You are on page 1of 829

ตอนที่ 1902 ผู้หยัง่ รู้

เจื่อน
จางเซวียนเกาหัว
คนอื่น ๆ ที่อยูต่ รงนั้นอย่างนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงก็อยูม่ ากว่า
หมื่นปี แล้ว คงยากที่จางเซวียนจะเอาชนะใจพวกเขาได้ภายในระยะ
เวลาอันสั้น แถมยังเคยขัดแย้งกันอีกต่างหาก ส่ วนเหยียนเฉว่กไ็ ม่ต่าง
กัน เขาจึงเล็งไว้วา่ ขงซือเหยาน่าจะเป็ นผูท้ ี่เขาอาจเอาชนะใจเธอได้
แน่นอนว่าจางเซวียนไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธอย่างทันทีทนั ควัน
อันที่จริ ง ก็พอเข้าใจได้วา่ ทําไมขงซือเหยาถึงไม่เต็มใจรับจางเซวียน
เป็ นอาจารย์ การที่เธอมีสายเลือดปรมาจารย์ขงและได้รับการถ่ายทอด
มรดกตกทอดของปรมาจารย์ขงมาก็หมายความว่าสถานภาพของเธอ
สู งส่ งไม่นอ้ ย ขนาดนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงยังมีคุณสมบัติไม่
เพียงพอจะเป็ นอาจารย์ของเธอเลย นับประสาอะไรกับคนอื่น!
ต่อให้ผทู ้ ี่ต้ งั คําถามจะเป็ นถึงปรมาจารย์ฟ้าประทาน ก็ไม่ทาํ ให้เกิด
ความแตกต่าง
เธอยอมรับว่าความเก่งกาจของเธออ่อนด้อยกว่าจางเซวียน แต่อย่าง
น้อยที่สุดเธอก็ยงั หยิง่ ในศักดิ์ศรี ของตัวเอง
“เรื่ องนี้ส่งผลต่อความเป็ นไปได้ของการที่เราจะคลี่คลายวิกฤติของ
อาณาจักรคุนฉื่อ” จางเซวียนยืนกราน “แล้วผมก็ไม่ได้คิดจะรับคุณ
เป็ นศิษย์สายตรงของผมด้วย แค่คุณรับผมเป็ นอาจารย์ของคุณก็พอ!”
จากการวิเคราะห์ของจางเซวียนก่อนหน้านี้ ขอแค่ขงซือเหยาเต็มใจ
รับตัวเขาเป็ นอาจารย์และสํานึกในบุญคุณต่อการถ่ายทอดความรู ้
ของเขา ก็มีโอกาสที่หน้าหนังสื อสี ทองจะเกิดขึ้น ไม่สาํ คัญเลยว่าอีก
ฝ่ ายจะเป็ นศิษย์สายตรงของเขาหรื อไม่
“การที่ฉนั รับคุณเป็ นอาจารย์จะช่วยแก้ไขปัญหาที่เรากําลังเผชิญอยู่
ได้อย่างไร?” ขงซือเหยาขมวดคิว้
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริ งที่วา่ ชายหนุ่มเพิง่ สังหารเทพเจ้าและช่วยชีวติ
บรรดาสมาชิกร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์ไว้จากเหตุการณ์คบั ขันครั้ง
ใหญ่ เธอคงปักใจแล้วว่าเขาเป็ นพวกต้มตุ๋นหลอกลวง!
“เอาอย่างนี้ ทําไมเราไม่ทาํ แบบนี้ล่ะ? ผมจะให้คาํ ชี้แนะบางข้อ
เกี่ยวกับวรยุทธของคุณ แล้วส่ วนคุณจะเต็มใจยอมรับผมเป็ นอาจารย์
หรื อไม่น้ นั คุณก็ตดั สิ นใจเอง”
เมื่อมองหมู่เมฆดําที่กาํ ลังรวมตัวกันอย่างรวดเร็ วเหนือศีรษะของเขา
จางเซวียนรู ้ดีวา่ ไม่ชา้ ไม่นานการลงทัณฑ์สวรรค์จะต้องถูกปลดปล่อย
ลงมาแน่ ชัดเจนว่าเวลาไม่คอยท่า เขาจึงไม่อาจมัวเสี ยเวลาโน้มน้าว
ใจขงซือเหยาได้อีก
อีกอย่าง เขาไม่อยากเปิ ดเผยเรื่ องหอสมุดเทียบฟ้า ถ้าเขาทําให้ขงซื อ
เหยายอมรับตัวเขาเป็ นอาจารย์ของเธอได้สาํ เร็ จด้วยวิธีน้ นั ก็มีความ
เป็ นไปได้สูงที่ความรู ้สึกของเธออาจไม่ได้ออกมาจากใจจริ ง ซึ่ งจะ
ส่ งผลกระทบต่อการปรากฏของหน้าหนังสื อสี ทอง
จางเซวียนพูดต่อโดยไม่รอดูทีท่าของขงซือเหยา “สิ่ งที่ไหลเวียนอยู่
ในร่ างของคุณคือสายเลือดที่บริ สุทธิ์ที่สุดของปรมาจารย์ขงตลอด
พันปี ที่ผา่ นมา คุณสามารถเชี่ยวชาญเทคนิคการต่อสู แ้ ละเทคนิควร
ยุทธใด ๆ ก็ตามได้ภายในชัว่ พริ บตา อัตราการพัฒนาวรยุทธก็เหนือ
ชั้นกว่าคนธรรมดาสามัญ แต่ถา้ ผมเข้าใจไม่ผดิ แม้จะเพิง่ ผ่านไป
เพียงสามปี หลังจากที่คุณสําเร็ จวรยุทธขั้นชัว่ กัลปาวสานโลกจารึ ก
แต่คุณก็ได้เผชิญกับการทดสอบนักปราชญ์โบราณแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่ ง
คุณเลือกที่จะกดข่มระดับวรยุทธไว้แทนที่จะผลักดันให้เกิดการฝ่ า
ด่านวรยุทธจนสําเร็ จ”
ขงซือเหยาพยักหน้าขณะรอคอยอย่างอดทนให้จางเซวียนพูดอะไรก็
ตามที่เขาอยากพูด
สิ่ งที่จางเซวียนเพิ่งพูดไปอาจเรี ยกได้วา่ เป็ นความลับ แต่คนใกล้ชิด
ของเธอเกือบทุกคนก็รู้เรื่ องนั้นดี และในเมื่อเขาเป็ นปรมาจารย์ฟ้า
ประทาน การจะสื บเสาะหาข้อมูลเหล่านี้กไ็ ม่ได้ยากเกินไป
“จากการทดสอบนักปราชญ์โบราณแต่ละครั้งที่คุณได้เผชิญ ระดับ
วรยุทธของคุณก็จะแข็งแกร่ งขึ้น และเป็ นส่ วนสําคัญในการตัดสิ น
ว่าในอนาคตคุณจะสามารถดิ้นรนให้เป็ นอิสระจากพันธนาการของ
สวรรค์และฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติได้หรื อไม่
แต่คุณก็คงรู ้แล้วว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งสื บเนื่องมาจากความพยายาม
ในการฝ่ าด่านวรยุทธของคุณที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน” จางเซวียนพูด
“พละกําลังของการทดสอบนักปราชญ์โบราณซึมซาบเข้าสู่ แกนกลาง
ของร่ างกายของคุณ ในตัวคุณยังคงมีร่องรอยของพลังงานจากการ
ทดสอบนักปราชญ์โบราณหลายต่อหลายครั้งที่คุณได้ผา่ นมา ซึ่ งการ
สัง่ สมของพลังงานที่ไม่ได้ถูกซึมซับก็กลายสภาพเป็ นด่านคอขวดที่
กีดขวางวรยุทธของคุณไว้ คุณท้าทายการทดสอบนักปราชญ์โบราณ
ถึง 3 ครั้งภายในช่วงสองปี ก่อน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้พยายามทํา
อะไรอีกเลย ผมคิดว่าสิ่ งนี้น่าสนใจพอที่จะทําให้ผมต้องตั้งคําถามว่า
ทําไมคุณถึงเลือกจะยื้อการทดสอบนักปราชญ์โบราณครั้งที่ 4 ให้ชา้
ออกไปถึงสองปี เต็ม เท่าที่ผมเห็น ผมฟันธงเลยว่าไม่ใช่เพราะคุณไม่
อยากทํา แต่เป็ นเพราะคุณไม่กล้าทําต่างหาก…”
ขณะที่จางเซวียนตรงเข้าประเด็น ขงซือเหยาหน้าซี ดเผือดจนน่ากลัว
เธอถอยไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตวั และจ้องหน้าจางเซวียนด้วยนัยน์ตา
เบิกโพลง
เรื่ องนี้เป็ นความลับสุ ดยอดในหัวใจของเธอที่เธอไม่กล้าพูดออกมา
ไม่นึกเลยว่าชายหนุ่มที่เพิ่งรู ้จกั จะเผยมันออกมาได้ภายในเวลาเพียง
ครู่ เดียว
ตอนที่เธอสําเร็ จวรยุทธขั้นชัว่ กัลปาวสานเป็ นครั้งแรกเมื่อสามปี ก่อน
เธอใฝ่ ฝันว่าจะเจริ ญรอยตามความยิง่ ใหญ่ของบรรพบุรุษ และพยายาม
ท้าทายการทดสอบนักปราชญ์โบราณถึง 3 ครั้ง…
การทดสอบนักปราชญ์โบราณ 3 ครั้งแรกที่เธอเผชิญเต็มไปด้วย
อันตราย แต่ลงท้ายเธอก็ผา่ นมันมาได้ดว้ ยความแข็งแกร่ งอดทนของ
ตัวเอง แต่หลังจากการทดสอบนักปราชญ์โบราณครั้งที่ 3 ผ่านไป
เธอก็ตอ้ งพรั่นพรึ งเมื่อพบว่าพลังงานจากการทดสอบนักปราชญ์
โบราณได้ซึมซาบเข้าสู่ กระดูกของเธอ ไม่วา่ จะพยายามชําระล้าง
กระดูกสักแค่ไหนก็ขจัดพวกมันออกไปไม่ได้!
ลางสังหรณ์บอกขงซื อเหยาว่าถ้าเธอพยายามเข้าสู่ การทดสอบ
นักปราชญ์โบราณอีกครั้งและปล่อยให้พลังงานที่ตกค้างในร่ างกาย
ของเธอก่อตัวขึ้นอีก ก็มีความเป็ นไปได้สูงที่จิตใต้สาํ นึกของเธอจะ
ถูกพลังงานนั้นกัดกร่ อน ทําให้สูญเสี ยตัวตนไป ซึ่งในกรณี เลวร้าย
ที่สุด เธออาจถูกซึมซับจนกลายเป็ นส่ วนหนึ่งของการลงทัณฑ์จาก
สวรรค์ไปเลยก็ได้!
ความกลัวจับใจครั้งนั้นทําให้ขงซือเหยารั้งรอการฝ่ าด่านวรยุทธไว้
ทั้งที่ผา่ นการทดสอบนักปราชญ์โบราณไปแล้วถึง 3 ครั้ง จากนั้น
สองปี ก็ผา่ นไป แต่เธอก็ไม่อาจหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมได้ ในเวลา
เดียวกัน สภาวะร่ างกายของเธอก็เสื่ อมถอยจนเริ่ มจะสู ญเสี ยการ
ควบคุมพลังงานที่ไหลพล่านอยูใ่ นร่ างกายของตัวเอง
ขงซื อเหยาเสาะหาหนังสื อมากมายนับไม่ถว้ นมาอ่าน หวังจะได้พบ
วิธีคลี่คลายปัญหา แต่ความพยายามนั้นก็ไม่เป็ นผล มาตอนนี้ พอได้
ยินจางเซวียนจี้ปัญหาทุกจุดอย่างตรงประเด็น…จะเป็ นไปได้ไหมว่า
เขาจะมีวธิ ีแก้ไขปัญหาของเธอ?
ราวกับจะอ่านใจของเธอออก จางเซวียนหัวเราะหึ ๆ “ในเมื่อผม
มองเห็นปัญหาของคุณ ผมก็ยอ่ มมีวธิ ีแก้ คุณน่าจะดูออกว่าตัวผมก็
ไม่ต่างจากคุณ ผมผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณมาหลายครั้ง
หลายหนแล้วเหมือนกัน แต่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างที่คุณเจออยู”่
ขงซือเหยาพยักหน้าเมื่อนึกได้ นัยน์ตาของเธอฉายความหวัง
ชายหนุ่มที่ยนื อยูต่ รงหน้าเป็ นนักรบขั้นชัว่ กัลปาวสานเหมือนกันกับ
เธอ แต่สามารถต่อสู ก้ บั นักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติได้อย่างสมนํ้าสมเนื้อ
นอกจากข้อเท็จจริ งที่วา่ เขาเป็ นปรมาจารย์ฟ้าประทาน ก็มีความ
เป็ นไปได้วา่ อีกฝ่ ายน่าจะได้เผชิญกับการทดสอบนักปราชญ์โบราณ
มาแล้วหลายครั้งขณะที่กดข่มระดับวรยุทธไว้ เพราะไม่อย่างนั้น คง
ไม่มีทางที่จะทรงพลังขนาดนี้
“แล้วถ้า…อาการบอบชํ้าของฉันน่ะจะมีทางแก้ไขได้ไหม? ถ้าคุณแก้ไข
ปัญหาของฉันได้ ฉันก็ยงิ่ กว่าเต็มใจจะยอมรับคุณเป็ นอาจารย์!” ขง
ซือเหยาร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
ขอแค่อาการบอบชํ้าของเธอทุเลา ด้วยพื้นฐานของเธอที่ได้ผา่ นการ
ทดสอบนักปราชญ์โบราณมาแล้วถึงสามครั้ง เธอก็มนั่ ใจว่าจะสามารถ
เจริ ญรอยตามบรรพบุรุษได้ทนั และสุ ดท้ายก็จะได้สาํ เร็ จวรยุทธขั้น
ผูท้ าํ ลายล้างมิติ
ด้วยความแข็งแกร่ งระดับนั้น ต่อให้เกิดปัญหายากเย็นขึ้นอีก เธอก็
น่าจะมีพละกําลังมากพอที่จะแก้ไขได้ดว้ ยตัวเอง
บางที เธออาจเจริ ญรอยตามเส้นทางของบรรพบุรุษและก้าวขึ้นสู่ มิติ
เบื้องบน ยกระดับสถานภาพของตัวเองให้สูงขึ้นอีกได้!
“แท้ที่จริ งแล้วปัญหาไม่ได้มีอะไร อาณาจักรคุนฉื่อไม่เหมือนกับทวีป
แห่งปรมาจารย์ พลังงานที่ตอ้ งใช้เพื่อก่อตัวเป็ นการทดสอบวรยุทธ
ภายในอาณาจักรคุนฉื่อนั้นไม่ได้มาจากสวรรค์ แต่เป็ นพลังงานที่มี
อยูแ่ ล้วในอาณาจักรคุนฉื่อ เพราะอาณาจักรคุนฉื่ อถูกสร้างขึ้นโดย
ปรมาจารย์ขง โลกใบนี้จึงเก็บรักษาพลังงานของเขาเอาไว้ภายใน
สําหรับนักรบคนอื่น ๆ ความจริ งข้อนี้อาจไม่ส่งผลอะไร แต่โชคร้าย
ที่คุณมีตน้ กําเนิดของพละกําลังจุดเดียวกันกับปรมาจารย์ขง ส่ งผล
ให้คุณไม่สามารถขจัดพลังงานที่ตกค้างจากการทดสอบนักปราชญ์
โบราณออกจากร่ างกายได้ ทั้งยังซึมซับมันเข้าไปทีละน้อยด้วย” จาง
เซวียนอธิบาย
อาณาจักรคุนฉื่อมีฉนวนหลัก 2 แห่งเพื่อป้องกันการสอดส่ องจาก
สวรรค์ จึงชัดเจนว่าการทดสอบนักปราชญ์โบราณที่ขงซือเหยา
เผชิญนั้นไม่ได้มาจากสวรรค์
เท่าที่เห็น เป็ นไปได้วา่ ปรมาจารย์ขงน่าจะเป็ นผูจ้ ดั การระบบของ
การทดสอบวรยุทธภายในอาณาจักรคุนฉื่ อ
สิ่ งนี้จะไม่สร้างปัญหาอะไรให้กบั นักรบคนอื่น ๆ แต่ไม่ใช่ขงซือเหยา
เพราะพลังงานของการทดสอบนักปราชญ์โบราณมาจากต้นกําเนิด
เดียวกัน ธรรมชาติอนั พลุ่งพล่านของมันจึงทําให้เธอไม่อาจควบคุม
มันได้ ในเวลาเดียวกัน เมื่อซึมซับมันเข้าไปแล้ว เธอก็ขจัดมันออก
จากร่ างกายไม่ได้ดว้ ย ส่งผลให้พลังงานนั้นก่อตัวสะสมและแข็งแกร่ ง
ขึ้นทีละน้อยเมื่อผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณไปแต่ละครั้ง
สุ ดท้าย ก็เกิดเป็ นอันตรายที่เธอไม่อาจมองข้ามมันได้อีก
“แล้วฉันควรทําอย่างไร?” ขงซือเหยาตั้งคําถาม
การล้วงลึกถึงต้นตอของปั ญหาทําให้ขงซือเหยารู ้ทนั ทีวา่ การแก้ไข
อาการบอบชํ้าของเธอนั้นทําได้ยาก และตอนนี้กเ็ ริ่ มวิตกแล้วว่าอาจ
เปลี่ยนแปลงมันไม่ได้จนชัว่ ชีวติ
“เอาเถอะ วิธีแก้กง็ ่ายและตรงไปตรงมานะ ทั้งหมดที่คุณต้องทําก็คือ
เข้าท้าทายการทดสอบนักปราชญ์โบราณในทวีปแห่งปรมาจารย์
แน่นอนว่าด้วยปริ มาณพลังงานที่คุณสัง่ สมไว้ตอนนี้ ผมไม่ปฏิเสธ
หรอกว่าคุณจะต้องเผชิญอันตรายใหญ่หลวงในการทําแบบนั้น ณ
จุดนี้ คุณมีสองทางเลือก ถ้าคุณเลือกที่จะไม่ฝ่าด่านวรยุทธ เมื่อต่อไป
พลังปราณของคุณเพิม่ มากขึ้น คุณก็จะสู ญเสี ยโอกาสในการฝ่ าด่าน
วรยุทธไปอย่างสิ้ นเชิง ส่ วนอีกด้านหนึ่ง ถ้าคุณตัดสิ นใจจะฝ่ าด่าน
วรยุทธ การที่คุณไม่เคยสัมผัสกับการทดสอบสายฟ้าของทวีปแห่ง
ปรมาจารย์มาก่อนก็ทาํ ให้แม้แต่ตวั ผมก็คาดเดาไม่ได้วา่ จะเกิดอะไร
ขึ้นตามมา” จางเซวียนอธิบายพร้อมกับยิม้ อย่างมีเลศนัย
“แต่วา่ …ถ้าคุณยอมรับผมเป็ นอาจารย์ ผมจะสอนกรรมวิธีที่ทาํ ให้
คุณผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณไปได้อย่างแน่นอน!”
“เอ่อ…” เมื่อเห็นว่าไม่มีหนทางอื่น ขงซื อเหยาตัดสิ นใจทรุ ดตัวลง
และโค้งคํานับให้จางเซวียนหลายครั้ง “ตกลง ฉันจะยอมรับคุณเป็ น
อาจารย์ของฉัน หวังว่าคุณจะช่วยชีวติ ฉันจากอันตรายครั้งนี้ดว้ ย!”
จางเซวียนเพ่งดูหอสมุดเทียบฟ้า ไม่เห็นหน้าหนังสื อสี ทองปรากฏ
เมื่อรู ้แล้วว่าความรู ้สึกของขงซือเหยายังไม่ใช่ความจริ งใจ เขาถอน
หายใจเฮือกและพูดต่อ “การข้ามผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณ
ในทวีปแห่งปรมาจารย์น้ นั ไม่ได้ยากเย็นอะไร กุญแจอยูต่ รงที่คุณ
จะต้องไม่มองมันว่าเป็ นภาระ แต่เป็ นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งใน
ครอบครัว คุณจะต้องรักมัน ดูแลมัน ใส่ ใจความต้องการของมัน
มอบความอบอุ่นและความห่วงใยให้มนั ด้วย…”
ขงซื อเหยาอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ ในตอนนั้น เธออยากจะ
ระเบิดศีรษะของเจ้าหนุ่มที่อยูต่ รงหน้าให้แตกเป็ นเสี่ ยง ๆ
ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง เธอรู ้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอก
ตอนที่ 1903 ขงซื อเหยาฝ่ าด่ านวรยุทธ (1)
“แค่ก แค่ก! ปรมาจารย์จาง เข้าเรื่ องเถอะ!”
แม้แต่นกั ปราชญ์โบราณเหยียนชิงยังทนฟังไม่ไหว
การทดสอบนักปราชญ์โบราณเป็ นหนึ่งในวิกฤตการณ์ครั้งยิง่ ใหญ่
ที่สุดที่นกั รบคนหนึ่งจะต้องเผชิญ ต่อให้มีนิรันดร์กาลของนักปราชญ์
โบราณอยูก่ บั ตัว แต่ถา้ ผูน้ ้ นั ขาดความปราดเปรื่ องระดับชั้นยอด ก็ไม่
มีทางฝ่ าด่านวรยุทธได้สาํ เร็ จ
เหตุผลส่ วนหนึ่งที่ขงซือเหยาฝ่ าด่านวรยุทธได้สาํ เร็ จก็เพราะได้รับ
ทรัพยากรปริ มาณมหาศาลจากอาณาจักรคุนฉื่ อ อันเนื่องมาจาก
สถานภาพของเธอในฐานะทายาทของปรมาจารย์ขง แม้ในตระกูล
ขงจะไม่มีนิรันดร์กาลของนักปราชญ์โบราณหลงเหลือแล้ว แต่พวก
เขาก็ยงั พอมอบเศษเสี้ ยวบางส่ วนให้เธอได้บา้ ง
แต่ถึงอย่างนั้น การฝ่ าด่านวรยุทธทุกครั้งที่ขงซือเหยาผ่านมาก็ไม่ต่าง
อะไรกับการเดินบนแผ่นนํ้าแข็งบาง ๆ เพราะหากก้าวพลาดสักก้าวก็
จะจมลงสู่ หลุมลึกของความสิ้ นหวังทันที แต่หมอนี่กาํ ลังบอกเธอให้
ดูแลการทดสอบวรยุทธเหมือนเป็ นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ทั้ง
ยังต้องแสดงความห่วงใยใส่ ใจมันด้วย…
คุณเห็นฉันเป็ นไอ้งงั่ หรื อ?
นี่คิดจะให้ฉนั ยอมรับคําพูดเหลวไหลที่คุณกําลังพล่ามอยูง่ ้ นั สิ ?
“ดูเหมือนคุณจะแคลงใจในคําพูดของผมนะ” จางเซวียนส่ ายหน้า
เขาหันไปมองหมู่เมฆดําที่อยูก่ ลางอากาศและคว้ามันไว้
การลงทัณฑ์ของสวรรค์ปล่อยสายฟ้าสายหนึ่งฟาดลงมาทันที
เปรี้ ยงงงงง!
สายฟ้าพยายามดิ้นรน อยากจะหนีให้พน้ จากเงื้อมมือของจางเซวียน
แต่ไม่เป็ นผล
จางเซวียนเขย่าสายฟ้าเบา ๆ และปลอบ “เด็กดี เด็กดีนะ…”
เสี ยงของเขานุ่มนวลราวกับกําลังปลอบโยนสัตว์เลี้ยงที่อารมณ์เสี ย
เมื่อเจอกับการปลอบโยนอย่างนุ่มนวลของจางเซวียน สายฟ้าที่กาํ ลัง
ดิ้นรนก็ลงั เลครู่ หนึ่งก่อนจะ สลายความตึงเครี ยดออกจากตัวมัน มัน
ค่อย ๆ ซึ มซาบเข้าสู่ ผวิ หนังของจางเซวียนและเข้าสู่ ร่างกายของเขา
อย่างช้า ๆ
ขงซือเหยากับคนอื่น ๆ ถึงกับจังงัง
แบบนี้กไ็ ด้หรื อ?
นี่ตอ้ งเป็ นเรื่ องตลกแน่ ใช่ไหม?
“เห็นหรื อยังล่ะ? ก็แค่ทาํ แบบนี้ ความรักน่ะเป็ นกุญแจของทุกอย่าง
แทนที่จะต่อต้าน คุณจะต้องโอบกอดมันและปล่อยให้มนั เข้าสู่
ร่ างกายของคุณ ด้วยวิธีน้ ี คุณก็จะสามารถเอาชนะใจและทําให้มนั
เชื่อฟังคุณได้” จางเซวียนอธิบายขณะสะบัดข้อมือ แล้วสายฟ้าสาย
นั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เขาเขย่ามันเบา ๆ ราวกับกําลังโอ๋ แมวตัวหนึ่งที่ส่งเสี ยงครางอยูใ่ น
อ้อมกอด
แม้ภาพตรงหน้าจะดูเหลือเชื่อสุ ด ๆ แต่กท็ าํ ให้ทุกคนเกิดความสงสัย
หรื อว่าจะเอาชนะการทดสอบนักปราชญ์โบราณได้ดว้ ยวิธีการนี้จริ ง
ๆ?
แต่ถา้ เป็ นอย่างนั้น ทําไมตลอดหลายหมื่นปี ที่ผา่ นมาถึงไม่มีใครเคย
ทํามาก่อนเลย?
“ก็เพราะความทรงพลังของการทดสอบวรยุทธ ใครจะกล้าทํากับมัน
ราวกับเป็ นสัตว์เลี้ยงล่ะ? ไว้ใจผมเถอะ ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่
หลังจากนี้ เมื่อคุณเรี ยกการทดสอบนักปราชญ์โบราณมา ให้คุณเปิ ด
จุดชีพจรทั้งหมดในร่ างกายและซึมซับมันโดยไม่ตอ้ งเกรงกลัวอะไร
ห้ามแสดงอาการขัดขืนหรื อต่อต้าน จําไว้วา่ คุณจะต้องใช้ใจกับมัน”
จางเซวียนอธิบาย “ขอแค่คุณทําตามนี้ได้ท้ งั หมด ผมรับประกันเลย
ว่าคุณจะไม่เจอกับปัญหาอะไรทั้งนั้นในการผ่านการทดสอบนักปราชญ์
โบราณ!”
ขงซื อเหยายังคงกังวลเล็กน้อย
ไม่วา่ จะมองอย่างไร คําพูดของอีกฝ่ ายก็ยงั ดูไม่ค่อยน่าวางใจ…
“คุณไม่เชื่อใจผมหรื อไม่เชื่อมัน่ ในตัวเองกันแน่? ถ้าคุณไม่เชื่อว่าตัว
คุณจะสามารถผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณครั้งที่ 4 ไปได้ล่ะก็
ล้มเลิกความคิดเสี ยตอนนี้เลย แล้วก็อยูด่ กั ดานเป็ นนักรบขั้นชัว่
กัลปาวสานไปทั้งชีวติ ก็แล้วกัน!” จางเซวียนโบกมืออย่างรําคาญ
“ผมน่ะเคารพปรมาจารย์ขงเสมอในความเป็ นบุรุษผูย้ งิ่ ใหญ่ และคิด
ว่าทายาทของเขาก็ตอ้ งเก่งกล้าและปราศจากความหวาดกลัวไม่ต่าง
กับเขา แต่ดูเหมือนผมจะคิดผิดที่ทึกทักไปเองว่าทายาทของ
ปรมาจารย์ขงจะได้รับการถ่ายทอดความกล้าหาญของเขามา…”
“อย่าบังอาจตําหนิฉนั นะ!” ขงซือเหยาคําราม “ฮึ่มมมมม! อย่างมาก
ก็แค่ตาย ฉันขอบอกคุณเลยว่าพวกเราตระกูลขงไม่เคยหวาดกลัว
อะไรทั้งนั้น มาเลย บอกมาว่าฉันต้องทําอะไรบ้าง!”
เมื่อยัว่ ยุขงซือเหยาให้ของขึ้นได้สาํ เร็ จ จางเซวียนพยักหน้าอย่างพอใจ
เขารี บถ่ายทอดกรรมวิธีที่เธอจะต้องดําเนินการหลังจากเรี ยกการ
ทดสอบนักปราชญ์โบราณมา ซึ่งหัวใจของมันก็คือสิ่ งเดียวกันกับที่
เขาพูดไปเมื่อครู่ น้ ี
เมื่อเรี ยกการทดสอบนักปราชญ์โบราณมาแล้ว เธอจะต้องไม่ต่อต้าน
แต่จะต้องนํามันเข้าสู่ จุดชีพจรและทางเดินพลังปราณ จากนั้นก็ใช้ใจ
สัมผัสและรับรู ้มนั …
หลังจากฟังคําพูดเหล่านั้นจบ ขงซื อเหยาถึงกับขนลุกขนพอง
แม้มนั จะดูเหลวไหล แต่ตอนนี้เธอก็ตดั สิ นใจแล้วที่จะกระโจนเข้าใส่
โชคชะตาและติดตามมันไป ขงซือเหยากัดฟันกรอด “ฉันจะลองดู!”
ขงซือเหยาไม่แยแสเสี ยงคัดค้านของนักปราชญ์โบราณเหยียนชิง เธอ
กระโจนขึ้นสู่ กลางอากาศเพื่อเตรี ยมตัวเรี ยกการทดสอบนักปราชญ์
โบราณ
“อย่าทําที่นี่! ไปหาที่ไกล ๆ หน่อย!”
ตอนนี้พวกเขาอยูใ่ จกลางอาณาจักรเทียนเซวียน ถ้าขงซื อเหยาเรี ยก
การทดสอบนักปราชญ์โบราณมาตรงนี้ ทุกอย่างที่อยูใ่ นพื้นที่จะถูก
ทําลายจนสิ้ นซาก จางเซวียนจึงรี บห้ามไว้และเรี ยกเธอไปที่อื่น
พวกเขารี บออกจากบริ เวณนั้น อึดใจต่อมาก็มายืนอยูท่ ่ามกลางสัน
เขาโล่งแจ้งแห่งหนึ่งที่ห่างไกลจากอาณาจักรเทียนเซวียนพอสมควร
จางเซวียนกับคนอื่น ๆ เลือกที่จะเฝ้าดูกระบวนการของขงซื อเหยา
ในระยะที่ห่างออกไป 20 ลี้
ฟึ่ บ!
ขงซือเหยาขับเคลื่อนพลังงานในร่ างกายของเธอจนเต็มพิกดั อย่างไม่
ลังเลและปลดปล่อยรังสี ท้ งั หมดออกมาในคราวเดียว ทําให้พ้นื ที่
โดยรอบสัน่ สะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว
เพียงพริ บตาเดียว การกระทําของเธอก็ดึงดูดความสนใจของสวรรค์
หมู่เมฆดําก่อตัวหนาแน่นขณะที่สายฟ้ากับเปลวเพลิงสวรรค์ที่ออกัน
อยูบ่ ริ เวณทางเข้าอาณาจักรคุนฉื่อกรู เข้ามาล้อมรอบตัวเธอ พร้อมจะ
ฉีกร่ างของเธอเป็ นชิ้น ๆ ได้ทุกเมื่อ
“มันช่าง…”
ราวกับเธอกําลังเฝ้ามองต้นกล้าสักต้นหนึ่งงอกงามขึ้นอย่างพิสดาร
พันลึกต่อหน้าต่อตา ทุกอย่างดูจะไม่เป็ นไปตามที่คาดไว้สกั นิด
นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงไปถามจางเซวียนอย่างกังวล “ปรมาจารย์
จาง เธอจะทําให้การทดสอบวรยุทธอันทรงพลังยอมจํานน และรัก
มันได้จริ ง ๆ หรื อ?”
“คุณพูดเหลวไหลอะไรออกมาน่ะ? ทําไม่ได้อยูแ่ ล้ว!” จางเซวียน
มองนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงด้วยสายตาราวกับจะตําหนิอีกฝ่ าย
ว่าเป็ นคนโง่
“ทําไม่ได้อยูแ่ ล้ว?”
ได้ยนิ คําตอบนั้น ฝูงชนพากันเข่าอ่อน
ก็คุณไม่ใช่หรื อที่พยายามหว่านล้อมพวกเราว่าอานุภาพของความรัก
จะเอาชนะได้ทุกอย่าง?
มันเรื่ องอะไรถึงปลิ้นปล้อนขนาดเปลี่ยนใจได้ในชัว่ พริ บตา?
“การทดสอบนักปราชญ์โบราณน่ะคือการลงทัณฑ์จากสวรรค์ที่มีต่อ
บรรดานักรบ” จางเซวียนตอบ “คนบาปสักคนพยายามจะทําให้ผบู ้ ง
การยอมจํานน…แบบนั้นมันจะเป็ นไปได้อย่างไร? ไอ้การใช้หวั ใจ
เพื่อสัมผัสการทดสอบวรยุทธ และการปลอบประโลมมันด้วยความ
รักและความห่วงใยนัน่ น่ะ…นึกอะไรขึ้นได้ ผมก็พดู ออกไปส่ ง ๆ
อย่างนั้นแหละ!”
“นึกอะไรขึ้นได้ คุณก็พดู ออกไปส่ ง ๆ อย่างนั้น…ตะ-แต่…ซื อเหยา
กําลังเผชิญหน้าการทดสอบนักปราชญ์โบราณนะ…เธออาจจะตายก็
ได้!” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงโมโหจนแทบปรี๊ ด
จะเล่นตลกอะไรก็ตอ้ งบันยะบันยังบ้าง!
ขงซื อเหยาเป็ นทายาทเพียงคนเดียวของปรมาจารย์ขงที่มีระดับความ
บริ สุทธิ์ของสายเลือดเท่ากับ ‘8’ ถ้าเขาปล่อยให้เธอตาย คงไม่มีวนั
มองหน้าเหล่าบรรพบุรุษได้!
“ใจเย็นน่ะ ผมไม่คิดจะปล่อยให้เธอตายหรอก รอดูกแ็ ล้วกัน” จาง
เซวียนยืนยันพร้อมส่ งยิม้ อย่างมัน่ ใจให้ฝงู ชนที่ยงั คงหวาดวิตก
ในตอนนั้น พละกําลังที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางหมู่เมฆดําก็พงุ่ ขึ้นถึงขีด
สุ ด สายฟ้าและเปลวเพลิงสวรรค์อนั เกรี้ ยวกราดพุง่ เข้าใส่ ขงซื อเหยา
ราวกับห่าฝน
ครื นนนนน!
พลังงานมหาศาลก่อตัวเป็ นหอคอยเปลวเพลิงและสายฟ้าที่เข้าโอบ
ล้อมและทําลายล้างทุกอย่างในรัศมีหลายร้อยเมตร
“บ้าที่สุด! ถ้าหมอนัน่ ทําได้ ทําไมเราถึงทําไม่ได้?” ขงซือเหยาสบถ
ขณะรู ้สึกได้วา่ กล้ามเนื้อตึงเขม็งจากความกดดันที่ถาโถมเข้าใส่
พลังปราณของเธอเดือดพล่านอยูภ่ ายในร่ างกาย พร้อมที่จะระเบิด
ออกมาเพือ่ ปัดป้องพละกําลังทําลายล้างออกไป แต่ในวินาทีสุดท้าย
เธอก็ระงับพลังงานเฮือกสุ ดท้ายของตัวเองไว้
ไปตายซะ!
แค่คิดถึงรอยยิม้ ยียวนนัน่ ก็ทาํ ให้เธอโมโหเดือด ถ้าเธอต้องตาย จะ
ไม่มีวนั ปล่อยให้หมอนัน่ หนีรอดไปได้ ต่อให้เธอจะกลายเป็ นผีแล้ว
ก็ตาม!
ขณะที่พลังงานอันเกรี้ ยวกราดและน่าสะพรึ งเข้าครอบงําขงซือเหยา
ทุกคนที่อยูต่ รงนั้นพากันหลับตา ไม่กล้าลืมตามองสิ่ งที่กาํ ลังจะเกิดขึ้น
พวกเขาไม่คิดว่าหัวใจของตัวเองจะรับไหวถ้าต้องเห็นร่ างของสาว
น้อยแหลกเป็ นชิ้น ๆ เพราะพละกําลังทําลายล้างของการทดสอบวร
ยุทธ!
แต่รอแล้วรอเล่า ก็ยงั ไม่ได้ยนิ เสี ยงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
หรื อสิ้ นหวังเล็ดลอดออกมา ทุกคนลืมตามองด้วยความกังขา และสิ่ ง
ที่เห็นก็ทาํ ให้ถึงกับจังงัง
ในตอนนั้น ขงซือเหยาถูกโอบล้อมด้วยเปลวเพลิงสวรรค์และสายฟ้า
แต่แทนที่เธอจะพยายามขัดขืนหรื อปัดป้องพลังงานเหล่านั้น จุดชีพ
จรทั้งหมดของเธอกลับเปิ ดออกขณะที่รับเอาพลังงานเข้าสู่ ร่างอย่าง
ไม่ลงั เล
ไม่เหมือนกับที่ใคร ๆ คาดเดาไว้ พละกําลังทําลายล้างนั้นไม่ได้สร้าง
ความบอบชํ้าหรื อแผดเผาร่ างของเธอ มันนอนนิ่งอยูใ่ นทางเดินพลัง
ปราณ ราวกับถูกฝึ กให้เชื่องมาแล้วเรี ยบร้อย
นี่…มันเกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนมองชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้าด้วยสี หน้าที่สุดจะบรรยาย
เมื่อกี้น้ ีเขาเพิง่ บอกว่าทุกอย่างเป็ นเรื่ องโกหกไม่ใช่หรื อ? แล้วสิ่ งที่
เกิดขึ้นล่ะ?
ถ้าขงซือเหยาทําได้…พวกเขาควรลองดูไหม?
เหยียนเฉว่ซ่ ึงเป็ นนักรบขั้นชัว่ กัลปาวสานมีสีหน้าที่เปี่ ยมไปด้วย
ความหวัง
“ปรมาจารย์จาง…” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงตั้งคําถามด้วยความ
อยากรู ้สุดขีด “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ตอนที่ 1904 ขงซื อเหยาฝ่ าด่ านวรยุทธ (2)
จางเซวียนไม่ตอบคําถามของนักปราชญ์โบราณเหยียนชิง เขาหันไป
ทําลายความหวังของเหยียนเฉว่ “คุณน่ะทําไม่ได้หรอก ถ้าพยายามจะ
ทําแบบเดียวกันกับขงซือเหยา จะต้องถูกเล่นงานจนตายทันทีแน่!”
“ทําไมผมถึงทําไม่ได้?” เหยียนเฉว่ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“ไม่ใช่แค่คุณนะ ต่อให้ผมก็ทาํ แบบเดียวกันกับที่ขงซื อเหยาเพิง่ ทํา
ลงไปไม่ได้!” จางเซวียนตอบ “ขงซื อเหยามีสายเลือดปรมาจารย์ขง
และเติบโตในอาณาจักรคุนฉื่อ หลังจากการทดสอบวรยุทธมากมาย
หลายครั้งที่เธอได้ผา่ นมา ก็คงไม่เป็ นการพูดเกินจริ งหากจะบอกว่ามี
ส่ วนหนึ่งของอาณาจักรคุนฉื่ออยูภ่ ายในตัวเธอ”
ทุกคนครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนพยักหน้า
เป็ นที่รู้กนั ว่าหลังจากที่ขงซื อเหยาผ่านการทดสอบนักปราชญ์โบราณ
มาแล้วถึง 3 ครั้ง ร่ างของเธอก็ซึมซับพลังงานจากการทดสอบนักปราชญ์
โบราณเอาไว้
ถ้าเธอพยายามจะฝ่ าด่านวรยุทธครั้งที่ 4 ในอาณาจักรคุนฉื่ อ ก็มีโอกาส
สู งที่จะถูกดูดกลืนจนกลายเป็ นหนึ่งเดียวกับพลังงานที่สะสมอยู่
ภายในร่ างกาย
“การตั้งอยูข่ องอาณาจักรคุนฉื่ อเป็ นสิ่ งที่สวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์
ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย” จางเซวียนพูดต่อ “ถ้าเธอพยายามขัดขืนโดย
ต่อต้านการทดสอบวรยุทธ ก็มีแต่จะต้องเผชิญกับความเกรี้ ยวกราด
ของสวรรค์ และนัน่ จะทําให้เธอตกที่นงั่ ลําบากกว่าเดิม ยิง่ ดิ้นรนขัด
ขืนมากเท่าไหร่ ทุกอย่างก็จะเลวร้ายขึ้นเท่านั้น!”
ปฏิเสธไม่ได้วา่ สวรรค์จงใจลงโทษขงซื อเหยาเพราะความพยายามของ
เธอที่จะฝ่ าด่านวรยุทธ แต่ที่สาํ คัญกว่านั้นก็คือ สวรรค์เพียรพยายาม
อย่างยิง่ ที่จะทําลายร่ องรอยของอาณาจักรคุนฉื่ อที่ปรากฏในร่ างของ
ขงซือเหยาด้วย
“ความพยายามในการดิ้นรนผลักดันการทดสอบวรยุทธใด ๆ ออกไป
ก็ตามเทียบเท่ากับการขัดขวางการบังคับใช้กฎเกณฑ์ธรรมชาติของ
สวรรค์ ซึ่งนัน่ จะทําให้เธอตกที่นงั่ ลําบาก สวรรค์จะต้องเล่นงานเธอ
ครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่าเธอจะพ่ายแพ้และพินาศ”
“แต่ดว้ ยการเปิ ดจุดชีพจรและปล่อยให้สายฟ้ากับเปลวเพลิงสวรรค์
เข้าสู่ ร่าง ก็เท่ากับยินยอมให้ผบู ้ งการทําอะไรก็ตามที่พวกเขาอยากทํา
สิ่ งนี้จะช่วยลดความผิดบาปของเธอ ทําให้การลงทัณฑ์จากสวรรค์ที่
จะเข้าสู่ ตวั เธอนั้นบรรเทาเบาบางลงไป ยิง่ ไปกว่านั้น ขงซือเหยาจะ
สามารถใช้โอกาสนี้ขจัดพลังงานที่สะสมตกค้างอยูภ่ ายในร่ างกาย
ของเธอออกไปได้ดว้ ย ยิงนกสองตัวด้วยกระสุ นนัดเดียว!”
“เอ่อ…”
ทุกคนปากสัน่ ด้วยความตกตะลึง
เมื่อดูจากการที่สวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์มุ่งมัน่ จะเล่นงาน
อาณาจักรคุนฉื่อจนราบคาบให้ได้ ก็เห็นชัดแล้วว่าทั้งสองเป็ นปฏิปักษ์
ต่อกัน
แต่จางเซวียนกลับอ่านเกมขาดและใช้มนั ให้เป็ นประโยชน์กบั ตัวเขา
โดยดึงเอาการลงทัณฑ์จากสวรรค์มาเป็ นส่ วนหนึ่งของกระบวนการ
นี่เป็ นเดิมพันที่เสี่ ยงมาก เพราะหากเกิดความผิดพลาด ทุกอย่างจะ
กลายเป็ นโศกนาฏกรรมทันที
แม้นกั ปราชญ์โบราณเหยียนชิงจะทึ่งกับวีรกรรมครั้งนี้ แต่กอ็ ดกังวล
เรื่ องความเสี่ ยงไม่ได้ “พูดอีกอย่างก็คือ มันเหมือนกับการถอนพิษ
ด้วยยาพิษ…แต่ถา้ พลังงานสองส่ วนนี้ไม่เข้มข้นพอที่จะทําลายล้าง
ซึ่งกันและกันล่ะ ซื อเหยาจะไม่เดือดร้อนหรื อ?”
เรื่ องแบบนี้ ในทางทฤษฎีกด็ ูง่ายดาย แต่การปฏิบตั ิน้ นั ยาก
พลังงานที่สะสมอยูใ่ นร่ างของขงซือเหยามีปริ มาณระดับหนึ่ง ซึ่ง
หากเธอซึมซับเอาการลงทัณฑ์จากสวรรค์เข้าสู่ ร่างกายน้อยเกินไป ก็
จะไม่สามารถขจัดพลังงานที่ตกค้างออกไปได้หมด แต่ถา้ ซึมซับการ
ลงทัณฑ์จากสวรรค์เข้าไปมากเกิน ก็อาจทําให้เสี ยชีวติ
“นัน่ คือเหตุผลที่ผมบอกเธอให้ใช้ใจสัมผัส จําได้ไหม?” จางเซวียน
พูด “ในฐานะทายาทของปรมาจารย์ขง, อัจฉริ ยะหมายเลขหนึ่งของ
อาณาจักรคุนฉื่อ ถ้าเธอทําไม่ได้แม้แต่การกะประมาณคร่ าว ๆ และ
ควบคุมการลงทัณฑ์จากสวรรค์ที่จะรับเข้าสู่ ร่างกาย ผมก็ไม่มีอะไร
จะพูดแล้ว ถ้าเธอมีปัญญาแค่น้ นั ล่ะก็ ต่อให้เอาชีวติ รอดจากการ
ทดสอบครั้งนี้ไปได้ ก็บอกได้เลยว่าอนาคตก็ไปไม่ได้ไกลนักหรอก!”
จางเซวียนไม่ได้คิดจะปั่นหัวหรื อล่อลวงขงซือเหยา แต่ถา้ เขาบอก
ความจริ งกับเธอจนหมดตั้งแต่แรก หัวสมองของเธอก็จะถูกเรื่ องอื่น ๆ
ครอบงํา และนัน่ อาจทําให้สูญเสี ยการเพ่งสมาธิเข้าสู่ ร่างกายของ
ตัวเอง นํามาซึ่งผลเสี ยแทนที่จะเป็ นผลดี
“คือ…” เมื่อเข้าใจสถานการณ์ท้ งั หมด ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะมองชาย
หนุ่มอย่างประทับใจ
ความเข้าใจเรื่ องสภาวะจิต ธรรมชาติของการลงทัณฑ์จากสวรรค์
และความสามารถในด้านอื่น ๆ …ทุกอย่างอยูภ่ ายใต้การคิดคํานวณ
ของเขาทั้งหมด และเขาก็ดาํ เนินการได้อย่างไร้ที่ติ
สมแล้วที่เป็ นปรมาจารย์ฟ้าประทาน ความเก่งกาจของเขาเหนือชั้น
กว่าแม้แต่บรรดานักปราชญ์โบราณ!
…..
ขณะที่ทุกคนยังอึ้งตะลึงกับคําอธิบายของชายหนุ่ม ที่กลางอากาศ
ขงซื อเหยาซึ่งสัมผัสประสบการณ์ทุกอย่างด้วยตัวเองก็รู้ซ้ ึงถึงความ
เก่งกาจของชายหนุ่มอย่างถ่องแท้ แม้ปรมาจารย์ฟ้าประทานคนนี้ดู
จะมีอายุนอ้ ยกว่าเธอ แต่กไ็ ม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าเขาคือของจริ ง!
ถึงจะไม่ได้ฟังคําอธิบาย แต่ขงซือเหยาก็พอเข้าใจเจตนาที่อยูเ่ บื้องหลัง
การกระทําของชายหนุ่ม
ขณะที่สายฟ้าและเปลวเพลิงสวรรค์จากการทดสอบนักปราชญ์โบราณ
ชําระร่ างกายของเธอพลังงานที่เคยตกค้างอยูใ่ นร่ างของขงซื อเหยา
ตั้งแต่สมัยที่อยูใ่ นอาณาจักรคุนฉื่อก็ค่อย ๆ ถูก ทําลายและกําจัด
ออกไป
แม้พลังงานทั้ง 2 รู ปแบบจะรวมตัวกันอยูใ่ นร่ างของเธอ แต่เธอก็
ยังคงไม่เป็ นอะไร ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยการพินิจพิจารณาพลังงานที่
อยูภ่ ายใน ขงซือเหยาก็เกิดความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกที่ล้ าํ ลึก
กว่าเดิม
เวลาผ่านไปช้า ๆ ไม่นานพลังงานจากการทดสอบนักปราชญ์โบราณ
ครั้งก่อน ๆ ที่สะสมอยูใ่ นร่ างของขงซื อเหยาก็ถูกขจัดออกไปหมด รู ้
ดีวา่ นี่คือเวลาที่สมควรหยุด ขงซือเหยาจึงปิ ดจุดชีพจรทั้งหมดและ
ทําการแผดเผาสายเลือด
“สลายตัว!” เธอออกคําสัง่
วาจาสิ ทธิ์!
ในตอนนั้น การทดสอบนักปราชญ์โบราณที่เธอเรี ยกมาได้อ่อนแรง
ลงมากจนถึงขนาดที่ทาํ อะไรเธอไม่ได้อีก พอขงซือเหยาออกคําสัง่
หมู่เมฆดําที่เหลืออยูก่ ลางอากาศอีกครึ่ งหนึ่งก็สลายตัวไป
เมื่อหมู่เมฆดําจากไป สาวน้อยปลดปล่อยพละกําลังทั้งหมดที่กดข่ม
ไว้ออกมา เธอฝ่ าด่านคอขวดของวรยุทธได้สาํ เร็ จและกลายเป็ น
นักปราชญ์โบราณภายในชัว่ อึดใจ
เมื่อผนวกเข้ากับการสัง่ สมอย่างลํ้าลึกยาวนานของวรยุทธ ขงซือเหยา
ก็ยงั ไม่หยุดหลังจากที่ฝ่าด่านวรยุทธได้สาํ เร็ จแล้ว วรยุทธของเธอพุง่
สู งขึ้นเรื่ อย ๆ
การสื บทอดสายเลือด ขั้นต้น!
การสื บทอดสายเลือด ขั้นกลาง!
…..
เพียง 2-3 อึดใจ ขงซือเหยาก็สาํ เร็ จวรยุทธเป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น
1 การสื บทอดสายเลือด-โลกจารึ ก
และหลังจากนั้น…
บรมครู นกั ปราชญ์ ขั้นต้น!
บรมครู นกั ปราชญ์ ขั้นกลาง!
…..
บรมครู นกั ปราชญ์ โลกจารึ ก!
ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที วรยุทธของเธอก็พงุ่ ขึ้นไปถึงระดับบรมครู
นักปราชญ์โลกจารึ กก่อนจะค่อย ๆ ช้าลง
“น่าทึ่งจริ ง ๆ” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงพึมพําอย่างชื่นชม
สําหรับการฝ่ าด่านวรยุทธเป็ นนักปราชญ์โบราณของพวกเขา โดย
ส่ วนใหญ่จะหยุดอยูท่ ี่การสื บทอดสายเลือดขั้นต้น แม้แต่ผทู ้ ี่ปราด
เปรื่ องที่สุดก็ผลักดันตัวเองไปได้จนถึงขั้นกลางเท่านั้น จากนั้นก็
หมดเรี่ ยวแรง
แต่ขงซือเหยาทะลุไปได้ถึง 2 ขั้นภายในอึดใจเดียว กลายเป็ นนักปราชญ์
โบราณที่มีวรยุทธขั้นบรมครู นกั ปราชญ์ โลกจารึ ก
วีรกรรมแบบนี้ไม่เคยปรากฏตลอดหลายหมื่นปี ที่ผา่ นมาของอาณาจักร
คุนฉื่อ!
เป็ นเพราะชายหนุ่มคนนี้ที่ทาํ ให้ซือเหยาพัฒนาวรยุทธอย่างก้าวกระโดด
นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงครุ่ นคิดขณะหันไปมองจางเซวียน
แต่ในตอนนั้น จางเซวียนกลับจ้องมองสาวน้อยที่อยูก่ ลางอากาศด้วย
สี หน้าขัดอกขัดใจ “ออกแรงอีกหน่อยสิ ด้วยวรยุทธที่คุณสัง่ สมไว้น่ะ
คุณสามารถฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบขั้นการฟื้ นคืนชีพของสาย
เลือดได้เลยนะ!”
“การฟื้ นคืนชีพของสายเลือด?” ขงซื อเหยาผงะ เธอรี บส่ ายหัว “ฉัน
ใช้พละกําลังจนเต็มพิกดั แล้ว ไม่เหลือเรี่ ยวแรงที่จะฝ่ าด่านวรยุทธอีก
แล้วล่ะ…”
ถึงเธอจะได้สงั่ สมพลังงานไว้มากจากการกดข่มวรยุทธไว้ตลอดการ
ทดสอบนักปราชญ์โบราณทั้ง 4 ครั้งที่ผา่ นมา แต่กถ็ ึงขีดสุ ดของ
พละกําลังแล้วเมื่อผลักดันตัวเองไปเป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 2 โลก
จารึ กได้สาํ เร็ จ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะไปจะไปได้ไกลกว่านั้น
“ขีดสุ ดของพละกําลัง? คุณคิดเอาเองทั้งนั้น!” จางเซวียนพูดขณะ
สะบัดเลือดหยดหนึ่งเข้าใส่ ขงซือเหยา “กลืนลงไป!”
“ได้”
ถึงตอนนี้ ขงซือเหยาเชื่อมัน่ ในตัวจางเซวียนอย่างหมดใจแล้ว เธอ
กลืนเลือดหยดนั้นเข้าไปโดยไม่ลงั เล
ทันทีที่เลือดไหลลงไปตามลําคอ ก็รู้สึกได้ทนั ทีถึงความร้อนแผดเผา
ภายใน
“นี่คือหยดเลือดของเทพเจ้าหรื อ?” ขงซือเหยาตาโต
หลายปี ที่ผา่ นมา เธอมีโอกาสได้ซึมซับหยดเลือดของนักรบขั้นการ
ฟื้ นคืนชีพของสายเลือดมาบ้าง ก็เพราะเหตุผลนั้นที่ทาํ ให้เธอพัฒนา
ตัวเองได้อย่างน่าทึ่งแม้จะอายุยงั น้อย แต่หยดเลือดที่ชายหนุ่มเพิ่ง
มอบให้มีพละกําลังมากกว่าหยดเลือดที่เธอเคยซึมซับในสมัยก่อน
มาก ในแง่ของพลัง มันเหนือชั้นกว่าหยดเลือดของนักรบขั้นการฟื้ น
คืนชีพของสายเลือดอย่างน้อยก็ 10 เท่า!
เรื่ องนี้มีความเป็ นไปได้เพียงข้อเดียว…มันเป็ นหยดเลือดของนักรบ
ขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ!
ไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มจะเต็มใจมอบของลํ้าค่าขนาดนี้ให้เธอ…
ขงซือเหยาหน้าแดงกํ่าด้วยความตื่นเต้นและความสํานึกในบุญคุณ
ระคนกัน แต่รู้ดีวา่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมัวคิดอะไร เธอรี บขับเคลื่อน
พลังปราณอย่างรวดเร็ วเพือ่ ซึมซับพลังงานจากหยดเลือดไว้
หนึ่งชัว่ โมงต่อมา ขงซื อเหยาก็ฝ่าด่านคอขวดได้อีกครั้งและได้เป็ น
นักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด วรยุทธ
ของเธอหยุดลงที่ข้ นั กลาง
เมื่อรู ้สึกได้ถึงพลังงานที่พลุ่งพล่านไปทัว่ ร่ าง ขงซื อเหยารี บบินมาหา
จางเซวียนและทรุ ดตัวลงคุกเข่าตรงหน้า
“ท่านอาจารย์!”
คราวนี้ ความเคารพและความสํานึกในบุญคุณของเธอเป็ นความรู ้สึก
ที่ออกมาจากใจจริ ง
วิง้ !
หัวสมองของจางเซวียนกระตุก หน้าหนังสื อสี ทองหน้าหนึ่งปรากฏ
ขึ้นในหอสมุดเทียบฟ้า
ตอนที่ 1905 ศิษย์ น้องคนเล็ก
เหตุผลหลักที่จางเซวียนอยากรับขงซือเหยาเป็ นศิษย์สายตรงก็เพื่อ
สร้างหน้าหนังสื อสี ทอง ซึ่งในที่สุดก็บรรลุเป้าหมาย
“ลุกขึ้นเถอะ” จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะพยุงสาวน้อย
ให้ลุกขึ้น
ด้วยสิ่ งนี้ เขาจะสามารถแก้ไขวิกฤตการณ์ของอาณาจักรคุนฉื่อได้
“ท่านอาจารย์!”
“นัน่ ศิษย์นอ้ งคนเล็กของพวกเราหรื อ?”
จางเซวียนหันกลับไป เห็นจ้าวหย่ากับศิษย์สายตรงคนอื่น ๆ มองมา
อย่างตื่นเต้น
การทดสอบนักปราชญ์โบราณของขงซื อเหยาสร้างความปั่นป่ วน
ครั้งใหญ่ที่เขย่าทั้งอาณาจักรเทียนเซวียน ในฐานะนักรบที่มีวรยุทธ
ขั้นนักปราชญ์โบราณ ไม่มีทางที่จา้ วหย่ากับพรรคพวกจะไม่รู้วา่ เกิด
อะไรขึ้น
“ศิษย์นอ้ งคนเล็ก?” ขงซือเหยาออกจะขัดใจเมื่อได้ยนิ คํานั้น
เธอคืออัจฉริ ยะหมายเลขหนึ่งของอาณาจักรคุนฉื่อ ทายาทของ
ปรมาจารย์ขง…การที่ตอ้ งเรี ยกขานวัยรุ่ นกลุ่มหนึ่งที่อายุนอ้ ยกว่าเธอ
ว่า ‘ศิษย์พี่’ เป็ นสิ่ งที่เธอทําใจไม่ได้
ขณะที่ขงซือเหยาทําตัวไม่ถูก จางเซวียนก็โพล่งออกมา “เธอไม่ใช่
ศิษย์นอ้ งของพวกคุณหรอก เพราะไม่ได้เป็ นศิษย์สายตรงของผม เป็ น
แค่ลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ผมรับไว้เท่านั้น”
“ลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่คุณรับไว้…” ขงซือเหยาตัวสัน่
เมื่อครู่ น้ ีเธอยังสุ ดแสนกระอักกระอ่วนที่ตอ้ งกลายเป็ นศิษย์นอ้ งคน
เล็ก แต่จางเซวียนกลับพูดราวกับว่าเธอไม่มีสิทธิ์แม้จะได้เป็ นศิษย์
น้องคนเล็กของพวกเขา…
ขงซือเหยากัดฟันและจ้องหน้าจางเซวียน หมายจะทักท้วงให้เข้าใจ
ตรงกัน แต่กเ็ ห็นจางเซวียนหันกลับมามองเธอและถามว่า “คุณคิดว่า
ผมกําลังดูถูกคุณหรื อ?”
รู ้ดีวา่ การท้าทายท่านอาจารย์ต่อหน้าสาธารณชนเป็ นการกระทําที่ไม่
เหมาะสม ขงซือเหยากลํ้ากลืนความหยิง่ ผยองลงไปแล้วก้มศีรษะ
“ฉันไม่บงั อาจ!”
แต่ถึงอย่างนั้น หมัดที่กาํ แน่นอยูข่ า้ งตัวก็บ่งบอกความรู ้สึกที่แท้จริ ง
ของเธอ เธอเป็ นดัง่ นกฟี นิกซ์ของอาณาจักรคุนฉื่อ และรู ้สึกว่าช่าง
น่าสมเพชที่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะได้เป็ นศิษย์นอ้ งคนเล็กของวัยรุ่ นกลุ่ม
หนึ่ง
“ไม่เป็ นไรหรอก อยูต่ ่อหน้าผม ไม่ตอ้ งฝื นก็ได้ ผมรู ้ความคิดของคุณ
ดี ทําไมเราไม่ทาํ แบบนี้ล่ะ? จ้าวหย่าเป็ นศิษย์สายตรงของผม เรื่ อง
อายุ…เธออายุนอ้ ยกว่าคุณมาก” จางเซวียนพูดขณะมองจ้าวหย่า
“คุณสองคนสู ก้ นั โดยใช้พละกําลังล้วน ๆ ไม่มีอาวุธ ถ้าคุณเอาชนะ
เธอได้ ผมก็จะรับคุณเป็ นศิษย์สายตรงและอนุญาตให้คุณเป็ นศิษย์พี่
ของพวกเขา!”
“เยีย่ ม!” เมื่อเข้าใจเรื่ องราว ขงซือเหยามองจ้าวหย่าด้วยเจตจํานงของ
การต่อสู ท้ ี่แผดเผาอยูใ่ นดวงตา
อีกฝ่ ายน่าจะอายุราว 18 ปี เท่านั้น อ่อนวัยกว่าเธอมาก ถ้าเธอเอาชนะ
ไม่ได้แม้แต่คู่ต่อสู ร้ ะดับนี้ จะมีสิทธิ์อะไรที่จะเรี ยกตัวเองว่าทายาท
ของปรมาจารย์ขง?
เมื่อขงซือเหยายินยอม จางเซวียนหันไปพูดกับจ้าวหย่า “ทําแบบเดิม
ที่คุณเคยทํานัน่ แหละ เท่านั้นก็พอ”
“ได้” จ้าวหย่าพยักหน้าก่อนจะเดินตรงไปยังพื้นที่วา่ งที่อยูห่ ่างออกไป
เธอเชื้อเชิญขงซือเหยาอย่างสุ ภาพ “กรุ ณาด้วย!”
ขงซื อเหยารี บเดินไปเช่นกัน
ไม่มีการปะทะคารมก่อนเริ่ มการประลอง แต่ดว้ ยความหยิง่ ผยองของ
ทั้งคู่ บรรยากาศของการแข่งขันตึงเครี ยดจึงอบอวลระหว่างสองฝ่ าย
ขงซื อเหยาไม่ได้ใช้ความสามารถของสายเลือด แต่ในฐานะอัจฉริ ยะ
ชั้นยอดและนักรบขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด เธอสําแดงเทคนิค
การต่อสู อ้ นั ไร้ที่ติออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทําให้ท่วงท่าของเธอดู
เหมือนการเต้นรําอันสง่างาม
ส่ วนจ้าวหย่าก็เปิ ดใช้งานสภาวะพิเศษ ทําให้รังสี เย็นเยียบแผ่ซ่าน
ครอบคลุมทัว่ ทั้งพื้นที่น้ นั เกล็ดหิ มะงดงามร่ วงพรู จากท้องฟ้าด้วย
ความสามารถของเธอ
จ้าวหย่าสําเร็ จวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 2 บรมครู นกั ปราชญ์
ขั้นต้นแล้วหลังจากที่พยายามลอบสังหารอํามาตย์เฉิ นหย่งคนใหม่
เมื่อเดือนก่อน
แต่ตลอดหนึ่งเดือนที่ผา่ นมา เธอได้รับคําชี้แนะจากท่านอาจารย์ อีก
ทั้งได้ใช้ประโยชน์สูงสุ ดจากหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณที่มี
วรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด ทําให้สามารถขัดเกลาพื้นฐาน
วรยุทธได้อย่างมีประสิ ทธิภาพสู งสุด และลงท้ายก็สาํ เร็ จวรยุทธขั้น
บรมครู นกั ปราชญ์ โลกจารึ ก แม้ระหว่างนั้นจ้าวหย่าจะไม่ได้ฝ่าด่าน
วรยุทธบ่อยครั้งนัก แต่กถ็ ือว่าโง่เง่าเต็มทีถา้ ใครจะสบประมาทวรยุทธ
ของเธอ
จริ งอยูว่ า่ มีความเหลื่อมลํ้าไม่นอ้ ยระหว่างวรยุทธของจ้าวหย่ากับ
ขงซื อเหยา แต่ดว้ ยรากฐานวรยุทธที่แข็งแกร่ งและความเข้าใจอย่าง
ลํ้าลึกเรื่ องเทคนิคการต่อสู ้ จ้าวหย่าก็สามารถรับมือการโจมตีของ
ขงซื อเหยาได้
การต่อสู ด้ ุเดือดดําเนินไป ทุกคนเห็นนัยน์ตาของขงซือเหยาเริ่ มปรากฏ
ความหวัน่ วิตก
ควรจะมีช่องว่างในวรยุทธของพวกเธอทั้งคู่ เพราะเธอมีระดับวรยุทธ
สู งกว่า แถมยังมีประสิ ทธิภาพการต่อสู ต้ ามแบบของทายาทปรมาจารย์
ขง แต่เมื่อสู ก้ นั โดยปราศจากอาวุธ เธอก็ไม่อาจถือไพ่เหนือกว่าได้
ศิษย์สายตรงของจางเซวียนที่มีอายุเพียง 18 ปี เก่งกาจขนาดนี้ได้
อย่างไร?
แบบนี้ไม่ได้การ ถ้าปล่อยให้เป็ นอย่างนี้ต่อไปล่ะก็ ต่อให้เราชนะ
ศักดิ์ศรี กค็ งป่ นปี้ ไม่มีเหลือ…
ขงซื อเหยากระหายจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอมีความปราดเปรื่ องเหนือ
ชั้นกว่าศิษย์สายตรงคนไหนก็ตามของจางเซวียน แต่ช่างยากเหลือเกิน
ที่จะเอาชนะจ้าวหย่า ทั้ง ๆ ที่เธอมีระดับวรยุทธสู งกว่า แบบนี้กไ็ ม่
ต่างอะไรกับการพ่ายแพ้
ขงซือเหยากัดฟันกรอดและเปลี่ยนเทคนิคการเคลื่อนไหวอย่างปุบปั บ
ในชัว่ พริ บตา ก็เกิดภาพติดตาขึ้นมากมายในบริ เวณนั้น
มันคือเทคนิคการต่อสู ท้ ี่ปรมาจารย์ขงคิดค้นขึ้นเป็ นพิเศษให้เหล่า
ทายาทของเขา และเป็ นทักษะที่แข็งแกร่ งที่สุดเท่าที่เธอมีอยู่
ในตอนนี้…แปดแขนสังหารหมู่!
การโจมตีนบั ครั้งไม่ถว้ นถูกปล่อยออกจากร่ างของขงซือเหยาด้วย
ความเร็ วสู ง ไม่ชา้ จ้าวหย่าก็จนมุมและต้องถอยกรู ดไปครั้งแล้วครั้ง
เล่า
แม้ขงซือเหยาจะเพิง่ ฝ่ าด่านวรยุทธมาหมาด ๆ แต่กเ็ ป็ นนักรบที่ผา่ น
การทดสอบนักปราชญ์โบราณมาแล้วถึง 4 ครั้ง ทําให้มีพละกําลัง
สู งส่ งแม้ในหมู่นกั รบที่มีวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด
ด้วยกัน ถ้าไม่ใช่เพราะประสบการณ์การต่อสู อ้ นั เหนือชั้นของจ้าว
หย่า เธอคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว
“อย่าตื่นตระหนก ตอนนี้คุณแค่มีพละกําลังอ่อนด้อยไปหน่อย…ซึ่ ง
ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น สิ่ งที่ตอ้ งทําก็คือฝ่ าด่านวรยุทธ!”
จางเซวียนกระดิกนิ้ว จากนั้นก็ส่งหยดเลือดของเทพเจ้าหยดหนึ่งให้
จ้าวหย่า
ฟึ่ บ!
จ้าวหย่ากลืนเลือดหยดนั้นลงไป ระดับวรยุทธของเธอพุง่ พรวดทันที
ภายในไม่ถึง 20 อึดใจ เธอก็ฝ่าด่านคอขวดไปเป็ นนักปราชญ์โบราณ
ที่มีวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือดได้สาํ เร็ จ
เมื่อมีพละกําลังเพิม่ สู งขึ้นมากจากการฝ่ าด่านวรยุทธ จ้าวหย่าก็ปล่อย
พลังงานเย็นเยือกออกมา พลังนั้นตรงเข้าเล่นงานขงซือเหยาจนกระเด็น
ไปไกลก่อนจะตกลงมากระแทกพื้น
“ฉันแพ้แล้ว” ขงซือเหยาพึมพําด้วยใบหน้าซีดเผือด
ยังมีกระบวนท่าอีกมากมายที่เธอยังไม่ได้ใช้ และรู ้ดีวา่ จะเอาชนะได้
ก็ต่อเมื่อใช้ความสามารถของสายเลือดเท่านั้น แต่นี่ไม่ใช่การดวล
แบบชี้เป็ นชี้ตาย เธอทําใจใช้มนั ไม่ลง
แม้เทคนิคการต่อสู ข้ องอีกฝ่ ายจะไม่ล้ าํ ลึกเท่ากับของเธอ แต่ทุก
กระบวนท่าก็มีแนวคิดอันลึกซึ้งอยู่ ทําให้ยากที่จะหยัง่ ถึง ยิง่ ไปกว่า
นั้น อีกฝ่ ายยังดูเหมือนมองเห็นข้อบกพร่ องของเธอและจงใจโจมตี
จุดไหนก็ตามที่เธอปัดป้องได้ยาก ด้วยเหตุน้ ี ขงซือเหยาจึงถูกต้อน
ให้จนมุมอย่างช้า ๆ
เมื่อครู่ ก่อน เธอยังคงใช้ช่องว่างของวรยุทธที่เหนือกว่าตอบโต้ได้
แต่หลังจากที่จา้ วหย่าสําเร็ จวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด
การต่อสู ก้ ก็ ลายเป็ นการโจมตีขา้ งเดียว
น่าหัวเราะเหลือเกินที่เธอเพิ่งดูแคลนทั้งกลุ่มว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะ
ปราดเปรื่ องกว่าเธอได้!
“ว่าอย่างไร? คุณยังหงุดหงิดที่ตอ้ งถูกเรี ยกว่าศิษย์นอ้ งคนเล็กไหม?”
เห็นอัจฉริ ยะผูห้ ยิง่ ผยองของอาณาจักรคุนฉื่อยังคงอึดอัดใจกับความ
พ่ายแพ้ของตัวเอง จางเซวียนเสนอแนะ “ถ้าคุณรู ้สึกว่ามันไม่ยตุ ิธรรม
เพราะจ้าวหย่าแข็งแกร่ งที่สุดในหมู่ทุกคนละก็ คุณท้าทายคนอื่นก็ได้
นะ แต่ผมคงต้องขอให้คุณลดระดับวรยุทธลงเพื่อความยุติธรรม”
ขงซือเหยาหันไปมองศิษย์สายตรงคนอื่น ๆ ของจางเซวียน
เจิ้งหยาง หยวนเทา เว่ยหรู เหยียน และคนอื่น ๆ กําลังจ้องมองมาที่
เธอด้วยแววตาตื่นเต้น ดูเหมือนทุกคนอยากเล่นงานเธอจนตัวสัน่
“ไม่เป็ นไร ฉันเต็มใจเป็ นศิษย์นอ้ งคนเล็ก…” ขงซือเหยาก้มศีรษะ
ให้และโค้งคํานับ
ในเมื่อพวกเขาได้รับการบ่มเพาะจากอาจารย์คนเดียวกัน ก็น่าจะมี
พละกําลังที่ไม่ต่างกันนัก เธอเคยคิดว่าคงเอาชนะจ้าวหย่าได้สบาย
เพราะระดับวรยุทธที่สูงกว่า แต่ลงท้ายก็ไม่ใช่ ทําให้รู้สึกว่า ต่อให้
เป็ นลูกศิษย์คนอื่น ๆ ของจางเซวียน ก็คงเป็ นแบบเดียวกัน
ในเมื่อไม่มนั่ ใจในพละกําลังของตัวเอง ก็ไม่ควรจะเสนอตัวออกไป
ให้เสี ยหน้า ยอมรับเสี ยจะดีกว่า
“ถ้าเป็ นอย่างนั้นก็ดี” จางเซวียนพูด “จ้าวหย่า เจิ้งหยาง และพวกคุณ
ที่เหลือ นับจากวันนี้ไป ขงซือเหยาจะเป็ นศิษย์นอ้ งคนเล็กของพวก
คุณและเป็ นศิษย์สายตรงคนที่ 9 ของผม พวกคุณต้องดูแลซึ่งกันและ
กันนะ เข้าใจไหม?”
“ได้ พวกเราจะฟังคําสัง่ สอนของท่านอาจารย์!”
คนอื่น ๆ ที่เหลือประสานมือและตอบเป็ นเสี ยงเดียวกัน
เมื่อเห็นว่าแม้แต่ทายาทของปรมาจารย์ขงก็ยงั ลงเอยด้วยการยอมรับ
จางเซวียนเป็ นอาจารย์ นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงถึงกับอับจนถ้อยคํา
เป็ นครู่ ใหญ่กว่าเสี ยงของเขาจะหลุดออกมา “ในเมื่อขงซือเหยาฝ่ าด่าน
วรยุทธไปเป็ นนักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของ
สายเลือดได้สาํ เร็ จ เธอก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้เป็ นผูน้ าํ คนใหม่
ของอาณาจักรคุนฉื่ อและร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์!”
ปรมาจารย์ขงเป็ นผูก้ ่อตั้งอาณาจักรคุนฉื่ อ จึงเป็ นที่รู้กนั ว่าผูป้ กครอง
อาณาจักรควรจะเป็ นทายาทของเขา
ในช่วง 2-3 ปี ที่ผา่ นมา นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงรับหน้าที่ดูแล
อาณาจักรคุนฉื่อและร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์ในฐานะรักษาการณ์
ในเมื่อขงซื อเหยาเติบโตขึ้นและมีวฒ ุ ิภาวะมากพอแล้ว ก็ถึงเวลาที่
เขาจะส่ งมอบภารกิจกลับคืนให้เธอเสี ยที
ตอนที่ 1906 ท่ านอาจารย์ ไปไหน?
ร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์ถือเอาปรมาจารย์ขงเป็ นศูนย์รวมจิตใจมา
ตลอด จึงไม่มีใครคัดค้านการที่ขงซือเหยาจะก้าวขึ้นเป็ นผูน้ าํ หลังจาก
ที่ฝ่าด่านวรยุทธไปเป็ นนักปราชญ์โบราณได้สาํ เร็ จ
ด้วยสิ่ งนี้ ก็หมายความว่าจางเซวียนกับศิษย์สายตรงทั้ง 9 คนของเขา
มีเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์ปีศาจ และแม้แต่ร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์
อยูใ่ นสังกัด
รู ้ดีวา่ ตัวเองแบกรับหน้าที่และความรับผิดชอบอันหนักอึ้งไว้ ขงซื อ
เหยาหันไปถามท่านอาจารย์ของเธอ “ท่านอาจารย์ เราจะรับมือกับ
เรื่ องฉนวนของอาณาจักรคุนฉื่ออย่างไร?”
ท่านอาจารย์บอกไว้วา่ เขาจะสามารถแก้ไขทุกอย่างได้หากเธอยอมรับ
เขาเป็ นอาจารย์
“ขอผมลองดู”
จางเซวียนเดินตรงเข้าหาฉนวน เขาใช้ความคิดแวบหนึ่ง จากนั้นก็
นําหน้าหนังสื อสี ทองออกจากหว่างคิ้ว
ฟิ้ วววว!
หน้าหนังสื อสี ทองลอยเข้าหาฉนวนของอาณาจักรคุนฉื่ อและหลอม
รวมเข้ากับมันอย่างรวดเร็ ว แล้วฉนวนก็แปรสภาพเป็ นประตูโอ่อ่าที่
มีขนาดมหึ มา
ทันทีที่ประตูขนาดมหึ มาปรากฏ สายฟ้าฟาดและลูกไฟที่คาํ ราม
กึกก้องอยูก่ ลางอากาศราวกับได้พบศัตรู ตวั ฉกาจก็สลายตัวไปทันที
“วิกฤต…วิกฤตนี่คลี่คลายไปได้ดว้ ยวิธีแบบนี้หรื อ?”
ทุกคนถึงกับจังงัง
แต่ละคนนึกสงสัยอยูว่ า่ จะหานักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติจากที่ไหนมา
ช่วยพวกเขาให้พน้ จากวิกฤตครั้งนี้ ใครจะไปรู ้วา่ ทุกอย่างจะคลี่คลาย
ได้อย่างง่ายดายด้วยหน้าหนังสื อสี ทองหน้าเดียว?
ถ้ามันง่ายขนาดนี้ ทําไมจางเซวียนถึงไม่นาํ มันออกมาตั้งแต่แรก?
จางเซวียนไม่แยแสสายตากังขาที่อยูร่ อบตัว เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็ นไปตามที่เราคิด…”
อันที่จริ ง เขาเองก็ไม่แน่ใจในขีดจํากัดความสามารถของหอสมุด
เทียบฟ้า
ตั้งแต่ตน้ ข้อจํากัดข้อแรกที่เขาพบก็คือหอสมุดเทียบฟ้าไม่อาจมอง
ทะลุขอ้ บกพร่ องของเหล่านักปราชญ์โบราณได้ บางทีอาจเป็ นเพราะ
นักปราชญ์โบราณคือสิ่ งมีชีวติ ที่ทดั เทียมกับสวรรค์ ซึ่งนัน่ คือขอบเขต
ความสามารถของมัน
แต่เมื่อหลัวลัว่ ชิงหลอมรวมมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้
ร่ วงเข้ากับหอสมุดเทียบฟ้าของเขาก่อนที่เธอจะจากไป ขีดจํากัดนั้น
ก็สลายไปด้วย
ตอนนั้นจางเซวียนเคยสงสัยว่าหอสมุดเทียบฟ้าอาจพัฒนาขึ้นจน
เหนือชั้นกว่าสวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์ ซึ่ งจากผลลัพธ์ที่
เกิดขึ้นเมื่อครู่ ก็ดูเหมือนจะเป็ นอย่างนั้น
สวรรค์ไม่อาจหาญลงทัณฑ์สิ่งที่สูงส่ งกว่ามัน และหอสมุดเทียบฟ้า
กับหน้าหนังสื อสี ทองก็ดูเหมือนจะเป็ นสิ่ งนั้น
ฉนวนที่ก่อตัวขึ้นโดยหน้าหนังสื อสี ทองดูจะสู งส่ งกว่าสวรรค์ของ
ทวีปแห่งปรมาจารย์ ผลลัพธ์น้ นั ชัดเจน ไม่มีทางที่สวรรค์จะอาจหาญ
ตัดสิ นอะไรอาณาจักรคุนฉื่ออีก
ตราบใดที่ฉนวนที่สร้างขึ้นโดยหน้าหนังสื อสี ทองยังคงอยู่ สวรรค์
ของทวีปแห่งปรมาจารย์จะไม่กล้า เข้ามาก้าวก่าย อันที่จริ ง ไม่สาํ คัญ
แล้วด้วยซํ้าว่าอาณาจักรคุนฉื่อจะยังคงซ่อนตัวต่อไปหรื อไม่
จางเซวียนพอใจกับผลที่ได้ เขามองหน้าขงซื อเหยาขณะพูดว่า“ผม
อยากไปเยีย่ มเยียนที่พกั ของบรรพบุรุษตระกูลขง”
ขงซื อเหยารี บออกเดินนําทุกคนกลับเข้าสู่ อาณาจักรคุนฉื่อ
ที่พกั บรรพบุรุษตระกูลขงตั้งอยูใ่ นอาณาบริ เวณของสํานักแห่งขงจื๊อ
จางเซวียนเดินทอดน่องชมพื้นที่โดยรอบอย่างสบายใจ
ตระกูลขงได้รับการถ่ายทอดมรดกตกทอดของปรมาจารย์ขงมาซึ่ ง
เป้าหมายของพวกเขาก็คือ ผลักดันแนวคิดและเทคนิควรยุทธของ
ปรมาจารย์ขงให้แพร่ หลายก้าวหน้าต่อไป มีบรรยากาศของภูมิปัญญา
อันเข้มข้นอบอวลอยูใ่ นที่พกั จางเซวียนรู ้สึกได้อย่างเลือนรางถึงจิต
วิญญาณและปรัชญาของปรมาจารย์ขงในทุกย่างก้าว
หลังจากชมบริ เวณโดยรอบตระกูลขงแล้ว จางเซวียนก็ออกจาก
อาณาจักรคุนฉื่อ คราวนี้เขาไม่ได้พาบรรดาศิษย์สายตรงไปด้วยเพราะ
อยากสํารวจให้ทวั่
…..
ครั้งหนึ่ง ปรมาจารย์ขงเคยเดินทางตระเวนไปทัว่ ทั้งทวีปแห่งปรมาจารย์
ทําให้มีความเข้าใจในชีวติ อย่างลํ้าลึกขึ้นมาก สิ่ งนี้จุดประกายให้เขา
รังสรรค์ของลํ้าค่าอันทรงพลังซึ่งเป็ นที่รู้จกั กันในชื่อมหาคัมภีร์แห่ง
ฤดูใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้ร่วง
จางเซวียนอยากเห็นทวีปปรมาจารย์ท้ งั หมดกับตา และระหว่างการ
เดินทาง เขาก็หวังจะได้รู้วา่ ตัวเองเป็ นใคร
ในทุก ๆ เมืองที่เขาแวะไป เขาจะพักอยูท่ ี่นนั่ สักระยะเพื่อสัมผัสและ
เรี ยนรู ้วฒั นธรรมท้องถิ่น
เพราะภัยคุกคามจากเผ่าพันธุ์ปีศาจถูกกําจัดไปแล้ว ทั้งโลกจึงสงบสุ ข
อย่างที่ไม่เคยเป็ นมาก่อน สภาปรมาจารย์ได้รับการจัดระเบียบใหม่
ตามแบบแผนของปรมาจารย์หยาง ขจัดเสี้ ยนหนามจากกลุ่มก๊วนต่าง ๆ
ไปจนหมดสิ้ น ตอนนี้มนั กลายเป็ นองค์กรที่อุทิศตัวให้กบั การถ่ายทอด
ภูมิปัญญาสู่ ชาวโลก
ภายใต้คาํ สัง่ ของจางเซวียน บรรดาศิษย์สายตรงของเขาต่างออกเดินทาง
ท่องโลกเพื่อเผยแผ่คาํ สอน อดีตลูกศิษย์ของเขาจํานวนมากมายจาก
สถาบันปรมาจารย์หงหย่วนก็ตระเวนไปทัว่ โลกเพื่อเปิ ดการบรรยาย
เช่นกัน
บ่อยครั้งที่ผไู ้ ด้ฟังคําสอนของจางเซวียนผ่านทางบรรดาลูกศิษย์ของ
เขาพลันเกิดความรู ้แจ้งขึ้นมากะทันหันระหว่างการบรรยายทําให้
ประสิ ทธิภาพการต่อสู ข้ องพวกเขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดดส่ งผลให้
ทักษะของคนเหล่านั้นดูจะเหนือชั้นกว่านักรบรุ่ นเดียวกันจากนั้น
ผูค้ นมากมายก็กลายเป็ นสานุศิษย์ของ ‘สํานักจาง’
ภายในระยะเวลาไม่นาน ชื่อเสี ยงของจางเซวียนในฐานะปรมาจารย์
หมายเลข 1 ของโลกก็ระบือลัน่ ยิง่ กว่าเดิม ถึงขนาดที่ชื่อของเขา
เกือบจะเทียบชั้นกับปรมาจารย์ขงได้เลยทีเดียว
ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่ใฝ่ ฝันอยากจะได้ฟังคําสอนจากตัวจางเซวียน
โดยตรงสักครั้ง แต่กด็ ูเหมือนว่าเจ้าตัวจะหายวับไปจากโลกใบนี้ ไม่
มีใครรู ้วา่ เขาเป็ นตายร้ายดีอย่างไรหรื อไปไหน
ไม่ใช่เฉพาะสภาปรมาจารย์ที่ไม่รู้ชะตากรรมของจางเซวียน แม้แต่
ศิษย์สายตรงของเขาก็ไม่มีเงื่อนงําสักนิดว่าท่านอาจารย์ของพวกเขา
ไปไหน ไม่วา่ จะพยายามติดต่ออย่างไรก็ไม่ได้การตอบรับ
“ท่านอาจารย์ไปไหนนะ?” เจิ้งหยางถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาบินลงไปถึงดินแดนใต้สุดของทวีปแห่งปรมาจารย์ แต่กไ็ ม่มีใคร
เคยเห็นท่านอาจารย์ของเขา
จ้าวหย่าบินขึ้นไปถึงจุดเหนือสุ ด แต่การค้นหาของเธอก็ลม้ เหลว
ศิษย์สายตรงทั้ง 9 คนของจางเซวียนตามหาตัวเขาอยูถ่ ึง 4 เดือนเต็ม
พลิกแผ่นดินแทบทุกตารางนิ้วของทวีปแห่งปรมาจารย์ แต่กไ็ ม่รู้วา่
อาจารย์ของพวกเขาหายไปไหน
“ดูเหมือนท่านอาจารย์ของเรากําลังพยายามเสาะแสวงหาหนทาง
ของตัวเองและไม่ตอ้ งการให้ใครรบกวน เขาน่าจะสบายดีแหละพวก
เราคงไม่จาํ เป็ นต้องกังวลให้มากไป” หวังหยิง่ ปลอบใจ
“หวังหยิง่ พูดถูก” ลู่ชงพูด “สิ่ งที่พวกเราควรทําตอนนี้ไม่ใช่การตาม
หาท่านอาจารย์ แต่คือการทําตามคําสอนและถ่ายทอดภูมิปัญญาของ
เขาให้แพร่ หลายไปทัว่ โลก อีกอย่าง เราจะต้องเอาใจใส่ เรื่ องวรยุทธ
ด้วย เป้าหมายของพวกเราคือวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด
โลกจารึ ก เราต้องสําเร็ จวรยุทธขั้นนั้นให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้ เพื่อ
จะได้แบ่งเบาภาระของท่านอาจารย์ได้บา้ ง”
“ถูกต้อง!”
คนอื่น ๆ พยักหน้ารับ
ด้วยความแข็งแกร่ งของท่านอาจารย์ในตอนนี้ ไม่มีใครในทวีปแห่ง
ปรมาจารย์ทาํ อันตรายเขาได้ ดังนั้นจึงไม่จาํ เป็ นต้องกังวล
ในเวลานี้ สิ่ งที่ดีกว่าก็คือพยายามปฏิบตั ิภารกิจที่ท่านอาจารย์มอบ
หมายไว้ให้สาํ เร็ จและยกระดับวรยุทธของตัวเอง อย่างน้อยที่สุด เมื่อ
เวลามาถึง พวกเขาก็จะไม่เป็ นภาระของท่านอาจารย์อีกต่อไป
…..
ขณะที่โลกทั้งโลกกําลังตามหา จางเซวียนก็กาํ ลังเดินทอดน่องอย่าง
สบายใจอยูใ่ นเมืองห่างไกลเมืองหนึ่งในทวีปแห่งปรมาจารย์
เกือบครึ่ งปี แล้วตั้งแต่เขาออกจากร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์มาซึ่งนัน่
หมายความว่าเขาทะลุมิติมายังโลกใบนี้ได้เกือบ 2 ปี
ตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา เขาได้พบความยินดีปรี ดา ความเสี ยใจ การ
กลับมาพบกันใหม่อีกครั้ง และการแยกจาก ทุกอย่างล้วนแต่เกิดขึ้น
นับครั้งไม่ถว้ น เสี ยงหัวเราะของความดีใจ เสี ยงร้องไห้ของความ
ทุกข์ทรมาน ความอบอุ่นของการสวมกอด ความเย็นเยือกของการ
ถูกปฏิเสธ…
เมื่อนึกถึงอารมณ์และประสบการณ์อนั หลากหลายของผูค้ นที่อยู่
รอบตัวเขา จางเซวียนรู ้สึกเหมือน ตัวเองมีหลายชีวติ ในร่ างเดียว
วันนี้เป็ นวันที่ 3 นับตั้งแต่เขามาถึงเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ซึ่งตามกิจวัตร
ของเขา ตอนนี้กไ็ ด้เวลาที่จะต้องจากไปแล้ว
จางเซวียนจ้องมองเมืองเล็ก ๆ อันสงบสุ ขที่อยูร่ อบตัวเขาเป็ นครั้ง
สุ ดท้ายและกําลังจะออกจากประตูเมืองไป ก็พอดีกบั ที่เกิดความ
วุน่ วายขึ้นกลางถนน ผูค้ นมากมายกําลังวิง่ ไปทางเดียวกันอย่างร้อน
รนตื่นเต้น
“เร็ วเข้า เร็ ว ๆ หน่อย! ปรมาจารย์คนหนึ่งกําลังจะเผยแผ่คาํ สอน!”
“ว่ากันว่าปรมาจารย์คนนั้นมาที่นี่เพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาของ
ปรมาจารย์จาง พวกเราจะต้องตั้งใจฟังให้ดี ขอแค่เราตั้งใจฟังและ
เรี ยนรู ้ ก็จะต้องมีโอกาสได้ตน้ ข้าวสาลีแตกยอด!”
“ถ้าอย่างนั้นก็เยีย่ มเลย ข้าวสาลีแตกยอดปลูกได้โดยร้อยสํานักแห่ง
นักปราชญ์เท่านั้น มันเติบโตในทวีปแห่งปรมาจารย์ไม่ได้นี่ใช่ไหม?
คุณรู ้จกั ช่างตีเหล็กในอีกหมู่บา้ นหนึ่งหรื อเปล่า? เมื่อวันก่อนเขากิน
ข้าวสาลีแตกยอดไปต้นหนึ่ง จากนั้นก็ฝ่าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบ
ขั้นจงซรื อได้ทนั ที!”
“โชคดีเป็ นบ้า! ถ้าผมสําเร็ จวรยุทธขั้นจงซรื อล่ะก็ คงหัวเราะได้แม้
ยามหลับ!”
…..
เสี ยงพูดคุยออกความเห็นดังเซ็งแซ่
“การบรรยาย?” จางเซวียนทวนคําก่อนจะส่ ายหน้ายิม้ ๆ
เขาได้เห็นภาพเหล่านี้มากมายตลอดการเดินทางในช่วงครึ่ งปี ที่ผา่ น
มา จึงหมดความสนใจอย่างสิ้ นเชิงต่อเรื่ องแบบนี้
มีปรมาจารย์มากมายที่ใช้ชื่อของเขาเพื่อผลักดันชื่อเสี ยงของตัวเอง
ซึ่งการบรรยายเหล่านั้นบางส่ วนก็ลึกซึ้ งและทําให้ผฟู ้ ังเกิดความคิด
ที่ล้ าํ ลึกกว่าเดิม ขณะที่บางส่ วนก็เต็มไปด้วยข้อบกพร่ อง
แต่จางเซวียนก็ไม่เคยเข้าไปขัดจังหวะใคร
เขาเลือกจะเล่นบทผูช้ มเพื่อให้ได้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ อันหลากหลาย
ของโลกใบนี้ดว้ ยใจเปิ ดกว้าง จึงตั้งใจมุ่งมัน่ ที่จะละวางศักดิ์ศรี ความ
เชื่อ และแม้แต่ตวั ตนของตัวเอง
เราควรย้ายไปอีกเมืองหนึ่งได้แล้ว จางเซวียนคิดขณะเดินออกจาก
ประตูเมือง
แต่สิ่งที่เขาได้เห็นแวบหนึ่งทําให้ตอ้ งหยุด
“นัน่ เธอหรื อ?” จางเซวียนพึมพําขณะเห็นร่ างงดงามร่ างหนึ่งทาง
หางตา
ความงามของเธอยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะผ่านไปแล้วถึง 2 ปี
ดึงดูดสายตาทุกคู่ไม่วา่ เธอจะย่างกรายไปที่ไหน
เธอไม่ใช่อาจารย์ธรรมดาคนหนึ่งในโรงเรี ยนต๊อกต๋ อยอีกแล้ว แต่
กลายเป็ นปรมาจารย์ระดับ 3 ดาว
“ยินดีที่ได้พบพวกคุณ ฉันชื่อเสิ่ นปี้ หรู ปรมาจารย์ระดับ 3 ดาว!”
สาวน้อยที่ยนื อยูบ่ นเวทีเผชิญหน้ากับฝูงชนที่กาํ ลังตื่นเต้น เธอเผย
รอยยิม้ งดงามออกมา
ตอนที่ 1907 นักปราชญ์ โบราณ! ผมจะเป็ นครู บาอาจารย์ ของโลก! (1)
เสิ่ นปี้ หรู คืออาจารย์สาวสวยแห่งโรงเรี ยนหงเทียนที่จางเซวียนได้พบ
หลังจากทะลุมิติมายังโลกใบนี้ ตอนที่เขาออกจากอาณาจักรเทียน
เซวียนไป ก็ดูเหมือนว่าเส้นทางของทั้งคู่จะแยกจากกันอย่างสิ้ นเชิง
และคงไม่มีวนั กลับมาบรรจบกันได้อีก
เมื่อครึ่ งปี ก่อน ตอนที่เขากลับอาณาจักรเทียนเซวียน ก็พบแต่ลู่ฉวิน
นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอเสิ่ นปี้ หรู อีกครั้งที่นี่ และไม่คาดคิดด้วยว่า
เธอจะได้เป็ นปรมาจารย์ระดับ 3 ดาวรวดเร็ วขนาดนี้
การปรากฏตัวของเธอทําให้จางเซวียนชะงักฝี เท้าขณะหันกลับไป
มองสาวน้อยบนเวที อีกฝ่ ายยกมือขึ้นและรอให้ฝงู ชนเงียบเสี ยงก่อน
จะพูดต่อ “อาจารย์จางกับฉันเคยเป็ นเพื่อนร่ วมงานกัน”
“เพื่อนร่ วมงาน?”
“อะไรนะ? เธอบอกว่าเธอรู ้จกั ปรมาจารย์จางหรื อ?”
“โม้น่ะสิ ใช่ไหมล่ะ? ใครต่อใครที่นาํ คําสอนของปรมาจารย์จางมา
เผยแผ่กล็ ว้ นแต่บอกว่ารู ้จกั ปรมาจารย์จางไม่ทางใดก็ทางหนึ่งทั้งนั้น
จะได้เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กบั คําพูดของพวกเขา!”
“เอาจริ ง ๆ สิ ? ไม่นึกเลยว่าสาวสวยอย่างเธอจะลดตัวลงไปทําอะไร
ไม่เข้าท่าแบบนั้น!”
เพราะจางเซวียนมีชื่อเสี ยงระบือลัน่ ผูค้ นมากมายจึงพยายามอ้างตัว
ว่าเป็ นลูกศิษย์ของเขา แม้แต่ในเมืองห่างไกลขนาดนี้กห็ นีไม่พน้ จาก
ความนิยมดังกล่าว
แต่ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อได้เห็นอาจารย์สาวสวยที่มกั เมินเฉยกับเรื่ อง
ทางโลกเสมอพูดถึงเขาตั้งแต่ประโยคแรก จางเซวียนก็อดไม่ได้ที่จะ
ส่ ายหน้า ความผิดหวังปรากฏในแววตา
ในความคิดของจางเซวียน เธอยังคงเป็ นอาจารย์ที่มุ่งมัน่ พัฒนาตัวเอง
และแทบไม่ใส่ ใจความรุ่ งโรจน์หรื อชื่อเสี ยง ไม่นึกเลยว่าเธอจะนํา
ชื่อของเขามาใช้เพื่อยกระดับสถานภาพของตัวเอง
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกและกําลังจะจากไป ก็พอดีกบั ที่สาวน้อย
พูดต่อ “เขากลายเป็ นครู บาอาจารย์ของโลกไปแล้ว คําสอนของเขา
แพร่ หลายออกไปมากมาย ผูค้ นจํานวนมากภาคภูมิใจที่ได้รับความรู ้
จากสิ่ งที่เขาสอน…แต่ฉนั ไม่คิดว่านัน่ เป็ นความสู งส่ งหรื อน่าอิจฉา
แต่อย่างใด”
คําพูดนี้ทาํ ให้จางเซวียนชะงักฝี เท้าอีกครั้ง ฝูงชนส่ วนใหญ่ที่กาํ ลังจะ
จากไปหลังจากมองว่าการบรรยายครั้งนี้เป็ นแค่การนําชื่อเสี ยง
ปรมาจารย์จางมาอวดอ้างก็รีบหันกลับไปพร้อมกับขมวดคิ้ว
ความสําเร็ จและภูมิปัญญาของปรมาจารย์จางทําให้ท้ งั โลกสะท้าน
สะเทือน เขากลายเป็ นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาคนต่อไปถัดจาก
ปรมาจารย์ขง
แต่เธอกล้าพูดว่าผลงานของเขา ‘ไม่ได้สูงส่ งแต่อย่างใด’ พูดแบบนี้
หมายความว่าอย่างไร?
บรรยากาศตึงเครี ยดขึ้นมาทันทีขณะที่ความไม่พอใจปรากฏทัว่ ใน
หมู่ฝงู ชน
“โลกนี้มีความหลากหลาย ดูอย่างเมืองเล็ก ๆ ที่พวกคุณอาศัยอยูแ่ ม้
เราจะต้องการบุคคลผูส้ ู งส่ ง แต่เราก็ตอ้ งมีผทู ้ ี่ถ่อมตัวและติดดินด้วย
เหล่าปรมาจารย์ผเู ้ ผยแผ่คาํ สอนและนําภูมิปัญญามาสู่ โลกใบนี้ลว้ น
แต่ควรค่าต่อการเคารพ แต่คนขายเนื้อ เพชฌฆาตฆ่าสัตว์ พ่อค้าที่ซ้ือ
ขายแลกเปลี่ยนพืชผักของเขา…หรื อผูข้ นส่ งสิ นค้าจากที่หนึ่งไปอีก
ที่หนึ่งก็ไม่ต่างกัน ทุกอาชีพในโลกนี้ลว้ นแต่มีเหตุผลในการดํารงอยู่
ไม่มีความจําเป็ นจะต้องแบ่งแยกชนชั้นด้วยเกียรติยศหรื อศักดิ์ศรี สิ่ ง
ที่ทาํ ให้แต่ละคนต่างกันก็คือเราพร้อมจะทุ่มเทในสิ่ งที่เราทํา และรัก
ในสิ่ งนั้นจริ ง ๆ หรื อเปล่า”
“ปรมาจารย์จางรักวิชาชีพปรมาจารย์ดว้ ยหัวใจ เขาค้นพบวัตถุประสงค์
ในการเผยแผ่ภูมิปัญญาให้คนอื่น ๆ และกระตือรื อร้นในการค้นหา
ความลับต่าง ๆ นานาของโลก ความขยันหมัน่ เพียรและความมุ่งมัน่
ของเขาส่ งผลให้เขาก้าวขึ้นสู่ จุดสู งสุ ดของวิชาชีพปรมาจารย์”
“ฉันเป็ นคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีท้ งั ความปราดเปรื่ องหรื อ
ความสามารถอย่างที่เขามี แต่นนั่ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันมีความเป็ น
มนุษย์นอ้ ยกว่าเขา ฉันทําเท่าที่ฉนั ทําได้ โดยถ่ายทอดความรู ้และสัง่
สอนค่านิยมที่ถูกต้องให้ลูกศิษย์ของฉัน ฉันไม่เหมือนกับปรมาจารย์
จาง การบรรยายของฉันไม่ได้ยงิ่ ใหญ่พอที่จะระบือลือลัน่ ไปถึงทุก
มุมโลก แต่ฉนั ก็แน่ใจว่าคําสอนของฉันจะไม่นาํ พาบรรดาลูกศิษย์
ให้เดินผิดทาง และความรู ้ใดก็ตามที่ฉนั ถ่ายทอดออกไปก็ลว้ นแต่
ผ่านการตรวจสอบอย่างถี่ถว้ นจากตัวฉันแล้ว…ฉันคิดว่าเท่านั้นก็
เพียงพอ!”
“การจะอาศัยอยูใ่ นโลกใบนี้ เราต้องรู ้ขีดจํากัดของตัวเองและเดินตาม
เส้นทางที่เหมาะสมกับเรา ตลอด 2 ปี ที่ผา่ นมา ฉันเดินทางตระเวน
ไปทัว่ โลกและได้พบผูค้ นมากมาย ผูค้ นส่ วนใหญ่ ภาคภูมิใจที่ได้มี
ชีวติ อยูใ่ นยุคสมัยเดียวกันกับจางเซวียนซึ่งเป็ นครู บาอาจารย์ของโลก
ก็เหมือนกับยุคสมัยของปรมาจารย์ขง พวกเขาเชื่อว่าห้วงเวลานี้จะ
นําพามนุษย์ไปสู่ ความเจริ ญรุ่ งเรื องยิง่ ใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
และพวกเราก็โชคดีที่ได้มีชีวติ อยู่ ฉันไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับสิ่ งที่พวก
เขาพูดนะ แต่การที่พวกเรามีชีวติ อยูใ่ นยุคสมัยของความหวังและ
ความฝันนั้น มันหมายความว่าเรามีโอกาสที่จะได้พฒั นาตัวเองและ
กลายเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญผูท้ รงพลังคนหนึ่งของโลกอย่างนั้นหรื อ?”
“กลวง! มันเป็ นความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ไม่วา่ จะเป็ นยุคสมัยไหน ก็มี
คนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่มีความสามารถพอจะก้าวขึ้นถึง
จุดสู งสุ ด!”
“เอ่อ…” ฝูงชนที่กาํ ลังหงุดหงิดค่อย ๆ สงบลง
“มันดูน่าเศร้า แต่กเ็ ป็ นความจริ งอันโหดร้าย ไม่วา่ จะยุคสมัยไหนก็
เป็ นไปไม่ได้หรอกที่ทุกคนจะกลายเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ”
“ปรมาจารย์ขงฝันถึงโลกที่มวลมนุษย์ลว้ นแต่ทรงพลัง แต่วสิ ยั ทัศน์
ของเขาก็ไม่ได้เป็ นอะไรที่มากไปกว่าความฝัน มันยังคงเป็ นสิ่ งที่ไม่
มีทางเกิดขึ้นจริ ง”
“โลกนี้มีขอ้ จํากัดมากมายเกินไปที่ทาํ ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ ไม่วา่ จะ
เป็ นทรัพยากรที่ขาดแคลน ความถนัดแต่กาํ เนิดของแต่ละคนอีกทั้ง
การแข่งขันอันดุเดือดในหมู่นกั รบ”
“เป็ นเพราะอํานาจมักตกอยูใ่ นมือของคนส่ วนน้อย การจะได้เป็ น
ผูเ้ ชี่ยวชาญจึงเป็ นสิ่ งที่หลายคนปรารถนา”
ไม่นึกเลยว่าเธอจะเข้าใจอะไร ๆ มากขนาดนี้…จางเซวียนถึงกับชะงัก
เขาคิดว่าเสิ่ นปี้ หรู กาํ ลังใช้ชื่อเสี ยงของเขายกระดับสถานภาพของ
ตัวเอง แต่ใครจะไปรู ้วา่ เธอใช้มนั เพื่อบอกเล่าเรื่ องราวที่มีพลังขนาด
นี้ให้กบั ฝูงชน
สิ่ งที่น่ากลัวไม่ใช่การขาดสติปัญญา แต่คือความล้มเหลวในการรู ้
ขีดจํากัดของตัวเอง
ถ้าคน ๆ หนึ่งที่มีความสามารถในระดับที่เป็ นได้แค่ทหารธรรมดา
สามัญพยายามกระเสื อกกระสนจะเป็ นนายพล ก็คงมีแต่สร้างความ
เจ็บชํ้าให้ตวั เอง
“เลิกฟังเรื่ องเหลวไหลของเธอเถอะ ผมรู ้มาว่าในบรรดาลูกศิษย์ของ
ปรมาจารย์จาง ไม่มีสกั คนที่ไม่เก่งกาจ ทุกคนล้วนกลายเป็ น
ผูเ้ ชี่ยวชาญผูท้ รงอํานาจทั้งนั้น!”
“จริ งด้วย! ขอแค่เราได้พบครู บาอาจารย์ที่ดี ก็จะพัฒนาตัวเองให้
เหนือชั้นกว่านี้ได้!”
“คุณนึกหรื อว่าเพียงแค่คุณพูดว่าตัวเองเป็ นเพื่อนร่ วมงานของ
ปรมาจารย์จางแล้วพวกเราจะเชื่อ? ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับปรมาจารย์
จางล้วนแต่อยูไ่ กลเกินเอื้อมทั้งนั้น แล้วลําพังปรมาจารย์ระดับ 3 ดาว
อย่างคุณจะรู ้จกั เขาได้อย่างไร?”
หลังจากเงียบงันด้วยความประหลาดใจกันไปครู่ หนึ่ง ก็เกิดเสี ยงอื้อ
อึงเซ็งแซ่
คําพูดของเสิ่ นปี้ หรู ทาํ ให้ฝงู ชนเกิดความหยิง่ ในศักดิ์ศรี ข้ ึนมาพวก
เขารับไม่ได้ในสิ่ งที่เธอพูด
ความล้มเหลวมักเกี่ยวข้องกับเวลาและโชคชะตาเสมอ
นักเขียนคนหนึ่งอาจบอกว่าผลงานของเขาคือผลงานที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุด
เท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ แต่หากบรรณาธิการขาดวิสยั ทัศน์
ความปราดเปรื่ องของนักเขียนก็อาจต้องถูกกลบฝังลงท้าย เขาก็อาจ
ไม่ได้อะไรเลยแม้แต่การเซ็นสัญญา
เสิ่ นปี้ หรู ดูจะคาดเดาปฏิกิริยาของฝูงชนไว้แล้ว เธอยกมือขึ้นและพูด
ต่ออย่างสุ ขมุ “ฉันรู ้วา่ คําพูดของฉันทําให้พวกคุณหลายคนเจ็บปวด
แต่ลองสัมผัสหัวใจของคุณดู คุณเชื่อจริ ง ๆ หรื อว่าคําพูดเหล่านั้น
ล้วนแต่เหลวไหล? ฉันรู ้ตวั ว่าฉันเทียบอะไรกับปรมาจารย์จางผูเ้ ป็ น
ครู บาอาจารย์ของโลกที่น่ายกย่องไม่ได้ แต่มีพวกคุณสักกี่คนที่เชื่อ
ว่าเขามีความสุ ขกับชีวติ ของเขาจริ ง ๆ ?”
“ยิง่ คน ๆ หนึ่งมีความยิง่ ใหญ่มากเท่าไหร่ ความรับผิดชอบของเขาก็
ยิง่ หนักหน่วงขึ้นเท่านั้น ตลอดหนึ่งปี ที่ผา่ นมา ปรมาจารย์จางได้
เปลี่ยนกฎเกณฑ์ของทวีปแห่งปรมาจารย์ รบราฆ่าฟันกับเผ่าพันธุ์
ปี ศาจ และร่ วมมือกับร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์…แต่มีภารกิจไหน
บ้างที่เขาไม่ตอ้ งเสี่ ยงชีวติ ? ถ้าพวกคุณอยูใ่ นฐานะเดียวกับเขาและ
ทั้งหมดที่คุณต้องการก็คือรื่ นรมย์กบั ความรํ่ารวยและอํานาจแล้ว
พวกคุณจะกล้าหาญพอที่จะเผชิญอันตรายแบบนั้นไหม?”
ผูค้ นส่ วนใหญ่ที่ต่อต้านเสิ่ นปี้ หรู อยูเ่ มื่อครู่ ถึงกับพูดไม่ออก
ก็จริ ง ถ้าพวกเขามีสถานภาพและความปราดเปรื่ องเหมือนปรมาจารย์
จาง จะเต็มใจเข้ารบราฆ่าฟันกับเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผชิญหน้ากับพวก
ร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์ในตํานานหรื อเปล่า?
“คุณอาจคิดว่าปรมาจารย์จางคือบุคคลที่สูงส่ งเกินเอื้อม แต่เมื่อครั้งที่
ฉันสอนอยูใ่ นโรงเรี ยนเดียวกันกับเขา เขาเป็ นอาจารย์ที่ไม่ประสบ
ความสําเร็ จและโดนใคร ๆ ดูถูก เขาได้ศูนย์คะแนนในการทดสอบ
ประเมินคุณภาพอาจารย์และเกือบถูกไล่ออกจากโรงเรี ยนแต่ถึงจะมี
ความลําบากเหล่านั้น เขาก็ไม่เคยถอดใจ ปรมาจารย์จางไต่ข้ ึนไปที
ละขั้น ๆ จนประสบความสําเร็ จอย่างที่เป็ นอยูต่ อนนี้ถา้ คุณอยูใ่ น
สถานภาพเดียวกับเขา คุณจะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้นได้ไหม?”
เสิ่ นปี้ หรู ต้ งั คําถาม
ชีวะประวัติของจางเซวียนถูกเรี ยบเรี ยงเป็ นหนังสื อและแพร่ หลาย
ไปทัว่ โลก
ชีวติ ของปรมาจารย์จางเผชิญอันตรายมามาก แต่กไ็ ม่มีความลําบาก
ลําบนครั้งไหนที่ทาํ ให้เขาถอดใจ ถ้าพวกเขาอยูใ่ นสถานภาพเดียวกัน
กับปรมาจารย์จาง จะทําแบบเดียวกันกับอีกฝ่ ายได้หรื อไม่?
ฝูงชนส่ วนใหญ่ครุ่ นคิดกับคําถามนั้น แต่สุดท้ายก็ได้แต่ส่ายหน้า
สําหรับคนที่มีจิตใจอ่อนแอ การดูถูกเหยียดหยามที่จางเซวียนต้อง
เผชิญเมื่อครั้งอยูท่ ี่โรงเรี ยนหงเทียนก็มากเกินพอที่จะทําให้ถอดใจ
และจมดิ่งอยูก่ บั สุ ราแล้ว ส่วนใครที่มีจิตใจมุ่งมัน่ กว่านั้นขึ้นมาอีก
หน่อย อาณาจักรเทียนหวูก่ ค็ งเป็ นสถานที่ที่การเดินทางของพวกเขา
ต้องจบลง
คงไม่มีใครข้ามผ่านอุปสรรคอย่างที่จางเซวียนต้องเผชิญจนมามีชีวติ
รุ่ งโรจน์อย่างเขาได้
การอิจฉาคนอื่นนั้นง่าย แต่สาํ หรับประสบการณ์ที่อีกฝ่ ายได้ผา่ นมา
คงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเอาตัวรอดจากมันได้สาํ เร็ จ
ชีวติ ของคุณ การตัดสิ นใจของคุณ คุณจะต้องรู ้วา่ ตัวเองเป็ นใครเพื่อ
จะได้ตดั สิ นใจทําในสิ่ งที่ทาํ ให้ชีวติ ของคุณมีความหมายจางเซวียน
คิด
คําพูดของเสิ่ นปี้ หรู จบั ใจเขา ราวกับมีใครสักคนนําประสบการณ์
ทั้งหมดที่เขาผ่านมาตลอดครึ่ งปี มาเผาจนมอดไหม้ ทําให้เปลวเพลิง
ลุกโชนอยูภ่ ายในใจของจางเซวียน
ไม่วา่ จะเป็ นภูเขาอันโด่งดังหรื อทะเลสาบงดงาม ความอบอุ่นหรื อ
ความโหดร้ายของมนุษย์…ทุกอย่างที่เขาได้เผชิญและเข้าไปข้อง
เกี่ยวล้วนกลายเป็ นส่ วนหนึ่งของความทรงจํา ความทรงจําเหล่านี้
ร้อยรัดเข้าด้วยกันเพื่อถักทอเป็ นตัวเขาที่สมบูรณ์ มันโผขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า
ของทวีปแห่งปรมาจารย์ และมองดูโลกใบนี้ ราวกับสิ่ งมีชีวติ ที่เป็ น
อมตะ
ในชัว่ พริ บตานั้น จางเซวียนดูจะจมดิ่งลงสู่ การครุ่ นคิดอย่างลํ้าลึก
ความขัดข้องสงสัยมากมายในหัวใจของเขาหายวับไป ระดับวรยุทธ
ที่ชะงักงันตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมาพุง่ พรวดราวกับนํ้าที่รั่วออกจากเขื่อน
ที่พงั ทลาย
ตอนที่ 1908 นักปราชญ์ โบราณ! ผมจะเป็ นครู บาอาจารย์ ของโลก! (2)
เหตุผลที่จางเซวียนปลีกตัวออกมาตระเวนท่องโลกก็เพราะความ
สับสนในหัวใจ เขารู ้สึกว่าตัวเองหลงทางและหาทิศที่จะไปไม่เจอ
จางเซวียนพิจารณาประวัติของปรมาจารย์ขง แต่ชีวติ ของทั้งคู่แตกต่าง
กันอย่างสิ้ นเชิง เป็ นคนสองคนที่ไม่มีอะไรเหมือนกันสักนิด เขาไม่
อาจคาดหวังที่จะได้พบสิ่ งเดียวกันกับปรมาจารย์ขง ต่อให้พยายาม
เดินตามรอยของอีกฝ่ ายก็ตาม
จางเซวียนรู ้ดีวา่ การได้เป็ นครู บาอาจารย์ของโลกคือหนทางที่เขาจะ
สําเร็ จวรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณ ว่าแต่จะทําได้อย่างไร? โลกนี้
ช่างกว้างใหญ่และมีกฎกติกาของตัวเอง เสี ยงรํ่าร้องของเขาก็ไม่อาจ
ดังจนสวรรค์รับรู ้ แล้วเขาจะกลายเป็ นครู บาอาจารย์ของโลกได้
อย่างไร?
เมื่อทําความเข้าใจสิ่ งนี้ไม่ได้ จางเซวียนจึงรู ้สึกเหมือนอยูใ่ นมุมอับ
ไม่วา่ จะดิ้นรนแค่ไหนก็ไปไม่ได้ไกลกว่าเดิมสักนิด
แน่นอนว่าเขารู ้วา่ ความสับสนชนิดนี้เป็ นสิ่ งที่นกั รบทุกคนจะต้อง
เผชิญในช่วงชีวติ ของพวกเขา แต่มนั คือปราการที่เขาไม่รู้จริ ง ๆ ว่า
จะจัดการกับมันอย่างไร
ตลอดเวลาที่ผา่ นมา จางเซวียนพึ่งพาหอสมุดเทียบฟ้าในการฝึ กฝน
วรยุทธ เขาจะรวบรวมหนังสื อจํานวนมากมายเข้าด้วยกันและประมวล
มันขึ้นมา และหากจําเป็ น ก็ปรับเปลี่ยนแก้ไขไปตามขั้นตอน เมื่อ
มองภาพรวม ทุกอย่างที่เขาฝึ กฝนไม่อาจเรี ยกได้วา่ เป็ นการรังสรรค์
ของตัวเขาเองได้เลย แม้จะพัฒนาวรยุทธได้มากด้วยวิธีการนี้ แต่ก็
กลายเป็ นข้อจํากัดของเขาเช่นกัน
จางเซวียนสามารถปรับปรุ งเทคนิคการต่อสู ใ้ ด ๆ ก็ตามจนแน่ใจว่า
ปราศจากข้อบกพร่ อง แต่การพึ่งพาความสามารถของมันทําให้เขา
ไม่อาจฝึ กฝนได้หากไม่มีเทคนิควรยุทธที่ใช้อา้ งอิง
นี่คือข้อบกพร่ องใหญ่หลวงที่สุด และเขาก็กาํ ลังแบกรับผลกระทบ
ของมัน
แม้แต่สวรรค์ยงั มีขอ้ บกพร่ อง จึงไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ได้มาโดย
ปราศจากการแลกเปลี่ยน
ดังนั้น จางเซวียนจึงออกเดินทางท่องโลก เขาไม่รู้วา่ จะต้องใช้
เวลานานแค่ไหนและไม่รู้วา่ มันจะนําพาเขาไปยังจุดใด แต่นนั่ คือ
ทั้งหมดที่ทาํ ได้ในตอนนี้
การเดินทางช่วยเปิ ดหูตาให้กว้างไกล ทําให้เขาเข้าใจเรื่ องราวมากมาย
ของโลกใบนี้ที่ไม่เคยรู ้มาก่อน แต่เมื่อฟังคําพูดของเสิ่ นปี้ หรู ก็ทาํ ให้
รู ้สึกอะไรได้บางอย่าง
คําตอบที่เขาเสาะแสวงหาตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมาไม่ใช่สิ่งที่จะหาพบ
ได้จากที่ไหนในโลก มันอยูภ่ ายในตัวเขา
ทั้งหมดที่เขาต้องทําคือทําให้ดีที่สุด ไม่จาํ เป็ นต้องวุน่ วายและใส่ ใจ
กับประสบการณ์ของคนอื่น
ทุกคนมีเส้นทางของตัวเองให้เดิน ไม่มีความจําเป็ นต้องเลียนแบบ
ใคร สิ่ งที่เขาต้องทําคือซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตัวเองและก้าวต่อไปบน
เส้นทางที่เลือกแล้วอย่างมัน่ คง เท่านั้นก็มากพอ
ต่อให้ไม่มีเทคนิควรยุทธที่ดีพร้อมให้เขาได้ฝึกฝนและเขาไม่อาจ
กลายเป็ นครู บาอาจารย์ของโลก ก็แค่เป็ นตัวของตัวเองที่สมบูรณ์
แบบ เท่านั้นก็พอแล้ว!
“ขอบคุณมาก เสิ่ นปี้ หรู !”
จางเซวียนยิม้ ออกเมื่อรู ้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่ างกาย เขาได้
คําตอบของตัวเองแล้ว และในที่สุดก็พร้อมจะฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ น
นักปราชญ์โบราณ
ทัว่ ทั้งบริ เวณมีแต่ความเงียบงัน
เสี ยงของจางเซวียนไม่ดงั นัก แต่ดึงดูดความสนใจของฝูงชนในทันที
เสิ่ นปี้ หรู หนั มามองเมื่อได้ยนิ เสี ยงนั้น เธอตาโตด้วยความตื่นเต้น
“อาจารย์จาง! คุณมาทําอะไรที่นี่?”
ถ้าจางเซวียนไม่อยากให้ใครจดจําเขาได้ ต่อให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกัน
ที่สุดก็มองการปลอมตัวของเขาไม่ออก
แต่เพราะสํานึกในบุญคุณของเสิ่ นปี้ หรู จึงไม่อยากปกปิ ดตัวตนของ
ตัวเองกับเธอ ด้วยเหตุน้ ี สาวน้อยจึงดูออกทันทีวา่ เขาคืออาจารย์ที่ไม่
ประสบความสําเร็ จและโดนใคร ๆ ดูถูก อีกทั้งยังเกือบถูกไล่ออก
จากโรงเรี ยนหงเทียนเมื่อ 2 ปี ก่อน, จางเซวียน!
รู ปร่ างหน้าตาของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักตลอด 2 ปี ที่ผา่ นมา
นอกจากชื่อเสี ยงที่โด่งดังกว่าเดิม อีกทั้งผิวพรรณที่เรี ยบเนียนและ
นัยน์ตาที่ล้ าํ ลึกกว่าแต่ก่อน
“ครั้งสุ ดท้ายที่เราพบกันก็นานมากแล้วนะ” จางเซวียนยิม้ ตอบขณะ
เดินช้า ๆ ขึ้นไปบนเวที
“ใช่ นานมากแล้ว…” เสิ่ นปี้ หรู พยักหน้าขณะตัวสัน่ ด้วยความตื่นเต้น
เธอเคยคิดว่าด้วยสถานภาพที่แตกต่างกันลิบลับระหว่างเธอกับเขา
คงไม่มีทางที่จะได้พบกันอีก ใครจะไปคิดว่าการกลับมาพบกันอีก
ครั้งจะเกิดขึ้นอย่างปุบปับแบบนี้?
ชายหนุ่มยังคงเหมือนเดิม ทั้งรอยยิม้ ใสซื่ อและท่าทีที่ปราศจากการ
วางมาด
“ปรมาจารย์จาง?”
“เมื่อกี้เธอพูดว่าเธอเป็ นเพื่อนร่ วมงานของปรมาจารย์จาง แล้วตอนนี้
ก็ดูตกตะลึงขึ้นมาดื้อ ๆ …หรื อเธอกําลังจะบอกว่าชายหนุ่มคนนั้น
คือครู บาอาจารย์ของโลก, ปรมาจารย์จาง?”
“การที่เธอจะพูดมัว่ ๆ กับเราก็เป็ นเรื่ องหนึ่งนะ แต่ถึงกับแอบอ้าง
หน้าตาเฉยอย่างนี้…คิดจะดูถูกสติปัญญาของพวกเราหรื อไง?”
“นี่คิดจะทดสอบความอดทนของพวกเราจนถึงหยดสุ ดท้ายใช่ไหม?
ถ้าหมอนัน่ คือปรมาจารย์จางจริ ง ๆ ผมก็เป็ นประธานสภาปรมาจารย์
แล้วล่ะ!”
“ปรมาจารย์จางผูส้ ู งส่ งจะมาอยูใ่ นเมืองไกลปื นเที่ยงของพวกเราได้
อย่างไร? แม่นนั่ อาจดูสวยก็จริ ง แต่หวั จิตหัวใจสกปรกเหลือเกิน…”
…..
ทั้งคู่ไม่ได้พยายามปกปิ ดการพูดคุย บทสนทนาของพวกเขาจึงทําให้
ฝูงชนโมโหเดือด ราวกับมีใครสักคนโยนดินปื นเข้าสู่ กองเพลิง
ปรมาจารย์จางเป็ นบุคคลที่พวกเขาเคารพก็จริ ง แต่ทุกคนก็รู้ดีวา่ อีก
ฝ่ ายอยูไ่ กลเกินเอื้อม ไม่มีทางที่พวกเขาจะได้เจอปรมาจารย์จางตัว
เป็ น ๆ แน่
แต่สาวน้อยคนนั้นกลับเรี ยกชื่อ ‘อาจารย์จาง’ ออกมาทันทีหลังจาก
พูดจบ…เธอกําลังจะบอกว่าชายหนุ่มที่ดูถ่อมเนื้อถ่อมตัวคนนั้นคือ
จางเซวียนจริ ง ๆ หรื อ?
คุณกําลังตบตาพวกเราแล้วล่ะ!
ที่โม้ออกมานัน่ ก็ยงั พอรับได้ แต่ทาํ ให้ปรมาจารย์จางเสื่ อมเสี ย
ชื่อเสี ยงด้วย…ให้อภัยไม่ได้จริ ง ๆ !
“คุณไม่รู้หรื อว่าการแอบอ้างตัวเป็ นปรมาจารย์จางคือข้อห้ามของ
สภาปรมาจารย์ คุณจะถูกลงโทษข้อหากระด้างกระเดื่องนะ
ไม่อย่างนั้น สภาปรมาจารย์จะคงความน่าเชื่อถือไว้ได้อย่างไร?”
ปรมาจารย์คนหนึ่งที่อยูท่ ่ามกลางฝูงชนร้องออกมาด้วยความโกรธ
“จริ งด้วย! จับเจ้าคนชัว่ ร้ายหลอกลวงสองคนนั้นไว้ ถลกหนังเลย…”
อีกคนตะโกนออกมา
แต่ยงั ไม่ทนั ขาดคํา เสี ยงสัน่ ๆ เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นกลางอากาศ “พอที!
เกิดอะไรขึ้นน่ะ…”
ฝูงชนที่กาํ ลังโมโหพากันจับจ้องเวที สิ่ งที่เห็นเกือบทําให้พวกเขาลม
จับ
ชายหนุ่มที่แอบอ้างตัวว่าเป็ น ‘ปรมาจารย์จาง’ กําลังยิม้ ละไมและ
ลอยขึ้นสู่ กลางอากาศอย่างช้า ๆ
ทุกคนรู ้กนั ว่าความสามารถหนึ่งของนักรบที่สาํ เร็ จวรยุทธระดับ
เซี ยนแล้วคือการบินได้ หรื อว่าแท้ที่จริ ง เจ้าคนที่กาํ ลังแอบอ้างตัวต่อ
หน้าพวกเขาจะเป็ นนักรบระดับเซียน?
แต่ยงั ไม่ทนั ที่ทุกคนจะรู ้วา่ เกิดอะไรขึ้น เสี ยงกึกก้องก็ดงั ขึ้นกลาง
อากาศขณะหมู่เมฆดํานับไม่ถว้ นพุง่ เข้ามา
อาณาบริ เวณของหมู่เมฆดํานั้นกว้างใหญ่มาก มันครอบคลุมทัว่ ทั้ง
เมืองอย่างรวดเร็ ว แถมยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ชา้ มันก็แผ่ออกไป
จนสุ ดขอบฟ้า ทัว่ ทุกหนแห่งมืดมิดไปหมด
“นี่คือ…การทดสอบวรยุทธ?”
“เกิดการทดสอบวรยุทธขนาดมหึ มาแบบนี้ข้ ึนได้อย่างไร?”
“ว่ากันว่าแม้แต่การทดสอบนักปราชญ์โบราณที่ไร้เทียมทานที่สุดก็
ยังกินอาณาบริ เวณราวหนึ่งแสนหมู่เท่านั้น แต่นี่ปาเข้าไปอย่างน้อยก็
หนึ่งล้านหมู่แล้วใช่ไหม?”
ฝูงชนด้านล่างตกตะลึงอย่างหนัก
“สามารถเรี ยกการทดสอบวรยุทธที่ใหญ่โตขนาดนี้มาได้ หรื อว่าชาย
หนุ่มคนนั้นคือปรมาจารย์จางจริ ง ๆ ?”
เมื่อเริ่ มสงสัย ต่างคนต่างเงียบกริ บ
ก็จริ ง นอกเสี ยจากปรมาจารย์จาง ใครกันที่จะสร้างปรากฏการณ์
ระดับนี้ได้?
…..
ที่ศาลาว่าการที่ราบธารนํ้าแข็ง
“ท่านแม่ วางใจเถอะ ฉันจะดูแลตัวเอง จะไม่ทาํ อะไรหุนหันพลัน
แล่น” สาวน้อยที่มีผวิ พรรณเรี ยบเนียนราวกับประติมากรรมนํ้าแข็ง
ยิม้ หวานให้ความมัน่ ใจกับหญิงวัยกลางคนผูห้ นึ่ง
เธอคือหัวหน้าศาลาว่าการที่ราบธารนํ้าแข็ง, จ้าวหย่า
หญิงวัยกลางคนที่อยูต่ รงหน้าคืออดีตหัวหน้าศาลาว่าการที่ราบธาร
นํ้าแข็ง, ท่านแม่ของเธอเอง
ในครั้งนั้น หลังจากที่ความขัดแย้งระหว่างท่านอาจารย์ของเธอกับ
กลุ่มอํานาจอื่น ๆ ในสมาพันธ์นานาจักรวรรดิได้รับการคลี่คลายไป
จ้าวหย่าก็รีบกลับมายังศาลาว่าการที่ราบธารนํ้าแข็งเพื่อปลดปล่อย
ท่านแม่ของเธอ จากนั้นก็พาท่านแม่กลับอาณาจักรเทียนเซวียน
เพื่อให้พบกันกับท่านพ่ออีกครั้ง ก่อนจะพาทั้งคู่กลับมายังศาลาว่า
การที่ราบธารนํ้าแข็ง
“ลูกเอาแต่ปลีกวิเวกเพื่อฝึ กฝนวรยุทธ ไม่ยอมกินหรื อดื่มอะไร
เลย…” ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาขณะส่ ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “พ่อ
กับท่านแม่ของลูกเกรงว่าลูกจะบีบบังคับตัวเองมากเกินไป!”
เขาคือท่านพ่อของจ้าวหย่า, ขุนนางของเมืองไป๋ หยูแห่งอาณาจักร
เทียนเซวียน, จ้าวเฟิ ง!
หลังจากปรมาจารย์จางหายตัวไป ลูกสาวของเขาก็ออกตระเวนไป
ทัว่ โลกเพื่อพยายามตามหาอีกฝ่ าย แต่เวลาผ่านไประยะหนึ่งแล้วก็ยงั
ไม่พบจางเซวียน จึงตัดสิ นใจกลับมายังศาลาว่าการที่ราบธารนํ้าแข็ง
แต่ทนั ทีที่กลับมาถึง จ้าวหย่าก็ทุ่มเทเวลาให้กบั การฝึ กฝนวรยุทธไม่
เป็ นอันกินอันนอน…ช่างเจ็บปวดหัวใจที่ได้เห็นลูกสาวของเขาใช้
ชีวติ แบบนี้
แม้จา้ วหย่าจะสําเร็ จวรยุทธเหนือชั้นกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึง
แต่ความหุนหันพลันแล่นของเธอก็นาํ พาเธอเข้าสู่ อนั ตรายไปพร้อม ๆ
กับการยกระดับวรยุทธ ทั้งสองรู ้สึกว่าสุ ดท้ายจ้าวหย่าอาจเป็ น
อันตรายเพราะสิ่ งนี้
“ฉันไม่เป็ นไร แค่อยากให้ท่านอาจารย์ภาคภูมิใจเมื่อเขากลับมาไม่
อยากให้เขาผิดหวังในตัวฉัน” จ้าวหย่าตอบยิม้ ๆ
ความทรงจําระหว่างตัวเธอกับท่านอาจารย์ร้อยเรี ยงกันเข้ามาในหัว
สมอง เติมเต็มความแข็งแกร่ งให้เธออีกครั้ง จ้าวหย่ากําลังจะปลอบ
โยนท่านพ่อท่านแม่ของเธอก่อนจะกลับไปฝึ กฝนวรยุทธต่อก็พอดี
กับที่ตอ้ งเลิกคิว้
เธอเงยหน้ามอง เห็นท้องฟ้าที่อยูไ่ กลออกไปถูกปกคลุมด้วยเมฆดํา
กลุ่มใหญ่ มันกําลังเคลื่อนตัวเข้าหาศาลาว่าการที่ราบธารนํ้าแข็ง
ตอนที่ 1909 นักปราชญ์ โบราณ! ผมจะเป็ นครู บาอาจารย์ ของโลก! (3)
“นี่คือ…”
จ้าวหย่าอึ้งไปด้วยความตกใจ
นัน่ เพราะเธอรู ้ทนั ทีวา่ แม้ดว้ ยระดับวรยุทธที่มี ก็ยงั ไม่อาจมองเห็น
อาณาบริ เวณทั้งหมดของหมู่เมฆดํานั้นได้!
จากการพากเพียรฝึ กฝนอย่างหนักตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา จ้าวหย่า
สําเร็ จวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือดโลกจารึ กแล้ว แม้จะยัง
ห่างไกลจากการฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติแต่ก็
ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่ งของเธอมากเกินพอที่จะทําให้เธอ
ขึ้นเป็ นสุ ดยอดของโลกใบนี้
แต่ถึงอย่างนั้น จ้าวหย่าก็ยงั มองไม่เห็นอาณาเขตปลายสุ ดของหมู่เมฆ…
นัน่ หมายความว่าหมู่เมฆกลุ่มนี้มีความยาวหลายแสนลี้?
“มันอะไรกัน? ทําไมถึงมีเมฆดําขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นที่นี่?” จ้าวเฟิ ง
กับภรรยาของเขารู ้ทนั ทีวา่ มีบางอย่างผิดปกติ ทั้งคู่ต่างพรั่นพรึ งกับ
สิ่ งที่เห็น
“ดูเหมือนจะเป็ นการทดสอบวรยุทธ…ท่านอาจารย์! ใช่แล้วล่ะท่าน
อาจารย์ของฉันกลับมาแล้วแน่ ๆ !” จ้าวหย่าตาโตด้วยความตื่นเต้น
เธอไม่มีอารมณ์จะฝึ กฝนวรยุทธต่อ จ้าวหย่ารี บพุง่ ไปยังทิศทางที่หมู่
เมฆดําก่อตัว
นอกเสี ยจากท่านอาจารย์ของเธอ ไม่มีใครอีกแล้วในโลกใบนี้ที่เรี ยก
หมู่เมฆดําขนาดใหญ่แบบนั้นมาได้ เขาคือหนึ่งเดียวในโลก!
…..
“ครู บาอาจารย์คือผูม้ ีหน้าที่ถ่ายทอดความรู ้และไขข้อสงสัยของลูก
ศิษย์ แม้สภายอดขุนพลของเราจะไม่มีความสามารถในการถ่ายทอด
ภูมิปัญญา แต่เราก็คลี่คลายเทคนิคและทักษะการต่อสู ต้ ่าง ๆ ให้
กระจ่างได้ สิ่ งนี้เชื่อมโยงกับหน้าที่ความรับผิดชอบของครู บาอาจารย์
และนัน่ คือเหตุผลที่พวกเราเป็ นส่ วนหนึ่งของสภาปรมาจารย์ แทนที่
จะแยกตัวออกไปเป็ นองค์กรอิสระ”
เจิ้งหยางยืนอยูต่ รงหน้ากองทัพที่มีจาํ นวนนับหมื่น เขามองยอดขุนพล
ที่ได้รับการบรรจุใหม่อย่างเคร่ งขรึ มขณะพูดคํานั้น
ตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา สภายอดขุนพลแข็งแกร่ งขึ้นมาก โดยเฉพาะ
หลังจากที่เจิ้งหยางได้ถ่ายทอดความรู ้ที่เขารับมาจากจางเซวียน
เหล่าสมาชิกของสภายอดขุนพลต่างแข็งแกร่ งกว่าแต่ก่อน แต่ละคน
มีพละกําลังมากพอจะรับมือกับนักรบได้หลายร้อยคนในคราวเดียว
“พวกเราเข้าใจ!”
ฝูงชนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
ทุกคนรับรู ้วรี กรรมอันน่าทึ่งของหัวหน้ายอดขุนพลและท่านอาจารย์
ของเขา ต่างคนต่างเฝ้ารอที่จะได้เป็ นส่ วนหนึ่งของตํานานที่พวกเขา
สร้างขึ้น ถือเป็ นความปรารถนาสู งสุ ดที่จะได้ติดตามชายหนุ่มผูท้ รง
เกียรติคนนี้ และตอนนี้ความปรารถนาของทุกคนก็กลายเป็ นจริ ง!
เห็นทุกคนมีกาํ ลังใจฮึกเหิ ม เจิ้งหยางหยุดการปราศรัย “เอาล่ะเริ่ ม
การฝึ กของวันนี้ได้!”
เขากําลังจะสัง่ การครู ฝึกให้เริ่ มกระบวนการ ก็พอดีกบั ที่เงยหน้าขึ้น
และเห็นความมืดมิดครอบคลุมมาแต่ไกล
“เมฆดําพวกนี้…การทดสอบวรยุทธใช่ไหม?” เจิ้งหยางอึ้งไปครู่
หนึ่งก่อนจะพลันนึกได้ “ท่านอาจารย์! เขากําลังจะฝ่ าด่านวรยุทธไป
เป็ นนักปราชญ์โบราณแล้ว!”
เจิ้งหยางกระทืบเท้าเบา ๆ จากนั้นก็หายวับไป
…..
ที่เมืองหลวงของเผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่น หลิวหยางนัง่ อยูบ่ นบัลลังก์
สู งใหญ่ กําลังจับจ้องบริ วารของเขาขณะสัง่ การด้วยนํ้าเสี ยงเยือกเย็น
ทรงอํานาจ “ผมบอกหลายครั้งหลายหนแล้วนะ น่าเบื่อเหลือเกินที่
ต้องพูดซํ้าอีก เผ่าพันธุ์ปีศาจทุกตัวจะต้องรักษาความสัมพันธ์อนั ดี
กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ การปะทะทุกรู ปแบบถือเป็ นข้อห้าม ใครก็
ตามที่กล้าฝ่ าฝื นจะถูกสังหารทันที! ผมยังต้องสอนพวกคุณอีกไหม
ว่าควรทําอย่างไร?”
บรรดาเผ่าพันธุ์ปีศาจรี บทรุ ดตัวลงคุกเข่าด้วยความหวาดกลัว “ขอรับ
ฝ่ าบาท พวกเราจะทําตาม คําสัง่ !”
หลังจากเสร็ จสิ้ นพิธีสถาปนาได้ไม่นาน อํามาตย์เฉิ นหย่งคนใหม่ก็
ปรับเปลี่ยนทุกอย่างไปโดยสิ้ นเชิง ด้วยความพยายามของเขา
เผ่าพันธุ์ปีศาจเริ่ มยอมรับการอยูร่ ่ วมกันกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ความตึง
เครี ยดที่มีมาตั้งแต่แรกระหว่างสองเผ่าพันธุ์เริ่ มคลี่คลายแน่นอนว่า
ข้อขัดแย้งที่มีมา ตลอดหลายหมื่นปี ไม่อาจถูกระงับไปโดยง่าย แต่
อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้กป็ ราศจากการสู ร้ บต่าง ๆ อย่างสิ้ นเชิง
ในท้ายที่สุด เวลาจะชําระล้างความเป็ นปฏิปักษ์ระหว่างสองเผ่าพันธุ์
ไปเอง นํามาซึ่งยุคสมัยแห่งความมัน่ คงและกลมเกลียว
แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์กบั เผ่าพันธุ์ปีศาจอยู่
บนพื้นฐานของผลประโยชน์ เผ่าพันธุ์ปีศาจสามารถเข้าถึงทรัพยากร
ลํ้าค่าที่ซ้ือขายแลกเปลี่ยนกันในทวีปแห่งปรมาจารย์พวกมันสามารถ
พัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้โดยนําเทคโนโลยีของเผ่าพันธุ์มนุษย์
มาประยุกต์ใช้
เมื่อมีผลประโยชน์ ก็เกิดกลุ่มก๊วนจํานวนหนึ่งในหมู่เผ่าพันธุ์ปีศาจที่
เริ่ มสนับสนุนนโยบายของอํามาตย์เฉิ นหย่งคนใหม่อย่างเปิ ดเผย
ที่สาํ คัญกว่านั้น อํามาตย์เฉินหย่งยังนําเทคนิควรยุทธชุดใหม่มาใช้ ที่
ทําให้เผ่าพันธุ์ปีศาจสามารถฝึ กฝนได้อย่างรวดเร็ วแม้จะไม่ได้กิน
เลือดเนื้อและจิตวิญญาณของปรมาจารย์และมวลมนุษย์
เมื่อสองฝ่ ายมีผลประโยชน์ร่วมกัน ความตึงเครี ยดระหว่างสอง
เผ่าพันธุ์กล็ ดน้อยลงมาก
“เอาล่ะ จบการประชุมเพียงเท่านี้ พวกคุณไปได้!”
หลิวหยางโบกมือ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไป เพื่อเป็ นการ
แสดงความเคารพ เหล่าบริ วารจะออกไปได้กต็ ่อเมื่อฮ่องเต้ออกจาก
ท้องพระโรงไปแล้วเท่านั้น
แต่ในตอนนั้น หมู่เมฆดําก็ปรากฏขึ้นจากระยะไกล ครอบคลุมทัว่ ทั้ง
ท้องฟ้าในชัว่ พริ บตา
“ท่านอาจารย์…” หลิวหยางนัยน์ตาแดงกํ่าด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็น
ภาพนั้น เขาสะบัดข้อมือและเปิ ดทางเดินแห่งมิติโดยไม่ลงั เลจากนั้น
ก็กา้ วเข้าสู่ ทางเดินและและหายวับไปจากสายตาอึ้งทึ่งของเหล่า
บริ วาร
หลังจากเหนื่อยยากมาตลอดครึ่ งปี ในที่สุดสถานการณ์ในหมู่เผ่าพันธุ์
ปี ศาจก็มนั่ คง เขาสามารถตามหาท่านอาจารย์ได้อีกครั้ง
…..
สถานการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นที่ร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์ใน
อาณาจักรคุณฉื่อ
ขงซื อเหยาจ้องมองท้องฟ้ามืดครึ้ มขณะตัวสัน่ ด้วยความตื่นเต้น
หลังจากที่หายไปเนิ่นนาน ในที่สุดท่านอาจารย์ของเธอก็ปรากฏตัว
อีกครั้งแล้วใช่ไหม?
“ระหว่างนี้ฉนั จะฝากอาณาจักรคุนฉื่อให้คุณดูแลนะ ขอออกไปข้าง
นอกสักหน่อย!”
ขงซือเหยาไม่รอคําตอบจากอีกฝ่ าย เธอมุ่งหน้าเข้าสู่ ทวีปแห่ง
ปรมาจารย์ทนั ที
…..
หลังจากทําตัวลึกลับอยู่ 6 เดือน ในที่สุดจางเซวียนก็สร้างความอึกทึก
ครึ กโครมครั้งใหญ่ข้ ึนในโลกด้วยการฝ่ าด่านวรยุทธของเขา
“นัน่ เขาแหละ…ใช่เขาจริ ง ๆ !”
“ไม่ตอ้ งสงสัย นอกจากปรมาจารย์จาง ก็ไม่มีใครแล้วที่ทาํ แบบนี้ได้
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจําเขาไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เขาอยูต่ ่อหน้าต่อตาเรานี่เอง
แถมเรายังพยายามจะจับตัวเขาด้วย…”
“พระเจ้า ผมมีโอกาสได้เห็นปรมาจารย์จางตัวเป็ น ๆ แล้ว ตอนนี้ก็
ตายตาหลับแล้วล่ะ!”
…..
ขณะที่ความจริ งถูกเปิ ดเผยในเมืองเล็ก ๆ แห่งนั้น ผูค้ นมากมายที่อยู่
รอบเวทีพากันตัวแข็งด้วยความตกตะลึง
ก่อนหน้านี้ ตอนที่เสิ่ นปี้ หรู พดู ว่าเธอคือเพือ่ นร่ วมงานของปรมาจารย์
จาง ไม่มีสกั คนที่เชื่อเธอ และเมื่อเธอบอกว่าชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้า
พวกเขาคือปรมาจารย์จางตัวจริ ง ทุกคนก็พากันเหยียดหยาม มอง
เป็ นเรื่ องเหลวไหลไร้สาระ
แต่กลับกลายเป็ นว่าทุกอย่างคือเรื่ องจริ ง!
ชายหนุ่มผูน้ ่าทึ่งที่ได้รับความเคารพชื่นชมจากคนทั้งโลกกําลังยืน
อยูต่ รงหน้าพวกเขาแล้ว!
“เขาไม่เปลี่ยนเลย โดดเด่นที่สุดในหมู่ฝงู ชนเสมอ” เสิ่ นปี้ หรู ต้ งั
ข้อสังเกตพร้อมกับยิม้ อย่างจนปัญญา
เท่าที่เธอรู ้จกั ชายหนุ่มคนนี้มา เขาเป็ นที่เตะตาของใคร ๆ เสมอ เธอ
เคยคิดว่าเขาคงลดความโดดเด่นลงบ้างหลังจากมาได้ไกลขนาดนี้แต่
อีกฝ่ ายกลับไม่ต่างจากเดิมสักนิด ราวกับเขาไม่รู้จกั ความคิดเรื่ องการ
นอบน้อมและถ่อมเนื้อถ่อมตัวเลย
…..
จางเซวียนไม่รับรู ้ความตื่นเต้นของฝูงชน
เขาใคร่ ครวญการหยัง่ รู ้ครั้งใหม่ของตัวเองอย่างถี่ถว้ น รู ้สึกราวกับ
ลําแสงของอรุ ณรุ่ งได้ทะลุเข้าสู่ ความมืดมิดในหัวใจของเขาเผยให้
เห็นเส้นทางใหม่
ความรู ้สึกนี้หนักหน่วงถึงขนาดสัมผัสได้ในส่ วนลึกของจิตวิญญาณ
“เพราะฉะนั้น นี่กค็ ือสิ่ งที่เราตามหามาตลอด” จางเซวียนพึมพํา
พร้อมกับยิม้ น้อย ๆ ขณะมองหมู่เมฆดําที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตกับ
สายฟ้าที่อยูร่ อบตัว
เห็นได้ชดั ว่าการทดสอบวรยุทธที่เขาต้องเผชิญคราวนี้มีพละกําลัง
ทําลายล้างสู งมาก มันแข็งแกร่ งกว่าที่เขาเจอมาในครั้งไหน ๆ
สายฟ้าและเปลวเพลิงสวรรค์รวมตัวเข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็ นอาวุธ
ขนาดใหญ่มากมายนับไม่ถว้ น แต่ละชิ้นพุง่ ตรงเข้าใส่ จางเซวียน
ด้วยความแรงของมัน ดูเหมือนว่าต่อให้นกั รบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติก็
ไม่น่ารับมือกับพละกําลังน่าสะพรึ งขนาดนี้ได้
อันที่จริ ง ดูเหมือนมันเหนือชั้นกว่าทุกสิ่ งทุกอย่างในโลกใบนี้
มันคือพละกําลังอันเป็ นอมตะที่พร้อมทําลายล้างเป้าหมายของมัน
ต่อให้จางเซวียนที่เพิ่งผ่านการหยัง่ รู ้ครั้งใหม่มาหมาด ๆ ก็ไม่น่า
รับมือไหว
แต่…
ในเมื่อเขาไม่มีโอกาสเอาชนะมัน ทําไมถึงยังคิดจะสู ก้ บั มันอีก?
สี หน้าของจางเซวียนไม่เปลี่ยนแม้แต่นอ้ ย เขาพึมพํา
“สลายตัว”
เสี ยงนั้นพุง่ ทะลุความว่างเปล่า ดังกึกก้องขึ้นสู่ สวรรค์
ฟึ่ บ!
ราวกับได้พบศัตรู ตวั ฉกาจ บรรดาอาวุธที่ทาํ จากสายฟ้าและเปลว
เพลิงสวรรค์ต่างสลายตัวเป็ นอากาศธาตุอย่างรวดเร็ ว
ในเวลาเดียวกัน ภายใต้คาํ สัง่ ของเขา หมู่เมฆดําก็ค่อย ๆ กระจายตัว
เผยให้เห็นท้องฟ้าใสกระจ่างอีกครั้ง
ถ้าเป็ นเมื่อก่อน จางเซวียนต้องใช้ยทุ ธวิธีและเทคนิคมากมายเพื่อ
เอาชนะการทดสอบวรยุทธ แต่ดว้ ยความสามารถที่มีอยูใ่ นตอนนี้เขา
สลายมันได้ดว้ ยคําพูดคําเดียว
ราวกับว่าสวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์ยอมจํานนให้เขาแล้ว เขา
กลายเป็ นผูบ้ งการโลก ทุกคําสัง่ ของเขาจะชี้ชะตาอนาคตของโลกใบนี้
นี่คืออานุภาพของวาจาสิ ทธิ์!
การฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักปราชญ์โบราณหมายถึงการเข้าถึง
กฎเกณฑ์บางอย่างที่เหนือชั้นกว่าโลก แต่จางเซวียนในตอนนี้ไป
ไกลกว่านั้น การดํารงอยูข่ องเขาข้ามพ้นขีดจํากัดของโลกแล้ว ทําให้
เป็ นผูอ้ ยูเ่ หนือสวรรค์
ขณะที่การทดสอบนักปราชญ์โบราณสลายตัวไป พลังงานมหาศาลก็
พวยพุง่ ออกจากร่ างของเขาและพุง่ ตรงขึ้นสู่ สวรรค์ กดข่มทุกสิ่ งที่อยู่
ในพื้นที่น้ นั
บึ้มมมม!
เมื่อไม่อาจระงับพลังปราณไว้ได้อีกต่อไป รังสี ของจางเซวียนเข้มข้น
ขึ้นเรื่ อย ๆ ในชัว่ พริ บตา จากวรยุทธขั้นชัว่ กัลปาวสานโลกจารึ กเขา
ก็สาํ เร็ จวรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณ
นักปราชญ์โบราณขั้น 1 การสื บทอดสายเลือด!
นักปราชญ์โบราณขั้น 2 บรมครู นกั ปราชญ์!
นักปราชญ์โบราณขั้น 3 การฟื้ นคืนชีพของสายเลือด!
ทุกอย่างที่จางเซวียนได้สงั่ สมมาเพื่อการฝึ กฝนวรยุทธกําลังสําแดง
อานุภาพของมัน
ภายในไม่ถึง 10 อึดใจ เขาก็ฝ่าด่านวรยุทธไปได้ถึง 3 ขั้น จนถึง
วรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือดโลกจารึ ก!
ความสําเร็ จของเขาน่าสะพรึ งกว่าขงซือเหยา อันที่จริ ง แม้แต่การฝ่ า
ด่านวรยุทธของปรมาจารย์ขงก็ยงั ไม่รวดเร็ วขนาดนี้!
เมื่อรู ้สึกได้ถึงพลังงานที่พลุ่งพล่านทัว่ ร่ าง จางเซวียนยิม้ ออกขณะลด
สายตาลงมองพื้นโลกประหนึ่งตัวเขาเป็ นเทพเจ้าจากสวรรค์ ในตอน
นั้น เขาดูทรงพลังอย่างที่ไม่อาจมีใครทําลายล้างได้
ความเงียบงันอบอวลไปทัว่ ขณะท้องฟ้ากระจ่างใสอีกครั้ง จากนั้น
เสี ยงทรงพลังงามสง่าก็ดงั กึกก้อง
“นับจากวันนี้ไป ผมคือครู บาอาจารย์ของโลก!”
ตอนที่ 1910 ความพิเศษของจ้ าวหย่ า
นับตั้งแต่วนิ าทีที่สาํ เร็ จวรยุทธเป็ นนักปราชญ์โบราณ จางเซวียนรู ้ตวั
ว่าเขาคือผูอ้ ยูเ่ หนือสวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์ กลายเป็ นครู บา
อาจารย์ของโลกอย่างแท้จริ ง
ทุกคําพูดและการกระทําของเขาสามารถบงการเจตจํานงของสวรรค์
และแม้แต่แก้ไขมันให้ถูกต้องได้ นี่คือความสามารถเดียวกันกับที่
เหล่าทายาทของปรมาจารย์ขงมี…คือวาจาสิ ทธิ์
เขาเคยคิดว่าตัวเองหลุดพ้นจากเส้นทางของปรมาจารย์ขงไปแล้วและ
คงไม่ได้รับอิทธิพลจากปรมาจารย์ขงอีก แต่ใครจะไปรู ้วา่ ลงท้ายเขา
ก็ยงั เดินตามรอยเท้าของอีกฝ่ าย ราวกับว่าทุกย่างก้าวได้นาํ พาเขาเข้า
ใกล้การเป็ นปรมาจารย์ขงคนต่อไปมากกว่าเดิม
ในอดีต ปรมาจารย์ขงคงสําเร็ จวรยุทธขั้นนี้เช่นกัน จึงถ่ายทอดความ
สามารถในการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของโลกด้วยถ้อยคําให้เหล่า
ทายาทของเขาได้
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะสลัดเรื่ องเหล่านั้นออกจาก
หัวสมอง
ไม่สาํ คัญแล้วว่าเขาจะเดินตามรอยปรมาจารย์ขงหรื อไม่…ตราบใดที่
เขาทุ่มเททุกอย่างให้กบั สิ่ งที่ตวั เองทํา จะมัวมาครุ่ นคิดเรื่ องเหล่านั้น
อยูท่ าํ ไม?
จางเซวียนกําหมัดแน่นขณะสํารวจตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงใน
ร่ างกายของเขาอย่างถี่ถว้ น
แม้จะสําเร็ จแค่วรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด แต่ดว้ ยพละกําลัง
ที่มีอยูใ่ นตอนนี้ เขาก็มนั่ ใจว่าจะสามารถเล่นงานเทพเจ้าที่ปรากฏตัว
ในอาณาจักรคุนฉื่ อก่อนหน้านี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้นิ้วเพียงนิ้ว
เดียว
ดูเหมือนการที่จางเซวียนกดข่มวรยุทธไว้หลายต่อหลายครั้งจะไม่
สู ญเปล่า พละกําลังเหล่านั้นปรากฏทันทีที่เขาฝ่ าด่านวรยุทธได้สาํ เร็ จ
มันมากมายมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการได้
ฟึ่ บ!
ภาพวาดที่จางเซวียนกําไว้แน่นในมือของเขาแหลกสลายเป็ นผุยผง
ในทันที
เพื่อเติมพลังให้กบั การฝ่ าด่านวรยุทธก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่จางเซวียน
จะใช้นิรันดร์กาลของนักปราชญ์โบราณที่อยูใ่ นภาพวาดจนหมด เขา
ยังกลืนกินหยดเลือดนักปราชญ์โบราณทุกหยดที่ได้มาจากเทพเจ้าทั้ง
2 องค์ที่สงั หารไปด้วย ตอนนี้จางเซวียนรู ้สึกเหมือนตัวเองกลับไป
จนกรอบเหมือนเดิม
ความมัง่ คัง่ ช่างเป็ นภาพลวงตาเสี ยนี่กระไร!
“ลาก่อน!”
จางเซวียนเคาะนิ้ว เขาถ่ายทอดเทคนิควรยุทธฉบับเรี ยบง่ายเข้าสู่ หวั
สมองของหญิงสาวที่อยูต่ รงหน้า ก่อนจะหันหลังกลับแล้วหายวับไป
“ลาก่อน…จางเซวียน!” เสิ่ นปี้ หรู นยั น์ตาแดงกํ่าขณะตัวสัน่ ไม่หยุด
เธอรู ้ดีวา่ การจากกันครั้งนี้คือการแยกทางที่ท้ งั คู่จะไม่มีวนั กลับมา
พบกันอีก
ในเวลาเดียวกัน หลังจากแน่ใจในตัวตนของชายหนุ่มที่อยูก่ ลาง
อากาศแล้ว ฝูงชนในเมืองนั้นก็พากันทรุ ดตัวลงคุกเข่า
“คารวะปรมาจารย์จาง!”
สมกับที่เป็ นครู บาอาจารย์ของโลก ทุกการกระทําของเขาล้วนแต่
เป็ นตํานาน!
…..
จางเซวียนบินตรงไปยังพื้นที่เงียบสงบแห่งหนึ่งที่นกั รบธรรมดา
สามัญไม่อาจมองเห็นเขาได้ เขาหยุดอยูก่ บั ที่ เหลียวมองไปรอบ ๆ
อย่างระแวดระวัง จากนั้นก็ยมิ้ และพูดว่า “ออกมาเถอะ!”
“ท่านอาจารย์!”
จ้าวหย่า หวังหยิง่ หลิวหยาง เจิ้งหยาง หยวนเทา ลู่ชง เว่ยหรู เหยียน
จางจิ่วเซี่ยว ขงซือเหยา…ศิษย์สายตรงทั้ง 9 คนของเขาโผล่ออกจาก
เงามืดอย่างรวดเร็ วและโค้งคํานับให้
2 ปี ที่ผา่ นมา จางเซวียนรับศิษย์สายตรงไว้ท้ งั หมด 9 คน ซึ่งลงท้าย
แต่ละคนก็กา้ วขึ้นสู่ ความเป็ นสุ ดยอดของทวีปแห่งปรมาจารย์
กลายเป็ นบุคคลที่ยนื อยูช่ ้ นั บนสุ ดของพีระมิด
“เข้ามารุ มผมพร้อม ๆ กันเลย ผมอยากเห็นว่าพวกคุณเติบโตขึ้นแค่
ไหน” จางเซวียนพูดขณะเอาสองมือไพล่หลังไว้
ศิษย์สายตรงทั้ง 9 คนชะงักไปครู่ หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างพร้อม
เพรี ยง
ฟึ่ บ!
ทั้ง 9 คน เข้ารุ มล้อมจางเซวียนจากทุกทิศทาง
ตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา พวกเขาต่างพัฒนาวรยุทธขึ้นอีกมาก แม้แต่ผทู ้ ี่
เคยมีวรยุทธอ่อนด้อยที่สุดในอดีต, หยวนเทา ก็สาํ เร็ จวรยุทธระดับ
นักปราชญ์โบราณขั้น 2 บรมครู นกั ปราชญ์ข้นั กลางหลังจากที่ผา่ น
การทดสอบนักปราชญ์โบราณมา 2 ครั้ง ส่ วนคนอื่น ๆ อย่างจ้าวหย่า
ขงซือเหยา เจิ้งหยาง และหลิวหยางก็ลว้ นสําเร็ จวรยุทธขั้นการฟื้ น
คืนชีพของสายเลือด
หากพวกเขาผนึกพละกําลังกัน ก็สามารถสกัดกั้นได้แม้แต่เวลาและ
มิติ ถ้าเทพเจ้าที่เคยปรากฏตัวก่อนหน้านี้ตอ้ งเผชิญกับการผนึกกําลัง
กันโจมตี ก็คงแทบต้านทานไม่ไหว
แต่เมื่อเป้าหมายคือจางเซวียน การโจมตีที่มีอานุภาพทําลายล้างของ
ทั้ง 9 คนก็ถูกสกัดกั้นไว้ได้อย่างง่ายดายด้วยชั้นพลังปราณที่โอบ
ล้อมร่ างของเขาอยู่
อันที่จริ ง ขอแค่จางเซวียนปรารถนา ก็สามารถเคลื่อนไหวได้วอ่ งไว
จนไม่มีใครตามการเคลื่อนไหวของเขาทัน
ถึงตอนนี้ สายเลือดตระกูลจางไร้ประโยชน์ต่อเขาอย่างสิ้ นเชิงแล้ว
การเร่ งเวลากลายเป็ นความสามารถที่เขาเปิ ดใช้งานได้เพียงแค่ใช้
ความคิดแวบเดียว
ทั้งสองฝ่ ายปะทะกันครู่ หนึ่ง ไม่ชา้ จางเซวียนก็รับรู ้วา่ ตัวเขากับศิษย์
สายตรงแต่ละคนทรงพลังแค่ไหน เมื่อรู ้สึกว่าสู ก้ นั ต่อไปก็ไม่มี
ประโยชน์ จางเซวียนยกนิ้วชี้ข้ ึนและเคาะไปข้างหน้าเบา ๆ “พอ!”
พลัก่ !
ทั้ง 9 คนถูกสอยกระเด็นไปพร้อม ๆ กัน ต่างคนต่างหน้าซี ด
คงไม่เป็ นการพูดเกินจริ งหากจะบอกว่าพวกเขาคือทีมนักรบที่ทรง
พลังที่สุดของทวีปแห่งปรมาจารย์ในเวลานี้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าขนาด
รวมพลังกันแล้วก็ยงั ต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากนิ้วมือของ
ท่านอาจารย์ไม่ได้…
“จ้าวหย่ากับเจิ้งหยาง พวกคุณขยันหมัน่ เพียรฝึ กฝนไม่นอ้ ย ผมดูออก
ว่าคุณพัฒนาตัวเองได้มากตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา ส่ วนพวกคุณที่เหลือ
ก็เหมือนกัน ทําได้ดีมาก ว่าแต่…ขงซือเหยา คุณต้องฝึ กฝนหนักกว่า
นี้อีกหน่อยนะ ถึงตอนนี้คุณจะไม่ได้มีวรยุทธอ่อนด้อยที่สุดแต่ระดับ
การพัฒนาของคุณยังออกจะล้าหลังอยูส่ กั หน่อย” จางเซวียนตั้ง
ข้อสังเกต
ความก้าวหน้าของลูกศิษย์แต่ละคนทําให้เขารู ้วา่ คนเหล่านั้นฝึ กฝน
อย่างหนักแค่ไหน แต่ในทางกลับกัน ผูท้ ี่มีอตั ราความก้าวหน้า
เชื่องช้าที่สุดกลับกลายเป็ นศิษย์สายตรงคนล่าสุ ดที่เขาเพิ่งรับไว้,
ขงซื อเหยา
ก่อนจางเซวียนจากมา เขายังไม่ได้มอบคําชี้แนะใด ๆ ให้เธอทําให้
การยกระดับวรยุทธของอีกฝ่ ายจากขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด
ขั้นกลางมาเป็ นขั้นสู งต้องใช้เวลาถึงครึ่ งปี ในฐานะศิษย์สายตรงคน
หนึ่งของจางเซวียน ความก้าวหน้าระดับนี้ถือว่าใช้ไม่ได้
“ฉัน…” ขงซือเหยาพูดไม่ออก
เธอจําต้องยอมรับความจริ งอย่างเจ็บปวดว่าเธอคือผูท้ ี่กา้ วหน้าได้ชา้
ที่สุดตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา ก่อนหน้านี้ เธอเคยคิดว่าด้วยสายเลือด
ตระกูลขงที่เธอมี ต่อให้ตอนนี้เธอยังเทียบชั้นกับจ้าวหย่าเจิ้งหยาง
และคนอื่น ๆ ไม่ได้ แต่ไม่ชา้ ไม่นานก็คงตามพวกเขาทันแต่สุดท้าย
ทุกคนก็กลับทิ้งห่างจากเธอไป
เรื่ องนี้ทาํ ให้เธอรู ้สึกได้วา่ พรสวรรค์อนั น่าทึ่งที่สายเลือดตระกูลขง
มอบให้เธอมีแต่จะทําให้เธอล้าหลัง ช่างโง่เง่าเหลือเกินที่คิดว่าลําพัง
สติปัญญาของเธอจะสู งส่ งพอให้ตามทันบรรดาศิษย์พี่ที่ลว้ นแต่เพียร
พยายามอย่างหนักได้
ถ้าเธอไม่ไขว่คว้าทุกสิ่ งอย่างเต็มกําลัง ก็มีแต่จะถูกทิ้งให้ร้ ังท้าย
ยังไม่ตอ้ งพูดถึงท่านอาจารย์ของเธอที่เป็ นถึงครู บาอาจารย์ของโลก!
ไม่มีทางที่ศิษย์สายตรงของครู บาอาจารย์ของโลกจะถูกจํากัดไว้ดว้ ย
ข้อจํากัดเรื่ องสติปัญญา!
“เอาล่ะ นี่คือสิ่ งที่ผมได้ทาํ ความเข้าใจตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา ผมจะ
ถ่ายทอดทุกอย่างให้พวกคุณเดี๋ยวนี้ ส่ วนพวกคุณจะทําความเข้าใจ
ได้แค่ไหน ก็ข้ ึนอยูก่ บั คุณแล้วล่ะ!” จางเซวียนเคาะนิ้วและถ่ายทอด
ภูมิปัญญาที่เขาได้รับมาระหว่างการฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักปราชญ์
โบราณเข้าสู่ สมองของศิษย์สายตรงทั้ง 9 คน
ด้วยระดับวรยุทธของพวกเขา ไม่จาํ เป็ นที่จะต้องจํ้าจี้จ้ าํ ไชกันทีละ
ขั้นราวกับนักรบมือสมัครเล่นอีกต่อไป ทั้งหมดที่จางเซวียนต้องทําก็
คือมอบทรัพยากรให้ และเปิ ดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงการรู ้แจ้ง
ด้วยตัวเอง
วรยุทธนั้นเป็ นของใครของมัน ในฐานะอาจารย์ บทบาทของเขาคือ
พาทุกคนผ่านประตูและชี้เส้นทางที่เหมาะสมให้ ส่ วนแต่ละคนจะ
ไปได้ไกลแค่ไหนก็ข้ ึนอยูก่ บั พวกเขา
ก็เพราะเหตุผลนี้ที่ทาํ ให้ก่อนหน้านี้จางเซวียนพยายามผลักดันให้
ศิษย์ทุกคนแสวงหาเส้นทางของตัวเอง ไม่อย่างนั้น ทุกคนก็จะไม่มี
วันได้รับประสบการณ์ล้ าํ ค่าที่จะทําให้พวกเขาเติบโตและมีวฒ
ุ ิภาวะ
มากกว่าเดิม
ศิษย์สายตรงทั้ง 9 คนรับการถ่ายทอดความรู ้ของจางเซวียนไว้อย่าง
รวดเร็ ว นัยน์ตาของพวกเขาเปล่งประกายของความตื่นเต้น
ด้วยภูมิปัญญานี้ ทุกคนจะสามารถใช้มนั ยกระดับวรยุทธและขัดเกลา
รากฐานของวรยุทธได้ต่อไป
จางเซวียนรู ้วา่ คงต้องใช้เวลาสักระยะในการที่ศิษย์สายตรงของเขา
จะซึ มซับสิ่ งที่เพิง่ ได้รับ แต่เขาไม่มีเวลาจะเสี ยมากขนาดนั้น จึงพูด
ขึ้น “ผมตั้งใจจะมุ่งหน้าไปยังค่ายกลของอาณาจักรคุนฉื่ อ พวกคุณ
ควรมากับผมนะ”
ทั้ง 9 คนพยักหน้ารับ
จากนั้น พวกเขาก็มุ่งหน้าสู่ อาณาจักรคุนฉื่อ ภายในไม่ถึง 10 นาทีก็
มาถึงแท่นบูชาที่อยูใ่ ต้ค่ายกลซึ่งนําไปสู่ มิติเบื้องบน
หลังจากที่จางเซวียนซ่อมแซมค่ายกลแล้ว รอยแยกทั้งหมดที่เคย
ปรากฏก่อนหน้านี้กส็ มานตัวเข้าหากันอย่างสนิท ทําให้ที่นี่ดูแทบไม่
ต่างจากที่อื่น ๆ พลังงานหน้าตาเหมือนปรอทที่เคยซึมซาบเข้ามาก็
สลายตัวไปจนอยูใ่ นระดับที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย
เท่าที่เห็น ดูเหมือนค่ายกลจะทําหน้าที่ของมันได้ดี ด้วยการอารักขา
ของค่ายกล จางเซวียนแน่ใจว่าจะไม่มีเทพเจ้าองค์ไหนผ่านค่ายกล
เข้ามาได้ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก
“อีกฝั่งหนึ่งของค่ายกลคือมิติเบื้องบน มันเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณ
หนักอึ้ง ที่นนั่ อันตรายมาก แต่ผมเชื่อว่ามันคือกุญแจที่จะนําไปสู่ การ
ฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ พวกคุณอยากลองซึ ม
ซับมันดูไหม?”
จางเซวียนเคาะนิ้ว ๆ แล้วหลุมดําขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นในค่ายกล
พลังงานหนักอึ้งพวยพุง่ ลงมา ทําให้แท่นบูชาเกิดรอยร้าวเพราะ
นํ้าหนักของมัน
ในเมื่อเขาสําเร็ จวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณแล้ว ก็ได้เวลาที่จะ
จากทวีปแห่งปรมาจารย์ไปเพื่อเข้าสู่ มิติเบื้องบนเสี ยที
ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีวนั ได้พบหลัวลัว่ ชิง และโชคชะตาของทั้งคู่ก็
จะถูกแยกจากกันตลอดกาล
แต่ในการจะเข้าสู่ มิติเบื้องบน สิ่ งแรกที่จางเซวียนต้องทําก็คือปรับตัว
ให้คุน้ ชินกับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทก่อนเหตุผลที่
เขาพาเหล่าศิษย์สายตรงมาที่นี่กเ็ พราะอยากให้คนเหล่านั้นได้รู้จกั
พลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท เพื่อจะได้ระมัดระวังเอาไว้
ซรื ดดดดด!
ได้ยนิ คําพูดของจางเซวียน ทั้ง 9 คนต่างซึ มซับพลังจิตวิญญาณหน้าตา
เหมือนปรอทเข้าไปคนละหน่อย ครู่ ต่อมา พวกเขาก็รู้สึกเหมือน
ทางเดินพลังปราณกําลังจะถูกทําลายเพราะนํ้าหนักมหาศาลนั้น ทุก
คนรี บขับเคลื่อนพลังปราณเพื่อเสริ มความแข็งแกร่ งให้ทางเดินพลัง
ปราณของตัวเอง
พลังจิตวิญญาณนี้น่าสะพรึ งเหลือเกิน ขนาดพวกเขาสําเร็ จวรยุทธ
ระดับนักปราชญ์โบราณแล้ว มันก็ยงั เหนือชั้นเกินกว่าจะรับมือไหว
“ท่านอาจารย์ ฉันคิดว่า…ฉันซึมซับพลังจิตวิญญาณนี้ได้!”
ขณะที่จางเซวียนกําลังถอนหายใจเฮือกอย่างผิดหวัง เสี ยงหนึ่งก็ดงั
ขึ้น เขารี บหันกลับไปและเห็นจ้าวหย่ากําลังมองมาด้วยสี หน้าสับสน
พลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทไหลเวียนช้า ๆ อยูใ่ นร่ างกาย
ของจ้าวหย่า แต่ร่างกายของเธอไม่แสดงอาการต่อต้านมันแม้แต่นอ้ ย
ตอนที่ 1911 จ้ าวหย่ าฝ่ าด่ านวรยุทธ
“ฝึ กฝนวรยุทธต่อไป อย่าหยุด!” จางเซวียนเร่ งขณะเปิ ดใช้งานดวงตา
หยัง่ รู ้เพื่อจับตาดูสาวน้อยอย่างใกล้ชิด
ขณะที่พลังงานหน้าตาเหมือนปรอทไหลเวียนไปทัว่ ร่ างของจ้าวหย่า
มันก็ขดั เกลาพลังปราณของเธอไปด้วย ทําให้ระดับวรยุทธของจ้าว
หย่าเพิม่ สูงขึ้นอีกมาก ภายในเวลาเพียง 10 นาที เธอก็ยกระดับวรยุทธ
ได้เท่ากับการฝึ กฝนวรยุทธทั้งวัน!
“นี่มนั …มันคือทางเดินพลังปราณที่ได้รับการปรับเปลี่ยน!” จางเซวียน
พลันนึกได้
ก่อนหน้านี้ ทางเดินพลังปราณของจ้าวหย่าถูกทําลายจนเสี ยหายอย่าง
สิ้ นเชิงขณะพยายามช่วยชีวติ เขา จางเซวียนจึงใช้เถาวัลย์ของนํ้าเต้า
ตงฉู่สู่สร้างทางเดินพลังปราณชุดใหม่ให้จา้ วหย่า
พลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทควรจะมีอานุภาพมากพอในการ
ทําลายทางเดินพลังปราณของนักรบคนไหนก็ตามได้อย่างง่ายดาย
แต่ดว้ ยเหตุผลอะไรบางอย่าง จ้าวหย่าไม่ตอ้ งเผชิญกับปั ญหานั้น
น่าสงสัยเหลือเกินว่าแท้ที่จริ งแล้วเถาวัลย์น้ นั คืออะไร มันสามารถ
ซึมซับพลังจิตวิญญาณอันหนักอึ้งนี้ไว้ได้โดยไม่สร้างความตึงเครี ยด
ให้กบั ร่ างกายของจ้าวหย่า ไม่ก่อให้เกิดความบอบชํ้าใด ๆ อย่างที่มกั
เกิดกับนักรบทัว่ ไป
ครู่ ต่อมา จ้าวหย่าก็ระงับการฝึ กฝนวรยุทธไว้ก่อนจะหันกลับมามอง
ท่านอาจารย์อย่างตื่นเต้น “ท่านอาจารย์ ฉันคิดว่าฉันน่าจะฝ่ าด่านวร
ยุทธไปเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติได้สบายหากยังซึมซับพลังจิต
วิญญาณหนักอึ้งนี้ต่อไป!”
เธอสําเร็ จวรยุทธขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือดโลกจารึ กแล้วจาก
การหมัน่ เพียรฝึ กฝนอย่างหนักตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา แต่ในชัว่ พริ บตา
ก็พบว่าตัวเองไม่อาจไปได้ไกลกว่านั้น ราวกับได้มาถึงความเป็ นสุ ด
ยอดของทวีปแห่งปรมาจารย์แล้ว ไม่มีเส้นทางที่เหนือไปกว่าจะให้
เธอก้าวเดินอีกต่อไป
มันคือด่านคอขวดของโลก!
