You are on page 1of 11

เจริญสุขสวัสดีปีใหม่ 2553 - 2010

ขอประเดิมของขวัญของปี 2553 ด้วย.........

ธรรมมะของพระมหาวุฒิชัย วชิระเมธี

น้้าทุกหยดมีต้นน้้า

ฉะนั้นน้้าทุกหยดมีต้นน้้าคือคนทุกคนล้วนมี
ที่มาใน
โลกนี้ มีคนอย่่เป็ นจ้านวนมากที่ร้่จักตนเอง
แต่ในปั จจุบันขณะ
แต่หลงลืมตัวเองซึ่งเชื่อมโยงอย่่กับรากฐาน
ที่มาเราเป็ น
มนุษย์ซึ่งเหมือนกับต้นไม้บางชนิ ดที่ปล่กใน
ห้องทดลองของ
นักวิทยาศาสตร์ คือรากไม่แตะกับดินเดี๋ยวนี้
นัก
วิทยาศาสตร์สามารถสร้างห้องวิจัยขึ้นมาท
ดลองปล่กพืชบาง
ชนิ ดที่รากหย่อนลงไปในอากาศ แต่กิ่ง ใบ
ก็สามารถเจริญ
เติบโตได้ เรียกว่า พันธ์ุไม้ที่ใช้รากอากาศ
รากไม่แตะกับพื้ น
ดิน แต่ก็สามารถเจริญเติบโตได้คนเราก็
เหมือนกัน มีคนจ้านวนมากเป็ นหยดน้้าที่
ไหล
จากต้นน้้าที่ต่างจังหวัดพอมาอย่่กรุงเทพ ฯ
แล้วรากของตัว
เองก็ขาดลอยจากบรรพบุรุษที่ต่างจังหวัด
เติบโตอย่่โดยไม่
เชื่อมโยงอะไรกับคุณพ่อคุณแม่ ป่ ่ ย่า ตา
ยายที่ต่างจังหวัด
กลายเป็ นต้นไม้พันธ์ุที่เพาะปล่กในเรือน
เพาะช้าของนัก
วิทยาศาสตร์รากลอยขาดจากผืนดิน คน
อย่างนี้ ภาษาพระ
เรียกว่าคนอกตัญญ่
ฉะนั้นหากเราเป็ นต้นไม้เราจะต้องเป็ นต้นไม้
ที่มีราก
แก้วหยัง่ ลึกชอนไชลงไปใต้ผืนดินถ้าเรา
อยากเป็ นต้นไม้
ใหญ่ไพรระหงที่มีความเจริญเติบโตงอกงาม
ให้ร่มให้เงาทั้ง
แก่ตนเอง และแก่สรรพชีพ สรรพสัตว์ เรา
จะต้องเป็ นต้นไม้
ที่มีรากแก้ว เราจะต้องเป็ นน้้าทุกหยดที่ไม่
ลืมต้นน้้าเราจะ
ต้องไม่เป็ นบุคคลประเภทพันธ์ุไม้ที่เพาะอย่่
ในเรือนเพาะช้า
ของนักวิทยาศาสตร์ เติบโตได้ โดยรากไม่
แตะพื้ นดิน
ทุกวันนี้ ที่สังคมไทยของเรายุ่งเหยิงก็เพราะ
มีคน
อกตัญญ่อย่่จ้านวนมากที่เมื่อเจริญเติบโต
แล้วมีความมัง่ มีศรี
สุขแล้วก็ตัดขาดจากรากเหง้าของตัวเอง
อย่างสิ้นเชิง คน
จ้านวนมากเกิด เติบโต เรียนหนังสือที่ต่าง
จังหวัด มาจบที่
กรุงเทพฯ ท้ามาค้าขายอย่่ที่กรุงเทพฯ แล้ว
ก็ลืมต่างจังหวัด
บางคนก็เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเสียง เปลี่ยน
นามสกุลของตัวเอง
หมด ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอย่่ใน
กรุงเทพฯ ร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่เคยกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเป็ น 10 ปี ก็มี
ถ้าท้าด้วยมีเหตุผลว่าต้องท้ามาหากินมัน
เป็ นความ
จ้าเป็ นอันนั้นก็เป็ นเรื่องที่เรารับได้แต่บางคน
ท้าเพราะตั้งใจ
จะลืมก้าพืดจริงๆ ไม่อยากให้ใครร้่ว่าตนเป็ น
คนต่างจังหวัด
