You are on page 1of 36

PHYSICS PAT&QUOTA

สูตรฟิสิกส์

1
PHYSICS PAT&QUOTA
ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง
1D motion
s ระยะทาง หรื อ การกระจัด (m) u ความเร็ วเริ่ มต้ น(m/s) v ความเร็ วปลาย(m/s)
2 2
a ความเร่ ง (m/s ) t เวลา (s) g ความเร่งแนวดิง่ (9.8 m/s )

สมการการเคลื่อนที่
แนวตรง แนวดิ่ง
v  u  at v  u  gt
1 1
s  ut  at 2 s  ut  gt 2
2 2
uv uv
s t s t
 2   2 
v2  u 2  2as v 2  u 2  2 gs
1 1
s  vt  at 2 s  vt  gt 2
2 2

กราฟการเคลื่อนที่
ชนิดกราฟ พืน้ ที่ใต้ กราฟ ความชันของกราฟ
s-t - v
v-t s a
a-t V -

2
PHYSICS PAT&QUOTA

Force & Newton’s Law

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง
F แรง (N) m มวล (kg) a ความเร่ง (m/s2) g ความเร่งจากแรงโน้ มถ่วง (9.8 m/s2)

การรวมแรง

F  F1  F2 F  F1  F2

F  F12  F2 2  2F1F2 cos 

F2 sin 
tan  
F1  F2 cos 

การแตกแรง

กฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน

กฏข้ อที่ 1 “ หากแรงลัพธ์ที่กระทาต่อวัตถุมีคา่ เป็ นศูนย์ วัตถุจะรักษาสภาพเดิม ”


1.วัตถุอยูน่ ิ่งๆ 2 . วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่
กฏข้ อที่ 2 “หากแรงลัพธ์ที่กระทาต่อวัตถุมีคา่ ไม่เป็ นศูนย์ วัตถุจะเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง และความเร่ง
ที่ เกิดขึ ้น จะแปรผันตรงกับแรง และแปรผกผันกับมวล”
F  ma

กฏข้ อที่ 3 “ เมื่อมีแรงกริยาก็ยอ่ มต้ องมีแรงปฏิกิริยา ซึง่ มีขนาดเท่ากัน แต่มีทิศตรงกันข้ าม”


Fกริยา = –Fปฏิกริยา

3
PHYSICS PAT&QUOTA
แรงเสียดทาน คือ แรงที่เกิดจากการเสียดสีระหว่างผิวสัมผัส มีทิศต้ านการเคลื่อนที่เสมอ

f  N

กฏแรงดึงดูดระหว่ างมวล

ค่ าความเร่ งโน้ มถ่ วงของโลกที่บริเวณใด ๆ


2
g x  re 
 
ge  rx 

ค่ าความเร่ งโน้ มถ่ วงของดาวเคราะห์ อ่ ืน เทียบกับโลก


2
g x  M x  re 
  
ge  M e  rx 

4
PHYSICS PAT&QUOTA

Equilibrium

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง
F แรง (N) M โมเมน (N.m) L ความยาว (m)
2
g ความเร่งจากแรงโน้ มถ่วง (9.8 m/s )

สมดุลต่ อการเลื่อนตาแหน่ ง

Fx  0 Fy  0

สมดุลต่ อการหมุน

M  FxL M toun  M tam

วัตถุพอดีล้ม

mg.x  F . y

การได้ เปรียบเชิงกล และ ประสิทธิภาพเชิงกล


W
การได้ เปรี ยบเชิงกลตามจริง : M . A. 
F
R
การได้ เปรี ยบเชิงกลตามทฤษฎี : M . A. 
r
W F
ประสิทธิภาพเชิงกล : Eff  100%
Rr

5
PHYSICS PAT&QUOTA

Work & Energy

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง
F แรง (N) s ระยะทาง (m) WF งานของแรงF (J)
W f งานแรงเสียดทาน (J) E p พลังงานศักย์โน้ มถ่วง (J) EK พลังงานจลน์ (J)
P กาลัง (W) E s พลังงานศักย์ยืดหยุน่ สปริง (J)