แต่เมื่อเธอซึมซับพลังจิตวิญญาณอันหนักอึ้ง ก็รู้สึกได้ถึงภูมิปัญญา
สําหรับการฝ่ าด่านวรยุทธที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทําให้แทบไม่
อยากเชื่อ
“ผมเห็นแล้ว” จางเซวียนพยักหน้า
เขาไม่ได้พดู อะไรมากนักเรื่ องสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับจ้าวหย่า แต่
ใคร่ ครวญแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
พลังจิตวิญญาณของทวีปแห่งปรมาจารย์แตกต่างจากพลังจิตวิญญาณ
ของมิติเบื้องบนมาก ทั้งในแง่ของความเข้มข้นและคุณภาพ ด่านคอ
ขวดที่เคยสกัดกั้นเหล่านักรบไว้จากการสําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้าง
มิติเหมือนกับประตูเหล็กกล้าสองบานที่กระแสนํ้าทัว่ ไปไม่อาจ
ผลักดันให้มนั เปิ ดออกได้ ต้องใช้คลื่นที่รุนแรงและมีพละกําลัง
ทําลายล้างเข้ากระแทกประตูเหล็กนั้นเพื่อพังมันให้แยกออกจากกัน
“เป็ นอย่างที่เราคิดไว้เลย กุญแจของการฝ่ าด่านวรยุทธไปสู่ การเป็ น
นักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติกค็ ือการซึมซับพลังงานที่มีหน้าตาเหมือน
ปรอท!” จางเซวียนพยักหน้า มัน่ อกมัน่ ใจในข้อสันนิษฐานของเขา
ยิง่ ขึ้นกว่าเดิม
นี่คงจะเป็ นเหตุผลที่ทาํ ให้พละกําลังของเหล่านักรบในทวีปแห่ง
ปรมาจารย์เหลื่อมลํ้ากับเหล่าเทพเจ้าที่ลงมาจากมิติเบื้องบนอย่างมาก
เทพเจ้าเหล่านั้นได้รับการบ่มเพาะจากพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตา
เหมือนปรอทอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบ
ขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติจึงไม่ใช่ภารกิจที่ยากเย็นอะไรสําหรับพวกเขา
ด้วยเหตุผลนี้ ร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์จึงทุ่มเทความพยายามของ
พวกเขาในการพัฒนาข้าวสาลีแตกยอดเพื่อปรับปรุ งสภาวะร่ างกาย
พื้นฐานของเหล่าพลเมือง เมื่อใดก็ตามที่สภาวะร่ างกายของพวกเขา
เข้าถึงระดับที่เหมาะสมต่อการซึมซับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตา
เหมือนปรอท เผ่าพันธุ์มนุษย์กจ็ ะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะก้าวขึ้นสู่
ความสู งส่ งระดับนั้น
“ซึ มซับพลังจิตวิญญาณต่อไป พยายามฝ่ าด่านวรยุทธไปสู่ ข้นั ผู ้
ทําลายล้างมิติให้ได้!” จางเซวียนสัง่ การ
จ้าวหย่าพยักหน้า เธอรี บขับเคลื่อนพลังปราณจนเต็มพิกดั ขณะกลืน
กินพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทอย่างตะกละตะกราม
ส่ วนอีกด้านหนึ่ง ศิษย์สายตรงที่เหลืออีก 8 คนก็พยายามซึมซับพลัง
จิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทนั้นอีกครั้ง แต่พวกเขาไม่อาจทํา
ได้เหมือนอย่างศิษย์พี่ จึงได้แต่ถอนหายใจเฮือกขณะจ้องมองศิษย์พี่
ด้วยความอิจฉา
รู ้ดีวา่ วรยุทธไม่ใช่สิ่งที่จะรี บร้อนกันได้ จางเซวียนจึงไม่ได้เร่ งรัด
จ้าวหย่า เขาใช้ท้ งั ดวงตาหยัง่ รู ้และหอสมุดเทียบฟ้าเพื่อให้แน่ใจว่า
จะดูแลสภาวะร่ างกายของจ้าวหย่าได้อย่างถี่ถว้ น เพราะเกรงว่าอาจ
เกิดอะไรผิดพลาดขึ้นกับเธอ
แต่โชคดี เพราะด้วยความพากเพียรและอดทนของจ้าวหย่า รากฐาน
วรยุทธของเธอจึงแน่นหนามัน่ คงมาก ระดับวรยุทธเพิ่มสู งขึ้นโดย
ปราศจากปัญหาใด ๆ ภายในเวลาเพียงครึ่ งวัน จ้าวหย่าก็เข้าถึงด่าน
คอขวดที่สกัดกั้นเธอไว้จากการเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ
“ทําลาย!”
ทันทีที่สาวน้อยสะสมแรงผลักดันไว้ได้มากพอ เธอก็เลิกคิ้วขณะ
เปล่งเสี ยงร้องอย่างเกรี้ ยวกราดออกมา ในชัว่ พริ บตา พลังปราณของ
เธอก็พลุ่งพล่านไปทัว่ ทั้งทางเดินพลังปราณและทําลายด่านคอขวดที่
สกัดกั้นเธอไว้ ทําให้วรยุทธพุง่ ขึ้นสู่ ข้ นั ผูท้ าํ ลายล้างมิติซ่ ึงเป็ นที่
ปรารถนาของผูค้ นมากมาย
การทดสอบอาวุธยุทธภัณฑ์สายฟ้าพุง่ ลงมาอยูเ่ หนือจ้าวหย่าทันที
ราวกับสวรรค์พยายามจะฉีกกระชากร่ างของเธอออกจากกัน แต่ดว้ ย
พละกําลังที่จา้ วหย่ามีประกอบกับคําชี้แนะของจางเซวียน เธอจึงผ่าน
วิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้น การทดสอบ
วรยุทธก็ยงั ทิ้ง บาดแผลและความบอบชํ้าจํานวนหนึ่งไว้ให้ซ่ ึงต้อง
ใช้เวลาสักระยะถึงจะหาย
“ในครั้งนั้น คุณก็สาํ เร็ จวรยุทธขั้นนี้ใช่ไหม?” จางเซวียนตั้งคําถาม
ไอ้โหดเคยสําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติมาแล้ว ทําให้มีชื่อเสี ยง
ระบือลือลัน่ ในเผ่าพันธุ์ปีศาจในฐานะผูแ้ ทนอมตะ ก็เพราะพละกําลัง
ระดับนี้ที่ทาํ ให้เขาเล่นงานปรมาจารย์ขงให้จนมุมได้หลายต่อหลาย
ครั้ง
“ใช่!” ไอ้โหดพยักหน้า “ด้วยการซึมซับพลังงานหนักอึ้งที่มาจากมิติ
เบื้องบน ผมสามารถผลักดันวรยุทธไปได้จนถึงขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ
แต่ผมผ่านไปได้เพียงแค่ข้นั ต้นเท่านั้น ส่ วนที่นอกเหนือไปจากนั้น
เรี ยกว่าไม่มีทางเป็ นไปได้ จากการศึกษาค้นคว้าของผมนักรบคน
หนึ่งจะต้องเข้าสู่ มิติเบื้องบนและสัมผัสพลังงานโดยธรรมชาติที่อยู่
ในโลกใบนั้นเพื่อปรับเปลี่ยนสภาวะร่ างกายพื้นฐานก่อนจะทําการ
ยกระดับวรยุทธให้ได้สูงขึ้นกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นก็ตอ้ งติดแหง็กอยู่
ที่วรยุทธขั้นนั้นจนวันตาย”
“คุณยกระดับวรยุทธไม่ได้ไกลกว่านั้นแล้วหรื อ?” จางเซวียนชะงัก
เขารี บหันไปตั้งคําถามกับจ้าวหย่า
จ้าวหย่าหลับตาเพื่อสํารวจสภาวะร่ างกายของเธอก่อนจะส่ ายหน้า
และตอบว่า “ท่านอาจารย์ ดูเหมือนการสําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้าง
มิติข้นั ต้นจะเป็ นขีดจํากัดสู งสุ ดของฉันแล้ว ถ้าอยากฝึ กฝนวรยุทธให้
ไปได้ไกลกว่านี้ สวรรค์กจ็ ะต่อต้าน ยิง่ ไปกว่านั้น ดูเหมือนร่ างกาย
ของฉันจะถึงขีดจํากัดของมันแล้วด้วย ฉันไม่อาจรับพลังจิตวิญญาณ
อันหนักอึ้งนั้นไว้ได้อีก!”
แนวคิดนี้กเ็ หมือนกับการที่บึงแห่งหนึ่งสามารถรับนํ้าไว้ได้ใน
ปริ มาณที่ข้ ึนอยูก่ บั ขนาดของมัน ถ้าใครสักคนพยายามเติมนํ้าลงไป
ในบึงที่เต็มแล้ว นํ้าส่ วนเกินก็มีแต่จะไหลซึ มออกไปโดยรอบ
ถ้าอยากให้บึงนั้นรับนํ้าไว้ได้มากกว่าเดิม มีวธิ ีเดียวก็คือต้องขยาย
ขนาดของบึง เมื่อบึงมีขนาดใหญ่ข้ ึน ปริ มาณนํ้าที่มนั สามารถรับไว้
ได้กจ็ ะเพิม่ ขึ้นด้วย
มิติที่คนผูน้ ้ นั อาศัยอยูส่ ่ งผลต่อสภาวะร่ างกายของเขาเช่นกันจางเซวียน
คิด
เขาเคยคิดว่าขอแค่เขามีพลังจิตวิญญาณที่หน้าตาเหมือนปรอทสะสม
ไว้มากพอ ก็น่าจะสามารถซึ มซับมันอย่างต่อเนื่องและยกระดับวรยุทธ
ได้อย่างรวดเร็ ว แต่ดูเหมือนความคิดของเขาจะอ่อนด้อยเกินไป
ถ้ามันง่ายอย่างนั้น ปรมาจารย์ขงก็คงไม่จาํ เป็ นต้องออกจากทวีปแห่ง
ปรมาจารย์
จางเซวียนกําหมัดแน่นและครุ่ นคิด ขอลองสักตั้งเถอะว่าเราซึมซับ
มันได้ไหม!
ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาพยายามซึ มซับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตา
เหมือนปรอท เขายังไม่ได้ฝ่าด่านวรยุทธไปเป็ นนักปราชญ์โบราณ
และความแข็งแกร่ งของร่ างกายก็ยงั คงอ่อนด้อยอยู่ แต่หลังจากการ
ฝ่ าด่านวรยุทธ เขามีพละกําลังที่เหนือชั้นกว่าแม้แต่จา้ วหย่าเป็ นไป
ได้ไหมว่าร่ างกายของเขาจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับพลังจิตวิญญาณ
หน้าตาเหมือนปรอทนี้และซึมซับมันได้?
อีกอย่าง จางเซวียนก็ได้ปรับเปลี่ยนเครื อข่ายทางเดินพลังปราณของ
เขาแล้ว มันซับซ้อนกว่าของจ้าวหย่าเสี ยด้วยซํ้า!
เมื่อคิดได้ จางเซวียนรี บทรุ ดตัวลงนัง่ กับพื้นและหลับตา
ตอนที่ 1912 ความสํ าคัญของทางเดินพลังปราณ
ซรื ดดดดด!
พลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทพวยพุง่ เข้าสู่ ทางเดินพลัง
ปราณของจางเซวียน ผ่านจุดชีพจรของเขา
ครื ดดดดด!
แต่ราวกับมีใครสักคนหยอดตะกัว่ ลงไป ทางเดินพลังปราณของเขา
เริ่ มเกิดรอยร้าวขณะที่จางเซวียนรู ้สึกได้ถึงนํ้าหนักมหาศาลที่ถ่วงเขา
จากภายใน เขารี บขับเคลื่อนพลังปราณเทียบฟ้าเพื่อประสานรอยร้าว
และฟื้ นฟูทางเดินพลังปราณให้สามารถรับมือกับพลังจิตวิญญาณที่มี
หน้าตาเหมือนปรอทนั้น แต่ถึงอย่างนั้น ใบหน้าของจางเซวียนก็ยงั
แดงกํ่า ครู่ ต่อมา เขาก็กระอักเลือดออกจากปาก
“แบบนี้ไม่ได้ผล…” จางเซวียนส่ ายหน้าอย่างจนปั ญญา
เขาเคยคิดว่าเขาน่าจะซึมซับพลังงานหน้าตาเหมือนปรอทได้เพราะ
ระดับวรยุทธที่เพิ่งเพิ่มขึ้นมาหมาด ๆ แต่ความคาดหวังกลับต้อง
พังทลาย
ถ้าเขาพยายามดึงดันใช้วธิ ีน้ ีต่อไป ก็บอกได้เลยว่าทางเดินพลังปราณ
ของเขาจะต้องแตกสลาย จุดตันเถียนถูกทําลายจนไม่มีเหลือ อย่าว่า
แต่จะพยายามซึมซับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทเข้าสู่
ทางเดินพลังปราณ ร่ างกายของเขาคงถูกทําลายไปตั้งแต่แรกเพราะ
ภาระอันหนักอึ้ง!
“น่าเสี ยดายที่เราไม่มีเถาวัลย์แล้ว” จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่
ถ้าเขายังมีเถาวัลย์ของนํ้าเต้าตงฉู่อยูก่ บั ตัว ก็คงจะใช้มนั ปรับเปลี่ยน
ทางเดินพลังปราณของเขาต่อไป ให้มนั ค่อย ๆ คุน้ ชินกับพลังจิต
วิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทไปทีละน้อย แต่นนั่ ก็เป็ นสิ่ งที่ทาํ
ไม่ได้แล้ว
ขณะที่จางเซวียนกําลังครุ่ นคิดว่าจะหาวิธีการใหม่ ๆ ได้หรื อไม่
ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามา
เดี๋ยวก่อน…ต้องไม่ใช่แบบนั้นสิ เผ่าพันธุ์ปีศาจ 2 ตัวนัน่ ซึ มซับพลัง
จิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทได้ และแม้แต่ไอ้โหดก็ทาํ สําเร็ จ…
ครั้งหนึ่ง นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงเคยทําการทดลองกับพลังจิต
วิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท ในบรรดากลุ่มตัวอย่าง 10 ตัวแรก
มีเผ่าพันธุ์ปีศาจ 2 ตัวที่เอาชีวติ รอดจากแรงกดดันมหาศาลของพลังงาน
นั้นมาได้ และไอ้โหดก็ไม่มีเถาวัลย์ของนํ้าเต้าตงฉู่อยูก่ บั ตัว แต่กท็ าํ
สําเร็ จ
ในเมื่อทางเดินพลังปราณของเขาสมบูรณ์แบบยิง่ กว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจ
จึงดูไม่สมเหตุสมผลที่เขาจะล้มเหลว จะต้องมีบางอย่างที่เขายังไม่ได้
ทํา จึงก่อเกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกันขนาดนี้
หรื อว่าจะเป็ นเพราะปราณสังหาร? ถ้าปรับเปลี่ยนองค์ประกอบพลัง
ปราณของเราให้เป็ นแบบนั้น เราจะสามารถซึมซับพลังจิตวิญญาณที่
มีหน้าตาเหมือนปรอทได้ดีข้ ึนไหม? จางเซวียนครุ่ นคิด
ดูเหมือนจะไม่มีใครให้ปรึ กษา เขาจึงตัดสิ นใจที่จะทดลองในทันที
จางเซวียนปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของพลังปราณเทียบฟ้าของเขา
ให้กลายเป็ นปราณสังหาร ในชัว่ พริ บตา ก็ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็ น
ฮ่องเต้เผ่าพันธุ์ปีศาจผูง้ ามสง่า
หลังจากปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของพลังปราณแล้ว จางเซวียนก็
เปิ ดจุดชีพจรทั้งหมดอีกครั้งและทําการซึ มซับพลังจิตวิญญาณที่มี
หน้าตาเหมือนปรอทอย่างระมัดระวัง
ฟิ้ ววววว!
คราวนี้ เมื่อพลังงานซึมซาบเข้าสู่ ร่างของเขา ก็น่าประหลาดใจมากที่
มันไม่สร้างความรู ้สึกหนักอึ้งเหมือนแต่ก่อน กลับอบอุ่นและอ่อนโยน
เหมือนได้กินซุปไก่อุ่น ๆ ชามใหญ่
“ได้ผลนี่!” จางเซวียนกําหมัดแน่นอย่างตื่นเต้น
ในฐานะอํามาตย์เฉิ นหย่งคนปั จจุบนั หลิวหยางมีความสามารถใน
การปรับเปลี่ยนพลังปราณของเขาให้กลายเป็ นปราณสังหารได้อย่าง
อิสระเช่นกัน แต่ทางเดินพลังปราณของหลิวหยางยังไม่เคยได้รับ
การปรับเปลี่ยนมาก่อน เป็ นไปได้วา่ นัน่ คือเหตุผลที่เขาไม่อาจซึม
ซับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทนี้ได้
แต่เรื่ องนี้แตกต่างออกไปสําหรับจางเซวียน เมื่อครั้งที่เขาถูกเล่นงาน
จนเหลือแต่โครงกระดูกระหว่างการต่อสู ก้ บั เทพเจ้าในเมืองหลวง
ของเผ่าพันธุ์ปีศาจ เขาได้ใช้รังสี พิเศษที่เทพเจ้ามอบให้อาํ มาตย์เฉิ น
หลิงมาใช้เยียวยาตัวเอง แล้วทําการปรับเปลี่ยนเครื อข่ายทางเดินพลัง
ปราณของเขาให้กลมกลืนและสัมพันธ์กบั โลกใบนี้มากขึ้น
ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมา จางเซวียนจึงสามารถซึมซับพลังจิต
วิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทได้อย่างราบรื่ นปราศจากปัญหา
หลังจากซึมซับพลังจิตวิญญาณไปครู่ หนึ่ง ในที่สุดเขาก็พบกับด่าน
คอขวดที่สกัดกั้นเขาไว้จากวรยุทธขั้นนักรบผูท้ าํ ลายล้างมิติ
“ทําลายล้าง!”
ในตอนนั้น จางเซวียนเพ่งสมาธิอยูก่ บั มหาคัมภีร์แห่งดูใบไม้ผลิกบั
ฤดูใบไม้ร่วงที่อยูใ่ นหอสมุดเทียบฟ้า ที่ส่งผลให้กาลเวลาในจิตใต้
สํานึกของเขาเร็ วกว่าเดิมเป็ น 10 เท่า พลังงานหน้าตาเหมือนปรอท
พุง่ ลงมาจากมิติเบื้องบน แต่ทุกหยาดหยดของมันหมุนเวียนกลายเป็ น
คลื่นนํ้าวนขนาดใหญ่ที่พงุ่ ตรงเข้าสู่ ร่างของจางเซวียน
จ้าวหย่า ขงซือเหยา กับคนอื่น ๆ พากันอัศจรรย์ใจ ทุกคนพากันถอย
จากแท่นบูชาไปหลายก้าว
พวกเขารู ้ดีวา่ ท่านอาจารย์สามารถซึ มซับพลังจิตวิญญาณอันหนักอึ้ง
นี้ได้นบั ตั้งแต่ที่รังสี ของเขาเปลี่ยนไปจนเหมือนกับเผ่าพันธุ์ปีศาจ
แต่ไม่คิดว่าเขาจะฝึ กฝนวรยุทธได้รวดเร็ วขนาดนั้น!
ภายใต้กระแสการไหลบ่าอย่างไม่ลดละของพลังงานหน้าตาเหมือน
ปรอทที่มีปริ มาณมหาศาล แท่นบูชาถึงกับพังทลายไปภายใต้แรง
กดดันนั้น
ด้วยอานุภาพของมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้ร่วง จาง
เซวียนสามารถฝึ กฝนวรยุทธได้ ด้วยความเร็ วอันน่าทึ่ง แต่ถึงอย่างนั้น
เขาก็ยงั ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันกว่าจะผลักดันวรยุทธไปได้ถึงขีดสุ ด
อยูใ่ นจุดที่ไม่อาจสะสมพลังงานได้อีกต่อไป
อีกครึ่ งวันให้หลังกว่าจางเซวียนจะปลดปล่อยพลังงานออกมาจน
หมด และก้าวไปเป็ นเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติได้สาํ เร็ จเหมือน
อย่างจ้าวหย่า แต่กน็ ่าประหลาดใจ ซึ่ งบางทีอาจเป็ นเพราะเขาได้เป็ น
ครู บาอาจารย์ของโลกแล้ว สวรรค์จึงไม่ได้เรี ยกการทดสอบอาวุธ
ยุทธภัณฑ์สายฟ้ามา ซึ่งโดยปกติจะต้องเกิดขึ้นหลังจากการฝ่ าด่าน
วรยุทธ
หลังจากสําเร็ จวรยุทธขั้นนี้ จางเซวียนรู ้ทนั ทีวา่ เขากําลังเผชิญปั ญหา
เดียวกันกับไอ้โหดและจ้าวหย่า เพราะไม่วา่ เขาจะพยายามซึมซับ
พลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทนั้นมากแค่ไหน ก็ไม่อาจ
ยกระดับวรยุทธขึ้นได้อีก ราวกับจุดตันเถียนและทางเดินพลังปราณ
ของเขาอยูใ่ นจุดที่เต็มเปี่ ยมแล้ว ทําให้ไม่อาจซึมซับพลังงานเพิม่
“น่าเสี ยดาย!” จางเซวียนส่ ายหน้าขณะหยุดการฝึ กฝนวรยุทธและลุก
ขึ้นยืน
การยกระดับวรยุทธครั้งนี้ทาํ ให้เขามีความเข้าใจลํ้าลึกยิง่ ขึ้นว่าแท้ที่
จริ งแล้วพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทนั้นคืออะไร
พูดกันง่าย ๆ มันคือพลังจิตวิญญาณที่มีความเข้มข้นระดับสู ง ส่ งผล
ให้มีน้ าํ หนักมาก ส่ วนทางเดินพลังปราณของมนุษย์ธรรมดาสามัญก็
อ่อนแอเกินไป จึงไม่มีทางรับมันไหว
แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจมีสภาวะร่ างกายที่เหนือชั้นกว่า และเครื อข่ายทางเดิน
พลังปราณของพวกมันก็ซบั ซ้อนกว่านักรบทัว่ ไปที่เป็ นมนุษย์ ดังนั้น
จึงมีโอกาสสู งที่พวกมันจะสามารถปรับตัวให้คุน้ ชินกับพลังจิต
วิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท และใช้สิ่งนั้นให้เป็ นประโยชน์ต่อ
การฝึ กฝนวรยุทธได้
ส่ วนทําไมปราณสังหารถึงเข้ากันได้ดีกบั พลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตา
เหมือนปรอท? จางเซวียนยังไม่มีคาํ ตอบที่ชดั เจน แต่เขารู ้วา่ พลังงาน
2 อย่างนี้มีองค์ประกอบบางอย่างที่เหมือนกัน บางทีปราณสังหาร
อาจช่วยส่ งเสริ มการซึมซับและการไหลเวียนของพลังจิตวิญญาณ
และองค์ประกอบที่เหมือนกันก็หมายความว่ามีโอกาสน้อยลงที่
ร่ างกายของผูน้ ้ นั จะปฏิเสธพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท
เห็นทั้งจ้าวหย่าและท่านอาจารย์ของพวกเขาก้าวไปเป็ นนักรบขั้นผู ้
ทําลายล้างมิติได้สาํ เร็ จทีละคน ทั้งเจิ้งหยาง ขงซื อเหยา และคนอื่น ๆ
แทบระงับความตื่นเต้นไม่ไหว “ท่านอาจารย์ จะเป็ นไปได้ไหมที่
พวกเราจะฝึ กฝนวรยุทธโดยใช้พลังจิตวิญญาณอันหนักอึ้งนั้น?”
ถ้าทั้งคู่ซึมซับพลังจิตวิญญาณอันหนักอึ้งได้ แล้วในอนาคตอันใกล้
พวกเขาจะทําได้เหมือนกันหรื อเปล่า?
จางเซวียนส่ ายหน้าอย่างเคร่ งขรึ ม “สําหรับตอนนี้ พวกคุณที่เหลือยัง
ทําไม่ได้หรอก”
การปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณของนักรบคนหนึ่งไม่ใช่เรื่ องเล่น ๆ
ต่อให้มีวถิ ีทางตามแบบของจางเซวียน เขาก็ไม่กล้ามองมันเป็ นเรื่ อง
เล็ก
เหตุผลที่จา้ วหย่าประสบความสําเร็ จก็เพราะทางเดินพลังปราณของ
เธอถูกแทนที่ดว้ ยความพิเศษของเถาวัลย์จากนํ้าเต้าตงฉู่ แต่ถึงอย่าง
นั้น โชคชะตาก็มีส่วนสําคัญ เพราะความยุง่ ยากหลายอย่างอาจ
เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย เช่นเธออาจจะต้องเจ็บปวดแสนสาหัสหาก
ร่ างกายของเธอปฏิเสธเถาวัลย์ของนํ้าเต้าตงฉู่
ส่ วนจางเซวียน เขาปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณของตัวเองได้สาํ เร็ จ
ก็เพราะในตอนนั้นมีสภาพเหลือเพียงโครงกระดูก และได้รับพลัง
เยียวยาจากเทพเจ้า ทําให้ฟ้ื นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ ว ไม่อย่างนั้น
การเพียรพยายามเยียวยาร่ างกายก็มีแต่จะสร้างแรงตีกลับอันเจ็บปวด
นับประสาอะไรกับการจะใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณ
หากปราศจากความโชคดี ก็ยากที่บรรดาศิษย์สายตรงที่เหลือของเขา
จะทําได้
ได้ยนิ คํานั้น ทุกคนได้แต่กม้ หน้าอย่างผิดหวัง
“เป็ นไปไม่ได้จริ ง ๆ สําหรับคนธรรมดาสามัญที่จะซึ มซับพลังงานนี้
ร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์พยายามมาแล้วหลายครั้ง แต่แม้อจั ฉริ ยะที่
ปราดเปรื่ องที่สุดของเราก็ยงั ทําไม่ได้” ขงซื อเหยาพูดขึ้นมาพร้อม
กับยิม้ เจื่อน ๆ
ไม่มีใครในทวีปแห่งปรมาจารย์ที่รู้เรื่ องพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตา
เหมือนปรอทนี้ดีไปกว่าร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์
เป็ นเวลาหลายชัว่ คนมาแล้วที่พวกเขาอารักขาฉนวนนี้ไว้ และใน
ระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้ทาํ ความคุน้ เคยกับธรรมชาติของพลังจิต
วิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท
ที่ผา่ นมา ในเมื่ออัจฉริ ยะผูป้ ราดเปรื่ องมากมายต่างทําไม่สาํ เร็ จ พวก
เขาก็ไม่น่าจะก้าวข้ามขีดจํากัดนี้ได้ในเร็ ว ๆ นี้เช่นกัน
“ตอนนี้พวกคุณอาจยังทําไม่สาํ เร็ จ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร่ างกายของ
คุณก็จะค่อย ๆ คุน้ เคยกับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท
ไปเอง” จางเซวียนพูด
“เท่าที่มีบนั ทึกไว้ตลอดหลายหมื่นปี ที่ผา่ นมา ประชากรในยุคนั้นไม่
อาจรับมือกับพลังจิตวิญญาณนี้ได้ถึง 3 วินาทีดว้ ยซํ้า ทางเดินพลัง
ปราณของพวกเขาจะถูกทําลายอย่างสิ้ นเชิง แต่สาํ หรับประชากรใน
ยุคนี้ รวมถึงผูท้ ี่ยงั ไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธด้วย ต่างรับมือกับพลังงานนี้
ได้อย่างน้อยก็ 10 นาที ตราบใดที่ไม่ได้ซึมซับมันเข้าสู่ ร่างกาย”
ขงซื อเหยาพยักหน้า
“ฮะ?” คํานั้นทําให้จางเซวียนขมวดคิ้ว “ทําไมถึงเป็ นอย่างนั้นได้?
ขอผมดูหน่อย?”
ตามที่ควรจะเป็ น สถานการณ์ของมนุษย์ธรรมดาสามัญไม่ควรจะ
เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนั้น ต่อให้ขา้ วสาลีแตกยอดได้ปรับเปลี่ยน
สภาวะร่ างกายพื้นฐานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่นกั รบขั้น 8 ก็น่าจะ
ยังคงไร้ความสามารถในการรับมือกับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตา
เหมือนปรอทพอ ๆ กันกับนักรบขั้น 1 แต่ที่ผา่ นมาเกิดการเปลี่ยน
แปลงอย่างมาก หรื อว่าข้าวสาลีแตกยอดได้ก่อให้เกิดผลบางอย่าง?
จางเซวียนใช้การรับรู ้จิตวิญญาณของเขากวาดไปทัว่ สํานักแห่งขงจื๊อ
อย่างรวดเร็ ว จากนั้นก็จบั จ้องอยูท่ ี่พลเมืองบางกลุ่ม
“ข้าวสาลีแตกยอดไม่ได้เพียงยกระดับสภาวะร่ างกายของพวกเขา
เท่านั้น ดูเหมือนทางเดินพลังปราณของคนเหล่านั้นจะได้รับการ
พัฒนาไปมากเมื่อเปรี ยบเทียบกับเหล่านักรบในทวีปแห่งปรมาจารย์”
จางเซวียนถึงกับตะลึง
เขารู ้วา่ ข้าวสาลีแตกยอดช่วยเพิ่มพูนความแข็งแกร่ งให้กบั ประชากร
ที่อาศัยอยูใ่ นอาณาจักรคุนฉื่อ ทําให้พวกเขามีวรยุทธระดับจงซรื อ
ตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยคิดจะตรวจสอบทางเดินพลังปราณของคน
เหล่านั้นมาก่อน
จากการพัฒนาตลอดระยะเวลาหลายปี เครื อข่ายทางเดินพลังปราณ
ของประชากรในท้องถิ่นเริ่ มจะแสดงอาการบางอย่างที่เหมือนกับ
ทางเดินพลังปราณของเผ่าพันธุ์ปีศาจ เรื่ องนี้อธิบายได้ถึงระยะเวลา
ที่ยาวนานขึ้นของพวกเขาในการต้านทานพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตา
เหมือนปรอท
“บางที นี่อาจเป็ นเส้นทางที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกขีดไว้ให้เดินไปสู่ ความ
ก้าวหน้า…” จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่
ตอนแรก เขาตั้งใจจะหาหนทางที่แตกต่างออกไปสําหรับเจิ้งหยาง
และคนอื่น ๆ เพื่อให้คนเหล่านั้นได้คุน้ ชินกับพลังจิตวิญญาณที่มี
หน้าตาเหมือนปรอท แต่ความรู ้ที่ได้มาใหม่เปลี่ยนใจของเขาไป
อย่างสิ้ นเชิง
ดูเหมือนวิธีเดียวที่จะคุน้ ชินกับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือน
ปรอทได้กค็ ือการปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณ ถ้าเจิ้งหยางกับคนที่
เหลือซึมซับมันด้วยวิธีปกติ ต่อให้ชวั่ ชีวติ ของพวกเขาก็ไม่มีทางทํา
สําเร็ จ
แต่…
ในการปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณของคนเหล่านั้น อันดับแรก
จะต้องทําลายทางเครื อข่ายทางเดินพลังปราณเดิมเสี ยก่อน แต่
นิรันดร์กาลของนักปราชญ์โบราณที่พวกเขาต้องใช้เพื่อการเยียวยา
ร่ างกายนั้นมีปริ มาณมากเสี ยจนจางเซวียนไม่อาจหามาได้
ยิง่ ไปกว่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่สามารถคืนรู ปทางเดินพลัง
ปราณได้หลังจากทําลายมันไปแล้ว?
จางเซวียนครุ่ นคิดอย่างหนักก่อนจะตั้งคําถาม “ขงซือเหยา
นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงกับคนอื่น ๆ อยูไ่ หน?”
ตอนที่ 1913 ขึน้ สู่ มติ เิ บื้องบน
การต่อสู ก้ บั เทพเจ้าทําให้นกั ปราชญ์โบราณเหยียนชิงกับคนอื่น ๆ มี
สภาพเหลือเพียงโครงกระดูก ในเมื่อทุกคนใกล้หมดอายุขยั เต็มที ก็
คงเสี ยทรัพยากรไปเปล่าหากจะพยายามเยียวยาพวกเขา แต่ก่อนที่
จางเซวียนจะออกเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง เขาเห็นขงซื อเหยาเก็บ
ร่ างของคนเหล่านั้นแช่แข็งไว้เพื่อรักษาสภาพร่ างกาย ครึ่ งปี ผ่านไป
แล้วนับจากวันนั้น แต่กม็ ีความเป็ นไปได้สูงว่าพวกเขาน่าจะยังคงมี
ชีวติ อยู่
ขงซื อเหยาพยักหน้า “ตอนนี้ทุกคนอยูร่ ะหว่างการจําศีล”
“พาผมไปหาพวกเขาที ผมมีวธิ ีช่วยชีวติ พวกเขาแล้ว!” จางเซวียนสัง่
การขณะรวบรวมพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทไว้ได้กาํ
มือหนึ่ง
คําพูดนั้นทําให้ขงซือเหยาตาโตด้วยความตื่นเต้น เพราะรู ้ดีวา่
นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงกับพรรคพวกอยูใ่ นสภาพไหน ทั้งหมด
ที่เธอทําได้จึงเป็ นแค่การถ่วงเวลา เธอเคยคิดว่าบุคคลผูย้ งิ่ ใหญ่เหล่านี้
ที่ได้อุทิศชีวติ เพื่อปกป้องร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์คงต้องถึงจุดจบ
เข้าสักวัน แต่คาํ พูดของจางเซวียนได้จุดประกายแห่งความหวังให้
ฉายวาบขึ้นในดวงตาของเธอ
ขงซื อเหยารี บนําทางไป ไม่ชา้ พวกเขาก็มาถึงห้องที่ปิดสนิท ในห้อง
นั้น ร่ างของนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงกับนักปราชญ์โบราณอีก
หลายคนถูกวางเรี ยงไว้ขา้ งกันรอบแท่นบูชารู ปกลม ภายใต้แท่นนั้น
คือของลํ้าค่ามากมายที่ใช้ย้อื พลังชีวติ ของเหล่านักปราชญ์โบราณ
เอาไว้ให้มีชีวติ ยืนยาวออกไปนานที่สุดเท่าที่จะทําได้
วิธีการนี้ไม่อาจช่วยยืดอายุขยั ของพวกเขา แต่อย่างน้อยที่สุดก็ช่วย
ยืดความตายให้ห่างไกลออกไป มันเป็ นวิธีการเดียวกับที่พวกเขาเคย
ใช้ต้ งั แต่หมื่นปี ก่อน
จางเซวียนเดินตรงเข้าหาโครงกระดูกของนักปราชญ์โบราณเหยียน
ชิง เขาดีดนิ้วเพื่อปลดปล่อยฉนวนที่โอบล้อมร่ างของอีกฝ่ ายไว้
โครงกระดูกนั้นค่อย ๆ ฟื้ นคืนสติสมั ปชัญญะขึ้นมา
“ปรมาจารย์จาง!” โครงกระดูกรี บลุกขึ้นและโค้งคํานับอย่างงาม
“ผมพบวิธีช่วยชีวติ พวกคุณแล้ว แต่เพราะยังไม่เคยทดสอบมันมา
ก่อน จึงรับประกันไม่ได้วา่ จะสําเร็ จหรื อไม่ ถ้ามันได้ผลล่ะก็ อายุขยั
ของพวกคุณจะยืนยาวขึ้นอีก แถมระดับวรยุทธก็จะเพิ่มสู งขึ้นอีก
มาก แต่ถา้ ล้มเหลว พวกคุณจะเสี ยชีวติ ทันที คุณสนใจเดิมพันครั้งนี้
ไหม?” รู ้ดีวา่ อีกฝ่ ายมีเวลาจํากัด จางเซวียนตรงเข้าประเด็นทันที
“ผมอยากลอง!” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงตอบอย่างเด็ดเดี่ยว
ในเมื่อเขาจวนจะตายอยูแ่ ล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่คว้าฟางแห่ง
ความหวังเส้นสุ ดท้ายไว้ ต่อให้ความหวังนั้นจะแสนริ บหรี่ กต็ าม
“ดี ผมมีกรรมวิธีการไหลเวียนพลังปราณที่อยากให้คุณฝึ กฝนตอนนี้
อีกอย่าง ขณะที่คุณกําลังฟื้ นฟูสภาพกายเนื้อเดิมกลับมา ผมก็อยาก
ให้คุณสร้างทางเดินพลังปราณของคุณขึ้นใหม่ตามแบบแผนที่ผมมี
อยู!่ ”
จางเซวียนดีดนิ้วและถ่ายทอดกรรมวิธีของเคล็ดวิชาเทียบฟ้าแบบ
ย้อนกลับบวกกับแผนผังของเครื อข่ายทางเดินพลังปราณที่เขาสร้าง
ขึ้นเมื่อครู่ ก่อนเข้าสู่ สมองของนักปราชญ์โบราณเหยียนชิง
นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงใช้เวลา 10 นาทีกท็ าํ ความเข้าใจทางเดิน
พลังปราณและวงจรพลังปราณนั้นได้ท้ งั หมด เขาไม่แน่ใจนักว่าจาง
เซวียนคิดอะไร แต่มนั่ ใจว่าอีกฝ่ ายไม่ทาํ ร้ายเขาแน่ จึงสู ดหายใจลึก
ก่อนจะขับเคลื่อนพลังปราณตามกรรมวิธีการไหลเวียนพลังปราณที่
จางเซวียนมอบให้
เป๊ าะ!
ด้วยการดีดนิ้ว จางเซวียนปล่อยพลังงานหน้าตาเหมือนปรอทที่เขา
รวบรวมไว้เมื่อครู่ ก่อนออกมา มันแผ่ซ่านออกไปโดยรอบอย่าง
รวดเร็ ว
การปรากฏของพลังงานทําให้นกั ปราชญ์โบราณเหยียนชิงตัวแข็ง
ขึ้นมาทันทีดว้ ยความกังวล แต่เขาก็กดั ฟันกรอดและตั้งใจมุ่งมัน่ ที่จะ
ฝ่ ามันไปให้ได้
เขาตั้งต้นซึมซับพลังงานหน้าตาเหมือนปรอทที่อยูโ่ ดยรอบโดยใช้
กรรมวิธีการไหลเวียนพลังปราณที่จางเซวียนมอบให้ และคาดว่าไม่
ช้าจะต้องพบกับแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สี หน้า
งุนงงสงสัยก็ปรากฏขึ้นแทน
เมื่อเขาซึมซับพลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทโดยใช้กรรมวิธี
การไหลเวียนของพลังปราณตามแบบที่จางเซวียนมอบให้ ก็รู้สึกได้
เลยว่าพลังจิตวิญญาณนั้นเข้าบ่มเพาะร่ างกายของเขาแทนที่จะทําลาย
ด้วยความยินดีปรี ดา นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงซึ มซับพลังงาน
ต่อไปอย่างตื่นเต้น ภายใน 4 ชัว่ โมง กายเนื้อของเขาก็ถูกสร้างขึ้น
ใหม่อย่างเสร็ จสมบูรณ์
ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเครื อข่ายทางเดินพลังปราณ ร่ างกายของ
เขาแผ่ปราณสังหารอันทรงพลังออกมา ทําให้ดูเผิน ๆ เหมือน
เผ่าพันธุ์ปีศาจตัวหนึ่ง
เมื่อเห็นแผนการขั้นแรกได้ผล จางเซวียนนัยน์ตาเป็ นประกายด้วย
ความดีใจ เขารี บสัง่ การขั้นตอนต่อไป “ดีแล้ว ตอนนี้พยายามผลักดัน
การฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติให้ได้!”
นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงพยักหน้าขณะซึ มซับพลังจิตวิญญาณที่มี
หน้าตาเหมือนปรอทต่อไป
ด้วยการสัง่ สมวรยุทธของเขาตลอดหมื่นปี ที่ผา่ นมา ซึ่ งเหนือชั้นกว่า
จ้าวหย่ามาก เขาจึงใช้เวลาเพียง 2 ชัว่ โมงในการสําเร็ จวรยุทธระดับ
นักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผลจากการฝ่ าด่านวรยุทธครั้งนี้ทาํ ให้อายุขยั
ของเขายืนยาวขึ้น
ด้วยสิ่ งนี้ เขาจะไม่ตอ้ งเสี่ ยงกับชีวติ ที่ร่อแร่ ใกล้ตายอีกต่อไป
“ขอบคุณมาก ปรมาจารย์จาง!”
ไม่มีคาํ พูดใดจะบรรยายความรู ้สึกของนักปราชญ์โบราณเหยียนชิง
ได้ขณะที่รับรู ้ถึงกระแสพลังงานเชี่ยวกรากที่ไหลเวียนไปทัว่ ร่ าง เขา
รี บทรุ ดตัวลงคุกเข่าเพื่อแสดงความสํานึกบุญคุณต่อจางเซวียน
เขาพร้อมเผชิญหน้ากับความตายแล้วหลังจากการใช้พละกําลังเกิน
พิกดั เพื่อพยายามซ่อมแซมค่ายกล แต่ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ ายจะนํา
ชีวติ ของเขากลับคืนมาได้ดว้ ยวิธีการอันแสนแปลกประหลาด? ไม่
เพียงเท่านั้น ตัวเขายังทําได้แม้แต่ฝ่าด่านวรยุทธและเข้าถึงระดับที่ไม่
เคยนึกฝันว่าจะมีวนั ได้เข้าถึง
“พลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทนั้นน่าทึ่งจริ ง ๆ ไม่เพียงแต่
จะช่วยยกระดับวรยุทธ ยังฟื้ นฟูสภาพร่ างกายได้รวดเร็ วกว่านิรันดร์
กาลของนักปราชญ์โบราณเสี ยอีก…” เมื่อเห็นว่าการคาดเดาของเขา
ตรงประเด็น จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ด้วยพลังชีวติ ของนักปราชญ์โบราณเหยียน
ชิงที่เหลือน้อยเต็มที เขาคงไม่อาจฟื้ นฟูกายเนื้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีนิรันดร์กาลของนักปราชญ์โบราณ อยูเ่ ข้มข้น
แต่ทุกอย่างจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้ นเชิงหากเขาซึมซับพลังจิต
วิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทเข้าไปแทน
พลังจิตวิญญาณเข้มข้นชนิดนี้มีพละกําลังอย่างน่าทึ่งอยูใ่ นตัวมัน ขอ
แค่ผนู ้ ้ นั ซึมซับมันได้ ก็จะสามารถเยียวยาบาดแผลและอาการบอบชํ้า
ใด ๆ ก็ตามได้อย่างรวดเร็ ว
หลังจากแน่ใจแล้วว่ากรรมวิธีน้ ีได้ผล จางเซวียนปลุกบรรดานักปราชญ์
โบราณที่เหลืออยูใ่ ห้ฟ้ื นขึ้นมาโดยไม่ลงั เล เขาเตือนคนเหล่านั้นถึง
อันตรายที่อาจเกิดขึ้น ก่อนจะถ่ายทอดกรรมวิธีการไหลเวียนของ
พลังปราณและแผนผังของเครื อข่ายทางเดินพลังปราณแบบใหม่
อย่างที่ถ่ายทอดให้นกั ปราชญ์โบราณเหยียนชิงให้คนเหล่านั้น ทุก
คนตัดสิ นใจทันทีที่จะดําเนินการตามแผนของจางเซวียน โดยเฉพาะ
เมื่อเห็นแล้วว่ามันใช้ได้ผลกับนักปราชญ์โบราณเหยียนชิง
ในที่สุด นักปราชญ์โบราณที่เหลือเกือบทุกคนก็กา้ วข้ามขั้นตอน
สุ ดท้ายและสําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ แต่กม็ ีอุบตั ิเหตุอยูบ่ า้ ง
เกิดความผิดพลาดในวรยุทธของนักปราชญ์โบราณ 2 คน ซึ่ งลงเอย
ด้วยการที่โครงกระดูกของพวกเขาแตกสลายไปเพราะพลังจิตวิญญาณ
อันหนักอึ้ง ทําให้ท้ งั สองเสี ยชีวติ ในทันที
แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้กแ็ สดงให้เห็นว่านี่คือวิธีการที่ได้ผล
จางเซวียนจึงเรี ยกบรรดาศิษย์สายตรงของเขาเข้ามาและถามว่า “พวก
คุณพร้อมจะเสี่ ยงอันตรายเพือ่ สําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติไหม?”
ทั้ง 8 คนพยักหน้ารับอย่างพร้อมเพรี ยง
จางเซวียนโบกมืออย่างไม่ลงั เล แล้วศิษย์สายตรงทั้ง 8 คนของเขาก็
กระอักเลือดออกมาพร้อมกัน การโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นทําลาย
ทางเดินพลังปราณทั้งหมดในร่ างกายของพวกเขา
“ฝึ กฝนวรยุทธตามนี้ จําให้ข้ ึนใจด้วยว่าผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียวก็
ไม่ได้ อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณก็แล้วกันหากลงท้ายคุณต้องตาย!”
จางเซวียนพูดขณะถ่ายทอดกรรมวิธีแบบเดิมรวมทั้งแผนผังของ
ทางเดินพลังปราณเข้าสู่ สมองของศิษย์สายตรงทั้ง 8 คน
เจิ้งหยางกับคนอื่น ๆ ได้เห็นการเกิดใหม่ของนักปราชญ์โบราณ
เหยียนชิงด้วยตาตัวเอง ทุกคนจึงรู ้ดีวา่ ควรทําอย่างไร ยิง่ ไปกว่านั้น
เพราะพวกเขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาเทียบฟ้าฉบับเรี ยบง่ายมาก่อน จึง
คุน้ เคยกับมันดี ถึงจะไม่เคยฝึ กฝนแบบย้อนกลับ แต่การจะทําความ
คุน้ เคยกับมันก็ไม่ได้ยากเกินไป
ในที่สุด ขงซือเหยาก็เป็ นคนแรกที่เยียวยาตัวเองได้สมบูรณ์และ
สําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ
ตามมาด้วยเจิ้งหยาง เว่ยหรู เหยียน ลู่ชง และหวังหยิง่ …
5 วันต่อมา แม้แต่จางจิ่วเซี่ยวซึ่งอ่อนด้อยที่สุดในหมู่พวกเขาก็สาํ เร็ จ
วรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติเช่นกัน
ด้วยสิ่ งนี้ ศิษย์สายตรงทั้ง 9 ของจางเซวียนก็กลายเป็ นนักปราชญ์
โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติ!
“ท่านอาจารย์!”
เมื่อเห็นว่าตัวเองทําสําเร็ จ ทั้ง 9 คนร้องออกมาด้วยความยินดีปรี ดา
ท่านอาจารย์ของพวกเขาสร้างวีรกรรมในแบบที่ปรมาจารย์ขงในยุค
นั้นก็ยงั ทําไม่สาํ เร็ จ!
เห็นภารกิจสุ ดท้ายของเขาลุล่วง จางเซวียนเรี ยกทุกคนเข้ามารวมตัว
กันและเปิ ดเผยความตั้งใจของเขา “ผมตั้งใจจะเปิ ดฉนวนออกและ
ขึ้นสู่ มิติเบื้องบน ในเวลานี้เรายังไม่รู้วา่ สถานการณ์ที่นนั่ เป็ นอย่างไร
และมีความเป็ นไปได้วา่ จะมีอนั ตรายรออยูม่ ากมาย ดังนั้นผมจึง
อยากให้พวกคุณทุกคนรออยูท่ ี่นี่ไปก่อน และช่วยอารักขาทวีปแห่ง
ปรมาจารย์แทนผม รอฟังข่าวคราวของผมก็แล้วกัน ตกลงไหม?”
ตลอด 5 วันที่เหล่าศิษย์สายตรงของเขาใช้เวลาไปกับการฝึ กฝนวรยุทธ
เพื่อก้าวไปสู่ การเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ เขาครุ่ นคิดอยูต่ ลอด
ว่าจะทําอย่างไรต่อไป และพบว่าความตั้งใจของเขายังคงไม่เปลี่ยน
แปลง
จางเซวียนอยากขึ้นสู่ มิติเบื้องบนเพือ่ ตามหาหลัวลัว่ ชิง ตอนแรกเขา
คิดว่าอาจพาบรรดาลูกศิษย์ไปด้วยได้ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ โดยเฉพาะ
เมื่อมีอนั ตรายหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ท่านอาจารย์ พวกเราอยากไปกับคุณด้วย!” จ้าวหย่าประกาศ
“ไม่วา่ จะมีอนั ตรายชนิดไหนรออยูเ่ บื้องหน้า เราก็พร้อมจะตามไป
ทุกที่ที่ท่านอาจารย์ไป ไม่มีอะไร ขวางกั้นพวกเราได้!” เจิ้งหยางพยัก
หน้าอย่างเห็นพ้อง
ถึงคนอื่นจะไม่พดู อะไร แต่สีหน้าเด็ดเดี่ยวของพวกเขาก็บ่งบอก
ความรู ้สึกได้เป็ นอย่างดี
เป็ นเพราะท่านอาจารย์ของพวกเขาที่ทาํ ให้ทุกคนประสบความสําเร็ จ
ขนาดนี้ ถ้าท่านอาจารย์ตอ้ งประสบอันตราย พวกเขาคงไม่มีวนั อยู่
เป็ นสุ ขได้
“ผมประทับใจในความหวังดีของพวกคุณ แต่พวกเราจะผละทวีป
แห่งปรมาจารย์ไปดื้อ ๆ ตอนนี้ไม่ได้ ด้วยการกระจายอํานาจอย่าง
ไม่สมดุลของทวีปแห่งปรมาจารย์ คงไม่ตอ้ งบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ในอนาคตหากหากจู่ ๆ พวกคุณก็หายตัวไปกันหมด วางใจเถอะ เมื่อ
ผมมัน่ ใจในสถานการณ์ของมิติเบื้องบนแล้ว จะพยายามแจ้งให้พวก
คุณทราบผ่านทางหลิวหยาง” จางเซวียนอธิบายยิม้ ๆ
มิติเบื้องบนดูจะเต็มไปด้วยผูเ้ ชี่ยวชาญชั้นยอด ต่อให้เขาสู ก้ บั คน
เหล่านั้นไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มนั่ ใจว่าจะหนีเอาตัวรอดได้หากอยู่
ตามลําพัง แต่ถา้ ต้องพาบรรดาลูกศิษย์ไปด้วย ก็ไม่มนั่ ใจว่าจะ
รับประกันความปลอดภัยของคนเหล่านั้นได้
อีกอย่าง บรรดาลูกศิษย์ของเขาต่างก็มีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ
ของตัวเองในทวีปแห่งปรมาจารย์ ไม่มีใครจากไปอย่างกะทันหันได้
ดูหลิวหยางเป็ นตัวอย่าง เขาคือผูน้ าํ สู งสุ ดของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ซึ่ ง
สถานการณ์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจก็เพิ่งมัน่ คงได้ไม่นาน หากเขาหายตัว
ไปในช่วงเวลานี้ แน่นอนว่าคนอื่น ๆ จะต้องฉวยโอกาสเข้ายึดอํานาจ
ปฏิวตั ิระเบียบและกฎเกณฑ์ของเขา ซึ่ งถ้าเป็ นอย่างนั้น เผ่าพันธุ์
มนุษย์จะต้องตกอยูใ่ นอันตรายอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น…ท่านอาจารย์ คุณดูแลตัวเองให้ดีดว้ ย!”
รู ้ดีวา่ ท่านอาจารย์ของพวกเขาตัดสิ นใจแล้ว และจะไม่มีใครเปลี่ยน
แปลงการตัดสิ นใจนั้นได้ ทั้ง 9 คนก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง
“เจิ้งหยาง ผมได้บ่มเพาะหอกสวรรค์กระดูกมังกรด้วยพลังจิตวิญญาณ
อันหนักอึ้งนี้ และมันฝ่ าด่านวรยุทธจนมีวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ
แล้ว ผมจะมอบมันให้คุณ ผมไม่รู้วา่ เทพเจ้าอื่น ๆ จะพยายามลง
มายังทวีปแห่งปรมาจารย์อีกหรื อไม่เมื่อผมจากไป จึงขอมอบหมาย
ให้คุณปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์จากภัยคุกคามด้วย” จางเซวียนพูดขณะ
ยืน่ หอกสวรรค์กระดูกมังกรให้เจิ้งหยาง
เพราะมีปราการแห่งมิติ เขาจึงไม่อาจนําข้าวของใด ๆ รวมทั้งแหวน
เก็บสมบัติติดตัวขึ้นไปยังมิติเบื้องบนได้ อีกอย่าง ด้วยระดับวรยุทธ
ของเขาในตอนนี้ หอกสวรรค์กระดูกมังกรก็ไม่ได้มีประโยชน์มาก
นัก
“หวังหยิง่ คุณเชี่ยวชาญด้านการร่ ายมนต์พลิกฟื้ นจิตวิญญาณ แต่การ
ร่ ายมนต์พลิกฟื้ นจิตวิญญาณเป็ นสิ่ งที่ตอ้ งใช้เวลา ผมขอมอบหม้อ
ต้นกําเนิดทองคําให้คุณ มันจะช่วยอารักขาความปลอดภัยให้คุณได้
เป็ นอย่างดี” จางเซวียนพูดขณะนําหม้อต้นกําเนิดทองคําออกมาจาก
รังนางพญามด
ตลอด 5 วันที่ผา่ นมา แม้เจ้าหม้อที่มีหน้าตาเหมือนก้อนอิฐนี้จะฝ่ า
ด่านวรยุทธไปสู่ การเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติไม่สาํ เร็ จทั้งที่
ได้รับการบ่มเพาะจากพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท แต่ก็
ถือว่าเข้าใกล้วรยุทธขั้นนั้นเต็มทีแล้ว ในเมื่อเขาพามันไปด้วยไม่ได้
ฝากไว้กบั ลูกศิษย์ของเขาก็ยอ่ มดีที่สุด
จางเซวียนนําทรัพย์สมบัติชิ้นแล้วชิ้นเล่าออกมาแจกจ่ายให้กบั บรรดา
ลูกศิษย์ของเขาอย่างทัดเทียมกันก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
ด้วยระดับวรยุทธของลูกศิษย์ของเขาประกอบกับทรัพย์สมบัติล้ าํ ค่า
ที่แต่ละคนมี ต่อให้เทพเจ้าทั้งกลุ่มลงมาจากสวรรค์ในตอนนี้ ก็คงไม่
มีทางที่จะเล่นงานคนเหล่านี้ได้ง่าย ๆ
ส่ วนไอ้โหด จางเซวียนขังอีกฝ่ ายไว้ในหนังสื อเทียบฟ้าซึ่ งถือเป็ นส่ วน
หนึ่งของหอสมุดเทียบฟ้า ในเมื่อไอ้โหดเป็ นบุคคลที่มีสถานภาพ
ทัดเทียมกันกับปรมาจารย์ขงในครั้งนั้น ก็คงเป็ นหายนะทีเดียวหาก
เขาปล่อยอีกฝ่ ายไว้ให้อยูใ่ นทวีปแห่งปรมาจารย์ แม้ท้ งั คู่จะผ่านอะไร
มาด้วยกันมากมาย แต่เขาก็ยงั ไม่อาจไว้ใจไอ้โหดได้เต็มร้อย จึงรู ้สึก
ว่าควรเก็บไว้กบั ตัวจะดีกว่า
สําหรับนํ้าเต้าตงฉู่ มันซ่อนอยูใ่ นจุดตันเถียนของเขา การจะนํามัน
ผ่านปราการแห่งมิติไปด้วยจึงไม่น่ามีปัญหาอะไร
ส่ วนตัวโคลน เขาพบว่าแม้อีกฝ่ ายจะไม่อาจเข้าสู่ หอสมุดเทียบฟ้าได้
แต่กส็ ามารถเข้าถึงมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้ร่วง ใน
เมื่อมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้ร่วงอยูใ่ นพื้นที่ที่แยกจาก
กันกับหอสมุดเทียบฟ้า และตัวโคลนก็ใช้จิตวิญญาณดวงเดียวกันกับ
เขา จึงไม่น่ามีปัญหาอะไรที่ตวั โคลนจะเข้าสู่ พ้นื ที่น้ นั ได้เช่นกัน
ดังนั้นจางเซวียนจึงสามารถพาตัวโคลนไปกับเขาได้
เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว จางเซวียนมองค่ายกลที่อยูเ่ หนือศีรษะ เขา
โบกมือและเปิ ดรอยแยกรอยหนึ่ง จากนั้นก็กระโจนพรวดเข้าใส่ รอย
แยกที่เพิ่งเปิ ดออก
ก่อนหน้านี้ พลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทที่ไหลบ่าลงมาถือ
เป็ นอุปสรรคใหญ่ต่อทั้งกายเนื้อและจิตวิญญาณของเขา แต่เมื่อสําเร็ จ
วรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติแล้ว จางเซวียนก็ไม่เดือดร้อนกับมันอีก
ต่อไป ในทางตรงกันข้าม เขารู ้สึกเหมือนตัวเองเป็ นนักเดินทางที่พบ
โอเอซิสกลางทะเลทรายเข้าโดยบังเอิญ มันช่วยเพิ่มพลังได้มาก
ที่บริ เวณเหนือค่ายกล จางเซวียนเห็นความว่างเปล่าสี ดาํ สนิทจํานวน
มากมาย ช่องว่างที่แตกสลายระหว่างทั้งสองมิติก่อตัวขึ้นเป็ นคลื่น
ความสัน่ สะเทือนของมิติที่เข้าเล่นงานเขาจากทุกทิศทาง
“โชคดีที่เราสําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติแล้ว ไม่อย่างนั้น คลื่น
ความสัน่ สะเทือนของมิติน้ ีจะต้องฉีกเราเป็ นชิ้น ๆ แน่…” จางเซวียน
คิดอย่างเคร่ งเครี ยดขณะคลําทางผ่านคลื่นความสัน่ สะเทือนแห่งมิติ
ไปอย่างยากลําบาก
คลื่นความสัน่ สะเทือนแห่งมิติน้ ีทรงพลังกว่าที่เขาเคยพบเจอในอดีต
อย่าว่าแต่นกั รบขั้นการฟื้ นคืนชีพของสายเลือด ต่อให้นกั รบขั้นผู ้
ทําลายล้างมิติโดยทัว่ ไปก็น่าจะพ่ายแพ้ให้กบั คลื่นความสัน่ สะเทือน
ของมิติน้ ีและลงเอยด้วยการถูกฉี กร่ างเป็ นชิ้น ๆ หากเลินเล่อเพียง
แวบเดียว
ถ้าไม่ใช่เพราะพละกําลังอันเหนือชั้นของเขาที่สงั่ สมมา ต่อให้จาง
เซวียนก็คงผ่านไปได้ดว้ ยความยากลําบาก
แต่ถึงอย่างนั้น คลื่นความสัน่ สะเทือนของมิติกย็ งั สร้างรอยแผล
มากมายไว้บนร่ างของเขา ทําให้ เลือดไหลออกมาไม่หยุด
เส้นทางนี้ไม่มีถนน และตลอดเส้นทางก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากมิติที่
พังทลาย ด้วยการใช้หอสมุดเทียบฟ้า จางเซวียนจึงสามารถประเมิน
หาเส้นทางที่ปลอดภัยได้ ไม่อย่างนั้นคงหลงทางอยูใ่ นมิติที่แตก
สลายแห่งนี้
จางเซวียนเดินทางด้วยสภาพนั้นอยูเ่ กือบครึ่ งเดือน หากจะประเมิน
ระยะทางที่เขาเดินมา ก็รู้สึกว่าน่าจะถึงเป้าหมายในไม่ชา้
แต่ตอนนั้นเอง สายฟ้าฟาดขนาดใหญ่กป็ รากฏตรงหน้า สกัดกั้น
เส้นทางของเขาไว้
ขณะที่จางเซวียนกําลังครุ่ นคิดว่าจะผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้อย่างไร
สายฟ้าฟาดอีกสายหนึ่งก็ฟาดเข้าใส่ จางเซวียนอย่างจังก่อนที่เขาจะ
ทันรู ้ตวั ทําให้จางเซวียนสลบไป
ตอนที่ 1914 แค่ คดิ ก็ตื่นเต้ นแล้ว
จางเซวียนค่อย ๆ ฟื้ นคืนสติดว้ ยอาการหัวหมุนติ้ว สิ่ งแรกที่เขาเห็น
คือเพดานสี ขาว หลังจากสํารวจโดยรอบอย่างรวดเร็ ว ก็พบว่ากําลัง
นอนอยูบ่ นเตียงในห้องที่ค่อนข้างกว้างใหญ่
พละกําลังของเรา…
จางเซวียนค่อย ๆ ลุกขึ้นนัง่ เจ็บปวดแสนสาหัสในทุกอิริยาบถที่
เคลื่อนไหว เขาเพ่งมองร่ างกายของตัวเองและพบว่ามันถูกพันไว้
ด้วยผ้าพันแผลอย่างแน่นหนา จางเซวียนพยายามขับเคลื่อนพลัง
ปราณ แต่กร็ ู ้ทนั ทีวา่ พลังปราณที่หลงเหลืออยูใ่ นร่ างกายของเขานั้น
ตํ่ามาก
ทําไมพลังปราณของเราถึงหนักอึ้งแบบนี้?
จางเซวียนตรวจสอบอย่างถี่ถว้ น และพบว่าพลังปราณของเขาหนัก
อึ้งขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แค่จะขับเคลื่อนมันก็สร้างความตึงเครี ยด
อย่างหนักแล้ว
จางเซวียนรู ้สึกได้ทนั ทีวา่ พลังปราณของเขาไม่ได้อยูใ่ นระดับตํ่า แต่
พลังปราณปริ มาณมหาศาลที่เขาเคยสะสมไว้ก่อนหน้านี้ได้แปรสภาพ
กลายเป็ นพลังปราณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท
จริ งอยูว่ า่ พลังปราณที่เข้มข้นกว่าจะทําให้เขามีพละกําลังแข็งแกร่ ง
กว่าเดิม แต่ปัญหาก็คือแม้แต่จะขับเคลื่อนมันเขาก็ยงั ทําไม่ได้ ยังไม่
ต้องพูดถึงการใช้มนั เยียวยาอาการบาดเจ็บ
จางเซวียนรี บทบทวนสิ่ งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
เราเข้าสู่ ทางเดินที่นาํ ไปสู่ มิติเบื้องบน แต่แล้วก็ถูกสายฟ้าขวางทาง
เราพยายามหาทางหนีให้พน้ มัน แต่กม็ าปะทะกับสายฟ้าอีกสายหนึ่ง
และสุ ดท้ายก็สลบไป…
เมื่อเห็นสภาพยํา่ แย่ของร่ างกายและได้ความทรงจําก่อนอุบตั ิเหตุครั้ง
นั้นกลับคืนมา จางเซวียนหรี่ ตาด้วยความอัศจรรย์ใจ
หรื อว่า…เราอยูใ่ นมิติเบื้องบนแล้ว?
ในเมื่อเขาสลบไปที่ทางเดินนั้น ก็คิดว่าน่าจะตื่นมาและคลําทางอยู่
ตรงนั้นอย่างไร้จุดหมาย แต่ยงั ไม่ทนั จะรู ้ตวั ก็มานอนอยูใ่ นห้อง
พร้อมกับมีผา้ พันแผลพันทัว่ ร่ าง หรื อว่าเขาผ่านอาณาเขตของสายฟ้า
มาได้ดว้ ยวิธีการบางอย่าง และเข้าสู่ มิติเบื้องบนได้สาํ เร็ จ?
ความคิดนั้นทําให้จางเซวียนรี บเหลียวมองไปรอบ ๆ เขาพยายาม
ปลดปล่อยการรับรู ้จิตวิญญาณออกไป แต่แล้วก็ตอ้ งอ้าปากค้าง
ที่ผา่ นมา การรับรู ้จิตวิญญาณของเขาแผ่ออกไปได้มากกว่าหลาย
ล้านลี้ แต่ตอนนี้ มันถูกกักขังไว้ในร่ างกาย ไม่สามารถแผ่ออกมาได้
ไม่วา่ เขาจะผลักดันมันจะแค่ไหน
แรงกดดันของมิติที่นี่ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน!
ตอนนี้ชดั เจนแล้วว่าเขาอยูใ่ นมิติเบื้องบน ซึ่งไม่เพียงแต่จะไม่สามารถ
เปิ ดใช้การรับรู ้จิตวิญญาณได้ แม้กระทัง่ ประสิ ทธิภาพในการต่อสู ก้ ็
ถูกสกัดกั้นไว้ อันที่จริ ง ขนาดการเคลื่อนไหวแบบธรรมดา ๆ ก็ยงั
ถูกยับยั้งไว้อย่างรุ นแรงจากแรงกดดันอันหนักหน่วงของมิติ
โครกกกกก!
ในตอนนั้น เสี ยงครางดังสนัน่ ก้องออกมาจากท้องของจางเซวียน
เขากําลังหิ ว
นับตั้งแต่ได้เป็ นนักรบเหนือมนุษย์ จางเซวียนสามารถรักษาสภาพ
ร่ างกายไว้ได้เพียงแค่ใช้การซึมซับพลังจิตวิญญาณและการฝึ กฝน
วรยุทธ ส่ วนจะได้กินอาหารหรื อไม่น้ นั ไม่สาํ คัญ นี่เป็ นครั้งแรก
ในช่วงระยะเวลาอันยาวนานที่เขารู ้สึกหิ วมาก ราวกับร่ างกายว่าง
เปล่า ไม่มีอะไรอยูใ่ นนั้นเลย
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาหลับตา รู ้สึกได้วา่ สภาพแวดล้อม
โดยรอบเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอท ในแง่
ของความเข้มข้น มันเข้มข้นกว่าที่เขาเคยสัมผัสบริ เวณแท่นบูชาที่
อาณาจักรคุนฉื่ออย่างน้อยก็ 10 เท่า
จางเซวียนพยายามซึมซับพลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทนั้น
เพื่อขัดเกลาพลังปราณและเยียวยาอาการบาดเจ็บ แต่ครู่ ต่อมา ใบหน้า
ของเขาก็แดงกํ่าและกระอักเลือดกองใหญ่ออกมา
จางเซวียนไออย่างหนักติดกันชุดใหญ่ เขาต้องตบหน้าอกหลายครั้ง
กว่าที่อาการแน่นหน้าอกจะค่อยบรรเทาลง
ตอนที่ยงั ไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาสามารถใช้ความแข็งแกร่ งของร่ างกาย
ต้านทานแรงตีกลับจากการซึ มซับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือน
ปรอทได้ แต่เมื่อตอนนี้ท้ งั ร่ างกายและทางเดินพลังปราณกําลังบอบชํ้า
ลําพังแค่การซึมซับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทก็ทาํ ให้
เขารู ้สึกเหมือนทั้งร่ างจะพังแล้ว ส่ วนการจะผสานมันเข้ากับร่ างกาย
นั้นไม่ตอ้ งพูดถึง
ดูเหมือนเราควรจะลองอีกครั้งหลังจากที่อาการบาดเจ็บดีข้ ึนสัก
หน่อย…จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขารู ้ดีวา่ หากไม่อดทนก็จะไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย จึงตัดสิ นใจปล่อย
ทุกอย่างให้เป็ นไปตามยถากรรม
แต่ถึงอย่างนั้น ข้อเท็จจริ งที่วา่ จางเซวียนไม่สามารถขับเคลื่อนพลัง
ปราณได้เลย อีกทั้งความบอบชํ้ารุ นแรงที่ร่างกายของเขาต้องเผชิญ ก็
หมายความว่าเขาแทบไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ธรรมดาสามัญ เขาต้อง
ระมัดระวังตัวจนกว่าจะฟื้ นคืนพละกําลังดังเดิม
“อันดับแรก เราต้องหาอะไรกินก่อน” จางเซวียนพึมพําขณะคลื่น
ความหิ วอีกระลอกถาโถมเข้าใส่
เขากระเสื อกกระสนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ลูบท้องก่อนจะพยายามคืบ
คลานออกจากห้อง
จางเซวียนผลักประตูออก เขาได้ยนิ เสี ยงลมวูห่ วิวกรี ดก้องอยูใ่ น
อากาศ เมื่อหันไปมอง ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งถือดาบเหล็กไว้ในมือ
และกําลังสําแดงศิลปะเพลงดาบ แม้กระบวนท่าของเขาจะไม่ได้
หรู หราอลังการนัก แต่กม็ ีความงดงามน่ามอง
สิ่ งหนึ่งที่เตะตาจางเซวียนทันทีกค็ ือขาซ้ายของชายหนุ่มคนนั้นซึ่ ง
แข็งทื่อราวกับท่อนไม้ บอกไม่ได้วา่ อีกฝ่ ายได้รับบาดเจ็บหรื อเป็ น
สภาพร่ างกายที่เป็ นมาแต่กาํ เนิด แต่มนั เป็ นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว
ของเขามาก
พื้นฐานของเขาไม่เลว แต่ศิลปะเพลงดาบยังอ่อนด้อยอยูม่ าก…จาง
เซวียนขมวดคิ้ว
หากนําตัวปรมาจารย์ระดับ 3 ดาวสักคนหนึ่งจากทวีปแห่งปรมาจารย์
มา ศิลปะเพลงดาบของปรมาจารย์ผนู ้ ้ นั ก็ยงั ลึกซึ้ งกว่าชายหนุ่มที่อยู่
ตรงหน้าเขาเสี ยอีก แต่ดว้ ยการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มที่เป็ นไป
อย่างยากลําบาก เรื่ องนี้กถ็ ือว่าพอรับได้
จางเซวียนถอนหายใจเบา ๆ ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มในทันที
เขาหยุดการฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบและหันหน้ามา เมื่อเห็นจางเซวียน
สี หน้าของเขาก็บ่งบอกความดีใจขณะพูดว่า “คุณฟื้ นแล้ว!”
จางเซวียนพินิจพิจารณาอีกฝ่ ายอย่างถี่ถว้ น ชายหนุ่มดูเหมือนจะอยู่
ในช่วงวัยรุ่ นตอนปลาย รู ปร่ างไม่สูงนัก เตี้ยกว่าจางเซวียนประมาณ
ศีรษะหนึ่ง หากใช้มาตรวัดจากโลกเก่าของเขา ชายหนุ่มน่าจะสู งราว
1.6 เมตร มีปานแดงโดดเด่นที่กินเนื้อที่กว่าครึ่ งแก้มอยูบ่ นแก้มซ้าย
ของเขา ปิ ดบังใบหน้าส่ วนหนึ่งไว้
ในแง่ของหน้าตา ชายหนุ่มไม่อาจเทียบได้กบั คําว่า ‘หล่อเหลา’ อันที่
จริ ง เขาออกจะดูน่าเกลียดน่ากลัวสักหน่อยเสี ยด้วยซํ้า
“ขอบคุณมากที่ช่วยชีวติ ผม” จางเซวียนประสานมือ
“ไม่ใช่เรื่ องใหญ่เลย ผมบังเอิญเห็นคุณเข้า ก็เลยนําตัวคุณกลับมา
บาดแผลของคุณน่ะสาหัสนะ ผมนึกว่าคุณจะตายเสี ยแล้ว แต่ดูเหมือน
คุณจะฟื้ นตัวได้เอง…” ชายหนุ่มเกาหัวอย่างงุนงงขณะพูดออกมา
คําพูดของเขาออกจะกระอักกระอ่วนเล็กน้อย บ่งบอกว่าเขาไม่ค่อย
ได้มีปฏิสมั พันธ์กบั โลกภายนอกมากนัก
“นายน้อยที่ 3…”
ในตอนนั้น ผูอ้ าวุโสคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในลานบ้าน เมื่อเห็นจางเซวียน
เขาชะงักไปครู่ หนึ่งก่อนจะโค้งคํานับเพื่อทักทาย “คุณ ดูเหมือนใน
ที่สุดคุณก็ฟ้ื นแล้ว!”
จางเซวียนหันกลับไปพยักหน้ารับ
เขาประเมินผูอ้ าวุโสที่อยูต่ รงหน้าอย่างถี่ถว้ น และเห็นทันทีวา่ เสื้ อผ้า
ของอีกฝ่ ายเปรอะเปื้ อน เลอะรอยนํ้ามันเป็ นดวง ๆ ที่มุมปากมี
บาดแผลเล็กน้อย มีรอยเลือดปรากฏ แก้มทั้งสองข้างก็ฟกชํ้า เห็นได้
ชัดว่าเขาเพิ่งถูกใครบางคนซ้อมมา
ชายหนุ่มพิการที่ได้รับการเรี ยกขานว่านายน้อยที่ 3 หันหน้าไปมอง
ทันทีที่เห็นสภาพของผูอ้ าวุโส ก็หน้าถอดสี ดว้ ยความประหลาดใจ
เขารี บเข้าไปถามอย่างเป็ นห่วง “ผูอ้ าวุโสอี้ เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่มีอะไรหรอก นายน้อยที่ 3” ผูอ้ าวุโสอี้ตอบแบบไม่เต็มปาก
ชายหนุ่มยังคงจับจ้องผูอ้ าวุโสอย่างถี่ถว้ น เห็นได้ชดั ว่าไม่คล้อยตาม
คําพูดของอีกฝ่ าย สุ ดท้ายผูอ้ าวุโสอี้กย็ อมแพ้การจับจ้องของชาย
หนุ่มและพูดว่า “นายหญิงน้อยที่ 2 ของท่านเจ้าเมืองมาที่นี่”
“เฉว่ชิงอยูท่ ี่นี่หรื อ?”
ข่าวที่ได้รับทําให้นยั น์ตาของชายหนุ่มพิการเป็ นประกายด้วยความ
ตื่นเต้น
“ใช่…” เห็นทีท่าของชายหนุ่ม ผูอ้ าวุโสอี้หน้าแดงกํ่ากว่าเดิม ดูเหมือน
มีบางอย่างที่อยากพูด แต่ไม่รู้วา่ จะเริ่ มต้นอย่างไร
ชายหนุ่มพิการรู ้สึกได้ทนั ทีถึงทีท่าผิดปกติของผูอ้ าวุโส เขาหุบยิม้
ขณะตั้งคําถาม “การมาของเธอมีอะไรเกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บ
ของคุณหรื อเปล่า?”
“ในอีก 3 วันนับจากนี้ สํานักดาบเมฆเหิ นจะมาที่เมืองของเราเพื่อรับ
ศิษย์สายตรงใช่ไหม?” ผูอ้ าวุโสอี้มีสีหน้าสับสนอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะ
พูดต่อ “ด้วยเส้นสายของท่านเจ้าเมือง นายหญิงน้อยที่ 2 เฉว่ชิงได้รับ
โควต้าหนึ่งที่ล่วงหน้าแล้ว…”
“เธอได้รับโควต้าหนึ่งที่ล่วงหน้าหรื อ?” ชายหนุ่มพิการหน้าตาสด
ชื่นด้วยความยินดี “นัน่ ไม่ใช่ข่าวดีหรื อไง?”
แต่ทนั ทีท่ีพดู จบ ชายหนุ่มก็กม้ ลงมองขาข้างซ้ายที่พิการของตัวเอง
เขาหน้าสลดไป “ผมคิดว่าผมคงไม่มีโอกาสหรอก…”
“เมื่อได้โควต้า ก็ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าเธอจะต้องจากที่นี่ไปพร้อมกับ
พวกสํานักดาบเมฆเหิ นในอีก 3 วันนับจากนี้ เธอมาที่นี่เพื่ออําลาผม
ใช่ไหม?” ชายหนุ่มพิการส่ ายหน้าและถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เธอ…เธอ…” ผูอ้ าวุโสลังเลอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนในที่สุดจะโพล่งความ
จริ งออกมา “เธอมาที่นี่เพื่อขอยกเลิกการแต่งงานกับคุณ!”
“เธอตั้งใจจะยกเลิกการแต่งงาน?”
ชายหนุ่มหน้าซีดเผือด ร่ างของเขาโงนเงนและเกือบทรุ ดลงกับพื้น
“เธอจะยกเลิกการแต่งงานกับผมเพียงเพราะกําลังจะได้เป็ นศิษย์สาย
ตรงของสํานักดาบเมฆเหิ นอย่างนั้นหรื อ?”
ไม่วา่ จะเป็ นใคร การถูกคู่หมั้นปฏิเสธถือเป็ นการหยามหน้ากันอย่าง
รุ นแรง
ได้ยนิ บทสนทนาของชายหนุ่มกับผูอ้ าวุโส จางเซวียนเลิกคิ้ว
หญิงสาวผูฉ้ ลาดปราดเปรื่ องคนหนึ่งเหยียดหยามคู่หมั้นของเธอด้วย
การขอยกเลิกการแต่งงาน ชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บและเจ็บชํ้าไม่รู้
จะทําอย่างไร…
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะพบเจอเรื่ องแบบนี้ทนั ทีที่มาถึงมิติเบื้องบน
ชีวติ ช่างน่าตื่นเต้นอะไรอย่างนี้!
ตอนที่ 1915 ตั้นเฉี่ยวเทียน
“ช่างมันเถอะ!” หลังจากคิดหนักอยูค่ รู่ หนึ่ง ชายหนุ่มพิการส่ ายหน้า
อย่างเศร้าสร้อย “ผมไม่คู่ควรกับเธออยูแ่ ล้ว ไม่ชา้ ไม่นานงานแต่งงาน
ของเราก็คงล่ม…”
เพราะท่านปู่ ของพวกเขาสนิทสนมกัน ทั้งสองจึงมีสญ
ั ญาใจต่อกัน
ว่าจะหมั้นหมายหลานชายและหลานสาวของอีกฝ่ ายเข้าด้วยกัน แต่
เมื่อท่านปู่ ของเขาเสี ยชีวติ ตระกูลของเขาก็เริ่ มเสื่ อมถอย จากนั้นชาย
หนุ่มก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่ งทําลายอวัยวะภายในของเขา ทําให้ไม่
อาจฝึ กฝนวรยุทธได้อีก ในเวลาเดียวกัน ขาข้างซ้ายก็พิการ ไม่วา่ จะ
เสาะหานายแพทย์มามากมายแค่ไหนก็ไม่มีใครรักษาได้
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์สิ้นหวัง เขาจึงลงเอยด้วยการกลายเป็ น
คนมองโลกในแง่ร้าย
ยิง่ ไปกว่านั้น รู ปร่ างหน้าตาของเขาก็ยงั ทําให้เขาขาดความมัน่ ใจ
ด้วยความแตกต่างระหว่างทั้งคู่ เขาจึงรู ้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ
ความแตกต่างระหว่างทั้งสองมีแต่จะทําให้งานแต่งงานต้องล่มอย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องและหยิบ
กล่องหยกใบหนึ่งมา เขายืน่ กล่องหยกใบนั้นให้ผอู ้ าวุโส
“นี่คือสัญญาการแต่งงานที่ผกู มัดความสัมพันธ์ของเราไว้ มอบมัน
ให้เธอนะ และบอกเธอว่านับจากวันนี้ไปเราจะกลายเป็ นคนแปลก
หน้าต่อกัน ผมหวังว่าเธอจะได้พบใครสักคนที่เหมาะสมกับเธอเร็ ว ๆ
นี้” ชายหนุ่มพูด
“นายน้อยที่ 3…” ผูอ้ าวุโสอี้หน้าแดงกํ่า เขาเข้าใจความสําคัญของ
เรื่ องนี้ดีและอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ย้งั ปากไว้และพยัก
หน้า “ตามนั้น!”
เขาจะทําตัวขี้ขลาดแบบนี้หรื อ? จางเซวียนกระพริ บตาปริ บ ๆ
เขาเคยคิดว่าชายหนุ่มคงจะอารมณ์เสี ยจนเกิดแรงผลักดันบางอย่างที่
กระตุน้ ให้ทาํ บางสิ่ งที่น่าทึ่งออกมา แต่กลับตรงกันข้าม ชายหนุ่ม
กลับมอบสัญญาผูกมัดการแต่งงานกลับคืนง่าย ๆ แบบนั้น ไม่ต่าง
อะไรกับการยืน่ หน้าออกไปให้คนอื่นเหยียบยํา่ เล่น!
แม้จะเป็ นคนนอก แต่จางเซวียนก็อดรนทนดูไม่ไหว
แต่เนื่องจากเขาเป็ นคนเก็บเนื้อเก็บตัวเสมอและเพิ่งมาถึงมิติเบื้องบน
ได้ไม่นาน จึงตัดสิ นใจไม่พดู อะไรบุ่มบ่าม
หลังจากได้รับสัญญาผูกมัดการแต่งงาน ผูอ้ าวุโสอี้กห็ นั หลังกลับ
แล้วจากไป
ในลานบ้านอันเงียบงัน นายน้อยที่ 3 ชักดาบออกมาอย่างปุบปั บ
แล้วฟาดมันลงไปอย่างแรงบนหิ นก้อนหนึ่ง เกิดรอยบากลึกบนนั้น
ดูเหมือนเขาสะเทือนใจไม่นอ้ ยกับสิ่ งที่เกิดขึ้น เพียงแต่พยายาม
ปกปิ ดความรู ้สึกไว้เพื่อไม่ให้ผอู ้ าวุโสอี้เป็ นห่วง
จากพละกําลังที่อีกฝ่ ายสําแดงออกมา จางเซวียนดูออกว่าชายหนุ่ม
เป็ นนักรบระดับเซียนขั้น 6
ถ้าเป็ นทวีปแห่งปรมาจารย์ คงน่าทึ่งมากที่นกั รบผูห้ นึ่งจะสําเร็ จวรยุทธ
ระดับเซียนขั้น 6 ได้ต้ งั แต่อายุ 16-17 ปี แต่เท่าที่ฟังจากบทสนทนา
เมื่อครู่ ดูเหมือนความสําเร็ จนี้จะถือว่าตํ่ากว่ามาตรฐานโดยเฉลี่ยของ
มิติเบื้องบน
เมื่อได้ระบายความขุ่นเคือง ชายหนุ่มพิการดูจะสงบสติอารมณ์ลงได้
เล็กน้อย ในตอนนั้นเองที่เขานึกได้วา่ บุคคลที่เขาช่วยชีวติ ไว้ยงั คงยืน
อยูใ่ กล้ ๆ จึงหน้าแดงกํ่าขึ้นมาด้วยความอับอาย
“ต้องขออภัยด้วย ผมแสดงให้คุณเห็นในสิ่ งที่ไม่ควรจะแสดงออกมา
อ้อ…ผมยังไม่ได้ถามชื่อของคุณเลย”
“ผมชื่อเหยา…อุบ๊ ! ผมหมายถึง…ผมชื่อจางเซวียน” จางเซวียนตอบ
พร้อมกับพยักหน้า
“พี่จางนี่เอง!” ชายหนุ่มพิการพูด “ผมชื่อตั้นเฉี่ ยวเทียน นายน้อยที่ 3
ของตระกูลตั้นแห่งเมืองไป๋ เย่”
“น้องตั้น” จางเซวียนตอบรับพร้อมกับพยักหน้า “เมื่อครู่ น้ ีผมได้ยนิ
คุณพูดถึงสํานักดาบเมฆเหิ น ผมถามเพียงเพราะอยากรู ้หรอกนะ แต่
มันคือสํานักจริ ง ๆ ใช่ไหม?”
คําถามที่บ่งบอกถึงความไม่รู้อะไรเลยนั้นดูจะทําให้ต้ นั เฉี่ยวเทียน
ประหลาดใจ เขาถามกลับ “พี่จาง คุณไม่รู้เรื่ องของสํานักดาบเมฆเหิ น
จริ ง ๆ หรื อ?”
เห็นสี หน้าสับสนของจางเซวียน ตั้นเฉี่ ยวเทียนตาโตก่อนจะตั้ง
ข้อสังเกต “ผมเกือบลืม! พี่จาง คุณไม่ได้เป็ นนักรบนี่ ไม่แปลกหรอก
ที่คุณจะไม่รู้จกั สํานักดาบเมฆเหิ น โลกที่เราอาศัยอยูน่ ี่น่ะเป็ นที่รู้จกั
กันในชื่อทวีปที่ถูกลืม”
“ตามตํานาน ว่ากันว่าโลกที่พวกเราอยูเ่ คยเป็ นส่ วนหนึ่งของโลกของ
เทพเจ้า แต่มนั ถูกแยกออกมาและไม่ได้รับความสนใจ มี 6 สํานักใหญ่
อยูใ่ นทวีปที่ถูกลืม ซึ่งสํานักดาบเมฆเหิ นเป็ นหนึ่งในนั้น การได้เข้า
สู่ ท้ งั 6 สํานักใหญ่ถือเป็ นเกียรติสูงสุ ด ผูค้ นมากมายปรารถนาจะได้
เข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆเหิ น ต่อให้ได้เป็ นเพียงศิษย์สายตรงระดับ
ล่าง ตระกูลของศิษย์สายตรงผูน้ ้ นั ก็จะมีสถานภาพสู งขึ้น”
เมื่อตอนที่เขาช่วยชีวติ พี่จางไว้ เขาไม่รู้สึกถึงพลังปราณในร่ างของ
อีกฝ่ ายเลย จึงสันนิษฐานว่าชายผูน้ ้ ีคงเป็ นคนธรรมดาสามัญ ไม่ใช่
นักรบ
6 สํานักใหญ่คือองค์กรที่ไม่มีนกั รบคนไหนในทวีปที่ถูกลืมจะมอง
ข้าม แต่สาํ หรับคนธรรมดาสามัญ สํานักเหล่านั้นดูจะไกลเกินเอื้อม
ในเมื่อจางเซวียนไม่ได้เป็ นนักรบ ก็ไม่น่าแปลกที่เขาจะไม่เคยได้ยนิ
เรื่ องของสํานักดาบเมฆเหิ น
“6 สํานักใหญ่…ที่นี่ไม่มีสภาปรมาจารย์หรื อ?” จางเซวียนถามด้วย
ความสงสัย
“สภาปรมาจารย์? มันคืออะไร?” ตั้นเฉี่ ยวเทียนส่ ายหน้า
“เอ่อ มันเป็ นแค่เรื่ องตลกวงในเท่านั้นแหละ…” เท่าที่ฟังจากนํ้าเสี ยง
ของตั้นเฉี่ยวเทียน ดูเหมือนในทวีปที่ถูกลืมนี้จะไม่มีสภาปรมาจารย์
จริ ง ๆ จางเซวียนครุ่ นคิดครู่ หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้น, 6
สํานักใหญ่กค็ ือผูน้ าํ ของทวีปที่ถูกลืมใช่ไหม?”
“ใช่ นอกจาก 6 สํานักใหญ่ ก็ยงั มีกลุ่มอํานาจไร้เทียมทานอีกกลุ่ม
หนึ่งที่ชื่อว่าหอนิรันดร์ หอนิรันดร์ปรากฏขึ้นอย่างปุบปับในทวีปที่
ถูกลืมตั้งแต่หลายพันปี ก่อน ผูก้ ่อตั้งองค์กรคือผูเ้ ชี่ยวชาญผูท้ รงพลัง
คนหนึ่ง พวกเขาทําการจัดสรรปันส่ วนตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล,
ทรัพยากรที่นกั รบทุกคนในทวีปแห่งนี้ตอ้ งการเพื่อนําไปแลกเปลี่ยน
เป็ นทรัพยากรลํ้าค่าเพื่อการฝึ กฝนวรยุทธ และจะได้กลายเป็ น
ผูเ้ ชี่ยวชาญตัวจริ ง!”
“หอนิรันดร์?”
“ใช่แล้ว ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมีขายทัว่ ไปตามเมืองใหญ่ ๆ ใน
ทวีปที่ถูกลืม เมื่อได้สมั ผัสกับตราสัญลักษณ์ สติสมั ปชัญญะของผู ้
นั้นจะถูกนําเข้าสู่ หอนิรันดร์ สําหรับที่นนั่ ...ขอแค่มีเงินจ่าย ก็จะได้
รํ่าเรี ยนเทคนิควรยุทธ ได้ซ้ือหาสมุนไพร ได้ยกระดับวรยุทธของ
ตัวเอง หรื อแม้แต่จา้ งนักฆ่าก็ยงั ได้ มันมีทุกสิ่ งที่คุณต้องการ แม้แต่
ทั้ง 6 สํานักใหญ่กย็ งั ใช้มนั ”
“ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลจะนําพาสติสมั ปชัญญะของผูน้ ้ นั เข้าสู่
หอนิรันดร์?” จางเซวียนอยากรู ้เรื่ องของลํ้าค่าแปลกประหลาดชิ้นนี้
“น้องตั้น ไม่ทราบว่าคุณมีของลํ้าค่าชิ้นนั้นอยูก่ บั ตัวไหม?”
“วรยุทธของผมอ่อนด้อย สติปัญญาก็มีไม่มาก แม้แต่คู่หมั้นของผม
ยังเลือกตีจากและล้มเลิกการแต่งงานเลย แล้วผมจะมีคุณสมบัติ
เพียงพอได้ครอบครองของแบบนั้นได้อย่างไร?” ตั้นเฉี่ ยวเทียนพูด
พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขออภัยด้วย ดูเหมือนผมจะพูดอะไรไม่คิด” จางเซวียนประสานมือ
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่ องแล้วตั้งคําถามอีก 2-3 ข้อ เพื่อให้เกิดความ
เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับทวีปที่ถูกลืมแห่งนี้
ถึงตั้นเฉี่ยวเทียนออกจะลําบากใจเล็กน้อยในการอธิบายความรู ้สึก
ของตัวเองและไม่มีความมัน่ ใจ แต่จางเซวียนก็ดูออกว่าอีกฝ่ ายเป็ น
คนมีน้ าํ ใจอย่างมาก เพราะเมื่อเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็นาํ
ตัวเขากลับมาและช่วยรักษา เท่าที่เห็น ก็รู้สึกว่าตั้นเฉี่ยวเทียนคือคน
ที่ไว้ใจได้
จางเซวียนได้รู้จากตั้นเฉี่ยวเทียนว่าผ่านไป 3 วันแล้ว นับตั้งแต่อีก
ฝ่ ายพบตัวเขาและนําเขากลับมา
พละกําลังคือสิ่ งที่ผคู ้ นในทวีปที่ถูกลืมให้ค่าอย่างสู ง ตระกูลตั้นของ
ตั้นเฉี่ยวเทียนมียคุ สมัยอันรุ่ งเรื องเมื่อ 20 ปี ก่อน มันมีสถานภาพ
เทียบเท่ากับสํานักเจ้าเมืองทีเดียว หรื อจะพูดให้ชดั เจนกว่านั้น แม้แต่
สํานักเจ้าเมืองก็ยงั ต้องปฏิบตั ิต่อตระกูลตั้นอย่างระมัดระวัง แต่โชค
ร้ายที่อุบตั ิเหตุเมื่อ 10 ปี ก่อนคร่ าชีวติ เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของตระกูลตั้น
ไปเกือบหมด พี่ชายสองคนของเขาก็เสี ยชีวติ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น
ด้วย
แม้แต่สภาพร่ างกายพื้นฐานของตั้นเฉี่ ยวเทียนก็ได้รับบาดเจ็บ ส่ งผล
ให้เขามีสภาพอย่างที่เป็ นอยู่
เมื่อตระกูลเริ่ มเสื่ อมถอย ผูท้ ี่เคยเป็ นพันธมิตรก็ตีจาก บรรดาศัตรู ถือ
โอกาสนี้เล่นงานพวกเขา ส่ งผลให้ตระกูลตั้นเสื่ อมสลายอย่างรวดเร็ ว
จนถึงตอนนี้ นอกจากตัวเขากับคนรับใช้เก่าแก่, ตั้นอี้ (ผูอ้ าวุโสอี้) ก็
ไม่เหลือใครอีกเลย
สิ่ งที่หลงเหลืออยูใ่ นบ้านพักซึ่งครั้งหนึ่งเคยกินอาณาบริ เวณกว่าพัน
หมู่คือลานบ้านชั้นในกับลานบ้านชั้นนอก ตระกูลตั้นกลายเป็ นแค่
เงาของความยิง่ ใหญ่ที่เคยมี
ถ้าไม่ใช่เพราะสัญญาการแต่งงานระหว่างตัวเขากับสํานักท่านเจ้า
เมือง เขาก็คงไม่เหลืออะไรมากขนาดนี้
แต่เมื่อนายหญิงน้อยที่ 2 ปฏิเสธการแต่งงาน ปราการด่านสุ ดท้ายที่
ยับยั้งเหล่าศัตรู ของตระกูลตั้นเอาไว้ไม่ให้เล่นงานเขาก็ถือว่าหายไป
ด้วยสิ่ งนี้ ทุกอย่างถือว่าจบเห่อย่างสิ้ นเชิง
“ผมเข้าใจ…” จางเซวียนส่ ายหน้า
พละกําลังคือรากฐานของความเจริ ญรุ่ งเรื อง หากปราศจากพละกําลัง
ที่แข็งแกร่ งพอจะปกป้องตัวเอง ไม่วา่ จะมีอาํ นาจหรื อความรุ่ งเรื อง
มากแค่ไหน สุ ดท้ายก็ตอ้ งเสื่ อมถอย
“พี่จาง ผมคิดว่าคุณคงพอเข้าใจสถานการณ์ของผมอย่างคร่ าว ๆ แล้ว
ผมหวังว่าในอีก 3 วันนี้ผมจะได้รับโอกาส…เมื่อสํานักดาบเมฆเหิ น
รับศิษย์สายตรงรุ่ นใหม่ ผมอยากให้ตระกูลตั้นกลับมารุ่ งเรื องอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนตอนนี้ทุกอย่างจะสิ้ นหวัง อีกอย่าง เมื่อเฉว่ชิงปฏิเสธการ
แต่งงานแล้ว ผมก็เกรงว่าที่นี่จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป” ตั้นเฉี่ยวเทียน
พูดพร้อมกับยิม้ เจื่อน ๆ
อย่างคําพูดที่วา่ กัน ‘เด็กจากครอบครัวยากจนมักโตเกินวัย’ ความ
ยากลําบากมากมายที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนได้เผชิญมาพร้อมกับผูอ้ าวุโสอี้
ตลอดระยะเวลาหลายปี ทําให้เขารู ้ซ้ ึ งถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้
นับเป็ นปาฏิหาริ ยแ์ ล้วที่เขายังรักษาจิตวิญญาณที่ดีงามเอาไว้ได้
หลังจากที่เผชิญทุกอย่างมา
“พี่จาง ในเมื่อคุณพร้อมเดินทางแล้ว ผมคิดว่าคุณควรจะไปโดยเร็ ว
ที่สุดเท่าที่จะทําได้นะ ผมไม่อยากให้คุณต้องเดือดร้อนเพราะปั ญหา
ของผม…”
ขณะที่พดู ตั้นเฉี่ ยวเทียนนําเหรี ยญทองที่หลอมขึ้นเป็ นพิเศษ 2 เหรี ยญ
ออกจากกระเป๋ าเสื้ อของเขาและใส่ ลงไปในมือของจางเซวียน “นี่คือ
เหรี ยญนิรันดร์กาล อัตราแลกเปลี่ยนซึ่งเป็ นที่ยอมรับกันในหอนิ
รันดร์ ถึงจะไม่มากมายอะไร แต่กค็ งพอซื้อหาอาหารได้ 2-3 มื้อ…”
“คุณมีน้ าํ ใจเหลือเกิน”
เห็นตั้นเฉี่ ยวเทียนยังห่วงเขาทั้งที่ตวั เองก็เผชิญความยากลําบาก
มากมาย จางเซวียนยิม้ อย่างเห็นอกเห็นใจ เขาเพ่งมองตั้นเฉี่ยวเทียน
ครู่ หนึ่ง “น้องตั้น ช่วยสําแดงศิลปะเพลงดาบของคุณให้ผมดูสกั ครั้ง
ได้ไหม?”
ตอนที่ 1916 หยามหน้ า
“คุณอยากให้ผมสําแดงศิลปะเพลงดาบหรื อ?” ตั้นเฉี่ ยวเทียนงุนงง
เล็กน้อยกับคําขออย่างปุบปับของจางเซวียน
“บอกตามตรงนะน้องตั้น เมื่อครู่ น้ ีผมพิจารณาศิลปะเพลงดาบของคุณ
แล้ว รู ้สึกว่าความสามารถในการเรี ยกพละกําลังและความแข็งแกร่ ง
ในการโจมตีของคุณนั้นออกจะอ่อนด้อยไปสักหน่อย ผมจึงสงสัยว่า
จะขอตรวจสอบมันได้หรื อไม่ ผมอาจหาวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้
ถ้าคุณพัฒนาศิลปะเพลงดาบของคุณได้ในอีก 3 วันนับจากนี้ ก็มี
โอกาสที่สาํ นักดาบเมฆเหิ นจะรับคุณเป็ นศิษย์สายตรงของพวกเขา!”
จางเซวียนพูดยิม้ ๆ
ด้วยความสามารถในการหยัง่ รู ้ของจางเซวียน เขามองเห็นข้อบกพร่ อง
ในศิลปะเพลงดาบของตั้นเฉี่ยวเทียน และมีวธิ ีแก้ไขข้อบกพร่ อง
เหล่านั้นด้วย เหตุผลที่เขาต้องการให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนสําแดงศิลปะ
เพลงดาบอีกครั้งก็เพื่อทดสอบว่าเขาจะสามารถใช้หอสมุดเทียบฟ้า
ในมิติแห่งนี้ได้หรื อไม่
“พี่จาง คุณรู ้เรื่ องศิลปะเพลงดาบด้วยหรื อ?” ตั้นเฉี่ ยวเทียนตั้งคําถาม
พร้อมกับขมวดคิว้
“ผมพอรู ้อยูบ่ า้ ง!” จางเซวียนพยักหน้า
“เยีย่ มเลย! ที่จริ งผมหมดหวังในการจะได้เป็ นศิษย์สายตรงของสํานัก
ดาบเมฆเหิ นแล้ว คุณไม่จาํ เป็ นต้องปลอบใจผมหรอก” ตั้นเฉี่ ยวเทียน
มองขาซ้ายของเขาที่พิการ “แต่ถา้ คุณมีความรู ้เรื่ องศิลปะเพลงดาบ
ล่ะก็ พี่จาง, ผมยิง่ กว่าเต็มใจที่จะแลกเปลี่ยนภูมิปัญญากับคุณ ตั้งแต่
ผมหมดความสามารถในการฝึ กฝนวรยุทธ ผมก็พยายามหาหนทางที
ละเล็กทีละน้อย ความก้าวหน้าของผมจึงมีจาํ กัด…”
ความไม่มนั่ ใจในตัวเองของตั้นเฉี่ ยวเทียนเกิดจากการหมดสมรรถภาพ
ในการฝึ กฝนวรยุทธอย่างกะทันหัน สุ ดท้าย แม้เขาจะอุทิศเวลาให้กบั
การศึกษาศิลปะเพลงดาบ แต่กไ็ ม่กล้าสําแดงมันต่อหน้าใคร ส่ วน
การจะหาคู่ดวลมาทดสอบทักษะของตัวเองนั้นยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึง
บางที อาจเป็ นเพราะเขามองจางเซวียนเป็ นคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง
จึงไม่รู้สึกตํ่าต้อยด้อยค่า และไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะแลกเปลี่ยนภูมิ
ปัญญากับอีกฝ่ าย
ฟึ่ บ!
ด้วยการสะบัดข้อมือ ดาบของตั้นเฉี่ยวเทียนตวัดผ่านอากาศและจ้วง
แทงไปข้างหน้า
วิง้ งงง!
ในเวลาเดียวกัน หนังสื อเล่มหนึ่งก็ปรากฏในหอสมุดเทียบฟ้า
หลังจากพลิกดูและอ่านรายละเอียด จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
โชคดีที่ดูเหมือนว่าหอสมุดเทียบฟ้าจะยังคงใช้การได้ในมิติเบื้องบน
ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลัวลัว่ ชิงผนวกเอามหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิ
และฤดูใบไม้ร่วงรวมเข้ากับหอสมุดเทียบฟ้า หอสมุดเทียบฟ้าก็เกิด
การยกระดับครั้งใหญ่ เป็ นไปได้วา่ เป็ นเพราะการยกระดับครั้งนั้นที่
ทําให้หอสมุดเทียบฟ้าสามารถมองทะลุสวรรค์ของมิติเบื้องบนได้
โดยไม่มีปัญหาใด ๆ
“น่าสมเพชอะไรอย่างนี้ ตั้นเฉี่ยวเทียน, คุณยังฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบ
ของคุณอยูห่ รื อ? คิดหรื อไงว่าสํานักดาบเมฆเหิ นจะรับคนอย่างคุณ
เป็ นศิษย์สายตรง?”
ขณะที่จางเซวียนยังคงครุ่ นคิดหนัก เสี ยงคํารามเย็นชาก็ดงั ขึ้นด้าน
นอก จากนั้น สองร่ างก็กา้ วยาว ๆ เข้ามา
คนแรกเป็ นสาวน้อยที่ดูจะมีอายุราว 15-16 ปี รุ่ นราวคราวเดียวกับ
ตั้นเฉี่ยวเทียน เธอสวมชุดสี เหลืองอ่อน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความ
เย่อหยิง่ และถือดี เธอเชิดหน้าอย่างไม่ยหี่ ระ บ่งบอกถึงสถานภาพ
สู งส่ งและความมัน่ อกมัน่ ใจในตัวเองที่มีต่อหน้าคนอื่น ๆ เธอคือคน
ที่พดู ประโยคเมื่อครู่ น้ ีออกมา
ที่ตามหลังเธอคือชายวัยกลางคนผูห้ นึ่งซึ่งมีอายุราว 40 ปี เขาสวม
เสื้ อเชิ้ตติดกระดุมแบบธรรมดา และมีดาบเล่มหนึ่งเหน็บไว้ที่เอว
ขณะที่เขาเดินมา ก็รู้สึกได้ถึงกระแสดาบฉี อนั คมกริ บและทรงพลังที่
แผ่ออกจากร่ าง
“นายน้อยที่ 3…” ผูอ้ าวุโสอี้ตามหลังทั้งคู่มาติด ๆ สี หน้าบ่งบอก
ความขัดเคืองใจและรู ้สึกผิด เขาก้มศีรษะลงพูดเบา ๆ “ขออภัยด้วย
ผมยับยั้งพวกเขาไม่ได้…”
ตั้นเฉี่ ยวเทียนรี บหยุดการสําแดงศิลปะเพลงดาบก่อนจะหันมามอง
สาวน้อยที่อยูต่ รงหน้า ในตอนนั้น เขาตื่นเต้นจนพูดจาตะกุกตะกัก
“ฉะ-เฉว่ชิง?”
“พอที!” สาวน้อยมองตั้นเฉี่ ยวเทียนด้วยแววตาดูหมิ่นเหยียดหยาม
เธอโบกมืออย่างหมดความอดทนและพูดต่อ “คุณก็รู้วา่ ฉันมาที่นี่ทาํ ไม
แต่แทนที่จะออกไปต้อนรับฉันด้วยตัวเอง กลับส่ งเจ้าคนใช้ต่าํ ต้อย
มามอบสัญญาผูกมัดการแต่งงานให้ คุณคิดหรื อว่ามันจะจบง่าย ๆ
แบบนั้น?”
“คุณต้องการยกเลิกการแต่งงานของเรา ผมก็ให้ผอู ้ าวุโสอี้มอบสัญญา
ผูกมัดการแต่งงานให้คุณแล้วไง คุณยังต้องการอะไรจากผมอีก?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนหน้าแดงกํ่าด้วยความโกรธ
“ที่ฉนั ต้องการจากคุณน่ะไม่มากมายอะไรหรอก ก็แค่อยากให้คุณ
ประกาศให้ท้ งั เมืองรู ้วา่ คุณคือคนที่ตดั สิ นใจยกเลิกการแต่งงานของ
เราเพราะคุณรู ้สึกว่าคุณไม่คูค่ วรกับฉัน ท่านพ่อของฉันคงจะใช้เวลา
ใคร่ ครวญระยะหนึ่งก่อนจะตัดสิ นใจเคารพความคิดเห็นของคุณ
และระงับการแต่งงานของเราไว้ ไอ้การที่คุณมอบกระดาษแผ่นนั้น
ให้ฉนั น่ะ คิดหรื อว่าจะให้ฉนั เที่ยวบอกใคร ๆ ว่าตัวฉัน, เฉว่ชิง ไม่
ยอมแต่งงานกับคุณ ฉันจะปล่อยให้ชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมืองผูท้ รง
เกียรติตอ้ งด่างพร้อยได้อย่างไร?” เฉว่ชิงคําราม
ถ้าใครต่อใครรู ้วา่ เธอฉีกสัญญาผูกมัดการแต่งงานกับตั้นเฉี่ ยวเทียน
เพียงเพราะเธอได้เป็ นศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น ก็คงจะทํา
ให้เกิดเสี ยงซุบซิบนินทาอย่างหนัก และนัน่ จะเป็ นอุปสรรคในการ
สร้างชื่อเสี ยงของเธอ แต่ถา้ เธอจัดการให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนเป็ นฝ่ ายยกเลิก
งานแต่งงานแทน ก็จะไม่ตอ้ งแบกรับการเสื่ อมเสี ยชื่อเสี ยงแม้แต่นอ้ ย
จางเซวียนเห็นทุกอย่างกับตา เขาได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย
ยัยคนนี้ช่างร้ายกาจ…
การที่เฉว่ชิงจะล้มเลิกการแต่งงานก็เป็ นเรื่ องหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงเลยว่า
เธอจะทําแม้กระทัง่ จัดฉากให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนป่ าวประกาศให้คนทั้ง
เมืองรู ้ ตัวเองเป็ นคนยกเลิกการแต่งงานแท้ ๆ แต่กย็ งั อยากป้ายสี ให้
ตั้นเฉี่ ยวเทียนกลายเป็ นผูร้ ้าย
แม่คนนี้ช่างตํ่าต้อยด้อยค่าอะไรอย่างนี้!
ตั้นเฉี่ยวเทียนกําหมัดแน่น ใบหน้าของเขาซี ดเผือดขณะจับจ้องเฉว่ชิง
อย่างเย็นชา
แม้ไม่พดู อะไรอีก เขาก็รู้แล้วว่าเฉว่ชิงคิดอย่างไร ความผิดหวังอย่าง
ลํ้าลึกแล่นพล่านไปทัว่ ทั้งร่ าง
นี่มนั หยามหน้ากันอย่างรุ นแรง!
ดูเหมือนอีกฝ่ ายเตรี ยมตัวมาอย่างดีที่จะหยามหน้าเขา ทั้งยังขอให้เขา
แบกรับทุกอย่างแทน
ปัญหาก็คือ…เขาไม่อาจทําอะไรได้เลยในสถานการณ์น้ ี เขาอับจน
หนทางอย่างสิ้ นเชิง!
“ตั้นเฉี่ยวเทียน, นายหญิงน้อยที่ 2 กับผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อรองกับ
คุณ เรามาเพื่อมอบหมายคําสัง่ นั้นให้คุณ” ชายวัยกลางคนที่มากับ
เฉว่ชิงพูดด้วยนํ้าเสี ยงเรี ยบเฉย “ภายใน 3 วันนับจากนี้ คุณจะต้อง
ป่ าวประกาศเรื่ องราวทั้งหมดให้ท้ งั เมืองได้รับรู ้ ไม่อย่างนั้นก็…
เตรี ยมตัวจ่ายค่าชดใช้ได้เลย!”
“คุณเป็ นใคร?” ตั้นเฉี่ยวเทียนตั้งคําถามขณะจ้องหน้าชายวัยกลางคน
อย่างเย็นชา
“ผมคืออาจารย์สอนศิลปะเพลงดาบของนายหญิงน้อยที่ 2, เฉว่เฉิ น!”
ชายวัยกลางคนตอบอย่างภาคภูมิใจ
“เฉว่เฉิ น? ผมรู ้จกั คุณนี่!” ดูเหมือนจะเคยได้ยนิ ชื่อนั้นมาก่อน ตั้น
เฉี่ ยวเทียนตาโตด้วยความประหลาดใจก่อนจะส่ ายหน้าอย่างสมเพช
ตัวเอง “ช่างเป็ นเกียรติเหลือเกินที่ผมมีโอกาสต้อนรับ หัวหน้าใหญ่
ของสํานักเจ้าเมืองที่มาเยีย่ มเยียนถึงที่ ไม่ทราบว่าค่าชดใช้ที่ผมต้อง
จ่ายนั้นคืออะไร ถ้าผมไม่ทาํ ตามคําสัง่ ของคุณ?”
ในฐานะหัวหน้าใหญ่ของสํานักเจ้าเมือง ความแข็งแกร่ งของเฉว่เฉิน
นั้นไม่อาจประมาทได้ อันที่จริ งเขาเป็ นนักรบที่มีวรยุทธระดับ
นักปราชญ์โบราณขั้น 3!
“อ๋ อ เรื่ องนั้นง่ายนิดเดียว!” เฉว่เฉินโบกมืออย่างไม่แยแส ไม่รู้สึกรู ้
สากับการยัว่ ยุของตั้นเฉี่ยวเทียน “ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา ตระกูลตั้น
ทําร้ายผูค้ นไปไม่นอ้ ย ถูกไหม? คุณควรจะรู ้ตวั นะว่าถ้าไม่ใช่เพราะ
การหมั้นหมายระหว่างคุณกับเฉว่ชิง คุณคงตายไปหลายครั้งหลาย
หนแล้ว”
คําพูดนั้นทิ่มแทง แต่ต้ นั เฉี่ยวเทียนรู ้ดีวา่ มันคือเรื่ องจริ ง
ด้วยวรยุทธที่อ่อนด้อยของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะสัญญาผูกมัดการแต่งงาน
บรรดาศัตรู ของตระกูลตั้นคงไม่ปล่อยให้เขามีชีวติ ยืนยาวขนาดนี้!
“ก็นนั่ แหละ ถ้าคนพวกนั้นตั้งใจเล่นงานคุณ คุณคิดว่าลําพังคุณกับ
ตาเฒ่านัน่ จะยับยั้งพวกเขาได้หรื อ?” เฉว่เฉินยักไหล่
เมื่อรู ้สึกได้ถึงเจตนาแอบแฝงที่อยูเ่ บื้องหลังคําพูดของเฉว่เฉิน ตั้น
เฉี่ยวเทียนตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณจะปิ ดปากพวกเราหรื อไง?
ไม่กลัวหรื อว่าความตายอย่างปุบปับของผมอาจกระทบชื่อเสี ยงของ
สํานักเจ้าเมือง?”
“การตายของคุณจะส่ งผลกระทบต่อชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมืองได้
อย่างไร?” เฉว่เฉินตอบเสี ยงเรี ยบ “เรื่ องเป็ นอย่างนี้นะ ท่านเจ้าเมือง
จะโกรธกริ้ วอย่างหนักเมื่อรับรู ้การตายของคุณ เขาจะส่ งคนออกตาม
ล่าตัวการเพื่อล้างแค้นให้ ส่ วนนายหญิงน้อยที่ 2 ของเรา, เธอจะครํ่า
ครวญโศกเศร้าอยูน่ าน และลงท้ายก็ตดั สิ นใจจะออกจากดินแดน
แห่งความอาดูรนี้ไป และมุ่งหน้าสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น!”
คําพูดเหล่านั้นทําให้หวั ใจของตั้นเฉี่ ยวเทียนเต้นแรงขึ้นเรื่ อย ๆ
ขณะที่รู้ตวั ว่าสถานการณ์ของเขาน่าสิ้ นหวังแค่ไหน
ถ้าพวกนั้นเล่นละครตามนี้จริ ง ๆ ไม่เพียงชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมือง
จะไม่ด่างพร้อย ยังจะได้รับการยกย่องด้วย ในเวลาเดียวกัน เฉว่ชิงก็
จะเป็ นที่ชื่นชมยิง่ ขึ้นกว่าเดิมในความรักเดียวใจเดียวของเธอที่มีต่อ
คู่หมั้น ใครต่อใครจะพูดกันว่าแม้เฉว่ชิงจะกลายเป็ นศิษย์สายตรง
ของสํานักดาบเมฆเหิ นแล้ว เธอก็ยงั คงรักษาสัญญาที่จะแต่งงานกับ
เขา แต่น่าเสี ยดาย ในเมื่อโชคชะตากําหนดมาอย่างนั้น ก็แปลว่าพวก
เขาไม่ได้เกิดมาคู่กนั
“คุณ…ก็ได้ ผมยอมรับ!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนกํามือแน่นจนเล็บจิกลงไปในเนื้อ ข้อนิ้วของเขาซีดขาว
แต่ถึงจะไม่พอใจแค่ไหน ก็รู้ดีวา่ ตัวเขาในเวลานี้ไม่มีปัญญาทําอะไร
ได้
กฎเกณฑ์ของผืนป่ า, ผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดเท่านั้นที่จะอยูร่ อด คนอ่อนแอ
อย่างเขามีแต่จะตกเป็ นเหยือ่
“ต้องอย่างนั้นสิ !” เฉว่ชิงพยักหน้าอย่างพอใจ เธอยกมือขึ้น แล้วเฉว่
เฉินก็นาํ เอกสารแผ่นหนึ่งออกมายืน่ ให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียน “นี่คือเอกสาร
การยกเลิกการหมั้นและงานแต่งงาน ทั้งหมดที่คุณต้องทําก็คือสลัก
ชื่อลงไป ส่ วนที่เหลือพวกเราจะจัดการเอง วางใจเถอะ เราจะประกาศ
เรื่ องนี้ให้รู้กนั ทัว่ ทั้งเมืองภายในวันนี้แหละ!”
ตั้นเฉี่ ยวเทียนยืน่ มือออกไปรับเอกสารนั้นอย่างลังเลก่อนจะอ่าน
อย่างถี่ถว้ น
มันคือประกาศอย่างเป็ นทางการที่ดูเหมือนจะเขียนโดยตัวเขาเอง บ่ง
บอกถึงเจตนาที่จะยกเลิกงานหมั้นและการแต่งงาน อีกทั้งระบุเหตุผล
เอาไว้
เหตุผลนั้นเรี ยบง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อน ตัวเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
และไม่เพียงแต่จะไม่สามารถฝึ กฝนวรยุทธ ยังไม่อาจเติมเต็มบทบาท
หน้าที่ของชายคนหนึ่งให้สมบูรณ์ได้ดว้ ย ทําให้เขากลายเป็ นคนพิการ
ซํ้าซ้อน เพื่อไม่ให้เป็ นตัวถ่วงอนาคตของคู่หมั้น เขาจึงตัดสิ นใจจะ
ยกเลิกงานหมั้นและการแต่งงาน และขอวิงวอนให้เธอยกโทษให้เขา
สําหรับเรื่ องนี้ดว้ ย ส่ วนทางสํานักเจ้าเมืองที่เห็นแก่ความสัมพันธ์ใน
อดีตกับตระกูลตั้นก็ปฏิเสธคําขอของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจึงไม่มี
ทางเลือกนอกจากต้องประกาศอย่างเป็ นทางการเรื่ องการยกเลิกงาน
หมั้นและการแต่งงานโดยใช้วธิ ีการแบบนี้ หวังว่าท่านเจ้าเมืองจะ
เข้าใจการกระทําในครั้งนี้ของเขา
เฉว่ชิงจงใจกล่าวอ้างแม้กระทัง่ ว่าเขาหมดสมรรถภาพของความเป็ น
ชาย!
การหยามหน้าอย่างรุ นแรงที่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนต้องเผชิญทําให้เขาเลือด
ขึ้นหน้าและโมโหจนแทบระเบิดออกมา
ตอนที่ 1917 ความสั บสนของตั้นเฉี่ยวเทียน
เมื่อไหร่ ที่เรื่ องนี้กระฉ่อนไปทัว่ เกียรติยศศักดิ์ศรี ของเขาย่อมป่ นปี้
ไม่มีเหลือ เขาจะไม่มีวนั เชิดหน้า มองใครต่อใครได้อีก จะกลายเป็ น
ที่ซุบซิบนินทาของคนทั้งเมือง และความอับอายครั้งนี้จะทําลาย
ชื่อเสี ยงเกียรติยศที่ตระกูลตั้นสัง่ สมมาตลอดระยะเวลาหลายร้อยปี
ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายทางสังคม
“ลงนามในเอกสารซะ” เฉว่ชิงพูดด้วยนํ้าเสี ยงกดดันและเย็นชา
“นายน้อยที่ 3, อย่าลงนามในเอกสารนะ! คุณลงนามเมื่อไหร่ ชื่อเสี ยง
ของตระกูลตั้นป่ นปี้ ไม่มีเหลือแน่!” ผูอ้ าวุโสอี้ได้อ่านรายละเอียด
ของเอกสารจากด้านหลังตั้นเฉี่ยวเทียน เขารี บทรุ ดตัวลงคุกเข่าและ
ร้องรํ่าเพือ่ ทักท้วง
แม้แต่ความตายยังไม่น่าสะพรึ งเท่ากับการเห็นตระกูลที่เขาอุทิศ
ตัวรับใช้ตอ้ งถูกหยามเกียรติแบบนี้
“ผม…” ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่รู้จะทําอย่างไร
เขารู ้ดีวา่ อะไรจะเกิดขึ้นหากลงนามในเอกสาร แต่ถา้ ไม่ลงนาม ถึง
อย่างไรอีกฝ่ ายก็ยงั ยกเลิกการแต่งงานอยูด่ ี และผลที่ออกมาย่อม
เลวร้ายกว่านี้
เขาจนมุมแล้ว ไม่มีอะไรที่ทาํ ได้อีก
ในตอนนั้น แม้แต่การฆ่าตัวตายก็ดูเหมือนจะเป็ นทางเลือกหนึ่งของ
เขา ตั้นเฉี่ ยวเทียนไม่เคยปรารถนาจะจบชีวติ และปล่อยให้ทุกอย่าง
จบลงแบบนี้ แต่ขณะที่กาํ ลังสิ้ นหวัง เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้น
“ถ้าคุณไม่อยากลงนามในเอกสารนัน่ ก็ไม่ตอ้ งลง”
ทุกคนรี บหันขวับไปมอง เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีผา้ พันแผลพันไว้
ทั้งตัวราวกับมัมมี่กาํ ลังยืนพิงประตู เขาจ้องมองมาพร้อมกับยิม้ ให้
ชายหนุ่มคนนี้ดูจะไม่มีวรยุทธใด ๆ แต่ดวงตาของเขาปราศจากความ
หวาดหวัน่ อย่างสิ้ นเชิงแม้จะยืนอยูต่ ่อหน้าผูเ้ ชี่ยวชาญระดับเฉว่เฉิ น
ราวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขาเป็ นเพียงละครบทหนึ่ง
“คุณเป็ นใคร? ถ้าเรื่ องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณล่ะก็ ปิ ดปากเงียบไว้จะดีกว่า
ไม่เคยได้ยนิ สุ ภาษิตที่วา่ ปากพาจนหรื อ?” เฉว่เฉิ นจ้องหน้าจางเซวียน
อย่างข่มขู่
ถ้าเป็ นไปได้ พวกเขาก็อยากแก้ปัญหาเรื่ องนี้กบั ตั้นเฉี่ยวเทียนโดยไม่
ทําอะไรรุ นแรง เพราะเสี่ ยงต่อการที่โลกจะรับรู ้ ดังนั้น เฉว่เฉินจึงไม่
มีทางเลือกนอกจากต้องยั้งมือไว้ไม่ให้เปิ ดการโจมตี
จางเซวียนพูดต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน “ผมเป็ นแค่คนไร้ค่าคนหนึ่ง
ที่นอ้ งตั้นช่วยชีวติ ไว้ ผมไม่ได้อยากก้าวก่ายกิจธุระของคุณ แต่เกรง
ว่าน้องตั้นจะต้องเสี ยใจในการตัดสิ นใจของตัวเองหากลงนามใน
เอกสารฉบับนั้น ผมจึงอดแนะนําเขาไม่ได้”
“พี่จาง…” นัยน์ตาของตั้นเฉี่ยวเทียนเป็ นประกายด้วยความสํานึกใน
บุญคุณ
แม้จางเซวียนจะไม่รู้ตวั ตนที่แท้จริ งของเฉว่ชิงกับเฉว่เฉิน อีกทั้ง
อํานาจล้นฟ้าที่พวกเขามี แต่กน็ ่าจะพอมองออกจากบทสนทนาว่าทั้ง
คู่ไม่ใช่บุคคลที่ควรจะต่อกรด้วย แต่ท้ งั ๆ ที่ตอ้ งเสี่ ยง อีกฝ่ ายก็ยงั
เลือกที่จะโพล่งออกมา สิ่ งนี้ทาํ ให้เขาประทับใจไม่นอ้ ย
“เสี ยใจ? ฮ่าฮ่าฮ่า! เขามีอะไรให้ตอ้ งเสี ยใจ เจ้าหนุ่มนี่ยงั คิดว่าระหว่าง
ตัวเขากับนายหญิงน้อยที่ 2 นั้นยังพอมีหวังหรื อ?” เฉว่เฉิ นคําราม
“เลิกฝันกลางวันเสี ยเถอะ! ทําไมไม่ตกั นํ้าใส่ กะโหลกชะโงกดูเงา
เสี ยก่อน? คางคกอย่างคุณกล้าใฝ่ ฝันอยากเคียงคู่หงส์หรื อไง? เจียม
กะลาหัวด้วย!”
“ผมดีใจที่อย่างน้อยก็มีเรื่ องหนึ่งที่เราทั้งสองฝ่ ายเห็นพ้องต้องกัน
พวกเขาไม่ควรคู่กนั จริ ง ๆ” จางเซวียนพยักหน้าอย่างสุ ขมุ เพื่อตอบ
โต้การดูถูกของอีกฝ่ าย “เห็นได้ชดั เลยว่านายหญิงน้อยที่ 2 คนนี้ของ
คุณไม่คู่ควรกับน้องตั้น ไม่มีอะไรที่จะเป็ นการดูถูกเหยียดหยามเขา
อย่างร้ายแรงเท่ากับการที่เขาต้องแต่งงานกับคนอย่างเธออีกแล้ว!”
“คุณว่าอะไรนะ?”
เฉว่เฉินกําลังพยักหน้าอย่างพออกพอใจกับคําพูดท่อนแรกของจาง
เซวียน แต่เมื่อจางเซวียนพูดจบ นัยน์ตาของเขาก็เปล่งประกายของ
เจตนาสังหารออกมา
“คุณไม่เชื่อผมหรื อ?” จางเซวียนมองเฉว่เฉินด้วยสี หน้าที่บ่งบอก
ความทึ่ง ราวกับไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ ายจะไม่เข้าใจสิ่ งที่เห็นกันชัด ๆ
ขนาดนี้ “ผมว่าคุณคงต้องดูดว้ ยตาตัวเองกระมังถึงจะรู ้ความจริ ง ใช่
ไหม? เอาล่ะ กลับมาในอีก 3 วันข้างหน้านะ แล้วเราจะได้เห็นกัน!”
“พูดกันมาตั้งมากมาย ลงท้ายคุณก็แค่พยายามถ่วงเวลา เสี ยเวลาสิ้ น
ดี!” เฉว่เฉินคําราม “ตราบใดที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนยังไม่ลงนามในเอกสาร
นี้ ผมรับประกันได้เลยว่าสิ่ งที่เขาจะต้องสู ญเสี ยน่ะไม่ใช่เพียงแค่
เกียรติยศศักดิ์ศรี แต่เป็ นชีวติ ของเขาด้วย!”
จางเซวียนยักไหล่อย่างไม่รู้สึกรู ้สา “ถ้าจะต้องถึงขนาดนั้น ก็ตามนั้น
เถอะ…คนอย่างน้องตั้นคงไม่ใส่ ใจเรื่ องเล็กน้อยแบบนี้หรอก!”
“ฮะ?” ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง ตั้นเฉี่ยวเทียนรู ้สึกว่ามีบางอย่าง
ผิดปกติในคําที่จางเซวียนเพิง่ พูดออกไป
ดูเหมือนพี่จางจะเป็ นคนที่มีความคิดแน่วแน่…แต่ไอ้การที่คุณพูดว่า
‘ถ้าจะต้องถึงขนาดนั้น ก็ตามนั้นเถอะ’? นี่ไม่ใช่เรื่ องเล็ก ๆ นะ ชีวติ
ของผมกําลังแขวนอยูบ่ นเส้นด้าย!
เฉว่เฉินเบือนหน้าไปจากจางเซวียน เขาจ้องหน้าตั้นเฉี่ยวเทียนด้วย
สายตาเย็นเยียบที่แทบจะทําให้นรกกลายเป็ นนํ้าแข็ง “นัน่ คือการ
ตัดสิ นใจของคุณใช่ไหม?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนตัวสัน่ เล็กน้อยภายใต้การจับจ้องของเฉว่เฉิ น แต่กก็ ดั
ฟันตอบ “คําพูดของพี่จางบ่งบอกเจตนาของผมแล้ว”
เขาไม่รู้วา่ ทําไมพีจ่ างถึงคาดหวังในตัวเขาสู งนัก แต่กเ็ ห็นชัดว่าไม่มี
หนทางให้ถอย
หากต้องเลือกระหว่างศักดิ์ศรี ของตระกูลตั้นกับชีวติ ของเขา เขาก็
พร้อมเลือกศักดิ์ศรี ของตระกูลตั้น ตระกูลตั้นไม่ได้เป็ นของเขาคน
เดียว มันถูกสร้างขึ้นด้วยความเหนื่อยยากของบรรพบุรุษมากมาย
รวมถึงท่านปู่ ท่านพ่อ และบรรดาพีช่ ายของเขาที่เสี ยชีวติ ไปแล้ว
ด้วย เขาไม่อาจทําลายความเหน็ดเหนื่อยพากเพียรของคนเหล่านั้น
เพียงเพื่อให้ตวั เองได้มีชีวติ อยู!่
อีกอย่าง ทันทีที่ประกาศยกเลิกงานแต่งงานถูกเผยแพร่ ออกไป ตัว
เขาก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายแล้ว ด้วยสิ่ งนี้ การตัดสิ นใจที่เขาควร
เลือกก็ไม่อาจชัดเจนไปกว่านี้ได้อีก
“ดูเหมือนจะมีแบ็คดีนะ ใช่ไหม? รอดูกแ็ ล้วกันว่าการตัดสิ นใจของ
คุณจะนําพาชีวติ คุณไปอย่างไร ตามนั้นก็แล้วกัน!” ได้ยนิ การ
ตัดสิ นใจครั้งสุ ดท้ายของตั้นเฉี่ยวเทียน เฉว่เฉิ นสะบัดแขนเสื้ ออย่าง
โกรธเกรี้ ยว เขาหันไปพูดกับสาวน้อยที่อยูข่ า้ ง ๆ “นายหญิงน้อยที่ 2,
ไปกันเถอะ!”
ส่ วนเฉว่ชิงก็มองตั้นเฉี่ยวเทียนอย่างดูถูกขณะคําราม “ฉันหวังว่าเมื่อ
ถึงเวลา คุณคงไม่มาร้องขอชีวติ กับฉันนะ!”
จากนั้นเธอก็หนั หลังกลับแล้วจากไป ตลอดการสนทนาทั้งหมดนี้
เธอไม่ได้เหลือบมองจางเซวียนแม้แต่ครั้งเดียว ราวกับการมองคน
ธรรมดาสามัญจะทําให้ดวงตาของเธอระคายเคือง
ทันทีที่ท้ งั คู่ออกมาพ้นลานบ้าน…
“ท่านอาจารย์…” เฉว่ชิงมองเฉว่เฉินอย่างร้อนใจ
เฉว่เฉินรี บสํารวจโดยรอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยูก่ ่อนจะให้
ความมัน่ ใจกับสาวน้อย “อย่าห่วงเลย เราไม่ตอ้ งการเวลาถึง 3 วัน
เพื่อแก้ปัญหานี้หรอก ตระกูลตั้นน่ะไม่เหลืออะไรแล้ว รอดูกแ็ ล้วกัน
ว่าพวกเขาจะมีชีวติ รอดพ้นคืนนี้หรื อเปล่า!”
คําพูดนี้ทาํ ให้เฉว่ชิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ตอนแรกฉันก็ประทับใจ
ในตัวเขา แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะกลับกลายเป็ นคนหยิง่ ผยองน่า
รังเกียจ? ปล่อยให้เขาตายไปเถอะ คนอย่างเขาไม่สมควรจะมีชีวติ อยู่
ในโลกใบนี้!”
ทั้งสองขึ้นเกี้ยว ไม่ชา้ ก็หายลับไป
…..
หลังจากเฉว่ชิงกับเฉว่เฉิ นออกจากบ้านพักไปได้ไม่นาน เกิดความ
เงียบงันครู่ ใหญ่ก่อนที่ผอู ้ าวุโสอี้จะโพล่งออกมาอย่างร้อนใจ
“นายน้อยที่ 3, แบบนี้ไม่ได้การนะ เราจะนัง่ รอนอนรอความตายไม่ได้
ออกจากเมืองกันเถอะ!”
เขารู ้ดีวา่ ท่านเจ้าเมืองไม่ได้ใจกว้างและมีเมตตาอย่างที่ดูเหมือนจะ
เป็ น อันที่จริ ง เขาสงสัยด้วยซํ้าว่าการสังหารหมู่และเหตุร้ายที่นาํ มา
ซึ่งการล่มสลายของตระกูลตั้นน่าจะมีท่านเจ้าเมืองเป็ นผูบ้ งการอยู่
เบื้องหลัง
ในเมื่อพวกนั้นทําถึงขนาดนี้ ก็คงไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะส่ งทีมลอบ
สังหารมาจัดการตั้นเฉี่ ยวเทียน โดยเฉพาะหลังจากการตัดสิ นใจ
ปฏิเสธของเขาเมื่อครู่ ก่อน
อีกอย่าง ด้วยวิธีการของท่านเจ้าเมือง แน่นอนว่าพวกเขาคงกลบ
เกลื่อนร่ องรอยของผูเ้ กี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ ีจนไม่มีเหลือ
ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น สิ่ งที่ดีที่สุดที่พวกเขาทําได้กค็ ือหนีไปให้ไกลจน
สุ ดกําลัง
“หนี? คุณคิดว่าเรายังมีโอกาสหนีหรื อ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนส่ายหน้าอย่าง
ขมขื่น
การที่นายหญิงน้อยที่ 2 มายกเลิกการแต่งงานด้วยตัวเองบ่งบอกถึง
การตัดสิ นใจแน่วแน่ของอีกฝ่ ายที่จะจัดการเรื่ องนี้อย่างเด็ดขาด
ดังนั้น จึงไม่มีทางที่ท่านเจ้าเมืองจะปล่อยให้พวกเขาหนีรอดไปได้
เพราะถ้าคนพวกนั้นไม่สามารถยกเลิกการแต่งงาน นายหญิงน้อยที่
2 มิตอ้ งใช้ชีวติ ทั้งชีวติ ของเธออย่างโดดเดี่ยวและรอคอยให้เขา
กลับมาหรื อ?
“พี่จาง…” ตั้นเฉี่ยวเทียนหันไปมองจางเซวียน หวังจะขอคําแนะนํา
จากอีกฝ่ ายว่าเขาควรทําอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้
ในเมื่อพี่จางพูดจาเป็ นมัน่ เหมาะคําโต ‘กลับมาในอีก 3 วันข้างหน้า
นะ แล้วเราจะได้เห็นกัน’ บางทีเขาอาจมีความคิดในใจแล้วก็ได้
“ผมอยากให้คุณยืนยันความตั้งใจของคุณเป็ นครั้งสุ ดท้าย เมื่อครู่ น้ ี
คุณเต็มใจจะลงนามในสัญญานัน่ หรื อเปล่า?”
“แน่นอนว่าไม่!” ตั้นเฉี่ยวเทียนส่ ายหน้า “ถ้าผมลงนามในกระดาษ
บ้าบอนัน่ จะมีหน้าไปมองบรรพบุรุษของผมได้อย่างไรหลังจากที่
ผมตายไปแล้ว?”
ถ้าเขาทําลายศักดิ์ศรี ของตระกูลตั้นแบบนั้น ต่อให้ความตายก็ไม่
เพียงพอจะชดใช้ความผิดบาปของเขา
“คุณกลัวความเจ็บปวดไหม?” จางเซวียนถาม
“ตอนนี้น่ะ ต่อให้ความตายผมก็ไม่กลัว แล้วเจ็บปวดแค่นิดหน่อยจะ
สําคัญอะไร?” ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่รู้วา่ จางเซวียนคิดอะไรอยู่ แต่กต็ อบ
คําถามตามตรง
“คุณอยากล้างแค้นที่ถูกหยามหน้าในวันนี้ไหม?”
“แน่นอน! ไม่ใช่เฉพาะวันนี้นะ ถ้าทําได้ ผมอยากล้างแค้นสําหรับการ
ดูถูกทั้งหมดที่ผมได้รับมานับตั้งแต่ท่านพ่อท่านแม่ของผมเสี ยชีวติ
ไป แต่…” ตั้นเฉี่ ยวเทียนมองขาของเขาด้วยสี หน้าสลด
เขาจะไม่รู้สึกรู ้สาอะไรเลยได้อย่างไรเมื่อโดนดูถูกเหยียดหยาม
ขนาดนั้น?
แต่ดว้ ยขาของเขาที่อยูใ่ นสภาพนี้ อีกทั้งไม่สามารถฝึ กฝนวรยุทธได้
ความตั้งใจของเขาก็คงเป็ นได้แค่ความตั้งใจที่อยูใ่ นสมอง ไม่มีวนั
กลายเป็ นความจริ ง
ถ้าเขายังคงเป็ นเด็กวัยรุ่ นที่ปราดเปรื่ องและเก่งกาจ คงไม่ตอ้ งใช้ชีวติ
อย่างยอมจํานนแบบนี้…
“ดี! ในเมื่อคุณตัดสิ นใจแล้ว สิ่ งสุ ดท้ายที่คุณต้องทําตอนนี้กค็ ือยอมรับ
ผมเป็ นอาจารย์ของคุณ!” จางเซวียนพูด
“ยอมรับคุณเป็ นอาจารย์ของผม?”
หัวสมองของพี่จางถูกกระทบกระเทือนตอนเกิดอุบตั ิเหตุหรื อเปล่า?
เราจะเรี ยนรู ้อะไรจากมนุษย์ธรรมดาสามัญคนหนึ่งได้?
หรื อว่าคําสัญญาของคุณที่พดู ว่า ‘กลับมาในอีก 3 วัน’…หมายถึงสิ่ ง
นี้?
ตั้นเฉี่ยวเทียนอ้าปากค้างขณะรู ้สึกทันทีวา่ เขาถูกหลอก
ตอนที่ 1918 หนอนกู้
ตั้นเฉี่ ยวเทียนไม่ใช่คนเดียวที่อ้ ึงกับข้อเสนอของจางเซวียน แม้แต่ผู ้
อาวุโสอี้กช็ ะงัก เขาอ้าปากค้าง “นายท่านจาง นี่เรื่ องใหญ่นะ ขอโทษ
เถอะ แต่ผมคงต้องขอร้องคุณว่าอย่าสร้างปั ญหา!”
ชีวติ ของพวกเขาอยูบ่ นเส้นด้าย แต่อีกฝ่ ายยังมีอารมณ์จะพูดตลก ถ้า
เขารู ้วา่ หมอนี่จะไว้ใจไม่ได้ขนาดนี้ จะไม่มีวนั ปล่อยให้นายน้อยที่ 3
ช่วยชีวติ และนําตัวหมอนี่กลับมา!
เห็นสี หน้าของทั้งคู่ จางเซวียนดูออกว่าทั้งคู่แคลงใจในความสามารถ
ของเขา จึงเอาสองมือไพล่หลังขณะวางมาดอย่างผูเ้ ชี่ยวชาญตัวจริ ง
แต่การวางมาดของเขาก็ตอ้ งสะดุดเพราะอาการบาดเจ็บที่ได้รับ ทํา
ให้หน้าตาบิดเบี้ยวอย่างน่าสมเพช
จางเซวียนสู ดปากเล็กน้อยขณะพยายามระงับความเจ็บปวดและ
วางมาดผูเ้ ชี่ยวชาญต่อไป “ทางเดินพลังปราณของคุณได้รับบาดเจ็บ
ตั้งแต่คุณอายุยงั น้อย ทําให้ร่างกายไม่อาจขับเคลื่อนพลังปราณได้
ในเวลาเดียวกัน จุดตันเถียนของคุณก็บอบชํ้าด้วย จึงสะสมพลังงาน
ไว้ไม่ได้เลย ส่ งผลให้คุณหมดความสามารถในการฝึ กฝนวรยุทธ
อย่างสิ้ นเชิง การวิเคราะห์ของผมถูกต้องไหม?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้ารับ
เขาอายุเพียง 6 ขวบตอนที่เกิดเหตุการณ์น้ นั ขึ้นกับตระกูลตั้น ทําลาย
ทั้งจุดตันเถียนและทางเดินพลังปราณของเขา เขาไม่อาจเยียวยามัน
ได้นบั แต่บดั นั้น ด้วยเหตุน้ ี แม้จะใช้เวลาฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบทุก
วัน แต่กไ็ ม่สามารถถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่ ศิลปะเพลงดาบของเขา
ได้ พูดอีกอย่างก็คือกระบวนท่าของเขาเป็ นเพียงรู ปแบบภายนอก
เท่านั้น ปราศจากแก่นสารที่แท้จริ ง
ตั้นเฉี่ยวเทียนได้ปรึ กษานายแพทย์มากมายเกี่ยวกับอาการของเขา
แต่ไม่มีใครรักษาได้ ลงท้ายเขาก็ถอดใจ
“แล้วคุณรู ้ไหมว่าสาเหตุที่ทาํ ให้จุดตันเถียนและทางเดินพลังปราณ
ของคุณได้รับความบอบชํ้าคืออะไร?” จางเซวียนตั้งคําถาม
“พลังปราณรุ นแรงบางชนิดซึ มซาบเข้าสู่ ร่างของผม ส่ งผลทําลายล้าง
และสร้างความบอบชํ้าไปทัว่ ผมยังมีชีวติ อยูก่ บ็ ุญแล้ว” ตั้นเฉี่ยวเทียน
ตอบ
นัน่ คือคําวินิจฉัยของนายแพทย์ส่วนใหญ่ที่เขาได้พบ
“พลังปราณ?” จางเซวียนส่ ายหน้า “ถ้ามันคือผลจากพลังปราณของ
นักรบคนอื่นที่ตกค้างอยูใ่ นร่ างของคุณ ในเมื่อคุณหมัน่ เพียรฝึ กฝน
วรยุทธทุกวันเพื่อหวังจะฟื้ นฟูสภาพร่ างกายของตัวเอง คุณคิดว่ามัน
จะเป็ นไปไม่ได้เชียวหรื อที่อาการจะไม่ดีข้ ึนเลยสักนิดทั้งที่เวลาก็
ผ่านไปหลายปี แล้ว?”
คําถามนั้นทําให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนอึ้ง
นัน่ คือสิ่ งที่เขาสงสัยเช่นกัน
กว่า 10 ปี แล้วที่เขาหาทางปรึ กษานายแพทย์ผมู ้ ีช่ือเสี ยงมากมาย และ
ทดลองวิธีการรักษาหลากหลายรู ปแบบ ไม่วา่ จะเป็ นยานํ้า ยาเม็ด การ
ฝังเข็ม การอาบสมุนไพร…แต่กไ็ ม่มีวธิ ีไหนได้ผล ร่ างกายของเขา
พรุ นราวกับกระสอบ ไม่วา่ จะซึมซับพลังจิตวิญญาณชนิดไหนเข้า
ไปมันก็เสื่ อมสลายไปหมด ทําให้เขาไม่อาจยกระดับวรยุทธได้เลย
บรรดานายแพทย์ชื่อดังเหล่านั้นบอกเขาว่ามันคือผลพวงจากพลัง
ปราณฤทธิ์แรงที่ตกค้างอยูใ่ นร่ างกายของเขา ส่ งผลให้ความพยายาม
ทั้งหมดทั้งมวลไม่เป็ นผล นายแพทย์เหล่านั้นให้คาํ มัน่ ว่าวิธีการรักษา
ของพวกเขาจะช่วยได้ แต่กไ็ ม่มีใครทําสําเร็ จ
เมื่อเวลาล่วงไป บรรดานายแพทย์กล็ ะทิ้งการรักษาเขาไปทีละคน
สองคน สุ ดท้ายก็ลม้ เลิก
ตั้นเฉี่ยวเทียนครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะตั้งคําถามกับจางเซวียน “ถ้า
มันไม่ใช่ผลของพลังปราณรุ นแรงที่ตกค้างอยูใ่ นร่ างกายของผม จะ
มีอะไรที่ทาํ ลายทางเดินพลังปราณและจุดตันเถียนของผมได้ แต่ไม่
ทําให้ผมเสี ยชีวติ ?”
ที่น่าประหลาดอย่างยิง่ เกี่ยวกับอาการของเขาก็คือเรื่ องนี้ นอกเหนือจาก
การที่เขาไม่อาจฝึ กฝนวรยุทธได้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวติ ด้านอื่น
เฉว่ชิงกล่าวหาว่าเขาหมดความสามารถในการทําหน้าที่สามี แต่นนั่
ไม่เป็ นความจริ ง เขารู ้ดีกว่าใครว่าตัวเองลืมตาตื่นด้วยอาการตื่นตัว
ทุกเช้า
“มันคือหนอนกู”้ จางเซวียนอธิบาย “มีคนฝังหนอนกูเ้ ข้าไปในตัว
คุณ ส่ งผลให้การรักษาทุกรู ปแบบไม่เป็ นผล!”
“หนอนกู?้ ” ตั้นเฉี่ยวเทียนผงะ “คุณกําลังบอกว่า…มีหนอนอาศัยอยู่
ในตัวผมหรื อ?”
“ไม่ใช่แค่อาศัยอยู่ มันดูดกลืนพลังงานทั้งหมดที่คุณฝึ กฝนมาตลอด
ระยะเวลาหลายปี ตอนนี้มนั จึงมีพลังและแข็งแกร่ งมาก!” จางเซวียน
เสริ ม
ด้วยหอสมุดเทียบฟ้า เขาเห็นต้นตอของปัญหาที่เกิดกับตั้นเฉี่ ยวเทียน
ได้ในทันที
เหตุผลที่จุดตันเถียนกับทางเดินพลังปราณของอีกฝ่ ายไม่อาจฟื้ นคืน
สภาพได้ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมาแม้จะใช้ความพยายามมากมาย ก็เพราะ
มีใครบางคนฝังหนอนกูเ้ ข้าไปในตัวเขา หนอนกูก้ ลืนกินพลังงาน
จากการฝึ กฝนวรยุทธของตั้นเฉี่ ยวเทียนอย่างไม่หยุดหย่อน และนัน่
คือต้นเหตุที่ทาํ ให้ ระดับวรยุทธของเขาเสื่ อมถอยลงเรื่ อย ๆ ตลอด
10 ปี ที่ผา่ นมา
“มีหนอนที่มีชีวติ อยูใ่ นตัวผม…”
ตั้นเฉี่ ยวเทียนหันไปขมวดคิ้วใส่ ผอู ้ าวุโสอี้ อีกฝ่ ายคิดหนักอยูค่ รู่ หนึ่ง
ก่อนจะส่ ายหน้า
สิ่ งที่พวกเขาได้ฟังเหลือเชื่อเกินกว่าจะรับไหว
ถ้ามีหนอนกูอ้ ยูใ่ นร่ างของตั้นเฉี่ยวเทียนจริ ง ๆ ตลอด 10 ปี ที่ผา่ นมา
ทําไมนายแพทย์มากมายที่พวกเขาปรึ กษาจึงมองไม่เห็น? แล้วชาย
หนุ่มคนนี้รู้ได้อย่างไร?
“ผมรู ้วา่ พวกคุณแคลงใจ ซึ่งผมก็เข้าใจนะ แต่ผมมีวธิ ีแก้ปัญหา” จาง
เซวียนดูออกว่าทั้งคู่ไม่เชื่อในสิ่ งที่เขาพูด แต่นนั่ ไม่ใช่เรื่ องใหญ่
“คุณมีเข็มเงินหรื ออะไรทํานองนั้นไหม?”
ผูอ้ าวุโสอี้พยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้อง ไม่ชา้ ก็กลับมาพร้อมกับ
กล่องที่บรรจุเข็มเงินจํานวนหนึ่ง “นี่ไง”
อย่างคําพูดที่วา่ กันว่า ‘ผูท้ ี่เจ็บป่ วยเรื้ อรัง สุ ดท้ายก็มกั กลายเป็ นหมอ
เสี ยเอง’ ทั้งคู่พยายามเสาะหาวิธีการรักษาทุกรู ปแบบตลอด 10 ปี ที่
ผ่านมา ดังนั้น ในที่พกั ของพวกเขาจึงมีอุปกรณ์การแพทย์พ้นื ฐาน
เกือบทุกชนิด
“เอาล่ะ ดูให้ดีนะ ผมจะนํามันออกมาเดี๋ยวนี้แหละ!”
จางเซวียนหัวเราะหึ ๆ จากนั้นก็ถือเข็มเงินไว้แล้วสะบัด
ฟึ่ บ!
เข็มเงินทุกเล่มร่ วงลงพื้น ห่างจากตัวเขาออกไป 3 เมตร
“ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีเรี่ ยวแรง คุณช่วยขยับเข้ามาใกล้ผมอีกหน่อย
เถอะ” จางเซวียนพูดอย่างกระอักกระอ่วน
เขาเคยชินกับการสะบัดเข็มเงินจากระยะไกลจนลืมไปว่าตอนนี้ยงั ใช้
พลังปราณของตัวเองไม่ได้
“ได้สิ…”
ถึงตั้นเฉี่ยวเทียนจะยังไม่ค่อยเชื่อใจจางเซวียน แต่หลังจากลังเลอยู่
ครู่ หนึ่ง เขาก็ขยับเข้าหาอีกฝ่ าย
ในเมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็สมควรตามนํ้าไป เขา
ไม่มีอะไรจะเสี ย
จางเซวียนหยิบเข็มเงิน 2-3 เล่มขึ้นมาอีกครั้ง เขาสู ดหายใจลึกขณะ
เปิ ดใช้งานหอสมุดเทียบฟ้า จากนั้นก็ปักเข็มเข้าสู่ ตาํ แหน่งที่ระบุไว้
ในหนังสื อของตั้นเฉี่ยวเทียน
ฟึ่ บ!
เกิดความผิดพลาดอันคาดไม่ถึงขึ้นอีกครั้ง ทําให้จางเซวียนหน้าแดงกํ่า
ในสภาวะที่เขาอ่อนแอแบบนี้ เขาทําไม่ได้แม้กระทัง่ ปั กเข็มเข้าสู่
ผิวหนังของตั้นเฉี่ยวเทียน
ถึงตั้นเฉี่ยวเทียนจะฝึ กฝนวรยุทธไม่ได้ แต่กย็ งั เป็ นนักรบระดับเซียน
ขั้น 6 แถมสภาวะร่ างกายของเขาก็ได้รับการบ่มเพาะจากพลังจิต
วิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทมานานหลายปี ทําให้มีกายเนื้อที่
แข็งแกร่ งยิง่ กว่าเหล็ก
ถึงจางเซวียนจะพอเคลื่อนไหวไปมาได้ แต่กย็ งั อ่อนเพลียจากความ
บอบชํ้าที่ได้รับ เขาทําไม่ได้แม้กระทัง่ รวบรวมพละกําลังเพื่อปักเข็ม
ลงไปบนผิวของตั้นเฉี่ยวเทียน
“ช่วยผมหน่อย!” จางเซวียนร้องเรี ยกผูอ้ าวุโสอี้
ผูอ้ าวุโสอี้เดินเข้ามา เขาเคาะนิ้ว แล้วกระแสพลังปราณก็ไหลผ่าน
เข็มเงิน ทําให้มนั พุง่ เข้าใส่ ต้ นั เฉี่ยวเทียนอีกครั้ง
ฉึก!
ปลายเข็มปักเข้าไปในร่ างของตั้นเฉี่ ยวเทียน
ฟึ่ บ!
จางเซวียนกําลังจะควบคุมเข็มเงิน ก็พอดีกบั ที่มนั กระเด็นหวือ
ออกมาด้วยความเร็ วสู ง และปักลงไปในผนัง
ตั้นเฉี่ยวเทียนกับผูอ้ าวุโสตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ โดยเฉพาะตั้นเฉี่ ยว
เทียน
ในฐานะผูถ้ ูกฝังเข็ม เขารู ้ดีวา่ ตัวเองไม่ได้สาํ แดงพละกําลังใด ๆ
ออกไปเลย แต่เข็มเงินพวกนั้นกระเด็นออกมาด้วยความเร็ วสู ง หรื อ
ว่าจะมีบางอย่างที่มีชีวติ อยูใ่ นร่ างของเขาจริ ง ๆ ?
“คุณคงรู ้สึกได้แล้วนะ หนอนกูใ้ นตัวคุณน่ะขับมันออกมา” จางเซวียน
อธิบาย
หากจะพูดกันตามตรง ตอนนี้จางเซวียนยังไม่มีวธิ ีสงั หารหนอนกู้
แต่การทําให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนรับรู ้วา่ มีหนอนกูอ้ ยู่ ก็พอจะเรี ยกความ
ไว้วางใจของชายหนุ่มกลับมาได้ ซึ่งหากมีเวลามากพอ จางเซวียนก็
มัน่ ใจว่าจะแก้ปัญหานี้ได้สาํ เร็ จทันทีที่ได้พละกําลังของเขากลับคืน
มา
“มีหนอนกูอ้ ยูใ่ นตัวผมจริ ง ๆ ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนพูดไม่ออก
เมื่อครู่ ก่อน เขายังมัน่ ใจว่าไม่มีทางที่ของพิสดารแบบนั้นจะอยูใ่ นตัว
เขา แต่สิ่งที่เพิ่งเห็นทําให้ความมัน่ ใจเหื อดหาย
เพราะเรื่ องจริ งคือเขาไม่ได้สาํ แดงพละกําลังใด ๆ ออกมาสักนิด หรื อ
ต่อให้สาํ แดง เขาก็ไม่เก่งกาจพอจะส่งเข็มเงินให้กระเด็นไปปักผนัง
ได้
“ถึงการฝังเข็มก่อนหน้านี้จะไม่ได้ทาํ อันตรายหนอนกู้ แต่กบ็ ่งบอก
ว่าเรารู ้ตาํ แหน่งของมันแล้ว จึงเป็ นไปได้วา่ หนอนกูน้ ่าจะย้ายไปอยู่
ที่อื่น ขณะที่มนั กําลังย้ายที่ คุณจะสามารถขับเคลื่อนพลังปราณของ
คุณได้ ขาซ้ายที่ใช้การไม่ได้ของคุณจะฟื้ นคืนสภาพขึ้นมาชัว่ ระยะ
หนึ่ง” จางเซวียนพูด
“แต่การฟื้ นตัวครั้งนี้เป็ นเพียงชัว่ คราวเท่านั้น ทันทีที่หนอนกูไ้ ด้
ตําแหน่งใหม่ ทุกอย่างจะกลับสู่ สภาพเดิม วิธีเดียวที่คุณจะแก้ปัญหา
นี้ได้เบ็ดเสร็ จเด็ดขาดก็คือต้องฆ่ามัน!”
“อย่างนั้นหรื อ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนอึ้งไปเล็กน้อยกับสิ่ งที่เกิดขึ้น
ครู่ หนึ่งผ่านไป เขาตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
เป็ นอย่างที่จางเซวียนพูดไว้ เขารู ้สึกได้วา่ พลังปราณไหลเวียนไปทัว่
ร่ างอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น ความรู ้สึกยังกลับคืนมาสู่ ขาข้างซ้ายที่ไร้
ความรู ้สึกมานานด้วย!
เขาลองออกเดินสองสามก้าว ซึ่งการเคลื่อนไหวของเขาก็เหมือนคน
ทัว่ ไป ไม่มีความผิดแผกแตกต่างแม้แต่นอ้ ย!
แต่ความรู ้สึกที่อยูใ่ นขาข้างซ้ายของเขาก็คงอยูเ่ พียงสิ บอึดใจเท่านั้น
ก่อนจะกลับไปแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ดงั เดิม
เมื่อรู ้แล้วว่าตัวเองวินิจฉัยไม่ผดิ จางเซวียนหัวเราะหึ ๆ “ตอนนี้คุณ
คงไว้ใจผมแล้วนะ ใช่ไหม?”
“ศิษย์สายตรงตั้นเฉี่ ยวเทียนคารวะท่านอาจารย์!”
เมื่อรู ้แล้วว่านี่คือโอกาสลํ้าค่าที่เขาจะได้หลุดพ้นจากสภาวะนี้ ตั้น
เฉี่ยวเทียนรี บทรุ ดตัวลงคุกเข่าและโค้งคํานับ
นายแพทย์ผมู ้ ีชื่อเสี ยงหลายต่อหลายคนได้ตรวจสอบอาการของเขา
แต่ไม่มีการรักษาใดได้ผล แต่สาํ หรับจางเซวียน เพียงแค่มองไกล ๆ
ชายหนุ่มก็ระบุตน้ ตอของปัญหาและแสดงให้เขาเห็นชัด ๆ ได้ เพียง
เท่านี้กบ็ ่งบอกแล้วว่าอีกฝ่ ายมีความสามารถ ไม่วา่ ภายนอกเขาจะดู
เป็ นอย่างไรก็ตาม
“ลุกขึ้นเถอะ!”
หลังจากตั้นเฉี่ยวเทียนยอมรับจางเซวียนเป็ นอาจารย์อย่างเป็ นทางการ
แล้ว จางเซวียนก็พยุงอีกฝ่ ายให้ลุกขึ้น
อันที่จริ งเขาตั้งใจจะอยูห่ ่างจากเรื่ องราวต่าง ๆ ของมิติเบื้องบนให้
มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ตั้งใจจะมุ่งตามหาหลัวลัว่ ชิงเท่านั้น แต่ใน
เมื่อตั้นเฉี่ยวเทียนช่วยชีวติ เขาไว้ เขาจึงอยากตอบแทนบุญคุณ
เมื่อยอมรับจางเซวียนเป็ นอาจารย์แล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนมองชายหนุ่มที่
อยูต่ รงหน้าอย่างคาดหวังและตั้งคําถาม “ท่านอาจารย์ ไม่ทราบว่าผม
จะกําจัดหนอนกูใ้ นตัวผมได้อย่างไร?”
แค่คิดว่ามีหนอนคืบคลานอยูใ่ นตัวเขาและกัดแทะร่ างกายของเขาอยู่
ก็เกินพอจะทําให้ขนลุกขนชันแล้ว ที่ผา่ นมาเขาไม่รู้สึกเพราะไม่เคย
รู ้เรื่ องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้คงไม่มีทางข่มตาหลับได้หากหนอนกูย้ งั มี
ชีวติ อยู่
“ผมนําหนอนกูอ้ อกจากตัวคุณได้ แต่ตอนนี้ผมอ่อนแอเกินไป คง
ต้องเยียวยาอาการบาดเจ็บก่อน” จางเซวียนตอบ
ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บสาหัสของเขา แค่การระเบิดพลังปราณ
เทียบฟ้าสักครั้งก็เพียงพอจะเล่นงานหนอนกูท้ ี่คืบคลานอยูใ่ นร่ าง
ของตั้นเฉี่ยวเทียนได้แล้ว แต่ในสภาพนี้ แม้จะสําแดงพลังปราณก็ยงั
ทําไม่ได้ ดังนั้น ถึงจะรู ้วา่ หนอนกูอ้ ยูต่ รงไหน ก็เล่นงานมันไม่สาํ เร็ จ
ที่สาํ คัญกว่านั้น หนอนกูเ้ ก่งกาจถึงขนาดขับเข็มเงินของเขาออกมา
ด้วยพละกําลังหนักหน่วงราวกับจะเย้ยหยันความอ่อนแอของเขา สิ่ ง
นี้ทดสอบความอดทนอดกลั้นของจางเซวียนอย่างมาก
“เยียวยาอาการบาดเจ็บ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนทวนคําก่อนจะตาโตเมื่อนึก
ได้ “ผมเกือบลืม ผมมียาเม็ดฟื้ นฟูสภาพร่ างกายชั้นดีอยูน่ ิดหน่อย
ตั้งใจจะให้คุณกินเพื่อให้อาการบาดเจ็บทุเลา แต่สามวันที่ผา่ นมาคุณ
อยูใ่ นภาวะโคม่า ผมจึงไม่กล้าใช้มนั อย่างบุ่มบ่าม ในเมื่อตอนนี้คุณ
ฟื้ นแล้ว ผมจะนํายา นั้นมาให้คุณนะ ทันทีที่พลังงานในยาซึ มซาบ
เข้าสู่ ร่าง ไม่ชา้ คุณก็จะได้พละกําลังกลับคืนดังเดิม!”
ยาเม็ดฟื้ นฟูร่างกายขั้นสู งส่ วนใหญ่มีอานุภาพน่าทึ่ง แต่ผทู ้ ี่กินเข้าไป
ต้องใช้พลังปราณในการซึมซับฤทธิ์ยาด้วย หากผลีผลามใช้กบั คนไข้
ที่ไม่ได้สติ ก็มีโอกาสที่ฤทธิ์รุนแรงของยาจะทําอันตรายผูน้ ้ นั
ด้วยเหตุน้ ี ทุกอย่างจึงถูกรั้งรอไว้
ตอนที่ 1919 ไม่ มวี ธิ ีอื่นเลยหรื อ?
ครู่ ต่อมา ผูอ้ าวุโสอี้กเ็ ดินเข้ามาในห้องพร้อมกับขวดหยกใบหนึ่ง เขา
เปิ ดจุกขวดหยก แล้วกลิ่นหอมของสมุนไพรก็อบอวลไปทัว่
มันคือยาเม็ดฟื้ นฟูสภาพร่ างกายเกรด 8
จางเซวียนรับยามาเม็ดหนึ่งและกลืนลงไปโดยไม่รีรอ แต่ครู่ ต่อมาก็
ถอนหายใจเฮือก “ผมเกรงว่ายาเม็ดที่คุณมอบให้คงมีประโยชน์กบั
ผมไม่มาก…”
ถึงสภาพของจางเซวียนตอนนี้จะดูเหมือนไร้พลังอย่างสิ้ นเชิง แต่เขา
ก็ยงั คงเป็ นนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ ยาเม็ดฟื้ นฟูสภาพร่ างกายเกรด
8 อาจเป็ นทรัพยากรลํ้าค่าในการเยียวยาบาดแผลทุกประเภทสําหรับ
นักรบระดับเซี ยนขั้น 6 แต่ไม่ทาํ ให้ร่างกายของจางเซวียนสะดุง้
สะเทือนแม้แต่นอ้ ย
“มีประโยชน์กบั คุณไม่มาก?” ตั้นเฉี่ ยวเทียนรี บสัง่ การให้ผอู ้ าวุโสอี้
นํายาเม็ดฟื้ นฟูสภาพร่ างกาย ชนิดดีท่ีสุดที่พวกเขามีออกมา แต่กไ็ ม่มี
ขนานไหนที่ดูจะใช้ได้ผล
“ในเมืองนี้มีตลาดใหญ่ ๆ ที่ผมจะซื้อหายาเม็ดฟื้ นฟูสภาพร่ างกายหรื อ
ยาสมุนไพรได้บา้ งไหม?” จางเซวียนตั้งคําถามพร้อมกับขมวดคิว้
“มีตลาดอยูแ่ ห่งหนึ่ง แต่สมุนไพรและยาเม็ดที่วางขายที่นนั่ ไม่ได้อยู่
ในระดับสู งนัก ยาเม็ดที่เรามี ถือว่าดีที่สุดในท้องตลาดแล้ว…” ตั้น
เฉี่ยวเทียนเกาหัว
ในเมื่อแม้แต่ยาพวกนี้ยงั ไม่มีประโยชน์กบั ชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้า
ต่อให้ซ้ือหามาอีกก็คงช่วยอะไรไม่ได้
“มีวธิ ีไหนที่พอจะทําให้ได้ยาเม็ดขั้นสู งกว่านี้มาไหม?” จางเซวียน
ถามอีก
ตราบใดที่อาการบาดเจ็บของเขายังไม่ทุเลา ก็ไม่มีทางรักษาตั้นเฉี่ยว
เทียน ในเวลานี้ ตั้นเฉี่ยวเทียนกับผูอ้ าวุโสอี้อยูใ่ นภาวะสุ่ มเสี่ ยงมาก
อย่าว่าแต่มีชีวติ รอดในอีก 3 วันข้างหน้าเลย ยังน่าสงสัยว่าพวกเขา
จะผ่านพ้นคืนนี้ไปได้หรื อเปล่า!
ตั้นเฉี่ยวเทียนครุ่ นคิดครู่ หนึ่ง “นักรบส่ วนใหญ่ซ้ื อหายาเม็ดขั้นสู ง
กว่านี้โดยใช้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล ถ้าการซื้อขายเป็ นผลสําเร็ จ
ของเหล่านั้นจะถูกส่ งมาโดยเร็ ว”
“ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล?” ได้ยนิ ชื่อที่คุน้ หู จางเซวียนพยักหน้า
“แล้วผมจะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมาด้วยวิธีไหน?”
นี่เป็ นครั้งที่ 2 ที่เขาได้ยนิ เรื่ องของลํ้าค่าชิ้นนี้นบั ตั้งแต่มาถึงมิติเบื้อง
บน
ดูเหมือนเหล่าชนชั้นนําของมิติเบื้องบนจะเกี่ยวข้องกับของลํ้าค่าชิ้น
นี้ตลอด ไม่วา่ จะเป็ นการได้มาซึ่งเทคนิควรยุทธหรื อยาเม็ดขั้นสู ง ก็
ล้วนแต่ตอ้ งใช้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล เท่าที่เห็น หากไม่มีตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาล พวกเขาก็แทบไปไหนหรื อทําอะไรไม่ได้เลย
สิ่ งที่จางเซวียนต้องการก็คือยาเม็ดที่เกรดสู งพอจะยื้ออาการบาดเจ็บ
ของเขาไว้ได้สกั ระยะหนึ่ง ให้เขามีโอกาสได้ซึมซับพลังจิตวิญญาณ
ที่มีหน้าตาเหมือนปรอทจากสภาพแวดล้อมและแปรสภาพมันให้
กลายเป็ นพลังปราณเทียบฟ้า ซึ่งหากทําได้ ทุกปัญหาก็จะคลี่คลาย
เขาจะกําจัดหนอนกูอ้ อกจากร่ างของตั้นเฉี่ ยวเทียนและถ่ายทอด
ศิลปะเพลงดาบให้อีกฝ่ ายได้ เป็ นการช่วยชีวติ ชายหนุ่มจากวิกฤตที่
กําลังเผชิญอยู่
“เมืองที่เราอาศัยอยูน่ ้ ีเล็กเกินไป ไม่มีหอนิรันดร์อยูท่ ี่นี่ ด้วยเหตุน้ ี จึง
ไม่มีพอ่ ค้าคนไหนขายตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล” ตั้นเฉี่ยวเทียน
ขมวดคิ้ว
“ไม่มีวธิ ีอื่นเลยหรื อ?” จางเซวียนถาม
“ในเมืองของเรา การจะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมานั้นมีวธิ ี
เดียว” ตั้นเฉี่ ยวเทียนพูด “แต่มนั ยากมาก จะเรี ยกว่าเป็ นไปไม่ได้เลย
ก็ไม่ผดิ !”
“เมื่อครั้งที่ตลาดหงเหยียนก่อตั้งขึ้นใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามา
จับจ่าย เจ้าของตลาดจึงเขียนคําถามยาก ๆ ที่แตกต่างกันไป 10 ข้อ
แล้วตั้งรางวัลให้แต่ละคําถาม หากใครตอบได้กจ็ ะได้รับรางวัล
ตามนั้น สิ่ งนี้ดึงดูดผูค้ นมากมายให้แวะเวียนมาที่ตลาดหงเหยียน
และคําถามก็ถูกตอบไปแล้ว 9 ข้อ”
“รางวัลของคําถามข้อสุ ดท้ายคือตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล ผูค้ น
มากมายอยากได้จนแทบขาดใจ แต่ดว้ ยความยากของคําถาม ก็ยงั ไม่
มีใครตอบได้จนถึงทุกวันนี้”
“พาผมไปที่นนั่ ที!” จางเซวียนพูด
ต่อให้มีพอ่ ค้าที่ขายตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล เขาก็ไม่มีเงินซื้อ แน่นอน
ว่าด้วยสติปัญญาที่มี เขาคงหาเงินได้ไม่ยาก แต่นนั่ อาจก่อให้เกิดปั ญหา
ไม่นอ้ ย ดังนั้นจึงดีที่สุดถ้าจะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลจากการ
ตอบคําถาม
ตั้นเฉี่ยวเทียนรู ้วา่ ไม่มีทางเลือกอื่น จึงพยักหน้ารับ
เพราะอาการบาดเจ็บของจางเซวียนยังสาหัสและสร้างความบอบชํ้า
ใหญ่หลวงให้กบั ร่ างกายของเขา ทั้งคู่จึงเดินทางไปตลาดหงเหยียน
โดยใช้เกี้ยว
ราว 2 ชัว่ โมงต่อมา พวกเขาก็มาถึงตลาดขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้น
เฉี่ยวเทียนลงจากเกี้ยวก่อนจะพยุงจางเซวียนอย่างระมัดระวัง ทั้งคู่
มุ่งหน้าไปยังกําแพงที่มีคาํ ถามทั้ง 10 ข้อจารึ กไว้
เพราะเป็ นสถานที่ที่ดึงดูดใจเหล่านักท่องเที่ยว จึงมีผคู ้ นมากมายอยู่
ในบริ เวณนั้น
ความเป็ นไปได้ที่จะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลฟรี ๆ เป็ นความเย้า
ยวนใจครั้งใหญ่ จึงพอเข้าใจได้ที่มีผคู ้ นมากมายอยากลอง
“เฮ้อ…ผิดอีกแล้ว…”
“2 เดือนที่ผา่ นมานี่ คุณมาที่นี่สิบครั้งแล้วนะ แต่กท็ าํ ไม่สาํ เร็ จ ทําไม
ถึงยอมขายหน้าซํ้าแล้วซํ้าเล่า?”
“ก็แล้วอย่างไรล่ะ? ผมไม่ได้ทาํ ให้คุณขายหน้าสักหน่อย อีกอย่าง
คุณมาที่นี่บ่อยกว่าผมเสี ยอีก!”
“ถ้าการตอบคําถามข้อนี้มนั ง่ายแบบนั้น มันคงไม่เป็ นปริ ศนาตลอด
หลายปี ที่ผา่ นมานี้หรอก…”
…..
ผูค้ นเริ่ มบางตาหลังจากตอบคําถามผิดคนแล้วคนเล่า
ระบบการตรวจสอบความถูกต้องของคําตอบนั้นคล้ายคลึงกับกําแพง
คาใจที่จางเซวียนเคยเจอมาก่อน ทุกคําตอบจะถูกประเมินทันทีวา่
ถูกต้องหรื อไม่ ทําให้ดึงดูดผูค้ นจํานวนมากในแต่ละวัน เพราะทุก
คนมีความหวังว่าจะดวงดีและตอบถูก
ระหว่างทาง จางเซวียนได้รู้จากการพูดคุยกับตั้นเฉี่ ยวเทียนว่าตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาลมีค่ามากขนาดไหน แต่ละอันลํ้าค่าถึงขนาดที่
แม้แต่ผเู ้ ชี่ยวชาญระดับนักปราชญ์โบราณก็ยงั ใช้เงินซื้อหามาได้ยาก
เท่าที่ฟังจากคําบอกเล่าของตั้นเฉี่ยวเทียน ดูเหมือนต่อให้ตวั เขาเองเท
แหวนเก็บสมบัติและขายข้าวของทุกอย่าง ก็ยงั ซื้อหามาสักอันหนึ่ง
ไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน จางเซวียนก็ได้ความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับมิติเบื้องบน
มากขึ้น
ผูท้ ี่อาศัยอยูใ่ นมิติเบื้องบนมีชีวติ อยูท่ ่ามกลางพลังจิตวิญญาณที่มี
หน้าตาเหมือนปรอท สภาวะร่ างกายของพวกเขาจึงแข็งแกร่ งมาก
เหนือชั้นกว่าแม้แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจที่อาศัยอยูใ่ นทวีปแห่งปรมาจารย์
ผูค้ นส่ วนใหญ่มีวรยุทธระดับเซียนขั้น 1 ตั้งแต่เกิด และจะเพิ่มสู งขึ้น
จนเป็ นนักรบระดับเซี ยนขั้น 9 เมื่อเป็ นผูใ้ หญ่
สําหรับคนอย่างตั้นเฉี่ยวเทียนที่เป็ นแค่นกั รบระดับเซี ยนขั้น 6 ทั้งที่
ใกล้จะเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว ถือเป็ นคนอ่อนแอที่ไม่มีอนาคต
ยกตัวอย่างเฉว่ชิง, คู่หมั้นของเขา แม้จะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่
ก็เป็ นถึงนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ ก ทําให้เธอ
เป็ นหนึ่งในผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งที่สุดของเมือง
เมืองที่พวกเขาอาศัยอยู,่ ชวนเจียง ไม่ใช่เมืองใหญ่โตนัก อยูใ่ นระดับ
ที่นกั รบขั้นนักปราชญ์โบราณถือเป็ นผูท้ รงพลังที่สุด สิ่ งสําคัญสิ่ ง
หนึ่งก็คือเมืองนี้อยูใ่ ต้อาณัติของสํานักดาบเมฆเหิ น จึงอธิบายได้วา่
ทําไมพวกเขาถึงมาเปิ ดรับศิษย์สายตรงที่นี่
เจ้าเมืองชวนเจียง, เฉว่เหยา ซึ่งเป็ นท่านพ่อของเฉว่ชิง ขึ้นชื่อว่าเป็ น
ผูเ้ ชี่ยวชาญหมายเลข 1 ของเมืองนี้ วรยุทธของเขาอยูใ่ นระดับเดียว
กับจางเซวียน คือผูท้ าํ ลายล้างมิติข้นั ต้น
เพราะฉะนั้น ทันทีที่จางเซวียนเรี ยกพละกําลังกลับคืนมาได้ ก็จะไม่
มีใครในเมืองนี้สามารถทําอันตรายเขาได้อีก ด้วยเหตุน้ ี การเรี ยกคืน
การเรี ยกพละกําลังกลับคืนมาจึงถือเป็ นเรื่ องสําคัญอันดับหนึ่ง
จางเซวียนสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปและเงยหน้าขึ้นพิจารณา
กําแพงที่อยูไ่ ม่ห่างออกไปนัก
“ขอดูหน่อยเถอะว่าปัญหาแบบไหนที่ทาํ ให้ผคู ้ นมากมายจนปัญญา
ถึงขนาดที่ผา่ นไปหลายปี แล้วก็ยงั ไม่มีใครตอบได้…ถ้ายาเม็ดบ่ม
เพาะพลังหยางถูกหลอมจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ พลังหยางในยานั้น
จะรุ นแรงเสี ยจนนักรบที่กินมันเข้าไปไม่อาจควบคุมมันได้…”
ไม่ชา้ จางเซวียนก็อ่านคําถามนั้นจบ
คําถามนั้นไม่ได้ซบั ซ้อนเท่าไหร่ ใจความสําคัญของมันอยูท่ ี่ยาเม็ด
บ่มเพาะพลังหยางและอานุภาพที่เกิดจากกระบวนการหลอม
ยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางคือหนึ่งในทรัพยากรสําหรับการฝึ กฝนวรยุทธ
ที่จาํ เป็ นต่อบรรดานักรบที่ฝึกฝนเทคนิควรยุทธซึ่งมีองค์ประกอบของ
พลังหยาง มันจะเติมเต็มพลังชีวติ และผลักดันให้พวกเขายกระดับ
วรยุทธได้
สู ตรของยาเม็ดชนิดนี้เป็ นผลงานของนักปรุ งยาผูป้ ราดเปรื่ องคน
หนึ่ง ใช้การประสานคุณสมบัติทางยาของสมุนไพรมากมายที่ส่งผล
ให้เกิดอานุภาพรุ นแรงภายในยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยาง แต่ยาเม็ดก็มี
ข้อบกพร่ องข้อใหญ่
หลังจากกินยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางเข้าไป ด้วยการก่อตัวครั้งใหญ่
ของพลังหยาง นักรบที่กินมันเข้าไปจะต้องหาทางระบาย ‘ความรุ่ ม
ร้อน’ ของพวกเขา ซึ่ งเมื่อระบายความรุ่ มร้อนออกไปแล้ว จะส่ งผล
ให้เกิดภาวะพร่ องพลังหยางซึ่งเป็ นการสิ้ นเปลืองทรัพยากรมาก
นี่คือปัญหาที่นกั ปรุ งยามากมายพยายามหาวิธีแก้ไข แต่ยงั คงเป็ น
ปริ ศนาอยู่ การปรับปรุ งสู ตรยาเม็ดที่มีอานุภาพรุ นแรงไม่ใช่งานง่าย
เพราะเหตุน้ ี จึงไม่มีใครทําสําเร็ จแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานหลายปี
“ยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยาง?”
