You are on page 1of 21

24/04/63

1.หน่วยปฏิบตั กิ ารใด ไม่จดั อยู่ในขันตอนการบําบัดขันต้น

• 1. เครืองปรับ pH
• 2. บ่อปรับเสถียร G. task
it iiinfoe.ua
แบบทดสอบ เรือง การบําบัดนําเสีย 0
• 3. การตกตะกอนผลึก
• 4.การรวมตกตะกอน

1 2

2. ในการเลือกใช้ระบบบําบัดสําหรับโรงงานทีตังอยู่ไกล้ชมุ ชน และมีนาเสี
ํ ยทีมีคา่ ภาระบรรทุกสารอินทรียส์ งู ไม่ควรเลือกใช้ระบบใด 3. ของแข็งชนิดใดทีสามารถผ่านกระดาษกรองใยแก้วมาตรฐานลงไปได้ ในขันตอนการกรองเพือวิเคราะห์หาปริมาณของแข็งในตัวอย่างนํา
เสีย
MLK
• 1. ระบบเอเอส • 1. ของแข็งจมตัวได้
.

0
• 2. ระบบบ่อปรับเสถียร →
Odor .
lñntwñ! " 0
• 2. ของแข็งละลายนําทังหมด → oiosninnrr :µvwioonlÑÉ
• 3. ระบบโปรยกรอง • 3. ของแข็งแขวนลอย
• 4.ระบบUASB • 4.ของแข็งระเหยง่าย

3 4
24/04/63

4. ในนําเสียทีอุณหภูมิสงู จะส่งผลกระทบต่อแหล่งรับนําหรือระบบบําบัด ยกเว้นข้อใด 5. ข้อใดไม่จดั เป็ นลักษณะนําเสียทางกายภาพ

WHIN , yio
• 1. การเจริญเติบโตของพืชนําเพิมสูงขึน
• 2. ปฏิกิริยาชีวเคมีของจุลินทรียใ์ นนําสูงขึน
i. • 1.อุณหภูมิ
• 2. กลิน ;
tempt iianviioiioo , o
O
f
• 3. ปริมาณออกซิเจนละลายในนําสูงขึน • 3. สี
.

• 4.ปริมาณออกซิเจนละลายในนําลดลง • 4.โลหะหนัก
O

5 6

6. ข้อใดกล่าวถึงความแตกต่างของ BOD และ COD ได้ไม่ถกู ต้อง 7. ในการบําบัดโลหะหนัก นิยมใช้วธิ ีใด

• 1.การวิเคราะห์ COD ใช้เวลาน้อยกว่า BOD ' • 1.การลอยตะกอน


• 2. ในตัวอย่างเดียวกัน ค่า BOD มักจะน้อยกว่า COD , •O
2. การตกตะกอนผลึก

0 ั มาณสารอินทรียแ์ ละสารอนินทรีย ์ ในขณะทีค่า COD บอกเพียงปริมาณสารอินทรีย ์ -1


• 3. ค่า BOD เป็ นค่าทีบ่งบอกได้ทงปริ • 3.กระบวนการเอเอส
• 4.ค่า COD ใช้สารเคมีในการออกซิไดซ์เพือวิเคราะห์ ในขณะทีค่า BOD ใช้จลุ ินทรีย ์ • 4.การรวมตกตะกอน

7 8
24/04/63

8. ความเป็ นด่างในนําโดยทัวไป เป็ นผลมาจากสารชนิดใด 9. Mesophile แบคทีเรียมีช่วงอุณหภูมิทีเหมาะสมในการเจริญเติบโตอยู่ทเท่


ี าไร

• 1.ไนโตรเจน • 1.12-50องศาเซลเซียส
I8NoÑVÑ privation, harbour
@
• 2. ไบคาร์บอเนต , • 2.20-45องศาเซลเซียส
• 3.แอมโมเนีย • 3.45-55องศาเซลเซียส
• 4.ฟอสฟอรัส
0
• 4.30-45 องศาเซลเซียส

9 10

10. โรงงานทีมักมีปัญหาเรือง สี ในนําเสีย ได้แก่โรงงานประเภทใด 11.จุลินทรียช์ นิดใดในระบบ ทีหากพบในปริมาณมากสามารถเป็ นตัวชีวัดถึงสภาวะการเดินระบบทีดี เหมาะแก่การบําบัดนําเสีย

