You are on page 1of 5

‫ م‬5:22 2023/‫‏‬5/‫‏‬18 การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ - ไทย - มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์

การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ

 นักเขียน : มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์ 


แปล: อิบบรอเฮง อาลฮูเซน 
ตรวจทาน: ซุฟอัม อุษมาน 
สำนักพิมพ์: สำนักงานเผยแพร่และสอนอิสลาม อัร-ร็อบวะฮฺ กรุงริยาด 
5 / 10 / 1428 , 17/10/2007

คำอธิบาย
การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ คือ การเชื่ออย่างแน่วแน่และสัตย์จริงว่าอัลลอฮฺมีบรรดาบริวารที่เป็ นมลาอิกะฮฺจริง และเชื่อในชื่อ
ของบรรดามลาอิกะฮฺที่อัลลอฮฺได้ทรงบอกชื่อ อาทิเช่น ญิบรีล เป็ นต้น และเราเชื่อต่อบรรดามลาอิกะฮฺที่เราไม่รู้จักชื่อโดยที่
เราศรัทธาในภาพรวม รวมทั้งศรัทธาในคุณลักษณ.

     กรุณาเขียนความคิดเห็นถึงผู้ดูแล

บทความนี้ถูกแปลเป็ นภาษา (5) การ์ดบทความนี้ถูกแปลเป็ นภาษา (3)

ญี่ปุ่ น 日本語  

จีน 中文  

บอสเนีย Bosanski  

เซอร์เบียน Српски  

อาหรับ ‫عربي‬

รายละเอียดแบบเต็ม
- การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ
            การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ คือ การเชื่ออย่างแน่วแน่และสัตย์จริงว่าอัลลอฮฺมี
บรรดาบริวารที่เป็ นมลาอิกะฮฺจริง และเชื่อในชื่อของบรรดามลาอิกะฮฺที่อัลลอฮฺได้ทรง
บอกชื่อ อาทิเช่น ญิบรีล เป็ นต้น และเราเชื่อต่อบรรดามลาอิกะฮฺที่เราไม่รู้จักชื่อโดยที่
เราศรัทธาในภาพรวม  รวมทั้งศรัทธาในคุณลักษณะและการงานของพวกเขาตามที่เรา
ได้รับรู้
- มลาอิกะฮฺในแง่ของสถานะ
            บรรดามลาอิกะฮฺเป็ นบ่าวของอัลลอฮฺที่มีเกียรติยิ่ง พวกเขาเป็ นบ่าวที่ยืนหยัด
ในการทำอิบาดะฮฺตลอดและสม่ำเสมอ  พวกเขาหาได้มีคุณสมบัติของความเป็ นพระเจ้า
ที่เป็ นผู้สร้าง ผู้ดูแล และผู้รับผิดชอบจักรวาลไม่  และพวกเขาก็หาได้มีคุณสมบัติของ
ความเป็ นพระเจ้าที่สมควรแก่การกราบไหว้แต่อย่างใด พวกเขาเป็ นผู้ที่ถูกสร้างที่มนุษย์
ไม่สามารถมองเห็นได้ อัลลอฮฺได้สร้างพวกเขามาด้วยนูรฺ(รัศมี)
- มลาอิกะฮฺในแง่ของการทำหน้าที่และงาน

https://islamhouse.com/th/articles/57637 ป็ ที่ 1/5


‫ م‬5:22 2023/‫‏‬5/‫‏‬18 การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ - ไทย - มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์

