Professional Documents
Culture Documents
2013 - 1434
رة اﺘﻟﺎﻜﺛﺮ
» ﺎلﻠﻐﺔ اﺘﻟﺎﻳﻼﻧﺪﻳﺔ «
2013 - 1434
ดวยพระนามของอัลลอฮฺ ผูทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
บทเรียนจากสูเราะฮฺ อัต-ตะกาษุรฺ
3
ความวา "การสะสมทรัพยสมบัติเพื่ออวดอางไดทําใหพวกเจา
เพลิดเพลิน จนกระทั่งพวกเจาไดเขาไปเยือนหลุมฝงศพ เปลา
เลย พวกเจาจะไดรู แลวก็เปลาเลย พวกเจาจะไดรู มิใชเชนนั้น
ถาพวกเจาไดรูอยางแทจริง แลวแนนอน พวกเจาจะเห็นไฟที่ลุก
โชน แลวแนนอนพวกเจาจะไดเห็นมันดวยสายตาที่แนชัด แลว
ในวันนั้ นพวกเจ าจะถู กสอบถามเกี่ยวกั บความโปรดปราน ที่
ไดรับ (ในโลกดุนยา)" (อัต-ตะกาษุร)ฺ
َۡ
คําดํารัสของอัลลอฮฺ (ُ��َ َ�ثُر ُ ٰ َ
ّ � ُم ) �لهٮความวา “การ
สะสมทรั พ ย ส มบั ติ เ พื่ อ อว ดอ า งได ทํ า ให พ ว ก เจ า
เพลิดเพลิน ”
อิ บนุ กะษี รฺ กล าวว า “อั ล ลอฮฺ ไ ด ตรั ส ว า พวกเจานั้ น
เพลิ ดเพลิ น กั บความรั กที่ มี ตอ โลก ความสุ ข สบายและความ
เพริศแพรวของมั น โดยลืมการแสวงหาเสบียงสําหรับวันอาคิ
เราะฮฺ พวกเจาอยูในภวังคนั้นจนกระทั่งความตายไดมาหาพวก
เจา แล วในที่ สุ ดพวกเจ า ได ไ ปเยี่ ยมหลุ ม ฝ ง ศพและในที่ สุด ก็
กลายเปนชาวสุสาน” (ตัฟสีรฺ อิบนุกะษีรฺ 4/44)
4
มีรายงานจากมุ ฏ็ อรริ ฟฺ จากบิ ดาของเขา อับดุล ลอฮฺ
บิน อัช-ชิคคีรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กลาววา
ُ ُ َ ّ ُ ُ ٰ ََۡ ُ ّ
»ﻳﻘﻮل: �َ�ث ُر﴾ ﻗﺎل ﴿�لهٮ�م: اﻨﻟﻲﺒَّ ﺻ�َّ اﷲُ ﻋﻠﻴﻪِوﺳﻠَ َﻢ وﻫﻮ ﻳﻘﺮأ
ﺖ َ ْﻚ إ َّ َﻣﺎ َأ َ�ﻠ
َ َ ْ َ َ َ َ ْ َ ْ َ ْ َ َ ُ
ِ ِ ﻳﺎ اﺑﻦ آدم ! ِﻣﻦ ﻣﺎل، ﻣ ِﻲﻟ ) ﻗﺎل ( وﻫﻞ لﻚ. ﻣ ِﻲﻟ: اﺑﻦ آدم
َ َ
َو َﻣﺎ ذ لِﻚ: ﺖ ؟ و� رواﻳﺔ َ ْﺖ َﻓﺄَ ْم َﻀﻴ َ ْﺖ َﻓﺄَﺑْﻠَﻴ
َ َأ ْو َﺗ َﺼ َّ ْﻗ، ﺖ َ َْﻓﺄَ ْ�ﻨَﻴ
َ َأ ْو َﻟب ْﺴ، ﺖ
ِ
ّ ُ ُ َ ٌ َ َُ
(٢٩٥٨ : ﺑﺮﻗﻢ، ٢٢٧٣/٤ )مﺴﻠﻢ.ﺎس ِ َ�ﻬ َﻮ ذا ِﻫﺐ َوﺗﺎرِ �ﻪ لِﻨ
ความว า “ฉั น ได ไ ปพบท า นนบี ศ็ อลลั ล ลอฮุ อะลั ยฮิ วะสั ล ลั ม
ُ ٰ ََۡ
ทานไดอานอายะฮฺ (�َ َ�ثُ ُر
ّ � ُم )�لهٮทานนบี กลาววา ลูกหลาน
อาดัมมักจะกลาววา "ทรัพยสินของฉัน ! ทรัพยสินของฉัน !"
