You are on page 1of 7

THE TUTOR เอกสารประกอบ DVD วิทยาศาสตร์ ม.

ต้ น (แสง) 1

แสง

1. จากรูป มุมสะท้อนคือมุมใด

1. มุม 1 2. มุม 2 3. มุม 3 4. มุม 4

2. จากรูปในข้อ 1 มุมใดรวมกันแล้วได้ 90 องศาเสมอ


1. 1 + 4 2. 1 + 3 3. 2 + 3 4. ถูกทุกข้อ

3. ดาวต้องการศึกษาเรื่องการสะท้อนของแสง โดยเลือกใช้วสั ดุ 3 ชนิดทีม่ ลี กั ษณะเป็ นแผ่นสีเ่ หลีย่ ม


และใช้กล่องแสงในการสร้างรังสีตกกระทบ ผลทีไ่ ด้ดงั นี้
วัสดุ ผลที่เกิ ดขึน้
A รังสีสะท้อนเป็ นระเบียบ
B รังสีสะท้อนเป็ นระเบียบ
C รังสีสะท้อนไม่เป็ นระเบียบ
วัสดุ A, B และ C มีลกั ษณะใด
1. A และ B มีผวิ มันเงา C มีผวิ ขรุขระ 2. A และ B มีผวิ ขรุขระ C มีผวิ มันเงา
3. A มีผวิ ขรุขระ B และ C มีผวิ มันเงา 4. A มีผวิ มันเงา B และ C มีผวิ ขรุขระ

4. ถ้าแสงตกกระทบลงบนวัตถุทม่ี ผี วิ ขรุขระการสะท้อนของแสงทีเ่ กิดขึน้ จะทาให้มมุ ตกกระทบเท่ากับ


มุมสะท้อนหรือไม่ เพราะเหตุใด
1. เท่ากัน เพราะแสงทีต่ กกระทบลงบนวัตถุทุกชนิด การสะท้อนแสงจะทาให้มมุ ตกกระทบมีค่าเท่ากับ
มุมสะท้อนเสมอ
2. เท่ากัน เพราะวัตถุทม่ี ผี วิ ขรุขระจะประกอบด้วยผิวเรียบจานวนมาก เมื่อแสงตกกระทบบริเวณผิวเรียบ
เหล่านี้มุมทีไ่ ด้จะมีค่าเท่ากัน
3. ไม่เท่ากัน เพราะวัตถุทม่ี ผี วิ ขรุขระ แสงจะเกิดการหักเหไม่เป็ นระเบียบ ทาให้มุมทีเ่ กิดมีค่าต่างกัน
4. ไม่เท่ากัน เพราะวัตถุทม่ี ผี วิ ขรุขระ รังสีตกกระทบและรังสีสะท้อนจะไม่อยู่ในระนาบเดียวกัน
จึงทาให้มุมมีค่าต่างกัน

5. เมื่อวางวัตถุไว้หน้ากระจกเงาราบจะเกิดภาพ ณ ตาแหน่งต่างๆ ขึน้ อยู่กบั สิง่ ใด


1. ขนาดของวัตถุ 2. มุมในการเกิดภาพ
3. ขนาดของกระจกเงาราบ 4. ระยะวัตถุทว่ี างไว้หน้ากระจกเงาราบ
2 THE TUTOR เอกสารประกอบ DVD วิทยาศาสตร์ ม.ต้ น (แสง)
6. น้องยืนอยู่ห่างจากกระจกเงาราบ 30 เซนติเมตร พีย่ นื ห่างจากน้องมาด้านหลังอีก 15 เซนติเมตร
ภาพของน้องในกระจกเกิดอยูห่ า่ งจากพีเ่ ท่าใด
1. 30 เซนติเมตร 2. 45 เซนติเมตร
3. 60 เซนติเมตร 4. 75 เซนติเมตร

