Professional Documents
Culture Documents
จากรู ปจะได้วา่ A x B = { (2 , 1) , (2 , 7) , (2 , 8) , (5 , 1) , (5 , 7) , (5 , 8) }
ฝึ กทา ให้ A = 1 , 3 , B = 0 , 7 , 8 , C =
จงหา A x B , B x A , A x C , B x C , A x A , C x C
วิธีทา
1
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
ข้ อควรรู้ เกีย่ วกับผลคูณคาร์ ทีเชี ยล
กาหนด A , B , C , D เป็ นเซตจากัดใด ๆ จะได้วา่
1) A x B = ก็ต่อเมื่อ A = หรื อ B =
2) A x B = B x A ก็ต่อเมื่อ A = B หรื อ A = หรื อ B =
3) n(A x B) = n(A) n(B)
เมื่อ n(A x B) คือจานวนสมาชิกของ A x B
n(A) คือจานวนสมาชิกของ A
n(B) คือจานวนสมาชิกของ B
4) A x (B C) = (A x B) (A x C)
5) A x (B C) = (A x B) (A x C)
6) A x (B C) = (A x B) (A x C)
ระวังมากๆ อย่ าสั บสน
1) A (B x C) (A B) x (A C)
2) A (B x C) (A B) x (A C)
1. ให้ A = {1} , 2 , B = {0} , C = R จงหาจานวนสมาชิกของ AxB , AxC , AxA , BxB
1. 2 , , 4 , 1 2. 1 , , 2 , 2
3. 2 , 0 , 4 , 1 4. 1 , 0 , 2 , 2
2
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
3. จงหาจานวนสมาชิกของ (A x B) (A x C) เมื่อกาหนดให้
A = 1 , 2 , 3 , ... , 25 , B = 15 , 16 , 17 , ... , 100 , C = 1 , 2 , 3 , ... , 50
1. 100 2. 200 3. 400 4. 900
3
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
6(แนว En) ถ้าเซต A มีสมาชิก 5 ตัวแล้ว จานวนทั้งหมดของความสัมพันธ์จาก A x A ไป A
เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 225 2. 2125 3. 252 4. 1252
7. กาหนดให้ A = 1 , 3 , 5 , B = 5 , 10 , 15 , 20 แล้ว
r = (x , y) A x B y = 2x เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. (5 , 10) 2. 3. (3 , 6) 4. (4 , 8) , (6 , 12)
8. กาหนดให้ A = 1 , 3 , 5 , B = 5 , 10 , 15 , 20 แล้ว
r = (x , y) A x B y = (x + 2)2 เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. (5 , 5) 2. 3. (3 , 5) 4. (4 , 3) , (6 , 5)
4
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
9. ให้ A = 1 , 3 , 5 แล้ว r = (x , y) A x A y = 14 – 3x เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. (5 , 5) 2. 3. (3 , 5) 4. (4 , 3) , (6 , 5)
5
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
12. กาหนดให้ A = 1 , 2 , 3 , 4 , 5 แล้ว r = (x , y) A x A x > 2 และ y = 3
เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. (3 , 3) , (4 , 3) , (5 , 3) 2. (3 , 3) , (4 , 4) , (5 , 5)
3. (3 , 3) 4. (4 , 3) , (5 , 3)
7
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
15. ให้ A = –1 , 0 , 1 , 2 , B = 6 , 7 , 8 , 9 และ r = (x , y) A x B y = 9 – x
จงหา Dr และ Rr
1. Dr = { 0 , 1 , 2 } , Rr = {7 , 8 , 9 } 2. Dr = { –1 , 0 , 1 } , Rr = {7 , 8 , 9}
3. Dr = {–1 , 0 , 1 , 2 } , Rr = {6 ,7 , 8 , 9 } 4. Dr = { –1 , 0 , 1 } , Rr = {8 , 9 , 10}
8
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
18. กาหนดให้ r = (x , y) y = x2 – 2 แล้วข้อใดต่อไปนี้ถูก
1. Dr = R , Rr = [ 0 , ) 2. Dr = R , Rr = [ –2 , )
3. Dr = [ 0 , ) , Rr = R 4. Dr = [ –2 , ) , Rr = R
9
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
21. กาหนดให้ r = (x , y) y = 2x + 1 แล้วข้อใดต่อไปนี้ถูก
1. Dr = [ –2 , ) , Rr = [ 0 , ) 2. Dr = [ –2 , ) , Rr = [ –2 , )
