Professional Documents
Culture Documents
์สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย
ที่อสิ ลามยืนยันรั บรอง
حقوق دعت إيلها الفطرة وقررتها الرشيعة
ผู้แปล: อันวา สะอุ และ อุษมาน อิดรี ส
ผู้ตรวจ: ซุฟอัม อุษมาน
ترمجة :أنور إسماعيل وعثمان إدريس
مراجعة :صايف عثمان
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
1
สารบัญ
คานาผู้จัดพิมพ์
. نبينا حممد وىلع آهل وأصحابه أمجعني، والصالة والسالم ىلع أرشف األنبياء واملرسلني،احلمد هلل رب العاملني
อัล หัม ดุลิ ล ลาฮฺ ขอขอบคุณ ต่อเอกองค์อัลลอฮฺผ้ ูท รงเมตตา ที่ ได้ ให้ การจัดพิม พ์ ห นังสื อภายใต้
โครงการ e-daiyah ได้ ด าเนิ น ลุล่ว งมาจนถึ งปี ที่ ห้ า นับ ตัง้ แต่มี การจัด พิ ม พ์ ห นัง สื อเล่ม แรกตัง้ แต่เดื อ น
เมษายน 2011
ในครัง้ นี ้ เราได้ รับมอบหมายให้ จดั พิมพ์หนังสือ “สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ ท่ ีอิสลามยืนยัน
รับรอง” ที่เขียนโดยเชคมุหมั มัด บิน ศอลิห์ อัล-อุษัยมีน เราะหิมะฮุลลอฮฺ โดยการกระตุ้นและสนับสนุนจาก
ท่านผู้ชว่ ยศาสตรจารย์ ดร.รอชิด บิน หะมัด อัฏ-ฏ็อยยารฺ ที่ปรึกษาด้ านโครงการทางวิชาการและการบริหาร
ของมูลนิธิวิทยาทาน ซึ่งได้ กรุณาเป็ นผู้ประสานงานกับผู้ดแู ลลิขสิทธิผลงานของเชคมุหมั มัด บิน ศอลิห์ อัล -
อุษัยมีน เพื่อให้ การแปลและจัดพิมพ์หนังสือของท่านเป็ นไปอย่างถูกต้ องตามกระบวนการมากที่สดุ
ขอขอบคุณผู้แปลทังสองท่ ้ าน อาจารย์อนั วาร์ อิสมาอีล และอาจารย์อษุ มาน อิดรี ส นักวิชาการและ
นักแปลของมูลนิธิวิทยาทาน ที่ได้ ท่มุ เทความพยายามอย่างที่สดุ ในการถ่ายทอดเนื ้อหาของหนังสือมาเป็ น
ภาษาไทย และขอขอบคุณ ท่ านผู้ช่ว ยศาสตรจารย์ ดร.รอชิ ด บิ น หะมัด อัฏ -ฏ็ อ ยยารฺ กรรมการสภา
มหาวิ ท ยาลั ย ฟ าฏอนี และท่ า นผู้ ช่ ว ยศาสตรจารย์ ดร.อิ ส มาอี ล ลุ ต ฟี จะปะกี ย า อธิ ก ารบดี
มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ที่ได้ กรุณาให้ คานิยมแก่ผลงานชิ ้นนี ้
ในนามผู้จดั พิมพ์ เราหวังเป็ นอย่างยิ่ งว่า จะได้ มีส่วนร่วมนาเสนอเนื ้อหาที่มีคณ ุ ค่าจากผลงานของ
นักปราชญ์อย่างท่านเชคมุหมั มัด บิน ศอลิห์ อัล -อุษัยมีน เราะหิมะฮุลลอฮฺ รวมถึงอุละมาอ์และนักวิชาการ
ท่านอื่นๆ อย่างต่อเนื่องสืบไป เพื่อให้ เป็ นต้ นทุนทางวิชาการและมรดกทางปั ญญาที่จะใช้ การรังสรรค์ความดี
งามในสังคมของเราอย่างยัง่ ยืน
สิ่งใดที่ปรากฏเป็ นข้ อผิดพลาดในหนังสือเล่มนี ้หรื อเล่มอื่นๆ ของโครงการ เรายินดีอย่างยิ่งที่จะน้ อม
รับคาแนะนาเพื่อเอาไปแก้ ไขปรับปรุงให้ ดีขึ ้น อินชาอัลลอฮฺ
ขอให้ เอกองค์อัล ลอฮฺ ได้ ป ระทานเตาฟี กแก่ทุกท่าน และทรงรับ ความพยายามนี ข้ องเราให้ เป็ น
วิทยาทานที่ส่งผลบุญอย่างไม่ขาดสายแก่ผ้ เู ขียน ผู้แปล และผู้มีส่วนร่ วมในการเผยแพร่หนังสือเล่มนี ้ทุกๆ
คน อามีน
ซุฟอัม อุษมาน
บรรณาธิการ
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
3
คานิยม
ผศ.ดร.รอชิด บิน หะมัด อัฏ-ฏ็อยยารฺ
อาจารย์ประจามหาวิทยาลัยอิมาม บิน สะอูด กรุงริยาด
และกรรมการสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี
: وبعد،احلمد هلل والصالة والسالم ىلع رسول اهلل وىلع آهل وصحبه أمجعني
คานิยม
ผศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา
อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี
. واحلمد هلل رب العاملني،وصىل اهلل ىلع اِيب األيم حممد وىلع آهل وأصحابه أمجعني
