3 : 55.

5555 3 : gets()
4 : -2345 4 : fopen()
คาตอบที่ถูกต้อง : 3 คาตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 139 :ข้อใดต่อไปนี้คือคาสั่งรับข้อมูล ข้อที่ 146 :ฟังก์ชันใดเป็นการรับข้อมูลเป็นข้อความ
1 : scanf() 1 : printf()
2 : printf() 2 : fgetpos()
3 : getinfo() 3 : switch()
4 : putchar() 4 : gets()
คาตอบที่ถูกต้อง : 1 คาตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 140 :ข้อใดคือหลักการตั้งชื่อตัวแปรในโปรแกรมภาษาซี เนื้อหาวิชา : 3 : กระบวนการทางคณิตศาสตร์และตรรกศาสตร์
1 : ต้องขึ้นต้นด้วยตัวเลข ข้อที่ 147 :จงเขียนสมการทางคอมพิวตอร์จากสมการทางคณิตศาสตร์ที่
2 : ภายในชื่อต้องใช้สัญลักษณ์ # กาหนดมาให้
3 : ความหมายของชื่อไม่ควรเกิน 64 ตัว
4 : ภายในชื่อไม่มีเว้นวรรค
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 1 : y=a*b/c*d + b/ a+c + a*b*c /d ;
ข้อที่ 141 :ข้อมูลที่มี 0x นาหน้า เป็นตัวเลขแบบใด 2 : y=a*b/c*d + b/(a+c) + a*b*c /d ;
1 : ข้อมูลชนิดเลขฐานแปด 3 : y=a*b/c/d + b/(a+c) + a*b*c /d ;
2 : ข้อมูลชนิดทศนิยม 4 : y=a*b/c/d + b/a+c + a*b*c /d ;
3 : ข้อมูลชนิดจานวนเต็ม คาตอบที่ถูกต้อง : 3
4 : ข้อมูลชนิดเลขฐานสิบหก ข้อที่ 148 :กาหนดให้ตัวแปรทุกตัวเป็นชนิดจานวนเต็ม
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 ถ้า a = 100 ; b = 200 ; c = 50 ; d = 2 ;
ข้อที่ 142 :การตั้งชื่อในข้อใดถูกต้องในโปรแกรมภาษาซี a/c/d*b + b /(a+c) + a/d*c*b/1000 ; มีค่าเท่าไร
1 : com-puter 1 : 701
2 : 8number 2 : 700
3 : right# 3 : 501
4 : class_room 4 : 702
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 คาตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 143 :การตั้งชื่อในข้อใดถูกต้องในโปรแกรมภาษาซี ข้อที่ 149 :ให้ตัวแปรทุกตัวเป็นชนิดจานวนเต็ม
1 : 007bond จงหาค่าของ x,a, และ b หลังจากส่วนของโปรแกรมข้างล่างนี้ทางาน
2 : james_bond เสร็จ
3 : jason born x = 0; a = -2; b = 5;
4 : jamesbond% x = x + a; a = a + b; b = b - 6;
คาตอบที่ถูกต้อง : 2 x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
ข้อที่ 144 :ข้อใดต่อไปนี้คือคาสั่งแสดงผลทีละอักขระ x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
1 : printf() x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
2 : scanf() 1 : x=0, a = -2, b = 5
3 : getchar() 2 : x = 4, a = 6, b = 2
4 : putchar() 3 : x = 6, a =6, b = 2
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 4 : x = 6, a = 5, b = 1
ข้อที่ 145 :ฟังก์ชันใดเป็นการแสดงผลออกทางหน้าจอ คาตอบที่ถูกต้อง : 3
1 : printf() ข้อที่ 150 :ให้ a และ b เป็นตัวแปรจานวนเต็ม
2 : scanf() ถ้า a = 5, b = 2 ผลลัพธ์ของ a / b มีค่าเท่าใด
1:2 3 : (B/A <= D/C) || ((A+C) == (D*A)) && (C/B < A/D)
2 : 2.5 4 : (A < B) && (C < D) && (A > B) || (D==2*B)
3:1 คาตอบที่ถูกต้อง : 3
4 : 0.5 ข้อที่ 157 :ให้ตัวแปร wet, cold, และ windy เป็นตัวแปรที่เก็บค่าจริง
คาตอบที่ถูกต้อง : 1 เท็จได้
