Professional Documents
Culture Documents
20 Jun 2017
สารบัญ
ความหมายของเซต.................................................................................................................................................................... 1
เซตที่สมาชิกเป็ นเซต................................................................................................................................................................... 3
สมาชิกของเซต ........................................................................................................................................................................... 5
การเท่ากั น / เทียบเท่ากั นของเซต.............................................................................................................................................. 7
สับเซต ......................................................................................................................................................................................... 8
เอกภพสัมพัทธ์..........................................................................................................................................................................11
แผนภาพเวนน์ - ออยเลอร์ .......................................................................................................................................................11
การปฏิบตั ิการทางเซต..............................................................................................................................................................13
สูตรการปฏิบตั ิการทางเซต.......................................................................................................................................................20
เพาเวอร์ เซต ..............................................................................................................................................................................23
จานวนสับเซต...........................................................................................................................................................................28
จานวนสมาชิกในส่ว นต่างๆ ของเซต .......................................................................................................................................33
เซต 1
ความหมายของเซต
7 14 21 …
เซตพื ้นฐานที่ควรทราบ
N เซตของจานวนเต็มบวก (หรื อ เรี ยกอีกชื่อว่าจานวนนับก็ได้ )
I เซตของจานวนเต็ม R เซตของจานวนจริ ง
I + เซตของจานวนเต็มบวก (เหมือน N) R + เซตของจานวนจริ งบวก
I − เซตของจานวนเต็มลบ R − เซตของจานวนจริ งลบ
2. แบบบอกเงื่อนไข
เขียนบอกเงื่อนไขของสมาชิกที่จะอยู่ในเซตได้
เช่น เซตของจานวนนับ ที่น้อยกว่า 6 จะเขียนแบบบอกเงื่อนไขได้ เป็ น
{ 𝑥 ∈N | 𝑥 <6 }
เริ่ มเซตด้ วยปี กกาเปิ ด จบเซตด้ วยปี กกาปิ ด
ตัวแปรอะไรก็ได้ บอกเงื่อนไขสมาชิก
(ส่วนใหญ่ใช้ 𝑥 ) ที่จะอยูใ่ นเซตนี ้ได้
บอกขอบเขตสมาชิก
เครื่ องหมาย “โดยที่”
ที่จะอยูใ่ นเซตนี ้ได้
(ส่วนนี ้ไม่ต้องใส่ก็ได้ )
2 เซต
แบบฝึ กหัด
1. จงเขียนเซตต่อไปนี ้ แบบแจกแจงสมาชิก
1. {𝑥 | 𝑥 เป็ นจานวนเต็มบวกคู่ ที่น้อยกว่า 10} 2. {𝑘 ∈ I − | 𝑘 2 = 16}
3. {𝑥 | 3𝑥 + 5 = 16} 4. {𝑚 ∈ I − | 𝑚 ≥ 5}
7. {𝑎 ∈ I + | 𝑎 ≤ 0 } 8. {𝑥 ∈ R | 𝑥 = 8}
เซต 3
เซตที่สมาชิกเป็ นเซต
