You are on page 1of 84

บทที่ 5

คำศัพท์ และสัญลักษณ์ เฉพำะทำงดนตรีและเครื่องสำยสำกล

สัญลักษณ์ โน้ ต(Musical Notation Guide)

สัญลักษณ์ แทนควำมดังเบำ ควำมเพีย้ นเสียง ควำมสั้นยำว(Musical Terms)


A

A ( เอ ) ชื่อระดับเสี ยง เสี ยง A ( ลา ) ที่อยูเ่ หนื อ C กลาง ( โด ) ซึ่งมีความถี่ 440 รอบต่อวินาที คือเสี ยงมาตรฐาน
สาหรับดนตรี และเครื่ องดนตรี

A battuta (It. อะบาตูตา ) ในจังหวะคงที่แน่นอน ให้กลับมาปฏิบตั ิในจังหวะคงที่

A ber (Gr. อะแบร์ ) แต่

A cappella (It. อะคาเปลลา )


เดิมหมายถึงเพลงโบสถ์ขบั ร้องหมู่สมัยโบราณซึ่ งไม่ใช้เครื่ องดนตรี คลอ ปั จจุบนั หมายถึง เพลงขับร้องหมู่ที่ไม่
ใช้เครื่ องดนตรี คลอ เช่นเดียวกันโดยไม่จากัดว่าจะเป็ นเพลงโบสถ์หรื อไม่ มาจากคาภาษาอิตาเลี่ยนมีความหมาย
ว่า chapel ( หมายถึง โบสถ์ )

A capricio (It. อะ คาปริ โซ ) ให้เล่นอย่างอิสระ อย่างเพ้อฝัน อย่างลวดลายซับซ้อน

A tempo (It. อะ เทมโป ) ตามความเร็ วเดิม ให้กลับไปที่อตั ราความเร็ วจังหวะปกติของเพลงนั้นหรื อความเร็ ว


เดิม

A volonta (It. อะโวโลนตา ) ไม่เคร่ งครัด ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั ผูเ้ ล่น

A volonte (Fr. อะโวลงเต้ ) ไม่เคร่ งครัด ทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั ผูเ้ ล่น

Accompaniment ( แอ็คคอมปานิเม้นท์ )
คือดนตรี คลอไปกับแนวทานองที่เล่นโดยนักดนตรี หรื อ ร้องโดยนักร้อง ดนตรี ที่คลอนี้ อาจใช้เปี ยโนหรื อวง
ออร์เคสตร้าหรื อวงดนตรี ประเภทอื่น ๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยงั หมายถึงดนตรี ที่นกั เปี ยโนใช้เล่นด้วยมือซ้าย (
ตามปกติ ) คลอประกอบทานองที่เล่นด้วยมือขวาbsolute music ( แอ็บสลูท มิวสิ ก )
ดนตรี ที่แต่งขึ้นเพื่อลักษณะทางดนตรี อย่างเดียว โดยไม่ได้เล่าเรื่ องราว รายการต่าง ๆ ฯลฯ เป็ นคาตรงข้ามกับคา
ว่าโปรแกรมมิวสิ ก (program music)

Abstract music ( แอ็บแทร็ คมิวสิ ก ) ความหมายคล้ายกับแอ็บสลูท มิวสิ ก

Accelerando (It. อัดเซเลรานโด ) เร็ วขึ้น การเร่ งหรื อเพิ่มความเร็ วขึ้นเรื่ อย ๆ คาย่อคือ accel.

Accent ( แอ็คเซ็นท ) การเน้นเสี ยง การย้า

Acciaccatura (It. อัดชะคะตูรา )


การประดับประดาทางดนตรี เป็ นโน้ตที่ปฏิบตั ิอย่างรวดเร็ วก่อนหน้าโน้ตตัวหลักแต่ไม่นบั ค่าอัตราของตัวโน้ตนี้
มักเล่นไปด้วยกันกับโน้ตตัวหลักดังกล่าวอัดชะคะตูรามาจากคาอิตาเลียนมีความหมายว่า บด กระแทก

Accidental ( แอ็กซิเดนทัล ) การเปลี่ยนแปลงในลักษณะครึ่ งเสี ยงโครมาติก (chromatic) ที่ไม่พบ ในเครื่ องหมาย


ตั้งบันไดเสี ยง

Accordion ( แอ็กคอเดียน )
เครื่ องดนตรี ที่พกพาไปไหนมาไหนได้ชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยถุง (bellows) สาหรับปั้ มลมผ่านลิ้น (reeds) มีแผง
คียบ์ อร์ ดตามลักษณะของเปี ยโน สาหรับการเล่นทานองเพลง และปุ่ มรู ปกระดุมสาหรับการเล่นโน้ต เบส และ
คอร์ ด มีลิ้น 2 ชุด ชนิดหนึ่งเล่นขณะที่ถุงลมถูกบังคับให้เปิ ด อีกชนิดหนึ่งเล่นเมื่อถุงลมถูกบังคับให้ปิด

Acoustics ( อะคูสติก )
สวนศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แห่ งเสี ยงหรื อเสี ยงที่เกิดธรรมชาติโดยปราศจากไฟฟ้ า วิทยาศาสตร์ ที่วา่ ด้วยเสี ยง ซึ่ ง
ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับการเกิดเสี ยง , การส่ งผ่านของเสี ยง , การผันแปรของเสี ยงธรรมชาติทางวิทยาศาสตร์
ของเสี ยงดนตรี และอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเสี ยงและเสี ยงที่เกิดจากเครื่ องดนตรี

Adagio (It. อะดาจิโอ ) อย่างเชื่องช้าอย่างสบายอารมณ์ ช้ากว่าอันดานเต้แต่เร็ วกว่าลาโก


Ad libitum (L. แอ็ดลิบิตุม )
ตามใจผูเ้ ล่น หมายความว่านักแสดงอาจจะปฏิบตั ิ ดังนี้
1. เปลี่ยนแปลงจังหวะ
2. เพิม่ หรื อลดแนวของการร้องหรื อแนวของเครื่ องดนตรี แนวใดแนวหนึ่งก็ได้
3. เพิ่มหรื อลดข้อความทางดนตรี ซึ่ งมักจะเป็ นส่ วนคาเดนซา (cadenza)
4. เพิ่มส่ วนคาเดนซา

Adapted ( อะแด็ปท์ )
ดนตรี ที่ดดั แปลงให้เข้ากับงานเช่นดนตรี ที่เขียนสาหรับวงออร์ เคสตร้านามาเขียนเสี ยใหม่สาหรับเปี ยโน ดนตรี
สาหรับเปี ยโนนามาเขียนให้ไวโอลินเล่น หรื อที่เขียนไว้สาหรับเครื่ องดนตรี ก็เขียนใหม่ให้คนร้อง ทั้งนี้ทานอง
เพลงมิได้เปลี่ยนไป

Adaptation ( อะแด็ปเตชัน่ ) การเรี ยบเรี ยงเสี ยงประสานใหม่ของบทประพันธ์เพลงมาตรฐานบทหนึ่ง

Affabile (It. อะฟาบิเล ) ในลักษณะยินดี เต็มใจและงามสง่า

Affettuosamente (It. อะเฟตตูโอซาเมนเต ) ด้วยความรัก ด้วยความถนุถนอม

Affettuoso (It. อะเฟตตูโอโส ) ด้วยอารมณ์อบอุ่น รักใคร่

Affrettando (It. อัฟเฟร็ ตตานโด ) เร็ วขึ้น ตื่นเต้น

Affrettoso (It. อัฟเฟร็ ตโตโซ ) เร่ งให้เร็ วขึ้น

Agevole (It. อะเจโวเล ) ตามสบาย ง่าย ๆ เรี ยบ ๆ

Agilmente (It. อะจีลเมนเต ) อย่างปลอดโปร่ ง มีชีวิตชีวา

Agitato (It. อะกิตาโต ) ตื่นเต้น เร้าใจ เร่ าร้อน

Agrements (Fr. อะเกรมองต์ ) การประดับประดาทางดนตรี

Aimable (Fr. เอมาเบลอ ) พอใจ


Air ( แอร์ ) ทานอง บทเพลงร้อง

Aisement (Fr. เอซมอง ) ง่าย ๆ สบาย ๆ

Alberti bass ( อัลแบร์ ติ เบส ) รู ปแบบการเดินแนวเบสจากโบรคเคนคอร์ด (broken chords) อัลแบร์ติเบส มาจาก


ชื่อนักแต่งเพลงที่มีนามว่า ดอเมนิ โก อัลแบร์ ติ ( เกิดปี ค . ศ .1710) ซึ่งใช้รูปแบบการเดินเบสในบทเพลงโซนา
ตาของเขา
Al fine (It. อัล ฟิ เน ) ไปสู่ ส่วนจบของเพลง

Alla (It. อัลลา ) ไปยัง , ณ ที่ , ในลีลาของ .. , ตามแบบฉบับของ

Alla breve (It. อัลลา เบรเว ) หมายถึงเครื่ องหมายกาหนดจังหวะ g ; มีจงั หวะนับสองจังหวะในแต่ละห้องโดยมี


โน้ตตัวขาวนับเป็ นหนึ่งจังหวะ อัลลา เบรเว

Alla marcia (It. อัลลา มาร์เซี ย ) ในแบบฉบับของเพลงเดินแถว

Alla militare (It. อัลลา มิลิตาเร ) ในแบบฉบับของทหาร

Allargando (It. อัลลาร์กานโด ) ช้าลงตามลาดับ กว้างขึ้น มักประกอบเข้ากับคาว่าเครเซนโด ( เสี ยงค่อย ๆ ดังขึ้น


) คาย่อคือ allarg

Alla russa (It. อัลลา รู สซา ) ในแบบฉบับของรัสเซีย

Alla turca (It. อัลลา ตูรกา ) ในแบบฉบับของชาวเตอร์ ค ขบวนสุ ดท้ายของโซนาตาในคียเ์ อ ( เคอเชิล 331) ของ
โมสาร์ ท ซึ่ งเขียนไว้วา่ "Alla turca"

Alla zingara (It. อัลลา ซิงการา ) ในแบบฉบับของชาวยิบซี

Allargando (It. อัลลาร์กานโด ) ช้าลงทีละน้อย


Allegretto (It. อัลเลเกรทโต ) อย่างมีชีวติ ชีวา เร็ วกว่าอันดานเต แต่ชา้ กว่าอัลเลโกร

Allegrissimo (It. อัลเลกริ สซิโม ) เร็ วมาก

Allegro (It. อัลเลโกร ) อย่างมีชีวติ ชีวา กระฉับกระเฉง เร็ วกว่าอัลเลเกรทโต แต่ชา้ กว่าเพรสโต

Allemande (Fr. อาลมานต์ )


(1) ในปลายศตวรรษที่ 16 เพลงเต้นราเยอรมันในจังหวะประเภทนับสอง
(2) ในปลายศตวรรษที่ 17 เพลงอาลมานต์ไม่ได้เป็ นเพลงเต้นราต่อไป แต่กลายเป็ นส่ วนหนึ่งของ เพลงประเภทส
วีท (suite) ซึ่ งอยูภ่ ายใต้เครื่ องหมายกาหดจังหวะ o และมีส่วนยกของจังหวะสั้น ๆ ตามด้วยทานองกระชั้นถี่
(3) ในปลายศตวรรษที่ 18 ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน เพลงอาลมานด์น้ ี ปรากฏคล้ายกับ เพลงเต้นราวอลซ์
ในจังหวะ k หรื อ m

Allmahlich (Ger.) ทีละน้อย

Al segno (It. อัล เซนโย ) ไปที่เครื่ องหมาย

Al niente ลดลงจนไม่เหลือ

Altissimo (It. อัลตีสซิโม ) สู งสุ ด

Alto (It. อัลโต ) สู ง


1. เสี ยงร้องหญิงที่ต่ากว่าโซปราโน . คอนทรัลโต
2. แนวเสี ยงที่อยูถ่ ดั จากแนวสู งสุ ดในการร้องเพลงประสานเสี ยงสี่ แนว ( โซปราโน , อัลโต , เทเนอร์และเบส )
3. เครื่ องดนตรี ที่อยูใ่ นแต่ละตระกูลได้แก่ อัลโตคลาริ เนต , อัลโตฮอร์น , อัลโตแซกโซโฟน

Alto clef (It. อัลโต เคลฟ ) กุญแจประจาหลัก C กลาง ( โด ) ที่ปรากฏอยูบ่ นเส้นที่สามของบรรทัดห้าเส้น โน้ต
ดนตรี สาหรับซอวิโอลา บันทึกอยูใ่ นกุญแจประจาหลักอัลโตเคลฟ

Am (Gr. อัม ) บน โดย ใกล้

Am steg (Gr. อัมสเต็จ ) ปฏิบตั ิใกล้หย่อง


Amabile (It. อะมาบิเล ) พึงใจ , นุ่มนวล , น่ารัก

Amoroso (It. อะโมโลโซ ) มีเสน่ห์

An dem griffbrett ( อันเดมกริ ฟเบอร์เต้ ) ปฏิบตั ิใกล้ฟิงเกอร์บอร์ ด (fingerboard)

Ancora (It. อันโกรา ) อีกครั้งหนึ่ง

Anacrusis ( อนาครู สิส ) จังหวะยก

Ancora una volta (It. อันโกรา อูนา โวลตา ) อีกครั้งหนึ่ง

Andantino (It. อันดานติโน ) ค่อนข้างช้า แต่ไม่ชา้ เท่า andante

Anadante (It. อันดานเต ) ความเร็ วขนาดกาลังเดินไหลไปตามสบาย ช้ากว่าอัลเลเกรทโต แต่เร็ วกว่าอะดาโจ

Animato (It. อันนีมาโต ) ด้วยวิญญาณ เต็มไปด้วยพลัง

Anime (Fr. อะนิเม ) ร่ าเริ ง

Anmutig (Gr. อันมูติก ) สง่างาม มีเสน่ห์

Anglaise (Fr. อองเกลซ ) เป็ นเพลงเต้นราฝรั่งเศส ที่มีพ้นื ฐานมาจากเพลงเต้นราพื้นเมืองอังกฤษ นาไปใช้ในการ


เต้นราปลายเท้า ( บัลเล่ต์ ) ของฝรั่งเศสเมื่อปลายศตวรรษที่ 17 และพบในบทเพลงสวีทที่แต่งราวศตวรรษที่ 18

Ansioso (It. อันซิโอโซ ) ด้วยความกระวนกระวาย ความลังเล

A piacere (It. อะปิ อัดเชเร ) ตามสบายขึ้นอยูก่ บั ผูเ้ ล่น ใช้เหมือนคา ad libitum

Appassionata (It. อัพปาซิโยนาตา ) ด้วยความหลงใหล เสน่หา

Appassionato (It. อัพปาซิโอนาโต ) ด้วยความรัก เสน่หา

Appena (It. อาเปนา ) แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง


Appoggiatura (It. อับปอจจะตูรา ) การประดับประดาทางดนตรี มาจากคาอิตาเลียนว่า appoggiare แปลว่า
ต้องการโน้ตอื่น ซึ่ งเป็ นโน้ตเสี ยงใกล้ตวั มาเพิ่มให้เกิดความไพเราะขึ้น

A quattro mani (It. อะ ควัตโตร มานิ ) สาหรับสี่ มือ ( บรรเลง 2 คน ในเปี ยโนหลังเดียวกัน )

Arco (It. อาร์ โค ) คันชักของเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายอาร์ โคใช้เมื่อต้องการให้โน้ตตัวต่อไปต้องใช้คนั ชัก


ปฏิบตั ิหลังจากทานองที่มีการใช้คาว่า pizzicato ( การดีด ) มาแล้ว

Arditamente ( อาร์ ดิเทเม็นเต ) อย่างกล้าหาญ

Aria (It. อารี ยา ) เพลงร้องที่มีเครื่ องดนตรี คลอประกอบซึ่ งจะปรากฏในรู ปการเล่นประดับ อย่างมากมายในโอ


เปรา (Operas) แคนตาตา (Cantatas) และ ออราทอริ โอ (0ratorios)

Arioso (It. อาริ โยโซ ) เป็ นทานองไพเราะ

Armonioso ( อาร์โมนิโอโซ ) อย่างกลมกลืน

Arpeggiando (It. อาร์เปจจานโด ) เล่นในลักษณะกระจายคอร์ ดแบบเครื่ องดนตรี ฮาร์ ป

Arpeggio (It. อาร์เพจจิโอ ) การกระจายคอร์ ด มาจากคาอิตาเลียนว่า arpeggiare มีความหมายว่า ให้เล่นใน


ลักษณะคล้ายฮาร์ป ( ใช้โน้ตลาดับที่ 1,3,5,8,5,3,1 ในคอร์ ด)

Arrangement ( อะเร้นจ์เม้น ) การเรี ยบเรี ยงเสี ยงประสานสาหรับวงดนตรี หรื อการขับร้อง

Arret ( อาเร้ท ) หยุด

Ascap ( เอสเคพ ) ย่อมาจาก American society of composers, authors, and publishers ก่อตั้งในปี 1914 victor
herbert เพื่อปกป้ องลิขสิ ทธิ์ ของนักแต่งเพลง , นักประพันธ์ , และผูพ้ ิมพ์ มีสมาชิกเป็ นนักแต่งเพลงและนัก
ประพันธ์ประมาณ 3,000 คนและเป็ นสานักพิมพ์กว่า 400 แห่ง

Assai (It. อะซาอี ) มาก allegro assai หมายถึง เร็ วมาก

Assez (Fr. อาเซ ) พอควร Assez vite หมายถึง เร็ วพอควร ( เร็ วกว่าปานกลางเล็กน้อย ค่อนข้างเร็ ว )
Atonal ( เอโทนอล ) ระบบเสี ยงทางดนตรี ที่มีเสี ยงหลัก

Attacca (It. อัตคกา ) ต่อเนื่องไปโดยไม่หยุด ; ทันทีทนั ใด

Au (Fr. โอ ) ไปยัง , ใน , ที่ , สาหรับ

Au mouvement (Fr. โอมูเวอมอง ) กลับไปใช้ความเร็ วเท่าเดิม

Aubade ( โอบาด ) ดนตรี ยามรุ่ งอรุ ณ มีลกั ษณะงดงามเงียบสงบเหมือนบรรยากาศในชนบทยามเช้า

Aufhalten (Gr. เอาฟานเท็น ) ช้าลง


Augmented intervals (It. อ็อกเมนเต็ด อินเทอร์ เวิล ) ขั้นคู่เสี ยงที่เพิ่มเสี ยงโน้ตตัวที่หา้ ขึ้นครึ่ งเสี ยง (1,3,5#)

Augmentation ( อ็อคเมนเทชัน่ ) การขยายอัตราจังหวะตัวโน้ต ของโมทีฟ ให้มีอตั ราจังหวะยาวกว่าเดิม

Augmentation dot ( อ็อคเมนเทชัน่ ด็อด ) จุดที่เขียนไว้หลังตัวโน้ต เพื่อยืดอัตราจังหวะของตัวโน้ต ให้ยาวขึ้น


ครึ่ งหนึ่งของค่าตัวโน้ตนั้น

Aumentando (It. เอาเมนทานโด ) หมายถึง Crescendo ; ดังเพิ่มขึ้นเรื่ อย ๆ

Ausdruck (Gr. เอาส์ดรู กค์ ) ความรู้สึก

Ausdruckvol (Gr. เอาส์ดรู กคโวล์ ) เต็มไปด้วยความรู้สึก

Autoharp ( ออโตฮาร์ป ) เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายซึ่ งเล่นเสี ยงคอร์ ดได้โดยวิธีกดปุ่ มกระดุมเพื่อให้เกิด
เสี ยงจากสายที่ตอ้ งการได้

Authentic cadence ( ออเทนติก เคเดนซ์ ) ลูกจบสมบูรณ์

Avec (Fr. อะเว็ค ) ด้วย Avec ame หมายถึง ด้วยวิญญาณ

Ave maria ( อาเวมาเรี ย ) บทเพลงสรรเสริ ญพระนางพรหมจารี มาเรี ย ที่เด่นมากคืออาเว มาเรี ย โดย ชูเบิร์ต และ
กูโนด์
B
ชื่อระดับเสี ยง ( ที ) Bach บาค ผูป้ ระพันธ์ชาวเยอรมัน (1685-1750) สมัยบาโรค

Background ( แบ็คกราวด์ )
ดนตรี ประกอบภาพยนตร์ , รายการวิทยุ , รายการโทรทัศน์ ฯลฯ เพื่อโน้มน้าวใจคนช่วยให้เรื่ องราวสมจริ ง สม
จัง หรื อเพื่อเพิ่มความเพลิดเพลินแก่ผชู ้ มและผูฟ้ ัง

Bagatelle (Fr. บากาเตล ) บทเพลงเล็ก ๆ สั้น ๆ สาหรับเปี ยโน (e.g. Fur Elise).

Bagpipe ( แบกไปป์ )
เครื่ องดนตรี โบราณประเภทเครื่ องลม ( ที่เราเรี ยกว่าปี่ สก๊อต ) ผูเ้ ล่นจะเป่ าลมเข้าไปตามท่อจนถึงถุงลม ลมจะไป
สั่นสะเทือนลิ้นของปี่ ท่อลมอันหนึ่งเรี ยกชานเทอร์ ซ่ ึ งมีรูปิดเปิ ดได้มีไว้สาหรับเล่นทานองเพลงท่อลมอื่น ๆ เรี ยก
โดรนทาเสี ยงต่อเนื่ องกันไปเครื่ องดนตรี น้ ีมีรูปแบบมากมายพบได้ในหลายส่ วนของโลก

Ballad ( แบลลัด ) หมายถึงเพลง คาว่า " แบลลัด " มาจากภาษาลาติน ballare หมายถึง " เต้นรา " เดิมคานี้เป็ น
เพลงร้องสาหรับเต้นราเพลงหนึ่ง ต่อมาได้กลายเป็ นเพลงขับร้องเดี่ยว และมักจะเป็ นการเล่าเรื่ องราวต่าง ๆ
Ballade (Fr. บาหลัด )

1. คีตลักษณ์ของบทกวีและดนตรี ยอดนิยมในยุคกลาง ขับร้องโดยพวกคีตกวีซ่ ึ งชาว ฝรั่งเศส เรี ยก ว่า trouveres (


ทรู แวร์ )
2. บทเพลงสาหรับเปี ยโน ที่แต่งในลักษณะโรแมนติกและรู ปแบบกวีนิพนธ์ที่มีความอิสระในยุค ศตวรรษที่ 19

Ballet (Fr. บัลเล่ต์ )


ระบาปลายเท้า คือการแสดงการเต้นราที่มีแบบฉบับในลักษณะการเต้นเป็ นกลุ่ม มีเครื่ องแต่งกาย ฉากและดนตรี
ประกอบ มีท้ งั การกาหนดท่าทางการเคลื่อนไหวร่ างกายอย่างสมบูรณ์ จนกระทัง่ เกิดเทคนิคพื้นฐานของบัลเล่ต์
มักใช้เพื่อคัน่ รายการแสดงโอเปรา ซึ่ งส่ วนมากแล้วจะไม่เป็ นส่ วน หนึ่งในโอเปราที่แสดงในคราวเดียวกันนั้น

Band ( แบนด์ ) กลุ่มนักแสดงดนตรี รวมกันเป็ นวงดนตรี

Banjo ( แบนโจ )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสาย ประกอบด้วยขีดแบ่งเสี ยงที่เรี ยกว่า เฟร็ ต ( ขีดแบ่งเส้น เครื่ องสายไทยใช้คาว่า ''
นม '') ในตระกูลพวกกีตาร์ แบนโจจะมีส่วนช่วงคอยาว ปกติมี 5 สาย เพื่อใช้สาหรับเล่นแบบสตรัม ( ทาเสี ยง
คอร์ ดเป็ นจังหวะต่าง ๆ ) ด้วยนิ้วมือของผูเ้ ล่น ช่วงลาตัวมีรูปร่ างคล้ายกลองแทมโบรี นซึ่ งส่ วนหลังเปิ ดไว้

Bar ( บาร์ )
1. การกาหนดระยะของจังหวะทางดนตรี
2. คาที่ใช้สาหรับการกั้นห้อง

Bar line ( บาร์ ไลน์ ) เส้นกั้นห้อง เส้นแนวตั้งที่แบ่งโน้ตเพลงออกเป็ นห้อง , เส้นแบ่งทางแนวตั้งเพื่อกาหนด


จานวนจังหวะทางดนตรี

Barcarole ( บาร์คะโรล )
1. บทเพลงร้องของชาวเรื อกอนดะเลียร์ เมืองเวนิส มาจากภาษาอิตาเลียนว่า barca ซึ่งหมายถึง " เรื อ "
2. บาร์ คะโรลอยูใ่ นจังหวะ u และ 12/8 มีแนวคลอประกอบซึ่งเลียนเสี ยงการโยกของเรื อด้วย

Baritone ( บาริ โทน )


1. ระดับเสี ยงร้องของนักร้องชายที่ต่ากว่าเทเนอร์ แต่สูงกว่าเบส มาจากคาในภาษากรี ก ว่า barys ซึ่งมีความหมาย
ว่า " หนัก " หรื อ " ต่า "
2. เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าทองเหลือง

Baroque ( บาโรค ) ผลงานดนตรี ในช่วงระยะเวลาจาก ค . ศ . 1600-1750 โดยนับเริ่ มจากการ กาเนิดโอเปราและ


เพลงร้องประเภทออราทอริ โอ ( ของ Monteverdi และ Schutz) และถึงจุดสุ ดยอดในช่วงผลงานดนตรี ของ Bach
และ Handel

Bass ( เบส )
1. ช่วงเสี ยงร้องต่าสุ ดของนักร้องชาย
2. แนวบรรเลงที่อยูต่ ่าสุ ดของบทประพันธ์เพลง มาจากคาภาษากรี กว่า basis มีความหมายว่า พื้นฐาน
3. สมาชิกในตระกูลเครื่ องดนตรี ต่าง ๆ เช่น เบสคลาริ เนต เบสดรัม และ เบสวิโอล ฯลฯ

Bass clef ( เบสเคลฟ )


หมายถึงเครื่ องหมายกุญแจประจาหลักที่อยูบ่ นเส้นที่ 4 ของบรรทัดห้าเส้น เบสเคลฟที่เห็นอยูใ่ นปั จจุบนั นี้พฒั นา
รู ปร่ างมาจากอักษร F
Basso ( บาสโซ It., 'bass')
1. ต่า เบส
2. เสี ยงร้องแนวเบส

Basso buffo (It. บาสโซบูโฟ ) นักร้องระดับเสี ยงต่า ซึ่งแสดงเป็ นตัวตลก

Bassoon ( บาสซูน )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้เป็ นปี่ ที่มีลิ้นคู่เรี ยกว่าปี่ บาสซูน มีเสี ยงต่าเป็ น เบสในตระกูลปี่ โอโบ มีการม้วน
ท่อเป่ าทบย้อนลาตัวของปี่ เพื่อลดขนาดความยาวให้ สั้นลงเหลือเเค่ขนาดประมาณ 4 ฟุตเล็กน้อย ช่วงเสี ยงแต่ละ
ช่วงจะมีคุณภาพเสี ยงปี่

Basso ostinato (It. บาสโซ ออสซินาโต )


วลีเพลงสั้น ๆ ขนาด 4-8 ห้องซึ่ งจะซ้ าแล้วซ้ าเล่าและจัดไว้เป็ นแนวเสี ยงต่าบาสโซออสซิ นาโตเรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่า
กราวด์เบสเพราะทาหน้าที่เป็ นฉากหลังหรื อคลอประกอบสาหรับแนวทานองเพลง

Baton (Fr. บาตอง )


ไม้ถือสาหรับผูอ้ านวยเพลงใช้เพื่อควบคุมจังหวะบาตองอาจจะทาจากไม้กา้ นเรี ยวหรื อไม้ที่มีน้ าหนักเบาหรื อ
วัสดุเบาก็ได้

Battuta (It. บัตตูตา ) จังหวะ

Beat ( บีท )
จังหวะเคาะหรื อนับของห้องแต่ละห้อง เช่น o ประกอบด้วย 4 จังหวะ หรื อการนับได้สี่ครั้งในหนึ่งห้อง h
ประกอบด้วย 2 จังหวะ หรื อการนับได้สองครั้งในหนึ่งห้อง

Beaucoup (Fr. โบกู ) มาก

Beam ( บีม ) เส้นรวบหาง เส้นทึบแนวนอนใช้ในการรวมกลุ่มตัวโน้ต ที่มีอตั ราจังหวะน้อยกว่าโน้ตตัวดา

Bebop ( บีบอ๊ บ ) ดนตรี แจ๊สชนิดหนึ่ง

Behaglich (Gr. เบฮากลิชค์ ) ไม่เร่ งรี บ สบาย ๆ


Bei (Gr. ไบ ) กับ , ที่ , สาหรับ

Beide hande ( ไบแฮนด์ ) ใช้มือทั้งสองข้าง

Belebt (Gr. เบเลบท์ ) มีชีวติ ชีวา ร่ าเริ ง

Bell ( เบลล์ )
1. เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องตีกระทบ มีรูปร่ างเป็ นรู ปทรงระฆัง มีระดับ เสี ยงแน่นอน
2. ลาโพง ส่ วนประกอบตัวเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลม ที่มีลกั ษณะบานออกคล้ายระฆัง bel lyre ( เบลล์ ไลร่ า
)

Ben ( เบน ) มาก

Berceuse (Fr. แบร์เซิล , 'bercer' to rock)


เพลงกล่อมเด็ก ซึ่ งมักจะอยูใ่ นจังหวะ u ประกอบด้วยแนวคลอประสานที่มีลกั ษณะคล้ายการไกวเปล

Ben, bene (It. เบน , เบนเน ) มาก , ดี , Ben marcato หมายถึง กาหนดชัดเจน
Bergamasque (Fr.), bergamasca (It. แบร์กามาสคา ), bergomask ( Eng. )
1. การเต้นราบางครั้งก็มีคาร้องด้วยนิยมเล่นกันในสมัยศตวรรษที่ 16 และ 17 ในหมู่ชาวนา เมืองแบร์ กาโม
ประเทศอิตาลี ซึ่ งถือว่าเป็ นจุดเริ่ มต้นของการเต้นราชนิ ดนี้
2. การเต้นราแบร์กามาสคาในศตวรรษที่ 19 มีจงั หวะ u เหมือนกับตารันเตลลา

Beruhigend (Gr. เบรู ฮิเก็นด์ ) สงบ

Bestimmt ( เบสติมท์ ) แน่นอน

Bewegter (Gr. เบเว็กแตร์ ) เร็ วขึ้น มีชีวติ ชีวาขึ้น

Bien (Fr. เบียง ) มาก

Binary ( ไบนารี่ ) สองส่ วนคีตลักษณ์แบบไบนารี่ ฟอร์ มประกอบด้วยสองส่ วนแต่ละส่ วนก็มีการย้อนบรรเลง


ด้วย Binary form ( ไบนารี ฟอร์ม ) โครงสร้างแบบสองส่ วนบทประพันธ์ที่มีส่วนประกอบสองส่ วน

Bis (Gr. บิส ) จนกระทัง่ , จนถึง


Bis zu ende(Gr. บิส ซู เอนเด ) จนจบ

Blues ( บลูส์ ) คาว่า " บลูส์ " มีหลายความหมาย ดังนี้


1. ความเศร้า ความเหงา หรื อเพลงที่มีจุดประสงค์เพื่อให้ฟังแล้วมีความรู้สึกเศร้า
2. เป็ นลาเนาแห่งบทกวี
3. เป็ นเพลงที่มีจงั หวะช้า ฟังแล้วหดหู่ เพลงแบบหยาบ ๆ
4. มีรูปแบบเฉพาะของทางคอร์ดมักดาเนินไปรวม 12 ห้อง ซึ่ งเดาทางคอร์ ดล่วงหน้าได้ ที่หอ้ งที่หา้ ห้องที่เจ็ด
ห้องที่เก้า และห้องที่สิบเอ็ด

Bolero (Sp. โบเลโร )


การเต้นราที่มีชีวิตชีวาของสเปนในจังหวะ k การเต้นราแบบโบเลโรประกอบด้วยการเคลื่อนเท้าที่สลับซับซ้อน
อีกทั้งผูเ้ ต้นจะถือเครื่ องดนตรี ประเภทให้จงั หวะคือคาสทะเน็ตส์เชื่ อกันว่าผูค้ ิดท่าเต้น แบบนี้ คือ Cerezo of
Cadiz ชาวสเปนในราว ค . ศ . 1780

Bore ( บอร์ )
ส่ วนกว้างภายในท่อของเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้
1. conical bore ( โคนิคลั บอร์ ) ส่ วนกว้างของท่อจากปากเป่ าถึงปากลาโพง มีการขยายบาน ออกที่ละเล็กละน้อย
แบบต่อเนื่ องเป็ นรู ปทรงกรวยเช่นเครื่ องดนตรี ประเภทแตรคอร์ เน็ตแตรบาริ โทน
2. cylindrical bore ( ซิลินดริ คคัล บอร์ ) ความกว้างของท่อที่มีขนาดเท่ากันตลอดลาตัวเครื่ อง ดนตรี ยกเว้นส่ วน
ใกล้ลาโพงที่จะขยายบานออก เช่น แตรทรัมเป็ ต แตรทรอมโบน ฯลฯ

Bouche ( โบเช่ ) การกักเสี ยงของ horn โดยใช้มือสอดเข้าไปในลาโพงทาให้เสี ยงลอดออกมาลาบากยิง่ ขึ้น

Bouffe (Fr. บูฟ ) ตลกขบขัน

Bourdon (Fr. บูร์ดอง )


