You are on page 1of 11

วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal

ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019


1

เพาเ ร์ค ร์ด ต นที่ นึ่ง: แน คิดพื้นฐานข งเพาเ ร์ค ร์ด


Power Chord Part 1: Basic Concept of Power Chord
เจตนิพิฐ งข์ ิจติ ร*1
Jetnipith Sungwijit*1

บทคัดย่
บทค มนี้ ผู้เขียนมุ่งเน้นจ กล่ ถึง ร แน คิดพื้นฐ นข งเพ เ ร์แล เชื่ มโยงม ู่
กี ต ร์ ไ น กจ กนี้ ย งนํ เ น รู ป แบบข งเพ เ ร์ ค ร์ ด ซึ่ ง เพ เ ร์ ค ร์ ด เป็ น ค ร์ ด ที่ มี
โครง ร้ งโน้ต 2 ต ปร ก บไปด้ ยโน้ตลํ ดบที่ 1 แล 5 ข งค ร์ดเป็นแน คิดพื้นฐ น ลกแล มี
ก รพฒน แน คิดใ ้มีค ม ล ย ล ยด้ นมิติเ ียงด้ ย ิธีก รต่ งๆ ทิ เพิ่มโน้ตในค ร์ดใ ้
ปร ก บด้ ย 3 โน้ต รื 4 โน้ต ด้ ยก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่ 1 รื 5 น กจ กนี้ยงมีก รผ มผ นโน้ต
ลํ ดบที่ 2 รื 9 เพิ่มเติมลงไปจ กแน คิดพื้นฐ นเพื่ ขย ยข บเขตมิติเ ียงใ ้ ล ก ล ยม ก
ยิ่งขึ้นไป ีก เพ เ ร์ค ร์ดเปรียบเ มื นรูปแบบก รบรรเลงค ร์ดที่ ํ คญท งดนตรีร็ คต้งแต่ ดีต
กร ท่งปจจุบนดนตรีร็ คได้แตกแขนง กไป ีกม กม ย เพ เ ร์ค ร์ดก็ยงมีบทบ ทแล ได้รบ
ค มนิยม ยู่จนถึงปจจุบน

คํา ําคัญ: เพ เ ร์ค ร์ด, ดนตรีร็ ค, กีต ร์ไ

* Corresponding author, email: kwan.alt@gmail.com


1 ผู้ช่ ย ตร จ รย์ ิทย ลยดนตรี ม ิทย ลยรง ิต
1 Asst. Prof., Conservatory of Music, Rangsit University

Received: February 26, 2018 / Revised: April 12, 2018 / Accepted: April 18, 2018
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
2 ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
 

Abstract
This article focused on a basic concept of power chord that lead to an electric
guitar. It also presents the pattern of Power Chord the structure of Power Chord
consists of two main notes which are root and fifth. Sometime, a musician repeating
a note root and fifth ( an octave) to create more dimension of a chord. Moreover,
adding second or ninth also help to expand more dimension of a Power Chord as
well. Power chord has been played as a major role to perform and compose a rock
music for a long time. Which, help rock music to expand itself into many styles and
power chord still has a lot of popularity until now.

