Professional Documents
Culture Documents
การทำความสะอาดถังและไล่แก๊ส
9.1.3. การทำแก๊สฟรี และล้างถังขณะเดียวกับการรับส่ งสิ นค้า (Gas Freeing and Tank Cleaning Concurrently with Cargo
Handling)
ตามกฎทัว่ ไปการล้างถังและแก๊สฟรี ไม่ควรทำไปพร้อม ๆ /
กับการรับ ส่ งสิ นค้า ในกรณี ที่มีเหตุ
จำเป็ นที่ตอ้ งทำควรจะปรึ กษาหารื ออย่างใกล้ชิด และได้รับการยินยอมจากทั้งนายท่าและเจ้าพนักงานของรัฐผูม้ ี อำนาจ
การล้างถังด้วยน้ำมันดิบ (Crude Oil Washing) และการสูบส่ งสิ นค้าอาจทำพร้อมกันได้ แต่จะต้องแจ้งให้นายท่าทราบก่อน (ดูขอ้ 9.4.)
9.1.4. การทดลองสายยางล้างถัง (Testing of Tank Cleaning Hose)
สายยางล้างถังทุกเส้นที่จะใช้ในการล้างถังจะต้องได้รับการทดลองการต่อเนื่องไฟฟ้ า (Electric Continuity) ในสภาพที่แห้งและจะต้องมีความต้านทานไม่
เกิน 6 โอห์ม ต่อความยาว 1 เมตร
Page 1 of 9
ผูห้ นึ่งผูใ้ ดจะลงไปในถังสิ นค้าไม่ได้ นอกจากได้รับอนุญาตจากนายประจำเรื อผูร้ ับผิดชอบและได้ทำตามมาตรการควบคุมความปลอดภัยอย่างเหมาะสมแล้วเท่านั้น
รวมถึงการออกใบอนุญาต (Entry Permit) ด้วย (ดูบทที่ 11)
9.1.6. เครื่ องวัดแก๊ส (Gas Measuring Equipment)
เพื่อควบคุมบรรยากาศในถังให้ถกู ต้องและตรวจสอบประสิ ทธิผลของการทำแก๊สฟรี บนเรื อ ควรจะมีเครื่ องมือวัดแก๊สไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยูก่ บั ชนิดของบรรยากาศ
ที่ตอ้ งการควบคุม อย่างไรก็ตามอย่างน้อยจะต้องมีเครื่ องมือดังต่อไปนี้ อย่างละ 2 เครื่ องพร้อมอุปกรณ์
สำหรับถังที่มีแก๊สบางมาก (Too Lean Tank
Atmosphere)
- เครื่ องวัดที่ติดไฟได้ (Flammable Gas Indicator) ที่สามารถวัดแก๊สได้ถึงจุดพิกดั ล่าง (Lower
Flammable Limit) โดยมีสเกลอ่านได้เป็ นร้อยละของพิกดั ล่าง
สายดูดตัวอย่างจะต้องเหมาะสมกับการใช้งานกับแก๊สที่ทำการวัดและทนต่อน้ำร้อนที่ใช้ลา้ งถัง
Page 2 of 9
9.2.2. การล้างถังที่มีบรรยากาศเฉื่อย (Washing in an Inert Atmosphere)
การรักษาให้บรรยากาศยังคงอยูใ่ นสภาพเฉื่อยในระหว่างการล้างถัง และข้อควรระวังควรปฏิบตั ิตามที่กล่าวไว้ในข้อ 10.6.8.
