You are on page 1of 8

การควบคุมและป้องกันการติดเชื้อระหว่างการให้การดูแลในสถานบริการสาธารณสุข

เมื่อพบผูต้ ้องสงสัยป่วยเป็นโรคโควิด-19
แนวทางเฉพาะกาล
19 มีนาคม 2563
ที่มา 1. จัดให้มีการคัดกรอง (triage) การตรวจพบผู้ป่วยให้ได้โดยเร็ว
แนวทางนี้เป็นแนวทางฉบับแรกที่จัดทาขึ้นสาหรับยุทธศาสตร์ในการ (early recognition) และการควบคุ ม แหล่ ง แพร่ เ ชื้ อ (source
ควบคุมและป้องกันเมื่อสงสัยว่า ผู้ต้องสงสัยป่วยเป็นโรคโควิด-19 control) ด้วยการแยกผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้อ
ซึ่งได้ประยุกต์มาจากแนวทางการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ 2. ใช้วิธีป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในผู้ป่วยทุกราย โดยบุคลากร
ระหว่ า งการให้ ก ารดู แ ลรั ก ษากลุ่ ม อาการโรคทางเดิ น หายใจ ทุกคนต้องถือว่าผู้ป่วยทุกรายอาจเป็นโรค
ต ะ วั น อ อ ก ก ล า ง (Middle East respiratory syndrome 3. ดาเนินมาตรการเสริมเพื่อเพิ่มการป้องกันในรายที่ต้องสงสัย เช่น
coronavirus หรื อ MERS-CoV)1 โดยอาศั ย องค์ ค วามรู้ ที่ มี อ ยู่ ใ น การป้องกันฝอยละอองขนาดใหญ่ (droplet precautions) การ
ปัจจุบันจากสถานการณ์และประสบการณ์ในการควบคุมและป้องกัน ป้องกันการสัมผัส (contact precautions) และการป้องกันการ
โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (Severe acute respiratory แพร่กระจายทางอากาศ (airborne precautions)
syndrome หรือ SARS) และโรคเมอร์ส 4. มีระบบบริหารจัดการด้านการควบคุมและป้องกัน การติดเชื้อใน
สถานบริการสาธารณสุข
องค์ ก ารอนามั ย โลกจะปรั บ ปรุ ง แนวทางฉบั บ นี้ เ มื่ อ มี ข้ อ มู ล ใหม่ 5. ใช้การควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมและวิศวกรรม
ออกมามากขึ้น
1. การคั ด กรอง การตรวจพบผู้ ป่ ว ยให้ ไ ด้ โ ดยเร็ ว และการ
แนวทางฉบับนี้เหมาะสาหรับ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ทาหน้าที่ ควบคุมแหล่งแพร่เชื้อ
บริหารจัดการงานด้านการดูแลรักษาผู้ป่วย และทีมงานควบคุมและ
ป้ อ งกั น การติ ด เชื้ อ ในสถานบริ ก ารสาธารณสุ ข และยั ง สามารถ การคัดกรองทางคลินิก ได้แก่ การมีระบบประเมินผู้ป่วยทุกรายเมือ่
นาไปใช้ได้ทั้งในระดับอาเภอ จังหวัด และประเทศ โดยสามารถดู แรกรั บ ซึ่ งจะท าให้ สามารถตรวจพบผู้ป่ว ยที่ ต้อ งสงสัย ได้อย่าง
แนวทางฉบับเต็มได้จากองค์การอนามัยโลก2 รวดเร็ว และนาไปสู่การแยกตัวผู้ป่วยไปอยู่ในห้องหรือพื้น ที่แยก
โรคได้ทันที เพื่อให้การตรวจพบต้องสงสัยป่วยเป็นโรคโควิด-19 ทา
หลักการของกลยุทธ์ในการควบคุมและป้องกันการ ได้อย่างรวดเร็ว สถานบริการสาธารณสุขควรปฏิบัติดังนี้
ติดเชื้อจากการดูแลผู้ต้องสงสัยป่วยเป็นโรคโควิด- • ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ ตั้งข้อสงสัยในระดับสูงว่าผู้ป่วยอาจ
19 ติดเชื้อ
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการนายุทธศาสตร์และแนวปฏิบัติที่ • จัดให้มีจุดคัดกรองที่ทางเข้าสถานบริการสาธารณสุข โดย
แนะนาในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ในการตอบสนองสถานการณ์ระบาด มีเจ้าหน้าทีท่ ี่ผ่านการฝึกอบรมอยู่ประจาจุด
