You are on page 1of 16

การศรัทธาตอมลาอิกะฮฺผูจดบันทึก

[ ไทย – Thai – ‫] ﺗﺎﻳﻼﻧﺪي‬

ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย

แปลโดย : อัสรัน นิยมเดชา


ตรวจทานโดย : ซุฟอัม อุษมาน
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุร็อรฺ อัล-มุนตะกอฮฺ มิน อัล-กะลีมาต อัล-
มุลกอฮฺ

2013 - 1434
‫ﻹﻳﻤﺎن ﺑﺎلﻜﺮام الﺎﻜﺗب�‬
‫» ﺎلﻠﻐﺔ اﺘﻟﺎﻳﻼﻧﺪﻳﺔ «‬

‫د‪ .‬أﻣ� ﺑﻦ ﻋﺒﺪا� الﺸﻘﺎوي‬

‫ﺮﻤﺟﺔ‪ :‬ﺮﺼان ﻧﻴﻮﻣﺪ�ﺸﺎ‬


‫مﺮاﺟﻌﺔ‪ :‬ﺎﻲﻓ ﻋﺜﻤﺎن‬
‫ﻤﻟﺼﺪر‪ :‬اﺪﻟرر اﻤﻟﻨﺘﻘﺎة ﻣﻦ الﻠﻜﻤﺎت اﻤﻟﻠﻘﺎة‬

‫‪2013 - 1434‬‬
ดวยพระนามของอัลลอฮฺ ผูทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

การศรัทธาตอมลาอิกะฮฺผูจดบันทึก
มวลการสรรเสริญเปนสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ขอความสุขความจําเริญ
และศานติจงประสบแดทานเราะสูลุลลอฮฺ ฉันขอปฏิญาณวาไม
มีพระเจาอื่น ใดนอกจากอัล ลอฮฺเพียงองคเ ดียว ไม มีภ าคีใดๆ
สํ า หรั บ พระองค และฉั น ขอปฏิ ญ าณว า มุ หั ม มั ด เป น บ า ว
ของอัลลอฮฺและเปนศาสนทูตของพระองค
อั ฏ -เฏาะหาวี ย เราะหิ ม ะฮุ ล ลอฮฺ ระบุ ว า หลั ก ยึด มั่ น
ศรัทธาประการหนึ่งของ อะฮฺลุสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺ คือการ
ศรัทธาต อ “อัล -กิรอม อั ล-กาติบีน” (มลาอิกะฮฺ ผูทําหนาที่จ ด
บันทึกความดีความชั่ว) อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสวา
َ ُ َۡ َ َ َ ٗ َ َ َ‫� ۡم ل‬
ُ َۡ َ ّ
﴾ ١ ‫ َ� ۡعل ُمون َما �ف َعلون‬١ �
َ ‫�ٰتِب‬
ِ
َ ‫�ٰفِ ِظ‬
‫ كِراما‬١ � ‫﴿ نَ علي‬
[١٢-١٠ :‫]اﻻﻧﻔﻄﺎر‬

ความวา "และแทจริงมีผูคุมกันรักษาพวกเจาอยูคือ (มลาอิกะฮฺ)


ผูทรงเกียรติ เปนผูบันทึก พวกเขารูในสิ่งที่พวกเจากระทํา" (อัล-
อินฟฏอรฺ: 10-12)
3
และตรัสวา
َ ُ ۡ ٞ َ َ ّ َ ۡ َ َ ّ َ َ ُ ۡ ّ �َ‫ۡ َتَل‬
‫ َّا يَلفِظ مِن ق ۡو ٍل‬١ ‫ال قعِيد‬ ِ ‫� َوع ِن‬
ِ ‫ٱلشم‬ ِ ‫ان ع ِن ٱ�َ ِم‬
ِ ‫﴿ إِذ َ ٱلمتلقِي‬
ٞ
[١٨ -١٧ :‫ ﴾ ]ق‬١ ‫ِيب َعت ِيد‬ ٌ �‫َّ َ َ�يۡهِ َر‬
�ِ

