Professional Documents
Culture Documents
ต้านแผ่นดินไหว
ศ.ดร.อมร พิมานมาศ
ดร. ภาณุวฒ
ั น์ จ้อยกลัด
ดร. ปรีดา ไชยมหาวัน
รายละเอียดการออกแบบ
จงออกแบบรายละเอียดเหล็กเสริมในคานและเสาสาหรับอาคารสูง
6 ชัน้ ชนิดโครงข้อแข็ง (Frame building)
ออกแบบให้เป็ นโครงต้านทานแรงดัดที่มีความเหนี ยวจากัด
(Ductile Moment-Resisting Frame with Limited Ductility) ใน
“บริเวณที่ 1” ตามกฎกระทรวงฉบับ ปี พ.ศ.2550
รูปที่ 1.1 (ก) แปลนอาคาร คาน BL 20x45
y
C BL C BL C BL C BL C BL C BL C
5.0
4.2
C BL C BL C BL C BL C BL C BL C
3.0
2.8
BT 2 BT2 BT2 BT2
C C C C C C C
BL BL BL BL BL BL
เสา 30x50
5.0
4.2
BT1 BT1 BT1 BT1 BT 1 BT1 BT 1
C BL C BL C BL C BL C BL C BL C
3.5 C C C C
+18.50
C C C C
3.5
+15.00
C C C C
3.5
+11.50
3.5
C C C C
+8.00
C C C C
3.5
+0.00
6@3.0 = 18.0m 5.0 3.0 5.0
Longitudinal Transverse
มาตรฐาน
(1) กฏกระทรวง กาหนดการรับน้าหนัก ความต้านทาน ความคงทนของ
อาคารและพืน้ ที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสันสะเทื
่ อนของ
แผ่นดินไหว ฉบับปี พ.ศ. 2550 เอกสารแนบ 1
(2) การออกแบบอาคารเพื่อต้านทานการสันสะเทื
่ อนและแผ่นดินไหว
(มยผ.1301-50) เอกสารแนบ 2
(3) มาตรฐานสาหรับอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยวิธีกาลัง
(วสท.1008-38)
(4) Building Code Requirements for Structural Concrete (ACI318-99)
น้าหนักบรรทุก
(1) หน่ วยน้าหนักของคอนกรีตเพื่อคานวณน้าหนักบรรทุกคงที่ (Dead Load)
ใช้เท่ากับ 2,400 กก./ม.3
(2) น้าหนักบรรทุกจร (Live load) สาหรับชัน้ ทัวไปเท่
่ ากับ 300 กก./ม.2
(3) น้าหนักบรรทุกจรชัน้ หลังคาเท่ากับ 150 กก./ม.2
(4) น้าหนักบรรทุกคงที่เพิ่มเติม (Super Imposed Dead Load) สาหรับชัน้
ทัวไปเท่
่ ากับ 100 กก./ม.2
(5) น้าหนักบรรทุกเพิ่มเติมชัน้ หลังคาเท่ากับ 50 กก./ม.2
การรวมแรง
กรณี ที่ 1 : U = 1.4(DL + SDL) + 1.7LL
กรณี ที่ 2 : U = 0.75[1.4(DL + SDL) + 1.7LL+ 1.87EQ]
กรณี ที่ 3 : U = 0.9(DL + SDL) + 1.43EQ
เมือ่ DL = น้ ำหนักบรรทุกคงที ่
LL = น้ ำหนักบรรทุกจร
SDL = น้ ำหนักบรรทุกคงทีเ่ พิม่ เติม
EQ = แรงกระทำจำกแผ่นดินไหว
กาลังของวัสดุ
f’c = 240 กก./ซม.2 คอนกรีต
0.09 22
T 0.55 วินาที
13
แรงเฉื อนที่ฐาน (Base Shear)
ข้อที่ 6 ของกฎกระทรวงฯ
V ZIKCSW
Z คือ ค่าสัมประสิทธ์ ิ ความเข้มของพืน้ ดิน 0.19 สาหรับบริเวณที่ 1
I คือ ตัวคูณเกี่ยวกับการใช้อาคารเท่ากับ 1.50 สาหรับอาคาร.
