You are on page 1of 76

บรรณานุกรม

43

บรรณานุกรม

กมล เวียสุวรรณ และมานิต เวียสุวรรณ. (2540). แนวคิดการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 2.


กรุงเทพฯ: คอมแพคท์พริ้นท์.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช2551.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กรมวิช าการ. (2544). หลักสูต รการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ: กรมวิช าการ
กระทรวงศึกษาธิการ.
กรมวิชาการ. (2545). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: ม.ป.พ.
บทที่ 4 การทดสอบสมมติฐานของกลุ่มตัวอย่าง : การทดสอบ t. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา:
http://www.watpon.com/spss23/spss4.pdf. สืบค้นเมื่อ วันที่ 30 สิงหาคม 2559.
กิดานันท์ มลิทอง. (2531). เทคโนโลยีการศึกษาร่วมสมัย. กรุงเทพฯ: เอดิสัน เพรส โปรดักส์.
กิดานันท์ มลิทอง. (2540). คุณค่าของสื่อการสอน[ออนไลน์]. แหล่งที่มา: www.st.ac.th/av/
mediavalue.html. สืบค้นเมื่อ วันที่ 30 สิงหาคม 2559.
กิดานันท์ มลิทอง. (2543). เทคโนโลยีการศึกษาและนวัตกรรม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
คาเพียร ปราณีราช. (2542). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเจตคติและความรับผิดชอบต่อการ
เรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้สัญญาการเรียน
กับการสอนตามคู่มือครู. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(มัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิ
โรฒ.
ชนะ กลิ ภ าร์ . (2530). ความจาเป็น ในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนของประเทศไทย. กรุงเทพฯ:
สานักพัฒนเทคนิคการศึกษา.
ชวาล แพรัตกุล. (2546). ความรู้และกการรับรู้. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: บพิธการพิมพ์.
ชัยยงค์ พรหมวงค์. (2539). เอกสารการสอน ชุดวิชาสื่อการสอนระดับประถมศึกษาหน่วยที่ 14.
กรุงเทพฯ : บริษัทโรงพิมพ์สหมิตร จากัด.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2544). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย. กรุงเทพฯ : เทพเนรมิตการพิมพ์.
ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2533). เทคโนโลยีการศึกษา ทฤษฎีบทและการวิจัยฺ. กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์โอเดียน
สโตร์.
นิพนธ์ ศุขปรีดี. (2521). โสตทัศนศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: แพร่พิทยา.
ประภาพร สุ ข พู ล .(2544). การพั ฒ นาแผนการจั ด กิ จ กรรมการเรี ย นรู้ ก ลุ่ ม การงานพื้ น ฐานอาชี พ ชั้ น
ประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง งานประดิษฐ์จากข้าวโพด โดยใช้โครงงาน. รายงานการศึกษาค้นคว้า
อิส ระ กศ.ม. (สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). มหาสารคาม:คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลั ย
มหาสารคาม
ไพรวัลย์ เสนงาม. (2550). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน เรื่องการแก้ปัญหาการบวกและการลบ
สาหรั บนักเรียนที่ มีปัญหาทางการเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ 3 โดยใช้บทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาพิเศษ). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
44

ฟาฏินา วงศ์เลขา. (2010). อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ปัญหาที่ท้าทาย[ออนไลน์]. แหล่งที่มา:


http://social.obec.go.th/node/30. สืบค้นเมื่อ วันที่ 30 สิงหาคม 2559.
มนตรี แย้มกสิกร. (2526). การใช้สื่อการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
วราภรณ์ วราหน. (2556). ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการปั้น
กระดาษ. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วรรณวิภา ค่อยจะโปะ. (2547). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เรื่อง พื้นฐานทางเรขาคณิตกลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(เทคโนโลยีการศึกษา). กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วรรณา พิมพันธุ์. (2553). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ เรื่อง
พื้นฐานทางเรขาคณิต สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การศึกษา
ปฐมวัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วัชรี บูรณสิงห์. (2526). การเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ. วารสารรามคาแหงฉบับพิเศษพัฒนาบุคลากร.
วางแผนวิจัยในชั้นเรียนอย่างไรจึงจะมีความน่าเชื่อถือ. (2555). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา:
http://qa.bu.ac.th/ mail/ KM_reserach6/research.php. สืบค้นเมื่อ วันที่ 30 สิงหาคม 2559.
ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2555). คณิตศาสตร์ปรนัย เล่มที่ 32 โลกเรขาคณิต (เสริมม
ความรู้มุ่งสู่โอลิมปิกคณิตศาสตร์)[ออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.chulabook.com/
description.asp?barcode=9789747539837. สืบค้นเมื่อ วันที่ 30 สิงหาคม 2559.
สมวงษ์ แปลงประสพโชค. (ม.ป.ป.). ความสาคัญของการเรียนการสอนเรขาคณิต[ออนไลน์]. แหล่งที่มา:
http://203.172.205.25/ftp/intranet/mc41/area/gift-math02.htm สืบค้นเมื่อ วันที่ 30
สิงหาคม 2559.
สุนิสา ภู่กัน. (2556). การส่งเสริมทักษะการวาดภาพรูปทรงเรขาคณิตสาหรับเด็กปฐมวัย ของนักเรียน
ระดับชั้นอนุบาล 2/2. วิจัยในชั้นเรียน. นนทบุรี: โรงเรียนกสิณธรเซนต์ปีเตอร์.
สุนีย์นารถ เลี่ยมวัฒนสุธา. (2550). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกเลข
สาหรับเด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การสอนแบบสื่อประสม.
ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การศึกษาพิเศษ). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สุภาพร เทพวิชิต. (2558) รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ค21101 คณิตศาสตร์ หน่วยที่
4. พื้นฐานทางเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1. สุราษฎร์ธานี: โรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุ
ราษฎร์ธานี.
สุวิทย์ มูลคาและคณะ. (2549). การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิด. กรุงเทพฯ: ดวงกมลสมัย
สาลี รักสุทธีและคณะ. (2544). เทคนิควิธีการพัฒนาหลักสูตรแบบบูรณาการ. กรุงเทพฯ : พัฒนศึกษา.
อรสา จังหวัดสุข. (2554). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องโจทย์ปัญหาการแปรผัน
ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนต่า โดยการใช้ชุดกิจกรรมซ่อม
เสริมคณิตศาสตร์ 3. สารนิพนธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลั ย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
45

อัญชนา โพธิพลากร. (2545). การพัฒนาชุดการเรี ยนคณิ ตศาสตร์ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาทาง


คณิตศาสตร์ ด้วยการเรี ยนแบบร่วมมือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การ
มัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
อารีย์ คงสวัสดิ์. (2544). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อในการเรียนคณิตศาสตร์กับผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การวัดผล
การศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Adisak Mahawan. (2558). เรขาคณิต (Geometry)[ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://sites.google.com/a/
web1.dara.ac.th/adisak-eclassroom/sara-na-ru-khnitsastr/12rekhakhnitgeometry
_1120.html สืบค้นเมื่อ วันที่ 30 สิงหาคม 2559.
Dale, Edgar. (1969). Audio – Visual Methods in Teaching. 3rd ed. New York: Holt, Rinehart
and Winston.
Erickson, Carlton W.H.& Curl, David H. (1972). Fundamental of Teaching with Audio Visual
Technology. New York: The Macmillan.
Good, C.V. (1973). Dictionary of Education. New York: McGraw – Hill.
Maddox, Hary. (1963). How to Study. London: Wyman, Ltd.
Prescott, Daniel A. (1961). Report of Conference on Child Study. Educational Bulletin.
Faculty of Education. Bangkok : Chulalongkorn University.
Rawat , D.S. ; & Cupta , S.L. (1970). Education Wastage at the Primary Level. A Handbook For
Teachers. New Delhi : S.K. Kitchula at Nalanda Press.
Wilson, James W. (1971). “Evaluation of Learning in Secondary School Mathematics”
Handbook on Formative and Summative Evaluation of Student Learning. Edited
by Benjation S. Bloom. U.S.A.: Mc Graw – Hill.
46

ภาคผนวก
47

ภาคผนวก ก
- ตารางคะแนนจากแบบทดสอบย่อย
- ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ค่า IOC
- ผลการวิเคราะห์คุณภาพของเครื่องมือจากโปแกรม TAP
- ตารางแสดงผลการทดสอบสมมติฐานด้วยโปรแกรม SPSS
48

ตารางที่ 1 การคิดค่าเฉลี่ยของคะแนนพัฒนาการของกลุ่ม

กลุ่ม ชื่อนักเรียน คะแนนฐาน คะแนน คะแนนพัฒนาการ ค่าเฉลี่ยของคะแนนพัฒนาการ


(ร้อยละ) ทดสอบย่อย 1
(ร้อยละ)
A A1 100 100 30 26
A2 85 90 20 26
A3 80 80 20 26
A4 90 90 20 26
A5 70 70 20 26
B B1 90 90 20 25
B2 70 70 20 25
B3 100 100 30 25
B4 65 70 20 25
B5 75 80 20 25
B6 80 80 20 25
C C1 100 100 30 18
C2 90 80 10 18
C3 80 90 20 18
C4 95 90 10 18
C5 75 80 20 18
D D1 100 100 30 22
D2 65 60 10 22
D3 90 90 20 22
D4 80 90 20 22
D5 100 100 30 22
E E1 95 90 10 16
E2 70 80 20 16
E3 80 70 10 16
E4 100 100 30 16
E5 80 70 10 16
F F1 65 70 20 24
F2 80 80 20 24
F3 100 100 30 24
F4 85 90 20 24
F5 95 100 30 24
49

ตารางที่ 2 ผลคะแนนการคานวณหาค่า IOC จากผู้เชี่ยวชาญ

ระดับความสอดคล้อง

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3
จุดประสงค์ ข้อคาถาม
เฉลี่ย

1. การแก้สมการ 1) ข้อใดเป็นรูปทั่วไปของสมการกาลังสองตัวแปรเดียว +1 +1 +1 1
กาลังสองตัวแปร ก. y  ax  bx  c เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว
2

เดียวได้ ข. ax 2  bx  c  0 เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว


ค. y  ax 2  bx  c เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว และ a
ไม่เท่ากับศูนย์
ง. ax 2  bx  c  0 เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว และ a ไม่
เท่ากับศูนย์
2) สมการ ax 2  bx  c  0 มีคาตอบเป็นจานวนจริง +1 +1 +1 1
เมื่อใด
ก. b2  4ac  0
ข. b2  4ac  0
ค. b2  4ac  0
ง. b2  4ac  0
3) คาตอบของสมการ x 2  6 x  5  0 ตรงกับข้อใด +1 +1 +1 1
ก. 1 และ 5
ข. -1 และ 5
ค. –1 และ -5
ง. 1 และ -5
50

ตารางที่ 2 (ต่อ) ผลคะแนนการคานวณหาค่า IOC จากผู้เชี่ยวชาญ

ระดับความสอดคล้อง

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3
จุดประสงค์ ข้อคาถาม
เฉลี่ย

1. การแก้สมการ 4) จงหาค่าของ x จากสมการ x 2  7 x  10  0 +1 +1 0 0.67


กาลังสองตัวแปร ก. 2 และ 5
เดียวได้ ข. -2 และ 5
ค. –2 และ -5
ง. 2 และ -5
5) -7 เป็นคาตอบของสมการในข้อใด +1 +1 +1 1
ก. 2 x 2  15 x  7  0
ข. 2 x 2  15 x  7  0
ค. x 2  6 x  7  0
ง. x 2  8 x  7  0
6) 2 ไม่เป็นคาตอบของสมการในข้อใด 0 +1 +1 0.67
ก. x 2  4  0
ข. x 2  4 x  4  0
ค. x 2  4 x  4  0
ง. x 2  x  2  0
7) จงแก้สมการหาค่าของ x เมื่อ x 2  8 x  13  0 +1 +1 +1 1
ก. 1  3 ข. 2  3
ค. 3  3 ง. 4  3
8) จงหาค่าของ x จากสมการ +1 +1 0 0.67
9  x  2 2  4  x  1  2  0
3
ก. 3,4 ข. 4,
2
8 4 8
ค. , ง. ,4
3 3 5
51

ตารางที่ 2 (ต่อ) ผลคะแนนการคานวณหาค่า IOC จากผู้เชี่ยวชาญ

ระดับความสอดคล้อง

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3
จุดประสงค์ ข้อคาถาม
เฉลี่ย

