You are on page 1of 48

1

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

กำหนดให้ใช้ค่ำมวลต่อโมล (กรัมต่อโมล) ของสำรดังต่อไปนี้

H = 1.0 B = 11.0 C = 12.0 N = 14.0


O = 16.0 F = 19.0 Na = 23.0 S = 32.0
Cl = 35.5 K = 39.0 Ca = 40.0 V = 51.0
Cu = 63.5

กำหนดให้ใช้ค่ำต่อไปนี้ สำหรับกรณีท่ตี ้องแทนค่ำตัวเลข


• ค่ำคงที่ของแก๊ส R = 0.0821 Latmmol-1K-1

by พี่กปั ตัน Chemistry K


2

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

ตอนที่ 1 แบบปรนัย 5 ตัวเลือก เลือก 1 คำตอบที่ถูกที่สุด


จำนวน 40 ข้อ (ข้อ 1 - 40) ข้อละ 2 คะแนน รวม 80 คะแนน

1. ทำกำรทดลองไทเทรตหำควำมเข้มข้นที่แน่นอนของสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ด้วยสำรละลำยมำตรฐำน


โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) เข้มข้น 0.1 โมลำร์ โดยใช้ฟีนอล์ฟทำลีนเป็นอินดิเคเตอร์ นักเรียนแต่ละกลุ่มได้แสดง
ผลกำรทดลองโดยเขียนปริมำตร NaOH ที่ใช้บนกระดำน และครู บันทึกสิ่งที่สังเกตเห็นเพื่อกำรอภิปรำย ดังนี้

ปริมำตร NaOH ที่ใช้ (mL)


กลุ่ม สิ่งที่ครู สงั เกตเห็น
ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3
แบ่งงำนกันโดยให้หนึ่งคนปิ เปตต์ และอีกหนึ่งคนไทเทรต
A 10.50 10.55 10.55
ตลอดกำรทดลอง
ปิ เปตต์กรดลงในบีกเกอร์ แล้วใช้แท่งแก้วคนสำรขณะไทเทรต
B 10.10 10.00 9.90
และล้ำงแท่งแก้วก่อนทำกำรไทเทรตแต่ละครั้ง
C 9.90 9.80 9.90 ใช้น้ำกลั่นปริมำณมำกชะสำรที่ตดิ ข้ำงในขวดรู ปกรวย
D 9.00 9.10 8.90 ใช้โบรโมไทมอลบลูเป็นอินดิเคเตอร์ แทนฟี นอล์ฟทำลีน

กำหนดให้ช่วง pH ที่เปลี่ยนสีและสีท่เี ปลี่ยนของอินดิเคเตอร์ เป็นดังนี้

อินดิเคเตอร์ ช่ วง pH ที่เปลี่ยนสี สีท่เี ปลี่ยน


โบรโมไทมอลบลู 6.0 – 7.6 เหลือง - น้ำเงิน
ฟี นอล์ฟทำลีน 8.3 – 10.0 ไม่มสี ี - ชมพู

กำรอภิปรำยผลกำรทดลองในข้อใดถูกต้องและสมเหตุสมผลมำกที่สุด

1. ค่ำเฉลี่ยของกลุม่ A น่ำจะใกล้คำ่ จริงที่สุด เพรำะควำมชำนำญของนักเรียนทำให้ได้คำ่ ที่มีควำมเที่ยงสูง


2. ค่ำเฉลี่ยของกลุม่ B มีควำมแม่น เนื่องจำกเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องแก้วสำหรับกำรไทเทรตและเทคนิคที่เหมำะสม
3. ค่ำเฉลี่ยของกลุม่ C เชื่ อถือได้ เนื่องจำกกำรผสมน้ำกลั่นลงไปไม่สง่ ผลต่อปริมำตรของ NaOH ที่ใช้ในกำร
ไทเทรต
4. ปริมำตร NaOH ที่กลุ่ม D ใช้นอ้ ยกว่ำกลุม่ อื่น เพรำะโบรโมไทมอลบลูเป็นอินดิเคเตอร์ท่ีไม่เหมำะสม
5. ปริมำตร NaOH ที่น่ำเชื่ อถือที่สดุ คือ 9.90 mL เนื่องจำกเป็นค่ำเดียวที่มีกำรทำซ้ ำได้ถึงสำมครัง้

by พี่กปั ตัน Chemistry K


3

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

2. ข้อใดเป็นโมเลกุลที่โครงสร้ำงลิวอิสมีอะตอมกลำงเป็นไปตำมกฎออกเตต และประกอบด้วยอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว
ในทุกอะตอมรวมกันมีจำนวนมำกที่สุด

1. SO3
2. AsH3
3. PF3
4. OF2
5. HNO3

by พี่กปั ตัน Chemistry K


4

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

3. ไฮโดรเจนไดซัลไฟด์ (H2S2) เป็นสำรประกอบที่มีพันธะไดซัลไฟด์ (disulfide bond) ซึ่ งเป็นพันธะระหว่ำงอะตอม


กำมะถันต่อกันด้วยพันธะเดี่ยว (-S-S-) มีลักษณะโมเลกุลใกล้เคียงกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2)

ข้อใดเปรียบเทียบสมบัติของ H2S2 กับ H2O2 ได้ถูกต้อง

ควำมยำวพันธะ สภำพขั้วของโมเลกุล แรงแผ่กระจำยลอนดอน


1. S-S น้อยกว่ำ O-O H2S2 สูงกว่ำ H2O2 H2S2 อ่อนกว่ำ H2O2
2. S-S น้อยกว่ำ O-O H2S2 สูงกว่ำ H2O2 H2S2 แข็งแรงกว่ำ H2O2
3. S-S มำกกว่ำ O-O H2S2 สูงกว่ำ H2O2 H2S2 แข็งแรงกว่ำ H2O2
4. S-S มำกกว่ำ O-O H2S2 ต่ ำกว่ำ H2O2 H2S2 แข็งแรงกว่ำ H2O2
5. S-S มำกกว่ำ O-O H2S2 ต่ ำกว่ำ H2O2 H2S2 อ่อนกว่ำ H2O2

by พี่กปั ตัน Chemistry K


5

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

4. พิจำรณำปฏิกิริยำระหว่ำงสำรประกอบฟลูออไรด์กับแก๊สฟลูออรีนได้ผลิตภัณฑ์ดังสมกำรเคมีตอ่ ไปนี้
ก. SF4 + F2 → SF6
ข. ClF + F2 → ClF3
ค. ClF3 + F2 → ClF5
ง. XeF2 + F2 → XeF4

