอร์ตัวหนึ่งจะจ่ายได้ แสดงเป็นร้อยละของกาลัง
ปกติหรือทอร์กปกติ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
18
เนอร์ระบบนี้สามารถควบคุมอัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบให้อยู่ภายใน 3 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของความเร็ว
รอบใช้งาน จากสภาวะไม่มีโหลดถึงมีโหลดเต็มที่
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
19
1.131 เฮิร์ซ (Hertz : Hz) หมายถึง
เป็นหน่วยของความถี่ โดยทั่วไปกาหนดให้เป็น รอบ/วินาที
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
20
บทที่ 2 ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า, ฐานแท่นเครื่องและความต้องการในการติดตั้ง
(Generator Room, Foundation and Installation Requirements)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
21
2.1.3 ตาแหน่งช่องอากาศเข้า (Inlet) ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องอยู่ด้านหลังเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Generator)
ตรงข้ามกับชุดรังผึ้งระบายความร้อน (Radiator) หรือช่องอากาศออก (Outlet) จากห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
และต้องไม่ต้องมีสิ่งกีดขวางระหว่างช่องลมเข้ากับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า กรณีที่ช่องอากาศเข้าไม่สามารถอยู่
ด้านหลังเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Generator) ได้อนุญาตให้อยู่ตรงตาแหน่งด้านข้างของเครื่ องกาเนิดไฟฟ้าได้
แต่ต้องไม่เลยชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้าไปด้านเครื่องยนต์ขับ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
22
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
23
2.1.6 อากาศเข้าห้องเครื่ องกาเนิดไฟฟ้า (Fresh air) ต้องถูกนาเข้าโดยตรงจากภายนอกอาคารและมีปริมาณ
เพียงพอสาหรับการระบายความร้อนและการสันดาปของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
2.1.7 ตาแหน่งช่องอากาศเข้าห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องไม่ติดตั้งใกล้บริเวณปลายท่อไอเสีย ระยะห่างระหว่าง
ช่องอากาศเข้าและปลายท่อไอเสียต้องห่างกันไม่น้อยกว่า 5 เมตร
2.1.8 ภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าให้มีระยะห่าง ระหว่างฐานแท่น (Foundation) เครื่องกาเนิดไฟฟ้าและผนัง
ห้องไม่ต่ากว่า 1 เมตร, ด้านท้ายเครื่องกาเนิดไฟฟ้าต้องมีพื้นที่ว่างสาหรับปฏิบัติงานไม่ต่ากว่า 1.5 เมตร,
และไม่ต้องมีฝ้าเพดาน ภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
2.1.9 ระยะห่างระหว่างเพดานห้องเครื่องถึงท่อเก็บเสียงไอเสีย (Exhaust silencer) ต้องมีระยะห่างอย่างน้อย
230 มม. หรือ 9 นิ้ว เพื่อป้องกันความร้อนที่เกิดจากแก๊สไอเสีย
2.1.10 ไม่อนุญาตให้เก็บวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ยกเว้นถังน้ามันเชื้อเพลิงประจาเครื่อง
(Fuel Day Tank) และถังน้ามันเชื้อเพลิงที่ติดตั้งมาจากบริษัทผู้ผลิต เครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Integral Fuel
Tank) และไม่อนุญาตให้ใช้วัสดุไวไฟเป็นส่วนประกอบของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
2.1.11 ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองจะต้ องมีแสงสว่างเพียงพอสาหรับการทางานอย่างปลอดภัยโดยมีความส่อง
สว่างขั้นต่าโดยเฉลี่ยที่ระดับพื้นผิวการทางาน (working plane) 200 ลักซ์ วงจรไฟฟ้าสาหรับไฟฟ้าแสง
สว่างดังกล่าวต้องจ่ายจากด้านจ่ายโหลดของอุปกรณ์โอนถ่ายแหล่งจ่ายไฟ (Transfer Switch)
2.1.12 ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองจะต้องมีระบบไฟฟ้าแสงสว่างสารองฉุกเฉินซึ่งมีแหล่งจ่ายไฟจากแบตเตอรี่แยก
ต่างหากจากวงจรจ่ายไฟปกติ โดยมีระยะเวลาการส่องสว่างตามพิกัดที่กาหนดไว้ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90
นาที โดยระดั บความส่องสว่างขั้นต่าโดยเฉลี่ยของระบบไฟฟ้าแสงสว่างสารองฉุกเฉินที่ระดั บพื้นผิวการ
ทางานต้องไม่น้อยกว่า 32.3 ลักซ์ (3 ฟุต-แคนเดิ้ล) เว้นแต่กาหนดเป็นอย่างอื่นโดยมาตรฐานหรือกฎหมายที่
เกี่ยวข้องฉบับล่าสุด
2.1.13 การออกแบบ ติดตั้งท่อ -ทางเดิน สายไฟ ดวงโคมไฟฟ้า ภายในห้ องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าส ารองฉุกเฉินให้
พิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการแผ่ความร้อนในขณะการทางานของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองฉุกเฉิน
2.1.14 ต้องจัดเตรียมเต้ารับไฟฟ้า 1 เฟส พร้อมสายดินอย่างน้อย 2 จุด สาหรับใช้ในการซ่อมบารุงและการ
บารุงรักษา อุปกรณ์ ทั้งนี้ วงจรไฟฟ้าสาหรับเต้ารับนี้จะต้องแยกอิสระจากวงจรไฟฟ้าอื่นและต้องจ่ายไฟจาก
ด้านจ่ายโหลดของอุปกรณ์โอนถ่ายแหล่งจ่ายไฟ (Transfer Switch)
2.1.15 ต้องจัดเตรียมวงจรย่อยไว้สาหรับอุปกรณ์ประกอบที่มีความจาเป็นทั้งหมดสาหรับการทางานของเครื่อง
กาเนิ ดไฟฟ้า ส ารองฉุก เฉิ น วงจรย่ อยดั งกล่ า วนี้ จ ะต้ องจ่า ยไฟจากด้ า นจ่ ายโหลดของอุป กรณ์ โ อนถ่ า ย
แหล่งจ่ายไฟ (Transfer Switch) หรือ ขั้วต่อไฟฟ้า (Terminal) ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองฉุกเฉิน
อุ ป กรณ์ ป ระกอบดั ง กล่ า วได้ แ ก่ เครื่ อ งสู บ น้ ามั น เชื้ อ เพลิ ง เครื่ อ งสู บ สารหล่ อ เย็ น ของระบบ remote
radiator และระบบระบายอากาศขับด้วยมอเตอร์
2.1.16 ต้องจัดเตรียมวงจรย่อยจากระบบจ่ายไฟฟ้าปกติ ไว้สาหรับชุดอัดประจุแบตเตอรี่ และชุดให้ความร้อนสาร
หล่อเย็น (Coolant Heater)
2.1.17 ต้องจัดเตรียมระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ตามที่กาหนดไว้ในมาตรฐานระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ฉบับ
ล่าสุด
2.1.18 การติดตั้งระบบดับเพลิงภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยของ
วสท.ฉบับล่าสุดและไม่อนุญาตให้ใช้ระบบหรือสารดับเพลิงดังต่อไปนี้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
24
2.1.18.1 ระบบดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือฮาลอนถ้าไอดี (Combustion air) ของเครื่องต้นกาลัง
(Prime mover) ไม่ได้ถูกนาเข้ามาโดยตรงจากภายนอกอาคาร
2.1.18.2 ผงเคมีแห้งระบบอัตโนมัติ (Automatic Dry Chemical System) ยกเว้นได้รับการรับรองจาก
บริษัทผู้ผลิตเครื่องกาเนิดไฟฟ้าว่าผงเคมีแห้งที่ใช้จะไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องกาเนิดไฟฟ้า, ไม่มีผลกระทบ
ต่อการทางาน หรือทาให้ความสามารถผลิตกาลังไฟฟ้าลดลง (Reduce its output)
h = W
d.l.w
h = ความหนาของฐานแท่นเครื่องกาเนิดไฟฟ้า หน่วยเป็นฟุต (เมตร)
l = ความยาวของฐานแท่นเครื่องกาเนิดไฟฟ้า หน่วยเป็นฟุต (เมตร)
w = ความกว้างของฐานแท่นเครื่องกาเนิดไฟฟ้า หน่วยเป็นฟุต (เมตร)
d = ความหนาแน่นของคอนกรีต
= 145 ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต หรือ =2,400 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร
W = น้าหนักรวม (Total wet weight of Genset) ของชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้า หน่วยเป็น
ปอนด์ (กิโลกรัม)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
25
2.3 ตาแหน่งติดตั้ง
2.3.1 ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องอยู่ในตาแหน่งที่สะดวกต่อการขนย้ายชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้าเข้าหรือออกจาก
ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
2.3.2 ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าต้องมีปริมาณอากาศที่ ใช้ในการระบายความร้อนและการสันดาปเพียงพอ และอยู่ใน
ตาแหน่งที่อากาศดี (Fresh air) สามารถไหลเข้าห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าได้สะดวก
2.3.3 ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องอยู่ในที่ปลอดภัยจากน้าท่วมสาเหตุเกิดจาก
2.3.3.1 น้าดับเพลิง
2.3.3.2 น้าเสีย หรือแหล่งน้าอื่นๆ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
26
บทที่ 3 มาตรฐานวัสดุและอุปกรณ์ติดตั้ง
(Standard for Materials and Equipments)
บทนี้ จะกล่าวถึงมาตรฐานของวัสดุและอุปกรณ์หลักต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าและเป็นส่วนหนึ่งที่
ทาให้การติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า มีความสมบูรณ์ครบถ้วนและปลอดภัยในการใช้งาน
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
27
3.1.2 ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ต้นกาลังขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า แบ่งเป็นแบบต่าง ๆ เช่น ระบบสตาร์ทด้วยไฟฟ้า
และระบบสตาร์ทด้วยพลังงานอื่น ๆ เช่น ลม เป็นต้น
3.1.2.1 ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าด้วยไฟฟ้า จะต้องเป็นระบบ 12 โวลท์ หรือระบบ 24
โวลท์โดยเครื่องยนต์ขนาดเล็กใช้ระบบ 12 โวลท์ และเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ใช้ระบบ 24 โวลท์ วงจรของ
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าด้วยไฟฟ้า จะต้องเป็นไปตามรูปที่ 3.1
3.1.2.2 ระบบสตาร์ทด้วยไฟฟ้าใช้สวิทซ์โซลีนอยด์สั่งให้ชุดมอเตอร์สตาร์ทเตอร์ทาการสตาร์ทเครื่องยนต์
ประกอบด้วยช่วงเวลาและอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
28
ระบบสตาร์ ท เครื่ อ งยนต์ ขั บ เครื่ อ งก าเนิ ด ไฟฟ้ า ด้ ว ยไฟฟ้ า อย่ า งน้ อ ยต้ อ งประกอบด้ ว ย
แบตเตอรี่ ข นาดตามข้ อ ก าหนดของบริ ษั ท ผู้ ผ ลิ ต , ขั้ ว แบตเตอรี่ , สายแบตเตอรี่ , ขาตั้ ง
แบตเตอรี่ (Battery racks)
ถ้าแบตเตอรี่ติดตั้งห่างจากชุดมอเตอร์สตาร์ทเตอร์มาก สายแบตเตอรี่จะต้องถูกออกแบบโดย
เผื่อค่าแรงดันไฟฟ้าตก (Voltage drop) โดยพิจารณาจากความต้านทานรวม (Total
resistance) ของสายแบตเตอรี่, ขั้ว ต่อสายแบตเตอรี่ ระหว่างแบตเตอรี่ และมอเตอร์
สตาร์ทเตอร์ โดยทั่วไปค่าความต้านทานรวม (Total cranking circuit resistance) ของสาย
แบตเตอรี่และขั้วต่อสายแบตเตอรี่ จะต้องไม่เกิน 0.00075 โอห์ม สาหรับระบบ 12 โวล์ท
และไม่เกิน 0.002 โอห์ม สาหรับระบบ 24 โวล์ท
3.1.2.5 ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าด้วยลม (Air Starting) ใช้กับเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้าขนาดใหญ่
ขนาดท่อลม (Air hose size) ปริมาตรถังลม (Tank volume) จะต้องเป็นไปตามคาแนะนาของ
บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์หรือจานวนครั้งที่ต้องการสตาร์ทเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ค่าแรงดันสูงสุด (Maximum pressure rating) จะต้องเป็นไปตามคาแนะนาของบริษัทผู้ผลิต
เครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
วาล์วและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบจะต้องเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับระบบสตาร์ทของเครื่องยนต์
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
29
3.1.3 แผงควบคุมเครื่องยนต์ต้นกาลัง
3.1.3.1 เครื่องต้นกาลังจะต้องมีเครื่องวัดต่าง ๆ อย่างน้อยดังนี้:-
เครื่องวัดแรงดันน้ามันหล่อลื่น (Oil pressure gauge)
เครื่องวัดอุณหภูมิของเหลวระบายความร้อน (Temperature gauge) ยกเว้น เครื่องต้นกาลังชนิด
ระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air-cooled) ไม่ต้องมีเครื่องวัดชนิดนี้
เครื่องวัดชั่วโมงการทางาน (Hour meter)
เครื่องวัดการประจุแบตเตอรี่ (Battery-charging meter)
เครื่องวัดชนิดอื่นๆตามคาแนะนาของบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ต้นกาลังซึ่งจาเป็นต้องใช้ในการซ่อม
บารุงรักษา
3.1.3.2 เครื่องวัดต่าง ๆ ตามข้อ 3.1.3.1 จะต้องติดตั้งอยู่ภายในตู้ปิดมิดติดตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงหรือบนเครื่อง
ต้นกาลังในตาแหน่งที่สามารถอ่านค่าต่าง ๆ ได้ง่ายและชัดเจน กรณีติดตั้งบนเครื่องต้นกาลังจะต้องติดตั้ง
บนชุดป้องกันความสั่นสะเทือน (Antishock vibration mounting) ด้วย
3.1.3.3 สายคอนโทรลจะต้องเป็นชนิดสายอ่อน (Harnessed or flexible enclosed) และติดตั้งอย่างมั่นคง
ปลอดภัยเพื่อป้องกันการถู, ครูดหรือถูกบาด (Chafing) และความเสียหายจากการสั่นสะเทือน
3.1.4 ฟังก์ชั่นการทางาน
แผงควบคุมเครื่องต้นกาลังต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ซึ่งสามารถควบคุมการทางานให้มีประสิทธิภาพดังนี้
อุปกรณ์สตาร์ทอัตโนมัติระยะไกล (Automatic remote start capability)
สวิทช์ควบคุมการทางานที่ฟังก์ชั่น Run-off-automatic
ระบบดับเครื่องอัตโนมัติ
ระบบสัญญาณเตือน
ระบบควบคุมต่าง และระบบป้องกันจะต้องประกอบด้วย
- ระบบควบคุมการสตาร์ท (Cranking control)
- ระบบควบคุมการทางานที่ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้แก่
(1) Run : ใช้ควบคุมการสตาร์ทและเดินเครื่องด้วยมือ (Manual initiate)
(2) Off : ใช้หยุดหรือดับเครื่องต้นกาลัง หรือใช้รีเซทระบบความปลอดภัยต่าง ๆ
(3) Automatic : ใช้ควบคุมการสตาร์ทและเดินเครื่องด้วยวิธีอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมการดับ (Shutdown) และล็อกเครื่องกาเนิดไฟฟ้าเมื่อ :-
(1) การสตาร์ทล้มเหลวไม่เป็นไปตามจานวนครั้งและเวลาในการสตาร์ทที่กาหนดไว้ (Fail to start
after specified cranking time)
(2) ความเร็วรอบของเครื่องต้นกาลังสูงเกินเกณฑ์ปกติ (Overspeed)
(3) อุณหภูมขิ องเครื่องต้นกาลังสูงเกินเกณฑ์ปกติ (High engine temperature)
(4) ความดันน้ามันหล่อลื่นต่ากว่าเกณฑ์ปกติ (Low lubricating oil pressure)
(5) อุปกรณ์ดับเครื่องฉุกเฉินด้วยมือ (Removal of the initiating signal or manual
emergency shutdown.)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
30
สัญญาณเตือนเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ ดังนี้ :-
CV : ติดตั้งบนแผงควบคุมเพื่อให้สามารถมองเห็นได้
S : แสดงการดับ (Shutdown) เครื่องกาเนิดไฟฟ้า
RA : Remote Audible
X : ต้องมี (Required)
O : เผือเลือก (Option)
NA : ไม่ต้องมี (Not Applicable)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
31
การแจ้งเตือนตามเงื่อนไขที่ระบุในตารางที่ 3-2 นั้นจะมีคุณสมบัติดังนี้
- จ่ายไฟโดยแบตเตอรี่
- สามารถมองเห็นได้ง่าย
- มีหน้าสัมผัสสาหรับต่อวงจร (contacts ) หรือวงจรเพิ่มสาหรับสัญญาณเสียงเตือนร่วม ที่จุดนั้นและ
จุดอื่นที่ต่อพ่วงออกไป ในกรณีที่เกิดการแจ้งเตือน
- มีไฟแสดงสาหรับทดสอบการทางานของไฟแจ้งเหตุ
3.1.5 อุปกรณ์รองรับการสั่นสะเทือน (Vibration Isolators) จะต้องถูกติดตั้งระหว่างชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
และแท่นเครื่องกาเนิดไฟฟ้า หรือระหว่างแท่นเครื่อง กับฐานแท่นเครื่อง (Foundation or inertia base)
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กหรือต่ากว่า 200 กิโลวัตต์ลงมาให้ใช้อุปกรณ์รองรับการสั่นสะเทือนชนิดยาง
(Pad type vibration isolator) หรือตามคาแนะนาของบริษัทผู้ผลิต
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือขนาดตั้งแต่ 200 กิโลวัตต์ขึ้นไปให้ใช้ อุปกรณ์รองรับการสั่นสะเทือน
ชนิดสปริง (Spring type vibration isolator) หรือตามคาแนะนาของบริษัทผู้ผลิต
3.1.6 ระบบท่อไอเสีย
3.1.6.1 ท่อเก็บเสียงไอเสีย (Exhaust muffler)
แบบใช้กับงานอุตสาหกรรม (Industrial type) สามารถลดเสียงได้ 12 – 18 dBA
แบบใช้กับที่พักอาศัย (Residential type) สามารถลดเสียงได้ 18 – 25 dBA
แบบพิเศษ (Critical type) สามารถลดเสียงได้ 25 – 35 dBA
แบบพิเศษมาก (Super critical type) สามารถลดเสียงได้ 35 – 45dBA
3.1.6.2 ท่อไอเสีย (Exhaust pipe) ต้องเป็นชนิดท่อเหล็กดา (Black steel pipe) ตามมาตรฐาน มอก. หรือ
เทียบเท่าหรือวัสดุอื่นซึ่งสามารถทนอุณหภูมิของแก๊สไอเสียได้ไม่น้อยกว่า 600 องศาเซลเซียส โดยไม่เสีย
รูป
3.1.6.3 ท่ออ่อนไอเสีย (Flexible exhaust pipe) ใช้สาหรับเชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์และท่อไอเสีย เพื่อ
ป้ อ งกั น การขยายตั ว ของท่ อ ไอเสี ย เนื่ องจากความร้ อ น, การเคลื่ อ นที่ ข องเครื่อ งก าเนิ ด ไฟฟ้ า และ
แรงสั่นสะเทือน ท่ออ่อนไอเสียทาจากท่อสแตนเลสชนิดลูกฟูกไม่มีตะเข็บ (Seamless corrugated
stainless steel) สาหรับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือมากกว่า 200 กิโลวัตต์ ต้องมีความยาวอย่าง
น้อย 610 มม. หรือ 24 นิ้ว ส่วนเครื่องกาเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กหรือขนาดต่ากว่า 200 กิโลวัตต์ต้องมีความ
ยาวอย่างน้อย 457 มม. หรือ 18 นิ้ว
3.1.6.4 ฉนวนหุ้มท่อไอเสียต้องทาจากวัสดุชนิดไม่ติดไฟ (Non–combustible material) สามารถทนความร้อน
ได้ไม่น้อยกว่า 600 oC
3.1.6.5 วัสดุหุ้มระบบท่อไอเสีย (Jacket) ต้องทาจากแผ่นอลูมิเนียม หรือ สเตนเลสสตีล หนาไม่น้อยกว่า 0.50 มม.