1. การแก้สมการ 9) 3  7,3  7 เป็นคาตอบของสมการในข้อใด +1 +1 +1 1


กาลังสองตัวแปร ก. x 2  4 x  3  0
เดียวได้ ข. x 2  6 x  2  0
ค. x 2  6 x  2  0
ง. x 2  3 x  7  0
10) เมื่อ m และ n เป็นคาตอบของสมการ x 2  4 x  3 +1 +1 +1 1
จงหา m  n
ก. 2  7
ข. 2  7
ค. -4
ง. 4
11) จากสมการ ax 2  bx  c  0 เมื่อ a,b,c เป็นค่าคง +1 -1 +1 0.33
ตัว
และ a ไม่เท่ากับศูนย์คาตอบของสมการตรงกับข้อใด
b  b 2  4 ac
ก. x 
2a
b  b2  4 ac
ข. x 
2a
b  b 2  4 ac
ค. x 
4a
b  b2  4 ac
ง. x 
4a
1 +1 +1 0 0.67
12) สมการ 9 x 2  3 x   0 มี ค าตอบทั้ ง หมดกี่
4
คาตอบ
ก. ไม่มีคาตอบ ข. มีเพียงคาตอบเดียว
ค. มีสองคาตอบ ง. ไม่สามารถหาค่าได้
52

ตารางที่ 2 (ต่อ) ผลคะแนนการคานวณหาค่า IOC จากผู้เชี่ยวชาญ

ระดับความสอดคล้อง

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3
จุดประสงค์ ข้อคาถาม
เฉลี่ย

2. แก้โจทย์ปัญหา 13) จงแก้สมการต่อไปนี้โดยใช้สูตร 2 x 2  5 x  3  0 +1 +1 +1 1


เกี่ยวกับสมการกาลัง คาตอบคือข้อใด
สองตัวแปรเดียว 1 2
ก. , 3 ข. , 3
พร้อมทั้งตระหนักถึง 2 3
ความสมเหตุสมผล 1 1
ค. , 2 ง.  , 3
ของคาตอบที่ได้ 2 2
14) สมการข้อใดมีเพียงคาตอบเดียว +1 +1 +1 1
ก. 9 x 2  6 x  2  0
ข. x 2  2 x  0
ค. x 2 9  0
ง. 4 x 2  4 x  1  0
15) จงหาค่า k ที่ทาให้ -2 เป็นคาตอบหนึ่งของสมการ +1 +1 +1 1
k  x 2  1  8 x  1
ก. 5
ข. -2
17
ค. 
3
17
ง.
3
16) คาตอบของสมการ  2 x  7 2  49 คือข้อใด +1 +1 0 0.67
ก. 0 และ 28
ข. 0 และ 7
7 7
ค.  และ
2 2
ง. -14 และ 14
53

ตารางที่ 2 (ต่อ) ผลคะแนนการคานวณหาค่า IOC จากผู้เชี่ยวชาญ

ระดับความสอดคล้อง

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3
จุดประสงค์ ข้อคาถาม
เฉลี่ย

2. แก้โจทย์ปัญหา 17) สมการต่อไปนี้ข้อใดหาค่า x ที่เป็นจานวนจริงไม่ได้ +1 +1 -1 0.33


เกี่ยวกับสมการกาลัง ก. x 2  6 x  7  0
สองตัวแปรเดียว ข. 3 x 2  5 x  4  0
พร้อมทั้งตระหนักถึง ค. 4 x 2  12 x  9  0
ความสมเหตุสมผล ง. 2 x 2  3 x  6  0
ของคาตอบที่ได้ 18) กาลังสองของจานวนเต็มบวกที่เป็นจานวนคู่ติดต่อกัน +1 +1 +1 1
สามจานวนมีค่ารวมกันได้ 980 จงหาผลบวกของจานวนทั้ง
สามจานวน
ก. 54
ข. 56
ค. 58
ง. 60
19) สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปหนึ่งมีพื้นที่ 70 ตารางเซนติเมตร มี +1 +1 +1 1
ด้านยาวยาวกว่าด้านกว้าง 9 เซนติเมตร จงหาความยาว
เส้นรอบรูปของสี่เหลี่ยมรูปนี้
ก. 34 เซนติเมตร
ข. 38 เซนติเมตร
ค. 40 เซนติเมตร
ง. 42 เซนติเมตร
20) อีก 9 ปีข้างหน้า อายุของชายคนหนึ่งจงมีอายุเท่ากับ +1 +1 0 0.67
ก าลั ง สองของอายุ ข องเขาเมื่ อ 11 ปี ล่ ว งมา จงหาอายุ
ปัจจุบันของชายผู้นี้
ก. 6 ปี
ข. 12 ปี
ค. 14 ปี
ง. 16 ปี
54

ตารางที่ 2 (ต่อ) ผลคะแนนการคานวณหาค่า IOC จากผู้เชี่ยวชาญ

ระดับความสอดคล้อง

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2
ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3
จุดประสงค์ ข้อคาถาม
เฉลี่ย

2. แก้โจทย์ปัญหา 21) บัญชาต้องการล้อมรั้วที่ดินแปลงหนึ่ง โดยที่ดินเป็นรูป +1 +1 +1 1


เกี่ยวกับสมการกาลัง สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีพื้นที่ 567 ตารางเมตร ซึ่งด้านหนึ่งติดกับ
สองตัวแปรเดียว แม่น้า (ไม่ต้องล้อมรั้ว) เมื่อด้านที่ติดกับแม่น้ายาวมากกว่า
พร้อมทั้งตระหนักถึง ด้านกว้าง 6 เมตร อยากทราบว่า บัญชาต้องล้อมรั้วอย่าง
ความสมเหตุสมผล น้อยกี่เมตร
ของคาตอบที่ได้ ตอบ 69 เมตร
22) โรงเรียนจิตรลดาต้องการสร้างสระว่ายน้ารูปสี่เหลี่ยม +1 +1 +1 1
มุมฉากที่มีขนาด
กว้าง 8 เมตร ยาว 25 เมตรและให้มีทางเดินรอบสระว่าย
น้าซึ่งปูด้วยกระเบื้อง
ทางเดินมีความกว้างเท่ากันโดยตลอด ถ้าบริเวณที่จะสร้าง
สระว่ายน้ารวมทางเดิน
มีพื้นที่ 434 ตารางเมตร จงหาว่าทางเดินรอบสระว่ายน้า
กว้างเท่าไร
ตอบ 3 เมตร
55

ตารางที่ 3 แปลผลดัชนีความสอดคล้องของข้อคาถาม

คุณลักษณะ ความสอดคล้องกับข้อคาถาม ค่า IOC ข้อคาถามข้อที่


1. การแก้สมการกาลัง 1 1, 2, 3, 5, 7, 9, 10,
สอดคล้อง
สองตัวแปรเดียวได้ 0.67 4, 6, 8, 12
ไม่สอดคล้อง ต่ากว่า 0.67 11
2. แก้โจทย์ปัญหา 13, 14, 15, 17, 18, 19, 21,
1
เกี่ยวกับสมการกาลังสอง สอดคล้อง 22
ตัวแปรเดียว พร้อมทั้ง 0.67 16, 20
ตระหนักถึงความ ไม่สอดคล้อง 17
สมเหตุสมผลของคาตอบที่
ต่ากว่า 0.67
ได้
56

ตารางที่ 4 แสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกาลังสอง

คะแนนแบบทดสอบ คะแนนแบบทดสอบ การประเมินเทียบกับ


นักเรียนคนที่ รวม
ปรนัย อัตนัย เกณฑ์ร้อยละ 75
1 10 4 14 ไม่ผ่านเกณฑ์
2 15 5 20 ผ่านเกณฑ์
3 13 5 18 ผ่านเกณฑ์
4 10 2 12 ไม่ผ่านเกณฑ์
5 15 5 20 ผ่านเกณฑ์
6 11 5 16 ผ่านเกณฑ์
7 12 4 16 ผ่านเกณฑ์
8 15 4 19 ผ่านเกณฑ์
9 11 4 15 ผ่านเกณฑ์
10 13 5 18 ผ่านเกณฑ์
11 11 5 16 ผ่านเกณฑ์
12 13 5 17 ผ่านเกณฑ์
13 13 5 18 ผ่านเกณฑ์
14 11 3 14 ไม่ผ่านเกณฑ์
15 14 3 17 ผ่านเกณฑ์
16 9 3 12 ไม่ผ่านเกณฑ์
17 11 4 15 ผ่านเกณฑ์
18 11 3 14 ไม่ผ่านเกณฑ์
19 12 4 16 ผ่านเกณฑ์
20 15 5 20 ผ่านเกณฑ์
21 7 5 12 ไม่ผ่านเกณฑ์
22 12 4 16 ผ่านเกณฑ์
23 14 3 17 ผ่านเกณฑ์
24 14 4 18 ผ่านเกณฑ์
25 13 3 16 ผ่านเกณฑ์
26 11 4 17 ผ่านเกณฑ์
27 14 5 19 ผ่านเกณฑ์
28 13 4 17 ผ่านเกณฑ์
29 9 4 13 ไม่ผ่านเกณฑ์
30 9 5 14 ไม่ผ่านเกณฑ์
31 10 4 14 ไม่ผ่านเกณฑ์
รวม 11.96774194 4.129032258 16.12903
57

ตารางที่ 5 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง สมการกาลังสอง โดย


การเรียนรู้แบบร่วมมือโดยการเรียนรู้เป็นกลุ่มเพื่อช่วยเหลือเพื่อนเป็นรายบุคคล (Teams Assisted
Individualization: TAI) โดยใช้สถิติ One sample T-test
กลุ่มตัวอย่าง n Z X SD F t*

E 31 20 16.1290 2.34864 2.4573 2.677*


*มีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01
58

ตารางที่ 6 ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อสอบจากกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง
TITLE: TEST 3/1
COMMENT:
***************************************************************************
Examinee Analysis
***************************************************************************

Total Ltr ~68% C.I. ~95% C.I.


ID Score Percent Grade (Raw Score) (Raw Score)
-- ----- ------- ----- ------------- -------------
01 15 100.00% (13.3- 15.0) (11.7- 15.0)
02 4 26.67% ( 2.3- 5.7) ( 0.7- 7.3)
03 8 53.33% ( 6.3- 9.7) ( 4.7- 11.3)
04 9 60.00% ( 7.3- 10.7) ( 5.7- 12.3)
05 8 53.33% ( 6.3- 9.7) ( 4.7- 11.3)
06 10 66.67% ( 8.3- 11.7) ( 6.7- 13.3)
07 10 66.67% ( 8.3- 11.7) ( 6.7- 13.3)
08 5 33.33% ( 3.3- 6.7) ( 1.7- 8.3)
09 13 86.67% (11.3- 14.7) ( 9.7- 15.0)
10 9 60.00% ( 7.3- 10.7) ( 5.7- 12.3)
11 12 80.00% (10.3- 13.7) ( 8.7- 15.0)
12 14 93.33% (12.3- 15.0) (10.7- 15.0)
13 7 46.67% ( 5.3- 8.7) ( 3.7- 10.3)
14 13 86.67% (11.3- 14.7) ( 9.7- 15.0)
15 11 73.33% ( 9.3- 12.7) ( 7.7- 14.3)
16 7 46.67% ( 5.3- 8.7) ( 3.7- 10.3)
17 6 40.00% ( 4.3- 7.7) ( 2.7- 9.3)
18 5 33.33% ( 3.3- 6.7) ( 1.7- 8.3)
19 10 66.67% ( 8.3- 11.7) ( 6.7- 13.3)
20 13 86.67% (11.3- 14.7) ( 9.7- 15.0)
21 12 80.00% (10.3- 13.7) ( 8.7- 15.0)
22 8 53.33% ( 6.3- 9.7) ( 4.7- 11.3)
23 6 40.00% ( 4.3- 7.7) ( 2.7- 9.3)
24 5 33.33% ( 3.3- 6.7) ( 1.7- 8.3)
25 10 66.67% ( 8.3- 11.7) ( 6.7- 13.3)
26 9 60.00% ( 7.3- 10.7) ( 5.7- 12.3)
27 5 33.33% ( 3.3- 6.7) ( 1.7- 8.3)
28 12 80.00% (10.3- 13.7) ( 8.7- 15.0)
29 3 20.00% ( 1.3- 4.7) ( 0.0- 6.3)
30 2 13.33% ( 0.3- 3.7) ( 0.0- 5.3)
31 11 73.33% ( 9.3- 12.7) ( 7.7- 14.3)
32 8 53.33% ( 6.3- 9.7) ( 4.7- 11.3)
33 8 53.33% ( 6.3- 9.7) ( 4.7- 11.3)
34 7 46.67% ( 5.3- 8.7) ( 3.7- 10.3)
==========================================================================
These results have not been sorted (see data editor)
==========================================================================

Number of Examinees = 34
Total Possible Score= 15
Minimum Score = 2.000 = 13.3%
Maximum Score = 15.000 = 100.0%
Median Score = 8.500 = 56.7%
Mean Score = 8.676 = 57.8%
Standard Deviation = 3.224
Variance = 10.395
Skewness = -0.039
Kurtosis = -0.755

===============
Frequency Table
===============

Z Rel. Cum. Cum. Percentile Normalized


59

ตารางที่ 6 (ต่อ) ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อสอบจากกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง


Score Score Freq. Freq. Freq. Percent Rank Stanine Zn Score
----- ----- ----- ----- ----- ------- ---------- ------- ----------
2 -2.07 1 0.029 1 2.94 1.5 1 -2.17
3 -1.76 1 0.029 2 5.88 4.4 2 -1.70
4 -1.45 1 0.029 3 8.82 7.4 2 -1.45
5 -1.14 4 0.118 7 20.59 14.7 3 -1.04
6 -0.83 2 0.059 9 26.47 23.5 4 -0.72
7 -0.52 3 0.088 12 35.29 30.9 4 -0.49
8 -0.21 5 0.147 17 50.00 42.6 5 -0.18
9 0.10 3 0.088 20 58.82 54.4 5 0.11
10 0.41 4 0.118 24 70.59 64.7 6 0.37
11 0.72 2 0.059 26 76.47 73.5 6 0.62
12 1.03 3 0.088 29 85.29 80.9 7 0.87
13 1.34 3 0.088 32 94.12 89.7 8 1.26
14 1.65 1 0.029 33 97.06 95.6 9 1.70
15 1.96 1 0.029 34 100.00 98.5 9 2.17
===== =====
Totals: 34 1.000

=========
Bar Graph
=========

Score Count Graph (each @ represents 1 case)


------- ----- --------------------------------
2.00 1 @
3.00 1 @
4.00 1 @
5.00 4 @@@@
6.00 2 @@
7.00 3 @@@
8.00 5 @@@@@
9.00 3 @@@
10.00 4 @@@@
11.00 2 @@
12.00 3 @@@
13.00 3 @@@
14.00 1 @
15.00 1 @

=====================
Stem-and-Leaf Display
=====================

Stem Leaves (width=10)


---- -----------------
0 . 234
0 . 55556677788888999
1 . 0000112223334
1 . 5
60

ตารางที่ 6 (ต่อ) ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อสอบจากกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง


TITLE: TEST 3/1
COMMENT:
***************************************************************************
Item and Test Analysis
***************************************************************************

Number Item Disc. # Correct # Correct Point Adj.