1. เสี ยงดนตรี ที่ลากยาวมีเสี ยงต่า หรื อเสี ยงซ้ า ๆ กันของแนวเบส เหมือนอย่างโดรน ของเครื่ อง ดนตรี ประเภท
ปี่ สก็อต 2. เสี ยงต่าลึก ๆ จากท่อขนาดความยาว 16 หรื อ 32 ที่เล่นโดยออร์ แกน

Bourree (Fr. บูเร )


เพลงเต้นราซึ่ งมีรากฐานมาจากประเทศฝรั่งเศสมีความรวดเร็ วในจังหวะประเภทนับสอง ( ห้องละ 2 จังหวะ )
ส่ วนเริ่ มต้นเพลงจะเป็ นจังหวะยก นิยมเล่นกันในประเทศฝรั่งเศสใน ศตวรรษที่ 17 เดิมเป็ นเพลงเต้นราของ
ชาวนา ต่อมาบางครั้งก็มีปรากฏในบทเพลงประเภท สวีท

Bow ( โบ )
หมายถึง คันชัก เป็ นเครื่ องมือสาคัญของเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายตระกูลไวโอลินและวิโอล ใช้สีบนเส้น
สายเสี ยงให้เกิดการสัน่ ไหวตรงส่ วนจับของคันชักด้านในจะมีแส้มา้ ที่สาหรับปรับไขได้ เรี ยกว่านัท มีหน้าที่ดึง
ส่ วนที่เรี ยกว่าฟร็ อกซึ่ งทาให้แส้มา้ ตึงได้การถูยางสนบนแส้มา้ และเมื่อลากคันชักไปบนสายเสี ยงของเครื่ อง
ดนตรี จะช่วยให้เกิดแรงเสี ยดทานและการสั่นสะเทือนของสายเสี ยงนั้น เครื่ องดนตรี ที่มีขนาดเล็กกว่าย่อมมีคนั
ชักที่ยาวกว่าเครื่ องดนตรี ที่มีขนาดใหญ่กว่าเช่นคันชักของไวโอลินจะยาวที่สุดส่ วนคันชักของเบสจะสั้นสุ ดที่
เรี ยกชื่อคันชักเนื่ องจากคันชักในรุ่ นแรก ๆ มีลกั ษณะคล้ายคันธนูนนั่ เอง

Brass band ( บราส แบนด์ ) หมายถึงแตรวงเป็ นวงดนตรี ขนาดย่อมประกอบด้วยเครื่ องดนตรี ประเภทแตร


(Brass) และเครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบ (Percussion)

Brass family ( บราสแฟมิลิ )


เครื่ องดนตรี ที่มีอยูใ่ นตระกูลเครื่ องลมประเภทแตรทาด้วยทองเหลืองหรื อโลหะอื่น ๆ สมาชิกในตระกูลประเภท
แตรวงได้แก่ แตรบิวเกิล , คอร์เน็ต , ทรัมเป็ ต , อัลโตฮอร์ น ( เมโลโฟน ) , เฟรนช์ฮอร์ น บาริ โทน , ยูโฟเนียม , ซู
ซาโฟน , ทรอมโบน และทูบา

Bravura (It. บราวูรา ) ด้วยจิตวิญญาณ กล้าหาญ

Breit (Gr. ไบรท์ ) กว้าง ๆ

Brillant (Fr.), brillante (It. บริ ลลานเต ) สว่าง ความกระจ่างแจ้ง

Brio (It. บริ โอ ) แข็งขัน

Brioso (It. บริ โอโซ ) อารมณ์แรงดัง่ ไฟ , พลังวิญญาณ

Broken chord ( โบรคเค็น คอร์ด ) สไตล์การใช้คอร์ ดโดยการเล่นโน้ตคอร์ ดทีละโน้ต เช่น การดีดสายกีตาร์ ทีละ
สาย

Brusco (It. บรู สโก ) เสี ยงเอะอะตึงตัง , หยาบ


Buffa (It. บุฟฟา ) ตลกขบขัน

Bugle ( บิวเกิล ) เครื่ องดนตรี ประเภทแตรทองเหลือง ซึ่ งมีส่วนปากเป่ า ( กาพวด ) เป็ นรู ปถ้วย ไม่มีลูกสู บแตร
แต่เป่ าเป็ นเสี ยงได้ตวั โน้ตเพียงแปดตัวในลักษณะของอนุ กรม โอเวอร์ โทน โน้ตเหล่านี้คือ เสี ยงพื้นฐานทั้งหมด
ของแตรสัญญาณเรี ยกทางทหาร

Burlesca (It. บัวร์เลสกา ) ตลกขบขัน ล้อเลียน

C
ชื่อระดับเสี ยง ( โด )

Cadence ( เคเดนซ์ )
คอร์ ดที่อยูต่ ิดกันในส่ วนจบของวลีเพลงท่อนลีลาหรื อบทเพื่อสรุ ปถึงความคิดทางดนตรี มีเคเดนซ์อยูห่ ลายแบบ
คือ
1. เพอเฟกต์เคเดนซ์จะทาให้บทประพันธ์ทางดนตรี จบลงได้อย่างน่าพอใจเมื่อตัวโทนิ ค (Tonic) อยูท่ ี่แนวบนสุ ด
ของคอร์ดสุ ดท้าย
2. อิมเพอเฟกต์หรื อฮาล์ฟเคเดนซ์ เมื่อใช้คอร์ ดที่หา้ ( V ) ตามหลังคอร์ดที่หนึ่ง ( I )
3. ดีเซฟทีฟว์หรื ออินเตอร์ รัฟท์เต็ดเคเดนซ์การต่อเนื่ องของคอร์ ดที่หก ( ที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ) ใน เคเดนซ์

Cadenza (It. คาเดนซา ) แนวทานองอันสดใสรื่ นเริ งโอ่อวดฝี มือมักพบในส่ วนจบของการร้องเดี่ยวหรื อแสดง


เครื่ องดนตรี เดี่ยวในบทเพลงประเภทคอนแชร์โต้

Calando (It. คาลานโด ) เบาลงและช้าลงเรื่ อย ๆ

Calcando (It. คาลคานโด ) เร็ วขึ้นมาจากคาอิตาเลียนมีความหมายว่า เดินเท้าเสี ยงดัง

Calma, calmo ( คาลมา ) อย่างสงบ

Calmando (It. คาลมานโด ) เบาลงเรื่ อย ๆ อย่างสงบเยือกเย็น

Calmato (It. คาลมาโต ) อย่างสันติสุขอย่างสงบ


Calore (It. คาลโลเร ) ด้วยความรักใคร่ อบอุ่น

Campana (It. คัมปานา ) ระฆัง

Campanella (It. คัมปาเนลลา ) ระฆังเล็ก ๆ

Canon ( แคนนอน )
คีตลักษณ์ชนิดหนึ่งที่มีแบบแผนแน่นอนไม่วา่ จะเป็ นแนวบรรเลงหรื อแนวขับร้องจะมีทานองเหมือนกันหมด
เพียงแต่เริ่ มในเวลาต่างกันเท่านั้นเรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่า ราวน์ด (Round)

Cantabile (It. คันตาบิเล )


ในลักษณะเพลงร้องมาจากคาอิตาเลียนว่า คันตาเร (Cantare) ซึ่งมีความหมายว่าการร้องเพลง

Cantata (It. คันตาตา )


ผลงานดนตรี ประเภทขับร้องในสมัยบาโรคที่ประกอบด้วยบทเพลงต่าง ๆ เช่น อาร์เรี ย , เรสซิเททิฟว์ ,
ดูเอทและคอรัสโดยอิงเรื่ องราวทางศาสนาบทกวีและการละครคานี้มาจากภาษาอิตาเลียนว่า Cantare มี
ความหมายว่า
ร้องเพลงโยฮัน เซบาสเตียนบาคได้แต่งเพลงแนวทางศาสนา ( เชิร์ช คันตาตา ) เกือบสามร้อยบท

Cantilena (It. คันติเลนา )


ทานองเพลงที่มีลกั ษณะไหลเลื่อนต่อเนื่ องกันไปด้วยการบรรเลงหรื อร้องอย่างราบรื่ น

Canto ( แคนโต ) แนวหรื อเสี ยง

Cantus firmus (La. คันตุส เฟี ยร์มุส )


เป็ นแนวทานองหลัก เพื่อให้แนวทานองอื่น ๆ เพิ่มเข้าไปโดยมีกฎเกณฑ์ตามที่กาหนดไว้

Capella ( คาเพลลา ) ไม่ใช้เครื่ องดนตรี บรรเลงคลอ

Capo (It, คาโป ) การเริ่ มต้น

Da capo หมายถึง จากที่เริ่ มต้น คาย่อคือ D. C.


Da capo aI fine หมายถึง จากที่เริ่ มต้นจนถึงที่จบ

Da capo al segno หมายถึง จากที่เริ่ มต้นจนถึงเครื่ องหมาย segno

Capriccio (It. คาปริ โซ ), caprice (Fr.) บทบรรเลงสาหรับเครื่ องดนตรี ที่มีลกั ษณะอิสระ ไม่อยูใ่ นกฎเกณฑ์ มักมี
ชีวติ ชีวา

Capriccioso (It. คาปริ ซิโอโซ ) สนุกสนานร่ าเริ ง

Carillon ( คาริ ลลอน )


ระฆังชุดที่มีเสี ยงครบแบบโครมาติก สามารถทาให้เกิดเสี ยงด้วยวิธีเช่นเดียวกับ คียบ์ อร์ ด หรื อจากระบบการ
ทางานแบบนาฬิกา มักนิยมแขวนบนหอสู งในโบสถ์ หรื อหอระฆังเฉพาะ มีช่วงเสี ยง 2 ถึง 4 อ๊อคเทฟ (Octave)
ชุดระฆังชนิดใหญ่มีจานวนระฆังมาก ถึง 70 ใบ
Carol ( แครอล ) เป็ นเพลงแบบประเพณี นิยม ที่มกั ได้ยนิ ในเทศกาลคริ สต์มาสและเทศกาลอีสเตอร์

Castanets (Fr. คาสทะเน็ต )


กระเปาะคู่ที่มีรูปร่ างคล้ายหอยเชลล์ ทาจากไม้หรื องาช้างและมีเชือกผูกติดเข้าด้วยกันเพื่อให้ผเู ้ ล่นสามารถถือได้
สะดวกและเคาะเสี ยงเป็ นจังหวะต่าง ๆ เช่นเพลงประเภทโบเรโลและฟันดานโกของ สเปน
Cedendo (It. เซเดนโด ) ช้าลงทีละน้อย

Cedez (Fr. เซเดย์ )ช้าลงอีก

Celesta (It. เซเลสต้า )


เครื่ องดนตรี ประเภทคียบ์ อร์ ดชนิดหนึ่งซึ่ งประกอบด้วยแท่งโลหะมีระดับเสี ยงดนตรี ต่าง ๆ ( เรี ยงเหมือนเครื่ อง
ดนตรี ตีกระทบชนิดหนึ่งที่ชื่อกลอคคัน่ สปี ล ) และมีกล่องเสี ยงเพื่อขยายเสี ยงอีกทั้งจัดเรี ยงให้คอ้ นจากคียบ์ อร์ด
ตีแท่งโลหะเหล่านี้ได้

Cello (It. เชลโล ) คาย่อของคาว่า Violoncello เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายขนาดใหญ่กว่าไวโอลินและวิ
โอลา

Cembalo (It. เชมบาโล ) เป็ นคาอิตาเลียนหมายถึงเครื่ องดนตรี ดลั ซิเมอร์ ซึ่งในทางปฏิบตั ิ หมายถึงเครื่ องดนตรี
ฮาร์ปซิคอร์ด
Chalumeau (Fr. ชาลูโม )
1. เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้โบราณที่มีลิ้นเดี่ยว ลักษณะลาตัวเป็ นท่อกระบอกพร้อมรู ปิด เปิ ดเสี ยงแต่ไม่
มีคียส์ าหรับปิ ด - เปิ ดศัพท์คานี้มาจากคาในภาษาลาตินมีความหมายว่า ลิ้น เครื่ อง ดนตรี น้ ีเป็ นต้นตระกูลของปี่
คลาริ เนต
2. ช่วงเสี ยงต่าของคลาริ เนตสมัยใหม่

Chamber music ( แชมเบอร์ มิวสิ ก )


ดนตรี สาหรับการบรรเลงด้วยเครื่ องดนตรี โดยนักดนตรี แต่ละคนจะมีแนวบรรเลงของตนเองต่างจากคนอื่น ๆ
ไม่ เหมือนกับดนตรี สาหรับวงดนตรี ออร์ เคสตร้าที่มกั จะมีนกั ดนตรี หลายคนต่อแนวบรรเลงหนึ่งแนวดนตรี
ประเภทแชมเบอร์ มิวสิ กนี้ เรี ยกชื่อตามจานวนคนที่เล่นดังนี้
Duo ดูโอ สาหรับผูเ้ ล่นสองคน
Trio ทริ โอ สาหรับผูเ้ ล่นสามคน
Quartet ควอเต็ต สาหรับผูเ้ ล่นสี่ คน
Quintet ควินเต็ต สาหรับผูเ้ ล่นห้าคน
Sextet เซกซ์เต็ต สาหรับผูเ้ ล่นหกคน
Septet เซปเต็ต สาหรับผูเ้ ล่นเจ็ดคน
Octet ออคเต็ต สาหรับผูเ้ ล่นแปดคน
Nonet โนเน็ต สาหรับผูเ้ ล่นเก้าคน
สตริ งควอเต็ตเป็ นคีตลักษณ์แชมเบอร์มิวสิ กที่สาคัญ ประกอบด้วยผูเ้ ล่นไวโอลิน 2 คน วิโอลาและเชลโลอย่างละ
1 คนสาหรับสตริ งทริ โอนั้นจะประกอบด้วยเครื่ องสายล้วน ๆ 3 เครื่ อง และหากตัดเครื่ องดนตรี ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง
ออกไปแล้วเพิม่ เปี ยโนเข้าไปหนึ่งหลังจะเรี ยกว่าเปี ยโนทริ โอ หรื อหากเพิม่ ฮอร์ นเครื่ องหนึ่งเข้าไปแทน เรี ยกว่า
ฮอร์นทริ โอ

Chamber orchestra ( แชมเบอร์ ออร์เคสตรา ) หมายถึงออร์เคสตร้าขนาดเล็กนักดนตรี ประมาณ 25 คน

Chanson (Fr. ชานซอง ) บทเพลงร้อง

Chant ( แชนท์ ) เพลงร้องศักดิ์สิทธิ์ ที่อยูใ่ นจังหวะเสรี ไม่มีแนวคลอประกอบ


Chimes ( ไชม์ )
เครื่ องดนตรี ซ่ ึ งประกอบด้วยกลุ่มท่อโลหะแขวนเป็ นราวในกรอบสี่ เหลี่ยมเมื่อใช้ไม้ตีไปตรงส่ วนปลายหัวแล้ว
จะเกิดเสี ยงคล้ายระฆังเรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่าทูบิวลาร์ เบลล์ (Tubular bells)

Chiuso ( ไชย์ซู ) การเก็บเสี ยงของฮอร์ น

Choir ( ไควเออะ ) กลุ่มนักร้องวงนักร้องประสานเสี ยง

Choral ( คอรัล ) เกี่ยวกับวงนักร้องประสานเสี ยงหรื อไควเออะ

Chorale ( คอราล ) เพลงสวดสรรเสริ ญพระเจ้าในโบสถ์

Chord ( คอร์ด ) เสี ยงดนตรี ต้ งั แต่สามเสี ยงขึ้นเรี ยงกันในแนวตั้งและปฏิบตั ิพร้อมกัน

Chord tone ( คอร์ด โทน )


เสี ยงที่อยูใ่ นคอร์ ดระดับเสี ยงที่เข้ากันกับเสี ยงประสานพื้นฐาน

Chorus ( คอรัส )
1. กลุ่มนักร้อง
2. ดนตรี สาหรับกลุ่มนักร้อง
3. ส่ วนที่ตอ้ งร้องซ้ าในบทเพลงตามหลังส่ วนที่เป็ นบทร้องกึ่งเจรจา

Chromatic ( โครมาติก )
1. บันไดเสี ยงโครมาติกประกอบด้วยเสี ยงครึ่ งเสี ยงโดยตลอดมีท้ งั หมดสิ บสองเสี ยงภายในช่วง หนึ่งคู่แปด
2. เป็ นโน้ตตัวจร ซึ่ งเป็ นส่ วนที่เพิ่มต่างหากจากที่มีอยูแ่ ล้วในเครื่ องหมายตั้งบันไดเสี ยง เครื่ อง หมายโครมาติก
ได้แก่ ชาร์ ป , ดับเบิลชาร์ป , แฟล็ท , ดับเบิลแฟล็ท , และ เนเจอรัล

Circle of fifths ( ไซเคิลออฟไฟท์ ) วงจรคู่หา้

Clair ( แคลร์ ) สดใส สู ง

Clarinet ( คลาริ เนต )


เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้ซ่ ึ งมีลิ้นเดี่ยว ประกอบด้วยลาตัวเป็ นลักษณะท่อกลวงเท่ากัน โดยมีส่วนปากเป่ า
( กาพวด ) และลาโพงปี่ อยูป่ ลายสุ ดคนละด้าน สาหรับลิ้นปี่ นั้นจะประกอบเข้าตรงส่ วนปากเป่ าด้วยแผ่นโลหะ
หรื อโซ่สายรัด ลาตัวปี่ ก็มีรูปิดเปิ ดเสี ยงและคียป์ ิ ดเปิ ดรู เพื่อช่วยทาเสี ยงบันไดเสี ยงทางโครมาติกได้ครบบริ บูรณ์
1. บี แฟล็ท คลาริ เนต จัดเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทต้องย้ายคีย ์
2. เอคลาริ เนต มีขนาดใหญ่กว่าบีแฟล็ทคลาริ เนตเล็กน้อย และมีระดับเสี ยงต่าลงครึ่ งเสี ยง บางครั้ง ใช้แทนที่
บีแฟล็ทคลาริ เนต ทั้งนี้เพราะสามารถเล่นเพลงในคียบ์ างคียไ์ ด้ง่ายกว่า
3. อีแฟล็ทอัลโตคลาริ เนต มีระดับเสี ยงต่ากว่าบีแฟล็ท คลาริ เนต อยูค่ ู่หา้ เพอร์ เฟค เครื่ องดนตรี ชนิดนี้มีส่วน
พิเศษคือส่ วนลาโพงที่เป็ นโลหะจะงอย้อนขึ้นมาและมีท่อเปลี่ยนเสี ยงที่ทาด้วยโลหะติดเข้ากับส่ วนปากเป่ าด้วย
อีแฟล็ทอัลโตคลาริ เนตเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทต้องย้ายคียเ์ ช่นกัน
4. บีแฟล็ท เบส คลาริ เนต มีระดับเสี ยงห่างลงจากบีแฟล็ทคลาริ เนตอยูห่ นึ่งช่วงค่แปดมีรูปร่ าง เหมือนอัลโต
คลาริ เนตขนาดใหญ่ บีแฟล็ทเบสคลาริ เนตเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทต้องย้ายคีย ์

Clarion ( แคลริ อนั )


1. ปุ่ มของหรี ดออร์แกน ( ออร์แกนใช้ลม ) ขนาด 4 ฟุต มีเสี ยงแหลม
2. แตรอังกฤษขนาดเล็ก มีเสี ยงแหลม ปัจจุบนั เลิกใช้แล้ว
Classical music ( คลาสสิ คลั มิวสิ ก )
ดนตรี ในระหว่างยุคสมัยของนักประพันธ์เพลงเช่นไฮเดิล , โมสาร์ท , และเบโธเฟน ( จาก ค . ศ .1701-1830)
ดนตรี ยคุ คลาสสิ กนี้มีความแตกต่างจากดนตรี ในยุคโรแมนติก ( ซึ่ งเป็ นยุคต่อจากยุคคลาสสิ ก ) ในเรื่ องของคีต
ลักษณ์และแบบฉบับการเขียนโดยดนตรี ในยุคโรแมนติกนั้นมีอิสระมากอารมณ์ก็รุนแรงซึ่ งจะสัมผัสได้จาก
ปลายปากกาของนักประพันธ์เพลงในยุคโรแมนติกคู่น้ ีคือ โชแปงและลิสซต์พฒั นาการที่สาคัญของดนตรี ในยุค
คลาสสิ กก็คือคีตลักษณ์แบบโซนาตาซึ่ งเป็ นพื้นฐานการประพันธ์เพลงประเภทซิมโฟนีสมัยคลาสสิ ก และเพลง
ประเภทแชมเบอร์มิวสิ ก

Clavecin (Fr. คลาฟแซง ) เป็ นคาภาษาฝรั่งเศสหมายถึง เครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ ดฮาร์ ปซิ คอร์ ด

Clavichord ( คลาวิคอร์ด )
เป็ นเครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ ดในยุคแรก ๆ ประเภทเกิดเสี ยงได้จากการดีด ( เคาะ ) โดยมีสายเสี ยงที่ขึงไปตามส่ วน
รู ปในของกล่องไม้ ส่ วนปลายสุ ดของคียจ์ ะมีกลไกการงัดหรื อแตะของลิ่มทองเหลืองเล็ก ๆ เมื่อผูเ้ ล่นกดคียล์ งไป
ลิ่มทองเหลืองนี้ก็จะยกขึ้นและตีไปที่สายเสี ยงเพี่อทาให้เกิดเสี ยง คลาวิคอร์ ดเป็ นเครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ดประเภท
แรกที่สามารถเล่นได้ท้ งั เบาและดังโดยเปลี่ยนแปลงน้ าหนักการกดคีย ์ เสี ยงที่ได้จากคลาวิคอร์ ดนี้มีความไพเราะ
และนุ่มนวล
Clavier ( คลาเวียร์ )
หมายถึง klavier ( ในภาษาเยอรมัน ) (Fr. คลาวิเย )
1. หมายถึงคียบ์ อร์ ดทัว่ ๆ ไปเช่น เปี ยโน , ออร์แกน ฯลฯ
2. หมายถึงคียบ์ อร์ ดประเภทใช้กลไกจากสายเสี ยงเช่น ฮาร์ปซิ คอร์ ด , คลาวิคอร์ด , เปี ยโน ฯลฯ

Clef ( เคลฟ )
เครื่ องหมายสาหรับกาหนดระดับเสี ยงให้ตรงกับเส้นและช่วงของบรรทัดห้าเส้น
1. เคลฟชนิดอยูก่ บั ที่
2. เคลฟเคลื่อนที่ได้หมายถึง ซีเคลฟ ที่เป็ นตัวกาหนดตาแหน่งโดกลาง ซึ่ งจะจัดวางไว้ตาแหน่งโด ของบรรทัด
ห้าเส้นก็ได้เหตุผลที่นาซี เคลฟมาใช้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เส้นน้อย

Coda (It. โคดา ,'tail')


ส่ วนเพิ่มเติมในบทประพันธ์เพลงซึ่ งเพิ่มเข้าไปตรงส่ วนท้ายของบทเพลงหรื อท่อนเพลงชิ้นหนึ่ง ๆ เพื่อสร้าง
ความรู ้สึกว่าเพลงจบแล้วมาจากคาอิตาเลียนแปลว่า " หาง "

Codetta (It. โคเด็ทตา , 'little tail') คือโคดาแบบสั้น


Col, con ( คอน ) ด้วย , กับ

Colla (It. โคลลา ) พร้อมด้วย Col basso หมายถึง พร้อมด้วยกันกับเบส

Colla parte (It. โคลลา ปาร์เต ) พร้อมกับแนวหลัก

Collera (It. โคลเลรา ) ความโกรธ

Coloratura (It. โคโลราทูรา )


1. เสี ยงร้องที่ดาเนินไปอย่างสดใส เก่งกาจเต็มไปด้วยการประดับประดาทางดนตรี มากมาย
2. เสี ยงร้องที่ร้องได้ตามข้อ 1

Combo ( คอมโบ ) มาจากคาสแลงว่า Combination หมายถึง กลุ่มนักดนตรี กลุ่มเล็ก ๆ ที่เล่นเพลงแจ๊ส

Come (It. โคเม ) เหมือนกับ


Come prima (It. โคเม ปริ มา ) เหมือนก่อนหน้านั้น

Come sopra (It. โคเม โซปรา ) เหมือนข้างต้น

Comodo (It. โคโมโด ) อย่างผ่อนคลาย เรื่ อย ๆ ไม่เร่ งรี บ

Common chord ( คอมมอน คอร์ ด ) หมายถึงคอร์ดเมเจอร์หรื อคอร์ ดไมเนอร์

Common time ( คอมมอนไทม์ ) อัตราจังหวะสามัญ เช่น o,h ถ

Common tone ( คอมมอนโทน ) เสี ยงร่ วม คือระดับเสี ยงที่ยงั คงเดิมในขณะที่เสี ยงประสานเปลี่ยนไป

Compass ( คอมพาส ) ช่วงเสี ยงหรื อพิสัยของเสี ยงร้องหรื อเครื่ องดนตรี

Compound form ( คอมพาวด์ฟอร์ม ) โครงสร้างแบบผสมบทประพันธ์ที่ประกอบด้วยคีตลักษณ์ส้ นั ๆ หลาย


แบบรวมอยูใ่ นโครงสร้างใหญ่

Compound time ( คอมพาวด์ไทม์ ) อัตราจังหวะแบบผสม เช่น u,v ถ

Con (It. คอน ) ด้วย

Con amore (It. คอนอะมอเร ) ด้วยความรัก

Con anima (It. คอนอะนิมา )


ด้วยวิญญาณ อารมณ์ มาจากคาอิตาเลียนว่า anima ซึ่ งหมายถึงวิญญาณนักแต่งเพลงมักใช้คานี้ผดิ ๆ ไปใน
ความหมายว่า อย่างแคล่วคล่อง มีชีวติ ชีวา

Con animo (It. คอนอะนิ โมด้วยความร่ าเริ ง

Con brio (It. คอน บรี โอ ) ด้วยน้ าใจ , คึกคัก , ร่ าเริ ง

Con calma (It. คอน คัลมา ) อย่างสงบ , งามอย่างเรี ยบ ๆ

Con forza (It. คอน ฟอร์ตซา ) ด้วยแรง , ด้วยกาลัง


Con fuoco (It. คอน ฟิ วโก ) คึกคักประดุจไฟลาม

Con gioco (It. คอน จิโอโค ) สนุกสนานรื่ นเริ ง

Con moto (It. คอน โมโต ) ด้วยความเคลื่อนไหวดาเนินไปข้างหน้า

Con spirito (It. คอน สะปิ ริ โต ) ด้วยจิตใจ , ด้วยวิญญาณ

Con passione (It. คอน แพสซีโอนี ) ด้วยความเสน่หา , อารมณ์อนั ใหญ่หลวงลง

Con slancio (It. คอน สลานโซ )ด้วยความห้าวหาญ เร่ าร้อน รุ นแรง

Concert ( คอนเสิ ร์ต ) การแสดงดนตรี ต่อหน้าสาธารณะชน

Concertina ( คอนแชร์ ตินา )


เครื่ องดนตรี รูปร่ างเหมือนแอ็คคอเดียนซึ่ งมีลิ้นอิสระพร้อมหี บลมที่ขยายตัวออกได้คอนแชร์ ตินามีดา้ นหกด้าน
พร้อมปุ่ มต่าง ๆ บนด้านปลายทั้งสองข้างเพื่อมีไว้สาหรับเล่นทานองเพลงและแนวคลอประกอบ
Concerto (It. คอนแชร์โต )
บทประพันธ์สาหรับการเดี่ยวเครื่ องดนตรี เป็ นหลักโดยมีวงดนตรี ออร์ เคสตร้าคลอประกอบคอนแชร์ โตมาจากคา
ในภาษาลาตินว่า concertare มีความหมายว่าทาพร้อม ๆ กันแข่งขันกันปกติแล้วคอนแชร์ โตมีส่วนประกอบเป็ น
3 ขบวน หรื อ 3 ท่อน

Concerto grosso (It. คอนแชร์โต กร๊ อสโซ )


งานดนตรี ซ่ ึ งอยูใ่ นลักษณะของคีตลักษณ์แบบคอนแชร์ โตแต่มีการแบ่งหน้าที่คือเป็ นการเดี่ยวของกลุ่มเครื่ อง
ดนตรี ส่วนหนึ่งกับอีกส่ วนหนึ่งทาหน้าที่เป็ นวงดนตรี ให้ ( เปรี ยบเทียบกับบทประพันธ์ประเภทคอนแชร์ โตซึ่ง
หมายถึงงานดนตรี สาหรับการเดี่ยวเครื่ องดนตรี หลักกับวงดนตรี ที่เป็ นส่ วนคลอประกอบ ) คีตลักษณ์แบบคอน
แชร์ โตกร๊ อสโซเป็ นที่นิยมแต่งกันมากในปลายศตวรรษที่ 17 และ ต้นศตวรรษที่ 18

Conductor ( คอนดัคเตอร์ ) ผูอ้ านวยเพลงหรื อวาทยกรคือผูท้ าหน้าที่ให้จงั หวะและควบคุมการแสดงในวง


ดุริยางค์

Consonance ( คอนโซแนนซ์ )
ขั้นคู่เสี ยงกลมกล่อม ( บางครั้งเรี ยกว่า ขั้นคู่เสนาะเสี ยง ) ได้แก่คู่สามและคู่หกทั้งเมเจอร์ และไมเนอร์ คู่สี่ คู่หา้ คู่
หกและคู่แปดขั้นคู่เสี ยงกลมกล่อมจะให้ความรู ้สึกพึงพอใจและสบายใจคานี้ตรงข้ามกับคาว่า ดิสโซแนนซ์
(dissonance)

Con spirito (It. คอน สปิ ริ โต ) ด้วยความเข้มแข็งพลังวิญญาณ

Contra bass ( คอนทราเบส )


เรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่าสตริ งเบสดับเบิลเบสเบสวิโอลหมายถึงเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายที่เล่นด้วยคันชักเป็ น
เครื่ องดนตรี ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเสี ยงต่าที่สุดในตระกูลเครื่ องสายคอนทราเบสมีรูปลักษณะร่ วมทั้งใน
รู ปแบบไวโอลินและตระกูลวิโอล

Contrabassoon ( คอนทราบาสซูน )
เรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่าดับเบิลบาสซูนเป็ นสมาชิกในตระกูลปี่ โอโบ คอนทราบาสซูนมีเสี ยงที่ต่าลึกที่สุดในวง
ดุริยางค์มีท่อยาวกว่า 16 ฟุต ( โดยทบความยาว 4 ครั้งเพื่อความสะดวกในการปฏิบตั ิ ) ลาโพงที่เป็ นโลหะจะชี้ลง
ข้างล่างไม่เหมือนกับลาโพงบาสซูนที่ช้ ีข้ ึนข้างบนการเล่นจังหวะปานกลางหรื อช้านั้นปี่ คอนทราบาสซูนแสดง
ได้ดีที่สุด

Contredanse (Fr. คองเดรอดองส์ )


การเต้นราที่นิยมกันในประเทศฝรั่งเศสช่วงปลายศตวรรษที่ 18 คาดว่ามาจากการเต้นราแบบชนบทในประเทศ
อังกฤษ (country dance)

Contralto (It. คอนทราลโต ) เสี ยงร้องของหญิงที่มีแนวต่าที่สุด เรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่า อัลโต

Contrapuntal (It. คอนทราพันทัล ) เกี่ยวข้องกับเค้าน์เต้อร์ พอ้ ยท์

Contrary motion ( คอนทราริ โมชัน่ ) แนวทานองเพลงในบทประพันธ์เพลงเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้ามกัน

Cor anglais (Fr. คอร์ อองเก็ล ) ปี่ อิงลิชฮอร์น

Courante (Fr. คูรานต์ )


เพลงเต้นราที่มีจุดกาเนิดในศตวรรษที่ 16 และต่อมารวมเป็ นส่ วนหนึ่งของบทเพลงชุด เพลงเต้นรา คูรานต์ มีสอง
แบบที่ไม่เหมือนกันคือ
1. คอรันโต ( หรื อคอเรนเตแบบอิตาเลียน ) มีจงั หวะเร็ วมีลีลาการเคลื่อนไหวสม่าเสมอมีลกั ษณะ สามจังหวะต่อ
หนึ่งห้องเพลงโดยปกติแล้วเพลงจะมีลกั ษณะเป็ นสองส่ วน ( คีตลักษณ์แบบไบนารี่ )
2. คูรานต์แบบฝรั่งเศสอยูใ่ นลักษณะสามจังหวะต่อหนึ่งห้องเพลงและมีคีตลักษณ์แบบไบนารี่ เช่น กันแต่จะมีหก
จังหวะย่อยในห้องสุ ดท้ายของแต่ละส่ วนรวมทั้งมีลกั ษณะช้าและสง่างามกว่าคอรัน โตแบบอิตาเลียน .

Corda, corde ( คอร์ดา ) สายเสี ยงของเครื่ องดนตรี

Cornet ( คอร์เน็ต )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าทองเหลืองแตรที่มีลูกสู บและระดับเสี ยงในบีแฟลตแตรคอร์ เน็ตนี้จะมีท่อแตร
แบบค่อย ๆ ขยายกว้างออกไปกาพวดเป็ นรู ปลักษณะถ้วยลึกกว่าของแตรทรัมเป็ ตใช้เล่นทั้งในวงแตรและวงโยธ
วาทิตคุณภาพเสี ยงไปในทางลักษณะนุ่มนวลกลมกล่อมและสดใสน้อยกว่าเสี ยงแตรทรัมเป็ ต

Corto (It. คอร์โต ) สั้น

Counterpoint ( เค้าน์เต้อร์พอ้ ยท์ )


ทานองอิสระหลายทานอง ( บางสถาบันหมายถึง การสอดทานอง ) แต่มีความสัมพันธ์ซ่ ึ งกันและกัน นามา
บรรเลงหรื อร้องในเวลาเดียวกันคาว่าเค้าน์เต้อร์ พอ้ ยท์มาจากภาษาลาตินว่า punctus contra punctum หมายถึง
ทานองหนึ่งปะทะกับอีกทานองหนึ่ง

Coule (Fr. คูเล ) เรี ยบ ๆ

Court ( เคราท์ ) สั้น

Crescendo (It. เครเชนโด ) ดังขึ้นเรื่ อย ๆ คาย่อ คือ cresc.