3. Dr = [– 21 , ) , Rr = [ 0 , ) 4. Dr = [– 21 , ) , Rr = [ –2 , )
10
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
24. โดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ r = (x , y) x – xy + 2y + 1 = 0 คือข้อใดต่อไปนี้
1. Dr =x x 2 , Rr =y y 1 2. Dr =x x 0 , Rr =y y 1
3. Dr =x x 2 , Rr =y y 2 4. Dr =x x 0 , Rr =y y 2
11
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
27. โดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ r = (x , y) y = 1 2x + 3 คือข้อใดต่อไปนี้
1. Dr = R – {–3} , Rr = ( 0 , )
2. Dr = R – {–3} , Rr = (– , 0) [2 , )
3. Dr = R – {–2 , –4} , Rr = ( 0 , )
4. Dr = R – {–2 , –4} , Rr = (– , 0) [2 , )
12
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
5.2 ตัวผกผันของความสัมพันธ์
บทนิยาม ตัวผกผันของความสัมพันธ์ r คือความสัมพันธ์ซ่ ึ งเกิดจากการสลับที่ของ
สมาชิกตัวหน้าและสมาชิกตัวหลังในแต่ละคู่อนั ดับที่เป็ นสมาชิกของ r
ตัวผกผันของความสัมพันธ์ r เขียนแทนด้วย r–1
ฝึ กทา จงหาตัวผกผันของความสัมพันธ์ต่อไปนี้
1. r = { (3 , 2) , (3 , 4) , (3 , 5) , (3 , 6) } 2. r = { (x , y) y 2x – 3 }
3. r = { (x , y) | y = x2 + 1 } 4. r = { (x , y) y = x 3 }
13
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
32(แนว En) ให้ r = (x , y) R x R x = y2 – 6y + 10 ข้อความใดต่อไปนี้เป็ นจริ ง
1. Dr 1 = R และ R 1 = [0 , )
r
2. D 1 = [0 , ) และ R =R
r r 1
3. D 1 =R และ R = [1 , )
r r 1
4. D 1 = [1 , ) และ R =R
r r 1
5.3 ฟังก์ชัน
6.3.1 ความหมายของฟังก์ชัน
บทนิยาม ฟังก์ชนั คือความสัมพันธ์ซ่ ึ งสาหรับคู่อนั ดับสองคู่ใดๆ ของความสัมพันธ์น้ นั
ถ้ามีสมาชิกตัวหน้าเหมือนกันแล้ว สมาชิกตัวหลังต้องไม่ต่างกัน
วิธีการตรวจสอบว่า ความสั มพันธ์ ใดจะเป็ นฟังก์ชันหรือไม่
กรณีที่ 1. เมื่อโจทย์กาหนดความสั มพันธ์ เป็ นแบบแจกแจงสมาชิก
ขั้นที่ 1 หากความสัมพันธ์มีสมาชิกซ้ ากันหลายตัว ให้ตดั สมาชิกที่ซ้ ากันทิ้งไปแล้ว
เหลือไว้ตวั เดียว
ขั้นที่ 2 ให้พิจารณาโดเมนของสมาชิกแต่ละตัว
หากโดเมนของสมาชิกแต่ละตัวไม่ซ้ ากัน ความสัมพันธ์น้ นั เป็ นฟังก์ชนั
หากสมาชิกมีโดเมนซ้ ากัน ความสัมพันธ์น้ นั ไม่เป็ นฟังก์ชนั
กรณีที่ 2. เมื่อโจทย์กาหนดกราฟของความสั มพันธ์ มาให้
ให้ลากเส้นตรงขนานแกน Y ไปตัดเส้นกราฟของความสัมพันธ์น้ นั
หากเส้นขนานแกน Y ตัดเส้นกราฟจุดเดียวเสมอ ความสัมพันธ์น้ นั เป็ นฟังก์ชนั
หากเส้นขนานแกน Y ตัดเส้นกราฟหลายจุด ความสัมพันธ์น้ นั ไม่เป็ นฟังก์ชนั
14
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
กรณีที่ 3. เมื่อโจทย์กาหนดความสั มพันธ์ เป็ นแบบเงื่อนไขซึ่งสามารถแจกแจงสมาชิกได้
ให้ทาการแจกแจงสมาชิกให้เห็นจริ ง แล้วตรวจสอบเหมือนกรณี ที่ 1
กรณีที่ 4. เมื่อโจทย์กาหนดความสั มพันธ์ เป็ นแบบเงื่อนไขซึ่งแจกแจงสมาชิกไม่ ได้
ให้ใช้นิยามของฟังก์ชนั ที่วา่
ถ้า ( x , y) f และ ( x , z)f หาก y = z ความสัมพันธ์น้ นั จะเป็ นฟังก์ชนั่
วิธีทาโดยละเอียดให้ศึกษาจากตัวอย่างต่อๆ ไป
33. ความสัมพันธ์ในข้อใดต่อไปนี้ ข้อใดเป็ นฟังก์ชนั
ก. f = (2 ,6) , (3 , 6) , (4 , 6) ข. h = (2 , 3) , (3 , 4) , (3 , 5)
ค. gof = (4 , 2) , (3 , 2) , (4 , 2) ง. f–1 = (2 , 2) , (2 , 2) , (3 , 6)
จ. g + h = (3 , 6) , (4 , 6) , (3 , 6)
1. ก. เท่านั้น 2. ก. และ ค. 3. ก. , ค. และ ง. 4. ก. , ค. , ง. และ จ.