Keywords: Power Chord, Rock, Electric Guitar

บทค มเรื่ ง เพ เ ร์ค ร์ด ผู้เขียนมุ่งเน้นจ กล่ ถึง ร ข งดนตรีร็ ค (Rock) ที่นิยม
ใช้ เ พ เ ร์ ค ร์ ด ในบทเพลงแล เชื่ มโยงม ู่ กี ต ร์ ไ (Electric Guitar) เป็ น ปร เด็ น ลก
เพ เ ร์ค ร์ดเปรียบเ มื นผู้ ยู่เบื้ ง ลงท งดนตรีร็ ค ที่ร่ ม ร้ ง รรค์บทเพลงร็ คม ย่ งช้
น นต้งแต่ดนตรีบลู ์จนถึงดนตรีร็ ค กร ท่งปจจุบนดนตรีร็ คได้แตกแขนง กไป ีกม กม ย ทิ
ดนตรีโปรแกร ซี ร็ ค (Progressive Rock) ดนตรีนิโ คล ิกร็ ค (Neo-Classic Rock) ดนตรี
เ ีเมทล (Heavy Metal) ล ซึ่งมิ จปฏิเ ธได้เลย ่ เพ เ ร์ค ร์ดจ เข้ ม มีบทบ ทแทบ
ท้ง ิ้น ทํ ใ ้เกิดเป็นเ กลก ณ์ข งแน ดนตรีปร เภทนี้เลยก็ ่ ได้ ดนตรีร็ คมกเชื่ มโยงกบกีต ร์
ไ แล มี บทบ ทร มถึงมี ิ ทธิ พลในดนตรีร็ คเป็ น ย่ งม ก นึ่ ง เพ เ ร์ค ร์ ดนิย มนํ ม
บรรเลงกบกีต ร์ไ ที่ผ่ น ุปกรณ์แปลงเ ียงกีต ร์ปร เภทใ ้เ ียงแตกพล่ ม ทิ ดิ ต ร์ชน
(Distortion) รื โ เ ร์ไดร ์ (Overdrive) ก รใช้ ุปกรณ์แปลงเ ียงดงกล่ จ ทํ ใ ้เ ียงกีต ร์
ม รถค้ งเ ียง (Sustain) ได้น นขึ้น ุปกรณ์ชนิดนี้มี ล ก ล ยบริ ทผลิต กจํ น่ ยแล มี
ด้ ยกน ล ยแบบ ทิ แบบปร เภทใช้เท้ เ ยียบ (Stomp Box Pedal) รื แบบมลติเ เ ค
(Multi Effect) น กจ ก ุปกรณ์ดงกล่ แล้ ก รทํ ใ ้เ ียงกีต ร์แตกพล่ ม ยงนิยมใช้เ ียงแตก
จ ก ุปกรณ์ขย ยเ ียง (ตู้แ มป์) กีต ร์ไ ด้ ย (Electric Guitar Amplifier) แ ดงต ย่ งดง
รูปภ พที่ 1
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
3

รูปภาพที่ 1 แ ดง ุปกรณ์แปลงเ ียงกีต ร์แบบต่ งๆ

แบบปร เภทใช้เท้ เ ยียบ2 แบบปร เภทมลติเ เ ค3 ุปกรณ์ขย ยเ ียงกีต ร์ไ 4

บทค มเรื่ ง เพ เ ร์ค ร์ด ต นที่ นึ่ง: แน คิดพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด ผู้เขียนจ
กล่ ถึง ร ด้ นแน คิดพื้นฐ นเป็น ํ คญ โดยเพ เ ร์ค ร์ดนิยมนํ ม ใช้เป็นชื่ เรียกค ร์ดแบบ
นึ่งที่พบได้บ่ ยในดนตรีร็ คแล มีบทบ ทเป็น ย่ งม กกบกีต ร์ไ (โดยเฉพ ปร เภทแบบ
ม ตรฐ น ก ยแล เจ็ด ย) ไม่มี ลกฐ นยืนยนเป็นที่แน่ชด ่ ใครเป็นผู้คิดค้นคํ ่ เพ เ ร์ค ร์ด
แต่ กดูจ กชื่ ที่นิยมเรียกจ มีนยบ่งบ กถึงค มมีพลง นกแน่น เพ เ ร์ค ร์ดยงมีบทบ ท ํ คญ
ด้ นก รดํ เนินค ร์ดแล ด้ นก ร ร้ งริ (Riff) 5 ใ ้กบบทเพลงร็ คเป็น ย่ งม ก ีกด้ ย
ด้ นก รบรรเลงเพ เ ร์ค ร์ด นิยมบรรเลงในลํ ดบ ยข งกีต ร์ไ ที่มีขน ดใ ญ่
ปร ม ณ ยลํ ดบที่ 6-3 รื 7-3 (เรี ย งลํ ดบจ ก ยขน ดใ ญ่ ไ ปยง ยขน ดเล็ ก ลงม
ต มลํ ดบ) จ ใ ้มิติเ ียง นกแน่นมีพลงผน กกบใช้ ุปกรณ์แปลงเ ียงกีต ร์ปร เภทใ ้เ ียงแตก
พล่ ม ด้ ยแล้ จ ยิ่งใ ้มิติเ ียง นกแน่นมีพลงม กยิ่งขึ้น ม รถค้ งเ ียงได้ย น นขึ้นก ่ เ ียง
กีต ร์ที่ไม่ได้ผ่ น ุปกรณ์แปลงเ ียงกีต ร์ปร เภทใ ้เ ียงแตกพล่ ม ปจจุบนเพ เ ร์ค ร์ดได้ถูก
พฒน ใ ้มีค ม ล ก ล ยข งมิติเ ียงใน ล ยรูปแบบ ซึ่งแต่ล รูปแบบก็พฒน ม จ กแน คิด
พื้นฐ นน่นเ ง บทค มนี้ผู้เขียนจ กล่ ถึงแน คิดโครง ร้ งพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ดก่ นใน
ลํ ดบแรกจ กน้นจ กล่ ถึงแน คิด ื่นๆ ในลํ ดบต่ ไป
เพ เ ร์ค ร์ดมิได้เป็นชื่ เรียกปร เภทต มโครง ร้ งเ มื นค ร์ดเมเจ ร์ ไมเน ร์ ล แต่
แท้จริงแล้ เป็นชื่ เรียกค ร์ดที่มีโครง ร้ งโน้ต 2 ต ปร ก บไปด้ ยโน้ตลํ ดบที่ 1 ( รื โทนิค) แล
โน้ตลํ ดบที่ 5 ข งค ร์ด ยกต ย่ งเช่น ค ร์ด C ปร ก บด้ ยโน้ต C-E-G กจดลํ ดบต ม
                                                            
