Professional Documents
Culture Documents
รูปสี่เหลี่ยมคณิต
รูปสี่เหลี่ยมคณิต
บทนํา
ความสําคัญและที่มาของประเด็นงานวิจัย
การศึกษาขั้นพื้นฐาน มุงพัฒนาคนไทยใหเปนมนุษยที่สมบูรณ เปนคนดี มีปญญา มีความ
สุข สามารถคิดเปน ทําเปนและสามารถแกปญหาเปนและมีความเปนคนไทย มีศักยภาพในการ
ศึกษาตอและประกอบอาชีพในอนาคตได อีกทั้งในธรรมนูญของโรงเรียนอัสสัมชัญระยองเองยังได
เนนใหนักเรียนเปนผูมีความรู สามารถคิดวิเคราะหและเขาใจในบทเรียนดวยการปฏิบัติจริง อีกทั้ง
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ฉบับปรับปรุง 2546 ยังไดแบงสาระการเรียนรู
คณิตศาสตรเปนสาระการเรียนรูหนึ่งที่เปนพื้นฐานในการเรียนการสอน เพื่อสรางเปนพื้นฐานใน
การคิดโดยนักเรียนสามารถเขาใจมโนทัศนคณิตศาสตรอันจะนําไปสูการปฏิบัติจริงในชีวิตประจํา
วันได และจะเปนกลยุทธในการแกไขปญหาและวิกฤตของชาติได (กรมวิชาการ, 2544)
การเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร มีทักษะที่จะตองเนนใหนักเรียนเขาใจ ประกอบดวย
ทักษะดังตอไปนี้
1. การแกปญหา
2. ทักษะการนําคณิตศาสตรไปใชในชีวิตประจําวัน
3. ทักษะในการพิจารณาผลลัพธที่สมเหตุสมผล
4. ทักษะในการคิดคะเนและการประมาณการ
5. ทักษะการวัดและทักษะเรขาคณิต
6. ทักษะเกี่ยวกับการอานและการตีความ
7. ทักษะการทํานายและทักษะการคํานวณ ( สุลัดดา ลอยฟา,2538 )
ดังจะเห็นไดวาทักษะการวัดและทักษะเรขาคณิตเปนทักษะหนึ่งที่ผูสอนจะตองสรางใหนัก
เรียนเกิดความเขาใจและนําไปใชในชีวิตจริงได เพื่อใหนักเรียนมีความเชื่อมั่นในการวัดและทักษะ
เรขาคณิต หากนักเรียนเกิดความเขาใจและมีความเชื่อมั่นตอการวัดและทักษะเรขาคณิตแลว นัก
เรียนก็จะเกิดความมั่นใจและมีเจตคติที่ดีตอวิชาคณิตศาสตร และอยากมีสวนรวมในการจัดกิจกรรม
ในวิชาคณิตศาสตรตอไป
การเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ของโรงเรียนอัสสัมชัญระยอง ครูผูสอน
ไดพยายามสอนนักเรียนตามเนื้อหาที่หลักสูตรสถานศึกษาจัดให แตการเรียนการสอนในบางเนื้อหา
ยังขาดการเชื่อมโยงกับการปฏิบัติจริง นักเรียนนั้นมักเรียนเฉพาะในภาคทฤษฎีและไมสามารถ
2
วัตถุประสงคของการวิจัยชั้นเรียน
1. เพื่อเสริมสรางทักษะในการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมของนักเรียนระดับชั้นประถม
ศึกษาปที่ 6
2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลการสอน ระหวางการสอนการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม
ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ในหองเรียน กับ การสอนการหาพื้นที่
ของรูปสี่เหลี่ยมของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ดวยการปฏิบัติจริง
ตัวแปรที่ศึกษา
- ตัวแปรตน จํานวนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 จํานวน 228 คน
- ตัวแปรตาม - แบบทดสอบของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 เรื่อง การ
หาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม
- แบบสํารวจความคิดเห็น
กรอบแนวคิดในการวิจัย
การสอนทฤษฏีในหองเรียน
นักเรียนระดับชั้นป.6
การสอนทฤษฏีและนําสูภาค
ปฏิบัตินอกหองเรียน
รูปแสดงกรอบแนวคิดในการวิจัย
3
ผลที่คาดวาจะไดรับ
1. นักเรียนประดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 เขาใจการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมดวยการ
ปฏิบัติจริง
2. นักเรียนระดับชั้นปะถมศึกษาปที่ 6 มีเจตคติที่ดีตอวิชาคณิตศาสตร
กลุมประชากรและกลุมตัวอยาง
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยอางอิง
เอกสารที่ใชอางอิง ไมสามารถหาได
5
บทที่ 3
วิธีดําเนินการวิจัย
ขอบเขตของงานวิจัย
ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผูวิจัยไดวิจัยเกี่ยวกับการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมดวยการปฏิบัติจริง
ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 จํานวนทั้งสิ้น 228 คน
ระยะเวลาในการทําการศึกษาวิจัย
เครื่องมือทีใชในการวิจัย
สถิติที่ใชในการวิจัย
1. การหาคารอยละ
6
ขั้นตอนในการดําเนินงาน
1. ผูวิจัยทําการสอนทฤษฎีใหกับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ทุกหอง
เรียนเรื่องการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมในหองเรียน
2. หลังสอนจบ ผูวิจัยใหนักเรียนทําแบบทดสอบ เพื่อตรวจสอบความเขาใจของนัก
เรียน
3. หลังจากผูวิจัยทําการสอนในหองเรียนจบแลว ผูวิจัยจะทําการสอนนักเรียนในเรื่อง
เดิมโดยการนํานักเรียนลงมือปฏิบัติจริงตามสถานที่ภายในโรงเรียนดวยการวัดจาก
สิ่งตางๆที่เปนรูปสี่เหลี่ยม แลวนําตัวเลขตาง ๆ ที่วัดไดมาทําการหาพื้นที่สี่เหลี่ยม
และผูวิจัยทําการตรวจสอบความถูกตองของการการวัดและการหาพื้นที่
4. หลังสอนจบ ผูวิจัยจะใหนักเรียนทําแบบทดสอบที่เคยทําในหองเรียนทําอีกครั้ง
เพื่อตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนในแตละเรื่อง
5. ผูวิจัยนําคะแนนจากแบบทดสอบทั้งสองครั้งเปรียบเทียบกันระหวางคะแนนของ
แบบทดสอบที่ทําในหองเรียน กับ คะแนนของแบบทดสอบโดยการปฏิบัติจริง
6. ผูวิจัยทําแบบสํารวจความเขาใจเรื่องการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม โดยใหนักเรียน
ตอบคําถาม เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระหวางการเรียนการสอนในหองเรียนกับการ
เรียนการสอนโดยการปฏิบัติจริง
7. ผูวิจัยนําคะแนนจากการทําแบบทดสอบจากการปฏิบัติจริงมาเปรียบเทียบกับแบบ
ทดสอบที่ทําในหองเรียน
8. ผูวิจัยนําผลจากการสํารวจความเขาใจเรื่องการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม โดยทําการ
วิเคราะหเพื่อสรุปผลการวิจัยชั้นเรียน เรื่องการสรางเสริมทักษะการหาพื้นที่ของ
รูปสี่เหลี่ยมโดยการปฏิบัติจริงของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6
7
บทที่ 4
ผลการวิจัย