ของไวรัสโควิด-19 จะต้องมีแผนงานควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ • ใช้แบบสอบถามในการคัดกรองโดยให้เป็นไปตามคาจากัด
(Infection Prevention and Control – IPC programme) ที่ ความของผู้ ป่ ว ย โปรดดู ค าจ ากั ด ความของผู้ ป่ ว ยได้ ที่
กาหนดให้มีทีมงานเฉพาะด้านการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ ที่ Global Surveillance for human infection with
ได้ รั บ การฝึ ก อบรม (dedicated and trained IPC team) หรื อ coronavirus (COVID-19)
อย่างน้อยต้องมีผู้รับผิดชอบหลักด้านการควบคุมและป้องกันการติด • ติ ด ตั้ ง ป้ า ยหรื อ สั ญ ลั ก ษณ์ ใ นพื้ น ที่ ส่ ว นกลางของสถาน
เชื้อ (IPC focal point) และได้รับการสนับสนุน จากผู้บริหารทั้งใน บริการสาธารณสุข เพื่อเตือนให้ผู้ป่วยที่มีอาการต้องแจ้ง
ระดับโรงพยาบาลและระดับชาติ3 ให้บุคลากรสาธารณสุขทราบ

ยุทธศาสตร์ในการจากัดและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ในสถาน การท าความสะอาดมื อ และหลั ก สุ ข อนามั ย ของระบบ


บริการสาธารณสุข ประกอบด้วย4 ทางเดินหายใจนั้นเป็นหัวใจสาคัญของการป้องกัน
1
2. การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในผู้ป่วยทุกราย อาหาร และของเสี ย จากปฏิบ้ ติก ารทางการแพทย์ จะต้ อ งถูก
(Standard precautions for all patients) จัดการตามขั้นตอนทีต่ ้องทาเป็นประจาเพื่อความปลอดภัย9
ได้ แ ก่ การท าความสะอาดมื อ และหลั ก สุ ข อนามั ย ของระบบ
3. มาตรการเสริมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ทางเดิ น หายใจ การใช้ อุ ป กรณ์ ป้ อ งกั น ส่ ว นบุ ค คล (personal
3.1 การป้องกันการสัมผัสและฝอยละอองขนาดใหญ่ (contact
protective equipment-PPE) ที่สอดคล้องกับการประเมินความ
and droplet precautions)
เสี่ยง การใช้วิธีปฎิบัติเพื่อการฉีดยาอย่างปลอดภัย การจัดการกับ
• ทุ ก ๆ คน รวมถึ ง ญาติ ข องผู้ ป่ ว ย บุ ค ลากรสาธารณสุข
ขยะอย่างปลอดภัย ความสะอาดของผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าห่ม
และผู้ ที่ ม าเยี่ ย มผู้ ป่ ว ย จะต้ อ งปฏิ บั ติ ต ามแนวทางเพื่ อ
ที่ใช้กับผู้ป่วย การทาความความสะอาดสิ่งแวดล้อม และการฆ่าเชื้อ
ป้องกันการสัมผัสและฝอยละอองขนาดใหญ่ ก่อนเข้าห้อง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการดูแลผู้ป่วย
ของผู้ป่วยที่ต้องสงสัยและผู้ป่วยยืนยัน
ต้องจัดให้มีมาตรการหลักสุขอนามัยของระบบทางเดินหายใจ ดังนี้ • ควรจัด ให้ผู้ป่วยอยู่ ในห้องแยกที่มี อากาศถ่ายเท ค่า การ
• ให้ผู้ป่วยทุกรายปิดจมูกและปากด้วยกระดาษทิช ชู่หรื อ ถ่ายเทอากาศทีเ่ พียงพออยู่ที่ 60 ลิตร/วินาที/คน10
พับข้อศอกเมื่อไอหรือจาม • กรณีที่มีห้องแยกไม่พอ ควรรวมผู้ป่วย COVID-19 ทุกคน
• จั ด หาหน้ า กากอนามั ย ให้ ผู้ ป่ ว ยที่ ต้ อ งสงสั ย สวมใส่ ใ น ไว้ในตึกเดียวกัน
ระหว่างอยู่ในบริเวณรอหรือบริเวณสาธารณะ หรือในหอ • เตี ย งผู้ ป่ ว ยแต่ ล ะเตี ย ง ควรวางให้ ห่ า งกั น อย่ า งน้ อ ย 1
