Professional Documents
Culture Documents
La-iad Nakkrasae
4. Cell communication
55
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
รูปที่ 4-2 Local and long-distance cell communication in animals (Campbell and Reece, 2002)
56
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
สงสัญญาณตองมีความจําเพาะเจาะจงและขอมูลที่ถูกสงไปจะตองถูกเปลี่ยนไปในรูปแบบอื่น เรียกวาถูก
transduced ซึ่งจะอธิบายในรายละเอียดตอไป
รูปที่ 4-3a Cell junction ทั้งพืชและสัตวมี cell รูปที่ 4-3b cell-cell recognition ระหวาง 2 เซลลมี
junction ที่ยอมใหสารผานไปมาระหวาง 2 เซลลได สื่ อ ส า ร กั น โ ด ย จั บ กั บ โ ม เ ล กุ ล ที่ อ ยู บ น ผิ ว เ ซ ล ล
(Campbell and Reece, 2002) (Campbell and Reece, 2002)
57
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
58
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
ตัวรับบนผิวของเซลลเปาหมายเปนตัวที่ชวยบงบอกถึงความจําเพาะตอสารสื่อสารนั้นๆ การจับกันของโปรตีน
ตัวรับและ Chemical messenger จะจับกันอยางจําเพาะเจาะจงคลายลูกกุญแจกับแมกุญแจ เมื่อจับกันแลว
ทําใหโปรตีนตัวรับเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปราง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปรางนี้จะมีผลไปกระตุนโมเลกุลอื่น ๆ
ภายในเซลล
โปรตีนตัวรับ (receptor) บนเยื่อหุมเซลลมี 3 ชนิดหลักๆ
1.G-protein-linked Receptor มีโครงสรางเปนสาย α-helix 7 สายแทรกอยูภายในเยื่อหุมเซลล (ดัง
รูป 4-5) ในการสงสัญญาณของโมเลกุลหลายชนิดผานสูเซลล เชน การกระตุนดวย epinephrine ฮอรโมนตางๆ
และสารสื่อประสาท รวมถึงการสื่อสารระหวาง mating factor ของยีสตดังที่ไดกลาวไปแลว ใช G protein-
linked receptor ถึงแมจะใชตัวรับชนิดเดียวกัน แตตัวรับเหลานี้มี binding site ที่แตกตางกันทําใหมีการจดจํา
chemical messenger ที่แตกตางกัน
รูป 4-5 โครงสรางของ G-protein-linked receptor เปน α-helix แทรกอยูภายในเยื่อหุมเซลล (Campbell and
Reece, 2002)
59
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
รูป 4-6a G-protein system in inactive form (Campbell and Reece, 2002)
รูป 4-6b G-protein system in active form (Campbell and Reece, 2002)
2.Tyrosine-kinase receptor
Growth factor เปนฮอรโมนที่ชวยการกระตุนใหเซลลมีการแบงตัวเพิ่มจํานวน การสงสัญญาณของ
growth factor ใชตัวรับที่เปนชนิด tyrosine kinase receptor ซึ่งตัวรับนี้จะมีคุณสมบัติเปนเอนไซมดวย ซึ่ง
60
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
1. Signal molecules จับกับ binding site ของ Tyrosine-kinase receptor ทําให Tyrosine-kinase
receptor ถูกกระตุนมาจับกันกลายเปน dimer (2 polypeptide) (ดังรูป 4-7b)
2. การเปนโครงสรางที่เปน dimer นี้จะไปกระตุน tyrosine kinase ของตัวรับทั้ง 2 polypeptides โดย
tyrosine kinase จะยายหมู phosphate มาเติมใหกับหมู tyrosine บนหางของ polypeptide แต
ละสาย ถึงขั้นตอนนี้ receptor จะถูกกระตุนอยางเต็มที่
3. โปรตีนที่อยูภายในเซลลที่จําเพาะเจาะจงจะมาจับกันกับบริเวณ phosphorylated tyrosine ทําให
โมเลกุลของโปรตีนนั้นเปลี่ยนแปลงถูกกระตุนตอไป โดยการถูกเติมหมู phosphate หรือไมถูกเติม
61
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
ก็ได หนึ่ง dimer ของ tyrosine-kinase receptor อาจจะกระตุน intracellular protein 10 ชนิด
หรือมากกวานั้นก็ได
4. Transduction pathways ตางๆ จะถูกกระตุนและเซลลมีการตอบสนองเกิดขึ้น ความสามารถของ
receptor ชนิดนี้ เพียงแค 1 เหตุการณสามารถกระตุนไดหลายๆ pathways เปนขอแตกตาง
ระหวาง tyrosine-kinase receptor และ G protein-linked receptor
62
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
Intracellular Receptor
โปรตีนตัวรับ (Receptor) ทุกชนิดไมไดอยูที่ผนังเซลลอยางเดียวแตมีบางชนิดที่ลองลอยอยูภายใน