9.2.3. การล้างถังที่มีบรรยากาศแก๊สเบาบาง (Washing in a too Lean Atmosphere)
ต้องปฏิบตั ิตามข้อควรระวังดังนี้
(a) ,
ก่อนล้างถังควรจะเอาน้ำลงให้ท่วมก้นถังแล้วสูบออก ควรจะต้องใช้น ้ำไล่ระบบท่อทางรวมถึงปั๊ มสิ นค้า ท่เชื่อมระหว่างระบบ (Crossover) ท่อส่ง น้ำที่
ใช้ไล่ท่อควรระบายลงถังที่ออกแบบไว้หรื อส่ งไปยังถังสล็อปที่กหนดไว้
(b) ก่อนล้างถังควรระบายอากาศเพื่อลดความเข้มข้นของแก๊สลงให้เหลือ 10%
ของพิกดั ล่าง (LEL)
หรื อน้อยกว่าการวัดแก๊สควรทำหลายระดับโดยพิจารณา
ถึงกระเปาะหรื อหลืบต่าง ๆ ของโครงสร้างถังที่อาจมีแก๊สถูกกักอยู่
ควรเดินพัดลมระบายอากาศและตรวจแก๊สอย่างต่อเนื่ องตลอดระยะเวลาของการล้างถัง การระบายอากาศควรเป็ นลักษณะที่การถ่ายเทของอากาศผ่านสะดวก
จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของถัง
(c) ถ้าถังนั้นมีระบบระบายไอระเหย (Venting) ร่ วมกับถังอื่นจะต้องปิ ดกั้นป้ องกันแก๊สจากถังอื่นให้ยอ้ นเข้ามา
(d) ถ้าใช้เครื่ องล้างถังเคลื่อนที่ ควรต่อสายน้ำ (Hose) ที่จะใช้แล้วตรวจความต่อเนื่องของไฟฟ้ าก่อนที่จะหย่อนเครื่ องลงไปในถัง และไม่ควรถอดข้อต่อออก
จากกันจนกว่าจะนำเครื่ องล้างถังขึ้นมาจากถัง การระบายน้ำออกจากท่อควรทำโดยการแย้มหน้าแปลนและกวดเข้าไปใหม่ก่อนที่จะดึงเครื่ องขึ้นมา
(e) ในระหว่างล้างถังต้องตรวจวัดแก๊สตามระยะเวลาที่ระดับต่าง ๆ ควรพิจารณาถึงประสิ ทธิภาพของเครื่ องวัดอันเนื่องมาจากผลของน้ำ ควรหยุดการล้างถังเมื่อ
ปรากฏว่ามีแก๊สมากกว่า 50% ของ LEL และจะเริ่ มล้างใหม่หลังจากทำการระบายอากาศจนแก๊สลดเหลือ 20% ของ LEL และคงที่อยูท่ ี่จุดนี้สักพัก
หนึ่ง
(f) ในระหว่างการล้างถังควรสูบน้ำออกพร้อมกันไป และควรหยุดล้างเมื่อน้ำล้างถังสู งขึ้นมาเรื่ อย ๆ
(g) ไม่ควรใช้น ้ำที่ลา้ งถังแล้วหมุนเวียนกลับมาใช้อีก
(h) ไม่ควรใช้ไอน้ำพ่นลงถัง
(i) ในระหว่างการล้างถังที่ไม่สามารถระบุลกั ษณะบรรยากาศ (Unidentified Atmosphere) ควรใช้ความระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์วดั ถังตัก
ตัวอย่างที่กล่าวในข้อ 9.2.4. (I)
(j) ถ้าใช้สารเคมีผสมในน้ำล้างถังอุณหภูมิของน้ำจะต้องไม่เกิน 60C
(k) การล้างถังด้วยน้ำอุ่น (Heated Wash Water) ถ้าอุณหภูมิที่ 60C หรื อต่ำกว่าควรหยุดการล้างเมื่อปรากฏว่ามีแก๊สขึ้นถึง 50% ของ LEL
