You are on page 1of 41

‫)ﺗﺎﻳﻼﻧﺪي(‬

วิ ธี ก ารละหมาดของท่ า นนบี 
พร้ อมวิ ธี ก ารอาบนา้ ละหมาด

เขียนโดย
เชคอับดุลอะซีซ บิน อับดุลลอฮฺ บิน บาซ
แปลโดย
ฮุซเซน หะยีนาแว

เผยแพร่ โดย
กรมสื่อสิ่งพิมพ์และงานวิจยั
กระทรวงกิจการศาสนา ดะอฺวะฮฺ และการชี ้นา
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี

2
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี

‫ والصالة والسالم ىلع نبينا حممد‬،‫احلمد هلل وحده‬


: ‫ أما بعد‬،‫وىلع آهل وصحبه‬

มวลการสรรเสริ ญเป็ นเอกสิทธิ ของอัลลอฮฺ เพี ยงพระองค์เดียว


เท่านัน้ ขอวิงวอนต่อพระองค์ ทรงโปรดประทานความสันติและ
จาเริ ญแด่ท่านนบี ศ็อ ลลัล ลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ซึ่งเป็ นบ่าว
ของอัลลอฮฺและเป็ นศาสนทูตของพระองค์ และขอความสันติจง
มีแด่ครอบครัวและบรรดาสหายของท่านด้ วยเทอญ
นี่ คื อ ค าอธิ บ ายสั น้ ๆ เกี่ ย วกั บ การละหมาดตาม
แบบอย่างของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่ฉันขอ
นาเสนอแด่พี่น้องมุสลิมและมุสลิมะฮฺ เพื่อให้ ทุกคนที่อ่านมันจะ
ได้ พ ยายามใช้ เป็ น แนวทางในการปฎิ บัติ ต าม ดัง ที่ ท่ า นนบี
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ กล่าวไว้ วา่
ّ
»‫«صلوا كما رأيتمو ِن أص ِل‬
3
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ความว่า ท่านทัง้ หลายจงละหมาดเหมือนที่ ท่าน
เห็ น ฉั น ละหมาด (บั น ทึ ก โดย อั ล -บุ ค อรี ย์
หมายเลข 595)

1. การอาบนา้ ละหมาด
กล่าวคือ การอาบน ้าละหมาดโดยปฏิบตั ิตามโองการของ
อัลลอฮฺ ที่พระองค์ได้ ตรัสว่า
        

     

)6 :‫ (سورة املائدة‬    

ความว่า โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาทัง้ หลาย เมื่อพวกเจ้ า


ยืนขึน้ เพื่อทาการละหมาด ก็จงล้ างหน้ าของและ
มือของพวกเจ้ าถึงข้ อศอก จงลูบศรี ษะ และจงล้ าง
เท้ าของพวกเจ้ าถึงตาตุม่ ทังสองข้
้ าง

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ กล่าวว่า :


»‫ي طهور‬
ِ ‫«ل تقبل صالة بِغ‬
4
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ความว่า การละหมาดที่ ป ราศจากความสะอาด
(การอาบนา้ ละหมาด)จะไม่ถูกตอบรั บ (บันทึก
โดยมุสลิม หมายเลข 329)

และหะดีษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่


ได้ กล่าวว่า :
»‫« ِإذا قمت ِإل الصالةِ فأس ِب ِغ الوضوء‬
ความว่ า เมื่ อ ท่ า นจะละหมาด ก็ จ งอาบน า้
ละหมาดให้ ทวั่ (บันทึกโดยอัล-บุคอรี ย์ หมายเลข
5782)

วิธีการอาบนา้ ละหมาด มีดังต่ อไปนี ้


1. เนียตหรื อตังใจว่
้ าจะอาบน ้าละหมาด โดยไม่ต้องกล่าว
เป็ นวาจาออกมา เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม ไม่เคยกล่าวในสิ่ งที่ เนี ย ตหรื อตัง้ ใจออกมา
เป็ นวาจา ทังในการอาบน
้ ้าละหมาด การละหมาด และ
การปฏิ บัติ ศาสนากิ จ อื่น ๆ เนื่ องจากอัล ลอฮฺ ท รงรั บ รู้

5
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจ ดังนัน้ จึงไม่จาเป็ นที่จะต้ องบอก
พระองค์ด้วยวาจาเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจ
2. กล่าวพระนามของอัลลอฮฺวา่ “บิสมิลลาฮฺ”
3. ล้ างมือทังสองข้
้ างสามครัง้
4. บ้ วนปากและสูด น า้ เข้ าจมูก สามครั ง้ โดยใช้ มือซ้ า ย
เวลาสัง่ น ้าออกจากโพรงจมูก
5. ล้ างใบหน้ าให้ ทั่วสามครั ง้ เริ่ มจากขอบหูขวาถึงขอบหู
ซ้ ายในแนวขวาง และเริ่ มจากขอบเส้ นผมจรดสุดปลาย
คางในแนวตัง้
6. ล้ างแขนสามครั ง้ เริ่ มจากปลายนิว้ มือถึงข้ อศอก เริ่ ม
ข้ างขวาก่อน แล้ วตามด้ วยข้ างซ้ าย
7. ลูบศรี ษะหนึ่งครั ง้ ลูบด้ วยมือที่เปี ยกนา้ จากด้ านหน้ า
ถึงท้ ายศรี ษะด้ านหลังและวกกลับมาด้ านหน้ าอีกครัง้
8. ลูบใบหูทงั ้ สองข้ างหนึ่งครั ง้ โดยใช้ นิ ้วชีแ้ หย่ในรู หูและ
ใช้ หวั แม่มือลูบหลังใบหู
9. ล้ างเท้ าทัง้ สองข้ างสามครั ง้ เริ่ มจากปลายนิ ว้ เท้ าถึง
ตาตุม่ เริ่ มข้ างขวาก่อนแล้ วตามด้ วยข้ างซ้ าย

6
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
‫«ما ِمنكم ِمن أحد يتوضأ فيس ِبغ الوضوء ثم يقول‬
ٰ
‫ وأشهد‬،‫َشيك هل‬ ِ ‫أشهد أن ل ِإلـه ِإل اهلل وحده ل‬
ّ ً
‫أن حممدا عبده ورسوهل؛ ِإل ف ِتحت هل أبواب الن ِة‬
)‫الما ِني ِة يدخل ِمن أيها شاء» (رواه مسلم‬
ความว่า ไม่มีการตอบแทนใดสาหรั บบุคคลใดใน
หมู่ พ วกเจ้ าที่ อ าบน า้ ละหมาด ซึ่ ง เขาได้ ก ล่ า ว
หลังจากเสร็ จสิ ้นจากการอาบน ้าละหมาดว่า
ٰ
‫ وأشهد‬،‫َشيك هل‬
ِ ‫أشهد أن ل ِإلـه ِإل اهلل وحده ل‬
‫أن حمم ًدا عبده ورسوهل‬
ความว่า (ข้ าพเจ้ าขอปฎิญานตนว่า ไม่มีพระเจ้ า
อื่นใด นอกจากอัลลอฮฺ และข้ าพเจ้ าขอปฎิ ญาน
ตนว่ า ท่ า นนบี มุ หั ม มั ด ศ็ อ ลลั ล ลอฮุ อะลั ย ฮิ
วะสัลลัม เป็ นบ่าวของอัลลอฮฺ และเป็ นศาสนทูต
ของพระองค์)

