You are on page 1of 114

โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 1

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ทําไมตองมีสามกกฉบับคนขายชาติ (ตอนที่ 1)

หลังจากประเทศไทยเกิดวิกฤติการณทางเศรษฐกิจครั้งใหญในป 2540 ประเทศไทยไดยอมตนเขาผูกพันและ


รับพันธะที่กําหนดโดยตางชาติหลายประการครอบคลุมทั้งดานนิติบัญญัติ ดานบริหาร และดานตุลาการ เปน
ผลใหมีการแกไขบทกฎหมายและตรากฎหมายขึ้นใหมเปนจํานวนมาก ครอบคลุมถึงดานตาง ๆ ดังกลาว
ขางตน จนมีการกลาวขานวากฎหมายหลายฉบับเปนกฎหมายขายชาติ แมกระทั่งมีการกลาวขานวาการยอมรับ
พันธะผูกพันในลักษณะเชนนี้เปนการกระทําทีข
่ ายชาติ

ในดานการฟนฟูกอบกูเศรษฐกิจของประเทศใหฟนคืนดี ก็ปรากฏวาแทนที่ประเทศไทยจะสามารถดําเนินการ
ไดโดยอิสระเปนตัวของตัวเอง กลับตองถูกบงการโดยทุนตางชาติ ใหกําหนดมาตรการมากหลาย ซึ่งสวนใหญ
ถูกกลาวขานวาเปนไปเพื่อผลประโยชนของตางชาติ เปนไปเพื่อเกื้อกูล อํานวยประโยชนและความสะดวก
ใหแกตา งชาติในการยึดครองเศรษฐกิจของประเทศ

เพียงชั่วระยะเวลา 3 ป ปรากฏวาประเทศไทยมีหนีส ้ ินเพิ่มขึ้นจนตกอยูในสภาพทีม ่ ีหนีส


้ ินลนพนตัว เปนปญหา
ที่กระทบตอระบบงบประมาณแผนดินอยางรุนแรงที่สด ุ เปนประวัติการณ มีความเสียหายเกิดขึ้นในระบบธนาคาร
และสถาบันการเงินมากที่สด ุ เปนประวัติการณ และธนาคารตลอดจนสถาบันการเงินไดถูกตางชาติยด ึ ครอง
ครอบงําเกือบหมดสิ้น นักธุรกิจไทยลมละลาย ตองปดกิจการ และไมสามารถแขงขันไดอีกตอไป เงิน
หมุนเวียนหมดไปจากตลาดขยายตัวลุกลามไปจนถึงชนบท ประชาชน รัฐบาล และประเทศไทย มีรายไดลดลง
ยากจนลง และเกิดความรูส  ึกวากําลังตกเปนทาสของชาติอน ื่ ชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที

ในสภาพเชนนีป ้ ญหาการขายชาติ ปญหาการกอบกูฟนฟูชาติ ปญหาวีรชน และปญหาทรชนจึงเกิดขึน ้ และ


กลายเปนเรื่องที่ทุกฝาย ทุกพื้นที่ใหความสนใจ จึงเกิดแรงบันดาลใจใหเขียนเรื่องยาวสักเรื่องหนึ่ง ที่
สอดคลองกับสภาพการณที่เกิดขึ้น เพื่อเปนบรรณาการทานผูอานหนังสือพิมพผูจด ั การดังนั้น จึงเห็นวาเรื่อง
ยาวที่จะเขียนขึน ้ ควรจะตองเปนเรื่องสามกก ในมุมมองทีส
่ อดคลองกับสภาพการณของประเทศไทย เหตุนี้จึง
ไดใหชื่อเรื่องยาวที่จะเขียนนี้วา "สามกกฉบับคนขายชาติ"

เหตุผลที่นําเอาเรื่องสามกกมาเขียนเปนเรื่องยาวอีกครั้งหนึ่งเนื่องเพราะเรื่องราวในสามกกนัน
้ เปนเรื่องราวใน
ยุคสมัยที่บานเมืองเกิดจลาจลวุนวาย จึงแตกแยกเปนกก เปนเหลา มีการรบราฆาฟนกันรวมรอยป อาณา
ประชาราษฎรไดรับความเดือดรอนทุกหยอมหญา บานเมืองก็เสียหายยอยยับ วีรชนไดกาํ เนิดขึ้นเปนจํานวน
มาก ในขณะทีท ่ รชนก็กําเนิดขึ้นเปนจํานวนมากเชนเดียวกัน

การตอสูกช ู าติ และการขายชาติเปนของคูกัน และดําเนินไปตลอดในเรื่องราวของสามกก บนวิถีทางแหงการ


ตอสูของวีรชนกับทรชน ระหวางการตอสูฟนฟูชาติ กับการขายชาติเปนไปอยางดุเดือด สะทอนถึงศาสตรและ
ศิลปในแทบทุกสาขาทีม ่ วลมนุษยพึงเรียนรู และถูกนํามาใชอยางแหลมคม สามกกฉบับคนขายชาติ ทีจ ่ ะเขียน
ขึ้นนี้ไมไดตั้งใจที่จะเสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรยเอากับผูหนึ่งผูใดในบานเมืองขณะนี้ แตถา หากวา
ตอนใดมีเรื่องราวทีค ่ ลายคลึงหรือใกลเคียงกับสถานการณในชวงตางๆ แลว ผูเขียนก็หาไดมีอํานาจสิทธิขาดที่
จะไปกีดกั้นความนึกคิดของทานผูอานแตประการใดไม จะคิดอานประการใดก็สด ุ แทแตความนึกคิดของแตละ
ทานเถิด

อันเหตุการณทผ ี่ านมาไมวา ในยุคสามกกหรือในยุคใดลวนอาจหมุนเวียนเปลีย ่ นเขามาใหมไดเสมอ เหตุนี้คํา


พังเพยที่วา "กงลอแหงประวัตศ ิ าสตรยอมหมุนกลับทับรอยเดิม" จึงเปนคําพังเพยที่ถูกนํามากลาวขานอยูเสมอ
ถาเปนเชนนั้นก็พึงพิจารณาแตเพียงวาเหตุการณเกิดขึ้นคลายคลึงกัน แตการที่จะปรับเปรียบมาเทียบเคียงให
เสมอกันยอมไมมีวันทีจ ่ ะเปนไปได

เหตุนี้ในการดําเนินเรื่องจักไมพยายามทีจ
่ ะดัดแปลงเพื่อใหเรื่องราวกลับกลายเปนเชนปจจุบัน และจักไมเอา
ตัวบุคคลในปจจุบันไปปรับเปรียบเทียบเขากับตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งในเรื่องสามกก เพราะหากทําเชนนัน ้ ก็ไม
ตางอะไรกับการตัดตีนใหเขากับเกือก เพราะนอกจากจะเขากันไมไดแลว มีแตจะเจ็บตัวเปลา

สามกกเปนวรรณคดีมีชื่อเสียงที่แปลจากภาษาจีน ตั้งแตยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลก
มหาราช และเปนตนแบบของการแปลเรื่องจีนมาเปนวรรณคดีไทยอีกหลายเรื่องในกาลตอมา ไมเพียงแตจะ
ถูกแปลเปนภาษาไทยเทานั้น สามกกยังจัดวาเปนหนังสือดีที่สด
ุ เลมหนึ่งของโลก ไดถูกแปลเปนภาษาตาง ๆ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 2

มากมาย และมียอดพิมพมากที่สด
ุ เลมหนึ่งของโลก วากันวาจะเปนรองก็แตคัมภีรไบเบิล และตําราพิชัย
สงครามของซุนหวูเทานั้น

การแปลของแตละภาษายอมเปนธรรมดาที่จะมีสํานวนและโวหารที่ตางกันไป โดยทีต่ นฉบับของจีนนั้นมี


ทวงทํานองหนักหนวงลึกซึ้ง ในขณะทีฉ ่ บับแปลของบริวท ิ เทเลอรคอนขางจะตะกุกตะกัก แบบฝรั่ง สวนของ
ญี่ปุนนั้นอาจจะเปนเพราะสํานวนภาษาคลายกับจีน ดังนั้นจึงมีลีลาทํานองลึกซึ้งดุจกัน สวนการแปลเปน
ภาษาไทย อํานวยการแปลโดยบุคคลสําคัญที่มค ี วามเชีย ่ วชาญอยางสูงทางภาษาในยุคนั้นคือเจาพระยาพระ
คลัง (หน) ดังนั้นสํานวนแปลภาษาไทยจึงกระชับสั้นไดใจความ เปนภาษาความเรียงที่งดงามดวยอรรถะและ
พยัญชนะ มีอป ุ มาอุปไมย ทีส่ อดคลองกับความรูส
 ึกนึกคิดของคนไทย จนกระทรวงศึกษาธิการ สมัยหนึ่งได
นําเอาสามกกตอนโจโฉแตกทัพเรือไปเปน แบบเรียนภาษาไทยแตทวาการแปลภาษาไทยนั้น และในยุคสมัย
ที่การเมืองไทยยังไมสงบเรียบรอยดีนัก จึงมีหลายสิ่งหลายอยางที่ขาดหายไป ทั้ง ๆ ที่เปนเรื่องสําคัญ ทั้งนี้
อาจเปนเพราะหากนํามากลาวไวแลวก็อาจกระทบตอการเมืองในยุคนั้น

เหตุนี้ในการดําเนินเรื่อง "สามกกฉบับคนขายชาติ" จักไดถอ ื เอาฉบับแปลของเจาพระยาพระคลัง (หน) เปน


หลัก แตสวนที่ยังขาดตกอยูก  ็จะไดนําเอาฉบับแปลอื่น ๆ มาประกอบเพื่อใหเกิดความครบถวนอยางหนึ่ง
เพื่อใหเกิดประกายแหงความคิดและเปนทีต ่ งั้ แหงความเขาใจอันจะเปนประโยชนตอความรับรูและการนําไปใช
อีกอยางหนึ่ง

นอกจากฉบับแปลแลวยังมีสามกกฉบับพิเศษอีกหลายฉบับยาขอบบรมครูแหงวรรณกรรมไทยก็ไดเขียนสาม
กกขึ้นฉบับหนึ่งเรียกวาฉบับวณิพก หรือฉบับขอทาน โดยยกเอาตัวบุคคลแตละคนขึ้นมาพรรณนาใน
รายละเอียดดวยภาษาที่งดงามและคมกลา

ในขณะที่บรมครูอีกทานหนึ่งซึง่ นับถือกันวาเปนปราชญแหงชาติไทย คือหมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ได


เขียนสามกกขึน ้ อีกฉบับหนึ่งชือ
่ วาสามกกฉบับนายทุน ซึ่งเปนการแสดงทัศนะความชอบธรรมและความไมชอบ
ธรรม ความดีและความชั่วที่ตรงกันขามกับทัศนะของยาขอบ คือในขณะทีย ่ าขอบยกยองเชิดชูเลาปเปนผูท
 รง
คุณธรรม และกลาวหาประณามโจโฉเปนกบฏทรยศตอแผนดิน หมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ไดเชิดชูโจ
โฉเปนอัครมหาเสนาบดี ที่ภักดีตอแผนดิน ในขณะที่เลาปเปนนักหลอกลวง หลอกเอาขงเบง มาใชแลวสมคบ
กันใชเลหลิ้นลมลวงจนบานเมืองปนปวนไปทัว่

สองทัศนะนี้ขัดแยงกันสิ้นเชิง แตก็เกิดอรรถรสและแงคด ิ ที่เปนประโยชน แกผูอานไมตา งกัน หลังจากนั้นก็ยัง


มีผูแตงสามกกออกมาอีกหลายฉบับ เชนฉบับแปลของคุณวรรณไว พัทธโนทัย สามกกฉบับนักบริหาร และที่
กําลังออกอากาศทางวิทยุอยูในขณะนี้ก็ยังมีสามกกฉบับโหราศาสตร นอกจากนี้แลวก็ยงั มีฉบับเล็กฉบับนอย
อีกมากมาย ไมเพียงแตจะมีผแ ู ตงลักษณะเชนนี้ในประเทศไทยเทานั้น ในประเทศจีนเองหรือในประเทศอืน ่ ๆ ก็
ไดนําเอาสามกกไปแบงซอยยอยและแตงขึ้นในแงมุมตางๆ มากมาย

การทั้งนี้เนื่องจากเรื่องราวทีด ่ าํ เนินไปในสามกกนั้น ไดครอบ คลุมการตางๆ ไวแทบทุกๆ ดาน ไมวา ในเรื่อง


คุณธรรม น้ํามิตร พิชย ั สงคราม การปกครอง การบริหาร การใชคน การทูต การเมือง การทหาร แมกระทั่ง
โหราศาสตร นิมิต และลางตางๆ ตลอดจนธรรมเนียมการปกครองแผนดิน การที่สามกกมีเนื้อหาครอบคลุม
เรื่องราวดานตาง ๆ มากมาย เชนนี้ จึงมีผด ู ด
ั แปลงสามกกออกไปเขียนในแงมุมตาง ๆ และยิ่งเขียนในแงมุม
ตาง ๆ มากขึ้นเทาใดก็ยิ่งแสดงใหเห็นวาสามกกนั้น ไมวาในแงมุมใดมีความลึกซึ้ง และเปนประโยชนตอ
ผูเกี่ยวของไดทั้งสิ้น มีผูกลาววาใครอานสามกกครบสามครั้งจะเปนคนที่คบไมได คํากลาวนี้ไดสะทอนใหเห็น
อยูในตัวเองวาสามกกเปนเรื่องราวของการใชสติปญญาพลิกแพลงกอปรดวยอุบายเลหกลครบครัน

แตขอที่วา อานสามกกครบสามครั้งแลวจะเปนคนทีค ่ บไมไดนั้น ออกจะเปนการมองปญหาดานเดียว เพราะการ


คบไดหรือคบไมได ไมไดขึ้นอยูกับการอานสามกกหรือไม หรือวาจะอานสักกี่ครั้ง หากขึ้นอยูกับคนผูนน
ั้ เอง
คนจํานวนหนึ่งแมไมเคยอานสามกกก็ยังปรากฏวาเปนคนที่คบไมไดก็มีใหเห็นอยูถมไป บางคนอานสามกกนับ
สิบครั้งก็ยังคงเปนคนดีมศี ีลธรรม ก็มีใหเห็นอยูถมไปเหมือนกัน

คนเราจะคบกันไดหรือคบกันไมไดขึ้นอยูกับอุปนิสัยใจคอของคนผูนั้นเองวาเปนคนดี เปนมิตรแท หรือเปน


สหายน้ํามิตรทีต
่ ายแทนกันไดหรือไม หากเปนคนเลว คนเห็นแกได หรือคนทรยศตอมิตร แมไมไดอานสามกก
เลย คนเชนนี้กห็ าควรคบดวยไม

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 3

ในมงคล 38 บทแรกสุด พระผูม  ีพระภาคเจาไดตรัสสอนวาการไมคบคนพาลเปนมงคลสูงสุด ซึ่งสามกกมี


ตัวอยางและเรือ่ งราวมากมายที่แสดงใหเห็นวาคนพาลเปนอยางไร ทีส ่ ําคัญไดแสดงใหเห็นถึงลักษณะและการ
กระทําของคนขายชาติวาทํากันอยางไร เกิดผลอยางไร ทั้งผลที่เกิดขึ้นแกตนเอง แกครอบครัว แกสังคมและ
บานเมือง เรืองวิทยาคมพรอมแลวที่จะบรรณาการทานผูอา นหนังสือพิมพผูจัดการดวย "สามกกฉบับคนขาย
ชาติ" ซึ่งแมวาจะตระหนักดีวามีภูมิความรูย  ังไมถึงขนาดนัก แตดวยใจภักดีที่มุงตอบแทนคุณทานผูอานก็จะใช
ความพยายามอยางเต็มความสามารถ คงมีปญ  หาขอวิตกอยูป
 ระการเดียวที่เรื่องสามกกเปน เรื่องยาว ยอมยาก
ที่จะทําใหเกิดความเราใจ ตรึงใจไปไดตลอด ทั้งตองใชเวลานานนับปกวาจะจบ จึงวิตกวาทานผูอานจะเบื่อ
หนายเสียกอน จึงไดแตหวังวาดวยใจภักดีที่จะสนองคุณทานผูอานอยางหนึ่งดวยวิรย ิ ะอุตสาหะแหงตนอีก
อยางหนึ่ง จักเปนเครื่องคุมกันและกอใหเกิดความเมตตาจากทานผูอานติดตามและสนับสนุนงานชิ้นนี้ไป
จนกวาจะสําเร็จดังประสงค

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

เคาลางกลียค
ุ (ตอนที่ 2)

ยุคสมัยของสามกกเกิดขึ้นตั้งแตปพท ุ ธศักราช 722 เปนตนมา เปนเวลารวมรอยป เบื้องหนาแตจะเกิดยุคสาม


กก แผนดินจีนไดเกิดกลียุครบราฆาฟนกันจนแตกออกเปน 7 หัวเมือง ทั้ง 7 หัวเมืองนี้บางครั้งก็ผูกมิตรกัน
บางครั้งก็ทําสงครามกัน สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไป ประวัตศ ิ าสตรจีนไดเรียกขานยุคนี้วาเปนยุค
"เลียดกก" รายละเอียดมีปรากฏในวรรณคดีไทยเรื่องเลียดกกซึ่งแปลมาจากพงศาวดารเลียดกกของจีนนัน ้ แลว
จนถึงสมัยหนึ่งแควนจิ๋นมีเจาผูป
 กครองชื่อวา "จิ๋นออง" ไดรวบรวมหัวเมืองทั้ง 7 เขาเปนแผนดินเดียวกัน
สถาปนาราชวงศจิ๋นขึ้นปกครองแผนดินจีนแตนั้นมา

ชื่อประเทศที่ถกู รวมเขาเปนหนึ่ง จึงถูกเรียกตามชื่อของแควนจิ๋นวาเปน"ประเทศจีน" ตั้งแตบัดนั้นเปนตนมา จิ๋


นอองเปนผูใฝอํานาจ เห็นวาคําวา "ออง" ยังเปนคําต่ําเสมอเจาเมืองธรรมดา ไมสมกับความชอบของพระองค
ที่สามารถรวบ รวมแควนทั้งปวงเขาเปนแผนดินเดียวกันได จึงใหขุนนางทัง้ ปวงคิดสรรหาสมญานามใหสมกับ
ความชอบของพระองค

เปนธรรมเนียมของขุนนางทุกยุค ทุกสมัยทีม ่ ักประจบผูมีอาํ นาจบรรดาขุนนางในยุคนั้นจึงไดคิดคนสมญานาม


สําหรับจิ๋น อองวา "ฮองเต" ซึ่งหมายถึงความเปนใหญใน 5 ทวีป หรือความยิ่งใหญเหนือแผนดิน ภูเขา แมน้ํา
ความดี และความชั่ว ซึ่งสมญานามนี้เปนที่ตอ  งพระทัยยิ่งนัก ดังนั้น จิ๋นอองจึงไดสถาปนาพระนามาภิไธย ของ
พระองควา "จิน ๋ ซีฮองเต" ความใฝในอํานาจ และความคิดที่จะเปนใหญในจักรวาลเปนแรงวิรย ิ านุภาพภายใน
ตัวของจิ๋นซีฮองเต ประกอบกับเปนคนรูจักใชคน ดังนั้น คนดีมีฝมือในแผนดินจํานวนมากจึงอาสาเขามารับใช
ชาติ แผนดินจีนยุคนั้นจึงยิ่งใหญเกรียงไกร

แตกระนั้นความยิ่งใหญที่มีอยูก็ไมสามารถยับยัง้ ความแกเอาไวได เมื่ออายุลวงวัยมากเขา จิ๋นซีฮองเตก็เกิด


ความคิดกลัวตาย แตไมอยากตาย ดังนั้น จึงไดพยายามแสวงหายาอายุวฒ ั นะ เมื่อความอยากเกิดขึ้น ความโง
ก็ไดเขาครอบงํา พวกแพทยหลวงและแพทยบานตลอดจนนักพรต ตางไดอาสาทํายาอายุวัฒนะ แตในทีส ่ ุดก็
ไมประสบผลสําเร็จ ความแกยงั คงเขาครอบงําจักรพรรดิผูยิ่งใหญอยางไมหยุดยั้ง ทําใหพระองครส ู ึกวาวันเวลา
แหงความตายไดเยื้องกรายเขามาเยือน พระองคใกลเขามาทุกที ในที่สด ุ ทรงตั้งรางวัลเปนจํานวนมหาศาล
ใหแกใครก็ตามที่สามารถแสวงหายาอายุวฒ ั นะมาถวายได

รางวัลจํานวนมหาศาลยอมจูงใจคน ยอมสามารถทําใหคนแกรง กลาไมกลัวผี ไมกลัวฟา ไมกลัวดิน ไมกลัว


บาป และไมกลัวตาย ดังนั้น จึงมีพวกหมอกลุมหนึ่งเห็นวา ขืนอยูไปก็อาจเสี่ยงภัยตอการถูกประหาร จึงอาสา
เดินทางทางเรือไปทางดานตะวันออก เพื่อแสวงหายาอายุวัฒนะ หลังจากเดินทางไปแลวก็ไมกลับมาอีกเลย
กลาวกันวาคณะเดินทางแสวงหายาอายุวฒ ั นะกลุมนี้คือกลุมบรรพบุรุษกลุมแรกของชนชาติญี่ปุน เหตุที่ไม
ยอมรับวาความตายจะมาถึง จิน ๋ ซีฮองเตจึงไมได เตรียมการใด ๆ เพื่อรับมือกับเหตุการณหลังการตายของ
พระองค ดังนัน ้ เมื่อความตายมาถึงกลียค ุ จึงเกิดขึ้นในบานเมือง หลี่ซือ ขุนนางผูมีความชอบตอแผนดินและ
ดํารงตําแหนงอัครมหาเสนาบดีถูกขันทีใชอํานาจของยุวกษัตริยประหารอยางโหด ราย นอกจากนั้นขุนนางผู
ภักดีตอแผนดินก็ถูกบีบคั้นและสังหารอยางโหดรายทารุณ ในที่สด ุ ยุวกษัตริยผูเปนรัชทายาทของจิ๋นซีฮองเตก็
ถูกขันทีสังหารแผนดินอันยิ่งใหญก็ไมสามารถรักษาไวได แมเลือดเนื้อเชื้อไขก็ตองถูกสังหารอยางโหดราย นี่
เปนเพียงตัวอยางหนึ่งของความประมาทที่อยาวาแตปถ ุ ุชนคนธรรมดาสามัญเลย ตอใหเปนฮองเต มีอํานาจ
วาสนาทรัพยสงิ่ ศฤงคารสักเพียงไหน หากตกอยูในความประมาทแลว ทุกสิง่ ก็จะสูญสิ้นไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 4

หลังจากสังหารยุวกษัตริยแลว ขันทีก็ตั้งตนเปนใหญ ใชอํานาจ หยาบชาตออาณาประชาราษฎร จนบานเมือง


เกิดจลาจลขึ้น สมัยนั้นขุนศึกตางๆ ไดยกกองทัพเขาเมืองหลวง ดานหนึ่งอางวาเพื่อฟนฟูพระราชวงศ ชูธง
แหงความจงรักภักดีขึ้นเปนทีร่ วมใจของขุน นางและอาณาประชาราษฎร ในขณะที่อีกดานหนึ่งมีวาระซอนเรน
อยูในใจที่จะยึดอํานาจแผนดินเสียเอง

การรบราฆาฟนเกิดขึ้นอยางกวางขวาง การจลาจลขยายตัวลุกลามไปทั้งแผนดิน กลายเปนสงครามกลางเมือง


ขึ้นมาอีก ครั้งหนึ่งสมัยนั้นมีผต
ู ั้งตนเปนผูกช
ู าติหลายกลุม หลายเหลา แตหลังจากสงครามผานไปนานวันเขา
บางกลุมก็สูญสลายไป บางกลุมก็ไปรวมกับอีกกลุมหนึ่ง ในทีส
่ ุดเหลืออยูเพียงสองกลุม กลุมแรกนํา
โดยฌอปาออง กลุมที่สองนําโดยเลาปง หรือที่เรียกวาฮั่นออง ทั้งสองกลุมนี้ทําสงครามแยงชิงเมืองหลวงกัน
เปนเวลายาวนาน เปดสงครามตอกันถึง 7 ครั้ง และทั้ง 7 ครัง้ นี้ฮั่นอองหรือ เลาปงเปนฝายพายแพ

แตเนื่องดวยเลาปงเปนคนมีความเพียรพยายาม มีจิตใจตอสูแ
 ละทรหดอดทน ทั้งพยายามแสวงหาคนดีมฝ ี มือ
มารวมงาน ในที่สด ุ เลาปงก็ไดขุนนางสองคนมาทําการดวย นั่นคือ "ฮั่นสิน" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญจัดจานทาง
การทหาร และ "เตียวเหลียง" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญ จัดจานทางพิชัยสงครามและการปกครอง

ในสงครามครั้งสุดทาย ฮั่นอองเปนฝายไดรับชัยชนะ โดยฌอปาอองแตกทัพไปติดอยูร ิมน้าํ และฆาตัวตายใน


ที่สด
ุ กอนพายแพฌอปาอองไดเผาเมืองหลวงทีใ่ หญโตอัครฐานจนหมดสิ้น กลาวกันวาเพลิงไหม
พระบรมมหาราชวัง ติดตอกันเปนเวลาถึง 7 วัน 7 คืน ฮัน ่ อองหรือเลาปงไดรับชัยชนะแลว จึงไดสถาปนา
ราชวงศฮั่นขึ้น เหลาขุนนางไดถวายพระสมัญญาแกพระองคทานวา "พระเจาฮั่นโกโจ" จัดเปนปฐมกษัตริย
แหงราชวงศฮั่น

สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไปเชนนี้ เจาพระยา พระคลัง (หน) จึงกลาวไวในสามกกดวยโวหารวา


"เดิมแผนดินเมืองจีน ทั้งปวงนัน
้ เปนสุขมาชานานแลวก็เปนศึก ครั้นศึกสงบแลวก็เปนสุข"

พระเจาฮั่นโกโจและพระราชวงศไดครองราชยสมบัติตอ ๆ มา ถึง 12 องค ขุนนางชื่อ "อองมัง" จึงชิงราช


สมบัตติ ั้งตนขึ้นเปนเจาครองแผนดินอยูถึง 18 ป ก็มีเชื้อพระวงศของพระเจาฮั่นโกโจชื่อ "ฮั่นกองบู" ชิงราช
สมบัติกลับคืนได เสวยราชยสบ ื เชื้อพระวงศตอ
 มาอีก 12 องค จึงเปนอันสิ้นสุดราชวงศฮั่น

ฮองเตองคที่สามกอนสิ้นราชวงศฮั่นทรงพระนามวา "ฮั่นเต" คงจะเปนหมัน จึงไมมีพระราชบุตรสืบสันตติวงศ


แตแทนที่จะยกเอาเชื้อพระวงศผูมส ี ติปญ
 ญาคนหนึ่งคนใดขึน
้ เปนมหาอุปราช เพื่อเตรียมสืบราชวงศตอไป
กลับไป ขอลูกชาวบานมาเลีย ้ ง ตั้งเปนพระราชบุตร แลวโปรดใหขันทีเลี้ยงดูมาแตนอย ตอมาทรงสถาปนาเปน
ที่รช
ั ทายาท ดังนั้นเลนเต จึงไมใชเชื้อพระราชวงศฮั่น เปนลูกกาฝาก หาก จะกลาวถึงทีส ่ ุดแลวก็ยอมกลาวได
วา ราชวงศฮน ั่ ไดหมดสิ้นไปตั้งแตยุคสมัยของพระเจาฮั่นเตแลว ราชบัลลังกหลังจากนั้นตกไดแกคนแซอื่น
การกระทําผิดธรรมเนียมประเพณีในการปกครองแผนดินของ ฮั่นเต คือเหตุสําคัญทีท ่ ําใหราชวงศฮั่นดับสูญ
และราชบัลลังกตกเปนสิทธิแกคนอื่น นี่คือทัณฑจากสวรรคของการทีท ่ ําผิดธรรมเนียม ประเพณี ถาจะกลาว
โดยสํานวนไทยก็กลาวไดวาเปนความผิดของ "คนที่เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม"

เลนเตลูกชาวบาน เมื่อไดดิบไดดีเปนรัชทายาทก็ถือตัววาเปนเชื้อพระวงศฮั่นไปดวย ครั้นไดเสวยราชยทรง


พระนามวา "พระเจาเลนเต"แตสันดานชาติเชื้อที่มิใชเผาวงศกษัตริย และอัธยาศัยทีถ่ ูกสรางสม มาจากการ
เลี้ยงดูของขันทียังคงติดตัวมาจึงกําเริบขึ้น สามกกไดกลาวความประพฤติของพระเจาเลนเตวา "มิไดตงั้ อยูใน
โบราณราชประเพณี แลมิไดคบหาคนสัตยธรรม เชื่อถือแตคนอันเปนอาสัตย ประพฤติแตตามอําเภอใจแหง
พระองค เสียราชประเพณีไป"

เมื่อ เลนเต เสวยราชยแลว ไดอาศัยขุนนางผูใหญสองคนคอย ค้ําจุนราชบัลลังก คนหนึ่งชื่อเตาบูเปนแมทัพ


ใหญ อีกคนหนึง่ ชื่อ ตันผวน เปนราชครู สองขุนนางเฒารับราชการในราชวงศฮั่นมาถึงสองแผนดิน เห็นความ
วิปริตผันแปรในบานเมืองที่ทําใหขุนนางขาราชการแลราษฎรตองเดือดรอนหนักวา เกิดจากขันทีเปนเหตุ จึง
วางแผนรวมกันเพื่อจะสังหารกลุมขันทีชั่วเสีย แตแผนการรัว่ ไหล เสียกอน ดังนั้น ทั้งแมทัพใหญเตาบูและ
ราชครูตันผวนพรอมดวยครอบครัวและบริวารจึงกลับเปนฝายถูกกลุมขันทีชวั่ สังหารอยางโหดรายและทารุณ
แตนั้นมากลุม
 ขันทียิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น เหลาขุนนางขาราชการมีความเกรงกลัวอิทธิพลของกลุมขันทีชั่ว
เปนอันมาก

ครั้นพระเจาเลนเตเสวยราชยไดสิบสองป ตรงกับพุทธศักราช 722 เดือนสี่ขึ้นสิบหาค่ํา แตสามกกฉบับสมบูรณ


ระบุวาเปนป พุทธศักราช 710 พระเจาเลนเตประทับ ณ พระที่นั่งอุนตกเตี้ยน เวลาเที่ยงเกิดอาเพศใหญขน
ึ้ ใน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 5

บานเมือง เปนสัญญาณจากสวรรค ที่บงบอกวา แผนดินเกิดกลียุค ณ เวลานั้นเพลาเที่ยงเกิดลมพายุหนัก มีงูสี


เขียวตัวใหญตกลง มาพันอยูที่เทาพระเกาอี้ พระเจาเลนเตตกพระทัย กระทั่งสิ้นพระสติ พักหนึ่งงูใหญ ก็
หายไปแลวเกิดฟารองฝนตกหาใหญ ลูกเห็บขนาดใหญตกบานเรือนราษฎรพังทลาย พระตําหนักถูกพายุ
ลูกเห็บพัดพังหลายตําหนัก จนถึงเที่ยงคืนฝนจึงหยุด หลังจากนั้นอีก 4 ป ณ เดือนยี่ เมืองลกเอี๋ยง ซึ่งเปน
เมืองหลวงเกิดแผนดินไหว น้าํ ทะเลเกิดคลื่นใหญทวมบานเมือง และบานเรือนราษฎรถูกน้าํ พัดพา หายไปเปน
จํานวนมาก ไกตัวเมียขันไดกลายเปนไกตัวผู

ถัดมาในเดือน 6 ขึ้นค่ําหนึ่งเกิดควันเพลิงพุงขึ้นไปสูง 20 วา แลวพุงเขาไปในพระที่นั่งอุน


 ตกเตี้ยน รุงเดือน 7
เกิดรัศมีรุงตกในพระบรมมหาราชวัง ภูเขารันซัวแตกทลายลงนิมิตเหลานี้ ถาวาตามหลักนิมิตลางของไทย ก็
กลาวไดวา เปน ทั้งอุบาทวพระอินทรและอุบาทวพระยมเกิดขึ้นตอเนื่องกันไป เปนลางรายของแผนดินวาจะ
เกิดกลียุค นิมต ิ และลางรายนีเ้ คยปรากฏใหเห็น กอนสิ้นแผนดินกรุงศรีอยุธยาหลายประการ เชนมีฟา ผาลงตรง
ระเบียงพระบรมมหาราชวัง และไฟไหมลุกลามไปหลายแหง, ฝูงอีกาจับกลุมกันจิกตีจนบาดเจ็บลมตาย, หลวง
พอมงคลบพิตรมีน้ําพระเนตรไหล, อีกาใหญบินเอาอกเขาเสียบกับตรีศล ู พระบรมมหาราชวัง, น้ําในแมน้ําเปนสี
แดงดังเลือด, เสียงใบไมเหมือนเสียงคนร่ําไหระงมเมือง, ไกตัวเมียขันไดกลายเปนตัวผู ดาวจระเขดวงที่เปน
ตําแหนงของพระมหากษัตริยส  ีแดงเศราหมอง และริบหรีค ่ ลายกับจะดับสูญ

นิมิตและลางลักษณะนี้ถือวา เปนนิมิตและลางรายที่จะเกิดกลียุคขึ้นในบานเมืองนับเปนอาเพศที่มผ
ี ลกระทบ
ตอบานเมือง กระทบตอผูมีอาํ นาจปกครองบานเมืองและราษฎรเปนสวนรวม อาเพศอันเกิดจากนิมิตและลาง
แมเปนสิ่งที่ไรศาสตรใดไป พิสจ
ู นวาเกิดขึ้นไดอยางไร แตความเชื่อของคนหลายชาติ หลายภาษาสืบทอดมา
นับพันป ยังคงเหนียวแนนแมกระทั่งในบานเมืองของเราในทุกวันนี้อา! เคาลางแหงกลียุคไดปกคลุมเหนือ
แผนดินจีนอีกครั้งหนึ่งแลว

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ยุคขันทีกินเมือง (ตอนที่ 3)

นิมิตและลางจากสวรรคที่เกิดขึน ้ อยางตอเนื่อง ไดกอใหเกิดความประหวั่นพรั่นพรึงในหมูอ  าณาประชาราษฎร


พระเจาเลนเตเองก็ทรงสังเกตเห็นปรากฏการณที่ผด ิ ปกติ จึงทรงตรัสถามขึ้นในที่ประชุมเหลาขุนนางวา "นิมิต
วิปริตดั่งนี้จะดีรา ยประการใด" ปรากฏวาไมมีใครยอมตอบวา "นิมิตวิปริต" นั้น วาจะดีรา ยและหมายความวา
ประการใด เหลาขุนนางตางนิง่ เงียบเปนเปาสาก และอาการนิ่งเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนี้ควรจะตอง
ถือวาเปน "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นในราชสํานัก เชนเดียวกับ "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นแตธรรมชาติ เพราะเหลาขุน
นางทั้งปวงนั้นยอมมีวิสย ั ที่ชอบเพ็ดทูล และมักจะแขงแยงกันเพ็ดทูลเพื่อหาความดีความชอบ และเพื่อแสดง
ภูมิรูแหงตนใหเปนที่ประจักษ

หลังพระเจาเลนเตเสด็จขึ้นแลว ก็มีขุนนางชื่อ "ยีหลง" ทําหนังสือลับกราบทูลพระเจาเลนเตวา "เหตุทงั้ ปวงนี้


เพราะขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา จึงเกิดนิมิตใหพระองคปรากฏ" การทีย
่ ีหลงตองทําเปนหนังสือลับ
ประกอบกับอาการเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนั้น เปนอาการที่บงบอกวาคนรอบขางของพระเจาเลนเต
ซึ่งก็คือขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา "คิดกันกระทําการหยาบชาตางๆ" และควบคุมราชสํานักไวไดโดย
สิ้นเชิง และเปนที่รูกันโดยทั่วไป

ในเหลาขุนนางอันขันทีนั้น คือคนใชของพระเจาแผนดิน หากยามใดที่พระเจาแผนดินเขมแข็ง ขันทีก็มีฐานะ


เปนคนรับใช แตยามใดที่พระเจาแผนดินออนแอเหลวไหล ขันทีก็จะมีฐานะเปนคนใชพระเจาแผนดิน คือใชให
พระเจาแผนดินทําอะไรไดตามใจชอบ ขันทีนน ั้ ไมใชกะเทยเหมือนกับที่เห็นในภาพยนตร แตเปนชาย ซึง่ ถูก
ตัดองคชาติไมใหสืบเผาพันธุ และสิ้นความรูส ึกทางเพศอยางสิ้นเชิง เหตุทั้งนี้เนื่องจากขันทีสามารถ
เขานอกออกในไดทั้งฝายหนาและฝายใน โดยที่ฝา ยในนั้นเต็มไปดวยพระสนม นางกํานัล เหตุนี้เพื่อปองกัน
ไมใหขันทียุงเกี่ยวในทางเพศกับพระสนม นางกํานัล จึง มีกฎใหตองตัดองคชาติของขันทีเสียกอนจึงจะรับเขา
บรรจุในตําแหนงขันทีได

เหตุที่มผ
ี ย
ู อมถูกตัดองคชาติเพื่อรับราชการเปนขันทีก็เพราะขันทีนั้นอยูใ กลชิดพระเจาแผนดิน ซึ่งเปนศูนย
แหงอํานาจรัฐ เปนบอเกิดแหงอํานาจวาสนา ทรัพยสมบัติและหนาตา ดังนั้น จึงมีพอแมของคนจํานวนมากเอา
ลูกชายไปขายเปนขันทีเพื่อหวังลาภยศในเบื้องหนา ชายจํานวนมากก็ยอมตัวถูกตัดองคชาติเปนขันที เพื่อหวัง
อํานาจวาสนาอยางหนึ่ง และหวังรายไดไปสงเสียใหกับครอบ ครัวอีกอยางหนึ่ง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 6

แตคนเรานั้นมีปกติติดยึดอยูใ นเรื่องกิน กาม เกียรติ ดังนั้นเมื่อตัดความตองการหรือความสามารถในเรื่องกาม


ออกไปเสียแลว ความติดยึดในเรื่องกินและเกียรติ ซึ่งก็คอ ื เรื่องของอํานาจและวาสนาก็ยิ่งมีมากขึ้นผิดคน
ธรรมดา ดวยเหตุนี้ขันทีทั้งปวงจึงเปนคนทีม ่ ค
ี วามตองการในเรื่องอํานาจ วาสนามากเปนพิเศษผิดวิสย ั มนุษย
ทั่วไป จนอาจกลาวไดวาเปนคนวิปริตจําพวกหนึ่งที่พรอมจะทําทุกสิ่งทุกอยางเพื่อใหไดมาซึ่งอํานาจวาสนา

มองในแงนี้ก็จะเห็นไดชัดวา การที่พระเจาแผนดินหรือฮองเต มีชีวิตอยูทา มกลางฝูงคนวิปริตเหลานี้ จะมีความ


เปนปกติเหมือนมนุษยทวั่ ไปยอมไมได ยอมมีสิ่งวิปริตผิดปกติอาบเอิบพระองคอยูเปนเนืองนิจ เพื่อแสวงหา
ความดีในหนาที่ และความชอบในทางสวนตัว ขันทีจึงพรอมที่จะทําทุกอยางเพื่อฮองเต และยอมใหฮอ  งเตทํา
ทุกอยางเพื่อความพึงพอใจสูงสุด

ดังนั้นขาวคราววิปริตในทางเพศ จึงคลาคล่ําอยูใ นราชสํานักของจีนตลอดระยะเวลาอันยาวนานของ


ประวัตศิ าสตร เพราะฮองเตมีเมียมาก ก็ยอมมีลูกมากตามไปดวย ลูกของฮองเตจะถูกเลีย ้ งดูโดยขันที หรือพระ
สนมนางกํานัล ลูกคนใดถูกเลีย ้ งดูโดยขันที ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสย ั ใจคอใหวิปริตแปรปรวน ไปดวย ลูกคน
ใดถูกเลีย ้ งดูโดยพระสนมนางกํานัล ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสัยใจคอใหเอนเอียงไปในทางของอิสตรีมากกวา
ปกติ ซึ่งไมวาจะเปนไปในทางใด ลูกของฮองเตซึ่งคนหนึง่ ยอมเปนรัชทายาทก็ตองมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนไป
ในทางวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนบางก็แตเพียงบางคนเทานั้น ที่ไดรับการเลีย ้ งดูอยางดีโดยวิธีเลี้ยงดูของ
มนุษยทวั่ ไป

ดังนั้น ฮองเตของจีนจํานวนมากจึงเปนคนจําพวกวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนอยูบางที่เปนพระเจาแผนดินที่


เขมแข็งเกรียงไกร เหตุนี้อายุรัชกาลของแทบทุกราชวงศในเมืองจีนจึงมักไมคอยยืนยาว พระเจาเลนเตเองก็
ถูกเลี้ยงโดยขันที ดังนั้นเมื่อครองราชยแลว จึงทรงยกยองขันทีคนหนึ่งชื่อ "เตียวเหยียง" เปนบิดาบุญธรรม
และเพราะเหตุที่ถูกเลี้ยงดูโดยขันที ดังนั้น จึงมีความใกลชิดสนิทสนมไวเนื้อเชื่อใจขันทีเปนพิเศษ มีความ
เคารพยําเกรงขันทีเปนพิเศษ

ขันทีที่มค
ี วามใกลชิดสนิทสนมในลักษณะเชนนี้ มีอยูสิบคน ซึ่งสามกกเรียกวา "สิบขันที" คือเทาเจียด, เตียว
ตง, เตียวเหยียง, ฮองสี, ตวนกุย, เหาลํา, เกียนสิด, เหหุย, กกเสง และเชียกง ในจํานวนขันทีสิบคนนี้ไดยก
ยองใหเทาเจียดเปนหัวหนา ในขณะที่เตียวเหยียงเปนคนทีพ ่ ระเจาเลนเตเคารพและยําเกรงเปนพิเศษ ในฐานะ
ที่ทรงยกยองเปนบิดาบุญธรรม

ความจริงชื่อของบุคคลในสามกกมีเปนจํานวนมาก ไมมีความจําเปนที่จะตองจดตองจํา แตการจะไมกลาวถึง


ชื่อขันทีทั้งสิบคนเห็นจะไมได เพราะเปนตัวละครสําคัญที่เปนตนตอทําใหแผนดินเกิดจลาจลวุนวาย แลวแตก
เปนสามกก ทั้งเปนตัวละครที่กอปญหาวุนวายถึงสองรัชกาล ขันทีทั้งสิบคนไดรวมคิด รวมมือกันครอบงํา
อํานาจบริหารของพระเจาเลนเต อยางสิน ้ เชิง กิจการภายในราชสํานักทั้งปวงขึ้นอยู กับความคิดความเห็นของ
ขันทีทั้งสิบคน จึงเปนเหตุใหเหลาขุนนางทั้งปวง เกรงกลัวไมกลากระทําการ หรือเพ็ดทูลสิ่งใดใหเปนทีข
่ ัดใจ
ของขันที

ขุนนางคนใดแสดงอาการใหเห็นวาไมเปนพวก ไมเคารพ หรือ ไมยําเกรง ก็จะถูกสิบขันทีแกลงเพ็ดทูลใหพระ


เจาเลนเตถอดออกจากตําแหนง หรือโยกยายไปทําราชการในถิ่นทุรกันดาร หรืออาจถูกเพ็ดทูลใหลงโทษ
ประหาร หนังสือราชการที่หวั เมืองตาง ๆ รายงานเขามายังราชสํานักจะถูกกลั่นกรองโดยขันทีเสียชั้นหนึง่ กอน
หนังสือออกจากราชสํานักรวมถึงพระบรมราชโองการตางๆ ก็เกิดขึ้นจากความคิดความเห็นของ ขันที จัดทํา
โดยเหลาขันที และจัดสงไปยังหัวเมืองตางๆ โดยคนของขันที เปนหนทางใหลูกนองของขันทีไดคา น้ํารอนน้ํา
ชาอีกทางหนึ่ง

อํานาจวาสนามีถึงเพียงนี้แลวก็ยังไมเปนที่พึงใจ ความหิวกระหายในอํานาจวาสนายิ่งทวีขึ้นอยางไมหยุดยั้ง
กลายเปนวาอํานาจวาสนาที่มม ี ากขึ้นโดยลําดับนั้นไมตางกับฟนทีส
่ ุมทับเขาไปในกองไฟก็ยิ่งทําใหกองไฟลุก
โชติชว งมากขึน
้ ตองการฟนมากขึ้น ยิ่งเติมฟนเขาไปอีก กองไฟก็ยิ่งใหญขึ้น โชติชว งมากขึ้น อุปมาฉันใด
อุปไมยก็ฉันนั้น

ความหิวกระหายในอํานาจของขันทีไดทําใหราษฎรเกิดความเดือดรอนทุกหยอมหญา เหลาขุนนางทั้งในเมือง
หลวงและในหัวเมืองตางตองเดือดรอน และตองตกอยูภ  ายใตอํานาจของขันที การแตงตั้งเจาเมืองไปครอง
เมืองตาง ๆ ขันทีก็จะเรียกเอาสิน บนทุกเมืองไป คนใดไมยอมใหสินบนแกขันทีก็จะถูกกลั่นแกลง ใน ชั้นตน
อาจจะแกลงไมใหไดรับแตงตั้ง หากขัดขวางในชั้นนี้ไมได ในภายหลังก็จะกลั่นแกลงเพ็ดทูลเอาเปนโทษ ซึ่ง
อาจจะเปนโทษปลดออกจากราชการ หรือโทษถึงลงพระราชอาญา หากขอหาหนักก็ตองถูกประหาร เจาเมือง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 7

คนใดยอมอยูในอํานาจ ขันทีก็จะจัดสงคนไปเรียกเก็บสวยทุกป และจํานวนสวยก็จะเพิม ่ ขึ้นทุกปดุจกัน เจา


เมืองบางคนในระยะแรกสามารถทนกับระบบสวยได แตนานไปทนแรงสวย ไมไหวก็ตองลาออก เพราะขืนทน
รับราชการตอไปก็ตองถูกปลด ถูกถอด หรือตองโทษ คาภาษีตางๆ ที่หัวเมืองจัดเก็บสงเขาเมืองหลวง
ตามปกติก็ถูกขันที ชักสวนแบงตั้งแตรอยละ 10 หนักเขาก็ชักสวนแบงถึงรอยละ 50 ทําใหรายไดของแผนดิน
ไมพอเพียงกับรายจาย เปนเหตุใหพระเจาเลนเตตองขึ้นภาษีเอากับราษฎรบอยครั้ง

จึงกลาวไดวาราษฎรในยุคสมัยของพระเจาเลนเตถูกขูดรีดภาษีหนักที่สด
ุ ดานหนึ่งหนักเพราะการฉอราษฎรบัง
หลวงของเหลาขันทีและขุนนางที่เปนพวก ดานหนึ่งหนักเพราะรายจายเพิ่มมากขึ้นเพื่อบํารุงบําเรอความสุข
และเพื่อจัดสวนแบงใหแกขันทีและขุนนาง วากันวางบประมาณแผนดินในสมัยพระเจาเลนเตรั่วไหลไปกวารอย
ละ 30 เทาๆ กับตัวเลขการรัว่ ไหลของงบประมาณแผนดินของรัฐบาลไทยในบางยุค

เมื่อขุนนางขาราชการทั้งในเมืองหลวงและหัวเมืองตองจายเงินคาสวยสินบน และมีความรั่วไหลเกิดขึ้นใน
งบประมาณแผนดินมากมาย เชนนี้ ราษฎรก็ถูกรีดนาทาเรนหนักขึ้นทุกวัน ราษฎรกลายเปนคนยากจนและ
ยากไร ไมมีทที่ าํ กิน และไมมีกน
ิ จนตองปลนชิงวิ่งราวกันทั่วทั้งแผนดิน

หนักเขาขาราชการทั้งในเมืองหลวง และในหัวเมืองตางประพฤติตนเปนโจร ปลนชิงวิ่งราวเสียเองอยางหนึ่ง


เลี้ยงโจรใหปลน ชิงวิ่งราวมาแบงกันอยางหนึ่ง คาของหนีภาษี คาของเถื่อนอยางหนึ่ง และเอาที่หลวง เอา
ประโยชนของหลวงไปทํามาหากิน ไปแสวงหาประโยชนอก ี อยางหนึ่ง คดีความทั้งปวงก็ตัดสินไปตามน้ําหนัก
ของเงินสินบน ขาวถูกกลับเปนดํา ดําถูกกลับเปนขาว ความเดือดรอนจลาจลจึงเกิดขึ้นทัง้ แผนดิน โดยที่ไมมี
ใครกลาพูด กลากราบทูล พระเจาเลนเตเห็นหนังสือลับของยีหลงแลว ก็ทอดพระทัย มิได ตรัสประการใด แต
ขันทีทราบความเขาก็ผูกอาฆาตยีหลง เพราะเห็นวาเปนการกราบทูลที่จะทําใหพวกตนเสียหาย และแสรง
เพ็ดทูลเสียใหมวา กรณี ทั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากฉลองพระองคเกา เพราะทรงมานาน ดังนัน ้ เพื่อความเปนสิริ
มงคลของประเทศและราษฎรจึงตองเปลี่ยนฉลองพระองคใหม พระเจาเลนเต ก็กระทําตามคําแนะนํานั้น

หลังเหตุการณนี้แลวสิบขันทีไดกราบทูลยุยงฮองเตใหปลดยีหลงออกจากราชการไปทําไรไถนา ณ ภูมล ิ ําเนา


เดิม สิบขันทียงิ่ มีอํานาจวาสนามากขึ้นเทาใด ก็ยิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น ในทีส ่ ุดไดกราบทูลใหพระเจาเลนเต
แตงตั้งตัวเองเปน "เซียงสี" หรือเปน"องคมนตรี" ทําหนาที่ใหคําปรึกษาราชการแผน ดินหรือนัยหนึ่งก็คอ ื "คน
ใชฮองเต" แตบางแหงแปลโดยความหมายวาเปนตําแหนงหนาทีผ ่ ส
ู ําเร็จราชการแผนดิน

การที่ขันทีสามารถเวียนวายดํารงอยูในอํานาจทามกลางความขัดแยงและผลประโยชนในราชสํานักไดอยาง
ยาวนาน แมถงึ ขนาดมีบทบาท ครอบงําอํานาจรัฐของฮองเตนั้น มิใชดวยเหตุบังเอิญหรือโชคชวย หากเกิด
จากขันทีมส ี ุดยอดวิชาประจําอาชีพของตนอยูถ  ึงหาวิชา ซึ่งคนปกติทั่วไปไมมีวน
ั ที่จะร่ําเรียนสุดยอดวิชา
เหลานั้นไดอยางครบครัน

หาสุดยอดวิชาขันทีเปนไฉน? หาสุดยอดวิชาขันทีไดแก วิชาวาดวยการพินอบพิเทาและสรางความพอใจสูงสุด


อยางหนึ่ง วิชาวาดวยการสรางความแตกแยกเพื่อแสวงประโยชนหรือเอาตัวรอดอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการฆา
คนซึ่งมีกระบวนทาสุดยอดคือการใชวาจาเปนอาวุธสังหารผูค  นอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการเรียกรับสินบนอยาง
หนึ่ง และวิชาวาดวยการติดสินบนซื้อน้ําใจคนอีกอยางหนึ่ง

รายละเอียดแหงสุดยอดวิชาทัง้ หานี้ มิใชเรือ


่ งในสามกกแตมีใหเห็นการใชวิชาขันทีปรากฏอยูในสามกกอยาง
ลึกซึ้ง จึงกลาวถึงเรื่องนี้ไวแตเพียงนี้

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

โจรโพกผาเหลือง (ตอนที่ 4)

สามกกทุกฉบับที่มีมาในโลกลวนเรียกกลุมโจรโพกผาเหลือง วาเปน "โจร" ทั้งสิ้น ซึ่งเปนการชวยกันเหยียบ


ย่ําซ้ําเติมและทําใหความจริงผันแปรไปจากที่พึงเปน ความจริงโจรโพกผาเหลืองเปนขบวนการกูชาติขบวน
หนึ่งในยุคที่บา นเมืองเปนจลาจล ไมตางกับขบวนการกูชาติของชาวนาในกรณี กบฏเขาเหลียงซาน หรือกบฏ
นักมวย หรือขบวนการกูชาติของพระเจาตากสินแมแตนอย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 8

แตเมื่อขบวนการกูชาตินี้พายแพ ก็ตองถูกขนานนามวาเปนกบฏ และเปนธรรมเนียมการเมืองจีนโบราณที่ตอง


เหยียบย่าํ ซ้ําเติมผูพายแพใหแบนติดดิน ดังนัน
้ ขบวนการกูชาติขบวนนี้จึงถูกเหยียดหยามวาเปนเพียงกลุมโจร
เทานั้น

เรื่องของโจรโพกผาเหลืองเริม ่ ตนขึ้นที่เมืองกิลกกุน ซึ่งเปนดินแดนทางทิศใตของเมืองหลวง ในยุคพระเจา


เลนเต โดยมีชายคนหนึ่งชื่อ "เตียวกก" เปนหมอยาแผนโบราณ ตั้งตนอยูใ น ศีลธรรม มีจิตใจเอื้อเฟอเผื่อแผ
ชอบชวยเหลือราษฎร จึงเปนที่เคารพนับถือของชาวบานในถิ่นนั้นเปนอันดี อยูมาวันหนึง่ เตียวกกไปหาตัวยา
บนภูเขา"พบคนแกคนหนึ่งผิวหนานั้นเหมือนทารก จักษุนั้นเหลือง มือถือไมเทา คนนั้นพาเตียวกกเขาไปในถ้ํา
จึงใหหนังสือตํารา 3 ฉบับชื่อไทแผงเยาสุด แลววาตํารานี้ทา นเอาไปชวยทํานุบํารุงคนทั้งปวงใหอยูเย็นเปนสุข
ถาตัวคิดรายมิซื่อตรงตอแผนดิน ภัยอันตรายจักถึงตัว เตียวกกกราบ ไหวแลวจึงถามวาทานนี้ชื่อใด คนแกนั้น
จึงบอกวาเราเปนเทพยดา บอกแลวก็เปนลมหายไป"

เตียวกกกลับมาบานก็ลงมือศึกษาเลาเรียนตําราทั้ง 3 เลม ปรากฏวาเปนตําราเรียกลม เรียกฝนเลมหนึ่ง, เปน


ตําราผูกพยนต หรือตําราปลุกเสกสิ่งของใหเปนคน หรือเปนสัตวเลมหนึ่ง และตํารารักษาโรคอีกเลมหนึ่ง เตียว
กกศึกษาตําราทั้งสามเลมแลวก็ไดใชวช
ิ ารักษาโรครักษาชาวบาน ซึ่งทัง้ หมดเปนคนยากไร ไมมีเงินคา
รักษาพยาบาล ไมสามารถ ไปหาหมอหลวงหรือแพทยตามรานหมอตางๆ ได ชาวบานจึงพากันมาใหเตียวกก
รักษา ไขเจ็บโรคภัยตางๆ จนเปนที่นับถือศรัทธาของชาวบานทั้งเมืองกิลกกุน ตอมาหาลงกินเมืองกิลกกุน
ชาวเมืองเกิดความไขลมตายลงเปนอันมาก ชาวเมืองกิลกกุนจึงพากันไปหาเตียวกกใหชวยรักษา ความไขจาก
โรคหา เตียวกกไดเขียนยันตตามตําราของเทพยดาแจก ใหชาวเมืองบําบัดความไข ความไขนั้นก็หาย โรคหา
ก็หมดสิ้นไป

ชาวเมืองจึงพากันมาฝากตัวเปนศิษยเตียวกกมากขึ้น ประกอบกับชวงนั้นพวกขุนนาง ขาราชการรีดนาทาเรน


ราษฎรเพื่อเก็บสวยสงใหกับขันที และเพือ่ ความร่ํารวยของตนเอง จนบานเมืองอดอยากยากแคน ทั้ง
ขาราชการ และพวกมาเฟยตางๆไดประพฤติตนเปนโจรปลนชิงวิ่งราวชาวบาน แพรขยายไปทุกตําบล ดังนั้น
ราษฎรจึงยิ่งหันเขามาพึ่งพาเตียวกกมากขึ้น

บรรดาลูกศิษยของ เตียวกก ซึ่งไดรับการอบรมสั่งสอนให ชวยเหลือผูอ  ื่น จึงไดจัดตัง้ กันขึ้นเปนกลุมอาสา


ปองกันตนเอง เปนกองกําลังติดอาวุธของประชาชน ดานหนึ่งปองกันโจรผูร ายที่มาเบียด เบียนปลนชิงวิ่งราว
อีก ดานหนึ่งเพื่อตอสูกับขุนนางและขาราชการที่มากดขี่ขม  เหง ซึ่งสอดคลองกับความเรียกรองตองการของ
ราษฎร ดังนั้น ชาวเมืองจึงไดเขารวมขบวนการอาสาปองกันตนเองมากขึ้นทุกวัน จนขบวนการอาสาปองกัน
ตนเองเติบใหญ และขยายตัวไปยังเมืองตางๆ อีก 7 เมือง รวมเปน 8 เมือง คือเมืองกิลกกุน, เฉงจิ๋ว, อิวจิ๋ว,
ชิวจิ๋ว, เกงจิ๋ว, ยังจิ๋ว, กุนจิ๋ว และอิจิ๋ว ชาวเมืองทั้ง 8 เมืองนี้ นับถือศรัทธาเตียวกก เขียนเอาชื่อเตียวกกไวบูชา
ทุกบานเรือน

บรรดาเจาเมืองทั้ง 8 เมืองดังกลาว เห็นวาการเคลื่อนไหวของขบวนการอาสาปองกันตนเองนี้เปนประโยชนแก


ตัวอยูบาง ตรงที่คอยกีดขวางลูกนองขันทีทม ี่ ารีดสวย จึงทําเปนเอาหูไปนาเอาตาไปไร บางก็กลัวภัยจะมาถึง
ตัวจึงทําเฉยปลอยปละละเลยเหตุการณไปตามสถานการณ ทําใหการเคลื่อนไหว ของขบวนการอาสาปองกัน
ตนเองขยายตัวและเขมแข็งขึ้น เมื่อขบวนการอาสาปองกันตนเองเติบใหญเขมแข็งขึ้น เชนนี้ก็มีความจําเปนที่
จะตองจัดระบบการบริหารเพื่อควบคุมกองกําลังอาสาปองกันตนเอง ดังนัน ้ เตียวกกจึงแตงตั้งใหศิษยที่ไวใจ
เปนหัวหนาขบวนการสาขาเรียกวา "นายบาน" ถึง 30 ตําบล ตําบลใหญมีกําลังติดอาวุธประมาณหมืน ่ เศษ
ตําบลเล็กมีกําลังติดอาวุธ 6-7 พันคน จัดตัง้ กําลังแบบกองทหาร มีธงสําหรับรบศึกทุกตําบล เมื่อมีผูคนมาเขา
รวมเปนจํานวนมาก และจัดตัง้ ขบวนเปน กองทัพฉะนีแ ้ ลว บรรดาลูกศิษยลูกหาของเตียวกกก็ยุยงสงเสริมให
เตียวกกกอบกูฟนฟูชาติบา นเมือง ใหราษฎรไดรมเย็นเปนสุข

เตียวกกฟงแลวยังไมตัดสินใจประการใด แตปรากฏการณที่ไดพบเห็นอยูท  ุกเมื่อเชื่อวันก็คือ การกดขี่ขมเหง


ราษฎรของฝายขุนนางและขาราชการ และการเบียดเบียนปลนชิงวิ่งราวที่ขยายตัว ลุกลามไปอยางกวางขวาง
นั้น ทําใหความคิดเตียวกกโนมไปในทาง ทีเ่ ห็นวา ขอเสนอของลูกศิษยเปนขอเสนอที่เขาทา ที่เปนเชนนี้
เพราะเตียวกกเปนคนมักนอยและสันโดษ มีจต ิ ใจที่ดีงาม ไมไดมีจิตใจมักใหญใฝสูงมาแตตน ทีท ่ ําการมาเปน
เพียงเพื่อชวยเหลือราษฎรที่ไดรับความเดือดรอนทุกขยาก มิไดหวังเอาอํานาจวาสนาเปนเปาหมายแหงชีวต ิ
แตประการใด แตเปนวิสย ั คนที่ทนความเยายวนตออํานาจไดโดยยาก ดังคําพังเพยทีว่ า "อันเสาศิลาแปดศอก
ตอกเปนหลัก เมื่อผลักทุกวันเขาเสาก็ไหว"

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 9

เตียวกกเมื่อถูกลูกศิษยยุยงหนักเขาก็ตกลงใจเห็นดวย จึงตั้งตนเองเปนพระยา เปลี่ยนขบวนการอาสาปองกัน


ตนเองเปนขบวนการกูชาติ แลวสรางขาวลือทัง้ 8 เมืองวา "แผนดินจะผันแปรปรวนไปแลว จะมีผม ู ีบุญมาครอง
แผนดินใหม บานเมืองจะเปนสุข" แลวใหเอาปูนขาวเขียนเปนอักษรไวที่บา นเรือน 2 คําวา"ปชวดบานเมืองจะ
เปนสุข" นี่เปนธรรมดาของอํานาจวาสนาที่เขาครอบงําบุคคลใดแลว ก็จะทําใหบุคคลนัน ้ เปนคนขี้ลืม คือลืม
ความหลัง ลืมเรื่องเกา ลืมมิตรเกา เตียวกกที่ถูกลูกยุและอํานาจวาสนาครอบงําแลวเชนนี้ จึงลืมคําของเทพย
ดาที่เคยเตือนไวตอนมอบตํารา 3 เลมวา "ถาตัวคิดรายมิซื่อตรงตอแผนดิน ภัยอันตรายจะถึงตัว"

แตก็นาเห็นใจเตียวกก เพราะในความคิดและความรับรูข  องเตียวกกนั้นไมไดคิดเห็นวาสิ่งทีต


่ ัวทําเปนเรื่อง
คิดรายมิซื่อตรงตอแผนดิน เพราะเชื่อโดยสนิทใจวาเปนการตัดสินใจดวยความเสียสละเพื่อกอบกูฟนฟูชาติ
ชวยเหลืออาณาประชาราษฎรใหรมเย็นเปนสุข ขจัดทุกขเข็ญใหแผนดิน เมื่อเตรียมการดัง่ นี้แลวก็จําเปนอยูเอง
ที่ตองประสานงานในเมืองหลวงเพื่อทําการใหญสืบไป ดังนัน ้ เตียวกกจึงมอบหมายใหลูกนองชื่อ "มาอวนยี่"
ไปติดสินบนฮองสี ขันที ซึ่งเปนคนหนึ่งในสิบขันที ใหทําการเปนไสศึกในเมืองหลวง

เตียวกกนั้นมีนอ
 งชายอยูส
 องคนชื่อเตียวโปและเตียวเหลียงได รับมอบหมายใหเปนรองหัวหนาขบวนการ
ดังนั้น เมื่อจะทําการกอบกูฟน
 ฟูชาติ เตียวกกจึงสอนนองวา "บัดนี้เราจะทําการใหญเพื่อการกอบกูฟนฟูชาติ
ถาจะคิดอานการสิ่งใดจงเอาใจไพรเปนประมาณ" เตียวกกไดบอกนองทั้งสองคนวาบัดนี้การพรอมแลว ควรจะ
คิดเอาแผนดิน มิฉะนั้นแลวก็จะเสียการไป นองทั้งสองคนก็เห็นดวย จากนั้น จึงเตรียมกําลังรบพรอมอาวุธ
ยุทโธปกรณไวพรอมเพื่อเตรียมเคลื่อนทัพเขายึดเมืองหลวง

หลังจากเตรียมการพรอมแลว เตียวกกจึงใชใหลูกศิษยชื่อ "ตองจิ๋ว" ถือหนังสือลับไปบอกฮองสีขันที เพื่อ


เตรียมการดานราชสํานักใหเกิดจลาจลวุนวายขึ้น สอดคลองกับการศึกจากภายนอก แตตองจิ๋วเปลี่ยนใจกลับ
นําหนังสือลับนัน
้ ไปใหขุนนางกราบทูลพระเจาเลนเต ความศึกจึงแตก เพราะศิษยขายอาจารยผูนี้

พระเจาเลนเตทราบความแลวจึงให "โฮจิ๋น" ผูบัญชาการกรม ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค ซึ่งเปนพี่เมียและ


ไตเตาเขาสูตาํ แหนงดวยอาศัยความรวมมือและประนีประนอมกับสิบขันที นําทหารไปจับมาอวนยี่ ซึ่งเปนคน
เดินสารติดสินบนฮองสีขันทีมาประหาร ในขณะเดียวกันก็ใหจับฮองสีขันที มาพิจารณาโทษพรอมกันดวย แต
เนื่องจากการทัง้ นี้สิบขันทียอมรูเห็นเปนใจอยูด  วย ดังนั้นจึงคิดอานชวยเหลือพรรคพวกใหผอนหนักเปนเบา
เหตุนี้ในขณะทีม ่ าอวนยี่ ซึ่งเปนเพียงคนเดินสารถูกพิจารณา โทษถึงประหาร แตฮองสีขันทีซึ่งเปนคนขายชาติ
และรับสินบนเพื่อการขายชาติกลับถูกลงโทษเพียงจําคุกไวเทานั้น

เมื่อกําจัดไสศึกแลว พระเจาเลนเตจึงโปรดใหมีตราไปทุกหัวเมืองวา ถาผูใดมีฝมือกลาหาญ ใหชวยกันจับโจร


โพกผาเหลือง แลวจะปูนบําเหน็จใหเปนขุนนาง และมีพระบรมราชโองการตั้งให "โลติด" เปนแมทัพ ให
"โลจิ๋น" เปนทีป่ รึกษา ให "ฮองฮูสง" เปน ทัพรอง และให "จูฮี" เปนทัพหนุน แยกขบวนทัพออกเขาตีขบวน
การกูชาติเปนสามดาน ฝายเตียวกกเมื่อทราบขาววาความลับแตก และเมืองหลวงแตงทัพยกมาเปนสามดาน ก็
ประกาศตัวกูชาติโดยเปดเผย ตั้งตัวเองเปน "เจาพระยาสวรรค" ตั้งเตียวโปผูนองเปน "เจาพระยาแผนดิน"
และตั้งเตียวเหลียงผูนองสุดทองเปน "เจาพระยามนุษย" ใหรื้อเกลามวยซึง่ เปนธรรมเนียมการเกลามวยในยุค
นั้น แลวสยายผม เอาผาเหลืองโพกศีรษะเปนสําคัญ

เตียวกกไดชุมนุมพลประกาศกูชาติ และใหกําลังใจปลุกระดมกําลังพลวา "บัดนี้แผนดินจะสาบสูญฉิบหายแลว


ผูมีบุญจะมาเสวยสมบัติใหม คนทั้งปวงจงทําตามคําเทพยดาทํานายเถิด จะไดอยูเย็นเปนสุขพรอมมูลกัน" เมื่อ
ประกาศตัวขบวนการกอบกูชาติอยางเปนทางการแลว เตียวกกก็สั่งใหจด ั กองทัพกําลังพลหาสิบหมื่น อาวุธ
ยุทโธปกรณพรอมสรรพ ตั้งตัวเองเปนแมทพ ั ใหญ เตียวโปและเตียวเหลียงผูนองเปนแมทัพรองและแมทัพ
หนุนโดยลําดับ แลวสั่งใหเคลือ
่ นทัพเขายึดหัวเมืองตางๆ เพื่อเตรียมยึดเมืองหลวงตอไป

กําลังพลหาสิบหมื่นของกองทัพเตียวกกครั้งนี้ แมยัง มิใชกําลังรบทั้งหมดที่มีอยูแตกต


็ องนับวาเปนกองทัพ
ขนาดใหญ คือ มีขนาดใหญกวากําลังพลของกองทัพไทยในปจจุบันนี้ถงึ สองเทา จะเรียกกองทัพเชนนี้วา
"โจร" ไดอยางไร ดังนั้น การเรียกกลุม  โจรโพกผาเหลืองจึงออกจะไมเปนธรรมและไมสอด คลองกับ
ขอเท็จจริง เพราะเปนเรื่องการเหยียบย่ําทางการเมืองดังที่กลาวขางตนนั้นศึกใหญระหวางกองทัพจากเมือง
หลวงที่บัญชาการโดย"โลติด" แมทัพใหญ กับกองทัพของขบวนการกอบกูชาติ ที่บัญชาการ โดย "เตียวกก"
แมทัพใหญ และมีกําลังพลถึงหาแสนคนจึงระเบิดขึ้น กลายเปนสงครามโจรโพกผาเหลืองนับแตบัดนั้น

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 10

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

คําสาบานในสวนทอ (ตอน5)

เมื่อหัวเมืองตางๆ ไดรับตราพระบรมราชโองการของพระเจาเลนเตทวี่ า"ถาผูใ ดมีฝมือกลาหาญ ใหชวยกันจับ


โจรโพกผาเหลือง ไดแลวจะปูนบําเหน็จใหเปนขุนนาง" แลว หัวเมืองตางๆ ก็ไดออกประกาศรับสมัครผูมฝ ี มือ
กลาหาญเขาเปนทหารเพื่อปราบโจรโพกผาเหลืองตอไป

เมืองตุนกวนเปนเมืองหนึ่งที่ไดออกประกาศรับสมัครผูม  ีฝมือกลาหาญตามพระบรมราชโองการนั้น เมื่อประกาศ


รับอาสาสมัครติดตามทีส ่ าธารณะทั่วไปแลว ชาวเมืองก็พากันไปหอมลอมมุงดูประกาศนั้นทั่วทุก แหงใน
จํานวนนั้นมีชายผูห นึ่ง "ลักษณะรูปใหญสมบูรณ สูงประมาณหาศอกเศษ หูยานถึงบา มือยาวถึงเขา หนาขาว
ดังสีหยก สีปากแดงดังชาดแตม จักษุชําเลืองไปเห็นหู" ไดยืนในฝูงจีนมุงดูประกาศดังกลาวดวย ดูไปแลวก็
ถอนใจใหญบรุ ษ ุ นี้นาม "เลาป" เปนบุตรเลาเหง แลเลาเหงนั้นเปนเชื้อพระวงศพระเจาฮั่น เกงเต ซึ่งเปน
กษัตริย ในวงศของพระเจาฮั่นโกโจ เลาปจึงนับเนื่องเปนเชื้อพระวงศ เมื่อนอยมีชื่อวา "เหี้ยนเต็ก" มีสติปญญา
และน้ําใจงาม ความโกรธ ความยินดีมิไดปรากฏออกมาภายนอก มีความเอื้ออารี มีเพื่อนฝูงมาก จิตใจ
กวางขวาง เลาเหงตายเสียตั้งแตเลาปย ังเล็กเหลือแตภรรยา

เลาปมีใจกตัญู เลี้ยงดูมารดามิใหอนาทร แตเปนคนเข็ญ ใจไรทรัพย ทอเสื่อขายเลี้ยงชีวติ เมื่ออายุได 15 ป


ก็ไดสํานักเรียนวิชากับอาจารยมีชื่อในถิ่นนั้น ชื่อวา "เตเหีย
้ น" มีเพื่อนสนิทสองคน คนหนึ่งชื่อ "โลติด" ซึ่ง
ตอมาพระเจาเลนเตโปรดใหเปนแมทัพปราบโจรโพกผาเหลืองดังที่ไดกลาวแลวในตอนกอน สวนอีกคนหนึ่ง
ชื่อวา "กองซุนจาน" ตอมาไดรับราชการเปนขุนนางและเปนเจาเมืองเล็กๆ อีกเมืองหนึ่ง เลาปในวัยเด็กไมคอย
สนใจการศึกษาเลาเรียน เพราะมัวเอาแตคบหาเพื่อนฝูง และประพฤติตนเปนหัวหนามาตัง้ แตอายุยังนอย จะ
ทําการสิ่งใดก็จะไดรับการยกยองจากเพื่อนฝูงใหเปนหัวหนาตลอดมา

บานของเลาปอยูทห
ี่ มูบาน "เลาซองฉุน" ขางบานมีตนหมอน ใหญสูงประมาณ 8 วา มีกิ่งเปนพุมคลายดังฉัตร
ซินแสคนหนึ่งผานมาเห็นภูมท ิ าํ เลที่ตั้งบานของเลาปและตนหมอนนี้แลวทํานายวาบานนีม
้ ผ
ี ูมีบุญอยู ตอไปจะ
ไดเปนใหญในแผนดิน อยูมาวันหนึ่งเลาปเลนอยูกับเพื่อนเด็กๆ ก็ไดกลาวกับเพื่อนๆ วา "วันใดที่กูไดเปนเจา กู
จะเอาตนหมอนนี้ไปทําเศวตฉัตรกั้น"

สามกกฉบับของจีนแปลวาถาวันใดที่เลาปไดเปนกษัตริย จะเอาตนหมอนนีไ
้ ปทําคันรมกั้นรถศึกประจําตัว แต
สามกกฉบับบริวิทเทเลอร แปลวาวันใดที่เลาปไดเปนกษัตริย จะเอาตนหมอนนี้ไปทํางอนรถศึก ที่เปนเชนนี้
เนื่องจากเปนการแปลโดยความหมายเพื่อใหเกิด ความเขาใจตามคติของแตละชาติ โดยคติของจีนนั้นคันรม
กั้นรถศึก เปนสัญลักษณของพระมหากษัตริย ในขณะที่งอนรถศึกของฝรั่งเปนสัญลักษณของขุนศึกผูเรืองนาม
แตสําหรับของไทยเศวตฉัตรคือ เครื่องสูงสําคัญกางกั้นพระราชบัลลังกพระมหากษัตริยาธิราช

เลาอวนกีผูเปนอาไดยินคํากลาวของเลาปที่กลาวกับเพื่อนแลว เห็นประหลาดนักที่เด็กในวัยนั้นจะกลาวความ
ใหญถึงเพียงนี้ จึงเกิด ความเชื่อวาเลาปจะเปนผูมีบุญใหญเปนมั่นคง จึงไดตั้งใจทํานุบํารุงใหเงินทองแกเลาป
เนือง ๆ ลักษณะของตนหมอนที่วานี้จะผิดไปจากพุมของตนหมอนตามปกติ ซึ่งจะมีลักษณะเปนพุมคลายกับ
ตนลําไย แตตน  หมอนที่บานเลาปกลับมีลักษณะคลายกับพุมตนตะขบ คือเปนพุมดังฉัตรเปนชั้น ๆ เหตุนี้เมื่อ
ประกอบเขากับฮวงจุยหรือภูมส ิ ถาปตยบา นของเลาปแลว ซินแสจึงทํานายวาเปนบานของผูมีบุญสถิตอยู

สิ้นเสียงถอนหายใจของเลาปก  ็มีเสียงชายคนหนึ่งดังมาจากขางหลังวา "เปนผูชายไมชว ยทํานุบํารุงแผนดิน


แลว สิมาทอดใจใหญ" เลาปห  ันหลังเหลียวไปดู เห็นผูนั้น "สูงประมาณหาศอก ศีรษะ เหมือนเสือ จักษุกลม
ใหญ คางพองโต เสียงดั่งฟารอง กิริยาดั่งมาควบ เห็นผิดประหลาด" จึงถามวาทานนี้ชื่อใด ชายนั้นตอบวาเรา
ชื่อ "เตียวหุย" บานอยูตุนกวน มีทรัพยสินเงินทอง ไรนาเปนอันมาก มีรานขายสุกร สุรา และอาหาร "เราพอใจ
คบเพื่อนฝูงซึ่งมีสติปญ  ญา" เห็นทานดูประกาศรับอาสาสมัครแลวทอดใจใหญ จึงทักเพื่อจะไดรูความในใจ
เลาปตอบวาเราเปนเชื้อพระวงศ พระเจาฮั่นเกงเต เห็นประกาศขาว โจรโพกผาเหลืองมาทําอันตรายแผนดินจึง
คิดจะอาสาแผนดินไปปราบโจร แตขด ั สนดวยกําลังทรัพยนอย คิดการไมตลอด จึงทอดใจใหญ เตียวหุยจึงวา
เรื่องเพียงเทานีจ
้ ะรอนใจไปไย เพราะใจเราเองนั้นก็ตองการอาสาชาติบานเมืองตรงกัน วาแลวก็เชิญเลาปไป
นั่งดื่มสุราดวยกัน

คิดอานรวมกันเพื่อจะเชิญชาวเมืองที่มีฝม ือกลาหาญมาเขารวมเพื่อไปปราบโจร ในขณะที่เลาป เตียวหุย นั่ง


ดื่มสุราดวยกันนั้น ก็มีชายอีกคนหนึ่งขับเกวียนมาถึงหนารานสุรา เรงใหเจาของรานรีบเอาสุรามาเสิรฟ บอกวา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 11

กินแลวจะรีบไปอาสาแผนดิน เลาป เห็นชายผูนี้มีลักษณะดึง ดูดใจ "สูงประมาณหกศอก หนวดยาวประมาณ


ศอกเศษ หนาแดงดังผลพุทราสุก ปากแดงดังชาดแตม คิ้วดังตัวไหม จักษุยาวดังนกการเวก" จึงเชิญชายผูนั้น
รวมวงดืม่ สุราดวยแลวถามวาทานนี้ชื่อใด ชายนั้นตอบวาเราชือ
่ "กวนอู" บานอยูเมืองไกเหลียง ทีห ่ มูบานของ
เรามีนายทุนทองถิ่นรายกาจขมเหงคนทั้งปวงจึงฆาเสีย แลวหลบหนีทางการไปเที่ยวอยูหลายหัวเมือง บัดนี้ได
ขาวบานเมืองรับอาสาสมัครไปปราบโจร จึงหวังมาอาสาแผนดิน เลาปจึงแนะนําใหกวนอูรจ ู ักกับเตียวหุย แลว
วาเรากับเตียวหุยนั้นมีใจตรงกัน เดือดรอนดวยอาณาประชาราษฎรที่ถูกโจรโพกผาเหลืองทํารายแผนดิน จึงตก
ลงกันวาจะรวมกันไปปราบโจร ดังนั้น เมื่อทานกับเรามีน้ําใจตอบานเมืองตรงกันฉะนีแ ้ ลว จงมารวมมือกันชวย
ชาติ เพื่อใหเกิดความสงบสุขสืบไป

กวนอูไดฟงคําเชิญก็ดีใจ เตียวหุยซึ่งมีฐานะดีกวาเพื่อน และมีรานคาอยูใ กลตลาดจึงกลาววา เราทั้งสามคนมี


ความคิดตองกัน ขอเชิญทานทั้งสองไปที่บาน เพราะที่บานของเรานั้นมีสวนทอ เปนที่สงบสงัด ดอกยี่โถก็บาน
สวยงามเปนอันมาก หากไมรังเกียจเราจะสาบานเปนพี่นองรวมกันตอหนาเทพยดาเพื่อจะไดทําการใหญสบ ื ไป
เลาป กวนอู มีน้ําใจยินดีทจ
ี่ ะรวมสาบานเปนพี่นองรวมกับเตียวหุย จึงพากันไปที่บานของเตียวหุย ดื่มสุรา
อาหารกันเปนที่สาํ ราญใจตลอดคืน

ครั้นรุงขึ้นเตียวหุยจึงสั่งใหพอบานจัดเตรียมพิธีบูชาเทพยดาฟาดินเพื่อสาบานเปนพี่นองรวมกับเลาป และกวน
อู ให "จัดมาขาว กระบือดํา แลธูปเทียนสิง่ ของทั้งปวง" ตั้งการพิธีขึ้นในสวนทอ หลังจากจุดธูปเทียนบูชา
เทพยดาฟาดินแลว ทั้งสามคนจึงไดตั้งสัตยสาบานตอกันเบื้องหนาเทพยดาฟาดินวา "ขาพเจาเลาป กวนอู
เตียวหุย ทั้งสามคนนี้อยูต  างเมือง วันนี้ไดมาพบกัน จะตัง้ สัตยสบถเปนพี่นองรวมทองกัน เปนน้ําใจเดียว
ซื่อสัตยตอกันสืบไปจน วันตาย จะไดชวยทํานุบํารุงแผนดินใหอยูเย็นเปนสุข ถามีภัยอัน-ตรายสิ่งใด แลรบศึก
เสียที ขาพเจามิไดทิ้งกัน จะแกกันกวาจะตายทั้งสาม แลความสัตยนี้ ขาพเจาไดสาบานตอหนาเทพยดาทั้ง
ปวงจงเปนทิพยพยาน ถาสืบไปภายหนาขาพเจาทั้งสามมิไดซื่อตรง ตอกัน ขอใหเทพยดาสังหารผลาญชีวต ิ
ใหประจักษแกตาโลก"

เสร็จพิธรี วมน้ําสาบานเปนพี่นอ
 งเดียวกันแลว ทั้งสามคนจึงนับอายุไลเรียงกันดูปรากฏวาเลาปมีอายุ 25 ป
มากกวาเพื่อน กวนอูมีอายุเปนรอง และเตียวหุยอายุนอยที่สด ุ จึงเรียกเลาปเปนพี่ใหญ กวนอูเปนนองกลาง
และเตียวหุยเปนนองเล็ก เตียวหุยไดจด ั เลี้ยงฉลอง "คําสาบานแหงสวนทอ" โดยเชิญเพื่อนบานและชาย
ฉกรรจจํานวนมากมารวมงานเลี้ยงในเย็นวันนัน ้ และไดเกลี้ยกลอมชาวบานซึ่งกลาหาญเพือ ่ รวมกันไปปราบโจร
ไดถึง 300 คน จัดเตรียมเครื่องศาสตราวุธพรอม

ขณะนั้นมีพอคามาชื่อ "เตียวสิเผง" และ "เลาสง" ตอนมาเขามาในหมูบา น ชาวบานแนะนําใหรูจักกับเลาป


พอคามาทั้งสองก็มีความยินดี สนับสนุนการอาสาปราบโจรของคณะเลาป และกลาววาเราเปนพอคามามา
หลายป บัดนี้ไปมาคาขายไมได เพราะพบโจรเที่ยว ตีชิงวิ่งราว จึงตองนํามากลับเขามาในหมูบาน เลาปจงึ แจง
แกพอคามาทั้งสองวาเราสามคนสาบานเปนพี่นองกัน เพื่อจะทําการใหญใหปรากฏไวในแผนดิน และไดเกลี้ย
กลอมผูกลาหาญไดแลวถึง 300 คน ตั้งใจจะไปปราบโจร เพื่อสรางความสงบสุขสันติ ใหราษฎรไดทํามา
คาขายไดเปนปกติ พอคามาทั้งสองก็มคี วามยินดีแลวกลาววาความคิดของทานตองดวยความคิดของเรา เรา
จะสนับสนุนตามกําลังของเราอยางเต็มที่ วาแลวก็จัดมา 50 ตัว กับเงิน 500 ตําลึง เหล็ก 100 หาบ มอบใหแก
เลาป

เลาป ไดขอบคุณพอคามาทัง้ สองเปนอันมาก เพราะคณะอาสาของ เลาป แมมีอาวุธพรอมแลว แตยังขาดมา


และเงินทุนสําหรับเปนคาใชจา ยในการปราบโจร การสนับสนุนของพอคามาทั้งสองจึงทําใหคณะอาสาของเลา
ปมีความพรอมรบมากขึ้น คณะอาสาของเลาปเห็นวาเลาป กวนอู เตียวหุย มีบุคลิก ลักษณะประหลาดกวาคน
ทั้งปวง สมควรจะมีอาวุธคูกายเปนพิเศษ เลาปเห็นชอบดวยจึงไดจัดใหชางเหล็กฝมือดีมาตีเปนกระบี่สองเลม
สําหรับตัว สวนของกวนอูนั้นใหชางเหล็กตีเปนงาวยาว 11 ศอก หนัก 82 ชั่ง สวนของเตียวหุยใหตีเปนทวน
ยาว 10 ศอก หนัก 85 ชั่ง แลวใหทาํ เครื่องเกราะแลอานมาสําหรับรบครบทั้งสามคน

สามกกฉบับบริวิทเทเลอรไดกลาวถึงงาวของกวนอูวาทําดวยเหล็กพิเศษสีดาํ สนิทดังนิล และมีชื่อเฉพาะวา


"งาวนิลนาคะ" แต ฉบับของไทยไมปรากฏชื่อ ดูน้ําหนักงาว 82 ชั่ง หรือประมาณ 49 กิโลกรัม และน้าํ หนัก
ทวนหนัก 85 ชั่งหรือประมาณ 51 กิโลกรัมแลว ก็เห็นไดชัดวามีน้ําหนักมากเหลือประมาณ หากเทียบกับคน
รูปรางขนาดในปจจุบันแลว คงจะแบกน้ําหนักอาวุธนี้ไมได แตสําหรับกวนอูนั้น สูงถึงหกศอก หรือสองเมตร
ครึ่ง ในขณะทีเ่ ตียวหุยสูงหาศอก หรือสองเมตรเศษ จัดเปนคนรูปรางสูงใหญ ซึ่งแสดงใหเห็นวาแมคนจีน
โบราณจะมีรูปรางขนาดใหญกวาคนในยุคปจจุบัน แตกวนอู เตียวหุย ก็ยงั คงมีรูปรางขนาดใหญกวาคนอื่นใน
ยุคเดียวกัน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 12

ดังนั้น โดยขนาดรูปรางของกวนอู เตียวหุย และขนาดของอาวุธที่ใชแลว จึงไดเปรียบขาศึกเปนอันมาก "คํา


สาบานแหงสวนทอ" เปนคําสาบานทีศ ่ ักดิส
์ ิทธิ์ในประวัติศาสตรของจีน เปนแบบอยางของการคบหาสหายรวม
น้ํามิตร ในทุกยุคทุกสมัย และเปนพันธะสําคัญของสามพี่นองที่ดําเนินไปตลอดเรื่องราวในสามกก แมในที่สด ุ
เพื่อธํารงไวซึ่ง "คําสาบานแหง สวนทอ" เลาปก็ยอมพลีไดแมกระทั่งราชบัลลังก หลังจากเตรียมพรอมแลว
เลาปยังไดเกลีย
้ กลอมชายฉกรรจเขารวม ขบวนการเพิ่มขึ้นอีก ทําใหกองกําลังอาสาของเลาปมีจํานวนเพิ่มขึ้น
เปน 500 คน แลวพากันไปหา "เลาเอี๋ยน" เจาเมืองตุนกวน ซึ่งแซเดียวกับเลาป เพื่ออาสาไปรบกับโจร เลา
เอี๋ยนไดยินวาเปนแซเดียวกันก็ยินดีนัก รับเลาปเปนหลานชายแลวจัดทีพ
่ ักอาศัยใหคณะอาสาของเลาปเพื่อ
เตรียมการไปปราบโจรตอไป

เลาปไดเคลื่อนตัวเขาสูกระแสแหงอํานาจเปนครั้งแรกดวยประการฉะนี้

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

วีรชนสูสมรภูมิ (ตอนที่ 6)

ถาแผนดินเปนปกติ และการทหารเขมแข็ง การสงกองทัพจากเมืองหลวงไปปราบโจรก็เห็นไดชัดวากองทัพ


จากเมืองหลวงจะไดรับชัยชนะเปนแนแท แตเนื่องจากแผนดินของเลนเตออนแอในทุกดาน รวมทั้งดาน
การทหาร ดังนัน้ แมจะสงกองทัพจากเมืองหลวงออกไปปราบโจรถึงสามดาน ก็ยังไมเปนทีไ ่ ววางใจ นอกจาก
ไมไววางใจในกองทัพของตนแลว อาจจะเกิดจากความขี้ขลาดตาขาวกลัวแพโจรก็เปนได ดังนั้นจึงตองมีทอง
ตราไปยังหัวเมืองตางๆ ใหชว ยกันปราบโจรทางหนึ่ง และยังสงกองทัพเสริม เพิ่มเติมตามไปอีก กองทัพที่
สงเสริมตามไปนี้ พระเจาเลนเตโปรดใหโจโฉเปนแมทัพ นํากําลังหาพันยกไปชวยกองทัพทีย ่ กไปกอนหนา
แลว โดยใหเดินทัพตรงไปยังเมืองเองฉวน ซึ่งขณะนั้นถูกกองทัพโจรโพกผาเหลืองที่นําโดยเตียวโปและ
เตียวเหลียงลอมอยู

"โจโฉ" นั้น "สูงประมาณหาศอก จักษุเล็ก หนวดยาว" สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ไดพรรณนา


ประวัติของ โจโฉไววา "เปนบุตรโจโก เมื่อนอยมักพอใจไปเลนปายิงเนื้อ มักพอใจฟงรองรําทําเพลง มีปญญา
ความคิดรวดเร็ว" เปนคนชอบคบหาเพื่อนฝูงมาตั้งแตนอย เพื่อนเลนทั้งปวงยกยองโจโฉเปนหัวหนา จะทําการ
สิ่งใดก็ประพฤติตนเปนหัวหนาคนมาตั้งแตยงั เด็ก

โจโฉเปนคนเจาอุบายมาแตออ  นแตออก และเพราะเหตุที่ซกุ ซนจึงไมเปนที่ถูกอกถูกใจของอาที่ชื่อ "โจเตก"


คอยหาเหตุกลัน่ แกลงอยูเสมอ โจโฉเห็นอากลั่นแกลงก็คิดแกแคน โดยไมคํานึงวา โจเตกนั้นเปนญาติผูใหญ
มีฐานะเปนอาของตน คิดแตจะเอาชนะอาใหจงได

วันหนึ่งโจโฉจึงแกลงลมลงรองไหทุรนทุราย โจเตก นําความไปบอกโจโกผูพี่วาโจโฉมีอน ั เปนไปแลว โจโก


ตกใจวิ่งมาดูปรากฏวา โจโฉยังคงเลนหัวกับเพื่อนเปนปกติ จึงถามความเอากับ โจโฉ ดังนั้นจึงเปนทีของโจโฉ
ไดแกแคนอาโดยบอกกับโจโกผูเปนพอวาอาชังขามาแตนอ
 ย คิดแตจะสาปแชงใหมีอันเปนไป ขายังเลนหัวกับ
เพื่อนเปนปกติ ไมเคยเกิดเรื่องราวใด ๆ อากลั่นแกลงเอาความมาใส หลังจากวันนั้นแลวโจโกก็เชื่อคําโจโฉ
แมอาจะนําความใดมากลาว โจโก ก็ไมไดเชื่อฟงอีกตอไป โจโฉ ก็ยิ่งฮึกเหิมในสติปญญาของตน เพื่อนๆ ก็
สรรเสริญความคิดของโจโฉเปนอันมาก ยกยอวาแผนดินเปนจลาจล ไมมผ ี ูใดมีสติปญญาจะแกไขใหเปนปกติ
ได เห็นแตโจโฉเทานั้นที่มส ี ติปญ
 ญาปราบปรามใหการแผนดินเปนสุข โจโฉไดฟงแลวก็มีความลําพองใน
ความคิดและสติปญญาตนมากขึ้น

ในเมือง "ลําหยง" ซึ่งเปนบานเดิมของ โจโฉ มีหมอดูมช ี ื่อเสียงอยูส


 องคนคนหนึ่งชื่อ "โหเงา" นิยมชมชอบโจ
โฉมาตั้งแตเด็ก ดูบุคลิกลักษณะโจโฉแลวเชือ ่ วาจะเปนใหญในแผนดิน หมอดูคนนี้เปนคนพูดมาก ดังนั้นไมวา
จะไปแหงหนตําบลใดก็ชอบพูดวา "แผนดินเมืองหลวงนั้นจะสูญเสียแลว ซึ่งจะปราบแผนดินใหราบนัน ้ เห็น
แตโจโฉผูเดียว" การทีห ่ มอดูไปเที่ยวพูดทั่วไปวา โจโฉ จะเปนใหญในแผนดิน เทากับวา โจโฉ มีฝาย
ประชาสัมพันธที่มีประสิทธิภาพที่สด
ุ ในยุคนั้น คอยสรางภาพลักษณใหกับตนเองวาจะเปนใหญในแผนดิน ทํา
ใหมผ
ี ูคนมาเปนสมัครพรรคพวกมากขึ้น โดยที่ไมตองจางขานวานซื้อเหมือนที่ทํากันอยูในบานเมืองขณะนี้

หมอดูทม ี่ ีชื่อเสียงอีกคนหนึ่งมีชื่อวา "เขาเฉียว" มีกิตติศัพทเลาขานวาสามารถดูโหงวเฮง พยากรณแมนยําดุจ


เทพยดา โจโฉ อยาก รูอนาคตของตนจึงไปถามหมอดูคนนีว้ าภายหนาโชควาสนาตนจะเปนประการใด หมอดู
ก็นิ่งเฉยเสีย โจโฉถามซ้ําเขาไปอีก หมอดูคนนี้จึงกลาววา "ทานมีปญญามาก จะปองกันแผนดินไดอยู แตมิได

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 13

สัตยซื่อตอแผนดิน จะเปนศัตรูราชสมบัติ" คําทํานายแบบนี้หากเกิดขึ้นกับคนทั่วไป หมอดูคงจะถูกเตะเปน


แนนอน

เพราะการเปนศัตรูราชสมบัติเปนความผิดฐานกบฏ ตองตัดหัวเจ็ดชัว่ โคตร เปนขอหาอันเปนที่รังเกียจ


เดียดฉันทของสังคมโดยทั่วไป ยากที่จะมีผใู ดยอมรับได แตโจโฉฟงคําทํานายแลวกลับหัวเราะชอบใจ โจโฉ
เปนคนใฝอํานาจและใฝสูงมาตัง้ แตเด็ก เมื่อประกอบเขากับความเฉลียวฉลาด เล็งการณไกลแลว ดังนั้นเมื่อ
อายุได 20 ป โจโฉจึงไปสมัครเขารับราชการเปนทหารในเมือง "ลกเอี๋ยง" ซึ่งเปนเมืองหลวง ในตําแหนง
หนาทีท
่ หารลาดตระเวน มีหนาที่ดแู ลความปลอดภัยของวังหลวง

ความตอนนี้เห็นจะขามไปไมได จําเปนที่จะตองชี้ใหเห็นวา การตัดสินใจสมัครเขารับราชการทหาร และรับ


ราชการในเมืองหลวง นั้น ไมใชความคิดของคนบานนอกธรรมดาเทานัน ้ โจโฉแมอายุยังนอยก็เขาใจถึง
ศูนยกลางแหงอํานาจวาอยูท ี่เมืองหลวง ดังนั้น จึงดั้นดนจากเมือง "ลําหยง" มาสมัครเปนทหารในเมืองหลวง
เขาทํานองเปนนายสิบอยูเมืองหลวงดีกวาเปนนายรอย อยูบานนอก ซึ่งตรงกับแนวความคิดทางการคาของเถา
จูกง ปรมาจารย ทางการคาของจีนที่วา "จะทําการคาใหญ ตองอยูเมืองใหญ" และยังสอดคลองกับคติของ
ลัทธิเตาที่วา "เปนปลาใหญตอ  งอยูในน้ําลึก" และเปนไปตามหลักมงคลขอหนึ่งในมงคล 38 ซึ่งพระผูมพ ี ระ
ภาคเจาตรัสวา "การอยูใ นประเทศอันสมควรแกตนเปน มงคลอันสูงสุด" ทั้งการเลือกเอาอาชีพทางทหารเปน
อาชีพหลักของตนเอง ก็แสดงใหเห็นชัดเจนวาแมเยาววย ั อายุเพียง 20 ป โจโฉ ก็เขาใจแลวถึงอํานาจรัฐวา
เกิดจากกระบอกปน ซึ่งเปนบทสรุปของเหมาเจอตงในเวลาเกือบ 2,000 ป หลังจากยุคสมัยของโจโฉ

การสมัครรับราชการทหารในเมืองหลวงของโจโฉ แสดงใหเห็นอยางชัดเจนวาคําทํานายของหมอดูทั้งสองคน
และคํายกยองของเพื่อนฝูงในวัยเด็กมีบทบาทและอิทธิพลตอความคิดอานของโจโฉ และทําใหโจโฉเชื่อวา
อนาคตของตนจะเปนเชนนั้น จึงดําเนิน วิถช ี วี ิตของตนใหสอดคลองกับคําพยากรณ และคํายกยองดังกลาวโจ
โฉเปนคนเด็ดขาดมาตั้งแตเยาววัย จะพูดจะจาก็ฉะฉานชัดเจนเด็ดขาด ใครจะพูดจะจาดวยก็เปนที่พอใจ และ
เกิดความเชื่อ ถือวางใจ เหตุนี้โจโฉจึงเปนทีร่ ัก ที่เกรงใจของคนอื่น เมื่อมาเปนทหารลาดตระเวนรักษาความ
ปลอดภัยของวังหลวงก็เครงครัดตอระเบียบวินัย ไมเห็นแกหนาผูใ ด เพื่อประโยชนในการปฏิบัตห ิ นาที่ โจโฉ
ไดปกรั้วกําหนดเขตหามมิใหคนเดินล้ําเขาไปใกลกําแพงพระราชวัง ตอมาคืนวันหนึ่งขันทีเดินมาผิดเวลา และ
ลวงล้ําเขาไปในเขตหามลวงล้าํ ที่โจโฉกําหนดไว โจโฉก็จับเอามาลงโทษใหทหารโบย ความทราบถึงพระเจา
เลนเตก็พอพระราชหฤทัย เลื่อนตําแหนงใหเปนหัวหนาหนวยลาดตระเวน ครั้นโจรโพกผาเหลืองกรีฑาทัพเขา
ประชิดหัวเมืองตาง ๆ และมีพระบรมราชโองการจัดทัพจากเมืองหลวงออกเปนสามดาน ยกเขาตีกองทัพโจร
แลว ก็ยังไมเปนที่ไววางพระราชหฤทัย พระเจาเลนเต กริ่งวาจะเสียที จึงโปรดให โจโฉ เปนนายทัพ คุมทหาร
หาพันยกไปชวยแมทัพรองคือ "ฮองฮูสง" และ"จูฮี" ที่เมือง "เองฉวน" ซึ่งขณะนั้นกองทัพของขบวนการกูชาติ
สวนที่นําโดยแมทัพรองคือ "เตียวโป" และ "เตียวเหลียง" กําลังลอมเมือง "เองฉวน" อยู

โจโฉเปนเพียงทหารชั้นผูนอยแคเพียงหัวหนาหนวยลาดตระเวน แตกลับไดรับแตงตั้งใหเปนผูคุมกองกําลัง
ทหารหลวงถึงหาพัน ทั้งๆทีร่ าชสํานักยังมีแมทัพนายกองอื่นอีกมากมายเชนนี้ แมสามกกทุกฉบับจะมิไดให
เหตุผลวา เกิดขึ้นไดอยางไร แตหากไมตงั้ ขอสังเกตวาเรือ
่ งนี้อาจเกี่ยวของกับระบบสวยสินบนของสิบขันที
แลวก็ออกจะขาดความเคารพตอวิจารณญาณของทานผูอานสามกกฉบับคนขายชาติเกินไป "โจโฉ" จึงเขาสู
กระแสแหงอํานาจรัฐ โดยอํานาจทางการทหาร เปนครั้งแรก ดวยการนําทัพกําลังพลถึงหาพันเคลื่อนเขาสู
สมรภูมิดว ยประการฉะนี้ ฝายเมือง "ตองฮอ" ซึ่งเปนเมืองในแผนดินของราชวงศฮั่น อยูท  างใตของเมืองหลวง
ใกลกับแมน้ําแยงซี ไดรับหมายตราจากเมืองหลวงใหยกกําลังไป ปราบโจรแลว ไดมอบหมายใหเจาเมือง
เจียนตอง ซึ่งขึน
้ กับเมืองตองฮอจัดกําลังทหารไปทําการตามหมายรับสั่ง

เจาเมืองเจียนตองจึงสั่งให "ซุนเกี๋ยน" จัดตั้งกองกําลังอาสาสมัครไปรวมสมทบกับกองทัพจากเมืองหลวง


ปราบโจรโพกผาเหลืองอัน "ซุนเกี๋ยน" นั้น "กิริยาเหมือนเสือ หนาผากใหญ หนายาว" เปนคนแข็งแรงกลา
หาญ เมื่ออายุ 17 ปไปเมืองเจียนตองกับ บิดาพบโจรปลนราษฎรเอาของมาแบงปนกัน "ซุนเกี๋ยน" ใชความ
กลาหาญบุกเขาไปไลโจรโดยลําพัง ฆาโจรไดคนหนึ่ง อีก 9 คนหนีไปได กิตติศัพทรูถึงเจาเมืองจึงใหเอาตัว
เขาไปรับราชการเปนทหาร

ตอมาเกิดกบฏขึ้นในเมืองเจียนตอง ซึ่งเปนผลตอเนื่องจากความจลาจลในแผนดิน "หือฉง" ตั้งตัวขึ้นเปนเจา


"ซุนเกี๋ยน" ไดเกลี้ยกลอมชาวเมืองใหเขารวม และไปรบกับฝายกบฏ ปราบกบฏไดสําเร็จ ผูรักษาเมืองจึงมี
หนังสือกราบบังคมทูล รายงานความชอบของ "ซุนเกี๋ยน" ตอพระเจาเลนเต แตเรื่องเงียบหายไป ซึ่งอาจเกิด
จากขันทีกักเก็บเรื่องไว เพราะชวงนั้นมีความเปนไปไดวา "ซุนเกี๋ยน" ยังไมเขาใจในระบบสวยสินบนของสิบ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 14

ขันทีจึงไมไดไปติดตอ ขอเปนพวก หรือมิฉะนั้น คุณธรรมในใจตนยังเขมแข็ง จึงไมยอมตนเขาสูร ะบบสวย


สินบนของขันทีก็เปนได

เมื่อไดรับคําสั่งจากเจาเมืองเจียนตองแลว "ซุนเกี๋ยน" จึงจัดระดมพลอาสาสมัครจากชาวเมืองเจียนตอง และ


จากทหารของ "เมืองอวนเซีย" ที่แตกทัพ ไดคนประมาณ 1,500 จึงยกไปปราบโจร "ซุนเกี๋ยน" แหงเมืองตอง
ฮอจึงไดเขาสูสมรภูมิ ปราบโจรโพกผาเหลือง ดวยประการฉะนี้

เปนอันวา "เลาป", "โจโฉ" และ "ซุนเกี๋ยน" ไดเคลื่อนตัวเขา สูส


 มรภูมิปราบโจรโพกผาเหลืองจากทิศทางที่
ตางกัน แตเคลื่อนพลเขาสูส  มรภูมด
ิ วยเปาหมายอยางเดียวกันคือปราบโจรโพกผาเหลือง ซึ่งดานหนึ่ง ก็คือ
การปราบปรามขบวนการกูชาติของประชาชนนั่นเอง

ทําใหนาคิดวาวีรชนทั้งสามนี้หากเกิดมีความคิดที่พองกันวา กองทัพของ "เตียวกก" เปนกองกําลังติดอาวุธ


ของประชาชน ที่มีเจตนารมณเพื่อการกอบกูฟนฟูบานเมืองจากการกอกรรมทําเข็ญของสิบขันที และเขา
รวมกับขบวนการกูชาติ แลวเคลื่อนทัพเขายึด เมืองหลวง จับกุมสิบขันทีประหารเสีย แลวปรับปรุงอํานาจรัฐ
เสียใหมใหคนดีมีฝมือไดมีโอกาสบริหารบานเมือง ดังนี้แลว โฉมหนาของสามกกก็จะเปลี่ยนแปลงไปอยาง
สิ้นเชิง แผนดินก็จะสงบสุข ราชวงศฮั่นก็จะสถิตสถาพรตอไป

แตภายใตระบบราชการและความศักดิส ์ ิทธิ์ของพระบรมราช-โองการอันเปนรูปแบบ แตมีเนื้อหาอยูที่การกดขี่


ขมเหงรังแกราษฎร ทําหยาบชาตอบานเมืองจนเดือดรอนทุกหยอมหญาโดยสิบขันที ปรากฏวาวีรชนทั้งสาม
คือทั้ง เลาป, โจโฉ และซุนเกี๋ยน ไดยอมรับอํานาจที่เปนธรรมโดยรูปแบบ แตเปนอธรรมโดยเนื้อหานั้น
เคลื่อน กําลังเขาสูสมรภูมิเพื่อปราบปรามโจรโพกผาเหลือง ทั้งๆที่วันเวลาขางหนาตางคนตางก็ไดกระทําการ
ที่ไมตางอันใดกับการลุกขึ้นสูข
 องประชาชนในครั้งนี้

สามกกจึงดําเนินกระบวนการของมันตอไป

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สงครามโจรโพกผาเหลืองครั้งที่ 1 (ตอนที่ 7)

ฝายเตียวกกเมือ
่ จัดกองทัพหาสิบหมื่นพรอมแลวก็ประกาศ สงครามกูช  าติ เพื่อปลดปลอยประชาชนใหหลุดพน
จากการกดขี่ขม  เหงรังแก และปลนชิงวิ่งราวของขุนนางและขาราชการ ใหเคลื่อนทัพเขาโจมตีและยึดหัวเมือง
ทั้งแปด ซึ่งราษฎรนับถืออยูแตกอนแลว จากนั้นจึงเคลื่อนพลเขาโจมตีหัวเมืองอื่นๆ อีกหลายหัวเมือง ตัวเตียว
กกเองนั้นคุมพลสิบหาหมื่นเขาโจมตีแลวยึดเมืองจงกง ซึ่งเปนเมืองยุทธศาสตรสําคัญในการบุกเขายึดเมือง
หลวงตอไป

สวนเตียวโปและเตียวเหลียงยกไปตีเมืองเองฉวน ภายในเมืองไดตั้งรับอยางแข็งขัน เตียวโปและเตียวเหลียง


ยึดเมืองไมไดกต ็ ั้งคายรายลอมเมืองไว การเคลื่อนทัพเขาตีและยึดเมืองตางๆ ของขบวนการกูชาติที่บัญชาการ
โดยเตียวกกครัง้ นี้ เปนไปโดยรวดเร็ว เนื่องจากหัวเมือง ทั้งแปดมีราษฎรนิยมนับถือเตียวกกอยูกอนแลวถึง
ขนาดเขียนชื่อเตียวกก บูชาทุกบานเรือน ทัง้ มีความเคียดแคนชิงชังขาราชการและขุนนาง ที่เอาแตกดขีข ่ ม
เหงรังแกรีดนาทาเรนราษฎร ดังนั้นชาวเมืองจึงพากันเขารวมกับฝายกูช
 าติ ซึ่งสามกกทุกฉบับระบุความ
ตรงกันวา ไมมรี าษฎรหลบหนีออกจากเมืองหรือกอความวุนวายขึ้นแตประการใด

ฝายกองทัพจากเมืองหลวงทีบ ่ ัญชาการโดยแมทัพโลติดมี ฮองฮูสงและจูฮีเปนแมทัพรองและแมทัพหนุนได


เคลื่อนทัพมาเปนสามดาน มุง เขาตีจุดยุทธศาสตรคือเมืองจงกงและเมืองเองฉวน เพื่อชวงชิงความไดเปรียบ
ใหไดเสียกอน ตัวโลติดคุมพลหาหมื่นยกไปลอมเมืองจงกงซึ่งเตียวกกไดยด
ึ ไว

สวนฮองฮูสงและจูฮีใหยกไปเมืองเองฉวน ตั้งคายไวนอกเมืองยันทัพเตียวโปและเตียวเหลียงไวฝา ยเทียอวนจี้


ทหารเอกของฝายกูช  าติอีกคนหนึ่ง นําทัพหาหมื่นคนยกเขาตีเมืองตุนกวน เมื่อทัพเทียอวนจี้ เคลื่อนไปถึง
ชายแดนเมืองตุนกวน ความศึกทราบถึงเลาเอี๋ยนเจาเมืองอิวจิ๋ว จึงสั่งใหเจาเจงนํากําลังพลหารอยนายพรอม
เลาป, กวนอู, เตียวหุยไปปราบโจร

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 15

กองทหารของเจาเจง, เลาป, กวนอู, เตียวหุย แมมีกําลังพลนอยกวาทัพของเทียอวนจี้หลายเทานัก แตดวย


ฝมือการรบของกวนอู, เตียวหุยเหนือชั้นกวามาก ดังนั้นเมื่อเกิดปะทะกันขึ้นเทียอวนจี้ จึงถูกกวนอูใชงา วฟน
ขาดเปนสองทอน สวนทหารเอกของเทียอวนจี้ ชื่อเตง เมา ก็ถูกเตียวหุยใชทวนแทงถูกอกตกมาตาย

กองทัพฝายกูชาติของเทียอวนจี้จึงแตกกระจายไปสิ้น เลาปจึงขับทหารไลจับพวกโจรและไดอาวุธไดเปน
จํานวนมากแลวยกทหารกลับเมืองตุนกวนชัยชนะของเลาปครั้งนี้ เปนชัยชนะครั้งแรกของกองทัพฝายเมือง
หลวง เลาเอี๋ยนเจาเมืองรูขาวก็มีความยินดีออกไปรับเลาปถงึ ประตูเมือง กลับเขาเมืองแลวก็ปูนบําเหน็จทหาร
ตามสมควร

เลาปและทหารไดพักเพียงชั่วคืนเดียว รุงขึน้ เจาเมืองเฉงจิ๋วสงมาใชถือหนังสือมาถึงเจาเมืองตุนกวนวา โจร


โพกผาเหลืองยกมาลอมเมืองจึงขอทหารไปชวย เลาเอีย
๋ นจึงสงเจาเจงใหคุมทหารหาพันยกไปเมืองเฉงจิ๋ว
พรอมกับเลาป, กวนอู, เตียวหุย นับเปนการออกรบครั้งที่สองของเลาปในศึกโจรโพกผาเหลือง ความจริงเจา
เจงนั้นไมไดมีบทบาทสําคัญในการศึก แตเลาเอี๋ยนกลับมอบหมายใหคม ุ ทหารไปออกศึกถึงสองครั้งแทนที่จะ
มอบหมายใหเลาปคุมทหารไปเอง ก็เพราะวา ขณะนั้นเลาปยังไมไดเปนขาราชการของทางการ เปนแตไปเขา
กับเลาเอี๋ยนและเลาเอี๋ยนรับไวโดยสวนตัวเทานั้น ดังนั้น ในราชการสงครามจึงตองใหเจาเจงเปนผูคุมทหาร
โดยตําแหนงหนาที่ศึกครั้งนี้ กําลังพลที่เดินทัพไปกับเลาปม  ีมากกวาศึกครัง้ กอนถึงสิบเทาคือ มีจํานวนถึงหา
พันนับเปนการบัญชาการทหารครั้งแรกของเลาปที่มีกําลังพลมากขนาดนี้

เมื่อทัพของเลาปเคลื่อนไปใกลเมืองเฉงจิ๋ว ก็ถูกกองทัพของฝายกูช  าติเขาโจมตี เลาปกําลังนอยกวาก็ถอยมา


ตั้งหลักเลาปเห็นวากําลังรบนอยกวากันมาก จึงกําหนดกลศึกเพื่อเอาชนะ โดยใหกวนอูคุมทหารพันหนึ่งไปซุม
อยูในเหลื่อมเขาทางซาย ใหเตียวหุยคุมทหารพันหนึ่งไปซุมอยูในดงไมทางขางขวา กําหนดวาถาไดยินเสียง
มาลอเมื่อใดใหกวนอู เตียวหุยยกทหารตีกระหนาบเขามา กวนอู เตียวหุยก็ยกทหารไปซุมอยูตามคําสัง่ รุงขึ้น
เลาปกับเจาเจงก็ยกทหารผานไปทางที่กวนอู เตียวหุยซุมอยูนั้น รุดหนาไปรบกับโจรโพกผาเหลือง เมื่อปะทะ
กันแลวเลาป เจาเจงก็แกลงถอยมาทางที่กวนอู เตียวหุยซุมอยูนั้น

ฝายโจรโพกผาเหลืองไดทีก็ไลตามตี มาถึงจุดซุมเลาปกใ็ หทหารตีมาลอขึ้นแลวแปรขบวนทหารจากถอยเปน


หันกลับเขาตี ใน ขณะที่กวนอู เตียวหุย ไดยินสัญญาณแลวก็ยกทหารตีขนาบเขามาโจรโพกผาเหลืองถูกตี
ขนาบเขามาทั้งสามดานก็ตกใจแตกตื่นเสียทีเพราะไมรูกําลังศึก ทัพโจรโพกผาเหลืองจึงแตกพายหนีเขาไป
ใกลกําแพงเมืองเฉงจิ๋ว เจาเมืองเฉงจิ๋วเห็นเปนที่ก็ยกทหารเขาตีมาเปนสี่ดา น ฝายหนีระส่ําระสายลมตายลง
เปนอันมาก จึงแตกหนีไปสิ้นเจาเมืองเฉงจิ๋วจึงปูนบําเหน็จทหารเลาปตามสมควร แตหาไดชักชวนใหเลาปรับ
ราชการหรืออยูช วยเหลือตอไป ดูไปแลวเลาปชางอาภัพนัก เพราะแมจะมีฝมือและผลงานปรากฏแตกลับไมมี
ใครเห็นคุณคา

เสร็จศึกแลวเจาเจงจึงแจงแกเลาปวาจะยกทหารกลับเมืองตุน  กวน เลาปก็เควงเพราะจะกลายเปนคนตกงานอีก


ครั้งหนึ่ง แตโชคยังดีที่เลาปไดขาววาแมทัพโลติดเพื่อนรวมสํานักไดเปนใหญครองตําแหนง แมทพ ั ปราบ
ขบวนการกูชาติและลอมขาศึกไวที่เมืองจงกง จึงขอทหารเจาเจงเพื่อไปชวยแมทัพโลติด เจาเจงตัดใจให
ทหารเลาปไปหารอยคนแลวยกกําลังที่เหลือกลับเมืองตุนกวนเลาป กวนอู เตียวหุยคุมทหารหารอยนายตรงไป
เมืองจงกง แลวชวนกันเขาพบแมทัพโลติดซึ่งเปนแมทัพฝายเมืองหลวง รายงานการศึกที่ผา นมาใหแมทัพโล
ติดรับทราบ แมทัพโลติดไดพบหนาเลาปเพื่อนรวมสํานัก และรับทราบความศึกแลวมีความยินดีเปนอันมาก จึง
ชวนใหเลาป กวนอู เตียวหุย "อยูทําราชการดวยเราเถิด"

เลาป กวนอู เตียวหุยรับคําเชิญของแมทัพโลติดเริ่มชีวิตขาราชการทหารตั้งแตบด ั นัน


้ แตทั้งนี้ความเปน
ขาราชการดังกลาวยังถือไมไดวา เปนทหารหลวงเพราะฮองเตไมไดรับรูด  ว ย ดังนั้นจึงมีฐานะเปนเพียงทหาร
ในสังกัดของแมทัพโลติดเทานั้น แมทัพโลติดเห็นวากําลังพลที่มีอยูส
 ามารถยันทัพของเตียวกก ไดแตใหรส ู ึก
หวงใยกองทัพของฮองฮูสงและจูฮี ซึ่งเปนน้ําใจที่ดีงามของคนระดับแมทัพผูนท ี้ ี่ไมคิดแตจะเอาตัวรอด หรือ
คิดสรางผลงานเฉพาะตน แมหนาศึกที่เผชิญอยูกับความเปนตายยังสูมใี จหวงหาอาทรผูใตบังคับบัญชาและ
การใหญของบานเมือง จึงจัดทหารพันหนึ่งใหเลาปรีบยกไป ชวยฮองฮูสงและจูฮท ี ี่ยันทัพเตียวโป และ
เตียวเหลียงอยูท
 ี่เมืองเองฉวน โดยใหเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืน

ฝายทัพเตียวโปและเตียวเหลียงซึ่งตั้งยันอยูก
 ับทัพของฮองฮูสงและจูฮีนั้น ปะทะกันหลายครั้งยังไมแพชนะกัน
ดังนั้นเตียวโปและเตียวเหลียงจึงวางแผนเผด็จศึก ดวยวิธก ี ารผูกพยนต ใชวิทยาคมที่เตียวกกไดร่ําเรียนมา
จากตําราของเทพยดา เตรียมปลุกเสกหุนฟางใหเปนทหารเพื่อรบกับฮองฮูสง และจูฮี

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 16

แตในขณะที่เตียวโป เตียวเหลียงเตรียมฟางไวเปนจํานวนมากเพื่อผูกเปนหุนนั้น ขาวทราบถึงฮองฮูสงและจูฮี


ที่ถึงแมจะไมรค
ู วามนัยวากองทัพโจรโพกผาเหลืองเตรียมฟางไวจํานวนมากเพื่อการใด แตเห็นชองทางที่จะ
ทําลายกองทัพโจรเสียดวยเพลิง

ในคืนนั้นเพลาสองยามเกิดลมพายุใหญพัดหนัก ฮองฮูสงและจูฮีจึงใหทหารเขาปลนคายเตียวโป เตียวเหลียง


พรอมกัน ใชเพลิงเผาคายโจรโพกผาเหลืองจนแสงเพลิงโชติชวงสวางดุจกลางวัน ทหารเตียวโป เตียวเหลียง
ไมทันรูต ัววาถูกโจมตีก็ตกใจไมทันใสเกราะผูกอานมาก็แตกกระจายหนีเพลิงกันวุนวาย ทหารของฮองฮูสง
และจูฮีจึงไดไลฟนแทงพวกโจรลมตายเปนอันมาก เตียวโป เตียวเหลียงนําทหารทีแ ่ ตกทัพรุดหนีไปทั้งคืน จน
รุงเชาก็ปะทะเขากับกองทหารซึ่งใชธงแดงเปนสัญลักษณทั้งกองทัพ นั่นคือกองทัพของโจโฉซึ่งเปนกองทัพ
เสริมมาจากเมืองหลวง และเคลื่อนมาทางเมืองเองฉวนเพื่อสมทบกับทัพของฮองฮูสง และจูฮี

