Professional Documents
Culture Documents
เคมี 9วิชาสามัญ 65 (K)
เคมี 9วิชาสามัญ 65 (K)
กำรอภิปรำยผลกำรทดลองในข้อใดถูกต้องและสมเหตุสมผลมำกที่สุด
2. ข้อใดเป็นโมเลกุลที่โครงสร้ำงลิวอิสมีอะตอมกลำงเป็นไปตำมกฎออกเตต และประกอบด้วยอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว
ในทุกอะตอมรวมกันมีจำนวนมำกที่สุด
1. SO3
2. AsH3
3. PF3
4. OF2
5. HNO3
4. พิจำรณำปฏิกิริยำระหว่ำงสำรประกอบฟลูออไรด์กับแก๊สฟลูออรีนได้ผลิตภัณฑ์ดังสมกำรเคมีตอ่ ไปนี้
ก. SF4 + F2 → SF6
ข. ClF + F2 → ClF3
ค. ClF3 + F2 → ClF5
ง. XeF2 + F2 → XeF4
ปฏิกิริยำเคมีใดที่สำรตัง้ ต้นเป็นโมเลกุลมีขั้วและเมื่อทำปฏิกิริยำกับแก๊สฟลูออรีนแล้วได้ผลิตภัณฑ์เป็นโมเลกุลไม่มีขวั้
1. ก. เท่ำนั้น
2. ก. และ ข.
3. ก. และ ง.
4. ข. และ ค.
5. ค. และ ง.
ข้อใดเป็นไอออนที่มีเวเลนต์อิเล็กตรอนอยู ่ในระดับพลังงำนหลักสูงสุดแตกต่ำงจำกไอออนในข้ออื่น
1. A2+
2. D2+
3. E4+
4. G5+
5. J2+
248
6. ไอโซโทป Z สังเครำะห์ได้จำกกำรยิงนิวเคลียส 96Cm ด้วย 2311Na ดังสมกำร
248 23
96Cm + 11Na → Z + 5 01n
ไอโซโทป X ในข้อใดมีควำมเป็นไปได้มำกที่สุด
254
1. 101X
266
2. 104X
266
3. 107X
270
4. 109X
278
5. 113X
กำรเปรียบเทียบขนำดอะตอมและขนำดไอออนของธำตุสมมติท่พ
ี บในสำรประกอบไอออนิก ข้อใดถูกต้อง
1. ไอออน M เล็กกว่ำอะตอม M
2. ไอออน A เล็กกว่ำอะตอม E
3. ไอออน Q เล็กกว่ำอะตอม R
4. อะตอม D เล็กกว่ำอะตอม G
5. ไอออน L เล็กกว่ำไอออน Q
1. 14
2. 21
3. 28
4. 37
5. 60
9. พิจำรณำสมกำรเคมีต่อไปนี้
NaCN + CuCO3 → Na2CO3 + Cu(CN)2 (สมกำรยังไม่ดลุ )
ถ้ำ CuCO3 ทำปฏิกิริยำพอดีกับ NaCN 0.600 โมล จะมี Cu(CN)2 เกิดขึ้นกี่กรัม
1. 14.7
2. 29.4
3. 34.6
4. 69.3
5. 139
1. 10.4
2. 16.7
3. 33.3
4. 41.7
5. 66.7
1. VO
2. VO2
3. V2O3
4. V2O5
5. V4O9
สำร A มีค่ำมวลต่อโมลกี่กรัมต่อโมล
1. 7.81
2. 14.4
3. 28.8
4. 128
5. 175
14.0
12.0
จุ ดเดือดที่เพิ่มขึ้นของสำรละลำย (oC)
10.0
8.0
6.0
4.0
2.0
0.0
0.0 1.0 2.0 3.0 4.0 5.0 6.0
ควำมเข้มข้นของสำร X ในตัวทำละลำยชนิดต่ำง ๆ (m)
ข้อใดไม่ถูกต้อง
15. กำรแยกไอโซโทปกัมมันตรังสีของยู เรเนียม U-235 และ U-238 ทำได้โดยเปลี่ยนยู เรเนียมให้อยู ใ่ นรู ปแก๊ส UF6 แล้ว
นำไปแพร่ผ่ำนแผ่นกั้นที่มีรูพรุ นไปยังภำชนะบรรจุ โดยอัตรำส่วนของไอโซโทปที่ต้องกำรเพิ่มควำมเข้มข้นก่อนและ
หลังกำรแพร่เป็นไปตำมอัตรำกำรแพร่ผ่ำนที่แตกต่ำงกัน ตำมกฎกำรแพร่ผ่ำนของเกรแฮม
352
1. U-235 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
349
238
2. U-235 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
235
238
3. U-238 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
235
352
4. U-238 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
349
349
5. U-238 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
352
อำกำศที่นำมำวิเครำะห์นี้มีไอน้ำเป็นองค์ประกอบอยู ่ประมำณร้อยละโดยปริมำตรเท่ำใด
กำหนดให้ ผลคูณระหว่ำงค่ำคงที่ของแก๊สกับอุ ณหภูมิขณะทำกำรทดลอง (RT) มีค่ำเท่ำกับ 25.0 Latmmol-1
และไม่ต้องพิจำรณำปริมำตรของท่อขนำดเล็ก
1. 0.020
2. 0.40
3. 2.0
4. 4.0
5. 40
17. พิจำรณำค่ำคงที่สมดุลของปฏิกิริยำเคมีต่อไปนี้
A(aq) ⇌ B(aq) + 2C(aq) K1 = x
3A(aq) ⇌ 6D(aq) K2 = y
A(aq) + C(aq) ⇌ B(aq) + 2D(aq) K3 = z
18. สมดุลของปฏิกิริยำเคมีหนึ่งเป็นดังสมกำรเคมี
A(aq) + 2B(aq) ⇌ 2C(aq) เป็นปฏิกิริยำดูดควำมร้อน
เมื่อรบกวนสมดุลของปฏิกิริยำโดยกำจัดสำรชนิดหนึ่งออก พบว่ำเกิดกำรเปลี่ยนแปลง ดังกรำฟ
1. 2.