งานของแรงดึง และ งานของแรงเสียดทาน

WF  F .S cos  W f   f .S cos  WF  พื ้นที่ใต้ กราฟ F  S

กาลัง
W
P P  F.v
t

พลังงานศักย์ โน้ มถ่ วง E p  mgh

1 2
พลังงานจลน์ EK  mv
2

1 2
พลังงานศักย์ โน้ มถ่ วง Es  kx , F  k .x
2

กฎอนุรักษ์ งานและพลังงาน
1 1 1 1
F .s  mgh1  mv12  kx12  f .s  mgh2  mv2 2  kx2 2
2 2 2 2

6
PHYSICS PAT&QUOTA

Momentum

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง
P โมเมนตัม (kg.m/s) F แรงดล (N) t เวลา (s)
m มวล (kg) u ความเร็ วต้ น (m/s) v ความเร็ วปลาย (m/s)
EK พลังงานจลน์ (J)

โมเมนตัม การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม และการดล

โมเมนตัม : P  mv
การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม : P  m(v  u )
การดล : I  F .t
การดล = การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม : F .t  m(v  u )
ข้ อควรทราบ : การดล = พื ้นที่ใต้ กราฟ F t

กฎอนุรักษ์ โมเมนตัม

การชนไม่ ยืดหยุ่น ( สูญเสียพลังงาน = ผลต่างของพลังงานจลน์ตอนเริ่มกับตอนหลัง )


ชนแล้ วแยกกัน : m1u1  m2u2  m1v1  m2v2
ชนแล้ วติดกัน : m1u1  m2u2   m1  m2  v

การชนไม่ ยืดหยุ่น ( ไม่สญู เสียพลังงาน )


ชนแล้ วแยกกันเท่านัน้ : m1u1  m2u2  m1v1  m2v2
: u1  v1  u2  v2

การระเบิด ( พลังงานจลน์ตอนหลัง มากกว่า พลังงานจลน์ตอนเริ่ ม )


 m1  m2  u  m1v1  m2v2

7
PHYSICS PAT&QUOTA

Curve Motion

Projectile Motion
สมการที่เกี่ยวข้ อง

u x  u cos  u y  u sin  v y  u y  gt
1 2
sx  u xt sy  u yt  gt
2
 u y  vy 
s t
 2 
vy 2  uy 2  2gsy
1
s  v y t  gt 2
2

สูตรโปรเจคไตล์ เต็มวิถี
u sin 
เวลาที่ใช้ ถึงจุดสูงสุด : ty 
g
2u sin 
เวลาทังหมดที
้ ่อยูใ่ นอากาศ : tx 
g
u 2 sin 2 
ระยะสูงสุด : sy 
2g
u 2 sin 2 2u 2 sin  cos 
ระยะทางไกลสุด : sx  
g g
sy 1
ความสัมพันธ์แกน x และ แกน y :  tan 
sx 4

8
PHYSICS PAT&QUOTA

Circle Motion
สมการที่เกี่ยวข้ อง
round time 1
f  T T
time round f
2 v2
  2 f  v  R ac   2R
T R
mv 2
Fc   m 2 R
R

สูตรการเคลื่อนที่แบบวงกลมกรณีต่าง ๆ

v2  2 R
เหรี ยญวางบน CD , อาหารบนโต๊ ะหมุน , รถยนต์เข้ าโค้ งราบ :  
Rg g
Rg g
มอเตอร์ ไซด์ไต่ถงั :  2  2
v  R
2
mv
แกว่งลูกตุ้มเป็ นวงกลมแนวราบ : T
R
2
mv v2
แกว่งลูกตุ้มเป็ นวงกลมฐานกรวย : T sin   ; T cos   mg ; tan  
R Rg
v2
มอเตอร์ ไซด์เข้ าโค้ ง : tan  
mv 2 Rg
T  mg 
วงกลมในแนวดิง่ R
mv 2
T  mg cos  
R

