Professional Documents
Culture Documents
หนังสือ/ตารา เพื่อตาแหน่งทางวิชาการ
ศาสตราจารย์ นายแพทย์วชิร คชการ
รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ประธานอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ
เลขานุการคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งวิชาการ(กพว.)
มหาวิทยาลัยมหิดล
หนังสือ ตารา
เป็นผลงานทางวิชาการที่เรียบเรียงขึ้นโดยมี
รากฐานทางวิชาการที่มั่นคง และให้ทัศนะของ เป็นผลงานทางวิชาการที่เรียบเรียงขึ้นอย่าง
ผู้เขียนที่สร้างเสริมปัญญาความคิดและ เป็นระบบ ครอบคลุมเนื้อหาสาระของวิชา
สร้างความแข็งแกร่งทางวิชาการให้แก่สาขาวิชานั้น หรือเป็นส่วนหนึ่งของวิชา หรือของหลักสูตร
ๆ และ/หรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการ
มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงในเชิงเนื้อหาและครอบคลุม ถ่ายทอดวิชาในระดับอุดมศึกษาในการเรียน
โดยไม่จาเป็นต้องสอดคล้องหรือเป็นไปตาม การสอนในหลักสูตรระดับอุดมศึกษา
ข้อกาหนดของหลักสูตรหรือของวิชาใดวิชาหนึ่งใน
หลักสูตร และไม่จาเป็นต้องนาไปใช้ประกอบการ
เรียนการสอนในวิชาใดวิชาหนึ่ง ทั้งนี้เนื้อหาสาระ
ของหนังสือต้องมีความทันสมัย เมื่อพิจารณาถึงวันที่
จัดพิมพ์ ความแตกต่างของตาราและหนังสือ คือ ตาราต้องครอบคลุมเนื้อหาสาระของวิชา
หรือหลักสูตร มีบทและสารบัญเนื้อหาที่ชัดเจนสอดคล้องกับคาอธิบายรายวิชา
แต่หนังสือไม่จาเป็นต้องเกี่ยวข้องกับวิชาหรือหลักสูตร แต่หนังสือถูกกลั่นกรอง
มาจากความสนใจ เชี่ยวชาญของผู้เขียน
การเผยแพร่ผลงานในฐานข้อมูลตามที่ ก.พ.อ. กาหนด
องค์ประกอบ
เนื้อหาสาระวิชาการ การอ้างอิงสมบูรณ์และทันสมัย
มีแนวคิดการนาเสนอชัดเจน มีประโยชน์ทางวิชาการในระดับอุดมศึกษา
มีการสังเคราะห์ความรู้ทันต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ
พจน์ สะเพียรชัย
ปัญหาที่พบบ่อยในการขอกาหนดตาแหน่งระดับสูง
• พบว่าลอกผู้อื่น หรือแปลมา ไม่เข้าใจคาจากัดความของ “งานแปล”
• ตีพิมพ์ผลงานซ้าซ้อน
• มีประเด็นสงสัยด้านจริยธรรม ทั้งในส่วนของผลงานที่เสนอมา และในส่วนของ
การปฏิบัติตนในฐานะอาจารย์,นักวิชาการ
• เอกสาร ตารา หนังสือ มีคาผิดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่ไม่ควรผิด เช่นชื่อคน
ชื่อผู้นิพนธ์ คุณวุฒิ ตาแหน่ง แม้แต่ชื่อตนเอง
• เป็นบรรณาธิการแต่ไม่ใช้ความเป็นบรรณาธิการให้เป็นประโยชน์
• ทาแบบฉุกเฉิน
ปัญหาที่พบบ่อยในการขอกาหนดตาแหน่งระดับสูง
• ผลงานขาดคุณภาพ ทั้งรูปแบบและเนื้อหา
• ตาราอ่านไม่รู้เรื่อง มีคาผิดมาก อ้างอิงผิด ล้าสมัย ไม่อ้างที่มาของภาพ ตาราง
บางบทยาวมาก บางบทสั้นเกินไป วกวน พยายามเวียนมาหางานวิจัยของตนเอง
จนขาดความเป็นธรรมชาติ
• ตาราขาดรายละเอียด เขียนเป็น chapter ที่แยกกันอยู่ในหลายตารา
• เอกสารอ้างอิงมากเกินไป น้อยเกินไป ล้าสมัยเกินไป
• งานขาดคุณภาพ ไม่มีแนวทางชัดเจน ทาเป็น fragmented
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
• ไม่เข้าเงื่อนไขตามคาจากัดความของ ตารา/หนังสือ
• ขาดองค์ประกอบตามข้อกาหนด
• ขาดคุณภาพ เนื้อหาไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง มีคาผิดมาก เก่าเกินไป
• มีข้อผิดพลาดทางจริยธรรมและกฎหมาย
กับดักและหลุมพราง
• ด้านองค์ประกอบ/รูปแบบ
• ด้านคุณภาพ
• ด้านปริมาณ
• ด้านการเผยแพร่
• ด้านจริยธรรม กฎหมาย
องค์ประกอบในตารา
แสดง 8 หน้ายก
สานักพิมพ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับ
เผยแพร่ใน website หรือจัดพิมพ์โดย คณะ, โครงการตารา, ภาควิชา ได้หรือไม่?
