Professional Documents
Culture Documents
แผนการพยาบาลรายบุคคล/รายงานกรณีศึกษา
วิชา ฝึ กปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาล
(พย.1203)
โดย
โดย
คำนำ
รายงานฉบับนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิค
การพยาบาล (พย 1203) ปี การศึกษา 2565 แหล่งฝึ กหอผู้ป่วยอายุร
กรรมชาย 5 โรงพยาบาลตรัง โดยได้ศก
ึ ษาเกี่ยวกับการให้เลือดแก่ผู้ป่วย
และได้มียกตัวอย่างกรณีศึกษามา 1 กรณี ซึ่งสามารถใช้รายงานเล่มนี ้
สำหรับประกอบการศึกษาหรือใช้หาความรู้ เพื่อให้มีความเข้าใจมากยิ่ง
ขึน
้ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการฝึ กภาคปฏิบัติได้
สามารถให้คำแนะนำและการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีคุณภาพ และมีความรู้
ความชำนาญสามารถนำไปใช้ดูแลผู้ป่วย และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไป
ใช้ในการฝึ กภาคปฏิบัติในครัง้ ต่อไปได้หรือนำไปใช้เมื่อปฏิบัติงานได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ
ขอขอบคุณอาจารย์จันทร์เพ็ญ มณีโชติ ที่คอยให้คำปรึกษาคำ
แนะนำ ข้อเสนอแนะ และให้ข้อมูลความรู้ในการทำรายงานเล่มนีจ
้ นเสร็จ
สมบูรณ์ ได้เพิ่มพูนความรู้ซึ่งเป็ นประสบการณ์ที่ดีในการฝึ กปฏิบัติงาน
นอกสถานที่ในครัง้ นี ้ โดยมีการคำนึงถึงการให้บริการ ด้วยหัวใจความเป็ น
มนุษย์ยึดหลักจริยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนแก่ผู้ป่วยและญาติต่อไป
ข
ค
สารบัญ
เนื้อหา
หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
Suction (การดูดเสมหะ) 1
วัตถุประสงค์ 1
แนวทางการดูดเสมหะ 1
การดูดเสมหะทางปาก 7
การดูดเสมหะทางหลอดทางเดินหายใจเทียม (Tracheostomy
Tube) 8
ข้อควรระวัง 10
ความแตกต่างของการดูดเสมหะแบบระบบปิ ดและการดูดเสมหะแบบ
ระบบเปิ ด 11
ข้อมูลเบื้องต้นเคสกรณีศึกษา 13
สรุปการนำมาใช้กับเคสกรณีศึกษา 14
บรรณานุกรม ค
ง
1
Suction (การดูดเสมหะ)
การดูดเสมหะ หมายถึง การใช้สายยางดูดเสมหะซึ่งปราศจากเชื้อ
ผ่านเข้าทางท่อช่วยหายใจ เพื่อนำ
เสมหะออกจากทางเดินหายใจ ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง ควรดูดเสมหะ
เมื่อมีข้อบ่งชี ้ ดังนี ้
ผู้ป่วยหายใจมีเสียงเสมหะ ผูป
้ ่ วยหายใจหอบ หายใจลำบาก ใช้แรง
ในการหายใจมากขึน
้ ผู้ป่วยไอบ่อยเสียงเสมหะ ผู้ป่วยร้องขอให้ดูดเสมหะ
และดูดก่อนให้อาหารทางสายยางหรือก่อนถอดท่อช่วยหายใจโดยต้องทำ
ก่อน Deflate balloon
วัตถุประสงค์
1. ช่วยขจัดเสมหะทำให้ทางเดินหายใจโล่ง
2. ป้ องกันการอุดกัน
้ ทางเดินหายใจ
3. ป้ องกันหรือลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ
4. ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
แนวทางการดูดเสมหะ
การดูดเสมหะในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ใส่ท่อช่วยหายใจควรดำเนินการด้วย
ผู้ปฏิบัติ 2 คน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการปนเปื้ อน (Contamination)