Item Key Correct Diff. Index in High Grp in Low Grp Biser. Pt Bis
------- ----- ------- ----- ----- ----------- ----------- ------- -------
Item 01 (4 )# 29 0.85 0.11 10 (1.00) 8 (0.89) 0.22 0.11
Item 02 (1 ) 27 0.79 0.34 9 (0.90) 5 (0.56) 0.38 0.26
Item 03 (1 ) 22 0.65 0.79 9 (0.90) 1 (0.11) 0.59 0.48
Item 04 (1 )# 21 0.62 0.26 7 (0.70) 4 (0.44) 0.26 0.11
Item 05 (4 ) 28 0.82 0.56 10 (1.00) 4 (0.44) 0.58 0.49
Item 06 (4 ) 14 0.41 0.70 7 (0.70) 0 (0.00) 0.60 0.49
Item 07 (3 ) 17 0.50 0.58 8 (0.80) 2 (0.22) 0.45 0.31
Item 08 (3 )# 20 0.59 0.46 9 (0.90) 4 (0.44) 0.32 0.18
Item 09 (2 ) 21 0.62 0.58 8 (0.80) 2 (0.22) 0.48 0.36
Item 10 (1 ) 21 0.62 0.68 9 (0.90) 2 (0.22) 0.60 0.49
Item 11 (4 ) 12 0.35 0.59 7 (0.70) 1 (0.11) 0.46 0.33
Item 12 (3 ) 15 0.44 0.58 8 (0.80) 2 (0.22) 0.49 0.36
Item 13 (4 ) 18 0.53 0.58 8 (0.80) 2 (0.22) 0.38 0.24
Item 14 (1 ) 12 0.35 0.70 7 (0.70) 0 (0.00) 0.55 0.44
Item 15 (4 ) 18 0.53 0.56 10 (1.00) 4 (0.44) 0.49 0.36
==========================================================================
# marks potential problems (p<0.2 or p>0.9, D<0.2, pbis<0.2, adjpbis<0.2)
These results have been sorted by item number
==========================================================================

Number of Items Excluded = 0


Number of Items Analyzed = 15
Mean Item Difficulty = 0.578
Mean Item Discrimination = 0.536
Mean Point Biserial = 0.457
Mean Adj. Point Biserial = 0.333
KR20 (Alpha) = 0.731
KR21 = 0.694
SEM (from KR20) = 1.674
# Potential Problem Items = 3
High Grp Min Score (n=10) = 11.000
Low Grp Max Score (n=9) = 6.000

Split-Half (1st/ 2nd) Reliability = 0.373 (with Spearman-Brown = 0.544)


Split-Half (Odd/Even) Reliability = 0.504 (with Spearman-Brown = 0.670)

Minimum Item Diff. = 0.353, Maximum Item Diff. = 0.853


Minimum Disc. Index = 0.111, Maximum Disc. Index = 0.789
Minimum Pt. Biserial = 0.216, Maximum Pt. Biserial = 0.603

To obtain a KR-20 Reliability of .80, the test must be 1.48 times longer,
for a total of 22 items of similar quality to those in the test now.

To obtain a KR-20 Reliability of .90, the test must be 3.32 times longer,
for a total of 50 items of similar quality to those in the test now.
61

ตารางที่ 6 (ต่อ) ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อสอบจากกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง


***************************************************************************
Additional Item Analysis
***************************************************************************

Scale Mean Scale SD KR20 SEM Adjusted


if Item if Item if Item if Item Biserial Biserial
Item Deleted Deleted Deleted Deleted Correl. Correl.
------- ---------- -------- ------- ------- -------- --------
Item 01 7.824 3.167 0.735+ 1.629 0.332 0.166
Item 02 7.882 3.094 0.723 1.628 0.536 0.373
Item 03 8.029 2.965 0.700 1.625 0.764 0.623
Item 04 8.059 3.134 0.740+ 1.597 0.330 0.142
Item 05 7.853 3.021 0.704 1.644 0.847 0.718
Item 06 8.265 2.954 0.699 1.622 0.763 0.622
Item 07 8.176 3.034 0.719 1.608 0.560 0.389
Item 08 8.088 3.100 0.733+ 1.600 0.410 0.225
Item 09 8.059 3.019 0.714 1.614 0.617 0.454
Item 10 8.059 2.960 0.699 1.623 0.760 0.619
Item 11 8.324 3.036 0.717 1.614 0.586 0.420
Item 12 8.235 3.010 0.713 1.612 0.621 0.457
Item 13 8.147 3.069 0.727 1.603 0.477 0.298
Item 14 8.324 2.987 0.705 1.621 0.709 0.560
Item 15 8.147 3.011 0.714 1.611 0.615 0.451
==========================================================================
+ indicates that KR20 (0.731) improves if the item is removed

Mean Biserial Correlation = 0.595


Minimum Biserial Corr. = 0.330
Maximum Biserial Corr. = 0.847

***************************************************************************
Answer Key Analysis
***************************************************************************
==================================
Bar Chart for Correct Answer Usage
==================================

Answer Key Count Graph (each @ represents 1 case)


---------- ----- --------------------------------
Option 1/A 5 @@@@@
Option 2/B 1 @
Option 3/C 3 @@@
Option 4/D 6 @@@@@@

=====================================
Bar Chart for Number of Options Usage
=====================================

# Options Count Graph (each @ represents 1 case)


--------- ----- --------------------------------
2 Options 0
3 Options 0
4 Options 15 @@@@@@@@@@@@@@@
62

ตารางที่ 6 (ต่อ) ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อสอบจากกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง


************************************************************
Item Included, Answer Key, Additional Correct Options
************************************************************
===============
ITEMS INCLUDED:
===============
1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15

===============
ITEMS EXCLUDED:
===============
No Items were EXCLUDED from the analysis

============================
CORRECT ANSWERS (Item#-Key):
============================
# 1-4 # 2-1 # 3-1 # 4-1 # 5-4 # 6-4 # 7-3 # 8-3 # 9-2 #10-1
#11-4 #12-3 #13-4 #14-1 #15-4
63

ตารางที่ 6 (ต่อ) ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อสอบจากกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง


TITLE: TEST 3/1
***************************************************************************
Options Analysis
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Item Frequencies and Percentages -- page1
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
* is keyed answer, # is option that discriminates better than keyed answer

Item Group Option 1 Option 2 Option 3 Option 4


---- ----- ------------ ------------ ------------ ------------
1 TOTAL 0 (0.000) 2 (0.059) 3 (0.088) 29*(0.853)
High 0 (0.000) 0 (0.000) 0 (0.000) 10 (1.000)
Low 0 (0.000) 1 (0.111) 0 (0.000) 8 (0.889)
Diff 0 (0.000) -1(-0.111) 0 (0.000) 2 (0.111)

2 TOTAL 27*(0.794) 4 (0.118) 2 (0.059) 1 (0.029)


High 9 (0.900) 1 (0.100) 0 (0.000) 0 (0.000)
Low 5 (0.556) 1 (0.111) 2 (0.222) 1 (0.111)
Diff 4 (0.344) 0(-0.011) -2(-0.222) -1(-0.111)

3 TOTAL 22*(0.647) 3 (0.088) 9 (0.265) 0 (0.000)


High 9 (0.900) 0 (0.000) 1 (0.100) 0 (0.000)
Low 1 (0.111) 3 (0.333) 5 (0.556) 0 (0.000)
Diff 8 (0.789) -3(-0.333) -4(-0.456) 0 (0.000)

4 TOTAL 21*(0.618) 4 (0.118) 6 (0.176) 3 (0.088)


High 7 (0.700) 1 (0.100) 2 (0.200) 0 (0.000)
Low 4 (0.444) 2 (0.222) 0 (0.000) 3 (0.333)
Diff 3 (0.256) -1(-0.122) 2 (0.200) -3(-0.333)

5 TOTAL 0 (0.000) 4 (0.118) 2 (0.059) 28*(0.824)


High 0 (0.000) 0 (0.000) 0 (0.000) 10 (1.000)
Low 0 (0.000) 3 (0.333) 2 (0.222) 4 (0.444)
Diff 0 (0.000) -3(-0.333) -2(-0.222) 6 (0.556)

6 TOTAL 8 (0.235) 8 (0.235) 4 (0.118) 14*(0.412)


High 1 (0.100) 2 (0.200) 0 (0.000) 7 (0.700)
Low 5 (0.556) 2 (0.222) 2 (0.222) 0 (0.000)
Diff -4(-0.456) 0(-0.022) -2(-0.222) 7 (0.700)

7 TOTAL 9 (0.265) 3 (0.088) 17*(0.500) 5 (0.147)


High 1 (0.100) 0 (0.000) 8 (0.800) 1 (0.100)
Low 4 (0.444) 2 (0.222) 2 (0.222) 1 (0.111)
Diff -3(-0.344) -2(-0.222) 6 (0.578) 0(-0.011)

8 TOTAL 8 (0.235) 3 (0.088) 20*(0.588) 3 (0.088)


High 1 (0.100) 0 (0.000) 9 (0.900) 0 (0.000)
Low 3 (0.333) 1 (0.111) 4 (0.444) 1 (0.111)
Diff -2(-0.233) -1(-0.111) 5 (0.456) -1(-0.111)

9 TOTAL 3 (0.088) 21*(0.618) 3 (0.088) 7 (0.206)


High 0 (0.000) 8 (0.800) 2 (0.200) 0 (0.000)
Low 2 (0.222) 2 (0.222) 1 (0.111) 4 (0.444)
Diff -2(-0.222) 6 (0.578) 1 (0.089) -4(-0.444)

10 TOTAL 21*(0.618) 5 (0.147) 5 (0.147) 3 (0.088)


High 9 (0.900) 1 (0.100) 0 (0.000) 0 (0.000)
Low 2 (0.222) 3 (0.333) 3 (0.333) 1 (0.111)
Diff 7 (0.678) -2(-0.233) -3(-0.333) -1(-0.111)
64

ตารางที่ 6 (ต่อ) ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อสอบจากกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง


TITLE: TEST 3/1
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Item Frequencies and Percentages -- page2
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
* is keyed answer, # is option that discriminates better than keyed answer

Item Group Option 1 Option 2 Option 3 Option 4


---- ----- ------------ ------------ ------------ ------------
11 TOTAL 2 (0.059) 12 (0.353) 8 (0.235) 12*(0.353)
High 0 (0.000) 3 (0.300) 0 (0.000) 7 (0.700)
Low 2 (0.222) 1 (0.111) 5 (0.556) 1 (0.111)
Diff -2(-0.222) 2 (0.189) -5(-0.556) 6 (0.589)

12 TOTAL 8 (0.235) 6 (0.176) 15*(0.441) 5 (0.147)


High 2 (0.200) 0 (0.000) 8 (0.800) 0 (0.000)
Low 3 (0.333) 1 (0.111) 2 (0.222) 3 (0.333)
Diff -1(-0.133) -1(-0.111) 6 (0.578) -3(-0.333)

