You are on page 1of 12

การแตงงาน (บทนํา)

﴾‫﴿ﻛﺘﺎب اﺠﺎﻜح ـ ﻣﻘﺪﻣﺔ‬


[ ไทย – Thai – ‫] ﺗﺎﻳﻼﻧﺪي‬

มุหัมมัด อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย

แปลโดย : ริซัลย สะอะ


ผูตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน
แหลงอางอิง : หนังสือมุคตะศ็อร อัล-ฟกฮิล อิสลามีย

2009 - 1430
‫﴿ﻛﺘﺎب اﺠﺎﻜح ـ ﻣﻘﺪﻣﺔ﴾‬
‫» ﺑﺎﻟﻠﻐﺔ اﺤﻛﺎﻳﻼﻧﺪﻳﺔ «‬

‫ﺤﻣﻤﺪ ﺑﻦ إﺑﺮاﻫﻴﻢ اﺤﻛﻮﺠﻳﺮي‬

‫ﺗﺮﻤﺟﺔ‪ :‬رﻳﺰال أﻤﺣﺪ‬

‫ﻣﺮاﺟﻌﺔ‪ :‬ﺻﺎﻲﻓ ﻋﺜﻤﺎن‬

‫ﻣﺼﺪر ‪ :‬ﻛﺘﺎب ﺨﻣﺘﺮﺼ اﻟﻔﻘﻪ اﻹﺳﻼﻲﻣ‬

‫‪2009 - 1430‬‬
ดวยพระนามของอัลลอฮฺ ผูท รงเมตตา ปรานียงิ่ เสมอ

การแตงงาน
ความเขาใจวาดวยการสมรส
การแตงงานและการมีครอบครัวเปนวิถีทางหนึ่งที่อัลลอฮฺไดกําหนดแกสรรพสิ่งที่พระองค
สรางขึ้นมา มันเปนสิ่งที่ครอบคลุมทั้งสรรพสัตวและพืชพรรณตางๆ ดวย
สําหรับมนุษยนั้นอัลลอฮฺไดสรางขึ้นมาแตกตางจากสรรพสิ่งอื่นๆ ที่ไมมีขอบเขตดานการ
สนองความใครโดยสิ้นเชิง และอัลลอฮฺนั้นไดวางกรอบแนวทางและกฎระเบียบที่ชัดเจนเหมาะสม
กับการเปนสัตวประเสริฐ เพื่อที่จะรักษาชื่อเสียงเกียรติยศและวงศตะกูลของมนุษยเอง สิ่งเหลานี้
ยอมจะรักษาไดก็ตอเมื่อมีการแตงงานที่ถูกตอง และการแตงงานนั้นยอมกอใหเกิดความสัมพันธ
กันระหวางผูชายกับผูหญิงที่มีเกียรติ บนฐานแหงความพอใจระหวางกัน การใหและการรับ และมี
ความรักใครซึ่งกันและกัน
การแตงงานเปนการสนองตออารมณดวยทางที่ถูกตอง และเพื่อที่จะรักษาเชื้อสายวงศ
ตระกูลใหสามารถดํารงสืบสานตอไปได และปกปองสตรีเพศจากการเปนเหยื่อถูกกระทําจากใครก็
ตามที่ประสงคไมดีกับนาง

ความประเสริฐของการแตงงาน
การแตงงานนั้นเปนแบบอยางที่ไดรับการสนับสนุนอยางที่สุดของบรรดาศาสนทูต และ
เปนแนวทางที่รอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม สงเสริมมากยิ่งนัก ดังที่ไดระบุในอายะฮฺ
และหะดีษดังตอไปนี้
1. อัลลอฮฺไดตรัสไววา
c b a ` _ ~ } | { z yI
[٢١/‫ ]اﻟﺮوم‬Hn m l k j i h g f e d
ความวา "ประการหนึ่งจากสัญลักษณทั้งหลายของพระองคนั้น คือ ทรงสราง
คูครองใหพวกเจาใหแกตัวของพวกเจาเอง เพื่อพวกเจานั้นจะไดมีความสุขอยู
ดวยกัน และไดทรงใหมีความรักใครและเมตตาระหวางกัน แทจริงแลวในกรณี
นี้ ยอมเปนสัญญาณใหแกหมูชนผูใครครวญทั้งหลาย" (อัรรูม 21)

