Professional Documents
Culture Documents
DD740F03 บทสรุปการลาดตระเวน
DD740F03 บทสรุปการลาดตระเวน
ตอนที่ ๑
การวางแผนลาดตระเวน
- จะไปไหน
- ไปกับใคร
- คาดว่าจะไปนานเพียงใด
- ถ้า ผบ.หมวด ยังไม่กลับมาจะปฏิบัติอะไรบ้าง
- การปฏิบัติของหมวด หรือ ผบ.หมวด ถ้าเกิดการปะทะระหว่างที่ ผบ.หมวด ไม่อยู่
๓ - ๔ การออกจากแนวทหารฝ่ ายเดียวกัน
การวางแผนและการประสานงานจะต้องทำโดยละเอียดและครอบคลุมในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
ก. การประสานงาน ผบ.หมวด จะประสานงานกับ ผบ.หน่วย ที่อยู่หน้าแนว และ ผบ.หน่วยที่จะ
ลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือพื้นที่ข้างเคียง เรื่องที่จะประสานงานประกอบด้วย นปส.ที่ใช้
แผนการสื่อสาร แผนการยิง สัญญาณผ่าน กรรมวิธีผ่านออกไป และการกลับเข้ามา ตำบลลงรถ จุด
นัดพบขั้นต้น จุดออกและจุดกลับเข้ามา และข่าวสารเกี่ยวกับข้าศึก
๑) ผบ.หมวด จะแจ้งให้ ผบ.หน่วยในแนวหน้าได้ทราบเกี่ยวกับเครื่องหมายบอกฝ่ าย ขนาด
ของหน่วยลาดตระเวน เวลาออกไป และจะกลับเข้ามา และพื้นที่ปฏิบัติการ
๒) ผบ.หน่วยในแนวหน้าจะแจ้ง ผบ.หมวดเกี่ยวกับ
- ข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิประเทศ
- ที่ตั้งข้าศึกที่รู้แล้วหรือคาดว่าจะมีอยู่
- พื้นที่ที่ข้าศึกน่าจะใช้ซุ่มโจมตี
- พฤติกรรมล่าสุดของข้าศึก
-ข่าวสารโดยละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้งฝ่ ายเราที่ตั้งเครื่องกีดขวางและที่ตรวจการณ์
- แผนการยิงของฝ่ ายเรา
- การสนับสนุนที่หน่วยสามารถให้ได้ เช่นการยิงสนับสนุน ชุดเปล พลนำทาง การ
สื่อสาร และกำลังที่ใช้โต้ตอบ
ข. การวางแผน ในการออกจากแนวฝ่ ายเดียวกัน ผบ.หมวดพิจารณาตามลำดับดังนี้
- การติดต่อพลนำทางฝ่ ายเรา ณ จุดประสานงาน
- การเคลื่อนย้ายไปยังจุดนัดพบขั้นต้นที่ประสานไว้แล้ว
- การประสานงานในรายละเอียดครั้งสุดท้าย
- การเคลื่อนที่ไปผ่านจุดออก
- การจัดยามคอยเหตุและที่ฟังการณ์ ที่เลยแนวยิงฉากป้ องกันขั้นสุดท้ายของฝ่ ายเราออกไป
หมวดควรอยู่ในรูปขบวนแถวตอนเรียงหนึ่ง รอง ผบ.หมวดตามหลังพลนำทางซึ่งจะทำให้
สามารถนับทหารที่ผ่านจุดออก แล้วแจ้งยอดให้พลนำทางพร้อมกับแจ้งเวลาที่จะให้พลนำทางคอยอยู่
ณ จุดออก (หรือเวลาที่กลับเข้ามา) ย้ำเตือนสัญญาณผ่าน
ถ้าหมวดออกจากจุดออกไปแล้ว ปะทะกับข้าศึกอย่างหนักจนเสียระเบียบ ทหารแต่ละคน
จะกลับมาที่จุดออกนี้ แล้วไปรวมจุดนัดพบขั้นต้น ผบ.หมวดจะรายงานให้หน่วยเหนือทราบ ต่อไป
๓ - ๕ จุดนัดพบ (Rally Points)
ผบ.หมวด พิจารณาใช้และเลือกที่ตั้งจุดนัดพบ ซึ่งเป็นจุดที่ ผบ.หมวด กำหนดไว้ให้หมวดกลับมา
รวมพล เพื่อจัดระเบียบใหม่หากถูกทำให้หน่วยแตกกระจายกันออกไป
