Professional Documents
Culture Documents
ปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร 1
ปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร 1
สำรบัญ
หน้ำ
คำนำ ก
สำรบัญ ข
สำรบัญภำพ จ
แผนบริหำรกำรสอนประจำวิชำ ซ
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 1 1
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 1 3
หน่วยที่ 1 กำรเตรียมงำนก่อสร้ำง 5
1.1 การสารวจหลักเขตที่ดิน 5
1.2 การปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างอาคาร 6
1.3 การกาหนดแนวรั้วและที่ดินข้างเคียง 8
1.4 สิ่งอานวยความสะดวกชั่วคราว 9
1.5 เครื่องมือสาหรับงานก่อสร้าง 11
บทสรุป 13
แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 1 14
เฉลยแบบทดสอบ 16
เอกสำรอ้ำงอิง 17
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 2 18
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 2 20
หน่วยที่ 2 กำรศึกษำแบบก่อสร้ำง 21
2.1 รายการประกอบแบบ 21
2.2 แบบผังบริเวณ 22
2.3 แบบแปลน 23
2.4 แบบรูปด้าน 32
2.5 แบบรูปตัดตามยาวและรูปตัดตามขวาง 36
บทสรุป 36
แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 2 37
เฉลยแบบทดสอบ 39
เอกสำรอ้ำงอิง 40
ค
สำรบัญ (ต่อ)
หน้ำ
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 3 41
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 3 43
หน่วยที่ 3 กำรวำงผังอำคำร 45
3.1 การอ่านแบบก่อสร้างเพื่อการวางผังอาคาร 45
3.2 การเตรียมรายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 46
3.3 ขั้นตอนการวางผังอาคาร 49
3.4 การหาศูนย์กลางเสา กาหนดตาแหน่งฐานรากอาคาร 53
บทสรุป 56
แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 3 57
เฉลยแบบทดสอบ 59
เอกสำรอ้ำงอิง 60
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 4 62
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 4 63
หน่วยที่ 4 งำนฐำนรำกอำคำร 65
4.1 ประเภทฐานราก 65
4.2 การเตรียมหลุมฐานราก 68
4.3 งานแบบหล่อคอนกรีตฐานราก 69
4.4 งานเหล็กเสริมฐานราก 72
4.5 งานคอนกรีตฐานราก 74
บทสรุป 76
แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 4 77
เฉลยแบบทดสอบ 79
เอกสำรอ้ำงอิง 80
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 5 81
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 5 83
หน่วยที่ 5 งำนโครงสร้ำงอำคำร 85
5.1 งานเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก 85
5.2 งานคานคอนกรีตเสริมเหล็ก 93
5.3 งานพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก 98
บทสรุป 101
ง
สำรบัญ (ต่อ)
หน้ำ
แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 5 102
เฉลยแบบทดสอบ 104
เอกสำรอ้ำงอิง 105
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 6 106
แบบทดก่อนหลังเรียนหน่วยที่ 6 108
หน่วยที่ 6 งำนโครงสร้ำงหลังคำ 109
6.1 รูปแบบทรงหลังคา 109
6.2 งานโครงสร้างหลังคาไม้ 112
6.3 งานโครงสร้างหลังคาเหล็ก 119
6.4 งานโครงสร้างหลังคาคอนกรีตเสริมเหล็ก 122
บทสรุป 125
แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 6 126
เฉลยแบบทดสอบ 128
เอกสำรอ้ำงอิง 129
บรรณำนุกรม 130
จ
สำรบัญภำพ
หน้ำ
ภาพที่ 1.1 แสดงภาพ ลักษณะของหมุดหลักเขตที่ดิน 5
ภาพที่ 1.2 แสดงภาพ การปักหมุดหลักเขตที่ดิน 5
ภาพที่ 1.3 แสดงภาพ บริเวณพื้นที่เป็นป่าและสวน 6
ภาพที่ 1.4 แสดงภาพ บริเวณพื้นที่เป็นเนิน 7
ภาพที่ 1.5 แสดงภาพ บริเวณเป็นที่ลุ่มน้าขังหรือมีบ่อน้า 7
ภาพที่ 1.6 แสดงแบบ แปลนถนนที่ขออนุญาตเชื่อมกับทางหลวง 8
ภาพที่ 1.7 แสดงแบบ ระยะห่างริมเสาอาคารถึงแนวรั้ว 9
ภาพที่ 1.8 แสดงแบบ ผังสิ่งอานวยความสะดวก 10
ภาพที่ 2.1 แสดงแบบ แปลนผังบริเวณ 23
ภาพที่ 2.2 แสดงแบบ แปลนพื้น 24
ภาพที่ 2.3 แสดงแบบ แปลนฐานราก คานคอดิน พื้น 27
ภาพที่ 2.4 แสดงแบบ รูปตัด ฐานราก 28
ภาพที่ 2.5 แสดงแบบ รูปตัด คาน เสา 28
ภาพที่ 2.6 แสดงแบบ รูปตัด พื้น 29
ภาพที่ 2.7 แสดงแบบ แปลนคานรับโครงหลังคา 30
ภาพที่ 2.8 แสดงแบบ แปลนโครงหลังคา 31
ภาพที่ 2.9 แสดงแบบ รูปด้านหน้า 32
ภาพที่ 2.10 แสดงแบบ รูปด้านหลัง 32
ภาพที่ 2.11 แสดงแบบ รูปด้าน 33
ภาพที่ 2.12 แสดงแบบ รูปด้าน 33
ภาพที่ 2.13 แสดงแบบ รูปตัดตามขวาง 34
ภาพที่ 2.14 แสดงแบบ รูปตัดตามยาว 35
ภาพที่ 3.1 แสดงแบบ แปลนผังบริเวณ 46
ภาพที่ 3.2 แสดงแบบ การวางไม้ผัง 47
ภาพที่ 3.3 แสดงแบบ การวางผังอาคารโดยวิธีการวางเส้นฐาน 50
ภาพที่ 3.4 แสดงแบบ การวางผังอาคารโดยวิธีการตีไม้ผัง 52
ภาพที่ 3.5 แสดงแบบ การหาเส้นแนวแรก 53
ภาพที่ 3.6 แสดงแบบ การหาฉากโดยใช้ฉากจันทัน 54
ภาพที่ 3.7 แสดงแบบ การหาฉากโดยใช้กฎ 3:4:5 ของพิธากอรัส (Pythagors’s) 55
ฉ
สำรบัญภำพ (ต่อ)
หน้ำ
ภาพที่ 3.8 แสดงแบบ ตาแหน่งศูนย์กลางเสา 56
ภาพที่ 4.1 แสดงแบบ ฐานรากแผ่เดี่ยว 65
ภาพที่ 4.2 แสดงแบบ ฐานรากตีนเป็ด 66
ภาพที่ 4.3 แสดงแบบ ฐานรากร่วม 66
ภาพที่ 4.4 แสดงแบบ ฐานรากแผ่ร่วม 67
ภาพที่ 4.5 แสดงแบบ ฐานรากวางบนเสาเข็มความฝืด 67
ภาพที่ 4.6 แสดงแบบ ฐานรากวางบนเสาเข็มรับน้าหนักปลายเข็ม 68
ภาพที่ 4.7 แสดงแบบ การขุดดินฐานรากแบบปากหลุมมีมุมลาดเอียง 69
ภาพที่ 4.8 แสดงแบบ การตีไม้เคร่าติดไม้แบบฐานราก 71
ภาพที่ 4.9 แสดงแบบ การประกบยึดไม้แบบฐานราก 71
ภาพที่ 4.10 แสดงแบบ การประกอบติดตั้งไม้แบบฐานราก 72
ภาพที่ 4.11 แสดงแบบ การเสริมเหล็กฐานราก 73
ภาพที่ 5.1 แสดงแบบ การตัดเหล็กแกนตอนงอหัวเหล็ก 86
ภาพที่ 5.2 แสดงแบบ การดัดเหล็กปลอกเสา 87
ภาพที่ 5.3 แสดงแบบ การผูกเหล็กเสริม 88
ภาพที่ 5.4 แสดงแบบ การประกอบเหล็กเสริมเสา 89
ภาพที่ 5.5 แสดงแบบ การประกอบไม้แบบเสา 91
ภาพที่ 5.6 แสดงแบบ การติดตั้งแบบเสาและการรัดปากแบบ 92
ภาพที่ 5.7 แสดงแบบ การตั้งเสาตุ๊กตาตอนหัวเสา 95
ภาพที่ 5.8 แสดงแบบ การดัดเหล็กเสริมแกนคาน และเหล็กคอม้า 96
ภาพที่ 5.9 แสดงแบบ เหล็กเสริมแกนบน แกนล่าง และเหล็กคอม้า 97
ภาพที่ 5.10 แสดงแบบ การตั้งแบบหล่อคานและพื้นคอนกรีต 99
ภาพที่ 5.11 แสดงแบบ การเสริมเหล็กพื้นชั้นบน 100
ภาพที่ 6.1 แสดงแบบ หลังคาแบน 104
ภาพที่ 6.2 แสดงแบบ หลังคาเพิงหมาแหงน 105
ภาพที่ 6.3 แสดงแบบ หลังคาปีกผีเสื้อ 105
ภาพที่ 6.4 แสดงแบบ หลังคาทรงจั่ว 106
ภาพที่ 6.5 แสดงแบบ หลังคาปั้นหยา 106
ภาพที่ 6.6 แสดงแบบ รูปตัดโครงหลังคา 107
ภาพที่ 6.7 แสดงแบบ การบากบ่าเสาเพื่อติดตั้งอะเส 109
ช
สำรบัญภำพ (ต่อ)
หน้ำ
ภาพที่ 6.8 แสดงแบบ การบากบ่าเสาติดตั้งจันทันเอก 110
ภาพที่ 6.9 แสดงแบบ แปลนโครงหลังคา การวางอะเส อกไก่ จันทัน 111
ภาพที่ 6.10 แสดงแบบ การติดตั้งจั่วและขื่อคัด 112
ภาพที่ 6.11 แสดงแบบ การติดตั้งระยะห่างแป 112
ภาพที่ 6.12 แสดงแบบ ส่วนประกอบโครงหลังคาเหล็ก 113
ภาพที่ 6.13 แสดงแบบ การติดตั้งเหล็กยึดแป 113
ภาพที่ 6.14 แสดงแบบ คานโครงเหล็กยึดโครงหลังคา 114
ภาพที่ 6.15 แสดงแบบ แปลนการยึดทแยงโครงหลังคา 114
ภาพที่ 6.16 แสดงแบบ รูปตัดส่วนประกอบโครงหลังคาเหล็ก 115
ภาพที่ 6.17 แสดงแบบ การปูพื้นสาเร็จรูป 116
ภาพที่ 6.18 แสดงแบบ คานที่ประกบด้านข้างพื้น 116
ภาพที่ 6.19 แสดงแบบ การยาแนวร่องรอยต่อพื้น 117
ภาพที่ 6.20 แสดงแบบ การเสริมเหล็กตะแกรงและเหล็กเสริม 117
ภาพที่ 6.21 แสดงแบบ การเทคอนกรีตทับหน้า 118
ซ
แผนการจัดการเรียนรู้ประจารายวิชา
รหัสวิชา 2106-2001 ชื่อวิชา ปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร จานวน 6 หน่วยกิต 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาการก่อสร้าง
1. จุดประสงค์รายวิชา
จุดประสงค์รายวิชา เพื่อให้
1. เข้าใจหลักการ ขั้นตอน เทคนิค วิธีการก่อสร้างอาคาร การเลือกใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ปฏิบัติงาน
โครงสร้างอาคาร
2. สามารถปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร วางผัง งานฐานราก งานโครงสร้าง และมุงหลังคาอาคารบ้านพัก
อาศัย
3. ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ ความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม มุ่งประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
4. มีกิจนิสัยในการทางานอย่างมีระเบียบวินัย ความประณีต ความรอบคอบ ความปลอดภัย โดยใช้หลัก
เศรษฐกิจพอเพียง
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้ เกีย่ วกับขั้นตอนกระบวนการ วิธีการก่ อสร้ างอาคาร
2. เตรียมความพร้อมของร่างกาย เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์งานก่อสร้างโครงสร้างอาคาร
3. ปฏิบัติงาน งานวางผัง งานฐานราก งานโครงสร้างอาคาร
คาอธิบายรายวิชา
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ หลักการปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร ขั้นตอน เทคนิค วิธีการก่อสร้างอาคาร การ
เลือกใช้ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ การทางานวางผัง งานฐานราก งานโครงสร้าง และมุงหลังคาอาคาร บ้านพักอาศัย
ฌ
2. กาหนดการจัดการเรียนรู้ (โครงการสอน)
รหัสวิชา 2106-2001 ชื่อวิชา ปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร จานวน 4 หน่วยกิต 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขา งานก่อสร้าง สาขาวิชา การก่อสร้าง
สัปดาห์ที่ เวลา
หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สอนครั้งที่
(ว.ด.ป.) (ชม.)