หลังจากอ่านคําถาม จางเซวียนส่ ายหน้าเล็กน้อยด้วยความงุนงง
ทวีปแห่งปรมาจารย์มียาเม็ดทุกชนิด และตัวเขาก็มีความรู ้ความเข้าใจ
ในยาเม็ดมากมายนับชนิดไม่ถว้ นจากหนังสื อที่ได้อ่าน แต่กไ็ ม่เคย
ได้ยนิ ชื่อยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางมาก่อน
โชคดีที่ดูเหมือนผูค้ นทัว่ ไปจะไม่มีความรู ้ความเข้าใจเรื่ องยาเม็ดชนิด
นี้มากนัก ผูต้ ้ งั คําถามจึงระบุรายละเอียดของสู ตรยาและกรรมวิธีการ
หลอมมันเอาไว้ดว้ ย
จางเซวียนนํารายละเอียดเหล่านั้นเข้าสู่ หอสมุดเทียบฟ้าและประมวล
หนังสื อเล่มหนึ่งขึ้นมา
“เข้าใจล่ะ เข้าใจแล้ว…” จางเซวียนพยักหน้า
สมุนไพรที่อยูใ่ นทวีปแห่งปรมาจารย์กบั มิติเบื้องบนนั้นแตกต่างกัน
มาก สู ตรยาและกรรมวิธีการหลอมยาจึงมีความหลากหลาย โชคดีที่
หอสมุดเทียบฟ้ายังคงทํางานได้อย่างไร้ที่ติ แค่มองแวบเดียว
ข้อบกพร่ องและความผิดพลาดทั้งหมดในการผสมยาและกระบวนการ
หลอมยาก็ปรากฏชัดเจน
ตั้นเฉี่ ยวเทียนเห็นรอยยิม้ ของจางเซวียน เขาอดถามไม่ได้ “ท่านอาจารย์
คุณรู ้วธิ ีแก้ปัญหาแล้วหรื อ?”
เขาเองก็ขบคิดปัญหานี้มาแล้วระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้ผล หรื อว่าท่าน
อาจารย์ของเขาจะรู ้คาํ ตอบด้วยการมองเพียงแวบเดียว?
“ผมคิดออกแล้ว” จางเซวียนยืนยัน
ตั้นเฉี่ ยวเทียนตาโตด้วยความตกใจ เขาละลํ่าละลัก “ถ้าอย่างนั้น…
วิธีแก้ไขปัญหานี้คืออะไร?”
“ถ้าเรามองด้านเดียว วิธีแก้กไ็ ม่ได้ยงุ่ ยากนัก ในสู ตรการหลอมยา
เม็ดบ่มเพาะพลังหยางมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ชื่อหญ้าไฟนรก ปัญหา
จะคลี่คลายได้ดว้ ยการนําสมุนไพรที่ชื่อหญ้าวิญญาณมารดามาใช้
แทนหญ้าไฟนรก!” จางเซวียนกระซิ บกระซาบ
“หญ้าวิญญาณมารดา…มันเป็ นสมุนไพรที่มีองค์ประกอบของพลัง
หยินไม่ใช่หรื อ? เราจะหลอมยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางได้อย่างไรถ้า
ใช้ของแบบนั้น?” ตั้นเฉี่ยวเทียนประหลาดใจกับคําตอบ
สภาพร่ างกายที่พิการทําให้เขาได้เรี ยนรู ้เรื่ องยาเม็ดและสมุนไพรไม่
น้อย หญ้าไฟนรกไม่ใช่สมุนไพร ที่มีอานุภาพรุ นแรงที่สุดในสู ตรยา
แต่มีบทบาทสําคัญในการก่อตัวเป็ นรู ปเป็ นร่ างของยาเม็ดชนิดนี้ เขา
ไม่คิดว่ายาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางจะก่อตัวขึ้นได้หากนําหญ้าวิญญาณ
มารดาไปใช้แทน ในทางตรงกันข้าม หญ้าวิญญาณมารดาจะสลาย
ฤทธิ์ของพลังหยาง ทําให้พลังงานทั้งหมดในตัวยาเหื อดแห้งไป
“หยินกับหยางเติมเต็มกันและกัน แม้หญ้าวิญญาณมารดาจะเป็ น
สมุนไพรที่มีองค์ประกอบของพลังหยิน แต่กใ็ ช้เป็ นตัวกลางในการ
บ่มเพาะและสมานคุณสมบัติทางยาของส่ วนประกอบหลัก, คือใบ
เพลิงแดงกํ่าได้ สิ่ งนี้จะช่วยแก้ปัญหาโดยไม่ทาํ ให้พลังงานในยา
เสื่ อมไป” จางเซวียนอธิบาย
การเติมเต็มซึ่ งกันและกันของพลังหยินกับพลังหยางเป็ นความรู ้ที่รู้
กันทัว่ ไปในทวีปแห่งปรมาจารย์ และเป็ นแนวคิดที่มกั ใช้ในการ
กําหนดสูตรยา ไม่น่าเชื่อว่าไม่มีใครสักคนในเมืองชวนเจียงที่รู้เรื่ องนี้
เท่าที่เห็น ดูเหมือนแม้แต่คนเก่ง ๆ ในมิติเบื้องบนก็ยงั เทียบกับผูค้ น
ในทวีปแห่งปรมาจารย์ไม่ได้ในแง่ของการพัฒนาความรู ้เรื่ องวิชาชีพ
ในทวีปแห่งปรมาจารย์ แนวคิดของปรมาจารย์ขงถูกถ่ายทอดต่อ ๆ
กันมาหลายหมื่นปี ซึ่งส่ งเสริ มการแบ่งปั นความรู ้และการพัฒนาภูมิ
ปัญญาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เห็นได้ชดั ว่ามิติเบื้องบนอ่อนด้อยกว่า
ทวีปแห่งปรมาจารย์มากในเรื่ องนี้
ตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับงงงัน
เขากําลังจะซักถามต่อ ก็พอดีกบั ที่ได้ยนิ เสี ยงซุบซิบพูดคุยอยูด่ า้ น
หลัง จากนั้นก็เห็นผูค้ นที่อยูร่ อบ ๆ กําแพงเปิ ดทางให้คนกลุ่มหนึ่ง
“พวกเขาเป็ นใครน่ะ ดูจะสู งส่ งเหลือเกิน!” ชายวัยกลางคนผูห้ นึ่งที่
อยูใ่ นหมู่ฝงู ชนถามขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ชู่ววว! อย่าพูดพล่อย ๆ น่ะ นัน่ คือเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญจากสํานักดาบ
เมฆเหิ นที่มาเปิ ดรับศิษย์สายตรงที่นี่ คุณเห็นผูช้ ายที่อยูต่ รงกลาง
ไหม? ว่ากันว่าเขามีความรู ้ลึกซึ้งเรื่ องการหลอมยา…”
“พวกเขาคือเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญจากสํานักดาบเมฆเหิ น?” ชายวัยกลางคน
หน้าซี ดอย่างพรั่นพรึ ง
เขารี บหลบไปเพื่อเปิ ดทางให้ท้ งั กลุ่มเข้ามา
สํานักดาบเมฆเหิ นมีเกียรติสูงส่ งในเมืองชวนเจียง ไม่มีใครกล้าท้า
ทายอํานาจของพวกเขา
ตอนที่ 1920 คุณอยากเอาคืนไหม?
ในเวลาเดียวกัน จางเซวียนก็พิจารณาทั้งกลุ่มอย่างถี่ถว้ น
ผูท้ ี่ยนื อยูแ่ ถวหน้าคือชายหนุ่มที่มีสีหน้าเย็นชา น่าจะอายุราว 20
กลาง ๆ เขาสวมเสื้ อคลุมสี เทา มีดาบเหน็บเอว นัยน์ตาของเขาเปล่ง
ประกายเยือกเย็นและมีเหตุมีผล บ่งบอกถึงความเป็ นคนชนิดที่จะไม่
มีวนั ปล่อยให้ความรู ้สึกเข้ามามีส่วนในการตัดสิ นใจใด ๆ ของตัวเอง
แม้จะอายุยงั น้อย แต่ระดับวรยุทธของชายหนุ่มก็ถือว่าน่าประทับใจ
เขาเป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติ
ในทวีปแห่งปรมาจารย์ไม่มีผเู ้ ชี่ยวชาญระดับนี้ แต่ดูเหมือนที่นี่จะหา
พบได้ไม่ยาก…มิติเบื้องบนช่างเป็ นสถานที่ที่น่าสะพรึ งเสี ยจริ ง!
“เธอ…”
ขณะที่จางเซวียนกําลังประเมินชายหนุ่ม ก็เห็นตั้นเฉี่ยวเทียนตัวแข็ง
ขึ้นมาเมื่อเห็นคนกลุ่มนั้น จางเซวียนมองไป เห็นอีกฝ่ ายกําหมัดแน่น
เมื่อมองตามสายตาของตั้นเฉี่ยวเทียน ก็เห็นเฉว่ชิง, สาวน้อยที่เพิ่ง
ปฏิเสธการแต่งงานกับตั้นเฉี่ ยวเทียนเดินตามหลังชายหนุ่มที่สวม
เสื้ อคลุมสี เทาคนนั้น
เฉว่ชิงสวมชุดรัดรู ปสี ม่วงที่ขบั เน้นเรื อนร่ างงดงามของเธอ เผยให้
เห็นลําคอระหงขาวผ่อง เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แผ่รังสี ของความ
สง่างามและภาคภูมิใจออกมา
การที่เธอได้รับอนุญาตให้ติดตามเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของสํานักดาบเมฆ
เหิ นก็มากเกินพอที่จะบ่งบอกแล้วว่าเธอได้การยอมรับให้เป็ นศิษย์
สายตรงของสํานักนี้ และสําหรับเมืองเล็ก ๆ อย่างชวนเจียง…เรี ยก
ได้วา่ เป็ นวีรกรรมน่าทึ่ง
“ปัญหาแค่น้ ีทาํ ให้พวกคุณงงงันกันแสนนานหรื อ?” ชายหนุ่มที่สวม
เสื้ อคลุมสี เทาตั้งข้อสังเกตขณะอ่านคําถามที่อยูบ่ นกําแพงอย่าง
รวดเร็ ว เขาร้องเรี ยกชายหนุ่มอีกคนที่อยูด่ า้ นหลัง “เขียนคําตอบให้
ผมด้วย เปลี่ยนจากการใช้หญ้าไฟนรกไปเป็ นหญ้าวิญญาณมารดา”
“ขอรับ!”
ชายหนุ่มรี บเดินไปที่กาํ แพงแล้วเขียนคําตอบลงไป
นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ ายจะมองเห็นต้นตอของปั ญหาได้ดว้ ยการมองเพียง
แวบเดียว แถมยังได้คาํ ตอบเดียวกันกับท่านอาจารย์ของเขา ตั้นเฉี่ ยว
เทียนตาค้าง เขารี บหันไปพูดกับจางเซวียน “แต่เรารู ้คาํ ตอบเป็ นคน
แรกนะ!”
เขากําลังสงสัยว่าคําตอบของท่านอาจารย์ถูกต้องหรื อไม่ ก็พอดีกบั ที่
กลุ่มคนจากสํานักดาบเมฆเหิ นเข้ามาและให้คาํ ตอบแบบเดียวกัน
นัน่ หมายความว่าคําตอบของท่านอาจารย์ไม่ผดิ พลาด
แต่แล้วก็กลับเป็ นพวกสํานักดาบเมฆเหิ นที่เป็ นคนตอบปัญหา นัน่
หมายความว่าตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลจะตกเป็ นของพวกเขา
ขณะที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนกําลังจะรี บเข้าไป ก็รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งยึด
ข้อมือของเขาไว้แน่น เป็ นท่านอาจารย์ของเขาเอง
“อย่าวุน่ วายน่ะ สายไปแล้ว…”
ตั้นเฉี่ยวเทียนหันไปมอง และเห็นว่าชายหนุ่มจากสํานักดาบเมฆเหิ น
เขียนคําตอบลงไปบนกําแพงเรี ยบร้อยแล้วก่อนจะทาบฝ่ ามือลงไป
บนนั้นเบา ๆ
วิง้ !
แสงสี แดงเจิดจ้าสว่างวาบจากผิวหน้าของกําแพงนั้น
“เป็ นคําตอบที่ถูกต้องหรื อ?”
“สมกับที่เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญจากสํานักดาบเมฆเหิ น เขาแก้ปัญหาได้ดว้ ย
การมองเพียงแวบเดียว!”
“ผมได้ยนิ มานานแล้วว่าเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของสํานักดาบเมฆเหิ นคือ
สุ ดยอดของโลกใบนี้ ดูเหมือนจะเป็ นอย่างนั้นจริ ง ๆ ชื่อเสี ยงโด่งดัง
ของพวกเขาไม่ใช่เรื่ องเล่น ๆ เลย…”
“จํานวนศิษย์สายตรงที่สาํ นักดาบเมฆเหิ นรับในแต่ละครั้งก็มีจาํ กัด
มาก ผมยังสงสัยว่าคราวนี้จะมีผผู ้ า่ นเกณฑ์สกั กี่คน ถึงจะเป็ นแค่ศิษย์
สายตรงระดับล่าง แต่กเ็ ป็ นสัญลักษณ์ของโอกาสที่จะได้กา้ วหน้า
ขึ้นไปเรื่ อย ๆ …”
“ผมพนันว่าคงมีแค่ 3 คนเท่านั้นแหละ ปกติกเ็ ป็ นแบบนั้นอยูแ่ ล้วนี่!”
…..
ฝูงชนส่ งเสี ยงดังเซ็งแซ่
ขนาดคําถามที่ทาํ ให้ผคู ้ นในเมืองชวนเจียงงงงันมากว่า 10 ปี ก็ถูก
กลุ่มคนจากสํานักดาบเมฆเหิ นแก้ไขอย่างง่ายดาย พวกเขาไม่ธรรมดา
จริ ง ๆ
“นายน้อย ผมขอแสดงความยินดีที่คุณแก้ปัญหาข้อสุ ดท้ายของตลาด
หงเหยียนได้ นี่คือของรางวัลที่ทางเราเตรี ยมไว้ให้!”
ไม่ชา้ ชายวัยกลางคนร่ างท้วมคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับยิม้ ประจบ
ประแจง เขาใช้สองมือประคองหี บไม้ที่เปิ ดอ้า ที่อยูใ่ จกลางหี บนั้น
คือตราสัญลักษณ์ที่มีขนาดเท่าฝ่ ามือ
ตราสัญลักษณ์มีตวั อักษรจารึ กไว้แน่นขนัด ผูพ้ บเห็นจะรู ้สึกได้ถึง
กระแสของพลังจิตวิญญาณที่แผ่ออกมา
“นัน่ คือตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลหรื อ?”
“ผมได้ยนิ มาว่าอันหนึ่งก็มีราคา 100,000 เหรี ยญนิรันดร์แล้ว?”
“ว้าว ทั้งชีวติ ของผมก็คงไม่มีปัญญาได้มนั มาหรอก…”
…..
พวกเขาอาจเป็ นนักรบที่เติบโตขึ้นในมิติเบื้องบน แต่ตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาลคือสิ่ งที่มีแต่ชนชั้นนําของมิติเบื้องบนเท่านั้นที่จะมีโอกาส
ครอบครอง ซึ่งก็มีอยูเ่ พียงหยิบมือในเมืองชวนเจียง ผูค้ นส่ วนใหญ่
จึงไม่เคยเห็นมันมาก่อน
ชายหนุ่มที่สวมเสื้ อคลุมสี เทาใช้สองนิ้วคีบตราสัญลักษณ์นิรันดร์
กาลไว้และถ่ายทอดพลังปราณของเขาเข้าไป ซึ่งหลังจากแน่ใจแล้ว
ว่าเป็ นของแท้ ก็พยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะยืน่ ให้เฉว่ชิง
“ผมให้คุณ”
เฉว่ชิงตาโตด้วยความดีใจขณะรับตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลไว้ เธอ
หายใจถี่กระชั้นอย่างตื่นเต้น
ไม่ใช่แค่มูลค่าของมันที่ทาํ ให้เธอตื่นเต้นดีใจ แต่ที่สาํ คัญกว่านั้นคือ
ความหมายที่อยูเ่ บื้องหลังของกํานัลชิ้นนี้
การที่เธอได้เป็ นศิษย์สายตรงระดับล่างของสํานักดาบเมฆเหิ นก็ถือ
ว่าโชคดีมากแล้ว แถมยังได้รับของกํานัลจากมือของชายหนุ่มที่อยู่
ตรงหน้า…ด้วยสิ่ งนี้ เธอจะเป็ นที่อิจฉาตาร้อนของคนทั้งเมือง!
เฉว่ชิงกําตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลไว้แน่น เธอโค้งคํานับขณะพูดว่า
“ขอบคุณ, ศิษย์พี่!”
หลังจากกล่าวคําขอบคุณแล้ว เธอก็เห็นว่าตั้นเฉี่ ยวเทียนอยูใ่ นหมู่ฝงู
ชน นัยน์ตาของเธอเปล่งประกายคมปลาบออกมาแวบหนึ่ง เธอรี บ
เดินตรงมาหาตั้นเฉี่ ยวเทียน จากนั้นก็พดู เบา ๆ พร้อมกับยิม้ เยาะ
“คุณก็อยูท่ ี่นี่หรื อ? พยายามจะคว้าตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลเพื่อ
พลิกผันสถานการณ์ของตัวเองหรื อไง? น่าเสี ยดายนะที่มนั เป็ นของ
ฉันแล้ว! คุณควรจะเจียมตัวเสี ยบ้าง คิดว่าคนอย่างตัวเองคู่ควรจะได้
ครอบครองตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลหรื อ? ปัญญานิ่ม!”
ก่อนหน้านี้ เธอยังหวัน่ เกรงว่าการปฏิเสธการแต่งงานจะกระทบ
ชื่อเสี ยงของเธอ แต่เมื่อมีศิษย์พี่จากสํานักดาบเมฆเหิ นคอยดูแลเธอ
แบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวอีก
ตั้นเฉี่ ยวเทียนจะทําอะไรได้? เธอกับเขาอยูก่ นั คนละโลก มีอะไรต้อง
กลัว?
แน่นอนว่าในพื้นที่น้ ีเต็มไปด้วยคนของสํานักเจ้าเมือง จึงไม่มีใคร
กล้าแพร่ งพรายเรื่ องที่เกิดขึ้น ไม่แม้แต่บรรดานักรบพเนจรที่แวะมา
แสวงโชค เพราะพวกเขายังรักตัวกลัวตายอยู่
อีกอย่าง เธอก็ไม่ได้พดู ดังนัก จึงยากที่จะฟังออกว่าเธอกําลังพูดอะไร
“คุณ…” ตั้นเฉี่ยวเทียนตัวแข็งเมื่อถูกหยามหน้าอีกครั้ง
“เขาเป็ นใครน่ะ?” ชายหนุ่มในเสื้ อคลุมสี เทาตั้งคําถาม
“ก็แค่สหายคนหนึ่งที่ฉนั เคยพบ…” เฉว่ชิงพ่นลมใส่ ต้ นั เฉี่ยวเทียน
ก่อนจะหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มในเสื้ อคลุมสี เทา เปลี่ยนรอยยิม้
เยาะเย้ยของเธอกลายเป็ นยิม้ หวานในชัว่ พริ บตา
“ไปกันเถอะ!” ชายหนุ่มด้วยเสื้ อคลุมสี เทาพูดก่อนจะเดินจากไป
เฉว่ชิงรี บตามไปติด ๆ
ตั้นเฉี่ยวเทียนตัวสัน่ ก่อนจะก้มหน้าและมองจางเซวียนด้วยสี หน้าขอ
โทษขอโพย “ท่านอาจารย์ ผมขอโทษ…”
ท่านอาจารย์ของเขาบอกคําตอบที่ถูกต้องแล้ว แต่เขามัวสงสัย ถ้า
ไม่ใช่เพราะท่านอาจารย์ตอ้ งเสี ยเวลาอธิบาย ตราสัญลักษณ์นิรันดร์
กาลก็คงตกเป็ นของพวกเขาแล้ว
“ได้รับของกํานัลลํ้าค่าขนาดนั้นจากศิษย์พี่…ดูเหมือนคู่หมั้นของคุณ
คงไม่ได้ตาํ แหน่งศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ นมาด้วยวิธีการ
ธรรมดาสามัญหรอกนะ” จางเซวียนตั้งข้อสังเกตก่อนจะหันไปมอง
ตั้นเฉี่ยวเทียนและยิม้ ออกมา
“คุณอยากเอาคืนไหม?”
“เอาคืน?” ตั้นเฉี่ยวเทียนผงะ
เฉว่ชิงมีเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของสํานักดาบเมฆเหิ นอยูข่ า้ งกาย พวกเขา
จะเอาคืนได้อย่างไร?
“ดูให้ดีนะ!”
จางเซวียนไม่อธิบาย เขาเดินออกไปแล้วตะโกน “สหายจากสํานัก
ดาบเมฆเหิ นที่อยูต่ รงนั้นน่ะ ผมขอให้คุณหยุดสักครู่ ได้ไหม?”
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทายังคงเดินต่อราวกับไม่ได้ยนิ เสี ยงของจาง
เซวียน
จางเซวียนเหยียดริ มฝี ปากขณะพูดต่อ “สหาย คําตอบที่คุณเขียนลง
ไปน่ะไม่ถูกต้อง ผมไม่คิดว่ามันยุติธรรมที่คุณนําตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาลไปแบบนั้น!”
เสี ยงของจางเซวียนดังลัน่ กลบทุกสรรพเสี ยงที่อยูโ่ ดยรอบ ทุกคน
หันขวับมามองเขาอย่างงงงัน
อีกฝ่ ายเป็ นถึงผูเ้ ชี่ยวชาญของสํานักดาบเมฆเหิ น หมอนี่กล้าประกาศ
ปาว ๆ ว่าเขาทําพลาด…
คุณอยากตายเต็มทีหรื อไง?
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาหยุดกึกและหันขวับมามองจางเซวียนพร้อม
กับย่นหน้าผาก
เฉว่ชิงคํารามด้วยสี หน้าบูดบึ้ง “ตั้นเฉี่ ยวเทียน ถ้าไม่อยากตาย บอก
ลูกน้องของคุณให้หุบปากซะ!”
เธอจําได้วา่ เจ้ามัมมี่ที่ยนื อยูต่ รงหน้าเธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชายที่
เข้ามาวุน่ วายเมื่อตอนอยูท่ ี่ตระกูลตั้น แค่เธอไม่ใช้กาํ ลังทําอะไร
รุ นแรงก็ถือว่าปรานีมากแล้ว ใครจะคิดว่าหมอนี่จะยังกล้าพูดจา
เหลวไหลอีก?
“ขะ-เขาไม่ใช่ลูกน้องของผม เขาเป็ นอะ-อาจารย์ของผมเอง!”
เมื่อเกิดความร้อนรน ตั้นเฉี่ยวเทียนติดอ่างขึ้นมาอีกครั้ง
“อาจารย์? ถึงอย่างไร ครั้งหนึ่งตระกูลตั้นก็เคยเป็ นผูไ้ ร้เทียมทาน คุณ
ตกตํ่าถึงขนาดรับคนอ่อนแออย่างนี้มาเป็ นอาจารย์ต้ งั แต่เมื่อไหร่ ?”
เฉว่ชิงตั้งข้อสังเกตและเย้ยหยัน
“ผมไม่คิดว่ามันเป็ นกงการอะไรของคุณว่าตั้นเฉี่ยวเทียนจะรับใคร
เป็ นอาจารย์ เว้นเสี ยแต่วา่ …คุณยังใฝ่ ฝันอยากเป็ นคู่หมั้นของเขาอยู”่
จางเซวียนตอบหน้านิ่ง
“คุณ…” เฉว่ชิงตัวแข็งเมื่อได้ยนิ คําพูดนั้น
เห็นทีท่าของเฉว่ชิง นัยน์ตาของชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาเป็ นประกาย
เย็นวาบ เขาจ้องมัมมี่ที่อยูต่ รงหน้าด้วยสายตาเย็นชา “คุณพูดว่า
คําตอบของผมไม่ถูกต้องหรื อ?”
“ใช่” จางเซวียนตอบ “เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมไม่ได้กเุ รื่ อง ผมกล้า
เดิมพันกับคุณ ผูแ้ พ้จะต้องยอมทําตามคําสัง่ ของอีกฝ่ าย!”
“คุณกล้ามากนะที่พดู กับผมแบบนี้” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาตั้ง
ข้อสังเกตขณะมองจางเซวียนด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “บอกผมมาสิ
อะไรคือสิ่ งที่ช้ ีชดั ว่าผมทําพลาด”
“ไม่จาํ เป็ นหรอก การแก้ปัญหาทําได้ง่ายกว่านั้นมากโดยที่เราสอง
คนไม่ตอ้ งพูดอะไร ทั้งหมดที่เราต้องทําก็คือหานักปรุ งยามาหลอม
ยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางตามแบบของคําตอบที่คุณเขียนไว้ แล้วให้
ใครสักคนกินเข้าไป เมื่อเห็นแล้วคุณจะเข้าใจทันที” จางเซวียนพูด
“คุณอยากทดสอบผลลัพธ์ในทางปฏิบตั ิของวิธีแก้ปัญหาที่ผมตอบ
ไป?” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาขมวดคิว้
ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในสมองของเขาคือปฏิเสธข้อเสนอของ
จางเซวียน เพราะรู ้สึกว่ามันยุง่ ยากเกินไป แต่เมื่อกวาดสายตามองฝูง
ชน ก็เห็นสี หน้าข้องใจของคนเหล่านั้น
ด้วยเหตุน้ ี หลังจากเงียบไปครู่ หนึ่ง ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาก็ยกมือ
แล้วพูดว่า “พานักปรุ งยามา!”
ชายหนุ่มที่ติดตามเขารี บผละไป ไม่ชา้ ก็กลับมาพร้อมกับชายวัย
กลางคนร่ างท้วมที่เป็ นผูน้ าํ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมามอบให้เมื่อ
ครู่ ก่อนและนักปรุ งยาอีก 2 คน
ชายวัยกลางคนร่ างท้วมดีดนิ้ว แล้วกองทัพผูช้ ่วยของเขาก็รีบเข้ามา
จัดเตรี ยมโต๊ะตัวหนึ่งที่เต็มไปด้วยสมุนไพรพร้อมกับหม้อหลอมยา
อีก 2 ใบ
ตอนที่ 1921 หูฝาดหรื อเปล่ า?
“ผมอยากให้พวกคุณหลอมยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางตามสู ตรที่เขียน
ไว้ตรงนั้น” ชายวัยกลางคนร่ างท้วมสัง่ การนักปรุ งยาทั้งสองคน
ทั้งคู่พยักหน้า จากนั้นก็ต้ งั ต้นหลอมยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางอย่าง
รวดเร็ ว พวกเขาทําตามรายละเอียดที่ระบุไว้บนกําแพงอย่างครบถ้วน
เติมสมุนไพรลงไปชนิดแล้วชนิดเล่าตามระยะเวลาที่กาํ หนด ส่ วน
เมื่อถึงเวลาที่ตอ้ งโยนหญ้าไฟนรกลงไป ก็ใส่ หญ้าวิญญาณมารดาลง
ไปแทน
ทันทีที่หญ้าวิญญาณมารดาถูกโยนลงไปในหม้อ หม้อหลอมยาทั้ง 2
ใบก็สนั่ สะท้านไม่หยุด นักปรุ งยาคนหนึ่งไม่อาจควบคุมพลังงานที่
พลุ่งพล่านอยูภ่ ายในหม้อได้ สุ ดท้าย หม้อทั้งใบก็ระเบิดเสี ยงดัง
กึกก้อง
โชคดีที่มีการจัดเตรี ยมมาตรการป้องกันไว้แล้ว จึงไม่มีใครได้รับ
บาดเจ็บจากอุบตั ิเหตุที่เกิดขึ้น
แต่การระเบิดก็ทาํ ให้ฝงู ชนพากันตกใจ พวกเขารี บถอยห่างขณะเฝ้า
มองกระบวนการหลอมยาต่อไปอย่างกังวล
นักปรุ งยาที่เหลืออีกคนหนึ่งดูจะมีทกั ษะกว่ามาก เขาควบคุมปฏิกิริยา
ของสมุนไพรได้ดี หนึ่งชัว่ โมงต่อมา ยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางที่หลอม
เสร็ จใหม่ ๆ ชุดหนึ่งก็ถูกนําออกจากหม้อ ผิวหน้าของมัน เจิดจ้าและ
เป็ นประกายงดงาม
ดูเหมือนพวกเขาจะไม่โชคร้ายเสี ยทีเดียว เพราะไม่เพียงแต่ยาเม็ดจะ
ก่อตัวเป็ นรู ปเป็ นร่ าง ยังเข้าถึงขั้นสมบูรณ์แบบด้วย
“ดี! หลังจากเห็นยาเม็ด ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาพยักหน้า
เขากวาดตามองฝูงชนอย่างรวดเร็ วก่อนจะเรี ยกชายหนุ่มคนหนึ่งเข้า
มา “เทคนิควรยุทธที่คุณฝึ กฝนน่ะดูเหมือนจะมีองค์ประกอบของ
พลังหยาง ผมอยากให้คุณช่วยทดสอบคุณสมบัติทางยาของยาเม็ดนี้
หน่อย!”
บางที อาจเป็ นเพราะความเชื่อมัน่ ที่มีต่อสํานักดาบเมฆเหิ น ชายหนุ่ม
จึงกลืนยาเม็ดนั้นลงไปโดยไม่ลงั เล ยาเม็ดละลายในปากของเขา
อย่างรวดเร็ ว พลังหยางปริ มาณมหาศาลไหลพล่านไปทัว่ ทางเดิน
พลังปราณ ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็ นสี แดงกํ่าในชัว่ พริ บตา
เขารี บทรุ ดตัวลงนัง่ เพื่อขับเคลื่อนพลังปราณ ตั้งใจจะควบคุมกระแส
การไหลเวียนพลังหยางให้ซึมซับเข้าสู่ ร่างกายอย่างราบรื่ น แต่ยงิ่
พยายามควบคุมพลังหยางมากเท่าไหร่ ก็ตอ้ งเผชิญกับแรงตีกลับมาก
ขึ้นเรื่ อย ๆ
สุ ดท้าย ควันสี ขาวก็ลอยโขมงออกจากกระหม่อมของเขา
ไม่ชา้ นัยน์ตาของชายหนุ่มก็แดงกํ่า ความร้อนรุ่ มเริ่ มเข้าครอบงํา
“อ๊ากกกก ผมทนไม่ไหวแล้ว!”
เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป ชายหนุ่มรี่ เข้าใส่ หนึ่งในบรรดาป้า ๆ ที่
กําลังเฝ้าดูเหตุการณ์และพยายามฉีกกระชากเสื้ อผ้าของเธอ
แคว่กกก!
เสื้ อผ้าที่ถูกฉีกกระจัดกระจายไปทัว่ พื้น ชายหนุ่มตรงเข้าหาหญิงวัย
กลางคนผูห้ นึ่งเพื่อพยายามทําเรื่ องที่ไม่อาจบรรยายได้ แต่แล้วก็รู้สึก
เจ็บแปลบขึ้นมาอย่างกะทันหันที่ทา้ ยทอยก่อนจะทรุ ดฮวบลงกับพื้น
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาจากสํานักดาบเมฆเหิ นก้าวเข้ามาในช่วงคับ
ขันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายได้ทนั ท่วงที
การที่ชายหนุ่มเกิดอาการคลุม้ คลัง่ ขึ้นมาหลังจากกินยาเม็ดบ่มเพาะ
พลังหยางเข้าไปบ่งบอกชัดว่าสู ตรยาของเขาไม่ดีพอจะแก้ไขปั ญหา
ไม่เพียงเท่านั้น ผลข้างเคียงยังทําให้ทุกอย่างเลวร้ายกว่าเดิม ชาย
หนุ่มที่กินยาเข้าไปไม่อาจควบคุมความต้องการของตัวเองได้เลย
“สู ตรยาของผมมีปัญหาบางอย่างจริ ง ๆ …” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทา
สี หน้าไม่สูด้ ี เขาหันไปมองจางเซวียนและตั้งคําถาม “ว่าแต่คุณรู ้ได้
ไง? แล้วรู ้คาํ ตอบที่ถูกต้องหรื อเปล่า?”
พูดกันตามตรง เขาได้ยนิ เรื่ องปัญหาข้อนี้ต้ งั แต่ก่อนเดินทางมาเมือง
ชวนเจียง และได้คน้ คว้ามาระยะหนึ่งแล้วก่อนจะได้คาํ ตอบที่ถูกต้อง
ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ข้ ึน
เหตุผลที่เขาเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เมืองชวนเจียงก็เพื่อกระพือชื่อเสี ยง
ของสํานักดาบเมฆเหิ นให้ลือกระฉ่อนขึ้นกว่าเดิม
เพียงแต่…ใครจะไปรู ้วา่ แทนที่จะได้ส่งเสริ มชื่อเสี ยงของสํานักดาบ
เมฆเหิ น เขากลับทําให้ชื่อเสี ยงของสํานักด่างพร้อยเสี ยเอง?
แม้จะหงุดหงิด แต่กร็ ู ้ดีวา่ การทําตัวเสี ยกิริยาย่อมไม่ฉลาด มีแต่จะทํา
ให้ตวั เองขายหน้ากว่าเดิมหากแสดงความไร้มารยาทออกมา
“ผมมีคาํ ตอบ” จางเซวียนตอบยิม้ ๆ
เขากระซิ บบางอย่างใส่ หูต้ นั เฉี่ ยวเทียน อีกฝ่ ายมองเขาด้วยสี หน้า
ประหลาด แต่หลังจากแน่ใจแล้วว่าจางเซวียนไม่ได้พดู เล่น ก็เดินไป
ที่กาํ แพงแล้วใช้พกู่ นั เขียนคําตอบลงไป
เหมือนกับก่อนหน้านี้ กําแพงเรื องแสงสี แดงเจิดจ้าออกมา
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาขมวดคิว้ ขณะโพล่งออกมาอย่างหงุดหงิด
“คนตรวจคําตอบก็อยูต่ รงนี้แล้ว แค่พดู ออกมาดัง ๆ ก็น่าจะพอไหม?”
มัวอ้อมค้อมอยูใ่ ห้มนั ได้อะไรขึ้นมาในเมื่อผูจ้ ดั การตลาดหงเหยียนก็
อยูด่ ว้ ย? แค่ชายหนุ่มอ่านคําตอบออกมาดัง ๆ ก็จะได้รู้กนั ว่าถูกต้อง
หรื อไม่
ตั้นเฉี่ยวเทียนมองท่านอาจารย์ของเขา เมื่อได้การพยักหน้าเป็ นการ
ตอบรับ เขาก็อ่านคําตอบทั้งหมดที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้ดว้ ยสี หน้า
กระอักกระอ่วน “เปลี่ยนไปใช้หญ้าวิญญาณมารดาแทนหญ้าไฟนรก!”
“ฮะ?”
“ผมหูฝาดหรื อเปล่า?”
“มันก็คาํ ตอบเดียวกันกับที่ชายหนุ่มจากสํานักดาบเมฆเหิ นเขียนไว้
ไม่ใช่หรื อ?”
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาหรี่ ตาขณะแผ่รังสี โหดเหี้ยมออกมา “คุณตั้งใจ
เยาะเย้ยผมใช่ไหม?”
หมอนัน่ พูดเต็มปากเต็มคําว่าเขาทําพลาด แต่ลงท้ายก็ใช้คาํ ตอบ
เดียวกัน คิดบ้าอะไรอยู?่
ตั้นเฉี่ยวเทียนทําตัวไม่ถูก ไม่รู้เลยว่าท่านอาจารย์กาํ ลังคิดอะไร
คุณไม่รู้หรื อว่าการปั่นหัวผูเ้ ชี่ยวชาญระดับนี้ถือเป็ นข้อห้ามอย่าง
เคร่ งครัด ถึงตายทีเดียวนะ!
“คุณคิดมากไปแล้วล่ะ” จางเซวียนตอบด้วยนํ้าเสี ยงเรี ยบเฉยก่อนจะ
ชําเลืองมองตั้นเฉี่ยวเทียนอย่างมีเลศนัย “มัวทําอะไรอยูล่ ่ะ? ยังมี
ข้อความสุ ดท้ายไม่ใช่หรื อ อ่านสิ !”
“เอ่อ ได้…” ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้าขณะรี บพูดต่อ “หลังจากวิธีแก้ไข
ที่กล่าวมา ก็ยงั มีวงเล็บที่ระบุวา่ ‘ไม่ใช่ดินแดนนี้’”
“ไม่ใช่ดินแดนนี้? เดี๋ยวก่อน นัน่ หมายความว่าอย่างไร?”
ทุกคนงุนงงกับข้อความตบท้าย แม้แต่ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาก็ไม่
เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
คําว่า ‘ไม่ใช่ดินแดนนี้’ หมายถึงอะไร? มีความแตกต่างระหว่างหญ้า
วิญญาณมารดาที่ข้ ึนอยูใ่ น เมืองนี้กบั ที่ไม่ได้มาจากเมืองนี้ดว้ ยหรื อ?
“ยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางใช้เพิม่ พลังหยางให้กบั นักรบ เพื่อรักษา
ระดับอานุภาพของยา การเปลี่ยนไปใช้หญ้าวิญญาณมารดาแทน
หญ้าไฟนรกคือวิธีแก้ไขที่ถูกต้อง แต่วธิ ีแก้ไขที่คุณเสนอมานั้นจะใช้
ได้ผลก็ต่อเมื่อการหลอมยาเกิดขึ้นในดินแดนอื่น” จางเซวียนพูด
ขณะเดินช้า ๆ ไปที่หม้อหลอมยา และแตะเศษซากจากการระเบิด
ของหม้อเมื่อครู่ ก่อน
“วิธีแก้ปัญหาของคุณใช้กบั ที่นี่ไม่ได้ เมืองชวนเจียงมีแม่น้ าํ ชวนไหล
ผ่านด้านหลัง ซึ่ งชื่อเมืองก็ได้มาจากชื่อของแม่น้ าํ แม่น้ าํ ชวนมีตน้
กําเนิดจากทะเล กระแสนํ้าที่ไหลผ่านจึงไม่ใช่น้ าํ จืด แต่เป็ นนํ้ากร่ อย!”
ฝูงชนพยักหน้ารับ
แม้เมืองชวนเจียงจะไม่ได้อยูใ่ กล้ทะเล แต่กต็ ิดกับแม่น้ าํ ชวน น่า
เสี ยดายที่กระแสนํ้าของแม่น้ าํ ชวนเป็ นนํ้ากร่ อย ทําให้ใช้ดื่มกินหรื อ
นํามาซื้อขายแลกเปลี่ยนไม่ได้ ด้วยเหตุน้ ี เมืองชวนเจียงจึงไม่อาจ
พัฒนาขึ้นเป็ นเมืองใหญ่ได้แม้จะอยูใ่ นทําเลที่เหมาะสม ในบรรดา
อาณานิคมของสํานักดาบเมฆเหิ น ที่นี่ถือเป็ นเมืองชั้น 3 เท่านั้น
เศรษฐกิจก็จดั ว่าไม่ดีนกั
“ดังนั้น พื้นที่การเกษตรของเมืองนี้จึงถูกรบกวนด้วยนํ้ากร่ อย พืช
พันธุ์ที่เติบโตขึ้นมีองค์ประกอบของเกลือ ถึงตอนนี้ ผมอยากเชิญให้
พวกคุณพิจารณาเศษซากของการระเบิด เห็นอะไรแปลก ๆ บ้าง
ไหม?” จางเซวียนตั้งคําถามขณะยืน่ มือออกไปให้คนอื่น ๆ เข้ามาดู
ฝูงชนต่างขยับเข้าใกล้ ที่ปลายนิ้วดําปี๋ ของจางเซวียนมีผงสี ขาวติดอยู่
แม้จะมีปริ มาณน้อย แต่ผทู ้ ี่เป็ นนักรบระดับเซี ยนก็ดูออกทันทีวา่ มัน
คืออะไร
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาเดินเข้าไปที่เศษซากของการระเบิดก่อนจะ
แตะมันเบา ๆ ผงสี ขาวติดปลายนิ้วของเขาขึ้นมา เขาใช้ลิ้นเลีย และ
พบว่ามีรสเค็มเล็กน้อย
“มันคือเกลือนี่!” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาพยักหน้า
จากนั้นจางเซวียนก็เริ่ มอธิบาย “หญ้าวิญญาณมารดาเติบโตในบึงที่
มืดครึ้ มและเปี ยกชื้น ใบของมันควรจะมีความเป็ นกรดเล็กน้อย แต่
กลับถูกเจือจางด้วยองค์ประกอบของเกลือที่อยูใ่ นสมุนไพรชนิดอื่น ๆ
ซึ่งนัน่ เป็ นการทําลายพลังหยินที่อยูใ่ นตัวมัน ดังนั้น หญ้าวิญญาณ
มารดาจึงไม่อาจทําหน้าที่เป็ นสื่ อกลางในการควบคุมพลังงานของ
สมุนไพรชนิดอื่น ๆ ได้ ส่ งผลให้พลังหยางมีความรุ นแรงเกินพิกดั
แม้จะไม่ได้ใช้หญ้าไฟนรก นัน่ คือเหตุผลที่ทาํ ให้เจ้าหนุ่มคนนั้น
ควบคุมตัวเองไม่ได้หลังจากกินยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางเข้าไป เขา
ถูกครอบงําด้วยความรุ่ มร้อนจนเกินทน!”
“เอ่อ…”
“มีปัจจัยแบบนี้จริ ง ๆ หรื อ?”
เสี ยงออกความเห็นอย่างเคร่ งเครี ยดดังอื้ออึงไปทัว่
การหลอมยาเป็ นกระบวนการละเอียดอ่อนถึงขนาดที่แม้แต่การ
เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของสภาพแวดล้อมก็ทาํ ให้เกิดความแตกต่าง
ใหญ่หลวงขนาดนี้เชียวหรื อ?
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาชะงักไปเล็กน้อย หรื อนี่คือเหตุผลที่ทาํ ให้
สู ตรยาของเขาผิดพลาด?
เขารี บตรวจสอบสมุนไพรที่เหลืออยูซ่ ่ ึงยังไม่ได้ถูกนําไปใช้เพื่อการ
หลอมยา ด้วยการเคาะนิ้ว เขาเผาสมุนไพรชนิดหนึ่ง และหลังจาก
ตรวจสอบอย่างถี่ถว้ น ก็เห็นเกลือจํานวนหนึ่งปะปนอยูใ่ นเถ้าถ่าน
ของมัน
“การหลอมยาเป็ นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนมาก ความแตกต่าง
ของสมุนไพรเพียงชนิดเดียวหรื อกระบวนการเพียงขั้นตอนเดียวอาจ
นํามาซึ่งความล้มเหลวได้โดยง่าย สมุนไพรมากมายนับไม่ถว้ นอาจ
เสี ยหายเพียงเพราะปัจจัยเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยทัว่ ไป นัก
ปรุ งยาจะต้องมีความรู ้เรื่ องสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศในท้องถิ่น
สภาวะของหม้อ สภาวะจิต และเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวนการ
หลอมยา ทั้งหมดทั้งมวลนี้จะต้องถูกนํามาพิจารณาก่อนจะดําเนิน
กระบวนการหลอมยาได้ แต่ผดิ พลาดก็คือผิดพลาด…ผมรู ้ดีวา่ คนจาก
สํานักดาบเมฆเหิ นคงไม่ปฏิเสธเรื่ องนั้นหรอก ใช่ไหม?” จางเซวียน
ถามพร้อมกับยิม้ อย่างสุ ภาพ
“ความผิดพลาดของผมส่ งผลให้การหลอมยาล้มเหลว ผมยอมรับ
เรื่ องนั้น!” รู ้ดีวา่ มีแต่จะทําให้ชื่อเสี ยงด่างพร้อยกว่าเดิมหากโต้แย้ง
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาคําราม “ถ้าอย่างนั้น ผมจะมอบตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาลให้คุณ!”
เขาฉวยตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลจากมือของเฉว่ชิงมาโยนให้จาง
เซวียนโดยไม่รีรอ
“ฉัน…” เฉว่ชิงอ้าปากค้าง ใบหน้าร้อนผ่าว
เมื่อครู่ น้ ีเองที่เธอเพิ่งได้รับของลํ้าค่า แต่ในเวลาไม่ถึง 2 ชัว่ โมง ก็ถูก
ชายอีกคนคว้าไปครองเสี ยแล้ว
“ผมขอน้อมรับของขวัญชิ้นนี้!” จางเซวียนพูดขณะหย่อนตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาลลงไปในกระเป๋ าเสื้ อ จากนั้นก็เลิกคิว้ เมื่อพลัน
นึกบางอย่างได้ “อ้อ เกือบลืม เมื่อครู่ น้ ีผมบอกไว้แล้วว่าผมขอเดิม
พันกับคุณว่าผูแ้ พ้จะต้องฟังคําสัง่ ของผูช้ นะ คุณไม่ได้ตอบรับเดิม
พัน แต่กไ็ ม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ผมควรถือว่าการ
เดิมพันยังมีผลอยูใ่ ช่ไหม?”
เห็นจางเซวียนพยายามต้อนเขาให้จนมุม ชายเสื้ อคลุมสี เทาหรี่ ตา
อย่างข่มขู่
ไม่นึกเลยว่าเจ้าคนบ้านนอกคอกนาจะต้อนเขาให้จนมุมได้แบบนี้!
ส่ วนจางเซวียนก็ดูเหมือนจะไม่รู้ไม่ช้ ีกบั ความโมโหของชายหนุ่ม
เสื้ อคลุมสี เทา เขาชี้นิ้วไปที่เฉว่ชิงอย่างไม่แยแสและพูดว่า “คําสัง่
ของผมน่ะไม่มีอะไรมาก ผมแค่อยากให้คุณตบเธอสามครั้ง ช่วยตบ
แทนผมที!”
“อะไรนะ?” เฉว่ชิงหน้าถอดสี ดว้ ยความพรั่นพรึ งเมื่อได้ยนิ คําพูดนั้น
ตอนที่ 1922 เสี ยงนี…

ถ้าเธอถูกตบจริ ง ๆ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
เฉว่ชิงตัวสัน่ เธอรี บหันไปวิงวอนชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทา “ศิษย์พี่
อย่าฟังคําพูดเหลวไหลของหมอนัน่ ! เขาก็แค่เพ้อเจ้อ จนกว่าเราจะ
หลอมยาเม็ดบ่มเพาะพลังหยางตามวิธีการของเขา ก็ไม่มีทางรู ้หรอก
ว่าสิ่ งที่เขาพูดมาเป็ นคําตอบที่ถูกต้องหรื อไม่…”
แต่ยงั ไม่ทนั จะขาดคํา ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาก็หนั มาประจันหน้ากับ
เธอ จากนั้นก็ตบเธอ 3 ครั้งติด ๆ
ซ้าย เพียะ! ขวา เพียะ! ซ้าย เพียะ!
การตบแต่ละครั้งส่ งเสี ยงดังลัน่ ผิวบอบบางและเรี ยบเนียนของสาว
น้อยบวมเห่อขึ้นมาทันที
“คุณพอใจหรื อยัง?” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาจ้องหน้าจางเซวียนพร้อม
กับเอาสองมือไพล่หลัง
เขามีความเชี่ยวชาญเป็ นพิเศษเรื่ องการหลอมยา และตรวจสอบทุก
รายละเอียดจนแน่ใจแล้ว ต่อให้ยงั ไม่ได้ทาํ การหลอมยาเม็ดบ่มเพาะ
พลังหยาง ก็รู้ดีวา่ คําตอบของชายหนุ่มนั้นถูกต้อง
ในเมื่อคําตอบชัดเจน การถ่วงเวลาด้วยวิธีใด ๆ ก็ตามไม่เพียงแต่จะ
ทําให้ชื่อเสี ยงของเขาด่างพร้อย แต่ยงั รวมถึงสํานักดาบเมฆเหิ นด้วย
“เอ่อ…ผมก็แค่พดู ลอย ๆ นะตอนที่บอกให้คุณตบเธอ เธอเป็ นแค่
สาวน้อยคนหนึ่ง มีขอ้ ตกลงแต่งงานกับผม แต่บุกมาถึงที่พกั ของผม
เพื่อบังคับให้ผมยกเลิกข้อตกลงการแต่งงาน…แต่นนั่ แหละ เรื่ องมัน
แล้วไปแล้ว ถือว่าเราเจ๊ากัน เชิญคุณตามสบาย!” จางเซวียนโค้ง
คํานับเล็กน้อยราวกับจะส่ งชายเสื้ อคลุมสี เทากลับ
ชายเสื้ อคลุมสี เทาสงสัยตาเชือดเฉื อนใส่ จางเซวียนก่อนจะหันหลัง
กลับและจากไป คนอื่น ๆ รี บตามไปติด ๆ ส่ วนชายหนุ่มที่สลบ
เหมือดคนนั้น มีใครคนหนึ่งในฝูงชนแบกเขาออกไป
สํานักดาบเมฆเหิ นวางแผนจะใช้โอกาสนี้สาํ แดงความเก่งกาจและ
เรี ยกคะแนนนิยมจากผูค้ นในเมืองชวนเจียง แต่เรื่ องนี้ยอ้ นกลับมา
เล่นงานพวกเขาเสี ยเอง
ทุกคนต่างโมโหเดือด
เมื่อออกมาพ้นอาณาเขตตลาด ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาหรี่ ตามองเฉว่
ชิงที่หน้าบวมเป่ ง “หมอนัน่ เป็ นใคร?”
เฉว่ชิงตัวสัน่ เพราะนํ้าเสี ยงเย็นเยียบของชายหนุ่ม เธอละลํ่าละลัก
อธิบาย “ศิษย์พี่ ฉันไม่รู้จกั เขาจริ ง ๆ …”
“ผมหมายถึงเจ้าหนุ่มที่พิการคนนั้น!” ชายเสื้ อคลุมสี เทาขัดด้วย
นํ้าเสี ยงเฉียบขาด
“ขะ-เขา…” เฉว่ชิงหน้าซีดเผือด “เขา…มีขอ้ ตกลงการแต่งงานกับ
ฉัน เป็ นการตัดสิ นใจของเหล่าผูอ้ าวุโสของตระกูลของเรา แต่เรา
สองคนไม่มีอะไรต่อกันจริ ง ๆ เราพบกันไม่ถึง 2-3 ครั้งด้วยซํ้า…”
“คุณควรรู ้ตวั นะว่าทําไมคุณถึงได้การยอมรับให้เป็ นศิษย์สายตรง
ระดับล่างของสํานักดาบเมฆเหิ น!” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาตอบด้วย
นํ้าเสี ยงเย็นเยียบ “เพื่อให้เหล่าศิษย์สายตรงฝ่ ายในได้ทุ่มเทเวลากับ
การฝึ กฝนวรยุทธ พวกเขาจึงต้องการคนรับใช้ที่คอยทําตามคําสัง่
เรื่ องนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับรู ปร่ างหน้าตาของคุณหรื อการที่คุณ
ยังคงเป็ นสาวบริ สุทธิ์ ผมไม่ได้รับคุณเข้ามา รวมกลุ่มกับพวกเราใน
ฐานะคนรับใช้เพราะเหตุผลนั้น!”
“ฉันเข้าใจ…” เฉว่ชิงก้มหน้าด้วยอาการยอมจํานน
“อย่างนั้นก็ดี!” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาโบกมืออย่างหงุดหงิด เขาเดิน
ตรงไปยังเกี้ยวที่อยูไ่ ม่ห่างออกไปนักและก้าวเข้าไป ก่อนเกี้ยวจะ
ออกตัว นํ้าเสี ยงเย็นชาของเขาก็ลอดออกมา “ผมหวังว่าคุณจะสะสาง
เรื่ องนี้ให้เรี ยบร้อยก่อนที่มนั จะรั่วไหลเข้าหูของสํานักดาบ อีกอย่าง
ผมอยากรู ้ตวั ตนและภูมิหลังของเจ้าหนุ่มมัมมี่นนั่ ภายในคืนนี้ดว้ ย ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ จะมาถึงในอีก 3 วันข้างหน้า ผมไม่ตอ้ งการให้เกิดเรื่ อง
ยุง่ ยาก เข้าใจใช่ไหม?”
“เข้าใจ…” เฉว่ชิงคํานับด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
เสี ยงดัง
เกี้ยวเคลื่อนตัวออกไป
ในตอนนั้นเองที่เฉว่ชิงเพิ่งรู ้สึกว่าแผ่นหลังของเธอชุ่มเหงื่อ เธอหัน
กลับไปมองตลาดหงเหยียนด้วยแววตาอาฆาต
“บอกท่านอาจารย์ของฉันว่าเราจะดําเนินการคืนนี้!” เธอคําราม
“ขอรับ นายหญิงน้อยที่ 2!” ชายหนุ่มที่ติดตามเธอตอบรับคําสัง่
…..
“ขอบคุณมาก ท่านอาจารย์!”
เมื่อเห็นเฉว่ชิงที่หยามหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าถูกเล่นงานต่อหน้า
สาธารณชน ตั้นเฉี่ ยวเทียนรู ้สึกตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย แต่กร็ ู ้วา่ ท่าน
อาจารย์ทาํ เพื่อเขา ซึ่งเขาก็สาํ นึกบุญคุณอย่างมาก
“ในเมื่อคุณเป็ นลูกศิษย์ของผม ผมก็จะไม่ยอมให้คุณถูกเข้าใจผิด”
จางเซวียนตอบยิม้ ๆ “เอาล่ะผมอยากให้คุณหาห้องเงียบ ๆ ให้ผมสัก
ห้องหนึ่ง ผมต้องการทดสอบตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล”
“ขอรับ ท่านอาจารย์” ตั้นเฉี่ ยวเทียนพยักหน้า
ไม่ชา้ ทั้งคู่กม็ าถึงห้องเงียบสงบห้องหนึ่ง
หลังจากเข้าไปในห้อง จางเซวียนสํารวจภายในอย่างถี่ถว้ นและพบว่า
พื้นที่น้ ีมีค่ายกลรักษาความปลอดภัยอยูห่ ลายชั้น จึงแน่ใจได้ในความ
เป็ นส่ วนตัว เขาพยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะนําตราสัญลักษณ์นิรันดร์
กาลออกมา
“ท่านอาจารย์ ผมรู ้มาว่าการจะเปิ ดใช้งานตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
มีกระบวนการเฉพาะของมัน ซึ่งการจะเปิ ดใช้งานมันได้อย่างสมบูรณ์
จะต้องเสี ยค่าใช้จ่ายสู งมาก…”
แต่ยงั ไม่ทนั ที่ต้ นั เฉี่ยวเทียยจะพูดจบ ก็เห็นท่านอาจารย์ของเขาแตะ
ลงบนตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล 2-3 จุด มีเสี ยงหึ่ งดังก้องไปทัว่ ทั้ง
ห้อง ตราสัญลักษณ์เปล่งแสงเจิดจ้าออกมา
มันถูกเปิ ดใช้งานอย่างสมบูรณ์แล้ว!
จากนั้นจางเซวียนก็หยดเลือดหยดหนึ่งลงไปบนตราสัญลักษณ์นิรันดร์
กาล แสงเจิดจ้าแปรสภาพ เป็ นวัตถุปริ ศนาอย่างหนึ่งที่ซึมซาบเข้าสู่
หว่างคิ้วของเขา
ภาพนั้นทําให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนจังงัง
เท่าที่เขารู ้ การเปิ ดใช้งานตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลเป็ นกระบวนการ
ละเอียดอ่อน บ่อยครั้งที่นกั รบคนหนึ่งจะต้องใช้เหรี ยญนิรันดร์มูลค่า
มหาศาลเพื่อว่าจ้างผูเ้ ชี่ยวชาญสักคนให้มาทําการเปิ ดใช้งานในระดับ
สมบูรณ์ ใครจะไปคิดว่าท่านอาจารย์ของเขาจะเปิ ดใช้งานและทําให้
ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลยอมจํานนได้อย่างง่ายดาย อย่างกับเคยทํา
มาแล้วหลายครั้ง?
จางเซวียนไม่ใส่ ใจอาการตกตะลึงของตั้นเฉี่ ยวเทียน เขาพิจารณา
ลําแสงที่ซึมซาบเข้าสู่ หว่างคิ้วของตัวเองอย่างถี่ถว้ น ซึ่ งหลังจาก
แน่ใจแล้วว่าไม่เป็ นอันตราย ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ฟึ่ บ!
ครู่ ต่อมา สติสมั ปชัญญะของจางเซวียนก็ลอยออกจากร่ าง เข้าสู่ มิติ
พิเศษแห่งหนึ่ง
“เฮ้ย…”
จางเซวียนก้มลงมอง เห็นกายเนื้อของเขากลายเป็ นอะไรสักอย่างที่
ผสมผสานกันระหว่างความเป็ นจริ งกับภาพลวงตา
“ขอต้อนรับสู่ หอนิรันดร์!”
ขณะที่จางเซวียนกําลังพยายามทําความเข้าใจสถานการณ์ เสี ยงหนึ่ง
ก็ดงั ขึ้นกลางอากาศ
“เสี ยงนี้…” จางเซวียนหรี่ ตาด้วยความอัศจรรย์ใจ
นํ้าเสี ยงนี้ฟังคุน้ หูมาก ไม่น่ามีอะไรผิดพลาด…
“ปรมาจารย์ขง!”
มันคือเสี ยงปรมาจารย์ขง!
เขารู ้วา่ ปรมาจารย์ขงมาที่มิติเบื้องบน แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ ายจะเกี่ยวข้อง
กับอํานาจที่ทรงพลังที่สุดของมิติเบื้องบน, หอนิรันดร์!
หรื อว่า…ปรมาจารย์ขงคือผูก้ ่อตั้งหอนิรันดร์?
“ตั้นเฉี่ยวเทียนบอกไว้วา่ หอนิรันดร์ก่อตั้งขึ้นเมื่อหลายพันปี ก่อนโดย
ผูเ้ ชี่ยวชาญผูไ้ ร้เทียมทานคนหนึ่ง แต่เท่าที่ดูจากระยะเวลา ปรมาจารย์
ขงน่าจะออกจากทวีปแห่งปรมาจารย์ไปตั้งแต่หลายหมื่นปี ที่แล้ว…”
จางเซวียนใช้สมองปะติดปะต่อข้อมูล
ถึงตอนนี้ ความเป็ นไปได้ขอ้ หนึ่งก็ปรากฏในหัวสมองของเขา ทําให้
ต้องเลิกคิ้ว “หรื อว่า…กระแสกาลเวลาในมิติเบื้องบนแตกต่างจาก
ทวีปแห่งปรมาจารย์?”
ตั้งแต่เขาฟื้ น ก็เกิดปัญหามากมายหลายเรื่ อง จึงไม่มีโอกาสได้
ตรวจสอบมิติเบื้องบนอย่างถี่ถว้ น แต่ตอนนี้ เมื่อลองคิดดู ก็เป็ นไป
ได้วา่ กระแสของกาลเวลาในมิติเบื้องบนกับทวีปแห่งปรมาจารย์
น่าจะแตกต่างกันจริ ง ๆ
ขณะที่จางเซวียนกําลังทําความเข้าใจ เสี ยงเมื่อครู่ กพ็ ดู ต่อ “ผมก่อตั้ง
หอนิรันดร์ข้ ึนเพื่อเปิ ดโอกาสให้บรรดานักรบได้มีปฏิสมั พันธ์และ
ทําการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอย่างปลอดภัย เมื่ออยูท่ ี่นี่ คุณสามารถ
ปรับเปลี่ยนรู ปลักษณ์หน้าตาและรังสี ของตัวเองได้ จึงไม่ตอ้ งกังวล
ว่าจะมีใครรู ้ตวั ตนที่แท้จริ งของคุณในโลกแห่งความเป็ นจริ ง ขอแค่
คุณเต็มใจจ่าย ก็สามารถรํ่าเรี ยนเทคนิควรยุทธได้ตามใจปรารถนา!”
“ภายในหอนิรันดร์ นักรบทุกคนมีระดับวรยุทธเท่ากัน ไม่มีความ
เหลื่อมลํ้าด้านพละกําลังหรื อสถานภาพ ทุกคนสื่ อสารกันได้อย่าง
เท่าเทียม”
“นัน่ คือทั้งหมดที่ผมอยากบอก ขอให้มีความสุ ขกับหอนิรันดร์นะ!”
เสี ยงนั้นเงียบไปอย่างปุบปับ
สิ่ งที่เกิดขึ้นทําให้จางเซวียนยิง่ มัน่ ใจว่าปรมาจารย์ขงคือผูอ้ ยู่
เบื้องหลังหอนิรันดร์ ยิง่ ไปกว่านั้น นัน่ คือวิสยั ทัศน์ของเขาที่อยาก
สร้างโลกที่มนุษย์ทุกคนมีโอกาสรํ่าเรี ยนและฝึ กฝนวรยุทธได้อย่าง
เท่าเทียม
จางเซวียนรู ้ดีวา่ สามารถแกะรอยของปรมาจารย์ขงในมิติเบื้องบนได้
แต่ดว้ ยความแตกต่างของเวลา เขาเคยคิดว่าคงต้องผ่านไปสักระยะ
กว่าจะได้รู้เรื่ องราวของอีกฝ่ าย แต่แล้ว ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
เพียงอันเดียวก็ทาํ ให้ได้ขอ้ มูลมาไม่นอ้ ย
จางเซวียนพยายามระงับความตื่นเต้น เขาครุ่ นคิดถึงคําพูดของปรมาจารย์
ขงก่อนจะเกิดความคิดประหลาด
“ใช้ตวั ตนสมมุติได้ และมีปฏิสมั พันธ์กบั ใคร ๆ ได้อย่างเท่าเทียม…
ไม่ต่างอะไรกับห้องแชทออนไลน์เลย?”
เทคโนโลยีเป็ นส่ วนสําคัญต่อการใช้ชีวติ ในโลกเก่าของจางเซวียน
มันนําพาความสะดวกสบายมาให้ ไม่วา่ จะเป็ นการสื่ อสารหรื อการ
จับจ่ายซื้อของ ก็สามารถทําได้จากทุกที่ ผูค้ นสามารถใช้ตวั ตนใหม่
ที่สมมุติข้ ึนมาและสนุกสนานกับชีวติ ที่แยกออกจากโลกแห่งความ
จริ ง บ่อยครั้งที่คนในอินเทอร์เน็ตซึ่ งคุณเรี ยกว่าแฟนก็อาจเป็ นแค่ตา
ลุงแก่ ๆ คนหนึ่ง
ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมีประสิ ทธิภาพน่าทึ่งและดูเหมือนจะ
ทํางานด้วยหลักการเดียวกัน
เมื่อเข้าสู่ หอนิรันดร์ ทุกคนสามารถปกปิ ดตัวตนที่แท้จริ งและมี
พละกําลังเท่าเทียมกัน นัน่ หมายความว่าไม่มีทางระบุได้เลยว่าผูค้ น
ที่พวกเขากําลังคุยด้วยเป็ นหญิงหรื อชาย เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญหรื อนักรบ
ธรรมดาสามัญ
“แบบนี้กด็ ี เหล่านักรบสามารถระบายความเครี ยดที่ตอ้ งเผชิญใน
ชีวติ จริ งอันเนื่องมาจากความมีชื่อเสี ยงของตัวเอง ได้ซ้ือหาสิ่ งที่พวก
เขาต้องการ แถมการแสวงหาคําชี้แนะเรื่ องวรยุทธจากคนอื่น ๆ ก็ทาํ
ได้ง่ายกว่า…นี่คงเป็ นแรงบันดาลใจที่ทาํ ให้ปรมาจารย์ขงสร้างระบบ
นี้ข้ ึนมา”
ปรมาจารย์ขงสนับสนุนการศึกษาเล่าเรี ยนโดยปราศจากการแบ่งแยก
เขาวาดหวังจะสร้างโลกที่มนุษย์ทุกคนมีศกั ดิ์ศรี เท่าเทียมกัน แต่ดว้ ย
ทรัพยากรสําหรับการฝึ กฝนวรยุทธที่มีจาํ กัด อีกทั้งชาติกาํ เนิด สติปัญญา
และโอกาสก็ลว้ นแต่เป็ นปั จจัยกําหนดความสําเร็ จในอนาคตของแต่
ละคน วิสยั ทัศน์ที่เป็ นเป้าหมายสู งสุ ดของเขาจึงไม่อาจทําได้จริ ง
ระหว่างที่ปรมาจารย์ขงอยูใ่ นทวีปแห่งปรมาจารย์ เขาได้ก่อตั้งสภา
ปรมาจารย์ข้ ึน แต่ระบบที่เขาวางไว้ในสภาปรมาจารย์กถ็ ูกแทรกแซง
จากความทะเยอทะยานของผูท้ ี่ปรารถนาจะไต่เต้าและยกสถานภาพ
ของตัวเอง จากนั้นไม่นาน เขาก็สร้างอาณาจักรคุนฉื่อ แต่ดูเหมือนจะ
ทําให้ยงิ่ รู ้ซ้ ึงว่าไม่มีทางที่โลกแห่งความเป็ นจริ งจะมีความเท่าเทียม
และเสมอภาคกัน ดังนั้น หอนิรันดร์และตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
จึงเกิดขึ้นตามมา
สําหรับที่นี่ ทุกคนจะต้องทิ้งตัวตนเก่าและทุกสิ่ งทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง
กับมัน ด้วยตัวตนใหม่ที่ไม่มีใครรู ้จกั และพละกําลังที่ทดั เทียมกัน
ทุกคนจึงสามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กนั ได้
เพียงแค่ใช้ความคิด รู ปลักษณ์ของจางเซวียนก็เปลี่ยนไป เขาดูเป็ น
คนธรรมดามากกว่าที่เคย จากนั้นจางเซวียนก็ลองกําหมัดและปล่อย
พลังหมัดออกมา
เรี่ ยวแรงของเขาเทียบเท่ากับนักรบระดับเซี ยนขั้น 1 เท่านั้น
พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้นกั รบคนหนึ่งจะทรงพลังแค่ไหน เมื่ออยูท่ ี่นี่
ก็ไม่อาจสําแดงพละกําลังได้มากกว่านักรบระดับเซียนขั้น 1
จางเซวียนใช้เวลาทดสอบร่ างใหม่ของเขาระยะหนึ่ง แต่โชคดีที่ดู
เหมือนพื้นฐานของร่ างใหม่กบั กายเนื้อตัวจริ งของเขาจะไม่ต่างกัน
เขาตั้งต้นออกเดิน ไม่ชา้ พระราชวังขนาดใหญ่กป็ รากฏตรงหน้า
หอนิรันดร์, เมืองแสงดาว!
เมืองแสงดาวเป็ นเมืองขั้น 2 และดูเหมือนเมืองชวนเจียงจะอยูภ่ ายใต้
การควบคุมดูแลของที่นี่ จางเซวียนหวนนึกถึงคําบอกเล่าของตั้น
เฉี่ยวเทียน เขาส่ ายหัว “เป็ นโครงข่ายอาณาจักรเลยทีเดียว…”
หากใช้กรรมวิธีตามแบบโลกใบเก่าของเขา ก็ถือว่ามีช่องทางการ
ติดต่อเฉพาะในเมืองที่มีสาขาของหอนิรันดร์ต้ งั อยูเ่ ท่านั้น และเพราะ
ไม่มีสาขาในเมืองชวนเจียง ใครก็ตามที่พยายามจะเข้าถึงหอนิรันดร์
จากที่นนั่ จึงต้องหาช่องทางการติดต่อเพื่อเข้าสู่ เมืองแสงดาวให้ได้
จางเซวียนผลักประตูและเดินเข้าไปในพระราชวัง ฝูงชนกลุ่มใหญ่
ปรากฏต่อหน้าต่อตาทันที
ก็เหมือนการเล่นเกมสังคมออนไลน์ในชีวติ เก่าของเขา ถึงทุกคนจะ
มีรูปร่ างหน้าตาแตกต่างกันไป แต่กม็ ีความแข็งแกร่ งเท่ากัน แต่ละ
คนอาจมาจากคนละท้องถิ่น แต่ในเวลานั้น พวกเขาจับกลุ่มกันเพื่อ
แลกเปลี่ยนภูมิปัญญาเกี่ยวกับวรยุทธ หรื อแม้แต่เจรจาต่อรองเรื่ อง
ธุรกิจสําคัญ
ตอนที่ 1923 สั งเวียนประลอง
ด้วยการแบ่งปันความรู ้ผา่ นระบบที่กาํ หนดไว้ ข้อมูลข่าวสารจึง
แพร่ กระจายได้รวดเร็ ว บางที นี่อาจเป็ นโครงสร้างที่ทาํ หน้าที่
ขับเคลื่อนมิติเบื้องบนให้กลายเป็ นบางสิ่ งที่คล้ายกับยุคดิจิตอลใน
โลกใบเก่าของเขา
หลังจากเฝ้าสังเกตด้วยความอยากรู ้อยูค่ รู่ หนึ่ง จางเซวียนก็นึกได้วา่
เรื่ องด่วนที่สุดตอนนี้คือต้องเยียวยาอาการบาดเจ็บเสี ยก่อน เขาจึงมุ่ง
หน้าไปยังเคาน์เตอร์รับรองของหอนิรันดร์และเรี ยกหาเจ้าหน้าที่
“คุณมียาเม็ดฟื้ นฟูสภาพร่ างกายไหม? ผมอยากซื้อสักหน่อย”
“ไม่ทราบว่าคุณอยากได้ยาเม็ดขั้นไหน?”
เจ้าหน้าที่เป็ นชายหนุ่มในเครื่ องแบบ หน้าตาหล่อเหลามาก แน่นอน
ว่าไม่น่าใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริ ง สิ่ งนี้กเ็ หมือนกับการที่ผคู ้ นมากมาย
ชอบใช้รูปคนเด่นคนดังมาเป็ นรู ปโปรไฟล์ออนไลน์ของตัวเอง
“ผมอยากได้ยาที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของนักรบขั้นผูท้ าํ ลาย
ล้างมิติ” จางเซวียนตอบ
ระหว่างทางที่มา เขาได้ศึกษาระดับขั้นของวรยุทธที่ใช้กนั ในมิติ
เบื้องบน ดูเหมือนวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณจะมี 4 ขั้น ซึ่ งชื่อ
ของขั้นเหล่านั้นก็เหมือนกันกับทวีปแห่งปรมาจารย์ ส่ วนที่เหนือไป
กว่าระดับนักปราชญ์โบราณ แม้แต่ต้ นั เฉี่ยวเทียนก็ยงั ไม่รู้วา่ คืออะไร
จึงไม่อาจไขข้อข้องใจของจางเซวียนได้
“เรามียาเม็ดไม้ขาวและยาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงิน” ชายหนุ่มพูดขณะยืน่
ขวดหยก 2 ใบให้จางเซวียน
จางเซวียนรับขวดหยกทั้ง 2 ใบมาเปิ ดจุกออกแล้วตรวจสอบอย่างถี่
ถ้วน อดทึ่งไม่ได้กบั ความละเอียดลออของโลกที่ปรมาจารย์ขงสร้าง
ขึ้น เขารู ้ดีวา่ ตัวเองกําลังอยูใ่ นโลกเสมือนจริ ง แต่พลังจิตวิญญาณ
และคุณสมบัติทางยาที่อยูใ่ นยาเม็ดทั้ง 2 ชนิดกลับดูเหมือนจริ งและ
จับต้องได้จนเขาอดสงสัยไม่ได้วา่ มันอาจมีอยูจ่ ริ ง ๆ
แต่เราไม่เคยได้ยนิ ชื่อยาเม็ด 2 ชนิดนี้มาก่อน จึงไม่รู้วา่ ชนิดไหนจะ
เป็ นประโยชน์กบั เรามากกว่า…
ลงท้าย มิติเบื้องบนกับทวีปแห่งปรมาจารย์กเ็ ป็ นโลกสองใบที่ต่างกัน
อย่างสิ้ นเชิง ถึงทั้งสองแห่งจะมีนกั ปรุ งยา แต่เทคนิคและทักษะของ
พวกเขาก็แตกต่างกันมาก จางเซวียนจึงประเมินคุณสมบัติการเยียวยา
ของยาเม็ดทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่ได้ เขากําลังจะสอบถามข้อมูลเพิม่ เติมจาก
เจ้าหน้าที่ ก็พอดีกบั ที่เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
จางเซวียนใช้นิ้วแตะเบา ๆ บนยาเม็ดไม้ขาวและพึมพํา
“ข้อบกพร่ อง!”
ในเมื่อเขาใช้จิตวิญญาณเปิ ดใช้งานหอสมุดเทียบฟ้าได้ แล้วจะใช้มนั
ที่นี่ได้หรื อเปล่า?
วิง้ !
หัวสมองของจางเซวียนกระตุก หนังสื อเล่มหนึ่งปรากฏในหอสมุด
เทียบฟ้า
ใช้ได้นี่! จางเซวียนตาโตด้วยความดีใจ
แม้ยาเม็ดเหล่านี้จะไม่ใช่ยาจริ ง ๆ แต่ดูเหมือนหอสมุดเทียบฟ้าจะ
รวบรวมข้อมูลที่มีอยูใ่ นหอนิรันดร์เพื่อวิเคราะห์จุดเด่นและจุดด้อย
ของยาเม็ดได้ ก่อนจะประมวลออกมาเป็ นหนังสื อ
“ยาเม็ดไม้ขาว มีหญ้าไม้ขาวเป็ นส่ วนผสมหลัก ให้ผลดีเยีย่ มในการ
เยียวยาจิตวิญญาณที่บอบชํ้าของนักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ…”
“ยาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงิน มีเลือดของอสูรระดับเซียนเป็ นส่ วนผสมหลัก
ให้ผลดีเยีย่ มในการเยียวยาอาการบาดเจ็บทางร่ างกายและฟื้ นฟูพลัง
ปราณ…”
ความบอบชํ้าของเราอยูท่ ี่กายเนื้อและพลังปราณ เพราะฉะนั้นเรา
ควรเลือกยาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงิน!
หลังจากตัดสิ นใจแล้ว จางเซวียนก็แจ้งความจํานงกับเจ้าหน้าที่
“สนนราคาของยาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงินอยูท่ ี่เม็ดละ 20,000 เหรี ยญนิรันดร์
ไม่ทราบว่าคุณจะชําระค่ายาด้วยวิธีไหน? มีบตั รนิรันดร์หรื อเปล่า?”
เจ้าหน้าที่ต้ งั คําถามด้วยใบหน้าเปื้ อนยิม้
“20,000 เหรี ยญนิรันดร์?” จางเซวียนเลิกคิ้ว
เขาไม่มีเหรี ยญนิรันดร์อยูก่ บั ตัวสักเหรี ยญ ดังนั้น 20,000 นิรันดร์จึง
ไกลเกินเอื้อม อีกอย่าง ไอ้บตั รนิรันดร์บา้ บอนี่คืออะไร?
จางเซวียนเพิ่งฟื้ นได้ราว 4 ชัว่ โมงเท่านั้น แต่กพ็ อรู ้อานุภาพการจับจ่าย
ของเหรี ยญนิรันดร์ หากตั้นเฉี่ยวเทียนขายบ้านพักที่เขาอาศัยอยู่ ก็จะ
ได้ราคาราว 5,000 เหรี ยญนิรันดร์เป็ นอย่างมาก นัน่ หมายความว่า
บ้านทั้งหลังของตั้นเฉี่ ยวเทียนมีมูลค่าเพียง 1 ใน 4 ของยาเม็ดตะวัน
สี น้ าํ เงินเท่านั้น…
ได้เวลาหาเงินอีกแล้วสิ จางเซวียนกุมขมับอย่างปวดใจ
เขาเคยขึ้นสู่ ความเป็ นสุ ดยอดของทวีปแห่งปรมาจารย์มาแล้ว มีอาํ นาจ
การจับจ่ายมากกว่าใคร ๆ เคยคิดว่าในที่สุดก็หลุดพ้นจากความยากจน
เสี ยที ไม่มีวนั ต้องกังวลเรื่ องเงินอีก แต่ในชัว่ พริ บตาก็ถูกลดชั้นกลับไป
เป็ นไอ้หนุ่มไส้แห้งเหมือนอย่างเคย น่าสมเพชเสี ยจริ ง!
จางเซวียนพลันนึกถึงช่วงเวลาที่เขาเคยปลอมตัวเป็ นปรมาจารย์หยาง
และเที่ยวมอบคําชี้แนะให้ใครต่อใครเพื่อหาเงินมารักษาจ้าวหย่า
หรื อว่าเขาจะต้องทําแบบเดียวกันในมิติเบื้องบนแห่งนี้?
แม้การปลอมแปลงตัวตนจะเป็ นเรื่ องง่าย แต่ดว้ ยนิสยั นอบน้อมและ
ถ่อมเนื้อถ่อมตัวของเขา ไม่มีอะไรในโลกที่เขาเบื่อหน่ายมากไปกว่า
การโชว์ออฟ!
จางเซวียนถอนหายใจอย่างหมดปัญญา เขาเงยหน้ามองเจ้าหน้าที่
ก่อนจะตั้งคําถาม “ไม่ทราบว่าสําหรับที่นี่ ต้องใช้วธิ ีไหนถึงจะหา
เงินได้เร็ ว ๆ ?”
“หาเงิน?” คํานั้นทําให้เจ้าหน้าที่รู้ทนั ทีวา่ ชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้าไม่มี
ปัญญาจ่ายค่ายาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงิน แม้เขาจะไม่แสดงความรู ้สึกออก
นอกหน้า แต่แววตาอบอุ่นนั้นก็ดูจะเย็นชาไปเล็กน้อย
เขานึกว่าอีกฝ่ ายเป็ นหมูตวั ใหญ่ ถามหายาเม็ดราคา 20,000 เหรี ยญ
นิรันดร์ทนั ทีที่เดินเข้ามา แต่กลับกลายเป็ นว่าหมอนี่จนกรอบ!
“วิธีหาเงินที่ง่ายที่สุดคือการเข้าร่ วมการดวลที่สงั เวียนประลองของ
เมือง” เจ้าหน้าที่ตอบด้วยนํ้าเสี ยงไม่แยแส “ขอแค่คุณไม่ออกจาก
สังเวียนประลอง จํานวนเงินที่คุณหาได้จะเพิม่ ขึ้นเป็ น 2 เท่าในแต่
ละรอบที่ผา่ นไป รอบแรก, คุณจะได้เงินจํานวน 100 เหรี ยญนิรันดร์
และจะเพิ่มเป็ น 200 เหรี ยญนิรันดร์ในรอบสอง, 400 เหรี ยญนิรันดร์
ในรอบสาม, และเพิม่ ขึ้นไปเรื่ อย ๆ เบ็ดเสร็ จแล้ว หากคุณไม่แพ้ ก็
จะได้เหรี ยญนิรันดร์มาอย่างรวดเร็ ว!”
“ถ้าคุณเอาชนะการดวลได้ถึง 8 รอบติดต่อกัน ก็จะได้เงินมากพอ
จ่ายค่ายาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงิน”
“เข้าใจแล้ว…” จางเซวียนพยักหน้า
ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจผิด จริ งอยูว่ า่ ระดับวรยุทธที่ถูกจํากัดไว้แค่นกั รบ
ระดับเซียนขั้น 1 เป็ นสิ่ งที่ลดทอนความเหลื่อมลํ้าเรื่ องพละกําลังของ
เหล่านักรบ แต่นนั่ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะทรงพลังทัดเทียมกัน
ซึ่งปัจจัยที่กาํ หนดความแตกต่างก็คือการตีความวรยุทธ สไตล์การ
ต่อสู ้ ปฏิกิริยาตอบสนอง...แต่ละอย่างส่ งผลให้เกิดประสิ ทธิภาพการ
ต่อสู ท้ ี่แตกต่างกันไป แม้ทุกคนจะมีปริ มาณของพลังปราณเท่ากันก็
ตาม มันเป็ นมากกว่าการทดสอบทักษะและเทคนิคการต่อสู ้
อีกอย่าง เพียงเพราะทุกคนถูกจํากัดวรยุทธไว้ในระดับเดียวกัน ก็ไม่ได้
หมายความว่านักรบระดับเซี ยนจะเอาชนะนักรบระดับนักปราชญ์
โบราณได้ ประสบการณ์การต่อสู แ้ ละการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ที่
แม่นยํากว่าจะทําให้พวกเขาต่างกันอย่างสิ้ นเชิง
หอนิรันดร์ไม่อาจลบความเหลื่อมลํ้าระหว่างนักรบแต่ละคนได้ หรื อ
บางทีมนั ก็ไม่ได้จงใจจะทําอย่างนั้น การลดทอนความแตกต่างเรื่ อง
พละกําลังจะทําให้พวกเขาต้องหันมาใส่ ใจเรื่ องเทคนิคและทักษะ
มากขึ้น เป็ นแรงผลักดันให้เหล่านักรบต้องหมัน่ เพียรฝึ กฝน
“ไม่ทราบว่าสังเวียนประลองอยูท่ ี่ไหน? ผมอยากเข้าร่ วมการดวล”
จางเซวียนถาม
“คุณลงทะเบียนที่นี่ได้เลย แต่ผมขอบอกคุณไว้ก่อนว่าคู่ต่อสู ข้ องคุณ
จะแข็งแกร่ งยิง่ ขึ้นในแต่ละรอบที่คุณผ่านเข้าไป เพราะยิง่ คุณผ่าน
จํานวนรอบไปได้มากเท่าไหร่ คู่ต่อสู ข้ องคุณก็ผา่ นมาแบบเดียวกัน”
เจ้าหน้าที่พดู
“ผมเข้าใจ” จางเซวียนพยักหน้า
โดยหลักการ สิ่ งนี้กเ็ หมือนกับการเล่นเกมจัดอันดับในโลกใบเก่า
ของเขา คู่ต่อสู ท้ ี่ตอ้ งเจอจะมีความแข็งแกร่ งพอ ๆ กัน เพื่อให้เกิดการ
ดวลที่สมนํ้าสมเนื้อ
แต่สาํ หรับที่นี่ ไม่วา่ คู่ต่อสู ข้ องเขาจะเป็ นใครก็ไม่ใช่ปัญหา เขาจะ
เล่นงานให้หมด!
เพราะถึงอย่างไรเขาก็เปิ ดใช้งานหอสมุดเทียบฟ้าได้ จึงไม่มีใคร
สามารถถือไพ่เหนือกว่า
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี คุณต้องชําระค่าลงทะเบียนจํานวน 500 เหรี ยญ
นิรันดร์” เจ้าหน้าที่พดู ต่อ
“500?” จางเซวียนเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “ทําไมถึงแพงนัก?”
“หอนิรันดร์ไม่ได้จดั หาเฉพาะสถานที่สาํ หรับการประลอง เรายัง
บันทึกภาพและถ่ายทอดสดการประลองให้นกั รบคนอื่น ๆ ดูดว้ ย
ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย จึงเป็ นธรรมดาที่จะต้องมีค่าธรรมเนียม”
เจ้าหน้าที่อธิบาย
“แต่ผมไม่มี 500 เหรี ยญนิรันดร์หรอก ใช้ทรัพย์สมบัติที่ผมมีจ่าย
แทนได้ไหม? หรื อไม่อย่างนั้น คุณจะให้ผมยืมเงินก่อนได้หรื อ
เปล่า? ผมจะคืนให้ 2 เท่าทันทีที่ผมชนะการประลอง” จางเซวียนเกา
หัว อย่างกระอักกระอ่วนใจ
เงินทองคือศัตรู ตวั ฉกาจของวีรบุรุษ!
ในฐานะบุคคลที่ได้รับการยกย่องราวกับเทพเจ้าของทวีปแห่ง
ปรมาจารย์ ช่างน่าอับอายเหลือเกินที่เขาไม่มีปัญญาจ่ายแม้แต่ 500
เหรี ยญนิรันดร์ ถ้าเรื่ องนี้แพร่ งพรายออกไป คงเป็ นความอับอายขาย
หน้าครั้งใหญ่!
“ถ้าคุณไม่มีเงินจ่ายค่าลงทะเบียนล่ะก็ ผมขอแนะนําคุณว่าอย่าเข้ามา
ยุง่ ดีกว่า” เจ้าหน้าที่หมดความอดทนและตะคอกอย่างหงุดหงิด
คนที่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะจ่าย 500 เหรี ยญนิรันดร์ แต่มาหาซื้อยาที่มี
มูลค่าถึง 20,000 เหรี ยญ ดูเหมือนหมอนี่จะคิดว่าคงหาเงินจากการ
ประลองได้ง่าย ๆ เจ้าหนุ่มปัญญาอ่อนคนนี้มาจากไหน?
ซํ้าร้าย เขาจะไว้ใจได้อย่างไรว่าอีกฝ่ ายจะคืนเงินให้ในเมื่อไม่รู้จกั กัน
ด้วยซํ้า! ไม่มีทาง!
“เอ่อ…” เห็นความหงุดหงิดของเจ้าหน้าที่ จางเซวียนถอนหายใจ
เฮือกใหญ่ “ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของผมคงมีมูลค่ามากกว่า 500
เหรี ยญนิรันดร์นะ อย่างน้อยผมก็คงใช้มนั เป็ นค่าลงทะเบียนได้ ถูก
ไหม?”
ในเมื่อตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลเป็ นของหอนิรันดร์ ระบบก็น่าจะ
ยอมรับ
“ผมคิดว่าคงใช้ได้ แต่ขอแนะนําคุณเป็ นครั้งสุ ดท้าย ถ้าคุณไม่มา
ชําระหนี้ภายในสามวันล่ะก็ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของคุณจะถูก
ปิ ดกั้นทันที ทําให้คุณไม่อาจใช้งานมันได้อีก!” เจ้าหน้าที่ตอบ
ในเมื่อหอนิรันดร์อนุญาตให้เหล่านักรบเข้าสู่ ที่นี่ได้โดยผ่านตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาล ก็เป็ นธรรมดาที่จะสามารถตัดช่องทางการ
ติดต่อได้เช่นกัน
“ผมเข้าใจ” จางเซวียนพยักหน้า
เมื่อเห็นว่าจางเซวียนเข้าใจในสิ่ งที่เขาพยายามบอก ชายหนุ่มดําเนิน
กระบวนการตามคําขออย่างหงุดหงิด ครู่ ต่อมาก็ยนื่ บัตรใบหนึ่งให้
“นี่คือบัตรนิรันดร์ของคุณ ที่อยูใ่ นนั้นคือเงิน 500 เหรี ยญนิรันดร์ที่
คุณยืมไป ทันทีที่คุณลงชื่อเข้าสู่ การดวล เงินในนี้จะถูกดึงออกจาก
บัตรโดยอัตโนมัติ แต่รางวัลที่คุณจะได้เมื่อชนะการประลองก็จะถูก
เก็บไว้ในบัตรนี้โดยอัตโนมัติเช่นกัน เพราะฉะนั้นคุณไม่ตอ้ งกังวล!”
เมื่อเห็นว่าทุกกระบวนการเป็ นไปโดยอัตโนมัติ จางเซวียนรู ้สึกโล่ง
ใจที่จะไม่ตอ้ งเผชิญกับปัญหา หลายอย่าง เขารี บเก็บบัตรไว้ก่อนจะ
มุ่งหน้าสู่ สงั เวียนประลอง
ตอนที่ 1924 ชื่ อของผมคือเจ้ าโลก
ไม่มีสิ่งไหนจะทําให้นกั รบคนหนึ่งพัฒนาตัวเองได้รวดเร็ วเท่ากับ
การเข้าร่ วมการต่อสู จ้ ริ ง ๆ เรื่ องนี้เหมือนกันในทุกที่
แต่การเข้าร่ วมการต่อสู ก้ ม็ าพร้อมความเสี่ ยง เพราะมีโอกาสที่นกั รบ
จะได้รับบาดเจ็บหรื อแม้แต่เสี ยชีวติ แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่ องใหญ่
สําหรับหอนิรันดร์ ก็เพราะเหตุผลนี้ สังเวียนประลองจึงเป็ นสถานที่
โด่งดังที่เหล่านักรบพากันเดินทางมา
ขณะที่จางเซวียนใกล้ถึงที่หมาย ก็เห็นผูค้ นกลุ่มใหญ่ออกันอยู่
หน้าจอภาพที่มีลกั ษณะเหมือนคริ สตัล ทุกคนดูตื่นเต้น
ในจอนั้นมีนกั รบสองคนกําลังปะทะกันอย่างดุเดือด ระดับวรยุทธ
ของพวกเขาอาจเป็ นแค่นกั รบระดับเซียนขั้น 1 แต่การต่อสู ก้ ย็ งั น่า
ตื่นเต้นแม้กบั นักรบผูช้ ่าํ ชอง กระบวนท่าของทั้งคู่เฉียบคมและผ่าน
การคิดคํานวณมาอย่างดี การเคลื่อนไหวที่แม่นยําของพวกเขาจัดว่า
น่าทึ่ง แทบไม่มีกระบวนท่าไหนที่เสี ยเปล่า อีกทั้งเทคนิคการต่อสู ท้ ี่
พวกเขาสําแดงออกมาก็ส่งผลกระทบอันคาดไม่ถึงต่อทิศทางของ
การต่อสู อ้ ยูบ่ ่อยครั้ง
“ราชาสลาตันเอาชนะได้ 5 รอบติดต่อกันแล้ว น่าทึ่งจริ ง ๆ !”
“น่าทึ่งน่ะยังน้อยไป ความเข้าใจในเทคนิคการต่อสู ข้ องเขาจัดว่าน่า
สะพรึ งมาก ทุกกระบวนท่าที่แสดงออกมาแม่นยําถึงขีดสุ ด ไม่เปิ ด
ช่องให้คู่ต่อสู เ้ ล่นงานเขาได้เลย!”
“ถ้าผมทําได้ขนาดนี้กพ็ อใจแล้ว!”
“แค่ดูการต่อสู ข้ องเขาก็เพลินไม่นอ้ ย ไม่เพียงเท่านั้นนะ ผมยังได้
เรี ยนรู ้เทคนิคบางอย่างจากเขา และนําไปใช้พฒั นาสไตล์การต่อสู ้
ของผมได้ดว้ ย”
…..
ผูช้ มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเซ็งแซ่
ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลเป็ นที่เสาะแสวงหาของเหล่านักรบในมิติ
เบื้องบนก็เพราะเหตุผลเหล่านี้ มันไม่ได้เป็ นแค่ตลาดออนไลน์ แต่ยงั
เป็ นสังเวียนใต้ดินที่สมบูรณ์แบบด้วย ไม่เพียงแต่บรรดานักสู จ้ ะไม่
ต้องกังวลเรื่ องการได้รับบาดเจ็บ แม้แต่ผชู ้ มก็ได้เรี ยนรู ้ไม่นอ้ ยจาก
การเฝ้าดูการต่อสู น้ ้ นั
เพื่อความปลอดภัย จางเซวียนไม่รีบร้อนเข้าไปลงทะเบียนเข้าร่ วม
การดวล แต่เลือกจะชมการดวลของนักรบคนอื่น ๆ ก่อนเพื่อประเมิน
มาตรฐานพละกําลังโดยเฉลี่ยของบรรดานักรบที่นี่
ด้วยข้อจํากัดของวรยุทธระดับเซียนขั้น 1 เทคนิคการต่อสู ท้ ี่เหล่านักรบ
สําแดงออกมาได้จึงมีจาํ กัด ดังนั้น สิ่ งที่เป็ นตัวตัดสิ นแพ้ชนะก็คือ
ระยะเวลาและความแม่นยําของการสําแดงเทคนิคต่าง ๆ บ่อยครั้งที่
นักรบที่ตดั สิ นใจได้เฉียบขาดและสําแดงกระบวนท่าได้แม่นยํากว่า
จะเป็ นผูช้ นะ
เมื่อพอเข้าใจการดวลแล้ว จางเซวียนก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียน
และยืน่ บัตรนิรันดร์ของเขา
“คุณจะใช้ชื่ออะไร? ใช้ฉายาได้นะ” สาวน้อยอายุราว 20 ปี ที่อยูต่ รง
เคาน์เตอร์ต้ งั คําถาม
“ฉายา?” จางเซวียนคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง
การประลองมักอนุญาตให้นกั รบใช้ฉายาได้ เพื่อจะได้เรี ยกขานง่าย
ขึ้น
ในเมื่อสามารถปกปิ ดตัวตนได้ เราก็ไม่ควรใช้ชื่อจริ ง จางเซวียนคิด
การทําแบบนั้นก็เหมือนกับคนงี่เง่าในโลกใบเก่าของเขาที่ใช้ชื่อจริ ง
ของตัวเองบนอินเทอร์เน็ต
ขอคิดก่อน หยางชวน, ซุนฉาง, เซวียนจาง, หลัวเทียนหยา… ตัวตน
ที่จางเซวียนเคยใช้ในอดีตแวบเข้ามาในหัว ครู่ ต่อมาเขาก็พดู ออกไป
“เรี ยกผมว่า…เจ้าโลก!”
“เจ้าโลก?” สาวน้อยพยักหน้าขณะจดชื่อลงในสมุดที่อยูต่ รงหน้าเธอ
ไม่ชา้ จางเซวียนก็ได้คู่ดวล
“รอบต่อไป, เจ้าโลกปะทะนักซุ่มเงา!”
ท่ามกลางเสี ยงเชียร์กึกก้อง จางเซวียนเดินเข้าสู่ สงั เวียนประลอง
สังเวียนประลองเป็ นรู ปกลม มีปราการใสกั้นไว้โดยรอบ ผูช้ ม
สามารถชมการดวลได้ชดั เจนจากจอภาพที่อยูร่ อบสังเวียน
คู่ต่อสู ข้ องจางเซวียนเป็ นชายวัยกลางคนร่ างผอม แม้จะเป็ นนักรบ
ระดับเซียนขั้น 1 เหมือนกัน แต่อีกฝ่ ายก็แผ่รังสี ที่กดดันคูต่ ่อสู อ้ อกมา
“ผมเคยได้ยนิ ชื่อนักซุ่มเงามาก่อน ถึงนี่จะเป็ นการดวลครั้งแรกของ
เขา แต่เขาก็เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญที่เก่งกาจมาก”
“ก็จริ ง เมื่อครู่ น้ ีผมคุยกับเขา เราแลกหมัดกัน 2-3 ครั้ง ปฏิกิริยาตอบ
สนองและความเร็ วในการเคลื่อนไหวของเขาจัดว่าเหนือชั้น อย่าง
น้อย ๆ ผมก็กะว่าวรยุทธของเขาน่าจะเทียบเท่ากับนักรบขั้นผูท้ าํ ลาย
ล้างมิติข้นั กลาง!”
“เขาทรงพลังขนาดนั้นเลยหรื อ? ที่หอนิรันดร์นี่มีผเู ้ ชี่ยวชาญเยอะ
จริ ง ๆ !”
“ดูเหมือนการดวลนัดนี้จะมีบางอย่างน่าสนใจ เพียงแต่ผมยังสงสัย
ว่าเจ้าโลกจะสู ไ้ ด้สมนํ้าสมเนื้อหรื อเปล่า!”
“อี๋ ฉายาของเขาดูกิ๊กก๊อกจัง ไม่น่าจะเก่งกาจนักหรอก!”
“ใช่ เจ้าโลกอะไรกัน? แค่ฟังชื่อก็ไม่ไหวแล้ว!”
เป็ นไปไม่ได้ที่จะตัดสิ นตัวตนของคน ๆ หนึ่งผ่านตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาล แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยการพูดคุยสัพเพเหระและการแลก
หมัด ก็พอจะกะประมาณพละกําลังที่แท้จริ งและระดับของนักรบผู ้
นั้นได้คร่ าว ๆ หากอีกฝ่ ายไม่จงใจปกปิ ดไว้
ผูท้ ี่เคยมีปฏิสมั พันธ์กบั นักซุ่มเงาล้วนแต่รู้ดีวา่ เขาเป็ นนักรบที่ทรงพลัง
ไม่เบา จึงไม่มีใครให้ความสําคัญกับคู่ต่อสู ข้ องนักซุ่มเงามากนัก
“เริ่ มเถอะ!” นักซุ่มเงาจ้องชายหนุ่มที่ประจันหน้ากับเขาและเย้ยหยัน
“ผมจะออมมือให้!”
เขาตั้งใจจะใช้โอกาสนี้สร้างชื่อเสี ยงของตัวเองให้กระฉ่อนในหอ
นิรันดร์
ก็เหมือนกับผูเ้ ชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ที่มีชื่อเสี ยงโด่งดังด้วยการได้ชยั
ชนะติดต่อกันหลายครั้ง เขาจะทําแบบเดียวกัน และทําให้ฉายานัก
ซุ่มเงาโด่งดังเลื่องลือไปทัว่ ทั้งหอนิรันดร์ให้ได้
ส่ วนจางเซวียนก็กวักมือ “งั้นก็เริ่ มเลย!”
นักซุ่มเงากระทืบเท้าเบา ๆ ก่อนจะพุง่ เข้าใส่ จางเซวียนด้วยท่วงท่าที่
ดูประหลาด ทําให้ร่างของเขาดูคล้ายกับภาพลวงตา
เห็นกระบวนท่าของอีกฝ่ าย จางเซวียนพยักหน้า
แม้วชิ าชีพต่าง ๆ ในมิติเบื้องบนจะไม่ได้รับการพัฒนาเหมือนใน
ทวีปแห่งปรมาจารย์ แต่ความเข้าใจในเทคนิคและทักษะการต่อสู ้
ของคนที่นี่เหนือชั้นกว่าอย่างชัดเจน
นักรบทุกคนที่นี่สามารถรับมือกับเหล่าปรมาจารย์คนไหนก็ได้ใน
สภาปรมาจารย์!
เราจะเอาชนะแบบปรู๊ ดปร๊ าดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงหาคู่ต่อสู ค้ นต่อไป
ได้ยาก จางเซวียนคิด
ถึงกระบวนท่าของนักซุ่มเงาจะดูล้ าํ ลึก แต่จางเซวียนก็เห็นข้อบกพร่ อง
อย่างน้อย 8 ข้อโดยไม่ตอ้ งใช้หอสมุดเทียบฟ้า การเอาชนะอีกฝ่ าย
ย่อมง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
แต่นี่คือการดวลที่เปิ ดเผยต่อสาธารณชน หากเขาเอาชนะได้ใน
กระบวนท่าเดียว ก็คงหาคู่ต่อสู ค้ นต่อไปได้ลาํ บาก และถ้าไม่มีคู่
ต่อสู ้ จะได้เงินมาจากไหน?
ถ้าวันนี้เขาหาเงินได้ไม่มากพอ ศิษย์สายตรงคนที่ 10 ที่เขาเพิ่งรับไว้
คงต้องตายภายในคืนนี้!
เมื่อคิดสะระตะแล้ว จางเซวียนรี่ เข้าใส่ เพื่อแลกหมัดกับคู่ดวลของเขา
พลัก่ ! พลัก่ ! ตุบ้ !
ในชัว่ พริ บตา เขาก็ปะทะกับนักซุ่มเงา
“อ้อ? ดูเหมือนเจ้าโลกก็ไม่เหยาะแหยะเท่าไหร่ นะ!”
“กระบวนท่าเมื่อครู่ น้ ีของนักซุ่มเงาคือฝี เท้ากระชากมิติใช่ไหม?
นักรบระดับเซียนขั้น 1 สําแดงเทคนิคการต่อสู ท้ ี่ทรงพลังขนาดนี้ได้
ด้วยหรื อ?”
“นัน่ …ฝ่ ามือพเนจรหรื อเปล่า? มีพลังมากขนาดนี้เลย?”
“การใช้สองกระบวนท่านี้ถือว่าฉลาดมาก แต่เจ้าโลกก็หลบได้สบาย
หมอนัน่ แค่ดวงดี หรื อว่ามีดีจริ ง ๆ ?”
…..
เมื่อการดวลเริ่ ม ทุกคนพากันคิดว่าคงเป็ นการเล่นงานฝ่ ายเดียว แต่
เมื่อสถานการณ์ไม่เป็ นไปตามคาด ต่างคนค่อย ๆ ตาโตขึ้นทีละน้อย
ด้วยความทึ่ง
ก็เหมือนอย่างที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ นักซุ่มเงาเป็ นนักรบที่ทรงพลัง
จริ ง ๆ ทุกกระบวนท่าของเขา ปลดปล่อยเรี่ ยวแรงมหาศาลออกมา
แต่แม้กระบวนท่าของเจ้าโลกจะธรรมดากว่าและออกจะสับสน
เล็กน้อย แต่เขาก็หลบทุกการโจมตีของนักซุ่มเงาได้ แถมยังหาโอกาส
ตอบโต้ได้ดว้ ย!
เรื่ องนี้น่าสงสัยมาก
ถ้าเจ้าโลกแค่ดวงดี ก็คงไม่สามารถหลบการโจมตีของนักซุ่มเงาได้
โดยเฉี ยดไปแค่ 1 มิลลิเมตรในทุกครั้ง แต่ถา้ เจ้าโลกจงใจทําแบบนั้น
เขาจะต้องทรงพลังขนาดไหนถึงสร้างวีรกรรมเสี่ ยงตายได้ ไม่รู้กี่ครั้ง
กี่หน?
“ดูนนั่ เจ้าโลกกําลังจะตอบโต้แล้ว!” ใครคนหนึ่งตะโกน
ในการแลกหมัด 10 ครั้งแรกหรื อประมาณนั้น นักซุ่มเงาเป็ นฝ่ ายรุ ก
ซึ่งเจ้าโลกก็ได้แต่ปัดป้อง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป
นักซุ่มเงาพบว่าการโจมตีของเขาไม่อาจเข้าถึงตัวคู่ต่อสู ้ เขาเริ่ มหมด
ความอดทนทีละน้อย แล้วเจ้าโลกก็ใช้โอกาสนี้ควบคุมทิศทางการ
ต่อสู ้
ในตอนนั้น จางเซวียนหลบหลีกไปมาอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะปล่อยพลัง
จากมือขวาออกไปอย่างปุบปับ ส่ วนนักซุ่มเงาก็ดูจะคาดการณ์การ
โจมตีครั้งนี้ไว้แล้วและตอบโต้ทนั เขาปล่อยพลังจากมือซ้ายออกไป
รับมือกับการโจมตีของอีกฝ่ ายโดยไม่ลงั เล
เมื่อพลังจากสองฝ่ ามือปะทะกัน เจ้าโลกถอนมือขวากลับอย่างกะทันหัน
และปล่อยพลังจากมือซ้ายออกไปแทน ยังไม่ทนั ที่ใครจะรู ้ตวั เจ้าโลก
ก็เล่นงานแผงอกของนักซุ่มเงาได้อย่างจัง
ใครจะคิดว่าพลังจากฝ่ ามือขวาก่อนหน้านี้เป็ นแค่กลลวง?
“สลับไปมาระหว่างการสับขาหลอกกับการโจมตีของจริ งได้อย่าง
ลื่นไหล…แม้แต่เจ้าเมืองแสงดาวก็ยงั ทําแบบนี้ไม่ได้ จริ งไหม?”
“คุณสบประมาทเจ้าเมืองแสงดาวมากไปแล้วล่ะ ผมเคยชมการดวล
ของเขาหลายครั้งเมื่อ 2-3 ปี ก่อน ซึ่งเขาก็ใช้กระบวนท่านี้ สิ่ งที่ดู
เหมือนการสับขาหลอกจะกลายเป็ นการโจมตีของจริ งทันทีหากคู่
ต่อสู ไ้ ม่ทนั ระวัง กระบวนท่าแบบนี้ตอ้ งอาศัยความสามารถในการ
ควบคุมร่ างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางสําแดง
และถอนพละกําลังได้อย่างลื่นไหล นักรบมากมายนับไม่ถว้ นปรารถนา
จะรํ่าเรี ยนเทคนิคนี้ แต่นอ้ ยคนเหลือเกินที่จะเข้าใจจนถึงขั้นนํามาใช้
ในการต่อสู จ้ ริ ง ๆ ได้ ผมฝึ กฝนเทคนิคนี้มากว่า 3 ปี แล้ว ยังไม่มนั่ ใจ
ด้วยซํ้าว่าจะใช้มนั ได้อย่างปลอดภัย แต่เจ้าโลกกลับควบคุมมันได้
อย่างง่ายดาย”
“น่าสะพรึ งเหลือเกิน! ผมถอนคําพูดก็แล้วกัน เจ้าโลกคือผูเ้ ชี่ยวชาญ
ตัวจริ ง!”
“หรื อว่าเขาคือเจ้าเมืองแสงดาวปลอมตัวมา?”
“จะเป็ นแบบนั้นได้ไง? ผมรู ้ฉายาที่ท่านเจ้าเมืองใช้ในการดวล ซึ่ ง
ไม่ใช่ชื่อนี้ คนที่ชนะการดวลมานับครั้งไม่ถว้ นอย่างท่านเจ้าเมือง
ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปลอมตัวเป็ นนักรบระดับล่างที่ยงั ไม่เคย
ชนะแม้แต่นดั เดียวหรอก จริ งไหม?”
…..
ความสามารถในการสลับไปมาระหว่างการสับขาหลอกกับการโจมตี
ของจริ งอาจดูไม่ยากเย็นอะไร แต่ทวั่ ทั้งเมืองแสงดาว มีนกั รบเพียง
ไม่ถึงหยิบมือที่ทาํ ได้ จึงเป็ นธรรมดาที่บรรดาผูช้ มจะพากันตกตะลึง
เมื่อเห็นนักรบที่ไม่มีใครรู ้จกั สําแดงความเก่งกาจระดับนี้ออกมา
พลัก่ !
นักซุ่มเงาเซถอยหลังไปหลายก้าว เลือดซึ มออกจากมุมปาก
แม้จะไม่มีนกั รบคนไหนต้องเสี ยชีวติ จริ ง ๆ ในหอนิรันดร์ แต่กย็ งั
ต้องเผชิญกับการบาดเจ็บหรื อการกระอักเลือดหลังจากได้รับความ
บอบชํ้า มันคือการยืนยันความสมจริ ง
“ผมแพ้แล้ว…” รู ้ดีวา่ มีแต่จะย่อยยับกว่านี้หากปล่อยให้การดวลดําเนิน
ต่อไป นักซุ่มเงาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้
เขาตั้งใจจะใช้โอกาสนี้สร้างชื่อเสี ยงให้ตวั เอง แต่ใครจะไปรู ้วา่ จะ
แพ้ต้ งั แต่นดั แรก?
จากนั้น เสี ยงของสาวน้อยก็ดงั ขึ้นจากด้านนอก “คุณจะดวลรอบ
ต่อไปหรื อออกจากสังเวียน?”
เมื่อผ่านรอบแรกไปได้ นักรบจะต้องตัดสิ นใจว่าจะสู ต้ ่อหรื อล้มเลิก
“ผมจะเข้าสู่ รอบสอง” จางเซวียนตอบอย่างไม่ลงั เล
ถึงเขาจะใช้พละกําลังไปพอประมาณในการต่อสู ท้ ี่ผา่ นมา แต่กย็ งั
เหลือเรี่ ยวแรงอีกมาก อีกอย่าง เขายังได้เงินไม่มากพอจะซื้ อยาเม็ด
ตะวันสี น้ าํ เงินเลย จะให้ถอยได้อย่างไร?
ไม่ชา้ จางเซวียนก็ได้คู่ต่อสู ค้ นใหม่ คราวนี้คู่ต่อสู ข้ องเขาไม่ใช่มือ
สมัครเล่น แต่เป็ นนักสู ผ้ ชู ้ ่าํ ชองที่ผา่ นการดวลมาแล้วหลายครั้ง
คู่ต่อสู ข้ องเขาดูจะรู ้วา่ จางเซวียนไม่ใช่ไก่อ่อน ทันทีที่เริ่ มดวล อีก
ฝ่ ายก็พงุ่ เข้าใส่ และปล่อยการโจมตีออกมาเป็ นชุดอย่างไม่ลดละ
ตั้งใจจะข่มจางเซวียนให้ได้ต้ งั แต่แรก
สิ่ งนี้ทาํ ให้จางเซวียนไม่มีทางเลือกนอกจากหลบหลีกไปเรื่ อย ๆ
เพราะถึงอย่างไรเขาก็ตอ้ งยื้อระยะเวลาการดวลออกไปบ้าง เพื่อ
ไม่ให้คู่ต่อสู ค้ นต่อไปต้องขยาด
ตอนที่ 1925 นี่มนั บ้ าบออะไรกัน?
“นัน่ คือจอมหลบหลีก!”
ผูช้ มอุทานด้วยความตื่นเต้น
“กระบวนท่าจอมหลบหลีกมาจากความสามารถในการหลบเลี่ยง
การโจมตีของคู่ต่อสู ไ้ ด้โดยเฉียดไปเส้นยาแดงผ่าแปดทุกครั้ง สิ่ งนี้
ทําให้นกั รบประหยัดพลังงานได้มาก ส่ งผลให้ถือไพ่เหนือกว่าใน
การตอบโต้ แต่แน่นอนว่ามันคือดาบสองคม เพราะหากพลาดเพียง
นิดเดียวก็หมายถึงจบเห่ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าโลกจะใช้ทกั ษะระดับสู ง
ขนาดนี้ได้…”
“เขาคงต้องฝึ กฝนหลายสิ บปี ใช่ไหม?”
“ต่อให้ใช้เวลาหลายสิ บปี ก็ยงั จัดว่าน่าทึ่ง!”
“ผมมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งที่มุ่งมัน่ อยากฝึ กฝนทักษะจอมหลบหลีก
ให้เชี่ยวชาญ เขาใช้เวลาฝึ กถึงสามสิ บปี แต่กย็ งั ไม่กล้านํามาใช้ใน
การต่อสู จ้ ริ ง กระบวนท่านี้ไม่ได้เป็ นการทดสอบเฉพาะความแม่นยํา
ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของนักรบผูน้ ้ นั ที่สาํ คัญกว่าคือการ
ทดสอบสภาวะจิต หากปราศจากความมัน่ ใจเต็มเปี่ ยมในความสามารถ
ของตัวเอง ก็ไม่มีทางที่ผนู ้ ้ นั จะกล้าใช้ทกั ษะการต่อสู ช้ นิดนี้”
นักรบมากมายที่อยูท่ ่ามกลางฝูงชนพากันพูดไม่ออก
ในหอนิรันดร์ คงไม่เป็ นการพูดเกินจริ งหากจะบอกว่าสองทักษะนี้
คือสิ่ งที่บ่งบอกถึงความเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญตัวจริ ง
จางเซวียนไม่รับรู ้ความตกตะลึงของฝูงชนนอกสังเวียน เขายื้อการ
ดวลออกไปอีกราว 10 หมัด ก่อนจะเอาชนะคู่ต่อสู ไ้ ด้ดว้ ยการเล่น
งานอย่างว่องไว
ขณะรอคูต่ ่อสู ค้ นที่ 3 จางเซวียนอดไม่ได้ที่จะปลื้มปริ่ มกับความ
สามารถของตัวเอง
มันก็ยากอยู่ แต่เราต้องปกปิ ดพละกําลังไว้ให้ดี ช่างน่าอึดอัดเหลือเกิน
ที่สาํ แดงพลังออกไปได้แค่ 1 ใน 20 ของที่มี แต่ถา้ ไม่ทาํ อย่างนี้ เราก็
จะมีคู่ต่อสู ไ้ ม่พอจนถึงรอบที่ 8…
จางเซวียนถอนหายใจเฮือก จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นเพื่อเผชิญกับคู่ต่อสู ้
คนที่ 3
คู่ต่อสู ค้ นที่ 3 ของจางเซวียนเป็ นสาวน้อยในชุดสี เขียว แต่กพ็ า่ ยแพ้
ไปอย่างรวดเร็ ว
ส่ วนคู่ต่อสู ค้ นที่ 4 คือชายหนุ่มท่าทางเย่อหยิง่ คนหนึ่ง ซึ่งก็รับมือได้
ไม่ถึงสิ บกระบวนท่า
เมื่อเห็นว่าควบคุมพละกําลังของตัวเองได้ ไม่ทาํ ให้ผทู ้ า้ ทายคนอื่น ๆ
เกิดความเข็ดขยาดในการเข้าต่อสู ้ จางเซวียนพยักหน้าอย่างพอใจกับ
การควบคุมตัวเองของเขา
สิ่ งที่เขาไม่รู้กค็ ือ ในสายตาของนักรบคนอื่น ๆ การได้ประลองกับ
ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับจางเซวียนโดยจ่ายเงินเพียง 500 เหรี ยญนิรันดร์น้ นั
เป็ นโอกาสลํ้าค่า จึงไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้มนั ผ่านไป
พูดได้เลยว่าพวกเขาได้กาํ ไรอย่างงามจากการดวลกับจางเซวียน
ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครตายเพราะการดวล ทุกคนจึงไม่มีอะไรจะเสี ย
“ศิษย์พี่ คุณมีความเห็นต่อเจ้าโลกคนนั้นอย่างไร?”
นอกสังเวียนประลอง ชายสองคนยืนพิงเสาขณะชมการถ่ายทอดสด
จากจอภาพ ผูพ้ ดู สวมชุดสี เขียวและถือดาบไว้ในมือ แม้จะมีทีท่า
เอื่อยเฉื่ อย แต่นยั น์ตาของเขาก็สะท้อนเจตจํานงเพลงดาบ ที่บ่งบอก
ความเก่งกาจของเขาออกมา
‘ศิษย์พี่’ ที่เขากําลังพูดด้วยมีดาบอยูใ่ นมือเช่นกัน เจตจํานงเพลงดาบ
ที่อีกฝ่ ายแผ่ออกมาเข้มข้นกว่า เห็นได้ชดั ว่าเขาคือผูฝ้ ึ กฝนศิลปะ
เพลงดาบที่มีทกั ษะเชี่ยวชาญคนหนึ่ง
ทั้งเมืองชวนเจียงและเมืองแสงดาวอยูใ่ ต้อาณัติของสํานักดาบเมฆ
เหิ น จึงมีผฝู ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบอยูม่ ากมาย อันที่จริ ง แม้ในสังเวียน
ประลอง ผูเ้ ข้าท้าทายหลายคนก็เลือกที่จะใช้ดาบเป็ นอาวุธ
“การที่เขาสามารถสลับสับเปลี่ยนระหว่างการสับขาหลอกกับการ
โจมตีของจริ งได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งสําแดงกระบวนท่าจอมหลบ
หลีกได้ดว้ ย ก็บ่งบอกถึงการควบคุมพละกําลังที่แม่นยําในระดับที่
เรี ยกว่าน่าทึ่ง ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าผมเลย แน่นอนว่าเขาคือ
ผูเ้ ชี่ยวชาญคนหนึ่ง!” ศิษย์พี่พยักหน้ายิม้ ๆ “แต่กย็ งั เทียบชั้นกับเหล่า
ศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ นของเราไม่ได้!”
“สองทักษะนั้นคือเงื่อนไขเบื้องต้นที่ผจู ้ ะได้การยอมรับอย่างเป็ น
ทางการให้เป็ นศิษย์สายตรงของสํานักของเราจะต้องผ่าน แม้ศิษย์
สายตรงระดับล่างส่ วนใหญ่กส็ าํ แดงทักษะนั้นได้ มีแต่ในดินแดน
ไกลปื นเที่ยงอย่างที่นี่เท่านั้นแหละที่ผคู ้ นพากันตื่นตูม เห็นเป็ นเรื่ อง
ใหญ่!” ศิษย์นอ้ งพูด
“ศิษย์นอ้ งหวงเทา ไปลงชื่อเข้าสู่ สงั เวียนการประลองที ประกาศให้
หมอนัน่ รู ้วา่ โลกภายนอกยังกว้างไกลกว่านี้มาก” ศิษย์พี่สงั่ การ
“วางใจเถอะ! ถ้าผมทําให้เขายอมแพ้ไม่ได้ภายในสามกระบวนท่า
ผมจะจ่ายค่าสุ ราของเราคืนนี้ และฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบเร่ ร่อนโดย
เริ่ มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง” ศิษย์นอ้ งที่ชื่อหวงเทาตอบพร้อมกับยิม้
อย่างมัน่ ใจ
“อย่ามัวเสี ยเวลาทําให้การดวลยืดเยื้อนะ เรายังไม่ได้คดั เลือกศิษย์
สายตรงฝ่ ายนอกและศิษย์สายตรงระดับล่างเลย เวลาก็เหลือน้อยเต็ม
ที แถมที่เราทําไปยังไม่ต่างอะไรกับการรังแกชาวบ้าน ถ้าผูอ้ าวุโสลู่รู้
เข้า เขาต้องตําหนิเราแน่!”
ในฐานะอัจฉริ ยะจากสํานักขนาดใหญ่ ถือว่าไม่เหมาะสมที่พวกเขา
จะเข้าท้าทายบรรดานักรบมือใหม่ในดินแดนไกลปื นเที่ยง เพราะนัน่
ไม่ต่างอะไรกับนักกีฬาทีมชาติที่ลงมาแข่งขันกับสโมสรระดับ
ท้องถิ่น การกระทําแบบนั้นมีแต่จะทําลายชื่อเสี ยงของพวกเขา
“ผมเข้าใจ!” หวงเทาพยักหน้าขณะเดินไปหาเจ้าหน้าที่สาว
ไม่ชา้ เขาก็ได้เป็ นคู่ต่อสู ค้ นที่ 5 ของจางเซวียน
“ดูสถิติชยั ชนะของนักดาบมหากาฬสิ !”
“จากการดวล 100 นัด เขาแพ้เพียง 5 นัดเท่านั้น! บ้าไปแล้ว?”
“เป็ นสถิติที่น่าทึ่งอะไรอย่างนี้ ดูเหมือนคราวนี้เจ้าโลกจะเจอคู่แข่งที่
สมตัวแล้วล่ะ!”
“ในเมื่อเขาถือดาบ การดวลครั้งนี้กน็ ่าจะเป็ นการดวลดาบ เราเพิง่ เห็น
ความเชี่ยวชาญของเจ้าโลกเฉพาะด้านการต่อสู ม้ ือเปล่าเท่านั้น ยังไม่
เคยเห็นทักษะเพลงดาบของเขาเลย”
ผูเ้ ข้าแข่งขันทุกคนจะมีสถิติการดวลที่ผา่ นมาปรากฏบนจอภาพ
วีรกรรมของนักดาบมหากาฬที่พา่ ยแพ้เพียง 5 นัดจาก 100 นัดสร้าง
เสี ยงอื้ออึงเซ็งแซ่ในหมู่ฝงู ชนทันที
ตอนแรก พวกเขาคาดว่ามันคงเป็ นการโจมตีฝ่ายเดียวอย่างนัดก่อน ๆ
แต่ตอนนี้ความเห็นแบ่งออกเป็ น 2 ฝ่ าย
บางคนเชื่อว่าแม้เจ้าโลกจะมีทกั ษะการต่อสู ด้ ว้ ยมือเปล่าอันน่าทึ่ง
แต่กไ็ ม่มีอะไรบ่งบอกว่าเขาจะยังคงทําได้ดีหากมีอาวุธในมือ
ด้วยฉายาของคู่ต่อสู ข้ องเขา, นักดาบมหากาฬ และสถิติที่ผา่ นมา
จนถึงปั จจุบนั อีกฝ่ ายน่าจะเป็ นผูฝ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบที่เก่งกาจมาก
“นําอาวุธของคุณออกมา!”
บนสังเวียนประลอง หวงเทาถือดาบของเขาไว้ขณะร้องท้าจางเซวียน
“ได้สิ!”
จางเซวียนสะบัดข้อมือโดยไม่ลงั เล แล้วดาบจากรางอาวุธที่อยูใ่ กล้ ๆ
ก็ลอยเข้าสู่ มือของเขา
ดาบที่อยูใ่ นหอนิรันดร์ไม่มีระดับขั้น พวกมันเป็ นแค่อุปกรณ์ที่ใช้
สําแดงศิลปะเพลงดาบ บางสิ่ งอย่างเช่นอาวุธระดับจิตวิญญาณไม่มี
ปรากฏที่นี่
“ผมมีทางเลือกให้คุณสองทางก่อนที่ผมจะชักดาบออกมา ถ้าคุณ
เข้าถึงตัวผมไม่ได้ ผมจะทําให้คุณพ่ายแพ้ภายในกระบวนท่าเดียว!”
หวงเทาพูดอย่างสุ ขมุ
ในฐานะศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น เขามีเกียรติยศศักดิ์ศรี ที่
ต้องรักษา
“คุณจะยังไม่ชกั ดาบของคุณออกมา?” จางเซวียนชะงัก เขาย่นหน้าผาก
และพึมพํา “แต่ถา้ ทําแบบนั้น ก็อาจเสี ยชีวติ …”
“บังอาจ!” หวงเทาตะโกนด้วยสี หน้าบึ้งตึง “สําแดงกระบวนท่าของ
คุณออกมา ไม่อย่างนั้นจะไม่มีโอกาส!”
“ได้สิ” จางเซวียนถอนหายใจอย่างจนปั ญญา
เขาชูดาบในมือขึ้นแล้วตวัดมันไปมา ราวกับกําลังพยายามทํา
ความคุน้ เคยกับดาบ จางเซวียนยืนอยูก่ บั ที่ เขากระดิกนิ้ว
ฟึ่ บ!
ดาบกระเด็นหลุดจากมือ
ยังไม่ทนั จะได้สาํ แดงกระบวนท่าแรก เขาก็ทาํ ดาบหลุดมือเสี ยแล้ว
นี่เป็ นข้อห้ามอย่างเคร่ งครัดในการต่อสู !้ เมื่อไรก็ตามที่นกั รบสู ญเสี ย
อาวุธไประหว่างการดวล ก็จะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู ด้ ว้ ยมือเปล่า
ทําให้อยูใ่ นภาวะเสี ยเปรี ยบ
“ผลีผลามมาก!”
“เจ้าหนุ่มนัน่ พยายามจะยอมแพ้หรื อ?”
ฝูงชนที่เฝ้าดูการดวลต่างชะงักกับภาพที่เห็น
พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นความเลินเล่อขนาดนี้จากเจ้าโลกที่ดู
เหมือนจะเป็ นนักรบผูท้ รงพลัง
“ดูนนั่ เจ้าโลกหันกลับมาแล้ว!”
“คุณพูดถูก ว่าแต่…เขาทําแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”
“หรื อเขาพยายามจะยอมแพ้ดว้ ยวิธีน้ นั ? ไม่มีเศษเสี้ ยวของนํ้าใจ
นักกีฬาอยูใ่ นตัวเลยหรื อ?”
ท่ามกลางเสี ยงอุทานอย่างประหลาดใจ สถานการณ์กด็ ูจะบานปลาย
ขึ้นเรื่ อย ๆ
บนเวที ชายหนุ่มที่มีฉายาว่าเจ้าโลกหันกลับมา แล้วชูมือขึ้นหลังจาก
โยนดาบของเขาออกไป ราวกับกําลังไชโยโห่ฮิ้วกับอะไรสักอย่าง…
นี่คือเครื่ องหมายของการยอมแพ้? หรื อเขาคิดจะถอยหลังจากได้เห็น
สถิติอนั น่าสะพรึ งของนักดาบมหากาฬ?
ปัญหาก็คือ การที่เจ้าโลกจะยอมแพ้กเ็ ป็ นเรื่ องหนึ่ง แต่ทาํ ไมถึงชูมือ
ขึ้นราวกับกําลังประกาศชัยชนะ? เขามองว่ามันคือเกียรติยศหรื อ
อะไรทํานองนั้นหรื อไง?
หวงเทาที่ยนื อยูอ่ ีกฟากหนึ่งของเวทีกช็ ะงักกับสิ่ งที่เห็น
เขาไม่รู้วา่ คู่ต่อสู ค้ ิดอะไรอยู่ หรื ออะไรกําลังจะเกิดขึ้นต่อไป ต่อให้
อีกฝ่ ายอยากยอมแพ้ ก็ควรจะพูดออกมาให้ชดั เจน แทนที่จะแสดง
กิริยาท่าทางคลุมเครื อแบบนี้!
ขณะที่กาํ ลังคิดหนัก ศิษย์พี่ของเขาก็ตะโกนออกมาอย่างร้อนใจ
“หวงเทา อย่าปล่อยให้การ์ดตก ระวังตัวด้วย!”
คําเตือนนั้นฉุดหวงเทาออกจากภวังค์ เขารี บรวบรวมสมาธิ แต่ยงั ไม่
ทันจะรู ้ตวั ดาบที่อีกฝ่ ายโยนออกมาอย่างส่ ง ๆ ก็เคลื่อนตัวเข้าหาเขา
อย่างช้า ๆ
การเคลื่อนไหวของดาบดูจะเอื่อยมาก ทําให้รู้สึกเหมือนมันลอย
อย่างเงียบเชียบอยูก่ ลางอากาศ แต่เมื่ออยูห่ ่างจากตัวเขาเพียง 3 เมตร
ดาบนั้นก็เร่ งความเร็ วขึ้นมาอย่างปุบปับ มันพุง่ เข้าใส่ เขาด้วยความ
ไวราวกับแสง
หวงเทาชักดาบออกมาเพื่อปกป้องตัวเอง แต่ยงั ไม่ทนั จะได้ทาํ อะไร
ก็เจ็บแปลบที่ศีรษะ
พลัก่ !
ร่ างของเขาทรุ ดฮวบลงกับพื้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ สติสมั ปชัญญะ
หลุดลอยหายวับ ดาบนั้นแทงเข้าที่ศีรษะ ทําให้เขาพบจุดจบ
ฟึ่ บ!
ศพของหวงเทาสลายตัวเป็ นอากาศธาตุอย่างรวดเร็ วก่อนจะหายวับ
ไป เหลือไว้เพียงดาบที่เขาถือไว้เมื่อครู่
การเสี ยชีวติ ในหอนิรันดร์ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับกายเนื้อตัวจริ ง
ของผูน้ ้ นั แต่ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่เขาครอบครองจะแตก
สลายและทําหน้าที่ของมันไม่ได้อีก ร่ างสมมุติและจิตใต้สาํ นึกที่อยู่
ในโลกของหอนิรันดร์กจ็ ะหายไปด้วย
พูดอีกอย่างก็คือ การเสี ยชีวติ ในหอนิรันดร์กใ็ ช่วา่ ไม่ได้สูญเสี ยอะไร
เลย
เงียบกริ บ
ความเงียบอันน่าสะพรึ งครอบงําบริ เวณนั้น
ทุกคนจับจ้องที่สงั เวียนประลองด้วยอาการอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
พวกเขาคาดหวังจะได้เห็นการต่อสู อ้ นั ดุเดือดระหว่างนักดาบมหากาฬ
กับเจ้าโลก แต่กเ็ หมือนกับการเล่นปาหี่ เจ้าโลกแค่โยนดาบของเขา
ออกไป จากนั้นนักดาบมหากาฬก็ถูกแทงศีรษะ
นี่มนั บ้าบออะไรกัน?
หลังจากความเงียบงันอย่างน่าประหลาด เสี ยงเชียร์กึกก้องก็ดงั ขึ้น
โดยรอบ
แม้ผชู ้ มส่ วนใหญ่จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในการดวลที่เพิ่งจบลง
แต่กเ็ ห็นชัดว่าเจ้าโลกคือผูช้ นะ
“เจ้าโลกจงเจริ ญ! ผมรักคุณมากกว่าทุกสิ่ งในโลกนี้!”
“นักดาบมหากาฬสบประมาทคู่ต่อสู เ้ กินไป เขาปัดป้องการโจมตี
อย่างกะทันหันของเจ้าโลกไม่ได้”
“ผมคิดว่านักดาบมหากาฬคือผูไ้ ร้เทียมทาน ใครจะไปรู ้วา่ เขาไม่ควร
ค่าแก่การพูดถึงเลยด้วยซํ้า? ถูกดาบแทงแบบนั้น…ไม่มีใครแย่ไป
กว่าเขาแล้วล่ะ!”
“ไม่น่าเชื่อว่าเขาเป็ นเจ้าของสถิติการได้ชยั ชนะถึง 95 เปอร์เซ็นต์…
เขาได้สถิติน้ ีมาด้วยการป่ วนระบบ หรื อจงใจพ่ายแพ้เพื่อให้พวกเรา
ได้หวั เราะ?”
สําหรับผูช้ มทุกคน ท่วงท่าการโยนดาบที่จางเซวียนแสดงออกไป
ก่อนหน้านี้ดูแสนจะธรรมดาสามัญ จึงเป็ นเรื่ องเหลือเชื่อที่นกั ดาบ
มหากาฬถูกกระบวนท่านั้นสังหาร ดังนั้น ในสมองของพวกเขาจึงมี
ความเป็ นไปได้เพียงข้อเดียว นัน่ คือนักดาบมหากาฬอ่อนแอเกินไป!
ตอนที่ 1926 คุณใช้ ดาบของคุณหรื อเปล่า?
“เป็ นไปไม่ได้!”
ศิษย์พี่ที่กาํ ลังยืนพิงเสารี บยืดตัวตรง
เขารู ้วา่ มีบางอย่างผิดปกติทนั ทีที่ดาบถูกโยนออกมา รู ้สึกได้ถึง
ร่ องรอยของเจตจํานงเพลงดาบที่อยูเ่ บื้องหลังการโยนดาบนั้น ซึ่ ง
หมายความว่ามันคือเทคนิคการใช้ดาบรู ปแบบหนึ่ง
แต่กน็ นั่ แหละ มันเป็ นไปได้จริ ง ๆ หรื อที่จะสังหารหวงเทาได้
ง่ายดายเพียงแค่ใช้การโยนดาบ?
ศิษย์พี่พยายามทบทวนพละกําลังที่อยูเ่ บื้องหลังการโยนดาบ แต่ยงิ่
ครุ่ นคิดมากขึ้นเท่าไหร่ เหงื่อก็ผดุ ออกมาจากหน้าผาก
เขาต้องประหลาดใจที่พบว่าไม่อาจวิเคราะห์พละกําลังของการโยน
ดาบนั้นได้ ดูเหมือนทุกอย่าง เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย หัวสมองของเขา
ประมวลได้เฉพาะตอนต้นและตอนจบ ส่ วนเรื่ องราวระหว่างทาง
ล้วนแต่วา่ งเปล่า
แม้ดว้ ยความสามารถในการหยัง่ รู ้ของเขา เขาก็ยงั บอกไม่ได้วา่ ชาย
หนุ่มเอาชนะหวงเทาได้อย่างไรด้วยการโยนดาบเพียงครั้งเดียว!
“หรื อว่าเราต้องสู ก้ บั เขา ถึงจะได้รู้?” ศิษย์พี่พึมพําขณะกําหมัดแน่น
ผูฝ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบที่เก่งกาจมักอยากหาคนมาประลองด้วย เพื่อ
จะได้รู้วา่ ศิลปะเพลงดาบของตัวเองทรงพลังแค่ไหน เป็ นไปได้วา่
กระบวนท่านี้จะเข้าถึงระดับนั้น
เมื่อเกิดความคิดขึ้นมา ศิษย์พี่เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์รับรองอย่างไม่
ลังเล แล้วลงชื่อเข้าร่ วมการดวล ครู่ ต่อมาเขาก็ปรากฏตัวบนสังเวียน
ประลอง
“เมฆผงาด?” จางเซวียนอ่านฉายาจากจอภาพที่อยูไ่ ม่ห่างออกไปนัก
เขาเห็นคู่ต่อสู ค้ นล่าสุ ดถือดาบไว้ในมือ…เขาเพิ่งกําจัดนักดาบไปคน
หนึ่งเมื่อครู่ ก่อน แล้วอีกคนหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้า นี่เขาบังเอิญไป
เหยียบรังแตนเข้าหรื ออย่างไร?
“ผมคือเมฆผงาด (อวิน๋ เฟยหยาง) เป็ นทั้งฉายาและชื่อจริ งของผม”
อวิน๋ เฟยหยางพยักหน้า
เขาชักดาบออกมาโดยไม่ลงั เล ประกายเย็นวาบปรากฏบนผิวหน้า
ของดาบ “ชักอาวุธของคุณออกมา!”
เมื่อเห็นคู่ต่อสู ข้ องเขาหลงตัวเองไม่ต่างจากคนก่อน จางเซวียนชัก
ดาบที่เขาใช้ในการดวลเมื่อครู่ ออกจากรางอาวุธอีกครั้งก่อนจะมองคู่
ต่อสู ข้ องเขา
อวิน๋ เฟยหยางประสานมือและร้องขอ “กรุ ณาใช้ศิลปะเพลงดาบแบบ
การดวลคราวก่อน!”
เขาต้องการสัมผัสศิลปะเพลงดาบที่สงั หารศิษย์นอ้ งของเขาได้ในชัว่
พริ บตา เพื่อจะได้หาทางทําความเข้าใจมัน ในฐานะผูฝ้ ึ กฝนศิลปะ
เพลงดาบ เขาทําใจไม่ได้ที่พบว่ายังมีเทคนิคเพลงดาบในโลกนี้ที่ตวั
เขายังเข้าไม่ถึง
“ศิลปะเพลงดาบที่ผมใช้คราวก่อน?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
“ใช่”
“เอ่อ…อย่างนั้นก็ได้” จางเซวียนถอนหายใจอย่างจนปัญญา
เขาไม่คิดว่าการโยนดาบที่ทาํ ไปเมื่อครู่ จะเรี ยกได้วา่ เป็ นศิลปะเพลง
ดาบ มันเป็ นแค่การโยนดาบออกไปส่ ง ๆ ไม่มีทกั ษะหรื อแนวคิดลํ้า
ลึกอะไรอยูเ่ บื้องหลัง
แต่กน็ นั่ แหละ มันคือการโยนดาบที่บรรจุแก่นสารของศิลปะเพลง
ดาบเทียบฟ้าเอาไว้ และนัน่ คือเหตุผลที่มนั เล่นงานศีรษะของนักดาบ
มหากาฬได้อย่างแม่นยําไร้ที่ติ
หมอนี่อยากลองแบบเดียวกันหรื อ?
เขาคิดว่าหัวของตัวเองแข็งพอจะเอาชีวติ รอดได้หรื อไง?
ไม่วา่ เหตุผลที่อยูเ่ บื้องหลังคําขอของคู่ต่อสู ข้ องเขาจะเป็ นอะไร
สําหรับจางเซวียนก็ไม่แตกต่าง
จางเซวียนกวัดแกว่งดาบในมือเล็กน้อยเพื่อขยับให้ถนัดมือ ก่อนจะชี้
ดาบไปที่เมฆผงาด
ฟึ่ บ!
เขาสะบัดข้อมือ แล้วดาบก็หลุดจากมือของเขา
“มาแล้ว!” อวิน๋ เฟยหยางหรี่ ตาขณะรี บชักดาบออกมา
ในชัว่ พริ บตา ด้วยเสี ยงลมคํารามและภาพติดตาที่เกิดจากคมดาบ
ร่ างของเขาถูกดาบโอบล้อมไว้ ป้องกันไม่ให้แม้แต่น้ าํ สักหยดแตะ
ต้องตัวเขาได้
“เป็ นศิลปะเพลงดาบที่ไร้เทียมทานอะไรอย่างนั้น!”
“เขากวัดแกว่งดาบเร็ วขนาดนั้นได้อย่างไร?”
“ผมมองตามกระบวนท่าเพลงดาบของเขาไม่ทนั ด้วยซํ้า คนแบบ
ไหนกันที่จะเจาะการป้องกันตัวแบบนี้ได้?”
ฝูงชนที่อยูด่ า้ นล่างพากันตื่นตะลึงกับการป้องกันตัวของอวิน๋ เฟย
หยาง ศิลปะเพลงดาบของเขา ว่องไวจนดูเหมือนกับมีวงกลมแสงที่
มีรัศมีราว 2 เมตรก่อตัวอยูร่ อบตัวเขา
ภายใต้การป้องกันตัวอย่างแน่นหนาขนาดนั้น แทบเป็ นไปไม่ได้เลย
ที่เขาจะบาดเจ็บ
ต่อหน้าสายตาตกตะลึงของฝูงชน ดาบที่ถูกโยนออกไปลอยผ่าน
อากาศอย่างช้า ๆ ก่อนจะไปหยุดที่ระยะ 3 เมตรจากอวิน๋ เฟยหยาง
ฟิ้ วววววว!
เกิดเสี ยงลมโหมกระหนํ่า ดาบนั้นหายลับไปจากสายตา และตั้งแต่
เมื่อไหร่ กไ็ ม่รู้ที่มนั จ้วงแทงทะลุ ปราการแสงรู ปทรงกลมที่เกิดจาก
การกวัดแกว่งดาบของอวิน๋ เฟยหยาง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เขาตั้งใจยับยั้งมัน แต่ทาํ ไม่สาํ เร็ จ”
ฝูงชนพากันชะงักที่เห็นดาบหายไป แต่ปราการแสงรู ปทรงกลม
ยังคงโอบล้อมอวิน๋ เฟยหยางอยู่
ด้วยความสามารถในการหยัง่ รู ้ของพวกเขา พวกเขาบอกไม่ได้วา่ เกิด
อะไรขึ้นบนสังเวียน
ยังไม่ทนั ที่ฝงู ชนจะพูดจบ ปราการแสงรู ปทรงกลมก็ระเบิดออก
อย่างกะทันหัน เผยให้เห็นภาพชายหนุ่มที่ถูกดาบแทงเข้าที่ศีรษะ
ชายผูน้ ้ นั หมดลมหายใจเฮือกสุ ดท้ายไปแล้ว
ตุบ้ !
ศพทรุ ดฮวบลงกับพื้นและสลายตัวไป
อาการตกตะลึงกระจายตัวไปทัว่ ฝูงชน
ที่บา้ นพักของเจ้าเมืองแสงดาว ชายหนุ่มสองคนพูดคุยกันขณะเดิน
ตรงไปยังลานบ้าน
“คราวนี้อวิน๋ เฟยหยางกับหวงเทาไปไหน?” ชายหนุ่มที่อยูท่ างซ้าย
คําราม “สองคนนั้นทําตัวลับ ๆ ล่อ ๆ มาสักพักแล้ว ไม่ยอมมารวม
กลุ่มกับพวกเรา ถ้ารู ้วา่ ก่อนหน้านี้มีสาว ๆ สวย ๆ อยูเ่ ยอะขนาดไหน
ล่ะก็ คงได้เสี ยดายจนหน้าเหลืองหน้าเขียวแน่!”
เขามีรูปร่ างผอมสู งราวกับไม้ไผ่ สิ่ งหนึ่งที่โดดเด่นเตะตาคือท่อนแขน
เรี ยวยาวที่อยูข่ า้ งลําตัว
“ทําไมจะต้องเสี ยดาย? สองคนนั้นน่ะซื้ อตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
สองอันทันทีที่มาถึง และใช้ฉายานักดาบมหากาฬกับเมฆผงาดเพื่อ
ท้าดวลกับชาวบ้าน!” ชายหนุ่มที่อยูท่ างขวาตอบอย่างหงุดหงิด
เขามีใบหน้ารู ปสี่ เหลี่ยมและนํ้าเสี ยงหยาบกระด้าง จากนํ้าเสี ยงของ
เขา เห็นได้ชดั ว่าไม่พอใจกับการกระทําของทั้งคู่
“ท้าดวลกับชาวบ้าน?” ไม้ไผ่หวั เราะลัน่ “เป็ นถึงศิษย์สายตรงของ
สํานักดาบเมฆเหิ น แต่มาที่นี่เพื่อท้าดวลกับคนบ้านนอกพวกนั้น
ศักดิ์ศรี หายไปไหนหมด? ต่อให้ชนะ แล้วมีเกียรติตรงไหน?”
“ผมก็ไม่รู้วา่ พวกนั้นคิดอะไร ทั้งเมืองนี้ ผมเชื่อว่ามีแต่ท่านเจ้าเมือง
แสงดาวเท่านั้นที่คู่ควรกับพวกเราในการประลองศิลปะเพลงดาบ
แต่พวกนั้นกลับลดตัวลงไปท้าดวลกับชาวบ้าน เรี ยกร้องความสนใจ
ละมั้ง?”
ขณะที่กาํ ลังส่ ายหน้า ทั้งหน้าเหลี่ยมและไม้ไผ่กเ็ ดินมาถึงลานบ้าน
ทันทีที่เข้าไป ก็เห็นหนึ่งในผูท้ ี่พวกเขาเพิ่งพูดถึง, หวงเทา กําลังนัง่
อยูห่ น้าโต๊ะหิ นตัวหนึ่งด้วยแววตาเลื่อนลอย
“ไง? เล่นงานบรรดานักรบของเมืองแสงดาว…สนุกไหม? พวกนั้น
คุกเข่าร้องขอความเมตตาจากวีรบุรุษอย่างคุณหรื อเปล่า?” ไม้ไผ่เดิน
เข้าไปเย้าแหย่หวงเทา
หน้าเหลี่ยมตบไหล่หวงเทาและตั้งคําถาม “คุณน่ะเป็ นสุ ภาพบุรุษ
ตลอด ปล่อยให้พวกนั้นสําแดงกี่กระบวนท่าล่ะ?”
เมื่อเห็นทั้งคู่ หวงเทาก้มหน้าอย่างอับอายขณะใช้นิ้ววาดรู ปวงกลม
บนโต๊ะ จากนั้นก็พดู ด้วยนํ้าเสี ยงที่บ่งบอกว่าเขาเองก็ไม่อยากเชื่อใน
สิ่ งที่เพิ่งเกิดขึ้น “ผมแพ้!”
ราวกับจะช่วยยืนยันความพ่ายแพ้ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่แตก
เป็ นเสี่ ยง ๆ วางอยูบ่ นโต๊ะตัวนั้น
“คุณถูกสังหารในหอนิรันดร์หรื อ?”
หน้าเหลี่ยมกับไม้ไผ่ตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
พวกเขาคือศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น ในแง่ของเทคนิค
ย่อมไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กบั นักรบคนไหน ทักษะการต่อสู ข้ องพวก
เขาสู งส่ งพอจะทําให้นกั รบบ้านนอกทุกคนยําเกรง แต่หวงเทากลับ
ลงเอยด้วยความตาย
เรื่ องนี้เหลือเชื่อเสี ยจนแทบรับไม่ได้
“คุณใช้ดาบของคุณหรื อเปล่า?” หน้าเหลี่ยมถาม
“ผมใช้! แต่กแ็ พ้เพราะถูกดาบที่หมอนัน่ โยนออกมาแทงเข้าที่หวั …
ผมยังไม่มีโอกาสสําแดงศิลปะเพลงดาบของผมเลยด้วยซํ้า!” หวงเทา
แทบอยากจะมุดดินเพราะความอับอายขายหน้า
“คุณยังไม่ได้สาํ แดงสักกระบวนท่าก่อนจะถูกแทงที่หวั ?”
ทั้งคู่รู้สึกเหมือนหูฝาด
เห็นอีกฝ่ ายยังข้องใจ หวงเทาพูดต่อ “ศิษย์พี่อวิน๋ เฟยหยางก็อยูก่ บั ผม
ตอนที่เกิดเหตุ แต่เขายังไม่ออกมาเลย ผมเชื่อว่าเขาคงท้าดวลกับ
หมอนัน่ ไว้เขากลับมาเมื่อไหร่ คุณถามเขาก็ได้”
“เฟยหยางก็อยูด่ ว้ ย? เขาคือหนึ่งในพวกเราสี่ คนที่กาํ ลังจะได้เป็ น
ศิษย์สายตรงฝ่ ายใน ด้วยทักษะเพลงดาบอันไร้เทียมทานของเขา เขา
คงเล่นงานนักรบทุกคนที่นี่ได้สบาย” ไม้ไผ่ปลอบ
จากนั้น ทั้งสามก็ลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปยังลานบ้านบริ เวณใกล้เคียง
เพื่อดูวา่ อวิน๋ เฟยหยางเป็ นอย่างไร ทันทีที่เดินเข้าไป ก็เห็นร่ างหนึ่งที่
พวกเขาเคยยกย่องกําลังจับจ้องตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่แตกเป็ น
เสี่ ยง ๆ ตรงหน้า เหมือนอย่างที่หวงเทาเคยทํา สี หน้าของเขาบ่งบอก
ความตะลึงระคนสับสน ดูเหมือนเพิง่ ได้รับความกระทบกระเทือน
ทางจิตใจอย่างรุ นแรง
ทั้งสามอ้าปากค้างแล้วรี บเข้าไป “คงไม่ใช่วา่ …คุณก็ถูกสังหาร
เหมือนกันหรอกนะ?”
อวิน๋ เฟยหยางคือผูท้ ี่แข็งแกร่ งที่สุดในหมู่พวกเขา หากแม้แต่อวิน๋
เฟยหยางยังถูกสังหารได้ นักรบผูน้ ้ นั จะต้องทรงพลังขนาดไหน?
“ผมสําแดงกระบวนท่านํ้าไหลไร้ขอบเขต แต่กต็ า้ นทานการโยน
ดาบของเขาไม่ได้ กระบวนท่าเดียวนัน่ …มันงดงามยิง่ กว่าทุกสิ่ งที่
ผมเคยเห็น…” ความคิดของอวิน๋ เฟยหยางล่องลอยไปขณะหวนนึก
ถึงการโยนดาบที่เพิง่ เกิดขึ้น
“คุณสําแดงกระบวนท่านํ้าไหลไร้ขอบเขต?” ทั้งสามอุทานด้วยความ
ตกใจ
กระบวนท่านั้นเรี ยกได้วา่ เป็ นศิลปะเพลงดาบสําหรับการป้องกันตัว
ขั้นสู งสุ ดที่ฝึกฝนกันในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ ายนอกของสํานักดาบเมฆ
เหิ น ศิลปะเพลงดาบนี้จะห่อหุม้ ร่ างของผูส้ าํ แดงไว้ดว้ ยกระแสนํ้า
เข้มข้นหลายชั้น เกิดเป็ นสายนํ้าไหลเชี่ยว ไม่วา่ ฝ่ ายตรงข้ามจะเล่น
งานหรื อโจมตีอย่างไร กระแสนํ้าที่ปกป้องอยูจ่ ะสะท้อนการโจมตี
นั้นกลับไปทันที
เรี ยกได้วา่ เป็ นกระบวนท่าที่ไม่มีนกั รบคนไหนในระดับวรยุทธ
เดียวกันจะทําลายได้
ทั้ง ๆ ที่สาํ แดงกระบวนท่านั้น อวิน๋ เฟยหยางก็ยงั พ่ายแพ้ดว้ ยการ
โจมตีเพียงครั้งเดียว คู่ต่อสู เ้ ก่งกาจไร้เทียมทานขนาดนั้นเลยหรื อ?
และที่อาการหนักกว่า…ขนาดถูกสังหารอย่างโหดเหี้ ยม ก็ยงั คิดว่า
ศิลปะเพลงดาบนั้นช่างงดงาม สี หน้าปลื้มปริ่ มของเขาดูราวกับกําลัง
พรํ่าเพ้อละเมอถึงคนรัก!
“ผมอยากเห็นศิลปะเพลงดาบนัน่ กับตา เฟยหยาง คุณยังมีตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาลอีกอันให้ผมใช้ไหม?”
หลังจากตกตะลึงไปครู่ หนึ่ง ไม้ไผ่กบั หน้าเหลี่ยมก็พบว่าพวกเขา
กําลังตัวสัน่ ด้วยความอยากรู ้ ทั้งคู่ อยากพบผูท้ ี่สามารถสําแดงศิลปะ
เพลงดาบที่เหนือชั้นกว่าแม้แต่หวงเทากับอวิน๋ เฟยหยาง
“ผมส่ งคนไปซื้อตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลทันทีที่ผมฟื้ น คงจะได้
เร็ ว ๆ นี้แหละ” อวิน๋ เฟยหยางตอบ
หอนิรันดร์ทุกแห่งมีตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของตัวเอง ด้วยการ
ใช้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลเท่านั้นที่นกั รบคนหนึ่งจะสามารถ
เชื่อมต่อกับ ‘โครงข่ายอาณาเขต’ ได้
ไม่ชา้ คนรับใช้คนหนึ่งก็พรวดพราดเข้ามาพร้อมกับตราสัญลักษณ์นิ
รันดร์กาล 8 อัน แต่ละอันมีมูลค่าหลายหมื่นเหรี ยญนิรันดร์ แม้จะเป็ น
เงินมหาศาลสําหรับตั้นเฉี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ แต่ไม่ได้สลักสําคัญ
อะไรกับบรรดาศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น
วิง้ !
ทั้งสี่ รีบเชื่อมการติดต่อกับหอนิรันดร์ของเมืองแสงดาว ก่อนจะตรง
เข้าสู่ สงั เวียนประลอง
“รอบที่ 7, เจ้าโลกคือผูช้ นะ!”
“ผมอยากเข้าสู่ รอบ 8”
ทันทีที่ท้ งั สี่ ไปถึง ก็เห็นว่าเจ้าโลกชนะการดวลนัดที่ 7 แล้ว
คู่ต่อสู ค้ นที่ 7 ของเขาเป็ นนักสู ผ้ โู ้ ด่งดังในสังเวียนประลอง, ราชา
สลาตัน
ราชาสลาตันขึ้นชื่อเรื่ องการเคลื่อนไหวอันแผ่วเบาและว่องไวอย่าง
น่าทึ่งของเขา ทุกอย่างดูลื่นไหลราวกับสายลม ตั้งแต่เริ่ มการดวล
ร่ างของเขาก็หายวับไป ไม่มีผชู ้ มคนไหนระบุตาํ แหน่งของเขาได้ แต่
ด้วยการเตะเสยกลางอากาศอย่างเต็มเหนี่ยว เจ้าโลกก็โจมตีหว่างขา
ของอีกฝ่ ายได้อย่างจัง…
แน่นอนว่านัน่ คือจุดจบของราชาสลาตัน
“มีใครอยากเข้าร่ วมการดวลนัดที่ 8 ไหม?”
ไม่มีใครตอบรับสักคน
จริ งอยูว่ า่ การแลกหมัดกับผูเ้ ชี่ยวชาญสักคนถือเป็ นการบ่มเพาะทักษะ
ของนักรบผูน้ ้ นั แต่มนั จะเป็ นอย่างนั้นได้กต็ ่อเมื่อช่องว่างของ
ประสิ ทธิภาพการต่อสู ร้ ะหว่างทั้งคู่ไม่ได้ห่างกันเกินไป จะมีประโยชน์
อะไรหากพวกเขาต้องจบเห่ภายในวินาทีเดียวหลังจากก้าวขึ้นสู่
สังเวียน? ไม่มีใครมีเงินมากพอจะมาโยนทิ้งกับเรื่ องสู ญเปล่าแบบนี้
“ผมเอง!”
ไม้ไผ่รีบลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่สาว เพียงครู่ เดียวเขาก็ปรากฏตัว
บนสังเวียนประลอง
เมื่อเห็นว่ายังมีคู่ต่อสู ้ จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
ตอนที่ 1927 พวกองค์ กรทุนนิยม!
เขาได้เงินมาจํานวนหนึ่งแล้วจากการชนะดวลติดต่อกัน 7 รอบ แต่ก็
ยังไม่มากพอให้จ่ายค่ายาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงิน ถ้าไม่มีใครตอบรับคําท้า
ดวลของเขา การจะหาเงินให้ได้ครบตามจํานวนก็คงลําบาก
ไม้ไผ่ยนื นิ่งบนสังเวียน ประเมินชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้าอย่างถี่ถว้ น
อีกฝ่ ายดูธรรมดาสามัญเหลือเกิน ไม่มีอะไรเตะตาหรื อเป็ นที่สงั เกต
หมอนี่เอาชนะศิษย์พี่ท้ งั สองคนของเขาได้อย่างไร?
“นักดาบอีกคนหรื อ?” จางเซวียนเปรยเมื่อเห็นชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้า
เขาชักดาบออกมา
ไม้ไผ่พยักหน้าขณะชักดาบออกจากฝัก เขารี่ เข้าใส่ โดยไม่ลงั เล
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอวิน๋ เฟยหยางและหวงเทา ก็ชดั เจนว่าชาย
ที่อยูต่ รงหน้าเขาเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญตัวจริ ง เขาจึงตัดสิ นใจออกตัวก่อน
แต่ยงั ไม่ทนั ที่ดาบของเขาจะเข้าถึงตัวคู่ต่อสู ้ ก็เกิดแสงสว่างวาบ
ตรงหน้า มันเจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์ข้ ึน รังสี ของมันทําให้เขาจังงัง
ไปครู่ หนึ่ง
พลัก่ !
อีกร่ างหนึ่งทรุ ดฮวบลงกับพื้น
หน้าเหลี่ยมอ้าปากค้าง
เขาเคยคิดว่าหวงเทากับอวิน๋ เฟยหยางยกยอพละกําลังของอีกฝ่ ายเกิน
จริ ง แต่เท่าที่เห็น ที่พดู มายังน้อยไปด้วยซํ้า!
ความสามารถในการป้องกันตัวของอวิน๋ เฟยหยางถือเป็ นหนึ่งในผู ้
แข็งแกร่ งที่สุดบรรดาของศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก แต่ถา้ เป็ นการโจมตี
ไม้ไผ่ร้ ังอันดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยงั พ่ายแพ้ต้ งั แต่ยงั ไม่ทนั ได้
แตะแม้กระทัง่ แขนเสื้ อของอีกฝ่ าย
ใช้คาํ ว่าน่าสะพรึ งก็ยงั น้อยไป!
หวงเทามองหน้าเหลี่ยม “คุณจะลองไหม?”
“ผม…” หน้าเหลี่ยมส่ ายหัวและพูดเสี ยงอ่อย “ขนาดพวกคุณสามคน
ยังสู เ้ ขาไม่ได้ ผมก็ไม่คิดว่าผมจะทําได้ดีกว่านั้นหรอก…ผมขอผ่าน!”
เรื่ องราคาไม่ใช่ปัญหา แต่เพราะขนาดไม้ไผ่กบั อวิน๋ เฟยหยางที่เป็ น
สองผูแ้ ข็งแกร่ งที่สุดในบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ ายนอกก็ยงั เทียบชั้นกับ
อีกฝ่ ายไม่ได้ เขาคงต้องมีชะตากรรมแบบเดียวกันหากเข้าไปท้าทาย
หมอนัน่ !
“ผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งขนาดนี้ปรากฏตัวในเมืองแสงดาวตั้งแต่เมื่อ
ไหร่ ? เราต้องรายงานเรื่ องนี้ให้ผอู ้ าวุโสลู่รับทราบ” หน้าเหลี่ยมพูด
“ถูกต้อง!”
ทุกคนพยักหน้า จากนั้นก็รีบออกจากหอนิรันดร์และหายวับไป
…..
“ในที่สุด เราก็เล่นงานคู่ต่อสู ค้ นที่ 8 ได้สาํ เร็ จ…” จางเซวียนถอน
หายใจอย่างโล่งอก
เขากังวลอยูว่ า่ การไม่มีคู่ต่อสู อ้ าจเป็ นอุปสรรคขัดขวางการหาเงิน
ของเขา แต่โชคดีที่มีเจ้าโง่อีกคนหนึ่งกระโจนขึ้นมาในวินาทีสุดท้าย
โลกนี้มีคนใจกว้างอยูม่ ากมายเหลือเกิน!
จางเซวียนรี รออยูบ่ นสังเวียนประลองอีกครู่ หนึ่ง แต่ไม่มีใครอยาก
ดวลกับเขาในรอบที่ 9 จึงจําใจต้องลงจากสังเวียนอย่างผิดหวัง
เขากลับไปที่เคาน์เตอร์ดา้ นหน้า และเมื่อพบเจ้าหน้าที่ชายคนนั้นอีก
ครั้ง ทีท่าของอีกฝ่ ายก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้ นเชิง
ด้วยวีรกรรมอันโด่งดังของจางเซวียนในสังเวียนประลอง เจ้าหน้าที่
ชายจึงรับรู ้เรื่ องที่เกิดขึ้นแล้ว
เขาเคยคิดว่าหมอนี่เป็ นแค่เจ้าหนุ่มจนกรอบที่ยกหางตัวเอง แต่กลับ
กลายเป็ นว่าเขาคือผูเ้ ชี่ยวชาญตัวจริ ง!
เหงื่อเย็น ๆ ผุดออกจากหน้าผากของเจ้าหน้าที่ชาย เกรงว่าลูกค้าจะ
เอาคืนเรื่ องกิริยามารยาทอันไม่สุภาพของเขาที่ทาํ ไปเมื่อครู่ แต่เมื่อ
เห็นรอยยิม้ อ่อนโยนของอีกฝ่ ายที่ดูเหมือนไม่ได้คิดจะตําหนิเขาแต่
อย่างใด ก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ผูอ้ าวุโสเจ้าโลก คุณยังเหลือเงินอยู่ 105,500 เหรี ยญนิรันดร์นะ
หลังจากจ่ายค่ายาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงินแล้ว” เจ้าหน้าที่ชายพูดหลังจาก
เสร็ จสิ้ นกระบวนการซื้อขาย
“ผมยังเหลือเงินมากกว่า 100,000 เหรี ยญนิรันดร์หรื อ?” จางเซวียน
ชะงัก
สําหรับค่าตอบแทนจากการดวลเมื่อครู่ รวมแล้วก็น่าจะตกราว
25,000 เหรี ยญนิรันดร์ ด้วยเหตุน้ ี เขาก็ควรเหลือเงินเพียง 5,500
เหรี ยญนิรันดร์เท่านั้น แล้วอีก 100,000 เหรี ยญมาจากไหน?
“ผูอ้ าวุโส, คู่ต่อสู ใ้ นรอบที่ 5 และรอบที่ 6 ของคุณใช้อาวุธที่พวกเขา
ซื้ อหามาเป็ นพิเศษ เพราะทั้งคู่เสี ยชีวติ ดาบนั้นจึงถูกส่ งคืนกลับสู่ หอ
นิรันดร์ ซึ่งแต่ละเล่มมีมูลค่า 50,000 เหรี ยญนิรันดร์ ในเมื่อคุณคือผู ้
สังหารพวกเขา เงินนั้นจึงเข้าบัญชีของคุณ ทําให้คุณมีเงินเพิ่มมาอีก
100,000 เหรี ยญ” เจ้าหน้าที่ชายอธิบาย
“พวกเขาซื้อดาบ แต่คุณสมบัติของดาบนัน่ ไม่ต่างกับดาบที่จดั ไว้บน
สังเวียนประลองเลยนะ…”
ดาบของพวกเขาไม่ได้คมกว่าหรื อมีอานุภาพพิเศษกว่า ทําไมถึงแพง
นัก?
“แม้ดาบทุกเล่มจะมีองค์ประกอบพื้นฐานเหมือนกัน แต่ดาบของพวก
เขาถูกจารึ กและออกแบบมาเป็ นพิเศษ สี ของด้ามจับก็ไม่เหมือนกัน
ลําพังแค่การออกแบบก็ทาํ ให้มีมูลค่าเล่มละ 50,000 เหรี ยญนิรันดร์
แล้ว…”
จางเซวียนอ้าปากค้าง
เพราะฉะนั้น ซื้อ ‘ความมีหน้ามีตา’ ก็ได้ แถมราคาไม่ถูกด้วย
พวกองค์กรทุนนิยม!
ก็อีกนัน่ แหละ มีคนแบบนี้อยูม่ ากมายทัว่ โลก คนที่มีเงินเยอะก็มกั ทํา
ตัวให้โดดเด่นแตกต่างจากคนทัว่ ไป ถึงจะไม่อาจปรับเปลี่ยนวรยุทธ
และองค์ประกอบของข้าวของที่ใช้ได้ แต่อย่างน้อยก็ทาํ ตัวให้แตกต่าง
ได้ดว้ ยเสื้ อผ้าอาภรณ์และอาวุธ
“ผมจะนํายาเม็ดที่ผมซื้อออกไปได้อย่างไร?” จางเซวียนถาม
“ผูอ้ าวุโสเจ้าโลก คุณก็แค่ใช้โทรจิตสื่ อสารกับตราสัญลักษณ์นิรันดร์
กาลของคุณก่อนจะออกจากหอนิรันดร์ และเปิ ดใช้ค่ายกลทะลุมิติ
แล้วของที่คุณซื้อจะถูกส่ งถึงคุณทันที” เจ้าหน้าที่ชายตอบ
“ก็สะดวกสบายดีนะ!”
นึกไม่ถึงว่าจะได้รับบริ การดี ๆ แบบนี้ จางเซวียนพยักหน้าอย่างพอใจ
เมื่อได้ส่ิ งที่ตอ้ งการแล้ว เขาก็รีบออกจากหอนิรันดร์และกลับสู่ หอ้ ง
เงียบห้องนั้น
จางเซวียนทรุ ดตัวลงนัง่ ขัดสมาธิ เขาวางตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
ไว้ตรงหน้าและใช้โทรจิตสื่ อสารกับมัน
เกิดเสี ยงหึ่ งเบา ๆ ขวดหยกใบหนึ่งปรากฏตรงหน้า ในขวดหยกใบ
นั้นคือยาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงิน
เราคงจะฟื้ นตัวได้อย่างรวดเร็ วหลังจากกินยานี้ จางเซวียนคิดขณะ
เปิ ดจุกขวดแล้วเทยาเม็ดลงบนฝ่ ามือ
เขากําลังจะกลืนมันเข้าไป ก็พอดีกบั ที่รู้สึกถึงความเย็นเยือกบนฝ่ า
มือ นํ้าเต้าลูกหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันแล้วกินยาเข้าไปทั้ง
เม็ด
“เวรละ…” จางเซวียนหน้าแดงกํ่า
นํ้าเต้าลูกนี้คือนํ้าเต้าตงฉู่ที่เข้าไปเกลือกกลิ้งอยูใ่ นจุดตันเถียนของเขา
อย่างหน้าไม่อาย และไม่ยอมออกมาด้วย ล่าสุ ด มันกระโจนออกมา
กลืนกินเลือดมังกรที่เขาได้จากอํามาตย์เฉิ นหลิง และคราวนี้เหตุการณ์
แบบเดิมก็เกิดซํ้าอีก…
มีเวลาให้ปรากฏตัวตั้งมากมาย ทําไมต้องโผล่มาตอนนี้ แถมขโมย
กินยาเม็ดฟื้ นฟูสภาพร่ างกายที่เขากําลังต้องการมาก?
ชาติก่อนฉันทําร้ายแกไว้หรื อไง?
มันเรื่ องอะไรฉันถึงต้องมาติดแหงกอยูก่ บั ไอ้ตวั หน้าไม่อายอย่างแก
ด้วย?
จางเซวียนตัวสัน่ จนหยุดไม่ได้ เขาคํารามลอดไรฟัน “อ้วกมันออกมา
เดี๋ยวนี้! เร็ ว ๆ เข้า!”
เขาคว้าตัวนํ้าเต้าไว้แน่นและปล่อยพละกําลังออกมาด้วยความโมโห
แต่โชคร้ายที่พละกําลังที่จางเซวียนสําแดงถูกจํากัดไว้ดว้ ยอาการ
บาดเจ็บของเขา
“ก็กลืนลงไปแล้วนี่ แต่ผมอึมนั ออกมาได้นะถ้าคุณต้องการ” นํ้าเต้า
ตงฉู่ส่ายก้นอย่างเบิกบานใจ
“อึบา้ นแกสิ !” จางเซวียนทุ่มนํ้าเต้าตงฉู่ลงกับพื้นแล้วกระทืบมันสอง
หนด้วยความโมโหเดือด ก่อนที่ความโกรธจะทุเลาลงเล็กน้อย “ฉัน
ขอเตือนแกนะ ถ้าแกกล้ารบกวนการฟื้ นฟูสภาพร่ างกายของฉันอีก
หนเดียว ฉันจะโยนแกลงในบ่อเกรอะ!”
“คุณได้รับบาดเจ็บจากคลื่นความสัน่ สะเทือนของมิติและเวลา
พละกําลังทําลายล้างของมันยังตกค้างอยูใ่ นร่ างกายนะ แล้วคุณรู ้
หรื อเปล่าว่าการกินยาเม็ดนัน่ น่ะจะทําให้คุณต้องใช้เวลาฟื้ นฟูสภาพ
ร่ างกายนานแค่ไหน?” นํ้าเต้าพรั่งพรู อย่างหมดความอดทน
“แกกําลังจะบอกฉันว่ายาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงินไม่ดีพอจะเยียวยาอาการ
บาดเจ็บของฉันหรื อ?”
จางเซวียนไม่อาจใช้หอสมุดเทียบฟ้าตรวจสอบสภาพสภาพร่ างกาย
ของเขา อีกทั้งขับเคลื่อนพลังปราณเพือ่ สํารวจอาการของอวัยวะ
ภายในก็ไม่ได้ จึงประเมินไม่ถูกว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองสาหัส
แค่ไหน
“โธ่! มันรักษาได้แค่อาการบาดเจ็บทัว่ ไปเท่านั้น…แต่ถา้ เป็ นอาการ
บาดเจ็บที่เกิดจากคลื่นความสัน่ สะเทือนของมิติและเวลาล่ะก็ ต่อให้
คุณกินยานัน่ เป็ นตันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก” นํ้าเต้าตอบ
“ถ้าอย่างนั้น…ฉันต้องกินยาชนิดไหน?” จางเซวียนถาม
เขารู ้วา่ นํ้าเต้าตงฉู่จะต้องมีความพิเศษบางอย่าง คราวนี้จึงตัดสิ นใจ
ถามความคิดเห็นของมัน บางทีอาจได้อะไรดี ๆ ก็เป็ นได้
“คุณต้องกินยาที่มีอานุภาพรักษาบาดแผลจากคลื่นความสัน่ สะเทือน
ของมิติและเวลาโดยเฉพาะ แต่ยาชนิดนี้กห็ ายากและแพงมาก คน
อย่างคุณน่ะไม่มีปัญญาหาได้หรอก…แต่คุณก็ยงั โชคดีนะ ถ้าคุณนํา
ยาแบบเมื่อครู่ น้ ีมาให้ผมอีกสัก 2-3 เม็ดแล้วปล่อยให้ผมกินล่ะก็ ผม
จะบอกให้วา่ คุณจะรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างไร…” นํ้าเต้าคุยเขื่อง
แต่ยงั ไม่ทนั จะพูดจบ จางเซวียนก็กระเสื อกกระสนไปจนถึงประตู
ห้องและตะโกนเรี ยก “ตั้นเฉี่ยวเทียน เอาเครื่ องตัดมา!”
“เครื่ องตัด?”
“ผมมีน้ าํ เต้าอยูล่ ูกหนึ่งที่ตอ้ งผ่าครึ่ ง ถ้าคุณไม่มีเครื่ องตัดล่ะก็ เอา
ขวานมาก็ได้!” จางเซวียนตะโกน
ทันทีที่ขวานถึงมือ จางเซวียนเล่นงานนํ้าเต้าตงฉู่ทนั ที เขาใช้ขวาน
จามมันอย่างโกรธเกรี้ ยวราวกับคนคลุม้ คลัง่
เห็นจางเซวียนเอาจริ ง นํ้าเต้ารี บยอมแพ้ “ก็ได้…ก็ได้! ผมจะบอกให้
ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อันที่จริ ง เหตุผลที่ผมอยากได้ยาเม็ดนั้นน่ะ
ไม่ใช่เพราะผมตะกละหรื อโลภมากนะ แต่เป็ นเพราะพลังงานของ
ผมร่ อยหรอและต้องการยาเม็ดเพื่อเข้าไปฟื้ นฟูสภาพของมันสัก
เล็กน้อยก่อนที่ผมจะเยียวยาบาดแผลให้คุณได้!”
“อย่าเล่นตุกติกกับฉัน…” จางเซวียนจ้องหน้านํ้าเต้าตงฉู่ขณะกดคม
ขวานลงที่ตวั นํ้าเต้า
“มะ-ไม่หรอกน่ะ! ผมจะทําแบบนั้นทําไม…” นํ้าเต้าตงฉู่ละลํ่าละลัก
จางเซวียนส่ งสายตาเชือดเฉือนใส่ น้ าํ เต้าตงฉู่เป็ นการทิ้งท้าย เขา
กลับไปที่หอนิรันดร์และใช้เงินที่เหลืออยู่ 100,000 เหรี ยญนิรันดร์
ซื้อยาเม็ดตะวันสี น้ าํ เงินมา 5 เม็ด ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง
หลังจากได้กินยาทั้ง 5 เม็ด นํ้าเต้าตงฉู่เรออย่างพออกพอใจก่อนจะ
สัง่ การอย่างยืดยาด “เตรี ยมหม้อใส่ น้ าํ มาใบหนึ่งและนําผมลงไปต้ม
ให้เดือด…2 ชัว่ โมงหลังจากนั้นให้ดื่มนํ้านั้นลงไป แล้วบาดแผลของ
คุณจะดีข้ ึน”
“แกจะให้ฉนั ดื่มนํ้าที่แกอาบหรื อ?”จางเซวียนถึงกับอึ้ง
นี่มนั ใช่วธิ ีการรักษาที่ถูกที่ควรไหม?
“ใช่แล้ว!” นํ้าเต้าตงฉู่พดู ขณะนอนเหยียดยาวอยูก่ บั พื้น “เร็ วเข้าเถอะ
ถ้าไม่รีบทํา ผมจะกลับไปพักผ่อนแล้วนะ…”
รู ้ดีวา่ เจ้านํ้าเต้าตงฉู่หน้าด้านหน้าทนนี่จะต้องทําอย่างที่พดู จางเซวียน
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่ค่อยเชื่อถือกรรมวิธีที่น้ าํ เต้าตงฉู่แนะนํา
แต่กไ็ ม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ จึงตัดสิ นใจลองดู
จางเซวียนรี บสัง่ การตั้นเฉี่ ยวเทียนซึ่ งรออยูด่ า้ นนอกให้นาํ หม้อใส่ น้ าํ
ใบหนึ่งเข้ามาในห้อง
ไม่ชา้ ตั้นเฉี่ยวเทียนก็เข้ามาพร้อมกับหม้อใบหนึ่งที่ใส่ น้ าํ เต็ม เขา
กําลังสงสัยว่าท่านอาจารย์จะทําอะไร…ตอนแรกท่านอาจารย์กเ็ รี ยก
หาเครื่ องตัดและขวาน มาตอนนี้กต็ อ้ งการหม้อใส่ น้ าํ …คิดจะเตรี ยม
ชาบูหรื อ?
เมื่อคิดขึ้นได้ ตั้นเฉี่ยวเทียนผูเ้ อาใจใส่ กถ็ ามทันที “ท่านอาจารย์…
คุณอยากได้เนื้อแกะ ลูกชิ้นปลา หรื ออะไรทํานองนั้นไหม? ผม
เตรี ยมให้ได้ตอนนี้เลยนะ!”
“….” จางเซวียน
ต้องใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะพูดจาให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนที่แสนมีน้ าํ ใจเข้าใจ
ว่าเขาไม่ได้คิดจะกินชาบู และหลังจากส่ งศิษย์สายตรงคนที่ 10 ของ
เขาออกจากห้องแล้ว จางเซวียนก็จุดไฟที่กน้ หม้อก่อนจะโยนนํ้าเต้า
ตงฉู่ลงไป
ตอนที่ 1928 ท่ านอาจารย์ เกิดอะไรขึน้ กับผม?
นํ้าเต้าตงฉู่ดูจะไม่เดือดร้อนกับอุณหภูมิในหม้อใบนั้น มันว่ายไปมา
อย่างอิสระเสรี อยูค่ รู่ หนึ่ง แล้วอีกสักพักก็ดาํ ลงไปใต้น้ าํ ราวกับกําลัง
ใช้เวลาพักผ่อนอย่างมีความสุ ข
ภาพอันเหลือเชื่อนั้นทําให้จางเซวียนกุมขมับขณะสงสัยว่าเขาบ้าไป
แล้วหรื อเปล่าที่ฟังคําแนะนําของนํ้าเต้าตงฉู่
เขาคือบุคคลผูโ้ ดดเด่นในทวีปแห่งปรมาจารย์ แต่ที่นี่, มิติเบื้องบน
แห่งนี้ เขารู ้สึกเหมือนตัวเองเป็ นเบ๊ เป็ นลูกไล่ของนํ้าเต้าตงฉู่ ทําให้
ขัดอกขัดใจมาก
ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือเขายังไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริ งแล้วเจ้านํ้าเต้า
พิลึกพิลนั่ นี้คืออะไร?
ขณะที่นกั รบคนอื่น ๆ สามารถสัง่ การบรรดาของลํ้าค่าของพวกเขา
ให้ทาํ ตามใจได้ เจ้านี่กลับเข้าไปอยูใ่ นจุดตันเถียนของเขาทันทีที่เจอ
หน้ากัน แถมยังปฏิเสธไม่ยอมออกมาด้วย ยิง่ ไปกว่านั้น ยังพยายาม
ฉกฉวยข้าวของทุกอย่างของเขาไปเป็ นของตัวเอง…
ดูเหมือนนํ้าเต้าตงฉู่พร้อมจะเล่นงานจางเซวียนทันทีที่เขาไม่ทนั ระวังตัว
และเรื่ องที่ทาํ ให้เขาโมโหเดือดจนถึงตอนนี้กค็ ือไม่รู้เลยว่าต้องมาลง
เอยกับของบ้า ๆ ชิ้นนี้ได้อย่างไร?