ผู้ป่วยรวมแยกโรค เมตร โดยไม่คานึงว่าเป็นผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดเชื้อหรือไม่
• ทาความสะอาดมือทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งคัดหลั่งจากระบบ • ควรกาหนดชุดเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อ
ทางเดินหายใจ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
บุ ค ลากรสาธารณสุ ข ควรใช้ เ ครื่ อ งมื อ My 5 Moments ของ • เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยทุกคนต้องใช้หน้ากากทางการแพทย์

องค์การอนามัยโลกก่อนทาหัตถการปลอดเชื้อหรือทาความสะอาด (ดูรายละเอียดได้ในบรรณานุกรมรายการที่ 2)
ใด ๆ หลังสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง หลังสัมผัสตัวผู้ป่วย และหลังสัมผัสสิ่งที่ • เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา หรือป้องกัน
อยูแ่ วดล้อมตัวผู้ป่วย5 ใบหน้ า (กระบั ง ป้ อ งกั น ใบหน้ า ) เพื่ อ หลี ก เลี ย งการ
• สุ ข อนามั ย มื อ ได้ แ ก่ การท าความสะอาด มื อ ด้ ว ย ปนเปื้อนเสมหะ
แอลกอฮอล์ถูมือ หรือ น้ากับสบู่ • เจ้าหน้าที่ ทุกคนต้ องใส่ เสื้อกาวน์แขนยาวแบบไม่ปลอด
• ควรใช้แอลกอฮอล์ถมู ือ หากมือไม่เปรอะเปื้อนมาก เชื้อและสะอาด
• ล้างมือด้วยน้ากับสบู่ หากมือเปรอะเปื้อนมาก • เจ้าหน้าที่ทุกคนควรใส่ถุงมือ
• อาจไม่จาเป็นต้องใส่รองเท้าบูท และคาดผ้ากันเปื้อนใน
การใช้อุปกรณ์ PPE อย่างสม่าเสมอ ถูกต้อง และตามหลักการ จะช่วย ระหว่างการดูแลเป็นประจา
ลดการแพร่เชื้อได้ด้วย ความมีประสิทธิผลของการใช้ PPE นั้นขึ้นอยู่ • หลังเสร็จสิ้นภารกิจ ต้องถอดอุปกรณ์ PPE และทิ้งอย่าง
อย่ า งยิ่ ง กั บ การจั ด ให้ มี PPE อย่ า งเพี ย งพอและต่ อ เนื่ อ ง การจั ด ถูกต้อง รวมทั้งต้องทาความสะอาดมืออีกครั้ง56 หากต้อง
ฝึกอบรมให้แก่บุคลากรอย่างเพียงพอ การปฏิบัติสุขอนามัยมือ และ ดูแลผู้ป่วยอีกคนหนึ่ง จาเป็นต้องเปลี่ยนชุดใหม่
การปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด2,5,6,7 • อุ ป กรณ์ ค วรเป็ นแบบใช้ ครั้ ง เดี ย วและทิ้ ง ได้ (เช่ น หู ฟั ง
ข้ อ ส าคั ญ อี ก ประการหนึ่ ง คื อ ต้ อ งมี ก ารท าความสะอาด ปลอกรั ด ต้ น แขนส าหรั บ วั ด ความดั น ปรอท) หากใช้
สิ่งแวดล้อมและฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องและสม่าเสมอ การทาความ อุปกรณ์ ร่วมกันระหว่างผู้ป่วยหลายคน จะต้องทาความ
สะอาดพื้นผิวในบริเวณโดยรอบอย่างถ้วนทั่วด้วยน้าและสารชาระ สะอาดและฆ่าเชื้อทุกครั้ง (เช่น ใช้แอลกอฮอล์ 70%)
ล้าง และใช้น้ายาฆ่าเชื้อที่ใช้สาหรับโรงพยาบาล (เช่น โซเดียมไฮ • เจ้ า หน้ า ที่ ทุ ก คนต้ อ งหลีกเลี่ย งการสัม ผัส ตา จมู ก ปาก
โปคลอไรท์) เป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิผลและเพียงพอ 8 อุปกรณ์ ด้วยมือเปล่าหรือระหว่างใส่ถุงมือที่อาจปนเปื้อน
และเครื่องมือทางการแพทย์ ผ้าต่าง ๆ อุปกรณ์ที่ใช้กับบริการทาง • หลีกเลี่ยงการขนย้ายผู้ป่วยออกจากห้ อง หรือออกจากตึก
ผู้ ป่ ว ย นอกจากมี ข้ อ บ่ ง ชี้ ที่ จ าเป็ น จริ ง ๆ ควรใช้
เครื่องเอกซเรย์แบบพกพา หรืออุปกรณ์อื่น ๆ สาหรับ
2
การตรวจวินิจฉัย หากจาเป็นต้องขนย้ายผู้ป่วยออกจาก • ทีมงานจะต้องสวมเสื้อกาวน์แขนยาวแบบไม่ปลอดเชื้อ