            บรรดามลาอิกะฮฺเป็ นบ่าวที่ปฏิบัติอิบาดะฮฺ(เคารพภักดี)  และกล่าวตัสบีหฺ(แซ่


ซ้องสดุดี)ต่ออัลลอฮฺ  สม่ำเสมอ ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า :
» ‫ ُيَس ِّبُح وَن الَّلْيَل َوالَّن َه اَر ال َيْف ُت ُروَن‬. ‫«َو َلُه َمْن يِف الَّس َم اَواِت َواَأْلْرِض َوَمْن ِع ْنَدُه ال َيْس َتْك ُرِبوَن َعْن ِع َباَدِتِه َوال َيْس َتْح ِس ُروَن‬
ความว่า  “และย่อมเป็ นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ซึ่งผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดิน และผู้
ที่อยู่ ณ พระองค์  (นั่นคือบรราดามลาอิกะฮฺ) พวกเขาจะไม่ลำพองตนในการเคารพภักดี
พระองค์ และพวกเขาจะไม่เหนื่อยหน่าย  พวกเขาจะแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ในเวลากลาง
คืนและกลางวันโดยไม่ขาดระยะ”  (อัล-อัมบิยาอ์ : 19–20)
- บรรดามลาอิกะฮฺในแง่การเชื่อฟังอัลลอฮฺ
                      อัลลอฮฺได้ประทานให้บรรดามลาอิกะฮฺมีความจงรักภักดีต่อคำบัญชาของ
พระองค์อย่างสิ้นเชิง และได้ประทานให้พวกเขามีกำลังความสามารถในการปฏิบัติการ
งานตามที่พระองค์ได้มีบัญชา พวกเขาถูกกำหนดให้มีความจงรักภักดีและเชื่อฟังต่อ
พระองค์  ดังที่พระองค์ได้ตรัสว่า
» ‫«ال َيْعُصوَن اَهَّلل َما َأَمَرُه ْم َوَيْف َعُلوَن َما ُيْؤ َمُروَن‬
ความว่า  “...พวกเขาจะไม่ฝ่ าฝื นอัลลอฮฺในสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาแก่พวกเขา  และ
พวกเขาจะปฏิบัติตามที่ถูกบัญชา” (อัต-ตะหฺรีม : 6)
- จำนวนของมลาอิกะฮฺ
            มลาอิกะฮฺมีจำนวนมากมายมหาศาล จำนวนดังกล่าวนี้ไม่สามารถนับได้นอก
จากอัลลอฮฺเท่านั้น ในบรรดามลาอิกะฮฺมีหน้าที่แตกต่างกันไป บางส่วนมีหน้าที่คอย
แบกและค้ำบัลลังก์ของอัลลอฮฺบางส่วนมีหน้าที่เฝ้าดูแลสวนสวรรค์ บางส่วนมีหน้าที่เฝ้า
นรก บางส่วนมีหน้าที่ปกปักษ์รักษามนุษย์บางส่วนมีหน้าที่คอยจดบันทึกบ้างและมีหน้า
ที่อื่นๆ และในบรรดามลาอิกะฮฺอีกบางส่วนมีหน้าที่ละหมาดในบัยตุลมะอฺมูรฺในทุกๆ วัน
จำนวนถึงเจ็ดหมื่นมลาอิกะฮฺ  และเมื่อพวกเขาได้ออกมาจากบัยตุล มะอฺมูรฺ พวกเขาจะ
ไม่ย้อนกลับมาอีกเลยซึ่งจะเป็ นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่ในนั้น  ตามรายงาน
ในหะดีษอัล-มิอฺรอจญ์ (การเดินทางของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จา
กมัสยิดอัล-อักศอไปยังฟากฟ้า) เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้มาถึง ณ
ฟ้าชั้นเจ็ด หะดีษดังกล่าวมีว่า :
‫ هذا البيت املعمور يصلي فيه كل يوم سبعون ألف ملك إذا خرجوا مل يعودوا إليه‬: ‫ فرفع يل البيت املعمور فسألت اجلربيل فقال‬...«
‫متفق عليه‬ »‫آخر ما عليهم‬
ความว่า  “...เมื่อฉันได้ขึ้นมาถึงบัยตุล มะอฺมูรฺ ฉันก็ได้ถามญิบรีลเกี่ยวกับบัยตุล
มะอฺมูรฺ ญิบรีลได้ตอบว่า  ’นี่คือบัยตุล มะอฺมูรฺ ที่มีเหล่าบรรดามลาอิกะฮฺมาทำการละ
หมาดทุกๆ วัน วันละเจ็ดหมื่นมลาอิกะฮฺ เมื่อบรรดามลาอิกะฮฺเหล่านี้ได้ออกมาจากบัย
ตุล มะอฺมูรฺนี้แล้ว พวกเขาจะไม่หวนกลับไปยังบัยตุล มะอฺมูรฺอีกเลย ซึ่งเป็ นครั้งแรกและ
ครั้งสุดท้ายสำหรับพวกเขา’ ” (รายงานโดยอัล-บุคอรีย์ :3207 และมุสลิม : 162)  
- ชื่อและการงานของบรรดามลาอิกะฮฺ
            มลาอิกะฮฺเป็ นบ่าวที่มีเกียรติ อัลลอฮฺได้ทรงสร้างพวกเขาเพื่อให้จงรักภักดี
เชื่อฟัง และเคารพภักดีต่อพระองค์ ในบรรดาเหล่ามลาอิกะฮฺมีที่พระองค์ได้ทรงบอกชื่อ
และการงานต่างๆ ให้เราได้รับรู้ อีกบางส่วนพระองค์ไม่ได้บอกให้เรารู้โดยพระองค์ได้
สงวนไว้เฉพาะในความรอบรู้ของพระองค์เท่านั้น ส่วนบรรดามลาอิกะฮฺที่พระองค์ได้มอบ
หมายการงานให้ปฏิบัติมีดังต่อไปนี้ :
            1. มลาอิกะฮฺ ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม  มีหน้าที่นำวะห์ยู(วิวรณ์แห่งอัลลอฮฺแก่
บรรดานบีและเราะสูลทั้งหลาย
            2. มลาอิกะฮฺ มีกาอีล  มีหน้าที่กำกับดูแลเม็ดฝนและพืชพรรณต่างๆ
            3. มลาอิกะฮฺ อิสรอฟีล  มีหน้าที่เป่ า อัศ-ศูรฺ (แตร)