และถ้าใช้น ้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเกิน 60C ควรหยุดเมื่อมีแก๊สเพิ่มขึ้นถึง 35% ของ LEL
9.2.4. การควบคุมการล้างถังที่ไม่สามารถระบุลกั ษณะของบรรยากาศได้ (Control of Washing in Unidentified Atmosphere)
บรรยากาศที่ไม่สามารถระบุลกั ษณะได้ ไอระเหยที่มีอยูใ่ นถังอาจจะอยูใ่ นพิสัยการติดไฟได้ ทางเดียวที่จะประกันการรุ กติดไฟหรื อระเบิดได้คือการไม่มีแหล่งกำเนิด
ไฟ (Ignition Source) เลย
Page 3 of 9
(e) น้ำล้างถังอุ่นได้ไม่เกิน 60C
(f) ไม่ใช้ไอน้ำ
(g) ควรระบายน้ำล้างถังออกตลอดและหยุดการล้างถังถ้าระดับน้ำล้างถังเพิ่มขึ้นมาเรื่ อย ๆ
(h) ต้องต่อสายน้ำและตรวจความต่อเนื่องไฟฟ้ าก่อนจะหย่อนเครื่ องล้างถังลงไปในถัง และต้องไม่แยกหน้าแปลนของสายน้ำออกจากกัน จนกว่าจะนำเครื่ องขึ้นมา
จากถัง การระบายน้ำออกจากท่อควรแย้มหน้าแปลนออกแล้วกวดกลับไปใหม่ก่อนที่จะดึงเครื่ องขึ้นมาจากถัง
(i) การวัดระดับน้ำและการใช้อุปกรณ์อื่นใด จะต้องหย่อนลงไปทางท่อวัด (Sounding Pipe) ถ้ามี ถ้าไม่มีท่อวัดจะต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์เหล่านั้นต่อ
สายดินเข้ากับตัวเรื ออย่างถูกต้องก่อนที่จะหย่อนลงไป และจะถอดสายดินได้ต่อเมื่อดึงกลับขึ้นจากถังแล้วเท่านั้น ข้อควรระวังดังกล่าวควรปฏิบตั ิในระหว่าง
การล้างถังและภายใน 5 ชม. หลังจากการล้างถังเสร็จ แต่ถา้ มีการระบายอากาศตลอดเวลาการล้างถังอาจจะลดเวลาภายหลังเสร็จการล้างเหลือ 1 ชม. และใน
ช่วงเวลาดังกล่าวนี้
เครื่ องวัดความหนาน้ำมันที่ผิวน้ำ (Interface Detector) ที่ทำด้วยโลหะจะใช้ได้ต่อเมื่อต่อสายดินโดยใช้ประกับ (Clamp) หรื อ
เกลียวกวด
อาจใช้ตุม้ โลหะต่อเข้ากับเทปวัดที่ต่อสายดินไว้แล้วได้
ไม่ควรแขวนแท่งวัดโลหะด้วยเชือกไฟเบอร์ ถึงแม้วา่ ปลายเชือกนั้นผูกไว้กบั ตัวเรื อ เพราะการนำไฟฟ้ าลงดินผ่านเส้นเชือกไม่สามารถเชื่อถือได้
อาจใช้อุปกรณ์อโลหะ (Non-Metallic) ได้ ตัวอย่างเช่น ไม้วดั ผูกเชือกโดยไม่ตอ้ งต่อสายดิน
ไม่ควรใช้เชือกที่ทำจากสารสังเคราะห์ผกู อุปกรณ์หย่อนลงไปในถัง
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับข้อควรระวังเกี่ยวกับไฟฟ้ าสถิตย์กล่าวไว้ในบทที่ 20
9.2.5. การล้างถังในบรรยากาศที่มีส่วนผสมของแก๊สมากเกิน (Washing in an Over Rich Atmosphere)
วิธีการทำให้บรรยากาศในถังอยูใ่ นสภาพที่มีแก๊สมากเกิน (Over Rich) แล้วล้างด้วยน้ำ มีวตั ถุประสงค์เพื่อป้ องกันอากาศไม่ให้เข้าไปในถัง ซึ่งจะต้องมี