ห้องผู้ป่วย ให้วางแผนเส้นทางเพื่อลดการสัมผัสระหว่าง และสะอาด และสวมถุงมือ ถ้าเสื้อกาวน์ที่ใช้ไม่กันน้า ควร
เจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยรายอื่น และผู้ที่มาเยี่ยม และต้องจัดให้ คาดผ้ากันเปื้อนชนิดกันน้า สาหรับทาหัตถการที่คาดว่าจะ
ผู้ป่วยสวมหน้ากากทางการแพทย์ มีของเหลวปริมาณมากที่อาจซึมผ่านเสื้อกาวน์ได้2
• ทีมขนย้ายผู้ป่วยต้องทาความสะอาดมือก่อนและหลังเสร็จสิ้น • จากัดจานวนคนในห้องให้น้อยที่สุดเท่าที่จาเป็นต่อการให้
ภารกิจ และใส่อุปกรณ์ PPE ตามที่ระบุแนวทางฉบับนี้ การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วย
• แจ้งให้หน่วยรับผู้ป่วยทราบเพื่อเตรียมตัวป้องกันใด ๆ ก่อนนา
ตัวผู้ป่วยไปถึง 4. ระบบบริหารจัดการด้านการควบคุมและป้องกัน การติด
• ทาความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ผู้ป่วยสัมผัสอย่างสม่าเสมอ เชื้อ (administrative controls)
• จากัดจานวนเจ้าหน้าที่ที่จาเป็นในการดูแลผู้ป่วย และจากัด ระบบบริหารจัดการ 2และนโยบายในการควบคุมและป้องกัน
จานวนญาติและผู้มาเยี่ยม การแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ในสถานบริการสาธารณสุข
• จดบั น ทึ ก รายละเอี ย ดของทุ ก คนที่ เ ข้ า ไปในห้ อ งผู้ ป่ ว ย ทั้ ง ได้แก่ การมีโครงสร้างจาเป็นพื้นฐานและกิจกรรมสาหรับการ
เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้เข้าเยี่ยมทุกคน ควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
การให้ความรู้กับผู้ดูแลผู้ป่วย การพัฒนานโยบายในการตรวจ
3.2 การป้ อ งกั น การแพร่ ก ระจายทางอากาศ (airborne พบโดยเร็ ว ในผู้ ป่ ว ยที่ มี ก ารติ ด เชื้ อ ในระบบทางเดิ น หายใจ
precautions) ส าหรั บ หั ต ถการที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด ฝอยละออง เฉียบพลันที่อาจเกิดจากไวรัสโควิด -19 ศักยภาพในการตรวจ
(aerosol-generating procedures) ในห้องปฏิบัติการเพื่อระบุสาเหตุของโรค การป้องกันความ
แออัดโดยเฉพาะในแผนกฉุกเฉิน การจัดให้มีบริเวณรอเฉพาะ
หัตถการที่ก่อให้เกิดฝอยละอองบางอย่าง เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ
สาหรับผู้ป่วยที่มีอาการ การแยกผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล
(tracheal intubation) การใช้ เ ครื่ อ งช่ ว ยหายใจชนิ ด ไม่ ใ ส่ ท่ อ
ไปต่างหาก การจัดให้มีอุปกรณ์ PPE อย่างเพียงพอ และการ
(non-invasive ventilation) การเจาะคอ (tracheotomy) การ
ปฏิบัติตามขั้นตอนและนโยบายในการควบคุมและป้องกันการ
ทา CPR manual ventilation before intubation การส่องกล้อง
แพร่กระจายเชื้อในทุกมิติของการให้การดูแลรักษา
ตรวจหลอดลม (bronchoscopy) มี ค วามเสี่ ย งมากขึ้ น ในการ
แพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา12,13 4.1 มาตรการการบริหารจัดการด้านบุคลากร
• จัดให้มีการอบรมเจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอ
เจ้าหน้าที่จะต้องทาหัตถการที่ก่อนให้เกิดฝอยละออง ดังนี้
• จัดสรรอัตราบุคลากรต่อคนไข้ให้เพียงพอ