มากกว่าทำเพียงคนเดียว ซึ่งการดูดเสมหะในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ใส่ท่อช่วย
หายใจ แบ่งออกเป็ น 2 ระบบ ดังนี ้
1.การดูดเสมหะระบบเปิ ด (Open suction system)
อุปกรณ์
1. เครื่องดูดเสมหะชนิดปรับแรงดันได้ (Mobile suction หรือ Wall
suction)
2
การดูดเสมหะวิธีการนีต
้ ้องปลดเครื่องช่วยหายใจออกจากผู้ป่วย
ก่อน แล้วจึงใส่สายดูดเสมหะ
ปราศจากเชื้อชนิดใช้ครัง้ เดียวทิง้ เข้าไปดูดเสมหะผ่านท่อช่วยหายใจ มีขน
ั้
ตอนในการดำเนินการการดูด
เสมหะระบบเปิ ดแบ่งออกเป็ น 3 ระยะ (Phase) ดังนี ้
1.1 ระยะก่อนดูดเสมหะ (Pre suctioning phase)
1.1.1 การประเมินข้อบ่งชีก
้ ารดูดเสมหะ
ปั จจุบันการดูดเสมหะผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่จำเป็ นต้องทำ
เป็ นประจำ (Routine) แต่จะทำเมื่อ
3
อาจจะเกิดขึน
้ โดยคำนวณจากปริมาตรอากาศที่หายใจเข้าออกในแต่ละ
ครัง้ (Tidal volume) ซึ่งค่าปกติในผู้ใหญ่เท่ากับ 8-10 มิลลิลิตร/น้ำหนัก
ตัว 1 กิโลกรัม 225 หรือประมาณ 500 มิลลิลิตรในผู้ใหญ่ปกติ หาก
ปริมาตรอากาศมากกว่า 900 มิลลิลิตรจะทำให้ผู้ป่วยเกิดการหายใจ
ลำบากได้
กรณีใช้ AMBU ให้ต่อกับออกซิเจน 100% ด้วยอัตราการไหล 10-
15 มิลลิลิตรต่อนาที เพื่อเพิ่ม
ปริมาตรอากาศ ซึ่งโดยทั่วไป AMBU ของผู้ใหญ่จะมีความจุประมาณ
1,500 มิลลิลิตร หากผู้ปฏิบัติใช้สองมือบีบ AMBU ให้ยุบลงครึ่งหนึ่ง จะ
ได้ปริมาตรอากาศประมาณ 800 มิลลิลิตร 225 ในการเพิ่มปริมาตรของ
ปอดนัน
้ จะให้ 2-3 ครัง้ โดยในแต่ละครัง้ ของการเพิ่มปริมาตรปอดจะให้
เพียงประมาณ 1 เท่าครึ่งของปริมาตรอากาศที่หายใจเข้าออกในแต่ละ
ครัง้
ดันเลือดที่ไปเลีย
้ งสมองลดลงเป็ นต้น โดยใช้หลักการเช่นเดียวกับในระยะ
ก่อนดูดเสมหะ
การดูดเสมหะวิธีการนีไ้ ม่ต้องปลดเครื่องช่วยหายใจออกจากผู้ป่วย
ผู้ป่วยจึงไม่สูญเสียแรงดันภายใน
ถุงลมขณะดูดเสมหะและลดการสูญเสียปริมาตรความจุของปอด
เนื่องจากสายดูดเสมหะจะมีปลอกพลาสติกปราศจากเชื้อห่อหุ้มตลอด
แนว จึงสามารถใช้สายดูดเสมหะนีซ
้ ้ำได้หลายครัง้
แนวทางการดูดเสมหะระบบปิ ดจะค่อนข้างคล้ายกับการดูดเสมหะระบบ
เปิ ด โดยแบ่งออกเป็ น 3 ระยะ ดังนี ้
2.1 ระยะก่อนดูดเสมหะ (Pre suctioning phase) การปฏิบัติในหัวข้อ
การประเมินข้อบ่งชีก
้ ารดูดเสมหะ การให้ข้อมูลการดูดเสมหะ การจัดท่า
และการยึดหลักปลอดเชื้อ ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการดูดเสมหะระบบเปิ ด
2.1.1 ขนาดสายดูดเสมหะ (Suction catheter size) หลักการ
เลือกสายดูดเสมหะ
เช่นเดียวกับการใช้ในระบบเปิ ด กล่าวคือ เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของ
สายดูดเสมหะประมาณครึ่งหนึ่งของเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ
2.1.2 การให้ออกซิเจน (Oxygenation) ให้ออกซิเจน 100% จาก
เครื่องช่วยหายใจนาน 1-2 นาที ก่อนดูดเสมหะ (Pre-oxygenation) เพื่อ
เพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน (Hyperoxygenation) เพิ่มการระบาย