2. อัลลอฮฺไดตรัสไววา
[٣٨ /‫ ]اﻟﺮﻋﺪ‬H...u t s r q p o n m lI
ความวา “และโดยแนนอน เราไดสงบรรดาศาสนทูตมากอนหนาเจา และเราได
ใหพวกเขามีภริยาและลูกหลาน ...” ( อัรเราะอฺดุ 38)
1
3. จากทานอิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กลาววา พวกเราเปนเด็กหนุม ทีอ่ ยูก บั ทานรอซู
ลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ซึ่งเราไมมีทรัพยสินอะไรเลย(เพื่อสรางครอบครัว) ทานจึงได
กลาวกับเราวา
ْ ُّ َ َ ُ َ ْ َ َ َ ْ َ َ َ َ َ َ َ ْ
َ َ‫ﻟﻠﺒ‬ َ ،‫اﻟﺸﺒﺎب‬
َ َ َ ْ َ ‫»َﻳﺎ‬
،‫ﺮﺼ‬
ِ ِ ‫ ﻓﺈﻧـﻪ أﻏﺾ‬،‫ﻣﻦ اﺳﺘﻄﺎع اﻛﺎءة ﻓﻠﻴﺰﺘوج‬ ِ ِ ‫ﻣﻌﺮﺸ‬
ٌ َ ُ َ ُ َ ْ َْ َ َ ْ َ َْ ْ َ ْ َ َ ْ َْ ُ َ ْ ََ
.«‫ﺑﺎﻟﺼﻮم ﻓﺈﻧـﻪ ﻟـﻪ ِوﺟﺎء‬
ِ ِ ‫ﻓﻌﻠﻴـﻪ‬
ِ ‫ﻳﺴﺘﻄﻊ‬
ِ ‫ وﻣﻦ ﻟـﻢ‬،‫ﻟﻠﻔﺮج‬ ِ ِ ‫وأﺣﺼﻦ‬
.‫ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬
ความวา "โอบรรดาชายหนุมทั้งหลาย ผูใดในหมูพวกเจานี้มีความสามารถ(ใน
การครองคู ) ก็ จงแต ง งานเถิ ด เพราะแทจ ริ ง นั้ น (การแต ง งาน)เปน การลด
สายตาใหต่ําลงได อีกทั้งใหพวกเจาสามารถสงวนอวัยวะเพศได และผูใ ดทีไ่ มมี
ความสามารถก็จงถือศีลอดเสียเถิด เพราะการถือศีลอดเปนการลดอารมณ
เพื่อใหทุเลาลง" ( บันทึกโดย อัล-บุคอรีย 5066 และมุสลิม 1400)

ความหมายการแตงงาน
การแตงงาน (นิกาห หรือ ซะวาญจ) นั้นคือ พันธะสัญญาตามหลักศาสนา ที่จัดใหมีขึ้น
เพื่อใหฝายชายและหญิงนั้นสามารถหาความสุขซึ่งกันและกันจากคูครองของเขาได

ิวิทยปญญาของการบัญญัติใหมีการแตงงาน
1. การแต ง งานเป น บรรยากาศที่ ดี ซึ่ ง นํ า ไปสู ก ารสร า งรากฐานและความสั ม พั น ธ ใ น
ครอบครัวที่เขมแข็ง เปนการทําใหจิตใจบริสุทธิ์จากพฤติกรรมเสื่อมทราม กอใหเกิดความสงบสุข
เนื่องจากความรักใครที่เกิดขึ้นระหวางสามีภรรยา
2. การแตงงานเปนวิธีการที่ดีที่สุดในการใหกําเนิดลูกและบุตรหลาน และเพื่อสืบสานวงศ
ตระกูลตอไป ซึ่งจะกอใหเกิดการทําความรูจักกัน สัมพันธไมตรี การเอื้อเฟอเผื่อแผ การชวยเหลือ
ซึ่งกันและกัน
3. การแตงงานเปนวิธีที่ดีที่สุดในการสนองตอความตองการทางเพศและขจัดอารมณใคร
และใหปราศจากโรคภัยตางๆ
4. การแตงงานสามารถที่จะสรางครอบครัวที่ดีอันเปนฐานที่เขมแข็งสําหรับสังคมได ตาง
คนก็ตางมีหนาที่กัน สามีก็ทําหนาที่ในการหาเลี้ยงชีพ รับภาระคาใชจายและเลี้ยงดู สวนภรรยาก็
ทําหนาที่อบรมบมนิสัยเลี้ยงดูลูกๆ คอยจัดระเบียบสิ่งของตางๆ ที่มีอยูในบานใหเรียบรอย และวาง
ระเบียบใหกับชีวิตในบาน ดวยสิ่งนี้จะทําใหชีวิตในสังคมเกิดความมั่นคง
5. การแตงงานนั้นไดตอบสนองความตองการของการเปนพอแม ซึ่งเกิดไดจากการที่มีลูกๆ
ใหเลี้ยงดู

2
หุกมของการแตงงาน
1. การแตงงานเปนสุนัต (สงเสริมใหกระทํา) สําหรับผูที่มีความตองการทางเพศและไม
วิตกกังวลถึงตัวเองวาจะไปซินา(ประพฤตผิดทางเพศ) เนื่องจากการแตงงานนั้นมีคุณคาและ
ประโยชนมหาศาล สําหรับชายและหญิง และสําหรับปวงชนทั้งหลาย
2. การแตงงานเปนวาญิบ (สิ่งจําเปน) สําหรับผูที่กลัววาตนเองจะตกอยูในภาวะการซินา
หรือประพฤติผิดทางเพศถาเขาไมไดแตงงาน และเปนสิ่งที่สมควรสําหรับสองสามีภรรยาที่จะตอง
ตั้งเจตนาในการแตงงานของเขาทั้งสองนั้นวาเพื่อสรางความบริสุทธิ์ใจแกตัวเองและเพื่อปองกันตัว
จากการกระทําสิ่งที่พระองคอัลลอฮฺไดหามไว เมื่อตั้งเจตนาดังกลาวแลว การมีเพศสัมพันธของทั้ง
สองก็จะถูกบันทึกวาเปนเศาะดะเกาะฮฺประการหนึ่ง