7
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
นอกเสี ย จาก บรรดาประตู ส วรรค์ ทัง้ แปดจะถู ก
เปิ ดสาหรับเขา โดยที่เขาสามารถเข้ าไปทางประตู
ใดก็ได้ ตามที่เขาต้ องการ

2. ให้ ผ้ ูละหมาดหันหน้ าไปทางกิบละฮฺ


กล่าวคือ หันหน้ าและเรื อนร่ างทัง้ หมดไปทางทิ ศของ
กะอฺบะฮฺ ซึ่งตัง้ อยู่ที่นครมักกะฮฺ ประเทศซาอุดิอาระเบี ย ด้ วย
ความตังใจว่
้ าจะทาการละหมาดตามที่ได้ ตงใจไว้ ั้ ไม่ว่าจะเป็ น
ละหมาดฟั รฎูหรื อสุนัต และไม่ต้องกล่าวในสิ่งที่เนียตหรื อตังใจ ้
ออกมาเป็ นวาจา เพราะการกล่าวเนียต ออกมาป็ นวาจานันไม่ ้ ได้
ถู ก บั ญ ญั ติ ไ ว้ หน าซ า้ มั น เป็ นบิ ด อะฮฺ ห รื ออุ ต ริ ในศาสนา
เนื่องจากท่านนบีมหุ มั มัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เองก็ไม่
เคยกล่ า วเนี ย ตหรื อสิ่ ง ที่ ตั ง้ ใจออกมาเป็ นวาจา บรรดา
เศาะหาบะฮฺ(สหาย)ของท่านก็เช่นกัน
ควรต้ องให้ มี สิ่ งขวางกัน้ (สุตเราะฮฺ ) หน้ าอิมามที่ เป็ น
ผู้นาในการละหมาดหรื อข้ างหน้ าผู้ที่ทาการละหมาดคนเดียว

8
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
การหัน หน้ าไปทางกิ บ ละฮฺ เป็ น เงื่ อนไขในการท าการ
ละหมาด แต่ก็มีกรณีที่ยกเว้ น ซึง่ ถูกเขียนไว้ อย่างชัดเจนในตารา
ของนักวิช าการอิส ลาม (เช่น การทาการละหมาดในยามกลัว
หรื อ สงคราม และการละหมาดสุนัตบนยานพาหนะในขณะ
เดินทาง)

3. ตักบีเราะตุลอิห์รอม
กล่าวตัก บี ร พร้ อมสายตาที่ มองไปยัง ที่ สุญูด ด้ วยคา
กล่าวว่า “อัลลอฮุ อักบัรฺ” ซึง่ มีความว่า อัลลอฮฺผ้ ยู ิ่งใหญ่

4. ยกมือทัง้ สองข้ างขณะตักบีร


กล่าวคือ ยกมือทังสองข้
้ างขณะกล่าวตักบีร ให้ สงู ระดับ
ไหล่หรื อติง่ หู ด้ วยการชู/คลายนิ ้วมือทังหมดและหั
้ นฝ่ ามือไปทาง
กิบละฮฺ

9
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
5. วางมือทัง้ สองข้ างบนหน้ าอก
ให้ วางฝ่ ามือขวาทับบนมือซ้ าย หรื อตรงข้ อมือซ้ าย หรื อ
วางตรงช่วงแขน ขณะวางมือ บนหน้ าอกในช่ วงที่ ยืน ละหมาด
เพราะมีรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม

6. สุนัตให้ อ่านดุอาอ์ อัล-อิสติฟตาห์


‫اللهم با ِعد بي ِن وبي خطاياي كما باعدت بي‬
‫ اللهم نق ِن ِمن خطاياي كما‬،‫ش ِق والـمغ ِر ِب‬
ِ ‫الـم‬
‫ اللهم اغ ِسل ِن ِمن‬،‫ينّق الوب البيض ِمن الن ِس‬
)‫ (رواه ابلخاري‬.‫خطاياي بِالـما ِء والل ِج والب ِد‬
ความว่ า โอ้ อัล ลอฮฺ ขอทรงแยกข้ า พระองค์ ใ ห้
ห่างไกลจากความผิ ดเหมือนที่ พ ระองค์ ทรงแยก
ทิ ศตะวันออกกับทิ ศตะวัน ตก โอ้ อัลลอฮฺ ขอทรง
ชาระข้ าพระองค์ให้ บริ สุทธิ์ จากบาป ดังที่ผ้าขาว
ขาวถูกชาระจากสิ่งสกปรก โอ้ อลั ลอฮฺ ขอพระองค์
โปรดล้ างข้ าพระองค์จากความผิดทังหลายด้
้ วยน ้า
ด้ วยหิมะ และลูกเห็บ (บันทึกโดย อัล-บุคอรี ย์)
10
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี

หรื อถ้ าต้ องการที่จะกล่าวแทนคาดังกล่าว ก็จงกล่าวว่า :


ٰ
‫سبحانك اللهم و ِبم ِدك وتبارك اسمك وتعال‬
ٰ
‫جدك ول ِإلـه غيك‬
ความว่า มหาบริ สุทธิ์ แด่อัลลอฮฺองค์ อภิบาลแห่ง
เรา การสรรเสริ ญมีแด่พระองค์ ความประเสริ ฐมี
ในพระนามของพระองค์ เกียรติแห่งพระองค์ ช่าง
สูง่ ส่ง และไม่มีพระเจ้ าอื่นใดนอกจากพระองค์

เมื่อผู้ที่ทาการละหมาดอ่านดุอาอ์ อัล-อิสติฟตาห์ ที่ มี


สายรายงานจากท่ า นนบี ศ็ อ ลลั ล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ วะสั ล ลั ม
นอกจากสองบทดังที่กล่าวมาข้ างต้ น ก็ถือว่าเป็ นที่อนุญาต และ
จะเป็ นการดีที่ยิ่งถ้ าอ่านบทดุอาอ์ อัล-อิสติฟตาห์ ที่ไม่ซ ้ากัน(ใน
แต่ละครัง้ เวลาละหมาด) เพราะเป็ นการปฏิบตั ิตามซุนนะฮฺอย่าง
สมบูรณ์
ให้ กล่าวหลังจากดุอาอ์ อัล-อิสติฟตาห์ ว่า :
‫ان الر ِجي ِم‬
ِ ‫هلل ِمن الشيط‬
ِ ‫أعوذ بِا‬
‫هلل الـرحٰ ِن الـر ِحــي ِم‬
ِ ‫بِـسـ ِم ا‬
11
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ความว่า ข้ าพระองค์ขอหลีกพ้ นด้ วยอัลลอฮฺเพื่อให้
ห่างไกลจากชัยฏอนผู้ถูกสาปแช่ง ด้ วยพระนาม
ของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุ ณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