ความวา "จงรําลึกขณะที่มลาอิกะฮฺผูบันทึกสองทานบันทึก ทาน


หนึ่ ง นั่ ง ทางด า นขวา และอี ก ท า นหนึ่ ง นั่ ง ทางด า นซ า ย ไม มี
คํ า พู ด คํ า ใดที่ เ ขากล า วออกมา เว น แต ใ กล ๆ เขานั้ น มี ผู เ ฝ า
ติดตาม ผูเตรียมพรอมที่จะบันทึก" (กอฟ: 17-18)
มีรายงานหะดีษบันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ และมุสลิม จาก
ท า นอบู ฮุ ร็ อ ยเราะฮฺ เราะฎิ ยั ล ลอฮุ อั น ฮฺ เล า ว า ท า นนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาววา
َ َ ّ ‫ﺔﺑ‬ ٌ ِ‫ِ َ َ ﺋ‬
ِ‫ْﺘَﻤِﻌُﻮنَ ﻰﻓ ﺻﻼة‬
ِ َ �َ ،‫ﺎر‬ ِ ‫ِﺎﻨﻟَ َﻬ‬ َ
َ� ‫» َﻌَﺎ�ﺒُﻮنَ �ِﻴ�ُﻢْمَﻼَﺋِ�َﺔٌ ﺑِﺎلﻠَّﻴْﻞ وَمﻼ‬
ُ‫ ّ�َﻌْﺮُجُاﺬﻟَِّﻳﻦَ ﺑَﺎﺗُﻮا �ِﻴ�ُﻢْ ﻓَيَﺴ ﺄَْلُﻬُﻢْ رَ� ُّﻬُﻢْ َو ُﻫ َﻮ أَﻋْﻠَﻢ‬،‫ﻟْﻔَﺠ ْﺮِ وَﺻَﻼَةِ اﻟْﻌَﺮ ْﺼ‬
ِ
ْ‫ َوأَﺗَيْﻨَﺎﻫُﻢْ َوﻫُﻢ‬،‫ﻮن‬ َ ّ َ ُ‫َ َ ُ ل‬ َ َ َ
ُ‫ َﺮَ�ْﻨَﺎﻫُﻢْ وَﻫُﻢْ ﻳُﺼَﻠ‬:‫ ﻛﻴْﻒ ﺗ َﺮ�ْﺘُﻢْ ِﻋﺒﺎ ِدى؟ �ﻴﻘﻮ ﻮن‬: ْ‫ﺑِ ِﻬﻢ‬
َ
َ ّ
[٦٣٢ ‫ ومﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬٥٥٥ ‫ُﺼَﻠُﻮن « ]واه اﺒﻟﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬

ความวา "บรรดามลาอิกะฮฺจะคอยสลับสับเปลี่ยนกันติดตาม
เฝาดูพวกท าน กลุ ม หนึ่ ง อยูเ วรในเวลากลางคืน และอีกกลุม
หนึ่งอยูเวรในเวลากลางวัน โดยพวกทานเหลานั้นจะรวมตัวกัน
4
ชวงเวลาละหมาดฟจญรฺและอัศรฺ จากนั้นมลาอิกะฮฺซึ่งอยูเวร
ติดตามพวกทานในตอนกลางคืน ก็จะขึ้นไปสูฟากฟา แลวพระผู
อภิบาลก็จะกลาวถามพวกทานวา: 'พวกเจาพบเห็นวาบาวของ
เราเปนอยางไรบาง?' ทั้งนี้ พระองคทรงรูดียิ่งถึงสภาพของพวก
เขา บรรดามลาอิกะฮฺก็ตอบวา: พวกขาพระองคจากพวกเขามา
โดยที่พวกเขากําลังทําการละหมาด และเมื่อพวกขาพระองคไป
หาพวกเขา ก็พบวาพวกเขากําลังทําการละหมาด" (อัล-บุคอรียฺ
หะดีษเลขที่ 555 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 632)
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสวา
ّ َ َ ُ ََۡ ۡ َ َۡ ّ ٞ َ ّ َ ُ َُ
﴾ ١ َِۗ� ‫� يَ َديۡهِ َوم ِۡن خلفِهِۦ �فظون ُهۥ م ِۡن أ ۡم ِر‬
ِ � ‫﴿ �ۥ معقِ�ٰت ِم ۢن‬
[١١ :‫]الﺮﻋﺪ‬