ปฏิกิริยำเคมีใดที่สำรตัง้ ต้นเป็นโมเลกุลมีขั้วและเมื่อทำปฏิกิริยำกับแก๊สฟลูออรีนแล้วได้ผลิตภัณฑ์เป็นโมเลกุลไม่มีขวั้

1. ก. เท่ำนั้น
2. ก. และ ข.
3. ก. และ ง.
4. ข. และ ค.
5. ค. และ ง.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


6

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

5. กำหนดธำตุสมมติ 5 ชนิด ได้แก่ 25A 29 D E


30 33 G J
35

ข้อใดเป็นไอออนที่มีเวเลนต์อิเล็กตรอนอยู ่ในระดับพลังงำนหลักสูงสุดแตกต่ำงจำกไอออนในข้ออื่น

1. A2+
2. D2+
3. E4+
4. G5+
5. J2+

by พี่กปั ตัน Chemistry K


7

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

248
6. ไอโซโทป Z สังเครำะห์ได้จำกกำรยิงนิวเคลียส 96Cm ด้วย 2311Na ดังสมกำร

248 23
96Cm + 11Na → Z + 5 01n

และไอโซโทป Z ยังสำมำรถเกิดจำกไอโซโทป X แผ่รังสีแอลฟำ จำนวน 3 อนุภำค

ไอโซโทป X ในข้อใดมีควำมเป็นไปได้มำกที่สุด

254
1. 101X

266
2. 104X

266
3. 107X

270
4. 109X

278
5. 113X

by พี่กปั ตัน Chemistry K


8

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

7. กรำฟพลังงำนไอออไนเซชันลำดับต่ำง ๆ ของธำตุสมมติ 8 ชนิดที่มีเลขอะตอมไม่เกิน 20 เป็นดังนี้

กำรเปรียบเทียบขนำดอะตอมและขนำดไอออนของธำตุสมมติท่พ
ี บในสำรประกอบไอออนิก ข้อใดถูกต้อง

1. ไอออน M เล็กกว่ำอะตอม M
2. ไอออน A เล็กกว่ำอะตอม E
3. ไอออน Q เล็กกว่ำอะตอม R
4. อะตอม D เล็กกว่ำอะตอม G
5. ไอออน L เล็กกว่ำไอออน Q

by พี่กปั ตัน Chemistry K


9

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

8. แอมโมเนียมไนเทรต (NH4NO3) เป็นส่วนประกอบสำคัญในปุ๋ ย สังเครำะห์ได้โดยผ่ำน 3 ขัน้ ตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 นำแก๊ส N2 และ O2 มำทำปฏิกิริยำเคมีกนั ที่อุณหภูมิสงู จนเกิดแก๊ส NO2


ขั้นตอนที่ 2 ผ่ำนแก๊ส NO2 ลงในน้ำได้กรด HNO3 และแก๊ส NO เป็นผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนที่ 3 นำกรด HNO3 ที่ผลิตขึ้นมำไปทำปฏิกิริยำกับ NH3 เพื่อให้ได้ NH4NO3

ถ้ำต้องกำรผลิต NH4NO3 80 ล้ำนตัน จะต้องใช้แก๊ส N2 อย่ำงน้อยกี่ล้ำนตัน


กำหนดให้ มวลต่อโมลของ NH4NO3 เท่ำกับ 80.0 กรัมต่อโมล

1. 14
2. 21
3. 28
4. 37
5. 60

by พี่กปั ตัน Chemistry K


10

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

9. พิจำรณำสมกำรเคมีต่อไปนี้
NaCN + CuCO3 → Na2CO3 + Cu(CN)2 (สมกำรยังไม่ดลุ )
ถ้ำ CuCO3 ทำปฏิกิริยำพอดีกับ NaCN 0.600 โมล จะมี Cu(CN)2 เกิดขึ้นกี่กรัม

1. 14.7
2. 29.4
3. 34.6
4. 69.3
5. 139

by พี่กปั ตัน Chemistry K


11

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

10. โซเดียมไดไธโอไนต์ (Na2S2O4) เป็นตัวรีดิวซ์ท่ใี ช้ในอุ ตสำหกรรมฟอกสี สังเครำะห์ได้จำกปฏิกิริยำเคมีดังสมกำร


NaBH4 + 8NaOH + 8SO2 → 4Na2S2O4 + NaBO2 + 6H2O

ถ้ำใช้แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ปริมำตร 2.24 x 105 ลิตร ที่ STP ทำปฏิกิริยำกับโซเดียมโบโรไฮไดรด์


(NaBH4) 304 กิโลกรัม และสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) เข้มข้น 0.800 โมลำร์ ปริมำตร 2.50 x 104
ลิตร แล้วได้โซเดียมไดไธโอไนต์ 580 กิโลกรัม ผลได้ร้อยละของปฏิกิริยำเคมีนี้เป็นเท่ำใด
กำหนดให้ มวลต่อโมลของ Na2S2O4 เท่ำกับ 174.0 กรัมต่อโมล
มวลต่อโมลของ NaBH4 เท่ำกับ 38.0 กรัมต่อโมล

1. 10.4
2. 16.7
3. 33.3
4. 41.7
5. 66.7

by พี่กปั ตัน Chemistry K


12

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

11. สำรประกอบออกไซด์ของธำตุวำเนเดียม (V) มีหลำยชนิด เมื่อให้ควำมร้อนกับของผสมที่ประกอบด้วยสำรประกอบ