• 1. โรงงานชุบโลหะ / • 1. อะมีบา
• 2.โรงงานผลิตชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ • 2.หนอน nematode
rvinarñidvirwiu drink
•✗
3.โรงงานผลิตฟอกย้อม , f- • 3.รา pltoii
• 4. โรงงานผลิตถ่านไฟฉาย • 4. โรติเฟอร์

11 12
24/04/63

12.สารมลพิษชนิดใด ทีไม่ถกู กําจัดในขันตอนการลอยตัวด้วยฟองอากาศ 13.ข้อมูลใด ไม่จาํ เป็ นสําหรับการออกแบบบ่อปรับเสถียร Equalization tank

• 1. อัตราการไหลของนําเข้าระบบ /
°
• 1. ของแข็งละลายนํา
• 2.ระยะเวลากักเก็บนํา
• 2.ของแข็งแขวนลอย
tiiñouuiniiiinrviwwisavnr,
• 3.ไขมัน y 0
• 3.ภาระบรรทุกอินทรียข์ องนําเข้าระบบ
• 4.ปริมาตรของบ่อ ,
,
• 4. เส้นใยลักษณะเบา

13 14

14.การคํานวณหาค่าอัตราการไหลล้นของถังตกตะกอน สามารถทําได้โดย 15. สารประเภท โพลีอิเล็กโตรไลต์ Polyelectrolyte มีบทบาทในระบบบําบัดนําเสียอย่างไร

• 1. ปริมาตรของถังตกตะกอนหารด้วยระยะเวลาทีนําอยู่ในถัง (V/T) • 1.เป็ นสารทีใช้สาํ หรับออกซิไดซ์มลพิษในนําเสีย

• 2.ความกว้างของถังตกตะกอนหารด้วยระยะเวลาทีนําอยู่ในถัง (W/T)

0
• 3.อัตราการไหลของนําเข้าถังตะกอนหารด้วยพืนทีผิวของถังตกตะกอน (Q/A) °
• 2.เป็ นสารทีใช้ทาํ ปฎิกิรยิ ากับนําเสียให้เกิดตะกอน

• 3.เป็ นสารทีช่วยตกตะกอนทําให้ฟล็อคมีขนาดใหญ่ขนึ
My electrolyte →

pdyner ivcoagulan niuwir ifr .wvritowi.mil Floe

• 4.อัตราการไหลของนําเข้าถังตะกอนหารด้วยความกว้างของถังตกตะกอน(Q/w) 4mg • 4.เป็ นสารแลกเปลียนประจุกบั นําเสีย viiriluiinivuflocvuialuoviui

15 16

24/04/63

16. ข้อใดต่อไปนีไม่ถกู ต้อง 17. วัตถุประสงค์หลักของการบําบัดนําเสียด้วยตะแกรง คือข้อใด


%
•O1.ของแข็งจมตัวได้ (Settleable solids) คือของแข็งทีจมตัวสู่กน้ ภาชนะเมือตังทิงไว้ภายในเวลา 30 นาที O
• 1.ป้องกันอุปกรณ์ในระบบไม่ให้เสียหาย

• 2.ของแข็งละลายนําทังหมด คือของแข็งทีสามารถผ่านกระดาษกรองใยแก้วมาตรฐานแล้วยังคงเหลือหลังจากระเหยไอนําแล้วอบที 103-105 • 2.ลดปริมาณสารอินทรียใ์ นระบบ


องศาเซลเซียส
• 3. ลดปริมาณสารอนินทรียใ์ นระบบ
• 3.ความขุ่น สามารถใช้ประมาณค่าของแข็งแขวนลอย
• 4.ลดประมาณตะกอนในนําเสีย
• 4.ปฎิกิรยิ าชีวเคมีในนําจะสูงขึน ถ้าอุณภูมิในนําสูงขึน

17 18

18. กระบวนการกําจัดสารอินทรียห์ ลักของโรงงานฆ่าสัตว์คอื ข้อใด 19. การแยกใขมันออกจากนําเสียอุตสาหกรรมขนมปั ง คือข้อใด

• 1.Grit Chamber • 1.sedimentation


• 2.Screening • 2.Centrifugation
• 3. Sedimentation • 3. Flotation
o
o
• 4.Biological Treatment • 4.Ion exchange

19 20
24/04/63

20. ค่าของ BOD หมายถึง 21. ค่า Hydraulics retention time : HRT หมายถึง

• 1.ปริมาณออกซิเจนทังหมดในนํา
0
• 1.ความจุถงั /อัตราการไหลของนําเสีย

• 2. ปริมาณความต้องการออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรียใ์ นนํา • 2. ระยะเวลากักเก็บนํา/อัตราการไหลของนําเสีย


5 Io msld

.