จากการดําเนินการศึกษาคนควาและวิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การสรางเสริมทักษะการหาพื้นที่
ของรูปสี่เหลี่ยมโดยการปฏิบัติจริงของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ปการศึกษา 2547 ของ
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง จํานวนนักเรียนทั้งสิ้น 228 คน โดยผูวิจัยไดใหนักเรียนทําแบบทดสอบ
เรื่องการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจํานวน 10 ขอ ทั้งในหองเรียนและการปฏิบัติจริง มีผลออกมาดังนี้
ตารางสรุปคะแนนแบบทดสอบ
เรื่อง
การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม
ระดับคะแนนแบบฝกในหองเรียน ระดับคะแนนแบบฝกนอกหองเรียน
หอง จํานวน รวม รวม
0-5 6-7 8-9 10 0-5 6-7 8-9 10
ประถมศึกษาปที่ 6/1 38 0 3 25 10 38 0 0 5 33 38
ประถมศึกษาปที่ 6/2 38 12 11 10 5 38 0 6 12 20 38
ประถมศึกษาปที่ 6/3 39 19 10 5 5 39 2 6 16 15 39
ประถมศึกษาปที่ 6/4 36 18 8 6 4 36 1 5 20 10 36
ประถมศึกษาปที่ 6/5 39 12 14 10 3 39 0 10 12 17 39
ประถมศึกษาปที่ 6/6 38 14 10 6 8 38 2 7 14 15 38
รวม 228 75 56 62 35 228 5 34 79 110 228
คิดเปนรอยละ 100 32.89 24.56 27.19 15.35 100.00 2.19 14.91 34.65 48.25 100
ตารางสรุปคะแนนแบบทดสอบของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6
8
แผนภูมิแสดงการเปรียบเทียบการเรียนในหองเรียนกับ
การเรียนนอกหองเรียน
60.00 48.25
32.89 34.65
40.00 24.56 27.19 การเรียนในหองเรียน
14.91 15.35
20.00 2.19 การเรียนนอกหองเรียน
0.00
ชวงคะแนน
แผนภูมิแสดงการเปรียบเทียบคะแนนของนักเรียน
ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ระหวางการสอนในหองเรียนกับการสอนนอกหองเรียน
จากตารางเปรียบเทียบแบบทดสอบของการเรียนการสอนเรื่องการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม
ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนแลวจะเห็นไดวานักเรียนที่ไดฝก
ปฏิบัติจริงนอกหองเรียนนั้นมีคะแนนสูงกวาที่นักเรียนเรียนในหองเรียนเพียงอยางเดียว ดังจะเห็น
ไดจาก คะแนนเปรียบเทียบทั้งสองครั้ง วาการเรียนการสอนนอกหองเรียนดวยการปฏิบัติจริงนัก
เรียนเขาใจเนื้อหาบทเรียนไดมากกวาการเรียนการสอนในหองเพียงอยางเดียว
และจากการสํารวจความคิดเห็นของนักเรียนเรื่องความพึงพอใจตอการดําเนินการเรียนการ
สอนในหองเรียนกับการเรียนการสอนนอกหองเรียนปรากฏผลดังนี้
9
สรุปการสํารวจความคิดเห็น
เรื่อง
การสรางเสริมทักษะการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมโดยการปฏิบัติจริง ในระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6
จากการสํารวจความคิดเห็นของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 โรงเรียนอัสสัมชัญ
ระยอง ประจําปการศึกษา 2547 จํานวน ทั้งสิ้น 228 คน สรุปไดดังนี้
1. นักเรียนมีความสนใจในวิชาวิชาคณิตศาสตร อยูในระดับ มากถึงมากที่สุด