1 1 การเตรียมงานก่อสร้าง 1-2 10
1.1 การสารวจหมุดหลักเขตที่ดิน
1.2 การปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างอาคาร
1.3 การกาหนดแนวรั้วและเขตที่ดินข้างเคียง
1.4 สิ่งอานวยความสะดวกชั่วคราว
1.5 เครื่องมือสาหรับงานก่อสร้าง
2 2 การศึกษาแบบงานก่อสร้าง 3-4 10
2.1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง
2.2 แบบผังบริเวณ
2.3 แบบแปลน
2.4 แบบรูปด้าน
2.5 แบบรูปตัดตามยาวและรูปตัดตามขวาง
3 3 การวางผังอาคาร 5-6 10
3.1 การอ่านแบบก่อสร้างก่อนวางผังอาคาร
3.2 การเตรียมรายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์
3.3 ขั้นตอนการวางผังอาคาร
3.4 การหาศูนย์กลางเสา กาหนดตาแหน่งฐานรากอาคาร
4-5 4 งานฐานรากอาคาร 7-10 20
4.1 ประเภทฐานราก
4.2 การเตรียมหลุมฐานราก
4.3 งานแบบหล่อคอนกรีตฐานราก
4.4 งานเหล็กเสริมฐานราก
4.5 งานคอนกรีตฐานราก
6-8 5 งานโครงสร้างอาคาร 11-16 30
5.1 งานเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก
5.2 งานคานคอนกรีตเสริมเหล็ก
5.3 งานพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก
สัปดาห์ที่ เวลา
หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สอนครั้งที่
(ว.ด.ป.) (ชม.)
9 - 11 6 งานโครงสร้างหลังคา 17-22 30
6.1 รูปทรงหลังคา
6.2 งานโครงสร้างหลังคาไม้
6.3 งานโครงสร้างหลังคาเหล็ก
6.4 งานโครงสร้างหลังคาคอนกรีตเสริมเหล็ก
ญ
สัปดาห์ที่ เวลา
หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สอนครั้งที่
(ว.ด.ป.) (ชม.)
12-17 ฝึกปฏิบัติงานก่อสร้างโครงสร้างอาคารไม้ชั้นเดียว 23-34 60
18 การวัดผลประเมินผล 35-36 10
รวม 180
กระบวนการจัดการเรียนรู้
1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน
2. ศึกษาเอกสารประกอบการสอน รายวิชางานปฏิบัติงานก่อสร้างอาคาร
3. แบ่งกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้
4. ฝึกปฏิบัติตามใบงาน ของหน่วยการเรียนรู้
5. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเนื้อหา
6. ทาแบบทดสอบท้ายหน่วย เพื่อทบทวนความความรู้ความเข้าใจของนักศึกษา
สื่อการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชางานก่อสร้างอาคาร 1
2. สื่อ power point ประกอบการสอน
3. แบบก่อสร้างอาคารและรายการประกอบแบบก่อสร้าง
4. อุปกรณ์เครื่องมือฝึก ปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร
5. วัสดุฝึก ปฏิบัติงานโครงสร้างอาคาร
เกณฑ์การวัดและประเมินผล
การวัดผล
1. คะแนนระหว่างเรียน 80 %
1.1 คะแนนเจตคติ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 20 %
1.2 คะแนนทาแบบทดสอบหลังเรียน 20 %
1.3 ฝึกภาคปฏิบัติ 40 %
2. สอบปลายภาคเรียน 20 %
การประเมินผล
คะแนนระหว่าง 80 – 100 ได้ระดับ 4.0
คะแนนระหว่าง 75 – 79 ได้ระดับ 3.5
คะแนนระหว่าง 70 – 74 ได้ระดับ 3.0
คะแนนระหว่าง 65 – 69 ได้ระดับ 2.5
คะแนนระหว่าง 60 – 64 ได้ระดับ 2.0
คะแนนระหว่าง 55 – 59 ได้ระดับ 1.5
คะแนนระหว่าง 50 – 54 ได้ระดับ 1.0
คะแนนระหว่าง 0 – 49 ได้ระดับ 0.0
1
แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 1
เรื่อง การเตรียมงานก่อสร้าง
สาระสาคัญ
การเตรียมงานก่อสร้าง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่การสารวจหมุด
หลักเขตที่ดินให้ตรงตามเอกสารสิทธิ์ การปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างให้ได้ระดับตามที่กาหนดไว้ใน
แบบแปลน กาหนดแนวรั้วและเขตที่ดินข้างเคียงเพื่อป้องกันการรบกวนเขตที่ดินข้างเคียงขณะทาการ
ก่อสร้าง การเตรียมสิ่งอานวยความสะดวกในขณะทาการก่อสร้าง และเตรียมเครื่องมือสาหรับงานก่อสร้าง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสารวจหมุดหลักเขตที่ดิน
2. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างอาคาร
3. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือสาหรับงานก่อสร้าง
4. เพื่อให้มีทักษะเกี่ยวกับการสารวจหมุดหลักเขตและการกาหนดแนวรั้ว
5. เพื่อให้มีทักษะในการกาหนดตาแหน่งสิ่งอานวยความสะดวกชั่วคราวและการเตรียมเครื่องมือ
6. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการเรียนและการปฏิบัติงาน
7. เพื่อให้มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. ปฏิบัติงานสารวจหมุดหลักเขตที่ดินได้
2. ปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างอาคารได้
3. กาหนดแนวรั้วและเขตที่ดินข้างเคียงได้
4. อธิบายสิ่งอานวยความสะดวกชั่วคราวได้
5. จาแนกเครื่องมือสาหรับงานก่อสร้างได้
6. มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนและการปฏิบัติงาน
7. ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัย
8. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สาระการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 ประกอบด้วยหัวข้อสาระการเรียนรู้ ดังนี้
1.1 การสารวจหมุดหลักเขตที่ดิน
1.2 การปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างอาคาร
1.3 การกาหนดแนวรั้วและเขตที่ดินข้างเคียง
1.4 สิ่งอานวยความสะดวกชั่วคราว
1.5 เครื่องมือสาหรับงานก่อสร้าง
2
กิจกรรมการเรียนรู้
1. แจ้งจุดประสงค์ให้ผู้เรียนเข้าใจก่อนเรียน
2. ให้ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่1
3. ครูบรรยายนาเข้าสู่บทเรียน
4. ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาความรู้ในเอกสารประกอบการสอนหน่วยที่1 เรื่อง การเตรียมงานก่อสร้าง
5. ผู้เรียนและครู ร่วมกันสรุปเนื้อหาประกอบสื่อ
6. การอภิปรายและการซักถามเกี่ยวกับบทเรียนร่วมกัน
7. ผู้เรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 6 คน ปฏิบัติงานตามใบงานที่1- 2
8. ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอนวิชางานก่อสร้างอาคาร 1
2. แผ่นใสประกอบการบรรยาย
3. แผ่นภาพ
4. แบบก่อสร้างอาคารและรายการประกอบแบบก่อสร้าง
การวัดผล ประเมินผล
1 วัดผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้
2 วิธีวัด ประเมินผล
2.1 สังเกต เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ในการเรียนรู้และปฏิบัติงาน
2.2 สังเกต และตรวจผลงาน จากการปฏิบัติงานตามใบงาน
2.3 ประเมินผลจากแบบทดก่อนหลังเรียน
2.4 ประเมินผลจากแบบทดสอบหลังเรียน
3. เครื่องมือวัด ประเมินผล
3.1 แบบประเมิน เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์
3.2 แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน
3.3 แบบทดสอบก่อนเรียน
3.4 แบบทดสอบหลังเรียน
3
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 1
เรื่องการเตรียมงานก่อสร้าง เวลา 10 นาที
คาชี้แจง 1. แบบทดสอบมีทั้งหมด 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2.ให้นักศึกษาทาเครื่องหมาย ในตัวเลือกที่เห็นว่าถูกต้องที่สุดลงในกระดาษคาตอบ
1. การเตรียมสถานที่ ที่จะก่อสร้างอาคารข้อใดต่อไปนี้มีความสาคัญที่สุด
ก. มีทางเข้า – ออกอยู่ในบริเวณชุมชน
ข. มีที่กองเก็บวัสดุ หิน ทรายจานวนมาก
ค. สถานที่บริเวณงานก่อสร้างมีความกว้าง
ง. ตรวจสอบหมุดหลักเขตที่ดินตรงตามเอกสารสิทธิ์
2. ข้อความต่อไปนี้ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. หมุดหลักเขตที่ดินเจ้าของสามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อความเหมาะสม
ข. การตรวจสอบแนวเขตที่ดินเป็นการตรวจสอบพื้นที่ให้ตรงเอกสารสิทธิ์การถือครอง
ค. การเตรียมสถานที่งานก่อสร้างหมายถึงการศึกษาสภาพสถานที่ ที่จะทาการปลูกสร้างอาคาร
ง. การเตรียมสถานที่ก่อสร้างอาคารควรให้เจ้าของชี้บริเวณที่จะปลูกสร้างป้องกันการสร้างผิดที่
3. งานก่อสร้างอาคารหมายถึง งานก่อสร้างแบบใด
ก. งานก่อสร้างอาคารตามแบบก่อสร้าง
ข. งานก่อสร้างอาคารตามความคิดของเจ้าของอาคาร
ค. งานก่อสร้างอาคารตามความถนัดของช่างผู้ก่อสร้าง
ง. งานก่อสร้างอาคารตามแบบก่อสร้างและรายการประกอบแบบก่อสร้าง
4.งานก่อสร้างติดเขตที่ดินข้างเคียงตามเทศบัญญัติแนวอาคารริมเสา ห่างจากแนวรั้วเท่าไร
ก. ไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร
ข. ไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร
ค. ไม่น้อยกว่า 2.50 เมตร
ง. ไม่น้อยกว่า 3.00 เมตร
5. การถมดินบดอัดดินในบริเวณเป็นที่ลุ่มน้าขังฯ การบดอัดดินให้แน่นเป็นชั้นๆละ เท่าไร
ก. 40 เซนติเมตร
ข. 50 เซนติเมตร
ค. 60 เซนติเมตร
ง. 70 เซนติเมตร
6. ในบริเวณงานก่อสร้างข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้แสดงอยู่ในผังสิ่งอานวยความสะดวก
ก. บ้านพักคนงาน
ข. โรงเก็บวัสดุ
ค. โรงอาหาร
ง. ห้องน้า ห้องส้วม
4
หน่วยที่ 1
การเตรียมงานก่อสร้าง
การก่อสร้างอาคาร คืองานก่อสร้างที่ระบุในแบบก่อสร้างอาคาร และรายการประกอบ แบบ
เอกสารแนบสัญญา รวมทั้งงานประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร การทางานจึงต้องมี
ลาดับขั้นในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดเวลาการทางาน เกิดผลงานที่ดี มีคุณภาพ
งานก่อสร้า งเสร็จ ตรงตามเวลาที่กาหนด การเตรียมสถานที่ก่อ สร้างอาคาร และการศึกษาแบบ
ก่อสร้างอาคารรายการประกอบแบบ เอกสารแนบสัญญา เพื่อเตรียมขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร
และการจัด เตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ให้เหมาะสม กับการดาเนินงานก่อสร้างอาคาร
การเตรียมสถานที่ก่อสร้างอาคาร หมายถึง การศึกษาสภาพบริเวณสถานที่ที่จะทาการปลูก
สร้ างอาคาร เพื่อสารวจ ตรวจสอบ แนวเขตที่ดิน ให้ต รงกับ เอกสารสิท ธิ์ถือ ครองที่ดิน โดยขอ
รายละเอีย ดจากเจ้า ของที่จ ะปลูก สร้า งอาคาร เช่น เอกสารสิท ธิ ์ถ ือ ครองที ่ดิน โฉนดที่ด ิน มา