• ต้องทาหัตถการในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศเพียงพอ โดยต้อง • จัดให้เจ้าหน้าที่มีกระบวนการเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อระบบ
มีอากาศหมุนเวียนอย่างน้อย 160 ลิตร/วินาที/คน หรือในห้อง ทางเดินหายใจเฉียบพลันที่อาจกิดจากไวรัส COVID-19
ความดันลบที่มีค่าการถ่ายเทอากาศอย่างน้อยที่ 12 ต่อชั่วโมง • สื่อสารให้เจ้าหน้าที่และประชาชนเข้าใจความสาคัญของ
และมี ก ารควบคุม ทิศ ทางของอากาศไหลเวีย นเมื่อ มีก ารใช้ การรี บ มาโรงพยาบาลเมื่ อ มี อ าการ เพื่ อ ลดการ
เครื่องช่วยหายใจ10 แพร่กระจายเชื้อในชุมชน
• ใช้อุปกรณ์ปกป้องระบบทางเดินหายใจชนิดกรองอนุภาค • กากับติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตาม standard
อย่างน้อยให้เทียบเท่าหน้ากาก N95 ตามมาตรฐานของ precautions และจั ด ให้ มี ก ลไกในการปรั บ ปรุ ง อย่ า ง
สถาบันอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกา เหมาะสม
(US National Institute for Occupational Safety and
5. การควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมและวิศวกรรม
Health - NIOSH) หรือหน้ากาก FFP2 ตามมาตรฐานของ
มาตรการนี้มีส่วนสาคัญในการป้ องกัน การแพร่ กระจายเชื้ อ
ยุโรป ข้อควรระวัง คือ หนวด เครา อาจเป็นอุปสรรคทา
โดยการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน14 การถ่ายเท
ให้ไม่สามารถสวมหน้ากากได้กระชับ13
อากาศที่ เ พี ย งพอในทุ ก พื้ น ที่ 10 และการท าความสะอาด
• ใช้อุปกรณ์ป้องกันดวงตา เช่น แว่นครอบตา (goggles)
สิ่งแวดล้อมโดยรอบของสถานบริการสาธารณสุขอย่างเพียงพอ
หรือกระบังป้องกันใบหน้า (face shield)

3
นอกจากนั้น ควรจัดวางเตียงผู้ป่วยให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร • บรรจุสิ่งส่งตรวจในถุงส่งตรวจแบบกันรั่ว (ใส่ถุงซ้อนสอง
การแยกให้ห่างกันและอากาศที่ถ่ายเทเพียงพอจะช่วยลดการ ชั้น secondary container) ที่มีช่องแยกต่างหากสาหรับ
แพร่กระจายเชื้อโรคในสถานบริการสาธารณสุขได้15 สิ่งส่งตรวจ (ถุงใส่วัตถุติดเชื้อ หรือ biohazard
specimen bag) โดยติดป้ายชื่อผูป้ ่วยไว้ทภี่ าชนะสิ่งส่ง
จ าเป็ น ต้ อ งมี ขั้ น ตอนการท าความสะอาดและฆ่ า เชื้ อ อย่ า ง
ตรวจ พร้อมทั้งมีใบส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่เขียน
สม่าเสมอและถูกต้อง 9 การทาความสะอาดพื้นผิวในบริเวณ
ชัดเจน
โดยรอบอย่างถ้วนทั่วด้วยน้าและสารชาระล้าง และใช้น้ายาฆ่า
• มีระบบความปลอดภัยจากการติดเชื้อในห้องปฏิบัติการ
เชื้อที่ใช้สาหรับโรงพยาบาล (เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์) เป็น
และการขนส่ง ตามประเภทของเชื้อที่เก็บ
ขั้ น ตอนที่ มี ป ระสิ ท ธิ ผ ลและเพี ย งพอ 8 จั ด การกั บ ผ้ า ต่ า ง ๆ
• นาส่งสิ่งส่งตรวจเองกับมือเสมอ ห้ามส่งด้วยระบบท่อลม
อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ กั บ บริ ก ารทางอาหาร และของเสี ย จากการ
ขนส่ง (pneumatic tube system)
ปฏิบัติการทางการแพทย์ตามขั้นตอนที่ต้องทาเป็นประจาเพื่อ
• บันทึกชื่อและวันเดือนปีเกิดของผูป้ ่วยอย่างชัดเจน รวมถึง
ความปลอดภัย
ระบุว่า “ต้องสงสัยป่วยเป็นโรคโควิด-19” ในใบส่งตรวจ