โจโฉเห็นโจรโพกผาเหลืองแตกทัพมาก็สั่งทหารใหเขาตีสกัดไว สังหารทหารเตียวโป เตียวเหลียงเสียหมื่น


เศษไดมาและศาตราวุธเปนจํานวนมาก แตเตียวโป เตียวเหลียงนั้นนําทหารที่เหลือหนีไปได โจโฉนําชัยชนะ
จากการตีทัพเตียวโป เตียวเหลียงซึ่งแตกทัพ ไปจากเมืองเองฉวนเขารายงานใหฮองฮูสงและจูฮท ี ราบ แลว
ขอนําทหารยกตามไปตีเตียวโป เตียวเหลียงตอไป

ฝายเลาปซึ่งรับคําสั่งแมทัพโลติดใหยกทหารมาเมืองเองฉวน ชวยฮองฮูสงและจูฮีนั้น เมื่อเคลื่อนทัพมาใกล


ถึงเมืองเองฉวนเห็นแสงเพลิงที่ ฮองฮูสงและจูฮีเผาคายของเตียวโป เตียวเหลียงจึงเรงทหารรีบไปชวย พอดี
ทัพเตียวโป เตียวเหลียงแตกพายไป จึงเขาไปรายงานตอฮองฮูสง และจูฮีวาแมทัพโลติดใหยกทหารมาชวย
ฮองฮูสงและจูฮีขอบใจนัก แลววากับเลาปวา เตียวโป เตียวเหลียงแตกไปครั้งนี้การศึกก็จะเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว
คาดหมายวาเตียวโป เตียวเหลียงจะยกทหารไปสมทบกับเตียวกกที่เมืองจงกง ใหเลาปยกทหารรีบตามไป
สกัดไมใหเตียวโปเตียวเหลียงไปบรรจบ ทัพกับเตียวกกได

ฝายเมืองหลวงก็จะไดชย ั ชนะโดยเด็ดขาด การใชใหเลาปไปสกัดเตียวโป เตียวเหลียงในครั้งนี้ดานหนึ่งเห็นได


ชัดวาเปนยุทธวิธีที่สาํ คัญไมใหฝายกูช
 าติบรรจบทัพกันได ใหคงสภาพเปนสองสวนแลวคอยตีใหแตกทีละสวน
ตามหลักยุทธวิธี "กินขาวทีละคํา ตีใหแตกทีละสวน" เพือ ่ หวังผลเผด็จศึกก็จริงอยู แตในอีกดานหนึง่ นั้นก็
มองเห็นไดถึงความอาภัพวาสนาของเลาป เพราะพึ่งเดินทัพมาจากเมืองจงกงอยูหยกๆ ก็ตองรับคําสั่งให
เดินทัพกลับในทิศทางเดิมเพือ ่ สกัดเตียวโป เตียวเหลียง การที่เจาเมืองและแมทัพตางๆ ใชใหเลาปไปรบศึก
ไมหยุดหยอน ใหไปชวยคนโนนใหไปชวยคนนี้ดูไปแลวคลายๆ จะเปนการผลักไสอยูในที

เหตุทั้งนีย
้ อมมีประวัตศ
ิ าสตรของมันอยู เพราะเลาปเปนเชื้อพระวงศของพระเจาฮั่นโกโจในสายของพระเจาฮั่น
เกงเต หลานของพระเจาฮั่นเกงเตผูหนึ่งไดรับพระราชทานบรรดาศักดิ์เปน "ออง" เทียบชั้นเจาพระยาครอง
เมืองตกกุน แตขาดสงสวยประจําปใหแกราชสํานัก จึงถูกถอดออกจากบรรดาศักดิแ ์ ละตําแหนงลงเปนคน
สามัญ ตราบาปนี้จึงตกทอดมาถึงปู พอและถึงตัวเลาปดวย ทําใหขุนนางและขาราชการไมกลาของแวะ คบหา
สมาคมเพราะกลัววา จะเปนทีห ่ วาดระแวงของราชสํานัก

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ปราบศึกโจรโพกผาเหลือง (ตอนที่ 8)

เลาปรับคําสั่งของรองแมทัพฮองฮูสงแลว จึงยกทหารเดินทางกลับเมืองจงกง เพื่อบรรลุเข็มมุงทางทหารใน


การตีสกัด ไมใหทัพเตียวโป เตียวเหลียง บรรจบทัพกับเตียวกกไดสําเร็จ

เลาป เคลื่อนทัพมาถึงกลางทางสวนกับคณะของขาหลวง ซึง่ คุมคนโทษขังกรงใสเกวียนมาดวย เลาป คุนหนา


นักสั่งใหหยุดมาแลวลงไปดู เห็นแมทัพใหญโลติดถูกจําขังอยูในกรง เกิดความสงสัยจึงไตถามความกับโลติด
โลติดแจงแกเลาปวา "เราลอมเตียวกกไวใกลจะแตกอยูแลว เตียวกกมีความรูเปนอันมาก จะเอาโดยเร็วยังมิได
พระเจาเลนเตจงึ ใชจูฮงชาววังมาสืบขาวราชการ จูฮงจะเอาของกํานัลสินบนแกเรา เราจึงวาในกองทัพนีก ้ ็ขาด
เสบียงอยู เราจะมีสิ่งใดใหสินบนเลา จูฮงโกรธกลับไปทูลกลาวโทษวาเรานี้มิไดมีใจรบพุง ราชการจึงเนิ่นชา
อยูพระเจาเลนเตจึงใหตั๋งโตะมาเปนนายทัพแทนเรา แลวใหจําเราใสกรงสงไปเมืองหลวง"

ความที่ โลติด แจงแก เลาป นี้ แสดงใหเห็นถึงระบบราชการในแผนดิน ของ พระเจาเลนเต ไดอยางชัดเจนอีก


ครั้งหนึ่งวา แมขนาดคนระดับแมทัพใหญอยูห  นาศึกมีอาญาสิทธิ์ฆาคนได ทั้งกอง ทัพก็มเี สบียงไมพอเพียงก็
ยังถูกเรียกเอาสินบน สามกกฉบับภาษาจีนวา จูฮง นั้นมาจากกรมขันที จูฮง จึงเปนลูกนองของสิบขันทีใชมา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 17

ทําการ และสําหรับสิบขันทีแลวไมรูสึกผิดปกติใดๆ ในการสงคนไปเรียกเอาสินบนจากขุนนางทุกๆ ฝายในแผน


ดิน เพราะเขาใจเอาเอง วาขุนนางทั้งปวงมีความชั่วชาเลวทรามเหมือน กับตัว เมื่อไดรบ ั ตําแหนงใดๆ แลวก็
จะตองแสวงหาประโยชน ทั้งใน รูปของการฉอราษฎรและในรูปของการบังหลวง ดังนั้นแมวา โลติดจะเปนถึง
แมทัพใหญถือรับสั่งไปปราบจลาจล ก็ยังถูกสิบขันทีมองวา ยิ่งเปนแมทัพใหญก็ยิ่งไดผลประโยชนมาก เมื่อ
โลติดไมมที รัพยสินเงินทองใหเปนสินบน จึงเปนเรื่องรายแรง ทาทายอํานาจสิบขันทีอยางหนึ่ง และเขาใจไป
วาไดรับผลประโยชนเปนจํานวนมากจากการศึก แลวไมแบงปนอีกอยางหนึ่ง เหตุนี้ โลติด จึงตองถูกสิบขันที
กราบทูลให พระเจาเลนเต ถอดออกจากตําแหนงกลายเปนคนโทษ แตขอที่วา จูฮง โกรธไปทูลกลาวโทษนั้น
เปนความเขาใจผิดของโลติด เพราะตัวการใหญเปนสิบขันที จูฮง เปนแตเพียงตัวโหมโรงเทานั้น

วิธีการเรียกสินบนจากขุนนางตามหัวเมืองตางๆ สรุปไดเปน 3 วิธี คือการสงผูแทนไปตรวจการหรือสืบขาว


ราชการอยางหนึ่ง การ ออกไปตรวจเยี่ยมเองอยางหนึ่ง และการสงเจาหนาที่ตรวจเงินแผน ดินออกไปตรวจอีก
อยางหนึ่งเปนที่รูกันทั่วไปอยางดียิ่งในบรรดาขาราชการในหัวเมืองวา เมื่อใดทีม
่ ีเหตุการณตรวจการ ตรวจ
เยี่ยมหรือตรวจเงินแผนดินเกิดขึ้น ณ ที่ใดแลว ยอมหมายความวาจะตองจัดเงินสวยสินบน หากจัดใหแตนอย
ทุกอยางก็เสมอตัว หากจัดใหถึงขนาดผลการตรวจก็จะถูกรายงานไปเปนความดีความชอบ และเสนอปูน
บําเหน็จหรือเลือ
่ นชั้น หากไมจัดใหตามธรรมเนียมก็จะถูกถอดออกจากตําแหนง ถูกยายหรือตองโทษ ดีรายก็
อาจมีโทษถึงประหาร บางครั้งไมเพียงเรียกเอาสวยสินบนเทานั้น ยังเรียกเอาสินลางดวย ซึ่งกอความทุกขรอน
อยางหนักแกขา ราชการในหัวเมือง เพราะตองยอมเสียลูกสาวหรือเมียนอย หรือสาวใชคนโปรดยกใหเปนสิน
ลาง

เตียวหุย ไดยินคํา โลติด แลวก็โกรธเลือดขึ้นหนา ชักดาบจะฆาผูค  ุมเพื่อถอดโลติดออกจากกรง เลาปไดหาม


ไวเพราะเปนขอรับสั่ง เมื่อเปนเชนนี้ กวนอู จึงไดเสนอตอพี่นองทั้งสองวา เมื่อ โลติด เปนคนโทษไปเสียแลว
จะไปเมืองจงกงตามเดิมพึ่งตั๋งโตะก็ปวยการ ควรเดินทางหลับเมืองตุนกวนจะดีกวา เลาปเห็นดวยกับขอเสนอ
ของกวนอู สามพี่นองแหงสวนทอจึงนําทหารเปลี่ยนเสนทางโฉมหนาไปเมืองตุนกวน เดินทางไดสองวัน ได
ยินเสียงมาลอฆองกลองและเสียงโหรอง ดังสนั่นมาแตไกล เลาป กวนอู เตียวหุย จึงขึ้นมาพากันไปบนเนินเขา
เห็นธงสําคัญประจําตัวแมทัพแลว ก็รวู าทัพ ตั๋งโตะ ถูกทัพ เตียวกกตีแตกพายมาจึงนําทหารลงไปชวยรบ ทัพ
ของเตียวกกคิดวาตองกล เพราะไมรูกําลังศึกมากนอยจึง แตกหนีไป

ตั๋งโตะกลับเขาคายแลว ใหหาเลาปกวนอูเตียวหุยมาสอบถามวา เปนทหารในสังกัดของใครและมีตําแหนง


แหลงที่อยางไร เลาปจึงบอกวา ไมไดเปนขุนนางไมมีตําแหนงแหลงที่ประการใด ตั๋งโตะ ฟงแลวก็แสดงกิริยา
ดูหมิ่นเอากับสามพี่นอง ไมไดแสดง ความขอบใจหรือยินดีทเี่ ลาปไดชวยเหลือตีขาศึก สามพี่นองจึงลาออกมา
แตเตียวหุยเปนคนเจาโทสะ เห็นกิริยาทาทีของ ตั๋งโตะ เชนนี้ก็โกรธจะเขาไปฆาตั๋งโตะเสีย เลาป เขาหามไว
แลวพรอมใจกันยกทหารกลับไปหาจูฮี ณ เมือง เองฉวน อีกครั้งหนึ่ง เลาเรือ ่ งราวขอราชการให จูฮี ฟงทัง้ สิ้น

จูฮีฟงความแลวบอกเลาปวา ตั๋งโตะนั้นบานอยูเมืองหลวง ไดรับตําแหนงเปนขุนนางที่เจาเมืองฮอตัง เปนคน


ไมรูการหนักเบามีแตถือตัว "ซึ่งทานจะอยูด  ว ยนั้นหาประโยชนมิได" แลวรับเลาปมาอยูในกองทัพเดียวกันฝาย
ตั๋งโตะเมื่อรอดตาย เพราะรบแพเตียวกกแลว ไดทาํ ศึกกับเตียวกกอีกหลายครั้ง รบทุกครั้งก็แพทุกครัง้ เกิด
ความรักตัวกลัวตายจึงติดสินบนสิบขันที ให พระเจาเลนเต เรียกตัวกลับเมืองหลวง แลวเลือ ่ นตําแหนงเปน เจา
เมืองซีหลง ซึ่งเปนเมืองใหญตอบ แทนความชอบคาสวยสินบน ทําให ตั๋งโตะ แทนที่จะตองถูกลงโทษเพราะ
แพศึก มีอํานาจวาสนามากขึ้น

เมื่อเรียก ตั๋งโตะ กลับ ก็มีพระบรมราชโองการใหเลื่อนตําแหนง ฮองฮูสง เปนแมทัพใหญแทน ยกไปรบเตียว


กก ณ เมืองจงกง ฮอง-ฮูสง ตีทัพ เตียวกก แตกและสังหาร เตียวกก ในสนามรบสวน โจโฉซึ่งไลตามตีเตียว
โปเตียวเหลียงไมทัน จึงไดกลับมา และทําราชการอยูกับฮองฮูสง ตอมาเมื่อไดขาววา เตียวเหลียง หนีไปตั้ง
หลักอยู ณ เมืองโฉเหียง ฮองฮูสง จึงยกทหารไป เมืองโฉเหียง โจโฉ จึงติดตามกองทัพไปดวย

ฝายจูฮีกับเลาปไดขาววาเตียวโปถอยไปตั้งหลักอยูทภี่ ูเขาลูกหนึ่ง มีกําลังทหารถึงแปดเกาหมื่นคน จึงยกทัพ


ไปรบเตียวโปสถานการณสงครามในขั้นนี้ ฝายกูช
 าติเหลืออยูเพียงกองทัพที่นําโดยเตียวโปกับเตียวเหลียง
ในขณะที่กองทัพจากเมืองหลวงก็ ไดปรับขบวนออกเปนสองกอง กองหนึ่ง ฮองฮูสง เปนแมทัพใหญ มี โจโฉ
อยูในสังกัดยกไปรบกับ เตียวเหลียง ณ เมืองโฉเหียง สวนอีกกองหนึ่ง จูฮี เปนแมทัพมี เลาป อยูในสังกัด ยก
ไปรบกับ เตียวโป

กองทัพของฮองฮูสง รบกับเตียวเหลียงไดรับชัยชนะติดตอกันถึง 7 ครั้ง ครัง้ หลังสุด ฮองฮูสง ฟน เตียวเหลียง


ตาย ทัพเตียว-เหลียงแตกพายไป ทหาร เตียวเหลียง มาเขาสวามิภักดิ์เปนจํานวนมากไดรับชัยชนะแลวฮองฮู

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 18

สงจึงคุมเอาเชลยศึก และศพเตียวกกหัวหนาขบวนการกูช  าติกลับเมืองหลวงเขาเฝาถวายรายงานพระเจาเลน


เต พระเจาเลนเตโปรดใหปูนบําเหน็จฮองฮูสง เลื่อนตําแหนงขึ้น เปนแมทพ
ั ประจํากองบัญชาการทหารกลาง
ซึ่งสามกกฉบับเจา พระยาพระคลัง (หน) แปลวา เปนทหารสําหรับรักษาพระองค และใหไปเปนเจาเมืองบุยจิ๋ว
ดวย

ฮองฮูสงไดกราบทูลพระเจาเลนเต แกตางใหโลติดอดีตแมทัพใหญทถี่ ูกถอดและจําเปนนักโทษวา ไมไดมี


ความผิดดังขอกลาวหาแตมีความชอบในสงคราม พระเจาเลนเตก็โปรดใหโลติดพนโทษและคืนตําแหนงเดิม
ดังเกา โดยไมไดบําเหน็จความชอบใดๆ สวน ผูทใี่ สรายโลติด ซึ่งสมควรตองสอบสวนพิจารณาโทษถึง
ประหารเพราะใสรายแมทัพในยามศึก ก็ไมโปรดใหสอบสวนหรือดําเนินการใดๆ ปลอยใหคนชั่วลอยนวลไป
ดื้อๆ สวนโจโฉมีความชอบโปรดใหไปกินเมืองจี้หนํา ในขณะที่ เลาป นัน
้ ถึงวันนี้ยังคงกรําศึกอยูในสนามรบ
โดยที่ยังไมเคยไดรับบําเหน็จความชอบใดๆ เลย

ทางดาน จูฮี เลาป ไดทาํ ศึกกับ เตียวโป หลายครั้ง ครั้งแรก เตียวหุยเอาทวนแทงโกเสงทหารเตียวโปตกมา


ตายยังไมทันครบสามเพลง กองทัพเตียวโป ก็แตกถอยไปเลาป ไลตามตี เตียวโป จนตรอกเขาก็ใชวิชาผูก
พยนตเสกฟางใหเปนทหาร แลวเรียกลมฝน "ใหเปนเมฆมืดอากาศฟารอง ลม พายุพด ั หนักฝนตก แลวมีคนขี่
มาถืออาวุธลงมาแตอากาศ" ทหารเลาป ก็ตกใจ เลาป จึงใหถอยทัพแลวปรึกษากับ จูฮี เพื่อแกวิทยาคม ของ
เตียวโป รุงขึ้นเตียวโปยกทหารมารบอีก และใชวท ิ ยาคมเหมือนกับวันกอน "เปนเมฆมืดฟารองลมพัดหนักฝน
ตก เปนคนขี่มาถืออาวุธ ลงมาจากอากาศเปนอันมาก" เลาป จึงทําเปนถอยทัพมายังจุดซุมที่เตรียมไวแก
วิทยาคมของเตียวโป

เตียวโปและทหารหุนพยนตไลตามเลาปมาถึงจุดซุม ก็ถูก กวนอู เตียวหุย ซึ่งซุมทหารไวสองขางทาง "เอา


ของโสโครกและโลหิตสุกรสุนข ั นั้นสาดไปถูกพวกโจร แลคนขี่มาซึ่งลงมาแตอากาศ นั้นก็กลายเปนกระดาษ
มานั้นก็กลายเปนมัดหญาไป เมฆแลฝนลมนัน ้ ก็หายสวางไป" เตียวโป เห็นวิทยาคมถูกทําลายก็ถอยทัพ จูฮี
เลาป กวนอู เตียวหุย ไลตามตีทัพเตียวโปแตกพายไป ตัวเตียวโปถูกเลาปเ อาเกาทัณฑยิงไปถูกไหลซาย แต
เตียวโปก็หนีรอดเขาเมืองเยียงเซียไปได

จูฮี เลาป ไดเขาลอมเมืองเยียงเซียไว ทําใหในเมืองขาดเสบียง และยากลําบาก ลําแจงทหารของเตียวโป


และสมุน จึงแปรพักตรหักหลังเจานายของตนเองลอบสังหาร เตียวโป แลวตัดศีรษะออกมาใหเลาป จูฮท ี น
ี่ อก
เมือง และขอทําราชการดวย จูฮี มีความยินดีเมื่อชนะศึกแลว จึงแตงหนังสือรายงานขอราชการกราบทูล
ความชอบตอพระเจาเลนเต แตยังไมทันเดินทัพกลับก็ไดรบ ั หมายรับสั่งวา เตียวฮอง ฮั่นตง ซุนตอง ทหาร
เตียวกกซองสุมพวกโจรไดหลายหมืน ่ เขาตีบานเผาเมืองเสียหลายเมือง ใหจูฮีไปปราบโจรกลุมนี้ จูฮี เลาป
จึงยกทหารไปลอม เมืองอวนเซีย รบกับสมุนของ เตียวกก และลอมเมืองไวจนขาดเสบียงอาหาร ฮั่นตง จึงใช
ทหารมาขอสวามิภักดิ์ แตจูฮีไมยอมรับ เลาปจ  ึงวา "ครั้งพระเจาฮั่นโกโจไดราชสมบัตน ิ ั้น เพราะมีผูมาเขาเกลี้ย
กลอมเปนอันมาก เหตุไฉนทานจึงไมรับเกลี้ยกลอม" จูฮีไขวา "ครั้งพระเจาฮั่นโกโจนั้น บานเมืองมิไดปกติ มี
เสี้ยน หนามเปนอันมาก พระเจาฮั่นโกโจจึงรับเกลี้ยกลอมคนทั้งปวง ครั้งนี้มีจลาจลแตโจรพวกเดียว ครั้นจะ
เอาพวกโจรเขาไวในเกลี้ยกลอม คนทั้งปวงก็จะดูเยีย ่ งอยางวาทําผิด และถามีผูมาปราบปรามก็จะละพยศอัน
รายเสีย นานไปก็จะรื้อทําความชั่วไปอีก"

เลาปเห็นชอบดวย และเพือ ่ ไมใหสมุนเตียวกกรบแบบสูต  าย จะทําใหกองทัพเสียหายมาก ผิดตําราพิชย ั


สงคราม ดังนัน ้ จึงเขาตีเมืองพรอมกันเพียงสามทาง เปดทางดานตะวันออกใหเปนทางหนี และฮั่นตงก็ไดยก
พลหนีออกทางดานตะวันออก แตไปไมพน เลาปยิงเกาทัณฑถูกฮั่นตงตาย แตเตียวฮองกับซุนตงหนีกลับเขา
เมืองได จูฮี เลาปก็ลอมเมืองไว ในขณะทีล ่ อมเมืองอยูนี้ซุนเกี๋ยนไดยกทหารหารอยมาสมทบกับทัพหลวงของ
จูฮี

จูฮี มีความยินดียิ่งนักแลวจัดทัพแยกกันเขาตีเมืองอวนเซียทั้งสามดาน เวนไวแตดานตะวันออก ในขณะเขาตี


เมืองนั้น ซุนเกี๋ยน อาศัยความกลาหาญปนกําแพง เมืองอวนเซีย เขาไปได เตียวฮองขึ้นมาถืองาวจะรบดวย
ซุนเกี๋ยน เขามาใกลเชิงเทิน ซุนเกี๋ยนจึงโจนดวยกําลังเขาชิงงาวจาก เตียวฮอง แลวฟน เตียวฮอง ตกมาตาย
สวนซุนตง เห็นเมืองแตกก็คด ิ จะหนี แตถูกเลาปยิงดวยเกาทัณฑตกมาตาย กองทัพของจูฮีเขาเมืองได ฆา
ทหารซุนตง เตียวฮองตายหมืน ่ เศษ ยึดสินศึกไดเปนจํานวนมาก

จูฮี เลาป เสร็จศึกเมืองอวนเซียแลว จึงยกทหารไปยึดหัวเมืองตางๆ ทีถ


่ ก
ู ฝายกูชาติยึดไวกลับคืนถึงสิบสี่สิบ
หาหัวเมือง จัดการปกครองเขาที่เขาทางแลวก็ยกทัพกลับเมืองหลวง กราบทูลรายงานความชอบแกพระเจา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 19

เลนเต พระเจาเลนเต โปรดใหบําเหน็จ จูฮี เปนแมทัพประจํากองบัญชาการทหารกลางเชนเดียวกับฮองฮูสง มี


ตําแหนงเฝาและใหเปนเจาเมืองโหหลํา สวนซุนเกี๋ยนโปรดใหไปเปนกรมการหัวเมือง มีอํานาจบัญชาทหารหา
กองพันสําหรับเลาป มิไดตรัสประการใด เลาปคอยทาบําเหน็จอยูใน เมืองหลวงเดือนเศษ ไมไดขาวคราว
ประการใดก็เสียน้ําใจนัก นีค่ อ ื ปรากฏการณปูนบําเหน็จในแผนดินของเลนเต โดยที่เลาปหารูไมวา ความดี
ความชอบในแผนดินนี้ไมไดขน ึ้ อยูกับผลงาน แตขึ้นอยูกับน้าํ หนักของสินบนเทานั้น

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ปลนความดีความชอบ (ตอนที่ 9)

ความพิสดารของสามกกประการหนึ่งก็คือ ไดแสดงเรื่องราวตางๆที่ประหลาดพิสดารเหนือความคาดหมายของ
ชาวโลก เรื่องราวบางอยางทีพ่ ึ่งเกิดขึ้นในยุคนี้กลับมีปรากฏอยูในสามกกอยางคาดไมถึงในบรรดาการปลนที่มี
อยูในโลกนี้ อาจจําแนกไดเปน 3 ชนิดคือใชกําลังและอาวุธเขาปลนชิงเอาแบบปลนวัวปลนควาย และ
ทรัพยสินเงินทองอยางอื่น ปลนโดยใชปากกาเปนอาวุธ พลิกดําเปนขาวกลับขาวเปนดํา และการใชอท ิ ธิพล
ปลนความดีความชอบ

การปลนโดยใชกําลังและอาวุธมีมาแตดึกดําบรรพ ในขณะทีก ่ ารปลนโดยใชปากกามีขึ้นตั้งแตเริ่มมีกระบวนการ


ยุติธรรม สวน การปลนโดยใชอิทธิพลพึ่งมีปรากฏใหเห็นในยุคที่ประชาธิปไตยเฟองฟูนี้เอง แตที่ไหนไดการ
ปลนทุกชนิด กลับมีปรากฏอยูในสามกกทั้งสิ้นเลาป หลังจากถูกปดบังความชอบจากการกรําศึกทีย ่ ากเข็ญ
แสนสาหัสแลว ไดแตเฝารอความหวัง แตไรขาวคราว วันหนึ่ง เลาป กวนอู เตียวหุยไปเดินเลนชมเมืองพบ
เตียวกิ๋น ซึ่งเปนมหาดเล็กในพระเจาเลนเต และทราบขาววาไมคอยกินเสนกับพวกสิบขันที เลาปจึงเขาไปหา
ยกมือแสดงอาการคํานับแลวรองทุกขวา ไดทําความชอบในการทําศึกปราบโจรโพกผาเหลืองและเลาเรือ ่ งทั้ง
ปวงให เตียวกิน ๋ ฟง เตียวกิ๋น คงเห็นเปนทีจะไดเลนงานสิบขันที จึงพา เลาป เขาเฝา พระเจาเลนเต กราบทูล
วา "เกิดโจรโพกผาเหลืองขึน ้ ครั้งนี้ เพราะเหตุดวยพระองคเชื่อฟงขันทีสบ
ิ คน ขันทีสิบคนนั้นตัดสินเนือ้ ความ
อาณาประชาราษฎร กลับจริงเปนเท็จ เท็จเปนจริง ขุน นางผูใหญผูนอยซึ่งเปนยุติธรรมนั้นใหถอดเสีย เอา
สินบน ผูหาสัตยไมเอามาตั้งเปนขุนนางผูใหญผูนอย บานเมืองก็เกิดจลาจล อาณาประชาราษฎรไดความ
เดือดรอนมาคุมเทาบัดนี้ ขาพเจาคิดวาจะใหเอาขันทีสิบคนไปตัดศีรษะ ประกาศแกอาณาประชาราษฎร ทั้ง
ปวงใหทั่วทุกหัวเมืองซึ่งขึ้นแกเมืองหลวง ใครมีสติปญ  ญาเปนยุติธรรมมีความชอบก็ใหตั้งเปนขุนนาง โดย
ยศถาบรรดาศักดิ์ตามสมควร บานเมืองก็จะอยูเย็นเปนสุขสืบไป" คํากราบทูลนี้ฟงแลวเห็นไดวา เตียวกิ๋น เปน
ขุนนางที่ซื่อตรงตอแผนดินคนหนึ่ง แตเพราะความไมพอใจสิบขันทีลนอยูในอก

เตียวกิ๋น ทีส
่ ูนําเลาปเขาเฝา กลับไมกราบทูลเสนอความชอบของ เลาปแมแตคําเดียว เอาแตขอใหประหารสิบ
ขันทีเสีย แตอาจเปนโชคดีของ เลาป เพราะหากเสนอความชอบไปแลว เลาปก็อาจตองรับชะตากรรมที่ไม
คาดคิดไดสิบขันทีฟงคํากราบทูลอยูกต ็ กใจ เพราะความที่ เตียวกิ๋นกราบ ทูลนั้นเปนเรื่องใหญมีโทษถึงตาย จึง
แสรงถอดหมวกยศ ทําทีเสีย ใจจะลาออกจากราชการ แลวรองไหขอความสงสารวา ถูกใสรายเกิด จากความ
อิจฉาของ เตียวกิ๋น และเปนความอิจฉาที่มต ี อ
 ฮองเต เพราะสิบขันทีไดปรนนิบัติรับใชเปนอันดีดวยความสัตย
สุจริตและเสียสละอันสูงสุด ไมเคยคิดเห็นแกครอบครัวหรือคนอื่น วาแลวก็ซัดตูมเขาใส เตียวกิ๋น วา เปนเพียง
ขุนนางผูนอยมาสั่งสอนฮองเตเปนการบังอาจ ไมกลัวพระราชอาญาทําใหเสื่อมพระบรมเดชานุภาพพระเจา
เลนเตจึงตําหนิเตียวกิ๋นวา เปนขุนนางมีคนรับใชใกลชิดมากมายอยูแลว พระองคมีขันทีคอยรับใชบางทําไม
ตองมาอิจฉาริษยากัน แลวใหทหารไลเตียวกิ๋น เลาปออกไป

จากนั้นสิบขันทีจึงปรึกษาหารือกันวา ผูมีความชอบในการปราบโจรโพกผาเหลืองมีอยูมาก หากไมจัดสรร


ตําแหนงเล็กๆ นอยๆ ใหบางคนพวกนี้ก็คงจะมาถวายฎีกาอีก จะทําใหเดือดรอนกันเปลาๆ สมควรที่จะตองบอก
กลาวใหกรมกําลังพลจัดสรรตําแหนงให จะไดไปพนหูพนตาแลวคอยคิดอานจัดการในภายหลัง

สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) กลาวความในตอนนี้วา สิบขันทีตกลงกันใหเฉยไว ตอมาพระเจาเลนเต


จึงไดโปรดใหปน
ู บําเหน็จให เลาป แตฉบับภาษาจีนระบุความวา การปูนบําเหน็จแกเลาป เกิดจาก การ
วางแผนของสิบขันทีเพื่อลดความขัดแยงเหตุนี้ผูมีความชอบในศึกปราบโจรโพกผาเหลืองหลายคน จึงไดรับ
การปูนบําเหน็จเล็กๆนอยๆ สําหรับ เลาป นั้นไดใบบุญไปดวย เพราะโปรดใหไปเปนนายอําเภอ เมืองอันฮอ
กวน ซึ่งเปนอําเภอเล็กๆ อยูหางไกลเมืองหลวงเปนอันวา แผนลดความขัดแยงกับบรรดาผูม  ีความชอบ ใน
สงครามปราบโจรโพกผาเหลืองของสิบขันทีดาํ เนินไปอยางไดผล เพราะผูมีความชอบเหลานั้นตองแยกยาย
กันออกไปทําราชการในหัวเมือง ไมเปนที่รกหูรกตาและไมมาเที่ยวทูลเกลาถวายฎีกาใหเปน ที่วุนวายใจของ
สิบขันทีตอไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 20

เลาปรับพระบรมราชโองการแลว ก็ใหทหารซึ่งมาดวยนั้นกลับไปที่อยู เอาแตคนสนิทประมาณ 20 คนไวแลว


พากวนอู เตียวหุย กับคนเหลานั้นเดินทางไปรับตําแหนงนายอําเภอเมืองอันฮอกวน ไดปกครองโดยยุติธรรม
คดีความก็เสร็จสิ้นไป ราษฎรทั้งปวงไดความสุขตางสรรเสริญและมีใจภักดีตอเลาปเปนอันมาก แตเวรกรรม
ของบรรดาผูมค ี วามชอบในการปราบโจรโพกผาเหลือง ภายใตระบบขันทีในแผนดิน เลนเต ยังไมหมดสิ้น
เพราะสิบขันทีได กําหนดกันไวกอนแลววา ทีม
่ ีการปูนบําเหน็จไปนั้น เพียง เพื่อไมใหมีการรองทุกขถวายฎีกา
ใหเปนที่เดือดรอนแกตน แลวจะคิดบัญชีในภายหลัง

ดังนั้น เมื่อบรรดาผูม
 ีความชอบแยกยายกระจายกันไปทําราชการตามหัวเมืองแลว สิบขันทีก็เริ่มดําเนินงานตาม
ระบบที่คุนเคย ของตนดวยการออกประกาศเวียนทั่วไปและเจาะจงใหไปถึงบรรดา ผูม  ีความชอบที่ไดรับการ
แตงตั้งใหมวา แผนดินมีขุนนางขาราชการมากเกินไป เปนภาระแกงบประมาณแผนดิน ทางราชการมีความ
จําเปนที่จะตองลดจํานวนขุนนางและขาราชการลง ถาใครมีขอสงสัยประการใดก็ใหขอทราบรายละเอียดไดที่
กรมขันทีในขณะเดียวกันนั้นก็สง สมุนออกไปวากลาวแกขุนนาง ขาราชการ ทั้งทหารและพลเรือนทั้งปวงที่
ไดรับความชอบจากการปราบ โจรโพกผาเหลืองวา "ถาผูใดมีทรัพยขาวของเงินทองเอาไปใหแกขันทีนายเรา
แลว นายเราจะชวยทูลเสนอความชอบให ถาใครมิไดให นายเราจะทูลใหออกเสียจากที่ขุนนาง" ขุนนาง
ขาราชการที่ไดรับความชอบดังกลาว ไดยินยอมเขาสูร ะบบสวยสินบนของสิบขันทีเปนอันมาก ซึ่งยอม
รวมถึงตั๋งโตะ โจโฉ และซุนเกี๋ยนดวย คนเหลานี้จึงยังคงดํารงอํานาจวาสนาและมีความกาวหนาในราชการ
ตอไปได

ภายในเมืองหลวงปรากฏวามีขน ุ นางผูใหญฝายทหารสามคน ไมยอมรับระบบสวยสินบนของสิบขันทีคือ โลติด


ฮองฮูสงและจูฮี แต โลติด อดีตแมทัพใหญปราบโจรโพกผาเหลืองคนแรกนั้น คุมกําลังทหารมหาดเล็กรักษา
พระองค สิบขันทีจึงไมอยากของแวะดวย ซึ่งคงจะถือหลักนักเลงวา "พบเสือใหหนี พบหมูใหกิน" ดังนั้นโลติด
จึงยังคงรับราชการเปนปกติอยู

สวน ฮองฮูสง อดีตแมทัพใหญ ที่ตั้งไปแทน ตั๋งโตะปราบโจรโพกผาเหลือง และ จูฮี ซึ่งเปนแมทัพรองนัน


้ ทั้ง
สองคนไดรับปูนบําเหน็จตั้งเปนแมทัพประจํากองบัญชาการทหารกลาง มีตําแหนงเฝาและกินหัวเมืองดวย แต
ไมไดคุมกําลังทหารประจําการ ดังนั้นเมื่อไมยอมเอาเงินทองไปติดสินบนสิบขันที จึงถูกสิบขันทีเพ็ดทูลยุยง
พระเจาเลนเต ใหถอดออกเสียจากที่ขุนนาง

เมื่อตําแหนงแมทัพประจํากองบัญชาการทหารกลาง ซึ่งเปน ตําแหนงใหญโตของแผนดินวางลงถึงสอง


ตําแหนง สิบขันทีก็กราบ ทูลพระเจาเลนเตใหแตงตั้งเตียวตงและเตียวเหยียง ซึ่งเปนแกนนําสําคัญของสิบ
ขันทีใหครองตําแหนงแทน สวนขันทีที่เหลืออีกแปดคน ก็โปรดใหเลื่อนเปนขุนนางผู ใหญทุกคน "ราชการนั้น
ก็ฟนเฟอนไป ราษฎรไดความเดือดรอน"

ฝาย เลาป ซึ่งไปรับตําแหนงเปนนายอําเภอ เมืองอันฮอกวนนั้น ก็ถูกสิบขันทีสงลูกนองชื่อ ตกอิ้ว ไปเรียกเอา


สวยสินบนเชนเดียวกัน ตกอิ้วไปถึงเมือง อันฮอกวน ก็วางอํานาจบาตรใหญซักไซประวัติและผลงานของ เลาป
เมื่อ เลาป บอกวาเปนเชื้อพระวงศ และมีความชอบในการปราบศึกโจรโพกผาเหลือง ตกอิ้ว ไมยอมเชื่อหาวา
เปนการแอบอาง แลวแจงวามีรับสั่งใหมาเรียกสวยจากขุนนางที่ไดรับแตงตั้งใหม เลาป มิไดวาประการใด ลา
ไปที่อยูแลวเชิญปลัด อําเภอมาปรึกษา ปลัดอําเภอรูธรรมเนียมของเมืองตาหลิ่วดี จึงบอกแก เลาป วา ตกอิ้ว
มาครั้งนีด้ วยหวังเอาสินบนเขาตัว ไมใชภาษีเก็บเขาหลวง เลาป จึงวา "ตั้งแตเรามาอยูเมืองนี้จะได
คาธรรมเนียม แลเบียดเบียนดายเสนหนึ่งเข็มเลมหนึ่ง แกอาณาประชาราษฎรใหไดความเดือดรอนหามิได จะ
เอาสิ่งใดมาใหสินบน" คําของเลาปนี้สะทอนถึงคุณธรรมประจําตัวและวัตรปฏิบัติราชการของเลาป อันเปนที่มา
ของความเคารพรักศรัทธาจากราษฎร หลังจากนี้เกือบสองพันป เหมาเจอตง ผู นําพรรคคอมมิวนิสตจีน จึงได
นําหลักการนี้ไปบัญญัติเปนขอหนึ่งในวินัยใหญสามขอของ กองทัพปลดแอกประชาชนจีนวา "หามเอาดายสัก
เสน เข็มสักเลมจากราษฎร"

รุงขึ้นตกอิ้วก็เรียกปลัดอําเภอมาใหซด
ั ทอดวา เลาป ฉอราษฎร บังหลวง ปลัดอําเภอไมยอมซัดทอด ตกอิ้วก็
ใหนักการอําเภอเฆี่ยนปลัดอําเภอ บังคับใหซัดทอด แตปลัดอําเภอก็กมหนาทนเจ็บทนรับความปวดไมยอม
กลาวคําอันเปนอาสัตย เลาป จะมาพบก็ไมใหเขาพบ เลาป จึงกลับไปที่พก
ั ราษฎรไดทราบเรื่องจึงมาทีอ
่ ําเภอ
เพื่อจะชวยเหลือ แตนายประตูหามไว

ราษฎรซึ่งชุมนุมอยูที่หนาเรือนพักรับรองของ ตกอิ้ว สงสารปลัดอําเภอและ เลาป พากันรองไหระงม พอดี


เตียวหุย เสพสุราแลวขี่มาผานมาประสบเหตุเขา ก็โกรธบุกเขาไปจิกหัว ตกอิ้ว ลากออกมาหนาเรือนรับรอง จับ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 21

ผูกเขากับหลักมา แลวเอาแสมาเฆี่ยนตกอิ้ว เจ็บปวดเปนสาหัส เลาป ไดยน ิ เสียงรองของ ตกอิ้ว ก็วิ่งมาดู เห็น


เหตุการณก็ตกใจเขาหาม เตียวหุย ตกอิ้ว รองขอให เลาป ชวยชีวิตไว เลาป มีใจสงสารก็หาม เตียวหุย ไมให
เฆี่ยน ตกอิ้ว อีกตอไป พอดี กวนอู ผานมารูเ หตุแลว จึงวาแก เลาป วา "เราทําความชอบอาสาแผนดินมาเปน
หลายครั้ง ก็ไดเปนแตเพียงนี้ แตตกอิ้วถือรับสั่งมาแลววาหยาบชา ดูหมิ่นนอกรับสั่งใหไดอัปยศดังนี้ อันเราพี่
นองสามคนอุปมาประดุจหงสซึ่งจะอาศัยในปานี้ไมสมควร เราจะฆาตกอิ้วเสียแลวชวนกันไปอยูบานเมืองที่
อาศัยแหงเราดีกวา ภายหลังจึงจะคอยคิดการใหญสืบไป" ความตอนนี้แสดงออกถึงอัธยาศัยใจคอ ความ
ทระนงในศักดิแ ์ ละความปรารถนาทําการใหญของ กวนอู อยางชัดเจน เลาป ฟงแลวเห็นชอบดวย แตการที่จะ
ฆา ตกอิ้ว เปนการไมสมควรเพราะเปนผูถ  ือรับสั่ง แมวาจะมีการแอบอางอยูดวยก็ตามที เลาป จึงไดเอาตรา
สําคัญของนายอําเภอมาผูกคอ ตกอิ้ว แลววา จะไวชีวิตใหครั้งหนึ่ง บัดนี้ไมตองการทําราชการแลว ให ตกอิ้ว
นําตรากลับไปแลวเลาปก็พากวนอูเตียวหุยกับพรรคพวกยีส ่ บ
ิ คนนั้นออกจากเมืองอันฮอกวน ฝายตกอิว้ ก็นํา
ตราไปพบเจาเมืองเตงจิ๋ว เลาเหตุการณแลว สั่งใหเจาเมืองจับเลาป กวนอู เตียวหุยสงเขาเมืองหลวง

เลาปมาถึงกลางทางก็ไดกิตติศัพทที่ เจาเมืองเตงจิ๋ว ออกหมายประกาศจับตัว เห็นจะไป เมืองตุนกวน ตาม


ความคิดเดิมไมได จึงเปลี่ยนเสนทางไปหา เลาเกง เจาเมืองไตจิ๋ว ซึ่งเปนแซเดียวกัน บอกความแตหนหลังให
ฟงโดยตลอด เลาเกง นั้น แจงในหนังสือที่เจาเมืองเตงจิ๋วใหจับ เลาป แลว แตครั้นไดฟงคําซึ่ง เลาป บอกก็มี
จิตคิดสงสารคํานึงวา เปนแซเดียว กันทั้งเปนเชื้อพระวงศ แตกลับไมไดรบ ั ความเปนธรรมถึงเพียงนี้ น้ํา ใจจึง
เอียงมาเขาขางคิดชวยเหลือ เลาป ดังนั้น เลาเกง จึงใหเปลี่ยนชื่อแซ เลาป กวนอู เตียวหุย แลวจัดที่ซอ นตัว
ไวภายในบานพักรับรองของเจาเมือง

เลาปเชื้อพระวงศพระเจาฮั่นโกโจมีความชอบตอแผนดิน แตกลับตองถูกหมายประกาศจับ ตองเปลี่ยนชื่อแซ


และตองเปนอยูอ  ยางหลบๆ ซอนๆ ดวยประการฉะนี้

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สงครามโจรโพกผาเหลืองครั้งที่ 2 (ตอนที่ 10)

หลังจากโลติด ฮองฮูสง จูฮี สามแมทัพ โดยมีเลาป กวนอู เตียวหุย สายหนึ่ง โจโฉ สายหนึ่ง และ ซุนเกี๋ยน
สายหนึ่ง ไดรว มกันปราบปรามโจรโพกผาเหลือง เสร็จสิ้น และกลับเขาเมืองหลวงแลว อาณาประชาราษฎร
ตางตั้งความหวังวา บานเมืองจะรมเย็นเปนสุขเสียทีหนึ่ง แตการณกลับตรงกันขาม เหตุการณปลนชิงวิง่ ราว
กดขี่ขม เหงราษฎร การเรียกสวยสินบนยังคงเกิดขึ้นอยางกวางขวางและหนักกวาเดิม การทั้งนี้เนื่องจากระบบ
ขันที ทีค
่ รอบงําการบริหารราชการแผนดินของฮองเตยังคงอยู

ไมแตเพียงเทานั้น กลับมีอํานาจวาสนาเพิ่มมากขึ้น แกนนําคนสําคัญของขันทีสองคนคือ เตียวตง กับเตียวเหยี


ยง ไดรับโปรดเกลาฯแตงตั้งเปน แมทัพประจํากองบัญชาการทหารกลาง มีอํานาจทางการทหารเพิ่มขึน ้ อีก
ทางหนึ่ง สวนขันทีอีกแปดคนนั้นเลา ก็ไดเลื่อนตําแหนงเปนขุนนางชั้นผูใ หญ ขันทีคนวิปริตซึ่งควรมีหนาที่
ปกติเพียงคนรับใชของฮองเต กลับไดครองตําแหนงใหญทางทหารระดับแมทัพถึงสองคนและเปนขุนนางชั้น
ผูใหญอีกแปดคน ดังนี้ความวิปริตแปรปรวนในการบริหารราชการแผนดินยุคเลนเต จึงแผปกคลุมทุกวงการ ทุก
ดานทัว่ ประเทศ

อํานาจวาสนาของสิบขันทีมีมากขึ้นเทาใด ความกําเริบเสิบสาน ในอํานาจก็ยิ่งมากขึน ้ เทานั้น แตเมื่อเปน


อํานาจวาสนาทีเ่ กิดขึ้นจากความชั่วรายและใชอํานาจนั้นโดยไมตั้งอยูในธรรม อํานาจก็กอผลรายใหแก
บานเมืองและราษฎรมากยิ่งขึน ้ ก็แลเมื่ออํานาจวาสนาของสิบขันทีคือตนเหตุของการจลาจล คือตนเหตุของ
การกอตัวลุกขึน
้ สู ของขบวนการตอสูกชู าติ เมื่ออํานาจ วาสนาซึ่งเปนตนเหตุยังดํารงอยู และมากขึ้นกวาเดิม ก็
ยอมสงผลใหการกอตัวลุกขึ้นสูของประชาชนกลับฟนคืนขึน ้ มาอีกครั้งหนึง่

ดังนั้น สมาชิกขบวนการกูชาติของเตียวกก แมจะแพและแตก สลายไปแลว จึงไดกอตัวขึ้นมาใหมเพราะมี่ใดมี


การขมเหงกดขี่ ที่นั้นยอมมีการตอสูเปนธรรมดา คูเสง ซึ่งเปนสมาชิกขบวนการกูชาติคนหนึ่ง หนีราชภัยไปอยู
เมืองเตียงสา ในขณะที่เตียวกีและเตียวซุน ไปอยูเมืองยีหยง จึงไดรวมกับราษฎรกอตั้งฐานที่มั่นกอบกูชาติขึ้น
ในทั้งสองเมือง

เตียวกี นั้นตั้งตนเปนกษัตริย และตั้งให เตียวซุน เปนเสนาบดี มีราษฎรมาเขาดวยเปนอันมาก ฐานที่มน


ั่ กูชาติ
ของประชาชนไดขยายตัว ลุกลามไปอีกหลายเมือง จนทําใหกองกําลังของขบวนการกูชาติที่กอตัวขึ้นใหมนี้

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 22

เติบใหญเขมแข็ง และขยายตัวออกไปทุกวัน แผอํานาจปกคลุมเมืองตาง ๆ ในลักษณะรัฐซอนรัฐ แตอํานาจ


ปกครองทีแ่ ทจริง ที่ประชาชนยอมรับกลับมาอยูที่ขบวนการกูชาติ

หัวเมืองตางๆ ไดรายงานขาวความเคลื่อนไหวอยางตอเนือ ่ ง หนังสือกราบทูลถวายรายงานตอพระเจาเลนเต


ถูกสงเขาเมืองหลวง อยางไมขาดสาย ประดุจดังสายฝนที่ตกเต็มทองฟายามวสันตฤดู สามกกฉบับสมบูรณที่
แปลจากภาษาจีนระบุวา "หนังสือราชการแจงเหตุกอการจลาจล สงเขามาในเมืองหลวง ดังแผนหิมะตก" แต
ปรากฏวา หนังสือราชการทั้งหมดถูกสิบขันทีกักเก็บไว ไมยอมใหเจาหนาที่นําความกราบบังคมทูลใหฮอ
 งเต
ทรงทราบ สภาพของฮองเตเอง จึงตองกลายเปนคนหูหนวกและตาบอด เขาทํานองที่โบราณวาไววา "ฝามือ
อันนอยเมื่อปดตาเขาแลว ก็สามารถปดฟาอันกวางไกลได"

อยูมาวันหนึ่งในขณะ พระเจาเลนเต กําลังเสวยน้าํ จัณฑอยูกับสิบขันทีอยางมีความสุขในพระราชอุทยาน พระ


พี่เลี้ยงชื่อ เลาโต ซึ่งทราบเรื่องการกอตัวและการขยายตัวของขบวนการกูชาติก็ตกใจ จึงตามเสด็จไปถึงใน
พระราชอุทยานขอเขาเฝา พระเจาเลนเต ทอดพระเนตรเห็น เลาโต มีสีหนาแสดงอาการตืน ่ ตกใจ จึงตรัสถาม
วาเกิดเรื่องอันใดขึ้น เลาโต จึงกราบทูลวา โจรโพกผาเหลืองกอการจลาจลขึ้นอีกแลว บานเมืองกําลังอยูใน
อันตราย "ไฉนพระองคยังมาเสวยสุราอยูอีกเลา" การกราบทูลในเชิงตําหนิฮองเตผูเปนใหญเปนจุดออนและ
อันตรายอยางใหญหลวง เพราะวิสย ั ผูเปนใหญนั้นยอมแสลงหูกับถอยคําเชนนี้ ยิ่งเปนใหญเทาใดอาการแสลง
หูก็ยิ่งมากขึ้นเทานั้น และอาจกําเริบทําใหคนตายได

พระเจาเลนเต จึงตรัสดวยความไมพอพระทัยหนักวา ที่หัวเมืองตางๆ เกิดจลาจลนั้น ไดถูกกองทัพจากเมือง


หลวงไปปราบปราม ราบคาบสิ้นแลว ไฉนจึงยกเรื่องนี้ขึ้นมากลาวอีก เลาโต ทูลวา เปนการจลาจลที่เกิดขึ้น
ใหม "เหตุผลเพราะขันทีสิบคน จากราชการตัดสินคดีความ ราษฎรมิไดเปนยุติธรรม" ขันทีสิบคนไดฟงคําทูลก็
ตกใจ เพราะเปนผูปดขอมูลขาวสารทีห
่ ัวเมืองตางๆ สงเขามาถวาย จึงเขาไปหนาพระที่นั่ง ถอดหมวกยศทําที
วาจะลาออกราชการเหมือนครัง้ กอน แลวแกตัววาไดทําราชการรับใชใกลชด ิ จึงทําใหขาราชการขุนนางอิจฉา
ริษยา จะทําราชการไปคงจะไมรอดชีวิต "ขาพเจาทั้งสิบคนนี้ จะขอออกจากที่ เอาแตชีวิตรอดไว แลทรัพยสิ่ง
สินของขาพเจาทั้งปวงนั้น ขอถวายพระองคใหพระราชทานทแกลวทหารซึง่ ทําราชการ แตตัวขาพเจาทั้งนี้ จะ
ขอ กราบถวายบังคมลา ไปทําไรไถนาเลี้ยงชีวิต"

สามกกทุกฉบับไมไดตั้งความสังเกตตรงจุดนี้ ทั้งๆทีค ่ ําของขันทีดังกลาว นั้นมองขามไมไดเปนอันขาด เพราะ


นี่คือสุดยอดวิชาของขันที เปนวิชาฆาคนดวยการใชวาจาเปนอาวุธ สุนทรภูไ  ดกลาวถึงวิชานี้ในหนังสือพระอภัย
มณีตอนที่นางละเวงอาสาไปสังหารอุศเรน วา "จะพลิกพลิ้วชิวหาเปนอาวุธ ประหารบุตรเจาลงกาใหอาสัญ"
จนอุศเรนตองรากเลือดถึงแกความตาย นักการเมืองบางคนในชั้นหลังไดสืบทอดวิชาขันทีนแ ี้ ลวมีใจอํามหิตกอ
ความฉิบหายใหแกบานเมือง แลราษฎรไมตางอันใดกับยุคขันทีกินเมืองในสมัยสามกก คําเพ็ดทูลที่หวานระรื่น
หูฉะนี้ กินใจลึก พระเจาเลนเต นัก พระทัยหนึ่งลนดวยน้ําใจรักสิบขันที อีกพระทัยหนึ่งลนดวยน้ําใจชังพระพี่
เลี้ยง เลาโต ไมไดไตรตรองพิจารณาใด ๆ ก็เชื่อตามคําเพ็ดทูล แลวตรัสวา "ตัวเปนพี่เลี้ยงที่บานเรือนของตัว
นั้น ก็ยอมมีคน สนิทใชสอยอยู แลตัวเราเปนเจาอยูในราชสมบัติ มีคนซึ่งสนิทใชสอยบาง ตัวมาริษยาวากลาว
ใหเราขัดเคือง" แลวตรัสสั่งใหเจาหนาที่คุมตัวเลาโตไปประหาร เลาโต จึงรองขึ้นหนาพระทีน ่ ั่งวาไมเสียดาย
แกชีวิต เสียดายแตราชสมบัตข ิ อง พระเจาฮัน่ โกโจที่สบ ื ทอดมาสีร่ อยปเศษจะดับสูญ พระเจาเลนเต ก็ทําเปน
ไมไดยินเสีย

เจาหนาทีค ่ ุมตัว เลาโต ออกไปจากพระราชอุทยาน พอดีรองอัครมหาเสนาบดีชื่อ ตันต๋าํ มาพบเหตุเขาก็สั่ง


เจาหนาทีว่ าอยาเพิ่งประหาร จะไปเขาเฝาฮองเตกอน รองอัครมหาเสนาบดี ตันต๋ํา เขาไปในพระราชอุทยาน
เขาเฝาพระเจาเลนเต ทูลวา พระพี่เลี้ยง เลาโต ไดอุมชูเลีย
้ งดูอบรมสั่งสอนพระองคมาแตนอย ทําผิดฉกรรจ
ขอใดจึงตองโทษถึงประหาร พระเจาเลนเต ตรัสตอบวา เลาโต เปนผูใหญไมมีความคิดเอาความเท็จมากราบ
ทูล และยุยงใสโทษสิบขันทีซึ่งเปนขุนนางผูใหญ ทั้งกระทําการหยาบชาตอเรา ตันต๋ํา จึงทูลวา ที่ เลาโต
กราบทูลนั้นเปนเรื่องจริง บัดนี้ขุน นาง ขาราชการ และราษฎรทั่วประเทศ เดือดรอนนัก มีความเกลียด ชัง
อยากกินเลือดกินเนื้อสิบขันที แตพระองคกลับมีพระทัยรักดุจพระราชวงศผูใหญ ทั้งที่ไมมีความชอบสิง่ ใด ก็
ตั้งใหเปนขุนนางผูใหญ ขันทีฮองสี ก็ไดรวมสมคบกับกบฏเปนไสศึกใหโจร มีผูมากราบทูลก็ไมทรงชําระใหรู
ผิดถูก จะทําใหราชสมบัติเปนอันตราย

พระเจาเลนเต เถียงวาไมเปนความจริง ตันต๋าํ แคนใจนัก จึงเอาศีรษะ ชนพระแทนที่ประทับจนโลหิตไหล พระ


เจาเลนเตทรงกริ้วขนาดหนัก ตรัสสั่งใหเจาหนาที่เอาตัว รองอัครมหาเสนาบดี ตันต๋ํา และพระพี่เลีย
้ ง เลาโต
ไปจําใสคุกไวสบ
ิ ขันทีผูกแคน ทั้ง ลาโตและตันต๋ํา ที่กลาวโทษตัวใหถึงตาย ในยามดึกของคืนนั้น สิบขันทีก็
ลอบเขาไปในคุกหลวง สังหารเลาโตกับตันต๋าํ เสีย ขันทีสิบคน ปรึกษากันเห็นวาหากปลอยใหขบวนการกูช  าติ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 23

ทํา การตอไปความผิดก็จะมาถึงตัว ทั้งเห็นวาการของ ฮองสีขันที ที่รบ ั เปนไสศึกในเมืองหลวงใหกับโจร แต


ครั้ง เตียวกก ยังอยูยากจะสําเร็จ ได เพราะความเชื่อถือศรัทธาของราษฎรที่มต ี อการกูชาติในครั้งนี้นอย กวา
เมื่อครั้ง เตียวกก หลายเทานัก จะหวังประโยชนอันใดยอมไมคุมกับประโยชนปจ  จุบัน ดังนั้นจึงแตงเปน
หนังสือรับสั่งสองฉบับ ฉบับหนึ่ง ไปถึง ซุนเกี๋ยน ใหไปกิน เมืองเตียงสา และสั่งใหไปปราบขบวนการกูชาติ
ของ คูเสง อีกฉบับหนึ่ง ไปถึง เลาหงี ตั้งใหเปน เจาเมืองอิจิ๋ว และใหยกไปตี เตียวกี เตียวซุน ที่ เมืองยีหยง
ฝาย เลาเกง ทราบรับสั่งตั้ง เลาหงี เปนแมทัพไปรบ เตียวกี เตียวซุน จึงเขียนหนังสือให เลาป ถือไปหา
เลาหงี ฝากให เลาป ไปทําการศึกดวย

เลาหงี ทราบความแลวก็ดีใจ มีคําสั่งโดยอํานาจแม ทัพแตงตั้งให เลาป มียศเปนนายรอย ในสังกัดกองทัพ


ของตน เลาป จึงไดกลับเขารับราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง โดยมียศเพียง นายรอยเทานั้น แตสามกกฉบับ
เจาพระยาพระคลัง (หน) ไมไดกลาวถึงวา เลาป ไดรับยศทหารหรือมียศใดๆ ซุนเกี๋ยน ทราบรับสั่งแลว ก็ยก
ทัพไปปราบ คูเสง ตีฐานที่มั่นแตก คูเสง ตายในที่รบ ทหารของ คูเสง ก็แตกหนีไปสิ้น

สวน เลาหงี ยกทัพไป เมืองยีหยง รบกับ เตียวกี เตียวซุน ซึ่งมีกําลังพลเขมแข็งจํานวนมาก รบกันอยูหลาย


วัน ทหารของ เตียวกี เตียวซุน
 ก็ขาดเสบียง อดอยาก ทั้ง เตียวซุน เองก็เปนคนหยาบ ไมเอาใจทหาร นาย
ทหารคนสนิทจึงหักหลังนาย ฆา เตียวซุน แลวตัดศีรษะเอาไปให เลาป สวน เตียวกี เมื่อรูวา เตียวซุน ตาย
และทหารเอาใจออกหาง หนีทัพเปนจํานวนมาก ก็ทอถอยสิ้นความคิด และเอาดาบเชือดคอตาย

ขบวนการกูชาติหรือที่ฝา ยทางการเรียกวาโจรโพกผาเหลือง ที่เพิ่งกอตัวขึน


้ ใหมอีกครั้งหนึ่ง ถูก ซุนเกี๋ยนและ
เลาหงี เลาป ปราบปรามจนสงบราบคาบดวยประการนี้

พระเจาเลนเต ไดรับทราบความจากรายงานแลวมีพระดําริวา ซุนเกี๋ยนมีความชอบ โปรดใหไปเปนเจาเมืองกัง


แฮ ซึ่งเปนหัวเมืองเอก สําหรับ เลาหงี มีความชอบมาก โปรดใหเปนผูบญ ั ชาการทหารสูงสุด สวน เลาป นั้น
ตรัสวา มีความผิดครั้งตี ตกอิว๋ ใหเอาความชอบนั้นลบลางกับโทษ และโปรดใหไปรักษา บานแฮปด ซึ่งเปน
หมูบานเล็กๆ อยูปลายดาน พอดี กองซุนจาน เพื่อนรวมสํานักของ เลาป และโลติด ซึ่งรับราชการเปนขุนนาง
อยูใน พระเจาเลนเต ไดทูลถวายฎีกาวา เลาป นี้แตกอนก็มค ี วามชอบในการปราบปรามโจรโพกผาเหลืองมาก
มาครั้งนี้มค
ี วามชอบปราบโจรไดสงบราบคาบ อีก ขอทรงพระกรุณาพระราชทานให เลาป ไดไปเปน เจาเมือง
เพงงวนกวน เถิดพระเจาเลนเต จึงโปรดเกลาฯให เลาป เปนเจาเมืองเพงงวน-กวน ตามคําฎีกาของ กองซุน
จาน และพระราชทานยศทหารใหเปนนายพันทหารมา มีหนาที่คม ุ ทหารมาและรถศึก พิจารณาน้ําพระทัยของ
พระเจาเลนเต ในครั้งนีแ ้ ลว เห็นไดชด ั วา พระองคเองไมไดมีสิ่งใดติดพระทัยในตัว เลาป และคงไมตด
ิ พระทัย
ในเรื่องเดิมของพระราชวงศสาย เลาป แตที่ผา นมาเหตุทท ี่ รงไมโปรด เลาป ตามควรแกความชอบนั้น นาจะ
ติดปญหาอยูท  ส
ี่ ิบขันที มาครัง้ นี้ เมื่อ กองซุนจาน ขุนนางถวายฎีกา แสดงวา เลาป ก็มีพรรคพวกอยูใ นราช
สํานัก จึงโปรดใหตามขอและยังแถมยศนายพันทหารมา ซึ่งเปนกองกําลังเคลื่อนที่เร็วอีกตําแหนงหนึ่ง ซึ่ง
แสดงวานาจะมีสิ่งใดอันเปนความภายในราชสํานักที่ทรงหวังจะพึ่งพา เลาปใ นภายหนาอยูใ นพระทัยเหมือนกัน
แตไมมีใครไดทราบ ความนี้ เพราะสิ้นรัชกาลเสียกอน

เมืองเพงงวนกวน นั้น เปนเมืองใหญและเปนเมืองทหาร เปนที่ตั้งของกองกําลังทหารมา ทั้งขาวปลาอาหารก็


บริบูรณ เลาปไปครอง เมืองเพงงวนกวน แลว ก็มีกําลังและกวางขวางขึ้นกวาแตกอน

หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สิ้นศักราชเลนเต (ตอนที่ 11)

เคาลางกลียค ุ แผปกคลุมแผนดินของพระเจาฮั่นโกโจ ปฐมกษัตริยแ หงราชวงศฮั่น ซึ่งบัดนี้สืบสันตติวงศตก


ทอดมาถึงมือ ของเลนเต การณในอากาศนัน ้ ดาวประจําพระองคพระมหากษัตริยม  ัวหมองริบหรี่ ซีดโรยราวไร
เรี่ยวแรงทีจ
่ ะสถิตยในนภากาศ การในภาคภูมิดลนั้นเลา ก็เกิดการจลาจลวุน วาย อาณาประชา-ราษฎร ตกอยู
ในความเดือดรอนทุกหยอมหญา การรบราฆาฟนและการปลนชิงวิ่งราวเกิดขึ้นทุกหัวระแหง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 24

การในราชสํานักก็ขัดแยงไมมใี ครไววางใจใครกันไดอีกตอไป แตละฝายตางแสวงหาสมัครพรรคพวกและซอง


สุมผูคนไวเปนพวก ดานหนึง่ เพื่อความดํารงคงอยูของตนเอง แตอีกดานหนึ่งเพื่อการทําลายลางคูแขงและ
ปรปกษใหดา วดิ้นไป

การฝายในอันเปนสวนพระองค ก็หามีความเปนปกติไมพระเจาเลนเตนั้น ไมใชเชื้อวงศพงศกษัตริยของพระเจา


ฮั่นเต แตเปนลูกขุนนางที่พระเจาฮั่นเตขอมาเลี้ยงเปนลูกบุญธรรม แลวตัง้ เปนรัชทายาท ครั้นเสวยราชยแลว
จึงโปรดใหอัญเชิญแมตัวเขาวัง สถาปนาเปนพระราชชนนี ทรงพระนามวา พระนางตั๋งไทเฮา สรางพระตําหนัก
ใหเปนที่ประทับในพระราชวังหลวงเมื่อเจริญวัยขึ้น เลนเตหนุมก็โปรดปรานลุมหลงพระสนม เอกชื่อวา นางโฮ
เฮา ซึ่งมาจากตระกูลพอคาเนื้อ แลวเขาถวายตัวเปนพระสนม มีโอรสดวยกันองคหนึ่งชื่อวา หองจูเปยน พระ
เจาเลนเตจึงสถาปนานางโฮเฮาเปนที่พระมเหสี แลวใหเลื่อนพระสนมโฉมสะคราญชื่อ อองบีหยิน เปนที่พระ
สนมเอกแทนพระมเหสีมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อโฮจิน ๋ เมื่อนองสาวไดดีเปนถึงที่พระมเหสี โฮจิ๋น ก็ไดความชอบตาม
พระเจาเลนเต โปรดใหเปนขุนนางผูใหญฝายทหาร มีหนาที่เปนที่ปรึกษาการแผนดิน การตัง้ เอาพอคาเนื้อเปน
ที่ปรึกษาการแผนดินดังนี้ ทําใหเกิดแบบอยางแกนักการเมืองในชั้นหลัง ในการแตงตั้งทีป ่ รึกษาจากพวกรอย
พอพันแมโดยไมตองคํานึงถึงคุณวุฒใิ ดๆ

ในระหวางที่ พระนางโฮเฮา ทรงพระครรภ เลนเต ในวัยหนุม คึกคะนองในแรงปรารถนาประกอบเขากับความ


สะคราญแหง พระสนมเอกอองบีหยินแลว เลนเต หนุมก็ตกในหวงแหงความรัก ยิ่งรักก็ยิ่งลึก แลวก็หลง ใน
ที่สด
ุ ก็มีพระโอรสกับพระสนมเอกอีกองคหนึ่งชื่อวา หองจูเหียบครั้นพระเจาเลนเตเสวยราชยไดยี่สิบป ความ
ราวฉานของฝายในก็เกิดขึ้น

สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ระบุความตอนนีว้ าพระเจา เลนเตเสวยราชยไดหกปเศษ ซึ่งขัดกับ


ตอนตน ทีร่ ะบุวาในขณะเกิด นิมิตและลางรายนั้น พระเจาเลนเตเสวยราชยมาแลวสิบสองป ดวยเหตุที่
ประวัตศ
ิ าสตรจน
ี รับรองวาพระเจาเลนเตเสวยราชยแลวยี่สิบประหวางพุทธศักราช 690-710 แตเมื่อคิดเปนป
พุทธศักราชแลวทั้งฉบับภาษาจีนและฉบับภาษาไทยไมตรงกัน ดังนั้นจึงถือเอาปที่ยส
ี่ ิบซึ่งเปนปสิ้นรัชกาล
แทน ปลอยใหเปนหนาที่ของนักประวัตศ ิ าสตรคิดอานตกลงเรือ ่ งปศักราชกันเองตอไป

ความราวฉานของฝายในราชสํานักเกิดแตเหตุเพราะ เมื่อพระมเหสีมีพระประสูติกาลแลว ฮองเตยังคงลุมหลง


ในสิเนหาพระสนม เอกอยูไมยอมสราง แตละวันประทับอยูแตในพระตําหนักพระสนม เอก คลายกับทรงลืมไป
แลววา ยังมีพระมเหสีและพระโอรสอีกสองพระองคลําพังแตความคิดอิสตรีก็หนักพอแรงอยูแลว แตภายในราช
สํานักนั้น

เสียงกลาวขานของเหลาขันทีและเจาหนาทีท่ ี่กระทบโสตพระมเหสีอยูท ุกเมื่อเชื่อวันวา บัดนี้ฮองเตประทับอยู


แตตําหนักพระสนมเอกไมโปรดพระมเหสีอีกตอไปแลว กระทบใจใหแรงริษยาแหงสตรียงิ่ ฮือโหม พระมเหสีที่
พระทัยเต็มไปดวยแรงริษยาตอพระสนมเอกจึงลอบวางยาพิษขนกระเรียน สังหารพระสนมเอกอยางไรรองรอย
อันยาพิษขนกระเรียนนั้น ความจริงไมไดทําจากขนนกกระเรียนแตทํา จากขนนกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคลายนก
กระเรียน ดองเขากับสุราแลวมีพิษรายสุด ทําใหเสียชีวต
ิ ไดในทันที เปนที่นิยมใชกันในราชสํานักจีน แต
หนังสือกําลังภายในเรียกยาพิษชนิดนี้โดยนิยมวา ยาพิษหงอนกระเรียน

เมื่อสิ้นพระชนนี หองจูเหียบในเยาววย ั จึงกําพราแม พระนางตั๋งไทเฮามีความสงสารหลานกําพรา จึงรับเอา


หองจูเหียบมาเลี้ยงดูดวยพระองคเองในพระตําหนัก เปนธรรมดาของคนมีหลาน ยอมรักหลานอยูแ  ลว ครั้น
รับมาเลี้ยงดูใกลชิดสนิทสนมก็ยิ่งรัก อากัปกิริยาทั้งปวงของหองจูเหียบเปนที่ตองพระทัยของ ตั๋งไทเฮาไปสิ้น
นานวันเขาก็กลายเปนความหลงหลาน ในทีส ่ ด
ุ ก็อยากใหหลานที่เลี้ยงมากับมือไดราชสมบัติ ทั้งๆที่รูอยูแกใจ
วาผิดกฎมณเฑียรบาลขอหนึ่ง และอีกขอหนึ่งนั้นกฎมณเฑียรบาลหามสตรี มิใหยุงเกี่ยวการแผนดิน แตเมื่อ
น้ําใจรักเจือหลงหนักเขา ตั๋งไทเฮาก็ลืมกฎมณเฑียรบาลขึน ้ ไปวาเอากับพระเจาเลนเตผูบต
ุ ร ขอใหหลานได
เปนรัชทายาท ความยุงยากของฝายในจึงกอตัวขึ้นตั้งแตบด ั นัน

ในระยะแรกๆ เลนเตฟงคําขอของตั๋งไทเฮาพระมารดา ก็เฉยเสียบาง เปลี่ยนไปตรัสเรื่องอื่นเสียบาง เพราะรูด  ี


วาการใหนองไดครอง ราชยแทนพี่เปนการผิดกฎมณเฑียรบาล ทั้งจะกอใหเกิดปญหายุงยาก ในราชสํานักขึ้น
ในภายหนาเหมือนที่เคยเกิดขึน ้ แลวในประวัตศ
ิ าสตร แตตงั๋ ไทเฮาก็ไมละความพยายาม ในที่สด ุ เลนเตก็ใจ
ออน เพราะเห็นแกพระราชชนนีสถานหนึ่ง เห็นแกสนมเอกอันเปนที่รักผูล  ว งลับสถานหนึง่ ทั้งหองจูเหียบนั้นมี
รูปลักษณะกิริยาเปนที่รัก แลวยังบวกดวยความสงสารที่กําพราแมอีกสถานหนึ่ง พระเจา เลนเต ก็ละเสียซึ่งกฎ
มณเฑียรบาลอันมีมาแตบรรพชน อาศัยสิทธิแหงพระมหากษัตริยใ นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย รับคําของ
ตั๋งไทเฮาวา ในโอกาสอันสมควรจะโปรดเกลาแตงตั้งใหหองจูเหียบเปนรัชทายาท

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 25

อยูมา ณ เดือนหกของปเดียวกันนั้น ซึ่งเปนวันเวลาหลังจาก ที่เลนเต รับคําตั๋งไทเฮาไมนาน และยังไมทันมี


พระบรมราชโองการ โปรดเกลาตั้งหองจูเหียบเปนรัชทายาทก็ทรงประชวรมีพระอาการมากเกียนสิด หนึ่งในสิบ
ขันที ทราบความในพระตําหนักไทเฮาเปนอยางดี ไดกราบทูลพระเจาเลนเตวา ซึ่งพระองคมีพระราชประสงค
จะแตงตั้งหองจูเหียบเปนที่รช
ั ทายาทนั้น มีความยินดีดวยเปนอันมากแตเกรงวาการจะไมเปนไป ตามพระราช
ประสงค

สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาขันทีผูนี้ชื่อ เกนหวน อยูนอกกลุมขันทีสิบคน ความจริงเปนการแปล


ผิด ฉบับภาษาจีนวา เปนหนึ่งในขันทีสิบคน แตชื่อกลายเปนเกียนสิด ดังนั้นจึงถือวาขันทีผูนี้เปนหนึ่งในขันที
สิบคนที่เชื่อวา เกียนสิด เกียนสิด กราบทูลเหตุผลวา ตามกฎมณเฑียรบาลนั้น สิทธิในราชสมบัติตกแกหองจู
เปยนโอรสในพระมเหสีซึ่งเปนผูพี่ หากจะตั้งหองจูเหียบโอรสในพระสนมเอกซึ่งเปนผูนองใหเปนรัชทายาท
แลว บรรดาขุนนางที่เปนสมัครพรรคพวกของพระมเหสียอมไมพอใจ โดยเฉพาะโฮจิ๋น พี่พระมเหสีนั้นเปน ขุน
นางผูใหญฝายทหาร มีพวกฝายทหารอยูเปนอันมาก อาจทํารายรัชทายาท แลวเชิญ หองจูเปยน ขึ้นแทนที่
พระเจาเลนเตฟงคําทูลของเกียนสิดในขณะที่ทรงประชวรหนักแลว ก็ตกพระทัยอาการไขก็ทรุดลง กระนั้นยัง
ฝนพระองคตรัสถามวา จะปองกันแกไขปญหานี้อยางไร

พระเจาเลนเต นี้เห็นไดชัดวาทําการใดไมมห
ี ลักไมมีเกณฑ ไมรูการควรไมควร การแผนดินอันเปนเรื่องใหญถึง
เพียงนี้ แทนที่จะปรึกษาหารือกับพระราชวงศชั้นผูใหญหรือขุนนางชั้นผูใ หญทม ี่ ีใจภักดีตอแผนดิน กลับไป
ปรึกษา ขอความเห็นจากขันทีคนวิปริต เกียนสิดถวายความเห็นวา มีอยูท  างเดียวเทานัน ้ คือ ตองสังหารโฮจิ๋น
เสียกอนแลวเสนอแผนการวา ใหมีหมายรับสั่งใหโฮจิ๋นเขาเฝาในที่ประทับ แลวเกียนสิดจะรับธุระจัดหาคนมี
ฝมือลอบสังหารโฮจิ๋นเสีย

เลนเตในอาการทรุดหนักก็เออออกับแผนการของเกียนสิด ความที่เกียนสิดกราบทูลพระเจาเลนเตนั้น ยินถึงหู


ขันทีอีกคนหนึ่งในพระตําหนักและขันทีผูนี้ แมไมปรากฏนามแตคาดหมายไดวา คงเปนคนละพวกกับขันทีสิบ
คนหรือไมก็เปนพวกของโฮจิ๋น ขันทีผูนจ
ี้ ึงบอกความแกลูกนองของโฮจิ๋นซึ่งเปนขุนนางในราชสํานักชื่อวา
พัวอิ๋น ฝายพัวอิ๋นเมื่อทราบความแลวก็ตกใจ เตรียมออกจากพระราชวังเพื่อไปแจงความใหโฮจิ๋นทราบ พอดี
โฮจิ๋นกําลังเดินทาง เขาวังเพื่อฟงอาการของฮองเต ดวยทราบขาววาฮองเตประชวรมีพระอาการมากเห็นจะ
ทรงพระชนมไดไมขามคืนจึงเรงรีบเขาวังมา พบเขากับพัวอิ๋น ดังนั้นพัวอิ๋นจึงไดเลาความใหโฮจิ๋นทราบ แลว
บอกวาเกียนสิดคิดฆาทาน อยาไดเขาไปในพระราชวังเปนอันขาด

โฮจิ๋นทราบความแลวก็ตกใจ หันหลังกลับรีบเดินทางกลับจวนของตน แลวใหเชิญขุนนางฝายทหารและพล


เรือนที่เปนพวก มากินโตะที่บา น เมื่อสมัครพรรคพวกมากันพรอมแลว โฮจิ๋นจึงบอกความใหทุกคนไดทราบ
แลวแจงความประสงควา เมือ
่ เกียนสิดคิดรายจะฆา เราเชนนี้แลว จําเปนทีเ่ ราจะตองฆาเกียนสิดเสียกอน และ
ถามความ เห็นสมัครพรรคพวกวาจะคิดอานประการใด พรรคพวกของโฮจิ๋นฟงความแลว เห็นเปนการใหญหาก
พลาดพลั้งภัยก็จะมาถึงตนและครอบครัว ดังนัน ้ ทุกคนจึงพากันนิ่งเฉย แลวสายศรีษะทําทีเปนคิดไมออก บอก
ความเห็นไมได

บรรยากาศอึมครึมผานไปครูห  นึ่ง โจโฉซึ่งอยูใ นที่นั้นดวยและสงวนความเห็นดวยอาการเงียบมาแตตน ก็ไดรูวา


บรรดาคนเหลา นั้นรักตัวกลัวตายและ ไรสติปญ  ญาความกลาหาญ จึงออกความเห็นอยางตรงไปตรงมาวา "อัน
เกียนสิดนั้นพระเจาเลนเตก็โปรด ปราน พรรคพวกในวังก็มีเปนอันมาก ทานคิดการทั้งนี้ เกลือกจะมิสําเร็จ จะ
ไมตายแตตวั จะพาญาติพี่นองตายเสียสิ้น ขอทานจงดําริดูใหควรกอน"การออกความเห็นของโจโฉในครั้งนี้
ทั้งๆ ที่ตวั เองเปนเพียงนายทหารชั้นนายพัน แตหาญกลาออกความเห็นในทามกลางขุน นาง ชั้นผูใ หญจํานวน
มาก และเปนการออกความเห็นอยางตรงไปตรงมา นับเปนความกลาหาญที่เดนชัดแตความเห็นนี้ไมตอ  งดวย
ความคิดของโฮจิ๋น ซึ่งกําลังเลือดขึ้นหนาเพราะตกเปนเปาสังหารของเกียนสิด ดังนั้นโฮจิ๋นจึงตวาดใสโจโฉวา
เปนการบังอาจที่มาออกความเห็นในการประชุมขุนนางผูใหญ โจโฉเปนผูนอยก็นิ่งเฉยเสีย

แตความเห็นของโจโฉนั้น กระทบเขากับความรูสึกของพรรคพวกโฮจิ๋นที่อยูในที่นั้น ทุกคนตางหวนรําลึกถึง


เหตุการณครั้งที่แมทัพใหญเตาบูและราชครูตันผวน วางแผนสังหารสิบขันที ครั้งนั้นความลับรั่วไหลทัง้ แมทัพ
ใหญเตาบูและราชครูตันผวนถูกสิบขันทีสังหารโหดพรอมครอบครัวแลว ความรูส ึกวาเหตุการณกําลังเกิดซ้ํา
รอยก็เขาครองความนึกคิดของทุกคน

ความหนาวเหน็บในมรณภัยเขาเกาะกินหัวใจของทุกผูคน เพราะหากไมคลอยตามความคิดของโฮจิ๋น ก็เกรง


นักเพราะโฮจิ๋นเปนถึงพี่ชายของพระมเหสีมีบารมีและสมัครพรรคพวกมาก ดีรายก็อาจถึงตายได แตใน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 26

ขณะเดียวกัน หากคลอยตามความคิดของโฮจิ๋นแลัว หากการลมเหลวไมเพียงแตทุกคนจะหัวขาดเทา นั้นยัง


จะพาญาติพี่นองฉิบหายตายสิน้ ในขณะทีค่ วามเครียดกําลังครอบงําสมัครพรรคพวกของ โฮจิ๋นจนกินโตะไม
ลงนั้น ขางในราชสํานักอาการประชวรของเลนเตทรุดหนักโดยลําดับ และเสด็จสวรรคต

ดาวประจําพระมหากษัตริย อันริบหรี่ไดรวงลงเหนือเมืองลกเอี๋ยงราชธานีของราชวงศฮั่น เปนอันสิ้นศักราชของ


เลนเต ณ บัดนั้น

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สถานการณยามดาวมังกรลับ (ตอนที่ 12)

ขอเวลาใหสภาคนเครียดที่ประชุมปรึกษากันอยู ณ จวนของโฮจิ๋นไดครุนคิดหาทางออกสักระยะหนึ่ง และ


อาศัยชวงเวลานี้ทบทวนถึงสถานการณบานเมือง ณ ยามสิ้นแผนดินเลนเต เพื่อที่จะไดมองและเขาใจ
สถานการณทจ ี่ ะดําเนินตอไปไดแจมชัดยิ่งขึ้นตลอดยี่สิบปแหงอายุรช
ั กาลของเลนเต แมวาการบริหารราชการ
แผนดินจะเหลวแหลกสักเพียงไหน แตความมั่นคงเขมแข็งที่ราชสํานักฮั่น ไดวางไวเปนเวลาสีร่ อยปเศษยังไม
ถึงกับพังทลายลง อํานาจรัฐของราชสํานักยังคงเปนที่ยอมรับเชื่อฟงและปฏิบัติตามทัว่ ราชอาณาจักร เปนแต
อํานาจรัฐนั้น แทนที่จะเปนอํานาจบริหารของฮองเต กลับเปนอํานาจทีถ ่ ูกครอบงําโดยสิบขันที ถึงขนาดทีส ่ ิบ
ขันทีไดแอบอางใชพระราชอํานาจของฮองเตเปนเนืองนิจ

สิบขันทีเรืองอํานาจขึ้นแลวไดใชอํานาจรัฐไปในทางเบียด เบียนกดขี่ขมเหงขูดรีด ขุนนางขาราชการ ไมเวน


แมกระทั่งพวกขุนศึก การสรางคุณงามความดีและผลงานไวกับแผนดินไมวา สักเทาใด ไมมีวันที่จะเปน ความดี
ความชอบในราชการ นอกเสียจากจะไดบรรณาการสวยสินบนใหกับสิบขันที ความกาวหนาในราชการของขุน
นางขาราชการทั้งปวง ที่เกิดจาก แรงระบบสวยสินบนเชนนี้ เปนตนเหตุของความเดือดรอนทุกขเข็ญแกอาณา
ประชาราษฎร เกิดการปลนชิงวิ่งราวทั่วทั้งแผนดินแลวกลายเปนการจลาจลขึ้น

เหตุนี้จึงเกิดความขัดแยงหลักขึ้นในบานเมืองถึงสองชนิดคือ ระหวางอํานาจรัฐสวนกลางกับประชาชนชนิด
หนึ่ง และระหวางสิบขันทีกับขุนนางขาราชการ โดยเฉพาะเหลาขุนศึกอีกชนิดหนึ่ง ความขัดแยงทั้งสอง ชนิดนี้
ยอมกระทบราชบัลลังกมังกรใหสั่นไหวแลวสัน ่ คลอนลงอยางซึมลึก รอวันคืนทีจ
่ ะพังทลายดับสูญไปเทานั้น
ความไมพอใจ ความคับแคนใจที่กลายเปนความชิงชัง อาฆาต พยาบาทถูกบมไวในใจของเหลาขุนนางและขุน
ศึกเฝาคอยหาโอกาสชําระแคนวา ตองมาถึงเขาสักวันหนึ่งการลุกขึ้นสูของประชาชนทั้งสองครั้ง แมจะถูก
ปราบปรามจนราบคาบไปแลว แตความราบคาบนั้นมีลักษณะชั่วคราว ตราบใดที่ตนเหตุของการกดขี่ขมเหง
ราษฎรและการปกครองที่อธรรมดํารงอยู ตราบนั้น เชื้อไฟปฏิวัติของประชาชนยอมไมมีวันดับสูญ หากรอวันคืน
ที่จะลุกโชติชวงขึ้นมาใหมเทานั้น

แตทวาการลุกขึ้นสูกูชาติของประชาชนไดกอ  ใหเกิดจินตภาพใหมขึ้นในหวงใจของเหลาขุนศึก เพราะทาทาย


ตออํานาจรัฐและมีเจตนาชวงชิงอํานาจรัฐ โดยอาศัยกําลังอาวุธของประชาชนโดยตรง ดังนัน ้ ขุนศึกจํานวนหนึ่ง
จึงกอรูปความคิดขึ้นภายในใจที่จะชวงชิงอํานาจรัฐจากสิบขันที แตจินตภาพของพวกขุนศึกยังคงอยูท  รี่ ะดับ
ครอบงําอํานาจรัฐของ ฮองเตเทานั้น ยังไมไปไกลถึงขนาดลมราชวงศฮน ั่ ยึดราชบัลลังกมังกรเสียทีเดียว
เพราะยอมแลเห็นวายังมีขุนนางขาราชการอีกจํานวนหนึ่ง และยังมีราษฎรอีกจํานวนมากทีย ่ ังไมรูขอมูลขาวสาร
เกี่ยวกับความชัว่ รายทีค
่ รอบงําอํานาจรัฐอยู คนเหลานี้อาจอาศัยจิตใจจงรักภักดีตอราชวงศฮั่นหรือแกลงอาศัย
ความจงรักภักดีตอราชวงศฮั่นตอตานทําลายการกอรัฐประหาร จึงทําใหคนที่คด ิ กอรัฐประหารเกรงกลัว ไมกลา
คิดไปไกลถึงขนาดลมราชบัลลังกฮั่น จึงคิดไดแตเพียงการครอบงําอํานาจรัฐโดยผานทางฮองเตเทานั้น

สวนการณขางฝายในราชสํานักนั้น พลันทีต ่ ั๋งไทเฮาและเลนเตละเมิดกฎมณเฑียรบาลจะสถาปนาหองจูเหียบผู


นองขึ้นเปนที่รช
ั ทายาทแทนหองจูเปยนผูพแ ี่ ลว กลิ่นอายของการฆาฟนกันขางฝายในราชสํานักจึงกอตัวขึ้น
สถานการณในสวนที่เกี่ยวกับบุคคลสําคัญทีจ ่ ะกอตัวขึ้นกลายเปนสามกกในอนาคตนั้น ปรากฏวาแตละคนได
เขาสูกระแสแหงอํานาจในลักษณะที่แตกตางกัน และมีสภาพการณยามสิ้นแผนดินเลนเตที่แตกตางกันดวย โจ
โฉไดเคลื่อนตัวเขาใกลอํานาจรัฐมากที่สดุ มีตําแหนงเปนนายพันสารวัตรทหารประจํากองกําลังรักษาพระนคร
ไดใกลชด ิ สนิทสนมกับโฮจิ๋นผูค
 ุมอํานาจทางทหารสูงสุดในขณะนั้น ไดมีโอกาสเสวนาคบหากับ ขุนนาง
ขาราชการในเมืองหลวงเปนจํานวนมาก ซึ่งจะกลายเปนกําลังสําคัญของโจโฉในวันขางหนา

ความที่รับราชการอยูในเมืองหลวง ใกลชด ิ กับอํานาจรัฐ โจโฉจึงไดเรียนรูถึงอํานาจรัฐวา ยอมประกอบดวย


องคสามคือ อํานาจรัฐนั้นจะได มาก็แตโดยการชวงชิง จะปลอยใหเปนไปตามบุญทํากรรม แตงไมไดเปนอัน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 27

ขาด อํานาจรัฐนั้นจะตองใชดวยตนเองอยางเฉียบขาด จะประนีประนอมแบบไรหลักการหรือโลเลเหลวไหล


หรือใหคนอื่นใชอํานาจ แทนไมไดเปนอันขาด และอํานาจรัฐนั้นจะตองรักษาดวยความทะนุถนอมใหปลอดภัย
ดุจดวงใจ ดังนั้น เมื่อหวังครองอํานาจรัฐยอมจําเปนตองแสวงหาคนดีมีฝม  ือจํานวนมากมาทําการ ซึ่งนับเปน
เรื่องยากอยางหนึ่งเพราะเบื้อง แรกตองรูจ
 ักคนดี รูจ
 ักแลวตองหาวิธีเชิญชวนมารวมทําการ แตการรักษาคนดี
สงเสริมใหคนดีมีอํานาจกลับยากกวา แมกระนั้นการใชคนดีมีฝมือใหเหมาะกับการยังจัดเปนเรื่องยากทีส ่ ุด แม
ตนเองเลายอมตองฝกฝนจนสันทัดในการเปนศูนยรวมของคนดี มีฝมือ สามารถสรางเอกภาพทางความคิด
ทางความรับรูและทางการปฏิบัติใหเกิดขึ้นอยางมั่นคง ทัง้ ยังตองฝกฝนจนมีวิสย ั ทัศนกวางไกลบน พื้นฐาน
ความเปนจริงแหงสถานการณเพื่อนํามาใชชี้นาํ ขบวนการของตน และนําขบวนการของตนไปบรรลุซึ่งเปาหมาย
ทักษะและประสบการณตลอดจนความรับรู ความขัดแยงและเสน สายภายในราชสํานักและอํานาจรัฐกอเกิดขึ้น
แกโจโฉทุกวันคืน

สวนซุนเกี๋ยนนัน
้ ไดครองเมืองกังแฮ ตามความชอบในการสงครามโจรโพกผาเหลืองครั้งลาสุด แมจะหางไกล
จากนครหลวงลกเอี๋ยง ทําใหขาดความรูความเขาใจเกี่ยวกับสภาพการณในเมืองหลวง อันนับเปนจุดออนก็จริง
อยู แตความที่ กังแฮ เปนเมืองใหญเปนเมืองทาขาวปลาอุดมสมบูรณ การคาขายก็เจริญรุงเรือง มีผูคนมาก
กําลังทหารก็มากตาม ซุนเกี๋ยนไดปกครองโดยเมตตาธรรม รวมน้ําใจผูค  นใหสวามิภักดิ์ไดเปนอันมาก

เกียรติภม
ู ิของซุนเกี๋ยนเลื่องระบือไกลไปทั่วหัวเมืองขางเคียง กอตัวเปนบารมีที่จะตั้งตัวเปนใหญในวันหนา
สถานการณในภาคใตที่ซุนเกีย ๋ นปกครองอยูโ ดยมีกังแฮเปนศูนยกลางนั้น จึงเกิดภาวะสันติเปนรากฐานใหแก
การพัฒนาในทุกดาน คนดีมีฝม  ือจํานวนมากจึงหลั่งไหลเขาสวามิภักดิ์เขาทําราชการดวยซุนเกี๋ยน

ฝายเลาปครองเมืองเพงงวนกวนตามความชอบที่ไดรับจากการปราบสงครามโจรโพกผาเหลืองครั้งลาสุด อยู
หางไกลเมืองหลวง ขาดความรับรูขอมูลขาวสารในเมืองหลวงนับเปนจุดออนเชนเดียวกับซุนเกี๋ยน แตเมือง
เพงงวนกวนนั้น เปนเมืองเกามีความสงบสุขสันติตลอดมา ราษฎรอยูเย็นเปนสุขมีฐานะอาชีพที่ดถ ี วนหนา เมือง
นี้แมไมใหญนักแตมผ
ี ูคนมากหนาแนนเปนทีต
่ งั้ ของกองกําลังทหารมา โดยที่เลาปก็ไดรับพระราชทานยศเปน
นายพันทหารมาคุมกําลังทหาร มาและรถศึกอยูอีกตําแหนงหนึ่ง ความที่เลาปเปนมือแมนเกาทัณฑ อัน
ประจักษในสงครามโจรโพกผาเหลือง จึงเปนที่เลื่อมใสของบรรดาเหลาทหารมา

เลาปเปนนักปกครองที่อาศัยเมตตาธรรมและคุณธรรมเปนหลัก บานเมืองจึงอยูเย็นเปนสุข ปราศจากโจรผูร าย


คดีความของราษฎรก็ลดเหลือนอยลงและไดรบ ั การประสาธนความยุติธรรมโดยถวนหนา เลาปจึงไดรับความรัก
ภักดีจากราษฎรทั้งเมืองเพงงวน กวนและหัวเมืองขางเคียง กลายเปนบารมีและเกียรติภม ู ท
ิ ี่จะทํา การใหญใน
ภายหนาเชนเดียวกันเมื่อบานเมืองสงบสุขกวนอู เตียวหุย นองรวมสาบานทั้งสองของเลาปซึ่งมีคุณสมบัติเปน
นักรบโดยเนื้อแท เปรียบไดกับดาบเหล็กน้ําพีท ้ ี่มีคุณสมบัตวิ ิเศษในตัว ดังนัน
้ ยามวางศึกทัง้ กวนอู เตียวหุย จึง
ตางไดฝกปรือวิทยายุทธจนเชีย ่ วชาญจัดจาน ทั้งฝมืออาวุธสั้นและอาวุธยาว ไดฝกปรือยุทธวิธีการรบและการ
บัญชาการทหารจนเชี่ยวชาญทั้งไดเรียนรูการปกครองบานเมือง และการระงับขอพิพาท บาดหมางของราษฎร
โดยลําดับ หลอหลอมตนเองจนมีคุณสมบัตพ ิ รอม ทีจ ่ ะเปนนายทหารเอก ที่สามารถคุมและบัญชาทัพขนาด
ใหญได

พัฒนาการของความรับรูความสามารถและประสบการณของ ทั้งโจโฉ ซุนเกี๋ยนและเลาป จึงเปนรากฐานสําคัญ


ของพัฒนาการที่ทาํ ใหแผนดินจีนกลายเปนสามกกในอนาคต ในยามสิ้นแผนดินเลนเต ตัวละครตางๆ ที่ดาํ เนิน
ไปในยุคสมัยของพระองค แมมีอยูเปนจํานวนมาก แตไดลมหายตายจาก ไม ก็ถูกถอดถูกปลดออกจาก
ตําแหนงหนาทีใ่ นทางราชการ ไปทําไรไถนาคาขายตามอัตภาพ

แมทัพใหญเตาบูและราชครูตันผวนขุนนางผูใหญสองแผนดิน ผูภักดีตอพระราชวงศฮั่นถูกสังหารอยางโหดราย
ทั้งครอบครัว กลายเปนรอยบาปแหงยุคสมัยของพระเจาเลนเตพระพี่เลี้ยงเลาโต ซึ่งเคยเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน
เลนเตมาแตครัง้ ยังนอยและรองอัครมหาเสนาบดีตันต๋าํ ขุนนางสองแผนดินผูภักดีตอพระราชวงศฮั่นและมีคุณ
ตอเลนเตมาแตนอย ถูกพระราชอาชญาโดยสุดยอดวิชาของขันทีตองโทษจําคุก และตอมาถูกขันทีลอบ
สังหาร เปนบาปกรรมฐานเนรคุณผูมค ี ุณของเลนเตที่ตด
ิ ตัวไป กระทั่งวันตายฮองฮูสงและจูฮี ขุนนางระดับแม
ทัพปราบโจรโพกผาเหลือง ผูมีความชอบตอแผนดิน แตไมยอมเขาสูระบบสวยสินบนของขันที ถูกสิบขันทียุ
ยงใหพระเจาเลนเตปลดออกจากตําแหนงหนาที่ราชการ กลับไปอยูภูมิลําเนาเดิม

ในขณะทีค ่ นชั่วชาแบบตั๋งโตะ ซึ่งไรสติปญ


 ญาความสามารถ รบทัพจับศึกกี่ครั้งก็ตกเปนฝายพายแพแตดวย
แรงหนักของสินบนที่บรรณาการใหแกสิบขันที จึงกลับไดดีมีอํานาจวาสนา ไดครองเมืองซีหลงซึ่งเปนเมือง
ใหญที่มีกําลังทหารมากถึงยีส ่ ิบหมื่น สวนอวนเสี้ยว แมจะเปนบุตรชายของอัครมหาเสนาบดีเชื้อสายขุนนางที่

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 28

สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนและมียศทางทหารเปนถึงนายพัน มีตําแหนงเปนผูคุมหนวยทหารสารวัตรของกอง
กําลังรักษาพระนคร แตทั้งพอลูกก็ยังถูกระบบสวยสินบนของสิบขันทีรีด ไถไมไวหนา ดังนั้น อวนเสี้ยว ในดาน
หนึ่ง แมจําใจยินยอมอยูในระบบสวยสินบนของขันที แตในอีกดานหนึ่งไดผก
ู ใจเจ็บแคนอยาก กินเลือดกินเนื้อ
สิบขันทีมากกวาใคร

ดานสกุลโฮ ทีโ่ ฮจิ๋นครองอํานาจทางทหารสูงสุดในขณะที่ โฮฮองเฮาผูนองไดเปลี่ยนฐานะพระมเหสีเปนพระ


ราชนนีหลังเหตุการณสวรรคต จึงเปนสกุลที่มีบทบาทสูงสุดตออํานาจรัฐ แตสกุลนี้มีรากฐานมาจากพอคาเนื้อ
คุนเคยแตเรื่องคาขายและกําไร ขาดประสบการณเกี่ยวกับอํานาจรัฐ ทั้งคนในสกุลนี้ลวนมีจด
ุ ออนทั้งเรื่องโลภ
ในทรัพยสิน บายศบาอยางและหูเบา อันตรายจึงกรายเขามาเยือนสกุลโฮใกลเขามาทุกทีคือ ยิ่งใกลอาํ นาจรัฐ
เทาใด อันตรายก็ยิ่งใกลสกุลโฮมากยิ่งขึ้นเทานั้น

ฝายสิบขันทีนั้น หลังจากฮองสีขันทีตองโทษจําคุกฐานรับสินบนเปนไสศก ึ ใหกับโจรโพกผาเหลืองแลว ขาว


คราวของฮองสีขันที ก็เงียบหายไป ครั้นสิ้นแผนดิน พระเจาเลนเต แลว สิบขันทีก็เปนดังไมเลื้อยที่ไม หลักหัก
โคนลงตองปรับปรุงทาทีและแสวงหาหลักยึดใหมตอไป ในขณะทีค ่ วามขัดแยงภายในไดเกิดขึ้นตั้งแตกรณีฮ
องสีขันทีรับสินบนแลวแบงปนไมทั่วถึง ความหวาดระแวงไมพอใจกันจึงเกิดขึ้นโดยเฉพาะคูข  องเกียนสิด และ
กกเสงนั้น ขัดแยงกันหนักถึงขนาดจองลางผลาญกันและกัน

แตพวกขันทีนน ั้ เลนการเมืองไดเกง แมวาจะมีความขัดแยงภายในประการใด ก็สามารถปกปดความขัดแยงนั้น


ไวแตเฉพาะกลุม  ตน ไมเปดเผยแพรงพรายสูภายนอก แตถาหากมีปญ  หาขัดแยงกับตางกลุม ก็พรอมที่จะ
รวมตัวกันตั้งรับหรือโจมตีฝายอื่นจนยอยยับไป ตางกับนักการเมืองบางพรรค ไมพอใจกันเพียงเรื่องเล็กนอยก็
ปาวรองออกเปนความขัดแยงใหญสภ ู ายนอก เหลานี้คือสภาพการณที่เกิดขึ้นและดํารงอยู ณ ยามสิ้นแผนดิน
ของเลนเต สภาพการณเชนนี้แหละไดกลายเปนพลังวัตต ขับเคลื่อนใหสถานการณหลังการสวรรคตของพระ
เจาเลนเตดําเนินไป

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สิบขันทีฝาวิกฤติ (ตอนที่ 13)

สรรพสิ่งในโลกยอมผันแปรไปเปนธรรมดา มีความเกิดขึ้น ตั้งอยูแลวดับไปตามกฎแหงพระไตรลักษณ อันทรง


ธรรม ไมมวี ันทีจ
่ ะละเวนเกื้อกูลหรือเขมงวดเอากับผูใด มีลาภยศสุขสรรเสริญได ก็มีอันตองเสื่อมลาภเสือ
่ มยศ
มีทุกขและนินทาได เปนของคูกัน

เมื่ออยูในเวลากลางวัน ผูมีปญ
 ญายอมไมหลงระเริง หากตระหนักดีวาราตรีกาลยอมมาเยือน ครั้นอยูใ นราตรีอัน
มืดมิด ผูมีปญญายอมไมประหวั่นพรั่นพรึงทอถอย เพราะยอมมองเห็นอนาคตที่แสงสวางแหงอรุณจะมาเยือน
ธรรมชาติเปนเชนนี้ แตเปนวิสยั ของปุถุชนทีพ ่ ิสมัยแต สิ่งอันเปนที่พึงใจ รังเกียจเดียดฉันทสิ่งอันเปนทีไ
่ มพึง
ใจ ครั้นไดสิ่งที่พึงใจแลวก็เหลิงระเริงอยูกบ
ั ความพึงใจนัน ้ ไมยอมคาดไมยอมคิดวาความพึงใจนั้นยอมมีอัน
สูญสิ้นไปสักวันหนึ่ง ไมมีทางที่จะเปนอมตนิรันดรได สิบขันทีในยุคสมัยของเลนเตเรืองอํานาจวาสนายิ่งกวา
ผูใดในแผนดิน อาศัยพระบารมีแหงฮองเตกอกรรมทําเข็ญไวกับขุนนางขาราชการเปนฉกรรจแสนสาหัสนัก
สรางความเคียดแคนชิงชังประทับไวในใจของขุนนางขาราชการเกือบทั้งประเทศ และสงผลใหเกิดความ
เดือดรอนทุกขเข็ญแกอาณาประชาราษฎร

สิบขันทีเหลิงระเริงในอํานาจดังนี้ จนลืมไปวายอมมีสักวันหนึ่งที่เลนเตจะตองลับลาบัลลังกมังกร จึงไมได


เตรียมการสรางคุณงามความดีไถโทษตน ไมไดสรางความภักดีไวกับใจคน ดังนั้น ครั้นสิน ้ แผนดินเลนเตแลว
ชะตากรรมของสิบขันทีจึงเปรียบประดุจดัง เถาวัลยพันไมใหญ ครั้นไมใหญโคนลมลง เถาวัลยนั้นก็ลมลงตาม
พลันทีส่ ิ้นแผนดินเลนเต ปญหาอํานาจรัฐใหมยังคงคลุมเครือยิ่งนัก พระราชวงศพระองคใดจะไดรับสถาปนา
เปนฮองเตสืบราชสมบัติก็ยังไมแนชด
ั ขุนนางขาราชการผูใ ดจะกาวขึ้นครองอํานาจรัฐภายใตบัลลังกมังกรก็ยัง
ไมแนชัด

หันไปทางพระราชวงศกย ็ ังไมเห็นใครเปนที่พงึ่ ได หันไปทาง ดานขุนนางขาราชการเลาก็ปะเอาแตคนที่ตัว


เคยขมเหงรีดไถเอาสวย สินบนไปทั้งสิ้น เพราะขุนนางขาราชการเหลาใดที่ไมยอมอยูในระบบสวยสินบนลวน
ถูกปลดหรือถูกถอดออกจากตําแหนงกลายเปน ราษฎรสามัญ กลับไปทําไรไถนาคาขาย ณ ภูมิลําเนาเดิมจน
หมดสิ้น

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 29

สิบขันทีจึงวาเหวยิ่งนัก เปนความวาเหวทห
ี่ นาวเหน็บเขา ไปในหัวใจ เพราะเบื้องลึกแหงบึ้งใจตระหนักดีวา
ผูคนรอบขาง ไมวา ทางดานพระราชวงศหรือขุนนางขาราชการไมอาจหาใครเสมอเหมือนเลนเตไดอีกแลว มี
แตคนซึ่งเปนคนไกล หรือไมก็เปนคนที่มีรอยแคนตรึงอยูในใจทั้งสิ้น ดังนั้น แตละวันกลุมสิบขันทีจึงสาละวน
ปรึกษาหารือกันเพื่อหาทางออกใหกับชะตากรรมชีวิตของพวกตน และรอคอยโอกาส ที่จะมาถึง หวังเอา
โอกาสนั้นฟนคืนสถานะและอํานาจขึ้นมาใหม

ในระหวางที่เหลาขันทีกําลังรอเวลา รอโอกาสอยูนั้น สภาคนเครียดที่ประชุมกันอยูในจวนของโฮจิ๋น ยังหาขอ


ยุติไมไดกับขอเสนอของโฮจิ๋น ที่ใหวางแผนกันจับสิบขันทีฆาเสีย จนเวลาผานไปชั่วยามหนึง่ แลว ทุกคนยังคง
อยูในอาการเงียบ สายศีรษะ บางก็เอานิ้วชี้เคาะโตะ ทําทีเปนครุนคิด บางก็ลุกเดินวนรอบโตะ ทําทีเปนใช
ความคิดอยางหนัก โดยทีท ่ ุกคนไมยอมกินโตะ ทั้งๆ ทีถ
่ ูกโฮจิ๋น เชิญมากินโตะ ทั้งนี้เนื่องเพราะปญหาที่ขบคิด
กันอยูนั้นหนักหนาสาหัสนัก ประดังขึ้นมาถึงลําคอ กลืนกินอาหารไมลง คงมีแตโจโฉ เจาปญญาเทานั้นที่ยืน
สงบนิ่งเฝาสังเกตอากัปกิริยาของ โฮจิ๋น และเหลาขุนนาง ที่เปนไป ณ ทีน ่ ั้น แลวรําพึง ขึ้นในใจวาคนพวกนี้หา
มีสติปญ ญาไม ใชแตเทานั้นยังเปนพวกขี้ขลาดตาขาวเอาตัวรอด แลวเรื่องอะไรเราจะออกความคิดเห็นใหเปน
ภัยแกตนไปในภายหนา โจโฉจึงไดสงบนิ่งตอไป

ในขณะทีค ่ วามเงียบปกคลุมบรรยากาศในหองจัดเลี้ยง ซึ่ง ใชเปนหองประชุมไปดวยนั้น ทหารรับใชไดวงิ่ เขา


มารายงานตอ โฮจิ๋น วา ขุนนางชื่อพัวอิ๋น มาขอเขาพบ เพื่อรายงานเหตุการณสําคัญ โฮจิน
๋ จึงออกจากหองจัด
เลี้ยงไปพบพัวอิ๋นในหองรับรองอีกหองหนึ่ง พัวอิ๋นขุนนาง ซึ่งเปนพวกของโฮจิ๋น รายงานใหโฮจิ๋น ทราบวา
บัดนี้พระเจาเลนเตสวรรคตแลว สิบขันทีปกปดขาวการสวรรคตนั้น แลวเกียนสิด หนึ่งในสิบขันทีคบคิดกัน
กับตั๋งไทเฮา พระราชชนนีของฮองเตในพระบรมโกศวาง แผนจะแอบอางรับสั่งใหตัวทานเขาวังแลวสังหารเสีย
จากนั้นจะใหหองจูเหียบ พระโอรสในพระสนม เอกขึ้นครองราชย รายงานแลวพัวอิ๋นก็ลากลับไป

พัวอิ๋นออกจากจวนไปยังไมทน ั ที่โฮจิ๋นจะกลับเขาไปในหองจัดเลี้ยง ทหารรับใชก็วิ่งหนาตื่นเขามารายงานตอ


โฮจิ๋นวาเจาหนาที่ราชสํานักเชิญรับสั่งของฮองเตมาพระราชทานแกโฮจิ๋น โฮจิ๋นจึงใหเชิญเจาหนาที่ราชสํานัก
เขามาในหองรับรอง จึงได รับหมายรับสั่งวาใหโฮจิ๋นเขาเฝาฮองเตเพื่อปรึกษาราชการสําคัญ โฮจิ๋นรับหมาย
รับสั่งแลว เดินกลับเขามาที่หอ  งจัดเลี้ยงบอกความทั้งปวง ใหเหลาขุนนางทราบ ขุนนางทั้งนั้นสีหนาแตกตื่น
ตกใจ แตไมมผ ี ูใดออกความเห็น ในขณะทีค ่ วามคิดของทุกคนโลดแลนคาดคิดถึงเหตุรายที่กําลังเยื้องกราย
เขามาเยือนพวกตน ตางคนตางคิดถึงชะตากรรมของตัวและครอบครัว พากันหนาสลดลง จนเปนที่เห็นไดชัด

โจโฉฉวยโอกาสนี้ทาํ ตนเปน "แสงไฟนอยสวางขึ้นในที่มดื " เสนอความเห็นวา "เราจําจะตั้งใหหองจูเปยน พระ


ราชบุตรคน โตเสวยราชสมบัติเสียกอน" ทัง้ นี้ เพื่อไมใหราชบัลลังกวางลงนานเกินไปจนเสียธรรมเนียมการ
ปกครองแผนดิน หลังจากนั้นแลวจึงคอยคิดอานฆาเกียนสิดขันทีกับพรรคพวกตอไป

โฮจิ๋นยินขอเสนอของโจโฉแลว ทั้งเห็นวาไมมีขุนนางผูใด โตแยงคัดคานหรือแสดงความเห็นเปนอยางอื่น จึง


เห็นดีดวยแลวถามวาผูใดจะอาสาไปทําการครั้งนี้ อวนเสีย้ ว นายพันทหารสารวัตรแหง กองกําลังรักษาพระ
นคร ผูเปนบุตรอัครมหาเสนาบดีไดฟงดังนั้น จึงขันอาสาวาจะขอนํากําลังทหารหาพันบุกเขาไปจับเกียนสิดกับ
พวกขันทีฆาเสียถึงในพระราชฐาน แลวจึงยกหองจูเปยนขึ้นครองราชยตอไป

โฮจิ๋นมีความยินดียิ่งนัก มีคําสั่งใหจัดทหารหาพันพรอมอาวุธครบมือ ใหอว นเสี้ยวคุมทหารเขาวังไป ยามตกอยู


ในสภาพกลัวตาย และเชื่อมั่นในกําลังทหารของตัว โฮจิ๋นจึงมองขามไปวาการกระทําเชนนั้นเปนการบุก
พระราชฐาน มีความผิดฐานกบฎ ภายในราชอาณาจักร มีโทษถึงประหารเจ็ดชั่วโคตร สวนอวนเสี้ยวนั้นแรง
แคนพยาบาทสิบขันทีกรุนอยูใ นอก หาคิดหนาคิดหลังประการใดไม

สวนโฮจิ๋นไดสงั่ ให โหหยอง, ซุนสิว, แตะถาย พรอมดวยขุนนางใหญนอยกวาสามสิบคนติดตามโฮจิ๋นเขาไป


ถึงพระตําหนักซึ่งไวพระบรมศพพระเจาเลนเต แลวใหเชิญหองจูเปยน พระราชบุตรพระองคโตทรงฉลอง
พระองค ชุดพระมหากษัตริยขึ้นประทับนั่งบนพระราชบัลลังก โฮจิ๋นและขุนนางทั้งปวงกราบถวายบังคมแลว
ใหอาลักษณ อานประกาศสถาปนาฮองเตในนามของเหลาขุนนางและราษฎรทั้งปวง อัญเชิญหองจูเปยนขึ้น
เสวยราชสมบัตต ิ ามราชประเพณี

หองจูเปยน ฮองเตพระองคนอยสดับประกาศสถาปนาแลว จึงตรัสวาการแผนดินเปนการใหญ ตัวเรายังเยาววัย


นัก หวังเอาความ ภักดีของทานทั้งปวงเกื้อกูลสนับสนุนเพื่อใหบานเมืองแลราษฎรสงบสุขสืบไป เหลาขุนนาง
พรอมกันถวายพระพร ถวายบังคม เสร็จพิธีแลวฮองเตพระองคนอยจึงเสด็จขึ้น จากนั้นโฮจิ๋นจึงตามอวนเสี้ยว
ไปที่บานเกียนสิด ภายในพระราชวัง ฝายเกียนสิด ขันทีไดยินเสียงอึกทึกครึกโครม เห็นทหาร เขามาใน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 30

พระราชวังผิดสังเกตก็รูตัววาภัยกําลังจะมาถึง จึงวิ่งหนีออกจากบานเขาไปในสวนหลังบานกกเสงขันที ซึ่ง


อาฆาตแคนอยูก  ับเกียนสิดกอนนี้แลว เห็นโอกาสที่จะระบายแคนเอากับเกียนสิด และสรางความชอบไวแกตน
จึงวิ่งตามไปสังหาร เกียนสิดตายในสวนดอกไมนั้น

สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาขันทีผูนี้ชื่อกุยเสง อยูนอกกลุมขันทีสิบคน ซึ่งแปลผิด ความจริงเปน


กกเสง หนึ่งในสิบขันทีตามตนฉบับภาษาจีน เหลาทหารลอมวังในบังคับของเกียนสิด เห็นเกียนสิดตายตาง
ตกใจกลัว ขอเขาเปนพวกของอวนเสี้ยวเปนจํานวนมาก อวนเสี้ยวรายงานเหตุการณให โฮจิ๋นทราบแลวเสนอ
วาเราทําการมาถึงเพียงนี้แลว เปนตองฆาสิบขันทีที่เหลือเสีย บานเมืองจึงจะปกติ โฮจิ๋นเห็นดวยจึงนําทหาร
ไปที่กรมขันที แตไมพบสิบขันทีแมแตคนเดียว

ฝายสิบขันทีไดรับรายงานขาวมากอนแลววาโฮจิ๋น และอวนเสี้ยวนํากําลังทหารบุกเขาวัง และขันทีเลวไดมา


รายงานวาอวนเสี้ยวเสนอโฮจิ๋นใหสังหาร พวกตนเสียก็ตกใจวิง่ หลบหนีเขาไปในเขตพระราชฐานชั้นใน เขาไป
ในพระตําหนักโฮฮองเฮา ผูเปนนองสาวของ โฮจิ๋น ซึ่งบัดนี้เมื่อมีการสถาปนาหองจูเปยนผูบุตรขึ้นเปนฮองเต
แลว ฐานะของโฮฮองเฮาจึงเปลี่ยนไปเปนโฮไทเฮา

สิบขันทีเขาไปกราบบังคมฝากเนื้อฝากตัวกับโฮไทเฮาแลวทูลวา หลายป มานี้พวกตนไดทุมเทรับใชฮองเต


และโฮไทเฮาไมคิดถึงทุกขสุขของตนและครอบครัว ไดเลีย ้ งดูฮองเตมาแตนอยดวยใจภักดี บัดนี้ฮองเตในพระ
บรมโกศเพิ่งลวงลับ ทุกคนอยูใ นความเศราโศก แผนดินตองการความสงบสุข แตอวนเสีย ้ วกลับยุยงใสความ
หาวา พวกตนสมคบกับเกียนสิดขันทีจะสังหาร โฮจิ๋นเสีย แลวยกหองจูเหียบขึ้นเปนกษัตริย เพื่อใหโฮจิน ๋
สังหารพวกตนเสีย การยุยงนัน ้ ไมเปนความจริง เพราะพวกตนนั้นไมไดคบคิดกับเกียนสิด วาแลวก็ใชสด ุ ยอด
วิชาขันทีกราบทูลโฮไทเฮาวา เกียนสิดนั้นเปนคนสนิทของพระนางตั๋งไทเฮา ผูเปนแมผวั ของโฮไทเฮา คบคิด
กับตั๋งไทเฮา จะใหหองจูเหียบขึ้นครองราชย ดวยริษยาพระองค กีดกันไมใหพระองคเปนไทเฮา โดยที่พวกตน
ไมมีสวนเกี่ยวของดวย จึงขอพระบารมีชวยชีวต
ิ ลูกนกลูกกาไวรับใชเบื้องพระยุคลบาทสืบไป

สุดยอดวิชาขันทีวาดวยการสรางความแตกแยกเพื่อเอาตัวรอดสัมฤทธิผล โฮไทเฮาถูกอํานาจโทสะบดบัง
พระทัย เพราะมีความขุนพระทัยในแมผัว สุมอยูในอกมานานแลวก็ทรงเชือ ่ ตามคําทูลของขันที แลวมีพระราช
เสาวนียวา พวกเจาอยาเปนทุกขเลย เราจะชวยวากลาวกับโฮจิ๋นเอง ตรัสแลวจึงสั่งนางกํานัลไปเชิญโฮจิ๋นมา
พบถึงในพระตําหนัก แลววาขันทีสิบคนมีความภักดีตอเราและฮองเตในพระบรมโกศ ทั้งเลี้ยงดูลูกเรามาดวย
ใจซื่อจนไดเปนฮองเต สิบขันทีเปนคนละพวกกับเกียนสิด หาความผิดมิได ไฉนจะใหอวนเสี้ยวฆาเสียเลา ทั้ง
เกียนสิดผูคดิ มิชอบตอราชสมบัติก็ตายแลว แผนดินยามนี้ตองการความสงบสุข อยาไดกอเรื่องใหวุนวายไป
เลย จะกระทบตอพระบรมเดชานุภาพ โฮจิ๋นเจอไมนี้เขาประกอบทั้งเปนคนไรความคิด มีจต ิ ใจโลเล ไดฟง พระ
ราชเสาวนียของโฮไทเฮาแลว มิรูทจ ี่ ะวาประการใด ก็คลอย ตาม แลวรับคํา โฮไทเฮา

โฮจิ๋นรับคําโฮเทเฮาแลว ก็ออกมาวาแกอวนเสี้ยวและเหลาขุนนางวาบัด นี้พึ่งผลัดเปลีย ่ นแผนดิน บานเมือง


ตองการความ สงบเรียบรอย เกียนสิดซึ่งคิดรายตอเราก็ตายแลว ทั้งขันทีสบ ิ คนที่เหลือก็ไมไดสมรูรวมคิดดวย
จะฆาเสียยอมมิควร ขอใหจบเรื่องกันเพียงเทานี้ อวนเสี้ยวแยงวาเกียนสิด เปนพวกสิบขันที สมคบกันคิดการ
ใหญ ทานรูต ัวกอนจึงรอดตาย "ขันทีสิบคนเหมือนหนึ่งรากหญา ตายแตตน  นั้นเห็นไมสิ้นเชิง รากก็จะงอกแทน
ขึ้นมา ภายหนาไปเห็นอันตรายจะมีแกทานเปนมั่นคง" โฮจิ๋นจึงวาอยาวิตกไปเลย เปนธุระของเราเอง แลวตาง
คนก็แยกยายกันกลับบาน สิบขันทีจึงรอดตาย ดวยสุดยอดวิชาขันทีที่วาดวยการสรางความแตกแยกเพื่อเอาตัว
รอด และแสวงหาประโยชนอยางหวุดหวิด

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ศึกสองตําหนัก (ตอนที่ 14)

โลกเรานี้มีคูกัดโดยธรรมชาติ ซึ่งกัดกันมาตั้งแตบรรพกาล และจะกัดกันตอไปตราบฟาดินสลายอยูส  ามคู คือ


แมผัวกับลูกสะใภหนึ่ง, เมียนอยกับเมียหลวงหนึ่ง และงูเหากับพังพอนอีกหนึ่ง ในยุคสมัยของ เลนเต ตั๋งไท
เฮา มีอํานาจวาสนามาก เพราะเปนพระราชชนนี ในขณะที่ โฮไทเฮา ขณะนั้นเปนลูกสะใภ ตองอยูภ  ายใต
บังคับของ ไทเฮาตามกฎราชสํานัก เหตุนต ี้ ลอดยุคสมัยนัน ้ แมมีขอระหองระแหงระหวาง แมผัวกับลูกสะใภ
เกิดขึ้นบาง ก็ไมรุนแรงนัก เพราะฝายแมผัวอิม่ อยูดวยอํานาจ และลูกสะใภตองตกอยูในสภาพจํายอม การขาง
ในจึงดูสงบเรียบรอยเปนปกติ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 31

