Professional Documents
Culture Documents
การแต่งงานในอิสลาม
การแต่งงานในอิสลาม
2009 - 1430
﴿ﻛﺘﺎب اﺠﺎﻜح ـ ﻣﻘﺪﻣﺔ﴾
» ﺑﺎﻟﻠﻐﺔ اﺤﻛﺎﻳﻼﻧﺪﻳﺔ «
2009 - 1430
ดวยพระนามของอัลลอฮฺ ผูท รงเมตตา ปรานียงิ่ เสมอ
การแตงงาน
ความเขาใจวาดวยการสมรส
การแตงงานและการมีครอบครัวเปนวิถีทางหนึ่งที่อัลลอฮฺไดกําหนดแกสรรพสิ่งที่พระองค
สรางขึ้นมา มันเปนสิ่งที่ครอบคลุมทั้งสรรพสัตวและพืชพรรณตางๆ ดวย
สําหรับมนุษยนั้นอัลลอฮฺไดสรางขึ้นมาแตกตางจากสรรพสิ่งอื่นๆ ที่ไมมีขอบเขตดานการ
สนองความใครโดยสิ้นเชิง และอัลลอฮฺนั้นไดวางกรอบแนวทางและกฎระเบียบที่ชัดเจนเหมาะสม
กับการเปนสัตวประเสริฐ เพื่อที่จะรักษาชื่อเสียงเกียรติยศและวงศตะกูลของมนุษยเอง สิ่งเหลานี้
ยอมจะรักษาไดก็ตอเมื่อมีการแตงงานที่ถูกตอง และการแตงงานนั้นยอมกอใหเกิดความสัมพันธ
กันระหวางผูชายกับผูหญิงที่มีเกียรติ บนฐานแหงความพอใจระหวางกัน การใหและการรับ และมี
ความรักใครซึ่งกันและกัน
การแตงงานเปนการสนองตออารมณดวยทางที่ถูกตอง และเพื่อที่จะรักษาเชื้อสายวงศ
ตระกูลใหสามารถดํารงสืบสานตอไปได และปกปองสตรีเพศจากการเปนเหยื่อถูกกระทําจากใครก็
ตามที่ประสงคไมดีกับนาง
ความประเสริฐของการแตงงาน
การแตงงานนั้นเปนแบบอยางที่ไดรับการสนับสนุนอยางที่สุดของบรรดาศาสนทูต และ
เปนแนวทางที่รอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม สงเสริมมากยิ่งนัก ดังที่ไดระบุในอายะฮฺ
และหะดีษดังตอไปนี้
1. อัลลอฮฺไดตรัสไววา
c b a ` _ ~ } | { z yI
[٢١/ ]اﻟﺮومHn m l k j i h g f e d
ความวา "ประการหนึ่งจากสัญลักษณทั้งหลายของพระองคนั้น คือ ทรงสราง
คูครองใหพวกเจาใหแกตัวของพวกเจาเอง เพื่อพวกเจานั้นจะไดมีความสุขอยู
ดวยกัน และไดทรงใหมีความรักใครและเมตตาระหวางกัน แทจริงแลวในกรณี
นี้ ยอมเปนสัญญาณใหแกหมูชนผูใครครวญทั้งหลาย" (อัรรูม 21)
2. อัลลอฮฺไดตรัสไววา
[٣٨ / ]اﻟﺮﻋﺪH...u t s r q p o n m lI
ความวา “และโดยแนนอน เราไดสงบรรดาศาสนทูตมากอนหนาเจา และเราได
ใหพวกเขามีภริยาและลูกหลาน ...” ( อัรเราะอฺดุ 38)
1
3. จากทานอิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กลาววา พวกเราเปนเด็กหนุม ทีอ่ ยูก บั ทานรอซู
ลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ซึ่งเราไมมีทรัพยสินอะไรเลย(เพื่อสรางครอบครัว) ทานจึงได
กลาวกับเราวา
ْ ُّ َ َ ُ َ ْ َ َ َ ْ َ َ َ َ َ َ َ ْ
َ َﻟﻠﺒ َ ،اﻟﺸﺒﺎب
َ َ َ ْ َ »َﻳﺎ
،ﺮﺼ
ِ ِ ﻓﺈﻧـﻪ أﻏﺾ،ﻣﻦ اﺳﺘﻄﺎع اﻛﺎءة ﻓﻠﻴﺰﺘوج ِ ِ ﻣﻌﺮﺸ
ٌ َ ُ َ ُ َ ْ َْ َ َ ْ َ َْ ْ َ ْ َ َ ْ َْ ُ َ ْ ََ
.«ﺑﺎﻟﺼﻮم ﻓﺈﻧـﻪ ﻟـﻪ ِوﺟﺎء