7. กระจกมองด้านหลังของรถยนต์สว่ นใหญ่จะใช้กระจกเงาราบมากกว่ากระจกนูนเพราะอะไร
1. ภาพทีไ่ ด้ชดั เจนมากกว่า 2. ภาพทีไ่ ด้มขี นาดใหญ่กว่า
3. มองเห็นภาพด้านหลังได้ระยะไกลกว่า 4. ได้ระยะภาพตรงกับความจริงมากกว่า

8. จะต้องใช้กระจกชนิดใดจึงจะทาให้เกิดภาพเสมือนทีม่ ขี นาดใหญ่กว่าวัตถุ
1. กระจกนูน 2. กระจกโค้ง
3. กระจกเว้า 4. กระจกเงาราบ

9. ข้อใดไม่ถูกต้องเกีย่ วกับภาพทีเ่ กิดจากกระจกเว้าและกระจกนูน


1. ภาพจริงเกิดด้านเดียวกับวัตถุ
2. ภาพเสมือนเกิดคนละด้านกับวัตถุ
3. กระจกเว้าเกิดทัง้ ภาพจริงและภาพเสมือน
4. กระจกนูนเกิดทัง้ ภาพจริงและภาพเสมือน

10. วางดินสอห่างจากกระจกนูนทีม่ จี ุดโฟกัส 8 เซนติเมตร ภาพทีเ่ กิดจะอยู่ห่างจากขัว้ กระจกเท่าไร


1. น้อยกว่า 8 เซนติเมตร
2. เท่ากับ 8 เซนติเมตร
3. มากกว่า 8 เซนติเมตรแต่ไม่ถงึ 16 เซนติเมตร
4. มากกว่า 16 เซนติเมตร

11. เอกอยู่ห่างจากกระจก 10 เซนติเมตร ต้องการเห็นภาพของตัวเองมีขนาดใหญ่ขน้ึ เขาจะต้องใช้กระจก


ชนิดใด และมีรศั มีความโค้งเท่าใด
1. กระจกนูนรัศมีความโค้ง 20 เซนติเมตร
2. กระจกนูนรัศมีความโค้ง 40 เซนติเมตร
3. กระจกเว้ารัศมีความโค้ง 20 เซนติเมตร
4. กระจกเว้ารัศมีความโค้ง 40 เซนติเมตร

12. กระจกนูนบานหนึ่งมีความยาวโฟกัส 15 เซนติเมตร ถ้าวางวัตถุไว้หน้ากระจก 10 เซนติเมตร


จะเกิดภาพลักษณะใด
1. ระยะภาพมากกว่า 15 เซนติเมตร เป็ นภาพจริงขนาดเล็ก
2. ระยะภาพมากกว่า 15 เซนติเมตร เป็ นภาพเสมือนขนาดใหญ่
3. ระยะภาพน้อยกว่า 15 เซนติเมตร เป็ นภาพจริงขนาดใหญ่
4. ระยะภาพน้อยกว่า 15 เซนติเมตร เป็ นภาพเสมือนขนาดเล็ก
THE TUTOR เอกสารประกอบ DVD วิทยาศาสตร์ ม.ต้ น (แสง) 3
13. วางเทียนไว้หน้ากระจกเว้า ให้มรี ะยะห่าง 30 เซนติเมตร ถ้ากระจกเว้ามีรศั มีความโค้ง 20 เซนติเมตร
จะเกิดภาพลักษณะใด
1. ภาพจริงหัวตัง้ ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ
2. ภาพจริงหัวกลับ ขนาดเล็กกว่าวัตถุ
3. ภาพเสมือนหัวตัง้ ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ
4. ภาพเสมือนหัวกลับ ขนาดเล็กกว่าวัตถุ

14. มุมหักเหจะมีขนาดใหญ่หรือเล็กกว่ามุมตกกระทบขึน้ อยู่กบั อะไร


1. สถานะของตัวกลาง 2. ตาแหน่งทีแ่ สงตกกระทบ
3. ความหนาแน่นของตัวกลาง 4. ความเร็วของแสงทีต่ กกระทบ

