You are on page 1of 17

โครงการพระราชดาริ

โครงการพระราชดาริ

โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน โครงการพัฒนาเกษตรหลวงขุนวาง
โครงการพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
•พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดาริ ให้
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกลุ ทองฯ ดาเนินการศึกษา ทดลอง เพื่อหาวิธีการปรับปรุ งดินเปรี้ ยว ให้
สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้
โครงการพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
WHAT = ทาอะไร ?
เปลี่ยนแปลงทางเคมีท่ีเกิดขึน้ ในดินเปรีย้ ว หาวิธีการปรับปรุงแก้ไขสภาพดินเปรีย้ วที่เกิดมาจาก
ป่ าพรุ และดินเปรีย้ วอื่น ๆ ให้สามารถปลูกพืชได้
โครงการพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
WHAT = ทาอะไร ?
WHERE = ทีไ่ หน ?
จังหวัดนราธิวาส
โครงการพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
WHAT = ทาอะไร ?
WHERE = ทีไ่ หน ?
WHEN = เมื่อไร ?
-จัดตัง้ "โครงการศูนย์ศกึ ษาการพัฒนาพิกลุ ทอง อันเนื่องมาจากพระราชดาริ” ปี พ.ศ. 2524
-วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2527 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมี
พระราชดาริเกี่ยวกับการแก้ปัญหาดินเปรีย้ วจัดหรือดินกรดกามะถันโดยทรงแนะนาให้ทาเรื่อง
แกล้งดิน
โครงการพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
WHAT = ทาอะไร ?
WHERE = ทีไ่ หน ?
WHEN = เมื่อไร ?
WHY = สาเหตุเพราะอะไร?
เพื่อทาการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดขึ้นในดินเปรี้ ยว และหาวิธีการปรับปรุ งแก้ไขสภาพ
ดิน เพื่อปรับแก้ไขสภาพดินเปรี้ ยวอันเกิดมาจากป่ าพรุ และดินเปรี้ ยวอื่น ๆ ให้สามารถปลูกพืชได้
โครงการพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

HOW = ทำอย่ำงไร?
การแกล้งดิน เป็ นการเร่งทาให้ดินเปรีย้ วเป็ นกรดจัดรุนแรงที่สดุ จนไม่สามารถปลูกพืช เศรษฐกิจ
ได้ จากนัน้ หาวิธีการปรับปรุงดินเปรีย้ วจัดรุนแรงที่สดุ ให้สามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้ โดยอาศัย
วิธีการต่าง ๆ ดังนี ้

1. การปรับปรุงดินเปรีย้ วจัดเพื่อปลูกข้าว
การใช้นา้ ล้างความเป็ นกรด ในปี แรกข้าวเจริญเติบโต แต่ให้ผลผลิตต่า และผลผลิตเพิ่มขึน้ เรื่อย ๆ
ในปี ต่อมา ช่วงเวลาของการขังนา้ และระบายนา้ ทิง้ ที่เหมาะสมคือ 4 สัปดาห์
การใส่หินปูนฝุ่ น ข้าวเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีกว่า การใส่หินปูนอัตราครึง่ หนึ่งของความ
ต้องการปูน (1.5 ตัน/ไร่) ข้าวให้ผลผลิตเทียบเท่ากับการใส่ปนู เต็มอัตราแนะนา
การใส่ปนู อัตราต่า (ครึง่ หนึ่งของความต้องการปูน) เพื่อสะเทินกรด ควบคู่กบั การขังนา้ แล้วเปลี่ยน
นา้ ทุก ๆ 4 สัปดาห์ ข้าวจะให้ผลผลิตดีท่ีสดุ

2. การปรับปรุงดินเปรีย้ วจัดเพื่อปลูกพืชไร่ พืชผัก


โดยใส่หินปูนฝุ่ นอัตรา 2 ตัน/ไร่ ร่วมกับการใส่ปยคอก
ุ๋ ปุ๋ ยหมัก และปุ๋ ยเคมีอตั ราแนะนา
โครงการพระราชดาริ
โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

HOW = ทำอย่ำงไร?

3. การปรับปรุงดินเปรีย้ วจัดเพื่อปลูกไม้ผล
ควรขุดยกร่องเพื่อป้องกันนา้ ท่วมและช่วยล้างกรด บนคันดินลงสู่คดู า้ นล่างควรปรับปรุงดินบริเวณ
สันร่องก่อน โดยหว่านหินปูนฝุ่ นอัตรา 2 ตัน/ไร่ เพื่อสะเทินกรด ก่อนปลูกพืชรองก้นหลุมด้วยปูน
ขาวหรือหินปูนฝุ่ นร่วมกับปุ๋ ยหมัก ปุ๋ ยคอก ไม้ผลที่ทดลองปลูกได้ผลดี คือ มะพร้าวนา้ หอม ละมุด
กระท้อน ชมพู่

4. จากการทดลองปรับปรุงดินแล้วไม่ใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง พบว่าดินจะเปรีย้ วจัดรุ นแรงอีก


5. ดินเปรีย้ วจัดในสภาพที่ไม่ถกู รบกวน ความเป็ นกรดจะเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ และพืชพรรณ
ธรรมชาติท่ีทนทานความเป็ นกรดขึน้ ได้หลายชนิด
โครงการพระราชดาริ

โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน
โครงการพระราชดาริ

โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
•พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดาริ ให้
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกลุ ทองฯ ดาเนินการศึกษา ทดลอง เพื่อหาวิธีการปรับปรุ งดินเปรี้ ยว ให้
สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้
โครงการพระราชดาริ

โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
W – What – อะไร
ศูนย์พฒั นาโครงการหลวงขุนวาง มุ่งพัฒนาและส่ งเสริ มอาชีพให้เกษตรกรในการเพาะปลูกพืชผัก
ภายใต้ระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัยได้แก่ระบบมาตรฐานการเพาะปลูกพืชที่ดี (GAP)และ
ส่ งเสริ มการปลูกพืชผักไม้ผลไม้ดอกชาจีน เห็ดและพืชไร่ สร้างรายได้ที่มนั่ คง และความเป็ นอยูท่ ี่ดี
ขึ้นแก่เกษตรกร มีจานวนเกษตรกรที่เป็ นสมาชิก จานวน 397 ราย นอกจากนี้ยงั ส่ งเสริ ม
กระบวนการมีส่วนร่ วมในการฟื้ นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม ส่ งเสริ มการปลูก
ป่ าชาวบ้านตามแนวพระราชดาริ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์4 อย่างการปลูกหญ้าแฝกเพื่อลดการพังทลาย
ของดินและพัฒนาคุณภาพชีวติ และความเข้มแข็งของคนและชุมชน การพัฒนาสุ ขอนามัยและ
สิ่ งแวดล้อมให้แก่ชุมชนชาวเขารวมไปถึงการรวมกลุ่มจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรและกิจกรรมกลุ่ม
ออมทรัพย์ตลอดจนเป็ นศูนย์เรี ยนรู ้ดา้ นการเกษตรที่สูงแก่นกั เรี ยน นักศึกษา เกษตรกร และผูส้ นใจ
ทัว่ ไป
โครงการพระราชดาริ

โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
W – What – อะไร
W – Where – ทีไ่ หน
บ้านขุนวางเลขที่ 112 หมู่ที่ 12 ตาบลแม่วนิ อาเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
โครงการพระราชดาริ

โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
W – What – อะไร
W – Where – ทีไ่ หน
W – When – เมื่อไหร่
ศูนย์พฒ
ั นาโครงการหลวงขุนวาง ได้เริม่ ต้นดาเนินการอย่างจริงจัง ในปี พ.ศ. 2528
โครงการพระราชดาริ

โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน

WHO = ใคร ?
W – What – อะไร
W – Where – ทีไ่ หน
W – When – เมื่อไหร่
W – Why – ทำไม
เพื่อลดพืน้ ที่การปลูกฝิ่ นหาพืชอื่นที่มีรายได้มากกว่าฝิ่ นทดแทน ให้ชาวบ้านทากินในพืน้ ที่อย่าง
ถาวรและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรในพืน้ ที่ซง่ึ การดาเนินงานในระยะแรกนัน้ ได้รบั เงิน
สนับสนุนช่วยเหลือจากสานักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(United Nations
DevelopmentPrograme: UNDP)และต่อมาได้รบั งบประมาณสนับสนุนเต็มรูปแบบ
จากมูลนิธิโครงการหลวง
โครงการพระราชดาริ
H – How – อย่ างไร
1. งานส่ งเสริ ม ส่ งเสริ มการปลูกพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก ชาจีน พืชไร่ เห็ด กาแฟ เพื่อหาพันธุ์ดีที่ โครงการพัฒนาเกษตรแกล้งดิน
เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภายใต้ระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัย ได้แก่ระบบการเพาะปลูกทีด่ ี
(GAP) สร้างรายได้ที่มนั่ คงและความเป็ นอยูท่ ี่ดีข้ ึนแก่เกษตรกร นอกจากนี้ยงั สนับสนุนและ
ส่ งเสริ มกระบวนการมีส่วนร่ วมของชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวติ ของคนในชุมชนให้เข้มแข็ง และยังมี
การส่ งเสริ มการปลูกป่ าชาวบ้านตามแนวพระราชดาริ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างการอนุรักษ์ดิน
และน้ าด้วยการปลูกหญ้าแฝก รณรงค์การลดการใช้สารเคมีและเฝ้าระวังการปนเปื้ อนมลพิษใน
สิ่ งแวดล้อม ตลอดจนเป็ นศูนย์เรี ยนรู ้ดา้ นการเกษตรที่สูงแก่นกั เรี ยน นักศึกษา เกษตรกร และ
ผูส้ นใจทัว่ ไป

2. งานวิจยั
เทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตอาโวคาโด โดยการใช้ปุ๋ยหินฟอสเฟตร่ วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา ในพื้น
ที่ดินกรดภาคเหนือของประเทศไทยในพื้นที่แปลงเกษตรกรของศูนย์ฯ ขุนวาง จากกรมพัฒนาที่ดิน
การใช้สารชีวภัณฑ์ทดแทนการใช้สารเคมีป้องกันราสนิมในดอกเบญจมาศ จากภาควิชากีฎวิทยา
และโรคพืช คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันวิจยั และพัฒนาพื้นทีส่ ู ง
(องค์การมหาชน)
การวิจยั และส่ งเสริ มการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิ ทธิภาพ ศึกษาแนวทางการลดการใช้ไฟฟ้า
ในแปลงปลูกพืชในโรงเรื อน, การศึกษาผลจากการลดการใช้ไฟฟ้าในแปลงปลูกพืชขนาดใหญ่,
การศึกษาผลกระทบต่อระบบนิเวศจากปริ มาณแสงที่กระเจิงขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้า จากสถาบันวิจยั ดารา
ศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ลงนามความร่ วมมือกับมูลนิธิโครงการหลวง, การไฟฟ้าแห่ง
ประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
จบการนาเสนอ

You might also like