สาธารณะ ตามข้อ 8 ของกฎกระทรวง
K คือ สัมประสิทธ์ ิ ของโครงสร้าง เท่ากับ 1.00 สาหรับโครงข้อแข็งที่มี
ความเหนี ยวจากัด ตามกฎกระทรวงฯ ข้อ 9
S คือ สัมประสิทธ์ ิ ประสานความถี่ธรรมชาติระหว่างอาคาร
และชัน้ ดินที่ตงั ้ เท่ากับ 2.5 สาหรับอาคารที่ตงั ้ อยู่บนดิน
อ่อนมาก (กรุงเทพฯ) ตามกฎกระทรวงฯ ข้อ 12
แรงเฉื อนที่ฐาน (Base Shear)
C คือสัมประสิทธ์ ิ ตาม (2.3) หรือดูข้อ 11 ตามกฎกระทรวงฯ
1
C 0.12 (2-3)
15 T
สาหรับ T = 0.55 วินาที จะได้
1
C 0.090
15 0.55
ใช้ CS 0.225
แรงเฉื อนที่ฐาน (Base Shear)
แทนค่าทัง้ หมดเพื่อหาแรงเฉื อนที่ฐาน จะได้
V 0.19 1.50 1.00 0.09 2.50 W
0.0641W ตัน
อยู่ที่ตาแหน่ ง 23.09 T
18.73 T
จุดศนย์กลางมวล (Center of mass, CM) 14.36 T
ในแต่ละชัน้ ของอาคาร 9.99 T
5.73 T
การบิดโดยบังเอิญ (Accidental Torsion)
มาตรฐาน UBC กาหนดให้เลื่อน CM ในแต่ละชัน้ ของอาคารออกไปจากจุด
ที่คานวณได้ตามทฤษฏีเป็ นระยะ 5% ของความยาวด้านที่ตงั ้ ฉากกับแรง
z
y x
z
CM, CR CM (5%)Dx
y x
Dx CR
Fn Fn
V K yi
Vi1 V
K yi
แรงตรงศูนย์
xi
Vi yi
Vi2
e K yi xi
Vi 2 Mt
Jr
แรงเยื้องศูนย์ n m
M t Ve Jr
i 1
xi2 K yi
i 1
yi2 K xi
การแปลงแรงจาก 3D ไปเป็ น 2D
ต้องกระจายแรงตาม stiffness ของโครงสร้าง + แรงเฉื อนจากการบิด!!
K yi K yi xi
Vi V Mt
K yi JR
h
column
Story stiffness = V /
Stiffness ของชัน้ อาคาร (Storey Stiffness)
เสา 30 x 50
y
เมื่อ ky คือ stiffness ของชัน้
ตามแนวแกน y ในชัน้ ใดๆ
y2
เมื่อ kx คือ stiffness ของชัน้
ตามแนวแกน x ในชัน้ ใดๆ y1 x
ky
12E c
k
2
1 1
x1
h x2
c
k kb x3
kx
(Storey Stiffness)
(เชิงหมุน)
Jr 2 {x12 ky x22 ky x32 ky} 2 { y12 kx y 22 kx}
สติฟเนส
เสาของโครงย่อยในแนว Y : Iy
1
bh 3
1
(30)(50)3 312,500 ซม.4
12 12
1 1
เสาของโครงย่อยในแนว X : Ix
12
hb 3
12
(50 )(30 )3 112,500 ซม.4
1 1
คานในแนวขวาง - BT : IT
12
bh 3
12
(25 )(50 )3 260,416.67 ซม.4
คานในแนวยาว - BL : IL
1
bh 3
1
(20 )(45)3 151,875.00 ซม.4
12 12
สติฟเนสเชิงหมุนในชัน้ ทัวไป
่
J r 28,514.67 2 (900 2 600 2 300 2 ) 29,619.47 2 (650 2 150 2 )
12.35 T 14.37 T
5.0m 3.0m 5.0m 5.0m 3.0m 5.0m
ค่าการเคลื่อนตัวคานวณจาก V
V Stiffness effect
i i
Ki
3.5m
23.09 T
MR
3.5m
F .S . 18.73 T
MO W= 1347.56 T