2
“Stomp Box Pedal,” accessed February 5, 2018, https://www.boss.info/us/products/od-3.
3
“Multi Effect,” accessed February 6, 2018, https://line6.com/helix/.
4
“Electric Guitar Amplifier,” accessed February 5, 2018, https://www.gearank.com/guides/solid-state-guitar-amps.
5 ริ (Riff) คื ่ น นึ่งข งแน ทํ น งทีม่ ีก รเล่น นซ้ํ ในบทเพลง จนกล ยเป็นเ กลก ณ์ ํ คญข งบทเพลงน้นๆ
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
4 ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
 

โครง ร้ งโน้ตลํ ดบที่ 1 แล 5 จ ได้เป็น C-G งเกต ่ จ ตดโน้ตลํ ดบที่ 3 คื โน้ต E ข งค ร์ด
กเ ลื เพียงโน้ตลํ ดบที่ 1 แล 5 เท่ น้น โดยมีร ย ่ งกนข้นคู่ 5 เพ ร์เ ค ด้ ยเ กลก ณ์
ด้ นโครง ร้ งพื้ น ฐ นที่ ต ดโน้ ต ลํ ดบที่ 3 กไป ทํ ใ ้ เ พ เ ร์ ค ร์ ด ไม่ บ่ ง บ กค มชดเจน
ปร เภทเมเจ ร์ รื ไมเน ร์ ซึ่งโน้ต 2 ต ดงกล่ จ เป็นเ กลก ณ์ข งเพ เ ร์ค ร์ดที่ ํ คญ นึ่ง
ด้ นก รเขียนชื่ ค ร์ดกํ กบในบทเพลงนิยมเขียนเลข 5 ต่ ท้ ยชื่ ค ร์ด เช่น C5, E5, A5 เป็นต้น
(ต ย่ งที่ 1)

ตั ย่างที่ 1 แ ดงแน คิดโครง ร้ งพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด

กนํ เพ เ ร์ค ร์ด C5 จ กต ย่ งที่ 1 ม กํ นดตํ แ น่งก รจบค ร์ดบนค กีต ร์จ
ได้ รูปแบบ โดยบทค มนี้ผู้เขียนใช้ “แทป (Tab)” 6 เพื่ แ ดงตํ แ น่งก รจบค ร์ดบนค กีต ร์
ต เลขในแทปแ ดงถึงตํ แ น่งเ ร็ตข งแต่ล ยบนค กีต ร์ แล ต เลขท งซ้ ยมื ุดข งแทป
แ ดงถึงลํ ดบ ยกีต ร์ต้งแต่ ยลํ ดบที่ 6-1 ต้ง ยแบบร บบม ตรฐ น (Standard Tuning)
เรียงลํ ดบจ ก ยเปล่ (Open String) ได้ดงนี้ E-A-D-G-B-E (ผู้เขียนจ แ ดงลํ ดบข ง ยกีต ร์นี้
เฉพ ต ย่ งที่ 2 เท่ น้น) ซึ่งต ย่ งที่ 2 จ แ ดงตํ แ น่งก รจบค ร์ดโดยเริ่มจ ก ยกีต ร์ ย
ที่ 6-5, 5-4, 4-3, 3-2 แล 2-1 ต มลํ ดบ นึ่ง ดงที่ได้กล่ ไ ้ข้ งต้น ่ เพ เ ร์ค ร์ดมีบทบ ท
เป็น ย่ งม กกบกีต ร์ไ โดยเฉพ ปร เภทแบบ ก ยแล เจ็ด ย เพื่ ใ ้ก ร ธิบ ย ร
ต่ งๆ มีทิ ท งเดีย กนผู้เขียนจ ใช้แทปที่เป็นปร เภท ก ยปร ก บก ร ธิบ ย ร เท่ น้น

                                                            
6 แทป (Tab) มจ กคํ ่ Tablature เป็น ญลก ณ์แ ดงตํ แ น่งก รจบค ร์ดบนค กีต ร์ นิยมใช้กน ย่ งแพร่ ล ยเพื่ ใ ้ได้ตํ แ น่ง
ก รบรรเลงต มที่กํ นดไ ้ได้ถูกต้ ง
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
5

ตั ย่างที่ 2 แ ดงแน คิดพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ดแล แ ดงตํ แ น่งก รจบค ร์ดบนค กีต ร์

งเกต ่ แน คิดพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ดที่ได้กล่ ม แล้ ข้ งต้นปร ก บด้ ยโน้ต 2 ต ที่
มี ร ย ่ งกนข้ น คู่ 5 เพ ร์ เ ค จ กแน คิ ด พื้ น ฐ นนี้ ย ง ม รถปร ยุ ก ต์ ใ ้ มิ ติ เ ี ย งมี ค ม
ล ก ล ยยิ่งขึ้น ด้ ยก รพลิ กกลบข งโน้ ต 2 ต พื้ นฐ นนี้ รื เพิ่ มโน้ต ในเพ เ ร์ค ร์ ด ใ ้
ปร ก บด้ ย 3 โน้ต รื 4 โน้ต (Power Chord with Three or Four Notes)
ต ย่ งที่ 3 แ ดงแน คิดก รพลิกกลบ 2 โน้ตพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด โดยผู้เขียนนํ แน คิด
พื้นฐ นที่ได้จ กต ย่ งที่ 2 ม พลิกกลบ คื นํ ค ร์ด C5 ม พลิกกลบด้ ยก รย้ ยโน้ตลํ ดบที่ 5 ม เป็น
โน้ตต่ํ ุดข งค ร์ดผลลพธ์เป็นดงต ย่ งที่ 3
ด้ นก รเขียนค ร์ดในบทเพลงนิยมเขียนกํ กบได้ท้ง งแบบ คื C5 รื C5/G กเขียนกํ กบ
่ C5 ผู้บรรเลงกีต ร์ จต้ งดูถึงโครง ร้ งค ร์ดปร ก บด้ ยเป็น ํ คญ เนื่ งจ กบ งบทเพลง จเขียน
กํ กบไ ้ ่ C5 เท่ น้นแต่มีก รจบค ร์ดในบทเพลงที่ม กก ่ นึ่งรูปแบบ แล ถ้ กเขียนไ ้ ่ C5/G ก็
จ แ ดงใ ้เ ็นถึงค มชดเจนด้ นก รพลิกกลบข งค ร์ด ท้งนี้ขึ้น ยู่กบก รเขียนชื่ ค ร์ดที่ปร กฏใน
บทเพลงปร ก บด้ ย ่ จ เป็นทิ ท งแบบใด

ต ย่ งที่ 3 แ ดงก รพลิกกลบ 2 โน้ตพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด


วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
6 ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
 