จากหัวข้ อที่แล้ ว จะเห็นว่าสมาชิกภายในเซต จะเป็ นอะไรก็ ได้ (ตัวเลข, คน, ประเทศ, สัตว์, ฯลฯ)
ในหัวข้ อนี ้ จะพูดถึ งกรณี ที่ “สมาชิกภายในเซต เป็ นเซต” ฟั งแล้ วอาจจะงงๆ ลองดูตัวอย่างต่อไปนี ้
แบบฝึ กหัด
1. จงบอกจานวนสมาชิกของเซตต่อไปนี ้
1. { ∅ , {1} , {2} , {3} } 2. { {1, 2} , {3} }
5. {{{}}} 6. { {1, ∅} , ∅ }
สมาชิกของเซต
เช่น { {1, 2}, {2, 3} } มีสมาชิก 2 ตัว คือ {1, 2} และ {2, 3}
ดังนั ้น {1, 2} ∈ { {1, 2}, {2, 3} } {2, 3} ∈ { {1, 2}, {2, 3} }
แต่ {1} ∉ { {1, 2}, {2, 3} } {1, 3} ∉ { {1, 2}, {2, 3} }
เช่น { {1}, {2, 3}, { 1, {2, 3, {4}} } } มีสมาชิก 3 ตัว คือ {1} , {2, 3} , และ {1, {2, 3, {4}}}
ดังนั ้น {1} ∈ { {1}, {2, 3}, { 1, {2, 3, {4}} } }
{2, 3} ∈ { {1}, {2, 3}, { 1, {2, 3, {4}} } }
{1, {2, 3, {4}}} ∈ { {1}, {2, 3}, { 1, {2, 3, {4}} } }
แต่ {2, 3, {4}} ∉ { {1}, {2, 3}, { 1, {2, 3, {4}} } }
แบบฝึ กหัด
1. ข้ อใดถูกต้ อง
1. 5 ∈ {25, 125} 2. 0 ∈ { }
3. 14 ∈ {𝑥 ∈ N | 𝑥 หารด้ วย 7 ลงตัว} 4. {1} ∈ { 1, {1, 2}, {{1}} }
5. 3 ∈ 3 6. { } ∈ { }
7. { } ∈ { { } } 8. {1} ∈ { {1} , {2} }
9. {1, 2} ∈ { {1} , {2} } 10. {1, 2, 3, 4} ∈ { {1, 2}, {2, 3, 4} }
11. {2, 3} ∈ { 1, {1, 2}, {1, {2, 3}} } 12. ถ้ า 𝐴 ∈ 𝐵 และ 𝐵 ∈ 𝐶 แล้ ว 𝐴 ∈ 𝐶
3. ข้ อใดเป็ นเซตอนันต์
1. {1, 2, 3, … , 99999999} 2. {𝑥 | 3𝑥 + 1 = 0}
3. N 4. {𝑥 | 1 ≤ 𝑥 ≤ 5}
5. เซตของคนทุกคนบนโลกในขณะนี ้ 6. { {1, 2, 3, …} }
แบบฝึ กหัด
1. ข้ อใดถูกต้ อง
1. {1, 2, 2, 3} = {3, 2, 1} 2. { { }, {1, 2} } = { {2, 1}, ∅ }
3. { {1, 2}, {2, 3} } ↔ {3, 2, 1} 4. { { } } ↔ { }
5. เซตที่เท่ากั น จะเทียบเท่ากั นเสมอ 6. เซตที่เทียบเท่ากั น จะเท่ากั นเสมอ
8 เซต
สับเซต
ตัวอย่าง จงพิจารณาว่า {1, {2}, {1, 2}} ⊂ {1, 2, {1}, {2}, {1, 2}} หรื อไม่
วิธีทา {1, {2}, {1, 2}} มีสมาชิก 3 ตัว คือ 1 กั บ {2} กั บ {1, 2}
{1, 2, {1}, {2}, {1, 2}} มีสมาชิก 5 ตัว คือ 1 กั บ 2 กั บ {1} กั บ {2} กั บ {1, 2}
1 1
{2}
2 จะเห็นว่า เราจับคู่เหมือน จาก 𝐴 ไปยัง 𝐵 ได้ หมดทุกตัว
{1}
{1, 2}
{2} ดังนั ้น {1, {2}, {1, 2}} ⊂ {1, 2, {1}, {2}, {1, 2}} #
{1, 2}
เซต 9
ตัวอย่าง จงพิจารณาว่า {{1}, {2}} ⊂ { {1}, {1, 2}, {1, {2}}} หรื อไม่
วิธีทา {{1}, {2}} มีสมาชิก 2 ตัว คือ {1} กั บ {2}
{{1}, {1, 2}, {1, {2}}} มีสมาชิก 3 ตัว คือ {1} กั บ {1, 2} กั บ {1, {2}}
สุดท้ าย สิ่งที่ต้องระวังคือ เด็กส่วนใหญ่ มักสับสนระหว่าง “เป็ นสมาชิก” (∈) กั บ “เป็ นสับเซต” (⊂)
ความแตกต่าง คือ เป็ นสับเซต ให้ “แจงทั ้งสองฝั่ ง” แต่ เป็ นสมาชิก ให้ “แจงฝั่ งขวาเท่านั ้น”
ตัวอย่าง จงพิจารณาว่า {1, {2}} ∈ {{1}, {1, 2}, {1, {2}}} หรื อไม่
วิธีทา ตรวจสอบการเป็ นสมาชิก ให้ แจงแต่ฝั่งขวาเท่านั ้น
{1, {2}} ∈ { {1}, {1, 2}, {1, {2}}}
ไม่ต้องแจง {1} จะเห็นว่า เราจับคู่เหมือน ให้ {1, {2}} ได้
{1, {2}} {1, 2}
{1, {2}} ดังนั ้น {1, {2}} ∈ {{1}, {1, 2}, {1, {2}}} #
แบบฝึ กหัด
1. ข้ อใดไม่ใช่สับเซตของ 𝐴 = {𝑚 ∈ N | 𝑚 เป็ นจานวนคี่ที่น้อยกว่า 5}
1. ∅ 2. {1} 3. {2} 4. {3}
2. ข้ อใดไม่ใช่สับเซตของ 𝐴 = {𝑛 ∈ I | 𝑛 < 5}
1. ∅ 2. {𝑛 ∈ I | 𝑛 < 4}
3. {𝑛 ∈ N | 𝑛 < 5} 4. {𝑛 ∈ N | 𝑛 > 0}
3. ข้ อใดถูกต้ อง
1. 1 ⊂ {1, 2, 3} 2. ∅ ⊂ {{}}
5. 0 ∈∅ 6. 0 ⊂∅
7. {1, 2, 3} ⊂ ∅ 8. {1, 2, 3, …} ⊂ N
15. {1, {1}} ∈ { 1, {1}, {1, {1}} } 16. {1, {1}} ⊂ { 1, {1}, {1, {1}} }
17. {2, {3}} ∈ {{{3}, 2}, 2} 18. {{2, {3}}, {{1}}} ⊂ {{2, {3}, {1}}, {{1}}}
19. ถ้ า 𝐴⊂𝐵 และ 𝐵⊂𝐶 แล้ ว 𝐴⊂𝐶 20. ถ้ า 𝐴⊂𝐵 และ 𝐵⊂𝐴 แล้ ว 𝐴=𝐵