ทานนบี กลาววา "โอลูกหลานอาดัมเอย ทรัพยสินของเจามิใช
สิ่งที่เจาไดบริโภคไปและมันก็สูญสิ้นดอกหรือ หรือสิ่งที่เจาได
สวมใสและมันก็พุพังสลายไปดอกหรือ หรือสิ่งที่เจาไดใชจายไป
และมันก็หมดไปดอกหรือ” ในบางสายรายงานทานนบีกลาววา
“ทั้งหมดที่กลาวมานั้นจะสูญสิ้น สวนทรัพยสินที่เหลือจะถูกทิ้ง
ไวสําหรับคนอื่น(ครอบครองตอไป)” (บันทึกโดยมุสลิม เลมที่ 4
หนา 2273 หมายเลขหะดีษ 2958 )
ۡ
คําดํารัสของพระองค ( ) �َ ّ َٰ ُز ۡر ُ� ُم ٱل َم َقاب ِ َرความวา
"จนกระทั่งพวกเจาไดเขาไปเยือนหลุมฝงศพ"
5
อิบนุล ก็อยยิม กลาววา “การที่พระองคใชคําวา เยือน
หลุมฝงศพ โดยไมใชคําวา ความตาย เปนการชี้วา มนุษยทุกคน
ไมมีใครพํานักอยูในสุสานอยางนิจนิรันดร พวกเขาอยูในสุสาน
เสมือนแขกผู มาเยื อนเปน ครั้ ง คราวเท านั้น ในที่ สุดก็ตองจาก
สถานที่ แ ห ง นั้ น ไป เช น เดี ย วกั บ ชี วิ ต พวกเขาในโลกดุ น ยาก็
เปรียบเสมือนผูมาเยือนเชนกัน เนื่องจากพวกเขามิไดพํานักอยู
บนโลกอย างจีรัง แตส ถานที่ พํานั กอั นนิ รันดร คือ สวนสวรรค
หรือขุมนรก” (ตัฟสีรฺ อิบนุลก็อยยิม หนา 512)
َ ّ َ َ ّ
คําดํารัสของพระองค ( ُّمَ ََ َس ۡوف٣ ون َ ُ َۡ ۡ َ َ
َ سوف �علم
َ َ َ
)� ۡعل ُمونความวา "เปลาเลย พวกเจาจะไดรู แลวก็เปลาเลย
พวกเจาจะไดรู"
คือ ทําไมพวกเจาถึงเพลิดเพลินกับการสะสมความมั่ง
คั่งบนโลกจนลืมการภักดีตออัลลอฮฺเชนนี้ แลวพวกเจาจะไดรูถึง
ผลลัพ ธ ของการเพลิ ดเพลิ น กั บการสะสมความมั่ง คั่ง บนโลก
อั ล ลอฮฺ ไ ด ก ล า วซ้ํ า ประโยคนี้ ห ลายครั้ ง เพื่ อ ยื น ยั น ดั ง ที่ นั ก
อรรถาธิบายอัลกุรอานบางทานไดกลาว
6
อิบนุ อัล-ก็อยยิม กลาววา “การทวนคําวาเจาจะไดรูซ้ํา
กัน ไม ใช เ พื่ อการยื น ยั น แต การรู ใ นอายะฮฺ แ รกหมายถึง การ
มองเห็นดวยตาและตอนลงไปยังหลุมฝงศพ และการรูในอายะฮฺ