การเลือกภรรยา
เป น สิ่ ง ที่ สุ นั ต สํ า หรั บ ผู ที่ ต อ งการจะแต ง งาน ให เ ลื อ กผู ห ญิ ง ที่ มี นิ สั ย รั ก ใคร ส ามี และ
สามารถใหบุตรไดหลายคน เปนผูที่บริสุทธิ์จากมลทิน มีศาสนาอยูในตัว
จากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ไดรายงานวา ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม ไดกลาวไววา
َ َ َ َ َ َ َ َ َ َ ْ َ َُْ َ ُ َ ْ ُ
،‫ﻳﻨـﻬﺎ‬ َ
ِ ِ ِ ‫ و‬،‫وﺟـﻤﺎﻟـﻬﺎ‬ ِ َ ،‫وﻟـﺤﺴﺒـﻬﺎ‬ َ
ِ ،‫ﻟـﻤﺎﻟـﻬﺎ‬
ِ ِ :‫ﻷرﺑـﻊ‬ٍ ‫»ﻳﻨﻜﺢ اﻟﻤﺮأة‬
ِ
ْ َ َ ِّ
َ َ َ ‫ﺗﺮﺑﺖ‬ َ َْ ْ َ
.‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫ﻳﺪاك‬ ِ ِ ‫ﻳﻦ‬ ‫ا‬ ‫ﺑﺬات‬
ِ ِ ‫ﻓﺎﻇﻔﺮ‬
ความวา "ผูหญิงนั้นจะถูกแตงงานเนื่องดวยสาเหตุสี่ประการ คือ เนื่องจาก
ทรัพ ย สิน ของนาง หรื อ เนื่อ งจากวงศต ระกูล ของนาง หรือเนื่ อ งจากความ
สวยงามของนาง หรือเนื่องจากศาสนาของนาง ดังนั้นจงเลือกแตงงานกับสตรี
ที่มีศาสนาอยูในตัว แลวสองมือทานก็จะมีโชค" (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย 5090
และ มุสลิม 1466)

ผูหญิงที่ดีที่สุด
ผูหญิงที่ดีที่สุดนั้น คือ หญิงที่ศอลิหะฮฺ(สตรีที่มีคุณธรรม) ในยามที่ทานมองไปยังนางแลว
ทานจงมีความสุข เมื่อทานใหคําสั่งแกนางแลวนางก็จะปฏิบัติตาม และนางจะไมปฏิบัติในสิ่งที่
ทานไมพอใจ ไมวาดวยเรื่องของนางเอง หรือในเรื่องของทรัพยสินของทาน นางจะปฏิบัติในสิ่งที่
พระองคอัลลอฮฺสั่งและหลีกเลี่ยงในสิ่งที่พระองคทรงหาม
จากอั บดุ ล ลอฮฺ บิ น อั ม ร เราะฎิ ยั ล ลอฮฺ อัน ฮุ ม า เล า ว า ท า นนบี ศ็อ ลลั ล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ
วะสัลลัม กลาววา
ُ َ
.‫ أﺧﺮﺟﻪ ﻣﺴﻠﻢ‬.«‫اﻟﺼﺎﻟـﺤﺔ‬ ُ َ ْ َ ‫ﻏﻴﺎ‬
‫اﻟﻤﺮأة‬ َ ْ ُّ ‫ﻣﺘﺎع ا‬ ٌ َ َ َ ْ ُّ
ُ ْ َ َ ‫ﻣﺘﺎع‬
ِ َ َ ‫وﺧﺮﻴ‬ ‫»ا ﻏﻴﺎ‬
ِ
ความวา "โลกนี้ลวนเปนสิ่งที่ใหความสุข และสิ่งที่ใหความสุขที่ประเสริฐที่สุด
ในโลกก็คือผูหญิงที่ดี" (บันทึกโดย มุสลิม 1467)

3
วิทยปญญาของการบัญญัติอนุญาตใหมีภรรยาหลายคน
1. พระองคอัลลอฮฺ ไดอนุญาตใหผูชายมีสิทธิแตงงานกับผูหญิงไดไมเกินสี่คน โดยมี
เงื่อนไขวา ชายผูนั้นมีคุณสมบัติความสามารถทางดานรางกาย และความพรอมดานทรัพยสินเงิน
ทอง รวมทั้ ง ต อ งมี ค วามสามารถที่ จ ะให ค วามยุ ติ ธ รรมในระหว า งภรรยา การอนุ ญ าตเช น นี้
เนื่องจากวาจะทําใหเขาไดปกปองตัวเองจากการประพฤติที่เสื่อมทราม(จากการผิดประเวณี) และ
เปนการรักษาความบริสุทธิ์ของหญิงที่เขาแตงงานดวย(ไมใหพวกนางตองประพฤติผิดดวยการซิ
นา) เปนการทําความดีแกพวกนาง เพื่อจะไดมีการสืบวงศตระกูลและเปนการเพิ่มประชากรใหมาก
ขึ้นและเพิ่มจํานวนบาวที่จะทําอิบาดะฮฺตออัลลอฮฺอีกดวย
แตถาคิดวาจะไมยุติธรรมระหวางพวกนาง ก็ตองมีภรรยาเพียงคนเดียว หรือไมก็อนุญาต
ใหแตงกับทาสหญิงผูศรัทธาที่เขาครอบครองอยู และเขาไมจําเปนตองแบงปนอยางเทาเทียมกัน
ระหวางทาสีที่เขาครอบครอง
อัลลอฮฺไดตรัสวา
a ` _ ~ } | { z y x w v u tI
Hr q p o n m l k j i h g f e d c b
[٣/‫]اﻟﻨﺴﺎء‬
ความวา "และหากพวกเจาเกรงวาจะไมสามารถใหความยุติธรรมในบรรดาเด็ก
กําพราได ก็จงแตงงานกับผูที่ดีแกพวกเจาในหมูสตรี สองคนหรือสามคน หรือ
สี่คน แตถาพวกเจาเกรงวาพวกเจาจะใหความยุติธรรมไมได ก็จงมีแตหญิง
เดียว หรือไมก็หญิงที่มือขวาของพวกเจาครอบครองอยู(หมายถึงทาสหญิง)
นั่นเปนสิ่งที่ใกลกวาในการที่พวกเจาจะไมลําเอียง" (อัน-นิสาอ 3)