วำเนเดียมออกไซด์ชนิดหนึ่ง 0.75 กรัม และแคลเซี ยมที่มำกเกินพอจะเกิดโลหะวำเนเดียม 0.51 กรัม และสำรประกอบ
แคลเซี ยมออกไซด์ 0.84 กรัม
สูตรเคมีของสำรประกอบวำเนเดียมออกไซด์ชนิดนี้คือข้อใด

1. VO
2. VO2
3. V2O3
4. V2O5
5. V4O9

by พี่กปั ตัน Chemistry K


13

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

12. กำหนดให้ สำร A เป็นของแข็งที่ระเหิดได้ท่อี ุ ณหภูมิห้อง


ทำกำรทดลองโดยนำลูกโป่ งที่ภำยในเป็นสุญญำกำศมำบรรจุ สำร A มวล 1.92 กรัม มัดปำกลูกโป่ งไม่ให้อำกำศเข้ำ
แล้ววำงลูกโป่ งนี้ไว้ท่อี ุ ณหภูมิห้อง พบว่ำ เมื่อสำร A ในลูกโป่ งระเหิดหมด ลูกโป่ งจะพองเต็มที่และมีปริมำตรที่ STP
เท่ำกับ 336 มิลลิลิตร
ถ้ำปริมำตรแก๊สที่เกิดจำกกำรระเหิดของสำร A ทั้งหมดเท่ำกับปริมำตรของลูกโป่ งที่พองเต็มที่

สำร A มีค่ำมวลต่อโมลกี่กรัมต่อโมล

1. 7.81
2. 14.4
3. 28.8
4. 128
5. 175

by พี่กปั ตัน Chemistry K


14

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

13. พิจำรณำกรำฟแสดงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงควำมเข้มข้นของสำร X ในตัวทำละลำย A B C และ D กับจุ ดเดือด


ที่เพิ่มขึ้นของสำรละลำยเมื่อเทียบกับตัวทำละลำยบริสทุ ธิ์ โดยสำร X เป็นสำรประกอบที่ระเหยยำกและไม่แตกตัว
เป็นไอออน
ตัวทำละลำย A ตัวทำละลำย B ตัวทำละลำย C ตัวทำละลำย D

14.0

12.0
จุ ดเดือดที่เพิ่มขึ้นของสำรละลำย (oC)

10.0

8.0

6.0

4.0

2.0

0.0
0.0 1.0 2.0 3.0 4.0 5.0 6.0
ควำมเข้มข้นของสำร X ในตัวทำละลำยชนิดต่ำง ๆ (m)

ข้อใดไม่ถูกต้อง

1. ค่ำคงที่กำรเพิ่มขึ้นของจุ ดเดือดของ A < B < C < D


2. ค่ำคงที่กำรเพิ่มขึ้นของจุ ดเดือดของ C มีคำ่ เท่ำกับ 2.0 C/m
3. จุ ดเดือดของสำรละลำย X เข้มข้น 2 mol/kg ใน A < B < C < D
4. สำรละลำย X ใน B เข้มข้น 0.5 mol/kg จะมีจุดเดือดเพิ่มขึ้น 0.5 C จำกจุ ดเดือดของ B
5. ถ้ำสำรละลำย X ใน A เข้มข้น 3 mol/kg มีจุดเดือดที่ 101.5 C ดังนั้น A มีจุดเดือด 100 C

by พี่กปั ตัน Chemistry K


15

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

14. ลูกโป่ งสองใบทำจำกวัสดุทนควำมร้อนชนิดเดียวกันและสำมำรถขยำยตัวได้สงู สุด 4.48 ลิตร หำกใบที่ 1 บรรจุ แก๊ส


อำร์กอน 0.150 โมล และใบที่ 2 บรรจุ แก๊สนีออนปริมำตร 3.92 ลิตร ที่ STP ถ้ำเริ่มทำกำรทดลองที่ STP และเพิ่ม
อุ ณหภูมขิ ึ้นเรื่อย ๆ โดยควบคุมให้ควำมดันคงที่ตลอดกำรทดลอง

ลูกโป่ งใบใดจะแตกก่อน และอุ ณหภูมิท่ลี ูกโป่ งแต่ละใบแตกมีค่ำแตกต่ำงกันกี่องศำเซลเซี ยส

1. ใบที่ 1 แตกก่อน โดยอุ ณหภูมิท่ลี ูกโป่ งแต่ละใบแตกมีค่ำแตกต่ำงกัน 39 องศำเซลเซี ยส


2. ใบที่ 1 แตกก่อน โดยอุ ณหภูมิท่ลี ูกโป่ งแต่ละใบแตกมีค่ำแตกต่ำงกัน 52 องศำเซลเซี ยส
3. ใบที่ 2 แตกก่อน โดยอุ ณหภูมิท่ลี ูกโป่ งแต่ละใบแตกมีค่ำแตกต่ำงกัน 39 องศำเซลเซี ยส
4. ใบที่ 2 แตกก่อน โดยอุ ณหภูมิท่ลี ูกโป่ งแต่ละใบแตกมีค่ำแตกต่ำงกัน 52 องศำเซลเซี ยส
5. ลูกโป่ งใบที่ 1 แตกพร้อมกับลูกโป่ งใบที่ 2

by พี่กปั ตัน Chemistry K


16

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

15. กำรแยกไอโซโทปกัมมันตรังสีของยู เรเนียม U-235 และ U-238 ทำได้โดยเปลี่ยนยู เรเนียมให้อยู ใ่ นรู ปแก๊ส UF6 แล้ว
นำไปแพร่ผ่ำนแผ่นกั้นที่มีรูพรุ นไปยังภำชนะบรรจุ โดยอัตรำส่วนของไอโซโทปที่ต้องกำรเพิ่มควำมเข้มข้นก่อนและ
หลังกำรแพร่เป็นไปตำมอัตรำกำรแพร่ผ่ำนที่แตกต่ำงกัน ตำมกฎกำรแพร่ผ่ำนของเกรแฮม