ถ้าแบบนั้น ภาษาพระเรียกว่าคนอกตัญญ่
แต่ถ้าเราย้าย
ถิ่นฐานมาอย่่กรุงเทพฯ เพราะมีความจ้าเป็ น
ในเรื่องของการ
ท้ามาหากิน ไม่ใช่เหตุผลของการลืมก้าพืด
อันนี้ พุทธศาสนา
ก็ไม่ว่าอะไร.................................................
ดังนั้น เมื่อถึงวันสงกรานต์ ที่โบราณาจารย์
ท่านให้เรา
หยุดยาวอย่างนี้ รัฐบาลให้เราหยุดยาวอย่าง
นี้ ก็เพราะ
ต้องการให้เราทุกคนได้มาทบทวนรากเหง้า
ของเรา ว่าเราทุก
คนเป็ นหยดน้้าที่ไหลมาจากต้นน้้าที่ไหน
เมื่อทบทวนได้แล้ว
เราจะได้หวนกลับไปด่แลต้นน้้าของเราคือ
ใครแผ่นดินถิ่น
เกิดของเราพ่อแม่ของเรา ป่ ่ ย่า ตา ยาย
ของเรา
อัฐบ
ิ รรพบุรษ
ุ ของเราอย่่ตรงไหน เรายังจ้าที่
ที่บรรจุอัฐข
ิ องคุณพ่อ คุณแม่คุณป่ ่ คุณย่า
คุณตา คุณยายของเราได้ไหม กลับไปสรง
น้้าด้าเกล้าท่านอย่่ไหม ?
นี่ คือความหมายที่แท้จริงของเทศกาล
สงกรานต์ กล่าว
ให้ส้ ันที่สุด เทศกาลสงกรานต์คือเทศกาล
แห่งความกตัญญ่
ร้่คุณค้าว่า กตัญญ่ ไม่ได้มาโดด ๆ ในทาง
พุทธศาสนาเมื่อ
พ่ดถึงค้านี้ จะมีค้าหนึ่ งพ่วงมาด้วยเสมอคือ
ค้าว่า กตเวที
กตัญญ่ แปลว่า ร้่คุณท่าน อัญญ่ นี่ แปลว่า
ผ้่ร้่ กิจจัง ซึ่งกิจ
กตัง อันบุคคลอื่นกระท้าแล้ว เม ต่อเรา นี่
วิเคราะห์แยก
ศัพท์ให้เห็นชัด ๆ หลักภาษาบาลีกตัญญ่
แปลตามตัวอักษรคือ
ผ้่รซ
้่ ึ่งกิจ หรือ ผ้ร่ ้่ซึ่งคุณ่ปการอันบุคคลคน
อื่น
กระท้าแล้วต่อ
เรา………………………………….
ถ้าเอาแค่น้ ี ใคร ๆ ก็ร้่ใครก็ตามที่ไม่เป็ นโร
คอัลไซเมอร์
ร้่หมดใครท้าคุณ่ปการต่อเราเราร้่หมดแต่แค่
นี้ ยังไม่พอ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสแค่น้ ี ท่านพ่ดต่อไปว่า
กตัญญ่แล้วต้อง
กตเวทีด้วย กตเวที แปลว่าอะไร เวที แปล
ว่า ร้แ
่ จ้ง หรือ
ประกาศ แปลเอาความหมายก็คือ ตอบแทน
กิจจัง หรือ
คุณังซึ่งคุณ กตัง อันบุคคลอื่นกระท้าแล้ว
เม ต่อเรา
กตเวทีก็คือ ร้่ หรือประกาศซึ่งคุณ่ปการที่คน
อื่นกระท้าไว้
แล้วต่อเรา 2 วลีน้ ี มาต่อกันเป็ น กตัญญ่
กตเวที แปลว่าร้่ซึ่ง
คุณที่คนอื่นท้าแล้วต่อเรา แล้วตอบแทน
พระคุณซึ่งคนอื่นท้า
แล้วต่อเราแปลง่าย ๆ แบบไทยแท้ ๆ ก็คือ
กตัญญ่ร้่คุณ
ท่าน หรือร้่คุณท่านแล้วตอบแทนพระคุณ
ท่านนี่ คือความ
หมายของกตัญญ่ กตเวที ในโลกนี้ มีผ้่ที่
ท้าคุณต่อเรา
มากมายไม่ใช่เฉพาะคน เราเกิดมาในโลก
ด้ารงชีวิตอย่่ใน
โลก เราก็เป็ นหนี้ โลกฉะนั้นเราก็ต้องกตัญญ่
ต่อโลก
อุทิศส่วนกุศลให้คุณ พ่อ ฮ่อเพ้งแซ่อ้ ึง คุณ
แม่หมวย แซ่เอี้ย
วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553

You might also like