2. ในเมื่อพระองคไดทรงอนุญาตใหมีภรรยาหลายคนได ก็มีการหามไมใหรวมกับคนที่มา
จากตระกูล ใกลชิดกัน เชน แตงงานเอาทั้งพี่สาวและนองสาวในชวงเวลาเดียวกัน หรือในระหวาง
หญิ ง สาวเองกั บ น า หรื อ ป า ของนางในช ว งเวลาเดี ย วกั น เพราะจะทํ า ให เ กิ ด การตั ด ขาด
ความสัมพันธ ความผูกพันที่มีใหกัน และยังจะกอใหเกิดความบาดหมางกันในหมูเ ครือญาติ เพราะ
ความหึงหวงระหวางผูหญิงดวยกันนั้นเปนสิ่งที่รุนแรงมาก

การหมั้นหมายกับผูหญิง
สําหรับชายคนใดที่ตองการจะหมั้นกับหญิงคนหนึ่ง สุนัตใหเขาตองดูตัวนางกอนและดูสิ่ง
ที่จะสนับสนุนใหเกิดการแตงงานขึ้นจริงๆ ทั้งนี้ เวลาดูตัวตองอยูในที่เปดเผยไมใชสองตอสอง ที่
สําคัญหามสลามกับนาง หรือแตะตองตัวนางเด็ดขาด และหามเปดเผยในสิ่งที่ไดพบเห็นเกี่ยวกับ
ตัวนาง ในขณะที่ผูหญิงเองก็มีสิทธิจะมองดูชายที่ตองการจะหมั้นหมายกับนางเชนกัน ถาหาก
4
ชายคนใดไมสามารถที่จะดูฝายหญิงดวยตัวเองได ก็ใหสงตัวแทนผูหญิงคนหนึ่งที่นาเชื่อถือได ไปดู
หญิงที่หมายปองไว แลวมาบอกแกชายคนดังกลาวแทน
- หญิงใดที่สามีเสียชีวิตแลวนางไดแตงงานใหม ในวันปรโลกหญิงคนนั้นจะเปนสิทธิของ
สามีคนสุดทายของนาง

การหมั้นหญิงที่ถูกหมั้นอยูกอนหนาแลว
หามแลกเปลี่ยนรูปภาพในการหมั้นหรืออื่นๆ และหามชายผูหนึ่งไปหมั้นกับหญิงที่มีผูอื่น
หมั้นอยูแลวหรือจับจองแลว จนกวาชายผูนั้นจะถอนหมั้น หรือตองไดรับการอนุญาตจากชายผูนั้น
เสียกอน หรือชายคนแรกถูกบอกยกเลิกจากฝายหญิ่ง ถาเขาไปหมั้นซอนชายอื่น การหมั้นหมาย
ของเขานั้นถือวาใชได แตเขาจะเปนผูที่ทําบาปและทรยศตออัลลอฮฺและรอซูลของพระองค
วาญิบ(จําเปน)สําหรับผูปกครองของฝายหญิงที่จะตองหาผูชายที่มีคุณธรรมใหแกลูกสาว
ของเขาไดแตงงาน ถือวาไมเปนไรถาหากจะเสนอลูกสาว พี่สาว หรือนองสาว ใหแกชายที่เปนคนดี
มีคุณธรรมดวยเจตนาเพื่อใหแตงงานกัน
หามแสดงเจตนจํานงอยางตรงไปตรงมาในการสูขอหรือขอหมั้นกับหญิงที่อยูในชวงอิด
ดะฮฺ(ชวงเวลาแหงการรอคอย)จากการตายของสามี หรือหญิงที่ถูกหยาขาดจากสามีคนเกา แต
อนุญาตใหแสดงเจตนาอยางเปนนัย(ไมเปดเผยโจงแจง) เชน กลาวแกหญิงที่อยูในอิดดะฮฺวา "คน
อยางคุณนี้ฉันชอบนะ" และทางฝายหญิงก็อาจจะกลาววา "ฉันเองก็ไมไดเกลียดคุณ" หรือคําอื่นๆ
ในลักษณะนี้
และอนุญาตใหกลาวสูขอหญิงผูอยูในอิดดะฮฺดวยคําพูดที่ชัดเจนหรือเปนนัยไดสําหรับ
สามีของนางซึ่งหยาจากนางแบบบาอินที่ไมถึงสามครั้ง และไมอนุญาตใหผูที่ไมใชสามีกลาวสูขอ
หญิงที่ถูกหยาแบบร็อจญอีย(ยังอยูในสภาพที่สามารถคืนดีกับสามีคนเกาได)ในขณะที่นางอยู
ในชวงอิดดะฮฺไมวาจะดวยคําพูดที่ชัดเจนหรือเปนนัยก็ตาม