ถ้ำเริ่มต้นให้แก๊สผสมที่ตำแหน่ง A เคลื่อนที่ผำ่ นอุ ปกรณ์แยก ดังรู ปข้ำงต้น แก๊สผสมที่ได้ ณ ตำแหน่ง C


จะมีอัตรำส่วนของไอโซโทปชนิดใดเพิ่มขึน้ และเพิ่มขึน้ เป็นกี่เท่ำของตำแหน่ง A

352
1. U-235 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
349

238
2. U-235 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
235

238
3. U-238 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
235

352
4. U-238 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
349

349
5. U-238 และเพิ่มขึ้นเป็น √ เท่ำ
352

by พี่กปั ตัน Chemistry K


17

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

16. กำรวิเครำะห์ไอน้ำในอำกำศแห่งหนึ่งทำโดยเปิ ดถังขนำด 10.0 ลิตรใบหนึ่งไว้ท่รี ะดับน้ำทะเล จำกนั้นปิ ดฝำถัง


ให้สนิทแล้วนำไปเชื่ อมต่อกับถังสุญญำกำศขนำด 10.0 ลิตร อีกหนึ่งใบด้วยท่อขนำดเล็กซึ่ งบรรจุ สำรดูดควำมชื้ น
ไว้มำกเกินพอ เมื่อปล่อยให้อำกำศถ่ำยเทเข้ำสู่สมดุลระหว่ำงถังทั้งสอง วัดค่ำควำมดันภำยในถังทั้งสองได้ 0.480
บรรยำกำศ

อำกำศที่นำมำวิเครำะห์นี้มีไอน้ำเป็นองค์ประกอบอยู ่ประมำณร้อยละโดยปริมำตรเท่ำใด
กำหนดให้ ผลคูณระหว่ำงค่ำคงที่ของแก๊สกับอุ ณหภูมิขณะทำกำรทดลอง (RT) มีค่ำเท่ำกับ 25.0 Latmmol-1
และไม่ต้องพิจำรณำปริมำตรของท่อขนำดเล็ก

1. 0.020
2. 0.40
3. 2.0
4. 4.0
5. 40

by พี่กปั ตัน Chemistry K


18

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

17. พิจำรณำค่ำคงที่สมดุลของปฏิกิริยำเคมีต่อไปนี้
A(aq) ⇌ B(aq) + 2C(aq) K1 = x
3A(aq) ⇌ 6D(aq) K2 = y
A(aq) + C(aq) ⇌ B(aq) + 2D(aq) K3 = z

ค่ำคงที่สมดุลของสมกำรเคมี A(aq) ⇌ 3C(aq) เป็นเท่ำใด


xy1/3
1.
z
xz
2.
y1/3
xy
3.
z
xy
4.
3z
y
5. X+ +z
3

by พี่กปั ตัน Chemistry K


19

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

18. สมดุลของปฏิกิริยำเคมีหนึ่งเป็นดังสมกำรเคมี
A(aq) + 2B(aq) ⇌ 2C(aq) เป็นปฏิกิริยำดูดควำมร้อน
เมื่อรบกวนสมดุลของปฏิกิริยำโดยกำจัดสำรชนิดหนึ่งออก พบว่ำเกิดกำรเปลี่ยนแปลง ดังกรำฟ

หำกรบกวนปฏิกิริยำที่สมดุลใหม่โดยกำรลดอุ ณหภูมิลง จะทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงดังกรำฟในข้อใด

by พี่กปั ตัน Chemistry K


20

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

1. 2.

3. 4.

5.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


21

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

19. ทดลองเผำหินปู น (CaCO3) ที่อุณหภูมิ 500 องศำเซลเซี ยส ในภำชนะปิ ดที่ภำยในเป็นสุญญำกำศพบว่ำที่สมดุล


ภำยในภำชนะมีปูนสุก (CaO) กับหินปู นผสมอยู ่ด้วยกัน และมีแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู ่ด้วย

ข้อควำมใดไม่ถูกต้อง

1. หำกชั่งมวลทั้งภำชนะที่บรรจุ หินปู นก่อนเผำและหลังจำกปฏิกิริยำเข้ำสูส่ มดุลแล้วมวลทัง้ สองจะเท่ำกัน


2. หำกเติม CO2 ที่มี C-14 เป็นองค์ประกอบเพิ่มเข้ำไปในภำชนะหลังจำกเข้ำสูส่ มดุลแล้ว และปล่อยให้เข้ำสูส่ มดุลใหม่
จะสำมำรถตรวจพบ CaCO3 ที่มี C-14 เป็นองค์ประกอบในภำชนะด้วย
3. หำกเพิ่มอุ ณหภูมิในกำรเผำเป็น 600 องศำเซลเซี ยส และปล่อยให้ระบบเข้ำสูส่ มดุลใหม่ ร้อยละโดยมวลของ
CaCO3 ต่อ CaO จะเปลี่ยนแปลงไปจำกสมดุลเดิม
4. จำกกำรทดลอง ที่สมดุล อัตรำส่วนโดยมวลของ CaCO3 ต่อ CaO มีคำ่ คงที่
5. หำกเติม CO2 ที่มี O-18 เป็นองค์ประกอบ 1 อะตอม เพิ่มเข้ำไปในภำชนะหลังจำกเข้ำสูส่ มดุลแล้ว และปล่อยให้
เข้ำสู่สมดุลใหม่ จะสำมำรถตรวจพบ CaCO3 ที่มี O-18 เป็นองค์ประกอบ แต่จะไม่พบ CaO ที่มี O-18 เป็น
องค์ประกอบ

by พี่กปั ตัน Chemistry K


22

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

20. พิจำรณำสมกำรเคมีต่อไปนี้
Ca2+(aq) + SO2-4 (aq) ⇌ CaSO4(s) K = 1.0 x 105
Pb2+(aq) + SO2-4 (aq) ⇌ PbSO4(s) K = 1.0 x 108
ในสำรละลำยชนิดหนึ่งมีควำมเข้มข้นเริ่มต้นของ Ca2+ Pb2+ และ SO2-4 อย่ำงละ 1.0 โมลำร์