4. ให้ 𝐴 เป็ นเซตจากั ด และ 𝐵 เป็ นเซตอนันต์ ข้ อความใดต่อไปนีเ้ ป็ นเท็จ [O-NET 52/10]
1. มีเซตจากั ดที่เป็ นสับเซตของ 𝐴 2. มีเซตจากั ดที่เป็ นสับเซตของ 𝐵
3. มีเซตอนันต์ที่เป็ นสับเซตของ 𝐴 4. มีเซตอนันต์ที่เป็ นสับเซตของ 𝐵
5. กาหนดให้ 𝐴 = {1, 2, {1, 2}, {1, 2, 3}} ข้ อใดต่อไปนี ้ผิด [PAT 1 (ก.ค. 52)/4]
1. {1, 2} ∈ 𝐴 2. {1, 2, 3} ∈ 𝐴
3. {1, 2} ⊂ 𝐴 4. {1, 2, 3} ⊂ 𝐴
เอกภพสัมพัทธ์
แผนภาพเวนน์ - ออยเลอร์
𝒰 = {1, 2, 3, …, 10}
𝒰 = {1, 2, 3, …, 10} 𝐴 = {1, 2, 3, 4}
𝐴 = {1, 3, 6, 7, 8} 𝐵 = {2, 4, 5, 6}
𝐵 = {3, 6, 7} C = {3, 4, 6, 7}
𝐴 U 𝐴 U
𝐵
1 2 5
1 𝐵 2, 4, 4
8 3, 6, 5, 9,
3 6
8, 9,
7 7
10 𝐶 10
สังเกตว่า
ถ้ าเซตสองเซต ไม่มีส่วนซ ้ากั น จะวาดออกมาได้ เป็ นสองวง แยกจากกัน
แบบฝึ กหัด
1. จงวาดแผนภาพของเวนน์ - ออยเลอร์ ของเซตต่อไปนี ้
1. 𝒰 = {1, 2, 3, …, 10} 2. 𝒰 = {1, 2, 3}
𝐴 = {1, 3, 5, 7} 𝐴 = {1}
𝐵 = {2, 4, 6, 8} 𝐵 = {1, 2}
3. 𝒰 = {1, 2, 3, 4, 5, 6} 4. 𝒰 = {1, 2, 3, 4}
𝐴 = {1, 2, 3} 𝐴 = {1, 2, 3}
𝐵 = {2, 3, 4} 𝐵 = {1, 4}
𝐶 = {1, 4} 𝐶 = {1, 3, 4}
เซต 13
การปฏิบตั ิการทางเซต
หัวข้ อนี ้ จะคล้ ายๆกั บตอนที่เราเอา “ตัวเลข” มา บวก ลบ คูณ หาร ตอนประถม
แต่ในเรื่ องนี ้ จะเอา “เซต” มา ทาอย่างอื่นกั นแทน ได้ แก่
ยูเนียน อินเตอร์ เซ็ก
ลบ คอมพลีเมนต์
ตัวอย่าง กาหนดให้ 𝑛(𝐴) = 10 , 𝑛(𝐵) = 18 จงหาช่วงค่าที่เป็ นไปได้ ของ 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) , 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) , 𝑛(𝐴 − 𝐵)
และ 𝑛(𝐵 − 𝐴)
วิธีทา 𝐴 ∪ 𝐵 จะเล็กสุด เมื่อ 𝐴 กั บ 𝐵 ซ ้ากั นทุกตัว → 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) ≥ 𝑚𝑎𝑥(10, 18) = 18
𝐴 ∪ 𝐵 จะใหญ่ สุด เมื่อ 𝐴 กั บ 𝐵 ไม่ซ ้ากั นเลย → 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) ≤ 10 + 18 = 28
ดังนั ้น 18 ≤ 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) ≤ 28
𝐴 ∩ 𝐵 จะเล็กสุด เมื่อ 𝐴 กั บ 𝐵 ไม่ซ ้ากั นเลย → 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) ≥ 0
𝐴 ∩ 𝐵 จะใหญ่ สุด เมื่อ 𝐴 กั บ 𝐵 ซ ้ากั นทุกตัว → 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) ≤ 𝑚𝑖𝑛(10, 18) = 10
ดังนั ้น 0 ≤ 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) ≤ 10
𝐴 − 𝐵 จะเล็กสุด เมื่อ 𝐵 มีทุกตัวใน 𝐴 → 𝑛(𝐴 − 𝐵) ≥ 10 − 18 → 0
𝐴 − 𝐵 จะใหญ่ สุด เมื่อ 𝐴 กั บ 𝐵 ไม่ซ ้ากั นเลย → 𝑛(𝐴 − 𝐵) ≤ 𝑛(𝐴 ) = 10
ดังนั ้น 0 ≤ 𝑛(𝐴 − 𝐵) ≤ 10
𝐵 − 𝐴 จะเล็กสุด เมื่อ 𝐴 มีทุกตัวใน 𝐵 → 𝑛(𝐴 − 𝐵) ≥ 18 − 10 = 8
𝐵 − 𝐴 จะใหญ่ สุด เมื่อ 𝐴 กั บ 𝐵 ไม่ซ ้ากั นเลย → 𝑛(𝐴 − 𝐵) ≤ 𝑛(𝐵) = 18
ดังนั ้น 8 ≤ 𝑛(𝐵 − 𝐴) ≤ 18 #
เซต 15
𝐴 𝐵
อินเตอร์ เซ็ก
แรเงา 𝐵 ′
𝐴 𝐵
หาส่วนซ้ อนกันได้ เป็ น 𝐴 ∩ 𝐵′
𝐶 #
แบบฝึ กหัด
1. กาหนดให้ 𝒰 = {1, 2, 3, …, 10} , 𝐴 = {1, 3, 5, 7} , 𝐵 = {2, 4, 6, 8, 10} , 𝐶 = {4, 5, 6}
จงหาค่าของเซตต่อไปนี ้
1. 𝐴 ∩ 𝐶 2. 𝐵∩𝐶
3. 𝐴∪𝐵 4. 𝐵∪𝐶
5. 𝐴−𝐶 6. 𝐶 −𝐴
7. 𝐵′ 8. 𝐵′ ∪ 𝐶
9. 𝐶′ − 𝐴 10. (𝐴 ∪ 𝐵)′
11. 𝐴 ∪ (𝐵 − 𝐶 ) 12. (𝐴 − 𝐵) ′ ∩ 𝐶
2. จงหาค่าของเซตต่อไปนี ้
1. {1, 2} ∪ { {1}, {2} } 2. {1, {2}} − {1, 2, 3}
4. ข้ อใดถูกต้ อง
1. 𝐴 ∩ 𝐵 = 𝐵 ∩ 𝐴 2. 𝐴∪𝐵 = 𝐵∪ 𝐴
เซต 17
7. 𝐴∩𝐵 ⊂ 𝐴 8. 𝐴 ⊂ 𝐴∩𝐵
5. จงแรเงาเซตในแต่ละข้ อต่อไปนี ้
1. (𝐴 ∩ 𝐵)′ 2. 𝐴 ′ ∩ 𝐵′
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
3. 𝐴 − 𝐵′ 4. (𝐴 − 𝐵) ∪ (𝐵 − 𝐴)
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
18 เซต
5. (𝐴 ′ ∩ 𝐵′) ∪ C 6. (𝐴 ∪ 𝐵) ∩ (𝐵 ∪ 𝐶)
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
𝐶 𝐶
1. 𝐴 𝐵 2. 𝐴 𝐵
𝐶 𝐶
3. 𝐴 𝐵 4. 𝐴 𝐵
𝐶 𝐶
เซต 19
𝐴 𝐵 𝐴 𝐵
4. 5.