แล้ วอ่านสูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ เนื่ องจากคากล่าวของ


ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่วา่
»‫اب‬ ِ ‫ات ِة ال‬
ِ ‫كت‬ ِ ‫«ل صالة ل ِمن لم يقرأ ِبف‬
ความว่า การละหมาดจะไม่ถูกรั บ สาหรั บบุคคล
ใดที่ ไม่ได้ อ่านสูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ (บันทึกโดย
อัล-บุคอรี ย์ หมายเลข 714)

หลัง จากอ่า นอัลฺ ฟ าติห ะฮฺ เ สร็ จ สิ น้ แล้ ว ก็ จ งกล่า วว่ า


“อามี น ” ซึ่ง มี ค วามว่ า “ขอพระองค์ อัล ลอฮฺ ท รงตอบรั บ ด้ ว ย
เทอญ” อ่านด้ วยเสี ย งดัง ในการละหมาดที่ อ่านเสี ย งดัง (คื อ
มัฆริ บ อิชาอ์ และศุบหฺ) และอ่านด้ วยเสียงค่อยในการละหมาดที่
อ่านค่อย(คือ ซุฮรฺ และอัศรฺ ) และอ่านตามด้ วยอายะฮฺอลั กุรอาน
ที่สะดวกจะอ่าน

12
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
จะเป็ น การดี ที่ สุ ด ถ้ า อ่ า นสูเ ราะฮฺ ที่ มี ค วามยาวปาน
กลาง(เอาสัฏ อัล-มุฟัศศ็อล)ในการละหมาดซุฮรฺ อัศรฺ และอิชาอ์
อ่านสูเราะฮฺที่ยาว (ฏิวาล อัล-มุฟัศศ็อล)ในการละหมาดศุบหฺ
และอ่านสูเราะฮฺ ที่ยาวในบางครั ง้ และสัน(กิ ้ ศอรฺ อัล-มุฟัศศ็อล)
ในบางครัง้ ในการละหมาดมัฆริ บ นั่นคือการปฎิบัติตามหะดีษที่
มีสายรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม

7. ก้ มรุ กูอฺพร้ อมกล่ าวตักบีร


ยกมือทังสองข้
้ างให้ อยู่ระดับหัวไหล่หรื อติ่งหู พร้อมกับ
กล่าวตักบีรเมื่อก้ มรุ กูอฺ ให้ ศรี ษะตังฉากกั
้ บแผ่นหลัง และวางมือ
ทังสองข้
้ างบนหัวเข่าโดยที่นิ ้วแยกกัน ให้ มีฏมะนี
ุ นะฮฺ(สมาธิหรื อ
การเว้ นช่วงให้ นานพอประมาณ)ในการรุ กอู ฺ และกล่าวว่า
‫سبحان رّب الع ِظي ِم‬
ความว่ า มหาบริ สุ ท ธิ์ พระผู้ อภิ บ าลของข้ า
พระองค์ผ้ ทู รงยิ่งใหญ่
จะเป็ น การดียิ่ ง ถ้ าอ่านสามครั ง้ หรื อมากกว่านัน้ และ
สุนตั ให้ กล่าวพร้ อมกับดุอาอ์ดงั กล่าว คือ
13
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
‫ اللهم اغ ِفر ِل‬،‫سبحانك اللهم ربنا و ِبم ِدك‬
ความว่า มหาบริ สทุ ธิ์เถิดพระองค์ โอ้ อลั ลอฮฺพระผู้
อภิบาลแห่งเรา และด้ วยการสรรเสริ ญแด่พระองค์
โอ้ องค์อภิ บาลแห่งเราขอโปรดประทานอภัยโทษ
แก่ข้าพระองค์ด้วยเทอญ

8. เงยศีรษะขึน้ จากการรุ กูอฺ


ให้ ยกมือทัง้ สองข้ างให้ อยู่ระดับหัวไหล่ หรื อติ่งหูขณะ
เงยศีรษะขึ ้นจากการรุ กอู ฺ พร้ อมกล่าวว่า :
‫حده‬
ِ ‫س ِمع اهلل ل ِمن‬
ความว่า อัลลอฮฺทรงได้ ยิน สาหรับผู้ใดที่สรรเสริ ญ
พระองค์
ให้ กล่าวเมื่อเป็ นอิมามในการนาละหมาด หรื อเมื่อทาการ
ละหมาดคนเดียว
เมื่อยืนตรงแล้ วให้ กล่าวว่า :

14
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ً ً ً ً
‫ ِملء‬، ‫ حدا ك ِثيا طيبا مبار ك ِفي ِه‬،‫ربنا و لك احلمد‬
‫ و ِملء ما‬،‫ و ِملء ما بينهما‬،‫ات و ِملء الر ِض‬
ِ ‫السمو‬
‫ِشئت ِمن شء بعد‬
ความว่า โอ้ พระผู้อภิบาลแห่งเรา ขอสรรเสริ ญแด่
พระองค์ ด้ วยการสรรเสริ ญ ที่มากมาย ที่ดี และที่
ประเสริ ฐ ให้ เต็มทัง้ ฟากฟ้า แผ่นดิน และสิ่งที่อยู่
ระหว่ า งทั ง้ สอง และเต็ ม ทุ ก สิ่ ง ที่ พ ระองค์ ท รง
ประสงค์นอกเหนือจากนัน้

สาหรั บมะอ์ มูมซึ่งเป็ นผู้ตาม ให้ กล่าวในขณะเงยหน้ า


ขึ ้นจาก รุ กอู ฺด้วยดุอาอ์ข้างต้ นเช่นกัน
ถ้ าหากจะกล่าวเพิ่มเติมทังเมื ้ ่อเป็ นอิมามหรื อละหมาด
คนเดียวว่า :
‫ وكنا لك‬،‫ أحق ما قال العبد‬،‫أهل النا ِء والـمج ِد‬
‫ اللهم ل ما ِنع ل ِما أعطيت ول مع ِطي ِلـما‬،‫عبد‬
‫منعت ول ينفع ذا الـجد ِمنك الـجد‬