ก. การเลือกจุดนัดพบ ถ้าเป็นไปได้ ผบ.หมวด จะลาดตระเวนด้วยเท้าเพื่อเลือกจุดนัดพบ แต่หาก
ไม่สามารถทำได้ก็อาจเลือกจุดนัดพบจากแผนที่ แต่ก็จะยืนยันจุดนัดพบอีกครั้งเมื่อเคลื่อนที่ผ่านจุด
เหล่านี้ จุดนัดพบควรมีลักษณะ
5
- หาได้ง่าย
- มีการกำบัง และซ่อนพราง
- ไม่อยู่ในแนวเส้นตามธรรมชาติหรือเส้นตัดขอบฟ้ า
- สามารถตั้งรับได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
ข. ชนิดของจุดนัดพบ ปกติชนิดของจุดนัดพบมีจุดนัดพบขั้นต้น จุดนัดพบระหว่างทาง จุดนัด
พบ ณ ที่หมาย จุดนัดพบในการกลับเข้าหน่วยทหารฝ่ ายเดียวกัน จุดนัดพบฝั่งไกล - ฝั่งใกล้ ในแต่ละ
ขั้นตอนของภารกิจนั้นทหารจะต้องรู้ว่าเคลื่อนที่ไปยังจุดนัดพบใด อีกทั้งควรจะรู้ด้วยว่าการปฏิบัติ ณ
จุดนัดพบจะปฏิบัติอะไร และจะใช้เวลานานเท่าใด ก่อนที่จะไปจุดนัดพบต่อไป
๑) จุดนัดพบขั้นต้น เป็นจุดที่อยู่ภายในแนวทหารฝ่ ายเดียวกัน ซึ่งจะใช้เป็ นที่รวมพลและจัด
ระเบียบใหม่ ในกรณีที่เกิดการปะทะข้าศึกระหว่างการออกจากแนวทหารฝ่ ายเดียวกันหรือก่อนที่จะ
ถึงจุดนัดพบระหว่างทางแห่งแรก ปกติผู้กำหนดจุดนัดพบขั้นต้นจะเป็น ผบ.หน่วยฝ่ ายเราในแนว
๒) จุดนัดพบระหว่างทาง ผบ.หมวด เป็นผู้กำหนดขึ้นทุกระยะ ๑๐๐ - ๔๐๐ เมตร (ขึ้นอยู่กับ
ภูมิประเทศ พืชพันธุ์ไม้ และทัศนวิสัย) เมื่อ ผบ.หมวด กำหนดจุดนัดพบระหว่างทางขึ้นใหม่แล้ว จุด
นัดพบระหว่างทางเดิมยังคงมีผลใช้ได้ หากเกิดการปะทะฉับพลันทหารจะเคลื่อนที่ไปยังจุดนัดพบเดิม
ในการเลือกจุดนัดพบระหว่างทางปฏิบัติได้ ๓ ลักษณะดังนี้
- เลือกจุดที่หยุดพักห้วงระยะเวลาสั้นๆ เป็นจุดนัดพบ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่พึงประสงค์
- ผ่านห่าง ๆ แล้วกำหนดด้วย สัญญาณมือและแขน
- เดินผ่านจุดนั้น แล้วกำหนดด้วยสัญญาณมือหรือแขน
๓) จุดนัดพบ ณ ที่ หมาย เป็ นจุดที่ปราศจากการมองเห็น เสียง และพ้นระยะจากการยิงของ
ปื นเล็กจากที่หมาย มักอยู่ในพื้นที่ที่หมวดได้วางแผนไว้ว่าอยู่ในทิศทางที่หมวดจะเคลื่อนที่ผ่าน หลัง
จากปฏิบัติภารกิจ ณ ที่หมายเรียบร้อยแล้ว จุดนัดพบ ณ ที่หมายนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะได้
ยืนยันที่หมายแล้ว (รูปที่ ๓ - ๒) โดยปกติการปฏิบัติบริเวณจุดนัดพบ ณ ที่หมายหรือจากจุดนัดพบ ณ
ที่หมาย มีการปฏิบัติดังนี้
- การลาดตระเวน ณ ที่หมาย
- ออกคำสั่งเป็นส่วน ๆ
- รายงานข่าวสารที่ได้จากการลาดตระเวน เมื่อไม่มีการปะทะ
- เตรียมการขั้นสุดท้ายก่อนจะทำการลาดตระเวนต่อไป เช่น ทำการพรางใหม่ เตรียมวัตถุ
ระเบิด รัดตรึงเป้ เพื่อความคล่องตัว เตรียมชุดควบคุมและจับเชลยศึก ปฐมพยาบาล พวกเปลและการ
ตรวจอาวุธ
- สำรวจยอดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ณ ที่หมาย
- จัดสายการบังคับบัญชาใหม่ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ณ ที่หมาย
ก) การเข้าจุดนัดพบ ณ ที่หมายของหมู่ ในการวางแผนการเข้าจุดนัดพบ ณ ที่หมาย ผบ.หมู่
จะพิจารณาวางแผนในเรื่องต่าง ๆ ตามลำดับดังนี้
- หยุดหน่วยให้พ้นจากการมองเห็น เสียง และระยะยิงของปื นเล็ก ห่างจากจุดนัดพบ ณ ที่
หมายประมาณ ๒๐๐ - ๔๐๐ เมตร เมื่อทัศนวิสัยดี แต่หากทัศนวิสัยจำกัดควรหยุดหน่วยที่ระยะ
ประมาณ ๑๐๐ - ๒๐๐ เมตร
- การระวังป้ องกันที่ตั้ง
6
- ข้อสรุปและข้อเสนอ
ตอนที่ ๒
การลาดตระเวนหาข่าว
ทหารราบสามารถจัดการลาดตระเวนเส้นทางแบบเร่งด่วนโดยไม่ต้องรับการสนับสนุนจากทหารช่าง
ก็ได้ ผลจากการลาดตระเวนจะได้รายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถในการจราจร พฤติกรรมข้าศึก
การแพร่ของ นชค. แง่คิดเกี่ยวกับภูมิประเทศทั้งของฝ่ ายเราและข้าศึก ในการวางแผนการลาดตระเวน
เส้นทาง ผบ.หมวดจะพิจารณาเรื่องต่างต่อไปนี้
ก. วิธีการที่พึ่งประสงค์คือ การลาดตระเวนเส้นทางรูปใบพัด ตามที่ได้กล่าวถึงมาแล้ว
ผบ.หมวด ต้องมั่นใจได้ว่ารูปใบพัดนั้นขยายกว้างพอที่จะลาดตระเวนแบ่งเส้นทาง พ้นจากระยะยิงเล็ง
ตรงจากเส้นทางหลัก
ข. ผบ.หมวดควรใช้เส้นทางไปและกลับไม่ซ้ำกัน
ค. แม้ว่าวัตถุประสงค์ของการลาดตระเวนเส้นทางบางส่วนหรือทั้งหมดคือถนน ผบ .หมวด ควร
ตระหนักว่าถนนถือเป็นพื้นที่อันตรายประเภทหนึ่ง หน่วยลาดตระเวนควรใช้การเคลื่อนที่ตามเส้นทาง
ขนานกับถนนซึ่งให้การกำบังและซ่อนพรางได้ดี ในการตรวจพื้นที่สำคัญอาจจะให้ส่วนลาดตระเวน
และส่วนระวังป้ องกันเคลื่อนที่ใกล้กับถนนได้เมื่อต้องการ
ง. ผบ.หน่วยลาดตระเวนควรเสนอรายงานการลาดตระเวนในรูปแบบของแผ่นบริวาร
ตอนที่ ๓
การลาดตระเวนรบ
- การคุ้มครองพื้นที่สังหารทั้งหมดด้วยการยิง
- การใช้เครื่องกีดขวางทั้งที่มีอยู่เดิมและสร้างเพิ่มเติม (เคลย์โม และทุ่นระเบิดอื่นๆ) เพื่อ
บังคับให้ข้าศึกต้องอยู่ในพื้นที่สังหาร
- การป้ องกันส่วนโจมตีและส่วนสนับสนุนโดยใช้ทุ่นระเบิดเคลย์โม หรือวัตถุระเบิดอื่นๆ
- ใช้ส่วนระวังป้ องกันในการแยกพื้นที่สังหารให้โดยเดี่ยว
- การโจมตีเข้าสู่พื้นที่สังหารเพื่อค้นหาข้าศึกที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ รวบรวมเชลยศึกและ
ยุทโธปกรณ์ (ส่วนโจมตีจะต้องสามารถใช้ความรวดเร็วในการเคลื่อนที่ผ่านเครื่องกีดขวางป้ องกันตัว
ของหน่วยตนเอง)
- ทุกส่วนของหมวดจะต้องปฏิบัติตามกำหนดเวลาเพื่อมิให้เสียผลของการจู่โจม
- ใช้เพียงหมู่เดียวในการปฏิบัติในพื้นที่ซุ่มโจมตีและหมุนเวียนหมู่จากจุดนัดพบ ณ ที่หมาย