𝐶
𝐶
สูตรการปฏิบตั ิการทางเซต
ตัวอย่าง จงแสดงว่า 𝐵′ − 𝐴′ = 𝐴 − 𝐵
วิธีทา เวลาทาในกระดาษทด ให้ เอาประโยคที่ต้องการพิสจู น์ มาลุยทั ้งสองข้ างไปเรื่ อยๆ จนกว่าจะเท่ากัน ดังนี ้
𝐵′ − 𝐴 ′ = 𝐴 − 𝐵
𝐵′ ∩ (𝐴 ′ )′ = 𝐴 ∩ 𝐵′
𝐵′ ∩ 𝐴 = 𝐴 ∩ 𝐵′
แต่เวลาเขียนตอบ มักต้ องเขียนเหมือนกั บว่าลุยจากข้ างหนึ่งไปได้ อีกข้ างหนึ่ง ดังนี ้
𝐵′ − 𝐴 ′ = 𝐵′ ∩ (𝐴 ′ )′
= 𝐵′ ∩ 𝐴
= 𝐴 ∩ 𝐵′
= 𝐴−𝐵 #
แบบฝึ กหัด
1. จงพิสูจน์ข้อความต่อไปนี ้
1. 𝐴′ − 𝐵 = 𝐵′ − 𝐴 2. (𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 = (𝐴 − 𝐶 ) ∪ (𝐵 − 𝐶)
3. 𝐴 − (𝐵 ∩ 𝐶 ) = (𝐴 − 𝐵) ∪ (𝐴 − 𝐶 ) 4. 𝐴 ′ ∩ (𝐴 ∪ 𝐵) = 𝐵 − 𝐴
5. 𝐶 − (𝐴 ∪ 𝐵) = (𝐶 − 𝐵) − 𝐴 6. (𝐴 ∩ 𝐵) − 𝐶 = (𝐴 − 𝐶 ) ∩ (𝐵 − 𝐶 )
7. (𝐴 ∩ 𝐵) ∪ 𝐵 = 𝐵 8. 𝐴 ∩ (𝐴 ∪ 𝐵) = 𝐴
22 เซต
𝐵 𝐶 𝐵 𝐶 𝐵 𝐶
1. 𝐴 2. 𝐴 3. 𝐴
𝐵 𝐶 𝐵 𝐶
4. 𝐴 5. 𝐴
3. กาหนดให้ 𝐴 , 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตใดๆ ซึ่ง 𝐴⊂𝐵 ข้ อใดต่อไปนีถ้ ูกต้ องบ้าง [O-NET 54/1]
1. (𝐶 − 𝐴) ⊂ (𝐶 − 𝐵)
2. 𝐴𝑐 ∩ 𝐶 ⊂ 𝐴𝑐 ∩ 𝐵
เพาเวอร์ เซต
เพาเวอร์ เซต (หรื อเซตกาลัง) ของเซต 𝐴 แทนด้ วยสัญลักษณ์ 𝑃(𝐴) หมายถึ ง “เซตของสับเซตทั ้งหมด” ของ 𝐴
พูดง่ายๆ ก็ คือ หาสับเซตของ 𝐴 มาให้ หมดว่ามีอะไรบ้าง แล้ วเอามาใส่เซตครอบอีกชั ้น
เช่น ถ้ า 𝐴 = {1, 2, 3} จะได้ สับเซตของ 𝐴 คือ ∅ ,
{1} , {2} , {3} ,
{1, 2}, {1, 3}, {2, 3},
{1, 2, 3} ทั ้งหมด 8 สับเซต
ดังนั ้น 𝑃({1, 2, 3}) คือ { ∅, {1}, {2}, {3}, {1, 2}, {1, 3}, {2, 3}, {1, 2, 3} }
จะเห็นว่า ไม่ว่า 𝐴 จะเป็ นอะไรก็ ตาม 𝑃 (𝐴) จะต้ องมี ∅ กั บ ตัว 𝐴 เอง อยู่ข้างในเสมอ
นั่นคือ ∅ ∈ 𝑃 (𝐴) และ 𝐴 ∈ 𝑃 (𝐴) เสมอ
(นอกจากนี ้ ∅ ⊂ 𝑃 (𝐴) ด้ วย เพราะ ∅ เป็ นสับเซตของทุกเซต)
อย่างไรก็ ตาม โจทย์ยอดฮิตในเรื่ องนี ้ไม่ใช่การเขียนเพาเวอร์ เซต แต่เป็ นการตรวจสอบ 𝑋 ∈ 𝑃(𝐴) กั บ 𝑋 ⊂ 𝑃(𝐴)
โดยโจทย์ จะให้ 𝑋 กั บ 𝐴 มา แล้ วถามว่า 𝑋 ∈ 𝑃(𝐴) หรื อ 𝑋 ⊂ 𝑃 (𝐴) หรื อไม่
วิธีตรวจสอบ จะใช้ หลักเหมือนเมื่อก่ อน คือ “แจงสมาชิก แล้ วจับคู่เหมือน”
โดย เป็ นสับเซต ให้ “แจงทั ้งสองฝั่ ง” แต่ เป็ นสมาชิก ให้ “แจงฝั่ งขวาเท่านั ้น”
ตัวอย่าง กาหนดให้ 𝐴 = {1, 2} จงพิจารณาว่า {{2}, {1, 2}} ⊂ 𝑃(𝐴) หรื อไม่
วิธีทา
{{2}, {1, 2}} ⊂ 𝑃 ({1, 2})
{2}
จะเห็นว่าจับคู่ได้ หมด
⊂ {1, 2}
{1, 2} ดังนั ้น {{2}, {1, 2}} ⊂ 𝑃(𝐴) #
ตัวอย่าง จงพิจารณาว่า {1, {2}} ∈ 𝑃({1, {2}, {1, 3}}) หรื อไม่
วิธีทา ตรวจสอบ ∈ → ไม่ต้องแจงฝั่ งซ้ าย
{1, {2}} ∈ 𝑃 ({1, {2}, {1, 3}})
จะเห็นว่าจับคู่ได้
{1, {2}} ⊂ {1, {2} , {1, 3} }
ดังนั ้น {1, {2}} ∈ 𝑃({1, {2}, {1, 3}}) #
เซต 25