15. จากการทดลองใช้กล่องแสงให้แสงเดินทางผ่านตัวกลางโปร่งใส 2 ชนิด แล้วนามาเขียนรังสีของแสงได้ดงั นี้

2
ข้อความใดถูกต้อง
1. ตัวกลางที่ 2 มีค่าดัชนีหกั เหมากกว่า 2. ตัวกลางที่ 1 มีความหนาแน่นมากกว่า
3. ตัวกลางทัง้ 2 ชนิดมีความหนาแน่นเท่ากัน 4. ตัวกลางที่ 1 คือ น้า ตัวกลางที่ 2 คือ แก้ว

16. เมื่อฉายแสงสีขาวผ่านแท่งแก้วปริซมึ แสงสีใดทีเ่ บีย่ งเบนไปจากแนวเดิมน้อยทีส่ ดุ


1. สีม่วง 2. สีแดง 3. สีเขียว 4. สีน้าเงิน

17. เพราะเหตุใดแสงขาวทีผ่ ่านออกจากแก้วปริซมึ จึงปรากฏเป็ นแสงสีแตกต่างกัน


1. เพราะอัตราเร็วของแสงแต่ละสีในแก้วมีอตั ราเร็วเท่ากัน
2. เพราะอัตราเร็วของแสงแต่ละสีในแก้วมีอตั ราเร็วต่างกัน
3. เพราะอัตราเร็วของแสงแต่ละสีในสุญญากาศมีอตั ราเร็วเท่ากัน
4. เพราะอัตราเร็วของแสงแต่ละสีในสุญญากาศมีอตั ราเร็วเท่ากันแต่ในแก้วอัตราเร็วของแสง
แต่ละสีแตกต่างกัน

18. ปรากฏการณ์การหักเหของแสงทาให้เรามองเห็นวัตถุในน้าเป็ นอย่างไร


1. อยู่ลกึ กว่าความจริง
2. อยู่ตน้ื กว่าความจริง
3. อยู่เอียงไปทางขวามากกว่าความจริง
4. อยู่เอียงไปทางซ้ายมากกว่าความจริง
4 THE TUTOR เอกสารประกอบ DVD วิทยาศาสตร์ ม.ต้ น (แสง)
19. ขณะทีน่ กั เรียนนังอยู
่ ่รมิ สระน้า เมื่อมองลงไปในสระน้า นักเรียนจะมองเห็นฝูงปลาอยูใ่ นน้าตืน้ หรือลึกกว่า
ความเป็ นจริงเพราะเหตุใด
1. อยู่ลกึ กว่าความเป็ นจริง เพราะแสงจากก้นสระน้าเกิดการสะท้อนกลับหมด
2. อยู่ตน้ื กว่าความเป็ นจริง เพราะการหักเหของแสงมีมมุ ตกกระทบโตกว่ามุมหักเห
3. อยู่ตน้ื กว่าความเป็ นจริง เพราะการหักเหของแสงมีมมุ ตกกระทบเล็กกว่ามุมหักเห
4. อยู่ลกึ กว่าความเป็ นจริง เพราะแสงจากก้นสระน้าเกิดการหักเหทาให้มุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน

20. วางวัตถุไว้ทจ่ี ุดโฟกัสจากนัน้ ให้วตั ถุเคลื่อนทีเ่ ข้าหาเลนส์นูน อยากทราบว่าภาพของวัตถุจะเป็ นอย่างไร


1. ภาพจะเคลื่อนทีอ่ อกจากเลนส์นูนด้านหลังเลนส์
2. ภาพจะเคลื่อนทีอ่ อกจากเลนส์นูนด้านหน้าเลนส์
3. ภาพจะเคลื่อนทีเ่ ข้าหาเลนส์นูนจนกระทังภาพหยุ ่ ดทีจ่ ุดโฟกัสหลังเลนส์
4. ภาพจะเคลื่อนทีเ่ ข้าหาเลนส์นูนจนกระทังภาพหยุ ่ ดทีจ่ ุดโฟกัสหน้าเลนส์