2 ชัว่ โมงผ่านไป นํ้าเต้าตงฉู่ไม่เอ่ยปากร้องขอให้จางเซวียนนําตัวมัน
ออกจากหม้อ มันกระโจนออกจากหม้อและสลัดเนื้อตัวเพื่อไล่น้ าํ
ออก ก่อนจะรี บกลับเข้าไปอยูใ่ นจุดตันเถียนของจางเซวียน
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขายกหม้อขึ้นจิบ มันให้ความรู ้สึก
สดชื่นที่แผ่ซ่านไปทัว่ ร่ างทันที บรรเทาอาการเจ็บปวดจากบาดแผล
ได้อย่างชะงัด
ใช้ได้ผลจริ ง ๆ …จางเซวียนตาโตด้วยความตื่นเต้น
เขาเตรี ยมขวานไว้แล้วเผือ่ กรณี ที่น้ าํ เต้าตงฉู่จะหลอกลวงเขา แต่ก็
ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามันได้ผล!
นํ้าเต้าตงฉู่คือของลํ้าค่าชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับมิติ ซึ่งนัน่ อาจเป็ นเหตุผล
ที่ทาํ ให้มนั รักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากคลื่นความสัน่ สะเทือนของ
มิติและเวลาได้…จางเซวียนสันนิษฐาน
ไม่ชา้ เขาก็ดื่มนํ้าจนหมดหม้อ อาการบาดเจ็บดีข้ ึนทันตาเห็น
ภายในไม่ถึง 1 ชัว่ โมง ผ้าพันแผลที่พนั รอบตัวจางเซวียนก็ร่วงลงไป
กองกับพื้น
ในที่สุด อาการบาดเจ็บของเราก็หายดี แต่เรายังไม่ได้พลังปราณ
กลับคืนมา…จางเซวียนคิด
เขาไม่ใช่คนป่ วยอีกแล้ว แต่พลังปราณที่สูญเสี ยไปยังไม่ได้รับการ
เติมเต็ม
จางเซวียนจึงทรุ ดตัวลงนัง่ กับพื้นอีกครั้งและซึมซับพลังจิตวิญญาณ
หน้าตาเหมือนปรอทซึ่งอยูร่ อบตัวอย่างระมัดระวัง เขาเปิ ดจุดชีพจร
ทั้งหมดและซึมซับพลังงานนั้นอย่างช้า ๆ
ซรื ดดดดด!
ทันทีที่พลังงานพวยพุง่ เข้าสู่ร่าง จางเซวียนรู ้สึกได้ถึงนํ้าหนักที่กดทับ
ทางเดินพลังปราณของเขา แต่โชคดีที่ไม่มีอาการตึงเครี ยดเหมือนจะ
ฉี กขาดอย่างที่เคยเป็ นมาก่อน
ร่ างกายของเราเริ่ มจะคุน้ ชินกับพลังงานนี้ไปพร้อม ๆ กับบาดแผลที่
ดีข้ ึนใช่ไหม? จางเซวียนตาโต
เขาขับเคลื่อนพลังปราณเทียบฟ้าแบบปกติแทนที่จะเป็ นแบบย้อนกลับ
ซึ่งครั้งล่าสุ ดที่เขาทําแบบนี้ในอาณาจักรคุนฉื่ อ ก็เกือบทําให้ทางเดิน
พลังปราณของตัวเองฉีกขาด แต่บาดแผลที่ได้รับการเยียวยาในครั้งนี้ดู
จะทําให้ทางเดินพลังปราณของเขาแข็งแกร่ งขึ้น ส่ งผลให้จางเซวียน
รับพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทเข้าสู่ ร่างกายได้โดย
ปราศจากปัญหา
ขณะที่พลังจิตวิญญาณเข้าสู่ ร่างกาย จางเซวียนรี บขับเคลื่อนมันให้
ไหลเวียนไปทัว่ ร่ างอย่างรวดเร็ วและแปรสภาพให้กลายเป็ นพลัง
ปราณ
“ถ้าเป็ นอย่างนี้ เราคงฟื้ นตัวได้ดงั เดิมภายใน 3 วัน!” จางเซวียนคิด
คํานวณอัตราการซึมซับพลังงานของเขาอย่างรวดเร็ วก่อนจะถอน
หายใจอย่างโล่งอก
ในฐานะเซียนฟ้าประทานและครู บาอาจารย์ของโลก ปริ มาณพลัง
ปราณของเขาอยูใ่ นระดับที่เรี ยกว่าน่าทึ่ง ต่อให้มีเคล็ดวิชาเทียบฟ้า
และพลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทซึ่ งอบอวลอยูใ่ นอากาศ
จางเซวียนก็ยงั ต้องใช้เวลาถึง 3 วันเต็มกว่าจะเรี ยกพลังปราณกลับคืน
มาได้ในระดับเดิม
แต่ขอแค่เขาพอมีพลังปราณอยูบ่ า้ ง ก็สามารถสําแดงพละกําลังของ
นักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติข้นั ต้นได้ พูดอีกอย่างก็คือ ในเมืองชวนเจียง
แห่งนี้ไม่มีอะไรให้เขาต้องหวาดกลัวอีกต่อไป
จางเซวียนฝึ กฝนวรยุทธอีกระยะหนึ่งจนมีกระแสพลังปราณนับร้อย
กระแสอยูใ่ นจุดตันเถียน ก่อนจะเรี ยกตั้นเฉี่ยวเทียนเข้ามา
ทันทีที่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าผ้าพันแผลของท่านอาจารย์
หลุดออกจนหมดแล้ว ความอ่อนเพลียที่อีกฝ่ ายเคยมีก่อนหน้านี้หาย
วับไป เขาตาโตด้วยความตื่นเต้นขณะถามว่า “ท่านอาจารย์ คุณหายดี
แล้วหรื อ?”
“ใช่ ผมอยากให้คุณออกหมัดพื้นฐานให้ผมดูเดี๋ยวนี้ ผมจะหาตําแหน่ง
ของหนอนกูใ้ นตัวคุณและกําจัดมันให้คุณเสี ยเลย!” จางเซวียนตอบ
ยิม้ ๆ
ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้า จากนั้นก็รีบออกหมัดพื้นฐาน
หลังจากได้เห็นหมัดพื้นฐาน จางเซวียนระบุตาํ แหน่งของหนอนกู้
แล้วทาบฝ่ ามือของเขาลงบนบริ เวณนั้นอย่างแผ่วเบา
ฟิ้ ววววว!
กระแสพลังปราณเทียบฟ้าพุง่ เข้าสู่ ร่างของตั้นเฉี่ยวเทียนผ่านทางจุด
ชีพจร เพียงครู่ เดียวก็เข้าถึงจุดที่หนอนกูซ้ ่อนตัวอยู่
ซรื ดดดดด!
ราวกับเกิดภัยพิบตั ิทางธรรมชาติครั้งใหญ่ หนอนกูท้ ี่นอนเกียจคร้าน
อยูเ่ มื่อครู่ เผ่นหนีอย่างพรั่นพรึ งเมื่อรู ้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลที่พงุ่
เข้าหามัน แต่ยงั ไม่ทนั จะไปได้ไกล กระแสพลังปราณอีกสายก็เข้า
มาสกัดกั้นหนทางหลบหนี
มันถูกล้อม
เมื่อเจอกับการโจมตีของกระแสพลังปราณ 2 สาย หนอนกูก้ แ็ หลก
สลายไป
ทันทีที่จางเซวียนนําซากหนอนกูอ้ อกมา ร่ างของตั้นเฉี่ยวเทียนก็
บวมฉึ่งอย่างรวดเร็ วจนน่าสยดสยองราวกับมีใครเป่ าลมใส่ เขาตัว
พองเหมือนบอลลูน
“ท่านอาจารย์ เกิดอะไรขึ้นกับผม?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนรู ้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลที่พร้อมจะฉีกกระชากร่ าง
ของเขาออกจากกันได้ทุกขณะ เขาหน้าซีดเผือดด้วยความพรั่นพรึ ง
“ผมเคยบอกคุณแล้ว เหตุผลที่ระดับวรยุทธของคุณไม่กา้ วหน้าทั้งที่
คุณหมัน่ เพียรฝึ กฝนตลอด 10 ปี ที่ผา่ นมาไม่ใช่เพราะคุณขยันไม่มาก
พอ แต่เป็ นเพราะพลังจิตวิญญาณที่คุณซึ มซับเข้าไปถูกหนอนกูท้ ี่อยู่
ในตัวฉกฉวยไปหมด คุณคงนึกภาพออกนะว่าพลังงานที่มนั ขโมยไป
จากคุณตลอด 10 ปี ที่ผา่ นมามีปริ มาณมากมายแค่ไหน!” จางเซวียน
อธิบายยิม้ ๆ
“ตอนนี้พลังงานเหล่านั้นกลับคืนสู่ ตวั คุณแล้ว จึงเกิดภาวะพลังงาน
ล้นขึ้นมา รี บซึ มซับพลังงานเหล่านี้ดว้ ยเทคนิควรยุทธที่ผมกําลังจะ
ถ่ายทอดให้ อย่าได้รีรอ” จางเซวียนพูดขณะถ่ายทอดเคล็ดวิชาเทียบ
ฟ้าฉบับเรี ยบง่ายเข้าสู่ หวั สมองของตั้นเฉี่ ยวเทียน
ตั้นเฉี่ ยวเทียนไม่มีเวลาพิจารณารายละเอียดที่เพิ่งได้รับ แต่เพราะ
เชื่อมัน่ ว่าท่านอาจารย์จะไม่ทาํ ร้ายเขา จึงเริ่ มขับเคลื่อนพลังปราณ
ตามกรรมวิธีที่ระบุไว้
ทันทีที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนเริ่ มซึมซับพลังงานเข้าสู่ ร่างกาย ก็รู้สึกว่ามี
บางอย่างผิดปกติ
โดยทัว่ ไป เมื่อใครสักคนซึมซับพลังจิตวิญญาณเข้าสู่ พลังปราณ ก็
จะต้องขัดเกลาและปรับมันให้เข้ากันกับสภาวะร่ างกายเสี ยก่อน แต่
พลังงานที่เขาได้คืนมาจากหนอนกูไ้ ม่ตอ้ งผ่านขั้นตอนแบบนั้นเลย
ราวกับพลังงานเหล่านี้เป็ นของเขาอยูแ่ ล้วตั้งแต่แรกเริ่ ม ทําให้ควบคุม
และซึมซับมันได้อย่างสบาย
“คุณเป็ นคนฝึ กฝนวรยุทธเพือ่ ให้ได้พลังงานเหล่านี้มาตั้งแต่ตน้ จึง
เป็ นธรรมดาที่จะขับเคลื่อนมันได้ง่าย รี บหน่อย, กระบวนการจะได้
เสร็ จสิ้ นก่อนพลบคํ่า!” จางเซวียนอธิบายพร้อมกับยิม้ ให้
“ขอรับ”
ตั้นเฉี่ยวเทียนหลับตาและเพ่งสมาธิกบั การซึมซับพลังงานในร่ างกาย
ทางเดินพลังปราณของเขาถูกเปิ ดออกอย่างรวดเร็ ว ทําให้พลังงาน
ไหลเวียนไปทัว่ อย่างราบรื่ น วรยุทธของเขาที่หยุดชะงักอยูท่ ี่นกั รบ
ระดับเซียนขั้น 6 เริ่ มก้าวหน้าด้วยความเร็ วอันน่าทึ่ง
วรยุทธระดับเซียนขั้น 7!
วรยุทธระดับเซียนขั้น 8!
วรยุทธระดับเซียนขั้น 9!
ตั้นเฉี่ยวเทียนสําเร็ จวรยุทธเป็ นนักรบระดับเซียนขั้น 9 ในชัว่ พริ บตา
แต่วรยุทธของเขาก็ยงั ไม่แสดงทีท่าว่าจะหยุด
เขาไม่ตอ้ งผ่านการทดสอบวรยุทธหรื อ? จางเซวียนขมวดคิ้ว
ในทวีปแห่งปรมาจารย์ ผูท้ ี่สาํ เร็ จวรยุทธระดับเซี ยนขั้น 8 จะต้องเจอ
กับการทดสอบการแบ่งแยกมิติ และผูท้ ี่สาํ เร็ จวรยุทธระดับเซี ยนขั้น
9 จะต้องเจอกับการทดสอบก้าวสู่ จกั รวาล ในครั้งนั้น จางเซวียนต้อง
ใช้ความพยายามมากมายกว่าจะผ่านมันไปได้
แต่ศิษย์สายตรงคนที่ 10 ของเขากลับก้าวหน้าไปได้โดยไม่เจอปัญหา
ใด ๆ เลย
คงเป็ นเพราะสวรรค์ของมิติเบื้องบนแข็งแกร่ งกว่า สําหรับพวกเขา
วรยุทธระดับเซียนขั้น 8 และขั้น 9 น่าจะไม่ต่างอะไรกับวรยุทธขั้น
จงซรื อและจื้อจุน จึงไม่จาํ เป็ นต้องส่ งการทดสอบวรยุทธลงมาตอบ
โต้…จางเซวียนครุ่ นคิด
เมื่อพิจารณาจากการที่พลเมืองธรรมดาสามัญของมิติเบื้องบนจะ
สําเร็ จวรยุทธระดับเซียนขั้น 9 ได้เองเมื่อถึงวัยผูใ้ หญ่ ก็เป็ นไปได้วา่
สวรรค์คงเหนื่อยตายเสี ยก่อนหากต้องส่ งการทดสอบสายฟ้าลงมา
ให้คนเหล่านั้นจนครบ
ขณะที่จางเซวียนกําลังคิดอะไรไปเรื่ อยเปื่ อย ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ฝ่าด่าน
วรยุทธไปได้ถึงระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่
การพักฟื้ นภายใน, ร่ างอันทรงเกียรติ, แรงผลักดันสัญชาตญาณ…
วรยุทธของเขาก้าวหน้าไปจนถึงระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3
ก่อนจะค่อย ๆ หยุดลง
หนอนกูไ้ ด้ฉกฉวยเอาความเหนื่อยยากตลอด 10 ปี ที่ผา่ นมาของเขา
ไป แต่เมื่อมันถูกกําจัด ก็ทาํ ให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนก้าวหน้าได้ทีเดียวถึง 6
ขั้น สําเร็ จวรยุทธระดับเดียวกันกับเฉว่ชิง!
“ไม่เลว!” จางเซวียนพยักหน้าอย่างพอใจ
ศิษย์สายตรงคนนี้ของเขาเหมือนลู่ชง คือมีหวั ใจเด็ดเดี่ยวมุ่งมัน่
ใครก็ตามที่ตอ้ งเผชิญกับความยากลําบากแบบเขาคงจะถอดใจและ
สิ้ นหวังกับชีวติ แต่สาํ หรับตั้นเฉี่ยวเทียน แม้จะรู ้ตวั ว่าไม่อาจก้าวหน้า
ไปกว่าเดิม แต่กย็ งั อดทนและซึมซับพลังจิตวิญญาณอยูท่ ุกวีว่ นั
ความมุ่งมัน่ นี้นาํ มาซึ่งความสําเร็ จอย่างที่เห็น
มีแต่ผเู ้ พียรพยายามเท่านั้นที่จะได้รับสิ่ งตอบแทน โลกนี้ไม่มีของฟรี
“ท่านอาจารย์!”
พละกําลังมหาศาลไหลพล่านไปทัว่ ร่ างของเขา ความรู ้สึกที่กลับคืน
สู่ ขาข้างซ้ายทําให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนนํ้าตาคลอ เมื่อกลั้นไว้ไม่ไหว เขา
ทรุ ดตัวลงคุกเข่าและรํ่าไห้
แม้จะมีความมุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยวแค่ไหน แต่เขาก็เป็ นแค่เด็กวัยรุ่ นคนหนึ่ง
เขาเคยคิดอยากตายให้พน้ จากความอับอายที่ถูกคู่หมั้นปฏิเสธ แต่
ท่านอาจารย์ของเขาได้เปลี่ยนเป้าหมายของทั้งชีวติ ไปอย่างสิ้ นเชิง
“ความมีน้ าํ ใจย่อมได้รับความมีน้ าํ ใจตอบแทน คุณคือผูย้ นื่ มือช่วยเหลือ
ผม และคุณก็คู่ควรกับทุกสิ่ งที่ได้รับในเวลานี้…” จางเซวียนตอบยิม้ ๆ
“ในเมื่อวรยุทธของคุณเข้าถึงขั้นแรงผลักดันสัญชาตญาณแล้ว ผมขอ
ถ่ายทอดเทคนิคการต่อสู เ้ พื่อป้องกันตัวบางส่ วนให้คุณนะ”
คงเป็ นความสู ญเปล่าหากตั้นเฉี่ยวเทียนมีวรยุทธที่ทรงพลัง แต่
ปราศจากเทคนิคการต่อสู ท้ ี่จะนํามาใช้ให้สอดคล้องกัน
ตอนที่ 1929 ชื่ อของเขา?
ดูฉือจูเป็ นตัวอย่าง เขาใช้เวลา 200 ปี ในการบ่มเพาะพลังงานภายใน
ร่ างกาย แต่นาํ มันมาใช้ไม่ได้ ทําให้เกิดปั ญหามากมายตามมา
“ผมรู ้วา่ คุณฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบมานานแล้ว และผมก็บงั เอิญคิดค้น
ศิลปะเพลงดาบขึ้นมาชุดหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ อยากให้คุณลองดูวา่
จะเรี ยนรู ้มนั ได้หรื อไม่”
นับตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ตั้นเฉี่ ยวเทียนทุ่มเทเวลาให้กบั การฝึ กฝนวรยุทธ
และศิลปะเพลงดาบ แม้ความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบของเขาจะ
ไม่โดดเด่นอะไร แต่กค็ ุน้ ชินกับการใช้อาวุธมานาน จึงไม่คิดจะเปลี่ยน
ไปเป็ นอาวุธชนิดไหน อีกอย่าง จางเซวียนรู ้สึกว่าตั้นเฉี่ยวเทียนน่าจะ
เหมาะสมกับศิลปะเพลงดาบที่เขาเพิ่งได้มาจากหอนิรันดร์
ไม่ชา้ ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ได้ศึกษาศิลปะเพลงดาบ
มีเพียงกระบวนท่าเดียวในศิลปะเพลงดาบนั้น ซึ่งก็คือการโยนดาบ
แต่กระบวนท่านี้ซบั ซ้อนกว่าที่เห็นมาก ผูฝ้ ึ กฝนต้องควบคุมพละกําลัง
ให้ได้อย่างแม่นยําเพื่อเล่นงานจุดอ่อนและฝ่ าด่านการป้องกันตัวของ
ศัตรู ให้ได้
ตั้นเฉี่ ยวเทียนรู ้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเส้นทางที่นาํ ไปสู่ ความเชี่ยวชาญ
ในเทคนิคนี้เต็มไปด้วยความยากลําบาก
อันดับแรก เขาต้องมีความรู ้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ งในพละกําลังของ
คู่ต่อสู ้ และสามารถออกตัวเพื่อโจมตีได้ก่อน อันดับสอง ความเร็ ว
คือกุญแจสําคัญของการเคลื่อนไหวรู ปแบบนี้
แม้เทคนิคจะยากเย็นไม่นอ้ ย แต่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนมีความตั้งใจมุ่งมัน่ เขา
ทุ่มเททุกอย่างให้กบั การฝึ กฝน เพราะเกรงว่าจะทําให้ท่านอาจารย์ไม่
พอใจ
“ดีมาก!” จางเซวียนพยักหน้า
ศิษย์สายตรงที่เขาเพิ่งรับไว้คนนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับจ้าวหย่า หยวนเทา
และคนอื่น ๆ ในแง่ของสติปัญญาและความปราดเปรื่ อง แต่กลับ
เหนือชั้นกว่าคนเหล่านั้นในด้านทัศนคติแง่บวกและความขยันหมัน่ เพียร
หลังจากฝึ กฝนอยู่ 2 ชัว่ โมง จางเซวียนรู ้วา่ ตั้นเฉี่ ยวเทียนได้รับความ
เข้าใจเบื้องต้นของเทคนิคที่เขามอบให้แล้ว ซึ่งก็ได้เวลากลับที่พกั
พอดี
“แกล้งทําเป็ นพิการต่อไปนะ” จางเซวียนส่ งโทรจิตเตือนตั้นเฉี่ ยวเทียน
ตั้นเฉี่ยวเทียน, ซึ่ งเมื่อครู่ น้ ีเดินเหิ นอย่างคนปกติรีบทําเป็ นพิการอีก
ครั้ง เหมือนอย่างที่เขาเป็ นตลอด 10 ปี ที่ผา่ นมา
ด้วยการฝ่ าด่านวรยุทธ ไม่เพียงแต่ขาของเขาจะหายดี ความสู งก็ยงั
เพิม่ ขึ้นไม่นอ้ ย แม้จะยังไม่สูงเท่าจางเซวียน แต่กส็ ู งพอ ๆ กับมิตร
สหายรุ่ นราวคราวเดียวกัน ตั้นเฉี่ยวเทียนรู ้ดีวา่ คําสัง่ ของท่านอาจารย์
ย่อมมีเหตุผล จึงค้อมตัวลงเพื่อให้ดูเตี้ยเหมือนอย่างเคย ผูท้ ี่ไม่สนิท
สนมกับเขาจะไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรแตกต่างจากเดิม
ถึงตอนนี้ ฟ้าก็มืดแล้ว เมื่อผูอ้ าวุโสอี้มาถึงพร้อมกับเกี้ยวเทียมม้า สิ่ ง
แรกที่เขารู ้สึกได้คือตั้นเฉี่ยวเทียนที่เปลี่ยนไป เขาตัวแข็งด้วยความ
อัศจรรย์ใจ
ผูอ้ าวุโสอี้กาํ ลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็พอดีกบั ที่เห็นนายน้อยที่ 3
ส่ ายหน้า
รู ้ดีวา่ อีกฝ่ ายย่อมมีเหตุผล ผูอ้ าวุโสอี้รีบกลบเกลื่อนความประหลาด
ใจและความยินดีปรี ดาไว้ แต่กท็ รุ ดตัวลงคุกเข่ากับพื้นและโค้งคํานับ
ให้จางเซวียนหลายครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วเชิญทั้งสองให้เข้าไป
ในเกี้ยว
เขาคิดอยูเ่ สมอว่านายน้อยที่ 3 ใจดีเกินไปที่ช่วยคนอื่นไว้ท้ งั ที่ตระกูล
ของพวกเขากําลังอยูใ่ นภาวะคับขัน แต่ใครจะไปคิดว่าความมีน้ าํ ใจ
ของนายน้อยจะกลายเป็ นสิ่ งที่เปลี่ยนแปลงชีวติ ของพวกเขาอย่าง
สิ้ นเชิง
“นายท่าน…ในที่สุดนายน้อยที่ 3 ก็หายดีแล้ว” ผูอ้ าวุโสอี้พึมพํากับ
ตัวเองด้วยนัยน์ตาแดงกํ่า
เขาปาดนํ้าตาแห่งความปี ติยนิ ดีที่เอ่อขึ้นมา จากนั้นก็กระตุน้ ม้าให้
รี บกลับสู่ ตระกูลตั้น
ไม่นานหลังจากทั้งสามจากไป เงาหลายเงาก็ปรากฏขึ้นที่มุมถนน
คนเหล่านั้นเล็ดลอดผ่านความมืดมิดเพื่อแกะรอยการเดินทางของ
เกี้ยว
…..
เมืองแสงดาว
“คุณได้ข่าวไหม? ผูเ้ ชี่ยวชาญผูไ้ ร้เทียมทานคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่
หอนิรันดร์ในวันนี้ เขาได้ชยั ชนะถึง 8 นัดรวดในการประลอง และ
สุ ดท้ายก็ไม่มีทางเลือก ต้องจากไปเพราะไม่มีใครยอมดวลกับเขา
อีก!”
“เอาชนะได้ 8 นัดรวด? สวรรค์โปรด! หลายร้อยปี มาแล้วนับตั้งแต่
ผูเ้ ชี่ยวชาญคนสุ ดท้ายปรากฏตัวขึ้นในหมู่พวกเรา ลองคิดดูสิ บรรดา
นักรบของสํานักดาบเมฆเหิ นกําลังเปิ ดรับศิษย์สายตรงในเมืองนี้อยู่
ใช่ไหม? จะเป็ นใครคนหนึ่งในนั้นหรื อเปล่า?”
“ผมก็สงสัยอยู่ เหล่านักรบของสํานักดาบเมฆเหิ นเข้าท้าทายผูเ้ ชี่ยวชาญ
คนนั้นเหมือนกัน แต่กพ็ า่ ยแพ้ในกระบวนท่าเดียว!”
“เอาจริ ง ๆ สิ ? คุณรู ้ได้อย่างไร?”
“ในกลุ่มสี่ นกั รบจากสํานักดาบเมฆเหิ น มีคนหนึ่งชื่ออวิน๋ เฟยหยาง
ใช่ไหม? มีนกั รบคนหนึ่งในหอนิรันดร์ที่ใช้ฉายาเมฆผงาด รู ปร่ าง
หน้าตาของเขาเหมือนกับอวิน๋ เฟยหยาง ยิง่ ไปกว่านั้น กระบวนท่าที่
เขาใช้กเ็ ห็นได้ชดั ว่าเป็ นของสํานักดาบ…แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ถูก
แทงที่ศีรษะภายในกระบวนท่าเดียว และตายทันที…”
“ผูเ้ ชี่ยวชาญคนนั้นทรงพลังขนาดนั้นเลย? เขาชื่ออะไร?”
“ชื่อของเขา? คิดก่อนนะ…รู ้สึกว่าเขาชื่อเจ้าโลก!”
“เป็ นชื่อที่เยีย่ มยอดอะไรอย่างนี้! ยิง่ ใหญ่และลํ้าลึกเกินหยัง่ แค่ได้
ยินชื่อก็เกินพอจะทําให้ผมเย็นเยือกไปถึงกระดูกสันหลังแล้ว!”
“….”
…..
ข่าวแพร่ สะพัดไปอย่างรวดเร็ ว ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชัว่ โมงตั้งแต่จาง
เซวียนออกจากหอนิรันดร์ ผูเ้ ชี่ยวชาญเกือบทุกคนในเมืองแสงดาวก็
รับรู ้วรี กรรมของเขา ในชัว่ พริ บตา หอนิรันดร์กเ็ ต็มไปด้วยฝูงชน
มากมายที่เป็ นผูฝ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบ พวกเขาเฝ้ารออยูห่ น้าสังเวียน
ประลอง หวังให้ผเู ้ ชี่ยวชาญที่มีฉายาว่าเจ้าโลกปรากฏตัวอีกครั้ง เพื่อ
จะได้ชื่นชมศิลปะเพลงดาบอันลํ้าเลิศของเขา
…..
เมืองแสงดาว, บ้านพักเจ้าเมือง
นี่คือสถานที่ที่บรรดาแขกผูท้ รงเกียรติจากสํานักดาบเมฆเหิ นมาพัก
ค้างอ้างแรม
ในลานบ้านขนาดใหญ่ ชายชราคนหนึ่งกําลังฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบ
ของเขา
การเคลื่อนไหวของชายชราเชื่องช้ามาก ดูเหมือนไร้เรี่ ยวแรง แต่ทุก
ครั้งที่เขาขยับดาบ ก็ให้ความรู ้สึกเหมือนผืนโลกจะฉี กขาด บรรยากาศ
ที่อยูโ่ ดยรอบลานบ้านตึงเขม็งขึ้นมาภายใต้กระบวนท่าของเขา มัน
รวมตัวกัน เกิดเป็ นพายุทอร์นาโดขนาดใหญ่
ในลานบ้านนั้นมีดอกไม้และต้นไม้ใบหญ้างอกงามอยูม่ ากมาย เมื่อ
กระแสลมจากดาบพัดผ่าน ก็น่าประหลาดใจที่ไม่ก่อให้เกิดความ
เสี ยหายใด ๆ กับพวกมัน แต่หยดนํ้าค้างที่อยูเ่ หนือดอกไม้และใบไม้
เหล่านั้นดูจะหายวับไปทันที
สามารถกําจัดนํ้าค้างออกจากดอกไม้ใบหญ้าได้โดยไม่ทาํ ให้พวกมัน
บอบชํ้า นี่คือการควบคุมพละกําลังในระดับที่เรี ยกว่าน่าทึ่ง
ฟึ่ บ!
ในที่สุดผูอ้ าวุโสก็หยุดการฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบและระบายลมหายใจ
เป็ นควันขาวขุ่นออกมา ควันสี ขาวลอยสู งขึ้นราว 30 เมตรก่อนจะ
สลายตัวไปในความมืดมิดยามคํ่าคืน
“เข้ามาได้!” ผูอ้ าวุโสร้องเรี ยกขณะล้างมือในถังนํ้าที่อยูข่ า้ งลานบ้าน
เขารู ้ตวั สักระยะหนึ่งแล้วว่ามีผมู ้ าเยือนรออยูห่ น้าประตู และรู ้วา่ คน
เหล่านั้นคือศิษย์นอ้ งที่เขาพามาด้วย แต่เพราะกําลังอยูร่ ะหว่างการ
ฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบ จึงปล่อยให้พวกนั้นรอไปก่อน
แอ๊ด!
อวิน๋ เฟยหยาง หวงเทา ไม้ไผ่ และหน้าเหลี่ยมเดินเข้ามา ทุกคนรี บ
โค้งคํานับและทักทาย “คารวะผูอ้ าวุโสลู่!”
ชายชราที่ยนื อยูต่ รงหน้าพวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
ชายผูท้ าํ หน้าที่ดูแลการรับศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น
“อือ!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เดินไปที่โต๊ะหิ นในลานบ้านและทรุ ดตัวลงนัง่
“บอกมาซิ มาหาผมดึกดื่นคํ่าคืนแบบนี้ มีเหตุผลอะไร?”
ทันทีที่ได้ออกจากสํานักดาบเมฆเหิ น เจ้าหนุ่มกลุ่มนี้กท็ าํ ตัวเหมือน
นกคีรีบูนที่ถูกปล่อยออกจากกรง พยายามหลบเลี่ยงไม่มาพบหน้า
เพราะเกรงว่าจะถูกจํากัดอิสรภาพ แต่วนั นี้ทุกคนกลับมารวมตัวกัน
ที่ดา้ นนอกลานบ้านของเขา…จะต้องเกิดเรื่ องบางอย่างแน่
“ผูอ้ าวุโสลู่ เมื่อไม่นานมานี้ อวิน๋ เฟยหยางกับหวงเทาไปที่หอนิรันดร์
ของเมืองแสงดาว พวกเขาดวลกับใครคนหนึ่งในสังเวียนประลอง…”
หน้าเหลี่ยมก้าวออกมารายงาน
ผูอ้ าวุโสลู่หน้าตึงทันที “ผมพอเข้าใจความรู ้สึกของพวกคุณ รํ่าเรี ยน
เทคนิคมาก็มากมาย คงอยากสําแดงมันให้ใคร ๆ เห็น แต่ในฐานะ
ศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น คุณควรจัดลําดับความสําคัญให้
ถูกต้อง เหตุผลที่คุณรํ่าเรี ยนศิลปะเพลงดาบก็เพื่อบ่มเพาะตัวเองและ
ค้นหาความลับของศิลปะเพลงดาบ ความขยันหมัน่ เพียรคือกุญแจที่
จะทําให้คุณได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน และนําความรุ่ งเรื องมาสู่
สํานักดาบเมฆเหิ นในท้ายที่สุด”
“วันนี้พวกคุณอาจภาคภูมิใจที่ได้เป็ นศิษย์สายตรงของสํานักดาบ
เมฆเหิ น แต่วนั พรุ่ งนี้ สํานักดาบเมฆเหิ นควรจะได้ภาคภูมิใจที่มีศิษย์
สายตรงแบบพวกคุณ…ผมขอบอกตามตรงนะ พวกคุณกําลังเสี ยเวลา
อันมีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์!”
ถ้าเกมเมอร์ผชู ้ ่าํ ชองสักคนหนึ่งไปเยือนอินเทอร์เนตคาเฟ่ แบบพื้น ๆ
ก็คงเป็ นธรรมดาที่เขาจะต้องโชว์ออฟเพื่อให้ได้รับความชื่นชมจาก
เกมเมอร์คนอื่น ๆ แม้การกระทํานั้นจะดูน่าสนใจ แต่กลับไร้ค่าอย่าง
สิ้ นเชิง เกมเมอร์ผนู ้ ้ นั ไม่ได้เรี ยนรู ้อะไรสักอย่างจากประสบการณ์ที่
ได้รับ
ได้ยนิ คํานั้น ใบหน้าของอวิน๋ เฟยหยางกับหวงเทาแดงกํ่าด้วยความ
ละอาย
“คราวนี้ผมจะไม่เอาความ แต่เรื่ องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เข้าใจ
ใช่ไหม?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ สัง่ การและโบกมืออย่างวางมาด จากนั้นก็
เลิกคิว้ ราวกับเพิง่ นึกบางอย่างได้ “สมัยก่อนที่ผมพาเหล่าศิษย์สาย
ตรงออกมา เรื่ องแบบนี้เคยเกิดขึ้นเหมือนกัน ถึงผมจะไม่เห็นด้วยกับ
การกระทําของพวกเขา แต่มนั ก็ไม่ได้ขดั กับกฎเกณฑ์ของสํานักของ
เรา…แล้วพวกคุณทั้งสี่ ก่อปั ญหาหรื อเปล่า?”
อวิน๋ เฟยหยางอึกอักเล็กน้อยด้วยความอับอาย “ผูอ้ าวุโสลู่…ตอนที่
ผมเข้าสู่ สงั เวียนประลองที่หอนิรันดร์ ผมสําแดงกระบวนท่านํ้าไหล
ไร้ขอบเขตเพื่อเล่นงานคู่ต่อสู !้ ”
“คุณสําแดงกระบวนท่านํ้าไหลไร้ขอบเขต? ต้องใช้กระบวนท่าระดับ
นี้เพื่อเอาชนะนักรบของเมืองแสงดาวหรื อ? ดูเหมือนคุณจะเจอ
ผูเ้ ชี่ยวชาญเข้าแล้วนะ!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยก
กานํ้าชาขึ้นเติมถ้วยชาของเขา
“ผมคิดค้นกระบวนท่านี้ข้ ึนได้โดยบังเอิญขณะที่กาํ ลังเฝ้ามองแม่น้ าํ
ที่ไหลเชี่ยวเมื่อสมัยอายุยงั น้อย ถึงแนวคิดของมันจะเรี ยบง่าย แต่กม็ ี
เศษเสี้ ยวของกฎเกณฑ์ธรรมชาติบรรจุอยู่ ทําให้ฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ
ได้ยากมาก ถือว่าน่าประทับใจที่คุณสามารถสําแดงมันออกมา…ซึ่ ง
ก็แน่นอนว่าคู่ต่อสู ท้ ี่สามารถกดดันให้คุณใช้กระบวนท่านี้จะต้องมี
ทักษะไม่นอ้ ยเช่นกัน ในเมื่อคุณถึงกับใช้มนั ผมเชื่อว่าคุณคงต้อน
เขาให้จนมุมและจัดการให้เขายอมแพ้ได้ใช่ไหม?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
พูดยิม้ ๆ ก่อนจะจิบชา
เขามัน่ ใจเต็มเปี่ ยมในศิลปะเพลงดาบที่ตวั เองคิดค้น บรรดานักรบใน
เมืองแสงดาวจะต้องหวาดกลัวจนยอมจํานนเมื่อเผชิญกับกระบวน
ท่านี้ของเขา
เห็นผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ หลงตัวเองขึ้นมาอีกคนหนึ่ง ความกระอักกระอ่วน
ของอวิน๋ เฟยหยางยิง่ เพิ่มขึ้น เขาพูดต่อด้วยนํ้าเสี ยงบ่งบอกความลังเล
“ตอนที่ผมสําแดงกระบวนท่านี้ คู่ต่อสู ข้ องผม…เขาแทงศีรษะของ
ผมได้ดว้ ยการโยนดาบ…”
พรวด!
ผูอ้ าวุโสลู่พน่ นํ้าชาอึกใหญ่ออกมาใส่ หน้าของหน้าเหลี่ยม ทําให้
ใบหน้าของเขาดูจะใหญ่กว่าเดิม จากนั้นก็ถามอย่างกระวนกระวาย
ด้วยนัยน์ตาเบิกโพลง “คุณว่าอะไรนะ?”
“ผม…ตั้งแต่เริ่ มการดวล ผมสําแดงกระบวนท่านํ้าไหลไร้ขอบเขต แต่
หมอนัน่ โยนดาบของเขาใส่ผม และดาบนั้นก็ทะลุผา่ นการป้องกันตัว
ของกระบวนท่านํ้าไหลไร้ขอบเขตมาแทงทะลุศีรษะของผมได้ ทํา
ให้ผมตายทันที!” อวิน๋ เฟยหยางอธิบายอีกครั้ง
“ปะ-ปะ-ปะ-เป็ นไปได้อย่างไร?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ แทบจะคลุม้ คลัง่
ตอนที่ 1930 ให้ อภัยไม่ ได้ !
ศิลปะเพลงดาบป้องกันตัวที่ทรงพลังขนาดนี้ถูกทําลายด้วยการโยน
ดาบ…เป็ นความจริ งหรื อ?
“นักรบผูน้ ้ นั เชี่ยวชาญเป็ นพิเศษในการโจมตีหรื อเปล่า?” เมื่อเห็น
อวิน๋ เฟยหยางไม่มีทีท่าว่าจะโกหก ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ซักไซ้
“เอ่อ ดูเหมือนจะเป็ นอย่างนั้น การโจมตีของเขาไร้เทียมทานมาก!”
หวงเทาตอบพร้อมกับพยักหน้ายืนยัน
จนถึงตอนนี้ เขาก็ยงั ปวดใจที่ตวั เองถูกสังหารอย่างง่ายดาย ถ้าเกิด
ต้องเจอหมอนัน่ ในชีวติ จริ งล่ะ?
“ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ น่าจะเป็ นเพราะคุณรับมือกับเขาด้วยกระบวนท่าที่
ผิด แม้กระบวนท่านํ้าไหลไร้ขอบเขตจะเป็ นศิลปะเพลงดาบเพื่อ
ป้องกันตัว แต่ความพยายามป้องกันตัวอย่างไม่ดูตาม้าตาเรื อก็ไม่ใช่
ความคิดที่ฉลาดนัก สุ ดท้าย คุณจะลงเอยด้วยการเผยจุดอ่อนให้คู่
ต่อสู เ้ ข้าเล่นงานได้!” เมื่อรู ้วา่ พวกเขาพ่ายแพ้ให้กบั การโจมตีอนั ทรง
พลัง ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ค่อย ๆ เรี ยกความสุ ขมุ กลับคืนมา
“หากเจอคู่ต่อสู แ้ บบนั้น คุณจะต้องฉวยโอกาสเปิ ดการโจมตีก่อนให้
ได้เพื่อต้อนอีกฝ่ ายให้จนมุม ถ้าคุณใช้ยา่ งก้าวดาวตกควบคู่ไปกับ
ศิลปะเพลงดาบสลายต้นไผ่ของผม ก็น่าจะพลิกผันสถานการณ์
กลับมาเอาชนะเขาได้สบาย”
“เรื่ องนั้นน่ะ…ผูอ้ าวุโสลู่, ผมปะทะกับเขาแล้ว และได้สาํ แดงย่างก้าว
ดาวตกพร้อมกับศิลปะเพลงดาบสลายต้นไผ่ต้ งั แต่แรกแล้วเช่นกัน…”
ไม้ไผ่พดู ด้วยใบหน้าแดงกํ่า
นัน่ คือสองกระบวนท่าที่เขาสําแดงออกไปเพือ่ เล่นงานเจ้าโลกทันที
ที่การดวลเริ่ ม ซึ่ งก็แน่นอนว่าทั้งสองกระบวนท่าถูกคิดค้นโดยผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋
“แล้วเป็ นอย่างไร? คุณเอาชนะเขาได้ดว้ ยพละกําลังสู งสุ ดและทําให้
เขาพ่ายแพ้ได้ในทันทีใช่ไหม?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ซักขณะจิบชาอีกอึก
หนึ่ง
ไม้ไผ่เกาหัว “ยังไม่ทนั ที่ผมจะได้เข้าถึงตัว เขาก็เล่นงานผมแล้ว…”
พรวด!
คราวนี้เสื้ อผ้าของหน้าเหลี่ยมเปี ยกโชกไปด้วย สี หน้าเสี ยอกเสี ยใจ
ของเขาทําให้ใบหน้านั้นดูใหญ่กว่าเดิม
“ไม่วา่ พวกคุณจะใช้ยทุ ธวิธีโจมตีหรื อป้องกันตัว ก็พา่ ยแพ้ให้เขาใน
กระบวนท่าเดียว?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ วางถ้วยชาขณะลุกพรวดด้วย
ความประหลาดใจ
“ขอผมดูภาพที่บนั ทึกไว้ในหอนิรันดร์หน่อย”
รู ้ดีวา่ ไม่มีทางที่ศิษย์สายตรงทั้ง 4 จะอาจหาญถึงขนาดรวมหัวกัน
โกหกเขา ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ สัง่ การ
โดยปกติ เขาจะไม่เสี ยเวลาเข้าไปยุง่ เกี่ยวกับหอนิรันดร์ที่อยูใ่ น
ดินแดนไกลปื นเที่ยงอย่างที่นี่ แต่ในเมื่อศิษย์สายตรง 3 ใน 4 คนของ
เขาถูกเล่นงานหมดรู ป แถมคนเหล่านั้นยังใช้เทคนิคของเขาด้วย จึง
ต้องตรวจสอบเสี ยหน่อย
ถ้าคนผูน้ ้ นั เป็ นนักดาบผูช้ ่าํ ชอง เขาก็จะได้ความดีความชอบหาก
สามารถนําตัวหมอนัน่ กลับมาได้ เพราะตัวเขาคือผูอ้ าวุโสอี้ทาํ หน้าที่
ควบคุมดูแลการเปิ ดรับศิษย์สายตรงที่นี่
หลังจากได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ซ้ือมา ทั้ง 5 ก็เข้าสู่ หอนิรันดร์
และรี บซื้อวีดีโอที่บนั ทึกภาพการดวลก่อนหน้านี้ไว้
หอนิรันดร์จะบันทึกภาพการดวลทุกนัดบนสังเวียนประลองเพื่อ
วางขายและใช้เป็ นหลักฐานอ้างอิง
ไม่ชา้ ทุกคนก็เสร็ จสิ้ นการตรวจสอบภาพการดวลระหว่างศิษย์สาย
ตรงทั้ง 3 กับเจ้าโลก การดวลแต่ละนัดกินเวลาเพียง 2-3 วินาที
เท่านั้น ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เข้าใจทันทีถึงเหตุผลที่ทุกคนพ่ายแพ้ เขาส่ าย
หน้าอย่างผิดหวัง “อีกฝ่ ายมองเห็นข้อบกพร่ องในกระบวนท่าของ
พวกคุณอย่างทะลุปรุ โปร่ ง นัน่ คือเหตุผลที่เขาเล่นงานพวกคุณได้
สบาย…”
ได้ยนิ คํานั้น อวิน๋ เฟยหยางกับคนอื่น ๆ ก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
พวกเขารู ้ดีวา่ มันคงเป็ นอะไรทํานองนั้นเช่นกัน แต่ไม่วา่ จะทําวิธี
ไหน ต่อให้เปิ ดการโจมตีก่อน หลบเลี่ยง หรื อปัดป้อง หากพวกเขา
ยังอยูใ่ นรัศมีของการโยนดาบนัน่ ก็พบว่าไม่มีวธิ ีตอบโต้ไหนที่จะ
ทําให้สถานการณ์พลิกผันได้เลย
กระบวนท่านั้นดูแสนจะเรี ยบง่าย เป็ นแค่การโยนดาบโดยมีเป้าหมาย
ที่ศีรษะของพวกเขา แต่ใครก็ตามที่ยนื ประจันหน้ากับเจ้าโลกใน
สังเวียนประลองต่างรู ้ดีวา่ มันมีอะไรมากกว่านั้น
“อวิน๋ เฟยหยางสําแดงกระบวนท่านํ้าไหลไร้ขอบเขตได้อย่างงดงาม
แต่ปัญหาใหญ่อยูท่ ี่ความลื่นไหลของกระบวนท่า ผูท้ ี่พอจะรู ้อะไร
สักหน่อยเกี่ยวกับศิลปะเพลงดาบย่อมมองเห็นข้อบกพร่ องและเล่น
งานมันได้ ส่ วนย่างก้าวดาวตกและศิลปะสลายต้นไผ่ของหูปิง แม้ดู
เผิน ๆ จะทรงพลัง แต่ขอ้ บกพร่ องก็คือคุณสามารถแสดงพละกําลัง
ออกมาได้เพียง 1 ใน 10 ของประสิ ทธิภาพที่แท้จริ งเท่านั้นหาก
วรยุทธของคุณถูกลดระดับลงเป็ นนักรบระดับเซียนขั้น 1 ในเมื่อเป็ น
แบบนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คุณทั้งคู่จะถูกสังหารอย่างง่ายดาย!” ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ คําราม
“คืนนี้ พวกคุณทุกคนต้องฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบทั้งสองศิลปะ รวมทั้ง
ศิลปะการเคลื่อนไหวอีก 100 ครั้ง ถ้าพลาดแม้แต่ครั้งเดียวล่ะก็ อย่า
มาให้ผมเห็นหน้าอีก!”
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสลู่!”
ทั้ง 4 คนพยักหน้าอย่างเคร่ งเครี ยด
“อีกอย่าง ผมต้องการให้พวกคุณจับตาดูหอนิรันดร์ให้ดี ถ้าเจ้าโลก
ปรากฏตัวอีกครั้ง รายงานผมทันที!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เอาสองมือไพล่
หลัง แผ่รังสี ของผูน้ าํ ที่ไม่อาจมีใครปฏิเสธได้ขณะพูดออกมา “หมอ
นัน่ คิดว่าจะลอยนวลไปได้สบาย ๆ หลังจากที่เล่นงานศิษย์สายตรง
ของสํานักดาบเมฆเหิ นอย่างนั้นหรื อ? โลกนี้มีอะไรง่ายแบบนั้นด้วย
หรื อไง? ต่อให้เขาเก่งกาจแค่ไหน ผมจะต้องลิดรอนความหยิง่ ผยอง
ของเขาลงเสี ยก่อน และทําให้เขารู ้วา่ ศิลปะเพลงดาบของสํานักดาบ
เมฆเหิ นลํ้าลึกและสู งส่ งเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้!”
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสลู่”
ได้ยนิ คํานั้น อวิน๋ เฟยหยางกับพรรคพวกถอนหายใจอย่างโล่งอก
แน่นอนว่าผูอ้ าวุโสลู่ตดั สิ นใจจะเล่นงานหมอนัน่
แม้ผอู ้ าวุโสลู่จะเป็ นแค่หนึ่งในผูอ้ าวุโสระดับรองที่ทาํ หน้าที่ควบคุม
ดูแลการฝึ กฝนศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก แต่ความเข้าใจในศิลปะเพลง
ดาบของเขาถือว่าไม่อาจสบประมาทได้ ต่อให้พวกเขาทั้ง 4 คนผนึก
กําลังกัน ก็ยงั ต้องพ่ายแพ้ให้ผอู ้ าวุโสลู่หากอีกฝ่ ายลดระดับวรยุทธลง
มาเท่ากันกับพวกเขา
ถ้าผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ออกโรง โชคร้ายของเจ้าโลกก็เป็ นอันเริ่ มต้น
และความเป็ นจริ งก็คือ ไม่ใช่เฉพาะผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ กับศิษย์สายตรง
ทั้ง 4 ที่รอคอยให้เจ้าโลกปรากฏตัวด้วยความคาดหวัง ทั้งเมืองแสง
ดาวและเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของเมืองชั้น 3 ก็ลว้ นแต่รับรู ้ข่าวนี้ ทุกคน
ตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากชายผูเ้ ป็ นตํานานปรากฏตัว
อีกครั้ง
…..
“เขาเอาชนะศิษย์นอ้ งอวิน๋ เฟยหยางได้ในกระบวนท่าเดียว? น่าสนใจ…”
ที่บา้ นพักเจ้าเมืองชวนเจียง ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทากําลังนัง่ อยูห่ น้า
โต๊ะไม้ตวั หนึ่ง เขาเพิ่งได้ยนิ ข่าวนั้น นัยน์ตาของเขาเป็ นประกาย
ชายผูน้ ้ ีคือคนเดียวกันกับชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาที่จางเซวียนเคยพบ
ที่ตลาดหงเหยียน เขาคือศิษย์พี่หมายเลข 1 ของบรรดาศิษย์สายตรง
สายนอกแห่งสํานักดาบเมฆเหิ น, หัวเจียงเหอ!
“ช่วยผมจับตาดูหอนิรันดร์ไว้ให้ดี ทันทีที่เจ้าโลกปรากฏตัว ไม่วา่ ผม
จะทําอะไรอยู่ รายงานผมได้ทนั ที…เจ้าบ้านนอกคอกนานัน่ คิดจริ ง ๆ
หรื อว่าแค่การโยนดาบแบบสัว่ ๆ อย่างนั้นจะถือเป็ นศิลปะเพลงดาบ?
ฮึ่มมม! ขอสัง่ สอนบทเรี ยนให้หมอนัน่ รู ้หน่อยเถอะว่าศิลปะเพลงดาบ
ที่แท้จริ งเป็ นอย่างไร!” หัวเจียงเหอลุกพรวด
ฟึ่ บ!
เจตจํานงเพลงดาบเปล่งประกาย กระแสดาบฉี ระเบิดออกจากร่ าง
ของหัวเจียงเหอ ตัดโต๊ะตัวหนาที่อยูต่ รงหน้าเขาแยกเป็ น 2 ส่ วน
“นําโต๊ะตัวใหม่มาด้วย!” หัวเจียงเหอสัง่ การอย่างวางอํานาจก่อนจะ
ก้าวยาว ๆ ออกจากห้อง
…..
“นี่ นังคนใช้! เบา ๆ หน่อย!”
เพียะ!
เกิดเสี ยงตบดังสนัน่ เฉว่ชิงจ้องหน้าสาวใช้ที่เธอเพิ่งตบไปด้วยแวว
ตาโกรธเกรี้ ยว
เธอสัง่ แม่นี่ให้นาํ ยามาให้ แต่อีกฝ่ ายกล้าทําให้เธอบาดเจ็บ ให้อภัย
ไม่ได้!
“นายหญิงน้อยที่ 2, โปรดเมตตาฉันด้วย!” คนรับใช้รีบทรุ ดตัวลง
คุกเข่ากับพื้นและร้องขอความเมตตา
“ออกไป!” เฉว่ชิงเตะเสยที่ยอดอกของคนรับใช้ก่อนจะสัง่ องครักษ์
ให้โยนอีกฝ่ ายออกจากห้อง
จากนั้นเฉว่ชิงก็หนั กลับมาส่ องกระจก เห็นใบหน้างดงามนั้นบวมฉึ่ ง
เธอตัวสัน่ ด้วยแรงโทสะขณะจ้องสารรู ปของตัวเองและคํารามลอด
ไรฟัน “ตั้น!เฉี่ยว!เทียน!”
เพราะเธอหมั้นหมายกับไอ้ขยะนัน่ จึงถูกเพื่อนฝูงล้อเลียนเย้ยหยัน
ตั้งแต่อายุยงั น้อย
ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะเอาชนะใจศิษย์พี่หวั เจียงเหอและได้การยอมรับ
ให้เป็ นศิษย์สายตรงระดับล่างของสํานักดาบเมฆเหิ น แต่ทุกอย่างก็
พังทลายเพราะการเข้ามาแส่ ของไอ้สารเลวตั้นเฉี่ยวเทียน
หมอนัน่ ไม่คิดจะปล่อยให้เธอมีชีวติ ดี ๆ เลยใช่ไหม?
ถ้าไม่ใช่เพราะสัญญาผูกมัดการแต่งงาน เขาคงตายไปนานแล้ว ควร
จะสํานึกบุญคุณเอาไว้บา้ ง!
แต่แทนที่จะชดใช้บุญคุณของเธอ หมอนัน่ กลับรวมหัวกับเจ้ามัมมี่
แล้วทําให้ศิษย์พี่หวั ตบเธอต่อหน้าผูค้ นมากมาย…วันนี้เกียรติยศ
ศักดิ์ศรี ของเธอป่ นปี้ ไม่มีเหลือ ไม่มีทางที่เธอจะยกโทษให้
“ตั้นเฉี่ยวเทียนต้องตาย เจ้ามัมมี่นนั่ ก็ตอ้ งตาย และคนรับใช้ของมัน,
ตั้นอี้ ก็ตอ้ งตายตกตามกันไปให้หมด!” เฉว่ชิงสาปแช่งอย่างโหดเหี้ ยม
ในตอนนั้น เฉว่เฉินเดินเข้ามาพร้อมกับยิม้ อย่างมัน่ อกมัน่ ใจ “วางใจ
เถอะ นายหญิงน้อยที่ 2, ผมควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว ยืนยัน
กับคุณได้เลยว่าเจ้าพวกนั้นไม่มีวนั ได้เห็นพระอาทิตย์ข้ ึนอีกแน่…”
“ถ้าเป็ นอย่างนั้นก็ดี!” เฉว่ชิงตอบ เธอส่ องกระจกอีกครั้ง “ท่าน
อาจารย์ คุณว่าหน้าของฉันจะมีแผลเป็ นไหม? ศิษย์พี่หวั จะหมด
ความสนใจในตัวฉันหรื อเปล่าถ้าฉันขี้ริ้วขี้เหร่ ?”
“นายหญิงน้อยไม่ตอ้ งกังวล ศิษย์พี่หวั เพิ่งส่ งคนมามอบครี มเยียวยา
นี้ให้ อาการบวมของคุณจะลดลงอย่างรวดเร็ วหลังจากทาครี มนี้ที่
ใบหน้า” เฉว่เฉินตอบขณะยืน่ ขวดหยกใบหนึ่งให้
“มาจากศิษย์พี่หวั ?” เฉว่ชิงตาโตด้วยความตื่นเต้น “ดูเหมือนเขายังมี
่ ”
ใจให้ฉนั อยู…
จากนํ้าเสี ยงของเธอ เห็นได้ชดั ว่าเธอใส่ ใจรู ปร่ างหน้าตาของตัวเอง
และการที่จะได้รับความสนใจจากศิษย์พี่หวั หรื อไม่มากกว่าชีวติ
ของตั้นเฉี่ยวเทียน
…..
…..
เกี้ยวมุ่งหน้าไปตามถนน
เมื่อออกจากตลาดหงเหยียน ผูอ้ าวุโสอี้รู้สึกถึงความกดดันหนักอึ้ง
ในหัวอกที่ไม่อาจบรรยายได้ ราวกับอันตรายใหญ่หลวงกําลังรอคอย
พวกเขาอยู่
เพราะความรู ้สึกนี้ที่ทาํ ให้เขาไม่กล้าพักผ่อน เขากระตุน้ ม้าให้มุ่ง
หน้าสู่ บา้ นพักตระกูลตั้นโดยเร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้ หวังจะอาศัยที่
นัน่ เพื่อความปลอดภัย
ฟิ้ ว! ฟิ้ ว! ฟิ้ ว!
ในตอนนั้นเอง เสี ยงหวีดหวิวเป็ นชุดก็ดงั ขึ้นกลางอากาศ ลูกธนูนบั
ดอกไม่ถว้ นพุง่ ออกจากสองฟากถนนราวกับห่าฝน
ลูกธนูโดยทัว่ ไปไม่อาจทําอันตรายนักรบระดับเซียนได้ แต่ลูกธนู
เหล่านี้ถูกทําขึ้นเป็ นพิเศษ ทุกดอกมีพละกําลังเทียบเท่ากับนักรบ
ระดับเซียนขั้น 9 เมื่อมันพุง่ มาราวกับห่าฝน ต่อให้นกั รบระดับ
นักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่กไ็ ม่อาจต้านทานไหว
“ท่านอาจารย์…”
ตั้นเฉี่ยวเทียนรู ้ดีวา่ นี่คือสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่าศัตรู เริ่ มเล่นงาน
แล้ว เขากําหมัดแน่นและหันไปมองชายหนุ่มที่อยูข่ า้ ง ๆ เพื่อขอคํา
ชี้แนะ
“อย่าวอกแวก สิ่ งที่คุณต้องทําตอนนี้กค็ ือทําความเข้าใจศิลปะเพลง
ดาบที่ผมเพิ่งถ่ายทอดให้” จางเซวียนสัง่ การอย่างสุ ขมุ
“ขอรับ ท่านอาจารย์”
รู ้ดีวา่ อาจารย์ยอ่ มมีหนทางแก้ปัญหาอยูใ่ นใจแล้ว ตั้นเฉี่ ยวเทียน
หลับตาและเพ่งสมาธิกบั คําสอนที่อีกฝ่ ายเพิ่งถ่ายทอดให้ จากนั้น
ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของเขาก็พฒั นาขึ้นอย่างรวดเร็ ว
“กล้าดีอย่างไรมาทําร้ายนายน้อยที่ 3, ข้ามศพผมไปก่อน!”
ผูอ้ าวุโสอี้ไม่ได้ยนิ บทสนทนาของทั้งคู่ ทันทีที่เห็นท้องฟ้าดารดาษ
ไปด้วยลูกธนู ก็ยบั ยั้งตัวเองไม่ไหว เขาคํารามก้อง จากนั้นก็เงื้อแส้
ขึ้นหวดไปมา หวังจะปั ดป้องลูกธนูที่มุ่งทําร้ายตั้นเฉี่ยวเทียน
ตอนที่ 1931 บ้ าบอแปลกประหลาดอะไรอย่ างนี…

เขารู ้ดีวา่ แม้ตวั เองจะเป็ นนักรบระดับเซียนขั้น 9 แต่ประสิ ทธิภาพ
การต่อสู ข้ องเขาเสื่ อมถอยลงมากจากความเครี ยดและความยากลําบาก
ที่ตอ้ งเผชิญระหว่างการปกป้องตั้นเฉี่ยวเทียนมาตลอดระยะเวลา
หลายปี อีกอย่าง เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ที่นาํ มาซึ่ง
โศกนาฏกรรมครั้งนั้นด้วย ถือว่าน่าทึ่งแล้วที่ตอนนี้สามารถสําแดง
พละกําลังเทียบเท่ากับนักรบระดับเซี ยนขั้น 8 ออกมาได้
ท้องฟ้ามีลูกธนูอยูเ่ ต็มไปหมดแบบนี้ เขาคงต้านทานมันไว้ได้ราว 2-
3 วินาทีเท่านั้น
แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
ขอแค่ย้อื เวลาได้บา้ ง นายน้อยที่ 3 ก็น่าจะมีโอกาสหนีเอาชีวติ รอด!
ควับ่ ! ควับ่ !
ผูอ้ าวุโสลุกพรวดแล้วใช้แส้หวดซ้ายป่ ายขวา แต่พละกําลังมหาศาล
ของลูกธนูเหล่านั้นก็ทาํ ให้แส้หลุดจากมือของเขา เขากระโจนขึ้นสู่
หลังคาเกี้ยว หวังจะใช้ร่างของตัวเองปัดป้องลูกธนูออกไปให้มาก
ที่สุด แต่ในตอนนั้น เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น
ลูกธนูมากมายที่พงุ่ เข้าใส่ เกี้ยวดูจะถูกเกี้ยวปั ดป้องออกไปด้วยเหตุผล
พิสดารอะไรสักอย่าง แม้จะเข้ามาใกล้เต็มที แต่กไ็ ม่มีดอกไหนเล่น
งานเกี้ยวหรื อทําร้ายม้าที่กาํ ลังเหยาะย่างอยูด่ า้ นหน้าได้เลย
“พวกนั้นคือ…ทีมลอบสังหาร…จริ ง ๆ หรื อ?”
ผูอ้ าวุโสอี้กระพริ บตาอย่างงุนงง
เขาคิดว่าทุกคนคงจบเห่แน่ แต่ใครจะไปเชื่อว่าไม่มีลูกธนูดอกไหน
จากทีมลอบสังหารที่พงุ่ เข้าใส่ เป้าหมายเลย ราวกับพวกนั้นจงใจยิง
ให้เฉี่ยวเกี้ยวของเขาไป
โลกนี้มีทีมลอบสังหารที่อ่อนหัดขนาดนี้ดว้ ยหรื อ?
ไม่ใช่ผอู ้ าวุโสอี้คนเดียวที่งงงัน หัวหน้าทีมลอบสังหารก็เริ่ มสงสัยว่า
สิ่ งที่ตวั เองเห็นเป็ นความจริ งหรื อไม่
“พวกแกมัวทําบ้าอะไรอยู?่ เล็งให้ดี ๆ หน่อย!” หัวหน้าทีมลอบ
สังหารตวาดก้อง
“รับทราบ หัวหน้า!”
ทีมลอบสังหารรี บบรรจุลูกธนูอีกครั้งและปล่อยลูกธนูอีกระลอก
หนึ่งออกไป
ฟิ้ ววววว!
แต่ภาพประหลาดแบบเดิมก็เกิดขึ้นอีก ราวกับพวกเขาตาบอด ลูกธนู
เหล่านั้นตีวงเลี้ยวเล็กน้อย และไม่ได้แตะต้องเกี้ยวเลย
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
คราวนี้ทีมลอบสังหารไม่ได้โชคดีเหมือนคราวก่อน ลูกธนูกลุ่มใหญ่
ที่พงุ่ ออกไปจากสองฟากถนนตรงเข้าเล่นงานทีมลอบสังหารที่อยูอ่ ีก
ฟากหนึ่ง พวกเขาถูกลูกธนูมากมายปั กเข้าที่ศีรษะ ดูไม่ต่างอะไรกับ
เม่น
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเราจะเล่นงานเกี้ยวนัน่ ไม่ได้ ยิงต่อไป!” หัวหน้า
ทีมลอบสังหารสัง่ การ
คราวนี้ ทีมลอบสังหารกลุ่มใหญ่ทรุ ดลงไปกองกับพื้นเพราะถูกลูก
ธนูมากมายเล่นงานเข้าอย่างจัง
“นรกอะไรวะนี่! ยิงต่อ!”
“หัวหน้า เราทําแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าเป็ นอย่างนี้ต่อไปล่ะก็ พวกเราคง
ตายกันหมดก่อนจะเล่นงานเกี้ยวนัน่ ได้!” ลูกน้องคนหนึ่งร้องออกมา
อย่างเสี ยขวัญ
หัวหน้าทีมลอบสังหารดูจะคลุม้ คลัง่ เขาเหลียวมองโดยรอบและ
เห็นว่าลูกน้องส่ วนใหญ่ของเขาตายแล้ว แต่ละคนมีลูกธนูปักที่ศีรษะ
อย่างเหมาะเหม็ง
ส่ วนลูกธนูกองใหญ่ที่พวกเขายิงออกไปก่อนหน้านี้กต็ กอยูท่ ี่พ้นื
อย่างเงียบเชียบ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น…
ฉันสัง่ ให้พวกแกโจมตีเกี้ยวและสังหารตั้งเฉี่ ยวเทียน…มันเรื่ องอะไร
พวกแกถึงยิงกันเอง?
หัวหน้าตัวสัน่ ด้วยแรงโทสะ เขาแทบคลุม้ คลัง่
เมื่อทนไม่ไหว เขาก็ฉวยคันธนูจากมือลูกน้องคนหนึ่งมา แล้วเล็งที่
หัวใจของผูอ้ าวุโสอี้ก่อนจะยิงออกไป
ในฐานะนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 2 ลูกธนูที่เขายิงออกไป
มีพละกําลังทําลายล้างสู ง มันพุง่ หวือแหวกอากาศราวกับดาวตก
เห็นลูกธนูเข้ามาใกล้ ผูอ้ าวุโสอี้หรี่ ตาขณะตัวแข็งด้วยความ
หวาดกลัว แต่แล้วลูกธนูกเ็ ฉียดเขาไป
อ๊ากกกกกก!
มีเสี ยงร้องโหยหวน แล้วใครสักคนที่ยงั เหลือรอดก็เสี ยชีวติ
“มันเกิดนรกจกเปรตอะไรที่นี่?”
หัวหน้าทีมลอบสังหารยกคันธนูข้ ึนประทับบ่าอีกครั้ง แต่คราวนี้
แทนที่จะเล็งผูอ้ าวุโสอี้ เขากลับยิงธนูข้ ึนฟ้า
อ๊ากกกกก!
สองอึดใจต่อมา เสี ยงร้องโหยหวนก็ดงั ขึ้นอีก ขณะที่หนึ่งในผูม้ ีชีวติ
รอดตกเป็ นเหยือ่ ลูกธนูของเขา
“…..”
หัวหน้าทีมลอบสังหารทึ้งผมตัวเองอย่างคลุม้ คลัง่ เขาหันหลังกลับ
และยิงธนูออกไปอีก 2 ดอก และ…
อ๊ากกกกกก!
อ๊ากกกกกก!
มีเสี ยงร้องครางโหยหวนอีกสองเสี ยง ทีมล่าสังหารอีก 2 คนจบชีวติ
ไป
“บ้าบอแปลกประหลาดอะไรอย่างนี้…”
หัวหน้าทีมลอบสังหารแทบครองสติไม่อยู่
เขาไม่ได้นาํ คันธนูของตัวเองมาเพราะไม่ได้เชี่ยวชาญการยิงธนูมาก
นัก แต่แล้ว…ตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ที่เขากลายเป็ นนักแม่นธนูผยู ้ งิ แม่น
ขนาดสังหารคนของตัวเองให้ตายได้ไม่วา่ จะเล็งไปที่ไหน?
ที่สาํ คัญกว่านั้น ดูเหมือนจะไม่มีใครอยูด่ า้ นหลังตัวเขา แต่ดว้ ย
เหตุผลอะไรสักอย่าง ลูกธนูตีวงกลับอย่างสวยงามและพุง่ เข้าเสี ยบ
ศีรษะของลูกน้องของเขาอย่างเหมาะเจาะ…
มีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นที่นี่…
“หยุดยิงเดี๋ยวนี้! ตรงเข้าเล่นงานพวกมันเลย!” หัวหน้าทีมลอบสังหาร
ขว้างคันธนูลงกับพื้นและสัง่ การ
ถ้าพวกเขายังไม่หยุดยิง ทุกคนคงตายกันหมด ในเมื่อเป็ นแบบนั้น
ตรงเข้าเล่นงานพวกมันเลยจะดีกว่า
ฟึ่ บ!
เมื่อได้ยนิ คําสัง่ ผูท้ ี่ยงั เหลือรอดต่างชักอาวุธออกมาแล้วกระโจน
ออกจากที่ซ่อน
เห็นทีมลอบสังหารที่กระโจนออกมา หัวหน้าทีมลอบสังหารรู ้สึก
เหมือนถูกกริ ชทิ่มแทงหัวใจ
เพื่อลอบสังหารตั้นเฉี่ยวเทียน เขานํากองกําลังมากว่า 30 คน และคิด
ว่าการลอบสังหารคนพิการอย่างตั้นเฉี่ ยวเทียนคงง่ายเหมือนปอก
กล้วยเข้าปาก ใครจะไปคิดว่าลูกธนูที่ถูกยิงออกไปราวกับห่าฝนจะ
ทําร้ายคนของเขาเสี ยเอง?
ตอนนี้เขาเหลือลูกน้องเพียง 8 คนเท่านั้น และ 2 ใน 8 คนก็มีลูกธนู
ปักอยูท่ ี่ศีรษะ ทั้งคู่เดินเซไปมา เลือดหยดติ๋ง ๆ ลงกับพื้น
ช่างเป็ นภาพที่น่าสมเพช!
ให้นรกกินเถอะ! ถ้าเขารู ้วา่ ตั้นเฉี่ยวเทียนจะตายยากตายเย็นอย่างที่
เห็น จะไม่มีวนั รับงานนี้เลย!
พวกเขาคือกองโจรที่พาํ นักอยูน่ อกเมือง เมื่อตอนบ่าย ใครคนหนึ่ง
มาพบพวกเขาพร้อมกับเหรี ยญนิรันดร์ถุงใหญ่ เอ่ยปากให้พวกเขา
กําจัดตั้นเฉี่ยวเทียน ทุกคนเห็นเรื่ องนี้เป็ นเรื่ องเล็ก แต่กลับกลายเป็ น
ว่ามันคือการตัดสิ นใจครั้งเลวร้ายที่สุดในชีวติ ของเขา
สู ญเสี ยกําลังคนไปมากมายขนาดนี้ เขาไม่มีวนั ล่าถอยแน่ ไม่วา่ จะ
ด้วยวิธีไหน เขาจะต้องปฏิบตั ิภารกิจนี้จนลุล่วงให้ได้!
“สับไอ้พวกสารเลวที่อยูใ่ นเกี้ยวให้เละ!” หัวหน้าทีมลอบสังหาร
ตะโกนก้อง
ทีมลอบสังหารที่เหลืออีก 8 คน พุง่ เข้าใส่ เกี้ยวทันที
“ถ้าอยากสังหารนายน้อยที่ 3 ล่ะก็ พวกแกข้ามศพของฉันไปก่อน!”
ผูอ้ าวุโสอี้ตวาด
เขากําลังจะกระโจนลงจากเกี้ยว แต่ยงั ไม่ทนั จะได้ทาํ อย่างนั้น ร่ าง
หนึ่งก็เปิ ดการโจมตี…ม้า
ราวกับว่ามันหงุดหงิดกับลูกธนูราวห่าฝนที่ถูกยิงมาก่อนหน้า มัน
สลัดตัวออกจากเกี้ยวโดยไม่ลงั เลแล้วพุง่ เข้าใส่ กลุ่มโจรทั้ง 8 คนที่
อยูห่ ่างออกไปราว 10 เมตร
พลัก่ !
มันเตะโจร 2 คนที่มีลูกธนูปักอยูท่ ี่หวั ลูกเตะนั้นทําให้ลูกธนูปักลึก
ลงไปอีก สองคนนั้นตายทันที
“อะไรกันนี่…”
โจรที่เหลืออีก 6 คนแทบคลุม้ คลัง่
ไม่น่าเชื่อว่าม้าตัวหนึ่งจะสังหารเพื่อนร่ วมทีมของพวกเขาไปถึง 2
คน ถ้าใครรู ้วา่ ทั้งคูอ่ ยูก่ ๊วนเดียวกันกับพวกเขาล่ะก็ คงได้อบั อายขาย
หน้าจนตายไปข้าง!
ชายวัยกลางคนร่ างอ้วนเตี้ยคนหนึ่งชักกระบี่ออกมาแล้วพุง่ เข้าใส่
หวังจะเชือดม้าให้เป็ นชิ้น ๆ แต่ยงั ไม่ทนั จะถึงตัว ม้าก็ปล่อยลูกเตะ
ออกมาอีกครั้ง
พลัก่ !
ลูกเตะนั้นกระแทกหว่างขาของชายวัยกลางคนอย่างจัง เสี ยงไข่แตก
ดังไปทัว่ ชายวัยกลางคนทรุ ดลงไปกองหน้าเขียวหน้าเหลืองอยูก่ บั
พื้น
พลัก่ ! พลัก่ ! พลัก่ !
ขณะที่ชายวัยกลางคนหมดสภาพไปแล้ว กองโจรที่เหลืออีก 5 คนก็รี่
เข้าใส่ มา้ ตั้งใจจะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่ราวกับม้าคาดการณ์ไว้แล้ว
มันถอยหลังไป 2 ก้าวเพื่อสร้างระยะห่างก่อนจะปล่อยลูกเตะออกมา
อีก
โจรอีก 2 คนทรุ ดลงไปกองกับพื้นขณะกุมหว่างขาไว้แน่น
“ไอ้สารเลว!”
โจรที่เหลืออีก 3 คน แทบเสี ยสติ
การที่ลูกธนูของพวกเขาพลาดเป้าไปอย่างน่าประหลาดก็เป็ นเรื่ อง
หนึ่ง แต่ไม่น่าเชื่อว่าม้าตัวนี้จะมีความพิสดารด้วย!
ทุกคนขาสัน่ ด้วยความหวาดกลัวขณะค่อย ๆ ล่าถอย หวังจะหาทาง
หลบหนี แต่ยงั ไม่ทนั จะได้ไปไหน ม้าก็พงุ่ เข้าใส่
พลัก่ ! พลัก่ ! พลัก่ !
โจรที่เหลืออีก 3 คนหมดสภาพ
จากนั้น ม้าก็ปล่อยลูกเตะทรงพลังเข้าใส่ โจรทุกคนที่กองอยูก่ บั พื้น
ภายในไม่ถึงสองอึดใจ ทั้ง 8 คนก็ตายอย่างน่าสมเพช เหลือเพียง
หัวหน้าทีมลอบสังหาร
แส้ในมือผูอ้ าวุโสอี้ร่วงลงกับพื้น เขาจังงังกับภาพที่เห็น
เมื่อครู่ น้ ีเราใช้แส้หวดเจ้าม้านัน่ ใช่ไหม?
ผูอ้ าวุโสอี้รู้สึกเย็นวาบที่หว่างขาขณะจ้องแส้มา้ ที่กองอยูก่ บั พื้นอย่าง
พรั่นพรึ ง ไม่กล้าหยิบขึ้นมาใช้
ถ้าม้าเกิดความแค้นฝังหุ่นกับเขาและเตะเขาเข้าให้…เอาเถอะ เขาแก่
แล้วและไม่อาจมีลูกได้อีก แต่กย็ งั อยากมีความเป็ นชายอยู่ หากต้อง
สู ญเสี ยมันไป ก็คงไม่อาจนําอะไรมาทดแทนได้!
ผูอ้ าวุโสอี้มองศพที่กองระเกะระกะอยูก่ บั พื้น เขาตัวสัน่
ทีมลอบสังหารส่ วนใหญ่เป็ นนักรบระดับเซี ยนขั้น 9 บางคนเป็ น
นักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 1 ด้วยซํ้า แต่กลับถูกม้าเล่นงาน…
เรื่ องประหลาดพิสดารแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ม้าที่เขาดูแลอยูท่ ุกวีว่ นั เกิดไร้เทียมทานขนาดนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ ?
“แก…”
หัวหน้าทีมลอบสังหารแทบเสี ยสติเมื่อเห็นภาพนั้น
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าโจรผูย้ งิ่ ใหญ่อย่างฉันที่กมุ บังเหี ยนเมืองชวนเจียง
มากว่า 10 ปี จะพ่ายแพ้ให้มา้ ตัวเดียว!” หัวหน้าทีมลอบสังหารตัวสัน่
ด้วยแรงโทสะ เขาคํารามกร้าวและพุง่ เข้าใส่
ม้าก็พงุ่ ออกมาเป็ นการตอบโต้
ฟึ่ บ!
แต่ยงั ไม่ทนั ที่ท้ งั สองจะปะทะกัน หัวหน้าทีมลอบสังหารก็หลบฉาก
เฉี ยดตัวม้าไป พริ บตาต่อมาเขาก็มาอยูต่ รงหน้าเกี้ยว
สมกับเป็ นนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 2, ปฏิกิริยาการตอบ
โต้ของเขาจัดว่าน่าทึ่ง การโจมตีก่อนหน้านี้เป็ นแค่การสับขาหลอก
เป้าหมายแท้จริ งของเขาคือกําจัดตั้นเฉี่ ยวเทียน
ขอแค่ต้ นั เฉี่ยวเทียนเสี ยชีวติ เขาก็จะได้รับค่าตอบแทนสําหรับการ
ปฏิบตั ิภารกิจ และด้วยเงินนั้น เขาจะสร้างกองกําลังขึ้นใหม่ได้อีก
ครั้ง หลังจากต้องเสี ยลูกน้องไปมากมาย ก็ไม่มีวนั ที่เขาจะยอมเดิน
ออกจากที่นี่โดยไม่ได้อะไรติดมือ!
“เวรละ ไอ้สารเลวนัน่ !”
ทั้งผูอ้ าวุโสและม้าไม่คิดว่าหัวหน้าทีมลอบสังหารจะยังมุ่งมัน่ ในการ
กําจัดตั้นเฉี่ยวเทียนแม้จะเกิดเหตุการณ์ท้ งั หมดขึ้นแล้ว กว่าทั้งคู่จะรู ้
ก็สายไป ทั้งม้าและผูอ้ าวุโสไม่อาจเข้าช่วยตั้นเฉี่ยวเทียนได้ทนั เวลา
ฉึก!
กระบี่เล่มหนึ่งแทงทะลุหน้าต่างเกี้ยว ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ระวัง การ
โจมตีครั้งนี้อาจคร่ าชีวติ ของเขา
ฟึ่ บ!
แต่ในช่วงเวลาคับขันนั้น เรื่ องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น ราวกับเทพนิยายที่
กลายเป็ นเรื่ องจริ ง เกี้ยวกระโจนขึ้นสู งและใช้ลอ้ อัดใบหน้าของ
หัวหน้าทีมลอบสังหาร
แรงกระแทกอันหนักหน่วงอย่างคาดไม่ถึงทําให้เลือดของหัวหน้า
ทีมลอบสังหารไหลกระฉูด เขาผงะไปและพยายามถอย แต่ยงั ไม่ทนั
จะได้ทาํ อะไร เกี้ยวก็พงุ่ เข้าใส่ อีกครั้ง
ฟันกรามของเขาร่ วงออกมา 7 ซี่ขณะที่กระบี่หลุดลอยไป
หัวหน้าทีมลอบสังหารถอยกรู ดออกจากเกี้ยวอย่างหวาดระแวง แต่
อีกฝ่ ายดูเหมือนไม่คิดจะปล่อยเขา มันใช้มือจับทั้งสองข้างแทนมือ
และเตรี ยมเล่นงานอีกฝ่ ายให้พินาศ
ตอนที่ 1932 ถ้ าอย่ างนั้นเป็ นใคร?
“นรกอะไรกันนี่…”
หัวหน้าทีมลอบสังหารขยี้ตาอย่างไม่อยากเชื่อ
ลูกธนูกย็ งิ ไม่ถูก เอาเถอะ…อาจมีผเู ้ ชี่ยวชาญบางคนเบนทิศทางของ
ลูกธนูได้ เราพอเข้าใจ!
จู่ ๆ ม้าก็ทรงพลังขึ้นมาเสี ยอย่างนั้น แต่กอ็ าจเป็ นเพราะมันเพิ่งได้รับ
การพัฒนาสายเลือดหรื อเป็ นอสู รของใครสักคน เราก็พอรับได้!
แต่เกี้ยวซึ่งเป็ นสิ่ งไม่มีชีวติ กลับกระโจนใส่ และสําแดงศิลปะการ
ต่อสู อ้ อกมาได้ราวกับนักรบที่ทรงพลังที่สุดในโลก…เราจะยอมรับ
เรื่ องเหลวไหลแบบนี้ได้อย่างไร?
ที่นี่มีผหี รื อบางสิ่ งที่เหนือธรรมชาติอยูห่ รื อเปล่า?
“ต้องเผ่นแล้ว!”
เพราะเกรงว่าจะต้องพบเจอกับเรื่ องเหลือเชื่ออีก เขารี บนําตราหยก
อันหนึ่งออกมาแล้วหักมัน
วิง้ !
เกิดแสงสว่างเจิดจ้า แล้วปราการพลังงานก็โอบล้อมร่ างของเขาไว้
ในฐานะกองโจร ทักษะที่สาํ คัญที่สุดของเขาไม่ใช่การปล้นฆ่า แต่
เป็ นการรู ้รักษาตัวรอด ก่อนจะปฏิบตั ิภารกิจใด ๆ เขาจะต้องวิเคราะห์
หาทางหนีทีไล่และเตรี ยมมาตรการป้องกันตัวไว้ในกรณี ที่เกิดความ
ผิดพลาด
ก็เพราะเหตุผลนี้ที่ทาํ ให้เขายอมจ่ายเงินสู งลิ่วเพื่อซื้ อตราหยกอันนี้
มา มันมีอานุภาพปัดป้องได้แม้แต่การโจมตีของนักปราชญ์โบราณ
ทําให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้
ฟึ่ บ!
ทันทีที่ปราการพลังงานก่อตัว หัวหน้าทีมลอบสังหารก็กระโจนข้าม
กําแพงสู งที่อยูด่ า้ นข้างเพื่อหลบหนี
ขณะที่กาํ ลังหนี เขาไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวหลังไปดูวา่ มีใครตามมา
หรื อไม่ เพราะกลัวว่าจะเห็นอะไรบางอย่างที่ชวนให้ขวัญผวา ตอนนี้
ต่อให้ความตายด้วยนํ้ามือของผูเ้ ชี่ยวชาญสักคนก็ไม่ทาํ ให้เขาหวาด
กลัว…แต่ถา้ เขาต้องตายเพราะม้าหรื อลาตัวหนึ่ง คงไม่มีวนั ได้ตาย
อย่างสงบสุ ขแน่!
หัวหน้าทีมลอบสังหารโกยอ้าวสุ ดกําลังราวกับใกล้หมดลมหายใจ
เฮือกสุ ดท้าย บางทีอาจเป็ นเพราะตราหยกทํางานได้ผล หรื อไม่ อีก
ฝ่ ายก็ไม่อยากไล่ล่าเขาอีก เพราะเมื่อเขาหันกลับไปก็ไม่มีใครตามมา
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก
“บ้าที่สุด เกือบไปแล้วสิ เรา!”
ตอนที่เขารับงานนี้ อีกฝ่ ายบอกว่าเป็ นงานง่าย ๆ เขาสามารถกําจัด
เป้าหมายได้อย่างง่ายดาย แต่กแ็ น่นอนว่าคนระแวดระวังอย่างเขา
ย่อมไม่ฟังความข้างเดียว จึงสื บเสาะเรื่ องราวของตั้นเฉี่ยวเทียนจน
แน่ใจแล้วว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรก่อนจะรับงาน ไม่คิดเลยว่าทุกอย่าง
จะลงเอยแบบนี้
ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ได้เก่งกาจอะไรก็จริ ง แต่ท้ งั ม้าและเกี้ยวของหมอ
นัน่ ทรงพลังจนน่าสะพรึ ง!
เขาจะปฏิบตั ิภารกิจลอบสังหารให้สาํ เร็ จได้อย่างไร?
หัวหน้าทีมล่าสังหารเผ่นหนีออกจากเมืองไปยังจุดที่เขานัดพบกับผู ้
ว่าจ้างไว้เมื่อทํางานสําเร็ จ เขา ก่อไฟและรอคอยอย่างอดทนให้อีก
ฝ่ ายปรากฏตัว
ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เรื่ องนี้ผา่ นไปง่าย ๆ !
…..
ผูอ้ าวุโสอี้ใช้พลังไปมากตลอดการปะทะจนกระทัง่ ทุกอย่างจบสิ้ น
ร่ างของเขาซวนเซอย่างอ่อนแรงและทรุ ดฮวบลงกับพื้น
เขารู ้สึกราวกับได้เผชิญกับความตกตะลึงมาทั้งชีวติ ภายในคืนเดียว
ผูอ้ าวุโสอี้คิดว่าการปรากฏตัวของทีมลอบสังหารคงทําให้ทุกอย่าง
จบเห่ แต่ดว้ ยความพิสดารบางอย่าง ทั้งเกี้ยวและม้ากลับมีชีวติ ขึ้นมา
ทุกอย่างมหัศจรรย์ราวกับเทพนิยาย เขาไม่ตอ้ งทําอะไร ปั ญหาก็
คลี่คลายไปได้ดว้ ยตัวเอง…
มีเรื่ องเหลือเชื่อแบบนี้ในโลกด้วยหรื อ?
ขณะที่ผอู ้ าวุโสอี้ยงั จังงัง ม้าก็เหยาะย่างกลับไปที่เกี้ยว จัดการเทียม
ตัวเองเข้ากับเกี้ยวอีกครั้ง จากนั้นก็เชิดหน้าแล้ววิง่ ตรงไปยังบ้านพัก
ตระกูลตั้น
ผูอ้ าวุโสอี้จบั จ้องม้าที่อยูต่ รงหน้าด้วยมือสัน่ เทา
ม้าที่เทียมเกี้ยวของพวกเขาน่าสะพรึ งขนาดนี้…
ต่อให้แกเต็มใจลากเกี้ยวของเรา ฉันก็ไม่กล้าคิดจะใช้แกไปไหนมา
ไหนอีกแล้ว!
“นายท่านจาง…” ผูอ้ าวุโสอี้หนั กลับไปตั้งคําถาม
อันที่จริ ง เขาก็รู้คาํ ตอบอยูแ่ ก่ใจ
ม้าและเกี้ยวไม่ได้มีความพิเศษอะไรตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา สิ่ งเดียว
ที่เปลี่ยนไปก็คือเมื่อจางเซวียนปรากฏตัว!
“ถึงบ้านพักตระกูลตั้นแล้วค่อยคุยกัน” เสี ยงของจางเซวียนลอดออก
มาจากเกี้ยว
จางเซวียนรู ้วา่ จะต้องมีคนกลุ่มหนึ่งลอบสังหารพวกเขาระหว่างขา
กลับ จึงได้ร่ายมนต์พลิกฟื้ นจิตวิญญาณใส่ มา้ และเกี้ยวเอาไว้เมื่อ
ตอนออกเดินทาง
ขนาดคนธรรมดาสามัญที่นี่ยงั เป็ นนักรบระดับเซียนขั้น 9 ได้โดยไม่
ต้องฝึ กฝนวรยุทธ นับประสาอะไรกับม้าที่มีสภาวะร่ างกายแข็งแกร่ ง
กว่ามนุษย์ทวั่ ไป เมื่อโตเต็มวัย พวกมันจะมีพละกําลังเทียบเท่ากับ
นักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 1 แต่เนื่องจากสติปัญญาของ
พวกมันออกจะอ่อนด้อยและไม่มีใครสื่ อสารกับมันได้ จึงแทบ
เป็ นไปไม่ได้เลยที่จะดึงพละกําลังของมันมาใช้
แต่หากใครสักคนทําให้มา้ ยอมจํานนและสื่ อสารกับมันได้ ก็จะได้
ทุกอย่างตามที่ตอ้ งการ
อย่าว่าแต่สงั หารกองโจรกลุ่มนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหัวหน้าหนีไป
อย่างไว ม้าก็คงสังหารหมอนัน่ ได้เหมือนกัน!
“ขอรับ”
ผูอ้ าวุโสอี้ระงับความตื่นเต้นไว้ จากนั้นก็หนั กลับไปและเฝ้ามอง
เกี้ยววิง่ ไปตามถนนเพื่อกลับสู่ บา้ นพักตระกูลตั้น
…..
กองไฟลุกโพลงอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนที่สองร่ างจะปรากฏ
หนึ่งในนั้นคือชายวัยกลางคน หัวหน้าทีมลอบสังหารจําได้วา่ คือคน
ที่มามอบหมายภารกิจลอบสังหารตั้นเฉี่ยวเทียนให้เขา
ส่ วนอีกคน…แม้จะสวมหน้ากาก แต่กพ็ อประเมินได้จากรู ปร่ างว่า
เป็ นสาวน้อยคนหนึ่ง แถมยังสวยมากด้วย!
“ว่าอย่างไร? สําเร็ จไหม?” ชายวัยกลางคนตรงเข้าประเด็นทันที
เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้าใหญ่ของสํานักเจ้าเมือง, เฉว่เฉิ น
ซึ่งก็แน่นอนว่าสาวน้อยที่อยูข่ า้ งเขาคือเฉว่ชิง
โดยปกติเธอจะไม่ยงุ่ เกี่ยวกับเรื่ องแบบนี้ แต่หลังจากถูกหยามหน้า
เธอก็อยากเห็นกับตาว่าศีรษะของตั้นเฉี่ยวเทียนกับเจ้ามัมมี่ที่กล้าหา
เรื่ องเธอหลุดออกจากบ่าแล้ว!
เธอจึงตัดสิ นใจตามเฉว่เฉินมาที่นี่หลังจากสวมหน้ากากอําพราง
ใบหน้า
“สําเร็ จ? ดูเอาเองเถอะ ไม่คิดบ้างหรื อไงว่าคุณควรมีคาํ อธิบาย? ไอ้
แบบนี้หรื อที่คุณเรี ยกว่างานง่าย?” หัวหน้าทีมลอบสังหารคําราม
อย่างโกรธเกรี้ ยว
“คุณหมายความว่าอย่างไร?” เฉว่เฉินขมวดคิ้ว “คนของคุณเหยาะแหยะ
ถึงขนาดกําจัดไม่ได้ แม้แต่ชายแก่ที่บาดเจ็บสาหัสกับคนพิการคนหนึ่ง
หรื อ?”
“เหยาะแหยะกับผีอะไร!” หัวหน้าทีมลอบสังหารคําราม “พี่นอ้ งของ
ผมมากกว่า 30 คนต้องตายเพราะภารกิจครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะผมเผ่น
หนีอย่างไวล่ะก็ คงต้องตายที่นนั่ เหมือนกัน คุณจะชดใช้ความเสี ยหาย
ของผมอย่างไร?”
“คนของคุณมากกว่า 30 คนต้องตาย?” เฉว่ชิงตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ
“คุณจะบอกฉันว่า ลําพังพวกตั้นเฉี่ยวเทียนน่ะกําจัดพวกคุณได้
ทั้งหมดเลยหรื อ? เขาเก่งกาจขนาดนั้นเลยหรื อไง?”
“ไม่ใช่เขา!” หัวหน้าทีมลอบสังหารคําราม
“ถ้าอย่างนั้นเป็ นใคร?” เฉว่เฉินสงสัย
เขาสื บเสาะภูมิหลังของตั้นเฉี่ยวเทียนมาแล้วอย่างดี หมอนัน่ ไม่มี
พรรคพวกที่ไหนในเมืองชวนเจียง ด้วยความแข็งแกร่ งของกองโจร
กลุ่มนี้ ก็น่าจะจัดการได้สบาย
กองโจรกลุ่มนี้คือปัญหาหนักอกของบรรดาพ่อค้าวานิชที่เดินทาง
เข้าสู่ เมืองชวนเจียง แล้วทําไมจู่ ๆ ถึงเกิดไร้สมรรถภาพขึ้นมาเมื่อ
เป้าหมายเป็ นแค่ต้ นั เฉี่ยวเทียน?
หัวหน้าทีมลอบสังหารถ่มนํ้าลายลงกับพื้นและตวาดก้อง “ตัวการที่
สังหารบรรดาพี่นอ้ งของผมน่ะคือม้าของพวกมัน! อ้อ ไม่ใช่แค่น้ นั
เกี้ยวของพวกมันด้วย!”
“???” เฉว่เฉินกับเฉว่ชิง
เฉว่เฉินมัน่ ใจในแผนการของเขา เขาแน่ใจว่ากองโจรทั้งกลุ่มจะ
สามารถกําจัดคนตระกูลตั้นและล้างอายให้นายหญิงน้อยที่ 2 ได้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็ นความตายของพวกนั้น แถมหัวหน้า
กลุ่มก็ดูเหมือนจะเสี ยสติ…
ตัวการที่สงั หารพวกคุณคือม้ากับเกี้ยวหรื อ?
น่าประทับใจนะ? ทําไมไม่รวมลูกบอลกับช้างเข้าไปด้วยล่ะ?
คุณคิดว่าเรากําลังเล่นหมากรุ กจีนกันหรื อไง?
“คิดจะตุกติกกับผมหรื อ? ผมกําลังถามว่าใครคือตัวการที่สงั หารคน
ของคุณ ตอบมา!” เฉว่เฉินตวาด
“ผมก็ตอบคุณไปแล้วไง? มันคือม้าตัวหนึ่งกับเกี้ยวหลังหนึ่ง!”
หัวหน้าทีมลอบสังหารคําราม
“ม้า?”
“เกี้ยว?”
เฉว่เฉินกับเฉว่ชิงสับสนหนัก
“ม้ากับเกี้ยวของตั้นเฉี่ ยวเทียนมีพละกําลังเทียบเท่ากับนักรบระดับ
นักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 1 พวกมันเล่นงานลูกน้องของผมจนตาย ยิง่
ไปกว่านั้น ดูเหมือนจะมีพลังงานเหนือธรรมชาติบางอย่างหนุนหลัง
พวกมันด้วย เรายิงธนูใส่ ไม่รู้กี่ดอก แต่ไม่มีดอกไหนเข้าถึงเป้าหมาย
เลย…”
ถึงเรื่ องราวจะดูเหลวไหลสักแค่ไหน แต่หวั หน้าทีมลอบสังหารก็
จดจําทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้แม่นยํา
“ม้ากับเกี้ยวที่รู้จกั ศิลปะการต่อสู ?้ ” เฉว่เฉินหน้าตึง รู ้สึกเหมือน
กําลังถูกท้าทาย เขาคว้าคอเสื้ อของหัวหน้าทีมลอบสังหารแล้วดึงตัว
อีกฝ่ ายลอย “แก ไอ้สารเลว ฉันไม่มีความอดทนพอจะเล่นเกมกับ
แกนะ ต่อให้แกไม่อยากทํางานให้ฉนั อย่างน้อยก็ควรมีคาํ อธิบายที่
ฟังขึ้น!”
“คุณ…คุณคิดว่าผมโกหกคุณหรื อ?” หัวหน้าทีมลอบสังหารแทบเสี ย
สติ
ทําไมไม่มีใครเชื่อสิ่ งที่เขาพูด? เขาพูดความจริ งทุกคํา!
“พอที! นี่คือบัตรนิรันดร์ มีเงิน 500 เหรี ยญนิรันดร์อยูใ่ นนั้น น่าจะ
ชดเชยความเสี ยหายของแกได้!” เฉว่เฉิ นคร้านจะเสี ยเวลากับอีกฝ่ าย
เขาโยนบัตรนิรันดร์ให้อย่างไม่แยแส
“คุณจะให้เงินผมแค่ 500 เหรี ยญนิรันดร์เพือ่ ชดเชยชีวติ ของพี่นอ้ งกว่า
30 คนของผมอย่างนั้นหรื อ?” หัวหน้าทีมลอบสังหารหน้าถอดสี
เงินเสี้ ยวนี้ไม่พอแม้แต่จะจ่ายค่าลูกธนูและคันธนูที่พวกเขาเสี ยไป
ด้วยซํ้า!
“แกทํางานที่เราตกลงกันไว้ไม่สาํ เร็ จ ฉันให้แก 500 เหรี ยญนิรันดร์ก็
ถือว่าปรานีแล้ว ตอนนี้กไ็ สหัวไปได้ ไม่อย่างนั้น ฉันสาบานเลยว่า
แกจะไม่ได้เงินจากฉันแม้แต่แดงเดียว!” เฉว่เฉิ นคํารามพร้อมกับหรี่
ตา
“คุณ…”
เมื่อรับรู ้ได้ถึงเจตนาสังหารในดวงตาของเฉว่เฉิ น หัวหน้าทีมลอบ
สังหารรู ้ดีวา่ คงต้องตายแน่หากยังท้าทายความอดทนของอีกฝ่ าย จึง
รี บเก็บบัตรนิรันดร์แล้วจากไปในความมืดยามคํ่าคืน
“ท่านอาจารย์ ตั้นเฉี่ยวเทียนยังไม่ตายนะ แล้วเราจะทําอย่างไร?” เฉว่
ชิงถามอย่างร้อนใจ
“ไอ้พวกโง่เง่าไร้ประโยชน์! เหตุผลเดียวที่ผมเรี ยกใช้พวกมันก็เพื่อ
หลีกเลี่ยงความยุง่ ยาก” เฉว่เฉินคําราม “ตอนนี้กลับสํานักเจ้าเมือง
ก่อนเถอะ ไม่ตอ้ งห่วง ผมคิดออกแล้ว หมอนัน่ จะไม่มีวนั ทําตัวเป็ น
ก้อนหิ นขวางทางของคุณได้อีก ถ้าทุกอย่างเป็ นไปตามแผนล่ะก็
แม้แต่ชื่อเสี ยงของคุณก็จะกลับมาดีงามเหมือนเดิม!”
…..
หัวหน้าทีมสังหารครุ่ นคิดเรื่ องที่เกิดขึ้น ยิง่ คิดก็ยงิ่ โมโห
ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภมากของเขา คงไม่ตอ้ งสู ญเสี ยมากมาย
ขนาดนี้ จากกองโจรทั้งกลุ่ม ตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียว
เขากําหมัดอย่างเคืองแค้นและรี บกลับสู่ ที่ซ่อน แต่ขณะที่เพิ่งถึง
ทางเข้า เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นจากหมู่ไม้ทะมึนที่อยูโ่ ดยรอบ
“พี่นอ้ งของคุณตายไปมากมาย จะปล่อยให้เรื่ องจบง่าย ๆ ด้วยเงิน
เพียง 500 เหรี ยญนิรันดร์หรื อ?”
“นัน่ ใคร?”
หัวหน้าทีมลอบสังหารชักกระบี่ออกมาและกวาดสายตาโดยรอบ แต่
ไม่วา่ จะมองอย่างไร ก็ไม่มีใครให้เห็น
“แกเป็ นใคร? ออกมานะ! คิดว่าวิธีน้ ีจะทําให้ฉนั กลัวหรื อ? ลูกไม้ต้ืน ๆ
น่ะใช้กบั ตัวฉัน, เฉาเฉิ งลี่ ไม่ได้ผลหรอก!”
“อย่าเสี ยเวลาหาเลย ผมอยูบ่ นกิ่งไม้ตรงหน้าคุณนี่แหละ” เสี ยงนั้น
พูดต่อ
เฉาเฉิงลี่รีบเงยหน้า ท่ามกลางแสงจันทร์นวลตา เขาเห็นราง ๆ ว่ามี
ิ ญาณปี ศาจสิ งอยู่
หนังสื อเล่มหนึ่งส่ ายไปมา ราวกับมีวญ
ตอนที่ 1933 ยังไม่ จบ
เสี ยงนั้นมาจากหนังสื อ
“กะ-กะ-กะ-แก…แกกําลังพูดกับฉันหรื อ?” เฉาเฉิ งลี่สนั่ จนฟันกระทบ
กัน
จะไม่ให้เขาเสี ยขวัญได้อย่างไร? ในคํ่าคืนเดียว เขาเห็นลูกธนูมากมาย
เบนออกจากเป้าหมายของมันด้วยเหตุผลลึกลับที่อธิบายไม่ได้ ม้าตัว
หนึ่งและเกี้ยวอีกหลังหนึ่งที่สาํ แดงศิลปะการต่อสู อ้ อกมา เขากําลัง
คิดจะเข้านอนและลืมฝันร้ายทุกอย่างที่ได้เจอ แต่ตอนนี้ หนังสื อพูด
ได้เล่มหนึ่งก็มาอยูต่ รงหน้า!
“ก็ใช่น่ะสิ ” หนังสื อตอบ
“แกเป็ นใคร? ใครส่ งแกมาที่นี่? อย่าคิดว่าจะตามติดฉันได้นะ ฉันจะ
ฆ่าแกเสี ยเดี๋ยวนี้แหละ!”
เฉาเฉิงลี่คาํ ราม แต่แล้วก็ขว้างกระบี่ทิ้งและวิง่ หนีไปในทิศทาง
ตรงกันข้าม
เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ที่สาํ คัญที่สุดตอนนี้กค็ ือหนีไปให้ไกลที่สุด!
พลัก่ !
แต่ยงั ไม่ทนั จะไปถึงไหน เฉาเฉิงลี่กส็ ะดุดเข้ากับบางอย่างแล้วล้มลง
กระแทกพื้น ขณะที่กาํ ลังกระเสื อกกระสนลุกขึ้นยืน ก็เห็นหนังสื อที่
อยูบ่ นต้นไม้เมื่อครู่ มาอยูต่ รงหน้า เขาตัวแข็งด้วยความจนปั ญญา
“ถ้าคุณอยากตายก่อนวัยอันควรล่ะก็ เชิญเลย วิง่ หนีตามสบาย ผม
ยินดีจะไปส่ งคุณด้วยความจริ งใจสู งสุ ดของผม!”
ขณะที่หนังสื อพูด แรงกดดันหนักหน่วงก็ระเบิดออกจากตัวมัน ทํา
ให้เฉาเฉิ งลี่รู้สึกเหมือนถูกขังไว้ในนํ้าแข็ง เขาตัวสัน่ ขณะละลํ่าละลัก
ด้วยริ มฝี ปากสัน่ เทา “มะ-ไม่ ไม่แน่นอน!”
เขารู ้ได้โดยสัญชาตญาณว่าหนังสื อที่อยูต่ รงหน้ามีพละกําลังเทียบเท่า
กับนักปราชญ์โบราณที่แข็งแกร่ งที่สุด…มันมีวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้าง
มิติ
สิ่ งนี้ทาํ ให้เฉาเฉิงลี่ถอดใจ เขารู ้ดีวา่ ต่อให้งดั วิธีการไหนมาใช้ ก็ไม่มี
ทางหนีพน้ หนังสื อเล่มนี้ได้
“เด็กดี!” หนังสื อชมเชย “คนที่คุณเพิ่งพบน่ะ พวกเขาปิ ดบังความ
จริ งสําคัญไว้และทําให้คุณต้องเผชิญกับความสู ญเสี ยครั้งใหญ่ ไม่
อยากเอาคืนหรื อ?”
“นะ-แน่นอน ผมอยากเอาคืนถ้าผมทําได้ ผมจะฉีกพวกมันให้เป็ น
ชิ้น ๆ !” เฉาเฉิงลี่หน้าเปลี่ยนสี ดว้ ยแรงโทสะ
“อย่างน้อยที่สุด คุณก็ควรจะรู ้ตวั ตนของพวกเขาถ้าอยากเอาคืน รู ้
หรื อเปล่าว่าพวกนั้นเป็ นใคร?” หนังสื อตั้งคําถาม
“คือ…” เฉาเฉิงลี่อ้ ึง
ตอนที่เขารับงาน อีกฝ่ ายขอปกปิ ดตัวตนไว้เป็ นความลับ ซึ่ งเขาก็ไม่
มีปัญหาอะไรตราบใดที่เงินถึงมือ จึงไม่ได้ใส่ ใจเสาะหาตัวตนของ
ลูกค้าของเขา
“ป่ านนี้พวกนั้นคงยังไปไม่ได้ไกลเท่าไหร่ ตามไปสิ ” หนังสื อสัง่ การ
“ในฐานะหัวหน้ากองโจร เรื่ องพื้น ๆ อย่างการสะกดรอยคงไม่ใช่
เรื่ องใหญ่สาํ หรับคุณ จริ งไหม?”
“…ผมเข้าใจแล้ว” เฉาเฉิงลี่พยักหน้า
คําพูดเหล่านั้นทําให้แน่ใจว่าหนังสื อก็เหมือนกับม้าและเกี้ยวที่เขา
ได้เจอ คือมาจากตั้นเฉี่ยวเทียน เป็ นไปได้วา่ เหตุผลที่ต้ นั เฉี่ยวเทียน
ยังไม่ฆ่าเขาก็เพราะอีกฝ่ ายเห็นว่ายังมีขอ้ มูลบางอย่างที่ตอ้ งเค้นจาก
ปากเขาให้ได้
“เดินหน้า!” หนังสื อสัง่ การ
เฉาเฉิ งลี่กดั ฟันและรี บกลับไปบริ เวณที่ก่อกองไฟ
แม้วรยุทธของเขาจะอ่อนด้อยกว่าเฉว่เฉิน แต่เพราะเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ
การปล้น จึงเก่งกาจเรื่ องการหลบซ่อนและสะกดรอย ไม่ชา้ เฉาเฉิ งลี่
ก็มายืนอยูห่ น้าคฤหาสน์โอ่อ่าหลังหนึ่ง
“นี่มนั …สํานักเจ้าเมือง?” ท่านเจ้าเมืองคือผูส้ งั่ การลอบสังหารหรื อ?”
เฉาเฉิงลี่ตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ
เจ้าเมืองชวนเจียง, เฉว่เหยา เป็ นผูท้ ี่ใคร ๆ ต่างเคารพยกย่อง ขึ้นชื่อ
เรื่ องความเป็ นกลางและชอบธรรม อีกฝ่ ายมีส่วนรู ้เห็นในเรื่ อง
โหดเหี้ ยมอย่างการลอบสังหารหรื อ?
เฉาเฉิ งลี่แนบตัวเข้ากับกําแพงอย่างระแวดระวังและกระโจนขึ้นไป
เขาลงมาที่ลานบ้าน และเห็นคนกลุ่มใหญ่กาํ ลังรวมตัวกัน สองคนที่
เขาได้พบเมื่อครู่ ยนื อยูแ่ ถวหน้าของคนกลุ่มนั้น
เฉาเฉิงลี่ควบคุมลมหายใจอย่างระมัดระวัง เขาพยายามกลบเกลื่อน
ทุกร่ องรอย
หนึ่งในคนที่ยนื อยูแ่ ถวหน้าคือทหารนายหนึ่งในชุดเกราะเต็มยศ
เท่าที่ดู คนเหล่านั้นน่าจะเป็ นบุคลากรตําแหน่งสู งของสํานักเจ้าเมือง
“เปลี่ยนมาสวมเสื้ อผ้าของคนพวกนี้แล้วกําจัดตั้นเฉี่ ยวเทียนเสี ย!
เมื่อถึงรุ่ งเช้า หมอนัน่ จะต้องไม่หายใจ เข้าใจไหม?” เสี ยงทุม้ ลึกของ
ชายวัยกลางคนผูห้ นึ่งดังก้องไปทัว่ ทั้งลานบ้านขณะชี้นิ้วไปยังกอง
เสื้ อผ้าสี ดาํ ที่อยูข่ า้ ง ๆ
“ขอรับ นายท่าน!”
เหล่าทหารรี บถอดชุดเกราะและเปลี่ยนไปสวมเสื้ อผ้าสี ดาํ เหล่านั้น
เมื่อมองใกล้ ๆ เฉาเฉิงลี่แทบลมจับด้วยความตกใจ
มันคือเสื้ อผ้าที่กองโจรของเขาสวมใส่ !
บุคลากรตําแหน่งสู งของสํานักเจ้าเมืองกําลังจะปลอมตัวเป็ นพวกเขา
เพื่อสังหารตั้นเฉี่ยวเทียน! เขาจะไม่มีวนั เชื่อเรื่ องนี้เลยหากไม่ได้เห็น
กับตา
ท่านเจ้าเมืองมีความแค้นอะไรถึงทํากับตั้นเฉี่ ยวเทียนขนาดนี้…เฉา
เฉิงลี่ครุ่ นคิดขณะตัดสิ นใจอย่างชาญฉลาดด้วยการหยิบผลึกบันทึก
ขึ้นมาบันทึกภาพที่อยูต่ รงหน้าไว้
ไม่ชา้ กองทหารของสํานักเจ้าเมืองที่ปลอมตัวแล้วก็มุ่งหน้าไปยังที่
พักตระกูลตั้น พวกเขาปิ ดล้อมพื้นที่บริ เวณนั้น
“เราจะบุกเข้าไปข้างใน ไม่ไว้ชีวติ ใครหน้าไหนทั้งนั้น!” หัวหน้า
กองทหารกระซิ บกระซาบสัง่ การ
“ขอรับ!” เมื่อได้รับคําสัง่ จากหัวหน้า กองทหารบุกเข้าไปในบ้านพัก
เฉาเฉิงลี่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่เป็ นพุม่ หนาพุม่ หนึ่งอย่างระมัดระวัง
และเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านพักผ่านแสงจันทร์สลัว สิ่ งที่
เขากําลังจะได้เห็นจะเป็ นภาพที่ชวั่ ชีวติ นี้ไม่มีวนั ลืม
ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยูก่ ลางบ้านพักพร้อมดาบในมือ ทุกครั้งที่เขา
สะบัดข้อมือ ศีรษะหนึ่งจะกลิ้งหลุน ๆ ไปกับพื้น สายลมคํารามหวีด
หวิวอยูใ่ นลานบ้าน ดูราวกับว่าพละกําลังนี้จะไม่มีวนั หมดสิ้ นจนกว่า
ทุกร่ างที่บุกเข้ามาจะเสี ยชีวติ
ภายในไม่ถึง 3 นาที กองทหารทั้ง 50 นายจากสํานักเจ้าเมืองก็กลาย
เป็ นศพ
“หมอนัน่ คือตั้นเฉี่ ยวเทียนหรื อ น่าจะเป็ นเจ้าหนุ่มอ่อนแอที่เราต้อง
สังหารนี่?” เฉาเฉิงลี่หน้าซีดขณะใจเต้นรัวจนแทบกระโดดออกมา
จากหน้าอก “ไอ้สารเลวพวกนั้นจากสํานักเจ้าเมือง…พวกมันพยายาม
จะให้เราถูกฆ่า!”
โชคดีที่สิ่งที่เล่นงานเขาก่อนหน้านี้คือม้าและเกี้ยว หากเขาต้องสู ้
กับตั้นเฉี่ ยวเทียนตัวต่อตัว หัวคงหลุดจากบ่าภายในชัว่ อึดใจ
ศิลปะเพลงดาบของชายหนุ่มเข้าถึงระดับที่ล้ าํ ลึกเกินหยัง่ แม้แต่การ
โจมตีแบบเรี ยบง่ายก็มีเจตจํานงอันลํ้าลึก ชัว่ ชีวติ ของเฉาเฉิงลี่ เขาไม่
เคยเห็นเทคนิคที่น่าสะพรึ งขนาดนี้!
“ท่านอาจารย์…”
หลังจากสังหารทุกคนแล้ว ชายหนุ่มคนนั้น, ตั้นเฉี่ ยวเทียน ก็เดิน
กลับเข้าไปในห้องด้วยสี หน้าทึ่งจัด ราวกับไม่อยากเชื่อว่าตัวเขาคือผู ้
สังหารหมู่ทหารพวกนั้น และตอนนั้นเองที่เฉาเฉิงลี่เห็นชายหนุ่มอีก
คนหนึ่งนัง่ อยูห่ น้าห้อง เฝ้ามองการต่อสู ้ เขาไม่เห็นชายหนุ่มคนนั้น
เลยจนกระทัง่ ถึงตอนนี้!
ชายผูน้ ้ นั ดูจะมีอายุราว 20 ต้น ๆ ท่วงท่างามสง่า เมื่อเห็นตั้นเฉี่ ยว
เทียน เขาวางถ้วยชาลงอย่างสุ ขมุ ก่อนจะย่นหน้าผาก
“ก็แค่ศตั รู ไม่กี่คน คุณใช้เวลาจัดการพวกนั้นมากกว่า 2 นาทีเสี ยอีก
เท่ากับใช้เวลา 3 อึดใจต่อหนึ่งคนทีเดียวนะ ถ้าคุณทําได้เท่านี้ล่ะก็
ผมจะถ่ายทอดศิลปะเพลงดาบที่ซบั ซ้อนกว่านี้ให้คุณได้อย่างไร?
แบบนี้ไม่ได้ คืนนี้น่ะคุณต้องฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบอยูท่ ี่นี่จนถึงเช้า
เข้าใจไหม?”
“เข้าใจขอรับ” ชายหนุ่มก้มหน้าลงอย่างละอาย
ตั้นเฉี่ยวเทียนสังหารทหารพวกนั้นได้ทุกสามอึดใจ แต่ยงั ถูกตําหนิ?
เฉาเฉิงลี่แทบสําลัก
เขาเห็นอัจฉริ ยะมาแล้วมากมาย ซึ่งตั้นเฉี่ ยวเทียนก็น่าจะอยูอ่ นั ดับ
ต้น ๆ แต่ท่านอาจารย์ของเขายังไม่พอใจกับสิ่ งที่เห็น…อาจารย์ของ
ตั้นเฉี่ยวเทียนจะโหดร้ายไปหน่อยไหม?
แต่นนั่ ยังไม่จบ
ขณะที่เฉาเฉิงลี่กาํ ลังพยายามใคร่ ครวญสิ่ งที่เกิดขึ้น ก็เห็นม้าตัวที่เล่น
งานลูกน้องของเขาเมื่อครู่ วงิ่ เหยาะ ๆ ไปหาชายหนุ่มคนนั้น มันยิม้
กว้าง ยกกานํ้าชาขึ้นและเติมถ้วยชาของชายหนุ่มจนเต็ม จากนั้นก็
เช็ดกีบของตัวเองจนสะอาดก่อนจะนวดหลังให้ชายหนุ่ม
เฉาเฉิงลี่รู้สึกเหมือนสติจะหลุดลอย
ไอ้ที่เห็นอยูต่ รงนั้นคือม้าจริ ง ๆ หรื อ?
ม้าควรจะทําอะไรแบบนี้หรื อไง?
เราจะไม่เหยียบตระกูลตั้นอีกแล้ว ไม่มีวนั …เฉาเฉิ งลี่ตดั สิ นใจเด็ดขาด
ขณะหันหลังกลับและเตรี ยมจากไป
แต่ในตอนนั้น เสี ยงหนึ่งก็ดงั เข้าหู “คุณรู ้นี่วา่ ต้องทําอะไร”
เสี ยงนั้นนุ่มนวลและปลอบประโลม แต่ทาํ ให้เขาขนลุกขนชันไป
ทั้งตัว เฉาเฉิงลี่รีบหันกลับไปมองบ้านพักตระกูลตั้น เห็นชายหนุ่มที่
กําลังจิบชามองมาทางเขาพร้อมกับยิม้ น้อย ๆ ราวกับอีกฝ่ ายมองทะลุ
ความมืดมาเห็นตัวเขาได้
“ผะ-ผม…” เฉาเฉิงลี่ทาํ อะไรไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปุบปั บ
“คุณก็แค่ตอ้ งทบทวนสิ่ งที่เห็นในวันนี้” ริ มฝี ปากของชายหนุ่มคน
นั้นไม่ขยับ แต่เสี ยงของเขาดังชัดเจนอยูใ่ นหู
“ผมเข้าใจแล้ว…” เฉาเฉิงลี่ตอบพร้อมกับโค้งคํานับอย่างงาม
“ก่อนหน้านี้คุณมีเจตนาร้ายต่อผม แต่เพราะคุณทําตามคําสัง่ ของชาย
อีกคนหนึ่ง ครั้งนี้ผมจึงจะไม่เอาเรื่ องและไว้ชีวติ คุณ แต่ขอเตือนนะ
ว่าผมจะไม่ใจดีถา้ คุณกล้าสังหารคนอื่น ๆ อีกด้วยมือชัว่ ร้ายของคุณ
คู่น้ นั ผมจะจับตามองคุณทุกฝี กา้ ว…” ชายหนุ่มพูดต่อ ก่อนที่เสี ยง
ของเขาจะจางหายไป
“ดะ-ได้!” เฉาเฉิงลี่รับคําก่อนจะโกยอ้าว
จางเซวียนเฝ้ามองเฉาเฉิงลี่โกยอ้าวอย่างคนเสี ยสติ เขายิม้ ก่อนจะยก
มือขึ้นและสะบัดแขนเสื้ อ
บึ้มมมม!
ศพทั้งหมดที่ก่ายกองอยูใ่ นบ้านพักระเบิดเป็ นจุณ กลายเป็ นเถ้าถ่าน
ในชัว่ พริ บตา
จางเซวียนสะบัดแขนเสื้ ออีกครั้ง แล้วหลักฐานทั้งหมดก็ไหลลงสู่ ท่อ
ระบายนํ้าใต้ดินและหายวับไป
ทุกร่ องรอยการต่อสู ท้ ี่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถูกกลบเกลื่อนหมดสิ้ น ราว
กับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
จางเซวียนเดินกลับเข้าห้องและทรุ ดตัวลงนัง่ ทําสมาธิเพื่อฟื้ นฟูพลัง
ปราณในร่ างกาย เขาต้องยอมรับว่านํ้าที่ได้จากการต้มนํ้าเต้าตงฉู่มี
อานุภาพน่าทึ่งมาก ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บของเขาจะหายดี ร่ างกาย
ก็ยงั คุน้ ชินกับมิติและพลังจิตวิญญาณในมิติเบื้องบนด้วย ทําให้
เคลื่อนไหวและซึมซับพลังจิตวิญญาณได้ง่ายกว่าเดิม
จางเซวียนฝึ กฝนวรยุทธอยูร่ าว 2 ชัว่ โมงก่อนจะหยุด เขาครุ่ นคิด
เงียบ ๆ ก่อนจะเพ่งสมาธิเข้าสู่ จุดตันเถียน “นํ้าเต้า แกอยูท่ ี่ไหน?”
คําถามนี้ติดค้างในใจของเขามาระยะหนึ่งแล้ว
จางเซวียนรู ้ดีวา่ อาการบาดเจ็บของเขารุ นแรงแค่ไหน แต่เพียงแค่ดื่ม
นํ้าที่ได้จากการต้มนํ้าเต้าตงฉู่ ก็ทาํ ให้เขาฟื้ นตัวอย่างรวดเร็ ว เป็ นไป
ได้วา่ นํ้าเต้าตงฉู่น่าจะเป็ นบางอย่างที่น่าสะพรึ งกว่าที่เขาเคยคิดไว้
เมื่อหวนนึกดู ก็น่าสงสัยว่าทําไมนักปราชญ์โบราณชิวอู๋ถึงสร้างค่ายกล
มิติข้ ึนเพียงเพื่อบ่มเพาะนํ้านํ้าเต้าตงฉู่มายาวนานหลายหมื่นปี เรื่ องนี้
น่าจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น
“ที่นนั่ มีของให้ผมกินมากกว่าที่นี่ ถ้าคุณมีอาหารให้ผมกินมากพอ
ล่ะก็ ไม่ชา้ ก็จะรู ้” นํ้าเต้าตงฉู่ยา้ ยตําแหน่งของมันเพื่อหาที่เหมาะ ๆ
ก่อนจะลงนอนอย่างเกียจคร้าน
จางเซวียนพยายามตั้งคําถามอีก 2-3 ข้อ แต่อีกฝ่ ายไม่แยแส เขาถอน
หายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะนําตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลออกมาและ
เพ่งสมาธิเข้าไป
ตอนที่ 1934 นี่มนั ปล้นกันชัด ๆ !
“ทําไมพวกนั้นยังไม่กลับมา?”
ที่สาํ นักเจ้าเมือง เฉว่เฉินเดินวนไปมาเหมือนหนูติดจัน่ พร้อมกับย่น
หน้าผาก
ถ้าเป็ นสถานการณ์ปกติ กองทหารที่เขาส่ งไปควรจะสังหารเจ้าขยะ
นัน่ ได้สาํ เร็ จและกลับมาแล้ว นี่กผ็ า่ นไปแล้วถึง 2 ชัว่ โมง ทําไมถึง
ไม่มีใครกลับมา?
“คุณ ออกไปดูซิ!” เฉว่เฉิ นหันไปสัง่ การองครักษ์คนหนึ่งที่อยูใ่ กล้ ๆ
องครักษ์รีบเปลี่ยนเสื้ อผ้าเป็ นชุดสี ดาํ และจากไป ไม่ชา้ ก็กลับมาด้วย
สี หน้าประหลาด “นายท่าน ที่ตระกูลตั้นดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เลย ตั้นเฉี่ ยวเทียนกับตั้นอี้ยงั คงปกติดี!”
เฉว่เฉิ นงงงันกับรายงานนั้น “เป็ นไปได้อย่างไร? คําสัง่ ของผมไม่
ชัดเจนหรื อ?”
เขาสัง่ การกองทหารให้กาํ จัดทั้งสามคนที่อยูใ่ นบ้านพักตระกูลตั้น
โดยเร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้ แต่ผา่ นไป 2 ชัว่ โมงแล้วก็ยงั ไม่มีอะไร
เกิดขึ้น เรื่ องราวเป็ นอย่างไรกันแน่?
“ไปสื บเสาะเรื่ องนี้! ดูซิวา่ ทีมที่เราส่ งไปก่อนหน้านี้อยูไ่ หน!” เฉว่
เฉินตวาดก้อง
องครักษ์รีบออกไป, 1 ชัว่ โมงต่อมาก็กลับมารายงาน “จากการแกะ
รอยฝี เท้า พวกเขาเข้าสู่ ตระกูลตั้นแล้ว แต่ไม่มีร่องรอยการกลับออก
มา…ผมเดาว่าพวกนั้นถูกสังหารหมด และศพของพวกเขาก็ถูกกําจัด
ด้วย!”
“พวกเขาถูกสังหาร? ฝี มือของสามคนนั้นหรื อ?” เฉว่เฉินถึงกับผงะ
กองทหาร 50 นายที่เขาส่ งไปล้วนแต่เป็ นนักรบระดับนักปราชญ์ผู ้
ยิง่ ใหญ่ข้ นั 1 ส่ วนตัวหัวหน้าก็เป็ นถึงนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่
ขั้น 2 หากผนึกพละกําลังกัน ก็สามารถรับมือได้แม้แต่กบั นักปราชญ์
โบราณขั้น 4 แต่กลับถูกฆ่าตายอย่างเงียบ ๆ แบบนั้น ถึงขนาดที่ไม่มี
ใครสักคนรอดชีวติ กลับมาส่ งข่าว…
ในเมื่ออีกฝ่ ายคือตั้นเฉี่ยวเทียนที่พิการและตั้นอี้ซ่ ึ งไร้เรี่ ยวแรง พร้อม
กับชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกคนหนึ่ง เรื่ องแบบนี้ไม่ควร
เกิดขึ้น!
หรื อว่า…ที่เจ้าโจรคนนั้นพูดมาจะเป็ นเรื่ องจริ ง? เฉว่เฉิ นหวนนึกถึง
คําพูดของเฉาเฉิงลี่
หมอนัน่ บอกว่าตั้นเฉี่ยวเทียนมีมา้ กับเกี้ยวที่ทรงพลังถึงขนาดสําแดง
ศิลปะการต่อสู ไ้ ด้
ไม่อย่างนั้น ทั้งสองคนจะยังมีชีวติ อยูไ่ ด้อย่างไร?
“นายท่าน ตอนนี้จะทําอย่างไรดี? ส่ งคนไปอีกดีไหม?” องครักษ์ต้ งั
คําถาม
“ไม่ตอ้ ง…ถ้าพวกนั้นถูกสังหารหมด ป่ านนี้อีกฝ่ ายก็คงระวังตัวแล้ว
ตอนนี้เราต้องรวบรวมข้อมูลและประเมินพละกําลังของตั้นเฉี่ยว
เทียนก่อนจะลงมือทําอะไรต่อไป” เฉว่เฉินส่ ายหน้า
“อีกอย่าง พระอาทิตย์ใกล้ข้ ึนแล้ว ถ้าเราทําอะไรเอิกเกริ กไปตอนนี้
ก็เสี่ ยงต่อการทําให้ชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมืองต้องด่างพร้อย”
“แต่เราจะปล่อยให้ไอ้สารเลวนัน่ ลอยนวลหรื อ…หลังจากที่พี่นอ้ ง
ของเราต้องตายไปแล้วมากมาย?” องครักษ์ถามอย่างร้อนใจ
สํานักเจ้าเมืองอาจรํ่ารวยก็จริ ง แต่การบ่มเพาะดูแลทหารทั้ง 50 นาย
ต้องลงทุนลงแรงและใช้ทรัพยากรมาก พวกนั้นถูกฆ่าตายหมดแบบ
นี้…เป็ นเรื่ องที่ยากจะรับไหว
เฉว่เฉินหน้าตาเคร่ งเครี ยด “ผมอยากให้คุณไปที่ตลาดหงเหยียนแล้ว
ตรวจสอบจุดลอบสังหารที่อยูร่ ะหว่างทาง พยายามหาศพของพวก
กองโจรหรื อร่ องรอยของการต่อสู ใ้ ห้ได้!”
“ขอรับ นายท่าน” องครักษ์รับคําก่อนจะออกจากห้อง ครู่ ต่อมาก็
กลับมารายงาน “นายท่าน ที่ตรอกด้านหน้าใกล้ตลาดหงเหยียน เรา
พบศพ คันธนู และลูกธนูจาํ นวนหนึ่ง เป็ นของพวกกองโจร”
“ดี ส่ งคนของคุณไปกําจัดศพโจรพวกนั้นเสี ย จากนั้นนําชุดเกราะที่
เปื้ อนเลือดไปแอบฝังไว้ใกล้ ๆ กับบ้านพักตระกูลตั้น” เฉว่เฉิ น
คํารามขณะผุดรอยยิม้ เยือกเย็น
“นายท่าน จะให้ผมฝังอาวุธและชุดเกราะไว้รอบ ๆ บ้านพักตระกูล
ตั้นหรื อ?”
เห็นองครักษ์สบั สนกับคําสัง่ ของเขา นัยน์ตาของเฉว่เฉิ นฉายความ
ขัดใจออกมาขณะอธิบาย “ตั้นเฉี่ยวเทียนเป็ นคนอ่อนแอมาตลอด ไม่
มีใครในเมืองที่ไม่รู้เรื่ องนั้น ถ้าเรื่ องแดงออกไปว่าทหารมากมาย
ของสํานักเจ้าเมืองหายตัวไปในชัว่ ข้ามคืน และอาวุธกับเสื้ อเกราะ
ของทั้งกองโจรและกองทหารถูกพบในบริ เวณใกล้บา้ นพักตระกูล
ตั้น คุณคิดว่าผูค้ นจะพูดถึงเรื่ องนี้อย่างไร?”
“ผูค้ นจะพูดถึงเรื่ องนี้อย่างไร? พวกเขาก็น่าจะคิดว่าตั้นเฉี่ ยวเทียน
รวมหัวกับพวกกองโจรเพื่อสังหารกองทหารของสํานักเจ้าเมือง…”
ขณะที่องครักษ์พดู นัยน์ตาของเขาก็ค่อย ๆ เบิกโพลงด้วยความ
ตื่นเต้น
หากทําแบบนั้น ต่อให้ไม่ตอ้ งเล่นงานตั้นเฉี่ ยวเทียนโดยตรง พวกนั้น
ก็จะต้องจนมุมและถูกบีบให้ยอมจํานน ถ้าทุกอย่างเป็ นไปตามแผน
ไม่เพียงแต่ชื่อเสี ยงของตั้นเฉี่ยวเทียนจะด่างพร้อย ยังอาจเกิดแรง
กดดันให้มีการประหารตั้นเฉี่ยวเทียนด้วย
ด้วยความชัว่ ร้ายของเหล่ากองโจรตลอด 10 ปี ที่ผา่ นมา พวกนั้นเป็ น
ที่จงเกลียดจงชังของผูค้ นทัว่ ไป ถ้าใคร ๆ รู ้วา่ ตั้นเฉี่ยวเทียนรวมหัว
กับกองโจร หมอนัน่ ต้องจบเห่แน่
และนัน่ จะทําให้สาํ นักเจ้าเมืองมีเหตุผลอันชอบธรรมที่จะปฏิเสธ
สัญญาผูกมัดการแต่งงาน
เพราะท่านเจ้าเมืองผูส้ ู งส่ งจะยอมให้ลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับ
คนที่ถูกตั้งคําถามด้านคุณธรรมจริ ยธรรมได้อย่างไร?
“ใช่! ผมอยากให้คุณกระจายข่าวพรุ่ งนี้เช้า บอกไปว่ากองทหาร 50
นายของเราพบร่ องรอยของเหล่ากองโจรและตั้งใจจะสังหารพวก
นั้น แต่กลับหายตัวไประหว่างปฏิบตั ิการ ทางเราจึงออกค้นหา…
กระพือเรื่ องให้ลุกลามออกไปมากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ถ้ารู ้กนั ทัว่ ทั้ง
เมืองได้กด็ ี!” เฉว่เฉินสัง่ การพร้อมกับยิม้ ออกมา
“เมื่อข่าวแพร่ กระจายออกไปมากพอ เราจะมุ่งหน้าไปยังตระกูลตั้น
เพื่อค้นหาหลักฐานและสื บเสาะหากองทหารที่หายไป ซึ่งที่นนั่ เรา
จะพบอาวุธของกองโจรและเสื้ อเกราะเปื้ อนเลือดของกองทหารของ
เรา ตั้นเฉี่ ยวเทียนไม่มีทางดิ้นหลุดแน่!”
“ขอรับ นายท่าน” เห็นเฉว่เฉินยังตัดสิ นใจได้อย่างชาญฉลาดแม้
กําลังเพลี่ยงพลํ้า องครักษ์โค้งคํานับอย่างงามด้วยความชื่นชมยกย่อง
เขาใคร่ ครวญแผนการอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะตั้งคําถาม “แต่วา่ …นายท่าน
ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ยอมรับผิดแม้เราจะพบหลักฐานที่นนั่ ล่ะ?”
เฉว่เฉิ นตอบด้วยนัยน์ตาเย็นเยียบ “เขาจะปฏิเสธก็ตามใจ แต่นนั่ ไม่มี
ประโยชน์ หากเรามีเหตุผล เพียงพอที่จะนําตัวเขามายังสํานักเจ้าเมือง
ได้ เขาก็จะอยูใ่ ต้อาณัติของเรา เราจะป้ายสี อะไรข้อหาอะไรก็ได้ตาม
แต่ที่เราต้องการ และจากนั้นก็พิพากษาเขา!”
“จริ งด้วย…” องครักษ์พยักหน้า “ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
…..
“นายหญิงน้อยที่ 2 เรี ยกตัวผมหรื อ?”
ขณะที่เฉว่เฉินกําลังเตรี ยมการเล่นงานตั้นเฉี่ยวเทียน เฉว่ชิงก็กลับ
ห้องนอนของเธอ แต่นอนไม่หลับ ลงท้ายก็เรี ยกคนใกล้ชิดคนหนึ่ง
ของหัวเจียงเหอให้มาที่หอ้ ง
ชายหนุ่มคนนี้มาจากสํานักดาบเมฆเหิ นและเป็ นศิษย์สายตรงระดับ
ล่างเหมือนเธอ เขามีหน้าที่ทาํ ตามคําสัง่ ของหัวเจียงเหอ เพื่อที่อีก
ฝ่ ายจะได้ทุ่มเทเวลาให้กบั การฝึ กฝนวรยุทธอย่างเต็มที่
“เงินจํานวนนี้เป็ นสัญลักษณ์แทนความปรารถนาดีของฉัน กรุ ณารับ
ไว้ดว้ ย” เฉว่ชิงพูดอย่างสุ ภาพ
เธอโบกมือครั้งหนึ่ง แล้วคนรับใช้กร็ ี บยืน่ ถุงเหรี ยญทองให้ ก่อนจะ
ยืน่ ออกไป คนรับใช้เขย่าถุงนั้นเบา ๆ ได้ยนิ เสี ยงกระทบกันกรุ๋ งกริ๋ ง
ของเหรี ยญทองถนัด เท่าที่เห็น น่าจะมีเงินอยูใ่ นนั้นอย่างน้อยก็ 100
เหรี ยญ
“นายหญิงน้อยที่ 2, เราอยูส่ าํ นักเดียวกัน ไม่ตอ้ งเกรงอกเกรงใจ
หรอก…” ชายหนุ่มตาโตขณะรับเหรี ยญทองไว้
ศิษย์สายตรงระดับล่างอย่างเขาไม่มีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรของ
สํานักดาบเมฆเหิ นมากนัก จึงเป็ นธรรมดาที่จะยิง่ กว่ายินดีปรี ดาที่
ได้รับของกํานัลจากความใจกว้างของเฉว่ชิง
“ฉันขอถามอะไรหน่อย ศิษย์พี่หวั พูดอะไรบ้างหลังจากกลับที่พกั ?”
เฉว่ชิงมองหน้าชายหนุ่มอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ศิษย์พี่หวั ไม่ได้พดู อะไรเลย…” อาจเป็ นเพราะความอ่อนประสบการณ์
ของเขา ชายหนุ่มเพิ่งจะเข้าใจเจตนาที่แท้จริ งของเฉว่ชิงในตอนนั้น
เขาครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะพูดเสริ ม “เขาบอกพวกเราให้จบั ตาดู
ชายที่มีฉายาว่าเจ้าโลกในหอนิรันดร์ไว้ให้ดี และสัง่ การให้รายงาน
เขาทันทีที่ชายผูน้ ้ นั ปรากฏตัว”
“เจ้าโลก?” เฉว่ชิงขมวดคิ้ว
“เรื่ องเป็ นอย่างนี้…” ชายหนุ่มเล่าสิ่ งที่เกิดขึ้นในหอนิรันดร์ให้เฉว่
ชิงฟังอย่างรวบรัด
“เข้าใจแล้ว ถ้าเจ้าโลกปรากฏตัว ฉันขอรบกวนให้ศิษย์พี่บอกฉัน
ก่อน ฉันอยากเป็ นคนแจ้งข่าวนี้กบั ศิษย์พี่หวั ด้วยตัวเอง” เฉว่ชิงพูด
ขณะยืน่ ถุงเหรี ยญทองอีกถุงหนึ่งให้
“ได้สิ เรื่ องนั้นไม่มีปัญหา!” ชายหนุ่มพยักหน้าด้วยนัยน์ตาเป็ น
ประกาย
อันที่จริ ง เรื่ องนี้ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อยูแ่ ล้ว ถ้าเขาหาผลประโยชน์จาก
มันได้ง่าย ๆ อย่างนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธคําขอของเฉว่ชิง
หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มก้มหน้าและนําตราหยกอันหนึ่งออกมา เขา
มองที่ตราหยก จากนั้นก็ตาโต “นายหญิงน้อยที่ 2, คุณโชคดีจริ ง ๆ
เจ้าโลกเพิง่ ปรากฏตัวที่หอนิรันดร์ เราไปพบศิษย์พี่หวั ด้วยกันเถอะ!”
“ได้สิ” เฉว่ชิงรี บลุกขึ้นและตามชายหนุ่มไปยังที่พกั ของหัวเจียงเหอ
ไม่ชา้ ทั้งคู่กถ็ ึงที่หมาย
“เขาอยูท่ ี่นนั่ หรื อ?”
ได้ฟังรายงาน หัวเจียงเหอหรี่ ตา
“ศิษย์พี่ นี่คือตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลจากเมืองแสงดาว…” เฉว่ชิง
รี บนําตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลออกมาสองอัน
แม้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลจะเป็ นของลํ้าค่า แต่กถ็ ือเป็ นทรัพยากร
ธรรมดาสามัญสําหรับสํานักเจ้าเมือง
เห็นสาวน้อยรู ้งาน หัวเจียงเหอพยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะลุกขึ้นและ
พูดว่า “ไปหอนิรันดร์กบั ผม ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าศิลปะเพลง
ดาบที่แท้จริ งของสํานักดาบเมฆเหิ นของเราเป็ นอย่างไร!”
“ขอบคุณ ศิษย์พี่” เห็นอีกฝ่ ายไม่ตาํ หนิเธอถึงเรื่ องที่เกิดขึ้นวันนี้ เฉว่
ชิงถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเพ่งสมาธิเข้าสู่ ตราสัญลักษณ์นิ
รันดร์กาล
วิง้ ! วิง้ !
ทั้งคู่เข้าสู่ หอนิรันดร์พร้อมกัน
“นําข้าวของติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยนี่ลาํ บากจริ ง ๆ ดูซิวา่ เราจะหา
ซื้อแหวนเก็บสมบัติสกั วงได้ไหม?”
จางเซวียนเคยชินกับการใช้แหวนเก็บสมบัติในทวีปแห่งปรมาจารย์
จึงรู ้สึกพะรุ งพะรังที่ตอ้ งหอบข้าวของไปทุกที่ เขาจึงกลับสู่ หอนิรันดร์
โดยหวังว่าจะหาซื้อแหวนเก็บสมบัติสกั วงได้ที่นนั่
แม้ขา้ งนอกจะเป็ นเวลาดึกดื่นค่อนคืนแล้ว หอนิรันดร์กย็ งั คลาคลํ่าไป
ด้วยผูค้ น แถมบรรยากาศโดยรอบก็สว่างเจิดจ้า ราวกับไม่มีกลางวัน
กลางคืน จางเซวียนเดินไปที่เคาน์เตอร์ดา้ นหน้าและแจ้งความจํานง
“ได้สิ ที่หอนิรันดร์มีแหวนเก็บสมบัติขาย วงหนึ่งราคา 500,000
เหรี ยญนิรันดร์” เจ้าหน้าที่ตอบอย่างกระตือรื อร้น
“500,000 เหรี ยญนิรันดร์?” จางเซวียนเลิกคิว้
นี่มนั ปล้นกันชัด ๆ !
ไม่สงสัยแล้วว่าทําไมตระกูลใหญ่โตอย่างตระกูลตั้นถึงไม่มีแหวน
เก็บสมบัติสกั วง!
“วันนี้ผมเพิ่งชนะการดวล 8 รอบติดต่อกัน ถ้าผมเข้าร่ วมการดวลที่
สังเวียนประลองตอนนี้ ผมจะได้เริ่ มจากรอบที่ 9 หรื อต้องเริ่ มใหม่
ตั้งแต่ตน้ ?” จางเซวียนตั้งคําถาม
ในเวลานี้ การเข้าร่ วมการดวลในสังเวียนประลองเป็ นวิธีหาเงินที่เร็ ว
ที่สุดเท่าที่เขารู ้ อีกอย่าง เขาก็มาได้ครึ่ งทางแล้ว ถ้าต้องเริ่ มใหม่
ตั้งแต่รอบแรกก็คงจะน่าเบื่อมาก
เป็ นไปได้วา่ อาจไม่มีใครอยากดวลกับเขาเมื่อผ่านไปถึงรอบที่ 8 อีก
ครั้ง
อีกอย่าง เมืองแสงดาวก็มีผเู ้ ชี่ยวชาญอยูเ่ พียงหยิบมือ คงมีคนไม่มาก
นักที่เต็มใจจะจ่ายเงินเพียงเพื่อมาแพ้
“ในเมื่อคุณเอาชนะได้ 8 รอบติดต่อกัน การเข้าร่ วมการดวลระดับ
ล่างก็คงไม่สร้างความท้าทายให้คุณอีก โชคร้ายที่ตอนนี้ไม่มีการจับคู่
ดวลในการดวลระดับกลาง การดวลนัดแรกสุ ดจะมีข้ ึนในอีก 2 วัน
ข้างหน้า อีกอย่าง ดูเหมือนระดับขั้นของคุณก็ยงั ไม่สูงพอ” เจ้าหน้าที่
ดูสถิติของจางเซวียนครู่ หนึ่งขณะตั้งข้อสังเกต
“การดวลระดับกลาง?” จางเซวียนชะงัก
ระดับล่างและระดับกลาง…สังเวียนประลองมีการแบ่งระดับขั้นด้วย
หรื อ?
ตอนที่ 1935 เดิมพันอีกครั้ง
“ใช่” เจ้าหน้าที่อธิบายยิม้ ๆ “ประสิ ทธิภาพการต่อสู ข้ องนักรบนั้น
อาจแตกต่างกันได้มากมายด้วยช่องว่างของระดับวรยุทธที่มีอยู่ และ
ไม่มีใครอยากท้าทายคนที่พวกเขารู ้ดีวา่ ไม่มีโอกาสเอาชนะ
วัตถุประสงค์หลักของสังเวียนประลองคือการบ่มเพาะเทคนิคการ
ต่อสู ้ และนัน่ จะเป็ นผลก็ต่อเมื่อได้เจอคู่ดวลที่เหมาะสมเท่านั้น
ดังนั้น เพื่อให้การจับคู่เป็ นไปอย่างเหมาะเจาะ สังเวียนประลองจึง
แบ่งออกเป็ นหลายระดับขั้น”
จางเซวียนพยักหน้า
อย่างตัวเขา การแข่งขันในระดับนี้ไม่อาจสร้างความตื่นเต้นอีกแล้ว
อย่าว่าแต่จะพัฒนาทักษะของเขาเลย
“สังเวียนประลองแบ่งออกเป็ นการดวลระดับล่าง ระดับกลาง และ
ระดับสู ง ถ้าคุณเอาชนะได้ 10 รอบติดต่อกันในระดับขั้นหนึ่ง ๆ คุณ
ก็จะได้รับอนุญาตให้กา้ วเข้าสู่ ข้นั ต่อไป” เจ้าหน้าที่อธิบาย
“ตอนนี้คุณมีสถิติอยูท่ ี่ 8 รอบ ซึ่งทําให้เข้าใกล้การดวลระดับกลาง
แต่ดว้ ยความเก่งกาจที่คุณสําแดงออกไป มีความเป็ นไปได้วา่ นักรบ
ส่ วนใหญ่คงไม่กล้าท้าทายคุณแล้ว ถ้าคุณอยากเดินหน้า ก็ตอ้ งเพิ่ม
เงินรางวัลตอบแทนให้สูงขึ้น ขอแค่มีคนยอมรับคําท้าและคุณเอาชนะ
พวกเขาได้ 2 รอบติดต่อกัน คุณก็จะมีคุณสมบัติเพียงพอได้เข้าสู่ การ
ดวลระดับกลาง และได้พบกับผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งกว่าเดิม!”
จางเซวียนพยักหน้าอีกรอบ
รู ปแบบนี้ถือว่าสมเหตุสมผลดี
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอยืน่ คําท้า!”
“ได้สิ คุณจะวางเดิมพันเท่าไหร่ ?” เจ้าหน้าที่ต้ งั คําถาม
“5,500 เหรี ยญนิรันดร์” จางเซวียนตอบพร้อมยืน่ บัตรนิรันดร์
ออกไป
ก่อนหน้านี้ เขาใช้เงินซื้อยาเม็ดให้น้ าํ เต้าตงฉู่เกือบหมด จึงเหลือติด
ตัวเพียงเล็กน้อย
“5,500 เหรี ยญนิรันดร์?” เจ้าหน้าที่ส่ายหน้าพร้อมกับยิม้ เจื่อน ๆ
“เป็ นจํานวนที่ต่าํ เกินไป คงไม่มีใครรับคําท้าของคุณหรอก…”
ถ้าไม่ได้อะไรเป็ นชิ้นเป็ นอันจากการดวล จะมีใครเต็มใจรับคําท้า?
โดยทัว่ ไป เงินรางวัลควรจะอยูท่ ี่ 50,000 เหรี ยญนิรันดร์เป็ นอย่างน้อย
ถึงจะดึงดูดความสนใจของใครต่อใครได้ เงินที่มากพอเท่านั้นที่จะ
ทําให้บรรดานักรบเต็มใจเสี่ ยงดวงแม้จะรู ้ดีวา่ โอกาสชนะมีไม่มาก
5,500 เหรี ยญนิรันดร์…มันน้อยเกินไป!
ขณะที่เจ้าหน้าที่กาํ ลังรู ้สึกว่าจางเซวียนออกจะขี้เหนียวไปสักหน่อย
ชายหนุ่มคนหนึ่งก็กา้ วยาว ๆ เข้ามาและพูดว่า “ผมรับคําท้าของเขา!”
ชายหนุ่มมีอายุราว 20 กลาง ๆ เขาถือดาบไว้ในมือ บ่งบอกว่าเป็ นผู ้
ฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบคนหนึ่ง ข้างกายเขาคือสาวน้อยที่มีอายุราว
วัยรุ่ นตอนปลาย
ทั้งคู่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวเจียงเหอกับเฉว่ชิง
แต่เพราะพวกเขาปรับเปลี่ยนรู ปร่ างหน้าตา จางเซวียนจึงจําทั้งคู่
ไม่ได้
“คุณเต็มใจรับคําท้าของผม?”
นึกไม่ถึงว่าคู่ต่อสู จ้ ะปรากฏตัวรวดเร็ วขนาดนี้ จางเซวียนถอน
หายใจอย่างโล่งอก เขาตั้งคําถามขณะส่ งรอยยิม้ ไม่มีพิษภัยให้อีกฝ่ าย
“ถ้าอย่างนั้น คุณจะเต็มใจยอมรับเดิมพันของผมด้วยไหม?”
เมื่อได้ยนิ ว่ามีเดิมพันเข้ามาเกี่ยวข้องอีกรอบ หัวเจียงเหอหน้าตึงขึ้นมา
ทันทีขณะหวนนึกถึงเรื่ องเลวร้ายที่เขาเพิง่ เจอ “คุณจะเดิมพันแบบ
ไหนล่ะ?”
“ง่ายนิดเดียว ถ้าผมแพ้ ผมจะมอบเงินให้คุณ 100,000 เหรี ยญนิรันดร์
แต่ถา้ คุณแพ้ คุณก็ตอ้ งมอบให้ผม 100,000 เหรี ยญนิรันดร์เหมือนกัน!”
เดิมที จางเซวียนคิดจะเพิ่มเงินรางวัลให้สูงขึ้นไปถึง 500,000 เหรี ยญ
นิรันดร์ แต่กเ็ กรงว่าจะทําให้เหยือ่ หวาดกลัวและหลุดมือไป ลงท้าย
จึงเลือกลดจํานวนลง เขาดูออกว่าอีกฝ่ ายจงใจเข้ามาท้าทายเขา
โดยเฉพาะการที่หมอนี่ตอบรับคําท้าของเขาอย่างรวดเร็ วทั้ง ๆ ที่ได้
ค่าตอบแทนตํ่ามาก ถึงตอนนี้จางเซวียนจะกําลังอยากได้คู่ดวล แต่
เป้าหมายหลักก็คือหาเงินมาใช้ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการยืน่ เดิมพัน!
“100,000 เหรี ยญนิรันดร์ คุณหาเงินขนาดนั้นได้ดว้ ยหรื อ?” หัวเจียง
เหอคําราม
ในฐานะผูเ้ ชี่ยวชาญคนหนึ่งของสํานักดาบเมฆเหิ น 100,000 เหรี ยญ
นิรันดร์ไม่ใช่เรื่ องใหญ่สาํ หรับเขา แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยให้ใครเอา
เปรี ยบ
“ผมคิดว่าปัญหาตอนนี้กค็ ือคุณเต็มใจจะเดิมพันกับผมหรื อเปล่า ถ้า
คุณยอมรับเดิมพันล่ะก็ ผมพร้อมจะดวลกับคุณ แต่ถา้ ไม่…ผมก็ไม่
อยากเสี ยเวลาสู ก้ บั คุณเหมือนกัน” จางเซวียนโบกมืออย่างรําคาญ
ดูจากเจตจํานงเพลงดาบที่ชายหนุ่มตรงหน้าเขาแสดงออกมา จาง
เซวียนรู ้วา่ อีกฝ่ ายก็เหมือนกับเมฆผงาดและคนอื่น ๆ ที่เขาเพิ่ง
สังหารไป คือเป็ นศิษย์สายตรงคนหนึ่งของสํานักดาบเมฆเหิ น
ในสายตาของตั้นเฉี่ยวเทียน บรรดาศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆ
เหิ นมีเกียรติสูงส่ งในมิติเบื้องบน ดังนั้น การที่อีกฝ่ ายจงใจมาที่นี่เพื่อ
รับคําท้าก็หมายความว่าตั้งใจมาแก้แค้นให้พรรคพวกที่ถูกจางเซวียน
ใช้ศิลปะเพลงดาบสังหารไป ซึ่งในเมื่อเป็ นอย่างนั้น เขาก็น่าจะพอ
กดดันอีกฝ่ ายได้
อีกอย่าง การที่จางเซวียนต้องกดข่มวรยุทธลงให้เหลือเพียง 1 ใน 20
ไม่ใช่เรื่ องง่าย เขาแทบสําแดงเทคนิคการต่อสู อ้ ะไรไม่ได้เลย ซึ่งนัน่
ทําให้อึดอัดใจมาก เป็ นธรรมดาที่เขาควรจะได้รางวัลตอบแทนอย่าง
งามสําหรับความเหนื่อยยากครั้งนี้!
ถ้าเขาไม่กดข่มพละกําลังไว้ คู่ต่อสู ค้ งกลัวจนขาดใจตาย
“บังอาจ! เป็ นเกียรติของคุณแล้วนะที่ศิษย์พี่หวั เต็มใจรับคําท้า กล้าดี
อย่างไรถึงพูดกับเขาแบบนั้น!”เฉว่ชิงตวาดก้อง แสนจะหงุดหงิดกับ
ทีท่าไม่แยแสของเจ้าโลก
มีความเป็ นไปได้วา่ หัวเจียงเหอน่าจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
ภายในปี หน้า ซึ่ งอีกฝ่ ายควรรู ้สึกเป็ นเกียรติที่ได้ดวลกับผูเ้ ชี่ยวชาญผู ้
ทรงพลังระดับนี้ แต่หมอนัน่ กลับแสดงทีท่าไม่เต็มใจ ถึงกับยืน่ เดิม
พันด้วย…
เจียมกะลาหัวเสี ยบ้าง!
“เอาล่ะ พอที” หัวเจียงเหอยกมือขึ้นยับยั้งเฉว่ชิง เขามองเจ้าโลกอีก
ครั้งและพูดต่อ “ผมไม่รังเกียจจะเดิมพันกับคุณหรอก แต่ถา้ คุณแพ้
ผมไม่ตอ้ งการ 100,000 เหรี ยญนิรันดร์ของคุณ…ที่ผมต้องการก็คือ
คุณต้องยอมรับว่าศิลปะเพลงดาบของคุณอ่อนด้อยกว่าศิลปะเพลง
ดาบของสํานักดาบเมฆเหิ น และติดตามผมกลับไปที่สาํ นักดาบเมฆ
เหิ นเพื่อเป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายนอกของเรา!”
เงิน 100,000 เหรี ยญนิรันดร์เป็ นเงินจํานวนที่เขาพอหาได้ แต่ชื่อเสี ยง
ของสํานักดาบเมฆเหิ นถือเป็ นสิ่ งแรกที่ตอ้ งปกป้องไว้ ไม่วา่ จะด้วย
วิธีใดก็ตาม
ข่าวแพร่ สะพัดไปทัว่ ว่าอวิน๋ เฟยหยางกับพรรคพวกพ่ายแพ้ เรื่ องนี้
เป็ นที่โจษขานกันทัว่ ทั้งเมือง ซึ่งถ้าตัวเขาในฐานะศิษย์พี่หมายเลข 1
ยังคงนิ่งเฉย ในไม่ชา้ ใครต่อใครก็คงพากันพูดว่าศิษย์สายตรงของ
สํานักดาบเมฆเหิ นนั้นอ่อนแอเสี ยยิง่ กว่านักรบพเนจร เขาไม่อาจ
ปล่อยให้เรื่ องหยุมหยิมแบบนี้มาทําให้ชื่อเสี ยงของสํานักต้องด่าง
พร้อย!
อีกอย่าง หากเขาพาอัจฉริ ยะหน้าใหม่ผปู ้ ราดเปรื่ องเข้าสู่ สาํ นักได้ ก็
จะได้ค่าตอบแทนอย่างงาม ถือเป็ นความดีความชอบครั้งใหญ่
“ได้สิ” จางเซวียนพยักหน้า
เงื่อนไขพวกนั้นไม่ได้สลักสําคัญอะไรกับเขาเลย อีกอย่าง…
แพ้? จะเป็ นไปได้อย่างไร?
คํานั้นเป็ นคําที่ผมไม่เคยเขียนเลยในช่วงชีวติ ของผม!
“ไปที่สงั เวียนประลองกันเถอะ”
เมื่อตกลงกันได้ ทั้งคู่รีบเดินเข้าสู่ สงั เวียนประลอง
“ดูนนั่ ! เจ้าโลกกลับมาแล้ว…คราวนี้เขาจะสู ก้ บั ใคร?”
“เยีย่ มเลย! ผมจะได้เห็นทักษะเหนือชั้นของเขาอีกที อธิบายไม่ถูก
เลยว่าประทับใจเทคนิคของเขามากแค่ไหน…”
“เร็ วเข้าเถอะ รี บไปเรี ยกเจ้างัง่ พวกนั้นมา ถ้าพลาดการดวลของเจ้า
โลกล่ะก็ พวกนั้นคงเกลียดเราไปจนตายแน่!”
“เขาจะสู ้กบั ใครน่ะ?”
“นัยน์ตาวารี ? ผมไม่รู้จกั หมอนัน่ แต่…สาวน้อยที่อยูข่ า้ งเขา, พิณ
เหมันต์น่ะ ผมรู ้สึกเหมือนเคยได้ยนิ ชื่อเธอมาก่อน…”
“เธอเป็ นใคร?”
“ขอคิดก่อนนะ ใช่แล้ว...เธอคือนายหญิงน้อยที่ 2 ของเมืองชวนเจียง
ดูเหมือนจะชื่อเฉว่ชิงหรื ออะไรประมาณนี้นี่แหละ เธองดงามไม่เบา
และศิลปะเพลงดาบของเธอก็น่าทึ่ง…”
…..
เสี ยงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอื้ออึงไปทัว่
ฉายาของหัวเจียงเหอ, นัยน์ตาวารี เป็ นฉายาเดียวกับที่เขาใช้ในทุกที่
เพียงแต่เขาไม่เคยเข้าสู่ หอนิรันดร์ของเมืองแสงดาวมาก่อน จึงไม่มี
ใครเคยได้ยนิ ชื่อนี้
แต่สาํ หรับเฉว่ชิงนั้นแตกต่างออกไป ในฐานะลูกสาวท่านเจ้าเมือง
เธอเป็ นแขกประจําของหอนิรันดร์และสร้างชื่อเสี ยงให้ตวั เองได้
ระดับหนึ่ง ผูค้ นมากมายจึงจดจําเธอได้อย่างรวดเร็ ว
เรื่ องนี้เป็ นทํานองเดียวกันกับการที่นกั เล่นกีฬาอีสปอร์ตชั้นนําเป็ นที่
รู ้จกั กันดีท้ งั ในอินเทอร์เน็ต และในชีวติ จริ ง เหมือนใบไม้ร่วง, เย่ชิว
“เฉว่ชิง?”
บทสนทนาเหล่านั้นไม่เบานัก จางเซวียนจึงได้ยนิ ชัดเจนทุกคํา เขา
อดชะงักฝี เท้าไม่ได้
แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เรื่ องบังเอิญ?
เขามาที่นี่เพียงเพื่อจะหาซื้ อแหวนเก็บสมบัติสกั วง แต่กลับต้องมา
เจอแม่สาวคู่หมั้นคนนี้
จะว่าไป ถ้าพิณเหมันต์คือเธอจริ ง ๆ นัน่ ก็หมายความว่านัยน์ตาวารี
คือชายหนุ่มจากสํานักดาบเมฆเหิ นที่เดินทางมาที่นี่เพื่อเปิ ดรับศิษย์
สายตรง ใช่ไหม? เมื่อครู่ น้ ีหมอนัน่ พูดอะไรบางอย่างทํานองว่าอยาก
นําตัวเขาเข้าสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ นในฐานะศิษย์สายตรงสายนอก…
ขณะที่ใกล้ถึงสังเวียนประลอง จางเซวียนก็หนั ขวับไปคว้าตัวเฉว่ชิง
การเคลื่อนไหวของเขาว่องไวเสี ยจนสาวน้อยไม่ทนั ระวัง เธอเงื้อ
ดาบขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันตัว แต่ทนั ทีที่ดาบของเธอชูข้ ึนสู ง
อีกฝ่ ายก็ถอนฝ่ ามือออก เขายิม้ ให้อย่างสุ ภาพ
“คุณจะทําอะไรน่ะ?” เฉว่ชิงถามอย่างหงุดหงิด
เธอคิดว่าผูเ้ ชี่ยวชาญที่เข้าตาศิษย์พี่หวั ควรจะวางตัวเหมาะสมกว่านี้
ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ ายจะพยายามเล่นงานเธอ
“ไม่มีอะไรหรอก ผมเห็นยุงตัวหนึ่งบนศีรษะของคุณ ก็เลยไล่มนั
ไป” จางเซวียนตอบ
“คุณ…” เฉว่ชิงหายใจถี่กระชั้นด้วยความโกรธ
ยุง? ยุงบ้านคุณสิ !
เราอยูใ่ นหอนิรันดร์นะ เป็ นสิ่ งที่ปรากฏในจิตใต้สาํ นึกเท่านั้น จะมี
ยุงได้อย่างไร?
อย่างน้อยก็ควรโกหกให้มนั ดีกว่านี้หน่อยไหม?
จางเซวียนไม่ใส่ ใจอาการฟึ ดฟัดของเฉว่ชิง เขาเพ่งสมาธิเข้าสู่ หอสมุด
เทียบฟ้า และก็เป็ นอย่างที่คาดไว้ หนังสื อเล่มหนึ่งถูกประมวลออกมา
เต็มไปด้วยข้อบกพร่ องในวรยุทธของพิณเหมันต์ รวมทั้งคําอธิบาย
สั้น ๆ เกี่ยวกับตัวเธอ
“เฉว่ชิง, ลูกสาวคนที่ 2 ของเจ้าเมืองชวนเจียง…”
จางเซวียนเหยียดริ มฝี ปาก
ถึงทุกคนจะปกปิ ดรู ปร่ างหน้าตาและตัวตนได้เมื่ออยูใ่ นหอนิรันดร์
แต่กไ็ ม่อาจปิ ดบังสายตาของหอสมุดเทียบฟ้า
พูดอีกอย่างก็คือ ขอแค่อีกฝ่ ายสําแดงเทคนิคการต่อสูอ้ อกมา หอสมุด
เทียบฟ้าก็สามารถประมวลหนังสื อ อีกทั้งมองทะลุความลับและ
ข้อบกพร่ องของผูน้ ้ นั ได้ทนั ที
“ในเมื่อเป็ นเธอ ทุกอย่างก็เริ่ มจะตื่นเต้นแล้วสิ …” จางเซวียนคิด
เขาหันไปมองหัวเจียงเหอ จากนั้นก็ช้ ีนิ้วไปที่เฉว่ชิง “แม่สาวคนนี้
น่ะแสดงทีท่าไม่สุภาพกับผม ทําไมเราไม่ทาํ แบบนี้แทนล่ะ? ถ้าคุณ
แพ้ ไม่เพียงแต่คุณจะต้องชดใช้ให้ผมเป็ นเงินจํานวน 100,000 เหรี ยญ
นิรันดร์ แต่ยงั ต้องส่ งตัวเธอมาเป็ นคนรับใช้ของผมด้วย!”
ตอนที่ 1936 การดวลน่ าจะสิ้นสุ ดแล้ ว…
“คุณ…”
เฉว่ชิงโมโหเดือด
เธอคือนายหญิงน้อยที่ 2 แห่งสํานักท่านเจ้าเมือง ได้รับความเคารพ
และเป็ นที่รักใคร่ ไม่วา่ จะไปที่ไหน…ตอนนี้มาถูกใช้เป็ นเดิมพัน ทั้ง
ยังต้องไปเป็ นคนรับใช้ของคนอื่น นี่คือการหยามหน้ากันอย่างเกิน
จะรับไหว!
“เธอไม่ใช่ลูกน้องของผม ผมไม่มีสิทธิ์ตดั สิ นใจ” หัวเจียงเหอตอบ
พร้อมกับขมวดคิ้ว
“อย่างนั้นหรื อ? ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ เจ้าหนุ่ม 3 คนที่มาก่อนหน้าคุณ
น่ะไม่ได้มีความท้าทายเลยสักนิด ใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็จอด ผม
อดไม่ได้ที่จะรู ้สึกว่ามันน่าเบื่อ และผมว่าคุณก็คงไม่ต่างอะไรกับ
พวกเขา ถ้าอย่างนั้น เราอย่าเสี ยเวลาดีกว่า ยกเลิกการดวลเสี ยดี
ไหม?” จางเซวียนยืดหลังบิดขี้เกียจขณะพูด
หัวเจียงเหอจ้องหน้าจางเซวียนอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “ในฐานะผู ้
ฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบ คุณคืนคําง่าย ๆ แบบนี้หรื อ?”
“เมื่อครู่ น้ ีผหู ้ ญิงคนนั้นดูถูกผม ผมหงุดหงิดกับการกระทําของเธอ
มาก รู ้สึกคับข้องใจจนถึงตอนนี้ ถ้าเธอไม่มาเป็ นคนรับใช้ของผม
ผมก็ไม่มีทางหาย ด้วยสภาวะของผมเวลานี้ ผมไม่คิดว่าจะสามารถ
ดึงเอาพละกําลังสู งสุ ดของศิลปะเพลงดาบของผมออกมาได้ ซึ่ งจะ
ทําให้การดวลหมดความหมายไปอย่างสิ้ นเชิง…ในเมื่อเรื่ องนี้เป็ น
เรื่ องสําคัญ คุณไม่คิดว่าผมควรจะพิจารณามันอย่างรอบคอบหรื อ?”
จางเซวียนเอาสองมือไพล่หลังขณะเชิดหน้ามองหัวเจียงเหอ ราวกับ
กําลังมอบความปรานีให้อีกฝ่ าย “ไม่ใช่วา่ ผมอยากจะหาเรื่ องแม่สาว
ที่อยูข่ า้ งคุณหรอกนะ แต่เรื่ องนี้กเ็ พื่อประโยชน์ของการดวล ผมมอง
ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่เป็ นการดูถูกคู่ต่อสู ข้ องตัวเองมากไปกว่าการ
เผชิญหน้ากับเขาในสภาวะที่เขากําลังอ่อนแอ คุณเข้ามาด้วยความ
จริ งใจ ผมจึงเชื่อว่าคุณคงอยากดวลกับผมในสภาวะที่ผมมีพละกําลัง
แข็งแกร่ งสู งสุ ดมากกว่าจะเอาชนะขณะที่ผมกําลังอ่อนแอ…ชัยชนะ
แบบนั้นคงไม่เป็ นผลดีกบั คุณเช่นกัน ถูกไหม?”
กร๊ อบบบบ!
ข้อนิ้วของหัวเจียงเหอลัน่ กราว
หมอนี่พล่ามเรื่ องเหลวไหลออกมาโดยไม่รู้สึกอับอายสักนิดได้
อย่างไร? ถ้าเขาทําได้ เขาอยากจะซ้อมอีกฝ่ ายเหลือเกิน!
สรุ ปว่า…คุณกําลังบอกผมว่าตราบใดที่ผมยังไม่ยอมรับเดิมพัน ก็
เท่ากับผมรังแกคุณ ต่อให้ผมชนะ นัน่ ก็จะเป็ นเพราะผมเอาเปรี ยบ
คุณในสภาวะที่คุณกําลังอ่อนแอ อย่างนั้นใช่ไหม?
“ศิษย์พี่ อย่าตกหลุมพรางการยัว่ ยุแบบตื้น ๆ ของเขานะ!” เห็นหัว
เจียงเหอกําลังใคร่ ครวญใหม่ เฉว่ชิงหน้าซี ดเผือดขณะอุทานอย่าง
ร้อนใจ
“ดูเหมือนพวกคุณกําลังพยายามทําให้ผมเป็ นผูร้ ้าย…ก็ได้ เอาเถอะ!
ต่อให้คุณไม่ยอมรับคําขอของผม ผมก็จะดวลกับคุณ ตกลงไหม? ที่
คุณต้องการก็คือเอาชนะผม ใช่หรื อเปล่า? ผมยังสงสัยอยูว่ า่ คุณจะใส่
ใจไหมว่าการดวลครั้งนี้ยตุ ิธรรมหรื อไม่ยตุ ิธรรม…” จางเซวียนส่ าย
หน้าอย่างหมดหวัง “ผมคิดว่าศักดิ์ศรี ของเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของสํานัก
ดาบเมฆเหิ นก็คงมีแค่น้ ี พวกเขายอมลดตัวลงทําทุกอย่าง ตราบใดที่
จะได้มาซึ่งชัยชนะ…”
“พอที! ผมยอมรับคําขอของคุณ พอใจหรื อยัง?” หัวเจียงเหอตวาดก้อง
อาจดูเหมือนจางเซวียนกําลังพยายามคว้าฟางเส้นสุ ดท้าย แต่เรื่ องจริ ง
ก็คือเขาจี้จุดอ่อนของหัวเจียงเหอเข้าอย่างจัง หัวเจียงเหอคือคนที่แสน
จะหยิง่ ในศักดิ์ศรี เขาทนไม่ได้กบั การได้รู้วา่ มีใครคนหนึ่งข้องใจใน
ความเก่งกาจของเขา
“ศิษย์พี่…” เฉว่ชิงถึงกับเซด้วยความตกตะลึง
เธอคือนายหญิงน้อยที่ 2 แห่งสํานักท่านเจ้าเมือง คือคนที่ได้รับพร
จากสวรรค์ เธอได้การยอมรับให้เข้าสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น และใน
อนาคตก็มีโอกาสที่จะได้ไต่เต้าไปสู่ การเป็ นผูก้ มุ อํานาจคนหนึ่งของ
ทวีปแห่งนี้
นี่คือการเหยียดหยามกันอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ สําหรับการที่เธอ
ถูกใช้เป็ นเดิมพัน!
แต่ทนั ทีที่กาํ ลังจะอ้าปากพูด ก็บงั เอิญสบตากับหัวเจียงเหอ นัยน์ตา
ของอีกฝ่ ายเย็นเยียบ “คุณคิดว่าผมจะแพ้คนอย่างหมอนัน่ หรื อ?”
“ฉัน…” สายตาเชือดเฉือนนั้นทําให้เฉว่ชิงหน้าซี ดเผือดด้วยความ
พรั่นพรึ ง “มะ-ไม่ ไม่แน่นอน…นักรบที่ทรงพลังอย่างคุณเอาชนะ
เขาได้สบายอยูแ่ ล้ว…”
หัวเจียงเหอคว้าดาบที่เฉว่ชิงถือไว้และชักมันออกมา เกรงว่าหากพูด
อะไรออกไปอาจต้องโมโหจนขาดใจตาย จึงพรวดพราดขึ้นไปบน
สังเวียนประลองแล้วตะโกน “เร็ วเข้าเถอะ รี บดวลให้มนั เสร็ จ ๆ ไป!”
“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน!” จางเซวียนหัวเราะหึ ๆ ขณะกระโจน
ขึ้นไปบนสังเวียน
“ผมได้ยนิ ว่าคุณใช้เทคนิคการโยนดาบในการดวลสองสามครั้ง
ก่อนที่บรรดาศิษย์นอ้ งของผมท้าทายคุณ ผมอยากเห็นพละกําลังของ
เทคนิคนั้นกับตา” หัวเจียงเหอพูด
ในเมื่อเขาต้องการกอบกูช้ ื่อเสี ยงของสํานักดาบเมฆเหิ น ก็ตอ้ ง
เอาชนะเจ้าโลกให้ได้ขณะที่อีกฝ่ ายกําลังสําแดงศิลปะเพลงดาบที่
ทรงพลังที่สุด
“ได้สิ” จางเซวียนพยักหน้าขณะชักดาบออกจากรางอาวุธ
…..
“ผูอ้ าวุโส! ผูอ้ าวุโส! เจ้าโลกปรากฏตัวแล้ว!”
ที่คฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองในเมืองแสงดาว อวิน๋ เฟยหยางพรวดพราด
เข้าไปในห้องอย่างรี บร้อน
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ นัง่ อยูใ่ นห้องนั้น เมื่อรู ้ข่าวก็ตาโตด้วยความตื่นเต้น
เขานําตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลออกมาและเพ่งสมาธิเข้าไปในนั้น
อวิน๋ เฟยหยาง หวงเทา และคนอื่น ๆ รี บตามไปติด ๆ
ทันทีที่เข้าสู่ หอนิรันดร์ พวกเขาก็ได้ยนิ เสี ยงอื้ออึงเซ็งแซ่ครั้งใหญ่ดงั
มาจากบริ เวณสังเวียนประลอง ฝูงชนมากมายนับไม่ถว้ นกําลัง
รุ ดหน้าไปที่นนั่
“เร็ ว ๆ หน่อย! การดวลระหว่างเจ้าโลกกับนัยน์ตาวารี ใกล้จะเริ่ ม
แล้ว!”
“นัยน์ตาวารี ? ใครกัน?”
“ผมก็ไม่รู้ แต่ได้ยนิ ว่าเขาเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญศิลปะเพลงดาบที่น่าทึ่งคน
หนึ่ง ผมว่าการดวลครั้งนี้คงน่าตื่นเต้นทีเดียว!”
“กล้าท้าทายเจ้าโลกทั้งที่รู้สถิติของเขาแล้ว หมายความได้อย่างเดียว
ว่านัยน์ตาวารี คนนั้นคงไม่ใช่มือใหม่ ผมอยากรู ้เหลือเกินว่าเขาจะ
โค่นบัลลังก์ของเจ้าโลกได้หรื อเปล่า…”
…..
“นัยน์ตาวารี ? ใช่ศิษย์พี่หมายเลข 1 ของเราไหม?” อวิน๋ เฟยหยาง
ตาโตด้วยความตื่นเต้น
“เจียงเหอก็อยูท่ ี่นี่หรื อ? เขาคงรู ้เรื่ องความพ่ายแพ้ของพวกคุณและ
ตั้งใจมากอบกูช้ ื่อเสี ยงให้สาํ นักของเรา!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยักหน้า
ด้วยอาการยอมรับขณะสันนิษฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คําพูดนั้นทําให้ท้ งั สี่ หน้าแดงกํ่าด้วยความอับอาย “พวกเราขออภัยใน
ความอ่อนซ้อม!”
น่าละอายเหลือเกินที่ศิษย์พี่หมายเลข 1 ต้องมาชดเชยความพ่ายแพ้
ของพวกเขา
“เจียงเหอเป็ นนักสู ท้ ี่แข็งแกร่ งมัน่ คงเสมอ ผ่านประสบการณ์การ
ต่อสู ม้ าก็มากมาย ผมเชื่อว่าเขาคงกอบกูช้ ื่อเสี ยงให้สาํ นักของเราได้”
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ลูบเคราขณะตั้งข้อสังเกต
แม้จะอยูใ่ นหอนิรันดร์ รู ปลักษณ์ของเขาก็ยงั คงเป็ นผูอ้ าวุโสดังเดิม
“จริ งด้วย ศิษย์พี่หมายเลข 1 ของเราออกโรงด้วยตัวเอง ผมเชื่อว่าต่อ
ให้เจ้าโลกก็ไม่น่าจะเอาชนะได้หรอก”
“รี บไปดูกนั เถอะ!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ร้องเรี ยก
ทั้งกลุ่มฝ่ าฝูงชนเข้าไปจนถึงด้านหน้า แต่ทนั ใดนั้น เสี ยงเชียร์และ
โห่ร้องดังสนัน่ ก็ดงั กึกก้องไปทัว่ จนแทบทะลุหมู่เมฆ
“การดวลน่าจะสิ้ นสุ ดแล้ว…” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เปรย
พวกเขารี บเดินหน้า มัน่ ใจว่าจะได้เห็นหัวเจียงเหอยืนจังก้าประกาศ
ชัยชนะบนสังเวียนประลอง แต่กลับตรงกันข้ามกับที่คิดไว้ ทุกคน
เห็นร่ างของนัยน์ตาวารี กองอยูก่ บั พื้น มีดาบปักอยูท่ ี่ศีรษะ
ไม่ชา้ ศพนั้นก็สลายตัวเป็ นอากาศธาตุ
“ศิษย์พี่หมายเลข 1…”
อวิน๋ เฟยหยางกับพรรคพวกถึงกับจังงัง ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็พดู ไม่ออก
การดวลเพิ่งเริ่ มเมื่อครู่ น้ ีไม่ใช่หรื อ?
ทําไมถึงดูเหมือนจบลงในชัว่ พริ บตา?
หรื อว่าแม้แต่ศิษย์พี่หมายเลข 1 ของพวกเขาก็เทียบชั้นกับเจ้าโลก
ไม่ได้ และลงเอยด้วยการถูกสังหารภายในไม่กี่วนิ าที
ในตอนนั้น เฉว่ชิงตัวสัน่ จนหยุดไม่ได้ สิ่ งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทําให้
เธอแทบเป็ นบ้า
การถูกใช้เป็ นเดิมพันก็ทาํ ให้เธอโมโหเดือดอยูแ่ ล้ว แต่ใครจะไปคิด
ว่าศิษย์พี่ที่เธอแสนจะเคารพบูชาจะพ่ายแพ้ให้กบั การโยนดาบเพียง
ครั้งเดียว ทุกอย่างจบเร็ วเสี ยจนทําให้เธอรู ้สึกเหมือนว่าหัวเจียงเหอ
ร่ วมมือกับเจ้าโลกเพื่อทรยศเธอ!
ถ้าเป็ นอย่างนั้นจริ ง ๆ …ก็หมายความว่าตอนนี้เธอคือคนรับใช้ของ
เจ้าโลกแล้วใช่ไหม?