ที่ส องหมายถึ ง สภาพในหลุ ม ฝ งศพ ซึ่ ง เป นทั ศนะเดียวกัน กับ
ทั ศ นะของ อั ล -หะสั น และมุ ก อติ ล และเป น สิ่ ง ที่ ร ายงาน
โดยอะฏออจากอิบนุอับบาส” (ตัฟสีรฺ อิบนุ อัล-ก็อยยิม หนาที่
515)
ۡ ۡ َ
َ ُ َۡ ۡ َ َ ّ
คําดํารัสของพระองค (�ِِ ون عِل َم ٱ�َق )َ لو �علمความ
วา "มิใชเชนนั้น ถาพวกเจาไดรูอยางแทจริง"
คือ หากพวกเจารูในสิ่งที่พวกเจาจะประสบกับมันในวัน
ขางหนาแนนอนพวกเจาคงไมเพลิดเพลินกับการสะสมความสุข
สบายในโลกนี้ แตพวกเจาจะหันไปประชันในการประกอบคุณ
งามความดี แตทวา พวกเจาปราศจากความยังรูที่แทจริง จึงทํา
ใหพวกเจาทําในสิ่งที่พวกเจาเห็นอยางผิวเผิน
� ۡ �
และคําดํารัสของพระองค ( ُّمَ َ َ وَ �ُ َّ َها٦ ٱ� ِح َيم ّ َو
َ َُن ََ
َۡ َ ۡ َ
�ِ
ِ )�� ٱ�قความวา “แลวแนนอน พวกเจาจะเห็นไฟที่ลุก
7
โชน แล ว แน นอนพวกเจ า จะได เ ห็ นมั นด ว ยสายตาที่แน
ชัด”
นี่คื อ ประโยคสาบานของอั ล ลอฮฺ ว า แท จ ริ ง บ า วของ
พระองคทุกคนไมวาจะเปนผูศรัทธาหรือผูปฏิเสธศรัทธาจะตอง
ไดเห็นไฟนรกดวยสายตาของพวกเขาเอง พระองคไดยืนยันวา
เรื่องนี้จะตองเกิดขึ้นแนนอนซึ่งมิอาจหลีกเลี่ยงได เมื่อนั้นพวก
เขาไดแลเห็นไฟนรกดวยสายตาจึงมั่นใจเต็มที่โดยไมคลางแคลง
ใจอีกเลย แตสําหรับผูศรัทธาอัลลอฮฺจะใหพวกเขารอดพนจาก
ไฟนรกอันรอนแรง และการที่พระองคใหผูศรัทธาไดมองเห็นไฟ
นรกก็ เ พื่ อจะให พ วกเขาสํ านึ กในพระกรุ ณ าธิ คุณ อั น ลน พน ที่
พระองคใหพวกเขารอดพนจากไฟนรกที่ลุกโชนได
ดังที่พระองคไดตรัสวา
ْ َّ َ ّ ّ َُ ُّ ٗ ۡ ّ ٗ ۡ َ َ ّ َ َٰ َ َ َ َ ُ َ ّ ۡ ُ ّ
�َ �ن ِ� �َِين �َقوا٧ ض ّيا
ِ ﴿�ن مِن�م ِ�َ وارِدها ۚ �ن � ر�ِك حتما َق
ٗ َ َ ّ ُ ََّ
[٧٢-٧١ ﴾ ]مﺮ�ﻢ٧ جث ِّيا ِ َنذر ل�َٰل ِ ِم� �ِيها
ความวา "และไมมีผูใดในหมูพวกเจา นอกจากจะเปนผูผานเขา