3.5m
14.36 T
3.5m
9.99 T
MR คือ โมเมนต์ต้านการพลิกควา่
3.5m
5.73 T
A
5.0m 3.0m 5.0m
ตารางที่ 3.2 การคานวณค่าโมเมนต์พลิกควา่
ชุดการรวมแรงที 2 {U=0.75[1.4(DL+SDL)+1.7LL+1.87EQ]}
ชุดการรวมแรงที่ 3 {U=0.9[DL+SDL]+1.43EQ}
ชุดการรวมแรงที่ 1
{U=1.4(DL+SDL)+1.7LL} กรณี อาคารเอียงไป กรณี อาคารเอียงไป
ทางขวา ทางซ้าย
วิเคราะห์โครงสร้าง
ลักษณะผังแรงเฉื อน
ชุดการรวมแรงที 2 {U=0.75[1.4(DL+SDL)+1.7LL+1.87EQ]}
ชุดการรวมแรงที่ 3 {U=0.9[DL+SDL]+1.43EQ}
ชุดการรวมแรงที่ 1
{U=1.4(DL+SDL)+1.7LL} กรณี อาคารเอียงไป กรณี อาคารเอียงไป
ทางขวา ทางซ้าย
วิเคราะห์โครงสร้าง
ลักษณะแรงตามแนวแกน
ชุดการรวมแรงที 2 {U=0.75[1.4(DL+SDL)+1.7LL+1.87EQ]}
ชุดการรวมแรงที่ 3 {U=0.9[DL+SDL]+1.43EQ}
ชุดการรวมแรงที่ 1
{U=1.4(DL+SDL)+1.7LL} กรณี อาคารเอียงไป กรณี อาคารเอียงไป
ทางขวา ทางซ้าย
+8.00 3rd floor
วิเคราะห์โครงสร้าง
3.5
+4.50 a b cd e
2nd floor
a b cd e
exterior column
ตาราง 4.1 โมเมนต์ดดั ประลัยในคานชัน้ 2
4.5
interior column
วิเคราะห์โครงสร้าง
3.5
+4.50 a b cd e
2nd floor
a b cd e
ตาราง 4.2 แรงอัด แรงดัดและแรงเฉื อนประลัย ในเสาชัน้ 1 exterior column
4.5
interior column
บน ล่าง บน ล่าง
เปรียบเทียบสัดส่วนระหว่างผล ผลการวิเคราะห์ใกล้เคียงกันมาก
การวิเคราะห์โครงสร้างด้วยระบบ สังเกตจากอัตราส่วนของผลการ
2 มิติกบั 3 มิติกรณี ไม่คิดการบิด วิเคราะห์มีค่าเฉลีย่ เท่ากับ 1
วิเคราะห์โครงสร้าง
เปรียบเทียบสัดส่วนระหว่างผล
การวิเคราะห์โครงสร้างด้วย
ระบบ 2 กรณี คิดกับไม่คิดผล
ของการบิด
การบิดมีผลต่อการวิเคราะห์
โครงสร้างอย่างมาก
ประมาณ 16% ในตัวอย่างนี้
วิเคราะห์โครงสร้าง
เปรียบเทียบส่วนระหว่างผลการ ผลการวิเคราะห์ใกล้เคียงกันมาก
วิเคราะห์โครงสร้างด้วยระบบ 2 มิติกบั 3 สังเกตจากอัตราส่วนของผลการ
มิติกรณี คิดผลของการบิด ในโครงที่ 7 วิเคราะห์มีค่าเฉลีย่ เท่ากับ 1
การออกแบบคาน
คานช่วงนอก พิจารณาขอบเสาต้นนอก ตารางที่ 4.1
กรณี โมเมนต์ทข่ี อบ
เสาต้นนอก
+8.00 3rd floor
(ตัน-ม.) a-a
3.5
+4.50 a b cd e
2nd floor 1 -5.05
a b cd e
exterior column 2 ขวา 5.99
4.5
interior column
4cm 1 0.85
4-DB16 f c 240 กก./ซม.2
fy 4,000 กก./ซม.2
กรณี โมเมนต์กลาง
+ M n 11.83 ตัน-ม. > 8.10 ตัน-ม. OK คาน (ตัน-ม.)