13 TOTAL 4 (0.118) 8 (0.235) 4 (0.118) 18*(0.529)


High 0 (0.000) 2 (0.200) 0 (0.000) 8 (0.800)
Low 2 (0.222) 3 (0.333) 2 (0.222) 2 (0.222)
Diff -2(-0.222) -1(-0.133) -2(-0.222) 6 (0.578)

14 TOTAL 12*(0.353) 10 (0.294) 7 (0.206) 5 (0.147)


High 7 (0.700) 1 (0.100) 1 (0.100) 1 (0.100)
Low 0 (0.000) 6 (0.667) 3 (0.333) 0 (0.000)
Diff 7 (0.700) -5(-0.567) -2(-0.233) 1 (0.100)

15 TOTAL 2 (0.059) 6 (0.176) 8 (0.235) 18*(0.529)


High 0 (0.000) 0 (0.000) 0 (0.000) 10 (1.000)
Low 0 (0.000) 1 (0.111) 4 (0.444) 4 (0.444)
Diff 0 (0.000) -1(-0.111) -4(-0.444) 6 (0.556)
65

ตารางที่ 7 ตารางแสดงค่าสถิติพื้นฐาน จาก โปรแกรม SPSS


One-Sample Statistics

N Mean Std. Deviation Std. Error Mean

score 31 16.1290 2.34864 .42183

ตารางที่ 8 ตารางแสดง T-test for Independent Samples Test จาก โปรแกรม SPSS
One-Sample Test

Test Value = 0

95% Confidence Interval of the


Difference

t df Sig. (2-tailed) Mean Difference Lower Upper

score 38.236 30 .000 16.12903 15.2675 16.9905


66

ตารางที่ 9 แสดงการแจกแจง t
67

ภาคผนวก ข
1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง ทบทวนสมการกาลังสอง
2. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร
3. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 เรื่อง โจทย์ปัญหาสมการกาลังสอง
68

โรงเรียนจิตรลดา
แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
แผนการเรียนรู้ที่ 11 สัปดาห์ที่ 11 ระหว่างวันที่ 7 ถึง 11 สิงหาคม พ.ศ.2560
รหัสวิชา ค 23201 ชื่อวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 5
เรื่อง ทบทวนสมการกาลังสอง เวลาที่ใช้สอน 2 คาบ
ครูผู้สอน นายธรรมนูญ โพธิ์ตุ่น
___________________________________________________________________________
หัวข้อ
สมการกาลังสอง
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถหาผลลัพธ์ของสมการกาลังสองที่กาหนดให้ได้
2. เพื่อให้นักเรียนใช้ทักษะในการแยกตัวประกอบพหุนามกาลังสองในการแก้สมการกาลังสองได้
3. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
สาระสาคัญ
สมการกาลังสองตัวแปรเดียวมีรูปแบบทั่วไปเป็น ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
เนื้อหา
สมการกาลังสอง (quadratic equations) คือ สมการของพหุนามตัวแปรเดียวที่มีดีกรีเท่ากับ 2
บางครั้งเรียกสมการกาลังสองว่า สมการดีกรีสอง รูปแบบทั่วไปของสมการกาลังสอง คือ
ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
การแก้สมการกาลังสอง หมายถึง การคานวณเพื่อหาค่าของตัวแปร ซึ่งจะได้ค่าตัวแปร 2 ค่า โดยค่า
ทั้งสองอาจเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ค่าของตัวแปรที่ได้บางครั้งเรียกว่า รากของสมการ หรือ คาตอบของ
สมการ
วิธีแก้สมการกาลังสอง ก่อนที่จะทาการคานวณหาค่าตัวแปรของสมการกาลังสอง ให้จัดขวามือของ
เครื่องหมายเท่ากับให้เป็น 0 แล้วการคานวณจะมีได้ 3 วิธี คือ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีใช้สูตร
1.การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ
ทาได้โดยการแยกตัวประกอบ (factors) แล้วใช้หลักว่า เมื่อผลคูณของตัวประกอบเป็น 0 (ขวามือขอ
เครื่องหมายเท่ากับ) แสดงว่า ตัวประกอบบางตัวเป็น 0 หรือทุกตัวประกอบเป็น 0
ถ้า m, n เป็นจานวนจริง และ mn  0 แล้ว m  0 หรือ n  0
69

ตัวอย่างที่ 8.1 จงแก้สมการ 8 x 2  2 x  3


วิธีทา จัดขวามือของเครื่องหมายเท่ากับให้เป็น
8x2  2x  3  0
(4 x  3)(2 x  1)  0
ดังนั้น 4 x  3  0 หรือ 2 x  1  0
3 1
จะได้ x  หรือ x  
4 2
3
ตรวจสอบ 1) แทน x ด้วย ในสมการ 8 x 2  2 x  3
4

 
2
3 3
จะได้ 8 2 3
4 4

 9
8   
 16  2
3
3
93
 3 เป็นสมการที่เป็นจริง
2
1
2) แทน x ด้วย  ในสมการ 8 x 2  2 x  3
2

   
2
1 1
จะได้ 8   2   3
2 2

 8
1
4
1 3
2  1  3 เป็นสมการที่เป็นจริง
3 1
ดังนั้น และ  เป็นคาตอบของสมการ 8 x 2  2 x  3
4 2
3 1
ตอบ และ 
4 2
1
ตัวอย่างที่ 8.2 จงแก้สมการ y 2  y  2
6
1
วิธีทา จัดสมการใหม่ได้เป็น y 2  y  2  0
6
นา 6 มาคูณทั้งสองข้างของสมการ จะได้
6 y 2  y  12  0
(3 y  4)(2 y  3)  0
ดังนั้น (3 y  4)  0 หรือ (2 y  3)  0
4 3
จะได้ y   หรือ y 
3 2
70

4 1
ตรวจสอบ 1) แทน y ด้วย  ในสมการ y 2  y  2
3 6

   
2
4 1 4
จะได้     2
3 6 3
16 2
  2 เป็นสมการที่เป็นจริง
9 9
3 1
2) แทน y ด้วย ในสมการ y 2  y  2
2 6

 
2
3 1 3
จะได้  2
2 6 2
9 1
  2 เป็นสมการที่เป็นจริง
4 4
4 3 1
ดังนั้น  และ เป็นคาตอบของสมการ y 2  y  2
3 2 6
4 3
ตอบ  และ
3 2
ตัวอย่างที่ 8.3 จงแก้สมการ 2a2  5  0
วิธีทา 2a 2  5  0
1 5
นา คูณ ตลอดสมการ; a 2   0
2 2
5
ดังนั้น a2  
2
เนื่องจาก จานวนจริงใดๆยกกาลังสองแล้วจะต้องเป็นจานวนจริงบวกหรือ 0
5
ดังนั้น ไม่มีจานวนจริงใดยกกาลังสอง แล้ว ได้ผลลัพธ์เป็น 
2
นั่นคือ สมการ 2a  5  0 ไม่มีคาตอบ
2

ตอบ ไม่มีคาตอบ
ตัวอย่างที่ 8.4 จงแก้สมการ x 2  18
วิธีทา จัดสมการใหม่ได้เป็น x 2  18  0
จะได้ ( x  3 2)( x  3 2)  0
ดังนั้น  x  3 2   0 หรือ  x  3 2   0
จะได้ x  3 2 หรือ x  3 2
ตรวจสอบ 1) แทน x ด้วย 3 2 ในสมการ x 2  18
จะได้  3 2   18 เป็นสมการที่เป็นจริง
2

2) แทน x ด้วย 3 2 ในสมการ x 2  18


71

 
จะได้ 3 2 2  18 เป็นสมการที่เป็นจริง
ดังนั้น 3 2 และ 3 2 เป็นคาตอบของสมการ x 2  18
ตอบ 3 2 และ 3 2

2.การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์
ในการหาตอบของสมการ ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0 นั้นใน
บางครั้งไม่สามารถแยกตัวประกอบของพหุนาม ax 2  bx  c  0 ได้โดยง่ายดังนั้นเราจึงใช้คามรู้เรื่องกาลัง
สองสมบูรณ์ และผลต่างกาลังสองมาช่วยในการแยกตัวประกอบพหุนามนั้น
พิจารณาการแก้สมการ ax 2  bx  c  0 ในกรณีที่ a  1 ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 8.5 จงแก้สมการ x2  2x  5  0
วิธีทา x2  2 x  5  0
 x2  2 1 x  12  12  5  0
 x  1  6  0
2

 x  1  6  0
2

2

 x 1 6  x  1  6   0

ดังนั้น  x  1  6   0 หรือ  x  1  6   0
จะได้ หรือ
x  1  6 x  1  6
ตรวจสอบ 1) แทน x ด้วย ในสมการ x2  2x  5  0
1  6
จะได้  1  6     
2
 2 1  6  5  1  2 6  6  2  2 6  5
7 25 2 6 2 6  0 เป็นสมการที่เป็นจริง
2) แทน x ด้วย ในสมการ x  2x  5  0
2

1  6
จะได้  1  6     
2
 2 1  6  5  1  2 6  6  2  2 6  5
7 252 6  2 6  0 เป็นสมการที่เป็นจริง
ดังนั้น และ เป็นคาตอบของสมการ x2  2x  5  0
1  6 1  6
ตอบ และ
1  6 1  6
72

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนา (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
1. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับการแยกตัวประกอบพหุนามโดยการแยกสองวงเล็บและโดยการใช้วิธีทาเป็นกาลัง
สมบูรณ์ 1-2 ตัวอย่าง
2. ครูนาตัวอย่างที่แสดงไปข้างต้นมาจัดรูปใหม่เป็นสมการกาลังสองแล้วให้นักเรียนลองหาคาตอบของสมการ
กาลังสอง

ขั้นสอน (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที)


1. ครูแจกเอกสารแนะแนวทางที่ 8 พร้อมทั้งให้นักเรียนศึกษาเอกสารแนะแนวทางด้วยตนเอง
2. ครูอธิบายความหมายของสมการกาลังสองพร้อมทั้งวิธีการแก้สมการกาลังสองจากตัวอย่างที่ 8.1 ดังนี้
1) สมการกาลังสองมีความหมายว่าอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า สมการกาลังสองตัวแปรเดียวมีรูปแบบทั่วไปเป็น
ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0 ]
2) จากตัวอย่างที่ 8.1 นักเรียนจะแก้สมการกาลังสองอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า จัดขวามือของเครื่องหมายเท่ากับให้เป็น
3) เมื่อจัดรูปให้ด้านขวามือเท่ากับศูนย์แล้วนักเรียนต้องทาอย่างไรต่อไป
[นักเรียนควรตอบว่า แยกเป็นสองวงเล็บคือ (4 x  3)(2 x  1)  0 ]
4) หลังจากนั้นควรทาอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า จับแต่ละวงเล็บไปเท่ากับศูนย์ 4 x  3  0 หรือ 2 x  1  0 ]
5) ขั้นตอนสุดท้ายนักเรียนควรทาอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า ตรวจสอบคาตอบโดยการแทนค่าลงในสมการข้างต้น]
3. ครูให้นักเรียนทาตัวอย่างที่ 8.2 และ 8.3 ด้วยตนเอง
4. ครูอธิบายการแก้สมการกาลังสองโดยวิธีการทาเป็นกาลังสองสมบูรณ์พร้อมยกตัวอย่างที่ 8.4
5. ครูแจกใบกิจกรรมที่ 9 ให้นักเรียนร่วมกันทาเป็นกลุ่ม
6. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมและสรุปสิ่งที่ได้จากการทากิจกรรม
7. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบย่อยจานวน 1 ข้อ 5 คะแนน เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนและหา
แนวทางในการจัดการเรียนการสอนต่อไป

ขั้นสรุป (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)


1. ครูถามนักเรียนถึงสิ่งที่ได้เรียนไปคาบนี้ โดยใช้ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนดังนี้
1) คาบนี้นักเรียนเรียนเรื่องอะไร
[นักเรียนควรตอบว่า การแก้สมการกาลังสองโดยการแยกตัวประกอบและโดยการใช้วิธีทา
เป็นกาลังสมบูรณ์]
2) การแก้สมการกาลังสองโดยการแยกตัวประกอบต้องทาอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า ใช้การแยกสองวงเล็บเหมือนในเนื้อหา ม.2]
73

3) การแก้สมการกาลังสองโดยการใช้วิธีทาเป็นกาลังสมบูรณ์ต้องใช้เมื่อใด
[นักเรียนควรตอบว่า เมื่อไม่สามารถจัดให้เป็นสองวงเล็บได้ โดยใช้ความรู้จากการแยกตัว
ประกอบพหุนามดีกรีสองในการแยกตัวประกอบ]
4) เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคาตอบที่ได้เป็นคาตอบของสมการ
[นักเรียนควรตอบว่า นาคาตอบที่ได้ไปแทนค่าในสมการกาลังสองซึ่งเป็นการตรวจคาตอบ]
2. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด 3.1 และ 3.2ก ส่งในครั้งถัดไป