ِ ِ ﻓﻌﻠﻴـﻪ
ِ ﻳﺴﺘﻄﻊ
ِ وﻣﻦ ﻟـﻢ،ﻟﻠﻔﺮج ِ ِ وأﺣﺼﻦ
.ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ
ความวา "โอบรรดาชายหนุมทั้งหลาย ผูใดในหมูพวกเจานี้มีความสามารถ(ใน
การครองคู ) ก็ จงแต ง งานเถิ ด เพราะแทจ ริ ง นั้ น (การแต ง งาน)เปน การลด
สายตาใหต่ําลงได อีกทั้งใหพวกเจาสามารถสงวนอวัยวะเพศได และผูใ ดทีไ่ มมี
ความสามารถก็จงถือศีลอดเสียเถิด เพราะการถือศีลอดเปนการลดอารมณ
เพื่อใหทุเลาลง" ( บันทึกโดย อัล-บุคอรีย 5066 และมุสลิม 1400)
ความหมายการแตงงาน
การแตงงาน (นิกาห หรือ ซะวาญจ) นั้นคือ พันธะสัญญาตามหลักศาสนา ที่จัดใหมีขึ้น
เพื่อใหฝายชายและหญิงนั้นสามารถหาความสุขซึ่งกันและกันจากคูครองของเขาได
ิวิทยปญญาของการบัญญัติใหมีการแตงงาน
1. การแต ง งานเป น บรรยากาศที่ ดี ซึ่ ง นํ า ไปสู ก ารสร า งรากฐานและความสั ม พั น ธ ใ น
ครอบครัวที่เขมแข็ง เปนการทําใหจิตใจบริสุทธิ์จากพฤติกรรมเสื่อมทราม กอใหเกิดความสงบสุข
เนื่องจากความรักใครที่เกิดขึ้นระหวางสามีภรรยา
2. การแตงงานเปนวิธีการที่ดีที่สุดในการใหกําเนิดลูกและบุตรหลาน และเพื่อสืบสานวงศ
ตระกูลตอไป ซึ่งจะกอใหเกิดการทําความรูจักกัน สัมพันธไมตรี การเอื้อเฟอเผื่อแผ การชวยเหลือ
ซึ่งกันและกัน
3. การแตงงานเปนวิธีที่ดีที่สุดในการสนองตอความตองการทางเพศและขจัดอารมณใคร
และใหปราศจากโรคภัยตางๆ
4. การแตงงานสามารถที่จะสรางครอบครัวที่ดีอันเปนฐานที่เขมแข็งสําหรับสังคมได ตาง
คนก็ตางมีหนาที่กัน สามีก็ทําหนาที่ในการหาเลี้ยงชีพ รับภาระคาใชจายและเลี้ยงดู สวนภรรยาก็
ทําหนาที่อบรมบมนิสัยเลี้ยงดูลูกๆ คอยจัดระเบียบสิ่งของตางๆ ที่มีอยูในบานใหเรียบรอย และวาง
ระเบียบใหกับชีวิตในบาน ดวยสิ่งนี้จะทําใหชีวิตในสังคมเกิดความมั่นคง
5. การแตงงานนั้นไดตอบสนองความตองการของการเปนพอแม ซึ่งเกิดไดจากการที่มีลูกๆ
ใหเลี้ยงดู
2
หุกมของการแตงงาน
1. การแตงงานเปนสุนัต (สงเสริมใหกระทํา) สําหรับผูที่มีความตองการทางเพศและไม
วิตกกังวลถึงตัวเองวาจะไปซินา(ประพฤตผิดทางเพศ) เนื่องจากการแตงงานนั้นมีคุณคาและ
ประโยชนมหาศาล สําหรับชายและหญิง และสําหรับปวงชนทั้งหลาย
2. การแตงงานเปนวาญิบ (สิ่งจําเปน) สําหรับผูที่กลัววาตนเองจะตกอยูในภาวะการซินา
หรือประพฤติผิดทางเพศถาเขาไมไดแตงงาน และเปนสิ่งที่สมควรสําหรับสองสามีภรรยาที่จะตอง
ตั้งเจตนาในการแตงงานของเขาทั้งสองนั้นวาเพื่อสรางความบริสุทธิ์ใจแกตัวเองและเพื่อปองกันตัว
จากการกระทําสิ่งที่พระองคอัลลอฮฺไดหามไว เมื่อตั้งเจตนาดังกลาวแลว การมีเพศสัมพันธของทั้ง