อากาศ (Hyperventilation) และขยายปอดหรือเพิ่มปริมาตรปอด
2.2 ระยะดูดเสมหะ (Suctioning phase)
2.2.1 การดูดเสมหะในปาก ควรปฏิบัติทุกครัง้ ก่อนการดูดเสมหะใน
ท่อช่วยหายใจ เพื่อป้ องกันการสำลักระหว่างการดูดเสมหะ โดยหลักการ
ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับการดูดเสมหะระบบเปิ ด
2.2.2 การใช้น้ำเกลือนอร์มัล (Normal saline solution: NSS) ไม่
แนะนำให้ใช้ด้วยหลักการและเหตุผลตามที่เสนอไว้ในระบบเปิ ด
11
การดูดเสมหะทางปาก
วิธีปฏิบัติ
1.เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม และทดสอบแรงดันของเครื่องดูด
เสมหะ
2.ล้างมือให้สะอาด
13
3.บอกให้ผู้ป่วยรับทราบ
4.ใส่ถุงมือตรวจโรค หยิบสายดูดเสมหะต่อเข้ากับเครื่อง โดยมือข้างถนัด
จับปลายสาย และอีกข้างจับสายระบายเสมหะ ระวังไม่ให้สายยางดูด
เสมหะสกปรก หรือสัมผัสกับสิ่งอื่นๆ
5.เปิ ดเครื่องดูดเสมหะ บอกให้ผู้สูงอายุทราบอีกครัง้
6.เปิ ดบริเวณข้อต่อตัววาย (Y - tube) หรือพับสายยางดูดเสมหะนัน
้ ไว้
พร้อมสอดสายยางเข้าช่องปาก ด้วยความนุ่มนวล
7.ในขณะดูดเสมหะไม่ควรดูดนาน แล้วค่อยๆถอยสายยางดูดเสมหะออก
อย่างเบาๆและนุ่มนวล ให้มีช่วงจังหวะหยุดพักให้ผู้ป่วยได้หายใจหรือได้
รับออกซิเจน
8.ระหว่างดูดเสมหะให้สังเกตลักษณะของเสมหะ สี ปริมาณ รวมทัง้
สังเกตดูว่ามีสีเลือดปนหรือไม่ สังเกตการหายใจ และสีผิวของผู้ป่วย
9.หากผูป
้ ่ วยเกร็ง หรือมีฟันในช่องปาก สามารถใช้ mouth gag โดยสอด
เข้าช่องปากเพื่อนำทางสายยางดูดเสมหะได้ง่าย
(ขัน
้ ตอนการใส่ mouth gag)
10.เมื่อดูดเสมหะเรียบร้อย ล้างสายยางดูดเสมหะในน้ำสำหรับล้างสาย
แล้วเก็บสายยางดูดเสมหะและถุงมือทิง้ ถังขยะ
11.ปิ ดเครื่องดูดเสมหะ
14
การดูดเสมหะทางหลอดทางเดินหายใจเทียม (Tracheostomy
Tube)
วิธีปฏิบัติ
1.เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม แจ้งให้ผู้ป่วยทราบ กรณีมีเสมหะมาก
ให้ดูแลเคาะปอดเพื่อไล่เสมหะโดยจัดท่าผู้ป่วยตะแคงกึ่งคว่ำ
2.ล้างมือให้สะอาด
3.ใส่ถุงมือให้ใช้เป็ นแบบถุงมือสเตอไรด์ ระวังไม่ให้สายยางดูดเสมหะ
สกปรก หรือสัมผัสกับสิง่ อื่นๆ โดยมืออีกข้างจับสายระบายเสมหะ
4.เปิ ดเครื่องดูดเสมหะ บอกให้ผู้ป่วยทราบอีกครัง้
5.เปิ ดบริเวณข้อต่อตัววาย (Y - tube) หรือพับสายยางดูดเสมหะนัน
้ ไว้
พร้อมสอดสายยางลงในหลอดหายใจเทียม โดยใส่ให้ลึกจนรู้สึกติด และ
ดึงขึน
้ มาเล็กน้อยค่อยๆหมุนสายไปรอบๆ แล้วค่อยๆถอยสายยางดูด
เสมหะออกอย่างเบาๆและนุ่มนวล
15
ข้อควรระวัง
1. การเลือกขนาดสายดูดเสมหะให้เหมาะสมกับขนาดท่อช่วยหายใจโดย
เส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของ สายดูดเสมหะไม่เกิน 1⁄2 ของเส้นผ่าน
ศูนย์กลางด้านในของท่อช่วยหายใจ
2. ควรเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อมข้างเตียงผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ
ทุกราย
3. ระวังการปนเปื้ อนของถุงมือสายดูดเสมหะบริเวณข้อต่อ
4.การต่อเครื่องช่วยหายใจอย่างถูกต้องหลังดูดเสมหะ
5. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมในการดูดเสมหะครัง้ ต่อไป
ความแตกต่างของการดูดเสมหะแบบระบบปิ ดและการดูดเสมหะแบบ
ระบบเปิ ด
ละอองสู่สิ่งแวดล้อม และมีการปนเปื้ อน
ภายนอกน้อยมาก ขณะดูดเสมหะ
มากกว่า CS
- ผู้ใช้งานไม่จำเป็ น เปลี่ยนถุงมือปราศจาก
ต้องสวมถุงมือ เชื้อ
ปราศจากก็สามารถ
ดูดเสมหะได้เลย
11. ความต้องการนำ - พยาบาลผู้ปฏิบัติงาน - ใช้ OS ในการปฏิบัติ
มาใช้ในหน่วยงาน ต้องการนำ CS มาใช้ งานอยู่แล้ว
ในหน่วยงานในระดับ
มาก
12. ค่าใช้จ่าย - ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน - ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใน
ต่อวัน น้อยกว่า OS การดูดเสมหะทัง้ CS
และ OS ไม่แตกต่าง
กัน
23
ข้อมูลเบื้องต้นเคสกรณีศึกษา
เเรกรับถึงปั จจุบัน
24
ผู้ป่วยชายอายุ 76 ปี ภาวะติดเชื้อร่วมกับปอดอุดกัน
้ เรื้อรังร่วมกับ
มีอาการกำเริบร่วมกับปอดอักเสบ มาด้วยหายใจเหนื่อยมากขึน
้ พ่นยา
เองไม่ดีขน
ึ ้ ไม่มีอาการเจ็บหน้าอก จึงมาโรงพยาบาล
วันที่ 8 มีนาคม 2566 Refer มาจากโรงพยาบาลหาดสำราญ หายใจ
เหนื่อยมากขึน
้ 1 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล 2 วันก่อนมาโรงพยาบาล มี
ไข้ ไอ เสหะ หายใจเหนื่อยมากขึน
้ พ่นยาเองไม่ดีขน
ึ ้ ไม่มีเจ็บหน้าอก
ไม่มีorthopnea/PND ไม่มีขาบวม V/S เเรกรับ BT 38 องศาเซลเซียส
BP 148/59 mmHg RR 42 O2sat RA 79 GA : good conscious พูด
ได้เป็ นคำๆ Lung : subcostal retraction,wheezing+ coars
crepitation both lung, Heart :no murmur, abd: no
distension,soft,not tender,Ext:no pitting edema , CXR:
hyperaeration,no new infiltration #COPD AE # Respiratory
failure
วินิจฉัยโรคขัน
้ ต้น Respiratory failure
การรักษาที่ให้ไว้ Berodual NB คูณ 3 dose ระหว่างพ่นยา O2sat
100% RR 40 Dexamethasone 8 mg iv -Cef-3 2g iv -NPO,Nss iv
rate 80 mL/hr - valium 10 mg iv for sedate ETT NO 7.5 depth
22 on foley cath,-blood for CBC,BUN,Cr,Elyte,H/Cx2
แรกรับ ER วันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่ รพ.ตรัง Hx. 2 วันก่อนมาโรง
พยาบาล มีไข้ ไอ เสมหะ มีหายใจเหนื่อยมาก เช้านี ้ 07.00 น. มีอาการ
หายใจเหนื่อยมาก พ่นยาเองไม่ดีขน
ึ ้ V/S BT 38 องศาเซลเซียส BP
107/51 mmHg PR 138 min RR 67 min O2sat 100% DTX 164
mg% GCS:E4 V1 M6 Bw 55 kgs High 160 Cms แพทย์จึงสั่งเจาะ
เลือด CBC : WBC 19.6 ul สูง RBC 4.24 ul ต่ำ HGB 12.7 g ต่ำ
MCHC 32 pg ต่ำ Neutrophil 94.8 %สูง
25
สรุปการนำมาใช้กับเคสกรณีศึกษา
การวางแผนการพยาบาลและผลลัพธ์
การวางแผน
เนื่องจากผู้ป่วยมีการ On ETT จึงเลือกวิธีการดูดเสมหะแบบระบบ
ปิ ด
ผลลัพธ์
1. ผู้ป่วยหายใจสะดวก เสียงหายใจปกติ อัตราการหายใจ ลักษณะการ
หายใจปกติ ไม่แสดงอาการหายใจลำบาก
26
2. ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนปกติอยู่ที่ 98%
ค
บรรณานุกรม