ความวา "สําหรับเขามีมะลาอิกะฮฺผูเฝาติดตาม ทั้งขางหนาและ


ขางหลังเขา คอยปกปองดูแลเขาตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ"
(อัรฺ-เราะอฺด: 11)
อิบนุ กะษีรฺ กลาววา "หมายความวา มีมลาอิกะฮฺกลุม
หนึ่ ง คอยหมุ น เวี ย นสลั บ สั บ เปลี่ ย นกั น เฝ า ติ ด ตามบ า ว โดย
แบง เป น เวรกลางวั น และเวรกลางคื น โดยพวกทา นมีห นา ที่
5
ปกปองเขาจากสิ่งชั่วรายตางๆ ในขณะเดียวกันก็มีมลาอิกะฮฺอีก
กลุมหนึ่ง คอยจดบัน ทึกการงานทั้ ง ความดีแ ละความชั่ว โดย
สวนหนึ่งคอยจดบันทึกในเวลากลางคืน และอีกสวนหนึ่งคอย
จดบันทึกในเวลากลางวัน ทั้งนี้ มีมลาอิกะฮฺสองทานอยูประจํา
ทางขวามือและทางซายมือ โดยทานที่อยูทางขวามือจะคอยจด
การงานที่ดี สวนทานที่อยูทางซายมือจะคอยจดบาปความผิด
ตางๆ นอกจากนี้ยังมีมลาอิกะฮฺอีกสองทานคอยปกปองดูแลเขา
โดยทานหนึ่งจะประจําอยูขางหลังเขา สวนอีกทานจะประจําอยู
ขางหน า จึ งสรุปไดวารอบๆตัวเรานั้นมี มลาอิกะฮฺ ประจําอยู สี่
ทานในตอนกลางวั น และอี กสี่ ทานในตอนกลางคืน โดยสอง
ทานทําหนาที่ปกปองดูแล สวนอีกสองทานทําหนาที่จดบันทึก
ความดีความชั่ว" (ตัฟสีรฺ อิบนิ กะษีรฺ เลม 8 หนา 114-115)
ทานอับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เลาวา
ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาววา
َ ِ
َ َّ‫ َ� ِﻳ‬:‫ ﻗَﺎلُﻮا‬، « ِ‫ﻣِﻦَ اﺠﻟْ ّﻦ‬ ُ‫ِ ﻪ ُﻪ‬ َ ّ ‫َﺪْ وُﻞﻛ‬ ‫ِ ﻦْ أَﺣَﺪ‬
‫ﺎك ﻳَﺎ َر ُﺳﻮل‬ ‫ﻗَﺮِ�ﻨ‬ ِ ‫ٍ إﻻَّ وَﻗ‬
ِ ‫» ﻣِﻨْ�ُﻢْﻣ‬
ّ َ َ َ ‫ا�ََّ أَﺎ‬ َّ‫َّﺎىَ إِﻻَّ أَن‬ َ َ ّ
«�
َ �ُ‫ َﻼَ ﻳَﺄْمُﺮ‬،‫َﻋﻧَ� َﻋﻠﻴ ِْﻪ ﻓَﺄﺳْﻠ َﻢ‬
ٍْ ‫ِ إِﻻَ ِﺑ‬ ِ » :‫�َ؟ ﻗﺎل‬
ِ

6
ความวา “ทุกคนในหมูทานลวนมี ‘เกาะรีน’ (ผูตามประกบ) ซึ่ง
เปนญิน คอยติดตามทั้งสิ้น” เศาะหาบะฮฺก็ถามวา: แมแตทาน
หรือครับทานเราะสูลุลลอฮฺ? ทานกลาวตอบวา “ใช แมแตฉัน
เพียงแต วาอั ลลอฮฺทรงชวยเหลือฉัน โดยใหเ ขาเขารับอิส ลาม
เขาจึงชักชวนฉันแตในทางที่ดี” ในอีกสายหนึ่งซึ่งรายงานโดย
สุฟยานระบุวา
َ ْ‫ال‬ ُ‫ِ ّ َ َ �ﻨُﻪ‬ َّ
‫ِﻣ َﻦ َﻤﻼﺋِ� ِﺔ « ]رواه مﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬ ‫ و ﻗ ِﺮ‬،ِ‫» ﻗَﺪْ وُﻞﻛ ِ ﻪِ ﻗَﺮِ�ﻨ ُﻪُ ﻣِﻦَ اﺠﻟْﻦ‬
[٢٨١٤

ความวา “ทุกคนในหมูทานลวนมี ‘เกาะรีน’ (ผูตามประกบ) คอย


ติดตามทั้งสิ้น โดยตนหนึ่งเปนญิน และอีกหนึ่งเปนมลาอิกะฮฺ”
(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 2814)
َ
นักวิชาการมีความเห็นแตกตางกันวา "‫ "أﺳﻠ َﻢ‬ในหะดีษมี
ความหมายวาอยางไร? ฝายหนึ่งมีทัศนะวา หมายถึงการนอบ
นอมศิโรราบดวยความต่ําตอย อีกฝายหนึ่งมีทัศนะวา หมายถึง
การเขารับอิสลาม อัน-นะวะวีย กลาวแสดงความเห็นวา "ทัศนะ
นี้คือสิ่งที่เห็นชัดจากตัวบท" อัล-กอฎีย อิยาฎ กลาววา "ดังนั้นจง
ทราบเถิดวาปวงประชาชาติไดเห็นพองกันอยางเปนเอกฉันท วา