บ่าวผู้แสวงหาความเมตตาของอัลลอฮฺ
อิสมาอีล ลุตฟี ฟาฏอนี
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
6
คานาบรรณาธิการต้ นฉบับภาษาอาหรับ
صىل اهلل عليه وىلع، وأشهد أن حممدا عبده ورسوهل، وأشهد أن ال هلإ إال اهلل وحده ال رشي هل،احلمد هلل رب العاملني
: وبعد،آهل وأصحابه أمجعني
ه
.وصىل اّلل وسلم ىلع نبينا حممد وىلع آهل وأصحابه أمجعني
บทนา
ه ه
من يهده اهلل فال، ونعوذ باّلل من رشور أنفسنا ومن سَِّاِ أعماِا، ونتوب إيله، ونستغفره، ونستعينه،إن احلمد ّلل َنمده
صىل اهلل عليه، وأشهد أن حممدا عبده ورسوهل، وأشهد أن ال هلإ إال اهلل وحده ال رشي هل، ومن يضلل فال هادي هل،مضل هل
. وسلم تسليما، ومن تبعهم بإحسان،وىلع آهل وأصحابه
หนึ่ง สิทธิของอัลลอฮฺ
หากแม้ นว่าพระองค์ได้ ระงับปั จจัยแก่เจ้ าแม้ เพียงพริ บตา แน่นอนเจ้ าคงพบกับความหายนะ หาก
แม้ นว่าพระองค์ได้ ระงับความเมตตาสักระยะเวลาหนึง่ แน่แท้ เจ้ าคงไม่มีโอกาสได้ มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี ้ หาก
ทังหมดนี
้ ้คือสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้ แก่เจ้ าแล้ ว ดังนันสิ
้ ทธิที่พระองค์พึงได้ รับจากเจ้ านันต้
้ องเป็ นสิทธิที่
ใหญ่หลวงนัก เพราะพระองค์คือผู้สร้ างเจ้ า ผู้ให้ เจ้ ามีชีวิตพร้ อมมอบปั จจัยต่างๆ และความช่วยเหลือให้ เจ้ า
สามารถด ารงตนบนโลกใบนี ไ้ ด้ และพระองค์ ก็มิ ได้ ห วัง หรื อ เรี ยกร้ องจากเจ้ า ให้ ต อบแทนบุญ คุณ ของ
พระองค์ด้วยการมอบปั จจัยหรื ออาหารแต่อย่างใด พระองค์ตรัสว่า
ه ه َ ه
]٢٣١ :َ﴾ [طه١٣٢ََنَنرَ هزقكََوَٱلَعَقِّب َةَل َِّلتقَوى
َّن ه
َ ََ﴿لََنسَٔلكََرِّزَقَا
ความว่า "เรามิได้ ขอเครื่ องยังชีพจากเจ้ า เราต่างหากเป็ นผู้ให้ เครื่ องยังชีพแก่เจ้ า และบันปลาย
้
ที่ดนี นย่
ั ้ อมมีไว้ สาหรับผู้ที่มีความยาแกรง" (ฏอฮา :132)
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
10
พระองค์ต้องการจากเจ้ าเพี ยงหนึ่งประการเท่านัน้ ซึ่งก็ เป็ นประโยชน์ ที่จ ะย้ อ นกลับไปสู่เจ้ าเอง
พระองค์ทรงประสงค์ให้ เจ้ าเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านันโดยปราศจากการตั
้ งภาคี
้ ใดๆ ต่อ
พระองค์
َ َ ه َ َ ه ه ه ه َ
َاقَذو
َ ّللَهوََٱلرز
َ نَٱ
َ ِّ ََإ٥٧َون َيدَمِّنَ ههمَمِّنَرِّزَقََوماََأرِّ ه
َِّ يدَأنَ هيطَع هِّم ََماََأرِّ ه٥٦َون
َِّ لَ ِِّلعَ هب هد
َ ِّ لنسََإ ََ ل
َِّ نَوَٱ َ ﴿َوماَخلقَ ه
َِّ تَٱ
ه
]٦8-٦٥ :ِ﴾ [اذلاريا٥٨َِّي َٱلَق َوَة َِّٱلَمت ه
ความว่า "และข้ ามิได้ สร้ างญินและมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้ นแต่เพื่อเคารพภักดีตอ่ ข้ า ข้ าไม่ต้องการ
ปั จจัยยังชีพจากพวกเขา และข้ าก็ไม่ต้องการให้ พวกเขาให้ อาหารแก่ข้า แท้ จริ งอัลลอฮฺ คือผู้
ประทานปั จจัยยังชีพอันมากหลาย ผู้ทรงพลัง ผู้ทรงมัน่ คง" (อัซ-ซาริยาต : 56-58)
แท้ จริ งสิทธิ นีค้ ือสิ่งที่ อัล ลอฮฺ ได้ กาหนดไว้ ส าหรับพระองค์เอง ซึ่งสิ่งนี จ้ ะเกิดความง่ายได้ ในการ
ปฏิบตั ิสาหรับผู้ที่อลั ลอฮฺประสงค์จะให้ เกิดความง่ายดายแก่ตวั เขา ทั ง้ นี ้เนื่องจากพระองค์มิได้ ทาให้ สิ่งนัน้
เป็ นสิ่งที่ยากลาบาก ดังที่พระองค์ตรัสว่า
ه ه َ ه ه ه َ
ََِّين َمِّنَ َحرجَ َمِّلةَ َأبِّيكمَ َإِّبَرَهِّيمَ َهو َ ِّ َ َجهادِّ َه ِّۦَ َهوَ َٱجَتبىَكمَ َوما َجعلَ َعليَكم
َِّ ف َٱل ََ ّللِّ َح