สองก็จะถูกบันทึกวาเปนเศาะดะเกาะฮฺประการหนึ่ง
การเลือกภรรยา
เป น สิ่ ง ที่ สุ นั ต สํ า หรั บ ผู ที่ ต อ งการจะแต ง งาน ให เ ลื อ กผู ห ญิ ง ที่ มี นิ สั ย รั ก ใคร ส ามี และ
สามารถใหบุตรไดหลายคน เปนผูที่บริสุทธิ์จากมลทิน มีศาสนาอยูในตัว
จากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ไดรายงานวา ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม ไดกลาวไววา
َ َ َ َ َ َ َ َ َ َ ْ َ َُْ َ ُ َ ْ ُ
،ﻳﻨـﻬﺎ َ
ِ ِ ِ و،وﺟـﻤﺎﻟـﻬﺎ ِ َ ،وﻟـﺤﺴﺒـﻬﺎ َ
ِ ،ﻟـﻤﺎﻟـﻬﺎ
ِ ِ :ﻷرﺑـﻊٍ »ﻳﻨﻜﺢ اﻟﻤﺮأة
ِ
ْ َ َ ِّ
َ َ َ ﺗﺮﺑﺖ َ َْ ْ َ
. ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ.«ﻳﺪاك ِ ِ ﻳﻦ ا ﺑﺬات
ِ ِ ﻓﺎﻇﻔﺮ
ความวา "ผูหญิงนั้นจะถูกแตงงานเนื่องดวยสาเหตุสี่ประการ คือ เนื่องจาก
ทรัพ ย สิน ของนาง หรื อ เนื่อ งจากวงศต ระกูล ของนาง หรือเนื่ อ งจากความ
สวยงามของนาง หรือเนื่องจากศาสนาของนาง ดังนั้นจงเลือกแตงงานกับสตรี
ที่มีศาสนาอยูในตัว แลวสองมือทานก็จะมีโชค" (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย 5090
และ มุสลิม 1466)
ผูหญิงที่ดีที่สุด
ผูหญิงที่ดีที่สุดนั้น คือ หญิงที่ศอลิหะฮฺ(สตรีที่มีคุณธรรม) ในยามที่ทานมองไปยังนางแลว
ทานจงมีความสุข เมื่อทานใหคําสั่งแกนางแลวนางก็จะปฏิบัติตาม และนางจะไมปฏิบัติในสิ่งที่
ทานไมพอใจ ไมวาดวยเรื่องของนางเอง หรือในเรื่องของทรัพยสินของทาน นางจะปฏิบัติในสิ่งที่
พระองคอัลลอฮฺสั่งและหลีกเลี่ยงในสิ่งที่พระองคทรงหาม
จากอั บดุ ล ลอฮฺ บิ น อั ม ร เราะฎิ ยั ล ลอฮฺ อัน ฮุ ม า เล า ว า ท า นนบี ศ็อ ลลั ล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ
วะสัลลัม กลาววา
ُ َ
. أﺧﺮﺟﻪ ﻣﺴﻠﻢ.«اﻟﺼﺎﻟـﺤﺔ ُ َ ْ َ ﻏﻴﺎ
اﻟﻤﺮأة َ ْ ُّ ﻣﺘﺎع ا ٌ َ َ َ ْ ُّ
ُ ْ َ َ ﻣﺘﺎع
ِ َ َ وﺧﺮﻴ »ا ﻏﻴﺎ
ِ
ความวา "โลกนี้ลวนเปนสิ่งที่ใหความสุข และสิ่งที่ใหความสุขที่ประเสริฐที่สุด
ในโลกก็คือผูหญิงที่ดี" (บันทึกโดย มุสลิม 1467)
3
วิทยปญญาของการบัญญัติอนุญาตใหมีภรรยาหลายคน
1. พระองคอัลลอฮฺ ไดอนุญาตใหผูชายมีสิทธิแตงงานกับผูหญิงไดไมเกินสี่คน โดยมี
เงื่อนไขวา ชายผูนั้นมีคุณสมบัติความสามารถทางดานรางกาย และความพรอมดานทรัพยสินเงิน
ทอง รวมทั้ ง ต อ งมี ค วามสามารถที่ จ ะให ค วามยุ ติ ธ รรมในระหว า งภรรยา การอนุ ญ าตเช น นี้
เนื่องจากวาจะทําใหเขาไดปกปองตัวเองจากการประพฤติที่เสื่อมทราม(จากการผิดประเวณี) และ
เปนการรักษาความบริสุทธิ์ของหญิงที่เขาแตงงานดวย(ไมใหพวกนางตองประพฤติผิดดวยการซิ
นา) เปนการทําความดีแกพวกนาง เพื่อจะไดมีการสืบวงศตระกูลและเปนการเพิ่มประชากรใหมาก