7
ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นั้นรอดพนปลอดภัยจาก
การคุกคามของชัยฏอนมารราย ไมวาจะทางรางกาย ความรูสึก
นึกคิด หรือวาจาคําพูดของทาน" (ชัรหฺ เศาะฮีหฺ มุสลิม เลม 6
หนา 158) ทั้งนี้ ญินมีทั้งที่เปนผูศรัทธาและผูปฏิเสธ ซึ่งชัยฏอน
ก็ คื อ ญิ น ฝ า ยที่ ป ฏิ เ สธศรั ท ธา ส ว นญิ น ที่ เ ป น ผู ศ รั ท ธาจะไม
เรียกวาชัยฏอน
ตั วบทหลั ก ฐานต างๆระบุ วา มลาอิ กะฮฺ จ ะทําการจด
บันทึกคําพูด การกระทํา และเจตนาซึ่งเปนการกระทําที่เกิดขึ้น
ในใจ จึงอยูใ นขายของคําตรัสที่วา “พวกเขารูใ นสิ่งที่พ วกเจา
กระทํา" (อัล-อินฟฏอรฺ: 10-12)
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสวา
َ ُ َ ُ ُ َ ُ َ ۡ َ ّ ّ ّ َۡ ُ ََ ُ َ َ َ َ
﴾ ٢ ‫نت ۡم � ۡع َملون‬‫سخ ما ك‬ � ِ �‫﴿ �ٰذا كِ�ٰ ُبنا يَن ِطق عل ۡي�م بِٱ‬
ِ ‫ق ِنَا ُنَا �ستن‬
[٢٩ : ‫]ﺠﻟﺎﺛﻴﺔ‬

ความว า "นี้ คื อบั น ทึ กของเราจะพู ดถึ ง เรื่ อ งของพวกเจา ด ว ย


ความจริง แทจริงเราไดใหบันทึกไวตามที่พวกเจาไดกระทําไว"
(อัล-ญาษิยะฮฺ: 29)

8
และพระองคตรัสวา
َ ۡ َ ُ َۡ َ ۡ ُ ّ ُ َ َۡ َ ّ َ ُ َ َۡ َۡ
ٰ َ َ‫� َوٮ ٰ ُه �م ب‬
﴾ ٨ ‫� َو ُر ُسل َنا َ�يۡ ِه ۡم يَ� ُت ُبون‬ ‫﴿ أم �سبون َنَا � �سمع َِهم و‬
[٨٠ :‫]الﺰﺧﺮف‬

ความว า "หรื อ พวกเขาคิ ด ว า เราไม ไ ด ยิ น ความลั บ และการ


ประชุมลับของพวกเขา แนนอน (เราไดยิน) และทูตของเราอยู
กับพวกเขาเพื่อจดบันทึก" (อัซซุครุฟ: 80)
ทานอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เลาวา ทานนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาววา
َ َ ْ‫َ ُ َ َ َ ً َ َﻢْ َ َ ﻞ‬ �َ‫ً ﺄ ﻧَﺎ أ‬ َ َ َ ْ‫َن‬ َ َ ّ َ
‫ﻓﺈِذا‬، ‫ﻌْﻤ‬ � ‫ﻌْﻤﻞ َﺣ َﺴﻨَﺔ ﻓََ ْﺘُﺒُﻬَﺎ ﻪﻟ ﺣﺴﻨﺔ ﻣﺎ ل‬ � ‫» ذَا ﺤﺗَﺪَث �ﺒْ ِﺪي ﺑِﺄ‬
َ ْ َ َََ ً َ َ ْ َ ْ ‫َ َ َ َ َ َ َ�ْﺘُ ُ َ َُ ﺑِﻌَﺮ‬
‫ﻓﺄﻧﺎ أﻏ ِﻔﺮُ ﻫﺎ‬، ‫ﺸ أﻣﺜﺎل ِ َﻬﺎ وَ� ِذَا ﺤﺗَّثَ ﺑِﺄَنْ �َﻌْﻤَﻞَ ﺳَيِّﺌَﺔ‬ ِ ‫ﻋ ِﻤﻠﻬﺎ ﻓﺄﻧﺎ أ ﺒﻬﺎ‬
َ َُ �َ‫َ ُ َ َﻢْ َ َ ﻠْ َ َ َ َ َ َ ﺄ ﻧَﺎ أ‬
« ‫ ﻓ ِﺈذا ﻋ ِﻤﻠﻬﺎ ََ ْﺘُﺒُﻬَﺎ ﻪﻟ ﺑِ ِﻤﺜ ِْﻠﻬﺎ‬،‫ﻟ ﻣﺎ ل �ﻌْﻤ ﻬﺎ‬