ประกอบกับ แบบการก่อสร้า งอาคาร รายการประกอบแบบ ใบอนุญ าตปลูกสร้า งอาคารและให้
เจ้า ของที่จ ะปลูกสร้า งอาคารมาชี้บ ริเวณและแนวเขตที่ดิน เพื่อ เป็น การยืน ยัน และป้อ งกัน การ
ก่อสร้างอาคารผิดพื้นที่ เมื่อทาการสารวจ ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ควรดูแลหมุดแนวเขตให้อยู่
ในสภาพเดิมตรงตามรังวัด แล้วจึงทาการปรับสภาพพื้นที่ เช่นการตัดหรือถมดินบริเ วณให้ ไ ด้ ร ะดั บ
ดิ น ตามแบบที่ กาหนดการกาหนดแนวรั้วและที่ดินข้างเคียงตลอดจนสาธารณูปโภคที่มีความจาเป็นใน
การอานวยความสะดวกระหว่างทาการก่อสร้างอาคาร
1.1. การสารวจหลักเขตที่ดิน
การสารวจตรวจสอบแนวหมุดหลักเขตที่ดิน เป็นการตรวจสอบพื้นที่ให้ตรงกับเอกสารสิทธิ์ใน
การถือครองที่ดิน โฉนดที่ดิน ด้วยการตรวจสอบหมุดหลักเขตที่ดินโดยการนาชี้หมุดหลัก เขตของ
เจ้าของที่ดินที่จะปลูกสร้างอาคารว่าหมุดหลักเขตที่ดิน ที่ปักไว้แต่เดิมมีตัวเลขหรือตัวอักษรตรงกับ
ตัวเลขหรือตัวอักษรในเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดิน โฉนดที่ดินหรือไม่ และหมุดหลักเขตที่ดินถูกต้อง
ตรงตามเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินโฉนดที่ดิน ไม่มีการเคลื่อนย้าย หรือหากไม่แน่ใจควรให้เจ้าของ
ที่ดิน ทาการติดต่อเจ้าพนักงานที่ดิน เพื่อทาการรังวัดตรวจสอบแนวหมุดหลักเขตที่ดิน พร้อมทั้ง
ให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงเข้าร่วมทาการ สารวจตรวจสอบแนวเขตที่ดิน และลงนามรับรองแนวเขต
ที่ดิน
การรักษาหมุดหลักเขตที่ดิน เจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันในการรักษา
หมุดหลักเขตที่ดิน ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายหมุดหลักเขตที่ดินโดยจะต้องคอยตรวจสอบความมั่นคงของ
หมุดหลั กเขตที่ดินให้อยู่ตรงตามตาแหน่ง ตรงกับเอกสารสิทธิ์ถือครองโฉนดที่ดิน ซึ่งอาจเกิดจาก
คนทาการขุดย้ายหมุดหลักเขตที่ดิน หรือการถมดินทับ และจากธรรมชาติ ฝนตก
กัดเซาะ น้าพัดพาหน้าดิน มาทับถม หรือพัดพาดินที่หมุดหลักเขตที่ดินไปจนหมุดหลักเขตหลุดและ
เคลื่อนย้ายได้ การเคลื่อนย้ายหมุดหลักเขตที่ดิน ที่กระทาโดยคนจะเจตนาหรือไม่ ถือว่ามีความผิด
ตามกฎหมายที่ดินที่กาหนดไว้ว่าหลักเขตหรือหมุดหลักเขตที่ดินเป็นสมบัติของทางราชการ ห้ามบุคคล
ใดรื้อถอน เคลื่อนย้าย หรือทาลาย และตัวหมุดหลักเขตที่ดินต้องปักอยู่บนพื้นดินเท่านั้น
1.2 การปรับพื้นที่บริเวณก่อสร้างอาคาร
ในการก่อ สร้า งอาคารจะต้อ งตรวจสภาพพื ้น ที ่แ ละบริเ วณที ่จ ะท าการก่อ สร้า งอาคา ร
เนื่องจากสภาพพื้นที่ในแต่ละแห่งมีสภาพที่แตกต่างกัน เช่น บริเวณพื้นที่เป็นป่าและสวน ที่รกด้วย
หญ้า วัช พืช ต้น ไม้ใ หญ่ บริเ วณพื้น ที่ ต ามเนิน เขา บริเ วณพื้น ที่ลุ่ม ที่มีน้าขัง หรือ บ่อ น้า ซึ่ง จาก
สภาพบริเ วณพื้น ที่ ที่ต่า งกัน จึง จาเป็น ต้อ งทาการปรับ พื้น ที่ใ ห้ไ ด้ค่า ระดับ ±0.000 ตามแบบ
ก่อสร้างให้พร้อมก่อนที่จะดาเนินการก่อสร้างอาคารต่อไป
1.2.1 บริเวณพื้นที่เป็นป่าและสวน
ส่ ว นมากบริ เวณพื้น ที่เป็น ป่ า และสวนจะเป็น บริเ วณที่มีห ญ้า วัช พืช ปกคลุม พื้นที่ บาง
แห่งเป็นที่ลุ่มมีน้าขังชุ่มชื้นตลอด มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเช่น ต้นมะม่วง ต้นมะขาม ต้นมะขามเทศ ต้นมะพร้าว
ต้นจามจุรี ต้นไม้เบญจพรรณทั่ว ๆ ไปทาให้กีดขวางการปรับพื้นที่และถมดิน จึงจาเป็น ต้องตัดต้นไม้
ใหญ่ออกก่อนทาการถมดิน และเมื่อตัดต้นไม้ใหญ่ออกแล้ว ให้ทาการขุดรากถอนโคนตอต้นไม้ ออกด้วย
ก่อนทาการถมดินปรับพื้นที่ให้ได้ระดับ
บริ เวณพื้นที่ปลูกสร้างอาคาร
ทางที่เชื่อมต่อกับทางหลวง
3.00
6.00
ทางหลวง
มาตราส่ วน 1:100
ข้อควรระวังเกี่ยวกับงานก่อสร้างอาคารที่อยู่ใกล้กับที่ข้างเคียงคือ
1) ฐานรากจะต้องไม่ล้าเข้าไปในเขตที่ข้างเคียง หากจาเป็นที่ต้องทาฐานรากติดกับเขตที่ดิน
ข้างเคียง ควรใช้ฐานรากแบบตีนเป็ด แล้วนาส่วนที่ฐานแผ่เข้าด้านในอาคาร
2) เศษวัส ดุ ไม่ควรทิ้งหรื อให้ล่วงล้าเข้าไปเขตที่ข้างเคียง ควรตีไม้กั้นรั้วรอบบริเวณงาน
ก่อสร้าง หรือการตีคร่าวกรุสังกะสีลาดเอียงรองรับเศษวัสดุ ที่จะตกใส่ที่ข้างเคียง
3) ต้องไม่ทาให้อาคารที่ข้างเคียงได้รับผลกระทบเนื่องจากการถมดิน หรือการตอกเสาเข็ม
ก 4857
2.00 m.
ระยะห่างจากจุดกลางเสา
F GB2 F ต้นริ มถึงแนวรั้ว 2.00
C C
GS GB2
F GB1 F
C C
แนวรั้วที่ดินข้างเคียง
GB1 GS GB2
F GB1 F
C C
มาตราส่วน 1:50
ห้องน้ า ห้องส้วม
บ้านพักคนงาน
ห้องน้ า
อาคารที่ปลูกสร้าง ห้องส้วม
โรงงาน
โรงเก็บ สานัก
วัสดุ งาน
ชัว่ คราว
อุปกรณ์
ที่กองเก็บวัสดุ
ทางเข้า
มาตราส่ วน 1:150
1.5 เครื่องมือสาหรับงานก่อสร้าง
งานก่อสร้างอาคารนอกจากฝีมือของช่างผู้ที่ปฏิบัติงานก่อสร้างอาคารแล้วเครื่องมือก็เป็น ส่วน
หนึ่งของการทางาน งานก่อสร้างอาคารมีช่างหลายสาขาประกอบกันอยู่ เช่น ช่างไม้แบบ ช่างไม้
โครงสร้าง ช่างปูน ช่างเหล็กเสริมคอนกรีต ช่างเชื่อมเหล็กโครงสร้างฯ จึงได้แบ่ง เครื่องมือที่ใช้ในงาน
ก่อสร้างอาคารเป็น 3 ประเภทดังนี้
1.5.1 เครื่ อ งมื อ ประจางานก่ อ สร้ า ง
เป็ น เครื่ อ งมื อ ที่ มี ข นาดใหญ่ มี ร าคาแพงหรื อ เป็นเครื่องมือที่ใช้ส่ว นรวม มีการแตก
หัก ช ารุด เสีย หายง่า ย ผู ้ร ับ จ้า งต้อ งเป็น ผู ้จ ัด หาไว้ใ ห้ช ่า ง และคนงานเบิก ใช้ใ นงานก่อ สร้า ง
ค่าใช้จ่ายในส่วนของเครื่องมือนี้ ผู้รับจ้างจะต้องคิดเผื่อไว้ในแต่ล ะงานและสะสมเครื่องมือ และ
ทาการซ่อ มบารุง รัก ษาเครื่อ งมือ ให้พ ร้อ มใช้ง านตลอด เครื่องมือประจางานก่อสร้างที่ควรมีไว้ใช้
ควรมี ดังนี้
1) เครื่องสูบน้า ในงานก่อสร้างจาเป็นต้องมีเครื่องสูบน้าไว้ใช้ เพื่อใช้ในการสูบน้ามาใช้
ในการก่อสร้าง หรือสูบน้าออกจากบริเวณที่ทาการก่อสร้าง กรณีที่ฝนตก หรือมีน้าท่วมในบริเวณ
ที่จะทางาน เครื่องสูบน้ามีหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมนามาใช้กันมากเป็นเครื่องสูบน้าแบบไดโวใช้ไฟฟ้า
เป็นเครื่องสูบน้าที่สามารถยกได้ด้วยคนเดียว มีขนาดกะทัดรัด เมื่อเสียบไฟฟ้าเครื่องจะเดินและสูบน้า
ได้ ซึ่งมีขนาด 2- 3 นิ้ว แล้วแต่ขนาดของท่อ เครื่องที่ผลิตจากโรงงานจะป้องกัน ไฟฟ้ารั่ว ได้เป็น
อย่างดี แต่เครื่องที่เสียแล้วนาไปซ่อม อาจจะใช้งานได้ไม่ดีเพราะอาจมีไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าลัดวงจรทา
ให้เสียชีวิตได้
2) เครื่องโม่ผสมคอนกรีต ในงานก่อสร้างทั่วไปจะต้องมีเครื่องโม่คอนกรีตไว้ใช้ ในการ
ผสมคอนกรีต ใช้ปูนซีเมนต์ 1 ถุง ( 50 กิโ ลกรัม) ผสมกับวัส ดุมวลคละ จะเต็มโม่พอดี เครื่องโม่
จะหมุน เพื่อผสมส่วนผสมคอนกรีตให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที เครื่องโม่ที่นิยมใช้กันอยู่มี 2
แบบ ด้วยกัน คือ แบบที่ใช้เครื่องยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนตัวโม่ กับแบบที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัว ขับ
เคลื่อนตัวโม่
3) เครื่องตัดไม้และซอยไม้ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทางานสะดวกและรวดเร็วช่วยใน
การตัดไม้และซอยไม้แบบ ช่างไม้แบบที่ใช้เครื่องมือตัดไม้และซอยไม้ ต้องใช้อย่างระมั ดระวังเพราะ
อาจเกิด อัน ตรายจากใบเลื่อ ยของเครื่อ งได้ และควรถอดใบมาลับ ปรับ แต่ง ให้ค ม เพื่อ เป็น การ
บารุง รักษาตัวเครื่องฯให้พร้อมใช้งาน
4) กบไฟฟ้า เป็นเครื่องมือไฟฟ้าที่ช่วยในการไสปรับหน้าไม้ให้ได้ขนาด หรือให้หน้าไม้มี
ความเรียบ กบไฟฟ้าที่นิยมใช้ทั่วไปในงานก่อสร้ างมี 2 ขนาดด้วยกัน คือ ขนาด 3 นิ้ว และขนาด 5
นิ้ว (เรียกตามความกว้างของหน้ากบไฟฟ้า) การใช้และบารุงรักษาควรมีการถอดใบมาลับปรับ แต่ง
ใบให้คมอยู่เสมอ และควรศึกษาคู่มือการใช้ด้วย
5) สว่า นไฟฟ้า เป็น เครื่องมือ ที่ช่ว ยในการเจาะรูวัส ดุป ระเภทต่างๆ ตามขนาดที่
ต้องการ โดยการใช้ดอกสว่านเจาะของวัสดุแต่ละประเภท เช่นการเจาะไม้ ใช้ดอกสว่านแบบเจาะไม้
12
บทสรุป
การเตรียมงานก่อสร้าง เป็นการเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างที่เริ่มจากการสถานที่
ก่อสร้าง โดยการสารวจหลักเขตที่ดินให้ตรงตามเอกสารสิทธ์ ทาการปรับพื้นที่บริเวณ โดยศึกษา
สภาพพื้นที่จากพื้นที่จริง ว่าจะต้องทาการ ขุดดิน หรือถมดิน หรือจะต้องทาการตัดไม้และขุดโคนตอ
ไม้ หรือไม่ การขอเชื่อมทางกับ กรมทางลวง หรือ สานักงานเทศบาลฯ มีการกาหนดแนวรั้วและที่ดิน
ข้างเคียง การเตรียมสิ่งอานวยความสะดวกชั่วคราวในการทางาน สาธารณูปโภค และการเตรียม
เครื่องมือสาหรับงานก่อสร้างให้พร้อมก่อนเริ่มงานก่อสร้างในขั้นตอนต่อไป
14
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 1
เรื่องการเตรียมงานก่อสร้าง เวลา 10 นาที
7. ในบริเวณงานก่อสร้างข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้แสดงอยู่ในผังสิ่งอานวยความสะดวก
ก. ห้องน้า ห้องส้วม
ข. โรงเก็บวัสดุ
ค. โรงอาหาร
ง. บ้านพักคนงาน
8. ระบบไฟฟ้าชั่วคราวที่ใช้ในงานก่อสร้าง เป็นแบบระบบใด
ก. ระบบไฟฟ้ากาลัง
ข. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
ค. ระบบไฟฟ้าสาธารณะ
ง. ระบบไฟฟ้ากาลังและระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
9. เครื่องโม่ผสมคอนกรีต ใช้ผสมคอนกรีตใส่ปูนซิเมนต์ผสมครั้งละเท่าไร
ก. 50 กิโลกรัม
ข. 70 กิโลกรัม
ค. 90 กิโลกรัม
ง. 100 กิโลกรัม
10. ข้อใดต่อไปนี้คือเครื่องมือประจาตัวช่างไม้
ก. รอก
ข. ค้อนหงอน
ค. ค้อนปอนด์
ง. ประแจดัดเหล็ก
16
เฉลยแบบทดสอบ หน่วยที่ 1
แบบทดสอบก่อนเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ง ก ง ข ก ค ค ง ข ก
แบบทดสอบหลังเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ง ง ก ก ข ค ค ง ก ข
17
เอกสารอ้างอิง
คณะทางานอาสาสมัคร กรรมการฝ่ายวิชาชีพ สมาคมสถาปนิกฯ. รายการประกอบแบบก่อสร้าง.