ขึ้นและเพิ่มจํานวนบาวที่จะทําอิบาดะฮฺตออัลลอฮฺอีกดวย
แตถาคิดวาจะไมยุติธรรมระหวางพวกนาง ก็ตองมีภรรยาเพียงคนเดียว หรือไมก็อนุญาต
ใหแตงกับทาสหญิงผูศรัทธาที่เขาครอบครองอยู และเขาไมจําเปนตองแบงปนอยางเทาเทียมกัน
ระหวางทาสีที่เขาครอบครอง
อัลลอฮฺไดตรัสวา
a ` _ ~ } | { z y x w v u tI
Hr q p o n m l k j i h g f e d c b
[٣/]اﻟﻨﺴﺎء
ความวา "และหากพวกเจาเกรงวาจะไมสามารถใหความยุติธรรมในบรรดาเด็ก
กําพราได ก็จงแตงงานกับผูที่ดีแกพวกเจาในหมูสตรี สองคนหรือสามคน หรือ
สี่คน แตถาพวกเจาเกรงวาพวกเจาจะใหความยุติธรรมไมได ก็จงมีแตหญิง
เดียว หรือไมก็หญิงที่มือขวาของพวกเจาครอบครองอยู(หมายถึงทาสหญิง)
นั่นเปนสิ่งที่ใกลกวาในการที่พวกเจาจะไมลําเอียง" (อัน-นิสาอ 3)
2. ในเมื่อพระองคไดทรงอนุญาตใหมีภรรยาหลายคนได ก็มีการหามไมใหรวมกับคนที่มา
จากตระกูล ใกลชิดกัน เชน แตงงานเอาทั้งพี่สาวและนองสาวในชวงเวลาเดียวกัน หรือในระหวาง
หญิ ง สาวเองกั บ น า หรื อ ป า ของนางในช ว งเวลาเดี ย วกั น เพราะจะทํ า ให เ กิ ด การตั ด ขาด
ความสัมพันธ ความผูกพันที่มีใหกัน และยังจะกอใหเกิดความบาดหมางกันในหมูเ ครือญาติ เพราะ
ความหึงหวงระหวางผูหญิงดวยกันนั้นเปนสิ่งที่รุนแรงมาก
การหมั้นหมายกับผูหญิง
สําหรับชายคนใดที่ตองการจะหมั้นกับหญิงคนหนึ่ง สุนัตใหเขาตองดูตัวนางกอนและดูสิ่ง
ที่จะสนับสนุนใหเกิดการแตงงานขึ้นจริงๆ ทั้งนี้ เวลาดูตัวตองอยูในที่เปดเผยไมใชสองตอสอง ที่
สําคัญหามสลามกับนาง หรือแตะตองตัวนางเด็ดขาด และหามเปดเผยในสิ่งที่ไดพบเห็นเกี่ยวกับ
ตัวนาง ในขณะที่ผูหญิงเองก็มีสิทธิจะมองดูชายที่ตองการจะหมั้นหมายกับนางเชนกัน ถาหาก
4
ชายคนใดไมสามารถที่จะดูฝายหญิงดวยตัวเองได ก็ใหสงตัวแทนผูหญิงคนหนึ่งที่นาเชื่อถือได ไปดู
หญิงที่หมายปองไว แลวมาบอกแกชายคนดังกลาวแทน
- หญิงใดที่สามีเสียชีวิตแลวนางไดแตงงานใหม ในวันปรโลกหญิงคนนั้นจะเปนสิทธิของ
สามีคนสุดทายของนาง
การหมั้นหญิงที่ถูกหมั้นอยูกอนหนาแลว
หามแลกเปลี่ยนรูปภาพในการหมั้นหรืออื่นๆ และหามชายผูหนึ่งไปหมั้นกับหญิงที่มีผูอื่น
หมั้นอยูแลวหรือจับจองแลว จนกวาชายผูนั้นจะถอนหมั้น หรือตองไดรับการอนุญาตจากชายผูนั้น
เสียกอน หรือชายคนแรกถูกบอกยกเลิกจากฝายหญิ่ง ถาเขาไปหมั้นซอนชายอื่น การหมั้นหมาย
ของเขานั้นถือวาใชได แตเขาจะเปนผูที่ทําบาปและทรยศตออัลลอฮฺและรอซูลของพระองค
วาญิบ(จําเปน)สําหรับผูปกครองของฝายหญิงที่จะตองหาผูชายที่มีคุณธรรมใหแกลูกสาว
ของเขาไดแตงงาน ถือวาไมเปนไรถาหากจะเสนอลูกสาว พี่สาว หรือนองสาว ใหแกชายที่เปนคนดี