เมื่อเข้ำสูส่ มดุล สำรละลำยนี้จะมีอัตรำส่วนควำมเข้มข้นของ Ca2+ ต่อ Pb2+ เป็นเท่ำใด

1. 1.0 x 10-13
2. 1.0 x 10-3
3. 1.0 x 103
4. 1.0 x 105
5. 1.0 x 1013

by พี่กปั ตัน Chemistry K


23

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

21. ปฏิกิริยำสลำยตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นดังสมกำรเคมีต่อไปนี้


KI
2H2O2(aq) → O2(g) + 2H2O(l)
เมื่อทำกำรทดลองโดยใช้สำรละลำยที่มีควำมเข้มข้นของ H2O2 และ KI ที่อุณหภูมิตำ่ ง ๆ ดังแสดงในตำรำง
ควำมเข้มข้นเริ่มต้น (mol/L) อัตรำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมีเฉลี่ย
กำรทดลองที่ อุ ณหภูมิ (C)
H2O2 KI (Ms-1)
1 30 M1 - R1
2 30 M1 C R2
3 30 M2 C R3
4 60 M2 C R4

กำหนดให้ 1) M และ C คือ ควำมเข้มข้นของสำรละลำย โดยค่ำควำมเข้มข้น M1 ไม่เท่ำกับ M2


2) R คือ อัตรำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมีเฉลี่ยในช่ วงเวลำ 0 – 60 วินำที โดยอัตรำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี
เฉลี่ยของแต่ละกำรทดลอง (R1 R2 R3 และ R4) มีค่ำไม่เท่ำกัน
3) ในกำรทดลองที่ 1 ไม่มสี ำรละลำย KI พบว่ำ อัตรำกำรเกิดปฏิกริ ิยำเคมีเฉลี่ยของกำรทดลองที่ 1
(R1) มีค่ำน้อยมำก ๆ เกือบเป็นศูนย์ เมื่อเทียบกับ R2 R3 และ R4

พิจำรณำกำรกระทำที่เกี่ยวข้องกับกำรทดลองข้ำงต้น ต่อไปนี้
ก. เพิ่มอุ ณหภูมิ ข. เติมตัวเร่งปฏิกิริยำ ค. เพิ่มควำมเข้มข้นของสำรตั้งต้น

ข้อใดเป็นกำรกระทำที่ทำให้อนุภำคของสำรตัง้ ต้นที่มีพลังงำนมำกกว่ำพลังงำนก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยำ
มีจำนวนมำกขึน้

1. ก. เท่ำนั้น
2. ก. และ ข. เท่ำนั้น
3. ก. และ ค. เท่ำนั้น
4. ข. และ ค. เท่ำนัน้
5. ก. ข. และ ค.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


24

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

22. พิจำรณำกรำฟแสดงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงควำมเข้มข้นของสำรตั้งต้นและผลิตภัณฑ์ ณ เวลำต่ำง ๆ ดังรู ป

จำกกรำฟควำมสัมพันธ์นี้ ข้อสรุ ปใดไม่ถูกต้อง


1. อัตรำกำรสลำยตัวเฉลี่ยของ A สำหรับ 100 วินำทีแรก มีคำ่ มำกกว่ำ 30 mMs-1
2. อัตรำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี ณ ขณะหนึ่ง ๆ ขึน้ กับควำมเข้มข้นของสำรตั้งต้น
3. อัตรำกำรสลำยตัวของ A ที่เวลำ 50 วินำที เกิดขึน้ เร็วกว่ำที่เวลำ 150 วินำที
4. สมกำรเคมีแสดงปฏิกิริยำเคมีท่เี กิดขึ้น คือ 2A → 2B + C
5. สำร A จะสลำยตัวไปครึ่งหนึ่งทุก ๆ 24 วินำที

by พี่กปั ตัน Chemistry K


25

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

23. จำกกำรศึกษำปฏิกิริยำเคมีท่เี กิดขึ้นระหว่ำงสำรเคมี 2 ชนิด คือ A และ B ในรู ปสำรละลำยที่ 25 องศำเซลเซี ยส


เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ได้ 2 ชนิด คือ C และ D โดยมีข้อสังเกตต่ำง ๆ ดังนี้
1) สำร A ทำปฏิกิริยำเคมีกับสำร B เกิดเป็นสำร X ดังสมกำรเคมี
A + B → X
2) เมื่อตรวจวัดปริมำณของสำร X พบว่ำ มีปริมำณที่น้อยมำก เนื่องจำกสำร X เกิดกำรสลำยตัวอย่ำง
รวดเร็วได้สำร 2 ชนิด ดังสมกำรเคมี
X → C เป็นปฏิกิริยำดูดควำมร้อน 5 kJ/mol
X → D เป็นปฏิกิริยำดูดควำมร้อน 20 kJ/mol
3) เมื่อติดตำมควำมเข้มข้นของสำรชนิดต่ำง ๆ ในช่ วงต้นของปฏิกริ ิยำ ได้ผลดังตำรำง

เวลำ (s) 0 10 20 30 40
ควำมเข้มข้น (M)
[B] 1.00 0.90 0.83 0.76 0.71
[C] 0.00 0.02 0.04 0.06 0.07
[D] 0.00 0.07 0.13 0.18 0.22

by พี่กปั ตัน Chemistry K


26

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

ข้อใดเป็นรู ปแบบแผนภำพแสดงกำรเปลี่ยนแปลงพลังงำนของปฏิกิริยำเคมีนี้
1. 2.

3. 4.