x x
3. 4. y
y
x
x
15
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
35. ความสัมพันธ์ต่อไปนี้เป็ นฟังก์ชนั หรื อไม่
ก. { (x , y) B x By = x – 2 } ; B = { –2 , –1 , 0 , 1 , 2 }
ข. { (x , y) A x By < x } ; A = { 0 , 1 } , B = { –1 , 1 }
1. ก. เป็ น และ ข. เป็ น 2. ก. เป็ น และ ข. ไม่เป็ น
3. ก. ไม่เป็ น และ ข. เป็ น 4. ก. ไม่เป็ น และ ข. ไม่เป็ น
16
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
5. r = (x , y) y > 2x + 6
6. g = (x , y) cos y = x
7. f = (x , y) 3y3 + y2 + 2 y – 5 = x
8. g o h = (x , y) x = 3
9. g = (x , y) y5 = x2 + 3
10. h o h = (x , y) y = –2
11. g o h = (x , y) y = x
12. g o h = (x , y) y = x
5.3.2 ฟังก์ ชันทีค่ วรรู้ จัก
5.3.2.1 ฟังก์ชันจาก A ไป B (function from A into B)
บทนิยาม f เป็ นฟังก์ชนั จาก A ไป B ก็ต่อเมื่อ f เป็ นฟังก์ชนั ที่มี A เป็ นโดเมน
และมีเรนจ์เป็ นสับเซตของ B
f เป็ นฟังก์ชนั จาก A ไป B เขียนแทนด้วย f : A B
ตัวอย่าง A B
1 a
2 b
3 c
b
18
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
ตัวอย่าง A B
1 a
2 b
3 c
19
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
40. โดเมนและเรนจ์ให้ A = 1 , 2 ,3 , B = 7 , 8 , 9 ฟังก์ชนั่ จาก A ไปทัว่ ถึง B คือ
1. (1 , 7) , (2 , 9) , (3 , 7) 2. (1 , 9) , (2 , 8) , (3 , 7)
3. (7 , 7) , (8 , 8) , (9 , 9) 4. (7 , 2) , (8 , 3) , (9 , 3)
20
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
วิธีการตรวจสอบว่ าฟังก์ชันใดจะเป็ นฟังก์ชันหนึ่งต่ อหนึ่งหรือไม่
ก่ อนตรวจสอบว่าความเป็ นฟั งก์ชันหนึ่ งต่อหนึ่ ง ต้องตรวจสอบก่ อนว่าความสั มพันธ์
นั้นๆ เป็ นฟังก์ชนั หรื อไม่ก่อนเสมอแล้วจึงทาการตรวจสอบความเป็ นฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่งดังนี้
กรณีที่ 1. เมื่อโจทย์กาหนดฟังก์ชันเป็ นแบบแจกแจงสมาชิ ก
ให้ดูเรนจ์ (สมาชิกตัวหลัง ) ของคู่สมาชิกแต่ละตัว
หากเรนจ์แต่ละตัวมีค่าไม่ซ้ ากัน จะเป็ นฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง
หากเรนจ์มีค่าซ้ ากัน จะไม่เป็ นฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง
กรณีที่ 2. เมื่อโจทย์กาหนดกราฟของฟังก์ชันมาให้
ให้ลากเส้นตรงขนานแกน X ไปตัดเส้นกราฟของฟังก์ชนั นั้น
หากเส้นขนานแกน X ตัดเส้นกราฟจุดเดียวเสมอ จะเป็ นฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง
หากเส้นขนานแกน X ตัดเส้นกราฟหลายจุด จะไม่เป็ นฟั งก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง
กรณีที่ 3. เมื่อโจทย์กาหนดฟังก์ชันเป็ นแบบเงื่อนไขซึ่งสามารถแจกแจงสมาชิกได้
ให้ทาการแจกแจงสมาชิกให้เห็นจริ ง แล้วตรวจสอบเหมือนกรณี ที่ 1
กรณีที่ 4. เมื่อโจทย์กาหนดฟังก์ชันเป็ นแบบเงื่อนไขซึ่งแจกแจงสมาชิกไม่ ได้
ให้ใช้นิยามของฟังก์ชนั 1 – 1 ที่วา่ " ถ้า (x , y) f และ (z , y) f ถ้าตรวจสอบ
ได้วา่ x = z จะแสดงว่าฟังก์ชนั นั้นเป็ นฟังก์ชนั่ 1 – 1 ทันที ”
วิธีทาโดยละเอียดให้ศึกษาจากตัวอย่างต่อๆ ไป
43. ฟังก์ชนั ในข้อใดต่อไปนี้ เป็ นฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง
1. f1 = { (1 , 2) , (3 , 4) , (5 , 6) , (7 , 4) }
2. f2 = { (5 , 7) , (1 , 3) , (4 , 6) , (2 , 7) }
3. f3 = { (3 , 5) , (1 , 4) , (2 , 8) , (6 , 3) }
4. f4 = { (2 , 4) , (5 , 3) , (7 , 4) , (1, 5) }
21
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
44. ความสัมพันธ์ซ่ ึ งมีกราฟดังต่อไปนี้ ข้อใดเป็ นฟังก์ชนั หนึ่งต่อหนึ่ง
1. y 2. y
x x
3. 4.
y y
x x
22
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
47(แนว Pat) กาหนดให้ A = { 1 , 2 , 3 , 4 } , B = { a , b} ฟังก์ชนั จาก A ไป B มี
จานวนทั้งหมดกี่ฟังก์ชนั
23
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
5.3.2.4 ฟังก์ชันเพิม่ และฟังก์ ชันลด
บทนิยาม ให้ f เป็ นฟังก์ชนั ซึ่ งมีโดเมนและเรนจ์เป็ นสับเซตของเซตของจานวนจริ ง
และ A เป็ นสับเซตของโดเมน
1. f เป็ นฟังก์ชนั เพิ่ม (increasing function) ใน A ก็ต่อเมื่อสาหรับ x1 และ x2 ใดๆ
ใน A ถ้า x1 < x2 แล้ว y1 < 2
2. f เป็ นฟังก์ชนั ลด (decreasing function) ใน A ก็ต่อเมื่อสาหรับ x1 และ x2 ใดๆ
ใน A ถ้า x1 < x2 แล้ว y1 > y2
Y Y
y2 f y2
y1 y1
f
0 x1 x2 X 0 x1 x2 X
(ก) ฟังก์ชนั เพิ่ม (ข) ฟังก์ชนั ลด
50. จงพิจารณาว่า ฟังก์ชนั ต่อไปนี้เป็ นฟังก์ชนั เพิ่มหรื อลด
ก) f = { (x , y)R x R y = 3x – 2 } ข) g = { (x , y)R x R y = – x3 + 1 }
1. ก. เพิ่ม ข. ลด 2. ก. เพิ่ม ข. เพิ่ม