กรุงเทพฯ: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์, 2549.
พิภพ สุนทรสมัย. เทคนิคการก่อสร้างอาคารเบื้องต้น. กรุงเทพฯ:โปรเฟรสชั่นแนล พับลิชชิ่ง, 2524.
มนัส กล่องเพ็ชร. เทคนิคก่อสร้าง 1. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: เอมพันธ์, 2543.
สุโขทัยธรรมาธิราช, มหาวิทยาลัย. เอกสารงานสอนชุดวิชา 31303 งานสนาม. พิมพ์ครั้งที่ 5
กรุงเทพ:มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2542.
18
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
เรื่อง การศึกษาแบบงานก่อสร้าง
สาระสาคัญ
การศึกษาแบบก่อสร้าง เป็นการศึกษารายละเอียดงานก่อสร้างอาคาร จากแบบก่อสร้าง และ
รายการประกอบแบบก่อสร้างอาคาร เพื่อให้ทราบถึงรายการวัสดุ อุปกรณ์ ที่จะนามาใช้ในงานก่อสร้าง
หรือวิธีการเทคนิคการทางาน ทาใหู้้ที่ปิิบัิิงานก่อสร้าง ทาการวางแูนการงาน และกาหนดวิธีการ
ขั้นิอนการทางาน ทารายการวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ พร้อมก่อนปิิบัิิงาน ลดปัญหา อุปสรรค
ประหยัดค่าใช้จ่ายและทันระยะเวลาที่กาหนดในสัญญาการก่อสร้าง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อให้มีความร้้ความเข้าใจเกี่ยวกับ รายการประกอบก่อสร้างอาคาร
2. เพื่อให้มีความร้้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแบบก่อสร้างอาคาร
3. เพื่อให้มีความร้้ความเข้าใจ แยกรายการวัสดุ อุปกรณ์ ในงานก่อสร้างอาคาร
4. เพื่อให้มีทักษะในการอ่านแบบก่อสร้างอาคาร
5. เพื่อให้มีทักษะในจัดเิรียมวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือ
6. เพื่อให้มีเจิคิิและกิจนิสัยที่ดีในการเรียนและการปิิบัิิงาน
7. เพื่อให้มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับรายการประกอบแบบก่อสร้างได้
2. บอกสัญญลักษณ์ในแบบก่อสร้างอาคารได้
3. ปิิบัิิงานอ่านแบบก่อสร้างได้
4. จัดทารายการวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือก่อสร้างอาคารได้
5. มีเจิคิิที่ดีิ่อการเรียนและการปิิบัิิงาน
6. ปิิบัิิงานด้วยความรับูิดชอบและมีระเบียบวินัย
7. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
19
สาระการเรียนรู้
หน่วยที่ 2 ประกอบด้วยหัวข้อสาระการเรียนร้้ ดังนี้
2.1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง
2.2 แบบูังบริเวณ
2.3 แบบแปลน
2.4 แบบร้ปด้าน
2.5 แบบร้ปิัดิามยาวและร้ปิัดิามขวาง
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. แจ้งจุดประสงค์ใหู้้เรียนเข้าใจก่อนเรียน
2. ใหู้้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2
3. คร้บรรยายนาเข้าส้่บทเรียน
4. ู้้เรียนศึกษาเนื้อหาความร้้ในเอกสารประกอบการสอน เรื่อง การศึกษาแบบก่อสร้าง
5. การอภิปรายและการซักถามเกี่ยวกับบทเรียนร่วมกัน
6. ู้้เรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 6 คน ฝึกปิิบัิิงานิามใบงานที่ 3
7. ู้้เรียนและคร้ ร่วมกันสรุปเนื้อหาประกอบสื่อ
8. ู้้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน
สื่อการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนวิชางานก่อสร้างอาคาร 1
2. แู่นใสประกอบการบรรยาย
3. แู่นภาพ
4. แบบก่อสร้างอาคารและรายการประกอบแบบ
5. ชุดฝึกปิิบัิิงาน งานก่อสร้างอาคาร 1
การวัดผล ประเมินผล
1 วัดผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้
2 วิธีวัด ประเมินผล
2.1 สังเกิ เจิคิิ คุณธรรม จริยธรรม ในการเรียนร้้และปิิบัิิงาน
2.2 สังเกิ และิรวจูลงาน จากการปิิบัิิงานิามใบงาน
2.3 ประเมินูลจากแบบทดก่อนหลังเรียน
2.4 ประเมินูลจากแบบทดสอบหลังเรียน
3. เครื่องมือวัด ประเมินผล
3.1 แบบประเมิน เจิคิิ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์
3.2 แบบประเมินูลการปิิบัิิงาน
3.3 แบบทดสอบก่อนเรียน
3.4 แบบทดสอบหลังเรียน
20
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2
เรื่องการศึกษาแบบก่อสร้างอาคาร เวลา 10 นาที
หน่วยที่ 2
การศึกษาแบบก่อสร้างอาคาร
การศึกษาแบบก่อสร้างอาคาร เป็นการศึกษารายการประกอบแบบ และแบบก่อสร้าง
เพื่อเิรียมขั้นิอน วิธีการก่อสร้างและเิรียมวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมก่อนเริ่มทาการก่อสร้าง
อาคาร รายละเอียดของรายการประกอบแบบและแบบก่อสร้าง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของสัญญาการ
ก่อสร้างอาคาร ู้้ที่จะทาการก่อสร้างควรปิิบัิิงานให้เป็นไปิามรายการประกอบแบบและแบบก่อสร้าง ที่
แสดงไว้ในแบบแปลนทุกขั้นิอนการทางาน ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับแบบก่อสร้างไว้ดังนี้
2.1 รายการประกอบแบบก่อสร้าง
รายการประกอบแบบ คือ เอกสารรายการ แสดงรายละเอียดประกอบแบบก่อสร้าง เพื่อ
ควบคุมคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ เทคนิคและข้อิกลงิ่างๆ ที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง ที่มีปรากิหรือ
ไม่มีป รากิในแบบก่อสร้างิามสัญญานี้ เพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปิามแบบการก่อสร้างรวมถึง
รายละเอียดิ่างๆ ของงานก่อสร้างที่เจ้าของบ้านิ้องการดังิัวอย่าง ิ่อไปนี้
ตัวอย่าง รายการประกอบแบบก่อสร้าง
งานปักผัง
งานปักูังและระดับกาหนดให้ระดับ ± 0.00 เท่ากับระดับดิน
งานโครงสร้าง
1. คอนกรีิโครงสร้างใช้ส่วนูสม1:2: 2 1 กรณีูสมมือโดยมีแรงอัดประลัยของคอนกรีิ
2
ที่อายุ 28 วัน มีค่าไม่น้อยกว่า 240 กิโลกรัม / ิารางเซนิิเมิร
2. คอนกรีิโครงสร้างใช้ส่วนูสม 1:2:4 กรณีูสมเสร็จโดยมีแรงอัดประลัยของคอนกรีิ
ที่ 28 วัน มีค่าไม่น้อยกว่า 240 กิโลกรัม / ิารางเซนิิเมิร
3. เหล็กเส้นธรรมดา ิ้องมีกาลังจุดคลากไม่น้อยกว่า 2,400 กิโลกรัม / ิารางเซนิิเมิร
4. เหล็กข้ออ้อย ิ้องมีกาลังจุดคลากไม่น้อยกว่า 3,000 กิโลกรัม / ิารางเซนิิเมิร
5. เหล็กเส้นร้ปพรรณ ิ้องมีกาลังจุดคลากไม่น้อยกว่า 2,400 กิโลกรัม / ิารางเซนิิเมิร
งานสถาปัตยกรรม งานูนังอาคาร (ให้ด้ิามสัญลักษณ์ของูัง)
1. ูนังก่ออิฐแดง ฉาบเรียบทาสีภายนอก
2. ูนังก่ออิฐแดง ฉาบเรียบทาสีภายใน
3. ูนังก่ออิฐแดง กรุกระเบื้อง 8" 8" ส้ง 1.80 ม.
งานวัสดุผิวพื้น งานวัสดุูิวพื้น (ให้ด้ิามสัญลักษณ์ของพื้น)
1. พื้นป้กระเบื้อง 12" 12"
2. พื้นป้กระเบื้อง 8" 8"
3. พื้นขัดหยาบ
23
งานฝ้าเพดาน
1. ฝ้าภายใน ฝ้ายิบซั่มฉาบเรียบ โครงเคร่า C - Line @ 0.60 0.60 ม.
2. ฝ้าภายนอก ฝ้ากระเบื้องแู่นเรียบ 4 มม. โครงเคร่า C - Line @ 0.60 0.60 ม.
งานหลังคา
1. โครงสร้างเป็นไปิามที่กาหนดไว้ในแบบ
2. วัสดุมุง ใช้กระเบื้องลอนค้่ ขนาด 0.50 1.20 เมิร
งานทาสี
1. สีรองพื้น ใช้สีน้าพลาสิิก
2. สีทาภายนอก ใช้สีน้าพลาสิิก
3. สีทาวงกบ ไม้เชิงชาย ใช้น้ามัน
งานไฟฟ้า
งานไฟฟ้าให้ิิดิั้งิามมาิรฐานการไฟฟ้าส่วนภ้มิภาค
งานประปา
งานประปาให้ิิดิั้งิามมาิรฐานการประปาส่วนภ้มิภาค
2.2 แบบผังบริเวณ
แบบูังบริเวณ คือ แูนที่แสดงลักษณะที่ิั้ง และขอบเขิของที่ดินและอาคารก่อสร้างที่บ อก
ิาแหน่งหมุดหลักเขิที่ดิน ระยะห่างอาคารกับถนนใหญ่ แสดงิาแหน่งแนวรั้ว ประิ้รั้ว มีทางเข้า-
ออก แนวท่อระบายน้าเสีย ที่ระบายลงส้่ท่อน้าสาธารณะ มีการแสดงิาแหน่งทิศเหนือว่ามีทิศทาง
อย่างไรกับิาแหน่งที่ดิน ูังบริเวณจานวนมากยัง มีการกาหนดค่าระดับของดินเดิม เอาไว้ พร้อมทั้ง
การกาหนดบริเวณที่จะจัดสวนิกแิ่งบริเวณด้วย ดังภาพที่ 2.1
ทิศเหนื อ
ก 1385
แนวรั้ว
แนวชายคา ก 4857
แนวรั้ว 5.50
า
ชายค
11.00
แนว
า
ชายค
แนว
แนว แนวรั้ว
8.00 ชาย
ก 3451 3.50 คา
แนว
ท่อร
ะบาย
3.50
นา้ เท
ศบา
ลเมอื แนว
4.00
ง ประ
ตูร้ ัว
ถนน ก 1452
เทศา
2
2.3 แบบแปลน
แบบแปลน คือ แบบร้ป ิัดิามแนวระดับที่ความส้งของหน้าิ่าง โดยิัดในแนวนี้ิ ลอดทั้ง
อาคาร แล้วยกส่วนบนของอาคารออก เมื่อมองลงมาิรง ๆ จากข้างบน ิามแนวการิัดกลางช่วง
อาคารนี้ จะทาให้มองเห็นส่วนประกอบของอาคาร ิามแบบแปลนิ่างๆ
2.3.1 แบบแปลนพื้น เป็นแบบสถาปัิยกรรมที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ การใช้ สอย
อาคาร ดังนี้
1 2 3
7.00
C 11.00 1 2 5. ค่าระดับพื้น 1 2 2 1
1 2 รับแขก 1 2 2 1
1 +0.30 ม.
นอน 1 3. สัญลักษณ์ของหน้าต่าง
3.50 1 2 2 1 +0.30 ม. 1
1 2 2 2 1
D 1
1 1 1
2.00 เฉี ยง 4. สัญลักษณ์ของประตู
2 +0.20 ม.
E ฟุตบาท
3 +0.10 ม.