การปฏิบัติด้วยเทคนิคอย่างนี้จะมีประโยชน์เมื่อต้องปฏิบัติการซุ่มโจมตีเป็นเวลานาน
ข. รูปขบวน ผบ.มว.พิจารณาใช้รูปขบวนตามแนวยาวหรือรูปขบวนแบบตัวแอล
ในการวางแผนการซุ่มโจมตี
๑) รูปขบวนตามแนวยาว การใช้รูปขบวนตามแนวยาวเพื่อปฏิบัติการซุ่มโจมตี ส่วนโจมตี
และส่วนสนับสนุนวางกำลังให้ขนานกับเส้นทางการเคลื่อนที่ของฝ่ ายข้าศึก จากที่ตั้งของทั้งสองส่วน
ตามแนวยาวของพื้นที่สังหารทำให้ข้าศึกต้องเผชิญกับการถูกยิงจากทางปี ก รูปขบวนแบบนี้ใช้ได้ดีใน
ภูมิประเทศปิ ดซึ่งจำกัดความสามารถในการดำเนินกลยุทธของข้าศึก ในการต่อสู้กับหมวด หรือใช้ใน
ภูมิประเทศโล่งแจ้งได้หากมีเครื่องมือที่ใช้บังคับให้ข้าศึกต้องอยู่ภายในพื้นที่สังหาร
๒) รูปขบวนแบบตัว แอล การใช้รูปขบวนแบบตัวแอล ส่วนโจมตีจะวางกำลังทางขา
ด้านยาวของตัวแอล โดยให้ขนาดกับทิศทางการเคลื่อนที่ของข้าศึก ส่วนสนับสนุนจะวางกำลังทาง
ด้านสั้นของตัวแอลต่อจากส่วนโจมตีซึ่งจะทำให้ข้าศึกต้องประสบทั้งการยิงทางปี ก (ด้านยาวของรูป
ตัวแอล) และการยิงกราด (ด้านสั้นของรูปตัวแอล) รูปขบวนตัวแอลเหมาะในการซุ่มโจมตีบริเวณ
ทางโค้งหักศอกของทางเดิน ถนนหรือลำธาร แต่จะไม่ควรใช้ในกรณีที่ด้านสั้นจำเป็ นต้องวางกำลัง
ข้ามถนน หรือเส้นทางที่มีลักษณะเป็นเส้นตรง
๓ - ๑๘ การซุ่มโจมตีเร่งด่วน
หมวดหรือหมู่ปฏิบัติภารกิจการซุ่มโจมตีเร่งด่วน เมื่อตรวจพบกำลังข้าศึกและมีเวลาในการ
วางกำลังซุ่มโจมตีจำกัด การปฏิบัติการซุ่มโจมตีจำเป็นต้องได้รับการฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี ทหารต้องรู้
ว่าจะทำอะไร เมื่อได้รับสัญญาณจาก ผบ.มว. และต้องรู้ด้วยว่าจะปฏิบัติอย่างไรหากถูกตรวจพบก่อน
ที่จะพร้อมปฏิบัติการซุ่มโจมตี ในการวางแผนและการซักซ้อมการซุ่มโจมตีแบบเร่งด่วน ผบ.หมวด
จะพิจารณาตามลำดับดังนี้
ก. ใช้ทัศนสัญญาณ และทหารทุกนายจะต้องมีความตื่นตัวว่าข้าศึกอยู่ในสายตาและจะต้อง
จับตาดูที่ตั้งและพฤติกรรมของกำลังข้าศึก จนกว่าจะได้รับการผลัดเปลี่ยนจากชุดของตนหรือ ผบ.หมู่
ข. หมวดหรือหมู่จะหยุดการเคลื่อนไหวอยู่กับที่
ค. ผบ.หมวด พิจารณาหาที่ตั้งใกล้ ๆ ที่ดีที่สุดที่เหมาะสำหรับการซุ่มโจมตีเร่งด่วน จากนั้น
ใช้ทัศนสัญญาณเพื่อสั่งการให้ทหารเข้าที่กำบังและซ่อนพราง แล้วกำหนดที่ตั้งและแนวพื้นที่สังหาร
ง. ส่วนระวังป้ องกันเคลื่อนที่เข้าที่ตั้งเพื่อกำบังด้านปี กทั้งสองข้างและด้านหลังซึ่งจะอยู่ใน
ระยะที่ ผบ.หมวด กำหนดให้ ส่วนระวังป้ องกันนี้จะกลับมาอยู่ร่วมกับหมวดเมื่อสั่ง หรือภายหลังเสร็จ
สิ้นการซุ่มโจมตี ในระดับหมู่ คู่บัดดี้ ๒ คู่ทางปี ก จะได้รับมอบให้ระวังป้ องกันปี กเพิ่มเติมจากการยิง