รุกนการแตงงาน มีสามประการ คือ


1. สองคูบาวสาว ซึ่งตองปราศจากขอหามที่เปนโมฆะของการแตงงาน เชน เปนพี่นองรวม
แมนมคนเดียวกัน หรือมีศาสนาแตกตางกัน เปนตน
2. ตองมีการกลาว อีญาบ (สํานวนมอบ) หมายถึง สํานวนเสียงที่ออกจากปากผูปกครอง
หรือผูที่ทําการแทนผูปกครองในการแตงงาน เชน ฉันทําการแตงงานคุณกับ... หรือ ฉันมอบใหคุณ
ครอบครองผูหญิงคนนี้ชื่อ... เปนตน
3. ตองมีการกลาว เกาะบูล (สํานวนตอบรับ) หมายถึง สํานวนเสียงที่ออกจากปากชายที่
ตองการแตงงานหรือผูที่รับแทนเขาในการแตงงาน เชน ฉันตอบรับการแตงงานนี้
เมื่อมีการกลาวมอบและกลาวตอบรับ ก็ถือวาเปนการแตงงานที่ใชไดแลว

การขออนุญาตจากผูหญิงในการแตงงาน
5
จําเปนสําหรับผูปกครองของฝายหญิงที่ไดรับมอบหมายใหทําการแตงงานที่จะตองขอ
อนุญาตจากนางกอนการทําพิธีแตงงาน ไมวานางจะเปนสาวที่ยังไมเคยผานการแตงงานมากอน
หรือเปนหมายแลวก็ตาม และหามบังคับใหนางแตงงานกับคนที่นางัรังเกียจ หากมีการแตงงาน
โดยที่นางไมไดยินยอมดวย นางก็มีสิทธิที่จะยกเลิกการแตงงานได
1. รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากทานนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม ไดกลาววา
َ ََْ ُْ َ ُ ْ ْ
ُ َ ْ ُ ‫ َوﻻ‬،‫ﺗﺴﺘﺄﻣـﺮ‬ ُ ِّ َ ‫ﻳﻨﻜﺢ‬
َ َ َ ْ ُ ‫اﻷﻳـﻢ َﺣ‬ ُ َ ْ ُ ‫»ﻻ‬
‫ ﻳﺎ‬:‫ﺗﺴﺘﺄذن« ﻗﺎﻟﻮا‬ ‫اﻛﻜﺮ ﺣ‬
ِ ‫ﻳﻨﻜﺢ‬
َ ُ َْ ْ َ
.‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.«‫ »أن ﺗﺴﻜﺖ‬:‫رﺳﻮل اﷲ و ﻴﻒ إذﻧﻬﺎ؟ ﻗﺎل‬
ความวา "หามทําการแตงงานใหหญิงหมาย จนวาจะถูกสั่งจากนางเองใหทํา
การแตงงาน และหามทําการแตงงานใหกับสาวที่ยังไมเคยแตงงานจนกวาจะ
ไดรับการยินยอมจากนางใหทําการแตงงานได" บรรดาเศาะหาบะฮฺถามวา
“โอทาน รอซูลุลลอฮฺ การยินยอมของนางนั้นเปนแบบไหน ?” ทานรอซูลก็ตอบ
วา “การนิ่งเงียบของนาง นั่นคือการยินยอมแลว” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย
5136 และมุสลิม 1419)

2. จากค็อนสาอ บิน คอดดาม อัล-อันศอรียะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เลาวา แทจริงพอของ


นางทําการแตงงานนางในขณะที่นางนั้นเปนหมาย และนางก็ไมชอบการแตงงานดังกลาว แลวนาง
ก็ ม าหาท า นรอซู ล ศ็ อ ลลั ล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ วะสั ล ลั ม และท า นรอซู ล ก็ ไ ด ป ฏิ เ สธ(ไม ย อมรั บ )การ
แตงงานดังกลาว (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย 5138)
- อนุญาตใหพอทําการแตงงานลูกสาวที่ยังไมถึงเกาป ซึ่งนางตองเปนผูที่มีความพรอม
เหมาะสมสําหรับการแตงงานนั้น โดยไมตองขออนุญาตหรือยินยอมจากลูกสาว
- หามไม ใหชายสวมใสแหวนหมั้นที่ทํามาจากทอง และการสวมใส แหวนดั งกลาวนั้ น
นอกจากจะเปนการคลายคลึงกับผูปฏิเสธศรัทธาแลว ยังถือเปนสิ่งตองหามตามบทบัญญัติศาสนา
อีกดวย