15
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ความว่า พระองค์ผ้ ูเป็ นเจ้ าของการสรรเสริ ญและ
ความยิ่งใหญ่ สิ่งที่บ่าวสมควรกล่าวมากที่สุด ซึ่ง
พวกเราทั ง้ หลายล้ วนเป็ นบ่ า วของพระองค์
โอ้ อลั ลอฮฺ (นัน่ คือคากล่าวว่า)โอ้ พระผู้อภิบาลแห่ง
เรา ไม่มีผ้ ูใดห้ ามได้ ในสิ่งที่ พระองค์ทรงประทาน
ย่ อมไม่ มีผ้ ู ใ ดให้ ไ ด้ ใ นสิ่ งซึ่งพระองค์ ท รงห้ า มไว้
และความร่ ารวย/อาจาจของผู้ใดไม่อาจอานวยผล
แก่คนผู้นัน้ ต่อหน้ าพระองค์ (หรื อจากการลงโทษ
ของพระองค์)ได้

การอ่านดุอาอ์ข้างต้ นจะเป็ นสิ่งที่ดียิ่ง เนื่องจากมีรายงาน


จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม
และสุนัตให้ วางมือทัง้ สองข้ างบนหน้ าอก โดยที่ มือขวา
ทับมือซ้ าย เหมือนที่ ท าขณะยื นตรงก่อนที่ จะก้ มรุ กูอฺ เพราะมี
สายรายงานจากท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จาก
หะดี ษ วาอิล บิ น หะญัร และสะฮ์ ลฺ บิ น สะอัด เราะฎิ ยัล ลอฮฺ
อันฮุมา

16
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
9. ลงสุญูดพร้ อมกล่ าวตักบีร
หากเป็ นการสะดวก ให้ ลงหัวเข่าทังสองข้้ างก่อนวางมือ
แต่ถ้าลาบากให้ เอามือลงก่อนได้ และให้ นิ ้วมือและเท้ ายันกับพื ้น
พร้ อมหันทังนิ
้ ้วมือและนิ ้วเท้ าไปทางกิบละฮฺ ในขณะสุญดู ให้ ยึด
บนอวัยวะทังเจ็
้ ด คือ หน้ าผากกับจมูก ฝ่ ามือทัง้ สองข้ าง หัวเข่า
ทังสองข้
้ าง และนิ ้วเท้ าทังสองข้
้ าง ให้ กล่าวขณะสุญดู ว่า :
ٰ
‫سبحان رّب الىلع‬
ความว่า มหาบริ สทุ ธิ์ แด่พระผู้อภิบาลผู้สงู ส่งของ
ข้ าพระองค์
สุนตั ให้ กล่าวสามครัง้ หรื อมากกว่านัน้ และสุนตั ให้ กล่าว
พร้ อม ดุอาอ์ดงั กล่าวว่า
‫ اللهم اغ ِفر ِل‬،‫سبحانك اللهم ربنا و ِبم ِدك‬
ความว่า มหาบริ สทุ ธ์เถิดพระองค์ โอ้ อลั ลอฮฺพระผู้
อภิบาลแห่งเรา และด้ วยการสรรเสริ ญแด่พระองค์
โอ้ องค์อภิบาลแห่งเรา ขอโปรดประทานอภัยโทษ
แก่ข้าพระองค์ด้วยเทอญ

17
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ควรมีการกล่าวดุอาอ์ให้ มากในขณะสุญดู เนื่องจากหะ
ดีษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า :
‫ وأما السجود‬،‫«أما الركوع فعظموا ِفي ِه الرب‬
»‫ فق ِمن أن يستجاب لكم‬،‫فاجت ِهدوا ِف الع ِء‬
ความว่า เมื่อก้ มรุ กูอฺ พวกท่านจงกล่าวยกย่องถึง
ความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺ และเมื่อสุญดู พวกท่าน
จงจริ งจัง ในการขอดุอ าอ์ เพราะนั่นคือที่ ที่ ดุอาอ์
ของท่านมีนัยอันสมควรแก่การตอบรั บ (บันทึก
โดยมุสลิม หมายเลข 738)

ให้ ขอแต่ความดีงามทังโลกนี้ ้และโลกหน้ าจากพระองค์


อัลลอฮฺ ทังในการละหมาดฟั
้ รฎและละหมาดสุ
ู นตั
ในขณะสุญดู ท่านจงยืดแขนให้ ห่างจากลาตัว หน้ าท้ อง
และสะโพก และให้ สะโพกห่างหรื อแยกออกจากแข้ ง พร้ อมกับ
ยกแขนให้ ขึ น้ เหนื อพื น้ ดังค ากล่ าวของท่ า นนบี ศ็อลลัล ลอฮฺ
อะลัยฮิ วะสัลลัม :

18
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
‫ ول يبسط أحدكم ِذراعي ِه‬،‫«اعت ِدلوا ِف السجو ِد‬
»‫ب‬
ِ ‫ان ِبساط الك‬
ความว่า ท่านจงสุญูดให้ ดีพอปานกลาง(ไม่นอน
ราบและไม่งอตัว) และห้ ามบุคคลใดวางแขนของ
เขาบนพืน้ เช่นที่ สนุ ัขทา (บันทึกโดยอัล-บุคอรี ย์
หมายเลข 779)

10. ยกศีรษะขึน้ จากสุญูดพร้ อมกล่ าวตักบีร


เมื่อลุกขึน้ จากสุญูด ให้ นั่งบนเท้ าซ้ ายที่ วางพับบนพื น้
และให้ เท้ าขวายันกับพืน้ และนามือไปวางบนหัวเข่ าและต้ นขา
ทังสองข้
้ าง และให้ กล่าวว่า :
‫ وع ِف ِن‬،‫ واه ِد ِن وارزق ِن‬،‫ر ِّب اغ ِفر ِل وارح ِن‬
‫واجب ِن‬
ความว่า โอ้ อัลลอฮฺ ขอทรงโปรดให้ การอภัยโทษ
แก่ข้าพระองค์ ขอทรงโปรดเมตตาข้ าพระองค์ ขอ
ทรงให้ การชี น้ าแก่ ข้ าพระองค์ ขอทรงโปรด

19
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ประทานปั จจัยยังชี พแก่ข้าพระองค์ ขอทรงโปรด
คุ้มครองข้ าพระองค์ และขอทรงประทานความ
ร่ ารวยด้ วยเทอญ
และให้ มี ฏุ มะอ์ นี น ะฮฺ ( สมาธิ หรื อเว้ นช่ ว งให้ นาน
พอประมาณ)ในการนัง่

11. สุญูดครั ง้ ที่สอง


ให้ กล่าวตักบี รขณะลงสุญูด และปฏิ บัติให้ เหมือนกับ
สุญดู ในครัง้ แรก

12. ยกศีรษะขึน้ จากสุญูดพร้ อมกล่ าวตักบีร


เมื่อยกศีรษะขึน้ จากสุญูด ให้ นั่งสักครู่ หนึ่ง นั่งเหมือน
การนัง่ ระหว่างสองสุญดู ซึง่ เรี ยกว่านัง่ พัก มันคือสุนตั ถ้ าหากไม่
ปฏิบัติเช่นนัน้ ก็ถือว่าไม่น่าเกลียด และไม่มีการซิกิรฺหรื อดุอาอ์
ใดๆ ขณะนัง่ พัก เสร็ จแล้ วให้ ลกุ ขึ ้นละหมาดร็ อกอัตที่สอง ให้ มือ
จับที่หวั เข่าขณะลุกขึ ้นยืนหากเป็ นการสะดวก แต่ถ้า หากลาบาก
20
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ก็ใช้ มือดันที่ พืน้ เมื่อยื นตรงแล้ วให้ อ่าน สูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ
และตามด้ วยอายะฮฺที่สะดวกที่จะอ่าน ให้ ปฏิบตั ิเหมือนร็ อกอัต
แรก