มีคุณธรรมดวยเจตนาเพื่อใหแตงงานกัน
หามแสดงเจตนจํานงอยางตรงไปตรงมาในการสูขอหรือขอหมั้นกับหญิงที่อยูในชวงอิด
ดะฮฺ(ชวงเวลาแหงการรอคอย)จากการตายของสามี หรือหญิงที่ถูกหยาขาดจากสามีคนเกา แต
อนุญาตใหแสดงเจตนาอยางเปนนัย(ไมเปดเผยโจงแจง) เชน กลาวแกหญิงที่อยูในอิดดะฮฺวา "คน
อยางคุณนี้ฉันชอบนะ" และทางฝายหญิงก็อาจจะกลาววา "ฉันเองก็ไมไดเกลียดคุณ" หรือคําอื่นๆ
ในลักษณะนี้
และอนุญาตใหกลาวสูขอหญิงผูอยูในอิดดะฮฺดวยคําพูดที่ชัดเจนหรือเปนนัยไดสําหรับ
สามีของนางซึ่งหยาจากนางแบบบาอินที่ไมถึงสามครั้ง และไมอนุญาตใหผูที่ไมใชสามีกลาวสูขอ
หญิงที่ถูกหยาแบบร็อจญอีย(ยังอยูในสภาพที่สามารถคืนดีกับสามีคนเกาได)ในขณะที่นางอยู
ในชวงอิดดะฮฺไมวาจะดวยคําพูดที่ชัดเจนหรือเปนนัยก็ตาม
การขออนุญาตจากผูหญิงในการแตงงาน
5
จําเปนสําหรับผูปกครองของฝายหญิงที่ไดรับมอบหมายใหทําการแตงงานที่จะตองขอ
อนุญาตจากนางกอนการทําพิธีแตงงาน ไมวานางจะเปนสาวที่ยังไมเคยผานการแตงงานมากอน
หรือเปนหมายแลวก็ตาม และหามบังคับใหนางแตงงานกับคนที่นางัรังเกียจ หากมีการแตงงาน
โดยที่นางไมไดยินยอมดวย นางก็มีสิทธิที่จะยกเลิกการแตงงานได
1. รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากทานนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม ไดกลาววา
َ ََْ ُْ َ ُ ْ ْ
ُ َ ْ ُ َوﻻ،ﺗﺴﺘﺄﻣـﺮ ُ ِّ َ ﻳﻨﻜﺢ
َ َ َ ْ ُ اﻷﻳـﻢ َﺣ ُ َ ْ ُ »ﻻ
ﻳﺎ:ﺗﺴﺘﺄذن« ﻗﺎﻟﻮا اﻛﻜﺮ ﺣ
ِ ﻳﻨﻜﺢ
َ ُ َْ ْ َ
. ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ.« »أن ﺗﺴﻜﺖ:رﺳﻮل اﷲ و ﻴﻒ إذﻧﻬﺎ؟ ﻗﺎل
ความวา "หามทําการแตงงานใหหญิงหมาย จนวาจะถูกสั่งจากนางเองใหทํา
การแตงงาน และหามทําการแตงงานใหกับสาวที่ยังไมเคยแตงงานจนกวาจะ
ไดรับการยินยอมจากนางใหทําการแตงงานได" บรรดาเศาะหาบะฮฺถามวา
“โอทาน รอซูลุลลอฮฺ การยินยอมของนางนั้นเปนแบบไหน ?” ทานรอซูลก็ตอบ
วา “การนิ่งเงียบของนาง นั่นคือการยินยอมแลว” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย
5136 และมุสลิม 1419)
การอานคุฏบะฮฺในการแตงงาน
สุนัตสําหรับผูที่ทําการแตงงาน ใหอานคุฏบะฮฺ อัล-หาญะฮฺ (การใหโอวาทตามที่มีปรากฏ
ในรายงานจากทานนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม) กอนการทําพิธีแตงงาน ดังที่ไดอธิบายแลว
ในคุฏบะฮฺวันศุกร ซึ่งมันถูกใชกลาวในการแตงงานและอื่นๆ เชน เริ่มดวย
« إﻟﺦ...»إن اﺤﻟﻤﺪ ﺤﻧﻤﺪه وﻧﺴﺘﻌﻴﻨﻪ
“แทจริงการสรรเสริญเปนสิทธิของพระองคอัลลอฮฺ เราขอสรรเสริญพระองคและขอความ
ชวยเหลือจากพระองค....” จนจบ
6