ِّ َ ق َ ف َٱَ ِّ َ َ﴿ َوجَ ِّه هدوا
َ ِّيمواََٱ ه ه ه ه ً ولَشه َ ه ه ه ه ه
ََلصلوَة اسَفأق ه َ ِّ َيداَعليَكمََوتكونواََشهداَءَََعََٱنل ِّ َ فَهَذاَ ِِّلكونََٱلرس َ َس َمىَك هَمَٱلَ همسَل ِّ ِّميََمِّنَقب
َ ِّ لَو
ه َ ه ه
]٨٧ : َ﴾ [احلج٧٨َي َّللَِّهوََموَلىَكمََفن ِّعَمََٱلَموَلََون ِّعَمََٱنلَ ِّص ه
َ وءاتواََٱ َلزكوَةََوَٱعَت ِّص همواَََب ِّٱ
ความว่า "และจงต่อสู้เพื่ออัลลอฮฺ ซึ่งเป็ นการต่อสู้ที่แท้ จริ งเพื่อพระองค์ พระองค์ทรงคัดเลือก
พวกเจ้ า และพระองค์มิได้ ทรงทาให้ เป็ นการลาบากแก่พวกเจ้ าในเรื่ องของศาสนา ศาสนา (ที่
ไม่ลาบาก) คือศาสนาของอิบรอฮีม บรรพบุรุษของพวกเจ้ า พระองค์ทรงเรี ยกชื่อพวกเจ้ าว่า
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
11
มุสลิมีน (พหูพจน์ของ มุสลิม) ในคัมภีร์ก่อนๆ และในอัลกุรอานด้ วย เพื่อศาสนทูตจะได้ เป็ น
พยานต่อพวกเจ้ า และพวกเจ้ าจะได้ เป็ นพยานต่อมนุษย์ ทั่วไป ดังนัน้ พวกเจ้ าจงดารงการ
ละหมาด และบริ จาคซะกาต และจงยึดมัน่ ต่ออัลลอฮฺ พระองค์เป็ นผู้ค้ มุ ครองพวกเจ้ า เพราะ
พระองค์คือผู้ค้ มุ ครองที่ดีเลิศ และผู้ทรงช่วยเหลือที่ดีเยี่ยม" (อัล-หัจญ์ : 78)
ความว่า “ดังนันพวกเจ้
้ าจงดารงการละหมาด จงจ่ายซะกาต และจงยึดมัน่ ต่ออัลลอฮฺ พระองค์
เป็ นผู้ค้ มุ ครองพวกเจ้ า เพราะพระองค์คือผู้ค้ มุ ครองที่ดีเลิศ และผู้ทรงช่วยเหลือที่ดีเยี่ยม" (อัล-
หัจญ์ : 78)
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
12
การถือศีลอดเป็ นระยะเวลา 1 เดือนในรอบปี และถ้ าผู้ใดป่ วยหรื ออยู่ในการเดินทาง ก็จงถือใช้ ใน
วันอื่นแทน ส่วนผู้ใดที่ไม่มีความสามารถที่จะถื อศีลอดได้ อย่างถาวรก็ให้ เขาจ่ายเป็ นอาหารแก่คนยากจน
โดยจ่ายให้ ผ้ รู ับอาหารหนึง่ คนต่อจานวนหนึง่ วันที่ละศีลอดให้ ครบตามจานวนวันทังหมดที้ ่ไม่ได้ ถือศีลอด
การประกอบพิธีหัจญ์ ครัง้ หนึง่ ในชีวิตสาหรับผู้ที่มีความสามารถ
ทัง้ หมดนัน้ เป็ นหลักการสิ ทธิ ของอัลลอฮฺ ส่วนบทบัญ ญั ติอื่น ๆ นัน้ จะบังคับให้ กระทาเมื่ อมี เหตุ
จาเป็ น เช่นการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ หรื อเพราะเหตุแวดล้ อมกดดันให้ ปฏิบตั ิ เช่น การช่วยเหลือผู้ที่ถกู
อธรรม
พึงรู้เถิดว่าสิทธิเหล่านี ้เป็ นการงานที่ง่ายดายแต่ทว่าเต็มเปี่ ยมด้ วยผลบุญ หากท่านได้ ปฏิบตั ิหน้ าที่
ดังกล่าวข้ างต้ นท่านจะเป็ นผู้ที่มีความสุขในโลกนี ้และในโลกอาคิเราะฮฺ และจะรอดพ้ นจากการทรมานในไฟ
นรกและได้ เข้ าพานักในสวนสวรรค์ของพระผู้เป็ นเจ้ า ดังที่อลั ลอฮฺตรัสว่า
ه َ َ ه
َ ِّ ارَِّوأدَخِّلََٱلَ َنةََفقدََفازََوماَٱلَيوََةهَٱ ُلنَياََإ
َ لَمتَ هَعَٱلَغ هر
]٢٧٦ :َ﴾ [آل عمران١٨٥َِّور َِّ ﴿فمنَ هزحَزِّحََع
َ نَٱنل
ความว่า "แล้ วผู้ใดที่ถกู ให้ ห่างไกลจากไฟนรก และถูกให้ เข้ าสวรรค์แล้ วไซร้ แน่นอน เขาก็ชนะ
แล้ ว และชีวิตความเป็ นอยู่แห่งโลกนี ้มิใช่อะไรอื่น เลย นอกจากสิ่งอานวยประโยชน์แห่ง มายา
เท่านัน"้ (อาล อิมรอน :185)
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
13
สิทธิข้อนี ้เป็ นสิทธิที่ยิ่งใหญ่ที่พงึ มีตอ่ มัคลูก(สรรพสิ่งที่ถกู สร้ าง)ด้ วยกัน ไม่มีสิทธิของสรรพสิ่งใดๆ ที่
จะยิ่งใหญ่ไปกว่าสิทธิที่พึงมีต่อศาสนทูตของอัลลอฮฺ (นบีมุหมั มัด) ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม พระองค์
อัลลอฮฺได้ ตรัสว่า
ه ه َ َ
]٩-٧ :وههَ﴾ [الفتح
َ وههَوتوق هِّر