13. กรณีละหมาดสองร็อกอัต
การละหมาดที่ มี 2 ร็ อกอั ต เช่ น ละหมาดศุ บ หฺ
ละหมาดวันศุกร์ ละหมาดวันอีด วิธีการนั่งหลังจากลุกขึน้ จาก
การสุญดู ครัง้ ที่สอง ให้ นงั่ บนเท้ าซ้ ายที่เสียบเข้ าไปวางใต้ สะโพก
และให้ เท้ าขวายัน กับ พื น้ น ามื อขวาไปวางบนต้ น ขาข้ างขวา
พร้ อมกับกานิ ว้ มือทัง้ หมด ยกเว้ นนิว้ ชี ้ และชีด้ ้ วยนิ ว้ ชี ้ เพื่อเป็ น
สัญลักษณ์แห่งความเป็ นเอกภาพของพระองค์อลั ลอฮฺ
จะเป็ นการดียิ่ง หากกานิ ว้ ก้ อยและนิว้ นาง และให้ หัว
แม่มือต่อเป็ นวงกับนิว้ กลาง และชีด้ ้ วยนิว้ ชี ้ เนื่องจากการนั่งทัง้
สองลั ก ษณะล้ วนเป็ นการปฏิ บั ติ ข องท่ า นนบี ศ็ อ ลลั ล ลอฮฺ
อะลัยฮิ วะสัลลัม ทังนั้ น้ ดังนันหากปฏิ
้ บตั ิทงสองวิ
ั้ ธีโดยไม่ซ ้ากัน
จะเป็ นสิ่งที่ดียิ่ง
และให้ นามือซ้ ายไปวางบนต้ นขาและหัวเข่าข้ างซ้ าย
21
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ในขณะนัง่ ให้ อา่ นตะชะฮ์ฮดุ คือ :
‫ السال م عليك‬، ‫هلل والصلوات والط ِّيبات‬ ِ ‫ال ِحيات‬
ٰ
‫ السال م علينا وىلع‬، ‫هلل و بر ك ته‬
ِ ‫أ يها ال ِب و رحة ا‬
ٰ
‫ أشهد أن ل ِإلـه ِإل اهلل وأشهد‬،‫احلي‬ِ ِ ‫هلل الص‬
ِ ‫ِعبا ِد ا‬
ً
‫أن حممدا عبده ورسوهل‬
ความว่ า มวลการสดุดี การขอพร และความดี
ทั ง้ หลาย ขอมี แ ด่ พ ระองค์ อั ล ลอฮฺ โอ้ ท่ า นนบี
ศ็ อ ลลัล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ วะสั ล ลั ม ขอความสั น ติ
ความประเสริ ฐ ความกรุ ณ าปรานี จากเอกองค์
อัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน ขอความสันติจงมีแด่พวกเรา
และบรรดาบ่าวของพระองค์ที่ศอลิหฺ(ผู้มีคณ ุ ธรรม)
ข้ าพเจ้ าขอปฎิ ญ านตนว่ า ไม่ มี พ ระเจ้ าอื่ น ใด
นอกจาก อัลลอฮฺ และขอปฎิ ญานตนว่าท่านนบี
มุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เป็ นบ่าว
ของอัลลอฮฺ และเป็ นศาสนทูตของพระองค์

ให้ กล่าวหลังจากนันว่
้ า:

22
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ٰ ٰ ٰ
‫آل حممد كما صليت ىلع‬ ِ ‫اللهم صل ىلع حممد وىلع‬
ٰ
ِ ‫ وب‬،‫حيد مـ ِجيد‬
‫ارك ىلع‬ ِ ‫آل إِبرا ِهيم إِنك‬
ِ ‫إِبرا ِهيم و‬
ٰ ٰ
‫آل‬
ِ ‫آل حممد كما باركت ىلع ِإبرا ِهيم و‬ ِ ‫حممد وىلع‬
‫حيد مـ ِجيد‬
ِ ‫إِبرا ِهيم إِنك‬
ความว่า ข้ าพเจ้ าขอวิง วอนต่อพระองค์ อัล ลอฮฺ
ขอทรงโปรดประทานความจาเริ ญ ให้ แด่ท่านนบี
มุหมั มัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม และเครื อ
ญาติของท่าน ดังที่พระองค์ทรงได้ ประทานความ
จ าเริ ญ แก่ ท่ านนบี อิ บ รอฮี ม และเครื อ ญาติ ข อง
ท่าน แท้ จริ งพระองค์ทรงเป็ นที่ได้ รับการสรรเสริ ญ
และเป็ นผู้ที่ทรงเกียรติ และขอทรงโปรดประทาน
ความประเสริ ฐ แด่ท่านนบี มุหัมมัด ศ็อลลัล ลอฮฺ
อะลัย ฮิ วะสัล ลัม และครอบครั ว ของท่ าน ดัง ที่
พระองค์ทรงได้ ประทานความประเสริ ฐแก่ท่านนบี
อิบรอฮีม และเครื อญาติของท่าน แท้ จริ งพระองค์
ทรงป็ นผู้ได้ รับการสรรเสริ ญและเป็ นผู้ที่ทรงเกียรติ
ยิ่ง

23
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี

และให้ ก ล่ า วขอการคุ้ม ครองจากอัล ลอฮฺ จากสิ่ ง 4


ประการ ด้ วยการกล่าวว่า :
ّ
‫اب‬ ِ ‫اب جهنم و ِمن عذ‬ِ ‫اللهم ِإ ِن أعوذ بِك ِمن عذ‬
‫ات و ِمن فِتن ِة‬
ِ ‫ب و ِمن فِتن ِة الـمحيا والـمم‬ِ ‫الق‬
‫ال‬
ِ ‫الـم ِسي ِح الج‬
ความว่า ข้ าพเจ้ า ขอวิงวอนจากพระองค์ อัลลอฮฺ
ขอทรงโปรดให้ ข้าพเจ้ าห่างไกลจากการทรมานใน
นรกอเวจี ขอทรงโปรดให้ ข้าพเจ้ าห่างไกลจากการ
ทรมานในหลุ ม ฝั ง ศพ ขอทรงโปรดให้ ข้ าพเจ้ า
ห่างไกลจากความหายนะในการใช้ ชีวิตปั จจุบัน
และชี วิ ต หลั ง ความตาย และขอทรงโปรดให้
ข้ าพเจ้ าห่างไกลจากความหายนะของดัญญาล