ราวกับจะอ่านใจของเธอได้ ชายหนุ่มที่อยูบ่ นสังเวียนประลองร้อง
เรี ยก “คนรับใช้ของผมที่อยูต่ รงนั้นน่ะ มัวทําอะไรอยู?่ มานวดหลัง
ให้ผมที!”
“คุณ…” เฉว่ชิงหน้าร้อนผ่าว
ในชีวติ ของเธอไม่เคยถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน
อยากให้ฉนั เป็ นคนรับใช้ของคุณหรื อ? ฝันไปเถอะ!
เฉว่ชิงกระโจนขึ้นสู่ สงั เวียนประลองและเงื้อมือขึ้น ตั้งใจจะตบหน้า
จางเซวียน แต่ยงั ไม่ทนั ได้ตบ มือของอีกฝ่ ายก็คว้าข้อมือของเธอไว้
เพียะ!
เฉว่ชิงเจ็บแปลบที่ใบหน้า แทนที่จะเป็ นคนตบ เธอกลับถูกตบเสี ย
เอง
มันเป็ นแค่การตบครั้งเดียว แต่ไม่มีการยั้งมือเลย ใบหน้างดงามของ
เธอบวมฉึ่งขึ้นมาทันที แก้มซ้ายดูเหมือนกับขนมปังสี แดงก้อนใหญ่
แม้จะรู ้ดีวา่ นี่ไม่ใช่โลกของความเป็ นจริ ง แต่ความเจ็บปวดและความ
อับอายที่เธอได้รับก็สมจริ งยิง่ กว่าครั้งไหน ๆ ถ้ามีหลุมมีรูอยูก่ บั พื้น
เธอคงมุดลงไปแล้ว
เฉว่ชิงเคยคิดว่าด้วยการสนับสนุนของหัวเจียงเหอ เธอน่าจะก้าวขึ้น
สู่ ความเป็ นสุ ดยอดและทําตามความฝันของตัวเองได้ แต่กเ็ หมือนกับ
ฟองสบู่ล่องลอย ทุกอย่างแตกโพละในชัว่ พริ บตา…
เธอไม่เคยรู ้สึกสมเพชชีวติ ของตัวเองมากเท่านี้มาก่อน
“กล้ามากนะที่ลงไม้ลงมือกับเจ้านาย!” จางเซวียนคําราม
เขาไม่มีความปรารถนาดีแม้แต่นอ้ ยให้กบั หญิงสาวใจคอโหดเหี้ยม
คนนี้ ถ้าไม่ติดที่วา่ เขาตั้งใจจะ เก็บเธอไว้ให้ศิษย์สายตรงของเขา
จัดการ คงจะกําจัดเธอเสี ยแล้ว!
“ฉันจะฆ่าแก!” เฉว่ชิงคํารามด้วยนัยน์ตาแดงกํ่าขณะพุง่ เข้าใส่ จาง
เซวียน ตั้งใจจะเอาชีวติ เข้าแลก
แต่ในตอนนั้นเอง เสี ยงตวาดเย็นเยียบก็ดงั ขึ้นในหมู่ฝงู ชน “พอที ยัง
ทําให้ตวั เองอับอายขายหน้าไม่พออีกหรื อ?”
เฉว่ชิงตัวแข็ง เธอหันกลับไป เห็นชายวัยกลางคนผูห้ นึ่งกําลังเดินเข้า
มา
“ท่านพ่อ…” เธอพึมพําอย่างงุนงง
ด้วยความโล่งใจใหญ่หลวงที่ได้เห็นเสาหลักพักพิง สาวน้อยทรุ ด
ฮวบลงกับพื้นแล้วตั้งต้นสะอึกสะอื้น ความคับแค้นใจทั้งหมดของ
เธอพรั่งพรู ออกมา
“เธอเรี ยกเขาว่าท่านพ่อ? หรื อว่าเขาคือ…ท่านเจ้าเมืองชวนเจียง เจ้า
เมืองเฉว่เหยา?”
“เจ้าเมืองเฉว่เหยาเป็ นนักรบระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลาย
ล้างมิติ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะ มาที่นี่…”
“เขาจะนิ่งเฉยได้อย่างไรหลังจากได้รู้วา่ ลูกสาวกลายเป็ นคนรับใช้
ของชายอีกคนหนึ่งไปแล้ว!”
“ถ้าเจ้าเมืองเฉว่เหยาออกโรงด้วยตัวเอง เจ้าโลกจบเห่แน่…”
“จริ งด้วย เจ้าโลกไม่เพียงดูถูกเฉว่ชิง ยังถึงกับตบหน้าเธอด้วยซํ้า
เพียงเท่านี้กไ็ ม่มีใครช่วยชีวติ เขาได้แล้วล่ะ!”
ตอนที่ 1937 รนหาทีต่ าย
เฉว่เหยาไม่แยแสเสี ยงอื้ออึงเซ็งแซ่ของฝูงชน เขามองจางเซวียน
“สหาย ทําไมเราถึงไม่จบเพียงเท่านี้ เป็ นธรรมดาที่คนหนุ่มอย่างคุณ
จะเลือดร้อน แต่ควบคุมไว้บา้ งจะดีกว่า เราไม่มีทางรู ้วา่ อะไรจะ
เกิดขึ้นในอนาคต เป็ นมิตรสหายกันย่อมดีกว่าเป็ นศัตรู คุณไม่คิด
อย่างนั้นหรื อ?”
“คุณพูดถูก โลกนี้จะน่าอยูข่ นาดไหนถ้าทุกอย่างคลี่คลายได้ดว้ ย
วิธีการสันติ?” จางเซวียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ที่น่าเสี ยดายก็คือ
เราไม่ได้อยูใ่ นโลกอุดมคติแบบนั้น อีกอย่าง ผมไม่คิดจะ เสวนากับ
พวกสุ นขั !”
เฉว่เหยาหน้าตึงขึ้นมาทันที เจตนาสังหารแผ่ซ่านออกจากร่ างของเขา
ฝูงชนรู ้ตวั ตนที่แท้จริ งของเขาแล้ว ในฐานะเจ้าเมืองชวนเจียง เขา
ยอมลดตัวลงมาเจรจาสันติภาพก่อน แต่หมอนัน่ บังอาจสับความ
ปรารถนาดีของเขาเละเป็ นชิ้น ๆ เรื่ องนี้ยอมรับไม่ได้!
อันที่จริ ง จางเซวียนก็ไม่ได้สุขมุ อย่างที่เห็นภายนอก ถ้าไม่ใช่เพราะ
เขา ป่ านนี้ต้ นั เฉี่ยวเทียนผูม้ ีน้ าํ ใจคงตายไปนานแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้น
เพียงเพราะตั้นเฉี่ยวเทียนมีสญ
ั ญาผูกมัดการแต่งงานกับเฉว่ชิง
เพื่อรักษาชื่อเสี ยงของตัวเอง ไม่มีอะไรที่สองคนนั้นจะไม่ยอมลดตัว
ลงมาทํา เขาไม่มีความอดทนพอจะพูดจาดี ๆ กับคนชัว่ ร้ายโหดเหี้ ยม
อย่างทั้งคู่
“ดูเหมือนคุณจะมัน่ ใจในความเก่งกาจของตัวเองเหลือเกินนะ ทําไม
เราไม่ดวลกันล่ะ?”
เห็นผูค้ นออกันเข้ามามากขึ้นเรื่ อย ๆ เฉว่เหยารู ้ดีวา่ ไม่อาจถอยได้ เขา
ต้องปกป้องเกียรติยศเกียรติยศและศักดิ์ศรี ในฐานะเจ้าเมืองไว้
“เดิมพันคือ 400,000 เหรี ยญนิรันดร์ แต่เอาเถอะ ขึ้นอยูก่ บั คุณนะว่า
จะตอบรับหรื อไม่ ถ้าคุณไม่มีปัญญาหาเงินเพียงเท่านี้ล่ะก็ ผมจะ
กลับไปนอนแล้ว วันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวัน คุณก็รู้ คนรับใช้ของผมก็
ไม่เชื่อฟังคําสัง่ ของผมเลย…บอกตามตรงนะ ผมไม่รู้จริ ง ๆ ว่าคุณ
ดูแลเมืองที่มีประชากรเป็ นล้าน ๆ ได้อย่างไร ในเมื่อแม้แต่ลูกสาว
ของตัวเองก็ยงั ดูแลไม่ได้!” จางเซวียนถอนหายใจอย่างผิดหวัง
สํานักเจ้าเมืองของคุณมีเงินเหลือเฟื อเพื่อดูแลบ่มเพาะกองทหาร
ทําไมไม่เจียดมาให้ผมสักหน่อย?
เฉว่เหยาไม่เคยอยากฆ่าใครมากเท่านี้
หลายปี ที่ผา่ นมา เขาเป็ นที่เคารพยกย่อง แม้แต่ศตั รู กย็ งั ไม่กล้าพูดกับ
เขาแบบนี้ นี่เป็ นครั้งแรกที่เขาถูกเหยียดหยามต่อหน้าสาธารณชน
ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้หมอนี่ลอยนวลไปได้
“เจ้าหนุ่ม คุณคิดว่าการปกปิ ดตัวตนภายในหอนิรันดร์จะทําได้ตลอด
รอดฝั่งหรื อ? ไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ใครสักคนถูกตามล่าและสังหาร
ในชีวติ จริ งหลังจากมีเรื่ องกับคนอื่นในหอนิรันดร์” เฉว่เหยาพูดด้วย
นํ้าเสี ยงข่มขู่
“ดูเหมือนคุณจะชื่นชอบการอ้อมค้อมเหลือเกินนะ ถ้ามีเงินไม่พอจะ
เดิมพันล่ะก็ ผมคงต้องขอร้องให้คุณไสหัวไป เวลาของผมมีค่า!”
จางเซวียนโบกมือไล่เฉว่เหยาอย่างไม่แยแส
“คุณ…” เฉว่เหยากัดฟันอย่างเคืองแค้น “ก็ได้ ผมตอบรับเดิมพันของ
คุณ!”
พูดกันตามตรง เงิน 400,000 เหรี ยญนิรันดร์ถือเป็ นเงินก้อนใหญ่
สําหรับสํานักเจ้าเมือง แต่ถา้ เขา ไม่ตอบรับเดิมพันก้อนนี้แล้วปล่อย
ให้อีกฝ่ ายจากไป เกียรติยศศักดิ์ศรี ที่เขาสัง่ สมไว้ดว้ ยความยากลําบาก
ตลอดหลายทศวรรษที่ผา่ นมาจะต้องป่ นปี้ ไม่มีเหลือ!
เขาแน่ใจที่สุดว่าหมอนี่จะต้องทําทุกอย่างเพื่อล้างผลาญชื่อเสี ยงของ
สํานักเจ้าเมืองหากเขาหันหลังกลับ
มันเรื่ องอะไรที่เจ้าเมืองอย่างเขาจะต้องมายุง่ เกี่ยวกับเจ้าหนุ่มตัว
ปัญหาคนนี้!
เพราะเกรงจะเสื่ อมเสี ยเกียรติ ผูเ้ ชี่ยวชาญส่ วนใหญ่จึงปฏิบตั ิตาม
กฎเกณฑ์และกติกามารยาทของการประลองอย่างเคร่ งครัด ถือเป็ น
มารยาททางสังคมที่เหล่าชนชั้นสู งให้ความสําคัญ
แต่เจ้าหนุ่มคนนี้ดูจะไม่มีตาไว้มองกฎกติกาใด ๆ เลย
รู ้ดีวา่ ลูกสาวของเขาคือต้นเหตุของความยุง่ ยากทั้งมวล เฉว่เหยาส่ ง
สายตาเชือดเฉือนใส่ ทําให้เฉว่ชิงตัวสัน่ เล็กน้อย จากนั้นเขาก็หนั ไป
คํารามใส่ จางเซวียนด้วยความหงุดหงิด “เร็ วเข้าเถอะ!”
จางเซวียนส่ งยิม้ จากนั้นก็โบกมือและขยับที่ทางบนสังเวียนประลอง
“คุณออกตัวก่อนได้เลย”
“ขอผมอธิบายให้เข้าใจตรงกันก่อนนะ เดิมพันของเราไม่ได้อยูบ่ น
กฎเกณฑ์ของสังเวียนประลองแห่งนี้ แต่เป็ นการดวลแบบชี้เป็ นชี้
เป็ นชี้ตาย!” เฉว่เหยาพูด ยังไม่รีบร้อนออกตัว “คุณมัน่ ใจได้เลยว่า
ผมจะมอบเงิน 400,000 เหรี ยญนิรันดร์ให้หากคุณชนะ แต่ถา้ ผมชนะ
คุณจะต้องบอกตัวตนที่แท้จริ งของคุณให้ผมรู ้ อีกอย่าง ผมต้องการ
ให้คุณไปที่สาํ นักเจ้าเมืองและกล่าวคําขอโทษตัวผมกับลูกสาวของ
ผมด้วย!”
ขอแค่เขาได้รู้ตวั ตนที่แท้จริ งของหมอนี่ ก็จะต้องเอาคืนอย่างสาสม
หมอนี่จะต้องตกนรกทั้งเป็ น!
“ไม่มีปัญหา!” จางเซวียนตอบห้วน ๆ
“ก็ดี เราจะวางเดิมพันกันได้หรื อยัง?”
เฉว่เหยาโบกมือ จากนั้นก็ยนื่ บัตรนิรันดร์ของเขาให้สาวน้อยที่ทาํ
หน้าที่ลงทะเบียน
วิง้ งงง!
เกิดแสงสว่างเจิดจ้า ข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ระบุวา่ เฉว่
เหยาทุ่มเงิน 4 แสนเหรี ยญนิรันดร์เข้าสู่ การดวลเป็ นที่เรี ยบร้อย
เห็นความตรงไปตรงมาของอีกฝ่ าย จางเซวียนกระดิกนิ้วขณะยืน่
ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนและที่อยูข่ องเขาให้สาวน้อยเช่นกัน
เกิดแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นอีกครั้ง ถ้อยคําที่ระบุวา่ จางเซวียนทําตาม
เงื่อนไขปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ถึงตัวตนของนักรบผูห้ นึ่งในหอนิรันดร์จะเป็ นตัวตนสมมติ แต่ก็
เฉพาะกับสายตาของนักรบคนอื่น ๆ เท่านั้น หากเป็ นตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาล ระบบจะสามารถระบุที่อยูท่ ี่แท้จริ งและตรวจสอบ
ตัวตนของผูใ้ ช้งานได้ผา่ นทางหยดเลือด
“ดี เริ่ มเลย!”
เมื่อจัดการเดิมพันเป็ นมัน่ เหมาะแล้ว เฉว่เหยาเดินตรงไปที่รางอาวุธ
อย่างไม่ลงั เลและคว้ากระบี่เล่มใหญ่ข้ ึนมาเล่มหนึ่ง
ความเชี่ยวชาญของเขาไม่ได้อยูท่ ี่ศิลปะเพลงดาบ แต่เป็ นศิลปะเพลง
กระบี่!
“ผมจะไม่เอาเปรี ยบคุณหรอก ในเมื่อคุณใช้กระบี่ ผมก็จะใช้เหมือน
กัน” จางเซวียนพูดขณะคว้ากระบี่อีกเล่มหนึ่งที่มีหน้าตาแบบเดียวกัน
ขึ้นจากคลังอาวุธ
“เขาใช้กระบี่ได้ดว้ ยหรื อ?”
“แต่เขาเป็ นนักดาบนี่ ถ้าใช้กระบี่ จะไม่เป็ นการลดทอนประสิ ทธิภาพ
ของตัวเองหรื อไง?”
ฝูงชนพากันงงงัน
หลังจากผ่านการดวล 9 นัดอันน่าทึ่ง ก็ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่ไม่รู้
ว่าเจ้าโลกคือนักดาบตัวจริ งที่ยนื หยัดต้านทานได้แม้แต่กบั เหล่าศิษย์
สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น
แล้วนักดาบคนหนึ่งจะมาใช้กระบี่แทน…เขาเสี ยสติหรื อเปล่า?
“คุณรนหาที่ตายแล้ว!”
เฉว่เหยามัน่ อกมัน่ ใจในความเก่งกาจของตัวเอง แต่แม้ตวั เขาก็ยงั ลังเล
เล็กน้อยที่จะต้องเผชิญหน้ากับการโยนดาบของจางเซวียนหลังจาก
เห็นแล้วว่าคู่ต่อสู ผ้ ไู ้ ร้เทียมทานมากมายต้องถูกสอยร่ วงเพราะ
กระบวนท่านั้น แต่ลงท้าย…อีกฝ่ ายก็กลับตัดสิ นใจอย่างโง่เขลาด้วย
การเลือกจะท้าทายเขาในศิลปะเพลงกระบี่ เฉว่เหยาได้แต่คาํ รามเยาะ
กระบี่และดาบอาจดูคล้ายคลึงกัน แต่ความแตกต่างข้อใหญ่เรื่ องขนาด
และนํ้าหนักของมันทําให้มีวธิ ีใช้งานแตกต่างกันมาก ดังนั้น ผูท้ ี่คุน้ ชิน
กับการถือดาบจะพบว่าไม่อาจสําแดงพละกําลังการต่อสู อ้ อกมาได้
ดังเดิมเมื่อใช้กระบี่ ซึ่งในทางกลับกันก็เป็ นเช่นนั้น
หายากมากที่จะได้เห็นใครสักคนเข้าถึงความเชี่ยวชาญสู งสุ ดทั้งใน
ศิลปะเพลงดาบและศิลปะเพลงกระบี่
ยอมละทิ้งพละกําลังของตัวเอง ลดทอนความสามารถของตัวเองเสี ย
อย่างนั้น…ได้สิ ผมจะทําให้คุณเสี ยใจอย่างสุ ดซึ้ งกับการตัดสิ นใจ
ครั้งนี้!
ฟึ่ บ!
เฉว่เหยาสะบัดข้อมือและปล่อยกระแสกระบี่ฉีหลายสายออกมา
กระแสกระบี่ฉีน้ นั เข้าพันรอบตัวจางเซวียนทันที สกัดกั้นหนทาง
เคลื่อนไหวของเขาไว้ พร้อมกันนั้น เฉว่เหยาก็พงุ่ เข้าใส่ พร้อมกับชี้
กระบี่ไปที่จางเซวียน
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เลิกคิ้ว “ไม่แปลกใจแล้วที่เขาได้เป็ นเจ้าเมืองชวนเจียง”
หากมองเผิน ๆ ศิลปะเพลงกระบี่ดูเหมือนจะเรี ยบง่าย แต่ผอู ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ ดูออกว่าเทคนิคนี้มีความหลากหลายออกไปถึง 49 รู ปแบบ ไม่
ว่าจางเซวียนจะเคลื่อนไหวไปทางไหน เฉว่เหยาก็มีวธิ ีรับมือและ
เล่นงานเขาได้
ลงท้าย จางเซวียนก็จะต้องจนมุมและพ่ายแพ้
ต่อให้ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ เองก็ยงั รับมือกับกระบวนท่าแบบนี้ได้ยาก
“นัน่ คือกระบวนท่าเหมันต์สีเงินของท่านเจ้าเมือง!”
“ผมเคยได้ยนิ เรื่ องนี้ ว่ากันว่าเมื่อครั้งที่เจ้าเมืองอายุเพียง 27 ปี ในคํ่า
คืนหนึ่งที่แสงจันทร์สีเงินสุ กสกาวอยูเ่ หนือทุ่งหิ มะ สะกดทุกสายตา
ให้จงั งัง คํ่าคืนนั้นเองที่ท่านเจ้าเมืองเกิดแรงบันดาลใจและคิดค้น
กระบวนท่านี้ข้ ึน!”
“ก็เหมือนกับแสงจันทร์สีเงินที่สุกสกาวทัว่ ทั้งทุ่งหิ มะ ไม่มีวธิ ีไหนที่
จะหลบหนีหรื อซ่อนตัวจากศิลปะเพลงกระบี่ของเขาได้ ก็เพราะ
เทคนิคนี้ที่ทาํ ให้ท่านเจ้าเมืองเป็ นผูน้ าํ ในสังเวียนประลองที่นี่!”
“คุณคิดว่าเจ้าโลกจะรับมือกับกระบวนท่านี้ไหวไหม?”
…..
ผูท้ ี่มีทรัพยากรมากพอจะซื้อหาตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลและเข้าสู่
หอนิรันดร์ได้ลว้ นแต่เป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ แม้พวกเขาจะยังอ่อนด้อยหาก
เปรี ยบเทียบกับจางเซวียน แต่ความสามารถในการหยัง่ รู ้กม็ ีพอตัว
พวกเขาดูออกว่ากระบวนท่าของเฉว่เหยามีอะไรลึกซึ้งกว่าที่เห็น
ส่ วนใหญ่คิดว่าเจ้าโลกคงต้องพ่ายแพ้ในการดวลนัดนี้
“ไม่เลว ผมขอชื่นชมที่คุณใช้กระบวนท่านี้ได้…” จางเซวียนก็ไม่
ต่างจากฝูงชน ออกจะอัศจรรย์ใจเล็กน้อยกับกระบวนท่าของเฉว่
เหยา เขาย่นหน้าผาก จากนั้นก็ครุ่ นคิดหนัก
เราควรใช้พละกําลังของเราเพียง 1 ใน 10…หรื อ 1 ใน 5 ดี?
ถึงอย่างไร ชายที่อยูต่ รงหน้าเขาก็ไม่ได้อ่อนแออย่างคนอื่น ๆ ที่เขา
เคยเจอ อีกฝ่ ายมีประสบการณ์การต่อสู ม้ ากกว่าคนอื่น ๆ และดู
เหมือนจะเล่นงานเขาได้…พละกําลังเพียง 1 ใน 10 อาจไม่พอจะ
ยับยั้งอีกฝ่ าย แต่ถา้ เป็ น 1 ใน 5, ก็น่าจะเล่นงานอีกฝ่ ายได้จบในคราว
เดียว!
ชื่อเสี ยงแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ!
ถ้าใครต่อใครรู ้วา่ เขาเก่งกาจพอจะจัดการได้เบ็ดเสร็ จเด็ดขาดแม้แต่
กับท่านเจ้าเมือง ก็คงไม่มีใครกล้ายอมรับคําท้าดวลของเขาและเป็ น
ถุงเงินถุงทองให้เขาสู บได้อีก
ก็ตามนั้น เราคงต้องนอบน้อมและถ่อมเนื้อถ่อมตัวต่อไป!
“ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า เริ่ มด้วยพละกําลังที่ 1 ใน 8 ก็แล้วกัน เราจะ
ยื้อการต่อสู อ้ อกไปสักหน่อย ก่อนจะหาโอกาสเหมาะ ๆ เล่นงานเขา
ทีหลัง…” จางเซวียนรี บตัดสิ นใจก่อนจะพุง่ เข้าใส่ พร้อมกับกระบี่
ของเขา
การเคลื่อนไหวของจางเซวียนไม่มีท้ งั ความลึกซึ้งและสง่างาม กระบี่
ในมือของเขาดูแสนจะธรรมดาสามัญ แต่เหมือนกับมีปราการอัน
แข็งแกร่ ง เขาสามารถปั ดป้องการโจมตีอย่างไม่ลดละของเฉว่เหยา
ออกไปได้ทุกครั้ง
ในชัว่ พริ บตา ทั้งคู่กป็ ะทะกันไปกว่า 20 ครั้ง
“ผูอ้ าวุโสลู่ คุณคิดว่าใครจะชนะ?” อวิน๋ เฟยหยางซึ่งไม่มีความเข้าใจ
ในศิลปะเพลงกระบี่มากนักตั้งคําถาม
ทั้งกลุ่มที่เหลือรี บหันมามอง
“ผมเชื่อว่าท่านเจ้าเมืองกําลังถือไพ่เหนือกว่า” ผูอ้ าวุโสลู่ตอบพร้อม
กับพยักหน้าอย่างคนรู ้ดี
“ถ้าอย่างนั้น ท่านเจ้าเมืองจะเป็ นฝ่ ายชนะหรื อ?”
“มีความเป็ นไปได้สูง แม้เจ้าโลกจะรับมือการโจมตีของเจ้าเมืองได้ดี
แต่กเ็ ห็นได้ชดั ว่าเจ้าโลกไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงกระบี่
มากนัก นี่คือเหตุผลที่ทาํ ให้เขาถูกบีบให้ตอ้ งเป็ นฝ่ ายปั ดป้อง ไม่อาจ
ปล่อยการโจมตีอย่างจัง ๆ ใส่ ท่านเจ้าเมืองได้ ส่ วนศิลปะเพลงกระบี่
ของท่านเจ้าเมืองก็มีความสมดุลกันทั้งในด้านความเร็ วและพละกําลัง
ทุกการเคลื่อนไหวของเขาส่ งผลให้กระบี่มีพละกําลังหนักหน่วง ซึ่ง
ในที่สุดก็จะทําลายปราการการป้องกันตัวของเจ้าโลกได้!” ผูอ้ าวุโส
ลู่ตอบอย่างสุ ขมุ ขณะลูบเครา
ผูท้ ี่มีคุณสมบัติเพียงพอจะได้เป็ นเจ้าเมืองและรั้งตําแหน่งมาได้
ยาวนานย่อมมีความเก่งกาจเหนือชั้นกว่าคนอื่น ๆ
“เข้าใจแล้ว” อวิน๋ เฟยหยางกับพรรคพวกพยักหน้ารับ
จากการวิเคราะห์ตามมุมมองของผูอ้ าวุโสลู่ สิ่ งที่เกิดขึ้นบนสังเวียน
ก็ดูจะเป็ นไปตามนั้น
ตอนที่ 1938 ต้ องจบให้ เร็วทีส่ ุ ด!
ในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนจะเกิดพายุหิมะขึ้นบนสังเวียน ปล่อย
บรรยากาศเย็นยะเยือกออกไปโดยรอบ ทุกกระบวนท่าและการ
โจมตีของเจ้าเมืองเร็ วขึ้นเรื่ อย ๆ จนถึงขนาดที่สงั เวียนประลองเริ่ ม
เกิดรอยร้าว
“น่าทึ่งจริ ง ๆ !” จางเซวียนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น
เขาใช้พละกําลังถึง 1 ใน 8 แต่เฉว่เหยาก็ยงั ควบคุมทิศทางการต่อสู ้
ไว้ได้ดว้ ยเทคนิคอันแข็งแกร่ ง
อันที่จริ ง ต่อให้เขาใช้พละกําลัง 1 ใน 7 การต่อสู ค้ รั้งนี้กย็ งั ยืดเยื้ออยู่
ดี
เขาคงต้องใช้พละกําลังอย่างน้อย 1 ใน 6 เพื่อให้ได้ชยั ชนะอย่าง
เบ็ดเสร็ จเด็ดขาด
นี่คือผูเ้ ชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ งที่สุดที่จางเซวียนเคยเจอนับตั้งแต่มาถึง
มิติเบื้องบน…เขาเพิ่งจะฟื้ นคืนสติได้เพียงวันเดียวเท่านั้น แต่กเ็ ป็ น
โอกาสดีที่จะได้ทดสอบทักษะของตัวเอง
ขณะที่จางเซวียนเริ่ มจะพลิกมาถือไพ่เหนือกว่า ความพรั่นพรึ งใน
ดวงตาของเฉว่เหยาก็เพิม่ ขึ้นเรื่ อย ๆ
เหมือนอย่างที่คนอื่น ๆ พูดไว้ ศิลปะเพลงกระบี่ที่เขาสําแดงออกมา
คือกระบวนท่าเหมันต์สีเงิน เทคนิคนี้ทาํ ให้เขารักษาพละกําลังและ
ความเร็ วในการโจมตีอย่างต่อเนื่องไว้ได้ ขอแค่เขามีเวลามากพอ ก็
จะกลายเป็ นนักสู ผ้ บู ้ า้ คลัง่ ในสังเวียน สามารถฉีกกระชากทุกอย่างที่
ขวางทาง
แต่วนั นี้อะไร ๆ ดูจะไม่เป็ นไปตามคาด เขาคิดว่าเขาน่าจะเล่นงาน
อีกฝ่ ายได้ในทันทีที่ผนึกเอาพละกําลังและความเร็ วเต็มพิกดั เข้า
ด้วยกัน…แต่ใครจะไปคิดว่าหมอนี่จะแข็งแกร่ งขึ้นเรื่ อย ๆ เมื่อการ
ต่อสู ด้ าํ เนินไป!
มือไม้ของเขาเป็ นเหน็บชาไปหมดเพราะการใช้พลังเต็มพิกดั ง่ามนิ้ว
ก็มีเลือดไหลซึม
“ต้องจบให้เร็ วที่สุด!”
อาการบาดเจ็บที่เพิม่ ขึ้นเรื่ อย ๆ จะส่ งผลขัดขวางประสิ ทธิภาพการ
ต่อสู ข้ องเขา และนัน่ จะเป็ นโอกาสให้เจ้าโลกพลิกผันสถานการณ์มา
เอาชนะได้ รู ้ดีวา่ จะต้องไม่ปล่อยให้การต่อสูย้ ดื เยื้อ เฉว่เหยาตัดสิ นใจ
ทุ่มสุ ดตัว เขาคํารามกร้าวและพุง่ กระบี่เข้าใส่
ฟิ้ ววววว!
กระแสกระบี่ฉีท้ งั หมดที่เฉว่เหยาปล่อยเข้าใส่ จางเซวียนรวมตัวกัน
อย่างรวดเร็ ว เกิดเป็ นพายุทอร์นาโดลูกใหญ่
พละกําลังที่แท้จริ งของกระบวนท่าเหมันต์สีเงินไม่ได้อยูท่ ี่การผนึก
เอาพละกําลังของกระบี่เข้าด้วยกัน แต่เป็ นการปล่อยกระแสกระบี่ฉี
จากการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งให้อบอวลอยูใ่ นพื้นที่การประลอง ซึ่ ง
จะทําให้เขาเปิ ดการโจมตีข้นั เด็ดขาดที่มีพละกําลังรุ นแรงเกินพิกดั
ของตัวเองได้!
“กระเสื อกกระสนไปให้พอใจ ถึงอย่างไรคุณก็แพ้แน่” เฉว่เหยา
คํารามใส่ จางเซวียนขณะที่หวั ใจเต้นรัวอยูใ่ นอก
นี่คือเทคนิคเหนือชั้นที่สุดของเขาหรื อ?
เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ ายทรงพลังขึ้นเรื่ อย ๆ จนถึงระดับที่ต่อ
ให้ใช้พละกําลัง 1 ใน 6 ก็ยงั รับมือได้ยาก จางเซวียนถอนหายใจ
เฮือกใหญ่ขณะตัดสิ นใจ “ช่างมันเถอะ เราต้องโจมตีแล้ว!”
แต่หลังจากใช้ความคิด ก็ยงั รู ้สึกว่าศิลปะเพลงกระบี่เทียบฟ้าที่เขาได้
ฝึ กฝนมาออกจะทรงพลังไปหน่อย จางเซวียนจึงกระดิกนิ้วเบา ๆ
แล้วกระบี่ในมือของเขาก็พงุ่ แหวกอากาศออกไป
“เทคนิคนี้ใช้กบั กระบี่ได้ดว้ ยหรื อ?” อวิน๋ เฟยหยางกับพรรคพวก
ถึงกับจังงัง
พวกเขาดูออกว่าชายหนุ่มตั้งใจจะโยนกระบี่ออกไปเหมือนกับที่เคย
โยนดาบใส่ พวกเขา
แต่มนั จะได้ผลหรื อไง? ทั้งรู ปร่ างและนํ้าหนักของกระบี่กบั ดาบนั้น
ต่างกันมาก ซึ่งความแตกต่างเพียงเล็กน้อยอาจหมายถึงผลลัพธ์ที่
ต่างกันอย่างสิ้ นเชิง ทําแบบนี้จะดีหรื อ?
ก่อนที่ความสงสัยของพวกเขาจะเพิม่ มากขึ้น กระบี่กพ็ งุ่ หวือแหวก
อากาศออกไปด้วยเสี ยงดังสนัน่
ฟึ่ บ!
เพียงชัว่ พริ บตา มันก็ไปจ่อตรงหน้าเฉว่เหยา
เฉว่เหยาหน้าแดงกํ่า เขารี บเงื้อกระบี่ข้ ึนเพื่อปั ดป้อง แต่กพ็ บว่าการ
ตอบโต้ของเขาพลาดเป้า
ฉึกกกก!
กระบี่น้ นั เสี ยบเข้าที่ศีรษะของเขาอย่างเหมาะเจาะ
แม้ในตอนนั้นเฉว่เหยาจะแพ้แล้ว แต่ดว้ ยพละกําลังสู งส่ งในฐานะ
นักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ เขาจึงยังคงสภาพร่ างของตัวเองไม่ให้
สลายเป็ นอากาศธาตุได้ครู่ หนึ่ง
“คุณ…คุณเอาชนะผมได้ต้ งั แต่แรกเลยหรื อ?” เฉว่เหยาจ้องจางเซวียน
ด้วยนัยน์ตาเบิกโพลงจนแทบทะลุออกจากเบ้า
เขาได้ยนิ เรื่ องรํ่าลือมามากว่าอีกฝ่ ายมีความเชี่ยวชาญในการโยนดาบ
เขาคิดว่าเหตุผลที่หมอนี่ไม่ได้โยนอาวุธใส่ เขาก็เพราะไม่อาจสําแดง
เทคนิคอันทรงพลังแบบเดิมกับกระบี่ได้ แต่ขอ้ สันนิษฐานของเขาไม่
เป็ นความจริ ง…คู่ต่อสู ใ้ ช้เทคนิคเดิมกับกระบี่ได้ แถมยังทําได้อย่าง
ง่ายดายด้วย
การขว้างกระบี่น้ นั ทรงพลังเสี ยจนเขาไม่อาจปัดป้องได้แม้จะใช้
เรี่ ยวแรงทั้งหมดที่มี ถ้าหมอนี่ใช้กระบวนท่านี้ต้ งั แต่แรก เขาคงไม่มี
โอกาสได้ต่อสู ้
พูดอีกอย่างก็คือ ที่ผา่ นมาคู่ต่อสู แ้ ค่เล่นเกมกับเขา ทุกอย่างที่เขาทํา
ลงไปคงดูไม่ต่างอะไรกับปาหี่ ในสายตาของอีกฝ่ าย
“คุณยอมควักเงินตั้ง 400,000 เหรี ยญนิรันดร์เพื่อการดวลครั้งนี้ คง
น่าเสี ยดายมากถ้าต้องพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว ผมก็เลยเพิ่มมูลค่า
ให้เงินของคุณอีกหน่อยด้วยการยื้อการดวลให้ยาวนานออกไป…”
จางเซวียนสารภาพด้วยความอับอาย
พลัก่ !
เฉว่เหยากระอักเลือดออกมา
เพิ่มมูลค่าเงินกับผีอะไร!
ถ้าคุณอยากเพิ่มมูลค่าเงินให้ผมจริ ง ๆ อย่างน้อยก็ควรจะบอกว่าคุณ
ใช้พละกําลังสู งสุ ด! ไอ้การเปิ ดเผยทีหลังว่าที่ผา่ นมาคุณออมมือให้
ผมมาตลอดนี่…ผมควรจะรู ้สึกดีหรื อไง?
เพ้อเจ้อเหลวไหลอย่างไร้ยางอาย!
“ผมจะยอมแพ้ แต่กเ็ ห็นชัดเจนแล้วว่าคุณไม่ได้ใช้พละกําลังเต็ม
พิกดั ผมอยากรู ้วา่ คุณใช้พละกําลังของคุณไปแค่ไหน?” เฉว่เหยา
รวบรวมลมหายใจเฮือกสุ ดท้ายตั้งคําถาม
การที่อีกฝ่ ายยังรับมือกับเขาได้ท้ งั ที่เขาเพิม่ พละกําลังและความเร็ ว
ของศิลปะเพลงกระบี่แล้ว ก็หมายความว่าหมอนี่ต่อสู ก้ บั เขาได้อย่าง
สมนํ้าสมเนื้อ ซึ่งในเมื่อเป็ นแบบนั้น ก็อดสงสัยไม่ได้วา่ แท้ที่จริ ง
แล้วอีกฝ่ ายทรงพลังแค่ไหน
“ผมใช้พละกําลังแค่ไหนหรื อ?” จางเซวียนครุ่ นคิดครู่ หนึ่ง แต่
สุ ดท้ายก็ตดั สิ นใจตอบตามจริ ง
“คุณไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยที่สุดก็ไม่เหยาะแหยะ
เหมือนคนอื่น ๆ คุณทําให้ผมปล่อยพละกําลังออกมา 0.16666666…
เอาเถอะ คุณคงเข้าใจเรื่ องทศนิยมไม่รู้จบใช่ไหม?”
“อะไรนะ?” เฉว่เหยาชะงัก
ผมถามคุณว่าคุณสําแดงพละกําลังออกมาแค่ไหน แล้วเป็ นบ้าอะไร
ถึงพูดตัวเลข 6 ออกมาเป็ นชุดยืดยาวขนาดนั้น?
ฟึ่ บ!
เมื่อต้านทานไม่ไหว ร่ างของเฉว่เหยาสลายไปทันที
บริ เวณนั้นเงียบงัน ขณะที่ฝงู ชนพากันเลิกคิ้ว
พวกเขาไม่คิดว่าเจ้าโลกจะพูดความจริ ง เพราะไอ้จุดทศนิยมมากมาย
นัน่ คืออะไร? ในโลกนี้ไม่มีใครควบคุมพละกําลังได้ละเอียดลออ
ขนาดนั้น!
ทศนิยมไม่รู้จบ? ไม่รู้จบบ้านคุณน่ะสิ !
จะทําตัวให้เหมือนผูเ้ ชี่ยวชาญกว่านี้หน่อยไม่ได้หรื อ?
ขณะที่ทุกคนกลอกตาใส่ เจ้าโลก เฉว่ชิงก็หน้าซีดเผือดด้วยความ
พรั่นพรึ ง
เธอพอเข้าใจการที่หวั เจียงเหอพ่ายแพ้ให้กบั เจ้าโลก เพราะถึงอย่างไร
เขาก็ยงั หนุ่มและยังไม่ได้เข้าถึงศักยภาพสู งสุ ดของตัวเอง แต่ท่านพ่อ
ของเธอเป็ นถึงเจ้าเมืองชวนเจียง, นักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลาย
ล้างมิติ ในแง่ของความเข้าใจเรื่ องวรยุทธและความเชี่ยวชาญในเทคนิค
การต่อสู ้ เขาเข้าถึงระดับที่ลึกซึ้งแม้จะเทียบกับเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของ
เมืองแสงดาว แต่ท่านพ่อก็ยงั เอาชนะเจ้าโลกไม่ได้เมื่อวรยุทธของ
พวกเขาอยูใ่ นระดับเดียวกัน…
หมอนัน่ โผล่มาจากไหน? ทรงพลังขนาดนั้นได้อย่างไร?
ถ้ามีคนแบบนี้อยูใ่ นเมืองแสงดาว ป่ านนี้ชื่อเสี ยงของเขาก็น่าจะโด่ง
ดังแล้ว
“ตอนนี้เราก็แค่อยูห่ ่างจากหอนิรันดร์ไว้ เราไม่เชื่อหรอกว่าหมอนัน่
จะกล้าไปสร้างความวุน่ วายที่สาํ นักเจ้าเมือง ถ้าทําอย่างนั้นก็เท่ากับ
รนหาที่ตาย!” เฉว่ชิงกําหมัดแน่นขณะตัดสิ นใจเด็ดเดี่ยว
จะเป็ นคนรับใช้หรื อไม่เป็ น? ขอแค่เธอไม่เข้าสู่ หอนิรันดร์ หมอนัน่
จะทําอะไรเธอได้?
ถึงเจ้าโลกจะเอาชนะท่านพ่อของเธอได้ที่นี่ แต่เธอก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ าย
จะแข็งแกร่ งกว่าท่านพ่อ
หลังจากบอกตัวเองเป็ นมัน่ เหมาะ เฉว่ชิงรู ้สึกเหมือนยกภูเขาออก
จากอก
ฟึ่ บ!
เกิดแสงสว่างวาบก่อนที่ร่างของเธอจะหายวับไป
“พวกคุณนี่ไม่เอาไหนเลย ถามหาความจริ งทําไมในเมื่อรับไม่ได้?”
จางเซวียนส่ ายหน้าอย่างระอาและถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาดูออกว่าเฉว่เหยากับฝูงชนที่ชมการดวลไม่เชื่อเขา ในฐานะผูร้ ัก
ความสมบูรณ์แบบ หากเขาพูดออกไปว่าสําแดงพละกําลังเพียงแค่ 1
ใน 6 ของที่มี ก็หมายความว่าเขาใช้พละกําลัง 1 ใน 6 ของที่มีจริ ง ๆ
ซึ่งจะเท่ากับ 0.1666666…
เขาก็ตรงไปตรงมาสุ ด ๆ แล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อ…ทําตัวเป็ นคนดีนี่มนั
ยากจริ ง!
จางเซวียนถอนหายใจอีกเฮือก เขาเดินลงจากสังเวียนประลองและ
มุ่งหน้าไปยังเคาน์เตอร์ลงทะเบียน จางเซวียนทําลายหลักฐานที่
บรรจุขอ้ มูลเกี่ยวกับที่อยูแ่ ละตัวตนของเขาไว้ก่อนจะยืน่ บัตรนิรันดร์
ออกไป
เพราะหัวเจียงเหอเสี ยชีวติ พร้อมกับอาวุธของเฉว่ชิง อาวุธนั้นจึงถูก
ส่ งคืนกลับสู่ ระบบโดยอัตโนมัติ และมูลค่าของมันจะตกเป็ นของ
จางเซวียน ตอนนี้เขาจึงมีเงินอยูใ่ นบัตรทั้งหมด 600,000 เหรี ยญ
นิรันดร์
จางเซวียนรี บใช้เงินซื้อแหวนเก็บสมบัติคุณภาพดีวงหนึ่ง และ
ขณะที่กาํ ลังจะออกจากหอนิรันดร์ ชายผูห้ นึ่งที่เขาเคยเอาชนะตอน
อยูบ่ นสังเวียนประลอง, เมฆผงาด ก็เดินเข้ามาพร้อมกับสมุดแนะนํา
ตัวเล่มหนึ่งในมือ
“ผูอ้ าวุโสเจ้าโลก, ผูอ้ าวุโสลู่จากสํานักของเราอยากขอพบคุณเป็ น
การส่ วนตัว ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณสะดวกไหม?”
“ผูอ้ าวุโสลู่?” จางเซวียนพึมพํา
ในเมื่อเมฆผงาดมาจากสํานักดาบเมฆเหิ น ก็แปลว่าผูอ้ าวุโสลู่ที่เขา
พูดถึงคือผูอ้ าวุโสคนหนึ่งของสํานัก?
“ก็ได้” จางเซวียนเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา เขาพยักหน้าโดยไม่ลงั เล
ผูท้ ี่จะได้เป็ นผูอ้ าวุโสของ 1 ใน 6สํานักใหญ่จะต้องมีความรู ้เกี่ยวกับ
มิติเบื้องบนไม่นอ้ ย นี่คือโอกาสดีที่เขาจะได้เรี ยนรู ้เรื่ องราวของกลุ่ม
อํานาจต่าง ๆ ในมิติเบื้องบน โดยเฉพาะตําหนักเทพเจ้าแห่งจิต
วิญญาณ
ตอนที่จางเซวียนอยูท่ ี่สนามรบของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ด้วยการพลีชีพ
ของหวูเ่ ฉิน พวกเขาเรี ยกเทพเจ้าจากมิติเบื้องบนมาได้ ซึ่ งอีกฝ่ ายพูด
ว่าเธอจะยอมเปิ ดเผยที่อยูข่ องหลัวลัว่ ชิงก็ต่อเมื่อเขาสามารถเข้าสู่
ตําหนักเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ นี่คือคําบอกใบ้ที่ชดั เจนที่สุดสําหรับ
การตามหาหลัวลัว่ ชิง
จางเซวียนตามหลังเมฆผงาดไป ไม่ชา้ ก็มาถึงห้องที่ถูกปิ ดไว้อย่าง
แน่นหนา
นอกจากสังเวียนสําหรับการดวลอย่างเป็ นทางการ หอนิรันดร์ยงั มี
สถานที่พิเศษให้นกั รบได้เจรจาหารื อกันอย่างเป็ นส่ วนตัวด้วย ห้อง
ลับพวกนี้เป็ นที่มนั่ ใจได้เรื่ องความเป็ นส่ วนตัว ไม่วา่ คนในห้องจะ
พูดอะไร ผูท้ ี่อยูด่ า้ นนอกจะไม่มีทางได้ยนิ สักคํา
ชายชราผูห้ นึ่งนัง่ อยูท่ ี่ใจกลางห้อง มีชายอีก 4 คนยืนอยูด่ า้ นหลัง ซึ่ ง
ก็คือคู่ต่อสู ท้ ้ งั 4 ที่จางเซวียนปราบจนราบคาบในสังเวียนประลอง
แต่ละคนมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ไม่มีใครเต็มใจจะสบตาเขา
น่าประหลาดใจที่นยั น์ตาวารี กอ็ ยูใ่ นกลุ่มคนทั้ง 4 ด้วย ดูเหมือนเขา
จะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลอันใหม่และกลับเข้ามาอีกครั้ง
ทันทีที่จางเซวียนเดินเข้าไป ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ รี บลุกขึ้นยืนและแนะนํา
ตัวอย่างสุ ภาพ “ผมคือผูอ้ าวุโสฝ่ ายนอกของสํานักดาบเมฆเหิ น,
ลู่อวิน๋ ”
“ยินดีที่ได้พบคุณ ผูอ้ าวุโสลู่!” จางเซวียนประสานมือและทักทาย
“ผมคือเจ้าโลก”
ตอนที่ 1939 ตําหนักเทพเจ้ าแห่ งจิตวิญญาณ?
ในเมื่อเจตนาการเชื้อเชิญของอีกฝ่ ายยังไม่ชดั เจน เขาก็ไม่อยาก
เปิ ดเผยตัวตนที่แท้จริ ง
แม้จางเซวียนจะมัน่ ใจว่าไม่มีใครเหนือชั้นไปกว่าเขาได้ในหอนิรันดร์
แต่ในโลกของความเป็ นจริ ง ตัวเขาเป็ นแค่นกั รบระดับนักปราชญ์
โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติเท่านั้น แข็งแกร่ งพอที่จะเป็ นใหญ่ได้
แค่ในเมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองชวนเจียง หากเป็ นเมืองแสงดาวและ
เมืองที่อยูใ่ นระดับขั้นสู งกว่า ก็น่าจะมีผเู ้ ชี่ยวชาญอีกมากมายที่ทรง
พลังกว่าเขา
“ไม่จาํ เป็ นต้องปิ ดบังอะไรหรอก” การที่เจ้าโลกเลือกแนะนําตัวโดย
ใช้ฉายาแทนชื่อจริ งทําให้ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ รู ้วา่ อีกฝ่ ายยังระแวง
เขายิม้ อย่างสุ ภาพ “ผมได้ดูบนั ทึกภาพการดวลระหว่างคุณกับพวกเขา
แล้ว ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของคุณจัดว่าไร้เทียมทานจริ ง ๆ
…แต่ถา้ ผมเข้าใจไม่ผดิ คุณกําลังเข้าสู่ ด่านคอขวดในศิลปะเพลงดาบ
สําหรับผูท้ ี่มีความสามารถระดับคุณ การจะพัฒนาตัวเองให้เหนือชั้น
ไปกว่านี้ยอ่ มไม่ง่าย คุณต้องการทรัพยากรและคําชี้แนะ หากคุณ
ยังคงเป็ นนักรบพเนจรต่อไป ก็มีความเป็ นไปได้สูงที่จะไม่มีวนั ก้าว
ข้ามด่านคอขวดไปได้…”
“ผมจึงอยากเชื้อเชิญด้วยความจริ งใจให้คุณเข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆ
เหิ นของเรา!”
ศิลปะเพลงดาบของนักรบคนหนึ่งสะท้อนถึงบุคลิกของผูน้ ้ นั ซึ่ งสิ่ ง
ที่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ รู ้สึกได้จากศิลปะเพลงดาบของจางเซวียนคือความ
เด็ดเดี่ยว เขาจึงตัดสิ นใจตรงเข้าประเด็น
“คุณเชิญผมให้เข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆเหิ นหรื อ?” จางเซวียนเข้าใจ
ว่าผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เรี ยกตัวเขามาเพื่อคิดจะสัง่ สอนบทเรี ยน จึงคลาย
ความระแวดระวังลงเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ ายเอ่ยปากเชิญเขา
“หัวเจียงเหอกับเฉว่เหยาเทียบชั้นกับคุณไม่ได้เมื่อมีวรยุทธระดับ
เดียวกัน ด้วยความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบของคุณ คุณจะได้
เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในทันทีที่เข้าสู่ สาํ นักของเรา ในฐานะศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายใน คุณจะได้เล่าเรี ยนศิลปะเพลงดาบชั้นสู ง อีกทั้งมีผฝู ้ ึ กฝน
ศิลปะเพลงดาบอีกมากมายให้คุณได้แลกเปลี่ยนความรู ้และดวลกับ
พวกเขา ผมเชื่อว่าคุณจะก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ วกว่าที่เป็ นอยู่
ในตอนนี้!”
การที่จางเซวียนเอาชนะศิษย์พี่หมายเลข 1 ของบรรดาศิษย์สายตรง
ฝ่ ายนอกได้อย่างง่ายดายก็หมายความว่าเขามีคุณสมบัติเพียงพอจะ
ได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
“เอ่อ…ผมเกรงว่าคงต้องพิจารณาเรื่ องนี้อย่างรอบคอบก่อน” จาง
เซวียนยังไม่ตอบรับ
สํานักดาบเมฆเหิ นคือหนึ่งในกลุ่มอํานาจหลักของมิติเบื้องบน ถ้า
เขาสามารถใช้เส้นสายนี้เพื่อตามหาหลัวลัว่ ชิง อะไร ๆ ก็จะสะดวก
และง่ายกว่าเดิมมาก
แต่ทุกอย่างย่อมมีขอ้ แลกเปลี่ยน แม้สาํ นักดาบเมฆเหิ นจะมอบความ
ปรารถนาดีให้ แต่เขาก็ตอ้ งมีความจงรักภักดีเป็ นการตอบแทน ซึ่ง
จางเซวียนไม่อยากยุง่ เกี่ยวกับการเมืองระหว่าง 6 สํานักใหญ่ และไม่
อยากพัวพันกับกิจธุระของพวกนั้น มันจะเป็ นปัญหายุง่ ยากยืดเยื้อถ้า
เขาตัดสิ นใจเข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆเหิ น
“ได้สิ เรื่ องนี้เป็ นเรื่ องใหญ่ ผมก็ไม่คาดหวังให้คุณให้คาํ ตอบตอนนี้
หรอก” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยักหน้า
“ผูอ้ าวุโสลู่ มีบางคําถามที่ผมอยากถามคุณ หวังว่าคงไม่เป็ นการ
ล่วงเกิน” จางเซวียนมองหน้าผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
“ไม่อย่างแน่นอน พูดมาเลย!”
“ไม่ทราบว่า…คุณเคยได้ยนิ ชื่อสถานที่ที่เรี ยกว่าตําหนักเทพเจ้าแห่ง
จิตวิญญาณบ้างไหม?” จางเซวียนถามอย่างกระวนกระวาย
“ตําหนักเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ครุ่ นคิดหนักก่อน
จะส่ ายหน้า “ผมไม่เคยได้ยนิ ชื่อสถานที่แบบนั้น”
“เข้าใจแล้ว…” จางเซวียนมองหน้าผูอ้ าวุโสลู่อย่างตั้งใจขณะที่อีก
ฝ่ ายพูด มีความผิดหวังเจืออยูใ่ นนํ้าเสี ยงของเขา
“ผมเป็ นแค่ผอู ้ าวุโสฝ่ ายนอกคนหนึ่งของสํานักดาบเมฆเหิ น หน้าที่
หลักของผมคือชี้แนะบรรดาศิษย์สายตรงรุ่ นหลัง เกรงว่าผมจะมี
ความรอบรู ้เกี่ยวกับเรื่ องราวต่าง ๆ ของทวีปแห่งนี้ไม่มากพอ แต่
สํานักของเรามีหนังสื อมากมายที่อธิบายรายละเอียดของความสัมพันธ์
ระหว่างกลุ่มอํานาจอันหลากหลายในทวีปที่ถูกลืม ผมเชื่อว่าคุณจะ
ได้พบสิ่ งที่คุณต้องการจากที่นนั่ ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ดูปั่นป่ วนใจอยูค่ รู่
หนึ่ง แต่กร็ ี บตั้งตัวและตอบอย่างสุ ขมุ
แม้ตวั เขาจะมีเกียรติในฐานะหนึ่งในผูอ้ าวุโสของสํานักดาบเมฆเหิ น
แต่เรื่ องจริ งก็คือเขาอยูใ่ นระดับขั้นตํ่าสุ ด ไม่มีสิทธิ์ได้เข้าถึงข้อมูลที่
เป็ นความลับหรื อได้รู้เห็นเรื่ องเหล่านั้น
ในเมื่อตําหนักเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณที่อีกฝ่ ายพูดถึงมีคาํ ว่า ‘เทพ
เจ้า’ อยู่ ก็เป็ นไปได้วา่ น่าจะเกี่ยวข้องกับบางสิ่ งที่ยงิ่ ใหญ่ซ่ ึ งคนระดับ
เขาไม่มีโอกาสรับรู ้
“ผมเข้าใจ” จางเซวียนพยักหน้า
อีกฝ่ ายเป็ นผูอ้ าวุโสฝ่ ายนอกที่มีหน้าที่รับศิษย์สายตรงระดับล่างและ
ศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก จึงไม่น่าจะมีความเข้าใจมากมายอะไรใน
ความลับของบุคคลระดับสู งกว่า
“อ้อ ยังมีอีกคําถามหนึ่งที่ผมอยากขอความรู ้ ผมรู ้วา่ ระดับขั้นของ
วรยุทธแบ่งออกเป็ นระดับเซียน ระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ และ
ระดับนักปราชญ์โบราณ แต่ผมอยากรู ้วา่ ที่สูงไปกว่านั้นคืออะไร?”
จางเซวียนถาม
“วรยุทธขั้นสู งสุ ดของนักปราชญ์โบราณคือผูท้ าํ ลายล้างมิติ ส่ วนที่
สู งไปกว่านั้นคือวรยุทธขั้นเสมือนอมตะ นักรบขั้นเสมือนอมตะจะ
ไม่สะทกสะท้านต่อเปลวไฟ จิตวิญญาณของพวกเขาบริ สุทธิ์ราวกับ
ทองคํา เพียงแค่ใช้ความคิด ก็สามารถทําให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ตัวผม
ในเวลานี้เป็ นนักรบขั้นเสมือนอมตะ เช่นเดียวกันกับท่านเจ้าเมือง
ของเมืองแสงดาว วรยุทธขั้นเสมือนอมตะแบ่งออกเป็ น 4 ขั้นย่อย
คือขั้นเสมือนอมตะระดับล่าง เสมือนอมตะระดับสู ง เสมือนอมตะ
ปฐพี และเสมือนอมตะสรวงสวรรค์…”
“…ที่สูงขึ้นไปกว่านักรบขั้นเสมือนอมตะคือนักรบอมตะตัวจริ ง
นักรบอมตะตัวจริ งคือผูเ้ ชี่ยวชาญที่แท้จริ งในทวีปที่ถูกลืม ผูอ้ าวุโส
ส่ วนใหญ่ใน 6 สํานักใหญ่มีวรยุทธระดับนั้น ส่ วนผูท้ ี่พฒั นาตัวเอง
ไปได้ไกลกว่านั้นอีกเป็ นที่รู้จกั ในชื่อนักรบอมตะขั้นสู ง พวกเขา
ได้รับการขนานนามว่าราชาผูเ้ ป็ นอมตะ…มีแต่เหล่าผูอ้ าวุโสคน
สําคัญของสํานักดาบเมฆเหิ นเท่านั้นที่สาํ เร็ จวรยุทธระดับนี้!”
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ หยุดพูดไปครู่ หนึ่ง “เอาล่ะ นี่คือระดับขั้นของวรยุทธ
ทั้งหมดเท่าที่ผมรู ้ สรวงสวรรค์น้ นั ไร้ขอบเขต จึงไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่า
จะต้องมีวรยุทธที่สูงไปกว่านักรบอมตะขั้นสู ง แต่นนั่ ไม่ใช่สิ่งที่ผมมี
สิ ทธิ์จะได้รับรู ้…การฝึ กฝนวรยุทธนั้นไม่ง่าย ยากที่จะพัฒนาได้ไกล
หากปราศจากกลุ่มอํานาจหนุนหลัง อีกทั้งทรัพยากรสําหรับการ
ฝึ กฝนวรยุทธในโลกใบนี้กม็ ีจาํ กัด ดูเรื่ องนี้เป็ นตัวอย่าง คําถามที่คุณ
เพิ่งถามผมถือเป็ นความรู ้ทวั่ ไปในหมู่ศิษย์สายตรงธรรมดาสามัญ
แต่คุณยังต้องมา เจาะจงถามผมเป็ นพิเศษ!”
“นักปราชญ์โบราณ นักรบเสมือนอมตะ นักรบอมตะตัวจริ ง นักรบ
อมตะขั้นสู ง” จางเซวียนพยักหน้าขณะบันทึกความรู ้เหล่านั้นลงใน
หัวสมอง
“ด้วยความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบของคุณและการแนะนําจาก
ผม คุณจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในอย่างง่ายดาย ไม่ทราบว่าตอนนี้
คุณพักอยูท่ ี่ไหน? ถ้าเป็ นไปได้ ผมคิดว่าน่าจะดีกว่าหากเราทั้งคู่ได้
หารื อเรื่ องนี้กนั อย่างจริ งจัง อีกอย่าง เรื่ องนี้สาํ คัญมากต่ออนาคตของ
คุณ!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูด
ในท้ายที่สุด ไม่วา่ จะพูดอะไรกันที่นี่ ก็เป็ นเพียงข้อตกลงเลื่อนลอย
เขาอยากพบชายผูน้ ้ ีเป็ นการส่ วนตัวในโลกแห่งความเป็ นจริ งเพื่อจะ
ได้รู้วา่ อีกฝ่ ายทรงพลังแค่ไหน ไม่วา่ อีกฝ่ ายจะเป็ นหญิงหรื อชาย
เป็ นมนุษย์หรื ออสูรก็ตาม
“ตอนนี้ผมอยูท่ ี่เมืองชวนเจียง เชื่อว่าในที่สุดเราก็คงได้พบกัน แต่…
ยังมีบางอย่างที่ผมต้องขอรบกวนศิษย์พี่หวั ” จางเซวียนพูดพร้อมกับ
ยิม้ อย่างมีเลศนัย
“คุณอยูท่ ี่เมืองชวนเจียงหรื อ?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ สบตากับหัวเจียงเหอ
ทันทีขณะเกิดความกังขาในใจ
มีนกั รบที่ทรงพลังขนาดนี้อยูใ่ นเมืองล้าหลังอย่างเมืองชวนเจียงด้วย
หรื อ?
“หากเป็ นสิ่ งที่ผมทําได้ ผมจะทําอย่างดีที่สุด” หัวเจียงเหอประสาน
มือ
เขาดูออกว่าผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ตั้งใจจะนําเจ้าโลกเข้าสู่ สาํ นัก ดังนั้น แม้
จะไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่เท่าไหร่ แต่ก็ ‘อยูเ่ ป็ น’ เกินกว่าจะทําอะไร
หุนหันพลันแล่นออกไป
“เรื่ องเป็ นอย่างนี้…” จางเซวียนส่ งโทรจิตหาหัวเจียงเหอ เมื่อจบ
เรื่ อง เขาประสานมือและโค้งคํานับ “ผมขอรบกวนศิษย์พี่หวั เรื่ องนี้
ด้วย ตอนนี้ผมยังมีธุระอื่นที่ตอ้ งจัดการ จึงไม่อยากรบกวนพวกคุณ
แล้ว ลาก่อน!”
หลังจากได้รู้ในสิ่ งที่ตอ้ งการ จางเซวียนก็ไม่อยากจะอยูใ่ นห้องลับ
แห่งนี้อีก
เขากลับไปที่เคาน์เตอร์ดา้ นหน้าของหอนิรันดร์และสอบถาม “ไม่
ทราบว่าที่นี่มีอะไรที่จะทําให้นกั รบฟื้ นฟูพละกําลังได้อย่างรวดเร็ ว
ไหม?”
“ถ้าคุณเป็ นนักปราชญ์โบราณ ก็ควรจะทดลองยาเม็ดอมตะขั้นตํ่า
ราคาเม็ดละ 100,000 เหรี ยญนิรันดร์” เจ้าหน้าที่ตอบ
“แม้แต่ข้ นั ตํ่าก็ยงั ราคาสู งถึง 100,000 เหรี ยญนิรันดร์หรื อ?”
ดูเหมือนหอนิรันดร์จะทําให้จางเซวียนตกใจไม่หยุดไม่หย่อนกับ
ราคาค่างวดของสิ นค้าแต่ละชิ้น เขารู ้สึกเหมือนองค์กรแห่งนี้พยายาม
ทุกวิถีทางที่จะปล้นทุกเหรี ยญนิรันดร์ที่เขาหามาได้
ด้วยความขี้เหนียว จางเซวียนพยายามสื บเสาะหาข้อมูล ซึ่ งก็
กลายเป็ นว่าราคาเหล่านี้ถือเป็ นเรื่ องธรรมดาของที่นี่
โดยทัว่ ไป ยาเม็ดอมตะจะถูกใช้เป็ นอัตราแลกเปลี่ยนในหมู่ชน
ชั้นสู งของมิติเบื้องบน ด้วยประโยชน์หลากหลายของมัน จึงไม่มี
นักรบคนไหนไม่อยากได้ ความต้องการสิ นค้าชนิดนี้จึงมีอย่าง
ต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับหิ นวิเศษในทวีปแห่งปรมาจารย์
ยาเม็ดอมตะแบ่งออกเป็ น 4 ขั้นย่อย คือยาเม็ดอมตะขั้นต้น ใช้กบั
นักรบขั้นเสมือนอมตะ, ยาเม็ดอมตะทัว่ ไป ใช้กบั นักรบอมตะตัวจริ ง
และยาเม็ดอมตะขั้นสู ง ใช้กบั นักรบอมตะขั้นสู ง ส่ วนยาเม็ดอมตะ
ขั้นพิเศษนั้นหายากถึงขนาดที่ต่อให้มีเงินก็แทบไม่อาจหาได้ใน
ท้องตลาด มีผคู ้ นไม่มากนักที่มีโอกาสได้เห็นมัน
ในเมื่อยาเม็ดชนิดนี้เป็ นอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้กนั ทัว่ ไปในหมู่ชน
ชั้นสู ง อีกทั้งเป็ นทรัพยากรในการฝึ กฝนวรยุทธที่สาํ คัญกับนักรบขั้น
เสมือนอมตะ จึงพอเข้าใจได้ที่จะมีราคาสู ง แต่ถา้ จางเซวียนต้องใช้
เงินถึง 100,000 เหรี ยญนิรันดร์ในการซื้ อยาแต่ละเม็ด เงินน้อยนิดที่
เขาเพิง่ หาได้กค็ งหมดเกลี้ยงในพริ บตา
จางเซวียนใช้เงินที่เหลืออยูซ่ ้ื อยาเม็ดอมตะขั้นต้นเม็ดหนึ่งก่อนจะ
มองหน้าเจ้าหน้าที่ดว้ ยความอยากรู ้ “ผมถามหน่อยเถอะ ดูเหมือน
หอนิรันดร์จะขายทุกอย่าง ไม่ทราบว่าขายหนังสื อเทคนิควรยุทธ
หรื ออะไรทํานองนั้นด้วยไหม?”
“ขายสิ ” เจ้าหน้าที่พยักหน้า “แต่เทคนิควรยุทธที่เรามีคือเทคนิคที่
ผูค้ นฝึ กฝนกันทัว่ ไป หากเป็ นเทคนิควรยุทธเฉพาะของ 6 สํานัก
ใหญ่ ผมเกรงว่าเราจะไม่มีขาย”
ไม่มีทางที่ 6 สํานักใหญ่จะปล่อยให้เทคนิควรยุทธของตัวเองรั่วไหล
หากหอนิรันดร์ทาํ การลอกเลียนและนํามาขาย ก็คงต้องมีปัญหา
เดือดร้อนเพราะความไม่พอใจของ 6 สํานักใหญ่น้ นั
หากเป็ นแค่การดวล, 6 สํานักใหญ่กไ็ ม่มีปัญหาอะไรกับหอนิรันดร์
เพราะไม่ขดั ผลประโยชน์ของพวกเขา แต่ถา้ หอนิรันดร์กล้า
สัน่ คลอนรากฐานของคนเหล่านั้น ก็ยอ่ มกลายเป็ นการระเบิด
สงครามเต็มรู ปแบบ
เพราะเหตุผลนี้ หอนิรันดร์จึงเติบโตมาได้ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมาและ
ขยายสาขาออกไปทัว่ ทั้งทวีปที่ถูกลืม
ตอนที่ 1940 ยาเม็ดอมตะ
“ผมเข้าใจแล้ว ต่อให้เป็ นเทคนิควรยุทธทัว่ ไปผมก็ไม่มีปัญหา…แต่
ถ้าผมอยากขอดูเทคนิควรยุทธเหล่านั้นสักครู่ หนึ่งแทนที่จะซื้อมัน
จะต้องเสี ยค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?” จางเซวียนถามอย่างตื่นเต้น
ถึงเขาจะสําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติแล้ว แต่กโ็ ชคร้ายที่ไม่มี
เทคนิควรยุทธในระดับขั้นนั้นเลย
ถ้าเขามีโอกาสได้เห็นหนังสื อเทคนิควรยุทธของที่นี่สกั หน่อย ประกอบ
กับมียาเม็ดอมตะขั้นต้นมากพอ ก็มนั่ ใจว่าน่าจะสําเร็ จขั้นสู งสุ ดได้
ภายใน 2-3 ชัว่ โมง ซึ่งนัน่ จะทําให้เขาสํารวจทวีปที่ถูกลืมและหาตัว
หลัวลัว่ ชิงได้ง่ายขึ้น
“ราคาจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับระดับขั้นของเทคนิควรยุทธเหล่านั้น
สําหรับเทคนิควรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติข้ นั พื้นฐานที่สุดมีสนนราคา
อยูท่ ี่เทคนิคละ 50,000 เหรี ยญนิรันดร์ แต่ผมเกรงว่าเทคนิควรยุทธ
ของเรามีไว้ขายเท่านั้น เราไม่มีให้ดู!”
“50,000 เหรี ยญนิรันดร์สาํ หรับหนังสื อเทคนิควรยุทธขั้นพื้นฐาน
ที่สุด?” จางเซวียนอ้าปากค้างด้วยความพรั่นพรึ ง
เขากําลังคิดจะซื้ อหนังสื อเทคนิควรยุทธสักตั้งหนึ่งหากราคาไม่แพง
เกินไป ไม่อยากเชื่อเลยว่าราคาจะสู งลิ่วขนาดนี้
หากประมาณคร่ าว ๆ เขาต้องใช้หนังสื อราว 1,000 เล่มเพื่อประมวล
เคล็ดวิชาเทียบฟ้าฉบับสมบูรณ์ของวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติ ซึ่งนัน่
จะต้องใช้เงินถึง 50 ล้านเหรี ยญนิรันดร์! ต่อให้เขา เข้าร่ วมการดวล
บนสังเวียนประลองจนขาดใจตายไปข้าง ก็คงหาเงินไม่ได้มากขนาด
นั้น!
อีกอย่าง เขาเพิง่ ท้าทายคนกลุ่มใหญ่ไป ไม่รู้เลยว่านักสู ก้ ลุ่มใหม่จะ
พร้อมตกเป็ นเหยือ่ ของเขาเมื่อไหร่
ดูเหมือนการซื้อหาหนังสื อเทคนิควรยุทธที่นี่จะไม่ใช่เรื่ องง่าย
“หรื อว่าเราต้องเข้าร่ วมกับสํานักใดสํานักหนึ่งจริ ง ๆ ?” จางเซวียน
กุมขมับอย่างปวดใจ
ทั้ง 6 สํานักย่อมมีหอ้ งสมุดของตัวเอง ที่บรรจุเทคนิควรยุทธเอาไว้
นับไม่ถว้ น จางเซวียนน่าจะถ่ายโอนหนังสื อหลายพันเล่มที่นนั่ ได้
อย่างง่ายดาย…เพราะทรัพยากรที่มีพร้อมสรรพแบบนี้ นักรบมากมาย
จึงปรารถนาจะเข้าเป็ นส่ วนหนึ่งของทั้ง 6 สํานัก
เหมือนที่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูดไว้ ด้วยระดับความเข้าใจในศิลปะเพลง
ดาบของเขา ไม่ใช่เรื่ องยากที่จางเซวียนจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
คนหนึ่งของสํานักดาบเมฆเหิ น อันที่จริ ง เขาเข้าร่ วมกับสํานักใด
สํานัก 1 ใน 6 สํานักได้อย่างง่ายดาย และมัน่ ใจว่าจะไต่อนั ดับได้
อย่างรวดเร็ วด้วย แต่กไ็ ม่มีสิ่งที่เรี ยกว่าของฟรี อยูใ่ นโลก
การเข้าร่ วมกับสํานักใดสํานักหนึ่งย่อมหมายความว่าเขาจะต้องทํา
ตามกฎเกณฑ์และข้อบังคับของสํานักนั้น ซึ่ งหากเป็ นแค่กฎเกณฑ์
ปลีกย่อยไม่กี่ขอ้ ก็คงไม่ใช่เรื่ องใหญ่ แต่ถา้ หนึ่งในกฎเกณฑ์เหล่านั้น
กีดขวางไม่ให้เขาตามหาหลัวลัว่ ชิง หรื อสํานักนั้นเป็ นปฏิปักษ์กบั
ตําหนักเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ เขาก็คงต้องบอกลา
เดี๋ยวก่อน…ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนได้เข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆเหิ น และ
เราติดตามเขาในฐานะคนรับใช้ล่ะ? แบบนั้นน่าจะดีเหมือนกัน ใช่
ไหม? จางเซวียนตาโตด้วยความตื่นเต้น
ว่ากันว่าจะมีการคัดเลือกที่เมืองชวนเจียงในอีก 2 วันนับจากนี้ เพื่อ
เปิ ดโอกาสให้เหล่านักรบได้เข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆเหิ นในฐานะ
ศิษย์สายตรงระดับล่าง ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนแสดงศักยภาพได้ดีพอ ก็
น่าจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก ซึ่งศิษย์สายตรงฝ่ ายนอกส่ วนใหญ่
จะมีคนรับใช้ประจําตัวเพื่อคอยจัดการธุระที่จาํ เป็ นต่าง ๆ ดังนั้น ขอ
แค่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนทําสําเร็ จ จางเซวียนก็จะได้เข้าสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น
ทันทีที่เขาได้เข้าไป ก็จะแสวงหาสิ่ งที่ตอ้ งการได้ และในเวลาเดียวกัน
ก็จะได้ช่วยชี้แนะการเล่าเรี ยนให้ศิษย์สายตรงของเขาเพื่อให้แน่ใจว่า
อีกฝ่ ายจะไม่หลงทาง ในฐานะคนรับใช้ของศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก
เขาไม่สาํ คัญมากพอจะเป็ นที่สนใจของสํานักดาบเมฆเหิ น ซึ่งนัน่ ก็
หมายความว่าเขาจะไม่ถูกกฎเกณฑ์เหล่านั้นควบคุมเช่นกัน
เท่ากับยิงกระสุ นนัดเดียวได้นก 3 ตัว!
“เอาตามนี้!”
จางเซวียนใคร่ ครวญจนแน่ใจแล้วว่าจะไม่เกิดปั ญหาตามมาจากการ
กระทําของเขา เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกและออกจากหอนิรันดร์
…..
ขณะที่จางเซวียนตัดสิ นใจได้ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ กับคนอื่น ๆ ที่อยูใ่ น
ห้องลับก็ตดั สิ นใจเช่นกัน
“พวกเราต้องมุ่งหน้าไปเมืองชวนเจียงเดี๋ยวนี้! ขอผมดูก่อน… นี่ก็
เลยเที่ยงคืนแล้ว ด้วยอสู รความเร็ วสูงสุ ดเท่าที่เรามี ก็น่าจะไปถึงที่
นัน่ ได้ตอนบ่าย ในเมื่อเป็ นอย่างนั้นก็ไม่ควรรอช้า จัดการคัดเลือกที่
เมืองชวนเจียงวันนี้เสี ยเลย! เจียงเหอ, ผมอยากให้คุณป่ าวประกาศให้
ผูค้ นในเมืองชวนเจียงรู ้วา่ เราจะจัดการคัดเลือกศิษย์สายตรงทันทีเมื่อ
ถึงรุ่ งเช้า ไม่จาํ เป็ นต้องรอพวกเรา เข้าใจใช่ไหม? เรื่ องนี้จะมีอะไร
ผิดพลาดไม่ได้ เราต้องหาตัวเจ้าโลกให้พบ ไม่วา่ จะด้วยวิธีไหนก็
ตาม” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ สัง่ การอย่างเคร่ งเครี ยด
“ขอรับ” หัวเจียงเหอตอบพร้อมกับพยักหน้า
การนําอัจฉริ ยะผูป้ ราดเปรื่ องกลับสู่ สาํ นักสําคัญกว่าการได้ศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายนอกที่มีความสามารถในระดับทัว่ ๆ ไปนับร้อย หากเขา
ปล่อยให้เจ้าโลกหลุดมือไปเป็ นของสํานักอื่น จะต้องถูกลงโทษ
อย่างหนักข้อหาย่อหย่อนความรับผิดชอบ
“ส่ วนพวกคุณที่เหลือ เก็บข้าวของได้เลย เราจะออกเดินทางในอีก 5
นาที เข้าใจไหม?”
ฟึ่ บ!
ทุกคนหายวับไปจากหอนิรันดร์
…..
จางเซวียนกลับถึงห้อง เขารี บเปิ ดใช้งานตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
เพื่อนําแหวนเก็บสมบัติและยาเม็ดอมตะขั้นต้นที่เพิ่งซื้อออกมา
ยาเม็ดอมตะขั้นต้นมีสีเหลือบเงิน อัดแน่นไปด้วยพลังจิตวิญญาณที่มี
หน้าตาเหมือนปรอท แค่สูดดมครั้งเดียวก็เกินพอจะทําให้ทางเดิน
พลังปราณของผูน้ ้ นั สัน่ สะท้านด้วยความตื่นเต้นราวกับได้พบโอเอซิ ส
ในทะเลทราย
รู ้ดีวา่ การฟื้ นฟูพละกําลังเป็ นเรื่ องเร่ งด่วนสู งสุด จางเซวียนกลืนยา
ลงไปโดยไม่ลงั เล
ทันทีที่ยาเม็ดอมตะขั้นต้นตกถึงท้อง จางเซวียนก็รู้สึกได้ถึงกระแส
พลังงานอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทัว่ แขนขา พลังงานบริ สุทธิ์ที่มีหน้าตา
เหมือนปรอทแปรสภาพเป็ นพลังปราณเข้มข้นอย่างรวดเร็ ว
ระหว่างการฝึ กฝนวรยุทธ จางเซวียนอดรู ้สึกไม่ได้วา่ พลังปราณที่ก่อ
ตัวขึ้นจากพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทนั้นทรงพลังกว่า
มาก ด้วยความเข้มข้นของมัน เทคนิควรยุทธที่เขาสําแดงออกมาก็
น่าจะทรงพลังกว่าเดิม
ความจุของจุดตันเถียนของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง แต่คุณภาพของ
พลังปราณที่จางเซวียนมีกแ็ ข็งแกร่ งกว่าเแต่ก่อนมาก นัน่ หมายความ
ว่าเขาจะสําแดงประสิ ทธิภาพการต่อสู อ้ อกมาได้เยีย่ มยอดกว่าเดิม
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญในมิติเบื้องบนล้วนแต่แข็งแกร่ ง
กว่าธรรมดา ถึงขนาดที่เขาจะเอาชนะได้กต็ ่อเมื่อต้องทําทุกวิถีทาง
เพราะไม่เพียงแต่พลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทจะช่วยบ่ม
เพาะสภาวะของคนเหล่านั้น มันยังมีบทบาทสําคัญในการบ่มเพาะ
พลังปราณด้วย
หลังจากฝึ กฝนวรยุทธไปได้ระยะหนึ่ง พลังงานที่บรรจุอยูใ่ นยาเม็ด
อมตะขั้นต้นก็ถูกใช้ไปจนหมด จางเซวียนระบายลมหายใจยาว
จากนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตา
แม้ยาเม็ดอมตะขั้นต้นจะมีพลังงานเข้มข้น แต่กย็ งั ไม่มากพอจะทํา
ให้เขาฟื้ นคืนพละกําลังได้อย่างสมบูรณ์
“เท่าที่เห็น เราคงต้องกินยาอีกเม็ดหนึ่ง ถึงจะฟื้ นคืนพละกําลังได้
ดังเดิม…” จางเซวียนพึมพํา
ถ้าเขาต้องกินยาเม็ดอมตะขั้นต้นถึง 2 เม็ดเพียงเพื่อฟื้ นฟูพละกําลัง
แล้วจะต้องกินยามากมายขนาดไหนหากต้องการฝ่ าด่านวรยุทธ?
กระบวนการฝึ กฝนวรยุทธช่างเหมือนกับหลุมดําที่ดูดเงินไม่รู้จกั จบ
สิ้ น ต่อให้ร่ าํ รวยขนาดไหนก็ไม่มีวนั พอ!
จางเซวียนชําเลืองมองหน้าต่างและพบว่าเช้าแล้ว ทันทีที่เดินออก
จากห้อง ก็เห็นตั้นเฉี่ ยวเทียนยังคงฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบอย่าง
ระมัดระวัง
แม้ไม่ได้นอนทั้งคืน แต่การเคลื่อนไหวของตั้นเฉี่ยวเทียนก็ไม่แสดง
อาการอ่อนล้า สิ่ งที่ดูจะเปลี่ยนไปก็คือกระบวนท่าของเขาที่มนั่ คง
ขึ้น การขับเคลื่อนพลังปราณก็ราบรื่ นกว่าแต่ก่อนมาก
“ไม่เลว ผมเห็นแล้วว่าคุณฝึ กฝนอย่างหนัก” แค่ชาํ เลืองมองแวบ
เดียว จางเซวียนก็ดูออกว่าตั้นเฉี่ยวเทียนทําตามคําสัง่ ของเขาอย่าง
เคร่ งครัด ไม่ยอ่ หย่อนแม้แต่นอ้ ย
อันที่จริ ง ที่จางเซวียนสัง่ การให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบ
ก็ไม่ใช่เพื่อลงโทษอีกฝ่ าย แต่เพราะตั้นเฉี่ยวเทียนเพิง่ ฝ่ าด่านวรยุทธ
ได้รวดเดียวถึง 6 ขั้นในวันนั้น ซึ่งการฝ่ าด่านวรยุทธอย่างพรวดพราด
จะทําให้สมองและปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติของเขาไม่อาจปรับตัว
เข้ากับพละกําลังที่ได้มาใหม่ ดังนั้นจึงต้องฝึ กฝนให้มากพอเพื่อปรับ
ร่ างกายให้คุน้ ชินกับการเปลี่ยนแปลง
แม้การฝึ กฝนกระบวนท่าเดิมซํ้าแล้วซํ้าเล่าหลายพันครั้งจะน่าเบื่อ
และเป็ นการทดสอบความอดทนของผูน้ ้ นั อย่างมาก แต่กถ็ ือเป็ นก้าว
สําคัญของตั้นเฉี่ยวเทียนที่จะควบคุมกระแสพลังปราณในร่ างของ
เขาให้ได้อย่างสมบูรณ์ สิ่ งนี้จะทําให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนควบคุมพละกําลัง
ได้ดีและนําพาเขาไปสู่ ความคุน้ ชินในพละกําลังที่ได้มาใหม่
ซึ่งก็แน่นอนว่าตั้นเฉี่ยวเทียนบรรลุเป้าหมายแล้ว
ด้วยการฝึ กฝนเพียงคืนเดียว เขาก็กลายเป็ นนักรบระดับนักปราชญ์ผู ้
ยิง่ ใหญ่ข้นั 3 อย่างสมบูรณ์
“ท่านอาจารย์!”
ได้ยนิ เสี ยงเปิ ดประตู ตั้นเฉี่ ยวเทียนรี บเดินเข้ามา เขาทรุ ดตัวลงคุกเข่า
และทักทายจางเซวียน
ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ใช่คนโง่ เขาเองก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงใน
ร่ างกาย แล้วจะมองเจตนาของท่านอาจารย์ไม่ออกได้อย่างไร?
จางเซวียนรี บพยุงตั้นเฉี่ยวเทียนให้ลุกขึ้น แต่ในตอนนั้น หัวสมอง
ของเขาก็กระตุก
หน้าหนังสื อสี ทองหน้าหนึ่งปรากฏขึ้นในหอสมุดเทียบฟ้า
ในตอนนั้นเองที่จางเซวียนเอาชนะใจตั้นเฉี่ ยวเทียนในฐานะศิษย์สาย
ตรงได้สาํ เร็ จ
นี่หมายความว่าหน้าหนังสื อสี ทองเกิดขึ้นในมิติเบื้องบนก็ได้ ช่าง
เป็ นข่าวดีเหลือเกิน! จางเซวียนคิดอย่างลิงโลด
เขาคิดว่าสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไปอาจมีผลขัดขวางประสิ ทธิภาพ
บางอย่างของหอสมุดเทียบฟ้า แต่โชคดีที่ดูจะไม่เป็ นอย่างนั้น
หน้าหนังสื อสี ทองคือไพ่ไม้ตายที่สาํ คัญ ขอแค่เขามีมนั อยูใ่ นมือ ก็
ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว
“คุณพัฒนาศิลปะเพลงดาบที่ผมถ่ายทอดให้คุณไปได้แค่ไหน แสดง
ให้ผมดูหน่อย” จางเซวียนพูดยิม้ ๆ ขณะพยุงตั้นเฉี่ยวเทียนให้ลุกขึ้น
จางเซวียนถ่ายทอดเทคนิค ‘การโยนดาบ’ ที่เขาคิดค้นขึ้นเมื่อวานใน
หอนิรันดร์ให้กบั ตั้นเฉี่ยวเทียน และอยากรู ้วา่ ในชัว่ ข้ามคืน ศิษย์สาย
ตรงของเขาจะฝึ กฝนไปได้แค่ไหน
“ขอรับ ท่านอาจารย์”
ตั้นเฉี่ยวเทียนออกเดิน 2-3 ก้าวก่อนจะสะบัดข้อมือเบา ๆ
ฟิ้ วววว!
ดาบของเขาลอยไป
ถึงความเร็ วในการโยนดาบของเขาจะยังไม่เท่ากับจางเซวียน แต่ก็
เร็ วพอจะทําให้เกิดภาพติดตาขึ้นมากมาย ในชัว่ พริ บตา ดาบนั้นก็ปัก
เข้าที่ลาํ ต้นของต้นไม้ตน้ หนึ่งที่อยูใ่ กล้ ๆ ต้นไม้ใหญ่น้ นั ระเบิดทันที
เกิดเป็ นหลุมขนาดใหญ่ในบริ เวณที่มนั เคยตั้งอยู่
“ไม่เลว คุณเข้าถึงระดับขั้นต้นแล้ว ถ้าอยากเพิ่มความเชี่ยวชาญใน
ศิลปะเพลงดาบให้มากขึ้น ก็ควรใช้มนั ในการต่อสู ้ ศึกษา
ข้อบกพร่ องของคู่ต่อสู อ้ ย่างถี่ถว้ นก่อนจะสําแดงกระบวนท่าใด ๆ
ออกไป ถ้าคุณทําได้ถึงขนาดที่มองเห็นจุดอ่อนของในกระบวนท่า
ของคู่ต่อสู ไ้ ด้หลายข้อด้วยการชําเลืองเพียงแวบเดียว ก็จะเข้าถึงระดับ
การประสบความสําเร็ จโดยภาพรวมในเทคนิคนั้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น
จะไม่มีนกั รบคนไหนในรุ่ นเดียวกันที่เทียบชั้นกับคุณได้อีก!” จาง
เซวียนพูด
ตอนที่ 1941 สมกับทีเ่ ป็ นสํ านักเจ้ าเมือง!
เทคนิคการโยนดาบดูจะเป็ นกระบวนท่าที่เรี ยบง่าย แต่มนั บรรจุเอา
หัวใจของศิลปะเพลงดาบเทียบฟ้าไว้ ขอแค่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนหาข้อ
บกพร่ องในกระบวนท่าของคู่ต่อสู ข้ องเขาได้ ก็จะไม่มีใครขวางทาง
เขาได้อีก
ก็เพราะเหตุผลนี้ที่ทาํ ให้หวั เจียงเหอกับเฉว่เหยาถึงกับหมดหนทาง
“ขอรับ ท่านอาจารย์!” ตั้นเฉี่ ยวเทียนพยักหน้า
หลังจากฝึ กฝนมาทั้งคืน เขาเองก็รู้วา่ เทคนิคการโยนดาบนี้ล้ าํ ลึกและ
ทรงพลังขนาดไหน ทุกอย่างที่เขาเคยเรี ยนรู ้มาล้วนแต่ไม่มีสาระอะไร
หากจะนํามาเปรี ยบเทียบกับเทคนิคนี้ เขารู ้สึกเหมือนตัวเอง เป็ นกบ
ในกะลามาตลอด!
“เอาล่ะ ผมจะถ่ายทอดศิลปะเพลงดาบอื่น ๆ ให้คุณด้วย การเรี ยนรู ้
ศิลปะเพลงดาบให้มากขึ้นจะช่วยเปิ ดมุมมองของคุณ ทําให้เกิด
ความรู ้ความเข้าใจที่ล้ าํ ลึกกว่าเดิม เรื่ องนี้เป็ นเรื่ องสําคัญต่อการ
พัฒนาตัวคุณในฐานะผูฝ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบ” จางเซวียนพูด
ขณะที่เขากําลังจะถ่ายทอดศิลปะเพลงดาบขั้นกลางบางส่ วนให้ต้ นั
เฉี่ยวเทียน เสี ยงฝี เท้าเร่ งร้อนก็ดงั ขึ้นด้านนอก
แอ๊ดดด!
ประตูทางเข้าถูกเปิ ดออก จากนั้น ทหารในชุดเกราะเต็มยศสิ บนายก็
กรู เข้ามาในลานบ้าน ปิ ดล้อมจางเซวียนกับตั้นเฉี่ยวเทียนทันที
“ใครเป็ นเจ้าของบ้าน?” หัวหน้ากองทหารที่ยนื อยูแ่ ถวหน้าตั้งคําถาม
ด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชา
เขาคือชายอายุราว 30 ปี แต่แม้จะอายุยงั น้อย ก็สาํ เร็ จวรยุทธระดับ
นักปราชญ์โบราณขั้น 1 การสื บทอดสายเลือดแล้ว
“ผมเป็ นเจ้าของบ้านหลังนี้” รู ้ดีวา่ ผูบ้ ุกรุ กคือกองทหารจากสํานักเจ้า
เมือง ตั้นเฉี่ยวเทียนเดินออกมาพร้อมกับขมวดคิ้ว
“พวกเรา จับตัวเขาไว้!” หัวหน้ากองทหารสัง่ การ
ฟึ่ บ!
ทหารสองนายรี่ เข้ามาพร้อมกับชักดาบ สี หน้าของพวกเขาบ่งบอกว่า
พร้อมจะเล่นงานตั้นเฉี่ยวเทียนโดยไม่ลงั เล
“ผมขอแนะนําคุณว่าอย่าตอบโต้ พวกเรามีสิทธิ์สงั หารอาชญากรคน
ไหนก็ตามที่พยายามขัดขืน!” ทหารหนึ่งในสองนายนั้นคํารามขณะ
ถือกุญแจมือและเข้าประชิดตัวตั้นเฉี่ ยวเทียน
“ผมทําผิดอะไร?” ตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับผงะ
“เมื่อคืนวาน หน่วยลาดตระเวนของสํานักเจ้าเมืองพบโจรเฉาเฉิ งลี่
ลักลอบเข้ามาในเมืองพร้อมกับกองโจรของเขา เห็นได้ชดั ว่าพวก
นั้นมีเจตนาร้าย ทางสํานักเจ้าเมืองจึงส่ งกองทหาร 50 นายออกไล่ล่า
และกําจัด แต่ทหารทั้ง 50 นายนั้นก็ไม่ได้กลับมา หลังจากสื บเสาะ
เรื่ องราวในช่วงเช้า เราพบร่ องรอยของทหารทั้ง 50 นายมุ่งตรงมาที่
บ้านพักของคุณ ผมจึงนําหมายจับจากสํานักเจ้าเมืองมาจับตัวคุณ
ข้อหารวมหัวกับกองโจรเพือ่ สังหารคนของเรา!” หัวหน้ากองทหาร
คําราม
ตั้นเฉี่ยวเทียนตาโตด้วยความตกใจก่อนละลํ่าละลักออกมา “รวมหัว
กับกองโจร? เป็ นไปไม่ได้! ผมไม่เคยทําอะไรแบบนั้น!”
เมื่อคืนวาน ถ้าไม่ใช่เพราะท่านอาจารย์ของเขา เขาคงถูกกองโจร
พวกนั้นฆ่าตายไปแล้ว แต่ทหารพวกนี้กล่าวหาว่าเขารวมหัวกับ
กองโจร?
ล้อกันเล่นแล้วล่ะ!
ในความเห็นของเขา โอกาสที่สาํ นักเจ้าเมืองจะรวมหัวกับกองโจรมี
มากกว่าตัวเขาเสี ยอีก!
“ก็ไม่เป็ นไร ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะยอมรับอยูแ่ ล้ว พวกเรา, นําหลักฐาน
ออกมา!” หัวหน้ากองทหารตวาดก้องพร้อมกับโบกมือ
ฟึ่ บ!
ทหารหลายนายตบเท้าออกมาพร้อมกับโยนข้าวของในมือของพวก
เขา
มันคืออาวุธและเสื้ อเกราะจํานวนหนึ่งที่เปื้ อนเลือดเปื้ อนดิน
“เราพบของพวกนี้บริ เวณรอบ ๆ ที่พกั ของคุณ มันคืออาวุธของ
กองโจรและเสื้ อเกราะของกองทหารของเรา เห็นได้ชดั ว่าพวกเขา
ปะทะกัน และมีใครบางคนจงใจปกปิ ดหลักฐาน…คุณยังมีอะไรจะ
แก้ตวั อีก?” หัวหน้ากองทหารคําราม
“เป็ นแบบนี้ได้อย่างไร?” ตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับจังงัง
เมื่อวานนี้ท่านอาจารย์ทาํ ลายหลักฐานทุกอย่างหมดแล้ว ทําไมถึงมี
ข้าวของพวกนี้ได้?
“อาวุธและเสื้ อผ้าพวกนั้นเป็ นของกองโจรที่อาศัยอยูบ่ ริ เวณภูเขา
นอกเมืองจริ ง ๆ ผมถูกปล้นมาแล้วหลายครั้งระหว่างที่กาํ ลังขนส่ ง
สิ นค้า ไม่มีทางที่ผมจะจําผิด!”
“เสื้ อเกราะพวกนี้กเ็ ป็ นของสํานักเจ้าเมือง พวกเขาลาดตระเวนใน
พื้นที่รอบ ๆ อาณาเขตบ้านของผมทุกวัน ผมจะจําไม่ได้ได้อย่างไร?”
“เขาลดตัวลงไปรวมหัวกับพวกกองโจร ชัว่ ร้ายเหลือเกิน!”
“เราต้องลงโทษให้สาสมสําหรับพฤติกรรมแบบนี้ ต้องเค้นให้สารภาพ
แผนการของพวกเขาออกมา ถ้ากองโจรปฏิบตั ิการได้สาํ เร็ จล่ะก็ ใคร
จะรู ้วา่ จะมีคนบาดเจ็บล้มตายอีกเท่าไหร่ ในเมืองของเรา?”
“ตระกูลตั้นตกตํ่าไปมากจริ ง ๆ ผมเห็นใจในหายนะภัยที่พวกเขาเผชิญ
โดยเฉพาะเมื่อทายาทที่ยงั เหลืออยูเ่ ป็ นคนสุ ดท้ายก็ฝึกฝนวรยุทธไม่ได้
แต่กลับกลายเป็ นว่าเขาเป็ นตัวการรวมหัวกับกองโจร พังพินาศไป
แบบนั้นก็สมควรแล้ว!”
ยังไม่ทนั ที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนจะได้อธิบาย ผูค้ นกลุ่มหนึ่งในเมืองซึ่ งเป็ น
ที่รู้จกั ของคนทัว่ ไปก็โพล่งออกมาจากด้านหลังทหารกลุ่มนั้น
มีท้ งั พ่อค้า เจ้าของร้านเหล้า คนขายสมุนไพร เจ้าของร้านนํ้าชา...
พวกเขาคือกลุ่มคนที่กมุ บังเหี ยนเศรษฐกิจของเมืองชวนเจียง
แต่ละคนถูกกองโจรเล่นงานมาหลายต่อหลายครั้งระหว่างการทํา
ธุรกิจ คําพูดของพวกเขาจึงมีน้ าํ หนักมาก
“คุณยังคิดจะแก้ต่างอะไรให้ตวั เองอีก?” หัวหน้ากองทหารคําราม
เขาหันกลับไปมองคนของตัวเองและสัง่ การ “จับตัวเขาไว้และนําตัว
ไปที่สาํ นักเจ้าเมือง สื บสวนให้ได้ความ!”
นายทหารที่ถือกุญแจมือเดินเข้าหาตั้นเฉี่ยวเทียนอีกครั้ง
“พวกคุณน่ะล้วนแต่ไร้ยางอาย! แท้ที่จริ งสํานักเจ้าเมืองผูส้ ู งส่ งก็
ต้องการ…” ตั้นเฉี่ยวเทียนกําลังจะโพล่งออกมา แต่แล้วจู่ ๆ ก็หยุด
กึกก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้ ผมจะตามคุณไปสํานักเจ้าเมือง หวังว่า
คุณจะชดเชยความเสี ยหายให้ผมได้ ผมเชื่อว่าพวกคุณจะได้รู้ความ
จริ งและลงโทษผูก้ ระทําผิดในเรื่ องนี้!”
“ฮึ่มมม! ไปกันเถอะ!” หัวหน้ากองทหารดูจะผิดหวังเล็กน้อยที่เห็น
ตั้นเฉี่ยวเทียนคล้อยตามอย่างว่าง่าย เขาชําเลืองมองฝูงชนก่อนจะพูด
ต่อ “การรวมหัวกับกองโจรถือเป็ นภัยคุกคามต่อความสงบสุ ขของ
เมือง ด้วยความร้ายแรงของข้อหา รวมทั้งข้อเท็จจริ งที่พวกคุณเคยถูก
เฉาเฉิงลี่ทาํ ร้าย ผมจึงอยากเชิญพวกคุณทุกคนให้ตามผมไปที่สาํ นัก
เจ้าเมืองเพื่อเป็ นพยานในการพิพากษาคดี อีกอย่าง…ก็เพื่อรับประกัน
เรื่ องความเป็ นกลางและความยุติธรรม พวกเราจะไม่เข้าข้างตั้นเฉี่ยว
เทียนเพียงเพราะเขาหมั้นหมายกับนายหญิงน้อยที่ 2!”
“ก็ดี”
ฝูงชนพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง
“คนที่เหลือก็น่าจะมีส่วนรู ้เห็น จับกุมพวกเขาและนําตัวไปสํานักเจ้า
เมือง!”
กองทหารรี บใส่ กญ
ุ แจมือจางเซวียนกับผูอ้ าวุโสอี้ ก่อนจะนําตัวทั้ง
กลุ่มออกจากบ้านพัก
จางเซวียนไม่ได้ขดั ขืนการจับกุม เขาส่ งโทรจิตแนะนําบางอย่างให้
ตั้นเฉี่ยวเทียน ซึ่งอีกฝ่ ายก็สงบลงทันทีเมื่อได้ยนิ คําพูดนั้น เขาค้อม
หลังเพื่อทําให้ร่างกายดูเล็กลงกว่าเดิม จากนั้นก็กระย่องกระแย่งออก
จากบ้านพักตระกูลตั้น วรยุทธของเขาถูกปกปิ ดไว้ดว้ ยวิธีการบาง
อย่างที่ท่านอาจารย์เพิ่งถ่ายทอดให้
ในสายตาของคนทัว่ ไป ตั้นเฉี่ยวเทียนดูไม่ต่างอะไรกับนักรบระดับ
เซียนขั้น 6 คนหนึ่ง
เมื่อออกจากบ้านพักตระกูลตั้น พวกเขาถูกนําตัวขึ้นเกี้ยวหลังหนึ่ง
ไม่ชา้ ก็มาถึงสํานักเจ้าเมือง
ในเวลานี้ สํานักเจ้าเมืองคลาคลํ่าไปด้วยผูค้ นนับพัน พวกเขาจับกลุ่ม
หารื อกันอย่างเคร่ งเครี ยดถึงเรื่ องที่เกี่ยวข้องกับเหล่ากองโจร
เห็นได้ชดั ว่าแผนการของเฉว่เฉินได้ผล
“ทางสํานักเจ้าเมืองมีความกังวลใจอย่างมากสําหรับเรื่ องที่กองโจร
บุกเข้ามาในเมืองของเรา หลังจากสื บเสาะอย่างถี่ถว้ นแล้ว เราพบว่า
ตระกูลตั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่ องนี้ อย่างที่พวกคุณรู ้ ตั้นเฉี่ยวเทียน
หมั้นหมายกับนายหญิงน้อยที่ 2 ดังนั้น เพื่อยืนยันเรื่ องความเป็ น
กลาง เราจะเปิ ดการไต่สวนสาธารณะเพื่อไม่ให้พวกคุณกังวลว่าเรา
จะทําการพิพากษาอย่างลําเอียง!” เฉว่เฉิ นพูดขึ้นท่ามกลางฝูงชน
“สมกับที่เป็ นสํานักเจ้าเมือง! พวกเขาหาตัวการได้อย่างรวดเร็ ว!”
“ใครก็ตามที่รวมหัวกับเหล่ากองโจรสมควรตาย ผมเคยคิดว่าตั้น
เฉี่ยวเทียนเป็ นคนซื่ อตรง แต่ดูเหมือนหัวใจชัว่ ร้ายของเขาจะถูกซุก
ซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าใสซื่อ!”
…..
เมื่อกองทหารนําตัวตั้นเฉี่ยวเทียนเข้าสู่ การพิพากษา ทุกคนเงียบเสี ยง
ลงทันที
แทบไม่มีใครในเมืองนี้ที่ไม่รู้เรื่ องราวการหมั้น แต่พฤติกรรมการ
รวมหัวกับกองโจรถือว่าชัว่ ร้ายและให้อภัยไม่ได้ ผูบ้ ริ สุทธิ์มากมาย
นับไม่ถว้ นจะต้องเสี ยชีวติ หากเกิดความผิดพลาด พวกเขาจึงอยาก
เห็นว่าทางสํานักเจ้าเมืองจะยังคงรักษาความเป็ นกลางไว้ได้หรื อไม่
เมื่อต้องพิพากษาใครคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับพวกเขา
หลังจากตั้นเฉี่ยวเทียนเดินกระย่องกระแย่งเข้าสู่ คอกจําเลยและถูก
บังคับให้คุกเข่า เฉว่เฉินชําเลืองมองกองทหารและสัง่ การ “นํา
หลักฐานเข้ามา!”
กองทหารรี บเดินเข้ามาโดยนําเสื้ อเกราะเปื้ อนเลือด คันธนู และลูก
ธนูมาวางลงกับพื้น จากนั้น ชายวัยกลางคนท่าทางน่าเชื่อถือคนหนึ่ง
ก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “นายท่าน ผมตรวจสอบข้าวของทุกชิ้นที่นี่
แล้ว คันธนูกบั ลูกธนูเป็ นสิ่ งที่เฉาเฉิ งลี่กบั พรรคพวกใช้ มีร่องรอย
ชัดเจนว่าพวกเขาใช้มนั ส่ วนเสื้ อเกราะ ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าเป็ นของ
กองทหารแห่งสํานักเจ้าเมือง และเท่าที่ดูจากรอยเลือด ซึ่งเพิ่งปรากฏ
ไม่นาน การนองเลือดเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้!”
ชายอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามา “นายท่าน ผมยืนยันเรื่ องนี้ได้ เมื่อคืนนี้
ตอนที่ผมกําลังฝึ กฝนวรยุทธอยู่ ได้ยนิ เสี ยงการเคลื่อนไหวอยูด่ า้ น
นอก ผมแอบมองลอดหน้าต่างและเห็นชายชุดดํามากมายลักลอบเข้า
สู่ บา้ นตระกูลตั้น ดูเหมือนพวกเขากําลังรวมหัวกันปฏิบตั ิภารกิจ
บางอย่าง!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนชําเลืองมองพยานที่ทาํ หน้าที่ยนื ยันเรื่ องราว และเห็น
ว่าอีกฝ่ ายคือครอบครัวเพื่อนบ้านของเขาซึ่งอาศัยอยูไ่ ม่ห่างจาก
บ้านพักตระกูลตั้นมากนัก โดยปกติพวกเขาสนิทสนมกันดี
“นายท่าน ผมก็เห็น มีคนอยูห่ ลายสิ บคน ผมอดคิดไม่ได้วา่ มีบางอย่าง
ผิดปกติ จึงบันทึกเหตุการณ์ท้ งั หมดไว้!”
ชายอีกคนหนึ่งก้าวออกมา เป็ นเพื่อนบ้านของตั้นเฉี่ ยวเทียนเหมือนกัน
เขาเปิ ดใช้งานผลึกบันทึก แล้วภาพที่ถูกบันทึกไว้กป็ รากฏต่อสายตา
ของทุกคน
ภายใต้แสงจันทร์เต็มดวงยามคํ่าคืน กองโจรชุดดํากลุ่มหนึ่งเล็ดลอด
เข้าไปในบ้านพักของตั้นเฉี่ยวเทียนอย่างเงียบ ๆ ซึ่ งหลังจากเข้าไป
ถึงด้านใน ก็ไม่เกิดความอึกทึกครึ กโครมใด ๆ ขึ้น ทุกอย่างเงียบสงัด
ราวกับเจ้าของบ้านเต็มใจต้อนรับพวกเขา
“ผมยังแคลงใจว่าอาจมีความลับบางอย่างเกี่ยวข้องกับเรื่ องนี้ ไม่น่า
เชื่อเลยว่าจะเป็ นความจริ ง!”
“แต่ทาํ ไมตั้นเฉี่ยวเทียนถึงต้องรวมหัวกับพวกกองโจรล่ะ?”
“ผมว่ามันก็แปลก ตระกูลตั้นอาจเสื่ อมถอย แต่ต้ นั เฉี่ยวเทียนก็ควร
จะยังใช้ชีวติ สู งส่ งได้ดว้ ยทรัพย์สมบัติที่เหล่าบรรพบุรุษของเขาทิ้ง
ไว้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนอย่างเขาจะต้องเข้ามาเสี่ ยงขนาดนี้!”
เกิดเสี ยงอื้ออึงเซ็งแซ่หลังจากภาพที่บนั ทึกไว้ในผลึกบันทึกถูก
เปิ ดเผย
ผูท้ ี่รู้จกั นิสยั ของตั้นเฉี่ ยวเทียนและสงสัยว่าอาจมีการสมคบคิด
บางอย่างอยูเ่ บื้องหลังพากันจ้องชายหนุ่มที่กาํ ลังคุกเข่าอยูก่ ลางคอก
จําเลยด้วยสายตาที่บ่งบอกความไม่อยากเชื่อ
ตระกูลตั้นมีรกรากอยูท่ ี่เมืองไป๋ เย่ แต่พวกเขาย้ายมาพํานักที่เมือง
ชวนเจียงตั้งแต่หลายสิ บปี ก่อน ตลอดช่วงเวลานั้น ตระกูลตั้นเจริ ญ
เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ ว และในที่สุดก็เข้าถึงความรุ่ งโรจน์สูงสุ ดเมื่อ
10 ปี ที่แล้ว กลายเป็ นกลุ่มอํานาจที่ไม่มีใครเทียบชั้นได้ในเมืองชวน
เจียง
ตอนที่ 1942 ล้มเลิกเสี ยเถอะ
ในยุคนั้น ตระกูลตั้นมีผเู ้ ชี่ยวชาญจํานวนมากมายนับไม่ถว้ น ลําพัง
แค่นกั รบขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติที่มีอยูถ่ ึง 3 คนก็เกินพอจะทําให้เหล่า
ศัตรู ยอมจํานนให้ตระกูลตั้นแล้ว แม้แต่สาํ นักเจ้าเมืองก็ยงั ไม่กล้าทํา
ตัวเป็ นศัตรู กบั พวกเขา แต่เลือกที่จะสร้างความสัมพันธ์อนั ดีผา่ น
ข้อตกลงผูกมัดการแต่งงาน
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหลังจากความโชคร้ายที่เกิดขึ้น อันนํามาซึ่ง
ความตายของผูเ้ ชี่ยวชาญเกือบทุกคนในตระกูลตั้น ทรัพย์สมบัติของ
ตระกูลตั้นถูกคนอื่น ๆ ฉกฉวยไปภายในเวลาอันรวดเร็ ว แต่เขาก็
ยังคงมีความมัง่ คัง่ ระดับหนึ่งจากการสัง่ สมทรัพย์สินเงินทองที่ได้มา
ตลอดระยะเวลาหลายปี ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนจะต้องรวม
หัวกับเหล่ากองโจร!
ด้วยเหตุน้ ี ฝูงชนกลุ่มหนึ่งที่ออกจะมีเหตุมีผลสักหน่อยจึงรู ้สึกว่า
เรื่ องนี้ยงั ไม่มีคาํ อธิบาย
“นายหญิงน้อยที่ 2…”
ขณะที่ทุกคนกําลังสงสัย เสี ยงฝี เท้าเร่ งร้อนก็ดงั ขึ้น พวกเขาเงยหน้า
มอง เห็นนายหญิงน้อยที่ 2 แห่งสํานักเจ้าเมือง, เฉว่ชิง พรวดพราด
เข้ามาอย่างร้อนอกร้อนใจ
ภาพนั้นทําให้ฝงู ชนมีสีหน้าประหลาด
ด้วยสัญญาผูกมัดการแต่งงานระหว่างตั้นเฉี่ ยวเทียนกับเฉว่ชิง เธอไม่
ควรจะมายุง่ เกี่ยวกับการพิพากษาครั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่เป็ น
กลางที่อาจเกิดขึ้น แต่เธอกลับบุกพรวดพราดเข้ามา…
ที่ตามหลังเฉว่ชิงคือบรรดาคนรับใช้ของสํานักเจ้าเมือง แต่ละคนมีสี
หน้าปั่ นป่ วน ราวกับคิดไม่ถึงว่านายหญิงน้อยที่ 2 จะบุกเข้ามาใน
การพิพากษาอย่างหุนหันพลันแล่นแบบนั้น
“ทําไม?”
เฉว่ชิงสลัดบรรดาคนรับใช้ที่พยายามจะรั้งตัวเธอไว้ เธอจ้องหน้าตั้น
เฉี่ยวเทียนด้วยนัยน์ตาแดงกํ่า ราวกับไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ ายจะทรยศ
“เราหมั้นหมายกันตั้งแต่อายุยงั น้อย แม้คุณจะไม่สามารถฝึ กฝนวร
ยุทธได้ ฉันก็ไม่เคยดูถูกคุณ ทั้งยังปฏิบตั ิตวั ต่อคุณเหมือนเดิม คราว
นี้สาํ นักดาบเมฆเหิ นมาที่เมืองของเราเพื่อเปิ ดรับศิษย์สายตรงฉันคิด
ว่าคงเป็ นโอกาสดีสาํ หรับเราทั้งคู่ จึงพยายามฝึ กฝนอย่างหนักเพื่อให้
ได้การยอมรับจากศิษย์พี่หวั และได้เป็ นศิษย์สายตรงระดับล่างคนหนึ่ง
ของสํานักดาบเมฆเหิ น ฉันคิดว่าการได้เป็ นศิษย์สายตรงระดับล่าง
ของที่นนั่ จะทําให้ฉนั มีโอกาสได้สมุนไพรคุณภาพดีมารักษาคุณจาก
อาการเจ็บป่ วย คุณจะได้กลับมาฝึ กฝนวรยุทธได้อีกครั้งและสร้าง
ตระกูลตั้นของคุณให้รุ่งเรื องดังเดิม…” เฉว่ชิงส่ ายหน้าอย่างหม่นหมอง
ผิดหวังกับการทรยศจากคนที่เธอรัก
“ฉันคิดว่าคุณน่าจะภาคภูมิใจในตัวฉัน จึงส่ งคนไปรายงานคุณเรื่ องนี้
แล้วทําไมคุณถึงรวมหัวกับพวกกองโจรเพือ่ ยับยั้งสิ่ งนี้ล่ะ? คุณถึงกับ
ลักพาตัวฉันไปและปล่อยให้พวกกองโจรซ้อมฉัน พยายามบังคับฉัน
ให้เปลี่ยนใจให้ได้…คุณคิดหรื อว่าฉันจะลืมคุณเพียงเพราะฉันได้เข้า
สู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น…ฉันไม่ได้ทาํ อย่างนี้เพียงเพื่อตัวฉันเอง แต่เพื่อ
อนาคตของเรา นี่จะเป็ นกุญแจที่เปลี่ยนแปลงชะตาชีวติ ของเราไป
อย่างสิ้ นเชิง!”
ขณะที่เฉว่ชิงพูด นํ้าตาก็เอ่อขึ้นมาปริ่ มขอบตาก่อนจะเริ่ มไหลเป็ น
ทาง เธอเบือนหน้าไปจากตั้นเฉี่ยวเทียน ราวกับไม่อาจทนมองหน้า
ชายหนุ่มได้อีก
“ถ้าอย่างนั้น ก็เป็ นเพราะนายหญิงน้อยที่ 2 ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่
สํานักดาบเมฆเหิ น เรื่ องนี้ทาํ ให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนรู ้สึกเสี ยหน้า เขาจึง
เลือกรวมหัวกับพวกกองโจรเพื่อยับยั้งไม่ให้มนั เกิดขึ้น…”
“ตั้นเฉี่ยวเทียนโง่เง่าเหลือเกิน เขาไม่รู้ตวั หรื อว่ามีศตั รู ของตระกูล
ตั้นอีกมากมายที่อยากฆ่าเขา เหตุผลเดียวที่เขายังมีชีวติ อยูไ่ ด้จนถึง
ทุกวันนี้กเ็ พราะสํานักเจ้าเมืองกับนายหญิงน้อยที่ 2 ปกป้องไว้ บาง
ที…อาจเป็ นเพราะเขารู ้ตวั ว่าสิ่ งที่เขากังวลใจอยูจ่ ะต้องเกิดขึ้นทันที
เมื่อนายหญิงน้อยจากไป นัน่ จึงเป็ นเหตุผลที่เขาเลือกจะทําอะไร
เสี่ ยง ๆ เพื่อหวังว่าจะสามารถยับยั้งนายหญิงน้อยที่ 2 ให้อยูท่ ี่นี่ได้!”
“หากนายหญิงน้อยหายตัวไป เธอจะไม่อาจเข้าสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น
ได้อีกเลยเมื่อคนจากสํานักดาบเมฆเหิ นออกจากที่นี่ ด้วยสิ่ งนี้ ขอแค่
เขาผูกมัดสัญญาการแต่งงานไว้ให้ดี ความปลอดภัยของตัวเขาเองก็
เป็ นอันรับประกันได้ จะไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาอีก!”
“ทุกอย่างดูจะลงตัว…นัน่ อธิบายได้วา่ ทําไมใบหน้าของนายหญิงน้อย
ที่ 2 ถึงดูจะบวมเล็กน้อย เธอคงได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยจากการจับกุม
ของกองโจร”
“ก็น่าจะเป็ นอย่างนั้น ใครจะกล้าลงมือลงไม้กบั นายหญิงน้อยแห่ง
สํานักเจ้าเมืองล่ะ?”
“ไอ้พวกกองโจรน่ะกล้าทําทุกอย่างแหละ ขอแค่ใครสักคนเงินถึง ถ้า
ไม่ใช่เพราะความประมาทเลินเล่อของเขา คงไม่มีใครคิดจะสงสัย
ตั้นเฉี่ยวเทียน เขาวางแผนทุกอย่างไว้รอบคอบจริ ง ๆ !”
…..
ได้ยนิ ข้อกล่าวหาเหล่านั้น ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจขณะหันไปมอง
ตั้นเฉี่ยวเทียนอีกรอบ ความขยะแขยงปรากฏบนสี หน้าของพวกเขา
สาวน้อยคนหนึ่งทําเพื่อคุณมากมายขนาดนี้ แต่คุณไม่มีความสํานึก
ในบุญคุณเลยสักนิด ไอ้สิ่งที่ทาํ ลงไปนี่…ยังเรี ยกตัวเองว่าเป็ นมนุษย์
ได้หรื อเปล่า?
“ถ้าเป็ นโลกใบเก่าของผม เธอจะต้องได้รางวัลออสก้าร์แน่!” จาง
เซวียนกําลังสลึมสลือด้วยความเบื่อหน่าย ก็พอดีกบั ที่นายหญิงน้อย
มาทําให้เขาเพลิดเพลินใจด้วยการแสดงอันน่าทึ่ง
เพียงพูดออกมาไม่กี่คาํ เธอก็ปลุกเร้าความเห็นอกเห็นใจของฝูงชน
ได้ ด้วยทักษะการแสดงระดับนี้ เขาคงต้องกล่าวหาคณะกรรมการ
ตัดสิ นว่ารับเงินใต้โต๊ะแน่หากเธอไม่ได้รางวัล
ธรรมชาติของมนุษย์ยอ่ มเห็นอกเห็นใจผูอ้ ่อนแอและสตรี ยังไม่ตอ้ ง
พูดถึงสตรี สาวสวยอย่างเฉว่ชิง ทั้งหมดที่เธอต้องทําก็คือใช้คาํ พูด
ไม่กี่ประโยคและนํ้าตา 2-3 หยดเพื่อทําให้ฝงู ชนเกิดความคล้อยตาม
ในตอนแรก ทั้งหลักฐานและพยานที่มีดูจะมีน้ าํ หนักไม่มากพอที่จะ
กล่าวหาว่าตั้นเฉี่ยวเทียนพัวพันกับอาชญากรรมครั้งนี้ อีกอย่าง สิ่ งที่
เกิดขึ้นนั้นปราศจากแรงผลักดันที่ชดั เจนที่บ่งบอกว่าเขามีส่วนเกี่ยว
ข้อง คนสติดีคนไหนจะรวมหัวกับกองโจรเพือ่ ทําอะไรที่เป็ นการ
ต่อต้านสํานักเจ้าเมืองโดยปราศจากเหตุผล?
แต่เมื่อเฉว่ชิงกล่าวหาเขาด้วย ทุกอย่างก็ดูจะยํา่ แย่ ต่อให้สาํ นักเจ้า
เมืองก็ไม่อาจถอนตัวจากเรื่ องนี้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้อง
ทําตามความต้องการของฝูงชนและพิพากษาตั้นเฉี่ยวเทียน
เรื่ องนี้อธิบายได้วา่ ทําไมนายหญิงน้อยที่ 2 ถึงได้การยอมรับให้เป็ น
ศิษย์สายตรงระดับล่างของสํานักดาบเมฆเหิ นตั้งแต่ยงั ไม่ได้จดั การ
ทดสอบ
สําหรับเรื่ องที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่ชื่อเสี ยงของเฉว่ชิงจะไม่ด่างพร้อย
เธอยังจะได้รับการยกย่องว่าเป็ นสตรี ที่มีจิตใจมัน่ คงเข้มแข็งด้วย
ส่ วนตั้นเฉี่ยวเทียนก็จะกลายเป็ นไอ้ชวั่ ร้ายที่ทาํ ลายความปรารถนาดี
ของเฉว่ชิง และถึงกับพยายามทําร้ายเธอ สิ่ งนี้จะทําให้สาํ นักเจ้าเมือง
มีเหตุผลอันชอบธรรมที่จะยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงาน
มันคือการจัดฉากที่สลับซับซ้อนหลายชั้นอย่างน่าทึ่ง เป็ นแผนอัน
ชาญฉลาดของไอ้ชวั่ ร้ายตัวจริ ง!
ตั้นเฉี่ยวเทียนโมโหเดือดจนแทบระเบิดออกมา
ผมยอมตกลงยกเลิกการหมั้นหมายและการแต่งงานแล้ว แต่คุณก็ยงั
ไม่พอใจ ยังอยากจะเล่นงานผมอีกเพื่อที่คุณจะได้ลอยนวลอย่างใส
สะอาด ตอนที่ผมปฏิเสธ สิ่ งแรกที่คุณคิดก็คือสังหารผม พอไม่สาํ เร็ จ
คุณก็พยายามใส่ ร้ายป้ายสี ผม ป้ายความผิดในสิ่ งที่ผมไม่ได้ทาํ …
คุณทําร้ายผมทุกวิถีทาง!
“นายหญิงน้อยที่ 2 อย่าเสี ยนํ้าตาให้คนอย่างเขาเลย เขาไม่คู่ควร!”
เมื่อเห็นว่าชักจูงความคิดของฝูงชนให้คล้อยตามได้แล้ว เฉว่เฉิ นรู ้วา่
แผนการของเขาสําเร็ จลุล่วง
ในเวลานี้ ต่อให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนจะพูดอะไร ก็ไม่มีวนั แก้ไขสถานการณ์
ได้อีกแล้ว เฉว่เฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็ปลอบเฉว่ชิง
ก่อนจะสัง่ การคนรับใช้ “พวกคุณมัวรี รออะไรอยู?่ รี บพานายหญิง
น้อยที่ 2 กลับไป!”
“ได้” คนรับใช้ท้ งั 2 รี บพาเฉว่ชิงที่กาํ ลังรํ่าไห้ออกจากการไต่สวน
เฉว่เฉินหันกลับไปมองตั้นเฉี่ยวเทียน นัยน์ตาของเขาเย็นเยียบ
“หลักฐานมัดแน่นขนาดนี้ คุณยังมีอะไรจะแก้ตวั ไหม?”
รู ้ดีวา่ ต่อให้พดู อะไรออกไปตอนนี้กไ็ ม่มีประโยชน์ ตั้นเฉี่ ยวเทียน
มองหน้าเฉว่ชิงอย่างสุ ขมุ “สรุ ปจากที่คุณพูดมา เป็ นเพราะความ
น้อยเนื้อตํ่าใจของผมที่ทาํ ให้ผมอิจฉาเฉว่ชิงที่ผา่ นการทดสอบของ
สํานักดาบเมฆเหิ นได้ ดังนั้นผมจึงรวมหัวกับกองโจรเพื่อยับยั้งเธอ
ไม่ให้จากไป?”
“นี่คุณกําลังยอมรับใช่ไหม? หรื อยังยืนกรานปฏิเสธทั้ง ๆ ที่มีหลักฐาน
และพยานมากมายหักล้างคุณอยู?่ ”เฉว่เฉิ นคําราม
“ยอมรับ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนส่ ายหน้าและถอนหายใจเล็กน้อย ราวกับ
คร้านจะโต้เถียงกับคนอย่างเฉว่เฉิน “ผมอยากขอพบศิษย์พี่หวั เจียง
เหอแห่งสํานักดาบเมฆเหิ น”
“บังอาจ! คิดว่าตัวเองเป็ นใครถึงกล้าขอพบนายท่านหัว?”
เฉว่เฉิ นคิดว่าตั้นเฉี่ยวเทียนกําลังจะกระพือเรื่ องการที่พวกเขาพยายาม
ยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงานก่อนหน้านี้ให้เป็ นเรื่ องใหญ่โตขึ้นมา
จึงเตรี ยมมาตรการตอบโต้ไว้เพื่อบีบอีกฝ่ ายให้จนมุม
แต่หมอนี่กลับขอพบศิษย์พี่หวั แทน…เพราะอะไร?
“ผมน่ะมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ แต่ได้ยนิ ว่าสํานักดาบเมฆเหิ นกําลัง
เปิ ดรับศิษย์สายตรงระดับล่าง ซึ่งขอแค่ผา่ นการทดสอบ ก็จะได้เข้า
ร่ วมกับพวกเขา ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของเมืองชวนเจียงที่อยู่
ในช่วงอายุตามกําหนด ผมเชื่อว่าผมมีสิทธิ์เข้าร่ วมการทดสอบ
เหมือนกัน ถูกไหม?” ตั้นเฉี่ยวเทียนพูด
“ทุกคนในเมืองชวนเจียงย่อมมีสิทธิ์จะได้เป็ นศิษย์สายตรงระดับล่าง
ของสํานักดาบเมฆเหิ น แต่คุณ…ตั้นเฉี่ยวเทียน คุณน่ะไม่มีโอกาส
หรอก ผมไม่รู้วา่ คุณกําลังพยายามยื้ออะไร แต่สาํ นักเจ้าเมืองมีสิทธิ์
พิพากษาพลเมืองทุกคนในเมืองชวนเจียง ด้วยความชัว่ ร้ายที่คุณได้
ทําลงไป ไม่มีทางที่สาํ นักเจ้าเมืองจะมองข้ามอาชญากรรมของคุณ!”
ได้ยนิ คําพูดนั้น เฉว่เฉินหัวเราะลัน่ ราวกับเพิ่งฟังเรื่ องตลกที่สุดใน
โลก
นักรบระดับเซียนขั้น 6 ไม่เอาไหนคนหนึ่งอยากเข้าร่ วมการทดสอบ
ของสํานักดาบเมฆเหิ น? เอาความกล้ามาจากไหนถึงพูดเรื่ องเหลวไหล
ขนาดนี้ออกมาได้?
“อีกอย่าง คุณคิดหรื อว่าคนสําคัญอย่างนายท่านหัวจะยอมจัดการ
ทดสอบเป็ นพิเศษให้ขยะไม่เอาไหนอย่างคุณ?” เฉว่เฉิ นพูดต่อ
“เขาช่างไม่เจียมตัวเอาเสี ยเลย!”
“ทุกคนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่ วมการทดสอบล้วนแต่เป็ นอัจฉริ ยะผู ้
ปราดเปรื่ อง หมอนัน่ ทั้งพิการและฝึ กฝนวรยุทธไม่ได้…คิดจะทําให้
ผูค้ นทัว่ ทั้งทวีปหัวเราะเยาะเมืองของเราหรื อไง?”
“นายท่านหัวกําลังยุง่ กับการคัดเลือกอัจฉริ ยะตัวจริ งจากเมืองของเรา
จะมีเวลามาประเมินคนพิการอย่างเขาได้อย่างไร?”
“หัวสมองของหมอนี่คงได้รับความกระทบกระเทือนที่ไหนสักแห่ง…”
ฝูงชนพากันหัวเราะลัน่
“สิ่ งที่คุณกําลังคิดอยูน่ ่ะ ล้มเลิกเสี ยเถอะ ไม่มีทางที่ศิษย์พี่หวั จะมา
ที่นี่เพื่อทําการทดสอบขยะอย่างคุณหรอก ผมขอแนะนําให้คุณ
สารภาพผิดในอาชญากรรมที่ทาํ ลงไปเสี ยดีกว่า อย่างน้อยเราก็พอจะ
ช่วยเหลือคุณไม่ให้ตอ้ งทรมานมาก…” เฉว่เฉินตวาดก้อง
แต่ยงั พูดไม่ทนั จบ เสี ยงสุ ขมุ เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นจากด้านนอกลานบ้าน…
“ทําไมผมจะมาที่นี่เพื่อจัดการทดสอบให้เขาไม่ได้?”
ร่ างสู งร่ างหนึ่งก้าวยาว ๆ เข้ามาในลานบ้าน
หัวเจียงเหอ
ตอนที่ 1943 คัดเลือกรอบ 2
ชายวัยกลางคนผูห้ นึ่งเดินตามหลังหัวเจียงเหอ เขามีรูปร่ างสู งและ
สวมชุดเกราะโอ่อ่าเต็มยศ นัยน์ตาของเขาฉายความมีอาํ นาจออกมา
บ่งบอกว่าเป็ นผูม้ ีตาํ แหน่งสู งส่ ง
เฉว่ชิงผ่อนฝี เท้าเมื่อได้ยนิ เสี ยงนั้น เธอหันกลับไป จากนั้นก็ชะงักไป
ครู่ หนึ่งก่อนจะโค้งคํานับอย่างงาม “ท่านพ่อ, ศิษย์พี่หวั ”
ชายวัยกลางคนผูน้ ้ นั ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนักสู ท้ ี่ถูกจางเซวียนสังหาร
ด้วยการโยนกระบี่เพียงครั้งเดียวเมื่อตอนอยูใ่ นหอนิรันดร์, ท่านเจ้า
เมืองชวนเจียง, เฉว่เหยา
มีชายหนุ่มอีกราว 10 คนเดินตามหลังทั้งคู่มา พวกเขาล้วนอยูใ่ นช่วง
วัยรุ่ นตอนต้น อายุราว 16-17 ปี แม้จะอายุยงั น้อย แต่กด็ ูจะมีพละกําลัง
น่าทึ่งไม่เบา
พวกเขาคือผูเ้ ข้าร่ วมการทดสอบของสํานักดาบเมฆเหิ น
“นายท่านหัว…”
เมื่อเห็นทั้งคู่ เฉว่เฉินหันไปมองเจ้าเมืองเฉว่เหยาอย่างงงงัน
การทดสอบของสํานักดาบเมฆเหิ นมีความสําคัญสู งสุ ด ในฐานะเจ้า
เมือง เขาย่อมต้องมาปรากฏตัวเพื่อดูแลสถานการณ์ แต่ใครจะไปคิด
ว่าหลังจากการคัดเลือกรอบแรกเสร็ จสิ้ น หัวเทียนเหอก็ยนื กรานจะ
มุ่งหน้ามาที่สาํ นักเจ้าเมือง เรื่ องนี้ทาํ ให้เฉว่เหยางุนงง
“เราจะจัดการคัดเลือกรอบ 2 ขึ้นที่นี่ ผมเห็นว่ามีผคู ้ นมากมายมาเป็ น
ประจักษ์พยาน เชื่อว่าน่าจะเป็ นเครื่ องยืนยันความชอบธรรมในการ
ทดสอบของเราได้เป็ นอย่างดี” หัวเจียงเหอตัดสิ นใจขณะเดินตรงไป
ยังใจกลางห้อง
ถ้าเป็ นสถานการณ์อื่น ก็ถือว่าผิดธรรมเนียมที่หวั เจียงเหอจะตัดสิ นใจ
โดยพละการแบบนี้ โดยเฉพาะเมื่อเจ้าเมืองเฉว่เหยาก็อยูด่ ว้ ย แต่
ขณะที่การทดสอบกําลังดําเนินไป คําพูดของเขาถือเป็ นตัวแทนของ
เจตจํานงของทั้งสํานักดาบเมฆเหิ น ดังนั้น ต่อให้เฉว่เหยาก็ไม่มี
ทางเลือกนอกจากต้องยอมรับการตัดสิ นใจของเขา
เมื่อเห็นกระบวนการไต่สวนถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหันด้วยเหตุ
อันคาดไม่ถึง เฉว่เฉินถึงกับจังงัง
แล้วคราวนี้เขาจะทําอย่างไร?
“ศิษย์พี่หวั ผมเป็ นพลเมืองคนหนึ่งของเมืองชวนเจียงเช่นกัน ไม่
ทราบว่ามีคุณสมบัติเพียงพอจะได้เข้าร่ วมการทดสอบไหม?” ตั้น
เฉี่ยวเทียนตั้งคําถามเสี ยงดังฟังชัด
“ได้อย่างแน่นอน!” หัวเจียงเหอพยักหน้า
“นายท่าน ตั้นเฉี่ยวเทียนเป็ นแค่นกั รบระดับเซี ยนขั้น 6 คุณจะ
เสี ยเวลานะหากต้องทดสอบผูท้ ี่มีวรยุทธระดับเขา อีกอย่าง เขาเพิ่ง
รวมหัวกับเหล่ากองโจรเพื่อทําลายผลประโยชน์ของเมืองชวนเจียง
สํานักดาบเมฆเหิ นจะเสี ยชื่อเสี ยงหากคนชัว่ ร้ายโหดเหี้ ยมอย่างเขา
ได้รับอนุญาตให้เข้าร่ วมการทดสอบ” เฉว่เฉิ นพูดอย่างร้อนใจ
เขารู ้ดีวา่ ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่มีทางผ่านการทดสอบได้ ต่อให้มีโอกาส
ได้เข้าร่ วม แต่นนั่ ก็จะลดทอนความชอบธรรมของการทดสอบลงไป
หากอีกฝ่ ายได้เข้าร่ วมในการทดสอบนั้น อีกอย่าง เขาดูออกว่าตั้น
เฉี่ยวเทียนมีกลเม็ดเด็ดพรายบางอย่างซ่อนอยู่ แม้เฉว่เฉินจะมัน่ ใจใน
แผนการของตัวเอง แต่กร็ ู ้ดีเกินกว่าจะปล่อยให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนทํา
อะไรตามใจ
“คุณบอกว่าผมอ่อนแอใช่ไหม?” ตั้นเฉี่ยวเทียนมองหน้าเฉว่เฉิ นและ
ตั้งคําถาม
“ก็ใช่น่ะสิ ! นักรบระดับเซียนขั้น 6 ที่พิการ…พละกําลังของคุณน่ะ
เทียบกับพลเมืองธรรมดาสามัญในเมืองของเราไม่ได้ดว้ ยซํ้า แล้วจะ
ให้เรี ยกคุณว่าอะไรนอกจากคนอ่อนแอ?” เฉว่เฉินเลิกคิ้ว
“ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ผมก็ขอถามว่าคุณมีความเห็นต่อความสามารถ
ของเฉว่ชิงอย่างไร?” ตั้นเฉี่ยวเทียนถามต่อ
แม้สถานการณ์จะไม่เข้าข้างเขา แต่น้ าํ เสี ยงของตั้นเฉี่ ยวเทียนก็ดูจะ
มัน่ อกมัน่ ใจขึ้นเรื่ อย ๆ ตอนแรกเขาก็แค่ทาํ ตามคําสัง่ ของจางเซวียน
อย่างเคร่ งครัด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอาการคุกคามข่มขู่ของเฉว่เฉิ น
คําพูดของเขาก็ค่อย ๆ หนักแน่นและทรงพลังขึ้น
“นายหญิงน้อยที่ 2 ของเรา? แน่นอนว่าคืออัจฉริ ยะ! แม้ปีนี้จะเพิ่ง
อายุ 16 ปี แต่กส็ าํ เร็ จวรยุทธระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3 โลก
จารึ กแล้ว อีกทั้งยังมีโอกาสฝ่ าด่านวรยุทธได้เร็ ว ๆ นี้” เฉว่เฉินตอบ
อย่างภาคภูมิใจ
“อย่างนั้นหรื อ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนทวนคําด้วยอาการสุ ขมุ
ฟิ้ ววววว!
กระแสดาบฉีพงุ่ ออกจากปลายนิ้วของเขา ตัดกุญแจมือที่สวมอยูร่ อบ
ข้อมือให้แตกเป็ นเสี่ ยง ๆ ในเวลาเดียวกัน ตั้นเฉี่ยวเทียนปลดปล่อย
ระดับวรยุทธออกมา ทําให้รังสี ที่อยูร่ อบตัวเขาแข็งแกร่ งขึ้นเรื่ อย ๆ
จนกระทัง่ เทียบเท่ากับนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3 โลก
จารึ ก แผ่นหลังของเขาที่เคยค่อมค่อย ๆ ยืดตรง ทําให้ความสู งเดิมที่
มีอยูร่ าว 1.6 เมตรเพิม่ ขึ้นไปเป็ น 1.75 เมตร แม้จะยังไม่สูงเท่าจาง
เซวียน แต่กด็ ูสง่างามกว่าเดิมมาก
ที่สาํ คัญกว่านั้น เมื่อเขาออกเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ความพิการที่
ขาก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
รู ปลักษณ์ของเขาดูจะเปลี่ยนแปลงไประดับหนึ่ง แม้จะยังมีปานโดด
เด่นอยูบ่ นใบหน้า แต่ผวิ พรรณก็ดูจะหมดจดและสง่างามกว่าเดิม บ่ง
บอกถึงความเป็ นสุ ภาพบุรุษ
“เรื่ องนี้เป็ นไปไม่ได้…” นัยน์ตาของเฉว่ชิงแทบร่ วงลงกับพื้น
ตลอดเวลาที่ผา่ นมา สิ่ งที่เธอเห็นในตัวตั้นเฉี่ยวเทียนคือความอ่อนแอ
และไร้ประโยชน์ ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนแปลงไปได้
มากมายขนาดนี้
ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่แยแสเฉว่ชิงที่กาํ ลังตกตะลึง เขาเดินตรงเข้าหาเฉว่
เฉิน จากนั้นก็เหยียดริ มฝี ปากขึ้นขณะตั้งคําถาม “ผมกับเฉว่ชิงมีวร
ยุทธระดับเดียวกัน คุณมองว่าผมคือขยะ แต่เฉว่ชิงคืออัจฉริ ยะที่ไม่มี
ใครเทียบได้…ผมสงสัยเหลือเกินว่าคุณใช้อะไรตัดสิ น ใช้หวั แม่เท้า
คิดหรื อไง?”
“คุณ…” เฉว่เฉินสะบัดหน้าอย่างไม่อยากเชื่อขณะก้าวถอยหลัง
หมอนี่ฝึกฝนวรยุทธได้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ ? แถมยังเป็ นถึงนักรบระดับ
นักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ กด้วย?
ไม่เพียงแค่พวกเขา ฝูงชนก็พากันเงียบกริ บ
ข้อกล่าวหาที่พวกเขาพากันยัดเยียดให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนก่อนหน้านี้อยู่
บนข้อเท็จจริ งที่วา่ อีกฝ่ ายไม่สามารถฝึ กฝนวรยุทธได้ ทั้งยังต้อง
พึ่งพาความช่วยเหลือของสํานักเจ้าเมืองเพื่อให้ยงั มีชีวติ รอด แต่ถา้
ตั้นเฉี่ ยวเทียนคือผูเ้ ชี่ยวชาญตัวจริ ง เหตุผลพวกนั้นก็ถือว่าตกไป
“พวกคุณน่ะ เข้ามาหาผมพร้อม ๆ กันเลย!” ตั้นเฉี่ยวเทียนร้องบอก
บรรดาชายหนุ่มที่ติดตามหัวเจียงเหอมาพร้อมกับหัวเราะหึ ๆ
“คุณอยากสู ก้ บั พวกเราพร้อมกันในคราวเดียวหรื อ?”
วัยรุ่ นเหล่านั้นพากันชะงักกับการท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับ พวก
เขาหันไปมองหัวเจียงเหอ ซึ่งอีกฝ่ ายก็พยักหน้ารับ แต่ละคนจึงเงื้อ
ดาบในมือขึ้นและพุง่ เข้าใส่
ส่ วนตั้นเฉี่ยวเทียนก็ใช้นิ้วแทนดาบ เขาทิ่มนิ้วไปข้างหน้าและฉก
ฉวยดาบมาจากมือของนักรบคนหนึ่งได้ เมื่อมีดาบในมือ ตั้นเฉี่ยว
เทียนก็ปัดป้องการโจมตีของคนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ฟิ้ ววววว!
กระแสดาบฉีมากมายนับไม่ถว้ นพุง่ ออกจากปลายดาบของตั้นเฉี่ ยว
เทียนพร้อม ๆ กัน
ถึงเขาจะใช้เวลาส่ วนใหญ่ทาํ ความเข้าใจเทคนิคการโยนดาบที่ท่าน
อาจารย์ถ่ายทอดให้ แต่กไ็ ม่ได้ละเลยที่จะสร้างรากฐานของตัวเองให้
มัน่ คง ต่อให้ไม่ตอ้ งใช้ไม้ตาย ประสิ ทธิภาพการต่อสู ข้ องเขาก็ไม่ใช่
สิ่ งที่ใครจะเอาชนะได้โดยง่าย
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ด้วยการระเบิดของกระแสดาบฉี ดาบที่วยั รุ่ นกลุ่มนั้นถืออยูถ่ ูกสอย
กระเด็นหลุดจากมือ มันร่ วงลงกับพื้น ส่ งเสี ยงดังเคร้ง วัยรุ่ นเหล่านั้น
อดไม่ได้ที่จะจ้องหน้าตั้นเฉี่ ยวเทียนด้วยความพรั่นพรึ ง
ศิลปะเพลงดาบที่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนสําแดงออกมาปลดอาวุธของพวกเขา
ได้ในชัว่ พริ บตา
โชคดีที่อีกฝ่ ายออมมือให้ ไม่อย่างนั้นข้อมือของพวกเขาคงได้รับ
บาดเจ็บไปแล้ว
ฟึ่ บ!
ตั้นเฉี่ยวเทียนกระดิกนิ้วอีกครั้ง ดาบในมือของเขาลอยออกไปและ
ปั กอยูก่ บั พื้นตรงหน้า เขามองหน้าเฉว่ชิงอย่างวางมาดและถามว่า
“ไม่ทราบว่านายหญิงน้อยที่ 2 ผูป้ ราดเปรื่ องสามารถทําในสิ่ งที่ผม,
ไอ้ขยะคนนี้ทาํ ได้หรื อไม่?”
“….”
ฝูงชนพากันเงียบกริ บ
ทั้งที่ตกอยูใ่ นวงล้อมของคู่ต่อสู ม้ ากกว่า 10 คน ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยงั
ฉวยดาบมาจากมือของวัยรุ่ นคนหนึ่ง และสอยดาบของคนที่เหลือให้
ร่ วงได้โดยไม่ตอ้ งใช้แม้แต่กา้ วเดียว…พละกําลังของศิลปะเพลงดาบ
ที่เขาสําแดงออกมาช่างน่าสะพรึ งเหลือเกิน!
ถ้าคนแบบนี้ถูกเรี ยกว่าขยะ แล้วพวกเขาจะกลายเป็ นอะไร?
เฉว่ชิงหน้าซีดเผือดขณะตัวสัน่ ด้วยความหวาดกลัว
ถึงเธอจะเป็ นนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ ก แต่กร็ ู ้
ดีวา่ ไม่มีความสามารถพอจะทําอะไรแบบนั้น
ถ้าเธอพยายามทําแบบเดียวกับตั้นเฉี่ ยวเทียน ก็ยงั สงสัยอยูว่ า่ น่าจะ
พ่ายแพ้ในทันที
เฉว่เฉินเงียบงันไปครู่ หนึ่งก่อนจะรี บโต้แย้ง “ใช่ คุณไม่ใช่ขยะ แต่
เรื่ องจริ งก็คือคุณรวมหัวกับพวกกองโจร แม้แต่เพื่อนบ้านของคุณก็
ยังยืนยันว่าพวกเขาเห็นเหล่ากองโจรเข้าสู่ บา้ นพักของคุณเมื่อ
กลางดึกของคืนก่อน”
“ได้ยนิ คํานั้น ตั้นเฉี่ ยวเทียนหันกลับไปมองพยานทั้งสองและตั้ง
คําถาม “คุณแน่ใจหรื อว่าคุณได้เห็นกับตาว่ามีกองโจรเข้าสู่ บา้ นพัก
ของผม?”
“ใช่ ไม่มีขอ้ ผิดพลาดอย่างแน่นอน!”
“พวกเราเห็นกับตา!”
ภายใต้สายตาดุดนั ของตั้นเฉี่ยวเทียน เพื่อนบ้านทั้งสองถึงกับผงะ
ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนยังคงไม่สามารถฝึ กฝนวรยุทธ พวกเขาก็ไม่มีอะไร
ต้องหวาดกลัว แต่ดว้ ยประสิ ทธิภาพการต่อสู ท้ ี่อีกฝ่ ายเพิง่ สําแดง
ออกไป พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงอํานาจอันยิง่ ใหญ่ของ
ตระกูลตั้นเมื่อ 10 ปี ก่อน…
ถึงพวกเขาจะแค่เปิ ดเผยในสิ่ งที่ได้เห็น แต่เพียงแค่คิดว่าในอนาคต
ตั้นเฉี่ยวเทียนจะมาเอาคืน ก็ทาํ ให้สุม้ เสี ยงขาดความมัน่ ใจกว่าเดิม
มาก
ขณะที่ท้ งั สองกําลังใจเต้นรัวด้วยความหวาดหวัน่ ตั้นเฉี่ยวเทียนก็
โพล่งออกมา “จากข้อเท็จจริ งที่พวกคุณเห็นน่ะ ก็หมายความว่าพวก
คุณน่ะ…ตาแหลม!”
“ฮะ?”
เพื่อนบ้านทั้งสองถึงกับจังงัง
ตาแหลม?
ไอ้หนุ่ม รู ้ตวั หรื อเปล่าว่าพูดอะไรออกมา เท่ากับยอมรับเลยนะว่า
คุณรวมหัวกับพวกกองโจร ต่อให้คุณจะปราดเปรื่ องและทรงพลังแค่
ไหน ก็ไม่มีทางที่สาํ นักดาบเมฆเหิ นจะยอมรับบุคคลที่มีคดีความ
เกี่ยวกับคุณธรรมจริ ยธรรมหรอก!
เหมือนหินก้อนหนึ่งที่ถูกโยนลงไปในบึง อาการกระเพื่อมครั้งใหญ่
เกิดขึ้นในหมู่ฝงู ชนทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ดูสิ ในที่สุดตั้นเฉี่ ยวเทียนก็ยอมรับการก่ออาชญากรรม
ของเขาแล้ว ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ผมเชื่อว่าเราไม่ตอ้ งดําเนินการ
สื บสวนต่อแล้วล่ะ พวกเรา, จับตัวไอ้สารเลวที่กล้ารวมหัวกับ
กองโจรไว้แล้วพาไปขัง!” เฉว่เฉินจังงังไปครู่ หนึ่งก่อนจะตาโตด้วย
ความยินดีปรี ดา
ตั้งแต่วนิ าทีที่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนเปิ ดเผยประสิ ทธิภาพการต่อสู ท้ ี่แท้จริ ง
ออกมา เขาก็รู้แล้วว่าทุกอย่างไม่เป็ นไปอย่างที่คิดไว้ ถ้าตั้นเฉี่ยว
เทียนยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ก็คงเป็ นการต่อสู ท้ ี่ยากเย็น
ไม่นอ้ ยสําหรับเขา
การเปิ ดการไต่สวนสาธารณะถือเป็ นดาบสองคม พวกเขาต้องหา
หลักฐานที่แน่นหนาพอจะมัดตัวตั้นเฉี่ยวเทียนให้ได้ ไม่อย่างนั้น
ชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมืองก็มีแต่จะด่างพร้อย
แต่ใครจะไปคิดว่าตั้นเฉี่ยวเทียนจะงี่เง่าขนาดยอมรับออกมาในทันที
แถมยังทําต่อหน้าผูค้ นมากมายด้วย!
ด้วยสิ่ งนี้ ชะตากรรมของตั้นเฉี่ยวเทียนก็เป็ นอันปิ ดตาย ในเมื่อเขา
สารภาพออกมาเอง พวกเขาก็สามารถกดดันให้เกิดการประหารอีก
ฝ่ ายได้
ตอนที่ 1944 ลอบสั งหาร?
“คุณจะรี บร้อนไปหน่อยไหม? ผมไม่รู้เลยว่าสํานักเจ้าเมืองมีนิสยั ชอบ
ด่วนสรุ ป” ตั้นเฉี่ยวเทียนคําราม เขาหันไปมองหัวเจียงเหอ จากนั้นก็
ประสานมือและตั้งคําถามอย่างสุ ภาพ “ศิษย์พี่หวั ผมขอเบิกตัวพยาน!”
“ได้สิ” หัวเจียงเหอพยักหน้า
“เข้ามา!” ตั้นเฉี่ยวเทียนมองออกไปข้างนอกและออกคําสัง่
ร่ างหนึ่งที่สวมเสื้ อคลุมสี ดาํ และหมวกฟางเพือ่ อําพรางตัวอย่าง
มิดชิดเดินออกมาจากหมู่ฝงู ชน เขายืนอยูห่ น้าการไต่สวน จากนั้นก็
ถอดหมวกออกช้า ๆ
“เขาคือเฉาเฉิงลี่!”
“คุณหมายถึงหัวหน้ากองโจรคนนั้น?”
“เขากล้าเดินเข้ามาในสํานักเจ้าเมืองเลยหรื อ? บังอาจ! ฆ่าเขาเสี ย!”
“เขาคือพยานที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนเรี ยกมาใช่ไหม? ดูเหมือนทั้งคู่จะรวม
หัวกันจริ ง ๆ !”
เมื่อเห็นร่ างนั้นใกล้ ๆ ฝูงชนแทบจะคลุม้ คลัง่
คนที่เพิ่งเข้ามาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้ากองโจร, เฉาเฉิงลี่
ที่ซ่อนของหมอนี่อยูใ่ นส่ วนลึกของหุบเขาที่อยูไ่ กลออกไป เขา
เชี่ยวชาญมากในการบุกป่ าฝ่ าดงในภูมิประเทศที่ซบั ซ้อน ด้วยเหตุน้ ี
ความพยายามหลายต่อหลายครั้งของสํานักเจ้าเมืองที่จะจับกุมเขาจึง
ล้วนแต่คว้านํ้าเหลว…แต่หมอนี่กล้าเดินอาด ๆ เข้ามาในสํานักเจ้า
เมือง? ใครทําให้เขาอาจหาญได้ขนาดนั้น?
“ทุกคนเห็นไหม? เฉาเฉิงลี่ทาํ ตามคําสัง่ ของตั้นเฉี่ ยวเทียน! ชัดเจน
เลยว่าพวกเขารวมหัวกัน!” เฉว่เฉิ นตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดตัวลอย
หลักฐานที่มีก่อนหน้านี้ลว้ นแต่มาจากการสังเกตและพยานที่อยูโ่ ดย
รอบ แต่หมอนี่กลับนําตัวหัวหน้ากองโจรเข้ามา
นี่คือการตัดสิ นใจที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ใครสักคนหนึ่งจะทําได้ใน
สถานการณ์แบบนี้
“รวมหัว?” ตั้นเฉี่ยวเทียนหัวเราะลัน่ ขณะมองเฉาเฉิงลี่ที่สวมเสื้ อ
คลุมสี ดาํ “ทําไมเราไม่ฟังจากปากของเจ้าตัวล่ะว่าเขารวมหัวกับใคร
กันแน่?”
“เป็ นเขา!” เฉาเฉิงลี่กา้ วออกมาและชี้นิ้วไปที่เฉว่เฉินกับเฉว่ชิง “เธอ
ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”
“คุณพูดเหลวไหลอะไรออกมา? กล้าพูดโกหกในสถานที่ศกั ดิ์สิทธิ์
ยุติธรรมแบบนี้หรื อ?” เฉว่เฉิ นเลิกคิ้วขณะรี บปฏิเสธคํากล่าวหาของ
เฉาเฉิ งลี่
“พูดเหลวไหล?” เฉาเฉิงลี่กาํ หมัดแน่นด้วยความโมโหเดือด เขาหัน
กลับไปมองฝูงชนแล้วตั้งต้นทบทวนเรื่ องราวด้วยเสี ยงดังฟังชัด
“เมื่อคืนวาน เฉว่เฉินไปหาผมถึงที่พกั เอ่ยปากให้ผมลอบสังหารชาย
ผูห้ นึ่ง ขอแค่ผมสังหารเป้าหมายได้สาํ เร็ จ เขาก็จะมอบเงินให้ผม
50,000 เหรี ยญนิรันดร์ ผมสื บเสาะอยูส่ กั พักและพบว่าชายที่ผม
จะต้องสังหารเป็ นคนอ่อนแอ จึงรี บตอบรับคําขอของเขา!”
“ลอบสังหาร?”
“อ่อนแอ?”
ในหมู่ฝงู ชน มีผปู ้ ราดเปรื่ องอยูจ่ าํ นวนหนึ่งที่คาดเดาไว้แล้วว่าเกิด
อะไรขึ้น พวกเขารี บหันกลับไปมองตั้นเฉี่ ยวเทียน
ในช่วงหลายปี ที่ผา่ นมา คําพูดเหล่านั้นคือสิ่ งที่ใช้พดู ถึงตั้นเฉี่ ยวเทียน
อยูบ่ ่อยครั้ง
“ใช่ เป้าหมายของการลอบสังหารไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตั้นเฉี่ ยวเทียน!”
เฉาเฉิ งลี่ตอบข้อสงสัยของฝูงชน “ผมจึงเตรี ยมการลอบโจมตีเขาใน
คืนนั้น แต่ต้ นั เฉี่ยวเทียนกลับแข็งแกร่ งกว่าที่ผมคิดไว้มาก ภารกิจ
ลอบสังหารของผมจึงล้มเหลว สมาชิกในกองโจรของผมทุกคนถูก
เขาจัดการเรี ยบ…”
มันออกจะน่าตกใจเกินไปหากเขาพูดว่าบรรดาลูกน้องของเขาถูก
สังหารโดยม้าตัวหนึ่งและเกี้ยวหลังหนึ่ง ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ปรับ
เปลี่ยนเรื่ องราวให้ดูน่าเชื่อถือกว่าเดิมสักนิดย่อมดีกว่า
“เพราะความโชคดีที่ทาํ ให้ผมหนีเอาชีวติ รอดมาได้ ผมรี บกลับไป
พบเฉว่เฉินและเรี ยกร้องค่าชดเชยจากเขาสําหรับข้อมูลที่ผดิ พลาดซึ่ง
นําไปสู่ ความตายของลูกน้องของผมจํานวนมากมาย แต่เขากลับมอบ
เงินให้ผมเพียง 500 เหรี ยญนิรันดร์ ด้วยความโมโห ผมสะกดรอย
ตามเขากลับไปถึงที่พกั หวังว่าจะได้รู้ตวั ตนที่แท้จริ งของเขา แต่สิ่งที่
ผมได้เห็นก็คือเฉว่เฉินเข้าสู่ สาํ นักเจ้าเมือง และในตอนนั้นเองที่ผม
คาดเดาตัวตนที่แท้จริ งของเขาได้ อีกอย่าง…ด้วยความบังเอิญ ผมได้
บันทึกภาพนี้ไว้ในผลึกบันทึก กรุ ณาตรวจสอบดู” เฉาเฉิ งลี่พดู ขณะ
เริ่ มเปิ ดใช้งานผลึกบันทึกที่เขาบันทึกภาพเมื่อคืนก่อนไว้
ภาพนั้นเผยให้เห็นลานบ้านของสํานักเจ้าเมืองที่ได้รับการอารักขา
อย่างเข้มงวด สิ่ งแรกที่ปรากฏต่อสายตาคือทหารกลุ่มใหญ่ที่ยนื เรี ยง
กันเป็ นระเบียบภายใต้คาํ สัง่ ของชายวัยกลางคนผูห้ นึ่ง, เฉว่เฉิน ซึ่ ง
ยืนอยูแ่ ถวหน้า ทหารเหล่านั้นถอดชุดเกราะของตัวเองออกและเปลี่ยน
ไปสวมเสื้ อผ้าสี ดาํ ของเหล่ากองโจร หลังจากทุกคนเปลี่ยนเสื้ อผ้า
แล้ว เฉว่เฉิ นก็สงั่ การเสี ยงดังฟังชัด “ในภารกิจนี้ ตั้นเฉี่ ยวเทียนกับ
ทุกคนที่อยูร่ อบตัวเขาจะต้องถูกสังหารหมดสิ้ น ไม่วา่ จะด้วยวิธีไหน
ก็ตาม!”
บันทึกภาพไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น ผูบ้ นั ทึกภาพได้ติดตามกองทหาร
ที่แต่งกายในชุดน่าสงสัยขณะที่พวกเขาพากันข้ามถนน มุ่งหน้าสู่
บ้านพักของตั้นเฉี่ยวเทียน
“บันทึกภาพนี้ดูเหมือนกับบันทึกภาพที่เล่นเมื่อครู่ ก่อน น่าจะถูก
บันทึกในระยะเวลาเดียวกัน…”
“ผมคิดว่าคนที่สวมเสื้ อผ้าพวกนั้นคือพวกกองโจร ใครจะไปคิดว่า
แท้ที่จริ งแล้วคือกองทหารของสํานักเจ้าเมือง…”
“เดี๋ยวก่อน หมายความว่ากองทหารของสํานักเจ้าเมืองจงใจปลอมตัว
เป็ นกองโจรเพื่อสังหารคนอื่นใช่ไหม?”
…..
ไม่ชา้ ผูช้ มบางส่ วนก็รู้สึกได้วา่ สภาพแวดล้อมที่ปรากฏในบันทึกภาพ
ของเฉาเฉิงลี่เหมือนกับ บันทึกภาพที่ถูกเล่นก่อนหน้านี้ เพียงแต่ถ่าย
จากคนละมุมกัน
จากเสื้ อผ้า พวกเขาเข้าใจโดยอัตโนมัติวา่ คนชุดดํากลุ่มนั้นคือพวก
กองโจร แต่กลับกลายเป็ นเพียงเปลือกนอก แท้ที่จริ งแล้วคือกอง
ทหารของสํานักเจ้าเมือง!
ฟึ่ บ!
ภาพหยุดลงหลังจากที่กองทหารเข้าสู่ บา้ นพักตระกูลตั้น เฉาเฉิงลี่
เก็บผลึกบันทึก จากนั้นก็มองหน้าเฉว่เฉิ นและตั้งคําถาม “คุณยังมี
อะไรจะแก้ตวั ไหม?”
“คุณ…นัน่ มันหลักฐานปลอม!” เฉว่เฉินหน้าซี ดด้วยความพรั่นพรึ ง
เขานึกไม่ถึงว่าจะมีใครติดตามเขาและบันทึกภาพเหล่านี้
“หลักฐานปลอม? คุณพูดราวกับว่าสร้างหลักฐานปลอมได้ง่าย ๆ
อย่างนั้นแหละ ทําไมคุณไม่พยายามสร้างหลักฐานปลอมสักชิ้นล่ะ?”
เฉาเฉิงลี่คาํ ราม
เป็ นไปไม่ได้ที่จะปรับเปลี่ยนภาพที่ถูกบันทึกไว้ในผลึกบันทึก และ
การยืนยันจากเพื่อนบ้านของตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยงิ่ ตอกยํ้าข้อเท็จจริ งใน
บันทึกภาพของเฉาเฉิ งลี่ให้ชดั เจนยิง่ ขึ้น
“ผม…” เฉว่เฉินหน้าซีดเผือดขณะถอยกรู ด “นี่มนั เหลวไหลทั้งเพ!
คุณหมั้นหมายกับนายหญิงน้อยที่ 2, และด้วยความปราดเปรื่ องของ
คุณ ทําไมพวกเราจะต้องสังหารคุณด้วย? สํานักเจ้าเมืองโง่เง่าถึง
ขนาดคิดจะทําอะไรแบบนั้นหรื อ?”
“ข้อโต้แย้งของเฉว่เฉินก็ฟังขึ้นนะ…”
ฝูงชนรี บหันกลับไปมองตั้นเฉี่ ยวเทียน อยากรู ้วา่ เขาจะอธิบายอย่างไร
ในเมื่อทั้งสองมีสญ
ั ญาผูกมัดการแต่งงานต่อกัน ก็ควรจะเป็ นเรื่ องดี
สําหรับสํานักเจ้าเมืองที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนกลายเป็ นอัจฉริ ยะ หรื อหากคิด
ในอีกแง่หนึ่ง ต่อให้เฉว่ชิงกับตั้นเฉี่ยวเทียนเกิดความไม่เห็นพ้อง
ต้องกัน ก็แค่ยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงาน เรื่ องก็จบ สํานักเจ้า
เมืองถึงกับต้องวางแผนลอบสังหารตั้นเฉี่ ยวเทียนเลยหรื อ?
เรื่ องนี้ฟังดูไม่สมเหตุสมผลนัก
“คุณกําลังถามผมว่าทําไมคุณถึงอยากฆ่าผม? ดูเหมือนความจําของ
คุณจะไม่ค่อยดีนะ บางทีสิ่งนี้อาจช่วยทบทวนความจําของคุณได้!”
ตั้นเฉี่ ยวเทียนหัวเราะหึ ๆ ขณะนําผลึกบันทึกอีกอันหนึ่งออกมาเพื่อ
เปิ ดเผยบันทึกภาพที่อยูภ่ ายใน
“คุณก็รู้วา่ ฉันมาที่นี่ทาํ ไม แต่แทนที่จะออกไปต้อนรับฉันด้วยตัวเอง
กลับส่ งเจ้าคนใช้ต่าํ ต้อยมามอบสัญญาผูกมัดการแต่งงานให้ คุณคิด
หรื อว่ามันจะจบง่าย ๆ แบบนั้น?”
ในภาพ ท่าทีของเฉว่ชิงทั้งเย็นชาและหยาบคาย ราวกับสู งส่ งเสี ยเต็ม
ประดา
“ที่ฉนั ต้องการจากคุณน่ะไม่มากมายอะไรหรอก ก็แค่อยากให้คุณ
ประกาศให้ท้ งั เมืองรู ้วา่ คุณคือคนที่ตดั สิ นใจยกเลิกการแต่งงานของ
เราเพราะคุณรู ้สึกว่าคุณไม่คูค่ วรกับฉัน ท่านพ่อของฉันคงจะใช้เวลา
ใคร่ ครวญระยะหนึ่งก่อนจะตัดสิ นใจเคารพความคิดเห็นของคุณและ
ระงับการแต่งงานของเราไว้ ไอ้การที่คุณมอบกระดาษแผ่นนั้นให้
ฉันน่ะ คิดหรื อว่าจะให้ฉนั เที่ยวบอกใคร ๆ ว่าตัวฉัน, เฉว่ชิง ไม่ยอม
แต่งงานกับคุณ ฉันจะปล่อยให้ชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมืองผูท้ รงเกียรติ
ต้องด่างพร้อยได้อย่างไร?”
“อ๋ อ เรื่ องนั้นง่ายนิดเดียว! ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา ตระกูลตั้นทําร้าย
ผูค้ นไปไม่นอ้ ย ถูกไหม? คุณควรจะรู ้ตวั นะว่าถ้าไม่ใช่เพราะการ
หมั้นหมายระหว่างคุณกับเฉว่ชิง คุณคงตายไปหลายครั้งหลายหน
แล้ว” เฉว่เฉินคํารามเยาะอยูใ่ นบันทึกภาพ
“การตายของคุณจะส่ งผลกระทบต่อชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมืองได้
อย่างไร? เรื่ องเป็ นอย่างนี้นะ ท่านเจ้าเมืองจะโกรธกริ้ วอย่างหนักเมื่อ
รับรู ้การตายของคุณ เขาจะส่ งคนออกตามล่าตัวการเพื่อล้างแค้นให้
ส่ วนนายหญิงน้อยที่ 2 ของเรา, เธอจะครํ่าครวญโศกเศร้าอยูน่ าน
และลงท้ายก็ตดั สิ นใจจะออกจากดินแดนแห่งความอาดูรนี้ไป และ
มุ่งหน้าสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น!”
…..
ผลึกบันทึกเปิ ดเผยความหยาบคายและเจตนาร้ายของทั้งเฉว่เฉิ นและ
เฉว่ชิงอย่างชัดเจน ไม่วา่ จะเป็ นคําพูด สี หน้า หรื อกิริยา!
“กลับกลายเป็ นว่าเธอคือผูท้ ี่อยากยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงาน แต่
ไม่พอใจที่ถูกอีกฝ่ ายปฏิเสธ เพือ่ รักษาชื่อเสี ยงไว้ จึงยอมทําแม้กระทัง่
ลดตัวลงไปสังหารเขา…”
“ใจคอเหี้ ยมโหดอะไรอย่างนี้!”
“ชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมืองโดดเด่นเป็ นสง่ามานานหลายปี ใครจะ
ไปคิดว่าแท้ที่จริ งแล้วพวกเขา ซ่อนการกระทําอันชัว่ ร้ายโหดเหี้ ยม
ไว้?”
“น่าอับอายเหลือเกิน…ผมไม่เคยรู ้สึกอับอายที่ตอ้ งเป็ นพลเมืองของ
เมืองชวนเจียงมากเท่านี้!”
…..
เมื่อได้ดูบนั ทึกภาพแล้ว ก็ไม่มีใครที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นัยน์ตา
ของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็ นความโกรธเกรี้ ยวขณะหันกลับไปมอง
เฉว่เฉินกับชเวชิง
“คะ-คุณ…”
เฉว่ชิงหน้าซีดเผือด รู ้สึกเหมือนพละกําลังถูกดูดออกจากร่ าง ทําให้
เธอทรุ ดฮวบลงกับพื้น
เธอเคยคิดว่าทุกอย่างคงถูกจัดการอย่างเรี ยบร้อย เธอจะเป็ นอิสระ
จากเจ้าขยะนี่ แถมชื่อเสี ยงก็จะโด่งดังกว่าเดิม…แต่ทุกอย่างกลับลง
เอยในทิศทางที่เธอคาดไม่ถึง ทุกสิ่ งที่เธอเคยทําไว้ถูกเปิ ดโปงต่อ
หน้าสาธารณชนอย่างหมดเปลือก!
นับจากวันนี้ไป ชื่อเสี ยงของเธอป่ นปี้ ไม่มีเหลือ
ทุกคนจะจดจําเธอในฐานะผูห้ ญิงหัวใจเย็นชาที่ยอมลดตัวลงไปรวม
หัวกับกองโจรเพียงเพื่อสังหารคู่หมั้นของตัวเองอย่างเลือดเย็น…
ใครจะกล้าแต่งงานกับเธอเมื่อเธอมีกิตติศพั ท์แบบนี้?
เมื่อเรื่ องแบบนี้เกิดกับตั้นเฉี่ยวเทียนได้ จะมีอะไรรับประกันว่าพวก
เขาจะไม่ใช่คนต่อไป?
“ไอ้พวกสวะ! วันนี้ฉนั จะสัง่ สอนพวกแกในฐานะที่บงั อาจสร้าง
หลักฐานปลอมเพือ่ ใส่ ร้ายสํานักเจ้าเมือง!” เฉว่เฉินคํารามก้องขณะ
กระโจนเข้าใส่ ต้ นั เฉี่ยวเทียนกับเฉาเฉิ งลี่
เกิดลมพัดหอบใหญ่ พละกําลังจากฝ่ ามือของเขาพุง่ ออกไปอย่าง
หนักหน่วง
หลังจากเรื่ องที่เกิดทั้งหมด เฉว่เฉินรู ้ดีวา่ เขาจนมุมแล้ว ในสถานการณ์
แบบนี้ สิ่ งที่ดีที่สุดที่จะทําได้กค็ ือปิ ดปากตั้นเฉี่ ยวเทียนกับเฉาเฉิ งลี่
เสี ย มีแต่ความตายเท่านั้นที่จะทําให้เขากอบกูส้ ถานการณ์ได้ดงั เดิม
ด้วยวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 3 เขาสกัดกั้นทุกอย่างภายใน
ห้องนั้นไว้อย่างรวดเร็ ว ในชัว่ พริ บตา ทั้งตั้นเฉี่ยวเทียนกับเฉาเฉิ งลี่ก็
รู ้สึกเหมือนมีหมาป่ าโหดเหี้ ยมคอยจับจ้องอยู่ ทําให้พวกเขาสัน่
สะท้านจากภายใน
ตอนที่ 1945 หน้ าไม่ อายอะไรขนาดนี?้
“บังอาจ!”
หัวเจียงเหอหรี่ ตาอย่างโกรธจัด เขาไม่คิดว่าเฉว่เฉินจะกล้าฆ่าใครต่อ
หน้าเขาแบบนี้
ดูเหมือนอีกฝ่ ายจงใจดูถูกเขาด้วย!
หัวเจียงเหอคว้าดาบทันที ตั้งใจจะยับยั้งเฉว่เฉิน แต่ในชัว่ พริ บตา ก็
รู ้สึกว่ามีฝ่ามือหนึ่งผลักมือของเขา กันไม่ให้เขาชักดาบออกมาได้
เขาจ้องคนผูน้ ้ นั เห็นเจ้าเมืองเฉว่เหยากําลังมองเขาด้วยรอยยิม้ สุ ขมุ
“นายท่านเหอ ไม่มีอะไรต้องกังวล เฉว่เฉิ นกําลังขู่ 2 คนนัน่ เท่านั้น
เขาไม่คิดจะเล่นงานทั้งคู่จริ ง ๆ หรอก ในฐานะศิษย์สายตรงของ
สํานักดาบเมฆเหิ น คุณไม่จาํ เป็ นต้องลดตัวลงมาเกี่ยวข้องกับกิจธุระ
ในเมืองของเรา!”
คําพูดนั้นทําให้หวั เจียงเหอหรี่ ตาอีกครั้ง
ไม่มีทางที่เขาจะตีความเจตนาสังหารของเฉว่เฉิ นผิด มันไม่ใช่การขู่
แต่คือการจงใจฆ่า ถ้าพลังจากฝ่ ามือนั้นเข้าถึงเป้าหมาย ทั้งคู่จะต้อง
ตายทันที
และเมื่อทั้งคู่ถูกกําจัด เจ้าเมืองเฉว่เหยาก็จะออกมาแสดงความเสี ยใจ
ที่ไม่อาจควบคุมลูกน้องให้ทาํ ตัวเหมาะสมได้ จากนั้นเขาก็จะขังเฉว่
เฉินไว้สกั ระยะหนึ่งจนกว่าเรื่ องจะซา…
ถึงตอนนั้น ตั้นเฉี่ ยวเทียนกับเฉาเฉิงลี่กต็ ายไปแล้ว แล้วจะมีใครกล้า
ตั้งคําถามกับเจ้าเมืองเพื่อเรี ยกร้องความยุติธรรมให้คนตาย?
และเมื่อทุกอย่างเงียบหาย เฉว่เฉินก็จะได้รับการปล่อยตัวราวกับไม่
เคยเกิดอะไรขึ้น
“ไม่นะ!”
เมื่อต้องเผชิญกับพละกําลังทําลายล้างจากฝ่ ามือของเฉว่เฉิน เฉาเฉิ งลี่
หน้าซีดเผือด เหงื่อหยดเป็ นทางจากหน้าผาก
เขามาที่นี่เพียงเพื่อชดเชยความเสี ยหายให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนภายใต้คาํ สัง่
ของหนังสื อลึกลับเล่มนั้น…ไม่ได้คิดจะเอาชีวติ มาทิ้ง!
ขณะที่กาํ ลังคิดว่าโชคชะตาคงถูกปิ ดตายแล้ว พละกําลังหนักหน่วง
ที่มุ่งหน้ามาทางเขาก็สลายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เฉาเฉิ งลี่เงยหน้า
ขึ้นด้วยความพรั่นพรึ งเพื่อแอบมอง เห็นนักปราชญ์โบราณขั้น 3 ที่
อยูต่ รงหน้าเขาทรุ ดฮวบลงไร้เรี่ ยวแรงอยูก่ บั พื้น
“ฮะ?”
เฉาเฉิงลี่รีบเข้าไปตรวจสอบร่ างของเฉว่เฉินอย่างระแวง เห็นบาดแผล
ขนาดเล็กที่บริ เวณหน้าผากยาวไปจนถึงด้านหลังศีรษะ เขาทาบนิ้วที่
รู จมูกของเฉว่เฉินอย่างระมัดระวัง และได้รู้วา่ อีกฝ่ ายหมดลมหายใจ
เฮือกสุ ดท้ายไปแล้ว นิ้วของเขาสัน่ เทาด้วยความตกตะลึง
เฉาเฉิ งลี่จงั งังอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะเหลียวมองไปรอบ ๆ อย่างคลุม้ คลัง่
เพื่อหาอาวุธของฆาตกร แต่สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือต้นหญ้าลึกลับที่ปัก
อยูก่ บั พื้น มีร่องรอยสี เทาเปื้ อนอยูบ่ นต้นหญ้านั้น ถึงจะเหลือเชื่อ
ขนาดไหน แต่กด็ ูเหมือนว่ามันคืออาวุธที่ใช้คร่ าชีวติ ของเฉว่เฉิน!
ต้นหญ้าบอบบางต้นหนึ่งสามารถเจาะศีรษะของนักปราชญ์โบราณ
ขั้น 3 ได้…ผูท้ ี่ใช้มนั จะต้องทรงพลังขนาดไหน?
ความรู ้สึกที่วา่ มีผเู ้ ชี่ยวชาญผูท้ รงพลังอยูร่ อบตัวซึ่ งสามารถคร่ าชีวติ
ของเขาได้ทุกขณะทําให้เฉาเฉิงลี่เกิดความพรั่นพรึ งอย่างหนัก เขาตัว
แข็งด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
ส่ วนหัวเจียงเหอก็เดินเข้ามาดูภาพนั้นอย่างไม่อยากเชื่อ
ตัวเขาเป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ขั้นต้นเหมือนกับเจ้าเมืองเฉว่เหยา
แต่กร็ ู ้ดีวา่ แม้ตวั เขาก็ไม่อาจทําอะไรแบบนี้ได้
โครงสร้างของต้นหญ้าที่อ่อนแอทําให้ไม่อาจสําแดงพละกําลังผ่าน
ตัวมันหรื อถ่ายทอดพลังปราณเข้าไปในนั้นได้ แต่มนั ก็สงั หาร
นักปราชญ์โบราณขั้น 3, แทงทะลุช้ นั พลังปราณของเขาและถึงกับ
ทะลุศีรษะด้วย…
ที่สาํ คัญกว่านั้น ขนาดเรื่ องนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เขาก็ยงั ไม่รู้วา่
ตัวการเป็ นใคร หรื อแม้แต่ตน้ หญ้านั้นมาจากไหน!
ราวกับว่าต้นหญ้าโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้!
เจ้าเมืองเฉว่เหยาตกตะลึงพอ ๆ กับหัวเจียงเหอ ร่ างของเขาเย็นเฉี ยบ
เขารู ้ดีวา่ หากตัวเองอยูใ่ นตําแหน่งของเฉว่เฉิน การโจมตีน้ นั คงคร่ า
ชีวติ เขาได้โดยง่ายเช่นกัน
คนเดียวในบริ เวณนั้นที่ดูจะไม่ประหลาดใจคือตั้นเฉี่ยวเทียน เขา
ถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะครุ่ นคิด “ท่านอาจารย์ของเรา…ไร้เทียม
ทานจริ ง ๆ !”
เขารู ้ดีวา่ ท่านอาจารย์ของเขาเป็ นนักรบที่พิเศษเหนือชั้นกว่าธรรมดา
แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ ายจะทรงพลังขนาดนี้
ตั้นเฉี่ยวเทียนระงับความตื่นเต้นและประหลาดใจไว้ เขากําลังจะพูด
ต่อ ก็พอดีกบั ที่เห็นเจ้าเมืองเฉว่เหยาลุกขึ้นยืนด้วยสี หน้าขุ่นเคืองใจ
“เฉว่เฉินกล้าทําเรื่ องเลวร้ายแบบนี้ได้อย่างไร? คิดดูสิวา่ ผมไว้ใจเขา
มอบตําแหน่งสําคัญในฐานะหัวหน้าใหญ่ของสํานักเจ้าเมืองให้!
ตอนนั้นผมคงหูหนวกตาบอด นี่ถือเป็ นความผิดพลาดครั้งใหญ่…
แกะดําตัวนี้ควรจะถูกสังหารเพื่อมิให้เป็ นเยีย่ งอย่างแก่คนอื่น ๆ !”
ตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับผงะกับการระเบิดอารมณ์ของเฉว่เหยา
หมอนี่กาํ ลังอ้างว่าตัวเขาคือผูส้ งั หารเฉว่เฉิ นอย่างนั้นหรื อ?
หน้าไม่อายอะไรขนาดนี้?
“เฉี่ยวเทียน ผมขออภัยที่คุณต้องเดือดร้อนเพราะการกระทําที่มี
เจตนาร้ายของเฉว่เฉิน โชคดีที่คุณฉลาดพอจะอ่านเกมของเขาออก
ไม่อย่างนั้น สํานักเจ้าเมืองของเราคงต้องตกหลุมพรางไปด้วย!”