mv 2
T
 R


mv 2
T  mg cos  
R
mv 2
T  mg 
R

9
PHYSICS PAT&QUOTA

SHM Motion
สูตรการเคลื่อนที่แบบ SHM ของมวลติดสปริง

K m 1 K
 T  2 f 
m K 2 m

2
  2 f  vmax   A amax   2 A
T

vmax   A2  x2

สูตรการเคลื่อนที่แบบ SHM ของลูกตุ้มแก่ วง

g l 1 g
 T  2 f 
l g 2 l

2
  2 f  vmax   A amax   2 A
T

10
PHYSICS PAT&QUOTA

Rotation Motion
สูตรการเคลื่อนที่แบบหมุน

s R v  R a R
1    
  o   t   ot   t 2   o t  2  o 2  2
2  2 

โมเมนต์ ความเฉื่อยและทอร์ ค

  FR   I  F  R  I 


I   mR 2 

งาน กาลัง และโมเมนตัมการหมุน

W   . P   . L  I .

พลังงานการหมุน และ การกลิง้

1 2 1 2 1 2
ER  I ETotal  I   mv
2 2 2

11
PHYSICS PAT&QUOTA

Wave

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

A แอมพลิจดู (m)  ความยาวคลื่น(m) f ความถี่( Hz ) T คาบ( s )

v ความเร็ วคลื่น (m/s)

ความเร็วของคลื่น(Wave Velocity)

s
v v f
t

ความต่ างเฟส

(360 )x
    (360 ) f t

สมการคลื่น

y  A sin(t   ) ,   2 f

การหักเหของคลื่น

sin 1 v1 1
 
sin  2 v2 2

มุมวิกฤติ

มุมวิกฤติ (Critical Angle) คือ มุมตกกระทบที่พอดี ทาให้ มมุ หักเหมีคา่ เท่ากับ 90 องศา

แทนด้ วยสัญลักษณ์ “  c ”

sin  c v1 1
 
sin 90 v2 2

12
PHYSICS PAT&QUOTA
การแทรกสอดของคลื่น

Antinode
S1P  S2 P  n d sin   n
Node
 1  1
S1P  S2 P   n    d sin    n   
 2  2

คลื่นนิ่ง(Standing Wave)

nV
f 
2L

13
PHYSICS PAT&QUOTA

Sound

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

A แอมพลิจดู (m)  ความยาวคลื่น(m) f ความถี่( Hz ) T คาบ( s )


2
v ความเร็ วคลื่น (m/s) P กาลังเสียง(w) I ความเข้ มเสียง(w/m )

 ระดับความเข้ มเสียง(dB)

ความเร็วเสียง
s
vt  331  0.6t v v f
t
การหักเห

sin 1 v1 1 T1
  
sin  2 v2 2 T2

การแทรกสอดของเสียงจากสองลาโพง

Antinode
S1P  S2 P  n d sin   n
Node
 1  1
S1P  S2 P   n    d sin    n   
 2  2

14
PHYSICS PAT&QUOTA
ความถี่บีตส์

f B  f1  f2

การสั่นพ้ องในหลอดปลายปิ ดข้ างหนึ่ง

(2n  1)v 4L
f   H  2n  1 O  n 1
4L (2n  1)

การสั่นพ้ องในหลอดปลายเปิ ดสองข้ าง

nv 2L
f   H n O  n 1
2L n

ความเข้ มเสียง ระดับความเข้ มเสียง

P P  I 
I I   10log  12 
A 4 R2  10 

การเปรียบเทียบความเข้ มเสียง ระดับความเข้ มเสียง


2
I2 P  R   I2 
 %  2  . 1  2  1  10log  
I1  P1   R2   I1 
  P   R 2 
 2  1  10log %  2 . 1  
  P1   R2  

ปรากฏการณ์ ดอปเพลอร์

 v  vo 
fo    . fs
 v  vs

คลื่นกระแทก

vs 1 vs 1
Ma  Ma  
v sin  v sin 

15
PHYSICS PAT&QUOTA

Light

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

d ความกว้ างของสลิต(m)  ความยาวคลื่น(m) f ความถี่( Hz )