ให้ กล่าวตามด้ วยดุอาอ์ขอความโชคดี ทังโลกนี


้ ้และโลก
หน้ า ตามความประสงค์และต้ องการ
หากดุ อ าอ์ ( ขอพร)ให้ แก่ บิ ด ามารดาหรื อ ผู้ อื่ น ที่ เ ป็ น
มุส ลิม อนุญ าตให้ กระท าได้ ทัง้ ในละหมาดฟั ร ฎูและละหมาด
24
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
สุ นั ต เนื่ อ งด้ วยค ากล่ า วของท่ า นนบี ศ็ อ ลลัล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ
วะสัลลัม จากหะดีษของอิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เมื่อ
ครัง้ ที่ถกู สอนในเรื่ องการนัง่ ตะชะฮ์ฮุด และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ
อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า
»‫«ثم لتخي ِمن الع ِء أعجبه إِل ِه فيدعو‬
ความว่า จากนันให้
้ เขาเลือกกล่าวดุอาอ์ ตามที่เขา
ชอบใจ (บันทึกโดยอัน-นะสาอีย์ หมายเลข 1281)

มีรายงานในหะดีษบทอื่นว่า
»‫«ثم لتخي بعد ِمن المسأل ِة ما شاء‬
ความว่า จากนัน้ ให้ เลือกขอพรในสิ่งที่ต้องการได้
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 609)

ซึง่ มันรวมทังดุ ้ อาอ์ให้ ได้ สิ่งที่เป็ นประโยชน์ตอ่ ตัวบ่าวทัง้


ในโลกนี ้และโลกหน้ า
เมื่อเสร็ จ สิ น้ จากการขอดุอาอ์ ให้ หัน หน้ าไปข้ างขวา
พร้ อมกับกล่าวสลามว่า :

25
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
‫هلل‬
ِ ‫السالم عليكم ورحة ا‬
ความว่ า ขอความสั น ติ และความประเสริ ฐ
จากอัลลอฮฺจงประสบแด่ท่านทังหลาย

และหันหน้ าไปข้ างซ้ ายพร้ อมกับกล่าวสลามดังกล่าว


เช่นกัน

14. กรณีละหมาดสามร็อกอัต
การละหมาดที่ มี 3 ร็ อกอัต เช่น ละหมาดมัฆริ บ หรื อ
การละหมาดที่มี 4 ร็ อกอัต เช่น ละหมาดซุฮรฺ อัศรฺ และอิชาอ์ ให้
อ่าน ตะชะฮ์ฮดุ ครัง้ แรกเหมือนที่ได้ อธิบายแล้ วข้ างต้ น พร้ อมกับ
ขอพร (เศาะละวาต) ให้ กั บ ท่ า นนบี ศ็ อ ลลัล ลอฮฺ อะลั ย ฮิ
วะสัลลัม
เมื่อเสร็ จสิ ้นแล้ ว ให้ ลกุ ขึ ้นยืนด้ วยการนามือทังสองข้
้ าง
ไปจับที่หัวเข่ าขณะลุกขึน้ และให้ ยกมือทัง้ สองข้ างให้ อยู่ระดับ
หัวไหล่ห รื อติ่งหูข ณะยื นตรงพร้ อมกับกล่า วตักบี รว่า “อัลลอฮุ
อักบัร”
26
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
หลัง จากนัน้ ให้ วางมือทัง้ สองข้ างบนหน้ าอก ดัง ที่ ไ ด้
กล่าวมาแล้ วในตอนต้ น และให้ อ่านสูเราะฮฺ อัล-ฟาติหะฮฺ อย่าง
เดียวในร็ อกอัตที่ สาม และ สี่
ถ้ าอ่านอายะฮฺหรื อสูเราะฮฺอื่นเพิ่มหลังจากอัล-ฟาติหะฮฺ
ในร็ อกอัตที่ สาม และ สี่ ในการละหมาดซุฮ รฺ เป็ นบางครั ง้ บาง
คราว ก็เป็ นการอนุญาตให้ กระทาได้ เนื่องจากมีสายรายงานบ่ง
บอกเรื่ องดังกล่าวจากหะดีษของอบู สะอีด เราะฎิยลั ลอฮฺ อันฮุ
ให้ นั่ง อ่านตะชะฮ์ ฮุด สุดท้ ายในร็ อ กอัต ที่ ส ามส าหรั บ
ละหมาด มัฆริ บ และให้ นั่งอ่านตะชะฮ์ ฮุดสุดท้ ายในร็ อกอัตที่สี่
สาหรับละหมาดซุฮรฺ อัศรฺ และอิชาอ์ เหมือนกับการกล่าวในการ
ละหมาดสองร็ อกอัตดังที่ได้ อธิบายแล้ วข้ างต้ น
และเมื่อเสร็ จสิ ้นแล้ ว ก็ให้ สลามข้ างขวาก่อนและตาม
ด้ วยข้ างซ้ าย

สิ่งที่สุนัตให้ กล่ าวหลังละหมาด


- ขออภัยโทษจากอัลลอฮฺ 3 ครัง้ คือ กล่าวว่า :
‫أستغ ِفر اهلل‬
27
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ความว่า ข้ าพเจ้ าขออภัยโทษจากพระองค์อลั ลอฮฺ

- ให้ กล่าวว่า
‫اللهم أنت السالم و ِمنك السالم تباركت يا ذا‬
ِ‫الكرام‬
ِ ‫الـجال ِل و‬
ความว่า ข้ าพเจ้ า ขอวิงวอนจากพระองค์ อัลลอฮฺ
พระองค์คือความสันติ ความสันติทงหลายมาจาก
ั้
พระองค์ พระองค์ทรงเป็ นผู้ที่ประเสริ ฐ โอ้ พระองค์
ทรงเป็ นผู้ ครอบครองทั ง้ ความยิ่ ง ใหญ่ แ ละ
เกียรติยศ