3. ก. ลด ข. เพิ่ม 4. ก. ลด ข. ลด
25
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
52. จากสมการที่กาหนด จงหา f (2) , f (7) , f (0) , f (4)
4x 1 เมื่ อ x<3
f(x) = 8 เมื่ อ 3 x 0
3x
5 เมื่ อ x>0
1. 1 , –27 , 8 , 15 2. –27 , 1 , 0 , 15
3. 1 , –27 , 8 , –15 4. –27 , 1 , 0 , –15
26
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
55. กาหนดให้ f (x + 3) = 2x – 1 ค่าของ f (1) ตรงกับข้อใด
1. –5 2. 5 3. –1 4. 1
27
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
59(แนว En) กาหนดให้ f (x) = x2 + x + 1 จงหา g (x) ที่ทาให้ f (x) = g (x – 1)
1. g(x) = x2 + 3x + 3 2. g(x) = x2 + x – 1
3. g(x) = x2 – x + 1 4. g(x) = x2 – 3x + 3
28
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
62. กาหนดให้ f = (1 , a) , (3 , b) , (5 , c) แล้ว ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
1. f (1) = a , Df = 1 , Rf = a 2. f (3) = b , Df = 3 , Rf = b
3. f (5) = c , Df = 5 , Rf = c 4. f (1) + f (3) + f (5) = 9
3
5 x
63(แนว มช) โดเมนของ f (x) = x
คือข้อใดต่อไปนี้
x 3
1. ( 3 , 5 ) 2. (3 , 5 ] 3. [ 3 , 5 ) 4. [3 , 5 ]
5.3.4 ฟังก์ชันผกผัน
ตัวผกผันของฟังก์ชนั f คือความสัมพันธ์ซ่ ึ งเกิดจากการสลับที่ของสมาชิกตัวหน้าและ
สมาชิกตัวหลังในแต่ละคู่อนั ดับที่เป็ นสมาชิกของ f ถ้าตัวผกผันนั้นเป็ นฟังก์ชนั จะเรี ยกว่า
ฟังก์ชนั ผกผัน
ทฤษฏีบท ให้ f เป็ นฟังก์ชนั
f จะมีฟังก์ชนั ผกผันก็ต่อเมื่อ f เป็ นฟังก์ชนั 1 – 1
ฝึ กทา ถ้า f = (1 , r) , (2 , s) , (3 , r) , (4 , t) จงหา f –1 , D 1 , R 1 และ
f f
f –1 เป็ นฟังก์ชนั หรื อไม่
29
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
64. กาหนดให้ f = (1 , a) , (3 , b) , (5 , c) แล้ว f –1(a) + f –1(b) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 1 2. 3 3. 4 4. 9
30
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
68. กาหนดให้ f (x) = 3 – 4x5 แล้วฟังก์ชนั ผกผันของ f คือข้อใดต่อไปนี้
5 5
1. f–1(x) = 3 4 x 2. f–1(x) = 3 4 x
3 3
–1 5 –1 5
3. f (x) = 4 x 4. f (x) = 4 x
31
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
71. กาหนดให้ f (x) = 2x 1 แล้วฟังก์ชนั ผกผันของ f คือข้อใดต่อไปนี้
1. f–1(x) = x 22 1 2. f–1(x) = x 22 1 และ x ≥ 0
3. f–1(x) = x22 1 4. f–1(x) = x22 1 และ x ≥ 0
32
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
74. สมมติ ว่า f เป็ นฟั งก์ชันหนึ่ งต่อหนึ่ ง และ f (3) = 10 , f (10) = 18 , f–1(4) = 3 แล้ว
ค่าของ f–1(10) + f–1(18) + f (3) มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 31 2. 17 3. –17 4. –31
33
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
77(แนว มช) ถ้า f เป็ นฟังก์ชนั่ ซึ่ ง f (x + 3) = 2x – 1 แล้ว f –1(3) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 2 2. –2 3. 5 4. –5
34
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
80. กาหนดให้ f (x + 1 ) = x3 + 3x2 + 3x + 3 แล้ว f –1(–6) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. –4 2. –3 3. –2 4. –1
35
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
83. กาหนดให้ f (x) = 2x 4 –1
5x 3 แล้ว f (x) มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. f –1(x) = 5x3x24 2. f –1(x) = 5x3x24
3. f –1(x) = 3x 4
5x 2 4. f –1(x) = 3x 4
5x 2
5.3.5 ฟังก์ชันประกอบ
บทนิยาม ให้ f และ g เป็ นฟังก์ชนั และ Rf Dg
ฟังก์ชนั ประกอบของ f และ g เขียนแทนด้วย gof คือฟั งก์ชนั ที่มีโดเมนคือ
Dgof = {x Df f (x) Dg}
และกาหนด gof โดย
(g o f) (x) = g [ f (x) ] สาหรับทุก x ใน Dgof
36
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
85. กาหนดให้ f = (1 , 2) , (3 , 4) , (5 , 6)
g = (2 ,10) , (4 , 20) , (6 , 30)
แล้ว g o f คือข้อใดต่อไปนี้
1. (1 , 2) , (3 , 4) , (5 , 6) 2. (1 , 10) , (3 , 20) , (5 , 30)
3. (2 , 1) , (4 , 3) , (6 , 5) 4. (10 , 1) , (20 , 3) , (30 , 5)
37
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
87. กาหนดให้ f (x) = x2 – 2 x , g (x) = x 5 ค่าของ (g o f) (3) และ (f o g) (9)
เท่ากับข้อใดต่อไปนี้ ( ตอบตามลาดับ )
1. 11 , 0 2. หาค่าไม่ได้ , 0 3. หาค่าไม่ได้ , 9 4. 11 , 9
2x 2 1 ; x 2
88. กาหนดให้ f (x) = 0 ; 2 x 4
x ; x 4
2x 1 ; x2
g (x) =
2x 2 ; x 2
แล้ว (g o f) (2) + (g o g) (–3) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. –20 2. –16 3. 6 4. 12