b-b
+8.00 3rd floor
1 6.61
2 ขวา 8.10
3.5
+4.50 a b cd e
2nd floor
a b cd e 2 ซ้าย 6.39
exterior column
4.5
interior column
+4.50 a b cd e
2nd floor
a b cd e 2 ซ้าย 4.18
exterior column
4.5
interior column
ตรวจสอบกาลังรับแรงเฉื อน
M n1 M n 2 w u L c
คานวณแรงเฉือนทีเ่ กิดขึน้ ตามสมการ V ul
Lc 2
A B น้าหนักบรรทุก
Sideway to left Wu=3.94 T/m
แนวดิง่
Mn1=19.22 T-m Mn2=13.14 T-m
4.2m 19.22 13.14 3.94 4.2
15.979 T 0.569 T Vu 15.979
4.2 2
A B
ตัน
Sideway to right Wu=3.94 T/m
Vn (Vc Vs ) 0.85 (9.03 5.97) 12.75 ตัน มากกว่า 12.04 ตัน O.K.
ใช้เหล็กปลอก 2-RB6@0.20 นอกช่วงจุดหมุนพลาสติก
การออกแบบคาน
คานช่วงนอก BT1
ตาแหน่งทีส่ ามารถหยุดเหล็ก
ต้องการหยุดเหล็ก 2-DB16
A B โดยทีห่ น้าตัดคานจะมีเหล็ก
Sideway to left Wu=2.39 T/m
4-DB16 ทัง้ บนและล่าง กาลัง
Mn1=19.22 T-m Mn2 =13.14 T-m
12.724 T 4.2m 2.686 T
ต้านทานโมเมนต์ดดั 13.14
13.14 T-m ตัน-ม.
0.501
ระยะทีส่ ามารถหยุดเหล็กได้
-13.14 T-m
เท่ากับ x =0.50 ม.
-19.22 T-m
6-DB16 4-DB16
2-hoop.RB6
2-RB6 @ 0.20
0.50
0.50
@0.10
4cm
0.50 4-DB16 4-DB16
0.50
1 1 2 2
1.0 1.0
4-DB 16 Hoop 2-RB6@0.10 4-DB16
Splice 0.60m
0.3m 1 2-DB 16 2 2-DB 16
0.2m
0.3m 1 2
4-DB16 Splice 0.60m 4-DB16
Hoop 2-RB6@0.10
1.0m 1.0m
Hoop 2-RB6@0.10 Stirrup 2-RB6@0.20 4.2m Stirrup 2-RB6@0.20 Hoop 2-RB6@0.10
5.0m
กรณี โมเมนต์ท่ี
ขอบเสาต้นใน
+8.00 3rd floor
(ตัน-ม.) d-d
1 -4.54
3.5
nd
+4.50 a b cd e
2 floor
exterior column
a b cd e
2 ขวา 8.04
4.5
interior column
4cm 1 0.85
4-DB16 f c 240 กก./ซม.2
2
f y 4,000 กก./ซม.
กรณี โมเมนต์กลาง
+ M n 11.83 ตัน-ม. > 0.78 ตัน-ม. OK คาน (ตัน-ม.)
e-e
+8.00 3rd floor
1 0.78
2 ขวา 0.59
3.5
+4.50 a b cd e
2nd floor
a b cd e 2 ซ้าย 0.59
exterior column
4.5
interior column
OK
การออกแบบคาน
คานช่วงใน BT2
ตาแหน่ งที่จะสามารถหยุดเหล็ก ต้องการหยุดเหล็ก 2-DB16
B C โดยทีห่ น้าตัดคานจะมีเหล็ก
Sideway to left Wu=2.39 T/m
4-DB16 ทัง้ บนและล่าง กาลัง
Mn1=19.22 T-m Mn2=13.14 T-m ต้านทานโมเมนต์ดดั 13.14
14.903 T 2.8m 8.211 T
13.14 T-m
ตัน-ม.