https://islamhouse.com/th/articles/57637 นี้ ป็ ที่ ยิ่ ที่ ที่ กี่ 2/5


‫ م‬5:22 2023/‫‏‬5/‫‏‬18 การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ - ไทย - มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์

                        พวกเขาเหล่านี้เป็ นมลาอิกะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับสาเหตุ


แห่งชีวิต นั่นคือ ญิบรีลเป็ นผู้นำวะห์ยูอันเป็ นเหตุแห่งการมีชีวิตของจิตใจ มิกาอีลนั้น
ดูแลเม็ดฝนซึ่งเป็ นสาเหตุแห่งการมีชีวิตของพื้นดินหลังจากที่มันเป็ นซากแห้งกรัง ส่วน
อิสรอฟีลคือผู้ดูแลการเป่ าแตร อัศ-ศูรฺ ซึ่งเป็ นเหตุแห่งการฟื้นคืนชีพอีกครั้งของร่าง
มนุษย์หลังจากที่ได้ตายไปแล้ว
4. มลาอิกะฮฺ มาลิก คอซินุนนารฺ  มีหน้าที่คอยดูแลนรก
            5. มลาอิกะฮฺ ริฎวาน คอซินุลญันนะฮฺ มีหน้าที่คอยดูแลสวนสวรรค์
            ยังมีมลาอิกะฮฺ มะละกุลเมาต์ มีหน้าที่คอยรับวิญญาณผู้ที่เสียชีวิต มลาอิกะฮฺ
อื่นๆ ที่มีหน้าที่คอยแบกและค้ำบัลลังก์ของอัลลอฮฺ ยังมีมลาอิกะฮฺผู้ดูแลสวนสวรรค์และ
ไฟนรก รวมทั้งมลาอิกะฮฺที่มีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลมนุษย์และคอยจดบันทึกการกระทำของ
พวกเขาแต่ละคน
            บางส่วนของมลาอิกะฮฺมีหน้าที่ซึ่งต้องคอยผลัดเปลี่ยนทั้งกลางวันและกลาง
คืน บางส่วนของพวกเขามีหน้าที่คอยติดตามมัจลิสซิกิรฺ(การรวมกลุ่มเพื่อรำลึกถึง
อัลลอฮฺหรือเพื่อเรียนรู้ศาสนาของอัลลอฮฺ)
                      ในบรรดามลาอิกะฮฺมีผู้ที่มีหน้าที่ดูแลทารกในท้องมารดา คอยจดบันทึกริ
ซกี(ปัจจัยยังชีพ)ของเขา การกระทำของเขา วันที่จะเสียชีวิต โชคดีและโชคร้ายของเขา
ในโลกหน้าตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ
            มลาอิกะฮฺบางส่วนมีหน้าที่ไต่สวนผู้ที่เสียชีวิตในหลุมฝังศพ ไต่สวนในเรื่อง
พระเจ้า ศาสนา และศาสนทูตของพระองค์
มีมลาอิกะฮฺอื่นๆ อีกมากมายที่มีภาระหน้าที่ต่างๆซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาลที่ไม่มี
ผู้ใดสามารถรับรู้นอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น