ครั้นสิ้นแผนดินเลนเต หองจูเปยน ไดเสวยราชสมบัติแลว สถานการณยอมเปลี่ยนแปลงไป โฮไทเฮา กลับมี


ฐานะเปนพระราชชนนี มีอํานาจวาสนาเพิ่มขึ้น ในขณะที่ ตั๋งไทเฮา กลายเปนคนแกที่เคยมีอํานาจ แตยังคงติด
ยึดในอํานาจนัน ้ ความระหองระแหงทีถ ่ ูกขมไวแตกาลกอนจึงเกิดขึ้น อุปมาดังหญาแพรกถูกกอนหินใหญทับไว
เจริญงอกงามไมได ครั้นบัดนี้หินกอนใหญนั้นถูกยกออกไปแลว หญาแพรกยอมถึงคราวเจริญงอกงามฉันใด
ความขัดแยงระหวางแมผัวกับลูกสะใภก็อุปไมยฉันนั้น

หลังจากเหลาขุนนางไดพรอมกันสถาปนาหองจูเปยนขึ้นเปนกษัตริย โดยการจัดการของ โฮจิ๋น แลว วันรุงขึ้น


หองจูเปยน กษัตริยผ  ูเยาว จึงไดออกนั่งบนพระราชบัลลังก ทามกลางมหาสมาคม ของเหลาขุนนาง แต
เนื่องจากยังไมมีการแตงตั้งผูใดเปนผูส
 ําเร็จราชการแผนดิน ดังนั้น โฮไทเฮา พระราชชนนีจึงอาศัยอํานาจตาม
กฎมณเฑียรบาลชวยวาราชการหลังมาน ในมหาสมาคม ฮองเตพระองคนอยโปรดเกลาฯ ใหแตงตั้งโฮจิ๋น
พี่ชายโฮไทเฮาเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน และตั้งใหโฮเบี้ยว นองชายโฮไทเฮาเปนผูชวยผูสําเร็จราชการ
แผนดิน นอกนั้นโปรดเกลาฯ ใหเลื่อนยศโดยถวนหนากัน

ณ บัดนี้ผูคนในตระกูล "โฮ" ไดเขาครองอํานาจรัฐภายใตบัลลังกมังกร ของฮองเตอยางเบ็ดเสร็จเด็ดขาด


ในขณะที่เหลาขุน นางที่เปนพวกก็ไดรับผลประโยชนเลื่อนตําแหนง และยศศักดิ์ถวน หนากัน การออกวา
ราชการหลังมานของโฮไทเฮาในครั้งนี้ มิไดผา นการ ปรึกษาหารือใดๆ กับ ตั๋งไทเฮา ดังนัน
้ เมื่อความทราบถึง
ตั๋งไทเฮา จึงทรงแคนพระทัยยิ่งนักที่ โฮไทเฮา กระทําการประหนึ่งขามหนาขามตาราวกับวาพระองคไร
ความหมายใดๆ ในราชสํานักแลว

ความนอยใจของคนแกบวกเขากับความขัดแยงระหองระแหงระหวาง แมผัวกับลูกสะใภที่ตกตะกอนอยูจึง
คละคลุงขึ้นมาเต็ม หัวอก น้ําพระทัย ตั๋งไทเฮา เต็มไปดวยแรงริษยาพยาบาทถึงขนาดตองการลมราชบัลลังก
เพื่อแกแคนโฮไทเฮาสถานหนึ่ง และเพื่อใหหองจูเหียบ ผูห  ลานที่เลี้ยงมากับมือได ครองราชสมบัติอก ี สถาน
หนึ่ง แตทวาอาจมีวาระซอนเรนอยูในใจของ ตั๋งไทเฮา ก็เปนไดวาหาก หองจูเหียบ ผูหลานไดครองราชสมบัติ
แทน หองจูเปยนพระโอรสใน โฮไทเฮา แลว ก็จะทําให โฮไทเฮา สิ้นอํานาจลง ในขณะที่ตั๋งไทเฮา จะกลับมี
บทบาท และพระราชอํานาจเหมือนดังเดิม หรือมากกวาเดิม

ทั้งนี้เพราะหองจูเหียบกําพราแม มาบัดนี้กําพราพอซ้ําเขาไป อีก ตั๋งไทเฮาซึ่งเปนผูเลี้ยงดูมาแตนอย ทั้งมี


ราชศักดิ์เปนถึงยาของฮองเต อํานาจจึงยอมตองตกแกตั๋งไทเฮาแตผูเดียว จากนั้นไปการถือโอกาสกําจัดโฮ
ไทเฮาเสียก็จะสะดวกเทากับการยิงกระสุนนัดเดียวไดนกถึงสองตัว มีดําริดงั่ นี้แลว จึงโปรดใหหาสิบขันทีมา
ปรึกษาถึงในพระตําหนัก บอกความขุนของในพระทัยและความประสงคใหสิบขันทีทราบแลวจึงวานับแต
สิ้นบุญพระเจาเลนเต ชะตากรรมของสิบขันทีภายใตบัลลังกของ หองจูเปยน นั้นตองเผชิญเฉียดเฉีย ่ วประตู
ยมโลกอยูเสมอ เพราะทั้ง โฮจิ๋น และ อวนเสี้ยว หาทางสังหารกําจัดเสียอยูทุก ลมหายใจ ยอมตองมีวันพลาด
พลั้งเขาสักวันหนึ่ง เราทั้งสองฝายตางมีชะตากรรมอยางเดียวกัน แลวจะทําฉันใดดี เตียวเหยียง ซึ่งเปนหนึ่ง
ในสิบขันทีจึงทูลเสนอความเห็นวา "วันพรุง นี้เชาเชิญพระองคเสด็จออกไปยังพระแกลทีพ ่ ระเจาเลนเตเสด็จ
ออก แลวตรัสวา ใหหองจู เหียบเปนเจาตางกรม ชื่อวาตันสิวออง แลวใหตงั้ ตั๋งตง ผูนองพระองคเปนเสนาบดี
ผูสาํ เร็จราชการฝายทหาร ขอใหตั้งขาพเจาทัง้ สิบคนนี้เปนขุนนางผูใหญ ซึ่งราชการ ทัง้ ปวงนั้นจะไดคด ิ การ
สืบไป" เปนอันวาสิบขันทีตกลงเขารวมขบวนการกับ ตั๋งไทเฮา วางแผนอยางเปนขั้นตอนเพื่อเตรียมการยึด
อํานาจตอไป ตัง๋ ไทเฮา มีความยินดียิ่งนัก

ครั้นเวลาเชา ตั๋งไทเฮา จึงอุม หองจูเหียบ ผูหลานเสด็จออกไปที่พระแกลตามคําทูลของ เตียวเหยียง มิได


เปดมูลี่ขึ้นและไดตรัสตามคําของ เตียวเหยียง ทุกประการ ขุนนางขาราชการไดแตงงงวย เพราะบัดนี้มผ ี ูสาํ เร็จ
ราชการแผนดินเพิ่มขึ้นอีกผูหนึ่งคือตั๋งตง พระอนุชาในตั๋งไทเฮา และสิบขันทีก็กลับคืนสูอํานาจ เปนขุนนาง
ผูใหญมส ี ิทธิเขารวมปรึกษาราชการแผนดินเหมือนยุคสมัยเลนเตทุกประการ แตเพราะความรักตัวกลัวตายไมมี
ผูใดกลาขัด การทั้งปวงจึงไดรบ ั การปฏิบัติไปตามรับสั่งของตั๋งไทเฮานั้น

ฝาย โฮไทเฮา เมื่อทราบขาว ตั๋งไทเฮา ออกวาราชการหลังมาน ก็โกรธหนัก เพราะเขาใจไดวาอํานาจแหงราช


สํานักที่อยูในมือพระองคกําลังจะถูกแยงชิง และรูปการณสอ
 เคาวาจะเกิดการรัฐประหารยึดอํานาจรัฐ เพราะมี
การแตงตั้งผูส  ําเร็จราชการแผนดินขึ้นอีกคนหนึ่ง และใหเปนผูสาํ เร็จราชการแผนดินดานการทหารเสียดวย
เกิดความประหวั่นขึ้นในพระทัย แตยังหวังวาปญหาระหวางแมผัวกับลูกสะใภอาจหาขอยุติประนีประนอมกันเอง
ได

ดังนั้น โฮไทเฮา จึงใหแตงโตะเสวย แลวใหเชิญ ตั๋งไทเฮา มาหารือเปนการสวนพระองค ตั๋งไทเฮา รับคําเชิญ


เสด็จมายังตําหนักโฮไทเฮา โดยสิบขันทีไดเขาถวายงานตามปกติ โฮไทเฮาแสดงความคารวะแลวคํานับตั๋ง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 32

ไทเฮาดวยน้าํ จัณฑแลววาพวกเราเปนอิสตรี ชอบที่จะดูแลการฝายใน หาควรเขายุงเกี่ยวดวยการฝายหนาอัน


เปนราชการบานเมืองไม เพราะไมเพียงแตจะผิดกฎมณเฑียรบาลเทานัน ้ ยังจะกอความสับสนเสียหายแก
บานเมืองแลราษฎรได พรอมทั้งยกตัวอยางครั้ง พระเจาฮั่นโกโจ เสด็จสวรรคต พระนางลิเฮา พระมเหสีออกวา
ราชการหลังมานทําใหการแผนดินฟนเฟอนไป ขุนนางขาราชการและราษฎรไดรับความเดือดรอน เกิดการ
จลาจลขึ้น

ในทีส่ ุด พระนางลิเฮา พรอมดวยพระญาติกวาพันชีวต ิ ตองถูกสังหารหมดสิ้น "แลพระองคกับขาพเจาเปนสตรี


จะออก วาราชการเมืองนั้นไมสมควร ถามิฟงขาพเจาเห็นจะเปนอันตรายเหมือนพระนางลิเฮา" ตั๋งไทเฮา ยินคํา
โฮไทเฮา แลว ถือวาเปนสะใภบังอาจสั่งสอนแมผัวจึงแคนใจนัก แรงโทสะริษยาพยาบาทครอบงําพระทัยจึง
ตรัสวา "ตัวมิไดมีสต
ั ย กอปรดวยหึงสา พาลเอาความผิดนางอองบีหยินแลว ใหเอาไปฆาเสีย บัดนี้ลูกของตัว
ไดเปนใหญ ตัวมิไดยําเกรงเรา มาวากลาวถอยคําหยาบชาดูหมิ่นเปรียบเทียบเราดังนี้ เราหาฟงไม ถึงมาตรวา
โฮจิ๋นพี่ของตัวซึ่งไดเปนเสนาบดีผใู หญนั้น เพียงแตตงั๋ ตงผูนองเราจะตัดเอาศีรษะโฮจิ๋นก็จะไดในลัดนิ้วมือ
เดียวดวยงาย"

โฮไทเฮา ฟงแลวเลือดขึ้นหนาเหมือนกัน ลุกขึ้นจากที่นั่งแลววาเราเห็นผิดชวยเตือนสติแลวยังกลับมาโกรธอีก


เลา ตั๋งไทเฮา ก็ไมยอมแพ แลวบริภาษวา โฮไทเฮา เปนผูนอยมากอน เปนเมียลูกเรา เคยออนงอราขอเรา
ตลอดมา มาบัดนี้ลูกตัวไดครองราชย สิมาตั้งตัวเปนผูรอบรูงานแผนดิน ตางฝายตางลุกขึ้นจากที่นั่ง ถมึงตึง
เปนวิวาทขึ้น เสียงที่โตเถียงกันดังยิ่งขึ้นทุกที สิบขันทีอยูในที่เฝาจึงเขาหามไวทั้งสองฝายแลวเชิญเสด็จ ตั๋ง
ไทเฮา เสด็จกลับตําหนัก

โฮไทเฮา โกรธแคน ตั๋งไทเฮา เต็มหัวอก ตัดสินพระทัยแตกหักเสียแตครั้งนี้ เพราะเห็นวาหากจะปลอยไวนาน


เนิ่นไป หนอเหงาแหงการรัฐประหารก็จะเจริญเติบโตแตกตนกิ่งกานใบจนยากที่จะปราบปราม อันตรายจะมาถึง
สกุล "โฮ" ตกค่ําจึงมีพระราชเสาวนีย ให โฮจิ๋น ผูเปนพี่ชายเขาเฝาที่พระตําหนัก แลวฟองความที่ไดวิวาทกับ
ตั๋งไทเฮา ให โฮจิ๋น ฟงทุกประการ โฮจิ๋น ฟงเรื่องราวแลวเห็นวาเปนเรื่องใหญ เห็นดวยกับ โฮไทเฮา วา เปน
ตองกําจัดตั๋งไทเฮาเสีย ปรึกษาแผนการกันแลว โฮจิ๋น ก็รบ ี กลับจวน

ครั้นถึงจวนจึงสัง่ ใหเจาหนาที่เรงเชิญอัครมหาเสนาบดีพรอมรองทั้งสองคน และขุนนางที่เปนพวกมาปรึกษาที่


ในจวน เมื่อมาพรอม กันแลว โฮจิ๋น จึงวาตั๋งไทเฮา นั้นไมใชพระมเหสีในพระเจาฮั่นเต แตเขาวังมาไดเพราะ
พระเจาฮั่นเตไดขอบุตรคือพระเจาเลนเตมาเลี้ยงเปนบุตรบุญธรรม ครั้งบุตรไดครองราชยเปนพระมหากษัตริย
จึงไดเขาวังมา บัดนี้ฮองเตผูเปนบุตรหาบุญไมแลว ตั๋งไทเฮาจึงหมดสิทธิทจ
ี่ ะอยูในวังหลวงอีกตอไป ทั้งความ
จุนจานไมรูการแผนดินวาควรมิควรจะทําใหราชการฟนเฟอนไป

โฮจิ๋นเสนอตอเหลาขุนนางวาเราจะใหตั๋งไทเฮาออกจากวังหลวงไปอยู ณ เมืองฮอกัง แลวทําลายแผนการ


รัฐประหารใหสน ิ้ ซากตอไป เหลาขุนนาง ณ ที่นั้นมีความเห็นคลอยตามเปนเอกฉันท วันรุงขึ้น โฮจิ๋น ในฐานะ
ผูสาํ เร็จราชการแผนดินพรอมดวยขุนนางจึงเขาวังตรงไปที่พระตําหนัก ตั๋งไทเฮา แลววาพระองคไดเสด็จมา
ประทับในวังหลวงโดยอาศัยสิทธิของบุตรซึง่ เปนฮองเต มาบัดนี้บุตรของพระองคหาบุญไมแลว จึงหมดสิทธิที่
จะอยูในวังหลวงอีกตอไป แตเพื่อเห็นแกฮองเตพระองคกอน เราจะจัดใหไปประทับที่พระตําหนัก ณ เมืองฮอ
กัง วาแลวโฮจิน ๋ จึงสั่งทหารใหเชิญเสด็จตั๋งไทเฮาออกจากวังหลวง ไปประทับ ณ พระตําหนักเมืองฮอกัง จัด
ทหารรักษาการณเฝาเวรยามตลอดทุกโมงยาม หามคนในออก หามคนนอกเขาเปนเด็ดขาด พรอมกันนัน ้ โฮจิ๋น
ไดสั่งใหทหารไปลอมจวนตั๋งตง ผูสําเร็จราชการแผนดินฝายทหาร ซึ่งเปนพระอนุชาของตั๋งไทเฮา เรียกให
สละตําแหนงผูส  ําเร็จราชการแผนดินฝายทหาร และใหคืนตราประจําตําแหนง ตั๋งตงแมเปนผูสําเร็จราชการ
แผนดินฝายทหาร แตเพิ่งรับแตงตั้งใหม สรรพกําลังยังไมพรอมประกอบทั้งไมไดเตรียมตัวรับมือกับ
สถานการณวาจะเกิดขึ้นถึงเพียงนี้ จึงตกใจ เหตุการณคับขันหาทางออกไมไดจึงฆาตัวตาย ณ ที่นั้น โฮจิ๋น ยึด
เอาตราประจําตําแหนงผูสําเร็จราชการแผนดินของตั๋งตง คืนราชสํานักและริบราชบาตรทรัพยสินและบริวาร
ของ ตั๋งตงเขาตนเองจนหมดสิ้น

จากนั้นอีกสองเดือนพอขาวคราวเริ่มเงียบลง โฮจิ๋นจึงจัดสงคนไปเมืองฮอกังลอบวางยาพิษสังหารตั๋งไทเฮา
เสีย สํานักพระราชวังใหอญั เชิญพระบรมศพกลับเมืองหลวง ประกอบพิธีแลวฝงไวที่สสุ านหลวงตามราช
ประเพณี ตั๋งไทเฮาจึงมีชะตากรรมอยางเดียวกับพระนางลิเฮาในพระเจาฮั่นโกโจ ปฐมกษัตริยแ  หงราชวงศฮั่นที่
ไดออกวาราชการหลังมานแลวถูกสังหาร แตเบากวาบางตรงที่โฮจิ๋นไมอํามหิตเทายุค นั้น จึงมิไดสังหารญาติ
วงศพงศาของตั๋งไทเฮาแบบลางโคตร เหมือนครั้งพระนางลิเฮา แตเรื่องหนึ่งที่ไมคาดคิดไดเกิดขึน้ โดย
คานิยมของเมืองจีน นั่นคือเรื่องที่ คนสกุล "โฮ" ฆาคนสกุล "ตั๋ง" ไดกลายเปนศึกศักดิศ์ รีของวงศสกุลทีผ ่ คู น

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 33

สกุล "ตั๋ง" ผูกใจเจ็บคนสกุล "โฮ" แต นั้นมา ตั๋งโตะ คนในสกุล "ตั๋ง" จึงถูกประทับรอยศึกศักดิ์ศรีของวงศ
ตระกูลกับสกุล "โฮ" ไวในใจดวย

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ครองใจตระกูล "โฮ" (ตอนที่ 15)

หลังสิ้นแผนดินพระเจาเลนเตแลว สิบขันทีก็เปนดังไมเลื้อยที่ไมหลักโคนลง แลวไมเลื้อยก็ลมลงตาม ตอง


ปรับปรุงทาทีและแสวงหาหลักยึดใหมตอไป ชะตากรรมของสิบขันทีในชวงนี้ประดุจดั่งไตอยูบนเสนลวด และ
เผชิญวิกฤติหนักขึ้นทุกที ขางหนึ่งนั้นเวรกรรมทีท่ ําไวกับขุนนางขาราชการอยางหนักหนา สาหัส กําลังตาม
สนอง และใกลตัวเขามาทุกขณะ อีกขางหนึ่งนั้นยังหาแหลงพักพิงเกาะอาศัยไมไดมั่น คิดจะพึ่งพาตั๋งไทเฮา
อาศัยใบบุญหนุนหองจูเหียบ ขึ้นเปนฮองเตก็ผิดพลาดลมเหลว จนจําตองใชสุดยอดวิชาขันทีเพื่อเอาตัวรอด
ครั้น ตั๋งไทเฮา ถูกเนรเทศไปอยูตางเมือง สิบขันทีก็คาดการณ ได ณ บัดนั้นวา ตั๋งไทเฮา คงจะสิ้นวาสนาแลว
จําเปนจะตองหาหลักใหมเกาะยึดตอไป สุมหัวปรึกษาหารือกันแลวเห็นพองตองกันวาแผนดินอยูในน้ํามือของ
คนตระกูล "โฮ" ซึ่งเปนตระกูลผูคา เนื้อ เพราะบัดนี้ โฮไทเฮา เปนพระราชชนนีของฮองเต เปนที่เกรงใจของ
เหลาขุนนางและขาราชการทั้งปวง

แตโฮไทเฮานัน ้ เปนคนหวงอํานาจ บายอ หูเบา และโปรดการพินอบพิเทายกยองสรรเสริญ อยูในวิสัยที่จะใช


สุดยอดวิชาขันทีทาํ ใหโฮไทเฮาโปรดปรานได ถาเมื่อใดเปนที่โปรดปรานของ โฮไทเฮา แลว แม โฮจิ๋น จะ
เปนถึงผูส
 ําเร็จราชการแผนดิน ก็จะทําอะไรพวกตนไมได เพราะ โฮจิ๋นนัน ้ เปนคนตัดสินใจโลเล ไมเด็ดขาด
และกลัวนองสาว เนื่องจากมีอํานาจวาสนาขึน ้ มาไดเพราะการอุมชูสงเสริมของ โฮไทเฮา ผูเปนนอง ดังนั้นถา
โฮจิ๋น อยูในคําของ โฮไทเฮา เสียแลว อวนเสี้ยว และพรรคพวกที่ไมพอใจสิบขันทีก็ไมมอ ี ะไรที่นาเกรงกลัว
อีกตอไป ความรอบคอบในการคิดอานของสิบขันทีไกลออกไปอีกวา จะตองกุมหัวใจคนตระกูล "โฮ" ใหจงได
สิบขันทีทราบดีวาโฮไท-เฮามีพระมารดาชื่อวาบูยงกุน เปนทีเ่ คารพยําเกรงของลูกทั้งสามคน คือโฮจิ๋น, โฮไท
เฮา และโฮเบี้ยว ทั้งทราบดวยวา นางบูยงกุน เปนคนโลภ เห็นแกทรัพยสินเงินทอง หากนําของเหลานี้ไป
กํานัลใหถึงขนาดแลว นางบูยงกุนก็พรอมที่จะขายตัวใหกับทรัพยสินเงินทองนั้น เปนวิสัยที่จะเอา นางบูยงกุน
เปนพวกไดสําเร็จ

เพียงนี้แลวยังไมเปนที่วางใจกับสถานการณทต ี่ ึงเครียด สิบขันทีเห็นวาโฮเบีย


้ วขุนนางผูน
 องโฮไทเฮา ซึ่งบัดนี้
เปนผูชวยผูส
 ําเร็จ ราชการแผนดินมีกําลังทหารอยูในมือ เปนคนโลภโมโทสันไมแพมารดาตัว ทั้งยังเปนคนโง
และหูเบา คนแบบนี้สามารถใชเปนเครื่อง มือไดโดยงาย หากไดโฮเบี้ยวมาเปนพวกอีกคนหนึ่งแลว จึงจะเปน
ที่มั่นใจไดวาสถานการณของพวกตนจะดีขึ้น

ดังนั้น สิบขันทีจึงดําเนินการตามแผน ใชสุดยอดวิชาขันทีวาดวยการติดสินบนและการทําใหเกิดความพอใจ


สูงสุด หมั่นเขาหาพินอบพิเทา เอาอกเอาใจ โฮไทเฮา ยกยองสรรเสริญสารพัด จนโฮไทเฮาแทบจะรูส  ึก
พระองควาเปนเทพธิดาที่จต ุ ิมาจากสรวงสวรรคเพื่อโปรดมวลมนุษยชาติ ใหพนทุกขพบสุขกันทั่วถวน สราง
บารมีเพื่อถึงซึ่งความเปนพระโพธิสัตวในกาลเบื้องหนา

โฮไทเฮาจึงโปรดปรานสิบขันทีเสียยิ่งกวาครัง้ พระเจาเลนเตยังทรงพระชนมอยู สําหรับ โฮเบี้ยว ผูชวยผูส


 าํ เร็จ
ราชการแผนดินนั้น สิบขันทีไดนําทรัพยสินเงินทอง หยกแกะสลัก ไขมุก และของขวัญพิเศษมาก มายไปมอบ
เปนกํานัล ยกยอง โฮเบี้ยว เปนเสาหลักค้าํ บัลลังกของฮองเต ค้ําจุนสันติสข
ุ ของประเทศ เปนที่นับถือศรัทธา
ของผูคนทั้งแผนดิน แมกระทัง่ ฮองเตก็ทรงเกรงพระทัยในบารมีและคุณธรรมของ โฮเบี้ยวยิ่งนัก ละไวให โฮ
เบี้ยวเขาใจเองวาก็แลเมื่อคนที่เปนถึงฮองเตยังเกรงบารมีตนแลว โฮจิ๋น อวนเสี้ยว ก็ตอ
 งเกรงใจเชื่อฟง โฮ
เบี้ยวไปดวย ปลูกความรูสึกขึน
้ ในใจ โฮเบี้ยว วาถาเมื่อใด โฮจิ๋น อวนเสี้ยว ละความเกรงใจแลว เมื่อนั้น โฮ
เบี้ยว ก็จะตองไมเกรงใจใดๆ ตอบ

ดังนี้โฮเบี้ยวจึงออนระทวยทางความสํานึก อาสาเปนผูปกปองคุมครอง สิบขันทีใหทําราชการโดยไมตอ  งยํา


เกรงผูใดอีกตอไป สวนนางบูยงกุน นั้น สิบขันทีก็ผลัดกันแวะเวียนไปเยีย
่ มเยือน ทุกครั้งนําทรัพยสินเงินทอง
ของมีคาไปมอบเปนของกํานัล กระทําให เกียรติยศของ นางบูยงกุน ปรากฏตอเพื่อนบานรานถิน ่ อยางครึก
โครม จะไปไหนก็จัดเปนขบวนแหเยีย ่ งเจาพระยา ทั้งยังสั่งใหขุนนางขาราชการในอาณัติ ไปอํานวยความ
สะดวกประดับเกียรติยศใหปรากฏลือชาแกคนทั้งปวง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 34

แมคาเนื้อคนหนึ่งซึ่งไมเคยลิ้มรสสัมผัสความรูส
 ึกอันเปนเกียรติยศเยี่ยงนี้ ประกอบเขากับของกํานัลที่หลั่งไหล
มาไมขาดสาย ลวนเปนของมีคาหาที่เปรียบมิได ยิ่งประกอบกับคํายกยองสรรเสริญที่เจริญโสต คละเคลาดวย
คําวอนขอฝากเนื้อฝากตัวอยูใ ตรมบารมีแลว นางบูยงกุนก็กลายเปนทั้งโฆษก และทูตประสานผลประโยชน
ของสิบขันที เดินทางเขาวังและเขาเยี่ยมลูกทั้งสามบอยครัง้ ยิ่งกวาแตกอนทุกครั้งที่ปะหนาลูก นางบูยงกุน ได
สรรเสริญเยินยอสิบขันทีไมขาดปาก มิหนําซ้ํายังยกเอาบุญคุณของสิบขันทีทม ี่ ีตอตระกูล "โฮ" วาเปนผูอยู
เบื้องหลังที่ทาํ ใหตระกูล "โฮ" เราไดครองแลวซึ่งอํานาจวาสนาดังที่เปนอยูนี้ ทั้งยังดูแล เอาใจใสการกินอยู
ของครอบครัวตระกูล "โฮ" สารพัด และยังชวยเหลือสนับสนุนกิจการงานทั้งปวงทุกๆ ประการ

คําของนางบูยงกุนผูเปนมารดา ทําใหลูกทั้งสามของตระกูล "โฮ" ที่ครองอํานาจในเมืองหลวงเชื่อวาสิบขันที


เปนผูภักดีตอตระกูล "โฮ" อยางแทจริง โดยทีห่ ารูไมวา บัดนี้มารดาตัวหาใชคนเดิมไม หากเปนสินคาที่ขาย
ใหแกสิบขันทีไปทั้งตัวแลว ประกอบทั้งความพอใจสวนตัวของแตละคนที่ขน ั ทีเสกสรรปนแตงไว จึงทําใหคน
ตระกูล "โฮ" ตางรักใครวางใจสิบขันทียิ่งขึ้น

ดวยเหตุนี้สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) จึงวาไววาสิบ ขันทีจึง "ทําราชการปกติอยูใ นพระราชวังเหมือน


แตกอน" แตกรรมนั้นไมอยูใ นฐานะที่สิบขันทีจะติดสินบนใหผันแปรเปนอื่นไปได กรรมจึงยังทําหนาทีส ่ นอง
กรรมตอไปตามหลักที่วา "เรามีกรรมเปนเผาพันธุ ทํากรรมอันใดไว ยอมไดรบั ผลกรรมอันนัน ้ ทําดียอมไดดี ทํา
ชั่วยอมไดชั่ว" จากนี้ไปยอมจะไดเห็นวิบากแหงกรรมทีส่ นองเอากับขันที ทั้งๆ ที่สิบขันทีไดใชสุดยอดวิชา
ขันทีอยางเต็มที่ จนลําพังสายตาคนไมอาจมองเห็นไดวาสถานการณลา สุดทีส ่ ิบขันทีผูกใจตระกูล "โฮ" ได
สําเร็จ จะผันแปรเปนอยางอื่นไปไดอีก

หลังจากตั๋งไทเฮาสิ้นพระชนมแลว โฮจิ๋นซึ่งรูด  ีแกใจตัววาใครเปนผูส


 ังหาร ตั๋งไทเฮา จึงประดุจวัวสันหลังหวะ
ไมยอมไปงานถวายสักการะพระบรมศพตามประเพณี เก็บตัวเงียบอยูแตในบาน อวนเสีย ้ วเห็นเปนโอกาส จึง
ไปเยี่ยมโฮจิ๋นที่ในจวน แลวยุ โฮจิ๋น วา "ขันทีสิบคนนินทาวาทานใหทหารไปลอบฆานางตั๋งไทเฮา เสีย หวัง
จะคิดเอาราชสมบัติ ซึ่งทานจะนอนใจอยูมค ิ ด
ิ ฆาขันทีสิบคนเสีย ภายหนาไปเห็นจะเปนอันตรายเปนมั่นคง ครั้ง
นี้ทานกับโฮเบี้ยวผูนองก็เปนผูสาํ เร็จราชการสิทธิขาด ขุนนางทั้งปวงก็อยูในเงื้อมมือทานสิ้น ทานจะคิด
ประการใดเห็นจะสมปรารถนา อุปมาเหมือนพลิกแผนดินกลับ"

คําของอวนเสี้ยวดังกลาวนี้ แสดงใหเห็นอยูใ นตัววาแมจะเปน ถึงนายพันทหารสารวัตรอยูในเมืองหลวง แต


ระบบขอมูลขาวสารไรประสิทธิภาพ จึงไมลว งรูถึงความนัยที่สิบขันทีใชสด
ุ ยอดวิชาซื้อชาวตระกูล "โฮ" ไว
หมดสิ้นแลว แตโฮจิ๋นคนหูเบา และมีความโลเลอยูในกมลสันดาน ยินคําอวนเสี้ยวแลวก็โกรธสิบขันทียิ่งนัก
อวนเสี้ยวเห็นใบหนาโฮจิ๋นแดงปลั่งดวยแรงโทสะ เห็นเปนทีจึงยุใหโฮจิ๋นเรงฆาสิบขันทีเสีย

การที่ อวนเสีย
้ วแสดงความประสงคตองการอาศัยอํานาจ โฮจิ๋น สังหารสิบขันทีอยางไมหยุดหยอนนั้น แมสาม
กกจะมิไดระบุวา เนื่องมาจากเหตุอันใด แตยอมอนุมานไดวาเนื่องมาจากความไมพอใจที่ตระกูล "อวน" ซึ่ง
ถึงแมวาจะเปนขุนนางผูใหญสบ ื ทอดมาหลายชั่วอายุคน ก็ยังถูกสิบขันทีรด
ี สวยสินบนอยางไมไวหนา จนความ
แคนพอกพูนกลายเปนความพยาบาทนั่นเอง

โฮจิ๋นเพิ่งรับคําโฮไทเฮา ทั้งยังไดยินคําสรรเสริญสิบขันทีจาก มารดาตัว สิน ้ น้ําใจชังสิบขันทีไปแลว ครัน


้ ได
ฟงคําอวนเสี้ยวใจก็โลเล ประกอบดวยโทสะจึงเห็นคลอยไปตามคําอวนเสีย ้ ว คิดจะฆาสิบขันทีอีก แตยัง
ตัดสินใจเด็ดขาดไมได จึงวาทีท
่ านวามานี้ก็ถก
ู แตเราขอเวลาไตรตรองสักคืนหนึ่งกอน

ในขณะที่ อวนเสี้ยว และ โฮจิ๋น สนทนาอยูน  ั้น คนรับใชซงึ่ เปนสายลับของสิบขันทีไดยน


ิ ความเขาแลว รีบนํา
ความไปแจงใหสิบขันทีทราบ สิบขันทีทราบรายงานแลวจึงปรึกษาตกลงกันไปฟองโฮเบี้ยววา อวนเสี้ยว ทํา
การหยาบชา ไมเกรงใจทาน คิดอานจะชิงราชสมบัติ เปนใหญเสียแตผเู ดียว พวกตนหาความผิดมิได อวน
เสี้ยว กลับยุ โฮจิ๋น ใหสังหารพวกตนเสีย พวกตนตายนัน ้ ไมเสียดายแกชีวิต เปนหวงแตไมมีผูใดเอาใจใสดูแล
รับใช โฮเบี้ยว และมารดา ทั้งยังหวงตระกูล "โฮ" เพราะ อวนเสี้ยว มีอํานาจทางทหารและมักใหญใฝสงู ไม
คิดถึงคุณคน ชิงราชสมบัติไดแลว ยอมจะทรยศตระกูล "โฮ" สังหารคนตระกูล "โฮ" เสียทั้งสิ้น จึงขอรอง โฮ
เบี้ยว ใหนําเนื้อความทั้งนี้ไปแจงให โฮไทเฮาดวย

คําสิบขันทีที่ฟอ
 งโฮเบี้ยวนี้ แมวาดูภายนอกจะเปนการฟองอวนเสี้ยววา ตองการลมอํานาจตระกูล "โฮ" ชิงราช
สมบัติ แตภาย ในเนื้อแทอยูต  รงที่ตองการใหโฮไทเฮา และโฮเบี้ยวไมพอใจโฮจิ๋น และปกปองพวกตน โฮ
เบี้ยวคนหูเบาฟงคําสิบขันทีแลวก็เชื่อสนิทใจ เพราะแรงสินบนสิบขันทีกินใจลึกอยางหนึ่ง และประหวั่นวาหาก

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 35

การเปนจริงเขาแลว อํานาจวาสนาของตนก็จะสูญสิ้นไปดวย ประโยชนสองฝาย สมกันดังนี้ โฮเบี้ยว จึงรีบเขา


วังเฝา โฮไทเฮา แลวทูลตามคําของสิบขันที โฮไทเฮา ฟงคํานองแลวก็เชื่อตาม

โฮจิ๋น ขอเวลา อวนเสี้ยว เพื่อไตรตรองคืนหนึ่ง แตความจริงหามีความคิดอานทีจ ่ ะไตรตรองประการใดไม ค่ํา


ลงก็เขาเฝา โฮไท-เฮา ถึงตําหนัก แลววาจะตองฆาสิบขันทีเสีย หากปลอยไวจะเปนอันตราย โฮไทเฮา จึงวา
สิบขันทีทําราชการมาแตครั้ง พระเจาเลนเต รับใชใกลชดิ เบื้องพระยุคลบาทดวยความซื่อสัตย ทุมเททั้งกายใจ
โดยไมเห็นแกความเหน็ดเหนือ ่ ยของตน หรือความยากลําบากของครอบครัว หาความผิดมิได จะฆาเสียเปน
การไมชอบ ขณะนี้เพิ่งผลัดเปลี่ยนแผนดิน ชอบที่จะทําใหเกิดความสงบสุขขึ้นในบานเมือง การคิดอานฆาขุน
นางผูใหญจํานวนมากขนาดนี้ เหมือนแกลง ใหแผนดินเปนจลาจล ใครจะเชื่อวาตระกูล "โฮ" เรามีความตั้งใจ
ทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุข อวนเสี้ยวเปนคนเนรคุณ คิดหักหลังตระกูล "โฮ" ของเราเพื่อชิงราชสมบัติ ถึงวัน
นั้นวาสนาและยศศักดิ์ของชาวตระกูล "โฮ" จะเหลืออยูไดอยางไร มีแตจะพากันเดือด รอนสิ้น ทั้งสิบขันทีก็มี
คุณสนับสนุนคนตระกูล "โฮ" จนมีอํานาจวาสนาขึ้นถึงเพียงนี้ มาบัดนี้มารดาเราก็ชราแลว ไดสิบขันทีเปนธุระ
ใสใจดูแลทั้งการกิน การอยู เสียยิ่งกวาบุตรในอุทร โฮจิ๋น ฟงคํา โฮไทเฮา แลวจํานนตอถอยคําและเหตุผล
ประกอบกับความคิดอานโลเลเกิดประกายความคิดสงสัย อวนเสี้ยว ขึ้นมา จึงพรั่นใจหวัน ่ ไหวไปตามคําของ
โฮไทเฮา ไมไดโตตอบประการใด แลวขอตัวกลับมาบาน

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ชักน้ําเขาลึก ชักศึกเขาเมือง (ตอนที่ 16)

รุงเชาขึ้น อวนเสี้ยวรีบออกจากบานมาจวนของโฮจิ๋น ขอพบโฮจิ๋นและถามวาที่เสนอใหรบ ี สังหารสิบขันทีเสีย


นั้น โฮจิ๋นตกลงใจประการใด โฮจิ๋น บอกวาค่าํ คืนทีล ่ วงแลว เราไดไปเฝา โฮไทเฮา ปรึกษาเรื่องนี้ แต โฮไท
เฮา ไมเห็นชอบดวย แลวบอกเหตุผลของ โฮไทเฮา ให อวนเสี้ยว ฟง แตขอที่เกี่ยวกับสิบขันทีทําคุณไวกับ
ตระกูล "โฮ" นัน ้ โฮจิ๋น ปดเสียไมบอก อวนเสี้ยว

อวนเสี้ยวจึงยุตอ
 ไปวาหากไมรบี ฆาสิบขันทีเสีย จักเปนอันตรายเปนมั่นคง โฮจิ๋น ฟงคํายุของ อวนเสี้ยวแลว
น้ําใจก็เกิดโลเลคิดฆาสิบขันทีขึ้นมาอีก จึงปรึกษาวาเมื่อเปนเชนนี้จะทําประการใดดี เหตุการณเขาทางของ
อวนเสี้ยว อวนเสี้ยว จึงเสนอวา "ขอใหมีหนังสือทานออกไป ใหหาหัวเมืองทั้งปวงยกทหารเขามาเปนกระบวน
ทัพแลวประกาศวาจะเอาตัวขันทีสิบคนฆาเสีย นางโฮเฮา กลัวจะเปนอันตราย เห็นจะใหจับขันทีสงออกมาให
โดยสะดวก"

อวนเสี้ยวไดเสนอแผนการชนิดที่โบราณวา "ชักน้ําเขาลึก ชักศึกเขาเมือง" โดยขาดความเขาใจวาธรรมดาน้ํา


เมื่อเขาที่ลึกแลว ไหนเลยจะไหลกลับคืนสูท
 ต
ี่ ื้น กองทัพหัวเมืองหากไดเขาเมืองหลวงแลว ไหนเลย จะถอน
กลับเสียโดยงาย มีแตจะยึดครองเมืองหลวงเอาโดยกําลัง ไมตางอะไรกับการไปเอาฝรั่งเขามาชวยเหลือแกไข
ปญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ไหนเลยทีฝ ่ รั่งจะเพียงแตเขามาชวยเหลือ มีแตจะเอาบานเมืองเปนประเทศ
ราช เอาราษฎรลงเปนทาสเทานั้น

ขอเสนอแบบขี่ชางจับตั๊กแตนของ อวนเสี้ยว แมเขาลักษณะชักน้ําเขาลึก ชักศึกเขาเมือง ผลไดไมคุมเสีย แต


โฮจิ๋น เปนคนถอยปญญา มองไมเห็นหายนะที่จะเกิดขึ้น เห็นแตทางไดที่จะจับสิบขันทีฆาเสีย จึงเห็นชอบกับ
แผนการของ อวนเสี้ยว ในขณะที่ อวนเสี้ยว เสนอแผนการตอ โฮจิ๋น นั้น ตันหลิม ขุนนางหนาที่อาลักษณอยู
ในที่นั้นดวย ไดยินขอเสนอแลวกลาวเปนโคลงออกมาให โฮจิ๋น และ อวนเสี้ยว ไดยินวา "ชายชาญเชิงเชี่ยว
ดานธนูศิลป ไกลโสตสุดเสียงยินสูเปา ปดตาโกงนกบิน หมายมุง ทะนงนา ศรพลาดเสียบมือเขา แตนั้นเสีย
คน" ทั้ง โฮจิ๋น และ อวนเสีย ้ ว ยินคําโคลงของ ตันหลิม แลวหันกลับไปมอง ตันหลิม จึงวาแก โฮจิ๋น วา "ตัว
ทานทุกวันนี้ ราชการเมืองก็สิทธิขาดอยูแ  กทาน ขุนนางทั้งปวงก็อยูในเงื้อมมือทาน อันขันทีสิบคนเหมือน
แมลงเมา ตัวทานเหมือนกองเพลิงอันใหญ แมลงเมาหรือจะสูเพลิงได ถาทานจะคิดประการใดก็จะสมดัง
ปรารถนา ตัวทานเหมือนพญาหงส คิดการใหญแลวจะมาเคราทาฝูงกาอยูนน ั้ ไมสมควร อันหัวเมืองทั้งปวง จะ
ยกทหารเปนกระบวนทัพเขามา ถาไดตวั ขันทีสิบคนแลวเห็นหัวเมืองทั้งปวงจะกําเริบศึกกลางเมืองขึ้น การซึ่ง
จะคิดทํานุบาํ รุงแผนดินนั้นก็จะเสียทวงทีไป"

คําของตันหลิมสมกับเปนอาลักษณ ชัดเจนครบถวนสมบูรณดวย เหตุและผล ตองดวยพิชย ั สงคราม แตโฮจิ๋น


ฟงแลวไมตางอะไรกับควายไดยินเสียงทิพยดนตรี ตรงกับพุทธภาษิตที่วา "วินา-สกาเล วิปริตตพุทธิ" ซึ่ง
แปลวา "เมื่อกาลวินาศมาถึงเขาแลว สติปญ ญายอมวิปลาสแปรปรวนไป" โฮจิ๋น จึงหัวเราะวาแก ตันหลิม วา
"ตัวทานจะมารวมคิดการใหญกับเรานั้น ความคิดทานนอยนัก อุปมาดังเด็กเลี้ยงโค"

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 36

การยกเด็กเลี้ยงโคขึ้นอุปมากับความรูของตันหลิม เปนการแสดงความโงของ โฮจิ๋น ใหปรากฏ เพราะความรู


ของ ตันหลิม อันไดแสดง ณ บัดนี้นั้น เปนความรูของคนที่เปนบัณฑิต เปรียบไมไดกับเด็กเลี้ยงโค แมเด็ก
เลี้ยงโคเลาจะไปปรามาสวาไรเสียซึ่งสติปญญา ยอมไมชอบ เพราะเด็กเลี้ยงโคที่มีสติปญ
 ญาและความรอบรู
เหนือกวาโฮจิ๋นและตันหลิมก็ยงั มีปรากฏใหเห็นอยูถมไป

ในที่นั้นโจโฉไดเขารวมปรึกษาหารืออยูด วย และโจโฉนั้นบัดนี้อยูใกลอํานาจรัฐมากกวาซุนเกี๋ยนและเลาป


สามารถเขานอกออกในจวนของผูสําเร็จราชการแผนดินไดดุจดังคนในบานของโฮจิ๋น เปนที่ไววางใจของ
โฮจิ๋นมากขึ้นโดยลําดับ โจโฉไดยินขอเสนอของอวนเสี้ยว ไดยินโคลงและความเห็นของตันหลิม ตลอดจน
การโตตอบของโฮจิ๋นแลว จึงตบมือหัวเราะแลววา "อยางธรรมเนียมแผนดินแตกอนก็มีมา พระมหากษัตริยเชื่อ
ฟงตั้งแตงขันทีเปนเสนาบดีผใู หญ ราชการเมืองผันแปรไปมีเนืองๆ มาอยู ครั้งนี้ขันทีทั้งสิบคนซึ่งหยาบชานั้น
มีสติปญ  ญาเปนใหญอยูค นเดียวสองคนดอก ถาจะคิดจับเอาแตนายใหญนน ั้ ฆาเสียก็จะไดโดยงาย ทําไมจะให
รอนถึงหัวเมืองยกเปนกระบวนทัพเอิกเกริกมาเลา"

ความเห็นของ โจโฉ ครั้งนี้ สวนทางกับความคิดเห็นของ อวนเสี้ยว อยางสิ้นเชิง เทากับ โจโฉ วากลาวคาน


อวนเสี้ยว ซึ่งหนา ทั้งยังกระทบเอากับความคิดหมิ่นความรู ตันหลิม ของ โฮจิ๋น ดวย ทั้งยังสะทอนใหเห็นดุลย
พินิจพิจารณาปญหาโดยจําแนกของโจโฉ จับเอาแกนแกนของปญหามาเปนหลักในการแกไขปญหานัน ้ ทํา
ปญหาใหญใหเปนปญหาเล็ก ทําเรื่องใหญใหเปนเรื่องเล็ก ซึ่งแกไขทําไดงาย และปญหาก็จะสิ้นสุดไปได ทั้ง
ยังแสดงดวยวา โจโฉนั้นเกงคน อานคนออกวาในบรรดาขันทีทั้งสิบคนนั้นมีผูมีปญญาเปนแกนของปญหา
เพียงคนสองคนเทานั้น

นี่เปนไปตามหลักพิชัยยุทธ ที่ตองกําหนดเปาหมายใหเล็ก โจมตีเปาหมายใหแมน แลวทําลายลางอยาง


เบ็ดเสร็จเด็ดขาด โฮจิ๋น ฟงคํา โจโฉ แลวก็โกรธ ตวาดใส โจโฉ วาที่พด ู เชนนี้เปนการเขาขางสิบขันที ไมเห็น
แกความทุกขรอ  นของเรา หรือวาเปนพวกเดียวกับขันทีทั้งสิบคน โจโฉ ยินคํา โฮจิ๋น ดั่งนี้ ก็รูสึกโกรธแตเปน
ผูนอยกวาจึงไมโตตอบประการใด ลุกขึ้นแลวเดินออกมาภายนอกจวนของ โฮจิ๋น รําพึงขึ้นวา "แผนดินครั้งนี้จะ
เกิดอันตรายเพราะโฮจิ๋น" นับเปนการคาดการณทแ ี่ สดงออกถึงสติปญ  ญาเล็งการขางหนาได อยางแมนยํา
ของโจโฉ เพราะเมื่อโฮจิ๋นไมฟงคําทัดทานแลว ก็ไดมห ี นังสือถึงหัวเมืองตาง ๆ ใหยกทัพเขาเมืองหลวง
เนื่องจากขณะนั้น ราชสํานักมีกฎหมายลักษณะกบฏศึก หามกองทัพหัวเมืองยกเขาเมืองหลวง เวนแตจะมี
หมายรับสั่งของฮองเต มิฉะนั้นจะเปนความผิดฐานกบฏ มีโทษประหารเจ็ดชั่วโคตร ดังนั้นเมื่อหัวเมืองตางๆ
ไดรับหนังสือของโฮจิ๋น ซึ่งมิใชหมายรับสั่งของฮองเต จึงพากันเพิกเฉยเสีย

คงมีแตตั๋งโตะ เจาเมืองซีหลง ซึ่งไดดิบไดดีขึ้นมาเนื่องจากการติดสินบนกับขันที เห็นหนังสือของโฮจิ๋นแลว


ลําพองในกําลังทหารในมือที่มอ ี ยูเปนจํานวนมากถึงยีส
่ ิบหมื่น ทั้งภายในใจก็มีความคิดอานทีจ ่ ะชิงเอาราช
สมบัตทิ ําชั่วชาตอแผนดิน เฝารอคอยโอกาสเชนนี้มานานแลว จึงมีความยินดียิ่งนักที่ไดแลเห็นโอกาสทําการ
ใหญสมความคิดที่เฝาคอย ตัง๋ โตะเห็นหนังสือของโฮจิ๋น ซึ่งมิใชหมายรับสั่งของฮองเต แตดวยความดีใจจน
ลนลานที่การเขาทางเจือสมกับความคิดตัว จึงลืมไปวาการยกกองทัพเขาเมืองหลวงเชนนี้เปนความผิดฉกรรจ
ฐานกบฏตอแผนดิน สั่งให เยียวหู ผูเปนลูกเขยอยูรักษา เมืองซีหลง แลวตัว ตั๋งโตะ ไดจด
ั สีท
่ หารเอกคือ ลิฉุย
, กุยกี, เตียวเจ และ หลงเตียว คุมทหารสิบหมื่นพรอมอาวุธยุทโธปกรณเคลื่อนทัพยกไป เมืองลกเอี๋ยง ราช
ธานี

ระหวางเคลื่อนทัพ ตั๋งโตะไดใหสืบขาวความเคลื่อนไหวของหัวเมืองวาจะดําเนินการอยางใด ทหารที่ออกไป


สืบขาวตามมารายงานทุกระยะวาไมปรากฏหัวเมืองใดเคลื่อนทัพ ดังนั้นในขณะทีท ่ ัพของ ตั๋งโตะ เคลื่อนมาได
ครึ่งทาง ลิยู ทีป
่ รึกษาของ ตั๋งโตะ เกิดความเฉลียวใจ ระลึกขึ้นไดวามีกฎหมายของราชสํานักหามทัพหัวเมือง
เขาเมืองหลวง เวนแตจะมีหมายรับสั่งของฮองเต จึงเรียกเอาหนังสือที่ใหหากองทัพจากหัวเมืองยกเขาเมือง
หลวงจาก ตั๋งโตะ มาพิจารณาดู ก็ปรากฏวาเปนเพียงหนังสือของ โฮจิ๋น หาใชหมายรับสั่งของฮองเตไมลิยู จึง
รายงาน ตั๋งโตะ เกี่ยวกับกฎหมายลักษณะกบฏศึกดังกลาว และเสนอใหตงั๋ โตะปลงทัพไวที่นั้น แลวมีหนังสือ
กราบบังคมทูลขอรับพระบรมราชานุญาตเสียกอน ตั๋งโตะ เห็นชอบดวย จึงใหปลงทัพตั้งคายไว ณ ที่นั้น แลวมี
หนังสือกราบบังคมทูลถึงฮองเตวา "อาณาประชาราษฎรในเมืองหลวงแลหัวเมืองทั้งปวง ไดความเดือดรอน
เพราะขันทีสิบคนทําการหยาบชาใหผด ิ ขนบธรรมเนียม บัดนี้ ขาพเจาจะยกกองทัพไปเมืองหลวงแลวจับตัว
เตียวเหยียงกับขันทีเกาคนฆาเสีย พระองคแลอาณาประชาราษฎรจะไดอยูเย็นเปนสุขสืบไป"

หนังสือกราบบังคมทูลของ ตั๋งโตะ ไปถึงมือทานผูสาํ เร็จราชการแผนดิน โฮจิ๋น ทราบความแลวก็ปดเรื่องเสีย


ไมกราบทูลฮองเตดวยเกรงวาขันทีจะลวงรู แตความคิดโลเลยังคงครองใจ โฮจิ๋น ดังเกา แทนที่จะตั้งหนาทํา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 37

การตามความคิดเดิม กลับทําเรื่องเอิกเกริกขึ้นใหเชิญขุนนางที่เปนพวกมากินโตะทีจ ่ วน แลวหารือวาจะให ตั๋ง


โตะ ยกกองทัพเขาเมืองหลวงเพื่อจับสิบขันทีฆาเสียดีหรือไม ทําเรื่องใหเอิกเกริกโดยไมคด ิ ระแวดระวังวา
ความเคลื่อน ไหวนั้นจะทราบไปถึงสิบขันที นับวาตั้งอยูในความประมาท และประมาทคนแบบสิบขันทีมาก
เกินไป แตะถาย ขุนนางฟงคํา โฮจิ๋น แลวจึงวา "ตั๋งโตะน้าํ ใจดังเสือ ซึ่งจะใหเขามาในเมืองหลวงนี้เห็นจะมี
อันตรายแกคนทั้งปวง" นี่ก็เปนฝายคานอีกคนหนึ่งที่ไมเห็นดวยกับความคิดของ โฮจิ๋น และ อวนเสีย ้ ว โฮจิ๋น
ฟงแลวหาวา แตะถาย ขี้ขลาดตาขาว จะรวมทําการใหญดวยไมได "ไดยินแตขาว ยังมิทันเห็นตัวเสือก็ครั่น
คราม" ตกใจกลัวเสือเสียแลว แตะถายก็นิ่งเสีย สงบวาจาไมวากลาวสืบไป

ฝาย โลติด อดีตแมทัพใหญปราบโจรโพกผาเหลืองอยูในทีเ่ ลี้ยงโตะนั้นดวย จึงวา "ขาพเจาไดเคยรูน้ําใจตั๋ง


โตะมาแตกอนวาเปนคนหยาบชา ถาปลอยใหเขามาในเมืองหลวงเห็นจะเกิดจลาจลเหมือนคําแตะถายวาเปน
มั่นคง" โฮจิ๋น ยินคํา โลติด แลว จึงวา "ทานนี้ลวนเปนพวกขี้ขลาดตาขาว เราหาฟงคําทานตอไปไม อยาได
เจรจาอีกเลย" โลติด แตะถาย และขุนนางอีกหลายคนไดฟงคํา โฮจิ๋น แลวสลดใจนัก เห็นวาแผนดินครั้งนี้จะ
เกิดอันตรายเปนจลาจลเพราะ โฮจิ๋น ผูนี้เปนแนแท คนที่เปนใหญเมื่อเปนเชนนี้ขืนทํางานดวยตอไปก็มีแต
ความฉิบหายจะมาถึงตัว ตางคนจึงลากลับบาน แลวยื่นเรือ ่ งขอลาออกจากราชการ เวนคืนตราสําคัญประจํา
ตําแหนง แลวออกไปอยูทําไรไถนาคาขาย ณ ภูมิลําเนาเดิม

โฮจิ๋นสิ้นคนขัดคอแลว จึงแอบอางหมายรับสั่งใหทหารมหาดเล็กไปแจงแก ตั๋งโตะวา ฮองเตมีพระบรมรา


ชานุญาตให ตั๋งโตะ ยกกองทัพเขามายังเมืองหลวงได และใหกองทัพ ตั๋งโตะ ตั้งทัพไวที่ ตําบลลุดคี
ภายนอกกําแพงพระนครมหาดเล็กที่ โฮจิ๋น สงไปพรอมกับทหารของ ตั๋งโตะ ที่ถือหนังสือเขามาขอพระบรมรา
ชานุญาตไดเดินทางไปยังคายอันเปนที่ตั้งกองทัพของตั๋งโตะนั้น แลวสงหมายรับสั่งที่ โฮจิ๋น แอบอางขึ้น
ใหแก ตั๋งโตะ ตั๋งโตะไมสนใจไยดีวาจะเปนหมายรับสั่งจริงหรือปลอม การสมคะเนตามความตองการที่ยกทัพ
จากเมืองซีหลงแลว จึงสั่งใหเคลื่อนทัพสิบหมื่นนั้นตรงเขาเมืองหลวง ตั้งทัพไวทต
ี่ ําบลลุดคี นอกกําแพงเมือง
นคร ลกเอี๋ยง

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สิ้นบุญตระกูล "โฮ" (ตอนที่ 17)

ในชีวต ิ ของคนเรานั้น ยอมตองกระทําในสิ่งทีถ ่ ูกตอง และยอมตองมีสิ่งที่กระทําความผิดพลาด ผูมป ี ญญาจึง


พึงเล็งการใหแมนยํา ทําการแตในสิ่งที่ถูกตอง หลีกเลี่ยงกระทําความผิดพลาด หรือแมหากจะตองเสี่ยงผิด
เสี่ยงถูกตามสถานการณ ก็จําตองใหโอกาสเสี่ยงถูกมากกวาโอกาสที่จะเสีย ่ งผิด การกระทําทีผ
่ ิดพลาด หาก
ไมใชเรื่องสําคัญนักยอมอยูในวิสัยที่จะแกไขใหกลับคืนดีได หรือแมหากแกไขไมไดก็ยังพอทนรับกับผลรายที่
เกิดขึ้น ชีวิตคนเรายอมเปนเชนนี้

แตทวาหากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเปนเรื่องรายแรง ถึงระดับที่โบราณวา "พลาดตาเดียว แพทั้งกระดาน"


แลว ยอมสูญสิน ้ ซึ่งโอกาสที่จะแกไขใหกลับฟนคืนดีได เวนแตจะมีปาฏิหาริยเฉพาะครั้ง เฉพาะคน และเฉพาะ
เรื่องเทานั้น ความคิดของ โฮจิ๋น และ อวนเสี้ยว ที่แอบอางหมายรับสั่งใหกองทัพหัวเมืองยกเขาเมืองหลวง
เพื่อจับสิบขันทีฆาเสียนั้น หาใชเปนเรื่องผิดเล็กนอยไม หากเปนเรื่องผิดระดับที่ "พลาดตาเดียว แพทั้ง
กระดาน" นั่นเอง มิหนํายังซ้ําดวยความประมาท ที่กระทําการใหญอันเปนเรื่อง ลับแลวไปจัดเลี้ยงโตะ เชิญขุน
นางมารวมงานเปนการเอิกเกริก ความเคลื่อนไหวเหลานี้จึงทราบไปถึงสิบขันที ซึง่ ติดตามสถานการณ
ระแวดระวังตนอยูอยางใกลชด ิ

ฝายสิบขันทีไดทราบขาว ตั๋งโตะยกกองทัพมาตั้งอยูนอกกําแพงพระนคร ก็อานเหตุการณไดวาการทั้งนี้เกิด


จาก โฮจิ๋น วางแผนแอบอางรับสั่งของฮองเตใหเคลื่อนทัพหัวเมืองเขาเมืองหลวง เพื่อยืมมือกองทัพหัวเมือง
ฆาพวกตนเสีย ทั้งไดขาว โฮจิ๋น จัดงานเลี้ยงโตะเชิญขุนนางไปปรึกษาเรื่องใหกองทัพ ตั๋งโตะ เคลื่อนเขา
เมืองหลวง เพื่อสังหารพวกตน จนขุนนางทีซ ่ ื่อสัตยตอแผนดินตองลาออกจากราชการไปหลายคน เหตุการณ
คับขันนัก จึงตัดสินใจเสีย
่ งแตกหักกับ โฮจิ๋น เพราะหากขืนไมทําอะไรเสียเลยก็มีแตจะตกตายสถานเดียว

ดังนั้น ผลการปรึกษาหารือของสิบขันทีจึงไดขอ สรุปวา "ครั้นเราจะนิ่งอยูบัดนี้ อันตรายก็จะถึงชีวิตเรา เราจําจะ


คิดฆาโฮจิ๋นเสียกอน" วางแผนแลวกําหนดจุดสังหารไวทป ี่ ระตูพระตําหนักโฮไทเฮา ภายในเขตพระราชฐาน
ชั้นใน วางแผนเสร็จก็จด ั พรรคพวกฝมือดีหาสิบคน พรอมอาวุธลอบเขาไปในเขตพระราชฐานชั้นใน แอบอยู
ขางซุมประตูพระตําหนักโฮไทเฮา และสั่งวาถาเห็นโฮจิ๋นเขามาก็ใหสังหารเสียในทันที จัดวางกําลังหนวย
สังหารแลว เตียวเหยียง ขันทีจึงเขาเฝา โฮไทเฮา กราบทูลวา แมวาพระแมเจาจะแผพระเมตตาบารมี

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 38

คุมครอง ใหพวกขาพเจาไดถวายการรับใชใกลชิดแลว โฮจิ๋น ก็หาเกรงใจพระองคไม ทั้งไมรักษาคําสัตย


วางแผนแอบอางรับสั่งของฮองเตใหเรียกกองทัพจากหัวเมืองเขาเมืองหลวงเพื่อจะเอาตัวพวกขาพเจาไป
สังหารเสีย พวกขาพเจาหาทีพ ่ ึ่งอื่นมิได จึงมาขอพระบารมีเปนที่พึ่ง แลวทูลตอไปวาการที่โฮจิ๋นแอบอางรับสั่ง
ครั้งนี้ บรรดาขุน นางตางคัดคานวาจะเกิดจลาจลขึ้นในเมือง เพราะตั๋งโตะเปนคนหยาบชา ทั้งมีความเคียด
แคนคนในตระกูล "โฮ" อันเนื่องมาจากโฮจิน ๋ ไดลอบสังหารตั๋งไทเฮา ซึ่งเปนคนแซเดียวกันกับตั๋งโตะเสีย ตั๋ง
โตะเขามาครั้งนี้ยอมจะชิงเอาราชสมบัติ แลวทํารายตระกูล "โฮ" จนพินาศสิ้น อยางนอยทีส ่ ุดยอมจะอาศัย
กําลังกองทัพชิงอํานาจจากพระองค บงการฮองเตเสียแตผูเดียว

สุดยอดวิชาขันทีวาดวยการสรางความแตกแยกเพื่อเอาตัวรอดและแสวงประโยชนสัมฤทธิผลอีกครั้งหนึ่ง โฮ
ไทเฮา ฟงคําทูลแลวก็ตกพระทัย ดวยเห็นเปนเรื่องใหญกระทบตออํานาจของพระองคเอง และผลประโยชน
ของตระกูล "โฮ" เปนสวนรวม ดังนั้น น้ําพระทัยจึงคลอยเอนเชื่อตามคําขันที จึงตรัสวาเรื่องใหญขนาดนี้พวก
เจาจงไปชี้แจงแลออนวอน โฮจิ๋น เถิด คงจะเชื่อฟงพวกเจาคิดอานแกไขเหตุการณและจะไมทําอันตรายพวก
เจาดอก เตียวเหยียง จึงทูลวา "โฮจิ๋นมีใจชังพวกขาพเจาทั้งสิบคนนัก ซึ่งจะใหพวกขาพเจาออกไปหานั้น
เหมือนหนึ่งเอาเนื้อไปสูเสือ อันจะมีชีวต
ิ คืนมานั้นหามิได ถาพระองคเมตตาขาพเจาครั้งนี้ ขอใหเชิญโฮจิน ๋ เขา
มาตรัสขอชีวติ ขาพเจาตอพระโอษฐ ถึงมาตรวาโฮจิ๋นจะไมเมตตาแลว ขาพเจาก็จะตายอยูต
 อหนาที่นั่ง
พระองค" โฮไทเฮา ฟงคําทูลของเตียวเหยียงขันทีแลว ก็มค ี วามกรุณา ทั้งเปนผลประโยชน ใหญของพระองค
เองและตระกูล "โฮ" จึงมีพระราชเสาวนียส  ั่งใหนางกํานัลไปเชิญ โฮจิ๋น เขาวัง

นางกํานัลไปถึงจวน โฮจิ๋น แลวเชิญพระราชเสาวนียของ โฮไทเฮา ให โฮจิ๋น ทราบ แลวกลับพระตําหนัก โฮ


ไทเฮา ตันหลิม ขุนนางฝายอาลักษณยินคําของนางกํานัลที่วา โฮไทเฮา ใหหา โฮจิ๋น เขาวังแลว ก็อาน
เหตุการณครั้งนีว้ ากรณีเปนกลอุบาย จึงทัดทาน โฮจิ๋น ไมใหเขาวัง ดวยเกรงจักเปนอันตราย อวนเสีย ้ ว อยูใน
ที่นั้น เห็นดวยกับคําทัดทานของ ตันหลิม จึงกลาวเสริมคําของ ตันหลิม วาที่พวกเราวางแผนสังหารขันทีใน
ครั้งนี้นั้น รูปการณสอเคาวาขันทีคงจะรูต
 ระหนักแลว จึงวางแผนแกไขเอาตัวรอด การเขาวังของทานครั้งนี้เห็น
ทีจะเกิดอันตราย โจโฉ ซึ่งกลายเปนคนสนิทสนมของทานผูส  ําเร็จราชการแผนดิน แตละวันเฝาเชาเฝาเย็นราว
กับเปนคนในจวน โฮจิ๋น เปนที่ไววาง ใจของ โฮจิ๋น อยูในทีน ่ ั้นดวย จึงออกความเห็นขึ้นมาบางวา "ถาทาน จะ
เขาไปก็ไปเถิด แตใหตัวขันทีสิบคนออกมาเสียจากวังกอน ทานจึงจะไมมอ ี ันตราย"

โฮจิ๋น ยามชะตาจะถึงฆาต ความเฉลียวใจและความคิดอานระวังตนก็ถูกเงื้อมหัตถมัจจุราชบังไวสิ้น หัวเราะ


แลววา โฮไทเฮา นองสาวเราเชิญเราเขาวัง มีหรือทีน ่ องรวมอุทรของเราจะลวงเราไปใหขันทีสังหาร ตัวเราเอง
เปนใหญถึงทีผ่ ส
ู ําเร็จราชการแผนดิน อํานาจทหารและอํานาจบังคับบัญชาขุนนางทั้งปวงก็อยูที่เราสิ้น หาใคร
มาเสมอมิได ไหนเลยขันทีจะหาญกลาคิดอานทํารายเราได อวนเสีย ้ วเห็นทาจะทัดทานโฮจิ๋นไมสําเร็จ จึง
กลาวขึ้นวาทาน มิฟงคําพวกขาพเจา ขืนเขาไปก็ตามที แตขาพเจาจะขอตามไปดวย โฮจิ๋นขัดความปรารถนาดี
ของอวนเสี้ยวและพวกไมได จึงอนุญาตตามทีอ ่ วนเสี้ยวเสนอ

อวนเสี้ยว จึงสัง่ ให อวนสุด นายทหารผูนองคุมกําลังทหารหารอย สวน อวนเสี้ยว กับ โจโฉ แตงตัวใสเสื้อ
เกราะสําหรับออกศึก ถือกระบี่เขาไปพรอมกับ โฮจิ๋น อวนสุดและกําลังทหารไปติดอยูท  ี่ประตูพระราชฐาน
ชั้นนอก สวนอวนเสี้ยวและโจโฉไปติดอยูท  ป
ี่ ระตูพระราชฐานชั้นใน คงมีแตโฮจิ๋นเดินเขาประตูพระราชฐาน
ชั้นในไปอยางเดียวดาย โดยไรเงาหัวทาบเหนือพื้นทางเดินเบื้องหลัง

เหตุทั้งนี้เนื่องจากมีกฎหมายลักษณะกบฏศึกบัญญัติวา หามมิให กองทัพหัวเมืองยกเขาเมืองหลวง เวนแตจะมี


หมายรับสั่งของฮองเต ถามีหมายรับสั่งของฮองเตก็ใหตั้งทัพไวนอกกําแพงพระนคร หามยกเขามาภายใน
กําแพงพระนครโดยเด็ดขาด สวนขุนนางทั้งปวงนอกจากผูม  ีหนาที่เฝาและถวายงานประจําตามปกติแลว หาม
เขาในเขตพระราชฐาน เวนแตจะมีหมายรับสั่งใหหา ก็ใหเขาไดเฉพาะตัวเองและผูตด ิ ตาม ตามตําแหนงหนาที่
และเขาไดเฉพาะเขตพระราชฐานชั้นนอก หามขาดมิใหถืออาวุธหรือลวงเขาเขตพระราชฐานชั้นใน หากมีความ
จําเปนโดยฮองเตรับสั่งใหหาถึงในเขตพระราชฐาน ชั้นใน ก็ใหเขาไดเฉพาะตัว และหามถืออาวุธ ดังนั้น แมมี
จะมีกําลังทหารตามมาอารักขา และยังมีอวนเสี้ยว โจโฉ ติดตามมาคุมกัน แตก็ตองติดอยูท  ี่ประตูพระราชฐาน
ดวยอํานาจแหงกฎหมายกบฏศึกดังกลาวแลว

ฝาย โฮจิ๋น เมื่อเขาประตูพระราชฐานชั้นในแลว ประตูพระราชฐานก็ปดลงตามปกติ เดินผานเขาประตูพระ


ตําหนัก โฮไทเฮา ประตูนั้นก็ปด  ลงอีก ทันใดนั้น เตียวเหยียง ตวนกุย ขันทีซึ่งคอยทีอยูแ  ลว จึงเดินเขามาหา
โฮจิ๋น แลวใหสญ ั ญาณใหมือสังหารทั้งหาสิบคนออกมาลอม โฮจิ๋น ไว แลววา "ตัวแตกอนนั้นเปนผูนอยอยู เรา
ไดชวยทํานุบาํ รุงวากลาวเพ็ดทูล ตัวจึงไดเปนผูใหญขึ้นถึงเพียงนี้ แลตัวกําเริบใหคนไปลอบฆา ตั๋งไทเฮา ซึ่ง
เปนมารดาพระเจาเลนเตอันหาความผิดมิได นั้นเสีย แลวตัวแอบอางรับสั่งออกไปใหหาหัวเมืองทั้งปวงยก

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 39

ทหารเขามา จะจับเราซึ่งมีคุณแกตัวฆาเสียนัน ้ ตัวหามีกตัญูตอเราไม กลับวาเราเปนศัตรูราชสมบัตอ


ิ ีกเลา
ตัวจะทํารายกูแลว กูจะเอาชีวต
ิ มึงเสียบัดนี้กอ
 น"

โฮจิ๋น เห็นมือสังหารรุมเขามาลอมและฟงคํา เตียวเหยียง แลวก็ตกใจ รูตัววาตองกลขันที หันซายแลขวา


หาทางออกมิได มิรทู ี่จะทําประการใด มือสังหารทั้งหาสิบคนก็รุมกันฆา โฮจิ๋น ตายในทีน
่ น
ั้

โฮจิ๋นเสาหลักอํานาจหนึ่งของสกุล "โฮ" จึงลมครืนลงเพราะความโลเล ถือดี โง และอวดฉลาดของตน โดยที่


ไมมีโอกาสไดเห็น และสํานึกผิดในความฉิบหายของบานเมืองที่เกิดจากการตัดสินใจ "ชักน้ําเขาลึก ชักศึกเขา
เมือง" ตามความเห็นของอวนเสี้ยว ซึ่งเปนขุนนางที่บา บิ่นและเลอะเทอะทีส
่ ด
ุ คนหนึ่งของสามกก ใน
สถานการณใดก็ตามทีค ่ นเราถูกบังคับใหตองเสี่ยงเปนเสีย
่ งตาย หรือตัดสินใจสูต
 ายแลว ผลลัพธมักจะออกมา
ในทางตายเสียเปนสวนมาก ทีจ ่ ะเกิดผลในทางเปนนั้นมีนอยนัก หลักความจริงมีอยูต  รงที่ เมื่อเกิดสถานการณ
เชนนั้นขึ้นแลว ยอมตกเปนฝายถูกกระทําถูกจํากัด และหาทางออกไมไดในแทบทุกดาน เหตุนผ ี้ ูมีปญญายอม
ไมยินยอมใหตนตกอยูในสภาพถูกกระทําเชนนั้น แตมิใชวาจะกระทําไดทุกคนไป

เพราะการแลเห็นเหตุการณที่ยงั ไมเกิดขึ้น การไดยินเสียงซึ่งคนไมไดพูด และการคาดคิดในสิ่งที่คนคิดไม


ทั่วถึงนั้น ไมเปนวิสัยของคนโง หากเปนวิสัยของบัณฑิตผูปรีชาสามารถ แตธรรมดาของการณทั้งปวงนั้น ดุจ
ดั่งฝนตก ใชวา จะตกใน ทันใดหามิได หากตองมีเคาฝน เมฆคํารน ฟาคํารามใหประจักษกอน การทั้งปวงก็
ยอมมีสิ่งบอกเหตุที่ผค ู นเห็นได รูได ปมเงื่อนอยูที่วจ
ิ ารณญาณในการพินจ
ิ คําทักทวงทัดทาน หรือความเห็นที่
ไม ตองดวยความเห็นของตัวไดเพียงใดเทานัน ้

กรณีของ โฮจิ๋น ก็เชนเดียวกัน สิ่งบอกเหตุที่ทาํ ใหคนประจักษทั้งเหตุแลผลก็มีมากมาย คําทวงติงทัดทานและ


ความเห็นของคนรอบขางก็มีอยูอยางไมขาดสาย เปนแตวาคนแบบ โฮจิ๋น ไมรู ไมเขาใจ และไมรับฟงเสีย
เทานั้น เหตุนแ
ี้ มศีรษะบนบาแทๆ ก็ยังรักษาไวไมได ขันทีก็เชนเดียวกัน หลังจากกอกรรมทําเข็ญไวมาก คิด
และทําแตสิ่งชัว่ ราย วิบากกรรมธรรมชาติจงึ กําหนดเหตุการณใหตองตก อยูในสถานการณเสี่ยงตาย ตอง
ตัดสินใจวางแผนฆา โฮจิ๋น ซึ่งเปนถึงผูส  ําเร็จราชการแผนดิน กุมกําลังทหารอยูในมือ และจัดเตรียมกําลังไว
พรอมสรรพการตัดสินใจและแผนของขันทีจึงเทากับเปนการเรงกลไกแหงกรรมใหทาํ งานเร็วยิ่งขึ้น

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ลางบางสิบขันที (ตอนที่ 18)

สถานการณในพระราชวังยามที่ดวงวิญญาณของโฮจิ๋น ออกจากรางเดินทางสูปรโลกนั้น ยังคงตึงเครียด เพราะ


บรรดาพวกของโฮจิ๋นประหวั่นและกริ่งใจวาการเดินทางเขาวังของโฮจิ๋นครั้งนี้ เห็นทีจะเปนการขางรายมากกวา
การขางดี

อวนสุด ซึ่งคุมกําลังทหารหารอยยังคงคอยอยูที่ประตูพระราชฐานชั้นนอก ในขณะที่อวนเสี้ยว และโจโฉยังคง


คอยอยูท  ี่ประตูพระราชฐานชั้นใน อวนเสี้ยว โจโฉ รออยูเห็นนานนัก จึงรองเรียกโฮจิน ๋ ใหรีบออกมา ทหาร
หนาที่ประตูพระราชฐานชั้นในจึงเขาไปรายงานขันที พวกขันทีทราบรายงานแลว ก็ปรึกษากันวาจะดําเนินการ
อยางไร ตอไป ในทีส ่ ุดก็ตกลงใจเสีย
่ งตายอีกครั้งหนึ่งดวยเชือ
่ มั่นวาอวนเสี้ยว โจโฉ จะเกรงพระราชอาญาแลว
กลับไปเสียโดยดี จึงใหทหารตัดศีรษะโฮจิน ๋ แลวโยนขามกําแพงพระราชฐานชั้นในออกไป แลวเตียวเหยียง
ขันทีจึงรองตะโกนดวยเสียงอันดังออกไปวาโฮจิ๋นเปนกบฏถูกประหารเสียแลว เอาแตศรี ษะโฮจิ๋นไปเถิด พรอม
ทั้งขูวาใครที่ไมมีสวนเกี่ยวของทําการกบฏดวยโฮจิ๋นก็ใหรีบกลับไป มิฉะนั้นจะถือวาเปนกบฏตอราชบัลลังก
รวมกับโฮจิ๋นดวย

แตครั้งนี้คําขูของขันทีไรผล อวนเสี้ยว โจโฉ ไดยินเสียงรองตะโกนของเตียวเหยียงแลว จึงประกาศขึ้นดวย


เสียงอันดังวาโฮจิ๋นเปนผูสําเร็จราชการแผนดินของฮองเต เปนพี่ชายของโฮไทเฮา สิบขันทีทาํ การกบฏยึด
อํานาจ แลวฆาโฮจิ๋นเสีย ผูภ  ักดีตอแผนดินทั้งปวงจงมาเขาดวยกับเราปราบปรามพวกกบฏ พิทักษราชบัลลังก
ชวย เหลือฮองเต ค้ําชูชาติ คุมครองราษฎรใหเปนสุข ผูใดจะรวมกับเราปราบกบฏใหรบ ี ตามเราเขาไปจับสิบ
ขันทีฆาเสีย จะมีบําเหน็จความชอบถึงขนาดเงาของ นายทหารคนสําคัญของโฮจิ๋น ซึ่งคุมทหารหารอยนาย มา
กับอวนสุด และคอยโฮจิ๋น อยูหนาประตูพระราชฐานชั้นนอกไดยินคําเตียวเหยียงขันที และฟงคําประกาศของ
อวนเสี้ยว โจโฉแลวโกรธแคนยิ่งนัก จึงเอาเพลิงจุดเผาประตูพระราชฐานชั้นนอก เพลิงนั้นลุกโชติขน ึ้ ไหม
ประตูพระราชฐานชั้นนอกลามติดเรือนพักและตําหนัก ระหวางเขตพระราชฐานชั้นนอกกับชั้นใน ควันเพลิง
คละคลุงเกิดชุลมุนวุนวายอลหมานทั้งพระราชวัง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 40

อวนสุด และเงาของ จึงนําทหารบุกฝาประตูพระราชฐานชั้นนอกเขาไป พบเห็นขันทีเลวก็สังหารเสียสิ้น ปะ


หนาเขากับโฮเบี้ยว ผูชว ยผูสาํ เร็จราชการแผนดิน ผูนองของโฮไทเฮาและโฮจิ๋น เงาของก็แคนนักดวยเชื่อวา
โฮเบี้ยวรวมคบคิดกับพวกขันทีสังหารโฮจิ๋นนายตัวเสีย จึงใหทหารเขาลอมโฮเบี้ยวไว แลวสังหารโฮเบีย ้ วตาย
ในที่นั้น

ฝายอวนเสี้ยว โจโฉ ก็ไดใหทหารใชขวานฟนประตูพระราชฐาน ชั้นในพังทลายลง แลวบุกเขาไปถึงเขต


พระราชฐานชั้นใน ทามกลางควันเพลิงและความชุลมุน พบเตียวตง, เชียกง, เหหุย และกกเสง สี่ขน ั ทีคน
สําคัญในขบวนการสิบขันที กําลังหนีออกจากตําหนักหลังหนึ่งวิ่งเขาไปในสวนดอกไมทา ยตําหนักนั้น อวน
เสี้ยว โจโฉ และทหารก็ไลตด
ิ ตามทันสี่ขันที แลวฆาสี่ขันทีเสีย เอาดาบสับรางสี่ขันทีจนแหลกละเอียด ระบาย
ความแคนจนสาสมแกใจ

สวนขันทีสําคัญอีกสี่คน คือเตียวเหยียง, ตวนกุย, เทาเจียด และเหาลํา ในขบวนการสิบขันที ซึ่งอยูใ กลพระ


ตําหนักโฮไทเฮา และพระตําหนักที่ประทับของฮองเตกับพระอนุชา เห็นเพลิงไหมชุลมุนวุน
 วายขึ้นใน
พระราชวังและเพลิงนั้นไหมลามเขามาใกลพระตําหนัก ตวนกุยจึงวิ่งเขาไปในพระตําหนัก แลวคุมตัวโฮไทเฮา
ไวเปนตัวประกัน สวนเตียวเหยียง, เทาเจียด และเหาลํา วิ่งเขาไปในพระตําหนักที่ประทับของฮองเต และพระ
อนุชา เทาเจียดและเหาลําพลัดกับเตียวเหยียง ปะเขากับทหารของอวนสุด จึงถูกทหารของอวนสุดฆาถึงแก
ความตายในเขตพระราชฐานนัน ้ เหลือแตเตียวเหยียงเขาคุมตัวฮองเตพระองคนอยกับพระอนุชาไวเปนตัว
ประกัน แลวอาศัยควันเพลิงและความชุลมุนพาพระราชบุตรทั้งสองพระองคหลบหนีออกจากพระราชวังไป

ฝายโลติดอดีตแมทัพใหญปราบโจรโพกผาเหลือง ซึ่งไดลาออก จากราชการเพราะไมสามารถทัดทานโฮจิ๋น


เรื่องอางรับสั่งใหกองทัพหัวเมืองเขาเมืองหลวง กําลังเตรียมจัดเก็บขาวของอยูที่จวนเพื่อเดินทางกลับไปบาน
เดิมที่ตา งเมือง เห็นควันเพลิงพุงขึ้นทาบทองฟามาแตขางในพระราชวัง ก็คาดหมายวาคงจะเกิดเหตุรา ยขึ้น
ดังนั้น แมจะลาออกจากราชการหมดภาระหนาที่ใดๆ ไปแลว แตน้ําใจภักดีตอ  ราชสํานักยังคงกรุนเต็มหัวใจ จึง
แตงตัวใสเสื้อเกราะชุดออกศึก ถืออาวุธคูกายมายืนซุมอยูท ี่นอกประตูทายพระตําหนักของโฮไทเฮา เห็นตวน
กุยขันทีพาโฮไทเฮาหนีเพลิงอยูบนระเบียงชัน ้ สองของพระตําหนักรนเขามาทางดานหลัง จึงวิ่งตรงเขาไปทาง
พระตําหนักแลวตวาดใสตวนกุยวา ไอศัตรูราชสมบัติ มึงจะเอาโฮไทเฮาไปไหน

ตวนกุยเห็นโลติดในชุดนักรบถืออาวุธอยูก็ตกใจกลัว อาศัยควันเพลิงเปนเกราะกําบังตัวหลบเขาไปดานใน
แลวหาทางหลบหนีออกจากพระราชวัง ทามกลางความชุลมุนนั้น โฮไทเฮาถูกตวนกุยทิ้งอยูบนระเบียงชัน ้ สอง
ของพระตําหนัก ทั้งเพลิงกําลังไหมลามเขามาก็ตกพระทัย เห็นโลติดอยูใ กลจึงกระโดดหนีเพลิงลงจาก
ระเบียงขางบน โลติดเห็นเหตุการณอยูตลอดก็ตกใจแตกุมสติมั่น ประชิดเขาเบื้องลางชานระเบียงรับโฮไทเฮา
ไวไดทัน และมัวสาละวนอยูกับโฮไทเฮา จึงเปดโอกาสใหตวนกุยหลบหนีไปได

ขุนนางแลทหารในพระราชวังเห็นเหตุการณเชนนั้น จึงเขาสวามิภักดิ์กับอวนเสี้ยว โจโฉเปนอันมาก อวนเสี้ยว


โจโฉ ทําการมาถึงขั้นนี้แลว ใจหนึ่งก็ประหวัน่ เพราะทําการใหญเกินตัว อาจมีความผิดถึงประหาร แตอีกใจหนึ่ง
นั้นมั่นเด็ดเดี่ยวที่จะตองลางบางขันทีใหหมดสิน
้ ไมใหเหลือรากอันจะเปนภัยตอไปในภายหนา ทั้งเห็นวานีเ่ ปน
หนทางเดียวทีจ ่ ะเอาตัวรอดได จึงจัดทหารขึน
้ หนวยหนึ่งไปลอมบานสิบขันที จับพรรคพวกทั้งชายหญิงฆาเสีย
สิ้น

เพลิงไหมลุกลามออกไปหลายที่ และลามไปทางดานคุกหลวง ซึ่งเปนทีจ ่ ําฮองสีขันที ในภายหลังไมปรากฏ


วามีผใู ดพบฮองสีขันทีอีก จึงเชื่อวาฮองสี ขันทีคงตายในเพลิงนั้น โจโฉเห็นเพลิงไหมลามมากขึ้น จะเปน
อันตรายทั้งพระราชวัง จึงคุมทหารออกดับเพลิงเปนหลายแหงจนดับสนิทพบโลติดเชิญ โฮไทเฮาอยู จึงเชิญ
เสด็จโฮไทเฮาใหทาํ หนาที่วาราชการไปพลางกอน เนื่องจากฮองเตและพระอนุชาสูญหายไป เพลิงสงบแลว
อวนเสี้ยว โจโฉ จึงจัดกําลังทหารออกเปนสองกอง กองหนึ่งใหติดตามขันทีทห ี่ ลบหนี อีกกองหนึ่งใหติดตาม
หาฮองเตและพระอนุชาทีส ่ ูญหาย

ในขณะนั้นเตียวเหยียงขันที คุมเอาหองจูเปยนฮองเตและหองจูเหียบพระอนุชาอาศัยควันเพลิงและความ
ชุลมุนหนีออกจากพระราชวังไปแลว ก็ไปหลบซอนอยูในปาเชิงเขาปกคูสาน ตกค่ําเขาตวนกุย ซึ่งหลบหนีโล
ติดออกนอกเมืองเขาเขตปาเชิงเขาปกคูสาน ก็พบกับเตียวเหยียงจึงหลบซอนอยูดวยกัน ขณะที่พากันหลบ
ซอนอยูนั้น ทหารอวนเสีย
้ ว โจโฉ กองที่ติดตามหาฮองเตกับพระอนุชาก็ติดตามมาถึงเขตปาเขาปกคูสาน ตาม
คบไฟสวางไปทั้งราวปา เตียวเหยียง ตวนกุย ตกใจกลัว คํานึงวาหากหลบหนีพะรุงพะรังไปดวยกันเชนนี้ คงจะ
หนีไปไมตลอด เพลา เที่ยงคืนจึงทิ้งฮองเตและพระอนุชาเสีย แลวแยกยายกันหนีตามคติทวี่ า "แยกกันเราอยู

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 41

รวมหมูเราตาย" เตียวเหยียงหนีบุกปามาถึงริมแมน้ํา ไดยินเสียงทหารลอมใกลเขามา คบไฟสวางเห็นบินของ


ทหารของโฮจิ๋นคุมกําลังลอมกระชับใกลเขามา เห็นจะหนีไปไมรอดแลว เตียวเหยียงจึงตัดสินใจโดดน้ําตายใน
คืนนั้นทหารของบินของพบศพเตียวเหยียงจึงไปรายงานใหบน ิ ของทราบ บินของทราบความแลวจึงออก
ติดตามหาขันทีที่เหลือตอไป พบเขากับตวนกุยซึ่งกําลังหลบหนีเงอะงะอยูใ นปา จึงจับตวนกุยไวแลวสอบถาม
วาพาฮองเตและพระอนุชาไปหลบซอนไวที่ใด ตวนกุยตกใจกลัวตาย จึงบอกวาเมื่อเกิดเพลิงไหมขึ้นใน
พระราชวัง เตียวเหยียงไดเชิญเสด็จฮองเตแลพระอนุชาหลบซอนตัวอยูใ นปาเชิงเขาปกคูสาน ขาพเจาซึ่งหนี
ตามมาไปพบเขา แตเห็นทหารไลตามมา จึงตางคนตางหนีเอาตัวรอด ไมทราบวาขณะนี้ฮองเตและพระอนุชา
ประทับอยูท ี่ใด

บินของไดฟงดังนั้นก็โกรธ จึงสังหารตวนกุยเสีย แลวตัดศีรษะ รื้อเกลาผมของตวนกุยผูกคอมาไว แลวออก


ติดตามหาฮองเตและพระอนุชาตอไป สถานการณ ณ บัดนี้สิบขันทีถูกทําลายลางสิ้น กลาวคือฮองสีขันที ผูรับ
สินบนรับเปนไสศึกใหกับโจรโพกผาเหลืองตองโทษจําคุก และถูกเพลิงคลอกตายในคุกหลวง เกียนสิด ขันที
ผูวางแผนรวมกับตั๋งไทเฮายกหองจูเหียบขึ้นเปนฮองเตแทนหองจูเปยน และถูกเกียเส็งขันทีพวกเดียวกันที่มี
ความพยาบาทมาแตกอนฆาเสียในสวนดอกไม เตียวตง, เชียกง, เหหุย และกกเสง อีกสี่ขันทีถูกอวนเสี้ยว โจ
โฉ ฆาเสียในสวนดอกไมแลวสับรางเปนชิ้นแหลกละเอียด มิใหกากลืนแคน เทาเจียด, เหาลํา สองขันทีถูก
ทหารอวนสุดสังหารเสียในพระราชวัง เตียวเหยียง ขันทีคนสําคัญกระโดดน้ําตาย ที่แมนา้ํ ใกลปาเชิงเขาปกคู
สาน ตวนกุย ถูกบินของตัดศีรษะเสียในปาเชิงเขาปกคูสาน

ขันทีใหญนอยที่เปนสมัครพรรคพวกของสิบขันทีถูกอวนสุด บินของ ประหารเสียสิ้นในพระราชวังนั้น จบสิน ้ กัน


แลวสําหรับชะตาชีวต ิ ของสิบขันที ผูกอกรรมทําเข็ญไวกับแผนดิน และราษฎรตลอดระยะเวลาอันยาวนานถึง
สองรัชกาล เปนตนเหตุของการลุกขึ้นสูกอบกูชาติของประชาชน และการจลาจลในบานเมือง ตลอดจนการ
ปลนชิงวิ่งราวทีเ่ กิดขึ้นทั่วทั้งแผนดิน ทําลายระบบบริหารราชการแผนดินของราชวงศฮั่นลงอยาง ยอยยับ ทํา
ใหระบบบริหารราชการแผนดิน ซึ่งแทนที่จะเปนไปเพื่ออํานวยประโยชนสุขและความรมเย็นของแผนดิน และ
อาณาประชาราษฎร กลับกลายเปนการสรางระบบสวยสินบน การทุจริต การฉอราษฎรบังหลวง ทําใหอธรรมมี
อํานาจเหนือธรรม ทําใหทรชน มีอํานาจวาสนาขึ้นในบานเมือง ในขณะที่วีรชนตองถูกกลั่นแกลงขับไลไสสงให
ออกไปไกลโพนจากอํานาจรัฐ

การปดฉากชะตากรรมของสิบขันที เปนการปดฉากสําคัญตอนหนึ่งของสามกก ปดประวัติศาสตรอันเลวราย


ของระบบสวยสินบน ซึ่งกลายเปนตนตอสําคัญของระบบสวยสินบน ทีส ่ บ
ื ทอดระบาดเขาสูระบบราชการของ
หลายประเทศในปจจุบันนี้ สิบขันทีถูกประวัตศ
ิ าสตรกลบทับไปแลว แตความชั่วชาในการ สรางระบบซื้อขาย
ตําแหนงแปรสภาพใหคนกลายเปนสินคา แลวทรยศตอบานเมืองและราษฎร ไดแตกเผาพันธุออกไปอยาง
กวางขวาง ประดุจหญา คอมมิวนิสตในฤดูฝน สืบทอดวิญญาณรายเขาสูร ะบบราชการจนถึงทุกวันนี้

ยุคสมัยของสิบขันทีปดฉากลงแลว เปดศักราชใหมที่เปลี่ยนความขัดแยงหลักระหวางขันทีกับขุนนาง
ขาราชการ ซึ่งกระทบราชบัลลังกหนักอยูแลว ใหกลายเปนความขัดแยงหลักชนิดใหมระหวาง ขุนศึกกับขุนศึก
ซึ่งกระทบราชบัลลังกหนักกวาเกา และนําไปสูความดับสูญของราชวงศฮั่นในทีส ่ ุด แตการจะโทษสิบขันที
เพียงฝายเดียวนั้น ไมเห็นเปนการยุติธรรม เพราะขันทีประดุจดังไมเลื้อยที่เกาะไมหลักเทานั้น ไมหลักที่วา นี้ก็
คือฮองเต ที่ไมรูจักผิดชอบชั่วดี สนับสนุนอุมชูใหทรชน มีอํานาจขึ้นในแผนดิน ไมสนใจไยดีวีรชน ไมเชิญชวน
เรียกหาวีรชน และบัณฑิตเขามารับใชชาติบานเมือง

นักปราชญ บัณฑิต และวีรชนจํานวนมากที่มีอยูก็ไมไดใหความสําคัญ ไมไดใหความใกลชิด ไมไดยน ิ เสียง


ของพวกเขาเหลานั้น และไมไดชวงใชใหพวกเขาเหลานั้นทําคุณประโยชนแกแผนดิน ดังนั้นแผนดินจึง
สูญเสียโอกาสในการสรางวีรกรรมและผลงานจากนักปราชญ บัณฑิต และวีรชน แตในขณะเดียวกันนั้น
ราชวงศฮั่นกลับจะสูญเสียยิ่งกวา นั่นคือความดับสูญของราชวงศฮั่นเอง

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ดวงตะวันในกองฟาง (ตอนที่ 19)

ณ ปาเชิงเขาปกคูสาน หองจูเปยนฮองเตนอย และหองจูเหียบพระอนุชาตางมารดา ถูกขันทีทิ้งไวแลวหลบหนี


เอาตัวรอด ไดยินเสียงอลหมานทั้งแสงไฟสวางอยูไกลๆ ก็ตกใจกลัว เพราะไมรูวาเปนมิตรหรือศัตรู จึงพากัน
ซอนตัวเงียบเสียงสนิทจนกองทหารผานไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 42

หลังเที่ยงคืนลวงเขายามสาม ในราวปามืดสนิท ยินเสียงสัตวรองสนั่น ไมรูดีรา ย กษัตริยพ  ระองคนอยและพระ


อนุชาก็ยิ่งประหวั่นพรั่นพรึง หันซายแลขวาหนาหลังก็มด ื มิดไมเห็นทาง แมยังเยาววัยออนประสบการณนัก
แตยังคงดํารงสติมั่นเกินประสาเด็ก คํานึงวาหากพลัดหลงกันแลวไมรทู ี่จะติดตามหาพบกันไดฉันใด สอง
ขัตติยะพระองคนอยจึงเอาชายภูษาทรงผูกเขาไว ไปทางไหนจะไดรูตัวตามกันไป ยิ่งดึกยิ่งหนาวเหน็บ น้ําคาง
ลงจัด สองพระองคยังคงซัดเซไปในปาโดยไรทิศทาง ชางนาเวทนายิ่งนัก ขณะนั้นพลันมีหิ่งหอยกลุม  ใหญ
บินระเรี่ยระดับสายตา อยูในปา พุงตรงเขามายังสองพระองค แสงหิ่งหอยแมนอยนักแตเมื่อรวมกลุมในที่มืด
แลว ทําใหทั้งสองพระองคเห็นทางในราวปา กลุมหิ่งหอยบินนําไปขาง หนาตามทางนั้นเปนที่อัศจรรย ทั้งสอง
พระองคจึงเสด็จตามแสงหิ่งหอยที่นําทางนั้นไป หองจูเหียบ ผูนองสังเกตเห็นเปนที่ประหลาดนัก จึงตรัสกับ
ฮองเตผูพี่วา หิ่งหอยนี้คงเปนเทพยดา มีเมตตาแกสองเราผูยาก จึงนิรมิตเปนหิ่งหอยมา นําทางให แลว
ประโลมใจผูพี่วา บุญเราสองพี่นองคงยังไมสน ิ้ เทพยดาจึงบันดาลใหเปนไปดั่งนี้

ทั้งสองพระองคคํานึงและเห็นความอัศจรรยฉะนี้แลว ก็มีกําลังพระทัยดวยปติ อันเปนอาหารของจิตเกิดความ


ปราโมทยยน ิ ดีโชติชว งขึ้นในจิตของทั้งสองพระองค ทําลายความงวงเหงาหาวนอน มลายไปสิ้น ทั้งสอง
พระองคเสด็จพระดําเนินตามแสงหิ่งหอยตลอดทั้งคืน โดยไมรูวาไปทางใด ใกลไกลสักเพียงไหน พระบาททั้ง
สองชอกช้ําพุพอง พระโลหิตหอพระบาท เต็มไปดวยทุกขเวทนา ก็ถึงราวปาเชิงชายเขาเปนเวลาใกลรงุ สาง
สิ้นพระกําลังลงทั้งสองพระองค ไมสามารถเสด็จพระดําเนินตอไปได ทอดพระเนตรเห็นฟางกองใหญใกลราว
ปา ก็เสด็จพระดําเนินเขาไปทอดพระวรกายลงหลับใหลไปทัง้ สองพระองค

ณ ที่นั้นเปนเขตบานของซุยกก อดีตขุนนางที่ลาออกจากราชการเนื่องจากทนระบบสวยสินบนของสิบขันที
ไมได แลวมาปกหลักทําไรนาอยู ณ ภูมิลําเนาแหงนี้ ดวยบุญวาสนาของซุยกก ที่จะไดทํานุบํารุงชวยเหลือ
ฮองเตพระองคนอยและพระอนุชา สืบสายพระราชสันตติวงศของพระเจาฮัน ่ โกโจ บนบัลลังกมังกรตอไป ราตรี
นั้นใกลจะสาง บังเกิดความฝน โดยเทพยดาสังหรณวาเห็นพระอาทิตยสองดวงตกลงที่กองฟางหลังบาน ซุย
กกสะดุงตืน
่ ขึ้นเห็นแสงตะวันทอทาบฟาเบื้องบูรพาทิศ เห็นเปนนิมิตประหลาดกวาความฝนที่เคยมีมาแตหน
หลัง ไมทันไดลางหนาทําธุระสวนตัว ก็ผลันออกจากบานไปที่กองฟาง เห็นพระราชบุตรทั้งสองพระองค
หลับใหลทามกลางความหนาวแลเปยกชุมไปดวยน้ําคาง เปนที่เวทนายิ่งนัก

ซุยกกสงสัยนัก จึงปลุกพระราชบุตรทั้งสองใหตื่นขึ้นแลวถาม วาทานนีม ้ าแตที่ใด จึงมาหลับใหลไรสติใน


สภาพดั่งนี้ ทั้งสองพระองคตน ื่ ขึ้นแลว หองจูเปยน ฮองเตนอยยังงัวเงีย อยูไมทันกลาวประการใด หองจูเหียบ
ผูนองจึงชี้ไปทีห
่ องจูเปยนแลววาขึ้นกอนวานัน
่ คือหองจูเปยน เชื้อสายแหงพระเจาฮั่นโกโจ เปนฮองเตอยู ณ
เมืองลกเอี๋ยง ตัวเราเปนนองชื่อหองจูเหียบ เหตุมีมาแตขันทีสิบคนกระทําการหยาบชา บานเมืองจลาจล
วุนวาย เราถูกขันทีจับเปนตัวประกัน แลวนําไปทิ้งไวทใี่ นปา หลงทางมาถึงที่นี่ จึงขอทานไดเมตตาไดเปนที่
พักอาศัยสักไมกี่ชั่วยาม

ซุยกกไดฟงคําของหองจูเหียบ พินิจพระราชบุตรทั้งสองแลว มีบุคลิกลักษณะตางจากลูกชาวปาทั่วไป


ผิวพรรณตองแสงอุทย ั ยามอรุณผองใสกวาคนทั้งปวง ทั้งภูษาทรงก็บงวาหาใชคนธรรมดาสามัญไม หากเปน
เครื่องทรงของฮองเต และพระราชวงศซึ่งตนเองยังคงจําติดตาจนถึงทุกวันนี้ ก็เชื่อตามคําหองจูเหียบ ซุยกก
ตกตะลึงอยูอึดใจหนึ่งตั้งสติไดแลวรีบคุกเขาลงกับพื้น กราบถวายบังคมแลวทูลวาขาพเจานี้นามซุยกก เดิมรับ
ราชการเปนขุนนางในพระเจาเลนเต อยูที่ ลกเอี๋ยงราชธานี ครั้งนั้นสิบขันทีทาํ หยาบชา ขมเหงรังแกขุนนาง
ขาราชการ ขาพเจาทําราชการดวยความ สัตยสุจริต มิไดเบียดเบียนราษฎร ไมมีสวยสินบนกํานัลแกขันที จึง
ไดรับความเดือดรอน ขาพเจาจึงกราบถวายบังคมลาออกจากราชการ มาทําไรไถนาอยู ณ บานนี้ แลวซุยกกจึง
ไดอัญเชิญทั้งสองพระองคเสด็จเขาไปที่ในบานของตน จัดที่พักและอาหารถวายสองพระราชบุตรผูเยาวดวย
ใจที่เบิกบานภักดีเปนลนพน ที่คนชาวนาสามัญแหงบานปามีวาสนาไดรับใชเบื้องพระยุคลบาทในยามยาก
เชนนี้

ฝายบินของนําทหารออกเที่ยวตามหาฮองเตกับพระอนุชา ตลอดทั้งคืนจนสวาง ตกสายก็มาถึงเขตบานซุยกก


ขุนนางนอกราชการ ซุยกกไดยินเสียงอึกทึกจึงออกนอกบานมาดูเหตุ เห็นบินของขี่มาคุมทหารมา มีศรี ษะคน
คุนตาผูกติดอยูข
 างคอมา เขาใกลแลวก็จาํ ไดวาเปนศีรษะตวนกุยขันที จึงถามวานี่เปนศีรษะของตวนกุยขันที
เกิดเหตุอยางใดขึ้นในพระราชวังหรือ บินของฟงคําของซุยกกแลว คิดอยูในใจวาคนผูนม ี้ ีบุคลิกกิรย
ิ าทาทาง
และคําเจรจาผิดจากชาวปา ทั้งรูจักตวนกุยขันที ยอมมิใชชาวปาธรรมดา นาจะเปนขุนนางราชสํานักนอก
ราชการ จึงเลาความใหซย ุ กกฟงทั้งสิ้น และวาเราติดตามหาพระราชบุตรทั้งสองพระองคตลอดทั้งคืน ลาเต็มที
ขอพักที่บานทานสักชั่วยามแลวจะออกติดตามพระราชบุตรตอไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 43

ซุยกกมีความยินดีนัก จึงบอกบินของวาเปนบุญของพระราชบุตรแลวทีจ่ ะไมตองยากลําบากพระวรกายอีก


ตอไป ทานไมตองออกไปคนหาอีกตอไปแลว เพราะบัดนี้เราไดพบทั้งสองพระองคที่กองฟางหลังบาน และ
เชิญเสด็จประทับอยูในบาน เชิญทานเขาเฝาดวยกันเถิด บินของทราบแลวดีใจนัก สั่งทหารสื่อสารใหรีบเดิน
ทางเขาพระนครรายงานใหราชสํานักทราบ จากนั้นซุยกกจึงนําบินของเขาเฝาพระราชบุตรขางในบาน บินของ
กราบทูลวาบัดนี้ความวุนวายในพระราชวังยุตล
ิ งแลว เปนธรรมเนียมแตโบราณมาวาแผนดินจะวางฮองเตมิได
ดังนั้น จึงขอทูลเชิญพระองคเสด็จกลับพระนครเสวยราชสมบัติดังเดิม บานเมืองจึงจะเปนปกติสุขสืบไป

ฮองเตพระองคนอยและพระอนุชามีความยินดียิ่งนัก ตรัสตอบรับคําเชิญแลว ซุยกก บินของ จึงจัดมาถวายทั้ง


สองพระองค เสด็จออกจากบานปากลับพระนคร ขบวนเสด็จลับเขตบานซุยกกมาพักหนึ่ง ก็เห็นขบวนของขุน
นางเดินทางมุงมายังขบวนเสด็จ ปรากฏวาเปนคณะของขาราชสํานักคืออองอุน อิวปว ซุยเกง เตียวเปง เปาซุน
และมีอวนเสีย
้ ว คุมทหารหารอยนายตามขบวนมา

ขบวนขุนนางขาราชสํานักและทหารเห็นฮองเตพระองคนอยและพระอนุชาแลว รีบลงจากหลังมาเขาไปรับ
เสด็จถวายบังคมแลวรองไหดวยความดีใจระคนสงสารในทั้งสองพระองค บินของและซุยกกไดรายงาน
เหตุการณใหขนุ นางขาราชสํานักฟง และมอบศีรษะตวนกุยขันทีแกอวนเสี้ยว อวนเสี้ยวจึงสั่งใหทหารนํา
ศีรษะตวนกุยเขาเมือง แหประจานความชัว่ รายของสิบขันทีแลวเอาไปฝงเสียที่นอกเมือง คณะขุนนางขาราช
สํานักจัดรถมาพระทีน่ ั่งใหเปนที่ประทับ แลวจัดขบวนเสด็จเดินทางกลับ

ในขณะที่ขบวนขุนนางขาราชสํานักออกจากวังหลวงไปรับเสด็จนิวัตพระนครนัน ้ ก็เกิดความอึกทึกขึ้นเปนที่ผิด
สังเกต ทหารของตั๋งโตะที่ลาดตระเวนรอบคายซึ่งตั้งอยูนอกกําแพงพระนคร สงสัยสอบถามความจากชาวบาน
ทราบความแลวจึงเขาไปรายงานใหตั๋งโตะทราบ ตั๋งโตะทราบความแลวเห็นโอกาสทีจ่ ะสรางความชอบรับ
เสด็จคืนพระนครอยางหนึ่ง และฉวยโอกาสเขาแทรกกิจการภายในราชสํานัก อันเปนวัตถุประสงคหลักในการ
เดินทัพเขาเมืองหลวงอีกอยางหนึ่ง จึงจัดทหารสามพันยกตามคณะขาราชสํานักไปในทิศทางเดียวกัน

ขบวนเสด็จเคลือ ่ นมาไดประมาณ 100 เสนเศษ ก็เห็นกองทหารยกมาเปนจํานวนมาก คณะขุนนางก็ตกใจ


เพราะไมรูวาเปน กองทัพผูใด จึงใหหยุดขบวนเสด็จไว และใหอวนเสีย ้ วนําทหาร ตั้งขบวนปองกันขบวนเสด็จ
อวนเสี้ยวขับมานําทหารออกไปหนาขบวนเสด็จ ปะเขากับกองทหารของตั๋งโตะ กองทหารของตั๋งโตะก็หยุด
พลไว ณ ที่นั้น อวนเสี้ยวจึงถามไปวาเปนทัพผูใดยกมา ตั๋งโตะไดยน ิ ก็ขับมาไปหนาทหาร ไมตอบคําอวนเสี้ยว
ถามกลับไปวาฮองเตและพระอนุชาอยูท  ี่ใด เสด็จมาในขบวนทหารนี้ดว ยหรือไม ฮองเตพระองคนอยหองจู
เปยน เห็นกองทหารยกมาดั่งนี้ก็ตกพระทัย มิรูทจ ี่ ะตรัสประการใด ในขณะที่หองจูเหียบพระอนุชาหาไดมพ ี ระ
อาการใดผิดปกติไม มีพระสติมน ั่ อยู ไดยินคําตั๋งโตะแลว จึงตรัสดวยน้ําพระสุรเสียงใสบริสท
ุ ธิ์เปนสงาใหไดยิน
ทั่วกันวานั่นเปนทัพผูใ ดยกมาตามหาฮองเต

ตั๋งโตะฟงรับสั่งถามแลวถวายรายงานวาขาพเจานี้ชื่อตั๋งโตะ เปนเจาเมืองซีหลง รับหมายตราใหยกเขาเมือง


หลวงเพื่อจับขันทีมาฆาเสีย แตเกิดจลาจลขึ้นในพระนคร และทราบวาบัดนี้ทั้งสองพระองคประทับอยูนอกพระ
นคร มีความหวงใยในความปลอดภัยของทั้งสองพระองค จึงยกทหารมาถวายความอารักขา หองจูเหียบ ตรัส
ตอบไปวาขออางถวายความอารักขานั้นจะตางอะไรกับการควบคุมตัวเลา ทานจะเปนกบฏหรือ ตั๋งโตะรีบทูลวา
ขาพเจานี้หามีจต ิ คิดกบฏตอราชบัลลังกแตประการใดไม หากมารับเสด็จดวยใจสัตยซื่อ ถือภักดีในพระราชวงศ
เพื่อถวายความปลอดภัยแกทั้งสองพระองค

หองจูเหียบ สําทับกลับไปวาในเมื่อทานวามาดวยความ จงรักภักดี ไฉนจึงไมลงจากหลังมาถวายความเคารพ


ตามธรรมเนียม เลา? พระดํารัสของหองจูเหียบที่ตอบโตกบ ั ตั๋งโตะแคลวคลองตองตามธรรมเนียมอันขุนนาง
ตองปฏิบัติเกินสติปญ ญาของเด็กนัก กระทบเขากับใจดําของตั๋งโตะ ดังนัน ้ ตั๋งโตะจึงตกใจลนลานลงจากหลัง
มา กองทหารที่ตด ิ ตามมาก็ลงจากหลังมาสิน ้ แลวพรอมกันถวายความเคารพ หองจูเหียบ เห็นเปนที จึงตรัส
ทํานองผูกใจตัง๋ โตะวา "ทานนี้มิเสียแรงเปนขุนนางผูใหญ ใจสัตยซื่อ คําตนกับคําปลายตองกัน" ตั๋งโตะฟง
รับสั่งแลวหัวใจก็พองโตเพราะเปนคนบายอ ความคิดอานก็โลดแลนไปไกล ดวยตองใจพระอนุชาพระองคนอย
คิดอยูใ นใจวา "หองจูเหียบมีสติปญ  ญาพูดจาหลักแหลมนัก กูจะคิดอานยกหองจูเปยนออกเสีย จะใหหอง
จูเหียบเปนเจาแผนดินในเมืองลกเอี๋ยง"

จากนั้นขบวนเสด็จจึงไดเคลื่อนออกจากที่ โดยมีตั๋งโตะคุมกองทหารตามสงเสด็จกลับพระนคร ตัวตั๋งโตะและ


ทหารองครักษไดตามเขาไปสงเสด็จถึงเขตพระราชฐานชั้นนอก แลวออกมาอยู ณ คายนอกกําแพงพระนคร
เชื้อสายพระเจาฮั่นโกโจกําลังเผชิญกับจอมปศาจรายตั๋งโตะ ดวยผลแหงความคิดของโฮจิ๋นและอวนเสี้ยวดวย
ประการฉะนี้

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 44

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

เจาะแผนยึดอํานาจของตั๋งโตะ (ตอนที่ 20)

การที่อํานาจเปนที่ใฝหาของผูค  น เนื่องเพราะอํานาจนั้นสามารถบันดาลใหเกิดขึ้นทั้งสมบัตแ ิ ละวิบตั ิ ทั้งความ


เจริญรุงเรืองและเสื่อมถอย ทั้งศานติและวุนวาย และบันดาลไดแมกระทั่งสงครามหรือสันติภาพ แตตัวอํานาจ
เองนั้นกลับไมใชทั้งสมบัติหรือวิบัติ ไมใชความเจริญรุงเรืองหรือเสื่อมทรุด ไมใชศานติหรือวุนวาย และไมใช
ทั้งสงครามหรือสันติภาพ ตัวอํานาจจะเปนประการใดนั้น ขึ้นอยูกับคน เพราะคนเปนผูใ ชอํานาจ และตองรับผล
แหงอํานาจตลอดจนผลแหงการใชอํานาจนั้นดวย

อํานาจจึงอุปมาดวยน้ํา น้ําจะมีรูปรางประการใดยอมขึ้นอยูกบ
ั ภาชนะอันเปนที่รองรับ อุปมาฉันใดอุปไมยก็ฉัน
นั้น แตอํานาจก็หาไดอยูประจําที่ไม หากเคลื่อนตัวไปอยางไมหยุดยั้ง ขึ้นอยูกับวาผูใ ดชวงชิงอํานาจได ใช
อํานาจเปน และเห็นความสําคัญทะนุถนอมไวดุจดังดวงใจ

รัฐบาลบางรัฐบาลแมวาชวงชิงไดมาซึ่งอํานาจแลว แตรักษาไวไมได ใชอํานาจไมเปน อํานาจนั้นก็จะหลุดจาก


มือไป ในชวงเวลาอันสั้นบาง ยาวบาง ยอมมีปรากฏใหเห็นอยูเสมอ แตวันเวลาทีค ่ รอง อํานาจอยูในมือจะสั้น
ยาวประการใด หาไดมคี วามสําคัญไม ความสําคัญอยูต  รงที่การใชอํานาจนั้นเปนไปเพื่อประโยชนสขุ แหง
มหาชนหรือไม รัฐบาลบางรัฐบาลชิงอํานาจได ใชอํานาจเปน และเห็นความสําคัญ ทะนุถนอมไวไดดุจดวงใจ
แตครั้นถึงเวลาใชอํานาจแทนที่จะใชอํานาจนัน ้ ใหเปนไปเพื่อบานเกิดเมืองนอน และอาณาประชาราษฎร กลับ
ใชอํานาจไปในทางขายชาติ เปดโอกาสใหตางชาติเขามายึดครองเศรษฐกิจของบานเมือง กดขี่ขมเหง
ประชาชน อํานาจและการใชอํานาจแบบนีจ ้ ึงเปนอํานาจทีแ ่ ปรสภาพกลายเปนอํานาจของทรราช อันเปนที่
ประณามหยามเหยียดของผูค  นทั้งแผนดิน ประวัติศาสตรเคยเปนมาประการใด ปจจุบันก็ยังเปนไปประการนัน ้

พลันทีส ่ ิ้นแผนดิน เลนเต อํานาจรัฐไดเคลือ


่ นจากมือของสิบขันทีและเกิดสุญญากาศแหงอํานาจอยูร ะยะหนึ่ง
หลังจาก โฮจิ๋น และขุนนางไดสถาปนา หองจูเปยน ขึ้นเปนฮองเตแลว อํานาจนั้นจึงไดเคลือ ่ นมาอยูในมือของ
โฮจิ๋น ซึ่งเปนผูส  ําเร็จราชการแผนดิน ฐานะของโฮจิ๋นในขณะนั้นสูงสงยิ่ง ตัวเองเปนถึงผูสาํ เร็จราชการแผนดิน
คุมกําลังทหารทั้งปวงไวในมือสิ้น มีฐานะเปนลุงของฮองเต เปนพี่ชายของไทเฮาและเปนพี่ใหญของผูชวย
ผูสาํ เร็จราชการแผนดิน

ฐานะและอํานาจเชนนี้จะมีสักกีค่ นในโลกที่จะมีโอกาสมีได แมในสามกกซึง่ ดําเนินผานกาลเวลารวมรอยป ก็


หามีผใู ดมีฐานะแล อํานาจเสมอดวย โฮจิ๋น แมแตสักคนเดียวไม แตฐานะและอํานาจเหลานี้ โฮจิ๋นไมสามารถ
รักษาไวได เพราะใชอํานาจไมเปน อํานาจจึงหลุดลอยไปพรอมกับศีรษะบนบาของตน ความจริงแลว โดย
ฐานะและอํานาจของ โฮจิ๋น นัน ้ สิบขันทียอมไมใชคตู อสู และไมมีทางทีจ
่ ะเปนพิษเปนภัยอะไรแก โฮจิน๋ ได
โฮจิ๋น จึงไมชอบทีจ
่ ะยอมตนเขาเปนคูพิพาทกับสิบขันที ทั้งสิบขันทีนั้นก็ไดแสดงทาทีและเคลือ
่ นไหว
สวามิภักดิ์ตอตระกูล "โฮ" แลว ชอบทีจ ่ ะสรางฐานอํานาจของตนใหมั่นคงเขมแข็งเสียกอน แมมีเจตนาที่จะ
สังหารสิบขันทีเสีย ก็ยังสามารถละไวกอนแลวจัดการในภายหลัง ก็ไมเห็นจะมีสิ่งใดเปนที่เสียหาย

หนทางกําจัดสิบขันทีก็มีอยูนบ ั พันหมื่นวิธี แตโฮจิ๋นไมทําและทําไมเปน กลับไปเลือกเอาแผนการของอวน


เสี้ยว ใหเรียกกอง ทัพหัวเมืองเขาเมืองหลวง เสมอดวยการขีช ่ างจับตั๊กแตนและถือไดวาเปนแผนการที่โงและ
บัดซบที่สด ุ ในประวัตศ ิ าสตร แมตัดสินใจรับเอาแผนที่โงและบัดซบทีส ่ ุดแลวก็ยังทําไมเปน เพราะแทนที่จะรีบ
ดําเนินการใหเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และดวยการปดลับอยางเขมงวด กลับทอดเวลาออยอิ่ง แลวยังทําการเอิกเกริก
ใหฝา ยปรปกษรูตัว วางแผนสังหารตัวเสียกอน

ประมาทถึงเพียงนี้แลว มิหนําซ้ํายังประมาทหนักเขาไปอีก ทั้งๆ ที่คด


ิ จะสังหารสิบขันทีและการเอิกเกริกเพียงนี้
แลว กลับเดินทางเขาไปถึงถิน ่ ของสิบขันที ทั้งๆ ที่ควรรูไดวาในเขตพระราชฐานชั้นในนั้นองครักษหรือคน
ชวยเหลือของตัวเขาไปไมได ดังนี้ อํานาจในมือของโฮจิ๋นจึงหลุดลอยไปพรอมกับศีรษะของ โฮจิ๋นเอง

ฝาย ตั๋งโตะ นัน


้ เลา เฝาคอยหาโอกาสยึดอํานาจรัฐมานานแลว สบโอกาสไดก็เพราะแผนการอันโงและบัดซบ
ของ อวนเสี้ยว นั้น ตั๋งโตะ เปนคนหยาบชากักขฬะ โทสะก็แรงจัด ลําพังตนมีขอดีอยูประการเดียวเทานัน ้ คือมี
น้ําใจรักทหาร และรักคนมีฝมอ ื ดังนั้นลําพังตัวตั๋งโตะ ยอมจะคิดและทําการใหญไมได แตจะมองเฉพาะตัว ตั๋ง
โตะ ก็ไมได หากตองมองใหเห็นถึงสิ่งสองสิง่ ที่ประกอบกันเขาแลวทําให ตั๋งโตะ เรืองอํานาจวาสนาขึ้นมาได

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 45

นั่นคือกําลังทหารยีส
่ ิบหมื่นของตั๋งโตะอยางหนึ่ง และกุนซือหรือที่ปรึกษาคนสําคัญของตั๋งโตะทีม
่ ีนามวาลิยูอีก
อยางหนึ่ง

สถานการณในยามที่ หองจูเปยน เสวยราชยนั้น ไมปรากฏวามีเมืองใดหรือขุนนางผูใดมีกน ุ ซือ แม โฮจิน


๋ ซึ่ง
ครองอํานาจสูงสุดก็หาปรากฏวามีกุนซือไม มีการสิ่งใดก็สอบถามความคิดเห็นกับคนที่อยูใกลโดยไมเลือก
หนา เปนครั้งเปนคราว บางครั้งก็ปรึกษาเอากับอวนเสี้ยว และ โจโฉ จึงทําใหการดําเนินงานทางการเมืองของ
โฮจิ๋น และหัวเมืองตางๆ รวมทั้งขุนศึกทุกผูค
 นไรทศ
ิ ทาง ขาดความตอเนื่องและมีลักษณะเฉพาะหนาเสียเปน
สวนใหญ