ความวา "อัลลอฮฺตรัสวา: เมื่อบาวของขาคิดที่จะทําสิ่งหนึ่งสิ่งใด


ที่เปนความดี แลวไมไดทํา ขาก็จะบันทึกสิ่งนั้นเปนหนึ่งความดี
สําหรั บเขา แต ถาเขาได ลงมื อทํ าสิ่ งนั้ น ข าก็ จะบันทึกมันเปน
ความดีสิบเทา และเมื่อเขาคิดที่จะทําสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เปนความ
ชั่ว แลวไมไดลงมือทํา ขาจะอภัยใหแกเขา แตถาหากเขาไดลง
มือทําสิ่งนั้น ขาก็จะบันทึกมันเปนความผิดเทากับสิ่งที่เขาไดทํา"
9
ทานเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาวตอวา
‫ﺼ‬ َ �َ ْ‫�ﺪ أَن‬
ُ َ ‫ﻌْﻤ َﻞ َﺳيّﺌَ ًﺔ ) َو ُﻫ َﻮ َﺑْﺮ‬ َ َ َ ّ
ُ ‫ﻳُﺮ‬
‫اك �ﺒْ ُﺪ َك‬
ُ‫َ َ َ ﺔ‬
‫ َبِ! ذ‬: �ِ‫الْﻤﻼﺋ‬ ‫ﺖ‬
َ َ
ِ ِ ‫» ﻗﺎﻟ‬
ُ‫ﻮﻫﺎ َﻟ‬َ ُ ُ‫َ َ نْ َ َ َ َ َ ﻛْﺘ‬ َ َ
َ َ ْ‫َ ن‬
‫ ﻓﺈِ َﻋ ِﻤﻠ َﻬﺎ ﻓﺎﻛْﺘُﺒُﻮﻫﺎ‬،ُ‫ار ﺒُﻮه‬
‫ و ِ� ﺗﺮ�ﻬﺎ ﻓﺎ ﺒ‬،‫ﻟُ ﺑِ ِﻤﺜ ِْﻠﻬﺎ‬
ُ� ْ َ َ َ
:‫ﺑِ ِﻪ( �ﻘﺎل‬
َ
َ ‫ إ ّ� َﻤﺎ ﺗَ َﺮ� َﻬﺎ ِﻣ ْﻦ َﺟ ّﺮ‬،‫َﺣ َﺴﻨَ ًﺔ‬
[١٢٩ ‫ ومﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬،٤٢ ‫اي« ]ﺒﻟﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬ ِ

ความวา “มลาอิ กะฮฺ จึ ง กล า วว า: ‘โอ พ ระผู อ ภิบ าลของข า


พระองค บาวของพระองคผูนั้นคิดที่จะทําความชั่ว’ พระองค
ตรัสตอบ (โดยที่พระองคทรงรูดีถึงสภาพของบาวผูนั้น) วา”พวก
เจาจงคอยติดตามเขา ถาเขาไดทําความชั่วตามที่คิด ก็จงจด
บันทึกมันเปนความผิดเทากับสิ่งที่เขาไดทํา แตถาเขาไดละเวน
ความชั่ ว ดั ง กล า ว พวกเจ า ก็ จ งบั น ทึ ก สิ่ ง นั้ น เป น หนึ่ ง ความดี
สําหรับเขา เพราะแทจริงเขาไดละเวนความชั่วดังกลาวเพราะยํา
เกรงตอขา” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หะดีษเลขที่ 42 และมุสลิม
หะดีษเลขที่ 129)
และมีบันทึกในหนังสือ อัล-มุอฺญัม อัล-กะบีรฺ ของอัฏ-
เฏาะบะรอนีย จากทานอบูอุมามะฮฺ เลาวา ทานนบี ศ็อลลัลลอ
ฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาววา

10
ْ ُ‫الﻤ‬ َ ُ‫َْ�َﻊ‬
َ ‫اﻟﻘَﻠﻢَ ﺳِﺖَّ ﺳَﺎ‬ َ‫لﺸِّﻤ‬
،‫ﺊ‬
ِ ‫الﻤُﺴْﻠ ِﻢ ﺨ ِﻄ‬
ِ ‫اﻟﻌﺒْ ِﺪ‬
َ ‫ﺎﻋ َﻋﻦ‬
ِ ٍ‫ت‬ �َ‫» ّ ﺻَﺎﺣِﺐَ ا ﺎلِ ﻟ‬
ْ َ ْ‫َ نْ َ َ َ َﻐْ َ َ َ ﻨ‬
« ‫اﺣﺪة‬
ِ ‫و�ﻻ ﻛُﺘِﺒﺖ و‬ ِ ‫ﻓ ِﺈ ﻧ ِﺪم واﺳْﺘ ﻔﺮ اﷲ ِﻣ ﻬﺎ‬
ความวา "มลาอิกะฮฺที่คอยจดบันทึกอยูทางดานซาย จะยังไมจด
บันทึ กความผิ ดของบ าวมุ สลิ ม จนกว าเวลาจะลวงเลยไปหก
ชั่วโมง ถาในระหวางนั้นเขาสํานึกผิดและขออภัยโทษตออัลลอฮฺ
ในสิ่งที่กระทําไป ความผิดของเขาก็จะไมถูกจดบันทึก แตถาเขา
ไม สํ า นึ ก มั น จะถู ก บั น ทึ ก ว า เป น หนึ่ ง ความผิ ด " (บั น ทึ ก โดย
อัฏเฏาะบะรอนีย หะดีษเลขที่ 7765 โดยชัยคฺ อัล-อัลบานีย ระบุ
ไวในเศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ อัศ-เศาะฆีรฺ เลม 1 หนา 422 หะดีษ
เลขที่ 2097 วาเปนหะดีษเศาะฮีหฺ)
กวีทานหนึ่งกลาววา
َ ْ‫ﺑَﺪَ �ُْﺼ ﻣـﺎ َﺟﻨَﻴ‬
ُ‫ـﺖ و�ُ�ﺘَـﺐ‬ ّ ُ‫ّ ﻪ‬ َ َ َ ْ‫ﺮ‬
ِ ‫ـﺎب ـﺈﻧَـ‬
ِ ‫واذﻛـ ﻣﻨﺎﻗﺸـﺔ ﺤﻟﺴ‬
َ
ُ‫ﺗﻠـﻌـﺐ‬ َ َْ َ َ ْ ُ‫َ َ يْ َ ﻪ‬ َ ‫ْ ﻪُ ﻟﻠَﺎ‬
‫ﻟـﻢ ﻳَن َﺴـ ﻜ ِن ِﺣﻴـﻦ � ِﺴ ﺘـ‬
ٍ‫ﺑــﻞ أﺛـﺒـﺘـﺎهُ َوأﻧــﺖ ﻻه‬

"และจงตระหนักถึงวินาทีแหงการสอบสวนพิพากษา
เมื่อทุกสิ่งที่ทําไปและถูกบันทึกไวจะไดรับการเปดเผย
มลาอิกะฮฺทั้งสองไมเคยลืมแมวาคุณนั้นจะหลงลืมไป
โดยไดจดบันทึกทุกๆสิ่งขณะที่คุณหลงระเริงเพลินใจ”
11
ผลของการศรัทธาตอมลาอิกะฮฺผูจดบันทึก:
ประการแรก: ทําใหเกิดความยําเกรงตออัลลอฮฺทั้งในที่
ลับและที่แจง พรอมทบทวนตรวจสอบตนเองอยูเสมอ ในสิ่งที่ได
พูดหรือกระทําไป ไมวาจะเปนเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ อัลลอฮฺตะ
อาลา ตรัสวา
ٞ ٌ �‫﴿ َّا يَ ۡلف ُِظ مِن قَ ۡول َّ َ َ�يۡهِ َر‬
[١٨ :‫ ﴾ ]ق‬١ ‫ِيب َعت ِيد‬ �ِ ٍ

ความวา "ไมมีคําพูดคําใดที่เขากลาวออกมา เวนแตใกลๆเขา


นั้นมีผูเฝาติดตาม ผูเตรียมพรอมที่จะบันทึก" (กอฟ: 18)
และพระองคตรัสวา
َ ُ َۡ َ َ َ ٗ َ
[١٢ ،١٠ :‫ ﴾ ]اﻻﻧﻔﻄﺎر‬١ ‫ َ� ۡعل ُمون َما �ف َعلون‬١ �
َ ‫�ٰتِب‬
ِ ‫﴿ كِراما‬

ความวา "คือ (มลาอิกะฮฺ) ผูทรงเกียรติ เปนผูบันทึก พวกเขารูใน


สิ่งที่พวกเจากระทํา" (อัล-อินฟฏอรฺ: 11-12)

ประการที่สอง: ทําใหเกิดความละอายใจ ไมกลาที่จะใหมลาอิ


กะฮฺผูจดบันทึกเหลานั้นพบเห็นตนซึ่งเปนผูศรัทธา ในสภาพที่

12
ฝาฝนตออัลลอฮฺ ดังที่ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได
กลาวถึงความประเสริฐของทานอุษมาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ วา
ُ‫َ ﺔ‬ َ ُ‫» أَﺳْﺘَﻲﺤِ ﻣِﻦْ رَﺟُﻞٍ �َﺴْﺘَﻲﺤ ﻣﻨْﻪ‬
[٢٤٠١ ‫الﻤﻼﺋِ� ؟ « ]مﺴﻠﻢ ﺑﺮﻗﻢ‬ ِ ِ