38
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
89. กาหนดให้ f (x) = 3x
2x 2
เมื่อ x 0
h (x) =
2x 3
เมื่อ x 0
g (x) = x2 + 1
จะได้วา่ f o ( h o g ) (1) มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 3 2. 5 3. 6 4. 109
90. กาหนด f (x) = x และ g (x) = x2 แล้ว (g o f) (x) และ (f o g) (x) เท่ากับข้อใด
1. (g o f) = x , (f o g) (x) = | x | 2. (g o f) (x) = x , (f o g) (x) = x
3. (g o f) หาไม่ได้ , (f o g) (x) = x 4. (g o f) = x , (f o g) (x) หาไม่ได้
39
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
92(แนว มช) กาหนดให้ g = (x , y) R x R y = 2x + 5 และ
h = (x , y) R x R y = 4x – 3
ค่าของ (h–1o g–1) ( 3 ) เท่ากับเท่าใด
3
93. กาหนดให้ f ( x ) = x + 4 และ g( x ) = x ค่าของ (g o f)–1(x) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. x3 – 4 2. x3 + 4 3. 3 x – 4 4. 3 x + 4
1. – 7 2. –3 3. 3 4. 7
40
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
95. กาหนดให้ f (x) = 2x + 1 และ (g o f) (x) = 2x + 4 ค่าของ g (x) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. x – 3 2. x + 3 3. 2x – 4 4. 2x + 4
41
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
98. กาหนดให้ (g o f) (x) = x3 + 2 และ g (x) = x + 2 จงหา f (x) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. x3 + 2 2. x3 3. 2x – 3 4. x3 + 3
f o f –1( x ) = x
100. กาหนดให้ g–1(x) = 3x – 5 และ (f o g) (x) = x + 1 ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1. f (x) = 3x – 4 2. f–1(x) = 3x – 4
3. f (x) = x 3 5 4. f–1(x) = x 3 5
42
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
101(แนว En) ถ้า f (x) = x – 1 และ (g o f–1) (x) = 4x2 – 1 แล้วเซตคาตอบของสมการ g (x) = 0
คือข้อใดต่อไปนี้
1. { 2 , 3 } 2. { 12 , 23 } 3. { 0 , 1 } 4. { 12 , 25 }
43
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
104. กาหนดให้ f (x) = x + 1 และ g (x) = x จงหา Dgof
1. R 2. [ 0 , ) 3. ( – , 0 ] 4. [ –1 , )
44
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
107. กาหนดให้ f (x) = 1x และ g (x) = x2 + 4x แล้วโดเมนของ f o g เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. (– , –4) (4 , ) 4. (0 , )
45
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
110. กาหนดให้ f (x) = 1x และ g (x) = x2 + 4x แล้วโดเมนของ g o g เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. (– , –4) (4 , ) 4. (0 , )
46
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
112. กาหนดให้ f = (2 , 1) , (5 , 4) , (7 , 3) , (9 , 6)
g = (2 , 5) , (5 , 1) , (7 , 0) , (8 , 3)
ข้อใดต่อไปนี้ถูก
1. Df+g = 2 , 5 , 7 , 8 , 9 2. D f– g = 9
3. D f g = 2 , 5 , 7 , 8 , 9 4. D f = 2 , 5
g
3
114(แนว Pat) ถ้า f (x) = x และ g (x) = x2 แล้ว (f–1 + g–1) (2) มีค่าเท่าใด
47
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
115(แนว En) ถ้า f (x) = (3 x) (2 x) และ g (x) = 1 แล้วโดเมนของ f . g
x+3
คือเซตในข้อใดต่อไปนี้
1. 2. – , 2 3. –3 , 2 4. –3 , 2
48
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
117. กาหนดให้ f (x) = 9 x 2 และ g (x) = x 2 2 ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
1. (f + g ) (x) = 9 x 2 x 2 2 ; Df + g = [–3 , – 2 ] [ 2 , 3]
2. (f – g) (x) = 9 x 2 x 2 2 ; Df – g = [–3 , – 2 ] [ 2 , 3]
3. (f . g) (x) = (9 x 2 )(x2 2) ; Df . g = [–3 , – 2 ] [ 2 , 3]
2 2)
4. ( gf )(x) = (9 x)(x ; D f = [–3 , – 2 ] [ 2 , 3]
x2 2
g
49
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
เฉลยบทที่ 5 ฟั ง ก์ ช ัน
1. ตอบข้ อ 1. 2. ตอบข้ อ 3. 3. ตอบข้ อ 4. 4. ตอบข้ อ 2.
5. ตอบข้ อ 2. 6. ตอบข้ อ 2. 7. ตอบข้ อ 1. 8. ตอบข้ อ 2.
9. ตอบข้ อ 3. 10. ตอบข้ อ 4. 11. ตอบข้ อ 3. 12. ตอบข้ อ 1.
13. ตอบข้ อ 3. 14. ตอบข้ อ 2. 15. ตอบข้ อ 1. 16. ตอบข้ อ 2.
17. ตอบข้ อ 1. 18. ตอบข้ อ 2. 19. ตอบข้ อ 3. 20. ตอบข้ อ 4.
21. ตอบข้ อ 3. 22. ตอบข้ อ 4. 23. ตอบข้ อ 3. 24. ตอบข้ อ 1.
25. ตอบข้ อ 1. 26. ตอบข้ อ 4. 27. ตอบข้ อ 4. 28. ตอบข้ อ 1.
29. ตอบข้ อ 1. 30. ตอบข้ อ 4. 31. ตอบข้ อ 3. 32. ตอบข้ อ 3.
33. ตอบข้ อ 4. 34. ตอบข้ อ 4. 35. ตอบข้ อ 1. 36. ตอบข้ อ 4.
37. ตอบข้ อ 1. 38. ตอบข้ อ 4. 39. ตอบข้ อ 4. 40. ตอบข้ อ 2.