3.1.7 ระบบน้ามันเชื้อเพลิง
3.1.7.1 ชนิดของถังน้ามันเชื้อเพลิง (Fuel Tank) มี 4 ชนิดดังนี้
(1) ถังน้ามันเชื้อเพลิงประจาเครื่อง (Fuel Day Tank) ติดตั้งอยู่ภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้ามีความจุ
ตามระดับชั้น (Class) ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้ากาหนดไว้ แต่อย่างน้อยต้องสามารถจ่ายน้ามัน
เชื้อเพลิงให้เครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้าได้ไม่ต่ากว่า 4 ชั่วโมง เมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเต็มที่ (Full load)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
32
(2) ถังน้ามันเชื้อเพลิงติดตั้งอยู่ภายในห้องแยก (Enclosed Fuel Tank) ต่างหากจากห้องเครื่องยนต์
กาเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ
(3) ถังน้ามันเชื้อเพลิงติดตั้งมาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Integral Fuel Tank)โดยติดตั้งมา
บนเครื่องยนต์ (Mounted on the engine) หรือติดตั้งอยู่ภายใต้แท่นเครื่อง (Under a sub
base)
(4) ถังน้ามันสารอง (Main Fuel Tank หรือ Fuel Storage Tank) สาหรับจ่ายน้ามันเชื้อเพลิงให้
เครื่องยนต์หรือถังน้ามันเชื้อเพลิงประจาเครื่อง (Fuel Day Tank)
3.1.7.2 ถังน้ามันเชื้อเพลิงใต้พื้นดินต้องมีลักษณะและวิธีการติดตั้งดังต่อไปนี้ :-
ตัวถังต้องทาด้วยเหล็กที่มีความเค้นคราก (Yield stress) ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของความเค้นที่เกิดขึ้น
(Allowable stress) เนื่องจากการรับแรงและน้าหนักบรรทุกต่าง ๆ หรือทาด้วยวัสดุไม่ติดไฟอื่นที่มี
มาตรฐานเทียบเท่า
ตัวถังต้องติดตั้งและยึดแน่นกับฐานรากในลักษณะที่ไม่อาจเคลื่อนที่หรือลอยตัวเนื่องจากแรงดันของ
น้าใต้ดิน และฐานรากต้องออกแบบและก่อสร้างให้สามารถรับน้าหนักของตัวถังและน้ามันเชื้อเพลิงที่
บรรจุอยู่ในถัง รวมทั้งน้าหนักอื่น ๆ ที่กระทาบนตัวถังได้โดยปลอดภัย และห้ามมีสิ่งก่อสร้างใด ๆ อยู่
เหนือส่วนบนของผนังถัง
ผิวภายนอกของตัวถังต้องมีการป้องกันการกัดกร่อน
ส่วนบนของผนังถังต้องอยู่ต่ากว่าระดับพื้นดินไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร
ต้องมีระยะห่างระหว่างผนังถังแต่ละถังไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร
ตัวถังต้องตั้งอยู่ในเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงและผนัง ถังต้องอยู่ห่างจากเขตสถานที่เก็บ
รักษาน้ามันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 300 เซนติเมตร
ต้องติดตั้งท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงไว้ทุกถัง สาหรับถังที่แบ่งเป็นห้อง (Compartment) ต้องติดตั้ง
ท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงไว้ทุกห้องแยกจากกัน โดยท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงต้องมีลักษณะและ
วิธีการติดตั้ง ดังต่อไปนี้ :-
(ก) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 4 เซนติเมตร
(ข) ปลายท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงต้องอยู่สูงจากระดับพื้นดินไม่น้อยกว่า 400 เซนติเมตร และ
อยู่ห่างจากเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร
ปลายท่อรับ น้ ามัน เชื้อเพลิ งต้องอยู่ห่ างจากเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิ งไม่น้อยกว่า 150
เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น ๆ ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงฉบับล่าสุด
3.1.7.3 ถังเก็บน้ามันเชื้อเพลิงเหนือพื้นดินต้องมีลักษณะและวิธีการติดตั้งดังต่อไปนี้ :-
ตัวถังต้องทาด้วยเหล็กที่มีความเค้นคราก (Yield stress) ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของความเค้นที่เกิดขึ้น
(Allowable stress) เนื่องจากความดันใช้งานสูงสุดของน้ามันเชื้อเพลิงในถัง หรือทาด้วยวัสดุไม่ติด
ไฟอื่นที่มีมาตรฐานเทียบเท่า
ตัวถังต้องติดตั้งและยึดแน่นกับฐานราก โดยฐานรากต้องออกแบบและก่อสร้างให้สามารถรับน้าหนัก
ของตัวถังและน้ามันเชื้อเพลิงที่บรรจุอยู่ในถัง รวมทั้งน้าหนักอื่น ๆ ที่กระทาบนตัวถังได้โดยปลอดภัย
ผิวภายนอกของตัวถังต้องมีการป้องกันการกัดกร่อน
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
33
รอบตัวถังต้องมีเขื่อนหรือกาแพงล้ อมรอบ โดยเขื่อนหรือกาแพงดังกล่าวต้องมีขนาดพอที่จะเก็บ
น้ามันเชื้อเพลิงได้เท่ากับปริมาณความจุของถังใบใหญ่ที่สุดภายในเขื่อนหรือกาแพง โดยผนังของเขื่อน
หรือกาแพงจะต้องสามารถป้องกันของเหลวไหลผ่าน และสามารถทนแรงดันของน้าหนักบรรทุกสูงสุด
ได้
ต้องติดตั้งท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงไว้ทุกถัง ตามที่ระบุในกฎกระทรวงว่าด้วยสถานที่เก็บรักษา
น้ามันเชื้อเพลิงฉบับล่าสุด
ปลายท่อรับ น้ ามัน เชื้อเพลิ งต้องอยู่ห่ างจากเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิ งไม่น้อยกว่า 150
เซนติเมตร
รายละเอียดอื่น ๆ ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงฉบับล่าสุด
3.1.7.4 ระบบท่ อ น้ ามั น เชื้ อ เพลิ ง และอุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ กั บ ถั ง น้ ามั น เชื้ อ เพลิ ง ต้ อ งมี ลั ก ษ ณะและวิ ธี ก ารติ ด ตั้ ง
ดังต่อไปนี้:-
(1) ต้องออกแบบและก่อสร้างให้ สามารถรับแรงและน้าหนักต่าง ๆ ที่มากระทาต่อระบบท่อได้โดย
ปลอดภัย
(2) ท่อที่น ามาใช้ในระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิ งต้องทาด้วยเหล็ กกล้ า หรือทาด้ว ยวัส ดุไม่ติดไฟอื่นที่มี
มาตรฐานเทียบเท่า
(3) ระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิงที่ต่อกับเครื่องสูบน้ามันเชื้อเพลิงต้องจัดให้มีลิ้นปิดเปิดสาหรับท่อทางเข้า
และท่อทางออกจากเครื่องสูบน้ามันเชื้อเพลิง เพื่อหยุดการสูบน้ามันเชื้อเพลิงในกรณีฉุกเฉิน
3.1.7.5 การติดตั้งระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิงเหนือพื้นดินต้องดาเนินการ ดังต่อไปนี้ :-
(ก) ท่อต้องวางอยู่บนฐานรองรับที่ทาด้วยคอนกรีตหรือคานเหล็กที่มีความมั่นคงแข็งแรงเหนือพื้นดิน
และมีระยะสูงจากพื้นดินเพียงพอเพื่อป้องกันการกัดกร่อน
(ข) มีการป้ องกั น มิให้ ย านพาหนะหรือสิ่ งอื่นมากระทาให้ เกิดการช ารุดเสี ยหายต่อระบบท่อ น้ามั น
เชื้อเพลิง ละมีการป้องกันมิให้เกิดการกัดกร่อน
(ค) ท่อที่วางไว้เหนือพื้นดินและพาดผ่านทางสัญจร ให้แสดงระยะความสูงจากพื้นผิวจราจรถึงจุดต่าสุด
ของท่อโครงสร้าง หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ของท่อนั้น
3.1.7.6 การติดตั้งระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิงใต้พื้นดินต้องดาเนินการ ดังต่อไปนี้ :-
(ก) ท่อที่ใช้ต้องเป็นท่อที่มีความต้านทานการกัดกร่อน หรือมีการป้องกันการกัดกร่อน
(ข) จัดให้มีเครื่องหมายแสดงแนววางท่ออย่างชัดเจน
(ค) กรณีที่มีการติด ตั้งลิ้นปิดเปิดหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ใต้พื้นดินต้องติดตั้งให้สามารถตรวจสอบและ
บารุงรักษาได้โดยสะดวก
3.1.7.7 วัสดุที่ใช้ในระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิง เช่น ลิ้นปิดเปิด, ปะเก็น หรือวัสดุป้องกันการรั่วซึมต้องเป็นชนิดที่ใช้
กับน้ามันเชื้อเพลิงโดยเฉพาะ และไม่ทาปฏิกิริยากับน้ามันเชื้อเพลิง
3.1.7.8 การทดสอบถังเก็บน้ามันเชื้อเพลิงและระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิง
เมื่อติดตั้งถังเก็บน้ามันเชื้อเพลิงแล้วต้องทาการทดสอบการรั่วซึมของตัวถังและข้อต่อต่าง ๆ โดยใช้
แรงดันน้า แรงดันอากาศ หรือก๊าซเฉื่อยอัดด้วยแรงดันไม่น้อยกว่า 20.6 กิโลปาสกาล (3 ปอนด์ต่อ
ตารางนิ้ว) แต่ไม่เกิน 34.5 กิโลปาสกาล (5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) ในกรณีใช้แรงดันน้าให้ใช้เวลาในการ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
34
ทดสอบไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง ในกรณีใช้แรงดันอากาศหรือก๊าซเฉื่อยให้ใช้เวลาในการทดสอบไม่น้อย
กว่า 24 ชั่วโมง
ไม่อนุญาตให้นาท่อต่าง ๆ เหล่านี้มาใช้เป็นท่อน้ามันเชื้อเพลิง
ท่อเหล็กหล่อและท่ออลูมิเนียม (Cast iron and aluminum pipe) เนื่องจากวัสดุทั้งสองมีคุณสมบัติ
เป็นรูพรุน (Porous) ซึ่งน้ามันเชื้อเพลิงสามารถรั่วออกมาได้
ท่อเหล็กอาบสังกะสี (Galvanized fuel pipe Line) เนื่องจากอาจทาให้เครื่องสูบน้ามันเชื้อเพลิง
และไส้กรองน้ามันเชื้อเพลิงอุดตันได้
ท่อทองแดง (Copper fuel pipe Line) เนื่องจากในระยะยาวอาจทาให้หัวฉีดอุดตัน (Clog fuel
injectors) อีกประการหนึ่ง ท่อทองแดงจะมีความหนาน้อยกว่าและเกิดการแตกหักเสียหายง่ายกว่า
ท่อเหล็กดา
3.1.7.9 เครื่ องสูบ น้ามัน เชื้อเพลิงต้องเป็นชนิด หอยโข่ง (Centrifugal pump) หรือชนิดอัตราการไหลคงที
(Positive displacement pump) ที่เหมาะสมสามารถใช้กับน้ามันดีเซลได้ดีเนื่องจากน้ามันมีความหนืด
และอย่างน้อยต้องมีคุณสมบัติดังนี้
ต้องมี safety relief valve ติดตั้งอยู่ด้วย
ตัวซีล (Seal) เป็นแบบ Mechanical seal
ต้องสามารถสูบน้ามันเชื้อเพลิงเข้าเต็มความจุของ ถังน้ามันประจาเครื่อง (Fuel Day Tank) ได้
ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
35
(2) ชนิดแรงดันปานกลาง (Medium voltage) ระดับแรงดันไฟฟ้า ตั้งแต่ 601โวลท์ ขึ้นไป ถึง 11,000
โวลท์ สามารถปรับค่าได้+5% จากระดับแรงดันไฟฟ้าใช้งานปกติเพื่อเป็นเครื่องกาเนิดไฟฟ้าต้นกาลัง
(Prime power) หรือ เครื่องกาเนิดไฟฟ้าหลัก (Base load) ซึ่งสามารถจ่ายกาลังไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
(Continuous) ให้กับโหลดได้สูงถึง 100% ตลอดเวลา (Unlimited hours)
3.2.2 ฉนวนและพิกัดกาลัง
(1) เครื่องกาเนิดไฟฟ้าที่มีพิกัดกาลังตั้งแต่ 20 กิโลวัตต์ ขึ้นไป ฉนวนขดลวด (Winding insulation ต้อง
เป็นแบบ NEMA Class F หรือ NEMA Class H โดยฉนวนขดลวด NEMA Class H จะสามารถทน
อุณหภูมิได้สูงกว่าฉนวนขดลวด Class F เมื่อเทียบกับอุณหภูมิบรรยากาศที่ 40 °C และพิกัดกาลังของ
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับข้อจากัดของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น (Temperature rise)
(2) อุณหภูมิที่สูงขึ้น (Temperature rise) ของขดลวดแบ่งออกเป็น Class ต่าง ๆ ได้แก่ Class 80 °C ,
Class 105 °C , Class 125 °C และ Class 150 °C โดย Class ต่าง ๆ นี้ เป็นค่าอุณหภูมิที่สูงขึ้น
(Temperature rise) ของขดลวด (Winding) เทียบกับอุณหภูมิบรรยากาศที่ 40 °C เครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ใช้งานที่อุณหภูมิขดลวดสู งขึ้น 80 °C (Class 80 °C Temperature rise) จากอุณหภูมิบรรยากาศจะมี
อายุการใช้งานนานกว่าเครื่องกาเนิดไฟฟ้าซึ่งใช้งานที่อุณหภูมิขดลวดสูงขึ้น 105 °C (Class 105 °C
Temperature rise) โดยทั่วไปเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะกาหนดพิกัดกาลังไว้ที่หลาย ๆ Temperature
rise class เช่น Class 125/105/80 °C หมายความว่าเครื่องกาเนิด ไฟฟ้านี้สามารถจ่ายกาลังไฟฟ้าได้
สูงสุดที่ Standby rating จะทาให้อุณหภูมิขดลวดสูงขึ้นเป็น 125 °C, ที่ Prime rating จะทาให้
อุณหภูมิขดลวดสูงขึ้นเป็น 105 °C และที่ Continuous rating จะทาให้อุณหภูมิขดลวดสูงขึ้นเป็น 80 °C
3.2.3 ขดลวดและรูปแบบการต่อสาย (Winding and Connections) เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะถูกออกแบบ
ขดลวดเป็นชนิด 4 Lead, 6Lead หรือ 12 Lead ซึ่งสามารถต่อสายออกมาเป็นแบบต่าง ๆ เช่น WYE หรือ
DELTA ได้และแรงดันไฟฟ้าจะอยู่ในช่วง 208 ถึง 240 โวลท์ หรือ 190 ถึง 220 โวลท์ หรือ 380 ถึง 480
โวลท์ ขึ้นอยู่กับการปรับระดับแรงดันกระตุ้น (Excitation level) และขดลวดของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
สามารถออกแบบขดลวดชนิดพิเศษ (Special winding) ให้สามารถรับกระแสสตาร์ทมอเตอร์ได้สูง (Higher
motor starting current capability)
3.2.4 โครงสร้างพื้นฐานและการกระตุ้น (Fundamental & Excitation)
(1) เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยระบบการกระตุ้น (Excitation system) แบบ Self – excited
หรือแบบ Separately – excited (Permanent Manet Generator : PMG)
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าแบบ Self – excited ชุด Excitation system จะรับสัญญาณแรงดันไฟฟ้า จาก
ชุดควบคุมแรงดันอัตโนมัติ (AVR) ซึ่งรับสัญญาณมาจากกาลังไฟฟ้าด้านออกของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
(By tapping or shunting power from the generator power output) แล้วเปรียบเทียบกับ
ค่าอ้างอิง (Reference values) หลังจากนั้นจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง (DC output) ไปยังขดลวด
Exciter field windings และชุด Exciter field จะผลิตไฟฟ้ากระแสสลับภายใน Exciter rotor
แล้วถูกแปลง (Rectified) เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) โดย Rotating diode เพื่อจ่ายให้Main
rotor หรือ Generator field ชุดควบคุมแรงดันอัตโนมัติ จะเพิ่มหรื อลด Exciter current ขึ้นอยู่
กับการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้าขาออก (Output voltage) ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ซึ่งขึ้นอยู่
กับการเปลี่ยนแปลงของโหลดด้วย
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
36
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
37
(2) โหลดชั่วขณะ (Transient load)
โหลดชั่วขณะจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนโหลดขนาดใหญ่ในทันที ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระเพื่ อมชั่ว
ครู่ของทั้งแรงดันและความถี่ ทั้งนี้ ระดับและเวลาในการกระเพื่อมจะขึ้นอยู่กับประเภทและขนาด
ของโหลดเทียบกับขนาดของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Alternator) โดยทั่วไปค่า แรงดันกระเพื่อมชั่วครู่
จะต้องไม่เกิน 10 % ของแรงดันปกติ เมื่อจ่ายโหลด 60 % ของพิกัดกาลังของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ครั้งเดียว (60% one step load)
เวลาในการปรับค่าแรงดันกระเพื่อม (Voltage recovery time) เป็นเวลาระหว่างที่เกิดแรงดัน
กระเพื่อม (Voltage Dip) เนื่องจากมีการเปลี่ยนโหลดจนกระทั่งเครื่องกาเนิดไฟฟ้าปรับแรงดันให้
อยู่ในกรอบแรงดันปกติ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ +/- 2% ของแรงดันปกติ ทั้งนี้เวลาในการปรับค่าแรงดัน
กระเพื่อมจะต้องอยู่ในช่วง 1-10 วินาที ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของโหลดและการออกแบบเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้า
ค่าความถี่กระเพื่อม (Frequency Dip) เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนโหลดขนาดใหญ่ โดยเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้าจะพยายามปรับความเร็วรอบเครื่องยนต์ให้สอดคล้องกับภาระโหลดเพื่อให้เวลาปรับค่าแรงดัน
กระเพื่อมสั้นที่สุด ทั้งนี้ ค่าความถี่กระเพื่อมจะต้องอยู่ในช่วง ±5 % ของความถี่ปกติ เมื่อจ่ายโหลด
ครั้งเดียวไม่น้อยกว่า 60% ของพิกัดกาลังของเครื่องกาเนิดไฟ (60% One step load) ทั้งนี้ขนาด
การจ่ายโหลดครั้ งเดียวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ ออกแบบโดยความถี่กระเพื่อมจะต้องอยู่ในค่าที่
กาหนดไว้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
38
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
39
ตู้ครอบแบบนี้ต้องสามารถป้องกันเครื่ องยนต์กาเนิดไฟฟ้าจากสภาวะอากาศต่าง ๆ เช่น ลม, ฝน เป็นต้นได้
ประกอบด้วยตู้ครอบ, ประตูตู้ครอบพร้อมสลักสาหรับล็อก, บานเกล็ด (Louver) หรือแผ่นเหล็กเจาะรู
(Perforated panels) ซึ่งอากาศสาหรับใช้ในการระบายความร้อนสามารถไหลผ่านได้โดยสะดวก
3.3.2 แบบป้องกันเสียง (Soundproof Enclosures)
ตู้ครอบแบบนี้ต้องสามารถป้องกันเสียงดังจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้ า และสามารถลดเสียงของเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้าให้ได้ตามข้อกาหนด และเป็นไปตามกฎหมาย ภายในตู้จะต้องติดตั้งวัสดุป้องกันเสียง (Soundproof
material) และกล่องเก็บเสียง (Sound attenuator) ซึ่งถูกออกแบบเหมาะสมสามารถใช้กับเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.3.3 แบบสามารถเข้าไปทางานภายในได้ (Walk-in Enclosures)
ตู้ครอบแบบนี้ถูกออกแบบและสร้างให้เหมาะสมกับการใช้งาน ภายในประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น
กล่องเก็บเสียง (Sound attenuator), ผนังป้องกันเสียง, ตู้ควบคุมระบบจ่ายไฟฟ้า (Power switching
and monitoring equipments), ไฟฟ้าแสงสว่าง, ถังดับเพลิง, ถังน้ามันเชื้อเพลิง, อุปกรณ์อื่น ๆ เป็นต้น
ลักษณะพิเศษของตู้ครอบแบบนี้ คือสามารถเข้าไปทางาน, ทาการซ่อมบารุงรักษาอุปกรณ์ซึ่งอยู่ภายในตู้
ครอบได้สะดวก โดยมีการติดตั้งระบบระบายอากาศ, ระบบไฟฟ้า และอื่น ๆ ที่เหมาะสมไว้ครบถ้วน
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
40
บทที่ 4 มาตรฐานการติดตั้งทางเครื่องกล