การอานคุฏบะฮฺในการแตงงาน
สุนัตสําหรับผูที่ทําการแตงงาน ใหอานคุฏบะฮฺ อัล-หาญะฮฺ (การใหโอวาทตามที่มีปรากฏ
ในรายงานจากทานนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม) กอนการทําพิธีแตงงาน ดังที่ไดอธิบายแลว
ในคุฏบะฮฺวันศุกร ซึ่งมันถูกใชกลาวในการแตงงานและอื่นๆ เชน เริ่มดวย
«‫ إﻟﺦ‬...‫»إن اﺤﻟﻤﺪ ﺤﻧﻤﺪه وﻧﺴﺘﻌﻴﻨﻪ‬
“แทจริงการสรรเสริญเปนสิทธิของพระองคอัลลอฮฺ เราขอสรรเสริญพระองคและขอความ
ชวยเหลือจากพระองค....” จนจบ

6
จากนั้นใหอานอายะฮฺอัลกุรอานที่เกี่ยวของตามที่มีปรากฏในรายงาน หลังจากนัน้ จึงทําพิธี
สมรส โดยใหมีพยานเปนผูชายสองคน

การแสดงความยินดีกับการแตงงาน
การแสดงความยินดีกับการแตงงานเปนสิ่งที่สนับสนุนใหกระทํา ดังที่รายงานจาก อบู
ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ วา แทจริงแลวทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อ
ทานแสดงความยินดีทานก็จะกลาววา
‫ أﺧﺮﺟﻪ أﺑﻮ‬.«‫ﺧﺮﻴ‬
َ
‫ﻲﻓ‬ َ ُ َ ْ َ ‫وﺟـﻤﻊ‬
‫ﺑﻴﻨﻜﻤﺎ‬ ْ ُ ْ َ َ ‫وﺑﺎرك‬
َ َ َ َ ،‫ﻋﻠﻴﻜﻢ‬ ْ ُ َ ‫ﺑﺎرك اﷲ‬
َ َ َ َ ،‫ﻟﻜﻢ‬ َ َ َ»
ٍ ِ
.‫داود واﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ‬
(คําอาน บาเราะกัลลอฮุ ละกุม, วะ บาเราะกะ อะลัยกุม, วะ ญะมะอะ บัยนะ
กุมา ฟ ค็อยรฺ)
ความวา “ขอใหอัลลอฮทรงประทานความบารอกัตแกพวกทานทั้งหลาย และ
ขอความประเสริฐจงประสบแดพวกทานทั้งหลาย และขอใหพระองครวมทาน
ทั้งหลายนั้นอยูในคุณความดี” (หะดีษ เศาะฮีหฺ บันทึกโดย อบู ดาวูด 2130
และอิบนุ มาญะฮฺ 1905 สํานวนรายงานนี้เปนของทาน)

- อนุญาตสําหรับผูที่ไดผานพิธีแตงงานเสร็จแลว ใหอยูกับภรรยาของเขาไดเลย และอยู


สองตอสองกับนางได และคลุกคลีกับนางไดทันที เพราะนางเปนภรรยาของเขาแลว และหาม
กระทําสิ่งดังกลาวกอนพิธีแตงงาน ถึงแมจะเปนหลังจากการหมั้นหมายแลวก็ตาม

ชวงเวลาสําหรับการแตงงานของฝายหญิง
อนุญาตใหจัดพิธีแตงงานกับหญิงในขณะที่นางปราศจากประจําเดือน หรืออยูในชวง
ประจําเดือนก็ได แตหามทําการหยาในขณะที่นางอยูในชวงที่มีประจําเดือน ดังที่จะไดอธิบายใน
เรื่องที่เกี่ยวกับการหยาตอไป

เงื่อนไขของการแตงงาน
1. ตองระบุเจาะจงวาคนใดที่จะแตงงาน ทั้งจากฝายเจาบาวและเจาสาว
2. การยินยอมของทั้งสองคูบาวสาว
3. ตองมีวะลียหรือผูปกครอง ไมอนุญาตใหทําการแตงงานหญิงใดเวนแตตองมีผูปกครอง
4. การแตงงานตองมี มะฮัร (สินสอด)
5. คูบาวสาวทั้งสองตองปราศจากขอหามของการแตงงาน ที่หามใหมีการแตงงานได ไม
วาจะเปนเพราะเหตุเชื้อสาย หรือสาเหตุการรวมแมนม หรือความแตกตางในดานศาสนาของทั้ง
สอง เปนตน

7
เงื่อนไขของวะลีย
วะลีย หรือผูปกครองของฝายหญิงที่จะทําการแตงงานนางนั้น มีเงื่อนไขวาตองเปนผูชาย
เปนไท บรรลุวัยแหงศาสนภาวะ มีสติปญญา เปนคนที่มีความคิดแยกแยะได และตองนับถื อ
ศาสนาเดียวกันกับเจาสาว
สําหรับเจาหนาที่ผูมีอํานาจนั้นมีสิทธิที่จะทําการแตงงานหญิงกาฟรที่ไมมีผูปกครองได
ผูปกครองนั้นก็คือ พอของหญิง ซึ่งเปนผูที่มีความเหมาะสมที่สุดในการทําการแตงงาน
ใหกับเจาสาว ถัดไปก็คือผูที่พอไดสั่งเสียใหทําการแตงงานแทนเขา ถัดไปก็เปนปูของนาง จากนั้นก็
เปนลูกชายของนาง จากนั้นก็พี่ชายหรือนองชายของนาง จากนั้นก็ลุงหรืออา(พี่นองของพอ)ของ
นาง หลังจากนั้นก็คือผูที่มีเชื้อสายตระกูลใกลชิดกับนางมากที่สุด สุดทายก็คือเจาหนาที่ผูมีอํานาจ
(วะลีย สุลฏอน)