- ภาระหน้าที่ของมลาอิกะฮฺ อัล-กิรอม อัล-กาติบีน
            อัลลอฮฺได้ทรงสร้างเหล่ามลาอิกะฮฺ อัล-กิรอมุ อัล-กาติบีน และได้มอบหมาย
หน้าที่ในการเฝ้าดูแลพวกเราชาวมนุษย์  โดยการคอยจดบันทึกการกระทำ คำพูด และนิ
ยาต(การตั้งเจตนา)ของพวกเรา มนุษย์แต่ละคนจะมีมลาอิกะฮฺอยู่ด้วยสองท่าน มลาอิก
ะฮฺท่านแรกจะอยู่ด้านขวาเรียกว่า  “ศอฮิบุล ญะมีน”  หมายถึงผู้อยู่ด้านขวา มีหน้าที่คอย
บันทึกการกระทำอันดีงามทุกอย่าง และมลาอิกะฮฺอีกท่านหนึ่งอยู่ด้านซ้ายเรียกว่า “ศอฮิ
บุช ชิมาล”  หมายถึงผู้อยู่ด้านซ้าย มีหน้าที่คอยจดบันทึกการกระทำที่ไม่ดีทุกอย่างเช่น
กัน
            และยังมีมลาอิกะฮฺอีกสองท่านที่มีหน้าที่คอยปกปักษ์รักษาดูแลมนุษย์ มลา
อิกะฮฺท่านแรกอยู่ด้านหน้าและอีกท่านหนึ่งอยู่ด้านหลัง
1.อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
» ‫ َيْع َلُم وَن َما َت ْف َعُلوَن‬، ‫ ِكَرامًا َك اِتِبَني‬، ‫«َو ِإَّن َعَلْيُك ْم َحَلاِفِظ َني‬
ความว่า  “และแท้จริงมีผู้คุ้มกันรักษาพวกเจ้าอยู่ คือ(มลาอิกะฮฺ)ผู้ทรงเกียรติเป็ นผู้
บันทึก พวกเขารู้ในสิ่งที่พวกเจ้าทำ” (อัล-อินฟิฏอรฺ : 10–12)   
            2.และอัลลอฮฺได้ตรัสอีกว่า
» ‫ َما َيْلِف ُظ ِم ْن َق ْو ٍل ِإاَّل َلَد ْيِه َرِقيٌب َعِتيٌد‬، ‫«ِإْذ َيَت َلَّق ى اْلُم َت َلِّق َياِن َعِن اْلَيِم ِني َو َعِن الِّش َم اِل َقِعيٌد‬
ความว่า “จงรำลึกขณะที่มลาอิกะฮฺผู้บันทึกสองท่านบันทึก ท่านหนึ่งนั่งทางขวาและ
อีกท่านนั่งทางซ้าย ไม่มีคำพูดใดที่เขา(มนุษย์)กล่าวออกมา เว้นแต่ใกล้ๆเขานั้นมี(มลา
อิกะฮฺ)ผู้เฝ้าติดตาม ผู้เตรียมพร้อม(ที่จะบันทึก)” (กอฟ : 17–18) 
            3. และอัลลอฮฺได้ตรัสในสูเราะฮฺ อัร-เราะอฺด์ ว่า :
»‫«َلُه ُمَعِّق َباٌت ِم ْن َبِنْي َيَد ْيِه َو ِم ْن َخ ْلِفِه ْحَيَف ُظوَنُه ِم ْن َأْم ِر اِهَّلل‬
ความว่า  “สำหรับเขา(มนุษย์)นั้นมีมลาอิกะฮฺผู้เฝ้าติดตามทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
เขา ดูแลปกป้องเขาตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ...”  (อัร-เราะอฺด์  : 11)