จาก paperyardbooks
จรรยาบรรณ,ลิขสิทธิ,์ กฎหมาย
• การใช้ภาพ, Infographics ช่วยสื่อความหมาย
⚬ อินโฟกราฟิกส์ (Infographics) หมายถึง การนาข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศในลักษณะของ
ข้อมูลและกราฟิกที่อาจเป็นลายเส้น สัญลักษณ์ กราฟ แผนภูมิ ไดอะแกรม แผนที่ ฯลฯ ที่ออกแบบเป็น
ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน สามารถสื่อให้เข้าใจความหมายของ
ข้อมูลทั้งหมดได้โดยไม่จาเป็นต้องใช้ข้อความช่วยขยายความเข้าใจอีก
• ภาพถ่าย, ถ่ายเอง, ภาพของเราเองที่ส่งไปลงตีพิมพ์ในวารสารต้องตรวจสอบลิขสิทธิ์ก่อน
• ใช้ภาพจาก Internet ต้องตรวจสอบลิขสิทธิ์ก่อน
• การถ่ายภาพผู้ป่วย, อาสาสมัคร ต้องขออนุญาต ระบุให้ชัดเจนว่าจะมีการนามาทาหนังสือ และนาเสนอเท่าที่
จาเป็น ไม่ให้สื่อได้ว่าเป็นผู้ใด
• ภาพเอ็กซเรย์ ต้องลบเลขประจาตัวผู้ป่วย วันที่ เวลา
• ตาราง, ไดอะแกรม ห้ามลอกมาทั้งหมด เพราะgraphic design มีลิขสิทธิ์ ให้เอาcontent มาทาตารางใหม่ แล้ว
อ้างอิง
• การแปลจากอังกฤษเป็นไทย ยังถือว่าเป็นการลอก
ลิขสิทธิ์
ลิขสิทธิ์ภาพ: กฎหมายจะให้ความคุ้มครองทันที โดยที่ไม่ต้องจดทะเบียนใดๆ แต่ถ้าอยากจดแจ้ง
ลิขสิทธิ์ สามารถไปที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อบ่งบอกว่างานชิ้นนี้ เราเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมา
ก่อน หลังจากที่เจ้าของผลงานลงมือสร้างสรรค์งานตั้งแต่คิดค้น ออกแบบ ประดิษฐ์จนกลายเป็น
งานชิ้นหนึ่งที่เสร็จสมบูรณ์ และเจ้าของลิขสิทธิ์จะมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ในการทาซ้า ดัดแปลง
เผยแพร่ต่อสาธารณชน อีกทั้ง กฎหมายจะคุ้มครองตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ผลงาน และคงอยู่
ต่อไปอีก 50 ปี นับตั้งแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
• Freeware – นาไปใช้ได้ฟรี และนาไปแชร์ต่อได้ แต่ไม่สามารถแก้ไขหรือเอาไปขายต่อได้โดยไม่ได้รับ
อนุญาต
• Shareware – นาไปใช้ได้ฟรี แต่ถ้าจะใช้ในระยะยาวต้องบริจาคเงิน สามารถนาไปแชร์ได้แต่ต้องให้
เครดิตทุกครั้งโดยไม่ต้องขออนุญาต
• Fair Use – สามารถนาไปใช้ได้เพื่อการศึกษาและเขียนวิจารณ์ โดยไม่ต้องขออนุญาต
• Creative Commons – นาไปใช้ได้ฟรี แต่ต้องอยู่ในกฏที่ลิขสิทธิ์กาหนดไว้ ต้องให้เครดิตเจ้าของ
เนื้อหาทุกครั้ง โดยเจ้าของเนื้อหาเป็นผู้กาหนดว่า อนุญาตให้แก้ไขได้หรือไม่
• Editorial use: อนุญาตให้ใช้งานในบทความ, หนังสือพิมพ์, แม็กกาซีน, นิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์
