Professional Documents
Culture Documents
Karakuri Kaizen TBKK - MALA 1-2
Karakuri Kaizen TBKK - MALA 1-2
วันทีอ
่ นุมต
ั ิ 11/พ.ค./2564
ประว ัติวท
ิ ยากร Trainer History
ประสบการณ์สอนและผลงาน
•ผู ้สอนระบบ 5ส ภายในโรงงาน (5S Master สสท)
•ผู ้สอนระบบ TPM ภายในโรงงาน (สสท)
•ผู ้สอน TPS (TBKK Production System) (DTAT)
•ผู ้สอนระบบ QCC (Quality Control Circle) ) (DTAT)
•ผู ้สอน Quality Awareness, ผู ้สอนเครือ
่ งมือวัด ) (DTAT)
•ผู ้สอน Trainer STEM ในสถานศก ี ษา (DTAT)
•ผู ้สอน Team Building (DTAT)
•ผู ้สอน Monizukuri DNA (DTAT)
•ผู ้สอนระบบการ Kaizen&Karakuri Kaizen Supplier (DTAT)
(สสท) =สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญีป
่ น)
ุ่ (DTAT)=DENSO Training Academy Thailand)
เป้ าหมาย
1.1 ผู ้เข ้ารับการฝึ กอบรม ต ้องเข ้าอบรมไม่น ้อยกว่าร ้อยละ 80%
1.2 ผ่านการประเมิณผลทัง้ ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบต ั ไิ ม่น ้อยกว่าร ้อยละ 80%
ความเป็ นมา Karakuri
คาว่า Karakuri เป็ นภาษาญีป ่ น ุ่ เขียนด ้วยตัวคันจิทม ี่ รี ากศัพท์จากคาเสนด ้ ้าย ซงึ่ หมายความ
ว่าการชก ั ใยโดยเสนด ้ ้ายโดยมีทมี่ าคือตุก ๊ ตาทีเ่ กิดจากความคิดสร ้างสรรค์ของผู ้สร ้าง โดยการใช ้ กลไก
ง่ายๆในการทาให ้เกิดการเคลือ ่ นไหวทีล ่ ะเอียดซบ ั ซอน ้
สงิ่ ทีเ่ ป็ นสญ
ั ลักษณ์ของคาราคุรใิ นญีป ่ น ุ่ คือ ตุก
๊ ตา Karakuri ทีม ่ ี "ตุก
๊ ตายกชา" และ เด็กยิงธนู
(บันทึกเกีย ้
่ วกับกลไกทีใ่ ชในพวกนาฬ ิ
กาและตุ ๊ ตาเชงิ กล) ยุค เอโดะ ราวๆปี พศ 2340 ตุก
ก ๊ ตานีถ้ อ
ื ว่าเป็ น
ต ้นตารับหุน่ ยนต์ในปั จจุบันเลยก็วา่ ได ้
ตุก
๊ ตายกชา ตุก
๊ ตายิงธนู
ลักษณะพิเศษดังกล่าวของ Karakuri คือ การเคลือ่ นไหวแบบ อนาล็อค ทีไ่ ม่มแ ่ นเชงิ
ี รงขับเคลือ
่ มอเตอร์ หรือ เซ็นเซอร์ แต่ เป็ น การใช ้ เกลียวสปริง หรือ ฟั นเฟื อง
วิทยาศาสตร์ หรือ อุปกรณ์ควบคุม เชน
ที่มา : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปนุ่ )
ความหมาย
Karakuri คือ ถ ้าแปลความหมายง่ายๆสน
ั่ ๆก็คอ
ื กลไกนั่นเอง
Karakuri (คาราคุร)ิ
เราให ้นิยามคาว่า Karakuri ก็คอ ื กลไกพืน
้ ฐาน เชน ่ รอก พืน
้
เอียง คาน สปริง เฟื อง ตุ ้มน้ าหนัก ฯลฯ มาทาให ้เกิดมาทาให ้เกิดการ
เคลือ
่ นไหวอย่างต่อเนือ่ งให ้เป็ นระบบ และเพิม
่ ประสท ิ ธิภาพการ
ทางานโดยมีเป้ าหมายคือ