สื่อการเรียนรู้ /เอกสารอ้างอิง
1. เอกสารแนะแนวทางที่ 8 เรื่อง สมการกาลังสอง
2. ใบงานที่ 9 เรื่อง สมการกาลังสอง
3. ใบกิจกรรมที่ 9 เรื่อง สมการกาลังสอง

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ในคาบนี้ มีดังนี้
จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล
ที่ต้องการวัดผลและประเมินผล
ด้านความรู้ทางคณิตศาสตร์ : วิธีวัดผล : พิจารณาจาก วิธีทาในใบงานที่ 7
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถหาผลลัพธ์ของ คาตอบใน “ใบงานที่ 9” ถ้า นักเรียน หาคาตอบได้ถูกต้อง
สมการกาลังสองที่กาหนดให้ได้ เครื่องมือวัดผล : จะได้ 1 คะแนน
ใบงานที่ 9 จานวน 10 ข้อ ถ้า นักเรียน หาคาตอบไม่ถูกต้อง
จะได้ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล : ถ้า นักเรียนได้คะแนน
7 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์

ด้านทักษะและกระบวนการทาง วิธีวัดผล : พิจารณาจาก วิธีทาในแบบฝึกหัด


คณิตศาสตร์ : “แบบฝึกหัด 3.1” และ นักเรียน แสดงวิธีทาได้ถูกต้องทุกขั้นตอนและ
1. เพื่อให้นักเรียนใช้ทักษะในการแยกตัว “แบบฝึกหัด 3.2ก” คาตอบถูกต้อง จะได้ 2 คะแนน
ประกอบพหุนามกาลังสองในการแก้ เครื่องมือวัดผล : ถ้า นักเรียน แสดงวิธีทาได้แต่คาตอบไม่ถูกต้อง
สมการกาลังสองได้ แบบฝึกหัด 3.1 จานวน 8 ข้อ จะได้ 1 คะแนน
แบบฝึกหัด 3.2ก จานวน 10 ถ้า นักเรียน ไม่แสดงวิธีทาและคาตอบไม่ถูกต้อง
ข้อ จะได้ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล : ถ้า นักเรียนได้คะแนน
27 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
74

จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล


ที่ต้องการวัดผลและประเมินผล
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : วิธีวัดผล : เกณฑ์การให้คะแนน :
1. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ พิจารณาจาก ”พฤติกรรมใน ในแต่ละข้อของแบบสังเกตพฤติกรรม
งานที่ได้รับมอบหมาย ชั้นเรียนและการแสดงออกของ ถ้า นักเรียน แสดงออกให้เห็นอย่างเด่นชัด
นักเรียนขณะทางานที่ได้รับ จะได้ คะแนน 2 คะแนน
มอบหมาย”
ถ้า นักเรียนแสดงออกให้เห็นเพียงเล็กน้อย
เครื่องมือวัดผล :
จะได้ คะแนน 1 คะแนน
แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน
ถ้า นักเรียน ไม่แสดงออกเลย
จะได้ คะแนน 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล :ถ้า นักเรียนได้คะแนน
มากกว่า 8 คะแนนถือว่าผ่านเกณฑ์
75

บันทึกหลังการสอน

ผลการจัดการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ปัญหาแนวทางแก้ไขและพัฒนา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................. ................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

.........................................................................
(นายธรรมนูญ โพธิ์ตุ่น)
ครูผู้สอน
…..……/…………../…………….

ตรวจแล้ว ตรวจแล้ว

......................................................................... .........................................................................
(นางสาวปิยะวดี แสงคาสุข) (นางสาวเบ็ญจมาศ ยืนยง)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้าแผนกมัธยมศึกษาตอนต้น
…..……/…………../……………. …………/…………../…………….

อนุมัติ

.........................................................................
(นางสาวจรินทร์ทิพย์ วรกิจสวัสดิ์)
รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ ระดับมัธยมศึกษา
…………/…………../…………….
76

โรงเรียนจิตรลดา
แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
แผนการเรียนรู้ที่ 12 สัปดาห์ที่ 12 ระหว่างวันที่ 14 ถึง 18 สิงหาคม พ.ศ.2560
รหัสวิชา ค 23201 ชื่อวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 5
เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร เวลาที่ใช้สอน 2 คาบ
ครูผู้สอน นายธรรมนูญ โพธิ์ตุ่น
___________________________________________________________________________
หัวข้อ
การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร
จุดประสงค์การเรียนรู้
3. เพื่อให้นักเรียนสามารถหาผลลัพธ์ของสมการกาลังสองโดยใช้สูตรได้
4. เพื่อให้นักเรียนใช้ทักษะในการแยกตัวประกอบพหุนามกาลังสองในการแก้สมการกาลังสองได้
3. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
สาระสาคัญ
สมการกาลังสองตัวแปรเดียวมีรูปแบบทั่วไปเป็น ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะมีคาตอบของสมการเป็นจานวนจริง
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะไม่มีคาตอบของสมการที่เป็นจานวนจริง

เนื้อหา
สมการกาลังสอง (quadratic equations) คือ สมการของพหุนามตัวแปรเดียวที่มีดีกรีเท่ากับ 2
บางครั้งเรียกสมการกาลังสองว่า สมการดีกรีสอง รูปแบบทั่วไปของสมการกาลังสอง คือ
ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
การแก้สมการกาลังสอง หมายถึง การคานวณเพื่อหาค่าของตัวแปร ซึ่งจะได้ค่าตัวแปร 2 ค่า โดยค่า
ทั้งสองอาจเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ค่าของตัวแปรที่ได้บางครั้งเรียกว่า รากของสมการ หรือ คาตอบของ
สมการ
วิธีแก้สมการกาลังสอง ก่อนที่จะทาการคานวณหาค่าตัวแปรของสมการกาลังสอง ให้จัดขวามือของ
เครื่องหมายเท่ากับให้เป็น 0 แล้วการคานวณจะมีได้ 3 วิธี คือ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีใช้สูตร
77

3.การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีการใช้สูตร
ตัวอย่างที่ 9.1 จงแก้สมการ ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
b c
วิธีทา a[ x 2  x  ]  0
a a
 2 b  b   c  b 2 2
นา a หารตลอดสมการ ;  x  x          0
 a  2a   a  2a 
2 2
 x   b    4 ac  b  0
  2a   4 a 2 4 a 2
2
 x   b     b  4 ac   0
2

  2a    4 a 2 
2
x   b 2
 b 2
 4 ac 
 2a   2  0
 4 a 
2

 x  b   b  4 ac  0
2 2 
 2a   2a 
 
 b b2  4 ac   b b 2  4 ac 
x   x   0
 2 a 2 a  2 a 2 a 
b b2  4 ac b b2  4 ac
จะได้ x    0 หรือ x   0
2a 2a 2a 2a
b  b2  4 ac b  b2  4 ac
x หรือ x 
2a 2a
b  b 2  4 ac b  b 2  4 ac
ดังนั้น และ เป็นคาตอบของสมการ เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว
2a 2a
และ a  0

ข้อสรุปเกี่ยวกับคาตอบของสมการกาลังสอง
สมการกาลังสองตัวแปรเดียวมีรูปแบบทั่วไปเป็น ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว
และ a  0
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะมีคาตอบของสมการเป็นจานวนจริง
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะไม่มีคาตอบของสมการที่เป็นจานวนจริง
78

ตัวอย่างที่ 9.2 จงหาว่าสมการต่อไปนี้มีคาตอบหรือไม่ ถ้ามี มีกี่คาตอบ


1
1) 2 x 2  4 x  5  0 2) 9m2  3m   0 3) 6 x 2  2 x  3  0
4
วิธีทา 1) จากโจทย์ a  2, b  4, c  5
พิจารณา b2  4ac   4 2  4  2  5 
 16  40
 24  0
ดังนั้น สมการไม่มีคาตอบเป็นจานวนจริง
1
2) จากโจทย์ a  9, b  3, c 
4
พิจารณา b2  4 ac   3 2  4  9  
1
4
99
0
ดังนั้น สมการมีเพียงคาตอบเดียวเท่านั้น
3) จากโจทย์ a  6, b  2, c  3
พิจารณา b2  4ac   2 2  4  6  3 
 4  72
 76  0
ดังนั้น สมการมีสองคาตอบคาตอบ
ตัวอย่างที่ 9.3 จงแก้สมการต่อไปนี้
1
1) 2 x 2  4 x  5  0 2) 9m2  3m   0 3) 6 x 2  2 x  3  0
4
วิธีทา 1) จากโจทย์ a  2, b  4, c  5
b  b2  4 ac
จากสูตร x 
2a
พิจารณา b  4ac   4 2  4  2  5 
2

 16  40
 24  0
ดังนั้น สมการไม่มีคาตอบเป็นจานวนจริง
1
2) จากโจทย์ a  9, b  3, c 
4
b  b2  4 ac
จากสูตร m 
2a
พิจารณา b2  4 ac   3 2  4  9  
1
4
79

99
0
  3   0
จะได้ m 
29
3

18
1

6
1
ดังนั้น เป็นคาตอบของสมการ
6
3) จากโจทย์ a  6, b  2, c  3
b  b2  4 ac
จากสูตร x 
2a
พิจารณา b  4ac   2 2  4  6  3 
2

 4  72
 76  0
  2   76
จะได้ x 
26
2  2 19 2  2 19
x หรือ x 
12 12
2  2 19 2  2 19
ดังนั้น และ เป็นคาตอบของสมการ
12 12
ตัวอย่างที่ 9.4 จงแก้สมการ y 2  2 y  13  0
วิธีทา จากโจทย์ a  1, b  2, c  13
b  b 2  4 ac
จากสูตร y 
2a
พิจารณา b  4ac   2 2  4 1 13 
2

 4  52
 56  0
  2   56
จะได้ y 
2  1
2  2 14 2  2 14
y หรือ y 
2 2
ดังนั้น 1  14 และ 1  14 เป็นคาตอบของสมการ
80

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนา (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
1. ครูให้นักเรียนอธิบายความหมายของพหุนาม สมการ สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวและสมการกาลังสองตัว
แปรเดียว เพื่อทาให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้นในการแก้สมการกาลังสอง
2. ครูทบทวนรูปทั่วไปของสมการกาลังสองและวิธีการหาคาตอบ
1) สมการกาลังสองมีความหมายว่าอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า สมการกาลังสองตัวแปรเดียวมีรูปแบบทั่วไปเป็น
ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0 ]
ขั้นสอน (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที)
1. ครูแจกเอกสารแนะแนวทางที่ 9 พร้อมทั้งให้นักเรียนศึกษาเอกสารแนะแนวทางด้วยตนเอง
2. ครูอธิบายที่มาของสูตรที่ใช้ในการแก้สมการกาลังสองโดยการยกตัวอย่างพร้อมให้นักเรียนจดตาม บน
กระดาน เพื่อให้นักเรียนรู้ที่มาของสูตรก่อนนาไปใช้จริง
3. ครูให้นักเรียนสรุปเงื่อนไขจานวนที่อยู่ภายใต้กรณฑ์ที่สอง
4. ครูยกตัวอย่างการแก้สมการกาลังสองโดยวิธีสูตร โดยยกตัวอย่างที่ 9.2 ที่มี b2  4ac  0 แล้วจะมี
คาตอบของสมการเป็นจานวนจริง แล้วยกตัวอย่างที่ 9.3 ที่มี b2  4ac  0 แล้วจะไม่มีคาตอบของสมการ
ที่เป็นจานวนจริง เพื่อให้นักเรียนเห็นแนวทางในการนาสูตรไปใช้ในการแก้สมการ
5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบงานที่ 10 พร้อมเฉลยร่วมกัน
6. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาจากตัวอย่างที่ 9.4 และตัวอย่างที่ 9.5 ดังนี้
1) ก่อนลงมือทาโจทย์ปัญหานักเรียนควรทาอะไร
[นักเรียนควรตอบว่า อ่านโจทย์แล้วดูว่าโจทย์ให้อะไรมาบ้าง]
2) หลังจากนั้นนักเรียนควรทาอะไร
[นักเรียนควรตอบว่า กาหนดตัวแปรพร้อมระบุสิ่งที่โจทย์ต้องการหา]
3) เมื่อกาหนดตัวแปรได้แล้วนักเรียนต้องทาอะไร
[นักเรียนควรตอบว่า ตั้งสมการจากสิ่งที่โจทย์กาหนดแล้วแก้สมการ]
4) ผลลัพธ์จากสมการคืออะไร
[นักเรียนควรตอบว่า สิ่งที่โจทย์ต้องการหา]
7. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบย่อยจานวน 1 ข้อ 5 คะแนน เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของผูเ้ รียนและหาแนวทางในการ
จัดการเรียนการสอนต่อไป
ขั้นสรุป (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)
1. ครูถามนักเรียนถึงสิ่งที่ได้เรียนไปคาบนี้ โดยใช้ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนดังนี้
1) ก่อนนักเรียนจะใช้สูตรนักเรียนควรทาสิ่งใดก่อน
[นักเรียนควรตอบว่า ดูว่าสมการกาหนดให้อะไรมาบ้าง พิจารณาถ้า b2  4ac  0 แล้ว
จะมีคาตอบของสมการเป็นจานวนจริง และถ้า b2  4ac  0 แล้วจะไม่มีคาตอบของ
สมการที่เป็นจานวนจริง หลังจากนั้นจึงแทนค่าในสูตร]
81