ข้อที่ 151 :ให้ a และ b เป็นตัวแปรจานวนเต็ม และ % คือ modulus ถ้า wet=true , cold=false, windy=false
operator (cold AND (NOT wet)) OR NOT(windy OR cold) มีค่าความจริงคือ
ถ้า a = 5, b = 2 ผลลัพธ์ของ a % b มีค่าเท่าใด อะไร
1:2 1 : จริง
2 : 2.5 2 : เท็จ
3:1 3 : ไม่สามารถสรุปได้
4 : 0.5 4 : ประโยคที่เขียนหาค่าทางตรรกะไม่ได้
คาตอบที่ถูกต้อง : 3 คาตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 152 :ข้อใดให้ผลลัพธ์เท่ากับ (a+b/c-d)*e ข้อที่ 158 :ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในข้อนี้มีคุณสมบัติดังนี้
1 : ((a+b)/c-d)*e 1. % แทน modulus operator
2 : (a+b)/c-d*e 2. & แทน bitwise AND operator
3 : a+b/c*e-d*e 3. ค่าตรรกะจริง มีค่าเท่ากับ 1
4 : (a*e+b*e/c-d*e) 4. ค่าตรรกะเท็จ มีค่าเท่ากับ 0
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 5. สามารถนาค่าตรรกะไปประมวลผลกับจานวนได้
ข้อที่ 153 :-(-15+(2*4-2))+((6+3)*5+7)/4 มีค่าเท่าใด จากการคานวณต่อไปนี้ ข้อใดคานวณหาคาตอบได้ถูกต้อง
1 : 23 1 : (3<2) + 5 มีค่าเท่ากับ 6
2 : 22 2 : (8 % 3) - 1 มีค่าเท่ากับ 0
3 : 21 3 : (3 = 3) + (6 <> 9) * 3 มีค่าเท่ากับ 6
4 : 20 4 : (23 – 2) & 1 มีค่าเท่ากับ 1
คาตอบที่ถูกต้อง : 2 คาตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 154 :ข้อใดต่อไปนี้ผิด ข้อที่ 159 :ให้ y เป็นตัวแปรจานวนเต็ม และ % คือ modulus
1 : (a AND b) เป็นจริง ก็ต่อเมื่อทั้ง a และ b มีค่าเป็นจริง operator
2 : (NOT a) เป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อ a มีค่าเป็นจริง ข้อใดเป็นค่าของ y เมื่อ y = 1 – 5 / 3 + 9 % 4;
3 : (a OR b) เป็นเท็จ ก็ต่อเมื่อทั้ง a และ b มีค่าเป็นเท็จ 1:0
4 : NOT (a AND b) เป็นจริง ก็ต่อเมื่อ a หรือ b มีค่าเป็นเท็จ 2:1
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 3 : -1
ข้อที่ 155 :กาหนดให้ X=1, Y=10, Z=100 นิพจน์ใดต่อไปนี้ได้ค่า 4:2
ตรรกะเป็นจริง คาตอบที่ถูกต้อง : 2
1 : NOT (Z/Y == Y) ข้อที่ 160 :หลังจากส่วนของโปรแกรมข้างล่างนี้ทางานเสร็จ answer มี
2 : NOT(Y*X == Y) ค่าเท่าใด (% คือ modulus operator)
3 : Z <= (Y*Y –1) int a = 1, b = 2, c = 3:
4 : X*Z => Z/X double f = 1.75, g = 1.0, h = 5
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 double answer;
ข้อที่ 156 :กาหนดให้ A=1, B=2, C=3, D=4 เงื่อนไขใดต่อไปนี้ ได้ค่า answer = a + g – b * f – c % b – h * 2;
ตรรกะเป็นเท็จ 1 : -11.6
1 : (A*B+C > C-B) && (A*D/B <= B) 2 : -12.5
2 : (A+B*C < B-C) || ((C+D)*A == A+B*C) 3 : -13.1
4 : 12.0 4 : 15
คาตอบที่ถูกต้อง : 2 คาตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 161 :กาหนดให้ ข้อที่ 164 :กาหนดให้
1. fmod(x,y) คืนค่าเศษหลังจุดทศนิยมของผลหาร x/y int x, y = 7, z = 5;
2. floor(x) คืนค่าจานวนเต็มที่ได้จากการปัดเศษหลังจุดทศนิยมของค่า x = ((++y) + (z--)) % 10;
ในตัวแปร x ทิ้งไป เมื่อส่วนของโปรแกรมข้างบนนี้ทางานแล้ว ค่าของ x คืออะไร?