41. ตอบข้ อ 4. 42. ตอบข้ อ 4. 43. ตอบข้ อ 3. 44. ตอบข้ อ 3.
45. ตอบข้ อ 2. 46. ตอบข้ อ 3. 47. ตอบ 14 48. ตอบข้ อ 4.
49. ตอบ 14 50. ตอบข้ อ 1. 51. ตอบข้ อ 3. 52. ตอบข้ อ 3.
53. ตอบข้ อ 4. 54. ตอบข้ อ 4. 55. ตอบข้ อ 1. 56. ตอบข้ อ 3.
57. ตอบข้ อ 1. 58. ตอบข้ อ 2. 59. ตอบข้ อ 1. 60. ตอบข้ อ 3.
61. ตอบข้ อ 4. 62. ตอบข้ อ 4. 63. ตอบข้ อ 2. 64. ตอบข้ อ 3.
65. ตอบข้ อ 1. 66. ตอบข้ อ 4. 67. ตอบข้ อ 4. 68. ตอบข้ อ 1.
69. ตอบข้ อ 3. 70. ตอบข้ อ 3. 71. ตอบข้ อ 4. 72. ตอบข้ อ 4.
73. ตอบข้ อ 1. 74. ตอบข้ อ 2. 75. ตอบข้ อ 3. 76. ตอบข้ อ 3.
77. ตอบข้ อ 3. 78. ตอบข้ อ 3. 79. ตอบข้ อ 4. 80. ตอบข้ อ 2.
81. ตอบข้ อ 3. 82. ตอบข้ อ 4. 83. ตอบข้ อ 2. 84. ตอบข้ อ 2.
85. ตอบข้ อ 2. 86. ตอบข้ อ 3. 87. ตอบข้ อ 2. 88. ตอบข้ อ 2.
89. ตอบข้ อ 1. 90. ตอบข้ อ 1. 91. ตอบข้ อ 1. 92. ตอบ 0.5
93. ตอบข้ อ 1. 94. ตอบข้ อ 1. 95. ตอบข้ อ 2. 96. ตอบข้ อ 1.
97. ตอบข้ อ 2. 98. ตอบข้ อ 2. 99. ตอบข้ อ 3. 100. ตอบข้ อ 1.
50
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
101. ตอบข้ อ 2. 102. ตอบข้ อ 3. 103. ตอบข้ อ 4. 104. ตอบข้ อ 4.
105. ตอบข้ อ 1. 106. ตอบข้ อ 1. 107. ตอบข้ อ 3. 108. ตอบข้ อ 4.
109. ตอบข้ อ 4. 110. ตอบข้ อ 1. 111. ตอบข้ อ 4. 112. ตอบข้ อ 4.
113. ตอบข้ อ 2. 114. ตอบ 12 115. ตอบข้ อ 4. 116. ตอบข้ อ 4.
117. ตอบข้ อ 4.
51
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
17. ให้ r = (1 , –2) , (0 , 0) และให้ P(A) แทนเพาเวอร์เซตของเรนจ์ของ r ดังนั้น P(A) คือ
1. , {–2} , {–2 , 0} , {0, –2} 2. , {1} , {1 , 0} , {0 , 1}
3. {–2} , {} , {–2 , 0} , 4. {–2} , {0} , {–2 , 0} ,
54
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
18. ก าหนดให้ S = {1 , 2 , 3 , 4 , 5} และ r = (x , y) S S x + y = 6 แล้ว
จานวนสมาชิกของโดเมนและเรนจ์ของ r ตามลาดับ เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 0 , 0 2. 3 , 1 3. 3 , 3 4. 5 , 5
56
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
30. โดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ r = (x , y) y2 = x คือข้อใดต่อไปนี้
1. Dr = R , Rr = [ 0 , ) 2. Dr = R , Rr = R
3. Dr = [ 0 , ) , Rr = R 4. Dr = [ 0 , ) , Rr = [ 0 , )
58
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
42. โดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ r = (x , y) y = 1 คือข้อใดต่อไปนี้
9 x2
1. Dr = (– , 3) , Rr = [0 , ) 2. Dr = (–3 , 3) , Rr = [0 , )
3. Dr = (– , 3) , Rr = [ 13 , ) 4. Dr = (–3 , 3) , Rr = [ 13 , )
5.2 ตัวผกผันของความสัมพันธ์
50. โดเมนของตัวผกผันของความสัมพันธ์ { (1 , 3) , (2 , 4) , (3 , 7) , (6 , 7) , (6 , 10) } คือ
ข้อใดต่อไปนี้
1. Dr = { 1 , 2 , 3 , 6 } 2. Dr = { 3 , 4 , 7 , 10 }
3. Dr = { 1 , 2 , 3 , 4 , 6 , 7 , 10 } 4. ถูกทุกข้อ
60
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
54. ตัวผกผันของความสัมพันธ์ r = (x , y) x y = 1 คือข้อใดต่อไปนี้
1. r–1 = (x , y) x y = 1 2. r–1 = (x , y) xy = 1
3. r–1 = (x , y) xy = 1 4. ถูกทุกข้อ
5.3 ฟังก์ชัน
5.3.1 ความหมายของฟังก์ชัน
56. ความสัมพันธ์ r ในข้อใดต่อไปนี้เป็ นฟังก์ชนั
1. r1 = { (1 , 2) , (3 , 4) , (1 , 5) , (4 , 7) }
2. r2 = { (5 , 9) , (6 , 8) , (7 , 4) , (6 , 3) }
3. r3 = { (1 , 7) , (2 , 4) , (3 , 5) , (2 , 4) }
4. r4 = { (5 , 1) , (6 , 2) , (4 , 3) , (5 , 7) }
62
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
63. ความสัมพันธ์ที่กาหนดให้ต่อไปนี้ มีกี่ขอ้ ที่เป็ นฟังก์ชนั
(ก) {(x , y) y = x } (ข) {(x , y) x = 3 } (ค) {(x , y) y = –2 }
1. 0 2. 1 3. 2 4. 3
67. จากข้อที่ผา่ นมา ฟังก์ชนั f ที่กาหนดให้มีกี่ขอ้ ที่เป็ นฟังก์ชนั่ จาก A ไปทัว่ ถึง B
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4