ในพื้นที่สังหารในระดับหมวด ชุดยิงจะได้รับภารกิจเป็นส่วนป้ องกัน
13
จ. ทหารจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังที่วางตัวที่มีการกำบังและซ่อนพราง ซึ่งโดยปกติจะ
ห่างประมาณ ๕ - ๑๐ เมตร ทหารจะต้องมั่นใจว่าอยู่ในจุดที่ให้การตรวจการณ์และพื้นยิงได้ดีไปยัง
พื้นที่สังหาร
ฉ. ผบ.มว. เริ่มดำเนินการซุ่มโจมตีเมื่อกำลังข้าศึกส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สังหาร (หากเวลา
และภูมิประเทศเกื้อกูล หมวดหรือหมู่ อาจใช้เคลย์โมในการเปิ ดฉากการซุ่มโจมตี)
หมายเหตุ กรณีถูกข้าศึกตรวจพบ ทหารที่เปิ ดฉากการซุ่มโจมตีโดยการยิงจะต้องแจ้งให้
ส่วนที่เหลือของหมวดทราบว่าข้าศึกทางขวา (ทางซ้ายหรือตรงหน้า)
ช. ผบ.หมวดเป็นผู้ควบคุมอัตราการยิงและขอบเขตการยิง ผบ.หมวดจะให้หยุดยิงเมื่อข้าศึก
ถูกทำลายหรือข้าศึกหยุดต้านทาน จากนั้นส่วนโจมตีจะเข้าไปในพื้นที่สังหารเพื่อตรวจค้นทหารข้าศึก
ทหารในส่วนอื่น ๆ ยังคงประจำที่เพื่อให้การระวังป้ องกัน
ซ. ส่วนระวังป้ องกันจะกลับมารวมตัวกับหมวดภายหลังจากส่วนโจมตีตรวจค้นทั่วพื้นที่
สังหารแล้ว หมวดจะถอนตัวจากพื้นที่ซุ่มโจมตีโดยใช้เส้นทางที่ปกปิ ดกำบัง จากนั้นกลับไปจุดนัดพบ
ณ ที่หมาย เพื่อรวบรวมรายงานข่าวสารทั้งหมด จัดระเบียบใหม่ที่จำเป็นและปฏิบัติภารกิจต่อไป
๓ - ๑๙ การซุ่มโจมตีปราณีต
การซุ่มโจมตีปราณีตเป็ นการปฏิบัติต่อที่หมายเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ที่กำหนดไว้แล้ว
ผบ.หมวดจึงต้องการข่าวสารโดยละเอียด เพื่อใช้ในการวางแผนการซุ่มโจมตีปราณีต ดังต่อไปนี้
- ขนาดและการประกอบกำลังของข้าศึก
- อาวุธยุทโธปกรณ์ของข้าศึก
- เส้นทางและทิศทางการเคลื่อนที่ของข้าศึก
- เวลาที่หน่วยเป้ าหมายจะถึงหรือผ่านจุดที่กำหนดตามเส้นทาง
๓ - ๒๐ การซุ่มโจมตีเป็ นจุด
ในการซุ่มโจมตีเป็ นจุดนั้นจะวางกำลังต่อพื้นที่สังหารแห่งเดียว ในการวางแผนการซุ่มโจมตี
เป็นจุดแบบปราณีต ผบ.มว. จะต้องพิจารณาตามลำดับนี้
ก. ชุดระวังป้ องกันหรือชุดเฝ้ าตรวจ จะต้องเข้าประจำที่ตั้งเป็ นอันดับแรก ส่วนสนับสนุนควร
วางกำลังให้แล้วเสร็จก่อนส่วนโจมตีจะเคลื่อนที่ผ่านจุดแยก เพื่อให้ส่วนสนับสนุนเป็ นผู้เฝ้ าตรวจเพื่อ
ให้ส่วนโจมตีเข้าประจำที่ตั้ง
ข. ผบ.หมวดซึ่งก็คือ ผบ.ส่วนโจมตีด้วย จะต้องตรวจสอบการเข้าประจำที่ตั้งโจมตีของทหาร
แต่ละคนแล้วให้สัญญาณชุดเฝ้ าตรวจกลับมารวมกับส่วนโจมตีต่อไป
๑) การปฏิบัติของส่วนโจมตีประกอบด้วย
- ตรวจขอบเขตการยิงของแต่ละบุคคลซึ่งได้รับมอบจาก ผบ.หมวด แล้วปักหลักเล็งไปยัง
ที่หมาย
- วางเคลย์โมหรือเครื่องป้ องกันชนิดอื่น ๆ
- วางเคลย์โม ทุ่นระเบิด หรือวัตถุระเบิดอื่น ๆ ไว้ในตำบลอับกระสุนภายในพื้นที่สังหาร