2 ข
3 4 แปลนพื้น 1:100
1
ส่วนประกอบของแบบแปลนพื้น มีรายละเอียดดังิ่อไปนี้
1) หน้าตัดเสา จากแบบแปลนพื้น (ภาพที่ 2.2) จะเห็นว่ามีเสาจานวน 14 ิ้น แสดงอย้่ในส่วน
ที่อย้่ิรงมุมของห้องและิอนกลางห้องเป็นหน้าิัดสี่เหลี่ยม
ด้านหน้า มีความกว้าง 7.00 เมิร มีระยะห่าง 2 ช่วงเสา
วัดระยะห่าง Line 1 - 2 จากศ้นย์กลางเสาถึงศ้นย์กลางเสาได้ 3.50 เมิร
วัดระยะห่าง Line 2 - 3 จากศ้นย์กลางเสาถึงศ้นย์กลางเสาได้ 3.50 เมิร
ด้านข้าง มีความยาว 11.00 เมิร มีระยะห่าง 4 ช่วงเสา
วัดระยะห่าง Line A-B จากศ้นย์กลางเสาถึงศ้นย์กลางเสาได้ 2.00 เมิร
วัดระยะห่าง Line B-C จากศ้นย์กลางเสาถึงศ้นย์กลางเสาได้ 3.50 เมิร
วัดระยะห่าง Line C-D จากศ้นย์กลางเสาถึงศ้นย์กลางเสาได้ 3.50 เมิร
วัดระยะห่าง Line D-E จากศ้นย์กลางเสาถึงศ้นย์กลางเสาได้ 2.00 เมิร
2) ผนัง ก่อ อิฐ ฉาบปูน จากแบบแปลนพื้น (ภาพที่ 2.2) จะเห็น ว่า มีแ นวูนัง ของอาคาร
ที่อ ย้่ร ะหว่า งเสาถึง เสา ิามร้ป แบบสัญลักษณ์ข องูนังอาคารที่แสดงในแปลนพื้น และรายการ
ประกอบแบบ มีรายละเอียดที่อ่านได้ดังนี้
ผนังมีสัญลักษณ์ ครอบิัวเลข เพื่อกากับชนิดของูนังในแบบแปลนพื้นมีูนัง
3 ชนิด คือ
1 ูนังก่ออิฐแดง ฉาบเรียบทาสีภายนอก
2 ูนังก่ออิฐแดง ฉาบเรียบทาสีภายใน
3 ูนังก่ออิฐแดง กรุกระเบื้อง 8" 8" ส้ง1.80 เมิร
3) รูปตัด ประตู หน้าต่าง จากแบบแปลนพื้น (ภาพที่ 2.2) จะเห็นว่ามีหน้าิ่าง ประิ้ที่ อย้่
ระหว่างช่วงเสาและูนังก่ออิฐฉาบป้นในแบบแปลนหน้าิัดวงกบประิ้ วงกบหน้าิ่าง อาจจะไม่ได้
ขนาดิามสเกล แิ่ระยะความกว้างของประิ้ หน้าิ่าง จะิ้องเข้าสเกลเสมอ ส่ว นรายละเอียดของ
หน้าิ่าง ประิ้ให้ด้ได้จากแบบขยาย ประิ้ หน้าิ่าง และรายการประกอบแบบมีรายละเอียดที่อ่าน
แบบได้ ดังนี้
ประตู มีสัญลักษณ์ ป ในแบบแปลนพื้นมีประิ้จานวน 2 ชนิด คือ
ป1 วงกบไม้เนื้อแข็ง 2" 4" บานไม้สักขนาด 0.90 2.00 เมิร
ป2 วงกบ PVC. 2" 4" บาน PVC. ขนาด 0.70 1.80 เมิร
0.15
4 - RB 12 mm.
0.15
ป - RB 6 mm. @ 0.20 m.
ตอม่อ , C
ป - RB 6 mm. @ 0.20 m.
0.80
4 - RB 12 mm.
RB 12 mm. @ 0.20 m.
0.20
1.00 X 1.00
F
ขยายฐานราก 1:20
0.30 0.30
RB 6 mm. @ 0.15 m. RB 6 mm. @ 0.30 m.
0.08 0.08
ทรายหยาบ RB 6 mm. @ 0.15 m.
คอม้า เส้นเว้นเส้น
GS 1.50
S1
1 2 3
7.00
3.50 3.50
RB1 RB1
A
2.00 RB1 RB1
B
1.50 RB1
3.50 RB1 RB1
RB1
C 11.00
1 2 3
7.00
3.50 3.50
1.00 1.00
1.00
1.00
A
2.00
B 4
1.50 ตะเข้สนั เหล็กคู่ 100X50X20X3.2 mm.
3.50
5 ระแนงเหล็ก 25X25X1.6mm.@ 0.32m.
อกไก่เหล็กคู่ 150X50X20X3.2 mm.
C 11.00 2
3.50 3 จันทันเหล็ก 100X50X20X3.2 mm.
ดั้ง ค.ส.ล. 1
D
1.00
2.00 6
E เชิงชายไม้ 1"X6" และปิ ดทับเชิงชาย 1"X4"
0.50 7 ปั้นลมไม้ 1"X6" และปิ ดทับปั้ นลม 1"X4"
2
3 4
1 แปลนโครงหลังคา 1:100
2.4 แบบรูปด้าน
ร้ ปด้านเป็ นแบบสถาปั ิยกรรมที่แสดงร้ปด้านของอาคารในแนวดิ่งจะเห็ น ส่ วนประกอบของ
อาคารในแิ่ละด้าน การอ่านแบบร้ปด้านจะิ้องนาแบบแปลนพื้น มาประกอบเพราะจะแสดงให้เห็น
ิาแหน่งการมองร้ปด้านทั้ง 4 ด้าน
2.4.1 รูปด้านหน้า ด้จากแบบแปลนพื้น (ร้ปที่ 2.2) และร้ปด้านหน้า (ร้ปที่ 2.9) ประกอบจะ
เห็นว่ามีอาคารมีความกว้าง 7.00 เมิร แบ่งเป็น 2 ช่วงๆ ละ 3.50 เมิร จากห้องซ้ายมือ มีบาน
หน้าิ่าง น1 1ชุด และมีประิ้ ป1 1 บาน ห้องขวามือ มีบานหน้าิ่าง น1 1 ชุด มีูนังก่ออิฐ
ฉาบป้นเรียบทาสีภายนอก
2.5 แบบรูปตัดทางยาวและรูปตัดทางขวาง
แบบร้ปิัดทางยาวและร้ ปิัดทางขวาง เป็นร้ป แบบที่แ สดงให้ท ราบรายละเอียดและ
ชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของอาคารที่มองจากร้ปด้านไม่เห็น ลักษณะของร้ปิัดจะแสดงความส้ง
ความกว้างของอาคาร แสดงโครงสร้างิั้งแิ่ ฐานราก ิอม่อ เสา คานคอดิน พื้น โครงหลังคา การจะ
อ่า นแบบร้ป ิัด ให้เ ข้า ใจ ควรด้แ บบแปลนพื้ น ประกอบ ว่า มีแ นวการิัด ิัด ู่า นชิ ้น ส่ว นใดของ
โครงสร้างในอาคาร คือจากแบบแปลนพื้นและร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง จะเห็นว่ามีส่วนประกอบ
ของโครงสร้างอาคารดังนี้
1. ท้องฐานรากลึกจากระดับดินเดิม 1.00 เมิร ระดับท้องฐานราก จากแบบร้ปิัดทางขวาง
และร้ปิัดทางยาว
2. ระดับพื้นอาคารจากแบบร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง แสดงค่าระดับพื้นทางเท้า
รอบอาคาร +0.10 เมิร เฉลียง +0.20 เมิร ห้องน้า +0.25 เมิร พื้นห้องรับแขก ห้องนอน +0.30
เมิร
3. ระดับหลังคานรับโครงหลังคาจากแบบร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง แสดงค่า
ระดับหลังคานรับโครงหลังคา ที่ระดับ +3.30 เมิร
4. ระดับหลังอกไก่ จากแบบร้ปิัดทางยาวและร้ปิัดทางขวาง แสดงค่าระดับหลังอกไก่
ที่ระดับ + 5.80 เมิร
5. ส่วนประกอบอื่นๆของอาคารเช่น การิิดิั้งเคร่าฝ้า และส่วนประกอบโครงหลังคา
และรายละเอียดของูนังห้องน้า เป็นิ้น
บทสรุป
การศึก ษาแบบก่อ สร้า ง เป็น การศึก ษารายละเอีย ดงานก่อ สร้า งอาคาร เพราะรายการ
ประกอบแบบ และแบบก่อสร้าง จะแสดงรายการงานก่อสร้าง รายการวัสดุ อุปกรณ์ หรือวิธีการ
เทคนิ คการทางาน เมื่อศึกษาหรื ออ่านแบบแล้ ว ทาให้ ู้ ที่ปิิบัิิงานก่อสร้าง วางแูนการทางาน
กาหนดวิธีการขั้นิอนทางาน จัดทารายการวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ ไว้ให้พร้อมก่อนปิิบัิิงาน ทาให้
งานก่อ สร้า งดาเนินการไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลดปัญหา อุปสรรค และถ้กิ้องิรงิามแบบ
ก่อสร้าง ประหยัดค่าใช้จ่ายและทันระยะเวลาที่กาหนดในสัญญาการก่อสร้าง
37
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 2
เรื่องการศึกษาแบบก่อสร้างอาคาร เวลา 10 นาที
คาชี้แจง 1. แบบทดสอบมีทั้งหมด 10 ข้อ คะแนนเิ็ม 10 คะแนน
2. ให้นักศึกษาทาเครื่องหมาย ในิัวเลือกที่เห็นว่าถ้กิ้องที่สุดลงในกระดาษคาิอบ
1. ข้อความใดิ่อไปนี้กล่าวไม่ถ้กิ้อง
ก. แบบก่อสร้างเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
ข. การศึกษาแบบก่อสร้างเป็นการศึกษารายการประกอบแบบก่อสร้างและแบบก่อสร้าง
ค. งานก่อสร้างควรทางานิามรายการประกอบแบบและแบบก่อสร้างทุกขั้นิอน
ง. งานก่อสร้างอาคารู้้รับจ้างสามารถเปลี่ยนแปลงแบบได้ถ้างานมีปัญหาและอุปสรรค
2. ข้อใดไม่ใช่รายละเอียดในรายการประกอบแบบก่อสร้างอาคาร
ก. เทคนิคและข้อิกลงิ่างๆ
ข. เพื่อควบคุมคุณภาพวัสดุ อุปกรณ์
ค. การเบิกจ่ายเงินิามสัญญาการก่อสร้าง
ง. แสดงรายละเอียดประกอบแบบก่อสร้าง
3. แบบแูนที่แสดงลักษณะ ที่ิั้ง ขอบเขิที่ดินและอาคารที่ก่อสร้าง
ก. แบบแปลนงานวางูัง
ข. แบบแปลนูังบริเวณ
ค. แบบแปลนพื้น
ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดิน และพื้น
4. แบบที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ของอาคารในแนวราบคือ
ก. แบบแปลนงานวางูัง
ข. แบบแปลนูังบริเวณ
ค. แบบแปลนพื้น
ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดิน และพื้น
5. แบบวิศวกรรม ที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างคือแบบแปลนใด
ก. แบบแปลนงานวางูัง
ข. แบบแปลนูังบริเวณ
ค. แบบแปลนพื้น
ง. แบบแปลนฐานราก คานคอดิน และพื้น
6. ข้อใดคือสัญลักษณ์ของคานคอดิน ในแบบแปลนฐานราก คานคอดินและพื้น
ก. RB
ข. GB
ค. B
ง. S
38
เฉลยแบบทดสอบ หน่วยที่ 2
แบบทดสอบก่อนเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ข ง ง ข ก ค ข ง ก ค
แบบทดสอบหลังเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ง ค ข ค ง ข ง ก ค ง
40
เอกสารอ้างอิง
คณะทางานอาสาสมัคร กรรมการฝ่ายวิชาชีพ สมาคมสถาปนิกฯ. รายการประกอบแบบก่อสร้าง.
กรุงเทพฯ: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราช้ปถัมภ์, 2549.
สมโชค เฉิะการ. เอกสารประกอบการสอนวิชา เขียนแบบก่อสร้าง1. ร้อยเอ็ด:
วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด, 2544.
สมศรี กาญจนสุิ. การอ่านแบบ. กรุงเทพฯ: บริษัทประชาชน จากัด, 2537.
อินทิรา ศิสุข. เขียนแบบช่างเทคนิคสถาปัตยกรรม. กรุงเทพฯ: หจก.สีทองกิจพิศาล, 2526.