(Mechanical Installation)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
41
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
42
ฐานแท่ น คอนกรี ต รองรั บ ความสั่ น สะเทื อ น ซึ่ ง การพิ จ ารณารู ป แบบของแท่ น คอนกรี ต รองรั บ ความ
สั่นสะเทือนมีรายละเอียดตามหัวข้อ 2.2 ฐานแท่นเครื่อง (Foundation) ในบทที่ 2
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
43
ร้อนด้วยน้าห้ามหุ้มฉนวนกันความร้อนที่ท่อร่วมไอเสียของเครื่อง (Engine exhaust manifolds) และ
เทอร์โบชาร์จเจอร์(Turbocharger housing)เพราะอาจเกิดความเสียหายขึ้นต่อท่อร่วมไอเสียและเทอร์
โบชาร์จเจอร์ได้ ทั้งนี้ท่ออ่อนท่อไอเสีย (Flexible exhaust pipe)และThermal expansion joint จะต้อง
เป็นชนิดที่ทนความร้อนจากไอเสียที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 600 องศาเซลเซียสได้ อนุญาตให้หุ้มฉนวนทนความ
ร้อนซึ่งสามารถทนความร้อนจากไอเสียที่มีอุณหภูมิสูงดังกล่าว และต้องเป็นชนิดให้ตัวได้
4.2.9 แนวท่ อ ไอเสี ย ที่ ไ ม่ ไ ด้ หุ้ ม ฉนวนจะต้ อ งห่ า งจากโครงสร้ า งของอาคารที่ ติ ด ไฟ ได้ (Combustible
construction) อย่างน้อย 229 มม. หรือ 9นิ้ว เมื่อวัดจากผิวท่อไอเสีย และให้ใช้ช่องลอด (Sleeve) ซึ่งมี
ขนาดใหญ่กว่าท่อไอเสียโดยให้มีช่องระหว่างท่อไอเสียกับช่องลอดไม่น้อยกว่า 25 มม. หรือ 1 นิ้ว โดยรอบ
และต้ องหุ้ ม ฉนวนป้ องกั น ความร้ อนเมื่อจ าเป็ นต้อ งเดิ นท่อ ไอเสี ยผ่ านผนังหรือฝ้ า ซึ่ งสามารถติด ไฟได้
(Combustible wall or Ceilings)
4.2.10 ความสูงของแนวท่อไอเสียที่ไม่ได้หุ้มฉนวน (Routing of exhaust piping) จากพื้นห้องเครื่องถึงใต้ท้องท่อ
ไอเสียต้องสูงอย่างน้อย 2.4 เมตร หรือ 8 ฟุต เพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัส ยกเว้นท่อไอเสียที่หุ้ม
ฉนวนความสูงให้เป็นดุลยพินิจของผู้ออกแบบ
4.2.11 เนื่องจากท่อไอเสีย ขยายตัวประมาณ 1.14 มม. ทุกๆ อุณหภูมิที่สูงขึ้น 100 ๐C จากอุณหภูมิบรรยากาศ
หรืออุณหภูมิห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (หรือประมาณ 0.0076 นิ้ว ต่อความยาว 1 ฟุต ทุก ๆ อุณหภูมิที่สูงขึ้น
100 ๐F) ดังนั้นThermal expansion joint ต้องเป็นแบบทาด้วยสเตนเลสสตีลซึ่งสามารถรับการขยายตัวได้
ตามความยาวของท่อและจะต้องติดตั้งทุกตาแหน่งที่ท่อไอเสียเปลี่ยนทิศทาง
4.2.12 การติดตั้งท่อไอเสียต้องติดตั้งให้ลาดลงจากตัวเครื่องยนต์ (Slope downwards away the engine to the
out of doors or to a condensate trap) ไม่น้อยกว่า 1 ต่อ 100 จากแนวระนาบหรือแนวนอน
4.2.13 ท่อไอเสียจะต้องเดินออกไปภายนอกอาคารโดยปลายท่อไอเสีย จะต้องห่างจากช่องอากาศเข้า (Air intake
or air inlet grill) ไม่น้อยกว่า 5 เมตร และอยู่ในตาแหน่งที่เขม่าท่อไอเสีย (Soot) ไม่ทาให้อาคาร ผนัง
อาคาร และหน้าต่างดา ปลายท่อไอเสียต้องติดตั้งห่างจากผนังภายนอก หรือหลังคาไม่น้อยกว่า 3 ฟุตหรือ 1
เมตร และไอเสียที่ปล่อยออกไปต้องไม่รบกวนอาคารข้างเคียง
4.2.14 ต้องติดตั้งฝาครอบกันฝน (Rain cap) สาหรับปลายท่อไอเสีย (Exhaust outlet point up)
4.2.15 ห้ามต่อเชื่อมระบบท่อไอเสียของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าเข้ากับระบบท่อไอเสียของเครื่องจักร หรือ เครื่องกาเนิด
ไฟฟ้าอื่น เพราะ เขม่า, การกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้า (Corrosive condensate) และอุณหภูมิของไอเสียที่
สูงขึ้น จะทาให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์เดินเบาของเครื่องที่ไม่ได้ทางานได้
4.2.16 ความดันย้อนกลับ (Exhaust back pressure)จะต้องไม่เกินค่า ความดันย้อนกลับ ที่ยอมรับได้ (Allowable
back pressure) ใน Engine data sheet ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ ถ้าค่า ความดันย้อนกลับมีค่าเกิน
กว่าที่กาหนดไว้จะทาให้กาลังของเครื่องยนต์ตก, อายุการใช้งานสั้นลง (Reduce engine life) ก่อนทาการ
ติดตั้งระบบท่อไอเสียต้องทาแบบติดตั้ง (Layout) และคานวณค่า ความดันย้อนกลับ ให้อยู่ภายในข้อกาหนด
ของบริ ษัทผู้ ผ ลิ ตเสี ย ก่อน และเมื่อทาการติด ตั้งเสร็จเรีย บร้อยแล้ ว ต้อ งทาการทดสอบวัด ค่า ความดั น
ย้อนกลับ ที่ท่อไอเสียภายใต้สภาวะจ่ายโหลดเต็มที่ (Full load operation)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
44
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
45
4.3.2.3 ช่องอากาศออกจะต้องติดตั้งเพื่อระบายลมร้อนออกนอกอาคาร (Downwind side)
4.3.2.4 ตาแหน่งช่องอากาศเข้า (Inlet air) จะต้องห่างจากปลายท่อไอเสีย (Exhaust Outlet) ไม่น้อยกว่า 5 เมตร
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
46
4.3.7 ความเร็วที่เหมาะสมของอากาศ (Ventilation air) ที่ไหลเข้า (Inlet air) ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าต้องมีค่า ไม่
เกิน 150 – 220 เมตรต่อนาที หรือ 500-700 ฟุตต่อนาที
- ถ้าความเร็วของอากาศสูงเกินไปเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะดึงฝนเข้ามาภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าได้ขณะ
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าทางาน
- ช่องอากาศไหลเข้า (Inlet air) ต้องมีขนาดพื้นที่สุทธิ (Free Area) ใหญ่กว่าช่องอากาศไหลออก (Outlet
air) ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่า
4.3.8 กรณีรังผึ้งระบายความร้อน (Radiator) ติดตั้งอยู่บนฐานแท่นเดียวกับชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้าค่า Total airflow
restriction ของลมเข้า – ออกจากห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้ารวมระบบท่อลมที่ช่องลมออก (Discharge duct at
the radiator outlet) จะต้องไม่เกินค่า Static head ของพัดลมระบายความร้อน (Radiator fan) ตาม
ข้อกาหนดของบริษัทผู้ผลิต แต่ถ้าไม่ได้กาหนดไว้ให้ค่า Max. air flow restriction มีค่าไม่เกิน 125 ปาสกาล
(0.50 นิ้วน้า)
4.3.9 กาแพงกันลมหรือกันเสียง (Wind/Noise barrier) ด้านหน้าหม้อน้า (รูปที่ 4.2) จะต้องมีระยะห่างจากตัว
อาคารไม่น้อยกว่า 3 เท่าของความสูงขนาดช่องลมออก (3 x)
4.3.10 อุณหภูมิที่เหมาะสมของห้ องเครื่ องกาเนิดไฟฟ้าต้องไม่เกิน 50 °C (125 °F) อย่างไรก็ตามการกาหนด
อุณหภูมิห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าที่ 40 °C (100 °F) จะทาให้เครื่องกาเนิดไฟฟ้ามีขนาดเล็กลง และสามารถลด
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องกาลังของเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าตกเนื่องจากอุณหภูมิของอากาศดีห รืออากาศ
สาหรับใช้ในการจุดระเบิดได้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
47
Q = ปริมาณอากศที่ต้องการ (Mass flow rate of air into the room) หน่วยเป็น cfm. หรือ
m3/min
H Total = ปริมาณความร้อนรวมที่แผ่ออกมาจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในห้อง
เครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Heat rejection into the room from the genset and other heat
sources) หน่วยเป็น BTU/min หรือ MJ/min
Cp = ความร้อนจาเพาะความดันอากาศคงที่ (Specific heat at constant pressure)
= 0.241 BTU/lb-oF
หรือ = 1.01 x 10-3 MJ/kg- oC
T = ผลต่างของอุณหภูมิภายในและภายนอกห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Temperature rise in the
generator set room over outdoor ambient) หน่วยเป็น oF หรือoC
d = ความหนาแน่นของอากาศ (Density of air)
= 0.0754 lb/ft3
หรือ = 1.21 kg/m3
H Total 55 H Total
Q = = cfm.
0.241 0.0757 T T (
๐
F)
H Total 818 H Total 3
หรือ = = m /min.
(1.01 10- 3 ) 1.21 T ๐
T( C)
4.4 ระบบระบายความร้อนด้วยน้าหรือของเหลวระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
(Engine cooling system)
เครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะถูกระบายความร้อนด้วยน้าหรือของเหลวระบายความร้อนโดยอาศัยเครื่อง
สูบ (Pump) เป็นตัวส่งน้าหรือของเหลวระบายความร้อนผ่านทางเดินของระบบภายในตัวเครื่องยนต์ผ่านเสื้อสูบ
(Cylinder block) และฝาสูบ (Cylinder head) เป็นต้นโดยทั่วไประบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขับ
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะประกอบด้วยรังผึ้งระบายความร้อนชนิดติดตั้งบนฐานแท่นเดียวกันกับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
(Skid-mounted radiator) และพัดลมระบายความร้อน (Radiator fan) ชนิดขับด้วยเครื่องยนต์ (Engine-
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
48
driven fan) เพื่อใช้สาหรับระบายความร้อนของเครื่องยนต์ผ่านน้าหรือของเหลวระบายความร้อน (Coolant
mixture) และระบายอากาศภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าด้วย นอกจากระบบนี้แล้วยังมีระบบระบายความ
ร้อนแบบอื่น ๆ อีกหลายแบบ ได้แก่ ระบบถังแลกเปลี่ยนความร้อนชนิดของเหลวสู่ของเหลวแบบติดตั้งบน
เครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Skid-mounted liquid to liquid heat exchanger) รังผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกส่วน
จากตัวเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ( Remote radiator), ถังแลกเปลี่ยนความร้อนชนิดของเหลวสู่ของเหลวแบบแยก
ส่วนจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Remote liquid to liquid heat exchanger) และหอผึ่งน้า (cooling tower)
เป็นต้น
โดยทั่วไปเครื่องกาเนิดไฟฟ้าที่ติดตั้งใช้งานอยู่จะเป็นแบบรังผึ้งระบายความร้อนติดตั้งอยู่บนแท่นเดียวกัน (Skid-
mounted radiator cooling) ซึ่งมีความสะดวกและง่ายในการติดตั้ง ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมีมูลค่าต่าที่สุดเมื่อเทียบ
กับแบบอื่น ๆ สาเหตุเพราะใช้อุปกรณ์ประกอบการติดตั้ง เช่น ท่อน้า,การเดินสายคอนโทรล ,ปริมาณน้าระบายความ
ร้อน และงานติดตั้งระบบอื่ นๆที่เกี่ยวข้องน้อยกว่าแบบอื่น ๆ เครื่องกาเนิดไฟฟ้าแบบนี้จะมีพัดลมระบายความร้อน
(Radiator fan) เป็นแบบขับด้วยเครื่องยนต์ (Mechanically driven by the engine) และมีลักษณะทั่วไปดังนี้
จะต้องมีชุดเทอร์โมสตรัทติดตั้งในระบบระบายความร้อนเพื่อใช้สาหรับอุ่น (Warm up) น้าหรือของเหลวระบาย
ความร้อนทาให้อุณหภูมิของน้าหรือของเหลวระบายความร้อนด้านร้อน (Hot side) สูงขึ้น
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
49
การออกแบบน้าหรือของเหลวระบายความร้อนจะต้องเผื่อการขยายตัวของน้าหรือของเหลวระบายความร้อนเมื่อ
อุณหภูมิสูงขึ้นด้วย
เครื่องสูบหรือปั๊ม (Pump) จะต้องถูกออกแบบให้ความดันเป็นบวก (Positive head) ตลอดเวลา
อัตราการไหล (Flow rate) ของน้าหรือของเหลวระบายความร้อนที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับค่าต่าสุดของ Static และ
Friction head ของเครื่องสูบหรือปั๊ม (Pump) ระบบระบายความร้อนจะไม่สามารถระบายความร้อนของเครื่อง
กาเนิดไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพถ้า Static และ Friction head ของเครื่องสูบมีค่าเกินกว่าข้อกาหนดใน
Engine data sheetของบริษัทผู้ผลิตและจะทาให้เครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าเกิดความร้อนสูงเกินเกณฑ์ปกติ
(Overheating) ได้
4.5.2 แบบรังผึ้งระบายความร้อนแยกจากตัวเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Remote radiator)
โดยทั่วไปเมื่อไม่สามารถจัดระบบระบายอากาศซึ่งต้องการอากาศปริมาณมากให้กับห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าได้ก็
จะเลือกใช้เครื่องกาเนิดไฟฟ้าแบบรั งผึ้งระบายความร้อนแยกจากตัวเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Remote radiator) แต่
อย่างไรก็ตามเครื่องกาเนิดไฟฟ้าแบบนี้ก็ยังต้องการอากาศสาหรับระบายความร้อนห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้าอยู่ดีเพียงแต่
อากาศที่ต้องการส าหรั บ ระบายความร้ อนจะมีปริมาณน้อยกว่าแบบรังผึ้ งระบายความร้อนชนิด ติ ดตั้งอยู่บนแท่น
เดียวกับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Skid-mounted radiator)
เมื่อจาเป็นต้องเลือกใช้เครื่องกาเนิดไฟฟ้าชนิดรังผึ้งระบายความร้อนแยก (Remote radiator) จะต้องพิจารณา
เลือกแบบของรังผึ้งระบายความร้อนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับตาแหน่งที่จะติดตั้งชุด รังผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกซึ่งจะ
เกี่ยวข้องกับระยะห่างของชุดรังผึ้งระบายความร้อนกับชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้าอันมีผลต่อค่า Friction head ของเครื่อง
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
50
สูบ (Pump) และความสูงของชุดรังผึ้งระบายความร้อนวัดจาก Centerline ของเพลาข้อเหวี่ยง (Crankshaft) อันมีผล
ต่อค่า Static head ของเครื่องสูบ โดยสรุปค่า Static และ Friction head ของระบบของเหลวระบายความร้อนต้องมี
ค่าไม่เกินข้อกาหนดใน Engine data sheetของบริษัทผู้ผลิต
แบบของระบบระบายความร้อนชนิดรังผึ้งระบายความร้อนแยกแบ่งออกเป็นประเภทต่างตามค่าของ Static
และ Friction head ได้ดังต่อไปนี้
ถ้าค่า Static และ Friction head ไม่เกินค่าที่กาหนดใน Engine data sheet ของบริษัทผู้ผลิตการติดตั้ง
ระบบระบายความร้อนชนิดรังผึ้งระบายความร้อนแยก จะต้องติดตั้งตามรูปที่ 4.7 ถ้าค่า Friction head มี
ค่าเกินกว่าค่าที่บริษัทผู้ผลิตกาหนดแต่ Static head มีค่าไม่เกินกว่าค่าที่บริษัทผู้ผลิตกาหนดใน Engine
data sheet การติดตั้งระบบระบายความร้อนชนิดรังผึ้งระบายความร้อนแยก (Remote radiator) จะต้อง
ติดตั้งตามรูปที่ 4.8
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
51
ถ้าค่า Friction head และ Static head มีค่าเกินกว่าค่าที่บริษัทผู้ผลิตกาหนดใน Engine data sheet การ
ติดตั้งระบบระบายความร้อนชนิดรังผึ้งระบายความร้อนแยกจะต้องติดตั้งตามรูปที่ 4.9
ข้อกาหนดการติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบรังผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกส่วนจากตัวเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
(Remote radiator)
- ค่าสูงสุดของ Coolant static และ Friction heads ในระบบระบายความร้อนจะต้องไม่เกินข้อกาหนด ของ
บริษัทผู้ผลิต
- ขนาดของท่อน้าหรือของเหลวระบายความร้อนที่ต่อระหว่างรังผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกและเครื่องยนต์
ต้องมีขนาดเท่ากับหรือโตกว่าท่อน้าหรือของเหลวระบายความร้ อนเข้า-ออกของเครื่องยนต์ (Engine inlet
and outlet connection)
- ต้องทาความสะอาดภายในท่อน้าหรือของเหลวระบายความร้อนและข้อต่อ -ข้องอต่างๆให้ ส ะอาดก่อน
เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องยนต์
- จะต้องพิจารณาการขยายตัวเนื่องจากความร้อน (Thermal expansion) ของระบบท่อน้า หรือของเหลว
ระบายความร้อนด้วย
- ท่อน้ าหรื อของเหลวระบายความร้ อนจะต้ องเป็น ท่อ เหล็ กอาบสั งกะสี ช นิ ดหนา หรือ ท่อ เหล็ กด า ตาม
มาตรฐาน มอก., ATSM, JIS,BS หรือมาตรฐานอื่นที่เทียบเท่า
- ข้อต่อต่าง ๆ (Flexible Tube) ระหว่างเครื่องยนต์ รังผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกและท่อน้าหรือของเหลว
ระบายความร้อนจะต้องสามารถทนความร้อนและแรงดันของน้าหรือของเหลวระบายความร้อนได้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
52
- ข้อต่อต่าง ๆ (Flexible Tube) ระหว่างเครื่องยนต์ รั งผึ้งระบายความร้อนชนิดแยกและท่อน้าหรือของเหลว
ระบายความร้อนจะต้องสามารถทนความสั่นสะเทือน (Vibration) เนื่องจากเครื่องยนต์ขณะทางาน ขณะ
สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ได้โดยข้อต่อต่าง ๆ จะต้องเป็นแบบ Flexible stainless steel connections
หรือ Double-clamped hoses ก็ได้
- ข้อต่อ (Connection Hose) ทางด้านดูด (Suction side) ของเครื่องสูบ ต้องสามารถป้องกันการยุบตัว
(Resist collapse)
- ข้อต่อ (Coolant Hose) ต่างๆจะต้องถูกยึดมั่นคงแข็งแรงด้วย T-bolt หรือ Constant torque clamps ไม่
อนุญาตให้ใช้ Worm screw-Type
- Deaerating Tankหรือ Auxiliary Tank
(ก) จะต้องติดตั้งที่ตาแหน่งสูงสุดของระบบระบายความร้อน
(ข) จะต้องประกอบด้วยฝาปิด (Fill/pressure cap) ติดตั้งอยู่ที่จุดสูงสุดของถัง, สวิทช์ดับเครื่องยนต์เมื่อ
ระดับน้าหรือของเหลวระบายความร้อนต่าเกินเกณฑ์กาหนด (Low coolant level shutdown
switch)
(ค) ปริมาตรของถังต้องมีปริมาตรตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิต
(ง) จะต้องมีหลอดแก้ว (Sight glass) แสดงระดับน้าหรือของเหลวระบายความร้อน
(จ) จะต้องมีท่อหายใจติดตั้งเหนือระดับน้าหรือของเหลวระบายความร้อน (Have vent lines above the
coolant level)
(ฉ) ต้องมีจุดต่อสาหรับท่อหายใจแต่ละท่อ (Have a delicated connection point for each vent
line)
- ทุก ๆ จุดสูงสุดของระบบท่อระบายความร้อนและ Engine coolant jacket จะต้องมี่ท่อหายใจต่อไปยัง
Deaerating tank.