LCA (Low Cost Automation หรืออุปกรณ์เครืองจักรในราคาถูก)
แก้ไขปัญหาให้ ปรึกษาพูดคุยระบุ
ตรงจุด ปัญหา
ร่างและคิด
ติดตงั้ วิธแ
ี ก้ไขพร้อม
วาดรูป
ออกแบบ
โครงสร้าง
“ พน ักงานจะได้ร ับความรูแ
้ ละเทคนิคเพือ ่ เสริมกิจกรรมไคเซ็นได้ดว้ ยต ัวเอง”
่ สง
สร้างคนอย่างไร ในการเรียนรู ้ Karakuri kaizen
Skills
ท ักษะ
Improvement Production
Karakuri
kaizen
Knowledge Ingenuity
ความรู ้ แนวคิด,ฉลาด
Idea
่ ะนาไปสู่ Karakuri Kaizen
องค์ประกอบทีจ
1. Ingenuity แนวคิด,ฉลาด
แนวคิดในการเกิด Idea
2. Knowledge
ดังนัน
้ เราควรทีจ
่ ะมีความรู ้ ดูและมองออก ถึงการทีจ ้
่ านากลไกแบบไหนมาใชงาน
“ถ้าเรารูห
้ ล ักการทางานของกลไก เราก็จะรูว้ า
่ จะเอาอะไรเข้ามา
่ ยในการสร้าง Karakuri Kaizen ”
ชว
่ ะนาไปสู่ Karakuri Kaizen
องค์ประกอบทีจ
3.Skills
“การเริม
่ ลงมือทาทุกว ันๆ เรามีท ักษะความชานาญ”
กุญแจหล ักเพือ
่ การสร้างสรรค์ Karakuri kaizen
1 2 3
ทบทวนความเข้าใจ
ลักษณะเด่น Karakuri Kaizen
1. ทาได ้ง่าย : กลไกง่ายๆ ไม่ซบั ซอน
้ สามารถแก ้ไขซอ
่ มแซมได ้เอง
2. สามารถสร ้างได ้เอง : เพียงแค่ความคิดสร ้างสรรค์ในการออกแบบ
สามารถประดิษฐ์ผลงานขึน ้ ้
้ มาใชได
3. มีต ้นทุนทีต
่ า่ :(วัสดุ,เวลา,ค่าแรง,พลังงาน) ตามแนวคิด Slim&Simple
4. ประหยัดพลังงาน : การขับเคลือ่ นเกิดจากกลไก ไม่ได ้ใชพลั ้ งงาน
มอเตอร์ หรือ ไฟฟ้ า ทีเ่ ป็ นแหล่งของกาลัง
5. พัฒนาบุคลากร : พนักงานเกิดการพัฒนา และปรับปรุงสภาพหน ้างาน
ของตนเอง จึงเป็ นการพัฒนาตนเอง และเกิดความภาคภูมใิ จในงาน
“ ทาไมต้องทาไคเซ็น ”
คือ การเลือกงานที่ตอ้ งการทาให้ดีข้ ึน มาทาการปรับปรุง
แก้ไข โดยการลดหรือกาจัดความสูญเปล่า ทาอย่างต่อเนื่ อง
และสมา่ เสมอ
ยากลาบาก สะดวก สบาย
เสีย่ ง ปลอดภัย
ทางานเดิมๆซ้าๆ ทางานง่าย สนุ ก น่ าสนใจ
คือ ไคเซ็น
การปรับปรุงวิธีการถึงแม้จะเพียงเล็ก น้อยก็ตาม
และทาให้ปญั หานั้นหมดไป ไม่เกิดขึ้นอีก
ตัวอย่าง เสียเวลาใน
การเช็ดน้ าบนโต๊ะ
ภาชนะ ภาชนะ
โต๊ะวางภาชนะ โต๊ะวางภาชนะ
น้ าขัง
เจาะรูน้ าไหลผ่าน
ECRS
ECRS
เป็ นหลักการที่ประกอบด้วย การกาจัด (Eliminate) , การ
รวมกัน (Combine) , การจัดใหม่ (Rearrange) และ การทาให้งา่ ย
(Simplify) ซึ่งเป็ นหลักการง่ายๆ ที่สามารถใช้ในการเริ่มต้นลดความ
สูญเปล่าหรือ MUDA ลงได้เป็ นอย่างดี
1. การกาจัด [Eliminate]
คือ การตัดขัน้ ตอนการทางานที่ไม่จาเป็ นในกระบวนการออกไป (ลด , ยกเลิก)
ทาให้มนั หายไปได้ ไหม ?