41
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
เรื่อง การวางผังอาคาร
สาระสาคัญ
การวางผังอาคาร เป็นงานที่สาคัญที่ต้องปฏิบัติเป็นขั้นตอนแรก ของงานก่อสร้างอาคาร ผู้ที่
จะวางผังอาคาร ควรศึกษารายละเอียด ตาแหน่งของอาคาร ฐานรากและศูนย์กลางเสา จากแบบ
ก่อสร้างและรายการประกอบแบบ เพื่อจั ดเตรียมรายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ที่จะใช้ในการวาง
ผังอาคาร และมีการวางแผนการทางาน ลาดับขั้นตอนการทางานซึ่งจะช่วยให้การวางผังอาคารเป็นไปได้
รวดเร็วถูกต้องและมีข้อบกพร่องน้อยที่สุด
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแบบผังบริเวณและแปลนฐานราก
2. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์
3. เพื่อให้มีทักษะเกี่ยวกับขั้นตอน และวิธีการ การวางผังอาคาร
4. เพื่อให้มีทักษะเกี่ยวกับการหาศูนย์กลางเสา และกาหนดตาแหน่งฐานราก
5. เพื่อให้มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการเรียนและการปฏิบัติงาน
6. เพื่อให้มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. ปฏิบัติงานอ่านแบบผังบริเวณและแปลนฐานรากได้
2. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ในการวางผังอาคารได้
3. ปฏิบัติงานวางผังอาคารตามตามขั้นตอน และวิธีการ การวางผังอาคารได้
4. ปฏิบัติงานหาศูนย์กลางเสา และกาหนดตาแหน่งฐานรากได้
5. มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนและการปฏิบัติงาน
6. ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัย
7. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สาระการเรียนรู้
หน่วยที่ 3 ประกอบด้วยหัวข้อสาระการเรียนรู้ ดังนี้
3.1 การอ่านแบบก่อสร้างก่อนวางผังอาคาร
3.2 การเตรียมรายการเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์
3.3 ขั้นตอนการวางผังอาคาร
3.4 การหาศูนย์กลางเสา กาหนดตาแหน่งฐานรากอาคาร
42
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. แจ้งจุดประสงค์ให้ผู้เรียนเข้าใจก่อนเรียน
2. ให้ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 3
3. ครูบรรยายนาเข้าสู่บทเรียน
4. ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาความรู้ในเอกสารประกอบการสอน เรื่อง การศึกษาแบบก่อสร้าง
5. การอภิปรายและการซักถามเกี่ยวกับบทเรียนร่วมกัน
6. ผู้เรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 6 คน ฝึกปฏิบัติงานตามใบงานที่ 4
7. ผู้เรียนและครู ร่วมกันสรุปเนื้อหาประกอบสื่อ
8. ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน
สื่อการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนวิชางานก่อสร้างอาคาร 1
2. แผ่นใสประกอบการบรรยาย
3. แผ่นภาพ
4. แบบก่อสร้างอาคารและรายการประกอบแบบ
5. ชุดฝึกปฏิบัติงาน งานก่อสร้างอาคาร 1 (งานวางผังอาคาร)
การวัดผล ประเมินผล
1 วัดผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้
2 วิธีวัด ประเมินผล
2.1 สังเกต เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ในการเรียนรู้และปฏิบัติงาน
2.2 สังเกต และตรวจผลงาน จากการปฏิบัติงานตามใบงาน
2.3 ประเมินผลจากแบบทดก่อนหลังเรียน
2.4 ประเมินผลจากแบบทดสอบหลังเรียน
3. เครื่องมือวัด ประเมินผล
3.1 แบบประเมิน เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์
3.2 แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน
3.3 แบบทดสอบก่อนเรียน
3.4 แบบทดสอบหลังเรียน
43
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 3
เรื่องการวางผังอาคาร เวลา 10 นาที
คาชี้แจง 1. แบบทดสอบมีทั้งหมด 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2. ให้นักศึกษาทาเครื่องหมาย ในตัวเลือกที่เห็นว่าถูกต้องที่สุดลงในกระดาษคาตอบ
1. โดยทั่วไปใครเป็นผู้รับผิดชอบในการวางผังอาคาร
ก. ช่างไม้
ข. ช่างปูน
ค. ช่างเหล็ก
ง. เจ้าของบ้าน
2. แบบที่ใช้ในการประกอบการวางผังอาคารคือ
ก. แบบแปลนพื้น แบบขยายคาน
ข. แบบแปลนพื้น แบบแปลนโครงหลังคา
ค. แบบแปลนผังบริเวณ แบบแปลนฐานราก คานคอดิน
ง. แบบแปลนผังบริเวณ แบบแปลนพื้น
3. ไม้ขนาดใดที่นิยมใช้ทาไม้หลักผัง ในการวางอาคาร
ก. ไม้ 1" 1"
ข. ไม้ 2" 2"
1 1
ค. ไม้ 1 1
2 2
1
ง. ไม้ 1 3
2
4. การวางผังอาคารเพื่ออะไร
ก. วางคานคอดิน
ข. ขุดหลุมฐานราก
ค. เทคอนกรีตฐานราก
ง. กาหนดแนวอาคารและตัวอาคาร
5. การวางผังอาคารสามารถทาได้กี่วิธี
ก. 2 วิธี
ข. 3 วิธี
ค. 4 วิธี
ง. 5 วิธี
6. ถ้าต้องการหาค่าระดับหลังผังควรใช้เครื่องมือชนิดใด
ก. ลูกดิ่ง
ข. สายยางระดับ
ค. เทปวัดระยะ
ง. ฉากจันทัน
44
7. เครื่องมือชนิดใดไม่มีความจาเป็นที่ใช้ในการวางผังอาคารโดยวิธีการวางเส้นฐาน
ก. กล้องวัดมุม
ข. เทปวัดระยะ
ค. สายางระดับ
ง. กล้องระดับ
8. การถ่ายตาแหน่งศูนย์กลางเสาลงดิน ใช้เครื่องมือชนิดใด
ก. ลูกดิ่ง
ข. ฉากจันทัน
ค. เทปวัดระยะ
ง. สายยางระดับ
9. การวางผังอาคารโดยวิธีการตีไม้ผัง ควรให้ระดับหลังผังสูงประมาณเท่าใด
ก. 50 เซนติเมตร
ข. 100 เซนติเมตร
ค. 120 เซนติเมตร
ง. 150 เซนติเมตร
10. การวางผังอาคารโดยวิธีการวางเส้นฐาน การกาหนดเส้นฐานควรห่างจากแนวอาคารไม่น้อยกว่าเท่าไร
ก. 1.00 เมตร
ข. 2.00 เมตร
ค. 3.00 เมตร
ง. 4.00 เมตร
45
หน่วยที่ 3
การวางผังอาคาร
การวางผังอาคาร คือการกาหนดแนวอาคาร และวางตัวอาคาร ลงในเขตที่ดินจาก
การกาหนดตาแหน่งของอาคาร ในแบบแปลนผังบริเวณการวางผังอาคาร จึงเป็นการขยายรูปแบบ
ของอาคาร จากแบบแปลน มาเป็นการก่อสร้างอาคารตามขนาดจริงตาม ที่ผู้ออกแบบกาหนด ผู้ที่จะ
ทาการก่อสร้างจะต้องลงมือปฏิบัติงาน วัดระยะตาแหน่งศูนย์กลางเสา และตาแหน่งฐานรากของ
อาคารลงในบริเวณที่จะทาการก่อสร้างโดยใช้ไม้แปตีหมุดหลักผังและผังนอนให้ได้ระดับ ทาการหา
แนวแรก และหาแนวฉากของอาคาร กาหนดศูนย์กลางเสา และกาหนดตาแหน่งฐานรากซึ่งมีขั้นตอน
การทางานดังนี้
3.1 การอ่านแบบก่อสร้างเพื่อการวางผังอาคาร
การอ่านแบบก่อสร้างเพื่อวางผังอาคาร คือการศึกษาแบบที่เกี่ยวกับการวางผั งอาคาร
ก่อนที่จะทาการวางแนวอาคารจะต้องนาแบบแปลนผังบริเวณ แบบแปลนฐานราก คานคอดิน พื้น
และแบบแปลนพื้นชั้น มาประกอบในการที่จะเตรียมงาน เพื่อให้ทราบถึงขนาดของตัวอาคารมีขนาด
เท่าไร ระยะตัว อาคารอยู่ห่างจากแนวเขตที่ดินแต่ล ะด้านเท่าไร อาคารหันหน้าไปไหนของพื้นที่
และการกาหนดระดับพื้นของอาคารอยู่ที่ระดับเท่าไร จึงจะกาหนดความกว้างของแนวผัง และกาหนด
ความสูงของผังนอนได้ด้วย
จากแบบแปลนผังบริเวณ (ภาพที่ 3.1) ด้านหน้าของตัวอาคารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
เฉีย งใต้ ประตูรั้ว ต่อ เชื่อ มกับ ทางเทศบาล มีร างระบายน้าสู่ท่อน้าสาธารณะของเทศบาลเมืองฯ
ตัวอาคารมีขนาดกว้าง 7.00 เมตร ยาว 11.00 เมตร ตัวอาคารห่างจากแนวรั้วด้านหน้าอาคารถึง
ศูนย์กลางเสาต้นแรกของอาคาร 8.00 เมตร ด้านข้างซ้ายของตัวอาคารห่างจากแนวรั้วถึงศูนย์กลาง
เสา 4.00 เมตร และด้านหลังของอาคารห่างจากรั้ว 5.50 เมตร
เมื่อศึกษารายละเอียดในแบบแปลนที่เกี่ยวข้องกับการวางผังอาคารและบันทึกรายละเอียด
ของงานที่จะต้องปฏิบัติลงในสมุดสนามพร้อมทั้งเขียนแบบร่าง แบบขยาย หรือแบบรายละเอียด
(Shop drawing) เรียบร้อยแล้ว จึงนาข้อมูลดังกล่าวไปปฏิบัติงานการวางผังอาคารในบริเวณงาน
ก่อสร้างอาคารต่อไป
46
การหาจานวนไม้ยึดหลักผังกับผังนอน
ใช้ไม้แปขนาดความยาว 1.00 เมตร ยึดตามมุมผัง มุมละ 2 ท่อน จานวน 4 มุม
ใช้ไม้แปยาว 1.00 เมตร จานวน 8 ท่อน ยึดหลักผังกับผังนอน
สรุป ประมาณการใช้ วัสดุและอุปกรณ์สาหรับการวางผัง
1) ตะปูขนาด 1", 3"
1
2) ไม้แปขนาด 1 3 1.00 เมตร 35ท่อน
2
1
3) ไม้แปขนาด 1 3 3.50 เมตร 15 ท่อน
2
4) ปูนขาว 3 ถุง (ใช้โรยเพื่อกาหนดตาแหน่งและขนาดของฐานราก)
49
3.3 ขั้นตอนการวางผังอาคาร
จากการศึกษาแบบก่อสร้าง และการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ในการวางผังแล้ว ลาดับต่อไปจะเป็น
การปฏิบัติงานวางผัง ซึ่งการวางผัง จะกาหนดตาแหน่งศูนย์กลางเสา และกาหนดตาแหน่ง ฐานราก
สามารถทาได้ 2 วิธีคือ
3.3.1 การวางผังโดยวิธีการวางเส้นฐานใช้กล้องวัดมุม (Theodolite) นิยมใช้กับการ
กาหนดตาแหน่งของอาคารขนาดใหญ่ ทาให้ส ะดวกต่อการปฏิบัติง าน ไม่มีแ นวผังขัด ขวางการ
ทางาน และขนย้ายวัสดุ อุปกรณ์เข้าในบริเวณงานก่อสร้าง เช่น พวกปั้นจั่นและเสาเข็ม การกาหนด
ตาแหน่งของอาคารโดยวิธีการวางเส้นฐานที่เป็นคู่ฉาก โดยที่กาหนดเส้นฐานขึ้นอย่างน้อยสองเส้น ให้
ทามุมฉากกัน เพื่อใช้ เป็ น เส้ น บั งคับความกว้ างและความยาวของอาคารเส้ นแนวอาคารหรือเส้ น
ศูนย์กลางเสาจะได้รับการวัดถ่ายออกไปจากเส้นฐานนี้ การกาหนดเส้นฐาน ควรให้ห่างจากแนวอาคารไม่
น้อยกว่า 2.00 เมตร จากภาพ (ภาพที่ 3.3) แสดงถึงการวางเส้นฐานประธาน กับเส้นฐานประกอบ ให้
ตั้งฉากต่อกันเพื่อใช้กาหนดขอบเขตของอาคารและตาแหน่งศูนย์กลางเสา ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติงานดังนี้
1) การกาหนดเส้นฐานประธานเส้น OX และเส้นประกอบ OY ให้ตั้งฉากระหว่างกัน ที่จุด
O ด้วยกล้องวัดมุม โดยให้แนวอาคารห่างจากเส้น OX และ OY เท่ากับ 2.00 เมตร โดยทั่วไปเส้น
ฐานทั้งสองเส้นนี้ควรกาหนดไว้ก่อนจากแบบแปลนผังบริเวณที่มีทิศทางกาหนดอ้างอิงไว้แน่นอน เช่น
การกาหนดเส้นฐาน OX ให้ห่างหรือขนานกับเขตที่ดินในระยะที่สะดวกต่อการตั้งกล้องส่องเล็งแนว
และส่องระดับได้
2) ตามแนวเส้นฐาน OX ปักหมุดไม้กาหนดจุด A ,B,C,D,E ให้ห่างจากจุด O-A = 2.00
เมตร,A-B = 2.00 เมตร,B-C = 3.50 เมตร,C-D = 3.50 เมตร,D-E = 2.00 เมตร ตามลาดับ และ
ตามแนวเส้นฐาน OY กาหนดจุดที่ O-1 = 2.00 เมตร,1-2 = 3.50 เมตร,2-3 = 3.50 เมตร
ตามลาดับ หมุดที่กาหนดขึ้นคือ ตาแหน่งของแนวเสาอาคาร ที่กาหนดไว้ในแบบแปลนฐานราก
3) ย้ายกล้องตั้งดิ่งที่ตาแหน่งจุด A เปิดมุมกล้องตั้งฉากกับเส้น OX เล็กเป้าและปักหมุด
อ้างอิงที่ A เพื่อที่จะได้เส้นแนวเส้นตรง A-A1 วัดระยะจากเส้นฐานตรงตาแหน่ง A ตามแนวเส้นตรง
A-A1= 2.00 เมตร จะได้ตาแหน่งเสา A-1 วัดจากตาแหน่ง A-1 ถึง A-2 = 3.50 เมตร จะได้
ตาแหน่งเสา A-2 วัดจากตาแหน่ง A-2 ถึง A-3 = 3.50 เมตร จะได้ตาแหน่งเสา A-3 ด้วยวิธีบังคับ
แนวด้วยกล้อง และสอบระยะด้วยเทปตามวิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ 2
4) ย้ายกล้องตั้งดิ่งที่จุด B,C,D และ E ปฏิบัติด้วยวิธีเดียวกัน เพื่อกาหนดตาแหน่ง เสา
ในแนว เส้นตรง B-B1,C-C1,D-D1และ E-E1 ตามลาดับ
5) ตั้งกล้องที่จุด 1,2 ,3 เล็งแนวตรงตั้งฉากกับกับเส้นฐานประกอบ OY ยังหมุดเล็ง
ตาแหน่ง 11 ,2 1 ,31 เส้นเล็งแนวนี้จะต้องผ่านเส้นผ่าศูนย์กลางของหมุดเสาที่ตอกไว้แต่ละแนว
6) ตรวจสอบความถูกต้องของหมุดศูนย์กลางเสาที่ตอกไว้ ด้วยวิธีการใช้วัดเส้น ทแยง
มุม ของรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส เส้นทแยงมุมทั้งสองเส้นจะต้องมีความยาวเท่ากัน
7) หมุด A,B,C,D และ E บนเส้นฐาน OX และหมุด 1,2,3 บนเส้นฐาน OY ควรทา
เครื่องหมายแสดงตาแหน่งไว้ให้เห็นชัดเจน เพราะต้องใช้อ้างอิง กรณีที่หมุดศูนย์เสาสูญหาย
50
วิธีที่1 ใช้ฉากจันทัน
1) ขึงเชือกเอ็นเส้นแนวแรก (เส้นแนว1)
2) ขึงเชือกเอ็นหาเส้นฉาก (เส้นแนวA) เชือกเอ็นตัดกับเส้นแนวแรกที่ ตาแหน่ง A-1
(ภาพที่ 3.6)
3) ใช้ฉากจันทันวัดมุมฉากให้ด้านฐานของฉากวางสัมผัส กับเส้นแนวแรก
(เส้นแนว1)
4) ขยับปลายเส้นเชือกเอ็น (เส้นแนวA) ให้เชือกเอ็นขนานกับด้านข้างฉากจันทัน
ก็จะได้มุมฉากที่ต้องการและตาแหน่งศูนย์กลางเสา A-1
50 ซม.