จากนั้นใหอานอายะฮฺอัลกุรอานที่เกี่ยวของตามที่มีปรากฏในรายงาน หลังจากนัน้ จึงทําพิธี
สมรส โดยใหมีพยานเปนผูชายสองคน
การแสดงความยินดีกับการแตงงาน
การแสดงความยินดีกับการแตงงานเปนสิ่งที่สนับสนุนใหกระทํา ดังที่รายงานจาก อบู
ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วา แทจริงแลวทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อ
ทานแสดงความยินดีทานก็จะกลาววา
أﺧﺮﺟﻪ أﺑﻮ.«ﺧﺮﻴ
َ
ﻲﻓ َ ُ َ ْ َ وﺟـﻤﻊ
ﺑﻴﻨﻜﻤﺎ ْ ُ ْ َ َ وﺑﺎرك
َ َ َ َ ،ﻋﻠﻴﻜﻢ ْ ُ َ ﺑﺎرك اﷲ
َ َ َ َ ،ﻟﻜﻢ َ َ َ»
ٍ ِ
.داود واﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ
(คําอาน บาเราะกัลลอฮุ ละกุม, วะ บาเราะกะ อะลัยกุม, วะ ญะมะอะ บัยนะ
กุมา ฟ ค็อยรฺ)
ความวา “ขอใหอัลลอฮทรงประทานความบารอกัตแกพวกทานทั้งหลาย และ
ขอความประเสริฐจงประสบแดพวกทานทั้งหลาย และขอใหพระองครวมทาน
ทั้งหลายนั้นอยูในคุณความดี” (หะดีษ เศาะฮีหฺ บันทึกโดย อบู ดาวูด 2130
และอิบนุ มาญะฮฺ 1905 สํานวนรายงานนี้เปนของทาน)
ชวงเวลาสําหรับการแตงงานของฝายหญิง
อนุญาตใหจัดพิธีแตงงานกับหญิงในขณะที่นางปราศจากประจําเดือน หรืออยูในชวง
ประจําเดือนก็ได แตหามทําการหยาในขณะที่นางอยูในชวงที่มีประจําเดือน ดังที่จะไดอธิบายใน
เรื่องที่เกี่ยวกับการหยาตอไป
เงื่อนไขของการแตงงาน
1. ตองระบุเจาะจงวาคนใดที่จะแตงงาน ทั้งจากฝายเจาบาวและเจาสาว
2. การยินยอมของทั้งสองคูบาวสาว
3. ตองมีวะลียหรือผูปกครอง ไมอนุญาตใหทําการแตงงานหญิงใดเวนแตตองมีผูปกครอง
4. การแตงงานตองมี มะฮัร (สินสอด)
5. คูบาวสาวทั้งสองตองปราศจากขอหามของการแตงงาน ที่หามใหมีการแตงงานได ไม
วาจะเปนเพราะเหตุเชื้อสาย หรือสาเหตุการรวมแมนม หรือความแตกตางในดานศาสนาของทั้ง
สอง เปนตน
7
เงื่อนไขของวะลีย
วะลีย หรือผูปกครองของฝายหญิงที่จะทําการแตงงานนางนั้น มีเงื่อนไขวาตองเปนผูชาย
เปนไท บรรลุวัยแหงศาสนภาวะ มีสติปญญา เปนคนที่มีความคิดแยกแยะได และตองนับถื อ
ศาสนาเดียวกันกับเจาสาว
สําหรับเจาหนาที่ผูมีอํานาจนั้นมีสิทธิที่จะทําการแตงงานหญิงกาฟรที่ไมมีผูปกครองได
ผูปกครองนั้นก็คือ พอของหญิง ซึ่งเปนผูที่มีความเหมาะสมที่สุดในการทําการแตงงาน
ใหกับเจาสาว ถัดไปก็คือผูที่พอไดสั่งเสียใหทําการแตงงานแทนเขา ถัดไปก็เปนปูของนาง จากนั้นก็
เปนลูกชายของนาง จากนั้นก็พี่ชายหรือนองชายของนาง จากนั้นก็ลุงหรืออา(พี่นองของพอ)ของ
นาง หลังจากนั้นก็คือผูที่มีเชื้อสายตระกูลใกลชิดกับนางมากที่สุด สุดทายก็คือเจาหนาที่ผูมีอํานาจ
(วะลีย สุลฏอน)
การเปนพยานในการแตงงาน