Crochet ( ครอชเช็ต ) โน้ตตัวดา

Cuivre (Fr. คูอีเวร ) เล่นเสี ยงแบบเครื่ องลมทองเหลือง

Cupo ( คูโพ ) ทึบ , ขุ่นมัว

Cymbal ( ชิมเบล )
ฉาบเครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบประกอบขึ้นด้วยฝาโลหะสองฝาเมื่อนามากระทบกันจะเกิดเสี ยงดังไม่มีระดับ
เสี ยงที่แน่นอนเวลาเล่นอาจใช้ท้ งั สองฝาหรื อฝาเดียวก็ได้หรื อจะให้ฉาบติดตั้งบนขาตั้งก็ได้ลกั ษณะเสี ยงที่ได้น้ นั
มีมากมายตามลักษณะการเล่นอันหลากหลายเราสามารถทาเสี ยงยาวต่อเนื่ องได้โดยใช้ไม้ตีกลองตีรัวบนขอบฝา
ฉาบหรื อได้เสี ยงเดียวจากการตีแต่ละครั้งบนฝาฉาบข้างใดข้างหนึ่งส่ วนฉาบคู่ที่ตรึ งอยูบ่ นขาตั้งที่เรี ยกว่า ไฮแฮท
(Hi - Hat) ซึ่ งเวลาตีก็ตอ้ งใช้เท้าเหยียบนั้นเป็ นส่ วนประกอบที่สาคัญของกลองชุ ดสาหรับวงดนตรี ประเภท
เต้นราด้วย

Csardas (Hung. ชาดาส )


เพลงเต้นราประจาชาติของฮังการี ตามปกติแล้วเพลงเต้นราแบบนี้มีท่อนนาด้วยจังหวะช้าและทานองเศร้าที่มีชื่อ
ว่า lassu ก่อนแล้วจึงตามด้วยจังหวะเพลงเร็ วแบบการเต้นราอย่างเร่ าร้อนที่เรี ยกว่า ฟริ ส หรื อ ฟริ สกา

D
ชื่อระดับเสี ยง ( เร )

Da, dal, dallo, dalla (It. ดา , ดัล , ดัลโล , ดัลลา ) จาก , ที่ , โดย , ไปยัง , สาหรับ , เหมือน

Da capo (It. ดา คาโป ) จากจุดเริ่ มต้น คาย่อคือ D.C.

D.C. al Fine หมายถึง ให้กลับไปใหม่ที่จุดเริ่ มต้น และเล่นจนถึงคาว่า Fine

D.C. al Segno หมายถึง ให้กลับใหม่ที่จุดเริ่ มต้น และเล่นจนถึงเครื่ องหมาย Segno

Dal segno (It. ดาล เซคโน ) ย้อนกลับจากเครื่ องหมาย segno คาย่อคือ D.S.

D.S. al Fine หมายถึง ให้กลับไปใหม่ที่เครื่ องหมาย D.S. แล้วเล่นจนถึงคาว่า Fine( ฟิ เน่ )

Dampfer ( แดมพ์เฟอร์ ) เครื่ องลดความดังของเสี ยง

Dans (Fr. ด็อง ) ใน , ภายใน

Debut (Fr. เดบู ) การปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธารณะชน การบรรเลงครั้งแรก

Decibel ( เดซิเบล ) หน่วยวัดความดังของเสี ยง คาย่อคือ db.


Decide (Fr. เดซีเด ) แน่นอน , ตัดสิ นใจแล้ว

Deciso (It. เดซีโซ ) กล้าหาญ มัน่ ใจเต็มที่ ตัดสิ นใจเด็ดขาด เต็มไปด้วยพลัง

Decrescendo (It. ดีเครเชนโด ) เบาลงทีละน้อย ๆ คาย่อคือ decresc.

Degree ( ดีกรี ) ระดับขั้นของโน้ตในสเกล เช่นโน้ต D เป็ นระดับขั้นที่สองของบันไดเสี ยง C เมเจอร์

Dehors (Fr. เดท์ออร์ ) ด้วยการย้าอย่างหนักแน่น ทาให้เด่นออกมา

Delicato (It. เดลิคาโต ) ด้วยท่าทางอันเรี ยบร้อยและละเอียดอ่อน

Demi (Fr. เดมิ ) ครึ่ ง

Demisemiquaver ( เดมิเซมิเควเวอร์ ) โน้ตตัวเขบ็ตสามชั้น

Desto (It. เดสโต ) สดชื่นมีชีวติ ชีวา

Detache (Fr. เดตาเซ ) ซึ่ งแยกออกจากกัน

Deutlich (Gr. ดอยทริ ชค์ ) ใส , เด่น

Di (It. ดิ ) ไปยัง , โดย , ของ , สาหรับ , กับ

Di molto (It. ดิ มอลโต ) อย่างมาก

Diatonic ( เดียอาโทนิก )
1. หมายถึงเสี ยงที่เกิดขึ้นในบันไดเสี ยงเมเจอร์ หรื อไมเนอร์
2. การเคลื่อนไปในลักษณะครึ่ งเสี ยงแบบไดอาโทนิกหมายถึงการเคลื่อนที่ ไปยังโน้ตใกล้เคียงกันโดยมีชื่อโน้ต
ต่างกันขณะที่การเคลื่อนไปในลักษณะครึ่ งเสี ยงแบบโครมาติกจะเป็ นการเคลื่อนที่ไปที่โน้ตชื่ อเดียวกันเพียงแต่มี
การเปลี่ยนแปลงด้วยเครื่ องหมายแปลงเสี ยง

Diminished ( ดิมินิชท์ ) รู ปแบบของคอร์ดที่ประกอบด้วยโน้ตลาดับที่ 1 3b 5b ( C Eb Gb)


Diminuendo (It. ดิมินูเอนโด ) เบาลงเรื่ อย ๆ คาย่อคือ dim, dimin.

Diminution ( ดิมินูชนั่ ) การย่อ การแสดงโมทีฟโดยตัวโน้ตที่มีอตั ราจังหวะสั้นกว่าตัวโน้ตเดิมในโมทีฟนั้น ๆ

Dissonance ( ดิสโซแนนซ์ )
เสี ยงกระด้างขั้นคู่เสี ยงหรื อคอร์ ดที่ฟังแล้วไม่รู้สึกผ่อนคลายและจาเป็ นจะต้องเคลื่อนเข้าหาขั้นคู่เสี ยงหรื อคอร์ ด
ที่มีเสี ยงสบายกว่าหรื อเสี ยงที่กลมกล่อมกว่าการเคลื่อนที่จากเสี ยงกระด้างไปหาเสี ยงกลมกล่อมนี้เรี ยกว่า " การ
เกลา " ขั้นคู่เสี ยงกระด้างได้แก่คู่สอง คู่เจ็ด และสาหรับคอร์ ด คือ อ็อกเมนเต็ด และดิมินิชท์ทุกคอร์ด

Distinto ( ดิสทินโต ) ชัดเจน

Divertimento (It. ดิเวอร์ ติเมนโต )


คีตลักษณ์คล้ายแบบของสวีทและซิ มโฟนีปกติประกอบด้วยเพลงเต้นราและท่อนเพลงสั้น ๆ บรรเลงโดยวง
ดนตรี ขนาดเล็ก

Divisi (It. ดิวซิ ิ )


แบ่งแยกออกจากกันใช้ในบทเพลงสาหรับบรรเลงด้วยเครื่ องดนตรี เพื่อบ่งชี้วา่ ให้นกั ดนตรี ซ่ ึ งมีอยูม่ ากมายนั้น
แยกกันเล่นโน้ตในคอร์ ดนั้น ๆ คาย่อคือ div.

Dolce (It. ดอลเช ) อ่อนหวานนุ่มนวล

Dolente (lt. ดอลเลนเต ) เศร้าสร้อย หงอยเหงา

Dolore (lt. โดโรเร ) เศร้า เจ็บปวด เสี ยใจ

Dominant ( ดอมิแนนท์ )
ขั้นที่หา้ ของบันไดเสี ยงเมเจอร์ และไมเนอร์ คอร์ ดดอมิแนนท์ก็คือทรัยแอดที่สร้างบนโน้ตเสี ยงนี้

Dominant seventh ( ดอมิแนนท์ เซเวนท์ )


คอร์ ดดอมิแนนท์ที่เพิ่มโน้ตตัวที่ 7 ของบันไดเสี ยงเข้าไป เช่น G7 ( G B D F)

Doppio (It. ดอปปิ โอ ) มากกว่าเป็ นสองเท่า


Doppio movimento (It. ดอปปิ โอ โมวิเม็นโต ) เร็ วขึ้นเป็ นสองเท่า

Doppio piu lento (It. ดอปปิ โอ ปิ ว เล็นโต ) ช้าลงเป็ นสองเท่า

Doroloso (It. ดอลโลโรโซ ) เศร้า , เซื่องซึม

Dorian mode ( โดเรี ยน โมด ) โมดโดเรี ยน โมดที่ใช้ในเพลงโบสถ์ยคุ กลาง ซึ่ งอาจสร้างโดยการเล่นจาก D ไป


D บนคียข์ าวของเปี ยโน

Dot ( ด๊อท )
จุด 1. จุดที่อยูห่ ลังตัวโน้ตนั้นย่อมเพิ่มความยาวเสี ยงอีกครึ่ งหนึ่งของโน้ตตัวนั้นดัง 2. จุดที่อยูเ่ หนือหรื อใต้ตวั
โน้ตโด หมายถึง ให้เล่นแบบสตั้กคาโต

Double bar ( ดับเบิล บาร์ )


1. ปรากฏในส่ วนจบของบทเพลงตอนหนึ่ง ( ยังไม่จบเพลงทั้งหมด )
2. ปรากฏในส่ วนจบของบทเพลงนั้นหรื อท่อนของบทเพลงนั้นโดยสมบูรณ์ไม่มีต่ออีกแล้ว

Double bass ( ดับเบิลเบส ) เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

Double bassoon ( ดับเบิลบาสซูน ) เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าลมไม้ที่ใช้ลิ้นคู่ ที่มีระดับเสี ยงต่า

Double flat ( ดับเบิลแฟล็ท ) เครื่ องหมายดับเบิลแฟล็ทจัดวางไว้ขา้ งหน้าโน้ตเพื่อทาให้โน้ตนั้นมีเสี ยงต่าลงหนึ่ง


เสี ยงเต็ม

Double period ( ดับเบิลพีเรี ยด ) ประโยคใหญ่คู่ประโยคใหญ่สองประโยคที่ประกอบกันอย่างสมดุลโดยแบ่ง


แยกกันด้วยลูกจบกลาง

Double sharp ( ดับเบิลชาร์ป ) เครื่ องหมายหรื อสัญลักษณ์จดั วางไว้หน้าตัวโน้ตเพื่อทาให้ระดับเสี ยงของตัวโน้ต


สู งขึ้นหนึ่งเสี ยง

Doubling ( ดับบลิ้ง ) การซ้ าโน้ตการจัดให้เสี ยงในคอร์ ดเสี ยงเดียวกันอยูใ่ นแนวเสี ยงมากกว่าหนึ่งแนว

Douce(ment) (Fr. ดูส์มาน ) อย่างอ่อนหวาน


Downbeat ( ดาวน์บีท ) หมายถึงจังหวะตกที่จงั หวะแรกของห้องปกติมกั ให้เน้น ในการอานวยเพลงนั้นจังหวะ
ตกเกิดขึ้นจากการใช้สัญญาณตวัดมือลง

Drangend (Gr. เดรนเกนด์ ) เร็ วขึ้น

Drone ( โดรน )
1. ชื่อท่อเสี ยงที่ติดกับเครื่ องดนตรี ประเภทปี่ สก๊อต แต่ละท่อจะทาเสี ยงได้หนึ่งเสี ยงเป็ นเสี ยงยาวต่อเนื่องกัน
2. การซ้ าและยาวต่อเนื่ องกันของเสี ยงเบส เหมือนเสี ยงโดรน ( หรื อเรี ยกว่า " เสี ยงเสพ " คือเสี ยงหลักที่ลากยาว
อย่างต่อเนื่ องจากการเป่ าแคน ) ที่เกิดขึ้นตามข้อ 1 เราเรี ยกว่า โดรนเบส

Druckend (Gr. ดรุ คเคนด์ ) หนัก เน้น

Drum ( ดรัม ) กลองเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบชนิดหนึ่ง


1. สะแนร์ดรัม หรื อกลองเล็ก ประกอบด้วยแผงลวดขึงรัดผ่านผิวหน้ากลองด้านล่าง เพื่อให้เกิดเสี ยงกรอบ ๆ
ดังแต๊ก ๆ ตัวกลองทาด้วยไม้หรื อโลหะและสามารถรัดให้หนังตึงด้วยขอบไม้ดา้ นบนและล่างสามารถปลดสาย
สะแนร์ เพื่อให้เกิดเสี ยงทุม้ ดังตุม้ ตุม้ ได้และตีกลองเล็กด้วยไม้นิยมใช้กลองชนิดนี้ท้ งั ในวงดุริยางค์และวงดนตรี
2. เทเนอร์ ดรัมมีขนาดใหญ่กว่าสะแนร์ ดรัมเป็ นกลองชนิดที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้สายสะแนร์ โดยทัว่ ไปบรรเลงใน
หมวดกลองไม้ที่ใช้ตีก็เป็ นชนิดหัวไม้หุม้ สักหลาด
3. กลองใหญ่เป็ นกลองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดประกอบด้วยตัวกลองที่ทาด้วยไม้และมีหนังกลองทั้งสองด้านเสี ยงที่
เกิดจากการตีกลองใหญ่จะไม่ตรงกับระดับเสี ยงที่กาหนดไว้ทางตัวโน้ตตีดว้ ยไม้ที่มีสักหลาดหุ ม้ ชนิดที่มีหวั ที่
ปลายทั้งสองข้างใช้เพื่อทาเสี ยงรัว
4. กลองทิมปานี ( หรื อกลองเค็ทเทิ้ลดรัม ) เป็ นกลองที่มีลกั ษณะเป็ นหม้อกระทะซึ่ งมีหน้าหนังกลองหุ ม้ ทับอยู่
ด้านบนเป็ นกลองชนิดเดียวที่ข้ ึนเสี ยงแล้วได้ระดับเสี ยงที่แน่นอนเมื่อคลายหรื อขันหน้ากลองโดยไม่วา่ จะใช้วธิ ี
ขันสกรู หรื อเหยียบเพดดัล ( ที่เหยียบ ) ไม้ที่ใช้ตีก็มีการหุ ้มนวมตรงหัวไม้ตี ตีได้ท้ งั เป็ นจังหวะและรัว

Duet ( ดูเอ็ด ) บทประพันธ์สาหรับผูเ้ ล่นสองคน

Dulcimer ( ดัลซิเมอร์ ) ขิมฝรั่งเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายในยุคต้นที่ตีดว้ ยไม้ตีขิมเล็ก ๆ สองอัน

Duo ( ดูโอ ) คู่หนึ่งหมายถึง duet

Duple time ( ดูเพิล้ ไทม์ ) เครื่ องหมายกาหนดจังหวะประเภทนับสองจังหวะในหนึ่งห้อง


Dynamic mark ( ไดนามิก มาร์ค ) สัญลักษณ์และคาที่บ่งชี้ถึงความดังและความเบาของดนตรี เช่น เครเชนโด เด
เครเชนโด p. f. ฯลฯ

E, ed (It. เอ, เอ็ด)


ระดับเสี ยง E (มี)

Ecossaise (Fr. เอโคท์เสซ์)


เพลงเต้นราของชาวสก๊อตเพลงเอโคท์เสซ์น้ ีเริ่ มแรกมีปี่สก๊อตเป็ นเครื่ องดนตรี บรรเลงคลอประกอบ และอยูโ่ น
จังหวะj หรื อ h ต่อมาจึงพัฒนาเป็ นเพลงเต้นราพื้นเมืองที่มีความเร็ วในจังหวะ h เพลงประกอบด้วยสองวลี วลีละ
4 ห้อง เพลงหรื อแปดห้องเพลงก็ได้พร้อมกับการกลับไปย้อนบรรเลงใหม่ดว้ ย

Edelmutig (Gr. เอเด็ลมูติก) ชั้นสู ง

Eifrig (Gr. ไอฟริ ก) อย่างเร่ าร้อน

Eigth note (เอท โน้ต) โน้ตตัวเขบ็ตหนึ่งชั้นซึ่ งจานวนแปดตัวโน้ตจะมีค่าเท่ากับโน้ตตัวกลมหนึ่งตัว และสองตัว


โน้ตมีค่าเท่ากับโน้ตตัวดาหนึ่ งตัว

Eighth rest (เอท เรสท์) การหยุดเสี ยงที่มีความยาวเท่ากับโน้ตตัวเขบ็ตหนึ่งชั้น

Eilig (Ger. ไอลิก) รี บเร่ ง

Einfach (Ger. ไอน์ฟัคซ์) สบายสบาย

Elegy (เอลลิจิ) บทเพลงประเภทเศร้าโศกเพลงไว้อาลัยซึ่ งก็คือดนตรี ซ่ ึ งใช้ประกอบบทกวีที่เศร้า

Embellishments (เอมเบลลิชเมนต์)การประดับประดาทางตัวโน้ตดนตรี

Embouchure (Fr. อองบูชวั ร์)


1. ส่ วนปากเป่ า (กาพวด) ของเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมทั้งหลาย
2. เทคนิคการใช้ริมฝี ปากและลิ้น โนการเล่นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลม

En (Fr. อ็อง) ใน ,เหมือน, ในรู ปแบบของ


En cedant (Fr. อ็อง เซด็อง) ช้าลงทีละน้อย

En dehors (Fr. อ็อง เดอออร์) ภายนอก

En mouvement (Fr. อ็อง มูเวอมอง) กลับไปใช้ความเร็ วเท่าเดิม

Energico (It. เอนาร์โจ) ด้วยพลังอานาจเข้มแข็ง

English horn (อิงลิชฮอร์ น)


เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทปี่ ลิ้นคู่มีขนาดท่อยาวกว่าปี่ โอโบจึงเรี ยกว่าอัลโตโอโบส่ วนลาโพงมีลกั ษณะคล้ายลูก
แพร์ และท่อโลหะที่ทาหน้าที่ยดึ เหนี่ยวลิ้นของปี่ นั้นจะมีลกั ษณะโค้งห้อยไปทางหลังและงอทามุมเครื่ องดนตรี น้ ี
ไม่ใช่ของอังกฤษและไม่ใช่แตรฮอร์ นเสี ยงปี่ มีลกั ษณะไปทางเศร้าและคล้ายเสี ยงขึ้นจมูกปี่ อิงลิชฮอร์ นเป็ นเครื่ อง
ดนตรี ประเภทต้องย้ายคีย ์

Enharmonic (เอ็นฮาโมนิค)
แสดงถึงระดับเสี ยงเดียวกันที่เขียนต่างกัน เช่น A flat (Ab) เป็ นระดับเสี ยงเดียวกันกับ G sharp(G#)

Ensemble (Fr. อองซอมเบลอะ)


การบรรเลงดนตรี ซ่ ึ งต้องอาศัยความร่ วมมือจากผูเ้ ล่นหลายคน (ตรงกันข้ามกับการแสดงดนตรี คนเดียวที่มีผเู ้ ล่น
เพียงหนึ่งคนเท่านั้น) เป็ นคาภาษาฝรั่งเศสซึ่ งมีความหมายว่า ด้วยกัน

Equalmente (It. เอควาล์เมนเต) สม่าเสมอ ,เท่ากัน

Espansione (It. เอสเพนซิโยเน)แสดงความรู้สึก

Espressione (It. เอสเปรซิโยเน) ด้วยความรู้สึก

Espressivo (It. เอสเพรสซิโว)


ด้วยความรู ้สึกลึกซึ้ งและประทับใจ คาย่อคือ espress. etude (Fr. เอทูด้ ) บทเพลงสาหรับนักศึกษาในการฝึ กเรื่ อง
เทคนิคการเล่นเครื่ องดนตรี ที่กาลังศึกษา เครื่ องดนตรี น้ นั อยู่ เป็ นคาภาษาฝรั่งเศสซึ่ งมีความหมายว่า "ศึกษา"

Etwas (Gr. เอทวาซ) ค่อนข้าง


Euphonium (ยูโฟเนียม)
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าแตรทองเหลืองที่มีระดับเสี ยงต่ากาพวดเป็ นรู ปถ้วยและที่กดนิ้วเป็ นระบบลูกสู บ
ในสหรัฐอเมริ กาชื่อนี้ใช้เรี ยกแตรบาริ โทนความจริ งแตรนี้ ก็คือบีแฟลตเบสทูบาขนาดย่อมยูโฟเนียมแบบ
อเมริ กนั มักสร้างให้มีลาโพงสองข้างข้างหนึ่งต้องการให้เหมือนเสี ยงทรอมโบน อีกข้างหนึ่งให้เป็ นเสี ยงบาริ
โทนจริ งในอังกฤษจะสร้างให้ท่อของยูโฟเนียมมีขนาดใหญ่กว่าบาริ โทน และจัดว่ามีระดับเสี ยงสู งสุ ดในตระกูล
ทูบาเมื่อเขียนบันทึกเสี ยงดนตรี โดยใช้โน้ตให้อยูใ่ นเบสเคลฟแล้วก็จะเป็ นประเภทไม่ตอ้ งย้ายคีย ์ ไม่ตอ้ งเปลี่ยน
เครื่ องหมายตั้งบันไดเสี ยงแต่เมื่อเขียนโน้ตดนตรี ให้อยูใ่ นเทร็ บเบิ้ลเคลฟแล้วเหล่าโน้ตดนตรี ที่ไต้น้ นั จะมี
ลักษณะสู งกว่าเสี ยงจริ งหนึ่งอ๊อกเทฟกับอีกหนึ่งเสี ยง

Evensong (อิเวนซอง) บทสวดรอบค่าในนิกายอังกฤษบทสวดเวสเปอร์ของนิกายคาทอลิค

Excercise (เอ็กเซอร์ไซซ์) บทฝึ กเทคนิค

Expression (เอ็กส์เพรสชัน่ )
การแสดงออกทางด้านอารมณ์โดยผ่านออกมาทางด้านการแสดงดนตรี ในลักษณะที่มีการปรับขนาดความดัง
ความเบาและความเร็ วของเพลง (การเร่ ง การหน่วงและการเล่นตามอาเภอใจ)

Expressionism (เอ็กส์เพรสชัน่ นิซ่ ึ ม)


ดนตรี แบบหนึ่งเกิดขึ้นตอนต้นศตวรรษที่ 20 ดนตรี แบบนี้ เป็ นงานที่แสดงอารมณ์ของคีตกวีอย่าง ไม่ตอ้ งเกรงใจ
คนฟังเลย

F (เอฟ)
1. ชื่อระดับเสี ยงฟา
2. อักษรย่อของคาว่า forte แปลว่า ดัง

F clef (เอฟ เคลฟ) หมายถึง เบสเคลฟ

Faciele (It. ฟาซีเล) facile (Fr.) ง่าย ,คล่อง.

Falsetto (It. ฟัลเสตโต) เสี ยงที่ร้องดัดให้สูงขึ้นกว่าเสี ยงร้องตามปกติ


Fandango (Sp. ฟันดังโก)
เพลงเต้นราอย่างมีชีวิตชีวาของสเปนในจังหวะประเภทนับ 3 (สามจังหวะในหนึ่งห้อง) เพลงเต้นราฟันดังโกเป็ น
เพลงเต้นราโดยนักเต้นคู่หนึ่งพร้อมด้วยเครื่ องดนตรี กีตาร์ , คาสทะเนทส์และการขับร้องร่ วมทาดนตรี คลอ
ประกอบด้วยเพลงนี้ปรากฏครั้งแรกที่สเปน ในศตวรรษที่ 18

Fanfare (It. แฟนแฟร์)


การแสดงอวดอย่างสง่าของเหล่าแตรทรัมเป็ ต

Fantasia (It. ฟานเตซี อา), fantaisie (Fr. ฟานต์ซี), fantasie (Ger.), Fantasy (Eng. แฟนตาซี)
1. คีตลักษณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 17และ 18 โดยมีพ้นื ฐานจากการร้อง ล้อเลียนกันอย่างอิสระ
2. ผลงานดนตรี ที่นกั ประพันธ์เขียนขึ้นตามความรู ้สึกไม่ได้เขียนตามข้อกาหนดไว้ของคีตลักษณ์

Feirlich (Gr. ไฟร์ลิคซ์) สนุกสนาน

Fermamente (It. เฟอร์มาเม็นเต) อย่างมัน่ คง เด็ดเดี่ยว

Fermata (It. เฟอมาตา)


การลากเสี ยงยาวเพิ่มขึ้นหรื อหมายถึงการหยุดเสี ยงเครื่ องหมายเฟอมาตาจะเพิ่มค่าเวลาของตัวโน้ตหรื อตัวหยุด
ตามที่เครื่ องหมายนี้กากับไว้ขา้ งบน ซึ่ งจะเพิ่ม ความยาวเท่าใดนั้นให้ข้ ึนอยูก่ บั การตัดสิ นใจของผูป้ ฏิบตั ิ

Feroce (It. แฟรโรเช) ป่ าเถื่อน ,ดุร้าย

Festevole (It. เฟสเตโวเล) สนุกสนาน ร่ าเริ ง

Feu (Fr. เฟอ) ไฟ เร่ าร้อน

Fiddle (ฟิ ดเดิ้ล) เป็ นภาษาแสลงของคาว่าไวโอลิน และรวมใช้สาหรับสมาชิกอื่น ๆ ในตระกูลเครื่ องสาย เช่น


เบสฟิ ดเดิ้ล

Fiere (Fr. ฟิ แอร์) ภูมิใจ, ชั้นสู ง


Fife (ไฟฟ์ )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้ที่มีขนาดเล็กเหมือนขลุ่ย ฟลูท แต่ไฟฟ์ มีเสี ยงสู งกว่าหนึ่งอ๊อกเทฟ มีรูปิดเปิ ด
หกถึงแปดรู และไม่มีคียส์ าหรับปิ ดเปิ ดรู ส่ วนใหญ่ใช้ในวงขลุ่ยไฟฟ์ และหมวดกลอง

Fifth (ฟิ ฟท์)1.ช่วงคู่เสี ยงของเสี ยงแบบไดอาโทนิก 5 เสี ยง

Figure (ฟิ กเกอร์) ประกายความคิด ส่ วนที่ส้ นั ที่สุดของแนวความคิดทางดนตรี

Fin (Fr. แฟง) จบ

Fine (It. ฟิ เน) จบ

Finale (It. ฟิ น่าเล) ส่ วนสรุ ปจบหรื อส่ วนท้ายสุ ดของท่อนในบทประพันธ์เพลงบทหนึ่ง

Fine (It ฟิ เน) จบ ,ปิ ดฉากลง D.C.al Fine หมายถึง ให้กลับไปที่จุดเริ่ มต้นใหม่ และเล่นจน ถึงคาว่า Fine

First inversion (เฟริ ทอ์ ินเวอร์ ชนั่ )การพลิกกลับครั้งที่หนึ่ งการเรี ยงตัวใหม่ของคอร์ ดเพื่อให้โน้ตตัวที่สามอยูใ่ น
แนวล่างสุ ด

Flag (แฟล็ก)
เขบ็ตเส้นตรงที่ลากจากก้านโน้ต เพื่อแสดงว่าตัวโน้ตนั้นมีอตั ราจังหวะสั้นกว่าโน้ตตัวดา

Flageolet (แฟล็กจะโอเลท)
1. เครื่ องดนตรี รูปร่ างคล้ายฟลูท ซึ่ งจัดเข้าอยูใ่ นตระกูลนกหวีด (เป่ า)
2. ปุ่ มสาหรับให้เสี ยงขลุ่ยระดับเสี ยงสู งในเครื่ องดนตรี ออร์ แกน

Flamenco or cante flamenco (Sp. ฟลาเมงโก)


ชื่อระบาหรื อดนตรี ของสเปนในสไตล์ยปิ ซี มีรากฐานมาจากคาว่า Canre .Id. ซึ่งบรรยายถึงอารมณ์และ
โศกนาฏกรรมแบบเพลงชาวอันดาลูเชี่ยนในตอนต้นศตวรรษที่ 19 ได้รับความนิยมและมีสีสันมากขึ้นในช่วง
ปลายศตวรรษที่ 19 ชื่อฟลาเมงโกอาจจะใช้เป็ นคาอธิ บายถึงเครื่ องแต่งกายสี ฟลาเมงโกของชาวยิปซี ปกติแล้ว
เพลงจะเริ่ มต้นด้วยคาว่า "อาย" หรื อ "เลลิ" ซึ่ งมีพิสัยขั้นคู่เสี ยงหก และโดยทัว่ ไปจะคลอประกอบด้วยกีตาร์

Flat (แฟล็ท) เครื่ องหมายแฟล็ทนี้เมื่อวางข้างหน้าโน้ตตัวใดแล้ว โน้ตตัวนั้นจะมีเสี ยงต่าลงครึ่ งเสี ยง


Flautando (It. เฟลาตานโด) เหมือนฟลูท ใส

Fling (ฟลิง) การเต้นราแบบสก๊อต ซึ่ งเหมือนกับเพลงเต้นรารี ลปกติจะอยูใ่ นจังหวะ oถ

Fluchtig (Gr. ฟลุคช์ทิก) อย่างละเอียดอ่อน

Flute (ฟลูท)
ชื่อขลุ่ยชนิดหนึ่งจัดเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้ขลุ่ยฟลูทมีท่อกลวงทาเสี ยงได้โดยการเป่ าผ่านส่ วน
ปากเป่ า (ที่เจาะไว้ดา้ นบนของท่อนส่ วนปากเป่ า) ที่น่าแปลกคือส่ วนปากเป่ าท่อนนี้มีลกั ษณะความกว้างของท่อ
ไม่เท่ากันคือจะตีบเรี ยวลงจนถึงส่ วนปลายสุ ดของท่อนกลไกการปิ ดเปิ ดรู และระบบการวางนิ้วของฟลูทสมัย
ใหม่ได้รับการออกแบบโดยทีโอบัลด์ โบเอม (เกิดปี ค.ศ 1793) ถึงแม้วา่ ขลุ่ยฟลูทจะจัดไว้เป็ นเครื่ องดนตรี
ประเภทเครื่ องลมไม้ก็ตามแต่ขลุ่ยฟลูทในปั จจุบนั นี้ก็ทาด้วยโลหะเสี ยงของฟลูทมีลกั ษณะใสชัดเจนเหมือน
โลหะเงินอีกทั้งเป่ าขึ้นเสี ยงสู งได้ดีฟลูทเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทไม่ตอ้ งย้ายคีย ์ (เสี ยงที่เกิดขึ้นจริ งจะตรงกับที่
เขียนบันทึกไว้)

Folk music (โฟล์ค มิวสิ ก)


คือดนตรี ที่บรรยายถึงวัฒนธรรมประเพณี และอารมณ์ของประชาชนในชนบทหรื อกลุ่มชนส่ วน ต่าง ๆ ดนตรี
โฟล์คเป็ นดนตรี ที่พฒั นาขึ้นท่ามกลางผูค้ น ไม่ได้เกิดจากการแต่งอย่างเป็ นกิจลักษณะ ตัวอย่างเพลงโฟล์คของอ
เมริ กนั ก็มีเพลงชาวเขา เพลงเคาว์บอยและเพลงนิโกรสปี ริ ชวล

Form (ฟอร์ม)
แบบแผนหรื อรู ปแบบในการประพันธ์เพลง ประกอบด้วยคีตลักษณ์ 7 ชนิด คือ
1. ไบนารี่ แบบธรรมดาประกอบด้วยคีตลักษณ์ชนิด 2 ส่ วน
2. เทอนารี่ แบบธรรมดาประกอบด้วยคีตลักษณ์ชนิด 3 ส่ วน
3. คอมเปานด์ไบนารี่ หรื อที่เรี ยกว่าโซนาตาฟอร์ ม
4. รอนโด
5. ทีมแอนด์แวริ เอชัน่
6. ฟิ วก์
7. คีตลักษณ์แบบต่อเนื่ องเป็ นหนึ่งเดียวโดยไม่มีการซ้ าหรื อพัฒนาต่อไปตัวอย่างเช่นพรี ลูดบทแรกของ เจ เอส
บาคชื่อว่า เดอะเวลล์เทมเปอร์ คลาเวียคีตลักษณ์ท้ งั เจ็ดชนิ ดสามารถผสมผสานเข้าด้วยกันได้มากมายหลายวิธี
Forte (It. ฟอร์เต) ดัง

Fortissimo (It. ฟอร์ติสซิโม) ดังมาก (ตัวย่อ ff.)