5.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


27

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

24. พิจำรณำสำรละลำย 3 ชนิด ต่อไปนี้


ก. สำรละลำย HA (pKa = 6) ที่มคี วำมเข้มข้น 0.010 โมลำร์ ปริมำตร 1.00 ลิตร
ข. สำรละลำย NH4Cl ที่มีคำ่ pH เท่ำกับ 4.0 ปริมำตร 100.00 มิลลิลิตร
ค. สำรละลำยเบสที่มีควำมเข้มข้นของ OH- เท่ำกับ 1.00 x 10-5 โมลำร์ ปริมำตร 10,000 ลิตร

สำรละลำยในข้อใดมีจำนวนไอออน H+ เท่ำกัน

1. ก. และ ข. เท่ำนั้น
2. ข. และ ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ค. เท่ำนั้น
4. ก. ข. และ ค.
5. ไม่เท่ำกันทัง้ ก. ข. และ ค.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


28

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

25. ปิ เปตต์สำรละลำยเบสชนิดหนึ่งที่ไม่ทรำบค่ำควำมเข้มข้น ปริมำตร 10.00 มิลลิลิตร ลงในขวดรู ปกรวย จำกนัน้ นำไป


ไทเทรตกับสำรละลำย HCl 0.10 โมลำร์ โดยใช้เครื่องวัด pH บันทึกค่ำ pH ของสำรละลำยในขวดรู ปกรวย ได้ผล
ดังกรำฟ pH

กำหนดให้ log 2 = 0.3 log 2.5 = 0.4 และ log 4 = 0.6

ค่ำ pKb ของเบสดังกล่ำว มีคำ่ เท่ำใด

1. 1.7
2. 3.0
3. 5.4
4. 8.6
5. 11.0

by พี่กปั ตัน Chemistry K


29

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

26. พิจำรณำสมกำรเคมีต่อไปนี้
KCl + SnCl2 → K+ + [SnCl3]-
AsF3 + SbF5 → [AsF2]+ + [SbF6]-
I2 + I- → I-3
(CH3)3CCl + AlCl3 → (CH3)3C+ + AlCl4-

สำรคู่ใดทำหน้ำที่แตกต่ำงกันตำมทฤษฎีกรด – เบสของลิวอิส

1. SnCl2 และ SbF5


2. I- และ (CH3)3CCl
3. AsF3 และ AlCl3
4. I2 และ SbF5
5. KCl และ AsF3

by พี่กปั ตัน Chemistry K


30

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

27 สำรละลำยผสมระหว่ำงสำรละลำยที่ 1 และสำรละลำยที่ 2 คู่ใดสำมำรถควบคุม pH ได้ดที ่สี ุด

สำรละลำยที่ 1 ปริมำตร 10 mL สำรละลำยที่ 2 ปริมำตร 10 mL


1. HCl 0.05 M NH4Cl 0.50 M
2. H3PO4 0.50 M NaH2PO4 0.50 M
3. CH3COOH 0.10 M CH3COONa 0.10 M
4. NaHCO3 0.10 M Na2CO3 0.20 M
5. H3PO4 0.50 M Na2HPO4 0.50 M

by พี่กปั ตัน Chemistry K


31

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

28. ยำส่วนใหญ่มีสมบัติเป็นกรดอ่อนหรือเบสอ่อน ซึ่ งเมื่อละลำยน้ำจะได้สำรละลำยที่ประกอบด้วยสำรที่มีรูปแบบไม่มี


ประจุ และมีประจุ โดยยำที่มอี ัตรำส่วนควำมเข้มข้นของ
รู ปแบบไม่มีประจุ 10
 จะสำมำรถดูดซึ มเข้ำสู่เซลล์ได้ดี
รู ปแบบมีประจุ 1

ยำ 3 ชนิด ได้แก่ X Y และ Z เป็นกรดอ่อนที่มี H+ 1 โปรตอน มีค่ำ pKa เท่ำกับ 3 4 และ 5 ตำมลำดับ
ถ้ำกระเพำะอำหำรมี pH เท่ำกับ 2.5 ยำชนิดใดถูกดูดซึ มที่กระเพำะอำหำรได้ดี

1. ยำ X เท่ำนั้น
2. ยำ Z เท่ำนั้น
3. ยำ Y และ Z เท่ำนั้น
4. ยำทัง้ 3 ชนิด ถูกดูดซึ มที่กระเพำะอำหำรได้ดี
5. ไม่มยี ำชนิดใดถูกดูดซึ มที่กระเพำะอำหำรได้ดี

by พี่กปั ตัน Chemistry K


32

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

29. สำร A เป็นสำรอินทรียท์ ่มี สี ูตรอย่ำงง่ำยเป็น C2H2O มีสมบัติดังนี้


• ไม่เปลี่ยนสีกระดำษลิตมัสสีน้ำเงิน
• ไม่ฟอกจำงสีสำรละลำยโบรมีนในที่มืด
• เมื่อสำร A 1 โมล เกิดปฏิกิริยำไฮโดรลิซิส ได้ผลิตภัณฑ์ประเภทกรดคำร์บอกซิ ลิก 1 โมล และประเภท
แอลกอฮอล์มำกกว่ำ 1 โมล

ข้อใดแสดงสูตรโครงสร้ำงที่เป็นไปได้ของสำร A ได้ถูกต้อง

1. 2.

3. 4.

5.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


33

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

30. เอสเทอร์ A มีสูตรโมเลกุลคือ C6H12O2 เมื่อนำไปทำปฏิกิริยำไฮโดรลิซิสในกรด พบว่ำได้ผลิตภัณฑ์สองชนิด คือ B


และ propan-1-ol จำกนัน้ เมื่อนำ B ไปทำปฏิกิริยำกับ butan-2-amine ที่อุณหภูมิสงู พบว่ำได้ผลิตภัณฑ์เป็น
สำร C

ข้อใดแสดงสูตรโครงสร้ำงที่เป็นไปได้ของสำร C

1. 2.

3. 4.

5.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


34

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

31. ข้อใดเป็นไอโซเมอร์โครงสร้ำงของ methyl butanoate ที่มีจุดเดือดสูงที่สุด


1. 2.

3. 4.