• 3. ปริมาณความต้องการออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรียท์ างชีวภาพ • 3. ระยะเวลาทีนับว่ามีนาเสี


ํ ยเกิดขึนต่อวัน
• 4. ปริมาณความต้องการออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรียแ์ ละสารอนินทรียใ์ นนํา • 4. ระยะเวลากักเก็บนําเสียก่อนบําบัด

21 22

22. กระบวนการ Eutrophication คืออะไร 23. ลักษณะทางกายภาพทีสําคัญของนําเสียชุมชน คือข้อใด

• 1.การโตของแบคทีเรียอย่างรวดเร็ว
0
• 1.สารอินทรีย์

o
• 2. การโตของสาหร่ายอย่างรวดเร็ว • 2. ความเป็ นกรด ด่าง
• 3. การผลิตก๊าซไนโตรเจนอย่างรวดเร็ว • 3. ของแข็ง
• 4. ไม่มีขอ้ ถูก • 4. โลหะหนัก

23 24
24/04/63

24.การย่อยสลายสารอินทรียแ์ บบไม่ใช้ออกซิเจน ทําให้เกิดก๊าซใดมากทีสุด 25.ข้อใดคือคลอรีนอิสระ (Free Available Chlorine) ในการฆ่าเชือโรคในนํา

• 1.ไฮโดรเจนซัลไฟด์ • 1.H+,OCl-
• 2. คาร์บอนไดออกไซด์ • 2. OHCl, NH2Cl
• 3.มีเทน
0 • 3.OCl- , NCl3

01
• 4. ไนโตรเจน • 4. HOCl, OCl-

25

silnrn7oNrao sirkfdMoNo78@sludsenauatrc0z.CH
26.การบําบัดนําเสียทางชีวภาพแบบไม่ใช้ออกซิเจน มีขอ้ ดีอย่าไง

• 1.ตะกอนน้อย

• 2. ขนาดเล็ก
• 3.ก่อสร้างง่าย
• 4. ราคาถูก
's
26

27.นําเสียจากโรงงานทีมีการปล่อยออกจากกระบวนการผลิต 20 ลบ.ม ทุกๆ 6 ชัวโมงควรมีถงั Equalization tank อย่างตํา


เท่าใด

0
• 1.20 ลบ.ม
• 2. 40 ลบ.ม
• 3. 60 ลบ.ม
• 4. 80 ลบ.ม

27 28
24/04/63

28.ค่า MLVSS หมายถึงอะไร 29.อายุตะกอน (STR) สามารถหาได้โดย

• 1.ของแข็งแขวนลอยทีผ่านกระดาษกรองได้ • 1.ปริมาณตะกอนทังหมดหารด้วยระยะเวลากักเก็บนําเสีย

?
• 2. ของแข็งแขวนลอยทีติดอยู่บนกระดาษกรอง • 2.ปริมาณตะกอนทังหมดหารด้วยปริมาณตะกอนทีต้องกําจัดทิงต่อวัน
¥ :
tire
• 3. ของแข็งแขวนลอยทีเผาแล้วเหลืออยู่ • 3.ปริมาณตะกอนทีต้องกําจัดทิงต่อวันหารด้วยของแข็งแขวนลอยในนําตะกอนทังหมด

0
• 4. ของแข็งแขวนลอยทีเผาแล้ว หายไป
5502
• 4.ปริมาณตะกอนทังหมดหารด้วยปริมาณของแข็งแขวนลอยในนําตะกอนทังหมด