สภาพปัจจุบนั ปรับปรุง
GUIDE
ขันด้วยประแจทอร์ค 2 ตัว
โดยขันทีละตัว ขัน 2 ตัวพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
ตัวอย่าง การรวมกัน [Combine]
3. การจัดใหม่ [Rearrange]
คือ การจัดขัน้ ตอนการผลิตใหม่เพื่อให้ลดการเคลื่อนที่ท่ไี ม่จาเป็ น หรือ การรอคอย
ถ้าสลับลาดับละ ?
ถ้าเปลี่ยนวิธีเป็ นวิธีอน่ื ละ ?
ถ้าหยิบสลับกับสิง่ อืน่ ละ ?
สภาพปัจจุบนั ปรับปรุง
หมุนกลับ ไม่มีการหมุน
A A B
B
หมุนกลับ หมุนกลับ
C C
เมื่อทาการขันชิ้นงานเสร็จต้อง ทาการสลับลาดับงานให้เหลือ
หมุนทัง้ หมด 2 ครัง้ ถึงจบ Process การหมุนแค่เพียง 1 ครัง้
ตัวอย่าง การจัดใหม่ [Rearrange]
4. การทาให้งา่ ย [Simplify]
คือ การปรับปรุงการทางานให้งา่ ยและสะดวกขึ้น โดยอาจจะออกแบบจิ๊ก (jig) หรือ fixture
เข้าช่วยในการทางานเพื่อให้การทางานสะดวกและแม่นยามากขึ้น
ถ้าทาให้เป็ น Unit Simple ละ ?
ถ้าทาตัวจับยืดง่ายๆละ ?
สภาพปัจจุบนั ปรับปรุง
3
2
1
1
ตัวอย่าง จะ ไคเซ็น
ยังไงดีนะ ?
เราอาจจะไคเซ็นง่ายๆ โดยการ
“ทาสีน็อต” และ “ทาสีรถ” ให้ เหมือนกัน
3
2
1
1
ตัวอย่าง แต่กม็ ีคนแย้งว่า
“ มันเป็ นไคเซ็นที่ ไม่ได้แก้ปญั หาที่ตน้ ตอ ควรจะคิดน็ อตชนิ ดที่ ไม่หลุดถึงจะเป็ นการไคเซ็นที่ดี ”
แต่ แน่ นอน เราก็ควรมีการไคเซ็น ทัง้ 2 แบบ โดยการ
“พัฒนาน็ อตแบบพิเศษไปด้วย”
“ ไคเซ็นเบื้องต้นโดยการทาสีไปก่อน ”
ปกติ ทาสี
“ ทาได้ ทาทันที ”
วิธก ่ ผ่านแรง
ี ารสง
• คาน ดุลนา้ หน ัก • โรลเลอร์ สายพานเอียง
• ฟันเฟื อง บ ันได
• รอก • ก ังห ัน
• ลูกเบีย้ ว • ความต่างระด ับ
• การเชอ ื่ มโยง • ความต่างอุณหภูม ิ
• ค ันโยก รางเลือ ่ น • ก ังห ันนา้
• แรงสน ่ ั สะเทือน • แรงคืนต ัว
• เชอ ื ก ลวด บาร์ ลูกกลม • สภาวะก๊าซ/ของเหลว
• รางไหล • เกลียว
• อืน
่ ๆ • สปริง ยาง พลาสติก
• ลูกสูบ
แหล่งกาเนิดแรง
• แรงโน้มถ่วง • แรงข ับ
• แรงยืดหยุน ่ • แรงด ันนา้ ม ัน/อากาศ
• แรงจากการเคลือ ่ นไหว • แรงเสย ี ดทาน
ของเครือ่ งจ ักร • ไฟฟ้าสถิต
• แรงด ัน • แรงตึงผิว
• การลอยนา้ • แรงขยาย/หดต ัว
• แรงแม่เหล็ก • การย้ายจุดศูนย์ถว่ ง
(ปรอท)
้ ฐานในการออกแบบ Karakuri Kaizen
หล ักพืน
1. ชุดคาน (Lever)
4. สปริง (Spring)
6.การเปลีย
่ นทิศทางการเคลือ