Forza (It.ฟอร์ซา) เน้น Forzando (It. ฟอร์ซานโด) forzato (It. ฟอร์ซาโต) ด้วยการเน้นทันทีทนั ใด หรื อการย้า
ออกเสี ยงดัง การเน้นเช่นเดียวกับคาว่า sforzando

Fourth (ฟอร์ท)
1. ขั้นคู่เสี ยงของโน้ตสี่ ตวั จากการเรี ยงแบบไดอาโทนิก
2. ขั้นที่สี่ในบันไดเสี ยงแบบไดอาโทนิก ซับดอมิแนนท์

Frei (Gr. ฟราย) อิสระ

Freimutig (Gr. ฟรายมูติก) อย่างตรงไปตรงมา

French horn (เฟรนช์ฮอร์น)


เครื่ องเป่ าประเภทแตรทองเหลืองชนิดหนึ่ง ซึ่ งมีลกั ษณะท่อแตรขยายออกไปตลอดถึงปากลาโพง มีกาพวดแบบ
รู ปกรวย และลูกสู บแตรซึ่ งเป็ นส่ วนที่เพิ่มจากแตร ในยุคแรก ๆ ทาให้สามารถเล่นบันไดเสี ยงแบบโครมาติกได้
อย่างสมบูรณ์ตลอดระยะช่วงเสี ยงอันกว้างเสี ยงแตรฮอร์ น มีลกั ษณะกลมกล่อม และเมื่อเป่ าขึ้นไปในช่วงเสี ยงสู ง
ๆ จะมีความสง่างาม และค่อนข้างจะเป็ นลักษณะคมจ้าแบบแตรในช่วงกลาง ๆ เสี ยงที่สูงมากและต่ามากนั้นจะ
เล่นยากแตรเฟรนช์ฮอร์ นนั้นสร้างได้ท้ งั ใน แบบ F และ Bb แต่สามารถรวมทั้งสองแบบเข้าไว้ในตัวแตรเครื่ อง
เดียวกัน (ที่เรี ยกว่าดับเบิลฮอร์ น) ได้ แตรเฟรนช์ฮอร์ นเป็ นแตรที่ตอ้ งย้ายคีย ์

Frets (เฟรทส์)
ขีดแบ่งเส้นบนแผงวางนิ้วของเครื่ องดนตรี แบนโจ, กีตาร์ ,ลูท ,แมนโดลิน ,ซีตาร์ ฯลฯ เพื่อจัดให้มีระยะช่องห่าง
ที่แน่นอนเหมาะกับตาแหน่งการวางนิ้วกดสายให้ได้เสี ยงต่าง ๆ

Fretta (เฟรทตา)รี บเร่ ง

Frisch (Gr. ฟริ สซ์) มีชีวติ ชีวา

Frohlich (Gr. โฟร์ลิคช์) สนุกสนาน


Fruheres zietmass (Gr. ฟูเฮเรส ซายท์มาส)กลับไปใช้ความเร็ วเท่าเดิม

Fugue (ฟิ วก์)


การประพันธ์เพลงที่พฒั นามากที่สุดแขนงหนึ่งนิยมประพันธ์ในสมัยบาโรค ในบทประพันธ์เพลงประเภทคอนท
ราพันทัลมาจากคาภาษาลาตินว่า ฟูกา (fuga) ซึ่งหมายถึง "บิน" การประพันธ์แบบฟิ วก์จะเริ่ มด้วยทานองที่
เรี ยกว่าซับเจคท์ (Subject) เป็ นการเน้นทานองแบบที่หนึ่งก่อนต่อมาก็จะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยทานองที่เรี ยกว่า
อานเซอร์ (answer) ซึ่ งคล้ายกับซับเจคท์แต่เริ่ มที่เสี ยงอื่น ๆ (โดยปกติเป็ นคู่ 5 หรื อคู่ 4ของคีย)์ และจะมีแนวอื่นๆ
(ปกติมีสองถึงห้าแนว) มารับโดยแนวอื่น ๆ นั้นเข้ามาทีละแนวทานองส่ วนที่ไม่ได้อยูใ่ นซับเจคท์ เรี ยกว่า เอพพิ
โซด (Episode)นอกจากนั้นหากเป็ นทานองที่เกยกันอยูส่ องถึงสามแนว เรี ยกว่า สเตร็ ทโตแพสเสจ (Stretto
Passage)

Full cadence (ฟลูคาเด้น)


ลูกจบท้ายการดาเนินคอร์ดจาก V ไป I ซึ่ งทาให้รู้สึกจบในลูกจบสมบูรณ์น้ นั เสี ยงสู งที่สุดจบที่โทนิก ส่ วนในลูก
จบไม่สมบูรณ์น้ นั เสี ยงสู งที่สุดจบที่โน้ตตัวอื่นนอกเหนื อจากโทนิก

Full orchestra (ฟลูออร์เคสตรา)


วงออร์เคสตราที่ประกอบด้วยเครื่ องดนตรี เต็มอัตราโดยใช้เครื่ องดนตรี ครบทั้ง 4 ประเภท คือ string instruments,
wood-wind instruments, brass-wind instruments, และ percussion instruments
Fundamental (ฟันดาเมนทัล)
1. ตัวพื้นต้นของคอร์ ด, เสี ยงแรกที่เป็ นตัวสร้างคอร์ด, ราก
2. เสี ยงฮาร์ โมนิกตัวแรกในอนุกรมโอเวอร์โทน (overtone series)

Funebre (It. ฟูเนเบร, Fr. ฟูเนเบลอ) เศร้า มืดมน

Furioso (It. ฟูริโอโซ) หยาบ ,ป่ าเถื่อน ,ดุเดือด ,บ้าคลัง่

Futurism (ฟอทูริซ่ ึม)


ดนตรี แบบหนึ่งซึ่งมีการเคลื่อนไหวราวปี 1910 คีตกวีในลัทธิ น้ ีจะใช้ปืนกลไซเรน, นกหวีดไอน้ า, เครื่ องพิมพ์ดีด
และอะไรต่อมิอะไรสารพัดที่มีเสี ยง มาใส่ ในดนตรี ของเขาซึ่ งใช้วงออร์ เคสตราอยูแ่ ล้ว

G
G (จี) ชื่อระดับเสี ยงซอล

G clef (จี เคลฟ) กุญแจซอลหรื อ เทร็ บเบิ้ลเคลฟ

Gai (Fr. เก) สนุกสนานมีชีวติ ชีวา, พอใจ

Galliard (กาลยาร์ด)
เพลงเต้นราสนุกสนานแบบหนึ่งปกติอยูใ่ นจังหวะประเภทนับสาม(สามจังหวะในหนึ่ งห้องหรื อ k) มีลีลารวดเร็ ว
เพลงกาลยาร์ดได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 16 ถึงตอนกลางศตวรรษที่ 17 มักบรรเลงต่อจากเพลงเต้นราที่ชื่อ
พาวาน (pavan) (ที่มีความช้าและสม่าเสมอมากกว่า)

Gavotte (Fr. กาวอท)


เพลงเต้นราของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 อยูใ่ นคีตลักษณ์แบบสองส่ วนแต่ละวลีแต่ละส่ วนจะเริ่ มในจังหวะกลาง
ของห้องเพลงเพลงเต้นรากาวอทนี้มกั เป็ นเพลงหนึ่งในบทเพลงประเภทสวีท (suite)

Gedampft (Ger. เกแดมพ์) ใช้เครื่ องลดความดัง

Gefuhl (Ger. เกฟุล) ความรู้สึก

Gehend (Ger. เกเฮน) ช้าปานกลาง เท่าความเร็ วของการเดิน

Geist (Ger. ไกสด์) วิญญาณ, จิตใจ

Gemachlich (Ger. เกเม็คลิคช์) สบาย ๆ ไม่เร่ งรี บ

Gewichtig (Ger. เกวิคทิก) ไตร่ ตรอง ,หนักแน่น

Gigue or giga, jig (It. จิก)


เรี ยกอีกชื่อว่า "จิก" (jig) เป็ นเพลงเต้นราอิตาเลียนในยุคแรกซึ่ งอาจมีชื่อมาจากคาว่า "จิกกา" (giga) ที่หมายถึงชื่อ
เครื่ องดนตรี ประเภทวิโอลชนิดหนึ่ง เพลงจิกนี้แต่งอยูใ่ นเครื่ องหมายกาหนดจังหวะมากมาย เช่น m,u, และt มัก
ใช้เป็ นขบวนสุ ดท้ายของบทเพลงประเภทสวีทที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 18
Giocoso (It. โจโคโซ) ในเชิงการละเล่น รื่ นเริ ง

Giusto (It. จุสโต) เคร่ งครัดเที่ยงตรง

Glanzend (Gr. เกล็นเซ็น) สดใส, สว่าง

Glissando (It. กลีซานโด)


โน้ตดนตรี หลายเสี ยงที่เล่นติดต่อกันอย่างรวดเร็ วกลีซานโดที่เล่นบนเครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ ดทาได้โดยการใช้นิ้ว
มือหนึ่งนิ้วของผูเ้ ล่นกดผ่านคียแ์ บบไถลเลื่อนติดต่อกันไปถ้าหากเล่นจากเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสาย (สี ) ก็
ทาได้โดยการรู ดนิ้วไปตามสายในขณะที่สีไปด้วยกลีซานโดอาจจะเล่นได้จากเครื่ องลมไม้บางประเภทมักจะได้
ยินบ่อยครั้งจากเพลงที่บรรเลงด้วยเครื่ องดนตรี ฮาร์ ฟ (พิณ) ซึ่งทาได้ดว้ ยการใช้นิ้วหนึ่งนิ้วกรี ดไปบนสายเสี ยง
คาย่อคือ gliss.

Glockenspiel (Gr. กลอคเคิ่นสปี ล)


เครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบ
1. ท่อนเหล็กซึ่ งมีระดับเสี ยงทางดนตรี 1 ชุด มีลกั ษณะการเรี ยงคล้ายคียบ์ อร์ ดประเภทเปี ยโน เล่นโดยใช้ไม้ตี 2
อัน
2. เบลไลร่ าเป็ นกลอคเคิ่นสปี ลชนิดที่พกพาไปได้ Gondoliera (It. กอนโดเลียรา) เพลงเรื อชนิดหนึ่ง

Gong (กอง) ฆ้อง

Grace note (เกรส โน้ต) โน้ตตัวเล็ก ๆ ไม่มีอตั ราจังหวะที่เขียนหน้าตัวโน้ตที่ตอ้ งการให้เล่นสบัดเสี ยงจากเสี ยง


หนึ่งไปเสี ยงหนึ่ง เช่น จากเสี ยงโดชาร์ ปไปเสี ยงเร

Gracieux (Fr. กราสิ เยอ) สง่างาม

Grand staff (แกรนด์สต๊าฟ)


บรรทัดห้าเส้นคู่ (อาจเรี ยกว่า บรรทัดห้าเส้นใหญ่ หรื อ บรรทัดห้าเส้นของเปี ยโน) การเชื่อมบรรทัดห้าเส้นของ
กุญแจเทร็ บเบิ้ล และกุญแจเบสโดยใช้วงเล็บหรื อปี กก

Grandioso (It. กรันดิโอโซ) สง่างาม ,กล้าหาญ


Grave (It. กราเว่, Fr. กราท์เว) ช้าอย่างเคร่ งขรึ ม, ช้ากว่าเลนโตแต่เร็ วกว่าลาร์ โก

Grazioso (It. กราซิโอโซ) รื่ นเริ งบันเทิงใจ

Gregorian chant (เกรเกอเลียน แชนท์) เพลงสวดของศาสนาโรมันคาทอลิกซึ่ งได้รับการปรับปรุ งใหม่โดย


สันตะปาปาเกร็ กกอร์รี่ที่ 1 (ค.ศ.590-604)

Guiro (Cu. กิโร)


เครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบใช้ในเพลงลาตินอเมริ กากิโรทาจากลูกบวบแห้งที่มีรอยบากอยูส่ ่ วนบน เมื่อใช้ไม้
ขูดไปตามรอยบากแล้วจะเกิดเสี ย

Guitar (กีตาร์ )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายเล่นโดยวิรีการใช้เพล็คทรัม (Plectum ) คือนาวัสดุแผ่นเล็กและบางดีดหรื อกรี ด
ไปบนสายเสี ยง (หรื อจะใช้นิ้วผูเ้ ล่นก็ได้) กีตาร์ ที่มีหกสายนี้จะมีส่วนหลังและส่ วนหน้าเป็ นแผ่นแบนมีแผงกด
นิ้วซึ่ งมีขีดแบ่งสายด้วยปั จจุบนั เรามักจะติดอุปกรณ์ส่วนที่เป็ นไมโครโฟนและส่ วนขยายเสี ยงเข้าไว้กบั กีตาร์

I
Im ersten zeitmass (Gr. อิม แอร์ เต็น ซายท์มาส ) กลับไปใช้ความเร็ วเท่าเดิม
Imitation ( อิมิเทชั่น ) ลูกล้อ , การซ้ าเนื้อหาทานองเดียวกันโดยแนวเสี ยงต่าง ๆ กัน
Immer (Gr. อิมเมอร์ ) เสมอ
Immer im tempo ( อิมเมอร์ อิม เทมโป ) รักษาจังหวะเดิมไว้
Immer belebter (Gr. อิมเมอร เบเล็บเทอ ) มีชีวติ ชีวามากขึ้นทีละน้อย
Immer langsamer werden (Gr. อิมเมอร์ ลางซัมเมอ แวร์ เด็น ) ช้าลงทีละน้อย
Imperfect authentic cadence ( อิมเพอร์ เฟค ออร์ เทนทิค คาร์ เด็น ) ลูกจบไม่สมบูรณ์ ลูกจบท้ายซึ่งมีแนวเสี ยง
ที่สูงที่สุดจบในตัวโน้ตอื่นที่ไม่ใช่โทนิก
Imperfect cadence ( อิมเพอร์ เฟค คาร์ เด็น ) ลูกจบไม่สมบูรณ์
Impressionism ( อิมเพรชชั่นนิซึ่ม ) ดนตรี แบบหนึ่งตอนปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20
Impromptu ( อิมพร้ อมทุ )
เพลงที่เขียนในลักษณะอิสระเสรี มีคีตลักษณะไม่แน่นอนนิยมกันในยุคโรแมนติก ( ศตวรรษที่ 19) อิมพร้อมทุ
มักให้ความรู ้สึกถึงการด้นเพลงคือในลักษณะเล่นไปแต่งไป
Habanera (Sp. อาบาเนรา )
เพลงเต้นราแบบช้าของชาวคิวบาซึ่ งได้รับความนิยมในประเทศสเปนเพลงอาบาเนรานี้ อาจมีกาเนิ ดมาจากทวีป
แอฟริ กาบทเพลงจะเริ่ มด้วยการเกริ่ นนาสั้น ๆ แล้วตามด้วยดนตรี สองส่ วนซึ่ งประกอบด้วย 8 ห้องเพลงและ 16
ห้องเพลงตามลาดับ
Half cadence ( ฮาล์ฟคาร์เด้น ) ลูกจบกลาง
Half note ( ฮาล์ฟ โน้ต )
หมายถึงโน้ตตัวขาวซึ่ งจานวนโน้ตสองตัวนี้ รวมค่าความยาวเท่ากับโน้ตตัวกลมหนึ่งตัวและโน้ตตัวดาสองตัว
รวมค่าความยาวเท่ากับโน้ตตัวขาวหนึ่งตัว
Half rest ( ฮาล์ฟ เรสท์ )
ตัวหยุดโน้ตตัวขาวสัญลักษณ์ให้หยุดออกเสี ยง มีค่าเท่ากับตัวโน้ตตัวขาวหนึ่งตัว
Half step ( ฮาล์ฟ สเต็ป )
ขั้นครึ่ งเสี ยง ( อาจเรี ยกว่าเซมิโทน หรื อ m2 , ขั้นคู่ 2 ไมเนอร์ ) ขั้นคู่ที่เล็กที่สุดในดนตรี ตะวันตก
Hammerklavier (Gr. ฮามเมอร์คลาเวียร์ )
ชื่อเยอรมันดั้งเดิมที่หมายถึงเปี ยโนบทเพลงโซนาตาของเบโธเฟนโอปุส 106 นั้นตามปกติแล้วเรี ยกว่า ฮามเมอร์
คลาเวียร์ โซนาตา
Harmonic minor scale ( ฮาร์ โมนิก ไมเนอร์สเกล )
บันไดเสี ยงฮาร์ โมนิกไมเนอร์ บนั ไดเสี ยงที่เกิดจากการยกระดับขั้นที่ 7 ของเนเจอรัลไมเนอร์ ขึ้นครึ่ งเสี ยง
Harmonics ( ฮาร์โมนิกส์ )
เป็ นเสี ยงที่เกิดจากเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายโดยวิธีการแตะนิ้วเพียงเบา ๆ ณ จุดต่าง ๆ ที่ระยะแบ่งครึ่ งหรื อ
เศษหนึ่งส่ วนสี่ บนสายเสี ยงเครื่ องดนตรี เพื่อให้เกิดเสี ยงสู งกว่าการกดนิ้วแบบธรรมดา ( กดติดแผงวางนิ้ว ) ณ
จุดเดียวกันและในห้วงเวลาเดียวกัน
Harmonic progression ( ฮาร์ โมนิกส์โปรเกรสชัน่ )
การดาเนินเสี ยงประสานกลุ่มของคอร์ ดซึ่ งเป็ นฐานของทานองหรื อบทประพันธ์น้ นั บางครั้งอาจเรี ยกว่า เสี ยง
ประสานพื้นฐาน
Harmonic rhythm ( ฮาร์โมนิกส์ริธ่ ึม )
จังหวะของเสี ยงประสานรู ปแบบของจังหวะที่กาหนดในการเปลี่ยนเสี ยงประสาน
Harmonization ( ฮาร์ โมไนซ์เซชัน่ )
การใส่ เสี ยงประสาน การใส่ คอร์ ดที่เหมาะสมให้กบั ทานอง
Harmony ( ฮาร์โมนี )
1. การผสมเสี ยงเข้าด้วยกัน เช่น คอร์ ด
2. ความสัมพันธ์ระหว่างอนุกรมของคอร์ ด โครงสร้างของคอร์ ดในคีตนิพนธ์
Harp ( ฮาร์ป )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสาย พิณเสี ยงจากการใช้นิ้วดีดสายเสี ยงของเครื่ องดนตรี ปกติแล้วมี 47 สายและที่
เหยียบเพดดัล 7 อันเพดดัลแต่ละอันจะควบคุมสายเสี ยงแต่ละชุดเช่น เพดดัล อันหนึ่งจะบังคับสายเสี ยง C
ทั้งหมดและอีกอันหนึ่งจะบังคับสายเสี ยง D ทั้งหมดฮาร์ ปเป็ นเครื่ องดนตรี เก่าแก่ชนิ ดหนึ่งที่มีการกล่าวถึงตั้งแต่
ราว 3,000 ปี ก่อนคริ สต์ศตวรรษ
Harpsichord ( ฮาร์ปซิคอร์ ด )
เครื่ องดนตรี ที่เกิดก่อนเปี ยโนสายเสี ยงภายในเครื่ องดนตรี จะถูกเกี่ยวด้วยไม้ดีด (quills) ขณะที่เรากดคียล์ งไป (
ตรงข้ามกับเปี ยโนซึ่ งใช้คอ้ นเคาะ ) ฮาร์ ปซิ คอร์ ดไม่อาจให้เสี ยงที่ดงั หรื อเบาตามลาดับได้อย่างไรก็ตามก็มกั จะมี
คียบ์ อร์ดสองแผงคือแผงหนึ่ งจะให้เสี ยงดังอีกแผงหนึ่งจะให้เสี ยงเบาปุ่ มหรื อเครื่ องพ่วงใช้เพื่อเชื่ อมสายเสี ยงแต่
ละชุดทาให้เกิดเสี ยงหลายอ๊อคเทฟจากการกดเพียงคียเ์ ดียวเท่านั้น ฮาร์ ปซิ คอร์ ดได้รับความนิยมมากในช่วง
ศตวรรษที่สิบ 16 ถึงศตวรรษที่ 18
Heftig (Ger. เฮฟทิก ) ดุเดือด , เครี ยด , โกรธ
Heimlich (Ger. ฮายม์ลิคช์ ) ลึกลับ
Heiter (Ger. ฮายเตอร์ ) เรี ยบ ๆ สดใส สนุกสนาน
Hold ( โฮล์ด ) ยืดออกไป
Homophonic ( โฮโมโฟนิค ) ดนตรี โฮโมโฟนีหมายถึงดนตรี ที่มีแนวเสี ยงหลัก 1 แนวเสี ยงและมีเสี ยงประสาน
ประกอบเสี ยงหลักนั้น
Hopak (Ru. โฮปัก ) เรี ยกอีกชื่อว่าโกปั ก (gopak) เพลงระบาที่มีชีวติ ชีวาของรัสเซี ยอยูใ่ นจังหวะประเภทนับ 2
(h)
Hornpipe ( ฮอร์ นไปป์ )
เป็ นเพลงเต้นราพื้นเมืองเก่าแก่ของอังกฤษลักษณะเพลงมีชีวติ ชีวาเพลงฮอร์ นไปป์ ได้รับความนิยมในช่วง
ศตวรรษที่ 16 ถึง 19 โดยเป็ นที่ชื่นชอบในหมู่ชาวกลาสี เรื อเพลงฮอร์นไปป์ ในศตวรรษที่ 17 และ 18 จะอยูใ่ น
จังหวะ j และต่อมาเปลี่ยนเป็ นจังหวะ o ถ
Hubsch (Gr. ฮุบช์ ) มีเสน่ห์ , สวยงาม
Hunting horn ( ฮันติ้ง ฮอร์ น )
เครื่ องดนตรี ประเภทแตรทองเหลืองที่มีรูปลักษณ์เป็ นท่อขดเป็ นวงไว้โดยไม่มีลูกสู บฮั้นติ้งฮอร์ นเป็ นบรรพบุรุษ
ของเฟรนช์ฮอร์ นใช้ในการล่าสัตว์และสวมใส่ ไว้บนบ่าของผูเ้ ล่นเป็ นแตรแบบธรรมชาติชนิดหนึ่ง
Hurtig (Gr. ฮูติก ) เร็ ว
Hymn ( ฮิม ) เพลงศาสนาหรื อเพลงศักดิ์สิทธิ์
Improvisation ( อิมโพรไวเซชัน )
การเล่นดนตรี อย่างพลิกแพลงโดยใส่ กลเม็ดเด็ดพรายเอาเองไม่ได้เตรี ยมไว้หรื อถูกกาหนดด้วยความสามารถของ
ผูเ้ ล่น ที่ภาษาไทยเราเรี ยกว่า " การด้น " หรื อ " คีตปฎิภาณ "
Incalzando (It. อินคาลซานโด ) อย่างรี บเร่ ง
Incidental music ( อินสิ เดนทัล มิวสิ ก )
ดนตรี ประกอบละคร ละครกรี กมักจะมีดนตรี ประกอบเช่นเดียวกับละครของเชคสเปี ยร์ ละครสมัยใหม่ส่วนมาก
ก็ใช้ดนตรี ประกอบละครด้วย
Indesciso (It. อินเดซิโซ ) ตัดสิ นใจไม่ได้ , ลังเลใจ
Innig (Ger. อินนิก ) คุน้ เคยด้วยจิตใจ
Inquieto (It. อินควีเอโต ) กระสับกระส่ าย
Instrumentation ( อินสทรู เม้ นเทชั่ น ) การเลือกใช้เครื่ องดนตรี การเลือกใช้เครื่ องดนตรี ในบทประพันธ์
Interval ( อินเทอร์ วอล )
ระดับเสี ยงที่แตกต่างกันระหว่างเสี ยงสองเสี ยงขั้นคู่เสี ยงไดอาโทนิกอาจเป็ นลักษณะพลิกกลับ คือ ขั้นคู่เสี ยง
ชนิดเมเจอร์เมื่อพลิกกลับแล้วจะเป็ นไมเนอร์ ในทานองเดียวกันขั้นคู่เสี ยงชนิดไมเนอร์ เมื่อพลิกกลับจะเป็ น
เมเจอร์ ส่วนขั้นคู่เสี ยงเพอร์ เฟคยังคงเป็ นเพอร์ เฟค ถึงแม้จะพลิกกลับแล้วก็ตาม
Intonation ( อินโทเนชั่น ) การทาให้มีระดับเสี ยงถูกต้องจะด้วยวิธีการเล่นหรื อการร้องก็ตาม
Invention ( อินเวนชั่น )
เป็ นชื่อที่ เจ . เอส . บาค คิดขึ้นใช้ในการแต่งเพลงประเภทสองแนวและสามแนว อินเวนชัน่ ( บทเพลงสั้น ๆ ที่
เขียนในลักษณะของเคาร์เตอร์พอยท์แบบอิสระ )
Inversion ( อินเวอร์ ชัน ) การพลิกกลับ
1. ขั้นคู่เสี ยงที่มีการพลิกกลับโดยให้โน้ตตัวต่ากว่ากลับขึ้นไปอยูส่ ู งกว่าเดิมหนึ่งอ๊อคเตฟ
2. คอร์ ดจะอยูใ่ นลักษณะพลิกกลับ หากทาให้โน้ตตัวใดตัวหนึ่ง ( นอกจากโน้ตตัวพื้นนั้น ) อยูต่ ่าสุ ดสาหรับ
คอร์ ดนั้น ๆ
Irresoluto (It. อีเรโซลูโต ) อย่างตัดสิ นใจไม่ได้มีอาการลังเล
Istesso (It. อิสเตสโซ ) เหมือนกัน
Istesso tempo (It. อิสเตสโซ เทมโป ) อัตราความเร็ วเหมือนเดิม
J
Jam session ( แจมเซสชัน่ )
การเข้าร่ วมเล่นดนตรี แจ๊สอย่างไม่เป็ นทางการ โดยไม่ตอ้ งใช้โน้ตดนตรี
Jazz ( แจ๊ส )
ดนตรี แจ๊สมีรูปแบบมากมาย ( เริ่ มตั้งแต่แรกไทม์และพัฒนาเรื่ อยมาทั้งทางด้านเสี ยงประสานและจังหวะมีชื่อ
เรี ยกต่างกันตามรู ปแบบเพลงบูลส์ , บูก้ ีวกู ้ ี , สวิงและ , บีบอ๊ บ ) ดนตรี แจ๊สเป็ นรากฐานแบบอย่างดนตรี เต้นรา
ของชาวอเมริ กนั ตั้งแต่ปลายศตวรรษ 1900 เมื่อครั้งนักดนตรี ขา้ งถนนชาว นิโกรในเมืองนิวออร์ลีนส์ดดั แปลง
จังหวะแบบอาฟริ กนั และทานองเพลงไปเป็ นดนตรี แบบใหม่
1. เพลงแรกไทม์ (ragtime) เป็ นดนตรี ยคุ แรกสุ ดของดนตรี แจ๊ส มีเสี ยงประสานที่เรี ยบง่ายใช้เพียงแต่คอร์ ด I - IV
และ V จังหวะก็อยูใ่ นลักษณะ 2 ถึง 4 ต่อห้องเพลง และเล่นอยูใ่ นแบบฉบับที่ตายตัวมากเนื่องจากนักดนตรี ส่วน
ใหญ่อ่านโน้ตไม่ได้ จึงต้องใช้วธิ ีดน้ แนวดนตรี ของตนเอง
2. เพลงบูลส์ (blue) ได้รับความนิยมราวปี ศตวรรษ 1912 แรกเริ่ มนั้นคือเพลงสาหรับร้องมีจงั หวะช้ากว่าเพลง
แรกไทม์เสี ยงประสานก็ซบั ซ้อนกว่าเพราะใช้คอร์ ดพวกเซเวนมากและใช้การด้นสั้น ๆ บ่อยครั้ง
3. เพลงบูก้ ีวกู ้ ี (boogie-woogie) เริ่ มในปี ศตวรรษ 1920 มีลกั ษณะสาคัญคือ การซ้ าทานองเบสด้วย โน้ตตัวเขบ็ต
หนึ่งชั้นในจังหวะ o และมีการด้นทานองอย่างอิสระ
4. เพลงสวิง (swing) ได้รับการพัฒนามาจากแบบแรก ๆ ใช้เสี ยงประสานที่มากกว่า คือ ใช้ท้ งั คอร์ ด 7 และคอร์ด
9 จังหวะก็อยูใ่ นลักษณะประเภทนับสองและนับสี่ แต่มีความราบรื่ นประเภทสามพยางค์ ซึ่ งให้อารมณ์ดีกว่าการ
เคร่ งจังหวะของดนตรี แจ๊สในยุคแรก ๆ การด้นเบรค ฯลฯ ที่เคยใช้ในยุคแรกก็ได้นามาใช้ดว้ ย
5. เพลงบีบอ๊ บ (bebop) เป็ นเพลงที่ได้รับการพัฒนาต่อไปอีกทั้งทางด้านจังหวะและเสี ยงประสาน เสี ยงประสาน
มีความซับซ้อนมากโดยใช้คอร์ดประเภท 7,9,11 และ 13 พอ ๆ กับการ เปลี่ยนแปลงท่วงทานองและเสี ยง
ประสานทุกชนิดจังหวะที่มีความเคร่ งครัดโดยให้ความรู ้สึกการ ใช้โน้ตตัวเขบ็ต 2 ชั้นในประเภทนับ 4 ในแต่ละ
ห้อง

Jete ( เจท ) การทาคันชักเต้นบนสาย


Jota (Sp. โจตา )
การเต้นราเเบบสเปนในจังหวะประเภทนับ 3 ประกอบด้วยผูเ้ ต้นราเป็ นคู่ ๆ โจตาเกิดขึ้นที่เมือง อะทกอน ( ทาง
ตอนเหนือของประเทศสเปน ) มีลกั ษณะการเต้นที่รวดเร็ วและมีคาสทะเนทส์เป็ นเครื่ องดนตรี ประกอบ
K
K., KV ตัวย่อ Kochel - Verzeichnis
ระบบการจัดผลงานการประพันธ์ของโมทซาร์ ทโดยใช้แนวทานองเป็ นหลักเชื่ อว่าเรี ยงลาดับผลงานตามลาดับที่
โมทซาร์ทประพันธ์
Kettledrum ( เค็ทเทิลดรัม ) เรี ยกอีกชื่อว่าทิมปานี (Timpani)
Key ( คีย ์ )
1. คีย ์ ( หลักเสี ยง ) จะเป็ นเมเจอร์ หรื อไมเนอร์ ข้ ึนอยูก่ บั บันไดเสี ยงเมเจอร์ หรื อไมเนอร์ บทประพันธ์แต่งจากคียท์ ี่
กาหนดให้ยอ่ มจะมีโน้ตตัวจรใด ๆ ที่อยูน่ อกบันไดเสี ยงได้
2. คียโ์ น้ตเป็ นโน้ตตัวแรกของบันไดเสี ยงหรื อที่เป็ นโทนิก
3. คียซ์ ิ กเนเจอร์ หรื อที่เรี ยกว่าเครื่ องหมายตั้งบันไดเสี ยงหมายถึงเครื่ องหมายชาร์ ปหรื อแฟล็ทที่อยูห่ ลัง
เครื่ องหมายเคลฟตรงส่ วนเริ่ มต้นของบรรทัดห้าเส้นทุกบรรทัดเพื่อบ่งชี้ให้ทราบถึงคียห์ รื อบันไดเสี ยงของบท
เพลงนั้น
4. หนึ่งในจานวนแป้ นกดนิ้วสาหรับเล่นเปี ยโนหรื อเครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ ดอื่น ๆ
5. กลไกการปิ ดและเปิ ดรู สาหรับรู เสี ยงบางตาแหน่งของเครื่ องดนตรี ประเภท เครื่ องลมไม้
Key center ( คียเ์ ซ็นเตอร์ ) ศูนย์กลางของกุญแจเสี ยงกุญแจเสี ยงหลักของบทประพันธ์ท่อนหนึ่งหรื อของบท
ประพันธ์ท้ งั บท
Key note ( คียโ์ น้ต ) ตัวโทนิก
Key signature ( คียซ์ ิกเนเจอร์ )
เครื่ องหมายของกุญแจเสี ยงกลุ่มของเครื่ องหมายชาร์ปหรื อเครื่ องหมายแฟล็ท ที่เขียนไว้บริ เวณต้นบรรทัดห้า
เส้นของแต่ละบรรทัดเพื่อแสดงการแปลงอักษรชื่ อโน้ตให้เป็ นไปตามบันไดเสี ยงแลกุญแจเสี ยง
Kraftig (Ger. เคร็ ฟติก ) แข็งแกร่ งมีพละกาลัง

L
Lacrimoso (It. ลาคริ โมโซ ) เศร้าโศก
Lagrimoso (It. ลากรี โมโซ ) ด้วยคราบน้ าตาด้วยอาการฟูมฟาย
Lamento (It. ลาเมนโต ) บทเพลงที่เศร้าสร้อย
Lamentoso (It. ลาเมนโตโซ ) อย่างเศร้าโศก
Landler (Gr. เลนด์เล่อร์ )
การเต้นราซึ่ งได้รับความนิยมในประเทศออสเตรี ยในช่วงตอนต้นศตวรรษที่ 19 เป็ นเพลงเต้นราวอลซ์แบบช้า
ชนิดหนึ่ง
Landlich (Gr. เล็นด์ลิคช์ ) สบาย ๆ
Langsam (Gr. ลางซาม ) ช้า
Largamente (It. ลากาเม็นเต ) ช้ามาก อย่างกว้าง ๆ
Largando (It. ลาร์กานโด ) ช้าลงตามลาดับขยายยืดเวลาออกไปเช่นเดียวกับคาว่า allargando
Larghetto (It. ลาร์เกทโต ) ช้า ช้ากว่าเลนโตแต่เร็ วกว่าลาร์ โก
Largo (It. ลาร์โก ) กว้างขยายเวลาออกไปสง่างามเป็ นเครื่ องหมายที่แสดงความช้า
Le meme mouvement (Fr. เลอ แมม มูเวอมอง ) อัตราความเร็ วเหมือนเดิม