เฉว่เหยาเดินเข้ามาหาตั้นเฉี่ยวเทียน วางท่าของผูอ้ าวุโสผูเ้ อาใจใส่
เขาพูดด้วยนํ้าเสี ยงอบอุ่น “การหมั้นหมายระหว่างคุณกับลูกสาวของ
ผมเป็ นการตัดสิ นใจของท่านปู่ ของคุณกับท่านพ่อของผม ซึ่งทั้งสอง
ก็เสี ยชีวติ ไปแล้ว ในฐานะทายาทของพวกเขา เราไม่ควรทําให้พวก
เขาผิดหวัง ผมเชื่อว่าเหตุผลที่เฉว่ชิงทําอะไรโง่เง่าแบบนั้นลงไปก็
เพราะถูกเฉว่เฉินล่อลวง หมอนัน่ มีความเชี่ยวชาญในการชักจูง
ความคิดของใครต่อใครอยูแ่ ล้ว…”
ตั้นเฉี่ยวเทียนอดคํารามเยาะไม่ได้เมื่อเห็นเฉว่เหยาพลิกลิ้นให้เข้ากับ
สถานการณ์ได้ทนั ท่วงที สมกับที่เป็ นเจ้าเมือง เขาคือหมาป่ าเฒ่าเจ้า
เล่ห์
เพราะท่านอาจารย์ของเขาให้ความสําคัญกับความเป็ นส่ วนตัว จึงไม่
อยากเข้ามายุง่ เกี่ยวในสถานการณ์แบบนี้ ซึ่ งในบรรดาทุกคนที่รวมตัว
กันอยูท่ ี่นี่ ผูท้ ี่มีพละกําลังสู งสุ ดก็คือเฉว่เหยา จึงเป็ นธรรมดาที่ใคร ๆ
จะพากันคิดว่าเขาคือผูส้ งั หารเฉว่เฉิน
เฉว่เหยาใช้โอกาสนี้ป้ายความผิดทั้งหมดให้เฉว่เฉิน ทําให้ดูเหมือนว่า
สํานักเจ้าเมืองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่นอ้ ย ซึ่งหลังจากเรื่ องนี้
เงียบหาย เขาก็จะใช้ท้ งั พระเดชพระคุณให้ทุกคนตายใจ จากนั้น
ความขัดแย้งที่ฝงู ชนรู ้สึกต่อสํานักเจ้าเมืองก็จะสลายไปอย่างรวดเร็ ว
แต่นนั่ แหละ…กําจัดลูกน้องผูจ้ งรักภักดีได้ในชัว่ พริ บตา เฉว่เหยา
ช่างใจคอโหดเหี้ ยม!
“เจ้าเมืองเฉว่เหยา คุณนี่เป็ นตัวตลกตัวเอ้เลยนะ” ตั้นเฉี่ ยวเทียนหัวเราะ
หึ ๆ ก่อนนัยน์ตาจะพลันเย็นเยียบ “กองทหารทั้ง 50 นายที่สาํ นักเจ้า
เมืองส่ งไปเสี ยชีวติ แล้วเมื่อคืน จากนั้นก็มีการสื บสวนครั้งใหญ่
ตามมา จะให้เราเชื่อหรื อว่าเรื่ องนี้เป็ นฝี มือของเฉว่เฉิ นคนเดียว คุณ
ไม่มีส่วนรู ้เห็นด้วย?”
ความตายของกองทหารชั้นสู ง 50 นายถือเป็ นความสู ญเสี ยครั้งใหญ่
ของสํานักเจ้าเมือง ไม่มีทางที่เฉว่เหยาจะไม่รู้ไม่เห็นเรื่ องนี้!
แม้จะมีคนฉลาดอยูจ่ าํ นวนหนึ่งในหมู่ฝงู ชนที่ฉุกคิดได้เช่นกัน แต่
การกระทําของตั้นเฉี่ยวเทียนเทียนที่ช้ ีให้เห็นอย่างตรงไปตรงมาก็
เรี ยกได้วา่ เป็ นการท้าทายสํานักเจ้าเมืองโดยตรง
“ฮึ่มมม!”
นึกไม่ถึงว่าตั้นเฉี่ยวเทียนจะไม่ยอมจบทั้งที่เขายืน่ ข้อเสนอเจรจา
สันติภาพแล้ว เฉว่เหยาหน้าตึง เขาส่ งโทรจิตเตือนตั้นเฉี่ยวเทียน “ยัง
ไม่พอใจกับความตายของเฉว่เฉินหรื อไง? จะลากผมให้จบเห่ไปด้วย
ใช่ไหม? คิดสิ คิด! มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์วา่ ผมมีส่วนรู ้เห็นกับ
เรื่ องนี้?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนเงียบกริ บ
แม้ท่าทีของเฉว่ชิงจะเลวร้าย แต่เรื่ องจริ งก็คือแผนการส่ วนใหญ่ถูก
วางแผนและดําเนินการโดยเฉว่เฉิน ด้วยเหตุน้ ี จึงไม่มีอะไรเชื่อมโยง
โดยตรงที่บ่งบอกว่าเฉว่เหยามีส่วนรู ้เห็นด้วย…อันที่จริ ง มีความ
เป็ นไปได้วา่ แม้แต่เฉว่ชิงก็อาจปัดความรับผิดชอบให้พน้ ตัวได้
เพราะถึงอย่างไร ทั้งหมดที่เธอทําลงไปก็แค่ปฏิเสธสัญญาผูกมัดการ
แต่งงานเท่านั้น
พฤติกรรมของเธออาจดูไม่เหมาะสมหากมองด้วยจุดยืนทางจริ ยธรรม
แต่ไม่ได้ขดั ต่อกฎหมาย ไม่มีทางลากเธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม
ครั้งนี้ได้ เว้นเสี ยแต่เขาจะพิสูจน์ได้วา่ เฉว่เฉิ นทําการใด ๆ ลงไป
ภายใต้คาํ สัง่ ของฉเว่ชิง
“ถ้าคุณไม่มีหลักฐาน ผมขอแนะนําให้เงียบปากไว้ดีกว่า ผมรู ้วา่ คุณ
มีผเู ้ ชี่ยวชาญผูไ้ ร้เทียมทานคอยหนุนหลังอยู่ และนัน่ คือเหตุผลที่คุณ
สังหารเฉว่เฉินได้อย่างง่ายดาย แต่ผมเป็ นเจ้าเมืองชวนเจียง ขึ้นตรง
กับสํานักดาบเมฆเหิ นเท่านั้น มีแต่เหล่าผูอ้ าวุโสของสํานักดาบเมฆ
เหิ นที่มีสิทธิ์มีเสี ยงในการตัดสิ นผม ถ้าผูเ้ ชี่ยวชาญที่คอยหนุนหลัง
คุณกล้าแตะต้องผมล่ะก็ นัน่ ก็หมายความถึงการเข้ามาก้าวก่ายกับ
กิจการภายในของสํานักดาบเมฆเหิ น…คุณคิดว่าทางสํานักจะปล่อย
ให้ใครสักคนที่ทา้ ทายอํานาจของเขาลอยนวลไปได้หรื อไง? หรื อคิด
ว่าคนที่หนุนหลังคุณอยูเ่ ก่งกาจพอจะต้านทานแรงกดดันจากหนึ่งใน
สํานักใหญ่ได้?” เฉว่เหยาคําราม
“ถ้าคุณไม่อยากให้คนที่คอยช่วยคุณต้องเจอกับเรื่ องยุง่ ยากล่ะก็ ขอ
แนะนําให้คุณทําตามคําพูดของผมและปล่อยเรื่ องนี้ให้ผา่ นไป นัน่
จะเป็ นการจบเรื่ องที่สวยงามที่สุดไม่ใช่หรื อ? การแต่งงานระหว่าง
คุณกับฉเว่ชิงจะดําเนินไปตามแผนเดิม แล้วคุณก็ไม่ตอ้ งกังวลเรื่ อง
บรรดาศัตรู ของตระกูลตั้น!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนนัยน์ตาแดงกํ่าด้วยความโกรธจัด แต่พดู อะไรไม่ออก
อันที่จริ ง เขาคาดเดาไว้แล้วว่าเจ้าเมืองเฉว่เหยาน่าจะมีบทบาทสําคัญ
ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตซึ่งส่ งผลต่อความตายของครอบครัว
ของเขา และเขาก็อยากแก้แค้น!
แต่…สิ่ งที่เฉว่เฉินพูดมาก็มีเหตุผล
หากทําตามครรลองคลองธรรม ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะตัดสิ นเฉว่เหยา
ซึ่งหากท่านอาจารย์ของเขากล้าเล่นงานเฉว่เหยาโดยตรง ก็ไม่ต่าง
อะไรกับการเปิ ดศึกกับสํานักดาบเมฆเหิ น!
ถึงท่านอาจารย์ของเขาจะทรงพลัง แต่เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ ายจะ
แข็งแกร่ งพอจะต้านทานสํานักดาบเมฆเหิ นทั้งสํานักได้
“ต่อให้ผมไม่พดู อะไรมากกว่านี้ ผมก็เชื่อว่าคุณคงรู ้ดีวา่ ควรทําอะไร
ถูกไหม?” เห็นตั้นเฉี่ยวเทียนเริ่ มคล้อยตาม เฉว่เหยาคําราม “ถ้าคุณ
โง่เง่าพอที่จะคิดว่าตัวเองรับมือไหว ขอผมบอกความจริ งให้คุณรับรู ้
อีกครั้งนะ เว้นเสี ยแต่ผอู ้ าวุโสสักคนของสํานักดาบเมฆเหิ นจะได้ยนิ
เสี ยงวิงวอนของคุณและมาปรากฏตัวตอนนี้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คุณมี
แต่จะขุดหลุมฝังตัวเองเท่านั้น…”
ฟึ่ บ!
ยังไม่ทนั ที่เฉว่เหยาจะพูดจบ เสี ยงกึกก้องของอสู รตัวหนึ่งก็ดงั ขึ้น
กลางอากาศ จากนั้นหลายร่ างก็ร่อนลงมา
“ผูอ้ าวุโสลู่!”
เห็นคนกลุ่มนั้น หัวเจียงเหอตาโต เขารี บเข้าไปประสานมือให้
ในที่สุดผูอ้ าวุโสลู่กเ็ ดินทางจากเมืองแสงดาวมาถึงที่นี่!
เห็นภาพนั้น ถ้อยคําที่เฉว่เหยาอยากจะพูดต่อติดค้างอยูใ่ นลําคอของ
เขา
แม้ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ จะทําหน้าที่เพียงแค่ควบคุมดูแลการเปิ ดรับศิษย์
สายตรงฝ่ ายใน แต่เขาก็เป็ นนักรบเสมือนอมตะคนหนึ่ง โดยทัว่ ไป
เขาจะทําหน้าที่ดูแลการทดสอบเพื่อรับศิษย์สายตรงฝ่ ายใน ที่เมือง
แสงดาวเท่านั้น จะไม่เหยียบย่างเข้ามาในสถานที่อย่างเมืองชวนเจียง
ซึ่งมีการเปิ ดรับเฉพาะศิษย์สายตรงระดับล่าง!
เว้นเสี ยแต่จะเป็ นโอกาสพิเศษ เขาจึงจะผ่านมา
แล้วทําไมจู่ ๆ ถึงมาเอาเวลานี้?
ตอนที่ 1946 การทดสอบของศิษย์ สายตรงฝ่ ายใน
เฉว่เหยาแทบไม่เชื่อสายตา แต่กไ็ ม่กล้าแสดงความกระด้างกระเดื่อง
ต่อผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เขาตรงเข้าไปโค้งคํานับ “เจ้าเมืองเฉว่เหยาคารวะ
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ !”
“อือ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ โบกมือก่อนจะหันไปถามหัวเจียงเหอ “ว่า
อย่างไร? เขาปรากฏตัวหรื อยัง?”
“ผูอ้ าวุโส ผมยังไม่แน่ใจนักว่าผูน้ ้ นั คือใคร แต่ผมเชื่อว่าเขามีบางอย่าง
เกี่ยวข้องกับชายหนุ่มที่อยูต่ รงนั้น” หัวเจียงเหอพูดขณะหันไปมอง
ตั้นเฉี่ยวเทียน
เมื่อคืนวาน ตอนที่เขาอยูท่ ี่หอนิรันดร์ เจ้าโลกได้ขอร้องให้เขาทํา
อะไรอย่างหนึ่ง คือมาปรากฏตัวในเวลานี้ ซึ่ งก็มีการไต่สวนเกิดขึ้น
ที่นี่จริ ง ๆ และเพราะการปรากฏตัวของเขาที่ทาํ ให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนได้
แก้ขอ้ กล่าวหาให้ตวั เอง…ดังนั้น ต่อให้ต้ นั เฉี่ยวเทียนไม่ใช่เจ้าโลก ก็
มีความเป็ นไปได้สูงที่เขาจะเกี่ยวข้องกับอีกฝ่ ายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง!
“เขา?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ มองตั้นเฉี่ยวเทียนอย่างสงสัย
ด้วยความสามารถในการหยัง่ รู ้ของผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เขามองออกทันที
ว่าตั้นเฉี่ยวเทียนคือนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ ก
ผูท้ ี่มีวรยุทธระดับนี้จะสังหารศิษย์สายตรงของเขาอย่างง่ายดายได้
อย่างไร?
“เรื่ องเป็ นอย่างนี้…” หัวเจียงเหอทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ ฟัง
หลังจากได้ฟังเรื่ องราว ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ หน้าตาเคร่ งเครี ยด
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครคนหนึ่งอาจหาญทําเรื่ องร้ายแรงแบบนี้ในดินแดน
อาณานิคมของสํานักดาบเมฆเหิ น…ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เรื่ องนี้
ผ่านไปง่าย ๆ !
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ สู ดหายใจลึก ระงับความหงุดหงิดไว้ก่อนจะหันไป
มองชายหนุ่มที่ยนื อยูต่ รงหน้าการไต่สวน “คุณคือตั้นเฉี่ ยวเทียนหรื อ?”
“ใช่แล้ว ผูอ้ าวุโสลู่” ตั้นเฉี่ ยวเทียนตอบพร้อมกับโค้งคํานับอย่างงาม
“คุณอยากเข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆเหิ นไหม?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ตั้ง
คําถาม
ตั้นเฉี่ยวเทียนชะงักไปครู่ หนึ่งก่อนจะแอบมองท่านอาจารย์ของเขา
เมื่อเห็นอีกฝ่ ายพยักหน้า ก็รีบโค้งคํานับและตอบว่า “เป็ นเกียรติของ
ผมที่จะได้เข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆเหิ น”
“ดีมาก!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยักหน้า “นับจากวันนี้ไป คุณคือศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายนอกของสํานักของเรา ใครก็ตามที่กล้าทําร้ายคุณจะถือเป็ น
ศัตรู ของสํานักของเราด้วย แน่ใจได้เลยว่าเขาจะต้องเผชิญกับการ
ตอบโต้จากทางสํานัก!”
“ฮะ…” ตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับจังงัง
เขาคิดว่าผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ คนนี้คงจะทดสอบความสามารถของเขา
ก่อนตัดสิ นใจ ใครจะไปรู ้วา่ เขาจะได้การยอมรับอย่างง่ายดายขนาด
นี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ วจนแทบจะดูเหมือนการหลอกลวง
ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู ้วา่ คนที่ยนื อยูต่ รงหน้าคือผูอ้ าวุโสคนหนึ่งของ
สํานักดาบเมฆเหิ น คงจะคิดว่าเรื่ องนี้เป็ นการกลัน่ แกล้งครั้งใหญ่!
เขาได้ยนิ ชื่อของผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ที่ทาํ หน้าที่รับศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก
มานานแล้ว อีกฝ่ ายเป็ นคนเลือดร้อนและตรงไปตรงมา ดูเหมือน
เรื่ องรํ่าลือที่เขาได้ยนิ จะมีส่วนจริ งอยูม่ าก…
“เฉี่ยวเทียน ขอแสดงความยินดีที่คุณได้เป็ นศิษย์สายตรงของสํานัก
ดาบเมฆเหิ น!”
คนแรกที่มีปฏิกิริยาคือเฉว่เหยา เขาแสดงความยินดีกบั ตั้นเฉี่ยวเทียน
พร้อมกับยิม้ กว้าง ไม่มีทีท่ากระอักกระอ่วนใจสักนิดกับการโต้เถียง
ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่แยแสท่าทีของเฉว่เหยา เขาสู ดหายใจลึก และราว
กับได้ผา่ นการตัดสิ นใจครั้งสําคัญ เขาทรุ ดตัวลงคุกเข่ากับพื้นและรํ่า
ร้อง “ผูอ้ าวุโสลู่ ผมขอวิงวอนให้คุณชดเชยความเสี ยหายให้ผมด้วย!”
“พูดออกมาเถอะ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ตอบ
“ตระกูลตั้นของเราเคยเป็ นกลุ่มอํานาจใหญ่ในเมืองชวนเจียง ด้วย
ความแข็งแกร่ งและอิทธิพลที่เรามี สํานักเจ้าเมืองจึงมองพวกเราเป็ น
ภัยคุกคามอยูเ่ สมอ ทางสํานักเจ้าเมืองจับตามองเรา ลงเอยด้วยความ
ตายของสมาชิกในครอบครัวของผมเกือบทุกคน…นี่คือหลักฐานที่
แสดงถึงการกระทําอันชัว่ ร้ายของพวกเขา” ตั้นเฉี่ ยวเทียนยืน่ ตรา
หยกอันหนึ่งให้ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋
หลังจากตระกูลตั้นถูกทําลาย ผูอ้ าวุโสอี้ได้อุทิศตัวให้กบั การค้นหา
ความจริ งที่อยูเ่ บื้องหลังการล่มสลายของตระกูลตั้น ยิง่ ได้หลักฐาน
มากชิ้นขึ้นเท่าไหร่ เจ้าเมืองเฉว่เหยาก็ยงิ่ น่าสงสัยมากขึ้นเท่านั้น
ที่ผา่ นมา ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่กล้าเปิ ดเผยเรื่ องนี้เพราะเกรงว่าจะถูกทาง
สํานักเจ้าเมืองฆ่าปิ ดปาก แต่เมื่อมีผอู ้ าวุโสของสํานักดาบเมฆเหิ น
หนุนหลัง ก็รู้ดีวา่ ไม่มีโอกาสดีกว่านี้อีกแล้วที่จะชดเชยความเสี ยใจที่
เคยได้รับ
นี่คือเจตจํานงของท่านอาจารย์ของเขาเช่นกัน
ผูอ้ าวุโสลู่รับตราหยกมาเพ่งดู ครู่ ต่อมาก็หรี่ ตาด้วยความโกรธ
หลักฐานทุกชิ้นที่บรรจุอยูใ่ นตราหยกบ่งบอกชัดว่าความตายของ
สมาชิก 97 คนของตระกูลตั้นมีความเชื่อมโยงกับการกระทําของเจ้า
เมืองเฉว่เหยา
“คุณจะแก้ตวั อย่างไร?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ คํารามขณะโยนตราหยกใส่
เฉว่เหยา
เฉว่เหยารี บรับตราหยกมา เมื่อเห็นรายละเอียดที่บรรจุอยูใ่ นนั้นก็
ตาโตด้วยความประหลาดใจ เขารี บทรุ ดตัวลงคุกเข่ากับพื้นเพื่อ
ทักท้วง “ผูอ้ าวุโสลู่ ทุกอย่างเป็ นเรื่ องโกหก! ผมถูกใส่ ร้ายป้ายสี ทุก
คนในเมืองชวนเจียงเป็ นพยานได้วา่ สํานักเจ้าเมืองมีความสัมพันธ์
อันดีกบั ตระกูลตั้น การที่มีสญ
ั ญาผูกมัดการแต่งงานระหว่างตั้นเฉี่ ยว
เทียนกับเฉว่ชิงก็เกินพอจะยืนยันเรื่ องนั้นแล้ว การเล่นงานตระกูล
ตั้นไม่ช่วยให้ผมได้อะไรขึ้นมา!”
“จะต้องเกิดการเข้าใจผิดอะไรบางอย่างแน่…อาจเป็ นเพราะตั้นเฉี่ ยว
เทียนโมโหที่ลูกสาวของผมโง่เง่า หลงเชื่อคําพูดของเฉว่เฉิ นและ
พยายามยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงาน…ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ผมขอร้อง
ให้คุณสื บสวนเรื่ องนี้อย่างถี่ถว้ นและคืนความเป็ นธรรมให้ผมด้วย!”
“วางใจเถอะว่าผมจะมีคาํ ตอบที่น่าพอใจให้คุณ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
คํารามก่อนจะเบนสายตาไปจากเฉว่เหยาที่กาํ ลังคุกเข่า เขามองตั้น
เฉี่ยวเทียน “ถึงหลักฐานที่คุณมีจะดูน่าเชื่อถือ แต่ส่วนใหญ่กไ็ ม่อาจ
ยืนยันความถูกต้องได้เพราะเวลาที่ผา่ นมาเนิ่นนาน อีกอย่าง เฉว่เหยา
เป็ นถึงเจ้าเมือง ถ้าเขาจงใจปกปิ ดร่ องรอยและหลักฐาน ผมก็ไม่อาจ
สื บหาอะไรได้อีก!”
“ผมเข้าใจ” ตั้นเฉี่ ยวเทียนก้มหน้า
เขารู ้แล้วว่าจะต้องแบบเป็ นแบบนี้ เขารู ้อยูแ่ ก่ใจ
ผ่านมา 10 ปี แล้วตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรมกับตระกูลตั้น ซึ่งเมืองชวน
เจียงก็เปลี่ยนไปมากนับจากนั้น แม้หลักฐานส่ วนใหญ่จะดูน่าเชื่อถือ
แต่วนั เวลาที่ผา่ นไปก็ทาํ ให้ไม่อาจยืนยันความถูกต้องได้ ซึ่งหมาย
ความว่าเขาไม่อาจกล่าวหาเฉว่เหยาได้อีก
อีกอย่าง เฉว่เหยาคือคนที่พร้อมจะสังหารเขาเพียงเพื่อยกเลิกสัญญา
ผูกมัดการแต่งงานและปกป้องชื่อเสี ยงของสํานักเจ้าเมือง ในเมื่อการ
สังหารหมู่ตระกูลตั้นเป็ นเรื่ องใหญ่ขนาดนั้น แน่นอนว่าอีกฝ่ ายย่อม
ทําลายหลักฐานทันทีเพื่อให้ไม่อาจเชื่อมโยงมาถึงตัว
“อํานาจของสํานักดาบเมฆเหิ นจะถูกสัน่ คลอนหากผมพิพากษาให้
สังหารเจ้าเมืองโดยปราศจาก การยืนยันความถูกต้อง แต่กฎเกณฑ์ก็
ย่อมมีขอ้ ยกเว้น!”
นัยน์ตาของผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เป็ นประกายวาบขณะพูดต่อ “ซึ่งนัน่ ก็
คือ…พละกําลังที่แท้จริ ง! ขอแค่คุณสามารถสําแดงพละกําลังมาก
พอที่จะยืนยันว่าคุณเหมาะสมกับสํานักดาบเมฆเหิ น คุณก็แน่ใจได้
เลยว่าทางสํานักจะอยูเ่ คียงข้างคุณแทนที่จะเป็ นเจ้าเมืองของเมืองขั้น
3 ซึ่งวิธีเดียวที่คุณจะทําอย่างนั้นได้กค็ ือต้องได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ าย
ในของสํานัก ถ้าคุณทําสําเร็ จ ก็วางใจได้เลยว่าสํานักดาบเมฆเหิ นจะ
แก้ไขทุกปัญหาที่คุณกําลังเผชิญอยู่ เพื่อคุณจะได้มีเวลาให้กบั การ
พัฒนาวรยุทธอย่างเต็มที่!”
“ศิษย์สายตรงฝ่ ายใน?” ตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับผงะ
สํานักดาบเมฆเหิ นรับแค่ศิษย์สายตรงระดับล่างเท่านั้นหากเป็ นเมือง
ชวนเจียง
แม้แต่ตาํ แหน่งพื้น ๆ แบบนี้กม็ ากพอจะทําให้เฉว่ชิงลําพองใจแล้ว
เธอรู ้สึกเหมือนได้กา้ วขึ้นสู่ ความเป็ นสุ ดยอด ซึ่งก็เพราะเหตุน้ ีที่ทาํ
ให้เธอจงใจยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงานกับเขา ซึ่งถ้าเขาได้เป็ น
ศิษย์สายตรงฝ่ ายใน ก็จะมีสถานภาพสู งกว่าแม้แต่หวั เจียงเหอกับเฉว่
เหยา
เป็ นธรรมดาที่สาํ นักดาบเมฆเหิ นจะเต็มใจอยูเ่ คียงข้างเขามากกว่า
เฉว่เหยา
เพียงแต่…
มันไม่ใช่เรื่ องง่าย
มันไม่ใช่เรื่ องง่าย
หัวเจียงเหอเป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติแล้ว แต่กย็ งั
เป็ นแค่ศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก ในเมื่อเขาเป็ นแค่นกั รบระดับนักปราชญ์
ผูย้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ ก เขาจะมีโอกาสหรื อ?
“ใช่ ศิษย์สายตรงฝ่ ายในทุกคนมีความสําคัญต่อสํานัก สถานภาพ
ของพวกเขาสู งส่ งกว่าแม้แต่ผอู ้ าวุโสฝ่ ายนอกอย่างผมเสี ยอีก ขอแค่
คุณเข้าเป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในได้สาํ เร็ จ ต่อให้คุณสังหารเจ้าเมือง
เฉว่เหยาโดยปราศจากความชอบธรรม ก็จะไม่มีใครตั้งคําถามกับ
การตัดสิ นใจของคุณเลย!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูด
“ฮะ…” นึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ จะพูดแบบนี้ เฉว่เหยาเลิกคิว้
ด้วยความประหลาดใจ
คงไม่ใช่วา่ …อีกฝ่ ายจงใจจะทดสอบตั้นเฉี่ยวเทียนเพื่อรับเขาเป็ น
ศิษย์สายตรงฝ่ ายในหรอกนะ?
แต่การทดสอบเพือ่ รับศิษย์สายตรงฝ่ ายในไม่ใช่เรื่ องเล่น ๆ ตั้นเฉี่ยว
เทียนอาจเก่งกาจ แต่กแ็ ทบเป็ นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทําสําเร็ จ
“ผูอ้ าวุโสลู่ ไม่ทราบว่าการทดสอบของศิษย์สายตรงฝ่ ายในเป็ น
อย่างไร? ผมพร้อมจะเข้ารับการทดสอบ” ตั้นเฉี่ ยวเทียนครุ่ นคิดครู่
หนึ่งก่อนจะตั้งคําถาม
“การทดสอบของศิษย์สายตรงฝ่ ายในไม่ได้มุ่งเน้นที่วรยุทธ แต่เป็ น
ศักยภาพ ขอแค่ผนู ้ ้ นั มีศกั ยภาพสู งพอ ต่อให้วรยุทธของเขายังอ่อน
ด้อย ก็สามารถเข้าร่ วมกับสํานักของเราได้ มีความเป็ นไปได้เหมือน
กันที่คนนอกจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในทันทีที่เข้าร่ วมกับสํานัก
ดาบเมฆเหิ น ไม่จาํ เป็ นต้องไต่เต้าจากการเป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก”
“มีเกณฑ์ 2 ข้อที่ผนู ้ ้ นั จะต้องผ่านไปให้ได้เพื่อให้ได้เป็ นศิษย์สายตรง
ฝ่ ายใน ข้อแรก เขาจะต้องสําเร็ จวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณก่อน
อายุ 17 ปี , ข้อ 2 จะต้องผ่านการทดสอบศิลปะเพลงดาบของศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายใน!”
จากนั้นผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็ต้ งั คําถาม “ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่ ?”
“ตอนนี้ผมอายุ 16 ปี แต่…” ตั้นเฉี่ยวเทียนกําลังจะพูดต่อขณะที่ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ ขัด
“ขอแค่คุณยังอายุไม่ถึง 17 ปี ก็ใช้ได้ ในเมื่อคุณเป็ นนักรบระดับ
นักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ กแล้ว ก็มีโอกาสที่คุณจะได้เป็ น
นักปราชญ์โบราณก่อนวันครบรอบอายุ 17 ปี ของคุณ ส่ วนการ
ทดสอบศิลปะเพลงดาบของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน…หัวเจียงเหอคือ
ศิษย์พี่หมายเลข 1 ของบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก ความเชี่ยวชาญ
ในศิลปะเพลงดาบของเขาก็ผา่ นเกณฑ์ ขอแค่คุณเอาชนะเขาได้ในวร
ยุทธระดับเดียวกัน ก็จะถือว่าคุณผ่านการทดสอบ”
“ผมต้องเอาชนะศิษย์พี่หวั ในระดับวรยุทธเดียวกันหรื อ?” ตั้นเฉี่ ยว
เทียนออกจะกังวลใจ
เขาเพิ่งได้ร่ าํ เรี ยนศิลปะเพลงดาบกับท่านอาจารย์ของเขาเพียงชัว่
ข้ามคืน ขณะที่อีกฝ่ ายเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญของสํานักดาบเมฆเหิ น รํ่าเรี ยน
ศิลปะเพลงดาบมาแล้วอย่างน้อยก็ 20 ปี
การที่เขาจะเอาชนะศิษย์พี่หวั ได้ยอ่ มเป็ นเรื่ องยากมาก ต่อให้อีกฝ่ าย
ลดระดับวรยุทธลงมาเท่ากับเขาก็ตาม
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยักหน้า “ใช่ คุณต้องการทดสอบไหม?”
“ได้สิ ผมอยากเข้ารับการทดสอบ!” ตั้นเฉี่ยวเทียนลังเลครู่ หนึ่งก่อน
จะพยักหน้า
นี่คือโอกาสครั้งยิง่ ใหญ่ที่สุดในชีวติ ของเขาที่จะได้ลา้ งแค้นให้ท่าน
พ่อกับท่านแม่และบรรดาพีน่ อ้ งของเขา หากโอกาสนี้หลุดมือไป คง
แทบเป็ นไปไม่ได้ที่เขาจะมีโอกาสชดเชยความเสี ยหายให้กบั ตระกูล
ตั้นอีก
อีกอย่าง ไม่มีทางที่เฉว่เหยาจะนัง่ ๆ นอน ๆ รอความตาย กว่าเขาจะ
มีสถานภาพสู งกว่านี้ หมอนัน่ คงเผ่นหนีไปนานแล้ว
ตอนที่ 1947 ศิลปะเพลงดาบนั่น…
ด้วยความใหญ่โตของทวีปที่ถูกลืม การควานหาตัวเฉว่เหยาก็ไม่ต่าง
อะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร
“ดี!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยักหน้า เขาหันไปพูดกับหัวเจียงเหอ “ลดระดับ
วรยุทธของคุณลงเป็ นนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3 และสู ้
กับเขาด้วยทุกวิถีทางที่คุณมี ห้ามออมมือโดยเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสลู่” หัวเจียงเหอพยักหน้า
เขาเดินตรงเข้าหาตั้นเฉี่ยวเทียนขณะลดระดับวรยุทธลงมาเป็ น
นักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 เมื่อประจําตําแหน่งแล้ว ก็ชกั ดาบออกมา
ก่อนจะโบกมือร้องเรี ยกตั้นเฉี่ยวเทียน “มาเลย!”
“ท่านอาจารย์…”
นี่เป็ นครั้งแรกที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนต้องต่อสู ก้ บั ผูเ้ ชี่ยวชาญตัวจริ ง จึงอด
กังวลใจเล็กน้อยไม่ได้ เขาหันไปมองท่านอาจารย์เพื่อขอกําลังใจ แต่
อีกฝ่ ายก็ยนื นิ่งราวกับไม่มีความเห็นใด ๆ ต่อทุกสิ่ งที่เกิดขึ้น
เท่าที่เห็น ดูเหมือนท่านอาจารย์ไม่คิดจะขัดขวางการดวลครั้งนี้!
“ช่างมันเถอะ เราก็แค่ตอ้ งทําให้เต็มที่!” ตั้นเฉี่ยวเทียนกัดฟันอย่าง
มุ่งมัน่
ท่านอาจารย์มอบอะไรให้เขามากมายแล้ว เขาแค่ตอ้ งก้าวข้ามขั้น
สุ ดท้ายไปให้ได้ดว้ ยตัวเองเพื่อให้ได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในของ
สํานักดาบเมฆเหิ น จะมาท้อถอยในช่วงเวลาหน้าสิ่ วหน้าขวานแบบ
นี้ไม่ได้
ฟึ่ บ!
ในตอนนั้น หัวเจียงเหอพุง่ เข้าใส่ ต้ นั เฉี่ ยวเทียนด้วยความเร็ วอันน่า
ทึ่ง ราวกับมีกระแสคลื่นอันเกรี้ ยวกราดพุง่ เข้าหาตัวเขา
แต่หลังจากได้เห็นศิลปะเพลงดาบของหัวเจียงเหอกับตา สิ่ งที่ต้ นั
เฉี่ยวเทียนรู ้สึกไม่ใช่ความพรั่นพรึ ง แต่เป็ นความประหลาดใจ
ดูเผิน ๆ ศิลปะเพลงดาบของหัวเจียงเหออาจซับซ้อน แต่นนั่ คือทุก
อย่างที่ท่านอาจารย์ของเขาได้บอกไว้แล้ว ด้วยความรู ้ที่เขามีตอนนี้
เขาพบว่าตัวเองเล่นงานกระบวนท่าของหัวเจียงเหอได้สบาย ความ
ซับซ้อนและสง่างามต่าง ๆ จะถูกกําจัดจนหมดสิ้ น มันไม่เป็ น
ความลับต่อเขาอีกต่อไป ราวกับทุกอย่างได้ถูกเปิ ดเปลือยตรงหน้า
ด้วยสิ่ งนี้ การต่อสู ย้ อ่ มง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ตั้นเฉี่ยวเทียนยืนนิ่งเพื่อมองลึกลงไปในเจตจํานงของคู่ต่อสู ้ เขามอง
เห็นแปดวิถีทางที่จะเล่นงานศิลปะเพลงดาบของหัวเจียงเหอได้ใน
ชัว่ พริ บตา
จากนั้นเขาก็ชกั ดาบและตรงเข้าโจมตีจุดอ่อนที่ใหญ่ท่ีสุดในเพลง
ดาบของหัวเจียงเหอ
หัวเจียงเหอถึงกับผงะและถอยกรู ด
สําหรับตั้นเฉี่ยวเทียน นี่คือหลักฐานที่บ่งบอกชัดเจนว่าการถ่ายทอด
ความรู ้จากท่านอาจารย์ของเขามีประสิ ทธิภาพ จึงเปิ ดการโจมตีซ้ าํ
หัวเจียงเหอถูกบีบให้ล่าถอย
ซึ่ งก็เป็ นไปตามนั้น ฝ่ ายหนึ่งรุ กคืบขณะที่อีกฝ่ ายถอยกรู ด วนเวียน
ไปอย่างนี้กว่า 20 กระบวนท่า ดาบของทั้งคู่ไม่ได้แตะต้องตัวของอีก
ฝ่ าย แต่หวั เจียงเหอก็ถอยไปแล้วกว่า 40 ก้าว
“ศิลปะเพลงดาบนัน่ …”
“ไร้เทียมทานจริ ง ๆ !”
หวงเทา หูปิง และคนอื่น ๆ พากันจังงังกับความเก่งกาจของตั้นเฉี่ ยว
เทียน พวกเขามองหน้ากันราวกับเห็นผี
หัวเจียงเหอ หวงเทา กับไม้ไผ่ เคยสู ้กบั เจ้าโลกเมื่อตอนอยูท่ ี่หอ
นิรันดร์
ศิลปะเพลงดาบของเจ้าโลกเป็ นดัง่ ศัตรู ตวั ฉกาจที่ทาํ ให้แต่ละคนงง
งัน พวกเขาดูออกว่าศิลปะเพลงดาบนั้นไร้เทียมทานมาก แต่ไม่อาจ
วิเคราะห์ได้วา่ มันคืออะไรและอะไรที่ทาํ ให้มนั ไร้เทียมทานขนาด
นั้น
พูดอีกอย่างก็คือ ทุกคนรู ้แต่ผลลัพธ์แต่ไม่รู้สาเหตุ จึงไม่อาจทําความ
เข้าใจพละกําลังของอีกฝ่ ายได้อย่างถูกต้อง ยิง่ การประเมินยิง่ เป็ นไป
ไม่ได้
แต่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนไม่ได้เป็ นแบบนั้น ทุกคนดูออกว่าทุกกระบวนท่า
ของเขามีเป้าหมายอยูท่ ี่จุดอ่อนของหัวเจียงเหอ การวิเคราะห์และ
ตีความพละกําลังของตั้นเฉี่ ยวเทียนจึงทําได้ง่าย
ภายในไม่ถึง 10 วินาที การแลกเปลี่ยนกว่า 20 กระบวนท่าก็ทาํ ให้
หัวเจียงเหอหมดหนทางตอบโต้
แม้แต่ศิษย์ตรงฝ่ ายในก็ยงั ไม่มีศิลปะเพลงดาบที่เฉี ยบคมขนาดนี้!
ต่อให้คาํ ว่าน่าสะพรึ งก็ไม่เพียงพอที่จะบรรยายศิลปะเพลงดาบ
ของตั้นเฉี่ยวเทียน!
“เขาคือเจ้าโลกหรื อเปล่า?” หน้าเหลี่ยมตั้งคําถาม
เขาไม่เคยปะทะกับเจ้าโลก จึงไม่รู้กระบวนท่าและวิธีการของอีกฝ่ าย
แต่คนอื่น ๆ เคยสู ก้ บั เจ้าโลกมาแล้ว จึงน่าจะมองเห็นในสิ่ งที่เขาไม่
ทันสังเกต
“เจ้าโลกเล่นงานพวกเราได้ทนั ทีที่การดวลเริ่ มต้น เขาไม่ได้ใช้
กระบวนท่าธรรมดาสามัญ ผมจึงบอกไม่ได้จนกว่าเขาจะสําแดง
กระบวนท่านั้นอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นก็วเิ คราะห์ได้ยาก!” อวิน๋ เฟยหยาง
พูด
ไม่ใช่เพราะความสามารถในการหยัง่ รู ้ของพวกเขาอ่อนด้อย แต่
เทคนิคการโยนดาบนั้นทรงพลังเกินไป
ทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็ วจนแต่ละคนไม่อาจกะประมาณพละกําลัง
ที่แท้จริ งของผูส้ าํ แดงกระบวนท่านั้นได้ ดังนั้น จึงไม่สามารถ
ประเมินพละกําลังของอีกฝ่ ายผ่านการสําแดงศิลปะเพลงดาบแบบ
ธรรมดา
“แต่เท่าที่เห็น ดูเหมือนศิษย์พี่หวั คงไม่อาจบีบให้เขาสําแดงกระบวน
ท่านั้นได้เหมือนกัน…” หวงเทาตั้งข้อสังเกตพร้อมกับยิม้ เจื่อน ๆ
ทุกคนเงียบไป
อีกฝ่ ายบีบศิษย์พี่หวั ให้ล่าถอยได้โดยไม่ตอ้ งใช้เทคนิคนั้น ถ้าเป็ น
แบบนี้ ต่อให้ศิษย์พี่หวั แพ้ พวกเขาก็ยงั ไม่อาจแน่ใจได้อยูด่ ีวา่ ตั้น
เฉี่ยวเทียนคือเจ้าโลก
“อันที่จริ งก็มีวธิ ีทดสอบนะ แค่ดูกนั ต่อไป…” หน้าเหลี่ยมหันไป
ตะโกน “ศิษย์พี่ ใช้นยั น์ตาวารี !”
นัยน์ตาวารี คือฉายาของหัวเจียงเหอที่ใช้ในหอนิรันดร์ ทั้งยังเป็ นชื่อ
ทักษะที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดด้วย
ทักษะนี้เหมือนสายนํ้าที่ไหลเซาะอย่างไม่หยุดหย่อนจนกว่าหิ นทุก
ก้อนที่ขวางทางของมันจะแหลกสลายเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ก็เพราะศิลปะเพลงดาบนี้ที่ทาํ ให้หวั เจียงเหอโดดเด่นเหนือใครใน
หมู่ศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก รั้งตําแหน่งศิษย์พี่หมายเลข 1 เอาไว้ได้
“ได้สิ!”
หัวเจียงเหอเข้าใจเจตนาของศิษย์นอ้ งของเขาทันที เขาคํารามก้อง
จากนั้นก็ถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่ ดาบและขับเคลื่อนมันออกมาอย่าง
ดุเดือด ในชัว่ พริ บตา ก็ดูราวว่ากับตัวเขาแปรสภาพเป็ นสายนํ้าขนาด
ใหญ่ที่พร้อมจะกวาดทุกสิ่ งที่ขวางทางให้แหลกสลายและราบคาบ
เห็นหัวเจียงเหอใช้เทคนิคขั้นสุ ดยอดของเขา ตั้นเฉี่ยวเทียนโยนดาบ
ออกไปอย่างลังเลเล็กน้อย
ถ้าเขาอยากเอาชนะอีกฝ่ าย ก็จะต้องเล่นงานสายนํ้าที่อยูต่ รงหน้าให้
ได้เสี ยก่อน
ฟิ้ วววว!
ดาบของตั้นเฉี่ยวเทียนพุง่ แหวกอากาศออกไป
เขาฝึ กฝนเทคนิคนี้ตลอดทั้งคืน สําแดงมันออกไปอย่างน้อยก็พนั ครั้ง
ดาบของเขาหายวับไปจากจุดนั้นทันที เมื่อมันปรากฏอีกครั้ง ก็จ่ออยู่
ที่ลาํ คอของหัวเจียงเหอ
“เวรแล้ว…” หัวเจียงเหอนัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความพรั่นพรึ ง
เขามัวแต่พยายามบีบให้เจ้าโลกสําแดงเทคนิคขั้นสู งสุ ดออกมาจนลืม
นึกถึงความเสี่ ยง หัวเจียงเหอปลดปล่อยวรยุทธทันที ในชัว่ พริ บตา
พละกําลังของนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติกแ็ ผ่ซ่านออก
จากร่ าง
เมื่อเรี ยกพละกําลังเดิมกลับคืนมา หัวเจียงเหอจึงสกัดกั้นดาบเอาไว้
ได้ แต่เหงื่อเย็น ๆ ก็ชุ่มโชกแผ่นหลัง
ถ้าเป็ นคู่ต่อสู ท้ ี่มีวรยุทธระดับเดียวกัน กระบวนท่านั้นคงคร่ าชีวติ
ของเขาแล้ว
“เป็ นเขาจริ ง ๆ …”
หวงเทากับคนอื่น ๆ ตัวสัน่ ด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นกระบวนท่านั้น
ไม่มีขอ้ สงสัยอีกต่อไป ตั้นเฉี่ยวเทียนคือเจ้าโลก
เฉว่เหยายืนโงนเงนก่อนจะทรุ ดฮวบลงกับพื้น
ตั้งแต่เขากลับจากหอนิรันดร์เมื่อคืนวาน ก็ให้สงสัยว่าผูเ้ ชี่ยวชาญที่มี
ฉายาว่าเจ้าโลกจะเป็ นใคร ไม่นึกเลยว่าคือลูกเขยที่เขาจงเกลียดจงชัง
และดูถูกมาตลอด!
เฉว่ชิงก็แทบเสี ยสติ
เมื่อคืนวาน เธออยูก่ บั หัวเจียงเหอตอนที่อีกฝ่ ายท้าทายเจ้าโลก จึงไม่
มีทางที่จะจดจํากระบวนท่านั้นไม่ได้…ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนคือเจ้าโลก
จริ ง ๆ นัน่ หมายความว่าเธอกลายเป็ นคนรับใช้ของเขาใช่ไหม?
แทนที่จะเป็ นคู่หมั้น กลับกลายไปเป็ นคนรับใช้ของเขา…
ในตอนนั้น เธออยากจะควักลูกตาทิ้งเหลือเกิน!
มีหยกงดงามเจิดจ้าอยูต่ รงหน้า แต่กลับมองว่ามันไร้ค่าไม่ต่างอะไร
กับก้อนอิฐและโยนมันทิ้ง
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เฝ้ามองการดวลที่ดาํ เนินไป เขาพยักหน้าด้วยความ
ตื่นเต้นขณะประกาศผล “ตั้นเฉี่ยวเทียนคือผูช้ นะ!”
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่อีกฝ่ ายไม่ตอบตกลงเข้าร่ วมกับสํานักดาบเมฆ
เหิ นในทันที เรื่ องของเรื่ องก็คือเขาเฝ้ารอโอกาสที่จะตบหน้าเจ้าเมือง!
ตั้นเฉี่ยวเทียนต้องการทําให้อีกฝ่ ายเสี ยใจกับการกระทําอันชัว่ ร้าย
ของตัวเอง!
คนหนุ่มสมัยนี้ช่างเลือดร้อนเสี ยจริ ง…แต่กน็ นั่ แหละ ในเมื่อ
ครอบครัวของเขาล่มสลาย ใครก็ตามที่เจอเรื่ องแบบเขาก็คงต้องทํา
แบบเดียวกัน
“การที่คุณเอาชนะหัวเจียงเหอได้กห็ มายความว่าคุณผ่านการทดสอบ
ของศิษย์สายตรงฝ่ ายในได้อย่างง่ายดาย และในเมื่อคุณสําเร็ จวรยุทธ
ระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ กได้ต้ งั แต่อายุ 16 ปี โดย
ปราศจากทรัพยากรพิเศษใด ๆ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่าคุณน่าจะ
ยกระดับวรยุทธไปเป็ นนักปราชญ์โบราณได้เมื่ออายุ 17 ปี !”
ผูอ้ าวุโสลู่มองชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้าอย่างพออกพอใจกว่าเดิม เขา
ประกาศก้อง “ตัวผมในฐานะผูอ้ าวุโสคนหนึ่งของสํานักดาบเมฆ
เหิ น ขอประกาศว่าตั้นเฉี่ยวเทียนได้ผา่ นการทดสอบของศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายในแล้ว เขาได้การยอมรับให้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในคนหนึ่ง
ของสํานักดาบเมฆเหิ น และจะได้รับสิ ทธิพิเศษทั้งหมดที่ศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายในพึงได้!”
“ขอบคุณ ผูอ้ าวุโสลู่” ตั้นเฉี่ ยวเทียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะ
ทรุ ดตัวลงคุกเข่าเพื่อกล่าวขอบคุณอีกฝ่ าย
ด้วยตัวตนของเขาในเวลานี้ ต่อให้ไม่มีหลักฐานที่แน่นหนา ก็สามารถ
สังหารเฉว่เหยาและล้างแค้นให้ท่านพ่อกับท่านแม่ของเขาได้แล้ว!
เห็นสายตาเย็นเยียบของตั้นเฉี่ยวเทียนที่เชือดเฉือนมา เฉว่เหยาหน้า
ซีดด้วยความพรั่นพรึ งขณะถอยกรู ด “คะ-คุณจะทําอะไรน่ะ? คุณยัง
มีสญ
ั ญาผูกมัดการแต่งงานกับเฉว่ชิงนะ ผมคือพ่อตาของคุณ!”
“ศิษย์พี่หวั ผมขอวิงวอนให้คุณช่วยผมจัดการเขาด้วย ผมอยากล้าง
แค้นให้สมาชิกทั้ง 97 คนในตระกูลของผม!” ตั้นเฉี่ยวเทียนกัดฟัน
กรอด
ตอนที่คุณสังหารสมาชิกในครอบครัวของผม เคยคิดว่าตัวเองเป็ น
พ่อตาของผมไหม?
ตอนที่เฉว่เฉินรวมหัวกับกองโจรแล้วเกือบทําให้ผมถูกฆ่าตาย คุณ
เคยคิดว่าตัวเองเป็ นพ่อตาของผมหรื อเปล่า?
เพิง่ มานึกได้ตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยหรื อ?
หัวเจียงเหอกับคนอื่น ๆ เปิ ดการโจมตีพร้อมกันเพื่อจัดการเฉว่เหยา
ถึงเฉว่เหยาจะเป็ นนักรบที่เก่งกาจ แต่อวิน๋ เฟยหยาง หวงเทา กับ
พรรคพวกของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ แถมทุกคนยังมีศิลปะเพลงดาบ
เหนือชั้นตามแบบของศิษย์สายตรงแห่งสํานักดาบเมฆเหิ นด้วย ทุก
คนเล่นงานเฉว่เหยาได้อย่างง่ายดาย
“ผมไม่สงั หารผูบ้ ริ สุทธิ์! ในตราหยกไม่ได้มีแค่หลักฐานที่บอกชัดว่า
เฉว่เหยาวางแผนทําร้ายตระกูลตั้น ยังบอกรายละเอียดของพฤติกรรม
ชัว่ ร้ายต่าง ๆ นานาที่เขาเป็ นผูบ้ งการตลอดหลายปี ที่ผา่ นมาด้วย” ตั้น
เฉี่ยวเทียนพูด
เขานําตราหยกออกมาอีกครั้งและถ่ายทอดพลังปราณเข้าไป ในชัว่
พริ บตา ตัวอักษรยืดยาวก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ รายงานอาชญากรรม
ทั้งหมดที่เฉว่เหยาทําไว้ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา
“เขาคือผูบ้ งการปฏิบตั ิการหายนะทุ่งใบไม้ร่วงหรื อ? ผมคิดมาตลอด
ว่าเป็ นฝี มือของกองโจร…”
“เขาคือตัวการที่ปล้นฆ่าพวกตระกูลหลิวหรื อนี่? พวกนั้นเป็ นครอบครัว
ใหญ่ที่มีสมาชิกถึง 40 คนทีเดียวนะ!”
“ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเฉินถูกทํามิดีมิร้ายก่อนจะเสี ยชีวติ เขายัง
มีหน้ากล่าวหาว่าเป็ นการกระทําของพวกจิตวิปริ ตได้อย่างไร? เป็ น
ถึงเจ้าเมือง ไม่มีความรู ้ผดิ ชอบชัว่ ดีเสี ยเลย…”
“น่าเสี ยดายที่ผมมองเขาเป็ นแบบอย่างมาตลอด ผมเคารพเขา คิดว่า
เขาคือผูม้ ีเกียรติและเที่ยงธรรม ไม่นึกเลยว่าแท้ที่จริ งแล้วคือผูบ้ งการ
ที่อยูเ่ บื้องหลังความเลวทรามมากมาย…”
ตอนที่ 1948 ทุกอย่ างจบเห่
ถ้อยคําที่ปรากฏกลางอากาศทําให้ฝงู ชนส่ งเสี ยงอื้ออึงเซ็งแซ่
เฉว่เหยาให้ความสําคัญกับชื่อเสี ยงของเขามาก ยอมทําทุกอย่างเพื่อ
สร้างชื่อให้กบั ตัวเอง จนกลายเป็ นผูท้ ี่ได้รับความเคารพยกย่องอย่าง
สู งในเมืองชวนเจียง แต่เมื่อทุกการกระทําของเขาถูกเปิ ดโปง ทุกคน
ก็ถึงกับขนลุกขนชัน
ทุกสิ่ งที่พวกเขาเคยเชื่อมาตลอดกลับกลายเป็ นเรื่ องโกหก!
“คุณมีอะไรจะแก้ตวั อีก?” ตั้นเฉี่ยวเทียนชําเลืองมองเฉว่เหยา
เขาย่างสามขุมเข้าหาเฉว่เหยาที่ยอมจํานนและจ่อดาบเข้าที่อีกฝ่ าย ขอ
แค่ออกแรงอีกนิดเดียว ก็จะเชือดคอหอยของเฉว่เหยาและล้างแค้น
ให้สมาชิกในครอบครัวของเขาได้!
“ผม…” เฉว่เหยาตัวสัน่ ด้วยความพรั่นพรึ ง
แม้เขาจะได้ทาํ อะไรมากมายเพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน แต่กร็ ู ้ดีวา่ ไม่
มีทางทําลายหลักฐานทั้งหมดได้ หากฝูงชนสื บเสาะเรื่ องเหล่านี้อย่าง
ถี่ถว้ น ก็แน่นอนว่าจะต้องปะติดปะต่อเรื่ องราวต่าง ๆ ได้สาํ เร็ จ
ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนเป็ นแค่นกั รบธรรมดาสามัญ เขาก็สามารถใช้มาตรการ
ตัดตอนอีกฝ่ ายและข่มขู่ฝงู ชนให้หวาดกลัวจนต้องปิ ดปากเงียบได้
แต่เมื่อตั้นเฉี่ยวเทียนกลายเป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในของสํานักดาบ
เมฆเหิ นแล้ว ก็ไม่มีทางที่เขาจะทําอะไรได้อีก
ทุกอย่างจบเห่
“มะ-ไม่นะ! คุณจะฆ่าท่านพ่อของฉันไม่ได้!”
ขณะที่เฉว่เหยาหลับตา ถอดใจต่อชะตากรรมของตัวเอง เฉว่ชิงก็รี่
เข้ามาและกรี ดร้องอย่างบ้าคลัง่
“คุณอยากลองไหม?” ตั้นเฉี่ยวเทียนหรี่ ตาข่มขู่
“คุณฆ่าเขาไม่ได้นะ! คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอจะได้เป็ นศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายในของสํานักดาบเมฆเหิ น เพราะฉะนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ตดั สิ น
ท่านพ่อของฉัน!” เฉว่ชิงร้องออกมาอย่างเสี ยขวัญ
“คุณหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าเขามีคุณสมบัติไม่เพียงพอจะได้
เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน คุณสงสัยอํานาจของผมในฐานะผูอ้ าวุโส
คนหนึ่งของสํานักหรื อ?” ยังไม่ทนั ที่ต้ นั เฉี่ ยวเทียนจะได้ตอบโต้ ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ ขัดด้วยสี หน้าเคร่ งเครี ยด
เขาคือผูต้ ดั สิ นผลแพ้ชนะของการดวลต่อหน้าฝูงชนมากมาย เห็นกัน
ชัด ๆ ว่าหัวเจียงเหอก็ใช้พละกําลังสู งสุ ดแล้ว เฉว่ชิงไม่มีสิทธิ์ต้ งั ข้อ
สงสัยในการตัดสิ นของเขา!
“มะ-ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น!” รู ้ดีวา่ ตัวเองพูดผิดไป
เฉว่ชิงรี บยกมือขึ้นแล้วตอบอย่างร้อนรน “ผูอ้ าวุโสลู่ เมื่อครู่ น้ ีคุณพูด
ว่ามีเงื่อนไข 2 ข้อสําหรับการที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนจะได้เป็ นศิษย์สายตรง
ฝ่ ายใน…การทดสอบเมื่อครู่ น้ ีเป็ นกลางและชอบธรรมแล้ว ฉันไม่
กล้าตั้งคําถามอะไร แต่ฉนั ไม่ยอมรับเงื่อนไขข้อแรกที่บอกว่าตั้น
เฉี่ยวเทียนจะต้องได้เป็ นนักปราชญ์โบราณก่อนอายุครบ 17 ปี !”
“อ้อ?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ มองหน้าเฉว่ชิง รอคําอธิบาย
“ฉันหมั้นหมายกับตั้นเฉี่ยวเทียน จึงรู ้วนั เกิดของเขา วันเกิดของเขา
คือชัว่ โมงเสิ่ นของวันนี้ นัน่ หมายความว่าเขาจะอายุครบ 17 ปี เมื่อ
ชัว่ โมงเสิ่ นผ่านไป!” เฉว่ชิงพูดพร้อมกับกําหมัดแน่น
“อีกชัว่ โมงเดียวเท่านั้นก็จะถึงชัว่ โมงเสิ่ น แต่ตอนนี้เขาเป็ นแค่นกั รบ
ระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ ก แล้วจะได้เป็ นนักปราชญ์
โบราณก่อนอายุ 17 ปี ได้อย่างไร ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ฉันจึงเชื่อว่า
เขามีคุณสมบัติไม่เพียงพอจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในของสํานัก
ดาบเมฆเหิ น!”
“เอ่อ…” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ชะงัก
เขาหันไปมองตั้นเฉี่ยวเทียน เห็นอีกฝ่ ายหน้าแดงกํ่า
“วันเกิดของผมคือชัว่ โมงเสิ่ นของวันนี้จริ ง ๆ …” ตั้นเฉี่ ยวเทียนพูด
อย่างกระอักกระอ่วน
เขาตั้งใจจะบอกตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่ถูกผูอ้ าวุโสลู่ขดั เสี ยก่อน
ดังนั้นจึงได้แต่เดินหน้าต่อไปเพื่อจะได้ลา้ งแค้น อย่างมากที่สุดเขาก็
แค่ตอ้ งฝึ กฝนอย่างหนักเพื่อทํามันให้สาํ เร็ จต่อไป ไม่คิดว่าเฉว่ชิงจะ
จําวันเกิดของเขาได้
เห็นตั้นเฉี่ ยวเทียนยอมรับ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ มองดวงอาทิตย์ที่ขอบฟ้า
และรู ้ได้วา่ มันใกล้จะตกเต็มที ตอนนี้กล็ ่วงเข้าบ่ายคล้อย ซึ่ งหมาย
ความว่าอีกเพียงไม่ถึง 2 ชัว่ โมงก็จะถึงวันครบรอบอายุ 17 ปี ของตั้น
เฉี่ยวเทียน
ยกระดับวรยุทธจากนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 โลกจารึ กไปเป็ น
นักปราชญ์โบราณภายในระยะเวลาเพียงเท่านี้…
ในทางปฏิบตั ิยอ่ มเป็ นไปไม่ได้!
ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนไม่สามารถยกระดับวรยุทธเป็ นนักปราชญ์โบราณ
ได้ภายในวันคล้ายวันเกิดครบ 17 ปี ของเขา ก็จะไม่ผา่ นเงื่อนไขของ
การเป็ นศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น
ซึ่งนัน่ ก็หมายความว่าเขาไม่มีสิทธิ์พพิ ากษาเฉว่เหยา!
การล้างแค้นของเขาจะล้มเหลว
“ดูเหมือนนี่จะเป็ นลิขิตสวรรค์…” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ส่ ายหน้าและถอน
หายใจ
เขาคิดว่าในที่สุดตัวเขาก็ได้พบศิษย์สายตรงฝ่ ายในคนหนึ่งและได้
สร้างความดีความชอบใหญ่หลวงต่อสํานัก ใครจะไปรู ้วา่ จะเกิดเหตุ
สะดุดครั้งใหญ่แบบนี้
“แต่คุณไม่ตอ้ งกังวลนะ ต่อให้คุณไม่ได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน ก็ยงั
มีทางเลือกอื่น ขอแค่คุณหมัน่ เพียรฝึ กฝนวรยุทธจนได้เป็ นนักปราชญ์
โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติก่อนอายุ 30 ปี ก็ยงั มีโอกาสจะได้เป็ น
ศิษย์สายตรงฝ่ ายใน”
มีหลายวิธีที่นกั รบผูห้ นึ่งจะได้การยอมรับให้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
เพราะถึงอย่างไรก็มีนกั รบบางส่ วนที่เพิง่ สําแดงศักยภาพอันน่าสะพรึ ง
ออกมาได้เมื่ออายุล่วงเลยไประดับหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่ใช่แบบนี้ หัวเจียง
เหอกับคนอื่น ๆ ก็ยอ่ มไม่มีโอกาส
แต่ถา้ ตั้นเฉี่ยวเทียนเลือกเดินตามเส้นทางนั้น ก็ไม่อาจดําเนินการล้าง
แค้นได้
แน่นอนว่าในฐานะผูอ้ าวุโสคนหนึ่งของสํานักดาบเมฆเหิ น เขา
สามารถรายงานเรื่ องนี้ข้ ึนสู่ เบื้องบนได้ แต่กว่าทีมสื บสวนจะถูกส่ ง
มา เวลาก็จะล่วงเลยไประยะหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเฉว่เหยาก็น่าจะเผ่นหนี
ไปแล้ว
“ผมเข้าใจ…” ตั้นเฉี่ยวเทียนกําหมัดแน่น นัยน์ตาแดงกํ่าด้วยความ
เสี ยใจ
ลงท้าย เขาก็ไม่อาจล้างแค้นให้สมาชิกในครอบครัวของเขาได้ ทุก
อย่างจะต้องจบลงเท่านี้หรื อ?
ในตอนนั้นเอง เสี ยงสุ ขมุ เยือกเย็นเสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้น
“ยังเหลือเวลาอีก 1 ชัว่ โมง คุณจะยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้หรื อไง?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนรี บเงยหน้า เห็นท่านอาจารย์ของเขาซึ่งดูเหมือนจะนิ่ง
ุ แจมืออยูท่ ี่ขอ้ มือของเขา แต่ใบหน้า
เฉยมาตลอดลุกขึ้นยืน ยังมีกญ
นั้นเผยรอยยิม้ ที่บ่งบอกความสุ ขมุ และมัน่ ใจเต็มเปี่ ยม
“ท่านอา…”
ตั้นเฉี่ยวเทียนตื่นเต้นสุ ดขีด เขากําลังจะร้องเรี ยก ‘ท่านอาจารย์’ ก็
พอดีกบั ที่เห็นอีกฝ่ ายส่ ายหน้า จึงรี บยั้งปากไว้
ก่อนหน้านี้ ท่านอาจารย์เคยบอกเขาว่าต้องการเก็บเนื้อเก็บตัวและไม่
อยากทําอะไรโดดเด่น ดังนั้น แม้เขาจะเรี ยกท่านอาจารย์ได้ตามปกติ
ในสถานที่ที่มีความเป็ นส่ วนตัว แต่หากมีคนนอกอยู่ ก็ควรจะเรี ยก
ขานอีกฝ่ ายเป็ นมิตรสหาย
เพราะทั้งคู่อายุต่างกันไม่มาก จึงไม่น่าจะมีใครสงสัย
“คารวะผูอ้ าวุโสลู่ ผมชื่อจางเซวียน สหายของตั้นเฉี่ยวเทียน” จาง
เซวียนพูดขณะก้าวออกไป
ในตอนนั้นเองที่หวั เจียงเหอได้เห็นหน้าของจางเซวียนชัด ๆ สี หน้า
ของเขาดูจะเปลี่ยนไปทันที
ทั้งคู่เคยปะทะคารมกันที่ตลาดหงเหยียน แต่ตอนนั้นอีกฝ่ ายมี
ผ้าพันแผลพันไว้ท้ งั ตัว เขาจึงจําไม่ได้เมื่อแรกเห็น แต่พอเข้ามาใกล้
และได้ยนิ เสี ยง ก็แน่ใจว่าหมอนี่คือชายที่หยามหน้าเขาเมื่อครั้งอยูท่ ี่
ตลาดหงเหยียน
“คุณถามตั้นเฉี่ยวเทียนว่าจะยอมแพ้หรื อไม่ แล้วคุณคิดว่ามันเป็ นไป
ได้หรื อไงที่เขาจะกลายเป็ นนักปราชญ์โบราณได้ภายในเวลาชัว่ โมง
เดียว?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ตั้งคําถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ใช่” จางเซวียนตอบพร้อมกับพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ผมได้รับบาดเจ็บ
เขาคือคนที่ช่วยชีวติ ผมไว้ ผมจึงรู ้พละกําลังที่แท้จริ งของเขา อันที่
จริ งเขาสําเร็ จวรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณมานานแล้ว แต่เพราะใช้
พละกําลังมากเกินไปตอนที่พยายามเยียวยาผม วรยุทธของเขาจึงตก
ฮวบลงมาเป็ นนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3 ขอแค่เขาได้รับการเยียวยาที่
ถูกวิธี ผมก็เชื่อว่าการที่เขาจะกลับคืนสู่ วรยุทธขั้นเดิมได้ภายในเวลา
1 ชัว่ โมงก็ไม่ใช่เรื่ องยากเกินไป!”
“ที่แท้ต้ นั เฉี่ยวเทียนเป็ นนักปราชญ์โบราณหรื อ?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ งง
งัน เขาหันกลับไปมองตั้นเฉี่ ยวเทียนอีกครั้ง
คุณแน่ใจหรื อว่านักปราชญ์โบราณควรมีลกั ษณะแบบนี้? ต่อให้อยาก
โกหก ก็ควรพูดอะไรที่น่าเชื่อถือกว่านี้หน่อย คิดว่าพูดจาเหลวไหล
เลอะเทอะแบบนี้มนั ดีแล้วหรื อไง?
ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ไม่รู้เหนือรู ้ใต้กบั สิ่ งที่จางเซวียนพูด
เมื่อวานนี้เขายังเป็ นแค่นกั รบระดับเซี ยนขั้น 6 และคิดว่าการที่ยก
ระดับวรยุทธมาเป็ นนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3 ได้เมื่อหนอนกูใ้ นร่ าง
ของเขาถูกกําจัดออกไปก็ถือว่าน่าทึ่งแล้ว แต่ท่านอาจารย์กลับพูดว่า
แท้ที่จริ งเขาคือนักปราชญ์โบราณ?
ผมเป็ นนักปราชญ์โบราณตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ทําไมไม่เห็นรู ้เรื่ องนั้นเลย?
“ขอเวลาผม 1 ชัว่ โมง อย่าให้ใครมาขัดจังหวะ ผมรับประกันว่าผม
จะทําให้เขากลับคืนสู่ วรยุทธสู งสุ ดดังเดิมให้ได้!” จางเซวียนยืนกราน
แม้จะมีสายตาข้องใจสงสัยจับจ้องเขาอยูห่ ลายคู่
เขารู ้ดีวา่ เรื่ องนี้ฟังดูเหลวไหล โดยเฉพาะเมื่อแทบทุกคนที่นี่รู้ดีวา่ ตั้น
เฉี่ยวเทียนเป็ นแค่นกั รบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3 ซึ่ งหากเขา
ยืนยันออกไปว่าจะยกระดับวรยุทธของตั้นเฉี่ยวเทียนให้ได้ถึง 2 ขั้น
ภายใน 1 ชัว่ โมง ก็จะยิง่ ทําให้ทุกอย่างไม่น่าเชื่อถือ
แถมเรื่ องนี้จะยิง่ เลวร้ายกว่าเดิมอีกหากเขาทําสําเร็ จ เพราะความสําเร็ จ
นี้จะทําให้ทุกคนพากันหันมาสนใจ อาจมีบางส่ วนพยายามทําร้ายเขา
และตั้นเฉี่ยวเทียนเพื่อเค้นให้คายความลับ
ดังนั้น หลังจากใคร่ ครวญแล้ว จางเซวียนจึงตัดสิ นใจแต่งเรื่ องว่าแท้
ที่จริ งแล้วตั้นเฉี่ยวเทียนเป็ นนักปราชญ์โบราณ
เพราะถึงอย่างไร การที่คนคนหนึ่งจะฟื้ นคืนพละกําลังได้ดงั เดิมก็
ไม่ได้น่าตกตะลึงเท่าไหร่
เฮ้อออ ไอ้การเก็บเนื้อเก็บตัวนี่มนั ยากเย็นจริ ง ๆ แต่จะให้เราทํา
อย่างไร? เรา, จางเซวียน คือคนชนิดที่ชอบช่วยเหลือใคร ๆ จากใน
เงามืด ไม่เคยคาดหวังอะไรตอบแทน!
“ไม่มีปัญหา” ถึงผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ จะรู ้สึกว่าเรื่ องนี้ไม่มีหวัง แต่ก็
ตัดสิ นใจจะทําตามความต้องการของอีกฝ่ ายในเมื่อเขาดูมนั่ อกมัน่ ใจ
ขนาดนั้น เขาหันไปพูดกับหัวเจียงเหอ “พาพวกเขาไปหาที่เงียบ ๆ
ระหว่างนี้ผมจะทําการทดสอบผูส้ มัครคนอื่น ๆ ไปก่อน!”
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสลู่” หัวเจียงเหอตอบก่อนจะพาจางเซวียนกับตั้น
เฉี่ยวเทียนออกไป
เขาพักอยูใ่ นคฤหาสน์ของเจ้าเมืองแสงดาวมาหลายวันแล้ว จึงคุน้ เคย
กับบริ เวณนี้ดี บ้านพักที่เขาพํานักอยูอ่ ยูใ่ นพื้นที่ค่อนข้างเงียบ แทบ
ไม่มีใครเดินผ่าน เป็ นสถานที่ที่เหมาะสมสําหรับจางเซวียน กับตั้น
เฉี่ยวเทียน
เมื่อเข้าสู่หอ้ งของหัวเทียนเหอ จางเซวียนยํ้าอีกครั้งว่าจะต้องไม่มีใคร
มารบกวนพวกเขา ก่อนจะส่งหัวเทียนเหอกลับไปแล้วปิ ดประตู ทันที
ที่ประตูปิดลง ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ทรุ ดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าท่านอาจารย์
ของเขาและทักท้วง “แต่ท่านอาจารย์, ผมไม่ได้เป็ นนักปราชญ์
โบราณ…”
“คุณจะบอกว่าเมื่อครู่ น้ ีผมโกหกหรื อ?” จางเซวียนย้อนถาม
“คือ…” ตั้นเฉี่ยวเทียนหน้าแดงกํ่า
ถือเป็ นความกระด้างกระเดื่องอย่างรุ นแรงสําหรับศิษย์สายตรงคน
หนึ่งที่จะกล่าวหาว่าอาจารย์ของเขากําลังโกหก แม้จะค่อนข้าง
ชัดเจนว่าท่านอาจารย์กาํ ลังโกหกจริ ง ๆ !
ตอนที่ 1949 ไม่วา่ จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!
“คุณยังไม่ได้เป็ นนักปราชญ์โบราณ แต่กไ็ ม่ได้หมายความว่าในอีก 1
ชัว่ โมงนับจากนี้จะเป็ นไม่ได้!” จางเซวียนพูดพร้อมกับยิม้ อย่างมัน่ ใจ
“ท่านอาจารย์เชื่อว่าผมจะยกระดับวรยุทธได้ถึง 2 ขั้นภายใน 1 ชัว่ โมง?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนยังออกจะลังเล
ไม่ใช่เขาไม่เชื่อมัน่ ในความสามารถของท่านอาจารย์ แต่เขาไม่เชื่อมัน่
ในตัวเอง
ถ้าการยกระดับวรยุทธมันง่ายอย่างนั้น ป่ านนี้ทวีปที่ถูกลืมก็คงมี
นักปราชญ์โบราณอยูค่ ลาคลํ่า
“เงียบเถอะ นับจากนี้ไปคุณจะต้องทําตามคําสัง่ ของผมอย่างเคร่ งครัด
อย่าลังเลหรื อขัดขืนเป็ นอันขาด ทําตามที่ผมบอกก็พอ เข้าใจไหม?”
จางเซวียนพูด
“ขอรับ ท่านอาจารย์” ตั้นเฉี่ ยวเทียนตอบพร้อมกับพยักหน้า
นับตั้งแต่วนิ าทีที่จางเซวียนปลดปล่อยเขาจากการครอบงําของหนอนกู้
เขาก็ตดั สิ นใจแล้วว่าจะไม่มีวนั ฝ่ าฝื นคําสัง่ ของท่านอาจารย์เด็ดขาด
จางเซวียนมองตั้นเฉี่ยวเทียนตั้งแต่หวั จรดเท้าก่อนจะเริ่ มสาธยาย
“คุณเริ่ มสะสมพลังจิตวิญญาณไว้ต้ งั แต่เมื่อ 10 ปี ก่อน แต่ยงั ไม่ได้ขดั
เกลาพลังนั้นให้กลายเป็ นพลังปราณ…พลังจิตวิญญาณที่ยงั ไม่ได้รับ
การขัดเกลาถูกสัง่ สมไว้ในร่ างกายของคุณมาตลอด ทําให้ท้ งั ร่ างกาย
และทางเดินพลังปราณของคุณแข็งแกร่ งกว่านักรบคนอื่น ๆ ขอแค่
เราปรับเปลี่ยนโครงข่ายทางเดินพลังปราณของคุณสักเล็กน้อย การ
จะฝ่ าด่านวรยุทธก็ไม่ใช่เรื่ องยาก!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนสับสน “ปรับเปลี่ยน…โครงข่ายทางเดินพลังปราณ
ของผม?”
คนเราทําอะไรแบบนี้ได้ดว้ ยหรื อไง?
มันควรจะถูกกําหนดมาตั้งแต่เกิดไหม? ทางเดินพลังปราณของมนุษย์
คนหนึ่งละเอียดอ่อนมากไม่ใช่หรื อ?
สิ่ งที่เรี ยกกันว่า ‘วรยุทธถูกธาตุไฟเข้าแทรก’ นั้นคือผลลัพธ์ของการ
ที่พลังปราณของนักรบผูห้ นึ่งเดินเข้าสู่ ทางเดินพลังปราณผิดเส้นด้วย
เหตุผลอะไรสักอย่าง ทําให้เกิดแรงตีกลับอย่างรุ นแรงจากร่ างกาย
ถ้าแม้แต่การขับเคลื่อนพลังปราณผิดทางยังก่อให้เกิดผลร้ายแรงขนาด
นั้นได้ แล้วการปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณจะส่ งผลอย่างไร?
“ใช่ มันคือกระบวนการที่ผมคิดค้นขึ้นมา แต่ผมยังไม่ได้ทดสอบมัน
เลย คุณอยากลองไหม? ถ้าคุณทําสําเร็ จ มันก็จะเป็ นบันไดที่พาคุณ
ลัดตรงขึ้นสู่ จุดสู งสุ ดได้ คุณจะกลายเป็ นนักปราชญ์โบราณผูท้ รง
เกียรติของโลกใบนี้ แต่ถา้ ล้มเหลว คุณก็จะพิการและไม่อาจฝึ กฝน
วรยุทธได้อีก!” จางเซวียนพูดอย่างเคร่ งขรึ ม
“….” ตั้นเฉี่ยวเทียนรู ้สึกเหมือนนํ้าตาจะร่ วง
ท่านอาจารย์พดู มายืดยาว แต่ลงท้ายแผนการของเขาก็เป็ นแค่ทฤษฎี
ยังไม่ได้ถูกทดลองปฏิบตั ิเลย
จะใช้สิ่งที่ยงั ไม่ได้ผา่ นการทดสอบกับตัวผม…
ท่านอาจารย์ช่างอาจหาญนัก! แต่สิ่งที่ผมไม่แน่ใจก็คือผมจะคู่ควร
กับความอาจหาญของคุณหรื อเปล่า…
ขณะที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนกําลังคิดว่าถึงอย่างไร ท่านอาจารย์ที่ดูไม่ค่อยน่า
ไว้วางใจของเขาคนนี้กท็ าํ ตัวเป็ นที่พ่ งึ ของเขามาตลอด จึงลังเลไม่
นานก่อนจะตอบตกลง “ท่านอาจารย์ ชีวติ ของผมเป็ นของคุณ เพราะ
ถ้าไม่ใช่คุณ ป่ านนี้ผมก็คงตายไปนานแล้ว ผมเต็มใจจะฝากชีวิตของ
ผมไว้ในมือของคุณอีกครั้ง!”
“ดี มาลงมือทําให้เสร็ จ ๆ ไป!” จางเซวียนพยักหน้าอย่างพอใจ
และเรื่ องจริ งก็คือ…จางเซวียนไม่ได้โกหก เขาเพิง่ คิดค้นกรรมวิธีน้ ี
ได้เมื่อครู่ ก่อน
เขามัน่ ใจว่าจะสามารถทําให้นกั รบคนหนึ่งยกระดับวรยุทธไปเป็ น
นักปราชญ์โบราณได้ภายในเวลา 2-3 วันด้วยทรัพยากรชั้นดีและคํา
ชี้แนะของเขา แต่การยกระดับวรยุทธถึง 2 ขั้นภายใน 1 ชัว่ โมง…
เว้นเสี ยแต่อีกฝ่ ายจะฝึ กฝนเคล็ดวิชาเทียบฟ้าเหมือนตัวเขา!
แต่กแ็ น่นอนว่าในโลกนี้ นอกจากจางเซวียนแล้ว ไม่มีใครสามารถ
ฝึ กฝนเคล็ดวิชาเทียบฟ้าได้ หากตั้นเฉี่ยวเทียนทําอย่างนั้น ก็คงลงเอย
ด้วยความตายจากการถูกสวรรค์ลงโทษ
ดังนั้นจางเซวียนจึงต้องหาทางเลือกอื่น
จากการตรวจสอบอย่างถี่ถว้ นของเขา เขาพบว่าทางเดินพลังปราณของ
ผูท้ ี่อยูใ่ นมิติเบื้องบนมีคุณภาพดีกว่าทางเดินพลังปราณของเผ่าพันธุ์
ปี ศาจจากโลกอื่นเสี ยอีก แต่ยงั ไม่ถึงขั้นที่เรี ยกว่าสมบูรณ์แบบ
ทางเดินพลังปราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์มีขอ้ บกพร่ องมากมาย และนัน่
คือเหตุผลที่ทาํ ให้แม้จะกลายเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว พวกเขาก็ยงั คงเป็ นมนุษย์
ธรรมดาสามัญ ส่ วนพวกร้อยสํานักแห่งนักปราชญ์น้ นั มีขอ้ บกพร่ อง
น้อยกว่า จึงสามารถสําเร็ จวรยุทธขั้นจงซรื อได้เมื่ออายุมากพอ แต่
สําหรับประชากรในมิติเบื้องบน ทางเดินพลังปราณของพวกเขามี
ข้อบกพร่ องไม่กี่ขอ้ จึงสําเร็ จวรยุทธระดับเซียนขั้น 9 ได้เมื่อเป็ น
ผูใ้ หญ่
เห็นได้ชดั ว่าความสมบูรณ์แบบของโครงข่ายพลังปราณนั้นทําให้มี
ข้อได้เปรี ยบมากมาย ผูน้ ้ นั จะเริ่ มต้นด้วยวรยุทธที่สูงส่ งกว่าคนอื่น
อีกทั้งยกระดับวรยุทธได้เร็ วกว่าเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ด้วย
ก่อนหน้านี้ เจิ้งหยางกับศิษย์สายตรงคนอื่น ๆ ของเขาก็สาํ เร็ จวรยุทธ
ขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติได้อย่างรวดเร็ วเพราะการปรับเปลี่ยนโครงข่าย
ทางเดินพลังปราณเช่นกัน
แต่แน่นอนว่าที่มิติเบื้องบนแห่งนี้มีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายข้อ เขาจึงไม่
อาจแน่ใจได้วา่ จะใช้ได้ผลแบบเดียวกันกับตั้นเฉี่ยวเทียน ไม่ใช่วา่
จางเซวียนไม่มนั่ ใจในทฤษฎีของตัวเอง แต่เพราะมันมีความเป็ นไป
ได้อยูน่ อ้ ย…น้อยมากที่อะไร ๆ อาจไม่เป็ นไปตามที่เขาต้องการ จึง
รู ้สึกว่าควรบอกตั้นเฉี่ยวเทียนให้รู้ล่วงหน้า
จางเซวียนสะบัดข้อมือ แล้วหม้อใบใหญ่กบั ฟื นกองหนึ่งก็ปรากฏ
ขึ้นในห้องนั้น ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งรู ้ตวั ว่าลืมเก็บนํ้าไว้ในแหวน
เก็บสมบัติ จึงรี บออกจากห้องไปเพื่อหานํ้ามาถังหนึ่ง ไม่ชา้ นํ้านั้นก็
เดือดปุด ๆ อยูใ่ นหม้อที่มีฟืนลุกโพลงอยูข่ า้ งใต้
“เอาล่ะ ออกมาอาบนํ้าเถอะ…”
จางเซวียนส่ งโทรจิตเข้าสู่ จุดตันเถียนของเขา ไม่ชา้ นํ้าเต้าตงฉู่ก็
ปรากฏตรงหน้า มันดําดิ่งลงไปในหม้อแล้วระบายลมหายใจยาว
อย่างมีความสุ ข
แม้พลังปราณเทียบฟ้าของจางเซวียนจะเยียวยาอาการบาดเจ็บต่าง ๆ
ได้อย่างรวดเร็ ว แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่ามันจะดีพอสําหรับการเยียวยา
ความบอบชํ้าครั้งใหญ่ของทางเดินพลังปราณให้สาํ เร็ จได้ภายใน 1
ชัว่ โมง
อีกอย่าง บางทีสภาวะร่ างกายของผูท้ ี่อยูใ่ นมิติเบื้องบนกับทวีปแห่ง
ปรมาจารย์อาจแตกต่างกัน โดยผูท้ ี่อยูใ่ นมิติเบื้องบนจะมีความคุน้
ชินกับพลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือนปรอทที่อยูใ่ นสภาพแวดล้อม
มากกว่า แต่ดว้ ยเหตุผลอะไรบางอย่าง พลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือน
ปรอทดูจะมีอานุภาพน้อยกว่าในการเยียวยาความบอบชํ้าต่าง ๆ
ไม่อย่างนั้น บรรดานักปราชญ์โบราณของมิติเบื้องบนก็คงเป็ นคู่ต่อสู ้
ที่รับมือด้วยได้ยากหากพวกเขาเยียวยาตัวเองได้อย่างรวดเร็ วใน
ระหว่างการต่อสู ้
ดังนั้น จางเซวียนจึงคิดว่าควรนํานํ้าเต้าตงฉู่มาใช้
นํ้าที่ได้จากการต้มนํ้าเต้าตงฉู่ใช้ได้ผลแม้แต่กบั นักรบขั้นผูท้ าํ ลายล้าง
มิติอย่างตัวเขา จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับนักรบระดับนักปราชญ์ผู ้
ยิง่ ใหญ่อย่างตั้นเฉี่ ยวเทียน
ขณะที่จางเซวียนกําลังต้มนํ้า ก็หนั ไปบอกตั้นเฉี่ยวเทียนอย่างเคร่ ง
ขรึ ม “คุณต้องอดทนกับความเจ็บปวดนะ”
“ขอรับ” ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้า
เขาทําตามคําสัง่ ของจางเซวียน โดยทรุ ดตัวลงนัง่ กับพื้นและไม่
เคลื่อนไหว
จางเซวียนเดินเข้าหาตั้นเฉี่ยวเทียนและทาบฝ่ ามือลงบนท้องน้อย
ของชายหนุ่ม เขาถ่ายทอดพลังปราณเข้าไปในร่ างของอีกฝ่ ายแล้วทํา
ให้มนั สัน่ สะท้านอย่างรุ นแรง
พลัก่ !
ตั้นเฉี่ยวเทียนกระอักเลือดออกมากองใหญ่
ในชัว่ พริ บตา ทางเดินพลังปราณทั้งหมดของเขาก็ถูกท่านอาจารย์
ทําลาย
ความเจ็บปวดแสนสาหัสทําให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนหน้ามืด เขาเกือบสลบ
ไป
ถ้าเป็ นเด็กวัยรุ่ นอายุ 16 ปี คนอื่น ๆ คงสลบไปนานแล้ว แต่ดว้ ยความ
เหนื่อยยากและความท้าทายต่าง ๆ นานาที่เขาต้องเผชิญตั้งแต่อายุ 6
ปี เจตจํานงและความตั้งใจมุ่งมัน่ ของเขาจึงแข็งแกร่ งราวกับเหล็ก
ตั้นเฉี่ยวเทียนกัดฟัน รักษาสติสมั ปชัญญะเสี้ ยวหนึ่งที่เหลือไว้ได้
“จําไว้นะ ห้ามสลบโดยเด็ดขาด ไม่วา่ จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” จาง
เซวียนยํ้าอีกครั้ง
เขาตั้งต้นขับเคลื่อนพลังปราณเทียบฟ้าเข้าสู่ ร่างของตั้นเฉี่ยวเทียน
เพื่อเชื่อมต่อทางเดินพลังปราณของอีกฝ่ ายเข้าด้วยกันให้อยูใ่ นรู ป
ของโครงข่ายพลังปราณที่สมบูรณ์แบบขึ้น
พลังปราณเทียบฟ้าที่ก่อตัวขึ้นจากพลังจิตวิญญาณหน้าตาเหมือน
ปรอทมีความบริ สุทธิ์และเข้มข้นกว่าแต่ก่อน ขณะที่มนั เข้าโอบล้อม
ทางเดินพลังปราณที่แหลกสลายของตั้นเฉี่ ยวเทียน มันก็ทาํ การ
ซ่อมแซมทุกอย่างให้อยูใ่ นรู ปของโครงข่ายพลังปราณที่สมบูรณ์แบบ
กว่าเดิม
“ได้ผล! เราเชื่อมต่อทางเดินพลังปราณของเขาได้ แต่ดูเหมือนความ
เร็ วของพลังปราณเทียบฟ้าในการเยียวยาบาดแผลของเขาจะยังไม่ดี
พอ…” จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อภารกิจของเขาลุล่วง
พลังปราณเทียบฟ้าสามารถเยียวยาอาการบาดเจ็บได้ท้ งั ภายในและ
ภายนอก แต่มนั จะมีอานุภาพลดลงหากต้องเยียวยาผูท้ ี่มีพ้นื ฐานของ
สภาวะร่ างกายไม่มนั่ คง การแหลกสลายของทางเดินพลังปราณถือ
เป็ นอาการบอบชํ้าขนานใหญ่ที่แม้แต่พลังปราณเทียบฟ้าก็ทาํ อะไร
ไม่ได้มาก
หากไม่ได้พกั ฟื้ นอย่างน้อยครึ่ งเดือน ตั้นเฉี่ ยวเทียนก็ไม่อาจฟื้ นคืน
พละกําลังได้ดงั เดิม แต่แน่นอนว่าทําได้เท่านี้กถ็ ือว่าน่าทึ่งมากแล้ว
เหลือเวลาอีกเพียงชัว่ โมงเดียวเท่านั้นก่อนที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนจะอายุ
ครบ 17 ปี เวลาจึงไม่คอยท่า
จางเซวียนจ่อนํ้าที่ได้จากการอาบนํ้าของนํ้าเต้าตงฉู่เข้าที่ริมฝี ปาก
ของตั้นเฉี่ยวเทียนและสัง่ การ “ดื่มมันลงไป…”
ตั้นเฉี่ยวเทียยกนดฟันข่มความเจ็บปวดไว้ เขาพยายามกลํ้ากลืนนํ้า
นั้น
เป็ นอย่างที่จางเซวียนบอก ร่ างกายของเขาได้รับการบ่มเพาะจนแทบ
ไม่มีอะไรแตกต่างจากนักปราชญ์โบราณแล้ว ดังนั้น แม้การดื่มนํ้า
ลงไปจะทําให้ร่างกายที่เปราะบางของเขาได้รับความเจ็บปวดมาก
แต่กไ็ ม่เกิดอันตรายใด ๆ
ฟู่ !
ขณะที่น้ าํ ซึมซับเข้าสู่ ร่างของเขา อาการบาดเจ็บก็ได้รับการเยียวยา
จนดีข้ ึนอย่างเห็นได้ชดั เพียงไม่ถึง 1 นาที ร่ างกายของเขาก็กลับคืน
สู่ สภาพปกติ
“เฮ้ย…” ตั้นเฉี่ยวเทียนตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาแทบไม่เชื่อว่านํ้าที่ได้จากการต้มนํ้าเต้าตงฉู่จะไร้เทียมทานขนาดนี้
เห็นตั้นเฉี่ยวเทียนยังมัวจังงังทั้งที่เวลาก็กระชั้นเข้ามาเต็มที จางเซวียน
ตบศีรษะของอีกฝ่ ายและตําหนิ “รี บซึมซับพลังจิตวิญญาณและฝ่ าด่าน
วรยุทธเร็ ว ๆ เข้า!”
“ขะ-ขอรับ!” ตั้นเฉี่ ยวเทียนรี บหันไปเพ่งสมาธิให้กบั การฝึ กฝนวรยุทธ
แม้เมื่อครู่ น้ ีทางเดินพลังปราณของเขาจะเพิ่งแหลกสลาย แต่กไ็ ม่ได้
กระทบกับการฝึ กฝนวรยุทธ เพราะพลังปราณทั้งหมดของเขาถูกเก็บ
ไว้ในจุดตันเถียน ด้วยเหตุน้ ี ตั้นเฉี่ยวเทียนจึงเรี ยกคืนวรยุทธระดับ
นักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 3 โลกจารึ กกลับมาได้ทนั ทีที่ทางเดินพลัง
ปราณของเขาได้รับการเยียวยา
เมื่อตั้งต้นฝึ กฝนวรยุทธ ก็พบว่าด่านคอขวดที่เคยสกัดกั้นเขาไว้ได้
หายไปแล้ว ทําให้พร้อมจะฝ่ าด่านวรยุทธได้ทุกเมื่อ
“จัดการ!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนขับเคลื่อนพลังปราณและทําลายด่านคอขวดโดยไม่
ลังเล วรยุทธที่ถูกสกัดกั้นไว้ได้รับการปลดปล่อย เขาฝ่ าด่านวรยุทธ
ไปเป็ นนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 4 ชัว่ กัลปาวสานได้
สําเร็ จ
ตอนที่ 1950 จดหมายหย่ า
แต่การฝ่ าด่านวรยุทธไม่ได้หยุดแค่น้ นั
ชัว่ กัลปาวสาน ขั้นต้น
ขั้นกลาง
ขั้นสู ง
ขั้นสู งสุ ด
โลกจารึ ก
ภายในไม่ถึง 1 ชัว่ โมง ตั้นเฉี่ยวเทียนก็เหยียบย่างเข้าสู่ วรยุทธขั้น
นักปราชญ์โบราณ พร้อมจะฝ่ าด่านวรยุทธได้ทุกเมื่อ
แต่ในตอนนั้นเองที่จางเซวียนรู ้สึกได้วา่ พลังงานภายในร่ างของตั้น
เฉี่ยวเทียนค่อย ๆ ลดตํ่าลง เหมือนกระแสนํ้าที่กาํ ลังไหลเอื่อย อีก
เพียงก้าวเดียวเท่านั้น แต่ต้ นั เฉี่ยวเทียนก็เกือบจะไม่ไหวแล้ว
“ดูเหมือนเราจะประเมินความยากของเรื่ องนี้ต่าํ ไป ถึงอย่างไรการฝ่ า
ด่านวรยุทธไปสู่ การเป็ นนักปราชญ์โบราณก็เป็ นการก้าวกระโดด
ครั้งใหญ่ แม้แต่ในมิติเบื้องบนก็ยงั ไม่ใช่งานง่าย…” จางเซวียนคิด
ขณะเริ่ มรู ้สึกเครี ยดขึ้นมา
การฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักปราชญ์โบราณต้องอาศัยนิรันดร์กาล
ของนักปราชญ์โบราณ ซึ่งพลังงานนี้มีอยูท่ ุกหนทุกแห่งในมิติเบื้อง
บน จึงไม่ใช่เรื่ องใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้น การฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ น
นักปราชญ์โบราณก็มีอะไรมากกว่าเพียงแค่ปริ มาณพลังงานที่เหมาะ
สม เหมือนกับการฝ่ าด่านวรยุทธไปสู่ ข้ นั จงซรื อของเขาในสมัยก่อน
ที่ตอ้ งอาศัยการสัง่ สมพลังงานให้ได้มากพอด้วย
ทั้งความปราดเปรื่ องและสภาวะจิตของตั้นเฉี่ ยวเทียนถือว่าน่าพอใจ
แต่ยงั ขาดการสัง่ สมพลังงาน
หากมีเวลาสัก 1 เดือน ตั้นเฉี่ยวเทียนคงฝ่ าด่านวรยุทธเป็ นนักปราชญ์
โบราณได้สบายโดยไม่ตอ้ งอาศัยของลํ้าค่าหรื อกระบวนการพิเศษ
ใด ๆ แต่อายุเป็ นสิ่ งที่รอคอยกันไม่ได้ ตั้นเฉี่ยวเทียนใกล้จะมีอายุ
ครบ 17 ปี แล้ว ซึ่ งหากถึงเวลานั้นเมื่อไหร่ ทุกความหวังก็จะพังทลาย
“กลืนมันลงไป!”
จางเซวียนสู ดลมหายใจลึกก่อนจะใช้กระแสดาบฉีเฉือนข้อมือของ
เขา เลือดพุง่ ออกมาราวกับนํ้าพุ จางเซวียนรี บรวบรวมเลือดไว้ก่อน
จะส่ งเข้าปากของตั้นเฉี่ยวเทียน
การเสี ยเลือดมากอย่างฉับพลันทําให้ใบหน้าของเขาซี ดเผือดไป
เล็กน้อย
ตั้นเฉี่ ยวเทียนอ้าปากและกลืนเลือดสด ๆ ลงไป ในชัว่ พริ บตาก็รู้สึก
ได้ถึงพลังงานน่าทึ่งที่ไหลเวียนไปทัว่ ร่ าง ราวกับใครสักคนก่อกอง
ไฟในร่ างกายของเขา พลังชีวติ กลับคืนมา เรี่ ยวแรงมีมากกว่าแต่
ก่อนหลายเท่า
ในฐานะนักปราชญ์โบราณขั้น 4 เลือดทุกหยดของจางเซวียนมี
พละกําลังอย่างน่าทึ่ง ปริ มาณพลังงานในเลือดที่เขามอบให้ต้ นั เฉี่ยว
เทียนเทียบเท่ากับยาเม็ดอมตะขั้นต้นหนึ่งเม็ด เมื่อมีพลังงานพลุ่ง
พล่านอยูภ่ ายใน เพียงชัว่ อึดใจตั้นเฉี่ ยวเทียนก็ฟ้ื นคืนพละกําลังกลับ
สู่ สภาพแข็งแกร่ งสู งสุ ด พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเร็ วอัน
น่าสะพรึ ง
บึ้มมมม!
ด่านคอขวดด่านสุดท้ายที่นาํ ไปสู่ วรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณถูก
ทําลายไปด้วยแรงกดดันมหาศาล คลื่นความสัน่ สะเทือนพวยพุง่ ออก
จากร่ างของตั้นเฉี่ ยวเทียน รังสี ของเขาแผดกล้า ไม่ยอมหยุดยั้งเพียง
เพราะการฝ่ าด่านวรยุทธ
กระบวนการนี้ดาํ เนินไปครู่ หนึ่งก่อนจะหยุด
ในตอนนั้น ตั้นเฉี่ยวเทียนสําเร็ จวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น
1 การสื บทอดสายเลือดแล้ว อีกเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าถึงวรยุทธขั้น
บรมครู นกั ปราชญ์
ตั้นเฉี่ยวเทียนรี บขัดเกลาวรยุทธของเขาก่อนจะมองชายหนุ่มที่อยู่
ตรงหน้าอย่างตื่นเต้น “ท่านอาจารย์…”
เพื่อให้เขาฝ่ าด่านวรยุทธได้สาํ เร็ จ ท่านอาจารย์ถึงกับต้องเสี ยสละ
ตัวเอง
เขาไม่รู้เลยว่าชัว่ ชีวติ นี้จะมีโอกาสตอบแทนบุญคุณของท่านอาจารย์
หรื อไม่
“ผมไม่เป็ นไร…เวลาก็จวนเจียนเต็มทีแล้ว คุณออกไปเถอะ ในเมื่อ
ตอนนี้เป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 1 โลกจารึ กได้สาํ เร็ จแล้ว ก็คงไม่มี
ใครกล้าคัดค้านอีก…แค่ก แค่ก!” ขณะที่จางเซวียนกําลังสัง่ เสี ยลูก
ศิษย์ ก็อดไอออกมาไม่ได้
คราวนี้เขาใช้พละกําลังมากเกินไป
ลําพังแค่เลือดที่เสี ยไปก็ตอ้ งใช้เวลาฟื้ นฟูสภาพร่ างกายหลายเดือน
“ท่านอาจารย์พกั ผ่อนเถอะ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” ตั้นเฉี่ ยวเทียน
พูดก่อนจะออกจากห้อง
จางเซวียนเฝ้ามองร่ างของตั้นเฉี่ ยวเทียนหายลับไปจากประตู เขาส่ าย
หน้าอย่างจนปัญญา ขณะที่กาํ ลังจะซึ มซับพลังจิตวิญญาณจากโดยรอบ
เพื่อฟื้ นฟูพละกําลัง ก็พลันนึกได้วา่ ยังมีน้ าํ จากการต้มนํ้าเต้าตงฉู่เหลือ
อยูอ่ ีกมากในหม้อใบใหญ่
เขาลังเลอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปแล้วดื่มนํ้าที่เหลือ
จางเซวียนรู ้สึกได้ถึงเสี ยงหึ่ งที่ดงั ก้องทัว่ ร่ างของเขา ขณะที่ร่างกาย
ซึ่งอ่อนแรงฟื้ นตัวอย่างรวดเร็ ว ในชัว่ พริ บตา อาการเสี ยเลือดก็ได้รับ
การเยียวยา ราวกับไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน
“เฮ้ย…” จางเซวียนตาโตด้วยความตกตะลึง
พลังงานที่เขาสู ญเสี ยไปยังไม่กลับคืนมา แต่เขายิง่ กว่าพอใจกับผลที่
ได้รับ
พลังปราณเทียบฟ้าสามารถเยียวยาอาการบาดเจ็บ แต่ไม่อาจฟื้ นคืน
พลังชีวติ ให้ใครได้ แต่น้ าํ ที่ได้จากการต้มนํ้าเต้าตงฉู่ทาํ ได้อย่าง
ง่ายดาย…นัน่ จะไม่เท่ากับว่าเขามีถวั่ เซนสึ อยูใ่ นมืออย่างไม่รู้จกั หมด
หรื อ?
น่าทึ่งจริ ง ๆ !
“แกเป็ นใคร?” จางเซวียนถามนํ้าเต้าตงฉู่ที่ยงั คงแหวกว่ายอยูใ่ นนํ้าที่
เหลืออยูใ่ นหม้อ
“นํ้าเต้าลูกนี้เป็ นเพียงร่ างอวตารที่ผมนํามาใช้ชวั่ คราว เกรงว่าจะทํา
ให้คุณกลัวจนขาดใจตายหากบอกความจริ งออกไป ร่ างจริ งของผม
น่ะคืออสู รชั้นยอดที่ทาํ ลายล้างได้แม้กระทัง่ โลกและสวรรค์ คุณควร
จะทรุ ดตัวลงคุกเข่าเดี๋ยวนี้และบูชาความสู งส่ งของผม!” นํ้าเต้าส่ าย
ก้นอย่างเบิกบานใจ
…..
เรื่ องนั้นฟังดูไม่น่าเชื่อถือสักนิดสําหรับจางเซวียน เขาตัดสิ นใจไม่
มองนํ้าเต้าตงฉู่จอมขี้โม้ จากนั้นก็เก็บนํ้าที่เหลือไว้ในขวดก่อนจะ
เก็บข้าวของทั้งหมดแล้วเดินออกไป
ทันทีที่กา้ วออกจากห้อง ใบหน้าของเขาก็ซีดเหลือง ร่ างกายโงนเงน
ในทุกก้าวที่ออกเดิน ดูพร้อมจะทรุ ดลงไปกองกับพื้นได้ทุกเมื่อ
ผูค้ นมากมายพากันสงสัยข้องใจเมื่อเขายืนยันว่าตั้นเฉี่ยวเทียนคือ
นักปราชญ์โบราณที่มีระดับวรยุทธหล่นฮวบจากผลของการสําแดง
พละกําลังมากเกินไป แต่ตอนนี้ทุกคนคงเชื่อแล้วในเมื่ออีกฝ่ ายสําเร็ จ
วรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1 โลกจารึ ก แต่กย็ งั มีบางส่ วนที่
แคลงใจ ถ้าทั้งคู่เดินออกไปด้วยสภาพร่ างกายสมบูรณ์เหมือนกัน ก็
จะต้องมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามล้วงลึกเรื่ องนี้เพื่อสื บหาความจริ ง
ดังนั้นจางเซวียนจึงตัดสิ นใจแกล้งทําเป็ นบาดเจ็บ ด้วยวิธีน้ ี เขาจะได้
บอกคนอื่นเป็ นนัย ๆ ว่าถึงตั้นเฉี่ยวเทียนจะยกระดับวรยุทธกลับไป
เป็ นนักปราชญ์โบราณได้ภายในเวลาเพียง 1 ชัว่ โมง แต่กม็ ีอีกฝ่ ายที่
ต้องลงทุนลงแรงอย่างหนักเพื่อการนั้น สิ่ งนี้จะทําให้ผคู ้ นเชื่อถือ
มากกว่า
“คุณคิดว่าตั้นเฉี่ยวเทียนจะทําสําเร็ จไหม?”
การทดสอบเพื่อเปิ ดรับศิษย์สายตรงระดับล่างเสร็ จสิ้ นไปอย่างรวดเร็ ว
ทําให้ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ กับคนอื่น ๆ พอมีเวลา หวงเทามองไปยังทิศทาง
ที่จางเซวียนกับตั้นเฉี่ยวเทียนหายไปและตั้งคําถาม
“ไม่มีทางที่ใครจะยกระดับวรยุทธจากนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 ไป
เป็ นนักปราชญ์โบราณได้ภายในเวลาเพียง 1 ชัว่ โมงหรอก!” อวิน๋
เฟยหยางส่ ายหน้า ปราศจากความเชื่อมัน่ โดยสิ้ นเชิง
“จริ งด้วย ไม่เคยได้ยนิ เรื่ องแบบนี้แม้แต่ในสํานักดาบเมฆเหิ น ถึง
อย่างไรผมก็ไม่คิดว่าตั้นเฉี่ ยวเทียนจะทําสําเร็ จ!” หน้าเหลี่ยมพยัก
หน้าอย่างเห็นพ้อง
สําหรับเรื่ องนี้ แม้แต่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็ยงั แคลงใจ
“ไม่จาํ เป็ นต้องรอแล้วล่ะ เว้นเสี ยแต่เทพเจ้าจะลงมาด้วยตัวเอง เขา
ไม่มีทางกลายเป็ นนักปราชญ์โบราณได้ภายในเวลา 1 ชัว่ โมงแน่…”
รู ้ดีวา่ ตั้นเฉี่ยวเทียนคงไม่มีวนั ได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในเฉว่เหยา
คลายความหวาดกลัวและคํารามเยาะ
แต่ยงั ไม่ทนั จะขาดคํา เสี ยงฝี เท้าเร่ งร้อนก็ดงั ขึ้นด้านนอกขณะชาย
หนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา
“เป็ นอย่างไรบ้าง?” เมื่อรู ้วา่ เป็ นตั้นเฉี่ ยวเทียน ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ รี บหัน
มามองและตั้งคําถาม
“ไม่ง่ายเลย แต่ผมก็ทาํ สําเร็ จ!” ตั้นเฉี่ ยวเทียนตอบยิม้ ๆ ขณะเริ่ ม
ขับเคลื่อนพลังปราณ
บึ้มมมม!
พลังงานภายในร่ างกายของเขาระเบิดออกมา รังสี ของตั้นเฉี่ยวเทียน
พุง่ ขึ้นสู่ สวรรค์
การระเบิดของพลังปราณอย่างกะทันหันทําให้ท้ งั ห้องสัน่ สะท้านไม่
หยุด เกิดเสี ยงแตกร้าวอย่างน่ากลัว
ผูช้ มนับพันที่มารวมตัวกันถูกแรงกดดันมหาศาลเล่นงาน ดูเหมือน
พละกําลังนั้นพยายามจะบีบพวกเขาให้เข่าอ่อนและยอมจํานน
“นักปราชญ์โบราณขั้น 1…โลกจารึ ก?” เฉว่เหยาหน้าซีด
ทุกคําที่เขากําลังจะพูดออกมาติดอยูท่ ี่ลาํ คอ เขาจังงังสุ ดขีด
ไม่ห่างออกไปนัก ร่ างของเฉว่ชิงทรุ ดลงไปกองกับพื้น ริ มฝี ปากของ
เธอสัน่ เทา ไม่อาจสรรหาคําพูดออกมาได้
คู่หมั้นที่เธอดูถูกดูแคลนมาตลอด…ภายในเวลาเพียงวันเดียว สิ่ งที่
เขาทําลงไปก็ทาํ ลายศักดิ์ศรี ท้ งั หมดของเธออย่างไร้ความปรานี เธอ
ไม่เคยรู ้สึกว่ามีวนั ไหนที่ยาวนานขนาดนี้มาก่อน…
ถ้ารู ้วา่ ทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้ จะไม่มีวนั กล้าแตะต้องตั้นเฉี่ยวเทียน
เลย
ถ้าเธอไม่โง่เง่าถึงขนาดพยายามยกเลิกสัญญาการผูกมัดการแต่งงาน
เมื่อวันก่อน ทุกอย่างก็คงไม่บานปลายจนกลายเป็ นแบบนี้…
“เฉี่ยวเทียน เราเกี่ยวดองกันนะ คุณคงไม่…” แม้ในเวลานั้น เฉว่เหยา
ก็ยงั ตัดสิ นใจดิ้นเฮือกสุ ดท้าย
“เกี่ยวดองกัน?” ตั้นเฉี่ยวเทียนขัดด้วยนํ้าเสี ยงเย็นเยียบ “ขออภัยด้วย
นะ…นี่คือจดหมายหย่าของผม! เฉว่ชิงแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่า
ไม่มีความรู ้ผดิ ชอบชัว่ ดีแม้แต่นอ้ ย ด้วยเหตุผลนั้น ผมจึงไม่ขอรับ
เธอเป็ นภรรยา!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนกระดิกนิ้ว เขาโยนกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นสู่ กลางอากาศ
มันลอยไปตกที่พ้นื อย่างเงียบเชียบ ฝูงชนเห็นคําว่า ‘จดหมายหย่า’
ได้อย่างชัดเจนบนหัวกระดาษ สิ่ งนี้ทาํ ลายศักดิ์ศรี และความหยิง่
ผยองของเฉว่ชิงอีกครั้งหนึ่ง
แทนที่จะเป็ นการยกเลิกการหมั้นหมายและการแต่งงาน เธอกลับลง
เอยด้วยการหย่า…ในโลกนี้คงไม่มีใครโง่เง่าไปกว่าเธออีกแล้ว!
เธอดิ้นรนจะปกป้องศักดิ์ศรี ของตัวเองจนต้องกลายเป็ นตัวตลกให้
คนทั้งเมืองชวนเจียงหัวเราะเยาะ
พลัก่ !
เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป เฉว่ชิงกระอักเลือดออกมากองใหญ่
“ผูอ้ าวุโสลู่ ตอนนี้ผมคือศิษย์สายตรงฝ่ ายในคนหนึ่งของสํานักดาบ
เมฆเหิ นแล้วใช่ไหม?” ตั้นเฉี่ยวเทียนมองหน้าผูอ้ าวุโสลู่และตั้ง
คําถาม
อีกฝ่ ายพยักหน้ารับ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ผมขอรบกวนศิษย์นอ้ งหัวให้ช่วยตัดตอนวรยุทธ
ของเฉว่เหยา แล้วตรึ งร่ างของเขาไว้ที่นอกสํานักเจ้าเมือง ผมจะ
ประกาศความผิดของเขาและประหารเขาต่อหน้าฝูงชนสําหรับการ
กระทําอันชัว่ ร้ายต่าง ๆ นานาที่เขาทําลงไป!” ตั้นเฉี่ยวเทียนสัง่ การ
“ได้” หัวเจียงเหอรับคําพร้อมกับพยักหน้า
ในเมื่อตอนนี้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนได้การยอมรับให้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
แล้ว จึงเป็ นธรรมดาที่เขาจะกลายเป็ นศิษย์นอ้ งของอีกฝ่ าย ความ
แตกต่างของอาวุโสก็หมายความว่าเขาต้องเชื่อฟังคําสัง่ ของอีกฝ่ าย
ด้วย
ตอนที่ 1951 ทําไมถึงดูไม่ เหมือนเดิม?
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่นอ้ งของผม…ในที่สุดผมก็ลา้ งแค้นให้พวกคุณ
ได้แล้ว…”
ไม่ชา้ ศีรษะของเฉว่เหยาก็หลุดออกจากบ่า ความรู ้สึกทั้งหมดที่ต้ นั
เฉี่ยวเทียนเก็บกลั้นไว้พรั่งพรู ออกมา
ตลอด 10 ปี ที่ผา่ นมา เขาต้องเก็บงําทุกอย่างไว้ในใจ แต่ตอนนี้เขาทน
ไม่ไหวแล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนสะอึกสะอื้นออกมาเหมือนเด็กเล็ก ๆ แต่
แล้วความหนักอึ้งที่เขาแบกรับมาตลอดก็ค่อย ๆ บรรเทาลง ในที่สุด
เขาก็เป็ นอิสระ
เมื่อระบายความคับแค้นใจจนหมดสิ้ น ก็เห็นท่านอาจารย์ยนื หน้าซี ด
เผือดอยูไ่ กล ๆ
ตั้นเฉี่ยวเทียนประหลาดใจจนต้องรี บลุกขึ้นและเดินไปหาอีกฝ่ าย
ถ้าไม่ใช่เพราะชายหนุ่มคนนี้ เขาคงไม่มีวนั ได้เห็นแสงสว่างที่ปลาย
อุโมงค์ คงเป็ นแค่ดวงวิญญาณน่าสมเพชอีกดวงหนึ่งที่ถูกเจ้าเมือง
สังหาร
พูดได้เลยว่าทุกอย่างที่เขามีอยูใ่ นเวลานี้คือผลงานของท่านอาจารย์
เขาอยากจะตะโกนบอกทั้งโลกและบอกทุกคนว่าชายผูน้ ้ ีคืออาจารย์
ของเขา และทุกความสําเร็ จของเขาก็มาจากคําชี้แนะของท่านอาจารย์
แต่รู้ดีวา่ อีกฝ่ ายอยากถ่อมเนื้อถ่อมตัวและเก็บตัวเงียบ จึงได้แต่ยบั ยั้ง
คําพูดไว้
แต่ขณะที่กาํ ลังรี บเดินไปหาท่านอาจารย์ผเู ้ ป็ นที่เคารพ ก็เห็นชาย
หนุ่มที่กาํ ลังสัน่ สะท้านยืน่ มือออกไปหาอวิน๋ เฟยหยางกับพรรคพวก
และพูดว่า “ตอนนี้ต้ นั เฉี่ยวเทียนเป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในของสํานัก
ของพวกคุณแล้ว ในฐานะศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก พวกคุณไม่คิดจะ
มอบยาเม็ดอมตะ ขั้นต้นสัก 2-3 เม็ดให้เขาเพื่อเป็ นการแสดงความ
ยินดีหรื อ? นี่ไม่ใช่ของกํานัลนะ แต่เป็ นการลงทุนเพื่ออนาคต เพราะ
ทันทีที่เขาเหยียบย่างเข้าสู่ สาํ นัก ต่อไปพวกคุณก็จะได้รับประโยชน์
มาก…”
“….” ตั้นเฉี่ยวเทียนที่กาํ ลังรี บร้อนเดินเข้าไปถึงกับหยุดกึก
ท่านอาจารย์…กําลังพยายามเรี ยกค่าคุม้ ครองจากอวิน๋ เฟยหยางกับ
พรรคพวกหรื อ?
นี่คือท่านอาจารย์ผเู ้ ก็บเนื้อเก็บตัว เคร่ งครัด และเที่ยงธรรมของเรา
ใช่ไหม?
ทําไมถึงดูไม่เหมือนเดิม?
อวิน๋ เฟยหยางกับคนอื่น ๆ ก็จงั งัง
ตอนที่พวกเขาเห็นระดับวรยุทธของตั้นเฉี่ ยวเทียนพุง่ พรวดถึงสอง
ขั้นภายใน 1 ชัว่ โมง ก็คิดว่าคงเป็ นผลงานของชายหนุ่มที่อยูต่ รงหน้า
จึงพากันกระแซะเข้าหาอีกฝ่ ายเพื่อหวังจะซักถามรายละเอียด ใครจะ
ไปคิดว่าหมอนี่จะเอ่ยปากขอยาเม็ดจากพวกเขา…
เรื่ องนั้นทําลายภาพลักษณ์ดีงามของชายหนุ่มที่อยูใ่ นหัวสมองของ
พวกเขาออกไปจนหมด
ดูเหมือนตั้นเฉี่ยวเทียนคงเป็ นนักปราชญ์โบราณอยูแ่ ล้วจริ ง ๆ และ
หมอนี่กแ็ ค่ใช้ศาสตร์ลบั บางอย่างเพือ่ ช่วยให้อีกฝ่ ายฟื้ นคืนพละกําลัง
ดังเดิม
เพราะผูเ้ ชี่ยวชาญที่เก่งกาจขนาดนี้จะทําตัวหน้าไม่อายถึงขนาดเรี ยก
เก็บค่าคุม้ ครองต่อหน้าผูค้ นมากมายหรื อ?
เป็ นไปไม่ได้ที่ชายผูไ้ ร้ยางอายขนาดนี้จะสามารถปฏิบตั ิภารกิจอัน
น่าทึ่งได้สาํ เร็ จ ไม่มีทางอย่างเด็ดขาด!
“แค่ก แค่ก!”
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ทนดูภาพนั้นไม่ไหว เขาไอออกมาเบา ๆ เพื่อกลบ
เกลื่อนความกระอักกระอ่วนก่อนจะเอ่ยปาก “เฉี่ยวเทียน ศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายในได้รับอนุญาตให้นาํ คนรับใช้เข้าสู่ สาํ นักพร้อมกับพวกเขา
ได้ ผมเชื่อว่าคงไม่มีอะไรผูกมัดคุณไว้กบั เมืองชวนเจียงแล้ว ทําไม
เราไม่มุ่งหน้าไปสํานักดาบเมฆเหิ นพร้อมกันเสี ยตอนนี้เลยล่ะ?”
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสลู่” ตั้นเฉี่ยวเทียนตอบ
เมื่อล้างแค้นสําเร็ จแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทาํ ให้เขาต้องอ้อยอิ่งอยู่
ในเมืองชวนเจียงอีก ถึงเวลาที่เขาควรจะก้าวสู่ โลกกว้างและสัมผัส
ประสบการณ์ใหม่ ๆ เสี ยที
“ผมอยากพาผูอ้ าวุโสอี้กบั พี่จางไปด้วย” ตั้นเฉี่ยวเทียนรายงาน
แน่นอนว่าเขาต้องพาท่านอาจารย์ไปกับเขาด้วย ส่ วนผูอ้ าวุโสอี้กร็ ับ
ใช้เขามาเนิ่นนานหลายปี จึงไม่อาจละทิ้งอีกฝ่ ายไว้ขา้ งหลังได้
สําหรับเขา มีแค่ 2 คนนี้กม็ ากเกินพอ เขาไม่ตอ้ งการศิษย์สายตรง
ระดับล่างคนไหนให้มารับใช้
อีกอย่าง ท่านอาจารย์ของเขาก็ให้ความสําคัญกับความเป็ นส่ วนตัว
มาก คงจะเป็ นการรบกวนอีกฝ่ ายหากเขาพาคนไปด้วยมากกว่านี้
“ได้สิ คุณควรกลับไปเตรี ยมตัวให้เรี ยบร้อย เราจะออกเดินทางในอีก
2 ชัว่ โมงนับจากนี้!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูด
ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหาท่านอาจารย์ เขาอดรู ้สึก
ไม่ได้วา่ มีร่องรอยของความผิดหวังจาง ๆ อยูใ่ นสี หน้าที่ดูจะเรี ยบ
เฉยของอีกฝ่ าย
เห็นได้ชดั ว่าท่านอาจารย์ไม่ได้รับค่าคุม้ ครองที่เรี ยกร้องไว้เมื่อครู่
“ท่านอาจารย์ กลับบ้านกันสักครู่ หนึ่งเถอะ ผมต้องเก็บข้าวของและ
สัง่ ลาบ้านของผมเป็ นครั้งสุ ดท้ายก่อนจะออกเดินทางสู่ สาํ นักดาบ
เมฆเหิ น” ตั้นเฉี่ยวเทียนพูด
ในเวลานั้นพวกเขาอยูห่ ่างจากผูอ้ าวุโสลู่และคนอื่น ๆ แล้ว จึงไม่
จําเป็ นต้องปิ ดบังตัวตน
จางเซวียนพยักหน้ารับ
อันที่จริ ง เหตุผลที่เมื่อครู่ น้ ีเขาเรี ยกร้องค่าคุม้ ครองก็เพื่อเบี่ยงเบน
ความสนใจ ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลตามนั้น เขาไม่ผดิ หวังสักนิดที่
ไม่ได้อะไรกลับคืนมา!
“สงสัยเหลือเกินว่าจะต้องปกปิ ดตัวตนของเราในสํานักดาบเมฆเหิ น
ไปอีกนานแค่ไหน บางที…การเป็ นคนเก่งกาจเกินไปก็น่าท้อใจ
เหมือนกัน!” จางเซวียนกุมขมับขณะใช้ความคิด
ถ้าเขาเลือกได้ ก็ไม่อยากหลอกลวงใคร แต่ผคู ้ นก็พากันวี้ดว้ายกระตู ้
วูท้ ุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว มันเป็ นเรื่ องที่ช่วยไม่ได้จริ ง ๆ !
ฟึ่ บ!
ขณะที่จางเซวียนกําลังครุ่ นคิดหนัก จอมโจรเฉาเฉิงลี่กพ็ งุ่ ปราดเข้า
มาและทรุ ดตัวลงคุกเข่าตรงหน้า นัยน์ตาของอีกฝ่ ายเปี่ ยมด้วยความ
จริ งใจและความคาดหวัง
“นายน้อย ได้โปรดรับผมไว้ดว้ ย เป็ นเกียรติสูงสุ ดของผมที่จะได้
เป็ นคนรับใช้ผนู ้ อบน้อมของคุณ!”
“ดูสิ เราโดดเด่นเสี ยจนแม้แต่หวั ขโมยยังอดไม่ได้ที่จะหลงเสน่ห์ของ
เรา…” จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่
คนอื่นอาจไม่รู้ตวั ตนที่แท้จริ งของจางเซวียน แต่เฉาเฉิ งลี่เห็นตั้น
เฉี่ยวเทียนเรี ยกขานอีกฝ่ ายว่า ‘ท่านอาจารย์’ กับตา
ทําให้นกั รบระดับเซียนขั้น 6 ไม่ได้เรื่ องได้ราวคนหนึ่งที่ทาํ ไม่ได้
แม้แต่จะฝึ กฝนวรยุทธกลายเป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 1 โลกจารึ ก
ได้ภายในวันเดียว…ขนาดเขาเห็นกับตาก็ยงั แทบไม่อยากเชื่อ
ถ้าเขาได้ติดตามคนแบบนี้ วรยุทธของเขาจะต้องพุง่ ผงาดแน่!
อีกอย่าง ลูกน้องของเขาก็ถูกฆ่าตายเกือบหมดแล้ว ตอนนี้เขาอยูต่ วั
คนเดียวในเมืองใหญ่ ถ้าเป็ นอย่างนี้ต่อไป ไม่ชา้ ก็คงถูกสังหารโดย
ฝูงชนที่กาํ ลังโกรธเกรี้ ยวตั้งแต่ยงั ไม่ทนั ได้ออกจากเมือง
เฉาเฉิ งลี่ทาํ เรื่ องเลวร้ายไว้มากตลอดหลายปี ที่เขากุมอํานาจเหนือ
ภูเขานอกเมือง มีผคู ้ นมากมาย ที่ยงิ่ กว่ายินดีปรี ดาที่จะถลกหนังเขา
ทั้งเป็ น
“คุณอยากเป็ นลูกน้องของผมหรื อ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว “คิดจริ ง ๆ
หรื อไงว่าผมจะรับคุณเป็ นลูกน้อง ช่วยหยุดความคิดเลวไหลนั้นเถอะ!”
เหตุผลเดียวที่เขาไว้ชีวติ เฉาเฉิงลี่จนถึงตอนนี้กเ็ พราะอีกฝ่ ายสามารถ
เปิ ดโปงพฤติกรรมชัว่ ร้ายของเฉว่เฉินได้ ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างจบ
สิ้ นแล้ว เขาจะมาเสี ยเวลาไว้ชีวติ จอมโจรผูห้ นึ่งที่ทาํ เรื่ องชัว่ ร้ายมา
ทั้งชีวติ เพื่ออะไร?
ผมดูเหมือนเทพเจ้าผูศ้ กั ดิ์สิทธิ์สาํ หรับคุณหรื อ?
“นายท่าน ผมจะคุกเข่าอยูท่ ี่นี่จนกว่าคุณจะรับผม!” เฉาเฉิ งลี่ยนื
กรานอย่างเด็ดเดี่ยว
“งั้นก็คุกเข่าไปจนกว่าจะตายก็แล้วกัน” จางเซวียนโบกมืออย่างไม่
แยแส
“นายท่าน!” เฉาเฉิงลี่ไม่คิดว่าอีกฝ่ ายจะปฏิเสธดื้อ ๆ แบบนั้น เขารํ่า
ร้องด้วยความเสี ยอกเสี ยใจ “ใช่วา่ ผมจะอยากเป็ นจอมโจร ผมไม่มี
ทางเลือกจึงต้องทําแบบนี้ ผมเคยเป็ นนักธุรกิจผูซ้ ื่ อตรงและมีน้ าํ ใจ
แต่อยูม่ าวันหนึ่ง ผมก็ดื่มจนเมามายโดยไร้เหตุผล จากนั้นเมียผมก็
ไม่ยอมให้ผมเข้าบ้าน”
“ด้วยเหตุน้ ี ผมจึงต้องหลับอยูใ่ นเกี้ยวที่อยูข่ า้ งนอก แต่มนั หนาว
เกินไป ผมต้องซมซานไปเปิ ดห้องในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่อยูใ่ กล้ ๆ
ด้วยความเมามายของผม ผมเรี ยกผูห้ ญิงมาถึง 7 คนพร้อมกัน คืนนั้น
เป็ นคืนที่ผมจะไม่มีวนั ลืมเลย แต่หลังจากนั้น…”
“พอได้แล้ว! เลิกตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเสี ยที ท่านอาจารย์ของผม
คือผูส้ ู งส่ งที่รังเกียจการกระทําชัว่ ร้ายของคุณ การรับคุณเป็ นลูกน้อง
มีแต่จะทําให้ชื่อเสี ยงของท่านอาจารย์ด่างพร้อย ไสหัวไปซะ! ไม่
อย่างนั้นผมจะตัดหัวของคุณเสี ยเดี๋ยวนี้!” ตั้นเฉี่ ยวเทียนตะโกนก้อง
เฉาเฉิงลี่เห็นท่านอาจารย์เป็ นอะไร?
ท่านอาจารย์ของเราอาจโลภมากไปสักนิด แต่กเ็ ป็ นมังกรที่ผงาดอยู่
กลางอากาศ คือผูส้ ู งส่ งในโลกใบนี้ ชื่อเสี ยงของท่านอาจารย์มีแต่จะ
แปดเปื้ อนหากรับจอมโจรอย่างคุณเป็ นบริ วาร
ต่อให้ท่านอาจารย์ของผมยินยอม ผมก็ไม่มีวนั ยอมหรอก!
อีกอย่าง คุณแน่ใจหรื อว่ากําลังเล่าเรื่ องนํ้าเน่า?
ทําไมถึงดูเหมือนกําลังคุยโวเสี ยมากกว่า?
เห็นตั้นเฉี่ ยวเทียนพร้อมจะเล่นงานเขาได้ทุกเมื่อ เฉาเฉิ งลี่หน้าซี ด
แต่รู้ดีวา่ คงไม่มีทางมีชีวติ อยูต่ ่อไปได้หากไม่ได้เป็ นลูกน้องของจาง
เซวียน จึงกัดฟันและยืน่ ไพ่ไม้ตาย
“นายท่าน ใคร ๆ จะต้องฉี กผมเป็ นชิ้น ๆ แน่หากคุณไม่รับผมเป็ น
ลูกน้อง ในเมื่อถึงอย่างไรก็ตอ้ งตายอยูแ่ ล้ว ผมก็ขอมอบทุกสิ่ งที่ผมมี
ให้คุณก็แล้วกัน ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา ผมเลือกปล้นเฉพาะนักธุรกิจ
ที่ร่ าํ รวยเท่านั้น และเก็บงําทรัพย์สมบัติไว้ได้บางส่ วน มียาเม็ดอมตะ
ขั้นต้น 10 เม็ดอยูใ่ นแหวนเก็บสมบัติวงนี้ มันคือสมบัติท้ งั หมดที่ผม
มี ผมเต็มใจมอบทุกอย่างให้คุณ, นายท่าน…”
“อย่าคิดจะติดสิ นบนท่านอาจารย์ของผมด้วยสิ่ งนี้ เขาไม่ตกหลุมพราง
ตื้น ๆ ของคุณหรอก!” ตั้นเฉี่ ยวเทียนคําราม
แต่ขณะที่เขากําลังจะผลักเฉาเฉิ งลี่ออกไป ใบหน้าซี ดเผือดของท่าน
อาจารย์กพ็ ลันมีสีเลือดขึ้นมาทันที เขาลุกพรวด และราวกับมีเวท
มนตร์บางอย่าง แหวนเก็บสมบัติหายวับจากมือของเฉาเฉิ งลี่ไปอยูท่ ี่
ท่านอาจารย์ของเขาทันที
จางเซวียนขจัดรอยจารึ กของจิตวิญญาณที่ฝังอยูบ่ นแหวนเก็บสมบัติ
ก่อนจะมองดูขา้ วของภายใน ครู่ ต่อมาก็พยักหน้าอย่างพอใจขณะพูด
ว่า “ก็ได้ ผมรับคุณเป็ นลูกน้องของผม มากับผมสิ !”
ยาเม็ดอมตะขั้นต้นแต่ละเม็ดมีราคาถึง 100,000 เหรี ยญนิรันดร์, 10
เม็ดก็จะมีสนนราคาอยูท่ ี่ 1 ล้านเหรี ยญนิรันดร์ อีกทั้งพวกมันยังถูก
เก็บรักษาไว้ในแหวนเก็บสมบัติที่มีราคาสู งลิ่วถึงวงละ 500,000
เหรี ยญนิรันดร์ดว้ ย ใครจะไปคิดว่าจอมโจรผูน้ ้ ีจะมีขา้ วของอยูก่ บั ตัว
ตั้งมากมาย?
ด้วยเงินมหาศาลก้อนนี้ เขาจะยอมละเว้นให้ครั้งหนึ่ง แล้วยอมรับ
เฉาเฉิงลี่เป็ นลูกน้องของเขา
“ท่านอาจารย์!” ตั้นเฉี่ ยวเทียนถึงกับผงะ
หมอนี่เป็ นอาจารย์ของเราจริ ง ๆ หรื อ?
ทําไมตอนนี้ถึงทําตัวน่าอับอายเหลือเกิน?
ผูท้ ี่ทาํ ให้เขายกระดับวรยุทธได้ถึง 2 ขั้นภายใน 1 ชัว่ โมง, มีทกั ษะ
อันลํ้าเลิศทั้งเรื่ องการรักษาโรคและศิลปะเพลงดาบ…เขาควรจะอยู่
เหนือเรื่ องราวทางโลกและไม่ใส่ ใจใยดีในสมบัติพสั ถานใด ๆ ทําไม
ถึงถูกล่อลวงด้วยยาเพียงไม่กี่เม็ด?
เส้นแบ่งศีลธรรมของเขาอยูต่ รงไหน?
ศักดิ์ศรี ของผูเ้ ชี่ยวชาญคนหนึ่งหายไปไหนหมด?
ตอนที่ 1952 ไร้ เทียมทานจริง ๆ !
ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่มีขา้ วของที่จะนําติดตัวไปมากนัก ดังนั้น หลังจาก
สัง่ ลาบ้านพักที่เขาเติบโตขึ้นมาเป็ นครั้งสุ ดท้าย ก็กลับสู่ สาํ นักเจ้า
เมืองพร้อมกับผูอ้ าวุโสอี้ จางเซวียน และเฉาเฉิ งลี่
ตอนแรก ทั้งม้าและเกี้ยวยืนกรานที่จะไปกับพวกเขาด้วย ทั้งสองขู่
จะปลิดชีวติ ตัวเองหากถูกทิ้งไว้ขา้ งหลัง แต่เมื่อเห็นว่าการข่มขู่ของ
พวกมันไม่ได้รับการสนใจใยดี ลงท้ายก็ถอดใจแล้วมุ่งเข้าสู่ ป่าใหญ่
เพื่อใช้ชีวติ ร่ วมกัน
เพราะจางเซวียนกับคนอื่น ๆ จะเดินทางสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ นโดยใช้
อสู รบินได้ จึงไม่สะดวกที่จะพาม้ากับเกี้ยวไปด้วย
ส่ วนเฉว่ชิง แน่นอนว่าโควต้าของเธอในฐานะศิษย์สายตรงระดับล่าง
ถูกริ บไปแล้วหลังจากทุกอย่างถูกเปิ ดโปง โชคดีที่เธอไม่ได้ทาํ อะไร
เลวร้ายลงไปมากนัก จึงไม่ถูกลงโทษ แต่ดว้ ยความตายของท่านพ่อ
เธอก็สูญเสี ยอิทธิพลและการปกป้องจากสํานักเจ้าเมืองไป นับจากนี้
ชีวติ ของเธอคงไม่ง่ายดายราบรื่ นเหมือนเดิม
เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้นเฉี่ ยวเทียนหมดอารมณ์จะเอาเรื่ องเอาราว
กับเฉว่ชิง เขาสนใจชีวติ ในภายภาคหน้าของเขามากกว่าจะตามล้าง
ตามเช็ดสิ่ งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
“ไปกันเถอะ!”
เมื่อเตรี ยมการทุกอย่างเสร็ จสิ้ น อสู รบินได้ตวั มหึ มาก็กระพือปี กและ
พาจางเซวียนกับพรรคพวกออกจากเมืองชวนเจียง ไม่ชา้ พวกเขาก็
อยูบ่ นเส้นทางที่นาํ ไปสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น
“ใช้เวลาราว 10 วันกว่าจะถึงสํานักของเรา” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ บอก
อสู รบินได้ที่พวกเขากําลังโดยสารอยูม่ ีวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณ
ขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติ ด้วยความแข็งแกร่ งของมัน มันบินไกลหลาย
แสนลี้ได้สบายแม้มิติที่อยูใ่ นมิติเบื้องบนจะหนักอึ้ง แต่ถึงอย่างนั้น
พวกเขาก็ยงั ต้องใช้เวลาถึง 10 วันกว่าจะถึงที่หมาย ดูเหมือนสํานัก
ดาบเมฆเหิ นจะอยูไ่ กลออกไปไม่นอ้ ย!
เท่าที่เห็น ทวีปที่ถูกลืมแห่งนี้น่าจะกว้างใหญ่กว่าทวีปแห่งปรมาจารย์
ด้วยตําแหน่งอันทรงเกียรติของตั้นเฉี่ ยวเทียนในฐานะศิษย์สายตรง
ฝ่ ายใน เขาจึงได้รับห้องโดยสารส่ วนตัวซึ่งกว้างขวางพอให้จางเซวียน
กับคนอื่น ๆ พักอยูด่ ว้ ย
ระหว่างการเดินทาง จางเซวียนกินยาเม็ดอมตะขั้นต้นที่ได้จากเฉา
เฉิงลี่ไป 2 เม็ด แล้วดําเนินการฟื้ นฟูพละกําลังให้กลับคืนมาดังเดิม
เขาขัดเกลาวรยุทธของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าโดยใช้พลังจิตวิญญาณ
ที่มีหน้าตาเหมือนปรอท จนถึงจุดที่พร้อมจะฝ่ าด่านวรยุทธได้ทุกเมื่อ
แต่เพราะยังไม่มีเทคนิควรยุทธที่เหมาะสมอยูใ่ นมือ จางเซวียนจึง
ต้องรั้งรอไว้ก่อน
หลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถว้ นอยูห่ ลายวัน ในที่สุดจางเซวียนก็แน่ใจ
ว่ากระแสของกาลเวลาในมิติเบื้องบนแตกต่างจากทวีปแห่ งปรมาจารย์
หากคิดเป็ นสัดส่ วนก็ตกราว 1:10
พูดอีกอย่างก็คือ 1 วันในมิติเบื้องบนเท่ากับ 10 วันในทวีปแห่ง
ปรมาจารย์
ดังนั้น ระยะเวลาหลายหมื่นปี ของทวีปแห่งปรมาจารย์จึงเทียบเท่า
กับเวลาในมิติเบื้องบนที่ผา่ นไปเพียงหลายพันปี เท่านั้น ซึ่ งนัน่ ก็
เชื่อมโยงกับระยะเวลาที่หอนิรันดร์ก่อตั้งขึ้น
ด้วยแรงกดดันของเวลาและมิติในมิติเบื้องบน อายุขยั ของเหล่านักรบ
จึงสั้นลงมาก
นักรบระดับเซียนในทวีปแห่งปรมาจารย์จะมีชีวติ อยูไ่ ด้ราว 1,000 ปี
แต่สาํ หรับที่นี่, 100 ปี ก็ถือว่าสิ้ นอายุขยั แล้ว เช่นเดียวกันกับนักรบ
ระดับนักปราชญ์โบราณ ซึ่งมีอายุขยั มากกว่า 100 ปี เพียงเล็กน้อย
ส่ วนนักรบเสมือนอมตะอย่างผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ อายุขยั ของเขาอยูท่ ี่
ประมาณ 300 ปี
นัน่ คือเหตุผลที่นกั รบส่ วนใหญ่ปรารถนาจะลงไปสู่ ทวีปแห่ง
ปรมาจารย์แม้จะต้องได้รับความบอบชํ้าสาหัส
2-3 วันผ่านไป นอกจากให้เวลากับการขัดเกลาวรยุทธของตัวเอง
จางเซวียนก็ยงั ใช้โอกาสนี้มอบคําชี้แนะให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนกับเฉาเฉิงลี่
ส่ วนผูอ้ าวุโสอี้ ด้วยอายุที่มากและความบอบชํ้าสาหัสที่ได้รับมาตลอด
หลายปี เขาจึงต้องการเวลาเพื่อเยียวยาร่ างกายก่อน การฝึ กฝนวรยุทธ
ในเวลานี้ยอ่ มไม่เหมาะสม
10 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ ว
เมื่อถึงเช้าตรู่ พระอาทิตย์โผล่พน้ ขอบฟ้า ทุกคนเห็นภูเขาขนาดมหึ มา
ซึ่งเป็ นทางเข้าสู งใหญ่อยูต่ รงหน้า
มันมีความสู งเกือบหมื่นเมตรและกว้างหลายพันเมตร ด้วยขนาดอัน
ใหญ่โตของมัน ส่ วนบนของประตูจึงสู งเสี ยดเมฆ สิ่ งนี้ทาํ ให้จางเซวียน
หวนนึกถึงประตูสวรรค์ทิศใต้
ที่ใจกลางของประตูมีดาบเล่มใหญ่ซ่ ึงทําจากคอนกรี ต มันปักลงไป
ในพื้นดิน
แม้จะยังไม่ทนั ได้เข้าใกล้ ทุกคนก็รู้สึกได้ถึงเจตจํานงเพลงดาบอัน
เข้มข้นอย่างน่าทึ่งที่แผ่ออกมาจากดาบนั้น ดูเหมือนจะแข็งแกร่ ง
พอที่จะทําลายล้างได้แม้แต่มิติ แรงกดดันที่มนั แผ่ออกมาสกัดกั้น
การเคลื่อนไหวของเหล่านักรบได้
“ไร้เทียมทานจริ ง ๆ !” จางเซวียนอัศจรรย์ใจ
สมกับที่เป็ นหนึ่งในหกสํานักใหญ่ของมิติเบื้องบน ไม่มีทางที่ประตู
บานมหึ มาและดาบที่ทรงพลังขนาดนี้จะถูกสร้างขึ้นได้ในทวีปแห่ง
ปรมาจารย์
เจตจํานงเพลงดาบไร้เทียมทานนั้นทรงพลังเสี ยยิง่ กว่าแก่นสารของ
ดาบที่เขาเคยฝึ กฝนมา หากต้องเผชิญหน้ากับนักรบที่ฝึกฝนศิลปะ
เพลงดาบซึ่งมีเจตจํานงเพลงดาบเข้มข้นขนาดนี้ ต่อให้ตวั เขาก็คง
พ่ายแพ้ราบคาบ
ดูเหมือนทั้ง 6 สํานักใหญ่จะมีพละกําลังที่แสนน่าสะพรึ ง!
ด้วยความอยากรู ้ จางเซวียนเปิ ดใช้งานดวงตาหยัง่ รู ้และพินิจพิจารณา
ดาบเล่มใหญ่น้ นั อย่างถี่ถว้ น เขาเห็นภาพลวงตาของดาบซ่อนตัวอยู่
อย่างเลือนรางในส่ วนลึกของดาบคอนกรี ตเล่มใหญ่น้ นั
นัน่ คงเป็ นกลไกการควบคุมเจตจํานงเพลงดาบที่อยูภ่ ายในดาบเล่ม
ใหญ่
จางเซวียนต้องประหลาดใจที่พบว่าแนวคิดที่อยูเ่ บื้องหลังเจตจํานง
เพลงดาบนั้นเหมือนกันกับศิลปะเพลงดาบเทียบฟ้า แต่มีระดับขั้นสู ง
กว่า ให้ความรู ้สึกลํ้าลึกและเหนือชั้นแม้จะวัดตามมาตรฐานของจาง
เซวียน
แค่ได้เห็น จางเซวียนก็เกิดความเข้าใจในแก่นสารของศิลปะเพลง
ดาบที่ล้ าํ ลึกกว่าเดิม
แม้เขาจะไม่มีทางเข้าใจศิลปะเพลงดาบได้อย่างชัดแจ้งด้วยการมอง
เพียงแวบเดียว แต่ดว้ ยแนวคิดที่เหมือนกัน จางเซวียนก็มนั่ ใจว่าขอ
แค่เขามีเวลามากพอ ก็จะสามารถถ่ายทอดเจตจํานงเพลงดาบนี้เข้าสู่
ศิลปะเพลงดาบเทียบฟ้าของเขาได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับศิลปะเพลง
ดาบของเขาให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
“สํานักดาบเมฆเหิ นอยูต่ รงหน้านี่เอง ดาบนี้เป็ นสิ่ งที่ผกู ้ ่อตั้งของเรา
ทิ้งไว้ บรรจุเอาความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบและเจตจํานงเพลงดาบ
ของเขาไว้ขา้ งใน แม้จนถึงวันนี้ ความสําเร็ จของเขาก็ยงั ทําให้ผฝู ้ ึ กฝน
ศิลปะเพลงดาบทุกรุ่ นล้วนแต่ยาํ เกรง!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูดขณะจับ
จ้องประตูบานมหึ มาและดาบเล่มนั้นด้วยนัยน์ตาที่เปี่ ยมความชื่นชม
ตั้นเฉี่ ยวเทียนก็ตวั แข็งไปเล็กน้อยขณะที่นยั น์ตาแดงกํ่า
แม้ในวันคืนที่เขาฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบอย่างโดดเดี่ยว ก็มีบ่อยครั้งที่
เขาใฝ่ ฝันถึงการจะได้ไปเยือนสํานักดาบเมฆเหิ นสักครั้งเพื่อฝึ กฝน
ศิลปะเพลงดาบที่ดีที่สุดในโลก สําหรับเขา นี่คือความฝันที่กลายเป็ น
จริ ง
เหลือเวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่อสู รบินได้จะบินผ่านประตูเข้าไป ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ หันมาพูดกับตั้นเฉี่ยวเทียน จางเซวียน และคนอื่น ๆ
“ก่อนที่เราจะเข้าสู่ สาํ นัก ผมขอบอกกล่าวให้พวกคุณรับรู ้ถึงกฎระเบียบ
ของสํานักของเราเสี ยก่อน”
“ศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ นแบ่งออกเป็ น 4 ขั้นคือ ศิษย์สาย
ตรงระดับล่าง ศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก ศิษย์สายตรงฝ่ ายใน และศิษย์
สายตรงขั้นสู งสุ ด แม้ศิษย์สายตรงฝ่ ายในจะได้รับความเคารพยกย่อง
ในสํานัก แต่กย็ งั มีศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดที่เหนือชั้นกว่า”
“ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ด?” ตั้นเฉี่ยวเทียนนัยน์ตาเป็ นประกายด้วย
ความตื่นเต้น
“ใช่แล้ว พูดตามตรงนะ ในฐานะศิษย์สายตรงฝ่ ายในของสํานักดาบ
เมฆเหิ น คุณไม่ตอ้ งทําอะไรมากนักหรอก คุณสามารถใช้เวลาฝึ กฝน
ศิลปะเพลงดาบหรื อฝึ กฝนวรยุทธได้ตามสบาย ถ้าต้องการทรัพยากร
เพื่อการศึกษาเล่าเรี ยน ก็สามารถเข้าไปอ่านหนังสื อในห้องสมุดของ
ศิษย์สายตรงฝ่ ายในได้ หรื อไม่กข็ อพบศิษย์พี่หรื อผูอ้ าวุโสสักคน
เพื่อขอความช่วยเหลือจากพวกเขา แน่นอนว่าทรัพยากรส่ วนใหญ่
ไม่ใช่ของฟรี คุณจะต้องเสี ยค่าใช้จ่ายเป็ นเหรี ยญสํานักดาบ!” ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ พูด
“เหรี ยญสํานักดาบ?” จางเซวียนทวนคําด้วยนํ้าเสี ยงที่เจือความสิ้ น
หวัง
เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีอตั ราแลกเปลี่ยนอีกรู ปแบบหนึ่งที่ใช้กนั เฉพาะ
ในสํานักดาบเมฆเหิ น รู ้สึกได้ทนั ทีวา่ ต่อไปจะต้องเหนื่อยยากไม่
น้อยเพื่อไขว่คว้าหามัน ดูเหมือนเขาไม่มีวนั ได้เป็ นอิสระจากปั ญหา
เรื่ องการเงินเลย
“เหรี ยญสํานักดาบคืออัตราแลกเปลี่ยนเสมือนจริ งที่ใช้กนั เฉพาะ
ภายในสํานักดาบเมฆเหิ น ใช้ซ้ื ออะไรก็ได้ตามแต่คุณต้องการ ไม่วา่
จะเป็ นยาเม็ด อาวุธ เทคนิควรยุทธ หรื อแม้แต่บทเรี ยนจากเหล่าผู ้
อาวุโส แต่การจะได้มนั มาก็ลาํ บากไม่นอ้ ย คุณจะต้องเข้าร่ วมในการ
ดวล ปฏิบตั ิภารกิจให้สาํ เร็ จ ตอบคําถามของคนอื่น ๆ ให้ได้ หรื อให้
คําชี้แนะกับผูอ้ ื่นเรื่ องการฝึ กฝนวรยุทธ ซึ่งเรื่ องสําคัญที่สุดที่คุณจะ
ต้องรู ้กค็ ือทุกอย่างภายในสํานักต้องใช้เหรี ยญสํานักดาบ หากไม่มี
การจะได้อะไรมาสักอย่างก็ลว้ นแต่มีอุปสรรค พูดอีกอย่างก็คือ ถ้า
คุณมีปัญญาหาเหรี ยญสํานักดาบได้มากพอ ก็จะมีโอกาสได้ใช้
ทรัพยากรเพื่อการฝึ กฝนวรยุทธอย่างไม่จาํ กัด จึงเป็ นธรรมดาที่จะ
ยกระดับวรยุทธได้รวดเร็ วกว่าคนอื่น ๆ ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ อธิบาย
ตั้นเฉี่ยวเทียนก็ออกจากประหลาดใจเล็กน้อย
อะไร ๆ ดูจะแตกต่างไปจากที่เขาเคยวาดภาพไว้ เขาคิดว่าสํานักดาบ
เมฆเหิ นน่าจะเป็ นสํานักที่ความต้องการด้านวัตถุมีความสําคัญเป็ น
เรื่ องรอง ทุกคนดื่มดํ่าอยูก่ บั การค้นพบความลํ้าลึกในวรยุทธและ
ศิลปะเพลงดาบ แต่กลับตรงกันข้าม ดูเหมือนจะมีเศรษฐกิจแบบทุน
นิยมอยูท่ ี่นี่!
“รอเดี๋ยว ผูอ้ าวุโสลู่, เมื่อครู่ น้ ีคุณพูดว่าเหรี ยญสํานักดาบคืออัตรา
แลกเปลี่ยนเสมือนจริ ง…นัน่ หมายความว่าสํานักดาบเมฆเหิ นมีหอ
นิรันดร์ของตัวเองหรื อ?” จางเซวียนตั้งคําถาม
“คุณจะคิดแบบนั้นก็ได้ เรามีหอนิรันดร์เป็ นส่ วนตัวที่ศิษย์สายตรง
เข้าถึงได้ ก็เหมือนกับหอนิรันดร์ที่อื่น ๆ มันคือสถานที่ที่เหล่าศิษย์
สายตรงจะได้ทาํ ดวลและแลกเปลี่ยนซื้อขายสิ นค้ากัน ความแตกต่าง
เดียวก็คือหอนิรันดร์ของเราได้รับการดูแลเป็ นการภายในจากคน
ของเราเอง และมีอตั ราแลกเปลี่ยนรวมทั้งระบบต่าง ๆ ที่แยกจากที่
อื่น เป็ นเอกเทศจากหอนิรันดร์สาขาอื่น ๆ ที่อยูภ่ ายนอก” ผูอ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ ตอบ
จางเซวียนพยักหน้า
หากใช้ตรรกะจากโลกใบเก่าของเขา หอนิรันดร์ที่อยูภ่ ายในสํานัก
ดาบเมฆเหิ นก็เหมือนกับพื้นที่ที่เป็ นเครื อข่ายเฉพาะของอินเทอร์เน็ต
คาเฟ่ มีแต่อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็ นของอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เท่านั้นที่จะ
เข้าถึงเครื อข่ายเฉพาะอันนี้ได้
“อ้อ ใช่ ระดับพื้นฐานของวรยุทธในหอนิรันดร์ของเราก็ไม่เหมือน
ใคร ผูท้ ี่จะเข้าสู่ หอนิรันดร์ของเราได้มีแต่ศิษย์สายตรงฝ่ ายในขึ้นไป
เท่านั้น ด้วยเหตุน้ ี วรยุทธระดับพื้นฐานในหอนิรันดร์จึงไม่ใช่ระดับ
เซียนขั้น 1 แต่เป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 1” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูด
สําหรับนักรบที่เข้าสู่ หอนิรันดร์ในเมืองแสงดาว ไม่วา่ ตอนที่อยู่
ภายนอกจะทรงพลังแค่ไหน ทุกคนจะถูกลดระดับวรยุทธไปเป็ น
นักรบระดับเซียนขั้น 1 แต่สาํ หรับที่นี่จะแตกต่างออกไป ไม่วา่ นักรบ
คนหนึ่งจะทรงพลังหรื ออ่อนด้อยอย่างไรก็ตาม ทุกคนจะกลายเป็ น
นักรบระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1 เมื่ออยูภ่ ายในหอนิรันดร์
ตอนที่ 1953 การทดสอบ?
เรื่ องนี้พอเข้าใจได้ เพราะศิลปะเพลงดาบไร้เทียมทานมากมายไม่อาจ
ถูกสําแดงออกมาได้หากความแข็งแกร่ งของนักรบผูห้ นึ่งถูกจํากัดไว้
แค่ระดับเซียนขั้น 1 ซึ่งนัน่ จะทําให้การดวลขาดความน่าสนใจไปมาก
“นอกเหนือจากนั้น เรื่ องอื่น ๆ ก็ดูจะไม่ต่างกัน คุณสามารถปกปิ ด
ตัวตนที่แท้จริ งของตัวเองและปรับเปลี่ยนรู ปลักษณ์ได้ ซึ่งคนอื่น ๆ
จะดูไม่ออกว่าคุณคือใคร ในทางกลับกัน นัน่ ก็หมายความว่าคนที่
คุณกําลังเสวนาด้วยอาจเป็ นผูอ้ าวุโสคนหนึ่งของสํานัก หรื อแม้แต่
ท่านเจ้าสํานักก็เป็ นได้ คุณจึงควรระวังตัวไว้และไม่ทาํ อะไรบุ่มบ่าม
ออกไปภายในหอนิรันดร์ เพราะแม้เหล่าผูอ้ าวุโสและท่านหัวหน้า
สํานักของเราจะไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่กอ็ าจเกิดปัญหาได้หาก
คุณลํ้าเส้น!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เตือนอย่างเคร่ งขรึ ม
“ผูอ้ าวุโส? ท่านเจ้าสํานัก?”
ได้ฟังคําอธิบายนั้น จางเซวียนไม่กงั วลใจสักนิด เขาตาโตด้วยความ
ตื่นเต้น จากนั้นก็อดสงสัยไม่ได้ ถ้าเราเล่นงานผูอ้ าวุโสสักคนหนึ่ง
หรื อแม้แต่เจ้าสํานักล่ะ…มันจะตื่นเต้นกว่าการเล่นงานนักรบทัว่ ไป
มากไหม?
ในบรรดานักรบที่มีวรยุทธระดับเดียวกัน จางเซวียนถือว่าเป็ นผูไ้ ร้
เทียมทานผูห้ นึ่ง ต่อให้คู่ต่อสู ท้ ี่เขาต้องเผชิญจะเป็ นผูอ้ าวุโสหรื อ
แม้แต่เจ้าสํานัก เขาก็มนั่ ใจว่าจะไม่พา่ ยแพ้ ซึ่งในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ก็
ควรจะหาประโยชน์สกั เล็กน้อย
คนพวกนั้นน่าจะมีขา้ วของดี ๆ อยูก่ บั ตัวมากมาย อีกทั้งได้รับรู ้
ข้อมูลข่าวสารสําคัญด้วย ขอแค่เขาเอาชนะคนพวกนั้นได้ ก็จะได้สิ่ง
เหล่านั้นมาบางส่ วน
อาจได้แม้กระทัง่ ข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับตํานานเทพเจ้าแห่งจิต
วิญญาณเลยทีเดียว
ดูเหมือนเป้าหมายแรกของจางเซวียนหลังจากเข้าสู่ สาํ นักดาบเมฆ
เหิ นน่าจะเป็ นการหาตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลสักอันและเข้าสู่ หอ
นิรันดร์ของที่นนั่ จากนั้นก็เสาะหาคู่ต่อสู ท้ ี่เก่งกาจที่สุดเท่าที่จะหา
ได้ และใช้กลอุบายล่อลวงให้อีกฝ่ ายยอมมอบสิ่ งที่เขาต้องการ
เมื่อคิดได้ จางเซวียนเขย่าขาอย่างตื่นเต้นก่อนจะลุกขึ้นยืน “เป็ น
ความคิดที่เจ๋ งเป้งจริ ง ๆ ก็แค่ตอ้ งลงมือทําเท่านั้น!”
“ฮะ? คุณจะทําอะไร?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ หันมามองจางเซวียนอย่าง
สงสัย
ผมก็แค่เตือนคุณว่าคุณอาจได้ต่อสู ก้ บั เหล่าผูอ้ าวุโสหรื อแม้แต่เจ้า
สํานักเมื่ออยูใ่ นหอนิรันดร์ แล้วจะตื่นเต้นเพื่อ?
สมงสมองไปหมดแล้วมั้ง?
ผูอ้ าวุโสลู่เคยคิดอยากรับจางเซวียนเข้าสํานัก แต่ตลอด 2-3 วันที่ผา่ น
มา เขาพบว่าหมอนี่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มเต็ง ทุกครั้งที่จางเซวียนทํา
อะไรเพี้ยน ๆ ความตั้งใจเดิมของเขาก็มีอนั ต้องคลอนแคลนทีละน้อย
และเมื่อถึงตอนนี้ มันก็แตกสลายหมดไม่มีเหลือ
“อ๋ อ ไม่มีอะไรหรอก ผมก็แค่คิดไปเรื่ อยเปื่ อย” จางเซวียนตอบยิม้ ๆ
ส่ วนตั้นเฉี่ ยวเทียนก็ได้แต่ปิดหน้าด้วยความอับอาย
อสู รบินผ่านประตูสูงตระหง่านเข้าไป จากนั้นก็ร่อนลงบนยอดเขา
สู งแห่งหนึ่ง ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ กระโจนลงจากหลังอสู ร จากนั้นก็รีบ
จัดหาที่พกั ให้ต้ นั เฉี่ยวเทียน
“ระหว่างนี้ พวกคุณที่เหลือพักอยูท่ ี่นี่ไปก่อน ส่ วนตั้นเฉี่ยวเทียน, มา
กับผม คุณต้องเข้ารับการทดสอบ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูดขณะปล่อยให้
จางเซวียน เฉาเฉิงลี่และผูอ้ าวุโสอี้พาํ นักอยูใ่ นบ้านพักหลังนั้น
“การทดสอบ?”
“การทดสอบที่ผมทดสอบคุณไปก่อนหน้านี้เป็ นแค่การบ่งบอกว่า
คุณมีคุณสมบัติเพียงพอจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน แต่สาํ หรับ
กระบวนการอย่างเป็ นทางการนั้น คุณจะต้องไปที่หอเทพดาบเพื่อ
สําแดงศิลปะเพลงดาบของคุณก่อน” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูด
“หอเทพดาบ?”
“ใช่ มันคือสถานที่ที่เปิ ดให้บรรดาศิษย์สายตรงได้เข้ารับการทดสอบ
ไม่วา่ จะเป็ นศิษย์สายตรงระดับล่างที่อยากจะเลื่อนขั้นขึ้นเป็ นศิษย์
สายตรงฝ่ ายนอก หรื อศิษย์สายตรงฝ่ ายในที่อยากเลื่อนขั้นขึ้นเป็ น
ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ด พวกเขาจะต้องสําแดงศิลปะเพลงดาบที่นี่ ก็
เหมือนกับความตั้งใจของผมเมื่อครั้งที่ผมให้คุณดวลกับหัวเจียงเหอ
ก่อนหน้านี้นนั่ แหละ แต่การประเมินของหอเทพดาบละเอียดแม่นยํา
กว่านั้นมาก มันจะบ่งบอกพละกําลังที่คุณมีอยูใ่ นตอนนี้ได้อย่าง
ชัดเจน” ผูอ้ าวุโสลู่อธิบายยิม้ ๆ
“ในการต่อสู ้ ศิลปะเพลงดาบของนักดาบคนหนึ่งจะได้รับอิทธิพล
จากสภาวะร่ างกาย ความแข็งแกร่ งของจิตใจ ปฏิกิริยาตอบสนอง
และอื่น ๆ ในตัวเขา แต่ปัจจัยเหล่านี้ไม่มีความสําคัญในหอเทพดาบ
ขอแค่ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของคุณเข้าถึงระดับที่น่าพอใจ
ผลลัพธ์กจ็ ะถูกแสดงออกมาตามนั้น!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนตาโต
“ไปกันเถอะ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ร้องเรี ยกตั้นเฉี่ยวเทียนให้ตามไป
จางเซวียนเดินเข้ามา “ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ผมอยากเห็นหอเทพดาบ
พอจะเป็ นไปได้ไหมหากผมจะตามไปด้วย?”
เขาไม่เคยได้ยนิ ว่ามีสิ่งที่สามารถทดสอบความเข้าใจในศิลปะเพลง
ดาบของนักรบผูห้ นึ่งได้ จึงอยากรู ้มากว่าระบบของมันทํางานอย่างไร
“เอ่อ…” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ลังเลครู่ หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ผมว่าก็คงไม่
เป็ นไร”
โดยทัว่ ไป คนนอกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ หอเทพดาบ แต่ใน
เมื่อแม้แต่ศิษย์สายตรงระดับล่างก็ยงั เข้าไปรับการทดสอบที่นนั่ ได้
การที่จางเซวียนจะติดสอยห้อยตามไปเฝ้าดูในฐานะสหายของตั้น
เฉี่ยวเทียนก็คงไม่ใช่เรื่ องใหญ่
พวกเขาก้าวขึ้นหลังอสู รบินได้อีกครั้งและบินตรงไปยังยอดเขาอีก
ลูกหนึ่ง
ความโดดเด่นสะดุดตาของยอดเขาลูกนี้คืออาคารรู ปร่ างเหมือนดาบ
ที่ต้ งั อยูบ่ นนั้น ดูคล้ายกับหอคอย
“นี่คือหอเทพดาบ ในแต่ละวันจะมีท้ งั ศิษย์สายตรงระดับล่าง ศิษย์
สายตรงฝ่ ายนอก และศิษย์สายตรงฝ่ ายในมากมายเข้ามาที่นี่เพื่อรับ
การประเมินศิลปะเพลงดาบของพวกเขา”ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูดขณะพา
ทั้งกลุ่มเดินเข้าสู่ หอคอย
ทันทีที่เข้าไป ก็เห็นผูค้ นมากมายกระจายตัวกันอยูร่ อบ ๆ ห้องโถง
พร้อมกับมีดาบเหน็บหลังเจตจํานงเพลงดาบอบอวลไปทัว่ น่าตกใจ
ที่ระดับวรยุทธของนักรบส่ วนใหญ่ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าจางเซวียน
เลย!
สมกับเป็ นหนึ่งในหกสํานักใหญ่ของมิติเบื้องบน มีผเู ้ ชี่ยวชาญอยู่
มากมายจริ ง ๆ ! จางเซวียนคิด
เขาเคยคิดว่าวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ของเขาก็ไม่ข้ ีเหร่
แต่กลับกลายเป็ นเพียงระดับที่พบได้ทวั่ ไปเท่านั้น
อีกอย่าง ผูท้ ี่ปรากฏตัวที่นี่กไ็ ม่ใช่กย็ งั ไม่ใช่ผทู ้ ี่ทรงพลังที่สุด ยากจะ
จินตนาการได้วา่ บรรดาศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ด เหล่าผูอ้ าวุโส และเจ้า
สํานักจะทรงพลังขนาดไหน
รู ้ดีวา่ ทั้งคูไ่ ม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับหอเทพดาบ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
อธิบาย “มีหอ้ งอยูม่ ากมายในหอเทพดาบแห่งนี้ ทุกห้องจะมีแท่น
เทพดาบ แค่คุณจ่ายเงินเหรี ยญสํานักดาบตามจํานวนที่กาํ หนด ก็จะ
สามารถเข้าไปในห้องและรับการทดสอบศิลปะเพลงดาบของคุณ
ได้”
“แต่แน่นอนว่าการทดสอบครั้งแรกทําได้ฟรี ครั้งต่อ ๆ ไปเท่านั้นที่
จะมีค่าใช้จ่าย”
“อ้อ…” ตั้นเฉี่ยวเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาเพิ่งมาถึงสํานักดาบเมฆเหิ นหมาด ๆ ยังไม่รู้ดว้ ยซํ้าว่าเหรี ยญ
สํานักดาบมีหน้าตาอย่างไร จึงไม่มีทางที่จะหาเงินตามจํานวนนั้นได้
“รอตรงนี้ก่อนนะ ผมจะเปิ ดห้องให้ ตั้นเฉี่ ยวเทียน…คุณเข้าไปก่อน
ส่ วนจางเซวียน, ถ้าคุณอยากลองดูล่ะก็ หลังจากเสร็ จกระบวนการ
ของตั้นเฉี่ยวเทียนแล้วคุณก็เข้าไปได้ แท่นเทพดาบจะประเมินนักรบ
ได้ทีละคนเท่านั้น ไม่อย่างนั้น การตรวจสอบเจตจํานงเพลงดาบจะ
ถูกรบกวน” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูดก่อนจะบ่ายหน้าไปที่เคาน์เตอร์ตอ้ นรับ
ไม่ชา้ พวกเขาก็มายืนอยูต่ รงหน้าประตูงดงามหรู หราบานหนึ่ง ผูอ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ หันไปพูดกับตั้นเฉี่ยวเทียน “เมื่อคุณเข้าไปในห้องแล้ว ถือดาบ
ไว้ให้มนั่ และปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบรวมทั้งความเข้าใจในแนว
คิดของศิลปะเพลงดาบของคุณออกมา ถ้ารัศมีของเจตจํานงเพลงดาบ
ของคุณกินอาณาบริ เวณมากกว่า 1 เมตร คุณก็จะมีคุณสมบัติเพียงพอ
ได้เป็ นศิษย์สายตรงระดับล่าง, 10 เมตรจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ าย
นอก, และ 30 เมตรจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน เพราะฉะนั้น ใน
เวลานี้, 30 เมตรคือเป้าหมายที่คุณต้องทําให้ได้!”
“30 เมตร?” ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้าช้า ๆ
เขากะไม่ถูกว่าการแผ่เจตจํานงเพลงดาบให้กินอาณาบริ เวณถึง 30
เมตรนั้นจะยากเย็นขนาดไหน
เห็นสี หน้ากังขาของตั้นเฉี่ยวเทียน ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ อธิบายต่อ “ไม่ตอ้ ง
ห่วง อาณาบริ เวณของเจตจํานงเพลงดาบขึ้นอยูก่ บั ระดับความเข้าใจ
ในศิลปะเพลงดาบของคุณ ไม่ใช่กระแสดาบฉี ด้วยระดับวรยุทธของ
คุณในเวลานี้ คุณไม่มีทางปลดปล่อยกระแสดาบฉี ที่มีความยาวถึง
30 เมตรออกมาได้หรอก!”
“อ๋ อ ผมเข้าใจแล้ว!” ตั้นเฉี่ยวเทียนเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน
ด้วยประสิ ทธิภาพของศิลปะเพลงดาบที่เขามีอยูต่ อนนี้ เขาสามารถ
ปล่อยกระแสดาบฉีออกมาได้อย่างมากราว 2-3 เมตรเท่านั้น 30 เมตร
ถือว่าไกลเกินเอื้อม
แปลว่า ‘การปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบ’ ที่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูดถึง
นั้นไม่ได้หมายถึงกระแสดาบฉี
แอ๊ดดด!
ตั้นเฉี่ยวเทียนผลักประตูและเดินเข้าไปข้างใน
ระหว่างนั้น จางเซวียนหันกลับไปตั้งคําถามกับผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ด้วย
ความอยากรู ้ “ไม่ทราบว่าสถิติที่ดีที่สุดในการปลดปล่อยเจตจํานง
เพลงดาบของเหล่าศิษย์สายตรงฝ่ ายในคือเท่าไหร่ ?”
ถ้า 30 เมตรคือเงื่อนไขพื้นฐานเพื่อผ่านการทดสอบ แล้วสถิติที่ดี
ที่สุดของบรรดาผูฝ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบในสํานักดาบเมฆเหิ นเป็ น
อย่างไร?
“ภายใต้สถานการณ์ทวั่ ไป นักรบผูห้ นึ่งจะมีคุณสมบัติเพียงพอได้
เป็ นศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดหากการปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของ
เขากินอาณาบริ เวณถึง 100 เมตร แต่กว็ า่ กันว่ามีศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
บางส่ วนที่ทาํ ได้เหนือกว่านั้น โดยสถิติที่ดีที่สุดในหมู่พวกเขาอยูท่ ี่
ราว 300 เมตร หรื อสู งกว่านั้นอีก” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูด
“300 เมตร?” จางเซวียนทึ่ง
เขาไม่รู้วา่ มีวธิ ีประเมินและคิดคํานวณ ‘การปลดปล่อยเจตจํานงเพลง
ดาบ’ อย่างไร แต่ถา้ แม้แต่ศิษย์สายตรงฝ่ ายนอกก็ยงั ทําสถิติ 30 เมตร
ได้ดว้ ยความยากลําบาก ผูท้ ี่ทาํ ผลงานได้ยอดเยีย่ มกว่านั้นถึง 10 เท่า
ก็จะต้องมีความน่าสะพรึ งไม่นอ้ ย
“แน่นอนว่านัน่ เป็ นสถิติในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ ายในเท่านั้น ยังมี
ผูเ้ ชี่ยวชาญผูไ้ ร้เทียมทานอีกมากมายในหมู่ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ด
บางคนทําได้เกิน 500 เมตรด้วยซํ้า ผูท้ ี่ทาํ สถิติได้ระดับนั้นจะได้รับ
การขนานนามว่า ‘เทพดาบ’ และนัน่ ก็คือที่มาของสมญานาม ‘เทพ
ดาบหนึ่งลี้’ และ ‘เทพดาบสองลี้’ ว่ากันว่าตลอดประวัติศาสตร์อนั
ยาวนานของสํานัก ผูท้ ี่เก่งกาจที่สุดสามารถปลดปล่อยเจตจํานงเพลง
ดาบของเขาให้กินอาณาบริ เวณถึง 10 ลี้ได้ ด้วยเหตุน้ ี ใคร ๆ จึงพา
กันขนานนามให้เขาด้วยความยกย่องว่า ‘เทพดาบสิ บลี้’!” ผูอ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ อธิบาย นัยน์ตาเปล่งประกายชื่นชมยกย่อง
“เทพดาบสิ บลี้?” จางเซวียนถึงกับทึ่ง
ขณะที่นกั ดาบคนอื่น ๆ พยายามกันแทบตาย ผูเ้ ชี่ยวชาญคนนั้นกลับ
ปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบได้ถึง 10 ลี้ เหลือเชื่อจริ ง ๆ !
ตอนที่ 1954 ยังอีกไกลนักกว่ าจะถึงเป้ าหมาย!
“ไม่ทราบว่าเจตจํานงเพลงดาบของคุณกินอาณาบริ เวณแค่ไหน, ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ ?” จางเซวียนถามด้วยความอยากรู ้
“ผม?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ออกจะแปลกใจเล็กน้อยกับคําถาม เขามีสีหน้า
เจื่อน ๆ ขณะส่ ายหัว “ผมไม่ได้เชี่ยวชาญศิลปะเพลงดาบมากนัก
ตอนที่ยงั หนุ่มจึงไม่ผา่ นเกณฑ์ของศิษย์สายตรงฝ่ ายในด้วยซํ้า แต่
เพราะผมเพียรพยายามฝึ กฝนอย่างไม่ลดละ ในที่สุดจึงสําเร็ จวรยุทธ
ในระดับที่เป็ นอยูแ่ ละได้รับตําแหน่งผูอ้ าวุโสฝ่ ายนอก แม้ผมจะ
ฝึ กฝนวิถีแห่งเพลงดาบมาเนิ่นนานหลายปี แต่กย็ งั ทําสถิติได้ไม่ถึง
100 เมตร…ตอนนี้ผมทําได้ 97 เมตรเท่านั้น”
“97 เมตร? แค่น้ นั ก็น่าทึ่งมากแล้ว” จางเซวียนตั้งข้อสังเกตขณะหัน
กลับไปมองห้องที่ปิดสนิทอยูต่ รงหน้า
ศิษย์สายตรงของเขาคนนี้เพิ่งรํ่าเรี ยนศิลปะเพลงดาบจากเขาได้เพียง
คืนเดียว ซํ้ามีความเข้าใจในเทคนิคการใช้ดาบเพียงเทคนิคเดียว
เท่านั้น ในเมื่ออีกฝ่ ายยังปราศจากความเข้าใจอันลํ้าลึกในวิถีของ
เพลงดาบ จางเซวียนก็อดสงสัยไม่ได้วา่ ศิษย์ของเขาคนนี้จะทําได้ดี
แค่ไหน
…..
สิ่ งแรกที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนเห็นเมื่อเข้าไปในห้องคือแท่นรู ปกลมที่มีดาบ
ปักแน่นอยูต่ รงกลาง
นี่คงเป็ นสิ่ งที่เรี ยกว่าแท่นเทพดาบที่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูดถึง
พื้นที่ตรงหน้าเขาโล่งกว้างจนน่าประหลาดใจ ไม่มีผนังทั้งบริ เวณ
ด้านหน้าและด้านบน เพื่อเปิ ดทางให้เจตจํานงเพลงดาบของผูเ้ ข้ารับ
การทดสอบพุง่ ออกไปได้หลายเมตร เพราะหากมีผนัง ก็คงต้องเสี ย
ค่าใช้จ่ายสู งลิ่วในการสร้างห้องที่สามารถแบกรับแรงกดดันจากการ
ปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบได้
ตั้นเฉี่ยวเทียนก้าวขึ้นไปบนแท่น เขาชักดาบออกมาแล้วสู ดหายใจ
ลึก เพ่งสมาธิท้ งั หมดให้กบั การขับเคลื่อนพลังงาน
เจตจํานงเพลงดาบมีรากฐานอยูบ่ นความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบ
ของนักรบผูน้ ้ นั
เขาฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบมากว่า 10 ปี แล้วตั้งแต่ยงั เด็ก จึงรู ้ซ้ ึงและมี
จิตใจที่ฝังลึกอยูก่ บั ศิลปะเพลงดาบ
เพียงแค่ถือดาบในมือ ตั้นเฉี่ยวเทียนก็รู้สึกเหมือนมือของเขาจะ
หลอมละลายเข้ากับดาบ แทนที่จะเป็ นอาวุธ กลับให้ความรู ้สึก
เหมือนแขนของเขายืดยาวออกไปอีก
หึ่ งงงง!
ดูเหมือนดาบนั้นจะรับรู ้ความคิดของเขาได้ มันส่ งเสี ยงหึ่ งดังลัน่
ขณะที่แท่นเทพดาบเรื องแสงสี ขาวราวกับนํ้านมออกมา
นัยน์ตาของตั้นเฉี่ยวเทียนบ่งบอกความมุ่งมัน่ เขาขับเคลื่อนพลังงาน
จนเต็มพิกดั
ฟิ้ วววว!
เจตจํานงเพลงดาบระเบิดออกไป
ตั้นเฉี่ยวเทียนรี บลืมตาดูเพื่อกะระยะทาง สิ่ งที่เห็นทําให้ถึงกับหน้า
ชา
“1 สื อ? 1 ใน 3 ส่ วนของ 1 เมตร?”
เขาขับเคลื่อนพละกําลังจนเต็มพิกดั แต่กลับกลายเป็ นว่าการปลดปล่อย
เจตจํานงเพลงดาบของเขากินอาณาบริ เวณเพียง 1 ใน 3 ของ 1 เมตร
เท่านั้น ถ้าเป็ นอย่างนี้ ก็หมายความว่าความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบ
ของเขาเทียบชั้นไม่ได้แม้แต่กบั ศิษย์สายตรงระดับล่างหรื อ?
“มะ-ไม่จริ งหรอก เป็ นไปไม่ได้…ขนาดหัวเจียงเหอยังสู เ้ ราไม่ได้
เลย!” หัวสมองของตั้นเฉี่ยวเทียนแทบระเบิด
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ยํ้าแล้วยํ้าอีกว่าหอเทพดาบมีความเที่ยงธรรมขนาด
ไหน แต่ในการต่อสู ข้ องจริ ง ศิลปะเพลงดาบของเขาเหนือชั้นกว่า
แม้แต่หวั เจียงเหอ แล้วความสามารถของเขาจะถูกจํากัดอยูท่ ี่ 0.33
เมตรได้อย่างไร? เป็ นไปไม่ได้!
“เดี๋ยวก่อน เราเอาชนะหัวเจียงเหอได้ดว้ ยศิลปะการโยนดาบ บางที
เราควรจะทดลองด้วยกระบวนท่านั้น…”
หลังจากลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง ตั้นเฉี่ยวเทียนนึกได้วา่ ยังมีไม้ตายอยู่ จึงสู ด
หายใจลึกก่อนกระดิกนิ้ว
วิง้ งงง!
ดาบในมือของเขาลอยขึ้นสู่ กลางอากาศ
ทันทีที่ดาบหลุดมือไป เจตจํานงเพลงดาบอันหนักหน่วงก็ระเบิด
ออกจากร่ างของเขา ดาบนั้นแผ่เจตจํานงเพลงดาบของมันออกมา ทั้ง
ห้องปกคลุมไปด้วยหมอกขาว คลื่นพลังงานอันทรงพลังโอบรอบ
ดาบไว้ราวกับพายุเฮอริ เคน
“เฮ้ย…” ตั้นเฉี่ยวเทียนจังงังไปอีกครั้ง
ตอนที่เขาผลักดันเจตจํานงเพลงดาบจนสุ ดกําลัง ก็ปลดปล่อยออกมา
ได้เพียง 0.33 เมตร แต่ทนั ทีที่ใช้เทคนิคการโยนดาบที่ท่านอาจารย์
ถ่ายทอดให้ ยังไม่ทนั จะได้ปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบออกไป ก็
เกิดความปั่นป่ วนครั้งใหญ่ข้ ึนแล้ว หากเขาสําแดงเทคนิคนี้จนสําเร็ จ
ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็ นอย่างไร?