https://islamhouse.com/th/articles/57637 ร็ ศ็ 3/5
‫ م‬5:22 2023/‫‏‬5/‫‏‬18 การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ - ไทย - มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์

            4. จากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ


วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
‫ وإن تركها من أجلي فاكتبوها له‬،‫ فإن عملها فاكتبوا مبثلها‬، ‫ إذا أراد عبدي أن يعمل سيئة فال تكتبوها عليه حىت يعملها‬: ‫«يقول هللا‬
.‫ فإن عملها فاكتبوا هلا له بعشر أمثاهلا إىل سبعمائة ضعف» متفق عليه‬،‫فلم يعملها فاكتبوها له حسنة‬ ‫ وإذا أراد أن يعمل حسنة‬،‫حسنة‬
ความว่า “อัลลอฮฺได้ตรัส(แก่มลาอิกะฮฺ)ว่า ’เมื่อบ่าวของข้าต้องการกระทำในสิ่งที่ไม่
ดีอย่างหนึ่ง พวกเจ้าจงอย่าได้บันทึกในสิ่งดังกล่าวในทันทีทันใดจนกว่าบ่าวของข้าผู้นั้น
ได้กระทำในสิ่งดังกล่าวเสียก่อน ดังนั้นหากว่าบ่าวของฉันผู้นั้นได้กระทำมันขึ้นมา ดังนั้น
พวกเจ้าจงบันทึกให้เหมือนกับสิ่งที่เขาได้กระทำบาปันั้น และหากว่าเขาผู้นั้นได้เลิก
การกระทำดังกล่าวเพราะยำเกรงต่อข้า พวกเจ้าจงบันทึกแก่เขาในสิ่งนั้นหนึ่งความดี
และหากบ่าวผู้นั้นต้องการกระทำในความดีสักหนึ่งอย่าง แต่เขากลับไม่ได้กระทำในสิ่ง
นั้น พวกเจ้าจงบันทึกมันไว้สำหรับเขาหนึ่งความดี แต่หากว่าเขาได้กระทำความดีนั้นขึ้น
มา พวกเจ้าจงบันทึกมันให้เขาเท่ากับสิบความดีจนถึงเจ็ดร้อยผลบุญแห่งความดี” 
(รายงานโดยอัล-บุคอรีย์ : 7501 และมุสลิม : 128) 
- ความยิ่งใหญ่ของสิ่งถูกสร้างที่มีชื่อว่ามลาอิกะฮฺ
            1. หะดีษที่รายงานโดย ญาบิรฺ บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากท่าน
นบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า :
.‫ إن ما بني شحمة أذنه إىل عاتقه مسرية سبعمائة عام» أخرجه أبو داود‬،‫«أذن يل أن أحدث عن ملك من مالئكة هللا من محلة العرش‬
ความว่า  “ฉันได้รับอนุญาตให้กล่าวถึงมลาอิกะฮฺท่านหนึ่งจากจำนวนบรรดามลาอิก
ะฮฺที่ทำหน้าที่แบกและค้ำบัลลังก์ของอัลลอฮฺ แท้จริงมลาอิกะฮฺ(ท่านนี้)ระยะระหว่าง
ติ่งหูจนถึงหัวไหล่ของท่านมี(ความห่างเป็ น)ระยะเวลา(การเดินทาง)  700  ปี”  (รายงาน
โดยอบู ดาวูด : 3727, เป็ นหะดีษ เศาะฮีหฺ ดูใน เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 3953 และรวม