่ นที่ (Conversion of the Direction to move)
8. ของไหล (Fluid)
9. หล ักฟิ สก ์ น
ิ สอ ื่ ๆ
การแบ่งคานตามตาแหน่งของ
จุดหมุน แรงพยายาม แรงต้านทาน
E
F
F W E
E
F
W E
W
F
F W E
้ ก ับระยะทางจากจุดหมุน
การได้เปรียบ ขึน
คานอ ันด ับ 1 : จุดหมุนอยูร่ ะหว่างแรงพยายามและแรงต้าน
W E
500g F 500g
F W E
้ ก ับระยะทางจากจุดหมุน
การได้เปรียบ ขึน
คานอ ันด ับ 1 : จุดหมุนอยูร่ ะหว่างแรงพยายามและแรงต้าน
1 2
W E
500g F 250g
F W E
ี ระยะทาง
การได้เปรียบแรง แต่เสย
คานอ ันด ับ 1 : จุดหมุนอยูร่ ะหว่างแรงพยายามและแรงต้าน
1 2 3
W E
500g F 125g
F W E
ี ระยะทาง
การได้เปรียบแรง แต่เสย
ต ัวอย่างของคานอ ันด ับ 1
F E E
E
F
W W
W
W
F W
E
F
F W E
F W
E
F
E W
F W E
ี ระยะทาง
ได้เปรียบแรง แต่เสย
คานอ ันด ับ 2 : แรงต้านทานระหว่างจุดหมุนและแรงพยายาม
E
250g
W
F 500g
F W E
ี ระยะทาง
ได้เปรียบแรง แต่เสย
คานอ ันด ับ 2 : แรงต้านทานระหว่างจุดหมุนและแรงพยายาม
1 2
W E
F 500g 125g
F W E
ี ระยะทาง
ได้เปรียบแรง แต่เสย
ต ัวอย่างของคานอ ันด ับ 2
E E
F W
รถเข็นปูน
ภาพใดคือคานอ ันด ับ 2
F W E
E
F
W
E F W
F W E
ี เปรียบแรง
ได้ระยะทาง แต่เสย
ต ัวอย่างของคานอ ันด ับ 3
E
F
F
W
E E
ไม้กวาดด้ามยาว ทีค
่ บ
ี นา้ แข็ง
ภาพใดคือคานอ ันด ับ 3
F W E
คานอ ันด ับ 1
เมือ ้ ลง
่ เราแหงนหน้าขึน
คานประเภทต่างๆในร่างกาย
คานอ ันด ับ 2
การเขย่งเท้า
คานประเภทต่างๆในร่างกาย
คานอ ันด ับ 3
การงอข้อศอก
สรุปเรือ
่ ง คาน
คานอ ันด ับ 1 E
นิยาม : จุดหมุนอยูร่ ะหว่างแรง
พยายามและแรงต้าน F
สงิ่ ทีไ่ ด้ : การได้เปรียบ ขึน
้ ก ับ
ระยะทางจากจุดหมุน
W
คานอ ันด ับ 2 E
นิยาม : แรงต้านทานระหว่างจุด F
หมุนและแรงพยายาม
สงิ่ ทีไ่ ด้ : ได้เปรียบแรง แต่เสย
ี
ระยะทาง W
คานอ ันด ับ 3 E
นิยาม : แรงพยายามอยูร่ ะหว่าง F
แรงต้านและจุดหมุน
สงิ่ ทีไ่ ด้ : ได้ระยะทาง แต่
เสย ี เปรียบแรง W
้ ฐานในการออกแบบ Karakuri Kaizen
หล ักพืน
2. กว้าน ล้อ และเพลา Winch
้ กการเดียวกันกับคานงัด แต่เป็ นแบบหมุน ยิง่ มีรัศมีในการหมุน
ใชหลั
มากเท่าไร จะยิง่ ผ่อนแรงมากขึน
้
F
r F
R
r
__ _ ___ _ ___ _
___
F r
R R
W W
W
ออกแรงน้อย โดยใชร้ ะยะทางมาก = ได้เปรียบแรง แต่เสย
ี ระยะเคลือ
่ นที่