หรื อว่ามีความแตกต่างใหญ่หลวงระหว่างศิลปะเพลงดาบที่เขาเพียร
พยายามทําความเข้าใจมา 10 ปี กับสิ่ งที่ท่านอาจารย์เพิ่งถ่ายทอดให้?
“ไปเลย!”
ตั้นเฉี่ ยวเทียนมีสีหน้ากระอักกระอ่วน เขาสะบัดดาบ มันพุง่ ออกไป
ทันที
ฟิ้ วววว!
เจตจํานงเพลงดาบสี ขาวพวยพุง่ ออกมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของ
ดาบ จากนั้นก็หายวับไปในชัว่ พริ บตา
ตั้นเฉี่ยวเทียนกะพริ บตาปริ บ ๆ ด้วยความงงงัน
เจตจํานงเพลงดาบของเขากินอาณาบริ เวณแค่ 0.33 เมตรเท่านั้น แต่
เมื่อใช้ศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์ เจตจํานงเพลงดาบก็พงุ่
ออกไปแสนไกลจนไม่อาจมองเห็นได้ดว้ ยตา…
เท่าที่ดู น่าจะมากกว่า 30, 50 หรื อแม้แต่ 100 เมตร!
“มันยังพุง่ อยูห่ รื อ?”
หลังจากรี รออยูค่ รู่ หนึ่ง เจตจํานงเพลงดาบก็ดูจะยังไปไม่สุดทาง ทํา
เอาตั้นเฉี่ยวเทียนถึงกับจังงัง
นี่มนั พุง่ ไปไกลจนไม่อาจวัดผลได้หรื อเปล่า?
วิง้ งง!
แต่ขณะที่กาํ ลังกังวล ผนังที่อยูด่ า้ นข้างเขาก็สนั่ สะท้านเล็กน้อยก่อน
จะปรากฏผลลัพธ์
“499 เมตร!”
อีกเพียง 1 เมตร ตั้นเฉี่ ยวเทียนก็จะได้เป็ นเทพดาบ!
เมื่อรู ้ตวั ว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้นเฉี่ยวเทียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ดว้ ย
ความเสี ยดาย
ดูเหมือนเราจะได้ร่ าํ เรี ยนศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์ แต่ไม่อาจ
เข้าถึงเจตจํานงเพลงดาบขั้นพื้นฐานและอื่น ๆ ได้เลย…
ตั้นเฉี่ยวเทียนเคยคิดว่าด้วยการฝึ กฝนอย่างหนักตลอดระยะเวลา 10
ปี การจะได้เป็ นศิษย์สายตรงระดับล่างของสํานักดาบเมฆเหิ นก็คง
ไม่ยากเกินไป แต่ดูเหมือนเขาจะประเมินความสามารถของตัวเองสู ง
กว่าความเป็ นจริ ง
ยังอีกไกลนักกว่าจะถึงเป้าหมาย!
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่เฉว่ชิงซึ่งไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากร อีกทั้งได้คาํ
ชี้แนะจากเฉว่เฉิน ก็ยงั เป็ นได้แค่ศิษย์สายตรงระดับล่าง ในเมื่อตอน
นั้นตัวเขาฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบตามลําพัง แถมยังไม่อาจใช้พลัง
ปราณได้…
เป็ นไปได้วา่ 0.33 เมตรคือผลลัพธ์จากการฝึ กฝนของเขาตั้งแต่ก่อน
ได้พบท่านอาจารย์ ถ้าไม่ได้พบท่านอาจารย์ เขาก็คงทําอะไรไม่ได้
เลย
เราได้ร่ าํ เรี ยนกระบวนท่าจากศิลปะเพลงดาบของท่านอาจารย์เท่านั้น
ไม่ใช่ทฤษฎีที่อยูเ่ บื้องหลัง แต่กย็ งั แผ่เจตจํานงเพลงดาบออกไปได้
ไกลขนาดนี้ ถ้าเราเข้าใจแนวคิดของมันอย่างสมบูรณ์แบบล่ะก็ น่า
คิดเหลือเกินว่าตัวเราจะทรงพลังขนาดไหน ตั้นเฉี่ยวเทียนคิด
ตัวเขาในเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กคนหนึ่งที่เรี ยนรู ้วธิ ีแก้โจทย์เลข
ผ่านการเลียนแบบ เขาได้คาํ ตอบที่ถูกต้อง แต่หากถูกตั้งคําถามว่า
ทําไมถึงใช้วธิ ีน้ นั หรื อต้องขยายความรายละเอียดที่อยูเ่ บื้องหลัง
วิธีการแก้โจทย์ของเขาว่าคืออะไร ก็แน่นอนว่าตอบไม่ได้
คน ๆ หนึ่งอาจแสดงออกถึงความกล้าหาญได้อย่างลึกซึ้ งจากจิต
วิญญาณจนสามารถปลุกเร้าอารมณ์และความรู ้สึกของผูอ้ ื่นได้ แต่
นัน่ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลายเป็ นกวีอย่างหลี่ไป๋ ที่มาพร้อม
กับบทกวีที่อยูเ่ หนือกาลเวลา
แม้จะอยูใ่ นฐานะดังกล่าว แต่เจตจํานงของตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยงั แผ่ออกไป
ได้ไกลถึง 499 เมตร ซึ่งหากเขามีความเชี่ยวชาญในภูมิปัญญาที่แท้จริ ง
ของท่านอาจารย์ล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องประสบความสําเร็ จมากกว่านี้
จะว่าไป นี่จะไม่หมายความว่าท่านอาจารย์ของเขาสามารถแผ่
เจตจํานงเพลงดาบออกไปได้ไกลกว่า 500 เมตรหรื อ? น่าจะเหนือ
ชั้นกว่าบรรดาผูป้ ราดเปรื่ องของสํานักดาบเมฆเหิ นด้วยซํ้า!
เราควรรี บออกไปพบท่านอาจารย์เพื่อให้เขาได้มีโอกาสทดลอง ตั้น
เฉี่ยวเทียนครุ่ นคิดอย่างตื่นเต้นขณะรี บออกจากห้อง
ขนาดศิลปะเพลงดาบที่เขารํ่าเรี ยนเพียงวันเดียวยังไร้เทียมทานขนาด
นี้ เขาเชื่อมัน่ ว่าท่านอาจารย์จะต้องทําลายสถิติได้แน่!
เมื่อเห็นตั้นเฉี่ยวเทียน ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ รี บไถ่ถาม “เป็ นอย่างไรบ้าง?
คุณทําได้เกินกว่า 30 เมตรหรื อเปล่า?”
ถึงเขาจะมัน่ ใจว่าตั้นเฉี่ ยวเทียนน่าจะทําได้ตามเงื่อนไข แต่กอ็ ดใจเต้น
ตึกตักไม่ได้จนกว่าจะได้รู้คาํ ตอบ
“ผมทําได้…” ตั้นเฉี่ยวเทียนหน้าแดงกํ่า
อันที่จริ ง ความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของตัวเขาทําให้สามารถ
ปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบออกไปได้เพียง 0.33 เมตรเท่านั้น แต่
ถ้าเขายอมรับออกไป คงถูกขับออกจากสํานักทันที ด้วยเหตุน้ ี หลัง
จากใคร่ ครวญอย่างดีแล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนจึงตัดสิ นใจตามนํ้าไปก่อน
ต่อไป เขาก็แค่ตอ้ งฝึ กฝนให้หนักกว่าเดิมเพื่อกําจัดจุดอ่อนข้อนี้ให้
ได้!
ผูอ้ าวุโสลู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากได้ยนิ ว่าตั้นเฉี่ยวเทียนผ่าน
การทดสอบ เขาซักไซ้รายละเอียด “การปลดปล่อยเจตจํานงเพลง
ดาบของคุณกินอาณาบริ เวณเท่าไหร่ ?”
เขาเคยเห็นศิลปะเพลงดาบของตั้นเฉี่ ยวเทียนแล้ว มันเป็ นการสําแดง
ศิลปะการต่อสู อ้ นั น่าทึ่ง ถึงขนาดที่หวั เจียงเหอ, ศิษย์พี่หมายเลข 1
ของบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ ายนอกก็ยงั เทียบชั้นไม่ได้
เพียงเท่านั้นก็มากพอจะทําให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียนขึ้นเป็ นผูน้ าํ ในหมู่ศิษย์
สายตรงฝ่ ายในแล้ว
“เอ่อ…นี่คือผลการทดสอบของผม” ตั้นเฉี่ ยวเทียนตอบพร้อมกับยืน่
ตราหยกอันหนึ่งให้
เขาบันทึกผลลัพธ์ที่ปรากฏบนผนังเมื่อครู่ น้ ีเอาไว้
เห็นตั้นเฉี่ ยวเทียนอับอายขายหน้าจนต้องยืน่ ตราหยกให้เขาแทนการ
พูดตัวเลขออกมา ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เข้าใจทันทีวา่ ผลการทดสอบของ
อีกฝ่ ายคงไม่ดีนกั “คุณไม่ตอ้ งกังวลเรื่ องผลการทดสอบในเวลานี้
หรอก คุณอายุยงั น้อย ขอแค่ได้เข้าเป็ นหนึ่งในศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
ต่อไปก็จะพัฒนาตัวเองได้รวดเร็ วอย่างแน่นอน…”
แต่ยงั ไม่ทนั จะพูดจบ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็เห็นตัวเลขที่ปรากฏบนตรา
หยก นัยน์ตาของเขาแทบทะลุออกจากเบ้า “4-499 เมตร?”
“ใช่” ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้าด้วยใบหน้าแดงกํ่า น่าอับอายเหลือเกิน
ที่ตอ้ งโกหกดื้อ ๆ แบบนี้
“….”
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ มองตราหยกในมือสลับกับสี หน้าอับอายเกินขนาด
ของตั้นเฉี่ ยวเทียน เขาทึ้งผมตัวเองอย่างหงุดหงิด
คุณเป็ นบ้าอะไร?
ไอ้สีหน้าอับอายเหลือหลายของคุณทําให้ผมคิดว่าคุณคงทําได้ราว ๆ
30 เมตรเท่านั้น…แต่ให้นรกกินเถอะ ผลลัพธ์ของคุณคือ 499 เมตร!
รู ้หรื อเปล่าว่ามีศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดมากมายแค่ไหนที่อยากจะทํา
ผลงานให้ได้แบบคุณ แต่ไม่มีปัญญา?
คุณเกือบจะได้เป็ นเทพดาบแล้ว รู ้บา้ งไหม?
แทนที่จะภูมิใจ กลับหน้าแดงกํ่าด้วยความอับอายกับสถิติของตัวเอง
แล้วผมล่ะ? ถ้างั้นผมเป็ นตัวอะไร? ตัวตลกเดินได้ให้ใคร ๆ ดูถูก
เหยียดหยามใช่ไหม?
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ รู ้สึกเหมือนถูกปล้นศักดิ์ศรี ท้ งั หมดไปและทําลายมัน
จนแหลกสลายเป็ นชิ้น ๆ
เขาเคยเห็นศิษย์สายตรงมากมายที่หงุดหงิดและท้อใจกับผลลัพธ์อนั
น้อยนิดของตัวเอง แต่นี่เป็ นครั้งแรกที่ได้เห็นใครคนหนึ่งทําสี หน้า
แบบนั้นทั้งที่ได้ผลลัพธ์ดีเลิศ
เรื่ องแบบนี้เหมือนกับสถานการณ์ในวันหนึ่งที่เป็ นวันประกาศผล
สอบ คุณเห็นนักเรี ยนคนหนึ่งกําลังพึมพําพรํ่าบ่นไม่หยุด จึงเข้าไป
ปลอบใจเขา หลังจากปลอบกันอยูน่ าน ในที่สุดหมอนัน่ ก็ยอมบอก
ว่าเขาเสี ยอกเสี ยใจเพราะเหตุใด
ในการทดสอบที่มีคะแนนเต็ม 100 คะแนน เขาทําคะแนนได้ 99
ส่ วนตัวคุณที่เข้าไปปลอบใจเขา…ได้เพียง 9 คะแนนเท่านั้น!
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ไม่เคยรู ้สึกอยากหายตัวมากเท่านั้นมาก่อน
ตอนที่ 1955 เป็ นไปไม่ ได้ !
เขาสู ดลมหายใจสองเฮือกใหญ่ก่อนจะตั้งคําถาม “คุณรู ้สึก…อับอาย
ขายหน้ากับผลลัพธ์ของคุณอย่างนั้นหรื อ?”
“ใช่…มันออกจะไม่ค่อยปกติ…” ตั้นเฉี่ ยวเทียนก้มหน้าก้มตา
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ใจเต้นแรงด้วยความโมโหเดือด เขาต้องยกมือขึ้นกด
หน้าอกครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อระงับอารมณ์ เมื่อรู ้สึกว่าไม่อยากพูดกับ
หมอนี่อีกต่อไป เขาสู ดหายใจลึกอีกครั้งก่อนจะหันไปถามจางเซวียน
“คุณอยากเข้าไปลองดูไหม?”
เขาเกรงว่าตัวเองจะทําอะไรเกินเลยหรื อแสดงความเกรี้ ยวกราด
ออกมาหากยังพูดกับตั้นเฉี่ ยวเทียนอยู่
“เอ่อ…ได้สิ” จางเซวียนพยักหน้าขณะเดินเข้าไปในห้อง
ตลอดทาง เขาอดคิดไม่ได้ ลูกศิษย์ของเราคนนี้ยงั ไม่ได้ร่ าํ เรี ยนศิลปะ
เพลงดาบของเราสักกี่มากน้อย แต่กเ็ รี ยนรู ้ที่จะรู ้จกั ถ่อมเนื้อถ่อมตัว
แบบเราแล้ว ไม่เลวเลย
ดูเหมือนอีกฝ่ ายจะปราดเปรื่ องพอให้เขาปั้นได้
จางเซวียนปิ ดประตู จากนั้นก็เดินตรงไปยังแท่นเทพดาบ
“ฮึ? ทําไมไม่มีดาบล่ะ?”
เขาเหลียวมองโดยรอบ แต่หอ้ งนั้นว่างเปล่า ไม่มีดาบสักเล่มให้เห็น
ตามที่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ บอกไว้ ควรจะมีดาบเล่มหนึ่งอยูต่ รงนี้
หรื อว่าการประเมินศิลปะเพลงดาบไม่จาํ เป็ นต้องใช้ดาบ? แต่กด็ ูไม่
น่าจะใช่ แต่กน็ นั่ แหละ เมื่อครู่ น้ ีต้ นั เฉี่ยวเทียนก็อยูท่ ี่นี่ ซึ่งนัน่ อาจ
หมายความว่าไม่ตอ้ งใช้ดาบก็ได้
“แต่วา่ …ปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบที่กินอาณาบริ เวณถึง 499 เมตร
ได้โดยไม่ตอ้ งใช้ดาบ เราอาจประเมินความสามารถของตั้นเฉี่ยวเทียน
ผิดไปจริ ง ๆ …”
บางทีแท่นเทพดาบอาจไม่ได้เตรี ยมดาบไว้ให้ เมื่อลองนึกดู บรรดา
ศิษย์สายตรงส่ วนใหญ่ที่เขาได้พบด้านนอกก็ลว้ นแต่เหน็บดาบไว้ที่
หลังทั้งนั้น แน่นอนว่ามันคงเป็ นความผิดพลาดครั้งใหญ่หากไม่มี
ดาบในมือ…
ได้ผลลัพธ์ขนาดนั้นทั้งที่ไม่มีดาบ ลูกศิษย์ของเขาไม่ทาํ ให้เขา
ผิดหวังจริ ง ๆ
ในเมื่อลูกศิษย์ทาํ ได้โดยไม่ตอ้ งใช้ดาบ อย่างน้อยที่สุด ตัวเขาใน
ฐานะอาจารย์กค็ วรจะทําได้แบบเดียวกัน
จางเซวียนสู ดหายใจลึกก่อนจะปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบทั้งหมด
ของเขาออกไปในคราวเดียว
แก่นสารเพลงดาบที่เขาได้ศึกษาเมื่อครั้งอยูใ่ นทวีปแห่งปรมาจารย์
สะท้อนเข้ามาในหัวสมองขณะที่ยกนิ้วขึ้น
กระแสดาบฉีที่มีความเข้มข้นอย่างน่าทึ่งรวมตัวกันอยูท่ ี่ปลายนิ้ว
ของจางเซวียน
ด้วยการสัง่ สมกันของกระแสดาบฉี หมอกขาวระเบิดออกจากแท่น
เทพดาบและเข้าโอบล้อมร่ างของจางเซวียนไว้อย่างรวดเร็ ว แต่
แทนที่จะพุง่ ออกไป มันกลับหลอมรวมเข้ากับกระแสดาบฉี ของจาง
เซวียน
ดูราวกับหมอกขาวเหล่านี้ยอมจํานนให้กบั เจตจํานงเพลงดาบของ
จางเซวียนและไม่กล้าทําอะไรลงไปหากปราศจากคําสัง่ ของเขา
เห็นภาพนั้น จางเซวียนอ้าปากค้าง
นี่มนั บ้าบออะไร?
ถ้าเป็ นอย่างนี้ ก็หมายความว่าเขาปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบได้
เพียงไม่ถึง 1 เมตรหรื อ?
เขาคงไม่อ่อนด้อยกว่าศิษย์สายตรงของตัวเองหรอก ใช่ไหม?
ถ้าเป็ นอย่างนั้นจริ ง คงได้อบั อายขายหน้าครั้งใหญ่
“แบบนี้ไม่ได้การ ต้องรวบรวมเจตจํานงเพลงดาบให้มีปริ มาณ
มากกว่านี้ และก้าวข้ามขีดจํากัดของเราให้ได้!”
จางเซวียนหวนนึกถึงศิลปะเพลงดาบที่เขาได้ร่ าํ เรี ยนเมื่อครั้งอยูท่ ี่
สระดาบ ตระกูลจาง รวมทั้งภูมิปัญญาที่เขาได้รู้มาก่อนหน้านี้…
แก่นสารเพลงดาบหมุนติ้วอยูใ่ นหัวสมองของเขา รังสี แผดกล้า
ระเบิดออกจากร่ าง ในชัว่ พริ บตานั้น จางเซวียนรู ้สึกเหมือนตัวเอง
กลายเป็ นดาบเล่มใหญ่ที่สามารถผ่าโลกให้แยกออกเป็ น 2 ซีก
ฟิ้ วววว!
ขณะที่เจตจํานงเพลงดาบของเขาพุง่ ขึ้นสู่ จุดสู งสุ ด ปริ มาณหมอก
ขาวที่รวมตัวกันอยูใ่ นห้องก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าสะพรึ ง ในชัว่ พริ บตา ก็
ดูเหมือนห้องนั้นจะถูกเปลวไฟเผาไหม้ทุกอย่างจนราบคาบ ด้วย
ความเข้มข้นของเจตจํานงเพลงดาบ หมอกขาวที่ก่อตัวเป็ นชั้นหนา
เริ่ มจะกลัน่ ตัวกลายเป็ นของเหลว
“ยังน้อยกว่า 1 เมตรอีกหรื อ? เป็ นไปไม่ได้!”
จางเซวียนทุ่มทุนขนาดนี้แล้ว แต่เมื่อมองไป การปลดปล่อยเจตจํานง
เพลงดาบของเขาก็ยงั ไปได้ไกลไม่ถึง 1 เมตร!
เป็ นไปได้อย่างไร?
เขาอ้าปากค้าง แทบลมจับเดี๋ยวนั้น
เป็ นไปไม่ได้ที่ศิลปะเพลงดาบอันไร้เทียมทานของเขาจะทําให้เขา
ไม่อาจเทียบชั้นได้แม้แต่กบั ศิษย์สายตรงระดับล่าง จริ งไหม?
เพราะถ้าเป็ นอย่างนั้น ตั้นเฉี่ ยวเทียนจะทําผลงานได้ถึง 499 เมตรได้
อย่างไรทั้งที่เพิ่งเรี ยนรู ้แค่ศิลปะเพลงดาบชั้นสาม?
“เราไม่เชื่อเด็ดขาด! บรรดาเจตจํานงเพลงดาบของโลกใบนี้ จงฟัง
คําสัง่ ของผม!” จางเซวียนคํารามก้องขณะที่พลังปราณกับจิต
วิญญาณของเขาหลอมรวมกันและก่อตัวเป็ นรู ปดาบ เขาซึมซับ
เจตจํานงเพลงดาบที่อบอวลอยูใ่ นอากาศและเพ่งสมาธิให้กบั การสัง่
สมกระแสดาบฉีที่ปลายนิ้ว
ถ้าศิษย์สายตรงของเขาทําได้ขนาดนี้โดยไม่ตอ้ งใช้ดาบ เขาคงต้อง
อับอายขายหน้าจนตายหากทําแบบเดียวกันไม่ได้!
ไม่วา่ อย่างไร ก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!
ทั้งหมดนี้กเ็ พื่อชื่อเสี ยงและศักดิ์ศรี ในฐานะท่านอาจารย์ของตั้นเฉี่ยว
เทียน!
…..
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีดาบเหน็บหลังยืนอยูท่ ่ามกลางฝูงชนคลาคลํ่าใน
หอเทพดาบ
ทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่ หอ้ งโถง ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ราวกับเขามี
อํานาจโดยธรรมชาติบางอย่างที่ผลักดันใคร ๆ ให้ถอยห่าง
เกิดเสี ยงหัวเราะคิกคัก กลุ่มชนพากันเปิ ดทางให้ชายหนุ่มอีกคนเดิน
เข้ามา
“ศิษย์นอ้ งเย่เหลียน มารับการประเมินศิลปะเพลงดาบอีกแล้วหรื อ?
สนใจจะแข่งกับผมไหม?”
ชายหนุ่มคนนี้มีรูปร่ างหน้าตาที่ดูมีอาํ นาจ ด้วยความสู งที่ตระหง่าน
เหนือคนอื่น ๆ ในห้อง เขายืนเด่นราวกับนกกระเรี ยนที่อยูท่ ่ามกลาง
ฝูงไก่
“ศิษย์พี่เหอเหยียน ถ้าอยากแข่งกับผมล่ะก็ ผมยิง่ กว่ายินดี” ชายหนุ่ม
ที่ชื่อเย่เหลียนตอบอย่างใจเย็น
“กรุ ณาด้วย!” เหอเหยียนชี้นิ้วไปที่หอ้ งซึ่งเรี ยงรายกันอยู่ เขายิม้ กว้าง
ก่อนจะก้าวเข้าไป
เย่เหลียนตามไปติด ๆ และเข้าไปในห้องที่อยูต่ ิดกับห้องของเหอ
เหยียน
มีผนังกั้นระหว่างแต่ละห้อง แต่เพราะด้านหน้าไม่มีผนัง ทุกคนจึง
มองเห็นการปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของห้องใกล้เคียง ทําให้
สามารถเปรี ยบเทียบกันได้
เห็นทีท่าของทั้งคู่ ศิษย์สายตรงฝ่ ายในคนหนึ่งที่เพิง่ มาถึงตั้งคําถาม
กับคนแถวนั้น “พวกเขาคือศิษย์พี่เย่กบั ศิษย์พี่เหอผูโ้ ด่งดังในหมู่ศิษย์
สายตรงขั้นสู งสุ ดใช่ไหม?”
“ใช่ พวกเขานัน่ แหละ ผมรู ้มาว่าทั้งคู่เพียรพยายามจะเป็ นเทพดาบ
และแข่งขันกันตลอด 5 ปี ที่ผา่ นมาเพื่อดูวา่ ใครจะทําสําเร็ จก่อนกัน!”
ศิษย์สายตรงคนหนึ่งในบริ เวณนั้นที่ดูจะรู ้ดีให้คาํ ตอบพร้อมกับพยัก
หน้า
เย่เหลียนกับเหอเหยียนเป็ นศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดไม่กี่คนที่มีชื่อเสี ยง
โด่งดังเพราะบุคลิกอันโดดเด่นและศิลปะเพลงดาบที่ไร้เทียมทาน
ของพวกเขา ทั้งคู่เชี่ยวชาญศิลปะเพลงดาบเหมือนกัน จึงแข่งขันกัน
มาตลอดหลายปี โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผา่ นมาที่พวกเขาอยูห่ ่าง
จากการได้เป็ นเทพดาบเพียงไม่กี่กา้ ว
สิ่ งนั้นทําให้ท้ งั คู่เป็ นเป้าสายตาของบรรดาศิษย์สายตรงในสํานักดาบ
เมฆเหิ น ทุกคนอยากรู ้วา่ ใครจะขึ้นสู่ จุดสู งสุ ดระดับนั้นได้ก่อน
“ศิษย์พี่เหอ ทําไมคุณไม่เริ่ มก่อนล่ะ?” เย่เหลียนพูดขณะก้าวขึ้นไป
บนแท่นเทพดาบและชักดาบออกมา
ผูเ้ ข้ารับการทดสอบจะต้องใช้ดาบที่อยูบ่ นแท่นเทพดาบเพื่อเข้ารับ
การทดสอบและรอคอยผลลัพธ์ ซึ่งเหตุผลที่ศิษย์สายตรงส่ วนใหญ่
เหน็บดาบไว้ที่หลังก็เพราะหวังว่าจะสามารถปลดปล่อยเจตจํานง
เพลงดาบได้ดีกว่าหากใช้อาวุธที่ตวั เองคุน้ เคย อีกทั้งยังมีความเป็ น
หนึ่งเดียวระหว่างดาบกับมนุษย์ในระดับที่สูงกว่าด้วย
“เริ่ มกันเถอะ!”
เหอเหยียนหัวเราะลัน่ จากห้องข้าง ๆ ขณะคว้าดาบที่ปักอยูบ่ นแท่น
เทพดาบและถ่ายทอดเจตจํานงเพลงดาบเข้าไป
ฟิ้ ววววว!
กระแสเจตจํานงเพลงดาบที่ไร้ขอบเขตพวยพุง่ ออกจากจุดชีพจรของ
เขา ไหลเข้าสู่ ดาบในมือ
ในชัว่ พริ บตา เจตจํานงเพลงดาบก็ถูกปลดปล่อยออกจากห้องนั้น
กินอาณาบริ เวณหลายสิ บเมตร
เห็นการปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของเหอเหยียน เย่เหลียนเริ่ ม
การทดสอบ เจตจํานงเพลงดาบของเขาถูกปลดปล่อยออกไปและตีคู่
กับเหอเหยียน เมื่อมองจากระยะไกล ก็ดูเหมือนสิ่ งมีชีวติ จากสรวง
สวรรค์ที่กาํ ลังเคลื่อนไหวอยูเ่ คียงข้างกัน
เห็นเย่เหลียนใกล้จะตามเขาทัน เหอเหยียนหัวเราะหึ ๆ “ระดับ
ความเร็ วของคุณถือว่าไม่เลวนะศิษย์นอ้ ง! 6 เดือนที่ผา่ นมานี่คุณคง
ฝึ กฝนหนักมาก!”
“ศิษย์พี่ คุณเองก็ใช่ยอ่ ย ความเร็ วในการปลดปล่อยเจตจํานงเพลง
ดาบของคุณเร็ วกว่าแต่ก่อนมาก” เย่เหลียนตั้งข้อสังเกตอย่างสุ ขมุ
“ผมว่าเราคงเสมอกัน แต่กเ็ อาเถอะ มาดูกนั ดีกว่าว่าใครจะแตะระดับ
500 เมตรและกลายเป็ นเทพดาบได้ก่อน!”
เหอเหยียนคํารามและปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบออกมารวดเดียว
ทําให้การปลดปล่อยพลังนั้นพุง่ ออกไปด้วยความเร็ วสู ง แต่ยงั ไม่ทนั
จะไปได้ไกล การปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของเขาก็พลันหยุด
ชะงัก มันสัน่ สะท้านอย่างรุ นแรงราวกับกําลังยืนอยูต่ รงหน้าผูส้ ู งส่ ง
เหมือนงูตวั หนึ่งที่ตวั สัน่ งันงกต่อหน้ามังกรสวรรค์
ไม่วา่ เหอเหยียนจะสําแดงพละกําลังรุ นแรงแค่ไหน การปลดปล่อย
เจตจํานงเพลงดาบของเขาก็ไปไม่ได้ไกลกว่านั้น
เหอเหยียนหรี่ ตา เขาชําเลืองมองเย่เหลียนและเห็นว่าอีกฝ่ ายตกอยูใ่ น
สถานการณ์เดียวกัน การปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของเขาสัน่
สะท้านไม่หยุด เดินหน้าต่อไม่ได้แม้แต่คืบเดียว
“มันเกิดอะไรขึ้น?” เหอเหยียนถึงกับผงะ
ในตอนนั้น การปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของทั้งคู่แหลกสลาย
ไปพร้อมกับเกิดเสี ยงดังสนัน่
พลัก่ !
เหอเหยียนกับเย่เหลียนกระอักเลือดออกจากปากขณะทรุ ดฮวบลง
กับพื้น
เหอเหยียนกุมบาดแผลของเขาไว้แน่น จากนั้นก็ค่อย ๆ กระเสื อก
กระสนลุกขึ้นยืน
“นี่มนั …การทําลายล้างของเจตจํานงเพลงดาบ?”
ในฐานะอัจฉริ ยะผูฝ้ ึ กฝนเพลงดาบ, ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดคนหนึ่ง
ของสํานักดาบเมฆเหิ น เขารู ้ทนั ทีวา่ เกิดอะไรขึ้น เจตจํานงเพลงดาบ
ที่เขาเพียรฝึ กฝนด้วยความเหนื่อยยากถูกเจตจํานงเพลงดาบของชาย
อีกคนหนึ่งทําลายจนราบคาบ!
แต่นี่เป็ นเรื่ องประหลาดมาก เพราะศิลปะเพลงดาบที่เขาฝึ กฝนคือ
เจตจํานงเพลงดาบที่ไม่มีใครในสํานักเทียบชั้นได้ เขาจะถูกปราบจน
ราบคาบแบบนั้นได้อย่างไร? ไม่มีทาง!
“เย่เหลียน ฝี มือคุณหรื อ?” เหอเหยียนถามอย่างประหลาดใจ
ศิษย์สายตรงที่มาที่นี่เพื่อเข้ารับการประเมินศิลปะเพลงดาบมีแต่ตวั
เขากับเย่เหลียนเท่านั้น หรื อว่า อีกฝ่ ายได้ฝึกฝนศิลปะเพลงดาบอัน
น่าทึ่งบางอย่างตลอดครึ่ งปี ที่ผา่ นมา ทําให้มีเจตจํานงเพลงดาบที่
เหนือชั้นกว่า?
เหอเหยียนหันไปมอง และเห็นว่าการปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบ
ในห้องที่อยูต่ ิดกันถูกทําลายล้างไปด้วย ดูเหมือนจะอยูภ่ ายใต้แรง
กดดันหนักหน่วง มันนิ่งงัน ไม่ไหวติงราวกับงูที่ขดอยูก่ บั พื้น
“ไม่ใช่ผมนะ…ผมยังควบคุมเจตจํานงเพลงดาบของผมไม่ได้เลย…
พลัก่ !”
ยังไม่ทนั จะพูดจบ การปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของเย่เหลียนก็
สลายตัวไปอย่างฉับพลัน ทําให้เขากระอักเลือดออกมากองใหญ่
เหอเหยียนตาโตด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นภาพนั้น
ตอนที่ 1956 เจตจํานงเพลงดาบ
เจตจํานงเพลงดาบอาจเรี ยกได้วา่ เป็ นแนวคิดรู ปแบบหนึ่งเช่นกัน จึง
เป็ นธรรมดาที่จะมีหลากหลายระดับ
หากจะยกบทกวีเป็ นตัวอย่าง เมื่อสมัยราชวงศ์ถงั แม้หลี่ไป๋ จะยัง
กังวลเรื่ องกบฏลู่ชานที่เกิดขึ้นในเมือง แต่เขาก็ข้ ึนสู่ สรวงสวรรค์เพื่อ
ใช้เวลารื่ นรมย์กบั เหล่าเทพธิดาก่อนจะลงเอยด้วย ‘เลือดแดงฉาน
ไหลนองทัว่ ท้องทุ่ง สรรพสัตว์ต่าํ ช้าสวมมงกุฎไหม’ สําหรับผูท้ ี่
อ่อนด้อยในการใช้ความคิด ก็คงจะร้องออกมาว่า ‘นี่มนั บ้าบออะไร’
แต่แน่นอนว่านัน่ เป็ นแค่การเปรี ยบเทียบรู ปแบบหนึ่ง เจตจํานงเพลง
ดาบที่แท้จริ งมีหลายระดับขั้น และเมื่อเจตจํานงเพลงดาบที่มีแนวคิด
ในระดับตํ่ากว่าต้องเผชิญกับเจตจํานงเพลงดาบที่มีแนวคิดสู งกว่า ก็
เป็ นธรรมดาที่ฝ่ายแรกจะต้องสัน่ งันงกด้วยความยําเกรง
ในอีกแง่หนึ่ง ก็เหมือนกับการกดข่มสายเลือดที่เกิดขึ้นกับเผ่าพันธุ์
มังกร หากช่องว่างระหว่างแนวคิดของเจตจํานงเพลงดาบมีความ
ห่างกันมากเกินไป เจตจํานงเพลงดาบที่อ่อนแอกว่าก็จะสลายตัวไป
เองโดยไม่สามารถต่อต้าน
ทั้งเหอเหยียนและเย่เหลียนเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญของสํานักดาบเมฆเหิ น
แต่เจตจํานงเพลงดาบของพวกเขาก็ยงั ถูกทําลายล้างอย่างน่าสะพรึ ง
นี่มนั เกิดอะไรขึ้น?
หรื อว่ามีใครคนหนึ่งในสํานักที่มีความสามารถไร้เทียมทานระดับ
นั้นจริ ง ๆ ?
“ผมไม่เชื่อ เป็ นไปไม่ได้หรอกที่ในโลกนี้จะมีใครเหนือชั้นกว่าผม
ได้ขนาดนั้น!” เหอเหยียนคํารามกร้าวขณะระเบิดเจตจํานงเพลงดาบ
ออกมาอีกครั้ง
ฟึ่ บ!
แต่คราวนี้ ยังไม่ทนั ที่หมอกขาวจะได้รวมตัวกัน เหอเหยียนก็รู้สึกได้
ว่ามีสายตาของดาบที่คมกริ บอย่างไม่มีอะไรเทียบกําลังจับจ้องเขาอยู่
หากเขาตอบโต้ออกไปเพียงนิดเดียว ดาบนั้นคงฟาดฟันเขาเป็ นชิ้น ๆ
และปลิดชีวติ เขาในทันที
เหงื่อเย็น ๆ ไหลเป็ นทางจากหน้าผากของเหอเหยียน เขาไม่กล้าขยับ
เขยื้อนเคลื่อนไหว
เจตจํานงเพลงดาบเพียงเศษเสี้ ยวที่เขาสามารถทําความเข้าใจได้ไม่
อาจเทียบชั้นกับพละกําลังมหาศาลนั้นได้เลย ราวกับแสงเทียนที่
พยายามประชันความสว่างกับดวงอาทิตย์เจิดจ้า
เปรี ยบเทียบกันไปก็มีแต่จะทําให้เขาอับอายขายหน้า!
ผูเ้ ชี่ยวชาญที่ทรงพลังระดับนี้ปรากฏตัวในสํานักตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
ขนาดบรรดาปี ศาจที่อยูใ่ นกลุ่มศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดก็ยงั ไม่เก่งกาจ
ขนาดนั้น!
…..
ภาพแบบเดียวกันเกิดขึ้นในห้องอื่น ๆ ด้วย ในชัว่ พริ บตา ผูเ้ ข้ารับ
การทดสอบทุกคนที่อยูใ่ นหอเทพดาบก็ถูกเจตจํานงเพลงดาบนั้น
ทําลายล้าง แต่ละคนไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้เลย
เสี ยงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดระงมไปทัว่ ทั้งหอคอย
…..
หอภูมิปัญญาเพลงดาบแห่งสํานักดาบเมฆเหินคือห้องสมุดขนาดใหญ่
ที่มีหนังสื ออยูม่ ากมายนับไม่ถว้ น
ผูท้ ี่เดินอยูท่ ่ามกลางชั้นหนังสื อเหล่านั้นคือผูอ้ าวุโสเว่ย ซึ่งง่วนอยู่
กับการจัดเรี ยงและแบ่งแยกประเภทของหนังสื อตลอด 2-3 เดือนที่
ผ่านมา เขาเหนื่อยยากไม่นอ้ ยกว่าจะปฏิบตั ิภารกิจยิง่ ใหญ่ครั้งนี้ให้
สําเร็ จลุล่วงได้
“ผูอ้ าวุโสเว่ย คุณคงเหนื่อยไม่เบา แต่ดว้ ยการจัดระเบียบครั้งใหม่
ของคุณ ใครต่อใครคงจะหาทรัพยากรที่พวกเขาต้องการจากห้องสมุด
ได้ง่ายขึ้นมาก” ผูอ้ าวุโสคนหนึ่งพูดยิม้ ๆ ขณะเดินเข้ามา
เขาคือผูอ้ าวุโสอีกคนหนึ่งของหอภูมิปัญญาเพลงดาบ, เจียงหย่วน
“ใช่ หนังสื อที่อยูใ่ นหอภูมิปัญญาเพลงดาบบรรจุเอาเจตจํานงเพลง
ดาบของบรรพบุรุษหลายต่อหลายรุ่ นไว้ ด้วยความปราดเปรื่ องที่มีมา
แต่กาํ เนิดและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เจตจํานงเพลงดาบที่นกั
ดาบแต่ละคนสามารถทําความเข้าใจได้จึงมีความแตกต่างและ
หลากหลาย เป็ นเรื่ องยากจริ ง ๆ ที่จะจัดแยกประเภทของหนังสื อ
เหล่านี้ให้ได้ท้ งั หมด” ผูอ้ าวุโสเว่ยพูดขณะยืดหลังบิดขี้เกียจ “แต่
หลังจากใช้เวลานานหลายเดือน ในที่สุดมันก็เสร็ จสิ้ น แต่ผมจะทํา
ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นแหละ หากต้องจัดมันอีกครั้งล่ะก็ ผมฆ่า
ตัวตายดีกว่า!”
ผูอ้ าวุโสเจียงหย่วนพยักหน้า “เจตจํานงเพลงดาบถูกสกัดกั้นไว้ใน
หนังสื อพวกนี้ ผูฝ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบจะทําความเข้าใจและเข้าถึง
พละกําลังของเหล่าบรรพบุรุษได้กด็ ว้ ยการเปิ ดหนังสื อและซึมซับ
มันอย่างถี่ถว้ น”
“แต่กโ็ ชคร้ายที่ในโลกนี้มีเจตจํานงเพลงดาบที่แตกต่างกันมากมาย
เกินไป ถ้าหนังสื อพวกนี้ไม่ได้รับการจัดระเบียบอย่างเหมาะสม ผู ้
ฝึ กฝนศิลปะเพลงดาบก็อาจไปคว้าเอาหนังสื อที่ไม่เข้ากันกับวรยุทธ
เพลงดาบของพวกเขา ซึ่งไม่เพียงแต่จะไม่เกิดประโยชน์ต่อการฝึ กฝน
วรยุทธ ยังอาจสร้างความเสี ยหายอย่างมากด้วย!”
“พูดตามตรงนะ ผมประทับใจเหลือเกินกับการจัดระเบียบอย่าง
ละเอียดลออของคุณ คุณแบ่งแยกแม้กระทัง่ รู ปแบบและศิลปะเพลง
ดาบ ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าคุณต้องเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แต่เชื่อว่า
ท่านเจ้าสํานักจะต้องตบรางวัลให้คุณอย่างงามทันทีที่เรารายงาน
เรื่ องนี้ให้เขารับทราบ!”
“ก็จริ ง ผมรู ้สึกเหมือนตาจะบอดหลังจากต้องดูหนังสื อพวกนี้ไม่รู้กี่
วันกี่คืน” ผูอ้ าวุโสเว่ยพึมพํา “ช่วยดูแลหนังสื อพวกนี้ก่อนนะ ผมขอ
ไปพักสักครู่ …”
“ได้” ผูอ้ าวุโสเจียงหย่วนพยักหน้า
ครื นนนนน!
ทันใดนั้น หนังสื อที่อยูบ่ นชั้นต่าง ๆ ก็เริ่ มสัน่ สะท้านไม่หยุด ราวกับ
มีพละกําลังบางอย่างร้องเรี ยกมัน ทําให้พวกมันลอยคว้างอยูก่ ลาง
อากาศ เจตจํานงเพลงดาบพวยพุง่ ออกมาและอบอวลไปทัว่ ทั้ง
ห้องสมุด เกิดเสี ยงดาบกระทบกันดังกึกก้อง
ผูอ้ าวุโสเว่ยตัวแข็งเมื่อเห็นภาพนั้น การทํางานหนักของเขาตลอด
หลายเดือนที่ผา่ นมา…
ไอ้สารเลว! แกรู ้ไหมว่าฉันเหนื่อยยากขนาดไหนที่ตอ้ งจัดระเบียบ
พวกแกทุกเล่ม ทําไมจู่ ๆ ถึงกระโจนออกไปแบบนั้น?
ฟึ่ บ!
แต่นนั่ ยังไม่จบ
หนังสื อทุกเล่มหันหน้าไปในทิศทางเดียวกันและโค้งคํานับอย่างงาม
ราวกับข้าราชบริ พารที่กาํ ลังคารวะฮ่องเต้
โครมมมม!
ปัญหาของการโค้งคํานับครั้งนี้คือมันทําให้หนังสื อมากมายหลาย
เล่มที่ได้รับการจัดระเบียบแล้วพังพาบใส่ กนั อันที่จริ ง ชั้นหนังสื อ
บางชั้นก็ถึงกับล้มลงไปกองกับพื้นเพราะแรงสัน่ สะเทือน ทําให้ท้ งั
ห้องสมุดเกิดความอลหม่านครั้งใหญ่
“บ้าจริ ง!” ผูอ้ าวุโสเว่ย แทบลมจับด้วยความพรั่นพรึ งกับภาพที่เห็น
แกล้อฉันเล่นใช่ไหม?
รู ้หรื อเปล่าว่าการจัดระเบียบพวกแกมันยากขนาดไหน? แล้วตอนนี้
ฉันจะทําอย่างไร?
“จะต้องมีใครสักคนสําเร็ จความเข้าใจเจตจํานงเพลงดาบขั้นสู งแน่
หนังสื อพวกนี้จึงโค้งคํานับเพื่อแสดงการยอมจํานน” ผูอ้ าวุโสเจียง
หย่วนพึมพํา
“ผมรู ้…แต่มนั เรื่ องอะไรต้องมาเกิดตอนที่ผมเพิ่งจัดหนังสื อเสร็ จ
ด้วย!” ผูอ้ าวุโสเว่ยทึ้งผมอย่างคลุม้ คลัง่
เห็นความอลหม่านที่เกิดขึ้นทัว่ ทั้งห้อง ผูอ้ าวุโสเจียงหย่วนถอนหายใจ
อย่างจนปัญญา “เอ่อ…แล้วคุณคิดจะพยายามจัดระเบียบมันอีกครั้ง
ไหม? แต่…ช่างเถอะ ผมว่าคุณฆ่าตัวตายน่าจะดีกว่า!”
“….” ผูอ้ าวุโสเว่ย
…..
ที่บริ เวณด้านหน้าประตูสูงใหญ่ซ่ ึ งเป็ นทางเข้าสํานักดาบเมฆเหิ น
ชาย 2 คนกําลังลอยตัวอยูก่ ลางอากาศ
พวกเขาคือผูอ้ าวุโสที่มีอายุราว 50 ปี
ผูอ้ าวุโสที่อยูท่ างซ้ายสวมเสื้ อคลุมไหมและคาดเข็มขัดหยกไว้รอบ
เอว สายตาของเขาคมกริ บ ดูเหมือนพร้อมจะเชือดเฉื อนทุกสิ่ งที่เข้า
มาขวางทาง
ส่ วนคนที่อยูท่ างขวามีรูปร่ างตุย้ นุย้ รอยยิม้ อ่อนโยนปรากฏบน
ใบหน้า ดูเป็ นคนที่เข้ากับใคร ๆ ได้ง่าย
มิติที่อยูใ่ นมิติเบื้องบนนั้นแข็งแกร่ งมัน่ คงมาก ทําให้การบิดเบือน
กฎเกณฑ์ของโลกเป็ นเรื่ องยาก ขนาดนักรบอมตะอย่างผูอ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ ก็ยงั บินไม่ได้ แต่ชาย 2 คนนี้สามารถลอยตัวอยูก่ ลางอากาศ
จึงไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าพวกเขาคือผูเ้ ชี่ยวชาญชั้นยอด
“ผูอ้ าวุโสเหอ คุณฝึ กฝนวรยุทธที่นี่มากว่า 30 ปี แล้ว คุณทําความ
เข้าใจเจตจํานงเพลงดาบที่ผกู ้ ่อตั้งของเราทิ้งไว้ได้สาํ เร็ จหรื อยัง?” ผู ้
อาวุโสร่ างตุย้ นุย้ ถามยิม้ ๆ
“การทําความเข้าใจเจตนาเพลงดาบของผูก้ ่อตั้งของเรามันจะง่ายดาย
แบบนั้นได้อย่างไร?” ผูอ้ าวุโสเหอส่ ายหน้า “เหตุผลที่ผมเลือกฝึ กฝน
วรยุทธที่นี่กเ็ พราะต้องการใช้เจตจํานงเพลงดาบของผูก้ ่อตั้งมาบ่ม
เพาะจิตวิญญาณของผม รวมถึงขัดเกลาเจตจํานงเพลงดาบของผม
ด้วย…”
“นี่กผ็ า่ นมาหลายปี แล้ว ยังไม่มีใครที่เก่งกาจเทียบชั้นกับผูก้ ่อตั้งของ
เราได้เลย…” ผูอ้ าวุโสร่ างตุย้ นุย้ พยักหน้า
ยังไม่ทนั ที่เขาจะพูดจบ ก็พลันตาโตด้วยความตกใจ เขารี บเงยหน้า
มองดาบเล่มใหญ่ที่อยูต่ รงหน้า
ครื นนนนน!
ดาบนั้นเริ่ มสัน่ สะท้านไม่หยุด ดูเหมือนมันพร้อมจะพุง่ ขึ้นสู่ กลาง
อากาศเพื่อฟาดฟันสวรรค์ได้ทุกขณะ ในเวลาเดียวกัน ประตูสูง
ตระหง่านก็เริ่ มสัน่ สะท้าน ดูเหมือนใกล้พงั ทลายเต็มที
ผูอ้ าวุโสทั้งสองหรี่ ตาด้วยความตกตะลึง
ดาบเล่มมหึ มานี้คือสัญลักษณ์ของเกียรติยศและความยิง่ ใหญ่ของ
สํานักดาบเมฆเหิ น หากมันพังทลาย พวกเขาคงกลายเป็ นตัวตลกให้
อีก 5 สํานักใหญ่หวั เราะเยาะ!
“มันคือเจตจํานงเพลงดาบ…ดูเหมือนเจตจํานงเพลงดาบของผูก้ ่อตั้ง
ของเราจะรับรู ้อะไรได้บางอย่าง…” ผูอ้ าวุโสกําหมัดแน่น
“เป็ นไปได้ดว้ ยหรื อที่เจตจํานงเพลงดาบของผูก้ ่อตั้งของเราจะรับรู ้
อะไรได้บางอย่าง?” ผูอ้ าวุโสร่ างตุย้ นุย้ ถึงกับผงะ จากนั้นเขาก็ตวั
แข็งทื่อขณะพึมพํา “เวรแล้ว…”
“โครมมม!”
ดาบเล่มมหึ มาที่อยูต่ รงหน้าพวกเขาดูจะสู ญเสี ยการทรงตัวอย่าง
ฉับพลัน มันล้มลงไปกองกับพื้น
ดาบเล่มที่อยูบ่ ริ เวณทางเข้านี้ไม่ใช่ดาบจริ ง ๆ มันทําจากหิ นแกรนิต
กับคอนกรี ตผสานกัน เหตุผลที่มนั ยืนยงมาได้ตลอดหลายพันปี ก็
เพราะมีเจตจํานงเพลงดาบของผูก้ ่อตั้งรักษามันไว้
แต่เมื่อเจตจํานงเพลงดาบของผูก้ ่อตั้งเกิดการสัน่ ไหวอย่างหนัก ดู
เหมือนพร้อมระเบิดได้ทุกขณะ โครงสร้างมหึ มาแต่ละเอียดอ่อนนั้น
จึงสู ญเสี ยการทรงตัวไป
เมื่อดาบล้มลงไป ประตูขนาดใหญ่กด็ ูจะหมดความอดทนและ
พังทลายลงมา หิ นทุกขนาดมากมายนับไม่ถว้ นร่ วงลงสู่ พ้นื โลก เกิด
เป็ นหลุมบ่อหลุมแล้วหลุมเล่า
ในเวลาเดียวกัน เมื่อโครงสร้างพังทลาย เจตจํานงเพลงดาบที่อยู่
ภายในดาบเล่มมหึ มานั้นก็พงุ่ ออกไปไกลแสนไกลและหายวับไป
อย่างไร้ร่องรอย
“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา?”
เห็นซากปรักหักพังและฝุ่ นผงฟุ้งกระจาย ผูอ้ าวุโสทั้งคู่แทบคลุม้ คลัง่
ดาบอันทรงเกียรติและประตูภูเขายิง่ ใหญ่ที่สาํ นักดาบเมฆเหิ นของ
เราแสนภาคภูมิใจ…ถูกทําลายง่าย ๆ แบบนี้หรื อ?
“อะไรกัน? ทําไมยังไม่ได้เรื่ องอีก”
จางเซวียนงัดเอาเจตจํานงเพลงดาบทุกรู ปแบบที่เขาเคยพบเจอใน
ชีวติ ออกมาใช้ จากนั้นก็เฝ้าดูการปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบที่อยู่
ตรงหน้า แต่มนั ก็ยงั ไปไม่ได้ไกลเกินกว่า 1 เมตร ทําให้เขา หงุดหงิด
และท้อใจจนหัวสมองแทบระเบิด
เขาคือผูเ้ ชี่ยวชาญศิลปะเพลงดาบผูโ้ ด่งดังในทวีปแห่งปรมาจารย์นะ!
ถ้าใครรู ้วา่ เขาทําได้เพียงเมตรเดียว คงอับอายขายหน้าจนตายไปข้าง!
จางเซวียนท้อใจจนแทบไม่อยากมีชีวติ อยู่
“ช่างเถอะ เราคงทําได้แค่น้ ี…” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่และกําลัง
จะถอนเจตจํานงเพลงดาบกลับคืน ก็พอดีกบั ที่มีภาพพร่ าเลือนภาพ
หนึ่งแวบเข้ามาในสายตา
ตอนที่ 1957 เพลงดาบสิ บลี้
หัวสมองของเขากระตุกเล็กน้อยขณะรู ้สึกเหมือนมีบางสิ่ งพุง่ เข้ามา
ในหัว พริ บตาต่อมา จางเซวียนก็รู้สึกถึงอาการเจ็บแปลบรุ นแรงที่จู่
โจมสติสมั ปชัญญะของเขา
ฟึ่ บ!
หน้าหนังสื อสี ทองที่อยูใ่ นหอสมุดเทียบฟ้ากระเด็นออกไป
มันรี บฮุบเอาทุกอย่างที่ลอยเข้ามาในหัวสมองของจางเซวียน
“อะ-อะไรกัน? หน้าหนังสื อสี ทองของเรา!” จางเซวียนแทบลมจับ
ด้วยความตกใจ
นัน่ คือหน้าหนังสื อสี ทองที่เขาเพิ่งได้มาเมื่อไม่นานมานี้จากการยอม
ศิโรราบอย่างจริ งใจของตั้นเฉี่ยวเทียน มันจะเป็ นไม้ตายที่มีอานุภาพ
สู งสุ ดของเขาในมิติเบื้องบนแห่งนี้ เขาพร้อมจะเข้าสู่ การดวลมากมาย
และดื่มนํ้าที่ได้จากการต้มนํ้าเต้างี่เง่านัน่ เพื่อเยียวยาอาการบาดเจ็บ
ดีกว่าจะยอมใช้หน้าหนังสื อสี ทอง
แต่แล้วจู่ ๆ มันก็กระโจนออกจากที่อยูข่ องมันเพื่อไปฮุบอะไร
บางอย่างไว้ น่าเสี ยดายที่สุด!
จางเซวียนเจ็บปวดหัวใจอย่างรุ นแรงจนแทบหยุดหายใจ
ทําไมอะไร ๆ ถึงไม่เข้าข้างเขาเลย?
เขาเคยคิดว่าจะเข้าสู่ หอนิรันดร์ของสํานักดาบเมฆเหิ นเพื่อท้าทายเจ้า
สํานักและเหล่าผูอ้ าวุโส แต่เมื่อไม่มีหน้าหนังสื อสี ทอง ก็คงปกป้อง
ตัวเองไม่ได้หากตาเฒ่าพวกนั้นเกิดอยากเอาคืนขึ้นมา!
ถึงนักรบจะสามารถปกปิ ดตัวตนที่แท้จริ งในหอนิรันดร์ได้ แต่ก็
โง่เง่าเต็มทีหากจะคิดว่าในหอนิรันดร์ของสํานักดาบเมฆเหิ นจะเป็ น
แบบเดียวกัน ในเมื่อมันอยูภ่ ายใต้การควบคุมของสํานักอย่าง
สมบูรณ์แบบ การที่บุคลากรระดับสู งจะสื บหาตัวตนของเขาก็ไม่ใช่
เรื่ องยาก
“ขอดูหน่อยเถอะว่าสิ่ งที่ทาํ ให้หน้าหนังสื อสี ทองต้องเสี ยไปคือ
อะไร…”
จางเซวียนกัดฟันกรอด เขารี บถอนกระแสดาบฉี กลับคืนก่อนจะเปิ ด
หนังสื อเทียบฟ้า
ในนั้น เขาเห็นกระแสดาบฉีบริ สุทธิ์กาํ ลังแหวกว่ายราวกับปลาทอง
ในอ่าง
“หน้าหนังสื อสี ทองต้องเสี ยไปเพียงเพราะสิ่ งนี้หรื อ?” จางเซวียน
รู ้สึกปวดใจยิง่ กว่าเดิม
แค่เขาไม่สามารถปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบออกไปได้เกินกว่า 1
เมตรก็น่าสมเพชเหลือเกินแล้ว ใครจะคิดว่าแม้แต่ไม้ตายที่มีอานุภาพ
ที่สุดของเขาก็ยงั ต้องสู ญเปล่าไปเพราะเรื่ องไร้เหตุผลแบบนี้?
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่และกําลังจะปิ ดหนังสื อเทียบฟ้า ก็
พอดีกบั ที่รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาพินิจดูกระแสดาบฉี น้ นั อย่าง
ถี่ถว้ น จากนั้นก็เลิกคิ้วเพราะกระแสดาบฉีที่เห็นดูคุน้ ตามาก
“ดูเหมือนจะมาจากต้นกําเนิดเดียวกันกับเจตจํานงเพลงดาบที่เรา
รู ้สึกได้จากดาบเล่มใหญ่ที่อยูบ่ ริ เวณทางเข้าสํานัก”
จางเซวียนกําลังจะสัมผัสมัน ก็พอดีกบั ที่ได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าเร่ งร้อนอยู่
ด้านนอก
“พี่จาง คุณเป็ นอะไรไหม?”
จางเซวียนหันกลับไป เห็นประตูที่อยูด่ า้ นหลังเขาสัน่ สะท้านไม่หยุด
ดูเหมือนถ้าเขาไม่รีบเปิ ดประตูเร็ ว ๆ นี้ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ กับตั้นเฉี่ ยว
เทียนคงจะบุกเข้ามาเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของเขาแน่
“ผมไม่เป็ นอะไร!” จางเซวียนตะโกนกลับไป
เขารี บเก็บหนังสื อเทียบฟ้ากลับเข้าหอสมุดก่อนจะเดินออกจากห้อง
จางเซวียนเปิ ดประตูออกไป เห็นผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ กับตั้นเฉี่ยวเทียน
มองมาที่เขาด้วยสี หน้าเคร่ งเครี ยด
“มีอะไร?” จางเซวียนขมวดคิว้ เมื่อเห็นทีท่าเคร่ งขรึ มของทั้งคู่
เขาแค่เข้าไปรับการประเมินศิลปะเพลงดาบ มีอะไรให้ตอ้ งกังวล?
ส่ วนผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นจางเซวียน
ไม่ได้รับอันตราย เขาอดถามไม่ได้ “คุณไม่ได้รับบาดเจ็บหรื อ?”
“บาดเจ็บ?” จางเซวียนงงเล็กน้อยกับคําถามปุบปับของผูอ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ “ผมก็แค่เข้าไปข้างในเพื่อทดสอบศิลปะเพลงดาบ…ในนั้นมี
อะไรที่จะทําให้ผมบาดเจ็บได้หรื อ?”
หรื อว่ามีกลลวงบางอย่างในการทดสอบนี้ที่ทาํ ให้นกั ดาบต้องเสี่ ยง
ชีวติ ซึ่งก็หมายความว่าถ้าผูน้ ้ นั ไม่ได้รับบาดเจ็บ การปลดปล่อย
เจตจํานงเพลงดาบของเขาก็จะไปไม่ได้ไกลใช่ไหม?
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมหมายความว่า…เอ่อ ท่านอาจารย์ คุณดูเอาเอง
เถอะ…” เห็นสี หน้าสับสนของอาจารย์ ตั้นเฉี่ยวเทียนเกาหัวขณะ
มองไปรอบ ๆ
จางเซวียนมองรอบตัว อดไม่ได้ที่จะตาโตด้วยความตกใจ
บรรดานักรบพากันออกจากห้องที่อยูบ่ ริ เวณนั้น ทุกคนหน้าซีดเผือด
และกําลังกระอักเลือด ดูไร้เรี่ ยวแรงราวกับถูกใครสักคนทําร้ายซํ้า
แล้วซํ้าเล่า
มันเกิดหายนะอะไรขึ้นที่นี่?
“การประเมินศิลปะเพลงดาบ…จะต้องรุ นแรงขนาดนี้เชียวหรื อ? ผม
หมายความว่า…เฉี่ ยวเทียน ตอนที่ผมเห็นคุณเมื่อครู่ น้ ี คุณก็ไม่ได้
กระอักเลือดนี่…” จางเซวียนสงสัย
“ไม่ใช่ นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประเมินศิลปะเพลงดาบหรอก ก่อน
หน้านี้…ระหว่างที่คุณกําลังเข้ารับการทดสอบ มีเจตจํานงเพลงดาบ
ที่ทรงพลังอย่างน่าทึ่งปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน และด้วยความ
เหลื่อมลํ้าอย่างมากกับเจตจํานงเพลงดาบของนักรบคนอื่น ๆ พวก
เขาจึงถูกเจตจํานงเพลงดาบนั้นทําลายล้าง ส่ งผลให้เกิดเหตุการณ์
อย่างที่เป็ นอยู!่ ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ อธิบาย
ในฐานะผูอ้ าวุโสฝ่ ายนอก เขามีความเข้าใจลึกซึ้งในศิลปะเพลงดาบ
แม้เมื่อครู่ น้ ีจะไม่ได้อยูใ่ นห้อง แต่กร็ ู ้สึกได้อย่างชัดเจนถึงพละกําลัง
มหาศาลของเจตจํานงเพลงดาบนั้น
มันเหมือนกับมีมงั กรมหึ มาตัวหนึ่งกําลังจับจ้องพวกเขา ในสายตา
ของมังกรตัวนั้น เจตจํานงเพลงดาบอื่น ๆ ล้วนไร้ค่า ไม่ต่างอะไรกับ
ฝูงมด
“เจตจํานงเพลงดาบที่ทรงพลังอย่างน่าทึ่ง? เป็ นบางสิ่ งที่เข้าถึงระดับ
ของเทพดาบหรื อเปล่า?” จางเซวียนชะงักไปครู่ หนึ่งก่อนจะรี บตั้ง
คําถาม
เกิดเรื่ องน่าตื่นเต้นขนาดนั้นขึ้นตอนที่เขากําลังง่วนอยูก่ บั การ
ทดสอบหรื อ?
“อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะเข้าถึงระดับของเทพดาบสิ บลี้” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
ตอบอย่างเคร่ งขรึ ม
เขาไม่เคยเห็นเทพดาบสิ บลี้มาก่อน แต่มนั คือระดับขั้นของนักดาบที่
ไร้เทียมทานที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสํานัก แรง
กดดันมหาศาลที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หนักหน่วงพอจะทําลายล้างเจต
จํานงเพลงดาบของทุกคนได้ ทําให้พวกเขาหมดหนทางตอบโต้…
ซึ่ งนัน่ ก็เกินพอแล้วที่จะบ่งบอกถึงพละกําลังที่ไม่มีใครเทียบได้ของ
นักดาบผูน้ ้ นั !
ต่อให้อีกฝ่ ายไม่ใช่เทพดาบสิ บลี้ ก็น่าจะอยูไ่ ม่ห่างจากระดับนั้น
เท่าไหร่
ส่ วนสิ่ งที่มีระดับขั้นสู งกว่านั้น…ก็ล้ าํ ลึกเกินกว่าที่หวั สมองของเขา
จะใคร่ ครวญได้
ถึงอย่างไร ตลอดระยะเวลาหลายพันปี ในประวัติศาสตร์ของสํานัก
ดาบเมฆเหิ น ก็มีชายเพียงคนเดียวที่เข้าถึงขั้นนั้นได้สาํ เร็ จ
“เทพดาบสิ บลี้?” จางเซวียนอัศจรรย์ใจ นัยน์ตาของเขาเป็ นประกาย
ด้วยความตื่นเต้นขณะตั้งคําถาม “ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ คุณรู ้ไหมว่าคนผู ้
นั้นเป็ นใคร?”
การปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบของเขาไปได้ไกลไม่ถึง 1 เมตร
ด้วยซํ้า แต่อีกฝ่ ายปลดปล่อยมันออกไปได้ยาวไกลถึง 10 ลี้ มัน
เหนือกว่าจะจินตนาการได้ เขาอยากเห็นพละกําลังที่แท้จริ งของ
ผูเ้ ชี่ยวชาญระดับนั้นด้วยตาตัวเอง!
จางเซวียนเคยคิดว่าเขาน่าจะใช้พละกําลังที่เหนือชั้นกว่าบรรดานักรบ
ที่มีวรยุทธขั้นเดียวกันเพื่อก้าวขึ้นสู่ การเป็ นผูน้ าํ ของหอนิรันดร์ได้
แต่เท่าที่เห็น ดูเหมือนเขาจะประเมินความเก่งกาจของคู่ต่อสู ต้ ่าํ
เกินไป ที่นี่มีนกั รบผูไ้ ร้เทียมทานอยูม่ ากมาย บางคนอาจแข็งแกร่ ง
กว่าเขาด้วยซํ้า
เทพดาบสิ บลี้…
นัน่ คือสมญานามที่ใช้เรี ยกขานเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญที่สาํ เร็ จศิลปะเพลง
ดาบขั้นสุ ดยอด บางที ต่อให้ตวั เขาก็ยงั อาจต้องคุกเข่ายอมจํานนหาก
ต้องเผชิญหน้ากับเทพดาบสิ บลี้!
“เรื่ องนั้น…ผมเกรงว่าผมจะไม่รู้” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ส่ ายหน้า
ผลการประเมินศิลปะเพลงดาบถือเป็ นความลับ เว้นเสี ยแต่จะอยูใ่ น
ห้องติดกันและได้เห็นวีรกรรมนั้นกับตา หรื อได้เห็นตราหยกที่
แสดงผลการทดสอบของอีกฝ่ าย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางรู ้ได้วา่ ใครทํา
ได้ดีแค่ไหน
“ว่าแต่…ผลการประเมินศิลปะเพลงดาบของคุณเป็ นอย่างไร?” ผู ้
อาวุโสลู่อวิน๋ ถามด้วยความอยากรู ้
พูดตามตรง เขาสนใจใคร่ รู้ในตัวจางเซวียนมาก
ถึงตั้นเฉี่ยวเทียนจะบอกว่าจางเซวียนเป็ นสหาย แต่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็ดู
ออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีบางอย่างแปลก ๆ อย่างแรก ตั้นเฉี่ ยว
เทียนเชื่อฟังคําสัง่ ของจางเซวียนอย่างเคร่ งครัด ต่อให้เป็ นเพื่อนสนิท
กันขนาดไหน ก็คงไม่ตอ้ งว่านอนสอนง่ายขนาดนั้นหรอก จริ งไหม?
อีกอย่างที่จุดประกายความสงสัยของเขาก็คือความเคารพสู งสุ ดที่ผู ้
อาวุโสอี้กบั เฉาเฉิ งลี่แสดงออกต่อจางเซวียน
เพียงแต่หมอนี่ถ่อมเนื้อถ่อมตัวมาตลอด ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยายามจะ
หยัง่ พละกําลังของชายหนุ่มหลายครั้งหลายหน แต่ลงท้าย ก็รู้สึก
เหมือนตัวเขาคือผูท้ ี่ถูกหยัง่ เสี ยเอง ยิง่ ไปกว่านั้น ดูเหมือนชายหนุ่ม
จะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับทวีปที่ถูกลืม แถมเฝ้าตั้งคําถามข้อแล้วข้อ
เล่าในเรื่ องที่ควรจะเป็ นความรู ้ที่รู้กนั ทัว่ ไป
ด้วยความข้องใจเหล่านี้ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ จึงอนุญาตให้จางเซวียนมาที่
หอเทพดาบด้วย เขาหวังว่า จะได้เห็นความแข็งแกร่ งของอีกฝ่ ายสัก
แวบหนึ่ง
ไม่อย่างนั้น ก็ไม่มีทางที่เขาจะพาคนนอกเข้ามาง่าย ๆ เพราะการใช้
สิ่ งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นี่ลว้ นแต่มีค่าใช้จ่ายไม่นอ้ ย!
“ผลการทดสอบของผม?” จางเซวียนหน้าเสี ย “ผมว่าเราน่าจะยังเป็ น
มิตรสหายที่ดีต่อกันได้นะหากคุณไม่ต้ งั คําถามนี้”
“ถ้าคุณไม่อยากบอก ผมเข้าไปดูเองก็ได้…” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ตอบ
พร้อมกับยักไหล่
เขาเดินเข้าไปในห้อง ครู่ ต่อมาก็กลับมาพร้อมกับตราหยกที่มีผลลัพธ์
ที่จารึ กไว้บนตราหยกคือผลการทดสอบก่อนหน้านี้ของจางเซวียน
ดูเหมือนจางเซวียนจะรี บร้อนออกมาจนลืมหยิบตราหยกมาด้วย
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ยิม้ แป้นอย่างผูม้ ีชยั เขาก้มหน้าลงมองตราหยก
จากนั้นก็อา้ ปากค้าง
“2.5 สื อ? คุณทําได้ไม่ถึง…1 เมตรหรื อ?” แม้แต่ผอู ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็อด
กระอักกระอ่วนใจแทนไม่ได้
ไม่แปลกใจแล้วที่จางเซวียนไม่ยอมพูดออกมา ผลการทดสอบแบบ
นี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะพูดถึงเลย
ตั้นเฉี่ยวเทียนมองตราหยก แต่ตรงกันข้ามกับความกระอักกระอ่วน
ของผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายชื่นชม
ตลอดเวลาที่ผา่ นมา ท่านอาจารย์พดู อยูเ่ สมอว่าตัวเขาเป็ นผูถ้ ่อมเนื้อ
ถ่อมตัวและอยากเก็บตัวให้เงียบที่สุด สิ่ งนี้เป็ นหลักฐานที่แสดงให้
เห็นว่าทั้งหมดที่จางเซวียนเคยพูดไว้ไม่ใช่การพูดลอย ๆ เขาคือคนที่
มีนิสยั ถ่อมเนื้อถ่อมตัวจริ ง ๆ !
ด้วยการสําแดงศิลปะเพลงดาบที่ท่านอาจารย์สอนให้ ตัวเขาได้
ผลลัพธ์อนั น่าทึ่งถึง 499 เมตร แต่เมื่อท่านอาจารย์เข้าไป ก็ออมมือ
ไว้จนได้ผลการทดสอบออกมาเพียงไม่ถึง 1 เมตร สภาวะจิตของคน
คนหนึ่งจะต้องเหนือชั้นขนาดไหนถึงไม่ใส่ ใจทั้งเกียรติยศและความ
รุ่ งโรจน์ เขาพร้อมจะใช้ชีวติ ที่ยดึ มัน่ อยูก่ บั หลักการ
ส่ วนตัวเขา เขากลับใช้ความดีความชอบของคนอื่นมาเหมาว่าเป็ น
ความสําเร็ จของตัวเอง หรื อว่าท่านอาจารย์เห็นพฤติกรรมครั้งนี้และ
พยายามจะใช้เหตุการณ์น้ ีสงั่ สอนเขาให้ได้บทเรี ยน?
ดูเหมือนเขายังต้องเรี ยนรู ้อะไรอีกมาก
ตอนที่ 1958 เทพดาบสิ บลีจ้ ะเป็ นใครกัน?
ส่ วนจางเซวียน เมื่อเห็นผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ นําตราหยกออกมาและเปิ ดเผย
ต่อหน้าศิษย์สายตรงของเขา ในชัว่ พริ บตานั้น ความคิดที่อยากจะเอา
หัวโขกกําแพงแล้วจบชีวติ ให้รู้แล้วรู ้รอดไปก็แวบเข้ามา
ไม่เคยมีสกั ครั้งในช่วงชีวติ ของเขานับตั้งแต่ทะลุมิติมายังโลกใบนี้ที่
ต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าศิษย์สายตรงของตัวเอง
ปวดใจ เราปวดใจเหลือเกิน!
“เอาล่ะ เรากลับกันได้หรื อยัง?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ทําลายบรรยากาศ
ของความกระอักกระอ่วน
ตอนที่เขาเห็นผูค้ นมากมายกระอักเลือด แต่หมอนี่ไม่เป็ นอะไร
ความคิดที่วา่ อีกฝ่ ายอาจเป็ นเทพดาบสิ บลี้กแ็ วบเข้ามาทันที แต่เมื่อ
ได้เห็นผลลัพธ์บนตราหยก ก็รู้ทนั ทีวา่ ตัวเองคิดมากไป!
เจตจํานงเพลงดาบที่แผ่ออกไปได้ไกลไม่ถึง 1 เมตรนั้นแทบจะเรี ยก
ได้วา่ ไม่มีอยู่ ด้วยเจตจํานงเพลงดาบที่อ่อนแอขนาดนี้ ก็ไม่แปลกอะไร
ที่อีกฝ่ ายจะไม่รู้สึกถึงเจตจํานงเพลงดาบอันหนักหน่วงที่ถาโถมเข้า
เล่นงานหอเทพดาบเมื่อครู่ ก่อน และก็เป็ นธรรมดาที่เขาจะไม่ได้รับ
อันตรายจากแรงตีกลับของการทําลายล้างนั้น
ส่ วนเทพดาบจะเป็ นใคร…ในฐานะผูอ้ าวุโสฝ่ ายนอก เขาไม่มีสิทธิ์
ได้รับรู ้ขอ้ มูลระดับนั้น อัจฉริ ยะที่เข้าถึงระดับของเทพดาบย่อมอยู่
เหนืออํานาจการตัดสิ นของเขา นี่เป็ นสิ่ งที่บุคลากรชั้นสู งเท่านั้นถึง
จะมีสิทธิ์รับรู ้
หลังจากส่ งตั้นเฉี่ยวเทียนกับจางเซวียนกลับที่พกั ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็
ประสานมือและกล่าวอําลา
เพราะตั้นเฉี่ยวเทียนผ่านการทดสอบแล้ว เขาจึงต้องนําตราหยกที่
ระบุผลการทดสอบไปยืน่ ต่อที่ประชุมผูอ้ าวุโสเพื่อขอตราสัญลักษณ์
ศิษย์สายตรงฝ่ ายในให้ต้ นั เฉี่ ยวเทียน การที่ตวั เขาพาอัจฉริ ยะที่
สามารถปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบได้ถึง 499 เมตรเข้าสู่ สาํ นักได้
นั้น รางวัลที่ได้รับจะต้องมากมายเอาการ
บางทีเขาอาจใช้โอกาสนี้ผลักดันให้ตวั เองได้รับการเลื่อนตําแหน่ง
ไปเป็ นผูอ้ าวุโสฝ่ ายในก็ได้!
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ขี่อสู รบินได้ไป ไม่ชา้ ก็มาถึงสภาผูอ้ าวุโส
ก่อนจะเข้าสู่ พ้นื ที่ เขาเห็นผูอ้ าวุโสจํานวนหนึ่งที่คุน้ หน้าคุน้ ตากันดี
กําลังมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน
ทุกคนล้วนแต่เป็ นผูอ้ าวุโสฝ่ ายในของสํานัก ซึ่ งก่อนจะได้รับการ
เลื่อนตําแหน่ง พวกเขาก็ทาํ งานกับบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก
เช่นกัน จึงมีความสนิทสนมกันดี แต่เมื่อขอบเขตของการทํางานเริ่ ม
ต่างกันออกไป ทุกวันนี้การพูดคุยติดต่อกันจึงทําได้ยาก
“ผูอ้ าวุโสมู่ รี บร้อนทําไม? เกิดอะไรขึ้นหรื อ?”
เห็นสี หน้าปั่นป่ วนของทุกคน ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ รั้งตัวผูอ้ าวุโสคนหนึ่ง
ที่อยูใ่ กล้ที่สุดไว้และตั้งคําถาม
“เกิดเรื่ องใหญ่ข้ ึนแล้ว คุณยังไม่รู้เรื่ องรู ้ราวเลยหรื อ?” ผูอ้ าวุโสมู่คือ
ชายชราผอมกะหร่ องที่มีเคราเขียวครึ้ ม เขาสวมเสื้ อคลุมไหมสี น้ าํ
เงิน “อ้อ ใช่ ผมลืมไปว่าคุณเป็ นแค่ผอู ้ าวุโสฝ่ ายนอก ไม่มีคุณสมบัติ
เพียงพอจะได้เข้าร่ วมในสภาผูอ้ าวุโส จึงเป็ นธรรมดาที่จะไม่รู้
เรื่ อง…”
“….”
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ รู ้สึกอยากต่อยชายชราที่อยูต่ รงหน้าขึ้นมาทันที
“อย่าโมโหน่ะ คุณก็รู้วา่ ผมตรงไปตรงมาเสมอ ผมอยากพูดอะไรผม
ก็พดู …” ผูอ้ าวุโสมู่ตอบพร้อมกับหัวเราะหึ ๆ “คุณคงรู ้จกั ผูอ้ าวุโสที่
1, เหอเทียนใช่ไหม?”
“ใช่” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยักหน้า
ในฐานะผูอ้ าวุโสที่ 1 เหอเทียนมีอาํ นาจล้นเหลือภายในสํานัก ซึ่ ง
หากท่านเจ้าสํานักไม่อยู่ เขาก็มีอาํ นาจโดยตรงในการตัดสิ นใจทุก
เรื่ องของสํานักดาบเมฆเหิ น
“ต่อให้คุณไม่รู้จกั เขาก็ไม่เป็ นไรหรอก ไม่จาํ เป็ นต้องเออออตามผม
เพียงเพราะคุณกระอักกระอ่วนใจ ผมหมายความว่า…เป็ นธรรมดาที่
คุณจะไม่เคยพบเขาเพราะคุณเป็ นแค่ผอู ้ าวุโสฝ่ ายนอก…” ผูอ้ าวุโสมู่
โบกมือ
เส้นเลือดที่ขมับของผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ปูดโปน ข้อนิ้วลัน่ กราว เขาสู ด
หายใจลึกก่อนจะขัด “ผมว่าคุณควรเข้าประเด็นเสี ยที เกิดอะไร
ขึ้นกับผูอ้ าวุโสเหอเทียน?”
“ผูอ้ าวุโสเหอเพิ่งส่งข้อความหาบรรดาผูอ้ าวุโสฝ่ ายในและผูท้ ี่มี
ตําแหน่งสู งกว่านั้น ข้อความนั้นมีอยูว่ า่ …ประตูภูเขาและดาบเล่ม
ใหญ่พงั ทลายแล้ว!” ผูอ้ าวุโสมู่อธิบาย จากนั้นก็โคลงศีรษะเมื่อพลัน
นึกบางอย่างได้ “อือ นัน่ คงเป็ นเหตุผลที่ทาํ ให้คุณไม่ได้รับข้อความ
เพราะถึงอย่างไรคุณก็เป็ นแค่ผอู ้ าวุโสฝ่ ายนอก…”
“ประตูภูเขาและดาบเล่มใหญ่พงั ทลายแล้ว?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ตาโต
ด้วยความประหลาดใจ
ประตูภูเขาและดาบเล่มใหญ่ถือได้วา่ เป็ นสัญลักษณ์ของสํานักดาบ
เมฆเหิ น มันเป็ นเครื่ องแสดงถึงคติพจน์ของสํานัก ‘ทะเยอทะยาน
เหนือหมู่เมฆ ทําลายสวรรค์ท้ งั เก้า!’ แต่ท้ งั สองอย่างพังทลายไปแล้ว
นี่ถือเป็ นความกระทบกระเทือนครั้งใหญ่ต่อชื่อเสี ยงและเกียรติยศ
ของสํานักดาบเมฆเหิ น
“ทําไมถึงพังได้? เกิดอะไรขึ้น?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ถามอย่างร้อนใจ
“ผมก็ไม่รู้ เมื่อครู่ น้ ีน่ะมีเจตจํานงเพลงดาบที่ทรงพลังอย่างน่าทึ่งเกิด
ขึ้น คุณน่าจะรู ้สึกได้นะ เจตจํานงเพลงดาบนั้นดูจะทําลายเจตจํานง
เพลงดาบที่อยูภ่ ายในดาบเล่มใหญ่ ทําให้มนั พังทลาย…” ผูอ้ าวุโสมู่
ไม่ค่อยแน่ใจในรายละเอียดของเรื่ องที่เกิดขึ้น เขาส่ ายหน้าและพูด
ต่อ “เอาเถอะ ผมต้องไปที่สภาผูอ้ าวุโสซึ่งเป็ นสถานที่เฉพาะสําหรับ
ผูอ้ าวุโสฝ่ ายในและผูท้ ี่มีตาํ แหน่งสู งกว่า คงคุยกับคุณไม่ได้แล้วล่ะ…”
จากนั้นเขาก็หนั หลังกลับแล้วรี บตรงเข้าสู่ สภาผูอ้ าวุโส
“หมอนัน่ ไม่เปลี่ยนเลยจริ ง ๆ …” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ถอนหายใจอย่าง
จนปัญญา
เพราะคําพูดคําจาที่ปราศจากการไตร่ ตรอง ผูอ้ าวุโสมู่จึงมีเรื่ องกับ
ผูค้ นมากมายตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมเปลี่ยน
นิสยั
แต่ถึงจะปวดใจ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็ยงั ได้ขอ้ มูลสําคัญจากอีกฝ่ าย-ดาบ
เล่มใหญ่และประตูภูเขาพังทลายแล้ว!
“เจตจํานงเพลงดาบ…หรื อว่าจะเป็ นฝี มือของเทพดาบสิ บลี้เมื่อครู่
ก่อน?” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ คิด
เขาได้สมั ผัสเจตจํานงเพลงดาบนั้นด้วยตัวเองและรู ้ดีวา่ มันไม่ธรรมดา
แต่คิดไม่ถึงว่าจะทรงพลังขนาดนี้!
สามารถเล่นงานได้แม้กระทัง่ เจตจํานงเพลงดาบที่ผกู ้ ่อตั้งถ่ายทอดไว้
ในดาบเล่มใหญ่…
เทพดาบสิ บลี้จะเป็ นใครกัน?
“ในเมื่อเหล่าผูอ้ าวุโสกําลังประชุมเครี ยด การที่เราจะเดินเข้าไป
รายงานเรื่ องตั้นเฉี่ยวเทียนจะถือว่าเหมาะสมหรื อเปล่า?” ผูอ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ ครุ่ นคิด
ด้วยความรุ นแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นํามาซึ่งการพังทลายของ
ประตูภูเขาและดาบเล่มใหญ่ ดูจะไม่เหมาะสมนักที่เขาจะพรวด
พราดเข้าไปตอนนี้เพื่อรายงานเรื่ องศิษย์สายตรงหน้าใหม่คนหนึ่ง
“ช่างมันเถอะ! ถึงอย่างไรก็ควรเข้าไป…นี่เป็ นความพยายามครั้งแรก
ของตั้นเฉี่ยวเทียน และเขาก็ทาํ ได้ถึง 499 เมตร ไร้เทียมทานยิง่ กว่า
ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดบางคนเสี ยอีก แถมตอนนี้เขาเป็ นแค่นกั รบ
ระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1…เหล่าผูอ้ าวุโสน่าจะให้ความสําคัญ
กับเรื่ องนี้ และคงตบรางวัลให้เราอย่างงาม!” ในที่สุดผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
ก็ตดั สิ นใจ
การนําพาอัจฉริ ยะผูป้ ราดเปรื่ องเข้าสู่ สาํ นักถือเป็ นเรื่ องสําคัญเช่นกัน
ในเมื่อมีผอู ้ าวุโสคนใหญ่คนโตรวมตัวกันอยูม่ ากมาย เขาก็น่าจะมี
โอกาสได้เลื่อนตําแหน่ง
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ สลัดความลังเลต่าง ๆ ทิ้งไป เขามุ่งหน้าสู่สภาผูอ้ าวุโส
…..
ในตอนนั้น ที่บา้ นพักของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน จางเซวียนกําลังจ้อง
หน้าศิษย์สายตรงของเขา เมื่อทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว เขาตั้ง
คําถาม “คุณปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบออกไปไกลถึง 499 เมตร
ได้อย่างไร?”
เรื่ องนี้คา้ งคาใจจางเซวียยมาตลอด ตัวเขาเองปลดปล่อยเจตจํานง
เพลงดาบได้ไม่ถึง 1 เมตรด้วยซํ้า แต่ศิษย์สายตรงของเขาที่ได้รับการ
บ่มเพาะอย่างครึ่ ง ๆ กลาง ๆ คนนี้กลับทําคะแนนได้สูงลิ่ว ไม่วา่ จะ
มองอย่างไรก็ไม่สมเหตุสมผล
“ผม…” ได้ยนิ คําถามของท่านอาจารย์ ตั้นเฉี่ ยวเทียนเกาหัวอย่างอับ
อายก่อนจะตอบว่า “ผมใช้ศิลปะเพลงดาบที่ท่านอาจารย์ถ่ายทอดให้
ผม และโยนดาบออกไป…ไม่นึกเลยว่าการปลดปล่อยเจตจํานงเพลง
ดาบจะไปได้ไกลขนาดนั้น”
“คุณโยนดาบ? แนวคิดที่อยูเ่ บื้องหลังกระบวนท่านั้นจัดว่าไม่เลวเลย
นะ…แต่เดี๋ยว!” จางเซวียนอ้าปากค้างเมื่อรู ้สึกได้ถึงความผิดปกติ
บางอย่างในคําพูดของตั้นเฉี่ยวเทียน
“เมื่อครู่ น้ ีคุณบอกว่าคุณโยนดาบ หมายความว่าคุณถือดาบไว้ใน
ระหว่างการทดสอบใช่ไหม?”
“ก็ใช่น่ะสิ นักดาบจะสําแดงเจตจํานงเพลงดาบออกมาและผ่านการ
ทดสอบโดยปราศจากดาบในมือได้อย่างไร…” ยังไม่ทนั ที่ต้ นั เฉี่ ยว
เทียนจะพูดจบ ก็พลันเกิดความกระจ่าง เขาอ้าปากค้าง “อ่า…ใช่ ผม
โยนดาบออกไปตอนที่ทาํ การทดสอบ ท่านอาจารย์…คงไม่ใช่วา่ คุณ
พยายามทําการทดสอบโดยไม่มีดาบในมือหรอกนะ ใช่ไหม?”
ศิลปะเพลงดาบของเขายังอ่อนด้อยเกินไป ลงท้ายจึงต้องใช้กระบวน
ท่าโยนดาบ และในเมื่อไม่มีผนังอยูด่ า้ นหน้า เขาจึงไม่รู้วา่ ดาบกระเด็น
ไปตกที่ไหน จึงไม่ได้เก็บมันมา
ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อท่านอาจารย์ต้ งั คําถามแบบนี้ ก็
ถึงกับไปต่อไม่ถูก
นักดาบคนหนึ่งจะสําแดงเจตจํานงเพลงดาบโดยปราศจากดาบได้
อย่างไร?
ก็เหมือนกับการพยายามรี ดนมจากวัวตัวผู!้ จะเค้นเอาสิ่ งที่ไม่มีอยู่
จริ งออกมาได้อย่างไรกัน?
แต่ถึงอย่างนั้น ท่านอาจารย์กย็ งั ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกับเขา
ท่านอาจารย์รีดนมจากวัวตัวผูไ้ ด้จริ ง ๆ
ทําได้อย่างไรกัน?
ตั้นเฉี่ยวเทียนรู ้สึกเหมือนจะเป็ นบ้า
“แค่ก แค่ก…”ได้ฟังคําอธิบายของตั้นเฉี่ยวเทียน จางเซวียนถึงกับ
ปวดใจอย่างหนัก
บ้าที่สุด! ผมลงทุนลงแรงไปตั้งมากมาย กลับกลายเป็ นว่าเหตุที่
ผลลัพธ์ของผมน่าสมเพชแบบนั้นก็เพราะคุณทําดาบหาย!
ผมมีลูกศิษย์ที่ไว้ใจไม่ได้ขนาดนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ ?
ไม่แปลกใจแล้วที่ผมทําได้ไม่ถึง 1 เมตร ลงท้ายมันก็ไม่ใช่ปัญหา
ของผมเลย…
“ช่างมันเถอะ ผมจะฝึ กฝนวรยุทธ” จางเซวียนถอนหายใจเฮือก เขา
โบกมือก่อนจะกลับเข้าห้อง
จางเซวียนทําสมาธิอยูค่ รู่ หนึ่งเพื่อบรรเทาอาการปวดใจก่อนจะนํา
หนังสื อเทียบฟ้าออกมาอีกครั้ง
เขาสู ญเสี ยหน้าหนังสื อสี ทองไปหน้าหนึ่งเพียงเพื่อสกัดกั้นกระแส
ดาบฉี ถึงอย่างไรก็ตอ้ งรู ้ให้ได้วา่ มันเกิดอะไรขึ้น!
จางเซวียนพลิกหน้าหนังสื อเทียบฟ้าแล้วแตะเบา ๆ ลงไปบนกระแส
ดาบฉี ที่กาํ ลังแหวกว่ายอย่างอิสระ
ฟิ้ วววว!
กระแสความรู ้ไหลจากปลายนิ้วของเขาเข้าสู่ จิตใต้สาํ นึก ทําให้เกิด
อาการเวียนหัวตึ้บขึ้นมาทันที จางเซวียนรู ้สึกเหมือนมีบางอย่าง
กําลังบีบหัวสมองของเขา พยายามจะให้มนั ระเบิด จากนั้นเสี ยง
ระฆังทุม้ ลึกก็ดงั ก้องในหัว
“วิถีทางของเพลงดาบไม่ใช่เส้นทางที่แท้จริ งของสวรรค์ มันเป็ น
เส้นทางที่มนุษย์รังสรรค์ข้ ึน…” เสี ยงนั้นเริ่ มพูด ไม่ชา้ จางเซวียนก็ดาํ
ดิ่งอยูก่ บั มัน
การตีความศิลปะเพลงดาบของเสี ยงนี้ลึกซึ้งกว่าที่เขาเคยรํ่าเรี ยนมาก
ถึงขนาดที่แม้แต่ศิลปะเพลงดาบเทียบฟ้าก็ดูไม่ต่างอะไรกับเนินเขา
เล็ก ๆ ที่อยูต่ รงหน้าภูเขาอันยิง่ ใหญ่
ตอนที่ 1959 เราเข้ าใจแล้ว
แม้ศิลปะเพลงดาบเทียบฟ้าจะไร้ขอ้ บกพร่ อง แต่นนั่ ก็วดั โดยใช้
มาตรฐานของสรวงสวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์ เมื่อเจอกับศิลปะ
เพลงดาบนี้ ก็ถือว่ามีขอ้ บกพร่ องมากมาย
เรื่ องนี้กเ็ หมือนกับความรู ้ที่คน ๆ หนึ่งได้ร่ าํ เรี ยนเมื่อยังเด็ก มันอาจ
ไม่เป็ นความจริ งเสมอไปเมื่อเขาเข้าสู่ มหาวิทยาลัย
การไขว่คว้าหาความรู ้คือการเดินทางที่ไม่มีที่สิ้นสุ ด แม้แต่สวรรค์ก็
ขัดขวางไม่ได้ สิ่ งใหม่ ๆ ถูกนํามาสู่ โลกใบนี้อย่างต่อเนื่อง แล้ว
สวรรค์กซ็ ึ มซับพวกมันเข้าไป
สิ่ งที่ดูเหมือนจะเป็ นความจริ งในวันหนึ่งอาจเป็ นแค่เรื่ องตลกเมื่อ
เวลาผ่านไปอีก 100 ปี
ไม่แปลกใจแล้วที่เราปรับตัวให้คุน้ ชินกับพลังจิตวิญญาณในมิติ
เบื้องบนได้อย่างง่ายดายแม้จะฝึ กฝนเคล็ดวิชาเทียบฟ้า…กลับกลาย
เป็ นว่าสําหรับสรวงสวรรค์ของมิติเบื้องบน เทคนิควรยุทธของเรามี
ข้อบกพร่ องมากมาย
จะว่าไป ถ้าสรวงสวรรค์ของโลกแต่ละใบมีคาํ จํากัดความเรื่ องถูกผิด
เป็ นของตัวเอง…แล้วเกณฑ์การตัดสิ นที่แท้จริ งว่าอะไรถูกหรื อผิด
นั้นมีอยูจ่ ริ งหรื อเปล่า?
ทุกดินแดนมีกฎเกณฑ์และวัฒนธรรมของตัวเอง สิ่ งที่เป็ นเรื่ องถูกต้อง
ในดินแดนหนึ่งอาจกลายเป็ น ความผิดร้ายแรงในอีกดินแดนหนึ่งก็
ได้ แล้วสรวงสวรรค์จะเป็ นแบบเดียวกันไหม?
เป็ นไปได้วา่ สิ่ งที่สรวงสวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์มองว่าถูกต้อง
อาจไม่ได้การยอมรับจากสรวงสวรรค์ของมิติเบื้องบน
ถ้าเป็ นอย่างนั้น ก็หมายความว่าทุกอย่างที่เราฝึ กฝนมาล้วนแต่มี
ข้อบกพร่ อง?
จางเซวียนปวดหัวหนึบขึ้นมาอีกครั้ง
ตั้งแต่เขาเริ่ มฝึ กฝนวรยุทธเมื่อ 2 ปี ก่อน ก็มีความเชื่อมัน่ ในเคล็ดวิชา
เทียบฟ้าอย่างไม่คลอนแคลนหรื อหวัน่ ไหว เขาเชื่อว่ามันถูกต้อง
เพราะหอสมุดเทียบฟ้าบอกอย่างนั้น แต่กลับกลายเป็ นว่าแม้แต่
‘ความสมบูรณ์แบบ’ ก็เป็ นแนวคิดที่ข้ ึนอยูก่ บั สรวงสวรรค์ของโลก
แต่ละใบ
เรื่ องนี้ทาํ ให้เขาออกจะรู ้สึกแย่
จางเซวียนพยายามขับเคลื่อนเทคนิควรยุทธ แต่ในช่วงเวลาครู่ หนึ่ง
ของความจังงัง เขาได้ยนิ เสี ยงตะโกนก้องมาจากส่ วนลึกของจิตใต้
สํานึก นี่มนั บกพร่ อง!
จางเซวียนพยายามสําแดงเทคนิคการต่อสู ้ แต่เสี ยงเดิมก็ตะโกนใส่
บกพร่ อง, บกพร่ อง, บกพร่ อง! พวกมันล้วนแต่มีขอ้ บกพร่ อง!
นัยน์ตาของจางเซวียนเริ่ มแดงกํ่า ควันสี ขาวลอยโขมงออกจาก
กระหม่อม พลังปราณของเขาเดือดพล่าน ดูราวกับมีบางอย่างกําลัง
จะระเบิดออกจากตัว
ถ้านักรบสักคนได้เห็น ก็จะเข้าใจทันทีวา่ วรยุทธของชายหนุ่มคนนี้
กําลังถูกธาตุไฟเข้าแทรก!
จางเซวียนไม่เคยเผชิญกับอุปสรรคใด ๆ ในการฝึ กฝนเคล็ดวิชา
เทียบฟ้า แต่เพียงไม่ถึงครึ่ งเดือนหลังจากเข้าสู่ มิติเบื้องบน วรยุทธ
ของเขาก็ถูกธาตุไฟเข้าแทรก!
และเท่าที่เห็น ดูเหมือนเขาคงยํา่ แย่หากผ่านการทดสอบครั้งนี้ไป
ไม่ได้
ครื นนนน!
ขณะที่ความเชื่อมัน่ และศรัทธาของจางเซวียนเริ่ มสัน่ ไหว หอสมุด
เทียบฟ้าที่อยูใ่ นหัวสมองของเขาก็สนั่ สะท้านไม่หยุด มันรุ นแรงราว
กับเกิดแผ่นดินไหว หอสมุดแทบจะแตกเป็ นเสี่ ยง ๆ
ความสงสัยข้องใจของเขากําลังกัดกร่ อนทําลายทุกสิ่ งที่อยูภ่ ายใน
พลัก่ !
แรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ ร่างของจางเซวียนพุง่ ขึ้นถึงขีดสุ ด เลือด
กระอักออกจากปาก
วิง้ งงง!
ขณะที่ทุกอย่างกําลังจะเข้าสู่ ภาวะวิกฤต จี้สีแดงที่จางเซวียนห้อยไว้
ที่ลาํ คอก็เรื องแสงอบอุ่นออกมา แล้วตรงเข้าโอบล้อมเขาไว้
มันเป็ นความรู ้สึกที่อบอุ่นและปลอบประโลมราวกับแสงอาทิตย์ยาม
เช้า จิตใจที่กาํ ลังปั่นป่ วนวุน่ วายของจางเซวียนสงบลงอย่างรวดเร็ ว
นัยน์ตาที่แดงกํ่าของเขาค่อย ๆ กลับสู่ สภาวะปกติ
ขณะที่สติสมั ปชัญญะของจางเซวียนค่อย ๆ แจ่มชัดขึ้น คําตอบก็
ปรากฏตรงหน้า
เราเข้าใจแล้ว ไม่ใช่วา่ สิ่ งที่เรารํ่าเรี ยนมานั้นผิดพลาด แต่มนั อยูใ่ น
มุมมองที่จาํ กัด หากมองจากมุมที่สูงกว่าเดิม ก็จะได้ภาพรวมที่
สมบูรณ์แบบและชัดเจนกว่า…
เรื่ องนี้ทาํ ให้จางเซวียนหวนนึกถึงเรื่ องเล่าของกลุ่มชายตาบอดที่ได้
สัมผัสช้างตัวหนึ่ง ชายคนหนึ่งแตะที่ขาช้างและบอกว่ามันเหมือนกับ
เสา อีกคนแตะส่ วนท้องแล้วบอกว่าเหมือนกับผนัง อีกคนแตะที่หาง
แล้วบอกว่าเหมือนงูตวั หนึ่ง…
พวกเขาผิดหรื อ?
จากมุมมองของแต่ละคน สิ่ งที่ชายตาบอดเหล่านั้นพูดออกมาล้วน
แต่ไม่ผดิ แต่เมื่อมองภาพรวม คําตอบของพวกเขาห่างไกลจากความ
เป็ นจริ งมาก
นี่คือปัญหาที่เกิดจากการมองสิ่ งต่าง ๆ ด้วยมุมมองที่ไม่กว้างพอ
แต่ดว้ ยความลํ้าลึกของวรยุทธ เป็ นไปไม่ได้ที่ใครสักคนจะเห็นภาพ
รวมว่าวรยุทธที่แท้จริ งคืออะไร บางทีหอสมุดเทียบฟ้าอาจเป็ นสิ่ งที่
เข้าใกล้ความรู ้ระดับนั้นมากที่สุด แต่กไ็ ม่อาจเรี ยกได้วา่ ปราศจาก
ข้อบกพร่ องอย่างสิ้นเชิง มันถูกจํากัดไว้ดว้ ยโลกที่มนั อาศัยอยู่
มิติเบื้องบนเป็ นมิติที่สูงส่ งกว่าทวีปแห่งปรมาจารย์ มีขอ้ มูลข่าวสาร
ความรู ้ และรายละเอียดมากมายให้บรรดานักรบได้ใช้เพื่อขัดเกลา
ศิลปะการต่อสู ข้ องตัวเองให้สมบูรณ์แบบที่สุด นัน่ คือเหตุผลที่จาง
เซวียนเริ่ มเห็นข้อบกพร่ องในเทคนิคที่เขาฝึ กฝนมา
ไม่ใช่วา่ สิ่ งที่เขาฝึ กฝนมามีขอ้ ผิดพลาด แต่เมื่อนําสิ่ งที่เขาเคยรํ่าเรี ยน
มาประยุกต์ใช้กบั โลกของมิติเบื้องบนที่ยงิ่ ใหญ่และกว้างใหญ่กว่า
ความรู ้เดิมที่เขามีกแ็ สดงข้อจํากัดบางอย่างออกมาให้เห็น
นัน่ คือสิ่ งที่เกิดขึ้นในเวลานี้
เรื่ องนี้ไม่ต่างอะไรกับความรู ้ทางวิทยาศาสตร์ในโลกใบเก่าของเขา
แน่นอนว่าทฤษฎีที่ใหม่กว่าและสมบูรณ์แบบกว่าเกิดขึ้นเรื่ อย ๆ แต่
นัน่ ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างที่เขาเคยรํ่าเรี ยนมาจะไร้ประโยชน์
ความรู ้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยูใ่ นทุกวันนี้เหมือนกับตัวต่อที่ถูกนํามาใช้
เคลื่อนย้าย เสริ มเข้าไป หรื อปรับเปลี่ยนเพื่อขยายมุมมองของความรู ้
ที่พวกเขามีอยูใ่ ห้กว้างออกไปอีก
เพราะฉะนั้น…ก็เป็ นแบบนี้ จางเซวียนคิด
ด้วยความเข้าใจที่เกิดขึ้นใหม่ ในที่สุดเจตจํานงเพลงดาบก็หลอม
รวมเข้ากับสมองของจางเซวียน ทําให้เขาเกิดความเข้าใจในศิลปะ
เพลงดาบที่ล้ าํ ลึกกว่าเดิม
แก่นสารเพลงดาบที่เน้นความเร็ ว, แก่นสารเพลงดาบที่เน้นพละกําลัง
และแก่นสารเพลงดาบที่เน้นการป้องกันตัวที่จางเซวียนเคยรํ่าเรี ยน
มาไหลเข้าสู่ หวั สมองของเขาและหลอมรวมเข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็ น
ศิลปะเพลงดาบที่สมบูรณ์แบบ
ไม่แปลกใจแล้วที่ไม่มีใครในทวีปแห่งปรมาจารย์ที่สามารถหลอม
รวมแก่นสารหลากหลายประเภทเข้าด้วยกันได้ ในตอนนั้น ทุกคน
ต่างคิดว่ามันเป็ นเรื่ องที่เป็ นไปไม่ได้เพราะแก่นสารแต่ละประเภทมี
องค์ประกอบที่แตกต่างกันไปมากมาย แต่แท้ที่จริ งแล้วไม่ใช่ ปัญหา
คือมุมมองที่พวกเขาใช้มองศิลปะเพลงดาบนั้นอ่อนด้อยเกินไป!
จางเซวียนได้รู้จากท่านพ่อของเขา, จางเจินชิง ว่ามีผคู ้ นเพียงหยิบมือ
ที่สามารถทําความเข้าใจแก่นสารเพลงดาบ 2 รู ปแบบได้ ส่ วนผูท้ ี่
เชี่ยวชาญแก่นสารเพลงดาบถึง 3 รู ปแบบนั้นแทบจะไม่มีอยูใ่ นโลก
ด้วยเหตุน้ ี การหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกันจึงไม่ต่างอะไรกับความ
ฝันลม ๆ แล้ง ๆ
ในตอนนั้นจางเซวียนพยายามหาหนทาง แต่กไ็ ม่เป็ นผล สุ ดท้ายเขา
ก็ได้แต่ประมวลมันให้เป็ นหนังสื อเล่มหนึ่งที่ขาดความเชื่อมโยงของ
เนื้อหาและยังมีขอ้ จํากัด…
แต่เท่าที่เห็น ก็พอจะดูออกว่าทวีปแห่งปรมาจารย์ยงั ไม่พร้อมสําหรับ
สิ่ งนี้
ดูอย่างไอแซกนิวตัน นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังจากโลกใบเก่าของเขา
นิวตันค้นพบแรงโน้มถ่วงเพียงเพราะแอปเปิ้ ลลูกหนึ่งหล่นใส่ ศีรษะ
ของเขาหรื อ?
ไม่ เรื่ องนั้นไม่ถูกต้องเสี ยทีเดียว เป็ นเพราะเขายืนอยูบ่ นบ่ายักษ์อยู่
แล้วต่างหาก มีนกั วิทยาศาสตร์มากมายนับไม่ถว้ นก่อนหน้านิวตันที่
ได้สงั่ สมความรู ้จนถึงระดับที่ทาํ ให้เขาพร้อมจะเปิ ดประตูออกสู่ โลก
ใบใหม่
แต่ทวีปแห่งปรมาจารย์ยงั ไม่ได้สงั่ สมความรู ้จนมากพอที่จะเปิ ด
ประตูเข้าสู่ ศิลปะเพลงดาบชนิดใหม่ได้
วิง้ งงง!
ขณะที่ความเข้าใจในแก่นสารหลากหลายรู ปแบบรวมกันเป็ นหนึ่ง
ภายในหัวสมองของเขา รังสี ของจางเซวียนก็แผดกล้าขึ้นอย่าง
รวดเร็ ว การปรากฏตัวของเขาดูคล้ายกับดาบที่คมกริ บกว่าเดิม ทั้ง
กายเนื้อ พลังปราณ และจิตวิญญาณของเขาผ่านการขัดเกลาและบ่ม
เพาะอย่างเข้มข้น
ด้วยศิลปะเพลงดาบระดับนี้ เราจะเป็ นผูไ้ ร้เทียมทานในบรรดานักรบ
ที่มีวรยุทธระดับเดียวกัน!
เหตุผลที่ไม่มีใครในหอนิรันดร์สูก้ บั เขาได้ ก็เพราะเมืองแสงดาวเป็ น
เมืองที่ห่างไกลความเจริ ญเกินไป
แต่ทนั ทีที่เขาเดินทางมาถึงสํานักดาบเมฆเหิ นและรับรู ้ได้ถึงแนวคิด
ที่อยูใ่ นดาบเล่มใหญ่บริ เวณทางเข้า ก็รู้ทนั ทีวา่ ตัวเขาไม่ได้แข็งแกร่ ง
อย่างที่คิดไว้ แต่ในสภาวะนี้ ต่อให้เทพดาบสิ บลี้กลับมาที่หอเทพ
ดาบและปรากฏตัวตรงหน้าเขาอีกครั้ง เขาก็มนั่ ใจว่าจะใช้การดวล
ศิลปะเพลงดาบเอาชนะอีกฝ่ ายได้
หลังจากหลอมรวมเจตจํานงเพลงดาบแล้ว หน้าหนังสื อสี ทองก็ระเบิด
และหายวับไปพร้อมกับปล่อยควันโขมง
“ก็ไม่ได้สูญเปล่าเสี ยทีเดียวนะ…” จางเซวียนหัวเราะหึ ๆ ขณะลืมตา
ขึ้นอีกครั้ง
เจตจํานงเพลงดาบนี้ดูจะนําพาตัวเขาไปอยูบ่ นบ่ายักษ์ในทันที ผลักดัน
ศิลปะเพลงดาบของเขาให้เข้าถึงระดับที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน เพียง
เท่านี้กถ็ ือว่าได้ประโยชน์ใหญ่หลวงแล้ว
ไม่อย่างนั้น ต่อให้เขาฝึ กฝนไปอีกสิ บหรื อร้อยปี ก็ยงั ไม่อาจแน่ใจได้
ว่าจะมีความเข้าใจถึงระดับนี้
“ลัว่ ชิง ขอบคุณมาก” จางเซวียนพึมพําขณะกําจี้สีแดงที่หอ้ ยอยูร่ อบ
ลําคอ
เมื่อครู่ น้ ี ตอนที่วรยุทธของเขาถูกธาตุไฟเข้าแทรก หัวสมองและ
จิตใจของเขาสับสนปั่ นป่ วนมาก เขาสู ญเสี ยการควบคุมตัวเองอย่าง
สิ้ นเชิง และแม้แต่หอสมุดเทียบฟ้าก็เกือบจะถูกทําลาย เป็ นเพราะจี้ที่
หลัวลัว่ ชิงมอบให้เขาได้ช่วยชีวติ เขาไว้ในช่วงเวลาคับขันนั้น
หรื อว่าจะเป็ นเหตุผลเดียวกันที่ทาํ ให้เธอผนวกเอามหาคัมภีร์แห่งฤดู
ใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้ร่วงไว้ในหอสมุดเทียบฟ้า? เธอคาดเดาไว้แล้ว
หรื อเปล่าว่าในอนาคตตัวเขาจะมีโอกาสได้ใช้มหาคัมภีร์แห่งฤดู
ใบไม้ผลิกบั ฤดูใบไม้ร่วง?
คาดเดา?
จางเซวียนก้มหน้าลงพิจารณาจี้สีแดงอย่างถี่ถว้ น มันมีสีแดงกํ่าเหมือน
เลือด ดูน่ากลัวเหมือนอย่างที่เคยเป็ น แต่ดว้ ยเหตุผลอะไรบางอย่าง
เขารู ้สึกว่าสี ของมันหม่นลงเล็กน้อย
คุณเป็ นใครกัน?
หลัวลัว่ ชิงรู ้เรื่ องหอสมุดเทียบฟ้า และเห็นได้ชดั ว่าเธอคาดการณ์ไว้
แล้วว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องเกิดขึ้น ยิง่ เขารู ้เรื่ องของเธอมากเท่าไหร่
ก็ดูเหมือนเธอจะยิง่ ลึกลับขึ้นเท่านั้น
“เราไม่ควรเสี ยเวลาอ้อยอิ่งอยูท่ ี่นี่อีกแล้ว ควรรี บหาตัวเจ้าสํานักหรื อ
เหล่าผูอ้ าวุโสและท้าทายพวกเขา บางทีเราอาจได้ข่าวคราวของ
ตําหนักเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณจากพวกนั้นก็เป็ นได้” จางเซวียน
พึมพําขณะลุกขึ้นยืนและเดินออกไป
เขาเดินไปถึงลานบ้าน ได้พบลูกน้องที่เขาเพิ่งรับมาใหม่และมอบหมาย
ภารกิจแรก “เฉาเฉิงลี่ ผมมีเรื่ องให้คุณจัดการ ผมอยากให้คุณไปดูวา่
จะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของสํานักดาบเมฆเหิ น มาได้อย่างไร
และนํามันมาให้ได้ ถ้าเป็ นไปได้ล่ะก็ ผมอยากได้สกั 2-3 อัน!”
ตอนที่ 1960 ฟังคําสั่ งของผม!
ที่สภาผูอ้ าวุโส ผูอ้ าวุโสฝ่ ายในทั้งหมดและผูท้ ี่มีตาํ แหน่งสู งกว่ามา
รวมตัวกัน บรรยากาศออกจะตึงเครี ยดเล็กน้อย
“หนังสื อในหอภูมิปัญญาเพลงดาบที่ผมลงทุนลงแรงจัดระเบียบด้วย
ความยากลําบากพากันรับรู ้ถึงเจตจํานงเพลงดาบและโค้งคํานับให้
อย่างพร้อมเพรี ยง สุ ดท้ายพวกมันก็ร่วงลงมาจากชั้นหนังสื อและ
กลับไปไร้ระเบียบอีกครั้ง” ผูอ้ าวุโสเว่ยเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ดาบเล่มใหญ่ที่ผกู ้ ่อตั้งของเราทิ้งไว้กแ็ ตกสลาย ทําให้ประตูภูเขา
พังทลายไปด้วย” ผูอ้ าวุโสร่ างตุย้ นุย้ รายงาน
ผูอ้ าวุโสอีกคนหนึ่งประสานมือ “บรรดาศิษย์สายตรงที่กาํ ลังเข้ารับ
การประเมินศิลปะเพลงดาบในหอเทพดาบต่างถูกเจตจํานงเพลงดาบ
นั้นเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ”
หลังจากได้ฟังรายงานจากเหล่าผูอ้ าวุโส ผูอ้ าวุโสเหอที่นงั่ อยูใ่ จกลาง
ห้องลุกขึ้นยืนแล้วสบตากับทุกคนที่อยูโ่ ดยรอบ “ผมเชื่อว่าพวกคุณ
ทุกคนคงพอเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ใช่” ฝูงชนพยักหน้า
“นับตั้งแต่ผกู ้ ่อตั้งของเรา, ผูท้ ี่สามารถทําความเข้าใจเจตจํานงเพลง
ดาบของเทพเจ้าได้จากไป ก็ไม่มีนกั ดาบคนไหนเข้าถึงความเข้าใจ
ในเพลงดาบระดับสู งแบบเขาอีก” ผูอ้ าวุโสเหอพูด “แม้แต่อจั ฉริ ยะที่
ปราดเปรื่ องที่สุดในประวัติศาสตร์ของเราก็เป็ นได้แค่เทพดาบสิ บลี้
เท่านั้น แต่ในวันนี้ ใครคนหนึ่งสามารถทําความเข้าใจเจตจํานงเพลง
ดาบของบรรพบุรุษของเราได้ ทําให้ดาบเล่มใหญ่ที่อยูบ่ ริ เวณทางเข้า
แตกสลาย หนังสื อศิลปะเพลงดาบทุกเล่มต่างโค้งคํานับให้ดว้ ยอาการ
ยอมจํานน ผมอยากฟังความคิดเห็นของพวกคุณที่มีต่อเรื่ องนี้!”
“ผมคิดว่าการปรากฏตัวของนักดาบผูป้ ราดเปรื่ องระดับนี้ถือเป็ นพร
สําหรับสํานักของเรา ในครั้งนั้น ผูก้ ่อตั้งของพวกเราปรากฏตัวขึ้น
จากที่ไหนสักแห่งและสร้างชื่อเสี ยงโด่งดังได้ดว้ ยการต่อสู เ้ พียงครั้ง
เดียว เขาฉกฉวยครึ่ งหนึ่งของตัวอักษรคําว่า ‘เทพเจ้า’ มาจากหอเทพ
เจ้า และนัน่ คือที่ ๆ คําว่าหอเทพดาบกับสมญานามเทพดาบได้รับ
การขนานนาม!” ผูอ้ าวุโสคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้น
“หลายพันปี มาแล้วที่เหล่าบรรพบุรุษของเราพยายามจะนําพาสํานัก
ดาบเมฆเหิ นขึ้นสู่ ความรุ่ งโรจน์เหมือนครั้งเก่า แต่กน็ ่าเสี ยดายที่ไม่มี
ใครเข้าถึงศิลปะเพลงดาบระดับสู งได้เหมือนอย่างผูก้ ่อตั้ง แต่ใน
วันนี้ ใครคนหนึ่งสามารถเข้าถึงเจตจํานงเพลงดาบของผูก้ ่อตั้งได้
แล้ว นัน่ หมายความว่าในไม่ชา้ สํานักของเราก็จะก้าวขึ้นสู่ จุดสู งสุ ด
ดังเดิม!”
“จริ งด้วย ในบรรดา 6 สํานักใหญ่ แม้แต่ตาํ หนักคว้าดาวที่สามารถ
สื่ อสารกับเทพเจ้าได้กย็ งั ไม่อาจหาญใช้คาํ ว่า ‘เทพเจ้า’ หอเทพดาบ
ของเราเป็ นข้อยกเว้นเพียงข้อเดียว! และตอนนี้ ใครคนหนึ่งก็ทาํ
ความเข้าใจเจตจํานงเพลงดาบของเทพเจ้าได้เหมือนกันกับผูก้ ่อตั้ง
ของเราแล้ว ขอแค่เราดูแลบ่มเพาะเขาให้ดี สํานักดาบของเราจะต้อง
ได้ตวั อักษรอีกครึ่ งหนึ่งมา ทําให้กลายเป็ นสํานักเทพดาบ ซึ่ งนัน่ จะ
ทําให้เรามีสถานภาพเทียบเท่ากับหอนิรันดร์เลยทีเดียว!”
“ตัวอักษรที่เหลืออีกครึ่ งหนึ่งนั้น บรรพบุรุษมากมายของพวกเรา
ต้องต่อสู อ้ ย่างหนักและยอมเสี ยเลือดเนื้อ ซึ่ งก็ไม่ประสบความสําเร็ จ
แต่ในที่สุด แสงแห่งความหวังก็สาดส่ องอยูต่ รงหน้าแล้ว…”
ผูอ้ าวุโสอีก 2-3 คนลุกพรวดด้วยความตื่นเต้น
“ผูท้ ี่ทาํ ความเข้าใจเจตจํานงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สาํ เร็ จคงจะนํา
ตัวอักษรอีกครึ่ งหนึ่งที่เหลือ จากหอเทพเจ้ามาได้ ทําให้สาํ นักของ
เรามีคาํ ว่า ‘เทพเจ้า’ อย่างสมบูรณ์ นี่คือความปรารถนาและเกียรติยศ
สู งสุ ดที่พวกเราจะนํามาสู่ สาํ นัก!” ผูอ้ าวุโสเหอพยักหน้าขณะกํา
หมัดแน่น
ทวีปที่ถูกลืมเป็ นสถานที่ที่เหล่าเทพเจ้าพากันละเลย มีทางเดียวที่จะ
ทําให้เทพเจ้ารับรู ้ นัน่ ก็คือการนําตัวอักษรคําว่าเทพเจ้าที่เหลืออีก
ครึ่ งหนึ่งมา
สํานักดาบเมฆเหิ นเป็ นเพียงสํานักเดียวใน 6 สํานักใหญ่ที่มีตวั อักษร
นั้น แต่กไ็ ด้มาเพียงครึ่ งเดียว นัน่ หมายความว่าพวกเขายังมีคุณสมบัติ
ไม่เพียงพอที่จะใช้คาํ ว่าเทพเจ้าเป็ นชื่อสํานัก จึงเลือกที่จะใส่ คาํ ว่า
เทพไว้ในหอที่ใช้เพื่อการทดสอบ
เหตุผลที่ตวั เขาอดทนยืนอยูห่ น้าประตูทางเข้าถึง 30 ปี ตั้งใจฝึ กฝน
วรยุทธอย่างไม่ลดละไม่วา่ สภาพอากาศจะเป็ นแบบไหน ก็เพราะมี
ความหวังว่าจะสามารถทําความเข้าใจแนวคิดของผูก้ ่อตั้งและเข้าถึง
แก่นสารของเจตจํานงเพลงดาบอันไร้เทียมทานนั้นได้
แต่ความเพียรพยายามของเขาก็ไม่เป็ นผล
สุ ดท้าย ผูท้ ี่ทาํ ความเข้าใจเจตจํานงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สาํ เร็ จก็
ไม่ใช่ตวั เขา แต่ถึงอย่างนั้น การที่เรื่ องนี้เกิดขึ้นกับสํานักดาบเมฆเหิ น
ก็ถือเป็ นพรครั้งใหญ่!
“ฟังคําสัง่ ของผม! สื บเสาะเรื่ องนี้อย่างถี่ถว้ น หาตัวผูท้ ี่ปลดปล่อย
เจตจํานงเพลงดาบออกมาให้ได้ ถ้ามีใครในหมู่พวกคุณพบตัวเขา
รายงานตรงต่อผมทันที ห้ามรอช้า!” ผูอ้ าวุโสเหอสัง่ การอย่าง
เคร่ งเครี ยด
“อีกอย่าง เรื่ องนี้ถือเป็ นความลับสุ ดยอด ใครก็ตามที่แพร่ งพรายให้
คนนอกรับรู ้ จะถือว่าเป็ นผูท้ รยศต่อสํานัก จะไม่ได้รับความปรานี
โดยเด็ดขาด!”
“ขอรับ” ฝูงชนพยักหน้าอย่างเคร่ งขรึ ม
“ก่อนจบการประชุม ผมขอทบทวนหัวข้ออีกครั้ง ควานหาตัวบุคคล
ที่อยูเ่ บื้องหลังเจตจํานงเพลงดาบของเทพเจ้าให้ได้และรายงานให้ผม
รับทราบ ผมจะส่ งเรื่ องนี้ไปยังท่านเจ้าสํานักทันที มัน่ ใจได้เลยว่า
ท่านเจ้าสํานักจะตบรางวัลให้อย่างงาม”
“ท่านเจ้าสํานักจะตบรางวัลอย่างงาม?”
ทุกคนนัยน์ตาแดงกํ่าด้วยความตื่นเต้น
ท่านเจ้าสํานักมีความเก่งกาจในระดับที่ยากจะหยัง่ ถึง รางวัลที่ได้
จากเขาย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ขณะที่ทุกคนกําลังรู ้สึกฮึกเหิ มกับการควานหาตัวนักดาบลึกลับผูน้ ้ นั
เสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นด้านนอก
“ผูอ้ าวุโสเหอ, ผูอ้ าวุโสฝ่ ายนอกลู่อวิน๋ ขอเข้าพบสภาผูอ้ าวุโส”
“ลู่อวิน๋ ?” ผูอ้ าวุโสเหอขมวดคิ้ว
ด้วยความใหญ่โตของสํานักดาบเมฆเหิ น มีผอู ้ าวุโสมากมายที่ทาํ
หน้าที่บริ หารงานด้านต่าง ๆ ในสํานัก หากจะว่าไป บรรดาผูอ้ าวุโส
ฝ่ ายนอกไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะขอพบสภาผูอ้ าวุโส อันเนื่องมา
จากสถานภาพตํ่าต้อยของพวกเขา
“มีเรื่ องอะไร?”
“เขาบอกว่าเขาได้พบนักดาบผูป้ ราดเปรื่ องคนหนึ่ง จึงมาที่นี่เพื่อ
รายงาน หวังว่าจะได้มอบตําแหน่งศิษย์สายตรงฝ่ ายในให้ผนู ้ ้ นั ”
เสี ยงหนึ่งรายงาน
“เขาพบนักดาบผูป้ ราดเปรื่ อง?” ผูอ้ าวุโสเหอเลิกคิ้ว “เรี ยกเขาเข้ามา!”
เหตุผลที่เขาเรี ยกรวมพลเหล่าผูอ้ าวุโสก็เพื่อควานหาตัวอัจฉริ ยะผู ้
สามารถทําความเข้าใจเจตจํานงของเพลงดาบของเทพเจ้า การมาถึง
ของผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ในเวลานี้จึงจุดประกายความหวังให้เกิดขึ้นใน
หัวใจของเขา
ไม่ชา้ ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ก็มาอยูต่ รงหน้าสภาผูอ้ าวุโส
“คุณบอกว่าคุณได้พบนักดาบผูป้ ราดเปรื่ องคนหนึ่ง เกิดอะไรขึ้น?”
ผูอ้ าวุโสเหอตั้งคําถาม
“ผูอ้ าวุโสที่ 1, ผมมีหน้าที่รับผิดชอบการรับศิษย์สายตรงฝ่ ายนอก
และศิษย์สายตรงระดับล่าง ตอนที่ผมผ่านไปที่เมืองแสงดาว…”
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เล่าเรื่ องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างรวบรัด รวมถึงการที่เขา
ได้พบกับเจ้าโลก การที่ต้ นั เฉี่ยวเทียนเอาชนะหัวเจียงเหอได้อย่าง
ง่ายดาย รวมถึงวีรกรรมของตั้นเฉี่ยวเทียนในการปลดปล่อยเจตจํานง
เพลงดาบได้ไกลถึง 499 เมตร
“นี่คือตราหยกที่เขาทิ้งไว้ในหอเทพดาบ”
“เขาเป็ นแค่นกั รบระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1 เท่านั้น แต่สาํ แดง
เจตจํานงเพลงดาบได้ไกลเกือบ 1 ลี้?” ผูอ้ าวุโสเหอมีทีท่าประหลาด
ใจอย่างเห็นได้ชดั
ไม่ใช่เขาเพียงคนเดียว ผูอ้ าวุโสคนอื่น ๆ ที่อยูใ่ นสภาก็พากันตาโต
อย่างไม่อยากเชื่อ
ความสามารถในการเข้าถึงแนวคิดของศิลปะเพลงดาบระดับสู งนั้น
เชื่อมโยงกับความปราดเปรื่ องแต่กาํ เนิดของนักดาบผูน้ ้ นั ด้วย แต่
หากปราศจากวรยุทธที่ทรงพลังมากพอ ก็ไม่อาจขับเคลื่อนเจตจํานง
เพลงดาบที่แข็งแกร่ งได้
ด้วยเหตุน้ ี จึงออกจะเหลือเชื่อที่นกั รบระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1
สามารถปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบได้เป็ นระยะทาง 1 ลี้
นัน่ คือวีรกรรมที่เหนือชั้นกว่าแม้แต่ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดคนอื่น ๆ
เป็ นอัจฉริ ยะผูน้ ่าสะพรึ งคนหนึ่งเลยทีเดียว
ผูอ้ าวุโสร่ างตุย้ นุย้ หันไปถามผูอ้ าวุโสเหอ “หรื อว่าจะเป็ นเขา?”
“นักดาบที่มีวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1, อายุ 17 ปี …ผมไม่
คิดว่าเขาจะเก่งกาจถึงขั้นทําความเข้าใจเจตจํานงเพลงดาบของเทพเจ้า
ได้หรอก หรื อต่อให้เขาทําได้ ก็ไม่น่าจะปลดปล่อยพละกําลังมหาศาล
ได้ขนาดนั้น แต่กแ็ น่นอนว่าเขาคืออัจฉริ ยะผูห้ าตัวจับยากคนหนึ่ง!”
ผูอ้ าวุโสเหอพยักหน้า
แม้แต่นกั รบที่มีวรยุทธระดับเดียวกับตัวเขาก็ยงั ไม่อาจควบคุมพละกําลัง
มหาศาลของเจตจํานงเพลงดาบของเทพเจ้าได้ นับประสาอะไรกับ
ข้อเท็จจริ งที่วา่ อีกฝ่ ายเป็ นแค่ชายหนุ่มอายุ 17 ปี ที่มีวรยุทธระดับ
นักปราชญ์โบราณขั้น 1
ดังนั้น เขาจึงตัดความเป็ นไปได้ขอ้ นี้ออกไป
“สํานักของเราอ้าแขนต้อนรับอัจฉริ ยะผูป้ ราดเปรื่ องทุกคน ตั้นเฉี่ ยว
เทียนจะได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน และต่อไปก็จะได้รับสิ ทธิพิเศษ
ของศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ด เมื่อเขาสําเร็ จวรยุทธขั้นเสมือนอมตะ ก็
จะได้รับการเลื่อนขั้นทันทีโดยไม่ตอ้ งเข้ารับการทดสอบ!”
ถึงตอนนี้ ผูอ้ าวุโสเหอหยุดไปครู่ หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
ความดีความชอบของคุณในการพบตัวอัจฉริ ยะผูป้ ราดเปรื่ องและพา
เขามาสู่ สาํ นักของเราจะไม่ถูกมองข้าม คุณจะได้รับยาเม็ดสวรรค์
ยิง่ ใหญ่ และผูอ้ าวุโสอู๋กบั ผูอ้ าวุโสไป๋ จะให้ความช่วยเหลือคุณใน
การฝ่ าด่านวรยุทธไปสู่ ข้นั นักรบอมตะตัวจริ ง ซึ่งทันทีที่คุณทําสําเร็ จ
คุณจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็ นผูอ้ าวุโสฝ่ ายในของสํานักของเรา”
เมื่อรู ้วา่ ได้รับรางวัลอย่างงาม ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ทรุ ดตัวลงคุกเข่ากับพื้น
และอุทานออกมา “ขอบคุณมาก ผูอ้ าวุโสเหอ!”
ยาเม็ดสวรรค์ยงิ่ ใหญ่เป็ นหนึ่งในยาเม็ดลํ้าค่าที่สุดของสํานัก แต่ละ
เม็ดมีมูลค่าสู งมาก และเป็ นหนึ่งในทรัพยากรสําหรับการฝึ กฝน
วรยุทธไม่กี่อย่างที่เพียงแค่มีเงินมากก็ไม่อาจซื้อหาได้
ถ้านักรบขั้นเสมือนอมตะสรวงสวรรค์คนหนึ่งได้กินยานี้เข้าไป 1 เม็ด
โอกาสในการฝ่ าด่านวรยุทธของเขาก็จะเพิม่ ขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์
ด้วยสิ่ งนี้ เขาจะสําเร็ จวรยุทธขั้นนักรบอมตะตัวจริ งได้ง่ายขึ้นมาก
แถมยังจะได้รับคําชี้แนะจากผูอ้ าวุโสอู๋กบั ผูอ้ าวุโสไป๋ ด้วย
บอกได้เลยว่าตอนนี้เขาอยูไ่ ม่ไกลจากการได้เป็ นผูอ้ าวุโสฝ่ ายในแล้ว!
“ผูม้ ีความดีความชอบย่อมได้รับรางวัล ส่ วนผูก้ ระทําผิดจะต้องถูก
ลงโทษ นี่คือกฎของสํานักของเรา คุณไม่ตอ้ งเกรงอกเกรงใจไป
หรอก จนกว่าคุณจะได้เป็ นผูอ้ าวุโสฝ่ ายใน คุณจะต้องรับหน้าที่ดูแล
ตั้นเฉี่ยวเทียนไปก่อน ถ้าพบอะไรผิดสังเกต รายงานผมทันที!” ผู ้
อาวุโสเหอสัง่ การ
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสที่ 1” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ รับคําอย่างตื่นเต้นก่อนจะออก
จากสภาผูอ้ าวุโส
“อือ!” ผูอ้ าวุโสเหอมองไปรอบ ๆ สภาผูอ้ าวุโสอีกครั้งก่อนจะโบก
มือ “เอาล่ะ พวกคุณไปได้ จดจําสิ่ งที่เราคุยกันไว้ให้ดี ขอแค่พวกคุณ
พบตัวนักดาบคนนั้น รางวัลของคุณจะยิง่ ใหญ่กว่าที่ผอู ้ าวุโสลู่ได้รับ
เสี ยอีก!”
“ขอรับ ผูอ้ าวุโสที่ 1!” ฝูงชนตอบรับก่อนจะออกจากสภา
ตอนที่ 1961 คุณคงไม่ ได้ หมายถึง…
สําหรับพวกเขา ถึงตั้นเฉี่ยวเทียนจะเป็ นอัจฉริ ยะ แต่สาํ นักดาบเมฆ
เหิ นก็ไม่เคยขาดแคลนคนแบบนี้ มีศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดมากมายที่
สามารถปลดปล่อยเจตจํานงเพลงดาบได้ไกลถึง 2 ลี้
แน่นอนว่าพวกเขาประหลาดใจกับความสามารถของตั้นเฉี่ ยวเทียน
แต่กแ็ ค่น้ นั ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่เหมือนกับนักดาบผูส้ ามารถทําความ
เข้าใจเจตจํานงเพลงดาบของเทพเจ้า การปรากฏตัวของเขาไม่ได้ทาํ
ให้สาํ นักดาบเมฆเหิ นเกิดความเปลี่ยนแปลง
ทุกคนรี บออกจากห้อง เหลือแต่ผอู ้ าวุโสเหอกับผูอ้ าวุโสร่ างตุย้ นุย้
“คุณจะส่ งข้อความหาท่านเจ้าสํานักไหม?” ผูอ้ าวุโสร่ างตุย้ นุย้ ตั้ง
คําถาม
“ส่ งสิ เรื่ องนี้สาํ คัญมาก ต้องรายงานท่านเจ้าสํานักโดยเร็ วที่สุดเท่าที่
จะทําได้” ผูอ้ าวุโสเหอตอบรับพร้อมกับพยักหน้า
“ตอนนี้ท่านเจ้าสํานักกําลังอยูก่ บั ผูน้ าํ คนอื่น ๆ ของ 5 สํานักใหญ่
เพื่อหารื อกันในรอบ 1 ศตวรรษของ ‘สะพานเบื้องบน’ เราควร
ขัดจังหวะด้วยการติดต่อเขาในเวลานี้หรื อ?” ผูอ้ าวุโสร่ างตุย้ นุย้ เอ่ย
ขึ้นอย่างกังวลใจ
“ผมคิดว่าต้องเป็ นอย่างนั้น เพราะต่อให้เราไม่รายงานท่านเจ้าสํานัก
ตอนนี้ ไม่ชา้ สํานักอื่น ๆ ก็จะต้องได้ข่าว คงไม่ดีแน่หากท่านเจ้าสํานัก
ไม่ได้รู้เรื่ องเป็ นคนแรกจากพวกเราโดยตรง” ผูอ้ าวุโสเหอตอบ
เขานําตราหยกพิเศษอันหนึ่งออกมาและจารึ กข้อความลงไปบนนั้น
อย่างรวดเร็ ว หลังจากเสร็ จสิ้ น ตราหยกพิเศษอันนั้นก็มอดไหม้เป็ น
เถ้าถ่าน ก่อนจะหายวับไป
…..
หมู่เมฆขาวลอยเอื่อยอย่างสงบสุ ขอยูบ่ นยอดเขาที่มีความสู งอย่างน่า
ทึ่ง เสี ยงร้องของฝูงนกกระเรี ยนสวรรค์ดงั มาจากที่ไกล ๆ ลําธารสาย
เล็ก ๆ ไหลอยูไ่ ม่ห่างออกไปนัก กลิ่นหอมสดชื่นของธรรมชาติ
อบอวลอยูใ่ นอากาศ
เมื่อมองจากที่ไกล ๆ สถานที่น้ ีดูไม่ต่างอะไรกับสวรรค์
ใต้ตน้ สนโบราณ คนกลุ่มหนึ่งนัง่ ล้อมวงกัน
สาวสวยคนหนึ่งยกถ้วยชาขึ้นจิบด้วยท่วงท่าสง่างามก่อนจะพูดด้วย
นํ้าเสี ยงเรี ยบเฉย “ฉันขอเสนอให้พวกเรายึดกฎเกณฑ์เดิม ไม่มี
ประโยชน์ที่จะเสี ยเวลาถกเถียงเรื่ องเดิมซํ้าแล้วซํ้าอีก”
“กฎเกณฑ์เดิมที่เราเคยใช้ยตุ ิธรรมและมีเหตุผลดีอยูแ่ ล้ว แต่เราก็ไม่
เคยประสบความสําเร็ จแม้จะพยายามมาเนิ่นนานหลายปี ผมเกรงว่า
การยึดติดกับวิธีเดิม ๆ จะทําให้เราไปไม่ถึงไหน” ชายชราคนหนึ่ง
พูด
“อ้อ? อย่างนั้นหรื อ? ดูเหมือนคุณจะมีแผนการดี ๆ อยูใ่ นใจนะ
ทําไมไม่พดู ออกมาล่ะ เผือ่ พวกเราจะได้พิจารณา!” สาวสวยคําราม
“ตูช้ ิงหย่วน, สํานักคว้าดาวของคุณเป็ นสํานักเดียวใน 6 สํานักใหญ่ที่
สามารถติดต่อกับหอนิรันดร์ได้ คุณควรจะรู ้วา่ เหตุผลหลักที่พวกเรา
มารวมตัวกันที่นี่กเ็ พื่อฟังความคิดเห็นของคุณที่มีต่อเรื่ องนี้ หรื อว่า
คุณอยากจะอยูท่ ี่นี่ไปตลอดชีวติ แทนที่จะหาทางออกไป ถ้าผมเข้าใจ
ไม่ผดิ อายุขยั ของคุณใกล้สิ้นสุ ดแล้วนี่ ใช่ไหม?” ชายวัยกลางคนผู ้
หนึ่งที่นงั่ อยูต่ รงข้ามกับสาวสวยพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ก็จริ งอยูท่ ี่พวกเราติดต่อกับหอนิรันดร์ได้ แต่คุณก็ควรรู ้วา่ หอนิรันดร์
เป็ นอย่างไร เพียงแค่เราติดต่อกับหอนิรันดร์ได้กไ็ ม่ได้หมายความว่า
เรามีความเข้าใจในสิ่ งนั้นอย่างถ่องแท้ อีกอย่าง ถึงอายุขยั ของฉันใกล้
จะสิ้ นสุ ดแล้ว แต่คุณคิดว่าตําหนักคว้าดาวของเราจะล่มสลายเพียง
เพราะเรื่ องนั้นหรื อ? จะลองดูกไ็ ด้ ฉันยิง่ กว่าเต็มใจที่จะดวลกับคุณ
ที่นี่ เดี๋ยวนี้!” สาวสวยที่ชื่อตูช้ ิงหย่วนคํารามอย่างเย็นชา
“เอาเถอะ ใจเย็นก่อน เรามาที่นี่เพื่อหารื อกันนะ ไม่ได้มาสู ก้ นั เอง!”
ชายชราที่พดู ขึ้นก่อนหน้านี้รีบไกล่เกลี่ย “เจ้าสํานักชิง, คุณควรสงบ
สติอารมณ์สกั นิด…เจ้าตําหนักตู,้ คุณก็รู้วา่ เจ้าสํานักชิงออกจะพูด
เกินเลยไปสักหน่อยเสมอ เพราะฉะนั้นก็อดทนกับเขาหน่อยสิ ผมไม่
คิดว่าพวกเราจะหาข้อสรุ ปได้หรอกหากใช้วธิ ีแบบนี้ จึงประสานงาน
กับหัวหน้าขงแห่งหอนิรันดร์ไว้แล้ว เขาคงจะมาถึงในไม่ชา้ นี่แหละ…”
ยังไม่ทนั ที่ชายชราจะพูดจบ ชายวัยกลางคนหน้าตาเฉลียวฉลาดคน
หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าทุกคนในที่น้ นั เขายิม้ บาง ๆ
“ดูเหมือนพี่หานจะเข้าใจผมดี…”
การมาถึงของชายวัยกลางคนทําให้ทุกคนที่อยูต่ รงนั้นลุกขึ้นยืนทันที
พวกเขาอาจเป็ นผูน้ าํ ของ 6 สํานักใหญ่ แต่ต่างก็รู้ดีวา่ สถานภาพของ
ตัวเองยังเหลื่อมลํ้าหากจะเปรี ยบเทียบกับชายวัยกลางคนที่อยูต่ รงหน้า
6 สํานักใหญ่เปรี ยบเหมือนจักรวรรดิใหญ่ 6 จักรวรรดิ แต่ละจักรวรรดิ
กินอาณาบริ เวณกว้างใหญ่ แต่หอนิรันดร์คือสิ่ งที่มีอานุภาพครอบคลุม
ทัว่ ทั้งโลก ที่ไหนก็ตามที่มีมนุษย์อยู่ ก็จะต้องมีหอนิรันดร์และตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาล
แม้จะไม่ได้เป็ นเจ้าข้าวเจ้าของดินแดนใด แต่อิทธิพลของหอนิรันดร์
ก็แผ่ขยายไปทัว่ ทั้งทวีปที่ถูกลืม
แถมยังไม่มีใครรู ้ดว้ ยว่าแท้ที่จริ งแล้วชายวัยกลางคนที่ยนื อยูต่ รงหน้า
มีพละกําลังมากแค่ไหน
นักรบทัว่ ไปมีอายุขยั จํากัด แต่ดูเหมือนความแก่ชราจะไม่ยา่ งกราย
มาสู่ ชายวัยกลางคนผูน้ ้ ีเลย เขามีชื่อเสี ยงโด่งดังตั้งแต่เมื่อหลายพันปี
ก่อน จนกระทัง่ ไม่มีใครในโลกที่ไม่รู้จกั เขา แต่นบั จากตอนนั้น ก็ดู
เหมือนตัวเขาจะไม่ได้เปลี่ยนไปสักกี่มากน้อย
แม้ทุกคนจะเป็ นกลุ่มอํานาจหลักที่ถือเป็ นสุ ดยอดของโลกใบนี้ แต่ก็
ยังมีความยําเกรงในตัวอีกฝ่ าย
พวกเขาประสานมือและทักทาย “คารวะหัวหน้าขง!”
“ไม่ตอ้ งมีพิธีรีตองหรอก” หัวหน้าขงหัวเราะหึ ๆ ขณะหาที่นงั่
“เหตุผลที่พวกเรารบกวนหัวหน้าขงให้เดินทางมาที่นี่กเ็ พื่อหารื อ
เรื่ องที่เกี่ยวข้องกับสะพานเบื้องบน ไม่ทราบว่าพวกเราควรทําตาม
ข้อตกลงที่เคยทําไว้ก่อนหน้านี้ หรื อรื้ อทิ้งและจัดระเบียบข้อตกลง
ใหม่?” ชายชราที่ถูกเรี ยกขานว่าพี่หานตั้งคําถาม
“จริ งด้วย เมื่อสี่ พนั ปี ก่อน คุณบุกเข้าไปที่สะพานเบื้องบนและเอาชนะ
เหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของหอเทพเจ้าได้ ทําให้ได้ตวั อักษรคําว่า ‘นิรันดร์’
มา ด้วยตัวอักษรนั้น คุณได้ก่อตั้งหอนิรันดร์ข้ ึน คุณมีความเข้าใจอย่าง
ดีในหอเทพเจ้า เข้าใจลึกซึ้งมากกว่าใคร ๆ ที่นี่ ไม่มีใครเหมาะสมไป
กว่าคุณอีกแล้วที่จะช่วยไขความกระจ่างให้พวกเรา” เจ้าสํานักชิงพูด
“ผมได้เข้าสู่ หอเทพเจ้าก็จริ ง แต่ความน่าสะพรึ งที่อยูใ่ นนั้นไม่ใช่สิ่ง
ที่จะใช้คาํ เพียงไม่กี่คาํ อธิบายได้ สะพานเบื้องบนปรากฏขึ้นทุก 100
ปี แต่ในอดีตตลอดหลายพันปี ที่ผา่ นมา ก็ไม่เคยมีใครทําสําเร็ จ ถึง
เวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยนอะไรสักเล็กน้อยแล้วล่ะ” หัวหน้าขงพูด
พร้อมกับหัวเราะหึ ๆ
เขากําลังจะพูดต่อ ก็พอดีกบั ที่พี่หานสะบัดข้อมือ ตราหยกอันหนึ่ง
ปรากฏในมือของเขา
หลังจากก้มลงมอง พี่หานตาโต
“มีอะไรหรื อพี่หาน?” เจ้าสํานักชิงตั้งคําถาม
“ผมเพิ่งได้รับรายงานจากสมาชิกในสํานักของผม มีอจั ฉริ ยะผูห้ นึ่งที่
สามารถทําความเข้าใจเจตจํานงเพลงดาบที่ผกู ้ ่อตั้งของเราทิ้งไว้ได้!”
พี่หานพูดพร้อมกับหัวเราะหึ ๆ
“เจตจํานงเพลงดาบที่ผกู ้ ่อตั้งของคุณทิ้งไว้? คุณคงไม่ได้หมายถึง…
เจตจํานงเทพดาบหรอกนะ?” หัวหน้าขงถึงกับชะงัก
“นัน่ แหละ” พี่หานพยักหน้า
“ว่ากันว่าเจตจํานงเทพดาบคือสิ่ งที่มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นที่จะทําความ
เข้าใจและสําแดงมันออกมาได้ ผูท้ ี่ทาํ ความเข้าใจมันได้สาํ เร็ จจะต้อง
มีอนาคตที่รุ่งเรื องอย่างมากแน่!” หัวหน้าขงตาโตขณะถามยิม้ ๆ “ไม่
ทราบว่าสมาชิกผูน้ ้ นั ชื่ออะไร?”
“เอ่อ…ผมคิดว่าเหล่าผูอ้ าวุโสกําลังสื บเสาะเรื่ องนั้นอยู่ ในเวลานี้
พวกเขาเพียงแค่รับรู ้ได้ถึงการปรากฏขึ้นของเจตจํานงเพลงดาบที่ผู ้
ก่อตั้งทิ้งไว้เท่านั้น” พี่หานตอบ
“เข้าใจแล้ว!” หัวหน้าขงพยักหน้า “ในเมื่อบุคคลระดับนั้นปรากฏตัว
ผมก็เชื่อว่ามีความจําเป็ นอย่างยิง่ ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ที่
เกี่ยวข้องกับสะพานเบื้องบน แต่แน่นอนว่าเราจะหารื อเรื่ องนี้กนั
หลังจากคุณพบตัวนักดาบผูป้ ราดเปรื่ องผูน้ ้ นั แล้ว พี่หาน…เราต้อง
หาตัวนักดาบผูน้ ้ นั ให้ได้ และต้องแน่ใจว่าเขามีความเก่งกาจแบบ
ไหนเพื่อจะได้วางแผนการที่รัดกุมต่อไป ดีไหม?”
“พวกเราเห็นด้วย” คนอื่น ๆ พยักหน้ารับ
“ก็ดี ไว้ค่อยนัดหมายการประชุมครั้งต่อไปก็แล้วกัน!” หัวหน้าขงพูด
เจ้าสํานักทั้ง 6 แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง
พี่หานกําลังจะมุ่งหน้ากลับสํานักดาบเมฆเหิ น ก็พอดีกบั ที่ได้ยนิ เสี ยง
ลมหอบใหญ่พงุ่ มาหาเขา ครู่ ต่อมา หัวหน้าขงก็มายืนอยูต่ รงหน้า
“หัวหน้าขง!” พี่หานประสานมือและโค้งคํานับ
“พี่หาน มีบางอย่างที่ผมอยากมอบหมายให้คุณจัดการ…บุคคลที่
สามารถทําความเข้าใจจํานงเทพดาบได้จะต้องมีบทบาทสําคัญต่อ
สะพานเบื้องบน ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่รู้วา่ เขาทรงพลังแค่ไหน แต่ใน
ฐานะผูอ้ าวุโสคนหนึ่ง ผมก็อยากมอบของกํานัลให้เขา นี่คือตรา
สัญลักษณ์ที่เป็ นตัวแทนของผม ถ้าคุณพบนักดาบผูน้ ้ นั กรุ ณามอบ
มันให้เขา ด้วยตราสัญลักษณ์น้ ี เขาจะสามารถซื้อหาทุกอย่างในหอนิ
รันดร์ได้โดยไม่ตอ้ งใช้เงินสักแดงเดียว” หัวหน้าขงยิม้ ขณะยืน่ ตรา
หยกอันหนึ่งให้พี่หาน
“ผมขอแสดงความขอบคุณแทนศิษย์สายตรงของผมด้วย” พี่หาน
ประสานมือและโค้งคํานับอย่างงาม
หอนิรันดร์มีอาํ นาจและอิทธิพลที่ครอบคลุมไปทัว่ ทั้งโลก ข้อเท็จจริ ง
ที่วา่ ตราหยกอันนี้สามารถใช้ซ้ือหาทรัพยากรเพื่อการฝึ กฝนวรยุทธ
ได้โดยไม่ตอ้ งใช้เงินสักแดงเดียว ก็หมายความว่ามันมีมูลค่าอย่างที่
ประเมินไม่ได้!
พูดได้เลยว่าขอแค่นกั รบคนหนึ่งมีตราหยกอันนี้ในมือ ทรัพยากรทุก
ชนิดที่มีอยูใ่ นทวีปที่ถูกลืมก็จะตกเป็ นของเขา เขาไม่จาํ เป็ นต้อง
กังวลเรื่ องเงินทองและค่าใช้จ่ายใด ๆ อีก
ไม่มีของกํานัลใดจะยิง่ ใหญ่กว่านี้อีกแล้ว!
“คุณก็เกรงอกเกรงใจเกินไป” หัวหน้าขงตอบพร้อมกับยิม้ อย่าง
อ่อนโยน “คุณก็รู้วา่ วัตถุประสงค์ของการก่อตั้งหอนิรันดร์กค็ ือเพื่อ
บ่มเพาะความแข็งแกร่ งของเหล่านักรบ ผมถือเป็ นความรับผิดชอบ
ของผมที่จะต้องดูแลเหล่าผูเ้ ชี่ยวชาญของโลกใบนี้”
“หัวหน้าขง คุณช่างมีใจเมตตากรุ ณาเหลือเกิน ผมยําเกรงในตัวคุณ
มาก แต่ขออภัยด้วยเถอะ มีบางเรื่ องที่ผมต้องไปจัดการก่อนจะกลับ
สํานัก ถ้าไม่มีอะไรแล้ว…ผมต้องขอตัวก่อน” พี่หานประสานมือ
ก่อนจะรี บจากไป
หัวหน้าขงเอาสองมือไพล่หลังขณะมองร่ างของพี่หานที่ลบั ตาไป ดู
ไม่ออกว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่
ครู่ ต่อมา เขาก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า อาจกําลังพูดกับใครสักคน
หรื อพึมพํากับตัวเองก็เป็ นได้ “ผมรอมาเนิ่นนานเหลือเกิน และใน
ที่สุด ความอดทนของผมก็ส่งผล…ออกมาเร็ ว ๆ เถอะ ผมไม่รู้วา่ ผม
จะรอได้นานแค่ไหน…”
ฟิ้ ววววว!
เกิดลมพัดหอบใหญ่ ร่ างของหัวหน้าขงหายวับไปจากสายตา
…..
จางเซวียนไม่รู้เรื่ องรู ้ราวกับสิ่ งที่เกิดขึ้นที่สภาผูอ้ าวุโสหรื อที่ภูเขา
ในตอนนั้น เขากําลังจ้องหน้าเฉาเฉิงลี่ดว้ ยความหงุดหงิดสุ ดขีด
เขามอบหมายให้อีกฝ่ ายออกไปหาข่าว แต่เฉาเฉิงลี่กลับมาด้วย
ใบหน้าบวมฉึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะกระแสพลังปราณเทียบฟ้าที่เขาเคย
ถ่ายทอดให้ไว้ก่อนหน้านี้ หมอนี่คงตายไปแล้ว
“ผมบอกให้คุณไปหาข่าวคราวเกี่ยวกับตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
ไม่ใช่หรื อ? แล้วไปทําอะไรมาถึงอยูใ่ นสภาพนี้?” จางเซวียนถาม
ด้วยความหงุดหงิด
ขนาดซุนฉางซึ่งเป็ นพ่อบ้านคนเก่าของเขาก็ยงั มีประสิ ทธิภาพกว่านี้
เขารู ้ดีวา่ ภารกิจใด ๆ ก็ตามที่มอบหมายให้ซุนฉางทําจะต้องสําเร็ จ
ลุล่วงอย่างไร้ที่ติ ถึงซุนฉางจะชอบคุยโวโอ้อวด แต่อย่างน้อยที่สุดก็
ไม่เคยถูกซ้อมจนหมดสภาพภายใน 1 ชัว่ โมงตั้งแต่ออกจากที่พกั !
ตอนที่ 1962 20 เหรียญสํ านักดาบ?
“คือ…ผม…” เฉาเฉิงลี่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนสุ ดขีด
หลังจากได้ฟังคําอธิบายของเฉาเฉิงลี่ จางเซวียนถึงกับพูดไม่ออก
ลงท้าย เฉาเฉิงลี่กย็ งั มีนิสยั แบบจอมโจร โดยขณะที่พยายามหาข่าว ก็
ไปพบกับสาวสวยคนหนึ่งซึ่งเป็ นศิษย์สายตรงระดับล่างและพยายาม
จีบเธอ
สุ ดท้ายก็เกือบถูกฆ่าตาย
“เฉาเฉิงลี่ ผมละเว้นให้คุณแล้วนะด้วยการพาคุณมาที่นี่ ไม่วา่ คุณจะ
เคยเป็ นอะไรมาก่อน ผมก็หวังว่าคุณจะทําตัวอยูใ่ นระเบียบกฎเกณฑ์
ตราบใดที่คุณยังอยูภ่ ายใต้คาํ สัง่ ของผม ผมไม่ตอ้ งการคนกระด้าง
กระเดื่อง” จางเซวียนพูดอย่างเคร่ งขรึ ม
เฉาเฉิงลี่ช่างกล้านัก!
บรรดาศิษย์สายตรงระดับล่างของสํานักดาบเมฆเหิ นล้วนแต่เป็ นนักรบ
ระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้นั 3 เป็ นอย่างน้อย หมอนี่กล้าจีบคนพวก
นั้นทั้งที่ตวั เองก็มีวรยุทธเท่านี้…รนหาที่ตายแท้ ๆ !
ถ้าใคร ๆ ไม่รู้วา่ เขาเป็ นคนรับใช้ของตั้นเฉี่ยวเทียน คงได้กลายเป็ นผี
ไม่มีญาติ
“แต่นายน้อย คุณก็รู้วา่ ผมก็ยบั ยั้งชัง่ ใจมากว่า 10 วันแล้ว ไม่ได้แตะ
ต้องเธอเลยด้วยซํ้า! ผมแค่ถามเธออย่างสุ ภาพว่า…” เฉาเฉิงลี่หน้า
แดงกํ่าด้วยความอับอาย
เขาเคยเป็ นชายผูข้ าดความยับยั้งชัง่ ใจและชอบใช้กาํ ลัง วีรกรรมของ
เขาในการพาผูห้ ญิงเข้าโรงเตี๊ยมพร้อมกันถึง 7 คนก็บ่งบอกอะไร
เกี่ยวกับตัวเขาได้มากอยูแ่ ล้ว การที่เขาต้องยั้งใจไว้กว่า 10 วันจึงถือ
เป็ นเรื่ องยากเย็นมาก
เฉาเฉิงลี่คิดว่าด้วยรู ปร่ างหน้าตาอันโดดเด่นของตัวเอง อย่างน้อยก็
น่าจะดึงดูดใจศิษย์สายตรงระดับล่างให้ตกลงปลงใจกับเขาได้สกั คน
แต่ใครจะไปรู ้วา่ เขาจะถูกซ้อมยับเยินทันทีที่เอ่ยปาก?
เห็นเฉาเฉิงลี่ยงั ยืนกรานความคิดของตัวเอง จางเซวียนเอามือกุมหัว
ตั้นเฉี่ยวเทียนพูดถูก เขาไม่ควรรับหมอนี่ไว้เลย
จางเซวียนรู ้สึกว่าชื่อเสี ยงของเขาจะต้องถูกเฉาเฉิ งลี่ทาํ ให้แปดเปื้ อน
ด่างพร้อยไปทีละน้อย!
“พอที! ผมไม่อยากเห็นเรื่ องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เข้าใจไหม? แล้วเรื่ อง
ที่ผมมอบหมายคุณไป ได้ความว่าอย่างไรบ้าง?”
เมื่อเห็นว่าตัวเองทําให้นายน้อยโมโหเดือด เฉาเฉิงลี่ไม่กล้าพล่ามต่อ
เขารี บโค้งคํานับและรายงาน “นายน้อย ผมไปสื บข่าวเรื่ องนั้นแล้ว
ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของสํานักดาบเมฆเหิ นมีขายที่ตลาดของ
ศิษย์สายตรงฝ่ ายใน อันหนึ่งมีสนนราคาอยูท่ ี่ 20 เหรี ยญสํานักดาบ!”
“20 เหรี ยญสํานักดาบ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
ฟังดูเหมือนเป็ นเงินไม่มากนัก แต่เขาไม่รู้วา่ อํานาจการใช้สอยของ
เหรี ยญสํานักดาบเป็ นอย่างไร
“สําหรับที่นี่ ยาเม็ดอมตะขั้นต้นเม็ด 1 มีราคากี่เหรี ยญสํานักดาบ?”
จางเซวียนตั้งคําถาม
“เอ่อ…ผมไม่ได้สอบถามเรื่ องนั้น” เฉาเฉิ งลี่ตอบหน้าเจื่อน
“แล้วตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายในอยูท่ ี่ไหน?”
“คือ…” เฉาเฉิงลี่โคลงศีรษะขณะย้อนถาม “ผมต้องรู ้เรื่ องนั้นด้วย
หรื อ?”
“ถ้าอย่างนั้นคุณรู ้อะไรบ้าง!” จางเซวียนหน้าตายูย่ ขี่ ้ ึนเรื่ อย ๆ
“สาวน้อยที่ซอ้ มผมก่อนหน้านี้เป็ นลูกน้องของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
คนหนึ่งที่ชื่อหลิวลู่จี่ เธอสู ง 1.7 เมตร สัดส่ วน 85, 74, 88 เรี ยวขา
ของเธอยาวมาก ทั้งขาวทั้งเนียน มีสดั ส่ วนสมบูรณ์แบบราวกับพระ
เจ้าปั้นมาเลยทีเดียว…นายน้อย ผมขอบอกคุณเลยว่าชัว่ ชีวติ นี้ผมเจอ
ผูห้ ญิงมามากมาย แต่แม่สาวคนนี้กินขาด” เฉาเฉิ งลี่ตาโตด้วยความ
ตื่นเต้น
“พอได้แล้ว!” จางเซวียนโบกมือด้วยอาการเดือดจัด
นี่มนั บ้าบออะไร?
แทนที่จะทํางานที่เขามอบหมายให้สาํ เร็ จ หมอนี่กลับใช้เวลาไปกับ
เรื่ องไร้สาระ
คุณจัดลําดับความสําคัญเป็ นไหม?
จําใส่ หวั ไว้ดว้ ยว่าคุณมีหน้าที่ทาํ อะไร! คุณมาที่นี่เพื่อรับใช้พวกเรา
ไม่ใช่มวั แต่จีบสาว!
“เอาล่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ไปหามาให้ได้วา่ ตลาดของศิษย์สายตรง
ฝ่ ายในอยูท่ ี่ไหน ถ้ากล้ากลับมาโดยไม่ได้ขอ้ มูลล่ะก็ ผมจะตอนคุณ
ซะ!” จางเซวียนคําราม
ด้วยการกระดิกนิ้ว กระแสดาบฉีสายหนึ่งก็มารวมตัวกันอยูเ่ หนือร่ าง
ของจางเซวียน มันคํารามลัน่ ราวกับพร้อมจะทําลายล้างทุกอย่าง
“ดะ-ได้!”
รู ้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่หว่างขา เฉาเฉิงลี่หน้าซีดขณะหุบขาแน่น
ด้วยความหวาดหวัน่
“แล้วถ้าคืนนี้ยงั ไม่ได้เรื่ องล่ะก็…ผมจะเทียมพ่อพันธุ์มา้ ตัวหนึ่งให้
มันไปไหนมาไหนกับคุณด้วย!” จางเซวียนขู่ซ้ าํ
เฉาเฉิงลี่กมุ ก้นทั้งสองข้างไว้แน่นด้วยความพรั่นพรึ ง
เขาเคยคิดว่าเจ้านายคนใหม่ของเขาจะเป็ นคนสุ ภาพนุ่มนวล ใครจะ
ไปรู ้วา่ อีกฝ่ ายจะมีความคิดโหดเหี้ ยมแบบนี้?
ถึงกับคิดจะเทียมพ่อพันธุ์มา้ ตัวหนึ่งให้มาเล่นงานเขา…
ในตอนนั้น เฉาเฉิงลี่พลันนึกได้ถึงม้าที่สาํ แดงศิลปะการต่อสู อ้ อกมา
ในยามคํ่าคืนและเสิ ร์ฟนํ้าชาให้จางเซวียน ถ้านายท่านของเขาคิดจะ
ทําแบบนั้น ก็คงทําได้แน่!
ไม่ได้ เราจะปล่อยให้เกิดเรื่ องแบบนั้นไม่ได้ คงมองหน้าใคร ๆ ใน
ฐานะผูช้ ายคนหนึ่งไม่ได้อีก!
“ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เฉาเฉิงลี่ไม่กล้าพูดอะไรอีกแม้แต่คาํ
เดียว เขาเผ่นพรวดออกจากห้องราวกับกําลังหนีปีศาจ
คราวนี้ ด้วยคําขู่ของจางเซวียน ไม่ชา้ เฉาเฉิ งลี่กก็ ลับมาพร้อมกับ
ข้อมูลที่จาํ เป็ น
“นายน้อย ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายในอยูท่ ี่ตีนเขาแห่งนี้เอง และผม
ไปตรวจสอบราคาของยาเม็ดอมตะขั้นต้นแล้ว เม็ดหนึ่งมีสนนราคา
อยูท่ ี่ 2 เหรี ยญสํานักดาบ!” เฉาเฉิงลี่รายงานอย่างเป็ นทางการ
“ยาเม็ดอมตะขั้นต้น 1 เม็ดมีราคา 2 เหรี ยญสํานักดาบ ขณะที่ตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาลอันหนึ่งมีราคาถึง 20 เหรี ยญสํานักดาบ…
ทําไมราคาถึงต่างกันขนาดนี้?” จางเซวียนชะงัก
เมื่อตอนอยูท่ ี่หอนิรันดร์ในเมืองแสงดาว ยาเม็ดอมตะขั้นต้นเม็ดหนึ่ง
มีราคาถึง 100,000 เหรี ยญนิรันดร์ ขณะที่ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
หนึ่งอันมีราคาเพียง 20,000 เหรี ยญนิรันดร์เท่านั้น!
แต่เมื่อเป็ นที่นี่ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมีราคาสู งกว่ายาเม็ดอมตะ
ขั้นต้นถึง 10 เท่า
ภาวะเงินเฟ้อนี่น่าสะพรึ งเสี ยจริ ง!
“ผมเองก็ไม่แน่ใจในรายละเอียด แต่นี่คือสนนราคาที่ผมได้มา” เฉา
เฉิงลี่อธิบายขณะหุ บขาแน่นอีกครั้ง กลัวว่าจางเซวียนจะบันดาลโทสะ
และเล่นงานเขา
“พาผมไปที่ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน ผมอยากเห็นกับตา!”
รู ้ดีวา่ รอช้าก็ไม่มีประโยชน์ จางเซวียนลุกพรวดและเดินออกจากห้อง
ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายในคือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนซื้ อขาย
อย่างไม่เป็ นทางการที่บริ หารโดยศิษย์สายตรงฝ่ ายในเป็ นส่ วนใหญ่
มันคือสถานที่ที่พวกเขาจะมาแลกเปลี่ยนซื้ อขายข้าวของที่มีอยูใ่ น
ครอบครอง
ภายใต้การนําทางของเฉาเฉิงลี่ ไม่ชา้ ทั้งคู่กไ็ ปถึงที่หมาย
ตลาดนั้นดูไม่เป็ นเรื่ องเป็ นราวสักเท่าไหร่ อันที่จริ งมันเป็ นแค่ลาน
ขนาดเล็กแห่งหนึ่งที่อยูบ่ ริ เวณตีนเขา หลังจากยืน่ ตราสัญลักษณ์แล้ว
จางเซวียนกับเฉาเฉิงลี่กไ็ ด้รับอนุญาตให้เข้าสู่ ตลาด
ทันทีท่ีเข้าไป ทั้งสองก็เห็นพ่อค้าแม่ขายจํานวนหนึ่งอยูร่ ายรอบ
พร้อมกับสิ นค้าที่อยูต่ รงหน้า
มีท้ งั ดาบ หนังสื อเทคนิควรยุทธ ยาสมุนไพร ยาเม็ด อสู ร…ล้วนแต่
เป็ นข้าวของจําเป็ นขั้นพื้นฐานที่นกั รบคนหนึ่งต้องการ
สิ นค้าส่ วนใหญ่ที่วางขายไม่ได้มาจากสํานักดาบเมฆเหิ น แต่เป็ น
ทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่บรรดาศิษย์สายตรงได้มาระหว่างการปฏิบตั ิ
ภารกิจหรื อนํามาจากตระกูลของตัวเอง
“เรารับเฉพาะเหรี ยญสํานักดาบเท่านั้น ไม่รับยาเม็ดอมตะขั้นต้น!”
นี่คือคําตอบที่จางเซวียนได้รับจากเหล่าพ่อค้าแม่ขายที่เขาพยายามจะ
เจรจาซื้อขายด้วย
เหตุผลหลักที่พวกเขามาขายสิ นค้ากันที่นี่กเ็ พื่อหาเหรี ยญสํานักดาบ
ให้ได้จาํ นวนมากพอที่จะได้เข้าสู่ หอภูมิปัญญาเพลงดาบและหอดวล
ดาบ นัน่ คือสถานที่ที่บรรดาศิษย์สายตรงมักจะเข้าไปอยูเ่ นือง ๆ เพื่อ
พัฒนาเส้นทางและวิถีทางเพลงดาบของตัวเอง
แล้วคราวนี้เราจะทําอย่างไร? จางเซวียนท้อใจ
เขาคิดว่าจะแลกเปลี่ยนยาเม็ดอมตะขั้นต้นที่ได้จากเฉาเฉิ งลี่เป็ นเงิน
ได้ แต่ใครจะไปรู ้วา่ ไม่มีพอ่ ค้าแม่ขายคนไหนยอมรับสิ่ งนั้นสักคน!
สิ่ งที่ได้รับการยกย่องสู งสุ ดในสํานักดาบเมฆเหิ นไม่ใช่วรยุทธ แต่
เป็ นความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบ มีแต่ศิลปะเพลงดาบอันเหนือ
ชั้นเท่านั้นที่จะทําให้ศิษย์สายตรงคนหนึ่งโดดเด่นจากเพื่อนร่ วมรุ่ น
ของตัวเองและถูกมองเป็ นทรัพยากรลํ้าค่าของสํานัก ซึ่ งทางสํานักก็
จะมอบทรัพยากรให้ตามที่เขาต้องการ เพื่อให้อีกฝ่ ายได้ยกระดับ
วรยุทธ
ด้วยเหตุน้ ี ทรัพยากรเพื่อการฝึ กฝนวรยุทธอย่างยาเม็ดอมตะขั้นต้น
จึงมีค่าไม่มากนักสําหรับที่นี่
“นายน้อย หรื อว่าเราควรจะลองขโมยดู? ผมเห็นคน 2-3 คนอยูต่ รง
นั้น พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่ งเหมือนคุณ ขอแค่เราล่อพวกนั้นเข้ามุม
และสังหารพวกเขาได้ ก็จะได้ทุกอย่างที่เราต้องการ…” เห็นสี หน้า
ท้อใจของจางเซวียน เฉาเฉิ งลี่เข้ามายืน่ ข้อเสนอ
“คุณบ้าไปแล้วหรื อไง!” จางเซวียนแทบลมจับด้วยความโมโห
พูดอะไรออกมานี่…ใช้สามัญสํานึกบ้างไหม?
เราอยูใ่ นสํานักดาบเมฆเหิ นนะ! ถ้าอยากตายล่ะก็ ลองไปขโมยอะไร
สักอย่างดู!
ล่อพวกนั้นเข้ามุม? คุณคิดว่าพวกศิษย์สายตรงนี่งี่เง่าหรื อไง?
บรรดานักรบที่มาถึงที่นี่ได้ลว้ นแต่มีทกั ษะพอตัวทั้งนั้น คุณก็รู้! พวก
เขาไม่พยายามฉกฉวยอะไรไปจากคุณก็บุญแล้ว!
“ถ้าทําแบบนั้นไม่ได้ล่ะก็ ทําไมไม่ลองให้ผมหว่านเสน่ห์แม่คา้ สัก
คนล่ะ? เมื่อครู่ น้ ี ผมเห็นศิษย์สายตรงฝ่ ายในหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง
กําลังขายของอยูต่ รงนั้น…” เฉาเฉิงลี่ยงั เสนอวิธีแก้ปัญหาต่อ
จางเซวียนตบหน้าอีกฝ่ ายดังเพียะ ตอนนี้เขาอยากจะเตะเฉาเฉิ งลี่
ออกไปให้พน้ ทาง
“ไปเลย! ไปทําอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่อย่าได้พดู ออกไปสักคํา
นะว่าคุณมีความเกี่ยวข้องกับผม และถ้าเจอปัญหา ก็อย่ามาตามหา
ผมด้วย!” จางเซวียนโบกมืออย่างหมดความอดทนขณะมุ่งหน้าไป
ตามถนนต่อไป
หลังจากพูดคุยกับพ่อค้า 2-3 คน เขาพบว่าราคาของตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาลเป็ นมาตรฐาน ทุกที่ลว้ นแต่มีมูลค่า 20 เหรี ยญสํานักดาบ
ส่ วนยาเม็ดอมตะขั้นต้นก็มีราคาเพียงเม็ดละ 2 เหรี ยญสํานักดาบ
เท่านั้น
พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้ขายทรัพย์สมบัติท้ งั หมดที่มี จางเซวียนก็ยงั
ได้เงินไม่มากพอจะซื้อตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลสักอันหนึ่ง
“ทําไมราคาของตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลถึงสู งกว่ายาเม็ดอมตะ
ขั้นต้นมากนัก?” จางเซวียนถามศิษย์สายตรงคนหนึ่งที่กาํ ลังขายของ
อยู่
“อ้อ คุณคงคุน้ ชินกับราคาของตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลในดินแดน
ห่างไกลล่ะสิ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลพวกนั้นมีวรยุทธเทียบเท่า
กับนักรบระดับนักปราชญ์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ข้ นั 1 เท่านั้น ราคาจึงตํ่ากว่า แต่
ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ขายกันในสํานักของเรามีวรยุทธระดับ
นักปราชญ์โบราณขั้น 1 จึงแน่นอนว่าต้องมีมูลค่ามากกว่า”
“ถ้าคุณแปลกใจกับราคานี้ ก็ลองไปดูตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ใช้
กันในหมู่ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ด ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของพวก
เขามีวรยุทธขั้นเสมือนอมตะ ราคาจะสู งกว่านี้อีกมาก” ศิษย์สายตรง
คนนั้นอธิบาย
“ผมเข้าใจแล้ว” จางเซวียนพยักหน้า
พูดกันตามตรง เขาไม่คิดว่าคําตอบจะง่ายดายแบบนี้
ตอนที่ 1963 ขายนํา้ อาบ
เขาเคยคิดว่าตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ไหน ๆ ก็เหมือนกันหมด
แต่ตอนนี้กเ็ ห็นชัดแล้วว่าไม่ใช่ ด้วยวรยุทระดับนักปราชญ์โบราณ
ขั้น 1 นักรบจะสามารถสําแดงศิลปะเพลงดาบที่ทรงพลังกว่ากันได้
มาก จึงเป็ นธรรมดาที่ราคาจะสู งกว่า
หลังจากถามอีกสองสามคําถามเพื่อให้แน่ใจ ในที่สุดจางเซวียนก็เอ่ย
ขึ้น “คืออย่างนี้ เหตุผลที่ผมมาที่ตลาดนี่กเ็ พราะกําลังต้องการตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาลอย่างเร่ งด่วน แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินอยูใ่ นมือ
เลย พอมีวธิ ีไหนให้ผมหาเงินได้เร็ ว ๆ บ้าง?”
“วิธีหาเงินให้ได้เร็ ว ๆ ? บอกผมบ้างก็แล้วกันถ้าคุณมีวธิ ี…เพราะถ้า
ผมมีความคิดที่ดีกว่านี้ล่ะก็ คงไม่มวั มาขายของอยูอ่ ย่างนี้หรอก!”
ศิษย์สายตรงคนนั้นกลอกตา
ได้ยนิ คํานั้น จางเซวียนเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน
เขาออกมา จากนั้นก็เดินไปตามถนนด้วยสี หน้าครุ่ นคิด
ตอนนี้เรามีแค่ยาเม็ดอมตะขั้นต้น 7 เม็ดกับแหวนเก็บสมบัติ 1 วง…
ต่อให้ขายหมดตัวก็ยงั ได้เงินไม่ถึง 20 เหรี ยญสํานักดาบ…
ถ้าเขามีสินค้าที่มีค่าอยูใ่ นมือ ก็คงพอจะตั้งร้านของตัวเองได้เหมือน
ที่ศิษย์สายตรงคนอื่น ๆ ทํากันแต่ปัญหาก็คือตอนนี้เขาไม่มีอะไรที่มี
ค่าอยูใ่ นมือเลย!
อย่างแหวนเก็บสมบัติ แม้จะเป็ นของหายากในเมืองชวนเจียง แต่ทุก
คนที่เขาได้พบที่สาํ นักดาบเมฆเหิ นก็ลว้ นแต่มีแหวนเก็บสมบัติเป็ น
ของตัวเอง เมื่อเขาสอบถามเรื่ องนี้ ก็ได้รู้วา่ สามารถหาเช่าแหวนเก็บ
สมบัติได้จากทางสํานัก ไม่มีทางที่จะซื้อขายมันในตลาด!
ส่ วนยาเม็ดอมตะขั้นต้น ต่อให้เขาหาผูซ้ ้ื อได้โดยบังเอิญ ก็ยงั ได้เงิน
ไม่มากพอจะซื้อตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลสักอันอยูด่ ี
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเค้นหัวสมองอย่างหนักเผือ่ จะ
เกิดความคิดดี ๆ
“ใช่แล้ว! นํ้าที่ได้จากการอาบนํ้าเต้าตงฉู่มีอานุภาพน่าทึ่งในการ
เยียวยาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ ว หากเรานํามาขาย ก็น่าจะได้
ราคาดี!”
พูดกันตามตรง เขาทําอะไรไม่ได้มากนักหลังจากที่เข้าสู่ มิติเบื้องบน
นอกจากการเข้าร่ วมการดวล ก็ไม่รู้วธิ ีอื่นใดที่จะทําให้ได้เงินมาเร็ ว ๆ
ถ้าจะมีอะไรสักอย่างในตัวเขาที่เป็ นของมีค่าสําหรับคนอื่น ๆ ก็น่าจะ
เป็ นนํ้าที่ได้จากการอาบนํ้าเต้านี่แหละ
โชคดีที่เขายังมีสาํ รองไว้ในแหวนเก็บสมบัติอีกหลายขวด
นํ้าอาบนํ้าเต้ามีอานุภาพน่าทึ่งในการเยียวยาอาการบาดเจ็บ ถึงขนาด
ที่ไม่มียาเม็ดชนิดไหนในท้องตลาดจะเทียบชั้นได้ ขอแค่เขาทําการ
ตลาดให้ดีและนํามันมาขาย ก็น่าจะได้เงินมากพอไปซื้อหาตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาล
“งั้นก็ตามนี้!”
จางเซวียนนําของสองสามอย่างออกมาจากแหวนเก็บสมบัติของเขา
โดยไม่ลงั เลและจัดแผง เขานําขวดหยกที่บรรจุน้ าํ อาบนํ้าเต้าออกมา
จัดเรี ยงอย่างเป็ นระเบียบตรงหน้า จากนั้นก็ลงั เลอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะ
นําผ้าผืนหนึ่งออกมาและเขียนคําว่า ‘นํ้าทิพย์เยียวยาขั้นเทพ’ ลงไป
ก่อนจะทรุ ดตัวลงนัง่
“นํ้าทิพย์เยียวยาขั้นเทพ? น้องชาย คุณนี่ไม่กลัวตายเอาเสี ยเลย! ไม่รู้
หรื อว่าคําว่า ‘เทพเจ้า’ จะนํามาใช้พล่อย ๆ ไม่ได้ คุณจะถูกลงทัณฑ์
แน่หากเทพเจ้ารู ้เรื่ อง!” ศิษย์สายตรงคนหนึ่งที่นงั่ อยูข่ า้ งจางเซวียน
มองแผ่นป้ายของเขาและอุทานออกมาด้วยความพรั่นพรึ ง
“คํานั้นนํามาใช้พล่อย ๆ ไม่ได้? ว่าแต่…สํานักดาบเมฆเหิ นก็มี
สถานที่ที่เรี ยกว่าหอเทพดาบไม่ใช่หรื อ?”