- Hotwell tank
(ก) ความจุถังน้าหรือของเหลวระบายความร้อนในถัง Hot well tank จะต้องไม่น้อยกว่าผลรวมของค่า
ดังนี้.-
(ก.1) 25% ของอัตราการไหลของน้าหรือของเหลวผ่านเครื่องยนต์ในระบบระบายความร้อน
(ก.2) 25% ของอัตราการไหลของน้าหรือของเหลวผ่านรังผึ้งระบายความร้อน (Radiator)
(ก.3) ปริมาตรของน้าหรือของเหลวที่ใช้เติมรังผึ้งระบายความร้อนและในท่อของระบบน้าระบายความ
ร้อนบวกด้วย 5% ของปริมาตรทั้งหมดเพื่อการขยายตัว (Thermal expansion)
(ข) ก้นถัง (The bottom of hot well tank) จะต้องสูงกว่าท่อน้าหรือของเหลวไหลออกจากเครื่องยนต์
(The bottom of the hot well should be above the engine coolant outlet)
4.5.3 แบบถังแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat exchanger cooling system) การระบายความร้อนแบบนี้ความร้อน
จะถูกระบายออกจากน้าหรือของเหลวระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขับ (The engine coolant) ซึ่งเป็น
ระบบปิด (Closed system) โดยใช้น้าจากแหล่งอื่น ๆ เช่น หอผึ่งน้า (Cooling tower) หรือถังเก็บน้าของ
อาคาร (Water tank) เป็นต้น เป็นตัวกลางในการระบายความร้อนออกไป ซึ่งเครื่องยนต์ขับ, เครื่ องสูบน้า
หรือของเหลวระบายความร้อน (The engine pump) และถังแลกเปลี่ยนความร้อนจะสร้างความดันขึ้นมา
ภายในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นระบบปิดเพื่อให้น้าหรือของเหลวไหลเวียนและน้าหรือ
ของเหลวระบายความร้อนในระบบนี้จะเป็นส่วนผสมของของเหลว (น้าผสมน้ายาระบายความร้อน) หรือ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
53
เป็นของเหลวระบายความร้อน (Coolant) ส่วนน้าที่เป็นตัวกลางในระบบระบายความร้อน (Raw water)
ที่มาจากหอผึ่งน้า หรือถังน้าของอาคารจะต้องเป็นน้าสะอาดธรรมดาห้ามมีส่วนผสมของสารเคมี (เนื่องจาก
บางครั้งน้าระบายความร้อนเป็นน้าที่ใช้งานเพื่อการอุปโภค-บริโภคภายในอาคาร) การติดตั้งระบบระบาย
ความร้อนแบบนี้จะต้องพิจารณาถึงข้อกาหนดต่าง ๆ ดังนี้ :-
4.5.3.1 อัตราการไหลของน้าหรือของเหลวระบายความร้อน (Raw water or coolant flow rate) แรงดันและ
อุณหภูมิเข้า-ออก ต้องเป็นไปตามข้อกาหนดของบริษัทผู้ผลิต (Engine data sheet)
4.5.3.2 ก่อนออกแบบติดตั้งจะต้องกาหนดว่าน้าหรือของเหลวระบายความร้อน (Raw water orcoolant) จะ
นามาจากไหน และมีผลกระทบกับระบบอื่น ๆ อย่างไร เช่น นามาจากหอผึ่งน้า ถังเก็บน้าของอาคาร,
แม่น้าหรือแหล่งน้าสาธารณะ เป็นต้น และเมื่อระบายความร้อนแล้วจะนาน้าระบายความร้ อนไปทิ้งที่
ไหน หรือนากลับมาใช้ใหม่ได้อย่างไร
4.5.3.3 การติดตั้งต้องมีระบบระบายอากาศที่เหมาะสมและเพียงพอ (Sufficient ventilation system)
4.5.3.4 เลือกชนิดของถังแลกเปลี่ยนความร้อน (Shell and Tube หรือ Plate type) และวัสดุที่ใช้ทาต้อง
เหมาะสมกับคุณภาพของน้าหรือของเหลวระบายความร้อน (Quality of raw cooling water)
4.5.3.5 การคานวณหาปริมาณน้าระบายความร้อน (Raw water) ที่จะใช้ระบายความร้อนสามารถหาได้จากสูตร
RWR =
HR
T c
RWR = ปริมาณน้าหรือของเหลวระบายความร้อนที่ต้องการ (Raw water or coolant required)
หน่วยเป็นแกลลอนต่อนาที (ลิตรต่อนาที)
HR = ความร้อนที่ระบายให้น้าระบายความร้อน (Heat rejection to water or coolant)
หน่วยเป็นบีทียูต่อนาที (กิโลจูลต่อนาที)
T = อุณหภูมิของน้าหรือของเหลวระบายความร้อนที่สูงขึ้น (Temperature rise of water or
coolant across cooler core) หน่วยเป็นองศาฟาเรนไฮท์ (องศาเซลเซียส)
c = ค่าความร้อนจาเพาะของน้า หรือของเหลวระบายความร้อน (Specific heat of water)
= 8 บีทียูต่อองศาฟาเรนไฮท์ต่อแกลลอน (4 กิโลจูลต่ออาศาเซลเซียสต่อลิตร) กรณีเป็นน้า
หมายเหตุ : ค่ำควำมร้อนที่ระบำยให้น้ำหรือของเหลวระบำยควำมร้อน (Heat reject to coolant) สำมำรถหำได้
จำกข้อมูลของบริษัทผู้ผลิต (Engine data sheet) ระบบระบำยควำมร้อนแบบถังแลกเปลี่ยนควำมร้อน
(Heat Exchanger) แบ่งออกเป็นแบบติดตั้งมำพร้อมชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้ำ (Set – mounted heat
exchanger) รูปที่ 4.10 และแบบติดตั้งแยก (Remote heat exchanger) ซึ่งถังแลกเปลี่ยนควำมร้อน
ชนิ ด นี้ จ ะถู ก แยกออกไปจำกชุ ด เครื่ อ งยนต์ ก ำเนิ ด ไฟฟ้ ำ แบบเดี ย วกั บ ชนิ ด หม้ อ น้ ำแยก (Remote
radiator)
กรณีติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้าชนิดระบบระบายความร้อนแบบถังแลกเปลี่ยนความร้อนแต่ Static head
ของระบบน้าระบายความร้อนมีค่าเกินข้อกาหนดของบริษัทผู้ผลิต ให้ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ Dual heat
exchanger system เป็นระบบระบายความร้อนโดยใช้รังผึ้งระบายความร้อน (Radiator) เป็นชุดระบายความร้อน
ให้กับน้าระบายความร้อน (Raw water) ตามรูปที่ 4.11 ซึ่งขนาดรังผึ้งระบายความร้อนจะต้องมีขนาดใหญ่กว่าถัง
แลกเปลี่ยนความร้อน (Heat exchanger)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
54
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
55
4.6 ระบบน้ามันเชื้อเพลิง
การติดตั้งระบบน้ามันเชื้อเพลิงของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องพิจารณาสิ่งต่าง ๆ อย่างน้อยดังนี้ :-
4.6.1 การสร้างถังน้ามันเชื้อเพลิง ตาแหน่งติดตั้ง ระบบท่อหายใจ ระบบท่อทางและอุปกรณ์ การทดสอบและการ
ตรวจสอบต้องเป็นไปตามมาตรฐานนี้ หรือข้อบังคับกฎหมายของท้องถิ่นนั้น ๆ
4.6.2 ตาแหน่งติดตั้งถังน้ามันเชื้อเพลิงต้องสะดวกในการเติมน้ามันเชื้อเพลิง การติดตั้ง ห่างจากผนังห้อง หรือช่อง
เปิดต่าง ๆ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานหรือข้อบังคับตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4.6.3 ความจุของถังน้ามันเชื้อเพลิงจะต้องเพียงพอที่จะเดินเครื่องตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉินได้โดยไม่ต้อง
เติมน้ ามัน เชื้อ เพลิ งเพิ่ มอีก ปริ มาตรของถัง น้ามั นเชื้อ เพลิ งสามารถคานวณได้จ ากอั ตราการสิ้ นเ ปลื อ ง
เชื้อเพลิงที่เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจ่ายโหลดเต็มที่ (Full load fuel consumption rate) คูณด้วยระยะเวลาที่
ต้องการให้เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจ่ายกระแสไฟฟ้าอายุของน้ามันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 1.5 – 2 ปี
4.6.4 ถังน้ามันเชื้อเพลิงจะต้องมีระบบท่อหายใจที่เพีย งพอเพื่อป้องกันมิให้เกิดแรงดันขึ้นภายในถัง ซึ่งระบบท่อ
หายใจต้องเป็น ไปตามมาตรฐานและข้อบังคับตามกฎหมาย ถังน้ามันจะต้องมีพื้นที่ส าหรับป้องกันการ
ขยายตัว เมื่อน้ามันเชื้อเพลิงมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซนต์ของปริมาตรถัง และจะต้องทาการ
ระบายหรือไล่น้า สิ่งสกปรกออกจากน้ามันเชื้อเพลิง (Manually draining or pumping out water and
sediment) อย่างสม่าเสมอ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
56
4.6.5 จะต้องมีไส้กรอง (Pre – filter) เพื่อกรองหรือไล่สิ่งสกปรกออกจากน้ามันเชื้อเพลิง ก่อนเข้าปั๊มน้ามัน
เชื้อเพลิง (The fuel lift pump) เครื่องสูบน้ามันเชื้อเพลิง (Day tank transfer pump) และวาล์วลูกลอย
(Float valve)
4.6.6 ต้องไม่ใช้ถังน้ามันเชื้อเพลิงร่วม หรือ เชื่อมถังน้ามันเชื้อเพลิงเข้ากับถังน้ามันเชื้อเพลิงของอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ
4.6.7 ในกรณีติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้าหลาย ๆ ชุด ห้ามใช้ท่อน้ามันไหลกลับ (Fuel return lines) ร่วมกัน โดยแต่
ละชุดให้เดินแยกกัน (Separate fuel return lines) กลับไปยังถังน้ามันเชื้อเพลิงเพื่อป้องกันการเกิดแรงดัน
ขึ้นในชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้าที่กาลังอยู่ในช่วงเดินเบาอยู่ (To prevent pressurizing the return lines of
idle sets) และห้ามติดตั้งวาล์ว (Shutoff device) ในระบบท่อน้ามันไหลกลับ (Return line) เพราะ
เครื่องยนต์จะเกิดความเสียหาย ถ้าเดินเครื่องยนต์โดยปิดท่อน้ามันไหลกลับ
4.6.8 เมื่อน้ามันเชื้อเพลิงไหลจากเครื่องยนต์ กลับมาถังน้ามันเชื้อเพลิง อุณหภูมิของน้ามันเชื้อเพลิงภายในถัง
น้ามันเชื้อเพลิงจะสูงขึ้นเป็นเหตุให้ความหนาแน่นของน้ามันเชื้อเพลิงต่าลง กาลังของเครื่องยนต์ลดลง และ
ความสามารถในการหล่อลื่นอุปกรณ์ส่งน้ามันเชื้อ เพลิง เช่น ปั๊มน้ามันเชื้อเพลิง หัวฉีดเป็นต้นลดลง ดังนั้น
ถ้ามีถังน้ามันเชื้อเพลิง 2 ถัง ประกอบด้วย ถังน้ามันเชื้อเพลิงสารอง (Fuel storage tank) และถังน้ามัน
ประจาเครื่อง (Fuel day tank ) ท่อน้ามันไหลกลับ (Fuel return line) ควรไหลกลับไปลงถังน้ามัน
เชื้อเพลิงสารองมากกว่าไหลกลับไปลงถังน้ามันประจาเครื่อง (Fuel day tank) ในกรณีทไี่ ม่มีถังน้ามันสารอง
หรือไม่สามารถเดินท่อน้ามันไหลกลับไปยังถั งน้ามันเชื้อเพลิงสารองได้ การเดินท่อน้ามันไหลกลับ จะต้อง
เป็นไปตามคาแนะนาของบริษัทผู้ผลิต เช่น ติดตั้ง Oil Cooler เพิ่มเติมเป็นต้น
4.6.9 ถังน้ามันเชื้อเพลิงต้องบรรจุน้ามันเชื้อเพลิงได้ไม่เกินร้อยละเก้าสิบ ของปริมาตรของถังน้ามันเชื้อเพลิง และ
ต้องจัดเตรียม เขื่อนหรือกาแพงล้อมรอบถังน้ามันเชื้อเพลิง (Bund wall) ให้มีความจุเท่ากับปริมาตรของถัง
น้ามันเชื้อเพลิงถังใหญ่ที่สุดที่อยู่ภายในกาแพงล้อมรอบถังน้ามันเชื้อเพลิงนั้น
4.6.10 ต้องมีเครื่องสูบน้ามันเชื้อเพลิงแบบมือโยกหรือมือหมุน สาหรับเติมน้ามันเชื้อเพลิงเข้าถังน้ามันประจาเครื่อง
(Fuel Day Tank)
4.6.11 ต้องมีระบบป้องกันอัคคีภัยตามมาตรฐานวสท. ฉบับล่าสุด และข้อบังคับตามกฎหมาย กรณีเกิดเพลิงไหม้
ห้องเครื่ องกาเนิ ดไฟฟ้าต้องมีร ะบบตัดการไหลของน้ามันเชื้อเพลิ ง จากถังน้ามันส ารองภายนอก (Fuel
Storage Tank) เข้าไปภายในห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
4.6.12 ระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิง
4.6.12.1 ต้องใช้ ท่ออ่อน (Flexible hose) เชื่อมต่อระหว่างท่อน้ามันเชื้อเพลิง และเครื่องยนต์เพื่อป้องกันการ
เคลื่อนที่และการสั่นสะเทือนที่เกิดจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
4.6.12.2 ท่อน้ามันเชื้อเพลิงจากถังน้ามันเชื้อเพลิงประจาเครื่อง (Fuel day tank) ไปยังเครื่องยนต์ต้องเดินลาดลง
(Down hill) จากถังน้ามันเชื้อเพลิงไปยังเครื่องยนต์ และต้องไม่เดินเหนือศีรษะ ซึ่งจะทาให้มีฟองอากาศ
ในระบบท่อได้
4.6.12.3 ระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิงต้องมี อุปกรณ์จับยึด (Support ) สาหรับยึดท่อที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการ
สั่นสะเทือนและท่อแตกระยะห่างระหว่าง อุปกรณ์จับยึด (Support) แต่ละชุดต้องไม่เกิน1.5 เมตร เมื่อ
ท่อน้ามันเชื้อเพลิงมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 40 มม.(1.5 นิ้ว)
4.6.12.4 ต้องไม่เดินท่อน้ามันเชื้อเพลิงผ่านบริเวณท่อ ซึ่งมีความร้อน (Heating pipes) สายไฟฟ้าหรือส่วนต่าง ๆ
ของระบบท่อไอเสีย
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
57
4.6.12.5 ก่อนใช้งานให้ทาความสะอาด (Flush) ระบบท่อน้ามันเชื้อเพลิง ด้วยลมหรือก๊าซเฉื่อยเพื่อไล่สิ่งสกปรก
ต่าง ๆ ภายในท่อ และให้ทาการทดสอบการรั่วซึมโดยใช้แรงดันน้า แรงดันอากาศ หรือก๊าซเฉื่อยอัดด้วย
แรงดัน 345 กิโลปาสกาล (50 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบนาที ในกรณีเป็นท่อที่มี
ผนังสองชั้นให้ทดสอบเฉพาะท่อชั้นใน
4.6.12.6 ขนาดของท่อน้ามันเชื้อเพลิงจะขึ้นอยู่กับอัตราการไหลสูงสุดของน้ามันเชื้อเพลิงภายในท่อดังนี้
รูปแบบการติดตั้งระบบน้ามันเชื้อเพลิงของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ ในกรณีที่ถังน้ามัน
สารองอยู่สูงกว่าเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะเป็นไปตามรูปที่ 4.12 และกรณีที่ถังน้ามันสารองอยู่ต่ากว่าเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะ
เป็นไปตามรูปที่ 4.13
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
58
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
59
4.7 ระบบป้องกันเสียง (Soundproof System) ห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
4.7.1 แหล่งกาเนิดเสียงเมื่อเดินเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะมีเสียงดังเนื่องจากการจุดระเบิด, ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ของ
เครื่องยนต์, เสียงพัดลมรังผึ้งระบายความร้อน (Radiator Fan) เกิดขึ้น เราสามารถแบ่งเสียงที่เกิดขึ้น
ออกเป็นเสียงที่เกิดจากแหล่งกาเนิดเสียงใหญ่ ๆ 3 ประเภท คือ
4.7.1.1 เสียงที่เกิดจากการจุดระเบิด (Engine Exhaust) ซึ่งเป็นเสียงความถี่ต่า (Low Frequency Sound)
4.7.1.2 เสียงที่เกิดจากชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ของเครื่องยนต์ (Engine Moving Part) ซึ่งเป็นเสียง ความถี่ต่าและ
ความถี่สูง (Low and High Frequency Sound)
4.7.1.3 เสียงลมจากพัดลมระบายความร้อน (Radiator Discharge Air) ซึ่งเป็นเสียงความถี่สูง (High Frequency Sound)
4.7.2 การลดเสียงที่ส่งผ่านโครงสร้างของอาคาร (Reducing structure Transmitted noise) โครงสร้างของ
อาคารที่เกิดความสั่นสะเทือนจะทาให้เกิดเสียงดังเกิดขึ้นในอากาศโดยรอบ การติดตั้งหรือเชื่อมต่อระบบต่าง ๆ
ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าที่เป็นสาเหตุให้เกิดความสั่นสะเทือนเข้ากับโครงสร้างต่าง ๆ ของอาคาร จะทาให้เกิด
เสียง ดังนั้นในการติดตั้งหรือเชื่อมต่อระบบต่าง ๆ ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าเข้ากับโครงสร้างของอาคารจะต้อง
มีอุปกรณ์รองรับความสั่นสะเทือน (Vibration Isolator) เป็นตัวเชื่อมเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนของโครงสร้าง
อาคารและเป็ น การลดเสี ย งที่ส่ งผ่ านโครงสร้า งของอาคารด้ว ย การติด ตั้ง เครื่อ งก าเนิ ดไฟฟ้ าจะต้ องมี
Vibration Isolator รองรับระหว่างตัวเครื่องยนต์, เครื่องกาเนิดไฟฟ้า กับฐานแท่นเครื่อง (Base Frame)
หรื อรองรับ ระหว่างฐานแท่นเครื่องกับแท่นเครื่อง (Concrete Foundation) และต้องมี Flexible
Connections สาหรับระบบท่อไอเสีย, ท่อลม (Air duct) ท่อน้ามันเชื้อเพลิง, ท่อน้าหรือของเหลวระบาย
ความร้อน, ระบบสายไฟที่ต่อเข้ากับเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้าเพื่อลดการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนที่จะส่งผ่านไป
ยังโครงสร้างของอาคาร
4.7.3 การลดเสียงในอากาศ (Reducing Airborne Noise)
- การลดเสีย งเครื่ องกาเนิดไฟฟ้า สามารถทาได้ด้ว ยวิธีง่าย ๆ คือบังคับทิศทางของเสียงที่เกิดจากรังผึ้ ง
ระบายความร้อน หรือปลายท่อไอเสียขึ้นไปตามแนวดิ่งให้ห่างจากบริเวณที่ต้องการลดเสียง
- สร้างกาแพงป้องกันเสียงซึ่งทาด้วยวัสดุ ซึ่งมีความหนาแน่นของมวลสูง เช่น ผนังคอนกรีต หรืออิฐ ในกรณี
นี้ต้องระวังเสียงที่จะลอดผ่ านช่องเปิดต่าง ๆ เช่น ประตู, ช่องท่อไอเสี ย, ช่องท่อน้ามันเชื้อเพลิง หรือ
ช่องทางสาหรับสายไฟฟ้า
- ติดตั้งวัสดุป้องกันเสียงบนกาแพง, เพดาน และภายในท่อลม (Air duct) และให้เปลี่ยนทิศทางการเดินทาง
ของเสียงในท่อโดยใช้ท่อโค้ง 90 องศา เพื่อลดเสียงความถี่สูง (High frequency noise) การติดตั้งวัสดุ
ป้องกันเสียงบนผนังห้องหรือเพดานสามารถลดเสียงได้ดี แต่วัสดุป้องกันเสียง ที่ใช้จะต้องมีคุณสมบัติไม่ติด
ไฟ, ทนต่อการขีดข่วน, มีความหนาแน่นเหมาะสม
- ผนังคอนกรีต (Concrete block) มีคุณสมบัติป้องกันเสียงได้ดีภายในบรรจุทราย เพื่อเพิ่มมวลของผนัง
และเพิ่มการป้องกันหรือลดเสียง
- กรณีรังผึ้งระบายความร้อนแยก (Remote radiator) สามารถลดเสียงได้โดยลดอัตราการไหลของอากาศที่
ใช้ระบายความร้อน หรือติดตั้งพัดลมระบายความร้อนให้ห่างจากบริเวณที่ต้องการลดเสียง และพัดลมที่ใช้
ต้องเป็นชนิดความเร็วต่าเพื่อลดเสียง
4.7.4 การลดเสียงจากท่อไอเสีย การติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า จะต้องมีการลดเสียงที่เกิดจากแก๊สไอเสียโดยใช้ท่อ
เก็บเสียงไอเสีย (Exhaust muffler) ชนิดที่เหมาะสมโดยท่อเก็บเสียงไอเสียจะแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ดังนี้:-
- แบบใช้กับงานอุตสาหกรรม (Industrial type) สามารถลดเสียงได้ 12 – 18 dBA
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
60