หลังจากทางานสองบรรทัดข้างล่างนี้แล้ว x มีค่าเป็นเท่าไร (ให้ x เป็นตัว 1:0
แปรจานวนจริง) 2:1
x = 19.75; 3:2
x = fmod(x, floor(x)); 4:3
1 : 1.00 คาตอบที่ถูกต้อง : 4
2 : 19.75 ข้อที่ 165 : if(raining)
3 : 0.75 if(window_open)
4 : 1.75 puts("Close the window");
คาตอบที่ถูกต้อง : 3 ส่วนของโปรแกรมด้านล่างข้อใดต่อไปนี้มีความหมายเหมือนกับส่วนของ
ข้อที่ 162 :ให้ตัวแปรทุกตัวเป็นชนิดจานวนเต็ม โปรแกรมด้านบน
หลังจากส่วนของโปรแกรมข้างล่างนี้ทางานเสร็จ x1 และ x2 มีค่า 1 : if(raining && window_open) puts("Close the window");
เท่าใด? 2 : if(raining || window_open) puts("Close the window");
x2 = 1; 3 : if(not (raining && window_open)) puts("Close the
x4 = 5; window);
x2 = (x4 + x2 % 2 - 3); 4 : if(not (not raining || window_open) puts("Close the
x4 = x2; window);
x3 = x4; คาตอบที่ถูกต้อง : 1
x1 = x3; ข้อที่ 166 :กาหนดให้ sqrt(Y) คือฟังก์ชันหาค่ารากที่สองของ Y จงหาค่า
1 : x1 = 5, x2 = 5 ของนิพจน์ต่อไปนี้ เมื่อให้ค่าตัวแปร M = -3 N = 5 X = -3.57 Y =
2 : x1 = 3, x2 = 1 4.78
3 : x1 = 1, x2 = 5 1. sqrt(Y) < N
4 : x1 = 3, x2 = 3 2. (X > 0) OR (Y > 0)
คาตอบที่ถูกต้อง : 4 3. (NOT((M > N) AND (X < Y))) OR ((M <= N) AND (X > X))
ข้อที่ 163 :ให้ตัวแปรทุกตัวเป็นชนิดจานวนเต็ม 1 : 1. เท็จ 2. จริง 3. จริง
หลังจากส่วนของโปรแกรมข้างล่างนี้ทางานเสร็จ ตัวแปร ans มีค่า 2 : 1. จริง 2. จริง 3. จริง
เท่าใด 3 : 1. เท็จ 2. เท็จ 3. จริง
x2 = 1; 4 : 1. จริง 2. จริง 3. เท็จ
x4 = 5; คาตอบที่ถูกต้อง : 2
x2 = (x4 + x2 % 2 - 3); ข้อที่ 167 :กาหนดค่าของตัวแปรจานวนเต็มต่อไปนี้
x4 = x2; count = 16, num = 4;
x3 = x4; และค่าของตัวแปรจานวนจริงต่อไปนี้
x1 = x3; value = 31.0, many = 2.0;
ans = x4 + x3 + x3 + x2 + x1; เมื่อกระทาตามคาสั่งต่อไปนี้
1 : 18 value = (value - count)*(count - num)/many + num/many;
2 : 17 ตัวแปร value มีค่าเท่าไร
3 : 16 1 : 91