ในห้องปฏิบัติการ และแจ้งห้องปฏิบัติการให้รับทราบ
ระยะเวลาในการป้องกันฝองละอองขนาดใหญ่ โดยเร็วว่ากาลังส่งสิ่งส่งตรวจไป
และการสัมผัส (contact and droplet
precautions) จากผู้ป่วยโควิด-19 ข้อแนะนาในการดูแลผู้ป่วยนอกที่ต้องสงสัย
โดยหลั ก การแล้ ว จะต้ อ งปฏิ บั ติ ต ามแนวทางในการป้ อ งกั น การ เป็นโรคโควิด-19
แพร่ ก ระจายเชื้ อ ในผู้ ป่ ว ยทุ ก ราย (standard precautions) ทุกสถานบริการสาธารณสุขควรนาหลักการพื้นฐานของการ
ตลอดเวลา และทาต่อไปจนกว่าผู้ป่วยจะไม่มีอาการ อย่างไรก็ตาม ควบคุ ม และป้ อ งกั น การแพร่ ก ระจายเชื้ อ และ standard
ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางแพร่กระจายไวรัสไม่มากพอที่จะกาหนด precautions ในการดาเนินงานทั้งกับการดูแลผู้ป่วยนอกและ
ระยะเวลาของการปฏิบัติ standard precautions ในกรณีผู้ป่วย การบริการระดับปฐมภูมิ มาตรการสาหรับโควิด -19 ที่ควร
ไม่มีอาการ นาไปปฏิบัติมีดังนี้
• การคัดแยกผู้ป่วย และการตรวจพบผู้ป่วยให้ได้โดยเร็ว
การเก็บและจัดการกับสิ่งส่งตรวจห้องปฏิบัติการ • เน้นย้าเรื่องการทาความสะอาดมือบ่อย ๆ และสุขอนามัย
ของผู้ต้องสงสัยป่วยเป็นโรคโควิด-19 ของระบบทางเดินหายใจ (ไอจามอย่างถูกหลักสุขอนามัย
สิ่งส่งตรวจห้องปฏิบัติการทุกอย่างของผู้ต้องสงสัยป่วยเป็นโรคโค และทาความสะอาดมือทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง จาก
วิด-19 ต้องถือว่าเป็นวัตถุติดเชื้อ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการ เก็บ ระบบทางเดิน หายใจ) และการให้ผู้ป่ วยที่มี อาการทาง
การจั ด การ และการส่ ง ตรวจ ทุ ก คนต้ อ งเข้ ม งวดกั บ มาตรการ ระบบทางเดินหายใจต้องใส่หน้ากาก
ป้ อ งกั น การติ ด เชื้ อ ตาม standard precautions และความ • การป้ อ งกั น ฝองละอองขนาดใหญ่ แ ละการป้ อ งกั นการ
ปลอดภัยทางชีวภาพ (biosafety) อย่างเคร่งครัด16,17,18 สั ม ผั ส (contact and droplet precautions) กั บ ผู้ ป่ ว ย
• เจ้ า หน้ า ที่ ที่ ท าหน้ า ที่ เ ก็ บ สิ่ ง ส่ ง ตรวจทุ ก คนต้ อ งสวม ทุกรายทีต่ ้องสงสัยติดเชื้อ
อุ ป กรณ์ PPE หากต้ อ งเก็ บ สิ่ ง ส่ ง ตรวจในขณะที่ ท า • ต้ อ งจั ด ให้ ผู้ ป่ ว ยที่ ต้ อ งสงสั ยที่ มี อ าการ เข้ า รั บ การดูแล
หั ต ถการที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด ฝอยละออง จะต้ อ งใส่ อุ ป กรณ์ รักษาก่อน
ปกป้องระบบทางเดินหายใจชนิดกรองอนุภาค โดยอย่าง • ต้องจัดบริเวณรอสาหรับ ผู้ป่วยที่ต้องสงสัย ที่มีอาการให้
น้ อ ยต้ อ งใส่หน้ ากาก N95 ตามมาตรฐาน NIOSH หรื อ แยกห่างจากผู้ป่วยรายอื่น
หน้ากาก FFP2 ตามมาตรฐานของยุโรป หรือเทียบเท่า • ต้องให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติเกีย่ วกับการสังเกตอาการ
• เจ้าหน้าที่นาส่งสิ่งส่งตรวจจะต้องได้รับการอบรมเกีย่ วกับ ตนเอง การป้องกันการติดเชื้อขั้นพื้นฐาน และสถาน
วิธีการนาส่งอย่างปลอดภัย และขัน้ ตอนการลดการ บริการสาธารณสุขที่ควรไปเมื่อมีอาการ
ปนเปื้อนเมื่อสิ่งส่งตรวจหก8
4
บรรณานุกรม http://www.icanetwork.co.za/icanguideline2019/,
accessed 20 January 2020).