0.422 m
ระยะทีส่ ามารถหยุดเหล็กได้
-13.14 T-m
เท่ากับ x =0.422 ม.
-19.22 T-m
6-DB16 4-DB16
0.50
0.50
4cm 4cm
4-DB16 4-DB16
0.50 0.50
1 1 2 2
0.90m Hoop 2-RB6@0.10 0.90m
4-DB16 Splice length =0.6m 4-DB 16
1 2-DB16 2 2-DB16
0.05
1 2
4-DB 16 4-DB 16
1.0m 1.0m
Stirrup 2-RB6@0.15
Hoop 2-RB6@0.10 Hoop 2-RB6@0.10
2.8m
3.0m
หมายเหตุ การทาบเหล็กต้องทาภายนอกช่วง 2h และไม่อยูก่ ลางคาน
จุดต่อภายใน
แรงเฉื อนภายในจุดต่อ
มยผ.1301-54 ให้คานวณแรงเฉือนภายในจุดต่อสามารถคานวณได้จาก
V j As1 f y As2 f y Vcol
โมเมนต์ระบุลบด้านขวาเท่ากับโมเมนต์
ระบุบวกด้านซ้าย
โมเมนต์ทงั ้ สองในคานถ่ายแรงไปเป็ น
โมเมนต์ในเสาต้นบนและเสาต้นล่าง
่ มยผ. 1301-54
ทีมา โมเมนต์เสาต้นบน=โมเมนต์เสาต้นล่าง
จุดต่อภายใน
แรงเฉื อนภายในจุดต่อ
B
Hc/2 = 2.9/2 Mu= (19.22+13.14)/2 = 16.18 T-m
Vcol= (2 x16.18)/2.9 = 11.16T
6-DB16
Vcol
C2 = T2 T1=6x2.01x4000 /1000
Vj =48.25 T
Hc/2 = 2.9/2 M + =13.14 T-m
nbL - =19.22 T-m
MnbR
T2=4x2.01x4000/1000 C 1 = T1
=32.16 T
3-DB16
Vcol
M u= 16.18 T-m V col= 11.16 T
Mu= 16.18 T-m
คานตามแนวขวางมีความ
)
กว้างคานต่อความกว้างเสา
0.25 / 0.3 0.83 > 0.75
V n 3.9 f c A j
่ มยผ. 1301-54
ทีมา
จุดต่อภายใน
กาลังต้านทานแรงเฉื อนภายในจุดต่อ
่ มยผ. 1301-54
ทีมา
Aj h ความกว้างประสิทธิผล
b h 25 50 75 ซม.
ความกว้างประสิทธิผล = ค่าน้อยระหว่าง b 2x1 25 2 2.5 30 ซม.
A j 30 50 ซม.2
จุดต่อภายใน
กาลังต้านทานแรงเฉื อนภายในจุดต่อ
Vcol
M u= 9.61 T-m Vcol= 6.63 T
M u=9.61 T-m
6 2.01 4,000
Vj 6.63 41.61 ตัน
1,000
จุดต่อภายนอก
กาลังต้านทานแรงเฉื อนภายในจุดต่อ
คานตามแนวยาวมีความ
กว้างคานต่อความกว้างเสา
0.2 / 0.5 0.40 < 0.75
คานตามแนวขวางมีความ
กว้างคานต่อความกว้างเสา
0.25 / 0.3 0.83 > 0.75
V n 3.2 f c A j
่ มยผ. 1301-54
ทีมา
จุดต่อภายนอก
กาลังต้านทานแรงเฉื อนภายในจุดต่อ
3.2 240 (50 30)
Vn
1,000
74.36 ตัน
Vn 0.85 74.36 63.20 ตัน > Vj = 41.61 ตัน OK
เสริมเหล็กปลอกในจุดต่อตาม (5-16) Av 3.5
bw s
fy
และ ระยะไม่เกิน 2S0 =25 ซม.