2. นักเรียนเขาใจการอธิบายจากครูผูสอนวิชาคณิตศาสตร อยูในระดับ มาก
3. นักเรียนมีโอกาสไดปฏิบัติจริงในวิชาคณิตศาสตร อยูในระดับพอใช
4. นักเรียนเขาใจเนื้อหาวิชาคณิตศาสตรในหองเรียน อยูในระดับพอใช
5. นักเรียนเขาใจเนื้อหาวิชาคณิตศาสตรดวยการปฏิบัติ อยูในระดับ มาก
6. นักเรียนพึงพอใจการเรียนวิชาคณิตศาสตรในหองเรียน อยูในระดับ พอใช
7. นักเรียนพึงพอใจการเรียนวิชาคณิตศาสตรนอกหองเรียน อยูในระดับ มากที่สุด
8. นักเรียนพึงพอใจบรรยากาศการสอนในหองเรียน อยูในระดับควรปรับปรุง
9. นักเรียนพึงพอใจบรรยากาศการสอนนอกหองเรียน อยูในระดับ มากที่สุด
10. การใชสื่อการสอนของครูผูสอน อยูในระดับ มาก
10
แสดงใหเห็นวา หากนักเรียนมีโอกาสไดปฏิบัติจริงนอกหองเรียนแลวการเรียนและความ
เขาใจของนักเรียนก็จะมากขึ้น นับเปนการสรางเจตคติที่ดีตอวิชาคณิตศาสตรเปนอยางดี
11
บทที่ 5
สรุปผลการวิจัย
จากการวิจัยสรุปผลไดดังนี้คือ
จากการศึกษาวิจัยคนควาเรื่อง การสรางเสริมทักษะการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมโดยการ
ปฏิบัติจริง ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 ประจําปการศึกษา 2547 ของนักเรียนโรงเรียน
อัสสัมชัญระยองนั้นจะเห็นไดจากแบบทดสอบพบวานักเรียนที่เรียนทฤษฎีในหองเรียนแลวครูผู
สอนนํามาฝกปฏิบัติจริงนอกหองเรียน นักเรียนมีคะแนนจากแบบทดสอบนั้น สูงขึ้นทุกคน แสดง
ใหเห็นวา หากนักเรียนไดลงมือปฏิบัติจริงดวยตัวของนักเรียนเองและสามารถนํามาประยุกตใช
ในชีวิตจริงได
และจากแบบสํารวจความคิดเห็นของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 พบวา
1. นักเรียนมีความพึงพอใจกับการเรียนการสอนนอกหองเรียน มากวาการเรียนการสอน
ในหองเรียน
2. นักเรียนมีความสนใจคณิตศาสตรโดยครูผูสอนมีสื่อประกอบการเรียนการสอน
3. นักเรียนชอบบรรยากาศการเรียนการสอนนอกหองเรียนมากกวาการเรียนการสอนใน
หองเรียน
ขอเสนอแนะจากนักเรียนมีดังนี้คือ
- ควรจะมีการเรียนการสอนนอกหองเรียนทุก ๆ คาบ เพราะสนุก
- อยากใหมีการเลนเกมคณิตศาสตรหลังเรียนเสร็จแลว
- อยากใหมีการปฏิบัติจริง ๆ
- เรียนบนหองเรียนอยางเดียวเกิดความเบื่อ
- ในหองรอน ทําใหงวงนอน
- อยากใหมีอุปกรณการเรียนการสอนมากกวานี้
- ควรมีการทัศนศึกษา
- อยากใหเรียนใหสนุกสนาน สอนใหสนุก
จะเห็นไดวานักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 หากครูผูสอนสามารถประยุกตวิชา
คณิตศาสตรเขากับชีวิตประจําวันไดนักเรียนก็จะเขาใจในเนื้อหาสาระวิชาคณิตศาสตรมากยิ่งขึ้น
และหากนักเรียนมีโอกาสไดลงมือปฏิบัติจากการวัดจริง ๆ แลว นักเรียนก็สามารถเขาใจเนื้อหามาก
12
ยิ่งขึ้นและถาหากครูผูสอนสามารถสรางเจตคติที่ดีตอการเรียนวิชาคณิตศาสตรแลว นักเรียนก็จะ
สามารถมีความสนใจในวิชาคณิตศาสตรมากยิ่งขึ้น
ขอคิดที่ไดจากการวิจัย
1. ครูผูสอนวิชาคณิตศาสตรควรมีสื่อการสอนมากยิ่งขึ้น
2. ครูผสู อนควรนํานักเรียนลงมือปฏิบัติจริงในบางเนื้อหาที่สามารถประยุกตกับการ
ปฏิบัติจริงได