มาตรการพิเศษในการปฏิบตั ิ และจะทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากบริ ษทั ฯ และจะต้องควบคุมโดยบุคคลที่ได้รับการฝึ กมาแล้วเท่านั้น
ต้องไม่ลา้ งถังด้วยน้ำหรื อถ้ากำลังล้างถังอยูต่ อ้ งหยุด เมื่อปรากฏว่าบรรยากาศในถังมีปริ มาณไฮโดรคาร์บอนน้อยกว่า 15% โดยปริ มาตร (ไม่ใช่ 15% LEL)
Page 4 of 9
การฉีดฝอยน้ำเข้าไปในถังน้ำมันที่บรรจุน ้ำมันที่สะสมประจุไฟฟ้ า (Static Accumulator Oil) จะทำให้เกิดไฟฟ้ าสถิตย์ที่ผิวหน้าน้ำมันไม่ว่าเนื่องจาก
การกวน (Agitation) หรื อการที่น ้ำนอนก้น (Settling) ถังที่ยงั มีน้ำมันดังกล่าวค้างอยูค่ วรสูบออกก่อนที่จะล้าง นอกจากถังนั้นคงเป็ นสภาพเฉื่อยอยู่
9.2.9. การใช้ไอน้ำ (Steaming of Tanks)
ไม่ควรเอาไอน้ำเข้าถังสิ นค้าที่บรรยากาศติดไฟได้ เนื่องจากอันตรายจากการเกิดไฟฟ้ าสถิตย์ และควรระลึกไว้เสมอว่าบรรยากาศที่ไม่ติดไฟไม่สามารถเป็ นหลัก
ประกันได้ในทุก ๆ ครั้งที่คิดว่าการใช้ไอน้ำมีผลดี (ดูขอ้ 20.4.3.)
9.2.10. น้ำมันแก๊สโซลีนที่เติมสารตะกัว่ (Leaded Gasoline)
ถังที่เก็บน้ำมันที่เติมสารตะกัว่ เป็ นเวลานาน จะมีอนั ตรายจากพิษของ Tetraethyl Lead (TEL) และ Tetraethyl Lead (TML) สำหรับถังใน
เรื อซึ่งปกติมกั เปลี่ยนบรรทุกสิ นค้าต่าง ๆ หรื อใช้เป็ นถังถ่วงเรื อจะมีความเสี่ ยงต่ออันตรายดังกล่าวน้อยกว่า แต่ถา้ ต้องบรรทุกน้ำมันเติมสารตะกัว่ เป็ นประจำ ควรเอา
น้ำล้างก้นถังทุกครั้งที่สูบน้ำมันออกหมดนอกจากถังนั้นใช้เป็ นถังถ่วงเรื อ
Page 5 of 9
เครื่ องปรับอากาศชนิดหน้าต่างที่ไม่มีการรับรองให้ใช้ในบรรยากาศที่ติดไฟได้ หรื อที่ดูดอากาศจากภายนอก เข้ามาจะต้องตัดทางไฟและปิ ดคลุมทางเข้าของ
อากาศ
(6) สำหรับถังสิ นค้าที่มีระบบเครื่ องเป่ าลมติดตั้งประจำที่ต้งั แต่หนึ่งตัวขึ้นไป ควรปิ ดหน้าแปลนตาย (Blanked) ระหว่างการเชื่อมต่อของระบบระบายอากาศ
และระบบสิ นค้า นอกจากกำลังใช้เครื่ องเป่ าอากาศนั้นอยู่
และก่อนที่จะใช้ระบบสิ นค้าท่อทางส่งและท่อเชื่อม (Cross Over) ควรไล่ดว้ ยน้ำทะเลให้ตลอด ลิ้นสตริ ปและลิ้นอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้ในการฟรี แก๊สควร
ปิ ดและผนึกเอาไว้