X
BX
เส้นแนวแรก
3.50 ม.
ไม้ผงั นอน
CX
1 2 3
E-1 E-2
E
การตาแหน่งศูนย์กลางเสา 1:100
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 3
เรื่องการวางผังอาคาร เวลา 10 นาที
7. ถ้าต้องการหาค่าระดับหลังผังควรใช้เครื่องมือชนิดใด
ก. ลูกดิ่ง
ข. สายยางระดับ
ค. ฉากจันทัน
ง. เทปวัดระยะ
8. การถ่ายตาแหน่งศูนย์กลางเสาลงดิน ใช้เครื่องมือชนิดใด
ก. สายยางระดับ
ข. ฉากจันทัน
ค. ลูกดิ่ง
ง. เทปวัดระยะ
9. การวางผังอาคารโดยวิธีการวางเส้นฐาน การกาหนดเส้นฐานควรห่างจากแนวอาคารไม่น้อยกว่า
เท่าไร
ก. 1.00 เมตร
ข. 2.00 เมตร
ค. 3.00 เมตร
ง. 4.00 เมตร
10. การวางผังอาคารโดยวิธีการตีไม้ผัง ควรให้ระดับหลังผังสูงประมาณเท่าใด
ก. 50 เซนติเมตร
ข.100 เซนติเมตร
ค.120 เซนติเมตร
ง.150 เซนติเมตร
59
เฉลยแบบทดสอบ หน่วยที่ 3
แบบทดสอบก่อนเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ก ค ง ง ก ข ค ก ก ข
แบบทดสอบหลังเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ง ง ข ง ก ค ข ค ข ก
60
เอกสารอ้างอิง
พิภพ สุนทรสมัย. เทคนิคการก่อสร้างอาคารเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: โปรเฟรสชั่นแนลพับลิชชิ่ง, 2524.
พิภพ สุนทรสมัย. การซ่อมและตกแต่งอาคาร. กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น),
2534.
มนัส กล่องเพ็ชร. เทคนิคก่อสร้าง 1. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: เอมพันธ์, 2543.
สุโขทัยธรรมาธิราช, มหาวิทยาลัย. เอกสารงานสอนชุดวิชา 31303 งานสนาม. พิมพ์ครั้งที่ 5.
กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2542.
61
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
เรื่อง งานฐานรากอาคาร
สาระสาคัญ
งานฐานรากอาคาร เป็นงานโครงสร้างอาคารที่อยู่ใต้ดิน รับน้าหนักจากโครงสร้างอาคาร
แล้วถ่ายน้าหนักทังหมดลงสู่หัวเสาเข็ม หรือดินท้องฐานราก การปฏิบัติงานฐานรากอาคาร เริ่ม
งานจาก การก้าหนดหลุมฐานราก ขุดหลุมฐานราก ก้าหนดระดับท้องฐานราก เทคอนกรีตหยาบ การ
ก้าหนดศูนย์กลางเสาและฐานราก ประกอบแบบฐานราก การวัด ตัด ดัด เหล็กตะแกรงฐานราก การผูก
เหล็ก การผสมคอนกรีต การล้าเลียง คอนกรีต การเทคอนกรีตฐานราก การถอดแบบฐานรากและบ่ม
คอนกรีต
จุดประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับฐานรากอาคาร
2. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการงานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก
3. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ แยกรายการวัสดุ อุปกรณ์ ในงานฐานราก
4. เพื่อให้มีทักษะในงานเตรียมหลุมฐานรากและแบบหล่อคอนกรีตฐานราก
5. เพื่อให้มีทักษะในงานเหล็กเสริมคอนกรีต และงานคอนกรีตฐานราก
6. เพื่อให้มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการเรียนและการปฏิบัติงาน
7. เพื่อให้มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. อธิบายขันตอนการปฏิบัติงานฐานรากอาคารได้
2. จัดเตรียม รายการวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมืองานฐานราก ได้
3. ปฏิบัติงานเตรียมหลุมฐานรากและงานแบบหล่อคอนกรีตได้
4. ปฏิบัติงานเหล็กเสริมฐานรากและงานคอนกรีตฐานรากอาคารได้
5. มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนและการปฏิบัติงาน
6. ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัย
7. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สาระการเรียนรู้
หน่วยที่ 4 ประกอบด้วยหัวข้อสาระการเรียนรู้ ดังนี
4.1 ประเภทฐานราก
4.2 การเตรียมหลุมฐานราก
4.3 งานแบบหล่อคอนกรีตฐานราก
4.4 งานเหล็กเสริมฐานราก
4.5 งานคอนกรีตฐานราก
62
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. แจ้งจุดประสงค์ให้ผู้เรียนเข้าใจก่อนเรียน
2. ให้ผู้เรียนท้าแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 4
3. ครูบรรยายน้าเข้าสู่บทเรียน
4. ผู้เรียนศึกษาเนือหาความรู้ในเอกสารประกอบการสอน เรื่อง การศึกษาแบบก่อสร้าง
5. การอภิปรายและการซักถามเกี่ยวกับบทเรียนร่วมกัน
6. ผู้เรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 6 คน ฝึกปฏิบัติงานตามใบงานที่ 5
7. ผู้เรียนและครู ร่วมกันสรุปเนือหาประกอบสื่อ
8. ผู้เรียนท้าแบบทดสอบหลังเรียน
สื่อการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนวิชางานก่อสร้างอาคาร 1
2. แผ่นใสประกอบการบรรยาย
3. แผ่นภาพ
4. แบบก่อสร้างอาคารและรายการประกอบแบบ
5. ชุดฝึกปฏิบัติงาน งานก่อสร้างอาคาร 1 (งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก)
การวัดผล ประเมินผล
1 วัดผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้
2 วิธีวัด ประเมินผล
2.1 สังเกต เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ในการเรียนรู้และปฏิบัติงาน
2.2 สังเกต และตรวจผลงาน จากการปฏิบัติงานตามใบงาน
2.3 ประเมินผลจากแบบทดก่อนหลังเรียน
2.4 ประเมินผลจากแบบทดสอบหลังเรียน
3. เครื่องมือวัด ประเมินผล
3.1 แบบประเมิน เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์
3.2 แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน
3.3 แบบทดสอบก่อนเรียน
3.4 แบบทดสอบหลังเรียน
63
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 4
เรื่องงานฐานรากอาคาร เวลา 10 นาที
คาชี้แจง 1. แบบทดสอบมีทังหมด 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2. ให้นักศึกษาท้าเครื่องหมาย ในตัวเลือกที่เห็นว่าถูกต้องที่สุดลงในกระดาษค้าตอบ
1. ฐานรากอาคารมีหน้าที่อะไรในโครงสร้างอาคาร
ก. รับน้าหนักคานคอดิน
ข. รับน้าหนักผนังอาคาร
ค. รับน้าหนักแรงในแนวดิ่งจากเสาตอม่อแล้วกระจายแรงสู่พืนดิน
ง. รับน้าหนักแรงในแนวดิ่งจากพืนอาคารแล้วกระจายแรงสู่พืนดิน
2. งานฐานรากอาคารเป็นงานโครงสร้างประเภทใด
ก. งานโครงสร้างผสม
ข. งานโครงสร้างบนดิน
ค. งานโครงสร้างใกล้ผิวดิน
ง. งานโครงสร้างที่อยู่ใต้ดิน
3. ฐานรากที่มีเสาอยู่ต้นเดียวที่จุดกึ่งกลางเรียกว่า
ก. ฐานรากแผ่
ข. ฐานรากร่วม
ค. ฐานรากแผ่เดี่ยว
ง. ฐานรากแผ่ร่วม
4. ฐานรากแผ่ที่มีเสาสองต้นเรียงชิดติดกันเรียกว่า
ก. ฐานรากแผ่
ข. ฐานรากร่วม
ค. ฐานรากแผ่เดี่ยว
ง. ฐานรากแผ่ร่วม
5. วัสดุที่นิยมใช้ท้าฐานรากอาคารคือ
ก. เสาไม้
ข. คอนกรีตหยาบ
ค. คอนกรีตเสริมเหล็ก
ง. คอนกรีตผสมเสร็จ
6. ไม้แบบปกติทั่วไปจะใช้ไม้หนาขนาดเท่าไร
1
ก.