กระบวนการเคลื่อนไหวทั้งหลายของตั๋งโตะจึงแยกไมออกจากสติปญ  ญาของกุนซือนามลิยู แตทั้งนี้อานุภาพ


แหงสติปญญาของ ลิยูสามารถแสดงพลานุภาพได ก็ดวยตั๋งโตะมีขอ  ดีอยูอีกประการหนึ่งก็คือรูตัวเองวามี
จุดออน ดังนั้น จึงมีความเปนปกติที่จะไมคิดพิจารณาเรื่องใดดวยตนเอง หากจะปรึกษาหารือการตาง ๆ ดวยลิ
ยู อยูเสมอ ดังนั้น สติปญญาของลิยูจึงมีบทบาทนําและครอบงํากระบวนการเคลื่อนไหวตางๆ ของตั๋งโตะ คน
แบบ ตั๋งโตะ นั้น หากจะเปรียบเหมือนคนตาบอด แตยอมเปนคนตาบอดที่มีหต ู าสวางดวยสติปญญาแหง ลิยู
นั้น

การเคลื่อนทัพของตั๋งโตะจากเมืองซีหลงเขาเมืองหลวงหนึ่ง การปลงทัพกลางทางแลวขอรับพระบรมรา
ชานุญาตจากฮองเตเสียกอนหนึ่ง เคลื่อนทัพถึงเมืองหลวงแลวตั้งทัพนอกกําแพงพระนคร แตไมเรียกรองให
สงสิบขันทีมาสังหารหนึ่ง เห็นเพลิงไหมในพระราชวังแลว ยังคุมกําลังตั้งมัน ่ คอยโอกาสจนเหตุการณปกติแลว
จึงไปรับฮองเตนิวัตกลับพระนครอีกหนึ่ง ทั้งหาประการนี้มิใชเหตุการณที่จะมองขามไป

สามกกฉบับหลักทุกฉบับไมไดใหความสําคัญในการหาประการดังกลาว และขามไปอยางนาเสียดาย แลเมื่อ


การทั้งหาประการนี้เปนเรื่องสําคัญ จึงควรจะไดหันกลับมามองถึงเบื้องลึกของแผนการดังกลาวของฝายตั๋งโตะ
มิฉะนั้นแลวสามกกฉบับคนขายชาตินี้ก็จะขาดอรรถรสไป และเมื่อมองดวยพินิจพิเคราะหโดยควร ก็จะแลเห็น
ถึงแผนการยึดอํานาจอันแยบยลและอํามหิตของฝาย ตั๋งโตะ ที่เกิดแตสติปญ  ญาของ ลิยู

การตัดสินใจเคลื่อนทัพจาก เมืองซีหลง เขาเมืองหลวง ทัง้ ๆ ที่หัวเมืองอื่นไมยอมเคลื่อนทัพเพราะเกรงพระ


ราชอาญานั้น นับเปนการฉวยโอกาสครั้งสําคัญ แตมีความเสี่ยงภัยอยูม  าก ฝาย ลิยย
ู อมประมาณสถานการณ
ชัดเจนแลววาคุม แกการเสีย
่ ง และเสีย
่ งไปแลวยังคงกุมสถานการณไมใหตกเปนฝายถูกกระทําได เหตุผลอยู
ตรงที่การอานสถานการณกระจางวาอํานาจรัฐในขณะนั้นอยูในกํามือของโฮจิ๋น ไมไดอยูที่ฮอ งเต เมื่อโฮจิ๋นเปน
ผูถืออํานาจยอมเปนผูถือกฎหมายดวย การดําเนินการตามคําสั่งของโฮจิ๋นผลที่แทก็คอ
ื ดําเนินการตามความ
เห็นชอบของผูถ  ือกฎหมาย ราชภัยยอมไมเอื้อมมาเอาโทษแกตั๋งโตะได

หัวเมืองตาง ๆ อานสถานการณไมกระจางจึงไมกลาเคลื่อนทัพ โอกาสอันยิ่งใหญจึงเปนของ ตั๋งโตะ แตเพียง


ผูเดียว ครั้นเดินทัพแลว เพื่อใหเกิดความมั่นใจและประกันไมใหเกิดความผิดพลาด ลิยู จึงเสนอใหปลงทัพไว
กอน แลวขอรับพระบรมราชานุญาตเสียอีกชัน ้ หนึ่ง เพียงเทานี้ก็ยังแลเห็นถึงความชอบดวยเหตุและผล แต
ความคิดของ ลิยู นั้นโหดเหีย ้ มอํามหิตกวาที่คาดคิด เพราะนั่นคือกลศึกชนิดหนึ่งทีต ่ องการใหคูปรปกษฆา
กันเองเสียกอนแลวคอยชุบมือเปบในภายหลัง

เนื่องเพราะการปลงทัพไวกอนยอมทําใหเวลาเนิ่นไป สงผลให ความขัดแยงระหวางสิบขันทีกับ โฮจิ๋น


ขยายตัวและรุนแรงยิ่งขึ้นอยาง หนึ่ง สวนการขอรับพระบรมราชานุญาตจากฮองเต เนื้อแทก็คือการทําใหสิบ
ขันทีไดรวู า โฮจิ๋น สั่งใหทัพหัวเมืองเขาเมืองหลวงเพื่อตองการฆาสิบขันทีนั่นเอง เพราะ ลิยู ยอมทราบดีวาสิบ
ขันทีใกลชิดฮองเต เมื่อมีหนังสือกราบบังคมทูลถึงฮองเต ขันทียอมจะทราบความนัยทั้งปวงได แลวยอมหา
หนทางสังหาร โฮจิ๋น เสีย เปนแตวาหนังสือไปถึงมือ โฮจิ๋น เสียกอน และถาหาก โฮจิ๋นอานกลของ ลิยู ออกก็
อาจปองกันแกไขสถานการณได แตคนแบบ โฮจิ๋น ไมเพียงแตไมรูกลศึก กลับจัดงานเลีย ้ งโตะเชิญขุนนางมา
ปรึกษาใหเอิกเกริก ทําใหขันทีรต ู ัวเสียดวยตนเอง

เมื่อยกทัพถึงเมืองหลวงตั้งอยูน อกกําแพงพระนครแลว ทําเฉยเสียไมเรียกใหสงสิบขันทีออกมาเพื่อสังหารเสีย


ตามภารกิจ เนือ ้ แทก็คือการเรงสถานการณใหสิบขันทีกับโฮจิ๋นฟาดฟนกันจนบาดเจ็บลมตายกันเสียกอน ครั้น
เห็นเพลิงไหมขึ้นในพระราชวังแลวยังคงสงบนิ่งคุมกําลังตั้งมั่น ไมติดตอกับราชสํานักและไมใหความ
ชวยเหลือใดๆ ก็คือการดําเนินกลยุทธ "นั่งบนภูดูเสือกัดกัน" หากไดอยูรวมในคายของ ตั๋งโตะ ก็ยอมจะเห็น
ตั๋งโตะ แล ลิยู กําลังดืม ่ ฉลองกันดวยความเบิกบานใจยิ่งวาแผนการทีก ่ ําหนดไวไดดาํ เนินไปเปนรูปรางสม
ความคิดเกือบทุกประการแลว

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 46

ขาวการตายของโฮจิ๋นที่ประตูพระตําหนักโฮไทเฮานั้น มีหรือที่จะรอดพนสายตาลิยูไปได ถึงขั้นนี้ลิยค


ู งตบโตะ
ดังผางแลววาการครั้งนี้สมความคิดเราแลว ตัง๋ โตะทานเตรียมตัวครองอํานาจแทนโฮจิ๋นเถิด ครั้นขบวนขุนนาง
ราชสํานักพรอมรถพระที่นั่งอันวางเปลาเคลือ
่ นออกไปนอกพระนคร ลิยู ยอมฟนธงไดแลววาโอกาสทองของ
การบรรลุแผนโดยสมบูรณที่หายากยิ่งไดมาถึงแลว จึงเสนอใหตั๋งโตะ จัดขบวนทัพออกไปรับเสด็จนิวัตสูพระ
นคร เพื่อจะไดถือโอกาสนั้นแทรกแซงกิจการภายในราชสํานัก อันความพิศวาสแหงชายหญิงจะยากลําบากอยู
ที่การสําเร็จความปรารถนาในครั้งแรกฉันใด การเขาแทรกแซงกิจการภายในราชสํานักของตั๋งโตะก็ยากลําบาก
แตเพียงครั้งแรกฉันนั้น

กําลังทหารที่กดดันอยูนอกกําแพงพระนครอยูถึงสิบหมื่น เมื่อประกอบเขากับการคุมกําลังทหารถึงสามพัน
อารักขาฮองเตเสด็จนิวต
ั สูพระนคร ในขณะทีข ่ ุนนางอื่นไมมีกําลังทหารเลย จะมีบางก็แต อวนเสี้ยว คุมทหาร
เพียงหารอยคนในขบวนเสด็จ ภาพลักษณที่ปรากฏตอขุนนางแลราษฎรก็คอ ื ตั๋งโตะ เปนพระเอกของเรื่อง เปน
ภาพลักษณของผูจงรักภักดีทค ี่ ุมครองพิทักษ ฮองเตกลับพระนครไดสําเร็จ

เปนภาพของพระเอกที่แลเห็นไดวามีอํานาจเหนือกวาคนทั้งปวง ดังนั้น โดยวิสัยใจคนที่ขางไหนใครชนะมี


อํานาจแลวก็จะเขาดวยชวยกระพือ จึงทําใหขน ุ นางขาราชการหันเหเทมาเขารวมดวย ตั๋งโตะมากขึ้นทุกที และ
มากจนกระทั่งอวนเสี้ยว โจโฉ และขุน นางที่เคยเปนพรรคพวกของโฮจิ๋นกระดิกตัวอะไรไมได แมกําลังทหาร
ของโฮจิ๋น เองเมื่อขาด โฮจิ๋น เสียแลวก็เหมือนเรือขาดหางเสือ จะหวังใหคนในตระกูล "โฮ" เปนหลักก็สน ิ้ หวัง
เพราะ โฮเบี้ยว ผูช วยผูส
 ําเร็จราชการแผนดิน ซึ่งมีกําลังทหารอยู ในมือก็ถูก บินของ ลูกนอง หนาโงของ
โฮจิ๋น สังหารเสียแลว โฮไท-เฮาเลาก็เปนอิสตรี ไมสันทัดและไมมีอํานาจที่จะสั่งการทางการทหารได

เหตุนี้ กําลังทั้งทหารและขุนนางในพระนครจึงคุมกันไมตด ิ ในขณะที่กาํ ลังขางฝายตั๋งโตะเติบใหญเขมแข็ง


ยิ่งขึ้นทุกที จึงทําใหดุลอํานาจฝายที่จะตอตานออนแอและเคลื่อนไหวใดๆ ไมได ดังนั้น กําลังที่รุกเพื่อยึด
อํานาจรัฐของตัง๋ โตะจึงรุกคืบไปอยางงายดาย

หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ตั๋งโตะแผอาํ นาจ (ตอนที่ 21)

ตั๋งโตะคนถอยชั่วชาในประวัตศ ิ าสตรของจีนคิดอานจะถอดหองจูเปยนผูพอ ี่ อกจากตําแหนงฮองเต แลวจะตัง้


หองจูเหียบผูนอ งขึ้นเปนฮองเตแทน สามกกทุกฉบับวาตรงกันวาเปนเพราะตั๋งโตะประทับใจหองจูเหียบ ที่มี
สติปญ ญาพูดจาหลักแหลมตั้งแตครั้งแรกพบแตสถานการณที่เกิดขึ้น ประกอบเขากับวัตถุประสงคหลักในการ
เคลื่อนทัพเขาเมืองหลวงภายใตบัลลังกมังกรของ ตั๋งโตะ แลว เหตุผลที่วามาจึงมีฐานะเปนเพียงเปลือกนอกที่
หอหุมแกนแทไวเทานั้น แกนแทของเรื่องคือผลประโยชนในทางการเมือง เพราะประจักษชัดอยูแ  ลววาหาก
หองจูเปยนครองราชบัลลังกตอ  ไป อํานาจรัฐยอมตกอยูท  ี่ โฮไทเฮา พระราชมารดา ดีรายก็อาจโปรดเกลาฯ
แตงตั้งใหขุนนางในเมืองหลวงคนใดคนหนึ่งขึ้นเปนที่ผส ู ําเร็จราชการแผนดิน

หากวันนั้นมาถึง ก็ยอมมีรับสัง่ ใหตั๋งโตะเคลือ


่ นทัพกลับเมืองซีหลง เพราะเหตุการณจลาจลวุนวายในพระนคร
ไดสงบลงแลว ไมมีเหตุผลใดที่กองทัพของ ตั๋งโตะ จะตั้งอยูนอกกําแพงพระนครอีกตอไป และถาเหตุการณ
เชนนั้นเกิดขึ้นยอมทําใหการเคลื่อนทัพเขาเมืองหลวงเปนหมัน ความฝนและโอกาสอันยิ่งใหญ ตลอดจน
แผนการทั้งปวงที่ดําเนินไปก็จะสลายไปสิ้น ในทางตรงกันขามหากสามารถถอดหองจูเปยนออกจากราช
บัลลังกแลวตั้งหองจูเหียบผูนอ
 งไดสําเร็จ ยอมตัดรอนอํานาจฝายอื่นใหสน
ิ้ ไป อํานาจทัง้ ปวงยอมตกอยูแกตั๋ง
โตะเพราะเปนผูสถาปนา ฮองเตพระองคใหมสถานหนึ่ง

ทั้งหองจูเหียบยังทรงพระเยาวนัก กําพราทัง้ พอและแม โอกาสยอมเปดชองใหตั๋งโตะกาวสูต


 ําแหนงผู สําเร็จ
ราชการแผนดินโดยสะดวก การยึดอํานาจรัฐภายใตบัลลังก มังกรก็จะสําเร็จสมบูรณดังประสงคอีกสถานหนึง่ นี่
จึงเปนเหตุผลทางการเมืองทีเ่ ปนแกนแททางความคิดของ ตั๋งโตะ ภายใตบทบาทนําแหงสติปญ  ญาของ ลิยู
กุนซือเจาปญญาผูนั้น การขางราชสํานัก เมื่อฮองเตและพระอนุชาเสด็จกลับถึงพระราชวังแลว โฮไทเฮา ก็มี
ความยินดียิ่งทีท
่ ั้งสองพระองคปลอดภัย และการจลาจลวุน  วายก็ไดสงบลง จึงใหสํานักพระราชวังตรวจตรา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 47

ทรัพยสินสิ่งของมีคาในทองพระคลัง ปรากฏวาทุกสิ่งยังคงอยูครบถวน ขาดอยูแตตราพระราชลัญจกร หยก


สําหรับองคพระมหากษัตริยไดสูญหายไป พยายามตรวจหาเทาใดก็ไมพบ

การขางนอกพระราชวัง กองทัพสิบหมื่นของตั๋งโตะซึ่งตั้งประชิดอยูนอกกําแพงพระนครนัน ้ ถึงแมวาการจลาจล


วุนวายในพระนครสงบยุติลง และสิบขันทีก็ถูกลางบางไปแลว ก็ยังไมยอมถอนทัพกลับเมืองซีหลง และไมมีที
ทาวาจะถอนทัพกลับเมืองซีหลงแตประการใด กระนัน
้ หามีขุนนางขาราชการหรือผูใ ดผูหนึ่งหาญกลาวา
กลาวถึงเรื่องนี้ แมเพียงเอยถึงเรื่องนี้ก็ยังไมมีผูใดยินยอมเอยปาก การทีไ ่ มมีผูใดวากลาวทักทวงหรือกลาวถึง
เรื่องการถอนทัพ ยิ่งทําใหตั๋งโตะฮึกเหิม เพราะนั่นคือสัญญาณผลการทดสอบทั้งกําลังพลและกําลังขวัญ ของ
เหลาขุนนางขาราชการที่ประจักษชัดวาใน ลกเอี๋ยงราชธานี นี้ ไมมีขุนนางขาราชการหรือผูใ ดหาญกลาทาทาย
บารมีของ ตั๋งโตะ แมแตสักคนเดียว

ดังนั้น ตั๋งโตะ จึงกําเริบเสิบสานมากยิ่งขึ้น ถึงวันฮองเตออกวาราชการ ตั๋งโตะ ซึ่งเปนเจาเมืองบานนอก ไมมี


หนาที่เฝาก็ถืออํานาจ เขาเฝาถึงในทองพระโรงตามอําเภอใจ ไมยําเกรงกฎหมายลักษณะกบฏศึกทีม ่ ีโทษ
ประหารถึงเจ็ดชั่วโคตร ถือดีวามีอํานาจทหารอยูในมือ อํานาจกฎหมายบานเมืองไมสามารถเอื้อมมาถึงตัวได
เขาทํานอง "เมื่อเสียงปนดังขึ้น เสียงกฎหมายก็ตองเงียบสงบ" ฉะนั้น กอนจะเสด็จออก ขุนนางขาราชการ
จะตองพรอมเขาประจําที่เฝาของตน ตั๋งโตะ ซึ่งไมมีที่เฝากลับไปยืนเฝาอยูหนาบรรดาขุนนางขาราชการทั้ง
ปวง ทั้งมิไดแสดงความคารวะขุนนางผูใหญตามธรรมเนียม หนักเขาก็เอาทหารเอกที่ตด ิ ตามมาในกองทัพเขา
ไปรักษาการณในทองพระโรง

เมื่ออํานาจ ตั๋งโตะ ปรากฏขนาดนี้ ขุนนางขาราชการและพอคาวาณิช ในเมืองหลวงจึงมาเขาดวยเปนอันมาก


แมนายทหารแลทหารทั้งปวงที่เคยอยูในบังคับบัญชาของโฮจิ๋น และ โฮเบี้ยว ตลอด จนทหารลอมวังในบังคับ
ของขันที ตั๋งโตะ ก็เกลี้ยกลอมเอาเปนพวกสิ้น กําลังอํานาจของ ตั๋งโตะ จึงแผเขาครอบคลุม ลกเอี๋ยงราชธานี
ทั้งในและนอกกําแพงพระนคร เมื่อไพรพลทัง้ ที่มาในกองทัพและที่มาเขาเกลี้ยกลอมดวยมีเปนจํานวนมากขึ้น
คาใชจายในกองทัพและในการดูแลขุนนางขาราชการ ตลอดจนบรรดาทหารทั้งปวง ก็มากตามไปดวย ภาระคา
ใชจายไดเพิ่มมากขึ้นทุกทีจนเกินกําลังที่เตรียมมาจาก เมืองซีหลง ตั๋งโตะ จึงสั่งใหขุนนางผูรับผิดชอบพระ
คลังหลวงเบิกเงินจากทองพระคลังมาเปนคาใชจาย ประหนึ่งวาคาใชจายของตัวเปนคาใชจายของราชสํานัก
ไปดวย ถึงขัน ้ นี้ยังไมมีผใู ดกลาทักทวง ตั๋งโตะจึงใหบรรจุทหารทีต
่ ามมาแตเมืองซีหลงและพอคาวาณิชที่
สวามิภักดิ์เปนขุนนางและขาราชการของราชสํานัก กินเงินเดือนเบี้ยหวัดของราชสํานักตั้งแตบัดนั้น

แตความที่ผคู นที่มาเขาเปนพวกดวยมากขึ้นทุกที หากจะเบิกเงินจากคลังหลวงมาใชมากเกินไปก็จักเปนที่


ครหา ดังนั้นการแสวงหา เงินนอกระบบจึงเกิดขึ้นโดยอาศัยกําลังอํานาจเปนตัวกดดันบีบคั้น บรรดาขุนนาง
ขาราชการและพอคาวาณิชทีข ่ ี้ขลาดกลัวอํานาจตั๋งโตะ ก็ตองนําทรัพยสินเงินทองมาบริจาค บางพวกบาง
เหลาบริจาคเพือ ่ หวังจะเขาเปนพวก เพื่ออาศัยบารมีอิทธิพลของ ตั๋งโตะกดขี่ขมเหงเพื่อนขุนนางขาราชการ
ดวยกัน บางพวกก็บริจาคเพื่อหวังไดเลื่อนขั้นเลื่อนตําแหนง โดยไมตองคํานึงถึงความดีความชอบในการทํา
หนาทีร่ าชการกันอีกตอไป บางก็บริจาคเพื่อจะไดอภิสท ิ ธิ์ในการคาขายทั้งสวนที่ชอบดวยกฎหมายและสวนที่
ผิดกฎหมาย รวมถึงการบริจาคเพื่อการเปดบอนการพนันรวมทั้งการคา ของเถื่อนนานาชนิด

บรรดาผูมีอท ิ ธิพลทั้งในเมืองหลวงและตางเมือง ตางไดพากันเขาสวามิภก ั ดิ์ตอตั๋งโตะสิน


้ คนเหลานี้ยน
ิ ยอม
พรอมใจจายคาสวยสินบนใหกบ ั ตั๋งโตะ อยางเต็มที่ แตคา สวยสินบนที่ตองจายไปนั้นหากจะเทียบกับ
ผลประโยชนทไ ี่ ดจากการกระทําอันไมชอบดวย กฎหมายและศีลธรรม ยอมหางไกลกันนัก คาสวยสินบนชนิด
นี้ยิ่งมีมากขึ้นเทาใด ความเดือดรอนทุกขเข็ญที่เกิดขึ้นแกอาณาประชาราษฎรจากการกระทําย่าํ ยีของบรรดาผูม  ี
อิทธิพล เหลานั้นยิ่งมีมากกวาหลายเทานัก

เมื่อบารมีและพรรคพวกของ ตัง๋ โตะ ในเมืองหลวงมากขึ้นอยาง ไมหยุดยั้งเชนนี้ สวนราชการทุกสวนจึงตกอยู


ในอํานาจ ตั๋งโตะ สิ้น หนวยราชการบางหนวยแมไมเกี่ยวของโดยตรงก็ไมมีผูใดหาญกลาไมคลอยตามความ
ตองการของ ตัง๋ โตะ และพวกได ดังนั้นตั๋งโตะจึงไดวางคนของตนเองลงในตําแหนงขุนนางขาราชการแทบทุก
หนวย ทําใหบรรดาขุนนางขาราชการที่หวังไดเลื่อนยศชั้นตําแหนงงาน แตไมมีโอกาสไดบําเหน็จความชอบ
ตามปกติ จึงตองพากันวิ่งเขาหา ตั๋งโตะ และพรรคพวกกันจาละหวั่น ทัง้ หมดตองจายเงินคาตอบแทนในการ
ซื้อหาตําแหนง

เหตุนี้ การคาขายตําแหนงจึงเกิดขึ้น เชนเดียวกับที่เคยเกิดขึน


้ เมื่อครั้งสิบขันทีเรืองอํานาจ ขุนนางขาราชการที่
ไมมีเงินซื้อตําแหนง หรือไมมีเงินคารักษาเกาอี้ตําแหนงก็จะถูกถอด ถูกปลด หรือถูกโยกยายไปอยูที่อื่น
ราชการบานเมืองจึงฟนเฟอนไปอีกครั้งหนึ่ง เปนธรรมดาของการปกครองที่ถามีการซือ ้ ขายตําแหนงกันแลว

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 48

ขุนนางขาราชการทีส ่ ต
ั ยซื่อตอแผนดินซื่อตรงตอบทกฎหมายและเห็นแกความรมเย็นเปนสุขของราษฎรยอม
หมดสิ้นขวัญกําลังใจ สวนขุนนางขาราชการที่ไดดี มีอํานาจขึ้นจากการซือ ้ ตําแหนงก็ยอมขายอํานาจทีไ่ ดมา
เพื่อแสวงหาประโยชนในลักษณะคากําไร จึงมีการใชอํานาจขายผลประโยชนของรัฐ ขายความยุติธรรม ขาย
อภิสทิ ธิ์ ขายของผิดกฎหมายและขายทุกสิง่ ทุกอยางที่สามารถขายได รวมทั้งการขายชาติและขายตัวเอง
ภายใตระบบการคาตําแหนงแบบนี้ กฎหมายบานเมืองจึงหมด ความศักดิส ์ ท
ิ ธิ์ เพราะใชบงั คับกับคนบางพวกที่
ไมใชพวกของผูมีอํานาจเทานัน ้ แตสําหรับผูมีอํานาจหรือพรรคพวกแลวกลับมีอภิสท ิ ธิ์ อยูเหนือกฎหมาย
บานเมือง ทําการใดไดตามอําเภอใจ ไมยําเกรงกฎหมายและความรูส  ึกนึกคิดของราษฎรอีกตอไป

เมื่อระบบบริหารราชการแผนดินกลายเปนแบบการคาที่วานี้ การทุจริต การฉอราษฎรบงั หลวงจึงเกิดขึน ้ และ


ขยายตัวไปอยางแพรหลาย ราษฎรไมไดรับความเปนธรรมในทุก ๆ ทาง ถูกกดขี่ขม เหงมากขึ้นทุกที ความ
ยากจนคนแคนและความเดือดรอนเกิดขึ้นทุกหยอมหญา นานวันเขาทั้งขุนนางขาราชการและราษฎรที่ไมมีกิน
ไมมีใชก็ออกปลนชิงวิ่งราวกันโดยทั่วไป ซ้ําเติมทุกขยากแกบานเมืองและราษฎรหนักขึ้นไปอีก ตั๋งโตะ ในยาม
นี้จึงกําเริบใจถึงขนาดขับมานําทหารเขาไปเที่ยวเลนในยานการคาในเมืองหลวงตามความพอใจโดยไมคํานึง
วาใครจะไดรับผลกระทบเดือดรอนเสียหายแตอยางใด

สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ไดกลาวถึงเหตุการณ ตอนนี้วาตั๋งโตะและ "พรรคพวกทั้งปวง เก็บเอา


ทรัพยสิ่งสินทั้งปวง ของอาณาประชาราษฎรเปนอันมาก ผูใดมิไดวา กลาว "เปาสิ้น" ขุนนางตงฉินผูภ  ักดีตอ
แผนดินมีน้ําใจสงสารราษฎร ที่ไดรับความเดือดรอนหนัก จึงไปปรึกษากับอวนเสี้ยววา "ตัง๋ โตะนี้นานไปเห็นจะ
ทําการกําเริบขึ้น เราจะคิดลางมันเสียใหไดกอ
 น"

อวนเสี้ยวขุนนางหนาโง ซึ่งเปนเจาความคิดใหเรียกกองทัพหัวเมืองเขาเมืองหลวง แมจะโงบัดซบสักเพียง


ไหน ครั้นวันนีก้ ็ไดแล เห็นโทษภัยจากความคิดโงของตัว แตคด ิ ไมออกวาจะแกไขเหตุ การณอยางไร จึงบาย
เบี่ยงเลี่ยงไปเสียดื้อๆ วา "การแผนดินเพิ่งสงบ ครั้นเราจะดวนทําดังนั้นไมควร" สิ่งที่ควรในความคิดของ อวน
เสี้ยวหรือจะเปนวาตองรอให ตั๋งโตะ ยึดอํานาจรัฐเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียกอนจึงคอยทําการ ถาเชนนั้นก็ยงิ่ เปน
ความคิดที่โงบด ั ซบขึ้นไปอีก เปาสิ้นไมละความพยายาม จึงไปหา อองอุน ขุนนางผูใหญ ปรึกษาเหมือนกับ
อวนเสี้ยวทุกประการ อองอุน จึงวา "คิดดังนี้ก็ชอบอยูแลว ของดแตพอปรึกษากันดูกอน" เปาสิ้น เห็นวา
คําตอบชนิดนี้คอ ื การบายเบี่ยงไมรับผิดชอบตอบานเมือง ทั้งเห็นวาขุนนางในเมืองหลวงมีแตคนขี้ขลาดตาขาว
เอาแตตัวรอด ไมเปนรอนดวยแผนดินและราษฎร จึงเสียใจนัก คิดการไปขางไหนก็ตีบตัน เห็นวาขืนอยูในเมือง
หลวงตอไปจักเปนอันตราย จึงพาทหารในสังกัดของตนหนีออกจากเมืองหลวง ไปอยูที่ ภูเขาไทซาน

กําลังและอํานาจของ ตั๋งโตะ เติบโตขึ้นจนคับ ลกเอี๋ยงราชธานี จึงพรอมแลวที่จะทําการใหญตามความ


ประสงคที่เดินทัพเขาเมืองหลวง แตดวยเหตุที่กําลังอํานาจชนิดนี้เปนกําลังอํานาจที่อธรรม ศัตรูของ ตั๋งโตะ
จึงเกิดขึ้นและขยายตัวไปดาษดื่นทั้งแผนดิน กอตัวทางความคิดที่จะตองกําจัด ตั๋งโตะ ใหวอดวายไป ชะตา
กรรมของ ตั๋งโตะ นับแตนี้ไปจึงถูกสวรรคสาปสงใหไมมวี ันสงบสุข สมดังโองการในพระคัมภีรอัลกุรอานวาไว
วา "สูเจาจงลุกขึ้นสูชนชั้นปกครองผูอธรรม" ดวยประการฉะนี้

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ตั๋งโตะซือ
้ ลิโป (ตอนที่ 22)

ตั๋งโตะแผอํานาจครอบงําเมืองหลวงในทุกๆ ทาง แลวก็มีใจกําเริบ ขึ้นคิดอานดําเนินการตามแผนการเดิม ที่จะ


ถอดหองจูเปยน ออกเสียจาก บัลลังกมังกร แลวยกหองจูเหียบผูนองขึ้นเปนฮองเตแทน เพื่อตนเองจะไดครอง
อํานาจรัฐ ครอบงําบัลลังกมังกรเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตั๋งโตะ จึงใหเชิญลิยท ู ี่ปรึกษาคูใจเขามาพบแลวปรึกษาเรื่อง
นี้ ลิยู จึงวา "ทุกวันนี้มีเจาก็เหมือนหนึ่งหาไม เสนาบดีสําเร็จราชการก็ไมมี แผนดินเพิ่งสงบ ซึ่งทานคิดทั้งนี้
ขาพเจาเห็นชอบดวย ใหทานเรงคิดทําเถิด" ลิยู ไดเสนอแผนการให ตั๋งโตะ จัดงานสโมสรสันนิบาตขึ้นทีพ ่ ระ
ราชอุทยาน แลวใหเชิญขุนนางทุกระดับไปรวมงาน เมื่อขุนนางไปพรอมกันแลวใหประกาศเจตนารมณเรื่องนี้
ใหเหลาขุนนางทราบ ใครขัดขวางก็ฆาเสียเปนการตัดไมขม  นาม คนทั้งปวงก็จะเกรงอาญาสิทธิ์ของ ตั๋งโตะ
สืบไป

ขอปรึกษาและความเห็นของที่ปรึกษาเขากันราวกับผีกับโลง ตั๋งโตะ ฟงแลวก็ยินดียิ่งนัก สั่งใหจัดงานสโมสร


สันนิบาตแลวใหเชิญขุนนางทุกระดับมารวมงานตามแผนของ ลิยู ขุนนางทั้งหลายที่ไดรบ ั เชิญตางเกรงใจและ
เกรงกลัวไมกลาขัดใจตั๋งโตะ เพราะเกรงจะถูกเพงเล็งวา หากไมมารวมงานแลวจะถูกถือวาไมใชพวก คิดแข็ง
ขออยางหนึ่ง หรือตั้งตนเปนฝายปรปกษของ ตั๋งโตะ อีกอยางหนึ่ง ดังนั้นจึงมารวมงานกันอยางพรอมเพรียง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 49

ตั๋งโตะ รอฟงขาวอยูทจ
ี่ วน ครัน
้ ไดรับรายงานวาบรรดาขุนนางมาพรอมกันทีพ
่ ระราชอุทยานแลว จึงขี่มา มีทหาร
องครักษติดตามเปนจํานวนมาก ทําเปนสงามาจนถึงหนาประตูสวนหลวง แลวลงจากมาถือกระบี่เดินเขามาใน
งานสโมสรสันนิบาตนั้น

หลังจากงานเลีย ้ งดําเนินไปครูห
 นึ่ง เหลาขุนนางไดดื่มสุราแสดงคารวะกันตามธรรมเนียมแลว ตั๋งโตะ จึงกลาว
ขึ้นดวยเสียงอันดังดุจการตวาดเอากับขุนนางทั้งปวงวาทานทั้งหลายจงฟงขาพเจา มีเรื่องสําคัญของแผนดินที่
จะปรึกษากับพวกทาน แลววาบัลลังกจักรพรรดินั้นตองครองโดยผูมีสติปญญาความสามารถ แต หองจูเปยน
นั้นครองราชยแลวปรากฏวาไรสติปญ  ญา ไมเปนสงาแกราชบัลลังกเสื่อมเสียเกียรติยศของบานเมืองและ
ราษฎร ตางกับ หองจูเหียบ พระราชโอรสพระองคเล็ก มีสติปญ  ญาหลักแหลมกลาหาญ สามารถครองแผนดิน
ใหเปนปกติสุขได เราจึงคิดทีจ
่ ะถอด หองจูเปยน เสีย แลวให หองจูเหียบ เปนฮองเตแทน ทานทั้งปวงจะเห็น
ประการใด

เหลาขุนนางฟงคํา ตั๋งโตะ แลวตกใจ แตพากันนิ่งเงียบ ทันใดนั้น เตงหงวน เจา เมืองเตงจิ๋ว ไดลุกขึ้นยืน


คัดคานวาเปนการผิดธรรมเนียมแผนดิน และผิดกฎมณเฑียรบาล แลวกลาวหา ตั๋งโตะ วาเปนกบฏ ตั๋งโตะได
ยินคําเตงหงวนแลวก็โกรธ เพราะคาดไมถึงวาจะมีใครหาญกลาบังอาจมาคัดคานความเห็นตน จึงตวาดออกไป
วากูปรึกษาในเรื่องที่เปนคุณตอแผนดิน มึงสิกลับคัดคานไมเห็นแก บานเมืองและราษฎร กูจะฆามึงเสีย วา
แลวก็ชักกระบีจ
่ ะเดินเขาไปหาเตงหงวน

ขณะนั้น ลิยู ทีป ่ รึกษาเจาความคิด อยูใ นเหตุการณเห็น ลิโป ทหารเตงหงวน ยืนเปนสงานาเกรงขามอยูขาง


หลัง เตงหงวน มีรูป รางสูงใหญแข็งแรงสมเปนทหารเอก ในมือถือทวนในชุดเตรียมออกศึก เกรงวา ตั๋งโตะ จะ
เปนอันตราย และไดเห็นทาทีของเหลาขุนนางเปนที่พอใจแลว จึงลุกขึ้นจากที่เขาหาม ตั๋งโตะ ไวแลววาวันนี้มี
งานสโมสรสันนิบาต ชอบที่จะกินโตะเสพสุราใหเปนทีส ่ ุขสบายไยตองมาวิวาทบาดหมางกันดวยเลา มีเรือ ่ งราว
อันใดคอยปรึกษาวากลาวกันในที่ประชุมขุนนางในวันหนาเถิด วาแลวก็ขยิบตาใหสัญญาณเปนความนัยแกตั๋ง
โตะ ตั๋งโตะ เห็นอากัปกิริยา ลิยู ที่ปรึกษาดั่งนี้ ก็รูวามีนัยที่ผด
ิ ปกติ มองไปยัง เตงหงวน อีกครั้งหนึ่งก็เห็น ลิโป
ถือทวนเปนสงาราวกับจะออกศึก ก็เขาใจความหมายแหงสัญญาณของ ลิยู ทําทีเปนเกรงใจขุนนางขาราชการ
แลวนั่งลงกับที่ ในขณะเดียวกันนั้นเหลาขุนนางก็ไดหาม เตงหงวน ซึ่งชักกระบี่คุมเชิงอยู

เตงหงวน ไมพอใจ จึงขึ้นมาพา ลิโป กลับไป เตงหงวน ไปแลวเหตุการณจึงคอยสงบลง ตั๋งโตะ จึงวาขึ้นอีกวา


ความอันเรายกขึ้นปรึกษานี้ทานทั้งปวงมีความเห็นฉันใด เหลาขุนนางไดยินแลวตางวางจอกสุราลงกับโตะ
แลวพากันนิ่งเงียบกันตอไปอีก

ขณะนั้น โลติด ขุนนางผูใ หญ อดีตแมทัพปราบโจรโพกผาเหลือง ซึ่งกลับเขารับราชการใหมหลังจาก


ชวยเหลือ โฮไทเฮา ในวันไฟไหมพระราชวัง ไดลุกขึ้นแลวทักทวงวา "ทานปรึกษาขอราชการนั้นผิดนัก พระ
เจาเลนเตผูเปนพระราชบิดาเห็นวาหองจูเปยนมีสติปญ
 ญาแลวก็เปนพระราชบุตรเอก จึงใหเสวยราชสมบัติ ตัว
ทานเปนขุนนางหัวเมือง มิไดแจงกฎหมายในพระราชฐาน จะมาถอดหองจูเปยนซึ่งมิไดมีความผิดเสียนั้นไม
ชอบ"

ตั๋งโตะไดฟงก็โกรธนักที่การไมสมความคิดตัว เพราะขุนนางเฒามาชักใบใหเรือเสีย คัดคานในทามกลาง


สโมสร จึงถอดกระบี่ออกอีกครั้งหนึ่งจะฟน โลติด สวน แพเปก ขุนนางคนสนิทของพระเจาเลนเต เห็น
เหตุการณจะบานปลายจึงไดเขาหามไว แลววากับ ตั๋งโตะ วา โลติด นี้เปนขุนนางผูใหญ รับราชการมาถึงสาม
แผนดิน มีน้ําใจสัตยซื่อตอแผนดิน จึงเปนที่รก
ั และเคารพของเหลาขุนนางแลราษฎร การทีท ่ านจะสังหาร โล
ติด เสีย จะทําใหขุนนางแลราษฎรเกลียดชังทานยิ่งนัก

อองอุนขุนนางผูใหญอีกคนหนึ่งก็ลุกเขาไปหาม ตั๋งโตะ เชนเดียวกับ แพเปก แลววาวันนี้พวกเราอยูในงาน


สโมสรหนาขาวหนาเหลาอยู มีราชการสิ่งใดเอาไวคอยปรึกษาในวันหนาเถิด ตั๋งโตะ ก็สงบลง เหลาขุนนางก็
พากันล่ําลารีบกลับบานตน

ในขณะนั้นลิโปซึ่งตามไปสงเตงหงวนกลับบานแลว ไดขี่มาถือทวนกลับ มาที่งานสโมสรเพื่อสังเกตการณ ตั๋ง


โตะเห็นลิโปอีกครั้ง หนึ่งจึงถามลิยท
ู ี่ปรึกษาวานั่นเปนทหารผูใด จึงมีสงานาเกรงขามประดุจดังเสือ ลิยู เห็น
เหตุการณเขาก็เกรงวา ลิโป จะมาทําอันตราย ตั๋งโตะ จึงบอกให ตั๋งโตะ หลบเขาที่กําบังมิให ลิโปเ ห็น แลว
ตอบวานั่นเปน ลิโป ทหารเอกของ เตงหงวน มีกําลังกลาแข็งนัก ตั๋งโตะ จึงถอยหลบฉากเสีย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 50

วันรุงขึ้น เตงหงวน ซึ่งพกความแคนอยูเต็มอก จึงนํา ลิโปพรอมทหารมาหนาคายของ ตั๋งโตะ นอกกําแพงพระ


นครทารบกับตัง๋ โตะ ตั๋งโตะ ทราบรายงานแลวจึงคุมทหารออกจากคายจะรบดวยเตงหงวน ฝาย เตงหงวน เห็น
ตั๋งโตะ ยกทหารออกมาจึงขับมาพา ลิโปออกหนา ทหารแลวดาตั๋งโตะวา "ครั้งกอนไอเหลาขันทีสิบคนทําการ
หยาบชา ใหไดรับความเดือดรอนทั้งแผนดิน จนเกิดอันตรายขึ้น บานเมืองเพิ่งจะสงบ แลตัวเปนแตขุนนางหัว
เมือง ยังมิไดมีความชอบประการใด มาตั้งตัวเปนผูใหญคด ิ บังอาจจะถอดหองจูเปยนเสีย จะใหแผนดินเกิด
จลาจลเหมือนครั้งสิบขันทีนั้นหรือ"

ตั๋งโตะ ยังไมทันตอบประการใด ลิโป ก็ขับมารายทวนฝาทหารของ ตั๋งโตะ เขามาสังหารทหารของ ตั๋งโตะ


เสียหลายคน เตงหงวน เห็นเปนทีจึงสั่งทหารรุกเขาตีกองทหารตั๋งโตะ ตั๋งโตะ เห็น ลิโป แข็งกลาเด็ดขาดนัก
กําลังขับมาฝาทหารเขามาใกลจะถึงตัวทั้งทหารขางตัวก็แตกชุลมุน จึงชักมากลับเขามาดานหลังทหาร แลว
พากันหลบหนี กองทหารของ ตั๋งโตะ จึงแตกพายไป

ตั๋งโตะ พาทหารหนี เตงหงวน ลิโป เปนระยะทางประมาณหาสิบเสน เห็น เตงหงวน ลิโป มิไดตามมาแลวจึง


ไดใหตั้งคายมัน
่ ไว แลวจึงใหเชิญลิยทู ี่ปรึกษาและทหารคนสําคัญมาปรึกษาแลววาเราทําการศึกมามากตอมาก
แลว ไมเคยเห็นทหารคนใดองอาจสงาเขมแข็ง มีความกลาหาญเหมือน ลิโป เลย หากไดตัว ลิโป มาทําการ
ดวยแลว จะไมมีใครในแผนดินนี้ตานรับเราไดอีก ทําอยางไรจึงจะไดตัว ลิโปมา นายทหารหลายคนเห็นวาเปน
การยาก เพราะ ลิโป เปนบุตรบุญธรรมของ เตงหงวน และ เตงหงวน ก็รักใครบํารุงถึงขนาด แตลซ ิ ก นาย
ทหารอีกคนหนึง่ กลาววา ลิโป นั้นองอาจกลาหาญเปนสงา ก็จริง แตเปนคนหยาบชา ละโมบในทรัพยสิน ไม
รูจักบุญคุณคน ที่กลาวทั้งนี้เพราะรูจ
 ัก ลิโป เปนอยางดี เนื่องจากคบหากันมาตั้งแตเด็ก หาก ตั๋งโตะ อยากได
ตัว ลิโป จริงแลว ยอมใหราคาถึงขนาด คนแบบ ลิโป ก็พรอมที่จะขายตัวและจะขออาสาไปเกลี้ยกลอมซื้อตัว
ลิโปเอง

ตั๋งโตะ ดีใจเปนอันมาก ถามวาจะซื้อ ลิโป ดวยราคาอยางไรลิซก จึงตอบวาขอใหทานจัดทองคํา อัญมณีมีคา


ใหถึงขนาดพรอมดวยมา เซ็กเทา ของทาน ก็จะไดตัว ลิโป มาสมดังประสงค ตั๋งโตะหันไปถามลิยูที่ปรึกษาวา
แผนการของลิซกจะสําเร็จไดหรือไม ลิยู จึงวาทานจะทําการใหญเสียดายอะไรกับขาวของเงินทองและมาตัว
หนึ่ง การสมประสงคแลวทั้งเงินทองและมานี้ก็จะไดกลับคืนมา การอันปรารถนาก็จะสําเร็จดังประสงค ใหเรง
จัดการตามคําของลิซกเถิด ลิซก รับขาวของเงินทองและมาเซ็กเทาจาก ตัง๋ โตะ แลวค่ําลงก็ออกไปยังคาย เต
งหงวน ทหารลาดตระเวนเห็นคนมาผิดสังเกตก็เขากุมเอาตัว ลิซก กับมาไว ลิซก วากลาวกับทหาร
ลาดตระเวนนั้นวาเราเปนเพื่อนกับ ลิโป นายทาน มีราชการสําคัญจึงมาเยี่ยมคารวะ ขอใหพาเราไปพบ ลิโป คง
จะไดความชอบ ลิโป ทราบวา ลิซก มาหาก็มีใจยินดี รับเขาไปสนทนาภายในคาย ทักทายตามประสาเพื่อน
เกาแลว

ลิซก จึงวาทานภักดีตอแผนดินและเขมแข็งหาญกลาหาใครเปรียบมิได จักเปนใหญในวันขางหนา เพื่อ


สนับสนุนใหทาน กาวหนาในทางราชการ จึงขอนํามาเซ็กเทาซึ่งเปน มาชัน ้ ดีวิ่งไดเร็วดุจพายุ วิ่งไดไกลถึงวัน
ละหมื่นเสน สามารถวิ่งบนภูเขาไดเสมอทีร่ าบ มากํานัลไวแกทาน แลวจึงชวนลิโปออกไปดูมาเซ็กเทาที่นอก
คายพักลิโปเห็นมาเซ็กเทาพิเคราะหดแ
ู ลว "เห็นขนนั้นแดงดังถานเพลิง ทั่วทั้งตัวมิไดมส ี ีใดแกม สูงสี่ศอกเศษ
ไดลักษณะเปนมาศึก เขมแข็งกลาหาญ" จึงมีความยินดีนักแลววาเราเปนทหารไมมส ี ิ่งใดมีคา ตอตัวเราเทากับ
มาเซ็กเทานี้

ทานนําของกํานัลล้ําคานี้มอบแกเรา มีสิ่งใดที่เราจะตอบแทนไดพอกันเลา ลิซก จึงวาไมปรารถนาสิ่งใด


นอกจากหวังใหเพื่อนเปนใหญใน ทางราชการ วาแลวขอเยี่ยมคารวะบิดาของ ลิโป ลิโป ฟง ลิซก เห็น
ประหลาดนัก จึงขับทหารออกไปใหหางเสียงยิน แลววาทานกับเราคบหากันมาแตนอย รูดวี า บิดาเราหาชีวต ิ ไม
แลว เหตุใดจึงกลาวเชนนี้ ลิซก จึงวาก็ เตงหงวน บิดาบุญธรรมนั่นเปนไร มิใชบิดาหรือ ลิโป จึงวา เตงหงวน
เปนขุนนางผูนอ  ย เราอยูดว ยความจําใจ ไมเห็นทางกาวหนาใดๆ ในทางราชการ ลิซก ไดทีจึงวาเปนชายชาติ
อาชาไนย หวังอาสาการใหญของแผนดิน จะจําใจอยูไปทําไมกัน "ธรรมดานกยอมอาศัยปาที่มผ ี ลไมมากจึง
เปนสุข ประเพณีขุนนางทําราชการ ถาพระมหากษัตริยทรง ทศพิธราชธรรมแลวก็มีความสุข ซึ่งทานวาจําใจอยู
ดวยเตงหงวนนัน ้ จะเอาประโยชนอันใด ภายหนาไปเห็นจะมีอันตราย จงผอนผันหาที่อยูใ หเปนสุขดีกวา" ลิโป
ฟง ลิซก แลวก็เขาใจความหมาย ถามวาทานอยูเมืองหลวงพอที่จะชวยเหลือแนะนําผูที่เปนใหญมีอาญาสิทธิ์
ใหเราอยูด วยไดบางหรือไม การเขาทางแลว ลิซก จึงวาแผนดินบัดนี้หามีผูใดมีอํานาจอาญาสิทธิ์เหมือน ตั๋ง
โตะ ไม ตั๋งโตะ นั้นน้ําใจโอบออมอารีรักทหาร เราเปนขุนนางผูนอยฝมือไมเสมอทานยังไดรับเมตตาอารีจาก
ตั๋งโตะ เพียงนี้ หากทานไปอยูด  วยแลวจะไดรบ
ั ความเมตตาอารีสักเพียงไหน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 51

วาแลวลิซกจึงไดนําทองคําและอัญมณีออกมากองไวเบื้องหนาแลววา ตั๋งโตะนิยมในตัวทาน วานเราใหเอามา


เซ็กเทาและของ เหลานี้มามอบเปนกํานัลเครือ่ งระลึกถึงฝากไมตรีไวกับทาน วันใดที่ทา นไปอยูดวยตั๋งโตะแลว
อํานาจวาสนาและทรัพยสมบัตจ ิ ะมีแก ทานประมาณมิได

ลิโป ฟงคํา ลิซก และเห็นทองคํากับอัญมณีแลว จิตก็ลแ ุ กความโลภลนทะลักออกมาละล่ําละลักวา ตัง๋ โตะ มี


ใจรักเมตตาเราถึงเพียงนี้ เราจะเอาสิ่งใดตอบแทนไดเลา ลิซก จึงวาในโลกนี้จะมีสิ่งใดเปนของขวัญล้ําคาแก
ตั๋งโตะ เสมอดวยศีรษะ เตงหงวน เปนไมมีแลว เกรงแตทานจะไมกลาตัดสินใจ ลิโป ยิ่งฟงยิ่งเห็นประโยชน
ใหญแกตัวมากกวาประโยชนทจ ี่ ะไดจากขาง เตงหงวน ความละโมบโลภมากถึงขีดสุดก็ตด ั สินใจขาย ตัวใหกับ
ตั๋งโตะ บอก ลิซก วาทานกลับไปกอนเถิด พรุงนี้เราจะเอาศีรษะ เตงหงวน เปนของกํานัลไปคารวะขออยูทํา
การดวย ตั๋งโตะ

ลิซก ไปแลว ลิโป จึงถือกระบี่เดินเขาไปหา เตงหงวน ถึงทีพ ่ ัก สังหารเตงหงวนบิดาบุญธรรมผูมีคุณแกตนเสีย


ตัดศีรษะ เตงหงวน ชูขึ้นแลวประกาศกับทหารวา เตงหงวนคิดรายตอแผนดิน ไมยํา เกรงกฎหมายบานเมือง
เราฆาเสียแลว ใครจะอยูด  วยเราก็ใหตามเรามา ใครจะไมอยูดวยเราก็ใหรบ
ี กลับไปบานเดิม ทหาร เตงหงวน
กวาครึ่งไมเต็มใจอยูดว ย ลิโป อสรพิษรายที่สังหารบิดาบุญธรรมอันหาผิดมิได จึงพากันกลับบานเดิม คงมี
ทหารอีกบางสวนเทานั้นที่มีความโลภในลาภเหมือนกับ ลิโป ตัดสินใจติดตาม ลิโปไป

รุงเชาขึ้น ลิโป ขับมาเซ็กเทาพาทหารที่ตด ิ ตามตัวมา นําศีรษะของเตงหงวนเขาไปมอบแก ตั๋งโตะ กราบ


คารวะ แลวสาบานอยูดวย ตั๋งโตะ ตั๋งโตะ มีความยินดียิ่งนัก ที่เสี้ยนหนามสําคัญถูกกําจัดทั้งยังได ลิโป มาทํา
การดวย จึงวา "ตัวเรานี้เหมือนทํานาตกกลาแลวฝนแลง กลานั้นใบแดงไป ซึ่งทานมาหาเราบัดนี้เหมือนฝนตก
ลงหาใหญ น้ําทวมเลี้ยงตนกลาชุมชื้นขึ้น ใบนั้นเขียวสดขึน
้ " วาแลว ตั๋งโตะ ก็ทรุดเขาลงคํานับ ลิโป ลิโป เห็น
ดังนั้นก็ตก ใจรีบทรุดตัวลงประคอง ตั๋งโตะใหนั่งบนเกาอี้ แลวกราบคํานับ ตั๋งโตะ แลววาน้ําใจทานรักทหาร
และมีเมตตาแกขาพเจาเปนอันมาก ขาพเจา จึงขอกราบทานเปนบิดาบุญธรรมอยูดวยทานจนกวาจะสิ้นชีวต ิ

ตั๋งโตะเอาใจหลอกใชลิโปไดสําเร็จ จึงยินดียิ่งนัก สั่งทหารใหเอาเสื้ออยางดีพรอมเกราะทองคําเปนกํานัล


รับขวัญลิโปเปนบุตรบุญธรรม ทั้งตั๋งโตะ ลิยู และลิซก ตางมีความยินดีชื่นชมยิ่งนัก ตั๋งโตะ ไดรับเอางูเหา
อสรพิษรายที่ไมรูจักบุญคุณคน สังหารไดแมกระทั่งบิดาบุญธรรมซึ่งมีคุณแกตนไวเปนบุตรบุญธรรม และให
เปนทหารองครักษอยูขางกาย โดยทีท ่ ั้ง ตั๋งโตะแล ลิยู เหลิงในใจเสียจนลืมไปวาอันงูเหา อสรพิษรายที่เพิ่ง
สังหารบิดาบุญธรรมตัวมาหยกๆ เมื่อมาอยูขางตัว ตั๋งโตะ บิดาบุญธรรมคนใหมแลว การขางหนาจักเปนฉันใด
นี่แหละที่โบราณวา "สี่เทายังรูพลาด นักปราชญ ยังรูพลั้ง"

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

เถลิงศกเจี้ยนอัน (ตอนที่ 23)

ตั๋งโตะ เมื่อไดตัว ลิโป งูเหารายทีส


่ ังหารบิดาบุญธรรมผูมค
ี ณ
ุ แกตน มาเปนทหารเอกก็มีความกําเริบและยาม
ใจกวาที่เคยเปนมาแตกอน ขุนนางขาราชการในเมืองหลวงตางอยูในอํานาจของ ตั๋งโตะสิน ้ จะทําการสิ่งใดก็
ทําเอาตามอําเภอใจหามีใครกลาขัดขวางไม ตั๋งโตะ จึงแตงตั้งให ตั๋งบุน ผูน องเปนองครักษฝายซาย ตั้งให ลิ
โป บุตรบุญธรรมซึ่งเพิ่งซื้อมาเปนองครักษฝา ยขวา แลวใหยกกําลังทหารที่ตั้งอยู นอกกําแพงพระนครเขามา
ในพระนคร โอนสังกัดเปนทหารประจํากองกําลังรักษาพระนครอยางเปนทางการ รับเงินเดือนเบี้ยเลี้ยงจากพระ
คลังหลวง

ลิยู กุนซือเจาความคิดของตั๋งโตะเห็นวาการวางฐานกําลังอํานาจในเมืองหลวงกาวหนาสําเร็จผลจนสามารถกุม
อํานาจทั้งสิ้นไวไดแลว จึงเสนอให ตั๋งโตะเรงดําเนินการตามแผนการเดิม ตั๋งโตะเห็นชอบดวย รุงขึ้นตั๋งโตะจึง
มีคําสั่งใหแตงโตะจัดเลี้ยงขุนนางขาราชการชัน ้ ผูใหญทใี่ นทองพระโรง อันเปนที่ซึ่งฮองเตเสด็จออกวา
ราชการแผนดิน เมื่อขุนนางมาพรอมกันเพราะความเกรงและความกลัวแลว ตั๋งโตะ จึงสั่งให ลิโป คุมทหารจาก
กองกําลังรักษาพระนครจํานวนพันเศษไปลอมพระทีน ่ ั่งอันเปนทองพระโรงไวทุกดาน ตัวตัง๋ โตะถือกระบี่เขาไป
ในทองพระโรงแลวประกาศตอหนาขุนนางขาราชการทั้งปวงวานับแต หองจูเปยน ขึ้นครองราชย บานเมืองเกิด
จลาจลวุนวาย ราษฎรทุกขยากเพราะ หองจูเปยน ไรสติปญญา ไมองอาจเขมแข็ง ไมใสใจการบริหารราชการ
แผนดิน ทําใหเสื่อมพระบรมเดชานุภาพของจักรพรรดิ ไมเปนที่ยําเกรงของชาติอื่น บานเมืองหมดสงาราศี ขุน
นางขาราชการ พลอยอับอายขายหนา เราจะถอดเสียจากราชบัลลังกแลวยก หองจูเหียบ พระ
ราชโอรสพระองคเล็ก ซึ่งมีสติปญ  ญากลาหาญ มีน้ําใจเมตตากรุณาตอขุนนางและขาราชการขึ้นครองราชย
เพื่อใหบานเมืองเจริญรุงเรืองเปนสุขสมเจตจํานงแหงสรวงสวรรค ใครไมเห็นดวยกับเรา จะถือวาขัดโองการ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 52

แหงสวรรค เราจําเปนจะตองฆาเสีย ประกาศดังนี้แลวตั๋งโตะจึงขอความเห็นจากที่ประชุมเหลาขุนนางวาจะมี


ความเห็นเปนประการใด นับเปนการปรึกษาหารือที่ประหลาดทีส ่ ด
ุ ที่มแ
ี ตคนแบบตั๋งโตะเทานั้นที่จะทําได
บรรดาขุนนางขาราชการไดฟงคําประกาศแสดงเหตุและผลดั่งนี้ ประกอบเขากับขอปรึกษาพิสดารที่มีทางเลือก
อยูสองทางคือเห็นดวยกับขอเสนอ ที่ผด ิ คลองธรรมและกฎมณเฑียรบาลในการสืบสันตติวงศอยางหนึ่ง กับไม
เห็นดวยซึ่งมีผลตามคํา ตั๋งโตะ วา "ถาผูใดมิลงใจพรอมดวย เราจะฆาเสีย"

อีกอยางหนึ่ง ตางคนตางชําเลืองดูกัน เห็นมีแตคนกมหนานิ่งอยู หันไปทางดานหลังทองพระโรงก็เห็น ลิโป


ในชุดพรอมออกศึก ถือทวนยืนถมึงทึงพรอมจะฆาคนอยู ตางคนจึงตางนิ่งเงียบ ในขณะนั้น อวนเสี้ยว พรรค
พวกเกาของ โฮจิ๋น ไดลุกขึ้นจากที่นั่งแลวคัดคานขึ้นดวยความไมพอใจวาฮองเตเปนโอรสสวรรค สวรรคทรง
ธรรม เล็งการณโดยกวาง โดยลึกแลว หองจูเปยน พระราชบุตรเอกจึงไดเสวยราชยตามพระราชประเพณี
ฮองเตมิไดทําผิด สิ่งใด ตัวเปนแตเพียงเจาเมืองหัวเมืองบานนอก จะมาคิดถอดฮองเต เสียเปนการไมชอบ
ทั้งตัวหามีสิทธิใดไม "ตัวจะคิดอานเปนกบฏ หรือ"

ตั๋งโตะไดฟงดังนั้นก็โกรธจึงวา "ราชสมบัตท ิ ุกวันนี้อยูในเงื้อมมือเรา เราเห็นไมชอบจึงจะทําใหชอบ ถาตัวมิฟง


จะขืนขัดอยูฉ  ะนี้ ตัวจงแลดูกระบี่ที่เราถืออยูนวี้ าจะคมหรือไม" วาแลวมือก็ขยับจับกระบี่ขา งตัวสิ่งที่ ตั๋งโตะ ทํา
นั้นคือการรัฐประหารยึดอํานาจราชสํานัก ตัง้ ตนเปนรัฏฐาธิปตยแตผูเดียวแลว เปนแตยังเห็นวาการลม
ราชวงศฮั่น เสียในขณะนี้จะเกิดความยุงยากกวาที่จะคงสภาพไวอยางเกา แลวใชกําลังอํานาจตนบงการแทน
และในนามฮองเต จะดูเปนการชอบธรรมกวา สถานการณมาถึงขั้นนี้อวนเสีย ้ วยังดูไมออก จึงไดคัดคานดวย
โทสะ ครัน ้ ไดยนิ ตั๋งโตะ วากลาวดังนั้นแลว อวนเสี้ยว ก็ยิ่งโกรธแลวตอบวา "กระบี่เราถือมาก็มีอยู ถาตัวมิฟง
จะขืนตั้งหองจูเหียบขึ้นใหผด ิ อยางธรรมเนียม ตัวจงดูกระบี่ซึ่งเราถืออยูนี้จะคมหรือไมคมเลา" แลวกระชับกระบี่
ขางกายไวมั่น

ตั๋งโตะ ฟง อวนเสี้ยว แลวก็ยงิ่ โกรธ ปรี่เขาไปหาแลวชักกระบี่จะฟน อวนเสี้ยวสวน อวนเสี้ยว ก็ชักกระบีจ


่ ะสู
ดวย ตั๋งโตะ เหลาขุนนางก็ลก ุ ฮือกันขึ้น ลิยู กุนซือเจาความคิดถือหางเสือกระบวนการทีก ่ ําลังดําเนินไปตาม
แผนการใหญอยู เห็นการที่ตอ  งการยังไมไปถึงทีห ่ มาย กลับจะไดมาซึ่งการทะเลาะวิวาท เพราะ ตั๋งโตะ หัว
ขบวนกลับเบนหัว ออกจากทิศทางหลัก ชักเอาวิวาทเขาไวแทนความสําเร็จของการใหญ ดีรายเหตุการณอาจ
บานปลายทําใหเปาหมายหางไกลออกไปอีก จึงปรี่เขาไปหาม ตั๋งโตะไว แลวกระซิบแตพอให ตั๋งโตะ ไดยิน
วา "เราจะคิดการใหญอยู ครั้นจะฆาฟนกันขึ้น การซึ่งคิดไวนนั้ จะเสียการไป"

ตั๋งโตะฟงคํากระซิบของ ลิยู แลวไดคิด ระลึกไดถึงภารกิจใหญทต ี่ นตั้งประสงคไวแตเดิม ก็ปลงใจเชื่อ แสรง


ตวาดใส อวนเสี้ยว วาคราวนีเ้ ราจะเวนโทษตัวสักครั้งหนึ่ง เพื่อเห็นแกความศักดิส ์ ท
ิ ธิ์และความสงบแหงทอง
พระโรง อันเปนที่วาราชการของฮองเต ในขณะนั้นเหลาขุนนางก็ไดเขาหาม อวนเสี้ยว ไวอก ี ทางหนึ่ง

อวนเสี้ยว แมไมพอใจยิ่งนัก แตพอโทสะทุเลาลงก็ไดคด ิ วาสถานการณขาง ตัวตกอยูในอันตราย ขืนอยูในที่


ประชุมตอไปชะตาตัวอาจถึงฆาต คํานึงดังนีแ ้ ลวจึงลาขุนนางทั้งปวงถือกระบี่เดินออกมาจากทองพระโรงกลับ
ที่พัก จัดเก็บขาวของสัมภาระแลว ใชหนึ่งในสามสิบหกสุดยอดกลยุทธคือ "ถารบไมชนะก็ใหหนีเอาตัวรอดไว
กอน" พาทหารและพรรคพวกเดินทางออกจากเมืองหลวงอยางรีบดวน ยกไปตั้งหลักที่ เมืองกิจิ๋ว ซึ่งเปนเมือง
ในอิทธิพลของตระกูล "อวน"

ครั้น อวนเสี้ยว ออกจากทองพระโรงไปแลว เหตุการณในทองพระโรงจึงคอยสงบลง ตัง๋ โตะ จึงวาแก ราชครู


อวนหงุย ผูเปนอาของ อวนเสี้ยวและเปนขุนนางผูใหญอันเปนที่นับถือของเหลาขุนนางขาราชการวา หลาน
ทานขัดขวางการใหญไมเกรงใจเรา แตเราเห็นแกหนาทาน หาไมแลวเราจะฆาเสีย ซึ่งเราคิดการทั้งนีท ้ านมี
ความเห็นประการใด ขุนนางทัง้ ปวงตางตั้งใจฟงคําตอบของ อวนหงุย ซึ่งถือวาเปนขุนนางผูใหญ พูดจาสิ่งใด
พวกตนจะไดถอ ื เปนเหตุคลอยตามโดยไมตอ งเกรงกลัวใครจะตําหนิ เพราะ อวนหงุย นั้นมีฐานะเปนถึงราชครู
อวนหงุย ราชครูเปนขุนนางขี้ขลาดตาขาวเห็นแกเอาตัวรอดจึงตอบวาการทีต
่ ั๋งโตะคิดนัน
้ เปนไปตามความ
ประสงคแหงสวรรค พวกเราเปนมนุษยยอมตองคลอยตามสวรรคจึงจะชอบเมือ ่ อวนหงุย วาเสียดั่งนี้แลว ขุน
นางในที่นั้นจึงเห็นชอบตามไปดวย ตั๋งโตะ ดีใจนักเชิญขุนนางขาราชการกินโตะตอไป เสร็จแลวจึงแยกยายกัน
กลับ

ในขณะที่ ตั๋งโตะ กําลังจะออกจากทองพระโรงนั้น ทหารเขามารายงานวา อวนเสี้ยว ยกทหารออกนอกเมือง


ไปแลว ตั๋งโตะจึงใหเรียกขุนนางเกาสองคนคือเจียวป และเหงาเคง มาสอบถามความเห็นวาอวนเสีย ้ วยกไป
ครั้งนี้จะคิดอานประการใด ซึ่งคงเปนการถามความเห็นเพราะเชื่อวาความเปนขุนนางเกายอมรูจักสภาพอวน
เสี้ยวดีอยางหนึง่ และเปนการทดสอบความคิดวาเต็มใจรวมทําการดวยตัวหรือไม เจียวป เสนอความเห็นวา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 53

อวนเสี้ยวเปนพวกเกาของ โฮจิ๋น เปนแกนนําสําคัญในการสถาปนาหองจูเปยนเปนกษัตริย เมื่อทานจะถอด


หองจูเปยน ออกเสียเชนนี้ ยอมกระทบตอผลประโยชนใหญของ อวนเสี้ยว การยกทหารออกนอกเมืองของ
อวนเสี้ยว ครั้งนี้ยอมคิดอานตอตานทานเปนแน เจียวปใหความเห็นตอไปดวยวาตระกูล "อวน" นั้นเปนขุน นาง
สืบตอกัน มาถึงสี่ชั่วอายุคน มีผูคนใกลไกลมาก ราษฎรก็นับถืออวนเสี้ยวเปนอันมาก หากจะปราบปรามโดย
เฉียบขาดก็จะสูญเสียมาก ทั้งแผนดินก็ยังไมปกติดีนักสมควรประนีประนอมเอาใจอวนเสี้ยวไวกอน "ขอใหทาน
มีหนังสือรับสั่งใหไป ตั้งอวนเสี้ยวเปนเจาเมืองตําบลหนึ่ง เห็นอวนเสี้ยวจะเปนปกติไปตอทาน"

ตั๋งโตะ หันมาถาม เหงาเคง วาจะมีความเห็นอยางไร เหงาเคง เสนอวาการที่ อวนเสี้ยว ยกไปครั้งนี้ยอมจะคิด


อานตอตานทานเปนมั่นคง แต อวนเสี้ยว ไรสติปญญาจะคิดการไมตลอด ถึงกระนั้นสถานการณในขณะนี้ยงั ไม
สมควรกอสงคราม ควรเลือกเอาหนทางประนีประนอม จะเปนประโยชนกวา การตั้ง อวนเสี้ยว เปนเจาเมืองจะ
เปนการสรางภาพลักษณใหราษฎรเห็นวาทานไมผูกเวรกับผูอ  ื่น คิดถึงแตความสงบสุขของบานเมืองแลราษฎร
ลิยูอยูในที่นั้นเห็นชอบกับความเห็นของสองขุนนาง เมื่อเห็นพรอมกันดังนี้แลว ตั๋งโตะจึงเห็นชอบดวย แลว
แตงเปนหนังสือรับสั่งตั้งใหอวนเสี้ยวเปนเจาเมืองปุดไฮ แลวใหทหารถือหนังสือรับสั่งที่ทาํ ขึ้นนั้นไปมอบแก
อวนเสี้ยว

อวนเสี้ยว เมื่อไดรับหนังสือแตงตั้งเปนเจาเมืองแลวก็มีความพอใจ ความคิดที่จะตอตาน ตั๋งโตะ ก็เพลาลงจาก


ใจดังนี้ ความแคนในใจของ อวนเสี้ยว นั้นจึงมีราคาเทากับ เมืองปุดไฮ แลวมอดลงดวยประการนี้

แตนั้นมาขุนนางขาราชการก็อยูในบังคับบัญชาการของ ตั๋งโตะ สิ้น บางคนที่ไมเห็นดวยและไมพอใจก็พากัน


นิ่งเงียบ เพราะเกรงกลัวในอาญาสิทธิ์ของ ตัง๋ โตะ คนเหลานี้มีอยูจึงเหมือนกับไมมี เมื่อการทั้งปวงพรอมแลว
เชนนี้ ตั๋งโตะ จึงเชิญให หองจูเปยน เสด็จออก ณ พระทีน ่ ั่ง แกเต็กเตี้ยน เชิญขุนนางขาราชการเขาเฝาแลว
ประกาศถอดถอน หองจูเปยน พนจากตําแหนงฮองเต แลวเชิญลงจากพระราชบัลลังก ถอดเอาตราประจําราช
สมบัติออกจากพระศอ ใหนั่งคุกเขาลงหนาราชบัลลังก ผินพระพักตรไปทางทิศเหนืออันเปนทิศที่ตั้งศาลเทพ
บิดรแหง พระราชวงศฮั่น จากนั้นถอดพระยศ โฮไทเฮา แลวใหคุกเขาอยูดวยกัน ทั้ง โฮไทเฮา และหองจู
เปยน "ก็รองไหรักกันอยู ขุนนางทั้งปวงเห็นก็กลั้นน้ําตามิได"

ภาพอันกระเทือนใจนั้นทําให เตงกวน ขุนนางระงับอารมณไวไมอยู ลุกขึ้นมา ตะโกนดา ตั๋งโตะ วาเปนศัตรูราช


สมบัติ แลวเอาปายงาชางประจําตําแหนงจะเขาไปตีตั๋งโตะ ตั๋งโตะจึงใหทหารจับเอาตัว เตงกวน ไปประหาร
เสีย จากนั้นจึงใหเชิญหองจูเหียบ พระราชบุตรองคเล็กเกิดแตพระสนมเอกใน พระเจาเลนเต แตงฉลอง
พระองคในชุดพระมหากษัตริย ขึ้นประทับนัง่ บนพระราชบัลลังก ใหอาลักษณอานประกาศ ในนามขุนนางและ
พสกนิกรทัว่ ประเทศ สถาปนา หองจูเหียบ ขึ้นเปนฮองเตสืบราชสันตติวงศพระราชวงศฮั่นตอไป ทรงพระนาม
วา "พระเจาเหีย
้ นเต" เหลาขุนนางขาราชการถวายพระพร ถวายความ เคารพ เปนอันเสร็จพิธี

เมื่อพระเจาเหี้ยนเตเสวยราชย จึงไดเปลี่ยนศักราชใหมตามธรรมเนียม เปนศักราชเจีย้ นอัน หรือเจี้ยนอันศก


ซึ่งแปลวายุคแหง สันติภาพ เปนการเถลิงศักราชเจีย ้ นอันในขณะที่พระเจาเหี้ยนเตมีพระชนมายุเพียง 9
พรรษา สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาเถลิงศกเจีย ้ นอันในปพุทธศักราช 733 แตฉบับภาษาจีนวาเปน
ปพุทธศักราช 721

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ทรราชลําพอง (ตอนที่ 24)

ยุคสมัยของพระเจาฮั่นโกโจ ปฐมกษัตริยแ  หงราชวงศฮั่น ทรงเรืองพระบรมเดชานุภาพแผพระบารมีไพศาล


บานเมืองสงบศานติ ราษฎรรมเย็นเปนสุข ตอมาเมื่อแผนดินผานการสืบสันตติวงศนานรัชกาลเขา กาฝากราช
บัลลังกก็เจริญงอกงามขึ้นโดยลําดับอํานาจบัลลังกมังกรคอยถายเทเหหันจากฮองเตสูมอื พระบรม วงศานุวงศ
ลวงมาถึงแผนดิน เลนเต อํานาจนั้นไดตกอยูในมือของสิบขันที ครั้นสิ้นแผนดิน เลนเต อํานาจก็เคลื่อนไหล
จากมือสิบขันที สูขุนศึกคือ โฮจิ๋น เปนครั้งแรก

โฮจิ๋น ครองอํานาจเพียงระยะเวลาสามเดือนเศษ ก็มีอันตองเดินทางไปปรโลก ทําใหเกิดสุญญากาศทาง


อํานาจถึงเดือนเศษ อํานาจ นั้นก็ถายเทไปถึงมือของ ตั๋งโตะ จอมทรราช ซึง่ เปนขุนศึกเชนเดียว กัน วันเถลิง
ศกเจี้ยนอัน หรือศักราชแหงสันติภาพนั้น โดยรูป การภายนอก หองจูเหียบพระราชบุตรแตพระสนมเอก ไดรับ
การสถาปนาเปนฮองเต ครองอํานาจเหนือบัลลังกมังกร แตวันเดียวกัน รูปการณภายในกลายเปนวา ตั๋งโตะได
ปราบดาภิเษกตนเองเปนทรราช ดุจปศาจรายยืนถมึงเหนือบัลลังกมังกรนัน ้

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 54

การเถลิงศักราชแหงสันติภาพ ดูเพียงผิวเผินแลวราวกับบานเมืองแลราษฎรมีสุขสันติเสียเต็มประดา เฉก


เดียวกับสิ่งที่เรียกวาธรรมรัฐ หรือธรรมาภิบาล แตภายในถอยคําอันดูหรูเริดกลับซอนไวดวยความเลวรายยิ่ง
กวายุคใดสมัยใด หาใชสันติภาวะทีม ่ ีทศพิธราชธรรม หรือพรหมวิหารธรรม แตเปนสันติภาวะทีค ่ วามชั่วชาเลว
ทรามมีอํานาจเหนือธรรมโดยสิ้นเชิง ดังนั้น สภาพจํายอมภายใตการกดขี่ขมเหงและย่าํ ยีราชสํานัก ขุนนาง
ขาราชการและอาณาประชาราษฎรจึงทําใหดูเสมือนหนึ่งวาภาวะแหงสันติภาพเกิดขึ้นและดํารงอยู

ภาวะสันติเชนนีห ้ าใชสันติภาพไม แตเปนรุงอรุณแหงสงครามที่จะทําลายลางระบบทรราชยใหสญ ู สิ้นไป ตั๋ง


โตะครองอํานาจรัฐโดยลักษณาการทีว่ านี้ และแลวไดใชอํานาจบังคับใหฮองเตแตงตั้งตนเองเปนผูสาํ เร็จ
ราชการแผนดิน และอัครมหาเสนาบดี เขานอกออกในพระราชวังถึงเขตพระราชฐานชั้นในตามใจชอบ ทุกครั้ง
ที่เขาวังก็ถือกระบี่อวดศักดา ไมยําเกรงฮองเต หรือขุนนางขาราชการคนใด

พรรคพวกของ ตั๋งโตะ ทั้งทีต ่ ิดตามมาจาก เมืองซีหลง และที่เขาสวามิภก


ั ดิ์ใหมเห็นนายตัวประพฤติตนหยาบ
ชาตามอําเภอใจก็ประพฤติตาม สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาไววา "ทํา การหยาบชา ขมเหง
ชาวเมืองไดความเดือดรอนนัก" ยามนี้ โจโฉไดผันตัวเองเปลี่ยนสีแปรธาตุจากผูใ กลชด ิ ของโฮจิ๋น มาเขา
สวามิภักดิ์ดว ย ตั๋งโตะ อาศัยประสบการณและเรียนรูวช
ิ าประจบสอพลอ จากขุนนางขาราชการในเมืองหลวง
จนช่ําชองขึ้น โดยลําดับ

ในทีส
่ ุด โจโฉ ก็สามารถผูกใจ ตั๋งโตะ กลายเปนคนสนิทของตั๋งโตะ เขานอกออกในจวนของผูสําเร็จราชการ
แผนดิน และอัครมหาเสนาบดี ตั๋งโตะ เฝาเชาเฝาเย็นไมวางเวนหรือหางหายเหมือนกับที่เคยเปนในสมัย โฮจิ๋น
และกาวหนาไปถึงขนาดที่สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาไววา "แลโจโฉนั้นก็ไปฝากตัวอยูใหตงั๋ โตะ
ใชสอย" ในขณะที่ ซุนเกี๋ยน และ เลาป ยังคงเปนขุนนางบานนอกอยูเหมือนเดิม เปนแต ซุนเกี๋ยน นัน ้ ไดรับ
การเลื่อนตําแหนงเปนเจา เมืองเตียงสา ซึง่ เปนหัวเมืองเอก แตยังคงถือวาเปนเจาเมืองบานนอกอยูนั่นเอง
ดาน หองจูเปยน ซึ่งถูกถอดจากฮองเตลงมาเปนอองหรือเจา พระยา และ โฮไทเฮา ซึ่งถูกถอดจากตําแหนง
ไทเฮาลงเปนคนสามัญนั้น ตั๋งโตะ สั่งใหผูคม
ุ นําไปจําขังไวที่ พระตําหนักยงอันเตี้ยน ในพระราชวัง พรอมกับ
พระสนมคนโปรดของ หองจูเปยน เอาโซลามประตูตาํ หนัก ลั่นกุญแจหามคนเขาออก และหามติดตอภาย
นอกโดยเด็ดขาด

ขุนนางขาราชการแลราษฎรทราบขาวแลวใหมใี จสงสารทั้งสองพระองคเปนอันมาก แตไมสามารถชวยเหลือ


เอื้อเฟอประการใดได อันพระตําหนักยงอันเตี้ยนนี้ แปลโดยความหมายไดวาพระตําหนักสันตินิรน ั ดร อันมี
ความหมายเดียวกับแหลงหลุมฝงศพสุขาวดีนน ั่ เอง จึงเปนที่รแ
ู ละเขาใจกันโดยทั่วไปวาใครไดรับความกรุณา
ใหไปอยูท  ี่พระตําหนักสันตินริ น
ั ดรแลว ยอมจะมีสภาพที่สันติไปตลอดกาล ไมมีโอกาสไดเขาสูส  ังคม
มนุษยอีกตอไป

ลิยู กุนซือเจาปญญาเห็นเหตุการณไปในทางที่จะเกิดความไมสงบ เพราะขาวคราวความโกรธแคนชิงชังของ


ขุนนางราษฎรกระทบหูอยูเสมอ จึงวางแผนสรางภาพลักษณใหกับรัฐบาลของ ตั๋งโตะ วาเปนรัฐบาลที่เปน
ธรรมรัฐ หรือธรรมาภิบาล โดยใหเรียกหาคนดีมีฝมือในแผนดินมารับราชการ โดยเฉพาะบัณฑิตหรือนักวิชาการ
คนใดที่มภี าพลักษณเปนที่เลื่อมใสของผูคน ก็พยายามซือ ้ หามารับราชการ ใหยศใหตําแหนงบัณฑิตและ
นักวิชาการจํานวนมากจึงไดเปลี่ยนสีแปรธาตุยอมขายตัวใหกับลาภยศ กลายเปนสุนัขรับใชของตั๋งโตะไปใน
ที่สด
ุ คอยปาวรองสรรเสริญคุณงามความดีของตั๋งโตะ ไมกพ
็ ลิกดําเปนขาว พลิกขาวเปนดํา ทําใหสิ่งทีต
่ ั๋งโตะ
ทํา ไมวาจะเปนเรื่องชั่วชาเลว ทรามประการใด ใหกลายเปนความชอบธรรม ทําใหความเห็นทีต ่ รงกันขาม
กลายเปนสิ่งไมชอบธรรม

หนึ่งในจํานวนคนเหลานีค ้ ือ ซัวหยง ซึ่งเปนคนดีมส


ี ติปญ
 ญา เปนที่นับถือของราษฎร ตั๋งโตะ ใหทหารไปเชิญ
มารับราชการดวย แตซวั หยงเห็นวาการบริหารราชการแผนดินของรัฐบาล ตั๋งโตะ เปนระบอบทรราชย จึง
บิดพลิ้วไมยอมเขารับราชการ ตั๋งโตะโกรธใหทหารไปแจงแก ซัวหยง วาถาไมยอมมาทําราชการดวยแลวจะ
ฆาเสียใหสิ้นทัง้ ครอบครัวและวงศาคณาญาติทั้งปวง ดวยคําเชิญอันสุภาพของคนชั่วชาเชนนี้ ซัวหยง จึงจําใจ
ตองเขารับราชการ ตั๋งโตะ เพื่อที่จะแสดงใหราษฎรเห็นวาเปนรัฐบาลที่สงเสริมใหคนดีมีอาํ นาจ จึงแตงตัง้ ให
ซัวหยงเปนขุนนาง "เดือนหนึง่ เลื่อนที่ขึ้น ไปสามที่" การสรางภาพลักษณแบบตั๋งโตะนี้ไดกลายเปนแบบอยาง
ใหขุนนางขาราชการในชั้นหลังไดเลื่อนตําแหนงขามหนาขามตาคน ในระดับหรือรุนเดียวกันถึงปละสามครั้ง
เปนแตวาเปนการเลื่อนตําแหนงโดยอาศัยสวยสินบนแทนการสรางภาพลักษณแบบตั๋งโตะเทานั้น

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 55

การณขางในพระตําหนักสันตินิรันดรนั้น โฮไทเฮา หองจูเปยน และพระสนม ถูกคุมขังประดุจอยูในอีกโลกหนึ่ง


มีความยากลําบากและทุกขทรมานทั้งกายใจ วันหนึ่ง หองจูเปยน เห็นนกนางแอนคูหนึ่งบินหลงเขามาภายใน
พระตําหนักแลวหาทางออกไมได บินวนไปวนมาจนลาแรงทั้งหิวโซก็รวงลง แลวตายไปตอหนาตอตา หองจู
เปยน เห็นแลวมีน้ําใจสงสารนกนัก แลวใจก็หวนมารําลึกถึงชะตาตนทีต ่ อ
 งขังอยูเปนที่เวทนาเสียยิ่งกวานก
นางแอน ใจก็สลดลง ประกายกวีวาบเขามาในหวงแหงสํานึก จึงผูกกาพยเขียนไวที่ฝาผนังพระตําหนักวา
"นภากาศอันไพศาลก็คือบานนกแอนนอย เลนลมระเริงลอยแลวมาพลอยถูกกักกัน แผนดินสิทธิแหงเรากลับ
ถูกเขาทําอาธรรม ปลนชิงทุกสิ่งอันเพราะสวรรคไรเมตตา หวังคอยวีรชนทุกแหงหนลงอาญาฟนคืนซึ่งธรรมา
ชาติประชาจึงพนภัย"

สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาบทกวีที่หองจูเปยนแตงขึ้นนั้นเปนโคลง มีความวา "ทีใ่ นพระราชฐาน


นี้ของพระเจาเลนเต ผูเปนพระราชบิดา ยกใหเปนสิทธิแกเรา บัดนี้เรากับมารดาไดทุกขทรมาน ขังอยูเหมือน
นกทั้งคูนี้ ถาผูใ ดสัตยซื่อตอบิดาเรา ชวยแกแคนในอกเราได คุณนั้นหาทีจ
่ ะอุปมามิไดเลย" ฝายเจาหนาที่
ควบคุมพระตําหนัก ซึ่ง ตั๋งโตะ จัดเฝาระแวดระวังทุกวันคืน เห็นกาพยที่ หองจูเปยน เขียนไวทฝ ี่ าผนังพระ
ตําหนักจึงนําความไปรายงานให ตั๋งโตะ ทราบ ตั๋งโตะทราบแลวเห็นเปนการเคลื่อนไหวที่จะคบคิดกับผูท  ี่ยัง
จงรักภักดี อยูเ พื่อลมลางอํานาจตนก็โกรธ จึงสั่งลิยูกุนซือเจาปญญาและเปนที่ไววางใจใหลอบเขาไปในพระ
ตําหนัก ประหารโฮไทเฮา หองจูเปยน และพระสนมเสีย

ลิยู นํามือสังหารสิบคนพรอมสุราพิษและเครือ่ งประหารเขาไปในพระตําหนัก แลวประหาร โฮไทเฮา หองจู


เปยน และพระสนมเสียตามคําสั่งของ ตั๋งโตะ แลวรายงานเหตุการณให ตัง๋ โตะ ทราบ ตัง๋ โตะ ทราบวาเสี้ยน
หนามถูกกําจัดไปแลว จึงมีความยินดียิ่งนัก ลิยู จึงเสนอตอไปวาเพื่อไมใหเกิดความวุนวายในบานเมือง ให
ปลอยขาวลือวาทั้งสามคนถูกโรคระบาดถึงแกความตาย แลวใหนําศพไปฝงไวทส ี่ ส
ุ านหลวง ยกเวนพระสนม
ของ หองจูเปยน ใหนําไปฝงไวนอกเมือง ตั๋งโตะ ฟงแลวเห็นชอบดวย

สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาประหารแลวลิยูใหเอาศพไปฝงไวนอกเมือง ซึ่งไมสมเหตุผล เพราะ


คนเปนถึงอดีตฮองเตเชื้อสาย ราชวงศฮั่น อีกคนหนึ่งเคยเปนถึงไทเฮา จะเอาไปฝงไวนอกเมืองเปนการผิด
ธรรมเนียม และจะทําใหราษฎรเกลียดชังเพิ่มขึ้น ทั้งคนระดับนี้ตายพรอมกันจะทําเปนเงียบหายไปเฉย ๆ ยอม
ไมได เพราะไมสามารถปดขาวไวได จึงหาทางออกดวยการปลอยขาวเหตุผลการตายวาตองโรคระบาด ซึ่ง
เปนเหตุผลที่เหมาะกับคนแบบ ตั๋งโตะ

สิ้น หองจูเปยน และ โฮไทเฮา แลว ตั๋งโตะ ก็เขาใจวาเสีย


้ นหนามภายในราชสํานักหมดสิ้นไปแลว ใจก็ลําพอง
หนักกวาแตกอน บางคืนก็เขาวังไปหลับนอนในที่บรรทมของ พระเจาเลนเต นางสนม นางกํานัลคนใดเปนที่
พอใจ ตั๋งโตะ ก็เรียกมาบําเรอตนโดยไมยําเกรงผูใด คนใดไมยินยอมพรอมใจ ตั๋งโตะ ก็บุกเขาไปขมขืนเสียที่
ในเรือนพักหรือแมในพระตําหนัก จนนางสนม นางกํานัลทีห ่ นาตาพอใชไดตองตกเปนทาสบําเรอกามของจอม
ทรราชตั๋งโตะสิน

เพื่ออวดอางศักดาบารมีของตน ตั๋งโตะไดใหสรางจวนขึ้นหลังหนึ่ง ตรงขามพระตําหนักที่ประทับของฮองเต


เปนตึกใหญโตอัครฐานยิ่งกวาพระตําหนักอันเปนที่ประทับ แมพื้นของจวนซึง่ ควรตองปูดวยหินมีคา แตกลับให
ทหารไปตัดไมอยางดีจากในปา คัดเลือกเอาแตไมแผนใหญที่มห ี นากวางถึงเกาคืบ ยาวยี่สิบเจ็ดคืบ เทากัน
ทุก ๆ แผน เพื่อใหเกิดความอบอุนในฤดูหนาว เครื่องภาย ในก็ตกแตงดวยสิ่งของอันวิจิตรพิสดารจากตางแดน
แมประตูจวนก็ทําดวยทองคําที่ไดมาจากเงินสวยสินบน หรือไมก็เปนของที่ปลนมาจากราษฎรและยังเขา
ถือเอาพระราชอุทยานนอกพระนคร ซึ่งเปนของหลวงมาเปนของตน โดยไมยําเกรงกฎหมายบานเมือง แลวให
สรางเรือนพักรับรองขึ้นอีกสามหลัง สําหรับเปนที่พบปะสังสรรคกับสมัครพรรคพวกหลังหนึ่ง สําหรับพักผอน
สวนตัวหลังหนึง่ และสําหรับพราพรหมจารีของสตรีอีกหลังหนึ่ง

ขุนนางขาราชการแลราษฎรเดือดรอนทุกขเข็ญจากระบอบทรราชยของตั๋งโตะมากขึ้นทุกที การปลนชิงวิ่งราวก็
เกิดขึ้นทั่วทั้งแผนดิน แตตั๋งโตะก็หาสนใจไยดีไม เพราะเห็นวาไมใชธรุ ะของตนอยางหนึ่ง และรูด
 ีวาหลายกรณี
เปนเรื่องที่พรรคพวกของตนเปนผูกระทําการเสียเองอีกอยางหนึ่ง ลิยู กุนซือเจาปญญาเห็นวาการปลนชิง
วิ่งราวและความเดือดรอนของราษฎรจะลุกลามกลายเปนจลาจล จึงเสนอใหตั๋งโตะปราบปรามการปลนชิง
วิ่งราว เพื่อสรางภาพลักษณใหราษฎรเห็นวาตั๋งโตะเอาใจใสการแผนดิน และทุกขรอนของราษฎร ตั๋งโตะ ฟง
แลวขัด ลิยู ไมไดก็รับคํา แลวเรียกทหารทีไ ่ วใจไดจด
ั กําลังยกออกไป ตําบลหยงเซีย พบราษฎรกําลังเฉลิม
ฉลองเทศกาลหลังเกี่ยวขาวกันอยางสนุกสนานก็สังหารราษฎรเหลานั้นหมดสิ้นทั้งตําบล ไมเลือกวาชาย หญิง
เด็กหรือคนชรา แลวตัดศีรษะบรรทุกเกวียนเก็บเอาทรัพยสินเงินทองของมีคา นําเขาเมืองหลวง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 56

ถึงเมืองหลวงแลวปาวประกาศใหรท ู ั่วกันวา ตั๋งโตะ เห็นแกความเดือดรอนของราษฎรที่เกิดจากโจรผูร าย จึง


ไดปราบปรามโจรผูร ายจนสิ้นซาก แลวตัดศีรษะพวกโจรมาเปนหลักฐาน จากนั้นจึงใหเอาศีรษะราษฎรเหลานั้น
ไปเผาเสีย สวนทรัพยสินเงินทองของมีคาใหแจกแกทหารทีไ ่ ปทําการนั้น

ขุนนางขาราชการไดแตซุบซิบนินทาถึงพฤติกรรมทั้งปวงของตั๋งโตะ สวนราษฎรนั้นเลาเคียดแคนชิงชัง
สาปแชงประณามทั่วสารทิศ กําลังอํานาจที่ไมตั้งอยูใ นธรรม ไมเคารพธรรม และไมถือธรรมเปนใหญก็คือ
ทรราช ตั๋งโตะ ณ บัดนี้จึงเปนทรราชเต็มตัว และลําพองหยาบชาตอทุกผูคน ไมวา จะเปนฮองเต ขุนนาง
ขาราชการ และราษฎรทั้งปวง

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

แผนสังหารทรราช (ตอนที่ 25)

ตั๋งโตะ ณ บัดนี้ วางตนอยูเหนือฮองเต ถืออํานาจบาตรใหญขมเหงขุนนางขาราชการและสังหารราษฎรอยาง


โหดรายทารุณ ทั้งยังเปนใจใหสมัครพรรคพวกกระทําเชนเดียวกัน ละเมิดไมยําเกรงกฎหมายและศีลธรรม
ดังนั้น ตั๋งโตะจึงกลายเปนทรราช ที่เสียงสาปแชงดังกองกระหึ่มทัว่ สารทิศ ความเจ็บแคนของขุนนาง
ขาราชการและประชาชนที่มีตอ  ตั๋งโตะเพิ่มระดับขึ้นทุกวัน จนเกินกวาระดับที่ขุนนางขาราชการและราษฎรเคย
เคียดแคนชิงชังสิบขันที

แตทวาความเคียดแคนชิงชังนัน้ ยังไมสามารถทําอะไรกับ ตั๋งโตะได เพราะตั๋งโตะมีกําลังทหารอยูในมือ กุม


อํานาจทั้งปวงในเมืองหลวงไวหมดสิ้น และยังมีลิโปทรชนผูเปนปตุฆาตอยูขางกายเกือบตลอดเวลา ดังนั้น
ในขณะทีท ่ ุกคนเคียดแคนชิงชัง ใครจะสังหารตั๋งโตะเสียทุกลมหายใจ แตความรักตัวกลัวตายที่มีอยูท ุกตัวคน
จึงทําใหบรรยากาศการเมืองในเมืองหลวงอึมครึม ตึงเครียด และหวาดผวา

แตการทั้งปวงนั้นเมื่อเลยขีดคัน ่ ของความพอดีไปแลว ผลรายและวิบัตย ิ อมหลีกเลี่ยงไมได ดังนั้น แมจะรักตัว


กลัวตายแตเมื่อถึงจุดหนึ่งแลว ความที่รักตัวกลัวตายก็พายแกความคิดจิตใจที่เห็นแกประโยชนสุขของ
บานเมืองและราษฎร เมื่อเปนเชนนี้ความคิดที่จะสังหารตั๋งโตะ กําจัดภัยรายแรงของแผนดินจึงกอเกิดและงอก
งามขึ้นในความนึกคิดจิตใจของขุนนางขาราชการและราษฎรโดยทั่วไป บางก็คิดสังหารตั๋งโตะโดยลําพังตน
บางก็รวมคิดอานกับพวกพอง แตทามกลางกระแสความคิดที่จะสังหารตั๋งโตะเสียนั้น ก็ยอมมีบางความคิดที่
ตองการครอบงําอํานาจรัฐแบบตั๋งโตะเสียเอง บางก็ตองการแสวงหาโอกาสเปนใหญในบานเมือง เพราะตราบ
ใดที่ตั๋งโตะยังมีชื่ออยูในบัญชีคน หลายคนยอมหมดโอกาสที่จะมีอํานาจวาสนาดังปณิธาน

ดังนั้น ไมวามูลเหตุจูงใจในการคิดสังหารตั๋งโตะจะเปนอยางไร แตโดยผลที่ตรงกันทั้งหมดก็คือ "ตองลบชื่อ


ตั๋งโตะออกจากบัญชีคน ยายไปอยูในบัญชีผี" ใหจงไดฝา ยเงาฮู ขุนนางราชสํานักทําราชการมาแตครั้งแผนดิน
พระเจาฮั่นเต ถึงรัชกาลพระเจาเหี้ยนเตเปนสี่แผนดิน อายุก็ลวงวัยจนผมสีขาวเจริญงามแซมผมเกาทีเ่ คยดํา
สนิทจนคลายกับสีดอกเลา มีความเดือดรอนดวยราชสํานักและขุนนางขาราชการจาก พฤติการณทรราชของตั๋ง
โตะเปนทีย่ ิ่ง มาคํานึงวาบัดนี้แผนดินเปนทุกขเข็ญดวยน้ํามือทรราช แตหามีผูใดออกหนากลาหาญผลาญชีวติ
ของทรราชผูนี้ไม หากปลอยเฉยไวก็มีแตยิ่งกําเริบกอกรรมทําเข็ญหนักขึ้นไปอีก ตัวเราก็อายุปูนนี้แลว แมไม
ฆาตั๋งโตะเสียเราก็ตายอยูด  ี กระไรเลยเราจะสังหารตั๋งโตะเสีย ทําคุณแกราษฎร และขาวแดงแกงรอนที่
ราชวงศฮั่นไดทํานุบํารุงเลี้ยงดูเรามา

ถึงวันฮองเตออกวาราชการ เงาฮูจึงเอามีดเหน็บซอนไวในเสื้อ ครั้นไดเวลาเสด็จขึ้นเงาฮูกมลงกราบถวาย


บังคมแลวรองไห โดยหามีผูใดทันสังเกตไม ในใจเงาฮูนั้นกราบทูลขอถวายบังคมวาขาพเจาขอพลีชีวต ิ เพื่อ
แทนคุณพระราชวงศฮั่น ปกปองชาติ พิทักษราษฎร หากการไมสมความคิด คงจะไมมีโอกาสมาเขาเฝาอีกแลว
จึงกราบถวายบังคมลาเสียลวงหนา แลวออกมาคอยทีอยูที่ประตูพระราชวัง พอตัง๋ โตะออกมาถึงประตู
พระราชวัง เงาฮูก็ลวงมีดออกจากเสื้อจะแทงตั๋งโตะ ตั๋งโตะเห็นเงาฮูจะจวงแทงก็เอี้ยวตัวหลบ จับมือเงาฮูที่ถือ
มีดอยูนั้นไว ลิโปตามมาไดเขาชวยตั๋งโตะ ปดมือ เงาฮูจนมีดหลุดจากมือแลวรวงลง จับเงาฮูไว แลวถามวา
เหตุใดจึงคิดฆาบิดาเรา เงาฮูมิไดเกรงแกความตาย ดาวาตั๋งโตะเปนทรราช ทําชั่วชา ตอแผนดินและราษฎร
อยาวาแตตัวกูซึ่งเปนมนุษยเลย แม เทพยดาอารักษก็จักสังหาร ตั๋งโตะเสีย

ตั๋งโตะไดยินก็โกรธจึงสั่งใหเอาตัวเงาฮูไปประหารที่หนาประตูกําแพงพระนคร สั่งใหแลเนื้อออกทีละชิ้นเพื่อมิ
ใหเปนเยี่ยงอยางสืบไป ระหวางทีผ ่ ค
ู ุมนําตัวเงาฮูไปประหารตามบัญชาของตั๋งโตะนั้น ราษฎรไดแหลอม
ติดตามดูและสงสารเงาฮูเปนยิง่ นัก เงาฮูไดรองดาตั๋งโตะไปตลอดทาง และเรียกรองใหอาณาประชาราษฎร

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 57

รวมกันลางทรราชตั๋งโตะใหจงได แมระหวางที่ถูกแลเนื้อออกทีละชิ้น เงาฮูก็ยังรองดาตั๋งโตะและประกาศยอม


พลีชีวิตเพื่อใหเปนประกาย ความคิดในจิตใจปวงชนทีจ ่ ะรวมกันคิดอานกําจัดตั๋งโตะไมขาด ปากจนสิ้นใจตาย
หลังจากนั้นตั๋งโตะก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น จัดทหารองครักษ ลอมตัวติดตามทุกแหงหน ปองกันการลอบสังหาร
ที่อาจเกิดขึ้นอีก

ขาวการสังหารโฮไทเฮา หองจูเปยน พระสนม และขุนนางตาง ๆ รวมทั้งราษฎรตําบลหยงเซีย และลาสุดถึง


การประหารเงาฮูอยางโหดรายทารุณ กระพือโหมทั้งในเมืองหลวงและในทุกหัวเมืองอยางรวดเร็ว กระทบ
ความรูส ึกของผูคน กอผลสะเทือนใจทั้งแผนดิน ฝายอวนเสีย
้ วเจาของความคิดเรียกตั๋งโตะเขาเมืองหลวง และ
เปนพวกเกาของโฮจิ๋นนั้น หลังจากรับโปรดเกลาฯใหเปนเจาเมืองปุดไฮแลว ก็ไดซองสุมผูคนฝกทหารคิดจะ
ทําการอยางเดียวกับที่เตียวกกและพวกโจรโพกผาเหลืองเคยทํามา นั่นคือคอยหาโอกาสยกทัพเขาเมืองหลวง
ดวยขออางขจัดทรราช พิทักษฮองเต ทํานุบาํ รุงราษฎร

ครั้นประเมินสถานการณวาถึงจุดที่ขุนนางขาราชการและราษฎรเหลือทนตั๋งโตะแลว จึงทําหนังสือลับถึง
อองอุน ขุนนางขาราชสํานักผูใหญรุนราวคราวเดียวกับเงาฮูวา "ทุกวันนี้ตั๋งโตะทําการหยาบชา ขบถตอแผนดิน
ดังนี้ หามีผใู ดคิดลางตั๋งโตะไม ซึ่งเราออกมาอยูครั้งนีใ้ ชจะนิ่งนอนใจอยูห ามิได อุตสาหเกลี้ยกลอมผูคน
ฝกหัดใหชํานาญในการสงครามอยูมิไดขาด เพราะมีกตัญูเราจะอาสากําจัดตั๋งโตะเสียใหจงได ถาทานเห็น
พรอมดวยเราแลวจงเรงคิดการขางในเถิด เราจะยกกองทัพไปทําการ" หนังสือลับของอวนเสี้ยวนีฉ ้ ลาดและ
เขาทากวาที่เคยวางแผนใหโฮจิ๋น เรียกกองทัพหัวเมืองเขาเมืองหลวง เพราะวางแผนใหพวกขุนนางขาราช
สํานักกอการขางในพระนครกอน ตัวเองจะยกทัพไปกําจัดตัง๋ โตะตอไป ผิดพลั้งอยางไรตัวอยูขางนอกยอม
ปลอดภัย แตพวกขางในยอมตายกอน หากการสําเร็จตัวคุมกองทัพอยูยอมยึดอํานาจรัฐเอาไดโดยสะดวก
ความคิดดังนี้เสมอดวยแผนของ ลิยู กุนซือเจาปญญาที่เคยเสนอใหตั๋งโตะดําเนินการ ทําใหสิบขันทีและโฮจิ๋น
ฆาฟนกันเองแลวยึดอํานาจในภายหลังจนประสบผลสําเร็จมาแลว

อองอุนขุนนางผูใหญสแ ี่ ผนดิน แรงอยูดว ยใจกตัญูตอพระราชวงศฮั่น ทัง้ อยูใกลเหตุการณในเมืองหลวง อก


อัดแนนดวยความเคียดแคนชิงชังทรราช เห็นหนังสือลับของอวนเสี้ยวแลว มองขามความคิดทีซ ่ อนอยูใน
เนื้อความของหนังสือนั้น เห็นตามความคิดของอวนเสี้ยวที่จะกําจัดตั๋งโตะเสีย แต "คิดวิตกอยูมิไดขาด" ใน
ที่สดุ ก็ตด
ั สินใจเคลื่อนไหวเพื่อนขุนนางขาราชการ เพราะคิดวาลําพังตัวเองจะคิดทําการไมตลอด ดังนั้น วัน
หนึ่งหลังจากฮองเตออกวาราชการและเสด็จขึ้น แลว อองอุนจึงแอบกระซิบกับขุนนางเกา ๆ ที่สนิทชิดเชื้อวา
วันนี้เปนมงคลวาระครบรอบวันเกิดของเรา ขอเชิญทานไปกินโตะกันใหเปนทีส ่ ําราญ ทีบ่ านในยามค่าํ

อองอุนคงจะเห็นวาโจโฉก็เปนเชื้อสายขุนนางเกาคนหนึ่ง ทั้งเคยสนิทชิดเชือ ้ กับโฮจิ๋นมากอน แมบัดนี้จะไปรับ


ใชใกลชิดกับจอมทรราชตั๋งโตะก็ตาม แตนา จะมีความทุกขรอ  นดวยแผนดิน จึงเชิญโจโฉมารวมงานเลีย ้ งดวย
ครั้นเพลาค่ํา ขุนนางขาราชการทีร่ ับคําเชิญไดมารวมงานเลีย ้ งโดยพรอมเพรียงกัน เพราะมิไดระแคะระคายวา
จะมีเรื่องใหญถงึ คอขาดบาดตาย และหากไดรูลว งหนากอนวาจะเปนเรื่องปรึกษาหารือเพื่อสังหารตั๋งโตะ
หลายคนคงจะอางปวย เจ็บ หรือติดภารกิจอืน ่ มากินโตะไมไดก็ได

ในขณะที่ขุนนางขาราชการกําลังกินโตะเสพสุรากันอยางเบิกบานใจนั้น อองอุนก็รองไหโฮออกมา ขุนนาง


ขาราชการใน ที่นั้นสงสัยจึงถามวาวันนี้เปนงานมงคลวันเกิดของทาน ไฉนทานจึงมารองไหใหเปนลางเสียฉะนี้
เลา อองอุนจึงวาความจริงวันนี้หาใชวันเกิดของเราไม แตจาํ เปนตองอางวาเปนงานวันเกิด เพื่อจะไดเชิญพวก
ทานมารวมงานโดยไมเปนทีส ่ งสัยของฝายตัง๋ โตะ แลววานับแตตั๋งโตะเขามาอยูในเมืองหลวงไดกอกรรมทํา
เข็ญมากมายกลายเปนทรราชไปแลว "เรามีความรอนใจนัก อุปมาดังนอนในกองเพลิง เราเล็งไปไมเห็นผูใดจะ
ชวยคิดทํานุบํารุงใหแผนดินเปนสุขได เราจึงรองไห" ขุนนางทั้งปวงฟงแลวกระทบเขากับความรูส  ึกที่อัดอยูใน
อก จึงพากันรองไห เหตุที่การรองไหนี้มิไดมีความคิดหรือแผนการใดๆ ทีจ ่ ะกําจัดตั๋งโตะ การรองไหแบบนี้จึง
เปนการรองไหแบบสิ้นคิดของคนสิ้นคิด หาประโยชนอันใดมิได

โจโฉซึ่งกินโตะอยูในที่นั้นดวยเห็นเหตุการณแลว ปลอยใหคนเหลานั้นรองไหกันไปครูหนึง่ พอสะแกใจแลวจึง


หัวเราะปรบมือขึ้นดวยเสียงอันดังแลววา "เสียแรงเปนขุนนางผูใหญมาแตกอ  น คิดการเทานี้มิตลอดแลวสิชวน
กันมานั่งรองไห" อองอุนไดฟงก็โกรธแลววาทานมาตบมือหัวเราะเยาะขุนนางผูใหญที่มีใจภักดีตอแผนดินเปน
การไมชอบ ปู บิดา และตัวเองก็เปน ขากินเบี้ยหวัดเงินปในแผนดินของราชวงศฮั่นตลอดมา หารูคุณกตัญู
ตอแผนดินไม เราจะคิดลางตั๋งโตะเสียทดแทนคุณแผนดินทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุข แตคิดการไมตลอด
เพราะตั๋งโตะมีกําลังทหารมาก อํานาจในราชสํานักก็อยูใ นมือตั๋งโตะสิ้น เราจึงรองไห เหตุไฉนตัวจึงมาตบมือ
หัวเราะเยาะเราเลาโจโฉจึงวาขาพเจาเห็นวาการกําจัดทรราชตองมีแผนการทีแ ่ ยบยล และตองมีผูรับผิดชอบ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 58

ปฏิบัตทิ ี่ปรีชากลาหาญ จึงจักสําเร็จได แตพวกทานไมทําในสิ่งเหลานี้กลับมานั่งรองไหกน


ั อยู ซึ่งไมใชหนทาง
ที่จะกําจัดทรราชได ดังนี้ขาพเจาจึงหัวเราะ

แลวโจโฉก็หาเสียงเอากับเหลาขุนนางตอไปวา "ซึ่งปู บิดาขาพเจาเปนขาราชการมาแตกอนนั้น ขาพเจาก็คิด


กตัญูตอแผนดินอยู ทําไมแคตั๋งโตะนี้จะฆาเสียเมื่อใดก็ได" อองอุนดีใจระคนสงสัยจึงซักโจโฉวาความคิด
อานของทานเปนประการใด จึงจะสามารถขจัดตั๋งโตะเสียได การครั้งนี้เปนการใหญของแผนดิน ทานอยาได
พูดตามอําเภอใจคะนองเปนอันขาด จะพากันตายสิ้นโจโฉจึงหาเสียงตอไปวา "ซึ่งขาพเจาทําความเพียรไป
ฝากตัวใหตั๋งโตะใชสอยจนสนิทมาทุกวันนี้ ใชจะเห็นลาภสักการะสิ่งใดหามิได เพราะคิดกตัญูตอแผนดิน จะ
คิดฆาตั๋งโตะเสียใหจงได แตขัดสนดวยอาวุธดีไมมีถือ ขาพเจารูวากระบีส่ ั้นอยางดีของทานมีอยู ถาทานเปน
ใจดวยดั่งนีแ
้ ลว ขาพเจาจะขอยืมกระบีส
่ ั้นเหน็บซอนเขาไปใหถึงตัวตั๋งโตะแลวฆาเสีย จึงจะตัดศีรษะเอามาให
ทานจงได"

โจโฉอางเอาความกตัญูตอแผนดินในการไปอยูดวยตั๋งโตะ และคิดฆาตั๋งโตะเสียก็เพื่อขจัดทรราชแทนคุณ
แผนดิน อันเปนที่ประทับใจและซึ้งใจของทุกคน เปนแตโจโฉไมไดบอกวาความคิดของตนนั้นเมื่อสําเร็จแลว
อํานาจรัฐจะเปนอยางไร ความคิดที่จะสังหารตั๋งโตะของโจโฉก็คือความคิด และแผนการอยางเดียวกับเงาฮู
ขุนนางสี่แผนดินซึ่งถูกแลเนื้อจนตายไปนั่นเอง แตความตองการยืมกระบี่ดข
ี องอองอุนนี่สิ แสดงถึงความคิดที่
กําหนดทางหนีทีถอยของโจโฉอยางล้าํ ลึก

เนื่องเพราะถาแผนการรั่วไหลกอน ทุกคนก็จะตองรวมรับผิดดวย จึงเทากับเปนการปดปากทุกคนในที่นั้นมิให


ความลับแพรงพราย แมหากลงมือแลวการไมสําเร็จก็ยังมีพวกที่คอยชวยเหลือ เพราะกลัวการซัดทอด หรือ
หากจะพลาดพลั้งถึงตายก็จะไมตายแบบเปลาเปลี่ยวเดียวดาย เนื่องจากมีเพื่อนเดินทางไปเมืองผีดว ยกัน
หลายคน และ "กระบี่ดี" ที่วานัน
้ ยังสามารถยกอางเปนเหตุผลเพื่อเอาตัวรอดในยามคับขันไดอีกดวย

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สุดยอดกลยุทธของโจโฉ (ตอน 26)

อองอุน ขุนนางสี่แผนดินไดฟง คําโจโฉดั่งนั้นแลว ความอับจนที่แนนอยูใ นอกพลันโลง เบิกบานใจยินดีเปนยิ่ง


นัก เดินเขา มาหาโจโฉคุกเขาลงกับพื้นตอหนาขุนนางในทีน ่ ั้น สงจอกสุราให โจโฉเปนการแสดงคํานับ แลว
สรรเสริญวาความคิดของทานดุจดังประทีปทีส ่ องสวางขึ้นในที่มืดการทีค่ ิดไวคงจะสมความคิดในครั้งนี้ จึง
ขอใหทานดื่มสุราที่ขาพเจาคารวะขอบคุณทานแทนขุนนาง และราษฎรทั้งปวง

โจโฉทรุดตัวลงประคองอองอุนใหลุกขึ้น แลวรับเอาจอกสุรามาผินหนาไปทางทิศอันเปนทีต ่ งั้ ศาลพระเทพบิดร


แหงราชวงศฮั่น แลวสาบานวาเทพยดาจงเปนพยาน แหงความภักดีของขาพเจา บัดนี้ขาพเจาขออาสาแผนดิน
จะฆาตั๋งโตะเสียใหจงได บานเมืองแลราษฎร จะไดเปนสุขทั่วกัน แลวดื่มสุราสาบานตนนั้นจนหมดจอก
อองอุนและขุนนางในที่นั้นมีความยินดีนัก แลวอองอุนจึงเขา ไปขางในหยิบกระบี่สั้นวิเศษที่มีชื่อวา กระบีส
่ ัตต
โลหะ ใหแกโจโฉ

กระบี่สั้นสัตตโลหะนี้ ทําจากโลหวัตถุธาตุอยางดีถึงเจ็ดชนิด ตัวกระบี่ยาวเจ็ดนิ้ว ดามทําดวยงายาวหานิว้ ตัว


ดาบมีสีดําสนิท มีเงาประกายเขียวทึบวาววามคมกลา สามารถตัดเหล็กไดดจ ุ ดังหยวก สามกกฉบับสมบูรณระบุ
วากระบีส ่ ั้นนี้มีชอ
ื่ วากระบี่สั้นสัตตกายสิทธิ์ คือมีความวิเศษเจ็ดอยาง บางฉบับวากระบีส
่ ั้นชนิดนี้คือตนแบบของ
ดาบสั้นของซามูไรใชประจํากาย หากถึงคราวอับจนหรือสิ้นเกียรติยศก็จะใชสําหรับฮาราคีรต ี นเอง

โจโฉรับกระบีส ่ น
ั้ จากอองอุนแลวก็ลากลับบาน คิดอานทางหนีทีไลในวันรุง ครั้นลวงเพลาเที่ยงคืนจึงไดหลับ
ไป ตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่งก็ใกลเพลาสาย โจโฉรีบแตงตัวเอากระบี่สั้นซอนไวในเสื้อ แลวรีบไปจวนตั๋งโตะตามปกติ
ถึงจวนแลวถามนายประตูอยางคนคุนเคยวาขณะนี้ทานอัครมหาเสนาบดีอยูท  ี่ไหน นายประตูบอกวาอยูท  ี่หอ
หนังสือ โจโฉก็ขึ้นไปเห็น ลิโปยืนอยูหนาประตูหอนั้น ตั๋งโตะเห็นโจโฉก็ถามวาวันนีท ้ ําไมจึงมาสายไป โจโฉ
จึงวามาซึ่งขี่ประจํานั้นไดรับบาดเจ็บที่เทา ใชขี่ไมได จึงตองไปยืมมาจากที่อื่น เหตุนี้จึงมารับใชทานสาย
เกินไป ขออภัยทานดวยเถิด

ตั๋งโตะไดยินดังนั้นจึงสั่งลิโปวาใหไปที่โรงมาของเรา เอามาพันธุดีตัวหนึ่งที่เพิ่งไดมาจากเมืองซีหลงใหแก โจ
โฉ ลิโปรับคําสั่งตั๋งโตะแลวก็ออกไป ตั๋งโตะนั่งดูหนังสืออยูบนตั่ง ครูหนึง่ ก็ลมตัวลงนอนดูหนังสือตามปกติ
นอนตะแคงซายผินหนาเขาหาดานผนังตึก โจโฉนั้นตอนแรกที่เขามาเห็นลิโปยืนอยูไมคอยสบายใจนัก กริ่งวา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 59

จะทําการไมสมความคิด แมสมความคิดแลวก็ยากที่จะหนีรอดมือ ลิโปไปได ครั้น เห็นลิโปไปแลวก็ดีใจ


รําพึงในใจวา การครั้งนีค
้ งสมความคิด แลวจึงยองเดินเขาไปใกลตัวตั๋งโตะ ลวงกระบี่สน ั้ ออกจากอกเสื้อยังมิ
ทันทีจ่ ะไดชักกระบี่ออกจากฝก ตั๋งโตะเห็นโจโฉจากเงาใน กระจกทีแ ่ ขวนอยูขางผนังตึก มีอาการประหลาด
จึงผินหนามาถามโจโฉวาตัวถือกระบี่เขามาเชนนี้จะทํารายเราหรือ โจโฉเห็นตั๋งโตะรูตวั เชนนั้น จึงรีบคุกเขาลง
กับพื้น เอามือทั้งสองชูกระบี่ สั้นขึ้นเหนือศีรษะแลวแกตัววา "ซึ่งขาพเจาจะทํารายทาน หามิได ทุกวันนี้ทานมี
คุณแกขาพเจานัก ขาพเจาจะหาสิ่งใดมาสนอง คุณมิได มีแตกระบีส ่ ั้นเลมนี้มีราคามาก เปนของปูยาตายายได
ตอๆ กันมาจนถึงขาพเจา ขาพเจาจึงเอามาสนองคุณทาน" วาแลวก็สงกระบี่สั้นหันดามใหตั๋งโตะ ตั๋งโตะรับ
กระบี่มาดูเห็น เปนของวิเศษ น้ําใจโลภอันมีมาในกมลสันดาน จึงมองขามเหตุการณ พิรธ ุ ไปมิไดสงสัย เชื่อ
ตามคําของโจโฉ พอดีลิโปเดินเขามาตั๋งโตะจึงสงกระบี่สั้นใหลิโปเก็บไว แลวจึงพาโจโฉออกไปดูมา ซึ่งลิโป
ไปนํามาที่ขางนอก แลวโอวามานี้ เปนมาชั้นเลิศจากเมืองซีหลง มอบใหทา น จงนําไปขี่เถิด โจโฉแสดงความ
คารวะขอบคุณตั๋งโตะแลวจึงยอตั๋งโตะวามาของทานนี้ดีเลิศกวามาทั้งปวงที่ขาพเจาเคยพบเห็นมา แตทา ทาง
พยศนัก ขอใหขาพเจาไดลองขี่ดู หากวาสนาขาพเจาไมพอกับมา มาไมเต็มใจใหขาพเจาขี่ เกินกําลังแลวจะ
ขอมอบคืนแกทาน

ตั๋งโตะฟงคํายอของโจโฉแลวจึงอนุญาต แลวชวนลิโปกลับเขา มาที่หองหนังสือ โจโฉจูงมาออกมาที่ดานนอก


แลวคํานึงวาเราคิดการหมายสังหารเจาโจรเฒา การยังไมสมความคิด แตมเี หตุดั่งนี้ขึ้น หากอยูในเมืองหลวง
ตอไป กลัวตั๋งโตะสงสัยเราก็จะมีภย
ั ชะตากรรมเดียวกับเงาฮู การใหญในวันขางหนาก็จะเสียไป เอาตัวรอด
ปลอดภัยไวกอนจะดีกวา จึงคิดอาศัยสุดยอดกลยุทธแหงสามสิบหกยอดกลยุทธ คือหนีออกจากเมืองหลวง
ไปหาบิดาเพื่อคิดการใหญตอไป

คิดดังนั้นแลว โจโฉก็ขึ้นมาขีอ่ อกไปจากจวนของตั๋งโตะ ถึงประตูเมืองดานตะวันออกจึงบอกนายประตูวา ทาน


อัครมหาเสนาบดี ใชเราไปราชการเปนการดวน นายประตูรจ ู ักโจโฉดีวาเปนคนในจวน ของตั๋งโตะ จึงยินยอม
ใหออกไปโดยสะดวก ฝายลิโปเมื่อตามตั๋งโตะเขาไปในหองหนังสือแลว จึงวาแกตั๋งโตะวา ขาพเจาไปเอามา
มาใหโจโฉตามคําสั่งทาน ขณะกําลังเดินเขามา นั้น เห็นโจโฉเดินยองถือกระบี่สั้นเขาไปหาทานมีอาการพิรุธ
เห็นวาโจโฉจะคิดรายตอทาน หากบุญบารมีทานมีอยูม  ากจึงรูตัวทัน โจโฉจึงแสรงอุบายวานํากระบี่มามอบแก
ทาน ตั๋งโตะฟงคําลิโปแลวจึงวาเราเองก็แคลงใจอยู แตเห็นกระบี่ที่โจโฉนํามา มอบนั้นเปนกระบี่วิเศษ ทั้งเราก็
ทํานุบํารุงโจโฉดวยดีถึงขนาด จนเกิดความใกลชิดสนิทเหมือนคนในของจวนเรา แตฟงทาน แลวก็เห็นจะจริง
ตามคํา