ไปในมัน มันเปนสิ่งที่กําหนดไวแนนอนแลวสําหรับพระเจาของ
เจา แลวเราจะใหบรรดาผูยําเกรงรอดพน แลวเราจะปลอยให
บรรดาผูอธรรมคุกเขาอยูในนั้น" (มัรยัม : 71-72)
8
َ لُن
และคําดํารัสของพระองค () ُّمَ لتُ ٔ�َس َّ يَ ۡو َم� ِ ٍذ َع ِن �َّعِي ِم
ความวา “แลวในวันนั้นพวกเจาจะถูกสอบถามเกี่ยวกับ
ความโปรดปรานที่ไดรับ (ในโลกดุนยา)"
หมายถึ ง อั ล ลอฮฺ จ ะทรงสอบถามพวกเจ าในวัน กิย า
มะฮฺ ถึ ง นิ อฺ ม ะฮฺ (ความโปรดปรานที่ อัล ลอฮฺ ประทานให ) ทุ ก
อยาง อาทิเชน ความปลอดภัย สุขภาพที่ดี การฟง การมองเห็น
ปลอดจากโรคภัยไขเจ็บ ตลอดจนถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มวล
มนุษยบริโภค วาพวกเจาไดขอบคุณโดยการมอบสิทธิตางๆ ที่
พึง มีตออั ล ลอฮฺ โดยไม ประพฤติ ใ นสิ่ ง ที่ ฝ าฝ นหรือเนรคุณ ต อ
พระองคหรือไม หรือวาพวกเจาไดหลงระเริงในความสุขสบายที่
ได รั บ แล ว ไม สํ า นึ ก ในพระกรุ ณ าธิ คุ ณ ของพระองค เมื่ อ เป น
เชนนั้นพระองคจะทรงลงโทษพวกเจาในสิ่งพวกเจาไดกระทําไว
รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กลาว
วา
ْ ْﻠَﺔٍ ﻓَﺈ ذَا ﻫُﻮَ ﺑِﺄَﻲ ّ ّ
ِﺑ َﺑ� ٍﺮ ِ َ رَﺳُﻮلُ ا�َ َّ ا�َُّ ﻋَﻠَﻴْﻪِوَﺳَﻠَ َﻢ اتَ ﻳَﻮْمٍ أَوْ ﻴﻟ ِ َ َﺮَج
ُ ْ َ ََ ّ ﻴُﻮﺗِ�ُﻤَﺎ ﻫَﺬ َ َ ُ
ﺠﻟُﻮع َﻳﺎ: ﺎﻋﺔ ؟« ﻗﺎﻻ َهِِالﺴ ُ� ْ » َﺎ أَﺧْﺮَﺟَﻜ ُﻤَﺎ ﻣِﻦ: ﻗﺎل، َو� َﻤ َﺮ
ُ ْ َ ّ ﻔﻲ َ َ ّ
، اﺬﻟَ ي أ ﺧ َﺮ َﺟﻜ َﻤﺎ ِ
ِ�ﺧْﺮَﺟ
َ ، ِ وَاﺬﻟَ ِّي �َْ ِﺴ �ِ ﻴَﺪِه، » ّﺎ أَﻧَﺎ: ﻗﺎل، َ�َﺳُﻮلَ ا
ِ
ََُْ ّ ﺑَي َﻓَﺈِذَا ﻫُﻮَ ﻟَيْﺲ َ ُ ُﻗ
ﻲﻓِ ْ ﺘِﻪِﻓَﻠَﻤَﺎ رأﺗﻪ ، ِ ﻓَﺄَﻰﺗ رَﺟُﻼ ﻣِﻦَ اﻷَﻧْﺼَﺎر، َُﺎمُﻮا ﻣَﻌَﻪ . «ﻮمﻮا
ّ َ ّ َ ََ َْ ْ َال ْ َﻤ ْﺮأَ ُة ﻗَﺎﻟ
: َﻬَﺎ رَﺳُﻮلُ ا�َ ّ ا�َُّ �َﻌﺎﻰﻟَ ﻋَﻠَﻴْﻪِوَﺳَﻠَ َﻢ
ِ �ﻘﺎل، َم ْﺮ َﺣﺒًﺎ َوأﻫﻼ: ﺖ
9