2) ในการแก้โจทย์ปัญหานักเรียนควรทาอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า อ่านโจทย์แล้วดูว่าโจทย์ให้อะไรมาบ้าง
กาหนดตัวแปรพร้อมระบุสิ่งที่โจทย์ต้องการหาและตั้งสมการจากสิ่งที่โจทย์กาหนดแล้วแก้
สมการ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นสิ่งที่โจทย์ต้องการหา]
2. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด 3.2ข และ 3.3 ส่งในครั้งถัดไป

สื่อการเรียนรู้ /เอกสารอ้างอิง
1. เอกสารแนะแนวทางที่ 9 เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร
2. ใบงานที่ 10 เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร
3. ใบกิจกรรมที่ 8 เรื่อง คานี้มีความหมาย

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ในคาบนี้ มีดังนี้
จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล
ที่ต้องการวัดผลและประเมินผล
ด้านความรู้ทางคณิตศาสตร์ : วิธีวัดผล : พิจารณาจาก วิธีทาในใบงานที่ 7
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถหาผลลัพธ์ของ คาตอบใน “ใบงานที่ 10” ถ้า นักเรียน หาคาตอบได้ถูกต้อง
สมการกาลังสองโดยใช้สูตรได้ เครื่องมือวัดผล : จะได้ 1 คะแนน
ใบงานที่ 10 จานวน 8 ข้อ ถ้า นักเรียน หาคาตอบไม่ถูกต้อง
จะได้ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล : ถ้า นักเรียนได้คะแนน
6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์

ด้านทักษะและกระบวนการทาง วิธีวัดผล : พิจารณาจาก วิธีทาในแบบฝึกหัด


คณิตศาสตร์ : “แบบฝึกหัด 3.2ข” และ นักเรียน แสดงวิธีทาได้ถูกต้องทุกขั้นตอนและ
1. เพื่อให้นักเรียนใช้ทักษะในการแยกตัว “แบบฝึกหัด 3.3” คาตอบถูกต้อง จะได้ 2 คะแนน
ประกอบพหุนามกาลังสองในการแก้ เครื่องมือวัดผล : ถ้า นักเรียน แสดงวิธีทาได้แต่คาตอบไม่ถูกต้อง
สมการกาลังสองได้ แบบฝึกหัด 3.2ข จานวน 10 จะได้ 1 คะแนน
ข้อ ถ้า นักเรียน ไม่แสดงวิธีทาและคาตอบไม่ถูกต้อง
แบบฝึกหัด 3.3 จานวน 5 ข้อ จะได้ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล : ถ้า นักเรียนได้คะแนน
24 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
82

จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล


ที่ต้องการวัดผลและประเมินผล
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : วิธีวัดผล : เกณฑ์การให้คะแนน :
1. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ พิจารณาจาก ”พฤติกรรมใน ในแต่ละข้อของแบบสังเกตพฤติกรรม
งานที่ได้รับมอบหมาย ชั้นเรียนและการแสดงออกของ ถ้า นักเรียน แสดงออกให้เห็นอย่างเด่นชัด
นักเรียนขณะทางานที่ได้รับ จะได้ คะแนน 2 คะแนน
มอบหมาย”
ถ้า นักเรียนแสดงออกให้เห็นเพียงเล็กน้อย
เครื่องมือวัดผล :
จะได้ คะแนน 1 คะแนน
แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน
ถ้า นักเรียน ไม่แสดงออกเลย
จะได้ คะแนน 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล :ถ้า นักเรียนได้คะแนน
มากกว่า 8 คะแนนถือว่าผ่านเกณฑ์
83

บันทึกหลังการสอน

ผลการจัดการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ปัญหาแนวทางแก้ไขและพัฒนา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................. ................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

.........................................................................
(นายธรรมนูญ โพธิ์ตุ่น)
ครูผู้สอน
…..……/…………../…………….

ตรวจแล้ว ตรวจแล้ว

......................................................................... .........................................................................
(นางสาวปิยะวดี แสงคาสุข) (นางสาวเบ็ญจมาศ ยืนยง)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้าแผนกมัธยมศึกษาตอนต้น
…..……/…………../……………. …………/…………../…………….

อนุมัติ

.........................................................................
(นางสาวจรินทร์ทิพย์ วรกิจสวัสดิ์)
รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ ระดับมัธยมศึกษา
…………/…………../…………….
84

โรงเรียนจิตรลดา
แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
แผนการเรียนรู้ที่ 13 สัปดาห์ที่ 13 ระหว่างวันที่ 21 ถึง 25 สิงหาคม พ.ศ.2560
รหัสวิชา ค 23201 ชื่อวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 5
เรื่อง โจทย์ปัญหาสมการกาลังสอง เวลาที่ใช้สอน 2 คาบ
ครูผู้สอน นายธรรมนูญ โพธิ์ตุ่น
___________________________________________________________________________
หัวข้อ
โจทย์ปัญหาสมการกาลังสอง
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถหาแก้โจทย์ปัญหาของสมการกาลังสองได้
2. เพื่อให้นักเรียนใช้ทักษะในการแก้ปัญหาในการแก้สมการกาลังสองได้
3. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
สาระสาคัญ
สมการกาลังสองตัวแปรเดียวมีรูปแบบทั่วไปเป็น ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะมีคาตอบของสมการเป็นจานวนจริง
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะไม่มีคาตอบของสมการที่เป็นจานวนจริง
เนื้อหา
สมการกาลังสอง (quadratic equations) คือ สมการของพหุนามตัวแปรเดียวที่มีดีกรีเท่ากับ 2
บางครั้งเรียกสมการกาลังสองว่า สมการดีกรีสอง รูปแบบทั่วไปของสมการกาลังสอง คือ
ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
การแก้สมการกาลังสอง หมายถึง การคานวณเพื่อหาค่าของตัวแปร ซึ่งจะได้ค่าตัวแปร 2 ค่า โดยค่า
ทั้งสองอาจเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ค่าของตัวแปรที่ได้บางครั้งเรียกว่า รากของสมการ หรือ คาตอบของ
สมการ
วิธีแก้สมการกาลังสอง ก่อนที่จะทาการคานวณหาค่าตัวแปรของสมการกาลังสอง ให้จัดขวามือของ
เครื่องหมายเท่ากับให้เป็น 0 แล้วการคานวณจะมีได้ 3 วิธี คือ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีใช้สูตร
85

4. โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกาลังสอง
ตัวอย่างที่ 9.5 จานวนสองจานวนรวมกันเท่ากับ 20 และกาลังสองของแต่ละจานวนรวมกันเท่ากับ 250
จงหาจานวนทั้งสอง
วิธีทา กาหนดให้ x แทน จานวนจานวนหนึ่ง
และ 20  x แทน จานวนอีกจานวนหนึ่ง
จากโจทย์ x  (20  x )  20
และ x 2  (20  x ) 2  250
จะได้ x 2  400  40 x  x 2  250
2 x 2  40 x  400  250
2 x 2  40 x  150  0
1
นา คูณตลอดสมการ; x 2  20 x  75  0
2
จากสมการข้างตัน a  1, b  20, c  75
b  b2  4 ac
จากสูตร x 
2a
พิจารณา b  4ac   20 2  4 1 75 
2

 400  300
 100
  20   100
จะได้ x 
2 1
20  10 20  10
x หรือ x 
2 2
ดังนั้น x  15 หรือ x  5

ตรวจสอบ ถ้าจานวนจานวนหนึ่ง คือ 15


จะได้จานวนอีกจานวน คือ 20  15  5
กาลังสองของ 15 คือ 225 และกาลังสองของ 5 คือ 25
จะได้กาลังสองของแต่ละจานวนรวมกัน เท่ากับ 225+25=250
ซึ่งเป็นจริงตามเงื่อนไขที่โจทย์กาหนด
นั่นคือ 15 และ 5 เป็นคาตอบของสมการ
ตอบ 15 และ 5
86

ตัวอย่างที่ 9.6 รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากรูปหนึ่งมีด้านยาวยาวกว่าสามเท่าของด้านกว้างอยู่ 5 เซนติเมตร


และมีพื้นที่ 138 ตารางเซนติเมตร จงหาความยาวรอบรูปของสี่เหลี่ยมมุมฉากนี้
วิธีทา กาหนดให้ x แทน ความกว้างของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากรูปนี้
และ 3x+5 แทน ความยาวของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากรูปนี้
เนื่องจาก รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากรูปนี้มีพื้นที่ 138 ตารางเซนติเมตร
จะได้สมการ x (3 x  5)  138
3 x 2  5 x  138
3 x 2  5 x  138  0
จากสมการข้างตัน a  3, b  5, c  138
b  b2  4 ac
จากสูตร x 
2a
พิจารณา b  4ac   5 2  4  3  138 
2

 25  1656
 1681
  5   1681
จะได้ x 
23
5  41 5  41
x หรือ x 
6 6
46
ดังนั้น x  6 หรือ x 
6

ตรวจสอบ เนื่องจาก x แทนความยาวของด้านของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากซึ่งจะต้องเป็นจานวนจริงบวก


46
ดังนั้น จึงไม่ใช่ความยาวของด้านรูปสี่เหลี่ยม
6
ถ้าให้ด้านกว้างของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากยาว 6 เซนติเมตร
จะได้ ด้านยาว ยาว 3(6)+5=23 เซนติเมตร
และได้พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเป็น 6x23= 138 ตารางเซนติเมตร
ซึ่งเป็นจริงตามเงื่อนไขที่โจทย์กาหนด
นั่นคือ ด้านกว้างของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากยาว 6 เซนติเมตร
และ ด้านยาวของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากยาว 23 เซนติเมตร
ดังนั้น ความยาวรอบรูปของสี่เหลี่ยมมุมฉาก คือ 2(6+23)= 58 เซนติเมตร
ตอบ 58 เซนติเมตร
87

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนา (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
1. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับการแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน
โดยการยกตัวอย่างแล้วให้นักเรียนทาพร้อมกัน จานวน 1 ข้อ
2. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น แล้วให้แสดงวิธีการแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร เพื่อตรวจสอบ
ความเข้าใจของนักเรียน โดยการแสดงวิธีทาจานวน 1 ข้อ ให้เวลาประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นเปลี่ยนกัน
ตรวจโดยครูและนักเรียนแสดงวิธีทาพร้อมกัน
ขั้นสอน (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที)
1. ครูให้นักเรียนศึกษาเอกสารแนะแนวทางที่ 9 ด้วยตนเอง
2. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาจากตัวอย่างที่ 9.4 และตัวอย่างที่ 9.5 ดังนี้
1) ก่อนลงมือทาโจทย์ปัญหานักเรียนควรทาอะไร
[นักเรียนควรตอบว่า อ่านโจทย์แล้วดูว่าโจทย์ให้อะไรมาบ้าง]
2) หลังจากนั้นนักเรียนควรทาอะไร
[นักเรียนควรตอบว่า กาหนดตัวแปรพร้อมระบุสิ่งที่โจทย์ต้องการหา]
3) เมื่อกาหนดตัวแปรได้แล้วนักเรียนต้องทาอะไร
[นักเรียนควรตอบว่า ตั้งสมการจากสิ่งที่โจทย์กาหนดแล้วแก้สมการ]
4) ผลลัพธ์จากสมการคืออะไร
[นักเรียนควรตอบว่า สิ่งที่โจทย์ต้องการหา]
3. ครูให้นักเรียนเขียนสมการจากข้อความต่อไปนี้ เพื่อตรวจสอบการใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน
1) ผลต่างกาลังสองของจานวนสองจานวนที่ต่างกันสามเท่ากับหนึ่งร้อยแปดสิบห้า
2) จานวนหนึ่งบวกสามทั้งหมดยกกาลังสองเท่ากับแปดสิบเอ็ด
3) สองเท่าของจานวนหนึ่งลบด้วยสามคูณกับจานวนจานวนนั้นเท่ากับสอง
4) กาลังสองของจานวนหนึ่งรวมกับสองเท่าของกาลังสองของจานวนนั้นเท่ากับเจ็ดสิบห้า
5) จานวนสองจานวนที่ต่างกันอยู่ห้าเมื่อแต่ละจานวนยกกาลังสองแล้วบวกกัน
เท่ากับหนึ่งร้อยยี่สิบห้า
4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 10 ตอนที่ 2 จานวน 2 ข้อ สามารถปรึกษากันภายในกลุ่มได้
5. ครูให้นักเรียนทากิจกรรม “Rank” พร้อมอธิบายกิจกรรม โดยจะเป็นกิจกรรมการตอบคาถามจานวน 5 ข้อ
โดยเรื่องจากข้อง่ายไปหาข้อยาก เพื่อให้นักเรียนฝึกการแก้โจทย์ปัญหาในระยะเวลาที่จากัด
6. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรม แล้วสรุปผลการทากิจกรรม
7. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกาลังสอง
ขั้นสรุป (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที)
1. ครูถามนักเรียนถึงสิ่งที่ได้เรียนในคาบนี้ โดยใช้ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนดังนี้
1) ในการแก้โจทย์ปัญหานักเรียนควรทาอย่างไร
[นักเรียนควรตอบว่า อ่านโจทย์แล้วดูว่าโจทย์ให้อะไรมาบ้าง
กาหนดตัวแปรพร้อมระบุสิ่งที่โจทย์ต้องการหาและตั้งสมการจากสิ่งที่โจทย์กาหนดแล้วแก้
สมการ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นสิ่งที่โจทย์ต้องการหา]
88