้ ฐานในการออกแบบ Karakuri Kaizen
หล ักพืน
2. กว้าน ล้อ และเพลา Winch
ทีด
่ ัด 2.2) ต่อต้ามต่อยาวทีป
่ ลายเพลาหมุนเพือ
่
เหล็ก ผ่อนแรงหมุน
1. รอกเดีย
่ วตายต ัว
2. รอกเดีย
่ วเคลือ
่ นที่
3. รอกพวง
รอก ,ถ่วงนา้ หน ัก (Pulley & Weight balance)
3.1 รอกเดีย
่ วตายต ัว
รอกเดีย
่ วตายต ัว
d2
่ ยเปลีย
ชว ่ นทิศทางแต่ไม่ผอ
่ นเเรง
รอก ,ถ่วงนา้ หน ัก (Pulley & Weight balance)
ต ัวอย่าง รอกเดีย
่ วตายต ัว
่ ยเปลีย
ชว ่ นทิศทางแต่ไม่ผอ
่ นเเรง
รอก ,ถ่วงนา้ หน ัก (Pulley & Weight balance)
3.2 รอกเดีย
่ วเคลือ
่ นที่
รอกเดีย
่ วเคลือ
่ นที่
รอกเดีย
่ วเคลือ
่ นที่
d1
่ ยผ่อนแรงในการทางาน โดยมีเชอ
ชว ื กคล้องรอกทุกต ัว ซงึ่ ชว
่ ยให้
สามารถผ่อนแรงได้มาก
ระบบรอก(PULLEY)
1. ด ัน ร ับแรงกระแทก
2. เหนีย ิ้ สว
่ วรง่ ั ชน ่ น
3. สะสมพล ังงาน
4. ชง่ ั นา้ หน ัก
1. ด ัน ร ับแรงกระแทก
่ ระบบก ันสะเทือนรถยนต์
ด ัน ร ับแรงกระแทก เชน
2. ด ันหรือเหนีย ิ้ สว
่ วรง่ ั ชน ่ น
เหนีย
่ วรงช ิ้ สว
ั้ น ่ น เชน
่ ล็ อคขาตงจ
ั้ ักรยาน
3. สะสมพล ังงาน
ิ
่ ลานข ับเข็มนาฬกา
3. สะสมพล ังงาน เชน
ให้ทก
ุ คนยกต ัวอย่างการใชส ้ ปริง
แต่ละแบบทีพ ่ บเห็นในชวี ต
ิ ประจาว ัน
“กลุม
่ ละ 1 ต ัวอย่าง”
้ เอียง , แรงโน้มถ่วง (Inclined Earth gravity)
5. พืน
กลไกการเคลือ
่ นทีจ
่ ากทีส ่ ต
่ งู ลงสูท ั แรงโน ้มถ่วงของโลก
ี่ า่ โดยอาศย
d1
F
W
d2
่ ยอานวยความสะดวกและชว
ชว ่ ยผ่อนแรงในการขนย้ายสงิ่ ของขึน
้ หรือลงจาก
ยานพาหนะ ลงจากทีส่ ง
ู
6.การเปลีย
่ นทิศทางการเคลือ
่ นที่ (Conversion of the Direction to move)
เปลีย ้
่ นทิศทางจากการหมุนเป็ นแนวเสนตรง หรือ เปลีย่ นทิศจาก
วิง่ ตรงไปในแนวขวาซาย ้ บนล่าง เป็ นต ้น เชน
่ ข ้อเหวียง เฟื อง สกูรขับ และข ้อต่อ
้ ลงและ
การหมุนเป็นแนวขึน การหมุนเป็นแนวตรง ้ ลง
การหมุนเป็นแนวขึน
ซา้ ยขวา
“เมือ
่ เราออกแรงกระทาการเปลีย
่ นทิศทางการเคลือ
่ นที”่
่ ถ่ายกาล ัง (Rotation Transfer)
7. การหมุนสง
้
ใชในการทดความเร็ ่ ความได ้เปรียบเชงิ กล ทีพ
วรอบและเพิม ่ บเห็น
มากได ้แก่การใชอุ้ ปกรณ์
เฟื อง ่ ละจานโซ ่
โซแ สายพานและล ้อขับ
(Gear) (Chain&Sprocket) (Belt&Pulley)
P=F/A
F = แรงทีก ่ ระทากับของเหลวหรือ