I ความเข้ มแสง(cd) E ความสว่าง (Lux) F อัตราการให้ พลังงาน (lm)
f ความยาวโฟกัส s ระยะวัตถุ s  ระยะภาพ
R รัศมีความโค้ ง y ความสูงวัตถุ y  ความสูงภาพ
m กาลังขยาย
การหักเห และมุมวิกฤต
sin 1 v1 1 n2 n2
   sin  c 
sin  2 v2 2 n1 n1

การมองวัตถุในนา้ (ลึกจริง ลึกปรากฏ)

มองตรง มองเอียง
s n2 s n2 cos  2 s tan  2
  หรื อ 
s n1 s n1 cos 1 s tan 1

การแทรกสอดและการเลีย้ งเบนของแสง
x
สลิตคู่และเกรตติง้ แถบสว่ าง d sin   n d  n
L

 1 x  1
แถบมืด d sin    n    d  n  
 2 L  2

 1 x  1
สลิตเดี่ยว แถบสว่ าง d sin    n    d  n  
 2 L  2

x
แถบมืด d sin   n d  n
L

16
PHYSICS PAT&QUOTA
กระจกและเลนส์
R 1 1 1
f   
2 f s s

s y  s  f f
m   
s y f s f

แว่ นสายตา
สัน้ เว้ า ยาวนูน
1 1 1 1 1
  
f d f 25 d

โพราไรเซชัน
E I n2
 cos   cos 2  tan  
E0 I0 n1

ความสว่ าง
F I
E E
A R2

17
PHYSICS PAT&QUOTA

Solid

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

F คือ แรงดึง ( N ) คือ พื ้นที่หน้ าตัดเส้ นลวด ( m )


A  คือ ความเค้ น( N / m2 )
L คือ ความยาวเส้ นลวด ( m ) L คือ ความยาวเส้ นลวดที่ยืดออก ( m )
 คือ ความเครี ยด Y คือ ยังส์มอดูลสั ( N / m2 )

ความเค้ น ความเครี ยด และ ยังส์ มอดูลัส


F L  F .L
  Y 
A L  A.L

18
PHYSICS PAT&QUOTA

Fluid

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

P คือ ความดัน ( Pa , N / m2 ) V คือ ปริมาตร( m3 ) F คือ แรง ( N )


 คือ ความหนาแน่น ( kg / m 3 ) Pa ความดันบรรยากาศ( 1.013 105 Pa )
 คือ ความตึงผิว( N / m )  คือ สัมประสิทธิ์ความหนืด

ความหนาแน่ น (Density) ความดันของไหล


m F
 P
V A

ความดันเกจ (Gauge Pressure) ความดันสมบูรณ์ (Absolute Pressure)


คือ ความดันเนื่องจากน ้าหนักของของเหลว คือ ความดันเกจรวมกับความดันบรรยากาศ
Pg   gh P  Pg  Pa

หลอดแก้ วรู ปตัว U

Px  Py

 B ghB  Pa   A ghA  Pa

แมนอมิเตอร์ คือ เครื่ องมือวัดความดันของก๊ าซ

Pgas  Pa   gh Pgas  Pa   gh

19
PHYSICS PAT&QUOTA
แบรอมิเตอร์ คือ เครื่ องมือวัดความดันบรรยากาศ

Pa   gh

แรงดันของของเหลวที่ก้นภาชนะ

แรงดันของน ้า หมายถึง แรงดันที่คดิ จากความดันเกจเท่ากัน F   ghA

แรงลัพธ์ หมายถึง แรงดันที่คิดจากความดันสมบูรณ์ F    gh  Pa  A

แรงดันของของเหลวที่ผนังด้ านข้ าง

แรงดันด้ านข้ าง หมายถึง แรงดันที่คิดจากการเฉลี่ยความดันที่ขอบบน และ ของล่างของด้ านข้ าง