29 30

30.ข้อไดไม่ใช่ผลผลิตทีเกิดจากการย่อยสลายสารอินทรียข์ องจุลชีพแบบใช้อากาศ ÷
31.หากต้องการออกแบบระบบเอเอสแบบกวนสมบูรณ์ โดยกําหนดให้อตั ราการไหลเข้าระบบคงที ที 200 ลบ.ม/ชม. ปริมาณของแข็ง
แขวนลอยในถังเติมอากาศอยุ่ที 3000 มิลลิกรัมต่อลิตร และมีคา่ ภาระBOD โดยเฉลียเท่ากับ 75 มิลลิกรัมต่อลิตร จะต้องออกแบบ
ให้ปริมาตรของถังเติมอากาศมีขนาดเท่าใด
• 1.คาร์บอนไดออกไซด์

• 2.แอมโมเนีย 0
• 1.20 ลบ.ม 200 FIM 0.2 -0.6

• 3.นํา • 2.30ลบ.ม

0 • 3.40 ลบ.ม
FIM ratio . QD
• 4.ไฮโดรเจนซัลไฟด์
MUS V
• 4.50 ลบ.ม
.

0.2 i 20o✗75-
too ✗ V.
600
✓ =
15000
2.4
✓ .
✓¥¥ .

31 32 If go F1M=0lbX
24/04/63

32.ข้อใดไม่ใช่ระบบจุลินทรียแ์ ขวนลอย 33.ในขันตอนการวิเคราะห์ COD ใช้เวลาในการวิเคราะห์กีชัวโมง

¥
• 1.ระบบบ่อเติมอากาศ • 1.1 ชัวโมง

0
• 2.ระบบโปรยกรอง • 2. 2 ชัวโมง
• 3.ระบบเอสบีอาร์
0
• 3. 3 ชัวโมง
• 4.ระบบเอเอส • 4. 4 ชัวโมง

33 34

34.สภาพด่างของนํา เกิดจากองค์ประกอบของสารละลายใด 35.ระบบเอเอสแบบยืดเวลา มีอายุตะกอน STR เท่าใด

• 1.ไฮดรอกไซด์ • 1. 7-10 วัน ↳ n : now win FIM lot


• 2. คาร์บอเนต • 2. 10-15วัน
• 3. ไบคาร์บอเนต • 3. 10วันขึนไป

o
• 4. ถูกทุกข้อ o
• 4. 15-30วัน

35 36
24/04/63

36.ระบบเอเอสแบบปรับเสถียรสัมผัส มีความแตกต่างจากระบบเอเอสแบบอืนๆอย่างไร 37.เพราะเหตุใดระบบโปรยกรองอัตราสูงจึงสามารถรับภาระบีโอดีไ ด้มากกว่าระบบโปรยกรองอัตราตํา


ri ,
ñtlliviriuilñsrtwhir 1.5 -1m

0 M
.

• 1. มีถงั ปฎิกิรยิ า2ถัง • 1. เพราะตัวกลางมีความสูงมากกว่า


• 2. มีคา่ F/M ทีเหมาะสมอยู่ที 0.2-0.6 • 2. ระบบมีขนาดเล็กกว่า rfj I -2M ,

• 3. มีอายุตะกอน SRT มากกว่าระบบอืนๆ • 3. เพราะมีการหมุนเวียนนํา


0
• 4. มีถงั ตกตะกอน2ถัง • 4. ใช้หินเป็ นวัสดุตวั กลาง

37 38

38.ระบบบําบัดชนิดใด ไม่มีการหมุนเวียนสลัดจ์ตะกอน 39.ในการเดินระบบเอเอส หากต้องการให้ปริมาณตะกอนลดลง และช่วยลดกลินเหม็นของตะกอน จะต้องออกแบบให้มีอายุอายุตะกอน


เป็ นเท่าใด
• 1. ระบบเอเอสแบบธรรมดา • 1. 5-10วัน

0
• 2. ระบบเอสบีอาร์ rouñi • 2. 10-15วัน
As
• 3.ระบบเอเอสแบบปรับเสถียรสัมผัส
0-15-30
• 3.มากกว่า 20 วัน
• 4. ระบบคูเวียน • 4. น้อยกว่า20 วัน

39 40
24/04/63

40.ในระบบบําบัดแบบแผ่นหมุนชีวภาพ มักออกแบบให้ส่วนของแผ่นหมุนจมนําเท่าใด 41.ในกระบวนการย่อยสลายแบบไม่ใช้อากาศจะได้ กรดแอซิตกิ และกรดบิวไทริก ในขันตอนใด