cytosol หรือ นิวเคลียส ซึ่ง chemical messenger สามารถผานเยื่อหุมเซลลไดจึงสามารถเขามาจับตัวรับ
ภายในเซลล chemical messenger จะเปนกลุมที่เปน hydrophobic ยกตัวอยางเชน steroid hormone และ
thyroid hormone ของเซลลสัตว นอกจากนี้ chemical messenger ที่มีสถานะเปนแกส เชน NO ก็สามารถ
แพรผานเขาสูเซลลไมอยางงายดาย
ดังรูป 4-9 testosterone เปนsteroid hormone สรางจากเซลลของอัณฑะหลั่งออกสูกระแสเลือดไปที่
เซลลเปาหมายของ testosterone ซึ่งจะมีโมเลกุลตัวรับอยูภายใน cytoplasm ซึ่งฮอรโมนนี้ก็จะจับกับตัวรับและ
ถูกสงตอไปที่ nucleus และจะทําหนาที่เปน transcription factor ชวยควบคุมการแสดงออกของยีนตางๆ
intracellular receptor ที่มีการทํางานคลายๆกับ testosterone มีหลายชนิด
รูป 4-9 Steriod hormone interacting with an intracellular receptor (Campbell and Reece, 2002)
63
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
molecule เพียงเล็กนอยสามารถทําใหมีการตอบสนองภายในเซลลหลายเหตุการณเพื่อใหมีการประสานการ
ทํางานภายในเซลล
Pathways relay signals from receptors to cellular responses
Protein phosphorylation เปนกลไกลหลักของ signal transduction ดังที่ไดกลาวไปแลวเกี่ยวกับ
การกระตุน protein receptor โดยการเติมหมู Phosphate บนกรดอะมิโน tyrosine โดย tyrosine kinase
แตความจริงแลวกระบวนการนี้เกิดขึ้นอยางแพรหลายภายในเซลลในการควบคุมการทํางานของโปรตีน ซึ่ง
enzyme ที่ชวยในการยายหมู phosphate จาก ATP ใหกับโปรตีนอื่น เรียกวา protein kinase โดยที่ protein
kinase ที่อยูภายใน cytoplasm จะทําหนาที่แตกตางจาก tyrosine kinase ซึ่งอยูบนเยื่อหุมเซลลโดยทําหนาที่
เติมหมู phosphate ใหกับกรดอะมิโนชนิด serine และ threonine ของ substrate โปรตีนตัวอื่น ซึ่ง
serine/threonine kinase จะเกี่ยวของกับการสงสัญญาณภายในเซลลของสัตว พืช และ fungi
สวนใหญการสงสัญญาณโดย Protein kinase จะเปนไปอยางตอเนื่อง (ดังรูป 4-10) โดยที่ตัวรับบน
เยื่อหุมเซลลซึ่งในกรณีนี้คือตัวรับของ growth factor โดยที่ growth factor 0tจับกับตัวรับ สงผลไปกระตุน
protein kinase ตัวที่ 1 โดยการเติมหมู phosphate ทําใหเปลี่ยนสภาพจาก inactive form ใหกลายเปน active
form และกระตุน protein kinase อื่นๆ ตอเนื่องไปเรื่อยๆ เรียกวา “phosphorylation cascade” แตมีบางกรณี
ที่การเติมหมู phosphate ให protein บางชนิดทําใหเปลี่ยนโปรตีนจาก active ใหกลายเปน inactive form
64
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
65
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
รูป 4-11 Cyclic AMP (cAMP) สรางจาก ATP โดย enzyme Adenyly cyclase (Campbell and Reece,
2002)
Secondary messenger ชนิด cAMP เปนสวนหนึ่งของ G-protein signaling pathway ถาใหอธิบาย
สาเหตุที่แบคทีเรียในกลุม Vibrio cholerae ที่ทําใหเกิดอาการทองเสียอยางรุนแรง โดยอธิบายในเชิงของ
ชีววิทยาเชิงโมเลกุลจะอธิบายไดวา bacteria จะผลิตสารพิษที่ไปมีผลตอการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเชิงเคมี
ของ G protein ในเซลลของลําไส การที่สารพิษทําให G protein เปลี่ยนไปจึงไมสามารถสลาย GTP ให
กลายเปน GDP ทําให G protein อยูในรูปแบบที่เปน active form ตลอดเวลา ทําใหมีการขับน้ําออกสูโพรง
ของลําไส ทําใหเกิดอาการทองเสีย ถาไมไดรับการรักษาอาจจะเกิดการสูญเสียน้ําและเกลือแรจนเกิดอาการ
ช็อคและตายได
รูป 4-12 cAMP เปน secondary messenger (Campbell and Reece, 2002)
66
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
รูป 4-13 Calcium and inositol trisphosphate in signaling pathways (Campbell and Reece, 2002)
67
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
รูป 4-14 Cytoplasmic response to a signal: the stimulation of glycogen breakdown by epinephrine
(Campbell and Reece, 2002)
68
300104 Dr. La-iad Nakkrasae
รูปที่ 4-15 The specificity of cell signaling (Campbell and Reece, 2002)
69