ก รจบเพ เ ร์ค ร์ดด้ ย 3 โน้ต (Power Chord with Three Notes) เป็นแน คิดก รซ้ํ
โน้ตลํ ดบที่ 1 (Double Root) รื ลํ ดบที่ 5 (Double Fifth) ข งค ร์ดเข้ ไปเพิ่มเติมจ กแน คิด
พื้นฐ นในต ย่ งที่ 2 ยกต ย่ งเช่น กนํ ค ร์ด C5 จ กต ย่ งที่ 2 ม เพิ่มโน้ตลํ ดบที่ 1 เข้
ไปจ ทํ ใ ้ปร ก บด้ ยโน้ต C-G-C ต มลํ ดบ แล กนํ ค ร์ด C5 จ กต ย่ งที่ 2 ม เพิ่มโน้ต
ลํ ดบที่ 5 ข งค ร์ดเข้ ไปจ ปร ก บด้ ยโน้ต G-C-G ต มลํ ดบเช่นกน แน คิดลก ณ นี้นิยมจบ
ค ร์ดใน 4 รูปแบบ แ ดงดงต ย่ งที่ 4-5

ตั ย่างที่ 4 แ ดงแน คิดค ร์ด 3 โน้ต ด้ ยก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่ 1

ตั ย่างที่ 5 แ ดงแน คิดค ร์ด 3 โน้ต ด้ ยก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่ 5 แบบพลิกกลบ

ยงมีแน คิดที่พฒน ม จ กก รจบเพ เ ร์ค ร์ดด้ ย 3 โน้ต ีกทิ ท ง นึ่งน้นคื ก รจบ


เพ เ ร์ค ร์ดใ ้ปร ก บด้ ย 4 โน้ต (Power Chord with Four Notes) ซึ่งเป็นแน คิดที่นิยมในดนตรี
ร็ คด้ ยเช่นกน แน คิดนี้เป็นก รเพิ่มโน้ตไป ีก นึ่งต จ กแน คิดก รจบเพ เ ร์ค ร์ดด้ ย 3 โน้ต
กล่ คื มีก รพฒน แน คิดจ ก 3 โน้ตม เป็น 4 โน้ต ซึ่งโน้ตที่เพิ่มเข้ ม ก็เป็นก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่
1 แล 5 เข้ ไป ีกคร้ง นึ่งน่นเ ง ตํ แ น่งก รจบค ร์ดที่ปร ก บด้ ย 4 โน้ต แ ดงดงต ย่ งที่ 6-7
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
7

ตั ย่างที่ 6 แ ดงแน คิดค ร์ด 4 โน้ต ด้ ยก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่ 1 แล 5

ตั ย่างที่ 7 แ ดงแน คิดค ร์ด 4 โน้ต ด้ ยก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่ 1 แล 5 แบบพลิกกลบ

แน คิดที่นิยม ีกลก ณ นึ่งข งกีต ร์ไ ปร เภทแบบ ก ย คื ก รต้งร ดบเ ียง


ยลํ ดบที่ 6 ใ ้ต่ํ ลงจ กร บบก รต้ง ยกีต ร์แบบม ตรฐ น โดยปรกติก รต้ง ยกีต ร์แบบ
ม ตรฐ นเรียงลํ ดบจ ก ยเปล่ ข งกีต ร์ต้งแต่ ยที่ 6-1 จ เป็นดงนี้ E-A-D-G-B-E กต้งร ดบ
เ ียง ยลํ ดบที่ 6 ใ ้ต่ํ ลงจ กร บบก รต้ง ยกีต ร์แบบม ตรฐ น 1 เ ียงเต็ม (Drop D Tuning)
ทํ ใ ้จ กเดิมโน้ต E จ กล ยเป็นโน้ต D ถ้ นํ ม เรียงลํ ดบ ยเปล่ ต้งแต่ ยที่ 6-1 จ เป็น D-A-
D-G-B-E ต มลํ ดบ แน คิดนี้จ แตกต่ งที่ ยลํ ดบที่ 6 เท่ น้น ม รถนํ ม ทํ เป็นเพ เ ร์
ค ร์ดแบบ 2 โน้ต 3 โน้ต รื 4 โน้ต ได้เช่นกน แ ดงดงต ย่ งที่ 8-11 ต มลํ ดบ
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
8 ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
 