0
• 1. ร้อยละ 40 • 1. Hydrolysis →
air IN iron
• 2.ร้อยละ 50
• 3. ร้อยละ 60
•0
2.Acidogenesis
• 3. Acetogenesis

nrnhwrnwiw-mwniviwnnrnvorfdn.NO/tin
linn →

,
Ch N
,
-

• 4. จมทังแผ่น • 4. Methanogenesis ask.in liar liturgy

41 42

42.ข้อเสียของระบบบําบัดแบบไม่ใช้อากาศคือข้อใด 43.ในการย่อยสลายสารอินทรียก์ ระบวนการใดต่อไปนีเป็ นการลดค่า BOD

• 1. นําทีผ่านการบําบัดมีปริมาณไนโตรเจนสูง • 1. Hydrolysis
• 2.เกิดตะกอนในระบบมาก
¥ • 2.Acidogenesis
• 3. ต้องการอาหารเสริมน้อย • 3. Acetogenesis

0
.
• 4. ใช้เวลาในการเริมเดินระบบนาน r • 4. Methanogenesis

43 44
24/04/63

44.ระบบบําบัดแบบใดไม่มีตวั กลางรองรับ 45.ถังตกตะกอนใบหนึงถูกออกแบบให้รบั อัตราการไหลนําเสีย 20,000 ลบ.ม/วัน โดยมีอตั ราไหลล้นผิว (Surface


overflow rate ) 40 ลบ.ม/ตรม./วัน และถังมีความลึก 4 เมตร จงคํานวณหาระยะเวลากักเก็บนํา (HRT) ของถังใบนี
• 1. RBC • 1. 1 วัน
• 2.TF
J • 2. 4 ชัวโมง Q . Rqooo
rid

• 3. UASB Function oovluii • 3. 2 ชัวโมง OFR .

40m¥ ,
• 4. AFB
0
• 4. 0.1 วัน "
5

¥ Area M£
-7
0¥ ¥¥ 500
.
i
i

Amen =
500nA
HRT ¥ ¥_¥ 0-1 d. it
-

Volare
: = i
: 500×4=2000
,
=
0. It
24¥
= 2.4 hr ,

45 46

46.เพราะเหตุใด ระบบ UASB จึงสามารถรับภาระบรรทุก COD ได้สงู กว่าระบบไร้อากาศชนิดอืน 47.นําเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมชนาดเล็กแห่งหนึงระบายนําออกมาตลอด 24 ชม. มีปริมาณรวม 80 ลบ.มต่อวัน ถ้าบําบัดด้วยวิธี
ทางกายภาพและเคมี โดยระบบทํางานเพียง 8 ชัวโมงต่อวัน จะต้องออกแบบถังปรับเสถียร (Equalization tank) ให้มีขนาด

81¥;
อย่างน้อย เท่าใด
• 1. เพราะมีตวั กลางช่วยกรองสารแขวนลอยในนําเสีย
• 2. เพราะระบบมีอายุตะกอนมาก
• 1. 26.7 ลบ.ม neither .

• 2. 40 ลบ.ม
0
• 3. เพราะระบบมีการเลียงจุลินทรียใ์ ห้มีความเข้มข้นสูง /
0
• 3. 53.3 ลบ.ม 16 hr

\¥•ñ
24-8 .
.

• 4. เพราะมีระบบแยกก๊าซ
• 4. 80 ลบ.ม
¥

47 48
24/04/63

48.นําเสียมีอณ
ุ หภูมิสงู มีผลทําให้ 49.โดยทัวไป การลดลงของสารมลพิษอินทรียใ์ นนําเสียในระบบชีวภาพจะเกิดขึนอย่างรวดเร็วในช่วงแรกทีสัมผัสกับจุลชีพ หลังจากนันจะ
ลดลงอย่างช้าๆ ระบบบําบัดชีวภาพใด ทีถูกออกแบบโดยอาศัยลักษณะดังกล่าว

• 1. ออกซิเจนละลายนําสูงขึน • 1. ระบบเอเอสแบบกวนสมบูรณ์
Conover ?