ตัวอย่าง จงพิจารณาว่า {∅, {1, {2}}} ⊂ 𝑃({1, {2}, {1, 3}}) − {1, 2} หรื อไม่
วิธีทา ตรวจสอบ ⊂ → ต้ องแจงทั ้งสองฝั่ ง
{∅, {1, {2}}} ⊂ 𝑃 ({1, {2}, {1, 2}}) − {1, 2} จะเห็นว่าทางขวา มีการลบเซตด้วย ก็ ให้ แจงเซตตัวลบด้วย
∅
⊂ {1, {2} , {1, 2} }
1 วิธีพิจารณา คือ แต่ละตัวทางซ้ าย ต้ อง ⊂ {1, {2} , {1, 2}}
{1, {2} } 2
และ ไม่ซ ้ากั บ 1 หรื อ 2
จะเห็นว่าจับคู่ได้ หมด ดังนั ้น ข้ อความนี ้เป็ นจริ ง #
แบบฝึ กหัด
1. จงหาเพาเวอร์ เซตของเซตในแต่ละข้ อต่อไปนี ้
1. {1, 𝑎} 2. {∅}
5. {} 6. { ∅, {∅} }
7. { {1}, {1, 2, 3} }
2. จงหา 𝑃 (𝑃(𝑃(∅)))
3. ข้ อใดถูกต้ อง
1. {1, 2} ∈ 𝑃({1, 2, 3}) 2. 1 ∈ 𝑃 ({1, 2, 3})
11. {1, 2, {1, 2}} ⊂ 𝑃({1, 2, {1, 2}}) 12. {{1, 2}} ∈ 𝑃({1, 2, {1}, {2}})
13. {{1}, {1, 2}} ⊂ 𝑃({1, 2, 3}) − {1, 2, 3} 14. {1, {2}} ∈ 𝑃({1, 2, {1}, {2}}) − {{2}}
4. ข้ อใดถูกต้ อง
1. ∅ ∈ 𝑃 (𝐴) 2. ∅ ⊂ 𝑃 (𝐴 )
เซต 27
3. 𝐴 ∈ 𝑃(𝐴 ) 4. 𝐴 ⊂ 𝑃(𝐴 )
7. 𝐴 − 𝑃(𝐴 ) = 𝐴
6. กาหนดให้ 𝐴 = {0, 1, 2, {0, 1, 2}} และ 𝑃(𝐴 ) แทนเซตกาลังของ 𝐴 ข้ อใดต่อไปนี ้เป็ นจริ งบ้าง
[PAT 1 (ต.ค. 52)/1-3]
1. 𝐴 ∩ 𝑃(𝐴 ) = {0, 1, 2}
2. 𝑛(𝐴 − 𝑃 (𝐴 )) < 𝑛(𝑃(𝐴 ) − 𝐴 )
28 เซต
จานวนสับเซต
ตัวอย่าง กาหนดให้ 𝐴 = { 𝑎, {𝑏, 𝑐}, {∅, {𝑎}} } จงหาว่า 𝑃 (𝐴) มีสมาชิกทั ้งหมดกี่ ตัว
วิธีทา จะเห็นว่า 𝐴 มีสมาชิก 3 ตัว
ดังนั ้น 𝑃 (𝐴) มีสมาชิก 23 = 8 ตัว #
แบบฝึ กหัด
1. จงหา 𝑛(𝑃(𝐴)) เมื่อกาหนดเซต 𝐴 ดังต่อไปนี ้
1. ∅ 2. {{{∅}}}
5. ให้ 𝐴 = {1, 2, 3, …} และ 𝐵 = { {1, 2}, {3, 4, 5}, 6, 7, 8, … } ข้ อใดเป็ นเท็จ [O-NET 53/1]
1. 𝐴 − 𝐵 มีสมาชิก 5 ตัว
2. จานวนสมาชิกของเพาเวอร์ เซตของ 𝐵 − 𝐴 เท่ากั บ 4
3. จานวนสมาชิกของ (𝐴 − 𝐵) ∪ (𝐵 − 𝐴) เป็ นจานวนคู่
4. 𝐴 ∩ 𝐵 คือเซตของจานวนนับที่มีค่ามากกว่า 5
8. ให้ 𝐴 = {1, {1}} และ 𝑃 (𝐴) เป็ นเพาเวอร์ เซตของเซต 𝐴 ข้ อใดต่อไปนีผ้ ิด [PAT 1 (มี.ค. 53)/3]
1. จานวนสมาชิกของ 𝑃(𝐴) − 𝐴 เท่ากั บ 3 2. จานวนสมาชิกของ 𝑃(𝑃(𝐴)) เท่ากั บ 16
3. {{1}} ∈ 𝑃 (𝐴) − 𝐴 4. {∅, 𝐴} ∈ 𝑃(𝐴)
9. ให้ 𝐴 = {∅, {∅}, {∅, {∅}}} และ 𝑃 (𝐴 ) เป็ นเพาเวอร์ เซตของเซต 𝐴 ข้ อใดต่อไปนีถ้ ูกต้ อง
[PAT 1 (ก.ค. 53)/3]
1. จานวนสมาชิกของ 𝑃 (𝐴) เท่ากั บ 16
2. จานวนสมาชิกของ 𝑃(𝐴) − {∅, {∅}} เท่ากั บ 7
3. {∅, {∅, {∅}}} ⊂ 𝑃(𝐴) − {∅, {∅}}
4. {∅, {∅}, {{∅}}} ⊂ 𝑃 (𝐴)
เซต 33
จานวนสมาชิกในส่วนต่างๆ ของเซต
𝐴
จะเห็นว่า 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵) = 6 คลุมส่วนตรงกลางส่วนเดียว 6
𝐵
ข้ อนี ้ เราจะสมมติให้ ส่วนข้ างนอก = 𝑥 เพราะส่วนข้ างนอก ถูกรวม ทั ้งในข้ อมูล 60 และ ข้ อมูล 50
𝑀 𝐸