พอดีลิยู กุนซือเจาปญญาเดินเขามา ตั๋งโตะจึงเลาความทีโ่ จโฉเอากระบี่ มามอบนั้นใหลิยูฟง แลวปรึกษาวา


ทานคิดเห็นเปนประการใด ลิยูฟงความแลว วาความทีท ่ านเลามาทั้งนี้นาเคลือบแคลงสงสัย แตยังตัดสิน
ในทางใดมิไดกอ  น ชอบที่จะใหทหารไปดูที่บา นโจโฉ หากยังอยูเปนปกติก็แสดงวาการมอบมีดสั้นเปนความ
จริงใจ ไมสมควรจะระแวงสงสัยอีกตอไป

ลิยูวาตอไปวาแตหากการตรงกันขาม ไปดูแลวไมพบโจโฉยอม แสดงวาโจโฉคิดรายตอทานเหมือนทีล ่ ิโป


สงสัย คิดการไมสําเร็จ แลวกลัวภัยจึงตัดสินใจหลบหนี ตั๋งโตะฟงความเห็นของลิยูแลว จึงสั่งใหทหารไปดูโจ
โฉที่บา น ทหารกลับมารายงานวาโจโฉออกจากบานมาทีจ ่ วนตั้งแตตอนสาย ยังไมกลับบาน ลิยูจึงสั่งทหารให
ไปสอบถามนายประตูเมืองทุกดาน วาเห็นโจโฉออกนอกเมืองไปหรือไม ทหารซึ่งไปสอบถามนายประตูเมือง
ดานตะวันออกกลับมาราย งานวาโจโฉควบมาออกไปทางประตูเมืองดานตะวันออก บอกวาทาน อัครมหา
เสนาบดีใชไปราชการเปนการดวน ลิยูฟงความแลวจึงวากับตั๋งโตะวาโจโฉคิดสังหารทานแนแลว ทํา การไม
สมคิดจึงเกิดความกลัวแลวหลบหนีไป แตการครั้งนี้เปนการ ใหญ ยอมไมใช โจโฉคิดอานแตลําพังคงจะมี
พรรคพวกคิดอานทําราย ทานหลายคน ดังนั้นตองกําจัดเสีย ้ นหนามเสียใหสิ้นและจําเปนตองตามลาจับตัวโจ
โฉมาใหไดกอน แลวใชทัณฑทรมานใหบอกความวา มีพรรคพวกใครใดทีร่ ว มสมคบคิดการครั้งนีแ ้ ลวกําจัดเสีย
ใหสิ้นซาก ตั๋งโตะเห็นชอบดวยความเห็นของลิยู จึงสั่งใหกรมการเจาหนาที่ เขียนรูปโจโฉแลวแตงหนังสือสั่ง
การไปทุกหัวเมืองวาโจโฉเปนกบฏคิดรายตอแผนดิน ผูใดพบเห็นโจโฉตามรูปนี้ใหเรงจับตัวสงทางราชการที่
เมืองหลวง จะปูนบําเหน็จความชอบใหถึงขนาด แลวจะตั้งใหเปนขุนนางผูใหญ ถาผูใ ดคบคิดใหทห ี่ ลบซอน
หรือปกปดความ เสียไมแจงตอทางราชการ จะถือวาผูนั้นเปนใจดวยกบฏ จะเอาโทษประหารชีวต ิ ทั้งครอบครัว

โจโฉหลังจากใชสด ุ ยอดกลยุทธ "ถารบไมชนะก็ใหหนีเอาตัวรอดไวกอน" หนีออกจากเมืองหลวงแลวก็รบ ี ขี่มา


มุงหนาจะไปหาบิดา ตน ครัน ้ เขาเขตเมืองจงพวน นายดานเห็นโจโฉเหมือนกับรูปในประกาศ จึงเขาจับกุม
นําสง ตันกงเจาเมืองจงพวน ตันกงเจาเมืองจงพวนรับมอบตัวโจโฉแลว เห็นเหมือนคนในรูปตามประกาศของ
ทางราชการ แตกลับแสรงถามวาทานชื่อโจโฉ ซึ่งเปนคนที่ทางการตองการตัวหรือ โจโฉเห็นตันกงตอนแรก
แสดงทาทีคลายคนรูจ  ัก แตกลับถามชื่อตนตอหนาเจาหนาที่ก็คิดวานาจะมีความนัยอยู จึงแกลงบอกไปวา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 60

ขาพเจาไมใชโจโฉ แตเปนพอคาชื่อฮองฮู เที่ยวคาขายระหวางเมือง พวกนายดานสําคัญผิดคิดวาขาพเจา


คือโจโฉจึงจับตัวมาสงแกทาน ตันกงจึงกลาวใหเจาหนาทีไ ่ ดยินทัว่ กันวา เมื่อตัวอางวาไมใชโจโฉ ไววันพรุง
เราจะพิจารณาสอบสวนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะวันนีค้ ่ําแลวหมดเวลาราชการ แลวใหผค ู ุมเอาตัวโจโฉไปขัง
ไวกอน

อันตันกงนั้นแมเปนขุนนางบานนอก แตไดยินขาวคราวทรราชตั๋งโตะ เชนเดียวกับหัวเมืองอื่น มีความเคียดแคน


อยูในใจ ครั้นเห็นประกาศจับโจโฉ ระบุวาเปนกบฏตอแผนดินจึงของใจวาโจโฉจะเปนกบฏจริงหรือวาเปนศัตรู
ของตั๋งโตะแลวถูกกลั่นแกลงกลาวหาเปนกบฏ ดังนั้นจึงใครถามความจากโจโฉเปนการสวนตัวเสียกอน เหตุนี้
จึงแสรงเปดทางไวเผื่อความคิดตองกันก็จะไดรวมคิดอานตอไป

ครั้นเพลาเทีย่ งคืน ตันกงจึงใหคนสนิทไปนําตัวโจโฉมาพบ ณ หองลับภายในจวนเจาเมือง แลวแสรงถามวา


ทานอัครมหาเสนาบดีใฝการแผนดิน รักราษฎรแลขาทหาร ทานทําความผิดสิ่งใดใหเปนที่ระคายเคืองจึงตอง
หลบหนีมาดังนี้ โจโฉจึงตอบเปนความนัยวา "ทานอุปมาดังนกนอย เปนไฉนจึงจะมาลวงรูความคิดของพญา
ครุฑ" แลวเกทับไปวาทานจับเราไดแลว จงเรงสงตัวเราเขาเมืองหลวงเอาความชอบเถิด จะมาถามเราไยให
ปวยการ โจโฉตอบความนัยดังนี้เพราะอานทาทีตันกงดวยสายตาแหงพญาครุฑออกตั้งแตตอนค่ํา แลววามีใจ
ชังตั๋งโตะเหมือนตัว ครั้นถูก เบิกตัวออกจากที่คุมขังในยามดึกก็ยิ่งมั่นใจ จึงกลาวความเปนเงื่อนงํา เพื่อให ตัน
กงสารภาพความคิดออกมาเอง

ตันกงฟงคําโจโฉแลว มั่นใจวาโจโฉตองขอหากบฏเพราะทําตน เปนศัตรูกับตั๋งโตะตองดวยใจตน จึงขับคนรับ


ใชออกไปเสียทั้งสิ้น แลวสารภาพวามีความชัง ตั๋งโตะศัตรูแผนดินเชนเดียวกับคนทั้งปวง "ทานอยาดูหมิ่นวา
เราความคิดนอย ทุกวันนีท ้ ี่เรามาเปนหัวเมืองจัตวาอยูนี้เพราะเราขัดสน แลใจนั้นจะคิดหาผูกลาหาญ ซึ่งมี
สติปญ ญาเปนหลัก จะไดเปนคูคิดสืบไป" โจโฉเห็นการสมที่คาดคะเนไว จึงหาเสียงเอากับตันกงวา "แตกอนปู
และบิดาเราเปนขุนนางไดกินเบี้ยหวัดอยู ครัง้ นี้บานเมืองเปน จลาจลเพราะขันทีสิบคนแลตั๋งโตะทําการหยาบ
ชา ครั้นเราจะนิ่งอยูมิคิดการก็เหมือนหนึ่งหารูจักคุณแผนดินไม อันเราไปอยูดวยตั๋งโตะ นี้หวังจะลางมันเสีย
ซึ่งทําไมสมความคิดทั้งนี้ก็เปนกรรมของเรา แลวิบากของอาณาประชาราษฎรทั่วทั้งแผนดิน"

วาแลวก็สําทับเอากับตันกงตอไปวาเราทําการทั้งนี้ดวยถือรับสั่งลับของพระเจาเหี้ยนเต เปนประมาณ
เนื่องจากตรอมพระทัยดวยพฤติกรรมของทรราชตั๋งโตะ ใหเราประสานงานหัวเมืองตางๆ ยกทัพเขาเมืองหลวง
กําจัดตั๋งโตะเสีย ตันกงฟงความโจโฉแลวก็เชื่อ เพราะเห็นวาเปนเชื้อสายขุนนางหลายแผนดิน หากไมมีรับสั่ง
อันเปนความลับแลว คงไมเสีย ่ งเอาตําแหนงขุนนางในเมืองหลวงไปกระทําการถึงเพียงนี้ ทั้งการที่โจโฉ อาง
วาจะกระทําตอไป ขางหนาเปนการใหญตามพระประสงคของฮองเตสอดคลองกับความคิดของตน

ตันกงจึงเขาถอดเอาเครื่องจําโจโฉออกจากกาย แลวเชิญใหนั่งบนเกาอี้แลววาเราชื่อตันกง เปนขาในราชวงศ


ฮั่น มีความเจ็บแคน ดวยแผนดินแลราษฎร ใครจะสังหารตั๋งโตะจอมทรราชอยูมิไดขาด เมือ ่ ทานถือรับสั่งของ
ฮองเตมาทําการดังนี้ เราจะติดตามทานไปทําการ ดวยหวังเอาสติปญ  ญาของทานเปนหลักชัยกําจัดทรราช
บํารุงราษฎร ใหเปนสุขสืบไป

ตันกงกลาวความแลว ก็รบ ี จัดเก็บขาวของมีคาและสัมภาระมอบ กระบี่ใหโจโฉเลมหนึ่ง ตัวเองถือเลมหนึ่ง


คัดเลือกเอามาชั้นดีคนละตัวขับหนีออก จากเมืองจงพวนตั้งแตเพลาดึกสงัดหลังเทีย
่ งคืนนั้น

สุดยอดกลยุทธของโจโฉคือการหนีทั้งสองครั้ง ทําใหโจโฉรอดตายและประจักษถึงอานุภาพของกลยุทธนี้ที่
คุมตัวใหสามารถอยูทาํ การใหญตอไปได กอรากฐานทางความคิดเชิงกลยุทธใหแกการนําทัพของโจโฉในวัน
ขางหนา และเหมาเจอตงผูนาํ พรรคคอมมิวนิสตจน ี ไดสรุปขึ้นเปนหลักการสําคัญของสงครามจรยุทธในกาล
ตอมาวา "จรเมือ
่ เห็นวารบไมชนะ ยุทธเมื่อเห็นวารบแลวชนะแน เอาแตจร ไมยุทธ คือลัทธิวิ่งหนี เอาแตยุทธ
ไมจร คือลัทธิสตู ายแบบบาบิ่น"

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

คาแหงคุณธรรม (ตอนที่ 27)

การหาเสียงของโจโฉ สามารถเกลี้ยกลอมตันกงเจาเมืองจงพวนใหปลอยตัวออกจากการจองจํา แลวทิ้งเมือง


จงพวนยอมติดตามโจโฉไปในครั้งนี้ นับเปนความสําเร็จครั้งยิง่ ใหญของโจโฉ เพราะไมเพียงแตจะรอดตัวจาก
เงื้อมมือของทรราชตั๋งโตะเทานั้น ยังไดคนระดับเจาเมืองเปนพวกไปทําการใหญอีกคนหนึ่ง โจโฉจึงคอยๆ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 61

มั่นใจในลีลาและวิธีการพูดหาเสียงจูงใจคน ทั้งสามารถสรุปไวมั่นในใจวาเมื่อใดที่ไดเสนอเข็มมุงทางการเมือง
ที่ถูกตองสอดคลองกับความปรารถนาอันรอนแรงของมหาชนแลว ชักจูงหวานลอมดวยความมีฐานะขุนนางเกา
ถึงสามชั่วคนหนึ่ง ความ จงรักภักดีกตัญูรคู ุณแผนดินหนึง่ ความเสียสละเพื่อจะทํานุบาํ รุง ราษฎรหนึ่ง และ
ความกลาหาญไมกลัวยากลําบาก ไมกลัวตายอีกหนึ่งแลว เมื่อนั้นผูคนยอมคลอยตาม และเมื่อนั้นยอมไดมา
ซึ่งความศรัทธาเลื่อมใส ความปลงใจเชื่อมั่น ความสนับสนุนชวยเหลือ แมแตการยอมตัวติดตามดังกรณี ของ
ตันกงนี้

หากจะเปรียบเอาการทีต ่ ั๋งโตะใชมาเซ็กเทา และทองคําอัญมณี มีคาซื้อตัวลิโปวาเปนการซื้อขายคนแบบเลว


ทรามต่ําชาที่สด
ุ ก็ยอมเปรียบไดวาวิธีการของโจโฉนี้ก็เปนการซื้อคนอีกชนิดหนึ่งคือซื้อดวย อุดมการณเพื่อ
กอบกูบานเมือง ซึ่งเปนการซื้อคนทีส ่ ูงสงกวาแบบของตั๋งโตะมากมายนัก ดังนี้แลวคนเราจึงคลายกับสินคาที่
อาจถูกซื้อหาไดทั้งสิ้น ขึ้นอยูแตเพียงวาจะเปนการซื้อขายกันดวยจิตใจทีช
่ ั่วชาเลวทราม หรือ ดวยจิตใจที่
งดงามสูงสงแหงอุดมการณเทานั้น

โจโฉและตันกงออกจากเมืองจงพวนแลว เรงรีบหนีภย ั จากเงือ


้ ม มือทรราชตั๋งโตะทั้งกลางวันและกลางคืน มุง
หนากลับบานเดิมหาบิดา ขี่มา มาไดสามวัน เพลาเย็นถึงตําบลอันเปนบานของแปะเฉีย ซึ่งเปน เกลอเกาของ
บิดาโจโฉ โจโฉจึงชวนตันกงใหพักคางคืนทีบ ่ านแปะเฉียเสียคราหนึ่งกอน เพราะเดินทางมาลานัก ระยะทาง
หนีก็หางเมืองมากแลว ไกลหูไกลตาเจาหนาที่ พอจะเชื่อวามีความปลอดภัย ทั้งจะไดสอบถามขาวคราว
เหตุการณบานเมืองใหทันตอสถานการณไปดวย ตันกงฟงแลวก็เห็นดวย ดังนั้นสองผูพเนจรจึงพากันไปที่บาน
แปะเฉีย ถามหาแปะเฉีย พบหนากันแลวแปะเฉียจึงบอกโจโฉวาบัดนี้มีประกาศจากเมืองหลวงสงถึงหัวเมือง
ตางๆ ใหจับตัวทาน แลวสงเขาเมืองหลวงดวยขอหาวาเปนกบฏตอแผนดิน

โจโกบิดาของเจาเกรงราชภัย จึงหนีออกไปอยูเมืองตันลิวแลว เวลานีใ้ กลค่ําใหเจาพักคางคืนที่บานเราเสีย


ราตรีหนึ่งกอน รุงเชาแลวจึงคอยออกเดินทางโจโฉดีใจที่ไดทราบขาวคราวจากแปะเฉีย จึงเลาเหตุการณที่
เกิดขึ้นทั้งสิ้นใหแปะเฉียฟงแลวแนะนําตันกงวาเปนเจาเมืองจงพวน มีใจชังทรราชตั๋งโตะ คิดถึงคุณแผนดิน จึง
หนีออกจากเมืองจงพวน มาดวยกัน เพื่อทําการตามรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเต ประสานงานใหหัวเมืองตางๆ ยก
กองทัพเขาเมืองหลวงกําจัดตั๋งโตะเสีย แปะเฉียฟงแลวก็ขอบคุณตันกงที่ไดชวยโจโฉใหรอดตายมาได และ
ยินดีที่สองผูพเนจรจะไดทาํ การตามรับสั่ง แลวเดินเขาไปในครัวครูห
 นึ่งจึงออกมาบอกแกโจโฉวาวันนี้เราจะ
เลี้ยงดูพวกเจาใหเต็มที่ แตไมมีสุราอยางดีควรแกคนระดับเจาเมือง จะขอเดินทางไปตลาดสักครูใหญ วาแลว
แปะเฉียก็ออกจากบานไป

โจโฉ ตันกง นั่งรออยูในบานแปะเฉียพักใหญ ไดยินเสียง คนลับมีดที่หลังบาน โจโฉและตันกงสงสัยยองเขา


ไปแอบฟงทีฝ ่ าหลังบานไดยินเสียงคนหลายคนพูดกันแตเบาๆ วาจับมัดแลว ฆาเลยดีกวาโจโฉตกใจคลายกับ
วัวสันหลังหวะ เห็นอีกาบินอยูบนฟา ก็เกรงวาจะจิกแผลตน จึงจูงมือตันกงถอยกลับมาที่ในหองแลววาแปะเฉีย
เปนเพียงเกลอเกาของบิดาเรา บัดนี้บิดาเราก็หนีไปอยูเมืองตันลิวแลว จึงสิ้นความผูกพันตอตัวเรา ละไมตรี
เสีย บัดนี้เราตองขอหาฉกรรจ มีรางวัลคาตัวแรงนัก แปะเฉียคงมีใจละโมบใครไดความชอบ จึงติดตอพรรค
พวกใหจับพวกเราใหแกทรราชตั๋งโตะ สวนตัวแปะเฉียคงจะเดินทางเขาไปในเมืองสงขาวใหทางการมาคุมเอา
ตัวเราทั้งสอง เราจะตองสังหารคนพวกนี้เสียกอน จะไดไมมผี ูใดรูเห็นติดตามเราอีกตอไป

ตันกงฟงโจโฉแลวจึงวาเราเปนคนไกล ไมรูใจแปะเฉียจึงยังประมาณการอะไรไมไดกอน โจโฉจึงวาแมนละ


พวกเขาไวเราตองตาย จําตองเอาชีวิตเรารอดไวกอน วาแลวก็ชักกระบี่วิ่งไปทางหลังบาน สังหารบุตร ภรรยา
แปะเฉียและคนในบานตายสิน ้ นับศพไดถึงแปดศพ ตันกงวิง่ ตามโจโฉออกมา เห็นโจโฉใชกระบีส ่ ังหารผูค
 น
หมดทั้งบานก็ตกใจ เหลียวไปที่ในเลาหมูเห็นหมูถูกเชือกมัดอยู และเห็น คนผูห  นึ่งถูกกระบี่โจโฉฟนตายอยู
ขางหินลับมีด มีปงตอตกอยูขา งๆ ตันกงพินิจเหตุการณดูแลวจึงวาแกโจโฉวาทานดวนแกความคิด สําคัญผิด
สังหารผูค นไปถึงแปดคนความจริงคนเหลานีเ้ ตรียมที่จะฆาหมูเพื่อเลี้ยงดูพวกเราตามคําสั่งของแปะเฉีย
ตางหาก โจโฉไดยินคําตันกง แลวมองไปรอบตัวเห็นเหตุการณประจักษ แกตา ไดคิดก็ตกใจ เพราะไดลงมือ
ฆาคนถึงแปดคน เร็วเกินไปโดย ไมไดพิจารณาไตรตรองใหรอบคอบเสียกอน แตเมื่อเห็นเหตุการณลว งมา
เพียงนี้แลว แกไขกลับคืนไมได โจโฉจึงวาเราเห็นจะอยูท
 ี่นต
ี่ อไปไมได เพราะเมื่อแปะเฉียกลับมาถึงบาน เห็น
บุตร ภรรยา และ คนในบานถูกสังหารจนหมดสิ้น คงจะทํารายเราเปนแน

วาแลวก็ชวนตันกงขึ้นมาขี่ออกจากบานแปะเฉียไป พักหนึง่ ก็สวนเขากับแปะเฉียเดินจูงลามุงหนาจะกลับบาน


บนหลังลาบรรทุก สุราและผลไม แปะเฉียเห็นโจโฉกับตันกงก็สงสัย จึงถามวาเหตุใด จึงดวนรีบเดินทาง เรา
ไดซื้อหาสุราอยางดีพรอมผลไมมาเลี้ยงดูพวกเจา ทั้งที่บา นก็ไดฆาหมูตวั หนึ่ง จะไดอิ่มหนําสําราญกันให

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 62

เต็มที่ โจโฉจึงวาขาพเจาตองขอหากบฏตอแผนดิน พักอยูนานไมได อันตรายจะมาถึงตัว ทั้งจะเปนภัยแกตัว


ทานใหไดรับความเดือดรอน ดวย แลวโจโฉ ตันกง ก็ขบั มาผานแปะเฉียโดยทีแ
่ ปะเฉียยังไมทันไดกลาวความ
สืบไป

โจโฉ ตันกง ขีม่ าผานแปะเฉียไปไดหนอยหนึง่ โจโฉไดรั้ง มาใหหยุด แลวขับมากลับตามทางเดิม แปะเฉียได


ยินเสียงมาก็ หันกลับมาดู โจโฉเอามือชี้ไปขางหนาพรอมกับรองบอกแปะเฉียวา "ดูนั่นสิ" พอแปะเฉียหันหนา
กลับไปดู โจโฉก็ใชกระบีฟ ่ นแปะเฉียถึง แกความตาย ณ ที่นน ั้ ตันกงเห็นโจโฉชักมากลับ จึงหยุดมาแลวหันไป
ดู เห็นโจโฉฆาแปะเฉียก็ตกใจเปนอันมาก แลววาแกโจโฉวาเมื่อครูนท ี้ านไวแกความคิด สังหารบุตร ภรรยา
และคนในบานแปะเฉียถึงแปดคน โดย ที่คนเหลานั้นหาความผิดใดมิได ทานทําความผิดนัก ไมทันไรก็มาทํา
ความผิดซ้ําสังหารแปะเฉียอีกคนหนึ่ง ทานนี้เปนคนอกตัญู ใจ บาป หยาบชาโดยแท

โจโฉจึงวาเมื่อครูนี้ขาพเจาสังหารคนไรความผิดไปถึงแปดคน เปนความผิดมหันตอยูแลว แตจะแกไขใหฟน


คืนก็ไมได ครั้นจะละแปะเฉียไวเมื่อกลับถึงบาน แปะเฉียยอมรูค  วามผิดเรา แลวคงจะแจงทางราชการให
ติดตามจับกุมตัวเราใหตองรับโทษถึงสองสถาน เราจะไมพนความตาย การใหญที่คด ิ ไวก็จะเสียการไป ดังนั้น
เราจึงจําตองสังหารแปะเฉียเสียกอนจะไดไมมีผูใดลวงรูความผิดและความเคลื่อนไหวของเรา แลวโจโฉจึงวา
กลาวปลอบใจตันกงวา อันวิสย ั พยัคฆาเขาปาใหญ จะกังวลไปไยกับการทีก
่ ิ่งไมใบหญาในทางผานตองลมราบ
ลง ปาใหญยอมไมไรซึ่งกิ่งไมใบหญา แผนดินนี้มีผูคนมากมาย ตายเสียแปดเกาคน ฝนฟาก็ยังคงตกตองตาม
ฤดูกาลอยูนั่นเอง กังวลใจไปทําไมกัน

ตันกงจึงวาแกโจโฉวา ทานเปนคนใจโฉด ไรคุณธรรม คิดผิด แลวฆาบุตรภรรยาและคนในบานเขาแลว ยังจง


ใจทําผิดซ้ําสองอีก หา ใชคนกตัญูรูคุณคนไม โจโฉจึงวาทานพูดมาทั้งนีฟ ้ งเขาทีก็แตโดยผิวเผิน "ธรรมดา
เกิด มาทุกวันนี้ยอมรักษาตัวมิใหผูอื่นคิดรายได เราจึงทําการทั้งนี้" นี่คอ
ื ความคิดจิตใจอันเปนเนื้อตัวแทจริง
ของโจโฉ ทีค ่ ดิ วาเกิดมาแลวตองเอาตัวใหรอดไดเทานั้น คุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม หามีคุณคาใดอันควร
คํานึงไม ดังนัน
้ เมื่อจะเอาตัวรอดรักษาชีวต ิ ไว แลวถึงจะตองฆาฟนผูคนที่ไรความผิด หรือทําชั่วชาสารเลว
อยางไรก็ไมตองคํานึงถึง

นักอานสามกกมักจะขนานนามโจโฉวา "โจโฉผูไมยอมใหโลก ทรยศ" นั่นเปนความสําเร็จจากพลังและแรงคม


แหงปากกาของยาขอบ บรมครูผูเปนอมตะแหงวงวรรณกรรม แตแทจริงแลวโลกหาไดทรยศตอโจโฉหรือผูใด
ไม กรณีเปนเรื่องของการตีราคาคาตน เองเหนือกวาสิ่งใด เพียงเพื่อขอใหเอาชีวิตรอดก็พรอมที่จะทําบาปชั่ว
ไดทุกอยาง หมอมราชวงศ คึกฤทธิ์ ปราโมช ปราชญใหญของประเทศไทย และบรมครูทางวรรณกรรมอีกทาน
หนึ่งไดแกตางใหกับโจโฉ ในเรื่อง นี้ไวในสามกกฉบับนายทุนวา การทั้งนี้เปนเพราะคนเขียนหนังสือสามกก
เปนพวกเลาป และเปนฝายตรงกันขามกับโจโฉ เห็นทางใดที่จะเขียนเหยียบย่ําซ้ําเติมโจโฉได ก็แกลงเขียน
ใหเห็นเปนวาโจโฉไมใชคนดี และยังแกตางใหตอไปวาแปะเฉียรูดีวามีประกาศของทางราชการ ใหจับตัวโจโฉ
และทางการจะเอาผิดกับผูค  บคิดปกปดใหทห ี่ ลบซอนในฐานรวมกบฏตอแผนดิน แตเหตุใดคนบานนอกอยาง
แปะเฉียไมกลัวอาญาแผนดิน กลารับโจโฉไวในบาน กรณีจงึ นาสงสัยวาแปะเฉีย จะวางแผนกับพรรคพวกเพื่อ
จะจับโจโฉสงใหแกทางราชการ โจโฉจึงชอบที่จะปองกันตัว

หมอมราชวงศ คึกฤทธิ์ ปราโมช ไดแกตางใหกับโจโฉดวยวาแมหากแปะเฉียจะไมคิดรายตอโจโฉก็ยังตองถือ


วาการกระทําของโจโฉเกิดแตความจําเปน ตองรักษาตัวรอด เพื่อรับใชการใหญของแผนดินตอไป ขอแกตางนี้
กลายเปนแบบอยางใหนักการเมืองถือเปนแบบฉบับในการพูดจาทางการเมืองในชั้นหลังและไดทําใหสามกก
ฉบับนาย ทุนอานแลวสนุก และมีเหตุผลแบบประหลาด อันควรแกความสนใจเหตุผลแบบนี้พระบาทสมเด็จ
พระมหาธีรราชเจา รัชกาลที่ 6 ทรง แสดงเปนเชิงประชดประชันไวในธรรมาธรรมะสงคราม เปนคําสอนของ
อธรรมเทวบุตร ใหเหตุผลในการปลนเขาวาควรอยางไรวา

"ยามจนจะทนยาก จะลําบากไปไยมี
พึงปองขาวของดี ณ ผูอื่นอันเก็บงํา"

ตันกงฟงคําโจโฉแลว เห็นวาจะตอปากตอคําตอไปก็ไรประโยชน จึงนิ่งเสียแลวพากันเดินทางตอไป ถึงศาล


เจารางแหงหนึง่ จึงแวะเขาพักคางคืน โจโฉเหนื่อยนักจึงหลับไปกอน ตันกงในยามสงัด เสียงใบไมหวีดหวิว
วังเวงก็หวนรําลึกถึงเหตุการณที่เกิดขึ้นแลวเสียใจนักที่หลงเชื่อคนแบบโจโฉ สูอุตสาหละทิ้งยศศักดิอ
์ ัครฐาน
และบริวารติดตามโจโฉมาหวังทําการใหญ กําจัดทรราชตั๋งโตะ ทํานุบํารุงแผนดินและราษฎร ไมทันไรก็
ประจักษความชัดแลววาโจโฉหาใชคนมีคุณธรรมที่จะทําใหบา นเมืองรมเย็นเปน สุขไม หากเปนคนใจบาปเห็น
แกตัว ซึ่งอาจจะรายเทาๆ กับตั๋งโตะก็ได คนแบบนี้เปนคนพาล ไมควรที่เราจะเสวนาดวยอีกตอไป และเพื่อ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 63

ไมใหเปนภัยตอผูคนในภายหนา เราจําจะฆาโจโฉเสีย ในค่าํ นี้ คิดแลวก็ชก


ั กระบี่เดินเขาไปหาโจโฉที่หลับอยู
ขณะนั้นใจพลันคิดวาหากเราฆาโจโฉ เราเองก็จะเปนคนบาปแบบเดียวกับโจโฉ เปนความผิดของเราเองที่หลง
ชอบเชื่อใจเขา มาบัดนี้เมื่อสิน
้ ที่ชอบและหลงนับถือแลว เราควรจะปลีกตัวหนีไปใหไกลเสียจะดีกวา คิดดังนี้
แลวตันกงก็เก็บสัมภาระของตนขึ้นมาขับหนีโจโฉไปอยูท ี่เมืองตองกุนในราตรีนั้น

ตันกงหนีโจโฉเพราะเห็นวาโจโฉเปนคนไรคณ ุ ธรรม ขาดความ กตัญู ไมรูคุณคน ในขณะที่โจโฉก็กําลังหนี


แตเปนการหนีเพื่อเอาชีวิตรอด และไดทําหรือพรอมจะทําทุกอยางโดยไมตองคํานึงถึงคุณธรรม ศีลธรรม
จริยธรรม ขอเพียงใหมช ี ีวิตรอดก็เปนพอ การหนีของทั้งสองคนนี้ แมวาจะเปนการหนีอยางเดียวกัน แตตางกัน
ดวยคาแหงคุณธรรมฉะนี้

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ชูธงธรรม กําจัดทรราช (ตอนที่ 28)

โจโฉซึ่งหลับไปตั้งแตหัวค่ํา ตื่นขึ้นในเพลาใกลรุงไมเห็นตันกง เดินดูทวั่ ศาลเจารางก็ไมพบตัว คาดคะเนวาตัน


กงไมพอใจเกี่ยวกับเหตุการณที่เกิดขึ้นจึงหลบหนีไป คิดระแวงแตจะเอาชีวิตรอดดั่งนีแ ้ ลว เห็นวาจะอยูที่นี่
ตอไปจะเปนอันตราย ดวยตันกงอาจไปแจงขาวใหทางการมาจับกุมในตอน เชา จําจะตองรีบไปเสียตั้งแตเพลา
ใกลรุงนี้

โจโฉเก็บสัมภาระแลวขึ้นมา รีบขี่ไปเมืองตันลิวตั้งแตเวลานัน
้ ถึงเมืองตันลิวแลวสอบถามหาบานโจโกจนพบ
แลวเขาไปหาบิดา เลาความแตหลังใหฟงทั้งสิ้นแลววา ขาพเจาหนีมาหาบิดาทานในครั้งนี้ เพื่อจะขอทรัพยสิน
เงินทองไปทําการใหญกอบกูแผนดิน โดยจะนําไปใชเปนคาใชจา ยในการซองสุมผูคนและจัดหาอาวุธ
ยุทโธปกรณ พรอม แลวจะไดอางเอารับสัง่ พระเจาเหี้ยนเตประสานงานใหหัวเมืองตางๆ ยก กองทัพเขาไป
เมืองหลวงจับทรราชตั๋งโตะฆาเสีย

โจโกจึงวาที่เจาคิดทําการดั่งนี้ชอบใจเราแลว แตทรัพยสินเงินทองของเรามีนอยไมพอแกการซึ่งคิดจะทํา ใน
เมืองนี้มีมหาเศรษฐีอยูผ  ูหนึ่งชือ
่ อุยหอง เปนคนจงรักภักดีในราชวงศฮั่น มีน้ําใจกตัญูรูคุณบิดามารดาเห็น
ประจักษ ฮองเตจึงพระราชทานปาย เกียรติยศวาเปนบุตรกตัญู คนผูนี้เปนที่เคารพนับถือของคนทั้งปวง เจา
จงไปหาเลาความเหมือนกับทีเ่ ลาแกเรา แลวขอใหอุยหองชวยเหลือ เพื่อแสดงความจงรักภักดีแกราชสํานัก
เถิดโจโฉจึงวาการทั้งนีต ้ องขอพึ่งบารมีบิดาทาน เชิญอุยหองมากิน โตะที่บานเราจะควรแกการกวา เพราะ
สามารถเกลี้ยกลอมไดถนัดปาก ไมตองพะวงคนในบานของอุยหองวาจะนําความไปแจงแกทางราชการ หรือ
ทัดทานเปนอื่นใหเสียการไป

โจโกเห็นดวยกับความคิดของบุตรตนจึงใหเตรียมแตงโตะจัดเลี้ยง แลวใหคนไปเชิญอุยหองมากินโตะทีบ ่ าน


อุยหอง มหาเศรษฐีปายกตัญูพระราชทานมาที่บานโจโกตาม คําเชิญคารวะทักทายปราศรัยกันตามธรรม
เนียมแลว โจโกจึงเชิญอุยหองเขาที่จัดแตงโตะไว แลวแนะนําโจโฉผูบุตรแกอุยหอง โจโฉแสดงความคารวะ
ตามประสาผูนอย ผูใหญ แลวเลาความ ที่ตั๋งโตะจอมทรราชทําหยาบชาตอฮองเต ตอราชสํานัก ตลอดจนขุน
นางแลราษฎรทั้งปวง เปนเหตุใหตัวตองเปนกบฏแลวหลบหนีมา จากนั้นจึงไดหลอกอุยหองวาพระเจาเหี้ยน
เตตรอมพระทัย เพราะทรงเปนหวงใยแผนดินแลราษฎรนัก จึงโปรดใหขาพเจาอัญเชิญรับสั่งเปนการลับ
ประสานงานกับหัวเมืองทั้งปวง ยกกองทัพเขาไปเมืองหลวงกําจัดตั๋งโตะเสีย

แลวกลาวตอไปวา "ขาพเจาคิดจะทํานุบาํ รุงแผนดินและฆาตั๋งโตะเสียใหได แตวากําลังแลทรัพยสินขาพเจา


นอยนัก ขาพเจาจึงหนีมา จะคิดอานเกลี้ยกลอมซองสุมผูคนใหไดมาก แลวจะยกเขาไปทําการลางตั๋งโตะเสีย
บัดนี้ขาพเจารูวา ทานมีทรัพยเปนอันมาก และน้ําใจสัตยซื่อตอแผนดิน ขาพเจาจะขอทรัพยทานไปจัดซือ
้ อาวุธ
แลมาจะไดทําการสืบไป"

อุยหอง มีใจภักดีกตัญูตอพระราชวงศฮั่น ฟงโจโฉแลว สํานึกในอุดมการณก็พลุงขึ้นจึงวาตัวเรานี้มีกตัญูตอ


แผนดินพระเจาฮั่นโกโจ ติดตามขาวสารบานเมืองที่เปนจลาจลวุนวายจากการกระทําของ ทรราชตั๋งโตะมิได
ขาด มีความชิงชังคิดเคียดแคนเปนทุกขรอนแทนฮองเตและคนทั้งปวง คิดจะชวยทํานุบาํ รุงแผนดินอยู แตตัว
เราเปน พอคาวาณิชไมสันทัดการเมือง จึงพยายามหาคนมีสติปญ  ญากลาหาญ เปนหลักนําคนทั้งปวงไปลม
ลางทรราชตั๋งโตะ บัดนี้มาไดยินคําทานจึงมีความยินดีชอบใจนัก ทานอยาไดหวงใยเลย เราจะมอบทุนใหแก
ทานใหทาํ การสําเร็จดังประสงค ราษฎรจะไดเปนสุขถวนหนากัน ใหทานเรงรีบทําการตามความคิดเถิดโจโฉ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 64

และโจโกผูบิดาฟงคําอุยหองแลวดีใจนัก กินโตะปรึกษาในรายละเอียดกันตออีกพักใหญ แลวอุยหองก็ขอตัว


ลากลับบาน

รุงขึ้นโจโฉจึงใหจัดทําธงแขวนสีขาวผืนใหญขึ้นผืนหนึ่ง เขียนอักษรสีดําลงบนผืนธงวา "ตงหงี" ซึ่งแปลวา


"ซื่อสัตยตอแผนดิน จงรักภักดีฮองเต" ซึ่งสามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) แปลวา "ใหคนทั้งปวงมีน้ําใจ
สัตยซื่อตอแผนดิน" นั่นเปนการแปลโดยพยัญชนะ ถาหากจะแปลเอาความหมายของ คําวา "ตงหงี" ใน
สถานการณเชนนั้นก็ตองแปลวา "ทั่วประเทศจงสามัคคีกน ั กําจัดทรราช เทิดทูนฮองเต" โจโฉใหปกธง
"ตงหงี" ผืนนีข ้ ึ้นที่หนาบาน นับเปนการชูธงปฏิวัติของประชาชนขึ้น เพื่อจะลมลางอํานาจทรราชของตั๋งโตะ
โดยยึดเอาความจงรักภักดีตอฮองเตของปวงชนเปนแกนหลักรวมน้ําใจคน นี่คือการเสนอเข็มมุงทางการเมือง
ที่สอดคลองกับความปรารถนาอันรอนแรงของผูคนทั้งแผนดิน

บรรดาชาวเมืองซึ่งเคียดแคนระบอบทรราชอยูเต็มอก เห็นธงปฏิวัตแ ิ ลวจึงเลาขานกันตอไปอยางรวดเร็วแลว


พากันมาเขารวมดวย โจโฉเปนอันมาก แมขาราชการบานนอกไดทราบขาวแลวสอบถามขอมูลเพิ่มเติม ได
ความวาโจโฉกระทําการโดยถือรับสั่งลับของพระเจาเหี้ยนเต และการทีท ่ าํ นั้นก็สอดคลองกับความปรารถนา
ของตน จึงพากันมาเขารวมดวย พรรคคอมมิวนิสตจีนไดสรุปความคิดของเหมาเจอตงเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว ในสรร
นิพนธเหมาเจอตงวา พรรคการเมืองพรรคหนึง่ นั้น ตองอาศัยการเมืองทีถ่ ูกตองไปนําพรรค แนวทางการเมือง
ที่ถูก ตองยอมทําใหไดมาซึ่งดินแดน กองทัพ และอํานาจรัฐ แตถาแนว ทางการเมืองผิดพลาด แมจะครอง
อํานาจรัฐ ดินแดน และกองทัพอยู ก็จะตองสูญสิ้นไป

แนวทางการเมืองของโจโฉทีป ่ รากฏในธงปฏิวัตินั้น ถูกตอง สอด คลองกับสถานการณและความตองการของ


ประชาชน ดังนัน ้ ขบวน การปฏิวัติของโจโฉจึงเติบใหญขึ้นอยางรวดเร็วสองพี่นองตระกูล "แฮหัว" คือแฮหัวตุน
ผูพี่ และแฮหัวเอี๋ยน ผูนอง ชาวเมืองไพกก เปนศิษยมคี รูในเชิงชั้นการสงคราม สองพี่นอง ตระกูล "โจ" ซึ่งแซ
เดียวกับโจโฉคือโจหยินและโจหอง ไดร่ําเรียน เชิงอาวุธมาแตนอย รวมทั้งงักจิ้น ชาวเมืองยงเปง และลิเตียน
ชาวเมืองซัวหยง ซึ่งร่ําเรียนการศึกมาแตกอน และมีน้ําใจชังตั๋งโตะเปน ทุนเดิม ไดทราบขาวการชูธงปฏิวัติ
ของโจโฉ

ณ ทองทุงเมืองตันลิว ตองดวยความคิดตัว จึงพากันมาเขารวมดวยโจโฉ แฮหัวตุน และแฮหัวเอี๋ยนนั้น ได


เกลี้ยกลอมชายฉกรรจบานเดียวกันไดจํานวนพันเศษ พรอมมาและอาวุธครบมือ สองพี่นอ  งโจหยินและโจหอง
ก็ได เกลี้ยกลอมพรรคพวกอีกพันเศษ สวนงักจิ้นและลิเตียนตางก็นําพรรคพวกมา อีกคนละพันเศษ ยกมาเขา
รวมกับโจโฉบรรดาชายฉกรรจในเมืองนั้นและเมืองขางเคียงรูข  าว และเห็นผูคนหลั่งไหลมาเขารวมกับโจโฉก็
ตื่นเตน เลือดหนุมที่เรารอนดวยความภักดีตอ
 แผนดินจึงชวนกันจัดหามาและอาวุธประจํากายแลวพากันมาเขา
ดวยโจโฉเปนอันมาก

อุยหองเห็นธงปฏิวัติมค ี วามเปนที่ตองใจก็เบิกบานยินดี ครั้นเห็นผูค


 นมาเขารวมดวยโจโฉเปนจํานวนมาก ก็
จัดหาเงินทองมอบแกโจโฉสําหรับซื้อมาอาวุธยุทโธปกรณและธงทิวสําหรับกองทัพ ตลอด จนเสบียงกรัง
อยางเต็มที่ ทําใหโจโฉไมตองพะวงหลังดวยเรื่องเหลานี้ โจโฉเห็นผูค นจากทั่วสารทิศมาเขารวมก็มีความยินดี
ยิ่งนัก จึงใหปลูกคายสําหรับทหารขึ้นพรอมกับโรงสําหรับเปนที่วางแผนปรึกษาบัญชาการ แลวจัดแบงพลเปน
หมวดหมูเหมือนกับการจัดกองทัพในเมืองหลวง กําหนดหนาที่นายและพล จัดระเบียบวินัยกองทัพ แลวทํา
การฝกปรือคนเหลานั้นเปนทหารในลักษณะเดียว กันกับทหารประจําการ

โจโฉเองเคยเปนนายพันทหารสารวัตร แหงกองกําลังรักษาพระนคร ไดร่ําเรียนพิชย ั สงคราม และเรียนรูถ


 ึงวิธี
จัดกําลังพลการบัญชาการทหารเปนอยางดี ดังนั้นทุกวันทั้งเชาและเย็น โจโฉจึงไดออกมาเปนประธานในการ
ฝกซอมทหาร ในการจัดกระบวนทัพ และการบัญชาการทางยุทธวิธี แลวถือโอกาสนี้ปลุกระดมทางความคิดให
กําลังพลเขาใจสภาพการณทางการเมือง และความจําเปนที่จะตองจัดตั้งเปนกองทัพเพื่อกําจัดทรราชตั๋งโตะ
ใหจงได

โจโฉอางเหตุผลในการจัดตั้งกองทัพวาเมื่อจะทําการปฏิวต ั ิ ก็ตองจัดตั้งกองทัพปฏิวต
ั ิขึ้นกองทัพหนึ่ง จะมัวแต
รองแรกแหกกระเชอ หรือใชเสียงขางมากยอมไมมีทางลมลางทรราชไดสําเร็จ ซึ่ง บิสมารค ผูนําเยอรมันในยุค
หลังก็ไดกลาวเชนเดียวกันวา ปญหาใหญของแผนดินไมอาจแกไขไดดว ยเสียงขางมาก หากตองแกดวย
เลือดและเหล็ก ซึ่งก็คือความกลาหาญกับปนเทานั้น (The great questions are not decided by speech or
majority vote, but by blood and iron) น้ําใจผูคนจึงพรอมเพรียงสามัคคีกัน ภายใตแนวทางการเมืองที่จะ
กําจัดทรราช เทิดทูนฮองเต ดังนั้นความคิดและความรับรูท  าง การเมืองจึงคอยๆ ถูกหลอหลอมจนเกิดเปน
เอกภาพที่รอนแรงดวยขวัญและกําลังใจสูร บ อันผูนํานั้นมีภารกิจหลักอยูแตเพียงสองประการ คือตองเปนแกน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 65

แหงความสามัคคีของประชาชนอยางหนึ่ง และตองชี้ทศ ิ นําทาง ทีถ่ ูกตองแกประชาชนไปบรรลุถึงอุดมการณ


อันสูงสงอีกอยางหนึ่ง ผูนําคนใดกุมภารกิจสองประการนี้ไดแลวเพียรพยายามปฏิบต ั ิจนมีความเปนเอกภาพทั้ง
กายใจ หรือทีม่ ก
ั ใชเปนสํานวนวา "รวมแรง รวมใจ" แลว ความสําเร็จยอมบังเกิดแกผูนําผูนน
ั้

ในทางตรงกันขาม หากผูนําคนใดไมใสใจกุมภารกิจทั้งสองประการใหเปนผลสําเร็จ หรือมัวแตสาละวนอยูแต


เรื่องเล็ก จูจี้จุกจิก อันไมเปนสาระแลว ยอมประสบความลมเหลว และจักตองสูญเสียฐานะผูนําไปอยางไมตอง
สงสัย โจโฉในวันนี้แมจะถูกอํานาจรัฐทรราชตราหนาวาเปนกบฏตอแผนดิน เปนที่ตองการตัวของทางราชการ
ทั้งหากใครเขารวมชวยเหลือก็จะถูกถือวาเปนกบฏดวยกัน มีโทษถึงประหารทั้งครอบครัวก็ตาม แตขอหาและ
การสรางความกลัวเชนนั้นกลับตองพายแพตอ  พลานุภาพของความถูกตองแหงแนวทางการเมืองอันโจโฉได
จารึกไวในผืนธงปฏิวัตินั้น ดังนี้โจโฉจึงเปนผูน  ําเต็มตัว และมีบทบาทนําที่เดนชัด กลายเปนผูนําในระดับชาติ
ในขณะทีท ่ ั้งซุนเกี๋ยนและเลาปยังคงเปนแคเจาเมืองบานนอกอยูนั่นเอง

ขาวคราวการชูธงปฏิวัติของโจโฉ สะพัดไปทัว่ ประเทศ ยินไปถึง อวนเสีย ้ วเจาเมืองปุดไฮ ซึ่งเปนศัตรูคูอาฆาต


อยูกับตั๋งโตะ ดังนั้น อวนเสีย
้ วซึ่งถึงแมจะชิงชังทรราชสักปานไหน แตหาไดมีแผนการที่เปนรูปธรรมใดๆ ใน
การลมลางอํานาจตั๋งโตะไม จึงไดเชิญบรรดากรมการเจาหนาที่เมืองปุดไฮมาปรึกษาวาเราชอบทีจ ่ ะยกกองทัพ
ไปเขารวมกับโจโฉ จึงจะกําจัดทรราชตั๋งโตะไดสําเร็จ นี่คอ ื ความคิดของคนระดับเจาเมืองที่มีทุกอยางพรอม
อยูในมือ หากแตขาดสติปญ  ญาและความเปนผูนํา จึงไดแตคด ิ เพียงแคติดตามคนอื่นเทานัน้

กรมการเจาหนาที่เมืองปุดไฮประชุมปรึกษาหารือกันแลว เห็นชอบ กับความคิดของอวนเสี้ยว ดังนั้นอวนเสี้ยว


จึงสั่งใหจัดกองทัพพลสามหมืน ่ นําทัพเคลื่อนออกจากเมืองปุดไฮไปสมทบดวยโจโฉถึงที่อันโจโฉตัง้ คาย
ทหารอยูแลว อวนเสี้ยวจึงใหปลงทัพไวตงั้ คายตามกระบวนศึกแลวจึงออกไปหาโจโฉ สวนโจโฉทราบขาว
อวนเสี้ยวยกกองทัพมาสมทบก็มีความยินดียงิ่ นัก เพราะเคยรูจักคุนเคยกันมาแตครั้งอยูด  วยกันกับโฮจิ๋น ทัง้ ยัง
เปนเชื้อสายขุนนางเกาถึงสีช ่ ั่วคน การมาเขารวมของอวนเสีย ้ วจะกอเกิดแบบอยางใหหัวเมืองตางๆ มาเขารวม
ไดโดยงาย การทีค ่ ิดไวก็จะเบาแรงลง ครั้นรูวา อวนเสี้ยวมาพบ โจโฉจึงรีบออกนอกคายมาตอนรับ โจโฉ อวน
เสี้ยว คารวะกันตามธรรมเนียมแลว โจโฉจึงเชิญอวนเสีย ้ ว เขาไปปรึกษาหารือกันภายในคายของโจโฉ

ธงปฏิวัตส
ิ ะบัดโบกพลิ้วเหนือทองทุงเมืองตันลิว ทามกลางเสียงกึกกองกัมปนาทอันเกิดแตการฝกทหาร การ
จัดกระบวนทัพ และการฝกฝนทางยุทธวิธี ทั้งจากคายโจโฉและจากคายของอวนเสี้ยว ประกอบเขากับธงทิว
ปลิวไสวเปนทีต่ ื่นตาตื่นใจของผูคน ปลุกเรากําลังขวัญกําลังใจของทหารทั้งสองทัพและผูคนใหแกรงกลาคึก
คะนอง ไมกลัวยากลําบาก ไมกลัวตายอีกตอไป

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

เคลื่อนทัพปฏิวัติสูลกเอี๋ยง (ตอนที่ 29)

โจโฉพาอวนเสีย้ ว เดินเขามาภายในคายของตน แลวขึ้นไปยังโรงสําหรับปรึกษาและบัญชาการ ทักทาย


ปราศรัยกันถึงความเกา ครั้งอยูดวยกับโฮจิน
๋ และบัดนี้ตอ
 งออกจากเมืองหลวงเพราะตางก็เปนศัตรูคูอาฆาต
ของจอมทรราชตั๋งโตะ มีผลประโยชนรวมกันคือตองลางตั๋งโตะใหสิ้น จึงจะปลอดภัยจากเงื้อมมือของทรราช
ได

ณ บัดนี้ทั้งโจโฉและอวนเสี้ยวตางก็มีกองทัพของตนอยูในมือ และประกาศตัวเปนฝายปฏิวัติโดยชัดแจงแลว
ในขณะที่ซุนเกีย๋ น เลาป แมวาจะเปนเจาเมืองและมีกองทัพอยูในมือดุจกัน แตทั้งซุนเกี๋ยนและเลาปยังมิได
ประกาศตัวเปนฝายปฏิวต ั ิ สถานภาพทางกฎหมายจึงถือไดวายังเปนเจาเมืองที่ขึ้นตอเมืองหลวงภายใตกรง
เล็บปศาจของตั๋งโตะอยู หลังจากโจโฉ อวนเสี้ยว ไดทักทายปรารภความหลังกันตามควรแลว อวนเสีย ้ วจึงวา
กับโจโฉวา ทานประกาศตัวตอตานตั๋งโตะเชนนี้ตองดวยใจเรา ดังนั้นเราจึงยกทหารมารวมทําการดวยทาน
แลวสังหารตั๋งโตะเสียใหจงได ทานจะคิดอานแผนการประการใด จงปรึกษาพรอมกันเถิดโจโฉจึงวา กําลัง
กองทัพของเราทั้งสองยังนอยนัก เทียบไมไดกับกองทัพในอํานาจของตัง๋ โตะ และตั๋งโตะอาจแอบอางเอา
หมายรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตใหเรียกกองทัพหัวเมืองมารุมโจมตีพวกเรา เหมือนเมื่อครั้งปราบโจรโพก
ผาเหลืองในแผนดินพระเจาเลนเต แลววา "บัดนี้เราสิจะทําการใหญ จําจะแตงเปนหนังสือรับสั่งลอบไปเกลี้ย
กลอมหัวเมืองทั้งปวง"

ความคิดของโจโฉทั้งนี้เปนไปตามแผนการเดิม คือแอบอางรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเต ใหหัวเมืองตางๆ ยกเขา


เมืองหลวงจับตัง๋ โตะสังหารเสีย ในขณะเดียวกันแผนการนีจ
้ ะทําใหหัวเมืองตางๆ ตอง ประกาศตนเปนปฏิปกษ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 66

กับอํานาจรัฐของตั๋งโตะโดยตรงเหมือนกับตัว ชิงกําลังหัวเมืองมาอยูฝายตัวและตัดกําลังของฝายเมืองหลวง
ไปดวย แผนการนี้คลายกับแผนการที่อวนเสีย ้ วเคยเสนอใหโฮจิ๋นเรียก กองทัพหัวเมืองเขาเมืองหลวง เพื่อจับ
สิบขันทีสังหารเสียนั่นเอง เปน แตวตั ถุประสงคของแผนการแตกตางกัน ดังนั้นทั้งๆ ที่แผนการอยาง เดียวกันนี้
ครั้งหนึ่งตองถือวาเปนแผนการที่โงบดั ซบ มาครั้งนีภ
้ ายใตวัตถุประสงคทแ
ี่ ตกตางกัน นั้นกลับเปนแผนการที่
เลิศทีส
่ ุด และเสนอขึ้นโดยโจโฉ ทั้งๆ ที่โจโฉเคยคัดคานแผนการเชนนี้ในสมัยนั้น อวนเสี้ยว ฟงแผนการ
ของโจโฉแลวเห็นชอบดวย เพราะเปน แผนการเดียวกับทีต ่ ัวเคยเสนอมากอนตั้งแตครั้งโฮจิ๋น เปนแตวาอวน
เสี้ยวหาไดเขาใจความแตกตางของภารกิจ และเปาหมายทีต ่ าง กันของแผนการทั้งสองคราวนี้ไม

โจโฉจึงเสนอลึกลงไปในรายละเอียดวา เนื่องจากแผนการนี้อิงอยูกับการแอบอางรับสั่งของพระเจาเหีย
้ นเต
ดังนั้นในการปฏิบัติจึงจําตองจํากัดวงใหแคบ แตใหไดผลมาก คือใหเรียกเอาเฉพาะกองทัพจากหัวเมืองเอก
สิบหกหัวเมืองเทานั้น ทั้งตองทําการโดยลับและรวดเร็ว มิฉะนั้นหากขาวแพรงพรายไปถึงตั๋งโตะก็จะคิดอาน
แกไข จัดทําเปนพระบรมราชโองการของพระเจาเหี้ยนเต มีไปถึงหัวเมืองตางๆ หามกองทัพหัวเมืองเหลานั้น
เสียการก็จะไมสมความคิด

โจโฉไดเสนอทั้งแผนการและวิธีปฏิบัติ ตลอดจนกลยุทธในการ ปฏิบัติตามแผนอยางครบครัน แสดงออกถึง


ความเปนนักยุทธศาสตร ซึ่งอวนเสี้ยวฟงแลวก็เห็นดวยกับโจโฉ ดังนั้นโจโฉ อวนเสี้ยว จึงแตงเปนหมายรับสั่ง
ของพระเจาเหีย ้ น เตถึงเจาเมืองหัวเมืองเอกทั้งสิบหกหัวเมืองวา "ทุกวันนีข
้ ุนนางผูใหญผน
ู อยแลอาณาประชา
ราษฎรไดความเดือดรอนเพราะตั๋งโตะ เปนขบถ ฆานางโฮเฮากับหองจูเปยนเสีย ยกใหเราเปนเจาแผนดิน
เหมือนเจว็ด ตัง้ ตัวมันเปนมหาอุปราช ราชการเมืองทั้งปวงสิทธิอยูแกตั๋งโตะสิ้น แลโจโฉมีกตัญูตอแผนดิน
สาบานตัวตอหนาที่นั่งวาจะอาสาลางตั๋งโตะเสียใหได เราจึงใหโจโฉออกไปประกาศหัวเมือง ทั้งปวง ถาผูใดมี
ใจสัตยซื่อตอแผนดิน ก็ใหเขาคิดอานกับโจโฉ แลว ยกเขามาลางตั๋งโตะซึ่งเปนศัตรูราชสมบัติเสียจงได"

สามกกฉบับสมบูรณระบุวา หนังสือนี้เปนหนังสือของโจโฉโดยตรง เปนแตไดอางพระราชโองการลับของพระ


เจาเหี้ยนเต ใหหัวเมือง ตางๆ ยกกองทัพเขาเมืองหลวงกําจัดตั๋งโตะ ซึ่งดูแลวไมสมดวยเหตุผล เพราะโจโฉ
เปนขุนนางผูนอ ย ทั้งตองขอหากบฏตอแผนดิน จะทําเปนหนังสือของโจโฉเองนั้นใครจะเชื่อถือปฏิบต ั ิ และถา
เปนหนังสือของโจโฉโดยตรงก็ไมจําเปนตองเรียกเอาเฉพาะกองทัพจากสิบหกหัวเมือง ยอมเรียกเอาจากทุกๆ
หัวเมืองโดยเปดเผยไดไมจําเปนตองลอบกระทําการ

ดังนั้น กรณีเห็นจะสมกับ สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) มากกวาจัดทําหมายรับสั่งเสร็จแลว โจโฉ อวน


เสี้ยว จึงใหทหารลอบนํา หมายรับสั่งนั้นไปมอบใหแกเจาเมืองทั้งสิบหกหัวเมือง และขอใหยกกองทัพมา
พรอมกัน ณ ทองทุงเมืองตันลิว อันเปนทีต ่ ั้งคายโจโฉ อวนเสี้ยว เจาเมืองหัวเมืองเอกทั้งสิบหกหัวเมืองคือ
อวนสุด เจาเมืองลําหยง, ตันฮก เจาเมืองกิจิ๋ว, ขงมอ เจาเมืองเซียงจิ๋ว, เลาตาย เจา เมืองอิวจิ๋ว, อองของ เจา
เมืองโหลาย, เตียวเมา เจาเมืองตันลิว, เตียวโป เจาเมืองตองกุน, อวนอุย เจาเมืองซุนหยง, เปาสิ้น เจาเมือง
เจปก, ขงเลง เจาเมืองปกไฮ, เตียวเถียว เจาเมืองกองเลง, โตเกี๋ยม เจาเมืองซีจิ๋ว, มาเทง เจาเมืองเสเหลียง,
เตียนเอี๋ยง เจาเมืองเสียงตง, ซุนเกี๋ยน เจาเมืองเตียงสา และกองซุนจาน เจาเมือง ปกเปง เตียวโป เจาเมือง
ตองกุน และเปาสิ้น เจาเมืองเจปก เปนคน ละคนกับเตียวโป ที่เปนโจรโพกผาเหลือง และเปนคนละคนกับเปา
สิ้น ขุนนางทีไ ่ มพอใจขุนนางดวยกัน เนื่องจากเห็นวามีแตพวก ขี้ขลาดตาขาวแลวหนีไปอยูที่ภูเขาไทซาน
เปนแตชื่อซ้ํากันเทานั้น

เจาเมืองทั้งสิบหกหัวเมือง ไดรับหมายรับสัง่ ปลอมของโจโฉ อวนเสี้ยวแลว ก็เชื่อตาม เพราะไมสามารถใช


โทรศัพทมือถือหรือเครื่อง มือสื่อสารที่ทันสมัยตรวจสอบขอเท็จจริงได และเนื้อความตามหมาย รับสั่งก็ตรงกัน
กับที่ไดทราบขาวคราวมาแตกอ  น ทั้งสอดคลองกับความคิดที่เคียดแคนชิงชังทรราชตั๋งโตะอยูเปนทุน ดังนั้น
จึงตางยกทัพ "เมืองละหมื่นหนึ่งบาง สองหมื่นบาง สามหมื่นบาง" ไปพรอมกันที่ทองทุงเมืองตันลิว ขาดแต
กองทัพกองซุนจาน เจาเมืองปกเปงเทานั้น

โจโฉ อวนเสีย ้ ว เห็นกองทัพสิบหาหัวเมืองยกมาพรอมกันเปน จํานวนมากก็มีความยินดีนัก ปรึกษาพรอมกัน


แลวจึงเคลื่อนทัพทั้งปวงออกจากทองทุงเมืองตันลิว ยกไปเมืองลกเอี๋ยงราชธานี ถึงชายแดนเมืองลกเอี๋ยงก็
ใหปลงทัพตั้งคายมั่นไว เตรียมบุกโจมตีเขายึดเมืองหลวงตอไป

ฝายกองซุนจาน เจาเมืองปกเปง ไดรับหมายรับสั่งแลวจัดทหาร ไดหมื่นหาพันคนเศษ แลวยกไปตามหมาย


รับสั่งนั้น แตเนื่องจากเมืองปกเปงในขณะนั้น หรือกรุงปกกิ่งในขณะนี้เปนเมืองไกลสุดเกือบชายแดนของ
ราชอาณาจักรฮัน ่ ใชเวลาเดินทัพนานกวากอง ทัพของเจาเมืองอื่น กองทัพกองซุนจานจึงลาชาอยู เสนทาง
เดินทัพของกองซุนจาน จากเมืองปกเปงไปยังทองทุงเมืองตันลิวจะตองผานเมืองเพงงวนกวน ซึ่งเลาปเปน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 67

เจาเมืองอยู แตเลาปมิไดรับหมายรับสั่ง เพราะมิใชเปนหัวเมืองเอก จึงมิไดยกทัพไปดวย ครั้นเลาปได ขาววา


กองทัพกองซุนจาน ศิษยสํานักเดียว กันเคลือ ่ นทัพผานมาทางเมืองเพงงวนกวนก็มีความยินดีที่จะไดพบสหาย
เกา จึงพากวนอู เตียวหุย และทหารหารอยคนยกออกไปตอน รับกองซุนจานถึงนอกเมือง กองซุนจาน เห็น
กองทหารเคลื่อนมาขางหนา มีธงเหลืองประจําตัวนายทัพ บงบอกชื่อเลาปแลวดีใจนัก ปะหนากันแลว ทัง้ กอง
ซุนจานและเลาปตางรีบลงจากหลังมา วิ่งเขามาหาแลวกอดกันดวยความดีใจ

กองซุนจาน เห็นกวนอู เตียวหุย ลงมาตามเลาปเขามา มีบุคลิกลักษณะ สงานาเกรงขาม สมเปนทหารเอก จึง


ถามเลาปวาทหาร สองคนที่ตามทานมาดวยนี้เปนผูใด เลาปตอบวา สองคนนี้คือนองรวมสาบานของขาพเจา
คนสูงใหญหนาแดงหนวดยาว ถืองาวนั้นคือกวนอู อีกคนหนึ่งสูงใหญหนาดํา เคราดก ทาทางดุดัน ถือทวนนั้น
คือเตียวหุย ทัง้ สองคนนี้ยังมิไดรับยศตําแหนงใดๆ ทางทหาร เปนแคทหารเลวถือเกาทัณฑนําหนามาของ
ขาพเจาเทานั้น วาแลวก็แนะนําใหกวนอู เตียวหุย เขาไปคารวะ ทําความรูจ
 ักกับกองซุนจาน เพื่อนรวมสํานัก
ของตน

แลวเลาปบอกกองซุนจานตอไปวา นองทั้งสองคนนี้กลาหาญ และมีกตัญู จึงเปนทัง้ นองทั้งกําลังหลักที่


วางใจของขาพเจา ครั้งกอนไดไปปราบโจรโพกผาเหลืองดวยกัน ขาพเจาไดขาววาทานเดินทัพผานมา ระลึก
ถึงความเปนศิษยรวมสํานักและบุญคุณครั้งที่ถวายฎีกาตอพระเจาเลนเต ใหขาพเจาไดมาเปนเจาเมืองเพง
งวนกวนนี้ จึงรีบออกมารับ ขอเชิญทานเขาเมืองให ขาพเจาไดมีโอกาสเลี้ยงโตะทาน แสดงน้ําใจคารวะตอ
ทานใหเปนทีส ่ าํ ราญสักมื้อหนึง่ กองซุนจาน ฟงเลาปแลว ก็จํากวนอู เตียวหุย เมื่อครั้งรบโจรโพกผาเหลืองได
จึงกลาววานองทั้งสองของทานนี้มีความชอบแตครั้งนั้นมาก แตหามีใครกราบทูลเสนอความชอบใหไม จึงยัง
ตองตก เปนทหารเลวอยูด  ั่งนี้ ขาพเจาเสียดายแทนแผนดินนัก ที่คนดีมีความ กลาหาญ และทําความชอบตอ
แผนดินแลว ยังตองตกต่ําเปนทหารเลวอยูฉ  ะนี้ วาแลวกองซุนจานจึงสั่งทหารใหตั้งคายไวนอกเมือง แตตัวเอง
นั้นเดินทางเขาเมืองไปพรอมกับเลาป กวนอู เตียวหุย เลาปจัดที่พักใหกองซุนจานที่เรือนรับรองแขกเมือง ค่ํา
ลงทั้งเลาป กวนอู เตียวหุย ก็มารับกองซุนจานไปกินโตะทีจ ่ วนเจาเมือง

หลังจากดืม ่ สุราแสดงคารวะและความระลึกถึงกันตามธรรมเนียมแลว กองซุนจานจึงเลาความตามหนังสือรับสั่ง


นั้นใหเลาปฟ
 งทุกประการ แลวชวนเลาปว าทานรับราชการมานาน ทําความชอบ ไวก็มาก แตภายใตระบอบ
ทรราชยนี้เปนไดแคเพียงเจาเมืองหัวเมือง นอย บัดนี้มรี บ
ั สั่งใหเรายกกองทัพเขาเมืองหลวงกําจัดทรราชตั๋ง
โตะเสียทานอยาอยูในบังคับของระบอบทรราชยตอไปเลย จงตามไปทํา การดวยเราเถิด การสําเร็จแลวตัว
ทานแลนองทั้งสองยอมมีความ ชอบมาก ดีรา ยจะไดเปนเจาเมืองหัวเมืองเอก

เลาปฟงขอเสนอของกองซุนจานแลว เลือดขัตติยมานะเชื้อสาย แหงพระเจาฮั่นโกโจก็ระอุขึ้นในอก ตัดสินใจ


ทิ้งยศศักดิ์อคั รฐาน เมืองเพงงวนกวน แลวตอบตกลงไปทําการดวยกองซุนจาน เตียวหุย นั่งฟงคําสนทนาอยู
จึงลําเลิกความแตหนหลังวาเมื่อครั้งเรา สามพี่นองเขาตีทัพโจรโพกผาเหลืองที่ไลตามตีตงั๋ โตะซึ่งแตก ทัพมา
และชวยตั๋งโตะไวนั้น ตั๋งโตะทําหยาบชาตอเรา ไมรูคุณคน ขาพเจาจะฆาเสีย พี่ใหญก็หา มไว ถาพี่ใหญไม
หามปลอยใหขา พเจาฆาตั๋งโตะเสียแตครั้งนั้น ยอมไมเกิดเหตุใหญรายแรงถึงเพียงนี้

กวนอู ไดยินก็หามเตียวหุยวาอยาไดพูดถึงเรือ่ งนี้ตอไปอีกเลย พี่เรามีใจเมตตาตอสัตวผย


ู าก ทั้งขณะนั้นตั๋ง
โตะก็เปนถึงแมทัพใหญ ถืออาญาสิทธิ์ของฮองเต จะฆาเสียยอมไมชอบ การที่พี่ใหญตด ั สินใจ ไปดวยกองซุน
จานนั้นขาพเจาเห็นดีดวย เลาปมาคํานวณดูระยะเวลาที่กองซุนจานเดินทัพมาแลว จึงให ทหารตรวจสอบขาว
ดูวาบัดนี้กองทัพหัวเมืองตางๆ เคลื่อนทัพไปถึง ที่ใดแลว ทหารกลับเขามารายงานวาบัดนี้กองทัพหัวเมือง
ตางๆ สิบหาหัวเมือง และกองทัพโจโฉ อวนเสี้ยว ไดเคลือ ่ นออกจากทองทุงเมืองตันลิว เดินทัพไปเมืองลก
เอี๋ยงแลว หลังเลิกงานเลี้ยงแลว กองซุนจานกลับไปพักที่เรือนรับรอง สวน เลาป กวนอู เตียวหุย ไดสั่งให
ทหารจัดเก็บขาวของสัมภาระ คัดเลือกเอาแตทหารซึ่งสนิทรวมเปนรวมตายใหตดิ ตามไปดวยเพียงไมกี่คน
แลวใหทุกคนกลับไปพักผอนเตรียมตัวเดินทางในวันพรุงรุงขึ้นเลาป กวนอู เตียวหุย จึงไปรับกองซุนจานที่
เรือนรับรอง แลวยกทหารทีต ่ ิดตามมาดวยไปเขารวมกับกองทัพของกองซุนจาน เคลื่อนทัพยกไปสมทบกับ
กองทัพของหัวเมืองตางๆ ณ ชายแดนเมือง ลกเอี๋ยง โจโฉ เลาป ซุนเกี๋ยน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรวมสงครามปราบ
โจรโพกผาเหลือง ซึ่งเปนกองกําลังกูชาติของประชาชน

แตมาถึงวันนี้กลับกระทําการอยางเดียวกันกับโจรโพกผาเหลือง มีขออางอยางเดียว กันคือกําจัดทรราช และ


ถูกฝายเมืองหลวงกลาวหาอยางเดียวกันวาเปนพวกกบฏตอแผนดิน เปนแตวาครั้งกอนเปนสงครามระหวาง
กองกําลังของประชาชนกับขุนศึก สวนครั้งนี้เปนสงครามระหวางขุนศึกดวยกัน และเปาหมาย ทางการเมืองก็
แตกตางกันตรงที่ครั้งนั้นเตียวกก หัวหนาโจรโพกผาเหลือง มีเปาหมายเพื่อลมราชวงศฮน ั่ แลวตั้งตัวขึน
้ เปน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 68

เจาเสียเอง แตครั้งนีม
้ ีเปาหมายเพื่อกําจัดทรราช เทิดทูนฮองเต สวนขุนศึกคนใดมีวาระซอนเรนในใจทีจ
่ ะชิง
อํานาจ แลวบงการ ฮองเตแบบเดียวกับตั๋งโตะก็คงจะไดเห็นกันตอไป

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ธรรมะกับสงคราม (ตอน 30)

เหมาเจอตง ประธานกรรมการการทหาร แหงกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เคยกลาววา สงครามใน


ประวัตศ ิ าสตรมอี ยูเพียง สองชนิดคือสงครามที่เปนธรรม กับสงครามที่ไมเปนธรรม สงคราม ปฏิวัติทั้งปวงเปน
สงครามที่เปนธรรม สงครามปฏิปกษปฏิวัตท ิ งั้ ปวง เปนสงครามที่ไมเปนธรรม สงครามรุกรานและสงครามที่กด
ขี่ขมเหงราษฎรเปนสงครามที่ไมเปนธรรม สงครามตอตานการรุกรานและสงครามที่ปลดปลอย ราษฎรใหพน
จากการกดขี่ขม  เหงเปนสงครามที่เปนธรรม กฎแหงสงครามวาไววาสงครามที่เปนธรรม ยอมชนะสงคราม ที่ไม
เปนธรรม

ดังนั้นคูส
 งครามแตครั้งประวัตศ
ิ าสตรเปนตนมา จึงพยายามชวง ชิงฐานะทีเ่ ปนธรรมและกลาวหาอีกฝายหนึ่งวา
ทําสงครามที่ไมเปนธรรม ธรรมจึงเปนสิ่งทีค
่ ูสงครามทุกฝายพยายามชวงชิงและเชิดชูใหผูคนคลอยตาม
ในขณะทีย ่ ัดเยียดกลาวหาอีกฝายหนึ่งวาเปนอธรรม แตเปาหมายสูงสุดแทจริงของทุกฝายนั้น หาไดอยูท ี่ธรรม
ไม หากอยูทช ี่ ย
ั ชนะในสงครามตางหาก พระมหาฤาษีผรู จนามหาภารตยุทธ ซึ่งเปนสงครามที่ยาว นานมาก
ที่สด
ุ สงครามหนึ่งในประวัติศาสตรไดบรรยายคํารําพึงของเทพแหงกาลเวลาไววา ธรรมนํามาซึ่งความสงบสุข
ดังที่ปรากฏในโศลกแรกแหงมหาภารตยุทธวา "ขาพเจาชูแขนขึ้นปาวประกาศธรรม แตหามีใครเชื่อฟงขาพเจา
ไมธรรมนํามาซึง่ ความสงบสุขแตไฉนเลาจึงไมมีผูใดปฏิบต ั ิธรรม"

ธรรมที่วานีย
้ อมหมายเอาสงครามที่เปนธรรม ที่จะทําใหบังเกิดความสงบสุขขึ้น มิฉะนั้นแลวอะไรเปนสงครามที่
เปนธรรม และอะไรเปนสงครามที่ไมเปนธรรม ก็ไมอาจจําแนกได เหตุนฝ ี้ ายเมืองหลวงซึ่งบัญชาการโดยตั๋ง
โตะจอมทรราช จึงอาง วาฝายตนเปนฝายธรรมะ เพราะเปนรัฐบาลทีช ่ อบดวยกฎหมายภาย ใตพระปรมาภิไธย
ของฮองเต แลวกลาวหาวากองทัพปฏิวต ั ิเปนฝาย อธรรม เพราะเปนขบถตอแผนดิน

ในขณะที่กองทัพฝายปฏิวตั ิก็อางวาเปนฝายธรรมะ เพราะเปนกองทัพที่มุงกําจัดทรราช เทิดทูนฮองเต บําบัด


ทุกขรอนแกแผนดิน และราษฎร แลวกลาวหาวากองทัพฝายเมืองหลวงเปนฝายอธรรม เพราะเปนกองทัพที่
ปกปองระบอบทรราชยใหกอกรรมทําเข็ญตอบาน เมืองและราษฎรตอไป

เมื่อเปนเชนนี้สงครามยอมเกิดขึ้น และเปนสงครามระหวางขุนศึกกับขุนศึกเปนครั้งแรกของสามกก กองทัพ


ฝายปฏิวต ั ิไดตงั้ คาย ณ ชายแดนเมืองลกเอี๋ยง เรียงรายกันไปถึงสองรอยเสน ลักษณาการตั้งทัพแบบนีเ้ ปน
จุดออน อันแสดงวากองทัพฝายปฏิวต ั ิยังคงขาดการประสานการรบอยางมีอานุภาพ ขัดตอพิชัยสงคราม เพราะ
การตั้งคายรายเรียงกันเชนนี้หากอีกฝายหนึ่งมีแผนการรบที่ดแ
ี ลว ก็ยอมจะจัดทัพเขาตีตัดออกเปนสองหรือ
สามสวน แลวทําลายเสียทีละสวนไดโดยสะดวก แตเปนโชคดีของกองทัพปฏิวต ั ิทฝ
ี่ ายตั๋งโตะไมมน
ี ักยุทธ
ศาสตรที่จะทําลายกองทัพปฏิวัติในลักษณะทีก ่ ลาวนี้

เห็นจะไมตองสงสัยอะไร เพราะตั๋งโตะนั้น ตั้งแตครั้งรบโจรโพกผาเหลือง ซึ่งเปนเพียงกองทัพของชาวบานยัง


รบแพไดทุกครัง้ ไหนเลยจะมีสติปญ  ญาคิดอานบัญชาการระดับยุทธศาสตร เมื่อกองทัพฝายปฏิวต ั ิตั้งคายเสร็จ
เรียบรอยแลว โจโฉจึงเชิญประชุมบรรดาเจาเมืองที่เปนพันธมิตรในฝายปฏิวต ั ิ เพื่อเตรียมการเขาตีเมืองลกเอี๋ย
งตอไป เจาเมืองและนายทหารชั้นผูใ หญของแตละเมืองไดเขาประชุมปรึกษาโดยพรอมเพรียงกัน อองของ
เจาเมืองโหลาย ไดเสนอตอที่ประชุมวา กองทัพฝายปฏิวัตค ิ วรมีผูบัญชาการใหญ ทีถ ่ ืออํานาจสิทธิขาดในการ
บัญชาการรบ มิฉะนั้นจะทําใหการรบขาดเอกภาพ ขาดพลังทางยุทธานุภาพ เนื่องจากตางคนตางทํา ซึ่งอาจ
ไมประสานกันหรือขัดแยงกัน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับขอเสนอของอองของเปนเอกฉันท ปญหาตอไปจึง
ตองพิจารณาคัดเลือกวาใครสมควรไดรับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหเปนผูบัญชาการใหญของกองทัพฝาย
ปฏิวัติ โจโฉ จึงเสนออวนเสี้ยว เปนผูบญ ั ชาการใหญ โดยแสดงเหตุผลวาอวนเสีย ้ วเปนเชื้อสายขุนนางใน
ราชวงศฮั่นมาถึงสี่ชั่วอายุคน เปนที่รจ
ู ักและยอมรับกันดีโดยทั่วไป จะทําใหกองทัพฝายปฏิวัติเปนเอกภาพได
อวนเสี้ยว คงรูต
 ัวดีวา ไรความสามารถจึงขอถอนตัว แตหัวเมืองทั้งปวงในที่นั้นยืนยันความเห็นเดิม โดยอางวา
หากอวนเสี้ยว ไมรับตําแหนงแลว จะทําใหเกิดการแกงแยงชิงตําแหนงกันขึ้น ทําใหเกิดปญหาขัดแยงระหวาง
หัวเมืองทั้งปวง อวนเสี้ยวเห็น วาเมื่อเกิดปญหาเชนนี้ จําตองรักษาเอกภาพของกองทัพฝายปฏิวต ั ิไวกอน จึง
ยอมรับตําแหนงที่ประชุมจึงมีมติเปนเอกฉันทแตงตั้งใหอวนเสี้ยวเปนผูบ  ญ
ั ชาการใหญของกองทัพฝายปฏิวัติ
และเพื่อใหทุกหัวเมืองยอม รับนับถือปฏิบัตต ิ ามคําบัญชาของผูบัญชาการใหญ จึงมีมติมอบใหโจโฉตั้งโรงพิธี

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 69

กระทําสัตยสาบาน เพื่อใหเจาเมืองทั้งปวงไดกระทําสัตยสาบาน ยอมรับนับถือปฏิบัตต


ิ ามคําบัญชาของอวน
เสี้ยวตอไป

รุงขึ้นโจโฉจึงสัง่ ทหารใหจัดทําโรงพิธีเปนปะรําสามชั้น กลางปะรําพิธช


ี ั้นสาม ซึ่งเปนชั้นสูงสุดใหปกธงสี
เหลือง ซึ่งเปนสัญลักษณของธาตุดิน ปลายธงประดับดวยขนจามรีตั้งเปนธงชัย และใหเอาขวานสงครามสี
เหลืองผูกคาดไวที่คันธงชัยนัน ้ เปนสัญลักษณของแมทัพใหญ ภายใตธงชัยมีฐานรอง ตัง้ แทนวางหนังสือมติที่
ประชุมทีแ ่ ตงตัง้ ใหอวนเสีย
้ วเปนผูบัญชาการใหญของกองทัพปฏิวัติ แลววางตราสําคัญประจําตําแหนงผู
บัญชาการใหญของกองทัพปฏิวัติทับไวบนหนังสือนั้น ดานหลังแทนปกธงปฏิวัติ "ตงหงี" อันเปนธงซึ่งโจโฉ
ไดปกขึ้น เปนครั้งแรก ดานหลังธงปฏิวัติปกไวดวยธงประจําตัวเจาเมืองทัง้ สิบ เจ็ดหัวเมือง บนพื้นดินทัง้ สี่ทศิ
ของปะรําพิธี ปกธงสีดําอันเปนสัญลักษณของธาตุน้ําไวทางทิศเหนือ ปกธงสีแดงอันเปนสัญลักษณของธาตุ
ไฟ ไวทางทิศใต ปกธงสีเขียวอันเปนสัญลักษณของธาตุไมไวทางทิศตะวันออก และปกธงสีขาวอันเปน
สัญลักษณของธาตุทองไวทางทิศตะวันตก ธงทั้งหาสีคือสัญลักษณของธาตุทั้งหาแหงจักรวาล ปกประจําทิศ
อันเปนภูมิประจําธาตุเพื่อเปนการชุมนุมเทวดา และความเปนสิริมงคล ตามคตินย ิ มของชาวจีนมาแตโบราณ
กาลจนถึงทุกวันนี้

ตั้งโรงพิธีเสร็จแลว โจโฉจึงใหเชิญเจาเมืองทั้งปวงขึ้นไปบนปะรําพิธช ี ั้นสอง เชิญนายทหารชั้นผูใ หญจากแต


ละหัวเมืองขึ้นไปบน ปะรําพิธช ี ั้นลาง บนพืน้ ทั้งสีท
่ ศ
ิ ของปะรําพิธีรายลอมไปดวยนายทหาร จากทุกหัวเมือง
ครั้นไดเวลาอันเปนราชาฤกษแลว โจโฉจึงใหเชิญอวนเสีย ้ วขึน
้ บนปะรําพิธชี น
ั้ สาม ยืนเบื้องหนาแทนตราอันปก
ธงชัยไวเปนสําคัญนั้น ผินหนาไปทางทิศอันเปนที่ตั้งศาลเทพบิดรแหงราชวงศฮั่น ในการนั้นอวนเสีย ้ วแตงตัว
สวม เสื้อเกราะชุดออกศึก มือถือกระบี่ ยืนตรงทําอกผายไหลผึ่ง แสดงความลําพองและพึงใจแบบคนบายศบา
อยางใหเห็นอยางเดนชัด อวนเสี้ยว เมื่อเขาประจําทีแ ่ ลวไดจุดเทียนแดงสิบเจ็ดเลม จุดธูปใหญสิบเจ็ดดอก
ตามจํานวนหัวเมืองที่มารวมกองทัพฝายปฏิวต ั ิ แลวอานประกาศนําใหเจาเมืองและบรรดาทหารทัง้ ปวง
ปฏิญาณสาบานตนวา "ขาพเจาทั้งปวงพรอมใจสามัคคีกันจัดตั้งกองทัพปฏิวัติขึ้น เพื่อโคนลม ระบอบทรราชย
ของตั๋งโตะใหสน ิ้ ไป เทิดทูนฮองเต จงรักภักดีตอราชวงศฮั่น มุงมั่นทํานุบาํ รุงแผนดิน และราษฎรใหเปนสุขขอ
ปวงเทพยดาอารักษไดเปนทิพยพยาน และดลบันดาลใหความปรารถนารวมกันของขาพเจาทั้งหลายได
บรรลุผลสําเร็จ และบัดนี้ขาพเจาทั้งปวงไดพรอมใจกันมอบหมายใหอวนเสี้ยวเปนผูบัญชาการใหญของ
กองทัพปฏิวัติ มีอํานาจสิทธิขาดในการบัญชาการกองทัพทั้งปวงของกองทัพปฏิวัติ ขาพเจาสาบานวาจะ
ยอมรับนับถือและปฏิบต ั ิตามคําบัญชาการของผูบัญชาการใหญอยาง เครงครัด หากผิด คําสาบานนี้ขอให
เทพยดาสังหารผลาญชีวต ิ ขาพ เจาเสีย อยาใหซากศพมีอาการครบทั้งสามสิบสองเลย"

คําปฏิญาณสาบานนี้มิไดบังคับถึงการใชอํานาจผูบญ ั ชาการใหญของอวนเสี้ยววาจะตองเปนไปเพื่อ
ผลประโยชนสว นรวมของทั้งกองทัพ โดยไมเห็นแกประโยชนสวนตัว เพื่อใหไดรบ
ั ชัยชนะในสงครามแต
ประการใด กลาวคําปฏิญาณสาบานดั่งนี้แลว อวนเสี้ยวจึงหยิบจอกสุราหนา แทนขึ้นมาจอกหนึ่ง โจโฉก็สั่งให
ทหารเอาจอกสุราอีกสิบหกจอกไปสงใหเจาเมืองอีกสิบหกหัวเมือง และใหทหารเอาจอกสุราอีกสิบเจ็ดจอกไป
สงใหแกทหารเอกของแตละเมือง ตัวโจโฉเองนั้นรับมาอีกจอกหนึ่ง เมื่อพรอมกันแลว อวนเสี้ยวจึงประกาศอีก
ครั้งหนึ่งวา "จงสามัคคีกันกําจัดทรราช เทิดทูนฮองเต บํารุงราษฎร" แลวเชิญคนทั้งปวงนั้นดื่มสุราสาบาน
การตั้งใหอวนเสี้ยว ผูเปนคนเจายศเจาอยาง และไรสติปญญา เปนผูบัญชาการใหญ ใหอํานาจสิทธิขาดโดย
คํานึงแตเพียงฐานะที่เปนเชื้อสายขุนนางเกาสีช ่ ั่วอายุคน เปนการขัดตอพิชย ั สงครามวาดวยการตั้งขุนพล
เพราะขุนพลนัน ้ ถือเปนปจจัยหลักอยางหนึ่งของชัยชนะ หรือความพายแพสงคราม ภูเขาสูงเสียดฟา รักษาน้ํา
ไวไมได ตรงขามกับพระมหาสมุทรเปน ทีร่ วมแหงน้ํา เพราะตั้งตนในทีต ่ ่ําฉันใด การตั้งคนเจายศเจาอยางเปน
ผูบัญชาการใหญจึงไมเปนที่ตงั้ แหงความสามัคคีฉันนั้น จึงเปนการขัดตอหลักการของความเปนผูนําคนสถาน
หนึ่ง การตั้งคนไรสติปญ  ญาเปนผูบัญชาการใหญยอมไมสามารถ ชี้นาํ สงคราม และนํากองทัพไปสูช  ัยชนะได
เปนการขัดตอหลักการของความเปนผูนําคนอีกสถานหนึ่ง

ทั้งสองสถานนีค ้ ือสิ่งกําหนดชัยชนะ และความพายแพของสงครามครั้งนี้ เสร็จจากพิธีทาํ สัตยสาบานแลว โจ


โฉจึงเชิญผูบัญชาการใหญ และเจาเมืองทั้งปวงไปที่โรงซึ่งปลูกสรางขึ้นสําหรับเปนที่ประชุมปรึกษาและ
บัญชาการสงคราม พรอมกันแลวโจโฉจึงวา แตนี้ไปพวก เราตองสามัคคีสมานฉันท ตั้งใจทําการอันได
ปฏิญาณสาบานตนใหเกิดผลสําเร็จโดยไว อวนเสี้ยว แสรงทําทีเปนถอมตัวแลวกลาววาขาพเจานี้มีปญญานอย
พวกทานสนับสนุนวางใจใหเปนผูบัญชาการใหญครั้งนี้เกินกําลังสติปญญาของขาพเจานัก ขอทานทั้งปวงได
สนับสนุนชวยเหลือตอไปจนกวาการจักสําเร็จ สําหรับตัวขาพเจานั้นเมื่อไดรับธุระฉะนี้ แลวก็จะตั้งใจทําโดย
เต็มกําลังปญญาความสามารถ ยึดถือพิชย
ั สงครามเปนหลักปฏิบัติของกองทัพ ผูใดมีความชอบก็จะปูน
บําเหน็จ ตามควรแกความชอบ ผูใดมีความผิดก็จะลงโทษตามควรแกโทษานุโทษไมลําเอียงเขาขางคนชอบ
และคนผิด

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 70

โจโฉและเจาเมืองทั้งปวงก็รับเอาคําที่อวนเสี้ยวกลาวนั้น จากนั้นอวนเสี้ยวจึงเริ่มออกลาย ใชอํานาจผู


บัญชาการใหญแตงตั้งให อวนสุดผูนองเปนแมทัพรับผิดชอบดานเสบียง ซึ่งถือเปนปจจัยหลักอยางหนึ่งของ
การทําสงคราม เปนความเปนความตายอยาง หนึ่งของกองทัพ บงบอกความคิดเกี่ยวกับการใชคนของอวน
เสี้ยววา ใชคนแตโดยอาศัยความสนิทชิดเชื้อ หาไดคํานึงถึงความสามารถและความเหมาะแกการไม แต
เพื่อใหทุกหัวเมืองคลายใจ อวนเสี้ยวจึงกําชับอวนสุดผูนองวา ตัวจงทําหนาที่จดั หาและลําเลียงเสบียงแกทุก
กองทัพ อยาใหขัดสนเปนอันขาด ปรึกษาแผนการรบกันตอไปแลว อวนเสี้ยวจึงมีคําสั่งใหกองทัพหัวเมืองทั้ง
ปวงที่ยกมารักษาเวรยามกวดขันใหมั่นคง ใหกองทัพทุกหัวเมืองตั้งมั่นอยู ณ ที่เดิม แลวแตงตั้งใหซน ุ เกี๋ยน
เจาเมืองเตียงสา เปนกองทัพหนา ยกไปตีดา นกิสุยกวน ซึง่ เปนดานสําคัญนอกกําแพงเมืองลกเอี๋ยง ซุนเกี๋ยน
มีใจแกรงกลาเปนนักรบ ครั้นไดรับคําสั่งใหเปน กองทัพหนาก็ดีใจ รีบออกมาจากกองบัญชาการกองทัพปฏิวต ั ิ
กลับมาทีค ่ ายสัง่ ทหารใหจัดเตรียมกองทัพใหพรอมที่จะเคลือ
่ นทัพในวันรุงขึ้น

หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

รอยราวในพันธมิตร (ตอนที่ 31)

พิชัยสงครามวางหลักการบัญชาการทางยุทธวิธีไววา "มีกําลังสิบเทาของขาศึกจงเขาลอมเอา ถาหาเทาจงบุก


ตี ถาสองเทาก็แยกเปนสองกองเขาชิงชัย ถาทัดเทียมกันจงพยายามเขารบพุง นอยกวา จงตั้งรับ ถานอยกวา
มากจงหาทางหลีกเลี่ยงไวกอน"

กองทัพปฏิวัตม ิ ก
ี ําลังพลมากกวากําลังพลในดานกิสย ุ กวนหลาย สิบเทา แทนทีจ ่ ะโหมกําลังเขาลอมโจมตี ซึ่ง
จะยึดดานกิสุยกวนไดโดยงาย จากนั้นจึงเขายึดจุดยุทธศาสตรอื่นแลวเขายึดเมืองลกเอี๋ยง ตอไป แตอวนเสี้ยว
กลับบัญชาการใหกองทัพสวนใหญตั้งมั่นกินลมชมดาว ณ ชายแดนเมืองลกเอี๋ยงใหสิ้นเปลืองเสบียงเสียเฉยๆ
คงแบงเอาสวนนอยคือกองทัพเมืองเตียงสาของซุนเกี๋ยนเพียงกองทัพเดียวไปทําการ เปนการลดพลังทาง
ยุทธานุภาพของกองทัพปฏิวัตแ ิ สดงออกถึงความไมรูพิชย
ั สงคราม ไมรูหลักการใชกําลังพลของอวนเสี้ยว จึง
ทําใหกองทัพปฏิวัตส ิ ูญเสียโอกาสสําคัญไปอยางนาเสียดาย นี่คือความผิดพลาดครั้งสําคัญในการบัญชาการ
รบในครั้งแรก ของอวนเสี้ยว

การเคลื่อนทัพของกองทัพปฏิวัติเมื่อลวงถึงชายแดนเมืองลกเอี๋ยงแลว ลิยู กุนซือเจาปญญาของตั๋งโตะก็ไดรับ


ขาวศึกจากนายดาน จึงรายงานใหตั๋งโตะทราบ ดังนั้นตั๋งโตะจึงเรียกประชุมกองบัญชาการทหารกลางปรึกษา
การศึกเพื่อรับมือกับกองทัพปฏิวัติ ลิโป อัศวินงูเหา ผูเปนบุตรบุญธรรมของตั๋งโตะหวังจะไดรับความชอบจาก
การศึกครั้งนี้จึงขออาสาไปปราบกองทัพปฏิวัติ และหมิ่นวากองทัพปฏิวัตินป ี้ ระดุจดังแมลงเมาบินเขากองไฟ
ตั๋งโตะทาน อยาไดวิตกเลย ตัง๋ โตะ ฟงอัศวินงูเหาแลวดีใจนัก จึงวาลิโปลูกเรานี้องอาจสงากลาหาญยิ่งนัก มี
เจาอยูคนหนึ่งเทากับมีทหารเกินสิบหมื่น ลิโปยินคํายอดังนี้แลวกระทบเขากับตอมลูกยอจึงยิ้มราพลางคุกเขา
ลงคํานับตั๋งโตะแลววาขอบคุณบิดาทาน ขอบคุณบิดาทาน

มิทันจะขาดคําของลิโป ฮัวหยงนายทหารเอกรูปรางสูงหกศอกเศษ มีกิริยาดังเสือ ไดลุกขึ้นยืนแลวกาวออกมา


คุกเขาลงเบื้องหนาตั๋งโตะแลววา "ซึ่งจะฆาไก แลจะเอามีดฆาโคมาฆานัน ้ ไมควร ขาพเจาจะขออาสาไปตัด
เอาศีรษะหัวเมืองทั้งปวงมาใหจงได" ตั๋งโตะฟงแลวก็ยิ้ม ลิโปฟงแลวก็แยม เปนที่พออกพอใจตอถอยคําซึ่ง
แฝงคํายกยองอยูในทียิ่งนัก ตั๋งโตะจึงมีคําสัง่ แตงตั้งใหฮัวหยง เปนแมทพ
ั ใหญ ตั้งใหลซ
ิ ก โฮจิ้น และเตียว
หงิม เปนรองแมทัพนําทหารหาหมื่นยกออกจากเมืองหลวงไปตั้งรับกองทัพปฏิวัติ ณ ดานกิสุยกวน

ฝายกองทัพปฏิวัตินั้น หลังจากเลิกประชุมวางแผนการรบสั่งใหซุนเกี๋ยนเปนกองทัพหนาเตรียมยกไปตีดานกิสุ
ยกวนในวันรุงขึ้นแลว ปรากฏวาเปาสิ้นเจาเมือง เจปก เกิดความคิดริษยาเกรงวาถาซุนเกี๋ยนตีดานกิสุยกวน
แตกแลวจะยกเขาตีเมืองลกเอี๋ยงเอาความชอบเสียแตผูเดียว จึงคิดชิงเอาความชอบเสียกอน ดังนั้น เปาสิน ้ จึง
เรียกเปาตงผูนอ
 ง ใหคุมทหารเมืองเจปกหาหมื่นคนยกไปตามทางลัด ตีดา นกิสุยกวนเสียกอนกองทัพซุนเกี๋ยน
เปาตง เคลื่อนทัพหาหมื่นยกไปตั้งแตเพลาใกลรุงคืนนั้น เดินทัพตามทางลัดตกสายก็ถึงดานกิสุยกวน ฮัวหยง
รับรายงานขาวกองทัพเปาตงยกมาก็คุมทหารหารอยเปดประตูดาน คุมทหารเขาประจันหนากับเปาตงแลว
ตวาดวาไอกบฏ กูจะฆามึงเสีย เปาตงไดยินเสียงตวาดดังสนัน ่ ดุจฟาผาก็ตกใจ ทั้งมาทั้งคนผงะไป ฮัวหยงไดที
จึงปรี่เขาไปเอางาวฟน เปาตงตกมาตาย ทหาร เปาตงตกใจแตกหนี ฮัวหยงจึงคุมทหารเขาจับทหารของเปา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 71

ตงได เปนจํานวนมากแลวตัดศีรษะเปาตง สงเขาเมืองหลวง พรอมหนังสือรายงานการศึกใหตั๋งโตะทราบ ตั๋ง


โตะเห็นรายงานพรอมกับศีรษะของเปาตงแลวยินดีเปนอันมาก สั่งเบิกเงินจากทองพระคลังสงไปดานกิสุยกวน
ปูนบําเหน็จแก ฮัวหยง และเลือ
่ นตําแหนงเปนขุนนางผูใหญฝายทหาร

สวนทหารของเปาตงทีแ ่ ตกทัพหนีพนจากการติดตามของฮัว-หยงแลว ก็กลับไปคายของกองทัพเมืองเจปกดัง


เกา บางสวนก็หนีทัพกลับภูมล ิ ําเนาเดิม อวนเสี้ยวผูบัญชาการใหญทราบความที่เปาสิ้นสั่งใหเปาตงผูนอ
 งยก
ไปตีดานกิสย
ุ กวนแลวปราชัยกลับมาก็มิไดไตสวนวากลาวเอาผิดตามพระอัยการศึกเหมือนกับที่เคยใหคาํ มั่น
สัญญาไวในวันรับตําแหนง วินัยของกองทัพปฏิวต ั ิจึงหมดความศักดิส
์ ิทธิล
์ งตองดวยลักษณะปราชัยประการ
หนึ่งของกองทัพ

ฝายกองทัพเมืองเตียงสาที่ซน ุ เกี๋ยนเปนแมทัพนั้น มีทหารเอกสี่คนคือ "เทียเภา ถือทวนหนึ่ง, อุยกาย ถือ


กระบองเหล็กสีเ่ หลี่ยมหนึ่ง, ฮันตง ถืองาว หนึ่ง, โจเมา ถือกระบี่สองมือหนึ่ง" แตตัวซุนเกี๋ยนนั้นถืองาวใหญ
เปนอาวุธประจํากาย ครั้นยามอรุณแสงตะวันเบิก ฟาแลว กองทัพเมืองเตียงสาจึงไดยกไปดานกิสย ุ กวน แลว
ตั้งคายประชิดดานกิสย
ุ กวนไว จัดเวรยามแลทหารลาดตระเวนแนนหนาตาม กระบวนศึกทุกประการ

วันรุงขึ้นซุนเกี๋ยนจึงแตงตัวใสเสื้อเกราะชุดออกศึกถืองาวประจํากาย คุมทหารออกจากคายไปที่หนาประตูดาน
ทาใหยกทหาร ออกมารบ หรือมิฉะนั้นก็ใหสวามิภักดิ์เสีย ฮัวหยง จึงสั่งใหโฮจิ้นยกทหารออกรบดวยซุนเกี๋ยน
พอโฮจิ้นยกทหารพนประตูดา นออกมาซุนเกี๋ยนจึงสั่งใหเทียเภาเขารบดวยโฮจิ้น เทียเภาขับมารายทวนฝา
ทหารหนามาของโฮจิ้นเขารบดวย โฮจิ้นไดเจ็ดเพลงก็เอาทวนแทงคอโฮจิน ้ ตกมาตาย ทหารโฮจิ้นตกใจแตก
หนี เทียเภาและทหารไดไลฆาฟนทหารของโฮจิ้นไปถึงประตูดาน ชาวดานรับทหารทีแ ่ ตกหนีมานั้นแลวก็ปด
ประตูดานเสีย เทียเภาจึงยกทหารเขาประชิดดาน ใหทหารเข็นบันไดและซัดเชือกปลายตะขอเพื่อปนบุกเขา
ยึดดาน ฮัวหยงจึงใหทหารบนปอมเชิงเทินยิงเกาฑัณฑ ทิ้งกอนหินและทรายคั่วใสทหารที่กําลังหักเขาตีดาน
นั้น ทหารทั้งสองฝายบาดเจ็บลมตายเปนจํานวนมาก ซุนเกี๋ยนเห็นวาจะหักตีดานไมไดในเพลานี้ จึงใหตรี ะฆัง
สัญญาณใหทหารถอยกลับเขาคายแลวตั้งมั่นไว ในขณะทีอ ่ วนเสี้ยวผูบัญชาการใหญ ยังคงใหกําลังพลสวน
ใหญของกองทัพปฏิวัตินั่งเลนนอนเลนอยูชายแดนเมืองลกเอี๋ยงโดยไมมแ ี ผนการใดๆ ที่จะยึดเมืองลกเอี๋ยง
และในขณะทีท ่ พั เมืองเตียงสาของซุนเกี๋ยนยันอยูกับกองทัพของฮัวหยงที่ ดานกิสย ุ กวนนัน
้ กองทัพซุนเกี๋ยนก็
เริ่มขาดเสบียงลง ซุนเกี๋ยนจึงใหทหารถือหนังสือไปถึงผูบ  ญ
ั ชาการใหญอวนเสี้ยว รายงานการศึกครั้งแรกให
ทราบ และขอใหเรงเสบียงเอาจากอวนสุด ผูรบ ั ผิดชอบดานเสบียง ใหรีบลําเลียงเสบียงสงใหกับกองทัพเมือง
เตียงสา อวนเสีย ้ วรับหนังสือซุนเกี๋ยนแลว เชิญอวนสุดมาปรึกษาแลววา "ซุนเกี๋ยนคนนี้เมื่ออยูในเมืองกังตัง๋ นั้น
อุปมาดังเสือตัวหนึ่ง แลตั๋งโตะนั้นอุปมาดังหมี ครั้งนี้ซุนเกี๋ยนยกไปทําการเปนกองหนา ถาตีไดก็จะจับตั๋งโตะ
ฆาเสีย ซุนเกี๋ยนก็จะกําเริบขึ้น ซึ่งจะฆาหมีเสียตัวหนึ่ง เสือจะรายขึ้นนั้นจะเห็นชอบขางไหน" แลววาเราจําตอง
ถวงเวลาการสงเสบียงใหแกกองทัพเมืองเตียงสา ปลอยใหกองทัพซุนเกี๋ยนอดอยากก็จะเกิดความระส่ําระสาย
แลวคงจะยกทัพกลับคืนมา หรือมิฉะนั้นก็จะถูกกองทัพฮัวหยงตีแตกยับเยิน เสือรายก็จะสิน ้ กําลังลง หรือไมก็
จะสิ้นชื่อไปเสียทีเดียว เราก็จะขาดคูแขงคนสําคัญไปอีกคนหนึ่ง

อวนสุด เห็นดวยกับความคิดของอวนเสี้ยว จึงเพิกเฉยเสีย ไมจัดเสบียงสงใหแกกองทัพเมืองเตียงสาตามที่ซุน


เกี๋ยนรองขอความคิดของอวนเสี้ยว อวนสุด สองพี่นองเต็มไปดวยความคิดชิงดีชิงเดน มักใหญใฝสูง เห็นการ
เล็กยิ่งกวาการใหญ เห็นกวา การของตัวยิ่งกวาการของบานเมือง หรือถาหากจะกลาวใหสอด คลองกับยุค
สมัยก็ตองกลาววาเปนความคิดที่เห็นแกพวกและเห็นแกพรรคมากกวาเห็นแกชาติบานเมือง และประชาชน
ดังนั้น จึงแทนที่จะรวมกันกําจัดทรราชตั๋งโตะ ใหสําเร็จตามที่ไดยกทัพสิบเจ็ดหัวเมืองมาถึงชายแดนเมืองลก
เอี๋ยงเสียกอน กลับหักหลังพันธมิตรของตนอยางอํามหิต เปนการขายเพื่อนโดยตีราคาเพียงเทาความฝนอันมัก
ใหญใฝสูงของสองพี่นองอวนเสี้ยว อวนสุด นัน
่ เอง

กองทัพเมืองเตียงสาของซุนเกีย ๋ นจึงขาดเสบียงลง ทหารอด อยากหิวโหยสิน ้ เรี่ยวแรง หมดกําลังใจสูร บ เกิด


ความระส่าํ ระสายขึ้นภายในกองทัพ ฝายสอดแนมของดานกิสุยกวนรูขา วก็รายงานให ฮัวหยงทราบ ฝาย
ฮัวหยงไดทราบสภาพอดอยากสิ้นขวัญ และความระส่าํ ระสายภายในกองทัพเมืองเตียงสา จึงเรียกประชุมนาย
ทัพวางแผนตีทพ ั ซุนเกี๋ยนในทันที ลิซกรองแมทัพ ไดสรุปสถานการณขางกองทัพซุนเกี๋ยนที่ระส่ําระสายนั้นให
ที่ประชุมทราบแลวเสนอวาโอกาสทีจ ่ ะตีทัพซุนเกี๋ยน ใหแตกพายไปไดมาถึงแลว ในเพลาดึกค่ําวันนี้ขา พเจา
ขอเสนอยกทหารไปกองหนึ่งออมไปเขาตีทางดานหลังคายซุนเกี๋ยน แลวใหทาน แมทัพฮัวหยงยกทหารอีก
กองหนึ่งบุกเขาตีทางดานหนาโหมกระหน่าํ พรอมกันทั้งสองดานก็จะจับตัวซุนเกี๋ยนไดโดยงาย

ฮัวหยง เห็นดวยกับขอเสนอและแผนการของลิซก มีคําสั่งใหจัดเตรียมกองทัพตามแผนการ ครั้นใกลเวลา


เที่ยงคืนในขณะที่กองทัพซุนเกี๋ยนซึ่งอิดโรยเต็มที และทหารพากันหลับสนิทนั้น ฮัว-หยงและลิซกก็ยกทหาร

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 72

ออกจากดานเปนสองกองตามแผนการที่วางไว ถึงคายซุนเกี๋ยนแลวใหทหารโหรองใหสญ ั ญาณ ตีมาลอและ


กลองศึก ดังสนั่นในยามดึกของราตรี แลวทหารทั้งสองกองก็ยกเขาปลนคายซุนเกี๋ยนพรอมกัน ลิซกซึ่งเขา
ปลนคายทางดานหลังใหทหารเอาเพลิงสุมคายซุนเกี๋ยน แลวยิงธนูเพลิงเขาไปในคาย แสงเพลิงที่โชติชว งขึ้น
ทองฟาประสานกับเสียงโหรองและกลองศึก ทําใหทหารซุนเกี๋ยนตื่นจากหลับ งัวเงียตกใจวิ่งพลานไปทั้งคาย
ไมเปนอันคิดสูร บ ซุนเกี๋ยนตืน
่ ขึ้นเห็นแสงเพลิง เสียงโหรอ
 งและกลองศึกก็ตกใจรูวาถูกปลนคาย จึงรีบแตงตัว
ใสเกราะถืองาวขึ้นมามาทีห ่ นาคายพรอมกับโจเมาทหารเอก เห็นฮัวหยงคุมทหารเขาปลนคายอยูก็ปรี่เขาไปรบ
ดวยฮัวหยงไดแปดเพลง คายซุนเกี๋ยนดานหลังก็ถูกลิซกตีแตก แสงเพลิงยิ่งลุกสวางไสว ซุนเกี๋ยนเห็นทหาร
ในคายแตกตื่นวิ่งหนี และถูกฆาตายเปนจํานวนมากก็เกิดอาการหวงหนาพะวงหลัง ฮัวหยง ถือโอกาสนั้นชักมา
หลบเขาหลังทหาร แลวสั่งทหารใหลอมซุนเกี๋ยน กับโจเมาไว

ซุนเกี๋ยน โจเมาเห็นสถานการณคับขันทั้งเสียคายใหแกขาศึก จึงตีฝาวงลอมขับมาหนี ฮัวหยงเห็นเปนทีก็ขับ


มาไลตาม ซุนเกี๋ยนจึงเอาเกาทัณฑยิงฮัวหยง ฮัวหยงก็รับลูกเกาทัณฑไวได ซุนเกี๋ยนยิงไปอีกดอกหนึ่ง
ฮัวหยงก็รับไวไดอีก ครั้งที่สามซุนเกี๋ยนจึงนาวเกาทัณฑโกงจนเต็มที่ มุงจะอาศัยแรง นาวทําให ฮัวหยงรับลูก
เกาฑัณฑไมได แตคันเกาฑัณฑทนแรงนาว ไมไดก็หักสะบัน ้ ลง ซุนเกี๋ยน โจเมา จึงตั้งหนาขับมาหนีทาเดียว
ฮัวหยงก็ไลตามไปโจเมา ทหารเอกจึงเตือนซุนเกี๋ยนวาขณะนี้เปนเวลากลางคืน ขาศึกจําทานไดจากหมวก
เกราะทีส่ วมอยู จึงติดตามทานมาไดถูกทาง ทานจักไดรับอันตราย ดังนั้นทานจงถอดหมวกเกราะเสียมาเปลีย ่ น
ดวย ขาพเจาทานก็จะปลอดภัย ซุนเกี๋ยนเห็นดวยจึงถอดหมวกเกราะเปลี่ยนกับหมวกของโจเมา แลวแยกกัน
ขับมาหนีไปคนละทาง ฮัวหยงไลตามซุนเกี๋ยน โจเมาไป ในทามกลางราตรีที่ประดับดวยจันทรเสี้ยวจึงถือเอา
หมวกเกราะของซุนเกี๋ยนเปนเครื่องบอกทาง วานั่นแลวคือตัวซุนเกี๋ยน

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

เพชรประกายแสง (ตอนที่ 32)

ฝายฮัวหยงกับทหารที่ขับไลตามซุนเกี๋ยนไปนั้น อาศัยเพียงแสงสลัวแหงพระจันทรเสี้ยวประดับดาวบนอากาศ
จึงจําซุนเกี๋ยนไดจากหมวกเกราะทีส ่ วมไวเทานั้น ครั้นเห็นหมวกเกราะซึ่งโจเมาแลกมาจากซุนเกี๋ยนสวมอยูที่
ศีรษะ และกําลังขับมาหนี สําคัญวาเปนซุนเกี๋ยน จึงขับมาไลตามโจเมาไป โจเมาเห็นจวนตัวก็ชักมาเขาราวปา
ฟนตนไมเพียงระดับศีรษะแลวเอาหมวกเกราะของซุนเกี๋ยนสวมไว ตัวเองชักมาออมมาซุมพุมไมคอยทีอยู
ฮัวหยงแลทหารไลตามมาถึงราวปามองลึกเขาไป เห็นหมวกเกราะตองประกายแสงจันทรเสี้ยวอยู ไมรูกลโจ
เมาคิดวาเปนซุนเกี๋ยน ถอยไปตั้งหลักสูในปา จึงใหทหารลอมไวแลวใชเกาทัณฑยิงอยูพ  ักหนึ่ง แตทก
ุ อยาง
ยังคงอยูใ นสภาพเดิมก็สงสัย จึงพาทหาร บุกปาเขาไปดู โจเมาซุมอยูเห็นเปนที จึงชักมาเขามาหาฮัวหยง
เสียงเทามาเหยียบหญาและกิง่ ไมทําใหฮัวหยงเหลียวไปดู เห็นโจเมาขับมาตรง มาเงื้องาวจะฟน ฮัวหยงจึงชัก
มาเขาเผชิญหนา ตวาดดวยเสียงอันดังแลวเอางาวฟนโจเมาตัวขาดสองทอนตกมาตายในที่นั้น

พอดีใกล สางฮัวหยงจึงคุมทหารยกกลับเขาดานกิสย ุ กวน ฝายซุนเกี๋ยนหลังจากเปลี่ยนหมวกเกราะกับโจเมา


แลว ขับมาหนีไปอีกทางหนึ่งจึงพบเทียเภา, อุยกาย, ฮันตง และทหารซึง่ หนีออกจากคายแลวติดตามหาซุน
เกี๋ยน จึงยกไปตั้งคายทีต
่ ําบลเลียงตง แลวมีหนังสือบอกขาวศึกไปยังอวนเสี้ยว และกลาวหาอวนสุดวาถวง
เวลาไมจัดสงเสบียง เปนเหตุใหกองทัพของตนตองพายแพ ขอใหพิจารณาโทษตามวินัยศึก

อวนเสี้ยวรับหนังสือซุนเกี๋ยนแลว ในสวนที่เกี่ยวกับอวนสุดพัวพันถึงตัวอยูก
 ็ตกใจ รีบสั่งคนสนิทใหไปแจงขาว
ใหอวนสุดทราบ แลววาถาซุนเกี๋ยนเอาความเรื่องนี้ก็ใหซดั ทอดทหารเลวเปนแพะรับบาป โดยอางวาไดสั่งการ
ไปแลวแตคนรับคําสั่งบิดพลิ้ว จากนั้นใหฆา ทหารเลวปดปากเสีย สองพี่นอ  งจะไดพนมลทิน ความคิดของอวน
เสี้ยวไมเพียงแตโงอยางเดียวเทานั้น หากยังเปนความคิดที่เลวทรามต่ําชา ผิดแลวไมยอมรับผิดและหาทาง
ปายผิดเอาชีวติ คนซึ่งไมเกี่ยวของเปนเครื่องสังเวยความชั่วชาของตนเสียอีก

ในสวนที่เกี่ยวกับกองทัพซุนเกี๋ยนที่เสียโจเมาและแตกพายมานั้น เปนเรื่องใหญของกองทัพปฏิวัติ ทั้งเกรงวา


กองทัพจากเมืองหลวง จะยกตามตีจึงมีความวิตกนักคิดอะไรเองไมออก จึงใหเชิญบรรดา เจาเมืองมารวม
ประชุมปรึกษา แตกองซุนจานนั้นเดินเขามาประชุม ในภายหลังโดยมีเลาป กวนอู เตียวหุย ติดตามมายืนอยู
ขางหลัง อวนเสี้ยว เห็นเลาป กวนอู เตียวหุย ยืนอยูขางหลังกองซุนจาน มีลักษณะนาเกรงขามจึงถามกองซุน
จานวาทั้งสามคนนั้นเปนผูใด กองซุนจานจูงมือเลาปออกไปยืนขางหนาอวนเสี้ยวคูกับตนแลวแนะนําวาทานผูนี้
คือเลาป เปนเชื้อพระวงศของพระเจาฮั่นโกโจ เปนศิษยรวมสํานักของขาพเจา สวนอีกสองคนเปนนองรวม
สาบานของเลาป เมื่อครั้งสงครามโจรโพกผาเหลือง ทั้งสามพี่นองไดเขารวมปราบ โจรโพกผาเหลืองหลาย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 73

ครั้ง ทําความชอบแกแผนดินไวเปนอันมาก พระเจาเลนเตจึงโปรดใหไปเปนเจาเมืองเพงงวนกวน และบัดนี้ได


รวมกับขาพเจามาทําการดวยกองทัพปฏิวตั ิ

อวนเสี้ยวเปนคนบายศบาอยาง และเกรงใจตอคนผูม  ียศฐานันดรตามวิสัยความคิดศักดินา ไดยินวาเลาปเปน


เชื้อพระวงศพระเจาเหี้ยนเตก็เกรงใจ จึงสั่งทหารใหจัดที่นงั่ ใหเลาปเสมอกับที่นั่งเจาเมืองไวตรงปลายสุดของ
ประชุม กวนอู เตียวหุย จึงยายมา ยืนขางหลังเลาป อวนเสี้ยวแจงขาวศึกที่ซุนเกี๋ยนแตกทัพมานั้นใหทป ี่ ระชุม
ทราบ แตปกปดเรื่องเปาสิ้นเจาเมืองเจปก ใหเปาตงผูนองยกทหารไปชิงเขาตีดานกิสุยกวนแลวแตกพายมา
โดยเปาตงตายในทีร่ บ และเรือ ่ งอวนสุดไมสง เสบียงแกกองทัพซุนเกี๋ยนเสียไมแจงใหทป ี่ ระชุมทราบ

ในขณะที่กําลังประชุมกันอยูนน ั้ ฮัวหยงไดยกทหารออกจากดานกิสุยกวนตรงมายังคายของกองทัพปฏิวต ั ิ เห็น


ธงประจํา ตัวอวนเสี้ยวผูบัญชาการใหญก็ยกมาที่หนาคายนัน้ แลวใหทหารเอาหมวกเกราะของซุนเกี๋ยนครอบ
ไวบนปลายหอกชูขึ้นแกวง แลวเยาะเยยวานี่เปนหมวกแมทัพของพวกกบฏ ใหเจาของหมวกรีบมารับเอาไป
แลววาผูใดเปนนายของเจาของหมวกนี้ หากมิใชสุนัขขี้แพแลวอยามัวลอยตัวหลีกภัยอยูต  อ
 ไป ใหรีบโผลหัว
ออกมาจากกระดอง มาลองเพลงทวนกับเราสักหนอยจะเปนไร ทหารรักษาการณจึงเอาความไปรายงานแก
อวนเสี้ยวในที่ประชุม อวนเสี้ยวจึงถามวาจะมีผูใดอาสาไปรบดวยฮัวหยง ขณะนั้น ยูสด ิ ทหารเอกของอวนสุด
ลุกขึ้นขออาสา อวนเสี้ยวเห็นเปนลูกนองของนองชายตนจึงรีบอนุญาตแลวจัดทหารออกจากคายไปรบดวย
ฮัวหยง กลองศึกของทั้งสองฝายดังขึ้นไมทันไรก็หยุดลง ทหารที่ตด ิ ตามยูสิดวิ่งหนีกลับเขาคายแลวเขาไป
รายงานใหอวนเสี้ยวทราบ วายูสิดประเพลงทวนกับฮัวหยงไดเพียงสามเพลงก็ถูกฮัวหยงเอางาวฟนตายคาหลัง
มา

อวนเสี้ยวไมรูกาํ ลังทหาร ยังคงคิดที่จะเอาออนสูแข็งตอไป จึงถามที่ประชุมวาจะมีใครอาสา ดังนั้นฮันฮกเจา


เมืองกิจิ๋ว จึงเสนอ ใหพัวหองทหารเอกของตนเปนผูไปตัดศีรษะฮัวหยง อวนเสี้ยวก็อนุญาต และจัดทหารให
พัวหองยกไป เสียงกลองศึกดังขึ้นอีกครั้งหนึง่ แตไมทันไรก็เงียบลงเหมือนครั้งกอนเพราะพัวหองรําขวานใหญ
เขารบดวยฮัวหยงไดเพียงสามเพลงก็ถูกฮัวหยงเอางาวฟนตกมาตายอีกคนหนึ่ง ทหารที่ตด ิ ตามก็พากันหนีเขา
คายมารายงานใหอวนเสีย ้ วทราบ

ที่ประชุมฟงรายงานแลวก็ตกใจ อวนเสี้ยวจึงกลาวขึ้นวา ฮัวหยงมีฝมือกลาแข็งนัก เสียดายที่อศ ั วินยอดฝมือ