5.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


35

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

32. ข้อใดเรียกชื่ อสำรประกอบอินทรีย์ตำมระบบ IUPAC และเขียนสูตรโครงสร้ำงของสำรประกอบอินทรีย์นนั้ ได้ถูกต้อง

ชื่ อสำรประกอบอินทรีย์ สูตรโครงสร้ำง

1. 5-butyloct-6-ene

2. 1,4-dimethylbenzene

3. 4-methylhexanone

4. butyl propanoate

5. 4-ethylhexanamine CH3CH2CH(CH2CH3)CH2CH2CONH2

by พี่กปั ตัน Chemistry K


36

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

33. หำกนำน้ำมันดอกทำนตะวันบริสทุ ธิ์มำต้มกับสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์ และต้องกำรทรำบว่ำ ปฏิกิริยำเกิดขึ้น


สมบู รณ์แล้วหรือไม่ โดยกำรนำของผสมจำกปฏิกิริยำ 2 หยดไปทดสอบ

วิธีกำรทดสอบและผลกำรสังเกตในข้อใด แสดงให้เห็นว่ำปฏิกิริยำเกิดขึ้นสมบู รณ์

วิธีกำรทดสอบ ผลกำรสังเกต
1. หยดลงในน้ำ 5 มิลลิลิตร ได้สำรเนื้อเดียว
2. หยดลงบนกระดำษลิตมัสสีน้ำเงิน กระดำษลิตมัสเปลี่ยนเป็นสีแดง
3. หยดลงบนกระดำษลิตมัสสีแดง กระดำษลิตมัสเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
4. หยดลงในสำรละลำย 0.01 %w/v KMnO4 1 หยด ได้สำรละลำยสีม่วง
5. หยดลงในสำรละลำย 0.01 %w/v KMnO4 1 หยด เห็นตะกอนสีน้ำตำลในสำรละลำยไม่มีสี

by พี่กปั ตัน Chemistry K


37

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

34. หำกนำพอลิไวนิลแอลกอฮอล์ไปทำปฏิกิริยำเคมีกับกรดกลูตำริก จะได้พอลิเมอร์ X ที่ไม่หลอมเหลวเมื่อได้รับ


ควำมร้อน ดังสมกำรเคมี

พอลิเมอร์ X

พอลิไวนิลแอลกอฮอล์

พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. พอลิเมอร์ X เป็นพอลิเมอร์เทอร์มอพลำสติก
ข. พอลิเมอร์ X มีควำมแข็งแรงมำกกว่ำพอลิไวนิลแอลกอฮอล์
ค. โครงสร้ำงที่เป็นไปได้ของพอลิเมอร์ X คือ

ข้อควำมใดถูกต้อง

1. ก. เท่ำนั้น
2. ข. เท่ำนั้น
3. ค. เท่ำนัน้
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


38

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

35. พอลิไอโซพรีนเป็นพอลิเมอร์ท่เี ป็นองค์ประกอบในยำงธรรมชำติ อำจพบโครงสร้ำงได้ 2 แบบ ดังนี้

ซิ ส-พอลิไอโซพรีน

ทรานส์-พอลิไอโซพรีน

พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. พอลิไอโซพรีนทัง้ สองชนิด สังเครำะห์ได้จำกปฏิกิริยำพอลิเมอร์ไรเซชันแบบควบแน่น
ข. มอนอเมอร์ท่นี ำมำสังเครำะห์ ซิ ส- และ ทรานส์-พอลิไอโซพรีน มีสูตรโมเลกุลแตกต่ำงกัน
ค. พอลิไอโซพรีนทัง้ สองชนิด สำมำรถปรับปรุ งสมบัติควำมทนทำนได้ด้วยกระบวนกำรวัลคำไนเซชัน

ข้อควำมใดถูกต้อง

1. ก. เท่ำนั้น
2. ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ข.
4. ก. และ ค.
5. ข. และ ค.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


39

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

36. พอลิเมอร์ชนิดหนึ่งมีโครงสร้ำงดังแสดง

สำรใดสำมำรถใช้เป็นมอนอเมอร์ในกำรสังเครำะห์พอลิเมอร์ชนิดนี้ได้

1. 2.

3. 4.

5.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


40

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

37. พิจำรณำข้อควำม สมกำรรีดอกซ์ และแผนภำพเซลล์ ต่อไปนี้


ก. แช่ โลหะ D ในสำรละลำยของ A2+ เกิดปฏิกิริยำรีดอกซ์ E0cell = 0.4 V
ข. D(s) + G2+(aq) → G(s) + D2+(aq) E0cell = -0.6 V
ค. G(s) | G2+(aq) ‖ J2+ (aq) | J(s) E0cell = 0.5 V

เซลล์กัลป์ วำนิกที่ประกอบด้วยแอโนดและแคโทดในข้อใดให้ค่ำศักย์ไฟฟ้ำของเซลล์มำกที่สุด และค่ำศักย์ไฟฟ้ำของ


เซลล์นมี้ ีคำ่ เท่ำใด

แอโนด แคโทด E0cell (V)


1. โลหะ G ในสำรละลำย G2+ โลหะ D ในสำรละลำย D2+ 0.6
2. โลหะ G ในสำรละลำย G2+ โลหะ A ในสำรละลำย A2+ 1.0
3. โลหะ A ในสำรละลำย A2+ โลหะ G ในสำรละลำย G2+ 1.0
4. โลหะ A ในสำรละลำย A2+ โลหะ J ในสำรละลำย J2+ 1.5
5. โลหะ J ในสำรละลำย J2+ โลหะ A ในสำรละลำย A2+ 1.5

by พี่กปั ตัน Chemistry K


41

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

38. ทิศทำงกำรถ่ำยโอนอิเล็กตรอนในเซลล์เคมีไฟฟ้ำและค่ำศักย์ไฟฟ้ำของเซลล์ (Ecell) ในแต่ละกำรทดลองเป็นดังรู ป