C)
• 2. ออกซิเจนละลายนําตําลง •0
2. ระบบปรับเสถียรสัมผัส → a. g. qnñiiiita
• 3. TDS สูงขึน • 3. ระบบโปรยกรอง
• 4. TDS ตําลง • 4. ระบบแผ่นหมุนชีวภาพ

49 50

50.จงคํานวณ ภาระบรรทุก BOD ของระบบบําบัดทีรับนําเสียวันละ 300 ลบ.ม/วัน และมีคา่ BOD ที 3000 มิลลิกรัม/ลิตร 51.ระบบบําบัดใดไร้อากาศแบบใด ทีไม่จาํ เป็ นต้องสร้างถังปฎิกิรยิ าให้มคี วามสูง เหมือนระบบอืนๆ

no MYJ
• 1. 300 กก/วัน , O
• 1. ระบบแผ่นกันไร้อากาศ
• 2. 600 กก/วัน • 2. ระบบ UASB
9000 MS
O
.

• 3. 900 กก/วัน • 3. ระบบแผ่นหมุนชีวภาพไร้อากาศ


"
• 4. 1200 กก/วัน s sax soon
• 4. ระบบถังกรองไร้อากาศ
I

¥ "¥"÷¥¥
qookgg

51 52
24/04/63

52.ในระบบบ่อปรับเสถียร (Waste Stabilization ponds) มักออกแบบให้บ่อแอนแอโรบิก (Anaerobic 53.จงคํานวณหาระบบไร้ออกซิเจนทีรับนําเสียวันละ 300 ลบ.ม/วัน บีโอดีเท่ากับ 3000 มิลลิกรัม/ลิตร และกําหนดให้รบั ภาระ
pond) มีความลึกเท่าใด สารอินทรียไ์ ด้เท่ากับ 3 กิโลกรัม/ลบ.ม/วัน

Q.no#3ks-my
• 1. 1-3 เมตร • 1. 220 ลบ.ม
pond
-

aerobic
• 2. 1.5-3 เมตร • 2. 250 ลบ.ม
\
0
• 3. มากกว่า 2.5 เมตร Facultative • 3. 280 ลบ.ม
• 4. น้อยกว่า 2.5 เมตร • 4. 300 ลบ.ม
0 Q
3900kg
.

at -
'
¥.d
300 :O

53 54

54.ในระบบบ่อปรับเสถียร สามารถบําบัดนําเสียได้โดยอาศัยความสัมพันธ์ของอะไรกับอะไรเป็ นหลัก 55.ระบบบําบัดนําเสียแบบบึงประดิษฐ์ประเภทใดทีสามารถรับภาระบีโอดีได้สงู ทีสุด

• 1. แบคทีเรียกับโปรโตซัว m
" • 1. บึงประดิษฐ์ทีนําไหลท่วมผิวชันกรองอย่างอิสระ
5 -100ms /l

• 2. แบคทีเรียกับเชือรา • 2.บึงประดิษฐ์ทีนําไหลไต้ผิวชันกรองในแนวนอน yo -175 Ms /d


• 3. สาหร่ายกับเชือรา
o• 3.บึงประดิษฐ์ทีนําไหลไต้ผิวชันกรองในแนวดิง Too -700 angry

0
• 4. สาหร่ายกับแบคทีเรีย • 4. ทุกประเภทรับภาระบีโอดีได้เท่ากัน

55 56
24/04/63

56.ตะกอนสีนาตาลและไม่
ํ มีกลิน เป็ นลักษณะตะกอนทีได้จากขันตอนใดของระบบบําบัด 57.สัดส่วนปริมาณ BOD:N:P ทีเหมาะสมกับการเลียงจุลชีพแบบใช้ออกซิเจน

• 1. ตะกอนจากถังตกตะกอนขันแรก d • 1. 100:5:1
• 2.ตะกอนจากกระบวนการรวมตะกอน • 2.150:5:1 100 : 11.0.2

0
• 3.ตะกอนส่วนเกินจากถังตกตะกอนของระบบเอเอส • 3.100:10:2
• 4. ตะกอนจากถังย่อยแบบไม่ใช้อากาศ • 4. 200:50:2

57 58

I
58.การทีนําทิงมีสีดาํ เกิดจาก 59.การควบคุมอายุตะกอนเท่ากับ 5 วัน สามารถทําได้โดย