ของขาพเจาทั้งสอง คืองันเหลียงและบุนทิวมิไดติดตามมาดวย มิฉะนั้นเราคงไมแพตองสูญเสียทหารเอกถึง
สองคนดังนี้ แลวฝนใจถามทีป ่ ระชุมวาครั้งนีจ
้ ะมีผใู ดอาสาไปปราบฮัวหยง ในขณะทีท
่ ี่ประชุมนิ่งอึ้งอยูนน
ั้ ก็มี
เสียงดังกังวานมาจากดานหลังของที่ประชุมวา "ขาพเจาขออาสาไปตัดหัวฮัวหยงเอง" สิ้นเสียงลงอวนเสี้ยว
และทุกคนตางหันมองไปทางเจาของเสียงนั้น เห็นชายหนึ่งสูงหกศอก หนวดยาวเสนละเอียดดุจใยไหม หนา
แดงดังผลพุทราสุก ปากแดงดังชาดแตม คิว้ ดังตัวไหม จักษุยาวดังนกการเวก ศีรษะโพกดวยผาไหมสีเขียว
ใบไม สวมเกราะชุดออกศึก ในมือถืองาวยาวสิบเอ็ดศอก หนักแปดสิบสองชั่งสีดาํ สนิท ยืนแนวนิ่งใบหนาผิน
ไปทางประตูคา ย ดูสงานาเกรงขามยิ่งนัก นั่นคือ กวนอูแหงเมืองไกเหลียง นองรองแหงคําสาบานสวนทอ

อวนเสี้ยวเห็นกวนอูยืนอยูขางหลังเลาป หาใชที่สาํ หรับทหารเอกไม จึงสงสัยแลวถามขึ้นวาทานนี้มช ี อื่ และ


ตําแหนงใดในกองทัพ การถามทั้งนี้แสดงวาอวนเสี้ยวความจําเสื่อมหรือไมก็หูตึง เพราะกองซุนจานเคยแนะนํา
มาครั้งหนึ่งแลวในตอนที่อวนเสี้ยวเห็นเลาป กวนอู เตียวหุย ยืนอยูขางหลังกองซุนจาน หรือไมก็เปนการฟง
คําแนะนําโดยไมสนใจและไมใสใจจํา หรือมิฉะนั้นก็ตองการจะหักหนาคนอื่นวามีตาํ แหนงแหลงทีต
่ ่ําไมสม
ฐานะ กองซุนจานจึงลุกขึ้นรายงานซ้ําอีกวาทานผูนี้คือกวนอู เปนนองรวมสาบานของเลาปมิไดมีตําแหนงใดๆ
ในกองทัพ เปนเพียงทหารเลวถือเกาทัณฑหนามาเลาปเทานั้น

อวนเสี้ยวไดฟงคําก็โกรธจัด รองตวาดไปทางกวนอูวาไอทหารเลวไมรท ู ี่ตา่ํ ที่สูง บังอาจมาพูดตอหนาเจาเมือง


ผูใหญ ขันอาสาจะไปรบดวยฮัวหยงทหารเอก เปนการตีตัวเสมอทหารเอก ดูหมิ่นแมทัพนายกองทั้งปวง วา
แลวก็สั่งทหารใหไปขับกวนอูออกจากที่ประชุม โจโฉเห็นเหตุการณทั้งนั้นโดยตลอด พินิจดูบุคลิกลักษณะ
ทวงทาของกวนอูและน้ําเสียงอาสาศึกแลวสงานาเกรงขามยิ่งนัก เห็นทีจะไดการ ครั้นไดยินอวนเสี้ยวสั่งทหาร
ใหไปไลกวนอูออกจากที่ประชุม จึงรีบลุกออกไปขวางหนาทหารไวบอกใหหยุดไวกอน แลวกาวออกมา
ตรงหนาอวนเสีย ้ วและวา "ทานอยาเพิ่งโกรธกอน ทวงทีกวน อูนี้จะมีฝมือกลาหาญอยูจ  ึงกลาขันอาสา ถาไม
สมดังปากวาจึงจะเอา โทษถึงตาย" แลวโจโฉจึงไดกลาวกับอวนเสี้ยวขอใหมีบัญชาใหกวนอูออกรบดวย
ฮัวหยง

อวนเสี้ยวจึงวากวนอูเปนแคทหารเลว หากออกไปรบดวยฮัวหยงแลว ฮัวหยงจะหมิ่นไดวากองทัพของเราทั้งนี้


สิ้นแลวซึ่งทหารเอก ก็จะหัวเราะเยาะเราวาเปนพวกสิ้นคิด ไมรูทค
ี่ วรไมควร สงทหารเลวไปรบดวยทหารเอก

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 74

เราก็จะเสียเกียรติยศไปเบื้องหนา โจโฉยืนยันความเห็นเดิมแลววา "ขาพเจาเห็นรูปรางกวนอูนี้ใหญโตคมสัน


อยู เห็นสมเปนทหารเอก ฮัวหยงจะไมรูวาเปนทหารเลว" เหตุการณนี้แสดงวาโจโฉมองเห็นความเปนทหาร
เอกที่ซอนอยูในตัวทหารเลวจากเมืองไกเหลียง มองเห็นถึงเพชรเม็ดงามที่ประกายแสงแวววามเจิดจาอยู
ภายในกอนหินอันยังมิไดเจียระไนนั้น ในขณะที่อวนเสีย
้ วซึ่งเปนถึงผูบัญชาการใหญกลับเปนคนตาบอด หรือ
ถูกมานแหงความบายศบาอยางปดสายตาไวจนมืดมิด

กวนอูไดยินโจโฉกลาวเชนนั้นแลว เห็นอวนเสี้ยวยังคงลังเลอยู ในขณะที่เลาปหันหลังมาพยักหนาเปนทีเห็น


ดวย กวนอูจึงกลาวขึ้นวา "ขาพเจาจะขออาสาออกไปครั้งนี้ ถาไมไดศีรษะฮัวหยงเขามา ขอทานจงเอาศีรษะ
ขาพเจาไวแทนเถิด" วาแลวกาวจากดานหลังของเลาปออกมายืนถมึงอยูระหวางกลางที่ดานหลังของที่ประชุม
นั้น ในมือกระชับงาวไวมั่น อวนเสี้ยวเห็นดังนัน
้ จึงอนุญาตใหกวนอูออกรบกับฮัวหยง และสัง่ ใหจัดทหารยกตาม
ไปดวยกวนอู โจโฉเห็นเชนนั้นก็ดีใจ ยกมือเปนทีวาใหกวนอูหยุดไวกอน แลวหยิบเอาปานสุราบวยซึ่งอุนไวริน
ใสจอกสงใหแกกวนอู และอวยพรใหทาํ การไดสําเร็จดังประสงค

กวนอูไมรับสุราจอกนั้น เอามือทั้งสองกุมงาวคอมตัวลงคํานับโจโฉแลววาขอขอบคุณน้ําใจของทาน แต


ขาพเจานี้เปนแคทหารเลว ยังไมมีความชอบ ขอทานจงงดไวกอน ไวเมื่อใดที่ขาพเจาทําความชอบควรแกสุรา
ของทานแลว ขาพเจาจะขอรับสุรามาดื่มคารวะตอทาน วาแลวกวนอูก็รีบออกจากที่ประชุม ยกทหารออกไป
นอกคาย ทามกลางความประหลาดใจและตกตะลึงของหัวเมืองทั้งปวงในที่นั้น แมโจโฉเองก็ยังคงถือจอกสุรา
รออยู ณ ที่เดิม

ทันใดนั้น เสียงกลองศึกของทั้งสองฝายก็ดงั สนั่นขึ้นอีกครัง้ หนึ่งเปนสัญญาณวากวนอูไดเขารบกับฮัวหยงแลว


ไมทันไรเสียงกลองศึกก็หยุดลงเหมือนกับทั้งสองครั้งกอน ทุกคนในทีน ่ ั้นกมหนาสลดลงคาดวาเหตุการณจะ
ซ้ํารอยเปนครั้งที่สาม มีแตโจโฉ เลาป เตียวหุยเทานั้นทีย
่ ังคงเปนปกติอยู ที่ประชุมยังไมทันจะวากลาวสืบไป
ประการใด กวนอูก็กาวเขามาในที่ประชุมมือหนึ่งถืองาว อีกมือหนึ่งหิว้ ศีรษะฮัวหยง โยนลงที่พื้นของหอง
ประชุมแลวกลาวสั้นๆ วา "ขาพเจาตัดศีรษะฮัวหยงมาใหทา นแลว" อวนเสี้ยวและหัวเมืองทั้งปวงยินดียงิ่ นัก
เลาป เตียวหุย เขามาจับเอามือกวนอูและโอบไหลรวมยินดีกันทั้งสามพี่นอง

โจโฉจึงเอาสุราจอกที่ยังคงถืออยูในมือ และสุรานั้นยังคงอุนอยูเขามาคํานับ กวนอู สงสุราใหแลววาขาพเจา


คํานับทานทีท
่ ําความชอบดวยสุราจอกนี้ กวนอูก็รับสุราจากโจโฉมาดื่ม แลวคํานับโจโฉเปนการแสดงความ
ขอบคุณ

วีรชนนั้นมีอยูทก
ุ กาลสมัย อยูท
 ี่วาใครจะมองเห็นและรูจ  ักชวงใชหรือไมเทานั้น และแมวา จะไมเห็นหรือไมรูจัก
ชวงใช แตสภาพการณยอมกําหนดใหวีรชนปรากฏขึ้นตอหนาสายตามหาชนอยูวันยังค่าํ อวนเสี้ยว คนมืดบอด
ทางปญญา ไมมีโอกาสไดรวู าชายสามคนทีย ่ น
ื ขางหลังกองซุนจานในวันนี้ คนหนึ่งก็คือฮองเตอีกพระองคหนึ่ง
ของราชวงศฮั่น และทหารเลวอีกสองคนก็คือทหารเอกนามระบือแหงแควนฉูส หรือจกกก และหนึ่งในนัน ้ ก็คือ
เทพเจาแหงความซื่อสัตย "กวนอู" ที่ผค ู นยังเคารพกราบไหวจนถึงทุกวันนี้

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สงครามของคนไรปญญา (ตอนที่ 33)

ตําราพิชัยสงครามของซุนวูวาไวในบทแรกสุดวา "การณรงคสงครามเปนงานใหญของประเทศชาติ เปนจุด


ความเปนความตาย เปนวิถีทางอันนําไปสูความยืนยงคงอยู หรือดับสูญหายนะ พึงพินิจ พิเคราะหจงหนัก
ทีเดียว" และไดกลาวในบทถัดมาวา "ฉะนั้นจึ่งวินิจฉัยดวยกรณียกิจหา ประการเปรียบเทียบถึงภาวะตางๆ เพื่อ
ทราบความจริง กลาวคือ 1 ธรรม 2 ดินฟาอากาศ 3 ภูมิประเทศ 4 ขุนพล 5 ระเบียบวินัย" และวา "ขุนพลคือผู
กอบดวยสติปญ  ญา ความเทีย
่ งธรรม ความเมตตา ความ กลาหาญ และความเขมงวดเด็ดขาด"

แตทวาสงครามที่บัญชาการโดยอวนเสี้ยวฝายหนึ่ง และโดยตั๋งโตะอีกฝายหนึ่งนั้น กลับกระทําการกันแบบคน


สิ้นคิด ไรสติปญ
 ญา ดังนั้น สงครามจึงดําเนินไปแบบไรทศ
ิ ทาง ไรแผนการยุทธ และเปนไปตามยถากรรม ฝาย
เตียวหุย นองเล็กแหงสวนทอเห็นกวนอูพี่รองมีความชอบอยากจะแสดงฝมอ ื บาง จึงลุกขึ้นเสนอตอที่ประชุมวา
"กวนอูพี่ขาพเจาไดอาสาตัดเอาศีรษะฮัวหยงมาใหแลว ขาพเจาผูนองจะขออาสาตีเขาไปในเมืองหลวง แลว
จะจับเอาตัวตั๋งโตะมาใหทา น"

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 75

ความไมรูการอันควรไมควรของเตียวหุยนี้ทาํ ใหสถานการณ ของเลาปยุงยากขึ้นมาเปลี่ยนสถานการณที่พงึ ได


ใหกลายเปนเสียไป เพราะอวนเสี้ยว ซึ่งไมพอใจกับชัยชนะของกวนอูดวยรูสึกวาเสียหนาอยูแลว มาบัดนี้ภัย
คุกคามของฮัวหยงที่หนาคายสิ้นไป ความบายศบาอยางจึงโหมกลับมาครองใจอีกครั้งหนึง่ พอไดยินเชนนั้นก็
ระบายโทสะเอากับเตียวหุย ลุกขึ้นยืนตวาดเอากับเตียวหุยวาไอทหารเลว จงหุบปากเสียทันที ที่นี่เปนที่ประชุม
ขุนนางผูใหญ ไมมีใครปรึกษาหาความเห็นกับทหารเลวเชนเจา สิกลับมาออกความเห็นหักหนาแมทัพนายกอง
ทั้งปวง หมิ่นน้าํ ใจเรานัก จงออกไปเสียใหพนจากที่ประชุม

โจโฉเห็นอวนเสี้ยวลุแกโทสะ ลวงวิสย ั ผูนําทัพเชนนั้น จึงลุกขึ้นประสานมือคารวะอวนเสีย้ วแลววา "อยางธรรม


เนียมศึกนั้น ถาผูใดมีความชอบในการสงคราม ก็จะปูนบําเหน็จตามสมควร ถาผูใ ดกระทําความผิดก็จะลงโทษ
ซึ่งจะมาถืออิสริยยศในทามกลางศึก ดังนี้ไมสมควร" คําพูดของโจโฉมุงตอการเตือนสติอวนเสี้ยวใหรําลึกถึง
หลักการนําทัพของแมทัพตามพิชัยสงครามอยางหนึ่ง และสะกิดใจอวนเสี้ยวใหรําลึกถึงคําพูดในวันปฏิญาณ
สาบานตนทีจ ่ ะปกครองทหารโดยยุติธรรมอีกอยางหนึ่ง แตอวนเสี้ยวลุแกโทสะ ละความผิดชอบชั่วดีเสียสิ้น
ยินคําโจโฉแลวไมฟงคํา กลาวหาโจโฉดวยเสียงอันดังวาเมื่อทานเห็นทหารเลวมีความสําคัญกวา ขาพเจา
ขาพเจายอมไมสามารถนําทัพไดอีกตอไป จะขอยกทัพกลับแตบัดนี้ แลวทําทาผลุนผลันจะออกจากที่ประชุม
โจโฉรีบกาวเขาไปยุดเอามืออวนเสี้ยวขอรองใหหยุดอยูกอน ประสานมือคํานับแลววาเรือ
่ งใหญของเราที่ยก
กองทัพมาเมืองลกเอี๋ยงนี้ยังไมสําเร็จ อยาถือสากับเรื่องเล็กนอยเพียงเทานี้เลย เห็นแกการแผนดินแลราษฎร
เถิด วาแลวก็หนั มาทางกองซุนจานขอใหพาเลาป กวนอู เตียวหุย กลับไปคายกอน อวนเสี้ยวคอยคลายโทสะ
ลง แลวปดประชุมเสียดื้อๆ จากนั้นจึงแยกยายกันกลับไปยังคายของแตละเมือง

สวนโจโฉนั้นเห็นถึงความสําคัญของสามพี่นองแหงสวนทอ ติด ตามจับตาความเคลื่อนไหวอยางใกลชิด และ


เพื่อใหเกิดความรูสึกที่เปนมิตรตอกัน จึงสั่งใหทหารนําหมูเห็ดเปดไกไปปลอบขวัญเลาปแ  ละพี่นองรวมสาบาน
ถึงในคาย บรรยากาศการประชุมในวันนีท ้ ําใหอวนเสี้ยวสูญเสียความเชื่อถือไปเปนอันมาก หลายเมืองเริม ่ เห็น
วากองทัพปฏิวต ั ิกําลังเกิดปญหาขึ้นแลว เนื่องจากการวางตัวและการทํางานของอวนเสี้ยวนี่เอง สถานการณถึง
วันนี้เพียงแคเดินทัพมาถึงชายแดนเมืองลกเอี๋ยง กองทัพปฏิวัติไดสูญเสียทหารเอกไปแลวถึงสี่คน และถูกตี
แตกพายไปถึงสองกองทัพ ในขณะที่ฝา ยเมืองหลวงสูญเสียเพียงโฮจิ้นทหารเอก เปนแตวากวนอูไดกห ู นาคืน
ใหกับกองทัพปฏิวัตต ิ ัดศีรษะฮัวหยงแมทัพใหญฝายเมืองหลวงไดสําเร็จ ในขณะที่สรุ าในจอกยังไมทันหายอุน

แตกระนั้นกองทัพปฏิวต
ั ิก็ยังคงมิไดกําหนดแผนการรบใดๆ ที่ชด
ั เจนเพื่อการเขายึดเมืองลกเอี๋ยง แมฝา ยเมือง
หลวงเองตั๋งโตะก็หาไดมีแผนการใดๆ ที่จะตีทัพของกองทัพปฏิวัตใิ หแตกพายไปไม สถานการณยังคงเปนไป
ตามยถาบุญยถากรรมตอไป

ฝายทหารของฮัวหยงเมื่อเห็นฮัวหยงศีรษะหลุดจากบาเพียงชั่วการประงาวกับกวนอูไดไมถึงเพลงก็พากัน
ตกใจ แตกหนีกลับเขาดานกิสุยกวน รายงานการศึกใหรองแมทัพลิซกทราบ ลิซกทราบขาวปราชัยของฮัวหยง
แลวก็ตกใจ รีบสงรายงานเขาเมืองหลวง ครั้นตั๋งโตะทราบแลวก็ตกใจเชนเดียวกัน เพราะคาดไมถึงวาแมทัพมี
ฝมือระดับฮัวหยงจะพายแพแกทหารซึ่งไมปรากฏชื่อเสียงเรียงนามมากอน จึงใหทหารไปเชิญลิยูที่ปรึกษาและ
อัศวินงูเหาลิโปมาพบที่จวน ลิยูกุนซือเจาความคิดทราบความศึกแลวเสียดายฮัวหยงเปนอันมาก ความกลัวเขา
ครอบงําความคิดและสติปญญาไปสิ้น เสนอความเห็นอันวิปริตขึ้นวากองทัพทีย ่ กมาครั้งนี้มีอวนเสี้ยวเปนผูนํา
ทัพ และอวนเสี้ยวนั้นมีอาชื่ออวนหงุยเปนราชครูอยูในเมืองหลวง อาจคบคิดกันเปนไสศก ึ จําจะตองประหาร
อวนหงุยและครอบครัวเสียใหสน ิ้ ตั๋งโตะฟงความเห็นอันวิปริตของลิยแ
ู ลวตองดวยอัธยาศัยโฉดชั่วของตนจึง
สั่งใหลิฉย
ุ กุยกี สองทหารเอกคุมทหารหารอยยกไปจับอวนหงุยพรอมครอบครัวและผูคนในบานสังหารเสียสิ้น
โดยที่คนเหลานี้ไมมีความผิดใดๆ แลวสั่งใหตัดศีรษะอวนหงุยสงไปดานกิสุยกวน เสียบไวที่นอกคายเปนการ
เยาะเยยอวนเสีย้ ว

ความคิดของลิยูเจาปญญาในครั้งนีท ้ ําใหไดรก
ู ันวาลิยูนั้นมีความรู ความเขาใจใชเปนที่ปรึกษาไดกแ
็ ตดาน
การเมือง หากเปนดานการศึกสงครามแลวตองนับวาขี้เทอสิน ้ ดี เพราะไมเพียงแตไมสามารถ เสนอแผนการรบ
ที่จะเอาชัยขาศึกไดเทานั้น ยังไมรูขอมูลขาวสารการ สงครามแมแตนอย จึงไดแตหลับตาคิดเอาเองแลวเสนอ
ใหสังหารคนไมมีความผิดเสียเปนจํานวนมาก

จากนั้นตั๋งโตะจึงใหลฉ
ิ ุย กุยกี สองทหารเอกนําทหารหาหมื่นยกออกจากเมืองหลวงไปรักษาดานกิสย ุ กวน มี
คําสั่งหามยกออกไปรบดวยขาศึกเปนอันขาด ใหเพียงแตคุมกําลังตั้งมัน
่ รักษาดาน ไวเทานั้น สวนตั๋งโตะเอง
พรอมดวยลิยู ลิโป หลงเตียว และเตียวเจ คุมทหารอีกสิบหาหมื่นยกจากเมืองหลวงไปทีด ่ า นเฮาโลกวน หาง
เมืองลกเอี๋ยงประมาณหารอยเสน แลวใหลโิ ปแยกทหารสามหมื่นยกไปตัง้ คายอยูนอกกําแพงดาน การจัด
กําลังทหารของตั๋งโตะครั้งนี้ ความจริงหามีแผนการทางยุทธวิธีที่ชด
ั เจนแตอยางใดไม แตทวาโดยชัยภูมิของ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 76

เมืองหลวงและการจัดตั้งดานทั้งสองนี้เปนการจัดวางดวยภูมิปญญาของยอดขุนพลในอดีต มีลักษณะรุกและรับ
อยูในที ดังนัน้ เพียงแตยกทหารไปตั้งยันทัพขาศึกอยูในดานทั้งสองนี้ ก็สามารถคุกคามกดดันกองทัพของ
ขาศึกใหตองประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งการตั้งทัพโดยวิธีการตั้งคายรายเรียงกันไปถึงสองรอยเสนแบบโงเขลาเบา
ปญญาของอวนเสี้ยวดวยแลว ยิ่งถูกคุกคามหนักขึ้น เพราะสภาพกลายเปนวาคายของฝายปฏิวต ั ิที่เรียงรายอยู
ถึงสองรอยเสนนั้นตกอยูระหวางทั่งกับคอนเหล็กมหึมา นั่นคือแนวหนาสุดของกองทัพปฏิวัติ ปะทะอยูกับทั่ง
คือดาน กิสุยกวน ที่มีกําลังตัง้ รับหาหมื่นคน สวนตนทางหรือแนวหลังสุดของกองทัพปฏิวัติอยูใกลกับตัคฆอน
มหึมา คือ ดานเฮาโลกวน ที่มีกําลังพลถึงสิบหาหมื่นคน โดยมีลิโปตั้งคายอยูนอกกําแพงดานพรอมจะรุกรบ
อยูตลอดเวลา

นี่คือ สถานการณเชนเดียวกันกับที่คณะเสนาธิการของเยอรมันไดวางแผนใหกับกองทัพของเจียงไคเช็ก ตีทัพ


ของ พรรคคอมมิวนิสตจีนในสงครามปลดแอก สงผลใหพรรคคอมมิวนิสตจีนไดรับความสูญเสียครั้งยิง่ ใหญจน
ตองเดินทัพทางไกลขึ้นสูเยียนอาน สภาพภูมิการวางกําลังเปนดั่งนี้ ดังนั้น กองทัพปฏิวต ั จ
ิ ึงถูกกดดันคุกคาม
จากพลังยุทธานุภาพของกองทัพฝายเมืองหลวง ทั้งๆ ที่แมวาตั๋งโตะจะมิไดรูความนัยนัน
้ ก็ตาม

หนวยลาดตระเวนของกองทัพปฏิวัตท ิ ราบขาว จึงรายงานใหอวนเสีย


้ วทราบ อวนเสี้ยวจึงเรียกประชุม
กองบัญชาการกองทัพปฏิวัติ ปรึกษาวาจะคิดอานประการใด บรรดาหัวเมืองเหลานั้นไม มีผูใดเสนอความเห็น
โจโฉจึงเสนอขึ้นวา "ซึ่งตั๋งโตะยกออกมาตัง้ อยูหนาคายนัน ้ หวังจะสกัดตนทางไว เราจําจะแบงเอานายทัพ
นาย กองคนละครึ่งยกไปตีอยาใหตั๋งโตะอยูไ  ด" ขอเสนอของโจโฉคือแบงกองทัพปฏิวัติออกเปนสองกอง
กองหนึ่งตั้งมั่นอยูในที่เดิม อีกกองหนึ่งยกเขาตีดานเฮาโลกวน ที่ตั๋งโตะรักษาดานอยู สวนดานกิสย ุ กวนมี
กองทัพของซุนเกี๋ยนตั้งยันไวแลวทีต ่ ําบลเลียงตง เปาหมายของแผนการนี้คืองัดคอนมหึมานั้น ไมใหทุบลง
มายังกองทัพปฏิวัติไดนั่นเอง

แตยังคงเปนความคิดของการยันสงครามเทานัน ้ หาใชการรุกทางยุทธวิธีแตประการใดไม อวนเสี้ยวเห็นดวย


กับขอเสนอของโจโฉ จึงออกคําสั่งใหกองทัพของอองของเมืองโหลาย เตียวเมาเมืองตันลิว เปาสิ้นเมืองเจปก
อวนอุย เมืองซุนหยง ขงเลงเมืองปกไฮ เตียนเอี๋ยงเมืองเสียงตง โตเกี๋ยมเมืองซีจิ๋ว และกองซุนจานเมืองปก
เปง รวมแปดกองทัพยกไปตีดา นเฮาโลกวน กองทัพนอกนั้นใหตั้งมั่นอยูที่เดิม ยกเวนกองทัพของโจโฉ ใหทํา
หนาทีล่ าดตระเวนและประสานงานระหวางกองทัพทุกกองของฝายปฏิวต ั ิ สามพี่นองแหงสวนทอ เลาป กวนอู
เตียวหุย จึงไดรวมไปกับกลุมทัพสวนนี้ โดยสังกัดอยูใ นกองทัพของกองซุนจาน ยกไปดานเฮาโลกวน กองทัพ
ของทั้งแปดเมืองเคลื่อนจากที่ตั้งสูดานเฮาโลกวนเปนสามขบวน โดยกองทัพของอองของเมืองโหลายเปน
กองทัพหนา กองทัพของเตียวเมาเมืองตันลิวและกองทัพของอวนอุยเมืองซุน-หยงเปนกองกลาง อีกหา
กองทัพที่เหลือเปนกองหลัง กองทัพหนาปะทะกับลิโป สูญเสียหองหยกทหารเอกจึงถอยรนมา พอดีกองกลาง
หนุนเนื่องขึ้นไป ลิโปเห็นวามีกองทัพหนุนมาเปนอันมากก็ยกกลับเขาคายที่หนาดานเฮาโลกวนนั้น กองทัพ
หนาและกองกลางทั้งสามทัพจึงตั้งคายยันคายลิโปไวในระยะหางกันเพียงสามสิบเสน ครั้นกองหลังทัง้ หา
กองทัพเคลื่อนมาถึงจึงตั้งคายอยูในบริเวณเดียวกัน

ตั้งคายเสร็จแลว เจาเมืองทั้งแปดจึงมาประชุมปรึกษากันทีค ่ า ยของกองซุนจาน ถือโอกาสนี้แสดงความชื่นชม


ยินดีตอสามพี่นอ  งแหงสวนทอที่กูหนากองทัพปฏิวัติไวไดเมือ
่ วันกอน ขณะปรึกษากันอยูน
 ั้น ลิโปไดยกทหาร
ออกจากคายมาทารบกับกองทัพของเจาเมืองทั้งแปดทีห ่ นาคายของกองซุนจาน เจาเมืองทั้งแปดจึงพากันขึ้น
ไปดูบนหอคอยในคาย เห็นลิโปคุมทหารมีธงทิวปลิวไสว ทั้งนายและพลตางเริงราหาวหาญคะนองนัก กองทัพ
ของแปดหัวเมืองสง บอกสุนทหารเอกของเมืองเสียงตงออกรบ ไมถึงสามเพลงก็ถูกลิโปเอาทวนแทงตกมา
ตาย จึงสงบูอน ั กงทหารเอกเมืองปกไฮออกรบอีก ก็ถูกลิโปใชทวนหวดมือบูอันกงขาด กระบองเหล็กหลุด
กระเด็น บูอันกงจึงขับมาหนี เจาเมืองทั้งแปดหัวเมืองจึงยกทหารออกไปกันเอาบูอันกงกลับเขาคาย แลวตัง้ มั่น
อยู ในคายนั้น

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ประกายกระบีท
่ ี่ซอ
 นในฝก (ตอนที่ 34)

สถานการณสงครามในขณะนี้ อวนเสี้ยวผูบญ ั ชาการใหญและกองทัพเจ็ดหัวเมืองยังคงตัง้ มั่นกินลมชมวิวอยูที่


ชายแดนเมือง ลกเอี๋ยง ในขณะที่กองทัพแปดหัวเมืองยันอยูกบ ั กองทัพของตั๋งโตะ ลิโปทด
ี่ านเฮาโลกวน สวน
ซุนเกี๋ยนนั้นตั้งคายอยูท  ต
ี่ ําบลเลียงตง คุม เชิงดานกิสย
ุ กวน ซึ่งลิฉย
ุ กุยกี สองทหารเอกของตั๋งโตะรักษาดาน
อยู ฝายลิโปซงึ่ ตั้งคายอยูนอกกําแพงดานเฮาโลกวน หลังจากไดรับชัยชนะกองทัพแปดหัวเมือง สังหารทหาร

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 77

เอกเสียคนหนึ่งและฟนทหารเอกบาดเจ็บพิการอีกคนหนึ่งแลว วันรุงขึ้นก็ยกทหารมาทารบกับกองทัพของแปด
หัวเมืองอีกครั้งหนึ่ง

เจาเมืองทั้งแปดหัวเมืองพรอมทั้งเลาป กวนอู เตียวหุย จึงยก ทหารออกไปหนาคาย ตั้งกระบวนเรียงหนา


กระดาน เพื่อจะรบกับลิโปดว ยวิธีรบโดยอาศัยฝมือทหารเอกดังเดิม ทั้งๆ ที่รูและสัมผัสตลอดมาแลววาการรบ
ดวยฝมือทหารเอกนั้นเปนรองฝายลิโปที่ฝม  ือรบเขมแข็งและองอาจกลาหาญยิ่งนัก นับเปนการรบที่ผด
ิ หลัก
พิชัยสงคราม เพราะเปนการรบที่ไมเห็นชัยชนะ หากเปนการรบที่อาศัยแตปาฏิหาริยเปนที่พึ่งเทานั้น

กองซุนจานเจาเมืองปกเปงไดขับมาออกจากขบวนแถวของแปด เจาเมือง เขารบดวยลิโป ซึ่งขับมาออกหนา


ทหารมารออยูก  อนแลว กองซุนจานรบดวยลิโปไดเพียงสิบเพลงก็ออนกําลังลงจึงชักมาหนี ลิโปขับมาไลตาม
ใกลเขามาถึงระยะทวนแทงแลว ลิโปจึงเงื้อทวน แทงกองซุนจาน แตพลันไดยินเสียงตวาดดังสนั่นดุจฟารอง
วา "เฮย! ไอลูกสามพอ ชิมคมทวนของกูดีกวา" มาเซ็กเทาที่ลิโปขี่จึงชะงักลง เสียงโลหะตันสองอันกระทบ
กันดัง "เปง" ยินสนั่นกลบเสียงกลองรบและเสียงโหรองของทหารทั้งสองฝาย ทวนของเตียวหุยฟาดปดเอา
ทวนของลิโปกระดอนไป กองซุนจานฉวยโอกาสนั้นขับมาหลบเขา มาหลังทหารคําดา "ไอลูกสามพอ" ที่เตียว
หุยดาลิโปครั้งนี้ตรงกับขอเท็จจริง เพราะลิโปมีพอตัวคนหนึง่ มีเตงหงวนเปนพอบุญธรรมอีกคนหนึ่ง ลิโป ฆา
เตงหงวนเสียแลวมาอยูด  วยตัง๋ โตะ นับถือตัง๋ โตะเปนพอบุญธรรม อีกคนหนึ่ง จึงเปนลูกสามพอ เปนคําดา
นักการเมืองที่รน ุ แรงโดยมีความเต็มวา "นักการเมืองสามพรรคเหมือนคนสามพอ เปนจัญไรแผนดิน"

ดานเตียวหุยกับลิโปกรายทวนรบกันบนหลังมาโดยมีทหารของ ทั้งสองฝายตั้งขบวนอยูด  านหลัง ธงทิวประจํา


กองทัพรับลมปลิวไสว เสียงกลองศึกดังสนัน ่ ผสานเขากับเสียงโหรองของทหารทั้งสองฝาย ทําใหทั้งลิโป
เตียวหุยตางคึกคะนองยิ่งนัก สิน
้ เพลงที่หาสิบ กวนอูสังเกตเห็นมาที่เตียวหุยขี่อยูนั้นออนกําลังลง ในขณะที่มา
เซ็กเทาของลิโปยังเริงราคะนองคลองแคลวรวดเร็วดังเดิม เกรงวาเตียวหุยจะเสียที จึงขับมากรายงาวนิลนาคะ
ออกไปกลางลานรบสมทบกับเตียวหุยรบดวยลิโปเลาปยืนมาอยูขางกองซุนจานทอดสายตาเขมนมองเชิงรบ
แลว ความวิตกในการศึกก็หมดไปจากใจเห็นเปนทีจะจับลิโป จึงขับมารํา กระบี่คูถลันออกไปในลานรบลอมลิ
โปไว แลวแกวงกระบี่โบกเปนสัญญาณพรอมตะโกนดวยเสียงอันดังวา "เต็ง" กวนอู เตียวหุย รูค  วามหมาย
สัญญาณก็ชักมาวนรอบลิโปสลับไปมา แลวตั้งเปนขบวนพยุหะขึ้น โดยเลาปเขารบตรงดานหนาของลิโป กวน
อูเขารบทางดานขวาของลิโป และเตียวหุยเขารบทางดานซายของลิโป

สามกกฉบับวิจารณของจีนระบุวา เลาปตวาดออกเสียงวา "เต็ง" แลวตั้งขบวนพยุหะ สามกกฉบับสมบูรณระบุ


วา สามพี่นองแหงสวนทอลอมลิโปไวในลักษณะอักษรรูปตัว "T" ซึ่งตรงกับคําวา "เต็ง" ในภาษาจีนในขณะที่
บางตําราวาการตั้งขบวนรบชนิดนี้เปนการตั้งขบวนแบบ คายกลดาวไถ และถือเปนขบวนพยุหะในการศึกชนิด
หนึ่ง เปนแตใชกําลังคนนอยเทานั้น เลาปถือกระบี่คูอยูเผชิญหนาเปนตัวลอ ดูประหนึ่งจะเสียเปรียบ เพราะ
กระบี่เปนอาวุธสั้นกวาทวนของลิโป แตเมื่อเปนพยุหะดังนี้แลว ทวนยาวของลิโปก็ไรพิษสง เพราะไมวาจะฟาด
หรือแทงก็จะติด ขัดไปสิ้น นั่นคือหากจะแทงก็ตองดึงทวนมาขางหลัง สภาพเชนนีท ้ ั้งงาวของกวนอูและทวน
ของเตียวหุยยอมกดดันทั้งในทางฟาดและทางแทงอยูท  ั้งสองดาน หากจะฟนก็ตองเงื้อทวนขึ้นทางดานขวา
ยอมจะติดงาวของกวนอูอีก ทั้งจะเปดชองวางทางดานซายใหเตียวหุยเอาทวนแทงที่ขางตัวถึงหัวใจได
โดยสะดวก

ขบวนพยุหะของสามพี่นองแหงสวนทอกดดันบังคับใหวงลอมแคบลงทุกที ลิโปติดขัดละลาละลังไปเสียทุก
ทางก็ตกใจยิ่งนัก อาศัยแตกําลังและความแคลวคลองวองไวของมาเซ็กเทาหลีกหลบปองปดอาวุธของสามพี่
นองแหงสวนทอเอาตัวรอดเพียงอยางเดียวและตกเปนฝายถูกกระทําอยางสิน ้ เชิง จึงคิดหนีเอาตัวรอด แต
ธรรมดามานั้น ในยามเผชิญศึกดังนี้ไมสามารถชักมาถอยหลังได ดังนั้นลิโปจึงตัดสินใจเสี่ยงโนมตัวไป
ขางหนาจนเกือบซบคอ มาเอาทวนชีต ้ รงไปทางเลาป ฝายเลาปถือกระบี่คูเปนอาวุธสัน
้ กวาปะหนาทางตรง
ไมไดเพราะจะถูกทวนเสียกอน เลาปจึงเอากระบี่คูปด  ทวนของลิโป ในพลันที่กระบี่คูของเลาปฟาดไปทางซาย
เพื่อปดทวนของลิโปนั้น ลิโปกระทืบโกลนมาเซ็กเทาโผนกระโจนไปทางดาน ขวาของเลาป ฝาวงลอมออกไป
ไดอยางหวุดหวิด แลวอาศัยฝเทาอันรวดเร็วดุจพายุของมาเซ็กเทาชักมาหนีออกจากสนามรบราวกับเปน
ปาฏิหาริยท ี่เกิดขึ้น ทั้งๆ ทีม
่ ิไดวางแผนไวกอนแตประการใด

สามพี่นองแหงสวนทอและทหารของทั้งแปดหัวเมืองจึงยกทหารไลตามลิโปไป เลาป กวนอู เตียวหุย นัน


้ สกัด
ทางที่จะไปยังคายของลิโปนอกกําแพงดานไว ลิโปและทหารเขาคายไมไดจึงยกหนีเขาดานเฮาโลกวนแลว
ปดประตูดานเสีย กองทัพของแปดหัวเมืองจึงยกเขาไปประชิดดานเฮาโลกวน ใหทหารปนหักเขาตีดานเปน
สามารถ ลิโปอยูบนเชิงเทินพรอมกับทหารเอกคนอื่นๆ ของตั๋งโตะไดใหทหารยิงเกาทัณฑ ทิ้งกอนศิลาและ
ทรายคัว่ ใสทหารของทั้งแปดหัวเมืองอยางดุเดือด ทหารของทั้งสองฝายบาดเจ็บลงเปนอันมาก

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 78

กองทัพแปดหัวเมืองเห็นจะหักเอาดานไมสําเร็จ จึงใหสัญญาณ ถอยแลวยกทหารกลับมาทีค ่ ายดังเกา สามกก


ฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาการที่กวนอูเขาชวยเตียวหุย แลวเลาปเขาไปสมทบอีกคนหนึ่งเปนเพราะกลัว
แพนั้น นาจะเปนการเขาใจผิดของลามจีนในขณะนั้น เนื่องจากลามเหลานัน ้ เปนราษฎรสามัญทีห ่ อบแตเสื่อผืน
หมอนใบมารับจางคาขายในประเทศไทย ไมมีความรูทางการทหารและพิชย ั สงคราม เห็นสามคนรุมคนเดียวจึง
เขาใจเจตนาวาชวยกันรุมเพราะกลัวแพ ตั้งแตเขารวมกองทัพปฏิวัติ เลาปพ
 ยายามปดบังอําพรางตนอยู ตลอด
มา ไมเคยออกความเห็น ไมเคยพูดจาเกี่ยวกับการศึกสงคราม และไมเคยแสดงออกถึงความสามารถใหปรากฏ
แตเมื่อเห็นวาฝายปฏิวต
ั ิจะเสียทีและเสียการใหญ จึงจําตองแกไขสถานการณใหเปลีย ่ น แปลงจากรับเปนรุก
ดวย

การหาทางจับลิโปใหจงได เหตุนี้จึงจําตองเผยประกายความสามารถของตนเองใหตงั้ คายกลพยุหะ "เต็ง"


ทั้งๆ ที่ใจจริงแลวเลาปคงไมอยากแสดงออกเทาใดนัก เพราะยอมคิดอะไรอยูในใจเหมือนกับคนอื่นๆ ก็
เชนเดียวกันกับโจโฉ ที่ปด
 บังและอําพรางความสามารถของตนตลอดมา ถนอมและไมยอมใชกําลังทัพของตน
อยางสุดชีวติ ตลอดระยะของสงครามที่มาถึงขั้นนี้ โจโฉไมเคยออกรบ ไมเคยใหทหารของตัวออกรบ ทัง้ ไม
เคยเสนอแผนการรบที่จะเผด็จศึกตอกองทัพปฏิวัติ ทําตนเปนเพียงหนวยลาดตระเวนและประสานงานระหวาง
กองทัพทุกหัวเมืองเทานั้น

โจโฉแมวาจะพยายามพรางความสามารถของตนไวสักเพียงใด แตครั้นเห็นกองทัพปฏิวัติเสียทีถูกลิโปสังหาร
ทหารเอกเสียหลายคน และรุกรบอยางไมหยุดยั้ง โจโฉก็ตองเผยความสามารถของตนออกมาใหเห็นดวยการ
ทําหนังสือรายงานการศึกถึงอวนเสี้ยวผูบัญชาการใหญวา "ใหปรึกษากันวาผูใดจะคิดอานกลศึกประการใด จึง
จะไดตวั ลิโป ถาไดตัว ลิโปแลว ก็จะไดตวั ตัง๋ โตะโดยงาย" หนังสือของโจโฉนี้คือการชีน
้ ําสงคราม เสนอเข็ม
มุงใหจับตัวหรือฆาลิโปเสียดวยกลอุบาย เพราะโจโฉไดเห็นแลววาการรบดวยอาศัยฝมือทหารเอกนั้นไม
สามารถเอาชัยตอลิโปได และถาหากไดตัวลิโปแลวก็สามารถเอาชนะตั๋งโตะไดโดยงาย ความคิดการศึก
ของโจโฉอันไดแสดงใหปรากฏในรายงานการศึกนี้มค ี าแทควรทอง เพราะมีฐานะเสมือนกุญแจไขประตูแหงชัย
ชนะในสงครามครั้งนี้ และสะทอนถึงสติปญ  ญาความคิดของโจโฉในการอานการศึกของทั้งสอง ฝายไดอยาง
กระจางยิ่ง

แตผูบัญชาการใหญอวนเสีย ้ วไรสติปญ
 ญาความสามารถจึงเมื่อ เห็นรายงานนี้แลวก็ไมเห็นถึงความนัยทีจ ่ ะเอา
ชัยตอตั๋งโตะ ดังนั้น อวนเสีย
้ วจึงไมไดสั่งการใดๆ ตามที่โจโฉไดเสนอไว ความคิดของเลาปที่จะจับตัวลิโป
และใหสญ ั ญาณนองรวมสาบานตั้งคายกลพยุหะนั้น ก็คือความคิดอยางเดียวกันกับความคิดของโจโฉ ตางกันก็
ตรงที่เลาปใชกลพยุหะ ในขณะที่โจโฉตองการใชกลอุบาย โจโฉ เลาป ตางมองกันออกและอานกันและกัน
กระจาง ทั้งๆที่ตางฝายตางก็พยายามพรางความรูค  วามสามารถของตน ดังนั้นในขณะที่โจโฉไมมองเห็นเจา
เมืองคนใดอยูใ นสายตาตัว แตกับสามพี่นองแหงสวนทอแลว โจโฉกลับมองอยางสนใจทุกฝกาว และพยายาม
เขาใกลเอาใจอยูเสมอไมวาในครั้งที่สนับสนุนกวนอูใหออกรบ การสงสุราใหกําลังใจแกกวนอู และแมในการสง
หมูเห็ดเปดไกไปเอาใจเลาปถงึ ในคายพฤติกรรมเหลานีค ้ ือพฤติกรรมที่ทั้งโจโฉและเลาปต
 า งก็มีความ นัยอยู
ในใจของตนเอง และความนัยที่อยูในใจของทั้งสองคนนี้อาจจะเปนเรื่องเดียวกันและเหมือนกันก็เปนได!

อันการสงครามในยุคสามกกนัน ้ นอกจากจะรบกันดวยฝมือของ ทหารเอกแลว ยังมีการรบโดยรูปแบบอื่นอีกสี่


วิธีคือ การรบดวยกําลังทหาร การรบดวยกลอุบาย การรบดวยขบวนพยุหะ และ "การ รบดวยพลังจักรวาล อัน
เปนมรรควิถีของยอดขุนพลผูนาํ ทัพ" เปนหนาที่ของขุนพลผูน ําทัพที่จะพิจารณาวินิจฉัยเลือกใชวิธีใด วิธห
ี นึ่ง
หรือหลายวิธี เพื่อเอาชัยชนะตอขาศึก หาไดจํากัดหรือตาย ตัวแตอยางใดไม

การรบกอนหนาศึกครั้งนี้ ทั้งสองฝายใชวิธีการรบดวยฝมือทหารเอก ซึ่งฝายเมืองหลวงไดเปรียบฝายปฏิวัติ


ตลอดมา เพราะฝาย เมืองหลวงมีทหารเอกทีม ่ ีฝมือรบพุง และมีความเชี่ยวชาญการรบมาก กวาฝมือทหารเอก
ของหัวเมืองมากมายนัก ดังนั้นเพียงเพลงสองเพลงรบ ทหารเอกของกองทัพปฏิวัติจากหัวเมืองตางๆ ก็หัวขาด
ตก เปนฝายพายแพยกเวนก็แตครั้งทีท
่ หารเลวไรชื่อเสียงเรียงนามผูหนึ่งซึง่ หนวดยาว หนาแดงถืองาวนิลนา
คะ นามวากวนอูไดตัดหัวฮัวหยงทหารเอกฝาย เมืองหลวงไดในเวลาชั่วสุรายังไมทันหายอุน จึงกูหนาใหแก
ฝายปฏิวต
ั ิ ไดเปนครั้งแรก

ผูนําทัพของทั้งสองฝายตางก็ขี้เทอพอๆ กัน และรูจ


 ักใชแตวิธีรบโดยอาศัยฝมือทหารเอกเทานั้น ไมมี
ความสามารถและไมมีความ รูท  างยุทธวิธท ี ี่จะใชวิธีการรบโดยวิธีอื่นได ดังนั้น เมื่อ ฮัวหยงหัวหลุดออกจากบา
และลิโปเสียทีแกสามพี่นอง จึงทําใหสถานการณสงครามทีฝ ่ ายเมืองหลวงเปนฝายรุกและไดเปรียบแปร
เปลี่ยนไปโดยมูลฐาน ฝายเมืองหลวง ซึง่ เปนฝายรุกรบอยางฮึกเหิมและไดเปรียบมาโดยตลอด ตองถอย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 79

กลับไปตั้งหลักอยูในดาน ในขณะที่ฝา ยปฏิวต


ั ิเปลี่ยนสภาพจากฝายรับกลายเปนฝายรุกและรุกเขาประชิดดาน
เฮาโลกวนกดดันตอความรูสึกนึกคิดของตั๋งโตะและกองทัพฝายเมืองหลวงอยางรุนแรงทีส ่ ด
ุ เพราะความหวังที่
จะอาศัยลิโปกําราบศึกไดพังทลายลงแลว และไมสามารถคิดอานวิธีการรบแบบอื่นมาทดแทนได

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

เพลงพื้นบานอันลึกลับ (ตอนที่ 35)

เมื่อสถานการณสงครามของฝายปฏิวต ั ิเปลีย
่ นจากถอยเปนรับสูร ุก เปลีย
่ นจากปราชัยเปนมีชัยเชนนี้ หัวเมือง
ทั้งปวงจึงมีความ ยินดียิ่งนัก เฉลิมฉลองกันแลวเจาเมืองทั้งแปดหัวเมืองจึงรายงานการศึกใหผูบญ ั ชาการใหญ
อวนเสี้ยวทราบ อวนเสี้ยวทราบความศึกแลวยินดีนัก คิดทําศึกแตกหักทั้งทางดานเฮาโลกวนและดานกิสุยกวน
เพราะความคิดของอวนเสี้ยวนัน ้ เขาใจวาในสภาพเชนนี้กองทัพฝายเมืองหลวงตองปราชัยอยางแนแท จึง ชวง
ชิงฉวยโอกาสสรางผลงานของตนเองในฐานะเปนผูบัญชาการในการศึกขั้นสุดทาย

แตอวนเสีย้ วกังวลอยูดวยกองทัพของซุนเกี๋ยน ซึ่งไมพอใจอวน สุดในเรือ ่ งไมสงเสบียงตามกําหนด ทําให


กองทัพเมืองเตียงสาตองพาย แพ จึงไดแตตงั้ คายมั่นไวไมยอมออกรบ ดังนั้นอวนเสี้ยวจึงใหทหารถือหนังสือ
ไปยังซุนเกี๋ยนใหเรงยก ทหารตีดาน กิสุยกวนใหจงได แลวแกตัวใหกับอวนสุดผูนองวาเรื่อง เสบียงครัง้ กอน
นั้นอวนสุดไดสงั่ การไปแลว แตทหารผูร ับผิดชอบปฏิบตั ิละหนาที่เสีย จึงทําใหทานเดือดรอนเสียหาย ขอจง
เห็นแกการใหญของบานเมือง อภัยเรื่องนี้เสียเถิด

ซุนเกี๋ยนเห็นหนังสือของอวนเสี้ยวแลว จึงสัง่ ทหารใหรักษาคาย ไวใหมน ั่ คง ตัวซุนเกีย ๋ นเองพาเทียเภา อุย


กาย ออกจากคายไปหาอวนสุด เพื่อตองการไตถามเรื่องนี้ใหสิ้นกระแสความ ทําความจริงใหกระจาง และให
เอาตัวคนผิดมาลงโทษตามพระอัยการศึก ซุนเกี๋ยนพบอวนสุดแลวตอวาเรื่องไมสงเสบียง จนทําใหกองทัพซุน
เกี๋ยนตองเสียที อวนสุดมีความละอายใจนักแตแกตัวเหมือนกับที่ไดซักซอมไวกับอวนเสี้ยววาไดสั่งการไปแลว
แตทหารผูร ับผิดชอบปฏิบต ั ิละหนาที่เสีย วาแลวสั่งทหารใหไปจับตัวทหารเลวคนหนึ่งแลวกลาวหาวาทิ้งหนาที่
ไมลําเลียงเสบียงสงใหแกกองทัพ ซุนเกี๋ยนแลวสั่งใหเพชฌฆาตประหารทหารเลวนัน ้ เสียตอหนาซุนเกี๋ยน
เรื่องของคนถอยกับเรื่องของแพะรับบาป แมจะเปนคนละเรือ ่ ง แตก็เปนเรือ
่ งที่เกี่ยวเนื่องอยูในเรื่องเดียวกันมา
ตั้งแตครั้งประวัติ ศาสตรดวยประการฉะนี้

ซุนเกี๋ยนเห็นอวนสุดประหารทหารของตนเองก็คิดวาเปนการกระทําโดยจริงใจ จึงคอยคลายโทสะลง ในขณะ


นั้นทหารของอวนสุดเขามารายงานวา มีทหารมาจากคายของซุนเกี๋ยนขอพบซุนเกี๋ยนเปนการดวน ซุนเกีย ๋ นจึง
ออกมานอกคายพบทหารจากคายตนแลวทหารนั้นรายงานวาบัดนี้มท ี หารเอกของตั๋งโตะชื่อวา ลิฉุยมาแตดาน
กิสุยกวน และรอพบซุนเกี๋ยนอยูที่คา ย บอกวามีราชการสําคัญซุนเกี๋ยนจึงกลับเขาไปในคายบอกลาอวนสุด
แลวเดินทางกลับไปยังคายของตน ณ ตําบลเลียงตง เขาไปพบกับลิฉุยถามวาทานมาพบเราดวยธุระสิ่งใด ลิ
ฉุยคารวะซุนเกีย ๋ นตามธรรมเนียมแลววาการทีห ่ ัวเมืองตางๆ ยกมาประชิดแดนลกเอี๋ยงครั้งนี้เปนกบฏตอ
แผนดิน กอความเดือด รอนแกบานเมืองและราษฎร อัครมหาเสนาบดีตั๋งโตะจะทําการปราบปรามอยางเฉียบ
ขาด แตมใี จเมตตาทานดวยเปนคนกลาหาญมีคุณธรรม เปนกําลังสําคัญของแผนดิน ทัง้ ยังหวังไมตรีทส ี่ ถาพร
ไปเบื้องหนา โดยทานอัครมหาเสนาบดี ทราบกิตติศัพทวา ซุนเซ็กบุตรทานเปนคนมีสติปญ ญากลาหาญ
เหมาะสมกับบุตรสาว จึงดําริที่จะยกบุตรสาวใหเปนภรรยาซุนเซ็ก เพื่อ ใหตระกูล "ตั๋ง" และ "ซุน" เปนทอง
แผนเดียวกัน จะไดรวมมือกันทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุขสืบไป

ซุนเกี๋ยนฟงลิฉยุ เจรจาดั่งนั้นก็เขาใจไดวาตั๋งโตะตองการซื้อหาตนเหมือนกับการซื้อหาสินคาตามทองตลาด
ดวยการยกลูกสาวใหแกซุนเซ็กผูบุตร แลวใหหักหลังหัวเมืองตางๆ ดวยการถอนตัวออก จากกองทัพปฏิวัติก็
เคืองใจนัก จึงตวาดเอากับลิฉุยใหหยุดอยากลาวความสืบไปอีกเลย แลวซุนเกี๋ยนจึงวาบานเมืองทุกวันนี้
เดือดรอนเปนจลาจล ราษฎรทุกขเข็ญทุกหยอมหญา เกิดแตตั๋งโตะเปนกบฏขายชาติ ทําหยาบชา ตอฮองเต
และขุนนางขาราชการทั้งปวง ปลนบานปลนเมือง ขมเหงสังหารราษฎรผูไมมีความผิดเปนจํานวนมาก แมกับ
พระสงฆองคเจา ก็มิไดละเวน ทําใหราชการบานเมืองวิปริต เราจึงพรอมใจกับหัว เมืองตางๆ ยกเขามาเพื่อจะ
ลางตั๋งโตะเสียใหสิ้น ทั้งบัดนีร้ าษฎรในเมืองหลวงและหัวเมืองตางชิงชังทรราชยกนสาปแชงทุกวันคืน ใครจะ
กินเนื้อทรราชระบายความแคนกันทุกตัวคน ชะตากรรมของทรราช จะไมยน ื ยาวแลว อยาวาแตจะใหลูกเรารับ
เอาลูกสาวทรราชมาเปนภรรยาเลย เพียงแคไดยินเรื่องนี้เราก็ละอายยิ่งนัก ลูกเสือไมมี วันที่จะเอาลูกสุนัขมา
ทําเมียอยางเด็ดขาด

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 80

ซุนเกี๋ยนสําทับตอไปวาทานเปนทูตมาเกลี้ยกลอมเราครั้งนี้ เราจะไวชีวิตสักครั้งหนึ่งไมใหผิดธรรมเนียมตอนรับ
ทูตมาเจรจาความเมือง ตอไปเบื้องหนาถามากลาวดวยเราในเรื่องนี้อีกเราจะสังหารตัวเสีย แลววาตัวจงกลับไป
แลวชวนทหารทั้งปวงของ ตัง๋ โตะใหมาเขาสวามิภักดิ์ดว ยกองทัพปฏิวัติเสีย มิฉะนั้นจะพากันตายสิ้น ลิฉุยฟง
ซุนเกี๋ยนแลวเห็นวาการที่ไดรับมอบหมายจากตั๋งโตะ ลิยู ใหมาเกลี้ยกลอมซุนเกี๋ยนคงจะไมสําเร็จเปนแนแท
ทั้งขืนอยูเจรจา สืบไปอาจไดรับอันตรายเพราะกิรย ิ าทาทีของซุนเกี๋ยนเหี้ยมหาญดุดันยิ่งนัก ลิฉุยจึงลุกขึ้น
คารวะแลวอําลาซุนเกี๋ยนเดินทางกลับเขาดาน ราย งานใหตงั๋ โตะ ลิยู ทราบ

ตั๋งโตะจึงปรึกษาลิยูวาเมื่อซุนเกี๋ยนไมยอมตกลงปลงใจดวยเชนนี้ จะคิดอานแผนการประการใด ลิยูซึ่งบัดนี้


สติปญ  ญากําลังวิปริต แปรปรวนดวยกลัวภัย จึงออกความเห็นวา ซึ่งกองทัพเราสูญเสียฮัวหยงทหารเอกไปคน
หนึ่ง ไมทันไรลิโปก็เสียทีแกขาศึกซ้ําอีกเลา กองทัพแลทหารของเราตางมั่นใจในฝมือของทหารเอกทั้งสอง
เชื่อวา จะนําชัยชนะมาสูกองทัพ แตเมื่อเหตุการณผันแปรไปดังนี้ทําใหขวัญทหารทั้งกองทัพทอถอยและสิ้น
หวัง เปนอุปสรรคตอการทําศึกตอไป และแมจะทําศึกตอไปเห็นจะไมไดชัยชนะ

เมื่อสิ้นคิดเสียเชนนี้แลวลิยจ
ู ึงเสนอใหตั๋งโตะยกทัพกลับเมืองหลวง “แลวเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตไปตั้งอยู
เมืองเตียงอัน" วาแลวลิยูก็อางวาเด็กๆ ชาวเมืองรองรําทําเพลงเปนใจความวา เบื้องบูรพามีเมืองฮั่น เบื้อง
ประจิมก็มีเมืองฮั่น กวางหนีภย ั เขาไป เมืองเตียงอันแลวจึงรอดตาย ไดพจ ิ ารณาความหมายของเพลงพื้นบานนี้
แลว จึงไดรูวาเมืองลกเอี๋ยงราชธานีกําลังจะดับสูญ ราชวงศ ฮั่นกําลังจะสิ้นแลว ถาทานยกไปเมืองเตียงอัน
เห็นจะไดราชสมบัติเหมือนกับพระเจาฮั่นโกโจ ความเห็นของลิยูเปนความเห็นที่ไมมีขอมูลขาวสารทาง
การทหาร และขอมูลลับเกี่ยวกับการภายในขางกองทัพปฏิวต ั ิ หากเปนการออก ความเห็นแบบสงเดช เพราะ
สถานการณขณะนี้ภายในกองทัพปฏิวต ั ิมีรอยราวปริ ทั้งผูบญ
ั ชาการใหญอวนเสีย
้ วก็เปนคนไรสติปญญา
ความสามารถ มิไดมีแผนการใดๆ ที่จะยึดเอาลกเอี๋ยงไดเลย

ดังนั้นถาหากลิยูรูความศึกหรือใสใจแสวงหาขอมูลขาวสารการสงครามใหสมกับฐานะที่ปรึกษาแลว ยอมจะไม
ออกความเห็นชุยๆ แบบนี้ เพราะเพียงแตเสนอใหฝายเมืองหลวงคุมกําลังตั้งมั่นไวในดาน แลวหาทางสราง
ความแตกแยกในกองทัพปฏิวต ั ิ ไมวาโดยวิธก
ี ารตัดเสบียง หรือเกลี้ยกลอมกองทัพอื่นประการหนึ่งประการใด
หรือโดยติดสินบนดวยการตั้งตําแหนงแหลงที่ใหสูงขึ้น หรือปูนบําเหน็จ ใหไปกินเมืองใหญ หรือปลอยขาว
สรางกระแสโกหกหลอกลวงดวย ประการตางๆ เหมือนดังทีร่ ัฐบาลบางรัฐบาลกระทําอยูอยางเชีย
่ วชาญ
ช่ําชองแลว กองทัพปฏิวต ั ิก็จะแตกพายไปเอง

ขอเสนอของลิยูในครั้งนี้จึงเปนขอเสนอที่เหลวไหล ไรเหตุผล ราว กับวาเปนคนละคนกับลิยูคนที่เสนอ


แผนการใหตั๋งโตะยึดอํานาจรัฐ เพราะเพียงแคเสียทหารเอกไปคนหนึ่งและลิโปทหารเอกอีกคนหนึ่งเสียที
ขาศึกมาเทานัน
้ กลับเสนอใหยายเมืองหลวงจากเมืองลกเอี๋ยงไปอยูเมืองเตียงอัน สะทอนใหเห็นถึงจิตใจที่ขี้
ขลาดตาขาว และตกใจกลัวงาย คลายกับนักวิชาการขายตัวบางยุคบางสมัยทีถ ่ ูกเรียกขานวาบัณฑิตเตาหู อัน
เมืองเตียงอันหรือเมืองฉางอัน คือเมืองซีอานในปจจุบัน เคยเปนราชธานีในสมัยจิ๋นซีฮองเต หลังจากพระเจา
ฮั่นโกโจไดชัยชนะตอฌอปาออง และปราบดาภิเษกเปนปฐมกษัตริยแ  หงราชวงศฮั่นแลว ไดฟนฟูเมืองเตียงอัน
ซึ่งถูกฌอปาอองวางเพลิงเผาผลาญจน หมดสิ้นขึ้นมาใหม ตั้งเปนราชธานีของราชวงศฮน ั่ สืบสันตติวงศเปน
ลําดับมาถึงสิบสองรัชกาล เปนเวลารวมสองรอยป อองมังขุนนางเปน กบฏยึดอํานาจ ครั้นพระเจาฮัน ่ กองบู
ปราบปรามอองมัง ชิงเอาเมืองเตียงอัน อองมังไดเผาเมืองเตียงอันเสียจนวอดวายสิ้น พระเจาฮั่นกองบูจึงยาย
ราชธานีมาสรางเมืองหลวงใหมทางดานตะวันออก ชื่อวาเมืองลกเอี๋ยง หรือเมืองลั่วหยาง

ในปจจุบันนี้ เชื้อสายของพระเจาฮั่นกองบูเสวยราชยตอๆ กันมาถึงพระเจาเหี้ยนเตเปนสิบสองรัชกาลเปนเวลา


อีกสองรอยป ดังนั้นจึงเรียกราชอาณาจักรฮัน ่ ในสมัยพระเจาฮั่นโกโจมาจนถึงเวลากอนอองมังยึดอํานาจวาฮั่น
ตะวันตก หรือไซฮั่น มีเมืองเตียงอันเปนราชธานี และเรียกราชอาณาจักรฮั่นตั้งแตสมัยพระเจาฮั่นกองบูมา
จนถึงสมัยรัชกาลพระเจาเหีย ้ นเตวาฮั่นตะวันออก หรือตังฮั่น การเอาเพลงพื้นบานมาเปนเหตุผลในการยาย
เมืองหลวงจึงเปน เหตุผลทีบ ่ าบอคอแตกทีส ่ ุด ไมตางอะไรกับความเชื่อของพวกมืออาชีพในบางยุคทีว่ าการ
ฟนฟูแกไขปญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศจะสําเร็จไดก็แตดวยการเอาอกเอาใจตางชาติ เพื่อให
ตางชาติ เอาเงินเขามาลงทุนดวยความหลงผิดมหันตวา มีแตทุนตางชาติเทานั้น จึงจะทําใหเศรษฐกิจของ
ประเทศฟนคืนได

เหตุนี้จึงยอมตนขายตัวใหกับตางชาติ ยอมเปนทาสทีส่ ามารถกระทําทุกอยางกับพี่นองรวมชาติของตน ไม


คํานึงวาจะเกิดความฉิบหายแกบานเมืองและราษฎรอยางไร ขอใหตางชาติพอใจก็เปนพอ ไมยอมคิดไมยอม
เขาใจวาความพอใจของตางชาติก็คือการปลนสะดมเอาผลประโยชนทั้งหลายของประเทศและประชาชนไปจน
หมดสิ้น

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 81

ดังนั้นจึงไมเพียงแตปญหาเศรษฐกิจของประเทศจะแกไขไมฟน คืนเปนปกติเทานั้น ยังกลับทรุดหนักลงใน


ทุกๆดาน จนกลไกเศรษฐกิจของประเทศถูกยึดครองไปจนหมดสิ้น ราษฎรเดือดรอนและตกเปนทาสของลัทธิ
ลาเมืองขึ้นสมัยใหม ผูนาํ โงๆ แบบตั๋งโตะไดฟงขอเสนอเชนนี้ก็หลงเชื่อตามเพราะไรสติปญญาความสามารถ
ทั้งขี้ขลาดตาขาว ขอเพียงใหไดอยูในอํานาจเทานั้น บานเมืองและราษฎรจะเดือดรอนฉิบหายก็มิไดสนใจ
คํานึงถึง ดังนั้นตั๋งโตะจึงสั่งใหยกทัพกลับเมืองหลวงสามกกบางฉบับระบุวาเพลงพื้นบานที่เด็กๆ รองรําทํา
เพลงกันเลนๆ นี้แตงขึ้นโดยกลุมบัณฑิตกลุมหนึ่ง มีสุมาเตกโช ปราชญผูชาํ นาญ ทางอาโปกสิณเปนผูนํา ได
เล็งเห็นการในเบื้องหนาวาแผนดินเปนจลาจล เชื้อสายพระเจาฮั่นโกโจจะกลับฟนคืนอํานาจเปนใหญไดก็แต
โดยเคลื่อนตัวไปตั้งหลักปกฐาน ณ ดินแดนเสฉวน ซึ่งเปนดินแดนดานตะวันตก ในขณะที่เมืองลกเอี๋ยงเปน
ดินแดนดานตะวันออก ของเมืองเสฉวน จึงแตงเพลงขึ้นเพื่อสงขาวสารเปนความนัยถึงเชื้อสายของพระเจาฮั่น
โกโจใหเด็กๆ พื้นบานใชเปนเพลงขับรอง ซึง่ เปนวิธีสื่อสาร ชนิดหนึ่งเชนเดียวกับใบปลิวหรือขาวลือในสมัย
ปจจุบัน หาใชเมืองเตียงอัน ซึง่ อยูทางดานทิศเหนือของเมืองลกเอี๋ยงดังทีล ่ ิยูเขาใจและตีความเอาตามใจชอบ
ไมตั๋งโตะยกกองทัพกลับเมืองหลวงแลว เรียกประชุมขุนนางขาราชการทั้งปวง แลวทําตัวเปนโหราจารยใหญ
หลอกขุนนางขาราชการเหลานั้นวาเราไดพิจารณาดูดวงดาวประจําเมืองแลวเห็นเศราหมองนัก เมืองลกเอี๋ยง
กําลังจะดับสูญ ฮองเต ขุนนางขาราช การแลราษฎรจะไดรับอันตราย ดังนั้นจําเปนที่จะตองยายเมืองหลวงจาก
เมืองลกเอี๋ยงไปตั้งราชธานีใหมที่เมืองเตียงอัน บานเมืองแลราษฎรจะไดรมเย็นเปนสุขสืบไป

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ปรมาจารยของพลพต (ตอนที่ 36)

กรณีที่พลพต ผูนําเขมรแดงขับไลประชาชนกัมพูชาออกจาก เมืองหลวงนับลานคน และสังหารหมูร าษฎรอีก


เกือบลานคนนั้น หลายคนคิดวาความคิดของ พลพตนี้เพิ่งมีขึ้นเปนครั้งแรกในโลก แตแทจริงรากฐานความคิด
ชนิดนี้มใิ ชเพิ่งมีขึ้นในครั้งเขมรแดงครองอํานาจในกัมพูชาแตประการใด หากเปนความคิดของ ตั๋งโตะ ที่ได
ริเริ่มไวเมื่อเกือบสองพันปกอน ดังนั้นจึงกลาวไดวาตั๋งโตะก็คือ ปรมาจารยของพลพตนั่นเอง และสิ่งที่พลพต
ทําเมื่อเทียบกับสิ่งทีต ่ ั๋งโตะทํานั้นยังหางไกลกันมากมาย แมหากจะนับวาพลพตเปนลูกศิษยของตั๋งโตะ ก็นับ
ไดแตเพียงวาเปนลูกศิษยชั้นปลายแถวสุดเทานั้นเอง

เมื่อตั๋งโตะกลาวในที่ประชุมขุนนางเสนอใหยา ยเมืองหลวง สิ้นคําลงขุนนางตางๆ ซึ่งแมจะทั้งเกรงทั้งกลัว ตั๋ง


โตะแตทนเห็นความวอดวายที่จะเกิดขึ้นกับบานเมืองไมได จิตใจเสียสละเห็นแกชาติบานเมืองและราษฎรจึง
โชติชว งขึ้นขับไลความมืดแหงภยาคติที่ครองใจออกไปสิ้น เอียวปวขุนนางเปนผูลุกขึ้นคัดคานเปนคนแรก
อุยอวนขุนนาง ลุกขึ้นกลาวสนับสนุนความเห็นของเอียวปวแลวเสริมวา เมืองเตียงอันนั้นถูกเผาเสีย ตั้งแตครั้ง
อองมังและยังเปนปาอยู "ซึ่งทานจะละเมืองนี้เสีย จะไปเอาปาเปนเมืองนั้น ขาพเจาเห็นไมสมควร"

ซุยชองขุนนางลุกขึ้นสนับสนุนความเห็นของเอียวปวอีกคนหนึ่ง ตั๋งโตะเห็นขุนนางคัดคานความคิดตัวและมีที
ทาวาจะมี ขุนนางสนับสนุนความเห็นในทางคัดคานมากขึ้นก็โกรธสั่งให เลิกการประชุมแลว ถอดเอียวปว อุยอ
วน และซุนชองออกเสียจากที่ขุนนาง สวนเอียวปกับเหงาเคงสองขุนนาง เห็นตั๋งโตะปดประชุมโดยทีย ่ ังไมมี
ขอยุติจึงออกไปดักรอตั๋งโตะอยูที่ประตูวัง ครัน
้ ตั๋งโตะนั่งเกวียนออกจากวังจะกลับจวน ทั้งสองขุนนางจึงเขาไป
คํานับและแสดง ความเห็นคัดคานไมใหตั๋งโตะยายเมืองหลวง ตั๋งโตะเห็นสองขุนนางตามมาดักคัดคานถึงหนา
ประตูเมืองก็โกรธ ลําเลิกความหลังวา เมื่อครั้งอวนเสี้ยวยกทหารหนีไปจากเมืองหลวง ตัวเสนอใหเอาใจอวน
เสี้ยวใหเราแตงตั้งเปนเจาเมืองเราก็ทําตาม บัดนี้อวนเสี้ยวกลับมาจะทํารายเรา เปนเพราะตัวทั้งสองคน คบคิด
เปนสายสนกลในกับอวนเสี้ยว วาแลวก็สั่งใหเพชฌฆาตเอาตัวเอียวปกับเหงาเคงไปฆาเสีย

ตั๋งโตะกลับไปถึงจวนแลวใหทหารตามลิยูมาพบกําหนดการยาย เมืองหลวงไปอยูเมืองเตียงอัน สองคนโฉดจึง


ไดปรึกษาถึงแผนการยายเมืองหลวง สรุปเปนแผนปฏิบัติไดดังนี้ ประการแรก ใหเชิญเสด็จพระเจาเหีย ้ นเต
พระสนม และขุนนาง ขาราชการราชสํานักออกจากเมืองหลวงไปตั้งราชธานีใหมที่เมืองเตียงอัน โดยใหตั้งเปน
พลับพลาที่ประทับชั่วคราวที่เมืองเตียงอันใน ระหวางการกอสรางเมืองหลวงใหม โดยตั๋งโตะจะคุมทหาร
อารักขาขบวนเสด็จดวยตนเอง ประการทีส ่ อง ใหริบทรัพยสินเศรษฐี พอคาวาณิช ทั้งเมืองลกเอี๋ยงเขา
ทองพระคลังหลวง เพื่อเปนคาใชจายในการกอสรางเมืองหลวงใหม ประการทีส ่ าม ใหจับกุมญาติของอวน
เสี้ยวรวมทั้งคนแซ "อวน" ที่อยูในเมืองหลวง ตลอดจนสมัครพรรคพวกในขอหากบฏตอแผนดิน แลวประหาร
ใหสิ้นราก จะไดไมตองกังวลการขางในอีกตอไป สวน บรรดาทรัพยสินของคนเหลานี้ใหรบ ิ ราชบาตรเสียทั้งสิ้น
และเอาไปสมทบเปนคาใชจายในการกอสรางเมืองหลวง ประการทีส ่ ี่ ใหกวาดตอนราษฎรในเมืองลกเอี๋ยงไป
เมืองเตียงอันเสียทั้งสิ้น ผูใดขัดขวางใหฆาเสีย ในขอหาขัดพระบรมราชโองการ ประการทีห ่ า ใหขุดพระบรม

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 82

ศพ พระศพ และศพของพระบูรพมหากษัตริย พระราชวงศและขุนนางที่มค ี ุณตอแผนดินที่ฝงอยูในสุสานหลวง


เอาไปเมืองเตียงอันเสียทั้งสิ้น นี่คือแผนการอุบาทวโดยแท แตเมื่อสองผูย
 ิ่งใหญปรึกษาเห็นพองตองกันแลว
จึงมีการนําไปสูก
 ารปฏิบัติ

ตั๋งโตะไดใหทหารเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเต พระสนมและขุนนาง ราชสํานัก เคลื่อนออกจากเมืองหลวงไปสู


เมืองเตียงอันเปนขบวนแรก และใหทหารไปจับคนตระกูล "อวน" ทั้งที่เปนญาติโดยตรงและไมใชญาติโดยตรง
ของอวนเสี้ยว พรอมทั้งครอบครัวและคนในบาน เอาธงปกไวบนศีรษะวาเปนขบถตอแผนดิน แลวประหารเสีย
ทั้งหมด ตัดศีรษะเสียบประจานไว แลวริบราชบาตรไดทรัพยสินเงินทองมาเปน จํานวนมากจากนั้นจึงสั่งให
ทหารไปริบทรัพยสินขาวของเงินทองของเศรษฐี พอคาวาณิชในเมืองลกเอี๋ยงทั้งสิ้น บรรจุหีบแลวลําเลียง
สงไปเมืองเตียงอัน เศรษฐี พอคาวาณิชในเมืองลกเอี๋ยงจํานวนมากไมยน ิ ยอม สงมอบทรัพยสินขาวของเงิน
ทอง จึงถูกทหารตั๋งโตะฆาเสียทั้งครอบครัวนับแสนคน แลวตั๋งโตะไดสงั่ ใหลฉ
ิ ุย กุยกี คุมทหารกวาดตอน
ราษฎรในเมือง ลกเอี๋ยง "ตอนอาณาราษฎรไปแลคนทั้งหญิง ทั้งชาย เด็กเล็ก ไดประมาณหกรอย เจ็ดรอย
หมื่น" ไปเมืองเตียงอัน โดยใหจัดขบวนเปนกองๆ ใหกองทหารนําหนาไปกองหนึ่ง ตามดวยราษฎรกองหนึ่ง
สลับกันไป ราษฎรถึงเจ็ดลานคนถูกกวาดตอนออกจากเมืองหลวงถึง สิบวันจึงจะหมดสิ้น "อาณาประชาราษฎร
เหยียบกันตายเปนอันมาก เหลาทหารก็เขาชวงชิงเอาทรัพยสิ่งสินของราษฎร แลวฉุดลากภรรยา ของ
ชาวเมืองและลูกสาว ซึ่งพอแมพี่นองไปดวยมาทําอันตราย บรรดา ประชาราษฎรไดความเดือดรอนเปนอันมาก
เสียงรองไหอึงคะนึงไป"

ในระหวางเดินทางมีคนปวยคนเจ็บ ก็ถูกทหารของตั๋งโตะสังหารเสีย เพื่อไมใหเปนอุปสรรคและเสียเวลาใน


การเดินทาง ราษฎร ถูกสังหารในระหวางทางหลายแสนคน เหตุการณทงั้ นี้คลายกับเหตุการณเมื่อครั้งพลพต
ผูนําเขมรแดงขับไลนักธุรกิจกัมพูชาออกจากกรุงพนมเปญและหัวเมืองใหญใหไปทําไรไถนาในชนบท และ
การสังหารหมูชาวกัมพูชานับลานคน แตทวาเหตุการณสด ุ สลดที่เกิดขึ้นในการยายเมืองหลวงของตั๋งโตะนั้น
มากกวา หนักกวา และเหี้ยมโหดกวาการกระทําของพลพต หลายเทานัก จากนั้นตั๋งโตะไดสั่งใหทหารขุดพระ
บรมศพ พระศพ และศพของพระบูรพมหากษัตริย พระราชวงศ และขุนนางทีฝ ่ งอยูในสุสานหลวงใสโลงให
ทหารคุมเอาไปเมืองเตียงอัน

ในระหวางที่ขุดสุสานนั้นไดพบทรัพยสินเงินทองของมีคาทีฝ
่ ง อยูในสุสานเปนจํานวนมาก ตั๋งโตะไดสงั่ ใหยึด
เอาทรัพยสินเงินทองของมีคานั้นขนเอาไปเมืองเตียงอันเสียทั้งสิ้น นับไดหลายพันเลมเกวียน ทหารของตั๋ง
โตะเห็นมีการขุดสุสานหลวงก็พากันไปขุดสุสานของ ราษฎรทั่วทั้งเมืองลกเอี๋ยง เอาทรัพยสินเงินทองที่ฝง ไว
กับศพไวเปน อาณาประโยชนสวนตัวเสียทั้งสิน้

เมื่อไดปฏิบัติการมาถึงขั้นนี้แลว ตั๋งโตะจึงสั่งใหทหารเอาเพลิงจุดเผาเมืองลกเอี๋ยงเสียทั้งเมือง แลวตั๋งโตะกับ


ทหารทั้งปวงจึงยกออก จากเมืองลกเอี๋ยงไป ครั้นยกไปถึงเมืองเองหยง ซีเองเจาเมืองรูขาวก็มาตอนรับตั๋งโตะ
เขาเมือง เมื่อหนีไกลมาจากเมืองหลวงและเขาเมืองเองหยงแลว ลิยูคอย มีสติปญ  ญาแจมใสขึ้นจึงกลาวกับตั๋ง
โตะวา เรายกมาจากเมืองหลวง ทั้งนี้ศัตรูอาจยกตามตี หากไมเตรียมตัวก็จะเสียทีแกขาศึก จึงเสนอใหซีเอง
เจาเมืองคุมทหารไปซุมอยูบนเขาตนทาง ถากองทัพขาศึกยกตามตีก็ใหปลอยผานเขามา เมื่อใดที่ปะทะกับ
กองทัพของเราแลว จึงใหซีเองยกตีขนาบเขามาทั้งสองดาน กองทัพขาศึกก็จะเสียทีเปน มั่นคง ตั๋งโตะฟง
ขอเสนอของลิยูแลวเห็นชอบ สั่งใหซีเองยกไปทําการตามความเห็นของลิยู แลวใหลิโป ลิฉุย กุยกี สามทหาร
เอกคุมทหาร เปนกองหลังคอยระวังขาศึก ฝายเตียวหงิม ทหารเอกของตั๋งโตะซึ่งออกไปรักษาดานกิสย ุ กวน
กับฮัวหยงนั้นไมรูความขางในเมืองหลวง ครัน ้ เห็นแสงเพลิงลุก สวางขึ้นในเมืองลกเอี๋ยง จึงใหทหารไปสืบขาว
ในเมืองหลวง ทหารจึงกลับมารายงานวาตัง๋ โตะไดเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตยกไปเมืองเตียงอันแลว และให
เผาเมืองลกเอี๋ยงเสีย เตียวหงิมจึงคุมทหารติดตาม ตั๋งโตะไป

ฝายเจาเมืองทัง้ แปดพรอมทั้งเลาป กวนอู เตียวหุย ซึง่ ตั้งคายคุมเชิงอยูที่นอกดานเฮาโลกวนและดานกิสุ


ยกวน เห็นแสงเพลิงจับทองฟามาแตดา นเมืองลกเอี๋ยง และเหตุการณในดานทั้งสองเงียบผิด ปกติ จึงให
ทหารไปสืบขาว จึงรูวาทหารตั๋งโตะทิ้งดานทั้งสองไปแลว จึงรายงานใหอวนเสี้ยวทราบ อวนเสี้ยวจึงสั่งให
กองทัพปฏิวัติของทุกหัวเมืองเคลื่อนทัพเขาเมืองลกเอี๋ยง เห็นเพลิงกําลังไหมอยูแตไมมีผค ู น จึงระดมทหาร
ชวย กันดับเพลิงจนดับสนิท แลวปลงทัพลงในเมืองลกเอี๋ยงนั้น ปลงทัพแลวอวนเสี้ยวจึงใหเรียกประชุม
กองบัญชาการกองทัพปฏิวัติ โจโฉจึงไดเสนอตอทีป ่ ระชุมวาการที่ตั๋งโตะเผาเมืองหลวง แลวยกหนีไปเมือง
เตียงอันครั้งนี้ ยังไมรูความเปนไปของราชสํานักวาพระเจาเหี้ยนเตจะปลอดภัยประการใดหรือไม แตจําเปน
ตองทําลายลางตั๋งโตะใหไดเสียกอน แลวคอยตามหาพระเจาเหี้ยนเตตอไป โจโฉไดออกความเห็นวาการทีต ่ ั๋ง
โตะกวาดตอนราษฎรไปเปนจํานวนมาก จะทําใหการเดินทางเปนไปโดยลาชาและหวงหนาพะวงหลัง หากกอง
ทัพปฏิวตั ิไลตามตีก็จะไดชัยชนะโดยงาย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 83

อวนเสี้ยวฟงขอเสนอของโจโฉแลวไมเห็นดวย อางวาขณะนี้กองทัพของฝายปฏิวต ั ิอิดโรยออนกําลัง จึงมี


คําสั่งใหตั้งทัพไวที่เมือง ลกเอี๋ยงเพื่อฟนฟูและบํารุงขวัญทหารใหเปนปกติเสียกอน โจโฉเห็นเหตุการณ
เชนนั้นจึงคิดวามาหลงคบหาดวยคนแบบอวนเสี้ยวนี้ไมมีวันทีจ ่ ะทําการใหญไดสําเร็จ "อุปมาดังคิดกับเด็ก
เลี้ยงโค" ทั้งเห็นวาสภาพที่ตงั๋ โตะยกไปครั้งนี้เปนโอกาสดีที่จะลางตั๋งโตะเสียได โจโฉจึงออกมาจากทีป ่ ระชุม
สั่งทหารเอกคือแฮหัวตุน แฮหัวเอี๋ยน โจหอง โจหยิน ลิเตียน งักจิ้น ใหยกทหารในสังกัดหมื่น เศษรีบติดตาม
ตั๋งโตะไป ความคิดไลตามตีตั๋งโตะของโจโฉครั้งนี้ก็คือความคิดที่หวังผล ในการกําจัดทรราช อาศัยขออาง
ชวยเหลืออารักขาฮองเตเพื่อกาว เขาสูอํานาจรัฐ เชนเดียวกับตั๋งโตะเมื่อครั้งทีย ่ กทัพไปรับเสด็จและถวาย
อารักขาหองจูเปยนและพระอนุชาเสด็จนิวต ั กิ ลับพระนครในครั้งเกิดจลาจลนั่นเอง

ฝายโจโฉ ยกทหารไลตามตัง๋ โตะมาเกือบเที่ยงคืน ผานเขาตนทางที่ซีเองซุมอยู ก็ปะทะกับกองหลังของตั๋ง


โตะ ซึ่งลิโปและ ลิฉย ุ กุยกี คุมทหารทําหนาที่ระวังหลังอยู ทหารเอกของทั้งสองฝายตะลุมบอนกัน ทามกลาง
แสงเดือน แตแฮหัวตุน ซึ่งประทวนรบกับ ลิโปนั้นสูกําลังลิโปไมไดจึงถอยหนี ลิโปขับทหารไลสังหารทหารโจ
โฉเสียเปนอันมาก กองทัพโจโฉจึงแตกตื่นคุมกันไมติด โจโฉเห็นดังนั้นจึงพา ทหารถอยหนีมาตามทางเดิมถึง
เขาตนทางซึ่งซีเองคุมทหารซุมอยูเปนเวลาเที่ยงคืน พระจันทรทอแสงกระจางฟา กําลังของทหารโจโฉลานัก
เพราะไลตามตัง๋ โตะมาทั้งวันยังไมไดกินขาวเย็น โจโฉจึงใหทหารหยุดอยู ณ ที่นั้น แลวใหกอฟนเตรียมหุง
ขาวเลี้ยงทหาร ยังไมทันที่ขาวจะสุก ซีเองก็ยกทหารออกมาโจมตี โจโฉและทหาร ทั้งปวงวิ่งหนีกันคนละทิศ
ละทาง โจโฉนัน ้ หนีไปกับโจหอง พลัดกับทหารเอกที่เหลือ ปะเขากับซีเองคุมทหารมา โจโฉจึงชักมาหนี ซี
เองเห็นดังนั้นจึงเอาเกาทัณฑยิงไปถูกไหลซา ยของโจโฉ โจโฉจึงชักมาหนีตอไป ครั้นถึงเชิงเขาทหารซีเอง
อีกกองหนึ่งซุมอยูไดเขาลอมโจโฉไวแลวเอาทวนแทงมาโจโฉลมลง โจโฉพลัดจากมาทหารของซีเองจึงจับ
ตัวโจโฉไวได พอดีโจหองตามมาทัน รีบปรี่เขาไปฆาทหารที่จับโจโฉนั้นเสีย แลวโจหองจึงลงเดินเปลี่ยน
ใหโจโฉขี่มาของตัวแทน ครัน ้ ปลายยามสาม โจโฉ โจหอง และทหารซึ่งตามมานั้นหนีไป ถึงฝงแมน้ํา ซีเอง
คุมทหารไลตามมา โจหองเห็นกระชั้นชิดจึงถอดเสื้อเกราะออกใหโจโฉขีค ่ อลุยขามแมนา้ํ ไป ซีเองและทหาร
ไมรูน้ําตื้น ลึกจึงไดแตยิงเกาทัณฑแตหาถูกตัวโจโฉไม

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

อาถรรพตราพระลัญจกร (ตอนที3
่ 7)

โจหองพาโจโฉขามแมนา้ํ ขึ้นฝงแลวหนีตอไปอีกสามสิบเสน เห็นฟาสวางและอิดโรยเต็มทีจึงพากันหยุดพัก


พอดีซีเองคุมทหาร ติดตามไปอยางไมลดละทันกันแลว ซีเองจึงใหทหารลอมโจโฉ โจหองไว หวังจะจับเปน
มอบแกตั๋งโตะเอาความชอบ ขณะนั้นแฮหัวตุน  กับแฮหัวเอี๋ยน ซึ่งพลัดกับโจโฉแลวพากันติด ตามหาโจโฉมา
พบเขา เห็นโจโฉ โจหอง กําลังถูกลอมอยูจงึ เขารบดวยซีเองไดสิบเพลง แฮหัวตุนก็เอาทวนแทงซีเองตกมา
ตาย ทหารซีเองก็แตกหนีไป ฝายโจหยิน ลิเตียน และงักจิ้น สามทหารเอกของโจโฉ ซึ่งพลัดกันตั้งแต
กลางคืนติดตามหาโจโฉพบกับทหารโจโฉซึง่ แตกหนีมาคุมกันไดสามรอยคนเศษ จึงติดตามหาโจโฉตอไป
พบกับทหารซีเองซึ่งแตกหนีมานั้น จึงเขาจับกุมตัวแลวสอบถามไดความแลวก็ตามไปตามเสนทางทีซ ่ ีเองไล
ตามโจโฉนั้น

เมื่อโจโฉไดพบกับทหาร เอกพรอมหนากันก็คลายใจจึงยกทหารที่เหลือเหลานั้นไปตั้งหลักที่เมืองโหลาย ฝาย


กองทัพเมืองเตียงสาของซุนเกีย ๋ นในเมืองลกเอี๋ยงนั้น ไดตั้งคายลงที่บริเวณศาลเทพบิดรแหงราชวงศฮั่น เห็น
สุสานหลวง ถูกขุดรื้อกระจัดกระจายก็รส ู ึกสงสารดวงพระวิญญาณของอดีตพระมหากษัตริย พระราชวงศและ
ขุนนางที่ถูกรื้อสุสานนั้น จึงสั่งใหทหารเอาดินกลบหลุมฝงศพทั้งนั้นเสีย แลวใหทหารทําความสะอาดพื้นที่
บริเวณจนเปนที่เรียบรอย แลวซุนเกี๋ยนจึงใหทหารไปเชิญเจาเมืองตางๆ มากระทําพิธถ ี วาย สักการะและขอ
ขมาตอดวงพระวิญญาณและวิญญาณของอดีตพระมหากษัตริย พระราชวงศและขุนนาง โดยตั้งโรงพิธีขึ้นที่
ฐานรางของ ศาลพระเทพบิดร เปนการแสดงความจงรักภักดี เสร็จพิธีแลวตางคนตางแยกกันกลับคายของตน
ค่ําลงลวงใกลเพลาเที่ยงคืนแลวซุนเกี๋ยนยังนอนไมหลับ ออกมาเดินนอกคายพรอมดวยทหารติดตาม ครุนคิด
ถึงการบานเมือง ขณะนั้นเปนกึ่งปกษขางขึ้น ดวงดาวทอแสงเต็มทองฟารายรอบพระจันทรเสี้ยว สายลมเย็น
กระทบกายซุนเกี๋ยนสะทานตัวเปนระยะๆ แลเห็นดาวประจําพระองคพระมหากษัตริยเศราหมอง ซุนเกี๋ยนก็
รองไหดวยรําลึกวาบัดนี้แผนดินเปนจลาจลวุนวาย จอมทรราชตั๋งโตะเผาราชธานีเสีย บังคับเอาฮองเตไปตั้ง
เมืองหลวงใหมที่เมืองเตียงอัน ฮองเตพระองคนอยคงจะตรอมพระทัยหนัก ทั้งราษฎรทีถ ่ ก
ู กวาด ตอนไปเปน
จํานวนมาก คงจะตกทุกขระกําลําเค็ญเปนทีส ่ าหัส

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 84

ในขณะที่ซุนเกีย ๋ นร่ําไหอยูนั้น ทหารติดตามไดรองบอกซุนเกี๋ยนใหดไ ู ปทางทิศใตของทางพระราชวังเดิม


ปรากฏแสงคลายดังผีพุงใต แตพุงจากพื้นสูท  องฟาเปนที่ประหลาดนัก ซุนเกี๋ยนจึงสั่งใหนําทหารสามสิบคน
ออกจากคาย จุดคบไฟแลว พากันตรงไปยังตําแหนงที่เห็นแสงนั้น พบบอน้ําบอหนึ่งซึ่งอยูใกลบริเวณพระ
ตําหนักที่ประทับเดิมของพระเจาเลนเต ซุนเกีย ๋ นมีความ สงสัยจึงใหทหารเอาไมยาวขนาดสีว่ าแทงลงไปในบอ
น้ํา กระทบเขากับของสิ่งหนึ่ง จึงใหทหารชวยกันงมขึ้นมา ปรากฏเปนศพของนางกํานัลไมเนาเปอย ยังสดอยู
เมื่อยกเอาศพนางกํานัลขึ้นจากบอน้ําแลว จึงเห็นที่คอของนาง กํานัลมีถุงแพรผูกคลองอยู จึงแกะถุงแพรออก
พบกลองไมสีชาดเขม มีกุญแจทองคลองไว เมื่องัดออกดูพบดวงตราหยกรูปสี่เหลีย ่ ม ยอดตราแกะเปนลาย
มังกรหาตัวเกี่ยวกัน ดานขางของตรามีรอยชํารุดแตเลี่ยมทองปดไว ดวงตราแกะสลักเปนอักษรจีนแปดคํามี
ความวา "พรสวรรคบัญชา อายุยืนหมื่นป" ซุนเกี๋ยนเห็นดวงตราหยกแลวสงสัยวาจะเปนดวงตราพระลัญจกร
สําหรับพระมหากษัตริยแ  ตไมแนใจ จึงถามเทียเภาวารูจ
 ักตราหยกนีห
้ รือไม และเหตุใดจึงตกมาอยูในสภาพดั่ง
นี้

เทียเภาจึงวาขาพเจารูจักตราหยกนี้แลวเลาความใหซุนเกี๋ยนฟงวายุคสมัยกอนราชวงศจิ๋น มีพรานปาชื่อเบงโห
ไปเที่ยวบนเขาเห็น หงสจบ ั อยูที่กอนหินใหญเปนที่ประหลาด จึงทุบหินนัน
้ ออกดูพบแทงหยกขนาดใหญ เบง
โหจึงนําแทงหยกนั้นขึ้นทูลเกลาฯ ถวายพระเจาฌอบุนออง แตไมทันไรพระเจาฌอบุนอองก็เสด็จสวรรคตครั้น
พระเจาจิ๋นซีฮองเตเสวยราชย ไดแทงหยกนี้มาจึงโปรดใหชางหลวงแกะแทงหยกเปนตราแผนดิน แลวโปรด
ใหหลีซ
่ ืออัครมหาเสนาบดี คิดอักษรประจําตราแผนดินนั้น หลี่ซือคิดเปนอักษรจีนแปดคําถวายเปนทีท ่ รงโปรด
และใหจารึกอักษรแปดตัวนั้นเปนเนื้อ ความในตราแผนดิน และใชเปนตราพระลัญจกรสําหรับประทับพระบรม
ราชโองการแตนั้นมา

ครั้นพระเจาจิ๋นซีฮองเตเสวยราชยสมบัติไดยส ี่ ิบแปดป ฤดูใบไมผลิได เสด็จทางชลมารคประพาสทะเลสาบตัง


เทง เกิดพายุใหญพัดกลาเรือพระทีน ่ ั่งโคลงเอียงลง ทรงเกรงวาเรือพระทีน ่ ั่งจะลม และแคลงพระทัยวาเนื่อง
มาแตตราแผนดินนี้ จึงโปรดใหเอาตราแผนดินโยนลงในทะเลสาบนั้น คลื่นลมก็สงบเปนปกติ ครั้นพระเจาจิ๋นซี
ฮองเตเสวยราชยไดสามสิบแปดป ไดเสด็จทาง สถลมารคเพื่อตรวจงานสรางกําแพงเมืองจีน ปรากฏมีชายผู
หนึ่งเอา ตราหยกนี้มาถวายตอพระหัตถ พระเจาจิ๋นซีฮองเตทรงรับตราหยกไวแลวชายนัน ้ ก็หายไป หลังจาก
เสด็จทางสถลมารคไปตรวจงานกําแพงเมืองจีนกลับมาแลว ก็เสด็จสวรรคต แผนดินเกิดจลาจลเปนสงคราม
ระหวางหัวเมืองของราชอาณาจักรจิ๋น ในทีส ่ ุดพระเจาฮั่นโกโจปราบดาภิเษกเปน ปฐมกษัตริยแ  หงราชวงศฮั่น
จึงมีผูนําตราหยกนี้มาทูลเกลาฯถวาย ใชเปนตราพระลัญจกรติดตอมาถึงสิบสองรัชกาล

จนกระทั่งอองมังกบฏตอราชสมบัติพระนางตังไทเฮาถูกคุกคาม ถึงในพระตําหนัก จึงทรงหยิบตราหยกนี้ขวาง


อองสิม ขุนนางทรยศ แตพลาดไปกระทบผนังพระตําหนัก ตราหยกจึงบิ่นไป ตอมาโซเสียม ขุนนางของอองมัง
ไดจัดซอมตราหยกนี้ เลี่ยมทองปดที่บิ่นนัน
้ ไว ครั้นพระเจาฮั่นกองบูยึดราชสมบัติกลับคืนพระราชวงศฮั่นได
สําเร็จ ก็ทรงใชเปนตราพระลัญจกรตอมาจนถึงแผนดินพระเจาเลนเตครั้งนั้นเกิดจลาจลและเพลิงไหมใน
พระราชวังหลังจากโฮจิ๋นผูส ําเร็จ ราชการแผนดินถูกสิบขันทีสังหาร สิบขันทีไดจับฮองเตเปนตัวประกัน
หลบหนีออกไปจากพระราชวัง ครั้นเสด็จนิวัตกลับพระนครแลว มีการสํารวจทองพระคลังจึงพบวาตราพระ
ลัญจกรนีส้ ูญหายไป จึงเขาใจวานางกํานัลในตําหนักที่ประทับมีความจงรักภักดี เกรง คนรายจะลักเอาตราพระ
ลัญจกรนี้ไป จึงเอาตราหยกนี้ผูกคอแลวกระโดดน้ําตาย แลวเทียเภาจึงเสนอความเห็นแกซุนเกี๋ยนวา ซึ่งบัดนี้
ตราพระลัญจกรตกแกมือทาน ยอมเปนนิมิตที่สวรรคบอกชีว้ าราชสมบัติจะตกไดแกทา น ดังนั้นอยาอยูท  ี่นี่อีก
ตอไปเลย รีบกลับแควน กังตั๋งของเราคิดการใหญสืบไปเถิด

ซุนเกี๋ยนฟงนิทานเรื่องตราพระลัญจกรแลว ก็เชื่อตามความเห็นของเทียเภา เกิดตัวพองขนลุกคิดเห็นเปน


วาสนาที่ไดครองตราพระลัญจกรนั้น ความจงรักภักดีที่เคยมีตอราชวงศฮน
ั่ ก็ดับวูบลง เกิดความคิดตั้งตัวขึ้นเปน
เจาครองแผนดิน ณ บัดนั้น เปนธรรมเนียมของจีนแตโบราณที่มีการใชตราประจําตัวแทนการลงชื่อ และธรรม
เนียมนี้ยังคงตกทอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ซึ่งแมวาความนิยมในการลงลายมือชื่อมีมากขึ้นแลว แตก็ยังมีผน ู ิยม
ใชตราประทับแทนตัว หรือใชประทับคูกับการลงลายมือชื่อเปนจํานวนมาก

ตราประจําตัวนีถ
้ าเปนฮองเตจะเรียกวาตราพระลัญจกร ถาเปนขุนนางขาราชการจะเรียกวาตราประจําตําแหนง
และถาเปนบุคคลธรรมดาจะเรียกวาตราประจําตัว สําหรับแผนดินจีนในยุคนั้นถือตราพระลัญจกรและตรา
แผนดินเปนตราเดียวกัน เมื่อประเทศไทยไดเปดสัมพันธทางการทูตกับจีนแตครั้งสมัยพอขุนรามคําแหง
มหาราช ฮองเตของจีนเขาใจวาไทยยอมเปนประเทศราช จึงพระราชทานตราประจําตําแหนงทุกครั้งที่มีการ
ผลัดเปลีย
่ นแผนดินเรียกวา "โลโต" พรอมกับถวายพระสมัญญามีคําลง ทายวา "ออง" ครั้นแผนดินกรุง
รัตนโกสินทร พระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจา อยูหัวโปรดใหทําตราแผนดินขึ้นสําหรับใชในราชการ และให
ทําตราพระลัญจกรขึ้น สําหรับพระมหากษัตริยอีกดวงหนึง่ หลังจากไดรูปแบบตราแลวทรงเห็นวาสมควรมี

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 85

ถอยคําจารึกในตราแผนดินนั้น จึงโปรดใหสมเด็จพระสังฆราช (สา) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามฯ ทรงคิด


ความกํากับตรา สมเด็จพระสังฆราช ทรงคิดถวายเปนภาษาบาลีวา "สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิ
กา" ซึ่งแปลวา "การใหญของแผนดินจักสําเร็จไดดวยความสามัคคี" ซึ่งมีความไพเราะงดงามและได
ความหมายดีกวาตราหยกที่หลี่ซืออัครมหาเสนาบดีคิดขึ้นเอาใจจิ๋นซีฮองเตมากมายนัก พระบาทสมเด็จพระ
จอมเกลาเจาอยูหัว ทรงพอพระทัยในความนีโ้ ปรดใหใชเปนคําจารึกในตราแผนดินมาจนถึงทุกวันนี้ อันควรที่
ชนชาวไทยพึงตองรําลึกและเทิดมาปฏิบต ั ิ ยอมจักบังเกิดความสวัสดีทุกประการแตนาอนาถนัก ที่บัดนีแ
้ ทบไม
มีหนวยราชการใดใชตราแผนดินดังกลาวเสียแลว เพราะหันไปนับถือเอาสิงสาราสัตวมาเปนตราประจํา
กระทรวงทบวงกรม จนสัตวเดรัจฉานเกลื่อนกลาดไปแทบทุก หนวยงาน
คงเหลือแตศาลยุติธรรมทีย ่ ังคงใชตราแผนดินนี้ประทับหมายตางๆ ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย สวน
ตํารวจคงใชเฉพาะติดอยูกับหนาหมวก แมกรมปาไมก็คงใชเพียงสําหรับใชประทับไลผแ ี ละรุกขเทวดาในเวลา
ตัดตนไมใหญที่คนไมกลาตัดเทานั้น การใชตราแผนดินดังนี้จะมีใครสักกี่คนที่ยังคงระลึกถึงความอันจารึกไว
นั้น

ซุนเกี๋ยนเมื่อไดตราพระลัญจกรแลว ความโลภในยศและวาสนาไดเขาสิงใจ ละทิ้งอุดมการณที่จะกําจัดทรราช


เทิดทูนฮองเต บํารุงราษฎรเสียสิ้น คิดหักหลังหัวเมืองทัง้ ปวงถอนตัวออกจากกองทัพปฏิวัติ ยกกลับแควน
กังตั๋ง เพื่อจะตั้งตัวเปนเจาซึง่ ผิดอาการจากครั้งที่ลฉ ิ ุย เปนทูตแทนตัวตั๋งโตะมาเจรจาซือ
้ ตัวซุนเกี๋ยนดวยการ
ยกลูกสาวใหกบ ั ซุนเซ็กเพื่อจะไดเปนทองแผนเดียวกัน แลวรวมกันทํานุบํารุงบานเมืองแลราษฎรใหเปนสุข แต
ซุนเกี๋ยนไมยอมกลับโกรธ เคืองยิ่งนัก แตมาครั้งนี้เต็มใจที่จะทรยศตออุดมการณ และพันธมิตรรวมรบความ
จริงมิใชเปนการเปลี่ยนใจ หากเนื่องเพราะการตีราคาคา ตัวของซุนเกี๋ยนเอง ครั้งนั้นตั๋งโตะใหราคาไมถึงขนาด
ที่ตองการจึงไมยอมขายตัว แตครั้งนีส ้ ิ่งที่เทียเภาไดบอกกลาว ซุนเกี๋ยนประเมิน แลววาเกินราคาคาของตัว จึง
ยอมขายตัวใหกับยศศักดิ์อัครฐานนั้น

เมื่อตัดสินใจเชนนี้ ซุนเกี๋ยนจึงสั่งทหารวาพรุง นี้เชาเราจะยกกองทัพกลับเมืองเตียงสา คิดอานการใหญตามที่


เทียเภาแนะนําตอไป แลวกําชับทหารทั้งปวงวาเรื่องนี้เปนเรื่องสําคัญ อยาไดแพรงพรายเหตุการณที่เกิดขึ้นใน
คืนนี้ใหผูอื่นไดลวงรูเปนอันขาด จะเสียการใหญของเราไป แตสวรรคทรงความยุติธรรม ไมประทานโชค
เคราะหอยางใดอยางหนึ่ง แตเพียงอยางเดียว หากยอมประทานทั้งสองสิ่งพรอมกันเสมอ ดังเชนที่ประทาน
ความงามอันสะคราญแกสตรีใดแลว ก็ยอมประทานเภทภัยอันเกิดแตความมีโฉมสะคราญนั้นควบคูกันดวย เมื่อ
สวรรคประทานโชคแกซุนเกี๋ยนแลว จึงเปนธรรมดาทีต
่ อ
 งประทานเคราะหแกซุนเกี๋ยนควบคูไปดวย
เชนเดียวกัน

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

กองทัพปฏิวัตส
ิ ลายตัว (ตอนที่ 38)

การทีซ่ ุนเกี๋ยนไดครองตราพระลัญจกรอาจจะถือเปนโชค แตพลันที่ความคิดที่จะตั้งตัวเปนเจาเขาครอบงําก็


ยอมถือวาเคราะหกําลังยางกรายเขาครอบงํา ซุนเกี๋ยนดวยเชนเดียวกัน นี่แหละที่เรียก วาสวรรคทรงความ
ยุติธรรม ทันใดทีซ ่ ุนเกี๋ยนคิดหักหลังพันธมิตร จะถอนทัพกลับเมืองเตียงสาเพื่อคิดอานตัง้ ตัวขึ้นเปนเจา ใน
พลันนั้นทหารของซุนเกี๋ยนคนหนึ่งซึ่งเห็นเหตุการณและไดยินคําสนทนาระหวางซุนเกี๋ยนกับ เทียเภาเกีย ่ วกับ
ตราพระลัญจกรโดยตลอด ก็คิดหักหลัง ซุนเกี๋ยนเอาใจออกหาง หวังเอาความชอบจากอวนเสี้ยว จึงเอาความ
ทั้งปวงไปบอกอวนเสี้ยวขายนายเกาของตัวเอง อวนเสี้ยวรูค  วามทั้งนั้นแลวมีความยินดียงิ่ นัก สั่งใหปูนบําเหน็จ
ทหารนั้นเปนจํานวนมาก แลวจัดทีซ ่ อนตัวไวในคายเพื่อยันปาก คํากับซุนเกี๋ยนในวันรุงขึ้น

เพลาสายในวันรุงขึ้น ซุนเกี๋ยนและทหารเอกไดมาที่กองบัญชาการกองทัพปฏิวัติ ขอพบอวนเสี้ยวแลวแจง


ความประสงควา จะยกทัพกลับเมืองเตียงสาเนือ ่ งจากอาการปวยกําเริบ ตองไปรักษา ตัวเปนการดวน อวนเสี้ยว
จึงวาการปวยของทานครั้งนี้หาใชปวยทางกายไม แตเปนการปวยทางจิตที่คดิ ชิงเอาราชสมบัติเพราะไดครอง
ตราพระลัญจกรไวตางหาก ซุนเกี๋ยนไดฟงก็ตกใจ คิดวาคงมีคนรูค
 วามคนใดมาบอกเลาแกอวนเสี้ยว แตแข็งใจ
กลาวกับอวนเสีย
้ ววาเอาความอันใดมากลาว ขาพเจาไมเคยเห็นตราพระลัญจกรทานกลาวคําทั้งนี้เปนการหมิ่น
ขาพเจา ในขณะนั้นเจาเมืองและแมทัพนายกองหัวเมืองตางๆ คอยทยอยเขามาสมทบที่กองบัญชาการเพื่อ
ปรึกษาหารือตามปกติ

อวนเสี้ยวยืนยันวาความที่ซุนเกีย
๋ นไดครองตราพระลัญจกรนั้นเปนความจริง อยาไดหลบหนีความจริงตอไปเลย
แลววาหัวเมือง ทั้งปวงมารวมกันจัดตั้งกองทัพปฏิวัติเพื่อขจัดทรราชย เทิดทูนฮองเต บํารุงราษฎร บัดนี้การยัง
ไมสําเร็จเมื่อทานพบตราพระลัญจกรแลว ชอบที่จะนํามามอบแกเราซึ่งเปนผูบัญชาการใหญ การสําเร็จแลวจะ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 86

ไดทูลเกลาฯ ถวายคืนพระเจาเหี้ยนเต ตัวทานนี้ไดตราพระลัญจกรแลวปดความเสีย แลวมาบายเบี่ยงจะยกทัพ


กลับไป ยอมเปนการแสดงเจตนาแนชัดวาจะตั้งตัวขึ้นเปนเจา ซุนเกี๋ยนละอายใจและรูส  ึกอัปยศที่เกิดความ
ทั้งนี้ตอหนาบรรดา หัวเมืองและนายทัพนายกองตางๆ ทั้งคําของอวนเสี้ยวก็แทงใจดําจน เจ็บลึก จึงยืนยัน
ปฏิเสธขอกลาวหาของอวนเสี้ยว แตอวนเสีย ้ วไมเชื่อถือซุนเกี๋ยนเสียแลว เพราะมีพยานหลักฐาน เปนบุคคลอยู
กับตัว จึงเรงใหซุนเกี๋ยนเอาตราพระลัญจกรมามอบ ซุนเกี๋ยนทั้งโกรธทั้งละอายแกใจ ดังนั้นเพื่อรักษา
เกียรติยศศักดิศ ์ รีของตนจึงกลาวสาบานตัวตอฟาวา ขาพเจาไมเคยเห็นตราพระลัญจกร หากขาพเจาไดตรา
พระลัญจกรแลวคิดยักยอกเอาเปนของตัว ขอเทพยดาและดวงวิญญาณอดีตพระมหากษัตริยท  ั้งปวงจงผลาญ
ชีวิตขาพเจาดวยอสุนีบาตและอาวุธตางๆ

บรรดาเจาเมืองตางๆ ในที่นั้นจึงเขาหามทั้งสองฝายไมใหโตเถียงกันอีก ตอไปแลววาเมื่อซุนเกี๋ยนสาบานเปน


ฉกรรจเชนนี้แลว ยอมเชื่อถือในเกียรติยศศักดิ์ศรีและคําสาบานได ขอใหยต ุ ก
ิ ันแตเพียง เทานี้เถิด อวนเสีย
้ วไม
ยอมคลอยตามที่บรรดาเจาเมืองไดหามปรามไกลเกลี่ย กลับสั่งใหทหารไปเชิญตัวทหารซุนเกี๋ยนที่นําความมา
บอก ใหออกมายืนยันเหตุการณที่พบตราพระลัญจกรเมื่อคืนกอนตอหนา คนทั้งปวง ซุนเกี๋ยนเห็นเหตุการณก็รู
วาทหารของตนคนนี้เปน "ขาขายเจา บาวขายนาย สานุศษ ิ ยสค
ู รู เปนจัญไรสังคม" ทัง้ อับอายขายหนาที่ถูก
กระชากหนากากตอหนาธารกํานัลจึงลุแกอํานาจโทสะ ชักกระบี่ออก จะฟนทหารนั้นเสีย อวนเสี้ยวคุมเชิงอยู
แลวเห็นเหตุการณเชนนั้นจึงชักกระบี่ออก แลวยืนขวางหนาทหารนั้นไวแลววา กริยาทานดังนีย ้ อมแสดงวา
ทาน กลาวความอันสวนทางตอสัจจะ ไมละอายหัวเมืองทั้งปวง จงรีบเอา ตราพระลัญจกรมามอบแกเรา
มิฉะนั้นเราก็จะฆาทานเสีย ขณะนั้นงันเหลียง บุนทิว สองทหารเอกของอวนเสี้ยวเห็นนายตัวชักกระบี่เชนนั้นจึง
ชักกระบี่ออกจากฝกบางแลวเตรียมพรอมอยู ฝายเทียเภา อุยกาย และฮันตง สามทหารเอกของซุนเกี๋ยน ก็ชัก
กระบี่ออกจากฝกคุมเชิงพรอมอยูเชนเดียวกัน

บรรดาเจาเมืองที่อยู ณ ที่นน ั้ เห็นเหตุการณบานปลายกลายเปน วิวาทถึงขนาดจะลงมือฆาฟนกันเองจึงเขา


หามไวทั้งสองขาง ซุนเกี๋ยน ไดรับความอัปยศนัก จึงออกมาเสียจากกองบัญชาการพรอมสามทหารเอก ขึ้นมา
แลวกลับไปคายของตน ซุนเกี๋ยนกลับถึงคายแลวสั่งทหารใหเคลื่อนทัพออกจากเมืองลกเอี๋ยงกลับเมืองเตียง
สาในทันที อวนเสี้ยวเมื่อทราบวาซุนเกี๋ยนถอนทัพกลับเมืองเตียงสา จึงมีหนังสือสั่งใหทหารถือไปเมืองเกงจิ๋ว
มอบแกเลาเปยวเจาเมือง เลาความที่ซุนเกีย ๋ นไดตราพระลัญจกรแลวถอนตัวจากกองทัพปฏิวัติ กําลังยกทัพ
กลับเมืองเตียงสา เปนลักษณาการคิดกบฏจะตั้งตนขึ้นเปนเจาแตผูเดียว และขอใหเลาเปยวยกทหารมาสกัด
ซุนเกี๋ยนยึดเอา ตราพระลัญจกรกลับมามอบแกอวนเสี้ยวเพื่อนําขึ้นทูลเกลาฯ ถวายพระเจาเหี้ยนเตตอ  ไป
หนังสือของอวนเสี้ยวนี้มค ี วามนัยทีช่ ี้ใหเลาเปยวกลัวภัยจากซุนเกี๋ยน เนื่องเพราะถาซุนเกี๋ยนไดตราพระ
ลัญจกรไปแลว จะตั้งตนเปนเจาครองแผนดินเสียแตผูเดียว ยอมกระทบตอเมืองเกงจิ๋วของเลาเปยว เพราะเปน
เมืองที่อยูใกลกับเมืองเตียงสามากทีส ่ ุด นับเปนการเอาความกลัวของคนไปใชคนใหทาํ การทีต ่ องการนั่นเอง
หลังจากซุนเกีย ๋ นยกทหารออกเดินทางจากเมืองลกเอี๋ยงไปแลว วันรุงขึ้น อวนเสี้ยวไดรบ ั รายงานวาโจโฉซึ่ง
ยกทหารติดตามตั๋งโตะ ไปนั้นบัดนี้เสียทีแกตงั๋ โตะ แลวยกไปตั้งอยูที่เมืองโหลาย อวนเสีย ้ ว จึงสั่งทหารใหถือ
หนังสือไปเชิญโจโฉและทหารมาที่กองบัญชาการ ครั้นโจโฉยกทหารมาแลวอวนเสี้ยวจึงใหแตงโตะเชิญ
บรรดาเจาเมืองมาเลี้ยงรับขวัญ ณ กองบัญชาการ บรรดาเจาเมืองมาถึงกองบัญชาการแลว ตางแสดง
ความเห็นใจ โจโฉและไตถามความเปนไปของการศึก โจโฉทอดใจใหญแลวตัดพอวาขาพเจาคิด อานเชิญ
ทานทั้งปวงมาจัดตั้งกองทัพปฏิวัติเพื่อกําจัดทรราชย เทิดทูนฮองเต บํารุงราษฎร ครั้นตัง๋ โตะเสียทีในการศึก
เผาเมืองหลวงเสียแลวบังคับฮองเต กวาดตอนราษฎรทั้งปวงยกไปเมืองเตียงอัน ขาพเจาเห็นวาถากองทัพ
ปฏิวัตยิ กไปตามตีก็จะไดตัวตัง๋ โตะแลวชวยเหลือพระเจาเหีย ้ นเตใหปลอดภัยได การทีค
่ ิดไวก็จะบรรลุผลสําเร็จ
แตทานไมฟงคําขาพเจาละทิ้งใหขาพเจาติดตาม ตั๋งโตะไปแตทัพเดียว ขาพเจาจึงเสียทีมาเปนที่อัปยศยิง่ นัก
อวนเสี้ยวและบรรดาหัวเมืองตางๆ ไดยินคําโจโฉแลวมิไดวา กลาวประการใด กลับกินโตะตอไปเสมือนหนึ่งวา
ไมมีอะไรเกิดขึ้น โจโฉ จึงเห็นวาขืนอยูทาํ การรวมกับคนพวกนี้ตอไปก็เหมือนเลนอยูกับเด็ก ทารกการใหญที่
คิดไวไมมีวันจะสําเร็จได

ทั้งโจโฉไดพิเคราะหรูปการของฝายปฏิวัตแ ิ ลวเห็นวาขาดเอก ภาพคงจะสลายตัวในไมชา อยูต


 อไปก็ไร
ประโยชน จึงลุกออกมาแลว ยกทหารไปเมืองเองจิ๋ว ตั้งฐานที่มั่นสําหรับทําการใหญตอ  ไป กองซุนจานเห็น
ดังนั้นจึงวากับเลาปวา อวนเสีย
้ วนี้ไรสติปญญา บายศบาอยาง และโลภอยากไดราชสมบัติ ขืนอยูทําการกับ
อวนเสี้ยว ตอไปก็ไรประโยชน มีแตจะไดรับอันตรายแกตัว จึงออกมาพรอมกันทั้งกองซุนจาน เลาป กวนอู
เตียวหุย กลับไปที่คายแลวเคลื่อนทัพออกจากเมืองลกเอี๋ยง เลาป กวนอู เตียวหุย ก็กลับเมืองเพงงวนกวน
ในขณะที่กอง ซุนจานก็กลับเมืองปกเปงดังแตกอน บรรดาเจาเมืองที่เหลือกินโตะเสร็จแลวก็กลับมายังคาย
ของตน เปนอันวางานเลี้ยงเลิกราไปดวยการเริม ่ ตนแหงการสลายตัวของ กองทัพปฏิวต
ั ิ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 87

ตอมากองทัพเมืองอิวจิ๋วของเลาตายขาดเสบียงลง จึงใหทหารไปยืมเสบียงจากกองทัพเมืองตันลิวของเตียว
เมา แตเตียวเมาเห็นวา เลาตายมีเสบียงเพียงพออยูแลว แกลงมาขอเสบียงเพื่อใหกองทัพของ ตนขาดเสบียง
เสียกอนจึงไมยอมให เลาตายก็โกรธเตียวเมา ค่ําลงเลาตายก็ยกทหารไปตีคายเตียวเมาในเมืองลกเอี๋ยงนั้น
ในขณะที่เตียวเมายังไมทันระวังตัวก็ถูกเลาตายฆาตายในคายทหารของเตียวเมาทั้งสิ้นจึงเขาสวามิภักดิ์กบ
ั เลา
ตาย

อวนเสี้ยวทราบเหตุการณที่เลาตายโจมตีคายและสังหารเตียวเมาแลวเห็นวาภายในกองทัพปฏิวัติมค ี วาม
ขัดแยงกันหนัก จักทําการ ตามความคิดไมตลอด ทั้งเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋ว กองซุนจานเจาเมืองปกเปง ซุน
เกี๋ยนเจาเมืองเตียงสา และโจโฉไดถอนตัวออกจากกองทัพปฏิวัติกลับไปแลว จึงรีบถอนทัพออกจากเมืองลก
เอี๋ยงกลับไปเมืองปุดไฮ โดยไมบอกเลาร่ําลาใหบรรดาหัวเมืองที่เหลืออยูน  ั้นไดรับทราบ บรรดาเจาเมืองที่
เหลือเห็นอวนเสี้ยวยกทัพกลับในลักษณะเชนนั้นจึงตางคนตางยกทัพกลับบานเมืองของตน กองทัพปฏิวัติที่
ไดจัดตั้งขึ้นภายใตธง "ตงหงี" ณ ทองทุงเมืองตันลิว ชูคาํ ขวัญ "ทัว่ ประเทศจงสามัคคีกัน กําจัดทรราชย
เทิดทูนฮองเต" ไดสลายตัวลง ณ ลกเอี๋ยงราชธานี ซึ่ง ณ บัดนี้เปนเมืองรางดวยประการฉะนี้ และนี่คือผลของ
การตั้งคนผิดใหมีอํานาจเปนผูนําทัพ เนื่องเพราะอวนเสี้ยวนั้นเปนคนมีคณ
ุ สมบัตต ิ องดวยโทษสิบประการของ
การเปนแมทัพตามคัมภีรพชิ ัยสงครามคือ