63
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
69. กาหนดให้ A = { 1 , 2 , 3 } , B = { 4 , 5 , 6 , 7 } และ C = { a , b , c , d }
จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. f1 = { (1 , 4) , (2 , 5) , (3 , 6) } เป็ นฟังก์ชนั จาก A ไป B
ข. f2 = { (2 , a) , (3 , b) , (4 , c) } เป็ นฟังก์ชนั จาก B ไป C
ค. f3 = { (a , 4) , (b , 5) , (c , 6) , (d , 7) } เป็ นฟังก์ชนั จาก C ไป B
ง. f4 = { (4 , 1) , (5 , 2) , (6 , 3) , (7 , 4) } เป็ นฟังก์ชนั จาก B ไป A
ข้อใดต่อไปนี้ถูก
1. ข้อ ก ถึง ง มีขอ้ ถูก 1 ข้อ 2. ข้อ ก ถึง ง มีขอ้ ถูก 2 ข้อ
3. ข้อ ก ถึง ง มีขอ้ ถูก 3 ข้อ 4. ข้อ ก ถึง ง มีขอ้ ถูก 4 ข้อ
64
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
73. ฟังก์ชนั ที่กาหนดให้ต่อไปนี้ มีกี่ขอ้ ที่เป็ นฟังก์ชนั 1 – 1
(ก) { (x , y) y = x2 + x }
(ข) { (x , y) y = 2x + 5 }
(ค) { (x , y) y = 2x – 1 }
1. 0 2. 1 3. 2 4. 3
3x 2
; x2
77. กาหนดให้ f (x) ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
5x
; x2
1. f (–2) = 1 2. f (1) = 5 3. f (2) = 8 4. f (3) = 15
65
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
1 เมื่ อ x 1
78. กาหนดให้ f (x) = x เมื่ อ 1 x 3 แล้ว f (–2) + f (1) + f (9) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
2 เมื่ อ x 3
1. 2 2. 3 3. 4 4. 11
2x 5 ; x 9
79. กาหนดให้ f (x) x4 ; 9 x 8
x 2 3x ; x 8
g (x) = 2x + 1
ข้อใดต่อไปนี้ถูก
1. f (g (–6) ) = –15 2. f (g (6) ) = 9 3. g (f (6) ) = 5 4. g (f (–1) ) = 7
5.3.4 ฟังก์ชันผกผัน
94. กาหนดให้ f (x) = 3x + 1 แล้วฟังก์ชนั ผกผันของ f คือข้อใดต่อไปนี้
1. f–1(x) = 3x – 1 2. f–1(x) = x 3 1
3. f–1(x) = 5x – 7 4. f–1(x) = x 5 7
3
96. กาหนดให้ f (x) = 5 + x แล้วฟังก์ชนั ผกผันของ f คือข้อใดต่อไปนี้
1. f–1(x) = (x + 5)3 2. f–1(x) = (x – 5)3
3. f–1(x) = x3 + 5 4. f–1(x) = x3 – 5
68
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
97. กาหนดให้ f (x) = 2 5x แล้วฟังก์ชนั ผกผันของ f คือข้อใดต่อไปนี้
1. f–1(x) = x 25 2 2. f–1(x) = x 25 2 และ x ≥ 0
3. f–1(x) = x 25 2 4. f–1(x) = x 25 2 และ x ≥ 0
69
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
104. ถ้า g เป็ นฟังก์ชนั ซึ่ง g (x) = x3+3x2+3x+9 แล้ว g–1(7) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. –2 2. 2 3. 3 4. 5
5.3.5 ฟังก์ชันประกอบ
110. กาหนดให้ f = { (1 , 5) , (2 , 4) , (3 , 6) , (4 , 10) } และ
g = { (3 , 1) , (4 , 10) , (5 , 9) }
แล้ว g o f เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. { (1 , 9) , (2 , 10) } 2. { (3 , 7) , (4 , 20) }
3. { (3 , 6) , (4 , 100) } 4. หาไม่ได้
70
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
111. กาหนดให้ f = { (–3 , 1) , (0 , 4) , (2 , 0) }
g = { (–3 , 2) , (1 , 2) , (2 , 6) } และ
h = { (2 , 4) , (1 , 0) }
แล้ว f o g เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. { (–3 , 6) , (1 , 6) } 2. { (–3 , 2) }
3. { (–3 , 0) , (1 , 0) } 4. หาไม่ได้
2x 2 1 ; x 2
117. กาหนดให้ f (x) = 0 ; 2 x 4
x ; x 4
2x 1 ; x2
g (x) =
2x 2 ; x 2
แล้ว (f o g) (4) + [ f o (g o f) ] (0) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. –20 2. –16 3. 6 4. 12
72
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
121. กาหนดให้ f (x) = x3 – x และ g (x) = x2 แล้ว (f o f) (x) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. x4 2. x6– x2
3. (x3 – x)3 – (x3 – x) 4. x6 – 2x4 + x2
4x ; x 0
129. กาหนดให้ f (x) =
6 2x ; x 3
g (x) = x2 + 2 ; x > 1
แล้ว (f o g) (x) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 2 – 2x2 เมื่อ x > 1 2. x2 + 1 เมื่อ x > 1
2 4x x 3
3. x 4 ; x 0 4.