2) การแก้สมการกาลังสองสามารถทาได้กี่วิธี อะไรบ้าง
[นักเรียนควรตอบว่า 3 วิธี คือ การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ การแก้สมการ
กาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์และการแก้สมการกาลังสองโดยวิธีใช้สูตร]
3) สิ่งใดสาคัญที่สุดในการแก้สมการกาลังสอง
[นักเรียนควรตอบว่า การตรวจสอบคาตอบที่ได้จากสมการ]
2. ครูให้นักเรียนทาการทดสอบย่อยครั้งที่ 4 (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด 3.3 ส่งในครั้งถัดไป
สื่อการเรียนรู้ /เอกสารอ้างอิง
1. เอกสารแนะแนวทางที่ 9 เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร
2. ใบงานที่ 10 เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร
3. ใบกิจกรรมที่ 9 เรื่อง โจทย์ปัญหาสมการกาลังสอง
4. Powerpoint เรื่อง โจทย์ปัญหาสมการกาลังสอง
5. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกาลังสอง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ในคาบนี้ มีดังนี้
จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล
ที่ต้องการวัดผลและประเมินผล
ด้านความรู้ทางคณิตศาสตร์ : วิธีวัดผล : พิจารณาจาก วิธีทาในใบงาน
1. เพื่อให้นักเรียนสามารถหาแก้โจทย์ คาตอบใน “ใบงานที่ 9” นักเรียน แสดงวิธีทาได้ถูกต้องทุกขั้นตอนและ
ปัญหาของสมการกาลังสองได้ เครื่องมือวัดผล : คาตอบถูกต้อง จะได้ 2 คะแนน
ใบงานที่ 9 จานวน 4 ข้อ ถ้า นักเรียน แสดงวิธีทาได้แต่คาตอบไม่ถูกต้อง
จะได้ 1 คะแนน
ถ้า นักเรียน ไม่แสดงวิธีทาและคาตอบไม่ถูกต้อง
จะได้ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล : ถ้า นักเรียนได้คะแนน
6 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะและกระบวนการทาง วิธีวัดผล : พิจารณาจาก วิธีทาในแบบฝึกหัด
คณิตศาสตร์ : “แบบฝึกหัด 3.3” นักเรียน แสดงวิธีทาได้ถูกต้องทุกขั้นตอนและ
1. เพื่อให้นักเรียนใช้ทักษะในการ เครื่องมือวัดผล : คาตอบถูกต้อง จะได้ 2 คะแนน
แก้ปัญหาในการแก้สมการกาลังสองได้ แบบฝึกหัด 3.3 จานวน 5 ข้อ ถ้า นักเรียน แสดงวิธีทาได้แต่คาตอบไม่ถูกต้อง
จะได้ 1 คะแนน
ถ้า นักเรียน ไม่แสดงวิธีทาและคาตอบไม่ถูกต้อง
จะได้ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล : ถ้า นักเรียนได้คะแนน
8 คะแนนขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
89

จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล


ที่ต้องการวัดผลและประเมินผล
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : วิธีวัดผล : เกณฑ์การให้คะแนน :
1. เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ พิจารณาจาก ”พฤติกรรมใน ในแต่ละข้อของแบบสังเกตพฤติกรรม
งานที่ได้รับมอบหมาย ชั้นเรียนและการแสดงออกของ ถ้า นักเรียน แสดงออกให้เห็นอย่างเด่นชัด
นักเรียนขณะทางานที่ได้รับ จะได้ คะแนน 2 คะแนน
มอบหมาย”
ถ้า นักเรียนแสดงออกให้เห็นเพียงเล็กน้อย
เครื่องมือวัดผล :
จะได้ คะแนน 1 คะแนน
แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน
ถ้า นักเรียน ไม่แสดงออกเลย
จะได้ คะแนน 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล :ถ้า นักเรียนได้คะแนน
มากกว่า 8 คะแนนถือว่าผ่านเกณฑ์
90

บันทึกหลังการสอน
ผลการจัดการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ปัญหาแนวทางแก้ไขและพัฒนา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................... .....
..............................................................................................................................................................................

.........................................................................
(นายธรรมนูญ โพธิ์ตุ่น)
ครูผู้สอน
…..……/…………../…………….

ตรวจแล้ว ตรวจแล้ว

......................................................................... .........................................................................
(นางสาวปิยะวดี แสงคาสุข) (นางสาวเบ็ญจมาศ ยืนยง)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้าแผนกมัธยมศึกษาตอนต้น
…..……/…………../……………. …………/…………../…………….

อนุมัติ

.........................................................................
(นางสาวจรินทร์ทิพย์ วรกิจสวัสดิ์)
รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ ระดับมัธยมศึกษา
…………/…………../…………….
91

ภาคผนวก ค
สื่อการสอน
- เอกสารแนะแนวทางที่ 8
- ใบงานที่ 9 เรื่อง สมการกาลังสอง
- เอกสารแนะแนวทางที่ 9
- ใบงานที่ 10 เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร
รายวิชา ค23201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติ92ม5
ชื่อ..................................................ชั้น.............เลขที่.......กลุม่ …..

เอกสารแนะแนวทางที่ 8
เรื่อง สมการกาลังสอง

สมการกาลังสอง (quadratic equations) คือ สมการของพหุนามตัวแปรเดียวที่มีดีกรีเท่ากับ 2


บางครั้งเรียกสมการกาลังสองว่า สมการดีกรี 2 รูปแบบทั่วไปของสมการกาลังสอง คือ
ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
การแก้สมการกาลังสอง หมายถึง การคานวณเพื่อหาค่าของตัวแปร ซึ่งจะได้ค่าตัวแปร 2 ค่า โดยค่า
ทั้งสองอาจเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ค่าของตัวแปรที่ได้บางครั้งเรียกว่า รากของสมการ หรือ คาตอบของ
สมการ
วิธีแก้สมการกาลังสอง ก่อนที่จะทาการคานวณหาค่าตัวแปรของสมการกาลังสอง ให้จัดขวามือของ
เครื่องหมายเท่ากับให้เป็น 0 แล้วการคานวณจะมีได้ 3 วิธี คือ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีใช้สูตร

1.การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ
ทาได้โดยการแยกตัวประกอบ (factors) แล้วใช้หลักว่า เมื่อผลคูณของตัวประกอบเป็น 0 (ขวามือขอ
เครื่องหมายเท่ากับ) แสดงว่า ตัวประกอบบางตัวเป็น 0 หรือทุกตัวประกอบเป็น 0

ถ้า m, n เป็นจานวนจริง และ mn  0 แล้ว m  0 หรือ n  0

ตัวอย่างที่ 8.1 จงแก้สมการ 8 x 2  2 x  3


วิธีทา จัดขวามือของเครื่องหมายเท่ากับให้เป็น
8x2  2x  3  0
(4 x  3)(2 x  1)  0
ดังนั้น 4 x  3  0 หรือ 2 x  1  0
3 1
จะได้ x  หรือ x  
4 2
93

3 1
ตรวจสอบ 1) แทน x ด้วย ในสมการ 8 x 2  2 x  3 2) แทน x ด้วย  ในสมการ
4 2
8x2  2x  3
จะได้ 8 
3 2
4
2
3
4
3    
1 2
จะได้ 8   2   3
2
1
2

 9
8   
 16  2
3
3 8
1
4
1 3
93
 3 เป็นสมการที่เป็นจริง 2  1  3 เป็นสมการที่เป็นจริง
2
3 1
ดังนั้น และ  เป็นคาตอบของสมการ 8 x 2  2 x  3
4 2
3 1
ตอบ และ 
4 2

1
ตัวอย่างที่ 8.2 จงแก้สมการ y 2  y  2
6
วิธีทา ………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
ตรวจสอบ ……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..
ตอบ ………………………………………………………………………………..
94

ตัวอย่างที่ 8.3 จงแก้สมการ 2a2  5  0


วิธีทา ………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
ตอบ ………………………………………………………………………………..
ตัวอย่างที่ 8.4 จงแก้สมการ x 2  18
วิธีทา ………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………..
ตรวจสอบ ……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..
ตอบ ………………………………………………………………………………..
95

2.การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์
ในการหาคาตอบของสมการ ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0 นั้นใน
บางครั้งไม่สามารถแยกตัวประกอบของพหุนาม ax 2  bx  c  0 ได้โดยง่ายดังนั้นเราจึงใช้คามรู้เรื่องกาลัง
ส อ ง ส ม บู ร ณ์ แ ล ะ ผ ล ต่ า ง ก า ลั ง ส อ ง ม า ช่ ว ย ใ น ก า ร แ ย ก ตั ว ป ร ะ ก อ บ พ หุ น า ม นั้ น
พิ จ า ร ณ า ก า ร แ ก้ ส ม ก า ร ax 2  bx  c  0 ใ น ก ร ณี ที่ a  1 ดั ง ตั ว อ ย่ า ง ต่ อ ไ ป นี้
ตัวอย่างที่ 8.5 จงแก้สมการ x2  2x  5  0
วิธีทา x2  2 x  5  0
 x2  2 1 x  12  12  5  0
 x  1  6  0
2

 x  1  6  0
2

2

 x 1 6  x  1  6   0

ดังนั้น  x  1  6   0 หรือ  x  1  6   0
จะได้ x  1  6 หรือ x  1  6
ตรวจสอบ 1) แทน x ด้วย 1  6 ในสมการ x2  2x  5  0
จะได้  1  6   2  1  6   5  1  2 6  6   2  2
2
6 5
7 25 2 6 2 6  0 เป็นสมการที่เป็นจริง
2) แทน x ด้วย 1  6 ในสมการ x2  2x  5  0
จะได้  1  6   2  1  6   5  1  2 6  6   2  2
2
6 5
7 252 6  2 6  0 เป็นสมการที่เป็นจริง
ดังนั้น 1  6 และ 1  6 เป็นคาตอบของสมการ x2  2x  5  0
ตอบ 1  6 และ 1  6
96

ตัวอย่างที่ 8.6 จงแยกตัวประกอบของพหุนาม x2  7 x  9


วิธีทา x2  7 x  9  ....................................................................................
 ....................................................................................
 ....................................................................................
 ....................................................................................
 ....................................................................................
 ....................................................................................
ดังนั้น x  7x  9
2
 ....................................................................................

พิจารณาการแก้สมการ ax 2  bx  c  0 ในกรณีที่ a  0 และ a  1 ดังตัวอย่างต่อไปนี้


ตัวอย่างที่ 8.7 จงแยกตัวประกอบของพหุนาม 2 x2  12 x  4
วิธีทา 2 x2  12 x  4  ....................................................................................

 ....................................................................................

 ....................................................................................
 ....................................................................................
 ....................................................................................
 ....................................................................................
 ....................................................................................
ดังนั้น 2 x  12 x  4
2
 ....................................................................................
97
ใบงานที่ 9
เรื่อง ทบทวนสมการกาลังสอง

ให้นักเรียนแก้สมการกาลังสอง โดยวิธีแยกตัวประกอบ
1.) x 2  x  2  0
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………

2.) 2 x 2  3 x  9  0
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
3.) x 2  5 x  6
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
4.) x ( x  3)  4
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
98
รายวิชา ค23201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติม5
ชื่อ..................................................ชั้น.............เลขที่.......กลุม่ …..