ไม่ 𝑀 = 60 คลุมสองส่วน คือ ส่วนข้ างนอก กั บส่วนวง 𝐸 ทางขวา
20 60−𝑥
แต่ ส่วนข้ างนอก = 𝑥 ดังนั ้น ส่วนวง 𝐸 ทางขวา = 60 − 𝑥
𝑥
เซต 35
และนักเรี ยนทั ้งหมด มี 100 คน ดังนั ้น (50 − 𝑥) + (20) + (60 − 𝑥) + (𝑥) = 100
130 − 𝑥 = 100
30 = 𝑥
สูตรแรก ใช้ กับกรณี สองเซต (ถ้ าเรารู้ “สามตัว” จาก 𝐴 , 𝐵 , 𝐴 ∩ 𝐵 และ 𝐴 ∪ 𝐵 เราจะหาอีกตัวที่เหลือได้ )
สูตรที่สอง จะไม่ท่องก็ ได้ (เพราะใช้ เทคนิคอื่นทาแทนได้ ) แต่ถ้าท่องจะช่วยให้ ทาข้ อสอบหลายๆข้ อได้ เร็วขึ ้นมาก
− = − =
− = − =
36 เซต
แบบฝึ กหัด
1. ในการสารวจกิ จกรรมยามว่างของนักเรียนจานวน 80 คน พบว่า
20 คน ชอบว่ายน ้า 9 คน ชอบว่ายน ้า และ เตะบอล
18 คน ชอบเตะบอล 10 คน ชอบว่ายน ้า และ ตีเทนนิส
15 คน ชอบตีเทนนิส 12 คน ชอบเตะบอล และ ตีเทนนิส
ถ้ ามี 7 คนชอบทั ้งสามกิ จกรรม จงหาว่ามีกี่คน ที่ไม่ชอบกิ จกรรมไหนเลยไม่วา่ จะเป็ นว่ายน ้า เตะบอล หรื อตีเทนนิส
2. กาหนดให้ 𝐴∩ 𝐵=𝐵 ถ้ าเซต 𝒰 มีสมาชิก 12 ตัว และ 𝐴 ′ ∪ 𝐵′ มีสมาชิก 10 ตัว แล้ ว จงหา 𝑛(𝐵)
เซต 37
4. ในการสารวจความชอบรั บประทานก๋วยเตี๋ยว, ข้ าวมันไก่ และข้ าวหมูแดง ของนักเรี ยนชั ้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 จานวน
100 คนของโรงเรี ยนแห่งหนึ่ง พบว่ามีนักเรี ยน
ชอบก๋ วยเตี๋ยว 49 คน ชอบก๋ วยเตี๋ยวและข้ าวมันไก่ 22 คน
ชอบข้ าวมันไก่ 48 คน ชอบก๋ วยเตี๋ยวและข้ าวหมูแดง 32 คน
ชอบข้ าวหมูแดง 59 คน ชอบข้ าวมันไก่ และข้ าวหมูแดง 27 คน
และ ชอบทั ้งสามอย่าง 15 คน
จานวนนักเรี ยนที่ไม่ชอบอาหารทั ้งสามชนิดนี ้เท่ากั บกี่ คน [O-NET 56/34]
7. กาหนดให้ 𝐴 และ 𝐵 เป็ นเซต ซึ่ง 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵) = 88 และ 𝑛[(𝐴 − 𝐵) ∪ (𝐵 − 𝐴)] = 76 ถ้ า 𝑛(𝐴) = 45 แล้ ว
𝑛(𝐵) เท่ากั บเท่า ใด [O-NET 50/7]
10. นักเรี ยนกลุ่มหนึ่งจานวน 46 คน แต่ละคนมีเสื ้อสีเหลืองหรื อเสื ้อสีฟา้ อย่างน้ อยสีละหนึ่งตัว ถ้ านักเรี ยน 39 คนมีเสื ้อสี
เหลือง และ 19 คน มีเสื ้อสีฟ้า แล้ วนักเรี ยนกลุ่มนี ้ที่มีทั ้งเสื ้อสีเหลืองและเสื ้อสีฟ้ามีจานวนเท่ากับเท่าใด
[O-NET 50/8]
11. ในการสอบถามพ่อบ้านจานวน 300 คน พบว่า มีคนที่ไม่ดื่มทั ้งชาและกาแฟ 100 คน มีคนที่ดื่มชา 100 คน และ มี
คนที่ดื่มกาแฟ 150 คน พ่อบ้านที่ดื่มทั ้งชาและกาแฟมีจานวนเท่าใด [O-NET 49/2-9]
16. กาหนดให้ 𝐴 และ 𝐵 เป็ นเซตจากั ด โดยที่ 𝐴 ∩ 𝐵 ≠ ∅ และ 𝐴 มีสมาชิก 5 ตัว , 𝐵 มีสมาชิก 4 ตัว
ถ้ า จานวนสมาชิกชอง 𝑃 (𝑃(𝐴 ∩ 𝐵)) เท่ากั บ 16 เมื่อ 𝑃(𝑆) แทน เพาเวอร์ เซตของ 𝑆
แล้ ว จานวนสมาชิกของเซต 𝐴 ∪ 𝐵 เท่ากั บเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 56)/26*]