การเปนพยานในการแตงงาน
สุนัตใหมีพยานในการแตงงาน ซึ่งตองเปนชายสองคนที่มีคุณธรรมความยุติธรรม และเปน
มุกัลลัฟ (บุคคลที่บรรลุวัยทางศาสนภาวะและเปนบุคคลปกติที่ตองปฏิบัติศาสนกิจตามบัญญัติ
ศาสนา)
หากการแตงงานมีพยานรูเห็นสองคนและมีประกาศใหรับทราบ ก็ถือวาเปนพิธีที่สมบูรณ
ที่สุด แตถาหากไดมีการประกาศใหรับทราบโดยไมมีพยานสองคน หรือมีพยานรูเห็นแตไมได
ประกาศ ก็ถือวาการแตงงานนั้นใชไดเชนกัน

หุกมการแตงงานโดยปราศจากวะลีย
ถา ผู ปกครองของฝ า ยหญิงไม รับที่จะเปน วะลีย หรือไม มีเ งื่ อ นไขพรอมที่ จ ะเป น วะลีย
หรือไมอยูและไมสามารถที่จะเรียกเขามาเปนวะลียไดเวนแตดวยความยากลําบาก ก็ใหผูปกครอง
คนอื่นถัดไปจากเขามาทําการแตงงานใหเจาสาวแทน
การแตงงานโดยไมมีผูปกครองนั้นใชการไมไดเพราะไมถูกวิธี จําเปนจะตองยกเลิกการ
แตงงานนั้นกับผู พิพากษา หรือดวยการหยารางจากเจา บาวตอเจา สาว แตถาหากเจาบ าวมี
เพศสัมพันธกับเจาสาวดวยการแตงงานที่ใชไมไดดังกลาว ก็จําเปนตองจายสินสอดใหกับนาง
เนื่องจากไดมีเพศสัมพันธกับนางแลว

ความพรอมและเหมาะสมของคูบาวสาว
ความพรอมและความเหมาะสมระหวางสองสามีภรรยา คือความเหมาะสมในดานศาสนา
และการเปนไท แตถาผูปกครองทําการแตงงานหญิงสาวที่ดีคูกับชายชั่ว หรือหญิงที่เปนไทคูกับ
ชายที่เปนทาส การแตงงานนั้นถือวาถูกตองตามพิธี แตเปนสิทธิสําหรับเจาสาวที่สามารถเลือกได
วาจะอยูหรือยกเลิกการแตงงานนั้น
8
เปาหมายของการมีเพศสัมพันธ
เปาหมายของการมีเพศสัมพันธ มีสามประการ คือ 1) รักษาสกุล 2) ระบายน้ํา(อสุจิ)ที่
เปนพิษภัยตอรางกายเมื่อถูกกังขังไวในรางกายโดยไมไดระบายออก 3) สนองความตองการและ
เพื่อไดรับความสุขและเสพสุ ขกั บนิอฺมัตที่อัลลอฮฺประทานให ประการสุดทายนี้จะบรรลุอยา ง
สมบูรณแบบที่สุดถาหากเกิดขึ้นในสวนสวรรค

สิ่งที่สามีตองทําในเมื่อเขาหองนอนกับภรรยาของเขา
1. สุนัตสําหรับชายที่ตองการมีเพศสัมพันธกับภรรยาของเขา ตองเริ่มดวยความออนโยน
กับนาง ดวยการเอามือของเขาวางบนศีรษะของนางและกลาวนามของพระองคอัลลอฮฺ และขอพร
ดวยความประเสริฐ หลังจากนั้นก็กลาววา
َ ِّ َ ْ َ ُ ُ َ َ ْ َ َ َ ْ َ َ َ ْ َ َ َ َ ْ َ َ ُ َ ْ َ ِّ ُ »
‫ﺮﺷﻫﺎ‬ ‫ وأﻋﻮذ ِﺑﻚ ِﻣﻦ‬،‫ﻋﻠﻴـﻪ‬
ِ ‫اﻟﻠـﻬـﻢ إ أﺳﺄﻟﻚ ﺧﺮﻴﻫﺎ وﺧﺮﻴ ﻣﺎ ﺟﺒﻠﺘﻬﺎ‬
ْ َ َ َ ْ َ َ ِّ َ ْ َ
.‫ أﺧﺮﺟﻪ أﺑﻮ داود واﺑﻦ ﻣﺎﺟﻪ‬.«‫ﻋﻠﻴـﻪ‬
ِ ‫وﻣﻦ ﺮﺷ ﻣﺎ ﺟﺒﻠﺘﻬﺎ‬
ِ
(คําอาน อัลลอฮุมมะ อินนี อัสอะลุกะ ค็อยเราะฮา, วะ ค็อยเราะ มา ญะบัล
ตะฮา อะลัยฮิ, วะ อะอูซุบิกะ มิน ชัรริฮา, วะ มิน ชัรริ มา ญะบัลตะฮา อะ
ลัยฮิ)
ความวา “โออัลลอฮฺ แทจริงฉันขอตอพระองคจากความดีของนาง และความดี
ของสิ่งที่พระองคไดทรงใหนางเกิดมาดวยสิ่งนั้น และฉันขอความคุมครองตอ
พระองคใหพนจากความชั่ว รายของนางทั้งปวง และความชั่ วรายของสิ่ง ที่
พระองคไดทรงใหนางเกิดมาดวยสิ่งนั้นดวยเถิด” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดย
อบู ดาวูด 2160 สํานวนรายงานนี้เปนของทาน และ อิบนุ มาญะฮฺ 2252)

