Professional Documents
Culture Documents
เอกสารติวหัวโขกฝา ฟังก์ชัน
เอกสารติวหัวโขกฝา ฟังก์ชัน
หน้า 1 จาก 17
ทบทวน
1. ผลคูณคาร์ทเี ชียน (Cartesian Product)
เซต A คูณกับเซต B ได้ คูอ่ นั ดับ (x,y) โดย x มาจากเซต A และ
y มาจากเซต B
Ex-1. ให้ A = {1,2} , B = {3,4,} , C = {3,5} และ D = { }
จะได้ AxB = ..........................................................
BxC = ..........................................................
AxA = ..........................................................
AxD = ..........................................................
CxA = ..........................................................
Ax = ..........................................................
2. ความสัมพันธ์ (relation ; r)
คือ เซตของคูอ่ นั ดับต่างๆ ในผลคูณคาร์ทเี ชียน (rAxB)
ผลคูณคาร์ทเี ชียนใดๆ สามารถเกิดความสัมพันธ์ทง้ ั หมดได้ =
2n(AxB)
Ex-2. ให้ A = {1,3} และ B = {2,5} ดังนัน ้ AxB = .........
จะได้ความสัมพันธ์ทง้ ั หมด = 22 = 4 ความสัมพันธ์ คือ
r1 = เลือกมา 1 คู่ = ............................................
r2 = เลือกมาอีก 1 คู่ = ........................................
r3 = เอามาทัง้ หมด = ..........................................
r4 = ไม่เอาอะไรมาเลย = .....................................
ย้อนราลึกความหลัง ถ้าพูดถึงสับเซต ...............................
เอกสารประกอบการสอน เรือ ่ ง ฟังก์ชน ั (Function)
หน้า 2 จาก 17
Ex-3. ถ้า A = {2,3,4,6} และ B = {4,5,9}
จงหาความสัมพันธ์ตอ่ ไปนี้
1) r1 = ความสัมพันธ์ทม ี่ ากกว่าจาก A ไป B
r1 = ........................................................
2) r2 = ความสัมพันธ์ “ต่างกันอยู่ 2” จาก AxB
r2 = .........................................................
3) r3 = ความสัมพันธ์ “เป็ นรากที่ 2” จาก AxB
r3 = .........................................................
4) r4 = {(x,y)AxB | y = x-1 }
r4 = .........................................................
5) r5 = {(x,y)AxA | x = y}
r5 = .........................................................
6) r6 = {(x,y)BxA | x≥y2}
r6 = .........................................................
3. ชนิดของความสัมพันธ์และฟังก์ชนั
ชนิดที่ 1 one to one (1-1)
ชนิดที่ 2 one to many (1-m)
ชนิดที่ 3 many to one (m-1)
ชนิดที่ 4 many to many (m-m)
4. ฟังก์ชนั (function : f)
คือ ความสัมพันธ์ทส ี่ มาชิกตัวหน้าของคูอ่ น
ั ดับไม่ซา้ กัน
ถ้าซา้ กันตัวหลังต้องซา้ กันด้วย
ปุจฉา ความสัมพันธ์ชนิดใดบ้างทีเ่ ป็ นฟังก์ชน ั
เอกสารประกอบการสอน เรือ ่ ง ฟังก์ชน ั (Function)
หน้า 3 จาก 17
วิสชั นา ............................................................
ความสัมพันธ์ทเี่ ป็ นฟังก์ชน
ั มักจะเขียนแทนตัว y ด้วย
f(x)
เช่น f = {(x,y) | y = 2x+3} f(x) = 2x+3
5. การตรวจสอบความสัมพันธ์ใดเป็ นฟังก์ชน ั
1) การทดสอบเมือ ่ ให้คอ
ู่ น
ั ดับ สมาชิกตัวหน้าห้ามซา้
ถ้าซา้ ตัวหลังต้องซา้ ด้วย
Ex-5. A = {1} , B = {2,3} แล้ว AxB = .........................
r1 = ..........................................................
r2 = ..........................................................
r3 = ..........................................................
r4 = ...........................................................
