Professional Documents
Culture Documents
] [ ไทย
คุณทราบหรือเปล่ า
1. โลกใบกลม ๆ ที่กลมกลืนและงดงาม ฟากฟ้าและแผ่นดิน ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ตา่ งโคจร
ไปในจักรวาลอย่างมีระเบียบและเป็ นระบบ มวลมนุษย์และสรรพสิ่งที่มีอยูบ่ นโลกหล้ านี ้ ไม่ สามารถทีม่ ี
มาได้ ด้วยตนเองหรือธรรมชาติ แน่นอนต้ องมีผ้ สู ร้ าง และผู้สร้ างนั้นคืออัลลอฮฺ
2. อัลลอฮฺ คือพระเจ้ าทีแ่ ท้ จริง ผู้ทรงสร้ างมนุษย์ และมวลสรรพสิ่งต่าง ๆ พระองค์ ทรงเป็ นผู้
คุ้มครอง และดูแลสิ่งต่าง ๆ พระองค์ ทรงมีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง ทรงรอบรู้ยิ่ง ทรงมีชีวิต และทรงให้ ตาย
ทรงอำนวยและทรงเอาคืนปั จจัยยังชีพ ทรงประทานความโปรดปราน ทรงให้ ความสุขสบาย ทรงให้ หาย
จากโรคภัยไข้ เจ็บ ทรงให้ ฟืน้ คืนชีพในโลกหน้ า
ทังหมดนี
้ ้ พระองค์ ทรงกระทำตามความประสงค์ของพระองค์ ดังนั้นทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ย่อม
อยู่ภายใต้ อำนาจของพระองค์ ผ้ ูเดียวเท่ านั้น
ธรรมชาติของมนุษย์ตา่ งยอมรับต่อการมีอยูข่ องอัลลอฮฺ แม้ วา่ ความคิดเห็นและอารมณ์ของเขา
ไม่ยอมรับ
พึงสังเกตุ หากผู้หนึง่ ผู้ใดประสบกับความทุกข์ยากที่มหันต์ จิตใจว้ าวุน่ อยูต่ ลอดเวลา ความทุกข์
ยากเช่นนี ้ หมอที่ชำนาญการก็ไม่สามารถรักษาความเจ็บปวดนันได้ ้ แม้ วา่ จะมีการให้ ยาที่ทรงคุณภาพ
ก็ตาม แต่จิตใจกลับทวีความเจ็บปวดเรื่ อยมา ความเก่งและความชำนาญทางการแพทย์ในโลกนี ้ ไม่
สามารถอำนวยประโยชน์แก่ผ้ นู นได้ ั ้ เลย ในสภาพเช่ นนี้เราจะไปพึง่ อะไร หวังความช่ วยเหลือจากใคร
และจะมีความเป็ นอยู่อย่ างไร ?
ดังนันจะเห็
้ นว่า ธรรมชาติอนั บริสทุ ธิ์ของมนุษย์กระซิบบอกแก่จิตใจว่า ยังมีอำนาจหนึ่งที่
สามารถอำนวยความสุขสบาย ความราบรื่ น และปลดปล่ อยจากความเจ็บปวดเหล่ านั้นได้ อำนาจ
ใดเล่าที่สามารถประทานสิ่งเหล่านี ้ ? มิใช่ อื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ พระเจ้ าทีแ่ ท้ จริง
2
5. เมื่อมนุษย์หลงผิดจากแนวทางของอัลลอฮฺ พระองค์ จงึ ประทานศาสนาฑูตมา เพื่อแก้ ไข
ความเป็ นอยูข่ องมวลมนุษย์ อย่างเช่น นูหฺ อิบรอฮีม มูซา อีซา ฯลฯ จนกระทัง่ ศาสนฑูตท่านสุดท้ าย คือ
มุฮมั มัด
3
ในโลกแห่งสุสาน เขาจะได้ รับการตอบแทนที่ดี หากเขาเป็ นมุสลิมและประพฤติดีบนโลกนี ้ ใน
ขณะเดียวกันจะได้ รับผลตอบแทนที่ไม่ดี ทรมาน หากเขาเป็ นกาฟิ รฺ (ผู้ปฏิเสธ) บนโลกนี ้ สภาพเช่นนี ้จะมี
อยูต่ ลอดไป จนกว่าจะถึงวันแห่งโลกอาคิเราะฮฺ
คิดใคร่ครวญ
13. มนุษย์ทกุ คนต้ องตาย หลังจากตายแล้ ว แน่ นอนต้ องพบกับอัลลอฮฺ ซึง่ ไม่สามารถหลบ
หนีหรื อปกปิ ดพฤติกรรมแก่อัลลอฮฺได้ อัลลอฮฺทรงตอบแทนด้ วยความยุติธรรมยิ่ง พระองค์ เป็ นผู้ทรง
อำนาจในโลกอาคิเราะฮฺ ไม่มีผ้ ใู ดที่มีอำนาจ นอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว
สวรรค์ และนรกเป็ นของอัลลอฮฺ พระองค์ เท่านันที ้ ่จะทรงกำหนดว่า ผู้ใดจะได้ รับสวรรค์และผู้