"คํารบหนึ่งพึงถือแตน้ําใจ ไมรก
ั ชีวิตคิดวาตัวเขมแข็ง ไมตรอง ดูใหรู กําลังศึก
คํารบสองไมสอ  งโดยปญญา วาการรอนหรือเย็น เห็นแตจะทํา โดยเร็ว
คํารบสามมีนา้ํ จิตอันโลภ เห็นแกโลภเอาทรัพยทานมาเปนอาณา ประโยชนโทษนั้นมีหลายสถาน
คํารบสี่มีน้ําใจออน ถาคนผิดมาออนวอน ไมฆาตามอาญาศึก
คํารบหาเปนคนหูเบา ใครวากลาวก็เชื่อฟง ไมหนักแนนตรึกตรองดูใหละเอียด
คํารบหกมีแตใจโมหันธ ไมเลือกคนดีใช กลับใหคนชั่วเปนใหญบัญชาการ ทหารมักเสียน้ําใจ
คํารบเจ็ดถือตัววาไมมีใครเสมอ ทําการไมปรึกษานายทัพนายกอง
คํารบแปดไมเอาใจของตัวเปนแกนแท ฟงแตคําคนพูด เชื่อถือเอาแตถอยคํามาทําศึก
คํารบเกาตัวเปนแมทัพไปที่เปลี่ยวแลกันดาร มิไดมีความเมตตา แกทหาร
คํารบสิบกําเริบอิสริยยศ พูดจาขมขี่ติเตียนเพือ ่ นฝูงทั้งปวง ผูใ ดสละมิไดไมควรเปนแมทัพ"

โบราณวา "ชายชาติอาชาไนย ตองไมลงเรือผิดลํา" ยอมหมาย เอาการไมปองจิตคิดรวมทําการดวยกับคนซึ่ง


ตองลักษณะโทษสิบประการดังนี้

ถาเชนนั้นผูมีปญ
 ญาจักพิจารณาฉันใด จึงจะไมลงเรือผิดลําเลาคัมภีรพิชย
ั สงครามวาดวยคดีหาประการของแม
ทัพวาไววา

"ถาผูใดจะเปนแมทัพ ใหรค
ู ดีหาประการดังนี้ หนึ่ง คิดกลใหอุบาย เห็นผูใ ดจะไดจึงใชไปทํา ถาจะ
ฝกสอนทหารใหมีสงา ขาศึกจึงจะมีที่เกรงกลัวแลว ใหตั้งตัวมีอํานาจดั่งราชสีห สอง น้าํ ใจโอบออม
แกทแกลวทหารทั้งปวงใหเสมอกัน ถาผูใดทําความชอบจึงพิดทูลให ถาผูใดผิดใหทําตามผิด อยา
ถือโกรธผูนอย สาม ใหพจิ ารณาตรองความแลวจึงสั่ง ดั่งงาชางมีแตจะยาว จงรักษาความสัตยทาํ การ
สิ่งใดใหแนนอน อยาเจรจาเปนคําสองสี่ ศึกยกมารูวาแมทพ ั เคยชนะเพราะพลมาก ฝายผูจะแกทัพรับ
มิไดเพราะมีพลนอย อยาถือตัวเองอาจออกรบเมื่อกําลังกลา จงหาที่มั่นใหไดกอนจึงตอสู แลวตรอง
อุบายหมายชนะแลวจึงทํา หา ถาตัวเปนแมทพ ั ถึงจะไปตีเมืองใดมีรี้พลมาก อยาคิดกําเริบ ทรยศตอ
เจานายของตัว ผูใดรักษาคดีหาประการไวครบถวนก็ควรเปนแมทัพได"

นี่แลวคือเรือทีล
่ งแลวไมผิดลํา

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

เปดยุคสงครามขุนศึก (ตอนที่ 39)

การสลายตัวของกองทัพปฏิวัตท ิ ําใหความขัดแยงในปลายราชวงศฮั่นเปลี่ยนเนื้อหาจากเดิมไปสูเนื้อหาใหม
และนําไปสูความเปนสามกก การจัดตั้งกองทัพปฏิวต ั ิโดยหัวเมืองเอกสิบหกหัวเมือง และอีกสองกองทัพคือ
กองทัพของโจโฉ และกองทัพของเลาป ทําใหฐานะตามกฎหมายของเจาเมืองและกองทัพเหลานั้นกลายเปน
กบฏตอแผนดิน เปนปรปกษตอรัฐบาลกลางที่ตั๋งโตะเปนผูถ ืออํานาจรัฐอยู ในขณะที่อํานาจรัฐของรัฐบาลกลาง
ก็หดแคบลงตามเขตพื้นทีท ่ ี่ฝายปฏิวตั ิยด
ึ ครองไว

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 88

ดังนั้น ความขัดแยงหลักจึงเปนความขัดแยงระหวางอํานาจรัฐ สวนกลางกับกองทัพปฏิวัติ ซึ่งทั้งสองฝายตางก็


เปนขุนศึก เปนแตวาขุนศึกตัง๋ โตะเปนฝายรัฐบาลกลาง และฝายปฏิวัติเปนฝายตอตาน รัฐบาลกลาง ครั้น
กองทัพปฏิวัตส ิ ลายตัวลง ความขัดแยงจึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือเปนความขัดแยงระหวางรัฐบาลกลาง
กับเจาเมืองและ กองทัพกบฏแตละเมืองชนิดหนึ่ง และความขัดแยงระหวางเจาเมือง และกองทัพกบฏดวย
กันเองอีกชนิดหนึ่ง

ดังนั้น เมื่อความขัดแยงทั้งสองชนิดนี้ไมสามารถแกไขไดโดยหนทางสันติ หรือโดยวิถท ี างการเมือง ความ


ขัดแยงนั้นจึงกลายเปนสงคราม และเปนสงครามระหวางขุนศึกดวยกันเองพลันที่กองทัพปฏิวตั ส
ิ ลายตัวลง
ฉากแหงสงครามระหวางขุนศึก หัวเมืองตางๆ จึงเปดฉากขึ้นตั้งแตบัดนัน ้ และสงครามนี้จะเกิดขึ้นอยาง
ตอเนื่องจนกลายเปนสามกก ครั้นเปนสามกกแลวสงครามก็ยังดําเนินตอไป จนกระทั่งราชวงศฮั่นดับสูญสมเด็จ
พระมหาธีรราชเจาทรงพระราชนิพนธความในเวนิสวานิชไวตอนหนึ่งวา "ในกระแสแหงยุตธ ิ รรมา ยากจะหา
ความเกษมเปรมปรีดิ์" ในกระแสแหงสงครามก็เชนเดียวกันยอมไมอาจหา ความเกษมเปรมปรีดิ์ได ซุนหวูจึง
กลาวไววา "อันการศึกติดพันกันเปนเวลานาน แตประเทศชาติกลับไดรับประโยชนจากเหตุนั้นยังไมเคยปรากฏ
เลย"

แตกระนั้นสงครามก็ใชวาจะมีแตผลเสียเพียงดานเดียวหามิได หากยอมมีดา นที่เปนผลดีดาํ รงอยูดว ย เพราะ


สงครามนั้นเปนการเคลื่อนไหวทางการเมืองชนิดหนึ่ง คือเปนการเคลื่อนไหวที่หลั่งเลือด และเปนไปเพื่อบรรลุ
เปาหมายทางการเมือง ดังนั้นถาหากการเมืองเปนเรื่องผลประโยชนของบานเมืองและประชาชนโดยสวนรวม
แลว การทําสงครามเพื่อการเมืองชนิดนีย ้ อมนับวาเปนผลดีตอบานเมืองและราษฎร ตําราพิชัยสงครามของ
ซุนหวูจึงระบุไววา "จึ่งผูใดยังไมทราบผล รายของสงครามโดยถองแทแลว ผูนั้นยังไมซาบซึ้งในผลดีของ
สงคราม เชนเดียวกัน" เหตุนแ ี้ มวาสงครามจะไมใชสิ่งที่พึงปรารถนา แตสงครามก็ไมใช สิง่ ที่ควรตองเกรงกลัว
ขอเพียงแตเปนสงครามที่เปนธรรมและเปนสงครามที่เปนไปเพื่อบรรลุถึงผลประโยชนของบานเมืองและราษฎร
ก็ควรตองพรอมที่จะเขาทําสงครามนั้นจนถึงที่สด ุ โดยที่ยากจะหาความเกษมเปรมปรีดจ ิ์ ากสงคราม ดังนั้นจึง
ยอม ยากทีจ ่ ะพรรณนาความสงครามในชวงแตนี้ไปใหเกิดความหฤหรรษ ดั่งนิยายอื่นได แตทวาการดําเนิน
สงครามในสามกกนั้นหาใชเปนสงครามที่โดดเดี่ยวไม หากเปนสงครามที่เอิบอาบไปดวยศาสตรและศิลป
นานัปการ ศาสตร และศิลปเหลานี้จะถือไมไดเจียวหรือวาคือความหฤหรรษอันล้ําเลิศชนิดหนึ่งของมนุษยชาติ
เริ่มตนที่เลาเปยว เชื้อสายพระราชวงศฮั่นเชนเดียวกับเลาป ครองตําแหนงเปนที่เจาเมืองเกงจิ๋ว ซึ่งเปนหัว
เมืองเอกแหงราชอาณาจักรฮัน ่ เมืองเกงจิ๋วนี้เปนเมืองชายทะเลตั้งอยูค
 นละฟากแมน้ําแยงซีกับเมืองเตียงสา
แหงดินแดนกังตั๋ง

ภายใตอํานาจรัฐแหงราชอาณาจักรฮั่น ทั้งเมืองเกงจิ๋วและเมือง เตียงสาตางก็เปนหัวเมืองเอกขึ้นตอรัฐบาล


กลาง จึงไมมข ี อพิพาทบาด หมางกัน หากมีความขัดแยงเกิดขึ้นก็อาศัยถอยทีปฏิบัติ หรืออาศัยอํานาจรัฐ
สวนกลางเขาแกไขตามระบบบราชการ ดังนั้นความสัมพันธของทั้งสองเมืองนี้จึงมีความเปนปกติตอกันตลอด
มา ครั้นซุนเกี๋ยนเจาเมืองเตียงสาเขารวมกับกองทัพปฏิวัติ ไมขึ้นตอ อํานาจรัฐสวนกลาง แลวตอมากองทัพ
ปฏิวัติไดสลายตัวลง เหตุปจ  จัยที่เคยทําใหทงั้ สองเมืองนี้เปนปกติตอกันก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะตางเมืองตาง
ตองระมัดระวังตนดวยเกรงวาจะถูกอีกเมืองหนึ่ง รุกรานยึดครอง เหตุนี้ความสัมพันธที่ไมปกติจึงเกิดขึ้น

หลังจากเลาเปยวไดรับหนังสือจากอวนเสี้ยวแจงความเรื่องซุนเกี๋ยนพบตราพระลัญจกร ปดบังความเสียแลว
ยักยอกเอาตราพระลัญจกรนั้นเปนของตน เพื่อจะตั้งตนขึ้นเปนเจาแตผูเดียว จึงใหเลาเปยวยกทหารออกไป
สกัดกองทัพซุนเกี๋ยนเพื่อยึดตราพระลัญจกรสง มอบแกอว นเสี้ยวเพื่อนําขึ้นทูลเกลาฯ ถวายพระเจาเหีย ้ นเต
ตอไป เลาเปยวรับหนังสืออวนเสี้ยวแลว ถือวาในฐานะเชื้อพระวงศฮั่นยอมเปนหนาทีท่ ี่จะตองเอาตราพระ
ลัญจกรคืนแกฮอ งเตสถานหนึ่ง และเกรงวาหากซุนเกี๋ยนไดตราพระลัญจกรไปแลวยอมตั้งตัวขึ้นเปน เจา
อันตรายจะเกิดแกเมืองเกงจิ๋ว จําเปนที่จะตองตัดไฟเสียแตตน
 ลม ยึดเอาตราพระลัญจกรจากซุนเกี๋ยนใหจงได
อีกสถานหนึ่ง

ดังนั้นเลาเปยวจึงตัดสินใจปฏิบัติตามหนังสือของอวนเสี้ยว แลว สั่งใหยกทหารออกจากเมืองเกงจิ๋วไปตั้งสกัด


ทัพซุนเกี๋ยนในเสนทางที่ กองทัพเมืองเตียงสาจะตองเดินทัพกลับแควนกังตั๋ง เพื่อหวังผลที่จะชวงชิงตราพระ
ลัญจกรใหจงได เลาเปยวจึงสั่งการใหเกงอวด ชัวมอ สองทหารเอกยกทหารหาหมื่นไปตั้งสกัดทัพซุนเกี๋ยนไว
ขางหนา ตัวเลาเปยวเปนกองกลางคุมทหารซุมอยูบนเนิน เขา และจัดกองหลังแยกเปนสองกองซุมอยูใ นปา
ทั้งสองขาง แลวสั่ง วาเมื่อกองหนาปะทะกับทหารของซุนเกี๋ยนแลว ใหถอยมายังจุดที่กองกลางของเลาเปยว
ซุมอยู เมื่อกองกลางเขาปะทะแลวก็จะทําทีถอยไป ยังจุดซุมของกองหลัง พรอมกันนั้นใหกองหนายกออมไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 89

ทางดานหลังของกองทัพซุนเกี๋ยน ใหทั้งสีก
่ องฟงสัญญาณแลวยกตีกระหนาบเขา มาทั้งสีด
่ านก็จะจับตัวซุน
เกี๋ยนยึดเอาตราพระลัญจกรไดโดยงาย

กําหนดแผนการรบและบัญชาการรบเสร็จแลว เลาเปยวและทหารทั้งสี่กองก็ตั้งมั่นคอยทีทัพซุนเกี๋ยนอยู ครั้น


กองทัพเมืองเตียงสายกมาตามทางนั้นก็ปะทะกับกองหนาของเลาเปยว สองทหารเอกของเลาเปยวชักมา
ออกไปชี้หนาซุนเกี๋ยนวากบฏตอแผนดิน ยักยอกตราพระลัญจกรของฮองเต ใหรีบสงมอบมาโดยไว ซุนเกี๋ยน
ไดยินก็โกรธสั่งทหารเขาตีกองหนาของเลาเปยว กองหนาของเลาเปยวก็ถอยมาตามเชิงยุทธ ใกลจุดที่
กองกลางซุมอยูก็วก เขาปายกออมไปทางดานหลังของกองทัพเมืองเตียงสา คอยฟงสัญญาณจากเลาเปยว
อยูเลาเปยวเห็นกองทัพซุนเกี๋ยนยกมาถึงเนินเขาก็ยกทหารออกมา จากจุดซุม เผชิญหนากับซุนเกี๋ยน ฝายซุน
เกี๋ยนเห็นเลาเปยวคุมทัพมาก็ชกั มาขึ้นมาหนาทหารคารวะเลาเปยวแลววาทานอยาหลงเชื่อฟงคําอวนเสี้ยวที่
ใสรายกลาวหาขาพเจาวายักยอกตราพระลัญจกร ขอไดเห็นแกไมตรีของสองเมืองที่มีมาแตกอน เปดทางให
ขาพเจาเดินทัพกลับเมืองเตียงสา ไมตรีของทั้งสองเมืองก็จะเปนปกติสืบไป

เลาเปยวฟงคําซุนเกี๋ยนแลวจึงวา ความจริงไดประจักษชัดตอหนาหัวเมืองทั้งปวงแลววาตัวทานไดตราพระ
ลัญจกรของฮองเตไว แลว ยักยอกเปนของตัวเพื่อจะตั้งตนขึน ้ เปนเจา ทําการกบฏตอพระราชวงศฮั่น เราขอให
ทานกลับตัวกลับใจเสียแตบด ั นี้ รีบสงมอบตราพระลัญจกรคืนใหแกเรา เพื่อสงคืนแกฮองเตตอไป ซุนเกี๋ยนได
ฟงเลาเปยวแลวก็โกรธ แตฝนใจกลาววาหากทานไม เชื่อฟงขาพเจา ขาพเจาก็ขอสาบานตอฟาวา ขาพเจาหา
ไดครอบครอง ตราพระลัญจกรไม หากขาพเจายักยอกตราพระลัญจกรไวแลว ขอใหเทพยดาลงโทษขาพเจา
ดวยศัสตราวุธตางๆ เลาเปยวจึงวาเรายังเชื่อคําสาบานทานไมไดกอน แตจะขอตรวจคนทหารทุกคนทีม ่ าใน
กองทัพของทาน หากไมพบตราพระลัญจกรแลวเราจะขออภัยตอทานแลวจะเปดทางใหทานเดินทัพกลับเมือง
เตียงสา ซุนเกี๋ยนไดยินเชนนัน ้ ถือวาเลาเปยวเหยียดหยามเกียรติยศศักดิ์ศรี ของตนก็โกรธหนัก สั่งทหารเขา
รบดวยเลาเปยว พอทหารใกลจะปะทะกันเลาเปยวทําทีเปนกลัว ชักมาหนี ยกทหารถอยไปทางจุดที่กองกําลัง
ซุมอยูสองขางทางนั้น ซุนเกี๋ยนไมรูกลก็ยกทหารไลตามไป

ครั้นกองทัพเมืองเตียงสามาถึงจุดซุม เลาเปยวก็ใหทหารโหรอง ตีมา ลอเปนสัญญาณ แลวแปรขบวนทัพจาก


ถอยหันหนาเขาเผชิญดวยซุนเกี๋ยน ในขณะทีก ่ องซุมทั้งสองกองก็ยกออกจากสองขางทาง และกองหนาซึง่ วก
ออมไปดานหลังไดยกตีกระหนาบเขามาพรอมกันทั้งสีด ่ าน กองทัพเมืองเตียงสาจึงตกอยูใ นที่ลอม การกําหนด
แผนการรบของเลาเปยวครั้งนี้เปนการรบโดยใชกําลังทหาร ประกอบดวยกลอุบาย ซึ่งไมเคยปรากฏในการรบ
ระหวางกองทัพปฏิวัติกับกองทัพจากเมืองหลวง ดังนั้นจึงทําใหแล เห็นไดวาบรรดากองทัพที่รวมในกองทัพ
ปฏิวัตินั้นไมไดมีความจริงใจตอกันมาแตตน ตางคนตางพยายามเปนฝายนัง่ ดูเพื่อจะชวงชิงเอาความไดเปรียบ
ในขั้นสุดทาย หรือไมก็รอคอยใหเหตุการณพัฒนาไปเองจนกวาทุกฝายจะออนแรงลงแลวจึงชิงโอกาสกระทํา
การในภายหลัง คงมีแตหัวเมืองที่อยากเดนดังบางหัวเมืองเทานั้นที่กระหือรือออกรบแลว ตองเสียทีแกกองทัพ
เมืองหลวง

กองทัพเมืองเตียงสาครั้นตกอยูในที่ลอมก็ตกใจ ทั้งถูกทหารเลาเปยวตีกระหนาบเขามาฆาฟนลมตายลงเปน
อันมาก ซุนเกี๋ยนรบอยูท ามกลางวงลอมของทหารเลาเปยว และออนกําลังลง เทียเภา อุยกาย และฮันตง สาม
ทหารเอกซึ่งถูกลอมอยูอีกวงหนึ่งเห็นเหตุการณเชนนั้นจึงรีบตีฝาวงลอมออกมา แลวตีฝาวงลอมที่ลอม ซุน
เกี๋ยน เขาไปแกเอาซุนเกี๋ยนออกมาได ซุนเกี๋ยนและสามทหารเอกเห็นสถานการณตกอยูในความคับขัน จึงนํา
ทหารที่เหลือตีฝาวงลอมทหารเลาเปยวแลวหนีไปเมืองเตียงสา ผลการรบครั้งนี้แมวาเลาเปยวจะไดรับชัยชนะ
อยางงดงามดวยวิธี การรบแบบใชกําลังทหารและกลอุบาย แตไมสามารถบรรลุภารกิจใน การยึดตราพระ
ลัญจกรกลับคืน ทั้งทําใหเลาเปยวกับซุนเกี๋ยนตองพิพาทและผูกพยาบาทตอกัน

ซุนเกี๋ยนเมื่อยกทัพกลับเมืองเตียงสาแลวก็คด
ิ ตั้งตัวขึ้นเปนเจาตาม คําของเทียเภา สั่งใหออกประกาศรับสมัคร
ผูมส
ี ติปญญาความสามารถ เพื่อเขามารับราชการเปนขุนนางและประกาศรับชายฉกรรจจํานวนมาก เขามาเปน
ทหาร ทําการฝกซอมทหารทัง้ กลางวันและกลางคืน ในขณะเดียวกันไดสั่งใหตอเรือรบ เรือเร็ว และเรือ
ลาดตระเวนจํานวนมาก เปนสัญญาณที่บงชี้ชดั เจนวานี่คือการเตรียการทําสงครามแผแสนยานุภาพทาง
การทหารทั้งทางดานกองทัพบก และดานกองทัพเรือ เมื่อเลาเปยวทราบวาฝายซุนเกี๋ยนระดมผูค  นทั้งขุนนาง
ที่ปรึกษา และทหารอยางขนานใหญเชนนี้ก็เกรงวาเมืองเกงจิ๋วจะตกอยูในอันตราย จึงสั่งใหประกาศรับสมัครผู
มีสติปญ ญาความสามารถเขามา รับราชการเปนขุนนาง และประกาศรับชายฉกรรจจํานวนมากเขามาเปน ทหาร
ประจําการทั้งดานกองทัพบกและดานกองทัพเรือ ทั้งสั่งการใหตอเรือรบ เรือลาดตระเวน ประจําการใน
กองทัพเรือเปนจํานวนมาก ทําการฝกซอมทหารและซองสุมเสบียงไวเปนกําลังตอไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 90

แตนั้นมา ทั้งเมืองเกงจิ๋วและเมืองเตียงสาจึงตางคุมเชิงระมัด ระวังกันและกัน เปลี่ยนแปลงความสัมพันธทเี่ ปน


ปกติตอกันมาเปนความสัมพันธที่พรอมจะทําสงครามตอกันทุกเมื่อ

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ชวงชิงชัยชนะโดยไมตอ
 งรบ (ตอนที่ 40)

คําพังเพยทีว่ า "แพเปนพระ ชนะเปนมาร" เปนเพียงคําปลอบ ใจของผูแ  พ หาใชเปาหมายที่แทจริงของการทํา


สงครามไม เพราะในการสงครามนั้นไมมท ี งั้ พระและไมมท
ี ั้งมาร คงมีแตชัยชนะหรือ ปราชัยเทานัน ้ และ
เปาหมายที่ชวงชิงกันก็คือชัยชนะ คัมภีรพชิ ัยสงครามของซุนหวู วาดวยยุทโธบายระบุวา "หลักการยุทธโดยมิ
พักตองทําลายเมือง นับวาเปนวิธีประเสริฐ ยิ่งรองลงมาก็คอ ื หักเอาโดยไมตองทําลายกองพล รองลงมาอีกก็
คือการเอาชนะโดยไมตองทําลายกองพัน เลวกวานั้นก็อยาใหถึง ตองทําลายกองรอย หรือทําลายกระทั่ง
หมวดหมู" "เพราะฉะนั้น การชนะรอยทั้งรอยมิใชวิธีอันประเสริฐแท แตชนะโดยไมตองรบเลยจึงถือวาเปนวิธี
อันวิเศษยิ่ง"

แตการชวงชิงชัยชนะโดยไมตอ  งรบนั้น ใชวา ผูนําทัพจะกระทําไดทุกคนไป เพราะการใชสดุ ยอดยุทโธบายของ


ขุนพลนี้ยอมมีแตขุนพลผูม
 ีสติปญญาเทานัน ้ จึงกระทําไดสาํ เร็จ อวนเสีย
้ วคนโฉด หลังจากทําใหกองทัพปฏิวัติ
ตองปราชัยถึงขนาดตองสลายตัวอยางไมเปนทาแลว ไดยกไปตั้งหลักที่เมืองโหลาย และ ณ เมืองนี้

อวนเสี้ยวได หองกีทหารเอกผูเจนจบพิชย ั สงครามมาเปนที่ปรึกษา ดังนั้นนับแตได หองกีมาอยูดวยแลว


กองทัพของอวนเสี้ยวจึงเปนกองทัพที่ประมาทไมไดอีกตอไป เนื่องเพราะฝมือการรบของทหารเอกนั้น อวน
เสี้ยวมีงันเหลียง และบุนทิวนักรบมีฝมือสุดยอดเปนทหารเอกของยุคนั้น ในการวางแผนบัญชาการของกองทัพ
ก็มีหองกีที่ปรึกษาเปนเสนาธิการใหญ กองทัพของอวนเสี้ยวจึงพรอมสรรพทั้งฝายบูและฝายบุนทีส ่ ามารถ ใช
วิธีการรบไดหลายรูปแบบ ผิดกับเมื่อครั้งที่เปนผูบัญชาการใหญของกองทัพปฏิวัติ เมืองโหลายเปนเมืองเล็ก มี
ดินแดนใกลกับเมืองกิจิ๋วของฮันฮก และถัดไปจะเปนเมืองปกเปงของกองซุนจาน แตฐานะของเมืองโหลาย
เปนเพียงหัวเมืองชั้นจัตวาตางกับเมืองกิจิ๋ว และเมืองปกเปง ซึ่งเปนหัวเมืองเอกทั้งสองเมือง เพราะเมืองโห
ลายเปนเมืองเล็ก จึงไมอุดมสมบูรณ ทั้งอาหารก็ขาดแคลน ตางกับเมืองกิจิ๋วและเมืองปกเปง ซึ่งเปนเมือง
ใหญอุดม สมบูรณทั้งอาหารและผูค  น

ดังนั้น เมื่อกองทัพอวนเสีย ้ วยกมาตั้งที่เมืองโหลายไดไมทันนาน กองทัพก็ขาดเสบียงลง ฝายฮันฮกเจาเมืองกิ


จิ๋วเปนคนมีน้ําใจเอื้ออารีตอผูคนทั้งปวงโดยไมเลือกหนามีน้ําใจศรัทธาตออวนเสี้ยวเพราะเห็นวาเปนเชื้อสาย
ขุนนางมาหลายชั่วอายุคน ครั้นไดขาววากองทัพอวนเสีย ้ วขาดเสบียง ฮันฮกก็มีน้ําใจสงสารคิดชวยเหลือ จึง
สั่งใหทหารคุมเสบียงมามอบใหแกอวนเสี้ยว อวนเสี้ยวแทนที่จะคิดถึงพระคุณของคนที่เคารพศรัทธาตัวแลวมา
ชวยเหลือในยามยาก กลับคิดหักหลังฮันฮกจะชิงเอาเมืองกิจิ๋ว มาครองเสียเอง

ดังนั้นอวนเสี้ยวจึงปรึกษาดวยหองกีวาเรามาอยูเมืองโหลายนี้เหมือนจระเขใหญอยูใ นน้ําตืน
้ จะหันซายขวา
ประการ ใดใหติดขัดไปสิ้น ทัง้ เสบียงอาหารก็ไมอุดมสมบูรณ ผูคนก็นอย ไมสามารถอาศัยทําการใหญได เรา
จึงหวังจะชิงเอาเมืองกิจิ๋วเพื่อเปน กําลังสืบไป ทานจะมีความเห็นคิดอานประการใด หองกีฟง ขอปรึกษาแลวจึง
วาขาพเจาเห็นดวยกับทานวาเมืองโหลายนี้ไมสามารถเปนฐานกําลังใหเราทําการใหญไดสืบไป เมืองกิจิ๋ว เปน
หัวเมืองเอก อุดมสมบูรณทั้งเสบียงอาหารและผูค  น หากทานไดครองเมืองกิจิ๋วแลวยอมสามารถใชเปนฐานตั้ง
ตัวทําการใหญได

วาแลวหองกีจึงไดเสนอแผนการตอไปวาขาพเจาไดคิดกลอุบาย "หลอกเสือแลวกินวัว" ไวกอนแลว ถาหาก


ทานเต็มใจดวยความคิด ขาพเจาแลวเมืองกิจวิ๋ ก็จะเปนสิทธิแกทาน อวนเสีย ้ วดีใจยิ่งนักถามวากลอุบาย หลอก
เสือแลวกินวัว" ของ ทานเปนประการใด หองกีจึงวาขอใหทา นมีหนังสือลับไปถึงกองซุนจานเจาเมือง ปกเปง
ใหยกกองทัพมาตีเมืองกิจิ๋ว ใหสัญญาวาถาไดเมืองกิจิ๋วแลวจะแบงทรัพยสินและเมืองกิจิ๋วใหกองซุนจาน
ครึ่งหนึ่ง ถาหากกองซุนจานยกมาตีเมืองกิจวิ๋ แลว ฮันฮกเจาเมืองยอมคิดวาเคยทําคุณไวแกเราคงจะหวังพึ่ง
เราได และขอใหยกกองทัพไปชวยเราจะไดถอ ื โอกาสนั้นยึดเมืองกิจิ๋วไดโดยงาย แตถาหากฮันฮกคิดสูกับกอง
ซุนจานเพียงลําพัง เราก็จะยกกองทัพตีกระหนาบ เขาไปอีกดานหนึ่งก็จะยึดเมืองกิจิ๋วได โดยงายเชนเดียวกัน
และวากองซุนจานนั้นเปนคนหุนหันพลันแลน เห็นแกได ไมรูจักใชคน แตคด ิ การใหญ เมื่อเห็นหนังสือของ
ทานแลวคงจะกระทําการตามคําทาน อวนเสีย ้ วฟงคําหองกีแลว เห็นดวยกับแผนการที่เสนอ จึงสั่งใหทหารถือ
หนังสือลับไปถึงกองซุนจาน ณ เมืองปกเปง ตามแผน การของหองกีนั้น กองซุนจานไดรับหนังสือของอวน
เสี้ยวแลวก็มีความยินดีดวยเห็นวาเมืองกิจิ๋วเปนเมืองใหญและอุดมสมบูรณ ถาหากไดเมืองกิจิ๋ว มาผนวกเขา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 91

เปนสวนหนึ่งของเมืองปกเปงแลวก็จะเปนฐานกําลังทําการใหญสืบไป จึงมีหนังสือแจงกําหนดวันทีจ
่ ะยก
กองทัพไปตีเมือง กิจิ๋วใหทหารนั้นถือกลับไปใหอวนเสีย
้ ว

เมื่อทราบกําหนดวันที่กองทัพเมืองปกเปงจะยกกองทัพเขาตีเมืองกิจิ๋วแลว อวนเสี้ยวจึงใหหาหองกีมาปรึกษา
วาจะทําประการใดตอไป หองกีเดินแผนตอไปวาขอใหทา นมีหนังสือลับไปถึงฮันฮกเจาเมืองกิจิ๋ววากองซุนจาน
เจาเมืองปกเปงมีหนังสือมาปรึกษาเราวาจะยก กองทัพมาตีเมืองกิจิ๋วตามวันที่กําหนด และขอใหเรายกทัพตี
กระหนาบ อีกดานหนึ่ง แตเราเห็นวาฮันฮกเปนผูมีพระคุณไดชวยเหลือสงเสบียง ใหในยามยาก ไมสามารถคิด
หักหลัง ฮันฮกผูมีพระคุณได จึงแจงมา ใหฮน
ั ฮกทราบแลวเตรียมการรับศึกเมืองปกเปงใหพรอมเถิด

ฮันฮกไดรับหนังสือของอวนเสี้ยวก็ตกใจ คิดวากองซุนจานคงจะยกทหารมาเปนอันมาก และกองซุนจานนั้น


เปนศิษยรวมสํานักกับเลาป ดังนั้นเลาป กวนอู เตียวหุยก็จะมาชวยกองซุนจานเปนแนแท ตัวเราเคยเห็นฝมือ
ทหารเอกของเลาปมาแลว ยากจะหาทหารเอกคนใดในแผนดินเขารับมือได กองทัพเมืองกิจิ๋วเห็น จะสู
กองทัพเมืองปกเปงไมไดจึงมีความวิตกยิ่งนัก ฮันฮกจึงเรียกประชุมขุนนางกรมการเมืองกิจิ๋ว แจงความตาม
หนังสือของอวนเสี้ยวใหทุกคนทราบแลวปรึกษาวาจะคิดอานประการใด บรรดาขุนนางและกรมการเมืองกิจิ๋ว
สวนใหญเห็นวากองทัพเมืองปกเปง ซึ่งจะยกมาครั้งนี้คงเปนกองทัพใหญ ลําพังกองทัพเมืองกิจิ๋วยอมรับมือ
กองทัพเมืองปกเปงไมได ตัวทานเจาเมืองเคยทําคุณไวกับอวนเสี้ยว ทั้งอวนเสี้ยวก็เปนเชื้อสายขุนนางเกา
หลายชั่วอายุคน มีผูคนนับถือเปนอันมาก ทั้งยังมีงันเหลียง บุนทิว เปนทหารเอก หากไดเชิญอวนเสีย ้ วมาชวย
รบกับกองทัพเมืองปกเปงแลว เราก็จะสามารถปองกันรักษาเมืองกิจิ๋วเอาไวได แตเกงบูขุนนางของเมืองกิจิ๋ว
ซึ่งเปนที่ปรึกษาของฮันฮกกลับไมเห็นดวยแลววา "อวนเสีย ้ วนั้นเปนคนสิน
้ ความคิดอยูแ
 ลว ซึ่งไดตั้งตัวเลี้ยง
ทหารอยูท  ุกวันนี้ก็เพราะทานใหสงเสบียง อุปมาเหมือนทารก ถามารดามิใหนมกินแลว ทารกนั้นก็จะสิ้นแรงไป
ซึ่งทานจะใหอวนเสี้ยวมาชวยรักษาเมืองเหมือนจับเอาเสือมาปลอยไวในฝูงเนื้อ ฝูงเนื้อทัง้ ปวงก็จะมีอันตราย
เปนมั่นคง"

ความเห็นของเกงบูที่ปรึกษาคนนี้แหลมคม และอานแผนการของอวนเสี้ยวทะลุปรุโปรง ดังนั้นจึงแทนที่จะเห็น


วากองซุนจานเปนศัตรูและเปนตัวอันตรายตอเมืองกิจิ๋ว กลับเห็นวาอวนเสี้ยวตางหากที่เปนศัตรูราย จะ
ไววางใจใหยกเขามาชวยรักษาเมืองไมไดเปนอันขาด ทั้งไดเสนอความเห็นในการบั่นทอนกําลังของอวนเสี้ยว
ลงดวยวิธีการทีง่ ายทีส
่ ด
ุ คือการไมสงเสบียงให ดั่งนี้แลวกองทัพของอวนเสีย้ วก็จะสิ้นกําลังไปเอง

แตฮันฮกถึงคราวจะวินาศแทนที่จะฟงคําของที่ปรึกษาผูภักดีดังแตกอน กลับมีความเห็นวิปริต เห็นกงจักรเปน


ดอกบัว ตัดสินใจเชิญอวนเสี้ยวยกกองทัพเขามารักษาเมืองกิจิ๋ว เมื่อตัดสินใจแลวจึงมีหนังสือไปถึงอวนเสี้ยว
ขอความชวยเหลือใหอวนเสีย
้ วยกกองทัพเขามาชวยปองกันเมืองกิจิ๋ว เกงบูที่ปรึกษาเสียใจยิ่งนักที่ ฮันฮกไม
ฟงคําจึงขอลาออกจากตําแหนง ขุนนางเมืองกิจิ๋วอีกสามสิบคนซึ่งเคยเห็นความคิดของเกงบูถูกตอง แมนยํา
มาแตกอนก็เชือ
่ ตามแลวขอลาออกจากตําแหนงขุนนางเมืองกิจิ๋วไปพรอมกัน

การตัดสินใจของฮันฮกในครั้งนี้คลายกับการตัดสินใจของโฮจิ๋นที่ใหเรียกกองทัพตั๋งโตะเขาเมืองหลวง ดังนั้น
ชะตากรรมที่ฮองเต ขุนนางและราษฎรไดประสบจากการเรียกกองทัพตัง๋ โตะเขาเมืองหลวงเปนประการใด
ชะตากรรมของฮันฮก ขุนนางและราษฎรเมืองกิจิ๋วยอมตองประสบคลายคลึงกันประการนั้น อวนเสี้ยวไดรับ
หนังสือของฮันฮกแลวเห็นการเปนไปตามแผนการของหองกีก็มีความยินดียิ่งนัก จึงออกคําสั่งใหยกกองทัพ
ทั้งสิ้นออกจากเมืองโหลายไปเมืองกิจิ๋ว

ฝายเกงบูที่ปรึกษากับเพื่อนขุนนางอีกคนหนึ่ง แมวาจะลาออกจากราชการแลวแตยังคงหวงหาอาทรเมืองกิจิ๋ว
และราษฎรเปนอันมาก ครั้นทราบขาวอวนเสี้ยวยกกองทัพมาเมืองกิจิ๋วตามหนังสือของฮันฮกแลว จึงคิดการจะ
รวมกันสังหารอวนเสี้ยวเสียกอนที่จะเขาเมือง คิดอานรวมกันแลวก็พากันไปยืนแอบอยูท  ป
ี่ ระตูเมืองกิจิ๋ว ครั้น
อวนเสี้ยวจะเขาประตูเมือง เกงบูและเพื่อนขุนนางนั้นก็ชักกระบี่จะฟนอวนเสีย
้ ว แตงันเหลียง บุนทิว สองทหาร
เอกของอวนเสี้ยวซึ่งเดินตามมา ดวยเห็นเหตุการณจึงชักกระบี่วิ่งเขาไปรับกระบี่ของสองขุนนางเมืองกิจิ๋ว แลว
ฟนสองขุนนางถึงแกความตายที่ประตูเมืองนั้น

อวนเสี้ยวคนโฉด ณ บัดนี้ไดหอ  งกีมาเปนที่ปรึกษาจึงกลายเปน อสรพิษรายและกําลังกรายเขาประตูเมืองกิจิ๋ว


พรอมแลวที่จะกัดฮันฮกผูมีพระคุณของตน อวนเสี้ยวเมื่อเขาประตูเมืองกิจิ๋วแลว ฮันฮกไดออกไปตอนรับขับสู
อยางสมเกียรติ แลวเชิญอวนเสี้ยวไปที่จวนเจาเมืองเพื่อปรึกษาราชการ โดยหารูไมวากําลังอุมกอดอสรพิษ
รายไวกับอกเมื่ออวนเสี้ยวพรอมทหารเอกและทหารติดตามเขาไปถึงจวนเจา เมืองแลว ก็ขึ้นนั่งบนที่วาราชการ
ของเจาเมือง ปลอยใหฮันฮกเจาเมือง ยืนอยูขางลางแลวออกคําสั่งถอดฮันฮกเสียจากที่เจาเมือง และใหถอด
ขุนนางกรมการเมืองทั้งปวงออกจากตําแหนงเสียทั้งสิ้น แลวอวนเสี้ยวจึงตัง้ ตนเองเปนเจาเมืองแทน และตั้ง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 92

เตียนหอง โจสิว เคาสิว และหองกี ที่มาดวยกันจากเมืองโหลายใหเปนขุนนางเมืองกิจิ๋ว ตั้งงันเหลียง บุนทิว


เปนทหารเอกของเมืองกิจิ๋ว ยึดอํานาจ เมืองกิจิ๋วเบ็ดเสร็จสมบูรณภายในวันเดียวนั้น

ฮันฮกเมื่อถูกถอดออกจากตําแหนงแลวก็เสียใจนักที่คด ิ ผิดเชื่อ และวางใจคนผิดมาคิดวาถาจะอยูเมืองกิจิ๋ว


ตอไปคงจะถูกอวนเสี้ยวฆา เสียเปนแน จึงทิ้งบุตร ภรรยาและครอบครัวหนีไปอยูเมืองตันลิวแตผูเดียวพระผูม  ี
พระภาคเจาทรงตรัสสอนในมงคลสามสิบแปดขอแรกวา อยาคบคนพาล "การไมคบคนพาลเปนมงคลสูงสุด"
เมื่อปฏิบัติตาม มงคลนี้แลวยอมไมแพในที่ทั้งปวง ยอมถึงความสวัสดีในทีท ่ งั้ ปวง การไมปฏิบัติตามมงคลขอนี้
ยอมตั้งอยูใ นฐานะที่พายแพทก
ุ เมื่อ ยอมถึงซึ่งความวิบัติในที่ทั้งปวง ฮันฮกเมื่อหลงเชื่อและคบคนพาลเชน
อวนเสี้ยวจึงตองรับผลแหงการกระทําของตน เสียทั้งเมือง และพลัดพรากจากครอบครัว ดัน ้ ดนไปแตเดียวดาย
อวนเสี้ยวใชกลอุบายหลอกเสือกองซุนจาน แลวกินวัวฮันฮก ชวง ชิงชัยชนะยึดเมืองกิจิ๋วไดโดยไมตองรบ แม
นับเปนชัยชนะอันวิเศษ แตชัยชนะเชนนีย ้ อ
 มเปนชัยชนะที่เกิดแตการหักหลังผูมีพระคุณตัว จึงเปนชัยชนะที่
ยอมตองแฝงไวซึ่งความปราชัยควบคูกันไป นั่นคือความปราชัยในดานชื่อเสียงเกียรติยศทีต ่ ระกูล "อวน" ไดสั่ง
สมมาหลายชั่วอายุคนจนหมดสิ้น

หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ยอดกระบี่ในมือพอครัว (ตอนที่ 41)

ฝายกองซุนจานเจาเมืองปกเปงรับหนังสือลับของอวนเสี้ยวแลว ก็จดั เตรียมกองทัพเพื่อจะยกไปตีเมืองกิจิ๋ว


ตามที่ตกลงไวกับอวนเสี้ยว แตยังไมทันถึงกําหนดเคลื่อนพลก็ไดขาววาอวนเสี้ยวยึดไดเมืองกิจิ๋วแลว จึงให
กองซุนอวดผูนอ  งไปเมืองกิจิ๋วทวงทรัพยสินและขอแบงเมืองกิจิ๋วครึ่งหนึ่งตามที่อวนเสีย
้ วไดใหสญ
ั ญาไว อวน
เสี้ยวเมื่อรูวากองซุนอวดมาทวงสัญญา จึงหาตัวหองกีมาปรึกษาวาจะทําประการใดดี หองกีจึงวาขาพเจาได
คาดหมายไวกอ  นแลววากองซุนจานจะตองสงคนมาทวงสัญญา ขาพเจาจะคิดการใหเมืองกิจิ๋วปลอดภัยแลวจะ
ใหกองทัพเมืองปกเปงยกไปรบกับจอมทรราชตั๋งโตะ เปนทีแลวเราจะไดซา้ํ เติมเอาภายหลัง ทานก็จะเปนใหญ
กวาคนทั้งปวง แลววาใหทานบอกกองซุนอวดใหกลับไปเชิญกองซุนจานมาเจรจากับทานดวยตนเองเถิด ทาน
หาบิดพลิว้ ไม กองซุนจานมาแลวจะเตรียมการตอนรับและทําพิธส ี งมอบทรัพยสินและเมืองกิจิ๋วใหครึ่งหนึ่ง
อวนเสี้ยวเห็นชอบกับแผนการของหองกี จึงออกไปตอนรับกอง ซุนอวดในฐานะแขกเมืองคนสําคัญ แลวแจง
แกกองซุนอวดตามคําของหองกีทุกประการ กองซุนอวดทวงสัญญาไมสําเร็จจึงเดินทางกลับ ถึงกลางทางพบ
กองทหารปกธงแสดงหนวยสังกัดวาเปนทหารของตั๋งโตะเขามาลอมกองซุนอวดไว แลววากองซุนจานเปน
กบฏตอแผนดิน ทานอัครมหาเสนาบดีตั๋งโตะใหเรามาสังหารพรรคพวกกองซุนจานเสียใหสิ้น วาแลวก็เอา
เกาทัณฑยิงกองซุนอวดถึงแกความตาย แตแกลง ปลอยทหารทีต ่ ิดตามกองซุนอวดใหหลบหนีกลับไปเมือง
ปกเปง

กองซุนจานฟงรายงานจากทหารทีต ่ ิดตามไปกับกองซุนอวด พิเคราะหเหตุการณแลวเชือ่ วาเปนแผนการของ


อวนเสี้ยวบิดพลิ้วสัญญา สังหารกองซุนอวดเสียแลวปายผิดไปใหกับตั๋งโตะ หากหลงกลยกกองทัพไปรบดวย
ตั๋งโตะก็จะเกิดความเสียหายขึน้ ทั้งสองฝาย อวนเสี้ยวยอมถือเอาโอกาสนั้นยกกองทัพมายึดเมืองปกเปงของ
เราไดโดยงาย กองซุนจานจึงโกรธอวนเสี้ยวเปนอันมาก สั่งใหระดมกองทัพเมืองปกเปงยกไปตีเมืองกิจิ๋ว ถึง
แมน้ําพวนโหนอกเมืองกิจิ๋วก็ใหตั้งคายลงที่เชิงสะพานศิลา ขามแมน้ําพวนโห ฟากตรงกันขามกับเมือง กิจิ๋ว
เตรียมการเขาโจมตีเมืองกิจิ๋วตอไป

ฝายอวนเสี้ยวทราบขาวกองซุนจานยกทัพมาตัง้ คายอยูท  รี่ ิมแมน้ําพวนโห ก็ยกทหารออกไปตั้งรับกองทัพกอง


ซุนจานที่เชิงสะพานขามแมนา้ํ พวนโหฟากขางเมืองกิจิ๋ว แลวใหตั้งคายมัน ่ ไว รุงขึ้นกองซุนจานยกทหารออก
จากคายไปถึงเชิงสะพานก็ใหทหารหยุดอยู ตัวกองซุนจานขี่มาขึ้นไปบนกลางสะพานศิลา รองดาอวนเสี้ยวที่
บิดพลิ้วสัญญาแลวยังฆากองซุนอวดผูนอง อวนเสี้ยวก็ขับมาออกหนาทหารดาตอบกองซุนจานหาวาชุบมือ
เปบจะยกเอาสัญญาขึ้นมาทวงไมได เพราะฮันฮกเจาเมืองกิจิ๋วมีความเมตตาตออวนเสีย ้ ว ยกเมืองกิจิ๋วใหอวน
เสี้ยวดวยความโงของฮันฮกเอง กองซุนจานไมไดลงแรงลงทรัพยสินในเรื่องนี้แมแตนอย ไมชอบที่จะมา ทวง
เอาทรัพยสินและเมืองกิจิ๋ว ดากันไปดากันมา อวนเสี้ยวโกรธสั่งบุนทิวทหารเอกใหไปฆากองซุนจานเสีย บุน
ทิวจึงขับมาขึ้นไปบนสะพานศิลา กองซุนจาน เห็นดังนั้นจึงถอยลงจากเชิงสะพานมาอยูท  ี่พื้นดิน ครั้นบุนทิว
มาถึง จึงเขารบดวยที่เชิงสะพานศิลานั้น กองซุนจานรบกับบุนทิวไดสิบเพลง ก็รับบุนทิวไวไมอยูจึงชักมาหนี
เขามาในกองทหาร สั่งใหทหารเอกสี่คนเขาลอมเพื่อจะสังหาร บุนทิวเสีย สีท ่ หารเอกของกองซุนจานเขา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 93

ปะทะดวยบุนทิวเพียงเพลงแรก บุนทิวก็ปลิดชีพทหารเอกกองซุนจานเสียคนหนึ่ง อีกสามคนที่เหลือ กลัวบุน


ทิวจึงชักมาหนี แตบุนทิวขับมากลับมาไลตามกองซุนจาน ฆาทหารกองซุนจานจนแตกฮือไปทั้งกอง

กองซุนจานตกใจกลัวจึงขับมาหนีอยางไมคด ิ ชีวิต จนอาวุธและหมวกเกราะหลุดรวงไปสิน ้ มาถึงเชิงเขาลูก


หนึ่งมาที่กองซุนจาน ขี่สะดุดกอนหินลมลง กองซุนจานจึงพลัดตกจากหลังมา บุนทิวขับมาไลตามกองซุนจาน
ไปเห็นเชนนั้นจึงเงื้อทวนจะแทง กองซุนจานสิ้นทางรอดจึงพริ้มตาลงดวยความกลัวรอความตาย พลันไดยิน
เสียง "เปรง" ดังสนั่น กองซุนจานลืมตาขึ้นเห็นทวนบุน ทิวกระดอนไกลจากกายตัว จึงฉวยโอกาสนั้นรีบวิง่ หนี
เขาไปหลบอยู ในหลืบเขา เสียงทวนปะทะกันดังสนั่น ทั้งไมเห็นบุนทิวไลตามมา กองซุนจานจึงออกมาแอบดู
ที่หลืบเขานั้น เห็นชายคนหนึ่ง "สูงหกศอก หนา ผากและคิ้วใหญ ตาโต" ใบหนาคมสันผองใส ในชุดแตงกาย
แบบชาวปา ในมือถือทวนยาวสิบเอ็ดศอกเศษกําลังขี่มารายทวนตอสูอยูกับบุนทิว กองซุนจานรําลึกเหตุการณ
สุดวิกฤติเมื่อครูแ
 ลว คิดอยูใ นใจวา หากมิใชชาวปาผูนใี้ ชทวนปดทวนบุนทิวไดทันการณแลว ตัวเราคงเดิน
ทางไปเยือนยมโลกแลวเปนแน เสียงทวนประกันดังสนั่นเปนระยะ ทําใหกองซุนจานตองกลับมาใหความสนใจ
เขมนมองการตอสูอยางใจจดใจจออีกครั้งหนึง่ เห็นชายผูนน ั้ มีเพลงทวนแคลวคลองวองไว กรายทวนแตละที
ราวอสุนีบาต มีพลังหนักหนวง เสียงทวนกรีดอากาศดัง "วื้อ วื้อ" ราวพยัคฆคําราม ทวนประทวนแตละที ทวน
ที่บุนทิวถือกระดอนไปอีกดานหนึ่ง รูปการณนาที่จะสังหารบุนทิวไดในชั่วไมเกินสิบเพลง แตเพลงทวนผานไป
เพลงแลวเพลงเลาก็ยังไมปรากฏผลแพชนะ กองซุนจานเปนผูบัญชาการทหารมาของเมืองปกเปงอยูดวย มี
ความ สันทัดในเชิงมา พิเคราะหดจ ู ึงเห็นปญหาใหญของชายผูนั้นวาอยูท ี่มาซึ่งขับขี่เขารบดวยบุนทิวนั้นหาใช
มาศึกไม เปนแตเพียงมาแกลบที่ผอมโซตัวหนึ่ง จะชักไปซายขวาเดินหนาหรือเลี้ยวกลับดูเคอะเขินไปสิน ้ ทั้ง
มีอาการตื่นกลัวยามเขาใกลมาศึกของบุนทิวแตละที ฝเทามาก็ชะลอลง ผงะออกหาง ทําใหจังหวะทวน
ผิดพลาดทั้งกระบวนแทง และกระบวนฟน หากไมมีฝมือบังคับมาชั้นเชิงครูแลว สถานการณคงย่ําแยกวานี้นัก
การณกลับกลายเปนวามาที่ชายผูนั้นขี่ไดลดทอนอานุภาพเพลง ทวนไปเกือบสิ้น ในขณะที่มาศึกของบุนทิว
แคลวคลองวองไวเริงราคะนองนัก และกําลังมิไดลดหยอนลงแมแตนอย

ครั้นสิ้นเพลงทีห่ กสิบ มาทีช่ ายนั้นขี่ก็ออนแรงลง ในขณะที่ บุนทิวเองก็ปวดลาไปทั้งสองแขน งามมือทีก ่ ุมทวน


ปวดจนชา มีเลือด ไหลซึมที่งา มมือจนแทบกุมทวนไวไมได เห็นทีจะรับมือไดอีกตอไปไมเกินสิบเพลง บุนทิว
ขุนทวนเอกของอวนเสี้ยวผูไมเคยยอมเปลืองเวลาในการสังหารศัตรู ครัน
้ ประทวนผานไปเพียงนี้แลวยังไมมี
วี่แวววาจะเอา ชนะไดเลย มิหนําซ้ํากระบวนทวนของชาวปานิรนามมิไดลาลง กลับหลั่งไหลครืนครั่นไมขาด
สายดุจดั่งน้ําหลากจากยอดผา บุนทิว จึงพรั่นใจนักคิดหาหนทางเอาตัวรอด ขณะนั้นบุนทิวไดยินเสียงโหรอง
ของทหารดังขึน ้ มาจากตนทางที่ไลตามกองซุนจานมา เหลียวไปดูเห็นเปนทหารกองซุนจานกําลังหนุน เนื่อง
เขามาที่ กําลังตอสูกันอยูก็ตกใจเกรงจะเสียที จึงอาศัยความคลองตัวและกําลังมาศึกผละโผนออกจากทีต ่ อ
 สู
แลวหนีกลับไปคาย

กองซุนจานเห็นบุนทิวขับมาหนีไปแลว และเห็นทหารของตัวทีแ ่ ตกตื่นจากการรบที่เชิงสะพานรวมตัวกันได


แลวยกตามมาถึง จึงออก มาจากหลืบเขาเดินตรงเขาไปหาชายชาวปาผูนน ั้ กลาววาทานมาชวยชีวติ เราไวทัน
ในครั้งนี้เปนคุณแกเรานัก ขอถามวาทานนีช ้ ื่อใด บานอยูแ
 หงหนตําบลใด ชายนั้นยอตัวลงคํานับกองซุนจาน
แลววา ขาพเจานี้ชื่อ "จูลง เปนชาวเสียงสาน" แลววาเดิมขาพเจาเปนทหารเลวในกองทัพอวนเสี้ยว มีหนาที่
ตรวจเวรยาม ตอมาขาพเจาเห็นวาอวนเสี้ยวเปนคนไรคุณธรรม ขาด ความกตัญูรูคุณคน ไวตัวถือยศศักดิ์ ไม
มีน้ําใจรักทหาร ขาพเจาจึงไดหนีออกมาแลวขออาศัยอยูกบ ั ชาวบานปา วันนี้ขาพเจาขี่มาจะไปเก็บของปา
ผานมาถึงเชิงเขาแหงนี้เห็นทานเสียทีอยูจึงเขามาชวยเอาทวนปดทวนซึ่งจะแทงนั้นใหไกลตัวทาน บุนทิวจึง
หันมาเลนงานจะสังหารขาพเจาเสีย ขาพเจาจึงจําใจตองตอสู แลวจูลงไดหันหนาไปทางทหารของกองซุน
จานทีต่ ามมา ยอตัวลงคํานับอยางออนนอมแลวกลาวอยางถอมตัววาขาพเจาขอบใจทานทัง้ หลายที่ยกมา
ชวยขาพเจาไวทันเวลา มิฉะนัน ้ ขาพเจาคงเสียทีเอาชีวิตรอดยากเปนแนแท

กองซุนจานและเหลาทหารทีต ่ ามมานั้นตางคอมตัวคารวะตอบจูลงดวยความชื่นชมพรอมกับกลาววาขอบ
คุณทานที่ชว ยเหลือ กองซุนจานฟงวาจูลงหนีอวนเสี้ยวมาอาศัยชาวบานปาอยูและเห็นวาจูลงทําคุณแกตัว จึง
ชวนจูลงมาทําราชการดวยกันที่เมืองปกเปง จูลงรับคําชวนกองซุนจานแลวพากันมาทีค ่ าย ณ ริมแมน้ําพวนโห
ถึงคายแลวกองซุนจานสั่งใหรบั จูลงเขาเปนทหารในกองทัพเมืองปกเปง เปนกองระวังหลัง ดูแลความ
ปลอดภัยของหนวยเสบียง โดยถือ วาไดตอบแทนคุณจูลงทีไ ่ ดชวยชีวต
ิ ไว

นี่คือความแตกตางอยางสําคัญระหวางกองซุนจานกับเลาป ที่ถึงแมจะเปนศิษยสํานักเดียวกัน เพราะเลาปนั้น


มองคนออก และวางใจชวงใชคนดีมีฝมือใหมีตําแหนงหนาที่สมแกความสามารถของคน แตกองซุนจานทั้งๆ
ที่เห็นฝมือจูลงแลวกลับไมวางใจใชสอยมอบหมายหนาทีส
่ ําคัญให มองไมออกวาคนลักษณะแบบจูลงนั้นคือ
ทหารเสือ ควรแกตําแหนงยอดขุนพลของแผนดินดวยซ้ําไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 94

คนแบบกองซุนจานนี้จึงไมสามารถทําการใหญได แมแตจะรักษาชีวิตตนไวก็ยากยิ่งนัก กองซุนจานไมมี


โอกาสไดเห็นอนาคตของชายชาวปาผูนี้วาในวันขางหนาคือยอดขุนพลของอาณาจักรฉูส   เปนยอดขุนพลที่
พญามังกรแหงเทือกเขามังกรหลับ จูกัดเหลียง-ขงเบง วางใจมากที่สด ุ ในบรรดาขุนพลทัง้ ปวงของจกกก สาม
กกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) กลาวถึงการตอสูร ะหวาง จูลงกับบุนทิวในครั้งนี้วา ตอสูก  ันถึงหกสิบเพลงไม
ปรากฏผลแพชนะ โดยไมมีขอสังเกตเกี่ยวกับมาที่จลู งขี่จึงทําใหเขาใจและสงสัยไปไดวาฝมือและเชิงรบของจู
ลงจะแคเพียงเสมอดวย บุนทิวกระนั้นหรือ ถาเชนนั้นหากจะเปรียบเทียบฝมอ ื จูลงกับกวนอูแลว จะไมตางกัน
ราวฟากับดินดอกหรือ เพราะในภายหนากวนอูใชงาวนิลนาคะปลิดศีรษะ บุนทิวรวงลงพืน ้ ในชั่วไมถึงสิบเพลง
เทานั้น

ความจริงแลวการตอสูระหวางจูลงกับบุนทิว หากมีมาศึกเสมอกันก็นาทีจ ่ ล
ู งจะปลิดศีรษะออกจากบาบุนทิวได
ในชั่วไมเกินสิบเพลงรบ แตการตอสูกลับยืดเยื้อมาจนสิ้นเพลงที่หกสิบยังไมปรากฏผลแพชนะนั้น เนื่องจาก
ความดอยของมาที่จล ู งขี่ซึ่งเปนเพียงมาแกลบผอม โซหาใชมาศึกไม จึงกลายเปนตัวถวงรั้งใหเพลงทวนของ
จูลงแทบไรอานุภาพ แตกระนั้นทั้งสองแขนและงามนิว้ ของบุนทิวที่กุมทวนตองบาดเจ็บและ ออนลาจนแทบ
ถือทวนไวไมไหว เพราะเหตุที่กองซุนจานมองคนไมออก จึงสั่งบรรจุจูลงไวในตําแหนงพลทหารของกองทัพ
เมืองปกเปง แลวมอบหนาที่ใหอยูกองหลัง ดูแลความปลอดภัยของเสบียงเทานั้น การใชคนของกองซุนจาน
จึงเปนการใชคนโดยไมสอดคลองกับความปรีชาสามารถของคน จูลงซึ่งเปรียบประดุจดังกระบี่วิเศษจึง
เหมือนกับตกอยูในมือพอครัว และถูกใชไปสําหรับหั่นผักปลาเทานั้น ฝายอวนเสี้ยวเห็นกองทหารของกองซุน
จานแตกฮือ และบุนทิว ไลตามกองซุนจานไปก็ดีใจยิ่งนัก ตัง้ ตาคอยวาอีกเพียงครู บุนทิวคงหิ้วศีรษะกองซุน
จานมาเปนกํานัลแกตน ครั้นเห็นบุนทิวกลับมาตัวเปลาในสภาพออนลารอแรเชนนั้น จึงรีบเขามารับบุนทิวแลว
ถามวาเกิดเหตุการณประการใดขึ้น บุนทิวจึงเลาความใหอวนเสี้ยวฟงทั้งสิน ้ แลววาขาพเจาหวิดที่จะไดศีรษะ
กองซุนจานมาคํานับทานอยูแลว แตไมรูวามีไอบามาจาก ทีไ
่ หนเขามาขวางไว คนผูนี้มีเพลงทวนแคลวคลอง
วองไวจัดจานนัก และทหารกองซุนจานก็ยกตามไปสมทบ ขาพเจาเกรงจะเสียทีจึงปลีก ตัวกลับมาหาทาน ขอ
อภัยทานดวยเถิดที่ทาํ ใหทานตองรอศีรษะกองซุนจานเกออยูดังนี้

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

สามพี่นองแหงสวนทอพบจูลง (ตอนที่ 42)

ผานศึกวันแรกแลว ทั้งกองทัพเมืองปกเปงของกองซุนจานและกองทัพเมืองกิจิ๋วของอวนเสี้ยวยังคงปกหลัก
คุมเชิงกันอยูคน ละฟากแมนา้ํ พวนโห ทีม
่ ีสะพานศิลาทอดเชื่อมระหวางสองฟาก ตกค่ําลงอวนเสี้ยวจึงใหหา
หองกีมาปรึกษาแผนการรบในวันรุงขึ้น หองกีเสนอแผนการ "ปราบโจรตองฆาหัวหนาโจรกอน" และวางแผน
ใหจัดกําลังโดยมุงสังหารกองซุนจานเปนสําคัญ สิ้นกองซุนจานแลวกองทัพเมืองปกเปงก็จะแตกทัพไปเปนแน
แท

อวนเสี้ยวเห็นดวยกับแผนการของหองกี จึงสั่งใหงันเหลียง บุนทิว สองทหารเอกนํากําลังเกาทัณฑคนละพัน


ไปซุมอยูในปาออเชิงสะพานฟากเมืองกิจิ๋วทั้งสองดาน เมื่อไดสัญญาณแลวใหระดมยิงกองซุนจานพรอมกัน
แลวตั้งใหจกยี่เปนกองหนา คุมพลเกาทัณฑแปดรอยและทหารอีกหมื่นหาพันยกไปตั้งมั่นอยูที่เชิงสะพาน รอ
ฟงสัญญาณแลวเขาตีพรอมกัน สวนอวนเสีย ้ วคุมกําลังพลหาหมื่นเปนกองหลังตั้งหลักอยูใ นคาย ใหทุกหนวย
เขาประจําจุดรบใหเสร็จสิ้นกอนพระอาทิตยขน ึ้

ฝายกองซุนจานค่ํานั้นก็กําหนดแผนการรบสั่งใหยํากงทหารเอกเปนกองหนา จัดทหารอีกสองกองเปนปกซาย
ปกขวา สวนกองซุนจานเปนทัพหลวง ใหจล ู งเปนกองหลังคอยระวังเสบียง รุงขึ้นกองซุนจานก็ยกทหารไปที่
เชิงสะพานตั้งขบวนตามแผน การรบที่วางไว แลวใหทหารตีกลองศึกทารบดวยกองทัพของอวนเสีย ้ ว แต
หองกีนิ่งเฉยไวไมโตตอบ เสียงกลองศึกทารบดังมาจากฝายกองซุนจานตัง้ แตเชาจนถึงเที่ยง เหตุการณขาง
ฟากของอวนเสีย ้ วยัง คงเงียบสงบ ถึงเที่ยงแลวทหารฝายกองซุนจานทั้งรอนทั้งอิดโรย ยํากงทหารเอกซึ่งเปน
กองหนาของกองซุนจานอดรนทนตอไปไมได จึงยกทหารขามสะพานศิลาปะทะกับจกยี่ทหารเอกของอวน
เสี้ยวซึ่งเปนกองหนา จกยีท
่ ําทีลอถอยมาจนพนเชิงสะพานจนกระทั่งกองหนาของกองซุนจานมาถึงจุดซุมก็จุด
พลุใหสัญญาณขึ้น ทหารของงันเหลียง บุนทิว ทีซ ่ ุมอยูท
 งั้ สองขางสะพานก็ใชเกาทัณฑระดมยิงถูกทหารยํา
กงลมตายเปนอันมาก ยํากงเห็นจะตานทานไมไดก็ถอยรนมาทางเชิงสะพานขางทีฝ ่ ายตัวตั้งคายอยู จกยี่ เห็น
เปนทีจึงขับมาฝาทหารเขารบกับยํากง ตอสูกนั หาเพลงก็เอางาวฟนถูกยํากงตกมาตาย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 95

ในขณะนั้นปกซาย ปกขวาของกองซุนจานก็ยกทหารเขาโจมตีกองหนาของจกยี่ แตถูกกองซุมของงันเหลียง


บุนทิว ระดมยิงเกาทัณฑสกัดไว ทหารทั้งสองฝายตอสูกันเปนสามารถ ฝายจกยี่เมื่อสังหารยํากงแลว ก็ยก
ทหารเขาตีทหารของยํากงทีแ ่ ตกพายแลวถอยรนไปจนถึงกองทัพหลวงของกองซุนจาน จกยี่ฝาทหารเขาไป
ฟนธงประจําตัวแมทัพของกองซุนจานลมลงและสังหารพลธงนั้นเสีย กองทัพหลวงของกองซุนจานกับกอง
หนาของจกยี่จงึ ตะลุมบอน กันขึ้นที่เชิงสะพานนั้น กองซุนจานตานไวไมอยู ถอยรนมาถึงกองหลัง จูลง เห็น
ดังนั้นจึงขับมาศึกเขาชวยกองซุนจาน ปรี่เขาไปหาจกยีแ
่ ลวเอาทวนแทงจกยี่ตกมาตาย แลวจูลงจึงขับมาฝา
เขาไปในทามกลางทหารของจกยี่ สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) บรรยายสถานการณการรบตรงนีว้ า "จู
ลงขับมาไปขางขวาก็ขวาแตก ไปขางซายก็ซา ยแตก หาผูใ ดตาน ทานมิได"

กองซุนจานครัน ้ เห็นจูลงเขาแกสถานการณจนทหารกองหนาของ จกยี่แตกฮือระส่าํ ระสายก็คุมทหารกลับมา


ชวยจูลงฆาทหารจกยี่เสีย เปนอันมาก กองหนาของจกยี่จงึ แตกหนีกลับขามสะพานไปทางดาน คายของอวน
เสี้ยว ในขณะที่จกยี่บุกเขาฟนธงประจําแมทพ ั ของกองซุนจานลมลงนั้น หนวยลาดตระเวนของอวนเสี้ยวเห็น
เหตุการณจึงเขาไปรายงานอวนเสี้ยวถึงในคาย อวนเสี้ยวคิดวากองทัพของกองซุนจานแตกแลว จึงคิด
ประมาทคุมทหารเกาทัณฑหา สิบคนพรอมพลทหารอีกสามรอยคนยกออกมานอกคาย เห็นสถานการณอีกฟาก
หนึ่งของแมน้ําพวนโหทท ี่ ัพหลวงของกองซุนจานแตกถอยรนไปดานกองหลังก็หัวเราะเยาะขึ้นดวยเสียงอันดัง
วาเราคิดกลเพียงเทานี้ ไอกองซุนจานก็แพเสียแลว อวนเสีย ้ วหัวเราะไมทน
ั สิ้นเสียง ทั้งจูลงและกองซุนจานตี
กองหนาของจกยี่แตกแลวไลตามตีขามสะพานมา โดยที่กองซุมของงันเหลียงและบุนทิวก็ถูกปกซายขวาของ
กองซุนจานรบสกัดไว ดังนัน ้ เมื่อกองซุนจานและจูลงเห็น อวนเสี้ยวคุมทหารออกมาจึงยกทหารเขาไปลอม
อวนเสี้ยวไว อวนเสี้ยวและทหารตกอยูในวงลอมของทหารกองซุนจาน ในขณะนั้น งันเหลียง ซึ่งทําหนาที่เปน
กองซุมอยูขางสะพานขางหนึง่ เห็นอวนเสี้ยวตกอยูในอันตรายจึงยกทหารออกจากจุดซุม เขาไปลอมกองซุน
จานและจูลงไวอีกวงหนึ่ง

การรบ ณ จุดนีเ้ กิดเปนการลอมสองชั้นโดยอวนเสี้ยวอยูชั้นในสุด ลอมไวดวยทหารของกองซุนจาน โดยมีจูลง


อยูในที่นั้นดวย ในขณะที่งันเหลียงและทหารอวนเสี้ยวก็ลอมกองซุนจาน จูลง ไวรอบนอก สภาพเชนนี้อวน
เสี้ยวตกอยูในวงลอมชั้นหนึ่ง แตในอีกลักษณะหนึ่งกองซุนจานและจูลงก็ถูกลอมประกบไวถึงสองชั้น คืออวน
เสี้ยวอยูช
 ั้นหนึง่ และงันเหลียงอยูอีกชั้นหนึ่ง จูลงเห็นดังนั้นก็รูวาเหตุการณกําลังจะเขาทีค
่ บ
ั ขันเพราะทหารของ
อวนเสี้ยวกําลังหนุนเนื่องเขามาอีก จึงพากองซุนจานกับทหารรบตีฝา วงลอมของงันเหลียงออกมาหนีขาม
สะพานจะกลับไปทางคายตัว อวนเสี้ยวและงันเหลียงก็คุมทหารไลตามตีฆาฟนทหารกองซุนจานลม ตายและ
ตกน้ําลงเปนอันมาก อวนเสีย ้ วและงันเหลียงยกทหารไลตามตีกองซุนจานและจูลง ไปเปนระยะทางถึงหาสิบ
เสนถึงเนินเขาแหงหนึ่ง ทันใดนั้นอวนเสี้ยว ไดยินเสียงกึกกองฝุนตลบ เห็นกองทัพหนึ่งเคลื่อนเขามาอยางรวด
เร็วตรงมายังทิศทางที่กําลังไลตามกองซุนจานอยูนั้น กองทัพที่เคลื่อนมานั้นคุมกันรับเอากองซุนจาน จูลง
และทหาร ที่หนีไป แลวยังคงเคลื่อนกองหนาซึ่งเปนทหารมาลวนตรงมายังกองทหารของอวนเสี้ยวและงันเหลี
ยง เห็นธงประจําทัพพื้นเหลือง ขอบ ธงเปนสีแสดพลิ้วสบัด มีชื่อเลาปเปนแมทัพ ใกลเขามาก็เห็นเลาป กวนอู
เตียวหุย ขับมานําทหารตรงเขามาสกัดทหารหนามาของอวนเสี้ยวแลวตีฝาเขามาจะรบดวยอวนเสี้ยว อวนเสี้ยว
เห็นดังนั้น "ก็ตกใจหาสติมิได งาวทีถ ่ ืออยูน
 ั้นก็พลัดตกลงจากมือ" จึงรีบชักมากลับมาทางดานหลัง สั่งให
ทหารถอยหนีกลับไปคายที่รม ิ น้ํา พวนโหนั้น

อวนเสี้ยวหนีกลับไปแลว เลาป กวนอู เตียวหุย จึงพากันมาคารวะกองซุนจาน ตางฝายตางยินดีที่ไดพบกัน


แลวพากันกลับมา ยังคายที่รม ิ น้ําพวนโห ถึงคายแลวกองซุนจานไดจด ั เลี้ยงตอนรับเลาป กวนอู เตียวหุย ณ
คายบัญชาการของตัว แลวกลาวแกเลาปวาครั้งกอนบุนทิว ทหารเอกอวนเสี้ยว ไลตามจะสังหารเรา จูลงไดเขา
ชวยไว ชีวติ จึงรอดมา ครั้งนี้อว นเสี้ยวไลตามตีเรา ทานก็มาเขาชวยเหลือไวไดทันทวงที จึงไดรอดชีวิตดวยมือ
ทาน นับเปนคุณลนเหลือแกตวั เรา วาแลวก็สง สุราแกเลาป แลวคํานับเปนการแสดงความขอบคุณ เลาปจึงวา
ทานอยาไดตด ิ ใจในเรื่องนี้เลย เราเปนศิษยสํานักเดียวกันดุจดั่งพี่นอง ทุกขของทานก็ดงั่ ทุกขของขาพเจา
ครั้งนี้ขาพ เจาไดยินขาววาทานยกกองทัพมารบดวยอวนเสีย ้ วจึงรีบยกตามมา ตัวขาพเจานีย ้ ังคิดถึงคุณทานที่
ไดชวยกราบทูลถวายฎีกาตอพระเจาเลนเต โดยไมเกรงภัยจากสิบขันที จนขาพเจาไดรับโปรดเกลาฯ แตง ตั้ง
ใหเปนเจาเมืองเพงงวนกวน ไดอยูเปนสุขจนถึงทุกวันนี้

ในขณะที่กลาวกับกองซุนจานนั้น เลาปเห็นจูลงกําลังมองมาก็ยิ้มใหดวยไมตรีแลวคอมศีรษะลงเปนทีคํานับ
ดวยวาสนาที่ไดทํานุบาํ รุงกันมาแตปางกอน ทั้งเลาป จูลงตางมีความรูส  ึกผูกพันพึงใจนับถือศรัทธากันตั้งแต
บัดนั้น กองซุนจานเห็นเลาปเขมนมองจูลง จึงเรียกจูลงเขามาแลววานี่คือจูลง คนทีช ่ วยชีวิตขาพเจาแลวใหจู
ลงคารวะทําความรูจักกับเลาป เลาปเห็นดังนั้นจึงกาวเขาไปเอามือทั้งสองกุมมือทั้งสองของจูลงไวแลว โอบ
กอดและวา ขาพเจากับกองซุนจานนี้เปนศิษยรวมสํานัก ทานไดชวยเหลือกองซุนจานไวในครั้งนี้ก็เหมือนกับ
ไดทําคุณไวกับใจขาพเจาดวยเชนเดียวกัน จูลงคอมตัวลงคารวะเลาปอีกครั้งหนึ่ง แตมิไดพูดจาประการใด

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 96

ความศรัทธาและใจรักเลาปประดังขึ้นมาเต็มลําคอ ออกเสียงประการใดมิได คารวะแลวจึงยืนนิ่งอยู การศึกทั้ง


สองวันทําใหทงั้ สองฝายสูญเสียทหารเปนอันมาก ดังนั้นทัง้ กองทัพอวนเสี้ยว และกองทัพกองซุนจานจึงไดแต
คุมเชิงตั้งมั่นอยูสองฟากของแมน้ําพวนโห จนเวลาลวงไปเดือนเศษขางฝายตั๋งโตะครองอํานาจอยูในเมือง
เตียงอันราชธานีใหม ในขณะที่กองทัพเมืองปกเปงยกมารบกับกองทัพเมืองกิจิ๋วนั้น หนวยลาดตระเวนทราบ
เหตุการณก็สงขาวเขาเมืองหลวงรายงานตอลิยู กุนซือเจาปญญาของตัง๋ โตะ รายงานการศึกใหทราบทุก
ประการ ลิยูทราบความแลวจึงเขาไปรายงานตอตั๋งโตะแลวเสนอวากองทัพเมืองปกเปงและกองทัพเมืองกิจิ๋วที่
ทําสงครามกันอยูนี้หากฝายใดฝายหนึ่งไดชยั ชนะก็จะมีน้ําใจกําเริบ ตั้งตัวขึ้นเปนใหญ แลวจะยกมาทํารายเรา
เปนมั่นคง

ตั๋งโตะฟงดังนัน
้ จึงปรึกษาดวยลิยูวา ทานจะคิดอานประการใด ลิยูจึงวาขอใหทําเปนรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเต
ถึงอวนเสี้ยว และกองซุนจาน ใหยุตส ิ งครามแกกัน และใหแตละฝายยกทัพกลับคืนเมืองของตน ดังนี้แลวทั้ง
สองเมืองก็จะอยูภายใตการบังคับบัญชาของทานสืบไป ทัง้ จะคุมเชิงกันและกันอยูตลอดไป ไมเปนภัยแกเรา
ไดอีก ตั๋งโตะเห็นชอบกับแผนการของลิยู จึงใหปลอมพระบรมราชโองการของพระเจาเหีย ้ นเต แลวใหเตียวกี
กับมาหยิดเชิญพระบรมราชโองการปลอมนั้นไปใหแกอวนเสีย ้ วและกองซุนจาน ณ กองทัพสองฟากแมนา้ํ พวน
โห

อวนเสี้ยวครั้นทราบวามีพระบรมราชโองการมาถึงตัวก็แตง พิธีรับพระบรมราชโองการตามธรรมเนียม รับทราบ


พระบรมราชโองการแลวก็ยอมทําตามรับสั่ง แตตั้งมั่นฟงความจากฝายกองซุนจานอยู สองขุนนางที่เชิญพระ
บรมราชโองการจึงไปยังกองทัพของกองซุนจาน ฝายกองซุนจานเมื่อรูวามีพระบรมราชโองการถึงตัวก็แตงพิธี
รับพระบรมราชโองการเชนเดียวกัน แลวถามสองขุนนางที่เชิญพระบรมราชโองการวา ฝายอวนเสีย ้ วมีความคิด
อานประการใด ในสวนของขาพเจานั้นพรอมที่จะปฏิบัตต ิ ามพระบรมราชโองการทุกประการ สองขุนนางจึงวา
ฝายอวนเสี้ยวพรอมที่จะปฏิบต ั ต
ิ ามพระบรมราชโองการนั้น แลวบอกกําหนดใหกองซุนจานยกกองทัพกลับ
เมืองปกเปง กองซุนจานก็ยินยอมรับเอา สองขุนนางจึงกลับไปบอกความแกอวนเสี้ยวถึงกําหนดวันยกทัพกลับ
เมืองกิจิ๋วอวนเสี้ยวก็รับเอา สองขุนนางจึงเดินทางกลับเมืองหลวง รายงานใหตั๋งโตะทราบ

ถึงวันกําหนดทัง้ กองทัพเมืองปกเปงและกองทัพเมืองกิจิ๋วจึงเลิกทัพกลับ ฝายกองซุนจาน เลาป กวนอู เตียว


หุย เมื่อเดินทัพกลับถึงเมืองเพงงวนกวนจึงหยุดทัพอยูแ  ลวล่ําลากันตามธรรมเนียม ในระหวางทีล ่ ่ําลากันนั้น จู
ลงไดเขามาคอมตัวคารวะเลาปแลววา "แตกอ  นขาพเจาเห็นวาอวนเสี้ยวเปนคนหยาบชา ขาพเจาจึงมาอยูดวย
กองซุนจาน บัดนี้เห็นวากองซุนจานนี้หามีความคิดมิได ขาพเจาจึงมีความลําบากใจ ครั้นมาเห็นทานคอยมี
สติปญ  ญาคิดวาจะทําราชการดวยก็ตา งคนตางอยู มิรท ู ี่จะทําประการใด" ขณะที่กลาวนัน
้ สีหนาจูลงเศราหมอง
นัก เต็มไปดวยความอาลัย เลาปเขาไปจับมือจูลงมากุมไวกับอกแลววาทานกับเราแมเพียงพบกันครั้งแรกก็
รูสึกประหนึ่งมีวาสนารวมกันมาแตปางกอน น้ําใจขาพเจาใครไดทานมาทําการดวยนัก แตกองซุนจานกับ
ขาพเจานั้น เปนศิษยรว มสํานักมีคุณตอกันเปนอันมาก "ทานจงคอยอยูกับกองซุนจานกอนเถิด ถาชีวต ิ มิตาย
สืบไปภายหนา ทานจะไดทาํ ราชการดวยเราเปนมั่นคง จงจําคํานี้ไวอยาลืม" กลาวดังนี้แลวสีหนาเลาปก็สลด
ลง น้ําตาเออคลอเต็มทั้งสองเบาตา อาลัยจูลง ยิ่งนัก จูลงเห็นเชนนั้นก็พลอยรองไหรักเลาป ล่ําลากันเสร็จแลว
เลาป กวนอู เตียวหุย จึงยกเขาเมืองเพงงวนกวน สวนกองซุนจานก็นําทหารกลับไปเมืองปกเปงดังเกา

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ดาวเสือขาวรวงจากฟากังตั๋ง (ตอนที่ 43)

ดินแดนที่เรียกวาแควนกังตั๋งนัน้ ตั้งอยูทางตอนใตของแมนา้ํ แยงซี ทางดานตะวันออกมีอาณาเขตติดกับทะเล


ตังไฮ หรือทะเลตะวันออก มีเมืองเตียงสาเปนศูนยกลาง และมีหัวเมืองเอก โท ตรี ถึงแปดสิบเอ็ดหัวเมือง เปน
ดินแดนที่อุดมสมบูรณ ซุนเกี๋ยนเจาเมืองเตียงสานั้นมีภรรยาสองคนเปนพีน ่ องรวมอุทร เดียวกัน ผูพี่ชอื่ งอฮู
หยิน ผูนองชื่องอยี่ฮูหยิน ผูพมี่ ีบุตรชายสี่คนคือซุนเซ็ก, ซุนกวน, ซุนเสียง และซุนของ ฝายผูนองมีบต ุ รชาย
คนหนึ่งชื่อซุนลอง และบุตรหญิงอีกคนหนึ่งชื่อ ซุนหยิน และมีบต ุ รบุญธรรมอีกคนหนึ่งชื่อกองเล ซุนเกี๋ยนมี
นองชายอีกคนหนึ่งชื่อ ซุนแจง นับตั้งแตซุนเกี๋ยนไดตราพระลัญจกรมาครองแลว ความเปนปกติสุขที่เคยมีมา
แตกาลกอนก็เปลี่ยนแปลงไป มีแตความวุนวายใจดวยความพยาบาทดวยอวนเสี้ยวเจาเมืองกิจิ๋ว และเลาเปยว
เจาเมือง เกงจิ๋ว ซึ่งสมคบกันจะชิงเอาตราพระลัญจกรคืนสถานหนึ่ง และวุนวายใจดวยความคิดที่จะตั้งตัวขึ้น
เปนเจาอีกสถานหนึ่ง ใบหนาซุนเกี๋ยน ที่เคยผองใสประดุจหยกขาวก็หมองลง อาถรรพแหงตราพระลัญจกรดู
เหมือนวากําลังปกคลุมฟากฟาเมืองกังตั๋งแลว

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 97

ฝายอวนสุดเจาเมืองลําหยง ครั้นไดทราบขาววาอวนเสี้ยวผูพี่ได ครองเมืองกิจิ๋วก็มีจิตคิดโลภอยากได


ประโยชนแบงปนบาง จึงมีหนังสือใหทหารถือไปขอมาจํานวนพันตัวจากอวนเสี้ยว แตอวนเสี้ยว ไมยอมให
ความคิดแบบผีสิงยังไมยอมหยุด อวนสุดจึงใหทหารมีหนังสือไปขอเสบียงจากเลาเปยวอีกทางหนึ่ง เลาเปยวก็
ไมใหเพราะไมไดมีความสัมพันธอะไรกันแมแตนอย อวนสุดจึงผูกอาฆาตและโกรธเคืองทั้งอวนเสีย ้ วผูพ
 ี่ ทั้ง
เลาเปยวคนรวมโลกดังนั้น อวนสุดจึงคิดอานหาทางลางแคนทั้งที่ไมควรแคนเอากับอวนเสี้ยวและเลาเปยว คิด
แลวก็ใหทหารถือหนังสือไปถึงซุนเกี๋ยน เมืองเตียงสาวาเมื่อครั้งที่ทา นไดตราพระลัญจกรไวนั้น อวนเสี้ยวมีจิต
ริษยาคิดแยงชิงตราพระลัญจกรเพื่อตั้งตนขึน ้ เปนเจา และเปนตัวการสั่งใหเลาเปยวยกทหารออกมาสกัดตอน
ทานยกทัพกลับเมือง กังตั๋ง หากวาสนาทานจะไดเปนใหญทานจึงยกทัพกลับเมืองกังตั๋งโดย สวัสดีพรอมดวย
ตราพระลัญจกรนั้น แลวยังยุตอ  ไปวาบัดนี้อวนเสี้ยวกับเลาเปยวกําลังคบคิดกันจะยกกองทัพไปตีเอาเมืองกังตั๋ง
เพื่อชิงเอาตราพระลัญจกรอีก ขอใหทานยกกองทัพไปตีเมืองเกงจิ๋ว สวนตัวขาพเจาจะชวยทานแกแคน และ
จะยกไปตีเมืองกิจิ๋ว ซึ่งอวนเสี้ยวครองอยูนน ั้ ซุนเกี๋ยนรับหนังสือของอวนเสี้ยวแลวตองดวยแรงพยาบาทที่
ครองใจอยู จึงเรียกขุนนางและแมทัพนายกองมาปรึกษา แตบรรดาคนเหลานั้นเห็นวา ขณะนี้ซุนเกี๋ยนเพิ่งตั้ง
ตัวยังไมมั่นคงดีนัก จักตองอาศัยระยะเวลาอีกชวงหนึ่งจึงคอยทําการ แตซุนเกี๋ยนไมฟงคํา แลวกลาววาเลา
เปยวกับเรานั้นมีความแคนตอกัน ไมอาจอยูรวมฟาเดียวกันได ถึงมาตรวาอวนสุดจะไมมห ี นังสือมาทั้งนี้ เราก็
คิดจะยกกองทัพไปตี เมืองเกงจิ๋วอยูแลว ใชจะหวังความชวยเหลือใดๆ จากคนอื่น วาแลวจึงตั้งอุยกายใหเปน
แมทัพเรือ จัดเตรียมกองทัพเรือพรอมทหารและอาวุธยุทโธปกรณ ถึงวันฤกษดีแลวจะไดกรีธาทัพยกไปตีเมือง
เกงจิ๋ว

ในระหวางที่อุยกายกําลังเตรียมทัพอยูท  ี่ชายทะเลนั้น กองเรือลาดตระเวนของเมืองเกงจิ๋วตรวจพบเหตุการณ


จึงรายงานใหเลาเปยว ทราบ เลาเปยวจึงเรียกประชุมขุนนางและแมทัพนายกองเมืองเกงจิ๋ว ปรึกษาการศึกวา
จะเปนประการใด เกงเหลียงทหารเอกซึ่งเปนที่ปรึกษาใหความเห็นวากองทัพเมือง กังตั๋งเปนชาวเรือ ไมถนัด
การรบทางบก เราจะตั้งรับทัพกังตั๋งบนบก ก็จะไดชย ั ชนะตอกองทัพกังตั๋งเปนมั่นคง แลวเสนอแผนการให ตั้ง
หองจอเจาเมืองกังแฮ ซึ่งขึ้นตอเมืองเกงจิ๋วเปนกองทัพหนา เลาเปยวเปนกองทัพหลวง ยกไปตั้งรับทัพเมือง
กังตั๋งที่ปากแมน้ําฮวนเสีย เลาเปยวเห็นชอบดวย จึงสั่งการตามแผนการของเกงเหลียงทุกประการ

ครั้นถึงวันฤกษดี อุยกายเตรียมกองทัพเรือและทหารไวพรอมสรรพ ตัวซุนเกี๋ยนลงมาคอยฤกษอยูทฐ ี่ านทัพเรือ


โดยมีซุนแจงผูน  อง นําบุตรทัง้ เจ็ดคนไปทีฐ
่ านทัพเพื่อสงกองทัพซุนเกี๋ยน แลววากับซุนเกี๋ยนวาเมืองกังตั๋งนี้
เพิ่งสงบสุข ตัวทานก็เพิ่งตั้งตัวสมควรตรึกตรอง ดูสักครั้งหนึ่งกอนวาควรทําสงครามในชวงนี้หรือไม ซุนเกี๋ยน
จึงวาแตกอนมาตัวเราผูเดียวยังสามารถตั้งตัวไดถึงเทานี้ มาบัดนี้เมืองกังตั๋งก็อุดมสมบูรณ ผูค
 นก็มาก ทหารก็
พรอม หากจะนิ่งเสียความแคนสุมแนนในอกเราหาความสบายมิได ทั้งไมสมกับความเปนชายชาติทหาร
จําเปนที่จะตองลางความอัปยศใหจงได

ซุนเซ็กผูบุตรไดยินบิดาและอาตนตอบโตกันอยูดั่งนั้น จึงขอตอ ซุนเกี๋ยนติดตามไปในกองทัพดวย ซุนเกี๋ยนมี


ใจรักซุนเซ็กผูบ  ุตร หวังใหมีประสบการณในการสงครามจึงอนุญาต ครั้นไดฤกษแลวซุนเกี๋ยนก็ลงเรือ
บัญชาการ ยกกองทัพขามอาว ไปถึงปากแมน้ําฮวนเสียที่ตด ิ ตออยูกับเมืองกังแฮ ซึ่งบัดนี้กองทัพของเมืองเกง
จิ๋วไดมาตั้งรับอยูกอนแลว ในขณะที่ กองทัพเรือของซุนเกี๋ยนเคลื่อนเขามาใกลปากแมน้ําฮวนเสีย หองจอ
ทหารเอกกองหนาของเลาเปยวก็สั่งใหทหารตั้งกองเรียงรายอยูตามริมแมน้ํา ใชเกาทัณฑยิงกองทัพซุนเกี๋ยน
ฝายซุนเกี๋ยนสัง่ เรือรบไมใหเขาเทียบฝง ใหลอยลํารับลูกเกาทัณฑอยูถึงสามวันสามคืนจนทหารของหองจอ
หมดลูกเกาทัณฑ

ซุนเกี๋ยนเห็นดังนั้นจึงสั่งใหกองทัพเรือเขาเทียบฝง ใหเทียเภาและอุยกายยกทหารเปนสองกองเขาโจมตี
กองทัพของหองจอ ทหารทั้งสองฝายตะลุมบอนกัน บาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก หองจอเสียทหารฝมือดีใน
กองทัพไปหลายคน เห็นจะรับมือกองทัพซุนเกี๋ยนไมไดจึงรีบหนีเขาไปเมืองเกงจิ๋ว ซุนเกี๋ยนสั่งใหทหารใน
กองทัพเรือชักเอาลูกเกาทัณฑซึ่งทหารหองจอยิงมาติดกับเรือรบออกแลวนับดูไดลูกเกาทัณฑถึงสิบหาหมื่น
แลวจึงสั่งใหยกทัพไปเมืองเกงจิ๋ว โดยใหเทียเภายกกองทัพเรือไปทีต ่ ําบลทาฮั่นกั๋งเพื่อยกพลขึ้นบกตรงไป
เมืองเกงจิ๋ว สวนตัวซุนเกี๋ยนเองยกทหารไปตามทางบกตรงไปเมืองเกงจิ๋ว ฝายเลาเปยวเมื่อไดรับรายงานการ
ศึกจากหองจอแลวก็ตกใจ จึงหาเกงเหลียงมาปรึกษาวาจะทําประการใด เกงเหลียงเสนอใหตั้งมั่นอยูใ นเมือง
แลวขอความชวยเหลือจากอวนเสี้ยว แตชัวมอทหารเอก ซึ่งเปนพี่ภรรยาของเลาเปยวไมเห็นดวย อางวา
กองทัพเมืองกังตั๋งมาประชิดอยูเชนนี้จะมัวขอใหอวนเสีย
้ วมาชวยเหลือคงไมทันการณ ขออาสายกทหารไปตี
ทัพซุนเกี๋ยนเอง เลาเปยวจึงอนุญาตใหชัวมอยก ทหารไปตีทัพซุนเกี๋ยน

กองทัพของชัวมอปะทะกับกองทัพของซุนเกี๋ยนทีย ่ กมาทางบก เทียเภา ทหารเอกของซุนเกี๋ยนออกรบดวยชัว


มอไดสิบเพลง ชัวมอสูไมไดก็ขับมาหนี กองทัพซุนเกี๋ยนจึงไลตามตีทหารชัวมอแตก กองทัพของชัวมอ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 98

สูญเสียทหารเปนจํานวนมาก ชัวมอจึงนําทหารทีแ ่ ตก หนีมานั้นยกกลับเขาเมืองเกงจิ๋ว หลังจากเลาเปยวไดฟง


การศึกจากชัวมอแลวก็ตกใจ เกงเหลียง ลําเลิกวาการทั้งนี้เปนเพราะเลาเปยวไมเชื่อฟง การทีช
่ ัวมอแพศก
ึ มา
ครั้งนี้จําเปนตองลงโทษประหารตามพระอัยการศึก แตเลาเปยวเกรงใจนางชัวฮูหยิน ภรรยา ซึ่งเปนผูนอ  ง
ของชัวมอ จึงมิไดเอาโทษ ฝายซุนเกี๋ยนไลตามตีชัวมอมาจนถึงกําแพงเมืองเกงจิ๋ว เห็นขางในเมืองปดประตู
เมืองแลวใหทหารขึ้นรักษาการณบนเชิงเทินอยางแนนหนา จึงตั้งคายลงลอมเมืองเกงจิ๋วไว

วันหนึ่งขณะทีซ
่ ุนเกี๋ยนตรวจทหารอยูท  ี่นอกคาย เกิดพายุใหญพัดมา ธงชัยสําหรับแมทัพประจําตัวซุนเกีย๋ นหัก
สะบั้นลง ฮันตงทหารเอกเห็นเปนลางรายจึงเสนอใหซุนเกีย ๋ นเลิกทัพกลับไปเมืองกังตั๋ง แตซุนเกี๋ยนไมยอม
แลววา การศึกครั้งนี้กองทัพเมืองกังตั๋งไดรบ
ั ชัยชนะตลอดมา บัดนี้จวนจะไดเมืองเกงจิ๋วอยูแลวจะกลัวไปไย
กับสายลมพัด เพลาดึกของค่ํานี้เราจะหักเขาตีเมืองเกงจิ๋วใหได

ฝายขางเมืองเกงจิ๋ว พอค่ําลงเกงเหลียงทหารเอกและที่ปรึกษา ของเลาเปยวไดขึ้นตรวจดูเหตุการณบนเชิง


เทินกําแพงเมืองเกงจิ๋ว เห็นดาวดวงหนึ่งตกลงมาแตทศ ิ เมืองกังตั๋ง ตรวจดูแลวจึงแจงแกเลาเปยววาขาพเจา
สังเกตดาวดวงหนึ่งอยูบนฟาขางเมืองกังตั๋งเห็น เศราหมองนัก บัดนี้ดาวดวงนั้นไดรวงลงจากฟา เห็นวา
อันตรายจะเกิดแกซุนเกี๋ยนเปนมั่นคง ขอใหรบ ี แตงหนังสือขอใหอวนเสี้ยวยกกองทัพมาชวย เลาเปยวเห็นชอบ
กับความคิดของเกงเหลียงแลววา ในเมื่อเมืองเกงจิ๋วถูกกองทัพของซุนเกี๋ยนลอมอยูด  ังนี้ จะมีผูใดอาสาถือ
หนังสือไปถึงอวนเสี้ยวเลา ขณะนั้นนายทหารคนหนึ่งชื่อลีกง ขออาสาทําการ เกงเหลียงพิเคราะหลีกงแลวเห็น
ทวงทาจะทําการไดสําเร็จจึง วาในการไปครั้งนี้เราจะวางแผนใหทานเดินทางโดยปลอดภัย แลววาเราจะจัด
ทหารถือเกาทัณฑหารอยตามทานไป เมื่อรบหักฝาวงลอมไปแลวใหจัดทหารเกาทัณฑสองรอยแบงเปนสอง
กองใหซุมอยูในปาทายเขาฮีสน
ั กองหนึ่ง และใหซุมอยูท  ี่เนินเขาฮีสันอีกกองหนึ่ง ใหเตรียมกอนศิลาไวให
พรอม ซุนเกี๋ยนคงจะยกตามตีทานไป ใหตวั ทานกับทหารสามรอยแกลงถอยไปทางเขาฮีสัน ถึงจุดซุมระหวาง
เนินเขาและปาทายเขาฮีสันเมื่อใด ใหจด ุ พลุสัญญาณใหญขึ้น สามนัด ใหพลเกาทัณฑระดมยิงซุนเกี๋ยน ฝาย
เราก็จะยกตีกระหนาบ เขาไป ซุนเกี๋ยนก็จะเสียทีเราเปนมั่นคง แลววาถาหากซุนเกี๋ยนไมตด ิ ตามไปเพราะอาจ
เห็นวาเปนคืนเดือนมืด ขอใหทานรีบเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืน รีบไปใหถึงอวนเสี้ยว โดยเร็ว

ลีกงรับคําสั่งแลวก็ออกมาเตรียมทหาร หลังเพลาค่ําจึงเปดประตูเมืองดานตะวันออกรีบบึ่งฝาทหารลาดตระเวน
ของซุนเกี๋ยนซึ่งไมทันระวังตัวไป อยางรวดเร็ว ถึงเขาฮีสันก็จัดวางกองซุมตามคําของเกงเหลียง ฝายซุนเกี๋ยน
เมื่อไดรับรายงานวาทหารจากในเมืองเกงจิ๋วตีฝาวง ลอมออกไป จึงขึ้นมาถืองาวพาทหารสามสิบคนเรงตาม
ทหารทีต ่ ฝี าวง ลอมนั้นไปทันเขากับมาลีกง ลีกงชักมาเขามารบดวยซุนเกีย
๋ นไดสามเพลงก็ชักมานําทหารหนี
ไปทางเขาฮีสัน ซุนเกี๋ยนก็ไลตามไป ครั้นไปถึงซอกเขาอันเปนจุดซุม ลีกงก็จุดพลุสญ ั ญาณขึ้นสามนัด กอง
ซุมที่อยูบ
 นเนินเขาฮีสันและทีอ ่ ยูในปาเชิงเขาฮีสันก็ทิ้งศิลาและยิงเกาทัณฑลงมาดุจหาฝนถูก ซุนเกี๋ยนและมา
เลือดโทรมกาย ทั้งมาและคนถึงแกความตายอยูใน ทีน ่ ั้น

ซุนเกี๋ยนเปนนักรบที่แกลวกลาเหี้ยมหาญ มีใบหนาขาวดังหยกสีขาว จึงไดรับสมญาวา "เสือขาวแหงกังตั๋ง" ณ


อายุเพียงสามสิบเจ็ด ป ดาวเสือขาวก็รวงลับฟากังตั๋งในซอกเขาฮีสันดวยประการฉะนี้

ลีกงเห็นดังนั้นก็รูสึกนับถือความคิดของเกงเหลียงเปนอันมาก จึงยกทหารลงมาฆาทหารที่ตามซุนเกี๋ยนตายจน
หมดสิ้น ฝายเกงเหลียงเตรียมทหารพรอมอยู ครั้นไดยินเสียงพลุสัญญาณก็ให เกงอวด หองจอ และชัวมอ คุม
ทหารออกตีทัพซุนเกี๋ยนเปนสามดาน ทหารซุนเกี๋ยนไมทันรูต  ัวก็แตกตื่นลมตาย ขณะนั้นอุยกายซึ่งรักษาการณ
อยูที่กองทัพเรือ ไดยินเสียงโหรอง ก็คุมทหารยกขึ้นมาชวยรบพบหองจอตอสูกันไดหกเพลง อุยกายก็จบ ั เปน
หองจอได ในขณะที่ เทียเภา ซุนเซ็กยกตามซุนเกี๋ยนไปพบเขา กับลีกง เทียเภารบกับลีกงไดหาเพลงก็เอา
ทวนแทง ลีกง ตกมาตาย ทหารทั้งสองฝายไดรบพุงกันเปนสามารถ บาดเจ็บลมตายลงเปนอันมากครั้นใกล
สวางทหารซุนเกี๋ยนก็กลับเขาคาย สวนทหารฝายเลาเปยว ก็เอาศพซุนเกี๋ยน กลับเขาเมือง

ฝายซุนเซ็กและเทียเภาตามหาซุนเกี๋ยนจนสวางก็ไดพบทหารเลวคนหนึ่ง บอกวาซุนเกี๋ยนถูกเกาทัณฑตายที่
ซอกเขาฮีสัน ทหารเลา เปยวนําศพเขาเมืองไปแลว ซุนเซ็กก็รองไหเพราะรักบิดาเปนอันมาก ทหารของซุน
เกี๋ยนเมื่อทราบวาซุนเกี๋ยนตายแลวก็พรอมใจกันยก ซุนเซ็กขึ้นเปนผูนํา สายขึ้นก็สงคนไปเจรจาดวยเลาเปยว
ขอรับศพซุนเกี๋ยนกลับเมืองกังตั๋ง แลกกับหองจอทหารเอกเมืองเกงจิ๋ว เกงเหลียงคัดคานและเสนอใหรบ ี ตี
กองทัพเมืองกังตั๋งซึ่งขณะนี้กาํ ลังขวัญเสีย แตเลาเปยวไมฟง คํา ตกลงคืนศพซุนเกี๋ยนใหกบ
ั กองทัพกังตั๋งแลก
กับ หองจอทหารเอกเมืองเกงจิ๋ว

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 99

วันรุงขึ้นซุนเซ็กจึงใหคุมหองจอไปสงแกเลาเปยว ณ ประตูเมือง แลวรับเอาศพซุนเกี๋ยนมาลงเรือยกทัพกลับ


เมืองกังตั๋ง ดาวเสือขาวดับลับฟาเมืองกังตั๋งหรือจะเปนดวยแรงแหงอาถรรพ ของตราพระลัญจกร อันเปนที่
หมายปองของขุนศึกทุกตัวคน

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ตนตํารับสารพัดวิชาชัว่ (ตอนที่ 44)

เมื่อศพซุนเกี๋ยนถึงเมืองกังตั๋งแลว ทางราชการเมืองกังตั๋งใหแตงการศพไวที่ตาํ บลขยกโอ และพรอมใจกันยก


ซุนเซ็กขึ้นเปนเจาเมือง เปนการแตงตั้งเจาเมืองกันเองโดยที่ไมตองรอฟงพระบรมราช โองการแตงตั้งจาก
เมืองหลวงเหมือนดังแตกอน การทีแ ่ ควนกังตั๋งยังไมประกาศเอกราชอยางเปนทางการ จึงดูประหนึ่งวาแควน
กังตั๋งยังคงขึ้นตอเมืองหลวง แตในเนื้อหาแลวการเริ่มแยกตัวอยางสันติออกจากเมืองหลวงไดกอตัวขึ้นแลว
คลายๆ กับพฤติกรรมที่ไตหวันปฏิบัติอยูใ นขณะนี้

การแตงตั้งซุนเซ็กบุตรซุนเกี๋ยนขึ้นเปนเจาเมืองเตียงสาในครั้งนี้ ก็คือการสืบสันตติวงศแบบพระมหากษัตริยอยู
ในที และก็คอ ื พฤติการณทแ ี่ ข็งขอเอากับเมืองหลวงตอเนือ
่ งจากที่ซุนเกีย๋ นไดเขารวมในกองทัพปฏิวัติ และ
โดยเหตุที่เมืองเตียงสาเปนศูนยกลางของแควน กังตั๋ง ซึ่งมีหัวเมืองใหญนอ  ยถึงแปดสิบเอ็ดหัวเมือง ดังนั้นหัว
เมืองดังกลาวจึงเทากับไดขึ้นตอเมืองเตียงสาโดยตรง ซุนเซ็กอายุเพียงสิบหาป แตมเี ลือดเนื้อเชื้อไขของ
ทหารกลา ทั้งมีความสนใจการสงครามมาตั้งแตยังเด็ก ดังนัน ้ จึงเปนที่พอใจของ ขุนนางขาราชการแควนกังตั๋ง
เพราะเมื่อเจาเมืองรักการทหารยอมทําใหการทหารรุงเรือง และฝายทหารก็ยอมรุงเรืองตามไปดวย

ซุนเซ็กเมื่อไดเปนใหญในแควนกังตั๋งแลว บารมีของซุนเกี๋ยน ที่สรางสมไวจึงตกทอดมาสูซุนเซ็ก ดังนัน ้ ซุน


เซ็กจึงเปนที่เคารพนับถือของชาวเมืองทั้งปวง ทั้งๆ ที่มีวย
ั เพียงสิบหาปเทานั้น โดยเหตุทซ ี่ ุนเซ็กมีเลือดพอ
ดังนั้นความคิดในการตั้งตัวขึ้นเปนใหญจึงไดสืบสายเลือดมาดวย เหตุนซี้ ุนเซ็กจึงใหความสําคัญตอการเชื้อ
เชิญบัณฑิตผูมส ี ติปญ
 ญาความกลาหาญเขามาทําราชการดวยแควนกังตั๋งเปนอันมาก

ในขณะที่แควนกังตั๋งเริ่มมีเสถียรภาพอยางเปนขั้นตอนนี้ เลาปยังคงเปนเจาเมืองเพงงวนกวน และโจโฉก็ยงั คง


ไปตั้งหลักปกฐานอยูที่เมืองเองจิ๋ว ในฐานะที่เปนผูกบฏตอแผนดินตามกฎ หมายขาวการตายของซุนเกี๋ยน
และการขึ้นสูตาํ แหนงเจาเมืองของซุนเซ็กไดแพรขยายไปอยางรวดเร็ว ความทราบถึงตัง๋ โตะแลว ตั๋งโตะมี
ความยินดียิ่งนักถึงขนาดที่กลาวกับบรรดาขุนนางขาราชการในเมืองหลวงวา "ซึ่งซุนเกี๋ยนตายเสียนั้นเราคอย
เบาใจมีความสุขขึ้น อุปมา เหมือนบงหนามออกจากอกเราไดเลมหนึ่ง" ครั้นไดทราบวาซุนเซ็กผูบต ุ รไดสืบ
อํานาจตอมา แตมีอายุเพียงสิบหาป ตั๋งโตะก็ยิ่งวางใจเพราะเห็นวาเปนเด็กอยู ไมอยูในสายตาที่ตอง
ระแวดระวังอีกตอไป

ในบรรดาเจาเมืองในกองทัพปฏิวัตท ิ ั้งหมดนั้น ตั๋งโตะไมเคยเกรง กลัวอวนเสี้ยวเพราะเห็นวาไรสติปญ  ญา


ความสามารถ สวนโจโฉก็เปน เพียงลูกนองเกา แผนดินสักกระผีกนิ้วหนึ่งก็ยังไมมีครอง สวนเลาป ยิ่งไมอยูใน
สายตาเพราะไมเคยรูจ  ัก ดังนัน
้ เมื่อสิ้นซุนเกีย
๋ นซึ่งตั๋งโตะ ถือเปนเสี้ยนหนามที่ยอกอยูใ นอกแลว ตั๋งโตะจึงยิ่ง
มีความกําเริบ ขึ้นกวาแตกอน ไมเห็นผูใดในแผนดินที่จะอยูในสายตาอีกตอไป เมื่อกําเริบขึ้นแลวความเลว
ทรามตางๆ ทีเ่ คยรั้งรออยูบางจึงเผย ตัวขึน ้ ชนิดที่ไมเกรงฟาไมกลัวดินอีกตอไปแลว สิง่ ที่เรียกวาความเลว
ทรามต่ําชานั้น

หากจะจําแนกเปนความชั่ว ความโฉด ความโหด และความหื่นแลว ตั๋งโตะมีอยูค  รบถวนในตัวเอง และกําลัง


แสดง ออกอยางเต็มที่ ความชั่วโฉดโหดหื่นบรรดาที่เคยมีมาในประวัติศาสตรของมนุษยชาตินั้น หามีครั้งไหน
ที่เทียบไดกับยุคสมัยของตั๋งโตะไม และในบรรดาอาชญากรทั้งระดับโลก ระดับชาติ และระดับทองถิ่นที่เคยทํา
ความเลวทรามไวกับมนุษยชาติตั้งแตยค ุ ประวัติศาสตรเปนตนมาก็หาไดมผ
ี ใู ดทําชั่วโฉดโหดหื่นไดถึงระดับ
ของตั๋งโตะ และทําไดครบถวนทุกอยางเหมือนกับตั๋งโตะ

ฮิตเลอรแมวาจะเปนคนโหดเหีย ้ มอํามหิต แตหาใชคนชัว่ ไม หาใชคนหื่นในกามไม กลับเปนคนที่อท ุ ิศตนเพื่อ


อาณาจักรไรซท  ี่สามและลัทธินาซี ในการสวนตัวก็มีสตรีที่เกี่ยวของอยูเพียงไมกี่คนเทานั้น ความเหี้ยมโหดตอ
ชาวยิวเกิดมาแตเหตุที่ถือเอาชนเผาอารยันของตนเปนผูครองโลกและมองชาวยิวเปนศัตรู ฮิตเลอรอยางมาก
จึงเปนแคคนโหดเหี้ยมอํามหิตเทานั้น

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 100

สวนพลพตไมปรากฏวาเปนคนชั่ว ไมปรากฏวาเปนคนหื่น ความโหดเหี้ยมอํามหิตของพลพตเกิดจากปญหา


เชื้อชาติในกัมพูชาที่พลพตมีสายเลือดเขมรแทหรือแขมรรต
ู เห็นวาเขมรสองสายเลือด ที่มีเลือดเวียดนามเจือ
ปนหรือแขมรกลอมกําลังยึดครองและทําลาย ลางเขมรแท จึงสังหารแขมรกลอมเสียเปนอันมาก มูลฐานทาง
จิตใจ จึงอยูท
 ี่ความหลงชาติ หลงสายเลือด

แมนายพลอีดี้รอ
 ามินแหงยูกันดา ซึ่งสังหารคนเปนผักปลา แมจะกลาวไดวาเปนทั้งคนชัว่ โฉด โหดและหืน
่ ครบ
กระบวนความเชน เดียวกับตั๋งโตะ แตระดับความเลวทรามที่กระทําไวหากจะเทียบกับตั๋งโตะแลวก็อยูใ นชั้น
ปลายแถวเทานัน ้

ตั๋งโตะเปนคนเลวทรามครบกระบวนคือทั้งชั่วโฉด โหด หื่น และระดับของความชั่วโฉด โหด หื่นนั้นก็หามีใคร


ในโลกไมวาในอดีต หรือปจจุบัน หรือในอนาคตจะเทียมเทียบไดอีกตอไปแลว ยังคงรําลึกกันไดดีวากอนยาย
เมืองหลวงนั้น ตั๋งโตะไดสั่งใหสังหารผูค
 นที่ไมมีความผิดเสียนับลานคน กวาดตอนผูคนออกไปจากเมืองหลวง
รวมเจ็ดลานคน ริบทรัพยสินเศรษฐี พอคาวาณิช และราษฎรเสียทั้งสิ้น ขุดพระบรมศพ พระศพและศพของ
พระมหากษัตริย พระราชวงศและราษฎรทั้งเมืองหลวง ชิงเอาทรัพยสินทีฝ ่ ง อยูในหลุม ฝงศพจนหมดสิ้น ครั้น
ยายเมืองหลวงใหมไปที่เมืองเตียงอันแลว และสิ้นซุนเกี๋ยนซึง่ ถือเปนศัตรูคนสําคัญแลว ตั๋งโตะก็ยิ่งกอกรรมทํา
เข็ญมากขึ้น อาชญากรรมของตั๋งโตะที่ถูกบันทึกไวมีดังตอไปนี้

ประการแรก ไดสืบทอดวิธีคด ิ ของหลี่ปูเหวย อัครมหาเสนาบดีแหงแควนจิ๋น ตั้งตนเปนบิดาบุญธรรมของฮองเต


ยึดอํานาจ ของฮองเตและบงการฮองเตไวอยูใ นกํามือ ตั้งตนเสมอกับพระมหากษัตริย
ประการทีส ่ อง แตงตั้งเอาสมัครพรรคพวกของตัวเปนขุนนางผูใหญผูนอ  ยทั้งสิ้น โดยไมคาํ นึงถึงความรู
ความสามารถ เชน แตงตั้งใหตงั๋ หองผูนองเปนผูบัญชาการกองทัพทั่วประเทศ ยกเวนกองกําลังรักษาพระนคร,
ตั้งเอาคนแซ "ตั๋ง" เขามาเปนขุนนางทั้งในเมือง หลวงและหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองหลวง
ประการทีส ่ าม ตั้งเมืองหลวงแหงทีส ่ องขึ้นสําหรับตัวเองโดยเฉพาะ เกณฑไพรและผูคนจากหัวเมืองตางๆ ที่
ขึ้นตอเมืองหลวงถึง สองแสนหาหมื่นคน ไปสรางเมืองหลวงแหงที่สองในระยะทางหางจาก เมืองหลวงสอง
พันหารอยเสน มีกําแพงสูงเทาเมืองหลวง มีตําหนักตางๆ เทากับพระราชวังของฮองเต ตั้งคลังและฉางขาว
ปลาอาหารสําหรับเลี้ยงทหารและผูคนไดถึงยี่สิบป ลางผลาญเงินแผนดินและริบเอาทรัพยสินของราษฎร
จํานวนมากมาสรางเมืองหลวงแหงทีส ่ องนี้ เพื่อเสวยสุขแตผูเดียว
ประการทีส ่ ี่ ไดเขายึดเอาคลังหลวงของแผนดินเปนของตน และยายคลังหลวงแผนดินออกจากเมืองหลวงไป
ไวที่เมืองหลวงแหงทีส ่ องของตัวเอง บรรดาสวยสาอากรทั้งปวงของแผนดินเมื่อจัดเก็บแลวตองเอามาไวที่
เมืองหลวงสํารอง และคุมอํานาจการเบิกจายไวทั้งสิ้น
ประการที่หา บังคับคัดเลือกเอาลูกสาวของราษฎรที่มีรูปงามไวปรนเปรอความหื่นในกามของตนถึงแปดรอยคน
หญิงสาวคนใดแสดงอาการรังเกียจหรือไมยอมปรนเปรอกามารมณแกตั๋งโตะจนเปนที่พอใจก็จะถูกสังหาร
ผลาญชีวต ิ แลวสงคนไปฆาพอแมครอบครัวเสียทั้งสิ้น เบื่อหนายหญิงสาวคนใดก็จะขับไลไสสงและหามแตง
งานมีสามีอีกตอไปดวยความประสงคมิใหผใู ดไดสม ั ผัสกับสตรีนั้นซ้าํ รอยตน
ประการที่หก ปฏิบัติตอฮองเตเหมือนลูกไกอยูในกํามือ เดือนหนึ่งบาง ยีส ่ ิบวันบางจึงขึน
้ ไปเฝาฮองเตเสียครั้ง
หนึ่ง มีกิจการบานเมืองอันสําคัญก็ปลอมพระราชโองการเอาตามใจชอบ แตงตั้งขาราชการขุนนางเอาตามใจ
ชอบ
ประการที่เจ็ด กําหนดเปนหนาทีใ่ หขุนนางตองผลัดเปลี่ยนเวรมาแหแหนตอนรับทั้งในเมืองหลวงและนอก
เมืองหลวง เสมือนหนึ่งเปนการเสด็จของพระมหากษัตริย
ประการที่แปด สรางจวนสําหรับตนเองขึ้นในพระราชวัง อยูฝ  งตรงกันขามกับพระตําหนักที่ประทับ เปนอาคาร
ขนาดใหญกวาพระตําหนักที่ประทับ ประดับประดาดวยสิ่งของอันวิจิตรจากตางแดนหรูหรายิ่งกวาการประดับ
ประดาในพระตําหนักที่ประทับของฮองเต แลวใหเรียกจวนนั้นวาพระตําหนักผูสําเร็จราชการแผนดิน มิหนําซ้ํา
ยังใหชางปนรูปฮองเตไวหนาตําหนักตัว ตอภายนอกอางวาเพื่อเปนการแสดงความจงรักภักดี แตภายในหมู
พรรคพวกของตัวกลับเผยความจริงวาฮองเตไมตางอะไรกับคนเฝาประตูบา น คลายๆ กับยักษเฝาประตูวด ั พระ
แกว

ความชั่วโฉดโหดหื่นของตั๋งโตะหาไดจบลงแคนี้ไม เรื่องที่ผค ู นทั่วทั้งโลกไมสามารถคิดไดแตตั๋งโตะก็คิดและ


ทําได ชนิดที่เหนือความคาดหมายของผูคน หากเปนยุคปจจุบัน หนังสือกินเนส-บุคยอมจะตองนํากรณีตางๆ
ของตั๋งโตะเหลานั้นมาเปนเรื่องอันเปนที่สุดอยางไมตองสงสัย อยูมาวันหนึ่งในขณะทีต ่ ั๋งโตะอยูท
 ี่เมืองหลวง
แหงทีส
่ อง ไดรับรายงานวาหัวเมืองฝายเหนือที่ขึ้นตอเมืองหลวงไดสงทหารมาเขาสวามิภักดิ์เปนจํานวนหา
รอยคน จึงสงมาใหเปนขารับใชในเมืองหลวงแหงที่สอง ตั๋งโตะรับทราบรายงานแลวสั่งใหจัดงานสโมสร
สันนิบาตขึ้น ในเมืองหลวงแหงทีส ่ องแลวเชิญบรรดาขุนนางผูใหญนอยทัง้ ปวง มากินโตะ ในงานสโมสร
สันนิบาต ตั๋งโตะใหจัดตั้งกระทะน้ํามันบนเตาไฟถึงหารอยเตา ในขณะที่บรรดาขุนนางขาราชการกําลังกินโตะ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 101

กันอยูนั้น ตั๋งโตะไดแจงวาในลําดับถัดไปจะมีการโชวชด ุ พิเศษ แลวโยนจอกสุรา ลงกับพื้นตะโกนขึ้นวา


"จัดการแสดงได" สายตาของขุนนางขาราชการทั้งปวงตางหันมามองทีล ่ านซึ่ง ตั้งกระทะน้ํามันสุมไฟจนรอน
เดือด ทันใดนัน ้ ก็มีทหารคุมคนที่เขามาสวามิภักดิ์หารอยคนในลักษณะที่มด ั ไวแนน แลวตัดแขน ตัดขา ตัดหู
ตัดลิ้นคนเหลานั้นใสกระทะทอด คนเหลานั้นเจ็บปวดรองไหโหยหวนเปนที่นาเวทนาเหลาขุนนางขาราชการ
เห็นดังนั้นก็ตกใจ บางคนอาเจียนแลวฟุบลงบนโตะ บางคนก็พลัดตกจากเกาอี้ บางก็ตะเกียบหลุดมือ บาง ก็มี
อาการช็อกจนนิ่งงันไป ดวยสงสารคนเหลานั้นเปนอันมาก ในขณะทีต ่ ั๋งโตะยังคงเสพสุราและหัวรอเริงรา ตั๋ง
โตะไดยน ิ เสียงคนทีถ ่ ูกตัดอวัยวะเหลานั้นรองไหดวยความเจ็บ ปวดจึงสั่งใหเอาคนเหลานั้นลงทอดในกระทะ
จนตายสิ้น