อิมามจะกล่าวดุอาอ์นี ้ ก่อนที่จะหันหน้ าไปทางมะอ์มมู

- ให้ กล่าวว่า
ٰ
‫ هل الـملك وهل‬،‫َشيك هل‬ ِ ‫ل ِإلـه ِإل اهلل وحده ل‬
ٰ
‫ اللهم ل مانِع ل ِما‬،‫الـحمد وهو ىلع ك شء ق ِدير‬
‫أعطيت ول مع ِطي ل ِما منعت ول ينفع ذا الـج ِد‬
ٰ
‫ ل ِإلـه ِإل‬،‫هلل‬
ِ ‫ ل حول ول قوة ِإل بِا‬،‫منك الـجد‬
28
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
‫ هل العمة وهل الفضل وهل الناء‬،‫اهلل ول نعبد ِإل ِإياه‬
ٰ
‫ ل إِلـه إِل اهلل م ِل ِصي هل الين ولو ك ِره‬،‫احلسن‬
‫الكفِرون‬
ความว่ า ไม่ มี พ ระเจ้ า อื่ น ใด นอกจากพระองค์
อัล ลอฮฺ อ งค์ เ ดีย ว พระองค์ ไ ม่มี ภ าคี ใ ดๆ ทัง้ สิ น้
พระองค์ทรงสิทธิ ในการปกครอง และทรงสิทธิ ใน
การสรรเสริ ญ พระองค์ทรงอานุภาพเหนือทุกๆ สิ่ง
โอ้ อัล ลอฮฺ ย่ อมไม่มีผ้ ูใ ดห้ ามได้ ใ นสิ่ งที่ พ ระองค์
ทรงประทาน ย่อมไม่มีผ้ ูใดให้ ได้ ในสิ่งซึง่ พระองค์
ทรงห้ า มไว้ และความร่ ารวย/อานาจของผู้ใดไม่
อาจอานวยผลแก่คนผู้นัน้ ต่อหน้ าพระองค์ (หรื อ
จ า ก ก า ร ล ง โ ท ษ ข อ ง พ ร ะ อ ง ค์ ) ไ ด้ ไ ม่ มี
ความสามารถและพลังอานาจใดๆ นอกจากโดย
พระองค์ อัล ลอฮฺ และไม่มีการจงรั กภักดีต่อผู้ใ ด
นอกจากพระองค์ พระองค์ ท รงสิ ท ธิ ใ น การ
ประทาน ทรงสิทธิ ในความประเสริ ฐ ทรงสิทธิ ใน
การสรรเสริ ญที่ดีงาม ไม่มีพระเจ้ าอื่นใดนอกจาก

29
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
พระองค์ ด้ วยความบริ สุทธ์ ใจในการเชิดชูศาสนา
ของพระองค์ ถึงแม้ บรรดาพวกกาฟิ รจะเกลียดชัง
เราก็ตาม

- กล่าวตัสบีห์ 33 ครัง้ คือ


‫هلل‬
ِ ‫سبحان ا‬
ความว่า พระองค์อลั ลอฮฺทรงบริ สทุ ธิ์ยิ่งนัก

- กล่าวตะห์มีด 33 ครัง้ คือ


‫هلل‬
ِ ‫احلمد‬
ความว่า การสรรเสริ ญทังมวลเป็
้ นสิทธิแห่งอัลลอฮฺ

- กล่าวตักบีร 33 ครัง้ คือ


‫اهلل أكب‬
ความว่า พระองค์อลั ลอฮฺ ผู้ทรงยิ่งใหญ่

- และคาที่ 100 ให้ กล่าวว่า

30
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ٰ
‫ هل الـملك وهل‬،‫َشيك هل‬
ِ ‫ل ِإهل ِإل اهلل وحده ل‬
ٰ
‫الـحمد وهو ىلع ك شء ق ِدير‬
ความว่ า ไม่ มี พ ระเจ้ า อื่ น ใด นอกจากพระองค์
อัล ลอฮฺ อ งค์ เ ดี ย ว พระองค์ ไ ม่ มี ภ าคี ใ ดๆทั ง้ สิ น้
พระองค์ทรงสิทธิ ในการครอบครอง และทรงสิทธิ
ในการสรรเสริ ญ พระองค์ทรงอานุภาพเหนือทุกๆ
สิ่ง

- อ่านอายะฮฺ อัล-กุรสีย์
           

           

        

        

         

       

31
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ความว่า ไม่มีผ้ ูที่ถูกเคารพสักการะใดๆ ที่แท้ จริ ง
นอกจากพระองค์อลั ลอฮฺองค์เดียวเท่านัน้ ผู้ทรงมี
ชี วิ ต ตลอดกาล ผู้ ทรงบริ หารกิ จ การทั ง้ ปวง
พระองค์ทรงไม่ง่วงนอนและไม่นอนหลับ สิ่งที่อยู่
ในชัน้ ฟากฟ้าและแผ่นดินทัง้ หลายเป็ นสิทธิ แห่ ง
พระองค์ ใครเล่าคือผู้ที่ขอความช่ วยเหลื อให้ แ ก่
ผู้อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้ วยการอนุมตั ิแห่ง
พระองค์เท่านัน้ พระองค์ทรงรอบรู้ สิ่งที่เกิดขึ ้นก่อน
พวกเขาและหลังพวกเขา พวกเขาจะไม่ได้ รับรู้ สิ่ง
ใดๆ จากความรู้ ของพระองค์ น อกเสี ย จากสิ่ ง ที่
พระองค์ ทรงประสงค์ ที่จะให้ ร้ ู เท่านัน้ กุรสี ย์ของ
พระองค์นนกว้ ั ้ างขวางทัว่ ชันฟากฟ้
้ าทังหลายและ

แผ่ นดิ น และการรั กษามัน ทัง้ สองก็ ไม่เป็ น ภาระ
หนักแก่พระองค์ และพระองค์นนคื ั ้ อ ผู้สงู ส่ง ผู้ทรง
ยิ่งใหญ่

32
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
- และอ่านสูเราะฮฺ อัล-อิคลาศ,
- สูเราะฮฺ อัล-ฟะลัก
- และ สูเราะฮฺ อัน-นาส
โดยสุ นั ต ให้ อ่ า นสู เ ราะฮฺ ทั ง้ สามสู เ ราะฮฺ ล ะ 3 ครั ง้
หลัง จากละหมาดศุบ หฺ แ ละมัฆ ริ บ เนื่ องจากมีห ลายหะดี ษ ที่
รายงานเรื่ องดังกล่าวจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม

สูเราะฮฺ อัล-อิคลาศ
           

        

ความว่ า จงกล่ า วเถิ ด (มุ หั ม มัด ) พระองค์ คื อ


อัลลอฮฺผ้ ทู รงเอกกะ พระองค์อลั ลอฮฺนนทรงเป็
ั้ นที่
พึ่ง พระองค์ทรงไม่ประสูติและไม่ถูกประสูติ และ
ไม่มีผ้ ใู ดเสมอเหมือนพระองค์

33
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
สูเราะฮฺ อัล-ฟะลัก
           

        

        

ความว่ า จงกล่าวเถิ ด(มุหัมมัด ) ข้ าพระองค์ ข อ


ความคุ้มครองต่อพระเจ้ าแห่งรุ่ งอรุ ณ ให้ พ้นจาก
ความชัว่ ร้ ายที่พระองค์ได้ ทรงบันดาลขึ ้น และจาก
ความชัว่ ร้ ายแห่งความมืดในเวลากลางคืนเมื่อมัน
แผ่คลุม และจากความชัว่ ร้ ายของบรรดาผู้เสกเป่ า
ในปมเงื่อน และจากความชั่วร้ ายของผู้อิจฉาเมื่อ
เขาอิจฉา

สูเราะฮฺ อัน-นาส
         

       

34
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี

      

  