1. World Health Organization. Infection prevention and 9. Decontamination and Reprocessing of Medical
control during health care for probable or confirmed Devices for Health-care Facilities. Geneva: World
cases of Middle East respiratory syndrome coronavirus Health Organization;2016
(MERS-CoV) infection: interim guidance (accessed (https://www.who.int/infectionprevention/
17 January 2020). publications/decontamination/en/, accessed
2. World Health Organization. Infection prevention and 20 January 2020).
control of epidemic- and pandemic-prone acute 10. Atkinson J, Chartier Y, Pessoa-Silva CK, Jensen P,
respiratory diseases in health care. (accessed Li Y, Seto WH, editors. Natural ventilation for
17 January 2020). infection control in health-care settings. Geneva:
3. World Health Organization. Guidelines on core World Health Organization; 2009
components of infection prevention and control (https://apps.who.int/iris/handle/10665/44167,
programmes at the national and acute health care accessed 17 January 2020).
facility level. Geneva: World Health Organization;
2016 (accessed 20 January 2020). 11. Hui DS. Epidemic and emerging coronaviruses
4. Minimum requirements for infection prevention and (severe acute respiratory syndrome and Middle East
control. Geneva: World Health Organization; 2019 respiratory syndrome). Clin Chest Med.
(https://www.who.int/infectionprevention/ 201738:71−86. doi:10.1016/j.ccm.2016.11.007.
publications/min-req-IPC-manual/en/, 12. Tran K, Cimon K, Severn M, Pessoa-Silva CL,
accessed 20 January 2020). Conly J. Aerosol generating procedures and risk of
5. WHO guidelines on hand hygiene in health care: first transmission of acute respiratory infections to
global patient safety challenge – clean care is safer care. healthcare workers: a systematic review. PLoS One.
Geneva: World Health Organization; 2009 2012;7:e35797. doi: 10.1371/journal.pone.0035797.
(https://apps.who.int/iris/handle/10665/44102, accessed Epub 2012 Apr 26.
17 January 2020). 13. How to perform a particulate respirator seal
6. How to put on and take off personal protective check. Geneva: World Health Organization; 2008.
equipment (PPE). Geneva: World Health Organization; (http://www.who.int/csr/resources/publications/respi
2008 ratorsealcheck/en/, accessed 17 January 2020). For
(http://www.who.int/csr/resources/publications/putonta the latest information, please consult the WHO
keoffPPE/en/, accessed 17 January 2020). coronavirus webpage
7. Rational use of PPE (http://www.who.int/csr/disease/coronavirus_infectio
8. CDC and ICAN. Best Practices for Environmental ns/en/).
Cleaning in Healthcare Facilities in Resource-Limited 14. Adams J, Bartram J, Chartier Y, editors. Essential
Settings. Atlanta, GA: US Department of Health and environmental health standards in health care.
Human Services, CDC; Cape Town, South Africa: Geneva: World Health Organization; 2008
Infection Control Africa Network; 2019. (https://apps.who.int/iris/handle/10665/43767,
(https://www.cdc.gov/hai/prevent/resourcelimited/ accessed 17 January 2020).
environmental-cleaning.html and 15. Jefferson T, Del Mar CB, Dooley L, Ferroni E, Al-
Ansary LA, Bawazeer GA et al. Physical interventions
5
to interrupt or reduce the spread of respiratory • Abdullah M Assiri, Director General, Infection
viruses. Cochrane Database Syst. Rev. 2011, Control, Ministry of Health, Saudi Arabia.
7:CD006207.(http://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.10 • Michael Bell, Deputy Director of Division of
02/14651858.CD006207.pub4/abstract;jsessionid=074 Healthcare Quality Promotion, Centers for Disease
644E776469A4CFB54F28D01B82835.d03t02. Accessed Control and Prevention, Atlanta, USA.