- แบบใช้กับที่พักอาศัย (Residential type) สามารถลดเสียงได้ 18 – 25 dBA
- แบบพิเศษ (Critical type) สามารถลดเสียงได้ 25 dBA – 35 dBA
- แบบพิเศษมาก (Super critical type) สามารถลดเสียงได้ 35 dBA – 45 dBA
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
61
บทที่ 5 มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสาหรับระบบจ่ายไฟฟ้าสารอง
(Standby Electrical System Installation)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
62
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
63
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
64
5.2 การจัดระดับชั้นของระบบจ่ายไฟฟ้าสารอง (Classification of Emergency Power Supply Systems)
5.2.1 การจัดระดับความสาคัญการจ่ายโหลดของระบบจ่ายไฟฟ้าสารองแบ่งเป็น 2 ระดับดังนี้
5.2.1.1 ระดับ 1 (Level 1) เป็นระบบการจ่ายไฟฟ้าสาหรับอุปกรณ์ที่กรณีเกิดความล้มเหลวของระบบการจ่าย
ไฟฟ้าแล้วอุปกรณ์นั้นไม่สามารถทางานตามปกติได้และเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บ
หนักได้เช่น
5.2.1.1.1 ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินเพื่อการช่วยชีวิต ( Life safety illumination)
5.2.1.1.2 ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ( Fire detection and alarm systems)
5.2.1.1.3 ระบบลิฟท์ ( Elevators)
5.2.1.1.4 เครื่องสูบน้าดับเพลิง ( Fire pumps)
5.2.1.1.5 ระบบสื่อสารสาธารณะ ( Public safety communications systems)
5.2.1.1.6 กระบวนการผลิตอื่นที่เมื่อหยุดกระบวนการแล้วเป็นเหตุให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต หรือ
สุขอนามัย ( Industrial processes where current interruption would produce serious life
safety or health hazards)
5.2.1.1.7 ระบบระบายอากาศและระบบระบายควันไฟที่จาเป็น ( Essential ventilating and smoke
removal systems)
5.2.1.1.8 ระบบอื่นที่พิจารณาแล้วเห็นควรจัดให้อยู่ในระดับ 1
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
65
5.2.1.5 ให้จัดเตรียมชุดอุปกรณ์ป้องกันเสิร์จ (Surge Suppressor) สาหรับป้องกันแผงควบคุมของเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้าสารอง
5.2.1.6 ระบบไฟฟ้าที่จ่ายให้อุปกรณ์ที่ติดตั้งในข้อ 5.2.1.1และข้อ 5.2.1.2 จะต้องมีคุณสมบัติสอดคล้องกับทุกข้อ
ตามข้อกาหนดต่อไปนี้
5.2.1.6.1 มีคุณภาพตลอดระยะเวลาการจ่ายโหลดตามที่กาหนดไว้
5.2.1.6.2 มีระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายแหล่งจ่ายไฟสูงสุดตามที่กาหนดไว้ในตารางที่ 5-1
5.2.1.6.3 มีระยะเวลาการจ่ายโหลดต่าสุดได้ตามที่ระบุไว้ในตารางที่ 5-2
5.2.2 การจัดประเภทของระบบตามเวลาการเปลี่ยนถ่ายแหล่งจ่ายไฟที่กาหนดไว้เป็นค่าสูงสุดที่ยอมรับได้เป็น
วินาที ตามตารางที่ 5-1
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
66
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
67
ตารางที่ 5.3 เกณฑ์ทั่วไปประกอบการพิจารณาเบื้องต้นในการกาหนดประเภทการจ่ายระบบไฟฟ้าสารอง (Condensed General Criteria for Preliminary
Consideration)
ประเภทของ
ลำด ับ ระยะเวลำทีไ่ ฟด ับ ระยะเวลำน้อยทีส
่ ด
ุ ที่ ระบบไฟฟ้ำ
กำรใช้งำน ว ัตถุประสงค์ ข้อพิจำรณำในกำรเลือกใช้ระบบ
ที่ สูงสุดทีย
่ อมร ับได้ แนะนำในกำรสำรองไฟ
ฉุกเฉิน สำรอง
1 ไฟฟ้ าแสงสว่าง เพือ
่ การอพยพ (Evacuation of ทีเ่ หมาะสมไม่ควรเกิน 3 2 ชั่วโมง x 1 ป้ องกันการตืน่ ตระหนก บาดเจ็บ หรือเสียชีวต
ิ
personnel) วินาที แต่อนุโลมให ้สูงสุด 2 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของอาคาร หน่วยงาน
ได ้ถึง 10 วินาที ปกครองท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
3 เพือ่ ลดเบีย
้ ประกันภัย
4 ป้ องกันความเสียหายของทรัพย์สนิ
5 บรรเทาความเสียหายอันเกิดจากการฟ้ องร ้องตามกฎหมาย
เพือ
่ การรักษาความปลอดภัย 10 วินาที 10-12 ชั่วโมงตลอดยาม x x 1 ลดความสูญเสียจากการจารกรรม หรือ ความเสียหายของทรัพย์สน ิ
(Perimeter and Sucurity) วิกาล
2 เพือ่ ลดเบีย ้ ประกันภัย
3 เพือ ่ ป้ องกันการบาดเจ็บ
เพือ
่ การแจ ้งเหตุ (Warning) 10 วินาที - 3 นาที To return to prime power x 1 ป้ องกันหรือลดความเสียหายของทรัพย์สน ิ
2 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของอาคาร หน่วยงาน
ปกครองท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
3 ป้ องกันการบาดเจ็บ หรือเสียชีวต ิ
่ การกลับสูร่ ะบบไฟฟ้ าปกติ
เพือ 1 วินาที ขึน
้ ไปไม่จากัด ไม่ระบุ จนกว่าการซ่อม x x 1 ความเสีย ่ งขึน
้ อยูก
่ บ
ั ระยะเวลาของการซ่อมบารุง
(restoration of normal power system) จนกระทั่งระบบไฟฟ้ าแสง บารุงจะแล ้วเสร็จและ
สว่างสามารถทาได ้ กลับคืนสูร่ ะบบจ่ายไฟปกติ
ได ้
เพือ
่ ไฟฟ้ าแสงสว่างทั่วไป (General ไม่ระบุ ขึน
้ อยูก
่ บ
ั การ ไม่ระบุ ขึน ้ อยูก
่ บ
ั การ x 1 ป้ องกันการเสียโอกาสทางการค ้า
Lighting ) วิเคราะห์และประเมิน วิเคราะห์และประเมิน 2 ลดการสูญเสียในการผลิต
3 ควมเสีย ่ งในการถูกโจรกรรมตา่
4 ลดเบีย ้ ประกันภัย
่ การใช ้งานในโรงพยาบาลและ
เพือ ต่อเนื่อง-10 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ่ การรักษาพยาบาลทีต ่ อ
่ เนื่องโดยบุคลากรทางการแพทย์
ขอบเขตการให ้บริการทางการแพทย์ (อนุญาตให ้ได ้ถึง10 วินาที 2 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของอาคาร หน่วยงาน
(Hospitals and medical areas) เพือ
่ การสตาร์ท ปกครองท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
แหล่งจ่ายไฟทางเลือกอืน ่ 3 ป้ องกันการบาดเจ็บ หรือเสียชีวต ิ
และหม ้อแปลงไฟฟ้ า) 4 บรรเทาความเสียหายอันเกิดจากการฟ้ องร ้องตามกฎหมาย
เพือ
่ หยุดระบบตามขัน
้ ตอน (Ordinary 0.1 วินาที - 1 ชั่วโมง 10 นาที - หลายชั่วโมง x 1 ป้ องกันการบาดเจ็บ หรือเสียชีวต ิ
Shut-down time) 2 ป้ องกันความเสียหายของทรัพย์สน ิ เนื่องจากการหยุดระบบบ่อยครัง้
หรือหยุดกระทันหันของระบบทีว่ ก ิ ฤติ
3 ควมเสีย ่ งในการถูกโจรกรรมตา่
4 ลดเบีย ้ ประกันภัย
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
68
ประเภทของ
ลำด ับ ระยะเวลำทีไ่ ฟด ับ ระยะเวลำน้อยทีส
่ ด
ุ ที่ ระบบไฟฟ้ำ
กำรใช้งำน ว ัตถุประสงค์ ข้อพิจำรณำในกำรเลือกใช้ระบบ
ที่ สูงสุดทีย
่ อมร ับได้ แนะนำในกำรสำรองไฟ
ฉุกเฉิน สำรอง
2 เริม
่ ต ้นระบบ (Startup หม ้อต ้มน้ าร ้อน (Boilers) 3 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ ารผลิต
่ กลับสูก
power) หม้อไอน้ ำ 2 ป้ องกันความเสียหายเนื่องจากการสูญเสียความร ้อน
3 เตรียมการเพือ ่ กาลังไฟฟ้ าทีต
่ ้องการ
เครือ
่ งอัดลม (Air Compressors) 1 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ ารผลิต
่ กลับสูก
2 เตรียมไว ้สาหรับอุปกรณ์ควบคุม
3 การขนส่ง (Transportation) ลิฟท์ (Elevator) 15 วินาที-1 นาที 1 ชั่วโมงจนกระทั่งกลับสู่ x 1 ่ ความปลอดภัยของผู ้ใช ้งาน
เพือ
ระบบปกติ 2 เพือ่ การอพยพ
3 เพือ ่ ความต่อเนื่องในการปฏิบัตงิ านตามปกติ
การขนส่งสินค ้า (Material Handling) 15 วินาที-1 นาที 1 ชั่วโมง-กลับสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ ความสมบูรณ์แบบของการผลิต
2 เพือ
่ การหยุดระบบตามกาหนด
3 เพือ่ ความต่อเนื่องในการปฏิบัตงิ านตามปกติ
บันไดเลือ
่ น (Escalator) 15 วินาที-ไม่ต ้องการไฟฟ้ า 0 - กลับสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ การอพยพตามทีก ่ าหนด
2 เพือ ่ ความต่อเนื่องในการปฏิบัตงิ านตามปกติ
4 ระบบอานวยความสะดวก ระบบน้ าดี 15 วินาที 30 นาที - กลับสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ ความต่อเนื่องในการผลิต
ทางกล (Mechanical
Utility System) 2 เพือ
่ ป้ องกันความเสียหายของอุปกรณ์
3 เพือ่ จ่ายให ้ระบบป้ องกันอัคคีภัย
ระบบน้ าดืม
่ และสุขาภิบาล 1 นาที - ไม่ต ้องการ ไม่กาหนด ขึน ้ อยูก่ บ
ั การ x 1 เพือ ่ บริการลูกค ้าหรือผู ้ใช ้อาคาร
ประเมิน 2 เพือ ่ รักษาสมรรถภาพของผู ้ใช ้งาน
ระบบไฟสาหรับหม ้อต ้มน้ า (Boiler 0.1 วินาที 1 ชั่วโมง-กลับสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ ป้ องกันการสูญเสียการผลิตไฟฟ้ าและไอน้ า
Power) 2 เพือ ่ รักษาการผลิต
3 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายของอุปกรณ์
เครือ่ งสูบน้ าดี , สุขาภิบาล,ของเหลว 10 วินาที - ไม่ต ้องการ ไม่กาหนดจนกว่าจะมี x 1 เพือ ่ ป้ องกันน้ าท่วม
เพือ
่ การผลิต การประเมิน 2 เพือ ่ รักษาระบบทาความเย็น
3 เพือ ่ ตอบสนองความต ้องการด ้านสุขอนามัย
4 เพือ ่ รักษาการผลิต
5 เพือ ่ รักษาการทางานของหม ้อต ้มน้ า
พัดลมและเครือ
่ งเป่ าลมสาหรับระบบ ่ กติ กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ
0.1 วินาที่ - ระบบกลับสูป x x 1 เพือ ่ รักษาการทางานของหม ้อต ้มน้ า
ระบายอากาศและความร ้อน 2 จัดหาเพือ ่ ส่วนการระบายและกาจัด GAS - Fire
3 เพือ ่ รักษาหน ้าทีก
่ ารทาความเย็น ความร ้อนสาหรับอาคารและการผลิต
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
69
ประเภทของ
ลำด ับ ระยะเวลำทีไ่ ฟด ับ ระยะเวลำน้อยทีส
่ ด
ุ ที่ ระบบไฟฟ้ำ
กำรใช้งำน ว ัตถุประสงค์ ข้อพิจำรณำในกำรเลือกใช้ระบบ
ที่ สูงสุดทีย
่ อมร ับได้ แนะนำในกำรสำรองไฟ
ฉุกเฉิน สำรอง
6 ระบบทาความเย็น อุปกรณ์หรือเครือ ่ งมีอพิเศษทีต่ ้องการ 5 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ
่ ป้ องกันอุปกรณ์หรือสินค ้าเสียหาย
(Refrigeration ) อุณหภูมต ิ า่ ( Cryogenics )
อุปกรณ์เก็บรักษาวัสดุธรรมชาติทส ี่ าคัญ 5 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ
่ ป้ องกันความเสียหายต่อวัสดุทถ
ี่ ก
ู เก็บรักษา
เช่น ธนาคารเลือด ฯลฯ
อุปกรณ์เก็บรักษาวัสดุธรรมชาติทไี่ ม่ 2 ชั่วโมง ไม่กาหนดจนกว่าจะมี x 1 เพือ่ ป้ องกันความยเสียหายต่อวัสดุทถ ี่ ก ู เก็บรักษา
สาคัญ เช่น เนื้อสัตว์ สินค ้า ฯลฯ การประเมิน 2 ลดเบีย ้ ประกันภัย
7 ระบบการผลิต ส่วนพลังงานการผลิตทีส ่ าคัญ(โรงงาน 1 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ ป้ องกันสินค ้าหรือเครือ ่ งมือเสียหาย
(Production) น้ าตาล,โรงงานผลิตเหล็ก,งานผลิตเคมี หรือหยุดระบบตาม 2 เพือ ่ ความต่อเนื่องในการผลิตตามปกติ
,ผลิตแก ้ว ฯลฯ ) ขัน
้ ตอนทีก่ าหนด 3 เพือ ่ ลดรายจ่ายแก่คนงานระหว่างไม่มก ี ารผลิต
4 ลดเบีย ้ ประกันภัย
5 เพือ ่ ป้ องกันการหยุดการทางานระยะยาวเนื่องจากมีมก ี ารหยุดระบบตาม
กาหนด
ส่วนพลังงานควบคุมขัน
้ ตอนการผลิต ต่อเนื่อง-1 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ ป้ องกันการสูญเสียต่อเครือ ่ งจักรและโปรแกรมควบคุมการผลิต
2 เพือ ่ รักษาการผลิต
3 เพือ ่ ป้ องกันการลุกลามต่อความปลอดภัย
4 เพือ ่ ป้ องกันสินค ้าทีไ่ ม่เป็ นตามคุณสมบัตท ิ กี่ าหนด
8 สภาวะของพืน ้ ที่ อุณหภูม ิ 10 วินาที 1 นาทีกระทั่งกลับคืนสู่ x x 1 เพือ ่ ป้ องกันอันตรายต่อผู ้คน
(Space conditioning ) ( ใช ้งานสาคัญ ) ระบบปกติ 2 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายต่อสินค ้าและทรัพย์สน ิ
3 ลดเบีย ้ ประกันภัย
4 เพือ ่ ความต่อเนื่องในการผลิตตามปกติ
5 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายต่อการทางานของคอมพิวเตอร์
แรงดัน (สาคัญ ) 1 นาที 1 นาทีกระทั่งกลับคืนสู่ x x 1 เพือ ่ ป้ องกันอันตรายต่อบุคคล
สภาวะแรงดันบรรยากาศ บวก/ลบ ระบบปกติ 2 เพือ ่ ความต่อเนื่องของกิจกรรมตามปรกติ
3 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายต่อสินค ้าและทรัพย์สน ิ
4 ลดเบีย ้ ประกันภัย
5 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของ หน่วยงานปกครอง
ท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
้ (สาคัญ )
ความชืน 1 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายต่อการทางานของคอมพิวเตอร์
2 เพือ ่ รักษาการผลิตและทดสอบให ้เป็ นปกติ
3 เพือ ่ ป้ องกันการระเบิดหรืออันตรายอืน ่ ๆ
ไฟฟ้ าสถิตย์ (Static Charge ) 10 วินาที่ หรือน ้อยกว่า กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ ป้ องกันไฟฟ้ าสถิตย์และอันตรายทีเ่ กีย ่ วข ้องกัน
2 เพือ ่ ความต่อเนื่องของการผลิตตามปกติ(การพิมพ์แบบกด , การพิมพ์
แบบฉีดพ่น )
ระบบความร ้อนและความเย็นของอาคาร 30 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ ป้ องกันความสูญเสียเนื่องจากภาวะเยือกแข็ง
2 เพือ ่ รักษาประสิทธิภาพของบุคคล
3 เพือ ่ ความต่อเนื่องของกิจกรรมตามปรกติ
ระบบระบายอากาศ (ไอพิษ ) 15 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ ลดอันตรายต่อสุขภาพ
( Toxic Fumes ) หรือหยุดระบบตาม 2 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของ หน่วยงานปกครอง
ขัน
้ ตอนทีก ่ าหนด ท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
ระบบระบายอากาศ (ไอระเบิด ) 10 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ ลดอันตรายจากการระเบิด
(explosive atmosphere ) หรือหยุดระบบตาม 2 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายของทรัพย์สน ิ
ขัน้ ตอนทีก ่ าหนด 3 ลดเบีย ้ ประกันภัย
4 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของหน่วยงานปกครอง
ท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
5 ลดอัตรายจากไฟ
6 ลดอัตรายต่อบุคคล
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
70
ประเภทของ
ลำด ับ ระยะเวลำทีไ่ ฟด ับ ระยะเวลำน้อยทีส
่ ด
ุ ที่ ระบบไฟฟ้ำ
กำรใช้งำน ว ัตถุประสงค์ ข้อพิจำรณำในกำรเลือกใช้ระบบ
ที่ สูงสุดทีย
่ อมร ับได้ แนะนำในกำรสำรองไฟ
ฉุกเฉิน สำรอง
8 สภาวะของพืน ้ ที่ ระบบระบายอากาศ ( อาคารทั่วไป ) 1 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ่ รักษาประสิทธิภาพของบุคคล
(Space conditioning ) 2 เพือ ่ จัดหาอากาศเพิม ่ เติมในอาคาร
ระบบระบายอากาศ ( อุปกรณ์พเิ ศษ ) 15 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ จัดหาการเปิ ดและปิ ดอย่างปลอดภัยของการถ่ายทิง้
(Special equipment ) หรือหยุดระบบตาม 2 ลดอันตรายต่อบุคคลและทรัพย์สน ิ
ขัน
้ ตอนทีก่ าหนด 3 เพือ ่ ให ้ได ้ตามความต ้องการของบริษัทประกันภัย
4 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของหน่วยงานปกครอง
ท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
5 เพือ ่ ความต่อเนื่องของการดาเนินงานตามปกติ
ระบบระบายอากาศ ( ทุกประเภทที่ 1 นาที เป็ นทางเลือก (Optional) x 1 เพือ ่ รักษาความสะดวกสบาย
ไม่สาคัญ )
(all categories noncritical ) 2 เพือ
่ ป้ องกันการเสียหายต่อการทดสอบ
ระบบควบคุมมลพิษทางอากาศ 1 นาที ไม่กาหนดจนกว่าจะมีการ x 1 เพือ่ ความต่อเนื่องของการทางานตามปกติ
( Air pollution control ) ประเมิน การยินยอม 2 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของอาคาร หน่วยงาน
ดาเนินการใดๆ หรือ การ ปกครองท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
หยุดระบบถือเป็ นทางเลือก
9 ระบบป้ องกันเพลิงไหม ้ ระบบแจ ้งเหตุ 1 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของหน่วยงานปกครอง
ท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
( Fire Protection ) 2 ลดเบีย ้ ประกันภัย
3 ลดความเสียหายต่อชีวต ิ และทรัพย์สน ิ
ปั ้มน้ าดับเพลิง 10 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของอาคาร หน่วยงาน
ปกครองท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
2 ลดเบีย ้ ประกันภัย
3 ลดความเสียหายต่อชีวต ิ และทรัพย์สน ิ
แสงสว่างเพิม ่ เติม 10 วินาที 5 นาที กระทั่งกลับคืนสู่ x 1 เพือ่ การให ้การบริการปั ้มน้ าดับเพลิงหากไม่ทางาน
( Auxiliary lighting ) ระบบปกติ 2 เพือ ่ ให ้การนาทางทางสายตาแก่นักผจญเพลิง
10 การประมวลข ้อมูล หน่วยความจา CPU , หน่วยจัดเก็บ 1/2 ไซเคิล กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายต่อโปรแกรม
( Data processing ) Tape / Disc และระบบทีเ่ กีย
่ วข ้อง หรือหยุดระบบตาม 2 รักษาการทางานของระบบเงินเดือน ระบบควบคุม ระบบเครือ ่ งจักร
ขัน
้ ตอนทีก ่ าหนด คลังสินค ้า ระบบการจอง ฯลฯ
้ และอุณหภูม ิ
การควบคุมความชืน 5 - 15 นาที (1 นาทีสาหรับ กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 รักษาสภาวะการทางานเพือ ่ ป้ องกันความผิดพลาดในระบบ