ตั ย่างที่ 8 แ ดงแน คิด 2 โน้ตพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด ด้ ย ิธีต้งร ดบเ ียง ยลํ ดบที่ 6
ต่ํ ลง 1 เ ยี งเต็ม

ตั ย่างที่ 9 แ ดงแน คิดค ร์ด 3 โน้ต แบบ ิธีต้งร ดบเ ียง ยลํ ดบที่ 6 ต่ํ ลง 1 เ ียงเต็ม

ตั ย่างที่ 10 แ ดงแน คิดค ร์ด 4 โน้ต แบบ ิธีต้งร ดบเ ียง ยลํ ดบที่ 6 ต่ํ ลง 1 เ ียงเต็ม
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
9

ตั ย่างที่ 11 แ ดงแน คิดค ร์ด 5 โน้ต แบบ ิธีต้งร ดบเ ียง ยลํ ดบที่ 6 ต่ํ ลง 1 เ ียงเต็ม

จ กที่กล่ ม ท้ง มดนี้เป็นแน คิดที่พฒน จ กโน้ต 2 ต พื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด โดย
ก ร ร้ ง รรค์เพ เ ร์ค ร์ดมีก รนํ แน คิดด้ นก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่ 1 รื 5 ม พฒน จ กแน คิด
พื้นฐ น ่งผลใ ้มิติข งเ ียงที่เกิดขึ้นมี ี น ล ก ล ย งเกต ่ รูปแบบก รจบเพ เ ร์ค ร์ดจ มี
ล ยรูปแบบ ขึ้น ยู่กบก รกํ นดรูปแบบก รจบค ร์ดที่กํ กบในโน้ตเพลง รื แน ท งก รบรรเลง
ปร ก บด้ ย
น กจ กที่กล่ ม ข้ งต้นแล้ ยงมีแน คิดที่พฒน จ กเพ เ ร์ค ร์ด ีกรูปแบบ นึ่งซึ่ง
ปร ก บด้ ย 3 โน้ตที่ไม่ใช่ก รซ้ํ โน้ตลํ ดบที่ 1 รื 5 ดงที่กล่ ม ข้ งต้นน่นคื ก รเพิ่มโน้ต
ลํ ดบที่ 9 ( รื โน้ตลํ ดบที่ 2) ม เพิ่มในช่ งเ ียงบนข งโครง ร้ งพื้นฐ นเพ เ ร์ค ร์ด ทํ ใ ้เกิด
เป็นเพ เ ร์ค ร์ด งชุดที่มีโครง ร้ งจ กโน้ต 2 ต พื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด ต ย่ งเช่น ค ร์ด
Cadd9 ( รื ี ก นยคื ค ร์ ด Csus2) จ มี โ ครง ร้ งเป็ น 1-5-9 (2) ปร ก บด้ ยโน้ ต C-G-D
ต มลํ ดบ งเกต ่ แน คิดนี้จ ปร ก บด้ ยเพ เ ร์ค ร์ด งชุดที่มีโครง ร้ งจ กโน้ต 2 ต
พื้นฐ นน่นคื C5 (ปร ก บด้ ยโน้ต C-G) แล G5 (ปร ก บด้ ยโน้ต G-D) น่นเ ง ่งผลใ ้ผลลพธ์
ที่ได้ด้ นมิติเ ียงมีค ม ล ก ล ยแล มีค มแตกต่ งจ กเพ เ ร์ค ร์ด แม้ ่ จ มีแน คิดพื้นฐ น
ข งเพ เ ร์ค ร์ดก็ต ม (ต ย่ งที่ 12-13)

ตั ย่างที่ 12 แ ดงแน คิดโครง ร้ งพื้นฐ นค ร์ด Cadd9


วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
10 ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
 