2. สุนัตใหกลาวพระนามของอัลลอฮฺกอนจะสอดใสอวัยวะเพศ และกลาวดุอาอวา
ََْ َ َ َ َ َْ ِّ َ َ َ َ ْ َ ْ ِّ ْ
.«‫رزﻗﺘﻨﺎ‬ ‫وﺟﻨﺐ اﻟﺸﻴﻄﺎن ﻣﺎ‬
ِ ،‫اﻟﻠـﻬـﻢ َﺟﻨﺒﻨﺎ اﻟﺸﻴﻄﺎن‬
ُ ،‫ﺑﺎﺳﻢ اﷲ‬
ِ ِ»
(คําอาน บิสมิลลาฮฺ, อัลลอฮุมมัจญนิบนัช ชัยฏอน, วะ ญันนิบิชชัยฏอน มา
เราะซักตะนา)
ความวา "ดวยนามของอัลลอฮฺ โออัลลอฮฺ ขอพระองคไดทรงใหชัยฏอนอยูหาง
จากเราดวยเถิด และขอพระองคไดทรงใหชัยฏอนอยูหางไกลจากสิ่งที่พระองค
ประทานใหกับเรา(หมายถึงลูกที่ไดจากการมีเพศสัมพันธในครั้งนี้)"
เพราะแทจริงแลว ถาหากอัลลอฮฺกําหนดใหมีบุตรขึ้นระหวางเขาทั้งสองเพราะ
การรวมหลับนอนในครั้งนั้น ชัยฏอนก็ไมสามารถทําอันตรายแกลูกคนนี้ไดเลย
(บันทึก โดยอัล-บุคอรีย 6388 และ มุสลิม 1434)

9
3. อนุญาตใหสามีรวมเพศกับภรรยาทางอวัยวะเพศของนางจากดานไหนก็ได ไมวา จะเปน
จากดานหนาหรือดานหลัง แตหามมีเพศสัมพันธทางทวารหนัก

การอาบน้ํารวมกัน
เมื่อสามีรวมเพศสัมพันธกับภรรยาของเขาแลวยังตองการรวมอีกครั้ง ก็สุนัตสําหรับเขาให
อาบน้ําละหมาด เพื่อจะทําใหรางกายกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น แตถาเขาอาบน้ําก็จะเปนการดีกวา
และอนุญาตใหเขาทั้งสองอาบน้ํารวมกันในที่เดียวกัน ถึงแมจะมีการมองเห็นซึ่งกันและกันใน
หองน้ําในบานของเขาทั้งสองนั้นก็ตามที
รายงานจากทานหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ไดกลาววา
‫ وﻫﻮ اﻟﻔﺮق‬،‫ﺎﻛن رﺳﻮل اﷲ ﺻﻰﻠ اﷲ ﻋﻠﻴﻪ وﺳﻠﻢ ﻳﻐﺘﺴﻞ ﻲﻓ اﻟﻘﺪح‬
‫ واﻟﻔﺮق‬:‫ ﻗﺎل ﺳﻔﻴﺎن‬:‫ ﻗﺎل ﻗﺘﻴﺒﺔ‬،‫و ﻨﺖ أﻏﺘﺴﻞ أﻧﺎ وﻫﻮ ﻲﻓ اﻹﻧﺎء اﻟﻮاﺣﺪ‬
.‫ ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬.‫ﺛﻼﺛﺔ آﺻﻊ‬
ความวา "ทานรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไดอาบน้ําจากน้ําใน เกาะ
ดะห (ภาชนะใสน้ํารูปรางคลายกะละมังกนลึก) มันคือ ฟรก (มาตราการตวง
ประเภทหนึ่ง) และฉันเองก็อาบน้ําจากภาชนะเดียวกันรวมกับทาน" กุตัยบะฮฺ
ผูรายงานหะดีษกลาววา : ซุฟยาน ไดอธิบายวา น้ําใน ฟรก เทากับ สาม ศออ
(บันทึกโดย อัล-บุคอรีย 250 และ มุสลิม 319 สํานวนรายงานนี้เปนของทาน)

สุนัตสําหรับทั้งสองคนไมใหนอนในสภาพที่มีุนุบ(หลังการมีเพศสัมพันธโดยที่ยังไมได
อาบน้ํา) เวนแตวาทั้งสองนั้นไดอาบน้ําละหมาดกอน

10

You might also like