َ َ ّ َ َ َ ْ َ َ ٌ ُ َ َْ
�ﻨَﻈ َﺮ، ُ إِذْ ﺟَﺎءَ اﻷَﻧْﺼَﺎرِي، ِ ﻫﺐ �َﺴ ْﺘَﻌْﺬِبُ ﻨﻟَﺎ ﻣِﻦَ الْﻤَﺎء: ﺖ »أ�ﻦ ﻓﻼن ؟« ﻗﺎﻟ
َ ﻣﺎ، ّ َ َ ّ َْ َ َ َّ ﻋَﻠَﻴْﻪ َ ّ
ِ َِ� ُ ﻟَْﻤْﺪ: ﺎﺣﺒﻴﻪِ ُﻢَ ﻗﺎل ِ ا�َ ّ ا�َُّ �َﻌﺎﻰﻟَ ِوَﺳَﻠَﻢ وﺻ ِ ِﻰﻟَ رَﺳُﻮل
،ﺐ ٌ ْ ﻓَﺎ�ْﻄَﻠَﻖَ ﻓَﺠَﺎءَﻫُﻢْ ﺑِﻌِﺬْق ٍ �ِﻴﻪِ�ُ ﺮ،ِّ�ِﻮْمَ أَ�ْﺮَم أَﺿْﻴَﺎﻓًﺎ ﻣ
ٌ ﺴ َو َ� ْﻤ ٌﺮ َو ُر َﻃ َ َِْﺪُاﻴﻟ
َ ّ ّ َ ََْ ُْ َ َ َ َ َ ْ ُُ َ َ َ
َ�َ َُّ �َﻌَﺎﻰﻟ، َ�ُ رَﺳُﻮلُ ا ِ َ ﻘﺎلَ ﻪﻟ، وأ ﺧﺬ الﻤﺪ ﻳﺔ، ِ ﻛﻮا ِﻣﻦ ﻫﺬِه: �ﻘﺎل
ْ ْ َ َ ْ َ ّ ْ
َ ُﻳَّﺎكَ وَاﺤﻟَﻠ ّ
، ِ َﺬَﺑَﺢَ لَﻬُﻢْ ﻓَﺄَ�َﻠُﻮا ﻣِﻦَ الﺸَﺎةِ و ِﻣﻦ ذلِﻚ اﻟﻌِﺬق. «ﻮب » : َﻠَﻴْﻪِوَﺳَﻠَ َﻢ
ْ ّ َﻲ َ ّ ََ
ﻗَﺎلَ رَﺳُﻮلُ ا�َ ّ ا�َُّ �َﻌﺎﻰﻟَ ﻋَﻠَﻴْﻪِوَﺳَﻠَ َﻢ ِﺑ ﺑَ� ٍﺮ، ﺒِﻌُﻮا وَرَوُوا
ِ َﻠﻤّﺎ أَنْ ﺷ
ْ َ ُﺴ ﻔ ﻲ ََ ُ َ
، ِﻴﻢ َﻳ ْﻮ َم ا ﻟ ِﻘﻴَﺎ َﻣﺔ ّ َ
ِ ْﺄَﻟُﻦَّ �َﻦْ ﻫَﺬا اﻨ ﻟ َ ِﻌ، ِ » ﺬﻟَ ِّي � َْ ِﺴ �ِ ﻴﺪِه: و �ﻤﺮ
َ َ ُ َ ُ َ ﺟَ�ُﻢْ ﻣِﻦْ �ُﻴُﻮﺗِ�ُﻢُ اﺠﻟُْﻮع
ُ �ﻢَّ لَﻢْ ﺗَﺮْﺟِﻌُﻮا ﺣَﻰﺘ َّ أ َﺻﺎ َﺑ� ْﻢ ﻫﺬا ﺮ
ُ ﻟَﻌ
[٢٠٣٨ : ﺑﺮﻗﻢ١٦٠٩/٣ ﻴﻢ« ]أﺧﺮﺟﻪ مﺴﻠﻢ ِّ
ความวา มีอยูในวันหนึ่งหรือในคืนหนึ่งทานนบี ศ็อลลัลลอฮุฮะ
ลั ย ฮิ ว ะสั ล ลั ม ได เ ดิ น ออกจากบ า นของท า น แล ว ท า นได พ บ
กับอบู บักรฺ และอุมัรฺ ทานนบี ไดถามสหายของทานทั้งสองวา
“เป น เพราะเหตุ ใดที่ ทํ าให เ จ าต อ งเดิ น ออกนอกบ า นในเวลา
เชนนี้” ทั้ง สองตอบวา เพราะความหิ ว โอ ทานเราะสูล ทานบี
กลาววา “และฉันขอสาบานดวยผูซึ่งชีวิตของฉันอยูในพระหัตถ
ของพระองค แทจริงเหตุที่ทําใหฉันออกนอกบาน ก็เหมือนกับที่
ทานทั้งสองออกนอกบานเชนกัน (คือความหิว) ดังนั้นพวกทาน
ทั้งสองจงลุกขึ้น” แลวเขาทั้งสองไดลุกขึ้นเดินพรอมกับทานนบี
ไปยังบานของชายชาวอันศอรฺคนหนึ่ง แตปรากฎวาชายชาวอัน
