Professional Documents
Culture Documents
ตรุษไทย
ตรุษไทย
ปัญญาเป็นแสงแสดงสว่างในโลก
ณ บัดนี้ จะได้วิสัชนาธรรมะในเรื่องสติสัมปชัญญะ เป็นเครื่องประดับสติ
ปัญญา ส่งเสริมศรัทธา ความเชื่อ และวิริยะ ความพากเพียรของท่านทั้งหลาย
ที่เป็นพุทธบริษัทให้เจริญงอกงามก้าวหน้าในทางแห่งพระศาสนาของสมเด็จ
พระบรมศาสดาอันเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย ธรรมเทศนานี้เป็นธรรมเทศนา
เนื่องในวันพระ ณ วัดเนรัญชราราม
ตรุษไทย เป็นวันเปลี่ยนปี นักษัตรตามหลักโหราศาสตร์ไทย โดยคำว่าตรุษนั้น
เป็นภาษาสันสกฤต ภาษาสันสกฤต สํสฺกฺฤต เป็นภาษาคลาสสิกในเอเชียใต้ที่
อยู่ในสาขาอินโด-อารยันของตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปี ยน ภาษานี้เกิดขึ้นใน
เอเชียใต้หลังจากที่ภาษารุ่นก่อนหน้าได้แพร่กระจายไปที่นั่นจากทาง
ตะวันตกเฉียงเหนือในยุคสัมฤทธิ์ ตอนปลาย แปลว่าตัด หรือการสิ้นไป
วันตรุษจึงถือเป็นวันสิ้นปี ของคนไทยมาแต่โบราณ โดยประเพณีนี้สืบทอดมา
ตั้งแต่สมัยสุโขทัยคู่กับประเพณีสงกรานต์ซึ่งเป็นวันขึ้นปี ใหม่มาแต่โบราณ จึง
มักเรียกรวมกันว่า
ประเพณีตรุษสงกรานต์ ซึ่งหมายถึงวันส่งท้ายปี เก่าต้อนรับปี ใหม่ โดย
ประเพณีตรุษไทย จะมี 2 วัน คือวันสิ้นนักษัตรเก่าและวันเริ่มนักษัตรใหม่ มี
กำหนดคือ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 ถือว่าเป็นวันสิ้นนักษัตรเดิม และวันขึ้น
1 ค่ำเดือน 5 ถือเป็นวันเริ่มต้นนักษัตรใหม่ ตามการนับแบบจันทรคติ ตาม
โหราศาสตร์จากชาวตะวันตก แต่แม้จะกำหนดให้วันสงกรานต์เป็นวันปี
ใหม่ของไทย แต่เกณฑ์การเปลี่ยนปี นักษัตรก็ยังใช้วันตรุษเป็นเกณฑ์ เพราะ
แนวคิด
12 นักษัตรเป็นแนวคิดทางชาวเอเซียมานานเป็นพันปี แล้ว ซึ่งชาวเอเซีย
ใช้หลักโหราศาสตร์ทางจันทรคติมาเก่าก่อน ทั้งนี้ คนไทยแต่โบราณเชื่อว่าใน
วันตรุษนี้ เทวดาผู้ดูแลโลก ดูแลประเทศ ดูแลเมือง จะเปลี่ยนแปลงผู้มาทำ
หน้าที่ จึงควรจัดเทวตาทำพิธีบรวงสรวงต้อนรับเทวดาที่มาใหม่และ
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับปัญญา 3 อย่างคือ
1. กาลามสูตร จัดเป็นสุตามยปัญญา
2. โยนิโสมนสิการ จัดเป็นจินตามยปัญญา
3. สมถะและวิปัสสนา จัดเป็นภาวนามยปัญญา
กาลามสูตร เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตตสูตร คือ พระสูตรที่พระโคตมพุทธ
เจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล กาลามสูตร
เป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้
เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดี
ไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่[2]
1 มา อนุสฺสวเนน – อย่าเพิ่งเชื่อเพราะฟังตามกันมา ๒ มา ปรมฺปราย – อย่า
เพิ่งเชื่อเพราะถือสืบกันมา ๓ มา อิติกิราย – อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่า
ลือ๔ มา ปิ ฏกสมฺปทาเนน – อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีในตำรา ๕ มา ตกฺกเหตุ
- อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรรกะ ๖ มา นยเหตุ - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะอนุมาน
๗ มา อาการปริวิตกฺเกน – อย่าเพิ่งเชื่อเพราะลักษณะอาการที่ปราก
๘ มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรงกับความคิดของตน
๙ มา ภพฺพรูปตา - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะดูน่าเชื่อถือ
๑๐ มา สมโณ โน ครูติ - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นครูของตน
แสดงพระธรรมเทศก์นามาก็พอสมควรแก่เวลา จึงขอยุติพระธรรมเทศนาลง
คงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
อารยัน (Aryan) หรือ อริยกะ เป็นชนเผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเอเชียกลาง
บริเวณทุ่งหญ้าอันเป็นที่ราบเหนือทะเลสาบแค็สเปี้ ยน (Caspian) ทาง
ตอนใต้ของประเทศรัสเซียปัจจุบัน
เมื่อประมาณ ๒๐๐๐ ปี ก่อน พ.ศ. ต่อมาเมื่อประมาณ ๑๐๐๐ ปี ก่อน พ.ศ.
พวกอารยันกลุ่มหนึ่งได้อพยพออกจากพื้นที่เอเชียกลางลงมาทางตอนใต้ข้าม
ภูเขาหิมาลัยเข้ามาทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย อารยันเป็นชน
เผ่าผู้มี
ความสามารถในการทำศึกสงครามเป็นอย่างมาก จึงลุกไล่เผ่าชนพื้นเมืองเดิม
คือ พวกมิลักขะ ที่อาศัยอยู่ก่อนให้ออกไปจากพื้นที่ พร้อมกับได้ทำลายเมือง
และหมู่บ้านของชนเผ่าพื้นเมืองเดิมลงได้อย่างราบคาบ