3. 4.
5.
ข้อควำมใดไม่ถูกต้อง
20. พิจำรณำสมกำรเคมีต่อไปนี้
Ca2+(aq) + SO2-4 (aq) ⇌ CaSO4(s) K = 1.0 x 105
Pb2+(aq) + SO2-4 (aq) ⇌ PbSO4(s) K = 1.0 x 108
ในสำรละลำยชนิดหนึ่งมีควำมเข้มข้นเริ่มต้นของ Ca2+ Pb2+ และ SO2-4 อย่ำงละ 1.0 โมลำร์
1. 1.0 x 10-13
2. 1.0 x 10-3
3. 1.0 x 103
4. 1.0 x 105
5. 1.0 x 1013
พิจำรณำกำรกระทำที่เกี่ยวข้องกับกำรทดลองข้ำงต้น ต่อไปนี้
ก. เพิ่มอุ ณหภูมิ ข. เติมตัวเร่งปฏิกิริยำ ค. เพิ่มควำมเข้มข้นของสำรตั้งต้น
ข้อใดเป็นกำรกระทำที่ทำให้อนุภำคของสำรตัง้ ต้นที่มีพลังงำนมำกกว่ำพลังงำนก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยำ
มีจำนวนมำกขึน้
1. ก. เท่ำนั้น
2. ก. และ ข. เท่ำนั้น
3. ก. และ ค. เท่ำนั้น
4. ข. และ ค. เท่ำนัน้
5. ก. ข. และ ค.
เวลำ (s) 0 10 20 30 40
ควำมเข้มข้น (M)
[B] 1.00 0.90 0.83 0.76 0.71
[C] 0.00 0.02 0.04 0.06 0.07
[D] 0.00 0.07 0.13 0.18 0.22
ข้อใดเป็นรู ปแบบแผนภำพแสดงกำรเปลี่ยนแปลงพลังงำนของปฏิกิริยำเคมีนี้
1. 2.
3. 4.
5.
สำรละลำยในข้อใดมีจำนวนไอออน H+ เท่ำกัน
1. ก. และ ข. เท่ำนั้น
2. ข. และ ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ค. เท่ำนั้น
4. ก. ข. และ ค.
5. ไม่เท่ำกันทัง้ ก. ข. และ ค.
1. 1.7
2. 3.0
3. 5.4
4. 8.6
5. 11.0
26. พิจำรณำสมกำรเคมีต่อไปนี้
KCl + SnCl2 → K+ + [SnCl3]-
AsF3 + SbF5 → [AsF2]+ + [SbF6]-
I2 + I- → I-3
(CH3)3CCl + AlCl3 → (CH3)3C+ + AlCl4-
สำรคู่ใดทำหน้ำที่แตกต่ำงกันตำมทฤษฎีกรด – เบสของลิวอิส
ยำ 3 ชนิด ได้แก่ X Y และ Z เป็นกรดอ่อนที่มี H+ 1 โปรตอน มีค่ำ pKa เท่ำกับ 3 4 และ 5 ตำมลำดับ
ถ้ำกระเพำะอำหำรมี pH เท่ำกับ 2.5 ยำชนิดใดถูกดูดซึ มที่กระเพำะอำหำรได้ดี
1. ยำ X เท่ำนั้น
2. ยำ Z เท่ำนั้น
3. ยำ Y และ Z เท่ำนั้น
4. ยำทัง้ 3 ชนิด ถูกดูดซึ มที่กระเพำะอำหำรได้ดี
5. ไม่มยี ำชนิดใดถูกดูดซึ มที่กระเพำะอำหำรได้ดี
ข้อใดแสดงสูตรโครงสร้ำงที่เป็นไปได้ของสำร A ได้ถูกต้อง
1. 2.