10
ศอรฺผูนั้นไมอยูที่บาน เมื่อภรรยาเจาของบานเห็นทานนบี และ
สหายของทานมาเยือน นางจึงกล าววา ยิ นดีตอนรับ ทานนบี
เลยถามวา สามีของเธอไปไหน นางตอบวา เขาไปตักน้ํา แลว
ชายชาวอั น ศอรฺ กลั บมาถึง บ าน เมื่ อเขาเห็ น ท านเราะสูล และ
สหายของท า น เขากล า วว า มวลการสรรเสริ ญ เป น สิ ท ธิ
ของอั ล ลอฮฺ ไม มี วั น ใดที่ เ รามี แ ขกที่ มี เ กี ย รติ ม าเยื อ นเราจะ
เทียบเท าได เ ช น วั น นี้ อีกแล ว เขาจึ ง เดิ น ไปเก็ บอิ น ทผลัม ชนิ ด
ตางๆ ใหทานนบีและสหายทั้งสองรับประทาน เขากลาว พวก
ทานจงรับประทานเถิด แลวชายคนนั้นไดหยิบมีดเพื่อไปเชือด
แพะ ทานนบีกลาววา “ทานอยาไดเชือดแพะตัวที่มีน้ํานมเยอะ”
แลวเขาไดเชือดแพะหนึ่งตัวใหทานบีและสหายของทานไดรับ
ประทาน เมื่ อ พวกเขาได รั บ ประทานจนอิ่ ม แล ว ท า นนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกลาวแก อบูบักรฺและอุมัรฺ วา “ฉัน
ขอสาบานดวยผูซึ่งชีวิตของฉันอยูในพระหัตถของพระองค ใน
วันกิยามะฮฺพวกเจาจะถูกสอบถามเกี่ยวกับความโปรดปรานที่
ไดรับ (ในโลกดุนยา) เนื่องจากพวกเจาออกจากบานดวยความ
หิวและพวกเจามิไดกลับไปยังบานของพวกเจาจนกวาพวกเจา
ไดรับความโปรดปรานเหลานี้” (มุสลิม หมายเลข 2038)
11
อิหม าม อั น-นะวะวี ย ได อธิ บายหะดี ษบทนี้ วา “การ
สอบสวนของอัลลอฮฺ ณ ที่นี้คือการถามเพื่อใหเกิดความสํานึก
ต อ พระกรุ ณ าธิ คุ ณ ที่ พ ระองค ป ระทานแก ป วงบ า ว มิ ใ ช เ ป น
คําถามเพื่อตําหนิ ประณาม หรือเพื่อชําระบัญชีแตอยางใด” (ดู
ชัรหฺ อัน-นะวะวีย เลมที่ 5 หนา 214 )
ส ว นคํ า ถามสํ า หรั บ ผู ป ฏิ เ สธศรั ท ธาแล ว ถื อ ว า เป น
คําถามเชิงตําหนิ ขูสําทับ และเพื่อชําระบัญชีความบาป
รายงานจาก อบี บัร ซะฮฺ อั ล -อั ส ละมีย เราะฎิยัล ลอฮุ