Leader ( ลีดเดอร์ ) หัวหน้าแนวไวโอลินที่หนึ่งในวงดนตรี ออร์ เคสตร้าในอดีตกาลมีหน้าที่ เป็ นผูอ้ านวยเพลง


ด้วย
Leading note ( ลี้ดดิ้งโน้ต )
โน้ตตัวที่ 7 ของบันไดเสี ยงแบบเมเจอร์ และแบบฮาร์ โมนิ กไมเนอร์ ที่เรี ยกลีดดิ้งโน้ตก็เพราะเป็ นตาแหน่งเสี ยงที่
นาไปสู่ ตวั คียโ์ น้ตหรื อโทนิกในลักษณะครึ่ งเสี ยง
Leading tone ( ลี้ดดิ้ง โทน ) โน้ตลี้ดดิ้งโน้ตระดับขั้นที่ 7 ของบันไดเสี ยงซึ่ งอยูต่ ่ากว่าโทนิกครึ่ งเสี ยง
Lebhaft (Ger. เล็บฮัฟท์ ) มีชีวติ ชีวาสนุกสนานสดใส
Legato (It. เลกาโต )
เชื่อมโยงให้ความต่อเนื่ องมักจะนาเครื่ องหมายสเลอร์ มาใช้เพื่อการต่อเนื่ องของทานองเพลงคาย่อคือ leg.
Leger (Fr. เลเจ ) เบา สบาย ๆ ละเอียดอ่อน
Ledger line ( เลดเจอร์ไลน์ )
เส้นที่เพิ่มเหนือหรื อใต้บรรทัดห้าเส้น เพื่อขยายขอบเขตการบันทึกโน้ตที่อยูน่ อกบรรทัดห้าเส้นหรื อเรี ยกว่า "
เส้นน้อย "
Legerement ( เลคเจอร์เมนท์ ) อย่างเบาอย่างรวดเร็ ว
Leggiero, leggieramente (It. เลดเจโร ) เบาอย่างรวดเร็ วบางเบาคาย่อคือ legg.
Legno ( เลคโน ) ส่ วนที่เป็ นไม้ของคันชัก
Lentamente (It. เลนตาเมนเต ) อย่างเชื่ องช้า
Leicht (Ger. ลายค์ท ) สบาย ๆ
Leicht bewegt (Ger. ลายค์ท เบเวคท์ ) สบาย ๆ ร่ าเริ ง
Leise (Ger. ลายเซอ ) เบานุ่มนวล
Lent (Fr. ลองต์ ) ช้า
Lentamente (Fr. ลองเตเมนเต ) อย่างช้า ๆ
Lento (It. เลนโต ) ช้า ช้ากว่าอันดานเตแต่เร็ วกว่าลาร์ โก
Lesto (It. เล็สโต ) เร็ วมีชีวิตชีวา
L.H. ( แอล เอช ) มือซ้าย
Libretto (It. ลิเบรตโต ) คาร้องหรื อเนื้อเรื่ องของละครร้องอุปรากรออระทอริ โอมาจากคาภาษาอิตาเลียนที่มี
ความหมายว่า หนังสื อเล่มเล็ก
Licenza (It. ลิเซนซา ) อิสระ
Lieblich (Gr. ลีบลิคช์ ) มีเสน่ห์ อ่อนหวาน
Lied ( ลีด ) เพลงร้อง
Loco (It. โลโค ) ตาแหน่งเดิมใช้หลัง 8va เพื่อแสดงให้รู้วา่ ต้องเล่นโน้ตต่าง ๆ ทั้งหลายให้อยูใ่ นลักษณะตามที่
เคยเป็ น
Lontano (It. ลอนตาโน ) ระยะห่าง , เบา
Loure (Fr. ลูเออร์ )
1. ชื่อในภาษาฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 16 สาหรับเรี ยก bagpipe 2. เพลงเต้นราแบบฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 ขนาด
ความเร็ วธรรมดาจังหวะ t และอาจมีเครื่ องดนตรี ลูเออร์
Lower neighbor ( โลเวอร์ เนเบอ )
โน้ตเสี ยงต่า , โน้ตนอกคอร์ ดชนิดหนึ่งเกิดจากการที่แนวเสี ยงเคลื่อนที่ลงหนึ่งขั้นและกลับไปยังโน้ตในคอร์ ดตัว
เดิม
Luftpause ( ลุฟท์เพาว์ ) หยุดเพื่อหายใจ
Lugubre ( ลูกเู บอร์ ) อย่างเศร้าสร้อย
Lullaby ( ลูลาบาย ) เพลงกล่อมเด็ก
Lungo, lunga (It. ลุนโก ) ยาว
Lustig (Ger. ลุสทิก ) สนุกสนานร่ าเริ ง
Lute ( ลูท )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายที่นิยมมากที่สุดในระหว่างศตวรรษที่ 16 และ 17 เวลาเล่นจะใช้นิ้วดีดสาย ( ซึ่ ง
ขึ้นสายเป็ นคู่ ๆ ไว้ ) ลูทมีรูปร่ างคล้ายลูกแพร์ และมีส่วนคอเป็ นแผ่นแบนมีขีดแบ่งเสี ยง 7 ขีดหรื อมากกว่านั้น
ส่ วนหมุดหมุนสายจะเอนทามุมไปข้างหลังเพื่อช่วยยึดสายต่าง ๆ ไว้
Lydian mode ( ลีเดียนโมด )
โมดลีเดียนโมดในเพลงโบสถ์ยคุ กลางซึ่ งอาจสร้างโดยการเล่นเปี ยโนคียข์ าวจาก F ไปถึง F
Lyre ( ไลร์ )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายที่เก่าแก่มากมีรูปลักษณ์คล้ายพิณซึ่ งมีชื่อเรี ยกต่าง ๆ มากมายและมีรูปร่ าง
หลายหลากโดยทัว่ ๆ ไปจะประกอบด้วยกล่องเสี ยงแขนสองข้างและคานเล็ก ๆ จากที่มีรูปร่ างหลายหลากจึงมี
ทั้งที่ดีดด้วยนิ้วดีดด้วยเพล็คทรัมหรื อบางชนิ ดก็ใช้วธิ ี สีตวั อย่างที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่คน้ พบคือพิณที่อยูใ่ นสุ สาน
หลวงของนครอูร์ ( ทางตอนใต้ของประเทศอิรักในปัจจุบนั )
Lyric ( ไลริ ก ) คาร้อง

M
Ma (It. มา )
แต่ เช่น Allegro ma non troppo หมายถึงเร็ วแต่ไม่มากนัก
Ma non troppo (It. มา นอน ตร็ อปโป ) แต่ไม่มากเกินไป
Machtig (Gr. เม็คช์ทิก ) มีพลัง
Madrigal ( แมดริ กลั )
เพลงร้องประสานเสี ยงประเภทเพื่อความบันเทิง ( ไม่ใช่ทางศาสนา ) ร้องโดยไม่ตอ้ งใช้เครื่ องดนตรี คลอ
ประกอบ โดยแต่งอยูใ่ นลักษณะเค้าน์เต้อพ้อยท์ ได้รับ ความนิยมในช่วงศตวรรษที่ 14 ถึง 17 ปกติเพลงแมดริ กลั
จะใช้เสี ยงร้องหนึ่งคนต่อหนึ่ งแนวทานอง
Maestoso (It. มาเอสโตโซ ) อย่างภาคภูมิและสง่างาม
Mais (Fr. แม ) แต่
Mais pas trop (Fr. แม ปา โทร ) แต่ไม่มากเกินไป่
Major scale ( เมเจอร์ สเกล ) บันไดเสี ยงแบบไดอาโทนิกที่ประกอบด้วยหนึ่งเสี ยงเต็มห้าขั้นและ ชนิดครึ่ งเสี ยง
สองขั้น
Mal (Ger. เมล์ ) เวลา
Mambo ( แมมโบ ) การเต้นราแบบลาตินอเมริ กนั ซึ่ งปรากฏครั้งแรกในช่วงกลางศตวรรษที่ 20
Mancando (It. มานคานโด ) เบาลงทีละน้อยจนเสี ยงหายไป
Mandolin ( แมนโดลิน )
เป็ นเครื่ องดนตรี ชนิ ดเดียวในตระกูลลูทที่ยงั คงนิยมใช้อยูใ่ นปั จจุบนั แมนโดลินมีรูปร่ างคล้ายลูกแพร์ มีสายเสี ยง
จัดเป็ นคู่จานวนสี่ คู่ซ่ ึ งเล่นด้วยอุปกรณ์สาหรับดีดและมีเฟร็ ตคล้ายกีตาร์
Maraca (Cu. มาราคา )
เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบใช้เขย่าเสี ยงในเพลงประเภทลาตินอเมริ กนั เครื่ องดนตรี ทาจากผลไม้แห้ง
ประเภทบวบ ซึ่ งมีเมล็ดเล็ก ๆ ภายในผล มีดา้ มถือสาหรับสั่นให้เกิดเสี ยงได้และมักใช้เป็ นคู่
Marcato (It. มาร์คาโต ) เน้นย้าให้เด่นคาย่อคือ marc.
March ( มาร์ช ) ดนตรี สาหรับการเดินแถวปกติจะอยูใ่ นจังหวะ o , h หรื อ u
Marcia (It. มาร์เซีย ) เดินแถวสวนสนาม
Marcia funebre (It. มาร์เซีย ฟูเนเบร์ ) เพลงเดินแถวแห่ศพ
Marimba ( มาริ มบา )
เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องกระทบชนิดหนึ่งประกอบด้วยแท่งไม้ที่เทียบเสี ยงแล้วจัดเรี ยงคล้ายเปี ยโน โดยมี
ท่อกลวงซึ่ งเป็ นตัวทาเสี ยงก้องอยูใ่ ต้แท่งไม้แต่ละแท่งใช้ตีดว้ ยไม้ รู ปค้อนส่ วนหัวของไม้ถา้ สร้างจากวัสดุ
ต่างกันเสี ยงที่เกิดจากการตีก็จะต่างกันออกไปมาริ มบามีแหล่งกาเนิดมาจากทวีปแอฟริ กาในปั จจุบนั นี้ เป็ นที่นิยม
กันทัว่ ไปในทวีปอเมริ กามีรูปร่ างคล้ายไซโลโฟนแต่เสี ยงทุม้ ต่ากว่าและมีช่วงเสี ยงประมาณ 5 อ๊อคเทฟ
Marque ( มาร์คิว ) เน้น
Martellato (It. มาร์เทลลาโต ) อย่างเต็มกาลัง , เฉียบขาด
Martele ( มาร์เทเล ) เน้นหนัก
Marziale (It. มาร์ซิอาเล ) เหมือนกับสงคราม
Mass ( แมส ) เพลงสวดอย่างเป็ นทางการของศาสนาคริ สต์ นิกายโรมันแคธอลิค
Massig (Gr. แมสสิ ก ) ปานกลาง เหมือนกับ andante
Massig bewegt (Gr. แมสสิ ก เวชท์ ) มีชีวติ ชีวาปานกลาง
Mazurka ( มาซูร์กา )
เพลงเต้นราพื้นเมืองของชาวโปแลนด์ จากตาบลในมาโซเวีย ประเทศโปแลนด์ ปกติจะอย่ในจังหวะ m หรื อ k
โดยทัว่ ไปเขียนในลักษณะเพลงสองส่ วนหรื อ 4 ส่ วน และแต่ละส่ วน จะมีการย้อนและให้เน้นเสี ยงที่จงั หวะ 2
หรื อ 3
M.D. ( เอ็ม ดี )
มือขวา เป็ นคาย่อของคาว่า mano destra (En.) หรื อ main droite (Fr.) measure ( เมสเช่อร์ ) ตัวโน้ตหรื อตัวหยุดที่
อยูภ่ ายในระหว่างเส้นกั้นห้องสองเส้น จานวนเคาะที่อยูภ่ ายใน ช่วงดังกล่าว จะถูกแสดงด้วยเครื่ องหมายกาหนด
จังหวะ จังหวะแรกของแต่ละจังหวะมักจะเน้นเล็กน้อย เรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่า บาร์ (Bars ห้องเพลง )
Measure ( เมสชูวร์ ) ห้อง , กลุ่มของจังหวะที่อยูภ่ ายในเส้นกั้นห้อง โดยจังหวะแรกมักจะมีการเน้น
Mehr (Gr. เมร์ ) มากขึ้น
Melodic goal ( เมโลดิก โกล์ ) จุดหมายของทานอง จุดกาหนดที่สูงหรื อต่าในแนวทานอง
Melodic minor scale ( เมโลดิกไมเนอร์สเกล )
บันไดเสี ยงเมโลดิกไมเนอร์ บันไดเสี ยงที่เกิดจากการแปลงเนเจอรัลไมเนอร์ โดยการยกระดับขั้นที่ 6 และ 7 ขึ้น
ครึ่ งเสี ยงในขณะไล่ข้ ึน และลดระดับเสี ยงกลับเหมือนเดิมในขณะไล่ลง
Melodic shape ( เมโลดิก เชป ) รู ปร่ างของทานอง ทิศทางและโครงร่ างของแนวทานอง
Melody ( เมโลดี้ ) ทานองเพลง เพลงร้อง ทานองหลัก
Mellophone ( เมโลโฟน )
หมายถึง แตรอี แฟล็ทอัลโตฮอร์ นสมาชิกในตระกูลเครื่ องทองเหลือง เมโลโฟนมีท่อแบบกรวย ส่ วนปากเป่ าเป็ น
รู ปถ้วยและลูกสู บชนิดสามท่อเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทต้องย้ายคีย ์
Meme (Fr. แมม ) เหมือนเดิม
Meme mouvement(Fr. แมม มูเวอมอง ) อัตราความเร็ วเหมือนเดิม
Meno allegro(It. เมโน อัลเลโกร ) น้อยลง Meno mosso หมายถึงเร็ วช้าลง หรื อช้ากว่า

Mesto (It. เมสโท ) เศร้าโศก ซึม


Meter ( มิเตอร์ ) การรวมกลุ่มจังหวะและเน้นแบบปกติในบทประพันธ์เพลงซึ่ งบ่งชี้ดว้ ยเครื่ องหมายกาหนด
จังหวะ
1. การนับจังหวะแบบง่ายหรื อแบบธรรมดา
ประเภทนับ 2 จังหวะ ( สองจังหวะต่อช่วงการนับ ) g,h,i
ประเภทนับ 3 จังหวะ ( สามจังหวะต่อหนึ่งช่วงการนับ ) j,k,m
ประเภทนับ 4 จังหวะ ( สี่ จงั หวะต่อหนึ่งช่วงการนับ ) n,o,p
2. การนับจังหวะแบบผสม ตัวเลขบนของเครื่ องหมายกาหนดจังหวะนั้น หารลงตัวได้ดว้ ยเลขสาม จังหวะผสม
แบบนับสอง t,u ( จังหวะนับสองหรื อนับหก ( ย่อย ) ภายในหนึ่งห้อง ) จังหวะผสมแบบนับสาม v ( จังหวะนับ
สามหรื อนับเก้า ( ย่อย ) ภายในหนึ่งห้อง ) จังหวะผสมแบบนับสี่ 12/2 12/4 12/8 ( จังหวะนับสี่ หรื อนับสิ บสอง (
ย่อย ) ภายในหนึ่งห้อง )

Metronome ( เมโตรนอม )
เป็ นเครื่ องมือที่สามารถตั้งให้ตีบอกจังหวะต่าง ๆ ใช้ในการกาหนดความเร็ ว ของบทประพันธ์ และช่วยรักษา
จังหวะด้วย ตัวอย่างเช่น M.M.=80 ซึ่ งกาหนดไว้ที่ตอนต้นของบทเพลง หรื อตอนหนึ่งของเพลง มีความหมายว่า
ให้ปฏิบตั ิโน้ตตัวดาหนึ่งตัวเท่ากับหนึ่งจังหวะ เมื่อตั้งเมโตรนอมที่ ตัวเลข 80 จะได้เสี ยงดีบอก 80 ครั้ง ( โน้ตตัว
ดา 80 ตัว ) ต่อหนึ่งนาที
Mezzo (It. เมซโซ , 'half') ปานกลาง
Mezzo forte (It. เมสโซ ฟอร์เต ) ดังปานกลาง
Mezzo piano (It. เมสโซ ปิ อาโน ) ดังปานกลาง
Mezzo-soprano ( เมสโซ โซปราโน ) เสี ยงร้องของหญิงที่มีช่วงเสี ยงระหว่างโซปราโนและอัลโตซึ่ งทาให้เสี ยงมี
คุณภาพยิง่ ขึ้น
M.G. ( เอ็ม จี ) ซ้ายมือคาย่อของคาว่า main gauche (Fr.)
Military band ( มิลิทารี่ แบนด์ )
กลุ่มผูเ้ ล่นเครื่ องดนตรี ที่ประกอบด้วยเครื่ องลมไม้เครื่ องแตรทองเหลืองและเครื่ องประกอบจังหวะ วงดนตรี
ประเภทนี้ แรกเริ่ มทีเดียวใช้เพื่อจุดประสงค์ทางทหารที่เรี ยกว่าวงดุริยางค์ทหาร ต่อมาจึงนาคานี้มาเรี ยกวงดนตรี
ที่ใช้เครื่ องดนตรี ประเภทเดียวกันด้วย เช่น วงดุริยางค์นกั เรี ยน
Minor scale ( ไมเนอร์ สเกล )
บันไดเสี ยงไมเนอร์มี 3 แบบ คือ
1. เนเจอรัลไมเนอร์ ประกอบด้วยโน้ตตัวเดียวกันกับบันไดเสี ยงเมเจอร์ แต่เริ่ มจากลาดับที่หกของบันไดเสี ยง
เมเจอร์ ตวั อย่างเช่น เอไมเนอร์ (Am) เป็ นญาติกบั ซี เมเจอร์ (C) บันไดเสี ยงดีไมเนอร์ เป็ นญาติกบั บันไดเสี ยงเอฟ
เมเจอร์ และมีเครื่ องหมายตั้งบันไดเสี ยงเดียวกัน
2. ฮาร์ โมนิกไมเนอร์ คือบันไดเสี ยงเนเจอรัลไมเนอร์ ที่ตอ้ งทาให้ลาดับที่เจ็ดนั้นสู งขึ้นครึ่ งเสี ยง
3. เมโลดิก ไมเนอร์ คือบันไดเสี ยงเนเจอรัลไมเนอร์ ที่ตอ้ งทาให้ลาดับที่หกและลาดับที่เจ็ด สู งขึ้น ครึ่ งเสี ยง
ในทางขาขึ้น และกลับเข้าสู่ เนเจอรัลไมเนอรในทางขาลง
Minuet (Eng. มินนูเอ็ต ), minuetto (It.)
การเต้นราแบบฝรั่งเศสในยุคต้นที่อยูใ่ นจังหวะ 3 และมีความเร็ วปานกลางคาว่า " มินนูเอ็ต " อาจมาจากภาษา
ฝรั่งเศลว่า ''menu'' ซึ่ งมีความว่า " เล็ก " เพื่ออ้างอิงถึงลักษณะการก้าวย่าง ของการเต้นรา
Misterioso (It. มีสเตรี โอโซ ) ลึกลับ
Misura (It. มิซูรา ) การนับจังหวะ
Mit (Ger. มิท ) กับ
Mixolydian mode ( โมดมิกโซลีเดียน โมด )
โมดมิกโซลีเดียน โมดในเพลงโบสถ์ยคุ กลางซึ่ งอาจสร้างโดยการเล่นจาก G ไปหา G บนคียข์ าวของเปี ยโน
M.M. ( เอ็ม เอ็ม ) คาย่อของคาว่า Maelzels metronome
Modal music ( โมดัล มิวสิ ก )
ดนตรี โมดัลดนตรี ที่มีรากฐานมาจากบันไดเสี ยงของโมดในเพลงโบสถ์ยคุ กลางมากกว่าที่จะขึ้นอยูก่ บั บันไดเสี ยง
เมเจอร์ และบันไดเสี ยงไมเนอร์
Mode ( โมด )
บันไดเสี ยงที่มีโน้ตครบแปดตัวซึ่ งเกิดขึ้นในยุคกรี กตอนต้น แต่ละบันไดเสี ยงก็มีลกั ษณะการจัดเรี ยงตัวโน้ตให้
ห่างเต็มเสี ยงและครึ่ งเสี ยงแตกต่างกันไปและยังเป็ นรากฐานการดนตรี ของเพลงโบสถ์ในสมัยกลางบันไดเสี ยง
เมเจอร์ และไมเนอร์ ที่ใช้ในปั จจุบนั เกิดจากโมดเหล่านี้ ดว้ ย
Moderato(It. โมเดราโต )
1. ความเร็ วปานกลาง ซึ่ งเร็ วกว่าอันดานเต แต่ชา้ กว่าอัลเลเกรทโต
2. อย่างปานกลาง allegro moderato หมายถึง เร็ วปานกลาง
Modere (Fr. โมเดเร ) ปานกลาง
Modulation ( โมดูเลชัน่ ) การเปลี่ยนคียจ์ ากคียห์ นึ่งไปยังอีกคียห์ นึ่งภายในบทเพลงเดียวกัน
Moglichst (Gr. โมกลิคส์ท ) มากที่สุดเท่าที่จะเป็ นได้
Moins (Fr. มวง ) น้อยลง
Molto(It. โมลโต ) มาก molto allegro หมายถึง เร็ วมาก
Monophonic ( โมโนโฟนี ) ดนตรี โมโนโฟนี หมายถึงดนตรี ที่มีแต่ทานองเท่านั้น
Morceou (Fr. มอร์ โซ ) บทประพันธ์เพลงสั้น ๆ บทหนึ่ง
Mordent ( มอร์เด้นท์ ) การประดับประดาทานองดนตรี แบบหนึ่ง
Morendo (It. มอเรนโด ) จางหายไป ค่อย ๆ ลดความดังลงเรื่ อย ๆ มักจะอยูส่ ่ วนที่เป็ นเคเดนซ์หรื อส่ วนจบของ
เพลง
Mosso (It. มอสโซ )
เคลื่อนไหว piu mosso หมายถึง เคลื่อนไหวมากขึ้นหรื อเร็ วขึ้น meno mosso หมายถึงเคลื่อนไหวน้อยลงหรื อช้า
ลง
Motet (Fr. โมเท็ต )
บทประพันธ์สาหรับการขับร้องในลักษณะของเค้าน์เต้อร์ พอ้ ยท์ โดยไม่มีแนวคลอ ประกอบ (a capella) ปกติ
มักจะร้องกันในโบสถ์ คานี้มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า mot หมายถึง คา
Motif (Fr. โมทิฟ ) ท่วงทานองหลักของดนตรี
Motive ( โมทีฟ ) สานวนแบบอย่าง เรื่ องราว หรื อส่ วนของทานองหลัก
Motivic development ( โมทีวกิ ดิเวลลอปเมนท์ )
ช่วงพลิกแพลงโมทีฟ กลวิธีในการประพันธ์ในด้านการคนหาลักษณะเฉพาะต่าง ๆ และความเป็ นไปได้ในการ
พลิกแพลงโมทีฟ

Moto (It. โมโต ) การเคลื่อนที่ con moto หมายถึง ด้วยการเคลื่อนที่หรื อเร็ วขึ้น
Mouth organ ( เมาท์ออร์แกน )
เรี ยกอีกชื่อหนึ่งว่า ฮาร์ โมนิกา เครื่ องดนตรี ที่มีลิ้นโลหะอิสระเล่นด้วยการใช้ปากเป่ า เมาท์ออร์แกนประกอบด้วย
ตัวกล่องเล็ก ๆ ที่มีลิ้นทองเหลืองจัดเรี ยงไว้ บนแผ่นโลหะเพื่อให้ลมผ่าน เมื่อเป่ าตรงช่องปากเป่ าแล้ว จะทาให้
ลิ้นโลหะนี้สนั่ สะเทือนแล้วเกิดเสี ยงได้
Movement ( มูฟเม้นท์ )
ส่ วนหนึ่งของโซนาตา ซิ มโฟนี สวีท คอนแชร์ โต้ ฯลฯ ที่มีความสมบูรณ์ภายในตัวเองแต่เมื่อไปรวมเข้ากับส่ วน
อื่น ๆ ที่เป็ นมูฟเม้นท์เหมือนกันแล้วก็จะได้งานที่ใหญ่ยงิ่ ขึ้น
Munto (Gr. มุนเตอ ) มีชีวติ ชี วาแข็งแกร่ ง ( เหมือนกับ allegro)
Musette (Fr. มิวเซต )
1. เครื่ องดนตรี ประเภทปี่ ถุงลม คล้ายกับปี่ สก็อต
2. บทเพลงที่เลียนแบบเสี ยงปี่ ถุงลม

N
Natural ( เนเจอรัล )
เครื่ องหมายเนเจอรัลจัดวางไว้ขา้ งหน้าโน้ตซึ่งใช้เครื่ องหมาย ชาร์ปหรื อแฟล็ตมาแล้วเพื่อคืนกลับสู่ เสี ยงเดิมของ
โน้ตตัวนั้น
Natural diatonic semitones ( เนเจอรัล ไดอาโทนิก เซมิโทน )
จาก E ไป F และจาก B ไป C เท่านั้นที่เป็ นเซมิโทน ที่ไม่ตอ้ งการเครื่ องหมายชาร์ ป และเครื่ องหมายแฟล็ท
Natural minor scale ( เนเจอรัล ไม์เนอร์สเกล )
บันไดเสี ยงเนเจอรัลไมเนอร์ พื้นฐานของบันไดเสี ยงไมเนอร์ ซึ่ งไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะไดอาโทนิก
Natural sign ( เนเจอรัล ไซน์ )
เครื่ องหมายเนเจอรัล สัญลักษณ์ซ่ ึ งใช้ลบล้างการใช้เครื่ องหมายชาร์ ปหรื อแฟล็ท ซึ่ งมีอยูก่ ่อน
Neigbor note ( เนเบอ โน้ต )
โน้ตเคียง โน้ตนอกคอร์ดที่เคลื่อนขึ้น หรื อลงตามลาดับขั้นจากโน้ตในคอร์ ด และกลับไปยังโน้ตในคอร์ ดตัวนั้น
ทันที
Neo-classical ( นีโอ คลาสสิ กคอล )
ดนตรี แบบหนึ่งในศตวรรษที่ 20 ซึ่ งหันกลับไปยึดแบบแผนดนตรี แบบคลาสสิ กแต่ ใช้ท่วงทานอง , เสี ยง
ประสาน , และอื่น ๆ ที่เป็ นแบบสมัยใหม่
Nicht (Gr. นิคช์ท ) ไม่
Nicht zu schnell (Gr. นิคช์ท ซู ชเน็ล ) ไม่เร็ วเกินไป
Nicht zu viel (Gr. นิคช์ท ซู วีล ) ไม่มากเกินไป
Nieder (Gr. นีเดอ ) ต่า
Niente (It. นิเอ็นเต ) ไม่มีอะไรเลย
Ninth ( ไนท์ ) ขั้นคู่เก้าของโน้ตที่เรี ยงลาดับกันแบบไดอาโทนิก
Nocturne (Fr. น้อคเทิร์น )
เพลงสาหรับกลางคืน เป็ นเพลงประเภทชวนฝัน โรแมนติก เป็ นที่นิยมกันในช่วง ปี ค . ศ .1800 ปกติแล้วน้อ
คเทิร์นจะใช้คอร์ ดประเภทกระจายทาเป็ นดนตรี คลอประกอบ จอห์นฟิ ลด์ ( ค . ศ . 1782-1837) เป็ นคนแรกที่
แต่งดนตรี ประเภทนี้ ต่อมาภายหลังโชแปงได้ยมื ความคิด และชื่อมาใช้ต่อ
Non troppo (It. น็อน ตร็ อปโป ) ไม่มากเกินไป
Non-harmonic tone ( น็อนฮาร์โมนิคโทน ) โน้ตนอกคอร์ ดระดับเสี ยงที่ไม่เข้ากับเสี ยงประสานพื้นฐาน
Notation ( โนเทชัน่ ) เครื่ องหมายและสัญลักษณ์ที่ใช้สาหรับบันทึกดนตรี
Note ( โน้ต ) ตัวโน้ตสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนแทนระดับเสี ยง
Note head ( โน้ตเฮด ) หัวโน้ต ส่ วนกลมของตัวโน้ต ที่เขียนคาบเส้นหรื อในช่องเพื่อแสดงระดับเสี ยง

O
Obbligato (It. ออบบลิกาโต , 'obligatory')
แนวการบรรเลงของเครื่ องดนตรี ในลักษณะคลอประกอบที่มีความสาคัญเกือบเท่ากับแนวของเครื่ องดนตรี เดี่ยว
( ในเพลงเดียวกันนั้น ) มาจากภาษาอิตาเลียนมีความหมายว่า จาเป็ น , เป็ นพันธะ
Oboe ( โอโบ )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้ในตระกูลปี่ ที่มีรูปร่ างเป็ นท่อกลวงผายออก ( หรื อเป็ นกรวย ) และมีลิ้นปี่ เป็ น
ลักษณะลิ้นคู่เสี ยงปี่ โอโบมีลกั ษณะแหลมเสี ยดแทงและแบบนาสิ ก
Octava bassa ( อ๊อคเทฟ เบสซ่า ) ปฏิบตั ิต่าลงจากโน้ตที่เขียนเป็ นคู่แปด
Octave ( อ๊อคเทฟ ) ขั้นคู่แปดของโน้ตที่เรี ยงแบบไดอาโทนิก
Octet ( ออคเต็ต ) ลักษณะของวงดนตรี ประเภทแชมเบอร์ มิวสิ คที่มีผเู ้ ล่นหรื อนักดนตรี แปดคน
Oder (Gr. โอเดอร์ ) หรื อ
Odinario ( ออดินาเรี ยน ) ทาตามปกติ
Ohne (Ger. โอเน ) ปราศจาก
Opera ( โอเปรา )
หมายถึงอุปรากร เป็ นละคร ( ไม่วา่ จะในเชิงสุ ขหรื อโศก ) ปกติจะแสดงออกทางการร้องโดยตลอดและมีการ
ออกท่าทาง ฉากและเครื่ องแต่งตัว พร้อมการบรรเลงประกอบด้วยออร์ เคสตร้า
Operetta ( โอเปอเรตตา ) ละครอุปรากรเรื่ องขนาดสั้น ๆ ที่มีบทเจรจาอยูบ่ า้ ง
Opus ( โอปุส )
หมายถึงผลงานทางดนตรี คาย่อคือ op. หรื อ Op. ส่ วนมากนักประพันธ์เพลง จะให้ลาดับเลขที่ผลงานของตนใน
ลักษณะนี้ :- ชื่อ , โอปุส 1 เลขที่ 1 (Title, Op. 1 No. 1)
Oratorio ( ออราทอริ โอ ) ผลงานดนตรี ทางศาสนาที่มีขนาดความยาวพอสมควรสาหรับขับร้องเดี่ยวการขับร้อง
ประสานเสี ยง และวงดนตรี ออร์ เคสตร้า

Orchestra ( ออร์เคสตร้า )
หมายถึงวงดนตรี ที่ประกอบด้วยกลุ่มนักดนตรี ที่เล่นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายเครื่ องลมไม้ แตรทองเหลือง
และเครื่ องตีกระทบวงดนตรี ประเภทซิ มโฟนี ออร์ เคสตร้าประกอบด้วยนักดนตรี ประมาณหนึ่งร้อยคนส่ วนใหญ่
จะเล่นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสาย
Orchestral score ( ออร์ เคสตร้า สกอร์ )
สมุดโน้ตที่ใช้ดูในขณะควบคุมการบรรเลงทุกแนวส่ วนนักดนตรี จะมีเฉพาะแนวที่ตนต้องเล่นเท่านั้น
Orchestration ( ออร์ เคสเตชัน่ ) วิชาการเรี ยบเรี ยงแนวบรรเลงสาหรับวงออร์ เคสตร้า
Organ ( ออร์แกน )
เครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ ดประเภทใช้ลมเมื่อมีลมเป่ าผ่านท่อจะทาให้เกิดเสี ยงท่อละหนึ่งเสี ยงออร์ แกนมีแผงนิ้วกด
สาหรับมือและเท้าแผงนิ้วกดที่เล่นด้วยมือเรี ยกว่า แมนน่วล (manual) สาหรับที่เล่นด้วยเท้าเรี ยกว่าแผงนิ้วกด
เพดดัล (Pedal) และการบังคับกลุ่มท่อต่าง ๆ ซึ่ งจัดไว้เป็ นพวกเดียวกันทาได้โดยการใช้ปุ่มกดหรื อคันยกขึ้นลงที่
เรี ยกว่า สต็อป ออร์ แกนขนาดใหญ่จะมีกลุ่มท่อเปลี่ยนเสี ยงเรี ยกว่ารี จิสเตอร์ เป็ นจานวนมากเพื่อใช้สร้างสี สัน
แห่งเสี ยงได้หลากหลายออร์ แกนสมัยใหม่ใช้ไฟฟ้ าบังคับแทนลม ( ในอดีตใช้ลมบังคับ ) ซึ่ งตามแบบดั้งเดิมนั้น
ลมที่ใช้ก็เกิดจากการอัดลมด้วยเท้าของผูเ้ ล่นหรื อไม่ก็มีผชู ้ ่วยอัดลมแทนให้
Ornament ( ออร์นาเมนต์ )
การเสริ มแต่งดนตรี หมายถึงสานวนประดับประดาทานองเพลงเช่นโน้ตประเภทอัดชะคะตูร่า , อับปอจจะตูรา ,
อาร์ เปจโจ , เกรสโน้ต , มอร์เด้นท์ , ทริ ล และเทิร์น ส่ วนประดับแนวทานองเหล่านี้ เกิดจากผูเ้ ล่นต้องการเพิ่ม
โน้ตเข้าไปอีกซึ่งบางครั้งก็เขียนกากับไว้ดว้ ยแต่โดยมากจะใช้เครื่ องหมายแทน
Oscuro (It. โอสกูโร ) มืดสลัว ลึกลับ
Ossia (It. ออซียา ) ใช้แทนที่ วิธีอื่น ๆ ในการเล่นทานองเพลงโดยทัว่ ไปจะง่ายขึ้น
Ostinato (It. ออสตินาโต , 'obstinate')
ลักษณะซ้ า ๆ ที่มกั พบในแนวเสี ยงที่ต่าสุ ด ซึ่งเป็ นรากฐานในการแต่งบทประพันธ์เหนือแนวนั้น ๆ
Ottava (It. ออทตาวา )
คู่แปด All' ottava (8va... หรื อ 8....) เมื่อบันทึกอยูข่ า้ งบนโน้ต หมายถึงให้เล่นสู งขึ้นหนึ่ งขั้นคู่แปด แต่ถา้ บันทึก
อยูใ่ ต้โน้ต หมายถึงให้เล่นต่าลงหนึ่งขั้นคู่แปด