21. การทดลองแสดงการเกิดภาพจากเลนส์นูนทีม่ คี วามยาวโฟกัส 10 เซนติเมตร โดยเลื่อนวัตถุให้ห่างจาก


เลนส์นูนเป็ นระยะทางต่างกัน และสังเกตลักษณะของภาพและการเกิดภาพ ได้ผลดังนี้
การทดลองครังที
้ ่ ระยะวัตถุถึงเลนส์นูน (เซนติ เมตร)
1 5
2 15
3 25
การทดลองครัง้ ใดทีใ่ ห้ภาพเสมือน
1. ครัง้ ที่ 1 2. ครัง้ ที่ 2 3. ครัง้ ที่ 3 4. ครัง้ ที่ 2 และ 3

22. วางวัตถุห่างจากเลนส์นูนทีม่ คี วามยาวโฟกัส 10 เซนติเมตรเป็ นระยะเท่าใด จึงจะได้ภาพเสมือน


เกิดห่างจากเลนส์ 5 เซนติเมตร
1. 3.3 เซนติเมตร 2. 5.0 เซนติเมตร
3. 10 เซนติเมตร 4. 15 เซนติเมตร

23. วัตถุสงู 2 เซนติเมตรวางอยู่หน้าเลนส์นูนทีม่ คี วามยาวโฟกัส 15 เซนติเมตร ถ้าวัตถุอยู่ห่างจากเลนส์


20 เซนติเมตรภาพทีเ่ กิดขึน้ จะมีลกั ษณะใด
1. ภาพจริง สูงน้อยกว่า 2 เซนติเมตร 2. ภาพจริง สูงมากกว่า 2 เซนติเมตร
3. ภาพเสมือน สูงน้อยกว่า 2 เซนติเมตร 4. ภาพเสมือน สูงมากกว่า 2 เซนติเมตร

24. ภาพทีเ่ ห็นเมื่อมองผ่านแว่นขยายมีลกั ษณะอย่างไร


1. ภาพจริงหัวกลับ ขนาดใหญ่อยู่ดา้ นเดียวกับวัตถุ
2. ภาพจริงหัวกลับ ขนาดใหญ่อยูค่ นละด้านกับวัตถุ
3. ภาพเสมือนหัวตัง้ ขนาดใหญ่อยู่คนละด้านกับวัตถุ
4. ภาพเสมือนหัวตัง้ ขนาดใหญ่อยู่ดา้ นเดียวกับวัตถุ
THE TUTOR เอกสารประกอบ DVD วิทยาศาสตร์ ม.ต้ น (แสง) 5
25. ส่วนประกอบของตาทีท่ าหน้าทีป่ รับความสว่างของแสงคืออะไร
1. ม่านตา 2. เลนส์ตา 3. กระจกตา 4. กล้ามเนื้อตา

26. บริเวณใดของนัยน์ตาทีท่ าให้เรามองเห็นสีต่างๆ


1. เรตินา 2. ม่านตา 3. เลนส์ตา 4. ประสาทตา

27. แสงสีปฐมภูมปิ ระกอบด้วยแสงสีใดบ้าง


1. แดง เขียว เหลือง 2. แดง เขียว น้าเงิน
3. แดง เหลือง น้าเงิน 4. เขียว เหลือง น้าเงิน

28. สมบัตขิ องแสงสีปฐมภูมคิ อื อะไร


1. ไม่สามารถนาไปผสมกับแสงสีอ่นื ได้
2. เมื่อผสมกับแสงสีอ่นื จะเกิดเป็ นแสงสีขาว
3. เมื่อนามาผสมกับแสงสีอ่นื จะปรากฏเป็ นสีดา
4. ไม่สามารถนาแสงสีอ่นื ใดมาผสมกันให้เหมือนได้