1
F  P1  P2  A
2

ประตูกันนา้ หรื อเขื่อน

ด้ านข้ างตรง
1
ไม่คดิ ความดันบรรยากาศ F  gH 2 L
2

คิดความดันบรรยากาศ F  1   gH  Pa  HL
2

ด้ านข้ างเอียง
1  1 
ไม่คดิ ความดันบรรยากาศ F  gH 2 L  
2  sin  

คิดความดันบรรยากาศ F  1   gH  Pa   HL 

2  sin  

20
PHYSICS PAT&QUOTA
เครื่องอัดไฮโดรลิก (Hydraulic Press)

F W F W W A.x
  gh   
a A a A F a. y

แรงลอยตัว(Buoyant Force) แรงลอยตัว คือ ขนาดน ้าหนักของของเหลวที่ถกู วัตถุแทนที่

FB  ของเหลวVจม g
แรงดึงผิวและความตึงผิว
F


ความหนืดและแรงหนืด

F  6 r v

อัตราการไหล(Flow Rate)
V V1 V2
Q หรื อ Q  Av  หรื อ A1v1  A2v2
t t1 t2

สมการแบร์ นูลลี
1 1
P1   v12   gh1  P2   v2 2   gh2
2 2

21
PHYSICS PAT&QUOTA

Heat

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

Q คือ ความร้ อน มีหน่วย J หรื อ cal


C คือ ความจุความร้ อน มีหน่วย J/K หรื อ cal/K
c คือ ความจุความร้ อนจาเพาะ มีหน่วย J/g.K หรื อ cal/g.K หรื อ kJ/kg.K หรื อ kcal/kg.K

การเปรี ยบเทียบอุณหภูมิ
X  TF C F  32 K  273 R
   
TB  TF 100 180 100 80

ความร้ อน

Q  CT Q  mcT

ความร้ อนแฝง

Q  mL

การถ่ ายโอนพลังงานความร้ อน

Q เพิ่ม  Q ลด

22
PHYSICS PAT&QUOTA

GAS

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

P คือ ความดัน ( Pa , N / m2 ) V คือ ปริมาตร( m3 ) n คือ จานวนโมล( mol )

N คือ จานวนโมเลกุล(โมเลกุล) T คือ อุณหภูมิ( K ) R เป็ นค่าคงที่ ( 8.31mol / J .K )

kB เป็ นค่าคงที่( 1.38 1023 J / K ) M คือ มวลโมเลกุล( kg )


 คือ ความหนาแน่น ( kg / m3 ) vrms คือ อัตราเร็ วรากที่สองของกาลังสองเฉลี่ย( m / s )

m คือ มวลแก๊ ส 1 โมเลกุล (kg) = มวลโมเลกุล x 1.66 x 10–27 kg


Ek คือ พลังงานจลน์เฉลี่ยของโมเลกุลแก๊ ส (J) U พลังงานภายในระบบ (พลังงานจลน์รวม) (J)
W คือ งานของระบบ (J) V คือ ปริ มาตรที่เปลี่ยนแปลง( m3 )

T คือ อุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ( K , oC ) Q คือ ความร้ อนของระบบ (J)

สมการสถานะ

PV  nRT PV  Nk BT PM   RT

การเปรียบเทียบสถานะแก๊ ส
PV PV PV PV PV PV
1 1
 2 2 1 1
 2 2 1 1
 2 2
T1 T2 n1T1 n2T2 m1T1 m2T2

PV PV P1 P
1 1
 2 2  2
N1T1 N 2T2 1T1  2T2

อุณหภูมิผสมและความดันผสม
n1T1  n2T2  n 3T3  n4T4  ... 1 1  PV
PV 2 2  P 3V3  PV4 4  ...
Ttotal  Ptotal 
n1  n2  n3  n4  ... V1  V2  V3  V4  ...

ทฤษฎีจลน์ ของแก๊ ส

1 2 v12  v2 2  v32  v4 2  ...