Ou (Fr. อู ) หรื อ
Overtone series ( โอเวอร์ โทน ซีรีส์ )
หมายถึง อนุกรมเหนื อเสี ยงพื้นฐาน เครื่ องดนตรี ทุกชนิดให้เสี ยงพื้นฐาน ( เสี ยงหลัก ) ได้พร้อม ๆ กับเสี ยงฮาร์
โมนิก ( เสี ยงบริ สุทธิ์ ที่เกิดเพิ่มขึ้นเหนื อเสี ยงพื้นฐานนี้ ) เนื่องจากเสี ยงฮาร์ โมนิกหรื อที่เรี ยกว่า โอเวอร์ โทน จะ
เบากว่าเสี ยงพื้นฐาน จึงไม่อาจได้ยนิ เด่นชัดเท่าเครื่ องดนตรี ที่มี คุณภาพเสี ยงเดียวกันก็เพราะว่ามีแบบโอเวอร์
โทนเหมือนกัน
Overture ( โอเวอร์เจอร์ )
เพลงโหมโรง ปกติแล้วเป็ นดนตรี สาหรับใช้บรรเลงโหมโรงการแสดงบัลเล่ต์ อุปรากร ออราทอริ โอ อย่างไรก็
ตามบทเพลงประเภทคอนเสิ ร์ตโอเวอร์เจอร์ในศตวรรษที่ 19 ( เช่นผลงานชื่ อ อะเคเดมิคเฟสติวลั โอเวอร์ เจอร์ ขอ
งบราห์ม ) นับเป็ นงานอิสระจัดว่ามีแบบการประพันธ์ที่เป็ นได้ท้ งั แบบโซนาตาและแบบเสรี อีกทั้งแต่งขึ้นจาก
แรง บันดาลใจในเหตุการณ์สาคัญ บทกวี หรื อเรื่ องราวต่างๆ

P
P ( พี )
เบา คาย่อของคาว่า piano. P., Ped. คาย่อของคาว่า ped.
Panpipes ( แพนไพป์ )
ขลุ่ยแพนไพป์ เป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้แบบดั้งเดิมประกอบด้วยท่อกลวงหลายท่อที่มีขนาดต่าง ๆ
มามัดรวมเข้าด้วยกันขลุ่ยชนิ ดนี้เล่นด้วยการเป่ าเฉี ยงผ่านท่อส่ วนเปิ ดของขลุ่ย
Parallel keys ( พาราเลียว คีย ์ )
กุญแจเสี ยงคู่ขนานกุญแจเสี ยงเมเจอร์ และไมเนอร์ ซ่ ึ งมีบนั ไดเสี ยงที่เริ่ มจากระดับเสี ยงเดียวกันแต่มีเครื่ องหมาย
ของกุญแจเสี ยงต่างกัน
Parallel period ( พาราเลียว พีเรี ยด )
ประโยคใหญ่คู่ขนานการที่ประโยคเพลงทั้งสองของประโยคใหญ่เริ่ มต้นเหมือนกัน
Parallelism ( พาราเลียวริ ซ่ ึม )
เสี ยงคู่ขนานการเคลื่อนของแนวเสี ยง 2 แนวขึ้นไปในทิศทางเดียวกันและห่างกันในระยะขั้นคู่เท่า ๆ กัน
Parlando (It. ปาร์ลนั โด ) เหมือนกับการพูด
Parte (It. เพรท ) แนว
Partita ( พาร์ติตา )
เพลงชุดประเภทสวีทประกอบด้วยเพลงสั้น ๆ หลายเพลงหรื อชุ ดของแวริ เอชัน่ พาร์ ติตาได้รับความนิยมใน
ศตวรรษที่ 17 และ 18
Part song ( พาร์ท ซอง ) บทเพลงร้องประสานเสี ยงสาหรับนักร้องสองแนวหรื อมากกว่านั้น
Pas (Fr ปา ) ก้าว , จังหวะ , เต้นรา
Pas beaucoup (Fr. ปา โบกู ) ไม่มากเกินไป
Pas du tout (Fr. ปา ดู ตู ) ไม่เป็ นอันขาด
Passage ( แพสเสจ ) หน่วยหรื อท่อนสั้น ๆ ของบทประพันธ์ดนตรี บทหนึ่ง
Passepied (Fr. ปาส์พเย )
การเต้นราแบบฝรั่งเศสที่มีความสนุกสนานรวดเร็ วปกติแล้วอยูใ่ นจังหวะ m วลีของเพลงจะเริ่ มในจังหวะที่สาม
Passing note ( พาสซิ่ ง โน้ต )
หมายถึงโน้ตผ่านตัวโน้ตที่ไม่ได้เป็ นหน่วยของเสี ยงประสานเพียงแต่ผา่ นตามลาดับขั้นจากเสี ยงในคอร์ ดหนึ่งไป
ยังเสี ยงอีกเสี ยงหนึ่งในคอร์ ดต่อไป
Passionato (It. ปาซิโอนาโต ) ด้วยความรู ้สึกรักใคร่
Pastorale (It. ปาสโตราเล , Fr. ปาสโตราล )
1. ทานองเพลงในจังหวะ u,v หรื อ ที่เลียนเสี ยงเครื่ องดนตรี ( ปี่ หรื อขลุ่ย ) และดนตรี ของกลุ่มชาวบ้านเลี้ยงแกะ
ปกติจะมีทานองในลักษณะลื่นไหลต่อเนื่องกันไปและประกอบด้วยเสี ยงคลอแบบโดรนเบส
2. การแสดงละครในยุคปลายศตวรรษที่ 15 ที่มีเนื้ อเรื่ องอิงชีวติ ในชนบทหรื อชีวติ ที่มี ความสุ ขสบาย มีมาก่อน
การเกิดอุปรากร
Pausa (It. เปาซา ) หยุด
Pause ( พอซ )
การหยุดเสี ยงตามความพอใจของผูเ้ ล่นหรื อแล้วแต่ผกู ้ ากับเพลงคล้ายกับตาไก่ (fermata)
Pavan (Eng.), or pavana (It. ปาวานา ) pavane (Fr. ปาวาน )
การเต้นราแบบหนึ่งในราชสานักยุโรปตอนต้นศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีจงั หวะสม่าเสมอ การเต้นราแบบปาวานนี้มี
จังหวะช้า เหมือนลีลาท่าทางการเดินวางมาดแบบนกยูงคาว่า pavane อาจมาจากคาว่า pavo ในภาษาลาตินที่มี
ความหมายว่า " นกยูง " ปกติแล้วการเต้นรานี้จะอยูใ่ นจังหวะประเภทนับสอง ( สองจังหวะในหนึ่งห้อง ) และ
มักแสดงนาหน้าการ เต้นราแบบกาลยาร์ด
Pedal ( เพดดัล )
กลไกของเปี ยโน , ออร์แกน , ฮาร์ปซิคอร์ด หรื อ ฮาร์ป ที่ใช้เท้าบังคับ
1. เพดดัลของเปี ยโน จะบังคับด้วยเครื่ องลดเสี ยง ที่เรี ยกว่า แดมเปอร์ หรื อด้วย ตาแหน่งของค้อนตีที่เรี ยกว่า แฮม
เมอร์
2. เพดดัลของออร์แกนรวมหมายถึงแผงคียส์ าหรับเท้าและเท้าเหยียบบังคับความดัง - ค่อย
3. เพดดัลของฮาร์ปซิคอร์ ดควบคุมคุณภาพเสี ยงด้วยการเปลี่ยนเครื่ องดีดสาย ( เครื่ องดีดอ่อนก็จะได้เสี ยงเบา
เครื่ องดีดแรงก็จะได้เสี ยงดัง )
4. เพดดัลของฮาร์ ปจะช่วยยกหรื อลดระดับเสี ยงของสายเสี ยง ( สาหรับดีด ) ต่าง ๆ ให้เป็ นเสี ยงโน้ตตัวจรได้คา
ย่อคือ Ped. p.
Pedal point ( เพดดัลพอยท์ )
เสี ยงที่ลากยาวหรื ออย่างต่อเนื่องซ้ า ๆ กันไปซึ่ งอาจจะมีความสัมพันธ์กบั เสี ยงประสานแนวอื่น ๆ ด้วยหรื อไม่ก็
ได้เรี ยกอีกชื่ อว่าออร์ แกนพอยท์
Pentatonic scale ( เพนตาโทนิกสเกล )
บันไดเสี ยงเพนตาโทนิกบันไดเสี ยง 5 ตัวโน้ต (CDEGA) ที่ร้องง่าย ๆ ซึ่ งเป็ นรากฐานของเพลงพื้นเมืองทัว่ ๆ ไป
Percussion family ( เพอคัชชัน่ แฟมมิลิ )
เครื่ องดนตรี ในตระกูลเครื่ องตีกระทบทั้งหลายซึ่ งเล่นด้วยวิธีการตีดว้ ยไม้ตีหรื อใช้สิ่งหนึ่งกระทบเข้ากับอีกสิ่ ง
หนึ่งหรื อโดยการสั่นเครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบทั้งหลายได้แก่ กลองใหญ่ , แคริ ลลอน ( ชุดระฆังหลายใบ ) ,
คาสทะเนทส์ , เซเลสต้า , ระฆังราว , ฉาบ , กลอคเคิ่นสปี ล , กิโร , เคทเทิ้ลดรัม ( ทิมปานี ) มาราคัส , มาริ มบา ,
กลองเล็ก , แทมโบริ น , แทมแทม ( กลอง ) เครื่ องดนตรี รูปสามเหลี่ยมเคาะจังหวะสามเส้า , ระนาด ฯลฯ
Perdendosi (It. แปร์เดนดอซี ) ลดเสี ยงลงทีละน้อยจนหายไปเบาลงเรื่ อย ๆ
Perfect authentic cadence ( เพอร์เฟคออร์เทนติกคาร์เด้นซ์ ) ลูกจบสมบูรณ์ลูกจบลงท้ายซึ่งมีแนวเสี ยงที่สูงที่สุด
อยูท่ ี่โทนิก
Period ( พีเรี ยด ) ส่ วนเล็ก ๆ ในบทประพันธ์เพลงบทหนึ่งปกติจะประกอบด้วยวลีสองวรรค
Pesante (It. เปซานเต ) หนักแน่น , ครุ่ นคิด
Peu (Fr. เปอ ) เล็กน้อย
Peu a peu (Fr. เปอะ อะ เปอะ ) ทีละเล็กละน้อยตามลาดับ
Phrase (It. เฟรส ) วรรคเพลงที่มีแนวความคิดทางดนตรี ลงตัววรรคหนึ่ง
Phrygian mode ( ฟรี เจียน โมด ) โมดฟรี เจียน โมดในเพลงโบสถ์ยคุ กลางซึ่ งอาจสร้างโดยการเล่นคียข์ าวของ
เปี ยโนจาก E ถึง E
Piacere (It. ปิ อาเชเร ) ขึ้นอยูก่ บั ผูเ้ ล่น
Piacevole (It. ปิ อาเชโวเล ) พอใจ
Pianissimo (It. ปิ อานิสซิโม ) เบามาก
Piano (It. ปิ อาโน ) piano ( เปี ยโน )
เบา คาย่อคือ P เครื่ องดนตรี ประเภทคียบ์ อร์ ดประเภทใช้สายเสี ยงเดิมมีชื่อเรี ยกว่าเปี ยโนฟอร์ เตเพราะทาได้ท้ งั
เสี ยงเบา ( เปี ยโน ) และเสี ยงดัง ( ฟอร์เต ) ได้ สายเสี ยงจะถูกตีดว้ ยค้อนซึ่งเชื่อมโยงไปที่คียก์ ดโดยผ่านเครื่ อง
กลไกซับซ้อนที่เรี ยกว่าแอ็คชัน่ เปี ยโนมีเพดดัล 3 แบบคือ
1. เพดดัลประเภทให้เสี ยงต่อเนื่อง อยูท่ างขวาส่ วนเท้าเหยียบของผูเ้ ล่น ( มักจะเรี ยกผิดบ่อย ๆ ว่า เพดดัลสาหรับ
ทาเสี ยงดัง ) เมื่อเหยียบเพดดัลลงไปแล้วจะทาให้เสี ยงทุกเสี ยงที่กดยาวต่อเนื่ องกันไป
2. เพดดัลประเภทเดี่ยวอยูต่ รงกลางส่ วนเท้าเหยียบของผูเ้ ล่นทาให้เสี ยงยาวต่อเนื่องหรื อลากยาว ( พบไม่บ่อยนัก
) ได้เสี ยงเดียวหรื อคอร์ดเดียว
3. เพดดัลแบบอูนาคอร์ ดาอยูท่ างซ้ายส่ วนเท้าเหยียบ คือเพดดัลทาเสี ยงเบาได้ช่วยลดเสี ยงหรื อทาให้เสี ยงเบาลง
Piano staff ( เปี ยโนสเตฟ ) บรรทัดห้าเส้นของเปี ยโน
Picolo ( ปิ คโคโล )
ขลุ่ยขนาดเล็กมีระดับเสี ยงสู งกว่าฟลูตอยูห่ นึ่งช่วงคู่ 8 ขลุ่ยปิ คโคโลมีเสี ยงสดใสแหลมบาดหูยงิ่ เสี ยงที่ปฏิบตั ิได้
จากขลุ่ยมีระดับเสี ยงสู งกว่าที่เขียนบันทึกไว้หนึ่งช่วงคู่แปด
Pietoso (It. ปิ เอโตโซ ) เศร้าโศก
Pitch ( พิทช์ )
ระดับเสี ยงที่แน่นอนเสี ยงหนึ่ ง ๆ ในระยะช่วงเสี ยงที่กาหนดมาเรี ยบร้อยแล้วโดยมีจานวนรอบการสัน่ สะเทือน
ต่อวินาที ( ความถี่เสี ยง ) ของวัตถุใด ๆ ตัวอย่างเช่นการทาให้เกิดระดับเสี ยง A เหนือ C กลางของเครื่ องดนตรี
อะไรก็ตามจะต้องได้ความถี่ 440 รอบต่อวินาที
Piu (It. ปิ ว ) มากกว่า Piu mosso หมายถึง เคลื่อนไหวมากขึ้นหรื อเร็ วขึ้น
Piu mosso (It. ปิ ว มอสโซ ) เร็ วขึ้น
Piu moto (It. ปิ ว โมโต ) เคลื่อนไหวมากขึ้นหรื อเร็ วขึ้น
Pizzicato (It. ปิ ซซิคาโต )
ให้ใช้ดีดแทนที่การสี บนสายเสี ยงของเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายคาย่อคือ pizz.
Placabile (It. ปลาคาบิเล ) สงบ , นุ่มนวล
Placido (It. ปลาชีโด ) เงียบสงบ , สงบ
Plagal cadence ( เพลเกิ้ล คาเดนซ์ ) ลูกจบเพลเกิ้ลลูกจบที่ใช้ในการดาเนิ นคอร์ ดจาก V ไป I
Plectrum ( เพลคทรัม )
ชิ้นส่ วนเล็ก ๆ ทาด้วยโลหะ พลาสติกหรื อวัสดุอย่างอื่น ๆ ใช้สาหรับดีดสายเสี ยงของเครื่ องดนตรี เช่นกีตาร์ ,
แมนโดลิน , ยูคาเลเล , ซีตาร์ ฯลฯ
Plotzlich (Gr. ปล็อตส์ลิคช์ ) ทันทีทนั ใด
Plus (Fr. ปลูซ ) มากกว่า , มากขึ้น
Po (It. โป ) น้อย
Poco (It. โปโก ) เล็กน้อย Poco a poco หมายถึงทีละเล็กละน้อยตามลาดับ
Poi (It. โปอิ ) และแล้ว , หลังจากนั้น
Polacca (It. โปลักกา ) เพลงเต้นราโพโลเนส
Polka ( โพลก้า )
การเต้นราเป็ นรู ปวงกลมที่มีชีวติ ชีวาในจังหวะ h เพลงโพลก้าเริ่ มปรากฏในช่วงปี ค . ศ .1830 ในประเทศ
โบฮีเมีย ( ปัจจุบนั คือประเทศสาธารณรัฐเช็คและสโลวัก ) ต่อมาได้รับความนิยมอย่างมากทัว่ ภาคพื้นยุโรปและ
ยังคงได้รับความนิยมต่อมาจวบจนกระทัง่ สิ้ นศตวรรษที่ 19
Polonaise ( โพโลเนส )
บทเพลงเต้นราของชาวโปแลนด์ ในจังหวะ k ( เดิมเป็ นเพลงเต้นราที่มีลกั ษณะโอ่อ่าและสง่างาม ) ใช้แสดงใน
งานพระราชพิธีและเพื่อการเฉลิมฉลอง เฟรดเดริ ก โชแปง เป็ นผูแ้ ต่งบทเพลงเต้นรานี้เพื่อเป็ นตัวแทนแห่งความ
เป็ นชาตินิยมของชาวโปแลนด์
Polyphonic ( โพลีโฟนิก )
ดนตรี โพลิโฟนีลกั ษณะของดนตรี ที่ประกอบด้วยแนวเสี ยงที่มีความสาคัญเท่า ๆ กันตั้งแต่สองแนวขึ้นไป
Polyphony ( โพลีโฟนี )
ดนตรี ที่ประกอบด้วยทานองอิสระตั้งแต่สองแนวขึ้นไปซึ่ งมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันเรี ยกอีกชื่ อหนึ่งว่า เค้าน์
เต้อร์ พอ้ ยท์ คาว่าโพลีโฟนีมาจากคาในภาษากรี กมีความหมายว่าหลาย ๆ เสี ยง
Pomposo (It. ปอมโปโซ ) อย่างสง่างามมีความภาคภูมิใจและโออ่า
Ponticello ( พอนติเชลโล ) หย่อง
Portamento (It. ปอร์ตาเมนโต )
ในดนตรี ประเภทขับร้องไวโอลินและทรอมโบนปอร์ ตาเมนโตหมายถึงให้ปฏิบตั ิแบบเลื่อนเสี ยงอย่างรวดเร็ ว
จากเสี ยงหนึ่งไปยังอีกเสี ยงหนึ่งในทางปฏิบตั ิเปี ยโนก็คือให้เล่นประมาณครึ่ งหนึ่งของสตัก๊ คาโต
Portato (It. ปอร์ ตาโต ) ยืดยาว
Precipitato, precipitoso (It. เปรซิปิตาโต ) ทันทีทนั ใด , เร่ งรี บ
Prelude (Fr. เปรลูด )
บทเพลงที่ทาหน้าที่เป็ นบทนาทางดนตรี ในสมัยของโจฮันเซบาสเตียนบาค ( ค . ศ .1685-1750) เพลงแบบนี้มกั
ไปคู่กบั เพลงประเภทฟิ วก์หรื อใช้เป็ นเพลงบรรเลงนาในบทเพลงชุด ( สวีท ) จากสมัย เฟรดเดริ ก โชแปง ( ค . ศ
.1810-1849) เป็ นต้นมาบทเพลงเปรลูดก็กลายเป็ นบทเพลงประเภทอิสระประเภทหนึ่ง
Presse (Fr. แปรสเซ ) เร็ วขึ้น
Prestissimo (It. เปรสติสซีโม ) เร็ วที่สุดเท่าที่จะเร็ วได้เร็ วอย่างยิง่ ยวด
Presto (It. เปรสโต ) เร็ วมากเร็ วอย่างยิง่ เร็ วกว่าอัลเลโกรแต่ชา้ กว่าเปรสติสซี โม
Prima, primo (It. ปรี มาม ปรี โม ) อันดับแรก , ที่หนึ่ง
Prime ( ไพร์ม )
1. ตัวพื้นต้นของคอร์ ด
2. โน้ตตัวแรกของบันไดเสี ยง ( คียโ์ น้ต )
3. ขั้นคู่เสี ยงของยูนิซนั
Principale ( พริ้ นซิ เปล ) ผูเ้ ล่นนาหรื อผูเ้ ล่นเดี่ยว
Processional ( โพรเซสชันแนล ) เพลงสวดหรื อการแสดงเดี่ยวออร์ แกนในโบสถ์ ในระหว่างขบวนของคณะ
ประสานเสี ยงและคณะบาทหลวง
Program music ( โปรแกรม มิวสิ ก )
บทประพันธ์ดนตรี ที่กาหนดไว้สาหรับการเล่าเรื่ องราวบรรยายเรื่ องราวของรู ปภาพเหตุการณ์ และสร้างสรรค์
อารมณ์เป็ นคาตรงข้ามกับคาว่าแอ็บสลูทมิวสิ ก ( ดนตรี บริ สุทธิ์ ที่แต่งขึ้นด้วยจุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อการนี้ ) ดนตรี
ประเภทโปรแกรมมิวสิ กยุคแรกสุ ดก็คือการบรรยายเสี ยงเป่ าเขาสัตว์นกร้อง เสี ยงระฆังและการสงครามเพลงซิม
โฟนิคสวีทของริ มสกี้คอร์ ซาคอฟชื่อเซฮาราซาด Scheherazade เป็ นตัวอย่างหนึ่งของบทประพันธ์เพลงประเภท
นี้
Psaltery ( ซอลเทอรี )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายยุคแรก ๆ ที่สร้างเหมือนกับเครื่ องดนตรี ดัลซิ เมอร์ แต่ใช้ดีดด้วยนิ้วหรื อ
เพลคทรัมมากกว่าการตีดว้ ยค้อน
Pulse ( พัลซ์ ) จังหวะการเน้น
Punta d'arco (It.) ใช้ส่วนบนของคันชัก

Q
Quadrille ( ควอดริล )
การเต้นราแบบฝรั่งเศสในตอนต้น ค . ศ . 1800 จังหวะเพลงควอดริ ลเปลี่ยนไปมาระหว่าง u และ h การแสดง
เต้นราแบบนี้ จดั เป็ นคู่หลายคู่โดยให้เคลื่อนที่ไปเป็ นรู ปสี่ เหลี่ยมตามปกติแล้วจะมีทานองเพลงซึ่ งเลือกมาจาก
เพลงยอดนิยมหรื อไม่ก็เพลงจากอุปรากร
Quadruple time ( ควอทดรู เปิ้ ลไทม์ )
เครื่ องหมายกาหนดจังหวะประเภทมีสี่จงั หวะในแต่ละห้อง p,o,n ฯลฯ
Quarter note ( ควอเตอร์ โน้ ต )
หมายถึงโน้ตตัวดาที่กาหนดว่า จานวนโน้ตตัวดา 4 ตัวจะเท่ากับโน้ตตัวกลม 1 ตัวและจานวนโน้ตตัวดา 2 ตัว
เท่ากับโน้ตตัวขาว 1 ตัว
Quarter rest ( ควอเตอร์ เรสท์ ) หมายถึง โน้ตตัวหยุดที่มีค่าเท่ากับโน้ตตัวดาหนึ่งตัว
Quartet ( ควอเต็ต )
บทประพันธ์เพลงสาหรับเครื่ องดนตรี หรื อไม่ก็แนวร้อง 4 แนวบทประพันธ์ประเภทสตริ งควอเต็ตเขียนไว้
สาหรับไวโอลินสองเครื่ อง วิโอลา และเชลโลอย่างละหนึ่งเครื่ องมักเรี ยกวงดนตรี ประเภทนี้วา่ วง chamber
music
Quasi ( ควาสิ )
ค่อนข้าง , เกือบ ๆ เกือบเท่า , ราวกับว่า Allegretto quarsi allegro หมายถึงเร็ วปานกลางหรื อเกือบเท่าอัลเลโกร
Quasi trill ( ควาสิ ทวิ ) เล่นคล้าย trill
Quaver ( เควเวอร์ ) โน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้น (eight note)
Quintet ( ควินเต็ต ) บทประพันธ์เพลงสาหรับเครื่ องดนตรี หรื อไม่ก็เสี ยงร้อง 5 แนว
Quintuple time ( ควินทูเปิ้ ล ไทม์ ) เครื่ องหมายกาหนดจังหวะ มีหา้ จังหวะในหนึ่งห้อง q, 5/4, 5/2 ฯลฯ

R
Rallentando (It. ราลเลนตานโด ) ช้าลงทีละเล็กละน้อยคาย่อคือ rall.
Rapido (It. ราปิ โด ) เร็ ว , ไว
Rasch (Ger. รัช ) เร็ วมีชีวติ ชีวา
Rattenendo (It. รัตเตเน็นโด ) ช้าลงทีละน้อย
Rattenudo (It. รัตเตนูโด ) ช้าลง
Recessional ( รี เซสชัน่ แนล )
บทเพลงสวดหรื อการเดี่ยวออร์ แกนในโบสถ์ขณะที่วงนักร้องประสานเสี ยงหรื อพระกาลังเดินออก หลังจาก
เสร็ จพิธีแล้ว
Recital ( รี ไซเทิล ) การแสดงดนตรี ต่อหน้าสาธารณะชน , คอนเสิ ร์ต
Recitative ( เรซิตาทีฟ )
บทร้องที่ไม่กาหนดจังหวะตายตัวเหมือนเลียนเสี ยงพูดเพื่อดาเนินเรื่ องราวซึ่ งมักใช้ในอุปรากรการแสดงออรา
ทอริ โอ

Recitativo ( เรซิตาทีโว ) ช่วงที่เหมือนกับพูด


Recorder ( รี คอร์ดเดอร์ )
ขลุ่ยที่มีปลายส่ วนปากเป่ าเป็ นลักษณะนกหวีด ขลุ่ยรี คอร์ ดเดอร์ มีเสี ยงนุ่มนวลบางเบานิยมเล่นกันในศตวรรษที่
16 และ 17 และได้รับการปรับปรุ งใหม่ ในปี ค . ศ .1920 ต่อมาก็ยงั คงได้รับความนิยมเรื่ อยมามี 4 ชนิด คือ
1. เดสแคนท์ ( โซปราโน )
2. เทร็ บเบิ้ล ( อัลโต )
3. เทเนอร์
4. เบส
Reed ( หรี ด )
แผ่นไม้ออ้ หรื อโลหะซึ่ งหากทาให้สนั่ สะเทือนด้วยปากเป่ าแล้วก็จะทาให้อากาศสัน่ ตามไปด้วย เครื่ องดนดรี
ประเภทเครื่ องลมไม้หลายชนิดเกิดเสี ยงดนตรี ดว้ ยวิธีการเช่นนี้
1. ตระกูลปี่ คลาริ เนตมีลิ้นเดี่ยวเพื่อไหวสั่นตรงบริ เวณส่ วนปากเป่ า ( กาพวด )
2. ตระกูลปี่ โอโบมีลิ้นคู่เพื่อไหวสั่นตรงบริ เวณส่ วนปากเป่ า ( กาพวด )
3. เมาท์ออร์แกน , แอ็คคอเดียน , คอนแชร์ตินา ฯลฯ มีลิ้นชนิดทาด้วยโลหะสาหรับเสี ยงแต่ละเสี ยง ( เรี ยกอีก
อย่างหนึ่งว่า ลิ้นอิสระ )
Reed instrument ( หรี ด อินสตรู เมนต์ )
เครื่ องดนตรี ประเภทที่เกิดเสี ยงได้ดว้ ยการทาให้ลิ้นปี่ ( ของเครื่ องดนตรี ) สั่นสะเทือน Reel ( รี ล ) การเต้นราที่มี
ผูเ้ ต้นตั้งแต่สองคู่ข้ ึนไปเคลื่อนไปเป็ นวงกลมการเต้นราแบบรี ลจะอยูใ่ นจังหวะเร็ วประเภทนับสอง ( สองจังหวะ
ในหนึ่งห้อง ) มีการซ้ าทานอง 4-8 ห้องอย่างสม่าเสมอได้รับความนิยมทั้งในสก็อตแลนด์ , ไอร์แลนด์ และ
อเมริ กา
Register ( รี จิสเตอร์ ) ส่ วนที่มีความแตกต่างทางช่วงเสี ยงของเสี ยงร้องและเครื่ องดนตรี
Regore (It. รี โกเร ) เข้มงวดไม่ยดื หยุน่ con rigore หมายถึงลักษณะความเร็ วที่แน่นอนตายตัว
Related keys ( รี เลเต็ดคีย ์ )
คียท์ างเมเจอร์ และไมเนอร์ ที่มีเครื่ องหมายตั้งบันไดเสี ยงเดียวกันคียเ์ มเจอร์ ทุกคียม์ ีญาติทาง ไมเนอร์ ซึ่ งเริ่ มต้นที่
ลาดับที่หกของบันไดเสี ยงเมเจอร์
Relative ( รี เลทีฟ )
คียท์ างเมเจอร์ และไมเนอร์ ที่มีเครื่ องหมายตั้งบันไดเสี ยงเดียวกัน เช่น คีย ์ Am จะรี เลทีฟกับคีย ์ C major กล่าวคือ
ทั้งคีย ์ Am และคีย ์ C ต่างก็ไม่มีเครื่ องหมายชาร์ ปและแฟล็ท
Relative major ( รี เลทีฟเมเจอร์ )
รี เลทีฟเมเจอร์ คาที่ใช้กล่าวถึงกุญแจเสี ยงและบันไดเสี ยงเมเจอร์ ที่มีเครื่ องหมายของกุญแจเสี ยงเหมือนกันกับ
กุญแจเสี ยงและบันไดเสี ยงไมเนอร์ ที่เชื่ อมโยงกันรี เลทีฟเมเจอร์ เริ่ มบนระดับขั้นที่สามของบันไดเสี ยงรี เลทีฟไม
เนอร์
Relative minor ( รี เลทีฟไมเนอร์ )
รี เลทีฟไมเนอร์ คาที่ใช้กล่าวถึงกุญแจเสี ยงและบันไดเสี ยง ไมเนอร์ ที่มีเครื่ องหมายของกุญแจเสี ยงเหมือนกันกับ
กุญแจเสี ยงและบันไดเสี ยงเมเจอร์ ที่เชื่ อมโยงกันรี เลทีฟไมเนอร์ เริ่ มบนระดับขั้นที่สามของบันไดเสี ยงรี เลทีฟ
เมเจอร์
Repeat ( รี พีท ) เล่นซ้ าอีกครั้งหนื่ง
Repeat sign ( รี พีท ไซน์ )
เครื่ องหมายย้อนกลับสัญลักษณ์ที่ใช้กาหนดให้เล่นโน้ตที่อยูร่ ะหว่างเครื่ องหมายนี้ซ้ าอีกครั้ง
Repetition (Fr. รี พีททิชนั่ ) การซ้ าการย้าความคิดทางดนตรี
Resolution ( รี โซลูชนั่ )
การเกลาเสี ยงกระบวนการของการเกลาเสี ยงกระด้างให้กลายเป็ นเสี ยงกลมกล่อมหรื อกล่าวได้วา่ เสี ยงกระด้าง
เกลาไปหาเสี ยงกลมกล่อม
Rest ( เรสท์ ) ตัวหยุดที่เป็ นเครื่ องหมายที่บ่งชี้ให้งดออกเสี ยงที่จงั หวะนั้น ๆ
Retenant (Fr. เรเตอะนอง ) ให้หวนกลับไปที่ความเร็ วเดิมอย่างทันทีทนั ใด
Retenir (Fr. เรอเตอนีร์ ) ช้าลงปานกลาง
Revenir au tempo (Fr. เรอเตอนีร์ อะเทมโป ) กลับไปสู่ ความเร็ วเดิม
R.H. ( อาร์เอช ) มือขวา
Rhapsody ( แรปโซดี ) เพลงชวนฝันที่อยูใ่ นคีตลักษณ์แบบอิสระมีลกั ษณะการแสดงออกทางวีรกรรมชาตินิยม
หรื อพื้นเมือง
Rhythme ( ริ ท่ ึม ) ทุกสิ่ งที่เกี่ยวข้องกับเวลาและจังหวะในทางดนตรี
Rigadoon (Eng.), riguadon (Fr. รี โกดอน )
การเตันราที่มีชีวิตชีวาของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 การเต้นราแบบรี โกดอนเดิมเป็ นการเต้นราของ ชาวนาต่อมา
ได้รับความนิยมในราชสานักพระเจ้าหลุยส์ที่ 13, 14 และ 15 และเป็ นที่รู้จกั กันในนามของ ริ กาดูน ในประเทศ
อังกฤษ
Rinforzando ( ริ นฟอร์ซานโด ) ย้า , เน้น , หนุน คาย่อคือ rf., rfz., rinf.
Risoluto (It. รี โซลูโต ) เด็ดขาด , กาหนดแน่นอน , ตกลงใจ
Rit ( ริ ท ) เล่นจังหวะให้ชา้ ลง
Ritardando (It. รี ทาร์ ดานโด ) ช้าลงทีละเล็กละน้อย rallentando คาย่อคือ rit, ritard.
Ritenuto (It. รี เทนูโต ) ช้าลงทันทีทนั ใด ( มักใช้ผดิ บ่อย ๆ ว่าคล้ายกับ rallentando หรื อ ritardando) คาย่อคือ
riten.
Ritmico (It. รี ทมีโก ) อย่างเป็ นจังหวะ , เน้นจังหวะให้ชดั เจน
Roll ( รอล )
เสี ยงรัวกลองให้เกิดเสี ยงซ่า ๆ อย่างในการเล่นกลองเล็ก เกิดจากการเล่นสลับอย่างรวดเร็ วของไม้ตีกลองระหว่าง
มือแต่ละข้างเสี ยงรัวยังทาได้จากกลองทิมปานีจากการตีแบบสลับมือทีละข้างและเล่นได้จากกลองใหญ่และฉาบ
ด้วย เช่นกัน
Romance ( โรมานซ์ ), (It. โรมานซา ) บทประพันธ์เพลงที่มีลกั ษณะโรแมนติกนุ่มนวลบทเพลงแห่งธรรมชาติที่
น่าทะนุถนอม
Romantic ( โรแมนติก )
แบบแผนการประพันธ์ที่พฒั นาในช่วงศตวรรษที่ 19 ตามหลังยุคคลาสสิ กดนตรี โรแมนติกย้าทางด้านความรู ้สึก
มากกว่าคีตลักษณ์นกั ประพันธ์เพลงในยุคนีได้แก่ ชูเบิร์ท , แบร์ลิโอส , เมนเดลโซน ชูมานน์ , โชแปง , ลิสซต์ ,
บราห์มส์ , และว้ากเนอร์
Rondo ( รอนโด )
บทเพลงที่มีทานองหลักสลับด้วยทานองอื่น ๆ ที่มีลกั ษณะแตกต่างกันตัวอย่างดังต่อไปนี้ A แทนทานองหลัก
ตัวอักษรอื่น ๆ แทนทานองซึ่ งแตกต่างออกไป A b A c A ตามปกติแล้วบทเพลงประเภทรอนโดมักจะแจ่มใส
สนุกสนานและมีลีลารวดเร็ วและจะอยูใ่ นกระบวนสุ ดท้ายของโซนาตาคอนแชรโต้และซิ มโฟนี
Root ( รู้ท ) ตัวพื้นต้น , ราก เป็ นเสี ยงสาหรับสร้างคอร์ ดและบันไดเสี ยงเป็ นโทนิกของบันไดเสี ยงทรัยแอ็ดจะอยู่
ในสภาพตัวพื้นต้น
Root position ( รู ้ท โพสิ ชนั่ ) ตาแหน่งโน้ตพื้นต้นการเรี ยงตัวของคอร์ ดเพื่อให้โน้ตพื้นต้นอยูใ่ นแนวเสี ยงที่
ต่าสุ ด
Round ( ราวน์ด )
คีตลักษณ์ของแคนนอนซึ่ งมีแนวของเสี ยงเข้ามาในช่วงระยะที่สม่าเสมอที่โน้ตตัวเดียวกันและซ้ าทานองเดียวกัน
นี้ เพลงราวน์ดที่มีชื่อเสี ยงเป็ นที่รู้จกั กันดีคือหนูตาบอดสามตัว (three blind mice)
Rounded binary ( ราวน์ด ไบนารี )
โครงสร้างแบบสองส่ วนชนิ ดราวน์ดคีตลักษณ์ของโครงสร้างแบบสองส่ วนที่มีลกั ษณะเหมือนโครงสร้างแบบ
สามส่ วน
Rubato (It. รู บาโต )
มาจากภาษาอิตาเลียนมีความหมายว่า ลัก , หยิบฉวย การใช้เวลาจากส่ วนหนึ่งส่ วนใด ของวลีเพลง ( อย่างรี บเร่ ง
) แล้วเพิ่มเวลาให้กบั วลีอีกส่ วนหนึ่ง ( ให้ชา้ ลง )
Ruhig (Gr. รู ฮิก ) เงียบสงบ
Rullante ( รู แลนเท ) การกลิ้ง
Rumba ( รุ มบ้า )
การเต้นราแบบคิวบาที่ได้รับอิทธิ พลของจังหวะแบบอาฟริ กนั เป็ นแบบเต้นราที่ได้รับความนิยมในอเมริ กา
ในช่วงทศวรรษเริ่ มจากค . ศ . 1930 จังหวะรุ มบ้ามีลกั ษณะขืนจังหวะ
Run ( รัน ) ทานองเพลงที่ไล่เรี ยงเสี ยงไปอย่างรวดเร็ ว เหมือนการไล่เสี ยงแบบบันไดเสี ยง