(7) ไม่ควรเปิ ดช่องเปิ ดของถังที่อยูใ่ นที่อบั อากาศแม้แต่บางส่วนก็ตาม จนกว่าถังนั้นได้ทำระบายอากาศอย่างพอเพียงแล้วจากช่องเปิ ดที่มีอยูภ่ ายนอก เมื่อระดับ
แก๊สในถังลดลงเหลือ 25%
ของ LFL หรื อน้อยกว่าอาจใช้เปิ ดช่องที่อยูใ่ นที่อบั อากาศ เพื่อช่วยให้การระบายอากาศสมบูรณ์ดว้ ยก็ได้ โดยควรจะวัดแก๊ส
ในห้องอับอากาศระหว่างการระบายด้วย
(8) ถ้าระบบระบายเป็ นระบบร่ วม ควรจะตัดตอนแต่ละถังเพื่อป้ องกันการถ่ายเทแก๊สจากถังหนึ่งไปยังอีกถังหนึ่ง
(9) ในการใช้พดั ลมเคลื่อนที่ ควรกำหนดตำแหน่งที่จะทำให้การระบายแก๊สออกเป็ นไปอย่างสม่ำเสมอทัว่ ถึงและมีประสิ ทธิผล โดยทัว่ ไปแล้วทางออกของแก๊ส
ควรจะอยูห่ ่างจากตัวพัดลมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
(10)การใช้พดั ลมเคลื่อนที่ ควรให้การต่อเชื่อมทางไฟฟ้ าระหว่างตัวพัดลมและตัวเรื อถูกต้องตลอดเวลา
(11)เครื่ องมือแก๊สฟรี ที่ติดตั้งประจำถังอาจจะใช้พร้อมกันได้ แต่จะต้องไม่ใช้ทำแก๊สฟรี พร้อมกับถังที่กำลังล้างอยู่
(12)เมื่อเสร็จแก๊สฟรี ถงั ใดแล้วควรรอ 10 นาที ก่อนที่จะวัดแก๊สเพื่อให้ที่วา่ งในถังอยูใ่ นสภาพคงตัว ควรวัดทุก ๆ ช่อง ถ้าเป็ นถังใหญ่ ๆ ควรวัดให้ครอบคลุมตาม
จุดต่าง ๆ ในทางกว้าง
ในกรณี ที่ผลการทดสอบยังไม่เป็ นที่พอใจ ต้องทำการระบายแก๊สต่อไป
(13)เมื่อทำแก๊สฟรี สมบูรณ์แล้ว ควรปิ ดช่องเปิ ดสู่ถงั ทั้งหมดยกเว้นฝาทางลงถัง (Tank Hatch)
(14)เมื่อทำแก๊สฟรี และล้างถังเสร็จสมบูรณ์ทุกถังแล้ว ควรตรวจระบบระบายถังอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิง่ ประสิทธิภาพของลิ้น พี.วี. (P/V Valve)
และลิ้นระบายความเร็วสู ง (High Velocity Vent Valve)
, ,
ควรระบายน้ำ สนิม โคลนน้ำมัน ในท่อระบายออกและทดสอบสภาพหัวต่อของไอน้ำดับไฟ (Steam Smothering Connection) ให้ใช้งาน
ได้
9.3.3. การทำแก๊สฟรี เพื่อรับสิ นค้า (Gas Free for the Reception of Cargo)
ถังที่ตอ้ งการทำแก๊สฟรี เพื่อรับสิ นค้าควรไล่แก๊สออกจนกระทัง่ วัดความเข้มข้นของแก๊สไฮโดรคาร์บอนทัว่ ถังไม่เกิน 40% LFL
9.3.4. การทำแก๊สฟรี เพื่อลงถังและทำงานที่ไม่เกิดความร้อน โดยไม่ตอ้ งใช้เครื่ องช่วยหายใจ (Gas Free for Entry and Cold Work without
Breathing Apparatus)
นอกจากต้องปฏิบตั ิตามข้อ 9.3.4. แล้ว จะต้องปฏิบตั ิเพิ่มเติมตามข้อ 11.3. ด้วย
Page 6 of 9
สำหรับวิธีการปฏิบตั ิควรเป็ นไปตามรายละเอียดใน “ Crude Oil Washing System” ของ IMO และคู่มือ “ Operation and