PV  Nmv 2 PV  N Ek Vrms 
3 3 N

23
PHYSICS PAT&QUOTA

3RT 3k BT 3P
Vrms  Vrms  Vrms 
M m 

3 3 PV
Ek  kBT Ek 
2 2 N

พลังงานภายในและงาน
3 3 3
U  N Ek  PV  Nk BT  nRT W  PV  nRT
2 2 2

กฎข้ อที่ 1 ของเทอร์ โมไดนามิกส์


“พลังงานความร้ อนทังหมดที
้ ่ให้ แก่ระบบจะต้ องมีคา่ เท่ากับผลรวมของพลังงานภายในระบบที่เพิ่มขึ ้น
กับงานที่ทาโดยระบบนัน”

Q  U  W

การใช้ สมการนี ้ต้ องคานึงถึงค่าบวก ลบ ของตัวแปรทุกตัวดังนี ้

สาหรับ ΔQ หากความร้ อนเข้ าสูร่ ะบบ (ดูดความร้ อน) ΔQ มีคา่ +


หากความร้ อนออกจากระบบ (คายความร้ อน) ΔQ มีคา่ –
หากความร้ อนไม่เข้ าหรื อออกระบบ ΔQ มีคา่ 0
สาหรับ ΔU หากพลังงานภายในเพิ่ม (อุณหภูมิเพิ่ม) ΔU มีคา่ +
หากพลังงานภายในลด (อุณหภูมิลด) ΔU มีคา่ –
หากพลังงานภายในไม่เปลี่ยน (อุณหภูมิคงที่) ΔU มีคา่ 0
สาหรับ ΔW หากปริมาตรแก๊ สเพิ่ม ΔW มีคา่ +
หากปริมาตรแก๊ สลด ΔW มีคา่ –
หากปริมาตรแก๊ สคงที่ ΔWมีคา่ 0

24
PHYSICS PAT&QUOTA

Electrostatics

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

F แรงไฟฟ้า(N) Q ประจุไฟฟ้า (C) R ระยะห่างจากจุดสังเกต (m)


9 2 2
K ค่าคงที่ (9x10 N.m /C ) E สนามไฟฟ้า (N/C , V/m) V ศักย์ไฟฟ้า (V)
W งานทางไฟฟ้า(J) C ความจุไฟฟ้า(F) U พลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ(J)

แรงไฟฟ้า สนามไฟฟ้า และศักย์ ไฟฟ้า

KQ1Q2 KQ KQ
F E V
R2 R2 R

F  qE V  Ed

พลังงานศักย์ ไฟฟ้าและงานในการย้ ายประจุ

E p  qV WA B  q (VB  VA )

ความจุไฟฟ้า และการถ่ ายเทประจุระหว่ างตัวนาทรงกลม Q1 , Q2

Q r1  Q1  Q2  r2  Q1  Q2 
C Q1  Q2 
V r1  r1 r1  r1

พลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ

1 1 1 Q2
U  QV  CV 
2

2 2 2 C

25
PHYSICS PAT&QUOTA
การต่ อตัวเก็บประจุและวงจรตัวเก็บประจุ

การต่ อแบบอนุกรม การต่ อแบบขนาน

26
PHYSICS PAT&QUOTA

Direct Current

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

Vศักย์ไฟฟ้า (V) R ความต้ านทาน(  ) I กระแสไฟฟ้า(A)


Q ประจุไฟฟ้า (C) n จานวนอิเล็กตรอน (ตัว) e ประจุอิเล็กตรอน (1.6x10-19 C)
2
W งานทางไฟฟ้า(J)  คือ สภาพต้ านทาน (  /m) A พื ้นที่หน้ าตัดเส้ นลวด (m )
3
P กาลังไฟฟ้า(W) N จานวนอิเล็กตรอนต่อลูกบาศก์เมตร (ตัว/m )