เซต 41
18. กาหนดให้ 𝐴 และ 𝐵 เป็ นเซตจากั ด โดยที่ จานวนสมาชิกของ 𝑃(𝐴) เป็ นสองเท่าของจานวนสมาชิกของ 𝑃(𝐵)
จานวนสมาชิกของ 𝑃 (𝐴 ∩ 𝐵) = 8 และจานวนสมาชิกของ 𝑃 (𝐴 ∪ 𝐵) = 256
จงหาจานวนสมาชิกของ 𝑃 (𝐴 − 𝐵) [PAT 1 (ธ.ค. 54)/3]
20. สาหรั บเซต 𝑆 ใดๆ ให้ 𝑆 ′ แทนคอมพลีเมนต์ของเซต 𝑆 กาหนดให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตในเอกภพสัมพัทธ์ 𝒰
โดยที่ 𝐴 ∩ 𝐵 = 𝐵 , 𝐶 ⊂ 𝐴 และ 𝐵 ∩ 𝐶 ≠ ∅
ถ้ าเซต 𝒰 มีสมาชิก 12 ตัว เซต 𝐴′ ∪ 𝐵′ มีสมาชิก 10 ตัว และเซต 𝐴 ∩ 𝐵′ มีสมาชิก 4 ตัว
แล้ วจะมีเซต 𝐶 ทั ้งหมดกี่ เซต [PAT 1 (มี.ค. 55)/1]
21. กาหนดเซตและจานวนสมาชิกของเซตตามตารางต่อไปนี ้
เซต 𝐴 𝐵 𝐶 𝐴∪𝐵 𝐵 ∪𝐶 𝐴∪𝐶 (𝐴 ∩ 𝐵 ) ∪ 𝐶
จานวนสมาชิก 15 17 22 23 29 32 28
จานวนสมาชิกในเซต 𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶 เท่ากั บเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 52)/2-1]
23. กาหนดให้ 𝐴, 𝐵, 𝐶 ≠ ∅
𝑛(𝒰 ) = 44 , 𝑛(𝐵) = 19 , 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶 ) = 2 , 𝑛[(𝐴 ∩ 𝐶 ) − 𝐵] = 3 ,
𝑛[𝐴 ∩ (𝐵 ∪ 𝐶 ) ′] = 6 และ 𝑛(𝐴 ′ ∩ 𝐵′ ∩ 𝐶 ′ ) = 9 จงหา 𝑛[(𝐴 ∪ 𝐶 ) − 𝐵] [PAT 1 (ธ.ค. 54)/26]
24. ในการสอบวิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษและวิชาคณิ ตศาสตร์ ของโรงเรี ยนแห่งหนึ่ง มีนักเรี ยนเข้ าสอบทั ้งหมด 66
คน ปรากฏว่ามีนักเรี ยนที่สอบตกทั ้งสามวิชาจานวน 13 คน นักเรี ยนที่สอบได้ ทั ้งสามวิชา มีจานวน 17 คน นักเรี ยนที่
สอบได้ วิชาภาษาไทยและวิชาภาษาอังกฤษแต่สอบตกวิชาคณิตศาสตร์มีจานวน 10 คน นักเรี ยนที่สอบได้ วิชา
ภาษาไทยและวิชาคณิตศาสตร์ แต่สอบตกวิชาภาษาอังกฤษ มีจานวน 11 คน นักเรี ยนที่สอบได้ เพียงวิชาเดียว มี
จานวน 6 คน จานวนนักเรี ยนที่สอบได้ วิชาภาษาอังกฤษและวิชาคณิ ตศาสตร์ เท่ากั บเท่าใด
[PAT 1 (ก.ค. 53)/26]
25. โรงเรี ยนแห่งหนึ่งมีนักเรี ยนจานวน 750 คน พบว่ามีนักเรี ยนจานวน 30 คน ไม่เล่นกี ฬาเลย นอกนั ้นเล่นกี ฬาอย่าง
น้ อยหนึ่งประเภทคือ ปิ งปอง แบดมินตัน เทนนิส จากการสารวจเฉพาะกลุ่มนักเรี ยนที่เล่นกีฬา พบว่ามีนักเรียน
จานวน 630 คน เล่นกี ฬาเพียงประเภทเดียวเท่านั ้น มีนักเรี ยนจานวน 30 คน เล่นเทนนิสและปิ งปอง มีนักเรี ยน 50
คน เล่นปิ งปองและแบดมินตัน มีนักเรี ยน 40 คน เล่นเทนนิสและแบดมินตัน มีนักเรี ยนไม่เล่นเทนนิสจานวน 250
คน จงหาว่ามีนักเรี ยนกี่ คนที่เล่นเทสนิสเพียงอย่างเดียว [PAT 1 (มี.ค. 54)/26]
44 เซต
26. กาหนดให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตจากั ด โดยที่ 𝑛(𝑃(𝐴)) = 4 , 𝑛(𝑃(𝐵)) = 16 และ 𝑛(𝑃(𝐴 ∪ 𝐵)) = 32