เอกสารแนะแนวทางที่ 9
เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร

สมการกาลังสอง (quadratic equations) คือ สมการของพหุนามตัวแปรเดียวที่มีดีกรีเท่ากับ 2


บางครั้งเรียกสมการกาลังสองว่า สมการดีกรีสอง รูปแบบทั่วไปของสมการกาลังสอง คือ
ax 2  bx  c  0
เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
การแก้สมการกาลังสอง หมายถึง การคานวณเพื่อหาค่าของตัวแปร ซึ่งจะได้ค่าตัวแปร 2 ค่า โดยค่า
ทั้งสองอาจเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ค่าของตัวแปรที่ได้บางครั้งเรียกว่า รากของสมการ หรือ คาตอบของ
สมการ
วิธีแก้สมการกาลังสอง ก่อนที่จะทาการคานวณหาค่าตัวแปรของสมการกาลังสอง ให้จัดขวามือของ
เครื่องหมายเท่ากับให้เป็น 0 แล้วการคานวณจะมีได้ 3 วิธี คือ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีแยกตัวประกอบ
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาให้เป็นกาลังสองสมบูรณ์
 การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีใช้สูตร

3.การแก้สมการกาลังสองโดยวิธีการใช้สูตร
ตัวอย่างที่ 9.1 จงแก้สมการ ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว และ a  0
วิธีทา ...........................................................................................................
..........................................................................................................
..........................................................................................................
.......................................................................................................... เมื่อ
..........................................................................................................
..........................................................................................................
..........................................................................................................
..........................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
..........................................................................................................
..........................................................................................................
..........................................................................................................
..........................................................................................................
..........................................................................................................
99

ข้อสรุปเกี่ยวกับคาตอบของสมการกาลังสอง
สมการกาลังสองตัวแปรเดียวมีรูปแบบทั่วไปเป็น ax 2  bx  c  0 เมื่อ a, b, c เป็นค่าคงตัว
และ a  0
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะมีคาตอบของสมการเป็นจานวนจริง
ถ้า b2  4ac  0 แล้วจะไม่มีคาตอบของสมการที่เป็นจานวนจริง

ตัวอย่างที่ 9.2 จงหาว่าสมการต่อไปนี้มีคาตอบหรือไม่ ถ้ามี มีกี่คาตอบ


1
1) 2 x 2  4 x  5  0 2) 9m2  3m   0 3) 6 x 2  2 x  3  0
4
วิธีทา ...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. ..........
...................................................................................................................... .....................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
100

ตัวอย่างที่ 9.3 จงแก้สมการต่อไปนี้


1
1) 2 x 2  4 x  5  0 2) 9m2  3m   0 3) 6 x 2  2 x  3  0
4
วิธีทา ...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. ..........
...................................................................................................................... .....................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. ..........
....................................................................................................................... ....................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
101

ตัวอย่างที่ 9.4 จงแก้สมการ y 2  2 y  13  0


วิธีทา ...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกาลังสอง
ตัวอย่างที่ 9.5 จานวนสองจานวนรวมกันเท่ากับ 20 และกาลังสองของแต่ละจานวนรวมกันเท่ากับ 250
จงหาจานวนทั้งสอง
วิธีทา ...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. ..........
....................................................................................................................... ....................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ตรวจสอบ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ตอบ ...........................................................................................................................................................
102

ตัวอย่างที่ 9.6 รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากรูปหนึ่งมีด้านยาวยาวกว่าสามเท่าของด้านกว้างอยู่ 5 เซนติเมตร


และมีพื้นที่ 138 ตารางเซนติเมตร จงหาความยาวรอบรูปของสี่เหลี่ยมมุมฉากนี้
วิธีทา ...............................................................................................................
...............................................................................................................
...............................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. ..........
...................................................................................................................... .....................................
ตรวจสอบ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
ตอบ .......................................................................................................................................................... .
รายวิชา ค23201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติ ม5
103
ชื่อ..................................................ชั้น.............เลขที่.......กลุม่ …..

ใบงานที่ 10
เรื่อง การแก้สมการกาลังสองโดยใช้สูตร

ตอนที่ 1 จงแก้สมการต่อไปนี้
1.) x 2  13 x  42  0
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... ...........
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................ ..............................
.......................................................................................................................
2.) 9 x  12 x  4  0
2

วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...................................................................................................................... ........................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
104

3.) x ( x  10)  299


วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................ ..................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
4.) x  x  1  0
2

วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................... .........
....................................................................................................................... .......................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. .............................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................. ................................................
.......................................................................................................................
105

5.) 4 x 2  12 x  9  0
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... ...........
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................ ..............................
.......................................................................................................................
6.) 3 x  5 x  4  0
2

วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. .............................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
106

7.) x  7 x  3  0
2

วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................... ...........................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

8.) 2 x 2  2 x  1  0
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...................................................................................................................... ........................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................ ..............................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
107

9.) 2 x ( x  3)  4(10  x )
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... ...........
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................ ..............................
.......................................................................................................................

10.) 2 x  ( x  1) 2  1
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................. ................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
108

ตอนที่ 2 จงแก้โจทย์ปัญหาต่อไปนี้
1. รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปใหญ่รูปหนึ่งมีพื้นที่ 729 ตารางเซนติเมตรจงหาว่ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเล็กที่มีความยาวของด้าน
น้อยกว่ารูปใหญ่ด้านละ 7 เซนติเมตร จะมีพื้นที่กตี่ ารางเซนติเมตร
วิธีทา ........................................................................................................................... ...................................................
..............................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................... .........................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................. .............................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
2. จานวนสองจานวนต่างกันอยู่ 6 และผลบวกของกาลังสองของจานวนทั้งสองเป็น 410 จงหาจานวนทั้งสองจานวน
นั้น
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................... .........
.......................................................................................................................
109

3. พ่อมีอายุมากกว่าแม่ 5 ปี อีก 10 ปีข้างหน้า กาลังสองของอายุของพ่อจะมากกว่า 60 เท่าของอายุของแม่อยู่ 25 จง


หาอายุปัจจุบันของพ่อและแม่
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................... ...................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
4. สวนกานันตู่ปลูกส้มเรียงเป็นแถวไว้ 2,000 ต้น แต่ละแถวมีจานวนต้นส้มเท่ากันถ้าจานวนต้นส้มในแต่ละแถวน้อย
กว่าจานวนแถวอยู่ 10 จงหาว่าในสวนกานันตู่ปลูกส้มไว้กี่แถวและแถวละกี่ต้น
วิธีทา ..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
110

ภาคผนวก ง
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกาลังสอง
111

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกาลังสอง


รายวิชา ค23201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติม5
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 โรงเรียนจิตรลดา (ฝ่ายมัธยม)
ชื่อ................................................................................................ชั้น..................เลขที่.................
คาชี้แจง แบบทดสอบชุดนี้ใช้เวลา 40 นาทีมีจานวนทั้งหมด 3 หน้าแบ่งออกเป็น 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จานวน 15 ข้อ คะแนนเต็ม 15 คะแนน
ตอนที่ 2 เป็นแบบทดสอบอัตนัย จานวน 1 ข้อ คะแนนเต็ม 5 คะแนน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. การแก้สมการกาลังสองตัวแปรเดียวได้
2. แก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกาลังสองตัวแปรเดียว พร้อมทั้งตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบที่ได้

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 1 จงเขียนเครื่องหมายกากบาทลงในกระดาษคาตอบ
1) ข้อใดเป็นรูปทั่วไปของสมการกาลังสองตัวแปรเดียว
ก. y  ax 2  bx  c เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว
ข. ax 2  bx  c  0 เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว
ค. y  ax 2  bx  c เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว และ a ไม่เท่ากับศูนย์
ง. ax 2  bx  c  0 เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัว และ a ไม่เท่ากับศูนย์

2) สมการ ax 2  bx  c  0 มีคาตอบเป็นจานวนจริงเมื่อใด
ก. b2  4ac  0 ข. b2  4ac  0
ค. b2  4ac  0 ง. b2  4ac  0

3) คาตอบของสมการ x 2  6 x  5  0 ตรงกับข้อใด
ก. 1 และ 5 ข. -1 และ 5
ค. –1 และ -5 ง. 1 และ -5
4) -7 เป็นคาตอบของสมการในข้อใด
ก. 2 x 2  15 x  7  0 ข. 2 x 2  15 x  7  0
ค. x 2  6 x  7  0 ง. x 2  8 x  7  0

5) จงแก้สมการหาค่าของ x เมื่อ x 2  8 x  13  0
ก. 1  3 ข. 2  3 ค. 3  3 ง. 4  3

6) จงหาค่าของ x จากสมการ 9  x  2 2  4  x  12  0


3 8 4 8
ก. 3,4 ข. 4, ค. , ง. ,4
2 3 3 5
112

7) 3  7,3  7 เป็นคาตอบของสมการในข้อใด
ก. x 2  4 x  3  0 ข. x 2  6 x  2  0
ค. x 2  6 x  2  0 ง. x 2  3 x  7  0

8) เมื่อ m และ n เป็นคาตอบของสมการ x 2  4 x  3 จงหา m  n


ก. 2  7 ข. 2  7 ค. -4 ง. 4
1
9) สมการ 9 x 2  3 x   0 มีคาตอบทั้งหมดกี่คาตอบ
4
ก. ไม่มีคาตอบ ข. มีเพียงคาตอบเดียว ค. มีสองคาตอบ ง. ไม่สามารถหาค่าได้

10) จงแก้สมการต่อไปนี้โดยใช้สูตร 2 x 2  5 x  3  0 คาตอบคือข้อใด


1 2 1 1
ก. , 3 ข. , 3 ค. , 2 ง.  , 3
2 3 2 2

11) สมการข้อใดมีเพียงคาตอบเดียว
ก. 9 x 2  6 x  2  0 ข. x 2  2 x  0
ค. x 2 9  0 ง. 4 x 2  4 x  1  0

12) จงหาค่า k ที่ทาให้ -2 เป็นคาตอบหนึ่งของสมการ k  x 2  1  8 x  1


17 17
ก. 5 ข. -2 ค.  ง.
3 3
13) สมการต่อไปนี้ข้อใดหาค่า x ที่เป็นจานวนจริงไม่ได้
ก. x 2  6 x  7  0 ข. 3 x 2  5 x  4  0
ค. 4 x 2  12 x  9  0 ง. 2 x 2  3 x  6  0

14) กาลังสองของจานวนเต็มบวกที่เป็นจานวนคู่ติดต่อกันสามจานวนมีค่ารวมกันได้ 980 จงหาผลบวกของ


จานวนทั้งสามจานวน
ก. 54 ข. 56 ค. 58 ง. 60

15) อีก 9 ปีข้างหน้า อายุของชายคนหนึ่งจงมีอายุเท่ากับกาลังสองของอายุของเขาเมื่อ 11 ปี ล่วงมา จงหา


อายุปัจจุบันของชายผู้นี้
ก. 6 ปี
ข. 12 ปี
ค. 14 ปี
ง. 16 ปี

-----------------------------ขอให้โชคดี-----------------------------
113

กระดาษคาตอบ 20
ชื่อ...................................................................................................................ชั้น.. ................เลขที่..................
ตอนที่ 1 ทาเครื่องหมายกากบาทลงในช่องที่เป็นคาตอบ (15 คะแนน)
ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15
ก.
ข.
ค.
ง.

ตอนที่ 2 จงแสดงวิธีทาอย่างละเอียด(พร้อมตรวจคาตอบ) (5 คะแนน)


1.) บัญชาต้องการล้อมรั้วที่ดินแปลงหนึ่ง โดยที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีพื้นที่ 567 ตารางเมตร ซึ่งด้านหนึ่ง
ติดกับแม่น้า (ไม่ต้องล้อมรั้ว) เมื่อด้านที่ติดกับแม่น้ายาวมากกว่าด้านกว้าง 6 เมตร อยากทราบว่า บัญชาต้อง
ล้อมรั้วอย่างน้อยกี่เมตร

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................... ...........................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
..............................................................................................................................................................................
114

ภาคผนวก จ
รายชื่อผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเครื่องมือ
115

รายชื่อผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเครื่องมือ
รายนามผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา ความเหมาะสมของแบบทดสอบวัดผล
สัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกาลังสอง มีดังนี้
1. นางสาวสุลาวัลย์ เรืองรอง
ตาแหน่ง ครูวิทยฐานะชานาญการ
โรงเรียนจิตรลดา ฝ่ายมัธยม แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
2. นางสาววีระนุช พานทวีป
ตาแหน่ง ครูวิทยฐานะชานาญการ
โรงเรียนจิตรลดา ฝ่ายมัธยม แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
3. ดร.ขวัญ เพียซ้าย
ตาแหน่ง อาจารย์ประจาภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กรุงเทพมหานคร
116

ประวัติย่อผู้วิจัย
117

ประวัติย่อผู้วิจัย
ชื่อ ชื่อสกุล นายธรรมนูญ โพธิ์ตุ่น
วัน เดือน ปีเกิด 10 ธันวาคม 2537
สถานที่อยู่ปัจจุบัน 93/4 หมู่ที่ 7 ตาบลเขาพระงาม อาเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15160
สถานศึกษาในปัจจุบัน คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ (กศ.บ.)
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กรุงเทพมหานคร
ประวัติการศึกษา
พ.ศ. 2549 ประถมศึกษาปีที่ 6 จาก โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์สองเหล่าสร้าง จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. 2552 มัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนวินิตศึกษาในพระราชูปถัมภ์ฯ จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. 2555 มัธยมศึกษาปีที่ 6 จาก โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี

You might also like