29. วัตถุต่างๆ มีสแี ตกต่างกันเพราะอะไร


1. แสงสีทต่ี กกระทบต่างกัน 2. วัตถุดดู กลืนแสงสีต่างกัน
3. แสงสีทส่ี ะท้อนเข้าสูน่ ยั น์ตาต่างกัน 4. ถูกทัง้ ข้อ 2 และ 3

30. “ดอกกุหลาบมีสแี ดง” นักเรียนคิดว่าเรามองเห็นดอกกุกลาบมีสแี ดงได้เพราะอะไร


1. ดอกกุหลาบสะท้อนสีแดงเข้าสูต่ าเรา
2. แสงสีแดงสะท้อนเข้าตาเราไปยังดอกกุหลาบ
3. ดอกกุหลาบดูดกลืนแสงสีแดงและสะท้อนแสงสีทเ่ี หลือเข้าตาเรา
4. แสงขาวสะท้อนเข้าตาเราแล้วสะท้อนไปยังดอกกุหลาบเฉพาะสีแดง

31. เพราะเหตุใดแสงสีต่างๆ ทีผ่ สมกันบนฉากขาวจึงทาให้เกิดสีดาไม่ได้


1. แสงสีต่างๆ ไม่สามารถผสมกันบนฉากสีขาวได้
2. แสงสีปฐมภูมไิ ม่มคี วามเข้มมาก เมื่อผสมกันจึงไม่เกิดเป็ นสีดา
3. ฉากสีขาวจะไม่ดดู กลืนแสงสีต่างๆ ไว้จงึ ไม่อาจมองเห็นเป็ นสีดา
4. ฉากสีขาวช่วยลดความเข้มของแสงสีต่างๆ ลงจึงไม่เกิดเป็ นสีดา

32. เมื่อเราฉายแสงสีม่วงแดงลงบนวัตถุสนี ้าเงินจะเห็นวัตถุเป็ นสีน้าเงินเหมือนเดิมเนื่องจากสาเหตุใด


1. แสงสีน้าเงินมีความเข้มของแสงมากกว่าแสงสีม่วงแดง
2. แสงสีน้าเงินเป็ นแสงสีปฐมภูมจิ งึ ดูดกลืนแสงสีทุตยิ ภูมไิ ด้
3. แสงสีม่วงแดงประกอบด้วยแสงสีน้าเงินกับแสงสีแดง วัตถุจงึ ดูดกลืนแสงสีแดงไว้
แล้วสะท้อนแสงสีน้าเงินออกมา
4. แสงสีม่วงแดงประกอบด้วยแสงสีแดงกับแสงสีเขียว ซึง่ มีปริมาณความเข้มของแสงน้อยกว่า
จึงถูกแสงสีน้าเงินดูดกลืนได้หมด
6 THE TUTOR เอกสารประกอบ DVD วิทยาศาสตร์ ม.ต้ น (แสง)
33. ถ้านักเรียนเข้าไปในร้านขายผ้าแห่งหนึ่งทีเ่ ปิ ดไฟสีเหลืองทัง้ ร้าน นักเรียนเลือกซือ้ ผ้าสีดามาชิน้ หนึ่ง แต่
เมื่อนาผ้าออกมาดูกลางแจ้ง ได้ผา้ สีอ่นื ทีไ่ ม่ใช่สดี า ผ้าชิน้ นี้เป็ นสีอะไร
1. ขาว 2. แดง 3. เขียว 4. น้าเงิน

34. ต้อมต้องการฉายแสงขาวบนเวทีการแสดง ถ้าต้อมมีไฟฉายแสงสีม่วง 1 กระบอก นักเรียนคิดว่า


ต้อมต้องใช้ไฟฉายแสงสีใดเพื่อผสมให้เกิดเป็ นแสงขาว
1. แดง 2. เขียว 3. เหลือง 4. น้าเงิน

35. ถ้าเราต้องการมองเห็นวัตถุมสี ดี า ควรใช้แผ่นกรองแสงสีใดต่อไปนี้วางซ้อนกัน


ก. สีแดงกับสีเขียว
ข. สีเขียวกับสีน้าเงิน
ค. สีแดงกับสีเหลือง
ง. สีเหลืองกับสีเขียว
1. ข้อ ก เท่านัน้ 2. ข้อ ก และ ข 3. ข้อ ข และ ค 4. ข้อ ค และ ง