2) y8 = x56 + 32 .........................................................
ตอบ
3) y8 – y = x ....................................................... ตอบ
4) x2 + 4x + 85 = 0 .............................................. ตอบ
7) x 1 y 2 2 ตอบ ................................................
8) 4x2 + 3y3 +7x + 8y +16 = 0 ตอบ ...........................
เอกสารประกอบการสอน เรือ ่ ง ฟังก์ชน ั (Function)
หน้า 5 จาก 17
2
9) x y = 1 ....................................................... ตอบ
6. การหาโดเมนและเรนจ์ของ r และ f
โดเมน (Dr , Df) คือเซตของสมาชิกตัวหน้า เรนจ์ (Rr , Rf)
คือเซตของสมาชิกตัวหลัง
1) เมือ
่ ให้คอ
ู่ น
ั ดับมา จับตัวหน้าไปเขียนเป็ นเซต = โดเมน ,
จับตัวหลังไปเขียนเป็ นเซต
EX-8. กาหนด r = {(1,a),(2,b),(3,c)} จงหาโดเมนและเรนจ์
2) เมือ
่ ให้สมการมา หาโดเมนจัด y = เทอมของ x
แล้วพิจารณาค่า x
หาเรนจ์จดั x = เทอมของ y แล้วพิจารณาค่า y
เศษ
จากนัน้ พิจารณา ..ถ้าเจอ ให้ ส่วน ≠ 0 แล้วแก้อสมการ
สว่น
จะได้โดเมนคือ {ส่วน | ส่วน ≠ …….}
ถ้าเจอ อะไร , |อะไร| , อะไร2 ให้ อะไร ≥ 0
แล้วแก้อสมการ
3x 2
Ex-9. กาหนดให้ r {(x,y)|y } จงหาโดเมนและเรนจ์
x 1
เอกสารประกอบการสอน เรือ
่ ง ฟังก์ชน
ั (Function)
หน้า 6 จาก 17
Ex-14. จงหาโดเมนและเรนจ์จากกราฟทีก
่ าหนดให้
เอกสารประกอบการสอน เรือ
่ ง ฟังก์ชน
ั (Function)
หน้า 8 จาก 17
เอกสารประกอบการสอน เรือ
่ ง ฟังก์ชน
ั (Function)
หน้า 9 จาก 17
Ex-15. จงหาโดเมนและเรนจ์จากกราฟทีก ่ าหนดให้
7. อินเวอร์สของความสัมพันธ์และฟังก์ชน ั
คือการสลับทีจ่ ากโดเมน เรนจ์ และสลับทีเ่ รนจ์ โดเมน
ในทุกคูอ่ น
ั ดับบนความสัมพันธ์หรือฟังก์ชน ั
ใช้สญั ลักษณ์ r-1 แทนอินเวอร์สของความสัมพันธ์ และ f-1 หรือ f-
1
(x) แทนอินเวอร์สของฟังก์ชน ั
1) เมือ
่ ให้คอ
ู่ น
ั ดับมา จับสลับทีไ่ ด้เลย
Ex-16. ให้ f(x) = {(1,2),(2,4),(3,9)} จงหา f-1(x)
ตอบ ......................................................
2) เมือ
่ ให้สมการมา สามารถหาอินเวอร์สได้ 3 แบบคือ
a. สลับที่ (x,y) (y,x)
b. สลับที่ y x และ x y ในเงือ ่ นไข
c. นาเงือ
่ นไขจาก b. มาจัดในรูป y = เทอมของ x
Ex-17. กาหนดให้ r = {(x,y) | y = 4x + 8 } จงหา r-1
เอกสารประกอบการสอน เรือ
่ ง ฟังก์ชน
ั (Function)
หน้า 10 จาก 17
8. การหาค่าของฟังก์ชนั
a. การหาค่า f(x) แทนค่า x ตามทีโ่ จทย์ตอ ้ งการได้เลย
Ex-19. ให้ f(x) = 4x + 9 จงหา
f(0) ........................................................ =
f(4) ......................................................... =
f(-5) ........................................................ =
Rf Dg = {b,c}