َ ول ِّۦَوتع ِّز هر َ َ ِّّلهؤَم هِّنواَََب ِّٱ٨َشاَونذِّيرَا
َِّ ّللَِّور هس َ ِّ ﴿َإِّناََأرَسلَنَكََشَ ِّهدَاَو همب
ความว่า “แท้ จริ งเราได้ ส่งเจ้ า (มุหัมมัด)มาเพื่ อเป็ นพยานและผู้แจ้ งข่าวดีและผู้แจ้ งข่าวร้ าย
เพื่อให้ พวกเจ้ าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ รวมทังเพื ้ ่อให้ พวกเจ้ ามอบความ
ช่วยเหลือสนับสนุนเขา และเทิดทูนให้ เกียรติแก่เขา” (อัล-ฟั ตหฺ : 9-8)
สาม สิทธิของบิดามารดา
และพระองค์ตรัสอีกว่า
ه َ ه ه ه ه َ َ
ََنَعِّندكََٱلَكِّبََأح هدهماََأوََ ِّلِكهماَفلََتقلَل ههماََأف ََ نَإِّحََٰ ًناََإ ِّ َماَيبَلغ
َِّ َلَإِّيَ َاههَو َب ِّٱلَوَ ِّلي
َ ِّ لَتعَ هب هدوَاََإ
َ ﴿۞وقضََر ُبكََأ
ه ُ َ ه ه
﴾٢٤َانَصغِّيَاَ ِّ بَٱرََحَ ههماَكماَر َبي
َِّ َوَٱخَفِّضََل ههماَجناحََٱذل َِّلَمِّنََٱ َلرَحَةَِّوقلَ َر٢٣َولََتنَهرَهماَوقلَل ههماَقوَلََك ِّريمَا
]١١-١٣ :[اإلرساء
ความว่า “และพระเจ้ าของเจ้ าบัญชาว่า พวกเจ้ าอย่าเคารพภักดีผ้ ใู ดนอกจากพระองค์เท่านัน้
และจงทาดีตอ่ บิดามารดา เมื่อ บุพการี คนใดคนหนึ่งหรื อทังสองคนได้
้ บรรลุส่วู ยั ชราอยู่กบั เจ้ า
ก็จงอย่ากล่าวแก่ทัง้ สองว่า อุฟ ! และอย่าขู่เข็ญ ท่านทัง้ สอง และจงพูดแก่ท่านทัง้ สองด้ วย
ถ้ อยคาที่อ่อนโยน และจงนอบน้ อมแก่ท่านทังสอง้ ซึ่งการถ่อมตนเนื่องจากความเมตตา และ
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
16
จงกล่าวว่า ข้ าแต่พระเจ้ าของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทังสองเช่
้ นที่ทงสองได้
ั้ เลี ้ยงดูฉันเมื่อ
เยาว์วยั ” (อัล-อิสรออ์ : 23-24)
ه
َلَٱلَم ِّص ه
]٢١ :َ﴾ [لقمان١٤َي ََ ِّ لَول ِّوَ ِّليَكََإ
َ ِّ ََنَٱشَكر
َِّ ﴿أ
ความว่า “เจ้ าจงขอบคุณข้ า และจงขอบคุณบิดามารดาของเจ้ า ยังเรานันคื ้ อการกลับไป” (ลุก
มาน : 14)
ท่านนบีมหุ มั มัด ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ วางการทาดีต่อพ่อแม่เหนือกว่าการต่อสู้ในหนทาง
ของอัลลอฮฺ ดังหะดีษที่รายงานโดยท่านอิบนุ มัสอูด เราะฎิยลั ลอฮุอนั ฮฺ ว่า ฉันได้ กล่าวว่า
َ َ َ ُ ُ حَ َ ح ُ ح َ َ َ ُ ُ َّ َ ُ َ َ َ ح َ ُ ح َ َ َ َ َ
: ث َّم أي ؟ قال:ت «بهر الو هالي هن» قل: ث َّم أي ؟ قال:ت قل،» «الصالة ىلع وق هتها:الع َم هل أ َحب إهل اهلل ؟ قال أي،يَا َر ُسول اهلل
« َ ُ َ ح
»هلل
الهاد هيف س هبي هل ا ه
ه
ความว่า โอ้ ศาสนทูตของอัลลอฮฺ การงานใดที่อลั ลอฮฺทรงรักมากที่สดุ ? ท่านนบีตอบว่า “การ
ละหมาดในเวลาของมัน ” และฉันได้ ถามอี กว่า แล้ วมี การงานอะไรอี ก (ที่ พ ระองค์ทรงรัก )?
ท่านนบีตอบว่า “การทาดีต่อพ่อแม่” แล้ วฉันก็ถามท่านอีกว่า แล้ วการงานอะไรอีก ? ท่านนบี
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
17
ตอบว่ า “การต่อ สู้ใ นหนทางของอัล ลอฮฺ ” (บัน ทึ ก โดย อัล -บุ ค อรี ย์ 504, มุ ส ลิ ม 85, อัต -
ติรมิซีย์ 1898, อัน-นะสาอีย์ 610, อะหฺมดั 1/439, อัด-ดาริมีย์ 1225)
สี่ สิทธิของบุตร
ลูก หลานคื ออะมานะฮฺ (หน้ าที่ ต้ องรับ ผิด ชอบ)บนบ่าของบิด ามารดาทุก คน ทัง้ สองท่านจะถูก
สอบสวนถึงภาระหน้ าที่ ต่อลูกหลานในวันกิยามะฮฺ และด้ วยการอบรมปลูกฝั งศาสนาและจริ ยธรรมแก่
ลูกหลานจะทาให้ พวกเขากลายเป็ นแก้ วตาดวงใจแก่พ่อแม่ ทาให้ มีความสุขทังในโลกนี
้ ้และโลกหน้ า อัลลอฮฺ
ตรัสว่า
ُه ه ه َ َ