ก๊าซในทิศตัง้ ฉาก (N)
A = พืน
้ ทีห
่ น ้าตัด (m ยกกาลัง 2)
P = ความดัน (Mpa)
F2
F1
้ ทีห
ออกแรงน้อย ยกของหน ักพืน ้ ทีห
่ น้าต ัดมาก = ยกของหน ักมาก พืน ่ น้าต ัดน้อย
8.1 กาล ักนา้ และความด ันของไหล
9. หล ักฟิ สก ์ น
ิ สอ ื่ ๆ
9.1 แม่เหล็ก
้
กลไกแม่เหล็กใชประโยชน์ จากคุณสมบัตก
ิ ารดูดและการผลักกันของ
แม่เหล็กในกรณีทต ิ แยกหรือยึดสงิ่ ของขนาดเล็ก ทีเ่ ป็ นโลหะเพือ
ี่ ด ่ เพิม
่ ความ
สะดวกสบายในการทางาน
S N N S
N S S N
S N S N
“ ขวต่
ั้ างก ัน ดูดก ัน ขวเหมื
ั้ อนก ัน ผล ักก ัน “
9.1 แม่เหล็ก
หลังปรับปรุง
(ติดแม่เหล็กดูดขึน
้ มาทีละตัว) (อุปกรณ์ทใี่ ชช้ วั่ คราวทดลองใชอยู
้ )่
9. หล ักฟิ สก ์ น
ิ สอ ื่ ๆ
ี ดทาน
9.2 การลดเสย
้ ฐานในการออกแบบ Karakuri Kaizen
หล ักพืน
1 ชุดคาน
1.1 คานระด ับที่ 1 การได้เปรียบ ขึน
้ ก ับระยะทางจากจุดหมุน
1.2 คานระด ับที่ 2 ได้เปรียบแรง แต่เสย ี ระยะทาง
1.3 คานระด ับที่ 3 ได้ระยะทาง แต่เสย ี เปรียบแรง
2. กว้าน ล้อ และเพลา Winch
ออกแรงน้อย โดยใชร้ ะยะทางมาก = ได้เปรียบแรง แต่เสย
ี ระยะเคลือ
่ นที่
3. รอก
3.1 รอกเดีย่ วตายต ัว ชว่ ยเปลีย
่ นทิศทางแต่ไม่ผอ ่ นเเรง
3.2 รอกเดีย
่ วเคลือ
่ นที่ ชว่ ยผ่อนเเรงครึง่ หนึง่ ของนา้ หน ัก
3.3 รอกพวง ชว่ ยผ่อนแรง โดยมีเชอื กคล้องรอกทุกต ัว ซงึ่ ชว่ ยให้สามารถผ่อนแรงได้มาก
4. สปริง (Spring)
4.1 ร ับแรงกระแทก เชน ่ ระบบก ันสะเทือนรถยนต์
4.2 ด ันหรือเหนีย ่ วรงช
ั้ น ิ้ สว่ น เชน
่ ล็อคขาตงจ
ั้ ักรยาน
4.3 สะสมพล ังงาน เชน ่ ลานข ับเข็นนาฬกา ิ
4.4ชง่ ั นา้ หน ัก เชน่ ตาชง่ ั สปริง
้ เอียง , แรงโน้มถ่วง (Inclined Earth gravity)
5. พืน
่ ยอานวยความสะดวกและชว่ ยผ่อนแรงในการขนย้ายสงิ่ ของขึน
ชว ้ หรือลงจากยานพาหนะ ลงจากทีส
่ ง
ู
6. การเปลีย
่ นทิศทางการเคลือ
่ นที่ (Conversion of the Direction to move)
เมือ
่ เราออกแรงกระทาการเปลีย
่ นทิศทางการเคลือ
่ นที่
่ ถ่ายกาล ัง (Rotation Transfer)
7. การหมุนสง
ใชเ้ พิม ่ ความได้เปรียบเชงิ กล
่ ความเร็วรอบหรือเพิม
8. ของไหล (Fluid)
ออกแรงน้อย โดยใชร้ ะยะทางมาก ยกของหน ักมาก แต่ได้ระยะทางน้อย
9. หล ักฟิ สก ์ น
ิ สอ ื่ ๆ
9.1 แม่เหล็ก ี ดทาน
9.2 การลดเสย