2
ข. 1
1
ค. 1
2
ง. 2
64
7. การขุดหลุมฐานรากบริเวณที่เป็นดินเหนียวมีมุมลาดเอียงปากหลุมเท่าไร
ก. 15 องศา
ข. 30 องศา
ค. 45 องศา
ง. 60 องศา
8. คอนกรีตหยาบ หมายถึงคอนกรีตที่มีอัตราส่วนผสมเท่าไร
ก. 1:1:2
ข. 1:2:3
ค. 1:2:5
ง. 1:3:5
9. การผูกเหล็กตะแกรงฐานรากให้แน่นควรใช้การผูกเหล็กแบบใด
ก. แบบทแยง
ข. แบบกากบาท
ค. แบบสาแหรก
ง. แบบม้วนเกลียว
10. ลวดผูกเหล็กในงานเหล็กเสริมคอนกรีตใช้ลวดอะไร
ก. ลวดเบอร์ 12
ข. ลวดเบอร์ 14
ค. ลวดเบอร์ 16
ง. ลวดเบอร์ 18
65
หน่วยที่ 4
งานฐานรากอาคาร
ฐานราก เป็นโครงสร้างของอาคารที่อยู่ใต้ผิวดิน ซึ่งนอกจากจะท้าหน้าที่รับน้าหนักแรงในแนวดิ่ง
ของอาคารส่วนบนจากเสาตอม่อ กระจายสู่พืนดินส่วนล่าง ยังช่วยกระจายแรงทางด้านข้างที่เกิดจาก
แรงลม แรงดัน ของดิน แรงดัน ของน้า หรือแรงที่เกิดขึนจากแผ่นดินไหว ที่มากระท้าต่อโครงสร้าง
อาคารไปสู่ดิน ป้องกันไม่ให้อาคารเกิดการลื่นไถลหรือพลิกคว่้า ส้าหรับวัสดุที่ใช้ก่อสร้างของฐานราก
ส่วนมากจะเป็นงานคอนกรีตเสริมเหล็ก
4.1 ประเภทของฐานราก
ฐานรากแบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามแบบของการถ่ายน้าหนักของอาคารลงสู่ฐานราก คือ
4.1.1 ฐานรากแผ่ เป็นฐานรากที่ใช้กับอาคารที่ก่อสร้างในบริเวณดินแข็ง เช่น พืนที่ใกล้ภูเขา
ที่ดินเป็นดินลูกรัง มีคุณสมบัติรับแรงกดหรือรับน้าหนักได้ดี งานก่อสร้างอาคารจะวางฐานรากบนพืนดิน
น้าหนักอาคารถ่ายน้าหนักผ่านฐานราก กระจายลงสู่ดิน แบ่งออกเป็น 4 ชนิดคือ
1) ฐานรากแผ่เดี่ยว เป็นฐานรากที่นิยมใช้ทั่วไปในการก่อสร้าง มีลักษณะในหนึ่งฐานราก
จะมีเสาอยู่ต้นเดียวที่จุดศูนย์กลางฐานราก ตัวฐานรากอาจเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมพืนผ้า หรือรูป
อื่นๆ ก็ได้
(3) ท้าหน้าที่เป็นโครงสร้างชั่วคราวรับน้าหนักคอนกรีตขณะท้าการหล่อคอนกรีตและบ่ม
คอนกรีต
2) คุณสมบัติของแบบหล่อ
(1) มีรูปร่างชัดเจน แบบหล่อขึนรูปชัดเจน มีเหลียมมุมหรือส่วนโค้ง
(2) การประกอบแบบหล่อ ถูกต้องตรงตามต้าแหน่งและระดับของอาคาร
(3) มีผิวเรียบ ไม่บิดงอ ไม่มีรอยรั่ว เมื่อประกอบแบบแล้ว
(4) ถอดแบบง่าย ขณะท้าการถอดแบบไม่ท้าให้ผิวคอนกรีตเกิดการเสียหาย สามารถ
น้าไปใช้งานอีกได้
3) การเลือกใช้วัสดุท้าแบบหล่อ วัสดุที่ใช้ท้าแบบหล่อคอนกรีต ปกติจะใช้ แบบไม้ หรือ
แบบเหล็ก แต่ในที่นีจะกล่าวเฉพาะแบบไม้ แต่การเลือกใช้แบบหล่อปกติจะขึนอยู่กับลักษณะอาคาร
และความช้านาญของช่างผู้ท้าการก่อสร้างอาคารไม้แบบ และไม้เคร่า มีลักษณะ และการบอกขนาด
ดังนี
(1) ไม้แบบ มีลักษณะเป็นไม้แผ่น ไม่บิดงอไม่มีตาไม้ รอยแตก รอยแยก ไม่ผุ การ
บอกขนาดไม้แบบจะมีขนาดตามมาตรฐาน หนา 1" หรือ 2.5 เซนติเมตร และความกว้างจะบอกตาม
หน้าไม้ เช่น ไม้แบบหน้า 6" ไม้แบบหน้า 8" และไม้แบบหน้า 10" ส่วนความยาวของไม้แบบจะบอก
เป็นเมตรโดยทั่วไปไม้แบบจะมีความยาวตังแต่ 3.00 เมตร และความยาวเพิ่มครังละ 50 เซนติเมตรจนถึง
5.00 เมตร
(2) ไม้เคร่า มีลักษณะเป็นไม้ท่อนสี่เหลี่ยมพืนผ้า ตรงไม่บิดงอ ไม่ผุ ไม่มีตาไม้ ไม่
ต้องไส เพราะส่วนมากน้ามาท้าเป็นไม้โครงเคร่าของไม้แบบ โดยทั่วไปจะใช้ไม้ยาง เพราะเป็นไม้ที่ดี
1
ไม้เคร่าโดยทั่วไปเขาจะเรียกว่า ไม้แปหรือไม้หน้าสาม ซึ่งมีขนาดตามมาตรฐาน หนา 1 3 ความยาว
2
มีทุกขนาดตังแต่ 1.00 เมตรและความยาวเพิ่มครังละ 50 เซนติเมตร จนถึง 5.00 เมตร
4.3.2 ขั้นตอนการประกอบติดตั้งแบบหล่อ หลังจากเทคอนกรีตหยาบก้นหลุมฐานราก
ท้าความสะอาดล้างผิวคอนกรีตหยาบฐาน ประกอบติดตังไม้แบบฐานรากควรปฏิบัติดังนี
1) การถ่ายแนวศูน ย์ กลางฐานราก วั ด ระยะขนาดฐานราก จากผั งอาคารได้ต้าแหน่ ง
ศูนย์กลางเสา ศูนย์กลางฐานรากแล้ว ตามหมุดตะปูบนไม้หลังผัง การหาศูนย์กลางฐานรากในหลุม
ฐานราก ให้ขึงเชือกเอ็นที่ไม้หลังผัง ทังด้านความกว้างผังและด้านความยาวผัง เชือกเอ็นที่ขึงจะท้า
มุมตัดกัน ต้าแหน่งที่เชือกเอ็นตัดกันทุกจุด เป็นต้าแหน่งศูนย์กลางของฐานราก ให้ท้าการถ่ายแนว
ศูนย์กลางฐานรากใช้ ลูกดิ่ง ทิงดิ่งตามแนวเชือกเอ็นไม้หลังผัง ลงไปที่ก้นหลุมฐานราก ท้าเครื่องหมายตรง
จุดดิ่ง และตีเส้นตามต้าแหน่งดิ่ง ก็จะเกิดจุดตัดเหมือนกับเชือกเอ็นบนผัง จุดตัดผิวคอนกรีตหยาบ เป็น
ต้าแหน่งศูนย์กลางฐานรากที่ก้นหลุม จากจุดศูนย์กลางฐานราก ให้วัดระยะเป็นแนวขอบฐานรากทังสี่
ด้านโดยใช้ระยะครึ่งหนึ่งของความกว้างฐานราก เช่น ฐานรากกว้าง 1.00 1.00 เมตร ระยะจาก
ศูนย์กลางถึง แนวขอบฐานรากเท่ากับ 0.50 เมตรทังสี่ด้าน ใช้บักเต้าตีเส้นให้รอบ จะได้แนวขอบ
ฐานรากที่มีขนาด 1.00 1.00 เมตร ตามที่ก้าหนด
71
บทสรุป
งานฐานรากอาคาร เป็นงานโครงสร้างอาคารที่อยู่ใต้ผิวดิน ฐานรากอาคารแบ่งออกเป็น 2
ประเภท คือ ฐานรากแผ่ เป็นฐานรากที่รับน้าหนักจากเสาแล้วถ่ายน้าหนักลงสู่ผิวดินใต้ท้องฐานราก กับ
ฐานรากแบบเสาเข็ม เป็น ฐานรากที่รับ น้า หนัก จากเสาแล้ว ถ่า ยน้า หนัก ลงสู่หัว เสาเข็ม การ
ปฏิบัติงานก่อสร้างฐานรากอาคาร เริ่มจากขันตอน การเตรียมหลุมฐานราก ขุดหลุมฐานราก ก้าหนด
ระดับท้องฐานราก เทคอนกรีตหยาบ การก้าหนดศูนย์กลางเสาและฐานราก ประกอบแบบฐานราก
การวัด ตัด ดัด เหล็กตะแกรงฐานราก การผูกเหล็ก การผสมคอนกรี ต การล้าเลียงคอนกรีต การเท
คอนกรีตฐานราก การถอดแบบฐานรากและบ่มคอนกรีต
77
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 4
เรื่องงานฐานรากอาคาร เวลา 10 นาที
คาชี้แจง 1. แบบทดสอบมีทังหมด 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2. ให้นักศึกษาท้าเครื่องหมาย ในตัวเลือกที่เห็นว่าถูกต้องที่สุดลงในกระดาษค้าตอบ
1. งานฐานรากอาคารเป็นงานโครงสร้างประเภทใด
ก. งานโครงสร้างที่อยู่ใต้ดิน
ข. งานโครงสร้างใกล้ผิวดิน
ค. งานโครงสร้างบนดิน
ง. งานโครงสร้างผสม
2. ฐานรากอาคารมีหน้าที่อะไรในโครงสร้างอาคาร
ก. รับน้าหนักผนังอาคาร
ข. รับน้าหนักคานคอดิน
ค. รับน้าหนักแรงในแนวดิ่งจากเสาตอม่อแล้วกระจายแรงสู่พืนดิน
ง. รับน้าหนักแรงในแนวดิ่งจากพืนอาคารแล้วกระจายแรงสู่พืนดิน
3. วัสดุที่นิยมใช้ท้าฐานรากอาคารคือ
ก. เสาไม้
ข. คอนกรีตเสริมเหล็ก
ค. คอนกรีตหยาบ
ง. คอนกรีตผสมเสร็จ
4. ฐานรากที่มีเสาอยู่ต้นเดียวที่จุดกึ่งกลางเรียกว่า
ก. ฐานรากแผ่
ข. ฐานรากแผ่เดี่ยว
ค. ฐานรากร่วม
ง. ฐานรากแผ่ร่วม
5. ฐานรากแผ่ที่มีเสาสองต้นเรียงชิดติดกันเรียกว่า
ก. ฐานรากแผ่
ข. ฐานรากแผ่เดี่ยว
ค. ฐานรากร่วม
ง. ฐานรากแผ่ร่วม
6. การขุดหลุมฐานรากบริเวณที่เป็นดินเหนียวมีมุมลาดเอียงปากหลุมเท่าไร
ก. 15 องศา
ข. 30 องศา
ค. 45 องศา
ง. 60 องศา
78
7. คอนกรีตหยาบ หมายถึงคอนกรีตที่มีอัตราส่วนผสมเท่าไร
ก. 1:1:2
ข. 1:2:3
ค. 1:2:5
ง. 1:3:5
8. ไม้แบบปกติทั่วไปจะใช้ไม้หนาขนาดเท่าไร
1
ก.
2
ข. 1
1
ค. 1
2
ง. 2
9. ลวดผูกเหล็กในงานเหล็กเสริมคอนกรีตใช้ลวดอะไร
ก. ลวดเบอร์ 12
ข. ลวดเบอร์ 14
ค. ลวดเบอร์ 16
ง. ลวดเบอร์ 18
10. การผูกเหล็กตะแกรงฐานรากให้แน่นควรใช้การผูกเหล็กแบบใด
ก. แบบทแยง
ข. แบบม้วนเกลียว
ค. แบบสาแหรก
ง. แบบกากบาท
79
เฉลยแบบทดสอบ หน่วยที่ 4
แบบทดสอบก่อนเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ค ง ค ข ค ข ค ง ค ง
แบบทดสอบหลังเรียน
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
ก ค ข ข ง ค ง ข ง ค
80
เอกสารอ้างอิง
พิภพ สุนทรสมัย. เทคนิคการก่อสร้างอาคารเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: โปรเฟรสชั่นแนล พับลิชชิ่ง, 2524.
พิภพ สุนทรสมัย. เทคนิคการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก(ปรับปรุง). พิมพ์ครังที่ 2.
กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น), 2538.
บุญเลิศ น้อยสระและประเสริฐ ธงไชย. เทคนิคงานคอนกรีตเสริมเหล็ก. พิมพ์ครังที่ 1. กรุงเทพฯ:
เอมพันธ์,2544.
มนัส กล่องเพ็ชร. เทคนิคก่อสร้าง 1. พิมพ์ครังที่ 1. กรุงเทพฯ: เอมพันธ์, 2543.
เริงศักดิ์ นนทิเมธากุลและอภิศักดิ์ จุฑาศิริวงศ์. ปูนซิเมนต์และการประยุกต์ใช้งาน. พิมพ์ครังที่ 2.
กรุงเทพฯ: ปูนซิเมนต์ไทยอุตสาหกรรม, 2548.
วินิต ช่อวิเชียร.คอนกรีตเทคโนโลยี.กรุงเทพฯ: คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2544.
สิทธิโชค สุนทรโอภาส. เทคโนโลยีอาคาร. กรุงเทพฯ: สกายบุ๊กส์, 2543.
เอกสิทธิ์ ลิมสุวรรณ. แบบหล่อคอนกรีต.กรุงเทพฯ: คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย,
2529.