َ ََ﴿َوَٱذلِّينََءام هنواََوَٱتبعتَ ههمََذرِّ َي هت ههمَبِّإِّيمَنََألَقَناَب ِّ ِّهمََذرِّ َيت ههمََوماََأّلَنَ ههمَمِّنََعمل ِّ ِّهمَمِّنَشَء
ََكَٱمَ ِّرِٕۢيَبِّماَكسب
]12 :َ﴾ [الطور٢١ََرهِّي
ความว่า “และผู้ศรัทธาทังหลาย
้ ที่บรรดาลูกหลานของพวกเขาได้ ดาเนินตามพวกเขาด้ วยการ
ศรัทธา เราจะให้ ลูกหลานของพวกเขาอยู่ร่วมกับพวกเขา และเราจะไม่ให้ ผลบุญจากการงาน
ของพวกเขาลดหย่อนลงจากพวกเขาแต่อย่างใด แต่ละคนนันย่ ้ อมได้ รับการค ้าประกันในสิ่งที่
เขาขวนขวายไว้ ” (อัฏ-ฏรฺู : 21)
และในบางสานวน มีดงั นี ้
َ َ ح ح َ َ َ َ َ ح ح َ ئح َ َ ح
»ّن ال أش َه ُد َىلع َج حو ٍر يي ف هإ
«أش ههد ىلع هذا غ ه
ความว่า “ให้ ค นอื่ น มาเป็ นพยานแทนฉัน เถิ ด เพราะฉัน ไม่เป็ นพยานต่อ ความอยุติธ รรม”
(บั น ทึ ก โดยมุ ส ลิ ม 1623, อั น -นะสาอี ย์ 3681, อบู ดาวู ด 3542, อิ บ นุ มาญ ะฮฺ 2375,
อะหฺมดั 4/270)
ห้ า สิทธิของเครือญาติ
สาหรับญาติพี่ น้องที่ มี ความสัม พันธ์ เครื อญาติกับท่าน เช่น เป็ นพี่ น้อง ลุง ป้า น้ า อา ตลอดจน
ลูกพี่ลกู น้ อง หรื อบุคคลอื่นที่เป็ นเครื อญาติกบั เรานันพวกเขามี
้ สิทธิพงึ ได้ รับ ดังที่อลั ลอฮฺได้ ตรัสว่า
َ ه
]١٥ :﴿َوءاتََِّذاَٱلَقرَبََحق هَهۥ﴾ [اإلرساء
ความว่า “และจงให้ สิทธิแก่ผ้ ทู ี่เป็ นเครื อญาติ” (อัล-อิสรออ์ : 26)
และพระองค์ได้ ตรัสว่า
ه ه ه َ
]٣٥ : نَإِّحََٰنَاَوبِّذِّيَٱلَقرَبَ﴾ [النساء
َِّ َشوُكواََب ِّ َهِّۦَشيَاََو َب ِّٱلَوَ ِّلي َ ﴿َ۞وَٱعَ هب هدواََٱ
َِّ ّللَولََت
ความว่า “และจงเคารพสักการะอัลลอฮฺเถิด และอย่าให้ มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็ นภาคีกับพระองค์
และจงทาดีตอ่ ผู้บงั เกิดเกล้ าทังสอง
้ และต่อผู้เป็ นเครื อญาติ” (อัน-นิสาอ์ : 36)
ดังนัน้ จ าเป็ นที่ จะต้ องเชื่ อมสัม พันธ์ กับผู้ที่เป็ นญาติด้วยกัน ด้ วยการทุ่ม เทแรงกายแรงใจ และ
เอื ้อเฟื อ้ ทรัพย์สินเงินทองในยามที่ญาติต้องการหรื อมีความจาเป็ น ซึง่ เรื่ องการช่วยเหลือกันในหมูเ่ ครื อญาติ
เป็ นสิ่งที่ได้ รับการยืนยันโดยบทบัญญัตทิ างศาสนา สติปัญญา และกมลสันดานอันเป็ นธรรมชาติของมนุษย์
มีหลักฐานตัวบทมากมายที่ ส่งเสริ ม ให้ มี การเชื่อมและสานสัมพันธ์ ในหมู่เครื อญาติที่ใกล้ ชิด ใน
ตาราหะดีษเศาะฮี ้หฺอลั -บุคอรี ย์และมุสลิม ได้ บนั ทึกหะดีษที่รายงานจากท่าอบูฮรุ ็ อยเราะฮฺ แท้ จริ งท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
َ َ َ َ َ ََ َ ح َّ ُ َ َ َ ح َ َ َ َ ُ ح َ َ َّ َ َ َ َ ح َ ح َ َ َّ َ َ َ ح ُ ح
أ َما، ن َع حم: قال،يع هة ام ال َعائه هذ به همن الق هط هذا مق: فقالت،ت الر هحم حّت إهذا ف َرغ همنهم قام ه، « إهن اهلل خلق اْللق
َ ُ َّ َّ َ َّ ُ ُ َ َ َ َّ ُ
اّلل َعليح هه اّلل صىل
َ َ ََ َ َ ََ َ َ ح َ َ َ ََح َ َ َ ح َ َ َ َح َ حَ َ ح َ َ َ ح
ثم قال رسول ه، فذاك ل ه: قال، بىل: وأقطع من قطع ه ؟ قالت، ترضني أن أ هصل من وصل ه
ح ح ح َّ
: اق َر ُءوا إهن هشئتُ حم: َو َسل َم
َ َ ه ه ه ه ﴿َفهلََعسيَ هتمََإنَتو َ َ ه
ََّللَفأص َم ههمََوأعَم ََأولَئِّكََٱذلِّينََلعن هه هَمَٱ ه٢٢ََضَوتق ِّط هعوَاََأرَحامكم َ ِّ ََس هدوا
َ ِّ فَٱلَۡر ِّ َِلتمََأنَتف ِّ
ه هه ه ه
]١١-١١ : َ﴾ [حممد٢٤َََأفلََيتدبَ هرونََٱلَقرَءانََأمَََعََقلوبََأقَفالها٢٣ََأبَصَرهم
ความว่า “อัลลอฮฺได้ ทรงสร้ างสรรพสิ่งทังหลายจนเมื
้ ่อเสร็ จสิ ้นแล้ ว อัร-เราะหิม (ตัวเครื อญาติ)