อั น ฮฺ กล า วว า แท จ ริ ง ท า นนบี ศ็ อ ลลั ล ลอฮุ อ ะลั ย ฮิ ว ะสั ล ลั ม
กลาววา
ُ َ ُ ّ ََ
ُ
،أﻓﻨﺎه َﻋﻦ � ُﻤﺮِه ﻓﻴﻤﺎ: أر�ﻊ
ٍ »ﺗﺰولُ ﻗَﺪﻣﺎ ﻋﺒﺪٍ ﻳﻮمَ اﻟﻘﻴﺎﻣﺔِ ﺣﻰﺘَ �ﺴﺄل ﻋﻦ
َْ َ َ َ ُ َ
َو� ْﻦ ﺎﻪﻟِِ ِﻣ ْﻦ أ� َﻦ، ِ َو� ْﻦ ﻋِﻠﻤِﻪِ ﻣﺎذا َﻋ ِﻤﻞ ﻓﻴﻪ،أﺑﻼه و� ْﻦ َﺟ َﺴﺪِهِ ﻓﻴﻤﺎ
َُ ُ َْ
ﺣﺪﻳﺚ: وﻗﺎل٢٤١٦ ﺑﺮﻗﻢ٦١٢/٤ اﻛت َﺴﺒَﻪ وﻓﻴﻤﺎ أﻧﻔﻘﻪ« ]ﺧﺮﺟﻪ اﻟﺮﺘﻣﺬي
[ﺣﺴﻦ ﺻﺤﻴﺢ
ความวา "ในวันกิยามะฮฺบาวคนหนึ่งคนใดจะไมกาวเทาของเขา
จนกว า จะถู ก สอบถามถึ ง สี่ ป ระการ คื อ จะถู ก สอบถามถึ ง
อายุขั ยของเขาว าใช เ วลาช ว งที่ มี ชี วิตหมดไปกั บสิ่ง ใด จะถู ก
12
สอบถามถึ ง ร า งกายของเขาว า สู ญ เสี ย ไปกั บ สิ่ ง ใด จะถู ก
สอบถามถึงความรูที่เขาไดรับวาเขาไปปฏิบัติเชนใด และจะถูก
สอบถามถึ ง ทรั พ ย สิ น ว า ได ม าจากแหล ง ใดและใช จ า ยไปใน
หนทางใด" (บั น ทึ ก โดยอั ต -ติ ร มิ ซี ย เล ม ที่ 4 หน า ที่ 612
หมายเลขหะดีษ 2416 ทานกลาววา เปนหะดีษ หะสัน เศาะฮีหฺ)
13
พระองคถามบาวผูนั้นอีกวา แลวเจาศรัทธาวาสักวันเจาจะตอง
มาพบกั บ ข า หรื อ ไม บ า วผู นั้ น ตอบว า ฉั น ไม ไ ด ศ รั ท ธา แล ว
พระองคตรัสวา ดังนั้น ในวันนี้ฉันจะลืมเจาดังที่เจาไดเคยลืมฉัน
(ตอนที่มีชีวิตบนโลก)” (บันทึกโดยมุสลิม เลมที่ 4 หนาที่ 2279
หมายเลขหะดีษ 2968)
14
อิบนุ อัล-ก็อยยิม กลาววา “ชางเปนสูเราะฮฺของอัลลอฮฺ
ที่ยิ่งใหญนัก ซึ่งบรรจุดวยบทเรียน ขอคิด ขอตักเตือน เปนสิ่ง
เตือนใจใหเรานึกถึงวันอาคิเราะฮฺ และมีความสมถะในการใช
ชีวิตบนโลกนี้ สูเราะฮฺนี้มีประโยคที่รวบรัดแตถอยคําถูกเรียบ
เรียงอย า งวิ จิ ต รงดงาม ดั ง นั้ นความประเสริ ฐ จะประสบแก ผู
กลาวสูเราะฮฺนี้ดวยสัจจริง และศาสนทูตของพระองคไดเผยแพร
สูเราะฮฺนี้แลว” (ตัฟสีรฺ อัล-ก็อยยิม หนาที่ 523)
،�اﺤﻟﻤﺪ ﷲ ب اﻟﻌﺎﻤﻟ
15