ความว่ า จงกล่าวเถิ ด(มุหัมมัด ) ข้ า พระองค์ ข อ


ความคุ้ม ครองต่ อพระผู้อ ภิ บ าลแห่ งมนุษยชาติ
พระราชาแห่งมนุษยชาติ พระเจ้ าแห่งมนุษยชาติ
ให้ พ้ น จากความชั่ว ร้ ายของผู้ก ระซิ บ กระซาบที่
หลอกล่อ ที่ ก ระซิ บกระซาบในหัวอกของมนุ ษย์
จากหมูญ ่ ินและหมูม่ นุษย์

การซิ กิรฺที่ กล่าวมาทัง้ หมดนี เ้ ป็ นสุนัต ไม่ใ ช่ฟัร ฎู


หรื อวาญิบ

ละหมาดสุนัต อัร-เราะวาติบ
ได้ ถกู บัญญัติแก่มสุ ลิมทุกคนให้ ละหมาดสุนตั ก่อนซุฮรฺ
4 ร็ อ กอั ต (ละหมาดครั ง้ ละ 2 ร็ อ กอั ต ) หลั ง ซุ ฮ รฺ 2 ร็ อ กอั ต

35
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
หลัง มัฆ ริ บ 2 ร็ อ กอัต หลัง อิ ช าอ์ 2 ร็ อ กอัต และก่ อ นศุบ หฺ 2
ร็ อกอัต รวมทังหมดเป็
้ น 12 ร็ อกอัต
ก า ร ล ะ ห ม า ด 12 ร็ อ ก อั ต ดั ง ก ล่ า ว เ รี ย ก ว่ า
อัร-เราะวาติบ ซึ่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัย ฮิ วะสัลลัม ได้
รั ก ษาและปฏิ บั ติ ก ารละหมาดดัง กล่ า วในยามที่ อ าศัย อยู่ ที่
ภู มิ ล าเนา แต่ เ มื่ อ ท่ า นเดิ น ทาง ท่ า นจะละทิ ง้ การละหมาด
ดังกล่าว นอกเสียจากละหมาดสุนตั ก่อนศุบหฺและละหมาดวิติร
ซึง่ ป็ นสิ่งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จะปฏิบัติมนั
ตลอด ทังยามที้ ่ท่านอาศัยอยู่ที่ภมู ิลาเนาและยามท่านเดินทาง
การทาการละหมาดสุนัตอัร -เราะวาติบ ที่ บ้านจะเป็ น
การดี ยิ่ ง แต่ถ้ าหากละหมาดที่ มัส ญิ ด ก็ อนุญ าตให้ ก ระท าได้
เนื่องจากคากล่าวของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม
»‫«أفضل صال ِة المر ِء ِف بي ِت ِه إِل المكتوبة‬
ความว่า การละหมาดที่ดีที่สดุ ของบุคคลหนึ่งนัน้
คื อ ท าการละหมาดที่ บ้ าน นอกเสี ย จากว่ า
ละหมาดฟั รฎู(ให้ ละหมาดที่มสั ญิ ด) (บันทึกโดย

36
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
อัล -บุ ค อรี ย์ หมายเลข 689, มุ ส ลิ ม หมายเลข
1301)

การรั กษาสุนัตเราะวาติบ 12 ร็ อกอัตให้ คงไว้ ตลอดไปนัน้ เป็ น


สาเหตุห นึ่ง ให้ ไ ด้ เ ข้ า สวนสวรรค์ เพราะค ากล่ าวของท่ า นนบี
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า
ً
‫«من صّل اثنت عشة ركعة ِف يو ِم ِه ولل ِت ِه‬
»‫تطو ًع بن اهلل هل بي ًتا ِف الن ِة‬
ความว่า ผู้ใ ดละหมาดสุนัต 12 ร็ อกอัต ในยาม
กลางวัน และค่ า คื น ของเขาด้ ว ยความสมัค รใจ
พระองค์ อัล ลอฮฺ จ ะสร้ างบ้ า นให้ แ ก่ เ ขาในสวน
สวรรค์ (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 1198, 1199)

ถ้ าหากละหมาดสุนัตก่อนละหมาดอัศรี 4 ร็ อกอัต(ครั ง้
ละ 2 ร็ อกอั ต ) ก่ อ นละหมาดมั ฆ ริ บ 2 ร็ อกอั ต และก่ อ น
ละหมาดอิชาอ์ 2 ร็ อกอัต ย่อมเป็ นสิ่งที่ดีงาม เพราะสิ่งดังกล่าว
เป็ นสิ่งที่ ถูกต้ องซึ่งมีรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม
37
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
และหากเขาละหมาดก่อนซุฮริ 4 ร็ อกอัต และหลังซุฮริ
อีก 4 ร็ อกอัต ก็ จ ะเป็ น การดี เนื่ อ งจากหะดีษ ของท่ านนบี
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม ที่วา่
‫«من حافظ ىلع أرب ِع ركعات قبل الظه ِر وأربع بعدها‬
»‫ار‬
ِ ‫حرمه اهلل تعال ىلع ال‬
ความว่า ผู้ใดก็ตามที่รักษาการละหมาดก่อนซุฮริ
4 ร็ อกอัต และหลังซุฮริ 4 ร็ อกอัต อัลลอฮฺ จะ
ปกป้องเขาให้ รอดพ้ นจากนรก (บันทึกโดยอะห์มดั
หมายเลข 25547, อัต-ติรมิซีย์ หมายเลข 393)

หะดี ษนี ร้ ายงานโดยอะห์ มัดและบรรดาเจ้ าตาราอัส -


สุ นั น จากท่ า นหญิ ง อุ ม มุ หะบี บ ะฮฺ เราะฎิ ยั ล ลอฮุ อั น ฮา
ความหมายก็คือให้ เพิ่ มสองร็ อกอัตจากสุนั ตรอวาติบหลังซุฮริ
เพราะรอวาติบหลังซุฮริ เดิมมีสองร็ อกอัต แต่ก่อนซุฮริ นนจั ้ านวน
รอวาติบ มีสี่ร็ อกอัต เมื่อเพิ่ มอีก สองในรอบหลังก็จะได้ ผ ลบุญ
ตามหะดีษของอุมมุ หะบีบะฮฺ เราะฎิยลั ลอฮุอนั ฮา

38
วิ ธีการละหมาดของท่านนบี
ขออัลลอฮฺประทานเตาฟี ก ขอความจาเริ ญและความ
สัน ติ สุ ข จงประสบแด่ ท่ า นนบี ข องเรา ศ็ อ ลลั ล ลอฮฺ อะลัย ฮิ
วะสัลลัม คือ ท่านนบีมหุ มั มัด บุตรชายของอับดุลฺลอฮฺ ตลอดจน
เครื อญาติของท่าน สหายของท่าน และผู้ที่ปฏิบตั ิ คณ ุ งามความ
ดีตามวิถีของท่านจนถึงวันสิ ้นโลก

39

You might also like