ก็ ได้ ลุก ขึน้ มาและกล่า วว่า นี่ คื อ การยื น ของผู้ข อความคุ้ม ครองให้ พ้ น จากการถูก ตัด ขาด
พระองค์ อัล ลอฮฺ ก็ ต รัส ว่า ได้ เจ้ า จะพอพอใจหรื อ ไม่ หากฉัน จะเชื่ อ มสัม พัน ธ์ กับ ผู้ที่ เชื่ อ ม
สัม พัน ธ์ กับ เจ้ า และฉัน จะตัด ขาดกับ ผู้ที่ ตัด ขาดกับ เจ้ า ? มัน ได้ ต อบว่า ใช่ ข้ าพอใจแล้ ว ”
จากนันท่ ้ านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม ก็ได้ กล่าวว่า “พวกท่านจงอ่านอา
ยะฮฺนี ้เถิดหากพวกท่านประสงค์
َ َ ه ه ه ه ﴿َفهلََعسيَ هتمََإنَتو َ َ ه
ََأولَئِّكََٱذلِّينََلعن هه هَمَٱ ه٢٢ََضَوتق ِّط هعوَاََأرَحامكم
ََّللَفأص َم ههمََوأعَم َ ِّ ََس هدوا
َ ِّ فَٱلَۡر ِّ َِلتمََأنَتف ِّ
ه
]12-١١ : ﴾ [حممد٢٣ََأبَصَرهم
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
23
“ดังนัน้ พวกเจ้ าหวังกันหรื อว่า หากพวกเจ้ าผินหลังให้ (กับการศรัทธาแล้ ว)พวกเจ้ าก็จะได้ ก่อ
ความเสียหายในแผ่นดิน และตัดความสัมพันธ์ ทางเครื อญาติของพวกเจ้ า ? ชนเหล่านี แ้ หล่ะ
คือบรรดาผู้ที่อลั ลอฮฺทรงสาปแช่งพวกเขา ดังนัน้ พระองค์จึงทรงทาให้ พวกเขาหูหนวกและทรง
ทาให้ พ วกเขาตาบอด(จากการได้ พ บสัจธรรมและความดีงาม)” (มุหัม มัด : 22-23) (บันทึก
โดยอัล-บุคอรี ย์ 5987 และมุสลิม 2554)
ปั จจุบนั มีผ้ คู นส่วนใหญ่มกั จะละเลยสิทธิที่พึงมีตอ่ เครื อญาติ ซึ่งเราจะพบว่าบางคนไม่ร้ ูจกั แม้ กระ
ทัง้ ญาติใกล้ ชิดของตนเอง ไม่เคยเชื่อมสัม พันธ์ กับพวกเขาไม่ว่าจะด้ วยทรัพ ย์สิน ตาแหน่งการงาน หรื อ
แสดงกิ ริยามารยาทที่ ดีง าม วัน เวลาผ่านไปพวกเขาไม่เคยนึกที่ จ ะไปเยี่ ยมญาติพี่ น้ อง ไม่เคยหยิ บ ยื่ น
ของขวัญสักชิ ้นหนึ่ง ไม่เคยช่วยเหลือพวกเขาในยามเดือดร้ อน ซ ้าร้ ายกว่านัน้ มีบางคนถึงกับทาร้ ายจิตใจ
ของผู้เป็ นญาติไม่ว่าจะเป็ นคาพูด หรื อการกระทา หรื อทังค ้ าพูดและการกระทา น่าแปลกยิ่งนักที่พวกเขา
ยอมผูกสัมพันธ์กบั คนอื่นคนไกลแต่ตดั ขามความสัมพันธ์กบั ญาติสนิทใกล้ ชิด
มี บ างคนจะเลื อ กเชื่ อ มสั ม พั น ธ์ เฉพาะกั บ ผู้ ที่ เชื่ อ มสั ม พั น ธ์ กั บ เขาด้ วยเท่ า นั น้ และจะตั ด
ความสัมพันธ์ กับผู้ที่ตดั สัมพันธ์ กับเขา เขาผู้นีไ้ ม่นับว่าเป็ นบุคคลที่เชื่อมสัมพันธ์ กับญาติมิตร แต่เป็ นผู้ที่
กระทาอย่างทัดเทียมกัน (ทาดีกับผู้ที่ทาดีกบั เขาก่อน) ซึ่งจะเขาอาจแสดงพฤติกรรมนี ้กับบรรดาญาติหรื อ
คนอื่นๆ ก็ได้ เพราะการตอบแทนในความดีไม่ได้ เจาะจงเฉพาะกับผู้ที่เป็ นญาติใกล้ ชิดเท่านัน้
ผู้ที่เชื่อมสัมพันธ์ อย่างแท้ จริ งคือผู้ที่สานสัมพันธ์ กับญาติมิตรเพื่ออัลลอฮฺเท่านัน้ โดยมิได้ คานึงว่า
เขาจะตอบรับการเชื่อมสัมพันธ์ของเราหรื อไม่ ดังที่หะดีษที่บนั ทึ กโดยอัล-บุคอรี ย์ รายงานจากอับดุลลอฮฺ
บิน อัมรฺ บิน อัล-อาศ ว่า แท้ จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า
َ ُ ُ َ َ َ َّ َ َ َّ ح َ ُ َ ح َ ُ ُ َ َ َح
»حه َو َصل َها اذلي إهذا ق هطعت ر ه
اصل ه
كن الو ه
ول ه،ئ
اصل بهالمكفه ه
«لِّس الو ه
ความว่า “ผู้เชื่อมสัม พันธ์ (เครื อญาติ )ไม่ใช่ผ้ ูที่ กระทาอย่างทัดเที ยมกัน (คือ หากใครเชื่ อม
สัมพันธ์ กับเขา เขาก็เชื่ อมสัมพันธ์ กับคนๆ นัน้ ) แต่ผ้ ูเชื่อมสัม พันธ์ คือ ผู้ที่เมื่ อสัม พันธ์ เครื อ
ญาติของเขาถูกตัดขาด เขาก็ต่อสัม พันธ์ กับมัน " (บันทึกโดยอัล -บุคอรี ย์ 5645, อัต-ติรมิ ซี ย์
1908, อบู ดาวูด 1697,และอะห์มดั 2/193)
หก สิทธิของสามีภรรยา
พระองค์ยงั ตรัสอีกว่า