0
• 1. มีไนเตรตสูง • 1. เก็บตะกอนไว้ 5 วันก่อนทิง
• 2. มีซลั ไฟด์สงู
0• 2. ทิงตะกอนออกจากถังเติมอากาศวันละ 1/5 ของปริมาตร
• 3.มีฟอสฟอรัสสูง • 3.ทิงนําตะกอนออกจากถังตกตะกอนวันละ 1/5
• 4. มีตะกอนจุลชีพมาก • 4. ทิงตะกอนทังหมดทุก5วัน

59 60
24/04/63

60.ข้อใดไม่ใช่กระบวนการทําข้นตะกอน (Sludge thickening) 61.การปรับเสถียรตะกอน มีวตั ถุประสงค์คอื


→ Hanni
• 1. การลอยตัวด้วยอากาศ • 1. ทําให้ปริมาณของแข็งในตะกอนสูงขึน

0
• 2. การย่อยด้วยถังย่อย Anaerobic • 2. ทําให้เกิดการย่อยสลายตะกอน
• 3. การตกตะกอน •0
3. ลดกลินเหม็นและการเน่าเปื อยของตะกอน
• 4. การหมุนเหวียง , • 4. รวมตะกอนให้มีลกั ษณะเดียวกัน

61 62

62.ถ้านําเสียมี แอมโมเนีย ไนไตร และไนเตรต การบําบัดทางชีวภาพควรมีผลเช่นใด 63.กระบวนการ ดีไนทริฟิเคชัน ใช้สารชนิดใดเปลียนให้เป็ นสารชนิดใด

O
• 1. แอมโมเนียหมดก่อน • 1. ใช้แอมโมเนียเปลียนให้เป็ นไนไตร
• 2. ไนไตรหมดก่อน • 2.ใช้แอมโมเนียเปลียนให้เป็ นไนเตรต
• 3. ไนเตรตหมดก่อน • 3.ใช้แอมโมเนียเปลียนให้เป็ นก๊าซไนโตรเจน
• 4. หมดพร้อมกันทัง 3 ชนิด o
• 4. ใช้ไนเตรตเปลียนให้เป็ นก๊าซไนโตรเจน

63 64
24/04/63

64.ปริมาณออกซิเจนละลายทีเหมาะสมสําหรับการเกิดกระบวนการ ไนทริฟิเคชัน คือ 65.กระบวนการชารอน ใช้สาํ หรับบําบัดนําเสียทีมีลกั ษณะแบบใด

O
• 1. 2 มิลลิกรัม/ลิตร • 1. มีปริมาณสารอินทรียส์ งู
• 2. 0.5 มิลลิกรัม/ลิตร O
• 2. มีปริมาณไนโตรเจนสูงแต่สารอินทรียต์ าํ
• 3. 1 มิลลิกรัม/ลิตร • 3. มีปริมาณไนโตรเจนสูงแต่ปริมาณฟอสฟอรัสตํา
• 4. ไม่มอี อกซิเจนละลายนํา • 4. มีปริมาณสารอินทรียต์ าํ

65 66

66.การบําบัดนําเสียทีมีโลหะหนัก นิยมใช้กระบวนการใด 67.การบําบัดนําเสียทีมีเฮกซาวาเล้นโครเมียม Cr+6 จะต้องผ่านกระบวนการใดก่อน

Q
• 1. การตกตะกอนผลึก • 1. การตกตะกอนผลึก
• 2. การออกซิเดชั-รีดกั ชัน •o
2. การออกซิเดชั-รีดกั ชัน
• 3. การรวมตะกอน • 3. การรวมตะกอน
• 4. การลอยตะกอน • 4. การลอยตะกอน

67 68
24/04/63

68.การบําบัดนําเสียโดยวิธี อัลคาไลคลอริเนชัน เป็ นวิธีการบําบัดโลหะหนักชนิดใด 69.Eutrophication มักเกิดทีบ่อใดมากทีสุด

• 1. ตะกัว
• 2. สารหนู

0
• 3. ไซยาไนด์
OF
• 1. บ่อแฟคัลเททีพ
• 2. บ่อปรับสภาพขันสุดท้าย
• 3. บ่อเติมอากาศ
oriuiiwiñuinñ

ioiñi
• 4. ปรอท • 4. ถูกทุกข้อ

69 70

70.จงคํานวนหาปริมาตรบ่อหมักแบบไร้อากาศสําหรับบําบัดนําเสียซึงมีความเข้มข้น CODเท่ากับ 5000 mg/l มีอตั ราการไหล