กระแสไฟฟ้า
Q ne
I I I  evAN
t t

กฎของโอห์ ม และ ความต้ านทาน และการเปรียบเทียบความต้ านทานลวดสองเส้ น


2
L R2  2 L2 A1 R2  2 L2  r1 
V  IR R  . .  . . 
A R1 1 L1 A2 R1 1 L1  r2 

การหลอมลวดเส้ นเดิมให้ เป็ นเส้ นใหม่ กาลังไฟฟ้า และ พลังงานไฟฟ้า


2
R2  L2  W  ItV P
W
  t
R1  L1 
V2 P  IV
W t
R
R2  r1 
4 V2
  W  I 2 Rt P
R1  r2  R
P  I 2R
การคานวณหน่ วยไฟฟ้า

 P 
Unit    .hr
 1000 

27
PHYSICS PAT&QUOTA
การต่ อตัวต้ านทาน

1. การต่ อแบบอนุกรม

2. การต่ อแบบขนาน

แรงเคลื่อนไฟฟ้า

E  I (R  r)

Kirchoft’s Law

E  ( IR)

การดัดแปลงแกลวานอมิเตอร์ เป็ นแอมมิเตอร์

I G RG  I S RS IG RG   I  IG  RS

การดัดแปลงแกลวานอมิเตอร์ เป็ นโวลต์ มิเตอร์

V  IG  RG  RS 

28
PHYSICS PAT&QUOTA

Electromagnetic

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

 = ฟลักซ์แม่เหล็ก(weber) B = ความเข้ มสนามแม่เหล็ก(เทสลา,T)


F = แรงที่กระทาต่อประจุ q ประจุไฟฟ้า (C) v = ความเร็ วประจุ(m/s)
I กระแสไฟฟ้า(A) n จานวนอิเล็กตรอน(ตัว) e แรงเคลื่อนไฟฟ้าต้ านกลับ (V)
2
A พื ้นที่หน้ าตัด (m ) N จานวนรอบขดลวด M โมเมนต์คค ู วบแม่เหล็ก
สนามแม่ เหล็ก และ ฟลักซ์ แม่ เหล็ก

  BA cos

แรงที่กระทาต่ อประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ในสนามแม่ เหล็ก และรัศมีการเคลื่อนที่

mv sin 
F  qvB sin  R
qB

สนามแม่ เหล็กที่เกิดจากกระแสไหลในตัวนา

B
 2 x10  I
7

แรงที่กระทาต่ อลวดตัวนาที่มีกระแสไหลผ่ านในสนามแม่ เหล็ก

F  IlB sin 

29
PHYSICS PAT&QUOTA
โมเมนต์ ของแรงคู่ควบของขดลวดในสนามแม่ เหล็ก
M  BINA cos

แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนา แรงเคลื่อนไฟฟ้าต้ านกลับ


E e
E  BLv I
Rr
หม้ อแปลงไฟฟ้าอุดมคติ หม้ อแปลงไฟฟ้าไม่อดุ มคติ
E2 N 2 I1 E2 N 2
  , P1  P2  , %P1  P2 , %I1V1  I 2V2
E1 N1 I 2 E1 N1

30
PHYSICS PAT&QUOTA

Alternating Current

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

Vm ศักย์ไฟฟ้าสูงสุด (V) Vrms ศักย์ไฟฟ้ารากที่สองของกาลังสองเฉลี่ย (V)


I m กระแสไฟฟ้าสูงสุด ( A) I rms กระแสไฟฟ้ารากที่สองของกาลังสองเฉลี่ย (A)
R ความต้ านทานของตัวต้ านทาน(  ) X C ความต้ านทานของตัวเก็บประจุ(  )
X L ความต้ านทานของตัวเหนี่ยวนา(  ) Z ความต้ านทานรวมหรื อความต้ านทานเชิงซ้ อน(  )
P กาลังไฟฟ้าที่สญ
ู เสียในวงจร(W)
ค่ ารากที่สองของกาลังสองเฉลี่ย(Root Mean Square) (ค่ ามิเตอร์ หรือ ความยังผล)
Im Vm
I rms  Vrms 
2 2