S
Saltando ( ซาลแทนโด ) ใช้คนั ชักสั้น ๆ เต้นไปบนสายเร็ ว ๆ
Saltarello or salterello (It. ซาลตาเรลโล )
การเต้นราแบบอิตาเลียนในศตวรรษที่ 16 มาจากคาว่า saltare มีความหมายว่ากระโดดดนตรี จะมีลกั ษณะนุ่มและ
รวดเร็ วอยูใ่ นจังหวะประเภทนับสาม ( สามจังหวะในหนึ่งห้อง ) การเต้นราแบบซาลตาเรลโลยังคงเป็ นที่นิยมกัน
ในศตวรรษที่ 19 แต่เป็ นการเต้นราที่มีความรุ นแรงขึ้นคาว่าซาลตาเรลโล เคยใช้เรี ยกชื่อการเต้นรามาตั้งแต่
ตอนต้นศตวรรษที่ 20 แล้ว
Samba ( แซมบ้ า )
เพลงเต้นราที่เป็ นที่นิยมกันในรู ปแบบของลาตินอเมริ กนั
Saraband ( ซาราบานด์ ), sarabanda (It. ซาราบานตา ), sarabande (Fr. ซาราบานด์ )
การเต้นราที่สง่างามของศตวรรษที่ 16,17 และ 18 เป็ นเพลงเต้นราในจังหวะช้าประเภทนับสาม ( สามจังหวะใน
หนึ่งห้อง ) มักจะมีการเน้นหรื อเป็ นโน้ตตัวยาวในจังหวะที่สองเชื่อกันว่าการเต้นราแบบนี้มาจากทางตะวันออก
และมีรากฐานมาจากการเต้นราที่แสดงความรักอย่างดูดดื่มรุ นแรง การเต้นราแบบซาราบานด์น้ ีถูกนาเข้ามาใน
ประเทศสเปนราวต้นปี ค . ศ .1500 ต่อมาก็มาปรากฏในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสพร้อม ๆ กับมีแบบการเต้นที่
ลดความรุ นแรงลงเล็กน้อยจนในที่สุดก็กลายเป็ นการเต้นราที่มีความสง่างามดังจะพบได้ในเพลงสวีทของบาค
Saxhorn ( แซกฮอร์ น )
ตระกูลเครื่ องเป่ าประเภทแตรทองเหลืองที่มีส่วนปากเป่ าเป็ นรู ปถ้วยท่อแตรมีลกั ษณะรู ปกรวยและมีลูกสู บ
ด้วยอด็อฟแซกเป็ นผูน้ ามาใช้ในปี ค . ศ .1845 มีท้ งั หมด 7 ชนิดขนาดตั้งแต่เครื่ องเสี ยงต่าเบสจนถึงเสี ยงสู งเทร็ บ
เบิ้ล
Saxophone ( แซกโซโฟน )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องลมไม้ชนิดที่ทาด้วยโลหะประกอบด้วยลิ้นปี่ เดี่ยวและท่อแบบกรวย อด็อฟแซกเป็ นผู้
ประดิษฐ์ข้ ึนเมื่อปี ค . ศ .1840 ในประเทศเบลเยีย่ มมีลกั ษณะเสี ยงกลมกล่อมและเต็มเสี ยงเครื่ องดนตรี แซก
โซโฟนทุกชนิ ดล้วนแล้วแต่เป็ นเครื่ องดนตรี ที่ตอ้ งย้ายคีย ์
Scale ( สเกล )
หมายถึงบันไดเสี ยง อนุกรมของเสี ยงซึ่งจัดเรี ยงไปตามลาดับ มาจากภาษาอิตาเลียน scala หมายถึง บันได ซึ่ง
แบ่งได้เป็ น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. ไดอาโทนิกสเกล
1.1 เมเจอร์
1.2 ไมเนอร์
2. โครมาติกสเกล
Scale degrees( สเกล ดีกรี ) ระดับขั้นบันไดเสี ยง ส่ วนประกอบแต่ละส่ วนของบันไดเสี ยง
Scherzando (It. สแคร์ ซานโด ) ลักษณะขี้เล่น , ตลก
Scherzo (It. สแกร์ โซ )
ขบวนหนึ่งในบทเพลงที่มีลกั ษณะขี้เล่นสนุกสนานอยูใ่ นจังหวะรวดเร็ วประเภทนับสาม ( สามจังหวะในแต่ละ
ห้อง ) เบโธเฟนเป็ นผูน้ าสแกรโซเข้าไปแทนที่มินนูเอ็ดที่ใช้กนั มาตั้งแต่ด้ งั เดิมในบทเพลงประเภทซิ มโฟนีและ
โซนาตาจานวนมากของเขาโชแปงและบราห์มส์ได้แต่งบทประพันธ์หลายบทที่มีลกั ษณะอย่างเอางานเอาการ
โดยใช้ชื่อว่า " สแกร์ โซ "
Schlag (Ger. สแกร์ ลา ) จังหวะเคาะ Beat.
Schnell (Gr. ชเนล ) เร็ ว
Schottische (Gr. ชอทติสซ์ )
การเต้นราแบบลักษณะวงกลมในศตวรรษที่ 19 เหมือนการเต้นราแบบโพลก้าอย่างช้า เป็ นที่รู้จกั กันดีในประเทศ
อังกฤษว่า '' เยอรมันโพลก้า '' ชอทติสซ์น้ ีปกติ จะอยูใ่ นจังหวะประเภทนับสอง ( สองจังหวะในหนึ่งห้อง )
Schwer (Ger. ชแวร์ ) หนักแน่น , ครุ่ นคิด
Sec (Fr. เสก ) ในแบบสั้น ๆ มาจากคาในภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า '' แห้ง "
Second ( เซ็คเคินด์ )
ระยะขั้นคู่เสี ยงไดอาโทนิกระหว่างสองเสี ยงที่อยูใ่ กล้ชิดติดกันเมเจอร์ เซ็คเคินด์ ( คู่สองเมเจอร์ ) ไมเนอร์ เซ็ค
เคินด์ ( คู่สองไมเนอร์ )
Second inversion ( เซ็คเคินด์ อินเวอร์ ชัน )
การพลิกกลับครั้งที่สอง การเรี ยงตัวกันใหม่ของคอร์ ดเพื่อให้โน้ตตัวที่ 5 อยูใ่ นแนวเสี ยงที่ต่าสุ ด
Segno (It. เซกโน ) เครื่ องหมาย al segno หมายถึง ให้ไปที่เครื่ องหมาย dal segno หมายถึง จากเครื่ องหมาย ตัว
ย่อคือ D.S.
Segue (It. เซกูเอ , 'it follows') ตามมา
Seguidilla (Sp. เซกีตียา )
เพลงเต้นราแบบสเปนในจังหวะประเภทนับสาม ( สามจังหวะในหนึ่งห้อง ) มักจะอยูใ่ นคียไ์ มเนอร์ เพลงเซกี
ดียาปกติแล้วจะมีการคลอประกอบด้วยกีตาร์ เสี ยงร้องและกรับสเปน จะเห็นการเต้นราแบบนี้ได้จากองค์ที่หนึ่ง
ของอุปรากรเรื่ อง คาร์เมน ของ จอร์ซบีเซ่
Sehr (Ger. เซ ) มาก , อย่างยิง่
Semibreve ( เซมิเบรเว ) หมายถึงโน้ตตัวกลม

Semiquaver ( เซมิเควเว่อร์ ) หมายถึง โน้ตเขบ็ตสองชั้น


Semicadence ( เซมิเคเดนซ์ )
ลูกจบกลางจุดพักบนคอร์ด ๆ หนึ่งที่ไม่ใช่คอร์ ด I ซึ่ งมีลกั ษณะไม่สมบูรณ์และสร้างแรงผลักดันให้เกิดทานอง
เพลงเพิ่มเติม
Semitone ( เซมิโทน ) ครึ่ งเสี ยง
Semplice (It. เซมปลิเซ ) เรี ยบง่าย
Semplicemente (It. เซมปลิเซเมนเต ) สบาย ๆ ธรรมดา
Sempre (It. เซมเปร ) เป็ นอยูเ่ สมอ , ตลอดเวลา
Sentimento (It. เซนติเมนโต ) มีความรู ้สึกไวอ่อนไหว
Senza (It. เซนซา ) ไม่มี , ปราศจาก
Septet ( เซพเต็ต ) ลักษณะของวงดนตรี ประเภทแชมเบอร์ มิวสิ คหรื อการขับร้องที่ประกอบด้วยผูเ้ ล่น 7 คน
Sequence ( ซีเควนซ์ ) ลักษณะการซ้ าทานอง ( บางครั้งก็มีการแปรผันไปบ้าง ) โดยเริ่ มที่ระดับเสี ยงต่างกันใน
แต่ละครั้งที่ซ้ า
Serenade ( เซเรเนด )
1. เพลงที่มีลกั ษณะไปทางด้านความรัก หรื อเพลงยามเย็น
2. บทประพันธ์ที่แต่งไว้สาหรับการบรรเลงด้วยเครื่ องดนตรี กลุ่มเล็ก ๆ ซึ่ งประกอบด้วยกลุ่มเครื่ องสายและ
เครื่ องลมไม้
Seventh ( เซเว่นท์ ) ขั้นคู่เสี ยงในลักษณะคู่เจ็ดจากบันไดเสี ยงแบบไดอาโทนิก
Seventh chord ( เซเว่นท์คอร์ ด ) คอร์ ดที่ประกอบด้วยตัวพื้นต้นขั้นคู่สามขั้นคู่หา้ และขั้นคู่เจ็ด
Sforzata (It. สฟอร์ ซาตา ) เน้น
Sforzato (It. สฟอร์ ซาโต ) Sforzando (It. สฟอร์ ซานโด ) การเน้นหรื อการย้าอย่างทันทีทนั ใด ใช้กาลังคาย่อคือ
sfs, sf.
Sfumato ( สฟูเมโต ) เบาลงและค่อย ๆ จางหายไป
Sharp ( ชาร์ ป ) #
เครื่ องหมายแปลงเสี ยงเมื่อวางไว้ขา้ งหน้าโน้ตจะทาให้เสี ยงสู งขึ้นครึ่ งเสี ยงในลักษณะโครมาติก
Siciliano (It. ซิชิเลียยาโน ) Sicilienne (Fr. ซิซิเลีย่ น )
เพลงเต้นราแบบซิซิเลียนในศตวรรษที่ 17 และ 18 ในจังหวะ u หรื อ ตามปกติเพลงซิซิเลียน จะประกอบด้วย
แนวทานองแบบเพลงร้องและเสี ยงคลอประกอบที่ต่อเนื่ องกันไปของคอร์ ดแบบโบรคเค่น มักปรากฏในขบวน
ช้าของบทเพลงสวีทชุดแรก ๆ ของโคเรลลี และเจ . เอส . บาค
Sight-reading or sight-singing ( ไซค์ รีดดิง้ หรือ ไซค์ ซิงกิง้ )
การเล่นดนตรี หรื อร้องเพลงจากโน้ต โดยที่ไม่เคยเล่นหรื อร้องเพลงนั้นมาก่อน
Signature ( ซิกเนเจอร์ ) สัญลักษณ์ที่บอกคีย ์
Simile (It. ซิมิเล ) แบบเดียวกันดาเนิ นต่อไปด้วยวิธีเดียวกันโดยมีแบบตัวโน้ตและวลีเพลงเป็ นหลักในการ
ปฏิบตั ิอย่างเคร่ งครัด คาย่อคือ sim.
Simple time ( ซิมเปิ ลไทม์ ) อัตราจังหวะธรรมดา อัตราจังหวะที่มีจงั หวะพื้นฐานในใจแบ่งย่อยออกเป็ น 2
จังหวะ เช่น h, o, k
Sin 'al fine (It. ซินัล ฟิ เน ) จนจบ
Segno (It. เซ็นโย ) เครื่ องหมายที่ใช้สาหรับย้อยเมื่อถึงเครื่ องหมายนี้อีกครั้ง
Singend (Ger. ซินเก็นด์ ) ในลีลาการร้อง
Sixteenth note ( ซิกทีนโน้ ต ) โน้ตเขบ็ตสองชั้นกาหนดให้โน้ตชนิดนี้จานวนสิ บหกตัวมีค่าเท่ากับโน้ตตัวกลม
หนึ่งตัวและสี่ ตวั มีค่าเท่ากับโน้ตตัวดาหนึ่งตัว
Sixteenth rest ( ซิกทีนเรสท์ ) โน้ตตัวหยุดที่มีค่าเท่ากับโน้ตตัวเขบ็ตสองชั้นหนึ่งตัว
Sixth ( ซิกท์ ) ขั้นคู่เสี ยงชนิดคู่หกที่มาจากการเรี ยงแบบไดอาโทนิก
Sixty-fourth note ( ซิกตี้ ฟอร์ ท โน้ ต ) โน้ตเขบ็ตสี่ ช้ นั กาหนดให้โน้ตชนิดนี้ หกสิ บสี่ ตวั มีค่าเท่ากับโน้ตตัวกลม
หนึ่งตัวและสี่ ตวั มีค่าเท่ากับโน้ตตัวเขบ็ตสองชั้นหนึ่งตัว
Sixty-fourth rest ( ซิกตี้ ฟอร์ ทเรสท์ ) โน้ตตัวหยุดที่มีค่าเท่ากับโน้ตตัวเขบ็ตสี่ ช้ นั หนึ่งตัว
Skip ( สคิป ) ขั้นคู่เสี ยงในรู ปทานองที่กว้างเกินกว่าคู่สอง
Slancio (It. สลานซิโอ ) ด้วยความกล้าหาญ
Slentando (It. สเลนทานโด ) ช้าลงตามลาดับ
Slur ( สเลอ ) เส้นโค้ง มีความหมายว่า
1. โน้ตต่าง ๆ เหล่านี้ให้เล่นแบบเลกาโต้ ( เสี ยงเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน )
2. วลีเพลงหรื อส่ วนของวลีเพลง
3. เมื่อโน้ตตัวหนึ่งมีการใช้เครื่ องหมายสเลอเชื่อมจากโน้ตข้างหน้าอีกตัวหนึ่ง โดยโน้ตทั้งคู่น้ ีต่างก็มีระดับเสี ยง
เดียวกันแล้ว เราเรี ยกว่า ทาย (tie) เครื่ องหมายทายนี้ กาหนดให้โน้ตตัวที่สองไม่ตอ้ งเล่น เพียงแต่ให้ยดื ความยาว
เสี ยงไปจนครบค่าโน้ตตัวนี้
4. หากเครื่ องหมายสเลอบันทึกไว้เหนือหรื อใต้จุดแบบสตัก๊ คาโตแล้วโน้ตแต่ละตัว ให้เล่นให้ส้ นั ลงเล็กน้อย
Smorzando (It. สมอร์ ซานโด ) จางหายไป คาย่อ คือ smorz.
Snare drum ( สแนร์ ดรัม ) กลองสแนร์ หรื อกลองแต็กที่ใช้ตีเดี่ยวหรื อใช้ตีประกอบกับกลองชุด
Solfeggio (It. ซอลเฟตโจ ) การฝึ กหัดขับร้องโดยออกเสี ยงตามพยางค์ โด - เร - มี ฯลฯ กาหนดให้ โน้ต C เป็ น
โดอยูก่ บั ที่
Solo ( โซโล ) คนเดียว , เดี่ยว , บทเพลงประเภทเดี่ยวสาหรับเครื่ องดนตรี หรื อนักร้องคนเดียว ในบทเพลง
ประเภทคอนแชร์โต ส่ วนที่แสดงเดี่ยวกาหนดไว้สาหรับโซโลอิสท์ ( นักแสดงเดี่ยว ) แต่ส่วน ทูทิ (Tuti) เป็ น
การแสดงทั้งวง
Sonata (It. โซนาตา )
บทประพันธ์เพลงซึ่งตามปกติแล้วมี 3 หรื อ 4 กระบวน ( ท่อน ) แต่ละกระบวนจบลงด้วยตัวเองได้ และกระบวน
ต่าง ๆ มีความแตกต่างกันในเรื่ องของความเร็ ว คีย ์ และอารมณ์ ซี . พี . อี . บาค ( ค . ศ . 1714-1788) เป็ นผูไ้ ด้รับ
การยอมรับว่าเป็ นบิดาแห่งโซนาตาสมัยใหม่ บทประพันธ์โซนาตาของเขามีสามกระบวน คือ เร็ ว - ช้า - เร็ ว
โดยทัว่ ไปแล้วมีการกาหนดกระบวนต่าง ๆ ในแบบฉบับโซนาตาคลาสสิ ก ดังนี้
1. กระบวนที่หนึ่ง ปกติแล้วจะอยูใ่ นโซนาตาฟอร์ ม ในจังหวะรวดเร็ ว
2. กระบวนที่สอง ปกติจะอยูใ่ นลีลาช้า และมีอารมณ์ลึกซึ้ งกว่า
3. กระบวนที่สาม เป็ นแบบมินนูเอ็ต (minuet) หรื อ สแกรโซ (Scherzo)
4. กระบวนที่สี่ อยูใ่ นคีตลักษณ์แบบรอนโดหรื อโซนาตาในจังหวะรวดเร็ ว คาว่าโซนาตา มาจากคาภาษาอิตา
เลียนว่า suonare หมายถึงทาให้เกิดเสี ยง เมื่อแรกใช้คานี้ โซนาตา จะหมายถึงบทเพลงสาหรับ เครื่ องดนตรี ซ่ ึง
ตรงข้ามกับคาว่า แคนตาตา ที่หมายถึงบทเพลงสาหรับการขับร้อง sonata allegro form ( โซนาตา อัลเลโกร
ฟอร์ม )
Sonata form ( โซนาตา ฟอร์ ม )
เป็ นคีตลักษณ์สาหรับขบวนหนึ่งในบทเพลงประเภทคอนแชร์ โต้โซนาตาซิมโฟนีหรื องานประเภทแชมเบอร์ ใช้
กันทัว่ ไปเป็ นส่ วนมากในกระบวนที่หนึ่ง จึงมักเรี ยกว่าแบบกระบวนที่หนึ่ง (First movement form) แบบแผน
ของ โซนาตาฟอร์ม มี 3 ส่ วน คือ
1. ส่ วนเสนอความคิดทางดนตรี (exposition) กาหนดทานองหลักเป็ นแกนสาคัญ เพื่อสร้างเป็ นลักษณะ เฉพาะ
ของขบวนได้อย่างชัดเจน ในแบบคลาสสิ กเคิ้ลโซนาตา มักจะมีสองทานองหลักหรื อสองกลุ่ม ซึ่ งเชื่อมต่อ
ระหว่างกันด้วยบริ ดจ์แพสเซจ และจบลงด้วยคียข์ องบทเพลงนั้น ส่ วนเสนอความคิดทางดนตรี น้ ีมกั จะมีการซ้ า
2. ส่ วนพัฒนาความคิดทางดนตรี (Development) หรื อเรี ยกว่า ฟรี ฟานตาเซี ยคือส่ วนที่มีการพัฒนาทานองหลัก
ของเอ็กซ์โปซิ ชนั่ ไปอย่างกว้างขวางและอิสระเสรี
3. ส่ วนสรุ ป (Recapitulation) กาหนดให้ทานองหลักกลับมาอีกครั้งหนึ่งแต่ตอ้ งอยูค่ ียเ์ ดิมของเพลงนั้นและ
เพิ่มเติมโคดาเข้าไปในส่ วนนี้ ได้
4. โคดา (Coda) คือการลงจบที่มีส่วนขยายความด้วย Sonator ( โซนาเตอร์ ) ผูเ้ ล่น
Sordini (It. ซอดินี่ )
เท้าเหยียบเพื่อลดเสี ยงในเปี ยโน senza sordini หมายถึงเหยียบที่คนั บังคับเท้าที่ทาให้เสี ยงยาว con sordini
หมายถึง ให้ปลดคันบังคับเท้าที่ทาให้เสี ยงยาว
Sordino (It. ซอดิโน )
แผ่นไม้หรื อโลหะบาง ๆ ( ที่เรี ยกว่ามิวท์ ) ใช้เสี ยบลงบนบริ ดจ์ ( สะพานเสี ยง ) ของเครื่ องดนตรี ประเภท
เครื่ องสาย เพื่อทาให้เสี ยงเบาลงหรื อลดเสี ยงลง
Sostenuto (It. ซอสเตนูโต ) หน่วงไว้ , ยึดไว้
Sospirando (It. ซอสปิ รานโด ) รู ปแบบง่าย ๆ สบาย ๆ
Sostenuto (It. ซอสเทนูโต ) ทาเสี ยงยาวต่อเนื่ องโดยให้ลากเสี ยงยาวเต็มค่าของตัวโน้ตซอสเทนูโตบางครั้ง
หมายถึงให้ชา้ ลงเล็กน้อย , รั้งไว้
Sotto (It. ซอทโต ) ข้างใต้ ต่ากว่า sotto voce หมายถึง ทาเสี ยงกระซิ บกระซาบ ค่อนข้างเงียบ ทาเสี ยงเบา ๆ
Sotto voce (It. ซ็อตโต โวเช ) เสี ยงเบาและต่า
Space ( สเปส ) ช่องว่างระหว่างเส้นสองเส้นของบรรทัดห้าเส้น ซึ่ งมีท้ งั หมดสี่ ช่อง
Spater (Gr. สเปเตอร์ ) ต่อมาหลังจากนั้น
Spirito (It. สปิ ริโต ) วิญญาณ
Spiritoso (It. สปิ ริโตโซ ) มีชีวติ ชีวา
Spinet ( สปิ เน็ต )
1. เครื่ องดนตรี ฮาร์ ปซิ คอร์ ดในรู ปของกล่องขนาดเล็ก ๆ ที่มีดา้ นสี่ ถึงห้าด้าน เหมือนเครื่ องดนตรี ชื่อ เวอร์จินลั
สปิ เน็ตมีสายเสี ยงหนึ่งสายต่อโน้ตหนึ่งตัว
2. เป็ นชื่อเรี ยกเปี ยโนรุ่ นอัพไรท์ขนาดเล็กสมัยใหม่
Spirito, spiritoso (It. สปิ ริโตโซ ) อย่างมีชีวติ ชีวาด้วยชีวิตจิตใจ
Staccato (It. สตักคาโต ) ให้ส้ นั อย่างมากคาย่อคือ stacc.
Staff ( สตัฟ ), Stave ( สต๊ าฟ ) บรรทัดที่ประกอบด้วยเส้นตรงจานวนห้าเส้นช่องสี่ ช่องสาหรับการบันทึกโน้ต
บอกระดับเสี ยง
Stark (Ger. ซตาร์ ค ) แข็งแกร่ ง , ดัง
Stem ( สเต็ม ) เส้นตรงตามแนวตั้งสาหรับเชื่อมหัวโน้ตดนตรี
Step ( สเต็ป ) การเคลื่อนที่ของทานองเพลง จากตัวโน้ตตัวหนึ่งไปสู่ โน้ตใกล้เคียงอีกตัวหนึ่งในระยะห่างขั้นคู่
สองตามลักษณะขั้นแบบไดอาโทนิก มีสามชนิดดังนี้
1. หนึ่งเสี ยงเต็ม
2. ครึ่ งเสี ยง
3. ขั้นอ็อกเมนเต็ด
Streng (Gr. สเตร็ง ) เคร่ งครัด
Strepitoso (It. สเทรปิ โตโซ ) ดังหนวกหู
Stretto Stringendo(It. สเตรทโต สตริน - เยน - โด ) เร่ งเร็ วขึ้น
Stretto (It. สเตรทโต )
1. ถ้าเกิดขึ้นในบทประพันธ์ประเภทฟิ วก์หมายถึงส่ วนที่เป็ นทานองถาม ( ซับเจ็คท์ ) และทานองตอบ ( อ้าน
เซ่อร์ ) ไล่ติดตามใกล้จนมีลกั ษณะเกยกันอยู่
2. ถ้าเกิดขึ้นในบทประพันธ์ที่ไม่ใช่ฟิวก์หมายถึงส่ วนสรุ ปจบของเพลงซึ่ งเร่ งจังหวะขึ้นเรื่ อย ๆ
Stringendo (It. สตริงเจนโด )
การทาให้เร็ วขึ้นคาย่อคือ string.
String quartet ( สตริง ควอเต็ต )
เป็ นแชมเบอร์มิวสิ กสาหรับเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสาย 4 ชิ้นประกอบด้วยไวโอลิน 2 คัน วิโอลา 1 คัน
และเชลโล 1 คัน
String quintet ( สตริงควินเต็ต ) เป็ นแชมเบอร์ มิวสิ กสาหรับเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายห้าชิ้น
Sturmisch (Ger. ซตูร์มิช ) รุ นแรงอย่างกับพายุ
Subdominant ( ซับดอมิแนนท์ )
ชื่อเรี ยกประจาขั้นที่สี่ของบันไดเสี ยงเมเจอร์ หรื อไมเนอร์ คอร์ ดซับดอมิแนนท์คือคอร์ ดที่สร้างบนเสี ยงประจาขั้น
นี้

Subito (It. ซู บิโต ) ทันทีทนั ใด p subito หมายถึงเบาอย่างทันทีทนั ใด


Subject ( ซับเจ็คท์ ) ทานองหรื อความคิดในทางดนตรี แนวความคิดหลักที่ใช้ในการแต่งบทประพันธ์ดนตรี
Sub-mediant ( ซับมีเดียน ) โน้ตลาดับขั้นที่ 6 ของบันไดเสี ยง เช่น A เป็ นโน้ตลาดับขั้นที่ 6 ของบันไดเสี ยง C.
Suite (Fr. สวีท )
1. ดนตรี ประเภทบรรเลง ประกอบขึ้นเป็ นหลายกระบวน แต่ละกระบวนก็มี คีตลักษณ์ของเพลงเต้นราที่ต่างกัน
ไป ปกติแล้วจะเชื่อมกระบวนทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยแต่งให้อยูใ่ นคียเ์ ดียวกัน คีตลักษณ์ของเพลงเต้นรา
แบบสวีทนี้ก็มี allamande, bourree, courante, gavotte, gigue, minuet และ saraband ซึ่ งจะปรากฏ อยูใ่ นบท
บรรเลงประเภทสวีทแบบคลาสสิ ก
2. กลุ่มบทบรรเลงสั้น ๆ ที่อยูใ่ นคีตลักษณ์หรื อแบบแผนการประพันธ์อะไรก็ได้ส่วนมากมักนามาจากอุปรากร
บัลเล่ต์ ฯลฯ
Symphony ( ซิมโฟนี )
บทบรรเลงสาหรับวงดนตรี มีโครงสร้างเหมือนบทบรรเลงประเภทโซนาตาโดยทัว่ ไปประกอบด้วยสี่ กระบวน
บทบรรเลงประเภทซิ มโฟนีและโซนาตาต่างก็พฒั นาในช่วงศตวรรษที่ 18 บทบรรเลง ซิมโฟนีได้รับอิทธิพลจาก
บทบรรเลงโหมโรงอุปรากรแบบอิตาเลียนซึ่ งมีส่วนประกอบ 3 ส่ วน คือ เร็ ว - ช้า - เร็ ว แต่ละส่ วนนี้ได้พฒั นาไป
จนแยกออกได้หลายกระบวนและเมื่อเพิม่ ส่ วนที่เป็ นมินนูเอ็ทเข้าไปแล้วก็จะทาให้บทบรรเลงซิ มโฟนีมีสี่
กระบวน คือ เร็ ว - ช้า - เร็ ว - เร็ ว
Syncopation ( ซิงโคเพชั่น )
การเน้นในส่ วนจังหวะรองซึ่ งสามารถทาได้หลายวิธี คือ
1. ใช้เครื่ องหมายโยงเสี ยงข้ามไปที่ส่วนจังหวะหลัก
2. ใช้เครื่ องหมายเน้นที่จงั หวะรองหรื อระหว่างจังหวะ
3. ใช้ตวั หยุด ณ ที่ตวั หยุดจังหวะหลัก
4. ใช้โน้ตที่มีค่ายาวกว่าที่จงั หวะรอง