อุปกรณ์น้ าเย็น) หรือหยุดระบบตาม การประมวลข ้อมูล
ขัน้ ตอนทีก ่ าหนด 2 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์
3 เพือ ่ ความต่อเนื่องของการทางานตามปรกติ
11 ระบบสนับสนุนและให ้ความ X -ray 1/1000 วินาที - หลาย จากไม่ต ้องการจนกระทั่ง x x 1 เพือ ่ รักษาคุณภาพ
ปลอดภัยแก่ชวี ต
ิ (แพทย์ ชั่วโมง กลับคืนสูร่ ะบบปกติ 2 เพือ ่ ความพร ้อมของภาวะฉุกเฉิน
สนาม ,โรงพยาบาล ตามทีไ่ ด ้ประเมินไว ้
,คลินก
ิ ฯลฯ )
แสงสว่าง 1/1000 วินาที - หลาย กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของอาคาร หน่วยงาน
ชั่วโมง ปกครองท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
2 เพือ
่ ป้ องกันไม่ให ้มีการขัดขวางการทางานหรือความต ้องการทางาน
เครือ
่ งจักรและบริการทีม
่ ค
ี วามสาคัญ 1/2 ไซเคิล - 10 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ่ รักษาชีวต
ิ
ต่อชีวติ
2 เพือ่ ป้ องกันไม่ให ้มีการขัดขวางการรักษาหรือการผ่าตัด
3 เพือ ่ ความต่อเนื่องของการทางานตามปรกติ
4 สอดคล ้องกับมาตรฐาน ระเบียบข ้อบังคับของหน่วยงานปกครอง
ท ้องถิน ่ หรือกฎหมาย
ระบบรักษาความเย็น (refrigeration ) 5 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ รักษา เลือด พลาสมา และวัสดุทเี่ กีย ่ วข ้องตามอุณหภูมแ
ิ ละ
สภาวะทีไ่ ด ้ถูกแนะนาไว ้
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
71
ประเภทของ
ลำด ับ ระยะเวลำทีไ่ ฟด ับ ระยะเวลำน้อยทีส
่ ด
ุ ที่ ระบบไฟฟ้ำ
กำรใช้งำน ว ัตถุประสงค์ ข้อพิจำรณำในกำรเลือกใช้ระบบ
ที่ สูงสุดทีย
่ อมร ับได้ แนะนำในกำรสำรองไฟ
ฉุกเฉิน สำรอง
่ สาร
12 ระบบสือ ระบบพิมพ์ทางไกล 5 นาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ
่ รักษาการให ้บริการลูกค ้า
(teletypewriter) 2 เพือ
่ รักษาการควบคุมการผลิตและคลังสินค ้า
3 เพือ ่ สารตามปกติเพือ
่ ความต่อเนื่องของการสือ ่ ป้ องกันความเสียหาย
ทางเศรษฐกิจ
ภายในอาคาร (inner building) 10 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x 1 เพือ ่ รักษากิจกรรมตามปกติและการควบคุม
2 เพือ
่ จัดหาข ้อปฏิบัตก ิ ารอพยพ
3 เพือ่ รักษาการให ้บริการลูกค ้า
4 เพือ ่ ป้ องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจ
5 เพือ ่ นาทางยานพาหนะ
่ สารภายใน
ระบบสือ 10 วินาที กระทั่งกลับคืนสูร่ ะบบปกติ x x 1 เพือ ่ จัดหาข ้อปฏิบัตกิ ารอพยพ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
72
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
73
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
74
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
75
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
76
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
77
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
78
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
79
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
80
กาหนดไว้ไม่เกิน 1 นาทีหรือตามความต้องการของผู้ใช้งานซึ่งการเริ่มนับเวลานั้นจะเริ่มเมื่อ
แรงดันและความถี่ของไฟฟ้าด้านเครื่องกาเนิดไฟฟ้าเท่ากับหรือสูงกว่าค่าที่ตั้งไว้
5.7.2.10 ค่าหน่วงเวลาโอนถ่ายกลับมาแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก (Emergency to Normal Time Delay) เป็น
การหน่วงเวลาก่อนที่ อุปกรณ์สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟอัตโนมัติ (Automatic Transfer Switch)
จะโอนถ่ายไปแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักเพื่อให้มั่นใจว่าไฟด้านแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักได้คุณภาพจริง โดย
ที่อุปกรณ์สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟอัตโนมัติ (Automatic Transfer Switch) ต้องมีสวิทช์สาหรับ
ยกเลิกค่าหน่วงเวลา (Override) นี้ไว้ด้วย โดยปกติสามารถกาหนดได้ตั้งแต่ 0 – 30 นาที หรือ
มากกว่า ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
5.7.2.11 ในขณะที่รอการนับเวลาในข้อ 5.7.2.10 อยู่นั้น กรณีที่เครื่องกาเนิดไฟฟ้าไม่สามารถสร้างแรงดัน
และความถี่ ได้ตามที่ต้องการ การนับเวลาจะถูกยกเลิ กและ อุปกรณ์สั บเปลี่ ยนแหล่ งจ่ายไฟ
อัตโนมัติ (Automatic Transfer Switch) ต้องทาการโอนถ่ายไปด้านแหล่งจ่ายไฟหลัก เมื่อ
แรงดันและความถี่ของไฟฟ้าด้านแหล่งจ่ายไฟหลักอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
5.7.2.12 ค่าหน่วงเวลา เพื่อทาการระบายความร้อน (Engine Cool Down Time Delay) เป็นค่าหน่วง
เวลาเพื่อให้เครื่องกาเนิดไฟฟ้าทาการระบายความร้อนเป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที โดยที่สามารถ
ปรับตั้งได้ทั้งที่ อุปกรณ์สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟอัตโนมัติ (Automatic Transfer Switch) หรือที่
ชุดควบคุมของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
5.7.2.13 การเดินเครื่องเพื่อตรวจสอบความพร้อมของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Exercised) เครื่องกาเนิดไฟฟ้า
จะต้องทาการเดินเครื่องเพื่อตรวจสอบความพร้อมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ๆ ละอย่างน้อย 30
นาที โดยมีวิธีการเดินเครื่องดังนี้ :-
5.7.2.13.1 เดิ น เครื่ อ งจ่ า ยโหลดโดยรั ก ษาอุ ณ หภู มิ ต่ าสุ ด ของก๊ า ซไอเสี ย ไว้ ต ามข้ อ ก าหนดของ
บริษัทผู้ผลิต
5.7.2.13.2 จ่ายโหลด 30 เปอร์เซ็นต์ของขนาดเครื่องกาเนิดไฟฟ้า (Name Plate KW) ภายใต้สภาวะ
อุณหภูมิใช้งาน (Under Operating Temperature Condition) โปรแกรมสาหรับการ
เดินเครื่องเพื่อตรวจสอบความพร้อม (Exercise) เครื่องกาเนิดไฟฟ้าต้องถูกติดตั้งไว้ที่ อุปกรณ์
สับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟอัตโนมัติ (Automatic Transfer Switch) หรือเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
81
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
82
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
83
บทที่ 6 การทดสอบเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้า
การทดสอบเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องทาการทดสอบภายหลังการติดตั้งแล้วเสร็จสมบูรณ์ ณ.สถานที่
ติดตั้งเพื่อให้ทราบสมรรถนะ (Performance) ที่แท้จริงในการใช้งาน การทดสอบเครื่องกาเนิดไฟฟ้ามีหลาย
ขั้นตอนดังต่อไปนี้.-
6.1 การทดสอบเพื่อส่งมอบงาน (On site acceptance test)
- หลังจากทาการติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองพร้อมอุปกรณ์ประกอบต่างๆ สมบูรณ์และสามารถใช้
งานได้ เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องถูกทาการทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ า สามารถทางานได้ตามมาตรฐานทั้ง
ทางด้านความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้า (Power output) และฟังค์ชั่นการทางาน ซึ่งการ
ทดสอบจะต้องทาในขั้นตอนสุดท้ายของการส่งมอบงาน มีรายละเอียดและขั้นตอนดังนี้ :-
6.1.1 เครื่องกาเนิดไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ สมบูรณ์และสามารถใช้ งานได้และโหลดฉุกเฉิน
(The Emergency Load) อยู่ที่ระดับมาตรฐาน (Standard Operating Level) การเริ่มต้นทดสอบ
ให้เริ่มทาโดยสับ (Close) สวิทซ์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ทุกตัว ซึ่งจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับอาคารหรือ
โหลดต่างๆ
6.1.2 บันทึกช่วงเวลาที่เครื่องกาเนิดไฟฟ้าได้รับคาสั่งสตาร์ท (Time Delay On Start)
6.1.3 บันทึกช่วงเวลาตั้งแต่เครื่องกาเนิดไฟฟ้าเริ่มสตาร์ทจนสตาร์ทติด (The Cranking Time Until The
Prime Mover Starts and Runs)
6.1.4 บันทึกช่วงเวลาตั้งแต่เครื่องกาเนิดไฟฟ้าสตาร์ทติดจนถึงความเร็วรอบใช้งาน (The Time Taken to
Reach Operating Speed)
6.1.5 บันทึกช่วงเวลาที่เครื่องกาเนิดไฟฟ้าใช้ในการเข้าสู่สภาวะคงที่และสวิทซ์สับถ่ายจากตาแหน่งรับ
กระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก (Normal Source) ไปรับกระแสไฟฟ้าจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
(Emergency Source)
6.1.7 บันทึกอัตราการประจุแบตเตอรี่ (The Battery Charge Rate) หรือแรงดันแบตเตอรี่ ระยะแรกทุกๆ
5 นาทีของช่วงเวลา 15 นาที และต่อไปทุกๆ 15 นาที
6.1.8 การทดสอบ Load Test ให้ทาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง รวมทั้งต้องบันทึกค่าต่าง ๆ
เช่นขนาดของโหลด,ค่าแรงดันไฟฟ้า (Voltage), ความถี่ (Frequency), กระแสไฟฟ้า (Current) ค่า
แรงดันน้ามันหล่อลื่น (Oil Pressure) อุณหภูมิน้าระบายความร้อน (Water Temperature) อัตรา
การสิ้นเปลืองน้ามันเชื้อเพลิง เป็นต้น ไว้ด้วยโดยการทดสอบจะต้องทาเป็นขั้นตอนดังนี้ :-
6.1.8.1 จ่ายโหลดไม่น้อยกว่า 30 % ของพิกัดกาลัง (Name plate Kw) เป็นเวลา 30 นาที
6.1.8.2 จ่ายโหลดไม่น้อยกว่า 50 % ของพิกัดกาลัง (Name plate Kw) เป็นเวลา 30 นาที
6.1.8.3 จ่ายโหลดไม่น้อยกว่า 100% ของพิกัดกาลัง (Name plate Kw) เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 60 นาที
โหลดต่าง ๆ ของอาคารอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของโหลด หรือเป็นโหลดทั้งหมดที่ใช้ทดสอบก็ได้ ใน
กรณีที่โหลดต่าง ๆ ของอาคารไม่เพียงพอ จะต้องหาโหลดเทียม (Load Bank) มาเสริม เพื่อให้
โหลดครบ 100% ของ พิกัดกาลัง (Name plate Kw) ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองหักด้วย
กาลังที่ลดลง (Derating Factor) เนื่องจากสภาวะของสถานที่ติดตั้ง (Site Conditions)
6.1.9 เมื่อกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ ายไฟฟ้าหลัก กลั บมาตามปกติให้ บันทึกช่ว งเวลาที่สวิทซ์สั บ เปลี่ยน
แหล่งจ่ายไฟฟ้า จากตาแหน่ งรั บ กระแสไฟฟ้าจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้ามาเป็นรับกระแสไฟฟ้าจาก
แหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักสวิทซ์แต่ละตัวจะตั้งเวลาไว้ต่าที่สุด 5 นาที
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
84
6.2 การทดสอบประจาสัปดาห์
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ จะต้องมีการตรวจสอบทุกสัปดาห์และต้องทาการกระตุ้น
(Exercise) โดยไม่จ่ายโหลดเป็นเวลา 30 นาที และจะต้องมีการจดบันทึกการตรวจเช็คค่าต่า ง ๆ และ
การ กระตุ้น (Excercise) ด้วย
6.3 การทดสอบประจาเดือน
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องทาการทดสอบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ๆ ละ 30 นาที โดยการทดสอบ
จะต้องเลือกวิธีทดสอบข้อหนึ่งข้อใดดังนี้ :-
6.3.1 การทดสอบอย่างน้อยจะต้องให้อุณหภูมิของก๊าซไอเสียมีอุณหภูมิสูงถึงค่ าต่าสุดตามคาแนะนาของ
บริษัทผู้ผลิตหรือ
6.3.2 จะต้องจ่ายโหลดอย่างน้อย 30% ของพิกัดกาลัง(Name plate Kw Rating)
6.4 การทดสอบประจาปี
เครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องทาการทดสอบประจาปีโดยการจ่ายโหลดดังนี้.-
6.4.1 จ่ายโหลดไม่น้อยกว่า 50 % ของพิกัดกาลัง (Name plate Kw Rating) เป็นเวลา 30 นาที
6.4.2 จ่ายโหลด 75% ของพิกัดกาลัง (Name plate Kw Rating) เป็นเวลา 60 นาที
รวมระยะเวลาที่ใช้ในการทดสอบทั้งสิ้น 1.5 ชั่วโมงต่อเนื่อง (1.5 Continuous hours)
- การทดสอบประจาสัปดาห์, ประจาเดือน และประจาปีให้บันทึกค่าแรงดันน้ามันหล่อลื่น, อุ ณหภูมิ
น้ าระบายความร้ อ น, แรงเคลื่ อ นไฟฟ้า , กระแสไฟฟ้ า, กาลั งไฟฟ้ า, ความถี่ , อัตราการประจุ
แบตเตอรี่ หรือแรงดันแบตเตอรี่ ระยะแรกทุก ๆ 5 นาทีของช่วงเวลา 15 นาที และต่อไปทุก ๆ 15
นาที
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
85
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
86
บทที่ 7 มาตรฐานการซ่อมบารุงรักษาเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้า
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
87
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
88
วิธีการซ่อมบารุง ความถี่ในการซ่อม
X = ปฏิบัติ (Action) บารุงรักษา
R = เปลี่ยนถ้าจาเป็น (Replace, if needed) W = ทุกสัปดาห์
ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ ตรวจเช็ค ตรวจเช็ค เปลี่ยน ทาความ ทดสอบ M= ทุกเดือน
ด้วยสายตา สะอาด Q = ทุก 3 เดือน
S = ทุก 6 เดือน
A = ทุกปี
ตัวเลขแสดง
ชั่วโมง
(ข) ระดับของเหลวใน Heat X W
Xchanger
(ค) ปริมาณอากาศไหลผ่านรังผึ้ง X M
ระบายความร้อน (Radiator)
พอเพียงหรือไม่
(ง) ทาความสะอาดภายนอกของรังผึ้ง X A
ระบายความร้อน
(จ) สายพานพัดลมระบายความร้อน X X Q
และสายพานไดชาร์จ
(ฉ) เครื่องสูบน้า (Water pump) X Q
(ช) สภาพของท่อน้าบน ล่าง พร้อมข้อต่อ X X M
ต่างๆ (Condition of flexible
hoses and connection)
(ซ) ท่อลม, บานเกร็ด และกราวิตี้ชัท X X X A
เตอร์
4. ระบบท่อไอเสีย (Exhaust system)
(ก) การรั่วไหลของก๊าซไอเสีย X X M
(ข) ระบายน้าภายในระบบท่อไอเสีย X M
(Drain condensate trap)
(ค) ฉนวนหุ้มท่อไอเสีย และ X X Q
AluminumJacket
(ง) Excessive backpressure X A
(จ) ระบบยึดระบบท่อไอเสีย (Exhaust X A
system hangers and
supports)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
89
วิธีการซ่อมบารุง ความถี่ในการซ่อม
X = ปฏิบัติ (Action) บารุงรักษา
R = เปลี่ยนถ้าจาเป็น (Replace, if needed) W = ทุกสัปดาห์
ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ ตรวจเช็ค ตรวจเช็ค เปลี่ยน ทาความ ทดสอบ M= ทุกเดือน
ด้วยสายตา สะอาด Q = ทุก 3 เดือน
S = ทุก 6 เดือน
A = ทุกปี
ตัวเลขแสดง
ชั่วโมง
(ฉ) ท่ออ่อนท่อไอเสีย (Flexible X S
exhaust pipe)
5. ระบบแบตเตอรี่ (Battery system)
(ก) สภาพทั่วไป X M
(ข) ขันขั้วต่อสายคอนโทรล X A
(ControlConnections) และ
สายไฟฟ้า(Power wiring
connection)
(ค) รอยถลอกหรือถูกครูดของ X X S
สายไฟฟ้า
(ง) อุปกรณ์ป้องกันและส่งสัญญาณ X X S
เตือน
(จ) ตู้ควบคุมไฟฟ้าต่างๆ X S
(ฉ) เซอร์กิตเบรกเกอร์และฟิวส์ X X R X X A
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
90
วิธีการซ่อมบารุง ความถี่ในการซ่อม
X = ปฏิบัติ (Action) บารุงรักษา
R = เปลี่ยนถ้าจาเป็น (Replace, if needed) W = ทุกสัปดาห์
ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ ตรวจเช็ค ตรวจเช็ค เปลี่ยน ทาความ ทดสอบ M= ทุกเดือน
ด้วยสายตา สะอาด Q = ทุก 3 เดือน
S = ทุก 6 เดือน
A = ทุกปี
ตัวเลขแสดง
ชั่วโมง
(ช) Main contacts ของชุด X X A
ออโตเมติกทรานสเฟอร์สวิทซ์
(ซ) คาลิเบท ค่า Voltage sensing X X A
ของอุปกรณ์รีเลย์ต่างๆ
(ฌ) การฉีกขาดของฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า X 3 ปี หรือ ทุก 750
7. เครื่องต้นกาลัง (Prime mover) ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
(ก) สภาพทั่วไป X M
(ข) ไส้กรองอากาศ R X S
(ค) Governor และอุปกรณ์ประกอบ X X M
(ง) ปั๊มน้ามันเชื้อเพลิงและหัวฉีด X A
(จ) ทดสอบโดยไม่จ่ายโหลดเป็นเวลา X W
30 นาที
(ฉ) ทดสอบโดยจ่ายโหลดอย่างน้อย X M
30% ของ Nameplate Kw เป็น
เวลา 30 นาที
(ช) ทดสอบจ่ายโหลด X A
- อย่างน้อย 50% ของ
Nameplate Kw เป็นเวลา 30
นาที
- อย่างน้อย 75% ของ
Nameplate Kw เป็นเวลา 60
นาที
(ซ) ทดสอบจ่ายโหลดวิกฤติระดับ 1 X 3 ปี หรือ 36 เดือน
- อย่างน้อย 30% ของ Name
plate KW เป็นเวลา 30 นาที
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
91
วิธีการซ่อมบารุง ความถี่ในการซ่อม
X = ปฏิบัติ (Action) บารุงรักษา
R = เปลี่ยนถ้าจาเป็น (Replace, if needed) W = ทุกสัปดาห์
ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ ตรวจเช็ค ตรวจเช็ค เปลี่ยน ทาความ ทดสอบ M= ทุกเดือน
ด้วยสายตา สะอาด Q = ทุก 3 เดือน
S = ทุก 6 เดือน
A = ทุกปี
ตัวเลขแสดง
ชั่วโมง
- อย่างน้อย 50% ของ Name
plate KW เป็นเวลา 30 นาที
- 100% ของ Name plate KW
เป็นเวลา 60 นาที
(ก) โรเตอร์และสเตเตอร์ X X A
(ข) แบริ่ง (Bearings) X R A
(ค) Exciter X X X A
(ง) โวลเตทเรกกูเรเตอร์ X X X A
(จ) ทดสอบความต้านทานของฉนวน X A
ขดลวดด้วย Insulation
tester(Megger)
ตามคาแนะนาของบริษัทผู้ผลิต
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
92
ภาคผนวก ก.
การใช้งาน กาลังและคุณสมบัติของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
มาตรฐานเล่มนี้ครอบคลุมถึงเครื่องยนต์ขับเครื่องกาเนิดไฟฟ้าชนิดเครื่องยนต์ดีเซล, เครื่องกาเนิดไฟฟ้า
กระแสสลับ (Alternating current (a.c.) generator) แผงควบคุมอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ และอุปกรณ์
มาตรฐาน ซึ่งใช้งานภายในอาคารหรือภายนอกอาคารต่าง ๆ แต่ไม่รวมถึงเครื่องกาเนิดไฟฟ้าชนิดใช้ในเรือ
(Marine use), ใช้งานบนอากาศยาน (aircraft) ใช้งานบนรถยนต์ รถโดยสาร (Land vehicles) หรือใช้ขับหัว
รถจักร (Locomotives)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
93
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
94
ก.3 มาตรฐานสภาวะบรรยากาศของการติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ก.3.1 ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง (Mean sea level) ไม่เกิน 1,000 ฟุตหรือ 300 เมตร
ก.3.2 อุณหภูมิบรรยากาศ ไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส
ก.3.3 ความชื้นสัมพัทธ์ ไม่เกิน 60เปอร์เซนต์
รูปที่ ก.1 พิกัดกาลังแบบต่อเนื่อง (Continuous power (COP) หรือ Base load power)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
95
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
96
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
97
Performance class G1 G2 G3 G4
Frequency drop < 8% < 5% < 3% AMC
Steady – state frequency band < 2.5% < 1.5% < 0.5% AMC
Maximum frequency dip > -15% < -10% < -7% AMC
Maximum frequency rise < +18% < +12% < +10% AMC
Frequency recovery time < 10 sec. < 5 sec. < 3 sec. AMC
Steady state voltage deviation < 5% < 2.5% < 1% AMC
Maximum voltage dip <-25% < -20% < -15% AMC
Maximum voltage rise < +35% < +25% < +20% AMC
Voltage recovery time < 10 sec. < 6 sec. < 4 sec. AMC
หมายเหตุ AMC = โดยควำมตกลงร่วมกันระหว่ำงผู้ใช้งำนและผู้ผลิต (By agreement between manufacturer
and customer)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
98
ภาคผนวก ข.
การคานวณต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
การคานวณเกี่ยวกับระบบท่อไอเสีย
ข.1 ตัวอย่างที่ 1จากรูปที่ ข.1 ระบบท่อไอเสียของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าประกอบด้วย Flexible exhaust
pipe เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 24 นิ้ว, Critical grade muffler เส้นผ่าศูนย์กลางท่อเข้า (Inlet) 6
นิ้ว, ท่อไอเสีย (Exhaust pipe) เส้นผ่าศูนย์กลาง6 นิ้ว ยาว 20 ฟุต และ 90 o Long radius elbow
เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้วจากข้อมูลทางด้านเทคนิค (Specification sheet หรือ Engine data sheet)
กาหนดว่าอัตราการไหลของแก๊สไอเสีย (Exhaust gas flow) เท่ากับ 2,715 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที และ
Maximum allowable exhaust back pressure มีค่าเท่ากับ 41 นิ้วน้า หรือ inch. WC (water
column) จงคานวณหาขนาดท่อ และค่า Total exhaust back pressure ของระบบท่อไอเสีย
วิธีคานวณ
ข.1.1 พิจารณาหาค่า Exhaust back pressure จากท่อเก็บเสียง (Muffler)
(ก) จากตารางที่ ข.1 Cross – sectional area ของท่อเก็บเสียง ซึ่งมีท่อทางเข้า (Inlet diameter)
6 นิ้ว มีค่าเท่ากับ 0.1963 ตารางฟุต
(ค) จากรูปที่ ข.2 ให้สังเกตเส้นปะ ซึ่งแสดงว่า The critical grade muffler ทาให้เกิด Back
pressure ประมาณ 21.5 นิ้วน้า (WC)
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
99
ข.1.2 พิจารณาหาค่า Equivalent lengths ของ Fittings และ Flexible exhaust pipe ทุกตัว
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
100
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
101
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
102
ขั้นต่อมาทาการรวมค่านี้เข้ากับความต้องการอากาศหล่อเย็นสาหรับเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้าจาก
ขั้นตอนที่ 6 และความต้องการอากาศในการเผาไหม้ในขั้นตอนที่ 7
Q TOT = Q room +Q air + Q com
= 90,019.98 + 5,700 + 2,775 cfm.
ผลรวมของความต้องการการไหลเวียนของอากาศสาหรับระบบระบายอากาศในห้องเครื่อง
กาเนิดไฟฟ้า คือ 98,494.98
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
103
ข.3 ตัวอย่า งที่ 3 เครื่ องยนต์กาเนิ ดไฟฟ้าขนาด 500 KVA. มีปริมาณอากาศส าหรับการเผาไหม้หรือจุด
ระเบิด (Combustion air) 1,300 ลบ.ฟุตต่อนาที, ปริมาณอากาศสาหรับระบายความร้อนชุดเครื่อง
กาเนิดไฟฟ้า (Cooling system air flow) 24,000 ลบ.ฟุตต่อนาที กาหนดให้ความเร็วลมเข้าห้องเครื่อง
กาเนิดไฟฟ้า (Inlet air velocity) ไม่เกิน 700 ฟุตต่อนาที และความเร็วลมออกจากห้องเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้า (Outlet air velocity) ไม่เกิน 1,050 ฟุตต่อนาที ให้หาขนาดพื้นที่สุทธิ (Free area) ของช่องลม
เข้า (Inlet air) และช่องลมออก (Outlet air) ของห้องเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ข.3.1 ข้อมูลทางด้านเทคนิค
(ก) Combustion air = 1,300 cfm.
(ข) Cooling system air flow = 24,000 cfm.
(ค) Inlet air velocity = 700 ft / min
(ง) Outlet air velocity = 1,050 ft / min
ข.3.2 การคานวณ
(ก) การคานวณหาขนาดพื้นที่สุทธิของช่องลมออก (Free area of air outlet)
สูตร:- Q = AV
Q = Cooling system air flow
= 24,000 cfm.
V = Outlet air velocity
= 1,050 ft / min
A = Free area of outlet air
= ft2
24,000 = 1,050 A
A = 24,000 ft 2
1,050
= 22.86 ft2
ดังนั้นขนาดพื้นที่สุทธิของช่องลมออก 2.10m2
(ข) การคานวณหาขนาดพื้นที่สุทธิของช่องลมเข้า (Free area of air Inlet)
สูตร:- Q = AV
Q = Cooling system air flow + Combustion air
= 24,000 + 1,300 cfm.
= 25,300 cfm.
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
104
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
105
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
106
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
107
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
108
เครื่ องกำเนิดไฟฟ้ ำขนำด 500 KVA (400 KW) โหลดแบงค์ 400 KVA (400 KW)
เพำเวอร์แฟคเตอร์ 0.8, 380 V, 3, 50 HZ เพำเวอร์แฟคเตอร์ 1.0, 380 V, 3, 50 HZ
ค่ำกระแสไฟฟ้ ำ 759.69 แอมป์ ค่ำกระแสไฟฟ้ ำ 607.75 แอมป์
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
109
การคานวณหาค่ากระแสไฟฟ้าทางด้านเครื่องกาเนิดไฟฟ้า สามารถหาได้จากสูตร.-
P1 = 3 V1 I1 cosθ
P1 = 500 x 0.80 = 400 KW
= 400 x 1,000 = 400,000 วัตต์
V1 = ค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้า
= 380 โวลท์
3 = 1.732
I1 = ค่ากระแสไฟฟ้า
= แอมป์
Cos0 = เพาเวอร์แฟคเตอร์
= 0.8
แทนค่าในสูตร 400,000 = 1.732 x 380 x I1 x 0.8
400,000
I1 =
1.732 380 0.8
= 759.69 แอมป์
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
110
ในการออกแบบและติดตั้งเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้า จะต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้าน
ต่างๆ การกาหนดมาตรฐานการออกแบบและติดตั้งจะต้องคานึงถึงสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้
ค.1 การป้องกันเสียงและกฎหมาย
ค.1.1 การป้องกันเสียง
เมื่อติดตั้งเครื่องยนต์กาเนิดไฟฟ้าภายในอาคารหรือภายในตู้ครอบ จะมีเสียงดัง (Noise) เนื่องจาก
เสียงจากเครื่องยนต์, เสียงจากระบบท่อไอเสีย, เสียงจากพัดลมระบายความร้อน, เสียงที่เกิดจากการ
ติดตั้ง เป็นต้น เกิดขึ้นภายนอกห้องเครื่องฯ หรือ ภายนอกตู้ครอบเพื่อเป็นการป้องกันเสียงดังกล่าว
ไม่ให้รบกวนผู้ที่ทางาน, อยู่อาศัย หรือสัญจรอยู่ใกล้บริเวณห้องเครื่องฯ หรือตู้ครอบ จึงต้องมีการ
ติดตั้งระบบป้องกันเสียง (Soundproof system) ประกอบด้วย Air inlet sound attenuator, Air
outlet sound attenuator, ผนังป้องกันเสียง และท่อเก็บเสียงไอเสีย (Exhaust muffler) ขนาดที่
เหมาะสม
ค.1.2 กฎหมายที่เกี่ยวกับระดับเสียงรบกวน
ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2540) กาหนดมาตรฐานระดับเสียง
โดยทั่วไปไว้ดังต่อไปนี้ :-
- ค่าระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 115 เดซิเบลเอ
- ค่าระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมงไม่เกิน 70 เดซิเบลเอ
ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 29 (พ.ศ. 2550) เรื่องค่าระดับเสียงรบกวน
- กาหนดระดับเสียงรบกวนเท่ากับ 10 เดซิเบลเอ
- ในกรณีที่คานวณระดับการรบกวนได้ค่ามากกว่าระดับเสียงรบกวน 10 เดซิเบลให้ถือว่าเป็น
เสี ย งรบกวนซึ่ ง วิ ธี ก ารค านวณระดั บ เสี ย งรบกวนให้ เ ป็ น ไปตามที่ ร ะบุ ไ ว้ ใ นประกาศ
คณะกรรมการควบคุมมลพิษ
- ในกรณีที่ระดับเสียงของแหล่งกาเนิดวัดเทียบกับระดับเสียงเมื่อไม่มีแหล่งกาเนิดมีค่ามากกว่า
10 เดซิเบลเอให้ถือว่าเป็นเสียงรบกวน ซึ่งวิธีการตรวจวัดระดับเสียงให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ใน
ประกาศคณะกรรมการควบคุมมลพิษ
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กาหนดค่าระดับเสียงการรบกวนและระดับเสียงที่เกิดจาก
การประกอบกิจการโรงงาน พ.ศ. 2548 กาหนดว่า :-
- ระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมงไม่เกิน 70 เดซิเบลเอ
- ระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 115 เดซิเบลเอ
- ระดับการรบกวนไม่เกิน 10 เดซิเบลเอ
กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ
สิ่งแวดล้อมในการทางานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่างและเสียง พ.ศ. 2549 กาหนดค่าระดับเสียง
รบกวนเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทางาน 8 ชั่วโมง ไม่เกิน 85 เดซิเบลเอ
ค.2 ระบบน้ามันเชื้อเพลิงและกฎหมาย
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
111
การออกแบบและติดตั้งระบบน้ามันเชื้อเพลิงของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าจะต้องพิจารณาถึงรายละเอียด
ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ :-
อัตราการสิ้นเปลืองน้ามันเชื้อเพลิง,การจัดระดับความสาคัญการจ่ายโหลดของระบบการจ่ายไฟฟ้า
สารอง, ปริมาตรของถังน้ามัน, การสร้ างถังน้ามัน, ตาแหน่งที่ติดตั้งของถังน้ามัน, การติดตั้ง, ท่อ
หายใจ, ระบบท่อทางน้ามัน, การทดสอบและการตรวจสอบ (Inspection)
มาตรฐานและกฎข้อบังคับหรือกฎหมาย
มาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบน้ามันเชื้อเพลิง
NFPA 30 Flammable and Combustible Liquids code
NFPA 37 Standard for the Installation and use of stationary combustion engines and
gas turbines
BS 799 : Part 5 Specification for oil storage tanks
BS 2594 Specification for carbon steel welded horizontal cylindrical storage tanks
มาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบน้ามันเชื้อเพลิง
กฎข้อบังคับหรือกฎหมาย
พระราชบัญญัติควบคุมน้ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542
คู่มือการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 กรมธุรกิจพลังงาน
กฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2551
กฎหมายด้านโยธาธิการและผังเมือง
กฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติควบคุมน้ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542
ชนิดของน้ามันเชื้อเพลิง แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
- ชนิดไวไฟน้อย มีจุดวาบไฟตั้งแต่ 60o C ขึ้นไป
- ชนิดไวไฟปานกลาง มีจุดวาบไฟตั้งแต่ 37.8o C แต่ต่ากว่า 60o C
- ชนิดไวไฟมาก มีจุดวาบไฟต่ากว่า 37.8o C
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
112
สถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิง มี 3 ลักษณะดังนี้ :-
(1) ลักษณะที่ 1 ได้แก่ สถานที่เก็บน้ามันเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด ประกอบด้วย
น้ามันเชื้อเพลิงชนิดไวไฟมาก มีปริมาณไม่เกิน 40 ลิตรหรือชนิดไวไฟปานกลาง มีปริมาณไม่
เกิน 227 ลิตร หรือชนิดไวไฟน้อย มีปริมาณไม่เกิน 454 ลิตร
(2) ลักษณะที่ 2 ได้แก่ สถานที่เก็บน้ามันเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด ประกอบด้วย
น้ามันเชื้อเพลิงไวไฟมาก มีปริมาณเกิน 40 ลิตร แต่ไม่เกิน 454 ลิตร หรือชนิดไวไฟปานกลาง มี
ปริมาณเกิน 227 ลิตร แต่ไม่เกิน 1,000 ลิตร หรือชนิดไวไฟน้อย มีปริมาณเกิน 454 ลิตร แต่ไม่
เกิน 15,000 ลิตร
(3) ลักษณะที่ 3 ได้แก่ สถานที่เก็บน้ามันเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด ประกอบด้วย
น้ามันเชื้อเพลิงชนิดไวไฟมาก มีปริมาณ 454 ลิตรขึ้นไป หรือชนิดไวไฟปานกลางมีปริมาณเกิน
1,000 ลิตรขึ้นไป หรือชนิดไวไฟน้อย มีปริมาณเกิน 15,000 ลิตรขึ้นไป แต่ปริมาณทั้งหมดต้อง
ไม่เกิน 500,000 ลิตร
การประกอบกิจการควบคุม
- สถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงลักษณะที่ 1 ประกอบกิจการได้ทันที
- สถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงลักษณะที่ 2 ต้องแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนประกอบการ
- สถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงลักษณะที่ 3 ต้องได้รับอนุญาตก่อนประกอบการ
การแจ้งหรือการยื่นคาขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุม
- ในเขตกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ.กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน
- ในเขตจังหวัดอื่นนอกกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ.สานักงานพลังงานภูมิภาค หรือสานักงานองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี
กฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2551
หมวด 1 บททั่วไป
ภาชนะบรรจุน้ามันเชื้อเพลิงให้บรรจุน้ามันเชื้ อเพลิงได้ไม่เกินร้อยละเก้าสิบของปริมาตรภาชนะบรรจุ
น้ามันเชื้อเพลิง
หมวด 2 สถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิง ลักษณะที่หนึ่ง (1)