ตั ย่างที่ 13 แ ดงตํ แ น่งก รจบค ร์ด Cadd9

ดนตรี ร็ คนิย มใช้เ พ เ ร์ค ร์ ด ย่ งแพร่ ล ย จ ก ร ที่ กล่ ม ในบทค มเรื่ ง


เพ เ ร์ค ร์ด ต นที่ นึ่ง: แน คิดพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ด จ เ ็นได้ ่ มีโครง ร้ งโน้ต 2 ต น่น
คื โน้ตลํ ดบที่ 1 แล 5 เป็นแน คิด ลกแล พฒน มิติเ ียงด้ ยก รซ้ํ โน้ต รื ก รต้งร ดบเ ียง
ยลํ ดบที่ 6 ใ ้ต่ํ ลงจ กร บบก รต้ง ยกีต ร์แบบม ตรฐ น รื ผ มผ นโน้ตลํ ดบที่ 2 รื
9 เพิ่มเติมลงไปจ กแน คิดพื้นฐ นเพื่ ขย ยข บเขตมิติเ ียงใ ้ ล ก ล ยม กยิ่งขึ้นไป ีก จ กที่
กล่ ร ม น้น เป็นเพียงแน คิดพื้นฐ นยงมีร ยล เ ียดปลีกย่ ย ีกม กที่ผู้เขียนไม่ได้กล่ ถึง
ทิ ก รต้งร ดบเ ียงข ง ยกีต ร์ท้ง มดใ ้ต่ํ ลงครึ่งเ ียง รื 1 เ ียงเต็ม รื ม กก ่ น้นจ ก
ร บบก รต้ง ยกีต ร์แบบม ตรฐ น ่งผลใ ้มีค ม ล ก ล ยด้ นตํ แ น่งก รจบค ร์ดข ง
กีต ร์ไ ม กยิ่งขึ้น ทํ ใ ้ผู้บรรเลงกีต ร์ จต้ งตีค มเลื กใช้รูปแบบตํ แ น่งก รจบค ร์ดแบบ
ใดปร ก บด้ ย ( กโน้ตเพลงไม่ได้ร บุก รจบค ร์ดไ ้) เพร ก รบรรเลงเพ เ ร์ค ร์ดในแต่ล
ตํ แ น่งบนค กีต ร์ก็จ ใ ้มิติเ ียงแตกต่ งกนด้ ย ท้งนี้ผู้บรรเลงต้ งคํ นึงถึงแน ท งก รบรรเลง
กีต ร์เป็น ํ คญเพื่ เ ริมใ ้บทเพลงดํ เนินไปได้ ย่ งต่ เนื่ งแล มีค ม มบูรณ์
แน คิดพื้นฐ นข งเพ เ ร์ค ร์ดรูปแบบต่ งๆ ข้ งต้นจ ถูกนํ ม ร้ ง รรค์ในบทเพลง
ย่ งไร ผู้เขียนจ ยกต ย่ งบทเพลงที่ใช้แน คิดข งเพ เ ร์ค ร์ดม ร่ ม ร้ ง รรค์ในต นต่ ไป
กบ ข้ เรื่ ง “เพ เ ร์ค ร์ด ต นที่ ง: ต ย่ งบทเพลงที่ ร้ ง รรค์ด้ ยแน คิดเพ เ ร์ค ร์ด”
วารสารดนตรีรังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต: Rangsit Music Journal
ปี ที่ 14 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2562: Vol.14 No.1 January-June 2019
11

บรรณานุกรม
Charlton, Katherine. Rock Music Styles: A History. 7th ed. New York: McGraw-Hill
Education, 2015.
“Electric Guitar Amplifier.” Accessed February 5, 2018.
https://www.gearank.com/guides/solid-state-guitar-amps 
Krenz, Steve. Gibson’s Learn & Master Guitar. Nashville, TN: Legacy Learning
Systems, 2010.
McKenzie, Thomas. Power Chord: One Man's Ear-Splitting Quest to Find His Guitar
Heroes. New York: Harper Collins, 2012.
Mann, Kenny. The Big Book of Power Chords. Malvern, AR: Guitar Alliance Inc, 2013.
“Multi Effect.” Accessed February 6, 2018. https://line6.com/helix/.
Perlmutter, Adam. Power Chords: A Complete Guide to Rock's Most Essential Sound.
Milwaukee, WI: Hal Leonard Corporation, 2004.
“Stomp Box Pedal.” Accessed February 5, 2018. www.boss.info/us/products/od-3.

You might also like