เหตุการณวันนัน ้ สรางความเศราสลดและสังเวชใหแกขุนนางขาราชการและเกิดความเกรงกลัวตั๋งโตะเปนอัน
มาก เพื่อจะสรางความเกรงกลัวใหมากขึ้นตอไปอีก วันหนึ่งตั๋งโตะสั่งใหจัดเลี้ยงโตะแลวเชิญขุนนางขาราชการ
มากินโตะอีกครัง้ หนึ่ง แลว สัง่ ลิโปวาเมื่อขุนนางขาราชการมาพรอมกันแลว ใหทําทีมากระซิบที่หแ ู ลวใหจับ
เอาเตียวอุนขุนนางไปฆาเสีย ถึงวันจัดเลีย ้ งลิโปก็มาทําทีกระซิบที่ขางหูของตั๋งโตะ ตั๋งโตะทําเปนหัวเราะแลว
วา "เอาตัวมันไป" ลิโปก็เขาไปจับเตียวอุนขุนนางลากออกไป ครูหนึ่งก็ตัดศีรษะเตียวอุน  ใสถาดเขามามอบ
ใหแกตั๋งโตะทาม กลางความตกตะลึงพรึงเพริดของเหลาขุนนางขาราชการ

ตั๋งโตะแจงแกเหลาขุนนางวาอยาไดตกใจ เราประหารเตียวอุน ขุนนางเสียเพราะคิดเปนกบฏสมคบดวยอวนสุด


มีหนังสือลับไปถึงอวนสุดใหยกกองทัพมาทํารายเรา ทานทัง้ ปวงมิไดสมรูดว ยอยาไดวิตกเลย วาแลวก็หัวเราะ
ดังสนั่น เหลาขุนนางกินโตะเสร็จแลวก็รีบแยกยายกันกลับบาน ตั๋งโตะครองอํานาจสูงสุดในเมืองหลวง กระทํา
การชั่วโฉดโหดหื่น ครบถวนกระบวนแหงความเลวทรามในระดับทีส ่ ูงสุดเชนนี้ เพราะตั้งความหวังวาจะขมขุน
นางขาราชการใหเกรงกลัว ไมมีผใู ดกลาทีจ
่ ะคิดรายอีกตอไป แตการกลับตรงกันขามเมื่อความเลวทราม
เกิดขึ้น ถึงขีดสุดแลว กลับทําลายความกลัวของผูคน ดังนัน ้ ความคิดที่จะสังหารตั๋งโตะจึงกอตัวขึ้น ณ บัดนั้น

ความชั่วโฉดโหดหื่นของตั๋งโตะเชนนี้จึงทําใหตั๋งโตะไดรับการขนานนามวา "ตั๋งโตะผูถูกสาปแชงทั้งสิบทิศ"

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

อุบายนารายณปราบมาร (ตอนที่ 45)

ตั๋งโตะจัดงานสโมสรสันนิบาต จัดรายการโชวอํามหิต ตัดหู ตัดจมูก ตัดลิ้น ตัดแขน ตัดขาทหารที่เขามา


สวามิภักดิ์ถึงหารอยคน แลวทอดในกระทะน้ํามัน จากนั้นก็เอาตัวคนเหลานั้นทอด กระทะน้ํามันตาม หลังจาก
นั้นก็ตัดหัวเตียนอุยขุนนางเพื่อสรางความยําเกรงใหเกิดขึ้นในบรรดาขุนนางขาราชการ และปองปรามไมใหขุน
นางขาราชการคิดรายตอตนสืบไป

ความชั่วโฉดโหดหื่นและสุดอํามหิตทําใหขุนนางขาราชการจํานวนหนึ่งเกรงกลัว แตขณะเดียวกันทําใหขุนนาง
ขาราชการอีกจํานวนหนึ่งสิน ้ ความเกรงกลัวอีกตอไป ดวยคิดวาขืนกลัวกันตอไปเชนนี้สักวันหนึ่งเหตุการณ
เหลานั้นก็อาจเกิดขึ้นกับตัว อองอุนขุนนางสี่แผนดินซึ่งใชวช
ิ ารูห
 ลบเปนปก รูหลีกเปนหางลอยตัวมาตลอดทุก
สถานการณเปนคนหนึ่งที่เลิกกลัว และคิดทําลาย ความกลัวนั้นใหสิ้นเชิง ดวยการแกไขปญหาที่ตนเหตุนั่นคือ
ตองสังหารตั๋งโตะเสีย สิ้นตั๋งโตะแลวนั่นแหละจึงจะมีความปลอดภัยทีแ ่ ทจริง ทั้งจะเปนการทําคุณอันยิ่งใหญ
ตอบานเมืองแลราษฎรหลังเสร็จจากงานเลีย ้ งโตะทีจ
่ วนของตั๋งโตะแลว อองอุนขุนนางกลับถึงบานแลวนอนไม
หลับ ถือไมเทาลงมาเดินอยูในสวนหลังบาน แหงนหนามองทองฟาแลวรําพึงอยูในใจวา เดือนดาวเศรา หมอง
นัก เหตุทั้งนี้เกิดจากตั๋งโตะเปนทรราชขมเหงฮองเต เบียดเบียนราษฎร กดขี่ขุนนางขาราชการ จึงเกิดยุคเข็ญ
ขึ้นทุกหยอมหญา รําพึงดังนีแ ้ ลว อองอุนก็ถอนใจใหญแลวรองไห ทันใดนั้นก็ไดยินเสียงรองไหดังสวนมา
อองอุนเพงสายตามองเห็นเปนเตียวเสีย ้ นซึ่งเดิมเปนลูกของทาสภายในบาน กําพราทั้งพอและแม อองอุนมี
ความสงสารจึงรับเลี้ยงดูสืบมา และรับไวเปนบุตรบุญธรรม

เตียวเสีย้ นอยูในจวนของอองอุนขุนนางผูใหญสี่แผนดิน ในฐานะบุตรบุญธรรมจึงไดรับการดูแลเอาใจใสเปน


อยางดี ไดรับการฝก อบรมสมแกความเปนกุลสตรีตามคตินย ิ มในสมัยฮั่น สามารถเลนดนตรีไดไพเราะและขับ
รองไดจับใจ แมในกระบวนการปรนนิบต ั ิเอา อกเอาใจก็ไดรับการทะนุถนอม กลอมสอนจนชํานิชํานาญไปทุก
สิ่ง ถึงระดับทีส ่ ามารถถวายตัวเปนพระสนมของฮองเต เตียวเสี้ยนนั้นอยูใ นจวนมาแตนอย ผิวพรรณจึงผุดผอง
งดงาม ยิ่งกวาชาวเมืองธรรมดา หากกลาวไดวาเปนชาววังเต็มตัว ทั้งใบ หนารูปโฉมก็สะคราญ หากจะเทียบก็
เทียบไดดุจนางสีดาซึ่งรามเกียรติ์ ไดพรรณนาความงามไววา "พิศพักตรผองพักตรดั่งจันทรพิศขนงโกงงอนดั่ง
คันศิลป พิศเนตรดั่งเนตรมฤคินพิศทนตดั่งนิลอันเรียบราย พิศโอษฐดั่งหนึ่งจะแยมสรวลพิศนวลดั่งสีมณีฉาย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 102

พิศปรางดั่งปรางทองพรายพิศกรรณคลายกลีบบุษบง พิศจุไรดั่งหนึ่งแกลงวาดพิศศอวิลาสดั่งคอหงส พิศกร


ดั่งงวงคชาพงศ พิศทรงดั่งเทพกินรา พิศถันดั่งประทุมเกสรพิศเอวเอวออนดั่งเลขา พิศผิวผิวผองดั่งทองทา
พิศจริตกิริยาก็จับใจ" อองอุนเห็นเตียวเสีย
้ นผูบุตรบุญธรรมอยูในสวนยามราตรีเห็นรองไหอยู ก็สงสัยเขาใจวา
นัดชายใหมาพบแตครั้นครบเวลาแลวผิดนัดจึงรองไห อองอุนจึงถามวาในราตรีอันลวงมาถึงเพียงนี้ เหตุใดเจา
ยังไมหลับนอน นัดชายชูมาเริงรมยกระนั้นหรือ เตียวเสีย ้ นไดยินบิดาบุญธรรมวากระนั้นก็ตกใจ รีบเขาไปหาคุก
เขาลงแลววาตัวขาพเจานี้จะนัดชายมาในจวนนั้นหามิได ทุกวันนี้ทานเลี้ยงดู อุปการะขาพเจาดุจบุตรในอุทร
ตัวขาพเจาตระหนักดีวาพอแมเปนทาสในบานทาน จึงสํานึกในใจตัวตลอดมาวาตัวขาพเจาเอง ก็คือทาสของ
ทาน การที่ทา นสูอุตสาหเลีย
้ งดูทะนุถนอมมานานปเพียงนี้ คุณแกขาพเจาหาทีส ่ ุดมิได คิดอยูวาทําประการใด
จึงจะแทนคุณใหสมกับคุณของทานได แมชีวิตขาพเจาก็หาเสียดายไม แลววาวันนี้ขาพเจาสังเกตเห็น
อากัปกิริยาทานหลังกลับจากงานเลี้ยงแลว มีสีหนาเศราหมองยิ่งนัก คิดวายอมมีทุกขใหญหลวงครองใจทาน
อยูแลว คิดไมตกทานจึงเปนดังนี้ ขาพเจามีความเปนหวงยิง่ นักจึงตามลงมา หากพลาดพลั้งหรือมีการใดจะได
ชวยเหลือทานไดทันการณ

อองอุนไดยินดังนั้นจึงคิดวาปญหาใหญที่ใครๆ แกไมไดเห็น จะสิ้นหายไปเพราะเตียวเสีย ้ นบุตรบุญธรรมของ


เราเปนแน คิดแลว จึงจูงมือเตียวเสีย ้ นพาขึน
้ ไปบนจวน เขาไปในหองหนังสืออันเปนทีร่ โหฐาน อองอุนพา
เตียวเสีย ้ นเขาไปนั่งยังเกาอี้ที่นงั่ ของตัว แลวคุกเขาลงคํานับ เตียวเสีย
้ นเห็นเชนนั้นก็ตกใจรีบลุกลงมาจาก
เกาอี้เขากอด เอาเทาอองอุนไวแลวรองไหแลววา บิดาทานอยากระทําเชนนี้เลย อองอุนจึงวาเราไดยน ิ เจา
กลาวเมื่อครูนี้วา ตั้งใจจะสนองคุณเรา ไมเสียดายแกชวี ิต เราจึงมีความยินดีนัก เพราะถาเปนเชนนั้นจริงแท
ทุกขรอนของแผนดินก็จะสิ้นไปเพราะเจา ทุกขในอกเราก็จะสิ้น ตามขอเจาจงเมตตาตอแผนดินแลราษฎร เห็น
แกทุกขรอนในพระทัยของพระเจาเหี้ยนเต ขุนนางขาราชการแลราษฎรเถิด วาแลวอองอุนก็ยิ่งรองไหหนักขึ้น
กวาเดิม

เตียวเสีย้ นเห็นเชนนั้นจึงวาตัวขาพเจาไดออกปากแลววาจะแทนคุณทาน ไมเสียดายแกชีวต ิ คําขาพเจานีพ้ ระ


แมธรณียอมเปนพยาน จะไมมวี ันผันแปรเปนอยางอื่น ขอทานจงวางใจ แลวบอกแกขาพเจาดวยเถิดวาขาพเจา
จะแทนคุณไดสถานใด อองอุนจึงวา "ทุกวันนี้แผนดินรอนทุกเสนหญา เจาก็ยอมแจงอยูแ  ลว พระเจาเหีย
้ นเต
นั้นอุปมาดังฟองไขอันวางอยูเหนือหนาศิลา ขุนนางกับอาณาประชาราษฎรนั้นอุปมาดังหยากเยื่ออันใกลกอง
เพลิง มิไดรูวาความตายจะมาถึงเมื่อใด ตั๋งโตะทําการหยาบชากําเริบขึ้นจะชิงเอาราชสมบัติหาผูใดจะคิดลาง
ตั๋งโตะไม" เตียวเสีย
้ นไดยินเชนนั้นก็สงสัยจึงถามขึ้นวาตั๋งโตะผูนี้เปนถึงอัครมหาเสนาบดี มีอํานาจเปนที่เกรง
ขาม ทั้งมีทหารในบังคับบัญชาเปนจํานวนมาก ขาพเจาเปนสตรีจะกําจัดตั๋งโตะไดโดยทางใด อองอุนจึงวาขอ
เพียงแตเจาเต็มใจทําการดวยยินดี ก็ยอมกําจัดตั๋งโตะไดสําเร็จ อันตั๋งโตะนั้นบัดนี้ไมมีกองทัพใดหรือขุนศึกคน
ใดจะกําจัดไดแลว มีแตความออนหวานของอิสตรีเทานั้นจึงจะกําจัดตั๋งโตะไดสําเร็จ

เตียวเสีย
้ นจึงวาจะใหขาพเจาทําการสิ่งใดขาพเจาก็พรอมใจ ที่จะทําการสิ่งนั้นโดยเต็มกําลัง ขอทานจงบอก
วิธีการใหขาพเจาไดรูเถิด อองอุนจึงบอกแผนการแกเตียวเสี้ยนวาตั๋งโตะนัน
้ มีบุตรบุญธรรมคนหนึ่ง ชื่อลิโป มี
ฝมือกลาแข็งยิง่ นัก แตลิโปนั้นไมรูคุณคน สังหารบิดาบุญธรรมคนกอนเสียแลวเอาศีรษะมาคารวะเปนบุตรบุญ
ธรรมตั๋งโตะ ทัง้ ตั๋งโตะและลิโปเปนคนหลงอิสตรี พึงใจในสตรี โฉมสะคราญ และแผนดินนี้ยากจะหาสตรีใดมี
โฉมสะคราญดังเจา ดังนั้นบิดาจะคิดอุบายยกเจาใหกับลิโป แลวจะหาทางใหตั๋งโตะรับเจาเปนภรรยา เมือ ่ เจา
ไปอยูกับตั๋งโตะแลวจงใชเลหก  ลมายาหญิง ใหตั๋งโตะกับลิโปกินแหนงแคลงใจกัน ลิโปก็จะสังหารตั๋งโตะเสีย
เปนมั่นคง เมื่อทรราชตั๋งโตะตายแลวแผนดินและราษฎรก็จะเปน สุขสืบไป

พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจาทรงพระราชนิพนธถึงอานุภาพของสตรีไววา "ไฟแรงแสงรอนล้ํายังแพน้ํา
เปนนิจมา เหล็กแข็งและแกรงกลายังพาออนเมื่อรอนไฟลมพัดสะบัดแรงตนไมแข็งหักโคนไป ชายเรืองฤทธิ
ไกรยอมตองแพแกสตรี" แผนการของอองอุนครั้งนี้คือแผนการใชความออนกําจัดความแข็ง ใชความสะคราญ
และเสนหเลหกลของสตรีไปกําจัดทรราช ซึ่งไมมีกองทัพหรือความแข็งอื่นใดปราบปรามไดเปนเหตุการณ
คลาย กับตํานานรามเกียรติท ์ ี่นนทุกขยักษเฝาบันไดภูเขาไกรลาศของพระอิศวร บําเพ็ญตบะและความดีจน
ไดรับพรจากพระอิศวรใหมีนิ้วชีเ้ ปนเพชร สามารถชีท ้ ําลายชีวิตและสรรพสิ่งใหพินาศเปนจุณไปได นนทุกข
ไดรับพรแลวก็ทําการลางแคนกับบรรดาเทวดาที่เคยกลั่นแกลงตนมาแตกอน เอานิ้วชี้ชี้เทวดาวอดวายลงเปน
จุณไมมีเทวดา อินทรพรหมหนาไหนกําจัดได จึงมีเทวดาไปรองทุกขตอพระอิศวรวา ทรงประทานพรใหกับคน
โฉดแทนที่จะนําพรอันวิเศษนัน ้ ไปสราง สรรคสามโลกกลับใชพรวิเศษไปในการทําลายลาง แตพระอิศวรนั้นมี
วิสัยไมยอมแกไขปญหาเอาแตหลีกภัยอยูร ่ําไป ครั้นเทวดามารองทุกขมากเขาจึงโปรดใหพระนารายณไป
ปราบนนทุกขพระนารายณรับหนาที่จากพระอิศวรแลวมาคิดวาพรที่นนทุกขไดจากพระอิศวรนี้ไมมีใครปราบได
เพราะอานุภาพนิ้วเพชรตามพรพระอิศวรสามารถทําลายสรรพสิ่งได แมตัวพระนารายณเอง ก็ไมมีขีด
ความสามารถทีจ ่ ะปราบได จะตองใชอํานาจและพรที่ นนทุกขมีอยูนั้นกําจัดนนทุกขเอง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 103

การจะทําเชนนีไ
้ ดก็ตองใชสตรีโฉมสะคราญ ดังนั้นพระนารายณจึงแปลงเปนเทพธิดาที่เลอโฉมเหนือสามโลก
เขาไปหานนทุกข ใชอุบายหญิงทําใหนนทุกขหลงใหล เมือ ่ หลงแลวก็ยอมทําตามสิ้นทุกสิ่ง เทพธิดาแปลงจึง
ชวนนนทุกขเรียนกระบวนรํานนทุกขยามหลงก็ยอมเรียนถึงกระบวนรําหนึ่งทีเ่ ทพธิดาแปลง รํารายแลวใชนิ้วมือ
ชี้เขาหาตัว นนทุกขไมทันคิดระวังตนก็เอานิ้วชี้เพชร ชี้เขาที่ตัวเองจึงถูกอํานาจแหงนิว้ ชี้เพชรนั้นทําลายลาง
เปนจุณไป

พิชัยสงครามของไทยบางฉบับจึงเรียกอุบายนี้วา อุบายนารายณปราบมาร ดวยเหตุนี้สภ


ุ าษิตสอนใจแตโบราณ
มา จึงจัดใหสตรีเปนหนึ่งใน หาของสิ่งทีจ
่ ะประมาทมิไดวา

"จะไวใจอะไรไวใจเถิด แตอยาเกิดไวใจในสิ่งหา
หนึ่งอยาไวใจทะเลทุกเวลา สองสัตวเล็บเขี้ยวงาอยาวางใจ
สามผูถืออาวุธสุดจักราย สี่ผห
ู ญิงทั้งหลายอยากรายใกล
หาพระมหากษัตริยท  รงฉัตรชัย ถาแมนใครประมาทอาจตายเอย"

แลวอองอุนจึงกลาวย้ํากับเตียวเสี้ยนวาหากทําการสําเร็จแลว ตัวเจาซึ่งไดอาสากําจัดทรราชในครั้งนีก ้ ็จะมี


ชื่อเสียงปรากฏไปชั่วฟาดินสลาย เตียวเสี้ยนจึงวาแผนการที่บิดาวามาทั้งนี้ขาพเจาเต็มใจอาสาทําการ ไม
เสียดายแกชีวิต เมื่อใดที่ขาพเจาไปอยูกับตั๋งโตะแลวจะคิดอานอุบายทําใหลิโปกับตั๋งโตะแตกกัน และใหลิโป
สังหารตั๋งโตะเสียใหจงได วาแลวเตียวเสีย ้ นก็คุกเขาลงกับพื้น ทําสาบานตอฟาวาขอเทพยดาและดวงพระ
วิญญาณแหงพระมหากษัตริยในพระราชวงศฮั่นทุกพระองคจงเปนพยาน ตัวขาพเจาผูเปนบุตรบุญธรรมของ
อองอุนจะอาสาบิดาไปกําจัดตัง๋ โตะ ขอจงอํานวยพรใหขาพเจาไดสนองคุณ ผูมีคุณและทําคุณแกบานเมืองแล
ราษฎรจงสําเร็จดวยเถิด ถาหากขาพเจาทรยศตอคําสาบานนี้ขอใหเทพยดาไดสังหารขาพเจาเสีย อองอุน  เขา
มาเอามือจับไหลทั้งสองของเตียวเสีย ้ น ประคองใหลุกขึ้นแลว วาการแผนดินที่เจาอาสาไปในครั้งนีใ้ หญหลวง
นัก จะคิดอานทําการสิ่งใดจงใชความระมัดระวังอยาผลีผลาม หรือแพรง พรายความนัยใหใครใดไดรับรู เปน
อันขาด พลาดพลั้งแลวไมเพียง แตตัวเจาจะตองตายเทานัน ้ บิดาและญาติ ตลอดจนผูค  นในบานนี้ที่อยูร วมมา
กับเจาก็จะพลอยกันตายสิ้น

เตียวเสีย
้ นรับคําอองอุนทุกประการ อองอุนจึงพาเตียวเสีย
้ นไปสงถึงหองนอน ตัวเองกลับมานั่งอยูในหอง
หนังสือคิดอานถึงการในวันรุงขึ้น

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

อานุภาพพลังเสนหา (ตอนที่ 46)

สมบัตห ิ กสถานอันประกอบดวยอริยสมบัติหนึง่ ทิพยสมบัตห ิ นึ่ง จักรพรรดิสมบัติหนึ่ง รูปสมบัตห ิ นึ่ง ทรัพย


สมบัตห ิ นึ่ง และคุณสมบัติ หนึง่ นั้น จักรพรรดิสมบัติ รูปสมบัติและทรัพยสมบัติรวมเปนสาม เปนสมบัติของผูมี
เพศคฤหัสถอันต่ําสําหรับปุถุชนที่ยังหลงระเริงอยู ในโลกียวิสัย จักรพรรดิสมบัติเปนสมบัติทค ี่ รอบงําสมบัติอื่น
ไวทั้งสิ้น เพราะ เปนสมบัตท
ิ มี่ ีมาแตวาสนาแหงบุญ กิรย ิ า บารมีอันกระทําไวแตปางกอนบางไดเสวยสมบัตินี้
โดยการสืบสันตติวงศบางก็ไดมาดวยการ ปราบดาภิเษก สวนรูปสมบัตน ิ ั้นเลาเปนสมบัติอันสวรรคประทานมา
แตกําเนิด ตางกับคุณสมบัตท ิ จ ี่ ําตองแสวงหา ศึกษาและใฝคน แมวา รูปสมบัติจะดอยคากวาจักรพรรดิสมบัติ
แตประวัติ ศาสตรก็ได เผยใหเห็นเปนเนืองนิจวารูปสมบัตน ิ ั้นสามารถครอบงําจักรพรรดิสมบัติ แมกระทั่ง
ทําลายจักรพรรดิสมบัติจนดับสูญไปได

ลําพังอองอุนขุนนางชราสี่แผนดินหาไดมีพษ ิ สงประการใดที่จะทํารายหรือกําจัดตั๋งโตะ สวนเตียวเสี้ยนดรุณี


แรกรุนวัยสิบหกก็หาไดเขาใจหรือรูเห็นสภาพการณความขัดแยงทางการเมืองที่เกิดขึ้น จึงไมมีพิษสงใดๆ ที่จะ
ทําลายตั๋งโตะจอมทรราชใหวายวอดไปไดเชนเดียวกัน แตเมื่อหนึ่งชราไดรว มการกับหนึ่งดรุณีแรกรุนผูมโี ฉม
สะคราญทาทายทั้งสามโลกและมีใจตั้งมั่นทีจ ่ ะกําจัดตั๋งโตะแลว ไดกอใหเกิดพลังชนิดหนึ่งที่อาจมีอานุภาพ
ทําลายรายแรงเสียยิ่งกวากองทัพปฏิวต ั ท
ิ ี่อวนเสี้ยวเปนผูบ  ญ
ั ชาการใหญและมีกําลังพลรวมสามแสนคนเสียอีก
นั่นคือพลังเสนหาที่มีอานุภาพยิ่งดังนั้น เมื่อสองพอลูกบุญธรรมปลงใจมั่นกําหนดแผนการกําจัดตั๋งโตะแลว
ราตรีนั้นอองอุนจึงมีความเบิกบานใจยิ่งนัก หลังจากสงเตียวเสี้ยนเขาหองพักแลวอองอุนจึงรีบกลับมาทีห ่ อง
หนังสืออีกครั้งหนึ่ง ครุนคิดกลวิธีในรายละเอียดเพื่อวางเอาตัวพลังเสนหานี้ไวทห ี่ ัวใจความสัมพันธของพอ
ลูกบุญธรรมอีกคูหนึ่ง คือตั๋งโตะกับลิโป แลวระเบิดทําลายความสัมพันธนั้นใหยอยยับในลําดับแรก จึงจะ
สามารถกาวสูขน ั้ ใชลิโปสังหารตั๋งโตะเปนลําดับถัดไป

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 104

อองอุนครุนคิดแผนการจนกระจาง ราตรีก็ลวงเขาสูเวลาใกลสิ้นยามสาม อองอุนจึงงีบหลับไปในหองหนังสือ


นั้น รุงขึ้นจึงใหหาชางทองฝมือดีมาที่จวน มอบหมายภารกิจสําคัญใหจด ั ทําหมวกทองคําประดับเพชร
พลอยอัญมณีมค ี าสําหรับลูกหลวงใหแลวเสร็จโดยไว หมวกทองคําประดับเพชรพลอยอัญมณีสําหรับลูกหลวง
นี้ยอมแสดงความหมายอยูในตัววาหมายถึง อํานาจอยางหนึ่ง และวาสนาอันเปนทรัพยสินอีกอยางหนึ่ง ทั้ง
สองสิ่งนี้อองอุน มั่นใจวาจะเปนทั้งกุญแจไขหัวใจของลิโปใหเปดออก ทั้งจะเปนสื่อสัญญาณใหลิโปวิ่งมาเขา
ทางกล

ครั้นหมวกสําหรับลูกหลวงเสร็จแลว อองอุนจึงใหคนสนิทลอบนําไปใหลโิ ปที่บาน ลิโปเห็นหมวกสําหรับ


ลูกหลวงแลวมีความยินดียิ่งนัก รูสึกสัมผัสไดกับความนัยอันเปนสื่อสัญญาณของหมวก ลูกหลวงวาเปนทางที่
บงบอกถึงวาสนาตัวในเบื้องหนา ทั้งมูลคาราคา ก็สูงล้าํ ทีท ่ งั้ ชีวิตตนยังไมเคยสัมผัส จึงเปนที่ตองอัธยาศัยเดิม
ดังนั้นใกลคา่ํ วันหนึ่งลิโปจึงลอบมาหาอองอุนถึงในจวน อองอุนนั้นหลังจากใหคนสนิทนําหมวกสําหรับ
ลูกหลวงไปมอบ แกลิโปแลวก็รอคอยทีอยู ครั้นรูว าลิโปมาหาจึงออกมาคํานับ แลวเชิญลิโปเขาไปสนทนาที่ใน
หองสวนตัว และชวนลิโปกินโตะใหเปน ทีส ่ ําราญ ณ หองรับรองนั้น ลิโปเห็นอองอุนแสดงอาการออนนอมและ
เอาใจตัวเกินฐานะนักก็เกรงใจ จึงวากับอองอุนวาทานมีเมตตาสงหมวกไปกํานัลขาพเจา ครั้งนี้มค ี ณ ุ แก
ขาพเจานัก ขาพเจาจะตองหาทางสนองคุณทานใหถึงขนาด วันนี้ขาพเจาจึงมาคารวะขอบคุณทานไวชน ั้ หนึ่ง
กอน แลววาขาพเจาเปนแตเพียงทหารของทานอัครมหาเสนาบดี เปนผูนอย ตัวทานเปนขุนนางผูใหญในพระ
เจาเหี้ยนเต หาควรที่จะกระทําการออน นอมตอขาพเจาถึงเพียงนี้ไม ขาพเจาตางหากทีต ่ อ
 งเปนฝายออนนอม
คารวะตอทาน วาแลวลิโปก็คํานับคารวะอองอุนอองอุนเห็นเชนนั้นจึงรีบคุกเขาลงคํานับเอาใจลิโป แลววา
ขาพเจา คารวะออนนอมตอทานหาใชดวยฐานะยศศักดิ์แตประการใด ตัวขาพเจาเปนคนใฝ พึงใจดวยคนมีฝมือ
กลาหาญ ขาพเจาไดทอดสาย ตาทั่วทั้งแผนดินนี้แลวไมเห็นใครใดจะมีฝมอ ื องอาจกลาหาญเสมอทานแมแต
คนเดียว เหตุนข ี้ าพเจาจึงนับถือตัวทานยิ่งนัก หวังเอาทาน เปนที่พึ่งของขาพเจาสืบไป วาแลวอองอุนก็รน ิ สุรา
คํานับลิโป แลวใช วิชาพิดทูลอันเลิศล้ําของขุนนางพูดจายกยอง สรรเสริญทั้งตั๋งโตะและลิโปจนผูกน้ําใจลิโป
เอาไวมั่น

ลิโปไดฟงคําสรรเสริญเยินยออันเพลินใจก็เบิกบานยิ่ง ดื่มสุรา จอกแลวจอกเลาอยางมีความสุข อองอุน


สังเกตเห็นลิโปดื่มสุราจนฮึกเหิมแลวจึงขับคนรับใชชายออกไปจากหอง คงไวแตคนรับใชหญิงสีค
่ น แลวให
เชิญเตียวเสี้ยนออกมาทําความรูจักกับลิโป

ณ ยามราตรีทามกลางแสงชวาลาในหองรับรองของขุนนางสี่แผนดิน เตียวเสีย ้ นปรากฏกายมาในชุดแพรสี


ชมพูบางเบาชวนวาบหวาม ลิโปเห็นเตียวเสีย ้ นโฉมสะคราญตรึงใจก็ตะลึงไปจนจอกสุราหลนลง จากมือ แลว
ระล่ําระลักถามอองอุนวาสตรีนเี้ ปนผูใด อองอุนเดินเขาไปหาเตียวเสีย ้ นจูงมือมาขางหนาลิโปแลววานีค
่ ือ เตียว
เสี้ยนบุตรีเรา และใหเตียวเสีย ้ นคํานับคารวะลิโปตามธรรมเนียม แลวสั่งใหเตียวเสี้ยนเอาปานสุรารินใหกับลิโป
ลิโปตั้งแตแรกเห็นเตียวเสี้ยนใจก็ประหวัดปฏิพัทธในเตียวเสีย ้ นอยางล้ําลึก ประดุจดั่งถูกพันธนาการไวดวย
พญานาคราช ครั้นเห็นเตียวเสี้ยนเขามาคํานับรินสุราใหกด ็ ีใจยิ่งนัก จองหนาเตียวเสี้ยนไมกะพริบตา เตียว
เสี้ยนก็ใชมารยาหญิงทําทีเปนเอียงอาย แลว แกลงชายตาไปสบตาลิโปเปนครั้งคราว หวานกลาเสนหาจนเต็ม
ผืนนาใจแหงลิโป ทุกครั้งทีต ่ าประสานตา ลิโปประหนึง่ ถูกศรกามเทพสะทานไปทั้งรางดวยพลังเสนหานั้น
อองอุนเห็นลิโปเดินกาวถลําลึกลงในหวงกลเสนหาแลว ก็แสรงทําเปนเมาแลววากับลิโปวา ตัวเรารับราชการมา
สี่แผนดินถึงทุกวันนี้ ไดความสุขเพราะบารมีแหงทานอัครมหาเสนาบดีและตัวทานคุมครอง แลววาตัวเราชรา
ลงทุกวันเหมือนไมอันใกลฝง จะลมลงวันใดหา รูไม การแผนดินทุกวันนี้ไมมีสิ่งใดหวงหาอาลัยดวยวางใจใน
ตัวทาน จะเปนเสาหลักอันสําคัญค้ํายันแผนดินใหเปนสุข หวงก็แตเตียวเสี้ยน ผูบุตรีที่ยงั ออนวัยนัก จึงหวังให
เตียวเสีย้ นไดเปนฝงฝากอนทีข ่ าพเจาจะลาโลกไป ขาพเจาพอใจในความกลาหาญและบุญบารมีของทานจัก
เปนที่พึ่งของลูกเราได ดังนั้นจะยกเตียวเสีย ้ นใหเปนภรรยานอยของทาน หากทานไมพึงใจก็อภัยใหแกคนชรา
ดวยเถิด

ลิโปกําลังถูกแรงปฏิพัทธครองใจและฮึกเหิมดวยแรงแหงสุรา จิตพิศวาสยิ่งหื่อโหม ฟงคําอองอุนเชนนั้นก็ดีใจ


จนลนลาน จึงรีบคุกเขาลงกับพื้นเอาศีรษะกมจรดพื้นแลววาชีวิตขาพเจาทีเ่ หลืออยูนี้ หากมีเตียวเสีย
้ นมาอยู
เปนคูบุญแลวก็จะไมปรารถนาสิ่งใดอีก แลว ถามอองอุนวาทานจะสงมอบเตียวเสีย ้ นใหแกขาพเจาไดเมื่อใด
อองอุนจึงวาทานเปนหลักชัยของแผนดิน ทําการสิ่งใดควรจะตอง ดวยฤกษชัยอันมงคล วันนี้ยังไมมฤ ี กษ
เชนนั้นจึงขอผัดไวใหถึงวันฤกษดีในอีกไมกี่วัน ขาพเจาจะไดแตงขบวนยกบุตรีไปสงแกทา น วาแลวอองอุนก็
ชวน ลิโปใหคางคืนที่จวนเพื่อสนทนากันสืบไป แตลิโปมภ ี ารกิจจึงขอลากลับ

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 105

อองอุนจึงออกมาสงลิโปถึงประตูจวน กาวสําคัญดานแรกเสร็จสิ้นไปแลว กาวตอไปจึงเปนทางดานตัง๋ โตะ


ดังนั้นในวันรุงขึ้นซึ่งเปนวันฮองเตออกวาราชการ ในเพลาสาย หลังอองอุนเสร็จจากเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต
แลว เห็นลิโปมิไดตามตั๋งโตะมาดวย เปนโอกาสเหมาะอยางยิ่ง อองอุนจึงเขาไปคุกเขาคํา นับเชิญใหตงั๋ โตะ
ไปกินโตะที่จวน ตั๋งโตะเห็นขุนนางผูใหญออนนอม เอากับตัวเชนนี้ก็ยินดีรบ
ั เอาคําเชิญนัน
้ แลววาเราจะไปกิน
โตะทีจ่ วน ทานในเที่ยงวันนี้ ใหทานรีบกลับไปกอน

อองอุนเห็นตั๋งโตะรับคําเชิญก็ดีใจรีบสั่งใหเตรียมจัดโตะไวทหี่ อง จัดเลี้ยงภายในจวน แลวสั่งใหคนในบาน


เตรียมตั้งแถวคอยตอนรับ ตั๋งโตะครั้นเวลาเที่ยงตั๋งโตะพรอมดวยขบวนแหหนาหลังไดเดินทางมา ถึงจวนของ
อองอุน ตัวอองอุนออกไปรอตอนรับถึงประตูจวน แลวเชิญตั๋งโตะเขาไปในจวน ผูค  นในบานตางคุกเขาคํานับ
แสดงคารวะตอตั๋งโตะอยางออนนอม ตั๋งโตะเขาไปในจวนแลว อองอุนก็คุกเขาคํานับแลววาทานอัครมหา
เสนาบดีมีเมตตารับคําเชิญมาถึงจวนขาพเจา ในวันนี้เปนคุณแกขาพเจายิง่ นัก วาแลวก็เอาสุราเขาไปคํานับ
แสดงคารวะตอตั๋งโตะ ตั๋งโตะรับสุรามาแลวจึงวาทานเปนขุนนางผูใหญสี่แผนดินอยาคุกเขาคํานับเลย จงนัง่ ให
เปนสุขเถิด อองอุนทําทีอิดเอื้อนอยูแลววา โบราณวา "ชางเหยียบนา พระยาเหยียบเมืองเปนสิริมงคลอัน
สูงสุด" ตัวทานอัครมหาเสนาบดีกรุณาแกขาพเจาทั้งนี้เปนพระคุณหาที่สด ุ มิได วาแลวก็กลาวคํายกยอง
สรรเสริญตั๋งโตะดวยประการตางๆ ดวยคารมแหงขุนนางสีแ ่ ผนดินเปนที่ตอ งใจของตั๋งโตะยิ่งนัก ตั๋งโตะเสพ
สุราพลางหัวเราะไปพลางเคลากับคํายกยองสรรเสริญพิดทูลจากออง อุนดวยความเพลิดเพลินเจริญจิตจน
ความมืดแหงราตรีเขามาเยือน

อองอุนจึงเชิญใหตั๋งโตะกินโตะตอแลวเชิญเขาไปที่หองรับรองสวน ตัวอันเปนที่รโหฐาน ตั๋งโตะเห็นเปนที่


ประหลาดใจจึงไลทหารที่ติดตาม มาใหกลับลงไปรอขางนอกจวน แลวตั๋งโตะก็เขาไปในหองรับรองนั้น
อองอุนเชิญใหตั๋งโตะนั่งบนเกาอี้ สวนตัวเองคุกเขาลงกับพื้นแลววา "เมื่ออายุขาพเจาไดยี่สิบหาปนั้น ขาพเจา
ไดเรียนดูดาวสําหรับพระมหากษัตริย แลดาวประจําเมืองกับดาวบริวารทั้งปวงนั้น บัดนี้ขาพเจาเห็นดาวสําหรับ
พระมหากษัตริยนั้นเศราหมอง แลดาวมหาอุปราชนั้นมีรัศมีรงุ เรือง ขาพเจาพิเคราะหดูนี้เห็นพระเจาเหี้ยนเตจะ
ดับสูญ ราชสมบัตินั้นจะไดแกทา นเปนมั่นคง"ตั๋งโตะไดฟงความอันตองดวยอัธยาศัยตนก็มีความยินดียิ่งนัก
แสรงถามขึ้นวาตัวเรานี้จะมีวาสนาถึงพระแทนมังกรทองกระนัน ้ หรือ เราเองรูส
 ึกตัววายังไมถงึ ดอก อองอุนจึงวา
อันธรรมดาแผนดินนั้น หากผูใ ดมีบุญญาบารมีแลวจึงจะครองได หากไรเสียซึ่งสิ่งนี้ก็ยอมพาย แพภย ั แกตนเอง
ขาพเจาวาทั้งนีห
้ าใชความคิดตนไม แตเปนไปตามคัมภีรโบราณอันไดศึกษามาแตกอน ตั๋งโตะไดยน ิ คําอองอุน
ยืนยันมั่นคงก็ยนิ ดีนักแลววาถาเราไดราชสมบัติดังคําทาน เราจะแตงตั้งใหทานเปนอัครมหาเสนาบดีเปน กํานัล
ปาก แลวเชิญใหอองอุนรีบลุกขึ้นมานั่งที่เกาอี้ อยาคุกเขาใหเปนที่ลําบากเลย

อองอุนเห็นตั๋งโตะเดินเขาสูท
 างกล ทั้งสังเกตเห็นตั๋งโตะกําลังฮึกเหิม และเบิกบานใจในวาสนาเปนทีแลว จึง
สั่งใหพนักงานมโหรีทําเพลง ขับกลอมตั๋งโตะและใหคณะนาฏศิลปประจําจวนออกมารายรําบํารุงใจ ตั๋งโตะ
คณะนาฏศิลปประจําจวนออกมารายรําอยูค  รูห
 นึ่ง เตียวเสีย
้ นซึ่ง เปนนาฏศิลปเอกในชุดแพรเขียวบางเบาเยา
ยวนตาจึงรํารายกรายออก มากลางเวทีที่หนาตั๋งโตะนั้น ตั๋งโตะเห็นคณะนาฏศิลปในตอนแรกลวนโฉมสะคราญ
ก็เบิกบาน ใจเปนที่ยิ่ง ดืม ่ สุราจอกแลวจอกเลา แตครั้นดรุณีในชุดสีเขียวตองออนกรายแขนรํารายออกมาก็
ตะลึงงันในความสะคราญของเตียวเสีย ้ น สายตาจับจองมองเตียวเสีย ้ นไมกะพริบ รําพึงขึ้นในใจวาสตรีนี้เปน
ผูใดหนอจึงเลอโฉมสะคราญนัก ทั้งเชิงรํารายกรายทาก็งดงามเกินนางรําในวังหลวง ตัวเรานี้ไดสรรหาสตรีงาม
จากทุกสารทิศไวในวังใหมถึงแปดรอยนางลวนโฉมสะคราญ แตหากจะเทียบกับดรุณีนอย นางนี้แลวก็เปนได
เพียงแคฝูงกาเทียบกับพญาหงสเทานั้น

ครั้นจบกระบวนรําแลว อองอุนจึงเรียกเตียวเสีย ้ นใหเขามารินสุรา แกตั๋งโตะ ตั๋งโตะซึ่งกําลังจองมองเตียวเสี้ยน


ตาคางอยูก็ไดสติรีบถาม อองอุนวาสตรีนี้เปนใคร อองอุนจึงวานี่คือเตียวเสี้ยน เปนบุตรบุญธรรมของขาพเจา
เลี้ยงมาแตนอย ตั๋งโตะถามตอไปวาสามารถขับรองเพลงไดหรือไม อองอุนวาไดแลวใหเตียวเสี้ยนขับรองทาม
กลางเสียงมโหรีทห ี่ วานแวว สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาเตียวเสี้ยนขับรองเพลงเปนนัยวา "หญิง
รูปงามขับเสียงเพราะ ลิ้นจีแ ่ ตมริมฝปากชูสข ี ึ้นแลหยกสองอันถึงมาตรวาไมแกะเปนรูปสิ่งใดก็แอบเนื้อเย็นใจ
พริกไทย นั้นเมล็ดเล็กก็จริง ถาลิ้มเขาไปถึงลิ้นแลวก็จะมีพษ ิ เผ็ดรอน" ทรราชเฒาที่กองทัพสามแสนทําลาย
ไมได กําลังถูกกลสตรีกลอม มัดดวยอานุภาพพลังเสนหาดังนี้

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 106

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

กลเสนหาลางปญญากุนซือ (ตอนที่ 47)

ตั๋งโตะยามนี้ไมสนใจสิ่งใดอื่นจองอยูแตกับเตียวเสีย
้ นไมวางตา แลวถามเตียวเสีย ้ นวาเจานี้อายุเทาใด เตียว
เสี้ยนทําคอนอายคํานับแลวตอบวาตัวขาพเจานี้เพิ่งอายุไดสบ ิ หกป แลวบิดกายทําทีเอียงอายอยางเยายวน ตั๋ง
โตะยิ่งมีใจปฏิพัทธประดุจดั่งโคแกเห็นหญาออน แลววาเจานี้โฉมสะคราญนัก กระบวนรองก็หวานล้ํา กระบวน
รําก็ออนชอย ตรึงตาตรึงใจคนยิ่งนัก อองอุนเห็นเปนทีจึงคุกเขาลงคํานับตั๋งโตะ แลววาทุกวันนี้ขาพเจา ทํา
ราชการเปนสุขอยูดวยบารมีของทาน ไมมีสงิ่ ใดทีจ ่ ะแทนคุณทาน ไดจึงขอยกเตียวเสีย ้ นผูบุตรีใหเปนภรรยา
ทาน

ตั๋งโตะไดยินเชนนั้นก็ยินดียิ่งนัก แลววาในบรรดาขุนนางทั้งปวง นี้หามีใครรักภักดีเราเหมือนทานไม เราจะแทน


คุณทานจนถึงขนาด อองอุนไดยินเชนนั้นจึงสั่งใหเตรียมเกี้ยวจัดขบวนและสงเตียวเสีย ้ น ใหกับตั๋งโตะแตราตรี
นั้น ตั๋งโตะเห็นเชนนั้นก็ดีใจนัก สั่งทหารใหนําขบวนเตียวเสี้ยนกลับไปยังจวน แลวตั๋งโตะก็ลาอองอุนกลับไป
ออง อุนตามไปสงตั๋งโตะถึงที่จวน

ขณะอองอุนเดินทางกลับ ในระหวางทางพบลิโปขี่มาถือทวนเขามาแลว ถามวาทานยกเตียวเสีย ้ นใหเปน


ภรรยาขาพเจาแลว เหตุใดจึงสงใหกับตั๋งโตะเลา เชนนี้จะมิเปนการลวงขาพเจาดอกหรือ อองอุนเห็นดังนั้นจึง
วาที่นี่เปนกลางทาง ไมสมควรที่จะกลาวเรื่องนี้ ขอเชิญทานตามไปทีจ ่ วนขาพเจาเถิด ลิโปก็ตามไป อองอุนจึง
เชิญ ลิโปขึ้นไปยังหองหนังสือแลวกลาวกับลิโปตามแผนการซึ่งคิดไวนั้นวา เมื่อวานนี้ไปเขาเฝาพระเจาเหี้ยน
เต ตั๋งโตะไดเขามาแสดงความยินดี วาทราบขาวการยกเตียวเสีย ้ นใหเปนภรรยาลิโป จึงมีความประสงคจะมา
พูดจาสูขอใหถก ู ตองตามธรรมเนียมเพื่อเปนเกียรติยศสืบไป ดังนั้นอองอุนจึงมาเตรียมการตอนรับตั๋งโตะอยูที่
บาน อองอุนเลาความใหลิโปฟงตอไปวาเมือ ่ ตั๋งโตะมาถึงบานแลวก็ใหเตียวเสี้ยนออกไปคํานับ ตั๋งโตะวามี
ความยินดีดว ยลิโปและวันนี้เปนฤกษดีแลว จะขอรับเตียวเสี้ยนไปแตงงานกับลิโปตามประเพณี แลววา "ซึ่ง
มหาอุปราชวาทั้งนี้ทา นคิดดูเถิด เราเปนผูนอ
 ยจะอาจขัดไดหรือ เราจึงสงบุตรใหไป" ลิโปฟงอองอุนแลวเชื่อวา
เปนความจริง ขออภัยอองอุนแลวลา กลับบาน รอฟงขาววาตั๋งโตะจะสงเตียวเสีย ้ นมาใหตามธรรมเนียม รออยู
จนดึกก็ไมมีความเคลื่อนไหวใดๆ รุงเชาขึ้นลิโปเขาไปในจวนของ ตั๋งโตะตามปกติ ถามผูคนในจวนวาตั๋งโตะ
อยูที่ไหน ผูค นในจวนจึง เลาความใหลิโปฟง วาเมื่อคืนนี้ตั๋งโตะไดหญิงงามมาคนหนึ่ง จนเวลานี้ยังไมตน ื่ ลิโป
ไดฟงก็โกรธ จึงเขาไปในที่พก ั ของตั๋งโตะ เห็นเตียวเสี้ยนตืน ่ แลวกําลังลางหนาอยู เตียวเสี้ยนเห็นลิโปก็ทํา
เปนรองไห เอาผาเช็ดน้ําตาเปนทีวาถูกขมขืนบังคับใจ ลิโปเห็นเชนนั้นก็มีใจโกรธตั๋งโตะแลวรีบเดินออกไป ที่
หองนอกพบเขากับตั๋งโตะซึ่งเพิ่งตื่นนอน ตั๋งโตะถามวามีราชการสิ่งใด ลิโปตอบดวยความไมพอใจวาไมมี
ราชการสิ่งใด

ในขณะนั้นเตียวเสี้ยนเดินตามออกมาที่ประตูเผยมูล  ี่ดูเห็นลิโป อยูกับตั๋งโตะก็ใชมารยาหญิงสบตาใหลิโปดวยสี


หนาทาทางอันโศกสลด ลิโปไมรูกลสตรีกส ็ งสาร และมีความรักเตียวเสี้ยนเพิ่มขึ้นเปนอันมาก ตั๋งโตะเหลือบ
ไปเห็นลิโปจองเตียวเสีย ้ นอยู ความหึงหวงก็เกิดขึ้น จึงวากับลิโปวาวันนี้ไมมีราชการสิ่งใดเจากลับไปเถิด
ตั้งแตนั้นมาตั๋งโตะก็ระแวงหึงหวงลิโป ในขณะที่ลิโปก็โกรธแคนชิงชังตั๋งโตะขึ้น เปนลําดับ

หลังจากไดเตียวเสี้ยนมาแลว ตั๋งโตะลุมหลงในกลเสนหาจนไม เปนใจปฏิบัติหนาทีร่ าชการตามปกติ จนวัน


หนึ่งตั๋งโตะปวย เตียวเสี้ยนก็แสรงพยายามเอาอกเอาใจรักษาพยาบาลอยางใกลชด ิ ทําใหตั๋งโตะยิ่งเพิ่มความ
รัก ความหลงตอเตียวเสี้ยนมากขึ้น วันหนึ่งลิโปเขาไปหาตั๋งโตะถึงในที่ ตั๋งโตะหลับอยู เตียวเสีย ้ นเห็นลิโปจึง
เอามือชี้ไปที่ตงั๋ โตะและกลับมาชี้เขาที่อกตัวแลวรองไห ลิโปเห็นกิรย
ิ าเตียวเสี้ยนเชนนั้นก็ยิ่งสงสารและเพิ่ม
ความเสนหาอาลัยมากยิ่งขึ้น ขณะนั้นตั๋งโตะตื่นขึ้น เห็นลิโปเขามาและจองไปที่ดานหลังมุงไมกะพริบตา หัน
กลับไปเห็นเตียวเสี้ยนยืนอยูก็โกรธ ตวาดวา "อายลิโปนี้เสียแรงกูไวใจรักดังบุตรในอุทร บังอาจหยอกเมียกู
ได" แลวขับไลลิโปออกไปและหามไมใหลิโปเขามาพบอีก

ลิโปไดความอัปยศนักจึงรีบกลับไป สวนเขากับลิยู ลิยจ


ู ึงถามวาเกิดเหตุใดขึ้น ลิโปจึงเลาความที่ตั๋งโตะไลนั้น
ใหลิยทู ราบ ลิยูทราบ แลวก็ตกใจรีบเขาไปหาตั๋งโตะแลววาทานจะคิดการใหญ จะมาผิดใจกับลิโปนั้นไมควร
การใหญจะเสียไป ตั๋งโตะฟงแลวก็สะดุงถามลิยู วาจะแกไขประการใด ลิยูเสนอวาใหเรียกลิโปมาทําความ
เขาใจ แลว มอบขาวของมีคาเปนการทําขวัญลิโป ตั๋งโตะก็เห็นดวยและทําตามคําแนะนําของลิยู หลังจากนั้น
แลวตั๋งโตะกับลิโปก็มีความเปนปกติดังแตกอน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 107

แตกระนั้นจิตใจพิศวาสทีผ ่ ูกพันอยูหาไดสรางไปไม วันหนึ่งลิโป ตามตั๋งโตะเขาไปในพระราชวัง ในระหวาง


ที่ตั๋งโตะเขาเฝาอยูนั้น ลิโป จึงขับมามาที่บานของตั๋งโตะ ผูกมาไวหนาบานแลวเขาไปหาเตียวเสีย
้ น ถึงขางใน
เตียวเสีย ้ นจึงใชอุบายหญิงบอกลิโปวาใหลงไปคอยทีใ่ นสวนจะลงตามไป เพราะหากอยูที่ขางในนีจ้ ะเปนที่
ครหา ลิโปจึงลงไปคอยในสวน เตียวเสีย ้ นก็ตามไปแลวจดจองมองตนทางที่ตั๋งโตะ จะกลับมานั้นแลวจึงวากับ
ลิโปวา อองอุนยกขาพเจาใหเปนภรรยาทาน แตตั๋งโตะกลับชิงเอา แลวมาทําขมเหง ในอกจึงหมองอยู ถึง
เดือนเศษแลวคิดจะฆาตัวตายแตยังไมไดลา่ํ ลาลิโป บัดนีพ ้ บหนาลิโปแลว จะขอลาตาย วาแลวก็ขึ้นไปบนรั้ว
จะกระโดดน้ําตาย ลิโปเห็นก็ตกใจ จึงรีบวิ่งเขาไปอุมเตียวเสี้ยนลงจากรั้ว แลวรองไหวา ไดประจักษความ รัก
ของเตียวเสี้ยนอยู หากกีดขวางดวยตั๋งโตะเตียวเสีย ้ นก็กลาวดวยมารยาหญิงอีกวา เกิดมาชาตินท ี้ รมานนัก
ไมไดอยูรับใชลิโปตามธรรมเนียม จะขอตายใหพนความเวทนา หากชาติหนามีจริงจะขอเปนภรรยาปรนนิบัติรับ
ใชลิโป

ลิโปฟงเชนนั้นน้ําใจรักเจือหลงก็เดือดขึ้นถึงที่สด
ุ กลาวกับเตียวเสี้ยนวาชาตินถ ี้ าไมไดเตียวเสีย
้ นมาครองจะ
ไมขออยูเปนลูกผูชายใหอายฟาดินอีกตอไป เตียวเสีย ้ นจึงวาวันเวลาในความทุกขทรมานวันหนึ่งเทากับปหนึ่ง
บัดนี้ ตองทุกขทรมานมาเดือนเศษแลว จะคิดอานประการใดก็เรงคิดเถิด ลิโปก็รับคําแลววาออกมานานแลวตั๋ง
โตะจะสงสัย จะรีบกลับเขาไปในวังกอน เตียวเสีย ้ นเห็นเชนนั้นจึงสําทับวาหากลิโปกลัวตั๋งโตะก็จะไมไดเห็น
หนากันสืบไป ลิโปวาขอเวลาไปวางแผนตรึกตรองสักครัง้ หนึ่งกอน เตียวเสีย ้ นจึงใชอุบายหญิงปรามาสวา
"ขาพเจาไดยินลือชาปรากฏแตชื่อทานดังเสียงฟา ขาพเจาเอามือปดหูไวดวยกลัวอํานาจวาเขมแข็งกลาหาญ
ในการสงครามหาผูใ ดเสมอมิได บัดนี้ขาพเจาไดเห็นแลฟงวาจาของทานนัน ้ ไมสมกับคําลือ เมื่อพิเคราะห ดู
เห็นวาทานกลัวอํานาจตั๋งโตะเปนอันมากอยู ฉะนี้ เห็นจะคิดการไปมิตลอดเสียแลว" วาแลวก็ทํารองไหเอามือ
ปลดเอามือลิโปออกจากตัวแลวจะกระโดด น้ําตาย ลิโปครัน ้ ถูกคนที่ตัวรักหลงกลาวปรามาสเชนนี้เลือดทระนง
ในกายก็พุงพลาน วางทวนไวกับรั้วแลวปลอบเตียวเสีย ้ นอยูต  อไป

ฝายตั๋งโตะเมื่อเฝาอยูเหลียวมาไมเห็นลิโปก็กริ่งใจ ครั้นเสด็จขึ้น แลวจึงรีบกลับบาน เห็นมาลิโปผูกอยูห  นา


บานก็โกรธ รีบขึ้นไปบนจวนก็ไมเห็นลิโปและไมเห็นทั้งเตียวเสี้ยน ถามหญิงรับใชไดความวา อยูในสวนก็ยิ่ง
สะดุงใจคิดวาลิโปคงอยูดวย เตียวเสีย ้ นเปนแน จึงรีบตามลงไปที่สวน เตียวเสี้ยนเห็นตั๋งโตะก็แกลงจะกระโดด
น้ําตาย ลิโปก็เขาอุมไวอีก ตั๋งโตะมาเห็นเตียวเสี้ยนกําลังดิ้นอยูในมือของลิโปมิไดรูมารยาหญิงก็โกรธลิโปเปน
อันมาก ตวาดดาลิโปเสียงอันดังลั่น ลิโปไดยินเสียงตั๋งโตะก็รีบวางเตียวเสีย ้ นลงแลววิ่งหนี ตั๋งโตะหยิบเอา
ทวนของ ลิโปที่พิงไวขางรั้วซัดไปที่ลิโปแตไมถูก ลิโปวิ่งหนีออกไปได ตั๋งโตะวิ่งไปหยิบทวนแลวไลตามลิโป
ไป สวนกับลิยช ู นกันจนลมลงทั้งคู ลิยูจึงเขาประคองตั๋งโตะแลวพาขึ้นไปบนจวน แลวลิยูจึงวาขาพเจามาที่
จวนพบลิโปกําลังวิ่งออกไปบอกวาทานกําลังไลตามฆาจึงวิง่ เขามาเพื่อจะหามก็พอดีชนกันขึ้นแลว ลิยจ ู ึงยก
ประวัตศ ิ าสตรสมัยเลียดกก เมื่อครั้งฌอชองอองพระราชทานลูกสาวเจาเมืองหนึ่งแกทหารเอก ทําใหทหารเอก
ผูนั้นมีใจภักดีตอ
 ฌอชองออง ครั้นเกิดสงครามฌอชองอองก็ไดทหารเอกผูนี้ตอสูท  าํ ลายขาศึกจนแตกไป
ดังนั้นจึงเสนอใหตั๋งโตะถือเอา แบบอยางของฌอชองอองยกเตียวเสีย ้ นใหกับลิโปเสีย เพื่อผูกใจ ลิโปไว
สืบไป

ตั๋งโตะฟงคําลิยูแลวใจหนึ่งก็เห็นดวย แตอีกใจหนึ่งก็เต็มไปดวย ความพิศวาสลุมหลงเตียวเสีย ้ น ลังเล


ตัดสินใจทางใดทางหนึ่งไมได จึงขอลิยูวาไวไตรตรองคืนหนึ่งกอน แลวจะตัดสินใจในวันพรุง ในขณะที่ลิยู
กลาวกับตั๋งโตะอยูนั้น เตียวเสี้ยนไดยินความโดยตลอด ครั้นลิยูกลับไปแลวจึงเขาไปกอดเอาเทาตั๋งโตะไว
แลวรองไห และวาวันนีล ้ ิโปทําหยาบชาใหเปนที่อัปยศ เปนความอัปยศทัง้ ตัวเอง และเปนความอัปยศตออัคร
มหาเสนาบดี ตัง๋ โตะจึงปลอบใจวาตัวเราชราแลว ลิโปยังหนุมองอาจกลาหาญ และมีน้ําใจรักเตียวเสี้ยนเปนอัน
มาก ดังนั้นจะยกเตียวเสีย ้ นใหกับ ลิโปเพื่อไดครองรักกันสืบไป เตียวเสีย ้ นไดยินก็ทาํ เปนตกใจแลววา บัดนี้
เมื่อเปนภรรยาของ ตั๋งโตะแลวก็ยอมมีฐานะเปนมารดาของลิโปดวย การทีจ ่ ะยกแมใหเปนเมียลูกเปนการเสื่อม
เสียเกียรติยศและผิดธรรมเนียม "อุปมาเหมือนทานเขียนรูปนกยูง แลวเอาหมึกมาทาเสีย ใหดาํ เสียสีไปฉะนี้
ขาพเจาไดความอัปยศนัก ซึง่ จะครองชีวิตอยูดูหนาคนสืบไปนั้นไมได" วาแลวก็ทําเปนลุกขึ้นควาเอากระบี่ที่
แขวนอยูขางผนัง ชักกระบี่ออกจะเชือดคอตาย ตั๋งโตะเห็นก็ตกใจวิ่งเขาไปชิงเอากระบี่เสีย แลววาที่พูดมานั้น
เปนการพูดเลนเพื่อเปนการลองใจวาเตียวเสีย ้ นนั้น จะมีน้ําใจใฝดวยลิโปหรือไม บัดนี้ประจักษน้ําใจรักภักดี
แลว เตียวเสีย ้ นเห็นเปนทีจึงกราบเอาที่ตักตัง๋ โตะซบหนาลงแลวรองไหแลววา เหตุ เชนนี้เกิดจากลิยูไมรัก
ภักดีทา นและตัวขาพเจา จึงคิดการใหผิดธรรมเนียม ใหยกขาพเจาแกลิโปเปนการทําลายเกียรติยศทานและ
ขาพเจา

ตั๋งโตะไดฟงคําเตียวเสีย
้ นชอบดวยเหตุและผล ทั้งไดเห็นถึงน้ํา ใจรักภักดีและน้ําใจตัวนั้นก็ปฏิพัทธพิศวาสใน
เตียวเสีย้ นเปนลนพน จึงกลาววาจะไมเชื่อฟงคําลิยูอีกตอไป เตียวเสีย
้ นเห็นเปนทีจึงสําทับซ้ําวาถาขืนอยูที่นี่
สืบไป ลิยูก็คงมากลาวชักนําทานอีก วันใดน้าํ ใจทานคลอยตามขาพเจาก็จะเปนอันตราย ที่นี่จึงเปนทีท ่ ี่ขา พเจา

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 108

หาความสุขไมไดอีกตอไป ขอใหไปอยูที่เมืองหลวงแหงทีส
่ องจึงจะพนภัย ตั๋งโตะก็รับคําแลววาในวันพรุงนี้จะ
พาเตียวเสีย
้ นไปอยูเมืองหลวงแหงทีส
่ อง

ครั้นรุงขึ้นลิยูจึงเขามาหาตั๋งโตะแลวถามวาตกลงใจประการใด ถาเห็นชอบดวยแลววันนี้เปนฤกษดีใหรีบยก
เตียวเสีย ้ นแกลโิ ปเถิด ตั๋งโตะจึงแกวาความคิดนี้ผด ิ ธรรมเนียม การยกแมใหเปนเมียลูกนัน ้ ทําไมได ที่ลโิ ปทํา
หยาบชาตอเตียวเสีย ้ นตัวเองไดรับความอัปยศนัก แตไมเอาโทษแลวใหไปบอกลิโปวาอยามายุงเรื่องนี้อีก ลิยู
จึงวาทานไมฟงคําขาพเจาในครั้งนี้ การทีค ่ ด ิ ไวจะเสียไปเพราะหญิงคนนีเ้ ปนมั่นคง ตั๋งโตะไดฟงลิยูเซาซี้ก็
โกรธนักจึงวา "ซึ่งทานจะขืนใหเราเอาภรรยายกใหแกลิโปนั้นเราไมฟงคําทานแลว ถาทานมีใจรักลิโปอยูจง
เอาภรรยาทานมายกใหแกลิโปเองเถิด แตนส ี้ ืบไปอยาใหผใู ดเอาเนื้อความขอนี้มาซ้ําวาฉะนี้อีก ถาผูใ ดมิฟงเรา
จะตัดศีรษะเสีย" ลิยูไดฟงเชนนั้นก็รีบลาออกมาแลววากับทหารทั้งปวงซึ่งมารอคอยตั๋งโตะอยูวา "เราทานทั้งนี้
จะพากันฉิบหาย เพราะอีเตียวเสี้ยนคนนี้เปนมั่นคง" วาแลวลิยูก็กลับไปบาน

อานุภาพแหงพลังเสนหาอันเกิดแตมายาหญิงครั้งนี้ไดทําใหตั๋งโตะไมเชื่อถือเชื่อฟงคําของลิยูทป
ี่ รึกษาอีก
ตอไป โดยลืมไป สิ้นวาอํานาจวาสนาที่มีขึ้นไดในวันนี้ลว นเกิดแตสติปญ
 ญาความคิดของลิยู

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ลางรายยามใกลฆาต (ตอนที่ 48)

ครั้นรุงขึ้นตั๋งโตะจึงพาเตียวเสีย้ นออกจากจวนเพื่อเดินทางไป เมืองหลวงแหงทีส ่ อง มีขบวนแหแหนเหมือน


ขบวนเสด็จ บรรดาขุนนางขาราชการตั้งขบวนแถวสงตั๋งโตะที่หนาประตูจวน และรวมขบวนไปสงถึงประตูพระ
นครเตียวเสีย ้ นนั่งอยูในรถประทุนเปดมานเห็นลิโปก็แสรงสบตาทํา กิรย ิ าเศราสลดและกมหนาลงรองไห ลิโป
ยืนจองดูรูสึกสงสารและอาลัยนัก ลืมตัวอยูเ ชนนั้นจนขบวนเคลื่อนไปจนลับตา อองอุนซึ่งออกไปสงตั๋งโตะ
พรอมกับขุนนางอื่นๆ เห็นลิโปมิไดตามขบวนไปดวยจึงเขาไปทักลิโปแลววา เราไมสบายเสียหลายวัน วันนี้ได
ขาวทานอัครมหาเสนาบดีจะเดินทางไปเมืองหลวงแหงทีส ่ องจึงออกมาสง เห็นสีหนาทานเศราหมองนัก มี
ทุกขสิ่งใดฤา ลิโปจึงวาทุกขของขาพเจาเหมือนฝกลัดหนองอยูในอก ก็มีแตเรื่องเตียวเสีย ้ น บุตรีทานเทานัน ้
อองอุนจึงแสรงถามวาทานอัครมหาเสนาบดียังไมไดจัดการใหทานไดอยูกินกับเตียวเสีย ้ นอีกหรือ ลิโปจึงวา
กระไรได มันเอาเตียวเสีย ้ นทําเมียเสียเองแลว อองอุนจึงวาจะเปนไปไดอยางไรกัน เปนถึงขุนนางผูใ หญและ
เปนทั้งบิดาทาน จะคิดชิงเอาภรรยาบุตรไวเปนภรรยาตนเชนนี้ ลิโปจงึ เลาความที่เกิดขึ้นใหอองอุนฟงทุก
ประการ อองอุนทําเปนตกใจแลววาเรื่องนี้เปนเรื่องใหญ ขอเชิญทานไปปรึกษากันที่จวนขาพเจาเถิด แลว
อองอุนก็พาลิโปไปที่จวนชวนขึ้นไปที่หองหนังสือ แลวอองอุนจึงวา ตั๋งโตะทําหยาบชากับเตียวเสีย ้ นเชนนี้ไม
เกรงใจเราซึ่งเปนขุนนางผูใหญสี่แผนดิน เราไดความอัปยศนัก แตตัวเรานั้นชราแลวจะแคนเคืองอยางไรก็คง
ทําอะไรกับตั๋งโตะไมได เปนหวงก็แตทาน ซึ่งเราก็ถือวาเปนบุตรเขยยอมอัปยศอดสูยิ่งกวาเรานัก เพราะภรรยา
ตัวถูกคนอื่นแยงไปครอง ผูคนทั้งแผนดินยอมดูหมิ่นเหยียดหยาม เกียรติยศศักดิ์ศรีของทานยอมยอยยับสิน ้ ใน
ครั้งนี้ และยุสงตอไปวาตัวทานเปนชายชาติอาชาไนย ฝมือเกรียงไกรกลาหาญเปนที่ยําเกรงของผูคนทั้ง
แผนดิน ควรแกตําแหนงแมทพ ั ใหญของบานเมือง แตเมื่อสิ้นเกียรติยศตองอดสูฉะนี้แลว ขาพเจาจึงเสียดาย
ยิ่งนัก

ลิโปไดฟงคํายุของอองอุนก็เห็นจริงยิ่งฟงเพลิงแคนในใจก็ยิ่งคุโชน สิ้นคําอองอุนแลวลิโปโกรธแคนถึงขีดสุด
เอามือตบโตะดัง "ผาง" แลววาไอศัตรูเฒาทําเราอัปยศนัก ขาพเจาจักฆามันใหจงได อองอุนไดฟงก็คด ิ วาลิโป
นี้เอาใจออกหางตั๋งโตะเปนแนแลว จึงแสรงเอามือปดปากลิโปแลววาทานอยาพูดเสียงดังไป หากมีใครไดยิน
ความแพรงพรายไปเราจะพากันตายสิ้น ลิโปจึงวาขาพเจาเกิดมาชาตินี้ไมเกรงกลัวสิ่งใด จะเกรงไปไยกับตัง๋
โตะ อองอุนเห็นเปนทีจึงพูดแตเบาๆ พอไดยน ิ วา ตัวทานมีฝม  ือกลาหาญกวาใครในแผนดิน รับราชการดวยตั๋ง
โตะมีความชอบเปนอันมาก แตหาไดมต ี ําแหนงแหลงที่เปนขุนนางไม ไฉนจึงไมยอมเปนขาในพระเจาเหี้ยนเต
ทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุข จะมิดีกวาเปนขาทรราชทีแ ่ ยงเมียตัวไปดอกหรือ ลิโปจึงวาขาพเจาคิดแคนใครจะ
ฆาตั๋งโตะเสียเดือนเศษแลว แตลังเลดวยเคยเรียกวาเปนพอ เกรงผูคนจะครหาได อองอุนจึงวาตัวทานนี้แซลิ
ตั๋งโตะนั้นแซตงั๋ จะนับถือเปนบิดาไดอยางไรกัน อีกประการหนึ่งเลาตั๋งโตะหรือจะคิดวาทานเปนบุตร ครั้งที่เอา
ทวนไลแทง และซัดทวนใสทา นก็ดี แยงภรรยาทานก็ดี หาใชวส ิ ัยบิดาที่จะกระทําตอบุตรไม จะเกรงคนครหา
ไปไยกัน

ลิโปไดยินเชนนั้นก็หลงตามคําอองอุน คิดเห็นเปนการชอบดวยเหตุและผลทีต ่ นคิดไมถึงแลววาถาเชนนั้น


ขาพเจาจะฆาตัง๋ โตะเสียใหจงได อองอุนเห็นเปนทีจึงวาแผนดินทุกวันนี้ใครๆ ก็รวู าตั๋งโตะเปนศัตรูราชสมบัติ
กอกรรมทําเข็ญกับบานเมืองแลราษฎร ทั่วทั้งสิบทิศมีแตคนสาปแชง อยากกินเลือดกินเนื้อตั๋งโตะเสียทั้งสิ้น

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 109

ทานจงหันมาทําคุณแกแผนดินถวายความภักดีตอฮองเต ทานจะมีความชอบใหญหลวง จะเปนถึงขุนนาง


ผูใหญทผ
ี่ ค
ู นทัง้ แผนดินเลื่อมใสบูชา ดีกวาเปนขาทรราชอยูเชนนี้

ลิโปฟงอองอุนเห็นทั้งทางไดเตียวเสีย
้ นมาครอง เห็นทั้งเกียรติยศที่จะปรากฏไปในแผนดิน และเห็นทั้งอํานาจ
วาสนาในเบื้องหนา หนทางสวางไสวจึงดีใจนัก คุกเขาลงคํานับอองอุนแลววา ทานชีแ ้ นะครั้งนี้เปนคุณแก
ขาพเจานัก ขาพเจาจะทําตามคําทาน อองอุนจึงวาการนี้เปนการใหญหากทําการไมตลอดจะพากันตายสิ้น ลิ
โปจึงชักกระบี่กรีดเขาทีแ
่ ขนเอาโลหิตผสมลงในจอกสุราแลว สาบานวา ถาหากขาพเจาไมฆาตั๋งโตะเหมือนคํา
วา ขอใหตายดวยคมอาวุธ แลวดื่มสุรานั้นจนหมดจอก อองอุนเห็นเชนนั้นจึงคุกเขาลงตอหนาลิโปแลววา การ
ตัดสินใจทั้งนี้ของทานเปนคุณป ู การตอแผนดิน พระเจาเหี้ยนเตและพระราชวงศฮั่นจะปลอดภัยก็เพราะทาน
บานเมืองแลราษฎรจะเปนสุขก็เพราะทาน จงเตรียมใจไวใหมั่นคงเถิด ถึงวันพรอมเมื่อใดเราจะบอก ใหทาน
ทราบ แลวลิโปก็ลากลับไป

รุงขึ้นอองอุนจึงเชิญซุนซุยกับอุยอวนเพื่อนขุนนางทีส ่ นิทและเคยปรึกษาหารือเรื่องนี้มาแตกอนเขามาปรึกษา
เลาความใหฟงทุกประการ ขุนนางทั้งสองยินดีนัก จึงปรึกษาแผนการสังหารตั๋งโตะ โดยจะแอบอางเปนรับสั่ง
ของพระเจาเหีย ้ นเตใหหาตั๋งโตะเขา เมืองหลวง เพื่อจะมอบราชสมบัตใิ หตามความเห็นของบรรดาขุนนาง
เนื่องจากพระเจาเหี้ยนเตทรงประชวร ไมสามารถวาราชการไดอีกตอ ไป เมื่อตั๋งโตะเขามาในพระราชวังแลวจึง
สังหารเสีย ครัน ้ เห็นชอบพรอมกันแลว อองอุนจึงเรียกลิโปมาบอกแผนการที่ปรึกษากันนัน ้ ลิโปก็ยินดี แลว
ปรึกษากันวาจะใหลิซกอดีตรองแมทัพที่ไปกับฮัวหยงทําศึกกับกองทัพปฏิวต ั ิในครั้งนั้นเปนผูไปลวงตั๋งโตะ
เพราะลิซกไมพอใจ ตั๋งโตะอยูเ นื่องจากทําราชการมีความชอบเปนอันมาก แตตั๋งโตะมิไดพิดทูลเลื่อนตําแหนง
ให และถาหากลิซกไปดวยตนเอง ตั๋งโตะคงไมระแวงสงสัยเนื่องจากเคยไวใจมาแตกอน ลิโปจึงใหคนไปเชิญ
ลิซกมาแลวเลาความทั้งปวงใหฟงแลววา ครัง้ กอนตัวทานไปเกลี้ยกลอมเราใหสังหารเตงหงวนเสียแลวมาอยู
กับตั๋งโตะ บัดนี้ตั๋งโตะเปนศัตรูแผนดิน เราจึงคิดกําจัดเสีย หากทานไมไปทําการตามแผนการนี้เราก็จะสังหาร
ทาน ลิซกจึงวาขาพเจามีความแคนคิดจะสังหารตั๋งโตะแตหามีผูใดรวมคิดไม บัดนี้เมื่อ มีอองอุนและทานเปน
หลักขาพเจาจึงพรอมใจอาสาไปลวงตั๋งโตะเขาเมืองหลวงจงได

รุงขึ้นอองอุนก็แตงหนังสือรับสั่งเรียกตั๋งโตะกลับพระนคร เพื่อ มอบราชสมบัตใิ หตั๋งโตะเปนกษัตริยแ  ลวใหลิ


ซกถือไปมอบใหแกตั๋งโตะ ณ เมืองหลวงแหงทีส ่ อง ตั๋งโตะทราบความแลวยินดียิ่งนัก แตเพื่อใหแนใจจึง
แกลงถามลิซกวาใครเปนตนคิดกราบทูลฮองเตใหมอบราชสมบัติแกเรา ลิซกบอกวาอองอุนเปนผูเสนอ ตัง๋ โตะ
เห็นเปนพอตาตัวก็วางใจแลวเลาความฝนใหลิซกฟงวา เมือ ่ คืนกอนเราฝนวามีมังกรตัวหนึง่ มาเกี้ยวกระหวัดอยู
รอบกาย วันนีม ้ ีขาวดีมาถึงนับเปนศุภนิมิต เราจําจะยกไปเมืองหลวงความฝนของตั๋งโตะนี้เปนความฝนแตโดย
จิตนิวรณคือมีความคิดตองการราชบัลลังกกรุนอยูในอกทุกค่ําเชา พอหลับก็ฝนไปหาความหมายอันใดมิได แต
กรณีเดียวกันนีห ้ ากฝนในเพลายามสาม ยอมถือวาเปนการฝนแตโดยบุรพนิมิตซึ่งบุญบารมีที่สรางสมมาแตกอน
บันดาลใหคด ิ ฝนถือวาเปนมงคล ดังคัมภีรพิชย ั สงครามบทวาดวยนิมต ิ วาไววา "ถาฝนวาไดเห็น...พญานาค...
จะไดทรัพยและความ สุขเจริญแลเดชา ปราศจากทุกขภัยพยาธิ" แลวตัง๋ โตะจึงวาถาเราไดราชสมบัตจ ิ ะตั้ง
ทานเปนเสนาบดีผู ใหญ นี่เปนคนทีส ่ องหลังจากอองอุนที่ตงั๋ โตะจะใหตาํ แหนงสําคัญเปนบําเหน็จเพียงเพราะ
ชอบใจในคําเจรจาเทานั้น

ลิซกจึงทําทีเปนขอบคุณ แลวตั๋งโตะจึงสั่งใหลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียวสีท ่ หารเอกคุมทหารสามพันอยู


รักษาเมือง แลวเขาไปกราบลามารดาและวาบัดนี้ขุนนางทั้งปวงไดพรอมใจกันจะยกราชสมบัติใหแกขา พเจา
บุญก็จะถึงมารดาทานดวยเพราะจะไดเปนที่ ไทเฮาของแผนดินสืบไป มารดาตั๋งโตะจึงวาตัวเรานี้อายุเกาสิบป
เศษแลว ไดอาศัยบารมีเจาเพียงเทานี้ก็มีความสุขกวาที่คาดหวังอยูแลว หลายวันมานี้ตัวเรามีอาการ "เขมนไป
ทั่วทั้งกาย แลใจก็ใหสะดุงตกประหมาเปนหลายเวลาแลว ซึง่ เจาจะเขาไปนั้นใหคด ิ การระมัดระวังตัวจงดี" คํา
มารดาตั๋งโตะฉะนี้ยอมถือเปนลางรายชนิดหนึ่งเพราะอาการ ที่เกิดกับตัว มารดาตั๋งโตะนัน ้ เอง บงบอกวาจะมี
เหตุรายสถานหนึ่ง และการที่มารดาอันเปนพรหมของบุตรมากลาวความทั้งนี้ในยามที่ตงั๋ โตะจะไปในการอัน
สําคัญอีกสถานหนึ่ง แตตั๋งโตะยามใกลจะถึงฆาต หัตถแหงมัจจุราชไดปด  บังความเฉลียวใจไวสิ้น ตั๋งโตะจึง
เขาใจไปเสียอีกทางหนึ่งแลวบอกแกมารดาวาเหตุทั้งนี้เปนเพราะวาสนาพาใหเปนไป แลวตั๋งโตก็ลามารดา
กลับไปที่ตําหนัก เขาไปพบเตียวเสีย ้ นแลว เลาความใหฟงวาอองอุนไดเปนผูนําขุนนางกราบทูลเสนอพระเจา
เหี้ยนเตใหยกราชสมบัติใหแกตัว และวาเมื่อเราไดราชสมบัติแลว จะตั้งเตียวเสีย ้ นเจาเปนพระสนมเอก เตียว
เสี้ยนฟงคําตั๋งโตะแลวคะเนวานี่คือแผนการของอองอุนที่จะลวงตั๋งโตะไปฆาเสีย จึงทําทีคุกเขาลงคารวะ
ขอบคุณตั๋งโตะตั๋งโตะสั่งลามารดาและเตียวเสีย ้ นแลว ก็ยกออกไปเมืองหลวง เดินทางมาไดสามรอยเสนเพลา
รถที่ตั๋งโตะนั่งมาก็หักลง ตั๋งโตะจึงลงจากรถแลวนั่งมาไปไดอีกราวรอยเสนมาที่ขี่เกิดพยศบังเหียนมาก็ขาด
ลงอีก ตั๋งโตะสงสัยจึงหันมาถามลิซกวาการที่เพลารถหักและบังเหียนมาขาดฉะนี้จะดีรายประการใด

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 110

ลิซกเห็นเหตุการณก็แจงแกใจวานี่เปนเพราะบารมีของผูเปนใหญในแผนดิน แมวาจะโฉดชั่วสักเพียงไหน แต


เทพยดาก็จะบันดาลลางรายใหปรากฏ เดชะบุญของแผนดินที่เราเคียงคูม  าดวยจําจะกลบเกลื่อนลางรายนั้น
เสีย จึงวากับตั๋งโตะวาซึ่งมาและรถเกิดเหตุดังนี้เปน เพราะตื่นตระหนกในบารมีทาน เนื่องจากหากทานได
ครองราชยแลว ก็จะตองทิ้งทัง้ รถและมานี้เปลี่ยนเปนราชรถหยกพระที่นั่ง และมาเทียม รถก็จะตองเปนมาพระ
ที่นั่ง ตั๋งโตะไดฟงแตทางดีเชนนี้ตองดวยใจตัวที่กําลังกระหยิ่มยิม
้ ยอง จะไดครองราชสมบัติก็ยินดียิ่งนักสั่งให
ขบวนเคลื่อนตอไป

เดินทางมาไดอีกหนอยหนึ่ง บังเกิดพายุกรรโชก เมฆหมอกปกคลุมทองฟามาแตขางทิศตะวันออก บดบังดวง


อาทิตยไวทั้งสิน้ แลวเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก ตั๋งโตะจึงถามลิซกวานิมิตนี้ดรี าย ประการใด นิมต ิ ดังนี้ตอง
ดวยคัมภีรพิชย
ั สงครามบทวาดวยนิมต ิ และลางรายวา "เมฆมาแตบรู พาทิศสถิตปราจิมโดยวาร กลุมดวงพระสุริ
ฉานบฉายแสงใหยกธง เมฆมาแตทิศนั้นมิทันกลุมเขาในวง ถอยคืนมาทิศจงอยายาตราจะภยันต"
ปรากฏการณอน ั เทพยดาไดสาํ แดงใหไดเห็นในครั้งนีถ
้ ือเปนลางรายทีร่ ะบุไวชัดเจนวาใหถอยกลับมาทีต
่ ั้ง
มิฉะนั้นจะเกิดอันตราย ลิซกจึงแสรงวาไปเสียอีกทางหนึ่งเพื่อลวงตั๋งโตะใหตายใจตอไปวา นี่คือศุภนิมต ิ จาก
ฟา อันเทพยดาสําแดงใหปรากฏถึงบรมเดชานุภาพของทาน ตั๋งโตะไดฟงก็ยิ่งเบิกบานใจ สั่งใหเคลื่อนขบวน
รีบรุดเขาเมืองหลวง

การเดินทางเขาเมืองหลวงของตั๋งโตะครั้งนี้ปรากฏนิมต ิ และลางรายหลายครั้งหลายหน หากตั๋งโตะเปนคนดีมี


คุณธรรม สรางบุญสราง กุศลสั่งสมไวพอเพียง คุณธรรมและบุญกุศลนัน ้ อาจสามารถกอความ เฉลียวใจให
เกิดขึ้น แลวหลีกเลี่ยงภัยพิบัติเสียก็เปนได แตตั๋งโตะนัน
้ กอกรรมทําเข็ญไวมาก ดังนั้นแมนิมิตและลางจะ
ปรากฏถึงเพียง นี้แตก็มีอันเปนใหคดิ และเขาใจไปเสียอีกทางหนึ่ง จึงมิไดเฉลียวใจ ในมรณภัยนั้น ดัน ้ ดน
รุดหนาไปสูอุงหัตถแหงมัจจุราชจนได

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

ลางอํานาจทรราช (ตอนที่ 49)

ขบวนของตั๋งโตะเรงรุดเขาเมืองหลวง ในขณะที่ตัวตั๋งโตะเอง นั้นกระหยิม ่ ยิ้มยองที่จะไดครองราชสมบัติ ฝาย


ขุนนางขาราชการไดมาตั้งขบวนรอรับที่ประตูกาํ แพงพระนครตามปกติ เวนแตลยิ ูนั้นไมมาตอนรับอางวาปวย
การปวยของลิยค ู รั้งนี้อาจเปนการปวยการเมือง เพราะไมพอใจตั๋งโตะที่ไมฟงคําตัวในเรื่องที่เสนอใหยกเตียว
เสี้ยนแกลิโปก็เปนได หรือแกลงงอนใหตั๋งโตะไปงอก็เปนได หรือมิฉะนั้นคนฉลาดแบบลิยู อาจคาดการณได
วาจะเกิดอะไรขึน ้ จึงแสรงหลบภัยเสีย เมื่อขบวนของตั๋งโตะมาถึงประตูพระนคร บรรดาขุนนางขาราชการไดเขา
ไปคารวะตามธรรมเนียมแลว ก็รวมขบวนเดินทางเขาในพระนคร ถึงจวนตั๋งโตะเปนเวลาค่าํ ก็ลากลับบาน

ตั๋งโตะมาถึงจวนเห็นลิโปจึงวากับลิโปวาเมื่อใดที่เราไดราชสมบัติจะแตงตั้งใหเจาเปนผูบัญชาการทหารสูงสุด
ลิโปก็คอมตัวลงคํานับตั๋งโตะทําทีเปนยินดีดว ย ครั้นค่ําลงเปนคืนเดือนหงายตั๋งโตะไดยินเสียงเด็กยี่สบ
ิ สาม
สิบคนรองรําทําเพลงอยูขางนอกดวยทํานองเศราสลดดุจเสียงคนรองไหเปนความวา "ตฤณชาติปลายวสันต
ทุกคืนวันเขียวขจี มินานวสันตลี้ที่ขจีก็แหงตาย" ตั๋งโตะจึงถามลิซกซึ่งยังคงติดตามและควบคุมสถานการณอยู
วาการรองรําทําเพลงของเด็กเชนนี้จะดีรายประการใด ลิซกจึงวานี่เปนศุภนิมต ิ วาราชวงศฮั่นจะดับสูญ "แซเลา"
จะรวงโรย "แซตั๋ง" จะรุง เรืองเปนใหญในแผนดิน ตั๋งโตะไดฟงก็ยินดีเปนยิง่ นัก

รุงขึ้นตั๋งโตะก็แตงตัวแลวเดินทางจะไปเขาเฝา ระหวางทางพบนักพรต ในลัทธิเตาใสเสือ ้ คลุมสีเขียว ผาโพก


หัวสีขาว มือถือไมคันยาว ผูกผาขาว หอยคลายธงแขวน มีอักษรจีนตัว "เคา" สองตัวอยูค  ูกัน ตั๋งโตะสงสัยจึง
ถามลิซกวาเตาหยินกระทําเชนนี้มีความหมายวาอยางไร ลิซกเห็นการกระทําของเตาหยินแลวก็ทราบความ
กระจาง วาอักษรจีนคําวา "เคา" สองตัวนัน ้ เมื่อรวมกันแลวก็จะเปนคําวา "ลิ" สวนผาขาวนั้นเรียกวา "โป"
อาการของนักพรตดังคนไวทก ุ ขงานศพ จึงหมายความวาตัง๋ โตะจะเปนศพเพราะลิโป ดังนั้นลิซกจึงแกลงกลาว
วานักพรตผูนี้เปนคนวิกลจริต ซึ่งเปนที่รูกันดีในยานนี้ มิไดมค
ี วามหมายอยางใดอันควรแกการสนใจแลว จึงสั่ง
ใหทหารไลนักพรตออกไปเสียจากแนวทางนิมิต และลางรายเกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา ถาหากตาไมบอดหู
ไมหนวกและปญญาไมถูกปดบังดวยความโลภและความมักใหญใฝสูงทีค ่ ิดชิงเอาราชสมบัติแลว อยาวาแต
ระดับตั๋งโตะเลย แม คนธรรมดาสามัญก็อาจสังเกต และเขาใจความหมายของนิมิต และลางรายเหลานั้นได
ตั๋งโตะเองหลังประสบนิมิตและลางรายหลายครั้งก็คงเห็นผิดสังเกต แตไมเขาใจดวยความหลงของตนสถาน
หนึ่งและดวยกลพิดทูลของลิซกผูเปนยมทูตอีกสถานหนึ่ง ดังนั้นตั๋งโตะจึงไมหยุดยั้งรั้งรอถอยกลับมาตั้งหลัก
ดังที่พช ิ ัยสงครามวาไว คงรุดหนาตอไปจนใกลประตูยมโลกมากขึ้นทุกที

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 111

ขบวนของตั๋งโตะเคลื่อนมาถึงประตูพระราชวังแลวกองทหาร ที่มากับขบวนก็หยุดอยูท  ี่ประตูนั้น คงมีแตตั๋งโตะ


นั่งรถไปพรอมกับทหารติดตามราวยีส ่ ิบคน โดยมีลซิ กเปนผูน
 ําขบวนเขาไป ทามกลางการตั้งแถวรับขบวนของ
ขุนนางขาราชการตั้งแตประตูพระราช วังไปจนถึงพระที่นั่งอันเปนทองพระโรง ตั๋งโตะสังเกตเห็นที่หนาประตู
ทองพระโรงนั้น ขุนนางถือกระบี่ประจํากายอยูทุกคนก็พรั่นใจ จึงถามลิซกวาการที่ขุนนางเหลานั้นถือ กระบี่
หมายความวาอยางไร ลิซกไมยอมตอบรีบเคลื่อนรถของ ตั๋งโตะเขาประตูทองพระโรงไป ทันใดนั้นอองอุน
ตะโกนขึ้นดวยเสียงอันดังวา ไอศัตรูราชสมบัติมาถึงแลว จงลงมือพรอมกันเถิด บรรดาทหารที่อองอุนซุมไวจึง
กรูกันเขามาลอมรถ เอาทวนไลแทงตั๋งโตะ ตัง๋ โตะเห็นดังนั้นก็ตกใจหลบทวนไปมาอยูในรถ ปากก็ตะโกนเรียก
หาลิโปใหชวย ลิโปกาวออกมาแลวพูดขึ้นดวยเสียงอันดังวาทรงมีพระบรมราชโองการใหประหารศัตรูราช
สมบัติเสีย วาแลวก็เอาทวนแทงทีค ่ อหอยของตั๋งโตะถึงแกความตายในทันที

ลิโปอัศวินงูเหา บัดนี้ไดกัดเอาบิดาบุญธรรมคนที่สองตายไปตอหนาตอตา เหลาขุนนางดวยอานุภาพแหงพลัง


เสนหาอันอํามหิต ยิ่งนักตั๋งโตะไดตวั ลิโปมาพรอมกับศีรษะของเตงหงวนบิดาบุญธรรม คนกอนของลิโป แลว
รับเอาลิโปมาเปนบุตรบุญธรรม ณ บัดนีต ้ ั๋งโตะก็ตองเสียหัวของตัวไปพรอมๆ กับการทีล ่ ิโปไดกลายเปนบุตร
เขย ของอองอุนความผิดพลาดอันยิ่งใหญของลิยู กุนซือเจาความคิดของตั๋งโตะคือการปลอยปละละเลยไม
ขัดขวางคัดคานในการที่ตั๋งโตะใหเอา งูเหาเชนลิโปไวใกลกาย นี่แหละที่โบราณวา "สี่เทายังรูพ
 ลาด
นักปราชญยังรูพ  ลั้ง"

ลิซกไดตดั ศีรษะตั๋งโตะแลวประกาศวาบัดนี้ศต
ั รูราชสมบัตติ ายแลว แผนดินแลอาณาประชาราษฎรจะเปนสุข
สืบไป บรรดาขุนนางขาราชการจึงยินดีโหรอ  งกันถวนหนา ลิโปประกาศขึ้นตอหนาขุนนางวาการที่ตั๋งโตะ
กระทําการชัว่ ชาไดเพราะอาศัยความคิดลิยู จึงจําเปนที่จะตองฆาลิยูเสียอีกคนหนึ่ง ลิซกขันอาสาแลวคุมทหาร
ไปยังบานลิยู จับลิยูพรอมบุตรภรรยา และคนในบานสังหารเสียทั้งสิ้น

จากนั้นอองอุนจึงสั่งใหทหารเอาศพตั๋งโตะไปตระเวนรอบพระนคร แลวเอามาตั้งประจานไวทท ี่ างสามแพรง


นอกกําแพงพระนคร ใหทหารเฝารักษาศพนัน ้ ไว ทหารนั้นมีความชิงชังตั๋งโตะนัก จึงเอาไสตะเกียงเจาะใสลง
ที่ทองของศพ แลวจุดไฟแทนตะเกียง ขาราชการและชาวเมืองรูขาวตั๋งโตะตายแลวก็พากันมารุมดา วาศพตั๋ง
โตะ บางก็ถุยน้ําลายใส บางก็เอาเทาเหยียบ บางก็ปสสาวะรด บางก็เอากอนหินขวาง บางก็เอาไมทบ ุ ตีจน
ศพตั๋งโตะแหลกละเอียด จึงเอาไปฝงที่นอกกําแพงพระนครนัน ้

พลันที่จอมทรราชตั๋งโตะศีรษะหลุดจากราง อํานาจรัฐในมือก็หลุดลอยเลื่อนไหล ในทีส ่ ุดก็ไหลสูมืออองอุนใน


ฐานะที่เปนขุนนางผูใหญ และเปนผูนําในการกอการรัฐประหารครั้งนี้ อองอุนนั้นแรกเริ่มเดิมทีคิดแตเพียงกําจัด
ทรราชตั๋งโตะเพื่อความผาสุกของบานเมือง แตครั้นสังหารตั๋งโตะและครองอํานาจรัฐไวในมือแลว ความคิดก็
เริ่มเฉไฉไปจากเดิม คิดลางบางอํานาจตั๋งโตะแบบถอนรากถอนโคน ใครเปนพวกตั๋งโตะ เคยรวมงานกับตั๋ง
โตะเปนตองฆาใหเรียบราบ ดังนั้นอองอุนจึงสั่งใหลิโป ลิซกและฮองฮูโก ยกทหารหาหมื่นจากเมืองหลวงไป
เมืองหลวงแหงที่สองเพื่อสังหารพวกตั๋งโตะเสียใหสิ้น ฝายลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว สีท ่ หารเอกซึ่งตั๋ง
โตะใหรักษาเมือง ครั้นรูขาวตายของตั๋งโตะและรูวาลิโปกําลังยกทหารมา ทีเ่ มืองหลวงแหงที่สองก็รีบพาทหาร
สามพันที่รักษาเมืองนั้นรีบยกหนีไปอยูเมืองเชียงไส กองทัพของลิโปจึงยกเขาเมืองโดยสะดวก

เมื่อเขาเมืองไดแลวตัวลิโปรีบตรงไปทีต่ ําหนักของตั๋งโตะ รับเอาเตียวเสี้ยนเขามาแนบในออมอก กอดจูบแลว


พาเขาที่ดวยความเรารอน แหงเพลิงพิศวาส ดุจครั้งหนุมานพิศวาสนางสุพรรณมัจฉา ซึ่งรามเกียรติ์พรรณนาไว
วา "วาพลางอิงแอบแนบชิดจุมพิตปรางเปรมนาสา คอยประคองตองเตาสุมณฑาวายุพด ั พัดมาอึงอล พระ
สมุทรตีฟองนองระลอกคลื่นกระฉอกซัดฝงกุลาหล เมฆมัวทั่วทิศโพยมบนฝนสวรรคพลอยพรมสุมาลีอน ั ดวง
โกสุมปทุมมาลยก็เบงบานคลีค ่ ลายเกสรศรีสองสมชมรสฤาดีตางเกษมเปรมปรีดท ิ์ ั้งสองรา"

ในขณะที่ลิโปเขามาทีต่ ําหนักของตั๋งโตะนั้น ลิซกไดคุมทหารเขา ไปจับเอามารดาอายุเกาสิบเศษของตั๋งโตะ


พรอมดวยญาติพี่นองและผูค  นในบานฆาเสียทั้งสิ้น แลวไลจับคนตระกูล "ตั๋ง" บรรดาที่อยูในเมืองหลวงแหงที่
สอง เอามารวมพรอมกันทีล ่ านแลวตัดหัวจนหมดสิ้น สวนนางบําเรอของตั๋งโตะแปดรอยคน ลิซกสั่งให
ปลดปลอยกลับคืนสูภ  ูมิลําเนาเดิม

จากนั้นลิโปสั่งใหรวบรวมทรัพยสินบรรดาที่เปนของหลวงและตั๋งโตะนํามาไวที่เมืองหลวงแหงทีส
่ อง พรอมทั้ง
เสบียงบรรทุกเกวียนเปนจํานวนหลายพันเกวียน และใหแยกเอาทรัพยสินสวนตัวของตั๋งโตะและญาติพี่นอ  งไว
เปนอีกขบวนหนึ่งนับไดพันกวาเกวียน เสร็จแลวจึงยกขบวนพรอมดวยทรัพยสินและเสบียงเปนจํานวนมากกลับ
เขาเมืองหลวง ถึงเมืองหลวงแลวนําไปมอบแกอองอุน ฝายอองอุนไดสั่งใหนาํ ทรัพยสินสวนที่เปนของหลวง

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 112

นําเขาคลังหลวง สวนที่เปนเสบียงใหนําเขาจัดเก็บไวในยุงฉางเสบียงหลวง สวนที่เปนทรัพยสินสวนตัวของตั๋ง


โตะและญาติพน ี่ องใหนํามาแจกแกทหาร ทีท ่ าํ การนั้นโดยถวนหนากัน

จากนั้นอองอุนจึงใหจด
ั งานเลีย
้ งฉลองขึ้นในพระราชวัง เลีย ้ งโตะ แกบรรดาขุนนางขาราชการทั้งปวงฉลองชัย
ที่สามารถกําจัดทรราชไดสําเร็จ ขุนนางขาราชการทั้งปวงไดมารวมงานเลีย ้ งฉลองดวยความเบิกบานยินดี ครั้น
เสร็จงานเลีย
้ งก็มีทหารเขามารายงานกับอองอุนวาในขณะ ที่เอาศพตั๋งโตะไปประจานที่นอกกําแพงพระนคร
นั้น มีขุนนางชือ่ ซัวหยงไปรองไหอยูกับศพ อองอุนไดฟงก็โกรธสั่งทหารใหไปจับตัวซัวหยงมาหาวาเปนศัตรู
แผนดินดวยตั๋งโตะ ซัวหยงจึงวาขาพเจาจะคบคิดเปนศัตรูแผนดินดวยตัง๋ โตะนั้นหามิได เดิมขาพเจาเปน
บัณฑิตอยูบานนอก ตั๋งโตะประกาศรับบัณฑิตเขารับราชการ แตขาพเจาเห็นวาตั๋งโตะเปนคนหยาบชา จึงไม
ยอมเขา รับราชการ ตั๋งโตะก็ใหทหารขมขูบ  ังคับจนขาพเจาตองมาทําราชการ ขาพเจาเห็นวาการที่ขาพเจา
ไดมาทําราชการทั้งนี้ เปนเพราะตั๋งโตะคิด เห็นเปนบุญคุณตอขาพเจาอยูจึงรองไห

อองอุนไมฟงคําแกตัวของซัวหยงสั่งใหเอาไปประหารเสีย บรรดาขุนนางเห็นซัวหยงเปนคนคงแกเรียน มี
สติปญ ญาและทําหนาทีร่ าชการเกี่ยวดวยเรื่องจดบันทึกพงศาวดาร ไมไดคิดอานคบคิดทําหยาบ ชาดวยตั๋ง
โตะ จึงชวยกันขอชีวิต ซัวหยงใหทาํ ราชการอยูสืบไป อองอุนในวันนี้ความคิดกาวผานการสรางความสงบสุข
ของบานเมืองไปถึงขั้นลางผลาญทุกคนที่เปนพวกตั๋งโตะไปแลวไดฟงคําขอของ พวกขุนนางแลวไมฟง คําและ
วาแผนดินเปนจลาจลเพิ่งเปนปกติลง แตซัวหยงนั้นเปนพวกของตั๋งโตะ ถึงแมวาจะมีสติปญ  ญาสัตยซื่อก็เอาไว
ใชในราชการไมได จึงสั่งใหเอาซัวหยงไปขังคุก แลวแอบสัง่ ผูคุมใหเอาผารัดคอสังหารซัวหยงเสีย

ขุนนางทั้งปวงรูว าซัวหยงตายก็มีใจสงสารเปนอันมาก มาหยิดขุนนางผูหนึง่ จึงวาแกขุนนางทั้งปวงวา "ธรรมดา


แผนดินถาหาผูม  ีสติปญ
 ญามิได เมืองนั้นก็จะพลันมีอันตราย หายืดยาวไม" ตอมาลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวน
เตียว สีท ่ หารเอกของตั๋งโตะ ที่ยกทหารสามพันหนีไปอยูเ มืองเชียงไส ไดทําหนังสือใหทหารถือเขา มา
รายงานตออองอุนวาเดิมทําราชการดวยตั๋งโตะ บัดนีส ้ ิ้นตั๋งโตะแลว จึงมีความประสงคขอทําราชการดวยอองอุ
นสืบไป การกระทําของตั๋งโตะที่ผา นมานั้นพวกขาพเจาทั้งสีค ่ นมิไดคบคิดรวมรูดวยแตประการใด ทานจงอภัย
เสียเถิด อองอุนทราบความแลวจึงวาแกผถ ู ือหนังสือวาตั๋งโตะทําชั่วไดก็เพราะอาศัยสี่คนนี้ ดังนั้นถาหากจะมี
การพระราชทานอภัยโทษเรา จะยินยอมใหอภัยโทษก็แตเฉพาะคนอื่นที่ไมเกี่ยวของดวย สําหรับไอสี่คนนี้
จําเปนที่จะตองเอาตัวมาประหารเสียใหจงได

สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม

บนเสนทางแหงความประมาท (ตอนที่ 50)

อองอุนหลังจากครองอํานาจในเมืองหลวงแทนตั๋งโตะแลวยินดี ในอํานาจนั้น ไมคิดปลอยวาง ทั้งๆ ที่การโคน


อํานาจของตั๋งโตะได ทําลายกลไกในการบริหารราชการแผนดิน ซึ่งตั๋งโตะและพรรคพวกไดกุมไวลงอยาง
สิ้นเชิงแลว แตอองอุนก็มิไดจัดวางขุนนางลงตามตําแหนงทีว่ างอยู คงกุมอํานาจทั้งสิ้นไวในมือแตผูเดียว ขุน
นางฝายบุนทีว่ า งลงก็มิไดกราบบังคมทูล เสนอแตงตั้งผูใดครองตําแหนงแทนขุนนางฝายบูอันเปนฝายทหารก็
มิไดกราบบังคมทูล เสนอแตงตั้งผูใดครองตําแหนงแทนเชนกัน กิจการอันเปน ฝายทหารก็อาศัยใชสอยแตลิ
โปผูเปนบุตรเขย ในขณะทีต ่ ัวเองครอง อํานาจฝายพลเรือนและครอบอํานาจฝายทหารโดยผานลิโปอีก
ชั้นหนึ่ง

อองอุนมิไดตระหนักวาอัศวินงูเหาแบบลิโปนั้นมีแตกําลังฝมือ แตหาไดมีกําลังสติปญ  ญาไม ไมสามารถอาศัย


เปนหลักชัยของบานเมืองได สวนตัวเองนั้นแมจะเปนขุนนางมานานถึงสี่แผนดิน แตความรับผิดชอบและ
ประสบการณทผ ี่ านมาลวนเปนกิจการเฉพาะภายในราชสํานัก มิไดมีความรูหรือประสบการณในการบริหาร
ราชการแผนดินโดยทั่วไป

ดวยเหตุนี้ความเปราะบางและชองวางของเมืองหลวงจึงเกิดขึ้น ทั้งในดานของการปองกันพระนครและดาน
บัญชาการหัวเมืองตางๆ ตลอดจนการบํารุงทํานุแผนดินใหเปนสุข อองอุนวันนี้จึงตั้งอยูใ นความประมาท ซึ่ง
พระผูม ีพระภาคเจาทรงตรัสวา "ความประมาทเปนหนทางแหงความตาย" แมในยามใกลปรินิพพานก็ทรงย้ํา
เปนปจฉิมวาจาวา "ทานทั้งหลายจงยังการทัง้ ปวงใหถึงพรอมดวยความไมประมาทเถิด" เหตุนี้เมื่ออองอุนทํา
กรรมชนิดนี้ไว ก็ตองรับวิบากแหงกรรมนี้ ไมแตเทานั้นยังจะทําใหบานเมืองแลราษฎรตองรับชะตากรรมอันเกิด
แตความประมาทของตนตอไปอีกดวย

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 113

การที่อองอุนกลาวกับคนถือหนังสือของลิฉย ุ กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว สีท ่ หารเอกของตั๋งโตะที่มาขอเขา


สวามิภักดิ์วา จะไมยอมรับการสวามิภักดิ์นั้น และยังขูอาฆาตวาจะตองจับตัวมาฆาเสีย ดังนี้จึงเปนการประมาท
ตอผูถืออาวุธ เทากับเปนการเรงและบังคับ ใหสท ี่ หารเอกนั้นตองหันมาตอสูรักษาชีวิตรอดแบบหมาจนตรอก
เพราะเมื่อสีท่ หารเอกของตั๋งโตะไดรบ
ั ทราบความที่อองอุนปลงใจจะสังหารพวกตัวเสียจากคําบอกกลาว
รายงานของคนถือหนังสือแลวก็รอนตัว จึงปรึกษาหารือกันวาทําอยางไรจึงจะรอดตายได บาง คนเสนอวาขืน
รวมกันเชนนี้ก็จะตายหมู ตองกระจายแยกกันอยูจึงจะรอดตัว ควรจะแยกกันหนีเอาตัวรอดเถิด

กาเซี่ยงซึ่งเปนที่ปรึกษาของตัง๋ โตะอีกคนหนึง่ ซึ่งอยูในที่นั้นได ยินคําปรึกษาหารือตลอดแลว จึงวากับสีท่ หาร


เอกวา "ควรคิดหนีก็ตอเมื่อเห็นวาตอสูแ  ลวไมชนะ ควรคิดรบก็ตอเมื่อเห็นวารบแลวชนะ" บัดนี้เรายังไมเคยคิด
จะตอสู และยังไมเคยตอสู จะคิดหนีเสียทีเดียว กอนยอมไมชอบ ควรที่จะคิดอานตอสูเสียสักตั้งหนึ่งกอน หาก
สูไมไดแลวจึงคอยคิดหนีก็ยังไมสายเกินไป แลววาอองอุนนั้นเปนขุนนางมาชานานก็จริงอยู แตไมเคย
บัญชาการทหาร บัดนี้แมวา สิน ้ บุญตั๋งโตะแลว แตความทีค ่ รองอํานาจมานานป ผูใตบังคับบัญชาที่เคยไดรับ
บุญคุณไมตรีและจงรักภักดีกม ็ ีอยูมาก อองอุนจึงนาที่จะยังไมสามารถควบคุมกําลังทหารไวใหเปนน้ําหนึ่งใจ
เดียวทั้งหมดได ทั้งเวลาที่อองอุน ครองอํานาจก็ยังสั้นนัก ยอมไมสามารถจัดการบริหารใหเขารูปเขาที่ได หาก
เราคิดตอสูแ  ลวดีรายก็อาจไดรบั ชัยชนะ ความจริงถาหากอองอุนจะรักษาความคิดเกาของตัวไวเพียงแค จัด
ทรราช แลวรีบทํานุบํารุงแผนดินใหเปนปกติสุข ใชเมตตาธรรมในการบริหารราชการแผนดิน ไมดื้อรัน ้ หัวชนฝา
สรางศัตรูรอบทิศ บานเมืองก็จะรมเย็นเปนสุข แตครั้นอองอุน  หลงในอํานาจดื้อรั้นชนิดหัวชนฝาไมฟงใคร เชื่อ
แตฝมือของมืออาชีพแบบลิโปที่ ทรยศตอผูค  นไมเลือกหนา แมแตเตงหงวนเจาเมืองฝายเหนือผูเปน บิดาบุญ
ธรรมก็ยังสังหารไดลงคอ และยังบีบคั้นบังคับผูคนจนไมมีทางออก จึงเทากับเปนการบีบบังคับใหผูคนตองยอม
เสี่ยงเปนเสี่ยงตายเพื่อกําจัดอองอุนเสีย ความเสี่ยงภัยของอองอุนจึงเกิดขึ้นตั้งแตบด ั นี้

สี่ทหารเอกฟงคํากาเซี่ยงแลว เห็นตองดวยเหตุผล จึงถามวาทานจะคิดอานประการใดเราจึงจะกําจัดอองอุน


เสียได กาเซี่ยงจึงวาทานจงวางใจเถิด อันจะคิดการสรางสรรคใหเกิดความรมเย็นเปนสุขนั่นสิจึงเปนของยาก
แตการที่จะคิดอานเพื่อใหคนฆาฟนกันเปนสงครามนั้นจะเปนเรื่องยากอะไรเลา วาแลวจึงเสนอแผนการใหกับสี่
ทหารเอกวา ใหพวกทานไปปลอยขาวลือในเมืองเชียงไสกอนวาอองอุนกลาวหาวาชาวเมืองเชียงไสนี้เปน
สมัครพรรคพวกของตั๋งโตะจะยกทหารมาฆาเสียใหสิ้นเหมือนกับที่ฆาญาติและพรรคพวกของตั๋งโตะที่เมือง
หลวงแหงทีส ่ องนั้น จากนั้นจึงคอยเกลี้ยกลอมเขามาเปนพวกดวยเปนหัวอกเดียวกัน เมื่อพรอมกันแลวจึงยก
ไปกําจัดอองอุนเสีย สี่ทหารเอกเห็นดวยกับแผนการและไปดําเนินการตามคํากาเซี่ยงทุกประการ ชาวเมือง
เชียงไสไดทราบขาวก็ตกใจพากันมาเขาดวยลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว รวบรวมกําลังพลไดถึงสิบหา
หมื่น กาเซี่ยงเห็นเชนนั้นก็ยน ิ ดีแลววากับสีท
่ หารเอกวาเรารวบรวมกําลังพลไดเทานี้เห็นจะพอทําการ และ
เสนอแผนยุทธการใหแบงกําลังพลออกเปนสี่กองๆ ละเทาๆ กัน ยกออกจากเมืองเชียงไสไปเมืองหลวงเพื่อแก
แคนอองอุน

ครั้นยกไปถึงกลางทางพบกับงิวฮูบุตรเขยของตั๋งโตะ ซึ่งตั๋งโตะสั่งใหรักษาเมืองซีหลงกอนที่จะเดินทางเขา
เมืองหลวงตามหมายรับสั่งเมื่อครั้งโฮจิ๋น ครัน
้ งิวฮูไดขาววาตั๋งโตะถูกอองอุนวางแผนฆาเสีย แลวและกําลัง
ตามไลลาสังหารสมัครพรรคพวกของตั๋งโตะตอไปอีกก็เกรงกลัว เมื่อไดทราบขาววาสีท ่ หารเอกอยูที่เมืองเชียง
ไส จึงรีบยกทหารหาพันหนีมาสมทบ ดังนั้นสี่ทหารเอกจึงใหงิวฮูเปนกองทัพหนาเคลือ ่ นทัพตอไปยังเมือง
เตียงอัน

ฝายอองอุนครัน
้ ไดขาวสีท
่ หารเอกยกทัพมาจึงหาลิโปมาปรึกษา วาจะคิดอานประการใด ลิโปจึงวาอยาไดวิตก
เลยการเพียงเทานี้ใหลิซกยกทหารไปปราบก็คงจะไดชัยชนะ อองอุนเห็นชอบดวยจึงใหลิซกยกทหารไปรับมือ
กับกองทัพของลิฉุย กุยกี ลิซกยกทหารไปตัง้ สกัดกองทัพสีท ่ หารเอก ปะทะกับงิวฮูกองทัพหนา งิวฮูสม ู ิไดก็
ถอยหนี ลิซกไดชัยชนะก็เกิดความประมาทใหทหารตั้งคายมั่นไวแลวมิไดระมัดระวังตรวจตราเวรยามตามธรรม
เนียมศึก หนวยลาดตระเวนของงิวฮูจึงแจงใหงิวฮูทราบ ดังนั้นเพลาเที่ยง คืนงิวฮูจึงยกทหารเขาปลนคายของ
ลิซก ทหารลิซกไมทันระวังตัวก็แตกหนี ถูกทหารงิวฮูฆาตายเสียเปนอันมาก กองทัพลิซกก็แตก ตัวลิซกหนี
เขาเมืองเตียงอันไปได

ลิโปเห็นลิซกแตกทัพพายศึกมาก็โกรธ สั่งใหตัดศีรษะลิซกแลว เสียบประจานไวที่ประตูเมืองมิใหเปน


เยี่ยงอยางสืบไป ครั้นรุงเชาลิโปจึงจัดทหารยกออกไปรบดวยกองทัพหนาของงิวฮู ฝายงิวฮูเห็น ลิโปคุมทหาร
ตีฝาเขามาก็ตกใจ เพราะรูกิตติศัพทฝมือของลิโปเปนอยางดี เห็นวาจะสูลโิ ปไมไดก็ถอยกลับเขามาคาย ลิโป
เห็นงิวฮูถอยไปก็กลับเขาเมืองเตียงอัน ฝายงิวฮูกลับมาถึงคายแลวก็เรียกเอาซกยีทหารคนสนิทมาปรึกษาวาลิ
โปนี้มีฝมือเขมแข็งนัก ขืนตอสูดวยลิโปตอไปก็จะพากันตายสิ้น ควรหาทางหลบหนีไปจะดีกวา เอาซกยีเปน

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 114

เพียงคนสนิท ไรสติปญ
 ญาทัง้ ขี้ขลาดตาขาว เห็นแกการเสพสุข ครั้นไดฟง คําปรึกษา แลวก็กลัวตายตามจึง
เห็นชอบกับงิวฮู

ครั้นค่าํ ลงงิวฮูจงึ เก็บทรัพยสินมีคาลอบหนีไปกับเอาซกยีและคน สนิทอีกสี่หาคนบุกปาฝาดงไปถึงริมแมน้ํา


แหงหนึ่ง เอาซกยีประสบความยากลําบาก ทั้งรอบตัวก็มืดมิดมองไมเห็นทางก็มค ี วามกลัว จึงคิดขายนาย
ตัวเองเพื่อหนีความกลัวนั้นและหวังเอาความชอบกับลิโป เพื่อจะไดอยูส  ุขสบายสืบไป จึงชวนทหารสี่หา คนที่
ตามไปดวยนั้นสังหารงิวฮูเสีย แลวเอาศีรษะพรอมดวยทรัพยสินของงิวฮูไปเมืองเตียงอัน ไปถึงเมืองเตียงอัน
แลวก็ขอเขาพบลิโป ฝายลิโปเห็นเอาซกยีและทหารสี่หา คนนําศีรษะของงิวฮูมาก็สอบถามความเปนมา เอา
ซกยีก็เลาความใหลิโปฟงทั้งสิน ้ ลิโปฟงแลวตวาดเอาซกยีวา "เปนขาขายเจา บาวขายนาย" จะเลี้ยงไวกเ็ ปน
จัญไร จึงใหทหารคุมตัวเอาซกยีและทหารสีห ่ าคนนั้นไปฆาเสีย ตัดศีรษะเสียบประจานวาเปน คนจัญไร ทรยศ
หักหลังเจานายตัวเอง

ในเพลาสายวันนั้นลิโปจึงจัดทหารยกกองทัพออกไปปราบสีท ่ หารเอก พบกับกองทัพของลิฉุย กุยกี เตียวเจ


และหวนเตียว ลิโปไดขับมารายทวนฝาทหารเขาไปโจมตีกองทัพของสี่ทหารเอกโดยมิทน ั ไดตั้งตัว กองทัพ
ของสี่ทหารเอกก็แตกพาย หนีไปเปนระยะทางประมาณหารอยเสน ลิโปขับไลไประยะหนึ่งก็ยกทัพกลับเขา
เมืองเตียงอัน สี่ทหารเอกหนีลิโปมาไดแลวก็รวมกันปรึกษาหารือวาจะจัดการกับลิโปประการใด ลิฉย ุ จึงวาลิโป
นั้นมีฝมือรบพุงกลาหาญ แตบาบิ่นไรสติปญญา จะตอสูซ  ึ่งหนาแมหากจะชนะก็จักสูญเสียดวยกันทั้งสองฝาย
จําเปนตองเอาชนะดวยอุบาย วาแลวลิฉย ุ จึงเสนอแผนการรบวาใหแบงทหารออกเปนสองสวน สวนละสองกอง
ตามที่ทหารเอกแตละคนคุมอยู ใหเตียวเจและหวนเตียวคุมทหารแยกกันไปซุมคอยทีอยู เมื่อไดรับสัญญาณ
แลวจึง ใหพรอมกันเขาตีเมืองเตียงอันทั้งสองดาน สวนลิฉย ุ กุยกี คุมทหาร คนละกอง ลิฉุยจะเปนกองลอรบ
กับลิโป แลวจะถอยขึ้นไปบนเขา เมื่อลิฉุยถอยขึ้นบนเขาแลวใหกุยกีตต ี ลบขางหลัง ครั้นลิโปเขารบดวยกุยกีก็
ใหกุยกีถอยเสีย ลิฉย ุ ก็จะรบลอตอไปอีกสลับกันไป ก็จะเอาชัยชนะไดเปนมั่นคง

ครั้นรุงขึ้นทหารเอกทั้งสี่กองก็ยกไปเตรียมการตามแผนการที่วางไว พอลิโปยกกองทัพมาลิฉย ุ ก็เขาไปลอรบ


พักหนึ่งลิฉย ุ ก็ใหตีกลองสัญญาณ กองทัพของเตียวเจ หวนเตียวก็ยกออกจากที่ซุมรุดไปตีเมืองเตียงอันพรอม
กันทั้งสองดาน ในขณะทีล ่ ิฉย
ุ ก็ยกทหารหนีขน ึ้ เขา ในขณะที่ลิโปยกทหารไลตามลิฉุยขึ้นเขาไปนั้น ลิฉย ุ ก็ให
ทหารยิงเกาทัณฑและกลิ้งกอนศิลาใสทหารของลิโปเปนหาฝน ทันใดนั้นลิฉย
ุ ก็ใหตีกลองสัญญาณอีกครั้ง
หนึ่ง กุยกีก็ยกทหารขึ้นมาจากเนินเขา ตีตลบหลังลิโปลิโปไดยินเสียงทหารโหรองมาทางดานหลังก็สั่งทหาร
แปรขบวน กลับมารบดวยกุยกี พอลิโปยกทหารเขามาใกลกุยกีก็ใหตีกลองสัญญาณใหทหารของตัวถอยเสีย
ฝายลิฉย ุ ไดยินกลองสัญญาณของ กุยกีก็ยกทหารลงมาตีตลบหลังลิโป ลิโปไดยินเสียงทหารโหรองมาจากบน
เนินเขาก็ชักมากลับมาเขา รบดวยลิฉย ุ แตไมทันไดรบกัน ลิฉุยก็ตีกลองสัญญาณแลวยกทหารถอยขึ้นเขาอีก
ลิโปจะตามไป กุยกีก็ยกทหารตีตลบหลังอีกครั้งหนึ่ง ลิฉุย กุยกี ใชยุทธวิธีของสงครามจรยุทธทวี่ า "เอ็งมาขา
มุด เอ็งหยุดขาแหย เอ็งแยขา ตี เอ็งหนีขาตาม" รบหลอกลอดวยลิโปอยูถงึ สามวันสามคืน ลิโปอยูในระหวาง
การรบกระหนาบของทหารลิฉย ุ กับกุยกีจนออนแรงลงและคิดแกกลไมตก จะรุกก็มิได จะถอยก็มิได เกิดพะวัก
พะวงจนไมเปนอันสูรบ

ในขณะที่ลิโปกาํ ลังสาละวนอยูก
 ับการลอรบของลิฉุย กุยกีนั้น ก็มีมาเร็วเดินสารมาแจงความกับลิโปวา บัดนี้
กองทัพเตียวเจ หวนเตียว ไดยกเขาตีเมืองเตียงอันสถานการณอยูในภาวะคับขันยิ่งนัก

หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th

All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด

You might also like