การเก็บน้ามันเชื้อเพลิงและระยะความปลอดภัย
- สถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิง ลักษณะที่หนึ่ง (1)
ต้องห่างจากช่องเปิดไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร
ด้านที่ไม่มีช่องเปิดต้องห่างจากขอบผนังอาคารไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร
ห้ามเก็บภาชนะบรรจุน้ามันเชื้อเพลิงไว้ต่ากว่าระดับพื้นดิน ยกเว้น เก็บอยู่ภายในอาคารที่มีพื้นต่า
กว่าระดับพื้นดิน และน้ามันเชื้อเพลิงเป็นชนิดไวไฟน้อยที่มีจุดวาบไฟเกิน 93 องศาเซลเซียสขึ้นไป
ห้ามต่อท่อน้ามันเชื้อเพลิงระหว่างถังน้ามันเชื้อเพลิงเข้าด้วยกัน
การเก็บน้ามันเชื้อเพลิงชนิดไวไฟมาก ชนิดไวไฟปานกลาง หรือชนิดไวไฟน้อยที่มีจุดวาบไฟไม่เกิน
93 องศาเซลเซียสเพื่อการจาหน่าย บริเวณที่ตั้งภาชนะบรรจุน้ามันเชื้อเพลิงต้องจัดให้มีอุปกรณ์
ป้องกันและระงับอัคคีภัย ดังต่อไปนี้ :-
(1) เครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งหรือน้ายาดับเพลิงขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 6.80 กิโลกรัมมี
ความสามารถในการดับเพลิงไม่น้อยกว่า 3A 40B ตามมาตรฐานระบบป้องกันอัคคีภัยของ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
113
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
114
การเก็บภาชนะบรรจุน้ามันเชื้อเพลิงไว้ภายนอกอาคารต้องมีระยะความปลอดภัยตามที่กาหนดไว้ในตาราง
ที่ ค.3
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
115
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
116
(2) ตัวถังต้องติดตั้งและยึดแน่นกับฐานรากในลักษณะที่ไม่อาจเคลื่อนที่หรือลอยตัวเนื่องจากแรงดันของ
น้าใต้ดิน และฐานรากต้องออกแบบและก่อสร้างให้สามารถรับน้าหนักของตัวถังและน้ามันเชื้อเพลิงที่
บรรจุอยู่ในถัง รวมทั้งน้าหนักอื่น ๆ ที่กระทาบนตัวถังได้โดยปลอดภัย และห้ามมีสิ่งก่อสร้างใดๆ อยู่
เหนือส่วนบนของผนังถัง
(3) ผิวภายนอกของตัวถังต้องมีการป้องกันการกัดกร่อน
(4) ส่วนบนของผนังถังต้องอยู่ต่ากว่าระดับพื้นดินไม่น้อยกว่า 0.50 เมตร
(5) ต้องมีระยะห่างระหว่างผนังถังแต่ละถังไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร
(6) ตัวถังต้องตั้งอยู่ในเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงและผนังถังต้องอยู่ห่างจากเขตสถานที่เก็บ
รักษาน้ามันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 3.00 เมตร
(7) ต้องติดตั้งท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงไว้ทุกถัง สาหรั บถังที่แบ่งเป็นห้อง (compartments) ต้อง
ติดตั้งท่อระบายไอน้ ามัน เชื้อเพลิงไว้ทุกห้ องแยกจากกัน โดยท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิ งต้องมี
ลักษณะและวิธีการติดตั้ง ดังต่อไปนี้ :-
(ก) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 40.00 มิลลิเมตร
(ข) ปลายท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงต้องอยู่สู งจากจากระดับพื้นดินไม่น้อยกว่า 4.00 เมตร และ
อยู่ห่างจากเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร
(8) ปลายท่อรับน้ามันเชื้อเพลิงต้องอยู่ห่างจากเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 1.50
เมตร
(9) การติดตั้งสายดินให้เป็นไปตามมาตรฐานการติดตั้ง ทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทย ของวสท. ฉบับ
ล่าสุด
ถังเก็บน้ามันเชื้อเพลิงเหนือพื้นดินต้องมีลักษณะและวิธีการติดตั้ง ดังต่อไปนี้ :-
(1) ตัวถังต้องทาด้วยเหล็กที่มีความเค้นคราก (yield stress) ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของความเค้นที่เกิดขึ้น
(allowable stress) เนื่องจากความดันใช้งานสูงสุดของน้ามันเชื้อเพลิงในถัง หรือทาด้วยวัสดุอื่นที่มี
มาตรฐานเทียบเท่า
(2) ตัวถังต้องติดตั้งและยึดแน่นกับฐานราก โดยฐานรากต้องออกแบบและก่อสร้างให้สามารถรับน้าหนัก
ของตัวถังและน้ามันเชื้อเพลิงที่บรรจุอยู่ในถัง รวมทั้งน้าหนักอื่นๆ ที่กระทาบนตัวถังได้โดยปลอดภัย
(3) ผิวภายนอกของตัวถังต้องมีการป้องกันการกัดกร่อน
(4) รอบตัวถังต้องมีเขื่อนหรือกาแพงล้อมรอบ โดยเขื่อนหรือกาแพงดังกล่าวต้องมีขนาดพอที่จะเก็บ
น้ามันเชื้อเพลิงได้เท่ากับปริมาณความจุของถังใบใหญ่ที่สุดภายในเขื่อนหรือกาแพงโดยผนังของเขื่อน
หรือกาแพงจะต้องสามารถป้องกันของเหลวไหลผ่าน และสามารถทนแรงดันของน้าหนักบรรทุก
สูงสุดได้
(5) ต้องติดตั้งท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงไว้ทุกถัง โดยท่อระบายไอน้ามันเชื้อเพลิงต้องมีลักษณะและ
วิธีการติดตั้งตามที่กาหนดไว้
(6) ปลายท่อรับน้ามันเชื้อเพลิงต้องอยู่ห่างจากเขตสถานที่เก็บรักษาน้ามันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร
(7) การติดตั้งสายดินให้เป็นไปตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสาหรับประเทศไทยของ วสท. ฉบับ
ล่าสุด
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
117
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
118
ค.3 ก๊าซไอเสียของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ก๊าซไอเสียของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าที่ปล่อยออกสู่บรรยากาศจะต้องถูกควบคุมให้เป็นไปตามข้อกาหนด
และกฎหมายสิ่ งแวดล้ อม ส าหรั บ ประเทศไทยมีประกาศคณะกรรมการสิ่ งแวดล้ อมแห่ งชาติ ซึ่งได้
กาหนดค่ามาตรฐานของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์, ค่าเฉลี่ยของฝุ่นละออง, ค่าเฉลี่ยของก๊าซไนโตรเจน
ออกไซด์ , ค่ า เฉลี่ ย ของก๊ า ซคาร์ บ อนมอนนอกไซด์ ในบรรยากาศทั่ ว ไปไว้ ประกาศต่ า งๆ ของ
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเกี่ยวกับการกาหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป
มีหลายฉบับดังนี้
ค.3.1 ประกาศคณะกรรมการสิ่ ง แวดล้ อ มแห่ ง ชาติ ฉบั บ ที่ 10 (พ.ศ. 2538) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เรื่องกาหนดมาตรฐาน
คุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป
ค.3.2 ประกาศคณะกรรมการสิ่ ง แวดล้ อ มแห่ ง ชาติ ฉบั บ ที่ 12 (พ.ศ. 2538) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เรื่องกาหนดมาตรฐานค่า
ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์
ค.3.3 ประกาศคณะกรรมการสิ่ ง แวดล้ อ มแห่ ง ชาติ ฉบั บ ที่ 21 (พ.ศ. 2544) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เรื่องกาหนดมาตรฐานค่า
ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในบรรยากาศโดยทั่วไป
ค.3.4 ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2547) เรื่องกาหนดมาตรฐานคุณภาพ
อากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป
ค.3.5 ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 28 (พ.ศ. 2550) เรื่องกาหนดมาตรฐานคุณภาพ
อากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
119
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
120
ภาคผนวก ง.
การจัดวางระบบไฟฟ้าสารองฉุกเฉินสาหรับสถานพยาบาล
ง.1 การจัดวางระบบไฟฟ้า (System Arrangement) สาหรับสถานพยาบาลหรือสถานที่ที่มีการใช้งาน
ประเภทเดียวกัน แนะนาให้ทาการจัดวางระบบอย่างน้อยดังนี้
ง.1.1 การจัดวางระบบไฟฟ้า (System Arrangement) สาหรับสถานพยาบาลที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150
kVA อย่างน้อยที่สุดให้เป็นไปตามรูป ง.1
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
121
หมายเหตุ
1. วงจรวิกฤติ (Critical Branch) เป็นวงจรย่อยของระบบไฟฟ้ำฉุกเฉินประกอบไปด้วย สำยป้อน และ
วงจรย่อย ที่จ่ำยพลังงำนไฟฟ้ำให้กับระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง วงจรไฟฟ้ำกำลังพิเศษ และเต้ำรับที่เลือก
ไว้เพื่อรองรับกำรใช้งำนในบริเวณบริบำลผู้ป่วยซึ่งวงจรนั้นถูกต่อเข้ำกับแหล่งพลังงำนทำงเลือกอื่น
โดยอุปกรณ์สลับแหล่งจ่ำยไฟหนึ่งตัวหรือมำกกว่ำในขณะที่ไฟฟ้ำจำกแหล่งจ่ำยไฟปกติเกิดเหตุขัดข้อง
2. อุปกรณ์ไฟฟ้ำช่วยชีวิต (Electrical Life-Safety Equipment) เป็นอุปกรณ์ที่ทำงำนอย่ำงต่อเนื่อง
ด้วยระบบไฟฟ้ำซึ่งจำเป็นในกำรรักษำชีวิตผู้ป่วย
3. ระบบจ่ำยไฟฟ้ำฉุกเฉิน (Emergency System) เป็นระบบของวงจรไฟฟ้ำและอุปกรณ์ไฟฟ้ำซึ่งได้
กำหนดไว้และจำเป็นสำหรับกำรช่วยชีวิตและควำมปลอดภัย โดยรับไฟจำกแหล่งจ่ำยไฟทำงเลือกอื่น
นอกเหนือจำกแหล่งจ่ำยไฟปกติ
4. ระบบอุปกรณ์เครื่องมือ (Equipment System) ระบบของวงจรและอุปกรณ์ที่จัดให้มีกำรหน่วงเวลำ
ทั้ ง แบบอั ต โนมั ติ ห รื อ ด้ ว ยมื อ ในกำรเชื่ อ มต่ อ เข้ ำ กั บ แหล่ ง จ่ ำ ยไฟทำงเลื อ กอื่ น นอกเหนื อ จำก
แหล่งจ่ำยไฟปกติเพื่อรองรับอุปกรณ์ไฟฟ้ำ 3 เฟส เป็นพื้นฐำน
5. ระบบจ่ำยไฟฟ้ำที่จำเป็น (Essential Electrical System) เป็นระบบที่ประกอบด้วยแหล่งจ่ำยไฟ
ทำงเลือกอื่นนอกเหนือจำกแหล่งจ่ำยไฟปกติรวมทั้งระบบจำหน่ำยและอุปกรณ์ประกอบที่จำเป็น
ตำมที่ ไ ด้ อ อกแบบไว้ เ พื่ อ ให้ มี ไ ฟฟ้ ำ จ่ ำ ยให้ ใ นพื้ น ที่ ที่ ก ำ หนดไว้ ร วมถึ ง กำรใช้ ง ำนของระบบ
สำธำรณู ป โภคในสถำนพยำบำลเป็ น ไปอย่ ำ งต่ อ เนื่ อ งในขณะที่ ไ ฟฟ้ำ จำกแหล่ งจ่ำ ยไฟปกติ เ กิ ด
เหตุขัดข้อง รวมทั้งกำรเกิดจำกเหตุขัดข้องเนื่องจำกระบบกำรเดินสำยภำยใน
6. สำหรับโรงพยำบำลหรือสถำนพยำบำลที่มีโหลดตั้งแต่ 150 kVA ลงมำ วงจรสำหรับอุปกรณ์เครื่องมือ
แพทย์,วงจรช่วยชีวิต และวงจรวิกฤติอำจใช้ไฟจำกสวิตซ์ถ่ำยโอนชุดเดียวกันได้
7. สวิตซ์ถ่ำยโอนสำหรับวงจรอุปกรณ์เครื่องมือ (Equipment System) ที่มีขนำดมำกกว่ำ 150 kVA
จะต้องเป็นชนิดหน่วงเวลำ
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
122
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
123
ง.2.2 สถานดูแลผู้สูงอายุและสถานที่ให้บริการในแบบจากัด
ง.2.2.1 ความสามารถในการให้บริการขึ้นอยู่กับชนิดของการดูแลที่มีในสถานที่นั้น ข้อยกเว้นเฉพาะได้ถูก
ระบุไว้สาหรับประเภทที่แน่นอนของการให้บริการ ถ้าสถานดูแลผู้สูงอายุให้การดูแลแบบการดูแล
ผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลก็ต้องดาเนินการณ์ตามข้อกาหนดแบบของโรงพยาบาล สถานดูแล
ผู้สูงอายุและสถานที่ให้บริการในแบบจากัดที่ตั้งอยู่ติดกับหรืออยู่ ในสถานที่เดียวกับโรงพยาบาล
อนุญาตให้ใช้ระบบไฟฟ้าที่จาเป็นที่จ่ายมาจากโรงพยาบาลได้
ง.2.2.2 ระบบไฟฟ้าที่จาเป็นต้องประกอบด้วยอย่างน้อย 2 วงจรย่อยแยกจากกัน วงจรย่อยของความ
ปลอดภัยของชีวิตและผู้ป่วยอาการหนัก
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
124
ง.2.2.3 ความต้องการของสวิตช์ถ่ายโอนแหล่งจ่ายไฟฟ้าเหมือนของโรงพยาบาล
ง.2.2.4 การเดินสายของวงจรความปลอดภัยของชีวิตและวงจรวิกฤติ ต้องเดินแยกออกจากวงจรและ
เครื่องมืออื่น ๆ และจะต้องไม่อยู่ร่วมใน ทางเดินสาย, กล่องต่อสาย, กล่องพักสาย กันเองหรือ
ร่วมกับวงจรอื่น
โดยมีข้อยกเว้นในกรณีที่การเดินสายดังกล่าวสอดคล้องกับข้อใดข้อหนึ่งดังนี้
(1) อยู่ในกล่องสวิตช์ถ่ายโอนแหล่งจ่าย
(2) อยู่ในป้ายทางออกฉุกเฉินหรือโคมไฟฉุกเฉินที่มีแหล่งจ่ายไฟจาก 2 แหล่ง
(3) อยู่ในกล่องต่อสายร่วมของป้ายทางออกฉุกเฉินหรือโคมไฟฉุกเฉินที่มีแหล่งจ่ายไฟจาก 2
แหล่ง
การเดินสายสาหรับวงจรอุปกรณ์เครื่องมืออนุญาตให้เดินสายร่วมในทางเดินสาย กล่องต่อสาย
กล่องพักสาย กับวงจรอื่นที่ไม่ใช่ส่วหนึ่งของวงจรไฟฟ้าฉุกเฉินได้
ง.2.2.5 ความต้องการของการระบุเต้ารับเหมือนของโรงพยาบาล
ง.2.2.6 วงจรย่อยของความปลอดภัยของชีวิตต้องสามารถกลับมาใช้งานได้อัตโนมัติผ่านระบบแหล่งจ่าย
ทางเลือกอื่นภายใน 10 วินาทีหลังการขาดหายของแหล่งจ่ายปกติ
ง.2.2.7 วงจรย่อยที่จ่ายระบบความปลอดภัยของชีวิตต้องจ่ายได้เพียงกับการส่องสว่างของ ทางออก
ฉุกเฉิน ป้ายบอกทางออกฉุกเฉิน ,ระบบแจ้งเตือนและเตือนภัย ระบบสื่อสารที่ถูกใช้ระหว่าง
สภาวะฉุกเฉิน พื้นที่รับประทานอาหารและพักผ่อน การส่องสว่างงานที่ตาแหน่งเครื่องกาเนิด
ไฟฟ้า แสงสว่างของลิฟท์ ระบบควบคุม สื่อสาร สัญญาณ
ง.2.2.8 อุปกรณ์ในระบบตามรายการดังต่อไปนี้จะต้องทาการหน่วงเวลาในการต่อแบบอัตโนมัติไปยัง
วงจรย่อยของผู้ป่วยหนัก
ง.2.2.8.1 จะต้องมีการจัดหาสาหรับการส่องสว่างงานและเต้ารับที่ถูกเลือกในพื้นที่ดูแลผู้ป่วยที่กาหนด
ไว้ในพื้นที่ดังนี้
(1) พื้นที่เตรียมการรักษาทางการแพทย์
(2) พื้นที่การคัดและจ่ายยา
(3) จุดรวมพยาบาล (Nurse Station)
ง.2.2.8.2 เครื่องสูบน้า (Sum Pump) และเครื่องมืออื่นๆที่ต้องการเพื่อการทางานของระบบความ
ปลอดภัยและระบบควบคุมที่เกี่ยวข้อง
ง.2.2.8.3 ระบบควบคุมควันและบันไดอัดอากาศ
ง.2.2.8.4 ระบบเติมอากาศและ/หรือระบายอากาศของเครื่องดูดควัน ถ้ามีความต้องการการทางาน
ในขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในหรือด้านล่างเครื่องดูดควัน
ง.2.2.8.5 ระบบไหลเวียนอากาศ ดูดเข้า เติมและระบายออกในพื้นที่ที่ห้องแยกการระบาดของเชื้อทาง
อากาศที่กาหนด
ง.2.2.9 อุปกรณ์ในระบบตามรายการดังต่อไปนี้จะต้องทาการหน่วงเวลาในการต่อแบบอัตโนมัติ หรือแบบ
ควบคุมด้วยมือ ไปยังวงจรย่อยของผู้ป่วยหนัก
ง.2.2.9.1 เครื่องปรับอากาศในห้องผู้ป่วย
ง.2.2.9.2 ลิ ฟ ท์ บ ริ ก าร เพื่ อ บริ ก ารผู้ ป่ ว ยให้ ส ามารถลงมายั ง ชั้ น ล่ า งสุ ด ได้ ใ นกรณี ไ ฟฟ้ าปกติ เ กิ ด
เหตุขัดข้อง
ง.2.2.9.3 การส่องสว่างเพิ่มเติม เต้ารับ และอุปกรณ์
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
125
ง.2.2.10 แหล่ ง ก าเนิ ดพลั งงานทางเลื อ กต้อ งเป็ นชุ ด เครื่ องก าเนิด ไฟฟ้ า ในเขตอาคารถ้ าแหล่ ง ก าเนิ ด
พลังงานหลักไม่ได้เป็นชุดเครื่องกาเนิดฟ้า โดยแหล่งกาเนิดพลังงานทางเลือกอาจเป็นได้ทั้งเครื่อง
กาเนิดไฟฟ้าอีกชุดหนึ่งหรือแหล่งจ่ายจากด้านนอก ในบางกรณีระบบแบตเตอรีสามารถใช้ได้
ง.3 การบริการทางสาธรณสุขแบบอื่นๆ
ง.3.1 ระบบไฟฟ้าที่จาเป็นต้องเป็นระบบแบตเตอรี่หรือชุดเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ตามความต้องการตามที่ระบุ
ในมาตรฐานนี้หรือมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ง.3.2 ที่ใดมีความต้องการอุปสาหรับกรณ์ไฟฟ้า ช่วยชีวิตหรือมีพื้นที่ดูแลผู้ป่วยหนัก ให้ใช้ข้อกาหนดตาม
แบบของโรงพยาบาล
ร่างมาตรฐานออกแบบและติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้า