Equipment Manual” ของเรื อ
การล้างถังด้วยน้ำมันดิบจะทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตเท่านั้น
และถ้าเครื่ องอุ่นน้ำล้างถัง (Tank Wash Water Heater) ติดตั้งอยูน่ อกห้องเครื่ อง ต้องปิ ดหน้าแปลนบอดขณะล้างถังด้วยน้ำมันดิบ เพื่อป้ องกันน้ำมัน
สิ นค้าเข้าห้องเครื่ องทางเครื่ องอุ่นน้ำ
Page 7 of 9
การควบคุมไม่ให้แก๊สไฮโดรคาร์บอนจากถังถ่วงเรื อออกสู่ บรรยากาศมี 4 วิธีดงั นี้
(a) โดยใช้ถงั ถ่วงเรื อถาวร (Permanent Ballast Tank) ที่มีความจุพอในการถ่วงเรื อให้กินน้ำลึกตอนออกจากท่าน้อยที่สุด (Minimum
Departure Draught)
(b) เก็บแก๊สที่ถูกขับออกมาเอาไว้ในถังสิ นค้าที่ว่าง โดยทำการถ่วงเรื อและสูบน้ำมันขึ้นพร้อมกันไป โดยที่วา่ งเหนือถังที่กำลังสูบน้ำถ่วงเรื อเข้าและถังที่กำลังสูบ
น้ำมันขึ้นเชื่อมต่อถึงกันโดยตรง
(c) โดยวิธีการอัดแก๊ส กล่าวคือเมื่อสูบน้ำมันเสร็ จแล้วในถังจะมีกำลังดันต่ำสุด เปิ ดที่วา่ งของถังสิ นค้าให้ถึงกันทางท่อแก๊สเฉื่อย แก๊สที่อยูใ่ นถังสิ นค้าที่ใช้ถ่วงเรื อ
จะท่อแก๊สเฉื่อยไปยังถังสิ นค้าอื่น ๆ ซึ่งทางระบายและช่องเปิ ดทั้งหมดถูกปิ ดอยู่ ดังนั้นแก๊สจะถูกอัดอยูใ่ นถังสิ นค้าของเรื อโดยที่กำลังดันอยูใ่ นระดับปลอดภัย
(Safe Margin) ต่ำกว่ากำลังดันลิ้นระบาย พี.วี. และอุปกรณ์ตดั แก๊สเฉื่อย (Breaker) ที่ต้งั ไว้ ทั้งนี้ลิ้น พี วี, deck seal และ breaker
ต้องอยูใ่ นสภาพใช้งานได้ดี รวมทั้งต้องปิ ดอุปกรณ์กนั กลับทั้งหลายให้หมดเพื่อกันแก๊สไหลย้อนกลับเข้าไปในเครื่ องกำเนิดแก๊สเฉื่อย
โดยทัว่ ไปที่วา่ งของถังสิ นค้าติดต่อถึงกันด้วยท่อแก๊สเฉื่อยอยูแ่ ล้ว การเอาน้ำถ่วงเรื อเข้าถัง (Dirty Ballast) สามารถทำไปพร้อม ๆ กับการสูบน้ำมันจากถัง
สิ นค้าอื่น ๆ ซึ่งอัตราการสูบน้ำมันขึ้นและอัตราเอาน้ำถ่วงเรื อเข้าที่พอเหมาะจะไม่ทำให้กำลังดันในถังสูงพอที่จะทำให้ไอระเหยออกสู่บรรยากาศได้ แต่ถา้ เกิดอัตราน้ำ
ถ่วงเรื อเข้ามากกว่าอาจจำเป็ นต้องลดหรื อหยุดการเติมแก๊สเฉื่อยเข้าถังเป็ นการชัว่ คราว
THE TANK WASHING LINES ON THIS SHIP MAY CONTAIN CRUDE OIL. VALVES MUST
NOT BE OPERATED BY UNAUTHORISED PERSONNEL
Page 8 of 9
และถ้าเป็ นการล้างถังในเขตท่าเรื ออาจจะมีกฎระเบียบเพิม่ เติมเฉพาะ ซึ่งต้องปฏิบตั ิตามเช่นกัน
Page 9 of 9