จงหาค่าของ 𝑛(𝑃(𝐴) ∪ 𝑃(𝐵)) [PAT 1 (มี.ค. 54)/27*]
27. สาหรั บเซต 𝑆 ใดๆ ให้ 𝑛(𝑆) แทนจานวนสมาชิกของเซต 𝑆 กาหนดให้ 𝒰 แทนเอกภพสัมพัทธ์ ถ้ า 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ น
สับเซตใน 𝒰 โดยที่ 𝑛(𝐴) = 2(𝑛(𝐵)) = 3(𝑛(𝐶)) , 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶 ) = 15 , 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶 ) = 2
ถ้ า 𝑛(𝐴 − 𝐵) = 8 , 𝑛(𝐵 − 𝐶 ) = 4 และ 𝑛(𝐴 − 𝐶 ) = 9 แล้ ว 𝑛((𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 ) เท่ากั บเท่าใด
[PAT 1 (เม.ย. 57)/1]
28. ให้ 𝑆′ แทนคอมพลีเมนท์ของเซต 𝑆 และ 𝑛(𝑆) แทนจานวนสมาชิกของเซต 𝑆 ให้ 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 เป็ นสับเซตของ
เอกภพสัมพัทธ์ 𝒰 โดยที่ 𝐴 ∩ 𝐶 = ∅ , 𝐴 − 𝐵 ≠ ∅ , 𝐵 − 𝐴 ≠ ∅ , 𝐵 − 𝐶 ≠ ∅ และ 𝐶 − 𝐵 ≠ ∅
ถ้ า 𝑛(𝒰) = 20 , 𝑛(𝐴′ ) = 12 , 𝑛(𝐵′ ) = 9 , 𝑛(𝐶 ′ ) = 15 , 𝑛((𝐴 − 𝐵) ∪ (𝐵 − 𝐴)) = 11
และ 𝑛((𝐵 − 𝐶 ) ∪ (𝐶 − 𝐵)) = 12 แล้ ว 𝑛((𝐴 − 𝐵) ∪ (𝐶 − 𝐵)) เท่ากั บเท่าใด
[PAT 1 (พ.ย. 57)/31]
เซต 45
29. กาหนดให้ 𝐴 , 𝐵 และ 𝐶 เป็ นเซตใดๆ ถ้ า 𝑛(𝐴) + 𝑛(𝐵) + 𝑛(𝐶 ) = 301 และ 𝑛(𝐴 ∪ 𝐵 ∪ 𝐶 ) = 102
แล้ ว 𝑛(𝐴 ∩ 𝐵 ∩ 𝐶 ) มีค่าอย่างน้ อยเท่ากั บเท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 53)/26]
ความหมายของเซต
11
1. 1. {2, 4, 6, 8} 2. {−4} 3. { }
3
4. {}
5. {1, 3, 5, … , 49} 6. {−2, −1, 0, 1, 2} 7. {} 8. {8}
เซตที่สมาชิกเป็ นเซต
1. 1. 4 2. 2 3. 1 4. 3
5. 1 6. 2 7. 2 8. 1
สมาชิกของเซต
1. 3, 7, 8
2. 1. 3 2. 1 3. 0 4. 0
5. 1 6. 1 7. 3 8. 1
3. 3, 4 4. 3
1. 1, 2, 5
สับเซต
แผนภาพเวนน์ - ออยเลอร์
1. 1. 𝐴 𝒰 2. 𝐵 𝒰
1, 3, 𝐵 𝐴
5, 7 2, 4, 1 2
3
6, 8
9, 10
3. 𝐴 𝒰 4. 𝐴 𝒰
2,3 𝐵 𝐵
2
1 4 5, 6 3 1 4
𝐶 𝐶
เซต 47
การปฏิบตั ิการทางเซต
5. 6.
6. 3 7. 1 8. 4 9. -
สูตรการปฏิบตั ิการทางเซต
1. 2. 1 3. - 4. 2
เพาเวอร์ เซต
จานวนสับเซต
1. 1. 1 2. 2 3. 8 4. 16
2. 16 3. 4 4. 3 5. 3
48 เซต
6. 1 7. 4 8. 4 9. 4
จานวนสมาชิกในส่วนต่างๆ ของเซต
1. 51 2. 2 3. 10 4. 10
5. 101 6. 32 7. 55 8. 8
9. 11 10. 12 11. 50 12. 30
13. 12 14. 23 15. 72 16. 7
17. 37 18. 8 19. 128 20. 48
21. 33 22. 18 23. 16 24. 26
25. 415 26. 18 27. 11 28. 7
29. 97 30. 25
เครดิต
ขอบคุณ คุณ Siwakorn Booncharoensinchai ที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้ องของแบบฝึ กหัด
ขอบคุณ คุณ Theerat Piyaanangul
และ คุณครู เบิร์ด จาก กวดวิชาคณิ ตศาสตร์ ครูเบิร์ด ย่านบางแค 081-8285490
ที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้ องของเอกสารครั บ