หะดีษเศาะฮีหฺของอัล-อัลบานีย์ : 151)
            2. หะดีษที่รายงานจากอับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ได้เล่าว่า
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้เห็นมลาอิกะฮฺญิบรีลมีปีกทั้งหมด  600  ปีก
(รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ : 4857 และมุสลิม : 174)
- ผลที่ได้จากการศรัทธาต่อบรรดามลาอิกะฮฺ
            1.ได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่ เดชานุภาพ อำนาจ และหิกมะฮฺ(วิทยปัญญา)ของ
พระองค์อัลลอฮฺ ตะอะลา ผู้ทรงสร้างที่ยิ่งใหญ่  พระองอ์ได้ทรงสร้างมลาอิกะฮฺโดยที่
ไม่มีผู้ใดสามารถรับรู้ได้ถึงจำนวนของบรรดามลาอิกะฮฺทั้งหมดนอกจากพระองค์แต่
เพียงผู้เดียว พระองค์ได้ทรงทำให้มลาอิกะฮฺที่มีหน้าที่คอยแบกและค้ำบัลลังก์ของ
พระองค์ แค่เพียงมลาอิกะฮฺท่านเดียวมีความยิ่งใหญ่ขนาดระยะความกว้างระหว่างติ่งหู
ถึงหัวไหล่เป็ นระยะเวลาถึง  700  ปี แล้วบัลลังก์ของพระองค์จะมีความไพศาลถึงเพียง
ไหน ? และพระองค์คือผู้ที่อยู่เหนือบัลลังก์จะมีความยิ่งใหญ่เพียงไร ? มหาบริสุทธิ์แด่
อัลลอฮฺที่ได้ตรัสว่า :
»‫«َو َلُه اْلِكِرْباَي ُء يِف الَّس َم اَواِت َواَأْلْرِض َو ُه َو اْلَعِزيُز اَحْلِكيُم‬

ความว่า  “ความยิ่งใหญ่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนี้เป็ นกรรมสิทธิ์ของพระองค์


เท่านั้น และพระองค์เป็ นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาน” (อัล-ญาซิยะฮฺ : 37) 

https://islamhouse.com/th/articles/57637 4/5
‫ م‬5:22 2023/‫‏‬5/‫‏‬18 การศรัทธาต่อมลาอิกะฮฺ - ไทย - มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์

2.  ได้สำนึกด้วยการขอบคุณและสรรเสริญทั้งมวลแด่อัลลอฮฺ ผู้ทรงให้การคุ้มครอง


และปกป้องดูแลบรรดาลูกหลานอาดัมด้วยการส่งตัวแทนจากบรรดามลาอิกะฮฺที่คอยทำ
หน้าที่คุ้มครอง ช่วยเหลือ และคอยจดบันทึกการกระทำและการงานของพวกเขา 
3.  ได้เกิดความรักความผูกพันต่อบรรดามลาอิกะฮฺในสิ่งที่พวกเขาคอยปฏิบัติอิบา
ดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ตะอะลา ซึ่งพวกเขาได้ขอพรและขอลุแก่โทษแก่บรรดาศรัทธาชน  ดังที่
อัลลอฮฺผู้สูงส่งได้กล่าวถึงบรรดามลาอิกะฮฺผู้ที่คอยแบกและค้ำบัลลังก์ของพระองค์และ
ผู้ที่อยู่รอบๆบัลลังก์ว่า :
«