เท่ากับ 80m3/d และมีความสามารถในการบําบัดภาระบรรทุกสารอินทรียไ์ ด้ 0.5kgCOD/m3-d

• 1.400 m3

0
80¥51?µ
• 2. 800 m3 00
=
• 3. 200 m3
• 4. 1200 m3
0

71
24/04/63

68.การบําบัดนําเสียโดยวิธี อัลคาไลคลอริเนชัน เป็ นวิธีการบําบัดโลหะหนักชนิดใด 69.Eutrophication มักเกิดทีบ่อใดมากทีสุด

"µµ, →.,. µ
• 1. ตะกัว • 1. บ่อแฟคัลเททีพ
• 2. สารหนู • 2. บ่อปรับสภาพขันสุดท้าย
20

;t÷!;:;;±¥¥¥
• 3. ไซยาไนด์ stat • 3. บ่อเติมอากาศ
.
'd
• 4. ปรอท • 4. ถูกทุกข้อ
.

° I

C- ksti
¥
' •
memory
=
*
-


,

Totokkgislulje 80M¥
.

7¥ ,
.
24006s .

.¥ ,
,

69
i

12014ft .
70

70.จงคํานวนหาปริมาตรบ่อหมักแบบไร้อากาศสําหรับบําบัดนําเสียซึงมีความเข้มข้น CODเท่ากับ 5000 mg/l มีอตั ราการไหล


เท่ากับ 80m3/d และมีความสามารถในการบําบัดภาระบรรทุกสารอินทรียไ์ ด้ 0.5kgCOD/m3-d

• 1.400 m3
• 2. 800 m3
• 3. 200 m3
• 4. 1200 m3

71
?⃝
24/04/63

68.การบําบัดนําเสียโดยวิธี อัลคาไลคลอริเนชัน เป็ นวิธีการบําบัดโลหะหนักชนิดใด 69.Eutrophication มักเกิดทีบ่อใดมากทีสุด

• 1. ตะกัว • 1. บ่อแฟคัลเททีพ
• 2. สารหนู • 2. บ่อปรับสภาพขันสุดท้าย
• 3. ไซยาไนด์ • 3. บ่อเติมอากาศ
• 4. ปรอท • 4. ถูกทุกข้อ

;
°

69 70

70.จงคํานวนหาปริมาตรบ่อหมักแบบไร้อากาศสําหรับบําบัดนําเสียซึงมีความเข้มข้น CODเท่ากับ 5000 mg/l มีอตั ราการไหล


เท่ากับ 80m3/d และมีความสามารถในการบําบัดภาระบรรทุกสารอินทรียไ์ ด้ 0.5kgCOD/m3-d

• 1.400 m3
• 2. 800 m3
• 3. 200 m3
• 4. 1200 m3

71
24/04/63

68.การบําบัดนําเสียโดยวิธี อัลคาไลคลอริเนชัน เป็ นวิธีการบําบัดโลหะหนักชนิดใด 69.Eutrophication มักเกิดทีบ่อใดมากทีสุด

• 1. ตะกัว • 1. บ่อแฟคัลเททีพ
• 2. สารหนู • 2. บ่อปรับสภาพขันสุดท้าย
• 3. ไซยาไนด์ • 3. บ่อเติมอากาศ
• 4. ปรอท • 4. ถูกทุกข้อ

69 70

0 "m
"i¥Éoi
.

70.จงคํานวนหาปริมาตรบ่อหมักแบบไร้อากาศสําหรับบําบัดนําเสียซึงมีความเข้มข้น CODเท่ากับ 5000 mg/l มีอตั ราการไหล


0,4
เท่ากับ 80m3/d และมีความสามารถในการบําบัดภาระบรรทุกสารอินทรียไ์ ด้ 0.5kgCOD/m3-d

• 1.400 m3
i
¥1K
• 2. 800 m3 MC V11 ✗ too
• 3. 200 m3

¥÷É°
m"
• 4. 1200 m3 =

= re
- MIA ,

71

You might also like