ความวา "จะไมใหฉันเขินอายตอผูที่ขนาดมลาอิกะฮฺยังเขินอาย
ตอเขาไดอยางไรกัน?" (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 2401)

ประการที่สาม: ทําใหมีความจริงจังในการทําความดี เพราะม


ลาอิก ะฮฺ เ หล านั้ น จะนํ าบั น ทึ กการงานต า งๆของเราขึ้น ถวาย
ตออัลลอฮฺ ดังที่พระองคตรัสวา
َ ّ ُ ۡ ُ ّ ّ ُ َ ۡ ُ َ ۡ َ َۡ
[١٠ :‫ ﴾ ]ﻓﺎﻃﺮ‬١ ‫ب َوٱل َع َمل ل�َٰل ُِح يَ ۡر� ُع ُه ۚۥ‬ِ ‫﴿ إِ�هِ يصعد ٱل� ِم لطَي‬

ความวา “คํากลาวที่ดียอมจะขึ้นไปสูพระองค และการงานที่ดี


นั้นพระองคทรงยกยองสรรเสริญมัน" (ฟาฏิรฺ: 10)
ท านริ ฟ าอะฮฺ บิ น รอฟ อฺ อั ซ ซุ เ ราะกี ย เราะฎิ ยัล ลอฮุ
อันฮฺ เลาวา
ْ ُ‫ّ َ ْ ﻪ‬
‫ ﻓَﻠَﻤَﺎ َر� َﻊ َرأ َﺳ ِﻣ َﻦ الﺮ� َﻌ ِﺔ‬،‫وﺳﻠﻢ‬ ‫ّ ﺻ� اﷲ ﻋﻠﻴﻪ‬ِِ‫ اﻨﻟ ّﻲﺒ‬ َ ‫ﻳَﻮْﻣﺎً ﻧُﺼَ�ِّ َور‬
َ ‫َاء‬

‫�ا‬ َ ْ ‫ ﻤﺣْ ًﺪا َﻛﺜ‬،ُ‫اﺤﻟَﻤْﺪ‬


َ ََ ٌ‫َ َ ُﻞ‬
ِ
َ
‫ َّﻨَﺎ وَلﻚ‬:ُ‫ ﻗﺎل َرﺟ َوراءَه‬،« ُ‫لِﻤَﻦْ ﻤﺣ َﺪه‬ ُ‫ﻗﺎل » َﻤِﻊَ اﷲ‬
ِ

13
ُ ْ‫ » َرأَﻳ‬:‫ ﻗﺎل‬،‫ أﻧَﺎ‬:‫ » ﻦِ الﻤُﺘَﻠﻜِّ ّﻢُ ؟ « ﻗﺎل‬:‫ﺼ َف ﻗﺎل‬
‫ﺖ‬ َ َ ‫ ﻓَﻠَﻤَّﺎ اﻧْﺮ‬،ِ‫ِّﺒًﺎ ﻣُﺒَﺎرَ�ً ﻓﻴﻪ‬
ُّ َ‫ْﻌَﺔً وَﺛَﻼ�ِ�َْ مَﻠَﺎ ًﻜ ﻳَبْﺘ‬
[٧٩٩ ‫ �َ�ُّﻬُﻢ ﻳَ�ْﺘُﺒُﻬﺎ أَوَل؟ « ]ﺒﻟﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬،‫رُوﻧَﻬﺎ‬ ‫ِﻀ‬

ความวา "วัน หนึ่ ง ขณะที่ เ รากํ า ลั ง ละหมาดตามหลั ง ท า นนบี


ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อยูนั้น เมื่อทานเงยศีรษะขึ้นจาก
َ
การรุกูอฺทานก็กลาววา ُ‫لِﻤَﻦْ ﻤﺣ َﺪه‬
ِ ُ‫( َﻤِﻊَ اﷲ‬อั ล ลอฮฺทรงไดยินผู ที่
สรรเสริญพระองค) แลวก็มีชายคนหนึ่งซึ่งละหมาดอยูขางหลัง
ทานกล าวขึ้ น มาว า ‫ ﻤﺣَْﺪًا ﻛَﺜِ�َْا ﻃَﻴِّﺒًﺎ ُﻣﺒَ َﺎر ً� ﻓﻴ ِﻪ‬،ُ‫( ّﻨَﺎ وَلَﻚَ اﺤﻟَﻤْﺪ‬โอ
พระผูอภิบาลของเรา มวลการสรรเสริญเปนสิทธิของพระองค
เปนการสรรเสริญที่ดีงามมากมายและเต็มไปดวยความจําเริญ)
เมื่อเสร็จสิ้นการละหมาดทานก็กลาวถามวา ‘เมื่อกี้นี้ใครเปนคน
พูด?’ ชายคนนั้นจึงกลาววา: ฉันเองครับ ทานนบีจึงกลาววา ‘ฉัน
เห็นมลาอิกะฮฺสามสิบกวาทานยื้อแยงกัน เพื่อจะเปนคนแรกที่
จดบันทึกคําพูดเหลานั้น’" (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หะดีษเลขที่
799)