;
x 3 ; x 3 6 2x ; x0
74
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
132. กาหนดให้ f (x) = x – 2 และ (g o f) (x) = x2 – 4x – 4 แล้ว g (–1) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. –7 2. 0 3. 3 4. ไม่นิยาม
133. กาหนดให้ g (x) = 2x + 1 และ h (x) = 4x2 + 4x + 7 ซึ่ ง (f o g) (x) = h (x) แล้ว f (x)
เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. x2 + x – 1 2. x3 + 1 3. x2 + 6 4. ไม่นิยาม
3
134. ให้ g (x) = x + 2 และ (f o g) (x) = (x 2) 2 + 1 แล้ว f (x) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. x6– x4 2. x3 + 1 3. (x3 – x)3 – x3 4. x6 – 2x3 + x
138. กาหนดให้ f (x) = 3x + 5 และ h (x) = 3x2 + 3x + 2 ซึ่ง (f o g) (x) = h (x) แล้ว g (x)
เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. x2 + x – 1 2. x3 + 1 3. x2 + 6 4. ไม่นิยาม
141. ให้ (f–1 o g–1) (x) = 4x – 2 และ g(x) = 2x + 3 แล้ว f (x) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. 8x2 + 10 2. 8x2 – 10 3. x 810 4. x 810
144. ก าหนดให้ f (x) = x2 และ g (x) = x 5 แล้ว โดเมนของ g o f เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. [30 , )
3. (– , – 5 ] [ 5 , ) 4. (–5 , )
146. ก าหนดให้ f (x) = x2 และ g (x) = x 5 แล้ว โดเมนของ g o f เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. [30 , )
3. (– , – 5 ] [ 5 , ) 4. (–5 , )
76
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
147. กาหนดให้ f (x) = x + 1 และ g (x) = x แล้วโดเมนของ g o f เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. [0 , 1) (1 , ) 4. [–1 , )
149. ก าหนดให้ f (x) = x และ g (x) = x 1 4 แล้ว โดเมนของ f o g เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. [0 , 16) (16 , ) 4. (4 , )
150. ก าหนดให้ f (x) = x และ g (x) = x 1 4 แล้ว โดเมนของ g o f เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. [0 , 16) (16 , ) 4. (4 , )
151. ก าหนดให้ f (x) = x และ g (x) = x 1 4 แล้ว โดเมนของ f o f เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. [0 , 16) (16 , ) 4. (4 , )
152. ก าหนดให้ f (x) = x x 1 และ g (x) = 2x – 3 แล้ว โดเมนของ f o g เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. R – { 23 } 3. R – { 0 } 4. R – { 0 , –1 }
153. ก าหนดให้ f (x) = x x 1 และ g (x) = 2x – 3 แล้ว โดเมนของ g o f เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. R – { 23 } 3. R – { 0 } 4. R – { 0 , –1 }
77
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
154. กาหนดให้ f (x) = x x 1 และ g (x) = 2x – 3 แล้วโดเมนของ f o f เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. R – { 23 } 3. R – { 0 } 4. R – { 0 , –1 }
155. ก าหนดให้ f (x) = x x 1 และ g (x) = 2x – 3 แล้ว โดเมนของ g o g เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. R – { 23 } 3. R – { 0 } 4. R – { 0 , –1 }
3
158. กาหนดให้ f (x) = x และ g (x) = x แล้วโดเมนของ f o g เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. (– , 0] 4. (0 , )
3
159. กาหนดให้ f (x) = x และ g (x) = x แล้วโดเมนของ g o f เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. (– , 0] 4. (0 , )
3
160. กาหนดให้ f (x) = x และ g (x) = x แล้วโดเมนของ f o f เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. (– , 0] 4. (0 , )
3
161. กาหนดให้ f (x) = x และ g (x) = x แล้วโดเมนของ g o g เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. (– , 0] 4. (0 , )
78
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
162. ก าหนดให้ f (x) = 3x + 1 และ g (x) = 2x – x2 แล้ว โดเมนของ g o f เท่ า กับ ข้อ ใด
ต่อไปนี้
1. R 2. [0 , ) 3. [0 , 16) (16 , ) 4. (4 , )
5.3.6 การดาเนินการของฟังก์ชัน
167. กาหนดให้ f = { (1 , 5) , (2 , 4) , (3 , 6) , (4 , 10) } และ
g = { (3 , 1) , (4 , 10) , (5 , 9) }
แล้ว f + g เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. { (1 , 9) , (2 , 10) } 2. { (3 , 7) , (4 , 20) }
3. { (3 , 6) , (4 , 100) } 4. { (3 , 6) }
80
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
174. กาหนดให้ f (x) = x 2 1 และ g (x) = 1 x ข้อความต่อไปนี้ มีกี่ขอ้ ที่ถูกต้อง
ก. (f + g ) (x) = x 2 1 1 x ; Df + g = (– , 1]
ข. (f – g) (x) = x 2 1 1 x ; Df – g = (– , 1]
ค. (f . g) (x) = (x2 1)(1 x) ; Df . g = (– , 1]
2 x)
ง. ( gf )(x) = (x 11)(1x ; D f = (– , 1]
g
1. 1 ข้อ 2. 2 ข้อ 3. 3 ข้อ 4. 4 ข้อ
81
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
177. กาหนด f (x) = x2 – 2x + 3
g (x) = 2xx 13
h (x) = x 2
ข้อใดต่อไปนี้ผดิ
1. Df + g = R – {–1} 2. Df – h = {x x ≥ –2}
3. Dg . h = [–2 , –1] (–1 , ) 4. D h [2 , 23 ] ( 23 , )
g
82
ติวสบายคณิต เล่ม 2 http://www.pec9.com บทที่ 5 ฟังก์ชัน
84