ใดต้ องเข้ านรก และจะคงอยูใ่ นนันตลอดไป
้
มนุษย์ทกุ คนพึงทราบว่า การใช้ ชีวิตบนโลกนี้ มีเวลาชั่วครู่เท่ านั้น หากได้ รับความสุขสบายก็
เพียงกระพริ บตา แต่ โลกอาคิเราะฮฺ จะคงอยู่ตลอดไปตราบนิรันดร์
5
ด้ วยคำปฏิญาณเช่นนี ้ หมายถึง ได้ เข้ ารับอิสลามแล้ ว ซึง่ ความชัว่ และบาปต่าง ๆ ที่ได้ เคยปฏิบตั ิ
มา ก็จะได้ รับการชำระและอภัยโทษ จะเป็ นผู้ที่บริ สทุ ธิ์จากเหล่าความชัว่ และบาปกรรมต่าง ๆ แต่เมื่อ
กระทำสิ่งที่ไม่ดีอีก หลังจากรับอิสลามแล้ วก็ต้องรับผิดชอบในส่วนนันไป ้
และหากเสียชีวติ หลังจากกล่าวคำปฏิญาณแล้ ว โดยที่ไม่ทนั ที่จะประกอบความดีต่ออัลลอฮฺ
เขาก็เป็ นมุสลิม และมีสิทธิ์ได้ รับสวนสวรรค์จากพระองค์
18. มุสลิมทุกคนมีหน้ าทีต่ ้ องเผยแพร่ สิ่งเหล่ านี้แก่ มวลมนุษย์ ทกุ คน เพราะต้ องรับผิดชอบ
ต่อพระพักตร์ ของอัลลอฮฺ หากเขาไม่เผยแพร่แก่มวลมนุษย์
พึงทราบ
ศาสนาอิสลามเป็ นศาสนาเดียวทีม่ าจากอัลลอฮฺ ประทานมาผ่านศาสนทูตมุฮมั มัด เป็ น
ศาสนาที่สมบูรณ์ ครบถ้ วนทังโลกนี
้ ้และโลกหน้ า มีบทบัญญัติที่เป็ นเอกเทศ และเป็ นเอกลักษณ์จา
กอัลลอฮฺ สัง่ สอนแต่ความดีและห้ ามปรามความชัว่
จุดประสงค์ ของศาสนาอิสลาม
1. เชิญชวนมวลมนุษย์ เพื่อศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และศาสนฑูตของพระองค์ อีกทังไม่ ้ ภกั ดีนอก
จากต่ออัลลอฮฺเท่านัน้
2. เพื่อให้ ได้ รับความโปรดปราน และความสงบสุขแก่เหล่าสรรพสิ่งทังปวง ้
3. เพื่อนำมวลมนุษย์ออกจากความมืดมนแห่งความหลงผิด ไปสูแ่ สงสว่างของสัจธรรมแห่ง
อิสลาม
4. เพื่อสร้ างความยุติธรรมในชีวิตมนุษย์ทกุ ระดับ และลบล้ างความอยุติธรรมและความโหดร้ าย
ทังปวง
้
5. เพื่อนำมวลมนุษย์ออกจากการเป็ นทาสรับใช้ มนุษย์ด้วยกัน ไปสูก่ ารเป็ นบ่าวที่ดีของอัลลอฮฺ
6. เพื่อแจ้ งให้ มวลมนุษย์ทราบว่า โลกและทุกสรรพสิ่งนี ้ อัลลอฮฺเป็ นผู้สร้ าง พระองค์เป็ นผู้ทรง
คุ้มครอง และทรงอำนาจยิ่ง ทุกสรรพสิ่งต้ องปฏิบตั ิตามข้ อกำหนดของพระองค์
7. เพื่อประกาศให้ ทราบว่า มนุษย์เรามาจากอัลลอฮฺ จะกลับสู่อัลลอฮฺ และต้ องรับผลตอบแทน
จากพระองค์ ทังนรกหรื
้ อสวรรค์
การมีอยูข่ องมนุษย์บนโลกนี ้ มีจดุ ประสงค์เพื่อการภักดีและปฏิบตั ิตามคำสอนของอัลลอฮฺ มิใช่มี
อยูเ่ พื่อดื่มกิน หรื อสนองอารมณ์ตณ ั หาเท่านัน้ แต่ต้องรับผิดชอบในวันอาคิเราะฮฺตอ่ ทุกอิริยาบถที่ได้
กระทำไว้ บนโลกนี ้ และรับผลตอบแทนจากการตัดสินของอัลลอฮฺที่ยตุ ิธรรมยิ่ง
8. หลักการยึดมัน่ ของศาสนาอิสลามถือว่าท่านอีซา (พระเยซู) เป็ นศาสนฑูตของอัลลอฮฺ ท่าน
มิใช่พระเจ้ า มิใช่พระราชโอรสของพระองค์ ไม่สามารถทำให้ คนตายฟื น้ คืนชีพด้ วยตนเอง ไม่สามารถชำระ
6
ล้ างบาป และอิสลามยังถือว่าผู้ใดศรัทธาเช่นนันมี
้ ความผิดมหันต์ และย่อมได้ รับโทษจากขุมนรกตลอด
กาล
9. หลักการยึดมัน่ ของอิสลามถือว่ า การฆ่ าตัวตายเป็ นมหันตบาปอย่างหนึง่ และย่อมได้ รับ
โทษในนรกชัว่ กาลนาน
ลองคิด ใครครวญ
พิจารณาเลือก และกำหนดจุดยืน
เพื่อความสุขในโลกนี ้
และพ้ นจากไฟนรกในโลกหน้ า