17 January 2020). • Gail Carson, ISARIC Global Support Centre,
16. Laboratory testing for 2019 novel coronavirus Director of Network Development, Consultant in
(2019-nCoV) in suspected human cases: interim Infectious Diseases and Honorary Consultant
guidanceJanuary 2020. Geneva: World Health Public Health England, United Kingdom.
Organization. • John M Conly, Department of Medicine,
(https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/33 Microbiology, Immunology and Infectious
0676/9789240000971-eng.pdf). Diseases, Calvin, Phoebe and Joan Snyder Institute for
17. Laboratory testing for Middle East respiratory Chronic Diseases, Faculty of Medicine, University of
syndrome coronavirus: interim guidance (revised), Calgary, Calgary, Canada.
January 2018. Geneva: World Health Organization; • Barry Cookson, Division of Infection and
2018 Immunity, University College, London, United
(https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/25 Kingdom.
9952/WHO-MERS-LAB-15.1-Rev1-2018- • Babacar N Doye, Board Member, Infection Control
eng.pdf?sequence=1, accessed 17 January 2020). Network, Dakar, Senegal.
18. Laboratory biosafety manual, third edition. • Kathleen Dunn, Manager, Healthcare Associated
Geneva: World Health Organization; 2004 Infections and Infection Prevention and Control
(https://apps.who.int/iris/handle/10665/42981, Section, Centre for Communicable Disease Prevention
accessed January 2020). and Control, Public Health Agency of Canada.
• Dale Fisher, Global Outbreak Alert and Response

กิตติกรรมประกาศ Network steering committee.


• Fernanda Lessa, Epidemiologist, Division of
แนวทางต้ น ฉบั บ เกี่ ย วกั บ การควบคุ ม และป้ อ งกั น การ Healthcare Quality Promotion, Centers for Disease
แพร่กระจายของเชื้อ MERS-CoV1 พัฒนาขึ้นโดยเครือข่ายการ Control and Prevention, Atlanta, USA.
ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ ขององค์ การอนามัยโลก และ • Moi Lin Ling, Director, Infection Control
เครือข่ายการประเมินทางคลินิกและการตอบสนองต่อโรคอุบัติ Department, Singapore General Hospital,
ใหม่ องค์การอนามัยโลกขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการ Singapore and President of Asia Pacific Society of
พัฒนาและปรับปรุงเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับการควบคุมและ Infection Control (APSIC).
ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค • Fernando Otaiza O’Rayan, Head, National
IPC Program, Ministry of Health, Santiago, Chile
ส าหรั บ เอกสารฉบั บ นี้ เป็ น การพั ฒ นาขึ้ น โดยเครือ ข่ า ยการ Diamantis Plachouras, Unit of Surveillance and
ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ ขององค์ การอนามัยโลก และ Response Support, European Centre for Disease
ผู้ เ ชี่ ย วชาญจากนานาชาติ องค์ ก ารอนามั ย โลกขอขอบคุ ณ Prevention and Control.
บุคคลดังต่อไปนี้ที่ได้กรุณาทบทวนและให้ความเห็น (รายชื่อ • Wing Hong Seto, Department of Community
เรียงตามตัวอักษร) Medicine, School of Public Health, University of
Hong Kong, Hong Kong, People’s Republic of
6
China.
• Nandini Shetty, Consultant Microbiologist, Reference
Microbiology Services, Colindale, Health Protection
Agency, United Kingdom

องค์การอนามัยโลกขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
Benedetta Allegranzi, April Baller, Ana Paula Coutinho,
Janet Diaz, Christine Francis, Maria Clara Padoveze,
Joao Paulo de Toledo, Maria Van Kerkhove.

องค์การอนามัยโลกยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่ อการ
เปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจกระทบกับแนวทางเฉพาะกาลฉบับนี้ หาก
มี ปั จ จั ย ใดเปลี่ ย นแปลง องค์ ก ารอนามั ย โลกจะออกเอกสารที่
ปรับปรุงใหม่ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แนวทางเฉพาะกาล
ฉบับนี้จะหมดอายุภายใน 2

องค์การอนามัยโลก พ.ศ. 2563 สงวนสิทธิบางประการ งานชิ้นนี้อยู่ภายใต้ใบอนุญาตที่ CC BY -NC-SA 3.0 IGO

7
8

You might also like