ประการที่สี่: ทําใหเกิดความรักในบรรดามลาอิกะฮฺผูไดรับ
มอบหมายใหจดบันทึกการงานของปวงบาว อัลลอฮฺ ตะอาลา
ตรัสวา

14
َ ُ َ ُ َۡ َ ُ َ َ ۡ ٞ ۡ
﴾ ٢ ‫ � � َ ۡسبِقون ُهۥ بِٱلق ۡو ِل َوهم بِأ ۡم ِره ِۦ َ� ۡع َملون‬٢ ‫﴿ بَل ع َِباد ُّك َر ُمون‬
[٢٧-٢٦ :‫]اﻷﻧبﻴﺎء‬

ความวา "แตพวกเขา (มลาอิกะฮฺ) เปนบรรดาบาวผูไดรับเกียรติ


พวกเขาจะไมชิงกลาวคําพูดกอนพระองค และพวกเขาปฏิบัติ
ตามพระบัญชาของพระองค" (อัล-อันบิยาอ: 26-27)
และพระองคตรัสวา
َ ۡ َ ُ ۡ ُ َ ٓ َّ َ ُ َۡ ّ
[٦ :‫ ﴾ ]ﺘﻟﺤﺮ�ﻢ‬٦ ‫�َ َما أ َم َره ۡم َو َ�ف َعلون َما يُؤ َم ُرون‬ ‫﴿ َ �عصون‬

ความวา "พวกเขาจะไม ฝ า ฝ น สิ่ ง ที่ อั ล ออฮฺ ท รงสั่ ง ใช และจะ


ปฏิบัติตามสิ่งที่พวกเขาถูกสั่งใชใหกระทํา" (อัต-ตะหฺรีม: 6)

ประการที่หา: ไมสรางความเดือดรอนรําคาญแก มลาอิกะฮฺ


เหลานั้น ทานญาบิรฺ บิน อับดิลลาฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เลา
วา ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาววา
َ ُ‫ ﻦْ أَ�َ َﻞ اﺒﻟَﺼَﻞَ واﺜﻟ‬:‫ﻗﺎل مَﺮَ ًة‬
‫ﻮْم‬ ّ ) ِ‫ اﺜﻟُﻮْم‬،ِ‫ِه اﺒﻟَﻘْﻠَﺔ‬
ِ‫َ ْ َ َ ﻣِﻦْ ﻫَﺬ‬
‫»ﻣﻦ �ﻞ‬
ُ‫ﻨ‬ ُ‫ﻨْﻪ‬ ّ ‫ﺘَﺄ‬ َ َ َ َ
‫ ﻓَﺈِنّ الﻤَﻼﺋِ�َﺔَ ﺗ ﺘﺄذَّى مِﻤَّﺎ �َ َذَى ِﻣ َ� ﻮ‬،‫والﻜُﺮاث( �َﻘْﺮَ�َﻦَّ مَﺴْﺠِﺪَﻧَﺎ‬
ّ
َ
[٥٦٤ ‫ ومﺴﻠﻢ‬،٨٥٥ ‫آد َم« ]ﺒﻟﺨﺎري ﺑﺮﻗﻢ‬

15
ความวา "ผูใดทานพืชสมุนไพรนี้ หมายถึงกระเทียม (ในอีกบท
หนึ่งทานกลาววา: ผูใดทานหัวหอม กระเทียม และหอมแดง) ก็
อย า ได เ ข าใกล มั ส ยิ ดของเรา เพราะมลาอิ ก ะฮฺ ก็ ไ ด รั บ ความ
เดื อ ดร อ นรํ า คาญจากสิ่ ง ที่ ทํ า ให ม นุ ษ ย เ ดื อ ดร อ นรํ า คาญ
เชนเดียวกัน" (บันทึกโดยอัล-บุ คอรียฺ หะดี ษเลขที่ 855 และ
มุสลิม หะดีษเลขที่ 564 โดยสํานวนนี้เปนของมุสลิม)

‫ وﻰﻠﻋ آﻪﻟ وﺻﺤﺒﻪ‬،‫ وﺻ� اﷲ وﺳﻠﻢ ﻰﻠﻋ ﻧبﻴﻨﺎ �ﻤﺪ‬،�‫ﷲ رب اﻟﻌﺎﻤﻟ‬


.�‫ﻤﺟﻌ‬

16

You might also like