36. แอมทดลองการมองเห็นสีโดยใช้แถบสีทม่ี สี อี ยู่ 3 สี และเมื่อใช้แผ่นกรองแสงสีต่างๆ จะสังเกตแถบสีได้


ลักษณะดังในตารางต่อไปนี้
แผ่นกรองแสงสี แถบแสงที่สงั เกตได้
น้าเงิน ดำ ดำ น้ำเงิน
เขียว ดำ เขียว ดำ
เหลือง ดำ เหลือง แดง
ถ้านาแถบสีไปส่องด้วยแสงขาว นักเรียนจะเห็นแถบสีเป็ นสีใด
1. 2.
น้ำเงิน เขียว ดำ เหลือง แดง น้ำเงิน
3. 4.
แดง เหลือง ม่วง ดำ เหลือง ม่วง

37. ถ้าเซลล์ไวแสงสีเขียวผิดปกติหรือไม่สามารถทางานได้ เราจะมองเห็นสีเหลืองเป็ นแสงสีอะไร


1. ดา 2. แดง 3. ขาว 4. น้าเงิน

38. เมื่อเราอยู่ในห้องสว่างทีท่ าสีน้าเงินเข้มนานๆ ทันทีทเ่ี ราเดินออกมาสูบ่ ริเวณทีส่ ว่าง เราจะมองเห็น


เสือ้ สีแดงม่วงทีเ่ พื่อนใส่อยู่เป็ นสีอะไร
1. สีแดงม่วง เพราะเซลล์รปู แท่งไวต่อแสงสีแดงและสีน้าเงิน
2. สีแดง เพราะเซลล์รปู กรวยทีไ่ วต่อแสงสีน้าเงินยังไม่ทางาน
3. สีน้าเงิน เพราะเซลล์รปู กรวยทีไ่ วต่อแสงสีน้าเงินยังได้รบั การกระตุน้ อยู่
4. สีม่วงน้าเงิน เพราะเซลล์รปู แท่งทีไ่ วต่อแสงสีน้าเงินยังได้รบั การกระตุน้ อยู่
THE TUTOR เอกสารประกอบ DVD วิทยาศาสตร์ ม.ต้ น (แสง) 7
39. ห้องอ่านหนังสือของนักเรียนควรมีความสว่างของแสงเท่าใด
1. 150–300 ลักซ์ 2. 200–750 ลักซ์
3. 500–1,000 ลักซ์ 4. 750–1,000 ลักซ์

40. สถานทีท่ ต่ี อ้ งมีความสว่างของแสงมากทีส่ ดุ คือทีใ่ ด


1. ห้องครัว 2. ห้องเรียน 3. ห้องผ่าตัด 4. ห้องตรวจโรค

1. ข้อ 3 2. ข้อ 2 3. ข้อ 1 4. ข้อ 2 5. ข้อ 4


6. ข้อ 4 7. ข้อ 4 8. ข้อ 3 9. ข้อ 4 10. ข้อ 1
11. ข้อ 4 12. ข้อ 4 13. ข้อ 2 14. ข้อ 3 15. ข้อ 2
16. ข้อ 2 17. ข้อ 4 18. ข้อ 2 19. ข้อ 3 20. ข้อ 2
21. ข้อ 1 22. ข้อ 1 23. ข้อ 2 24. ข้อ 4 25. ข้อ 1
26. ข้อ 1 27. ข้อ 2 28. ข้อ 4 29. ข้อ 4 30. ข้อ 1
31. ข้อ 3 32. ข้อ 3 33. ข้อ 4 34. ข้อ 2 35. ข้อ 3
36. ข้อ 4 37. ข้อ 2 38. ข้อ 2 39. ข้อ 3 40. ข้อ 3

You might also like