วงจรตัวต้ านทานกับแหล่ งจ่ ายไฟฟ้ากระแสสลับ

Vm  im .R

Vrms  irms .R

iR  im sin t

VR  Vm sin t

31
PHYSICS PAT&QUOTA
วงจรตัวเก็บประจุกับแหล่ งจ่ ายไฟฟ้ากระแสสลับ

Vm  im . X C
Vrms  irms . X C
1
(XC  )
C

iC  im sin t

VC  Vm sin t  90o 

วงจรตัวเหนี่ยวนากับแหล่ งจ่ ายไฟฟ้ากระแสสลับ

Vm  im . X L
Vrms  irms . X L
( X L   L)

iL  im sin t

VL  Vm sin t  90o 

32
PHYSICS PAT&QUOTA
วงจรอนุกรม RCL

1.iR  iC  iL  itotal

2.Z  R 2   X L  X C 
2

3.V  VR 2  VL  VC 
2

4.V  itotal .Z

วงจรขนาน RCL
1.VR  VC  VL  Vtotal

2
1 1  1 1 
2.     
Z R2  X C X C 

3.i  iR 2   iC  iL 
2

4.V  itotal .Z

กาลังไฟฟ้ากระแสสลับ
R
Pmax  I m Vm cos  Pmax  I m 2 .R cos  
Z

Pav  I rmsVrms cos  Pmax  I rms 2 .R Pmax 


2
 Im .R 
1 2

33
PHYSICS PAT&QUOTA

Atom Physics

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

B = ความเข้ มสนามแม่เหล็ก(เทสลา,T) F = แรงที่กระทาต่อประจุ(N) q ประจุไฟฟ้า (C)


v = ความเร็ วประจุ(m/s) n จานวนอิเล็กตรอน(ตัว) I กระแสไฟฟ้า(A)
-34
h = ค่าคงที่ของพลังค์ (6.64x10 ) W ฟั งก์ชน
ั งาน(J , eV) f ความถี่(Hz)
E = ความเข้ มสนามไฟฟ้า(N/C)

ประจุต่อมวลของทอมสัน
q v E
 v
m BR B

หยดนา้ มันของมิลลิแกน

qE  mg neE  mg

ระดับพลังงานของบอร์
13.6eV
En 
n2

สเปคตรัมจากการเปลี่ยนแปลงระดับพลังงาน
1240
E eV  
nm

อนุกรมของไฮโดรเจน

ไลมาน ni  n f  1 บัลเมอร์ ni  n f  2

พาสเซ่น ni  n f  3 แบล็กเก็ต ni  n f  4

ฟุนด์ ni  n f  5

34
PHYSICS PAT&QUOTA
ปรากฏการณ์ โฟโตอิเล็กตรอน
1 1
E  W  Ek hf  W J   mv 2 hf  hf o  mv 2
2 2

1240
Eev  Wev  Vs  W ev   Vs
nm

ความยาวคลื่นของเดอบรอยด์
h
ความยาวคลื่นของอนุภาคที่มีความเร็ว v คือ 
mv

h
โมเมนตัมของคลื่นที่มีความยาวคลื่น  คือ p

35
PHYSICS PAT&QUOTA

Nuclear Physics

ตัวแปรที่เกี่ยวข้ อง

A = กัมมันตภาพรังสี (คูรี่)  = ค่าคงที่การสลายตัว T1 ครึ่งชีวิต


2

N = จานวนโมเลกุล(m/s) m = มวลของธาตุกมั มันตรังสี m มวลพร่อง

รังสี
แอลฟ่ า  24  เบต้ า  10  แกรมม่า  00 

อานาจในการทาให้ อากาศแตกตัวเป็ นไอออน : แอลฟ่ า > เบต้ า > แกรมม่า


อานาจทะลุผ่าน : แกรมม่า > เบต้ า > แอลฟ่ า
สมการนิวเคลียร์
X  a, b Y คือ d
c X  ef a  hgY  ijb

กัมมันตภาพรังสี
0.693
 A  N A  A0 .et N  N 0 .e t m  m0 .e t
T1
2

t t t
N  1  T1 2 A  1  T1 2 m  1  T1 2
     
N0  2  A0  2  m0  2 

พลังงานยึดเหนี่ยวนิวเคลียส

E   m 931 MeV

36

You might also like