- พรางที่ตั้ง
- ปลดห้ามไกอาวุธ เป็ นสิ่งที่ทหารทุกคนจะปฏิบัติเป็ นขั้นสุดท้าย ก่อนจะเริ่มซุ่มโจมตี
เพราะหากรอข้าศึกเข้ามาในพื้นที่สังหารแล้วจึงปลดห้ามไก อาจมีเสียงดังและเปิ ดเผยการซุ่มโจมตีได้
๒) การปฏิบัติของส่วนสนับสนุนประกอบด้วย
- ตรวจขอบเขตการยิงของอาวุธทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งปื นกล ในการซุ่มโจมตีรูปตัว
แอล จะต้องระมัดระวังให้มีเขตจำกัดการยิงด้วยเพื่อป้ องกันไม่ให้ยิงเข้าไปแนวของส่วนโจมตี
14
- วางกับระเบิดเคลย์โม หรือระเบิดชนิดอื่น ๆ
ค. คำแนะนำสำหรับส่วนระวังป้ องกัน ประกอบด้วยการแจ้งเตือนเพื่อให้ ผบ.มว.ได้ทราบว่า
ข้าศึกเข้ามาในพื้นที่สังหาร (รายงาน salute) ส่วนป้ องกันต้องให้ข่าวสารแก่ ผบ.หมวด ด้วยหากมี
กำลังข้าศึกเคลื่อนที่ติดตามส่วนนำมาด้วย
ง. ผบ.มว.ต้องพิจารณาขนาดของเป้ าหมายว่าควรมีขนาดเท่าใด จึงจะปฏิบัติการซุ่มโจมตีได้
บรรลุผล และต้องเตรียมที่จะยอมให้ผ่านหากมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะดำเนินการได้ พร้อมกับ
รายงานให้หน่วยเหนือทราบด้วย
จ. ผบ.มว. เริ่มการซุ่มโจมตี โดยอาจสั่งให้จุดกับระเบิดเคลย์โม แต่ก็ต้องเตรียมเครื่องมือ
สำรองไว้ด้วยหากเครื่องมือหลักไม่สามารถกระทำได้ ซึ่งอาจจะเป็ นปื นกลก็ได้และต้องแจ้งให้ทหาร
ทั้งหมดทราบ รวมทั้งต้องมีการฝึกในระหว่างการซักซ้อมด้วย
ฉ. ในห้วงทัศนวิสัยจำกัด หากจำเป็นต้องเริ่มการซุ่มโจมตี ผบ.มว. ก็ควรจะมีเครื่องมือที่จะใช้
ต่อสู้กับข้าศึก แต่ก็ต้องระวังอย่าให้เป็ นการเปิ ดเผยที่ตั้งของหน่วยฝ่ ายเรา ผบ.มว. อาจจะใช้การส่อง
สว่างทางตรงหรือการส่องสว่างทางอ้อมก็ได้
ช. ผบ.มว. ควรมีแผนการยิงเล็งจำลองไว้ในแผนการซุ่มโจมตีด้วย เพราะการยิงเล็งจำลองจะ
กันขอบเขตของปี กของพื้นที่สังหารไว้ เพื่อแยกข้าศึกส่วนที่ตกอยู่ในพื้นที่สังหารออกจากส่วนอื่น
นอกจากนั้นยังช่วยให้หมวดผละออกจากข้าศึกเมื่อการซุ่มโจมตีไม่ประสบผลสำเร็จหรือจำเป็ นต้อง
ผละออกจากพื้นที่ซุ่มโจมตีเนื่องจากถูกกดดันได้อีกด้วย
ซ. ผบ.มว. ควรมีแผนการสื่อสารให้ดีเพื่อให้ส่วนโจมตีเข้าไปค้นในพื้นที่สังหารเพื่อค้นหาและ
รวบรวมคนเจ็บ ซึ่งควันอาจจะทำให้ส่วนสนับสนุนมองไม่เห็น ทหารทุกคนควรจะรู้และฝึกกันในการ
ซักซ้อม
ด. ส่วนโจมตีเตรียมเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่สังหาร โดยใช้เทคนิคการเคลื่อนที่เป็ นบุคคลหากถูก
ต้านทานด้วยการยิงจากข้าศึกขณะที่เริ่มทำการตรวจค้น ส่วนโจมตีจะเคลื่อนที่โดยวิธีสลับเป็ นชุดยิง
จนถึงพื้นที่สังหาร การปฏิบัติในพื้นที่สังหาร มีดังนี้
๑) รวบรวมและป้ องกันเชลยศึก จากนั้นนำออกจากพื้นที่สังหารแล้วทำการตรวจค้นร่างกาย