“คําว่า ‘เทพ’ ที่ใช้ในหอเทพดาบนั้นเป็ นคําที่ผกู ้ ่อตั้งสํานักของเรา
ฉกฉวยมาจากหอเทพเจ้า แต่ในเมื่อผูก้ ่อตั้งนําตัวอักษรมาได้เพียง
ครึ่ งเดียว เขาจึงมีสิทธิ์ใช้มนั เป็ นชื่อของสิ่ งปลูกสร้างหลังหนึ่งเท่านั้น
ไม่ใช่ชื่อสํานัก ทัว่ ทั้งทวีปนี้มีแต่หอนิรันดร์ที่เดียวที่มีสิทธิ์ใช้ตวั อักษร
นี้เป็ นชื่อของมัน ตํานานกล่าวว่าผูก้ ่อตั้งหอนิรันดร์บุกเดี่ยวเข้าไปที่
หอเทพเจ้าและนําตัวอักษรคําว่า ‘เทพเจ้า’ ออกมาได้ต่อหน้าต่อตา
เทพเจ้าที่อยูใ่ นนั้น!” ศิษย์สายตรงผูน้ ้ นั อธิบาย
“มิติเบื้องบนจํากัดการใช้ตวั อักษรบางคําด้วยหรื อ?” จางเซวียน
ถึงกับงง
หลังจากถามอีก 2-3 คําถาม ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
มิติเบื้องบนหรื อที่รู้จกั กันในชื่อทวีปที่ถูกลืมถือได้วา่ เป็ นดินแดน
ส่ วนหนึ่งที่ถูกเทพเจ้าละเลย เหล่าเทพเจ้ามองว่าดินแดนนี้ไร้ค่า และ
สัง่ ห้ามไม่ให้สิ่งมีชีวติ ที่อาศัยอยูท่ ี่นี่ใช้ตวั อักษรคําว่า ‘เทพเจ้า’
กฎเกณฑ์น้ ีบงั คับใช้กบั ทุกคน ไม่วา่ จะเป็ น 6 สํานักใหญ่หรื อพลเมือง
ธรรมดาสามัญ
ถ้าใครคิดจะใช้ตวั อักษรนี้ ก็มีวธิ ีเดียวคือต้องเข้าสู่ หอเทพเจ้าและ
ขโมยตัวอักษรคําว่าเทพเจ้ามาจากในนั้นให้ได้!
ตลอดหลายพันปี ที่ผา่ นมา สํานักดาบเมฆเหิ นและหอนิรันดร์เป็ น
เพียง 2 ที่ที่ทาํ สําเร็ จ สํานักดาบเมฆเหิ นฉกฉวยเอาตัวอักษรมาได้
ครึ่ งหนึ่ง ขณะที่หอนิรันดร์นาํ ตัวอักษรจากหอเทพเจ้ามาได้ท้ งั คํา
สํานักอื่น ๆ ก็ลว้ นแต่พยายาม แต่พวกเขาไม่เคยทําสําเร็ จ
เพียงเท่านี้กพ็ อจะมองออกแล้วว่าหอเทพเจ้ามีความน่าสะพรึ งแค่ไหน
ดูเหมือนคําว่า ‘เทพเจ้า’ จะไม่อาจถูกนํามาใช้ได้ง่าย ๆ
ดังนั้น จางเซวียนจึงลบคําว่า ‘นํ้าทิพย์เยียวยาขั้นเทพ’ ออกจากแผ่น
ผ้าและเปลี่ยนเป็ น ‘นํ้าทิพย์เยียวยาสวรรค์’ เขาครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง
ก่อนจะเติมถ้อยคําลงไป ‘อาการบาดเจ็บและความป่ วยไข้ทุกชนิดจะ
ถูกรักษาหายภายในชัว่ พริ บตา!”
หลังจากเสร็ จกระบวนการ เขาก็นงั่ รออย่างอดทนให้มีลูกค้าเข้ามา
2 ชัว่ โมงผ่านไปอย่างรวดเร็ ว มีลูกค้าจํานวนหนึ่งแวะมาที่แผงของ
จางเซวียนเพื่อตรวจสอบดู แต่เมื่อพวกเขาเปิ ดจุกขวดหยกออก
สํารวจนํ้าที่อยูข่ า้ งใน ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างผิดหวังแล้วจากไป
ยาฟื้ นฟูสภาพร่ างกายส่ วนมากที่มีขายในท้องตลาดล้วนแต่มีพลังจิต
วิญญาณเข้มข้น แต่อะไรก็แล้วแต่ที่อยูใ่ นขวดหยกนั้นดูจากไม่ต่าง
จากนํ้าเปล่าเลย ใครจะยอมเสี ยเหรี ยญสํานักดาบอันลํ้าค่าเพื่อซื้อของ
ไร้ประโยชน์แบบนี้?
ไม่ชา้ ดวงอาทิตย์กเ็ ริ่ มจะลับขอบฟ้า จางเซวียนถอนหายใจเฮือก
ใหญ่ เขากําลังจะเก็บของ ก็พอดีกบั ที่สาวน้อยคนหนึ่งเดินพรวด
พราดเข้ามา
เธอมีอายุราว 20 ต้น ๆ แม้จะงดงามเทียบชั้นไม่ได้กบั จ้าวหย่าและ
คนอื่น ๆ แต่เรื อนร่ างสู งโปร่ งของเธอก็ทาํ ให้มีความงดงามอย่างหา
ตัวจับยาก
จางเซวียนรู ้สึกได้วา่ คิ้วของเธอกําลังขมวดมุ่น ราวกับมีบางอย่างที่
ทําให้หนักใจ
“ยาของคุณได้ผลดีจริ ง ๆ หรื อเปล่า?” สาวน้อยเดินเข้ามาถามจาง
เซวียน
“แน่นอน!” จางเซวียนพยักหน้า “มันรักษาอาการบาดเจ็บใด ๆ ก็ตาม
ได้ในชัว่ อึดใจ ถ้าไม่ได้ผลล่ะก็ ผมจะชดใช้ให้คุณอย่างเต็มที่เลย!”
“ญาติสนิทคนหนึ่งของฉันได้รับบาดเจ็บจากอสู รขั้นอมตะตัวหนึ่ง
เราพยายามรักษาเขาด้วยยาทุกชนิดแล้ว แต่ไม่ได้ผล…ฉันจึงคิดว่า
จะลองใช้ยาของคุณรักษาดู ขวดหนึ่งราคาเท่าไหร่ ?” สาวน้อย
ครุ่ นคิดครู่ หนึ่งก่อนจะตั้งคําถาม
ญาติสนิทผูน้ ้ นั ของเธอได้รับการวินิจฉัยจากนายแพทย์ที่เก่งกาจที่สุด
ในสํานัก อีกทั้งทดลองยามาแล้วทุกขนาน แต่ทุกอย่างก็ลว้ นไม่ได้ผล
เป็ นเพราะความท้อใจที่ทาํ ให้เธอตระเวนจากตลาดแห่งหนึ่งไปยังอีก
แห่งหนึ่ง หวังว่าจะได้พบกับปาฏิหาริ ย ์ ซึ่งแผ่นป้ายที่จางเซวียนติด
ไว้กด็ ึงดูดความสนใจของเธอด้วยถ้อยคําที่ระบุไว้วา่ ยานี้สามารถ
รักษาอาการบาดเจ็บและความป่ วยไข้ทุกชนิดได้
เมื่อไม่มีทางเลือก เธอจึงตัดสิ นใจจะลองดู
บางที นี่อาจเป็ นปาฏิหาริ ยท์ ี่ญาติของเธอกําลังต้องการ ถึงอย่างไร
เธอก็จาํ เป็ นต้องทดลอง
“ขวดหนึ่งมีสนนราคาอยูท่ ี่ 20 เหรี ยญสํานักดาบ” จางเซวียนตอบ
“20 เหรี ยญสํานักดาบ? คุณไปปล้นธนาคารจะดีกว่าไหม?” สาวน้อย
ประหลาดใจ
สําหรับยาเม็ดที่มีอานุภาพเยียวยาโดยทัว่ ไป แม้แต่กบั นักรบขั้นเสมือน
อมตะ ก็ยงั มีสนนราคาอยูท่ ี่เม็ดละ 10 เหรี ยญสํานักดาบเท่านั้น ขวด
หยกใบนี้บรรจุสิ่งที่ดูจะไม่แตกต่างจากนํ้าเปล่าเลย แต่กลับมีราคาถึง
20 เหรี ยญสํานักดาบ?
คุณต้องพยายามต้มฉันแน่!
“แม่สาวน้อย สิ นค้าของผมคุม้ ค่ากับทุกเหรี ยญที่คุณเสี ยไปแน่นอน
เหตุผลที่ผมกล้าตั้งราคาสู งขนาดนี้กเ็ พราะผมมัน่ ใจในประสิ ทธิภาพ
ของมัน ไม่อย่างนั้น การที่ผมมาตั้งแผงแบบนี้กเ็ ท่ากับรนหาที่ตาย”
จางเซวียนตอบอย่างสุ ขมุ “คุณตัดสิ นใจเองได้วา่ จะซื้ อหรื อไม่ซ้ือถ้า
คุณมองว่ามันราคาสู งเกินไป แต่รู้ไว้นะว่าราคานี้จะไม่มีทาง
เปลี่ยนแปลง!”
จากนั้นจางเซวียนก็หลับตา ราวกับไม่ใส่ ใจสักนิดว่าสาวน้อยจะซื้ อ
สิ นค้าของเขาหรื อไม่
เขาไม่เคยทําธุรกิจมาก่อน แต่เพราะได้อ่านหนังสื อมามากมาย จึงพอ
รู ้ลูกเล่นพื้น ๆ และยุทธวิธีทางจิตวิทยาที่บรรดานักธุรกิจใช้กนั หาก
เขาพยายามโปรโมทสิ นค้าของตัวเองอย่างเอาเป็ นเอาตาย ก็มีแต่จะ
ทําให้สินค้ามีความน่าเชื่อถือลดลง
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเขาสงวนท่าทีไว้และทําให้ใคร ๆ ดูไม่ออกว่า
เขาคิดอะไรอยู่ ก็มีโอกาสที่จะเอาชนะใจลูกค้าได้
อีกอย่าง นํ้าอาบนํ้าเต้าที่เขานํามาขายนี้กม็ ีอานุภาพราวกับปาฏิหาริ ย ์
อย่างที่เขากล่าวอ้างไว้จริ ง ๆ !
เท่าที่เห็น ดูเหมือนยุทธวิธีของจางเซวียนจะได้ผล
ถ้าเป็ นวันอื่น สาวน้อยคงจะเดินจากไปโดยไม่คิดมาก แต่การที่เธอ
ไม่อาจมองทะลุถึงอานุภาพของนํ้าในขวด รวมทั้งความมัน่ ใจอย่าง
ประหลาดของพ่อค้า ก็ทาํ ให้เธอเกิดความลังเลขึ้นมา
อาการป่ วยที่ญาติสนิทของเธอกําลังทุกข์ทรมานอยูไ่ ม่ใช่สิ่งที่ยาทัว่ ไป
จะรักษาได้ ความลึกลับของยานี้จึงดูดความสนใจของเธอ อีกอย่าง
สิ่ งที่เธอกําลังตามหาคือปาฏิหาริ ย ์ พลังงานเหนือธรรมชาติบางอย่าง
ที่จะทําให้ภารกิจที่ไม่มีทางเป็ นไปได้น้ ีเป็ นจริ งขึ้นมา
หลังจากลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง เธอก็หยิบขวดหยกขึ้นมา 1 ใบและคําราม
“ก็ได้ ฉันจะซื้อยาของคุณ แต่คุณควรรู ้ไว้นะว่าฉันไม่ใช่คนที่ใคร
ควรจะมาตุกติกใส่ ถ้ายาของคุณไม่ได้ผลล่ะก็ ฉันจะตามล่าคุณ จะ
ทําให้คุณรู ้วา่ ผลของการกล้าหลอกลวงฉันเป็ นอย่างไร!”
“วางใจเถอะ ถ้ายาของผมไม่ได้ผลล่ะก็ ผมจะทุบร้านของผมทิ้ง
ก่อนที่คุณจะทันได้พดู อะไรเสี ยอีก” จางเซวียนตอบด้วยนํ้าเสี ยงไม่
ใยดีอย่างสิ้ นเชิง ราวกับเคยได้ยนิ คําพูดแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถว้ น
เขาวางแผนจะขายนํ้าอาบนํ้าเต้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งทันทีที่ได้
ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมา ก็จะไม่ใช้วธิ ีการแบบนี้หาเงินอีก
เพราะถึงอย่างไร เขาก็เชี่ยวชาญการหาเงินด้วยการดวลมากกว่า!
“ถ้าได้อย่างนั้นก็ดี!” สาวน้อยตอบ เธอหยิบกระเป๋ าออกมาใบหนึ่ง
แล้วโยนให้จางเซวียน “นี่คือเงิน 20 เหรี ยญสํานักดาบของคุณ!”
จากนั้นเธอก็หนั หลังกลับแล้วออกจากตลาดของศิษย์สายตรงไป
จางเซวียนเปิ ดกระเป๋ าอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็รีบนับเงิน มีเงินอยูใ่ น
นั้น 20 เหรี ยญสํานักดาบจริ ง ๆ !
เขานึกว่าจะต้องนอนค้างอ้างแรมที่ตลาดอีกสัก 2-3 วันกว่าจะหาผู ้
ซื้อได้ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่ นกว่าที่คิด
จางเซวียนลุกขึ้นยืนและกําลังจะเก็บแผง ก็พอดีกบั ที่พอ่ ค้าคนหนึ่ง
ที่ต้ งั แผงอยูต่ รงข้ามเขารี่ เข้ามาหาและส่ ายหน้าอย่างสมเพช
“คุณควรจะรี บเผ่นหนีไปให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้นะ อันที่จริ ง ออก
จากสํานักดาบเมฆเหิ นไปได้เสี ยเลยก็ดี ไม่อย่างนั้น เร็ ว ๆ นี้คุณจะ
ต้องถูกสับจนเละเป็ นเนื้อบดแน่!”
ตอนที่ 1964 ยานีร้ าคาเท่ าไหร่ ?
“ทําไมคุณถึงพูดแบบนั้น?” จางเซวียนขมวดคิว้ ด้วยความสงสัย
“ทําไมผมถึงพูดแบบนั้น?” ศิษย์สายตรงผูน้ ้ นั มองหน้าจางเซวียน
อย่างเห็นใจ “คุณรู ้หรื อเปล่าว่าแม่สาวน้อยที่มาเมื่อครู่ น้ ีเป็ นใคร?”
จางเซวียนส่ ายหน้า
“เธอคือไป๋ เหริ นชิง…หลานสาวของผูอ้ าวุโสไป๋ เย่, หนึ่งในสามผู ้
อาวุโสใหญ่ของสํานักของเรา” ศิษย์สายตรงผูน้ ้ นั ส่ ายหัว “อย่าให้
รู ปร่ างหน้าตาของเธอทําให้คุณไขว้เขว เมื่อครู่ น้ ีเธออาจดูสุภาพดี
แต่แท้ที่จริ งแล้วไม่ต่างอะไรกับไดโนเสาร์ตวั เมียเลย ชื่อเสี ยงของ
เธอระบือลือลัน่ ไปทัว่ ทั้งสํานัก แม้แต่บรรดาศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ด
ด้วยกันก็ยงั ไม่กล้ามีเรื่ องกับเธอ! คุณทําให้เธอต้องเสี ยเงินก้อนใหญ่
ซื้อนํ้าไร้ค่าขวดนั้น…ไม่มีทางที่เธอจะยอมปล่อยให้คุณลอยนวลอยู่
ในสํานักแน่! ถ้าทําได้ล่ะก็ เขียนจดหมายหาตระกูลของคุณให้
เตรี ยมงานศพได้เลย อย่างน้อยที่สุดก็จะยังมีใครคนหนึ่งคอยเก็บศพ
ของคุณอยู!่ ”
“ไดโนเสาร์ตวั เมีย?” จางเซวียนเลิกคิ้ว
เขาไม่รู้สึกถึงอะไรแบบนั้นเลยจากทีท่าอ่อนโยนของหญิงสาวเมื่อครู่
“ดูเหมือนคุณจะยังไม่เชื่อสิ่ งที่ผมพูด…เมื่อปี ก่อน ศิษย์สายตรงขั้น
สู งสุ ดคนหนึ่งที่ชื่อซูถงสารภาพความในใจกับเธอ แต่เธอลากเขาขึ้น
สังเวียนประลองและเตะที่หว่างขาของเขาอย่างจัง เขายังไม่หายจาก
อาการบาดเจ็บจนกระทัง่ ถึงตอนนี้”
“2-3 เดือนต่อมา ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดอีกคนหนึ่งที่ชื่อจางเยว่ดูจะ
ขัดแย้งกับเธอด้วยเรื่ องอะไรสักอย่าง เขาถูกซ้อมจนต้องล้มหมอน
นอนเสื่ อเป็ นเดือน ผมอยากรู ้จึงเข้าไปสื บดู…บอกคุณได้เลยว่า
สภาพของเขาทุเรศทุรังเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้เลยล่ะ!”
“อ้อ ยังมีอีกเรื่ องหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ศิษย์สายตรง
ขั้นสู งสุ ดคนหนึ่งชื่อเชวไห่, พยายามขายยาปลอมแบบคุณนี่แหละ
เธอจับหัวของเขากดนํ้าและเกือบทําให้หมอนัน่ จมนํ้าตาย นัน่ ยังไม่
จบนะ…เธอถึงกับตัดลิ้นของเขาออกมาครึ่ งหนึ่งด้วยเพื่อมิให้เป็ น
เยีย่ งอย่างแก่คนอื่น ๆ”
“ในเมื่อแม้แต่ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดยังตกเป็ นเหยือ่ ของเธอ คุณคิด
ว่าคุณจะลอยนวลไปได้หรื อหลังจากที่หลอกลวงเธอแล้ว?”
“คือ…” จางเซวียนเกาหัว
สาวน้อยเมื่อครู่ น้ ีดูอ่อนโยนจนยากจะเชื่อว่าแท้ที่จริ งแล้วเป็ นปี ศาจ
ร้ายอย่างที่ศิษย์สายตรงผูน้ ้ ีบรรยายไว้
เห็นจางเซวียนยังไม่อยากเชื่อ อีกฝ่ ายถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะ
ตั้งคําถาม “คุณรู ้หรื อเปล่าว่าเธอทรงพลังแค่ไหน?”
จางเซวียนส่ ายหน้า
“เมื่อปี ก่อน ตอนที่ดวลกับซูถง เธอเป็ นนักรบขั้นเสมือนอมตะสรวง
สวรรค์แล้ว ส่ วนหลังจากนั้นเธอจะพัฒนาไปได้อีกแค่ไหน ผมให้
คุณคิดเอาเองก็แล้วกัน!” ศิษย์สายตรงผูน้ ้ นั พูดขณะดึงแผงของเขา
ให้ออกห่างจากจางเซวียน “เอาเป็ นว่าผมขอรักษาระยะห่างระหว่าง
เราก่อนก็แล้วกันนะ ผมไม่อยากตกเป็ นผูส้ มรู ้ร่วมคิดตอนที่เธอมา
เชือดคุณ เฮ่อออ…การทําธุรกิจทุกวันนี้ช่างยากเย็นเสี ยจริ ง ไม่เพียง
แต่จะต้องเก็บปากเก็บคํา ยังต้องระวังตัวไม่ให้อยูใ่ กล้พวกรนหาที่
ตายด้วย…น่ารําคาญเหลือเกิน!”
“….” จางเซวียนพูดไม่ออก
“ไม่เป็ นไรน่ะ คุณไม่ตอ้ งย้ายที่หรอก ผมจะไปเองหลังจากที่ได้ตรา
สัญลักษณ์นิรันดร์กาลแล้ว” จางเซวียนเก็บข้าวของและลุกขึ้นยืน
เหตุผลหลักที่เขามาที่ตลาดแห่งนี้กเ็ พื่อหาตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
ในเมื่อมีเงินมากพอแล้ว ก็แค่ ไปหาซื้อสิ่ งที่อยากได้และพร้อมจะ
จากไป
“ผมต้องการตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลอันหนึ่ง นี่คือเงิน 20 เหรี ยญ
สํานักดาบ” จางเซวียนพูดขณะเดินไปหาพ่อค้าที่ต้ งั แผงอยูต่ รงกัน
ข้ามและยืน่ ถุงเงินให้
“แค่น้ นั น่ะไม่พอหรอก ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลขึ้นราคาแล้ว
ตอนนี้คุณต้องจ่ายมา 25 เหรี ยญสํานักดาบ!” ศิษย์สายตรงที่เป็ น
เจ้าของแผงโยนถุงเงินกลับให้จางเซวียน
“ขึ้นราคาแล้ว? เมื่อครู่ น้ ีคุณยังบอกว่าแค่ 20 เหรี ยญสํานักดาบไม่ใช่
หรื อ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
“เมื่อครู่ น้ ีก็ 20 เหรี ยญจริ ง ๆ แต่ในเมื่อคุณเพิ่งหาเรื่ องไป๋ เหริ นชิง ก็
ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว ผมจะทําไงล่ะถ้าเธอรู ้วา่ ผมขายของ
ให้คุณ และนัน่ ทําให้ผมลําบาก? เงิน 5 เหรี ยญสํานักดาบที่เพิ่มมาน่ะ
ถือเป็ นค่ายาและค่ารักษาฉุกเฉิน เพราะเราอยูใ่ กล้กนั หรอกนะ ผมจึง
ขึ้นราคาเพียงแค่ไม่กี่เหรี ยญ ถ้าเป็ นคนอื่นล่ะก็ ผมไม่ขายให้เลยด้วย
ซํ้า!” ศิษย์สายตรงผูน้ ้ นั ยํ้าหนักแน่น
“คุณ…” จางเซวียนอ้าปากค้าง
แม่ไดโนเสาร์ตวั เมียนัน่ น่าสะพรึ งขนาดนี้เลยหรื อ?
จางเซวียนยังไม่ยอมแพ้ เขาเดินไปที่แผงอื่นที่ขายตราสัญลักษณ์
นิรันดร์กาล แต่ไม่มีพอ่ ค้าสักคนเดียวที่ยอมขายให้ เห็นได้ชดั ว่าเรื่ อง
ที่เขาหลอกลวงแม่ไดโนเสาร์ตวั เมียคนนั้นแพร่ สะพัดไปทัว่ แล้ว
เพื่อหลีกเลี่ยงความยุง่ ยาก จึงไม่มีใครเต็มใจจะทําธุรกิจกับเขาอีก
“เจ้าคนพวกนี้!” จางเซวียนกัดฟันกรอด
ในวินาทีน้ นั เขานึกอยากทําตามที่เฉาเฉิงลี่แนะนํา คือขโมยมาดื้อ ๆ
เสี ยเลย
หลังจากลงทุนลงแรงไปมากมาย ก็กลับกลายเป็ นว่าไม่มีใครยอม
ขายตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลให้เขาสักคน
“ช่างมันเถอะ…” จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาก็แค่ตอ้ งหาวิธีอื่นเพื่อให้ได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมา
ขณะที่จางเซวียนกําลังจะออกไป เฉาเฉิงลี่กพ็ รวดพราดเข้ามาแล้ว
พูดว่า “นายน้อย ผมหาตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลตามที่คุณต้องการ
ได้แล้ว!”
จากนั้นเขาก็ยนื่ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล 2 อันให้จางเซวียน
จางเซวียนตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาเหนื่อยยากอยูค่ รึ่ งค่อนวัน ยังไม่ได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมา
สักอัน แล้วเจ้าลูกน้องที่ไว้ใจไม่ได้คนนี้ได้มาถึง 2 อันได้อย่างไร?
“เมื่อครู่ น้ ีผมบอกคุณแล้วไม่ใช่หรื อ? ผมเห็นศิษย์สายตรงหน้าตา
จิ้มลิ้มคนหนึ่ง…” เฉาเฉิงลี่หวั เราะหึ ๆ ขณะเกาหัว
ขณะที่เขากําลังจะอธิบาย จางเซวียนก็เห็นสาวร่ างยักษ์คนหนึ่งที่มี
นํ้าหนักราว 300 จิงเดินตรงเข้ามา “ที่รัก รี บหน่อยเถอะ เตียงของ
ฉันน่ะแสนจะกว้างใหญ่ แถมนุ่มมากด้วยนะ…”
(300 จิง = 150 กิโลกรัม)
“ได้เลยที่รัก ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เฉาเฉิงลี่ออดอ้อน เขาหันไป
พูดกับจางเซวียน “นายน้อย ผมขอตัวสักครู่ นะ กลับมาแล้วจะเล่า
รายละเอียดให้ฟัง…”
จากนั้นเฉาเฉิงลี่กก็ ระโจนออกจากตลาดของศิษย์สายตรงไปโดยมี
แม่สาวนัน่ อยูใ่ นอ้อมแขน
“….” จางเซวียนกุมขมับ
เขารู ้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งตาสว่างก็วนั นี้
แต่ไม่วา่ เฉาเฉิงลี่จะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมาด้วยวิธีไหน ก็
ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าหมอนี่เก่งกาจพอตัว เพียงแค่ 2-3 ชัว่ โมง ไม่
เพียงแต่จะได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมาถึง 2 อัน ยังได้โควต้า
เตียงนอนของแม่สาวคนนั้นด้วย
แต่ถา้ จะคิดกันให้ดี ถ้าเขาขายลูกน้องของเขาเพื่อวัตถุประสงค์แบบ
นี้ จะไม่ทาํ ให้เขากลายเป็ นแมงดาหรื อ?
จางเซวียนตัวสัน่ เล็กน้อยขณะรี บสลัดความคิดเหล่านั้นออกจากหัว
สมองก่อนจะออกจากตลาดไป
เสี ยงกู่ร้องเย็นเยียบของอสูรตัวหนึ่งดังขึ้นเหนือที่พกั ของผูอ้ าวุโสไป๋
เย่ ไป๋ เหริ นชิงกระโจนลงมา จากนั้นก็รีบผลักประตูและพรวดพราด
เข้าไปในที่พกั
“นายหญิงน้อย!” ชายชราผูห้ นึ่งเดินเข้ามาต้อนรับไป๋ เหริ นชิง
เขาคือพ่อบ้านส่ วนตัวของผูอ้ าวุโสไป๋ เย่, ไป๋ เฟิ ง
ไป๋ เฟิ งเติบโตมาพร้อมกับผูอ้ าวุโสไป๋ เย่ ทั้งคู่เข้าสู่ สาํ นักดาบเมฆเหิ น
พร้อมกัน แม้ไป๋ เฟิ งจะไม่ได้มีชื่อเสี ยงโด่งดังมากนักในสํานักดาบ
เมฆเหิ น แต่ผทู ้ ี่คุน้ เคยกับเขาก็รู้ดีวา่ เขามีอะไรพิเศษกว่าชายชรา
ทัว่ ไปมาก
ดูเหมือนจะรู ้วา่ ไป๋ เหริ นชิงได้พบสมุนไพรที่มีฤทธิ์เยียวยาสําหรับผู ้
อาวุโสไป๋ เย่อีกแล้ว ไป๋ เฟิ งถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะให้คาํ แนะนํา
“นายหญิงน้อย ผมเข้าใจความรู ้สึกของคุณดี แต่อาการบาดเจ็บของ
นายท่านเกิดขึ้นนับตั้งแต่การเดินทางไปสู่ เมืองแห่งมิติที่พงั ทลาย
บาดแผลของเขามีพลังงานลึกลับบางอย่างซึ มซาบอยูใ่ นนั้น ซึ่ งกัด
กร่ อนเขาจากภายใน ทางสํานักพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่กไ็ ม่เป็ น
ผล ผมไม่คิดว่าคุณจะสามารถซื้อหาอะไรจากตลาดของศิษย์สายตรง
ฝ่ ายนอกและฝ่ ายในที่จะมีอานุภาพเพียงพอรักษาอาการของนายท่าน
ได้หรอก!”
เมืองแห่งมิติที่ถูกทําลายคือหนึ่งในสถานที่ที่น่าสะพรึ งที่สุดของทวีป
ที่ถูกลืม มีทรัพย์สมบัติมากมายซุกซ่อนอยูท่ ี่นนั่ แต่อนั ตรายใหญ่หลวง
ก็รอคอยผูท้ ี่อาจหาญเหยียบย่างเข้าไป
ถ้าเป็ นแค่อาการบาดเจ็บธรรมดา ด้วยสถานภาพของไป๋ เย่ในฐานะผู ้
อาวุโสที่ 3 ของสํานักดาบเมฆเหิ น เขาคงได้รับการรักษาจนหายไป
นานแล้ว แต่เพราะความแปลกประหลาดและความซับซ้อนของ
อาการบาดเจ็บนั้น ทุกอย่างที่พวกเขาพยายามนํามาใช้จึงสู ญเปล่า
แถมอาการของอีกฝ่ ายก็ดูเหมือนจะแย่ลงเรื่ อย ๆ ในแต่ละวัน ดู
เหมือนเขาจะเหลือเวลาอีกไม่มาก
ก็เพราะเหตุผลนี้ที่ทาํ ให้ไป๋ เหริ นชิงตะลอนออกไปทุกวันเพื่อหายาที่
มีอานุภาพน่าทึ่งต่าง ๆ นานา หวังว่าจะเกิดปาฏิหาริ ย ์ แต่ในความ
เป็ นจริ ง ทุกอย่างก็ลว้ นแต่ไร้ประโยชน์
ไป๋ เหริ นชิงกําหมัดแน่นขณะพูดว่า “ฉันรู ้วา่ ที่คุณพูดเป็ นความจริ ง
แต่…”
มีหรื อที่เธอจะไม่รู้วา่ ความพยายามของเธอไม่น่าจะเกิดผล แต่จะให้
เธอนัง่ เฉยและเฝ้ามองท่านปู่ ของเธอตายไปตรงหน้า…เธอรับไม่ได้!
“เฮ่ออออ!” รู ้ดีวา่ ไป๋ เหริ นชิงคิดอะไร ไป๋ เฟิ งถอนหายใจอย่างอ่อน
แรง “แล้วคราวนี้คุณซื้ออะไรมาล่ะ? ขอผมดูหน่อยได้ไหม?”
“อยูน่ ี่…” ไป๋ เหริ นชิงยืน่ ขวดหยกที่เธอเพิง่ ซื้อมาให้ไป๋ เฟิ ง
ไป๋ เฟิ งรับขวดหยกไปเปิ ดจุกออกและสู ดดม ไม่ชา้ ก็ส่ายหน้า “นาย
หญิงน้อย นี่มนั ไม่ใช่ยาด้วยซํ้า ผมมีชีวติ อยู่ 150 ปี แล้ว เห็นยามาแล้ว
ทุกชนิด แต่น้ าํ นี่ไม่มีพลังจิตวิญญาณอยูเ่ ลยแม้แต่นิดเดียว หรื อว่า
คุณถูกหลอก?”
การที่ยาขนานหนึ่งจะมีอานุภาพน่าทึ่งได้น้ นั จะต้องมีพลังจิตวิญญาณ
บรรจุอยูใ่ นปริ มาณที่มากพอจะบ่มเพาะร่ างกายของผูป้ ่ วยได้ แต่สิ่ง
ที่อยูใ่ นขวดหยกใบนี้ดูไม่ต่างอะไรกับนํ้าเปล่า ไม่มีร่องรอยของพลัง
จิตวิญญาณอยูเ่ ลย
หรื อว่านายหญิงน้อยจะร้อนรนเกินไปและถูกหลอก?
“ศิษย์สายตรงฝ่ ายในคนหนึ่งขายมันให้ฉนั เขาบอกว่ามันคือยาสวรรค์
ที่รักษาบาดแผลและอาการป่ วยไข้ได้ทุกชนิด” ไป๋ เหริ นชิงพูดพร้อม
กับก้มหน้า
ตอนที่เธอซื้อมาก็ยงั สงสัยอยู่ แต่ท่านปู่ ของเธอใกล้เสี ยชีวติ เต็มที
แล้ว เธอจําเป็ นต้องคว้าทุกเศษเสี้ ยวของความหวังที่มี
แถมเจ้าคนที่ขายยานี้ให้เธอก็ดูจะมัน่ อกมัน่ ใจมาก ซึ่งนัน่ บ่งบอก
อะไรบางอย่าง
ถึงอย่างไร เธอก็เป็ นผูม้ ีชื่อเสี ยงโด่งดังในสํานัก ไม่มีศิษย์สายตรง
ฝ่ ายในหรื อศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดคนไหนที่ไม่รู้จกั เธอ หมอนี่ควร
จะรู ้ดีวา่ หากโกหกเธอแล้วจะต้องเจอกับอะไร แต่กย็ งั กล้าโกหก
หน้าด้าน ๆ เขาน่าจะมีบางอย่างที่สนับสนุนคํากล่าวอ้างของตัวเอง!
“ยาสวรรค์ที่รักษาบาดแผลและความป่ วยไข้ได้ทุกชนิด แต่ไม่มีพลัง
จิตวิญญาณอยูใ่ นนั้นเลย แล้วเขายังกล้าขายมันให้คุณ…” ไป๋ เฟิ ง
คําราม “หมอนัน่ กล้าดีอย่างไร! ยานี้ราคาเท่าไหร่ ?”
“20 เหรี ยญสํานักดาบ” ไป๋ เหริ นชิงตอบอ้อมแอ้ม
“20เหรี ยญ?” ไป๋ เฟิ งอึ้งไปครู่ หนึ่งก่อนจะปรี๊ ดแตก “นายหญิงน้อย
ผมแน่ใจว่าคุณถูกหลอก ด้วยเงิน 20 เหรี ยญสํานักดาบ คุณสามารถ
ซื้อยาเม็ดอมตะขั้นต้นได้ถึง 10 เม็ด! แต่เขากล้าตั้งราคานี้ สําหรับ
นํ้าเปล่าเพียงขวดเดียว ศิษย์สายตรงคนนั้นอยูภ่ ายใต้การดูแลของผู ้
อาวุโสคนไหน? ผมจะไปที่นนั่ เพื่อขอคําอธิบายเดี๋ยวนี้! หมอนัน่ คิด
ว่าจะเอาเปรี ยบพวกเราได้เพียงเพราะผูอ้ าวุโสไป๋ กําลังได้รับบาดเจ็บ
หรื อ?”
ตอนที่ 1965 ขายของจริงหรื อ?
บึ้มมมม!
ด้วยความโกรธขึ้งของเขา พลังงานมหาศาลระเบิดออกจากจุดชีพจร
บ้านพักหลังนั้นสัน่ สะท้านไม่หยุด ดูเหมือนพร้อมจะพังทลายด้วย
แรงโทสะ
ผูอ้ าวุโสไป๋ อาจได้รับบาดเจ็บและกําลังจะตาย แต่ตราบใดที่ตวั เขา,
ไป๋ เฟิ ง ยังมีชีวติ อยู่ จะไม่ยอมให้ใครเอาเปรี ยบนายหญิงน้อยเป็ นอัน
ขาด เจ้าศิษย์สายตรงคนนั้นรนหาที่ตายแล้ว!
“ฉัน…ฉันเต็มใจซื้ อมันเอง เขาไม่ได้หลอกลวงฉันหรอก…” ไป๋
เหริ นชิงหน้าแดงกํ่า
อีกฝ่ ายพูดว่าเธอมีสิทธิ์ตดั สิ นใจเองว่าจะซื้อหรื อไม่ และเขาก็ไม่ได้
บีบบังคับเธอให้รีบร้อนตัดสิ นใจ
คํานั้นไม่ได้ทาํ ให้ความเดือดดาลของไป๋ เฟิ งลดลงแม้แต่นอ้ ย “คุณ
เต็มใจซื้อ? หมอนัน่ คงใช้คาํ พูดหวาน ๆ หว่านล้อมคุณแน่…”
“เอาเถอะ ไม่วา่ จะมีพลังจิตวิญญาณอยูใ่ นนั้นหรื อไม่ ในเมื่อเราซื้ อ
มันมาแล้ว ลองให้ท่านปู่ กินดู เผือ่ มันอาจได้ผล” ไป๋ เหริ นชิงขัดขึ้น
ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่
เธอยืนอยูข่ า้ งเตียง เฝ้ามองใบหน้าเหี่ ยวย่นของชายชราที่ดูอ่อนแรง
หน้าอกของเขามีรอยบุ๋มขนาดใหญ่ เนื้อหนังที่อยูต่ รงนั้นเริ่ มเหี่ ยว
แห้ง ส่ งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา
นัยน์ตาของผูอ้ าวุโสปิ ดสนิท แม้แต่ความวุน่ วายที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ กไ็ ม่
อาจทําให้เขาตื่น
“ท่านปู่ คุณจะต้องหายดี” ไป๋ เหริ นชิงพึมพําขณะพยุงผูอ้ าวุโสขึ้น
มาแล้วริ นนํ้าในขวดหยกเข้าไปในปากของอีกฝ่ ายอย่างช้า ๆ
หลังจากเสร็ จสิ้ น เธอรี รออยูค่ รู่ หนึ่ง แต่เนื้อหนังที่เหี่ ยวแห้งนั้นก็ไม่
มีทีท่าว่าจะดีข้ ึน สี หน้าของเธอเคร่ งเครี ยดขึ้นทีละน้อย
“ไม่มีพลังจิตวิญญาณอยูใ่ นนั้นเลย เพราะฉะนั้นยานี้เป็ นของปลอม
แน่ นายหญิงน้อย…ต่อไปคุณจะต้องไม่ฟังคําพูดของพวกคนหลอก
ลวงอีกนะ เหล่าผูอ้ าวุโสของสํานักที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคได้
พยายามรักษานายท่านแล้ว แต่กท็ าํ อะไรไม่ได้ แล้วยาที่ศิษย์สายตรง
คนหนึ่งขายจะมีประสิ ทธิภาพดีพอได้อย่างไร?” ไป๋ เฟิ งถอนหายใจ
เฮือกใหญ่
ในตอนนั้นเอง เสี ยงอ่อนระโหยก็ดงั ขึ้น “พวกคุณเอาอะไรให้ผมกิน
น่ะ?”
ไป๋ เหริ นชิงกับไป๋ เฟิ งตาโตด้วยความตกใจขณะหันขวับ ผูอ้ าวุโส
ไป๋ เย่ที่เคยสลบไสลไม่ได้สติลืมตาขึ้นอีกครั้ง
เขายังคงอ่อนแรงอยู่ แต่ในที่สุดก็ฟ้ื นคืนสติข้ ึนมาหลังจากที่สลบไป
เนิ่นนาน
“ยานี้ได้ผลหรื อ?” ไป๋ เหริ นชิงตาแดงกํ่าด้วยความตื่นเต้น
เธอยิง่ กว่ากังวลใจเรื่ องอาการของท่านปู่ ถ้าไม่ใช่เพราะวรยุทธที่
เหนือชั้นของเขา เขาคงตายไปนานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าร่ อแร่
เต็มที เป็ นไปได้วา่ ท่านปู่ อาจหมดลมหายใจสุ ดท้ายในอีกสองวันนับ
จากนี้ จึงน่าตกใจมากที่ท่านปู่ ของเธอฟื้ นและพูดได้หลังจากได้ดื่ม
นํ้าเปล่าขวดหนึ่งเข้าไป
แม้แต่ยาเม็ดสื บทอดชีวติ ขั้นสู งสุ ดของสํานักดาบเมฆเหิ นก็ยงั ไม่มี
อานุภาพเท่านี้!
“นายท่าน!”
ไป๋ เฟิ งรี บเข้าไปพยุงผูอ้ าวุโสไป๋ เย่ให้ลุกขึ้น จากนั้นก็ขบั เคลื่อนพลัง
ปราณเข้าสู่ ร่างกายของอีกฝ่ ายเพื่อตรวจสอบสภาวะภายใน
ครู่ ต่อมา ไป๋ เฟิ งก็ตาโตด้วยความตกตะลึงขณะตั้งข้อสังเกต “อาการ
บาดเจ็บของนายท่านได้รับการเยียวยาแล้วจริ ง ๆ …”
แม้ระดับของการเยียวยาจะเห็นไม่ชดั เจนนัก แต่ขอ้ เท็จจริ งก็คือยา
นั้นได้ผล พลังงานกัดกร่ อนที่บ่อนทําลายอวัยวะภายใน พลังปราณ
และจิตวิญญาณของผูอ้ าวุโสไป๋ เย่มาตลอดถูกกดข่มไว้อย่างชะงัด!
พลังงานทําลายล้างนั้นคือพละกําลังพิเศษที่ไม่อาจยับยั้งได้ของเมือง
แห่งมิติที่ถูกทําลาย ในโลกนี้ไม่มียาชนิดไหนที่สามารถรักษามันได้
ใครจะไปรู ้วา่ นํ้าเปล่าขวดหนึ่งที่ไป๋ เหริ นชิงซื้อมาจะได้ผลน่าทึ่ง
ขนาดนี้?
“นายหญิงน้อย คุณซื้อยาขวดนั้นมาจากไหน?” ไป๋ เฟิ งถามอย่างร้อน
ใจ
“ฉันซื้อมาจากตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน…” ไป๋ เหริ นชิงรี บฉุด
ตัวเองขึ้นจากภวังค์
“คุณซื้ อมาแค่ขวดเดียวหรื อ?”
น่าจะเป็ นเพราะปริ มาณยาที่มีไม่มากพอ ผูอ้ าวุโสไป๋ เย่จึงฟื้ นตัวได้
เพียงเล็กน้อย แต่จากสภาพที่เป็ นอยู่ ก็เห็นได้ชดั ว่านํ้านั้นมีอานุภาพ
ในการรักษาอาการบาดเจ็บของอีกฝ่ ายได้จริ ง ๆ ขอแค่พวกเขาได้มนั
มาในปริ มาณมากพอ ก็มีความเป็ นไปได้ที่ผอู ้ าวุโสไป๋ เย่จะฟื้ นคืน
สภาพจากอาการบาดเจ็บอย่างสมบูรณ์…อาการบาดเจ็บที่ทาํ ให้
บรรดานายแพทย์ในสํานักพากันอับจนหนทาง!
“ฉันเองก็คิดว่ามันอาจเป็ นการหลอกลวง…จึงซื้อมาเพียงขวดเดียว
เพื่อลองดู…” ไป๋ เหริ นชิงหน้าแดงกํ่า
“ไม่ใช่การหลอกลวงแน่ มันคือนํ้าทิพย์สวรรค์จริ ง ๆ …สมชื่อของ
มัน เร็ วเข้า พาผมไปที่นนั่ ที!” ไป๋ เฟิ งเร่ ง “เราต้องซื้อมันมาให้มาก
ที่สุด เหมาหมดเลยก็ได้ ถ้าได้มนั มาในปริ มาณมากพอ นายท่าน
จะต้องหายดีแน่!”
“ดะ-ได้! ไปกันเลย”
ท่าทีของไป๋ เฟิ งทําให้ไป๋ เหริ นชิงรู ้ทนั ทีวา่ คราวนี้เกิดปาฏิหาริ ยข์ ้ ึน
จริ ง ๆ แล้ว เธอจึงรี บออกไปและกระโจนขึ้นขี่หลังอสู รบินได้
“แบบนั้นก็ชา้ ไป ผมพาคุณไปดีกว่า!”
ยังไม่ทนั ที่อสู รบินได้จะออกบิน เสี ยงของไป๋ เฟิ งก็ดงั ขึ้นกลางอากาศ
จากนั้น ไป๋ เหริ นชิงก็รู้สึกว่าร่ างของเธอลอยสู งขึ้นจากพื้นและพุง่
ตรงไปยังตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายในด้วยความเร็ วอันน่าทึ่ง
เพียง 2-3 อึดใจก็มาถึงที่หมาย สิ่ งแรกที่เธอทําหลังจากร่ อนลงก็คือ
รี บตรงไปยังบริ เวณที่เธอซื้อนํ้าทิพย์น้ นั แต่ทุกอย่างว่างเปล่า
ไป๋ เหริ นชิงตาโตด้วยความพรั่นพรึ ง เธอรี บหันไปถามพ่อค้าที่อยู่
ใกล้ ๆ อย่างร้อนใจ “ผูท้ ี่ขายยาในขวดหยกที่ต้ งั แผงอยูถ่ ดั จากคุณ
ก่อนหน้านี้…เขาอยูท่ ี่ไหน?”
พ่อค้าผูน้ ้ นั แสนจะพรั่นพรึ งที่เห็นไดโนเสาร์ตวั เมียรี บร้อนกลับมา
แถมยังพ่วงผูอ้ าวุโสที่บินได้คนหนึ่งมาด้วย! เขาค้อมตัวเล็กน้อยด้วย
ความหวาดกลัวขณะละลํ่าละลัก “ขะ-เขาออกไปแล้ว…”
“คุณรู ้ไหมว่าเขามาจากตระกูลไหน อยูภ่ ายใต้การดูแลของใคร?” ไป๋
เหริ นชิงซักไซ้
“ผมไม่รู้!” พ่อค้าตอบอย่างกระวนกระวาย “เขาเพิ่งมาถึงวันนี้เอง
พวกเราจึงไม่ได้สนิทสนมกับเขามากนัก ถึงเขาจะขายยาปลอมให้
คุณ แต่กไ็ ม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมนะ!”
“ใช่! ใช่แล้ว! พวกเราไม่รู้จกั เขาเลย เรารู ้วา่ เขาทําให้คุณขุ่นเคืองใจ
จึงไม่ได้ขายของที่เขาต้องการให้เขาด้วยซํ้า…”
“ผมรู ้อยูแ่ ล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี…ถ้าเขากล้าเหยียบย่างเข้ามาในตลาด
ศิษย์ของสายตรงฝ่ ายในอีกล่ะก็ ผมจะต้องสัง่ สอนบทเรี ยนให้เขา
แน่…”
พ่อค้าคนอื่น ๆ พยายามกันตัวเองออกจากชายหนุ่มที่มาเมื่อครู่ น้ ี
พวกเขาจับตามองไป๋ เหริ นชิงตั้งแต่อีกฝ่ ายมาถึงตลาดของศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายใน จึงได้เห็นเธอซื้อยาปลอมนัน่ จากชายหนุ่มที่มาเมื่อครู่ ใน
เมื่อไป๋ เหริ นชิงพรวดพราดกลับมาแบบนี้ ก็มีโอกาสสู งที่เธอจะรู ้
แล้วว่าตัวเองถูกหลอก และต้องรี บกลับมาเพื่อสัง่ สอนบทเรี ยนให้
ชายหนุ่มคนนั้น
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่าเป็ นผูส้ มรู ้ร่วมคิด พวกเขาจึงไม่มี
ทางเลือกนอกจากกันตัวเองให้ออกห่างจากหมอนัน่ ก่อนจะต้อง
เดือดร้อนเพราะไดโนเสาร์ตวั เมียตัวนี้
เห็นทุกคนพูดถึงชายหนุ่มในแง่ร้าย ไป๋ เหริ นชิงจังงังไปครู่ หนึ่ง เธอ
ตั้งคําถามด้วยนํ้าเสี ยงที่บ่งบอกความงุนงงอย่างเห็นได้ชดั “พวกคุณ
พูดเรื่ องอะไรน่ะ?”
“เขาไม่ได้ขายยาปลอมให้คุณหรอกหรื อ?” พ่อค้าที่อยูใ่ กล้กบั เธอ
ย้อนถาม
“ยาของเขาเป็ นของจริ ง ฉันมาที่นี่เพื่อขอบคุณเขา และอยากจะซื้ อ
เพิ่มอีก 2-3 ขวดด้วย” ไป๋ เหริ นชิงตอบ
“ยานัน่ เป็ นของจริ ง?”
พ่อค้าคนอื่น ๆ ถึงกับจังงัง
แผงที่ต้ งั ขึ้นมาง่าย ๆ แถมโอ้อวดแบบเลื่อนลอย…ขายของจริ งหรื อ?
“เขามาที่นี่เพื่อขายสิ นค้าของเขาไม่ใช่หรื อไง? ทําไมถึงออกไปเร็ ว
นัก?” ไป๋ เหริ นชิงถาม เธอรู ้สึกได้ทนั ทีถึงความผิดปกติของทุกคนที่
อยูโ่ ดยรอบ จึงสําทับพร้อมกับขมวดคิ้ว “ฉันต้องการรู ้ความจริ งนะ
พวกคุณคงรู ้ดีวา่ ผลของการโกหกฉันคืออะไร”
“เอ่อ…เหตุผลที่เขามาขายยาที่นี่กเ็ พื่อหาซื้อตราสัญลักษณ์นิรันดร์
กาล แต่พวกเราคิดว่าเขาทําให้คุณขุ่นเคืองใจ จึงปฏิเสธที่จะขายตรา
สัญลักษณ์ให้เขาและเร่ งให้เขารี บจากไป…”
“พวกคุณเร่ งให้เขารี บจากไป?” ในที่สุดไป๋ เหริ นชิงก็เข้าใจว่าเกิด
อะไรขึ้น สี หน้าของเธอเคร่ งเครี ยดทันที “เขาเป็ นผูม้ ีพระคุณของ
ท่านปู่ ของฉันนะ แต่พวกคุณกล้าขับไล่เขาออกไป ในเมื่อเป็ นอย่าง
นั้น…”
พลัก่ !
สมญานามไดโนเสาร์ตวั เมียของไป๋ เหริ นชิงไม่ใช่เรื่ องเล่น ๆ ทันทีที่
เธอพบเรื่ องที่ทาํ ให้ขดั ใจ ก็จะเปิ ดการโจมตีทนั ทีโดยไม่ลงั เล…และ
การโจมตีของเธอก็ไร้ความปรานีดว้ ย
เพียงครู่ เดียว พ่อค้าทุกคนที่อยูใ่ นตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายในก็ลง
ไปกองอยูก่ บั พื้น ต่างคนต่างครวญครางด้วยความเจ็บปวด
ไป๋ เหริ นชิงยืนเท้าสะเอว เธอคํารามด้วยนํ้าเสี ยงเย็นเยียบ “ไปหาตัว
เขาให้พบเดี๋ยวนี้! ถ้าพวกคุณหาเขาไม่พบภายในคืนนี้ล่ะก็ ฉันจะ
ซ้อมพวกคุณอีกรอบ อย่าคิดวิง่ หนีล่ะ เพราะไม่มีประโยชน์ ถ้าฉัน
จับตาดูใครไว้ล่ะก็ ผูน้ ้ นั ไม่มีทางหนีไปจากฉันได้!”
“….” ฝูงชน
นี่มนั บ้าอะไร! พวกเขาจะรู ้ได้อย่างไรว่ายาที่ขายในร้านเน่า ๆ แบบ
นั้นจะเป็ นของจริ ง?
พวกเขาทําผิดอะไรถึงต้องเจอเรื่ องแบบนี้?
…..
ในตอนนั้น จางเซวียนก็กลับสู่ ที่พกั
เขานําตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ได้จากเฉาเฉิ งลี่ออกมาอันหนึ่ง
และหยดเลือดหยดหนึ่งลงไป จากนั้นก็เพ่งสมาธิเข้าไปในตรา
สัญลักษณ์อนั นั้น
เพราะมีประสบการณ์ในการเปิ ดใช้งานตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
มาแล้ว การเคลื่อนไหวของจางเซวียนจึงรวดเร็ วและราบรื่ นกว่าเดิม
หอนิรันดร์ที่นี่ไม่เหมือนกับหอนิรันดร์ในเมืองแสงดาว ไม่มีคาํ แนะนํา
จากปรมาจารย์ขงเมื่อเขาเข้าสู่ หอนิรันดร์ของสํานักดาบเมฆเหิ น จาง
เซวียนรี บตรวจสอบสภาวะร่ างกาย และพบว่าระดับวรยุทธของเขา
คือนักปราชญ์โบราณขั้น 1
เรื่ องนี้ทาํ ให้จางเซวียนโล่งอก เขาไม่สามารถทําตัวให้คุน้ ชินกับการ
ที่ถูกลดระดับวรยุทธลงเป็ นนักรบระดับเซี ยนขั้น 1 เหมือนเมื่อครั้ง
อยูใ่ นหอนิรันดร์ของเมืองแสงดาวได้ มีกระบวนท่ามากมายที่เขาไม่
สามารถสําแดงออกไปเพราะขีดจํากัดของพละกําลังและความเร็ ว
จึงเป็ นเรื่ องที่น่าหงุดหงิดไม่นอ้ ย
เราจะเรี ยกตัวเองว่าเจ้าโลกไม่ได้แล้ว จางเซวียนคิด
เมื่อครั้งอยูท่ ี่หอนิรันดร์ในเมืองแสงดาว เขาตั้งสมญานามให้ตวั เอง
ว่าเจ้าโลก และสู ก้ บั หัวเจียงเหอและพรรคพวก จนตอนนี้ ผูอ้ าวุโส
ลู่อวิน๋ กับคนอื่น ๆ คิดว่าตั้นเฉี่ยวเทียนคือเจ้าโลก จึงย่อมผิดปกติแน่
หากชื่อนั้นปรากฏในเวลานี้
หากเขากล้าซ้อมท่านเจ้าสํานักและเหล่าผูอ้ าวุโสด้วยชื่อเจ้าโลก คน
พวกนั้นคงมาเคาะประตูที่พกั ของเขาในทันที!
ในเมื่อเป็ นแค่สมญานามที่ใช้ในหอนิรันดร์ ก็ไม่จาํ เป็ นต้องคิดมาก
ทําไมไม่สุ่มเลือกมาสักชื่อหนึ่ง? จางเซวียนครุ่ นคิดครู่ หนึ่งก่อนจะ
ตกลงใจใช้สมญานามที่เขาพอใจ
เอาชื่อนี้กแ็ ล้วกัน ‘ผมน่ะถ่อมตัว’!
พูดกันตามตรง เขาออกจะเสี ยใจที่เคยใช้สมญานามเจ้าโลก
เมื่อไรก็ตามที่มีใครเรี ยกเขาด้วยสมญานามนั้น เขารู ้สึกเหมือนทั้ง
เส้นผมและเส้นขนลุกชันไปทัว่ ทั้งตัว มันออกจะน่าขยะแขยงไม่เบา!
แต่สาํ หรับชื่อใหม่, ผมน่ะถ่อมตัว ถือว่าเหมาะสมกับบุคลิกและนิสยั
ถ่อมเนื้อถ่อมตัวของเขามาก
หลังจากเลือกสมญานามได้แล้ว จางเซวียนก็เดินตรงไป เห็น
พระราชวังขนาดใหญ่ปรากฏตรงหน้า มีป้ายใหญ่โตแขวนอยู่ เขียน
ว่า ‘สํานักดาบเมฆเหิ น : หอนิรันดร์’
จางเซวียนผลักประตูและเดินเข้าไป ภาพความวุน่ วายที่ปรากฏ
ตรงหน้าเขาถือว่าน่าทึ่งไม่นอ้ ย ฝูงชนมากมายเดินคลาคลํ่าอยูบ่ น
ถนน แทบทุกคนมีดาบเหน็บหลัง เขารู ้สึกได้ถึงเจตจํานงเพลงดาบที่
อบอวลอยูใ่ นอากาศ
ตอนที่ 1966 พนัน (1)
จางเซวียนเดินไปสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากผูค้ นที่ผา่ นไปมา
ก็เหมือนกับหอนิรันดร์ที่อื่น ๆ วิธีที่รวดเร็ วที่สุดในการจะได้เหรี ยญ
สํานักดาบมาก็คือต้องเข้าร่ วมในสังเวียนประลอง เรื่ องนี้ถือว่าเข้า
ทางของจางเซวียน
ดังนั้น สถานที่แห่งแรกที่เขามุ่งหน้าไปจึงเป็ นสังเวียนประลอง
ในตอนนั้น ชายหนุ่ม 2 คนกําลังต่อสู ก้ นั อยู่
เพราะทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนรู ปร่ างหน้าตาได้ตามใจเมื่ออยูใ่ น
หอนิรันดร์ จึงไม่มีทางบอกตัวตนที่แท้จริ งของนักสู ท้ ้ งั 2 คนได้
ดังนั้น เพื่อให้ผชู ้ มแยกแยะนักสู แ้ ต่ละฝ่ ายออกจากกันได้สะดวก ทั้ง
สองจึงสวมเสื้ อผ้าที่มีสีต่างกัน คนหนึ่งสี เขียวและอีกคนสี ขาว
ศิลปะเพลงดาบของชายหนุ่มชุดเขียวจัดว่าทรงพลังและเฉียบคม
ยากที่จะเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ ส่ วนศิลปะเพลงดาบของชายหนุ่ม
ชุดขาวนั้นว่องไวมาก ทั้งยังแผ่วเบาและมีความยืดหยุน่
แม้ศิลปะเพลงดาบของทั้งคู่จะต่างกันสุ ดขั้ว แต่พวกเขาก็สูก้ นั ได้
อย่างสมนํ้าสมเนื้อ
“ไม่เลว!”
หลังจากดูได้สกั ครู่ จางเซวียนพยักหน้า
สมกับที่เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในของสํานักดาบเมฆเหิ น ศิลปะเพลง
ดาบของพวกเขาอยูใ่ นระดับที่เหนือชั้นกว่าหัวเจียงเหอกับพรรคพวก
ทั้งสองคนพบวิถีทางเพลงดาบของตัวเองแล้ว และทุกกระบวนท่าที่
พวกเขาปลดปล่อยออกมาก็มีแนวคิดลํ้าลึกอยูเ่ บื้องหลัง ถึงจะอายุยงั
น้อย แต่กม็ ีบุคลิกของบรมครู
แม้แต่ศิลปะเพลงดาบของเซียนดาบชิงกับคนอื่น ๆ ในทวีปแห่ง
ปรมาจารย์กไ็ ม่อาจเทียบชั้นกับทั้งสองได้
“พี่ชาย คุณสนใจจะพนันไหม?”
ขณะที่จางเซวียนกําลังศึกษากระบวนท่าของนักสู ท้ ้ งั สองฝ่ าย เสี ยง
หนึ่งก็กระซิบกระซาบเข้าหู เขาหันไป เห็นชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทา
คนหนึ่งกําลังมองมาด้วยสี หน้าเจ้าเล่ห์
รู ปลักษณ์อวตารส่วนใหญ่ที่ปรากฏในหอนิรันดร์ลว้ นแต่ผา่ น
กระบวนการขัดเกลาต่าง ๆ มา จึงไม่เป็ นการพูดเกินจริ งหากจะบอก
ว่าทุกคนที่นี่ลว้ นแต่มีหน้าตาสะสวยและหล่อเหลา แต่ถึงอย่างนั้น
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาคนนี้กม็ ีนยั น์ตาที่เป็ นประกายหลุกหลิกเจ้า
เล่ห์ ซึ่ งทําให้ดูไม่น่าไว้ใจอย่างยิง่
“พนันอย่างไรล่ะ?” จางเซวียนถาม
ในฐานะหนึ่งใน 6 สํานักใหญ่ สํานักดาบเมฆเหิ นให้ความสําคัญกับ
ภาพลักษณ์ของความเที่ยงธรรมและการอยูใ่ นกฎเกณฑ์ ด้วยเหตุน้ ี
จึงไม่น่าเป็ นไปได้ที่ทางสํานักจะอนุญาตให้ศิษย์สายตรงเข้าร่ วมการ
พนันขันต่อใด ๆ ดังนั้นจึงไม่มีการเปิ ดรับพนันอย่างเป็ นทางการใน
การประลอง เป็ นไปได้วา่ ชายหนุ่มคนนี้น่าจะทําตัวเป็ นเจ้ามือรับ
พนันแบบผิดกฎหมาย เพื่อหวังว่าจะได้เงินพิเศษ
“ง่ายนิดเดียว แต้มต่อของชายหนุ่มชุดเขียวคือ 1 ต่อ 1.5 ส่ วนแต้มต่อ
ของชายหนุ่มชุดขาวคือ 1 ต่อ 1.1 แต่ถา้ คุณแทงเสมอ แต้มต่อคือ 1
ต่อ 5” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาตอบ
“ทําไมแต้มต่อของชายหนุ่มชุดขาวถึงตํ่านักล่ะ?” จางเซวียนสงสัย
“เพราะเขามีโอกาสชนะมากกว่า เขาดวลมาแล้วถึง 300 ครั้ง และ
เอาชนะได้มากกว่า 200 ครั้งทีเดียว นัน่ หมายความว่าศิลปะเพลง
ดาบของเขาไร้เทียมทาน!” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาตอบ “คุณอยาก
ลองแทงสักตาไหม?”
“ได้สิ!” จางเซวียนมองคู่ต่อสู ท้ ี่อยูบ่ นสังเวียนประลองก่อนจะยิม้
ออกมา เขาชูสองนิ้วขึ้นและพูดว่า “ผมพนัน 20 เหรี ยญสํานักดาบว่า
ชายหนุ่มชุดเขียวชนะ”
“คุณจะพนัน 20 เหรี ยญสํานักดาบ?” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาอุทาน
ด้วยความตกใจ นึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ ชายแปลกหน้าคนนี้จะทุ่มทุนก้อนโต
ก็เป็ นอย่างที่จางเซวียนคิด ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาเป็ นเจ้ามือรับพนัน
แบบผิดกฎหมาย แม้สาํ นักดาบเมฆเหิ นจะไม่อนุญาตให้ศิษย์สายตรง
เล่นพนัน แต่การบังคับใช้กฎเกณฑ์ขอ้ นี้กไ็ ม่ได้เข้มงวดนัก ตราบใด
ที่ไม่มีอะไรรั่วไหลออกไป ก็ไม่มีใครเข้ามายุง่ เกี่ยว
โดยทัว่ ไป การเปิ ดรับพนันจะไม่ใช้เงินก้อนโตนัก ตกราว 2-3 เหรี ยญ
สํานักดาบเท่านั้น นี่เป็ นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาได้เจอนัก
พนันหน้าใหม่ที่ทุ่มเงินถึง 20 เหรี ยญสํานักดาบในตาเดียว
จางเซวียนพยักหน้าอย่างสุ ขมุ เพื่อยืนยัน
“ผมเตือนคุณไว้ก่อนนะว่าถอนคําพูดไม่ได้ ตกลงไหม?” ชายหนุ่ม
เสื้ อคลุมสี เทาพูดขณะชําเลืองมองสังเวียนประลอง
ในตอนนั้น ชายหนุ่มชุดขาวกําลังถือไพ่เหนือกว่า ด้วยการโจมตี
อย่างไม่ลดละของเขา ชายหนุ่มชุดเขียวถูกบีบต้องให้ตอ้ งล่าถอยไป
ครั้งแล้วครั้งเล่า
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาหัวเราะเบา ๆ เขายืน่ บัตรใบหนึ่งที่มีตวั เลข
20 จารึ กอยูบ่ นนั้นออกมา “วางเงินของคุณมาก่อน เมื่อจบการดวล
ถ้าคุณชนะ ก็รับบัตรใบนี้ไป แต่ถา้ คุณแพ้ บัตรนี้กจ็ ะไร้ประโยชน์”
“ได้!” จางเซวียนพยักหน้า
เขาเตรี ยมบัตรนิรันดร์ของเขาไว้เรี ยบร้อยแล้ว และใส่ เงินจํานวน 20
เหรี ยญสํานักดาบไว้ในนั้นแล้วเช่นกัน ด้วยการเคาะเบา ๆ เงิน 20
เหรี ยญก็ถูกยืน่ ให้ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทา
“ฮ่าาาา!”
เห็นมูลค่าของเงินในบัตรที่เพิม่ ขึ้นมา 20 เหรี ยญสํานักดาบ ชายหนุ่ม
เสื้ อคลุมสี เทายิม้ อย่างลิงโลด ก่อนจะแหวกฝูงชนเพื่อหาที่นงั่
ไม่ชา้ สาวน้อยคนหนึ่งที่สวมเสื้ อผ้าแบบเดียวกับเขาก็เดินเข้ามาถาม
“เป็ นอย่างไรบ้าง?”
“ผมเพิ่งพบไอ้งงั่ คนหนึ่ง หมอนัน่ พนัน 20 เหรี ยญสํานักดาบว่าเจ้า
หนุ่มชุดเขียวจะชนะ” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทากระหยิม่ ยิม้ ย่อง
“20 เหรี ยญ? โง่สิ้นดี!” สาวน้อยหัวเราะลัน่ “เจ้าหนุ่มชุดเขียวไม่มีทาง
ชนะหรอก! ด้วยเครื อข่ายข้อมูลข่าวสารของเรา เราพบว่าชายหนุ่ม
ชุดขาวคือศิษย์พี่โม่เหอ ขณะที่ชายหนุ่มชุดเขียวคือศิษย์นอ้ งหูเฉี่ยว
ฝ่ ายหลังเพิง่ เข้าร่ วมสํานักได้ไม่ถึง 2 ปี จะเอาชนะศิษย์พี่โม่เหอได้
อย่างไร?”
“จริ งด้วย…20 เหรี ยญสํานักดาบเหนาะ ๆ !” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทา
คํารามเยาะ
แต่ในตอนนั้นเอง ขณะที่ชายหนุ่มชุดเขียวถูกบีบให้ถอยไปจนสุ ด
ขอบสังเวียนประลอง เขาก็พลัน เปลี่ยนกระบวนท่าและพุง่ เข้าใส่ อีก
ฝ่ ายพร้อมกับปลดปล่อยกระแสดาบฉี อนั ทรงพลังออกมา
พลัก่ !
การโจมตีอย่างฉับพลันนั้นทําให้ชายหนุ่มชุดขาวไม่ทนั ระวังตัว เขา
ถูกกระแทกอย่างจังเข้าที่หน้าอก
ด้วยสิ่ งนี้ ชายหนุ่มชุดเขียวจึงเป็ นผูช้ นะ!
“ฮะ…”
ทั้งคู่ที่กาํ ลังยิม้ กริ่ มเงียบกริ บทันที
เกิดอะไรขึ้น…ทําไมชายหนุ่มชุดเขียวถึงเอาชนะได้?
เมื่อครู่ น้ ียงั ตกเป็ นเบี้ยล่างอยูเ่ ลยไม่ใช่หรื อ?
“ชายชุดเขียวรู ้ดีวา่ ศิลปะเพลงดาบของเขาเทียบชั้นกับคู่ต่อสู ไ้ ม่ได้
จึงแกล้งทําเป็ นอ่อนแอเพือ่ หลอกให้ชายชุดขาวตายใจ ก่อนจะฉวย
โอกาสโจมตี!”
“จริ งด้วย การดวลที่นี่เป็ นการดวลแบบชี้เป็ นชี้ตาย ไม่ใช่แค่การ
ประลองศิลปะเพลงดาบ ต่อให้คู่ต่อสู ท้ ี่แข็งแกร่ งกว่าก็อาจถูกสังหาร
ได้หากขาดความระมัดระวัง”
เสี ยงออกความคิดเห็นทํานองนี้ดงั เซ็งแซ่
ผูช้ มล้วนแต่เป็ นศิษย์สายตรงของสํานักดาบเมฆเหิ น และมองว่าการ
ได้ชมการประลองถือเป็ นการฝึ กฝนรู ปแบบหนึ่งเช่นกัน
เห็นได้ชดั ว่าศิลปะเพลงดาบของชายหนุ่มชุดเขียวอ่อนด้อยกว่าชาย
หนุ่มชุดขาว แต่เขาคือผูท้ ี่ได้หวั เราะทีหลัง
ในการต่อสู ข้ องจริ ง ผูท้ ี่มีทกั ษะเพลงดาบเหนือชั้นกว่าอาจไม่ได้เป็ น
ผูช้ นะเสมอไป ยังมีอีกหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง
“หมอนัน่ แค่โชคดี!” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาพึมพําก่นด่า
มันเรื่ องอะไรที่ไอ้งงั่ คนหนึ่งคว้าเงินของเขาไปได้ง่าย ๆ แบบนี้?
คงเป็ นโชคดีของมือใหม่ ไม่น่าเป็ นเหตุผลอื่นไปได้!
“นี่ ผมขอรับเงินด้วย!”
ขณะที่ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทายังคงสาปแช่งอย่างโกรธเกรี้ ยว ‘ไอ้งงั่ ’
เมื่อครู่ กเ็ ดินเข้ามาหาเขาและยืน่ บัตรนิรันดร์ให้
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาจ้องหน้า ‘ไอ้งงั่ ’ ครู่ หนึ่งก่อนจะยืน่ เงิน 30
เหรี ยญให้อย่างไม่เต็มใจ
ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เขียวกับเสื้ อคลุมสี ขาวต่างก็ลง
จากสังเวียนประลอง มีนกั สู ค้ ู่ใหม่ เข้าประจําตําแหน่ง
นัยน์ตาของชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาเป็ นประกายวาบขณะตั้งคําถาม
“คุณจะพนันอีกสักตาไหม?”
โชคดีอาจเป็ นของคน ๆ หนึ่งได้เพียงหนึ่งหรื อสองครั้งเท่านั้น แต่
ท้ายที่สุด สิ่ งที่เป็ นตัวกําหนดว่าใครจะเป็ นผูช้ นะคนสุ ดท้ายคือแต้ม
ต่อ นัน่ คือเหตุผลที่วา่ ทําไมถึงเกิดการล้มละลายขายบ้านกันบ่อยครั้ง
ในบ่อนการพนัน
“ได้สิ” จางเซวียนพยักหน้า
เขาเพิ่งมาถึงที่นี่ได้เพียงนาทีเดียว ยังไม่ทนั จะได้กระดิกนิ้ว ก็ทาํ เงิน
ได้ 10 เหรี ยญสํานักดาบแล้ว ในเมื่อมาเจอวิธีหาเงินแบบง่าย ๆ เข้า
โดยบังเอิญ ก็ไม่มีทางที่เขาจะหยุดอยูแ่ ค่ 10 เหรี ยญแน่!
“ได้เลย คราวนี้เราต่างคนต่างแทง เพื่อจะได้ยตุ ิธรรมขึ้น” ชายหนุ่ม
เสื้ อคลุมสี เทามองสังเวียนประลองที่อยูต่ รงหน้าก่อนจะตั้งข้อสังเกต
ด้วยรอยยิม้ “ขอผมดูก่อนนะ…ผมขอแทงว่าชายวัยกลางคนเสื้ อคลุม
สี ดาํ จะชนะ!”
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอแทง 30 เหรี ยญสํานักดาบว่าสาวน้อยเสื้ อคลุมสี
ขาวจะชนะ!” จางเซวียนทุ่มหมดหน้าตักโดยไม่ลงั เล
“ผมแทง 30 เหรี ยญเหมือนกัน!” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาตอบ
เขานึกเย้ยหยันจางเซวียนอยูใ่ นใจว่าหมอนี่แสนจะโง่เง่า ในฐานะ
เจ้ามือของสังเวียนประลอง เขามีเครื อข่ายข้อมูลข่าวสารกว้างขวางที่
ทําให้รู้ตวั ตนของผูท้ ี่เข้าสู่ สงั เวียนประลองอยูบ่ ่อย ๆ
สําหรับคู่ต่อสู ท้ ้ งั สองฝ่ ายที่เพิ่งขึ้นสู่ สงั เวียนนั้น ชายวัยกลางคนที่
สวมเสื้ อคลุมสี ดาํ คือศิษย์พี่โจว ขณะที่สาวน้อยเสื้ อคลุมสี ขาวคือ
ศิษย์พี่หวัง
ทั้งคู่เคยดวลกันมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งศิษย์พี่โจวก็เอาชนะศิษย์พี่หวัง
ได้บ่อยครั้งกว่า
ไม่นานหลังจากทั้งสองตัดสิ นใจเสร็ จสิ้ น การดวลก็เริ่ ม
เป็ นอย่างที่ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาคาดการณ์ไว้ ศิษย์พี่โจวเป็ นฝ่ าย
รุ กตั้งแต่แรก ทุกการโจมตีของเขาแม่นยําและเฉียบคม สร้างความ
กดดันหนักหน่วงให้ศิษย์พี่หวัง ในที่สุด ฝ่ ายหลังก็ถูกบีบให้ล่าถอย
ครั้งแล้วครั้งเล่า ดูเหมือนเธอไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลย
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาชําเลืองมองจางเซวียนและคํารามเยาะในใจ
ฮ่า…รอดูไปเถอะ เดี๋ยวคุณก็หมดตัว!
ดูเหมือนเขาน่าจะเรี ยก 10 เหรี ยญที่เสี ยไปเมื่อครู่ กลับคืนมาได้ แถม
ยังได้กาํ ไรอย่างงามด้วย
ที่สงั เวียนประลอง การดวลดําเนินไปจนถึงจุดที่ศิษย์พี่หวังในเสื้ อ
คลุมสี ขาวถอยไปจนสุ ดขอบสังเวียน ดูเหมือนเธอพร้อมจะร่ วงลงมา
ได้ทุกขณะ แต่ดว้ ยการเปลี่ยนแปลงท่วงท่าอย่างปุบปั บ เธอก็หลบ
ไปด้านข้างได้ทนั ท่วงทีราวกับเสื อดาวผูว้ อ่ งไว
กระบวนท่านี้ทาํ ให้การโจมตีของศิษย์พี่โจวในเสื้ อคลุมสี ดาํ ไม่เป็ น
ผล การโจมตีครั้งนี้หนักหน่วงมาก เพราะเขาตั้งใจจะจบการดวลให้
สําเร็ จเสร็ จสิ้ น แต่เมื่อมันพลาดเป้า จึงกลายเป็ นความผิดพลาดครั้ง
ใหญ่ เมื่อรู ้ตวั แล้วว่ากลายเป็ นเป้านิ่ง ศิษย์พี่โจวรี บยับยั้งการ
เคลื่อนไหวและพยายามถอยเพื่อเรี ยกความสมดุลกลับมา
แต่โชคร้ายที่ยงั ไม่ทนั จะได้ทาํ แบบนั้น ดาบเล่มหนึ่งก็จ่ออยูท่ ี่ลาํ คอ
ของเขา
ด้วยเหตุน้ ี ศิษย์พี่โจวในเสื้ อคลุมสี ดาํ จึงเป็ นฝ่ ายแพ้!
“ขอโทษเถอะ แต่ผมคิดว่าตานี้ผมก็ชนะ!” จางเซวียนพูดพร้อมกับ
หัวเราะหึ ๆ
ตอนที่ 1967 พนัน (2)
เมื่อแพ้ 2 ตาติดต่อกัน ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาอ้าปากค้าง แม้จะไม่
เต็มใจ แต่กย็ นื่ เงิน 30 เหรี ยญสํานักดาบให้จางเซวียน
ที่หอนิรันดร์ของสํานักดาบเมฆเหิ นมีการดวลเกิดขึ้นเสมอ ทันทีที่
การดวลครั้งก่อนเสร็ จสิ้ น นักสู ค้ ู่ใหม่กจ็ ะปรากฏตัวบนสังเวียน
ทันที
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาลังเลอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะมองหน้าจางเซวียนอีก
ครั้ง
“คุณกล้าพนันต่อไหม?”
เรื่ องจริ งก็คือโดยปกติเขาทําเงินได้มากมายจากการพนันขันต่อเหล่านี้
นี่เป็ นครั้งแรกที่เขาต้องสู ญเสี ยหนัก
“แน่นอน! คราวนี้ผมควรเป็ นฝ่ ายได้เลือกก่อน ถูกไหม?” จางเซวียน
ถามยิม้ ๆ
“เชิญ” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาพยักหน้า
“ผมแทงว่าชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี ขาวคนนั้นจะชนะ…พนัน 60 เหรี ยญ
สํานักดาบ!” จางเซวียนพูดขณะมองไปที่สงั เวียนประลอง
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาเหลือบมองสังเวียนประลองก่อนพยักหน้ารับ
“ได้ ผมแทงเจ้าหนุ่มเสื้ อคลุมสี ดาํ ก็แล้วกัน!”
คราวนี้เขารู ้จกั คู่ต่อสู บ้ นสังเวียนเพียงฝ่ ายเดียว คือชายหนุ่มเสื้ อคลุม
สี ดาํ , ศิษย์พี่ตู ้ ส่ วนชายเสื้ อคลุมสี ขาวนั้นเขาไม่รู้วา่ เป็ นใคร
แต่กเ็ ป็ นที่รู้กนั ในสํานักดาบเมฆเหิ นว่าศิลปะเพลงดาบของศิษย์พี่ตู ้
นั้นไร้เทียมทาน มีศิษย์สายตรงฝ่ ายในเพียง 10 คนเท่านั้นที่เทียบชั้น
กับอีกฝ่ ายได้ ถึงเขาจะไม่รู้วา่ ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี ขาวเป็ นใคร แต่ก็
ไม่น่าจะเป็ น 1 ใน 10 คนนั้น ด้วยเหตุน้ ี ชัยชนะของศิษย์พี่ตูจ้ ึงเป็ น
อันรับประกันได้!
สองฝ่ ายเริ่ มปะทะกัน ไม่ชา้ การต่อสู ก้ จ็ บลง
เป็ นอย่างที่อีกฝ่ ายคาดไว้ ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี ขาวเป็ นผูช้ นะ ศิษย์พี่ตู ้
พ่ายแพ้!
“เฮ้ย…เป็ นแบบนี้ได้ไง?”
เมื่อแพ้ถึง 3 ตาติดต่อกัน ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาเริ่ มตื่นตระหนก
หลายปี ที่ผา่ นมา เขาทําเงินจากการพนันขันต่อได้ไม่นอ้ ย แต่กไ็ ม่
อาจเสี ยเงินมากขนาดนี้ได้!
จางเซวียนมองความปั่ นป่ วนของชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาครู่ หนึ่งก่อน
จะถามยิม้ ๆ “พนันต่อไหม?”
“คือ…”
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทามองสังเวียนประลองอีกครั้ง นักสู ค้ ู่ใหม่ข้ ึน
ไปอยูบ่ นสังเวียนแล้ว แต่คราวนี้เขาไม่มีทีท่าผ่อนคลายเหมือนเดิม
แผ่นหลังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ
เขาแพ้ถึง 3 ตาติดกัน เป็ นเงินถึง 100 เหรี ยญสํานักดาบแล้ว ไม่อาจ
เสี ยเงินมากกว่านี้ได้อีก
แต่ถา้ เขาไม่พนันต่อ ก็จะต้องเสี ยทั้ง 100 เหรี ยญสํานักดาบนี้ไป นัน่
เป็ นสิ่ งที่เขารับไม่ได้เช่นกัน!
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาคิดไม่ตก ก่อนในที่สุดจะกัดฟันและตัดสิ นใจ
เด็ดขาด “ก็ได้ ผมจะพนันกับคุณอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมเลือกก่อนนะ!”
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาไม่รู้ตวั ว่าตัวเองตกเป็ นเหยือ่ ของยุทธวิธีการ
พนันแบบที่เขาใช้อยูบ่ ่อย ๆ
ยิง่ ใครคนหนึ่งสู ญเสี ยมากเท่าไหร่ ก็ยงิ่ กระเสื อกกระสนอยากชดเชย
ความเสี ยหายของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ส่ วนลึกในหัวใจจะบอกว่า
ในเมื่อเสี ยไปมากแล้ว ก็ถึงเวลาเอาคืน แต่ความคิดแบบนี้มีแต่จะฉุด
ผูน้ ้ นั ให้ดาํ ดิ่งลงสู่ ความสิ้ นหวัง
“ตามสบาย!” จางเซวียนผายมืออย่างสุ ภาพบุรุษ
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาใคร่ ครวญถ้วนถี่ก่อนจะพูดว่า “คราวนี้ผม
เลือกเจ้าหนุ่มเสื้ อคลุมสี ขาว!”
ก็เหมือนกับคราวก่อน เขารู ้จกั คู่ต่อสู บ้ นสังเวียนประลองเพียงฝ่ าย
เดียวเท่านั้น และนัน่ คือศิษย์นอ้ งหลัวที่สวมเสื้ อคลุมสี ขาว
แม้จะอายุยงั น้อย แต่ศิษย์นอ้ งหลัวก็เป็ นอัจฉริ ยะผูป้ ราดเปรื่ อง เพิง่
เข้าสู่ สาํ นักได้เพียง 2 ปี แต่กม็ ีชื่อเสี ยงโด่งดังในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ าย
ในแล้ว ต่อให้ตวั เขาก็ยงั ต้องพ่ายแพ้ให้ศิษย์นอ้ งหลัว!
ถ้าใครสักคนจะมีโอกาสเอาชนะได้มากกว่า ก็จะต้องเป็ นศิษย์นอ้ ง
หลัวแน่นอน
“ในเมื่อคุณเลือกเจ้าหนุ่มเสื้ อคลุมสี ขาว ผมก็คิดว่า…” จางเซวียน
มองคู่ต่อสู ท้ ้ งั สองฝ่ ายอย่างตั้งอกตั้งใจก่อนจะเอ่ยถาม “จะเป็ นอะไร
ไหมถ้าผมจะแทงว่าการดวลครั้งนี้ออกมาเสมอกัน?”
“เสมอกัน?” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาถึงกับผงะ
การดวลในหอนิรันดร์ต่างจากการดวลในโลกของความเป็ นจริ งมาก
ในโลกของความเป็ นจริ ง เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บสาหัสหรื อแม้แต่
ความตาย คู่ต่อสู ส้ องฝ่ ายที่มีพละกําลังทัดเทียมกันจึงมักจะเลือกลง
เอยด้วยการเสมอ
แต่สาํ หรับหอนิรันดร์ ไม่มีความจําเป็ นต้องกังวลเรื่ องนั้น ด้วยเหตุน้ ี
เหล่านักรบจึงมักสู ก้ นั จนหยดสุ ดท้าย บ่อยครั้งที่ลงเอยด้วยความตาย
ของอีกฝ่ าย
มีแต่ในสถานการณ์ที่พิเศษจริ ง ๆ เท่านั้นถึงจะเกิดการเสมอกันขึ้น
แต่หมอนี่กลับเลือกแทงเสมอทั้งที่มีความเป็ นไปได้นอ้ ยเต็มที สติสตัง
ยังอยูด่ ีหรื อเปล่า?
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาพยายามหุบยิม้ แล้วย้อนถามด้วยนํ้าเสี ยงเรี ยบ
เฉย “คุณแน่ใจนะ?”
“ผมแน่ใจ แต่จะว่าไป ผมก็รู้วา่ โอกาสเสมอกันมีนอ้ ยมาก เพราะฉะนั้น
ผมขอแต้มต่อสู งขึ้นได้ไหม?” จางเซวียนถาม
“คุณพูดถูก โดยปกติ แต้มต่อของการแทงเสมอคือ 5 เท่า” ชายหนุ่ม
เสื้ อคลุมสี เทาตอบ
“เยีย่ ม ถ้าอย่างนั้นผมแทง 120 เหรี ยญสํานักดาบ!” จางเซวียนพูด
ด้วยความกลัวว่าจางเซวียนจะคืนคํา ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทารี บตอบ
ตกลง “ผมไม่มีปัญหา!”
การแทงเสมอไม่ต่างอะไรกับการยืน่ เงินใส่ มืออีกฝ่ าย ในที่สุดเขาก็
จะได้ชดเชยสิ่ งที่เสี ยไปสักที!
ทันทีที่ท้ งั คูต่ กลงกันได้ การดวลบนสังเวียนก็เริ่ ม
ตั้งแต่ตน้ เห็นได้ชดั ว่าคู่ต่อสู ท้ ้ งั สองฝ่ ายล้วนเป็ นนักรบผูไ้ ร้เทียม
ทาน กระแสดาบฉีแผ่ซ่านไปทัว่ ทั้งสังเวียนประลอง พร้อมจะฉีก
กระชากอีกฝ่ ายให้เป็ นชิ้น ๆ อย่างไร้ความปรานี กระบวนท่าเพลง
ดาบอันงดงามถูกสําแดงออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เรี ยกเสี ยงเชียร์
กึกก้องจากฝูงชนที่อยูด่ า้ นล่าง
ศิษย์นอ้ งหลัวในเสื้ อคลุมสี ขาวจัดว่าเก่งกาจมาก การโจมตีของเขาดุดนั
ราวกับอสู รร้าย แต่คู่ต่อสู ท้ ี่เขาเผชิญหน้าก็ไม่ได้อ่อนแอ แม้การต้อง
รับมือกับการโจมตีอย่างไม่ลดละของศิษย์นอ้ งหลัวจะทําให้เขาซวน
เซไปบ้าง แต่กย็ งั ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้เวลาจะผ่านไประยะหนึ่งแล้ว
ทั้งคู่แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างนั้นกว่า 300 ครั้ง แต่กไ็ ม่ปรากฏ
ผลแพ้ชนะ
“ศิษย์นอ้ งหลัว คุณทําได้น่ะ!”
ขณะที่การต่อสู ย้ ดื เยื้อออกไปเรื่ อย ๆ ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาก็เริ่ มจะ
ตื่นตระหนก แผ่นหลังของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่ออีกครั้ง
การดวลยืดเยื้อยาวนานแบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย บางทีอาจมีแค่
เดือนละหนเท่านั้น ใครจะไปรู ้วา่ เขาจะโชคดีถึงขนาดมาเจอกับการ
ดวลแบบนี้ในช่วงเวลาที่กาํ ลังเข้าตาจน?
นักสู ท้ ้ งั สองฝ่ ายปะทะกันอีกกว่า 100 ครั้ง แต่กไ็ ม่มีใครได้เปรี ยบ
อย่างชัดเจน ถ้าจะมี ก็ดูเหมือนพวกเขาทําได้แค่บนั่ ทอนพละกําลัง
ของอีกฝ่ ายเท่านั้น
ในที่สุด ศิษย์นอ้ งหลัวในเสื้ อคลุมสี ขาวก็กระโจนถอยไปและพูดว่า
“สหาย ผมยอมรับว่าศิลปะเพลงดาบของคุณไม่ธรรมดา คุณได้รับ
ความชื่นชมจากผม แต่ผมไม่คิดว่าการที่เราดวลกันต่อไปเรื่ อย ๆ
แบบนี้จะมีประโยชน์อะไร ต่อให้ใครคนหนึ่งได้ชยั ชนะ ก็ชนะแบบ
ไม่สง่างาม ทําไมเราไม่เสมอกันในวันนี้ แล้วค่อยมาดวลกันใหม่วนั
หลังล่ะ?”
อีกฝ่ ายพยักหน้ารับ “ผมก็คิดแบบนั้นแหละ!”
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทารู ้สึกเหมือนโลกรอบตัวเขามืดมิด แทบลมจับ
ตรงนั้น
เขามาเจอการดวลแบบไม่ธรรมดาเข้า และนัน่ ก็จาํ เพาะเจาะจงจะต้อง
เป็ นการดวลนัดที่เขาพนันกับอีกคนหนึ่งเสี ยด้วย
“ไม่น่ะ ดูเหมือนผมจะชนะอีกแล้ว” จางเซวียนชําเลืองมองชายหนุ่ม
เสื้ อคลุมสี เทา
แน่นอนว่าเหตุผลที่เขาชนะไม่ใช่แค่ความสามารถในการหยัง่ รู ้ ที่
สําคัญกว่านั้นก็คือเขาใช้หอสมุดเทียบฟ้า หอสมุดเทียบฟ้าทําให้จาง
เซวียนมองทะลุท้ งั ศิลปะเพลงดาบ สภาวะจิต และเทคนิคการต่อสู ท้ ี่
คู่ต่อสู แ้ ต่ละฝ่ ายได้ฝึกฝน
ในเมื่อทุกคนมีระดับวรยุทธเท่ากัน ความเหลื่อมลํ้าของความแข็งแกร่ ง
ของสภาวะจิตและเทคนิคการต่อสู จ้ ึงส่ งผลให้ประสิ ทธิภาพการต่อสู ้
ที่แต่ละคนสําแดงออกมาแตกต่างกันมาก
ก็เพราะข้อมูลดังกล่าวที่ทาํ ให้จางเซวียนตัดสิ นใจได้อย่างถูกต้อง
แม่นยําว่าใครจะเป็ นผูช้ นะ และชนะพนันด้วย
“ผมแทงเสมอ ซึ่ งก็อย่างที่คุณพูดไว้ เงินที่ได้จะเพิ่มเป็ น 5 เท่า” จาง
เซวียนพูด “เพราะฉะนั้น คุณต้องจ่ายผมมา 600 เหรี ยญสํานักดาบ!”
“600 เหรี ยญสํานักดาบ?” ได้ยนิ คํานั้น ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาตัว
แข็งด้วยความพรั่นพรึ ง
หมอนี่ตอ้ งเป็ นแฮกเกอร์แน่ ๆ !
ไม่อย่างนั้น จะทํานายผลการดวลทุกนัดได้แม่นยําขนาดนี้ได้อย่างไร?
เขาทําเงินได้เสมอจากการเป็ นเจ้ามือ แต่ใครจะไปรู ้วา่ จะต้องสู ญเสี ย
เงินที่มีไปเกือบทั้งหมดภายใน 10 นาที…เรื่ องนี้ทาํ ให้เขาแทบบ้า!
10 ปี แล้วที่เขาได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายใน และได้สะสมเงินไว้จาํ นวน
หนึ่งจากการปฏิบตั ิภารกิจต่าง ๆ และการสวมบทบาทเป็ นเจ้ามือรับ
พนัน แต่ถึงอย่างนั้น เงินเก็บของเขาก็ยงั มีไม่ถึงพันเหรี ยญ ยังไม่ทนั
รู ้ตวั ก็ตอ้ งเสี ยมันไปเกือบหมดแล้ว!
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาหน้าตาเคร่ งเครี ยดขณะกัดฟันพูด “ผมไม่มี
เหรี ยญสํานักดาบอยูก่ บั ตัวมากขนาดนั้นหรอก”
“คุณไม่มีเงินจ่าย? มันเป็ นการพนันแบบแฟร์ ๆ นะ แต่คิดจะชักดาบ
หรื อ?” จางเซวียนถามขณะที่รอยยิม้ ของเขาค่อย ๆ จางหายไป
“ก็ใช่น่ะสิ ! 600 เหรี ยญสํานักดาบน่ะ…ผมไม่จ่ายคุณหรอก แล้วคุณ
จะทําอะไรได้?” ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาคําราม “คุณรู ้หรื อไงว่าผม
คือใคร และจะหาตัวผมได้ที่ไหน?”
เพราะการพนันเป็ นสิ่ งต้องห้ามในสํานักดาบเมฆเหิ น เขาจึงเปลี่ยน
ไปใช้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลอีกอันหนึ่งเมื่อสวมบทบาทเจ้ามือ
เว้นเสี ยแต่ศิษย์สายตรงอีกสองสามคนที่ทาํ งานร่ วมกับเขา ก็ไม่มี
ใครรู ้วา่ ตัวตนที่แท้จริ งของเขาเป็ นใคร
“เฮ้ออออ…..” จางเซวียนส่ ายหน้าราวกับจะเยาะเย้ยความไร้เดียงสา
ของชายหนุ่ม
จากนั้น เขาก็เตะชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาโดยไม่ลงั เล
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทาถึงกับผงะ เขารี บไถลตัวไปด้านข้างเพื่อหลบ
การโจมตี นัยน์ตาของเขาฉายแววเคร่ งเครี ยดออกมาขณะพูดว่า “คุณ
จะเล่นงานผมตรงนี้เลยหรื อ? ลืมไปแล้วหรื อไงว่าเราอยูใ่ นหอนิรันดร์?
ต่อให้คุณฆ่าผม ทั้งหมดที่ผมจะเสี ยไปก็คือตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
อันหนึ่งเท่านั้น ไม่วา่ คุณจะทําอะไรที่นี่ มันก็ไม่ก่อให้เกิดความ
แตกต่างอะไรกับผมหรอก!”
“อย่างนั้นหรื อ?” จางเซวียนเอาสองมือไพล่หลังขณะมองหน้าชาย
หนุ่มเสื้ อคลุมสี เทา “ผมคิดว่าผมจะไปขอเข้าพบผูอ้ าวุโสหานแห่ง
ยอดเขาเมฆขาว แล้วแจ้งให้เขาทราบว่าศิษย์สายตรงคนหนึ่งภายใต้
การดูแลของเขาเปิ ดบ่อนการพนันที่ฝ่าฝื นกฎเกณฑ์ข้ ึนในหอนิรันดร์
จะว่าไป นี่กเ็ ป็ นเรื่ องใหญ่เอาการนะ จริ งไหม? คุณไม่คิดหรื อว่าเขา
จะรี บสอบสวนเรื่ องนี้ทนั ที และเล่นงานเจ้างัง่ อวดดีพวกนั้นที่กล้าฝ่ า
ฝื นกฎของสํานัก?”
“ผมอยากรู ้เหลือเกินว่าเขาจะทําอะไรกับเจ้างัง่ พวกนั้น…อ้อ ในเมื่อ
คุณถามผม ผมก็คิดว่ามีความเป็ นไปได้ที่ผอู ้ าวุโสหานจะขับเจ้างัง่
อวดดีพวกนั้นออกจากสํานัก! คุณมีความเห็นต่อเรื่ องนี้อย่างไรล่ะ,
ศิษย์พี่จูเหยียนจื่อ?”
“คุณ…”
ชายหนุ่มเสื้ อคลุมสี เทา, จูเหยียนจื่อ ถอยกรู ดด้วยความหวาดกลัวราว
กับเห็นปี ศาจ ยังไม่ทนั ที่เขาจะรู ้ตวั แผ่นหลังก็เปี ยกโชก
“คุณรู ้ได้อย่างไรว่าผมเป็ นใคร?”
ตอนที่ 1968 ผมน่ ะถ่ อมตัว
มีศิษย์สายตรงหลายตระกูลและหลายระดับในสํานักดาบเมฆเหิ น
แต่ละคนอยูภ่ ายใต้การดูแลของผูอ้ าวุโสคนหนึ่ง
ชายวัยกลางคนเสื้ อคลุมสี เทาผูน้ ้ ีเป็ นศิษย์สายตรงภายใต้การดูแล
ของผูอ้ าวุโสหานแห่งยอดเขาเมฆขาว ชื่อของเขาคือจูเหยียนจื่อ
รู ้ดีถึงความเสี่ ยงจากการทําตัวเป็ นเจ้ามือรับพนันโดยฝ่ าฝื นกฎเกณฑ์
จูเหยียนจื่อมีมาตรการป้องกันตัวมากมาย ทั้งปรับเปลี่ยนรู ปร่ าง
หน้าตา นํ้าเสี ยง ถึงกับเปลี่ยนแปลงบุคลิกด้วย ในสถานการณ์ปกติ
ไม่ควรจะมีใครดูออกว่าเขาเป็ นใคร แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับเรี ยกชื่อ
เขาออกมาได้อย่างเต็มปาก จะไม่ให้ตกตะลึงได้อย่างไร?
“ผมไม่ได้แค่รู้วา่ คุณเป็ นใครนะ ยังรู ้ดว้ ยว่าคุณมีเงินอยูก่ บั ตัว 973
เหรี ยญสํานักดาบ ต่อให้คุณต้องจ่ายไป 600 เหรี ยญ ก็ยงั เหลืออีก
บานเบอะ มาโกหกผมแบบนั้นน่ะไม่สวยเลย ไม่รู้หรื อว่าความ
จริ งใจเป็ นสิ่ งสําคัญสู งสุ ดในการทํามาค้าขาย?” จางเซวียนพูดด้วย
นํ้าเสี ยงเรี ยบเฉย ๆ
จูเหยียนจื่อรู ้สึกเหมือนถูกผลักตกลงไปในบ่อนํ้าแข็ง เขาถอยกรู ดไป
โดยไม่รู้ตวั
มีคนจํานวนหนึ่งที่ทาํ ตัวเป็ นเจ้ามือรับพนันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ใน
หอนิรันดร์ ดังนั้น หากจะมีใครสักคนสื บเสาะเรื่ องนี้ การขุดราก
ถอนโคนตัวเขาก็ใช่วา่ จะเป็ นไปไม่ได้ แต่เงินส่ วนตัวที่เขามีเป็ น
ความลับที่มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดยังไม่รู้เลย! แล้ว
หมอนี่รู้ได้อย่างไร?
“คุณเป็ นใคร? มาล้วงลึกเรื่ องราวของผมทําไม?” จูเหยียนจื่อกําหมัด
แน่นอย่างระแวง
ถ้าอีกฝ่ ายไม่รู้วา่ เขาเป็ นใคร เขาก็แค่ออกจากหอนิรันดร์ไปและจบ
ทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้ หมอนัน่ ไม่มีทางหาตัวเขาพบอยูแ่ ล้ว แต่เมื่อ
ถูกเปิ ดโปงตัวตนที่แท้จริ ง การหลบหนีกไ็ ร้ประโยชน์
“ผมคือ ‘ผมน่ะถ่อมตัว’ ส่ วนที่ผมล้วงลึกเรื่ องราวของคุณ…ขอบอก
เลยว่าคุณคิดมากไปแล้วล่ะ ขอแค่คุณจ่ายส่ วนของผมมา ผมก็ไม่สน
สักนิดว่าแท้ที่จริ งแล้วคุณเป็ นใคร!” จางเซวียนตอบ
“ผมน่ะถ่อมตัว?” ได้ยนิ ชื่อนั้น จูเหยียนจื่อถึงกับมึนหัว
แม้นกั รบทัว่ ไปจะใช้สมญานามได้ตามใจในหอนิรันดร์ แต่ส่วนมาก
พวกเขาก็จะเลือกวลีที่มีความหมายลํ้าลึกหรื อสร้างความยิง่ ใหญ่
ให้กบั ชื่อของตัวเอง แต่สมญาของหมอนี่ช่าง…
ถ่อมตัวบ้านคุณน่ะสิ !
เพิ่งมาถึงได้แป๊ บเดียว ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็ดูดเงิน 700 เหรี ยญ
สํานักดาบไปจากผมแล้ว คุณเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับคําว่า ‘ถ่อมตัว’
หรื อเปล่า?
อย่าเอาคํานี้มาบิดเบือนได้ไหม?
จูเหยียนจื่อลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง เขาแสนจะไม่เต็มใจ แต่รู้ดีวา่ ไม่มีทางเลือก
จึงเงยหน้ามองขึ้นอีกฝ่ ายและพูดว่า “ก็ได้ ผมยอมแพ้ แต่เมื่อผมจ่าย
เงินส่ วนของคุณแล้ว ผมจะเชื่อใจคุณได้ไหมว่าคุณจะเก็บความลับ
เรื่ องตัวตนของผมได้?”
จูเหยียนจื่อรู ้ดีวา่ ต่อให้เขาสังหารอีกฝ่ ายก็ไม่ช่วยให้อะไรดีข้ ึน หมอ
นัน่ ก็แค่สูญเสี ยตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลไปอันหนึ่ง แต่ยงั สามารถ
เปิ ดเผยเรื่ องราวของเขาได้ทุกเมื่อ
เขากําลังเพลี่ยงพลํ้าอย่างหนัก ทั้งหมดที่ทาํ ได้คือพยายามเจรจา
สันติภาพและหวังว่าอีกฝ่ ายจะปรานี
“แน่นอน” จางเซวียนพยักหน้า
เขาไม่แยแสสักนิดว่าหมอนี่เป็ นเจ้ามือรับพนันหรื อเป็ นอะไร เพราะ
ตัวเขาก็ไม่ใช่เจ้าสํานักหรื อผูอ้ าวุโสสักหน่อย ทั้งหมดที่เขาอยากทํา
ก็คือถ่อมเนื้อถ่อมตัวไว้และหาเงินเท่านั้น
“ผมจะเชื่อใจคุณนะ…” จูเหยียนจื่อหลุดปากอย่างลังเลขณะแตะเบา ๆ
ที่บตั รนิรันดร์
พริ บตาต่อมา จางเซวียนก็เห็นเงิน 600 เหรี ยญสํานักดาบเพิ่มขึ้นใน
บัตรนิรันดร์ของเขา เขาพยักหน้าอย่างพอใจ “ถ้าคุณยังอยากพนัน
กับผมอยูล่ ่ะก็ เรี ยกหาผมได้ทุกเมื่อนะ หรื อหาเพื่อนมาพนันแทนก็
ได้ ผมไม่มีปัญหา!”
“อะ-เอ่อ ไม่เป็ นไร การพนันน่ะไม่ดีนกั หรอก ผมว่าจะเบนเข็มไป
หาอย่างอื่นทํา…” จูเหยียนจื่อมีสีหน้าเคร่ งเครี ยด เขาหันหลังกลับ
แล้วรี บจากไป
จูเหยียนจื่อไม่อยากอยูต่ ่ออีกแม้แต่วนิ าทีเดียว เขาเกรงว่าหากตัวเอง
เกิดโมโหเดือดจนลืมตัวขึ้นมา อาจโง่เง่าจนตกปากรับข้อเสนอของ
หมอนัน่ และพนันต่อ เขาไม่อาจเสี ยเงินที่เหลืออยูเ่ พียงน้อยนิดได้อีก
แล้ว!
สาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาคนเมื่อครู่ สงั เกตเห็นจูเหยียนจื่อจากไป จึงรี บ
ตามไปติด ๆ เธอมีสีหน้าอิจฉาขณะตั้งคําถาม “เป็ นอย่างไรบ้าง? สู บ
เงินไอ้งงั่ นัน่ ได้เท่าไหร่ ?”
“ไอ้งงั่ ?” คํานั้นทําให้จูเหยียนจื่อหวนนึกถึงสิ่ งที่ตวั เองเคยพูด เขา
แทบปล่อยโฮ “ผมต่างหากที่เป็ นฝ่ ายเสี ย!”
เมื่อ 10 นาทีก่อน เขายังคิดว่าได้พบถุงเงินถุงทองที่สามารถถลุงได้
ตามใจ แต่ไม่ทนั ไร ตัวเขาเองกลับถูกถลุงจนเกลี้ยง
“คุณแพ้หรื อ?” สาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาถึงกับจังงัง
จูเหยียนจื่ออึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะเล่าเรื่ องทั้งหมดให้สาวน้อยเสื้ อ
คลุมสี เทาฟังด้วยความหงุดหงิด เมื่อจบเรื่ อง อีกฝ่ ายก็แทบลมจับ
“เมื่อครู่ น้ ีคุณบอกว่าหมอนัน่ ไม่เพียงแต่คาดเดาผลการต่อสู ไ้ ด้อย่าง
แม่นยํา ยังรู ้ภูมิหลังของคุณด้วย?”
“ก็ใช่น่ะสิ ดูเหมือนหมอนัน่ มีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ เขาน่าจะมาที่นี่
เพื่อทําลายกิจการของเราแน่! ฮึ่มมม! เขาคิดจริ ง ๆ หรื อว่าจะลอยนวล
ไปพร้อมกับเงินนี้ได้? สบประมาทพวกเราเกินไปแล้วล่ะ! เหยียนจื่อ,
คุณอยากได้เงินคืนไหม?” สาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาตั้งคําถามด้วย
นัยน์ตาเป็ นประกาย
“อยากสิ แต่…ผมจะเอาเงินคืนจากเขาได้อย่างไร?” จูเหยียนจื่อถอน
หายใจอย่างจนปัญญา
“ง่ายนิดเดียว! เราก็แค่พนันกับเขาต่อ” สาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาตอบ
ยิม้ ๆ
“พนันต่อ?” จูเหยียนจื่อถึงกับพูดไม่ออก “แต่เขาคาดเดาผลการต่อสู ้
ได้ถูกต้องแม้กระทัง่ การแทงเสมอนะ คุณคิดว่าเราจะเอาชนะคน
แบบนั้นได้หรื อ?”
“สมงสมองไปหมดแล้วหรื อไง? เหตุผลที่เขารู ้สถานการณ์ของ
สังเวียนประลองเป็ นอย่างดีจะต้องเป็ นเพราะเขามีขอ้ มูลวงใน…มี
ความเป็ นไปได้วา่ เขาร่ วมมือกับฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งเพื่อเล่นตุกติกกับ
คุณ!” สาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาตอบ
“เอ่อ…” จูเหยียนจื่อครุ่ นคิดหนัก
ก็จริ ง คนที่จะชนะพนันซํ้าแล้วซํ้าอีกได้กต็ อ้ งใช้การคดโกงเท่านั้น
เขามัวหมกมุ่นอยูก่ บั การต้องสู ญเสี ยเงินก้อนใหญ่จนลืมนึกถึงความ
จริ งข้อนี้ แต่เมื่อสาวน้อยชี้ให้เห็น ก็น่าสงสัยจริ งว่าหมอนัน่ คาดเดา
ผลการต่อสู ไ้ ด้ถูกต้องแม้แต่การแทงเสมอได้อย่างไร
จูเหยียนจื่อพลันรู ้ตวั ทันทีวา่ ตัวเองถูกโกง!
หมอนัน่ จะต้องมีนอกมีในกับคู่ต่อสู บ้ นสังเวียนประลองเพื่อเล่น
ตุกติกกับเขา ไม่อย่างนั้น เรื่ องบังเอิญแบบนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นครั้ง
แล้วครั้งเล่า!
“แล้วคุณคิดว่าเราควรทําอย่างไรล่ะ?”
ความคิดนี้ขจัดความกลัวในหัวใจของจูเหยียนจื่อให้หมดสิ้ นไป
โทสะเข้ามาแทนที่
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครพยายามคดโกงเขาแบบนี้ ดูเหมือน
เขาทําตัวสงบเสงี่ยมมานานเกินไปเสี ยแล้ว!
“เขาอาจควบคุมผลการดวลบนสังเวียนประลองได้ แต่ควบคุมคุณ
กับฉันไม่ได้นี่ เราท้าทายเขาเข้าสู่ การดวล แล้วตั้งเงื่อนไขให้เขาคืน
เงินมาทั้งหมดรวมทั้งปิ ดปากเงียบ เท่านั้นก็สิ้นเรื่ อง! คุณอาจเสี ยเงิน
ไปเยอะ แต่ขอแค่เอาชนะครั้งนี้ได้ครั้งเดียว ก็จะได้ทุกอย่างกลับคืน
มา” สาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาตอบ
“แล้วเขาจะยอมหรื อ? อีกอย่าง ผมก็ไม่รู้วา่ แท้ที่จริ งแล้วเขาทรงพลัง
แค่ไหน เราจะเอาชนะเขาได้จริ ง ๆ หรื อเปล่า?” จูเหยียนจื่อค่อนข้าง
ลังเล
แน่นอนว่าหากเขาเอาชนะได้กย็ อ่ มดีที่สุด แต่ถา้ แพ้อีกล่ะก็…เขาจะ
ไม่เหลืออะไรเลย!
“วางใจเถอะน่ะ เขาต้องรับคําท้าแน่ ฉันไม่รู้ตวั ตนของเขา แต่ในเมื่อ
เขากล้ารวมหัวกับพวกที่ข้ ึนดวลก่อนหน้านี้ ฉันก็มีวธิ ีการของฉัน
เองที่จะเปิ ดโปงเขาให้ได้! เราสามารถใช้ตวั ตนที่แท้จริ งของเขาเพื่อ
ข่มขู่ให้เขาตอบรับคําท้าดวล ส่ วนเราจะเอาชนะเขาได้หรื อไม่น้ นั ยัง
ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ หากเอาชนะได้กย็ อ่ มดีที่สุด แต่ต่อให้ถอยไป
ก้าวหนึ่ง ถึงเราแพ้ ทุกอย่างก็ยงั เข้าข้างเราอยูด่ ี”
“ศิลปะเพลงดาบของพวกเราอาจไม่ได้เยีย่ มยอดที่สุดในบรรดาศิษย์
สายตรงฝ่ ายใน แต่กไ็ ม่เลวนัก หากเราทุ่มสุ ดตัวตั้งแต่เริ่ ม ก็น่าจะบีบ
ให้หมอนัน่ ใช้เทคนิคขั้นสู งสุ ดของตัวเขาได้ ต่อให้เราเอาชนะเขา
ไม่ได้กเ็ ถอะ ขอแค่เขาเปิ ดเผยไม้ตายออกมา การจะหาตัวว่าเขาคือ
ใครก็ยอ่ มง่าย ไม่ใช่หรื อ? จากนั้น เราก็มีอีกร้อยแปดวิธีที่จะทําให้
เขาคายเงินของคุณออกมา!”
“เอ่อ…” จูเหยียนจื่อตาโตด้วยความตื่นเต้น
จริ งด้วย!
ขอแค่ทาํ ให้อีกฝ่ ายยอมดวลกับพวกเขา ด้วยประสิ ทธิภาพการต่อสู ท้ ี่
ทั้งคู่มี ไม่มีศิษย์สายตรงฝ่ ายในคนไหนจะเอาชนะพวกเขาได้ ทันทีที่
อีกฝ่ ายเปิ ดเผยไม้ตาย การจะหาตัวว่าหมอนัน่ เป็ นใครก็ไม่ใช่เรื่ องยาก
พวกเขาเล่นการพนันก็จริ ง แต่หมอนัน่ ก็มีส่วนร่ วมด้วย แถมยัง
พยายามโกงผลการประลอง ซึ่ งเป็ นอาชญากรรมร้ายแรงกว่า ในกรณี
เลวร้ายที่สุด สํานักดาบเมฆเหิ นอาจสัง่ ระงับการฝึ กฝนวรยุทธของ
หมอนัน่ และขับเขาออกจากสํานักทันทีเพื่อมิให้เป็ นเยีย่ งอย่างแก่คน
อื่น ๆ
เพราะถึงอย่างไร การกระทําแบบนั้นก็ส่งผลเสี ยต่อความน่าเชื่อถือ
ของสํานัก!
ต่อให้เขาใช้เล่ห์กลบีบให้อีกฝ่ ายคืนเงินทุกเหรี ยญสํานักดาบมา หมอ
นัน่ ก็คงไม่กล้าปริ ปาก
“ตามนั้น!”
จูเหยียนจื่อคิดทบทวนอย่างรวดเร็ วจนแน่ใจว่าไม่มีปัญหา จากนั้น
ตัวเขากับสาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาก็เดินกลับไปหาจางเซวียนอีกครั้ง
“สหาย ผมขอเสนอให้คุณพนันกับผมอีกครั้ง”
“พนันอีกครั้ง?” จางเซวียนตาโต
เขาออกจะแปลกใจที่เห็นหมอนี่กลับมายืน่ ข้อเสนอพนันอีกทั้งที่เสี ย
เงินไปแล้วมากโข
สมกับที่เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในของสํานักดาบเมฆเหิ น ช่างตั้งตัวได้
เร็ วเหลือเกิน!
“ง่ายนิดเดียว เราทั้งคู่จะดวลกับคุณ ขอแค่คุณเอาชนะพวกเราได้ เรา
จะยอมแพ้ แต่ถา้ เราชนะ ผมขอให้คุณคืนทุกอย่างที่ผมเสี ยไปกลับมา
ให้ผม และให้คาํ มัน่ สัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่ องตัวตนที่แท้จริ งของ
ผมด้วย แต่เพราะคุณอยูใ่ นฐานะผูเ้ สี ยเปรี ยบในการท้าพนันครั้งนี้
เราจึงจะปล่อยให้คุณตั้งเดิมพันได้ตามใจ” จูเหยียนจื่อพูด
เพื่อปลอดภัยไว้ก่อน จูเหยียนจื่อตัดสิ นใจว่าทั้งตัวเขาและสาวน้อย
เสื้ อคลุมสี เทาจะเข้าร่ วมการประลอง เขาต้องการความมัน่ ใจในการ
ท้าพนันครั้งนี้
มีศิษย์สายตรงฝ่ ายในเพียงไม่กี่คนที่รับมือกับพวกเขาได้ในการดวล
ตัวต่อตัว แต่ไม่มีใครรับมือกับพวกเขาทั้งคู่ได้อย่างแน่นอน!
พูดอีกอย่างก็คือ ขอแค่อีกฝ่ ายตกปากรับคําท้า ก็ไม่มีทางที่พวกเขา
จะแพ้!
“คุณอยากดวลกับผมหรื อ? หากผมเอาชนะคุณทั้งคู่ได้ คุณจะยอมรับ
เดิมพันเท่าไหร่ กต็ าม…ตามแต่ที่ผมจะตั้งใช่ไหม?” จางเซวียนตาโต
ด้วยความตื่นเต้น
เขาอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ
เรื่ องนี้ทาํ ให้นึกถึงคําพังเพยที่วา่ กันว่า ‘ยืน่ หมอนให้ขณะที่ใกล้จะ
สัปหงก’ เขากําลังคิดอยูว่ า่ จะหาเงินเพิม่ ได้อย่างไร พระเจ้าก็มอบ
โอกาสใส่ มือเขา
ดูเหมือนโลกนี้จะมีผเู ้ สี ยสละอยูม่ ากมายจริ ง ๆ !
“ใช่แล้ว ถ้าคุณไม่ตกลงล่ะก็ ตามที่เราพนันกันเมื่อครู่ ผมรู ้วา่ ...”
เกรงว่าจางเซวียนจะหักหลัง จูเหยียนจื่อกําลังจะขู่สาํ ทับ ก็พอดีกบั ที่
เห็นชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
“ผมรับคําท้า! ขอตั้งเดิมพันที่ 720 เหรี ยญ ถ้าคุณแพ้ คุณจะต้องจ่าย
เงินจํานวนนี้ให้ผม!”
จูเหยียนจื่อกับสาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาไม่คิดว่าอีกฝ่ ายจะตอบตกลง
ง่าย ๆ ดูเหมือนทุกคําที่พวกเขา ตั้งใจเตรี ยมมาบีบบังคับหมอนี่
กลายเป็ นเรื่ องไร้ประโยชน์
ตอนที่ 1969 เพลงดาบหัวใจเปล่าเปลีย่ ว!
ทั้งคู่นึกลังเลในการตัดสิ นใจของตัวเองขึ้นมาครู่ หนึ่ง อีกฝ่ ายดู
กระตือรื อร้นเหลือเกิน กระตือรื อร้นเสี ยจนพวกเขาอดลังเลไม่ได้
แต่กพ็ ยายามให้ความมัน่ ใจกับตัวเองด้วยข้อเท็จจริ งที่วา่ ไม่มีศิษย์
สายตรงฝ่ ายในคนไหนที่สามารถเอาชนะพวกเขาทั้งคู่
จูเหยียนจื่อถอนหายใจอย่างโล่งอก “ถ้าอย่างนั้นก็มาเถอะ ไป
ลงทะเบียนสําหรับการขึ้นสังเวียนประลองกัน”
เพราะพวกเขาอยูใ่ นหอนิรันดร์ จึงใช้สมญานามในการลงทะเบียน
สมญานามของจูเหยียนจื่อคือเสาเส่ า
ส่ วนสมญานามของสาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทาคือแสงสนธยา
แน่นอนว่านัน่ ไม่ใช่ชื่อจริ งของทั้งคู่
การดวลส่ วนใหญ่จบลงในเวลาไม่นาน เพียงครู่ เดียวก็ถึงตาของพวก
เขา
“รอบต่อไป เสาเส่ าปะทะผมน่ะถ่อมตัว!” โฆษกประกาศ
“เสาเส่ าเป็ นชื่อที่ประหลาด แต่อย่างน้อยก็พอรับได้ ส่ วนผมน่ะถ่อม
ตัว…มันชื่อบ้าอะไร?”
“ผมสาบานเลยว่าทั้งชีวติ ไม่เคยได้ยนิ ชื่อไหนเลวร้ายกว่านี้!”
“ฮ่า! ถ่อมตัว คุณก็รู้ ผมน่ะอยากเห็นเหลือเกินว่าหมอนัน่ จะถ่อมตัว
ได้แค่ไหน…”
ฝูงชนส่ งเสี ยงเซ็งแซ่เมื่อชื่อของนักสู ท้ ้ งั สองถูกประกาศ
เป็ นธรรมดาที่จะใช้สมญานามที่ฟังดูยงิ่ ใหญ่ล้ าํ ลึกและสร้างความยํา
เกรง ดังนั้น สมญานามแบบผมน่ะถ่อมตัวจึงถือว่าผิดปกติมาก บาง
คนถึงกับสงสัยว่าหมอนี่สติดีหรื อเปล่า
“เริ่ มได้!”
บนสังเวียนประลอง จูเหยียนจื่อจ้องหน้าจางเวียนอย่างเย็นชาขณะ
สะบัดดาบ เขาปล่อยกระบวนท่าการจ้วงแทงออกมา 8 ครั้งติดต่อกัน
รวด สกัดกั้นกระบวนท่าของจางเซวียนไว้หมด
นี่คือเทคนิคสุ ดยอดของเขา เพลงดาบหัวใจเปล่าเปลี่ยว!
ใครที่ฝึกฝนศิลปะเพลงดาบนี้จนถึงขั้นสุ ดยอด จะสามารถจ้วงแทง
ได้ถึง 9 ครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็ ว มีการปรับเปลี่ยนรวมแล้วถึง 81
กระบวนท่า ขอแค่เขาสําเร็ จขั้นนั้น ก็จะไม่มีใครในหมู่ศิษย์สายตรง
ที่เทียบชั้นกับเขาได้
ถึงตอนนี้เขาจะยังอ่อนด้อยอยูส่ กั หน่อย แต่การจ้วงแทงถึง 8 ครั้งและ
การปรับเปลี่ยนได้ 64 กระบวนท่าก็เกินพอที่จะทําให้เขาเอาชนะ
ศิษย์สายตรงฝ่ ายในส่ วนใหญ่ได้แล้ว
และโดยเฉพาะเมื่ออยูใ่ นหอนิรันดร์ ที่ซ่ ึงทุกคนเป็ นแค่นกั ปราชญ์
โบราณขั้น 1 ก็แทบไม่มีใครเล่นงานเขาได้!
จูเหยียนจื่อไม่รู้วา่ อีกฝ่ ายทรงพลังแค่ไหน แต่เดิมพันก้อนใหญ่กค็ ้ าํ
คออยู่ เขาไม่กล้าปล่อยให้การ์ดตก จึงเลือกใช้กระบวนท่าที่ทรงพลัง
ที่สุดของตัวเองตั้งแต่เริ่ ม
เมื่อเจอกับการจ้วงแทงอย่างรวดเร็ วของจูเหยียนจื่อ จางเซวียนพยัก
หน้าด้วยอาการยอมรับ
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่หมอนี่กล้าท้าพนันกับเขาด้วยเดิมพันก้อนใหญ่
เขามีดีอยูพ่ อตัว!
แต่กน็ นั่ แหละ ใช้เทคนิคระดับนี้มาต่อกรกับจางเซวียน…บอกได้
เลยว่าทั้งหมดที่ทาํ ได้กแ็ ค่ข่เู ท่านั้น
แทนที่จะหลบ จางเซวียนเลือกเดินหน้าไปอีกก้าว
ทั้งที่มีการโจมตีพงุ่ เข้าใส่ มากมาย แต่กไ็ ม่มีสกั ครั้งที่จะเล่นงานจาง
เซวียนได้ ราวกับจูเหยียนจื่อจงใจควบคุมดาบของเขาไม่ให้ถูกตัว
จางเซวียน
ขะ-เขา…เขาพบจุดอ่อนของดาบที่ 9 หรื อ? เป็ นไปได้อย่างไร? หมอ
นี่เป็ นใครกันแน่?
จูเหยียนจื่อแทบไม่เชื่อสายตา
เพลงดาบหัวใจโดดเดี่ยวคือหนึ่งในศิลปะเพลงดาบชั้นยอดของบรรดา
ศิษย์สายตรงฝ่ ายใน หากใครคนหนึ่งสามารถสําแดงดาบทั้ง 9 ได้ใน
รวดเดียว เทคนิคนี้กจ็ ะจัดเป็ น 1 ใน 3 เทคนิคอันดับต้น ๆ
ถึงจูเหยียนจื่อจะฝึ กฝนได้ถึงแค่ดาบที่ 8 แต่กถ็ ือว่ายากจะรับมือไหว
แต่ถึงอย่างนั้น อีกฝ่ ายก็ดูเหมือนจะรู ้นอกรู ้ในของเทคนิคเป็ นอย่างดี
ทันทีที่จูเหยียนจื่อเริ่ มเคลื่อนไหว เขาก็พงุ่ ตรงเข้าใส่ จุดอ่อนที่เกิด
จากการไม่สามารถสําแดงดาบที่ 9 ของจูเหยียนจื่อได้พอดี
แม้เพลงดาบหัวใจโดดเดี่ยวจะทรงพลัง แต่กม็ ีขอ้ บกพร่ องใหญ่หลวง
อยู่ คือเป็ นศิลปะเพลงดาบที่ไม่สมบูรณ์แบบจนกว่าผูน้ ้ นั จะเชี่ยวชาญ
ถึงดาบที่ 9!
จางเซวียนทําลายความไม่สมบูรณ์แบบนี้และพุง่ เข้าใส่ จุดอ่อนที่เห็น
อย่างจัง ทําให้จูเหยียนจื่อไม่อาจเล่นงานอีกฝ่ ายได้ แม้จะอยากทําแค่
ไหนก็ตาม
ต่อให้ผฝู ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบที่แข็งแกร่ งที่สุดในหมู่ศิษย์สายตรง
ฝ่ ายในก็ยงั ทําไม่ได้แบบนี้!
จูเหยียนจื่อพยายามสําแดงเพลงดาบต่อไปด้วยความร้อนใจ แต่แล้ว
อีกฝ่ ายก็เงื้อดาบในมือขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วจ่อมันเข้าที่หว่างคิว้
ของเขา
กระบวนท่าอันเรี ยบง่ายนี้เข้าถึงหัวใจของศิลปะเพลงดาบหัวใจโดด
เดี่ยวและการปรับเปลี่ยนกระบวนท่าทั้งหมดของมัน ทุกกระบวนท่า
ของจูเหยียนจื่อถูกสกัดไว้ ตอนนี้เขาทําอะไรไม่ได้เลย
ถ้าอีกฝ่ ายออกแรงเพิ่มอีกหน่อย เขาคงเสี ยชีวติ !
“….” จูเหยียนจื่อตัวเย็นเฉี ยบด้วยความพรั่นพรึ ง
เขาคิดว่าอย่างน้อยที่สุดก็น่าจะบีบหมอนี่ให้เปิ ดเผยตัวตนที่แท้จริ ง
ได้ดว้ ยการใช้เทคนิคขั้นสุ ดยอดของเขา แต่ใครจะไปรู ้วา่ เขาจะถูก
ปราบราบคาบทันทีที่การดวลเพิ่งเริ่ ม?
เจอกับพละกําลังระดับนี้ ตัวเขากับแสงสนธยาจะเปิ ดเผยตัวตนของ
อีกฝ่ ายได้หรื อไม่?
ถ้าทําไม่ได้…ก็โบกมือลา 720 เหรี ยญสํานักดาบได้เลย!
จูเหยียนจื่อเสี ยใจสุ ดขีด เขากําลังคิดว่าไม่ควรฟังคําพูดของคนอื่น ก็
พอดีกบั ที่ดาบที่จ่อเข้าที่หว่างคิ้วของเขาพลันหยุดกึก
จูเหยียนจื่อมองไปด้วยความงงงัน และเห็นสี หน้าขัดแย้งของ
‘ฉันน่ะถ่อมตัว’
เขาไม่รู้วา่ ทําไมจู่ ๆ ฉันน่ะถ่อมตัวถึงเสี ยสมาธิระหว่างการดวล แต่รู้
ดีวา่ ไม่มีโอกาสไหนดีกว่านี้อีกแล้วที่จะหลบหนีและตั้งตัวใหม่ จึง
รี บถอยไปก้าวหนึ่งเพื่อหลบเลี่ยงกระบวนท่านั้น ก่อนจะรวบรวม
พละกําลังเพื่อสําแดงเทคนิคขั้นสุ ดยอดอีกครั้ง
ศิลปะเพลงดาบหัวใจโดดเดี่ยวเป็ นไม้ตายขั้นสู งสุ ดของเขา แต่ใน
เมื่อมันถูกปราบจนราบคาบแล้ว ก็ไม่มีทางทําอันตรายคู่ต่อสู ไ้ ด้อีก
คราวนี้กระบวนท่าที่จูเหยียนจื่อสําแดงออกไปมีพละกําลังไม่เท่ากับ
เพลงดาบหัวใจโดดเดี่ยว แต่เหนือกว่าในแง่ของความเร็ ว
เพลงดาบพายุคลัง่ !
ทุกกระบวนท่าที่เขาสําแดงออกไปเร็ วกว่าแต่ก่อน เมื่อถึงการโจมตี
ครั้งที่ 10 ท่วงท่าของเขาก็ดูราวกับเฮอริ เคนที่กาํ ลังโกรธเกรี้ ยว พร้อม
จะฉีกกระชากทุกสิ่ งอย่างไม่ลดละ
อันที่จริ ง นี่เป็ นเทคนิคที่เหมาะสมกับนักปราชญ์โบราณขั้น 4 เท่านั้น
การสําแดงมันออกมาด้วยพลังปราณและกายเนื้อของนักรบระดับ
นักปราชญ์โบราณขั้น 1 ออกจะเกินกําลังไปสักหน่อย แต่เพราะเป็ น
สถานการณ์คบั ขัน จูเหยียนจื่อจึงยังคงเลือกใช้มนั
ฟึ่ บ!
ดาบนั้นถูกจ้วงแทงออกไปท่ามกลางสายลมหวีดหวิว เกิดเป็ นภาพ
ติดตามากมายนับไม่ถว้ นกลางอากาศ จูเหยียนจื่อคิดว่าอีกฝ่ ายน่าจะ
สับสนปั่นป่ วนเพราะการโจมตีเป็ นชุดของเขา แต่กลับตรงกันข้าม
หมอนัน่ ก้าวออกมาหนึ่งก้าวและใช้ดาบในมือของเขาทําลายทุกอย่าง
ด้วยกระบวนท่าง่าย ๆ เพียงกระบวนท่าเดียว อีกฝ่ ายโจมตีจุดอ่อนที่
ใหญ่ที่สุดของเพลงดาบพายุคลัง่ ถ้าการโจมตีน้ นั ถึงเป้าหมาย เขาคง
ถูกเฉือนเป็ น 2 ท่อนและตายทันที
พูดอีกอย่างก็คือ หลังจากที่เขาสําแดงกระบวนท่าที่สองออกมา ก็
ต้องผ่านประสบการณ์เฉียดตายอีกครั้ง
จูเหยียนจื่อแทบบ้า
ขณะที่เขายอมถอดใจต่อโชคชะตา ผมน่ะถ่อมตัวก็หยุดกึกและมีสี
หน้าขัดแย้งอีกครั้ง
จูเหยียนจื่อใช้โอกาสนี้กลิ้งหลบไปด้านข้าง รอดพ้นจากหายนะไป
ได้อย่างหวุดหวิด
แต่เพราะยังไม่อยากยอมแพ้ เขาจึงสําแดงเทคนิคขั้นสุ ดยอดออกมา
อีกครั้ง
เพราะอยูก่ บั สํานักดาบเมฆเหิ นมาหลายปี แล้ว จูเหยียนจื่อจึงมีโอกาส
ได้ทาํ ความเข้าใจศิลปะเพลงดาบที่ไร้เทียมทานมากมาย ทุกกระบวนท่า
ของเขาล้วนแต่มีพละกําลังมหาศาล
แต่กอ็ ีกครั้ง เพียงแค่เขาเริ่ มเคลื่อนไหว อีกฝ่ ายก็จบั จุดศิลปะเพลง
ดาบของเขาได้และโจมตีเข้าที่จุดอ่อนของมันอย่างจัง เขาคงตายแน่
ถ้าการโจมตีน้ นั ถึงเป้าหมาย แต่หมอนัน่ ก็ไม่ยอมโจมตีต่อ
การดวลดําเนินไปแบบนั้น จูเหยียนจื่อสําแดงเทคนิคการเคลื่อนไหว
ออกไป 7 เทคนิค รวมถึงศิลปะเพลงดาบอีก 12 ชนิด แต่กไ็ ม่มีอะไร
เปลี่ยนแปลง เขายังคงเฉียดตายอยูอ่ ย่างเดิม
ผูช้ มที่อยูด่ า้ นล่างต่างมองหน้ากันอย่างงงงัน
“เขาสามารถชนะได้ดว้ ยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทําไมถึงหยุดกึกเอา
ดื้อ ๆ ทุกครั้งที่กาํ ลังจะชนะ?”
“ผมก็ไม่รู้วา่ เขากําลังทําอะไร ไม่อยากชนะหรื อไง?”
“ตอนแรกผมคิดว่าเขากลัวการตอบโต้ของเสาเส่ า จึงดําเนินยุทธวิธี
แบบปลอดภัยไว้ก่อน แต่ตอนนี้กเ็ ห็นชัดแล้วว่าไม่ใช่”
“เสาเส่ าน่ะสู ไ้ ม่ได้แบบเห็น ๆ ผมคิดว่าเราคงเห็นพ้องต้องกันว่าผม
น่ะถ่อมตัวจงใจทําแบบนี้…หรื อว่าเขากําลังสัง่ สอนบทเรี ยนให้เสา
เส่ า?”
ทุกคนแสนงุนงงกับสิ่ งที่เกิดขึ้น
ในฐานะผูฝ้ ึ กฝนศิลปะเพลงดาบที่มีทกั ษะสู งส่ ง พวกเขาดูออกว่า
ผมน่ะถ่อมตัวสามารถเอาชนะการดวลได้สบาย แต่กลับเลือกที่จะ
หยุดชะงักในช่วงเวลาหน้าสิ่ วหน้าขวานทุกครั้ง ราวกับเขากําลังยื้อ
ทุกอย่างให้ไปถึงจุดสู งสุ ด อีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะระเบิด แต่ทุกครั้งก็
เลือกจะยับยั้งไว้
ถ้าแค่ครั้งเดียว พวกเขายังพอเข้าใจได้วา่ นัน่ คือจุดอ่อนของผมน่ะ
ถ่อมตัว แต่ในเมื่อเกิดขึ้นไม่รู้กี่ครั้งกี่หน ต่อให้คนหัวทื่อที่สุดก็ยงั
บอกได้วา่ เกิดอะไรขึ้น
ความจงใจ!
หลังจากแพ้ไปอีกหนึ่งกระบวนท่า จูเหยียนจื่อก็หมดความอดทน
และคํารามออกมา “คุณทําบ้าอะไรอยู?่ ”
เขาผ่านการดวลบนสังเวียนประลองมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่นี่เป็ นครั้ง
แรกที่เขาอยากถูกฆ่าตายเพื่อให้ทุกอย่างจบ ๆ ไป!
เห็นจูเหยียนจื่อหยุดการโจมตี จางเซวียนลดแขนที่ถือดาบลงและ
ย้อนถาม “ผมทําอะไร? ผมก็ดวลกับคุณอยูไ่ ม่ใช่หรื อไง?”
“ดวล? คุณมีโอกาสฆ่าผมตั้งหลายครั้งแล้ว หยุดทําไมล่ะ?” จูเหยียน
จื่อคํารามก้อง
ในเมื่อทุกคนดูออก เขาก็ไม่จาํ เป็ นต้องปิ ดบังอะไรอีก
“อ้าว คุณยังไม่รู้อีกหรื อ?” จางเซวียนเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน
“ถ้าคุณอ่านชื่อของผมล่ะก็ คุณก็ควรจะรู ้วา่ ผมไม่ใช่คนชนิดที่ชอบ
เรี ยกร้องความสนใจ ถ้าผมฆ่าคุณตายภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
นัน่ จะไม่เป็ นการขัดต่อจุดยืนของผมหรื อ? ผมไม่อยากสร้างความ
อึกทึกครึ กโครมครั้งใหญ่!”
“คุณไม่อยากสร้างความอึกทึกครึ กโครมครั้งใหญ่?”
ข้อแก้ตวั เหลวไหลนั้นทําให้จูเหยียนจื่อโมโหเดือดจนหัวใจแทบ
หยุดเต้น
นัน่ คือสิ่ งที่คุณเรี ยกว่าถ่อมตัวหรื อ?
ถ่อมตัวบ้านคุณสิ !
คุณเล่นงานจุดอ่อนที่ใหญ่สุดของผม แล้วก็ปล่อยผมไป อย่างกับนัก
ล่าที่เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับเหยือ่ ของตัวเอง นัน่ ไม่ใช่การถ่อมตัวแล้ว
แต่คือการอวดความสามารถแบบจงใจ คุณกําลังจะบอกใครต่อใคร
ไม่ใช่หรื อว่าศิลปะเพลงดาบของคุณเหนือชั้นแค่ไหน?
แล้วยังไง? ไม่อยากสร้างความอึกทึกครึ กโครมครั้งใหญ่?
ลองมองไปรอบ ๆ ซิ นัน่ คือสิ่ งที่คุณเชื่อจริ ง ๆ หรื อ?
ทุกใบหน้าที่มองขึ้นมาล้วนแต่จงั งังราวกับอมไข่ไว้ในปาก…คุณจะ
ถ่อมตัวกว่านี้มากถ้าสังหารผมเสี ยตั้งแต่กระบวนท่าแรก!
“ผมยอมแพ้!” เมื่อหงุดหงิดใจจนไปต่อไม่ไหว จูเหยียนจื่อตะโกน
ก้องก่อนจะหันหลังและกระโจนลงจากสังเวียนประลอง
ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากได้เงิน แต่เงินมากแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย
หากเขาต้องตายไปตอนนี้เพราะความหงุดหงิด!
พูดกันตามตรง ตอนที่อยูบ่ นสังเวียนประลอง เขายังคิดอยูว่ า่ ควรจะ
ฆ่าตัวตายเสี ยดีไหมเพื่อให้ทุกอย่างจบ ๆ ไป
ตอนที่ 1970 นี่มนั ตั้งแต่ เมื่อไหร่ ?
“เฮ่ออออ…ดูเหมือนเราจะเข้าใจผิดมหันต์จริ ง ๆ ถ้าเขารู ้สกั หน่อยว่า
มันแย่แค่ไหนเวลาที่ทุกคนหันมาสนใจล่ะก็ เขาคงจะเห็นใจเรา
บ้าง…” จางเซวียนส่ ายหน้าอย่างจนปั ญญา
เขารู ้สึกไม่ค่อยดีท่ีกาํ ลังจะได้เงินก้อนใหญ่จากจูเหยียนจื่อ ในเมื่ออีก
ฝ่ ายลงทุนมากมายขนาดนี้ มันจะไม่หยาบคายไปหน่อยหรื อหากเขา
รี บจบการดวลรวดเร็ วเกินไป?
นี่มนั สถานการณ์ที่ท้ งั สองฝ่ ายมีแต่ได้!
ตัวเขาได้เงิน ส่ วนจูเหยียนจื่อก็ได้ฝึกฝนเทคนิคของตัวเองและได้
ความภาคภูมิใจ
หลังจากเสาเส่ ายอมแพ้ สาวน้อยเสื้ อคลุมสี เทา, แสงสนธยาก็กระโจน
ขึ้นมาบนสังเวียนประลอง
“ฉันยอมแพ้ คุณเป็ นคู่ต่อสู ท้ ี่ทรงพลังมาก…” แสงสนธยามองจาง
เซวียนพร้อมกับหรี่ ตาอย่างระแวง
แผนการเดิมของพวกเขาคือเล่นงานอีกฝ่ ายและบีบให้เขาสําแดง
กระบวนท่าที่แข็งแกร่ งที่สุดออกมา ซึ่งจากสิ่ งนั้น ทั้งคูจ่ ะสันนิษฐาน
ได้วา่ ตัวตนที่แท้จริ งของหมอนี่เป็ นใคร
แต่ตอนนี้กเ็ ห็นชัดแล้วว่าแผนการของทั้งคู่ลม้ เหลว พวกเขาไม่คิด
เลยว่าจูเหยียนจื่อจะพ่ายแพ้โดยไม่อาจทําให้อีกฝ่ ายบาดเจ็บได้เลย
แม้แต่นอ้ ย
ในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ความกดดันทั้งหมดก็ตกอยูท่ ี่เธอ
“ฉันมีเรื่ องหนึ่งที่อยากขอร้อง” แสงสนธยาพูด “ฉันหวังว่าคุณจะไม่
ออมมือให้ฉนั อยากให้คุณใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่ งที่สุดของคุณ
เล่นงานฉันเลย”
“คุณอยากให้ผมใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่ งที่สุด?”
คําขอนั้นทําให้จางเซวียนลังเลเล็กน้อย
“ใช่!” แสงสนธยาพยักหน้า
ขอแค่อีกฝ่ ายใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่ งที่สุดของเขา ต่อให้เธอแพ้
อย่างน้อยที่สุดเธอก็ยงั จะได้รู้ตวั ตนที่แท้จริ งของอีกฝ่ าย
“เอ่อ…อย่างนั้นก็ได้” เห็นความจริ งใจในแววตาของแสงสนธยา ใน
ที่สุดจางเซวียนก็ยนิ ยอม
“เริ่ มเลย!”
แสงสนธยาสู ดหายใจลึกและขับเคลื่อนพลังปราณ เธอเงื้อแขนขึ้น
และกําลังจะพุง่ เข้าใส่ ก็พอดีกบั ที่ทุกอย่างพร่ าเลือน ยังไม่ทนั ที่เธอ
จะรู ้ตวั ดาบเล่มหนึ่งก็มาจ่ออยูท่ ี่ลาํ คอแล้ว ประกายคมปลาบของมัน
สะท้อนเข้าตา เธอรู ้สึกราวกับว่าจะถูกสังหารในทันทีหากกล้าขยับ
ตัวแม้แต่นิดเดียว
แสงสนธยาถึงกับจังงัง ทําอะไรไม่ถูกกับสิ่ งที่เพิ่งเกิดขึ้น
บ้าแล้ว!
พี่ชาย นี่มนั ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
ฉันยังไม่เห็นแม้แต่กระบวนท่าของคุณด้วยซํ้า ทําไมจู่ ๆ ก็มีดาบมา
จ่อคอ?
แสงสนธยาเคยคิดว่าถึงอย่างไรเธอก็น่าจะคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ าย
ได้ แต่ถึงขนาดที่ดาบของชายหนุ่มมาจ่อที่คอของเธอแล้ว เธอก็ยงั
ไม่เห็นแม้แต่กระบวนท่าของเขา นับประสาอะไรจะคาดเดาศิลปะ
เพลงดาบที่เขาใช้!
คุณจะต้องว่องไวขนาดนี้เลยหรื อ?
“คุณแพ้แล้ว” จางเซวียนพูดเสี ยงเรี ยบ
เขาเคยคิดว่าจะยื้อการดวลให้ยดื ยาวออกไปสักหน่อยเพื่อให้คุม้ ค่า
เงิน แต่ในเมื่อสาวน้อยยืน่ คําขอแบบนั้น เขาก็ควรจะทําตาม การ
ให้บริ การที่ดีมนั ต้องเป็ นแบบนี้!
ในตอนนั้น แสงสนธยาตื่นตระหนกสุ ดขีด
เมื่อมีดาบจ่อคอ เธอก็ปฏิเสธความพ่ายแพ้ไม่ได้ ทุกอย่างจบแล้ว
การดวล 2 นัดผ่านไป ทั้งคู่ทาํ ไม่ได้แม้แต่จะต้อนอีกฝ่ ายให้ตกอยูใ่ น
อันตราย นับประสาอะไรกับจะมองเห็นศิลปะเพลงดาบของเขา!
แต่นนั่ ยังไม่จบ พวกเขาไม่อาจระบุตวั ตนที่แท้จริ งของอีกฝ่ ายได้ดว้ ย
แต่กพ็ อบีบขอบเขตของตัวเลือกให้แคบลงมาได้
ในบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ ายใน มีไม่เกิน 5 คนที่มีความสามารถระดับ
นี้
แต่ดว้ ยความที่ท้ งั 5 มีประสิ ทธิภาพการต่อสู แ้ ละความปราดเปรื่ อง
สู งส่ ง ทางสํานักดาบเมฆเหิ นจึงให้ความสําคัญมาก พวกเขาไม่เคย
ขาดแคลนทรัพยากร และมีวธิ ีการที่ง่ายกว่านี้อีกมากในการหาเงิน
คนทั้ง 5 ไม่มีทางลดตัวลงมารับคําท้าพนันเพียงเพื่อให้ได้เงินเป็ น
การแลกเปลี่ยน อีกอย่าง พวกเขาจะปล่อยให้เรื่ องแบบนี้ทาํ ลาย
ชื่อเสี ยงของตัวเองทําไมในเมื่อมีอนาคตรุ่ งเรื องรออยูข่ า้ งหน้า?
แต่ชายหนุ่มที่พวกเขาได้เจอดูเป็ นพวกหิ วเงิน ทั้งคู่ออกจะสงสัยว่า
ถ้าพวกเขาโยนเหรี ยญสํานักดาบลงไปในนํ้า หมอนัน่ จะรี บงมลงไป
เก็บขึ้นมาทันทีหรื อเปล่า?
นี่ไม่ใช่การพูดเกินจริ งเลย!
ยิง่ คิดก็ยงิ่ สับสน
หลังจากออกจากสังเวียนประลอง จางเซวียนเดินไปหาทั้งคู่และยืน่
มือออกไป “พวกคุณแพ้แล้ว 720 เหรี ยญสํานักดาบ!”
เขารู ้ตวั ตนที่แท้จริ งของชายหญิงคู่น้ ีแล้วในระหว่างการดวล จึงไม่
กลัวว่าทั้งคู่จะชักดาบ
“นี่…”
เห็นแผนการของพวกเขาล้มเหลว จูเหยียนจื่อกับแสงสนธยาอับจน
หนทาง รู ้ดีวา่ เจอของจริ งเข้าให้แล้ว จึงได้แต่ควักเงินออกมาใช้หนี้
“ขอบคุณมากสําหรับอภินนั ทนาการของพวกคุณ อยากพนันอีก
เมื่อไหร่ ล่ะก็ เรี ยกหาผมได้เลย” จางเซวียนตอบอย่างลิงโลด
ถ้อยคํานั้นไม่อาจบรรยายความดีใจของเขาที่ได้พบกับเทพเจ้าและ
เทพธิดาแห่งโชคลาภ หลังจากเข้าสู่ หอนิรันดร์ได้ไม่ถึง 20 นาที เขา
ก็ทาํ เงินได้ถึง 1,400 เหรี ยญสํานักดาบ!
เห็นแววตาจริ งใจของอีกฝ่ าย จูเหยียนจื่อกับแสงสนธยารู ้สึกเจ็บแปลบ
ที่หวั ใจ
ทําไมถึงดูเหมือนพวกเราเป็ นคนดีที่มาคอยยืน่ เงินก้อนนี้ใส่ มือคุณ?
ไม่ใช่นะ เรามาฉกฉวยเงินของคุณต่างหาก!
พวกเขาอดรู ้สึกไม่ได้วา่ ตัวเองกลายเป็ นคนโง่
แต่คิดดูอีกที…ก็โง่จริ ง ๆ ที่ตอ้ งสู ญเสี ยทรัพย์สินทั้งหมดที่มีภายใน
เวลาไม่ถึง 20 นาที
“คุณบอกชื่อจริ งของคุณมาได้ไหม?”
เห็นผมน่ะถ่อมตัวกําลังจะจากไป จูเหยียนจื่ออดไม่ได้
“ฮะ? คุณอยากรู ้ชื่อจริ งของผมหรื อ?” จางเซวียนสบตาที่มีแววของ
ความคาดหวังนั้นครู่ หนึ่ง ก่อนจะปลดกิ๊บที่หนีบผมของเขาไว้แล้ว
รวบมันไปด้านหลัง เขาเอาสองมือไพล่หลังไว้ จากนั้นก็เปิ ดเผย
ตัวตนอันน่าทึ่งของเขา “เรี ยกผมว่า…เกาจิ้ง!”
จางเซวียนไม่แยแสสองร่ างที่ยนื จังงังอยูต่ รงหน้า เขาเดินจากไป
ก่อนจะถอนจิตใต้สาํ นึกออกจากหอนิรันดร์
เหตุผลที่เขาเข้าสู่ หอนิรันดร์กเ็ พื่อหาเงิน ในเมื่อหาได้ถึง 1440 เหรี ยญ
สํานักดาบแล้ว ตอนนี้กค็ วรพอก่อน ไม่จาํ เป็ นต้องอ้อยอิ่งอยูท่ ี่นนั่ อีก
“เกาจิ้ง?”
“มีศิษย์สายตรงชื่อเกาจิ้งด้วยหรื อ? เร็ วเข้า รี บไปตรวจสอบ!”
ทั้งคู่รีบเปิ ดสมุดบันทึกข้อมูลแล้วตรวจสอบรายชื่อบรรดาศิษย์สาย
ตรงฝ่ ายในที่ประมวลไว้ ครู่ ต่อมา ก็ดูราวกับภูเขาไฟกําลังจะระเบิด
ทะลุดวงตาของพวกเขา
หมอนัน่ โกหก!
“ไอ้สารเลว! ผมจะทําให้เขาคืนทุกอย่างที่เอาไปจากเราให้ได้ ไม่อย่างนั้น
ก็อย่าเรี ยกผมว่าจูเหยียนจื่อ!”
ยิง่ คิด จูเหยียนจื่อก็ยงิ่ โมโหเดือด
“แต่ดว้ ยความแข็งแกร่ งของเขา เราจะทําอะไรเขาได้?” แสงสนธยาก็
โมโหเดือดไม่แพ้กนั แต่เศษเสี้ ยวหนึ่งของความมีเหตุผลของเธอ
เตือนว่าทั้งคู่ไม่อาจทําอะไรผมน่ะถ่อมตัวได้มากนัก
“ง่ายนิดเดียว เขาอาจทรงพลังก็จริ ง แต่ไม่มีทางเทียบชั้นกับอัจฉริ ยะ
ชั้นยอดของบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ ายในได้หรอก ในเมื่อเป็ นแบบนี้
เราก็แค่แวะไปเยีย่ มเยียนคนพวกนั้นและบอกว่ามีนกั ดาบที่น่าสนใจ
คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในหอนิรันดร์ และยุให้พวกเขาจัดการ!
ระหว่างนั้น เราจะยืน่ คําท้าพนันกับหมอนัน่ ด้วย!” จูเหยียนจื่อพูด
ขณะนัยน์ตาเป็ นประกายวาบ
“คุณพูดถูก เราทําแบบนั้นได้!” แสงสนธยาตาโตด้วยความตื่นเต้น
“ตามนั้นเลย!”
“ถึงผมน่ะถ่อมตัวจะดูทรงพลัง แต่กไ็ ม่มีทางที่เขาจะประชันขันแข่ง
กับบรรดาปี ศาจที่ร้ ังอันดับต้น ๆ ในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ ายในได้หรอก
ซึ่งในเมื่อเป็ นอย่างนั้น ก็น่าจะขอความช่วยเหลือคนพวกนั้นให้สงั่
สอนบทเรี ยนให้หมอนัน่ สักหน่อย!”
…..
หลังจากกลับถึงห้อง จางเซวียนครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะเดิน
ออกไป
ระดับวรยุทธของเขาอยูใ่ นขั้นผูท้ าํ ลายล้างมิติมาระยะหนึ่งแล้ว ได้
เวลาที่จะก้าวขึ้นสู่ วรยุทธขั้นต่อไปสักที
แต่การจะทําแบบนั้นได้ เขาต้องมีเทคนิควรยุทธในปริ มาณมากพอ
การซื้ อหาเทคนิควรยุทธจากหอนิรันดร์ถือว่าแพงเกินไป เขาจึงได้
แต่แค่หวังว่าจะได้เข้าสู่ หอภูมิปัญญาเพลงดาบเพื่อดูหนังสื อที่อยูใ่ น
นั้นสักหน่อย
ถึงอย่างไร นัน่ ก็คือเหตุผลที่ทาํ ให้เขาผลักดันตั้นเฉี่ยวเทียนให้ได้
เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในของสํานักดาบเมฆเหิ น!
จางเซวียนเดินออกจากห้อง และขณะที่กาํ ลังจะออกจากที่พกั ประตู
ก็พลันเปิ ดออก ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ เดินเข้ามาด้วยสี หน้าตื่นเต้น
ในตอนนั้น รังสี ของผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ดูล้ าํ ลึกจนเกินหยัง่ ราวกับมีหมู่
เมฆปกคลุมพละกําลังที่แท้จริ งของเขาไว้
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ ฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบอมตะตัวจริ งได้สาํ เร็ จ
อย่างน่าอัศจรรย์!
“ยินดีดว้ ย ผูอ้ าวุโสลู่”
ได้ยนิ เสี ยงใครคนหนึ่งเข้ามาในบ้านพัก ตั้นเฉี่ ยวเทียนเดินออกมา
เขารู ้สึกได้ทนั ทีถึงการเปลี่ยนแปลงของผูอ้ าวุโสลู่ จึงประสานมือ
และกล่าวแสดงความยินดี
“ฮ่าฮ่า ขอบใจมากสําหรับคําอวยพรของคุณ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ หัวเราะ
หึ ๆ “เอาล่ะ ผมเพิ่งกลับจากสภาผูอ้ าวุโส นี่คือตราสัญลักษณ์ที่บ่ง
บอกตัวตนของคุณ ด้วยตรานี้ ขอแค่คุณมีเหรี ยญสํานักดาบมากพอ
ก็จะสามารถเข้าสู่ หอสมุดและใช้สิ่งอํานวยความสะดวกอื่น ๆ ได้
มันจําเป็ นนะหากคุณอยากเข้ารับการทดสอบเพื่อตามล่าหารางวัล”
“ส่ วนแหวนเก็บสมบัติวงนี้เป็ นของกํานัลจากผม ของกํานัลจากทาง
สํานักสําหรับการที่คุณได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในอยูภ่ ายในแหวนวง
นั้น มียาเม็ดอมตะขั้นต้น 5 เม็ด, ยาฟื้ นฟูร่างกาย 1 ขวด และยาเม็ด
พลังปราณอีก 1 ขวด”
ตั้นเฉี่ยวเทียนรับตราสัญลักษณ์และแหวนเก็บสมบัติจากผูอ้ าวุโสลู่
เขาตาโต จากนั้นก็รีบกล่าวคําขอบคุณ
เมื่อเห็นว่าการได้เป็ นศิษย์สายตรงฝ่ ายในมีผลประโยชน์มากมาย
จางเซวียนเลิกคิว้
แน่นอนว่าของกํานัลเหล่านี้ไม่ใช่ของฟรี การรับสิ่ งเหล่านี้ไว้ยอ่ ม
หมายถึงการแบกรับหน้าที่และความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับมัน ใน
โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรี ยกว่าของฟรี !
แต่ถึงอย่างไรตัวเขาก็หาเงินในหอนิรันดร์ได้สบายอยูแ่ ล้ว จึงไม่ได้
รู ้สึกอิจฉาตั้นเฉี่ยวเทียนหรื อคิดอะไรมากมาย
“นี่คือเทคนิควรยุทธของสํานักและเคล็ดวิชาดาบเมฆเหิ น คุณลอง
ฝึ กฝนเองก่อน ถ้ามีขอ้ สงสัยก็ไปพบผมได้ทุกเมื่อ” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋
พูดขณะยืน่ หนังสื ออีก 2 เล่มให้
“เทคนิควรยุทธของสํานักดาบเมฆเหิ นมีชื่อว่าศิลปะเมฆเหิ น เป็ นที่
ขึ้นชื่อทัว่ ทั้งทวีปแห่งนี้ในเรื่ องพละกําลังอันน่าทึ่งของมัน ส่ วนศิลปะ
เพลงดาบของเรานั้นก็แน่นอนว่าเป็ นที่ 1 ในโลก แต่เพียงแค่มีเทคนิค
วรยุทธและศิลปะเพลงดาบที่ไร้เทียมทานก็ไม่ได้หมายความว่าคุณ
จะก้าวขึ้นเป็ นสุ ดยอดได้ สิ่ งที่สาํ คัญกว่าก็คือจะต้องขยันหมัน่ เพียร
ศึกษาและพยายามทําความเข้าใจแก่นสารของทั้งสองเทคนิคนี้ให้
ได้มากที่สุด!”
ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้ารับ
แค่เทคนิควรยุทธและศิลปะเพลงดาบที่แข็งแกร่ งยังไม่ดีพอจะ
รับประกันได้วา่ นักรบผูห้ นึ่งจะกลายเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ สิ่ งที่ตามมา
หลังจากนั้นมีความสําคัญกว่า
“แต่สาํ นักดาบเมฆเหิ นก็ไม่ได้บีบบังคับศิษย์สายตรงให้เดินตาม
เส้นทางของเราอย่างเคร่ งครัดหรอกนะ ถ้าคุณมีเทคนิควรยุทธหรื อ
ศิลปะเพลงดาบที่เหมาะสมกับคุณมากกว่า ก็ฝึกฝนได้ตามสบาย ขอ
แค่คุณผ่านการทดสอบประจําปี ไปได้ ทางสํานักก็จะปล่อยให้คุณ
ฝึ กฝนวรยุทธอย่างอิสระ!” ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พูด
เทคนิคการโยนดาบของตั้นเฉี่ ยวเทียนคือสิ่ งที่แม้แต่หวั เจียงเหอยัง
รับมือไม่ไหว อันที่จริ ง ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ พยายามทําตามแล้ว แต่แม้ตวั
เขาก็ยงั ไม่มนั่ ใจนักว่าจะทําความเข้าใจมันได้
เห็นได้ชดั ว่าตั้นเฉี่ยวเทียนมีความลับของตัวเขาเอง
ตอนที่ 1971 ก็หลงตัวเองเกินไป!
แต่สาํ นักดาบเมฆเหิ นก็จะไม่มีวนั บีบบังคับให้เหล่าศิษย์สายตรงคาย
ความลับของตัวเองออกมา
ขอแค่พวกเขาผ่านการทดสอบไปได้และไม่ฝ่าฝื นกฎของสํานัก สํานัก
ดาบเมฆเหิ นก็จะไม่จุกจิกจูจ้ ้ ีวา่ บรรดาศิษย์สายตรงในสังกัดของพวก
เขาฝึ กฝนอะไร
เพราะถึงอย่างไร ก็ไม่มีสิ่งที่เรี ยกว่า ‘ทุกคนใช้ได้’ เมื่อเป็ นเรื่ องของ
เทคนิควรยุทธ
หลังจากสนทนาเรื่ องระเบียบกฎเกณฑ์ของสํานักกันอีกเล็กน้อย ผู ้
อาวุโสลู่กจ็ ากไป
เขาเพิ่งฝ่ าด่านวรยุทธไปเป็ นนักรบอมตะตัวจริ งได้สาํ เร็ จ จึงต้องการ
เวลาระยะหนึ่งในการขัดเกลาวรยุทธ
“ท่านอาจารย์!”
เมื่อผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ จากไป ตั้นเฉี่ยวเทียนยืน่ หนังสื อศิลปะเมฆเหิ น
กับเคล็ดวิชาเพลงดาบเมฆเหิ นให้จางเซวียน
จางเซวียนเคาะนิ้วลงไปเบา ๆ แล้วถ่ายโอนเนื้อหาทั้งหมดเข้าสู่
หอสมุดเทียบฟ้า จากนั้นเขาก็พลิกดู
เพราะเกรงว่าการฝึ กฝนวรยุทธของตั้นเฉี่ยวเทียนจะเกิดการผิดพลาด
ผูอ้ าวุโสลู่อวิน๋ จึงให้มาแค่หนังสื อเคล็ดวิชาของนักรบระดับนักปราชญ์
โบราณขั้น 1 เท่านั้น หากจะเปรี ยบเทียบกับเทคนิควรยุทธอื่น ๆ ใน
ทวีปแห่งปรมาจารย์ มันก็ถือเป็ นชั้นยอด แต่หากเทียบกับเคล็ดวิชา
เทียบฟ้า ก็ยงั มีขอ้ บกพร่ องอยูม่ ากมาย
ในมุมมองของจางเซวียน ของแบบนี้ไม่ได้ควรค่าต่อการฝึ กฝน
เคล็ดวิชาเพลงดาบเมฆเหิ นมีความสง่างามก็จริ ง แต่กเ็ ทียบกันไม่ได้
กับสิ่ งที่เขาได้ทาํ ความเข้าใจก่อนหน้านี้
“สําหรับเทคนิควรยุทธ คุณควรฝึ กฝนเฉพาะสิ่ งที่ผมถ่ายทอดให้
เท่านั้น ไม่จาํ เป็ นต้องปรับเปลี่ยน ส่ วนศิลปะเพลงดาบ ให้ฝึกฝน
ศิลปะการโยนดาบต่อไป คุณเชี่ยวชาญมันเมื่อไหร่ ผมจะถ่ายทอด
เทคนิคระดับที่สูงขึ้นให้!” จางเซวียนพูด
“ขอรับ ท่านอาจารย์” ตั้นเฉี่ ยวเทียนพยักหน้าอย่างว่าง่าย
ในโลกนี้ไม่มีใครที่เขาเคารพมากกว่าท่านอาจารย์อีกแล้ว จึงเป็ น
ธรรมดาที่จะยิง่ กว่าเต็มใจทําตามในสิ่ งที่ท่านอาจารย์บอก
ขณะที่จางเซวียนกําลังจะออกจากที่พกั ตั้นเฉี่ยวเทียนก็โพล่งออกมา
“อ้อ ท่านอาจารย์! เทคนิคการโยนดาบที่คุณถ่ายทอดให้ผมมีชื่อว่า
อะไร?”
ท่านอาจารย์ถ่ายทอดเทคนิคให้เขา แต่ชื่อของมันยังคงเป็ นความลับ
แน่นอนว่าเขาไม่อาจเรี ยกเทคนิคนี้วา่ การโยนดาบได้ตลอดไป ถูก
ไหม?
คําถามนี้ทาํ ให้จางเซวียนขมวดคิ้ว
พูดตามตรง เขาคิดค้นเทคนิคนี้ข้ ึนด้วยความเข้าใจชัว่ วูบ ไม่ได้ใส่ใจ
จะตั้งชื่อให้มนั ดังนั้นจึงไม่มีคาํ ตอบให้กบั คําถามของตั้นเฉี่ยวเทียน
จางเซวียนครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง “ในเมื่อคุณคือนายน้อยที่ 3 ของตระกูล
ตั้น ก็เรี ยกเทคนิคนี้วา่ ศิลปะเพลงดาบของนายน้อยที่ 3 ก็แล้วกัน!”
“ศิลปะเพลงดาบของนายน้อยที่ 3? ไม่ได้หรอก! มันดูไม่เหมาะสม”
ตั้นเฉี่ยวเทียนค้านพร้อมกับขมวดคิ้ว
ก็หลงตัวเองเกินไป!
ในโลกนี้ มีใครกันที่นาํ ชื่อของตัวเองมาตั้งเป็ นชื่อศิลปะเพลงดาบ?
แถมเทคนิคนี้ ท่านอาจารย์ของเขาก็เป็ นผูค้ ิดค้น เขาจะใช้ชื่อตัวเขา
ได้อย่างไร?
“มีอะไรไม่เหมาะสม? ผมไม่ได้ใส่ ใจเรื่ องชื่อเทคนิคอยูแ่ ล้ว เพราะ
ฉะนั้นคุณจะเรี ยกมันว่าอะไรก็ได้ ตามใจคุณเถอะ แต่ถึงอย่างนั้น ผม
ก็ยงั คิดว่าศิลปะเพลงดาบของนายน้อยที่ 3 ฟังดูเข้าท่าดี!” จางเซวียน
โบกมืออย่างเกียจคร้าน
เขาไม่ใส่ ใจการถกเถียงเรื่ องแบบนี้
ท่านพ่อของเขาเป็ นคนไม่เอาไหนเรื่ องการตั้งชื่อ ไม่อย่างนั้นเขาคง
ไม่ได้ชื่อจางเปี่ ยวเฟย ในฐานะผูร้ ับถ่ายทอดยีนนี้มาเต็ม ๆ เห็น ๆ
กันอยูว่ า่ เขาไม่ได้ดีไปกว่าท่านพ่อ เพราะหากทําได้ เขาคงไม่ตอ้ งตั้ง
ชื่อเทคนิคของตัวเองว่าเคล็ดวิชาเทียบฟ้า, ศิลปะเพลงดาบเทียบฟ้า,
ศิลปะเพลงหอกเทียบฟ้า และอื่น ๆ ส่ วนสมญานามของเขาก็คงไม่
ต้องวนเวียนอยูก่ บั หยางชวน, เซวียนจาง, เทียนหยา และชื่ออันแสน
ไม่เข้าท่าพวกนั้น
“ก็ได้…” เห็นท่านอาจารย์ตดั สิ นใจแล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนได้แต่รับคํา
เมื่อพูดจากันเป็ นที่เข้าใจ จางเซวียนกําลังจะเดินออกไป ก็พอดีกบั ที่
นึกอะไรบางอย่างได้ เขาหันกลับมาพูดกับตั้นเฉี่ ยวเทียน “ขอผมยืม
ตราสัญลักษณ์ศิษย์สายตรงฝ่ ายในของคุณสักครู่ ”
หลังจากได้ตราสัญลักษณ์จากตั้นเฉี่ ยวเทียนแล้ว จางเซวียนก็ออก
จากที่พกั และมุ่งหน้าไปยังหอสมุดของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
หอสมุดตั้งอยูบ่ นที่ราบแห่งหนึ่งในหุบเขาที่สร้างขึ้นด้วยฝี มือมนุษย์
มันเป็ นหอคอยใหญ่โตโอ่อ่าที่จางเซวียนเคยเห็นระหว่างทางที่ไป
ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน
เมื่อถึงที่หมาย จางเซวียนยืน่ ตราสัญลักษณ์ให้
ผูอ้ าวุโสที่ดูแลหอสมุดพิจารณาตราสัญลักษณ์ก่อนจะอธิบายด้วย
นํ้าเสี ยงเรี ยบเฉย “2 เหรี ยญสํานักดาบต่อ 1 ชัว่ โมง คุณสามารถเลือก
เทคนิควรยุทธหรื อเทคนิคการต่อสู ท้ ี่ตอ้ งการและทําสําเนาได้”
จางเซวียนยืน่ เงิน 2 เหรี ยญสํานักดาบให้อีกฝ่ ายก่อนจะเดินเข้าไปใน
ห้อง
สายเลือดของสํานักดาบเมฆเหิ นนั้นย้อนกลับไปได้กว่าหลายพันปี
ด้วยประวัติศาสตร์อนั ยาวนานนี้ หอสมุดของศิษย์สายตรงฝ่ ายในจึง
เต็มไปด้วยหนังสื อศิลปะเพลงดาบและหนังสื อเทคนิคการต่อสู ท้ ุก
รู ปแบบ หลังจากกะประมาณคร่ าว ๆ จางเซวียนเชื่อว่าน่าจะมี
หนังสื อราวหลายล้านเล่มอยูใ่ นหอสู งแห่งนี้
มีหอ้ งส่ วนตัวจํานวนหนึ่งที่ศิษย์สายตรงสามารถเข้าไปอ่านหนังสื อ
ได้ แต่เพราะเวลาเป็ นเงินเป็ นทอง ศิษย์สายตรงส่ วนใหญ่จึงมักเลือก
หนังสื อที่พวกเขาต้องการก่อนจะรี บทําสําเนาหนังสื อเล่มนั้นโดยเร็ ว
ที่สุดขณะที่ยงั อยูข่ า้ งใน
สําหรับจางเซวียน เขาไม่มีปัญหาอะไรมากนัก สิ่ งที่ตอ้ งทําก็คือ
กวาดสายตามองหนังสื อทั้งหมดที่อยูโ่ ดยรอบและพึมพําคําว่า
‘ข้อบกพร่ อง’ ในใจ
ฟึ่ บ!
เพียงเท่านั้น หนังสื อทุกเล่มก็จะถูกถ่ายโอนเข้าสู่ หอสมุดเทียบฟ้า
ด้วยความเร็ วอันน่าสะพรึ ง
จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าประสิ ทธิภาพการถ่าย
โอนหนังสื อของหอสมุดเทียบฟ้ายังคงเป็ นปกติ เขาเกรงว่าหอสมุด
เทียบฟ้าอาจมีบางอย่างเปลี่ยนไปหลังจากเข้าสู่ มิติเบื้องบน แต่เท่าที่
เห็น ทุกอย่างดูจะใช้การได้ดีเหมือนเดิม
จางเซวียนเดินไปค้นหาหนังสื อในระดับที่สูงขึ้นและถ่ายโอนหนังสื อ
ทั้งหมดที่เขาหมายตาไว้
เพราะนี่คือหอสมุดของศิษย์สายตรงฝ่ ายใน หนังสื อเทคนิคการต่อสู ้
และเทคนิควรยุทธส่ วนใหญ่จึงอยูใ่ นขั้นนักปราชญ์โบราณเท่านั้น
ไม่มีเทคนิคขั้นเสมือนอมตะให้เห็น ยิง่ ไปกว่านั้น ส่ วนใหญ่ยงั เป็ น
ของนักปราชญ์โบราณขั้น 1 ด้วย
เมื่อวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณเพิม่ สู งขึ้นทีละ 1 ขั้นย่อย ปริ มาณ
หนังสื อที่มีกด็ ูจะลดลงอย่างฮวบฮาบ
ตอนนี้จางเซวียนเป็ นนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผูท้ าํ ลายล้างมิติข้นั ต้น
จึงไม่สาํ คัญนักว่าเขาจะถ่ายโอนหนังสื อที่ได้เห็นก่อนหน้านี้หรื อไม่
จางเซวียนใช้เวลาเกือบ 4 ชัว่ โมงเพื่อถ่ายโอนหนังสื อทั้งหมดในหอสมุด
จากนั้นก็เดินออกมาแล้วจ่ายเงิน 8 เหรี ยญสํานักดาบก่อนจะกลับที่พกั
“เอาล่ะ ได้เวลาฝ่ าด่านวรยุทธเสี ยที!”
เมื่อถ่ายโอนเทคนิควรยุทธที่จาํ เป็ นไว้ได้มากพอ ก็ถึงเวลาที่เขาจะ
ขยับวรยุทธของตัวเองสักหน่อย
จางเซวียนทรุ ดตัวลงนัง่ ขัดสมาธิบนเตียงก่อนจะเพ่งสมาธิเข้าสู่
หอสมุดเทียบฟ้า เขารี บรวบรวมหนังสื อเทคนิควรยุทธทั้งหมดของ
นักปราชญ์โบราณขั้น 4 เข้าด้วยกัน
“ประมวล!”
หนังสื อทุกเล่มหลอมรวมกัน ก่อเกิดเป็ นหนังสื อเทคนิควรยุทธของ
นักปราชญ์โบราณขั้น 4 เล่มใหม่เอี่ยม
จางเซวียนรี บพลิกดูเพื่ออ่านรายละเอียด ครู่ ต่อมาก็ถอนหายใจอย่าง
โล่งอก
เป็ นอย่างที่เขาหวังไว้ สิ่ งที่ประมวลออกมาได้อยูใ่ นระดับขั้นของ
เคล็ดวิชาเทียบฟ้า
จางเซวียนสะบัดข้อมือ จากนั้นก็นาํ ยาเม็ดอมตะขั้นต้นที่เหลืออีก 7
เม็ดออกมาและกลืนลงไปเม็ดหนึ่ง
ฟิ้ ววววววว!
พลังจิตวิญญาณเข้มข้นพวยพุง่ เข้าสู่ ร่างของจางเซวียนทันที เขา
ขับเคลื่อนพลังปราณให้สอดคล้องกับเคล็ดวิชาเทียบฟ้าที่เพิ่งประมวล
ขึ้นใหม่
ขณะที่พลังจิตวิญญาณแปรสภาพเป็ นพลังปราณ พละกําลังของเขาก็
เพิ่มสู งขึ้น พลังปราณเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
บึ้มมมม!
ครู่ ต่อมา เกิดเสี ยงดังลัน่ ขณะที่จางเซวียนฝ่ าด่านวรยุทธไปสู่ ข้นั ผู ้
ทําลายล้างมิติข้นั กลางได้สาํ เร็ จ เขากินยาเข้าไปอีกสองสามเม็ดและ
ผลักดันวรยุทธต่อไป
“เอ๊ะ? ดูเหมือนอานุภาพของยาเม็ดอมตะขั้นต้นจะด้อยลงไปนะ?”
ไม่ถึงครึ่ งชัว่ โมงให้หลัง วรยุทธของจางเซวียนก็มาถึงขั้นผูท้ าํ ลาย
ล้างมิติข้นั สู ง เขากินยาเม็ดอมตะขั้นต้นทั้ง 7 เม็ดหมดแล้ว แต่ดว้ ย
ประสิ ทธิภาพที่ลดลง สุ ดท้ายจึงสําเร็ จแค่ข้ นั สู งเท่านั้น ยังห่างไกล
จากการสําเร็ จขั้นโลกจารึ ก
“เคล็ดวิชาเทียบฟ้าต้องการพลังจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสู งจริ ง ๆ !”
จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะหยุดการฝึ กฝนวรยุทธ
โดยทัว่ ไป ยาเม็ดอมตะขั้นต้นใช้ได้ผลดีแม้แต่กบั นักรบเสมือนอมตะ
แต่ตอนนี้มนั แทบไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาอีกแล้ว
จะว่าไป ต่อให้ไม่มียาเม็ดอมตะขั้นต้น เพียงแค่ซึมซับพลังจิตวิญญาณ
หน้าตาเหมือนปรอทที่อบอวลอยูใ่ นอากาศ เขาก็ยงั พัฒนาตัวเองได้
รวดเร็ วกว่าเมื่อครั้งอยูใ่ นทวีปแห่งปรมาจารย์มาก แต่นนั่ แหละ ก็ยงั
ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือนกว่าจะสําเร็ จวรยุทธขั้นผูท้ าํ ลายล้าง
มิติโลกจารึ ก
คงเป็ นความสู ญเสี ยครั้งใหญ่หากต้องใช้เวลานานขนาดนี้เพียงเพื่อ
ยกระดับวรยุทธให้กา้ วหน้าไปแค่ไม่กี่ข้ นั
“ในเมื่อเงินยังเหลือ เราควรจะไปหาซื้อยาเม็ดอมตะขั้นพื้นฐาน
ไหม?” จางเซวียนนึกสงสัย
เขาเพิ่งได้เงินมา 1,400 เหรี ยญสํานักดาบ และใช้ไปแค่ 8 เหรี ยญ
เท่านั้น ในเมื่อตอนนี้ไม่มีเรื่ องเร่ งด่วนที่ตอ้ งใช้เงิน ก็น่าจะดีที่สุดที่
จะยกระดับวรยุทธไปเป็ นผูท้ าํ ลายล้างมิติโลกจารึ กให้ได้เสี ยก่อน
จางเซวียนนําตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลออกมาและเข้าสู่ หอนิรันดร์
อีกครั้ง
คราวนี้เขาไม่ได้มุ่งหน้าไปที่สงั เวียนประลอง แต่ตรงไปยังโซนที่มี
การซื้อขาย
“ยาเม็ดอมตะขั้นพื้นฐาน? ราคาเม็ดละ 200 เหรี ยญสํานักดาบ”
เจ้าหน้าที่บอกจางเซวียน
“200 เหรี ยญสํานักดาบ?” จางเซวียนถึงกับงง
นี่มนั ราคาบ้าบออะไร?
ยาเม็ดอมตะขั้นต้นราคาเพียงเม็ดละ 2 เหรี ยญสํานักดาบเท่านั้น แต่
ยาเม็ดอมตะขั้นพื้นฐานมีราคาถึงเม็ดละ 200 เหรี ยญ ต่างกันเป็ นร้อย
เท่า!
“ยาเม็ดอมตะขั้นพื้นฐานใช้กนั ในหมู่นกั รบอมตะตัวจริ ง ผูท้ ี่สาํ เร็ จ
วรยุทธขั้นนั้นแล้วก็มีแต่ศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดหรื อไม่กศ็ ิษย์สายตรง
ฝ่ ายใน สําหรับพวกเขา เงิน 200 เหรี ยญสํานักดาบไม่ใช่เรื่ องใหญ่
หรอก” เจ้าหน้าที่อธิบาย
“แน่นอนว่าเหตุผลที่มนั มีราคาแพงก็เพราะมีองค์ประกอบของสมุนไพร
ที่มีราคาแพงอยูม่ ากมาย อีกอย่าง กระบวนการหลอมยาก็ตอ้ งได้รับ
การควบคุมอย่างใกล้ชิดจากนักปรุ งยา ปริ มาณยาที่ได้จึงมีจาํ กัดมาก”
จางเซวียนถอนหายใจเฮือก
ขนาดศิษย์สายตรงอย่างจูเหยียนจื่อยังมีเงินเกือบพันเหรี ยญอยูก่ บั ตัว
ดังนั้น ถ้าเป็ นศิษย์สายตรงขั้นสู งสุ ดและเหล่าผูอ้ าวุโส ราคาของยา
เม็ดอมตะขั้นพื้นฐานก็คงจัดว่าถูกสําหรับพวกเขา
“ผมซื้อ 5 เม็ด!” จางเซวียนตอบอย่างจนปัญญา
เขาเคยคิดว่าเงินที่เพิ่งได้มาคงช่วยให้เขาอยูไ่ ด้สกั พัก แต่ความเป็ น
จริ งอันโหดร้ายก็ตีแสกหน้าของเขาอีกครั้ง

You might also like