• Commercial use: อนุญาตให้ใช้ในงานเชิงพาณิชย์ ในสื่อโฆษณา เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการของ
ธุรกิจ เช่นนาไปใช้ทาโฆษณาบนโปสเตอร์
• Public Domain เป็นลิขสิทธิ์ที่เราสามารถนาไปใช้ได้ฟรี โดยไม่ต้องขออนุญาต ครอบคลุมเนื้อหา
พวกเรื่องที่เป็นความจริง (เช่น โลกเป็นทรงกลม / ทะเลสีฟ้า) , ไอเดีย, ขั้นตอนการทางาน และยัง
ครอบคลุมงานที่ลิขสิทธิ์หมดอายุไปแล้วด้วย
• Royalty-free หมายถึง ผู้ซื้อสามารถซื้อ License แบบ royalty-free และสามารถใช้รูปของได้
แบบไม่จากัดเวลา ไม่จากัดครั้งในการใช้งาน ใช้ได้เรื่อย ๆ
• Rights-managed (Pay per use) หมายถึง เป็นลิขสิทธิ์ที่ไม่ใช่การซื้อขาดแบบ Royalty-free แต่
มีข้อสัญญาที่แนบตามมาด้วย เช่น จะต้องจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน, จ่ายเงินทุกครั้งที่ใช้รูปภาพนี้
แนวทางการเขียนบทความอย่างไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
• กรณีที่คัดลอกข้อความหรือประโยคบางส่วนมาจากต้นฉบับโดยไม่มีการดัดแปลงใดๆ เนื่องจากหากมีการ
ดัดแปลงหรือเรียบเรียงใหม่แล้วอาจสื่อความหมายไม่ชัดเจนเท่าต้นฉบับ ควรใส่เครื่องหมาย “..” ครอบคลุม
ทั้งข้อความ และใส่แหล่งอ้างอิงหรือแหล่งทีม่ าของข้อมูลให้ชัดเจน
• กรณีที่ต้องการเขียนข้อมูลหรือบอกเล่าเกี่ยวกับงานเขียนดังกล่าว ควรอ่านทาความเข้าใจบทความดังกล่าว
ให้กระจ่าง และทาการเรียบเรียงประโยคใหม่ทั้งหมดด้วยรูปแบบการเขียนที่เป็นของตนเอง โดยไม่ทาให้
ใจความสาคัญและการสื่อความหมายในบทความเดิมไม่ผิดเพี้ยนไป และที่สาคัญจะต้องแสดงแหล่งอ้างอิง
หรือแหล่งที่มาของบทความที่นามาเป็นต้นฉบับในการเรียบเรียงใหม่ให้ชัดเจน เพื่อแสดงเจตนาความ
บริสุทธิ์ของท่านเองและยังแสดงถึงการให้เกียรติและให้ความเคารพต่อสิทธิ์ความเป็นเจ้าของแก่ผู้เป็นเจ้า
ของเดิม
PDPA คือ พระราชบัญญัติคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
PDPA ย่อมาจาก Personal Data Protection Act B.E.
2562 (2019)
เป็นกฎหมายว่าด้วยการให้สิทธิ์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สร้างมาตรฐานการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัย
และนาไปใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ตามคายินยอมที่เจ้าของ
ข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต โดยกฎหมาย PDPA Thailand
(พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
ได้ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม
OT-reg 2562 และปัจจุบันได้ถูกเลื่อนให้มีผลบังคับใช้ในวันที่
1 มิถุนายน 2565