จัดตั้งตำบลรวบรวมเชลยศึกและศพข้าศึก ให้อยู่ในลักษณะปกปิ ดกำบังเพื่อไม่ให้ตรวจพบจากหน่วย
ข้าศึก ๆ
๒) ค้นหาจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง พร้อมกับทำเครื่องหมายไว้เพื่อให้มั่นใจว่าการ
ตรวจค้นได้กระทำทั่วทั้งพื้นที่สังหารแล้ว
๓) ใช้เทคนิคตรวจค้นเป็ นคู่
ก. การเคลื่อนที่เข้าตรวจค้นศพข้าศึกนั้น คนหนึ่งจะคอยป้ องกันขณะที่คนหนึ่งตรวจค้น
โดยอันดับแรกต้องเตะปื นข้าศึกให้ห่างจากศพต่อมาพลิกศพข้าศึกขึ้น โดยนอนทับบนศพแล้วพลิก
เพื่อให้ศพข้าศึกเป็ นกำบัง คู่บัดดี้ซึ่งนอนอยู่ด้านศีรษะของข้าศึกก็จะพลิกพร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อป้ องกัน
กรณีข้าศึกนอนทับลูกระเบิดขว้างที่ถอดสลักนิรภัย
ข. พลตรวจค้นจะต้องมีระบบการตรวจค้นอย่างเป็ นระบบ ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยึด
เอกสารและยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ เช่น ป้ ายนามหน่วยที่แปลกใหม่ ปื นพก กล้องตรวจการณ์เวลากลาง
คืน ข้อสังเกตถ้าข้าศึกแต่งกายดี ตัดผมสั้น มักจะเป็ นผู้เก็บความถี่วิทยุ และ นปส. รวมทั้งแผนที่การ
ตรวจตามศพจะต้องทำอย่างถี่ถ้วนจนครบทุกศพ ทั้งในพื้นที่สังหารและบริเวณใกล้เคียงศพที่ตรวจค้น
แล้วควรทำเครื่องหมายไว้ (เช่น งอแขนวางไว้บนหน้าอก) เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน
15
๔) หลักฐานและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยึดได้จะต้องส่งกลับ ดังนั้นจึงต้องเตรียมการขนส่งไว้
ด้วย (ตรวจและจัดวางไว้ที่ปลอดภัย)
๕) พิสูจน์ทราบและรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะทำลาย ชุดระเบิดทำลายเตรียมวัตถุ
ระเบิด (C4 ประกอบกับเครื่องจุด M.60 หรือฝักแคเวลา) พร้อมกับรอสัญญาณให้ทำลาย เป็ นการ
ปฏิบัติเป็นขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะออกจากที่หมายและเป็นการให้สัญญาณส่วนระวังป้ องกันให้กลับไปที่
จุดพบ ณ ที่หมายด้วย
๖) หากเวลาเกื้อกูล จะรักษาพยาบาลให้ผู้บาดเจ็บฝ่ ายเราก่อนแล้วจึงรักษาข้าศึกที่บาดเจ็บ
ต. ถ้าข้าศึกมีขีดความสามารถในการใช้ยานเกราะ ชุดระวังป้ องกันปี กจะได้รับมอบทุ่นระเบิด
ดักรถถังด้วย หากมีการปะทะทางปี กชุดระวังป้ องกันปี กจะทำการต่อสู้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้โดย
จะไม่ทำให้เป็ นการรบติดพัน จากนั้นใช้การสื่อสารที่เตรียมไว้แจ้งให้ ผบ.หมวดทราบว่ามีการปะทะ
ผบ.หมวดอาจสั่งการให้บางส่วนของส่วนสนับสนุนช่วยเหลือส่วนระวังป้ องกันปี ก เมื่อมีการปะทะ
ก็ได้
ท. ผบ.หมวดเตรียมแผนการถอนตัวออกจากพื้นที่ซุ่มโจมตีดังนี้