T
Tablature ( แท็บเลเจอร์ )
การบันทึกโน้ตประเภทหนึ่งที่ใช้สาหรับกีตาร์ สาหรับผูท้ ี่ไม่สามารถอ่านโน้ตได้โดยการบันทึกเป็ นตัวเลขลงบน
เส้น 6 เส้นที่ใช้แทนสายกีตาร์ สามารถบอกระดับเสี ยงและตาแหน่งที่จะเล่นโน้ตตัวนั้น ๆ ได้
Tacet (La. ทาเซ็ท ) เงียบ
Takt (Gr. ทัคท์ ) จังหวะ
Takthalten (Gr. ทัคท์คัลเท็น ) อัตราความเร็ วเคร่ งครัด
Tambourine ( แทมโบรีน )
เครื่ องดนตรี ประเภทดีกระทบประกอบด้วยขอบไม้รูปวงกลม 2 ขอบโดยมีแผ่นโลหะคู่ที่เรี ยกว่ากระดิ่งสอดอยู่
ระหว่างกลาง และปิ ดทับขอบไม้ดา้ นหนึ่งด้วยหน้ากลองสามารถตีที่หน้ากลองแต่ละครั้งด้วยข้อนิ้วมือและทา
เสี ยงรัวได้โดยการสั่นที่ตวั แทมโบริ นหรื อใช้นิ้วหัวแม่มือถูไปรอบริ มขอบหน้ากลองก็จะทาให้กระดิ่งเล็ก ๆ
เหล่านี้เคลื่อนไหว
Tam-tam ( แทม แทม ) หมายถึง ฆ้อง ประกอบด้วยแผ่นโลหะมีรูปร่ างคล้ายชาม และให้ตีดว้ ยไม้หวั แข็ง
Tango ( แทงโก ) การเต้นราที่มีแบบอย่างมาจากการเต้นราของชาวนิ โกรอาฟริ กนั ซึ่ งต่อมาได้รับความนิยมใน
หมู่อเมริ กนั เชื้ อชาติสเปน โดยใช้จงั หวะและการเคลื่อนไหวที่มีแบบฉบับการเต้นของสเปน
Tanto (It. ตานโต ) มาก non tanto แปลว่า ไม่มากนัก
Tarantella (It. ตารานเตลลา ), tarantelle (Fr. ตารานเตล )
การเต้นราแบบอิตาเลียนในจังหวะ u มีการเคลื่อนไหวอย่างคงที่รวดเร็ ว เชื่อกันว่า ตารานเตลลา ตั้งชื่ อตามชื่ อ
แมงมุมมีพิษชนิดหนึ่ง คือ ตารานตูลาซึ่ งเมื่อกัดผูค้ นเข้าไปแล้วก็ให้รักษาด้วยการเต้นชนิดนี้ อย่างไรก็ตามทั้งชื่ อ
ตารานเตลลาและตารานตูลาอาจได้ชื่อตามเมือง ตารานโต้ ซึ่ งเป็ นชื่อเมืองท่าเรื อทางตอนใต้ประเทศอิตาล

Tempo ( เทมโป ) อัตราความเร็ ว เครื่ องหมายที่แสดงอัตราความเร็ วนั้นได้แก่


1. ประเภทช้า : largo, grave, lento, adagio
2. ประเภทเร็ วปานกลาง :andante, modorato
3. ประเภทเร็ ว : allegro, vivace, presto
Tempo comodo ( เทมโป กอมโมโด ) ความเร็ วสบาย ๆ
Tempo giusto ( เทมโป จุสโต ) ความเร็ วคงที่ตลอด
Tempo ordinario ( เทมโป ออร์ ดินาริโอ ) ความเร็ วสบาย ๆ ความเร็ วธรรมดา
Tempo primo (It. เทมโป ปรีโม ) กลับไปที่อตั ราความเร็ วแรกเริ่ ม
Tenerezza (It. เทเนเรสซา ) ความนุ่มนวล
Tenir (Fr. เดอนีร์ ) หน่วงไว้ , ยึดใว้
Tenor ( เทเนอร์ ) เสี ยงระดับสู งสุ ดของนักร้องชาย
Tenor clef ( เทเนอร์ เคลฟ )
หมายถึง ซีเคลฟบนเส้นที่สี่ของบรรทัดห้าเส้น โน้ตดนตรี ของแตรทรอมโบน และซอเชลโลจะบันทึกลงใน
เคลฟชนิดนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เส้นน้อยจานวนมาก
Tenuto (It. เตนูโต ) ยืดออกไป ทาเสี ยงให้ยาวยืดออกไปจนเตมค่าตัวโน้ตนัน คาย่อคือ ten.
Ternary ( เทอนารี )
สามส่ วนคีตลักษณ์แบบเทอนารี่ น้ ีส่วนที่หนึ่งและส่ วนที่สามปกติแล้วจะเหมือนกันสาหรับส่ วนกลางจะมีทานอง
ที่แตกต่างออกไป และมักจะอยูใ่ นคียต์ ่างกันด้วย
Ternary form ( เทอนารี ฟอร์ ม ) รู ปแบบของเพลงที่มีโครงสร้างแบบ A B A
Tetrachord ( เททราคอร์ ด ) เสี ยงทั้งสี่ ตามตาแหน่งในบันไดเสี ยงที่ประกอบขึ้นเป็ นคู่สี่เพอเฟกต์บนั ไดเสี ยง
เมเจอร์ ประกอบด้วยเททาคอร์ ดคล้ายกันสองชุด ( ห่างกันเต็มเสี ยงสองคู่และครึ่ งเสี ยงหนึ่งคู่ )
Texture ( เทซเจอร์ )
ภาพรวม ผลของการเชื่ อมโยงกันขององค์ประกอบทางดนตรี ต่าง ๆ เช่น เสี ยงประสาน , ทานอง , การเรี ยบเรี ยง
เสี ยงสาหรับวงดนตรี
Theme ( ทีม ) ความคิดทางดนตรี ที่สมบูรณ์มกั จะใช้เป็ นเนื้อหาหลักในการทาแวริ เอชัน่
Third ( เทิด้ ) ขั้นคู่ที่ได้จากระยะห่างเสี ยงแบบไดอาโทนิ ก หรื อขั้นคู่ที่ 3
Thirty-second note ( เทอตีเ้ ซ็คกันโน้ ต )
คือโน้ตเขบ็ตสามชั้นโน้ตชนิ ดนี้สามสิ บสองตัวมีค่าเท่ากับโน้ตตัวกลมหนึ่งตัวและโน้ตสี่ ตวั มีค่าเท่ากับโน้ต
เขบ็ตหนึ่งชั้นหนึ่งตัว
Thirty-second rest ( เทอตีเ้ ซ็คกัน เรสท์ )
การเงียบเสี ยงที่มีค่าเท่ากับโน้ตตัวเขบ็ตสามชั้นหนึ่งตัว
Tie ( ทาย )
เครื่ องหมายโยงเสี ยงระหว่างโน้ตใกล้เคียงสองตัวซึ่ งมีระดับเสี ยงเดียวกัน โน้ตตัวที่สอง ไม่ออกเสี ยงอีกต่างหาก
แต่จะปฏิบตั ิต่อจนหมดค่าของตัวโน้ต
Timesignature ( ไทม์ ซิกเนเจอร์ )
เครื่ องหมายกาหนดจังหวะซึ่ งแสดงถึงจานวนจังหวะในแต่ละห้อง และชนิดของโน้ตที่นามานับเป็ นหนึ่งจังหวะ
ตัวอย่างเช่น k สามจังหวะในหนึ่งห้อง และนาโน้ตตัวดามานับ เป็ นหนึ่งจังหวะ
Timpani (It. ทิมปานี ) กลองทิมปานี มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า Kettle Drum มีลกั ษณะคล้ายกะทะ
Toccata (It. ต้ อกคาตา ) บทเพลงสาหรับเครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ด มีทานองที่รวดเร็ ว , กล้าเสี่ ยง , อิสระ และใน
แบบฉบับของ เคาน์เทอพอยท์
Tonic ( โทนิก ) โน้ตตัวแรกของบันไดเสี ยงเรี ยกชื่อว่าคอร์ ดโทนิก ก็คือทรัยแอ็ดที่สร้างบนโน้ตตัวนี้
Toujours (Fr. ตูชูร์ ) เสมอ
Tranquillo (It. ทรานคิวโล ) สงบเงียบอยูใ่ นภวังค์แห่งความสงบ
Transcription ( ทรานสคริปชั่น ) การเรี ยบเรี ยงบทประพันธ์เพลงสาหรับเสี ยงร้องหรื อเครื่ องดนตรี อื่น ๆ ที่ไม่
ใช้เสี ยงร้องหรื อเครื่ องดนตรี ของบทประพันธ์ด้ งั เดิมบทนั้น
Transition ( ทรานซิชั่น )
1. สาหรับคีตลักษณ์ทางดนตรี แล้วหมายถึงช่วงของดนตรี ที่เปลี่ยนจากส่ วนหลักไปสู่ ส่วนอื่น ๆ ในบทเพลง (
ตัวอย่างเช่นจากส่ วนเอ๊กซโปซิ ชนั่ ไปสู่ ดิเวลลอปเม้นต์ ในโซนาตา )
2. การเปลี่ยนคียแ์ บบสั้น ๆ หรื อแบบผ่านทาง
Transpose ( ทรานสโพส ) แสดงหรื อเขียนบทเพลงให้อยูค่ ียอ์ ื่น ๆ ต่างจากที่เขียนไว้ให้แล้ว
Transposing instrument ( ทรานสโพสซิง อินสตรู เม้ นต์ )
เครื่ องดนตรี ประเภทที่ให้ระดับเสี ยงแตกต่างจากที่เขียนแสดงด้วยโน้ตกล่าวคือโน้ตที่ขียนไว้ให้เครื่ องดนตรี
เหล่านี้เล่นจะไม่เขียนตรงตามเสี ยงที่เครื่ องดนตรี น้ นั ทาได้จริ ง ตัวอย่างเช่น ปี่ คลาริ เน็ตที่สร้างอยูใ่ นบีแฟล็ตถ้า
หากผูเ้ ล่นใช้การปิ ดเปิ ดนิ้วสาหรับโน้ตตัว D จากเครื่ องดนตรี ก็จะได้เสี ยงจริ งคือเสี ยง C ที่มีระดับเสี ยงต่ากว่า
Traps ( แทรปส์ ) กลองชุด มีกลอง ฉาบ ฯลฯ ใชในวงดนตรี สาหรับการเต้นรา
Traurig (Ger. เทราริก ) เศร้า
Treble ( เทร็บเบิล ) แนวการขับร้องหรื อการบรรเลงในบทประพันธ์ที่มีระดับเสี ยงสู งสุ ด เรี ยกอีกชื่อว่า
โซปราโน
Treble clef ( เทร็บเบิล เคลฟ )
กุญแจซอล มีสัญลักษณ์จีเคลฟบนเส้น ที่สองของบรรทัดห้าเส้น เทร็ บเบิลเคลฟในรู ปลักษณ์ปัจจุบนั นี้ พัฒนามา
จากอักษรภาษาอังกฤษ ตัวจี
Tres (Fr. แตร ) มาก , อย่างยิง่
Triad ( ทรัยแอด ) คอร์ดซึ่งประกอบด้วยเสี ยง 3 เสี ยง มีชื่อเรี ยกตามลาดับว่ารู ้ท คู่ 3rd และคู่ 5th
Triangle ( ทรัยแองเกิล )
เครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบ ประกอบด้วยท่อนเหล็กขนาดเล็กดัดโค้งเป็ นรู ปสามเหลี่ยม มีปลายข้างหนึ่งเปิ ด
ถือด้วยเชือกและตีดว้ ยท่อนเหล็กเล็กๆ ทรัยแองเกิ้ลมีเสี ยงแหลมบาดหูใช้นาน ๆ ครั้ง
Trill ( ทริล )
การประดับประดาทางทานองดนตรี ที่ทาด้วยการสลับเปลี่ยนที่อย่างรวดเร็ ว ระหว่าง ตัวโน้ตหลักและโน้ต
ใกล้เคียงที่อยูเ่ หนือกว่าโน้ตตัวนี้ ในยุคสมัยของบาคและแฮนเดล ทริ ลมักจะเริ่ มที่โน้ต ใกล้เคียง แต่สาหรับยุค
ต่อมา เช่น ยุคโชแปงและลิสซท์ ส่ วนใหญ่แล้วการเล่นทริ ลจะเริ่ มที่โน้ตตัวหลัก
Trio ( ทรีโอ )
1. ดนตรี สาหรับผูเ้ ล่นสามคน
2. ตอนกลางของบทบรรเลงประเภทมินนูเอ็ต มาร์ช หรื อสแกรโซ
Triplet ( ทริพเพล็ท )
คือกลุ่มตัวโน้ตสามตัวที่เล่นโดยใช้จานวนเวลาเท่ากับโน้ตสองตัว ที่เป็ นโน้ตประเภทเดียวกัน
Triple time ( ทริบเปิ้ ลไทม์ ) เครื่ องหมายกาหนดจังหวะประเภทนับสาม ให้ปฏิบตั ิ สามจังหวะในแต่ละห้อง
m,k,j ฯลฯ
Triste (It. ตริสเต , Fr. ตริสต์ ) เศร้าโศก เสี ยใจ
Tristo (It. ตริสโต ) เศร้า
Trombone ( ทรอมโบน )
แตรทรอมโบนเป็ นเครี่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าทองเหลืองที่มีท่อแตรแบบกลวง ยาวเท่ากัน ส่ วนปากเป่ าเป็ น
รู ปถ้วยมีลกั ษณะสาคัญคือใช้ชกั เลื่อนท่อแตรให้ยาวหรื อสั้นด้วยมือได้ทาให้เล่นได้ครบทุกเสี ยงตลอดช่วงเสี ยง
ของแตรซึ่ งผิดกับแตรอื่น ๆ ที่เปลี่ยนความยาวท่อโดยใช้ลูกสู บ ( อย่างไรก็ตามบางครั้งเราอาจจะใช้ทรอมโบน
ชนิดที่มีลูกสู บได้แตรทรอมโบนพัฒนามาจากแตรทรัมเป็ ต ขนาดใหญ่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 แตร
ทรอมโบนที่ใช้ในปั จจุบนั นี้ มี 2 แบบ คือ เทเนอร์ และเบส แตรทรอมโบนไม่ใช่แตรประเภทต้องย้ายคีย ์ ถึงแม้วา่
จะใช้เทเนอร์ เคลฟ เนื่องจากในช่วงเสี ยงสู งต้อง หลีกเลี่ยงการใช้เส้นน้อยก็ตาม
Trop (Fr. โทร ) มาก , มากเกินไป
Troppo (It. ตรอบโป ) มากเกิน Allegro ma non troppo หมายถึงเร็ วแต่เร็ วไม่มากนัก
Trumpet ( ทรัมเป็ ต )
แตรทรัมเป็ ตเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าทองเหลืองที่มีท่อแตรแบบกลวงยาวเท่ากันส่ วนปากเป่ าเป็ นรู ป
ถ้วยมีลูกสู บสามอันเสี ยงทรัมเป็ ตมีลกั ษณะสดใสและเสี ยดแหลมบีแฟล็ตทรัมเป็ ตเป็ นเครื่ องดนตรี ที่ตอ้ งย้ายคีย ์
Tuning ( จูนนิ่ง ) การตั้งเสี ยง , เทียบเสี ยงเครื่ องดนตรี
Tuba ( ทูบา )
แตรทูบาเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าทองเหลืองที่มีระดับเสี ยงต่าที่สุด
1. ท่อแตรของทูบามีลกั ษณะบานออก ส่ วนปากเป่ าเป็ นรู ปถ้วย มีลูกสู บ 3 - 4 ท่อ และเป็ นเครื่ อง ดนตรี ที่สืบทอด
มาจากเครื่ องดนตรี ประเภทเป่ าเสี ยงเบสแบบโบราณชนิดหนึ่งที่ชื่อ เชอร์เพนท์ (serpent) ทูบาสร้างในแบบ
อีแฟล็ตและดับเบิล้ บีแฟล็ต
2. แตรซูซาโฟน ( เคยมีผเู ้ รี ยกว่าเบสสะพาย ) คือทูบาที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา ( ตั้งชื่อเป็ นเกียรติยศแก่ จอห์น
ฟิ ลิปส์ ซูซา นักประพันธ์เพลงชาวอเมริ กนั ) โดยสวมพาดบ่าข้างซ้ายได้ ในขณะที่เล่น ลาโพงแตร ซึ่งมีขนาด
ใหญ่สามารถถอดเก็บไว้ในกล่องเพื่อการนาพาไปไหนมาไหนได้
TubuIar bells ( ทูบิวลาร์ เบลล์ )
เครื่ องดนตรี ประเภทตีประกอบจังหวะที่มีระดับเสี ยงแน่นอนลักษณะเป็ นท่อสั้น - ยาว ตามระดับเสี ยงมักใช้ตี
ประกอบกับวงโยธวาทิตขณะนัง่ บรรเลง

Tune ( ทูน ) เพลง , ทานองเพลง


Tutti (It. ตูตติ ) ทั้งหมด
1. ส่ วนในบทประพันธ์เพลงที่เครื่ องดนตรี ทุกชิ้นหรื อนักร้องทุกคนต้องแสดง
2. ส่ วนในบทบรรเลงเพลงประเภทคอนแชร์ โต้ที่ทุกคนในวงดนตรี ตอ้ งบรรเลง ยกเว้นผูบ้ รรเลงเดี่ยว
U
Uber (Ger. อูแบร์ ) สนุกสนานร่ าเริ ง
Ubermutig (Ger. อูแบร์ มูติก ) สนุกสนาน , ร่ าเริ ง
Ukulele ( ยูเคเลลี ) เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายของชาวฮาวายจัดอยูใ่ นตระกูลกีตาร์ มีสายเสี ยง 4 สายพร้อม
ขีดแบ่งเสี ยงหรื อเฟรทบนแผงวางนิ้ว
Un, una, uno (It. อุน , อูนา , อูโน ) หนึ่ง
Un peu (Fr. เอิง เปอ ) เล็กน้อย
Una corda (It. อูนาคอร์ ดา ) คีอเพดดัลทาเสี ยงเบา อยูต่ รงส่ วนเท้าเหยียบข้างซ้ายของเปี ยโนมีหน้าที่บงั คับกลไก
ของค้อนเพื่อทาให้เกิดเสี ยงเบา ในสมัยแรก ๆ เพดดัลจะบังคับกลไกทั้งหมดเคลื่อนที่ทาให้คอ้ นตีสายเสี ยงเพียง
เส้นเดียวเท่านั้น แทนที่จะตีสองหรื อสามเส้น (una corda หมายถึงเส้นเดียว ) หลักสาคัญในการเปลี่ยนกลไกการ
ทางานนี้ได้นามาใช้ในแกรนด์เปี ยโนสมัยใหม่ คาย่อ คือ U.C . Tre corde หมายถึง เส้นสามเส้น หรื อไม่ตอ้ งใช้
เพดดัลทาเสี ยงเบานี้
Unison ( ยูนิซัน )
เล่นเสี ยงเดียวกันโดยใช้นกั ดนตรี หรื อนักร้องจานวนหลายคน คาว่า all' unisono หมายถึงให้เล่นแนวเพลง
เดียวกัน แต่สูงขึ้นหนึ่งคู่แปด
Ungefahr (Gr. อุนเกอเฟร์ ) โดยประมาณ
Unruhig ( Ger. อุนรู ฮิก ) เร่ าร้อน , ตื่นเต้น
Up beat ( อัพบีท ) จังหวะที่ไม่เน้นเสี ยงแรกเริ่ มของวลีหรื อบทเพลงมักจะอยูท่ ี่จงั หวะสุ ดท้ายของห้อง ในการ
อานวยเพลงอัพบีทจะบ่งชี้ดว้ ยการเคลื่อนที่ของมือ

V
Va (It. วา ) ดาเนินต่อไป
Valse (Fr. วอลท์ซ ) เพลงวอลท์ซ
Value ( แวลู ) ความยาวของเสี ยง หรื อค่าเวลาของตัวโน้ต
Valve ( วาว )
ลูกสู บที่ใช้ในเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องเป่ าทองเหลืองเมื่อกดลูกสู บนี้ลงไปแล้วจะสามารถผันลมให้เคลื่อนที่
ผ่านเข้าไปในท่อที่ต่อยาวขึ้นทาให้การสั่นสะเทือนของเสี ยงมีความยาวขึ้นนัน่ คือเสี ยงจะต่าลงอีกแตรส่ วนใหญ่
จะต้องติดตั้งลูกสู บนี้จะมีสามอันโดยมาตรฐานทัว่ ไปแต่สาหรับแตรประเภทเสี ยงต่า เช่น บาริ โทน , ยูโฟเนียม
และทูบาบางครั้งก็ใช้สี่อนั ในเครื่ องดนตรี ทองเหลืองส่ วนใหญ่น้ นั ลูกสู บที่หนึ่งจะทาให้เสี ยงต่าลงหนึ่งเสี ยงเต็ม
ลูกสู บที่สองจะทาให้เสี ยงต่าลงครึ่ งเสี ยงส่ วนลูกสู บที่สามจะทาให้เสี ยงต่าลงหนึ่งเสี ยงครึ่ งเมื่อผสมผสานการ
เล่นลูกสู บเหล่านี้เข้าด้วยกันแล้วก็จะทาให้ผบู ้ รรเลงปฏิบตั ิโน้ตโครมาติกภายในพิสัยของเสี ยงได้ตามต้องการ
Vamp ( แวมป์ )
1. ให้ดน้ เพลงแนวคลอประสาน
2. การขึ้นดนตรี ก่อนประมาณสองถึงสี่ หอ้ ง หรื อมากกว่านั้นเพื่อเป็ นการเตรี ยมให้ นักดนตรี หรื อนักร้องแสดง
เดี่ยวได้ ขณะจะเริ่ มเพลงหรื อระหว่างขึ้นบทใหม่ก็ได้
Variation ( แวริเอชั่ น )
คีตลักษณ์ทางดนตรี ชนิดหนึ่ งที่กาหนดให้ทานองเพลงหลักคงไว้เป็ นหัวใจสาคัญแต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงผกผัน
ไป ด้วยวิธีการเปลี่ยนแปลงคียบ์ า้ งเปลี่ยนจานวนจังหวะในการนับบ้างเปลี่ยนจังหวะบ้างเปลี่ยนเสี ยงประสาน
บ้าง เปลี่ยนความเร็ วของจังหวะบ้างหรื อเปลี่ยนอารมณ์เพลงบ้าง
Veloce (It. วิโลเช ) เร็ วอย่างคล่องแคล่วว่องไว
Vif (Fr. วิฟ ) สนุกสนาน , ร่ าเริ ง
Vigoroso (It. วิโกโรโซ ) มีพลังงานพละกาลังกล้า
Viol (It. วิโอล )
เครื่ องดนตรี ตระกูลเครื่ องสายประเภทหนึ่งเล่นด้วยคันชักได้รับความนิยมในระหว่าง ศตวรรษที่ 16 และ 17
ปกติแล้วจะมีสายเสี ยงเส้นบาง ๆ หกเส้น ส่ วนหลังเครื่ องดนตรี แบนราบมีขีดแบ่งเส้นและช่วงไหล่ของเครื่ อง
ดนตรี เอียงลาด ลักษณะเสี ยงที่ได้จะเบาละเอียดอ่อนเครื่ องดนตรี ที่สาคัญในตระกูลนี้ได้แก่เทร็ บเบิ้ลวิโอล , เท
เนอร์วิโอล และ เบสวิโอล
Viola (It. วิโอลา )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายในตระกูลไวโอลินคืออัลโตไวโอลิน , วิโอลามีขนาดใหญ่กว่าไวโอลินเล็กน้อย
และเทียบสายต่าลงมาคู่หา้ เป็ นเครื่ องดนตรี หลักที่ใช้ในวงดนตรี ประเภทออร์ เคสตร้าและวงแชมเบอร์ มิวสิ กมี
ลักษณะเหมือนเสี ยงนาสิ กโน้ตดนตรี สาหรับซอวิโอลานี้ เขียนอยูใ่ นอัลโตเคลฟ
Violin (It. ไวโอลิน )
หมายถึงซอไวโอลินเป็ นเครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายเล่นด้วยคันชักไวโอลินเป็ นเครื่ องดนตรี ในวงดนตรี ออร์
เคสตราที่สาคัญที่สุด ทั้งนี้เพราะมีเสี ยงที่ให้ความรู ้สึกมากมาย
Violoncello (It. วิโอลอนเชลโล )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายที่เล่นด้วยคันชักเรี ยกย่อว่าซอเชลโลมีรูปร่ างเหมือนไวโอลินแต่มีขนาดความยาว
เป็ นสองเท่าของไวโอลินโดยประมาณและมีความหนากว่าเมื่อวัดจากส่ วนหน้าไปยังหลังเครื่ องเล่นด้วยวิธีการ
นัง่ หนีบระหว่างเข่าโดยมีหมุดยึดไว้กบั พื้นเสี ยงจะต่ากว่าไวโอลินมาก และมีลกั ษณะทุม้ ลึก ๆ คันชักซอเชลโลมี
ลักษณะคล้ายกับของไวโอลินแต่มีขนาดสั้นกว่าโน้ตดนตรี ของเชลโลเขียนบันทึกลงในเบสเคลฟแต่บางครั้งก็
เขียนในเทเนอร์ และเทร็ บเบิ้ลเคลฟเมื่อต้องขึ้นเสี ยงสู ง ๆ ทั้งนี้เพื่อเลี่ยงการเขียนเส้นน้อยนัน่ เอง
Virginal ( เวอร์ จินัล )
เครื่ องดนตรี คียบ์ อร์ ดในศตวรรษที่ 16 และ 17 เป็ นฮาร์ ปซิ คอร์ ดขนาดเล็กสายเสี ยงเครื่ องดนตรี ท้ งั หลายตั้งเป็ น
มุมฉากกับคียส์ าหรับกดและใช้เกี่ยวด้วยคันเบ็ดเล็ก ๆ ที่เรี ยกว่า virgulas ซึ่ งชื่อนี้อาจจะเป็ นที่มาของชื่ อเครื่ อง
ดนตรี ก็ได้มีสายเสี ยงหนึ่งเส้นสาหรับโน้ตแต่ละตัวเสี ยงที่ได้เหมือนเสี ยงของคลาวิคอร์ ดคือบางและอ่อนหวาน
เวอร์ จินลั รุ่ นแรก ๆ เล็กจนสามารถวางเล่นบนหน้าตักได้ต่อมาก็ได้มีการต่อขาเครื่ องดนตรี น้ ีปกติมีช่วงเสี ยงสี่ คู่
แปดอาจเขียนชื่อเป็ น
virginal หรือ virginals หมายถึงเวอร์ จินลั หนึ่งเครื่ องนัน่ เอง
Virtuoso ( เวอร์ จุโอโซ ) ผูแ้ สดงที่มีความชานาญทางเทคนิคมาก
Vivace (It. วิวาเช )
1. อย่างมีชีวติ ชีวาสนุกสนาน allegro vivace หมายถึงมีชีวติ ชีวามากกว่าหรื อเร็ วกว่าอัลเลโกร
2. วิวาเชอย่างเดียวหมายถึงมีความเร็ วมากกว่าอัลเลโกรแต่ไม่เร็ วเท่าเปรสโต
Vivo (It. วิโว ) อย่างมีชีวติ ชี วาสนุกสนานร่ าเริ ง
Vla อักษรย่อของคาว่า viola.
Vocal music ( โวคัล มิวสิ ก ) ดนตรี สาหรับการขับร้องเดี่ยวหรื อหมู่
Voce (It. โวเช ), Voice ( วอยซ์ )
1. เสี ยงดนตรี ที่เกิดจากสายเสี ยงในกล่องเสี ยง ( โวคัลคอร์ ด )
2. แนวการปฏิบตั ิในบทประพันธ์เพลงสาหรับเสี ยงร้องหรื อเครื่ องดนตรี เช่น เสี ยงร้องแนวเบส ในบทประพันธ์
เพลงประเภทขับร้องประสานเสี ยง ( คอรัส )
Voice leading( วอยซ์ ลีดดิง ) การนาเสี ยงส่ วนสาคัญที่ครอบคลุมการเคลื่อนที่ของแนวเสี ยงแต่ละแนวในดนตรี
ที่มีแนวทานองหลายแนว
Voix (Fr. วัว ) เสี ยง
Volante (It. โวลันเต ) ด้วยความละเอียดอ่อน , รวดเร็ ว
Volento (It. โวลลันโต ) อย่างรวดเร็ วดัง่ บินไดั
Volta (It. โวลตา ) เวลา

W
Waltz ( วอลท์ซ )
เพลงวอลท์ซเป็ นเพลงเต้นราดั้งเดิมของชาวเยอรมันในจังหวะ k ได้รับความนิยมราวปี ค . ศ . 1800 จากนั้นก็เป็ น
เพลงเต้นรามาตลอดสามารถปรับเปลี่ยนความเร็ วของเพลงได้จากช้าถึงค่อนข้างเร็ ว เพลงวอลท์ซพัฒนามาจาก
เพลงเลนด์เลอร์ ( เพลงเต้นราชาวนาออสเตรี ย ) เป็ นเพลงเต้นราแรก ๆ เพลงหนี่งที่คู่เต้นจะโอบกอดกันเต้นไป
Waltzer (Ger. วอลท์เซอร์ ) เพลงวอลท์ซ
Wehmutig (Ger. เวมูติก ) เศร้า
Wenig (Ger. เวนิก ) เล็กน้อย
Weniger (Ger. เวนิเกอร์ ) น้อยลง
Whole note ( โฮล โน้ต ) โน้ตตัวกลมซี่ งมีค่าเป็ นสี่ เท่าของโน้ตตัวดา
Whole rest ( โฮล เรสท์ )
1. จังหวะที่เงียบเสี ยงนานเท่ากับโน้ตตัวกลม
2. การหยุดเต็มห้องสาหรับเครื่ องหมายกาหนดจังหวะทั้งหลาย ยกเว้นเครื่ องหมายกาหนดจังหวะ n ถ
Whole step ( โฮล สเต็ป ) ขั้น 1 เสี ยง ขั้นคู่ที่ประกอบด้วยขั้นครึ่ งเสี ยง 2 ขั้น
Whole tone scale ( โฮลโทนสเกล )
บันไดเสี ยงโฮลโทน บันไดเสี ยงที่สร้างขึ้นจากตัวโน้ต 6 ตัว และตัวโน้ตแต่ละตัวห่างกันในระยะขั้น 1 เสี ยง
Wie ( Ger. วี ) เหมือนกับ
Wind instrument ( วินด์ อินสตรู เม้นต์ )
เป็ นเครี่ องดนตรี ที่มีเสี ยงดนตรี เกิดจากการปิ ดกั้นแนวการสั่นสะเทือนของลมเครื่ องดนตรี ชนิดนี้มี 2 ประเภท
ใหญ่ ๆ คือ
1. ตระกูลเครื่ องลมทองเหลือง เป็ นเครื่ องดนตรี ที่ทาด้วยทองเหลืองหรื อโลหะอื่น ๆ ได้แก่บาริ โทน , บิวเกิ้ล ,
คอร์ เน็ต , เฟรนช์ฮอร์ น , เมลโลโฟน , ทรอมโบน , ทรัมเป็ ต และทูบา
2. ตระกูลเครื่ องลมไม้เป็ นเครื่ องดนตรี ที่ทาด้วยไม้ ( ถึงแม้วา่ ปั จจุบนั นี้จะทาด้วยโลหะก็ตามได้แก่ บาสซูน ,
คลาริ เน็ต , อิงลิชฮอร์ น , ฟลูท , โอโบ , พิคโคโลทั้งฟลูทและพิคโคโลปั จจุบนั นิยมทาด้วยโลหะแต่ก็ยงั คงจัดไว้
เป็ นพวกเครื่ องลมไม้ ส่ วนออร์ แกนและแอ็คคอเดียน อาจพิจารณาจัดไว้เป็ น พวกเครื่ องลมไม้ก็ได้
Wutend ( Ger. วูเต็น ) โกรธ

X
Xylophone ( ไซโลโฟน )
เครื่ องดนตรี ประเภทตีกระทบที่เราเรี ยกว่า ระนาดฝรั่ง ประกอบด้วยท่อนรางไม้ต่าง ๆ ที่จดั เรี ยงไว้แบบคียบ์ อร์ ด
ของเปี ยโน มีท่อกลวง ( ตัวทากังวาน ) ติดไว้ขา้ งล่างของรางแต่ละรางเพื่อให้เล่นตีดว้ ยไม้ที่มีหวั ทาด้วยวัสดุต่าง
ๆ ไซโลโฟนมีช่วงเสี ยงประมาณสี่ คู่แปด

Yodel ( โยเดล )
แบบการร้องเพลงชนิดหนึ่งที่ไม่มีคาร้อง ( ร้องแบบโห่ ) นิยมกันในหมู่ชาวเขาในประเทศ สวิตเซอร์ แลนด์ และ
ออสเตรี ย ลักษณะของเพลงคือเปลี่ยนเสี ยงจากเสี ยงต่าในช่วงอกไปยังเสี ยงฟอลเซทโต (faIsetto : เสี ยงที่ร้องดัด
ให้สูงขึ้นกว่าเสี ยงร้องตามปกติ ) อย่างรวดเร็ วและสลับไปมา

Z
Zart (Ger. ซาร์ท ) นุ่มนวล
Zeitmass (Ger. ซายท์มาส ) อัตราความเร็ ว จังหวะ
Ziemlich (Ger. ซีมลิคช์ ) อย่างปานกลาง
Zither ( ซิ - เทอร์ )
เครื่ องดนตรี ประเภทเครื่ องสายซิ เทอร์ ประกอบด้วยกล่องไม้ที่ทาเป็ นห้องเสี ยงให้สายเสี ยงจานวน 27 ถึง 45 เส้น
ขึงพาดไว้และมีสายเสี ยงจานวนสี่ ถึงห้าเส้นขึงพาดบนแผงวางนิ้วซึ่ งจะเล่นด้วยการดีด โดยใช้แหวนโลหะ (
เพลคทรัม ) ที่สวมอยูท่ ี่นิ้วหัวแม่มือข้างขวาสายเสี ยงอื่น ๆ ก็ถูกดีดด้วยนิ้วมือที่เหลือโดยจัดให้เป็ นแนวคลอ
ประกอบเครื่ องดนตรี ซิเทอร์ ได้รับความนิยมมากในแถบบาวาเรี ยและประเทศออสเตรี ย
Zogern (Gr. โซแจร์นด์ ) ช้าลงทีละน้อย
Zuruckhaltend (Ger. ซูรุคคัลเทน ) ช้าลง

You might also like