สุนัตใหมีพยานในการแตงงาน ซึ่งตองเปนชายสองคนที่มีคุณธรรมความยุติธรรม และเปน
มุกัลลัฟ (บุคคลที่บรรลุวัยทางศาสนภาวะและเปนบุคคลปกติที่ตองปฏิบัติศาสนกิจตามบัญญัติ
ศาสนา)
หากการแตงงานมีพยานรูเห็นสองคนและมีประกาศใหรับทราบ ก็ถือวาเปนพิธีที่สมบูรณ
ที่สุด แตถาหากไดมีการประกาศใหรับทราบโดยไมมีพยานสองคน หรือมีพยานรูเห็นแตไมได
ประกาศ ก็ถือวาการแตงงานนั้นใชไดเชนกัน
หุกมการแตงงานโดยปราศจากวะลีย
ถา ผู ปกครองของฝ า ยหญิงไม รับที่จะเปน วะลีย หรือไม มีเ งื่ อ นไขพรอมที่ จ ะเป น วะลีย
หรือไมอยูและไมสามารถที่จะเรียกเขามาเปนวะลียไดเวนแตดวยความยากลําบาก ก็ใหผูปกครอง
คนอื่นถัดไปจากเขามาทําการแตงงานใหเจาสาวแทน
การแตงงานโดยไมมีผูปกครองนั้นใชการไมไดเพราะไมถูกวิธี จําเปนจะตองยกเลิกการ
แตงงานนั้นกับผู พิพากษา หรือดวยการหยารางจากเจา บาวตอเจา สาว แตถาหากเจาบ าวมี
เพศสัมพันธกับเจาสาวดวยการแตงงานที่ใชไมไดดังกลาว ก็จําเปนตองจายสินสอดใหกับนาง
เนื่องจากไดมีเพศสัมพันธกับนางแลว
ความพรอมและเหมาะสมของคูบาวสาว
ความพรอมและความเหมาะสมระหวางสองสามีภรรยา คือความเหมาะสมในดานศาสนา
และการเปนไท แตถาผูปกครองทําการแตงงานหญิงสาวที่ดีคูกับชายชั่ว หรือหญิงที่เปนไทคูกับ
ชายที่เปนทาส การแตงงานนั้นถือวาถูกตองตามพิธี แตเปนสิทธิสําหรับเจาสาวที่สามารถเลือกได
วาจะอยูหรือยกเลิกการแตงงานนั้น
8
เปาหมายของการมีเพศสัมพันธ
เปาหมายของการมีเพศสัมพันธ มีสามประการ คือ 1) รักษาสกุล 2) ระบายน้ํา(อสุจิ)ที่
เปนพิษภัยตอรางกายเมื่อถูกกังขังไวในรางกายโดยไมไดระบายออก 3) สนองความตองการและ
เพื่อไดรับความสุขและเสพสุ ขกั บนิอฺมัตที่อัลลอฮฺประทานให ประการสุดทายนี้จะบรรลุอยา ง
สมบูรณแบบที่สุดถาหากเกิดขึ้นในสวนสวรรค
สิ่งที่สามีตองทําในเมื่อเขาหองนอนกับภรรยาของเขา
1. สุนัตสําหรับชายที่ตองการมีเพศสัมพันธกับภรรยาของเขา ตองเริ่มดวยความออนโยน
กับนาง ดวยการเอามือของเขาวางบนศีรษะของนางและกลาวนามของพระองคอัลลอฮฺ และขอพร
ดวยความประเสริฐ หลังจากนั้นก็กลาววา
َ ِّ َ ْ َ ُ ُ َ َ ْ َ َ َ ْ َ َ َ ْ َ َ َ َ ْ َ َ ُ َ ْ َ ِّ ُ »
ﺮﺷﻫﺎ وأﻋﻮذ ِﺑﻚ ِﻣﻦ،ﻋﻠﻴـﻪ
ِ اﻟﻠـﻬـﻢ إ أﺳﺄﻟﻚ ﺧﺮﻴﻫﺎ وﺧﺮﻴ ﻣﺎ ﺟﺒﻠﺘﻬﺎ
ْ َ َ َ ْ َ َ ِّ َ ْ َ
. أﺧﺮﺟﻪ أﺑﻮ داود واﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ.«ﻋﻠﻴـﻪ
ِ وﻣﻦ ﺮﺷ ﻣﺎ ﺟﺒﻠﺘﻬﺎ
ِ
(คําอาน อัลลอฮุมมะ อินนี อัสอะลุกะ ค็อยเราะฮา, วะ ค็อยเราะ มา ญะบัล
ตะฮา อะลัยฮิ, วะ อะอูซุบิกะ มิน ชัรริฮา, วะ มิน ชัรริ มา ญะบัลตะฮา อะ
ลัยฮิ)
ความวา “โออัลลอฮฺ แทจริงฉันขอตอพระองคจากความดีของนาง และความดี