َ ه َ ه
ََ ِّلرجا َِّلَعلي ِّه
]١١٧ :نَدرجةََ﴾ [ابلقرة ِّ وفَول ََ لَٱذلِّيَعلي ِّه
َ ِّ نَبِّٱلمع هر َ نَمِّث
َ ﴿وله
ความว่า“ และบรรดาภรรยาก็ควรได้ รับสิทธิอันชอบธรรม เช่นเดียวกับที่พวกนางต้ องปฏิบตั ิ
หน้ าที่ตอ่ สามีของพวกนาง และสาหรับบรรดาสามีจะมีความประเสริ ฐเหนือกว่าบรรดาภรรยา
หนึ่งขัน้ (นั่นคือสิ ทธิ การเป็ นผู้ปกครองและต้ องได้ รับการเชื่ อฟั งจากภรรยา)” (อัล-บะเกาะ
เราะฮฺ : 228)
ในรายงานอื่นระบุวา่
َ َوإ حن َذ َهبح،ت ب َها َوب َها ع َوج
َ استَ حمتَ حع َ استَ حمتَ حع
ت ب َها ح َ َ َ َ َ َ َ َ َّ ح َ ح َ َ ُ َ ح ح َ َ ح َ ح
فَإن ح،يقة
ت ه ه ه ه ه ه ه ٍ «إهن المرأة خ هلقت همن هضل ٍع لن تست هقيم ل ىلع ط هر
ُ َ َ ُ ُ َُ َ َ حََ ََ ح
»َسها َطالق َها كَستها وك،ت هقيمها
ความว่า “แท้ จริ งสตรี ถูกสร้ างมาจากซี่โครง นางจะไม่สามารถอยู่บนแนวทางใดแนวทางหนึ่ง
อย่างเที่ยงตรงสาหรับท่านได้ ดังนัน้ หากท่านประสงค์จะแสวงหาความสุขกับนาง ท่านก็จะ
ได้ รับความสุขกับนางขณะที่นางอยู่ในสภาพที่ คดงออยู่ และหากท่านพยายามจะดัดนางให้
ตรงก็เท่ากับว่าท่านได้ ทาให้ นางหักสะบันลง
้ และการหักของนางคือการหย่ากับนาง” (มุสลิม
1468)
ส่ ว นสิ ท ธิ ข องสามี ที่ ภ รรยาจ าเป็ นต้ อ งปฏิ บัติ ต่ อ เขาถื อ ว่ า ยิ่ ง ใหญ่ ก ว่ า สิ ท ธิ ข องภรรยาที่ ส ามี
จาเป็ นต้ องปฏิบตั ติ อ่ นาง เนื่องจากคาตรัสของอัลลอฮฺที่วา่
َ ه َ ه
ََ ِّلرجا َِّلَعلي ِّه
]١١٧ :نَدرجةََ﴾ [ابلقرة ِّ وفَول ََ لَٱذلِّيَعلي ِّه
َ ِّ نَبِّٱلمع هر َ نَمِّث
َ ﴿وله
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
29
ความว่า“ และบรรดาภรรยาก็ควรได้ รับสิทธิอันชอบธรรม เช่นเดียวกับที่พวกนางต้ องปฏิบตั ิ
หน้ าที่ตอ่ สามีของพวกนาง และสาหรับบรรดาสามีจะมีความประเสริ ฐเหนือกว่าบรรดาภรรยา
หนึ่งขัน้ (นั่นคือสิ ทธิ การเป็ นผู้ปกครองและต้ องได้ รับการเชื่ อฟั งจากภรรยา)” (อัล-บะเกาะ
เราะฮฺ 228)
ผู้ ชายคื อ ผู้ ที่ ท าหน้ าที่ เ ป็ นผู้ ปกครอง ดู แ ล และเลี ย้ งดู ผ้ ู หญิ ง ด้ วยการแสวงหาสิ่ ง ดี ๆ และ
คุณประโยชน์ตา่ งๆ ให้ แก่นาง ต้ องคอยอบรมและชี ้นานาง ดังคาตรัสของอัลลอฮฺที่วา่
ه َ َ ه
َالَق َو همونَََعََٱلن ِّساءََِّبِّماَفضلََ ه
]٣١ : ٱّللَبعض ههمَََعََبعضََوبِّماََأنفقواََمِّنََأمول ِّ ِّهمََ﴾ [النساء َ ٱلرج
ِّ َ﴿
ความว่า “บรรดาบุรุษเพศคือผู้ที่ทาหน้ าที่ เป็ นผู้ปกครองและดูแลเลี ้ยงดูบรรดาสตรี เพศ ด้ วย
ปั จจัยแห่งความสามารถที่อลั ลอฮฺทรงกาหนดให้ บุรุษเพศมีเหนือกว่าสตรี เพศ และเนื่องจาก
บุรุษเพศต้ องใช้ จา่ ยในทรัพย์ของพวกเขา (เพื่อเป็ นปั จจัยยังชีพแก่นาง)” (อัน-นิสาอ์ : 34)
แท้ จริ ง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ บอกว่า ความพอใจของสามี ที่มี ต่อภรรยา เป็ น
สาเหตุห นึ่ ง ที่ จ ะท าให้ นางได้ เข้ า สวนสวรรค์ ดัง หะดี ษ ที่ บัน ทึ ก โดยอัต -ติ ร มิ ซี ย์ จ ากอุม มุ สะละมะฮฺ
เราะฎิยลั ลอฮุอนั ฮา นางเล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
َ َّ ح َ َ َ ََ َ ح َ َ َ ح َ ُ َ َح
»ت الَنةاض دخل هٍ «أَما ام َرأ ٍة ماتت َوز حوجها ْنها َر
ความว่า “ผู้หญิงท่านใดก็ตามที่เสียชีวิตลงในสภาพที่สามีของนางพึงพอใจต่อนาง แน่นอนว่า
นางจะได้ เข้ าสวนสวรรค์” (อัต-ติรมิซีย์ 1161, อิบนุ มาญะฮฺ 1854)
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
31