กำหนดให้ สำรละลำย A2+ B2+ C2+ และ D2+ เข้มข้นอย่ำงละ 1 โมลำร์

ข้อใดเรียงลำดับ ควำมสำมำรถในกำรเป็นตัวรีดิวซ์จำกมำกไปน้อยได้ถูกต้อง

1. BDCA
2. ACDB
3. BDAC
4. CADB
5. BADC

by พี่กปั ตัน Chemistry K


42

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

39. ปฏิกิริยำกำรสลำยตัวของสำรละลำย MnO2-4 เกิดขึ้นได้ทงั้ ในภำวะกรดและเบส และได้ MnO-4 และ MnO2


เป็นผลิตภัณฑ์เหมือนกัน ดังสมกำรเคมี
MnO2-4 (aq) → MnO-4 (aq) + MnO2(s) (สมกำรยังไม่ดลุ )

อัตรำส่วนโดยโมลของ MnO-4 ต่อ MnO2 ตำมสมกำรที่ดลุ แล้วเป็นเท่ำใด

1. 1:3
2. 1:2
3. 1:1
4. 2:1
5. 3:1

by พี่กปั ตัน Chemistry K


43

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

40. จำกปฏิกิริยำกำรแยกสลำยด้วยไฟฟ้ำหรืออิเล็กโทรลิซิสของสำรละลำย AD โดยใช้โลหะแพลทินมั เป็นขัว้ ไฟฟ้ำ


ดังรู ป กำหนดให้
A+(aq) + e- → A(s) E0 = -2.93 V
D2(s) + 2e- → 2D-(aq) E0 = +0.54 V
O2(g) + 4H+(aq) + 4e- → 2H2O(l) E0 = +1.23 V
2H2O(l) + 2e- → H2(g) + 2OH-(aq) E0 = -0.83 V

พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. เมื่อเวลำผ่ำนไปโลหะที่ตอ่ กับขั้วลบของแบตเตอรี่จะหนำขึ้น
ข. ถ้ำใช้แบตเตอรี่ท่ใี ห้ค่ำอีเอ็มเอฟมำกกว่ำ 1.37 V ปฏิกิริยำนี้สำมำรถเกิดขึ้นได้
ค. มีแก๊สเกิดขึน้ ที่ขวั้ แคโทด

ข้อควำมใดถูกต้อง

1. ก. เท่ำนั้น
2. ค. เท่ำนัน้
3. ก. และ ข. เท่ำนั้น
4. ข. และ ค. เท่ำนัน้
5. ก. ข. และ ค.

by พี่กปั ตัน Chemistry K


44

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

ตอนที่ 2 แบบระบำยคำตอบที่เป็นตัวเลข
จำนวน 5 ข้อ (ข้อ 41 – 45) ข้อละ 4 คะแนน รวม 20 คะแนน

41. กำหนดให้ เลขออกซิ เดชันของธำตุโครเมียม (Cr) ในสำรประกอบ


Cr2(CH3COO)4 CrO2F2 KCr(SO4)212H2O
เป็น a b และ c ตำมลำดับ
ค่ำของ 100a + 10b + c เป็นเท่ำใด

by พี่กปั ตัน Chemistry K


45

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

42. เมื่อเติมโพแทสเซี ยมคำร์บอเนต (K2CO3) 3.45 กรัม ลงในสำรละลำยโพแทสเซี ยมคลอไรด์ (KCl) เข้มข้น 0.10 โมลำร์
ปริมำตร 150 มิลลิลิตร แล้วปรับปริมำตรสำรละลำยให้เป็น 500 มิลลิลิตร
สำรละลำยที่ได้มีควำมเข้มข้นของ K+ เป็นกี่โมลำร์
กำหนดให้ มวลต่อโมลของ K2CO3 เท่ำกับ 138 กรัมต่อโมล

by พี่กปั ตัน Chemistry K


46

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

43. แก๊สอะเซทิลีน (C2H2) สำมำรถนำมำใช้ในกำรบ่มผลไม้ให้สุกเร็วขึน้ ได้ โดยเตรียมได้จำกปฏิกิริยำระหว่ำงถ่ำนแก๊ส


(CaC2) กับน้ำ ดังสมกำรเคมี
CaC2 + H2O → C2H2 + Ca(OH)2 (สมกำรยังไม่ดลุ )

หำกกำรบ่มมะม่วงในภำชนะขนำด 5.00 ลิตร ต้องใช้แก๊สอะเซทิลีนควำมเข้มข้น 0.130 กรัมต่อลิตร จะต้องใช้


ถ่ำนแก๊สอย่ำงน้อยกี่กรัม เมื่อผลได้ร้อยละของปฏิกิริยำนีเ้ ท่ำกับร้อยละ 80.0

by พี่กปั ตัน Chemistry K


47

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

44. กำหนดให้พลังงำนต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรบอร์น-ฮำเบอร์ ของสำรประกอบไอออนิก AX เป็นดังนี้


1
A(s) + X2(g) → AX(s)
2

พลังงำนกำรระเหิดของ A = 150 kJ/mol


พลังงำนไอออไนเซชัน ลำดับที่ 1 ของ A = 500 kJ/mol
พลังงำนพันธะของ X2 = 300 kJ/mol
สัมพรรคภำพอิเล็กตรอนของ X = 350 kJ/mol
พลังงำนกำรเกิดสำรประกอบ AX = -400 kJ/mol
พลังงำนแลตทิซของสำรประกอบ AX คำยพลังงำนเท่ำกับกี่กิโลจู ลต่อโมล

by พี่กปั ตัน Chemistry K


48

เคมี 9 วิชาสามัญ 65 “เคมีจะไม่ยาก ถ้าน้องๆ เปิ ดใจ”

45. พิจำรณำสำรต่อไปนี้

หำกนำสำรนี้มำทำปฏิกิริยำกับโบรมีนในที่สว่ำง โดยเกิดปฏิกิริยำกำรแทนที่ด้วยโบรมีนเพียง 1 ตำแหน่ง


จะได้ผลิตภัณฑ์ท่เี ป็นไปได้ก่ไี อโซเมอร์โครงสร้ำง

by พี่กปั ตัน Chemistry K

You might also like