๑) ส่วนต่าง ๆ ถอนตัวในทิศทางตรงข้ามจากที่วางกำลัง
๒) ส่วนต่าง ๆ จะกลับไปยังที่จุดแยกก่อน ต่อจากนั้นถึงไปจุดนัดพบ ณ ที่หมายทั้งนี้ขึ้นอยู่
กับระยะห่างระหว่างส่วนต่าง ๆ
๓) ส่วนระวังป้ องกัน ซึ่งอยู่ที่จุดนัดพบ ณ ที่หมาย ต้องเตรียมพร้อมไว้เพื่อให้การช่วยเหลือ
หมวดในการกลับเข้าสู่จุดนัดพบ ที่หมายเพื่อเตรียมปฏิบัติภารกิจต่อไป
ธ. เมื่อกลับเข้าสู่จุดนัดพบ ณ ที่หมายแล้วสำรวจกำลังพล และยุทโธปกรณ์เก็บเป้ หลัง และ
ยุทโธปกรณ์ที่ปลดไว้ที่จุดนัดพบ ณ ที่หมายในระหว่างการซุ่มโจมตี
๓ - ๒๑ การซุ่มโจมตีเป็ นพื้นที่
การซุ่มโจมตีเป็นพื้นที่จะกระจายกำลังเป็นการซุ่มโจมตี ๒ ชุด หรือมากกว่า ในการวางแผนซุ่ม
โจมตีเป็นพื้นที่อย่างปราณีต ผบ.หมวด ควรพิจารณาลำดับการปฏิบัติดังนี้
ก. หมวดเป็ นหน่วยระดับเล็กที่สุดที่สามารถซุ่มโจมตีเป็ นพื้นที่ได้ หมวดจะปฏิบัติการซุ่มโจมตี
เป็นพื้นที่ต่อข้าศึกที่เคลื่อนที่ ตามเส้นทางหรือลำธารที่จำกัดการเคลื่อนที่
ข. ผบ.มว. เลือกพื้นโจมตีหลักขึ้นโดยอยู่ในพื้นที่ซุ่มโจมตีรอบนอก แล้ววางกำลังซุ่มโจมตีไว้ที่
พื้นที่ซุ่มโจมตีรองซึ่งตั้งอยู่ในทิศทางที่ข้าศึกน่าจะใช้เข้ามาหรือหลบหนีไปจากพื้นที่ซุ่มโจมตีหลัก
มากที่สุด ปกติหน่วยระดับหมู่จะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบต่อพื้นที่ซุ่มโจมตีแต่ละแห่งเท่านั้น
โดยจัดตั้งพื้นที่ซุ่มโจมตีตามที่ได้อธิบายแล้วข้างต้น
ค. ผบ.มว. ต้องพิจารณาจุดที่จะใช้ ปก.ได้ดีที่สุด ปกติจะตั้งยิง ปก. เป็นคู่ไว้ที่ส่วนสนับสนุนใน
พื้นที่ซุ่มโจมตีหลัก
ง. หมู่ซึ่งรับผิดชอบการซุ่มโจมตีด้านนอกจะไม่เปิ ดฉากการยิงก่อน แต่จะรอให้พื้นที่ซุ่มโจมตี
หลักเป็นผู้เปิ ดฉากการยิง หมู่จะป้ องกันไม่ให้ข้าศึกหลบหนีหรือเพิ่มเติมกำลังได้
๓ - ๒๒ การซุ่มโจมตียานเกราะ
หมวดและหมู่จะซุ่มโจมตียานเกราะ เพื่อทำลายยานเกราะเพียง ๑ - ๒ คันเท่านั้น ซึ่งหากให้หมู่
ซุ่มโจมตียานเกราะควรจะสมทบชุดอาวุธต่อสู้รถถังขนาดกลางให้ด้วย ในการวางแผน ผบ.หมวด
หรือ ผบ.หมู่ ควรพิจารณาดังนี้
ก. ชุดทำลายรถถังวางกำลังใกล้ชุดต่อสู้รถถังขนาดกลาง ผบ.หมวด อาจจะพิจารณาเพิ่มอาวุธ
พิเศษให้อีก เช่น อาวุธ ตถ.ขนาดเบา หรือ AT4 ผบ.หมวด พิจารณาที่ตั้งอาวุธ ตถ. ทั้งหมดให้ยิงได้ดี
16
ตอนที่ ๔
การลาดตระเวนสะกดรอย
๓ - ๒๙ เครื่องหมายตามทาง
คน เครื่องจักร และสัตว์ มักจะทิ้งร่องรอย ไว้ตามที่ต่าง ๆ ที่เคลื่อนที่ไปซึ่งอาจจะปรากฏใน
ลักษณะของกลิ่นหรือปรากฏให้เห็นเป็นร่องรอยเป็นแนวที่ผ่านได้ ทหารทุกคนต้องอ่านร่องรอยที่ทิ้ง
ไว้ได้ เช่นบนถนน ร่องรอยบนทรายหรือหิมะ อย่างไรก็ตามทหารจะต้องมีความสนใจในรายละเอียด
18