Professional Documents
Culture Documents
ผู้จัดทำ
ผู้จัดทำคาดหวังเป็ นอย่างยิ่งว่าการจัดทำรายงานฉบับนีจ
้ ะมีข้อมูล
ที่เป็ นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาหลักการส่งเสริมสมรรถภาพ หากผิด
พลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี ้
วรางคนาง
ลาภเจริญ
ผู้จัดทำ
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ
ข
กินอาหารที่มีประโยชน์
1
ดื่มนำสะอาดเป็ นประจำ
4
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
5
พักผ่อนให้เพียงพอ
6
ควบคุมน้ำหนังให้ตรงตามมาตรฐาน
7
ตรวจสุขภาพประจำปี
8
บรรณานุกรม
9
ผู้จัดทำ
10
บรรณานุกรม
https://www.tipsza.com
https://www.pangpond.com
https://www.sanook.com
https://www.doctorraksa.com
https://www.bangkoklife.com
https://www.pobpad.com
https://www.dibukhospital.com
https://amprohealth.com
https://www.petcharavejhospital.com
กินอาหารที่มีประโยชน์
โปรตีน
คาร์โบไฮเดรต
พบได้ในสารอาหารจำพวกข้าว แป้ ง น้ำตาล มัน และเผือก เช่น
ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวโพด แป้ งมันสำปะหลัง แป้ งจากเส้นก๋วยเตี๋ยว
เส้นขนมจีน น้ำตาลทราย น้ำตาลอ้อย น้ำตาลมะพร้าว น้ำผึง้ หัวเผือก
มัน สารอาหารหมู่นจ
ี ้ ะช่วยให้พลังงานเพื่อที่ร่างกายจะนำไปใช้ทำ
กิจกรรมในแต่ละวันได้เพียงพอ
ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่จำเป็ นต่อวัน ควรทานคาร์โบไฮเดรตอยู่ที่ 3
กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือน้อยกว่านัน
้ ในผู้ที่ลดน้ำหนั
ไขมัน
พบได้ในสารอาหารจำพวกไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ซึ่งไข
มันจากสัตว์มักเป็ นไขมันอิ่มตัว รวมถึงไขมันที่แฝงอยู่ในเนื้อสัตว์ เช่น
น้ำมันจากหมู ไก่ เนื้อ ไข่แดง และถั่วชนิดต่างๆ
ไขมันจะช่วยเน้นให้เกิดการสะสมพลังงานและเพิ่มความอบอุ่นให้
ร่างกาย สารอาหารหมู่นจ
ี ้ ะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วย
สะสมไขมันจากสารอาหารเอาไว้ใต้ผิวหนังช่วยเพิ่มความอบอุ่นแก่
ร่างกาย เมื่อร่างกายขาดพลังงาน ไขมันที่ถูกสะสมไว้ตามบริเวณต่างๆ ก็
จะถูกนำออกมาใช้ทดแทน
ปริมาณเกลือแร่และแร่ธาตุที่จำเป็ นต่อวัน แตกต่างกันไปในแต่ละ
ประเภท เช่น แคลเซียม 800 มิลลิกรัม ไอโอดีน 150 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 350 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 800 มิลลิกรัม ซีลเี นียม 70
มิลลิกรัม เหล็ก 15 มิลลิกรัม และสังกะสี 15 มิลลิกรัม
วิตามิน
พบได้ในสารอาหารจำพวกผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น กล้วย ส้ม แอปเปิ ้ ล
ฝรั่ง สับปะรด มะละกอ ลำไย มังคุด ซึ่งจะช่วยเน้นในเรื่องการขับถ่าย
ของลำไส้
ดื่มนำสะอาดเป็ นประจำ
สาเหตุที่เราขาดน้ำไม่ได้เป็ นเพราะในร่างกายของเรานัน
้ มีน้ำเป็ น
ส่วนประกอบอยู่ถึงร้อยละ 60 - 70 อยู่ในเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย ในแต่ละ
วันน้ำจะถูกขับออกไปจากร่างกายของเราประมาณ 2.5 ลิตร ทาง
ปั สสาวะ อุจจาระ ปอด เหงื่อ เป็ นต้น ดังนัน
้ เพื่อทดแทนการขาดน้ำ เรา
จึงจำเป็ นต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย
การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- ทารก พ่อแม่ควรดูแลทารก โดยช่วยให้เด็กเกิดการเคลื่อนไหวร่างกาย
ส่วนต่าง ๆ เป็ นประจำทุกวันเพื่อกระตุ้นพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว
ของเด็ก
- เด็กหัดคลาน ควรเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดย
ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายแต่ละส่วน 30 นาที และทำกิจกรรมเล่นทั่วไป
60 นาที
- เด็กก่อนวัยเรียน ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมงโดยออก
กำลังกาย 60 นาที และทำกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆ เพื่อเคลื่อนไหว
ร่างกาย 60 นาที
- เด็กอายุ 5–18 ปี ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย
อย่างน้อยวันละ 60 นาที
- ผู้ใหญ่อายุ 19–64 ปี ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึ กกล้าม
เนื้อที่มีความหนักปานกลางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือออก
กำลังกายแบบแอโรบิกและฝึ กกล้ามเนื้อที่มีความหนักระดับเข้มข้น
สัปดาห์ละ 75 นาที
- ผู้สูงอายุ 65 ปี ขึน
้ ไป ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึ กกล้าม
เนื้อที่มีความหนักระดับปานกลางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือ
ออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึ กกล้ามเนื้อที่มีความหนักระดับเข้มข้น
สัปดาห์ละ 75 นาที
พักผ่อนให้เพียงพอ
การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานนัน
้ จะไม่ทำให้เกิดโรค
อ้วนเป็ นตัวการของโรคร้ายต่างๆ มากมาย ดังนัน
้ จึงควรควบคุมน้ำหนัก
ให้ดีและอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติอยู่เสมอ โดยโรคร้ายที่อาจจะมาพร้อมกับ
ความอ้วน ก็ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคข้อเข่าเสื่อม โรคความดันโลหิตสูง
มะเร็งเต้านม โรคหลอดเลือดหัวใจและโรคนิ่วในถุงน้ำดีนั่นเอง
นอกจากนีค
้ นอ้วนก็มักจะมีปัญหาเรื่องปอดอีกด้วย เพราะชัน
้ ไขมัน
บริเวณรอบทรวงอกที่หนาเกินไป ทำให้ปอดไม่สามารถขยายตัวได้ดีเท่าที่
ควร จึงทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งก็เสี่ยงต่อการหยุดหายใจในขณะ
นอนหลับเป็ นระยะๆ มากทีเดียว และอาจเกิดอาการปวดศีรษะ มึนงง
หายใจช้าลงและง่วงนอนบ่อย เมื่อตื่นนอนตอนเช้าอีกด้วย
สำหรับการดูว่ารูปร่างของตัวเองอยู่ในระดับที่พอดีแล้วหรือยัง ก็สามารถ
ดูได้จากดัชนีมวลกาย ( BMI ) โดยมีสูตรการคำนวณดังนี ้
ตรวจสุขภาพประจำปี
การตรวจสุขภาพแต่ละช่วงอายุ
- สุภาพสตรี เมื่อมีอายุ 30 ปี ขึน
้ ไป หรือเคยมีเพศสัมพันธ์ควร
ตรวจมะเร็งปากมดลูก และตรวจหาเชื้อ HPV และเมื่ออายุถึง
40 ปี ขึน
้ ไปต้องเข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านมอย่างน้อยปี ละ 1
ครัง้
- สุภาพบุรุษ เมื่อมีอายุตงั ้ แต่ 50 ปี ขึน
้ ไปควรตรวจมะเร็งต่อม
ลูกหมากปี ละ 1 ครัง้
นอกจากนีท
้ งั ้ สุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีหากมีอายุตงั ้ แต่ 40 ปี ขึน
้ ไป
สามารถทำอัลตราซาวด์ช่องท้องเพื่อตรวจดูความผิดปกติของตับ ไต ถุง
น้ำดี รังไข่ และมดลูก เมื่ออายุ 50 ปี ขึน
้ ไปควรตรวจการทำงานของหัวใจ
ขณะออกกำลังกาย หรือ EST เพื่อหาโรคอันตราย เช่น หัวใจขาดเลือด
หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็ นต้น