3. 4.
5.
ข้อใดแสดงสูตรโครงสร้ำงที่เป็นไปได้ของสำร C
1. 2.
3. 4.
5.
3. 4.
5.
1. 5-butyloct-6-ene
2. 1,4-dimethylbenzene
3. 4-methylhexanone
4. butyl propanoate
5. 4-ethylhexanamine CH3CH2CH(CH2CH3)CH2CH2CONH2
วิธีกำรทดสอบ ผลกำรสังเกต
1. หยดลงในน้ำ 5 มิลลิลิตร ได้สำรเนื้อเดียว
2. หยดลงบนกระดำษลิตมัสสีน้ำเงิน กระดำษลิตมัสเปลี่ยนเป็นสีแดง
3. หยดลงบนกระดำษลิตมัสสีแดง กระดำษลิตมัสเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
4. หยดลงในสำรละลำย 0.01 %w/v KMnO4 1 หยด ได้สำรละลำยสีม่วง
5. หยดลงในสำรละลำย 0.01 %w/v KMnO4 1 หยด เห็นตะกอนสีน้ำตำลในสำรละลำยไม่มีสี
พอลิเมอร์ X
พอลิไวนิลแอลกอฮอล์
พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. พอลิเมอร์ X เป็นพอลิเมอร์เทอร์มอพลำสติก
ข. พอลิเมอร์ X มีควำมแข็งแรงมำกกว่ำพอลิไวนิลแอลกอฮอล์
ค. โครงสร้ำงที่เป็นไปได้ของพอลิเมอร์ X คือ
ข้อควำมใดถูกต้อง
1. ก. เท่ำนั้น
2. ข. เท่ำนั้น
3. ค. เท่ำนัน้
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.
ซิ ส-พอลิไอโซพรีน
ทรานส์-พอลิไอโซพรีน
พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. พอลิไอโซพรีนทัง้ สองชนิด สังเครำะห์ได้จำกปฏิกิริยำพอลิเมอร์ไรเซชันแบบควบแน่น
ข. มอนอเมอร์ท่นี ำมำสังเครำะห์ ซิ ส- และ ทรานส์-พอลิไอโซพรีน มีสูตรโมเลกุลแตกต่ำงกัน
ค. พอลิไอโซพรีนทัง้ สองชนิด สำมำรถปรับปรุ งสมบัติควำมทนทำนได้ด้วยกระบวนกำรวัลคำไนเซชัน
ข้อควำมใดถูกต้อง
1. ก. เท่ำนั้น
2. ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ข.
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.
36. พอลิเมอร์ชนิดหนึ่งมีโครงสร้ำงดังแสดง
สำรใดสำมำรถใช้เป็นมอนอเมอร์ในกำรสังเครำะห์พอลิเมอร์ชนิดนี้ได้
1. 2.
3. 4.
5.
ข้อใดเรียงลำดับ ควำมสำมำรถในกำรเป็นตัวรีดิวซ์จำกมำกไปน้อยได้ถูกต้อง
1. BDCA
2. ACDB
3. BDAC
4. CADB
5. BADC
1. 1:3
2. 1:2
3. 1:1
4. 2:1
5. 3:1
พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. เมื่อเวลำผ่ำนไปโลหะที่ตอ่ กับขั้วลบของแบตเตอรี่จะหนำขึ้น
ข. ถ้ำใช้แบตเตอรี่ท่ใี ห้ค่ำอีเอ็มเอฟมำกกว่ำ 1.37 V ปฏิกิริยำนี้สำมำรถเกิดขึ้นได้
ค. มีแก๊สเกิดขึน้ ที่ขวั้ แคโทด
ข้อควำมใดถูกต้อง
1. ก. เท่ำนั้น
2. ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ข. เท่ำนั้น
4. ข. และ ค. เท่ำนัน้
5. ก. ข. และ ค.
ตอนที่ 2 แบบระบำยคำตอบที่เป็นตัวเลข
จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 41 – 45) ข้อละ 4 คะแนน รวม 20 คะแนน
42. เมื่อเติมโพแทสเซี ยมคำร์บอเนต (K2CO3) 3.45 กรัม ลงในสำรละลำยโพแทสเซี ยมคลอไรด์ (KCl) เข้มข้น 0.10 โมลำร์
ปริมำตร 150 มิลลิลิตร แล้วปรับปริมำตรสำรละลำยให้เป็น 500 มิลลิลิตร
สำรละลำยที่ได้มีควำมเข้มข้นของ K+ เป็นกี่โมลำร์
กำหนดให้ มวลต่อโมลของ K2CO3 เท่ำกับ 138 กรัมต่อโมล
45. พิจำรณำสำรต่อไปนี้