สมมุตใิ ช้เหล็กปลอก 2-STIR RB6@0.20 Av=1.13 ซม.2 > Av 3.5 30 20 0.875 ซม.2
2,400
สมมุตใิ ช้เหล็กปลอก 2-STIR RB6@0.20 + 1-STIR RB6@0.20
50 20
Av=1.70 ซม.2 > Av 3.5
2,400
1.46 ซม.2 OK
การออกแบบเสา (Column Design)
Step 1 : ตรวจสอบพฤติกรรม (Column behavior)
หากแรงอัดประลัย (Pu) มีคา่ มากกว่า/เท่ากับ 0.1Agf’c = เสา
หากแรงอัดประลัย (Pu) มีคา่ น้อยกว่า 0.1Agf’c = คาน
กาหนดขนาด
Max Pu = 137.66 ตัน!!
>>
0.10*30*50*0.24 = 36 ตัน!!
12-DB16
>> Column
การออกแบบเสา (Column Design)
Step 2 : ตรวจสอบมิติของเสา (Column Dimension)
ด้านสัน้ สุดของเสาต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 30 ซม. : ผ่าน
อัตราส่วนด้านสัน้ ต่อด้านยาวต้องไม่น้อยกว่า 0.40 , 3/5 = 0.6 : ผ่าน
Step 3 : ปริมาณเหล็กเสริม (Reinforcing ratio)
บน ล่าง บน ล่าง
250
200
150
Pu & Mu
100
50
Mn, ตัน-ซม.
แรงประลัยอยู่ในเส้นโค้งถือ
0
M = 17.5, M = 25
ว่าปลอดภัย !!
0 500 1,000 1,500 n 2,000 n 2,500
MncB
แรงเฉื อนในเสา
Step 6 : คานวณแรงเฉื อนในเสา (Shear in Column)
Pu
(MnbL+MnbR)/2
Vcol M nbL M nbR
(MnbL+MnbR)/2 Vcol
Vcol Hc
Hc M nbL MnbR
Beams-control
(32.4 / 2) (32.4 / 2)
Vcol
2.90
11.16 ตัน
Vcol
Vcol (MnbL+MnbR)/2
(MnbL+MnbR)/2
Pu
กาลังต้านทานแรงเฉื อน
Step 7 : กาลังของคอนกรีตล้วน (Concrete contribution)
Pu
Vc 0.531 f c bd
140.60 Ag
แทนค่า
ด้าน 50 ซม.
4 0.283 2,400
s 15.52 ซม.
3.5 50
ด้าน 30 ซม. ควบคุม!!
4 0.283 2,400
s 25.87 ซม.
3.5 30
เหล็กเสริมรับแรงเฉื อน
Step 9 : เหล็กเสริมโอบรัด (Confinement reinforcements)
มยผ.1301-54 ข้อ 4.4 ระบุว่าต้องเสริมเหล็กเสริมตามขวางให้มีระยะเรียง s0
ในช่วง l0 ซึ่งวัดจากขอบของจุดต่อบนและล่างโดย s0 ต้องไม่มากกว่า
การทาบเหล็ก 0.2m
Roof
2-RB6@0.20
0.5m
ldh=0.35 m + 1RB6@0.20
0.5m
+ 1RB6@0.125
วิบตั แิ บบปริเนื่องจากการทาบ
2-RB6@0.25
เหล็กเสริมทีโ่ คนเสา (Lap splice 0.30
1 1 + 1RB6@0.25
3.0m
Splice 2-RB6@0.125
0.65 m + 1RB6@0.125
50 ข้อ 4.4.7 กาหนดให้การทาบ 0.50
12-DB16
2-RB6@0.25
ต่อเหล็กเสริมในเสาให้กระทาที่ + 1RB6@0.25
1 1 2-RB6@0.125
0.5m
บริเวณช่วงกลางความสูงเสา < 6.25cm + 1RB6@0.125
2-RB6@0.20
0.5m
+ 1RB6@0.20
0.5m
2RB6 + 1RB6