ความว่า  “บรรดา(มลาอิกะฮฺ)ผู้แบกบัลลังก์และผู้ที่อยู่รอบๆ บัลลังก์ต่างก็แซ่ซ้อง


สดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของพวกเขา และศรัทธาต่อพระองค์ และขออภัยโทษให้
แก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า  ‘ข้าแต่ผู้อภิบาลของเรา ความเมตตาและความรอบรู้แห่งพระองค์
นั้นครอบคลุมไปทั่วทุกสิ่ง ขอพระองค์ทรงโปรดอภัยแก่บรรดาผู้ขอลุแก่โทษ และ
ดำเนินตามแนวทางของพระองค์ และทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษแห่ง
ไฟนรก ข้าแต่พระเจ้าของเรา และขอพระองค์ทรงให้พวกเขาได้เข้าในสวนสวรรค์หลาก
หลายอันสถาพร ซึ่งพระองค์ได้ทรงสัญญาแก่พวกเขาและแก่ผู้มีคุณธรรมทั้งหลายใน
หมู่ปู่ ย่าตายายของพวกเขา คู่ครองของพวกเขา และลูกหลานของพวกเขา แท้จริง
พระองค์นั้นเป็ นผู้ทรงอำนาจผู้ทรงปรีชาญาน และขอพระองค์ทรงคุ้มครองพวกเขาให้
พ้นจากความชั่วทั้งหลาย และผู้ใดที่พระองค์ทรงคุ้มครองให้พ้นจากความชั่วทั้งหลาย
ในวันนั้น แน่นอน แสดงว่าพระองค์ได้เมตตาเขาแล้วและนั่นคือความสำเร็จอันใหญ่
หลวง’”  (ฆอฟิรฺ : 7-9)
(จากหนังสือ “มุคตะศ็อรฺ ฟิกฮุล อิสลามีย์” โดย เชค มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม บิน อับดุลลอฮฺ
อัต-ตุวัยญิรีย์ แปลโดย อิบรอฮีม อาลหูเซ็น)
‫اَّلِذ يَن ْحَيِم ُلوَن اْلَعْر َش َوَمْن َحْو َلُه ُيَس ِّبُح وَن َحِبْم ِد َرِهِّبْم َوُيْؤ ِم ُنوَن ِبِه َوَيْس َت ْغِف ُروَن ِلَّلِذ يَن آَمُنوا َرَّبَنا َو ِس ْعَت ُك َّل َش ْي ٍء َرَمْحًة َو ِع ْلمًا َفاْغِف ْر ِلَّلِذ يَن اَت ُبوا‬
‫ِهِت‬ ‫ِج‬ ‫ِم ِئ‬ ‫ِت ٍن‬ ‫ِخ‬ ‫ِح‬ ‫ِق‬
‫ َرَّبَنا َوَأْد ْلُه ْم َج َّنا َعْد اَّليِت َو َعْدَت ُه ْم َوَمْن َص َلَح ْن آاَب ِه ْم َوَأْزَوا ِه ْم َو ُذِّراَّي ْم ِإَّنَك َأْنَت اْلَعِزيُز‬، ‫َواَّتَبُعوا َس ِبيَلَك َو ِه ْم َعَذ اَب اَجْل يِم‬
»‫ َو ِقِه ُم الَّس ِّيَئاِت َوَمْن َتِق الَّس ِّيَئاِت َيْوَمِئٍذ َفَق ْد َرْمِحَتُه َو َذِلَك ُه َو اْلَف ْو ُز اْلَعِظ يُم‬،‫اَحْلِكيُم‬

หมวดหมู่เนื้อหา:

https://islamhouse.com/th/articles/57637 5/5

You might also like