เจ็ด สิทธิของผู้นาและประชาชน
และส่วนหนึ่งของสิ ท ธิ ที่ผ้ ูนาพึง ได้ รับ จากประชาชน คือ ประชาชนต้ องคอยให้ ความช่วยเหลื อ
สนับสนุนภารกิจและหน้ าที่ของผู้นา ด้ วยการช่วยเหลือผู้นาในการดาเนินกิจการที่พวกเขาได้ รับอะมานะฮฺ
มา และให้ แต่ละคนรู้ จักบทบาทและหน้ าที่ รับผิดชอบในสังคมของตัวเอง จนกระทั่งทุกๆ อย่างสามารถ
ดาเนินไปตามแนวทางที่พึงประสงค์ เพราะหากผู้นาไม่ได้ รับการช่วยเหลือจากประชาชนในภารกิจและ
หน้ าที่รับผิดชอบของพวกเขา ภารกิจของพวกเขาก็จะไม่สามารถดาเนินไปตามแนวทางที่พงึ ประสงค์ได้
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
34
แปด สิทธิของเพื่อนบ้ าน
ในอีกรายงานหนึง่ ท่านกล่าวว่า
َُ ُ ال َ َّن َة َم حن َال يَأح َم ُن َج
»ارهُ بَ َوائهقه
َ َح ُ ُ ح
«ال يدخل
ความว่า “จะไม่ได้ เข้ าสวรรค์สาหรับผู้ที่เพื่อนบ้ านของเขาไม่ปลอดภัยจากการอธรรมและความ
เลวของเขา” (มุสลิม 46)
เก้ า สิทธิของมุสลิมทั่วไป
สิทธิท่ ีหนึ่ง : การให้ สลาม การให้ สลามเป็ น สุนนะฮฺ มุอักกะดะฮฺ (สุนนะฮฺที่เน้ นย ้าให้ ปฏิบตั ิ)
เพราะสลามเป็ นสาเหตุห นึ่ง ที่ จ ะท าให้ ช าวมุส ลิ ม รู้ สึ ก รั ก ใคร่ แ ละห่ ว งใยกัน ดัง ค ากล่า วของท่ านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่วา่
َ َّ ُ َََ َُ ُ ح ََ َ ح َ َ َ حُ ُ ُ َ ح َح َ َ ُح ُح َ َّ ح ُ ُ َ َح
السال َم وه َتَابَبتُ حم ؟ أفشوا أوال أدلكم ىلع َش ٍء إهذا فعلتم، َوال تؤ همنُوا َح َّّت َتَابوا،«ال تدخل حوا الَنة َح َّّت تؤ همنُوا
ُ ح
»بَِّنَك حم
ความว่า “พวกท่านจะไม่สามารถสวรรค์ได้ จนกว่าพวกท่านจะศรัทธา และพวกท่านจะไม่
ศรัทธาอย่างแท้ จริ งจนกว่าพวกท่านจะรักใคร่กัน เอาไหม ฉันจะบอกสิ่งหนึ่งแก่พวกท่าน เมื่อ
พวกท่านปฏิบตั ิแล้ วก็จะเกิดความรักใคร่ในหมู่ของพวกท่าน? นัน่ คือ จงโปรยสลามให้ แก่กัน
ระหว่างพวกท่าน” (มุสลิม 54)
การเริ่ ม ให้ สลามเป็ นสุ น นะฮฺ ที่ ถู ก ส่ ง เสริ ม ในขณะที่ ก ารตอบสลามนั น้ เป็ น ฟั ร ฎู กิ ฟ ายะฮฺ
(จาเป็ นต้ องปฏิบตั ิโดยภาพรวม) เมื่อผู้คนจานวนหนึ่งในกลุ่มเดียวกันได้ ปฏิบตั ิก็ถือว่าเพียงพอแล้ วสาหรับ
ทุกคน ดังนัน้ เมื่อมีการให้ สลามต่อกลุม่ ชนจานวนหนึง่ แล้ วมีคนใดคนหนึ่งในจานวนพวกเขาได้ ตอบสลามก็
ถือว่าเพียงพอและใช้ ได้ แล้ วสาหรับทุกคน อัลลอฮฺตรัสว่า
ُ ه ه
]٧٥ : ح َيةََفح ُيواََبِّأحَسنََمِّنَهاََأوََ هردوهاََ﴾ [النساء
ِّ ﴿َِإَوذاَحيِّيتمَبِّت
ความว่า “และเมื่อมีคนกล่าวสลามแก่พวกเจ้ า (อัสลามุอะลัยกุม) พวกเจ้ าจงตอบสลามเขา
ด้ วยสลามที่ดีกว่า (วะอะลัยกุมุส สลาม วะเราะหฺมะตุลลอฮฺ) หรื อตอบกลับเท่ากับสลามที่เขา
กล่าวมา (วะอะลัยกุมสุ สลาม)” (อัน-นิสาอ์ : 86)
พระองค์ได้ ตรัสอีกว่า
َ ه ه ه َ ه
َ ِّ ََ﴿ِإَونَنكثواََأيمن ههمَمِّنََبع َِّدَعه ِّدهِّمََوطع هنوا
]21 : فَدِّين ِّكمََفقت ِّلواََأئ ِّ َمةََٱلكف َِّرَإِّن ههمََلََأيمنََل ههمَ﴾ [اتلوبة
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
42
ความว่า “และหากพวกเขาทาลายคามัน่ สัญญาที่พวกเขาได้ ทาไว้ กบั พวกเจ้ า และพวกเขาได้
กล่าวหาและใส่ร้ายต่อศาสนาของพวกเจ้ า พวกเจ้ าก็จงต่อสู้กับบรรดาผู้นาแห่งการปฏิเสธ
ศรั ท ธาเหล่านัน้ เพราะแท้ จ ริ ง พวกเขาไม่ไ ด้ ยึด มั่น ในสัญ ญาที่ ไ ด้ ท าไว้ กับ พวกเจ้ า ” (อัต -
เตาบะฮฺ : 12)
เขียนโดย
มุหมั มัด ศอลิห์ อัล-อุษัยมีน
สิทธิโดยธรรมชาติของมนุษย์ที่อิสลามยืนยันรับรอง
1