ของสิ่งที่พระองคไดทรงใหนางเกิดมาดวยสิ่งนั้น และฉันขอความคุมครองตอ
พระองคใหพนจากความชั่ว รายของนางทั้งปวง และความชั่ วรายของสิ่ง ที่
พระองคไดทรงใหนางเกิดมาดวยสิ่งนั้นดวยเถิด” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดย
อบู ดาวูด 2160 สํานวนรายงานนี้เปนของทาน และ อิบนุ มาญะฮฺ 2252)
2. สุนัตใหกลาวพระนามของอัลลอฮฺกอนจะสอดใสอวัยวะเพศ และกลาวดุอาอวา
ََْ َ َ َ َ َْ ِّ َ َ َ َ ْ َ ْ ِّ ْ
.«رزﻗﺘﻨﺎ وﺟﻨﺐ اﻟﺸﻴﻄﺎن ﻣﺎ
ِ ،اﻟﻠـﻬـﻢ َﺟﻨﺒﻨﺎ اﻟﺸﻴﻄﺎن
ُ ،ﺑﺎﺳﻢ اﷲ
ِ ِ»
(คําอาน บิสมิลลาฮฺ, อัลลอฮุมมัจญนิบนัช ชัยฏอน, วะ ญันนิบิชชัยฏอน มา
เราะซักตะนา)
ความวา "ดวยนามของอัลลอฮฺ โออัลลอฮฺ ขอพระองคไดทรงใหชัยฏอนอยูหาง
จากเราดวยเถิด และขอพระองคไดทรงใหชัยฏอนอยูหางไกลจากสิ่งที่พระองค
ประทานใหกับเรา(หมายถึงลูกที่ไดจากการมีเพศสัมพันธในครั้งนี้)"
เพราะแทจริงแลว ถาหากอัลลอฮฺกําหนดใหมีบุตรขึ้นระหวางเขาทั้งสองเพราะ
การรวมหลับนอนในครั้งนั้น ชัยฏอนก็ไมสามารถทําอันตรายแกลูกคนนี้ไดเลย
(บันทึก โดยอัล-บุคอรีย 6388 และ มุสลิม 1434)
9
3. อนุญาตใหสามีรวมเพศกับภรรยาทางอวัยวะเพศของนางจากดานไหนก็ได ไมวา จะเปน
จากดานหนาหรือดานหลัง แตหามมีเพศสัมพันธทางทวารหนัก
การอาบน้ํารวมกัน
เมื่อสามีรวมเพศสัมพันธกับภรรยาของเขาแลวยังตองการรวมอีกครั้ง ก็สุนัตสําหรับเขาให
อาบน้ําละหมาด เพื่อจะทําใหรางกายกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น แตถาเขาอาบน้ําก็จะเปนการดีกวา
และอนุญาตใหเขาทั้งสองอาบน้ํารวมกันในที่เดียวกัน ถึงแมจะมีการมองเห็นซึ่งกันและกันใน
หองน้ําในบานของเขาทั้งสองนั้นก็ตามที
รายงานจากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ไดกลาววา
وﻫﻮ اﻟﻔﺮق،ﺎﻛن رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ ﻳﻐﺘﺴﻞ ﻲﻓ اﻟﻘﺪح
واﻟﻔﺮق: ﻗﺎل ﺳﻔﻴﺎن: ﻗﺎل ﻗﺘﻴﺒﺔ،و ﻨﺖ أﻏﺘﺴﻞ أﻧﺎ وﻫﻮ ﻲﻓ اﻹﻧﺎء اﻟﻮاﺣﺪ
. ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ.ﺛﻼﺛﺔ آﺻﻊ
ความวา "ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดอาบน้ําจากน้ําใน เกาะ
ดะห (ภาชนะใสน้ํารูปรางคลายกะละมังกนลึก) มันคือ ฟรก (มาตราการตวง
ประเภทหนึ่ง) และฉันเองก็อาบน้ําจากภาชนะเดียวกันรวมกับทาน" กุตัยบะฮฺ
ผูรายงานหะดีษกลาววา : ซุฟยาน ไดอธิบายวา น้ําใน ฟรก เทากับ สาม ศออ
(บันทึกโดย อัล-บุคอรีย 250 และ มุสลิม 319 สํานวนรายงานนี้เปนของทาน)
สุนัตสําหรับทั้งสองคนไมใหนอนในสภาพที่มีุนุบ(หลังการมีเพศสัมพันธโดยที่ยังไมได
อาบน้ํา) เวนแตวาทั้งสองนั้นไดอาบน้ําละหมาดกอน
10